00:00:00 → 00:00:13 [เพลง]
00:00:13 → 00:00:18 มันเป็นฝรั่งวันเจะมาคุยเรื่องเนี้ยนานๆ
00:00:18 → 00:00:21 จะมาคุยไอ้ตัวชาร์จอันเนี้ยฮะชาร์จ
00:00:21 → 00:00:27 อันเนี้ยนะที่ว่าเรากินโภชนาการโลคาฟแล้ว
00:00:27 → 00:00:32 เอ่อทำไมไปตรวจแลบแล้วไตกีสไลนมันขึ้น
00:00:32 → 00:00:38 ไตกีสไลนขึ้นนะหรือไม่ขึ้นก็ตามแต่เรมแนน
00:00:38 → 00:00:41 คอเลสเตอรอลเนี่ยมันเกินอ่าโดยเฉพาะตัว
00:00:41 → 00:00:45 เลมแนนเนี่ยมักจะเกินก่อนแล้วต่อตามมา
00:00:45 → 00:00:48 ด้วยไตกีสไลมัน
00:00:48 → 00:00:51 สูงก็คือเป็นเรื่องของไตกีสไลน์นั่นแหละ
00:00:51 → 00:00:55 นะว่าทำไมกินโลคราฟแล้วไตกีสไลยังสูงโดย
00:00:55 → 00:00:58 เฉพาะอยู่ในเกณฑ์เกิน 100 หรือในฝรั่งเ
00:00:58 → 00:01:03 มันเกิน 200 ก็มีนะก็เลยตกอกตกใจกันเนี่ย
00:01:03 → 00:01:07 ต้องต้องพยายามทำความเข้าใจไอ้รูปเนี่ยนะ
00:01:07 → 00:01:10 มันจะอธิบายอะไรได้แต่มันรูปมันอาจจะเล็ก
00:01:10 → 00:01:13 ไปนิดนึงแต่ตามนี้เลยอ่ะทุกอย่างมันจะ
00:01:13 → 00:01:16 อยู่ในตามเนี้ยแล้วก็อยู่ในผับเม็ดเนี้ยเ
00:01:16 → 00:01:18 อธิบายอย่างละเอียด
00:01:18 → 00:01:25 นะอ้าสรู้ทีนี้ก่อนจะพูดเรื่องเหล่าเนี้ย
00:01:25 → 00:01:29 นะต้องต้องคุยนิดนึงต้องคุยนิดนึงใน
00:01:30 → 00:01:31 เรื่องของ low C High Good Fat ของ
00:01:31 → 00:01:35 เราอ่ะนะแต่ตอนเรู้สึกว่าเพจก็ดูคึกคัก
00:01:35 → 00:01:40 ใช่มยมีคนเข้ามาแล้วบางคนก็เข้ามาแบบคือ
00:01:40 → 00:01:44 ติดเป็นผู้ติดตามที่ดีอ่ะหมายถึงว่าเขาก็
00:01:44 → 00:01:47 พยายามใช้คำถามหรือเขาก็พยายามเ่ออ่อม
00:01:47 → 00:01:52 น้อนอ่อนน้ออะไรเอ่อนน้อนผ่อมตนนะที่เอา
00:01:52 → 00:01:56 ความรู้พื้นฐานจากเพจอื่นๆแล้วก็พยายาม
00:01:56 → 00:02:01 เข้ามาทำความเข้าใจในองค์ความรู้ในเพจนี้
00:02:01 → 00:02:05 อืเอ่อแต่บางเรื่องเนี่ยบางเรื่องเนี่ย
00:02:05 → 00:02:08 อยากจะให้เ้ามีความมั่นใจอ่ะมั่นใจนะใน
00:02:08 → 00:02:11 เรื่อง low C High Good Fat เนี่ยว่า
00:02:11 → 00:02:15 มันเป็นแนวทางกลางๆที่ผสมผสานหลายๆอย่าง
00:02:15 → 00:02:20 แล้วก็พยายามปิดช่องโวนะให้ทุกอย่างเนี่ย
00:02:20 → 00:02:22 มันมันอยู่ใน
00:02:22 → 00:02:25 ลักษณะสุดท้ายก็คือนำไปสู่ภาวะ optimal
00:02:25 → 00:02:28 Health optimal Health นะนั่นแหละมัน
00:02:28 → 00:02:31 ก็ดีที่สุดแล้วทั้งพืชทั้งสัตว์ดีที่สุด
00:02:31 → 00:02:36 แล้วทั้งมีอาหารหลักค้าฟโปรตีนไขมันนะ
00:02:36 → 00:02:39 แล้วก็มีทั้งเอ่อกินแปรรูปก็ได้กินคงรูป
00:02:39 → 00:02:42 ก็ได้นะแต่ส่วนใหญ่เราก็เน้นเร Food
00:02:42 → 00:02:45 เฉพาะที่แปรรูปก็เลือกแปรรูปที่ดีที่สุด
00:02:45 → 00:02:48 คือน้ำมันสกัดเย็นทำเป็นน้ำสลงน้ำสลัด
00:02:48 → 00:02:51 อะไรอย่างเงี้ยอืครับแต่ทีเนี้ยอยากอยาก
00:02:51 → 00:02:54 จะให้เา้ามีความมั่นใจอย่างนึงอ่ะมั่นใจ
00:02:55 → 00:02:59 อย่างนึงว่าที่จะเข้าสู่ในแนวทางเนี้ย
00:02:59 → 00:03:03 เนี่ยมันเค้าเรียกว่ามัน insist น่ะมัน
00:03:03 → 00:03:06 สามารถยืนการได้ว่าคุณคุณจะไม่มีทางออก
00:03:06 → 00:03:09 นอกรุ่นนอกทางหรือว่าไอ้การหวังผลอะไร
00:03:09 → 00:03:15 ต่างๆเนี่ยถ้าพยายาม f แล้วก็มีสติ
00:03:15 → 00:03:20 อ่าไม่คือเชื่อนะว่าว่าเป็นในแนวทางที่จะ
00:03:20 → 00:03:22 ดีได้เนี่ยนะมันก็จะดีแบบเมื่อวานเนี้ที่
00:03:22 → 00:03:25 คนมาโพสต์บน่ะนะฮะ
00:03:25 → 00:03:32 อือ่าทีเนี้ยทีนี้หลักการานของของเรา
00:03:32 → 00:03:35 เนี่ยก็คือการกินให้ถูกต้องใน 1 วันนะ
00:03:35 → 00:03:40 มื้อแรกกับมื้อเย็นนะืแรกก็คือกินเพื่อ
00:03:40 → 00:03:44 มุ่งหวังให้เกิดคีโตนนะจะกินยังไงก็ตามนะ
00:03:44 → 00:03:47 ทั้งฮอร์โมนทั้งอาหารสารอาหารอะไรต่างๆ
00:03:47 → 00:03:50 เนี่ยนะจะต้องนำไปสู่สิ่งที่เราเรียกว่า
00:03:50 → 00:03:54 คีโตนให้ได้นะส่วนมื้อเย็นมื้อเย็นมื้อ
00:03:54 → 00:03:58 เย็นก็คือการนำไปสู่ความครบถ้วนของสาร
00:03:58 → 00:04:02 อาหารที่จะมีมีผลต่อสมองในเรื่องของการ
00:04:02 → 00:04:06 นอนหลับแล้วพอหลับไปแล้วเนี่ยก็จะต้อง
00:04:06 → 00:04:12 เกิดกระบวนการอ่าซ่อมแซมอ่ะนะเป็นขบวนการ
00:04:12 → 00:04:15 อนาบอลิคในแบบที่จะเป็นการซ่อมแซมแล้วก็
00:04:15 → 00:04:17 เสริมสร้าง
00:04:17 → 00:04:21 นะโดยหลักการก็คือพลังงานเนี่ยจะต้องมา
00:04:21 → 00:04:25 จากสิ่งที่ร่างกายเราเก็บสะสมอ่า
00:04:25 → 00:04:29 เอนเนอร์ยีต่างๆอ่าไว้ในร่างกายเรานะฮะ
00:04:29 → 00:04:33 เพราะเพฉะนั้นมื้อเย็นมื้อเย็นและการนอน
00:04:33 → 00:04:36 รวมทั้งยามวิการยามกลางคืนอะไรต่างๆที่
00:04:36 → 00:04:39 เราจะต้องหลับเนี่ยเราก็มีจุดประสงค์ที่
00:04:39 → 00:04:43 บอกไปเนี้ยนะแต่ถ้ามื้อแรกมื้อแรกมื้อแรก
00:04:43 → 00:04:46 ก็คือหลักการก็คือทำยังไงที่จะเกิดพลัง
00:04:46 → 00:04:50 งานคีโตนแล้วคีโตนเนี่ยเขาจะมาเป็นพลัง
00:04:50 → 00:04:53 งานให้เราใช้หรือจะมาเป็นพลังงานในแง่ของ
00:04:53 → 00:04:56 การซ่อมแซมเสริมสร้างอะไรด้วยก็ยิ่งดีไป
00:04:56 → 00:05:01 ใหญ่นะก็แล้วแต่นะทั้งหมดเนี่ยทั้งหมดก็
00:05:01 → 00:05:04 เป็นเรื่องของอาหารสารอาหารแลก็พลังงาน
00:05:04 → 00:05:09 รวมทั้งฮอร์โมนที่จะมาเป็นตัวกำกับนะก็
00:05:09 → 00:05:12 คือทุกอย่างเหล่าเนี้ยนะอยากจะให้ผู้คน
00:05:12 → 00:05:16 ต่างๆเขามีความมั่นใจนะอย่างกรณีการกิน
00:05:16 → 00:05:19 มื้อแรกอ่ะนะมื้อแรกเนี่ยเรากลัวเรื่อง
00:05:19 → 00:05:22 Random Cycle ก็คือกลัวคาฟกับไขมัน
00:05:22 → 00:05:25 เพราะฉะนั้นเนี่ยหลักการก็คือไอ typ
00:05:25 → 00:05:30 โปรตีนซึ่งในโปรตีนเนี่ยย่อมจะมีตัวตัวไข
00:05:30 → 00:05:33 มันต่างๆที่ปะปนมากับโปรตีนนะเพราะฉะนั้น
00:05:34 → 00:05:37 ต้องดูประเภทชนิดของโปรตีนที่มีอยู่ 4
00:05:37 → 00:05:40 กลุ่มแล้วก็เลือกกินตามเปอร์เซ็นต์หรือ
00:05:40 → 00:05:44 ตามสัดส่วนน่ะให้เหมาะสมก็แล้วกันก็แล้ว
00:05:44 → 00:05:48 กันอย่าให้เกินอย่าให้เกินอืทีนี้หลักการ
00:05:48 → 00:05:51 กินโปรตีนที่เป็นเนื้อสัตว์ต่างๆในมื้อ
00:05:52 → 00:05:57 แรกที่เราใช้คำว่าไอทเนี่ยนะก็อันเนี้ย
00:05:57 → 00:06:01 นะมันก็จะต้องกินกินควบคู่กับตัวไฟเบอร์
00:06:01 → 00:06:06 จากผักใบผักหัวเราจะไม่กินคู่กับแป้ง
00:06:06 → 00:06:09 เพราะแป้งจะเปลี่ยนเป็นน้ำตาลแล้วไปเรียก
00:06:09 → 00:06:12 อินซูลินมานะแต่ตัวไฟเบอร์เราถือเป็นสาร
00:06:12 → 00:06:18 อาหารนะผักใบผักหัวในจำนวนที่จำกัดนะเ่า
00:06:18 → 00:06:21 คือ very low Car แล้วก็ตัวผักใบจะเป็น
00:06:21 → 00:06:26 พระเอกนะอันเนี้ยอันนี้สำคัญมากนะเพื่อจะ
00:06:26 → 00:06:30 ควบคุมปฏิกิริยาของ Land Cycle นะอีกอัน
00:06:30 → 00:06:33 นึงก็คือเราเติมน้ำมันสกัดเย็นทออยในรูป
00:06:33 → 00:06:37 ของน้ำสลัดที่ปรุงเป็นอาหารเราไม่ได้กิน
00:06:37 → 00:06:42 แบบเพียวออยซดอ่าฮวบๆเข้าไปอ่ะนะเราก็
00:06:42 → 00:06:44 ต้องปรุงเป็นอาหารซึ่งเราก็มีวิธีการปรุง
00:06:44 → 00:06:47 เราเรียกว่าน้ำสลัดทีออยนะเพราะฉะนั้น
00:06:47 → 00:06:53 โปรตีนนะฮะที่เป็นอ่าตัวโปรตีนโปรตีนอ่า
00:06:53 → 00:06:56 หลักเลยของมื้อนี้นะแล้วก็กินกับ Good
00:06:56 → 00:06:59 Healthy Fat ในรูปของน้ำสลัดทออยเนี่ย
00:06:59 → 00:07:03 ก็จะประสานงานกันในการที่จะสร้างคีโตนเออ
00:07:03 → 00:07:07 นะคีโตนออกมานะนะก็ครับตัวฮอร์โมนฮอร์โมน
00:07:07 → 00:07:11 หลักที่จะออกมาก็คือกลุ่มฮอร์โมนฝั่งสลาย
00:07:11 → 00:07:14 เผาผลาพลังงานเป็นฮอร์โมนลูกเทพนะแต่ตัว
00:07:14 → 00:07:17 ฮอร์โมนสะสมพลังงานคืออินซูลินคอร์ติซอล
00:07:17 → 00:07:22 และเอสโตรเจนเขาก็จะเงียบๆอเขาก็ไม่รู้
00:07:22 → 00:07:25 สึกว่าจะต้องเดือดร้อนที่จะต้องออกมาควบ
00:07:25 → 00:07:28 คุมหรือออกมาทำงานอะไรให้มันเหนื่อยหนัก
00:07:28 → 00:07:29 เกินไป
00:07:30 → 00:07:32 ก็หลายๆคนเนี่ยเมื่อกี้เข้าไปดูในเพจ
00:07:32 → 00:07:35 longevity เนี่ยก็มีการโพสต์แซวมาแซวไป
00:07:35 → 00:07:40 เรื่องตัวพ่อตัวแม่เรื่องอ่าการกินในมื้อ
00:07:40 → 00:07:43 แรกอะไรอย่างเงี้ยนะครับแล้วก็บางคนยัง
00:07:43 → 00:07:47 ติดๆในเรื่องของคอร์ติซอลอยู่นิดนึงนะ
00:07:47 → 00:07:50 ครับเริ่มเริมพูดติดปากกันแล้วนะครับตัว
00:07:50 → 00:07:53 พ่อตัวแม่เนี่ยเออนะเพราะฉะนั้นวันเหมอจะ
00:07:53 → 00:07:57 เสริมในเรื่องคิอนิดนึงนะว่าให้พวกเรา
00:07:57 → 00:08:01 เข้าใจนะคือฮอร์โมนฝั่งเนี้ยฝั่งเนี้ย
00:08:01 → 00:08:03 ฝั่งสะสมพลังงานโดยเฉพาะอินซูลินกับ
00:08:04 → 00:08:07 คอร์ติซอลเนี่ยเขาไม่ได้เป็นฮอร์โมนหลัก
00:08:07 → 00:08:13 นะที่ที่จะมาจากอาหารนะฮะนะจริงๆแล้วร่าง
