00:00:00 → 00:00:03 This Is tha PBS podcast View the
00:00:03 → 00:00:04 world vi The
00:00:05 → 00:00:08 Voice บางทีเรากินปลาร้าที่มันดิบนะมัน
00:00:08 → 00:00:11 ก็จะมีพวกแบบพะโยมพยาธที่มาโดยเฉพาะในปลา
00:00:11 → 00:00:16 น้ำจืดและมันจะมีสารต้านโภชนาการอยู่ในปา
00:00:16 → 00:00:20 ร้าดิบเขาเรียกว่าแนิไทน Factor ไทาก็คือ
00:00:20 → 00:00:24 วิตามิน B1 คือจะไปทำลายวิตามิน B1 ซึ่ง
00:00:24 → 00:00:26 ในปลาร้าเนี่ยจะมีเอนไซม์ที่ชื่อว่าไท
00:00:26 → 00:00:31 อิเนสจะไปย่อยสลายไทอามีนทำให้วิตามิน b
00:00:31 → 00:00:34 1 ที่เรากินถูกสลายแล้วเวลากินเข้าไป
00:00:34 → 00:00:37 เยอะๆก็จะทำให้ขาดวิตามิน B1 ได้ซึ่งการ
00:00:37 → 00:00:39 ขาดวิตามิน B1 หรือไทลินก็เสี่ยงต่อการ
00:00:39 → 00:00:42 เกิดเหน็บชาโอ้ยทำไมเป็นเหน็บชาบ่อยจัง
00:00:42 → 00:00:45 เลยนะเราก็ต้องไปทำให้สุกก่อนเอนไซม์นี้
00:00:45 → 00:00:48 ก็จะถูกสลายด้วยความ
00:00:48 → 00:00:52 ร้อนฟังทุกเรื่องสุขภาพอัปเดตทุกโรคภยฟัง
00:00:52 → 00:00:56 รายการโรงหมอกับดิชันสุรีพรวงสถิตพรค่ะ
00:00:56 → 00:00:59 This Is Toy PBS podcast เอาล่ะค่ะ
00:00:59 → 00:01:03 คุณผู้วันนี้นะคะเราจะมาคุยกันถึงคนที่
00:01:03 → 00:01:07 ชอบกินของดิบๆค่ะนะเรารู้แหละว่ามันก็ไม่
00:01:07 → 00:01:10 ดีต่อสุขภาพเนาะแต่ว่ามันจะไม่ดียังไง
00:01:10 → 00:01:12 อันตรายแค่ไหนหรือเปล่าเนี่ยเดี๋ยวคุยกับ
00:01:12 → 00:01:15 ผู้ช่วยศาสตราจารย์ดรเอกราชบำรุงพืชจาก
00:01:15 → 00:01:18 วิทยาลัยการแพทย์บูรณาการมหาวิทยาลัย
00:01:18 → 00:01:21 ธุรกิจบัณฑิตค่ะสวัสดีค่ะอาจารย์คาครับ
00:01:21 → 00:01:25 สวัสดีครับผมแอวอาจารย์ชอบกินของดิบมยคะ
00:01:25 → 00:01:29 โอ้โหไม่ชอบเลยครับบางคนแบบเอ้ยจะแบบ
00:01:29 → 00:01:32 อาจารย์เดี๋ยวพาไปเลี้ยงอือะไรนะโอ
00:01:32 → 00:01:36 มากาเซะอใช่ๆๆออหัวนึงเป็นหมื่นๆเออ
00:01:36 → 00:01:40 อาจารย์บอกโอ้โหตามสบายเลยเพราะว่าของดิบ
00:01:40 → 00:01:46 ไม่ไม่ชอบเนื้อสัมผัสความสดอือ่าตอนเด็กๆ
00:01:46 → 00:01:47 อ่ะแถวบ้านน่ะมีร้านก๋วยเตี๋ยวอยู่ต่าง
00:01:47 → 00:01:51 จังหวัดเนาะคุลีแบบเนื้อเนื้อดิบหมูดิบ
00:01:51 → 00:01:55 ใส่ลงไปในชำก๋วยเตี๋ยวแล้วก็เอาแค่น้ำราด
00:01:55 → 00:01:59 ออเขาก็ชอบกินแบบสดๆๆเออสมัยเนี้ยอืมซอย
00:01:59 → 00:02:03 จ๊งซอยจุ๊อะไรที่คนอีสานชอบกินกันดิบๆ
00:02:03 → 00:02:07 ทั้งหลายแหล่หรือบางคนชอบกินไข่ดิบนะจำ
00:02:07 → 00:02:11 ได้เลยสภากาแฟพวกอกงอาเจ็กอาแปะมาปุ๊บโดบ
00:02:11 → 00:02:14 ตอนเช้าอ่ะรื้อือมาโดบมั้ยตอกไข่ใส่ปุ๊บ
00:02:14 → 00:02:18 เออลงไปเลยดิบๆนึกออกมั้ยครับอ่าแล้วก็
00:02:18 → 00:02:23 เอาเอ่อซอสอ่ะใส่ลไปนิดนึงแล้วก็กรึ๊บ
00:02:23 → 00:02:27 แล้วก็กินกาแฟอ่าหรือน้ำอัดลมอย่าง
00:02:27 → 00:02:31 เงี้ยขนลุกเลยทีเดียวใช่ก็คือแบบโอ้โหเขค
00:02:31 → 00:02:34 แบบกินกันดิบอาจารย์เป็นคนที่ไม่กินอาหาร
00:02:35 → 00:02:38 มีดิบแต่ท้ายที่สุดมันก็ต้องไปต้มนะถึง
00:02:38 → 00:02:40 ถึงจะกินแต่ตอนเด็กๆเราก็ไม่รู้เนาะนั่น
00:02:40 → 00:02:45 คือปลาร้าอ๋อะเพราะมันถือว่าเป็นของดิบนะ
00:02:45 → 00:02:49 ปยังไม่ได้ต้มถูกต้องปลาร้าที่ไม่ได้ต้มอ
00:02:49 → 00:02:52 มันก็เป็นของดิบนะอืถูกมั้ครับคือคำว่า
00:02:52 → 00:02:54 ของดิบในความรู้สึกคือมันต้องเป็นทั้งปลา
00:02:54 → 00:03:00 ร้าสดอ่าปลาร้ามันก็ดิบนะออ
00:03:00 → 00:03:05 ต้มอืไข่ที่กินมันก็ดิบนะค่ะค่ะหมึกหมึก
00:03:06 → 00:03:09 หมึกหมึกช็อตอะไรเงี้หมึกช็อเออก็ดิบอัน
00:03:09 → 00:03:11 ยังเป็นชีวิตอยู่เลยืก็ดิบหมูก็ดิบเอ๊ะ
00:03:11 → 00:03:13 อย่างปลลาก็ดิบอาหารญี่ปุ่นน่ะปลาดิบ
00:03:13 → 00:03:17 ญี่ปุ่นน่ะที่มาเป็นเซตอ่าอันนั้นก็ดีบอ
00:03:17 → 00:03:19 อาจารย์น่าจะชอบนะไม่กินครับเฮ้ยจริงหรอ
00:03:19 → 00:03:22 ไม่กินเลยไปญี่ปุ่นล่าสุดไปดูงานโอโหมา
00:03:22 → 00:03:26 เป็นเซตปลาดิบแร่แบบหลายกระตังเลยหลาย
00:03:26 → 00:03:29 หมื่นเลยมองเลยก็แบบแพงมากโอ้โหดูแล้วแบบ
00:03:29 → 00:03:30 อื้อหือ
00:03:30 → 00:03:33 เื้อตะภาพเขายังมากินว้าโอสดๆเนี่ย
00:03:33 → 00:03:36 อาจารย์ไม่กล้ากินเลยักอย่างเพราะว่าเค
00:03:36 → 00:03:37 รู้ว่าเป็นตะภาพหรือว่าเพราะว่ามันมันคือ
00:03:37 → 00:03:40 มันสดด้วยความดิบอ่ะไม่กินเลยสักอย่าง
00:03:40 → 00:03:43 เดียวครับเขานั่งกินอาหารดิบกันอย่างโอชะ
00:03:43 → 00:03:49 โอชาอาจารย์กินแบบเอ่อย่างเอ่อแซลมอนย่าง
00:03:49 → 00:03:53 กินแบบเท็มปูระอะไรเงี้ยเอาไวพูดแล้วก็
00:03:53 → 00:03:57 อยากกินเปูลาไม่เอาจารย์ถามอย่างงี้ก่อน
00:03:57 → 00:03:59 ว่าอาหารดิบน่ะอย่างดิบของญี่ปุ่นน่ะ
