00:00:12 → 00:00:28 [เพลง]

00:00:28 → 00:00:33 เสนับสนุนโดย True Corporation ชีวิตดี

00:00:33 → 00:00:39 กว่าเมื่อมีกันและ

00:00:39 → 00:00:43 กันนอนไม่หลับฟังทางนี้รวมวิธีทำให้หลับ

00:00:44 → 00:00:47 ง่ายนอนไม่พอนอนน้อยเสี่ยงอ้วนโรคหัวใจ

00:00:47 → 00:00:50 และหลอด

00:00:50 → 00:00:54 เลือดนอนไม่หลับหยุดหายใจขณะหลับต้องทำ

00:00:54 → 00:00:58 อย่างไรเผยวิธีทำให้นอนหลับ

00:00:58 → 00:01:02 ง่ายเมลาโทนินยานอนหลับตัวช่วยเรื่องการ

00:01:02 → 00:01:06 นอนใช้อย่างไรถึงถูกต้องปลอดภัยติดตาม

00:01:06 → 00:01:09 เรื่องราวทั้งหมดได้ในรายการ TNN Health

00:01:09 → 00:01:12 วัน

00:01:12 → 00:01:16 นี้สวัสดีค่ะขอต้อนรับเข้าสู่รายการ TNN

00:01:16 → 00:01:19 Heal เข้าถึงทุกสาระสุขภาพเสริมคุมพุ้ม

00:01:19 → 00:01:23 กันรู้ทันโรคไปกับ TNN He ค่ะและดิฉัน

00:01:23 → 00:01:26 หมอดาวแพทย์หญิงชัดดาวจังวังกรแพทย์เฉพาะ

00:01:26 → 00:01:29 ทางสาขาเวชศาสตร์ครอบครัวพร้อมที่จะรับ

00:01:29 → 00:01:31 หน้าที่เป็นเป็นผู้ดำเนินรายการพาคุณผู้

00:01:31 → 00:01:35 ชมไปเข้าถึงทุกสาระสุขภาพกัน

00:01:35 → 00:01:41 [เพลง]

