การเดินจงกรมช่วยในการทรงตัวของผู้สูงอายุได้อย่างไร

เดินจงกรม ลดเครียด ชะลอวัย by หมอแอมป์ [Dr. Amp Guide👨‍⚕️ & Dr.Amp Podcast]

จากช่อง : DrAmp Team


ดูคำบรรยาย / View Transcript

00:00:1200:00:13 สวัสดีครับท่านผู้ฟังทุกท่าน

00:00:1300:00:17 พบกับรายการ Dr.Amp Podcast กับผมหมอแอมป์

00:00:1700:00:20 ในสัปดาห์นี้เราจะมาคุยกันในตอน

00:00:2000:00:24 เดินจงกรม ลดเครียด ชะลอวัย

00:00:2400:00:27 ในตอนที่ผ่านมาเราคุยกันเรื่องการนั่งสมาธิ

00:00:2700:00:30 การเดินจงกรม ก็เป็นแขนงหนึ่ง

00:00:3000:00:33 ภาษาอังกฤษเรียกว่า Walking meditation

00:00:3300:00:36 หรือจะเรียกว่า Meditation walk ก็ได้

00:00:3600:00:40 ถ้าเราค้นให้ในอินเทอร์เน็ตเขาจะเขียนว่า WM

00:00:4000:00:42 หรือเขาอาจจะเขียนว่า MW

00:00:4200:00:46 Walking แปลว่าเดิน Meditation แปลว่านั่งสมาธิ

00:00:4600:00:51 การวิจัยในเมืองนอกเริ่มพูดถึงการนั่งสมาธิ

00:00:5100:00:53 และเดินจงกรมเยอะขึ้น

00:00:5300:00:56 ภาษาไทยสะกดว่า จง

00:00:5600:01:01 กรม นี่ไม่ใช่ วงกลมนะ เป็น กรม

00:01:0100:01:04 เพราะฉะนั้นวันนี้เรามาคุยกันในเรื่องนี้

00:01:0400:01:11 การนั่งสมาธิ ไม่ใช่ว่าทุกคนจะมาถึงแล้ว แล้วนั่ง แล้วก็เก่งเลย

00:01:1100:01:13 เหมือนกับทุกอย่างในโลกใบนี้

00:01:1300:01:18 ทุกอย่างต้องใช้การฝึกฝน ความสม่ำเสมอ

00:01:1800:01:22 แล้วก็มีผู้สอน ผู้ฝึก หรือครูบาอาจารย์ช่วยชี้แนะ

00:01:2200:01:24 อยู่ดีๆ เราจะเดินมานั่งสมาธิ

00:01:2400:01:30 ให้สมองเราเป็นคลื่นเดลต้า หลับลึก นั่งสมาธิชั้นสูงเลย

00:01:3000:01:34 สำหรับตัวหมอเอง หมอว่าเป็นไปได้ยาก

00:01:3400:01:35 ผมก็ต้องฝึก ฝึกทุกวัน

00:01:3500:01:40 วันไหนจิตดี สภาวะอารมณ์ดี ร่างกายดี

00:01:4000:01:41 ก็ทำได้ง่ายหน่อย

00:01:4100:01:44 บางวันงานเยอะ เครียดเยอะ

00:01:4400:01:46 ออกกำลังกายก็น้อย

00:01:4600:01:49 การนั่งให้จิตอยู่เป็นสมาธินี่ยากเหลือเกิน

00:01:4900:01:54 หรือบางครั้งที่นั่งไม่ไหว ก็ต้องพ่ายแพ้แก่ตัวเอง

00:01:5400:01:55 แล้วนอนไปก่อน

00:01:5500:01:59 เพราะฉะนั้นการฝึกฝนคือสิ่งสำคัญ แล้วก็มีวินัยด้วย

00:01:5900:02:03 ในเรื่องของการปฏิบัติและการดูแลสุขภาพจิต

00:02:0300:02:07 การเดินจงกรม น่าจะเป็นการเริ่มต้นสำหรับหลายๆ ท่าน

00:02:0700:02:12 ที่ฟังมาแล้วอยากจะเดินหน้าไปสู่การนั่งสมาธิ

00:02:1200:02:15 เราลองมาเริ่มต้นง่ายๆ จากการเดินจงกรมก่อน

00:02:1500:02:16 หรือการสวดมนต์

00:02:1600:02:18 อาทิตย์นี้หมอก็จะมาเล่าให้ฟังเรื่อง

00:02:1800:02:21 เทคนิควิธีการของการเดินจงกรม

00:02:2100:02:24 เกิดประโยชน์อะไรกับร่างกายเราบ้าง

00:02:2400:02:26 การจะไปถึงตรงนั้น

00:02:2600:02:32 เรามาเริ่มต้นกันที่ความรู้พื้นฐานของสุขภาพสมองกันก่อน

00:02:3200:02:36 การวัดสุขภาพสมอง หรือการวัดการทำงานของสมอง

00:02:3600:02:40 ปัจจุบันจะมีเครื่องที่เรียกว่า EEG

00:02:4000:02:43 หรือเครื่องวัดคลื่นไฟฟ้าในสมอง

00:02:4300:02:45 ในอดีตเราไม่มีเครื่องเหล่านี้

00:02:4500:02:52 การที่เราจะศึกษาเรื่องสมองยากกว่าปัจจุบันเยอะ

00:02:5200:02:55 ปัจจุบันเรามีเครื่องที่เข้ามาครอบศีรษะ

00:02:5500:02:57 หรือสแกนบริเวณศีรษะ

00:02:5700:02:59 แล้วแปลออกมาเป็นคลื่นต่างๆ

00:02:5900:03:03 วันนี้หมอจะมาเล่าให้ฟังทั้งหมด 5 คลื่นพื้นฐาน

00:03:0300:03:06 ของการทำงานของสมอง

00:03:0600:03:09 คลื่นที่ 1 เบต้าเวฟ

00:03:0900:03:13 BETA WAVE

00:03:1300:03:17 เป็นคลื่นสมองที่เกิดมาจากสมองส่วนหน้า

00:03:1700:03:19 หรือที่เรียกว่า Frontal lobe

00:03:1900:03:21 หรืออีกชื่อหนึ่ง เรียกว่า Motor cortex

00:03:2100:03:23 หรือสมองส่วนที่ควบคุมร่างกาย

00:03:2300:03:27 ในการยืน การเดิน การนั่ง การทำงานในแต่ละวัน

00:03:2700:03:30 คลื่นสมองเบต้าเวฟ จะส่งสัญญาณ

00:03:3000:03:34 ประมาณ 13-32 รอบ หรือ เฮิรตซ์ต่อวินาที

00:03:3400:03:38 สมองส่วนนี้แหละที่ทำงานในช่วงที่เราตื่น

00:03:3800:03:44 ช่วงที่เราคิด ช่วงที่เราตั้งใจ ช่วงที่เราตื่นเต้น ช่วงที่เราทำงาน