00:03:59 → 00:04:03 อย่างพวกูชิหรือแบบอะไรพวกนี้มาครับมัน
00:04:03 → 00:04:05 คือคนญี่ปุ่นเขาก็จะมีความพิถีพิถันในการ
00:04:05 → 00:04:07 ทำอาหารเขาจะรู้ว่าตรงไหนหรือหรืออะไร
00:04:07 → 00:04:09 อย่างเงี้ยให้มันรู้สึกว่ากินแล้วปลอดภัย
00:04:09 → 00:04:14 ครับกับความดิบของไทยซอยจุ๊โอหมกต่างกัน
00:04:15 → 00:04:17 อ๋อต่างกันเพราะเอ่อธาตุญี่ปุ่นเลยแบบ
00:04:18 → 00:04:20 ออริจินอลเลยเนี่ยที่อาจารไปสัมผัสคือเขา
00:04:20 → 00:04:26 ก็จะแบบโอ้โหแบบมันความสดไงอือสดสะอาดอ่า
00:04:26 → 00:04:30 แล้วเก็บรักษาแบบอย่างดีอ่าอ่า
00:04:30 → 00:04:34 อุณหภูมิถึงนะเหมาะสมนะะะแล้วเนี่ยโอกาส
00:04:34 → 00:04:39 ที่มันจะปนเปื้อนแบคทีเรียเนาะพยาธิค่ะนะ
00:04:39 → 00:04:43 เชื้อก่อโรคต่างๆมันก็น้อยแต่ถ้าบ้านเรา
00:04:43 → 00:04:46 เนี่ยบางทีอากาศร้อนอค่ะแล้วมาขาย
00:04:46 → 00:04:50 ซูชิขอโทษนะบางทีแบบวางตามตลาดนัดอะไรงี้
00:04:50 → 00:04:55 ใช่ั้ถูกต้องมันก็แบบเอ่อนิดนึงอืแต่ถาม
00:04:55 → 00:04:58 ว่าสุรีพรกินมั้ยกินนะคะเผอิญพี่ไทยเรา
00:04:58 → 00:05:00 เป็นไงครับแข็งแรงคุ้มกันดีครับเพราะว่า
00:05:00 → 00:05:03 อยู่กับดินกินกับทรายมาตั้งแต่เด็กใช่ๆๆ
00:05:03 → 00:05:08 แล้วเนี่ยอาจจะทนทานต่อแบบไอ้เชื้อก่อโรค
00:05:08 → 00:05:10 เหล่านั้นแต่บางอย่างมันไม่ได้ก่อโรคเลย
00:05:10 → 00:05:13 แบบทันทีแบบพยาธอย่างเงี้ยอค่ะนะมันก็อาจ
00:05:13 → 00:05:17 จะส่งผลเสียกับสุขภาพร่างกายแบบเฮ้ยบาง
00:05:17 → 00:05:18 อย่างอาจจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิด
00:05:18 → 00:05:21 มะเร็งอย่างเงี้ยพยาธใบไม้ตับเอยอะไรเอย
00:05:21 → 00:05:24 ทั้งหลายแหละที่เราแบบเฮ้ยรับไปรับไปแล้ว
00:05:24 → 00:05:29 สะสมบางทีเรากินปลาร้าที่มันมันดิบนะไม่
00:05:29 → 00:05:32 ได้เอาต้มให้สต้มสถูกต้องมันก็จะมีพวกแบบ
00:05:32 → 00:05:37 พยงพยาธิที่มาโดยเฉพาะในปลาน้ำจืดอืมันก็
00:05:37 → 00:05:40 มีพยาติเนี่ยแฝงอยู่แล้วก็มีโอกาสได้รับ
00:05:40 → 00:05:45 ทั้งพยาธนะและมันจะมีสารต้านโภชนาการอยู่
00:05:45 → 00:05:49 ในปลาร้าดิบสารต้านโภชนาการใช่ครับเขา
00:05:49 → 00:05:54 เรียกว่าแอนตี้ไทนแฟกเตอร์โอชื่อภาษา
00:05:54 → 00:05:57 อังกฤษบางทีคุณฟังอะไรแี้ไอมีน Factor
00:05:57 → 00:06:02 ไทอามีนก็คือตัววิตามิน B1 ค่ะอ่าเป็นตัว
00:06:03 → 00:06:08 แอนตี้วิตามิน B1 นะตัวเนี้ยมันจะไปทำลาย
00:06:08 → 00:06:12 นะชื่อชื่อเนี้ยมันจะเป็นชื่อสารที่ต้าน
00:06:12 → 00:06:15 โภชนาการคือจะไปทำลายวิตามิน B1 ซึ่งใน
00:06:15 → 00:06:18 ปลาร้าเนี่ยมันจะมีเอนไซม์ปลาร้าดิบนะ
00:06:18 → 00:06:22 ครับจะมีเอนไซม์ที่ชื่อว่าไทอิเนสไทอิเนส
00:06:22 → 00:06:27 จะไปย่อยสลายไทอามีนอือ่าที่เรากินเข้าไป
00:06:27 → 00:06:29 ในอาหารที่เข้าสู่ร่างกายเนี่ยแล้วเวลา
00:06:29 → 00:06:32 เรากินปลาร้าดิบมันมีเอนไซม์ไทรออิเนสไป
00:06:32 → 00:06:36 สลายไทอามีนทำให้วิตามินบ 1 ที่เรากินถูก
00:06:36 → 00:06:39 สลายอ้าแล้วเวลากินเข้าไปเยอะๆได้รับไท
00:06:39 → 00:06:42 อิเนสในปลาร้าดิบเยอะๆบางคนโอกินปลาร้า
00:06:42 → 00:06:47 ทุกวันเลยชอบมันก็จะไปสลายวิตามิน B1 ก็
00:06:47 → 00:06:51 จะทำให้ร่างกายเราเนี่ยขาดวิตามิน B1 ได้
00:06:51 → 00:06:54 ซึ่งการขาดวิตามิน B1 หรือไทอามีนเป็นโรค
00:06:54 → 00:06:56 อะไรครับเหนียบชาหรอคถูกต้องเลยครับออ
00:06:56 → 00:07:00 ท่องมาถูกแล้ว
00:07:00 → 00:07:03 ตาชาบ1นะอแล้วเราก็เสี่ยงต่อการเกิดเหน็บ
00:07:03 → 00:07:07 ชาโอ้ยทำไมเป็นเหน็บชาบ่อยจังเลยอืนะอกิน
00:07:07 → 00:07:09 ปลาร้าแทบทุกวันเลยปลาร้าดิบเนี่ยก็มี
00:07:09 → 00:07:12 โอกาสนะครับเราก็ต้องไปทำให้สุกก่อน
00:07:12 → 00:07:15 เอนไซม์นี้ก็จะถูกสลายด้วยความร้อนค่ะเรา
00:07:15 → 00:07:18 ก็กินปลาร้าเราก็ต้มก่อนอือเอ้าอาจารย์
00:07:18 → 00:07:21 ปลาร้าดิบอันนี้ด้วยความที่ไม่เคยกินปลา
00:07:21 → 00:07:23 ร้าดิบส่วนใหญ่จะกินปลาร้าต้มสุกแต่ก็เลย
00:07:23 → 00:07:26 ไม่รู้ว่ารสชาติหรือหรือเราจะรู้ได้ไงว่า
00:07:26 → 00:07:28 เอ้ยมันยังไม่ต้มนะกับอันนี้คือต้มแล้ว
00:07:28 → 00:07:31 มันมีอะไรให้เราแบบไม่สามารถบอกได้เลยนอก
00:07:31 → 00:07:34 จากถามแม่ค้ากับที่เราซื้อมาเป็นขวดๆที่
00:07:34 → 00:07:38 แบบเอ้ยอันเนี้ยตแล้วนะนอ่าเราก็จะไม่
00:07:38 → 00:07:41 งั้นเราไม่รู้อ่ะตอนเด็กๆอาจารย์ก็กินปลา
00:07:41 → 00:07:44 ร้าเนี่ยปลากระดี่อ่ะค่ะฉีกเลยส้มตำปลา
00:07:44 → 00:07:47 ร้าเป็นต่อนๆเลยเราก็ไม่รู้อันนี้ปลาร้า
00:07:47 → 00:07:51 ดิบนะเออเออบางทีพยาธยังกระแด่วกระดอยู่