00:01:41 → 00:01:45 ค่ะหลายคนค่ะยังมีปัญหาเรื่องการนอนไม่

00:01:45 → 00:01:47 ว่าจะเป็นเรื่องของการนอนกรนการนอนไม่

00:01:47 → 00:01:50 หลับต้องถือเลยค่ะว่าถ้าใครนะคะที่นอน

00:01:50 → 00:01:53 หลับได้สนิทตื่นมาสบายนั่นมีแต้มบุญที่

00:01:53 → 00:01:56 สูงมากคราวนี้ค่ะเรามารู้กันดีกว่าค่ะว่า

00:01:56 → 00:02:00 ในเรื่องของวงจรการนอนที่ปกติเป็นอย่างไร

00:02:00 → 00:02:03 เราไปรู้เกี่ยวกับวงจรการนอนกันดีกว่า

00:02:03 → 00:02:07 ค่ะวงจรการนอนหลับจะแบ่งออกได้เป็น 2

00:02:07 → 00:02:10 ระยะที่เกิดขึ้นสลับกันไปในแต่ละคืนซึ่ง

00:02:11 → 00:02:14 สามารถจำแนกได้จากการตรวจการนอนหลับระยะ

00:02:14 → 00:02:17 แรกเรียกว่าระยะการหลับที่ไม่มีการกรอกตา

00:02:17 → 00:02:20 แบบรวดเร็วหรือว่า non rapid Eye

00:02:20 → 00:02:23 movement Sleep หรือ End Sleep แบ่ง

00:02:23 → 00:02:28 ได้ 3 ระยะได้แก่ระยะ N1 คือหลับตื้นใช้

00:02:28 → 00:02:33 เวลาร้อยละ 2 5 ระยะ n2 คือหลับกลางใช้

00:02:33 → 00:02:38 เวลาร้อยละ 45-55 ระยะ N3 คือหลับลึกใช้

00:02:38 → 00:02:40 เวลาร้อยละ

00:02:40 → 00:02:44 5-20 ระยะที่ 2 ระยะการหลับที่มีการกรอก

00:02:44 → 00:02:48 ตาแบบรวดเร็วหรือ rapid Eye movement

00:02:48 → 00:02:51 Sleep หรือ rem Sleep หรือเรียกว่าระยะ

00:02:51 → 00:02:54 หลับฝันใช้เวลาร้อยละ

00:02:54 → 00:02:58 20-25 ประสิทธิภาพการนอนเทียบจากระยะ

00:02:58 → 00:03:01 เวลาที่นอนหลับกับเวลาที่นอนอยู่บนเตียง

00:03:01 → 00:03:05 ควรสูงกว่าร้อยละ 85 คุณภาพการนอนหลับที่

00:03:05 → 00:03:08 ไม่ดีนั้นจะพบว่ามีการนอนหลับลึกหรือมี

00:03:08 → 00:03:13 ระยะ N3 และระยะ rem Sleep ลดลงมีการ

00:03:13 → 00:03:16 ตื่นตัวบ่อยของสมองและประสิทธิภาพของการ

00:03:16 → 00:03:20 นอนน้อยกว่าร้อยละ 85 ซึ่งอันที่จริงแล้ว

00:03:20 → 00:03:23 นะคะคุณผู้ชมใน 1 คืนนั้นเราจะมีการนอน

00:03:23 → 00:03:26 หลับในระยะตื้นแล้วก็ระยะลึกนะคะสลับกัน

00:03:26 → 00:03:28 ไป 3-5 รอบ

00:03:28 → 00:03:32 ค่ะแล้วทำไมคนเราถึงต้องนอนหลับพักผ่อน

00:03:32 → 00:03:35 เพราะการนอนหลับเป็นการพักผ่อนที่ดีที่

00:03:35 → 00:03:38 สุดการนอนหลับมิได้เป็นเพียงแค่การเติม

00:03:38 → 00:03:41 พลังให้ร่างกายหรือเปรียบเสมือนการชาร์จ

00:03:41 → 00:03:43 แบตเตอรี่ให้พร้อมใช้งานในวันรุ่งขึ้น

00:03:43 → 00:03:47 เท่านั้นแต่ในขณะนอนหลับร่างกายยังได้รับ

00:03:47 → 00:03:50 การฟื้นฟูโดยระบบฮอร์โมนของร่างกายหลาย

00:03:50 → 00:03:53 ชนิดมีการหลั่งฮอร์โมนออกมาปริมาณมาก

00:03:53 → 00:03:57 เฉพาะในช่วงเวลากลางคืนเช่นฮอร์โมน

00:03:57 → 00:04:00 กระตุ้นการเจริญเติบโตหรือโทฮอร์โมน

00:04:00 → 00:04:03 ฮอร์โมนเมลาโทนินซึ่งช่วยควบคุมวงจรการ

00:04:03 → 00:04:06 หลับตื่นและฮอร์โมนชนิดนี้จะหลั่งออกมา

00:04:06 → 00:04:09 เฉพาะตอนกลางคืนเท่า

00:04:09 → 00:04:12 นั้นนอกจากนี้นะคะในเรื่องของระบบความจำ

00:04:12 → 00:04:16 นั้นจะมีอวัยวะที่เรียกว่าโคมัค่ะเขาจะทำ

00:04:16 → 00:04:19 งานทำหน้าที่ในการเก็บเรื่องของความจำใน

00:04:19 → 00:04:22 ช่วงกลางคืนที่เรานอนหลับนั่นเองดังนั้น

00:04:22 → 00:04:25 ถ้าใครนะคะที่นอนน้อยแต่นอนนะนอนไม่เพียง

00:04:25 → 00:04:29 พอเนี่ยจะส่งผลต่อความจำและยังส่งผลต่อ