00:03:4400:03:48 คิดง่ายๆ ก็คือสมองที่ทำงานตั้งแต่เราลืมตาตอนเช้า

00:03:4800:03:52 แล้วก็ทำงานในช่วงกลางวัน

00:03:5200:03:56 คลื่นสมองที่ 2 เรียกว่า แอลฟาเวฟ

00:03:5600:03:59 ALPHA WAVE

00:03:5900:04:02 เป็นคลื่นสมองที่ทำงานช้าลงมาหน่อย

00:04:0200:04:05 ประมาณ 8-13 เฮิรตซ์ต่อวินาที

00:04:0500:04:07 ก็คือ 8-13 รอบต่อวินาที

00:04:0700:04:11 คลื่นแอลฟา เกิดจากสมองส่วน Occipital lope

00:04:1100:04:12 ก็คือสมองส่วนด้านหลัง

00:04:1200:04:16 ถ้าใครฟังคลิปการนอน เวลาเราเริ่มนอน

00:04:1600:04:21 พอร่างกายเราเริ่มสงบ อุณหภูมิร่างกายเริ่มตก

00:04:2100:04:24 ร่างกายเราก็จะเข้าสู่สภาวะเริ่มพักผ่อน

00:04:2400:04:26 คลื่นเดียวกันนี่แหละครับ

00:04:2600:04:29 แอลฟาเวฟคือจุดเริ่มต้นของร่างกาย จิตใจ และสมอง

00:04:2900:04:33 ที่เริ่มทำงานน้อยลง เริ่มสงบ

00:04:3300:04:38 ซึ่งช่วงนี้แหละครับที่จะเป็นช่วงเดียวกับตอนที่เราเดินจงกรม

00:04:3800:04:41 เวลาเราเดินจงกรม เวลาเราสวดมนต์

00:04:4100:04:44 เวลาเราเล่นโยคะ เวลาเรารำไทเก็ก

00:04:4400:04:47 เวลาเราเดินอยู่ในป่า เราอยู่ทะเล

00:04:4700:04:50 เราอยู่กับสิ่งแวดล้อมหรือธรรมชาติมากๆ

00:04:5000:04:54 ฮอร์โมนเครียด หรือ คอติซอล จะค่อยๆ ลดลง

00:04:5400:04:56 ฮอร์โมนความสุข เช่น เอ็นดอร์ฟิน

00:04:5600:04:58 จะค่อยๆ หลั่งออกมาทีละน้อย

00:04:5800:05:01 คลื่นสมองที่เคยทำงานเยอะๆ คิดเยอะๆ

00:05:0100:05:03 ก็จะค่อยๆ ทำงานช้าลง

00:05:0300:05:05 แสดงว่าอัลฟาเวฟ ให้ทุกคนจำไว้ก่อนนะ

00:05:0500:05:08 เดี๋ยวเราจะไปพูดกันในเรื่องการเดินจงกรม

00:05:0800:05:12 คลื่นต่อมา คลื่นที่ 3 ก็คือ เตตต้าเวฟ

00:05:1200:05:15 THETA WAVE

00:05:1500:05:18 เป็นคลื่นสมองที่ทำงานช้าลงมาอีก

00:05:1800:05:25 ประมาณ 4-8 เฮิรตซ์ต่อวินาที หรือ 4-8 รอบต่อวินาที

00:05:2500:05:29 สมองส่วนนี้ถูกสั่งการ หรือว่ามีคลื่นไฟฟ้า

00:05:2900:05:32 จากสมองส่วน Hippocampus

00:05:3200:05:38 Hippocampus ก็แปลว่าสมองที่มีรูปร่างคล้ายม้าน้ำ

00:05:3800:05:41 นี่เป็นคลื่นที่เริ่มหลับลึกลงมาหน่อยแล้ว

00:05:4100:05:44 เป็นช่วงครึ่งหลับครึ่งตื่น

00:05:4400:05:46 ผ่อนคลายร่างกายสูง

00:05:4600:05:48 เกือบจะหลับลึกแล้ว

00:05:4800:05:51 เทียบได้กับคนเราเวลาจะหลับลึก

00:05:5100:05:54 สมองจะมีคลื่นนี้ออกมาโดยอัตโนมัติ

00:05:5400:05:58 แต่พอเรามีเครื่องวัด EEG หรือเครื่องวัดคลื่นไฟฟ้าในสมอง

00:05:5800:06:05 ดันเป็นคลื่นเดียวกับเวลาที่เราเริ่มนั่งสมาธิได้สงบขึ้นๆ

00:06:0500:06:08 เริ่มเป็นสมาธิขั้นต้น-ขั้นกลาง

00:06:0800:06:10 สมองในช่วงคลื่นไฟฟ้านี้แหละ

00:06:1000:06:13 จะเป็นช่วงที่เราเก็บแรงบันดาลใจ

00:06:1300:06:16 ก่อให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ในวันต่อๆ ไป

