00:00:00 → 00:00:03 This Is tha PBS podcast View the
00:00:03 → 00:00:05 world vi The
00:00:05 → 00:00:08 Voice เรื่องของอาหารการกินเนี่ยบอกเลย
00:00:08 → 00:00:12 ว่าเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่มีความสำคัญมาก
00:00:12 → 00:00:15 เพราะการกินเนี่ยมันช่วยในการชะลอไวได้
00:00:15 → 00:00:18 จริงหลักการที่อาจารย์จะให้เนี่ยลดละ
00:00:18 → 00:00:21 เรี่ยงอาหารที่เร่งแก่น้ำตาลเวลามันกิน
00:00:21 → 00:00:25 เข้าไปเยอะๆมันจะไปทำปฏิกิริยาไชแล้วเกิด
00:00:25 → 00:00:28 สารที่ชื่อว่า Advance glycation End
00:00:28 → 00:00:30 product แล้วทำให้เซลล์ทั้งหลายแหล่
00:00:30 → 00:00:33 คอลลาเจนที่เป็นโปรตีนเนี่ยเสื่อมสภาพ
00:00:33 → 00:00:36 ครับน้ำตาลยิ่งสูงยิ่งทำให้เกิดริ้วรอย
00:00:36 → 00:00:39 แห่งวัยยิ่งทำให้ขาดความยืดหยุ่นของผิวทำ
00:00:39 → 00:00:42 ให้แก่เร็วแล้วไม่ใช่แค่หนังหน้าของเรา
00:00:42 → 00:00:44 อย่างเดียวเซลล์หลอดเลือดของเราก็จะขาด
00:00:44 → 00:00:46 ความยืดหยุ่นก็เสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ
00:00:46 → 00:00:47 แล้วหล่อ
00:00:47 → 00:00:52 วดฟังทุกเรื่องสุขภาพอัปเดตทุกโรคภัยฟัง
00:00:52 → 00:00:55 รายการโรงหมอกับดิฉันสุรีพรวงสถิตพรค่ะ
00:00:55 → 00:00:57 This Is Toy PBS
00:00:57 → 00:01:01 podcast วันนี้มาติดตามกันนะคะถึงเรื่อง
00:01:01 → 00:01:04 นี้น่าสนใจมากนะคะน่าจะเป็นแนวทางสำหรับ
00:01:04 → 00:01:07 คุณผู้ฟังหลายๆท่านได้กับชะลอวัยด้วยการ
00:01:07 → 00:01:10 กินค่ะเฮ้ยช่วยได้เหรอหรือว่าเออก็เป็น
00:01:10 → 00:01:12 ส่วนหนึ่งแต่ว่าเราจะต้องไปพึ่งหมออีก
00:01:12 → 00:01:14 หรือเปล่าไม่แน่ใจนะคะเดี๋ยวคุยกับผู้
00:01:15 → 00:01:17 ช่วยศาสตราจารย์ดรเอกราชบำรุงพืชจาก
00:01:17 → 00:01:20 วิทยาลัยการแพทย์บุรณาการมหาวิทยาลัย
00:01:20 → 00:01:22 ธุรกิจบัณฑิตค่ะสวัสดีค่ะอาจารย์คาสวัสดี
00:01:22 → 00:01:25 ครับโอ๊เป็นหัวข้อที่อยากฟังมากๆเลยเพราะ
00:01:25 → 00:01:28 ว่ากำลังตัดสินใจจะไปพึ่งหมอ
00:01:28 → 00:01:32 มชะลอไวด้วยการกินเพราะว่าตอนนี้รู้สึก
00:01:32 → 00:01:37 ว่าเฮ้ยพอเริ่มอายุมากๆเข้าเนี่ยมันไปไว
00:01:37 → 00:01:42 มากเลยค่ะครับนะมันก็แบบอาจจะถ้าไปทำสแกน
00:01:42 → 00:01:44 หรืออะไรเงี้ยอาจจะทำให้เห็นว่าใบหน้า
00:01:44 → 00:01:48 เนี่ยน่าจะไปก่อนอายุเยอะเลยอืออะไร
00:01:48 → 00:01:51 ประมาณนี้เพราะฉะนั้นอ่ะอาหารการกินช่วย
00:01:51 → 00:01:54 ได้ใช่มั้ยคะอาจารยอ่าต้องบอกก่อนว่าช่วย
00:01:54 → 00:01:57 ได้ครับในการชะลอวัยเนาะซึ่งคนส่วนใหญ่
00:01:58 → 00:02:02 เนี่ยมักจะมองภายนอกเป็นหลักก่อนอ่าว่า
00:02:02 → 00:02:07 เฮ้ยเริ่มเหี่ยวย่นหย่อนยานอันนี้คือ
00:02:07 → 00:02:10 กระพีนะมันคือภายนอกนึกออกมั้ยมันเป็น
00:02:10 → 00:02:13 เรื่องของผิวพรรณว่าเฮ้ยฉันเริ่มอายุเยอะ
00:02:13 → 00:02:19 แลนะเริ่มมีเอ่อบาทากามาประทับนะที่หาตา
00:02:19 → 00:02:22 และยิ้เยอะเริ่มมีริ้วรอยนะอย่างที่บอก
00:02:22 → 00:02:25 นั่นคือร่องน้ำหมากอ่าภายนอกที่เริ่มที่
00:02:25 → 00:02:29 จะเปลี่ยนแปลงและนะก็เป็นออันนึงทรายอัน
00:02:29 → 00:02:32 นึงของความชราหรือ aging พสที่เกิดขึ้นนะ
00:02:32 → 00:02:35 มีความเหี่ยวย่นหย่อนยามนไปตามวัยเนาะ
00:02:35 → 00:02:39 ส่วนภายในนะก็เซลล์ก็เริ่มเสื่อมเริ่มแก่
00:02:39 → 00:02:42 เริ่มตายเริ่มกายพันธแล้วก็เกิดโรคเรื้อ
00:02:42 → 00:02:46 รังสารพัดมาคล้องจองกันเชียวอ่าในขณะ
00:02:46 → 00:02:52 เดียวกันเอก็จะเริ่มลงพุงอุยก้ามหดหมดแรง
00:02:52 → 00:02:55 นะเตะปี๊บไม่ดังเรี่ยวแรงไม่ค่อยมีเหมือน
00:02:55 → 00:02:58 สมัยว้รุ่งหนุ่มสาวเห็นมยแล้วก็จะมีอาการ
00:02:58 → 00:03:01 เหล่าเนี้ยอืๆที่โบ่งชี้ไปตามวัยว่าอุย
00:03:01 → 00:03:05 เวลาอายุเพิ่มมากขึ้นอืเขียวโยนหย่อนยาน
00:03:05 → 00:03:07 นะเซลล์เสื่อมแก่ตายกายพันธุ์เกิดโรก
00:03:07 → 00:03:10 เรื้อรังนะรงภูมิกล้ามหดหมดแรงเออนะมันก็
00:03:10 → 00:03:14 มาไปเนี่ยคือสิ่งที่เกิดขึ้นนะสิ่งตาม
00:03:14 → 00:03:18 ธรรมชาติใช่มั้ตามธรรมชาติเราก็พยายามไป
00:03:18 → 00:03:21 ต้านแรงโน้มถ่วงนเทอร์มาเอาเทอล่าอะไรกัน
00:03:21 → 00:03:25 เข้าไปดึงดึงเหนียงดึงเหนียงดึงหน้ากัน
00:03:25 → 00:03:30 เข้าไปนะไปไปสารพัดวิธีการเลยอแต่ว่าเบอก
00:03:30 → 00:03:33 ว่าทำทำบุญสวยทำบุญได้ชาติหน้าทำสวยได้
00:03:33 → 00:03:36 ชาตินี้เลยรีบเลยใช่ทำหน้าสวยชาตินี้มัน
00:03:36 → 00:03:38 จะไปโอ้โหกว่าจะกินกว่าจะสวยอาจารย์มัน
00:03:38 → 00:03:42 ไม่ทันใจนะอเข้าใจเข้าใจมันต้องดูแลผสาน
00:03:42 → 00:03:48 กันครับอือจากภายในสู่ภายนอกส่วนภายนอกก็
00:03:48 → 00:03:51 ได้นะเพอาจารย์เข้าใจว่าแบบเฮ้ยภายนอก
00:03:51 → 00:03:54 เนี่ยเฮ้ยมันเห็นผลทันทีเลยนะแต่ภายนอก
00:03:54 → 00:03:56 เนี่ยคุณก็ต้องคอยขนาดโบท็อกซ์ก็ต้องไป