00:08:13 → 00:08:17 กายสร้างขึ้นมาจากอิทธิพลของภาวะเคาด
00:08:17 → 00:08:20 ริธึมแล้วเซคเดียวริธึมเนี่ยก็ขึ้นอยู่
00:08:20 → 00:08:23 กับดวงอาทิตย์ขึ้นอยู่กับแสงของดวง
00:08:23 → 00:08:27 อาทิตย์นะตัวคอร์ติซอลเนี่ยเถูกกระตุ้น
00:08:28 → 00:08:33 อ่าจากากแสงรังสีคอสมิคที่มาตอน 3:00
00:08:33 → 00:08:37 cosmic เลเนี่ย cosmic ไเนี่ยจะมาจากพระ
00:08:37 → 00:08:41 อาทิตย์นะฮะนะแต่เขาไม่ได้เป็นแสงสว่าง
00:08:41 → 00:08:43 หรือเป็นอะไรต่างๆเหล่านั้นนะเขาก็เป็น
00:08:43 → 00:08:46 แสงเป็นพลังงานเป็นคลื่นอะไเงี้ยนะถึงเรา
00:08:46 → 00:08:50 จะหลับไหลอยู่ในซอกตึกมุมไหนอยู่ในถ้ำ
00:08:50 → 00:08:55 อยู่ในใต้ดินใต้บาดาลอะไรก็นะเขไปนะแล้ว
00:08:55 → 00:08:59 ก็กระตุ้นที่ต่อมหมวกไตนะก็จับกู้กับการ
00:08:59 → 00:09:02 ทำงานต่อหมวกไตก็จะเริ่มการสร้าง
00:09:02 → 00:09:07 คอร์ติซอลนะอืแล้วก็จะค่อยๆพีคขึ้นสูงสุด
00:09:07 → 00:09:10 เมื่อกี้นี่มีคนมาเข้ามาถามว่าเอ่อตัวแม่
00:09:10 → 00:09:13 เนี่ยเขาสูงสุดในเวลาประมาณ 8 น 900 นใช่
00:09:13 → 00:09:19 มยก็คือใช่นะอันนั้นน่ะนะครับเพตอบไปเลย
00:09:19 → 00:09:23 เออคิอเนี่ยเขาถูกสร้างด้วย cosmic Lay
00:09:23 → 00:09:26 นะฮะก็คือเ่อแสงเงินแสงทองเนี่ยเค้าเรียก
00:09:26 → 00:09:30 ว่ารังสีคอสมิคนะเพราะฉนั้นนั้นพวกเนี้ย
00:09:30 → 00:09:35 นะเขาอยู่ภายใต้อิทธิพลของพระอาทิตย์นะ
00:09:35 → 00:09:38 หลังจากนั้นเนี่ยเขาจะสูงสุดที่ประมาณ
00:09:39 → 00:09:42 ประมาณ 800 นนี่แหละนะเพราะอะไรเพราะว่า
00:09:42 → 00:09:44 หลังจากนั้นเนี่ยเมื่อเกิดความสว่างขึ้น
00:09:44 → 00:09:49 เนี่ยก็จะมีอุลตร Violet นะหรือบูลนั่น
00:09:49 → 00:09:52 แหละนะอุลตร Violet เนี่ยก็จะเริ่มพีค
00:09:52 → 00:09:57 ขึ้นเรื่อยๆโดยเฉพาะนะแสงเนี่ยจะเข้มนะ
00:09:57 → 00:10:02 ถึงจุดนะที่จะเบรคอ่าหรือที่จะเกิด
00:10:02 → 00:10:04 ปรากฏการณ์การสลายของคอร์ติซอลไปอ่ะจาก
00:10:04 → 00:10:09 แสงชนิดเนี้ยก็คือประมาณ 89 นประมาณ 889
00:10:09 → 00:10:13 นนี่แหละเพราะฉะนั้นเราก็จะตื่นดีละนะตอน
00:10:13 → 00:10:18 เเพราะคิอเก็ไปไปพักอ่าเขาก็ low Level
00:10:18 → 00:10:22 เซอ Level ไปเรียบร้อยนะแล้วก็คิอแทคจะ
00:10:22 → 00:10:28 หายไปหมดเลยตอนประมาณ 15 นครับเนี้ยคิอจะ
00:10:28 → 00:10:30 ลงต่ำสุด
00:10:30 → 00:10:33 ยกเว้นแต่ว่าเราไปกระตุ้นเค้าด้วยเรื่อง
00:10:33 → 00:10:35 ราวอะไรต่างๆเรื่องความเครียดเรื่องจิตใจ
00:10:35 → 00:10:38 อารมณ์หรือเรื่องอาหงอาหารเรื่องการขึ้น
00:10:39 → 00:10:42 ลงอ่าเป็นโอคอสเตอร์ของอินซูลินกับ
00:10:42 → 00:10:46 คอร์ติซอลนะจากการกินแบบีนิ eating งี้
00:10:46 → 00:10:51 แหละนะนี่แหละเป็นเรื่องคอร์ติซอลนะ
00:10:51 → 00:10:54 คอร์ติซอลเเเจะเป็นอย่างนี้เไม่ได้เกี่ยว
00:10:54 → 00:10:59 อะไรกับอาหารนักเพราะฉะนั้นการที่คุเออ
00:10:59 → 00:11:03 แต่ว่าพอเกิดไอ้ Roller coaster เนี่ย
00:11:03 → 00:11:08 คิซ่าก็ออกมาเล่นกับตัวพ่อเลยใช่มยใช่คือ
00:11:08 → 00:11:12 คืออย่างงี้ออย่างเบาหวานเบาหวิวเนี่ย
00:11:12 → 00:11:17 เค้าก็เก็เก่งอ่ะเออที่ไปติดไอ้ cmg อ่ะ
00:11:17 → 00:11:22 แล้วก็เอามาถามเรื่องกูดเ่อไ vi ability
00:11:22 → 00:11:26 อ่ะนะฮะนะอ้าๆๆผมเห็นละ ability เนี่ยนะ
00:11:26 → 00:11:30 ฮะนะก็คือเป็นเป็นเรื่องของของการแกว่ง
00:11:30 → 00:11:33 ของน้ำตาลเนี่ยนะคือสิ่งที่ร่างกายมนุษย์
00:11:33 → 00:11:36 กลัวมากที่สุดนะฮะแล้วเซลล์ที่กลัวอันดับ
00:11:36 → 00:11:40 สูงสุดเลยคือเซลล์สมองนะฮะนะกลัวอะไรกลัว
00:11:40 → 00:11:45 กลูโคสกลูโคสนะและกลูโคสที่กลัวเนี่ยนะเา
00:11:45 → 00:11:48 กลัวในลักษณะที่มันเป็นกลูโคสจากอาหาร
00:11:48 → 00:11:52 หรือ External กลูโคสไม่ใช่กลูโคสจากโการ
00:11:52 → 00:11:54 กลูโค neogenesis
00:11:54 → 00:11:58 นะสมเซลล์สมองจะกลัวกลูโคสจากอาหารมากโดย
00:11:58 → 00:12:03 เฉพาะกลูโคสที่มีลักษณะเ่อมีการชูตขึ้นไป
00:12:03 → 00:12:07 ตอนกลูโคสชูขึ้นไปเนี่ยเซลล์เนี่ยจะยัง
00:12:07 → 00:12:12 ไม่กลัวนะจะยังไม่กลัวแต่จะตกใจนะแล้ว
00:12:12 → 00:12:15 เกิดการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน
00:12:15 → 00:12:19 อืจะเกิดการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินโดย
00:12:19 → 00:12:23 สมองเนี่ยจะสั่งให้ฮอร์โมนต่างๆเนี่ยนะไป
00:12:23 → 00:12:27 ที่ต่อหมวกไตนะว่าตอนนี้เนี่ยเกิดภาวะ
00:12:27 → 00:12:32 วิกฤตเกิดไคริเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินนะ
00:12:32 → 00:12:34 เพราะอะไรเพราะว่าเดี๋ยวกูโค้ดที่มันเป็น
00:12:34 → 00:12:38 กูโค้ดจากภายนอกเนี่ยนะมันจะเกิดการดรอป
00:12:38 → 00:12:42 ดรอปดาวอ่ะนะมันก็จะมันเวลามันลงมันจะลง
00:12:42 → 00:12:46 แบบมันจะลงแบบเป็นกราฟชันลงมาเลยอ่ะมัน
00:12:46 → 00:12:51 ไม่ค่อยๆลงมันไม่ค่อยๆลงนะมันลงแบบชันวุบ
00:12:51 → 00:12:54 ลงมาเลยนะซึ่งตรงเนี้ยเซลล์ทุกเซลล์ใน
00:12:54 → 00:12:58 ร่างกายเราตกใจกลัวหมดเลยตกใจกลัวหมดเลย
00:12:58 → 00:13:02 นะฮะนะนะภาวะตกใจกลัวแบบเนี้ยแม่ก็เลย
00:13:02 → 00:13:06 ต้องออกมานั้นคอร์ติซอลจะพีคจะต้องรีบออก
00:13:06 → 00:13:10 มานะว่าพลังงานมันตกอ่ะนะอยู่ดีๆพลังงาน
00:13:10 → 00:13:15 มันตกนะเอเพนั้นคิอก็จะจะอยู่ไม่ได้อ่ะนะ
00:13:15 → 00:13:19 จะร้อนรนน่ะออกมาครับต้องมารีบมาบานหรือ
00:13:20 → 00:13:24 ว่ามาจัดการที่จะเอาพลังงานขึ้นเนี่ยมัน
00:13:24 → 00:13:26 จะเป็นอย่างเงี้ยนะคือสิ่งอยากจะบอกว่า
00:13:26 → 00:13:29 สิ่งที่ร่างกายหรือเซลล์สมองกลัวไม่ที่
00:13:29 → 00:13:32 สุดเลยก็คือภาวะที่น้ำตาลมันตกแบบตกวูก
00:13:32 → 00:13:36 หรือหรือตกดิ่งเอ่าครับที่เ้าเรียกว่า
00:13:36 → 00:13:40 เหวี่ยงเหวี่ยงมันมันเหวี่ยงมันวีนมัน
00:13:40 → 00:13:46 เหวี่ยงนะฮะอืเออก็จะเป็นอย่างนี้นะเนี่ย
00:13:46 → 00:13:51 ก็ถ้ามื้อแรกเนี่ยเอ่อเราพยายามเคลียร์
00:13:51 → 00:13:55 อะไรต่างๆเนี่ยที่จะให้เกิดปรากฏการณ์อ่า
00:13:55 → 00:13:58 กลายเป็นโมเลกุลของน้ำตาลแล้วก็เข้าไป
00:13:58 → 00:14:02 เกิดการวีอย่างการสวิงอะไรบเนี้ยได้เนี่ย
00:14:02 → 00:14:07 นะร่างกายมันจะโอเคนะเขาก็จะชอบอ่ะนะ
00:14:07 → 00:14:09 เพราะมันจะไม่เกิดปรากฏการณ์ที่ตัวพ่อตัว
00:14:09 → 00:14:14 แม่ออกมากันประพึบพับอืนะเพราะฉะนั้นรูป
00:14:14 → 00:14:17 แบบของอาหารก็เป็นแบบแนวๆทางอาหารที่เพจ
00:14:17 → 00:14:20 เราเสนอไปมันก็ต้องเป็นอย่างเงี้ยนะฮะ
00:14:20 → 00:14:24 ต้องเป็นอย่างเงี้ยแล้วก็ใครก็ตามนะที่
00:14:24 → 00:14:27 ยังไม่เข้าใจในเรื่องการกินมื้อแรกอ่ะนะ
00:14:27 → 00:14:31 มื้อแรกอยยยังต้องมีคสักนิดนึงเถอะเอ่อขอ
00:14:31 → 00:14:35 น้ำเต้าหู้หน่อยขอผลไม้นิดนึงขอไอ้พวกนม
00:14:35 → 00:14:40 กับเี่ produc สักหน่อยนึงเอ่อขอถั่วๆ
00:14:40 → 00:14:43 อะไรซักหน่อยนึงขอแป้งๆอะไรักนิดนึงเอ่า
00:14:43 → 00:14:46 เหล่าเนี้ยถ้าคุณมีภวะด้วยอินซูลินหรือ
00:14:46 → 00:14:49 คุณมีปัญหาโรคภัยไข้เจ็บในเรื่องของ ncd
00:14:49 → 00:14:54 แล้วเนี่ยต้องตอบว่าไม่ได้มันไม่ได้นะฮนะ
00:14:54 → 00:14:56 ั้นใครที่
00:14:56 → 00:15:01 ติด cgm เนี่ยนะมันจะชัดเจนน่ะเพราะ cgm
00:15:01 → 00:15:04 เขาเป็นเครื่องที่มาคอยตรวจจับในเรื่อง
00:15:04 → 00:15:08 ของเอเสียงเข้ามาของกราฟของน้ำตาลที่มัน
00:15:09 → 00:15:12 จะพุ่งขึ้นพุ่งลงอันเนี้ย
00:15:12 → 00:15:18 เั้นเนี่ยนะก็ตัว cgm อ่ะมันจะบอกอะไรเรา
00:15:18 → 00:15:22 ได้นะโดยเฉพาะถ้าเข้าไปดูในเพจของหมอทิม
00:15:22 → 00:15:25 น่ะหมอทิมก็จะพูดในหลายๆเรื่องเลยในกรณี
00:15:25 → 00:15:29 ที่น้ำตาลมันสวิงแล้วมันดอดาวเนี่ย
00:15:29 → 00:15:33 โดยเฉพาะอาหารเนี่ยนะอหกลุ่มต่อไปนี้
00:15:33 → 00:15:37 เนี่ยมันจะมีผลเยอะ
00:15:37 → 00:15:43 ๆ 3 กลุ่มนี้จะมี 1 คแขงต่างๆะแฝงนะอัน
00:15:43 → 00:15:47 ที่ 2 ก็จะเป็นพวกถั่วต่างๆโดยเฉพาะที่
00:15:47 → 00:15:49 เอามาแป
00:15:49 → 00:15:55 รูปแล้วมากินในช่วงมื้อ
00:15:55 → 00:16:00 แรกแล้วก็อันที่ 3 ก็คือกลุ่มของ Daily
00:16:00 → 00:16:05 produc โดยเฉพาะนมนอมนมเนี่ยรองลงมาคือ
00:16:05 → 00:16:10 ชีสนะแต่พวกยพวกกีก็จะมีผดน้อยเพราก็เป็น
00:16:10 → 00:16:12 ไขมันที่ค่อนข้างเอาย
00:16:12 → 00:16:17 หน่อยนะแต่ถ้าเป็นนมมันก็ยังมีความเป็น
00:16:17 → 00:16:23 เอ่อคาฟกับโปรตีนค่อนข้างเยอะนะเ่อชีส
00:16:23 → 00:16:28 เนี่ยโปรตีนเยอะนะแต่คาฟน้อยมากนะฮะนะแต่
00:16:28 → 00:16:31 ถ้าเป็นเนยหรือกีเนยใสเนี่ยนะอันนี้ก็
00:16:31 → 00:16:36 เป็นเป็นแฟตโดยเฉพาะเลยนะเพราะฉะนั้น
00:16:36 → 00:16:38 เนี่ย 3 กลุ่มเนี้มันยังเป็นตัวที่จะไป
