00:00:00 → 00:00:02 [เพลง]
00:00:02 → 00:00:05 you Listening to พยาท Health facts
00:00:05 → 00:00:09 podcast สุขภาพจากโรงพยาบาลพญาไทยที่จะ
00:00:09 → 00:00:12 พาคุณไปรู้จักร่างกายตัวเองในแง่มุมที่
00:00:12 → 00:00:14 คุณอาจไม่เคยรู้เม
00:00:14 → 00:00:20 [เพลง]
00:00:20 → 00:00:23 ก่อนสวัสดีครับ EP นี้นะครับเราจะมาคุย
00:00:23 → 00:00:26 กันถึงเรื่องของการกินผักครับปกติเราอาจ
00:00:26 → 00:00:28 จะคุ้นเคยกับคำว่ากินอาหารให้ครบ 5 หมู
00:00:28 → 00:00:31 ใช่มยแต่ว่าวันนี้ผักก็มี 5 เหมือนกันแต่
00:00:31 → 00:00:34 ว่าจะเป็น 5 สีการกินเนี่ยมันช่วยอะไรกัน
00:00:34 → 00:00:36 บ้างแล้วถ้าเกิดคุณไม่กินคุณจะมีผลกระทบ
00:00:36 → 00:00:38 ตามมาอย่างไรกันบ้างอยู่กับคุณหมอออมนะ
00:00:38 → 00:00:40 คุณหมอสวัสดีครับสวัสดีค่ะคุณหมอครับการ
00:00:40 → 00:00:44 กินผักให้ครบ 5 สีมันสำคัญขนาดไหนครับ
00:00:44 → 00:00:47 จริงๆต้องเริ่มก่อนเลยว่าต้องกินผักให้
00:00:47 → 00:00:50 ได้ก่อนเพราะจริงๆแล้วคนไทยเนี่ยกินผัก
00:00:50 → 00:00:53 ได้ถึงเกณฑ์ที่แนะนำเนี่ยน้อยมากปกติค่ะ
00:00:53 → 00:00:56 ถ้าองค์การอนามัยโลกนะคะก็จะแนะนำให้กิน
00:00:56 → 00:01:00 ผักให้ได้อย่างน้อย 5 เิคือ 5 ส่วนต่อวัน
00:01:00 → 00:01:04 ผักและผลไม้นะคะซึ่งเวลาตีออกมาเป็นกรัม
00:01:04 → 00:01:07 คร่าวๆเนี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 400 กรัมของ
00:01:07 → 00:01:11 ผักและผลไม้คนไทยเนี่ยกินถึง 400 กรัม
00:01:11 → 00:01:13 เนี่ยได้แค่ประมาณ 30 40% เท่านั้นถ้า
00:01:13 → 00:01:16 กับมีประชากรส่วนมากอ่ะเกินครึ่งของคนไทย
00:01:16 → 00:01:19 ที่กินผักไม่เพียงพอต่อวันอันนี้เป็นขั้น
00:01:19 → 00:01:22 แรกพอกินผักได้เพียงพอแล้วต้องมาแยกดูอีก
00:01:22 → 00:01:25 ด้วยว่ากินครบสีหรือเปล่าเพราะว่าคนเราจะ
00:01:25 → 00:01:27 มีความชอบของแต่ละคนไม่เหมือนกันบางคนกิน
00:01:28 → 00:01:31 แต่สีเหลืองเลยบางคนก็แต่สีเขียวเลยอ้า
00:01:31 → 00:01:33 แล้วสีอื่นๆล่ะสีแดงสีม่วงไปอยู่ตรงไหน
00:01:33 → 00:01:36 หมดงงไปหมดเลยเพราะมีตั้ง 5 สีด้วยกันแต่
00:01:36 → 00:01:38 ว่าก่อนเราจะไปเจาะลึกเรื่องว่า 5 สีนี้
00:01:38 → 00:01:41 มีอะไรกันบ้าง 400 กรัมค่ะครู่นี้ที่คุณ
00:01:41 → 00:01:44 หมอบอกไปมันเยอะขนาดไหนหรือว่ามันน้อย
00:01:44 → 00:01:47 ขนาดไหนครับเอ่อ 400 กรัมเนี่ยถ้าเกิดว่า
00:01:47 → 00:01:50 มองว่าเิอ่ะค่ะก็คือประมาณ 1 ถ้วยก็คือ
00:01:50 → 00:01:53 เหมือนเรากินสลัดถ้วยใช่ค่ะแต่เราอาจจะ
00:01:54 → 00:01:57 เป็นว่าผักใบบ้างเป็นผลไม้บ้างกินอย่าง
00:01:58 → 00:02:00 เงี้ยให้ได้ประมาณวันละ 4-5 เซรวิ่งต่อัน
00:02:00 → 00:02:03 จริงๆส่วนใหญ่นะคะถ้าเราตั้งใจจะกินผัก
00:02:03 → 00:02:07 ผลไม้จริงๆมักจะถึง 4 ก็คือว่า 4-5 ถ้วย
00:02:07 → 00:02:10 แบบนี้ถ้วยถ้วยขนาดปกติใช่ค่ะถ้าเกิดว่า
00:02:11 → 00:02:14 เป็นเป็นกำมือผู้ชายอ่าอุ้งมือผู้ชายอาจ
00:02:14 → 00:02:19 จะประมาณนั้นเยอะนะ 4-5 กรัไเยอะนะใช่แต่
00:02:19 → 00:02:23 รวมผลไม้ด้วยนะก็อาจจะเป็นผักบ้างผลไม้
00:02:23 → 00:02:25 บ้างเป็นถ้วยแล้วผักมันพูนๆได้มั้ยครับ
00:02:25 → 00:02:28 แบบผูผักแบบไม่อัดแน่นนะผักใช่แต่ผลไม้
00:02:28 → 00:02:31 อาจจะไม่ต้องพูนอ๋อโอเคก็ถ้าเกิดเรากิน
00:02:31 → 00:02:34 ได้เท่านั้นถือว่าดีใช่ค่ะแล้วถ้าเกิดกิน
00:02:34 → 00:02:36 ไม่ถึงนะครับกินไม่ถึงอย่างแรกเลยขาด
00:02:36 → 00:02:40 ไฟเบอร์พวกเส้นใยต่างๆก็จะได้ไม่ถึงะน
00:02:40 → 00:02:42 ไฟเบอร์ก็จะมีประโยชน์ทั้งเรื่องการขับ
00:02:42 → 00:02:45 ถ่ายเรื่องการเ่อชะลอการดูดซึมน้ำตาละ
00:02:45 → 00:02:48 นั้นก็จะลดความเสี่ยงต่อโรคอ้วนโรคเอ่อ
00:02:48 → 00:02:50 หัวใจโรคความดันอะไรในอนาคตของเราด้วย
00:02:50 → 00:02:53 เพราะฉะนั้นแค่อยากรักษาสุขภาพเนี่ยเริ่ม
00:02:53 → 00:02:55 กินผักก่อนน่าจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีค่ะ
00:02:55 → 00:02:58 โอเคโน้ตจำนวนนี้ไว้นะครับ 400 กรัมด้วย
00:02:58 → 00:03:01 กันเอาล่ะเรามาลงทีละสีกันดีกว่าก่อนอื่น
00:03:01 → 00:03:04 เลย 5 สีมีอะไรบ้างครับ 5 สีก็อาจจะเป็น
00:03:04 → 00:03:08 แบ่งเป็นโทนสีนะคะเป็นแดงชมพูนะคะเป็น
00:03:08 → 00:03:12 เหลืองส้มเป็นสีม่วงน้ำเงินนะคะเป็นสี
00:03:12 → 00:03:15 เขียวอันนี้เราคุ้นเคยกันดีค่ะแล้วก็อีก
00:03:15 → 00:03:18 อันที่คนชอบลืมคือสีขาวแล้วก็น้ำตาลโอเค
00:03:18 → 00:03:20 งั้นเราจะเริ่มต้นจากสีไหนก่อนดีครับเรา
00:03:20 → 00:03:22 เริ่มสีแดงก่อนมั้ยคะได้เลยครับค่ะจริงๆ
00:03:22 → 00:03:25 สีแดงเนี่ยเราจะเห็นกันบ่อยๆทุกคนจะนึก
00:03:25 → 00:03:29 ถึงมะเขือเทศนะคะแล้วก็จะเป็นกลุ่มบีทรูท
00:03:29 → 00:03:31 แล้วก็พพริกหวานพริกลูกใหญ่ๆอย่างที่เรา
00:03:31 → 00:03:34 ซื้อกันตามซุปเปอร์มาร์เก็ตนะคะสีแดงสี
00:03:34 → 00:03:37 ส้มอันนี้จะมีไลโคปีนสูงถ้าเกิดเป็นผลไม้
00:03:37 → 00:03:40 เนี่ยก็จะเป็นกลุ่มฝรั่งสีชมพูเคยเห็นมั้
00:03:40 → 00:03:42 คะที่เป็นฝรั่งแล้วก็ตรงกลางเป็นไส้สี
00:03:42 → 00:03:46 ชมพูอ่าลูกฟักข้าวที่เป็นสีอมส้มแดงๆอ่ะ
00:03:46 → 00:03:49 ค่ะที่มีหนามๆนิดนึงเปรี้ยวๆผักผลไม้สี