00:07:51 → 00:07:53 ข้างในแล้วเราเราก็ไม่เราไม่รู้ไครับ
00:07:53 → 00:07:56 เพราะมันมองไม่เห็นพวกเนี้ยอ่ามันบาง
00:07:56 → 00:07:59 อย่างมันมองด้วยตาเปล่าไม่เห็นอ๋อเหรอใช่
00:07:59 → 00:08:01 ครับอันเนี้ยคือในกรณีแบบเฮ้ยปลาร้าที่คน
00:08:01 → 00:08:05 ส่วนใหญ่แบบอกินเนาะเพราะบางทีแบบอ่าคุณ
00:08:05 → 00:08:08 รีบอกว่าเฮ้ยเอ่อปลาดิบมันก็โอกาสที่จะ
00:08:08 → 00:08:10 แบบเข้าถึงแต่ปลาร้าเนี่ยมันก็จะเข้าถึง
00:08:11 → 00:08:15 ไอกลุ่มคนขว้างใช่บ้านกว้างเ้ากินกันทุก
00:08:15 → 00:08:18 ทุกกลุ่มอ่ะอ่าแต่ถ้ามันต้มให้สุกก็คือจบ
00:08:19 → 00:08:22 สบายใจใช่อืโอโหแยกไม่ได้ด้วยถามอย่าง
00:08:22 → 00:08:25 เดียวปารต้มหรือยังต้มหรือยังเพราะว่าเรา
00:08:25 → 00:08:28 กินยังไงกลิ่นมันก็นึกออกมั้ครับนอกจาก
00:08:28 → 00:08:31 เราสังเกตที่เนื้อปลาว่าเฮ้ยเนื้อปลามัน
00:08:31 → 00:08:33 เปลี่ยนสีนะมันอะไรอย่างเงี้ยแต่บางทีมัน
00:08:33 → 00:08:37 ไม่มันเป็นเศษชิ้นของเนื้อปลาค่ะเราก็เลย
00:08:37 → 00:08:42 ไม่รู้ว่าเฮ้ยมันดิบหรือมันสุกเอออ่าั้น
00:08:42 → 00:08:45 แล้วก็ต้องคอยสอบถามหรือเราปรุงประกอบเอง
00:08:45 → 00:08:48 ส้มตำตำเองเราก็ควบคุมวัตถุดิบได้อย่าง
00:08:48 → 00:08:52 เงี้ยในกรณีที่แบบเฮ้ยปลาร้าคนกินกันเยอะ
00:08:52 → 00:08:55 อืกับไข่ดิบที่อาจารย์บอกอ่ะครับไข่เนี่ย
00:08:55 → 00:08:58 คุณค่าทางโภชนาการสูงโปรตีนครบถ้วนมี
00:08:58 → 00:09:02 กลุ่มของเอ่อไขมันดีโคลีนเลซิตินมีสาร
00:09:02 → 00:09:04 เอ่อสำคัญเยอะแยะมากมายที่อยู่ในไข่
00:09:04 → 00:09:07 วิตามินแร่ทัทั้งหลายแล่นะแต่ถ้าเรากิน
00:09:07 → 00:09:12 ไข่ดิบขึ้นมาปุ๊บแน่นอน 1 ก็คือโมเนลอาจ
00:09:12 → 00:09:16 จะคนเปืนสเนลอืเราก็แบบท้องส่งท้องเสีย
00:09:16 → 00:09:20 อะไรได้นะอันนั้นก็อันตรายและนะครับในไข่
00:09:20 → 00:09:23 ในไข่ดิบเที่มันแบบเฮ้ยเชื้อมันมีโอกาสปน
00:09:23 → 00:09:25 เปื้อนน่ะคุณรีนึกออกมั้ยที่เปลือกไข่เอย
00:09:25 → 00:09:28 อะไรเอยแล้วเราตอกไข่แล้วเราแบบกินใส่ลง
00:09:28 → 00:09:29 ไปบางคนใช้แค่
00:09:29 → 00:09:32 น้ำอารมณ์ใส่แถวบ้านที่อาจารย์บอกอ่ะยัง
00:09:32 → 00:09:34 มีนะทุกวันนี้บางคนยังโดปไข่อย่างงั้นเลย
00:09:34 → 00:09:38 มีเลยอ๋ออ่าหรือแบบเป็นเหมือนไข่ลวกอ่ะ
00:09:38 → 00:09:42 มันก็สุกไม่เต็มที่อืนึกออกมั้ยครับเพราะ
00:09:42 → 00:09:45 ว่ามันแบบว่าเฮ้ยเอ่อไอ้เจ้าความร้อน
00:09:45 → 00:09:47 เนี่ยมันก็ไม่สามารถที่จะฆ่าเชื้อได้มัน
00:09:47 → 00:09:50 ไม่ถึงมันไม่ถึงถูกต้องในขณะเดียวกันไม่
00:09:50 → 00:09:52 ใช่แค่การติดเชื้ออย่างเดียวนะมีสารต้าน
00:09:52 → 00:09:58 โภชนาการอีกและอ่ะอ่าที่อยู่ในไข่ขาวดิบ
00:09:58 → 00:10:02 ออชื่อว่าอวินโปรตีนตัวเชื่อว่าอวินนะไอ้
00:10:02 → 00:10:06 เจ้าอวินเนี่ยมันจะไปขัดขวางการดูดซึม
00:10:06 → 00:10:11 แล้วไปใช้ประโยชน์ของวิตามินบนะตัวนึงที่
00:10:11 → 00:10:14 อยู่ในไข่ที่เราเรียกว่าไบโอตินนะคนที่
00:10:14 → 00:10:18 ชอบนึกถึงไบโอตินที่ช่วยเรื่องของผมอ่า
00:10:18 → 00:10:21 ช่วยเรื่องของแบบเออเลฟเลิทั้งหลายแหลนี่
00:10:21 → 00:10:23 แหละครับแล้วถ้าคุณกินไข่ดิบคุณก็มีโอกาส
00:10:23 → 00:10:27 เสี่ยงต่อการขาดไบโอตินขนาดไม่กินไข่ดิบ
00:10:27 → 00:10:30 อย่างเสี่ยงเลยอ่าถูกต้องกินไข่ดิบทุกวัน
00:10:30 → 00:10:32 ทุกวันไข่ลวกเงี้ยบางคนน่ะเอเอ่าหรือไข่
00:10:32 → 00:10:35 ดิบมีนะไม่ใช่ว่าเฮ้ยไม่มีคนกินเห็นมั้ย
00:10:35 → 00:10:37 ไข่ลวกเนี่ยยังเห็นอยู่ค่ะอาจารยอ่ามันก็
00:10:37 → 00:10:39 ยังแบบไม่มีอยู่ไข่ขาวมันก็ยังสูงไม่เต็ม
00:10:40 → 00:10:42 ที่มันก็ยังมีอวินซึ่งตัวเมันจะถูกสลายดย
00:10:42 → 00:10:45 ความร้อนอมันมีอีกแบบนึงด้วยนะคะอาจารที่
00:10:45 → 00:10:49 เอาไข่ดิบลงไปในไอติมอ่ะอ้าเคยเห็นเคย
00:10:49 → 00:10:51 เห็นใช่มั้ยคะแล้วมันก็จะเหมือนแบบว่าเคย
00:10:51 → 00:10:54 เห็นแข็งๆคือเขาเคยี้ขยี้ผสมไปกับเนื้อ
00:10:54 → 00:10:57 ไอติมอ่ะเอออารมณ์ประมาณนใช่ๆอันเนี้ย
00:10:57 → 00:11:02 อาจารย์ไม่แนะนำอืเออทุกวันนี้ลูกอยากกิน
00:11:02 → 00:11:05 ไข่ยังประตูมอาจารยังต้องแบบไม่ค่อยอยาก
00:11:05 → 00:11:08 จะให้กินเพราะว่ายังเด็กเล็กอยู่ไงอ๋ออ่า
00:11:08 → 00:11:10 เราก็ไม่ควรถ้าเรายังผู้ใหญ่ยังมีภูมิ
00:11:10 → 00:11:13 ต้านทานที่โอเคหน่อยอะไรอย่าเงี้ยครับอ
00:11:13 → 00:11:15 อ้าแล้วอย่างไข่ไม่สุกอับแบสสมมุติไข่ดาว
00:11:15 → 00:11:17 ไม่ไม่ไม่สุกอย่างเงี้ยค่ะแล้วเป็นคนชอบ
00:11:17 → 00:11:19 กินไข่ดาวไม่สุกเลยไม่สุกใช่มยแต่ว่าต้อง
00:11:19 → 00:11:23 ทอดข้างนอกแบบกรอบๆนะไข่ขาวเนี่ยกรอบๆใน
