00:00:00 → 00:00:03 This Is Thai PBS podcast View the
00:00:03 → 00:00:05 world vi The
00:00:05 → 00:00:08 Voice ข้าวเหนียวจะมี
00:00:08 → 00:00:11 โลกินอยู่ในปริมาณที่มากกว่าข้าเจ้ามัน
00:00:11 → 00:00:14 เป็นคาร์โบไฮเดรตที่มาจากน้ำตาลโมเลกุล
00:00:14 → 00:00:17 เดี่ยวต่อกันแบบกิ่งก้านสาขาเจ้าทิปโทแฟน
00:00:17 → 00:00:20 เนี่ยจะถูกสมองสร้างเป็นเซโรโทนินเอาาล่ะ
00:00:20 → 00:00:23 ไอ้ตัวที่ทำให้ง่วงก็คือสารเซโรโทนินนี่
00:00:23 → 00:00:26 แหละมันเป็นสารที่ทำให้ร่างกายเกิดอาการ
00:00:26 → 00:00:28 ง่วงซึมข้าวเหนียวมันโมเลกุลใหญ่กว่าข้าว
00:00:28 → 00:00:32 ขาวใช่มยก็ต้องต้องใช้เวลาใช้พลังงานใน
00:00:32 → 00:00:34 การย่อยมากขึ้นเลือดมาไปเลี้ยงสมองน้อย
00:00:35 → 00:00:38 ร่างกายต้องใช้เวลาและพลังงานในการย่อยทำ
00:00:38 → 00:00:41 ให้ง่วงเพราะว่าเลือดไปเลี้ยงสมอง
00:00:41 → 00:00:45 น้อยฟังทุกเรื่องสุขภาพอัปเดตทุกโรคไทย
00:00:45 → 00:00:48 ฟังรายการโรงหมอกับดิฉันสุรีพรวงสถิตพร
00:00:48 → 00:00:52 ค่ะ This Is Toy PBS podcast เอาล่ะ
00:00:52 → 00:00:54 ค่ะวันนี้คุณผู้ฟังนะคะมาติดตามกันเรื่อง
00:00:54 → 00:00:57 นี้เป็นข้อสงสัยของตัวเองด้วยแล้วก็ไม่
00:00:57 → 00:00:59 รู้ว่าคุณผู้ฟังเป็นกันบ้างหรือเปล่ากับ
00:00:59 → 00:01:02 เวลาที่เรากินข้าวเหนียวไปแล้วทำไมง่วง
00:01:02 → 00:01:05 นอนเอ๊ะเป็นกันบ้างหรือเปล่าคะเดี๋ยวมาหา
00:01:05 → 00:01:08 คำตอบกันกับแพทหญิงกิตยาสีเลือดฟ้าแพทย์
00:01:08 → 00:01:11 อายุรกรรมฝ่ายการแพทย์ AIA ค่ะสวัสดีค่ะ
00:01:11 → 00:01:14 สวัสดีค่ะเอาเรื่องนี้มาคุยกับคุณหมอมี
00:01:14 → 00:01:18 วันนึงกินข้าวเหนียวกินเสร็จปุ๊บหลับปั๊บ
00:01:18 → 00:01:20 คือมันไม่ได้มีแกปช่องว่างให้เราได้นั่ง
00:01:20 → 00:01:22 ย่อยก่อนน่ะค่ะเมื่อกินข้าวเหนียวเข้าไป
00:01:22 → 00:01:28 เนี่ยนะอก็เมื่ออิ่มแล้วก็จะง่วงๆๆๆนะคะ
00:01:28 → 00:01:32 หลายคนเป็นนะออออซึ่งการกินข้าวเหนียว
00:01:32 → 00:01:36 เป็นบ่อยว่ะอาหารชนิดอื่นถูกมั้ยใช่ๆเออ
00:01:36 → 00:01:40 จริงๆกินอาหารชนิดอื่นก็ก็ง่วงเหมือนกัน