00:16:39 → 00:16:41 ติ๊กเกอร์ไอ้เครื่อง cgm เนี่ยให้เห็น
00:16:41 → 00:16:45 กราฟเที่มันพุ่งนะโดยเฉพาะการกินอาหาร
00:16:45 → 00:16:49 เหล่านี้ปะปนในอาหารในมื้อกลางวันนะฮะนะ
00:16:49 → 00:16:52 หลายคนยังไม่ลงลึกถึงไส้ในรายละเอียดของ
00:16:52 → 00:16:57 อาหารอาจจะชะล่าใจนะคือถ้าเราหวังผลดีๆ
00:16:57 → 00:17:00 เลยเนี่ยนะก็ต้องต้องพยายามควบคุมสิ่ง
00:17:00 → 00:17:03 เหล่านี้พอสมควรคำว่าเลว Food เนี่ยต้อง
00:17:03 → 00:17:08 เรวจริงๆต้องเลวจริงๆเออนะแล้วก็พยายาม
00:17:08 → 00:17:13 เนี่ยเอ่อถ้าไม่รู้จะแก้ไขยังไงมันหิวมัน
00:17:13 → 00:17:16 โหยมัน
00:17:16 → 00:17:20 อะไรไข่นะเไข่ที่เป็นซุปเปอร์ฟู้ดนี่แหละ
00:17:20 → 00:17:23 นะเป็นตัวไปเบรกเป็นตัวที่จะไปพยายามปรับ
00:17:23 → 00:17:26 อ่าให้ทุกอย่างมันดีขึ้นได้ในกรณีของการ
00:17:26 → 00:17:30 กินชารคต่ำโดยเฉพาะในช่วงมื้อกลางวันนะจะ
00:17:30 → 00:17:34 กินเป็นไข่ลวกไข่ออนเซ็นไข่ต้มที่ไข่แดง
00:17:34 → 00:17:39 ยังค่อนข้างเหลวๆหน่อยนะหรือจะเป็นไข่ดาว
00:17:39 → 00:17:43 น้ำนะที่ไข่ขาวสุกแต่ไข่แดงเนี่ยยังเละๆ
00:17:43 → 00:17:49 อ่าเนี่ยไข่ดาวน้ำนะเอ่าเนี่ยมันมี 4 ไข่
00:17:49 → 00:17:52 ที่กินได้คือหมอเห็นหลายคนนะเป็นเบาหวาน
00:17:52 → 00:17:55 ด้วยอ่ะแล้วก็บอกว่าอู้ยวันเนี้ยนะมื้อ
00:17:55 → 00:17:59 แรกอ่ะกินไข่นะกินตั้ง 4 ลูกอ่ะวันนี้ก็
00:17:59 → 00:18:04 มีถามในเพจเพนึงอ่ะนะแล้วก็ทำอาหารมาโชว์
00:18:04 → 00:18:07 เลยไข่แดงไข่ขาวตีแตกหมดเลยอันนี้เค้า
00:18:07 → 00:18:10 เรียกไข่สนิมแล้วนะฮะนะกินเข้าไปเนี่ยบาง
00:18:10 → 00:18:16 ทีน้ำตาลไม่ลด a1c ไม่ลงนะเอออืๆๆนั้น
00:18:16 → 00:18:18 เรื่องไข่อ่ะก็เป็นเรื่องนึงอ่ะที่ต้อง
00:18:18 → 00:18:21 เข้าใจคุณจะไปกินไข่เจียวไข่ออมเล็ตคุณจะ
00:18:21 → 00:18:24 ไปกินไข่ลูกเขยไข่พะโลเนี่ยมันไม่ได้เออ
00:18:25 → 00:18:28 เออใช่มันกินไข่อ่ะจะกิน 4 ลูก 6 ลูก 8
00:18:28 → 00:18:32 ลูกต่อวันก็เหอะนะแต่เวลาปรุงเนี่ยนะเออ
00:18:32 → 00:18:36 มันสำคัญมากเลยนะเดี๋ยวเขาจะกลายเป็นตัว
00:18:36 → 00:18:41 ชนวนต้นเหตุนะของค่าแลบที่มันผิดปกติเออ
00:18:41 → 00:18:45 อันเนี้ยต้องระวังให้ดีอ่ะนะฮะอืครับจะจะ
00:18:45 → 00:18:49 เล่าให้ฟังว่าช่วงสัก 2 เดือนมาเนี้ยผม
00:18:49 → 00:18:52 พยายามเน้นย้ำมากเวลาคุยกับลูกค้าสตัว
00:18:52 → 00:18:56 สุขภาพอืในเรื่องของการกินมื้อแรกคือไม่
00:18:56 → 00:18:58 ว่าเขาจะอ้วนหรือไม่อ้วนเขาจะื้ออินซูริน
00:18:58 → 00:19:01 มากน้อยยังไงก็ตามเนี่ยถ้าเป็นไปได้ให้เ
00:19:01 → 00:19:04 ตัดคาฟมื้อแรกอแล้วปรากฏว่าเรื่องเรื่อง
00:19:04 → 00:19:06 ไข่นี่เป็นอันนึงที่รู้สึกว่าถ้าไม่เน้น
00:19:06 → 00:19:08 เนี่ยมันจะพลาดแบบที่อาจารย์บอกเลยฮะ
00:19:08 → 00:19:11 เพราะว่าถ้าขึ้นชื่อว่าไข่เมันมันไข่
00:19:11 → 00:19:14 สารพัดอ่ะอเราต้องให้เค้าเห็นเลยว่าเอ้ย
00:19:14 → 00:19:16 มันต้องเป็นไข่ต้มเท่านั้นนะหรือไข่ลวก
00:19:16 → 00:19:18 ไข่ออนเต็นไข่ที่มันเป็นแพทเทิร์นคล้ายๆ
00:19:18 → 00:19:21 แบบเนี้ยครับเพราะว่าหลายๆคนเค้าก็จะติด
00:19:21 → 00:19:24 ทานไข่เจวไข่ดาวอะไรพวกเนี้ยทอดเอาสะดวก
00:19:24 → 00:19:28 เอาเร็วอะไรแบบเนี้ยเยอะมากแล้วเรื่อง
00:19:28 → 00:19:30 เรื่องแนิจากมื้อแรกเนี่ยผมจากประสบการณ์
00:19:31 → 00:19:34 ส่วนตัวเลยเพราะว่าคือบางวันที่ผมเจาะ gki
00:19:34 → 00:19:38 ของตัวเองดูเนี่ยอืส่วนมากเนี่ยนะครับตอน
00:19:38 → 00:19:42 ตอนช่วงระหว่างมื้อคือช่วงเลิกงานน่ะแต่
00:19:42 → 00:19:44 ว่ายังไม่กินมื้อเย็นแต่ว่ามันเลยมื้อ
00:19:44 → 00:19:46 มื้อแรกของผมคือมื้อกลางวันมาแล้วประมาณ
00:19:46 → 00:19:50 45 ชมถึง 6 ชมเนี่ย gki ผมจะจะดีกว่าที่
00:19:50 → 00:19:53 ผมเจาะช่วงสายๆเยอะนะฮะคือคล้ายๆกับช่วง
00:19:53 → 00:19:57 สายนี่ร่างกายมันยังมีไอ้ดอนมมอเยอะอะไร
00:19:57 → 00:20:00 แบบเนี้ยตอนเย็นมันจะดีกว่าเยอะแต่ปรากฏ
00:20:00 → 00:20:04 ว่าถ้าวันไหนมันมันกินไม่ไม่ระวังอ่ะซึ่ง
00:20:04 → 00:20:06 ไอ้ไอ้ไม่ระวังนี่บางทีมันนิดเดียวเองนะ
00:20:06 → 00:20:09 อย่างวันก่อนเนี่ย gki ผมไม่ไม่ยอมลดเลย
00:20:10 → 00:20:12 คือกดไม่ลงเลยทั้งๆที่เราก็ดูว่าอาหารเรา
00:20:12 → 00:20:15 ไม่น่าจะพลาดแต่พอมานั่งทบทวนดูจริงๆ
00:20:15 → 00:20:18 ปรากฏว่าไปกินไอ้นี่นะกินไอ้ไอปูอัดไป
00:20:18 → 00:20:21 หน่อยนึงไม่ได้เยอะมากด้วยนะแต่เข้าใจว่า
00:20:21 → 00:20:23 น่าจะเป็นตัวเนี้ยเพราะว่าอาหารอื่นเราดู
00:20:23 → 00:20:27 แล้วไม่มีอะไรคนเปื้อนอืคือคือไม่มีคือ
00:20:27 → 00:20:30 ผักหัวก็มีนิดเดียวแป้งเชิงซ้อนตัวตัว
00:20:30 → 00:20:33 อื่นอะไรไม่มีเลยนะฮะผงชูรสอะไรก็ระวัง
00:20:33 → 00:20:37 อยู่ก็น่าจะโดนไอ้ตัวเนี้ยตัวตัวตัวตัวปู
00:20:37 → 00:20:42 อัดเี่เข้าไปเรียบร้อยฮะ gki กดไม่ลงอืนะ
00:20:42 → 00:20:45 แสดงว่ามันมีผลจริงๆมันอาจจะโปเสด้วยมี
00:20:45 → 00:20:48 แป้งผสมอะไรก็ว่าไปอ่าปูอัดคือเนื้อปลา
00:20:49 → 00:20:50 แี่บวก
00:20:50 → 00:20:55 แป้งครับแล้วก็ใส่ inss เข้าไปอีกหลายๆ
00:20:55 → 00:20:59 ขนานเลยคือก่อนหน้านั้นเนี่ยผมผมอยู่ที
00:20:59 → 00:21:03 นึงที่ที่ที่เจอที่เจอเจอปัญหาแบบนี้นะก็
00:21:03 → 00:21:07 คือไปกินถั่วฮะถั่วแต่ว่าถั่วเนี่ยมัน
00:21:07 → 00:21:11 เป็นถั่วที่มันเหมือนมันมันมันเคลือบไอ้
00:21:11 → 00:21:13 คล้ายๆกับมันปรุงหวานมันนิดๆอ่ะแต่ว่าเรา
00:21:13 → 00:21:16 ก็ว่าเอ๊ะมันมันค่อนข้างจะหวานน้อยะเป็น
00:21:16 → 00:21:19 เป็นช็อกโกแลตสีดำๆอ่ะของของต่างประเทศนะ
00:21:19 → 00:21:24 น้องก็ให้มาพอพอพอหยุดกินไอ้ถั่วตัวเนี้ย
00:21:24 → 00:21:28 ่ามันก็กลับมาปกติภายในประมาณสัก 2 วัน
00:21:28 → 00:21:31 รีเซตของมันใหม่ได้ทั้งๆที่เราก็ไม่ได้
00:21:31 → 00:21:34 กินเยอะนะเพียงแต่ว่ามันเป็นถั่วที่ที่
00:21:34 → 00:21:36 อาจจะไม่โอเคตรงนี้ที่มันมีการปนเปื้อน
00:21:36 → 00:21:38 ตรงนี้เยอะแล้วเราดันมากินตอนมื้อแรกด้วย
00:21:38 → 00:21:40 เนี่ยมันมันเกิดมันเกิดแนนขึ้นมาง่ายๆเลย
00:21:40 → 00:21:43 โดยที่มันไม่จำเป็นต้องปนเปื้อนในปริมาณ
00:21:43 → 00:21:46 ที่เยอะมากหรือว่ากินกินแป้งให้มันเห็น
00:21:46 → 00:21:49 กันจะๆอืนะฮะแสดงว่ามันมีผลเยอะจริงๆ
00:21:49 → 00:21:53 อันเนี้ยอครับอือแล้วถ้าไม่แน่ใจเรื่อง
00:21:53 → 00:21:56 ไข่เนี่ยให้เปลี่ยนจากไข่ไก่เป็นไข่เป็ด
00:21:56 → 00:22:00 เออให้เปลี่ยนจากไข่ไขไก่เป็นไข่
00:22:00 → 00:22:04 เป็ดอันนี้เพราะว่าอะไรครับไข่เป็ดมัน
00:22:04 → 00:22:06 ต่างไงครับอาจารย์คือไข่เป็ดเนี่ยมันยัง
00:22:06 → 00:22:09 ไล่ทุ่งอ่ะนะไก่เนี่ยส่วนใหญ่เป็นไก่ร้าว
00:22:09 → 00:22:14 ไก่เลี้ยงอ่ะไก่เลี้ยงอ่ะเออไข่เนี่ยนะ
00:22:14 → 00:22:18 ถ้ามันไม่ได้มีฟารมอ่าไก่อารมณ์ดีเอ่อมี
00:22:18 → 00:22:21 โอเมก้า 3 เท่านั้นเท่านี้มีการรับรอง
00:22:21 → 00:22:25 ซึ่งราคาเจะแพงหน่อยแต่ถ้าเป็นไข่ทั่วๆไป
00:22:25 → 00:22:27 ก็เป็นไข่ไก่เลี้ยง่ะเขาก็เลี้ยงด้วยหัว
00:22:27 → 00:22:30 อาหาร
00:22:30 → 00:22:32 เหมือนกันเนี่ยมื้อเช้าเนี่ยหลายคนเนี่ย
00:22:32 → 00:22:35 ที่ค่าแลบมันไม่ดีเนี่ยก็เพราะว่าคุณไป
00:22:35 → 00:22:40 กินไก่กินหมูกินปลาอ่าปลาตัวใหญ่อะไรอย่า
00:22:40 → 00:22:43 เงี้ยนะโดยเฉพาะกินไก่กินหมูอ่ะนะ
00:22:43 → 00:22:47 เอ่อคนคนยังมีการกินเนื้อวัวค่อนข้างน้อย
00:22:47 → 00:22:52 นะซึ่งซึ่งมันก็เหมือนเออไก่กับหมูมันก็
00:22:52 → 00:22:55 เป็นเป็นสัตว์เนื้อแดงเนื้อขาวอะไรแต่ว่า
00:22:55 → 00:22:59 กินหมูเยอะๆหน่อยอะไรอย่าเงี้ยนะแต่ทั้ง
00:22:59 → 00:23:02 หมูทั้งไก่เนี่ยมันมันไม่ใช่สัตว์เลี้ยง
00:23:02 → 00:23:05 แบบธรรมชาตินะคือเขาเป็นสัตว์กระเพาะ
00:23:05 → 00:23:08 เดียวแล้วเขาก็เลี้ยงด้วยหัวอาหารอย่าง
00:23:08 → 00:23:11 หมูเนี่ยเขาคก็ไปซื้อเอ่อเศษอาหารตามตลาด
00:23:11 → 00:23:14 มาคุกมาอะไรอย่างเงี้ยนะนะหรือหมูตาม
00:23:14 → 00:23:16 ฟาร์มอะไรต่างๆเนี่ยเขาคก็มีหัวอาหารให้
00:23:16 → 00:23:19 อยู่แล้วนะซึ่งสิ่งเหล่าเนี้ยนะมันเข้าไป
00:23:19 → 00:23:22 อยู่ในสะสมในกล้ามเนื้อในตัวของหมูในชั้น
00:23:22 → 00:23:26 หนังไขมันอะไรต่างๆนะพอเรามาทำกินต่างๆ
00:23:26 → 00:23:29 อ่ะมันก็ไม่ใช่หมูมันก็เหมือนเป็นหมูแปร
00:23:29 → 00:23:33 รูปไปอ่ะเพราะฉะนั้นในต่างประเทศเนี่ยเขา
00:23:33 → 00:23:37 ก็เลยแนะนำไงว่าให้กินสัตว์ 4 กระเพาะนะ
00:23:37 → 00:23:40 หลายกระเพาะนี่แหละนะฮะอันดับ 1 เลยนะเค
00:23:40 → 00:23:45 แนะนำเรื่องแกะนะอันดับ 2 ก็คือวัวกาสเฟส
00:23:45 → 00:23:50 อันดับ 3 ก็คือกวายวิสตันกวายนะเอ่อแล้ว
