การฟังอย่างลึกซึ้งช่วยให้เข้าใจคนอื่นได้อย่างไร

มุมมองจิตแพทย์ กับชีวิตที่ออกแบบได้ด้วยตัวเอง | เกลา × คุณหมอเอิ้น พิยะดา @goodmindacademy

จากช่อง : Klaoshow


ดูคำบรรยาย / View Transcript

00:00:0000:00:02 ความทุกข์อ่ะส่วนใหญ่มันก็จะเกิดจากการ

00:00:0200:00:05 ที่เราไปยึดในสิ่งที่ไม่ควรยึดทุกอย่าง

00:00:0500:00:08 ต้องเริ่มต้นจากการที่เรามองเห็นตัวเอง

00:00:0800:00:10 ตามความเป็นจริงก่อนการที่เราต้องมองเห็น

00:00:1000:00:13 ตัวเองตามความเป็นจริงปราศจากการเปรียบ

00:00:1300:00:16 เทียบอันนี้เป็นสิ่งที่สำคัญสักวันเนี่ย

00:00:1600:00:18 มันก็เหมือนเป็นกระจกภายในที่เรามีกับตัว

00:00:1800:00:20 เองที่จะสะท้อนซึ่งแน่นอนมันก็ต้องอาศัย

00:00:2000:00:24 การฝึกฝนทันทีที่เขาหยุดมองแล้วก็มีคน

00:00:2400:00:27 ช่วยและเห็นเส้นทางของชีวิตตัวเองอย่าง

00:00:2700:00:30 แบบเคลียร์ค่ะแบบเขาจะดีไซน์ชีวิตตัวเอง

00:00:3000:00:33 ใหม่ในเวลาของชีวิตที่เหลือได้อย่างมี

00:00:3300:00:37 ความสุขมากขึ้น

00:00:3700:00:39 ก่อนเข้าสู่เนื้อหาอย่าลืมกด like กด

00:00:3900:00:42 Share และกดกระดิ่งจะได้ไม่พลาดคลิปเก่า

00:00:4200:00:44 ที่จะทำให้คุณเป็น Better Version of

00:00:4400:00:46 yourself ในทุกๆวันนะคะใครที่ติดตามเพจ

00:00:4600:00:48 เก่าที่แสนไกลอยู่นะคะพลาดไม่ได้เลยเพราะ

00:00:4800:00:51 ว่าตอนนี้เราออกหนังสือเล่มแรกแล้วนะคะ

00:00:5100:00:53 How to Ground ชีวิตให้ดีกว่าเดิม

00:00:5300:00:56 หนังสือแถวๆที่ไม่ได้มาจากการเรียนคอร์ส

00:00:5600:00:58 ต่างประเทศและมาสอนคนไทยนะคะแต่เกิดจาก

00:00:5800:01:00 ภูมิปัญญาคนไทยนี่แหละค่ะที่ได้ศึกษาฝึก

00:01:0000:01:03 ฝนอบรมตนเองมากกว่า 30 ปีแล้วยังจะเอาไป

00:01:0300:01:06 สอนชาวต่างชาติอีก 200 ประเทศทั่วโลกด้วย

00:01:0600:01:09 ค่ะมันจึงเป็นการรวบรวมเคล็ดลับการกล่าว

00:01:0900:01:12 แบบอินเตอร์เพื่อให้เราเป็น Better

00:01:1200:01:15 Version ในแต่ละวันค่ะถ้าสนใจนะคะอยาก

00:01:1500:01:17 รู้รายละเอียดเพิ่มเติมก็ไปดูที่คลิปของ

00:01:1700:01:20 เรารีวิวได้นะคะหรือว่าถ้าเกิดอยากจะ

00:01:2000:01:22 กล่าวอีกแนวก็สั่งซื้อได้เลยตามร้าน

00:01:2200:01:25 หนังสือชั้นนำทั่วประเทศค่ะ

00:01:2500:01:28 สวัสดีค่ะชื่อแพทย์หญิงพิยดาค่ะชัยภูมินะ

00:01:2800:01:32 คะตอนนี้ก็เป็นจิตแพทย์แต่ว่าก็จะมีฉายา

00:01:3200:01:35 ประจำตัวว่าหมอนักแต่งเพลงก่อนหน้านี้ก็

00:01:3500:01:39 แต่งเพลงมาตลอด 20 ปีปัจจุบันก็ยังเป็น

00:01:3900:01:43 จิตแพทย์อยู่แต่ว่างานอีกอันนึงที่ทำเยอะ

00:01:4300:01:46 มากก็คือการจัดกระบวนการเรียนรู้ออกแบบ

00:01:4600:01:49 อย่างเช่นคลาสชื่อว่ามหาศาลความสุขหรือ

00:01:4900:01:52 ว่า influencership Program ที่จะดูแล

00:01:5200:01:57 ผู้บริหารในองค์กรแล้วก็มีเป็นที่ปรึกษา

00:01:5700:02:00 ให้กับผู้บริหารระดับสูงในเรื่องของ Micro

00:02:0000:02:03 readership แล้วก็การบริหารคน

00:02:0300:02:06 หนูสนใจคอร์สนึงค่ะที่พี่หมอเอิ้นพูดก็

00:02:0600:02:09 คือมามหาศาลแห่งความสุขมันเหมือนกับดูแบบ

00:02:0900:02:11 มหาศาลแบบนี้มากเลยค่ะอยากให้อธิบาย

00:02:1100:02:13 เกี่ยวกับเคาะนี้หน่อยได้ไหมคะ

00:02:1300:02:18 มหาศาลความสุขเนี่ยชื่อคือสเสือสระอาร

00:02:1800:02:19 เรือนะ

00:02:1900:02:23 คือศาลตัวนั้นนะคะสารแห่งความสุขก็คือ

00:02:2300:02:28 จริงๆเราคิดคลาสนี้ด้วยโมเดลที่ว่าจริงๆ

00:02:2800:02:29 ทุกคนมีความสุขอยู่ในตัวเองอยู่แล้ว

00:02:2900:02:32 สาเหตุความสุขมีอยู่ในตัวเราอยู่แล้วเรา

00:02:3200:02:34 ไม่ได้จำเป็นจะต้องไปตามหาที่ไหนเลยเพราะ

00:02:3400:02:37 ฉะนั้นคลาสนี้เนี่ยก็คือเป็นคลาสที่ทำให้

00:02:3700:02:40 เราค้นพบความสุขที่มีอยู่แล้วในตัวเอง

00:02:4000:02:43 แล้วก็เพื่อช่วยในเรื่องของการที่เราเอง

00:02:4300:02:45 จะเข้าใจกลไกการทำงานของจิตใจเพราะฉะนั้น

00:02:4500:02:48 เราจะเข้าใจในเรื่องของหัวใจความเป็นเรา

00:02:4800:02:51 ไม่ว่าจะเรื่องของบุคลิกภาพเราจะเข้าใจใน

00:02:5100:02:53 เรื่องของความแตกต่างระหว่างเรากับคนอื่น

00:02:5300:02:56 แล้วก็เราจะเข้าใจในเรื่องหัวใจของความ

00:02:5600:02:59 ขัดแย้งที่คนอาจจะไม่เหมือนกันแล้วเราจะ

00:02:5900:03:02 เข้าใจกระบวนการที่เราจะจัดการความขัด

00:03:0200:03:04 แย้งแล้วก็ความเครียดที่เกิดจากความแตก

00:03:0400:03:06 ต่างกันอันนี้ก็คือเป็นสิ่งที่เราจะได้

00:03:0600:03:09 เรียนรู้ใน workshop ที่ชื่อว่ามหาศาล

00:03:0900:03:13 ความสุข

00:03:1300:03:15 ก็เลยคิดว่าตอนนี้ตัวเองมีนิสัยอะไรบ้าง

00:03:1500:03:19 ที่แบบเด่นๆออกมาเลยประมาณนี้นะคะในวัน

00:03:1900:03:21 นี้ถ้าถามเราวันนี้เราค่อนข้างตอบยากแล้ว

00:03:2100:03:25 เพราะว่ารู้สึกว่านิสัยเนี่ยเรามีหลาก

00:03:2500:03:28 หลายแล้วก็ในจุดเด่นของนิสัยแต่ละอย่าง

00:03:2800:03:30 เนี่ยพี่เอิ้นพบว่ามันขึ้นอยู่กับช่วง

00:03:3000:03:34 เวลาของเราก่อนหน้านี้เนี่ยนิสัยที่ค่อน

00:03:3400:03:37 ข้างโดดเด่นเลยก็คืออาจจะเป็นคนที่มี

00:03:3700:03:40 ระเบียบเป็นคนเรียบร้อยไม่รู้จะเชื่อหรือ

00:03:4000:03:44 เปล่านะเคยเรียบร้อยมาก่อนนะเป็นคนที่

00:03:4400:03:48 ค่อนข้างวางแผนโฟกัสคราวนี้พอในช่วงหนึ่ง

00:03:4800:03:52 ที่เราได้มีโอกาสมีอิสระในการใช้ชีวิตเรา

00:03:5200:03:54 ก็พบว่าไอ้นิสัยเหล่านั้นน่ะมันไม่ใช่ของ

00:03:5400:03:57 เราแฮะมันเป็นนิสัยที่เปื้อนจากคุณพ่อคุณ

00:03:5700:04:01 แม่มาอ่าจริงๆแล้วมันเป็นความเป็นคุณแม่