00:03:49 → 00:03:52 เนี้ยก็จะให้เป็นสารกลุ่มหลักๆคือไลโคปีน
00:03:52 → 00:03:55 อือ่ะซึ่งสำคัญมากโดยเฉพาะคุณผู้หญิงที่
00:03:55 → 00:03:57 ต้องการดูแลสุขภาพผิวไลโคปีนเนี่ยจะเป็น
00:03:57 → 00:04:01 สารต้านอนุมูลอิสระที่ทรงประสิทธิภาพมาก
00:04:01 → 00:04:03 โดยเฉพาะสำหรับผิวของคุณผู้หญิงแลก็ดีกับ
00:04:03 → 00:04:06 คุณผู้ชายด้วยในแง่เรื่องต่อมลูกหมากค่ะ
00:04:06 → 00:04:09 สีส้มนี่นับส้มด้วยมั้ยครับเ่อส้มด้วยค่ะ
00:04:09 → 00:04:11 แต่ว่าถ้าเกิดว่าเป็นส้มโทนแบบสีส้มที่
00:04:11 → 00:04:13 เรากินทั่วไปอาจจะได้เป็นกลุ่ม
00:04:13 → 00:04:16 แคโรทีนอยด์เป็นพวกเบต้าแคโรทีนอะไรเยอะ
00:04:16 → 00:04:19 หน่อยจริงๆผักผลไม้แต่ละอย่างอ่ะค่ะเขาก็
00:04:19 → 00:04:22 จะให้สารที่เราเรียกว่าไฟตนิทนหลายๆชนิด
00:04:22 → 00:04:25 ในผักเดียวกันแต่แค่ว่าอาจจะมีสัดส่วนของ
00:04:25 → 00:04:28 สีใดสีนึงเด่นมากกว่าอีกสีนึงเท่านั้นเอง
00:04:28 → 00:04:30 อ๋อโอเคแล้วพวกสตรอเบอร์รี่นี่เกี่ยวมั้ย
00:04:30 → 00:04:31 ครับสตรอเบอรี่ก็ได้ไลโคปีนได้เช่นเดียว
00:04:31 → 00:04:34 กันจริงๆแตงโมอย่างเงี้ยก็ได้ไลโคปีนนะคะ
00:04:34 → 00:04:36 เพราะมันสีแดงเหมือนกันใช่แต่อนี้เป็น
00:04:36 → 00:04:39 เนื้อมันสีแดงใช่ค่ะแต่ถ้าเกิดเราเจอแตง
00:04:39 → 00:04:43 โมเราก็คิดว่าอแตงโมมันสีเขียวแตงเอาดู
00:04:43 → 00:04:46 ข้างในสิดข้างในเหรอโอเคโอเคแล้วถ้าเกิด
00:04:46 → 00:04:49 เราไม่กินค่ะผลไม้หรือว่าผักสีแดงล่ะครับ
00:04:49 → 00:04:53 คุณหมอถ้าเอาผลระยะยาวเราอาจจะยังมองไม่
00:04:53 → 00:04:55 เห็นถูกมั้ยคะว่าเราจะไปเกิดต่อมลูกหมาก
00:04:55 → 00:04:58 อะไรตอนไหนสิ่งแรกที่จะเห็นชัดๆเลยคือ
00:04:58 → 00:05:01 เรื่องผิวค่ะเพราะว่าปกติเนี่ยเวลาแสงแดด
00:05:01 → 00:05:05 หรือมลพิษโดนผิวเราเขาจะเกิดอนุมูลอิสระ
00:05:05 → 00:05:07 ขึ้นมาตัวนึงชื่อว่ารตออกซิเจนเป็นชื่อ
00:05:07 → 00:05:09 วิทยาศาสตร์หน่อยละเอาชื่อง่ายๆมีมั้ย
00:05:09 → 00:05:12 ครับซึ่งเป็นอนุมูลอิสระเฉยๆก็ได้ซึ่ง
00:05:12 → 00:05:15 ไลโคปีนเนี่ยเป็นตัวแรกที่จะมีหน้าที่
00:05:15 → 00:05:18 วิ่งไปจัดการตรงเให้เราเพฉะนั้นถ้าเกิด
00:05:18 → 00:05:20 เราไม่ทานไลโคปีนเราก็จะรู้สึกว่าผิวเรา
00:05:20 → 00:05:23 sensitive กับแสงแดดง่ายก่อนละแล้วถ้า
00:05:23 → 00:05:26 ขาดไปนานๆก็ค่อยไปเกิดเรื่องหลอดเลือดหัว
00:05:27 → 00:05:29 ใจเรื่องมะเร็งอะไรต่างๆในอนาคตอันนี้
00:05:29 → 00:05:31 เป็นผลระยะยาวแต่ถ้าใครอยากสังเกตง่ายๆ
00:05:31 → 00:05:33 ว่าเอ๊ะฉันขาดไลโคปีนหรรือเปล่าดูเรื่อง
00:05:33 → 00:05:36 ผิวก่อนเลยซึ่งคำว่าอนุมูลอิสระเราคุ้น
00:05:36 → 00:05:39 กันอยู่ะแล้วเราก็พยายามกินสารต้านมัน
00:05:39 → 00:05:41 หรือว่าร่างกายเราก็ผลิตสารต้านขึ้นมาแต่
00:05:42 → 00:05:45 มันอาจจะไม่พอถ้าเกิดมันไม่พอมันจะเกิดผล
00:05:45 → 00:05:47 เสียยังไงบ้างครับคุณหมอคิดง่ายๆเหมือนรถ
00:05:47 → 00:05:50 ยนต์ค่ะถ้าเกิดว่าเราบำรุงรักษาเครื่อง
00:05:50 → 00:05:53 ยนต์ไม่ดีเขเหมมาที่ออกมาก็จะดำอืเครื่อง
00:05:53 → 00:05:55 ยนต์เราก็จะเสื่อมโทรมไปตามกาลเวลาแล้ว
00:05:55 → 00:05:57 สุดท้ายก็จะพังไปในที่สุดอนุมูลอิสระก็
00:05:57 → 00:06:00 เหมือนกันเวลาเกิดอนุมูลอิระสระขึ้นมา
00:06:00 → 00:06:03 ปกติอนุมูลอิสระจะมี 2 แบบค่ะแบบที่ร่าง
00:06:03 → 00:06:06 กายจงใจสร้างมาเองเพื่อฆ่าเชื้อโรคกับแบบ
00:06:06 → 00:06:09 ที่เกิดขึ้นมาตามเบี้ยบ้ายรายทางในการเผา
00:06:09 → 00:06:12 ผันแบบพวกแคลอรีต่างๆหรือว่าเรารับเข้าไป
00:06:13 → 00:06:16 จากภายนอกเช่นเราสูบบุหรี่เราเครียดเรา
00:06:16 → 00:06:19 กินปิ้งย่างเยอะๆกินอาหารผ่านความร้อนสูง
00:06:19 → 00:06:22 ๆกินของทอดอะไรอย่างเงี้ยนะคะอันนี้เราจง
00:06:22 → 00:06:24 ใจรับเข้าไปเองเราก็ต้องชดเชยด้วยสารต้าน
00:06:24 → 00:06:27 อนุมูลอิสระเพื่อบาลานซ์ตรงนี้ให้สมดุล
00:06:27 → 00:06:30 กันเพราะว่าถ้าเกิดเกิดอนุมูลอิสระสูงๆ
00:06:30 → 00:06:33 เนี่ยเขาก็จะไปกระตุ้นการอักเสบของร่าง
00:06:33 → 00:06:36 กายไปยุ่งวุ่นวายกับ DNA ของเราทำให้ DNA
00:06:36 → 00:06:39 ของเราเนี่ยเปลี่ยนสภาพไปก็ไปทำให้เกิด
00:06:39 → 00:06:42 โรคไทยหรือว่ามะเร็งในอนาคตได้ค่ะอืผมถาม
00:06:42 → 00:06:44 ไ้เผื่อเป็นอปชั่นได้มั้ยครับถ้าเกิดเรา
00:06:44 → 00:06:47 ไม่ได้กินสารที่มีอ่าหรือว่าผักผลไม้ที่
00:06:47 → 00:06:49 มีไลโคปีนเราไปกินแบบวิตามินอย่างอื่นมัน
00:06:49 → 00:06:51 มีสารต้าอนุมูลอิสระตัวนี้เข้ามาช่วย
00:06:51 → 00:06:54 เหลือมครับถ้าเราทานผักสีอื่นที่มาใน
00:06:54 → 00:06:57 ไลโคปีนก็ช่วยนะคะอย่างบางคนคนไข้บางคน
00:06:57 → 00:07:00 ไม่ชอบทานมะเขือเทศเลยผมไม่ชอบเลยใช่อัน
00:07:00 → 00:07:02 นี้เป็นเป็นจุดที่เจอคนไข้บ่อยมากพอหมอ
00:07:02 → 00:07:05 พูดคำว่ามะเขือเทศทุกคนจะผงะว่าแบบหมอพี่
00:07:05 → 00:07:07 เกียดมะเขือเทศมากอะไรเงี้ยทานอย่างอื่น
00:07:07 → 00:07:11 ได้มจริงๆผลไม้บางอย่างก็มีไลโคปีนแล้วก็
00:07:11 → 00:07:13 จริงๆแล้วการที่ทานมะเขือเทศอ่ะค่ะไม่
00:07:13 → 00:07:16 จำเป็นว่าต้องเป็นมะเขือเทศสดเสมอไปเพราะ