00:23:50 → 00:23:55 ก็มาแพะแล้วก็มากวางมาเก้งเนี่ยเแนะนำให้
00:23:55 → 00:23:59 กินแบบนี้นะถ้าถ้าคุณกินกินหมูกินไก่กิน
00:23:59 → 00:24:03 ปลานะแล้วแล้วมันไม่ optimal Health สัก
00:24:03 → 00:24:08 ทีนะเพในแง่ของโปรตีนที่ไอทโปรตีนต้อง
00:24:08 → 00:24:11 เลือกโปรตีนอ่าต้องเลือกไข่
00:24:11 → 00:24:14 เอ่อให้ดีๆเนี่ยบางทีมันต้องไปถึงขั้น
00:24:14 → 00:24:18 นั้นน่ะนะฮะมันต้องไปถึงขั้นนั้นเออก็ไม่
00:24:18 → 00:24:21 รู้ว่าจะเวอร์เกินไปหรือเปล่านะมันต้องไป
00:24:21 → 00:24:27 ให้สุดๆนะอ่าทีนี้เรื่องนึงก็คือมื้อแรก
00:24:27 → 00:24:30 เนี่ยก็คือมื้อที่เราจะต้องพยายามปรับ
00:24:30 → 00:24:34 ร่างกายให้สู่เรื่องของภาวะแบริหรือการ
00:24:34 → 00:24:37 เผาผลาญพลังงานนะนะการเผาผลาญพลังงานให้
00:24:37 → 00:24:39 ได้เพราะฉะนั้นหลักการที่เรากิน low C
00:24:39 → 00:24:42 High Good Fat ที่แนะนำกันไปเนี่ยนะ
00:24:42 → 00:24:46 อันนี้เนี่ยนะหลายคนก็ต้องไปทดลองเอาเอง
00:24:46 → 00:24:49 อ่ะแล้วมันก็จะเกิดผลยังไงขึ้นมาก็ตามนะ
00:24:49 → 00:24:52 แล้วตัวสำคัญก็คือน้ำมันที่สกัดเย็นในรูป
00:24:52 → 00:24:56 ของน้ำสละทีออยนะอันนี้เนี่ยหมอต้องขอยืน
00:24:56 → 00:25:00 ยันว่าเ้าเป็นตัวชด้วยนะโดยเฉพาะในช่วง
00:25:00 → 00:25:03 แรกๆอ่ะหรืออย่างน้อยก็คือ 6 เดือนปีนึง
00:25:03 → 00:25:08 อ่ะนะก็จะต้องติดเขไว้อยู่ตลอดก่อนนะแล้ว
00:25:08 → 00:25:10 หลังจากนั้นพอเราเข้าใจอะไรตนี้อะไรแล้ว
00:25:10 → 00:25:14 เราจะไปปรับรถหรือปรับทดแทนอย่างโน้น
00:25:14 → 00:25:16 อย่างนี้หรือหมุนเวียนอะไรก็ตามนะอันนี้
00:25:16 → 00:25:20 ก็แล้วแต่นะฮะนะแล้วสำคัญที่สุดนะฮะนะ
00:25:21 → 00:25:24 เรื่องของปริมาณและสัดส่วนอิ่มเดี่ยวซ้อน
00:25:24 → 00:25:28 30 50 20 อะไรอย่างเงี้ยอันเนี้ยสำคัญ
00:25:28 → 00:25:31 นะอย่าไปกินแค่น้ำมันมะพร้าวกับน้ำมัน
00:25:31 → 00:25:36 มะกอกนะหรือมันไม่ครบสูตรน่ะนะเพราะเมื่อ
00:25:36 → 00:25:39 ไหร่ก็ตามที่มันไม่ครบสูตรเนี่ยนะมันจะ
00:25:39 → 00:25:43 ไม่แอชมันจะไม่ฟังก์ชันนะขอให้จำคำนี้ไว้
00:25:43 → 00:25:47 ด้วยนะฮะนะถ้าจะเป็นน้ำมันสกัดเย็นที Oil
00:25:47 → 00:25:51 ก็ต้องท Oil ไม่ใช่ Two Oil นะฮะเอ่อ
00:25:51 → 00:25:54 แล้วก็ปรุงให้ดีปรุงให้ถูกปรุงให้เป็นน่ะ
00:25:54 → 00:25:57 แล้วปริมาณเนี่ยก็ไม่ต้องกลัวว่าเอ่อมัน
00:25:57 → 00:26:02 จะเกินเกินไปมากไปอะไรนิดๆหน่อยๆครึ่ง
00:26:02 → 00:26:04 ช้อนโต๊ะ 1 ช้อนโต๊ะอะไรอย่างเงี้ยนะ
00:26:04 → 00:26:08 เอ่อคือคือเรื่องเนี้ยเป็นเรื่องนึงเที่
00:26:08 → 00:26:11 อยากจะพูดในวันนี้นะฮะนะว่าให้ใช้ให้
00:26:11 → 00:26:14 พยายามจำคำและประโยคอ่ะที่หมอจะบอกอย่าง
00:26:14 → 00:26:19 นี้ไปนะว่าเราอ่ะมีหน้าที่ต้องหาความรู้
00:26:19 → 00:26:23 นะแล้วต้องบริหารจัดการหรือกระทำการเนี่ย
00:26:23 → 00:26:27 นะที่จะทำให้พลังงานและสารอาหารเข้าสู่
00:26:27 → 00:26:33 ร่างกายนะในขนาดที่อ่าพอเหมาะพอดีนะแล้ว
00:26:33 → 00:26:37 ก็ใช้ให้หมดเนี่ยนะเราต้องปรับสิ่งเหล่า
00:26:37 → 00:26:42 เนี้ยนะให้มันเท่าๆกันน่ะนะฮะนะคือกินพอ
00:26:42 → 00:26:46 ดีและใช้ให้หมดไม่ต้องมีเหลือนะเนี่ย
00:26:46 → 00:26:50 อันเนี้ยเป็น ideal มากที่สุดนะเ่อของ
00:26:50 → 00:26:54 ร่างกายที่เขาต้องการนะเต้องการนะนะแต่
00:26:54 → 00:26:58 ถ้าคิดว่ามันยากเกินไปนะฮะมันยากเกินไปนะ
00:26:58 → 00:27:01 นะมันอาจจะผิดจะถูกจะขาดจะเกินนะจะต้อง
00:27:01 → 00:27:05 หยวนหยวนอะไรต่างๆเหล่าเนี้ยนะนะอันนี้ก็
00:27:05 → 00:27:08 เป็นเรื่องอันดับรองลงมานะฮะที่จะต้องทำ
00:27:08 → 00:27:13 ความเข้าใจต่อนะนะคือเวลาการบาานให้เกิด
00:27:13 → 00:27:16 ภาวะ optimal Health เนี่ยนะฮะนะมันก็
00:27:16 → 00:27:21 ต้องเป็นการกินพอใช้หมดนะอย่างไรก็ตามนะ
00:27:21 → 00:27:25 ในชีวิตประจำวันของเราเนี่ยเราก็เอ่อจะ
00:27:25 → 00:27:27 ผิดจะถูกจะมากจะน้อยจะขาดจะเกินหรือจะ
00:27:27 → 00:27:30 หมุนเรียนเอ่อไม่เหมาะสมอะไรก็ตามเนี่ยนะ
00:27:30 → 00:27:34 ฮะถ้าทุกอย่างเนี่ยยังอยู่ในแนวทางของ
00:27:34 → 00:27:38 องค์ความรู้นะฮะนะและยังเป็นเร Food ยัง
00:27:38 → 00:27:41 เลือกอ่าอะไรต่างๆที่เป็นโปรตีนไขมันน้ำ
00:27:41 → 00:27:44 มันสกัดเย็นอะไรต่างๆที่ดีที่ถูกต้องอ่ะ
00:27:44 → 00:27:46 นะถึงจะบริสุทธิ์ไม่บริสุทธิ์เท่านั้น
00:27:46 → 00:27:49 เท่านี้อะไรก็ตามอันนี้เนี่ยอย่าไปเครียด
00:27:49 → 00:27:52 กับมันอย่าไปเครียดกับมันนะฮะเพราะว่า
00:27:52 → 00:27:55 เร็วๆนี้ก็คือไอ้โพสต์ที่เป็นน้ำมันมะกอก
00:27:55 → 00:27:58 ใช่มั้ยนะเอาล่ะไอ้พวกนี้เนี่ยนะเราใช้
00:27:58 → 00:28:03 การหมุนเวียนนะหรืออ่าเอ่อก็ไม่ต้องไป
00:28:03 → 00:28:05 จำเป็นนะที่จะต้องเครียดต่อความบริสุทธิ์
00:28:05 → 00:28:07 ไม่บริสุทธิ์ของเขาหรือเปอร์เซ็นต์อะไร
00:28:07 → 00:28:11 ต่างๆนะฮะนะเราก็กินไปตามหลักการที่ว่า
00:28:11 → 00:28:14 นี่แหละอิ่มเดียวซ้อน 30 50 20 ทำเป็น
00:28:14 → 00:28:17 รูปน้ำสลัดกินมื้อแรกอะไรอย่าเงี้ยนะนะ
00:28:17 → 00:28:20 เสร็จแล้วเนี่ยร่างกายโดยธรรมชาติเจะมี
00:28:20 → 00:28:22 อย่างนี้นะฮะว่า
00:28:22 → 00:28:26 ว่าถ้าเราทำสิ่งที่ถูกต้องเนี่ยนะในแง่
00:28:27 → 00:28:31 ของร่างกายที่ที่จะมีขบวนการแบอหรืออาอิ
00:28:31 → 00:28:35 นะคือร่างกายเขาจะสะสมหรือเขาจะเผาผลาญ
00:28:35 → 00:28:38 เนี่ยนะกับสิ่งที่มากที่น้อยที่ขาดที่
00:28:38 → 00:28:43 เกินเนี่ยนะอันนี้ร่างกายเขาจะคือร่างกาย
00:28:43 → 00:28:48 เวิวัฒนาการมาที่จะตอบสนองต่อปัญหานะหรือ
00:28:48 → 00:28:51 ความบกพร่องหรือความเกินไปในสิ่งที่หมอ
00:28:51 → 00:28:55 พูดเนี่ยนะอยู่แล้วอยู่แล้วนะเราไม่ต้อง
00:28:55 → 00:28:58 ไปไปทุกข์ร้อนเป็นกังวลเรามีหน้าหน้าที่
00:28:58 → 00:29:01 หาความรู้แล้วใส่่สิ่งที่ถูกต้องท่ามกลาง
00:29:01 → 00:29:06 ความพอดีพอดีนะฮะนะแค่นั้นพอแล้วนะฮะแค่
00:29:06 → 00:29:10 นั้นพอแล้วเพราะที่เหลือนะถ้าร่างกายเข
00:29:10 → 00:29:14 สะสมพลังงานขึ้นมาเนี่ยนะเขาจะสะสมในสิ่ง
00:29:14 → 00:29:18 ที่ดีนะอ่าไม่ต้องห่วงมันจะไม่เกิดความ
00:29:18 → 00:29:22 เป็นพิษหรือไม่เกิดเอ่อที่จะกลายเป็นตัว
00:29:22 → 00:29:25 โรค ncd หรือเป็นปัญหาด้วยอินซูลินนะฮะนะ
00:29:25 → 00:29:29 เาต้องมีการสะสมเก็จะสะสมนะแล้วเจะเอา
00:29:29 → 00:29:33 สิ่งที่สะสมเนี่ยนะรีบนำมาเคลียร์นำมาใช้
00:29:33 → 00:29:36 นะฮะนะแล้วจะเกิดความการปรับสมดุลให้อยู่
00:29:36 → 00:29:40 ในมาตรฐานของความพอดีนะอันนี้ต้องบอก
00:29:40 → 00:29:44 อย่างนี้ก่อนนะฮะเพราะฉะนั้นเอ่อมันมีคำ 2
00:29:44 → 00:29:49 คำน่ะนะว่า Energy Hunger หรือแอ Hunger
00:29:49 → 00:29:53 กับ nutrient Hunger นะฮะก็คือจุดเนี้ย
00:29:53 → 00:29:55 เราต้องไปถึงสิ่งเนี้ยให้ได้นะฮะนะเราจะ
00:29:55 → 00:29:59 ตอบสนองต่อสารอาหารและพลังงานนะตามความ
00:29:59 → 00:30:03 หิวความอิ่มที่ร่างกายต้องการแบบพอดี
00:30:03 → 00:30:06 เพื่อก่อให้เกิดการ Balance optimal
00:30:06 → 00:30:10 Heal อย่างไรก็ตามในทางตรงกันข้ามอีกซีก
00:30:10 → 00:30:14 นึงเนี่ยมันก็จะมีเรื่องของอะไรอ่ะเรื่อง
00:30:14 → 00:30:17 ของอาหารแปรรูปเรื่องของ Process อะไร
00:30:17 → 00:30:21 ต่างๆเรื่องของการปนเปื้อนการปะปนนะในแง่
00:30:21 → 00:30:24 ของการค้าหรือว่าในเรื่องของ
00:30:24 → 00:30:29 อ่าสังคมอ่ะนะที่เทำนทำหนี้มาล่อตาล่อใจ
00:30:29 → 00:30:32 เรานะฮะซึ่งสิ่งเหล่าเยนำมาซึ่งภาวะที่เ
00:30:32 → 00:30:36 เรียกีนิ hanger นะฮะนะหรือเป็นการกินใน
00:30:36 → 00:30:39 รูปแบบที่ก่อให้เกิดอะไรอ่ะรางวัลแก่
00:30:39 → 00:30:43 ชีวิตความพึงพอใจนะแต่มันเบรคไม่อยู่มัน
00:30:43 → 00:30:47 เบรกไม่อยู่นะฮะนะซึ่งเอ่อในเรื่องของ
00:30:47 → 00:30:49 พนาการสมัยใหม่เนี่ยเขาก็กลัวกันมากใน
00:30:49 → 00:30:52 เรื่องอาหารแปรรูปเนี่ยส่วนจะแปลกันขนาด
00:30:52 → 00:30:54 ไหนอะไรก็ตามเนี่ยนะก็ต้องมีความรู้ความ
00:30:54 → 00:30:58 เข้าใจด้วยนะเพงั้นการกินแบบีนิ hanger
00:30:59 → 00:31:02 ก็แน่นอนนะร่างกายเกิดกระบวนการเป็น
00:31:02 → 00:31:05 กระบวนการสะสมเป็นหลักนะและเขาจะเกิดการ
00:31:05 → 00:31:09 สะสมแบบถูกบังคับนะฮะก็คือการกินแบบเนี้ย
00:31:09 → 00:31:11 เหมือนเราอ่ะไปบังคับให้ร่างกายให้
00:31:11 → 00:31:14 ฮอร์โมนอะไรต่างๆต้องทำงานแบบการสะสมทั้ง
00:31:14 → 00:31:17 อินซูลินทั้งคอร์ติซอลหรือเอสโตรเจนด้วย
00:31:17 → 00:31:21 ก็ตามนะและอีกฝั่งนึงอ่ะที่จะสลายเผาผลาญ
00:31:21 → 00:31:23 มันออกมาทำงานไม่ได้อ่ะมันเดี้ยงไปเลยอ่ะ