00:01:40 → 00:01:42 นะแต่ว่ามันมันมันไม่มันไม่บ่อยเท่าข้าว
00:01:42 → 00:01:46 เหนียวนะก็แอบบอกท่านผู้ฟังก่อนว่าเฮ้ย
00:01:46 → 00:01:49 มันเป็นเรื่องจริงนะอ๋อเออน้องลีไม่เป็น
00:01:49 → 00:01:51 ไรมันเป็นเรื่องจริงคิดว่าคิดไปเองไม่ใช่
00:01:52 → 00:01:55 คิดไปเองอู้หูแต่ว่าจะอธิบายว่าทำไมกิน
00:01:55 → 00:01:58 ข้าวเหนียวแล้วง่วงเนี่ยโอ้โหมันจะต้อง
00:01:58 → 00:02:02 ตอบด้วยหลักการทางวิทยาศาสตร์เยอะมากมัน
00:02:02 → 00:02:06 ต้องไปรีวิวตั้งแต่สมัยเราเรียนมัธยมการ
00:02:06 → 00:02:07 ย่อย
00:02:07 → 00:02:10 คาร์โบไฮเดรตอะไรมันเป็นยังไงมันต้องขนาด
00:02:10 → 00:02:13 นั้นนะฮะถึงจะทำให้ผู้ฟังเนี่ยรู้เรื่อง
00:02:13 → 00:02:16 นี่คือทราบขนาดนั้นนะเป็นการบ้านให้คุณ
00:02:16 → 00:02:18 หมอขนาดนี้เลยเหรอคะข้อเนี้ยใช่ค่ะมันไม่
00:02:18 → 00:02:21 ใช่เออกินข้าวเหนียวปุ๊บโอเคใช่ๆตอบจบ
00:02:21 → 00:02:25 หลับใช่จริงมันต้องมีมีหลักการมีหลักการ
00:02:25 → 00:02:27 เอาล่ะเราเริ่มต้นด้วยความรู้เกี่ยวกับ
00:02:27 → 00:02:30 ข้าวก่อนนะคะมันต้องไปขนาด
00:02:30 → 00:02:33 เออว่าข้าวเนี่ยนะข้าวก็เป็นอาหารจำพวก
00:02:33 → 00:02:36 แป้งใช่มั้ยคะที่ให้คาร์โบไฮเดรตในปริมาณ
00:02:36 → 00:02:39 ที่สูงอืส่วนประกอบของข้าวทุกชนิดเนี่ยมี
00:02:39 → 00:02:43 คาร์โบไฮเดรตเป็นส่วนประกอบ 80% แน่ะเช่น
00:02:43 → 00:02:46 ยกตัวอย่างนะข้าว 100 กรัมนะคะจะมี
00:02:46 → 00:02:50 คาร์โบไฮเดรต 80 กรัมอือมีน้ำ 12 กรัมมี
00:02:50 → 00:02:54 โปรตีนด้วยนะข้าวเนี่ยค่ะมีโปรตีน 7 กรัม
00:02:54 → 00:02:57 แล้วก็ที่เหลือเป็นไขมันวิตามินแล่ท่า
00:02:57 → 00:03:01 เนี่ยอีก 1 กรัมอ่ะข้าวนะค่ะซึ่ง
00:03:01 → 00:03:04 คาร์โบไฮเดรตหลักในข้าวคือตัวอะมิโลสแล้ว
00:03:04 → 00:03:09 ก็อิโลเพคตินอือ่ามันต้องลงลึกขนาดนี้
00:03:09 → 00:03:12 เพราะอะไรอะมิโลสเนี่ยเป็นคาร์โบไฮเดรต
00:03:12 → 00:03:16 ที่มาจากน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยวต่อกันเป็น
00:03:16 → 00:03:21 เส้นตรงย่อยง่ายนะค่ะโมเลกุลเดี่ยวต่อกัน