00:11:23 → 00:11:26 ขณะที่ไข่แดงยังๆมาตูมหน่อยอ่าอาจารย์ก็
00:11:26 → 00:11:30 ชอบออันนี้ยังพอไหวใช่มอันนี้ก็ยังพอแบบ
00:11:30 → 00:11:34 เอ้ยโอเคแต่ว่าก็ไม่ได้แบบควรจะแบบให้มัน
00:11:34 → 00:11:37 ถึงหน่อยอนะแต่ไข่ขาวเนี่ยมันถึงอยู่แล้ว
00:11:37 → 00:11:39 แหละถ้าเกิดทอดเป็นไข่ดาวเนี่ยคุณรีจะ
00:11:39 → 00:11:42 สังเกตว่าเฮ้ยมันจะถึงและโดยเฉพาะไข่ดาว
00:11:42 → 00:11:46 ที่ใช้น้ำมันทอดท่วมอ๋ออาจจะมีไข่ดาวแบบ
00:11:46 → 00:11:50 เคฟาสอาหารเช้าที่ตนึกออกใช่มั้ยครับอ่า
00:11:50 → 00:11:52 บางทีไข่ขาวข้างบนยังเยิ้มๆอยู่แต่ถ้า
00:11:52 → 00:11:55 เป็นไข่ดาวกระทะบ้านเราสิเป็นไงครับที่
00:11:55 → 00:11:58 ไม่ใช่แบบอาหารฝรั่งอ่ะค่ะอ่ามันก็จะแบบ
00:11:58 → 00:12:03 สุกถ้วนๆสุกถ้วนจนแบบกรอบนะโอ้โหพูดแล้ว
00:12:03 → 00:12:05 ก็อยากกินไข่ดาวเลยอคือน้ำลายกันเอืกๆ
00:12:05 → 00:12:08 แล้วค่ะตอนนี้นะคะเนี่ยมีแค่ปลาร้ากับไข่
00:12:08 → 00:12:12 นะที่คนกินแบบกินดิบอเออไม่แต่พอพอพูดถึง
00:12:12 → 00:12:14 เวลากินดิบเนี่ยไม่ได้นึกถึงไข่ไม่นึกถึง
00:12:14 → 00:12:17 ปลาร้าเลยอ่าจะนึกถึงแต่ปลาดิบใช่มั้ย
00:12:18 → 00:12:20 ครับปลาดิบเนื้อสมืเนื้อสดอย่างเดียวต้อง
00:12:20 → 00:12:23 นึกถึงนึกถึงแม้กระทั่งหมึกช็อตเองที่มี
00:12:23 → 00:12:26 พวกพยาธพวกแบคทีเรียทั้งหลายแหล่เนี่ยที่
00:12:26 → 00:12:29 เขาชอบจิ้มไอ้ปลาหมึกสดๆอ่ะอค่ะจิ้มลงไป
00:12:29 → 00:12:33 เลยโอโหอาจารย์รู้สึกว่าแบบสงสารน้องใช่
00:12:33 → 00:12:36 แล้วก็แบบเยเอเข้าไปเลยอย่างเงี้ยใส่ปาก
00:12:36 → 00:12:40 เข้าไปเลยก็ดึ๊กๆบางทีหนวดยังแบบเมามัน
00:12:40 → 00:12:42 มันน่าจะเป็นวัฒนธรรมการกินของเกาหลีหรือ
00:12:42 → 00:12:45 เปล่าคะที่แบบกินหมึกสดๆอะไรแบบนั้นน่ะนะ
00:12:45 → 00:12:48 แบบใช่ครับก็คือทั้งพยาธิทั้งเทื้อเอ่อ
00:12:48 → 00:12:51 แบคทีเรียก่อโรคที่ทำให้เราท้องเสียคลื่น
00:12:51 → 00:12:55 ไส้อาเจียนอนะถ่ายเป็นเลือดทั้งหลายแหล่
00:12:55 → 00:12:58 แล้วยังมีแบบพวกเนื้อเนี่ยที่คุณรีบอก
00:12:58 → 00:13:01 เนี่ยค่ะมันก็จะมีพวกแบบเชื้อนะบางอย่าง
00:13:02 → 00:13:05 อย่างเงี้ยเช่นเชื้อแทคที่พบมากในพวก
00:13:05 → 00:13:07 เนื้อทั้งหลายแหล่ถ้ากินเข้าไปบางคนนี่
00:13:07 → 00:13:10 คือแบบอ้วกเลยนะ
00:13:10 → 00:13:15 อ่าคือแบบอันตรายมากถ่ายท้องรุนแรงแล้วก็
00:13:15 → 00:13:19 ติดเชื้อในกระแสเลือดเสียชีวิตได้อุ้ยอ่า
00:13:19 → 00:13:22 โรคแทกใช่มั้ยคะที่ก่อนหน้านี่มันก็มีโรค
00:13:22 → 00:13:26 นี้ระบาดเมื่อก่อนอยู่ช่วงนึงเนาะใช่ๆๆ
00:13:26 → 00:13:30 ไอ้พวกเนี้ยเราก็ต้องแบบเฮ้ยพึงเอ่อระมัด
00:13:30 → 00:13:35 ระวังนะพวกเชื้อทั้งหลายแหล่แล้วก็พยาธิ
00:13:35 → 00:13:37 อย่างเงี้ยบางทีเรากินเข้าไปโอเราไม่รู้
00:13:37 → 00:13:41 หรอกนะบางคนไปตรวจปุ๊บอ้าวทำไมมีเอ่อพยาธ
00:13:41 → 00:13:43 อย่างเงี้ยตรวจบางอย่างเนี่ยอาจารย์เคย
00:13:43 → 00:13:47 แบบลูกศิษย์เอาไปตรวจเอ่อเหมือนเหมือน
00:13:47 → 00:13:51 สแกนน่ะครับร่างกายอือ่าแล้วสมัยเยเราก็
00:13:51 → 00:13:54 แบบเอ๊มันก็ไม่น่าที่จะเจอแล้วใช่มั้ย
00:13:54 → 00:13:58 พยาธอ่ะอือฮะแต่มันน่ะแฝงอยู่สิงอยู่ใน
00:13:58 → 00:14:02 กายเราแบบเฮ้ยเขก็ตรวจแบบเหมือนสนิดูนะ
00:14:02 → 00:14:04 โดยใช้เครื่องแบบของต่างประเทศของเยอรมัน
00:14:04 → 00:14:08 ก็ดูซิว่าเอ้ยมีอะไรที่ผิดปกติในร่างกาย
00:14:08 → 00:14:11 บ้างเป็นเหมือนสีิไม่ได้เจาะเลือดนะแต่
00:14:11 → 00:14:13 ว่าจะใช้คลื่นพลังงานอะไรอย่างเงี้ยเป็น
00:14:13 → 00:14:17 แบบ Energy Medicine ดูตรวจวัดดูเฮ้ยมัน
00:14:17 → 00:14:23 เหมือนมีพยาธอืสรุปไปหาหมอแล้วไปลองยา
00:14:23 → 00:14:28 ถ่ายพยาธเก็บอุจจาระตเจอครับอย่าบอกนะว่า
00:14:28 → 00:14:32 เยอะมากใช่เชอบกินอาหารสุกๆดิบๆอืบางที
00:14:32 → 00:14:35 เรากินปาดิบอย่างเงี้ยค่ะอุอ่าก็ต้องก็
00:14:36 → 00:14:38 ต้องเลือกให้มันแบบเฮ้ยถึงบางทีเราไปซื้อ
00:14:39 → 00:14:44 ตามร้านต้องฝากคุณผู้ฟังคือช่วงบางร้าน
00:14:44 → 00:14:47 ห้างหรือซุปเปอร์มาร์เก็ตใกล้ปิดถูกต้อง
00:14:47 → 00:14:51 ครับเราก็จะแบบเฮ้ยมีอะไรนะธงสีต่างๆลด
00:14:51 → 00:14:55 50% รอะไรนะเหมือนกป้ายสีเหลืองป่ะใช่
00:14:55 → 00:14:58 เขาก็จะแบอุยนี่ราคาเริ่มถูกแต่อย่าลืม
00:14:58 → 00:15:02 ว่ามันหั่นแร่ไว้ตั้งแต่เช้าหรือเปล่าใช่
00:15:02 → 00:15:07 แล้วเราแบบเฮ้ยคือถ้าอาจารย์ไปกินอาหาร
00:15:07 → 00:15:09 ตามร้านอาหารญี่ปุ่นบางทีเราก็ปฏิเสธไม่
00:15:09 → 00:15:13 ได้เนาะอ่าแล้วแล้วอาจารย์ก็จะกินแต่แบบ
00:15:13 → 00:15:16 อ่าสลัดนะสมมุติว่าเป็นแซลมอนก็ต้อง