00:07:16 → 00:07:19 ว่าบางคนจะรู้สึกว่ามีกลิ่นที่ไม่ไม่น่า
00:07:19 → 00:07:22 รักมากเราอาจจะทำเหมือนไปผัดหรือว่าไป
00:07:22 → 00:07:25 ปรุงอาหารอย่างอื่นก็สามารถได้โปิเช่น
00:07:25 → 00:07:27 เดียวกันค่ะหรือว่าถ้าใครทานไม่ได้จริงๆ
00:07:27 → 00:07:30 เลยเนี่ยไม่สามารถย่อยผักผลไม้ได้เพราะ
00:07:30 → 00:07:32 บางคนมีปัญหาเรื่องลำไส้ใช่มั้คะก็อาจจะ
00:07:32 → 00:07:35 ต้องปรึกษาคุณหมอว่าอาจจะสามารถรับในรูป
00:07:35 → 00:07:38 แบบอาหารเสริมได้มยแต่ก็มีนี่ลองปรึกษา
00:07:38 → 00:07:40 คุณหมอก่อนแล้วกันใช่ค่ะขอพูดถึงเรื่อง
00:07:40 → 00:07:42 มะเขือเทศหน่อยค่ะได้ยินมว่ามะเขือเทศ
00:07:42 → 00:07:46 จริงๆแล้วเนี่ยการที่เรากินแบบสดๆเป็นลูก
00:07:46 → 00:07:49 ๆเนี่ยมันให้ไลโคปีนน้อยกว่าเราไปบดมัน
00:07:50 → 00:07:52 ร่ะครับคุณหมอจริงๆถ้าเกิดว่าปกติผัก
00:07:52 → 00:07:55 ผลไม้สดเนี่ยตามหลักการให้สารอาหารมาก
00:07:55 → 00:07:57 กว่าผักผลไม้ที่ถูกปรุงอยู่แล้วถูกมั้ยคะ
00:07:57 → 00:08:00 เพราะเาไม่เดินความร้อนแต่ว่าจะมีผักบาง
00:08:00 → 00:08:02 อย่างอย่างเช่นกลุ่มไลโคปีนเนี่ยถ้าเขา
00:08:02 → 00:08:05 โดนสับโดนบดหรือว่าไปโดนความร้อนสักนิด
00:08:05 → 00:08:07 สักหน่อยอย่างเช่นเวลาเราไปกินเ Breakfast
00:08:08 → 00:08:10 ตอนเช้าเราจะเห็นมะเขือเทศที่โดนอบจนผิว
00:08:10 → 00:08:13 เริ่มเหี่วๆนิดนึงอันเนี้ยเขาจะยิ่งปล่อย
00:08:13 → 00:08:15 สารไลโคปีนมาให้เราดูดซึมได้ดีมากขึ้น
00:08:15 → 00:08:17 เพราฉนั้นถ้าอย่างบางคนเนี่ยไม่สามารถทาน
00:08:17 → 00:08:20 มะเขือเทศเป็นลูกๆได้หมอจะอนุญาตให้เขา
00:08:20 → 00:08:23 เอาไปทำเป็นเป็นเหมือนเป็นซอสสปาเกตตี้
00:08:23 → 00:08:27 แต่ว่าใส่แบบมะเขือเทศลงไปทออัเยอะๆอย่าง
00:08:27 → 00:08:29 เงี้ยค่ะหรือเพเด็กบางคนไม่เห็นมะเขือเทศ
00:08:30 → 00:08:32 แล้วกระโดดหนีก็อาจจะต้องไปไปทำแปรงร่าง
00:08:32 → 00:08:35 กันอย่างอื่นอย่างเงี้ยค่ะอกินซอสมะเขือ
00:08:35 → 00:08:37 เทศช่วยมั้ยครับจริงๆซอสมะเขือเทศมีอะไร
00:08:37 → 00:08:39 คุกดีนะคะแต่อาจจะได้โซเดียมแถมด้วยได้
00:08:39 → 00:08:43 เหรองั้นไม่กินแล้วโอเคผ่านไปชนิดแรกคือ
00:08:43 → 00:08:46 สีแดงค่ะเดินทางต่อมาสีที่ 2 ครับคุณหมอง
00:08:46 → 00:08:48 สีเหลืองส้มแล้วกันใกล้ๆกันนะคะสีเหลือง
00:08:48 → 00:08:52 ส้มอันนี้ทุกคนรู้จักคุ้นเคยดีแครอทฟัก
00:08:52 → 00:08:57 ทองนะคะมันเทศที่เป็นสีสีเหลืองๆส้มๆนะคะ
00:08:57 → 00:08:59 อันนี้จะมีไลโคปีนแต่ถ้าถเป็นผลไม้ก็
00:09:00 → 00:09:02 อย่างเมื่อกี้ที่เราพูดไปก็จะมีเรื่องส้ม
00:09:02 → 00:09:05 นะคะมะม่วงก็แอบเป็นสีเหลืองใช่ไหมมคะก็
00:09:05 → 00:09:09 จะมีอะไรมีเป็นเบตแรีค่ะก็คือถ้าเกิดเป็น
00:09:09 → 00:09:11 สีเหลืองส้มเนี่ยจะให้สารหลักๆก็คือเป็น
00:09:11 → 00:09:16 เบตแีนเบต crypt แนนค่ะซึ่งอนุพันธ์เหล่า
00:09:16 → 00:09:19 เนี้ยจะสามารถเปลี่ยนไปเป็นวิตามิน a ให้
00:09:19 → 00:09:21 ร่างกายได้ซึ่งวิตามิน A อย่างที่เรา
00:09:21 → 00:09:24 เรียนมา a ก็คือเป็นวิตามินตัวหลักๆของ
00:09:24 → 00:09:26 ร่างกายเราใช่ไหมยคะนี้ถ้าเราขาดไปมันก็
00:09:26 → 00:09:29 จะมีผลต่อสุขภาพร่างกายด้านอื่นๆด้วยถ้า
00:09:29 → 00:09:32 เราขาดสารกลุ่มเบต้าแคโรทีนแล้วก็จะไม่มี
00:09:32 → 00:09:35 วิตามินเอที่เพียงพอร่างกายก็จะเริ่มรู้
00:09:35 → 00:09:38 สึกว่าโอเคสายตาเราเริ่มไม่โอเคแล้วเ่อ
00:09:38 → 00:09:40 ภูมิคุ้มกันเราเริ่มไม่ดีเหมือนเดิมแล้ว
00:09:40 → 00:09:42 ก็อาจจะมีเรื่องผิวพรรณที่มีปัญหาได้ค่ะ
00:09:42 → 00:09:44 เราสังเกตยังไงได้บ้างมั้ยครับว่าเราขาด
00:09:44 → 00:09:48 วิตามิน a เ่าจริงๆถ้าสังเกตเลยเนี่ยเรา
00:09:48 → 00:09:50 อาจจะต้องขาดหนักพอสมควรนะเราถึงจะสังเกต
00:09:50 → 00:09:53 ได้เช่นผิวเราเริ่มมีปัญหาเช่นผิวผลดผื่น
00:09:53 → 00:09:56 ขึ้นง่ายหรือว่าบางคนที่เริ่มป่วยบ่อยๆ
00:09:56 → 00:09:59 แบบเพื่อนเป็นหวัดนิดนึงนี่ก็ติดมาแล้ว
00:09:59 → 00:10:00 อันเนี้ยอาจจะมีปัญหาเรื่องภูมคุ้มกันอาจ
00:10:00 → 00:10:03 จะต้องมาย้อนดูว่าเอ่อสารอาหารในร่างกาย
00:10:03 → 00:10:06 เนี่ยบาานมมครับซึ่งทั้งหมดทั้งมนเยมัน
00:10:06 → 00:10:09 ไม่ใช่กินแค่ 3 วันแล้วมันจะเพิ่มเติม
00:10:09 → 00:10:12 ขึ้นมามันต้องใช้เวลาระยะเวลาเราต้องกิน
00:10:12 → 00:10:15 ขนาดไหนอ่ะคุณหมอใช่จริงๆส่วนใหญ่จะแนะนำ
00:10:15 → 00:10:17 ให้คนไข้ปรับพฤติกรรมเวลาปรับพฤติกรรม
00:10:17 → 00:10:20 เนี่ยค่ะเราปรับกันเป็นหลักเดือนอไม่ได้
00:10:20 → 00:10:23 กินกันแค่แค่วัน 2 วันแน่นอนเพราะว่าเรา
00:10:23 → 00:10:25 ต้องการให้พฤติกรรมนั้นน่ะกลายเป็นนิสัย
00:10:25 → 00:10:28 ขนคนไข้ไปเลยเพราะฉะนั้นในช่วงแรกๆเนี่ย
00:10:28 → 00:10:30 1-3 เดือนอาจจะเป็นช่วงที่เขาปรับตัวแต่
00:10:30 → 00:10:32 พอเลย 6 เดือนไปแล้วเนี่ยจะเป็นนิสัยใหม่
00:10:32 → 00:10:36 ของเขาละเราก็จะอ่ะให้เวลานานนิดนึงช่วง
00:10:36 → 00:10:39 แรกๆเราอาจจะต้องมีการให้เป็นอาหารเสริม
00:10:39 → 00:10:41 แบบเม็ดอะไรไปช่วยเขาก่อนอะไรเงี้ยค่ะ
00:10:41 → 00:10:43 หลังจากนั้นพอคนไข้เริ่มทานได้ดีขึ้น