00:03:21 → 00:03:24 เป็นเส้นตรงมันก็เลยย่อยง่ายก็จะพบในข้าว
00:03:24 → 00:03:28 เจ้ามากกว่าข้าวเหนียวอ๋อข้าวข้าสวยที่
00:03:28 → 00:03:30 เรากินปกตินี่ใช่มั้ยคะใช่ก็จะมีอมิโลส
00:03:30 → 00:03:35 มากกว่าอืส่วนในข้าวเหนียวจะมีอิโลเพคติน
00:03:35 → 00:03:38 อยู่ในปริมาณที่มากกว่าข้าวเจ้าซึ่งเจ้า
00:03:38 → 00:03:41 อินพินเนี่ยมันเป็นคาร์โบไฮเดรตที่มาจาก
00:03:41 → 00:03:44 น้ำตาลโมเลกุลเดี่ยวต่อกันแบบกิ่งก้าน
00:03:44 → 00:03:48 สาขาอือฮึนะไม่ใช่ต่อกันเป็นเส้นตรงเพราะ
00:03:48 → 00:03:50 ฉะนั้นมันก็เลยทำให้ย่อยหยากกว่าอมิโลส
00:03:50 → 00:03:55 อ๋ออิโลเพกตินในข้าวเหนียวอ่ะอันนี้เพราะ
00:03:55 → 00:03:58 ฉะนั้นคุณผู้ฟังอ่ะดอกจันตรงนี้ไว้นิดนึง
00:03:58 → 00:04:02 เพราะมันย่อยยากย่อยหยากกว่าเข้าสวยใช่
00:04:02 → 00:04:04 เอ๊ะไอคำว่าย่อยหย้าเนี่ยมันเป็นสาเหตุ
00:04:04 → 00:04:08 ที่ทำให้เฮ้ยง่วงหรือเปล่าอ้าเรามาฟังต่อ
00:04:08 → 00:04:11 คราวนี้เมื่อทานข้าวเข้าไปะแล้วก็ทานข้าว
00:04:11 → 00:04:15 เข้าไปมีกระบวนการย่อยยังไงอืนะอ่าพอเรา
00:04:15 → 00:04:18 ข้าวที่กินเข้าไปนะคะก็เข้าสู่กระบวนการ
00:04:18 → 00:04:22 ย่อยข้าวจะถูกย่อยเป็นน้ำตาลโมเลกุลเล็ก
00:04:22 → 00:04:25 อ่าคุณผู้ฟังก็รู้จักน้ำตาลกลูโคสแล้วก็
00:04:26 → 00:04:31 ซูโคสค่ะเอาล่ะพอไปถึงกระเพาะถูกย่อยได้
00:04:31 → 00:04:35 น้ำตาลกลูโคสซูโคสเข้ากระแสเลือดเป็นยัง
00:04:35 → 00:04:38 ไงล่ะตับอ่อนของเราก็จะหลั่งฮอร์โมน
00:04:38 → 00:04:41 อินซูลินออกมาสิค่ะเพื่ออะไรฮอร์โมน
00:04:41 → 00:04:45 อินซูลินเนี่ยก็เพื่อจะเอาจะปรับระดับน้ำ
00:04:45 → 00:04:48 ตาลในเลือดให้มันลงมาเพราะเรากินเข้าไป
00:04:48 → 00:04:51 ปุ๊บน้ำตาลในเลือดก็สูงเชียวอืเขาจะหลั่ง
00:04:51 → 00:04:54 อินซูลินออกมาเพื่อปรับระดับน้ำตาลใน
00:04:54 → 00:04:57 เลือดให้อยู่ในเกณฑ์ปกติโดยยังไงโดยให้
00:04:57 → 00:05:01 เซลล์เนี่ยอกลูโคสกับเข้าเซลล์เข้าไป
00:05:01 → 00:05:04 เพื่อใช้เป็นพลังงานค่ะนอกจากนอกจาก
00:05:04 → 00:05:07 กลูโคสเข้าเซลล์แล้วเนี่ยเจ้ากดอะมิโน