00:15:16 → 00:15:20 เบิร์นให้สุกอืหรือไอ้ซูชิอ่ะค่ะนะ
00:15:20 → 00:15:23 อาจารย์ก็ต้องบอกให้เขาน่ะเบิร์นเอาไฟมา
00:15:23 → 00:15:26 ลนนะคะคุณผู้ฟังเพื่อให้มันแบบว่าเฮ้ยให้
00:15:26 → 00:15:29 มันสุกอือันนี้คือเทคนิคส่วนตัวของ
00:15:29 → 00:15:32 อาจารย์ที่ที่แบบเฮ้ยไม่ได้กินดิบแต่เรา
00:15:32 → 00:15:34 ก็ไม่ได้ขัดศรัทธาเพื่อนที่กินดิบบางทีเา
00:15:34 → 00:15:40 อยากกินไงอืออ่าเชอบกิน
00:15:40 → 00:15:42 ซูชงหยวน
00:15:42 → 00:15:46 หน่อยขอเบิร์นหน่อยขอเบิร์นให้มันสุขให้
00:15:46 → 00:15:49 มันโดนความร้อนหน่อยเพื่อจะได้แบบเฮ้ยฆ่า
00:15:49 → 00:15:53 พวกเชื้อจุลินทรีย์เชื้อกอโรคพยงพยาธทั้ง
00:15:53 → 00:15:55 หลายแหล่อย่างเงี้ยครับมันก็จะแบบอย่าง
00:15:55 → 00:15:58 น้อยก็ช่วยได้โอ้โหอาจารย์พูดแบบนี้หรือแ
00:15:58 → 00:16:02 ไม่กล้ากินเลยจริงไอไอ้ไอไอ้ที่ดิบเนี่ย
00:16:02 → 00:16:05 ไม่ใช่แค่ปลาดิบนะคุณลีมันจะมีดิบแล้วบาง
00:16:05 → 00:16:08 คนไม่รู้ตัวว่ามันยังดิบอยู่คือไม่สุกคือ
00:16:08 → 00:16:14 อะไรรู้มั้ยครับออะไรคะเวลาไปกินหมูกระทะ
00:16:14 → 00:16:18 อ๋อแล้วมันคส contaminate คส contaminate
00:16:18 → 00:16:20 คือไอ้
00:16:20 → 00:16:25 ที่เราอ่ะเอาของดิบลงไปค่ะนึกออกมั้ยครับ
00:16:25 → 00:16:28 แล้วของสุกอ่ะมันก็อยู่ในนั้นแต่ยังไม่
00:16:28 → 00:16:31 ได้เอาขึนขึ้นแต่ของสุกยังเอาขึ้นไม่หมด
00:16:31 → 00:16:33 เวลาอาจารย์กินอาจารย์ต้องทำให้สุกให้หมด
00:16:33 → 00:16:38 นะอ๋อค่อยลงอันชุดใหม่อชาบงชาบูโอเคต้อง
00:16:38 → 00:16:42 ลงให้สุกทั้งหมดแล้วก็ตักขึ้นมาใส่จานพัก
00:16:42 → 00:16:45 อือเอาไว้ไม่ใช่ว่ามันจะอยู่อันนี้เฮ้ยพอ
00:16:45 → 00:16:47 ใหม่แล้วเอ้ามอันนี้มาแล้วอ่ะหมูสดมาแล้ว
00:16:47 → 00:16:51 อะไรอลงมาใหม่เห็นมั้เป็นแบบนั้นเลยเป็น
00:16:51 → 00:16:53 แบบที่แบบว่าทั้งดิบทั้งบงทีแบบเอ้ยทำไม
00:16:53 → 00:16:56 ท้องเสียบาคนไปกินหมูกระทะอือ่าปิ้งโย่ง
00:16:57 → 00:17:00 ปิ้งย่างทั้งหลายแหล่แล้วก็แบบว่าเฮ้ยอัน
00:17:00 → 00:17:04 นี้แบบบางทีไฟมันสลัวๆไงสุกดีหรือเปล่าก็
00:17:04 → 00:17:06 ไม่รู้มองไม่ชัดอ้าก็กินๆมันไปไปถึงปุ๊บ
00:17:06 → 00:17:09 อุ๊ยทำไมปวดท้องทำไมแบบอ่าหรือแบบว่าลงไป
00:17:09 → 00:17:13 ปุ๊บไอ้ดิบก็พรวดลงไปแล้วก็ดิบลงไปปุ๊บก็
00:17:13 → 00:17:16 อตักสุกขึ้นมาไอ้ดิบสุกมันก็ยังแบบเชื้อ
00:17:16 → 00:17:19 มันก็ยังไม่ได้ถูกฆ่าเชื้อถูกทำลายดี
00:17:19 → 00:17:23 อันเนี้ยมันก็มีการปนเปื้อนข้ามออือฮึอ่า
00:17:23 → 00:17:26 แสดงว่ามันก็ต้องโดนความร้อนในระยะเวลา
00:17:26 → 00:17:28 นึงพอสมควรให้มันแบบว่าถูกต้องใช่ครับคือ
00:17:29 → 00:17:31 ถ้าอย่างสมมุติว่าอย่างบางทีไปไปกินพวก
00:17:31 → 00:17:33 เ่าหมูกระทะไม่ใช่หมูกระทะสิจะเรียกว่า
00:17:34 → 00:17:37 อะไรคะร้านยิเอิ่มอาหารเกาหลีเดี๋ยวนี้
00:17:37 → 00:17:41 ที่มันจะมีเนื้อไปไปย่างอ่าฮือเหมือนหมู่
00:17:41 → 00:17:43 ย่างเกาหลีอ่ะถ้าเมื่อก่อนต่างจังหวัดอ่ะ
00:17:43 → 00:17:46 หมู่ย่างเกาหลีก็จะเป็นแบบกระทะกระทะแบบ
00:17:46 → 00:17:50 นูนๆขึ้นมาอย่างงี้แต่สมัยนี้อ่าสมัยนี้
00:17:50 → 00:17:52 ก็จะเป็นแบบดีหน่อยไฮโซหน่อยไฮโซขึ้นมา
00:17:52 → 00:17:55 กระทะแบนๆแล้วก็แต่ว่าเนื้อจะหนาเออแต่
00:17:55 → 00:17:59 ว่าการที่จะแบบอุ้ยเราบางทีเราลงไปทั้ง
00:17:59 → 00:18:02 ชิ้นใหญ่ๆไม่ได้หั่นเป็นเล็กๆก่อนหรือ
00:18:02 → 00:18:04 อะไรเงี้ยเราแบบจะได้สุกง่ายๆตัวสุกไม่
00:18:05 → 00:18:07 ทั่วถึงนัน่ะสิอันนี้ก็ต้องพึงระวังครับอ
00:18:07 → 00:18:10 อ่าก็อันตรายเช่นเดียวกันอาจารย์แล้ว
00:18:10 → 00:18:13 อย่างตะเกียบที่ครีบอาหารที่ไม่สุกอ่ะ
00:18:13 → 00:18:15 แล้วเราก็ควรจะต้องแยกถูกต้องครับเราควร
00:18:15 → 00:18:17 จะแยอันนี้ก็ทำให้ติดเชื้อได้เหมือนกัน
00:18:17 → 00:18:20 ถูกต้องครับเพราะเราคีบอาหารดิบลงไปปึ๊บ
00:18:20 → 00:18:23 แล้วเราก็เอาตะเกียบเนี้ยบค่ะเอามาคีบ
00:18:23 → 00:18:27 อาหารสุกแล้วเราก็กินแล้วดีไม่ดีอาจจะ
00:18:27 → 00:18:31 ดูดอาจารย์เหมือนรู้เลยอ่ะว่าทำแบบนี้หนู
00:18:31 → 00:18:34 ปุ๊บอมันนัวจริงมันแซ่บจริงมันอร่อยจริง
00:18:34 → 00:18:38 ก็กลายเป็นเนี่ยคือการปนเปื้อนข้ามอคส
00:18:38 → 00:18:41 contaminate นะจากดิบกับสุกอย่างเงี้ย
00:18:41 → 00:18:44 โอกาสจากอันเนี้ยที่เราตักเอาเราคีบ
00:18:44 → 00:18:47 ตะเกียบเตัวดีเลยแล้วบางทีแบบกลับไปทำไม
00:18:47 → 00:18:51 เราปวดท้องทำไมเราแบบออ่าเนี่ยแล้วบางที
00:18:51 → 00:18:53 มันเชื้อมันก็จะมาแฝงอยู่ในร่างกายเราไง
00:18:53 → 00:18:56 ค่ะแล้วเชื้อพยาธิบางอย่างมันมีผลทำให้