00:10:43 → 00:10:45 เนี่ยพอเป็นนิสัยเแล้วอันเนี้ยเราก็จะ
00:10:45 → 00:10:49 ปล่อยฟรีละตามสบายะซึ่งเกใครที่มีปัญหาใน
00:10:49 → 00:10:53 เรื่องของไขมันในเส้นเลือดตัวผลไม้หรือ
00:10:53 → 00:10:55 ว่าผักสีเหลืองสีส้มนี่ก็ช่วยได้ใช่มั้ย
00:10:55 → 00:10:56 ครับก็ช่วยค่ะจริงๆถ้าเกิดเป็นคนที่มี
00:10:56 → 00:10:58 ปัญหาเรื่องไขมันในเส้นเลือดหรือว่า
00:10:58 → 00:11:00 เกี่ยวกับเรื่องหลอดเลือดต่างๆเนี่ยจริงๆ
00:11:00 → 00:11:04 ต้องการทุกสีเลย่าผมเป็น 1 ตัวแทนแทนทุก
00:11:04 → 00:11:08 คนเลยแล้วกันว่าเป็นอยู่ใช่จริงๆท็อปปิก
00:11:08 → 00:11:10 วันนี้ก็เลยสำคัญที่ว่าทำไมเราต้องกินให้
00:11:10 → 00:11:12 ครบ 5 สีเพราะว่าแต่ละสีเขามีจุดเด่นต่าง
00:11:12 → 00:11:15 ๆกันเช่นเรื่องนี้ลดอนุมูลอิสระในหลอด
00:11:15 → 00:11:18 เลือดแต่อีกอันไปช่วยความแข็งแรงของหลอด
00:11:18 → 00:11:20 เลือดอีกอันไปต้านมูลอิสระให้เราอีกตรง
00:11:20 → 00:11:22 จุดนึงถ้าเราขาดสีใดสีนึงไปคราวนี้ร่าง
00:11:23 → 00:11:25 กายเราก็ทำงานได้ไม่ครบละเหมือนเป็นขบวน
00:11:25 → 00:11:27 การ Power Ranger 5 สีอะไรเงี้ยมาช่วย
00:11:27 → 00:11:29 ปกป้องร่างกายเราใชใช่ค่ะเพราะว่าจริงจริ
00:11:29 → 00:11:31 แล้วเอ่อสารต้านื้อมูลอิสระเนี่ยเขาต้อง
00:11:31 → 00:11:34 ทำงานร่วมกันเไม่ได้ทำงานตัวเดียวอืค่ะ
00:11:34 → 00:11:37 บางทีมีแต่วิตามินซีตัวเดียวทำงานไม่ได้
00:11:37 → 00:11:39 ต้องมี A มี E มีตัวอื่นมาด้วยเงี้ยค่ะ
00:11:39 → 00:11:42 แล้วอย่างงี้ในสีส้มแบบเยครับคุณหมอมันมี
00:11:42 → 00:11:45 วิตามินซีด้วยไมั้ยครับมีค่ะคือจริงๆ
00:11:45 → 00:11:47 อย่างในในอาหารชนิดนึงเนี่ยเขาประกอบได้
00:11:47 → 00:11:50 เกือบทุกอย่างเพราะฉะนั้นส่วนใหญ่เนี่ย
00:11:50 → 00:11:53 จริงๆแล้วหลักการคือเราต้องให้คนไข้หรือ
00:11:53 → 00:11:56 คนทั่วไปเนี่ยทานอาหารจริงๆที่เป็นอาหาร
00:11:56 → 00:11:58 ฟู้ดจริงๆเนี่ยให้ได้มากที่สุดก่อนเพราะ
00:11:58 → 00:12:01 เพราะว่าเวลาเรากินอาหารชนิดนึงเนี่ยไม่
00:12:01 → 00:12:03 ได้มีวิตามินแค่ตัวเดียวเขาเป็นสารประกอบ
00:12:03 → 00:12:05 หลายๆอย่างยิ่งถ้าเรากินได้หลากหลายมาก
00:12:05 → 00:12:07 ขึ้นเท่าไหร่เราจะยิ่งได้สารอาหารครบถ้วน
00:12:08 → 00:12:09 มากเท่านั้นค่ะแต่ถ้าเกิดเรากินแล้วแล้ว
00:12:09 → 00:12:12 มันเริ่มไม่พอก็ค่อยไปหาอาหารเสริมเพิ่ม
00:12:12 → 00:12:15 เติมขึ้นมาเอาไว้เป็นอชั่นหลังดีกว่าใช่
00:12:15 → 00:12:17 หรือบางคนไม่สามารถทานได้จริงๆอันนั้นก็
00:12:17 → 00:12:19 เป็นอชั่นเสริมค่ะแล้วสีเหลืองนี่เกี่ยว
00:12:19 → 00:12:22 กับกล้วยมยครับคุณหมอจริงๆกล้วยเนี่ยจะมี
00:12:22 → 00:12:25 ทั้งมีหลายหลายตัวเลยค่ะจริงๆถ้ากล้วย
00:12:25 → 00:12:27 เนี่ยก็จะมีทั้งเบต้าแคโรทีนด้วยนะคะจะมี
00:12:27 → 00:12:30 สารกลุ่มที่เป็นสารสีสีขาวสีน้ำตาลด้วย
00:12:30 → 00:12:33 แล้วก็มีแร่ธาตุด้วยจริงๆก็ถือว่าเป็น
00:12:33 → 00:12:35 ซอร์ฟอย่างนึงได้เหมือนกันครับแต่ว่าเรา
00:12:35 → 00:12:37 จะเอากล้วยไปอยู่ใน category ของสีขาว
00:12:37 → 00:12:40 แล้วก็น้ำตาลมากกว่าใช่ค่ะออโอเคจริงๆ
00:12:40 → 00:12:42 กล้วยเนี่ยข้องท่านซับซ้อนเพราะเามีหลาย
00:12:42 → 00:12:45 เฟสเจะมีกล้วยตั้งแต่ดิบสุกสีเขาเปลี่ยน
00:12:45 → 00:12:48 ไปเรื่อยๆค่ะเพะฉะนั้นจริงๆทานอาหารอย่าง
00:12:48 → 00:12:50 นึงอ่ะได้วิตามินหลายอย่างอยู่แล้วโอเค
00:12:50 → 00:12:53 ผ่านไป 2 สีแล้วนะครับสีแดงไปแล้วสีส้ม
00:12:53 → 00:12:57 เหลืองไปแล้วสีที่ 3 ครับเอาเป็นสีม่วงดี
00:12:57 → 00:13:00 มั้ยคะได้เลยโทนใกล้ๆกันสีม่วงเนี่ยอัน
00:13:00 → 00:13:03 นี้หลายๆคนอาจจะไม่ค่อยได้กินกะหล่ำม่วง
00:13:03 → 00:13:07 อออ่ามะเขือม่วงอ่ะอ่ะดูเป็นผักอาจจะดู
00:13:07 → 00:13:09 ยากหน่อยบีทรูทครับอย่างเงี้ยค่ะแต่ถ้า
00:13:09 → 00:13:12 เกิดเป็นบอกเป็นผลไม้อันนี้จะชินกันแล้ว
00:13:13 → 00:13:16 บลูเบอร์รี่แบล็คเบอร์รี่องุ่นมุ่นใช่
00:13:16 → 00:13:19 องุ่นสีม่วงเี้เริ่มสบายละอ่ะสารที่ได้
00:13:19 → 00:13:22 จากเอ่อผลไม้แล้วก็ผักสีม่วงเนี่ยจะเป็น
00:13:22 → 00:13:24 กลุ่มแอนโทไซยานินที่เมื่อกี้บอกว่าเอ้ย
00:13:24 → 00:13:26 อยากได้เกี่ยวกับเรื่องหลอดเลือด
00:13:26 → 00:13:28 แอนโทไซยานินเนี่ยจะดีกับเรื่องหลอดเลือด
00:13:28 → 00:13:31 มากเลยเพราะเาจะลดอนุมูลอิสระในเกี่ยวกับ
00:13:31 → 00:13:33 เรื่องหลอดเลือดได้แล้วก็จะช่วยในคนที่มี
00:13:34 → 00:13:37 ปัญหาเรื่องน้ำตาลปัญหาเรื่องไขมันทีนี้
00:13:37 → 00:13:39 ถ้าเราหลอดเลือดดีหลอดเลือดหัวใจเราก็จะ
00:13:39 → 00:13:43 ดีหลอดเลือดสมองเราก็จะดีเราก็ชชะลอ
00:13:43 → 00:13:45 เรื่องสมองเสื่อมในอนาคตของเราได้ด้วยค่ะ
00:13:45 → 00:13:47 ครับซึ่งต้องบอกว่าหลอดเลือดก็เป็นอีก
00:13:47 → 00:13:49 หนึ่งอย่างเหมือนกันนะที่หลายๆคนก็อาจจะ
00:13:49 → 00:13:52 มองข้ามไปใช่ค่ะถ้าเกิดมันยังไม่เกิดอะไร
00:13:52 → 00:13:55 ขึ้นมาเช่นแบบอ่ะก็จะมีทั้งไขมันอุดตัน
00:13:55 → 00:13:59 เส้นเลือดมีหลอดเลือดแข็งค่ะค่ะซึ่งพอมัน
00:13:59 → 00:14:02 แข็งไปนานๆมันก็จะแตกแล้วก็หลอดเลือดตัน
00:14:02 → 00:14:04 หลอดเลือดตีบมีเยอะแยะไปหมดเลยซึ่งเราจะ