00:06:1600:06:20 หลั่งฮอร์โมนเซโรโทนิน ให้เข้าสู่ภาวะที่หลับลึกขึ้น

00:06:2000:06:23 หลั่งฮอร์โมนแห่งความสุขหรือเอ็นดอร์ฟินออกมา

00:06:2300:06:26 ลดฮอร์โมนแห่งความเครียด

00:06:2600:06:29 ฉะนั้นช่วงเตตต้าเวฟก็จะเป็นช่วงที่ดีมากๆ

00:06:2900:06:33 ในการวัดสำหรับคนที่นั่งสมาธิได้ดี

00:06:3300:06:35 นั่งสมาธิได้ลึก ได้สงบ

00:06:3500:06:39 คลื่นสมองคลื่นที่ 4 เป็นคลื่นที่สำคัญมากๆ

00:06:3900:06:41 เรียกว่า เดลต้าเวฟ

00:06:4100:06:45 DELTA WAVE

00:06:4500:06:48 เป็นคลื่นสมองที่ทำงานช้าที่สุด

00:06:4800:06:51 ประมาณ 0.5-4 รอบต่อวินาที

00:06:5100:06:55 หรือ 0.5-4 เฮิรตซ์ต่อวินาที

00:06:5500:06:58 คลื่นนี้ถูกสร้างขึ้นมาจากสมองส่วนทาลามัส

00:06:5800:07:02 เป็นคลื่นสมองที่ผ่อนคลายในระดับที่สูงมาก

00:07:0200:07:05 ถ้าใครจำได้ คลื่นนี้หมอแอมป์พูดบ่อยๆ

00:07:0500:07:09 เวลาเราหลับลึกเราจะหลั่งโกรทฮอร์โมนออกมา

00:07:0900:07:11 ก็คือช่วงเดลต้าเวฟนี่แหละครับ

00:07:1100:07:14 เขาเรียกว่าช่วงชะลอวัย ช่วงซ่อมแซมร่างกาย

00:07:1400:07:17 ช่วงหน้าตึง ช่วงสุขภาพดี

00:07:1700:07:19 ใครๆ ก็อยากจะมีการหลับลึก

00:07:1900:07:24 การหลับลึกแน่นอนครับ เรียกว่าเป็นช่วง Dreamless

00:07:2400:07:28 ก็คือไม่ฝันแน่นอน ผ่อนคลายระดับสูงมาก

00:07:2800:07:31 สมองทั้งหมดร่างกายทั้งหมดหลับลึก

00:07:3100:07:34 กระตุ้นโกรทฮอร์โมนออกมาซ่อมแซมเซลล์

00:07:3400:07:36 ชะล้างสิ่งที่เป็นของเสีย

00:07:3600:07:37 ฟื้นฟูสุขภาพ

00:07:3700:07:40 พอเวลาเราตรวจด้วยเครื่อง EEG

00:07:4000:07:43 พระผู้ใหญ่ หรือคนที่เขาปฏิบัติธรรม

00:07:4300:07:48 หรือวิปัสสนา แล้วฝึกฝนการนั่งสมาธิมานานๆ

00:07:4800:07:52 เขาจะมีคลื่นสมองช่วงนั่งสมาธิได้ลึกมากๆ

00:07:5200:07:55 เป็นช่วงเดียวกับเดลต้าเวฟนี่เลยแหละครับ

00:07:5500:07:56 แสดงว่าเดลต้าเวฟนี้เกิดจาก

00:07:5600:07:59 1. หลับลึก

00:07:5900:08:03 2. การนั่งสมาธิชั้นสูง หรือการเข้าฌาน

00:08:0300:08:06 เพราะฉะนั้นการฝึกสมาธิอย่างต่อเนื่อง

00:08:0600:08:08 เราก็จะได้สมองส่วนเดลต้าเวฟมา

00:08:0800:08:11 สมองส่วนนี้แหละครับที่มีการวิจัยไว้ว่า

00:08:1100:08:16 ทำไมต่างชาติถึงหันมานั่งสมาธิกันเยอะ

00:08:1600:08:18 เพราะเป็นเรื่องของการฟื้นฟูสภาพจิต

00:08:1800:08:20 ฟื้นฟูสภาพร่างกาย

00:08:2000:08:24 ป้องกัน ชะลอ รักษาโรคภัยไข้เจ็บได้

00:08:2400:08:28 คลื่นสมองคลื่นสุดท้ายก่อนที่เราจะเข้าสู่เรื่องเดินจงกรม