00:04:0100:04:05 ที่เป็นคนที่ชอบความสมบูรณ์แบบชอบความมี

00:04:0500:04:08 ระเบียบชอบความมีวินัยชอบความเป๊ะอะไร

00:04:0800:04:09 อย่างเงี้ยแล้วเรารู้ว่าการที่เป็นแบบ

00:04:0900:04:13 นั้นเนี่ยมันทำให้เราจะสงบสุข

00:04:1300:04:15 วันนึงเราก็เลยพบว่าอ้อจริงๆแล้วคอเนี่ย

00:04:1500:04:18 เราไม่ได้เป็นแบบนั้นในช่วงหนึ่งที่เรามี

00:04:1800:04:22 ความอิสระมากพอเราก็พบว่าเออเรามีความชิว

00:04:2200:04:26 ๆนะเรามีความสบายๆเราเป็นคนง่ายอะไรก็ได้

00:04:2600:04:30 ประมาณนี้นะในช่วงหนึ่งตอนนี้ที่เรามี

00:04:3000:04:33 ความรับผิดชอบเยอะๆบางทีเราต้องบริหาร

00:04:3300:04:35 ธุรกิจมีลูกน้องเยอะๆทำงานกับผู้บริหาร

00:04:3500:04:39 ความชิลความง่ายความมีระเบียบวินัยทุก

00:04:3900:04:41 อย่างมันก็เลยกลายเป็นสิ่งที่เราต้องการ

00:04:4100:04:44 นั่นถามว่าในวันนี้อะไรเด่นตอบยากมากตั้ง

00:04:4500:04:47 แต่ว่าก็คงมีทุกอย่างอยู่แค่ว่าวันนั้น

00:04:4700:04:50 วินาทีนั้นพี่เอิ้นอยู่ในหน้าที่อะไรทำ

00:04:5000:04:53 อะไรแล้วเหมือนกับถ้าเกิดสมมติว่านิสัย

00:04:5300:04:56 ที่อยากพัฒนาตอนนี้ค่ะพอจะมีบ้างไหมคะถ้า

00:04:5600:05:00 นิสัยที่แบบพัฒนาตัวเองในตอนนี้ก็คงเป็น

00:05:0000:05:04 จุดที่อาจจะแก้จริตนิสัยของตัวเองในมุม

00:05:0400:05:08 ของการที่เป็นคนขี้เบื่อนะแล้วก็เป็นคน

00:05:0800:05:11 ที่มักจะมีความคิดสร้างสรรค์ที่เยอะเกิน

00:05:1100:05:12 ไป

00:05:1200:05:16 อยู่บ้างนะเนี่ยบางทีเรามีความคิดแล้วมี

00:05:1600:05:18 ทางเลือกที่หลากหลายมีโอกาสที่หลากหลาย

00:05:1800:05:20 เยอะเกินไปเนี่ยในบางครั้งมันก็จะเป็น

00:05:2000:05:23 อุปสรรคในการที่เราจะโฟกัสบางคนอาจจะรู้

00:05:2300:05:26 สึกว่าตัวเองมีปัญหาในการที่ฉันไม่ค่อยมี

00:05:2600:05:28 ทางเลือกหรือฉันไม่ค่อยมีโอกาสแต่ว่าอยาก

00:05:2800:05:30 ให้ทุกคนรู้ว่าบางทีคนที่รู้สึกว่าตัวเอง

00:05:3000:05:33 มีทางเลือกเยอะมีโอกาสเยอะมีจะใช้เยอะก็

00:05:3300:05:35 มีปัญหาเหมือนกันอย่างพี่เอิ้นก็น่าจะ

00:05:3500:05:38 เป็นอย่างหลังมากกว่าว่าบางทีเราต้องตัด

00:05:3800:05:42 ใจในการที่เราจะต้องมี priority ของชีวิต

00:05:4200:05:45 เราของความสุขของเราของการ Balance

00:05:4500:05:48 แล้วพี่หมอเอิ้นคิดว่าการพัฒนาตัวเองหรือ

00:05:4800:05:50 ว่าการพัฒนานิสัยแบบนี้ค่ะมันมีความสำคัญ

00:05:5100:05:54 กับเรายังไงบ้างคะการพัฒนาเนี่ยจริงๆแล้ว

00:05:5400:05:57 ก่อนที่เราจะพัฒนาเนอะเพื่อนคิดว่าสำคัญ

00:05:5700:06:01 คือเราอาจจะต้องตอบตัวเองว่าเราอยากจะ

00:06:0100:06:04 พัฒนามันไปเพื่ออะไรใช่ไหมหลายครั้งเนี่ย

00:06:0400:06:08 เรามองว่าเฮ้ยชีวิตเราต้องพัฒนาแล้วพัฒนา

00:06:0800:06:11 เราเห็นคนอื่นเขาพัฒนาแบบนี้เราอยากเป็น

00:06:1100:06:14 แบบนั้นบ้างเราอยากเก่งแบบนี้บ้างเราอยาก

00:06:1500:06:17 เร็วแบบนี้บ้างตอนนี้เทคโนโลยีมาฉันต้อง

00:06:1700:06:20 รู้เรื่องนี้มันเหมือนกับเป็นการพัฒนาที่

00:06:2000:06:24 วิ่งตามภาพของคนอื่นแต่ในขณะเดียวกันเนาะ

00:06:2400:06:27 งั้นถ้าเกิดว่าเราอยากจะพัฒนาอะไรสัก

00:06:2700:06:29 อย่างนึงเราคงจะต้องตอบตัวเองให้ได้ก่อน

00:06:2900:06:34 ว่าเราจะพัฒนาอะไรเราจะพัฒนาเพื่ออะไรมัน

00:06:3400:06:38 อยากหรือมันควรหรือมันต้องไม่เหมือนกันนะ

00:06:3800:06:41 คือคำว่าอยากเนี่ยมันอาจจะอยากรวยใช่ไหม

00:06:4100:06:44 อ่าจะเป็นแบบเอ่อสิ่งที่ Drive ในอีกแบบ

00:06:4400:06:47 นึงความอยากความไม่อยากมันก็จะเป็นเรื่อง

00:06:4700:06:51 ของกิเลสเรื่องของความควรควรเนี่ยก็คือ

00:06:5100:06:54 มันจะมีบรรทัดฐานบางอย่างอยู่อย่างเช่น

00:06:5400:06:58 เราทำงานในตำแหน่งนึงขององค์กรแล้วมันมี

00:06:5800:07:01 Standard ของงานนี้อยู่แล้วว่าเราควรจะ

00:07:0100:07:04 ต้องพัฒนาทักษะอะไรบ้างมันเป็นข้อกำหนด

00:07:0400:07:07 ร่วมกันขององค์กรเขาเรียกว่ากรอบของสังคม

00:07:0700:07:11 หรือข้อตกลงบางอย่างถูกอันที่ 3 คือต้อง

00:07:1100:07:14 ต้องเนี่ยหมายความว่าถ้าเราไม่พัฒนาตรง

00:07:1400:07:17 นี้ชีวิตเรามีโอกาสถดถอยนะมันไม่ได้ขึ้น

00:07:1700:07:20 กับใครล่ะมันไม่ได้ขึ้นจากสังคมมันไม่ได้

00:07:2000:07:22 ขึ้นกับกฎกติกาเนี่ยอยู่ร่วมกันเนี่ยแต่

00:07:2200:07:25 มันขึ้นอยู่กับความสุขความทุกข์ในชีวิต

00:07:2500:07:27 เราเพราะฉะนั้นก่อนจะพัฒนาอะไรอ่ะสิ่ง

00:07:2700:07:29 สำคัญที่ว่าเคลียร์ตรงนี้ก่อนไม่งั้น

00:07:2900:07:31 เนี่ยเราจะเสียพลังงานชีวิตไปโดยเปล่า

00:07:3100:07:35 ประโยชน์แล้วพี่หมอเอิ้นคิดว่า 3 Word

00:07:3500:07:38 เนี่ยค่ะอะไรที่ทำให้เราสามารถพัฒนาตัว

00:07:3800:07:42 เองได้ยั่งยืนค่ะถ้าพูดถึงความยั่งยืนถ้า

00:07:4200:07:45 ตีความความยั่งยืนว่ามันคือความเป็นตัวบน

00:07:4500:07:47 ของเราเนาะมันก็คงจะต้องเป็นเรื่องของ

00:07:4800:07:50 ความต้องล่ะมันไม่ใช่แค่ความอยากแล้วความ

00:07:5000:07:52 อยากมันเป็นกิเลสมันเป็น need นะมันเป็น

00:07:5200:07:55 การเปรียบเทียบแต่ว่าความต้องเนี่ยบางที

00:07:5500:07:58 มันเป็นตัวเรามันคือประโยชน์ของการใช้

00:07:5800:08:01 ชีวิตของตัวเราซึ่งสิ่งเหล่านี้มันไม่มี

00:08:0100:08:05 ใครแบบจะรู้ดีเท่าเรานะแต่ว่าปัญหาของผู้

00:08:0500:08:08 คนที่ไม่รู้ว่าสิ่งนี้คืออะไรมันคือการ

00:08:0800:08:10 ที่ไม่เคยฝึกที่จะมองเห็นตัวเองมากกว่า

00:08:1000:08:14 เท่าที่มีประสบการณ์มาค่ะคิดว่าอะไรเป็น

00:08:1400:08:17 นิสัยอันตรายของคนในการใช้ชีวิตหรือว่าใน