00:18:56 → 00:18:58 เสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งได้อย่างเงี้ยดย
00:18:58 → 00:19:00 ที่ไม่รรู้เลยในระบบทางเดินอาหารของเรา
00:19:00 → 00:19:02 ว่ามันเข้ามาแฝงแล้วเพราะเราไม่ใช่กิน
00:19:02 → 00:19:05 ปุ๊บก็ไม่เห็นเป็นไรเลยปวดท้องนิดหน่อย
00:19:05 → 00:19:08 อ่ามันก็สะสมไปเรื่อยๆถูกต้องครับอาจารย์
00:19:08 → 00:19:12 แล้วอย่างถ้าเกิดว่าแบบเอ่ออาหารที่สุก
00:19:12 → 00:19:15 บางส่วนไม่อ่าไม่ไม่ได้สุกสุกัเออสุกๆดิบ
00:19:15 → 00:19:19 ๆอะไรอย่างเงี้ยกับบางคนที่แบบว่าอ่ะก็
00:19:19 → 00:19:22 เอ่อดิบแต่บางคนก็ทนทานความดิบได้แบบ
00:19:22 → 00:19:25 โอ้โหแต่อย่างบางคนแบบอย่างสมมุติเราอ่ะ
00:19:25 → 00:19:29 ก็จะแบบถ้าไม่สุกสุกๆดิบๆปึ๊บนะมันก็คือ
00:19:29 → 00:19:32 ความสุขดิบเนี่ยมันไม่ได้บอกว่าคนแข็งแรง
00:19:32 → 00:19:35 นั้นถึงจะกินดิบได้แล้วแต่คนไม่แข็งแรง
00:19:35 → 00:19:37 กินแล้วท้องเสียแน่นอนอะไมันไม่ไม่ได้วัด
00:19:37 → 00:19:39 กันตรงนี้ใช่มั้ยถูกต้องครับเพราะบาง
00:19:39 → 00:19:42 อย่างเนี่ยเฮ้ยมันรับเข้าไปแล้วเราแบบมัน
00:19:42 → 00:19:46 ยังไม่เกิดอาการทันทีอ่ะอมันอาจจะแฝงอยู่
00:19:46 → 00:19:49 อย่างเงี้ยอ่ารับเล็กน้อยนะแต่ก็ถือว่า
00:19:49 → 00:19:51 คุณก็รับมาก็หนักบางคนก็หนักอ่ะเล็กน้อย
00:19:51 → 00:19:53 อ่ะเอใช่บางคนก็อาจจะแบบเฮ้ยหนักเลยบางคน
00:19:54 → 00:19:58 เป็นไข้สมองอักเสบเลยอย่างเงี้ยอ่าที่มี
00:19:58 → 00:20:01 โคงมีไข้ติดเชื้อพวกเนี้ยเพราะว่ามันแบบ
00:20:01 → 00:20:06 โอ้โหมีมีหลายสายพันธุ์ของตัวพยาธิค่ะนะ
00:20:06 → 00:20:09 ที่มันแบบเฮ้ยแฝงอยู่อืในอาหารดิบทั้ง
00:20:09 → 00:20:13 หลายแหล่ถึงแบบว่าเอ้ยไม่แนะนำนะบางคนแบบ
00:20:13 → 00:20:15 เ้ยไปกินแล้วก็เอ้ยยังไม่เห็นเป็นไรแต่
00:20:15 → 00:20:20 คุณอาจจะได้รับแฝงมาโดยที่ไม่รู้อค่ะนะ
00:20:20 → 00:20:23 แล้วพวกเนี้ยเวลามันเกิดอาการก็อย่างที่
00:20:23 → 00:20:25 บอกแหละครับว่าเฮ้ยอยู่ๆแบบอ่ะทำไมติด
00:20:25 → 00:20:28 เชื้อขึ้นมานะเพราะบางทีเนี่ยมันไม่ได้
00:20:28 → 00:20:30 แบบเฮ้ยหลังกินไปเลยไม่กี่ชั่วโมงค่ะนะ
00:20:30 → 00:20:34 บางทีแบบเฮ้ยเป็นวันๆอ๋ออ่า 2 วัน 3 วัน
00:20:34 → 00:20:37 เ้าแสดงอาการออกมาอืนะถึงขั้นติดเชื้อใน
00:20:37 → 00:20:42 กระแสเลือดก็เสียชีวิตได้อ๋ออ่าดูแบบว่า
00:20:42 → 00:20:46 บางคนคือถ้าเชื้อไปแบบจังหวะแหมตกหลุมรับ
00:20:46 → 00:20:50 กันพอดีอ่าใช่ๆแล้วก็ต้องแบบว่าเฮ้ย
00:20:50 → 00:20:54 พยายามที่จะแบบอ่าปรุงให้สุกอืเนาะสะอาด
00:20:54 → 00:20:58 อันเนี้ยแบบสำคัญใช่ๆแล้วมันยังมีมีพวก
00:20:58 → 00:21:01 พยงพยาธอีกใช่มั้ยคะอาจารย์พยาตถูกต้อง
00:21:01 → 00:21:05 ครับพยาธิตัวตืดนะพยาธิตืดหมูตืดวัวอย่าง
00:21:05 → 00:21:08 เงี้ยนะครับซึ่งมันก็จะเกาะอยู่ที่ผนังลำ
00:21:08 → 00:21:11 ไส้ของมนุษย์ค่ะแล้วบางทีเราไม่ใช้ยาถาด
00:21:11 → 00:21:14 พยาธมันก็ไม่ออกมานะก็เกาะอยู่อย่างงั้น
00:21:14 → 00:21:16 มันก็เกาะอยู่อย่างงั้นน่ะสูบเลือดสูบ
00:21:16 → 00:21:19 เนื้อเราอ่ะกินเลือดกินเนื้อเราเราก็แบบ
00:21:19 → 00:21:23 เฮ้ยเสี่ยงต่อการแบบขาดสารอาหารทั้งหลาย
00:21:23 → 00:21:27 แหล่แล้วถ้ามีถุงพยาธตัวตืดจำนวนมากอึบาง
00:21:28 → 00:21:30 ทีมันก็ขึ้นไปที่สมองครับค่ะอ่าอันเนี้ย
00:21:30 → 00:21:34 อันตรายมากเลยนะหากมันแบบสลัดป้องของมัน
00:21:34 → 00:21:39 เนี่ยค่ะนะคือทำให้เราแบบเฮ้ยติดเชื้อออก
00:21:39 → 00:21:42 ขงออกไข่ทั้งหลายแหละนะครับอันเนี้ยมันก็
00:21:42 → 00:21:45 จะเข้าไปที่เอ่อกล้ามเนื้อหัวใจไปที่สมง
00:21:45 → 00:21:48 สมองโดยที่เราไม่รู้เลยอยยเนี่ยเพราะที่
00:21:48 → 00:21:53 กินแบบเอ่อดิบๆอะไรอ่ะลาบบางทีก็ไม่ค่อย
00:21:53 → 00:21:58 ได้ผ่านความร้อนมากน้ำตกซกเล็กหมกตับหมก
00:21:58 → 00:22:01 นนหมซอยจุ๊อย่างเงี้ยบางทีเอาเนื้อสุดๆ
00:22:02 → 00:22:04 ไม่แต่เป็นเป็นวัฒนธรรมการกินของของท้อง
00:22:04 → 00:22:07 ถิ่นน่ะใช่เข้าใจเข้าใจครับแล้วบางทีเา
00:22:07 → 00:22:10 มองว่าเฮ้ยบีบมะนาวไปก็เคยได้ยินใช่มั้ย
00:22:10 → 00:22:13 ครับเหมือนหมึกอ่ะเฮ้ยแค่มันเห็นไฟมันก็
00:22:13 → 00:22:15 สุกเนี่ยชอบพูดอย่างเงี้อาจารย์ตอนเทำไม
00:22:16 → 00:22:18 หมึกเห็นไฟก็สุกวะเอามาตั้งมองกองไฟเหรอ
00:22:18 → 00:22:22 หมึกมาเล่นรอบกองไฟกันทำไมสุกุ้งกุ้ง
00:22:22 → 00:22:25 เปลี่ยนสีเอ้ยสูกอ่าสุกแต่จริงๆแล้วโอห
00:22:25 → 00:22:29 ติดเชื้อแบบพวกนี้อันตรายมากในอาหารทะเล
00:22:29 → 00:22:32 อามฉ่
00:22:32 → 00:22:35 เชัซึ่งเป็นเชืที่อันตรายถึงชีวิตได้นะ
00:22:35 → 00:22:39 ค่ะออติดเชื้อท้องสงท้องเสียอะไรขึ้นมา