00:04:29 → 00:04:31 โรคตงต่าของร่างกายอีกด้วย

00:04:31 → 00:04:35 ค่ะสำหรับการนอนน้อยนอนไม่พอจะเสี่ยงต่อ

00:04:35 → 00:04:40 โรคดังต่อไปนี้ 1 โรคอ้วนงานวิจัยพบว่าคน

00:04:40 → 00:04:43 ที่นอนน้อยกว่า 7 ชมงต่อวันมีแนวโน้มที่

00:04:43 → 00:04:46 น้ำหนักตัวจะมากขึ้นและเสี่ยงเป็นโรคอ้วน

00:04:46 → 00:04:49 ได้สูงกว่าคนที่นอนมากกว่า 7 ชมงต่อวัน 2

00:04:49 → 00:04:53 โรคเบาหวานคนที่เป็นโรคเบาหวานหากนอนไม่

00:04:53 → 00:04:56 พอจะทำให้กลูโคสในเลือดเพิ่มขึ้นและหาก

00:04:56 → 00:04:59 ยังนอนไม่พอจะทำให้เกิดภาวะดื้อต่อ

00:04:59 → 00:05:04 อินซูลินได้ 3 โรคหัวใจวายโรคหัวใจและ

00:05:04 → 00:05:07 หลอดเลือดหัวใจล้มเหลวหัวใจเต้นผิดจังหวะ

00:05:07 → 00:05:10 งานวิจัยทดลองในกลุ่มคนที่ไม่ได้นอนเป็น

00:05:10 → 00:05:13 เวลา 88 ชั่วโมงพบว่ามีความดันเลือดที่

00:05:13 → 00:05:16 สูงมากกว่าผิดปกติและในผู้หญิงที่อายุ

00:05:16 → 00:05:20 น้อยกว่า 60 ปีมีความเสี่ยงเป็นโรคหัวใจ

00:05:20 → 00:05:24 ถึง 2 เท่า 4 โรคมะเร็งลำไส้งานวิจัยพบ

00:05:24 → 00:05:28 ว่าคนที่นอนน้อยกว่า 6 ชมงถึงร้อยละ 47

00:05:28 → 00:05:31 มีอาการของมะเร็งลำไส้มากกว่าคนที่นอน

00:05:31 → 00:05:34 หลับอย่างน้อย 7 ช่มขึ้นไป 5 โรคนอนไม่

00:05:34 → 00:05:38 หลับเรือรังหากเข้านอนใช้เวลา 30 นาที

00:05:38 → 00:05:41 ก่อนจะหลับการหลับๆตื่นๆทั้งคืนหรือการ

00:05:41 → 00:05:44 ตื่นกลางดึกแล้วไม่สามารถหลับต่อได้หากมี

00:05:44 → 00:05:47 อาการเหล่านี้ 1 เดือนถือเป็นอาการนอนไม่

00:05:47 → 00:05:50 หลับเรื้อรัง 6 โรคซึมเศร้าอาการนอนไม่

00:05:51 → 00:05:53 หลับเป็นอาการที่เกี่ยวเนื่องกับภาวะซึม

00:05:53 → 00:05:55 เศร้าอย่างเด่นชัดเป็นอาการที่พบได้เป็น

00:05:56 → 00:05:58 อันดับแรกของโรคซึม

00:05:58 → 00:06:01 เศร้าแล้วเราจะทราบได้อย่างไรว่าเราเนี่ย

00:06:01 → 00:06:04 นอนพอหรือเปล่าฟังทางนี้ดีๆ

00:06:04 → 00:06:09 ค่ะ 1 ตื่นนอนมาไม่สดชื่นอยากนอนต่อไม่

00:06:09 → 00:06:12 อยากลุกไปไหน 2 ในระหว่างวันมีอาการง่วง

00:06:12 → 00:06:16 ห้าวอยู่บ่อยๆรู้สึกอยากนอน 3 ถ้ามีโอกาส

00:06:16 → 00:06:20 ได้นอนตอนกลางวันจะหลับได้ในทันทีไม่ต้อง

00:06:20 → 00:06:23 ข่มตานอนนานหากมีอาการตามนี้แล้วบอกได้

00:06:24 → 00:06:26 เลยว่าคุณเป็นคนนอนน้อยอย่างแน่นอน

00:06:26 → 00:06:30 ค่ะสำหรับในช่วงหน้านะคะเราจะมาไขปัญหา

00:06:30 → 00:06:33 เรื่องของการนอนไม่ว่าจะเป็นการนอนกรนการ

00:06:33 → 00:06:36 นอนไม่หลับภาวะอุดกั้นทางเดินหายใจขณะนอน

00:06:36 → 00:06:39 หลับติดตามได้ในรายการ TNN Heal ช่วง

00:06:39 → 00:06:41 หน้า

00:06:41 → 00:06:58 [เพลง]

00:06:58 → 00:07:04 ค่ะ

00:07:04 → 00:07:06 กลับเข้าสู่ช่วงที่ 2 ของรายการ TNN

00:07:06 → 00:07:09 Health ค่ะอย่างที่บอกคุณผู้ชมไปนะคะว่า

00:07:09 → 00:07:12 วันนี้เราจะมาไขข้อข้องใจในเรื่องปัญหา

00:07:12 → 00:07:15 การนอนกันและเราได้รับเกียรติจากอาจารย์

00:07:15 → 00:07:18 แพทย์หญิงปุณฑริกศรีสวาทแพทย์ผู้เชี่ยว

00:07:18 → 00:07:21 ชาญด้านการนอนศูนย์นิทราเวชโรงพยาบาล

00:07:21 → 00:07:24 จุฬาลงกรณ์สภากาชาตไทยอาจารย์หมอจะมาให้

00:07:24 → 00:07:28 คำแนะนำในการนอนสำหรับเรา

00:07:28 → 00:07:29 ค่ะ

00:07:29 → 00:07:36 [เพลง]