00:08:1700:08:20 การอยู่บนโลกใบนี้บ้างถ้าถามถึงนิสัยที่

00:08:2000:08:24 อันตรายนะแล้วมีในทุกคนเลยรวมถึงตัวพี่

00:08:2400:08:27 นั่นเองด้วยนะก็คือตัดสินนิสัยเป็นคนช่าง

00:08:2700:08:31 ตัดสินน่ะการตัดสินเนี่ยมันทำให้เราออกมา

00:08:3100:08:35 ไปความคิดอารมณ์พฤติกรรมในหลากหลายรูปแบบ

00:08:3500:08:39 ได้มากๆเลยซึ่งถ้าเราไม่ได้อยู่ในบทบาท

00:08:3900:08:42 ของผู้พิพากษาผู้พิพากษาเนี่ยเขามีหน้า

00:08:4200:08:45 ที่ที่เขาต้องตัดสินใช่มั้ยเออแต่กลาย

00:08:4500:08:48 เป็นว่าเราเนี่ยทำตัวเป็นผู้พิพากษาชีวิต

00:08:4800:08:50 ตัวเองแล้วก็คนอื่นตลอดเวลาแล้วดูเหมือน

00:08:5000:08:53 แบบการเลี้ยงดูหรือว่าหรือว่าการเติบโตมา

00:08:5400:08:56 ของเราก็บอกเราแบบนั้นเหมือนกันอย่างเช่น

00:08:5600:09:00 เราเรียนหนังสือเราสอบก็ต้องมีตัดเกรดและ

00:09:0000:09:02 ต้องมีตัดสินแล้วว่าใครอันดับหนึ่งอันดับ

00:09:0200:09:05 สองอันดับสามเด็กเรียนเก่งเป็นยังไงเด็ก

00:09:0500:09:09 เรียนไม่เก่งเป็นยังไงมันก็เลยทำให้เรามี

00:09:0900:09:11 จริตนิสัยในการที่จะตัดสินทั้งตัวเองแล้ว

00:09:1100:09:15 ก็คนอื่นโดยอัตโนมัติอยู่บ่อยๆแล้วพอการ

00:09:1500:09:17 ที่เรามีการตัดสินเกิดขึ้นเนี่ยถ้าเราตัด

00:09:1700:09:20 สินตัวเองเราก็จะไม่ได้มองเห็นตัวเอง

00:09:2000:09:22 อย่างแท้จริงอย่างเช่นเราอาจจะเก่งก็ได้

00:09:2200:09:25 นะแต่พอทันทีที่เราตัดสินว่าฉันเป็นคนไม่

00:09:2500:09:27 เก่งปุ๊บเนี่ยไอ้ศักยภาพที่เรามีก็ไม่ได้

00:09:2700:09:30 ถูกใช้ถูกป่ะหรือในขณะที่เรามองคนอื่น

00:09:3000:09:34 เนี่ยเราตัดสินแล้วว่าเออเนี่ยคนเสียงดัง

00:09:3400:09:36 เป็นคนไม่ดีเขาทำอะไรก็ไม่ดีทั้งนั้นนะ

00:09:3600:09:40 พี่ก็เลยว่าความอันตรายที่สุดก็คือการตัด

00:09:4000:09:43 สินนี่แหละแล้วก็สิ่งที่แก้ยากที่สุดก็

00:09:4300:09:45 คือการตัดสินเหมือนกัน

00:09:4500:09:49 แล้วก็จะมีเหมือนกับแนวทางแก้ไขสักเบื้อง

00:09:4900:09:52 ต้นก็ยังดีไหมคะในการแบบให้เราลดในการตัด

00:09:5200:09:54 สินทางตัวเองแล้วก็คนอื่นเอา Step แรก

00:09:5400:09:58 ก่อนเลยคือรู้ตัวอยู่ว่ากำลังตัดสินหรือ

00:09:5800:10:00 ถ้าไม่รู้อย่างน้อยก็รู้ว่าตัวเองยังไม่

00:10:0000:10:03 รู้ก็ยังดีนะแต่ว่าถ้าเกิดว่าเราไม่รู้

00:10:0300:10:06 ตัวว่าตอนนี้ฉันกำลังตัดสินเขาอยู่อย่าง

00:10:0600:10:09 เช่นอาจจะไถ Social Media สักอย่างหนึ่ง

00:10:0900:10:12 ใช่ไหมแล้วก็เห็นคำพูดหรือพฤติกรรมอะไร

00:10:1200:10:14 ของคนสักอย่างที่แสดงความคิดเห็นของตัว

00:10:1400:10:17 เองแล้วเราก็รู้สึกว่าไม่ชอบเราก็รู้สึก

00:10:1700:10:20 ว่าเฮ้ยคนนี้มันไม่ดีหรือคิดอย่างนี้ได้

00:10:2000:10:23 ยังไงวะเออไอ้ความคิดอัตโนมัติเนี่ยจริงๆ

00:10:2300:10:26 เราไม่ได้รู้จักเขานะเราคือเขาอาจจะคุย

00:10:2600:10:28 กันเป็น 1 ชั่วโมงก็ได้อย่างวันนี้เรา

00:10:2800:10:30 สัมภาษณ์กัน 1 ชั่วโมงใช่ป่ะแต่เดี๋ยวไป

00:10:3000:10:33 ตัดนิดเดียวทันทีที่มันมีความคิดว่าเอ้ย

00:10:3300:10:36 คิดอย่างนี้ได้ยังไงเออทำไมเป็นคนแบบนี้

00:10:3600:10:39 เนี่ยแสดงว่าการตัดสินก็ทำงานแล้วเรายัง

00:10:3900:10:42 ไม่ได้รู้จักเขาเลยก็อันนี้ถ้าถามว่าเรา

00:10:4200:10:44 จะเริ่มต้นยังไงก็เห็นนี่แหละเห็นความคิด

00:10:4400:10:47 อย่างเงี้ยคิดแบบนี้ได้ยังไงทำไมเป็นคน

00:10:4700:10:51 แบบนี้เริ่มมีทัศนคติ Negative ต่อคนอื่น

00:10:5100:10:55 ที่แตกต่างจากเราก็คือแค่เรารับรู้ก่อน

00:10:5500:10:58 แล้วยอมรับมันก่อนนะว่าตอนนี้ฉันกำลังตัด

00:10:5800:11:00 สินเริ่มต้นจากตรงนี้ก่อนทำให้เริ่มต้น

00:11:0000:11:02 จากตรงนี้แล้วก็ฝึกการที่จะไม่ตัดสินยาก

00:11:0200:11:03 ละ

00:11:0300:11:06 ทำไมถึงแบบสนใจหรือว่าอยากที่จะมาเป็น

00:11:0600:11:09 จิตแพทย์ค่ะอันหนึ่งเลยก็คือว่าอย่างที่

00:11:0900:11:11 บอกฉายาคุณหมอนัดแต่งเพลงของเรานี่แหละ

00:11:1100:11:15 แต่งเพลงตั้งแต่อายุ 18 เรียกว่าพร้อมกัน

00:11:1500:11:17 ไงกับการเข้าเป็นนักศึกษาแพทย์ปีหนึ่งใช่

00:11:1700:11:21 ไหมคะในการที่หาเงินแล้วก็เรียนหนังสือ

00:11:2100:11:24 ด้วยเราก็รู้สึกว่าสิ่งนี้มันก็ยังเป็น

00:11:2400:11:27 ความสุขนะเราก็อยากจะยังอยู่กับมัน

00:11:2700:11:31 จิตแพทย์เนี่ยเป็นสาขาที่ส่งเสริมซึ่งกัน

00:11:3100:11:34 และกันใช่ไหมคะว่าเอ่อในการเขียนเพลง

00:11:3400:11:36 เนี่ยเราก็ต้องฟังคนเยอะเนาะแล้วเราก็

00:11:3600:11:40 ต้องทำความเข้าใจเขาแล้วก็ตกตะกอนออกมา

00:11:4000:11:43 เป็น Content ก็คือเพลงสกิลนี้มันจะได้

00:11:4300:11:45 ถูกใช้แน่นอนถ้าเรียนจิตแพทย์เนี่ยเราก็

00:11:4500:12:46 มีแนวโน้มว่า

00:12:4600:12:48 ว่าเหมือนกับนอกจากโรคซึมเศร้าแล้วค่ะพี่

00:12:4800:12:50 หมอเอิ้นคิดว่ามันยังมีโรคอะไรที่แบบคน

00:12:5000:12:52 ไทยน่าเป็นห่วงนะถ้าเกิดสมมติว่าไม่รู้

00:12:5200:12:55 เรื่องเกี่ยวกับโลกนี้ค่ะตอบคำถามนี้ใน

00:12:5500:12:57 แบบจัดกลุ่มเนาะโรคซึมเศร้าเป็นโรคของ

00:12:5700:13:00 อารมณ์แต่จริงๆเราอ่ะก็คือเราก็มีเรื่อง

00:13:0000:13:04 ของความคิดด้วยคิดว่ามีอะไรที่คนก็อาจจะ

00:13:0400:13:07 เป็นเยอะอยู่นะก็คือเรื่องโรคของความคิด

00:13:0700:13:10 อย่างเช่นความวิตกกังวลอย่างเช่นการย้ำ

00:13:1000:13:13 คิดย้ำทำอย่างเช่น Panic จริงๆเป็นเงิน

00:13:1300:13:16 เยอะมากนะคะซึ่งอันนี้ก็จะเป็นความผิด

00:13:1600:13:19 ปกติทางด้านความคิดหรือบางคนอาจจะยังไม่

00:13:1900:13:23 ถึงกับเป็นโรคแต่ว่าก็เป็นสภาวะเป็นสภาวะ