00:31:23 → 00:31:27 นะฮะการสะสมแบบนี้แหละคือการสะสมที่จะก่อ
00:31:27 → 00:31:33 โลคนะที่จะก่อโทษแก่ร่างกายเรานะฮะจะดื้อ
00:31:33 → 00:31:36 อินซูลินจะเป็นปัญหาโรค ncd อะไรต่างๆ
00:31:37 → 00:31:40 เนี่ยเพราะฉะนั้นเนี่ยนะฮะนะในเรื่องของ
00:31:40 → 00:31:43 การกินแบบโภชนาการคต่ำ low C High Good
00:31:43 → 00:31:48 Fat นะฮะขอให้มีความมั่นใจและเ้าเรียก
00:31:48 → 00:31:51 ว่ามีอะไรนะมีอะไร mindset อะไรสักอย่าง
00:31:51 → 00:31:55 เนี่ยนะก็คือเป็นเป็น mindset ที่แบบมี
00:31:55 → 00:31:59 ความแน่วแน่นะว่าเออนะสิ่งเหล่านี้เนี่ย
00:31:59 → 00:32:03 มันตอบโจทย์มันอธิบายอะไรได้นะแล้วก็ทำ
00:32:04 → 00:32:08 ได้เป็นรูปธรรมเนะรวมทั้งการ f อ่าตัว
00:32:08 → 00:32:12 อินดิเคเตอร์ต่างๆอิอ่าที่จะควบคุมมันไป
00:32:12 → 00:32:17 เรื่อยๆก็แล้วกันนะฮะตรงเนี้ยพอเข้าใจมย
00:32:17 → 00:32:21 นะฮะคือคือบางคนเนี่ยเขากลัวการสะสมพลัง
00:32:21 → 00:32:25 งานไเกลัวอินซูลินนะอินซูลินหรือแม้แต่
00:32:25 → 00:32:28 คอร์ติซอลมาแล้วคอร์ติซอลมาสะสมก็เรียก
00:32:28 → 00:32:32 อินซูลินออกมานะเก็กลัวอะไรอ่ะกลัวน้ำ
00:32:32 → 00:32:36 หนักนิ่งน้ำหนักค้างกลัวไอ้แฟตต่างๆโดย
00:32:36 → 00:32:40 เฉพาะ visceral Fat นะเนี่ยนะร่างกายมัน
00:32:40 → 00:32:43 กลายเป็นสิ่งเหล่านี้ไปนะจะกินโน่นกินนี่
00:32:43 → 00:32:48 นะอ่ากินคาฟนะแปรรูปอ้าก็กลัวเกลัว
00:32:48 → 00:32:52 อินซูลินมากลัวเกิดอนาบอลิคเกิดการสะสม
00:32:52 → 00:32:55 เอ่อจะไปกินแฟตนะยิ่งเป็นอะไรอ่ะเป็นออย
00:32:56 → 00:32:58 อย่างเงี้ยนะแต่มันก็คือน้ำมันสกัดเย็น
00:32:58 → 00:33:00 น่ะนะฮะมันเป็นแปรรูปที่ดีที่สุดในโลกอ่ะ
00:33:00 → 00:33:04 นะเอ่อแล้วเรากินเนี่ยกินแบบพอดีตามเซอ
00:33:04 → 00:33:07 metabolic Rate เอ่อเราไม่ได้กินเกิน
00:33:07 → 00:33:13 เลยนะฮะนะเเพราะฉะนั้นน่ะมันมันสะสมมันก็
00:33:13 → 00:33:17 อาจจะมีสะสมแ่ะนะฮะนะแต่ร่างกายเค้าถ้า
00:33:17 → 00:33:20 ได้สิ่งที่ถูกต้องเนี่ยนะเเค้าการสะสม
00:33:20 → 00:33:23 หรือการสลายเผาผลาเนี่ยมันจะเป็นร่างกาย
00:33:23 → 00:33:27 เขจะมีเค้าเรียกว่ามีศักยภาพอ่ะนะที่จะทำ
00:33:27 → 00:33:30 สิ่งเหล่านี้แล้วไม่ทำให้เราเดือดร้อนคือ
00:33:30 → 00:33:32 ไม่ไม่มาลงเอยด้วยการเจ็บป่วยเป็นโน่น
00:33:32 → 00:33:36 เป็นนี่นะมันแตกต่างจากเราใส่สิ่งที่ไม่
00:33:36 → 00:33:39 ถูกต้องไม่มีความรู้แล้วไม่เข้าใจเข้าไป
00:33:39 → 00:33:42 แล้วเสร็จแล้วเนี่ยเอ่อมันก็สะสมแล้วมัน
00:33:42 → 00:33:47 ก็อักเสบใช่มนะแล้วมันก็กลายเป็นโน่นนี่
00:33:47 → 00:33:50 นั่นนะหลายโรคหลายอย่างไปนะโดยเฉพาะภาวะ
00:33:50 → 00:33:53 ด้วอินซูลิน
00:33:53 → 00:33:55 เเค
00:33:55 → 00:34:00 นะผ่านไปเท่าไหร่นะเนี่ยนะคืออันเนี้ย
00:34:00 → 00:34:02 อยากจะบอกแต่อยากจะบอกมาตั้งนานแล้วแต่
00:34:02 → 00:34:05 ไม่รู้จะเรียบเรี้งว่ามาพูดยังไงยังไงให้
00:34:05 → 00:34:09 มันเข้าอกเข้าใจแล้วก็ให้มันมั่นใจให้มัน
00:34:09 → 00:34:13 มั่นใจเนาครับครับอ่ะทีนี้เรื่องนึงเนี่ย
00:34:13 → 00:34:18 นะในเรื่องเนี้ยนะฮะนะอันนี้ต้องไปช้าๆนะ
00:34:18 → 00:34:22 ว่าเออกินโภชนาการคาฟต่ำแล้วจะกินซีดีกิน
00:34:22 → 00:34:29 kcd กินโคฟกินคีโตเออทำไมผลแลบมานะอ่า
00:34:29 → 00:34:33 ทำไมไตคิสไลนไม่ลดนะโดยเฉพาะกินผ่านไป 6
00:34:33 → 00:34:34 เดือน 9 เดือนหรือปีนึงแล้วอะไรอย่าง
00:34:34 → 00:34:37 เงี้ยนะอ่าเนี่ยทั้งในประเทศทั้งต่าง
00:34:37 → 00:34:40 ประเทศมีปัญหานี้กันอยู่ช่วงนึงอ่ะแล้วก็
00:34:40 → 00:34:44 มาโพสต์ถามกันเต็มไปหมดนะฮะปัญหาไตกีสไล
00:34:44 → 00:34:48 ในเลือดสูงนะฮะนะก็มันมีของกลุ่มคนที่
00:34:48 → 00:34:51 ดื้ออินซูลินมีไขมันพอกตับอันนี้ก็คือ
00:34:51 → 00:34:54 แคลอรี่ส่วนเกินนะเเใช้คำว่าแคลอรี่ส่วน
00:34:54 → 00:34:59 เกินนะนะเนี่ยนะซึ่งมาจากทั้งาฟและไขมัน
00:34:59 → 00:35:02 ซึ่งอันเนี้ยก็คือปรากฏการณ์
00:35:02 → 00:35:05 rand Cycle นั่นเองนะฮะเพราะ randle
00:35:05 → 00:35:07 Cycle เนี่ยร่างกายมันใช้าฟไม่ได้เซลล์
00:35:07 → 00:35:11 อ่ะมันใช้น้ำตาลไม่ได้ฮะนะใช้ไขมันไม่ได้
00:35:11 → 00:35:15 นะคือเซลล์เนี่ยมันขาดพลังงานนะแล้วสิ่ง
00:35:15 → 00:35:18 เหล่านี้เนี่ยมันบล็อกกันเองนะเกิดการ
00:35:18 → 00:35:21 บล็อกกันและเกิดการเอาไปเก็บไปเก็บหมดเลย
00:35:21 → 00:35:24 นะฮะแล้วตำแหน่งที่เก็บก็ไม่ได้ตำแหน่ง
00:35:24 → 00:35:27 ธรรมชาติด้วยนะเค้าก็ไปเพราะว่ามันมีตัว
00:35:27 → 00:35:32 คอร์ติซอลออกมานะที่จะอ่าร่วมมือกับ
00:35:32 → 00:35:36 อินซูลินแล้วเอาไปเก็บที่วอนะทีนี้ปัญหา
00:35:36 → 00:35:39 ไตรกีสไลในเลือดสูงของคนที่กินแบบคาฟต่ำ
00:35:39 → 00:35:45 นะนะอันนี้นะขอบอกว่ามันเกิดจากไขมันส่วน
00:35:45 → 00:35:48 เกินที่เรากินแบบผิดๆซึ่งไขมันส่วนเกิน
00:35:48 → 00:35:51 เนี่ยในเมื่อเรากินคาฟต่ำไขมันเหล่านี้จะ
00:35:51 → 00:35:56 มาจากอ่ามาจากโปรตีนและมาจากสัตว์นะฮะนะ
00:35:56 → 00:35:59 แต่ก็รูปแบบก็แล้วแต่นะ
00:35:59 → 00:36:05 ฮะอ่าอันนี้ก็มีมีคนมามารายงานอยู่ในผับ
00:36:05 → 00:36:09 เม็ดอันนี้ด้วยนะลองไปดูนะฮะทีนี้หน้า
00:36:09 → 00:36:12 เนี้ยนะเราก็ทำความเข้าใจอย่างเงี้ยนะ
00:36:12 → 00:36:15 อาหารที่กินเข้าไปเรากิน ow คฟนะเราค่อน
00:36:15 → 00:36:19 ข้างตัดคหรือ very low คฟนะแล้วเราก็ไออ
00:36:19 → 00:36:22 typ โปรตีนจากเนื้อสัตว์นะในเนื้อสัตว์
00:36:22 → 00:36:26 ก็จะมีไขมันนะฮะนะส่วนจะกินหรือไม่กินน้ำ
00:36:26 → 00:36:29 มันสกัดเย็นด้วยนี่ก็แล้วแต่ความรู้ความ
00:36:29 → 00:36:33 เข้าใจนะของแต่ละบุคคลนะฮะนะทีนี้ทั่วๆไป
00:36:33 → 00:36:36 เนี่ยนะลำไส้เนี่ยอ่าก็จะเป็นตัวดูดทรัพย
00:36:36 → 00:36:41 พลังงานนะฮะนะถ้าเป็น di ชูการกับโปรตีน
00:36:41 → 00:36:44 นะอันนี้การดูดซึมเนี่ยจะเข้าสู่ระบบ
00:36:44 → 00:36:49 เลือดนะก็จะมีฮอร์โมนออกมานะในการจัดการ
00:36:49 → 00:36:51 เนี่ยก็คืออินซูลินกับคอร์ติซอลแต่ส่วน
00:36:51 → 00:36:56 ใหญ่ก็จะเป็นอินซูลินนะเนี่ยแล้วก็นำเข้า
00:36:56 → 00:37:00 สู่ตับนะฮะนะคือตอนที่มันอยู่ในกระแส
00:37:00 → 00:37:02 เลือดเนี่ยนะ
00:37:02 → 00:37:07 อ่าถ้าเกิดอินซูลินน้อยนะนะเซลล์ต่างๆก็
00:37:07 → 00:37:11 จะเอาน้ำตาลไปใช้นะเอาโปรตีนไปซ่อมแซมนะ
00:37:11 → 00:37:15 นะสิ่งเหล่านี้เนี่ยนะมันมีตัวพาไปก็คือ
00:37:15 → 00:37:19 เป็นโปรตีนอัลบูมินนะฮะโปรตีนอัลบูมินเ
00:37:19 → 00:37:22 เป็นตัวพาสิ่งเหล่าเนี้ยไปให้เซลล์ต่างๆ
00:37:22 → 00:37:26 ใช้นะถ้ากินเยอะแล้วมันเหลือเ่อมันเหลือ
00:37:26 → 00:37:31 เนี่ยก็ก็จะมาทางระบบเลือดนะนะเข้ามาที่
00:37:31 → 00:37:36 ตับนะแล้วในแง่ของคาฟเนี่ยอ่าจะเกิดการ
00:37:36 → 00:37:39 เปลี่ยนแปลงของขบวนการ ov lipogenesis
00:37:39 → 00:37:44 นะฮะนะเนี่ยกลายเป็นอ่ากฎไขมันกลายเป็น
00:37:44 → 00:37:49 กรดไขมันนะฮะเนี่ยแล้วตัวน้ำตาลนะที่มา
00:37:49 → 00:37:53 จับกับกดไขมันเนี่ยก็กลายเป็นตัวไตกีสไล
00:37:53 → 00:37:58 นะแล้วไตกีสไลตัวเนี้ยนะเนี่ยไกไลตัว
00:37:58 → 00:38:01 เนี้ยก็จะแพ็คอยู่ที่ตับเป็นหลักก่อนใน
00:38:01 → 00:38:04 ช่วงแรกนะฮะเนี่ยก็เป็นเปติ lipid ดับเปด
00:38:05 → 00:38:08 นะฮะนะอ่าก็อยู่ในเซลล์ตับบรรจุอยู่ใน
00:38:08 → 00:38:12 เซลล์ตับก่อนนะแต่ก็ตามที่เรารู้อ่ะนะว่า
00:38:12 → 00:38:17 ตับของคนเราเนี่ยนะนะเขใช้ไขมันเป็นพลัง
00:38:17 → 00:38:20 งานแล้วรูปแบบของไขมันก็คือกดไขมันอิสระ
00:38:20 → 00:38:24 fre fy Acid นะฮะนะแต่ถามว่าตับเนี่ย
00:38:24 → 00:38:28 เขาใช้ี fatty Acid จากการที่ดีโปจิมา
00:38:28 → 00:38:34 จากน้ำตาลมยไม่นะฮะไม่นะตับเจะไม่ใช้อัน
00:38:34 → 00:38:37 นี้นะพารวยนี้จะเป็นพวยที่เกิดกระบวนการ
00:38:37 → 00:38:41 สะสมของไตรกีสไลที่เป็นไขมันพอกตับเท่า
00:38:42 → 00:38:45 นั้นนะเซลล์ตับเไม่เอามาด้วยไม่เอามาใช้
00:38:45 → 00:38:47 ด้วยนะฮะแล้วเซลล์ตับเนี่ยที่ก็
00:38:47 → 00:38:50 เมตาบอไลท์ที่เต้องใช้พลังงานเยอะแยะเลย
00:38:50 → 00:38:53 แล้วก็เป็นอวัยวะหนึ่งเดียวในร่างกายที่
00:38:53 → 00:38:56 ใช้พลังงานสูงสุดนะเขาใช้ไตคิสไลดที่มา
00:38:56 → 00:39:01 ทางนี้และมาจากเนื้อเยื่อไขมันเวลาอด
00:39:01 → 00:39:05 อาหารนะฮะคือเวลากินอาหารเนี่ยตับเนี่ยก็
00:39:05 → 00:39:10 จะใช้ไขมันนะเนี่ยที่มาจากเนี่ยที่มาจาก
00:39:10 → 00:39:15 ไอ้พวกไคโรไมคอนเนี่ยนะอ่าเอามานะทาง
00:39:15 → 00:39:19 กระแสเลือดนะฮะนะแต่ถ้าเวลาที่ไม่ได้กิน
00:39:19 → 00:39:24 อาหารนะไคโรไมคอนมันก็ต้องกลับเข้าเข้า
00:39:24 → 00:39:28 เข้าอะไรซต์ของตับไปอ่ะนะเนี่ยเขาก็จะใช้