00:03:56 → 00:04:00 คอยเติมทุก 3 เดือนทุก 6 เดือนอนะคนดื้อ
00:04:00 → 00:04:03 โบท็อกซ์ไปแล้วอ่าไปแล้วก็ไปโอโหนวัตกรรม
00:04:03 → 00:04:06 นู่นนี่นั่นเทอหมาดเอาเทล่าเลเซอร์ทำอะไร
00:04:06 → 00:04:11 สารพัดนะครับเพื่อที่จะแบบเฮ้ยชะลอไวนะ
00:04:11 → 00:04:14 บางคนย้อนไวเลยแหละนะจะให้มันกลับคืนมา
00:04:14 → 00:04:17 ให้มันวัยลุ่นหนุ่มสาวนะภายนอกแต่อย่าลืม
00:04:17 → 00:04:19 นะว่านั่นคือภายนอกแต่ภายในก็เป็นสิ่ง
00:04:19 → 00:04:23 สำคัญนะไม่ใช่ว่าแบบหน้าเด้งตึงมาในระยะ
00:04:23 → 00:04:26 300 เมตแต่เป็นไงครับสมองเริ่มเสื่อม
00:04:26 → 00:04:29 ความจำไม่ดีเบาหวานน้ำตาลเริ่มขึ้นไขมัน
00:04:29 → 00:04:32 เริ่มขึ้นนึกออกมั้ยครับอันนี้คือภายใน
00:04:32 → 00:04:35 ที่อาจารย์ว่าใช่ครับเซลล์คือภายในระบบ
00:04:35 → 00:04:39 หัวใจและหลอดเลือดระบบปกระบบปอดนะเดิน
00:04:39 → 00:04:42 ขึ้นมาไดนิดนึงหอบแหกแต่หน้านี่ชันกลิ้ง
00:04:42 → 00:04:45 นะหน้าเด้งมาแต่ไกลในระยะ 300 เมตเดินหอ
00:04:45 → 00:04:49 แต่เดินหอบแต่เดินนี่แบบโอ้ยหอบนะ 3 วัน 4
00:04:49 → 00:04:52 วัน 3 วันดี 4 วันไข้อิฐอนั่นมันก็ไม่
00:04:52 → 00:04:55 โอเคถูกมยอ๋อแสดงว่ามันต้องไปพร้อมกันถูก
00:04:55 → 00:04:59 ต้องก็คือจากภายในสู่ภายนอกส่วนภายนอกก็
00:04:59 → 00:05:02 ประโคมเข้าไปนะแล้วแต่แล้วแต่เรามันก็
00:05:02 → 00:05:05 ต้องดูแลภาสาร่วมกันนะซึ่งเรื่องของอาหาร
00:05:05 → 00:05:09 การกินเนี่ยบอกเลยว่าเป็นอีกหนึสิ่งที่มี
00:05:09 → 00:05:14 ความสำคัญมากในเรื่องการอกินนะเพราะการ
00:05:14 → 00:05:18 กินเนี่ยมันช่วยในการชะลอวัยได้จริงนะ
00:05:18 → 00:05:21 ครับหลักการที่อาจารย์จะให้เนี่ยก็คือ 3
00:05:21 → 00:05:27 รอด้วยกันอ้าให้รอะรอด้วยกันถูกต้องนะให้
00:05:27 → 00:05:30 รอเลยนะ 3 รอคืออ
00:05:30 → 00:05:36 ลดเลือกนะแล้วก็หลักนะลดในที่นี้ก็คือ
00:05:36 → 00:05:40 หลักหลักครับไม่ใช่หลักอ๋อกหลักคือหลัก
00:05:40 → 00:05:41 การ
00:05:41 → 00:05:45 อมลรถในที่นี้คืออย่างแรกเลยคือรถรถอะไร
00:05:45 → 00:05:50 ครับรดละเรี่ยงอาหารที่เร่งแก่แย่ต่อ
00:05:50 → 00:05:54 สุขภาพอาหารเร่งแก่ถูกต้องคือกินแล้วแก่
00:05:54 → 00:06:00 เร็วอ่ะอ่าเพราะอะไรต้องรดก่อนอ่าเพราะ
00:06:00 → 00:06:03 ต่อให้คุณน่ะมีอาหารชะลอไวยอะไรมาก็ตาม
00:06:03 → 00:06:06 แต่แต่สิ่งที่เป็นตัวเร่งแก่อ่ะคุณลีนึก
00:06:06 → 00:06:09 ออกมั้ยครับค่ะอ้ามันจะชะลอยังไงแต่คุณ
00:06:09 → 00:06:14 น่ะก็ยังเสพยังกินนะยังดื่มไอ้สารเร่งแก่
00:06:14 → 00:06:19 ก็คือน้ำตาลครับอ๋ออ๋อมีหน้ามีเคยถามรุ่น
00:06:19 → 00:06:22 น้องเหมือนกันค่ะอาจารย์แล้วก็คุณผู้ฟัง
00:06:22 → 00:06:24 ว่าเฮ้ยทำยังไงให้แบบพี่รู้สึกว่าหน้าไม่
00:06:24 → 00:06:27 แก่อะไรเงี้ยคำตอบที่หันกลับมาแบบดู
00:06:27 → 00:06:30 เหมือนไร้ไร้เยื่อใยแต่มันคือความจริงงด
00:06:30 → 00:06:33 กินน้ำตาลพี่ใช่อาจารย์ไม่ได้บอกให้งดนะ
00:06:33 → 00:06:37 อาจารย์แค่ให้รดรดหรออ่าให้รดเพราะเรารู้
00:06:37 → 00:06:40 ว่าแบบบางคนงดเี่อาจจะต้องพาไปถ้ำกระบอก
00:06:40 → 00:06:43 เลยนะเพื่อให้เลิกยากนะน้ำตาลน่ะอ่าก็ให้
00:06:43 → 00:06:47 รดอ่าอ่าให้ละให้เลี่ยงแต่ก็ไม่ได้บอกให้
00:06:47 → 00:06:51 เลิกนะเพราะบอสุขอความสุขของบางคนคือการ
00:06:51 → 00:06:54 กินหวานๆเล็กๆน้อยๆแต่เราต้องอ่อนหวาน
00:06:54 → 00:06:57 ก่อนแล้วแล้วเนี่ยต่อให้มีอาหารชะลอไว
00:06:57 → 00:07:00 หรืออะไรก็ตามแต่มาแต่คุณยังโอ้โหประโคม
00:07:01 → 00:07:04 น้ำตาลเข้าสู่ร่างกายค่ะมันก็เกินต้านคุณ
00:07:04 → 00:07:07 ลีนึกออกมั้ยแล้วแล้วก่อนที่ยังไงก็ตาม
00:07:07 → 00:07:11 แต่เนี่ยคุณบอกคุณเอาน้ำดีมาไล่น้ำเสีย
00:07:11 → 00:07:13 แต่น้ำเสียคุณก็ยังเติมเข้าไปไม่หยุดมัน
00:07:13 → 00:07:17 ก็ไล่ไม่หมดเออใช่คุณก็ต้องลดน้ำดีแล้วก็
00:07:17 → 00:07:19 พยายามเติมเอ้ยลดน้ำเสียแล้วก็เติมน้ำดี
00:07:19 → 00:07:22 เข้าไปเยอะๆไดรูทเข้าไปนึกออกมั้ยครับอ่า
00:07:22 → 00:07:25 ก็เหมือนแบบใส่น้ำตาลเข้าไปอ่ะค่ะกุลีก็
00:07:25 → 00:07:28 เติมน้ำตาลเข้าไปใส่เข้าไปแล้วน้ำเปล่า
00:07:28 → 00:07:31 เนี่ยใส่เข้าไปมันยังไงมันก็แบบโอโหไม่
00:07:31 → 00:07:33 หมดหรอกเพราะน้ำตาลมันไม่หยุดเติมอ่ะมัน
00:07:33 → 00:07:35 มีเติมมากขึ้นมากขึ้นมากขึ้นคุณเติมน้ำ
00:07:35 → 00:07:37 เปล่าเข้าไปก็ไม่เท่ามันก็มันก็ยังคงความ
00:07:37 → 00:07:40 หวานอยู่ดีเพราะคุณใส่น้ำตาลเข้าไปสูงๆๆๆ
00:07:40 → 00:07:44 ๆในร่างกายของคุณคุณก็ต้องลดพยายามลดอ่า
00:07:44 → 00:07:47 จนพอท้ายที่สุดปุ๊บอ่ะเฮ้ยความหวานมัน
00:07:47 → 00:07:51 เจือจางอ่ามันก็จะเกิดการชะลอไวขึ้นใน
00:07:51 → 00:07:54 ร่างกายขึ้นอันเนี้ยจะเห็นภาพชัดเออใช่มี
00:07:55 → 00:07:58 คนบอกว่าถ้าลดน้ำตาลได้นะจะดีขึ้นเห็นๆ
00:07:58 → 00:08:01 เลยแต่อาจารย์น้ำตาลเนี่ยมันไม่ใช่เป็น
00:08:01 → 00:08:03 น้ำตาลที่เราเติมลงไปในอาหารอย่างเดียว