00:13:2300:13:27 ของความกลัวของความโกเบอ่ะจริงๆแล้วเราจะ

00:13:2700:13:29 พบว่าเขาเรียกว่ามันมันแทบจะคอมบายกัน

00:13:3000:13:33 ด้วยซ้ำนึกดูนะเวลาที่เราแบบมีความคิดลบ

00:13:3300:13:36 เยอะๆอย่างเงี้ยหรือว่ามีความคิดกังวล

00:13:3600:13:41 วิตกเยอะๆหรือมีความย้ำทำย้ำคิดย้ำทำอะไร

00:13:4100:13:45 บางอย่างเยอะๆอ่ะเราจะรู้สึกดีไหมไม่ดี

00:13:4500:13:49 เรามีความสุขมาไม่เราจะสดชื่นไหมไม่ไป

00:13:4900:13:52 แล้วเนี่ยไอ้ความคิดที่มันเป็นแบบนี้สัก

00:13:5200:13:55 พักนึงนะถ้าเราไม่รู้ตัวไม่ดูแลมันก็กลาย

00:13:5500:13:58 เป็นความรู้สึกไงรู้สึกไม่สดชื่นรู้สึก

00:13:5800:14:02 เศร้ารู้สึกเบื่อตอนแรกมันก็อาจจะแป๊บ

00:14:0200:14:05 เดียวนะแต่ไม่ดูแลอีกมันก็กลายเป็นเริ่ม

00:14:0500:14:08 เบิร์นเอาแล้วเริ่มซึมเศร้าแล้วมันเริ่ม

00:14:0800:14:11 เป็นความถาวรในความคิดและความรู้สึกของ

00:14:1100:14:15 เรามากขึ้นเรื่อยๆคนเราค่ะปกติเหมือนกับ

00:14:1500:14:17 ส่วนใหญ่ค่ะมันจะมีปมในเรื่องของการใช้

00:14:1700:14:20 ชีวิตในอดีตที่ผ่านมาค่ะเลยอยากรู้ว่า

00:14:2000:14:22 เหมือนกับถ้าเกิดว่าเรามีปมเนี่ยในจิตใจ

00:14:2200:14:24 อยู่แล้วเราสามารถแก้หรือว่าคลายตรงนี้

00:14:2400:14:27 ได้ยังไงบ้างแต่ว่า 1 คือเราอาจจะต้องรับ

00:14:2700:14:34 รู้ว่าไม่มีใครไม่มีอ่ะนะทุกคนก็ต่างมีปม

00:14:3400:14:37 เป็นของตัวเองคำว่าปมคืออะไรมันก็คือความ

00:14:3700:14:40 ขัดแย้งในตัวเราบางอย่างที่เกิดขึ้นใช่

00:14:4000:14:43 มั้ยหรือประสบการณ์บางอย่างที่เราอาจจะ

00:14:4300:14:46 รู้สึกว่าเอ่อไม่ชอบไม่พึงพอใจไม่อยากให้

00:14:4600:14:49 มันมีในชีวิตแต่มันดันเกิดขึ้นในชีวิต

00:14:4900:14:52 เนี่ยความขัดแย้งเนี่ยฉันไม่ชอบฉันไม่พึง

00:14:5200:14:55 พอใจแต่มันเกิดขึ้นในชีวิตงั้นเหตุการณ์

00:14:5500:15:00 แบบนี้เนี่ยมันมักจะถูกฝังในความทรงจำของ

00:15:0000:15:03 เราคราวนี้ในสมองของเราเนี่ยมันก็มีทั้ง

00:15:0300:15:08 ในระดับที่ว่าเป็น unconsias

00:15:0800:15:12 Girl หมายความว่าสิ่งที่เรารู้กึ่งรู้นะ

00:15:1200:15:15 หรือไม่รู้เลยงั้นมันจะมีอยู่ในทุกระดับ

00:15:1500:15:20 นะแต่ว่ามันจะอยู่ในระดับไหนก็แล้วแต่นะ

00:15:2000:15:24 เราอาจจะต้องพิจารณาว่าเราได้ประโยชน์

00:15:2400:15:27 อะไรจากมันมากกว่าเราที่เราแบบฉันไม่อยาก

00:15:2700:15:31 มีเลยคือมันมีแล้วไงนะเป็นสิ่งที่ดีที่

00:15:3100:15:33 สุดเวลาที่เรามองเห็นสิ่งที่เราเรียกว่า

00:15:3300:15:36 พรหมเนี่ยมันก็คือการอักเสบอ่ะมันคือการ

00:15:3600:15:39 ยอมรับก่อนงั้นถ้าเกิดว่าเราไม่ยอมรับมัน

00:15:3900:15:41 ก่อนเนี่ยมันจะเกิดอะไรขึ้นเนาะมันก็จะ

00:15:4100:15:45 เกิดกระบวนการเยอะแยะมากมายเลยที่เขา

00:15:4500:15:48 เรียกว่า defence megalism หรือเกราะ

00:15:4800:15:52 ป้องกันทางใจที่เราอาจจะสร้างออกมาเป็น

00:15:5200:15:56 ความดุดันก้าวร้าวหรือพฤติกรรมอะไรต่างๆ

00:15:5600:15:59 ที่มันอาจจะไม่สมเหตุสมผลกับปัญหาที่เกิด

00:15:5900:16:04 ขึ้นในปัจจุบันแต่ใช้วิธีการในอดีตหรือ

00:16:0400:16:07 วิธีการเดิมมาใช้กับมันแล้วถ้าเกิดว่าเรา

00:16:0700:16:10 จะดูแลสิ่งนี้ดูแลยังไงก็คือ 1 ก็คือเห็น

00:16:1000:16:15 เนาะรู้ว่าโอเคตัวเองอาจจะมี Point

00:16:1500:16:18 เรื่องนี้อยู่อันที่ 2 อาจจะต้องยอมรับ

00:16:1800:16:21 ว่าเราไม่สามารถจะนั่งทำ Machine ไปจัด

00:16:2100:16:25 การกับอดีตได้บางคนอาจจะรู้สึก

00:16:2500:16:29 มีแผลในใจจากคำพูดของพ่อของแม่บางคนรู้

00:16:2900:16:34 สึกฉันไม่พอใจทำไมฉันต้องเกิดในที่แบบนี้

00:16:3400:16:38 ในบ้านแบบนี้ในสังคมแบบนี้แต่เราย้อนกลับ

00:16:3800:16:41 ไปไม่ได้ไงเราก็ทำได้แค่ 1 ยอม

00:16:4100:16:45 ผู้การยอมรับมันจะถูกอันที่ 2 ก็คือเราจะ

00:16:4500:16:48 เริ่มที่จะดูแลเจ้าปมตัวนี้ได้แต่ถ้าเรา

00:16:4800:16:52 ดูมันให้ลึกเราจะรู้ว่าไอ้ปมตัวนี้มันมี

00:16:5200:16:55 โทษแล้วก็มีประโยชน์อะไรเพราะฉะนั้นเราก็

00:16:5500:16:58 ต้องยอมรับเนาะแล้วดูว่ามันมีประโยชน์มี

00:16:5800:17:02 โทษอะไรแล้วก็เลือกใช้มันให้ดีที่สุดเรา

00:17:0200:17:06 ก็คือแค่มีสติบางทีมันก็คือแค่การมองเห็น

00:17:0600:17:10 ว่าเราชอบเราไม่ชอบไม่ต้องไปเป็นมันก็ได้

00:17:1000:17:14 เราก็แค่กลับมาอยู่กับตัวเองตามความเป็น

00:17:1400:17:18 จริงในปัจจุบันนั้นเราจำไม่ใช้ชีวิตใน

00:17:1800:17:22 เงื่อนไขของปมเลยแต่เราจะใช้ชีวิตตามความ

00:17:2200:17:25 เป็นจริงของตัวเองในปัจจุบันปมจะไม่มี

00:17:2500:17:27 อิทธิพลอะไรกับเราเลย

00:17:2700:17:30 และปมนั้นจะหายไปเมื่อไหร่ก็คือเมื่อเรา

00:17:3000:17:33 ใช้ชีวิตในปัจจุบันเพื่อสร้างประสบการณ์

00:17:3300:17:36 ที่ดีใหม่ๆให้เกิดขึ้นความสุขในปัจจุบัน

00:17:3600:17:40 ประสบการณ์ที่ดีใหม่ๆที่เกิดขึ้นเนี่ยไอ้

00:17:4000:17:43 แผลเป็นตรงนั้นนะคะมันลบไม่ได้หรอกนะแต่

00:17:4300:17:46 มันจางได้จางได้และตรงที่มันจางๆเนี่ย

00:17:4600:17:49 จริงๆเราสามารถที่จะสร้างประติมากรรมอื่น

00:17:4900:17:53 ๆที่สวยงามบนแผลเป็นนั้นได้ไม่จำเป็นต้อง

00:17:5300:17:58 แบบจ้องมองแล้วแบบหายไปสิหายไปสิ

00:17:5800:18:01 ยากมากเลยอ่ะค่ะที่เราจะเห็นว่าจริงๆแล้ว

00:18:0100:18:04 เรามีปมนี้นะมาจากอดีตนะที่เราแบบทำให้

00:18:0400:18:07 รู้สึกว่าส่งผลต่อตัวเราในปัจจุบัน

00:18:0700:18:09 มันเป็นสิ่งที่แบบมองเห็นได้ยากมากเลย

00:18:0900:18:13 เพราะฉะนั้นสิ่งนี้เนี่ยบางทีเราเลยอาจจะ