00:07:36 → 00:07:38 สวัสดีค่ะอาจารย์ขอเริ่มที่คำถามแรกเลยนะ

00:07:39 → 00:07:42 คะอาจารย์ขาปัญหาสำหรับการนอนของคนส่วน

00:07:42 → 00:07:45 ใหญ่คืออะไรคะจริงๆในปัจจุบันนี้นะคะก็

00:07:45 → 00:07:47 จริงๆปัญหาเกี่ยวกับการนอนเรามีค่อนข้าง

00:07:47 → 00:07:51 เยอะแต่ว่าที่พบว่ามีความชุกค่อนข้างเยอะ

00:07:51 → 00:07:54 เนี่ยก็จะมีอยู่ 2 โรคใหญ่ๆนะคะก็คือนอน

00:07:54 → 00:07:57 ไม่หลับนะคะกับอีกโรคนึงก็คือภาวะหยุดหาย

00:07:57 → 00:08:00 ใจขณะหลับค่ะอาจารย์ขาแล้วการนอนไม่หลับ

00:08:00 → 00:08:04 เนี่ยเกิดจากสาเหตุอะไรได้บ้างคะเอ่อเคย

00:08:04 → 00:08:07 มีงานวิจัยนะคะที่เขาดูว่าเอ้อในคนไข้ที่

00:08:07 → 00:08:09 นอนไม่หลับมาด้วยอาการนอนไม่หลับเนี่ยมี

00:08:09 → 00:08:12 สาเหตุเกิดจากอะไรได้บ้างก็พบว่าเอ่อ

00:08:12 → 00:08:14 ครึ่งนึงนะคะประมาณ 40 -50% เนี่ยเป็น

00:08:14 → 00:08:18 เรื่องของความเครียดหรือว่าเป็นโรคทางใจ

00:08:18 → 00:08:21 นะคะเอ่ออีกประมาณ 15-20 per นะคะก็จะ

00:08:21 → 00:08:26 เป็นโรคเอ่อจากการนอนหลับค่ะเช่นเอ่อภาวะ

00:08:26 → 00:08:28 นอนละเมอขากระตุกขณะหลับหรือว่าภาวะหยุด

00:08:28 → 00:08:32 หายใจขณะหลับนะคะอีกประมาณซัก 10% 15%

00:08:32 → 00:08:36 20 บางทีก็บางางานวิจัยก็ถึง 20 ก็คือจะ

00:08:36 → 00:08:40 เป็นโรคทางกายนะคะเช่นโรคหัวใจโรคสมองโรค

00:08:40 → 00:08:44 ปอดนะคะแล้วก็จะมีเรื่องของการใช้ยาที่

00:08:44 → 00:08:46 รักษาโรคทางกายที่เป็นสาเหตุของอาการนอน

00:08:46 → 00:08:50 ไม่หลับได้อีกประมาณ 10% นะคะเป็นกลุ่ม

00:08:50 → 00:08:53 ที่หาสาเหตุไม่ได้แล้วก็อีกประมาณ 5-10

00:08:53 → 00:08:56 per ก็จะเป็นเรื่องของเอ่อพฤติกรรมค่ะ

00:08:56 → 00:08:59 ที่มีผลกับสุขอนามัยการนอนค่ะค่ะแล้ว

00:08:59 → 00:09:01 ปัญหาการนอนไม่หลับเนี่ยค่ะอาจารย์จะแก้

00:09:01 → 00:09:05 ไขได้อย่างไรคะจริงๆมันมีหลายหลายช่วงถ้า

00:09:05 → 00:09:09 เป็นในยุคประมาณสักก่อนปี 2010 14 นะคะ

00:09:10 → 00:09:12 ช่วงนั้นน่ะค่ะก็คือเขาคิดว่าการนอนไม่

00:09:12 → 00:09:16 หลับเนี่ยเป็นอาการที่เป็นผลมาจากเอ่อ

00:09:16 → 00:09:19 ภาวะอะไรบางอย่างที่เป็นตัวกระตุ้นให้

00:09:19 → 00:09:23 เกิดโรคนะคะแต่ว่าพอในปี 2014 เป็นต้นมา

00:09:23 → 00:09:26 เนี่ยเอ่อในวงการแพทย์หรือในวงการ

00:09:26 → 00:09:28 เวชศาสตร์การนอนน่ะค่ะก็มองภาวะนอนไม่

00:09:28 → 00:09:31 หลับต่างออกไปค่ะเพราะว่าบางครั้งเนี่ย

00:09:31 → 00:09:35 ความเครียดหรือว่าโรคทางกายบางอย่างที่

00:09:35 → 00:09:39 เป็นสาเหตุกระตุ้นให้เกิดเอ่ออาการนอนไม่

00:09:39 → 00:09:41 หลับขึ้นมาเนี่ยถูกกำจัดออกไปแล้วแต่ว่า

00:09:41 → 00:09:44 อาการนอนไม่หลับยังคงอยู่นะคะเขาก็เลยมอง

00:09:44 → 00:09:47 ว่าอาการนอนไม่หลับเนี่ยอาจจะเป็นโรคนอน

00:09:47 → 00:09:49 ไม่หลับได้ในกรณีที่มีปัญหาเรื่องของนอน

00:09:49 → 00:09:52 ไม่หลับเรือรังค่ะมีอาการมากกว่า 3 คืน

00:09:52 → 00:09:55 ต่อสัปดาห์นะคะแล้วก็มากกว่า 3 เดือนขึ้น

00:09:55 → 00:09:58 ไปค่ะเป็นต่อเนื่องมากกว่า 3 เดือนขึ้นไป

00:09:58 → 00:10:02 นะคะอันดับแรกก็คือส่วนใหญ่นะคะก็อาจจะหา

00:10:02 → 00:10:04 ปัจจัยกระตุ้นถ้าหาปัจจัยกระตุ้นและ

00:10:04 → 00:10:07 สามารถกำจัดปัจจัยกระตุ้นนั้นได้นะคะอัน

00:10:07 → 00:10:10 นี้อาการก็จะดีขึ้นแต่ถ้าหาปัจจัยกระตุ้น

00:10:10 → 00:10:13 ปัดเอ่อกำจัดปัจจัยกระตุ้นนั้นได้แล้ว

00:10:13 → 00:10:16 อาการยังคงอยู่นะคะก็จะมีการรักษาอีกแบบ

00:10:16 → 00:10:19 นึงที่เรียกว่าเป็นการรักษาด้วยการปรับ

00:10:19 → 00:10:21 ความคิดและพฤติกรรมเพื่อรักษาโรคนอนไม่

00:10:21 → 00:10:25 หลับค่ะการหยุดหายใจขณะหลับเกิดจากสาเหตุ

00:10:25 → 00:10:28 อะไรได้บ้างคะภาวะหยุดหายใจขณะหลับเนี่ย

00:10:28 → 00:10:32 ในขณะนอนนะคะก็จะมีอยู่ 2 สาเหตุหลักๆนะ

00:10:32 → 00:10:35 คะสาเหตุแรกคือเกิดจากโครงสร้างนะคะโครง