00:39:28 → 00:39:31 ตัวเนี่ยตัวไตกีสไลดที่มาจากเซลล์อธิพจน์
00:39:31 → 00:39:36 ทิชชูแล้วเกิดการสลายโดยเอนไซม์ฮอร์โมน
00:39:36 → 00:39:41 sensitive ไสนะอนะร่วมกับไลโปโปรตีน
00:39:41 → 00:39:47 ไลเปสเนี่ยนะสลายนะเป็นตัวไตรกีซาไลน์นะ
00:39:47 → 00:39:51 ออกมานะกลายเป็นฟีฟตี้ Acid ให้ตับเอาไป
00:39:51 → 00:39:54 ใช้เป็นพลังงานนะเพราะฉะนั้นฟีฟตี้ Acid
00:39:54 → 00:39:57 ที่ตัดจะใช้ก็คือี fatty Acid ที่มาจาก 2
00:39:57 → 00:40:01 ทางเวลากินหรือเวลาฟา
00:40:01 → 00:40:06 นะอันนี้คงไม่ยากหรอกเนาะเนี่ยนะให้รู้
00:40:06 → 00:40:09 ว่าตับเขาไม่ได้ใช้จาก ov lipogenesis
00:40:09 → 00:40:13 นะฮะไม่ใช้นะเขาไม่เอาด้วยอ่ะไม่มีอวยวะ
00:40:13 → 00:40:18 อะไรเอาเลยครับนะเหมือนกันฟุสกาแลคโตส
00:40:18 → 00:40:22 เนี่ยนะอ่าเหมือนกันนะเวลาเข้ามาเนี่ยนะ
00:40:22 → 00:40:26 เขาก็จะเปลี่ยนอ่าเป็น fre fy Acid
00:40:26 → 00:40:31 แล้วก็กลายเป็นอันนี้ทันทีนะฮะแต่รู้มย
00:40:32 → 00:40:36 ว่าคือเซลล์ตับเนี่ยเใช้ฟุกโตสได้นะ
00:40:36 → 00:40:41 ประมาณประมาณ 20% นะของฟุคโตสที่ล้นเข้า
00:40:41 → 00:40:46 มานะฮะนะนะแต่มันมีเซลล์อีกเซลล์นึงอ่ะ
00:40:46 → 00:40:48 ที่ใช้ฟลุก
00:40:48 → 00:40:52 โตสพอๆอ่าใช้ฟลุกโตสแต่ไม่ได้ใช้เยอะเท่า
00:40:52 → 00:40:56 กับเซลล์เซลล์ของตับนะฮะคือใชุ้กโตสเป็น
00:40:56 → 00:41:01 พลังงานน่ะเซลล์นั้นชื่อ
00:41:01 → 00:41:04 อะไรเซลล์นี้ในผู้หญิงไม่
00:41:04 → 00:41:09 มีอ่าเวนี้ไม่มีในผู้หญิงอันทะ
00:41:09 → 00:41:16 อสุจิเออสเปิร์มโอสเปิมใชุ้สนะฮะนะ
00:41:16 → 00:41:19 สเปิร์มไม่ได้ใช้กูโค้ดอันนี้เพิ่งรู้
00:41:19 → 00:41:25 ครับนะมีเหตุผลทำไมสเปิร์มในผู้ชายถึงใช้
00:41:26 → 00:41:29 แต่ฟุกโตสเป็นพลังงานในการไห้ดองแดงดแด
00:41:29 → 00:41:32 แ่งไปเจาะไข่อ่ะครับ
00:41:32 → 00:41:36 เพราะเพราะถ้าสเปิร์มใชุ้กโส
00:41:36 → 00:41:41 นะเอ้ถ้าโทษทีถ้าสเปิร์มใช้กูโคสเมื่อ
00:41:41 → 00:41:46 ไหร่นะสเปิร์มจะมีพลังงานไม่
00:41:46 → 00:41:50 เยอะเพราะว่าเซลล์ต่างๆมันใช้กูโคสหมดเลย
00:41:50 → 00:41:53 อืเซต่างๆเนี่ยมันใช้กูโค้ดมันอยากได้
00:41:53 → 00:41:58 กูโค้ดนะนะเป็นพลังงานนะครับเพราะฉะนั้น
00:41:58 → 00:42:02 เนี่ยวิวัฒนาการน่ะของอสุจินะของสเปิร์ม
00:42:02 → 00:42:07 ในผู้ชายเนี่ยก็เลยมีวิวัฒนาการที่จะไป
00:42:07 → 00:42:08 ใช้แหล่งพลัง
00:42:08 → 00:42:13 งานจากกุจากคาฟนี่แหละนะแต่เขาใช้ฟุกโตต
00:42:13 → 00:42:15 นะฮะเข้าใช้ฟุกอื
00:42:15 → 00:42:19 ครับเพราะว่าเค้ากลัวเซลล์อื่นๆจะแย่ง
00:42:19 → 00:42:22 เพราะถ้าเใช้ฟุกโต๊สไม่มีใครเอาด้วยล่ะ
00:42:22 → 00:42:24 เพราะเซลล์อื่นๆเค้าไม่ชอบฟุคโตสเค้าใช้
00:42:24 → 00:42:28 ไม่เป็นอ่าๆๆๆๆเป็นฟุกโตสที่กินเนี่ยก็
00:42:28 → 00:42:32 เลยมีตับกับสเปิร์มเป็นตัวใช้นะฮะนะผู้
00:42:33 → 00:42:37 หญิงก็เลยอ่ามีแต่ตับใช้อย่างเดียวนะไม่
00:42:37 → 00:42:39 มีใเคยเไม่ใช้
00:42:39 → 00:42:44 ด้วยนะทีนี้เวลาเรากินอาหารเนี่ยนะอันนี้
00:42:44 → 00:42:49 กรณีของคาฟนะถ้าเป็นกรณีของแฟตนะแฟตที่
00:42:49 → 00:42:52 กินเนี่ยนะในมื้ออาหารนั้นน่ะถ้าเป็นตัว
00:42:52 → 00:42:58 แฟตแฟตจะถูกแยกนะนะมาทางนี้นะนะ
00:42:58 → 00:43:02 คือเวลาที่แฟตเนี่ยเข้าไปเนี่ยนะจากลำไส้
00:43:02 → 00:43:07 นะจะเข้าสู่ระบบท่อน้ำเหลืองนะท่อน้ำ
00:43:07 → 00:43:10 เหลืองแล้วก็จะมีฮอร์โมนลูกเทพน่ะออกมา
00:43:10 → 00:43:14 อ่ารวมทั้งมากระตุ้นเอนไซม์ไลโปโปรตีน
00:43:14 → 00:43:19 ไลเปสที่จะอ่าที่จะเปลี่ยนอ่าเปลี่ยน
00:43:19 → 00:43:21 ไตรกีซาไลน์เนี่ยเอาไปให้เซลล์ต่างๆได้
00:43:21 → 00:43:25 ใช้นะฮะตัวที่มารับเนี่ยก็คือไคโรไมคอนนะ
00:43:25 → 00:43:28 แล้วรับออกไปจากากลำไส้ในรูปแบบของตัว
00:43:28 → 00:43:32 ไกินที่มีทั้งกีซอลและฟีฟตี้ Acid แล้ว
00:43:32 → 00:43:37 ไลโปโปรตีนไสเนี่ยนะเขาก็จะมาอยู่ในระบบ
00:43:37 → 00:43:42 น้ำเหลืองนี่แหละนะฮะที่จะจะย่อยสลายนะ
00:43:42 → 00:43:46 ให้เกิดี fatty Acid นะและกีซอลเนี่ยนะ
00:43:46 → 00:43:50 ไปให้เซลล์ต่างๆได้ใช้นะแล้วก็ไม่มีการ
00:43:50 → 00:43:54 ปิดประตูเปิดประตูหรือต้องไปเกิดอะไรต่าง
00:43:54 → 00:43:58 ๆไม่ต้องนะฮะเขาซึมผ่านโดยตรงเลยนะฮะ
00:43:58 → 00:44:01 เพราะฉะนั้นอันเนี้ยนะมันเป็นสิ่งที่ผ่าน
00:44:01 → 00:44:04 ท่อน้ำเหลืองนะโดยท่อน้ำเหลืองหลักเนี่ย
00:44:04 → 00:44:07 จะมารวมกันที่ท่อน้ำเหลืองแกงกลางก็คือ
00:44:07 → 00:44:11 รสิกดับนะหลังจากนั้นเนี่ยถ้ามันใช้ไม่
00:44:11 → 00:44:15 หมดนะไคโรไมคอนจะเอาตัวไตรกีซาไลน์เหล่า
00:44:15 → 00:44:20 เนี้ยนะใส่เอ่อผ่านจากรสิกดักเนี่ยเข้า
00:44:20 → 00:44:24 สู่หัวใจห้องบนขวาแล้วก็ลงมาห้องล่างขวา
00:44:24 → 00:44:29 ไปปอดไปฟอกนะฟอกเอาออกซิเจนใส่เข้าไปด้วย
00:44:29 → 00:44:32 นะฮะเรียบร้อยแล้วก็กลับมาที่หัวใจห้องบน
00:44:32 → 00:44:37 ซ้ายไปล่างซ้ายแล้วก็บีบออกทางเอออต้านะ
00:44:37 → 00:44:42 ซึ่งในที่สุดนะก็จะไปสู่เซลล์ต่างๆนะที่
00:44:42 → 00:44:47 จะให้ได้เกิดการใช้ไตรกีซาไลน์นะโดยการ
00:44:47 → 00:44:51 แครี่ไปหรือการลำเลียงไปของไคโรไมคอนแต่
00:44:51 → 00:44:55 ถ้าเกิดไม่ได้ใช้นะนะถ้าถ้าใช้ไปเหลือ
00:44:55 → 00:44:59 เท่าไหร่ก็เป็นไคโลเรนนะฮะนะก็กลับเข้ามา
00:44:59 → 00:45:03 ที่ตันะเพราะฉะนั้นเนี่ยนะไขมันเนี่ยก็
00:45:03 → 00:45:07 เลยไปท่องยุทธภพนะทั้งท่อน้ำเหลืองแล้วก็
00:45:07 → 00:45:13 ท่อน้ำเลือดนะฮะนะอีตรงเนี้ยสำคัญนะก็คือ
00:45:13 → 00:45:19 เวลานะที่เอยู่ที่หัวใจเนี่ยนะนะหัวใจจะ
00:45:19 → 00:45:24 เป็นตัวใช้ไขมันอันดับแรกก่อนนะฮะในวะ
00:45:24 → 00:45:27 ต่างๆเหล่าเนี้ยนะฮะนะเนะที่ร่างกาย
00:45:27 → 00:45:32 พยายามจัดสรรไขมันดีเข้าไปเนี่ยนะหัวใจเ
00:45:32 → 00:45:36 จะได้ใช้ไขมันดีๆนะถ้าเกิดเป็นรูปแบบของ
00:45:36 → 00:45:39 น้ำมันสกัดเย็นตามสูตรตามสัดส่วนตาม
00:45:39 → 00:45:43 ปริมาณนะแต่ถ้าเราไม่ได้ใช้น้ำมันสกัด
00:45:43 → 00:45:47 เย็นจากพืชนะนะเราก็จำเป็นต้องไปใช้ไขมัน
00:45:48 → 00:45:51 จากสัตว์เป็นหลักนะก็มีข้อแตกต่างที่เคย
00:45:51 → 00:45:55 พูดไปแล้วนะฮะแล้วอวัยวะหลักๆที่จะใช้
00:45:55 → 00:45:58 อันดับแรกๆเลยคือหัวใจนะฮะหัวใจใช้นะ
00:45:58 → 00:46:01 เนี่ยแล้วจากหัวใจเนี่ยก็จะมาทางกระแส
00:46:01 → 00:46:06 เลือดนะถ้ามาทางกระแสเลือดไปไหน่ะมันก็
00:46:06 → 00:46:08 เอาไปให้เซลล์ให้เนื้อเยื่อต่างๆอ่ะที่
00:46:08 → 00:46:12 ต้องการพลังงานใช้นะเนี่ยก็มีไลโปโปรตีน
00:46:12 → 00:46:18 ไลเปสมาสิลอวอร์นะก็คือมาทำการสลัดอะไร
00:46:18 → 00:46:21 ต่างๆที่จะไปให้กล้ามเนื้อใช้นะฮะนะอีก
00:46:21 → 00:46:23 แหล่งนึงเนี่ยนะที่เอาไปใช้ด้วยก็คือ
00:46:23 → 00:46:28 กล้ามเนื้อนะเนี่ยแล้วก็เสร็จแล้ว
00:46:28 → 00:46:34 นะเอาไปให้เอาไปบางส่วนก็เอาไปที่อธิพจน์
00:46:34 → 00:46:40 ทิชชูนะฮะนะแต่บางส่วนนะก็จะเข้าสู่ตับนะ
00:46:40 → 00:46:44 เนี่ยเป็นในรูปแบบของี fty Acid นะที่จะ
00:46:44 → 00:46:48 ไปให้เซลล์ตับได้ใช้ก็คือคือได้ถูกใช้อ่ะ
00:46:48 → 00:46:53 ใช้ๆๆๆๆมึงใช้กูใช้อ่ะนะเนี่ยหัวใจก็ใช้
00:46:53 → 00:46:57 กล้ามเนื้อก็ใช้เซลล์ต่างๆก็ใช้ตับก็ใช้
00:46:57 → 00:47:03 เออนะแล้วที่เหลือจริงๆเลยนะก็ถึงจะมา
00:47:03 → 00:47:07 เนี่ยเป็นไขมันพอกตับนะฮะนะอีกทางนึง
00:47:07 → 00:47:12 เนี่ยนะก็ยังมีการลำเลียงออกอีกนะฮะนะก็
00:47:12 → 00:47:17 คือเกิดภาวะเนี่ยนะไิ synesis นะแล้วนะมี
00:47:17 → 00:47:21 ตัว vldl เรือลำเนี้ยนะ vldl assim
00:47:21 → 00:47:26 เนี่ยอ่ามารับนะแล้วก็ออกจากเนี่ยอ่า
00:47:26 → 00:47:30 เส้นเลือดแดงของตับเนี่ยกระจายออกไปในรูป
00:47:30 → 00:47:33 ของ vldl
00:47:33 → 00:47:39 นะก็มันก็คือก็คือมันเป็นการที่พยายามที่
00:47:39 → 00:47:43 จะถูกใช้อ่ะนะร่างกายก็จะใช้ๆๆๆๆๆแต่ถ้า
00:47:43 → 00:47:45 เป็น Part Way noov lipogenesis พวก
00:47:46 → 00:47:50 นี้มีแต่เก็บเก็บๆนะฮะเพราะฉะนั้นใครกินค
00:47:50 → 00:47:54 overc กินอ่าคแปรรูปอะไรต่างๆนะคุณไม่
00:47:54 → 00:47:57 ได้ใช้นะฮะนะถึงเจะเปลี่ยนเป็นไตรกีสไล
00:47:57 → 00:48:02 แล้วก็เถอะนะเก็จะเก็บเก็จะเก็บครับนะมัน
00:48:02 → 00:48:07 ต่างกันน่ะนะเนี่ยอันนี้นะทีนี้มันก็ไข
00:48:07 → 00:48:09 มันสัตว์ไขมันพืชอะไรอย่างเงี้ยนะมันจะ
00:48:09 → 00:48:12 แยกกันยังไงนะฮะอันนี้เราไม่นับพวกไขมัน
00:48:12 → 00:48:15 อุตสาหกรรมหรือไขมันแปรรูปผ่านกรรมวิธีนะ
00:48:15 → 00:48:18 ฮะอันนั้นไม่ไหวอยู่แล้วนะอันนั้นเนี่ย
00:48:18 → 00:48:21 ส่วนใหญ่เนี่ยไม่มีอะไรใช้ได้นะเพราะทุก