00:08:03 → 00:08:06 มันมีน้ำตาลจากอย่างอื่นแงเข้าใจครับน้ำ
00:08:06 → 00:08:10 ตาลแฝงนะที่มันแฝงมาจากในน้ำหวานน้ำอัดลม
00:08:11 → 00:08:16 ชานมไข่มุกน้ำหาอ่าในพวกคุกกี้
00:08:16 → 00:08:18 เบอร์เกอรี่อะไรทั้งหลายแหล่ของหวานทั้ง
00:08:18 → 00:08:21 หลายแหล่นี่แหละออ่าแต่คุณไม่ต้องไปกลัว
00:08:21 → 00:08:25 แบบอ้าผลไม้ล่ะผลไม้ก็หวานแต่อย่าลืมว่า
00:08:25 → 00:08:29 คุณกินผลไม้เนี่ยมันมีไฟเบอร์อืๆมันมีใย
00:08:29 → 00:08:31 อาหารมันมีสารพฤกษสักเคมีอยู่ด้วยมีอย่า
00:08:31 → 00:08:33 อื่นที่ช่วยในการที่จะ
00:08:33 → 00:08:36 ชะลอหรือล้มล้างฤทธิ์ความเป็นพริกของน้ำ
00:08:36 → 00:08:40 ตาลอออ่าแต่ถ้าคุณกินอย่างอื่นตรงๆเงี้ย
00:08:40 → 00:08:43 น้ำหวานเงี้ยค่ะมันได้รับตรงๆเลยอ่ะอชานม
00:08:43 → 00:08:46 อย่างเงี้ยคุณก็ได้รับน้ำตาลตรงๆแฝงอยู่
00:08:46 → 00:08:48 อย่างเงี้ยคุณกินแบบนมเปรี้ยวอย่างเงี้ย
00:08:48 → 00:08:51 คุณกินแบบเฮ้ยส่วนใหญ่เป็นผลิตภัณฑ์ทั้ง
00:08:51 → 00:08:55 หลายแหล่ที่มีน้ำตาลแฝงอยู่อสูงแล้วน้ำ
00:08:55 → 00:08:57 ตาลเวลามันกินเข้าไปเยอะๆได้รับเข้าไปมาก
00:08:57 → 00:09:01 ๆเนี่ยมันจะไปทำปติกกิริยาทางวิทยาศาสตร์
00:09:01 → 00:09:02 เขาเรียกว่า
00:09:02 → 00:09:04 ไชัคือไปจับกับ
00:09:05 → 00:09:08 โปรตีนแล้วเกิดสารที่ชื่อว่า Advance
00:09:08 → 00:09:11 kation End product ชื่อย่อว่า AG ที่
00:09:11 → 00:09:16 แปลว่าแก่เลยอ่ะเถูกมยทำให้จิง AG เนี่ย
00:09:16 → 00:09:19 ย่อรวมกันมากลายเป็นคำนี้เฉยเลยอสารเร่ง
00:09:19 → 00:09:22 แกอจะเกิดขึ้นเยอะเวลาเรากินน้ำตาลเข้าไป
00:09:23 → 00:09:25 เยอะมากมากค่ะแล้วน้ำตาลไปทำไปยากับ
00:09:25 → 00:09:29 โปรตีนแล้วทำให้เซลล์ทั้งหลายแหล่
00:09:29 → 00:09:32 คอลลาเจนน่าที่เป็นโปรตีนเนี่ยเสื่อมสภาพ
00:09:32 → 00:09:36 ครับขาดความยืดหยุ่นอ้าวอ่าอิลาสทรง
00:09:36 → 00:09:38 อิลาสตินเด้งดึเด้งดึงเนี่ยขาดเลยอาจารย์
00:09:38 → 00:09:41 มักจะเปรียบเทียบให้นักศึกษาฟังเวลาสอน
00:09:41 → 00:09:44 หนังสือบอกว่าเนี่ยน้ำตาลเข้าไปเยอะๆนะ
00:09:44 → 00:09:48 มันจะไปทำกิริยากับโปรตีนคุณผู้ฟังเคยต้ม
00:09:48 → 00:09:52 ไข่ใช่มั้ยไข่ต้มออ่าปอกเปลือกเอานิ้วกด
00:09:52 → 00:09:54 ไข่ขาวเด้งดึงเด้งดึ๋เด้งดึ๋เมื่อไหร่ก็
00:09:54 → 00:09:57 ตามที่โยนไข่ลงหม้อแล้วสาดน้ำตาลลงไปทำ
00:09:57 → 00:10:01 ไข่พะโรครับอาฮะแล้วเคี่ยวไปใส่น้ำตาล
00:10:01 → 00:10:05 เยอะๆไข่แข็งมครับแข็งแข็งนะกดแล้วขาด
00:10:05 → 00:10:07 ความยืดหยุ่นไม่เด้งดึ๋เดดึงเลยอ่านั่นก็
00:10:07 → 00:10:10 คือนั่นคือปฏิกิยาไกลเคชั่นเลยครับอ๋อเหร
00:10:10 → 00:10:13 ปฏิกิริยาที่ทำให้น้ำตาลเนี่ยไปทำ
00:10:13 → 00:10:17 ปฏิกิริยากับโมเลกุลของโปรตีนแล้วทำให้
00:10:17 → 00:10:20 มันเสื่อมสภาพขาดความยืดหยุ่นอเป็นความ
00:10:20 → 00:10:23 ตึงผิวอ่าแข็งเลยอ่ะผิวเราไม่ยืดหยุ่นนะ
00:10:23 → 00:10:25 กดแล้วแบบว่าแทนที่จะเด้งดึงเดดึงยืด
00:10:25 → 00:10:28 หยุ่นได้ดีไม่ครับมันก็จะเสื่อมสภาพมัน
00:10:28 → 00:10:30 ไม่ได้เหมือนปลาที่กดไปแล้วบุมแล้วอะไร
00:10:30 → 00:10:33 อย่างงั้นนะคือแบบใช่อแล้วเนี่ยอันเนี้ย
00:10:33 → 00:10:36 เป็นปฏิกิริยาไกลเคชั่นที่น้ำตาลยิ่งสูง
00:10:36 → 00:10:40 ยิ่งทำให้เกิดริ้วรอยแห่งวัยยิ่งทำให้ขาด
00:10:40 → 00:10:43 ความยืดหยุ่นของผิวทำให้แก่เร็วแล้วไม่
00:10:43 → 00:10:46 ใช่แค่หนังหน้าของเราอย่างเดียวที่เกิด
00:10:46 → 00:10:49 ความเหี่ยวค่ะความแก่มีอย่างอื่นอีกเซลล์
00:10:49 → 00:10:51 หลอดเลือดของเราก็จะขาดความยืดหยุ่นมันก็
00:10:51 → 00:10:55 จะแข็งตัวอออก็เสี่ยงกับการเกิดโรคหัวใจ
00:10:55 → 00:10:59 แล้วหลอเลือดอือ่าแล้วมันก็ไปมีผลเสียง
00:10:59 → 00:11:01 หมดเลยสมองก็เสื่อมเร็วนะครับเผ่าตัดเอา
00:11:01 → 00:11:04 หัวสมองของคนที่เป็นเบาหวานกับคนที่ปกติ
00:11:04 → 00:11:07 น้ำตาลปกติมาเปรียบเทียบกันเนี่ยสมองของ
00:11:07 → 00:11:09 คนที่เป็นเบาหวานเนี่ยแช่อิ่มไปด้วยน้ำ
00:11:09 → 00:11:12 ตาลเนี่ยเหี่วลี่ฟี่ฟอนะครับอาจารย์จริง
00:11:12 → 00:11:16 หรอจริงครับน้ำหนักสมองรดเลยสมองฟ่อน้ำ
00:11:16 → 00:11:19 ตาลมันไปแช่อิ่มอ่ะน้ำตาลสูงอ่ะอออ่าแล้ว
00:11:19 → 00:11:22 เบาหวานขึ้นตาอย่างเงี้ยนึกออกมั้ยครับ
00:11:22 → 00:11:26 เป็นต่อตาฝ้าฟางอุ้ยเห็นมั้ยน้ำตาลไม่ไม่
00:11:26 → 00:11:28 ระบบหัวใจแล้วหรอเลือดอ้าเบาหวานก็ขึ้น
00:11:28 → 00:11:31 น้ำน้ำตาลอยู่ในเลือดสูงคุณลีนึกออกมั้ย
00:11:31 → 00:11:34 ครับว่าภาพแบบน้ำเชื่อมอ่ะหลอดเลือดเรา
00:11:34 → 00:11:36 หัวใจของเราก็ต้องบีบตัวแรงขึ้นเพราะมัน
00:11:36 → 00:11:40 หนืดออ่ามันข้นเหนียวหนืดมันก็ต้องบีบตัว
00:11:40 → 00:11:45 แรงความดันขึ้นอีกนึกออกถอนหายใจเลยเออ
00:11:45 → 00:11:48 มันสารพัดเลยแล้วน้ำตาลมันก็จะไปทำให้ไข
00:11:48 → 00:11:51 มันสะสมในช่องท้องเพิ่มขึ้นไปพอกที่ตับ