00:10:35 → 00:10:38 สร้างของร่างกายบริเวณตั้งแต่จมูกนะคะคอ

00:10:38 → 00:10:41 ด้านหลังก็คือช่องหายใจด้านหลังนะคะแล้ว

00:10:41 → 00:10:45 ก็ไปจนคอแล้วก็เป็นช่วงก่อนถึงปอดนะคะที่

00:10:45 → 00:10:47 มันเกิดจากการอุดกั้นนะคะไม่ว่าจะเป็น

00:10:47 → 00:10:51 ภูมิแพ้จมูกที่ทำให้ทางเดินหายใจเนี่ยแคบ

00:10:51 → 00:10:54 ลงนะคะเวลานอนแล้วลิ้นใหญ่ก็อาจจะลิ้นตก

00:10:54 → 00:10:58 ลงไปบังนะคะหรือว่าทอนซินโตทอนซินอักเสบ

00:10:58 → 00:11:01 นะคะก็จะทำทำให้เอ่อท่อทางเดินหายใจเนี่ย

00:11:01 → 00:11:04 ติดดแคบลงแล้วก็มีภาวะอุดกันนะคะอันนี้

00:11:04 → 00:11:07 เป็นสาเหตุที่ 1 สาเหตุที่ 2 เนี่ยก็คือ

00:11:07 → 00:11:10 เรื่องของเอ่อการหยุดหายใจจากสมองค่ะซึ่ง

00:11:10 → 00:11:12 การหยุดหายใจจากสมองเนี่ยก็มีจากหลาย

00:11:12 → 00:11:15 สาเหตุอีกเช่นกันนะคะที่อาจจะเคยได้ยินนะ

00:11:15 → 00:11:18 คะก็คือเรื่องของการหยุดหายใจเวลาเอ่อเรา

00:11:18 → 00:11:21 นอนหลับในที่ที่ออกซิเจนน้อยๆเป็นภาวะ

00:11:21 → 00:11:23 High altitude sickness นะคะหรือว่า

00:11:23 → 00:11:27 การใช้ยาบางชนิดที่กดกันหายใจนะคะหรือว่า

00:11:27 → 00:11:31 คนไข้เป็นโรคทางสมองบางอย่างที่ทำให้กลไก

00:11:31 → 00:11:34 การควบคุมระบบของการหายใจเนี่ยมีปัญหาค่ะ

00:11:34 → 00:11:37 ก็ทำให้มีช่วงที่หลับนะคะก็คือมีภาวะหยุด

00:11:37 → 00:11:41 หายใจค่ะอาจารย์คะแล้วอาการหยุดหายใจขณะ

00:11:41 → 00:11:44 หลับนั้นจะเป็นอย่างไรแล้วก็รักษาได้

00:11:44 → 00:11:48 อย่างไรบ้างคะค่ะจริงๆก็จะมีเอ่อประวัติ

00:11:48 → 00:11:51 ที่ช่วยสกรีนง่ายๆนะคะก็คือเขาใช้คำว่า

00:11:51 → 00:11:55 Stop Bank นะคะ ST o p b a n g

00:11:55 → 00:11:58 นะคะ Stop Bang ตัว S ย่อมาจาก snore ก็

00:11:58 → 00:12:01 คือคือการกรนนะคะก็คือถ้ามีประวัติการกรน

00:12:01 → 00:12:06 เอ่อตัว T นะคะก็คือเป็นเรื่องของ tess

00:12:06 → 00:12:09 ess ก็คือการรู้สึกเหนื่อยอ่อนเพลีย

00:12:09 → 00:12:12 ระหว่างวันหรือว่าง่วงระหว่างวันนะคะค่ะ

00:12:12 → 00:12:16 ก็ตัว O นะคะก็คือคำว่า observe แนียนะคะ

00:12:16 → 00:12:19 ก็คือมีคนเคยเห็นว่าเรามีภาวะหยุดหายใจ

00:12:19 → 00:12:24 ขณะหลับนะคะเอ่อแล้วก็ตัว P นะคะตัว P ก็

00:12:24 → 00:12:26 คือมาจากคำว่า blood pressure คือความ

00:12:26 → 00:12:29 ดันโลหิตสูงนะคะถ้ามีประประวัความดัน

00:12:29 → 00:12:32 โลหิตสูงนะคะเ่าอันนี้ก็คือเป็น Stop

00:12:32 → 00:12:36 เนาะแล้วก็แบ่ง bangg นะคะแบ่งตัว B มา

00:12:36 → 00:12:39 จาก BMI นะคะถ้า BMI เราเยอะนะคะเอ่อถ้า

00:12:40 → 00:12:42 ในต่างประเทศเนี่ยเขาจะใช้ที่ 35 มากกว่า

00:12:42 → 00:12:45 35 ขึ้นไปแต่ถ้าในคนไทยเนี่ยจริงๆถ้ามาก

00:12:45 → 00:12:48 กว่า 30 ก็อาจจะต้องระมัดระวังแล้วนะคะ

00:12:48 → 00:12:52 ตัว A คืออายุนะคะยิ่งอายุเยอะขึ้นโอกาส

00:12:52 → 00:12:55 ที่จะมีภาวะนี้ก็เยอะขึ้นนะคะอายุเนี่ยก็

00:12:55 → 00:12:58 คือมากกว่า 50 ขึ้นไปนะคะตัว n คือ next

00:12:58 → 00:13:01 circumference นะคะคือเส้นรอบคอผู้หญิง

00:13:01 → 00:13:04 เอาที่ 16 นิ้วผู้ชายเอาที่ 17 นิ้วถ้า

00:13:04 → 00:13:07 เกิดมากกว่านี้เนี่ยก็คือมีความเสี่ยงนะ

00:13:07 → 00:13:10 คะในการเกิดโรคหยุดหายใจขณะหลับนะคะแล้ว

00:13:10 → 00:13:14 ก็อีกตัวนึงคือตัว G ใช่มั้ยคะ G คือ

00:13:14 → 00:13:17 gender gender คือเพศนะคะก็คือเพศชายก็

00:13:17 → 00:13:20 จะได้ 1 คะแนนนะคะแต่ถ้าเพศหญิงเอเอ่อ

00:13:20 → 00:13:23 ภาวะหลังเมนอสไปหลังหมดประจำเดือนนะคะอัน

00:13:23 → 00:13:26 นี้ก็เป็นปัจจัยเสี่ยงอันนึงเช่นกันนะคะ

00:13:26 → 00:13:30 เพราะงั้นถ้าเกิดว่าเอ่อ ST o b a

00:13:30 → 00:13:33 เนี่ยมากกว่า 3 คะแนนได้มากกว่า 3 ข้อ

00:13:33 → 00:13:36 ขึ้นไปนะคะโอกาสที่จะมีภาวะหยุดหายใจขนาด

00:13:36 → 00:13:40 หลับเนี่ยสูงถึง 80 หรือ 90% เลยค่ะถ้า