00:18:1300:18:16 ต้องฟังคนอื่นบ้างจริงๆคนอื่นรอบข้าง

00:18:1600:18:19 เดี๋ยวนี้แม้กระทั่งในห้องตรวจของพี่นะ

00:18:1900:18:23 80% เนี่ยแทบไม่ได้จ่ายยาเลยคือหลายคน

00:18:2300:18:26 ตอนนี้เขาก็จะยอมรับและว่าบางทีการที่

00:18:2600:18:28 ต้องมองเห็นตัวเองในเชิงลึกเนี่ยมันเป็น

00:18:2800:18:31 สิ่งที่สำคัญแล้วบางทีมันไม่ต้องรอให้ฉัน

00:18:3100:18:34 ป่วยหรือฉันจะต้องเป็นซึมเศร้าหรืออะไร

00:18:3400:18:36 ก่อนคือบางทีในจุดเนี่ยที่เขาอ่ะอยากจะ

00:18:3600:18:39 เข้าใจตัวเองอย่างซึ้งเค้าก็มานั่งคุยกับ

00:18:3900:18:42 พี่ละนะคะงั้นการที่เราอ่ะต้องมีเครื่อง

00:18:4200:18:46 มือที่ช่วยนะคะก็คือถ้าเราจะมีเครื่องมือ

00:18:4600:18:48 ที่เราช่วยตัวเองมันก็คือเซลล์อะไรเนี่ย

00:18:4800:18:50 เซลล์อ้วนเนี่ยมันก็เหมือนเป็นกระจกภายใน

00:18:5000:18:53 ที่เรามีกับตัวเองที่จะสะท้อนซึ่งแน่นอน

00:18:5300:18:55 มันก็ต้องอาศัยการฝึกฝนเราต้องเข้าใจหลัก

00:18:5500:18:58 ของมันยังแท้จริงใช่ไหมอันที่ 2 แล้วจะ

00:18:5800:19:00 ง่ายก็คือก็ต้องมีผู้ช่วยงั้นผู้ช่วยอาจ

00:19:0000:19:04 จะมีหลายแบบนะมันอาจจะเป็นคนข้างๆเราที่

00:19:0400:19:07 เราไว้เหนือเชื่อใจเขาแล้วเราก็กล้าที่จะ

00:19:0700:19:09 ฟังกันมากพออันที่ 2 จะเป็นผู้เชี่ยวชาญ

00:19:0900:19:13 ใช่ไหมคะที่เขาเข้าใจเรื่องนี้หลายๆครั้ง

00:19:1300:19:15 พี่ก็พบว่าเออคนไข้อยากบางทีเขาก็โชคดีนะ

00:19:1500:19:18 ที่บางทีถ้าไม่มีอะไรบางอย่างที่ทำให้เขา

00:19:1800:19:20 มานั่งอยู่ตรงนี้เขาอาจจะไม่มีโอกาสที่จะ

00:19:2100:19:23 เห็นสิ่งนี้เลยก็ได้แล้วเขาก็จะใช้ชีวิต

00:19:2300:19:27 แบบกลไกป้องกันตัวเองที่สะสมปัญหาไป

00:19:2700:19:31 เรื่อยๆๆๆๆๆๆๆก็ได้ทันทีที่เขาอ่ะหยุดมอง

00:19:3100:19:34 แล้วก็มีคนช่วยและเห็นเส้นทางของชีวิตตัว

00:19:3400:19:37 เองอย่างแบบเคลียร์ค่ะแบบเขาจะดีไซน์

00:19:3700:19:40 ชีวิตตัวเองใหม่ในเวลาของชีวิตที่เหลือ

00:19:4000:19:43 ได้อย่างมีความสุขมากขึ้นในประสบการณ์ที่

00:19:4300:19:46 พี่หมอเคยพบผู้ป่วยหรือว่าคนที่มากปรึกษา

00:19:4600:19:49 กับพี่หมอแบบเนี้ยค่ะมันเคยเหมือนกับมี

00:19:4900:19:51 เรื่องที่ทำให้พี่หมอสะเทือนใจบ้างไหมคะ

00:19:5100:19:55 โดยการที่เราอ่ะถูกฝึกเนาะในเรื่องของการ

00:19:5500:19:59 บำบัดหรือการฟังอย่างลึกซึ้งเนี่ยจริงเรา

00:19:5900:20:01 ค่อนข้างที่จะแยกแยกเรื่องของเรากับ

00:20:0100:20:05 เรื่องของเขาได้ค่อนข้างชัดเจนเพราะไม่

00:20:0500:20:07 งั้นเนี่ยเราจะกลายเป็นว่าเราก็จะถ่ายเท

00:20:0700:20:11 พลังงานลบมาเยอะจนเกินไปนะแต่ว่าก็มีมี

00:20:1100:20:14 เรื่องที่คิดว่าน่าเสียดายมากกว่าอย่าง

00:20:1400:20:18 เช่นอย่างปัญหาคู่ชีวิตอันนี้เจอบ่อย

00:20:1800:20:21 ปัญหาคู่ชีวิตที่หรือปัญหาเรื่องของความ

00:20:2100:20:25 รักบางทีเราพบว่าคนสองคนรักกันแต่ว่าด้วย

00:20:2500:20:29 ความที่ภาษารักของเขาไม่เหมือนกันแล้วมัน

00:20:3000:20:33 ก็เลยทำให้เหมือนเขาไม่รักกันแต่จริงๆคือ

00:20:3300:20:36 เขารักกันแล้วก็รักกันมากเคสนึงที่แบบว่า

00:20:3600:20:39 ความรักของเขาคือการทุ่มเทเนอะก็เป็นแบบ

00:20:3900:20:44 หัวหน้าครอบครัวคือการทำงานทุ่มเทให้คนใน

00:20:4400:20:48 บ้านให้ลูกเมียสบายอยากได้อะไรก็ได้การ

00:20:4800:20:50 ที่ลูกเมียอยากได้อะไรก็ได้อันนี้เขาคิด

00:20:5100:20:53 ว่านี่คือการแสดงความรักและแต่ว่าสิ่งที่

00:20:5300:20:55 เขาต้องทำคือการที่ต้องมีมันดีใช่ป่ะต้อง

00:20:5500:20:58 ศักดิ์สิทธิ์ต้องประสบความสำเร็จในงานวัน

00:20:5800:21:02 เขาอยู่ในจุดสูงสุดของชีวิตการทำงานและ

00:21:0200:21:04 เป็นเจ้าของบริษัทแต่ว่าพอหันกลับมาอีกที

00:21:0400:21:08 อ่ะก็คือไม่เหลือใครแล้วในบ้านเพราะว่าคน

00:21:0800:21:10 ที่อยู่ที่บ้านก็คิดว่านี่คือไม่รักภาษา

00:21:1000:21:11 มันไม่เหมือนกันนะเพราะฉะนั้นคนที่บ้าน

00:21:1100:21:14 ต้องการอะไรต้องการเวลาต้องการอะไร

00:21:1400:21:16 ต้องการความอบอุ่นต้องการงานที่แบบเรามี

00:21:1600:21:19 เวลาได้คุยกันมันเอากลับมาไม่ได้แล้วก็

00:21:1900:21:22 เป็นเรื่องที่น่าเสียดายเพราะฉะนั้นอัน

00:21:2200:21:24 นี้ก็จะเป็นจุดที่เราจริงๆแล้วเราจะเห็น

00:21:2400:21:29 ในกรณีนี้ค่อนข้างบ่อยเหมือนกันที่ภาษา

00:21:2900:21:31 รักไม่ตรงกันแล้วสุดท้ายมันกลายเป็นความ

00:21:3100:21:32 สูญเสีย

00:21:3200:21:35 รู้สึกว่าการที่รับฟังเรื่องราวของคนอื่น

00:21:3500:21:37 มาเยอะแบบนี้ค่ะมันก็ต้องอาจจะมีแบบพลัง

00:21:3700:21:40 งานลบที่เข้ามาสู่ตัวเราบ้างแบบนี้ค่ะพี่

00:21:4000:21:42 หมอเอิ้นมีวิธีการ protect เรื่องนี้ยัง

00:21:4200:21:46 ไงบ้างคืออย่างที่บอกอ่ะค่ะพอเรามีทักษะ

00:21:4600:21:49 เนอะไม่ว่าจะเป็น Deep Listening Active

00:21:4900:21:52 Listening ในแบบที่มันฟังก์ชันจริงๆมัน

00:21:5200:21:56 ทำงานของมันจริงๆแล้วเราก็เรียกว่า BM

00:21:5600:22:00 Party แต่ไม่ซิมพาตีเอ็มพาร์ตี้คือเรา

00:22:0000:22:03 เห็นเนาะอย่างเช่นน้ำเศร้าอย่างนี้พี่

00:22:0300:22:06 เอิ้นก็เห็นในความเศร้ายอมรับในความเศร้า

00:22:0600:22:09 เราก็อยู่กับความเศร้าของน้ำได้แต่พี่

00:22:0900:22:11 เอิ้นไม่ไปเป็นความเศร้าของน้ำอ่ะไม่เป็น

00:22:1100:22:17 น้ำน้ำ 2 น้ำ 3 ในกรณีของพี่เอิ้นเนี่ย

00:22:1700:22:19 พี่เอิ้นไม่ค่อยไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องนี้

00:22:1900:22:22 ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องของการที่จะเอาพลัง