00:14:04 → 00:14:07 ไปรู้ตอนที่เขาเกิดแล้วไงแต่ตอนที่เขายัง
00:14:07 → 00:14:09 ไม่เกิดอ่ะพวกสารอาหารเหล่านี้จะเป็นตัว
00:14:09 → 00:14:12 ช่วยป้องกันไม่ให้เกิดเรื่องพวกนั้นได้
00:14:12 → 00:14:14 เขาป้องกันยังไงครับคุณหมอผ่านหลักการ
00:14:14 → 00:14:16 เรื่องสารอนุมูลอิสระเนี่ยแหละค่ะอ๋อ
00:14:16 → 00:14:19 เพราะเขาเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ทรง
00:14:19 → 00:14:21 ประสิทธิภาพมากเลยถ้าไปวัดในหลอดทดลอง
00:14:21 → 00:14:24 เนี่ยตัวแอนโทไซยานินเนี่ยเอ่อมี
00:14:24 → 00:14:27 ประสิทธิภาพมากกว่าพวกวิตามินซีวิตามินอี
00:14:27 → 00:14:29 ประมาณ 2 เท่าอ่ะค่ะเป็นตัวที่ค่อนข้าง
00:14:29 → 00:14:33 แข็งแรงในการลดอนุมูลอิสระมากๆเวลาอนุมูล
00:14:33 → 00:14:35 อิสระเข้าไปในเส้นเลือดเรามันจะไปทำให้
00:14:35 → 00:14:36 อักเสบมั้ยครับคุณบมจริงเข้าไปทั้งตัว
00:14:36 → 00:14:39 เวลาเขาไปเขาไม่ได้เลือกที่เาไปทั้งหมด
00:14:39 → 00:14:42 ทั้งตัวแค่ว่าตรงไหนเปราะบางกว่าก็จะโดน
00:14:42 → 00:14:46 ก่อนพอเขาเข้าไปมีปฏิกิริยากับร่างกาย
00:14:46 → 00:14:48 ปุ๊บก็จะทำให้ตรงนั้นมันอักเสบขึ้นมาใช่
00:14:48 → 00:14:50 ใช่เกิดการอักเสบแล้วทีนี้เวลาอักเสบเขา
00:14:50 → 00:14:52 ไม่ได้อักเสบแค่จุดเดียวเขาจะปล่อยสัญญาณ
00:14:52 → 00:14:55 สารต่างๆไปบอกร่างกายตรงนู้นตรงนี้ทำให้
00:14:55 → 00:14:57 รวนไปทั้งระบบได้แต่จริงๆจุดที่เปราะบาง
00:14:57 → 00:15:00 ที่สุดอ่ะคือ DNA ของเรานะเพราะว่าร่าง
00:15:00 → 00:15:03 กายเราแบ่งตัวทุกวันเพถ้าเกิดว่าเรา
00:15:03 → 00:15:06 อนุมูลอิสระเยอะๆเนี่ย DNA ที่กำลังจะ
00:15:06 → 00:15:08 แบ่งตัวของเราเนี่ยจะอยู่ในจังหวะที่เปาะ
00:15:08 → 00:15:11 บางพอมีอนุมูลอิสระเยอะๆเขาก็จะไปทำให้
00:15:11 → 00:15:14 การแบ่งตัวตรงนั้นน่ะผิดปกติทำให้ DNA
00:15:14 → 00:15:16 เกิดการเพียนได้ที่เขาเรียกว่า Mutation
00:15:16 → 00:15:19 น่ะค่ะก็ทำให้เกิดมะเร็งอะไรในอนาคตกลาย
00:15:19 → 00:15:22 เป็น x-men ไม่ใช่แบบนั้นใช่ถ้าเป็น x-men
00:15:22 → 00:15:24 ได้ก็จะน่าจะดีแต่ว่าจะไม่ได้เป็น x-men
00:15:24 → 00:15:26 แทนน่ะสิคะอ๋อก็คือว่าเวลาที่มันจะเกิด
00:15:26 → 00:15:28 มะเร็งขึ้นมาปุ๊บเนี่ยที่เขาบอกว่าเรา
00:15:28 → 00:15:31 ต้องกลัวอนุมูลอิสระเพราะมันจะมา
00:15:31 → 00:15:34 interrupt ใช่ค่ะขั้นตอนของ DNA ระหว่าง
00:15:34 → 00:15:36 แบ่งตัวใช่เพราะว่าแบ่งตัวแล้วแทนที่จะ
00:15:36 → 00:15:39 กอปี้มาเหมือนต้นฉบับเลยดันเพี้ยนกอปี้
00:15:39 → 00:15:41 เพี้ยนไปเนี่ยร่างกายก็เลยบอกว่าเฮ้ยตัว
00:15:41 → 00:15:44 นี้มันไม่ใช่ร่างกายเราและก็เลยเกิดกลาย
00:15:44 → 00:15:46 เป็นมะเร็งขึ้นมาอย่างเงี้ยหรอครับใช่ค่ะ
00:15:46 → 00:15:49 ก็คือแบบ DNA เพี้ยนไปไม่สามารถหยุดการ
00:15:49 → 00:15:51 เจริญเติบโตของตัวเองได้ออย่างเงี้ยค่ะทำ
00:15:51 → 00:15:54 ให้หลุดกลไกการจัดการของร่างกายไปก็
00:15:54 → 00:15:56 เรื่องก็เลยเถิดไปแค่เกิดสารอนุมูลอิสระ
00:15:56 → 00:15:59 เนี่ยแหละพูดมา 3 สีละค่ะรู้สึกว่าจะมี
00:16:00 → 00:16:02 เรื่องเกี่ยวกับอนุมูลอิสระเยอะมากใช่
00:16:02 → 00:16:05 เพราะว่าจริงๆแล้วสารไฟโตนิวเทรียนท์
00:16:05 → 00:16:09 เคมีซึ่งการออกฤทธิ์หลักๆของเขาอ่ะคือ
00:16:09 → 00:16:11 เป็นสารต้านอนุบลอิสระอ๋อโอเคครับเราเดิน
00:16:12 → 00:16:15 ทางต่อไปที่สีที่ 4 ค่ะอันนี้น่าจะเป็นสี
00:16:15 → 00:16:18 ที่บางคนไม่ไม่ชอบทานเลยคือสีเขียวพอเห็น
00:16:18 → 00:16:21 สีมาทุกคนจะแบบโอ๊ยเขียวอี๋เลยเขียวกับ
00:16:21 → 00:16:24 ขาวมันใกล้ๆกันมั้ยคุณหมอเช่นแบบผักกาด
00:16:24 → 00:16:25 ขาวอย่างงี้เราเป็นสีเขียวหรือสีขาวครับ
00:16:25 → 00:16:29 อ่าผักกาดขาวได้ทั้ง 2 สีอ๋ออ่ะอตัวอย่าง
00:16:29 → 00:16:33 ผักสีเขียวนะคะก็อย่างเช่นผักคะน้านะคะ
00:16:33 → 00:16:37 บรอกโคลี่ผักโหมกวางตุ้งปวยเล้งเขียวปีๆ
00:16:37 → 00:16:39 ทั้งหลายนะคะถ้าเกิดว่าเป็นผลไม้อาจจะ
00:16:39 → 00:16:42 เป็นพวกกีวี่พวกนี้ที่เป็นองคเขียว
00:16:42 → 00:16:46 อะโวคาโดอะโวคาโดได้โวคาโดนี่ดีกับหลอด
00:16:46 → 00:16:48 เลือดด้วยใช่ค่ะเพราะมีไขมันดีแต่อันนี้
00:16:48 → 00:16:50 จะออกฤทธิ์แบบอีก 1 กลไกถ้าพูดถึงแค่
00:16:50 → 00:16:53 เรื่องสีๆเนี่ยในผักผลไม้สีเขียวเนี่ยก็
00:16:53 → 00:16:57 จะมีกลุ่มพวกคลอโรฟิลนะคะมีกลุ่มแอลฟา
00:16:57 → 00:17:00 แคโรทีนอ่ะเป็นแคโรทีนอยด์อีกอีกสายนึงนะ
00:17:00 → 00:17:04 คะนอกจากนี้เนี่ยผักเขียวผักใบๆเนี่ยก็จะ
00:17:04 → 00:17:07 มีเป็นพวกวิตามินซีมีธาตุเหล็กมีสังกสีมี
00:17:07 → 00:17:09 แร่ธาตุต่างๆด้วยเพราะฉะนั้นจริงๆผัก
00:17:09 → 00:17:11 เขียวเนี่ยค่อนข้างเป็นซุปเปอร์ฟู้ดอย่าง
00:17:11 → 00:17:13 นึงนอกจากนี้ก็คือผักเขียวส่วนใหญ่จะเป็น
00:17:13 → 00:17:16 ผักใบถูกมยคะถ้าผักอื่นสีอื่นอาจจะมีเป็น
00:17:16 → 00:17:19 ผักหัวบ้างแต่ถ้าเป็นสีเขียวส่วนใหญ่จะมา
00:17:19 → 00:17:23 เป็นใบๆพวกผักใบเนี่ยเขาจะมีพวกเส้นใย
00:17:23 → 00:17:26 เยอะอนั้นก็จะช่วยเรื่องระบบขับถ่ายช่วย
00:17:26 → 00:17:29 เรื่องชะลอการดูดซึมน้ำตาลเงี้ยค่ะก็จะดี