00:13:40 → 00:13:42 เป็นภาวะหยุดหายใจขนาดหลับจากการอุดกันนะ

00:13:42 → 00:13:46 คะแล้วก็จะรักษาด้วยการให้เอ่อจะไปเปิด

00:13:46 → 00:13:49 เอ่อการรักษาก็คือเขาจะไปเปิดทางเดินหาย

00:13:49 → 00:13:52 ใจเพื่อให้ช่วงที่นอนหลับเนี่ยค่ะสามารถ

00:13:52 → 00:13:56 หายใจได้ปกตินะคะก็คือการเปิดทางเดินหาย

00:13:56 → 00:13:59 ใจเนี่ยมีหลายวิธีนะคะแต่วิธีที่ที่เป็น

00:13:59 → 00:14:01 มาตรฐานก็คือการใส่เครื่องอัดอากาศแรงดัน

00:14:01 → 00:14:05 บวกนะคะก็คือจะเป็นเครื่องลักษณะคล้าย

00:14:05 → 00:14:07 เครื่องช่วยหายใจนะคะแต่ว่าเขาจะอัดเป็น

00:14:08 → 00:14:10 ความดันเข้าไปเพื่อเปิดท่อทางเดินหายใจ

00:14:10 → 00:14:13 ค่ะเอ่ออีกวิธีนึงถ้าเกิดว่าไม่ได้เป็น

00:14:13 → 00:14:16 เยอะมากนะคะก็คือจะมีคุณหมอหูคอจมูกนะคะ

00:14:16 → 00:14:19 ก็คือจะช่วยประเมินทางเดินหายใจนะคะว่า

00:14:19 → 00:14:23 เอ่อมีทอนซินตัวหรือเปล่ามีเอ่อต่อมอะไร

00:14:23 → 00:14:26 ในคอโตมั้ยโคนลิ้นโตหรือเปล่าก็คืออาจจะ

00:14:26 → 00:14:29 มีการผ่าตัดรักษาได้ค่ะค่ะอาจารย์คะสุด

00:14:29 → 00:14:32 ท้ายนี้ค่ะอยากให้อาจารย์แนะนำว่าการนอน

00:14:32 → 00:14:34 หลับที่ดีเนี่ยควรจะมีลักษณะอย่างไรมี

00:14:34 → 00:14:38 คุณภาพอย่างไรบ้างคะก็เวลาที่นอนไม่หลับ

00:14:38 → 00:14:42 นะคะอ่าอาจจะแนะนำว่าลองลองดูพฤติกรรมของ

00:14:42 → 00:14:45 ตัวเองนะคะสิ่งหนึ่งที่เจอบ่อยๆก็คือ

00:14:45 → 00:14:48 เรื่องของการเข้านอนไม่เป็นเวลานะคะสมอง

00:14:48 → 00:14:51 เราเชอบอะไรง่ายๆนะคะเขาชอบให้เข้านอนตรง

00:14:51 → 00:14:54 เวลาตื่นนอนตรงเวลานะคะการมีสุขลักษณะ

00:14:54 → 00:14:57 อนามัยการนอนที่ดีก็คือนอนตรงเวลาเข้านอน

00:14:57 → 00:15:00 ตรงเวลาตื่นนอนตรงเวลาจะช่วยให้การนอนดี

00:15:01 → 00:15:04 ขึ้นนะคะอยู่บนที่นอนนะคะถ้าไม่หลับอัน

00:15:04 → 00:15:06 นี้ให้ลุกนะคะไม่แนะนำให้ฝืนนอนเวลาที่

00:15:06 → 00:15:09 นอนไม่หลับนะคะเนื่องจากจะทำให้อาการนอน

00:15:09 → 00:15:13 ไม่หลับเป็นมากขึ้นนะคะ 1 ชมงก่อนเข้านอน

00:15:13 → 00:15:15 นะคะแนะนำให้ปิดโทรศัพท์มือถือปิด

00:15:15 → 00:15:18 โทรทัศน์นะคะปิดหน้าจอทั้งหลายค่ะแล้วก็

00:15:18 → 00:15:22 มีช่วงเวลาในการรีกหรือว่าผ่อนคลายนะคะ

00:15:22 → 00:15:24 เพื่อให้การเข้าสู่การนอนเกิดขึ้นได้ง่าย

00:15:25 → 00:15:27 ค่ะหากตื่นกลางดึกแล้วนอนไม่หลับอันนี้ก็

00:15:27 → 00:15:30 ไม่ต้องฝืนนอนเช่นกันค่ะก็แนะนำให้ลุกกนะ

00:15:30 → 00:15:34 คะทำอะไรเบาๆอ่านหนังสือฟังเพลงนะคะจนรู้

00:15:34 → 00:15:37 สึกง่วงแล้วค่อยกลับไปนอนอีกครั้งนึงนะคะ

00:15:37 → 00:15:40 ไม่อยู่บนที่นอนโดยที่ไม่หลับนะคะเอ่อ

00:15:40 → 00:15:43 แล้วก็เอ่อการนอนเนี่ยเป็นเรื่องนึงนะคะ

00:15:43 → 00:15:46 ที่ความพยายามไม่การันตีความสำเร็จนะคะ

00:15:46 → 00:15:49 เพราะงั้นถ้าเกิดว่าเอ่อยิ่งพยายามจะ

00:15:49 → 00:15:52 สังเกตว่าการนอนจะยิ่งแย่ลงนะคะเพราะงั้น

00:15:52 → 00:15:56 ก็เอ่อทำอะไรเบาๆผ่อนคลายนอนได้ก็นอนนอน

00:15:56 → 00:15:59 ไม่ได้ก็ไม่เป็นไรนะคะเดี๋ยวคืนถัดไปการ

00:15:59 → 00:16:02 นอนเนี่ยเป็นธรรมชาตินะคะคืนถัดไปเขาจะ

00:16:02 → 00:16:05 พยายามเอาคืนเองโดยกลไกอัตโนมัตอัตโนมัติ

00:16:05 → 00:16:08 ของร่างกายเลยค่ะค่ะขอขอบคุณค่ะอาจารย์

00:16:08 → 00:16:11 แพทย์หญิงปุณฑริกศรีสวาทแพทย์ผู้เชี่ยว

00:16:11 → 00:16:14 ชาญด้านการนอนศูนย์นิทราเวชโรงพยาบาล

00:16:14 → 00:16:18 จุฬาลงกรณ์สภากาชาตไทยที่ท่านมาให้ความ

00:16:18 → 00:16:20 รู้ความเข้าใจในเรื่องการนอนสำหรับพวกเรา

00:16:20 → 00:16:23 กันนะคะสำหรับช่วงหน้านะคะห้ามพลาดเลยที

00:16:23 → 00:16:26 เดียวค่ะสำหรับผู้ที่อยากจะรู้เรื่องของ

00:16:26 → 00:16:30 เมลาโทนินการใช้เมลาิที่ถูกต้องรวมถึงหาก

00:16:30 → 00:16:33 เราใช้เมลาโทนินผิดวิธีจะเป็นอย่างไรติด

00:16:33 → 00:16:39 ตามได้ในรายการ tn and ช่วงหน้านะ

00:16:39 → 00:16:57 [เพลง]