00:11:51 → 00:11:54 เราเพิ่มขึ้นอุยไม่อยากเป็นไขมันพอกตับไข
00:11:54 → 00:11:55 มันพอกตับเลยเพราะน้ำตาลมันเปลี่ยนไปเป็น
00:11:55 → 00:11:58 ไตรกีสไลด์ไขมันพอกตับแล้วก็เปลี่ยนไป
00:11:58 → 00:12:01 เป็นไตรกีสไลเก็บสะสมในช่องท้องอือ่างั้น
00:12:01 → 00:12:03 แล้วแบบโอ้โหน้ำตาลนี่
00:12:03 → 00:12:07 แบบสารพัดเลยคุณหมอแอนไท aging หลายๆท่าน
00:12:07 → 00:12:10 เลยบอกว่าโอยน้ำตาลคือยาพิษอืเพราะกิน
00:12:10 → 00:12:14 เยอะมากมันไม่ดีไงมันมันไม่ดีมันแบบว่าโห
00:12:14 → 00:12:17 มันเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเรื้อรัง
00:12:17 → 00:12:21 นะเยอะมากอ่ะไล่ตั้งแต่หัวจดเท้าเลยนะอ
00:12:21 → 00:12:24 แล้วอย่างงี้น้ำผึ้งหวานๆเน้ำผึ้งที่ได้
00:12:24 → 00:12:26 จากธรรมชาติอ่าอันนั้นเป็นน้ำตาลฟุ๊กโตส
00:12:26 → 00:12:29 ซึ่งสามารถรับประทานได้นะแต่ก็ต้องมี
00:12:29 → 00:12:31 ปริมาณจำกัดแม้กระทั่งน้ำตาลทรายอ่ะเรา
00:12:31 → 00:12:35 ถึงบอกว่าเฮ้ยวันนึงไม่ควรเกิน 24 กรัม
00:12:35 → 00:12:38 หรือ 6 ช้อนชาไม่ควรเกินนี้ค่ะอ่าเรากิน
00:12:38 → 00:12:41 ได้นี่คือโควต้าของเราแต่ถ้าเราไม่กิน
00:12:41 → 00:12:43 หรือกินน้อยมันก็เกิดประประโยชน์กับเรา
00:12:43 → 00:12:47 อ่ะแต่ว่าถ้าถ้าไม่เกินโควต้าแต่กินทุก
00:12:47 → 00:12:49 วันมันมีผลเสียมั้ยอ่ะกินทุกวันแต่ไม่
00:12:49 → 00:12:52 เกินโควต้าก็โอเคครับยังโอเคนะปัจจุบัน
00:12:52 → 00:12:55 นี้ก็จะอยู่ที่ตัวเลขเท่าเนี้ยก็ยังพอไหว
00:12:55 → 00:12:57 อ่าแต่ถ้าคุณกินแล้วคุณมีกิจกรรมทางกาย
00:12:57 → 00:13:00 คุณไปเดินหลังอาหารมึงละ 10 นาทีวันนึง 3
00:13:00 → 00:13:03 มื้อก็ 30 นาทีแล้วอ่ามันช่วยได้นะช่วยใน
00:13:03 → 00:13:05 การเผาผันน้ำตาลหลังมื้ออาหารได้การเดิน
00:13:05 → 00:13:08 เนี่ยูสะสมไว้ถูกต้องแต่ถ้าคุณกินแล้ว
00:13:08 → 00:13:12 นั่งๆนอนๆก็มีโอกาสอือฮึอ่าที่จะไปพอกพูน
00:13:12 → 00:13:15 สะสมทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการเกิดโรค
00:13:15 → 00:13:17 ทั้งหลายแหล่นะทำให้เราแก่เร็วคือเสื่อม
00:13:17 → 00:13:20 ทั้งภายนอกผิวพรรณหย่อนยานทั้งภายในทั้ง
00:13:20 → 00:13:23 หลายแหล่ก็จากน้ำตาลนี่แหละเราไม่กินน้ำ
00:13:23 → 00:13:26 ตาลได้มั้ยชีวิตนี้อาจารย์ได้ป่าได้เพราะ
00:13:26 → 00:13:28 เรากินข้าวกินแป้งมันก็ถูกสลายเป็นน้ำตาล
00:13:28 → 00:13:30 อยู่ดี
00:13:30 → 00:13:34 อ๋อมันก็ให้พลังงานสำหรับร่างกายของเรา
00:13:34 → 00:13:37 แต่ถ้าเป็นข้าวขัดไม่ขัดสีเอออ่ะยิ่งดี
00:13:37 → 00:13:40 ใช่มคะใช่ครับข้าวกล้องข้าวซ้อมมือทั้ง
00:13:40 → 00:13:43 หลายแหล่ข้าวแดงข้าวอะไรอ่ะกล้องมันปู
00:13:43 → 00:13:46 ข้าวกำข้าวอะไรสีเหล็กอะไรพวกเนี้ยก็จะ
00:13:46 → 00:13:48 ดัชนีน้ำตาลต่ำอันนี้ก็ดีเนาะซึ่ง
00:13:48 → 00:13:51 อันเนี้ยที่คุณรีถามมาเนี่ยดีมากเลยเพราะ
00:13:51 → 00:13:57 ว่าหลักการแรกคือรดรสคือรสพวกน้ำตาลตลอ่า
00:13:57 → 00:14:02 ถ้าอยากจะชะลอไวหค่ะที่เลือเลือครับเลือก
00:14:02 → 00:14:06 อาหารชลแต่ละหมดหมคุณจะกินข้าวแป้งคุณก็
00:14:06 → 00:14:09 กินข้าวแป้งไม่ขัดสีเพราะมันทำให้น้ำตาล
00:14:09 → 00:14:13 ในเลือดเนี่ยขึ้นไม่สูงไม่พีคค่ะอ่าทำให้
00:14:13 → 00:14:16 อิ่มได้นานนะแล้วน้ำตาลในเลือดก็ไม่ขึ้น
00:14:16 → 00:14:20 สูงค่ะอ่าอันเนี้ยคือกลุ่มเนี้ยข้าวกล้อง
00:14:20 → 00:14:25 ข้าวไรเบอร์รี่ข้าวสีเหล็กข้าวกข 43 ขนม
00:14:25 → 00:14:30 ปังฮวีอือันเนี้ยคือเลือกค่ะเพราะเรา
00:14:30 → 00:14:34 เลือกได้นี่อ่าเรากินโปรตีนนะในสาสชลอวัย
00:14:34 → 00:14:39 เขาให้เลี่ยงเนื้อแดงแล้วให้เน้นเนื้อขาว
00:14:39 → 00:14:41 ไม่ใช่คากิหมูกรอบนะครับคุณผู้ฟังเนื้อ
00:14:41 → 00:14:46 ขาวก็คือพวกปลาปลาอกไก่ไข่ขาวอ่าโปรตีน
00:14:46 → 00:14:49 จากพืชทั้งหลายแหล่อันนี้ก็ช่วยได้ในการ
00:14:49 → 00:14:55 ชะลอวยซึ่งเราเลี่ยงพวกเนื้อเนื้อแดงนะ
00:14:55 → 00:14:58 เนื้อพต Food เนื้อแปรรูปอ่ะครับไปทำใส่
00:14:58 → 00:15:02 กรอกหมูหูยอกุนเชียงแฮมเบคอนโอยอร่อยอ่า
00:15:02 → 00:15:06 อร่อยพวกนี้นี่แหละนะมันมันทำให้เราเนี่ย
00:15:06 → 00:15:11 ได้รับพวกสารปรุงแต่งทั้งหลายแหล่อือ่า
00:15:11 → 00:15:16 ไนเตรตไนไตรสารก่อมะเร็งมันแฝงอยู่พวกพสต
00:15:16 → 00:15:19 Food เขาถึงให้เน้นว่ากินเรว Food อือ่า
00:15:19 → 00:15:22 คือดูปุ๊บเนี่ยหรือฟู้ดว่าดูปุ๊บเรารู้นะ
00:15:22 → 00:15:25 ว่ามันเป็นปลาค่ะไม่ใช่ดูปุ๊บเอ้ยนี่ลูก
00:15:25 → 00:15:28 ชิ้นลูกชิ้นอะไรอ่ะลูกชิ้นปลาเหรอลูกชิ้น
00:15:28 → 00:15:30 ไก่เหรอหรือลูกชิ้นหมูเหรอนึกออกมั้ยครับ
00:15:30 → 00:15:33 หรือลูกชิ้นใส่บอแรกเหรออ๋อไม่ใช่อะไรล่ะ
00:15:33 → 00:15:36 ลูกชิ้นกวนเองกวนเองใช่ที่มีลูกชิ้น
00:15:36 → 00:15:39 เถื่อนอยู่ช่วงนึงอย่างเงี้ยเพราะมันพอ
00:15:39 → 00:15:42 เสษฟู้ดไงอืมันก็ไม่รู้อ่ะคุณก็กินเป็น