00:05:07 → 00:05:10 ทั้งหลายเนี่ยกดอะมิโนจะถูกดูดซึมไปโดย
00:05:10 → 00:05:14 กล้ามเนื้อนะกดอะมิโนก็มีพวกเอ่อแีน
00:05:14 → 00:05:18 ลิวซีนไอโซลิวซีนแต่กดอะมิโนตัวนึงที่
00:05:18 → 00:05:22 ชื่อทริปโตเฟนเนี่ยค่ะมันไม่ถูกดูดซึมกับ
00:05:23 → 00:05:25 กับเข้าไปในกล้ามเนื้อมันก็เหมือนกับ
00:05:25 → 00:05:29 รีเลทกันว่าพอกดตัวอื่นถูกดูดซึมเข้าไป่
00:05:29 → 00:05:31 เจ้าทิปโตแฟนมันก็จะสูงใช่มั้ยเพราะมัน
00:05:31 → 00:05:34 ไม่ถูกดูดซึมอยู่ตัวเดียวมันก็จะเข้ามัน
00:05:34 → 00:05:38 ก็จะไปตามสมองไปถึงหลอดเลือดในสมองเจ้า
00:05:38 → 00:05:42 ทิปโทแฟนเนี่ยจะเป็นสารตั้งต้นจะถูกสมอง
00:05:42 → 00:05:45 สร้างเป็นเซโรโทนินเอาล่ะไอ้ตัวพระเอกของ
00:05:46 → 00:05:48 มันก็คือที่ทำให้ง่วงก็คือสารเซโรโทนิน
00:05:48 → 00:05:51 นี่แหละโอ้โหกว่าจะมาถึงสารเซโรโทนินนี่
00:05:51 → 00:05:55 คือามว่าโมเลกุจริงๆเดี่ยวเดิมาเต็มเลย
00:05:55 → 00:05:57 ใช่เพราะจะอธิบายให้น้องรีฟังว่าอ้ากิน
00:05:57 → 00:06:00 ข้าวเหนียวทำให้เซโรโทนินเพิ่มมันก็ไม่
00:06:00 → 00:06:03 รู้ใช่มว่ามันมาจากไหนก็ฟังดูกระบวนการ
00:06:03 → 00:06:06 มันกว่าจะมานู่นนี่นั่นแต่ว่าตอนที่กินไป
00:06:06 → 00:06:09 แล้วมันง่วงเลยไม่น้องนีต้องเข้าใจก่อน
00:06:09 → 00:06:13 ว่ามันมาถึงอะมิโนแอซิดมาถึงทริปโตเฟน
00:06:13 → 00:06:17 ทริปโตเฟนถูกสมองสร้างเป็นเซโรโทนินอ
00:06:17 → 00:06:20 เพราะฉะนั้นเอ่อปริมาณเซโรโทนินในสมอง
00:06:20 → 00:06:24 เนี่ยขึ้นกับปริมาณกดอะมิโนทิปโทแฟนใช่มย
00:06:24 → 00:06:28 ถ้ายิ่งเยอะเท่าไหร่ก็รตนิก็จะมากขึ้น
00:06:28 → 00:06:32 แสดงว่าปริมาณในกินข้าวเหนียวหรือเปล่า
00:06:32 → 00:06:35 ใช่เดี๋ยวมันมี 3 แฟกเตอร์อเดี๋ยวจะ
00:06:35 → 00:06:38 อธิบายให้ฟังว่าทำไมง่วงสุดยอดอคราวนี้
00:06:38 → 00:06:41 สารซีโรโทนินเนี่ยนะมันจะทำให้ไป
00:06:41 → 00:06:44 สังเคราะห์พระเอกอีกตัวนึงก็คือเมลาโทนิน
00:06:44 → 00:06:47 เมลาโทนินท่านผู้ฟังอาจจะรู้จักธนินเนี่ย
00:06:47 → 00:06:51 มันเอามาใช้ทำให้ง่วงนอนได้นะคะก็ตามออก