00:16:57 → 00:16:59 คะ

00:16:59 → 00:17:02 กลับเข้าสู่รายการเ And He ในช่วงสุด

00:17:02 → 00:17:04 ท้ายกันค่ะอย่างที่บอกไปนะคะว่าช่วงนี้

00:17:04 → 00:17:07 เราจะมาพูดถึงเมลาโทนินเมลาโทนินนั้นเป็น

00:17:07 → 00:17:10 ฮอร์โมนธรรมชาติที่ร่างกายสังเคราะห์แล้ว

00:17:10 → 00:17:12 ก็หลั่งขึ้นมาใช้อย่างไรก็ตามค่ะเมื่อ

00:17:12 → 00:17:15 อายุที่มากขึ้นรวมถึงการใช้ชีวิตที่ผิด

00:17:15 → 00:17:19 เพี้ยนไปทำให้เมลาโทนินมีปัญหาได้

00:17:19 → 00:17:22 เมลาโทนินเป็นฮอร์โมนที่สังเคราะห์มาจาก

00:17:22 → 00:17:26 กรดอะมิโนทิปโทแฟนที่ต่อมไเนวในสมองโดยมี

00:17:26 → 00:17:29 ความมืดเป็นตัวกระตุ้นให้หลังเมลา

00:17:29 → 00:17:31 เข้าสู่กระแสเลือดและจะหยุดหลั่งเมื่อเจอ

00:17:31 → 00:17:34 แสงสว่างโดยร่างกายจะเริ่มหลั่งเมลาโทนิน

00:17:34 → 00:17:37 ออกมาตั้งแต่ช่วงที่พระอาทิตย์ตกดินทำให้

00:17:37 → 00:17:41 คนเรารู้สึกง่วงและระดับฮอร์โมนเมลาโทนิน

00:17:41 → 00:17:43 จะคงอยู่ในกระแสเลือดประมาณ 10-60

00:17:43 → 00:17:48 พิโคกรัมต่อมิลลิลิตติดต่อกัน 12 ชมงก่อน

00:17:48 → 00:17:51 ที่ระดับฮอร์โมนเมลาโทนินจะลดลงตอนเช้าจน

00:17:51 → 00:17:53 กระทั่งถึงเวลาประมาณ 99:00 นระดับ

00:17:54 → 00:17:57 เมลาโทนินในร่างกายจะลดต่ำลงจนรัดระดับ

00:17:57 → 00:18:01 ไม่ได้แล้วเมลาโทนินที่เรารับประทานเข้า

00:18:01 → 00:18:05 ไปนั้นจะเหมาะกับใครบ้างสำหรับบุคคลที่

00:18:05 → 00:18:07 ต้องการจะใช้เมลาโทนินควรมีลักษณะต่อไป

00:18:07 → 00:18:11 นี้บุคคลที่มีอาการนอนหลับผิดเวลาหรือ

00:18:11 → 00:18:13 delay Sleep Face Syndrome ซึ่งเป็น

00:18:13 → 00:18:16 ความผิดปกติด้านการนอนหลับคือไม่สามารถ

00:18:16 → 00:18:20 นอนหลับได้ก่อนเวลา 2:00 นและมักมีปัญหา

00:18:20 → 00:18:23 ในการตื่นนอนตอนเช้าบุคคลที่เป็นโรคนอน

00:18:23 → 00:18:27 ไม่หลับบุคคลที่มีปริมาณเมลาโทนินต่ำเกิน

00:18:27 → 00:18:30 ไปเนื่องจากเกิดภาวะเจ็ดแลคหรือทำงานเป็น

00:18:30 → 00:18:34 กะผู้สูงอายุเนื่องจากเมื่ออายุมากขึ้น

00:18:34 → 00:18:38 ร่างกายจะผลิตเมลาโทนินได้น้อยลงส่งผลให้

00:18:38 → 00:18:40 เวลานอนของผู้สูงอายุโดยเฉลี่ยแล้วลดน้อย

00:18:40 → 00:18:43 ลงและประสบกับปัญหานอนไม่หลับบ่อยครั้ง

00:18:43 → 00:18:46 เมลาทนินจึงช่วยเพิ่มคุณภาพในการนอนหลับ

00:18:46 → 00:18:50 และระยะเวลาในการนอนหลับที่ดีมากขึ้นทั้ง

00:18:51 → 00:18:53 นี้นะคะมีเรื่องที่ต้องรู้ก่อนที่เราจะ

00:18:53 → 00:18:56 ใช้เมลาโทนินสังเคราะห์ค่ะเมลาโทนิน

00:18:56 → 00:19:00 สังเคราะห์พบได้ 2 รูปแบบคือเมลาโทนิน

00:19:00 → 00:19:03 ชนิดที่จดทะเบียนเป็นยาภายใต้คำแนะนำของ

00:19:03 → 00:19:06 แพทย์ในปริมาณที่กำหนดกับเมลาโทนินในรูป

00:19:06 → 00:19:09 แบบของอาหารเสริมซึ่งไม่ควรใช้เกิน 5

00:19:09 → 00:19:12 มิลกรัมต่อครั้งเมลาโทนินช่วยปรับเลื่อน

00:19:12 → 00:19:15 เวลาเข้านอนควรรับประทานก่อนเวลาที่