00:08:2800:08:33 ก็คือคลื่นที่เพิ่งค้นพบในช่วงเวลาที่ผ่านมาไม่นานนี้

00:08:3300:08:38 ในอดีตไม่มีเครื่อง EEG เราก็วิจัยว่ามีประมาณ 2-3 คลื่น

00:08:3800:08:42 มากขึ้นมาเป็น 4 คลื่น จนมาเจออีก 1 คลื่น

00:08:4200:08:44 ที่เรียกว่า Gamma Wave

00:08:4400:08:47 แกมม่าเวฟเป็นคลื่นที่เจอท้ายสุด

00:08:4700:08:50 เพราะเป็นคลื่นที่ทำงานของสมองเยอะมาก

00:08:5000:08:52 แล้วก็ขยับเร็วมาก

00:08:5200:08:58 แกมม่าเวฟ สมองทำงาน 32-100 เฮิรตซ์ต่อวินาที

00:08:5800:09:01 สร้างจากสมองส่วน Somatosensory cortex

00:09:0100:09:04 เป็นคลื่นที่มีความถี่สูงมากที่สุด

00:09:0400:09:09 ไปเกี่ยวข้องกับหลายๆ เรื่องที่มีการวิจัยในขณะนี้

00:09:0900:09:13 เวลาทำงาน คลื่นแกมม่าจะเกิดขึ้นมาจาก

00:09:1300:09:17 คนที่นั่งสมาธิมาเยอะ จิตสงบดี

00:09:1700:09:22 เวลาที่ตื่นมากลางวัน คลื่นเบต้าก็ทำงานกลางวันไป

00:09:2200:09:25 เวลาคนที่นั่งสมาธิหรือหลับลึกเนี่ย

00:09:2500:09:28 กลางคืนสมองได้พักผ่อนและนอนหลับสนิท

00:09:2800:09:31 และจิตใจก็สงบ

00:09:3100:09:35 พอตื่นมาตอนเช้า สมองจะมีคลื่นแกมม่ากลับมาด้วย

00:09:3500:09:37 แกมม่าเวฟมีการวิจัยไว้ว่า

00:09:3700:09:41 เป็นช่วงสมองที่มีการรับรู้ขั้นสูงที่สุด

00:09:4100:09:43 การเรียนรู้ขั้นสูงที่สุด

00:09:4300:09:45 การแก้ปัญหาขั้นสูงที่สุด

00:09:4500:09:48 เพิ่ม IQ เพิ่มประสิทธิภาพร่างกาย

00:09:4800:09:51 กลับกัน ถ้าคลื่นแกมม่าน้อย

00:09:5100:09:54 ก็จะทำให้ความจำสั้น ความจำเสื่อม

00:09:5400:09:57 การเรียนรู้ก็จะช้าลง

00:09:5700:09:59 มีปัญหาทางจิตเวช

00:09:5900:10:00 นี่คือสิ่งสำคัญครับ

00:10:0000:10:04 เวลาที่คนเราในปัจจุบันนี้นอนกลางคืนน้อย

00:10:0400:10:07 เราดูซีรี่ย์เยอะ เราดูทีวีเยอะ

00:10:0700:10:10 เราดูมือถือเยอะ เราอ่านนู่นอ่านนี่

00:10:1000:10:14 เราใช้สมองเรามาทั้งวัน พอก่อนจะนอนเราก็ใช้

00:10:1400:10:16 พอเราหลับไปเราก็หลับไม่ลึก

00:10:1600:10:21 พอหลับไม่ลึก ความสมดุลของสมองก็เสียไป

00:10:2100:10:24 พอกลางวันเราก็ไร้ซึ่งจินตนาการ

00:10:2400:10:27 ทำงานได้แต่ชั่วโมง แต่ไม่ได้เรื่องความคิดสร้างสรรค์

00:10:2700:10:30 การโฟกัส หรือสมาธิก็เสียไป

00:10:3000:10:33 กลับกันครับ คนที่สมดุลได้ดี

00:10:3300:10:36 กลางคืนนั่งสมาธิ เดินจงกรม

00:10:3600:10:38 กลางวันทำงานมาหนักแล้ว

00:10:3800:10:43 ตอนพระอาทิตย์ตกดินให้สมองได้พักผ่อน ได้สงบ

00:10:4300:10:48 พอตื่นมาก็มีคลื่นสมองที่ทำงานได้มากกว่าคนปกติ