00:22:2200:22:26 งานเอ่อลบอะไรในขณะเดียวกันกลับกันเลยพี่

00:22:2600:23:29 เอิ้นกลับได้เรียนรู้จากปัญหาของงาน

00:23:2900:23:34 ไม่ศรัทธาเราไม่อาจที่จะให้เขาแบบเปลี่ยน

00:23:3400:23:36 แปลงหรือช่วยเขาได้อันนี้อันนี้คือเป็น

00:23:3600:23:39 สิ่งที่เราก็ต้องรู้อยู่แล้วอันที่ 2 คือ

00:23:3900:23:42 เรารักกันแทนกันไม่ได้นะส่วนใหญ่ไอ้ที่

00:23:4200:23:46 เราไปเหนื่อยไปหนักมันเหมือนเราไปรับกรรม

00:23:4600:23:49 แทนเขาเราอยากให้เขาดีขึ้นเราเอาใจช่วย

00:23:4900:23:52 เขาเราคิดว่าถ้าเชื่อเราหรือทำแบบนี้

00:23:5200:23:56 ชีวิตเขาน่าจะดีขึ้นแต่จริงๆคือเราทำไม่

00:23:5600:23:59 ได้นะเรารับกรรมแทนกันไม่ได้เพราะฉะนั้น

00:23:5900:24:01 เนี่ยบางทีมันก็ต้องปล่อยให้มันเป็นชีวิต

00:24:0100:24:05 ของเขาอ่ะแล้วทุกวันนี้พี่ทำงานช่วยคนพี่

00:24:0500:24:07 ก็รู้สึกให้เกียรติในชีวิตของเขาอยู่นะ

00:24:0700:24:10 ไม่เคยคิดว่าฉันจะต้องไปทำอะไรให้เธอ

00:24:1000:24:13 เปลี่ยนไปอ่ะว่าต้องการที่เขาจะเปลี่ยน

00:24:1300:24:16 แปลงมันคือถึงเวลาของเขาใจของเขาที่มันจะ

00:24:1600:24:18 เปลี่ยนแปลงไง

00:24:1800:24:21 คะก็คือเหมือนกับพี่หมอเอิ้นเป็นนักแต่ง

00:24:2100:24:23 เพลงด้วยใช่ไหมคะก็เลยอยากทราบว่าให้

00:24:2300:24:25 เลือกระหว่างชอบในบทบาทที่เป็นจิตแพทย์

00:24:2500:24:28 อ่ะค่ะกับบทบาทของที่เป็นนักแต่งเพลงที่

00:24:2800:24:30 หมอเอิ้นชอบอันไหนดี

00:24:3000:24:34 น่าจะเลือกไม่ได้นะ

00:24:3400:24:37 ตั้งแต่เลือกไม่ได้เพราะว่ามันก็เป็นสิ่ง

00:24:3700:24:40 ที่อยู่คู่กันมาเรียกว่ามันเหมือนร่างกาย

00:24:4000:24:44 กับจิตใจอ่ะเออถ้ามัน 20 ปีก่อนที่พี่

00:24:4400:24:48 เป็นนักแต่งเพลงแล้วพี่ก็สัมภาษณ์สื่อนะ

00:24:4800:24:51 ในฐานะที่แบบโอ้ตอนนั้นกำลังมีผลงานอะไร

00:24:5100:24:54 เยอะๆอะไรอย่างเงี้ยก็จะถูกถามนี้เหมือน

00:24:5400:24:57 กันพี่ก็จะรู้สึกว่ามันมันเหมือนร่างกาย

00:24:5700:24:59 จากจิตใจ

00:24:5900:25:04 คือการเป็นแพทย์มันทำให้เราอ่ะคือเข้าใจ

00:25:0400:25:08 ในเรื่องของ physical ในเรื่องของเคมี

00:25:0800:25:13 เรื่องของโครงสร้างสมองเรื่องของกระบวน

00:25:1300:25:17 การคิดเรื่องของกลไกของจิตใจอะไรอย่างนี้

00:25:1700:25:20 แต่ว่าการเป็นนักแต่งเพลงอ่ะมันทำให้เรา

00:25:2000:25:23 เข้าใจความรู้สึกและจิตวิญญาณของความเป็น

00:25:2300:25:26 มนุษย์นั่นจิตแพทย์ต้องดูหมดไงมันดูทั้ง

00:25:2600:25:28 ในเรื่องของ

00:25:2800:25:32 ไซโคก็คือเรื่องของจิตใจมันดูทั้งเรื่อง

00:25:3200:25:36 ของ Biology เรื่องของเคมีโครงสร้างใน

00:25:3600:25:39 ร่างกายมันดูในเรื่องของ Social ด้วยใน

00:25:3900:25:43 เรื่องของทักษะสังคมการเข้าสังคม

00:25:4300:25:46 อย่างมันไปด้วยกันอยู่แล้ว

00:25:4600:25:49 พี่บอกว่าเหมือนกับดนตรีหรือว่าศิลปะแบบ

00:25:4900:25:51 เนี้ยค่ะมันสามารถเยียวยาจิตใจของคนได้

00:25:5100:25:53 จริงๆไหม

00:25:5300:25:56 เยียวยาได้จริงค่ะนะอันนี้ในมุมของการที่

00:25:5600:26:00 ตัวเองเนี่ยก็ใช้ใช้ในแบบไม่รู้ตัวมาทั้ง

00:26:0000:26:02 ชีวิตเลยด้วยอ่าอันนี้ถ้าใช้กับตัวเองนะ

00:26:0200:26:06 แล้วก็เอามาใช้กับนักเรียนที่ปรึกษาเอามา

00:26:0600:26:10 ใช้กับคนไข้นะคะถามว่าสิ่งเหล่านี้มัน

00:26:1000:26:14 ช่วยได้ยังไงดนตรีศิลปะอย่างที่บอกเนาะ

00:26:1400:26:16 ว่าบางทีมันทำงานกับในเรื่องของ

00:26:1600:26:18 uncontiers ตอนนั้นความเชื่อมันเป็นสิ่ง

00:26:1800:26:20 ที่เรารู้ว่าเรากำลังคิดใช่ไหมเรากำลัง

00:26:2000:26:23 รู้สึกอะไรแต่อันนี้มันคือ 20% เท่านั้น

00:26:2300:26:26 เองมันมีสิ่งที่เรายังไม่รู้เกี่ยวกับตัว

00:26:2600:26:29 เองอีกเยอะมากแต่มันออกมาเป็นพฤติกรรม

00:26:2900:26:32 เป็นคำพูดเป็นแววตาโดยอัตโนมัติเลยซึ่ง

00:26:3200:26:35 ดนตรีหรือว่าศิลปะเนี่ยค่ะมันเป็นเครื่อง

00:26:3500:26:39 มือที่พาเราเรียกว่าปล่อยวางจากความคิด

00:26:3900:26:42 แต่ทำให้ตัวเรามีอิสระแล้วก็ดึงสิ่งที่

00:26:4200:26:45 มันเป็นอัน Content ออกมาให้เราได้ดูแล

00:26:4500:26:46 แก้ไข

00:26:4600:26:49 สามารถช่วยทำให้เราสามารถเข้าใจคนอื่นได้

00:26:4900:26:52 มากขึ้นก็เลยอยากรู้ว่าทำไมถึงแบบคิดแบบ

00:26:5200:26:55 นั้นเพราะว่ามันทำให้เราได้ฟังอย่างแรก

00:26:5500:26:58 เลยในฐานะที่พี่เป็นคนเขียนเพลงใช่ไหม

00:26:5800:27:01 แล้วก็พี่ก็เขียนเพลงในฐานะของการเป็นผู้

00:27:0100:27:05 ฟังนะพี่ไม่รู้ดนตรีไม่รู้ทฤษฎีเล่นดนตรี

00:27:0500:27:07 ไม่เป็นด้วย

00:27:0700:27:10 งั้นเวลาพี่เขียนมันก็เกิดจากกระบวนการ

00:27:1000:27:13 อะไรคือการที่เราฟังแล้วต้องรับฟังคน

00:27:1300:27:17 อย่างลึกซึ้งเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นเหตุ

00:27:1700:27:19 การณ์นี้มันเป็นเรื่องของใคร

00:27:1900:27:22 แต่ละคนคนที่เป็นเจ้าของเรื่องเนี่ยเขา

00:27:2200:27:25 กำลังคิดเขากำลังรู้สึกอะไรเขากำลัง

00:27:2500:27:30 ต้องการอะไรอะไรคือทางออกของปัญหานี้อะไร

00:27:3000:27:34 อย่างนี้มันคือการที่เราจะต้องฟังแล้วก็

00:27:3400:27:38 พอการที่เราตั้งใจที่จะฟังมันก็จะทำให้

00:27:3800:27:41 เราได้เรียนรู้เรื่องราวของคนอื่นด้วย

00:27:4100:27:44 เนาะแม้กระทั่งแบบต้องบอกว่า 100 เพลงของ

00:27:4400:27:49 พี่เนี่ยน่าจะมีของพี่ 2 เพลงเนี่ย

00:27:4900:27:53 เป็นเรื่องของคนอื่นตอนที่ทำ Channel

00:27:5300:27:55 ขึ้นมาค่ะเหมือนกับจะมี Gold ในการที่

00:27:5500:27:58 อยากจะให้คนอื่นเข้าใจตัวเองแล้วก็เข้าใจ

00:27:5800:28:00 ผู้อื่นมากยิ่งขึ้นเลยอยากรู้ว่าทำไมถึง

00:28:0000:28:03 คิดว่าสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่สำคัญที่