00:19:15 → 00:19:18 ต้องการเข้านอน 2-3 ชั่วโมงและไม่ควรขับ

00:19:18 → 00:19:20 รถหรือทำงานกับเครื่องจักรหลังรับประทาน

00:19:20 → 00:19:23 เมลาโทนินผู้ที่มีปัญหาสุขภาพหรือโรค

00:19:24 → 00:19:27 ประจำตัวโดยเฉพาะในกลุ่มโรคลมชักความดัน

00:19:27 → 00:19:30 ภาวะซึมเศร้าผู้ป่วยที่มีภาวะเลือดแข็ง

00:19:30 → 00:19:33 ตัวผิดปกติควรปรึกษาแพทย์และเภสัชกรก่อน

00:19:33 → 00:19:36 ใช้เมลาโทนินอาการข้างเคียงจากการใช้

00:19:36 → 00:19:40 เมลาโทนินอาจพบอาการปวดศีรษะมวลทองวิตก

00:19:40 → 00:19:43 กังวลหงุดหงิดอ่อนเพลียหรืออาจทำให้เกิด

00:19:43 → 00:19:46 อารมณ์เปลี่ยนแปลงในระยะสั้นได้สุดท้าย

00:19:46 → 00:19:48 ค่ะต้องเตือนพวกเรานะคะว่าการใช้

00:19:48 → 00:19:51 เมลาโทนินค่ะถึงแม้เมลาโทนินจะมีประโยชน์

00:19:51 → 00:19:55 เป็นคุณอนันแต่ก็อาจจะมีโทษมาหันได้เหตุ

00:19:55 → 00:19:58 เพราะว่าการใช้เมลาโทนินที่มากเกินควรอาจ

00:19:58 → 00:20:01 จะนำไปสู่ภาวะอ่อนเพลียนะคะไม่อยากทำอะไร

00:20:01 → 00:20:05 จนถึงเกิดภาวะซึมเศร้าได้วันนี้นะคะเรา

00:20:05 → 00:20:07 ได้เรียนรู้เรื่องของการนอนที่มีคุณภาพ

00:20:07 → 00:20:10 รวมถึงฮอร์โมนของการนอนด้วยลองไปปรับ

00:20:10 → 00:20:13 ประยุกต์ใช้กับตัวเองค่ะเพื่อการนอนที่ดี

00:20:13 → 00:20:16 มีคุณภาพและสุขภาพที่ดีย่อมมาถึงเราแน่

00:20:16 → 00:20:19 นอนค่ะค่ะสำหรับวันนี้นะคะต้องขอขอบคุณ

00:20:19 → 00:20:23 คุณผู้ชมที่รับชมรายการ TNN Health ค่ะ

00:20:23 → 00:20:25 เราสามารถรับชมรายการ TNN Health กัน

00:20:25 → 00:20:29 เป็นประจำทุกวันเสาร์เวลาดี 15 5:00 นถ

00:20:29 → 00:20:33 15:30 นค่ะนอกจากนี้นะคะยังสามารถติดตาม

00:20:33 → 00:20:36 รับชมรีรันได้ทุกบ่ายวันจันทร์

00:20:36 → 00:20:40 14:30 นถ 15:00 นไม่เพียงเท่านี้เอาใจคน

00:20:40 → 00:20:45 ตื่นเช้าวันเสาร์ค่ะ 6 น- 6:30 นาที

00:20:45 → 00:20:49 สำหรับท่านใดที่พลาดการรับชมรายการสดนะคะ

00:20:49 → 00:20:52 สามารถติดตามรับชมย้อนหลังได้ทางช่อง

00:20:52 → 00:20:55 YouTube ค่ะไม่เพียงเท่านี้นะคะถ้าท่าน

00:20:55 → 00:20:58 ใดยังชอบรับชมรายการสดค่ะ Facebook เ K

00:20:58 → 00:21:00 and Health และ tiktok ก็เป็นช่องทาง

00:21:00 → 00:21:03 ที่น่าสนใจนอกจากนี้นะคะยังสามารถที่จะมี

00:21:03 → 00:21:06 คุณหมออยู่ใกล้ตัวใกล้ใจท่านได้โดยแค่

00:21:06 → 00:21:10 เข้าไปค่ะในแอปพลิเคชัน LINE พิมพ์ @s

00:21:10 → 00:21:15 TNN h e a l t h @t help หรือ

00:21:15 → 00:21:18 ใช้วิธีที่ง่ายกว่านั้นก็คือการสแกน QR

00:21:18 → 00:21:21 Code ที่มุมจอด้านล่างเพียงเท่านี้นะคะ

00:21:21 → 00:21:24 ท่านก็จะมีคุณหมออยู่ใกล้ตัวใกล้ใจอย่า

00:21:24 → 00:21:27 ลืมนะคะกดไลค์กดแชร์กด Subscribe เป็น

00:21:27 → 00:21:30 กำลังใจให้หมอดาวและทีมงานสำหรับวันนี้

00:21:30 → 00:21:33 หมอดาวและทีมงานเทลต้องขอตัวลาไปก่อน

00:21:33 → 00:21:34 สวัสดี

00:21:34 → 00:21:57 [เพลง]

00:21:57 → 00:22:00 ค่ะ