00:17:29 → 00:17:32 กับเรื่องอ่าการเผาผลาญของเราในอนาคตด้วย
00:17:32 → 00:17:34 ผมเคยได้ยินว่าการที่เราเอาผักสมมุติว่า
00:17:34 → 00:17:37 เราชอบกินชาบูค่ะเราเอาผักเขียวๆเนี่ยเรา
00:17:37 → 00:17:40 เอาไปต้มสารอาหารมันหายมครับหายค่ะปกติ
00:17:40 → 00:17:43 ถ้าผักผลไม้อยิ่งเก็บมาจากต้นนานเท่าไหร่
00:17:43 → 00:17:46 นะคะมาทิ้งค้างไว้นานเท่าไหร่แล้วเอาไป
00:17:46 → 00:17:49 ถูกปรุงแล้วโดนความร้อนไปนานๆแค่ไหนเนี่ย
00:17:49 → 00:17:52 สารต้านนมูลอิสระก็จะหายไปมากเท่านั้น
00:17:52 → 00:17:55 งั้นเวลาที่ผมไปกินชาบูอะไรเงี้ยแล้วผมก็
00:17:55 → 00:17:57 ใส่ผักลงไปต้มอย่างเงี้ยมันยังเหลือมั้ย
00:17:57 → 00:17:59 ครับคุณหมอยังเหลือค่ะแต่ว่าแค่จะลดไป
00:17:59 → 00:18:03 เรื่อยๆตามเปอร์เซ็นต์ที่เราต้มนานแค่ไหน
00:18:03 → 00:18:05 ตามความร้อนที่เราใช้เขาถึงบอกว่าไม่อยาก
00:18:05 → 00:18:08 ให้ทานอาหารที่ผ่านความร้อนสูงๆมากเพราะ
00:18:08 → 00:18:11 ว่าสารต้านอนุมูลอิสระที่มากับธรรมชาติก็
00:18:11 → 00:18:14 จะหายไปด้วยอืซึ่งจริงๆแล้วการที่เราทาน
00:18:14 → 00:18:16 อาหารกับความร้อนเนี่ยเรากินเป็นประจำ
00:18:16 → 00:18:20 อยู่ะค่ะกินปิ้งย่างยิ่งแบบโดนไฟกับเนื้อ
00:18:20 → 00:18:22 เนี่ยโดนกันตรงๆเนี่ยโอ้โหมันยิ่งอร่อย
00:18:22 → 00:18:25 เลยใช่มันจะยิ่งหอมนั่นแต่นั่นคืออนุมูล
00:18:25 → 00:18:27 อิสระเต็มที่ปล่อยออกมาก็คือสารกร่อ
00:18:27 → 00:18:30 มะเร็งทั้งนั้นเลยบางคนก็เลยเอาตัวฟอยไป
00:18:30 → 00:18:33 รองก็ยิ่งหอฟอยไปอีกก็ทำยังไงมันก็โดน
00:18:33 → 00:18:37 อยู่ดีใช่เพราฉะนั้นก็ลองลองลดได้ก็ลดลด
00:18:37 → 00:18:39 ได้ก็ลดถ้าเกิดยังอยากจะทานอยู่ก็ต้อง
00:18:39 → 00:18:42 เพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระไปให้บานกันพอ
00:18:42 → 00:18:45 เพียงค่ะก็เกินผักเข้าไปเยอะๆแบบนี้ใช่ก็
00:18:45 → 00:18:48 กินผักแนมเข้าไปซึ่งผักสีเขียวเนี่ยเราจะ
00:18:48 → 00:18:50 สามารถกระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดขาวได้
00:18:50 → 00:18:53 ด้วยใช่ค่ะจริงๆแล้วเนี่ยเอ่อผักสีเขียว
00:18:53 → 00:18:57 นะคะจะมีพวกาแร่ธาตุธาตุเหล็กกลุ่มเเนี่ย
00:18:57 → 00:18:59 เขาจะสามารถกระกระตุ้นการสร้างเม็ดเลือด
00:18:59 → 00:19:02 แดงเม็ดเลือดขาวได้นั้นเด็กที่ไม่ทานผัก
00:19:02 → 00:19:05 เลยสิ่งแรกที่จะเกิดกับเขาก็คือเจ็บป่วย
00:19:05 → 00:19:08 ง่ายเพราะเขาจะขาดทั้งวิตามินขาดทั้งแร่
00:19:08 → 00:19:10 าดแล้วก็อาจจะมีภาวะเลือดจางได้ด้วยกรณี
00:19:10 → 00:19:13 ที่ไม่ทันทั้งผักไม่ทันทั้งเนื้อสัตว์ก็
00:19:13 → 00:19:16 จบเลยคราวนี้ก็จะมีเลือดจังด้วยขอแตะตรง
00:19:16 → 00:19:19 นี้นิดนึงแล้วกันครับเม็ดเลือดแดงและเม็ด
00:19:19 → 00:19:22 เลือดขาวช่วยอะไรในร่างกายบ้างเม็ดเลือด
00:19:22 → 00:19:26 แดงก็คือเป็นระบบไหลเวียนโลหิตที่เราเห็น
00:19:26 → 00:19:27 เจาะเลือดมาสีแดงอันเนี้ยคือเม็ดเลือดแดง
00:19:28 → 00:19:31 ฝที่เป็นฮีโมโกลบินก็จะเป็นนทำหน้าที่ขน
00:19:31 → 00:19:34 ส่งออกซิเจนนะคะแต่ถ้าเม็ดเลือดขาวจะ
00:19:34 → 00:19:36 เปรียบเหมือนกองกำลังทหารของเราเขาจะมี
00:19:36 → 00:19:39 หน้าที่ปกป้องตัวเราเมเเลอแดงเหมือนคนทำ
00:19:39 → 00:19:42 งานน่ะค่ะวิ่งส่งสัญญาณสารต่างๆแต่ถ้าเมเ
00:19:42 → 00:19:44 เลอขาวเนี่ยถ้ามีอะไรผิดปกติเช่นมีไวรัส
00:19:44 → 00:19:46 อยู่ตรงนี้มีแบคทีเรียอยู่ตรงนี้นะมี
00:19:46 → 00:19:49 เซลล์มะเร็งอยู่ตรงนั้นเขาจะวิ่งไปจัดการ
00:19:49 → 00:19:51 ให้เราค่ะอืเพราะฉะนั้นถ้าเกิดทั้ง 2
00:19:51 → 00:19:55 อย่างนี้มันน้อยถ้าเกิดเม็ดเลือดแดงน้อย
00:19:55 → 00:19:58 สิ่งที่เกิดขึ้นก็เวียนหัวหน้ามืดเป็นลม
00:19:58 → 00:20:00 บูไปเลยคือเป็นเลือดจางใช่ค่ะแต่ถ้าเป็น
00:20:00 → 00:20:04 เม็ดเลือขาวน้อยภูมิคุ้มกันก็จะไม่ดีป่วย
00:20:04 → 00:20:08 ง่ายป่วยบ่อยภูมิคุ้มกันตกประมาณนั้นนะ
00:20:08 → 00:20:10 ครับนี่คือสีเขียวเอาล่ะเราเหลือสีขาว
00:20:10 → 00:20:14 เนาะค่ะใช่มั้ยครับสีขาวหรือน้ำตาลอ่อน
00:20:14 → 00:20:16 ค่ะสีนี้มีอะไรยังไงบ้างครับคุณหมอบางคน
00:20:16 → 00:20:19 ไม่เคยนับว่าสีนี้เป็นเป็นผักดด้วยเนาะ
00:20:19 → 00:20:21 ใช่เมื่อกี้ก็ินถามคุณบอกว่าอ้าสีขาวมัน
00:20:21 → 00:20:23 คืออะไรอ่ะเออยังนึกไม่ออกเหมือนกันใช่
00:20:23 → 00:20:26 ค่ะเพราะวานอยส่วนใหญ่จริงๆส่วนใหญ่อ่ะ
00:20:26 → 00:20:29 เขาไม่มีสีนะสารพวกกลุ่มฟาวน์
00:20:29 → 00:20:32 ไฟโตนิวเทรียนท์แล้วเราก็จะชอบไปดูถูกเขา
00:20:32 → 00:20:34 ว่าไเขาไม่ใช่ผักหรือว่าเขาไม่ได้ให้อะไร
00:20:34 → 00:20:37 กับเราจริงๆกลุ่มเนี้ยสำคัญนะคะเพราะว่า
00:20:37 → 00:20:40 เราผ่านยุคโควิดกันมาแล้วเนาะแล้วสารสกัด
00:20:40 → 00:20:42 ฮิตๆที่เราไปซื้อกินกันน่ะกระชายป่ะใช่
00:20:42 → 00:20:45 มันก็อยู่จะอยู่จะอยู่ในนั้นหมดเลยก็คือ
00:20:45 → 00:20:50 เป็นกลุ่มที่เป็นกระเทียมขิงข่าตะไคร้
00:20:50 → 00:20:53 ขึ้นช่ากระชายผักที่มีกลิ่นที่เราไม่ชอบ
00:20:53 → 00:20:56 ที่งหลายที่กินแล้วปากเหม็นอ่ะหัวหอมอะไ
00:20:56 → 00:20:59 อย่างเงี้ยค่ะใช่แต่อาหารกลุ่มนี้จริง