00:15:42 → 00:15:45 ปลาเป็นไข่เป็นไก่อ้าวอ่าอย่างเงี้ยไปเลย
00:15:45 → 00:15:48 แต่ถ้าเนื้อปลาแบบโฟรเซ่นแบบว่าแช่แข็ง
00:15:48 → 00:15:50 ได้ครับก็มันไม่ได้ไปแปรรูปไงแต่ถ้าปลา
00:15:50 → 00:15:53 เอาไปแปรรูปไปเป็นลูกชิ้นอย่างเงี้ยเราก็
00:15:53 → 00:15:56 ไม่รู้แหละอ่าเดี๋ยวเดี๋ยวลูกชิ้นเขาจะมา
00:15:56 → 00:15:59 ว่าอาจารย์ขายยอดตกก็อาจารย์ก็กินนะอ่า
00:15:59 → 00:16:02 แต่แค่ว่าแบบเฮ้ยเลือกที่มันมาตรฐานเชื่อ
00:16:02 → 00:16:04 ถือได้อะไรเงี้ยแล้วไม่ใช่ว่ากินมันทุก
00:16:04 → 00:16:07 วันอค่ะนึกออกมั้ยครับอ่านานๆกินทีอย่าง
00:16:07 → 00:16:10 เงี้ยก็โอเคอันนี้คือหมวดโปรตีนหมวดไขมัน
00:16:10 → 00:16:13 เนาะไขมันที่ดีก็ออย่างที่เคยบอกไปว่า
00:16:13 → 00:16:18 เอ้ยเป็นกลุ่มของพวกโอเมก้า 9 โอเมก้า 3
00:16:18 → 00:16:22 นะที่ช่วยในการชะลอวัยห่างไกลโรคก็คือพวก
00:16:22 → 00:16:26 น้ำมันมะกรอกน้ำมันรำข้าวน้ำมันเมล็ดชานะ
00:16:26 → 00:16:28 ถ้าเราใช้ผานความร้อนไม่สูงก็น้ำมันมะกอก
00:16:28 → 00:16:30 ที่เป็นแบบ
00:16:30 → 00:16:33 เอ่อสกัดเย็นอย่างเงี้ยเราก็จะได้คุณค่า
00:16:33 → 00:16:37 ทางโภชนาการเพิ่มมากขึ้นนะใช้ในนๆคุณเอา
00:16:37 → 00:16:41 ไปใส่น้ำสลัดก็ได้หรือบางทีเนี่ยอาจารย์
00:16:41 → 00:16:46 ก็จะใส่ในซุปน้ำซุปอ๋อแกงจืดหรืออะไร
00:16:46 → 00:16:48 อย่างเงี้ยซุปต้มเติ้มอะไรอย่างเงี้ยแล้ว
00:16:48 → 00:16:52 ก็ใส่เข้าไปอ่าสัก 1 ช้อนชา 1 ช้อนก็ไม่
00:16:52 → 00:16:54 ได้เยอะเนาะใส่เข้าไปอย่างเงี้ย 1 ช้อน 2
00:16:54 → 00:16:59 ช้อนเราก็ได้รับไขมันดีและอือ่าพวกเนี้ย
00:16:59 → 00:17:00 จากจาก
00:17:00 → 00:17:05 เอ่อโอเมก้า 3 จากพวกปลาที่ต้องแบบอุ้ย
00:17:05 → 00:17:09 กินทุกวันออ่าเพราะมันได้ไขมันดีค่ะอ่า
00:17:09 → 00:17:12 มันได้โปรตีนที่ดีอย่างเงี้ยในกลุ่มเนี้ย
00:17:12 → 00:17:13 แล้วก็พวก
00:17:13 → 00:17:18 อะโวคาโดนะแล้วก็เอ่อถัว่มันก็เป็นแหล่ง
00:17:18 → 00:17:21 ของไขมันที่ดีมันไม่ใช่แค่น้ำมันเท่านั้น
00:17:21 → 00:17:24 นะเราก็เลือกไขมันดีเพื่อเอาไปล้มล้าง
00:17:24 → 00:17:26 ฤทธิ์ที่โอหไขมันเลวที่เรากินไขมันอิ่ม
00:17:26 → 00:17:29 ตัวเยอะกินโอเมก้า 6 มากเกินไม่สมดุลกับ
00:17:29 → 00:17:32 โอเมก้า 3 อย่างเงี้ยเราก็เลือกไขมันดี
00:17:32 → 00:17:36 แล้วก็หมวดของพืชผักอันนี้สำคัญมากในการ
00:17:36 → 00:17:41 ที่จะช่วยเอ่อชะลอไวยนะพืชผักผลไม้เนี่ย
00:17:41 → 00:17:46 ให้ได้วันละ 5 กำมือและ 5 สีโออ่า 5 กำ
00:17:46 → 00:17:50 มือและ 5 สีสีนะ 5 กำมือเราเน้นผักก่อน
00:17:50 → 00:17:52 อาจารย์มักจะบอกเสมอเพราะผักมันไม่มีน้ำ
00:17:52 → 00:17:54 ตาลแฝงอยู่เยอะไม่เหมือนผลไม้ใช่มั้ยคะ
00:17:54 → 00:17:58 ถูกต้องกินผักเอ่อใบกินผักก้านอะไรอย่า
00:17:58 → 00:18:00 เงี้ยอ่าอ่าผักหัวเนี่ยจริงๆแล้วมันจะไป
00:18:00 → 00:18:03 อยู่ในหมดข้าวแป้งเพราะบางทีมันมีแป้งแฝง
00:18:03 → 00:18:06 อยู่สูงอ่าแล้วก็กินผักนี่แหละนะเพราะน้ำ
00:18:06 → 00:18:08 ตาลแฝงมันน้อยแต่ถ้าผักเรากินได้น้อยมื้อ
00:18:08 → 00:18:10 เนี้ยไม่ค่อยมีผักให้เราเลือกเพราะบางที
00:18:10 → 00:18:12 เรากินข้าวนอกบ้านอย่าเงี้ยมันก็ไม่ได้มี
00:18:12 → 00:18:16 ผักมาให้เรากินอืแบบอยู่ทุกมื้อหรือกิน
00:18:16 → 00:18:19 แบบโมีน้อยอ่ะมีแตงกวามาไม่กี่ชิ้นเราก็
00:18:19 → 00:18:23 ต้องไปกินผลไม้ค่ะอ่ากินผลไม้เสริมเข้าไป
00:18:23 → 00:18:26 นะจะอะไรก็ได้แต่ก็ต้องเลือกผลไม้ที่มัน
00:18:26 → 00:18:30 ไม่ทำให้เราท้องอืดหลังมื้ออาหารอะไรมี
00:18:30 → 00:18:33 อะไรบ้างอ่าก็คือเราจะกินชมพูเราจะกิน
00:18:33 → 00:18:37 เอ่อแตงโมได้มั้ยคะแตงโมได้สับปะรดได้เออ
00:18:37 → 00:18:39 สับปะรสอ่าช่วยย่อยเงี้ยมะละกออย่างเงี้ย
00:18:39 → 00:18:41 ได้ใช่แมอ่าถ้าเรารู้แล้วว่าแบบเฮ้ยมื้อ
00:18:41 → 00:18:45 เนี้ยเรากินเราได้รับไฟเบอร์น้อยนะมื้อ
00:18:45 → 00:18:50 ว่างเราก็ไปกินท้องก็ไม่อืดนะเพราะเราไม่
00:18:50 → 00:18:52 ได้กินหลังมื้ออาหารทันทีเพราะบางทีแบบ
00:18:52 → 00:18:55 อุ้ยกำลังย่อยแล้วเรากินอะไรที่มันแบบ
00:18:55 → 00:18:59 เอ่อไฟเบอร์สูงหรือฝรั่งที่มันยังแบบ
00:18:59 → 00:19:04 ไม่ได้แก่จัดอย่างเงี้ยอ่าก็มีผลอ่า
00:19:04 → 00:19:06 ฉะนั้นแล้วเราก็จะกินเป็นมื้อว่างก็ได้
00:19:06 → 00:19:08 อย่าลืมว่าเฮ้ยมื้อว่างเราก็กินผลไม้
00:19:09 → 00:19:10 เสริมเข้าไปเพื่อให้มันได้ผลไม้เพียงพอ
00:19:10 → 00:19:13 แล้วให้ได้ครบ 5 สีเพราะแต่ละสีเนี่ยมี
00:19:13 → 00:19:17 คุณประโยชน์ในการชะลอวัยที่โหหลากหลายนะ
00:19:17 → 00:19:21 สีแดงอย่างเงี้ยก็เราก็อาจเฮ้ยไลโคปีนจาก
00:19:21 → 00:19:24 มะเขือเทศจากแตงโมอย่างเงี้ยก็จะดีในการ
00:19:24 → 00:19:26 ที่จะช่วยต้านมะเร็งช่วยในการส่งเสริม
00:19:26 → 00:19:29 สุขภาพหัวใจและหลอดเลือดบำรุงผิวพรรณ
00:19:29 → 00:19:31 อย่างเงี้ยไลโคปีนที่ฮิตฮอตอยู่ช่วงนึง