00:10:4800:10:50 การคิดบวกอย่างนี้เป็นต้น

00:10:5000:10:53 การทำบุญ การให้ความช่วยเหลือ

00:10:5300:10:55 การนั่งสมาธิ การสงบ

00:10:5500:10:58 ก่อให้เกิดฮอร์โมนกลุ่มบวก

00:10:5800:11:00 ความเครียด ความอยาก

00:11:0000:11:02 ความเป็นโลภะ โทสะ โมหะ

00:11:0200:11:05 ทำให้เกิดฮอร์โมนและอารมณ์กลุ่มลบ

00:11:0500:11:08 ซึ่งมีผลกับสมองแน่นอน

00:11:0800:11:12 และสมองส่วนสุดท้ายที่แถมให้ คือ อมิกดะลา

00:11:1200:11:15 อมิกดะลา จะเก็บข้อมูลด้านอารมณ์ไว้มาก

00:11:1500:11:19 ทั้งความสุข ความกลัว ความกังวล

00:11:1900:11:20 ถ้าคนหลับลึก

00:11:2000:11:23 ก็จะจัดสรรข้อมูลเหล่านี้ได้ดี

00:11:2300:11:26 ถ้าคนหลับไม่ลึก มีความวิตกกังวลเยอะ

00:11:2600:11:31 ก็จะมีความกลัวเยอะ ความกังวลเยอะ ความเป็นห่วงเยอะ

00:11:3100:11:35 ก่อให้เกิดสภาวะความผิดปกติทางจิตอีกด้วย

00:11:3500:11:36 นี่แค่เริ่มต้นนะ

00:11:3600:11:38 สิ่งที่เราจะคุยกันในวันนี้

00:11:3800:11:42 หมอเล่าให้ฟังหมดแล้วว่า คลื่นสมองคนเรามีอยู่ 5 แบบ

00:11:4200:11:45 5 แบบทำงานแบบไหน แบบไหนดี แบบไหนตื่น

00:11:4500:11:47 แบบไหนคิด แบบไหนสงบ

00:11:4700:11:52 คราวนี้เราจะมาคุยกันถึงประโยชน์ของการเดินจงกรมกันต่อ

00:11:5200:11:56 วันนี้หมอแบ่งประโยชน์ของการเดินจงกรมเป็น 2 ส่วน

00:11:5600:11:59 1. ประโยชน์ทางด้านสมอง จิตใจ และอารมณ์

00:11:5900:12:02 2. ประโยชน์ทางด้านร่างกาย

00:12:0200:12:06 คิดภาพจากคอขึ้นไป เป็นสมอง เป็นจิต เป็นอารมณ์ นี่ข้อที่ 1

00:12:0600:12:10 จากคอลงไปเป็นเรื่องกระดูก กล้ามเนื้อ ร่างกาย เป็นข้อที่ 2

00:12:1000:12:12 เราไปดูข้อ 1 กันก่อน

00:12:1200:12:16 แล้ววันนี้จะมีการวิจัยทางวิทยาศาสตร์มารองรับด้วย

00:12:1600:12:18 ไม่ใช่เป็นเรื่องของความเชื่ออย่างเดียว

00:12:1800:12:22 1. การเดินจงกรม ลดความเครียด

00:12:2200:12:25 หมอเสนอแนะ หรือหมอแนะนำแล้วกันว่า

00:12:2500:12:28 อยากจะให้เดินจงกรมอย่างน้อยๆ

00:12:2800:12:31 ช่วงสัก 30 นาทีหรือ 1 ชั่วโมงก่อนนอน

00:12:3100:12:34 หาเวลาสัก 10 นาทีเดินจงกรม

00:12:3400:12:36 จะสวดมนต์ก่อนสัก 10 นาที

00:12:3600:12:38 แล้วมาเดินจงกรมสัก 10 นาที

00:12:3800:12:42 พอเราเริ่มสงบ เราเริ่มรู้สึกปล่อยวาง

00:12:4200:12:43 เราก็ค่อยขึ้นเตียง

00:12:4300:12:48 หรือนั่งที่โต๊ะหมู่บูชา แล้วค่อยเข้าสู่การนั่งสมาธิ

00:12:4800:12:51 สำหรับหมอแอมป์เอง ผมมีความเชื่อว่า

00:12:5100:12:56 การเดินจงกรมเป็นการทำให้ร่างกายค่อยๆ Cool down