00:22:39 → 00:22:41 นี่แบบโอโหอันตรายเลยเอาอย่างงี้ถ้าเกิด
00:22:41 → 00:22:44 งั้นกินอาหารดิบอย่างเงี้ค่ะเรากินยาถ่าย
00:22:44 → 00:22:48 พยาธบ่อยๆเลยจะไปดักเอาไปดักรอไว้ก่อนใช่
00:22:48 → 00:22:51 มยกินคือพอกินของดิปุ๊บอฉันถ่ายพยาธเลยรอ
00:22:51 → 00:22:55 เลยก็ไม่ก็ไม่แนะนำครับอ่าไม่งั้นแล้วก็
00:22:55 → 00:22:57 แบบเฮ้ยงั้นฉันก็กินไปเถอะเดี๋ยวก็ถึง
00:22:57 → 00:22:59 เวลาถ่ายพยาตถ่ายพยาตแล้วระหว่างที่คุณ
00:22:59 → 00:23:01 ยังไม่ถ่ายอ่ะแล้วถ่ายคุณั่นใจได้ไงว่า
00:23:01 → 00:23:04 เฮ้ยมันออกมา 100% เออใช่เพราะเมื่อกี้
00:23:04 → 00:23:06 อาจารย์บอกว่ามันมีแบบที่เป็นตัวเป็น
00:23:06 → 00:23:08 ปล้องอ่ะมันออกแค่มันเป็นปล้องนะตัวมัน
00:23:08 → 00:23:11 ยังอยู่ออ่าตัวมันยังอยู่หรือมันไข่ทิ้ง
00:23:11 → 00:23:15 ไว้อแล้วมันไปแซกซอนอยู่ในบริเวณใดบริเวณ
00:23:15 → 00:23:18 หนึ่งอย่างเงี้ยค่ะนะแล้วคนชอบกินมาก
00:23:18 → 00:23:22 อาหารดิบบางคนแบบเอ่อนอกจากปลาดิบอ่ะ
00:23:22 → 00:23:24 อาหารทะเลดิบแบบกุ้งอ่ะกุ้งอะไรนะกุ้ง
00:23:24 → 00:23:27 เต้นอ๋อใช่กุ้งเต้นแล้วเดี๋ยวนี้มีเอ่อ
00:23:27 → 00:23:29 อะไรนะคะ
00:23:29 → 00:23:34 กุ้งกุ้งแช่น้ำปลาอ่าอย่างเงี้ยชอบกินนะ
00:23:35 → 00:23:37 ดิบๆพวกอาหารทะเลดิบอย่างที่อาจารย์บอก
00:23:37 → 00:23:40 แหละพวกเชื้อวิิพาราฮีโมไลติกซึ่งมันทำ
00:23:40 → 00:23:43 ให้เกิดแบบการติดเชื้อในกระแสเลือดแบบ
00:23:43 → 00:23:48 ท้องเสียได้นะอแล้วหอยดิบก็มีนะอ่าพยง
00:23:48 → 00:23:52 พยาธทั้งหลายแหลเนี่ยบางคนกินหอยดิบกินปู
00:23:52 → 00:23:55 ดิบปูดิบที่ปูที่ใส่ในส้มตำอ่ะอ่าๆปูม้ง
00:23:55 → 00:23:58 ปูม้าอะไรว่าไปเออใช่มั้ยคะปูม้งปูม้า
00:23:58 → 00:24:00 หรือปูตัวเล็กๆตอนเด็กๆอาจารย์ก็เคยชอบมา
00:24:01 → 00:24:03 อยู่ต่างจังหวัดอ่ะปูแป้นน่ะออปูแป้นเอา
00:24:03 → 00:24:06 มาแช่น้ำปลาอือ่าหรือปูแสมอย่างเงี้ยก็
00:24:06 → 00:24:08 เค็มแล้วไงอ่ามันก็เค็มก็คิดว่าเฮ้ยเค็ม
00:24:08 → 00:24:12 เดี๋ยวบีบมะนาวมันตายไม่ตายนะเออแต่เรา
00:24:12 → 00:24:15 คิดเองไงเราคิดว่าูมันแสบไงพอมันแสบปุ๊บ
00:24:15 → 00:24:18 มันคงสิ้นลมหาย
00:24:18 → 00:24:23 ใจจคือแสดงว่าเราต้องกินของปรุงสุกสดใหม่
00:24:23 → 00:24:26 สะอาดถูกต้องครับอ่าทุกสิ่งอย่างเลยส่วน
00:24:26 → 00:24:29 ใหญ่มันก็อยู่ในหมวดเนี่ยแหละหนีไม่พ้น
00:24:29 → 00:24:31 ที่เราแบบเฮ้ยจะกินเอ่อปลาร้าก็ต้องต้ม
00:24:31 → 00:24:35 สุกกินไข่ก็ไข่ก็ต้องสุกนะโดยเฉพาะไข่ขาว
00:24:35 → 00:24:37 เองเนาะไม่งั้นเดี๋ยวมันก็ติดเชื้อปน
00:24:37 → 00:24:39 เปื้อนทั้งไข่ขาวไข่แดงนี่แหละนะครับ
00:24:39 → 00:24:42 อาหารทะลงทะเลทั้งหลายแหล่นะเครื่องใน
00:24:42 → 00:24:46 สัตว์ตับตึบอนะคือปรุงสุขอันเนี้ยมันก็
00:24:46 → 00:24:49 ปลอดภัยแล้วเราก็ได้คุณค่าทางโภชนาการที่
00:24:49 → 00:24:53 เอ่อดีกับสุขภาพโดยที่ไม่ต้องกังวลว่าแบบ
00:24:53 → 00:24:55 เฮ้ยเดี๋ยวมันจะมีเชื้อปนเปื้อนมั้ยเชื้อ
00:24:55 → 00:24:58 ก่อโรคปนเปื้อนมั้ยนะครับซึ่งบางทีเราได้
00:24:58 → 00:25:01 รับมาเนี่ยบางคนก็เอ่อติดเชื้อทางเดิน
00:25:01 → 00:25:05 อาหารฉับพันธก็ท้องเสียอนะท้องร่วงบางบาง
00:25:05 → 00:25:08 ทีแบบูกินเข้าไปอาหารเป็นพิษอ่ะครับค่ะ
00:25:08 → 00:25:10 นี่แหละก็จากการติดเชื้อทั้งหลายแหล่แล้ว
00:25:10 → 00:25:13 บางทีเชื้อบางอย่างมันก็เข้าไปเกาะเอ่อพ
00:25:13 → 00:25:15 พยาธอย่างเงี้ยอืเนาะมันก็เป็นเหมือน
00:25:15 → 00:25:18 ปรสิทธิ์อ่ะค่ะที่มาสิงสถิตอยู่ในกายเรา
00:25:18 → 00:25:21 โดยที่เราเฮ้ยเราไม่รู้กินอะไรไปนี่ไม่
00:25:21 → 00:25:24 ได้ดูดซึมสารอาหารนะพยาธเอาไปใช้หมดเลย
00:25:24 → 00:25:27 ใช่พยาติเฮ้ยแย่งทำไมดูแบบเธอผอมเธอขาด
00:25:27 → 00:25:30 สารอาหารอย่างเงี้อ่ามันก็อาจจะมีพวก
00:25:30 → 00:25:32 เหล่าเนี้ยซึ่งอาจารย์มองว่าเฮ้ยมันได้
00:25:32 → 00:25:35 ไม่คุ้มเสียิของคนชอบกินสดเอาจจะรู้สึก
00:25:35 → 00:25:39 ว่าเฮ้ยมันสดมันหวานมันหอมมันสดอๆๆมันได้
00:25:39 → 00:25:42 ฟิวนั้นอ่ามันได้ฟิวนั้นก็เข้าใจแบบเฮ้ย
00:25:42 → 00:25:45 ถ้าถ้าจะกินลักษณะนั้นเนาะแต่ว่ามันก็
00:25:45 → 00:25:48 ต้องดูว่าเฮ้ยมันไอ้สิ่งเหล่านั้นเนี่ย
00:25:48 → 00:25:51 มันสะอาดมอ่าเขาเก็บควบคุมอุณหภูมิเหมาะ
00:25:51 → 00:25:55 สมยเนาะเพราะบางคนเ่ะไปกินอาหารญี่ปุ่น
00:25:55 → 00:25:57 อย่างเงี้ยอย่างที่บอกว่าประจำก็จริงๆ
00:25:57 → 00:25:59 แล้วเนี่ยถ้าเราดูแล้วเฮ้ยร้านนี้เ้ามี
00:25:59 → 00:26:04 มาตรฐานนะอ่าแล้วก็เก็บเอ่อดูสะอาดเชบ
00:26:04 → 00:26:06 เชิบอะไรทั้งหลายมันต้องสังเกตหลายอย่าง