00:19:31 → 00:19:33 เรื่องของน้ำมะเขือเทศแต่ถ้าเรากินสด
00:19:33 → 00:19:35 มะเขือเทศเป็นลูกสดหรือกินแตหมเราได้
00:19:35 → 00:19:38 ไฟเบอร์ด้วยไงจะดีกว่าใช่จะดีกว่าแต่ล้าง
00:19:38 → 00:19:42 ให้สะอาดนิดนึงอ่าถูกต้องครับอ่าพวกพืชสี
00:19:42 → 00:19:45 แดงสีม่วงอย่างเงี้ยก็จะมีสารแทซนินที่
00:19:45 → 00:19:48 ช่วยในการชะลอไวได้ดีนะที่อยู่ในพืชสี
00:19:48 → 00:19:53 ม่วงหรือเลทนะที่พบมากในองุ่นแดงในถั่วนะ
00:19:53 → 00:19:56 ถั่วลิสงถั่วลายเสือที่เปลือกถั่วอ่าพวก
00:19:56 → 00:19:59 นั้นน่ะก็จะมีสารเลวที่มันจะกระตุ้น
00:19:59 → 00:20:03 เซอร์ตียีนทำให้เอ่ออายุเราเนี่ยยืนยืน
00:20:03 → 00:20:06 ยืนยาวนะที่มีงานวิจัยอย่างเงี้ยครับแล้ว
00:20:06 → 00:20:10 แต่ละสีก็จะมีคุณประโยชน์ที่หลากหลายค่ะ
00:20:10 → 00:20:14 ถึงบอกว่าเฮ้ยให้กินให้ได้แบบ 5 สีออ่า
00:20:14 → 00:20:17 ผัก 5 สีมณี 5 แสงนะวันนึงถ้าเกิดเช้าเรา
00:20:17 → 00:20:22 กินไปได้แค่ 2 สีกลางวันล่ะเย็นให้เพียง
00:20:22 → 00:20:26 พออืเอามาผัดทำความร้อนได้วิตามินอาจจะ
00:20:26 → 00:20:29 หายไปในบางตัวแต่ก็ยังไดู้้สักีมยังอยู่
00:20:29 → 00:20:32 ก็ยังอยู่อ่าก็ยังทนอยู่ฉะนั้นแล้วเนี่ย
00:20:32 → 00:20:35 เราก็กินให้มันหลากหลายในพืชผักผลไม้แล้ว
00:20:35 → 00:20:39 ก็น้ำค่ะบางคนแบบเฮ้ยละเลยกินอาหารดีนะ
00:20:39 → 00:20:42 แต่ลืมน้ำครับค่ะน้ำลน้ำนี่สำคัญมากน้ำ
00:20:42 → 00:20:47 เปล่านี่แหละที่อุณหภูมิห้องอือดีที่สุด
00:20:47 → 00:20:50 เนาะเป็นน้ำเปล่าที่อุณหภูมิห้องแล้วก็
00:20:50 → 00:20:54 เอ่อวันนึงเนี่ยปริมาณน้ำที่เหมาะสมเนี่ย
00:20:54 → 00:20:57 ก็ส่วนใหญ่เขาก็แนะนำ 8-10 แก้วดื่มน้ำ
00:20:57 → 00:21:00 วันละ 2 ลิตรถึง 3 ลิตร
00:21:00 → 00:21:04 มาก็ไม่็นนอยไปก็ดขาดน้ำน้ำมากไปเนี่ยที่
00:21:04 → 00:21:06 เคยเห็นข่าวคีเคยเห็นข่าวมครับว่ากินน้ำ
00:21:06 → 00:21:11 เยอะไปมันไปเจือจางแร่ธาตุในร่างกายทำให้
00:21:11 → 00:21:16 แบบว่าเฮ้ยเอ่อช็อกไปเลยนะเสียสุขภาพไป
00:21:16 → 00:21:18 อีกนะครับงั้นแล้วเนี่ยก็ต้องเหมาะสมอาจ
00:21:18 → 00:21:21 จะเอาน้ำหนักตัวเราเนี่ยนะสูตรคำนวณน้ำ
00:21:21 → 00:21:22 ดื่มที่เหมาะสมในร่างกายเนี่ยมันมีหลาย
00:21:22 → 00:21:26 สูตรมากเนาะก็คือเอาน้ำหนักตัวเราเนี่ย
00:21:26 → 00:21:32 คูณด้วย 30 30 อ่าเช่นสมมุติว่าหนัก 60
00:21:32 → 00:21:37 ก็วันนึง 1,800 ซีซีอ่าคูณด้วย 30 ก็จะ
00:21:37 → 00:21:39 ออกมาเป็นค่าที่แบบเออเหมาะเนี่ยประมาณ
00:21:39 → 00:21:44 เนี้ยอือ่าที่เหมาะสมค่ะฉะนั้นแล้วเนี่ย
00:21:44 → 00:21:47 เราก็ต้องมีเอ่อปริมาณน้ำที่เราเฮ้ยจะ
00:21:47 → 00:21:50 ต้องดื่มนะไม่ใช่ว่าโอ้โหช่วงหน้าร้อน
00:21:50 → 00:21:53 เดี๋ยวฉันต้องกินน้ำหวานนะก็นับเป็นจริงๆ
00:21:53 → 00:21:55 แล้วมันก็นับเป็นน้ำที่ต้องน้ำด้วยแหละ
00:21:55 → 00:21:58 แต่เราก็จะมีน้ำตาลแฝงเข้ามาไงถึงเตือน
00:21:58 → 00:22:01 ค่ะคุณผู้ฟังว่าเฮ้ยอือช่วงหน้าร้อนเนี่ย
00:22:01 → 00:22:05 ก็ต้องระมัดระวังเนาะเรื่องของน้ำตาลแฝง
00:22:05 → 00:22:08 ในเครื่องดื่มทั้งหลายแหล่อันครับผมมันมี
00:22:08 → 00:22:11 ทั้งน้ำแร่น้ำเอ่อน้ำด่างอือฮึเอออะไร
00:22:11 → 00:22:15 อย่าเงี้ยจำเป็นมั้ยคะกินได้ถ้าใครที่กิน
00:22:15 → 00:22:19 พืชผักผลไม้น้อยก็อาจจะต้องอาศัยพวกเอ่อ
00:22:19 → 00:22:22 น้ำน้ำแร่ที่มีความเป็นด่างอยู่แล้วเพราะ
00:22:22 → 00:22:24 น้ำที่มันเกิดความเป็นด่างขึ้นเนี่ยส่วน
00:22:24 → 00:22:26 ใหญ่แล้วตามธรรมชาติมันเกิดจากมิเนอรัล
00:22:26 → 00:22:31 แลกาอ๋อที่อยู่ในน้ำอืแร่เลยทำให้เป็น
00:22:31 → 00:22:34 ด่างค่ะก็จะช่วยในการปรับสมดุลความเป็นกด
00:22:34 → 00:22:36 ด่างในร่างกายของเราเพราะเมื่อไหร่ก็ตาม
00:22:36 → 00:22:40 ที่เรากินพวกน้ำตาลสูงเอ่อเนื้อสัตว์มาก
00:22:41 → 00:22:45 นะคาเฟอีนนะแอลกอฮอล์อะไรพวกเนี้ยมีความ
00:22:45 → 00:22:48 เป็นอาหารที่สร้างกรดให้กับร่างกายร่าง
00:22:48 → 00:22:52 กายก็จะต้องไปนทลความเป็นกรดเหล่านี้ร่าง
00:22:52 → 00:22:55 กายมันต้องปรับสมดุลค่ะอ่าก็ต้องต้องแบบ
00:22:55 → 00:22:58 เฮ้ยสลายแคลเซียมออกมาจากกระดูกนะโอสลาย
00:22:58 → 00:23:01 มินอลออกมาจากกระดูกกระดูกก็มีโอกาสบางลง
00:23:01 → 00:23:04 อ่ามันต้องปรับสมดุลน่ะมันไม่ใช่ว่าแบบ
00:23:04 → 00:23:06 เฮ้ยกินเข้าไปแล้วเป็นกดแล้วร่างกายไม่
00:23:06 → 00:23:09 ปรับร่างกายปรับหมดแหละอือฮึนะแต่มันก็
00:23:09 → 00:23:12 ต้องเนี่ยไปสลายสิ่งเหล่าเนี้ยเพื่อมา
00:23:12 → 00:23:15 ปรับสมดุลความเป็นกดด่างให้อยู่ในช่วงพี
00:23:15 → 00:23:18 เอ่อ 7.3 7.4 มีความเป็นด่างอ่อนๆอย่าง
00:23:18 → 00:23:20 เงี้ยกับร่างกายั้นแล้วเนี่ยมันขึ้นอยู่
00:23:20 → 00:23:23 กับพฤติกรรมการบริโภคเนาะอ่าแต่ไม่จำเป็น
00:23:23 → 00:23:26 ถ้าเกิดคนกินพืชผักผลไม้เยอะพวกนี้ก็มี
00:23:26 → 00:23:30 ความเป็นด่างให้กับร่างกายอยู่แล้วอ่า