00:12:5600:13:00 หรือว่าค่อยๆ สงบลง เย็นลง จากเรื่องที่เจอมาในแต่ละวัน

00:13:0000:13:02 ความคิดในแต่ละวัน

00:13:0200:13:03 เป็นการ Cool down

00:13:0300:13:07 เหมือนเกียร์ 5 ใส่เกียร์ 4 ใส่เกียร์ 3 ตบมาเกียร์ 2 ไปเกียร์ 1

00:13:0700:13:11 แล้วพอรถจอดปุ๊บก็ค่อยนั่งสมาธิ แบบนั้น

00:13:1100:13:14 หรือใครคิดภาพวิ่งอยู่บนลู่วิ่ง

00:13:1400:13:18 วิ่งไปเร็วมาก หัวใจเต้น 130-140 ครั้งต่อนาที

00:13:1800:13:22 พอกดหยุดปุ๊ปกระโดดลง มีสิทธิ์หัวใจวาย

00:13:2200:13:25 การเดินจงกรมก็เหมือนการกดปุ่ม Cool down

00:13:2500:13:29 เราวิ่งอยู่ 150 ครั้งต่อนาที หัวใจวิ่งเร็วมาก

00:13:2900:13:32 เรากดปุ่ม Cool down ปุ๊บ เขาจะค่อยๆ ชะลอ

00:13:3200:13:37 ให้ช้าลงๆ เหลือ 100 ครั้ง 90 ครั้ง

00:13:3700:13:39 แล้วก็ค่อยลงจากลู่วิ่ง

00:13:3900:13:41 ในทางวิทยาศาสตร์

00:13:4100:13:43 การเดินจงกรมประมาณ 10 นาที

00:13:4300:13:45 สามารถลดฮอร์โมนคอติซอล

00:13:4500:13:48 หรือที่เรียกว่าฮอร์โมนความเครียด

00:13:4800:13:50 มีการวิจัยอีกเหมือนกันว่า

00:13:5000:13:53 การเดินจงกรมนี่ปรับคลื่นสมอง

00:13:5300:13:56 จากเบต้าเวฟ ช่วงคิด ช่วงตื่น

00:13:5600:13:59 ให้เข้าสู่ช่วงแอลฟาเวฟมากขึ้น

00:13:5900:14:03 ลดความฟุ้งซ่าน ลดความวิตกกังวล

00:14:0300:14:05 สงบจิต สงบใจ

00:14:0500:14:07 เกิดสติ เกิดปัญญา

00:14:0700:14:11 หาเวลาสัก 10 นาทีหรือครึ่งชั่วโมงเดินจงกรมก่อนนอน

00:14:1100:14:13 ทำให้เราเป็นอย่างไรครับ

00:14:1300:14:15 หลีกเลี่ยงการใช้สมองได้

00:14:1500:14:16 ไม่อย่างนั้นเป็นอย่างไรครับ

00:14:1600:14:20 เราก็ไปดูทีวี ไปดูซีรี่ย์ ไปดูหนังเกาหลี

00:14:2000:14:21 ไม่ได้นะครับ

00:14:2100:14:23 แบบนี้เรารู้สึกผ่อนคลาย

00:14:2300:14:26 แต่สมองรู้สึกว่าก็ต้องทำงานต่อ

00:14:2600:14:30 เพราะกลางวันก็ให้คิด กลางคืนก็ให้อ่าน ให้ดูทีวีอีก

00:14:3000:14:34 เราก็หลีกเลี่ยงโดยการไปเดินจงกรมแทน

00:14:3400:14:38 ถ้าเราเดินจงกรมได้ดี สมองเป็นแอลฟาเวฟ

00:14:3800:14:42 แล้วเรานั่งสมาธิต่ออีกสักหน่อย สัก 10 นาที หรือครึ่งชั่วโมง

00:14:4200:14:44 แล้วแต่เรื่องในแต่ละวัน

00:14:4400:14:48 เราก็จะเข้าสู่การหลับลึกของการนอนได้ดีกว่าเดิม

00:14:4800:14:51 เมื่อเราหลับลึกเยอะ โกรทฮอร์โมนเราก็เยอะ

00:14:5100:14:54 การซ่อมแซม การชะลอวัยเราก็จะดีขึ้น

00:14:5400:14:59 มีการวิจัยไว้ในประเทศจีนและญี่ปุ่น

00:14:5900:15:04 ภาษาญี่ปุ่นเขามีคำศัพท์ที่ว่า "ชินรินโยคุ" (森林浴)