00:26:06 → 00:26:10 พวกเนี้ยมันก็จะมีสุขอนามัยที่ดีเราก็จะ
00:26:10 → 00:26:14 เอ่อมั่นใจนะก็โอกาสในการที่จะออก่อโรค
00:26:14 → 00:26:16 หรือติดเชื้อต่างๆก็จะน้อยลงค่ะเพราะงั้น
00:26:16 → 00:26:19 ก็เลเลือกนะคะเลือกถูกต้องครับผมแต่ถ้า
00:26:19 → 00:26:23 เพื่อความสบายใจคือกินสุกไว้แหละเป็นหลัก
00:26:23 → 00:26:27 นะก็จะปลอดภัยนะกับสุขภาพร่างกายของเรา
00:26:27 → 00:26:30 ครับและพยาธด้วยค่ะขอบคุณอาจารย์เอกราช
00:26:30 → 00:26:34 ค่ะสวัสดีค่ะสวัสดีครับว้าวหมดเวลาแล้ว
00:26:34 → 00:26:36 ค่ะคุณผู้ฟังค่ะพบกันใหม่ครั้งหน้านะคะ
00:26:36 → 00:26:39 เราจะหาเรื่องสนุกๆนะคะเรื่องดีๆมาฝากคุณ
00:26:39 → 00:26:41 ผู้ฟังกันต่อไปวันนี้ลาไปก่อนค่ะสวัสดี
00:26:41 → 00:26:45 ค่ะ This Is Toy PBS podcast เพียง
00:26:45 → 00:26:47 แค่คุณละสายตาจากเด็กเพียงครู่เดียวเพื่อ
00:26:47 → 00:26:49 ไปทำกิจกรรมอย่างอื่นอาจทำให้เด็กเสีย
00:26:49 → 00:26:52 ชีวิตจากความเลเเล่อเพราะอะไรรอง
00:26:52 → 00:26:54 ศาสตราจารย์ดรอดิศักดิ์ผลิตผลการพิมพ์จาก
00:26:54 → 00:26:58 มหาวิทยาลัยมหิดลมาบอกให้รู้ครับถ้าเป็น
00:26:58 → 00:27:01 เด็กปฐมวัยอายุน้อยกว่า 5 ปีเนี่ย
00:27:01 → 00:27:04 อุบัติเหตุส่วนใหญ่เกิดขึ้นในบ้านหน้า
00:27:04 → 00:27:08 บ้านหลังบ้านข้างบ้านติดกับตัวบ้านเกิด
00:27:08 → 00:27:11 ขึ้นพร้อมๆกับการที่มีผู้ดูแลเด็กผู้ปก
00:27:11 → 00:27:15 ครองอ่ะค่ะนะอยู่ใกล้ๆตัวเขาอ่ะอยู่บน
00:27:15 → 00:27:18 ความตั้งใจของผู้ปกครองที่จะแบบดูแลเขา
00:27:18 → 00:27:21 อ่ะแต่ว่าเผลอเรอชั่วขนาอะไรเงี้ยนะฮะ
00:27:21 → 00:27:24 หรือว่าไม่ทันคาดคิดไม่ได้ดูชั่วขณะแล้ว
00:27:24 → 00:27:27 เด็กก็จะตายอยู่ในละแวกบ้านกับหน้าบ้าน
00:27:27 → 00:27:31 หลังบ้านนี่แหละอยู่แค่
00:27:31 → 00:27:35 ค่ะสาเหตุหลักๆกลุ่มนี้เป็นการจมน้ำจมน้ำ
00:27:35 → 00:27:38 ในบ้านหน้าบ้านหลังบ้านเพราะฉะนั้นถ้า
00:27:38 → 00:27:41 เป็นในบ้านก็จะกลายเป็นกะละมังถังน้ำตุ่ม
00:27:41 → 00:27:45 โอ่งอ่างอาบน้ำในบ้านปัจจุบันเนี่ยอ่าง
00:27:45 → 00:27:48 สมัยใหม่เนี่ยนะฮะค่ะถ้าหน้าบ้านหลบ้านก็
00:27:48 → 00:27:53 จะเป็นบ่อขุดบ่อปลาบ่อกุ้งแม่น้ำลำคลองก็
00:27:53 → 00:27:56 ต้องแบบติดกับตัวบ้านเลยเออแล้วก็แบบเอา
00:27:56 → 00:27:59 ลูกไปป้อนข้าวไปอะไรเงี้ยนะแล้วเดินเอา
00:27:59 → 00:28:01 จันทเข้าแบบอยู่ใกล้พ่อแม่แล้วก็อยู่ใกล้
00:28:01 → 00:28:04 ๆบ้านแล้วก็แบบพ่อแม่ก็แบบเผลอเลยชั่วขณะ
00:28:04 → 00:28:06 อะไรเงี้ยจะเป็นลักษณะแบบนี้ลองลงไปกลุ่ม
00:28:06 → 00:28:09 นี้ก็จะเป็นขาดอากาศหายใจจากอื่นๆนอกจาก
00:28:09 → 00:28:13 จมน้ำเช่นของเล่นติดคอเส้นสายรัดคอของกด
00:28:13 → 00:28:17 ทับใบหน้ากดทับทรวงอกพวกเนี้ยของเด็กเล็ก
00:28:17 → 00:28:21 นะค่ะนี้พอเด็กเวัยเรียนนะ 5-9 ปีก็เป็น
00:28:21 → 00:28:24 จมน้ำเป็นอันดับ 1 เหมือนกันออ่าแต่ไม่
00:28:24 → 00:28:27 ใช่ในบ้านและค่ะอันนี้ออกไปเล่นเล่นในชุม
00:28:27 → 00:28:31 ชนและและนะฮะละแวกบ้านแทนนะฮะก็อันนี้
00:28:31 → 00:28:34 เป็นแหล่งน้ำธรรมชาติของจริงหรือไม่ก็พวก
00:28:34 → 00:28:38 บ่อขุดรถแม็คโครขุดไปเป็นหลุมเป็นเด็กก็
00:28:38 → 00:28:40 ไปเล่นกันอย่างเงี้ยนะฮะแล้วก็จมน้ำ
00:28:40 → 00:28:43 อันดับ 2 ก็เป็นอุบัติเหตุทางถนนซ้อน
00:28:43 → 00:28:46 มอเตอร์ไซค์ถูกรถชนถ้า 10 ปีขึ้นไปนี่จะ
00:28:46 → 00:28:49 เป็นอุบัติเหตุทางถนนเป็นอันดับนำเลยขับ
00:28:49 → 00:28:51 เองเริ่มขับเองแล้วเป็นผู้ขับขี่
00:28:51 → 00:28:55 มอเตอรไซค์เองผู้ขับขี่ก็ปาเข้าไป 20 30%
00:28:55 → 00:28:59 และความรุนแรงก็ตามมาเริ่มตีกันเริ่มแบบ
00:28:59 → 00:29:02 มีการทำร้ายกันนะฮะ 15 ปีขึ้นไปอันนี้
00:29:02 → 00:29:05 โอ้โหไม่น่าเชื่อนะเด็กอายุ 15-18 3 ปี
00:29:05 → 00:29:07 เนี่ยจากอุบัติเหตุนะตายเท่ากับเด็กแรก
00:29:07 → 00:29:11 เกิดถึง 15 ปีจำนวนเท่าๆกันกับการตายของ
00:29:11 → 00:29:15 เด็กอายุ 15-18 ปีนะฮะแล้วก็เป็นอุทางถนน
00:29:15 → 00:29:17 เป็นอันดับ 1 แล้วก็ความรุนแรงตีกันเป็น
00:29:17 → 00:29:20 อันดับ 2 อันนี้จะล้อร้อกันกับแนวโน้มมา
00:29:20 → 00:29:25 ต่อเนื่องมาจากเด็กอายุ 10 ปีขึ้นไป
00:29:25 → 00:29:29 ครับ This Is Toy PBS
00:29:29 → 00:29:33 C ติดตามรายการทางเว็บไซต์และ
00:29:33 → 00:29:36 Application ของ Thai PBS podcast
00:29:36 → 00:29:38 spotify soundcloud Google podcast
00:29:38 → 00:29:41 Apple podcast และ YouTube Channel
00:29:41 → 00:29:45 Thai PBS podcast tha PBS podcast
00:29:45 → 00:29:48 View the world via The Voice
00:29:48 → 00:29:53 [เพลง]