00:23:30 → 00:23:33 หลักสุดท้ายเนาะอาจารย์บอกแล้วว่าลดเลือก
00:23:33 → 00:23:36 แล้วก็หลักหลักในการกินชะลอไวยก็คือกิน
00:23:36 → 00:23:41 อิ่มแต่พอดีแบบชาวโอกินาวาอ่าที่พวกเนี้ย
00:23:41 → 00:23:43 เขาเราเคยคุยกันไปตอนนึงในรายการโรงหมอ
00:23:43 → 00:23:46 เรื่องของการกินรูปแบบการกินเพื่อการมี
00:23:46 → 00:23:49 อายุที่ยืนยาวหรือ longevity Diet อืกิน
00:23:49 → 00:23:52 ให้อายุยืนคือกินแบบ caloric restriction
00:23:52 → 00:23:56 กินแบบจำกัดพลังงานหรืออิ่มแต่พอดีคือ
00:23:56 → 00:23:59 อิ่มประมาณ 80% ครับพวกเนี้ยแล้วคุณรีบอก
00:23:59 → 00:24:02 โออาจารย์ไม่มีตัวชีเอ่อเทอร์โมมิเตอร์
00:24:02 → 00:24:05 เหมือนรู้ได้ไงว่าอิ่มเออแบบว่าพอเริ่ม
00:24:05 → 00:24:10 รู้สึกอิ่มปุ๊บคือหยุดพอสมองคนเราเนี่ยจะ
00:24:10 → 00:24:12 รู้สึกอิ่มหลังจากกินไปเนี่ยประมาณ 15
00:24:12 → 00:24:15 นาทีไม่เกิน 20 นาทีหลังจากนั้นเนี่ยก็จะ
00:24:15 → 00:24:17 อิ่มแลทุกครั้งที่เรากินอาหารบางทีแบบ
00:24:17 → 00:24:20 เฮ้ยเมนูนี้ไม่ยังไม่ยังไม่มาเลยเนี่ยเรา
00:24:20 → 00:24:22 ก็บอกน้องๆไปตามหน่อยเนี่ยยังไม่มาเลย
00:24:22 → 00:24:25 เดี๋ยวอิ่มก่อนเห็นมก็รู้จะอิ่มแล้วคือ
00:24:25 → 00:24:29 ถ้าเรากินแบบแบบมีสติง่ายเรื่องของสตินี่
00:24:29 → 00:24:33 สำคัญนะครับในการกินนะเคี้ยวนะไม่ใช่ฉับๆ
00:24:33 → 00:24:38 เอืกฉับๆเอืกเราก็ต้องแบบค่อยๆเคี้ยวนะ
00:24:38 → 00:24:41 สัก 1 คำซักอ่ะ 10 12 ครั้งก็ได้ 15
00:24:41 → 00:24:43 ครั้งไม่ต้องแบบ 30 ครั้งตามทฤษฎีอะไร
00:24:43 → 00:24:47 หรอกนะเราก็กินแบบมีสติรู้จักในเอ่อ
00:24:47 → 00:24:50 ประมาณในอาหารที่กินเฮ้ยพอรู้สึกอิ่มปุ๊บ
00:24:50 → 00:24:53 เราก็พอและอือ่าแล้วอันนี้คือการจำกัด
00:24:53 → 00:24:56 อาหารนะครับอ่าว่าอิ่มแต่พอดีกับอีกหนึ่ง
00:24:56 → 00:24:59 ทฤษฎีคือจำกัดเวลาในการกินก็คือการทำ
00:24:59 → 00:25:02 intermittent fasting หรือ If อออมันก็
00:25:02 → 00:25:08 ช่วยในกระบวนการ auty หรือเซลล์กำจัดขยะ
00:25:08 → 00:25:12 ทำให้ชะลอวัยได้อทำ If เนี่ยอ่าเหมือนที่
00:25:12 → 00:25:15 มีดราม่า If อันนั้นไม่ใช่นะอันนั้นคือ
00:25:15 → 00:25:18 ดราม่าสุดๆเลยคือแบบงงๆเหมือนกันพูดง่ายๆ
00:25:18 → 00:25:20 ว่ากระบวนการวิจัย
00:25:20 → 00:25:25 เนี่ยยังไม่สรองไม่รัดกุมอ๋ออ่ากระบวนการ
00:25:25 → 00:25:28 วิจัยยังไม่ได้ดีพอคนก็เลยตกกระจกันทั่ว
00:25:28 → 00:25:30 โลกโลกเลยว่าเฮ้ยทำไมทำไแล้วแบบเพิ่มความ
00:25:30 → 00:25:33 เสี่ยงต่อการเสียชีวิตนู่นนี่นั่นก็อาหาร
00:25:33 → 00:25:35 ที่คุณกินระหว่างทำคุณก็ไม่รู้แล้วช่วง
00:25:35 → 00:25:38 ที่คุณกินน่ะช่วงไหนแล้วตอนนั้นน่ะสมัย
00:25:38 → 00:25:41 นั้นที่เขาทำยังไม่มีเรื่องไเลยเอออ่ามัน
00:25:41 → 00:25:43 ก็มันก็ยังแล้วกระบวนการวิจัยอย่างที่บอก
00:25:43 → 00:25:46 แหละมันก็ขาดความน่าเชื่อถือแล้วพอท้าย
00:25:46 → 00:25:49 ที่สุดปุ๊บถ้าเราทำไตามนาฬิกาชีวิตก็คือ
00:25:49 → 00:25:51 หลังพระอาทิตย์ตกดินที่อาจารย์พูดเสมอว่า
00:25:51 → 00:25:54 หลัง 600 นเราไม่ควรกินอะไรแลกินแค่น้ำ
00:25:54 → 00:25:58 เปล่าแล้วเช้ามาอ่าคุณกิน 8 น 900 นเช้า
00:25:58 → 00:26:02 นะจนถึง 17 น 6:00 นแค่นี้แหละอ่า
00:26:02 → 00:26:05 อันเนี้ยก็เป็นวิธีทางนึงที่ช่วยให้ร่าง
00:26:05 → 00:26:10 กายเนี่ยกระตุ้นกระบวนการออฟีกำจัดนะสิ่ง
00:26:10 → 00:26:14 ปฏิกูลมูลฝอยนะความเป็นพิษนะทั้งหลายแหล่
00:26:14 → 00:26:17 เพราะเซลล์มันเกิดการแบบเอ่อกลื่นกๆตัว
00:26:17 → 00:26:20 มันเองในการทำความสะอาดอ่ะในระดับเซลล์ก็
00:26:20 → 00:26:23 ช่วยในการชะลอวัยได้ออู้นี่เห็นมชลอไว
00:26:23 → 00:26:26 ด้วยกันกินได้นะเนี่ยถูกต้องครับ 3 หลัก
00:26:26 → 00:26:29 ที่อาจารย์บอกเลยคือรดเลือกแล้วก็หลัก 3
00:26:29 → 00:26:35 รออ่าลอลิงค่ะรอลิงหมดเลยนะรดน้ำตาลเลือก
00:26:35 → 00:26:37 อาหารชะลอวยแต่ละหมดหมู่ทั้ง 5 หมู่ที่
00:26:37 → 00:26:41 บอกนะแล้วก็หลักการกินเพื่อการชะลอวัยคือ
00:26:41 → 00:26:46 จำกัดอาหารคืออิ่มแค่ 80% และจำกัดเวลา
00:26:46 → 00:26:51 ที่กินนะ If ตามนาฬิกาชีวิตได้แนวทางแล้ว
00:26:51 → 00:26:55 แหละเราจะชะลอไวด้วยกันกลิ่นนี่
00:26:55 → 00:26:58 แหละนะคะก็เป็นแนวทางไว้แต่จะเสริมเพิ่ม
00:26:58 → 00:27:01 เติมอย่างอื่นนะคะก็แล้วแต่ปัจจัยที่มี
00:27:01 → 00:27:04 อยู่ได้หมดเลยนะคะขอบคุณอาจารย์ค่ะสวัสดี
00:27:04 → 00:27:07 ค่ะครับสวัสดีครับเอาล่ะค่ะคุณผู้ฟังพบ
00:27:07 → 00:27:08 กันใหม่ครั้งหน้านะคะวันนี้ลาไปก่อน
00:27:09 → 00:27:13 สวัสดีค่ะ This Is Toy PBS podcast
00:27:13 → 00:27:16 ความเสื่อมาพร้อมกับอายุที่มากขึ้นเราจะ
00:27:16 → 00:27:18 ดูแลหัวเขาให้อยู่ในสภาพที่ดีได้อย่างไร
00:27:18 → 00:27:21 ดรนายแพทย์จตุพลคงถาวรสกุลแพทย์ผู้เชี่ยว
00:27:21 → 00:27:24 ชาญศูนย์กล้ามเนื้อกระดูกและข้อมาบอกให้