00:20:59 → 00:21:02 เป็นซอร์ฟโดยธรรมชาตินะคะเขาจะมีสารกลุ่ม
00:21:02 → 00:21:06 ลาวนอยที่อ่าจะมีชื่อเรียกตามชนิดไปอ่ะ
00:21:06 → 00:21:08 ค่ะอย่างเช่นกระเทียมจะให้สารลีซินถ้า
00:21:08 → 00:21:11 เป็นกลุ่มหอมเนี่ยก็จะให้สารกลุ่ม
00:21:11 → 00:21:13 เคอร์ซิตินอย่างเงี้ยค่ะหรือว่าเป็นพวก
00:21:13 → 00:21:16 ผลไม้บางอย่างเช่นมังคุจะให้สารกลุ่ม
00:21:16 → 00:21:19 แซนโทนมังคุดก็เนื้อข้างในก็เป็นก็เป็นสี
00:21:19 → 00:21:22 ขาวมังคุไม่ใช่สีงวงนะทุกคนนะดูเนื้อข้าง
00:21:22 → 00:21:24 ในนะใช่ค่ะแล้วก็แอปเปิลอย่างเงี้ย
00:21:24 → 00:21:26 แอปเปิลก็เป็นเนื้อสีขาวก็จะให้สารกลุ่ม
00:21:26 → 00:21:28 เคอร์ซิตินคล้ายๆหัวหอมเหมือนกันซึ่งตรรง
00:21:28 → 00:21:31 เนักวิทยาศาสตร์เขาเอามาสกัดแล้วมาทำเป็น
00:21:31 → 00:21:34 อาหารเสริมไขเราอีกรอบนึงอ๋อใช่ตรงเนี้ย
00:21:34 → 00:21:36 เขาจะดังมากเลยเกี่ยวกับเรื่องภูมิคุ้ม
00:21:36 → 00:21:39 กันร่างกายค่ะโดยเฉพาะการจัดการเชื้อโรค
00:21:39 → 00:21:42 อีกอันนึงที่ลืมไม่ได้เลยซอฟที่เราแนะนำ
00:21:42 → 00:21:45 ให้คนไข้กินกันประจำคือเห็ดเห็ดนี่คือ
00:21:45 → 00:21:48 อยู่ในสีน้ำตาลใช่ค่ะเป็นสีขาวน้ำตาลเห็ด
00:21:48 → 00:21:50 เนี่ยจะมีสารกลุ่มเบต้ากูแคนซึ่งจะมี
00:21:50 → 00:21:52 ประโยชน์กับการบูสพูมคุ้มกันด้วยเพราะ
00:21:52 → 00:21:55 ฉะนั้นใครที่อยากบูชภุมคุ้มกันเนี่ยส่วน
00:21:55 → 00:21:58 ใหญ่จะแนะนำให้ไปกินเครื่องเทศเหล่านี้
00:21:58 → 00:22:00 นี่อาหารไทยเครื่องเทศเยอะนะคะนึกถึงต้ม
00:22:00 → 00:22:03 ยำเห็ดอ่ะเราใส่ขิงข่าตะไคร้ใส่เห็ดลงไป
00:22:03 → 00:22:05 อันนี้ก็เป็นอาหารบูสอิมมูนอย่างนึงละ
00:22:05 → 00:22:07 เหมือนเพพอเราฟังเรื่องสีขาวสีน้ำตาลก็จะ
00:22:07 → 00:22:10 เกี่ยวข้องกับการบูสภูมิคุ้มกันใช่ค่ะ
00:22:10 → 00:22:14 แล้วก็จะมีแต่ผักผลไม้ที่มันมีกลิ่นฉุน
00:22:14 → 00:22:16 ค่ะมันเกี่ยวข้องกันยังไงอ่ะคุณหมอทำไมมี
00:22:16 → 00:22:18 กลิ่นฉุนถึงไปบูสภูมิคุ้มกันขึ้นมาได้
00:22:18 → 00:22:20 จริงๆเหมือนเป็นธรรมชาติของสารเขามากกว่า
00:22:20 → 00:22:23 ส่วนใหญ่ผักที่มีกลิ่นฉุนเนี่ยเขาจะปล่อย
00:22:23 → 00:22:25 สารที่เป็นกลุ่มซัลเฟอร์ออกมาซึ่งตรง
00:22:25 → 00:22:28 ซัลเฟอร์พวกเนี้บางทีอ่าเวลาเข้าไปในร่าง
00:22:28 → 00:22:31 กายเขาจะสามารถไปบูสพวกกลูต้าไทโอนได้
00:22:31 → 00:22:33 ซึ่งก็จะไปบูสภูมิคุ้งกันอีกทีมันก็จะมี
00:22:33 → 00:22:36 กลไกแตกแขนงออกไปอีกอะไรอย่างเงี้ยค่ะ
00:22:36 → 00:22:38 เพราะฉะนั้นถึงบอกว่าเวลากินผักผลไม้อ่ะ
00:22:38 → 00:22:41 ต้องกินหลายๆสีเขาจะได้ไปช่วยกันทำงาน
00:22:41 → 00:22:43 เพราะว่าถ้ามีแค่สีใดสีนึงอ่ะทำงานได้ไม่
00:22:43 → 00:22:46 ครบวงจรแล้วถ้าเกิดเรากินสีนี้สมมุติว่า
00:22:46 → 00:22:49 ผมกินสีขาวผมกินแต่กล้วยสีแดงผมกินแต่
00:22:49 → 00:22:53 มะเขือเทศอไม่กินอย่างอื่นเลยพอมครับก็
00:22:53 → 00:22:57 ไม่พอเพราะว่าเราก็จะขาดสารอื่นๆไปอย่าง
00:22:57 → 00:22:59 ที่เมื่อกี้หมอพูดก็จะมีตั้งตั้งแต่
00:22:59 → 00:23:02 แคโรทีนมีเคอร์ซิติน
00:23:02 → 00:23:04 ซินร่างกายต้องใช้หมดเลยเพราะร่างกาย
00:23:04 → 00:23:07 เนี่ยไม่สามารถสังเคราะห์ไฟโตนิวเทรียน
00:23:07 → 00:23:09 ได้เราสังเคราะห์สีเองไม่ได้ถูกมั้ยคะเรา
00:23:09 → 00:23:11 ต้องได้จากอาหารเพราะฉะนั้นถ้าเราอยากจะ
00:23:11 → 00:23:13 ได้ให้กลไกร่างกายเนี่ยเป็นไปอย่าง
00:23:13 → 00:23:16 สมบูรณ์เราก็ต้องได้ให้ครบสีครบสารด้วย
00:23:16 → 00:23:18 ค่ะครับผมอีกหนึ่งสารที่ได้จากสีขาวแล้ว
00:23:18 → 00:23:22 ก็สีน้ำตาลคือสารแซนโทนแซนโทนใช่ค่ะ
00:23:22 → 00:23:24 แซนโทนนี่จะอยู่ดังๆมากเลยมันมีช่วงนึง
00:23:24 → 00:23:27 ที่เราฮิตเรื่องเอาามังคุดมาฆ่าเชื้ออ่า
00:23:27 → 00:23:29 แซนโทนก็จะดังเกี่ยวกับเรื่องการฆ่าเชื้อ
00:23:29 → 00:23:31 แบคทีเรียยังไงอ่ะครับคุณหมอคือเา้าไป
00:23:31 → 00:23:34 วิจัยในหลอดทดลองอ่ะค่ะเพะว่าารแนทเนี่ย
00:23:34 → 00:23:37 สามารถยับยั้งกลุ่มแบคทีเรียได้ก็เลยจะมี
00:23:37 → 00:23:40 ช่วงนึงที่เราเอาสารสกัดมังคุดมาฆ่าเชื้อ
00:23:40 → 00:23:42 สิวอะไรอย่างเงี้ยค่ะน่าจะเคยได้ยินแล้ว
00:23:42 → 00:23:45 เขาก็จะมีการดังขึ้นมาเป็นพักๆบางช่วงเรา
00:23:45 → 00:23:48 ก็จะฮิตไลโคปีนบางช่วงเราก็จะฮิตสารลีซิน
00:23:48 → 00:23:51 อย่างเช่นปี 2 ปีที่แล้วเราฮิตเซตินมาก
00:23:51 → 00:23:53 ทุกคนหาเคอร์ซิตินกันทั้งบ้านทั้งเมือง
00:23:53 → 00:23:56 อย่าเงี้ยเตินคือคือสารที่ได้มาจากเอ่อ
00:23:56 → 00:23:59 กลุ่มหอหัวหอมกลุ่มแอปเปิ้ลกลุ่มเนี้ยน
00:23:59 → 00:24:02 วิทยาศาสตร์เขเอามาสกัดเพื่อเป็นใส่เป็น
00:24:02 → 00:24:04 วิตามินบำรุงภูมิุมกันอะไรอย่างเงี้ยค่ะ
00:24:04 → 00:24:07 ถ้าอย่างเมื่อกี้บอกว่าถึงเอ่อตัวกระชาย
00:24:07 → 00:24:10 ใช่มั้ยคะกระชายหรือว่าพวกขาอะไรเงี้ยจะ
00:24:10 → 00:24:12 มีสันแคมฟอเขาก็จะมีชื่อของเขาไปทาง
00:24:12 → 00:24:15 วิทยาศาสตร์ซึ่งสุดท้าย่ะก็คือเราจะเลือก
00:24:15 → 00:24:17 มาใช้ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ที่เรา
00:24:17 → 00:24:20 ต้องการอืนะครับแล้วก็สีขาวกับสีน้ำตาล