00:48:21 → 00:48:24 อย่างเนี่ยเไม่รู้จักนะหัวใจก็ไม่รู้จัก
00:48:24 → 00:48:27 นะกล้ามเนื้อก็ไม่รู้จักเซลล์ต่างๆไม่รู้
00:48:27 → 00:48:32 จักก็เลยต้องมีมีการนำมานี่นำมานำมาเข้า
00:48:32 → 00:48:36 ที่ตับแล้วตับก็เอามารวมหัวรวมหางกับทาง
00:48:36 → 00:48:40 พวกคาฟพวกเนี้ยนะก็กลายเป็นไขมันจุกตับไป
00:48:40 → 00:48:44 เออนะถ้าเกิดเป็นน้ำมันพืชเป็นทานแฟตเป็น
00:48:44 → 00:48:46 มาการีนอะไรอย่าเงี้ย
00:48:46 → 00:48:51 เออือันเนี้ยเราพอเข้าใจเนาะนะครับทีนี้
00:48:51 → 00:48:55 ในกรณีที่กินนะฮะกรณีที่ไม่ได้กินที่ฟาส
00:48:55 → 00:49:00 เนี่ยโดยเฉพาะตนตอนกลางคืนนะอ่านะอินซูล
00:49:00 → 00:49:02 อินซูลินไปหมดเรียบร้อยแล้วอะไรแล้วเนี่ย
00:49:02 → 00:49:06 นะฮะนะตอนเยไทรรอยมาแล้วนะโคดฮอร์โมนมา
00:49:06 → 00:49:09 แล้วอ่าแล้วก็เดี๋ยวปูคารอนมา
00:49:09 → 00:49:13 เทสโทสเตอโรนมาช้าหน่อยอคราวนี้ก็จะมาเผา
00:49:13 → 00:49:17 แล้วนะนะเพราะฉะนั้นหลักการก็คือเขาก็จะ
00:49:17 → 00:49:20 เอามาจากเซลล์ไขมันนี่แหละนะที่มันสะสม
00:49:20 → 00:49:26 อยู่นะครับแต่เออกเถูกสลายอ่ะด้วยเอนไซม์
00:49:26 → 00:49:28 ไม่ไม่ใช่ไลโปโปรตีนไสเนี้เเรียกว่า
00:49:28 → 00:49:32 ฮอร์โมน sensitive Lip นะฮอร์โมนตัวนี้
00:49:32 → 00:49:37 เาสลายนะไขมันที่เก็บสะสมในรูปแบบของไิน
00:49:37 → 00:49:41 ออกมานะก็จะเป็นแบบนี้นะฮะ non efy
00:49:41 → 00:49:46 fatty Acid นะคู่กับกีซอลกีซอลเนี่ยมัน
00:49:46 → 00:49:50 ละลายในน้ำเลือดได้นะนะเดี๋ยวมันก็ไปให้
00:49:50 → 00:49:54 เซลล์ใช้หรือไปที่ตับนะฮะแต่ non efy fy
00:49:54 → 00:49:58 Acid เนี่ยมันเป็นกดไขมันนะฮะนะพวกนี้
00:49:58 → 00:50:02 มันจะต้องมีตัวมาพามันไปก็คืออัลบูมินนะ
00:50:02 → 00:50:06 ไม่ใช่ไคโรไมคอนนะฮะตัวนี้ตัวพามันไปคือ
00:50:06 → 00:50:09 บูมินะฮะซึ่งมันอยู่ในเลือดอยู่แล้วนะฮะ
00:50:09 → 00:50:13 นะเนี่ยเนี่ยเขาก็จะพาไปให้เซลล์ต่างๆได้
00:50:13 → 00:50:17 ใช้ในตอนที่เราฟานะฮะนะแล้วถ้ามันเป็นไข
00:50:17 → 00:50:19 มันเนี่ยมันไม่ต้องมีประตงประตูอะไรมาก
00:50:19 → 00:50:23 มายนะฮะเไม่ได้เรื่องมากนะอ่าใช้ก็ได้ก็
00:50:23 → 00:50:27 ใช้เลยนะขาดก็เอาไปใช้สิอะไรอย่าเงี้ย
00:50:27 → 00:50:31 นะแล้วถ้าเหลือถ้าเหลือถ้าเหลือก็จะอ่ามา
00:50:31 → 00:50:37 ที่ตับนะแต่ถามว่ามันจะเหลือมล่ะนะโดย
00:50:37 → 00:50:41 ส่วนใหญ่มันจะไม่เหลือนะฮะจำคำหมอไว้
00:50:41 → 00:50:43 เพราะอะไรเพราะเราเคยเล่าให้ฟังแล้วเนี่ย
00:50:43 → 00:50:47 ถ้าเมื่อไหร่เป็นแอคชั่นของฮอร์โมนลูกเทพ
00:50:47 → 00:50:50 เป็นแอคชั่นฮอร์โมนฝั่งเทพเนี่ยครับนะ
00:50:50 → 00:50:54 เอ่อพวกเนี้ยเวลาเจะทำอะไรเจะทำแบบพอดีฮะ
00:50:54 → 00:51:00 จะเจะมีคำว่าสมดุสมดุลโฮมีโอสเตซิสนะบอิ
00:51:00 → 00:51:03 แคลิอะไต่าเพอดีเขาจะทำพอดีเพราะงั้นเ
00:51:03 → 00:51:07 สลายเสลายพอดีนะฮะมันจะมีิ daing อะไร
00:51:07 → 00:51:10 ต่างๆของเซลล์ว่าสมองต้องการเท่าไหร่
00:51:10 → 00:51:11 กล้ามเนื้อต้องการเท่าไหร่เซลล์นั่นเซลล์
00:51:12 → 00:51:13 นี่ต้องการเท่าไหร่อะไรอย่างเงี้ยนะ
00:51:13 → 00:51:17 ฮอร์โมนพวกนี้ก็จะแอชแบบพอดีนะฮะเพราะ
00:51:17 → 00:51:21 ฉะนั้นจะไม่ค่อยเหลือมาตรงที่ตับนหรอกนะ
00:51:21 → 00:51:24 ฮะไอ้พวกเนี้ยนะแต่ถ้าเมื่อไหร่เป็นฝั่ง
00:51:24 → 00:51:28 อะไรอ่ะฝั่งอินซูลินคอร์ติซอลอะไรต่างๆ
00:51:28 → 00:51:31 โดยเฉพาะตัวแม่คอร์ติซอลเนี่ยเวลาเขาสะสม
00:51:31 → 00:51:36 เนี่ยเขาสะสมแหลกเลยนะฮะนะนะเสะสมไม่ฟัง
00:51:36 → 00:51:39 อีร้าฆ่าอีรมใครทั้งสิ้นนะฮะเผื่อไว้ก่อน
00:51:39 → 00:51:43 เผื่อไว้ก่อนเผื่อไว้หมดนะก็สะสมก็มึงกิน
00:51:43 → 00:51:46 มาเท่าไหร่กูก็สะสมมากเท่านั้นตัวใหญ่
00:51:46 → 00:51:50 อย่ายักษขหมูขีอะไรอย่างเงี้ยนะฮะครับ
00:51:50 → 00:51:55 นี่นะเพราะฉะนั้นเนี่ยนะอันเนี้ยก็คือ
00:51:55 → 00:51:59 สิ่งต่างๆอ่ะที่มันเป็นพวที่เกิดขึ้นของ
00:51:59 → 00:52:03 การบริหารจัดการไขมันทั้งกินเข้าไปและที่
00:52:03 → 00:52:06 มีอยู่ในเลือดอยู่ในเนื้อเยื่ออะไรต่างๆ
00:52:06 → 00:52:11 เหล่าเนี้ยนะฮะทีนี้ถ้าเรากินโลคราฟนะ
00:52:11 → 00:52:15 แล้วไขมันเรายังสูงอยู่เนี่ยเรามาดูเป็น
00:52:15 → 00:52:18 จุดๆไปเนี่ยว่ามันน่าจะเกิดจากอะไรคือ
00:52:18 → 00:52:21 เวลาเรากินโลคราฟเนี่ยจุดเนี้ยไม่มีแล้ว
00:52:21 → 00:52:26 อ่ะใช่มั้ยล่ะเออนะอ่าจุดๆพวกเนี้ยมันแทบ
00:52:26 → 00:52:30 แทบจะไม่มีแล้วล่ะนะฮะนะครับเออแล้วมันมา
00:52:30 → 00:52:34 จากไหนไม่มีเออมันมาจากไหนนะมันมาจากไหน
00:52:34 → 00:52:37 ส่วนใหญ่ก็คือมาจากการกินผิดนะก็คือกินไข
00:52:37 → 00:52:43 มันผิดนะกินผิดนะไม่ปริมาณสัดส่วนไม่ถูก
00:52:43 → 00:52:46 ต้องหรือปรุงไม่ถูกนะหรือกรอกน้ำมันอะไร
00:52:46 → 00:52:50 เงี้ยนะนะเสร็จแล้วมันก็เนี่ยไคโลไมคอน
00:52:50 → 00:52:53 เนี่ยนะเนี่ยก็เอาไปแต่เซลล์อาจจะใช้ไม่
00:52:53 → 00:52:56 ได้ก็งงๆอยู่อ่ะนะอะไรก็ไม่รู้อ่ะนะอัน
00:52:56 → 00:52:59 นี้ไม่เคยรู้จักนะฮะเอาไปก่อนเอาไปเก็บ
00:52:59 → 00:53:03 เอาไปเก็บเออนะมันก็เลยเนี่ยผ่านไปมาถึง
00:53:03 → 00:53:08 หัวใจนะหัวใจก็ไม่รู้ใช้ได้แค่ไหนนะฮะ
00:53:08 → 00:53:11 จำเป็นก็ต้องใช้นะแต่ถ้าไม่ค่อยรู้จักก็
00:53:11 → 00:53:15 ไม่อยากจะใช้เอออก็เลยต้องผ่านมานะแล้วใน
00:53:15 → 00:53:19 ที่สุดนะเนี่ยนะถ้ามันเยอะเกินไปหรือมัน
00:53:19 → 00:53:23 กินผิดกินเพี้ยนเ่ามันแปลรูปซะจนแบบจำรูป
00:53:23 → 00:53:26 ร่างหน้าตาอ่าดั้งเดิมไม่ได้อะไรอย่าง
00:53:26 → 00:53:30 เงี้ยนะครับมีเคมีมีอะไรเข้ามาเยอะแยะมา
00:53:30 → 00:53:34 บวกๆๆเ่ะนะในที่สุดก็เนี่ยก็มาในพารวย
00:53:34 → 00:53:38 เนี่ยฮะนะแล้วก็กลายมาเป็นสิ่งที่จะกลาย
00:53:38 → 00:53:42 เป็นตัวไขมันเปิไปิดดเปดเนี่ยนะก็คือเป็น
00:53:42 → 00:53:47 ไขมันพ่อตับนะอืครับแต่บางส่วนมันก็
00:53:47 → 00:53:51 สามารถไปสะสมที่กล้ามเนื้อนะนะจากตับมัน
00:53:51 → 00:53:55 ก็ไปตับอ่อนนะแล้วก็ไปซออะไรต่างๆนะฮะนะ
00:53:56 → 00:53:59 แล้วแล้วก็บางส่วนก็อาจจะมาสะสมที่อิพ
00:53:59 → 00:54:01 ทิชชูด้วย
00:54:01 → 00:54:05 นะแต่ส่วนใหญ่เนี่ยสิ่งที่มันแปลกปลอม
00:54:05 → 00:54:08 เนี่ยแอคชั่นอ่าโดยมากมันจะเป็นแอคชั่น
00:54:08 → 00:54:12 ของตัวแม่คอร์ติซอลนะฮะคอร์ติซอลก็ออกมา
00:54:12 → 00:54:16 แต่เไม่สะสมเค้าเอาอินซูลินมาช่วยสะสมแต่
00:54:16 → 00:54:20 เขามาบงการเมาชี้นิ้วนะเอ่อว่าเอาไปเก็บ
00:54:20 → 00:54:23 เอาไปเก็บไม่รู้อะไรไม่รู้เก็บไว้ก่อน
00:54:23 → 00:54:27 เดี๋ยวหาทางทำลายหรือขับอออครับเนี่ยมัน
00:54:27 → 00:54:31 ก็จะเป็นอย่างนี้อ่าบอกนิดนึงว่าตัว
00:54:31 → 00:54:34 คอร์ติซอลเนี่ยนะฮะนะใครที่เพิ่งเข้ามาใน
00:54:34 → 00:54:39 เพจ longevity แรกๆเนี่ยนะอ่าเราต้องรู้
00:54:39 → 00:54:42 จักคอร์ติซอลใน 3 เรื่องนี้นะฮะ 3 เรื่อง
00:54:42 → 00:54:45 นี้นะเป็นคุณสมบัติของคอร์ติซอลของ
00:54:45 → 00:54:49 มนุษยชาตินะฮะอันที่ 1 คอร์ติซอลมีหน้า
00:54:49 → 00:54:52 ที่ในการจัดสรรพลังงานนะนะนะอันนี้เป็น
00:54:52 → 00:54:56 หน้าที่ใหญ่ที่สุดนะนะนะเป็นตัว
00:54:56 → 00:55:00 เป็นตัวที่ที่ต้องนำมาพิจารณาก่อนอื่นเลย
00:55:00 → 00:55:05 นะนะเขาจะเาจะลเขาจะอ่า sensitive กับ
00:55:05 → 00:55:09 เรื่องพลังงานเป็นหลักแล้วว่าว่าเป็นยัง
00:55:09 → 00:55:12 ไงพอไม่พอมากน้อยขาดเกินเอาตรงไหนมาใช้
00:55:12 → 00:55:16 ได้นะฮะนะแล้วในพูดถึงเรื่องพลังงานเนี่ย
00:55:16 → 00:55:19 อีกตัวนึงก็คือไทรรอยด์นะฮะเอ่อไทรรอยด์
00:55:19 → 00:55:23 จะเซิต่อการขาดพลังงานแต่คอร์ติซอลเนี่ย
00:55:23 → 00:55:26 เรื่องขาดพลังงานเนี่ยเา้าก็ไวเหมือนกัน
00:55:26 → 00:55:30 เนี่ยแต่เค้ายังมีอ่าตัวสำรองต่างๆนะที่
00:55:30 → 00:55:33 จะมาแก้ปัญหานะฮะนะแล้วคอร์ติซอลเนี่ย
00:55:33 → 00:55:37 เค้าก็สะสมพลังงานได้เช่นเดียวกันแต่โดย
00:55:37 → 00:55:41 overall รวมๆแล้วเนี่ยคอร์ติซอลเนี่ยนะ
00:55:41 → 00:55:43 ถ้ากระตุ้นเออกมาเยอะๆเยอะๆเมื่อไหร่
00:55:43 → 00:55:46 เนี่ยนะเขาคจะค่อนข้างเอนเอียงไปทางสะสม
00:55:46 → 00:55:49 พลังงานคล้ายๆอินซูลิน
00:55:49 → 00:55:53 นะมันจะเป็นอย่างงี้นะอันที่ 1 คือเรื่อง
00:55:53 → 00:55:55 พลังงานนะฮะกับคอร์ติซอลอันที่ 2
00:55:55 → 00:55:59 คอร์ติซอลมีหน้าที่นะทางด้านวิวัฒนาการ
00:55:59 → 00:56:03 เนี่ยก็คือพุ่งความดันฮะคอร์ติซอลทำหน้า
00:56:03 → 00:56:06 ที่ในการพุ่งความดันเลือดนะเพราะฉะนั้น
00:56:06 → 00:56:08 ตอนเช้าๆตื่นขึ้นมาแล้วเดี๋ยวมันต้องลุก
00:56:08 → 00:56:12 นะเดี๋ยวมันต้องยืนนะนะถ้าเกิดไม่พุ่ง