00:15:0400:15:07 หรือภาษาอังกฤษว่า Forest Bathing

00:15:0700:15:10 ก็คือการอาบร่างกายด้วยป่า

00:15:1000:15:13 หรือการไปเดินป่า การไปเดินในหุบเขา

00:15:1300:15:17 การไปเดินในที่ที่สงบ ในธรรมชาติ

00:15:1700:15:21 อาจารย์ฮัดซัน วิจัยไว้ที่เมืองเฉิงตู ว่า

00:15:2100:15:25 เปรียบเทียบกันระหว่างเดินในเมืองใหญ่ และการเดินในป่าไผ่

00:15:2500:15:28 แล้วติดเครื่อง EEG วัดคลื่นสมอง

00:15:2800:15:30 เดิน 15 นาที

00:15:3000:15:35 คนที่เดินในป่าไผ่ที่สงบ จะมีคลื่นแอลฟาหรือสมองที่สงบ

00:15:3500:15:38 มากกว่าคนที่เดินในเมืองใหญ่

00:15:3800:15:40 คนเดินในเมืองใหญ่จะเป็นเบต้าเวฟเยอะ คิดเยอะ

00:15:4000:15:44 คนเดินในป่าจะมีแอลฟาเวฟเยอะกว่า

00:15:4400:15:46 แต่เบต้าเวฟไม่ได้แปลว่าไม่ดีนะครับ

00:15:4600:15:50 ถ้าเราไม่มีเบต้าเวฟ เราจะทำงานไม่ได้ โฟกัสไม่ได้

00:15:5000:15:51 เพราะฉะนั้นเหมือนที่หมอบอกครับ

00:15:5100:15:54 คลื่นไฟฟ้าในสมองไม่มีดีและไม่ดี

00:15:5400:15:57 ขึ้นอยู่กับเวลา สถานที่ และบุคคล

00:15:5700:16:00 ช่วงกลางวันเราตื่นมาทำงาน

00:16:0000:16:03 เราก็ต้องมีเบต้าเวฟ ไม่งั้นเราจะง่วงเหงาหาวนอน

00:16:0300:16:05 แล้วเราก็ทำงานไม่ได้ ใช่ไหมครับ

00:16:0500:16:10 ช่วงเราจะหลับ ก็ต้องมีฮอร์โมน มีคลื่นสมองที่สงบและพักผ่อน

00:16:1000:16:15 ไม่ใช่ตอนเราจะนอน สมองเราทำงานเยอะ อย่างนี้ก็ไม่ถูก

00:16:1500:16:17 อันนี้คือสิ่งหนึ่งมาเล่าให้ฟังเรื่องการวิจัยว่า

00:16:1700:16:21 ถ้าเป็นคนญี่ปุ่น คนจีน เขาใช้เดินในป่า เดินสงบ

00:16:2100:16:25 แค่นั้นเขายังวิจัยว่าคลื่นสมองดีเลย

00:16:2500:16:29 แต่สำหรับเรา การฝึกเดินจงกรมนี่ไม่ใช่การเดินธรรมดา

00:16:2900:16:31 เป็นการเดินไป เดินกลับ

00:16:3100:16:36 แล้วสอนให้จิตอยู่ที่เท้าเรา อยู่ที่ส้นเท้าเรา

00:16:3600:16:40 อยู่ที่ปลายเท้าเรา อยู่ที่มือเรา อยู่ที่อกเรา

00:16:4000:16:43 อยู่ที่หน้าผากเรา แล้วแต่ความถนัด

00:16:4300:16:46 เพื่อป้องกันไม่ให้จิตซุกซน

00:16:4600:16:49 เพราะฉะนั้นการเดินธรรมดากับการเดินจงกรมต่างกันตรงไหน

00:16:4900:16:53 เราไปเดินบนถนน เดินในห้างสรรพสินค้า

00:16:5300:16:54 จิตเราก็ไปนู่นหมดแหละครับ

00:16:5400:16:58 ไปซื้อนั่น ไปซื้อนี่ เดี๋ยวเราจะไปกินอะไร ไปร้านไหน

00:16:5800:17:00 จิตเราเนี่ยเหมือนลิงใช่ไหมครับ

00:17:0000:17:01 ซุกซนมากๆ

00:17:0100:17:04 เผลอไม่ได้ ไปนู่นไปนี่ตลอด

00:17:0400:17:06 การเดินจงกรมก็คือ

00:17:0600:17:09 การเอาเชือกมามัดเขาไว้แหละครับว่าอย่าไปไกลนะ

00:17:0900:17:12 พอเราจะวอกแวกเรากลับมาที่ปลายเท้า

00:17:1200:17:15 พอเราจะวอกแวกเรากลับมาที่ลมหายใจ

00:17:1500:17:17 แล้วแต่เทคนิคของแต่ละคน

00:17:1700:17:18 มีการวิจัยไว้ใน

00:17:1800:17:22 The Journal of Alternative and Complementary Medicine

00:17:2200:17:25 โดยอาจารย์สุสารี ปี ค.ศ. 2014

00:17:2500:17:31 มีการวิจัยว่าผู้สูงอายุที่เดินจงกรมอาทิตย์ละ 3 ครั้ง

00:17:3100:17:34 ติดต่อกันสัก 3 เดือน จะมีอาการซึมเศร้าน้อยลง

00:17:3400:17:37 มีอาการสุขภาพจิตดีขึ้น

00:17:3700:17:40 และที่สำคัญ ความดันดีขึ้นด้วย

00:17:4000:17:41 มีวิจัยอีกอันหนึ่งใน

00:17:4100:17:44 American Journal of Health Promotion

00:17:4400:17:45 ในปี ค.ศ. 2017

00:17:4500:17:49 ว่าการเดินจงกรม ช่วยลดความกังวล

00:17:4900:17:52 ช่วยลดความเครียด มากกว่าการเดินปกติ

00:17:5200:17:54 อันสุดท้ายครับ ในเรื่องจิต

00:17:5400:17:58 มีการวิจัยไว้ของ Northwestern University ที่ชิคาโก

00:17:5800:18:01 และ The Maria Grzegorzewska University ที่โปแลนด์

00:18:0100:18:04 ทำด้วยกัน ในปี ค.ศ. 2015

00:18:0400:18:07 ว่าการทำสมาธิ การเดินจงกรม

00:18:0700:18:11 มีส่วนช่วยในเรื่องของความคิดสร้างสรรค์ในวันต่อๆ ไป

00:18:1100:18:14 แสดงว่าใครที่อยู่สายครีเอทีฟ

00:18:1400:18:16 ต้องมีโปรเจกต์ใหม่ ต้องคิดเรื่องใหม่ๆ

00:18:1600:18:19 ไม่ใช่ทำงานแบบเป็น Routine คือทำงานเหมือนเดิมทุกวัน

00:18:1900:18:22 ใครต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์มาก ยิ่งต้องนอนให้ดี