00:27:24 → 00:27:27 รู้ครับพอเราอายุเยอะขึ้นเนี่ยเราจะต้อง
00:27:27 → 00:27:30 ตรวจสอบหรือตรวจเช็คร่างกายของเราเนี่ย
00:27:30 → 00:27:32 ยังไงบ้างนะครับอันนี้คือเรื่องของการดู
00:27:32 → 00:27:35 แลก่อนนะถ้าเกิดเราไปตรวจร่างกายทั่วๆไป
00:27:35 → 00:27:37 ประจำปีเนี่ยในแพคเกจเนี่ยเรื่องอื่น
00:27:37 → 00:27:39 เนี่ยตรวจเต็มไปหมดเลยนะครับแต่ว่าถ้าใน
00:27:39 → 00:27:42 แพ็คเกจในคนที่อายุเกิน 50 ปีเนี่ยส่วน
00:27:42 → 00:27:45 ใหญ่ก็จะมีวิตามินดีแคลเซียมมวลกระดูกนะ
00:27:45 → 00:27:48 ครับนะอันนี้ก็คือจะเป็นอะไรที่ควรจะต้อง
00:27:48 → 00:27:51 อยู่ในแพคเกจทีนี้เรื่องของความเสื่อมนะ
00:27:51 → 00:27:54 ความเสื่อมส่วนใหญ่ในกลุ่มที่เป็นผู้สูง
00:27:54 → 00:27:57 อายุออนะก็จะมีไหล่เสื่อมหลังเสื่อมเข่า
00:27:57 → 00:28:00 เสื่อมนะฮะโดยที่สุดฮิตเลยก็คือจะเป็น
00:28:00 → 00:28:03 เข่าเสื่อมถ้าสำหรับคนที่เป็นวัยเกษียณนะ
00:28:03 → 00:28:05 แล้ววันนี้เราบอกอุ๊ยเราไม่เคยตรวจร่าง
00:28:05 → 00:28:07 กายเลยหรือเราอาจจะตรวจเมื่อปีที่แล้วไป
00:28:07 → 00:28:09 แล้วปีนี้เราจะตรวจร่างกายเราจะดูแลอะไร
00:28:09 → 00:28:12 บ้างดีผมก็แนะนำว่าอย่างงี้ในเบื้องต้น
00:28:12 → 00:28:15 เนี่ยเราก็ควรจะต้องดูเรื่องของความ
00:28:15 → 00:28:19 เสื่อมก่อนก็คือ x-ray ดูนะฮะทุกปีถึงแม้
00:28:19 → 00:28:21 ว่าเราจะมีอาการหรือไม่มีอาการก็ตามเพราะ
00:28:21 → 00:28:23 ว่าอะไรเพราะว่าพวกนี้เนี่ยถ้าเราไม่ตรวจ
00:28:23 → 00:28:26 ไว้ก่อนนะฮะสมมุติว่าเข่าเราเนี่ยไม่เคย
00:28:26 → 00:28:29 มีอาการอะไรเลยนะเราพบว่าในการ x-ray
00:28:29 → 00:28:32 เนี่ยมีโอกาสที่จะเจอข้อเข่าเสื่อมเนี่ย
00:28:32 → 00:28:34 ได้ค่อนข้างสูงคนที่ไม่เจ็บเข่าอย่านึก
00:28:35 → 00:28:37 ว่าตัวเองเข่าไม่เสื่อมเพราะว่าแต่แค่ไม่
00:28:37 → 00:28:39 มีอาการเฉยๆแค่ไม่มีอาการเฉยๆทีนี้เข่า
00:28:39 → 00:28:42 เนี่ยมันจะเป็นอวัยวะที่ถ้ามันไม่ถึงที่
00:28:42 → 00:28:45 สุดจริงๆอ่ะมันไม่ค่อยมีอาการคืออย่าไปรอ
00:28:45 → 00:28:48 ให้จนถึงขั้นเอียงเลยอะไรเงี้ยเอาแค่
00:28:48 → 00:28:49 เริ่มที่จะเตี้ยลงเงี้ยเราก็ควรจะต้อง
00:28:49 → 00:28:52 เริ่มบำรุงรักษาได้ละข้อเข่าเนี่ยมันมี
00:28:52 → 00:28:53 เสื่อม 4 ระดับใช่มั้ยฮะสมมุติเราไป
00:28:53 → 00:28:56 เซเรย์เจอตอนระดับ 1 เราอาจจะไม่ต้องกิน
00:28:56 → 00:28:58 คอลลาเจนหรือเราอาจจะจะกินก็ได้ถ้าเรา
00:28:58 → 00:29:00 อยากกินแต่ว่าถ้าจะกินเราก็อาจจะไปกินพวก
00:29:00 → 00:29:04 กลูโคซามีนไปเลยเพื่อที่จะป้องกันเอาจริง
00:29:04 → 00:29:06 ๆเนี่ยมันไม่สามารถที่จะป้องกันได้หรอกนะ
00:29:06 → 00:29:09 แต่ว่าระดับหนึเนี่ยทางการแพทย์เแนะนำให้
00:29:09 → 00:29:12 อ่ะ 1 เริ่มเซอร์สละอ่าสมมุติว่าเราเป็น
00:29:12 → 00:29:14 คนอายุเกิน 60 ปีไม่ว่าผู้ชายผู้หญิงนะ
00:29:14 → 00:29:17 เรา xray เช็คละปุ๊บปรากฏว่าเข่าเราเริ่ม
00:29:17 → 00:29:19 ๆเสื่อมแต่เราไม่เคยมีอาการอะไรเลยเราก็
00:29:19 → 00:29:21 จะถามว่าหมอแล้วไอ้ที่เห็นกระดูกงอกเเอา
00:29:21 → 00:29:24 ไงดีเราก็จะแนะนำพี่ก็ออกกำลังกายไปฝึก
00:29:24 → 00:29:27 เหยียดเข่างอเข่านะอ่าแล้วก็ฝึกปั่น
00:29:27 → 00:29:29 จักรยานนะหรือวิ่งจอกกิ้งได้บ้างอย่า
00:29:29 → 00:29:33 พยายามวิ่งเยอะนะลดการย่อเข่านะอันนี้เรา
00:29:33 → 00:29:35 ก็จะเอาไว้สำหรับป้องกันตัวเองได้แต่
00:29:35 → 00:29:37 ระดับ 2 ปุ๊บเนี่ยถ้าเราเจอดับ 2 ปุ๊บเรา
00:29:37 → 00:29:39 ก็อาจจะเฮ้ยพี่เคยปวดเข่ามั้ยเคบอกโอ้ย
00:29:39 → 00:29:42 ไม่เคยปวดเลยอ่ะสมมุตินะถ้าปวดเนี่ยเมาหา
00:29:42 → 00:29:45 เราเองอยู่ะสำหรับคนที่ตรวจร่างกายแล้ว
00:29:45 → 00:29:48 แหมแต่ตัวเองไม่เคยมีอาการอะไรเลยเนี่ยจะ
00:29:48 → 00:29:50 ต้องปฏิบัติอย่างไรใช่มยพอเราเจอสมมุติ
00:29:50 → 00:29:53 ระดับ 2 ไอ้ระดับ 2 เนี่ยกินกลูโคซามีนก็
00:29:53 → 00:29:56 พอได้เราอาจจะแนะนำอ่ะงั้นก็พี่ก็กิน
00:29:56 → 00:29:58 กลูโคซามีนไปก่อนแต่บางคนบอกโอ้ยไม่เอา
00:29:58 → 00:30:00 ฉันไม่อยากกินอะไรทุกวันทุกวันน่ะมัน
00:30:00 → 00:30:04 เบื่อแล้วมันขี้เกียจจำด้วยอ่ะพี่ก็ไปฉีด
00:30:04 → 00:30:06 อ่าถูกมยพี่ก็ไปฉีดตัวยาเสริมน้ำข้อเข่า
00:30:06 → 00:30:09 นะหรือฉีดเดเลือดก็ได้ถามว่าฉีดทำไมอ่ะก็
00:30:09 → 00:30:13 ไม่มีอาการก็การฉีดเนี่ยมันก็จะช่วยให้
00:30:13 → 00:30:17 ข้อเข่าเนี่ยมันอาจจะเสื่อมช้าลงได้
00:30:17 → 00:30:22 บ้าง This Is Toy PBS
00:30:22 → 00:30:25 podcast ติดตามรายการทางเว็บไซต์และ
00:30:25 → 00:30:28 แอปพลิเคชันของ Thai PBS podcast
00:30:28 → 00:30:31 spotify soundcloud Google podcast
00:30:31 → 00:30:34 Apple podcast และ YouTube Channel
00:30:34 → 00:30:38 Thai PBS podcast tha PBS podcast
00:30:38 → 00:30:40 View the world via The Voice
00:30:40 → 00:30:46 [เพลง]