00:56:12 → 00:56:14 ความดันเนี่ยมันยืนไม่ได้มันรุบนั่งไม่
00:56:14 → 00:56:18 ได้นะมันนอนอย่างเดียวมันก็ไม่ใช่นะอัน
00:56:18 → 00:56:21 นี้เป็นแอชของคอร์ติซอลแล้วล่ะนะเขาจะ
00:56:21 → 00:56:25 พุ่งความดันอันที่ 3 คอร์ติซอลออกมาเพื่อ
00:56:25 → 00:56:29 ก่อให้เกิดความสงบสุขนะฮะนะสิ่งที่ร่าง
00:56:29 → 00:56:32 กายไม่สงบสุขก็คือเรื่องของภูมิคุ้มกันนะ
00:56:32 → 00:56:37 ฮะภูมิแพ้ภูมิเพี้ยนภูมิต่ำนะภูมิต้านทาน
00:56:37 → 00:56:41 ไม่ดีนะภูมิตกอะไรพวกเนี้ยนะอันนี้เป็น
00:56:41 → 00:56:43 หน้าที่ของคอร์ติซอลนะหรือมีเชื้อโรคเข้า
00:56:43 → 00:56:47 มาคอร์ติซอลเต้องพค Action เลยนะฮะ
00:56:47 → 00:56:51 คอร์ติซอลฮอร์โมนตัวแม่มีหน้าที่หลัก 3
00:56:51 → 00:56:54 เรื่องนี้นะฮะเพราะฉะนั้นถ้าบอกว่า
00:56:54 → 00:56:59 คอร์ติซอลมาแม่มาแม่มานะก็ให้นึกถึงว่า
00:56:59 → 00:57:04 ฮึ้ยพลังงานเป็นยังไงฮึ้ยนะความดงความดัน
00:57:04 → 00:57:08 เนี่ยเออเอ่อร่างกายต้องการความดันไปทำ
00:57:08 → 00:57:11 อะไรหรือเปล่าตรงไหนตรงนั้นมันขาดเ่อมัน
00:57:11 → 00:57:14 หมุนเวียนไม่ดีอะไรอย่างเงี้ยนะฮะและอัน
00:57:14 → 00:57:16 ที่ 3 เนี่ยเกิดอะไรขึ้นนะกับร่างกาย
00:57:16 → 00:57:19 เนี่ยมีอักส่งอักเสบมีติดช้งติดเชื้อมี
00:57:19 → 00:57:24 สิ่งแปลกปลอมอ่าอะไรหรือเปล่าครับเาจะมา
00:57:24 → 00:57:27 ทำให้เกิดความสงบสุขนะเพราะะนั้นถามว่า
00:57:27 → 00:57:32 คอร์ติซอลเนี่ยรู้สึกจะยากรู้สึกว่าเเขา
00:57:32 → 00:57:35 เขามีรายละเอียดเยอะอะไรต่างๆหลักๆคือ 3
00:57:35 → 00:57:38 เรื่องนี้ฮะ 3 เรื่องนี้นะอืแล้วถ้า 3
00:57:39 → 00:57:42 เรื่องนี้มันสงบสุขคอร์ติซอลเก็จะไม่มาเ
00:57:42 → 00:57:47 สบายใจนะพลังงานก็มานะพลังงานก็มีอะไร
00:57:47 → 00:57:51 อย่างเงี้ยนะเขาก็เก็ไม่ออกมาหรอกนะนะ
00:57:51 → 00:57:54 เพราะถ้าเออกมาเนี่ยร่างกายตื่นเพราะเซอ
00:57:54 → 00:57:57 เป็นฮอร์โมนเหือการตื่นตืนนอนไอ้ที่ไม่
00:57:57 → 00:58:00 หลับไม่หลับไม่หลับหลับไม่ดีอ่าหลับไม่
00:58:00 → 00:58:03 ลึกหลับไม่สนิทเนี่ยอ่าก็คอร์ติซอลนั่น
00:58:03 → 00:58:07 แหละนะเห่วงหาอาทรเ้าเป็นไรึเปล่าอ่ะมัน
00:58:07 → 00:58:11 เกิดอะไรขึ้นกับร่างกายนะฮะอันนี้นะเพราะ
00:58:11 → 00:58:14 ฉะนั้นจะจะควบคุมคอร์ติซอลยังไงจะทำให้
00:58:15 → 00:58:18 คอร์ติซอลเค้าสงบได้ยังไงก็อันนี้แหละฮะ
00:58:18 → 00:58:21 นะนะแล้วส่วนใหญ่เนี่ยปัญหาเรื่องพลังงาน
00:58:21 → 00:58:26 จะเป็นปัญหาสำคัญมากก็คือกินผิดกินผิดนะ
00:58:26 → 00:58:31 อ่าง่ายๆก็คือกินมั่วกินซีซัวกินไม่เป็น
00:58:31 → 00:58:35 โดยเฉพาะเรื่องของไขมันกับ
00:58:35 → 00:58:42 โปรตีนอ้าวมีสงสัยอะไรมยนะทีนี้เรามาดู
00:58:42 → 00:58:45 ว่าแล้วไตรกีซาไลน์เนี่ยเวลาเรากินโลคราฟ
00:58:45 → 00:58:49 เนี่ยมันน่าจะมาจากอะไรนะฮะนะอันที่ 1 ก็
00:58:49 → 00:58:53 มาจากได Fat นี่แหละฮะนะที่เรากินผิดกิน
00:58:53 → 00:58:58 เกินนะหรือมันมากับตัวโปรตีนจากเนื้อ
00:58:58 → 00:59:02 สัตว์นะฮะแล้วมันเยอะเกินไปนะฮะเพราะบอก
00:59:02 → 00:59:05 แล้วเนี่ยร่างกายของมนุษย์เนี่ยเต้องการ
00:59:05 → 00:59:08 พลังงานแล้วพลังงานที่มนุษย์อยากจะได้มาก
00:59:08 → 00:59:12 ๆก็คือพลังงานที่อยู่ในน้ำมันของพืชนะฮะ
00:59:12 → 00:59:17 ที่อยู่ในส่วนน้ำมันของพืชนะเป็นหลัก 80%
00:59:17 → 00:59:21 นะนะไม่ใช่น้ำมันหรือไขมันสัตว์นะฮะอัน
00:59:21 → 00:59:24 นั้นร่างกายต้องการแค่ประมาณ 20-30 per
00:59:24 → 00:59:30 นะแต่พลังงานจริงๆร่างกายต้องได้จากพืชนะ
00:59:30 → 00:59:33 เพราะมนุษย์เราเนี่ยนะก็ยังต้องกินทั้ง
00:59:33 → 00:59:38 พืชทั้งสัตว์นะฮะนะเราเราไม่ได้เป็นคิวอ
00:59:38 → 00:59:41 เราไม่ได้เป็นอะไรเวอเราเป็นออมนิที่
00:59:41 → 00:59:44 วิวัฒนาการเพราะฉะนั้นเนี่ยเอ่อเรื่อง
00:59:44 → 00:59:47 อาหงอาหารอะไรต่างๆยังต้องมีใส่พืชใส่
00:59:47 → 00:59:50 สัตว์เข้าไปนะแต่ว่าในสัดส่วนของพลังงาน
00:59:50 → 00:59:54 และสารอาหารเนี่ยนะถ้าพูดถึงไขมันเนี่ยนะ
00:59:54 → 00:59:58 ร่างกายมนุษย์ยังนี้ยังต้องการอ่าพลังงาน
00:59:58 → 01:00:01 จากพืชนะฮะนะเป็นหลักมากกว่ามากกว่าสัตว์
01:00:01 → 01:00:05 อย่างน้อยก็ 2 ใน 3 ส่วนน่ะ 70% นะอันนี้
01:00:05 → 01:00:10 สำคัญมากนะสำคัญมากนะไม่ใช่ไม่ใช่ไขมัน
01:00:10 → 01:00:12 สัตว์ไม่ใช่ไขมันสัตว์เพราะว่ามีข้อแตก
01:00:12 → 01:00:15 ต่างอยู่ 3-4 ข้ออันนี้ก็พูดซ้ำๆไปบ่อยละ
01:00:15 → 01:00:20 อ่ะอันต่อมาเนี่ยนะถ้าเกิดฟาเราไม่ได้กิน
01:00:20 → 01:00:24 DIY Fat ใครลงใครลงไมคอนไอ้ที่มันมีไอ้
01:00:24 → 01:00:28 b48 ต่างๆมันถูกตับเรียกกลับไปที่รีตหมด
01:00:28 → 01:00:31 แล้วเนี่ยนะเนี่ยมันก็ต้องมาจากการสลาย
01:00:31 → 01:00:34 พลังงานจากไอ้ตัวนี่แหละนะตัวิพทิชชู
01:00:35 → 01:00:42 เนี่ยแต่ิพทิชชูเนี่ยมันมีทั้งสับและซอซอ
01:00:42 → 01:00:46 นะส่วนใหญ่เนี่ยนะส่วนของอิพทิชชูที่มี
01:00:46 → 01:00:49 การสลายก่อนเลยเนี่ยก็คือส่วนที่อยู่ในๆ
01:00:49 → 01:00:53 ที่เป็นค Body นะฮะเพราะงั้นไขมันสะสมใน
01:00:53 → 01:00:57 ท้องไขมันสะสมตาม Internal ออร์แกนต่างๆ
01:00:57 → 01:01:01 พวกเนี้ยพวกนี้จะถูกออกมาก่อนโดยเฉพาะตัด
01:01:01 → 01:01:04 อ่อนเนี่ยเาจะออกมาอันดับแรกเลยนะถ้าเกิด
01:01:04 → 01:01:08 เมีไขมันพอกอยู่ที่พวกเซลล์ของตับอ่อนฮะ
01:01:08 → 01:01:11 นะแล้วต่อมาก็เป็นพวกตับพวกม้ามพวกลำส้่ง
01:01:11 → 01:01:15 ลำไส้นะคืออวัยวะทึบๆเนี่ยที่มีไขมันไป
01:01:15 → 01:01:20 พอกเนี่ยนะเวลาที่ฟาหรือเวลาที่จะเกิดการ
01:01:20 → 01:01:23 สลไขมันเนี่ยนะร่างกายจะไปเอาจากอวัยวะ
01:01:23 → 01:01:26 ทึบๆพวกนี้มาก่อนแต่อวัยยวะที่มันกลวงๆ
01:01:26 → 01:01:31 เนี่ยนะมันจะเป็นลำดับชั้นหลังๆนะนะอัน
01:01:31 → 01:01:34 นี้หมายถึงตัว viser อแกนที่อยู่ในท้องใน
01:01:34 → 01:01:37 ไส้นะ
01:01:37 → 01:01:40 ครับเพราะฉะนั้นเนี่ยเวลาตรวจแล้วไตกิ
01:01:40 → 01:01:44 สไลดสูงเลมเน้นคอเลสเตอรอลสูงเนี่ยนะส่วน
01:01:44 → 01:01:47 ใหญ่เนี่ยมันมาจากเรื่องนี้แหละฮะเรื่อง
01:01:47 → 01:01:52 Diary Fat นะนะที่อาจจะมีพวกนะ
01:01:52 → 01:01:58 ไรมอนยังมีลที่หลงเหลืออยู่นะฮะนะแล้ว
01:01:58 → 01:02:01 ตรวจเจอในเลือดนะเพราะว่าสิ่งเหล่านี้เรา
01:02:01 → 01:02:03 ไม่ได้ตรวจในน้ำเหลืองเราตรวจในเลือดใน
01:02:03 → 01:02:08 พลาสมานะฮะนะก็แหล่งของไกินหรือเลน
01:02:08 → 01:02:11 คอเลสเตอรอลที่เยอะก็น่าจะเป็นในกลุ่มของ
01:02:11 → 01:02:15 พวกเนี้ยนะฮะพวกไมอ remnant vldl
01:02:15 → 01:02:19 remnant นะหรือ ldl idl นะแต่ส่วนใหญ่
01:02:19 → 01:02:23 idl เนี่ยมันถูกรตอที่ดับเรียกกลับหมด
01:02:23 → 01:02:27 เลยนะเพราะประตีประตูมันพอดีกันกับขนาด
01:02:27 → 01:02:30 โมเลกุลนะฮะส่วนใหญ่มันก็จะเป็น VL dl
01:02:30 → 01:02:35 remnant ldl นะจะเป็น type a type B
01:02:35 → 01:02:36 อะไรอย่างเงี้ย
01:02:37 → 01:02:38 นะ
01:02:38 → 01:02:43 เอ่อ
01:02:43 → 01:02:48 ผมก็ก็ส่วนใหญ่ในเลือดในพลาสมามันก็จะ
01:02:48 → 01:02:53 เป็นพวกนี้นะฮะนะอืครับมาจากไหนอ่ะก็ส่วน
01:02:53 → 01:02:57 มากมันจะมาจากมันมามาจากอาหารนี่แหละนะ
01:02:57 → 01:03:00 มันมาจากอาหารที่กินเข้าไปนี่แหละนะเนี่ย
01:03:01 → 01:03:04 ที่กินแบบผิดๆเนี่ยที่กินจากอาหารนะเพราะ
01:03:04 → 01:03:08 ว่าโอกาสที่จะมาจากการสลายของอิพทิชชูโดย
01:03:08 → 01:03:12 ฮอร์โมนฝั่งลูกเทพเี่นะนะมันค่อนข้างยาก
01:03:12 → 01:03:15 เพราะว่าพวกนี้เวลาสลายเค้าสลายแบบพอดีๆๆ
01:03:15 → 01:03:19 นะแต่ไอ้ที่มันเกินๆเกินๆก็คือกินผิด
01:03:19 → 01:03:23 เนี่ยมาจากมาจากเนี้ยมาจากนี้นะหรือจาก
01:03:23 → 01:03:26 นี้เข้ามานี้แล้วก็มาออกมานี้นะแล้วมันก็
01:03:26 → 01:03:29 มาออกอยู่ในกระแสเลือดเจาะเลือดมันก็เลย
01:03:29 → 01:03:34 สูงจากพวกเครับครับผมงงๆไปมพอเข้าใจอยู่
01:03:34 → 01:03:40 นะอ่าครับผมต้องต้องต้องทวนครับผมต้องไป
01:03:40 → 01:03:43 ฟังอ่ะนะคืออยากจะให้เข้าใจอ่ะว่าว่า
01:03:43 → 01:03:47 แหล่งที่มาของไตกิลในการกินแบบโลคาฟถ้า
01:03:47 → 01:03:50 เกิดกินไประยะยาวๆแล้วเอ้ทำไมมันกลับมา
01:03:50 → 01:03:54 สูงอีกนะขอให้กลับไปพิจารณาสิ่งที่กิน
01:03:54 → 01:03:58 สิ่งที่กินนะว่าเ่อกินในสัดส่วนหรือ
01:03:58 → 01:04:01 ปริมาณที่ถูกต้องหรือเปล่า
01:04:01 → 01:04:05 นะกินซ้ำๆกินโอเวอร์เกินไปยอะไรอย่าง
01:04:06 → 01:04:10 เงี้ยนะหรือมันมีการแปรรูปเ่อผสมเผสอะไร
01:04:10 → 01:04:13 เข้าไปเยอะแยะหรือ
01:04:13 → 01:04:17 เปล่าอ่าเรามาดูแหลบ
01:04:17 → 01:04:25 [เพลง]
01:04:25 → 01:04:30 เ
01:04:30 → 01:04:38 [เพลง]