00:28:0300:28:07 อยากให้คนอื่นเข้าใจอย่างที่บอกว่าเราเคย

00:28:0700:28:11 รู้สึกว่าเราอยากมีความสุขตอนที่เราตัด

00:28:1100:28:14 สินใจว่าเราจะเรียนเป็นจิตแพทย์เพราะเรา

00:28:1400:28:17 อยากเข้าใจตัวเองเราอยากเข้าใจความสุข

00:28:1700:28:21 จริงๆสุดท้ายเนี่ยทั้งไม่ว่าจะกับการได้

00:28:2100:28:25 ทบทวนชีวิตตัวเองการได้เรียนในแบบที่มัน

00:28:2500:28:29 อยู่ในหลักการจริงๆการได้ฝึกในการที่จะ

00:28:2900:28:32 ฟังในการบำบัดเยียวยาคนอื่นหรือได้มี

00:28:3200:28:36 โอกาสที่จะบำบัดเยียวยาตัวเองก็ทำให้ค่อน

00:28:3600:28:40 ข้างมั่นใจว่าจริงๆทุกคนมีความสุขอยู่ใน

00:28:4000:28:44 ตัวแต่ว่าเราแค่ไม่สามารถปล่อยให้ตัวเอง

00:28:4400:28:47 มีอิสระแล้วก็สัมผัสความสุขที่มันมีอยู่

00:28:4700:28:50 แล้วในตัวเราได้และสิ่งเหล่านั้นมันฝึก

00:28:5000:28:54 ได้การที่เราอยู่ร่วมกันในสังคมนี้ค่ะบาง

00:28:5400:28:56 ทีเราก็ต้องปรับเปลี่ยนนิสัยของตัวเอง

00:28:5600:28:58 อย่างนี้ค่ะอยากถามพี่หมอเอิ้นเขาว่ามัน

00:28:5800:29:00 แบบจำเป็นไหมที่เราจะต้องปรับเปลี่ยน

00:29:0000:29:03 นิสัยตัวเองเพื่อให้เข้ากับคนอื่นหรือว่า

00:29:0300:29:06 คนที่เรารักในเรื่องความสัมพันธ์แล้วกัน

00:29:0600:29:08 ในเรื่องในเรื่องความสัมพันธ์ของคนสองคน

00:29:0800:29:11 เนี่ยที่อาจจะแตกต่างกันถ้าเกิดมาอยู่

00:29:1100:29:13 ด้วยกันเนี่ยจริงๆเราต้องเปลี่ยนไหมแล้ว

00:29:1300:29:16 มันต้องเปลี่ยนแค่ไหนเพราะฉะนั้นเวลาที่

00:29:1600:29:18 คนสองคนอยู่ด้วยกันเนี่ยคนส่วนใหญ่นะเรา

00:29:1800:29:21 จะรู้สึกว่ามันเหมือนวงกลม 2 วงอ่ะที่มัน

00:29:2100:29:25 จะต้องมาสอนกันซึ่งแบบนี้อยู่ไม่นานนะก็

00:29:2500:29:27 คือเหมือนจักรวาล 2 จักรวาลเนี่ยมันซ้อน

00:29:2700:29:30 กันแต่ในนั้นน่ะไม่มีดาวเคราะห์ที่ไม่

00:29:3000:29:33 เหมือนกันนะแล้วก็มีดาวอีกหลายดวงเลยที่

00:29:3300:29:36 มีจังหวะการหมุนนี้ไม่เหมือนกันด้วยเราก็

00:29:3600:29:38 จะเกิดคำถามว่าโอ้เนี่ยฉันจะต้องแบบเอ้ย

00:29:3800:29:42 เปลี่ยนจนไม่เป็นตัวเองและฝ่าฝืนจนอ่ะสุด

00:29:4200:29:45 ท้ายฟื้นไม่ไหวละแยกกันดีกว่าอันนี้ก็คือ

00:29:4500:29:49 ปัญหาที่เราเจอแต่ว่าจริงๆการที่คนสองคน

00:29:4900:29:53 ที่แตกต่างกันแล้วก็มีความสัมพันธ์หรือ

00:29:5300:29:55 ว่าจะอยู่ด้วยกันได้อย่างยั่งยืนเราต้อง

00:29:5500:29:58 เข้าใจว่ามันคือวงกลม 2 วงที่มา Interface

00:29:5800:30:01 กันนะเพราะเนี่ยเราก็ยังจะต้องมีพื้นที่

00:30:0100:30:04 ที่มันเป็นตัวตนของแต่ละคนอยู่แล้วก็มัน

00:30:0400:30:07 ก็จะมีพื้นที่ที่เราต้อง intercept กัน

00:30:0700:30:10 หมายถึงว่าเราอาจจะต้องปรับจูนหรือปรับ

00:30:1000:30:13 เปลี่ยนเพื่อให้เรายังสามารถที่จะเชื่อม

00:30:1300:30:17 โยงหรือ Connect กันได้ในพื้นที่นี้จริงๆ

00:30:1700:30:20 มันก็อาจจะเป็นการปรับก็ได้หรือไม่อาจจะ

00:30:2000:30:24 เป็นการเปลี่ยนก็ได้แต่เมื่อไรที่เราจะ

00:30:2400:30:27 เปลี่ยนขอให้รู้ว่ามันไม่ใช่ชั้นเปลี่ยน

00:30:2700:30:29 เพราะเธอเมื่อไรที่เรารู้สึกว่าเรา

00:30:2900:30:32 เปลี่ยนเรื่องนี้เพราะอีกคนมันจะอยู่ไม่

00:30:3200:30:34 ได้แต่ถ้าเรารู้สึกว่าเราจะเปลี่ยนเรื่อง

00:30:3400:30:38 นี้เพราะมันทำให้ชีวิตเราดีขึ้นอันนี้ไม่

00:30:3800:30:40 ได้เป็นการเห็นแก่ตัวนะคะแต่คือมันคือ

00:30:4000:30:43 ความยั่งยืนแล้วเราต้องเข้าใจว่าเราทุกคน

00:30:4300:30:46 รักตัวเองที่สุดในขณะที่คนบางคนบอกไม่ๆๆ

00:30:4600:30:50 ชั้นรักแฟนฉันมากกว่าความสุขของฉันคือ

00:30:5000:30:52 ความสุขของแฟนแต่อย่าลืมว่าแฟนต้องมีความ

00:30:5200:30:55 สุขฉันถึงจะมีความสุขนะมันคือการรักตัว

00:30:5500:30:57 เองผ่านคนอื่นแค่นั้นเองสุดท้ายมันก็คือ

00:30:5700:31:00 จริงๆแล้วมนุษย์เรารักตัวเองที่สุดอันนี้

00:31:0000:31:02 คือเป็นสิ่งที่เราต้องยอมรับอะไรอย่างนี้

00:31:0200:31:05 แต่คือถ้าเขารักตัวเองแล้วเขาเมตตาเราได้

00:31:0500:31:09 อันนี้คือความสัมพันธ์ที่ยั่งยืน

00:31:0900:31:12 หรือว่าอีกตัวนึงที่อันตรายเหมือนกันคือ

00:31:1200:31:14 ความคาดหวังเราจะไม่ได้พูดในมุมสิ่งที่

00:31:1400:31:16 เราไปคาดหวังคนอื่นแต่อันนี้หนูอยากพูดใน

00:31:1600:31:19 มุมสิ่งที่เราถูกคาดหวังเราอาจจะถูกคาด

00:31:1900:31:22 หวังจะคุณพ่อคุณแม่หรือคนที่เรารักเรามี

00:31:2200:31:24 วิธีจัดการกับมันยังไงให้มันแบบไม่ท๊อก

00:31:2400:31:27 ติดกับตัวเราเองอ่ะค่ะอันแรกอ่ะเราคงจะ

00:31:2700:31:30 ต้องเอ่อช้านิดนึงแล้วลองมารับรู้ตัวเอง

00:31:3000:31:33 ก่อนแล้วว่าไอ้การที่เราถูกคาดหวังจะจาก

00:31:3300:31:35 คุณพ่อคุณแม่จากแฟนเลยก็แล้วแต่เนี่ยความ

00:31:3500:31:38 คาดหวังเนี่ยมันทำให้เรารู้สึกยังไงบ้าง

00:31:3800:31:41 นะหลายครั้งเราอาจจะรู้สึกกดดันอาจจะรู้

00:31:4100:31:45 สึกไม่ชอบอะไรก็แล้วแต่คือการที่เราเห็น

00:31:4500:31:50 ความรู้สึกนี้ตรงๆว่ามันก็โอเคมันก็โอเค

00:31:5000:31:53 นะให้ฉันรู้สึกกดดันงั้นบางทีด้วยความกด

00:31:5300:31:57 ดันหรือเอ่อความรู้สึกเครียดนั้นมันจะไม่

00:31:5700:32:00 ค่อยมีอิทธิพลอะไรกับเราเท่าไหร่เวลาไอ้

00:32:0000:32:02 ความรู้สึกกดดันมันจะมีอิทธิพลตอนที่เรา

00:32:0200:32:05 ไม่ชอบฉันไม่ชอบเลยที่ฉันรู้สึกกดดันแบบ

00:32:0500:32:08 นี้ทำไมพ่อแม่ต้องมากดดันฉันด้วยต่างกัน

00:32:0800:32:11 เลยนะเพราะฉะนั้นทันทีที่เรารู้ว่าเรา

00:32:1100:32:15 กำลังรู้สึกว่าโอเคเราจะเริ่มจัดการความ

00:32:1500:32:17 กดดันของพ่อแม่ได้แล้วเราก็จะเห็นว่าความ

00:32:1700:32:21 คาดหวังนี้มันเป็นของใครอ๋อความคาดหวัง

00:32:2100:32:23 นี้มันเป็นของพ่อแม่ความคาดหวังนี้มี

00:32:2300:32:26 ประโยชน์กับเราไหมบางทีความคาดหวังของเขา

00:32:2600:32:29 ก็มีประโยชน์กับเรานะเอออย่างเช่นพ่อแม่

00:32:2900:32:31 คาดหวังให้เรียนดีเออแล้วตอนนั้นเราก็มี

00:32:3100:32:34 ความสามารถในการที่จะเรียนดีมันก็มันเป็น

00:32:3400:32:36 แรงพุดใช่ไหมงั้นความคาดหวังไม่ได้แปลว่า

00:32:3600:32:39 ไม่มีประโยชน์นะความคาดหวังของเขาอ่ะมัน

00:32:3900:32:42 คือความกลัวว่าลูกจะไม่มีความสุขนึกออก

00:32:4200:32:44 มั้ยมันห่วงว่าลูกจะไม่ปลอดภัยแค่นั้นเอง

00:32:4400:32:48 เพราะฉะนั้นเนี่ยเราอ่ะก็ไม่ต้องให้ความ

00:32:4800:32:51 สำคัญกับไอ้ระหว่างทางนี้หรอกงั้นเรามอง

00:32:5100:32:55 ตาพ่อแม่เราเนี่ยเรารู้เขาอยากได้อะไรอ๋อ

00:32:5500:32:57 เขาอยากเห็นเรามีความสุขเนาะเขาอยากเห็น

00:32:5700:32:58 เรามั่นคง

00:32:5800:33:02 เขาไม่อยากห่วงเราเราทำตัวเองสิคะเราเอา

00:33:0200:33:05 ตัวเองให้มั่นคงสิคือเราก็มาทำเวลของเรา

00:33:0500:33:08 แล้ววันนึงอ่ะพ่อแม่เขาก็จะเห็นเองว่าเขา

00:33:0800:33:11 แบบเออเขาก็คงไม่ต้องเอาความคาดหวังมา

00:33:1100:33:14 เป็นเครื่องมือของความห่วงเนอะตรงข้าม

00:33:1400:33:16 ความสุขก็คือความทุกข์ใช่ไหมคะเราอยากรู้

00:33:1600:33:20 ว่าเหมือนกับคนเราอ่ะค่ะสามารถจัดการหรือ

00:33:2000:33:22 ว่าจะปล่อยวางความทุกข์ยังไงได้บ้างค่ะ

00:33:2200:33:25 ความทุกข์อ่ะส่วนใหญ่มันก็จะเกิดจากการ

00:33:2500:33:29 ที่เราไปยึดในสิ่งที่ไม่ควรยึดอย่างเช่น

00:33:2900:33:33 อยากได้คนนี้เป็นแฟนอ่ะมันก็ยึดเรามากก็

00:33:3300:33:36 อยากได้คนนี้เป็นแฟนหรือไม่อยากได้คนนี้

00:33:3600:33:41 เป็นแฟนอย่างนี้เพราะการที่เรายึดแล้วเรา

00:33:4100:33:44 ก็โฟกัสมันก็จะเกิดความทุกข์อ่ะจะถามว่า

00:33:4400:33:48 เราจะแก้ตัวนี้ยังไงก็คือให้เรารู้ตัวว่า

00:33:4800:33:52 เอ๊ะตอนนี้ใจฉันน่ะมันกำลังอยู่กับอะไร