00:18:2200:18:25 ยิ่งต้องมีสมาธิ ยิ่งต้องฝึกปฏิบัติ

00:18:2500:18:28 อันนี้คือเรื่องที่เป็นประโยชน์

00:18:2800:18:32 ที่ได้รับจากการเดินจงกรมกับสุขภาพจิต และสมอง และอารมณ์

00:18:3200:18:37 ข้อที่ 2 ประโยชน์ของการเดินจงกรมที่ได้รับจากร่างกาย

00:18:3700:18:42 ในยุคสมัยที่เรานั่งทำงานเยอะ นั่งอยู่บนโต๊ะทั้งวัน

00:18:4200:18:47 เดินเหินน้อย ทำงานจากที่บ้าน ขยับร่างกายน้อย

00:18:4700:18:50 การเดินจงกรมช่วยทำให้เราได้ลุกขึ้น

00:18:5000:18:54 ได้ลุกขึ้น ได้ใช้กล้ามเนื้อ ได้เกิดสติ

00:18:5400:18:57 เพิ่มการไหลเวียนเลือด หรือภาษาอังกฤษเรียกว่า

00:18:5700:18:59 Boost blood circulation

00:18:5900:19:02 หรือการไหลเวียนเลือดที่ขา ที่ตัว

00:19:0200:19:06 ให้หมุนไปทั่วตัวมากขึ้น อันนี้ง่ายๆ เลยนะครับ

00:19:0600:19:09 นั่งนานๆ ลุกขึ้นมาเดินจงกรมสัก 5-10 นาที

00:19:0900:19:12 ในออฟฟิศก็ได้ ที่บ้านก็ได้

00:19:1200:19:13 ข้อต่อไปครับ

00:19:1300:19:16 ช่วยเพิ่มการทำงานของระบบการย่อยอาหาร

00:19:1600:19:20 ถ้าเรานั่งทั้งวัน เรากินเสร็จ ลำไส้เราก็ไม่ขยับ

00:19:2000:19:23 ถ้าเราลุกขึ้นมาเดินจงกรม ลำไส้ก็ขยับ

00:19:2300:19:25 กล้ามเนื้อก็ขยับ แขนขาก็ขยับ

00:19:2500:19:28 แขนอาจจะขยับน้อย แต่ขาได้ขยับแน่

00:19:2800:19:29 ข้อต่อไปครับ

00:19:2900:19:32 มีการวิจัยไว้ของอาจารย์อัปสรสวรรค์

00:19:3200:19:34 จากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ

00:19:3400:19:36 ในปี ค.ศ. 2019

00:19:3600:19:38 ตีพิมพ์ในนิตยสาร

00:19:3800:19:41 Journal of Bodywork and Movement Therapies

00:19:4100:19:47 ว่าการเดินจงกรมมีส่วนช่วยในการทรงตัวของผู้หญิงสูงอายุ

00:19:4700:19:49 โดยเฉพาะ ข้อเท้า

00:19:4900:19:52 เรื่องการทรงตัว

00:19:5200:19:55 ผู้ใหญ่มีโอกาสจะล้มสูงใช่ไหมครับ

00:19:5500:19:59 การฝึกการเดินจงกรมนี่ จะเป็นการฝึกกล้ามเนื้อ

00:19:5900:20:01 ฝึกสติ ฝึกการหายใจ

00:20:0100:20:04 ให้กล้ามเนื้อทำงานสอดคล้องกับสมอง

00:20:0400:20:08 ก็เป็นการเพิ่มการทรงตัว หรือป้องกันการหกล้มได้ดีขึ้น

00:20:0800:20:12 นี่คือหลายๆ แง่มุม ที่หมอและทีมงานพยายามรวบรวมมา

00:20:1200:20:15 เพื่อให้ทุกๆ ท่านได้เข้าใจ

00:20:1500:20:18 หรือลองฝึกดูได้

00:20:1800:20:21 หมออยากจะกระตุ้นให้ทุกคนดูแลสุขภาพจิตให้ดี

00:20:2100:20:24 สุขภาพใจให้ดี สุขภาพอารมณ์ให้ดี

00:20:2400:20:30 ถ้าจิตเราดีแล้ว การดูแลสุขภาพกายจะเป็นเงาตามตัวแน่นอน

00:20:3000:20:32 พอคนเราสุขภาพดี ก็อยากกินดี

00:20:3200:20:35 อยากนอนดี อยากออกกำลังกาย

00:20:3500:20:38 ไม่อยากป่วย ไม่อยากกินอาหารที่ไม่ดี

00:20:3800:20:41 เพราะฉะนั้นวันนี้ขอฝากไว้ประมาณนี้นะครับว่า

00:20:4100:20:45 การเดินจงกรมมีส่วนช่วยลดความเครียด

00:20:4500:20:46 บำรุงร่างกาย

00:20:4600:20:48 ทำให้เทโลเมียร์สั้นช้า

00:20:4800:20:52 โรคภัยไข้เจ็บก็จะมาโจมตีเราช้าลง หรือน้อยลง

00:20:5200:20:54 ทำให้เราเป็นอย่างไรครับ

00:20:5400:20:59 สร้างสังคมสุขภาพดี ชีวิตยืนยาวอย่างมีคุณภาพไปด้วยกัน

00:20:5900:21:02 สำหรับสัปดาห์นี้ หมอแอมป์ขอลาไปก่อน

00:21:0200:21:04 แล้วเดี๋ยวเราเจอกันใหม่ในตอนหน้าๆ

00:21:0400:21:08 ขอให้ทุกท่านมีความสุขมากๆ ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บนะครับ

00:21:0800:21:09 ขอบคุณมากครับ สวัสดีครับ