00:24:20 → 00:24:23 เนี่ยยังช่วยชะลอไว้ได้ด้วยจริงๆสารต้าน
00:24:23 → 00:24:25 มูลสลาดทุกอย่างช่วยชะลอไวได้หมดเลยแต่
00:24:25 → 00:24:28 เขาเก่งกันคนละจุดเท่านั้นเองคือพอเราฟัง
00:24:28 → 00:24:31 มาทั้งหมดทั้งมดเนี่ย 5 สีด้วยกันสามารถ
00:24:31 → 00:24:34 สรุปได้ง่ายๆเลยว่ากินมันทุกสีนั่นแหละ
00:24:34 → 00:24:36 ขาดไม่ได้เลยสักสีสรุปต้องกินหมดเพราะ
00:24:36 → 00:24:38 ฉะนั้นเห็นผักอะไรเห็นผลไม้อะไรกินเข้าไป
00:24:38 → 00:24:41 เถอะใช่ค่ะหรือว่าบางเอ่อบางทีหมอจะให้คน
00:24:41 → 00:24:43 ให้ทำเป็นไดอารี่ง่ายๆอ่ะค่ะว่าอาทิตย์
00:24:43 → 00:24:46 เนี้ยกินครบสีหรือยังอย่างที่ที่โรง
00:24:46 → 00:24:48 พยาบาลนะคะก็จะมีเป็นเหมือนแแผ่นพับให้คน
00:24:48 → 00:24:51 ไข้อ่ะค่ะไว้เช็คลิสตัวเองง่ายๆว่าเราว่า
00:24:51 → 00:24:54 เราติ๊กอ่ะค่ะว่าเรากินวันจันทร์เรากินสี
00:24:54 → 00:24:56 อะไรไปบ้างวันอังคารเรากินสีอะไรไปบ้างพอ
00:24:56 → 00:24:58 เราทำอย่างเงี้ไปสักเดือน 2 2 เดือน
00:24:58 → 00:25:00 เนี่ยเราจะเริ่มเคยชินละค่ะแต่ถ้าเราไม่
00:25:00 → 00:25:03 เคยติ๊กเลยบางทีเราอาจจะจำไม่ได้เลยว่า
00:25:03 → 00:25:06 เราเราทานครบมจริงๆเพราะว่าบางทีเราคิด
00:25:06 → 00:25:09 ว่าเราทานผักนะแต่ว่าเราทานไม่ครบสีเงี้ย
00:25:09 → 00:25:12 ค่ะหรืออีกวิธีก็อาจจะต้องไปตรวจเลยดูว่า
00:25:12 → 00:25:15 เรากินครบสีจริงๆหรือเปล่าครับคำถามสุด
00:25:15 → 00:25:17 ท้ายครับคุณหมอแล้วถ้าเกิดเราทานเยอะเกิน
00:25:17 → 00:25:21 ไปล่ะครับถ้าปกติถ้าทานด้วยตัวเองนะคะมา
00:25:21 → 00:25:24 เป็นผักใบๆหรือเป็นผลไม้เป็นลูกๆเนี่ย
00:25:24 → 00:25:27 โอกาสที่จะทานแบบในปริมาณที่วอร์ดสเนี่ย
00:25:27 → 00:25:29 ค่อนข้างน้อยถูกมั้ยคะใครจะทานผักได้ขนาด
00:25:29 → 00:25:32 นั้นส่วนใหญ่เราจะไปทานเกินตอนมาเป็นรูป
00:25:32 → 00:25:35 แบบเม็ดหรือมาเป็นแบบรูปแบบน้ำฉะนั้นอัน
00:25:35 → 00:25:38 นั้นมีโอกาสที่จะทานเกินได้บ้างซึ่งปกติ
00:25:38 → 00:25:40 แล้วเนี่ยโดยทั่วไปร่างกายจะมีวิธีการ
00:25:40 → 00:25:43 กำจัดออกได้ด้วยตัวเองนะคะตามธรรมชาติยก
00:25:43 → 00:25:46 เว้นคนที่มีโรคประจำตัวบางอย่างเช่นมีโรค
00:25:46 → 00:25:48 ตับมีโรคไตอันนั้นอาจจะต้องปรึกษาคุณหมอ
00:25:48 → 00:25:52 ว่าทานสีไหนได้สีไหนไม่ได้สีไหนไม่ควรทาน
00:25:52 → 00:25:55 เยอะไปนะคะหรือบางคนเนี่ยเอ่อมีปัญหา
00:25:55 → 00:25:57 เรื่องไทรรอยด์อันนี้อาจจะต้องระวังพผัก
00:25:58 → 00:26:00 สีเขียวที่เป็นตระกูลกะหล่ำเพราะว่าถ้า
00:26:00 → 00:26:02 เกิดว่าเป็นผักตระกูลกะหล่ำที่ดิบอ่ะค่ะ
00:26:02 → 00:26:05 ไม่ได้ปรุงสุกเนี่ยเขาจะมีสารที่เขาเรียก
00:26:05 → 00:26:08 ว่ากอยโตรเจนซึ่งจะไม่สามารถบล็อกไทรอยด์
00:26:08 → 00:26:11 ทำให้ไทรรอยด์ทำงานช้าได้อ๋ออ่าเพราะ
00:26:11 → 00:26:13 ฉะนั้นถ้าจะทานเนี่ยแนะนำทานเป็นอาหาร
00:26:13 → 00:26:16 ธรรมชาติแล้วอาจจะเลือกวิธีการปรุงหรือ
00:26:16 → 00:26:19 วิธีการแปรรูปของเขาเนี่ยให้ถูกต้องแล้ว
00:26:19 → 00:26:22 ก็เหมาะสมด้วยค่ะอ่ะก็คงต้องมารอดูแล้ว
00:26:22 → 00:26:24 กันนะครับว่าเราเนี่ยเหมาะกับอะไรหรือว่า
00:26:25 → 00:26:26 ไม่ควรทานอะไรก็มาปรึกษาคุณหมอกันได้
00:26:26 → 00:26:28 เพราะว่าทุกอย่างสามารถมาตรวจเช็คกันได้
00:26:28 → 00:26:30 ใช่ค่ะถ้าเกิดเวลามาตรวจเช็คเราเช็คยังไง
00:26:30 → 00:26:32 ครับคุณบอกว่าเราคาร์ดอะไรบ้างจอดเลือด
00:26:32 → 00:26:34 จอดเลือดได้ค่ะจอดเลือดจะออกมาเป็นชาร์จ
00:26:34 → 00:26:37 สีเลยค่ะว่าเอ่อวิตามินเออยู่ในเลเวล
00:26:37 → 00:26:41 ประมาณไหนวิตามินอีที่เราพูดไปค่ะเบต้า
00:26:41 → 00:26:44 แคโรทีนแอลฟาแคโรทีนเบต้าคิตแซนทีน
00:26:44 → 00:26:48 ไลโคปีนตรวจได้นะอตรวจได้เลยว่าเรากิน
00:26:48 → 00:26:50 อะไรไม่กินอะไรหรือว่ากินนะแต่ไม่ดูดซึม
00:26:50 → 00:26:53 หรือเปล่าเราอาจจะต้องเอามะเขือเทศไปผัด
00:26:53 → 00:26:55 แทนหรือเปล่าแทนที่จะกินสดอย่างเงี้ยค่ะ
00:26:55 → 00:26:57 เดี๋ยวนี้ก็คือเทคโนโลยีไปไกลแล้วก็จะ
00:26:57 → 00:27:00 สามารถบอกได้อันนี้ก็จะช่วยในการไกดอย่าง
00:27:00 → 00:27:01 นึงแต่ถ้าเราไม่อยากเสียเงินตรวจเราก็อาจ
00:27:01 → 00:27:04 จะต้องตั้งใจกินนิดนึงไม่ได้กินแค่ 3 วัน
00:27:04 → 00:27:07 แล้วมันจะดีขึ้นนะกินไปเรื่อยๆเป็นหลัก
00:27:07 → 00:27:09 เดือนนะครับก็วันนี้ก็ขอขอบคุณคุณหมอด้วย
00:27:09 → 00:27:12 นะครับที่ได้มาแชร์เรื่องราวของการกินผัก
00:27:12 → 00:27:15 ให้ครบ 5 สีนะครับก็อย่าลืมนะทุกคนเราใส่
00:27:15 → 00:27:17 ไว้ด้านล่างให้แล้วนะครับว่าผักแต่ละสี
00:27:17 → 00:27:19 เนี่ยมีอะไรกันบ้างแล้วก็ควรทอย่างไรกัน
00:27:19 → 00:27:21 บ้างก็ไปลองอ่านกันดูได้นะครับแล้วถ้า
00:27:21 → 00:27:23 เกิดชอบ podcast แบบนี้เป็นเรื่องราว
00:27:23 → 00:27:26 เกี่ยวข้องกับสุขภาพที่ทำให้ทุกคนสุขภาพ
00:27:26 → 00:27:28 ดีมากยิ่งขึ้นก็ฝากด้วยะกันครับกับพญาไทย
00:27:28 → 00:27:30 podcast นะครับวันนี้ขอขอบคุณคุณหมอออม
00:27:30 → 00:27:34 ด้วยนะครับขอบคุณครับขอบคุณ
00:27:34 → 00:27:37 [ปรบมือ]
00:27:37 → 00:27:40 [เพลง]
00:27:40 → 00:27:43 ค่ะ