00:33:5200:33:55 แล้วอยู่กับตรงเนี้ยมันทุกข์ใช่ไหมเออลอง

00:33:5500:33:59 ถอยออกมาดูหน่อยบางทีเรามีแค่ความแต่เขา

00:33:5900:34:01 ไม่อยากแค่นั้นเองแล้วเราก็กำมันไว้แล้ว

00:34:0100:34:03 เราก็จะเอาเป็นเอาตายกับมันแล้วสุดท้ายก็

00:34:0300:34:07 คือคนเรานะจะพ้นจากสภาวะนั้นได้คือทุกข์

00:34:0700:34:11 จนไม่ไหวแล้วคือกรรมไปเลือดก็ไหลไม่ไหว

00:34:1100:34:14 แล้วจนมือชาแล้วก็ยอมปล่อยงั้นทุกข์จนถึง

00:34:1400:34:18 ที่สุดก็ยอมคลายยอมเปลี่ยนอันที่ 2 ไม่

00:34:1800:34:22 ต้องรอให้ถึงเวลาที่เลือดมันออกเจ็บปวด

00:34:2200:34:26 ถึงที่สุดก็ได้เออรู้ว่ามันเกินไปว่ะมัน

00:34:2600:34:30 แน่นไปว่ะใช้สติปัญญาในการก็ช่างมัน

00:34:3000:34:34 บ้างอ่ะเออปล่อยมันบ้างมันก็หายทุกข์ได้

00:34:3400:34:35 เหมือนกัน

00:34:3500:34:40 คิดว่าในการที่เราแบบอยากจะมีความสุขมัน

00:34:4000:34:43 ควรจะมีสกิลอันไหนบ้างที่สามารถ support

00:34:4300:34:46 ในตรงนี้ได้บ้างเรื่องของเซลล์เนี่ยพี่

00:34:4600:34:47 เอิ้นว่า

00:34:4700:34:51 อันนี้เป็นประตูด่านแรกเลยในการที่เราจะ

00:34:5100:34:54 ไปพูดถึงเรื่องของ Seal Discovery การ

00:34:5400:34:58 ค้นพบตัวเองการแบบ Strength finder การ

00:34:5800:35:02 เห็นจุดอ่อนจุดแข็งอะไรอย่างนี้ Self

00:35:0200:35:05 improvement sale Development ทุก

00:35:0500:35:08 อย่างต้องเริ่มต้นจากการที่เรามองเห็นตัว

00:35:0800:35:10 เองตามความเป็นจริงก่อนเดี๋ยวต้องเข้าใจ

00:35:1000:35:13 ว่าคือคนแบบเรามันมีคนเดียวในจักรวาล

00:35:1400:35:17 นะโมเลกุลแบบเราเนี่ยมันมีคนเดียวใน

00:35:1700:35:20 จักรวาลนี้การที่มันเราไม่ใช่จำเป็นว่าจะ

00:35:2000:35:22 ต้องเหมือนใครเราแค่ไม่ได้ทำให้ใครเดือด

00:35:2200:35:25 ร้อนไม่เบียดเบียนคนอื่นเนี่ยมันก็โอเค

00:35:2500:35:29 การที่เราต้องมองเห็นตัวเองตามความเป็น

00:35:2900:35:31 จริงปราศจากการเปรียบเทียบเนี่ยอันนี้

00:35:3100:35:34 เป็นสิ่งที่สำคัญหลังจากที่เรารู้จักตัว

00:35:3400:35:38 เองดีพอแล้วเนาะไม่เบียดเบียนตัวเองไม่

00:35:3800:35:40 เบียดเบียนคนอื่นแล้วอันที่ 2 ก็คือ

00:35:4000:35:43 เรื่องของ empati และ Embassy คือการที่

00:35:4300:35:46 เรามองเห็นคนอื่นด้วยเห็นจักรวาลที่ต่าง

00:35:4600:35:50 จากเราและเคารพกันและกันนะคะไม่พยายามที่

00:35:5100:35:54 จะให้เขามาอยู่ในวงโคจรเราหรือเอาตัวเอง

00:35:5400:35:56 ไปยัดเยียดในวงโคจรเขาอันที่ 3 ก็คือเรา

00:35:5600:35:59 มีวิธีการสร้างทางเชื่อมของจักรวาล

00:35:5900:36:02 ระหว่างเรากับคนอื่นนั่นก็คือการรู้จัก

00:36:0200:36:05 ฟังแล้วก็การสื่อสารอย่างสร้างสรรค์งั้น

00:36:0500:36:07 ฟังอย่างเดียวไม่สื่อสารเลยใครจะไปรู้ล่ะ

00:36:0700:36:10 ถูกไหมฉันเข้าใจฉันเข้าใจถ้าต้องการอะไร

00:36:1000:36:14 แต่ไม่สื่อสารอะไรเลยนะคะคนก็อาจจะไม่รู้

00:36:1400:36:16 คิดว่า 4 เสาหลักนี้คือ 4 เสาหลักที่

00:36:1600:36:17 สำคัญ

00:36:1700:36:21 ได้เจอคนมาเยอะมากเลยไม่ว่าจะผ่านทางวง

00:36:2100:36:24 การบันเทิงหรือว่าการทำการแพร่แบบนี้ค่ะ

00:36:2400:36:26 ทางจิตแพทย์ก็เลยอยากรู้ว่าเคยมีครั้งไหน

00:36:2600:36:28 หรือว่าเคยมีประสบการณ์ใหม่ไหมที่อยากจะ

00:36:2800:36:32 เปลี่ยนใครบางคนไปเลยนะคะไม่มีเลยอันนี้

00:36:3200:36:36 อาทิตย์ต่อด้วยความสับจิกนะไม่มีเลยแล้ว

00:36:3600:36:39 ในขณะเดียวกันเนี่ยพี่เองก็รู้สึกว่าไม่

00:36:3900:36:41 ได้อยากไม่ได้ต้องการให้ใครมาเปลี่ยนเรา

00:36:4200:36:45 ด้วยพี่คิดว่าความปรารถนาสูงสุดของมนุษย์

00:36:4500:36:47 เราทุกคนคืออิสรภาพดังนั้นในเมื่อเราเอง

00:36:4700:36:50 ก็อยากมีอิสรภาพเราจะไปฤทธิ์ร้อนอิสรภาพ

00:36:5000:36:54 ของคนอื่นทำไมแล้วก็อย่าลืมกลับมากดข้อ

00:36:5400:36:56 หนึ่งแล้วรับกรรมแทนกันไม่ได้ความทุกข์

00:36:5600:37:00 บางทีเขาถูกกำหนดมาแต่ว่าถึงเวลาเขาก็จะ

00:37:0000:37:03 เกิดปัญญาด้วยตัวเขานะไม่ต้องเอาเครดิต

00:37:0300:37:08 เข้าเราคือเรามีหน้าที่ในฐานะของนักบำบัด

00:37:0800:37:12 ในฐานะของเงินทองในฐานะของที่ปรึกษาที่นำ

00:37:1200:37:15 หน้าที่อำนวยความสะดวกเขาแค่นั้นเอง

00:37:1500:37:20 คิดว่าการที่เราจะไปแนะนำหรือว่าไปเป็นทอ

00:37:2000:37:23 แบบนี้ค่ะทำไมเราควรจะพัฒนาหรือว่าเราตัว

00:37:2300:37:25 เองก่อนที่เราจะไปรอคนอื่น

00:37:2500:37:29 พี่เชื่อในเรื่องของประสบการณ์สมมติว่า

00:37:2900:37:34 เราจะไปช่วยให้คนคนนึงเนี่ยเขารู้ว่าความ

00:37:3400:37:35 สุขเป็นยังไง

00:37:3500:37:38 จากพี่เอิ้นไม่รู้ว่าความรู้สึกคืออะไร

00:37:3900:37:43 พาเขาไปไหนดี

00:37:4300:37:46 ใช่ไหมก็เหมือนกระจายนะมันก็มันก็สอนได้

00:37:4600:37:49 แต่ว่าเออคิดว่าความสุขเป็นอย่างนี้แล้ว

00:37:4900:37:52 ก็สอนว่าเออฉันคิดว่าความสุขเป็นอย่าง

00:37:5200:37:54 เงี้ยมันก็ออกมาเป็น rector Content ใช่

00:37:5400:37:58 ไหมแต่คิดว่ามีความสุขกับการที่เราได้

00:37:5800:38:01 สัมผัสความสุขมันคนละเรื่องกันนะ

00:38:0100:38:05 งั้นเวลาเราจะไปดูแลใครเราจะพาเขาไปถึง

00:38:0500:38:08 ระดับไหนถึงระดับที่เออเธอเข้าใจไหมว่า

00:38:0800:38:10 คิดว่ามีความสุขมันเป็นยังไงกับพาเขาไป

00:38:1000:38:13 ถึงระดับที่แบบเดี๋ยวสัมผัสได้ไหมว่าตอน

00:38:1300:38:14 นี้คุณมีความสุข

00:38:1400:38:16 ต่างกัน

00:38:1600:38:20 มันก็เลยต้องเริ่มต้นที่ตัวเรา

00:38:2000:38:23 เพราะ 1 บทเพลงค่ะเกี่ยวกับการให้กำลังใจ

00:38:2300:38:25 ตัวเองค่ะสำหรับคนที่กำลังเหมือนกับอยาก

00:38:2500:38:27 เปลี่ยนแปลงตัวเองหรือว่าอยากพัฒนาตัวเอง

00:38:2700:38:30 ถ้างั้นพี่เอิ้นขอเลือกเพลงที่ตัวเองแต่ง

00:38:3000:38:34 นะแล้วก็รู้สึกชอบมากที่สุดเพลงหนึ่งนะคะ

00:38:3400:38:36 ก็คือเพลงจดหมายจากความงาม

00:38:3600:38:40 [เพลง]

00:38:4000:38:45 เธอจะรู้ว่าต่อให้เหงามากมายสักเท่าไรก็

00:38:4500:38:51 ไม่ทำร้ายใครให้ต้องถึงตายสบายใจได้เสมอ

00:38:5100:38:57 อดทนเอาไว้ในเวลาที่เหงา

00:38:5700:39:01 กลับมามองตัวเราและชีวิตจริง

00:39:0100:39:08 [เพลง]

00:39:0800:39:12 ๆเก่าที่แสนดี

00:39:1200:39:16 ทำไมถึงเลือกเพลงนี้ถามว่าความเหงาอยู่ใน

00:39:1600:39:20 เราทุกคนนะมีใครบ้างชอบความเหงาไม่ค่อยมี

00:39:2000:39:23 มาหาพี่เอิ้นเนี่ยเพราะว่าไม่อยากเหงาแต่

00:39:2300:39:25 ว่าอันนี้ก็คือเป็นสิ่งที่สะท้อนให้เรา

00:39:2500:39:29 รู้ว่าทุกอย่างบนโลกมี 2 ด้านเสมอนะแม้

00:39:2900:39:31 กระทั่งความเหงาที่เราไม่ชอบเนี่ยจริงๆ

00:39:3100:39:34 ถ้ามองมันตามความเป็นจริงมันก็มีข้อดี

00:39:3400:39:37 เหมือนกันงั้นทุกอย่างบนโลกนี้ที่เราคิด

00:39:3700:39:39 ว่ามันทำให้เรามีความทุกข์เพราะเราไม่ชอบ

00:39:3900:39:42 เพราะเราไม่อยากมีเพราะเราไม่อยากเป็น

00:39:4200:39:45 เพราะเราอยากมีอันนี้เพราะเราอยากได้อัน

00:39:4500:39:47 นั้นเนี่ยไอ้ทั้งสิ่งที่เราอยากและไม่

00:39:4700:39:50 อยากมันเป็นเหรียญสองด้านเสมอคิดลบก็มี

00:39:5000:39:54 ข้อดีนะความเศร้าก็มีข้อดีนะความกังวลก็

00:39:5400:39:57 มีข้อดีนะความเหงาก็มีข้อดีนะแล้วทำไม

00:39:5700:39:59 ต้องเพลงโทษมันด้วยล่ะคิดว่าถ้าเรามองได้

00:40:0000:40:03 แบบนี้ชีวิตจะเบาขึ้นมากทำไมเราไม่เกลา

00:40:0300:40:11 ตัวเองก่อนที่เราจะไปเกลาคนอื่น

00:40:1100:40:14 ก็ควรดูคลิปนี้จบแล้วอย่าลืมกดไลค์กดแชร์

00:40:1400:40:17 และกด Subscribe เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีม

00:40:1700:40:19 งานผลิต Content ดีๆและถ้าคุณอยากให้เรา

00:40:1900:40:21 ไปสัมภาษณ์ใครสามารถคอมเมนต์เข้ามาใต้

00:40:2100:40:24 คลิปนี้ได้เลยนะคะ