00:06:51 → 00:06:53 มาด้วยเพราะฉะนั้นพอทานข้าวเหนียวฮอร์โมน
00:06:53 → 00:06:58 ทั้ง 2 เนี่ยก็เลยเพิ่มขึ้นมันเป็นสารที่
00:06:58 → 00:07:02 ทำให้ร่างกายเกิดอาการง่วงซึมอืก็เลยจะทำ
00:07:02 → 00:07:05 ให้ง่วงอันนี้คือสาเหตุอันนึงแล้วนะก็คือ
00:07:05 → 00:07:08 ทิปโทแฟรนที่เพิ่มขึ้นค่ะอ๋ออ่าสาเหตุอัน
00:07:08 → 00:07:11 ที่ 1 ันเนี้ยข้าวเหนียวเนี่ยมันยังมีทิป
00:07:12 → 00:07:15 ตกแฟนอยู่มากกว่าข้าวเจ้าค่ะข้าวเหนียว
00:07:15 → 00:07:19 นอกจากนอกจากตัวทิปตัวแฟนเองที่เพิ่มขึ้น
00:07:19 → 00:07:21 เพราะว่าอมิโนแอซิดเนี่ยตัวอื่นมันไม่โดน
00:07:21 → 00:07:24 มันมันมันไม่โดนดูดซึมใช่มั้ยคะข้าว
00:07:24 → 00:07:28 เหนียวเองมันมีทริปโตเฟนอยู่มากพอผ่าน
00:07:28 → 00:07:31 กระแสเลือดไปยังสมองเนี่ยก็จะเปลี่ยนเป็น
00:07:31 → 00:07:34 เซโรโทนินแล้วก็เมลาโทนินก็จะทำให้ปริมาณ
00:07:34 → 00:07:37 เพิ่มขึ้นอีกอันนี้เป็นแฟกเตอร์ที่ 2 ค่ะ
00:07:37 → 00:07:42 ค่ะต่อไปแฟกเตอร์ที่ 3 คือข้าวเหนียวมัน
00:07:42 → 00:07:45 โมเลกุลใหญ่กว่าขจข้าวข้าวขาวใช่มยค่ะก็
00:07:45 → 00:07:48 ต้องใช้เวลาใช้พลังงานในการย่อยมากขึ้น
00:07:48 → 00:07:53 อ่าเลือดเป็นยังไงล่ะเวลาย่อยนานย่อยมาก
00:07:53 → 00:07:56 เวลากินข้าวเลือดมันไปเลี้ยงกระเพาะมาก
00:07:56 → 00:07:59 มากขึ้นใช่มะอเราเคยพูดกันทีแล้วเรื่อง
00:07:59 → 00:08:01 ง่วงนอนอะไรเนี่ยเลือดไปเลี้ยงกระเพาะ
00:08:01 → 00:08:05 เยอะเลือดไปเลี้ยงสมองน้อยมันเป็นยังไงก็
00:08:05 → 00:08:08 จะทำให้ร่างกายต้องใช้เวลาและพลังงานใน
00:08:08 → 00:08:12 การย่อยมากกว่าก็เลยทำให้ง่วงเพราะว่า
00:08:12 → 00:08:15 เลือดไปเลี้ยงสมองน้อยอเริ่มง่วงแล้วน้อง
00:08:15 → 00:08:18 น้องรีเริ่มง่วงละคือฟังแล้วแบบเส้นทาง
00:08:18 → 00:08:22 มันหรือว่าในแบบเชิงแบบโอ้โหเอาจริงๆคือ
00:08:22 → 00:08:25 ได้ยินคำว่าาลเซโรโทนินเมลาโทนินหรืออะไร
00:08:25 → 00:08:27 อย่างเงี้ยได้ยินนะแต่พอมันแบบในเชิง
00:08:27 → 00:08:30 วิชาการมาน่ะ
00:08:30 → 00:08:31 เร่ง่วง
00:08:31 → 00:08:34 เลยไม่ต้องกินข้าวเหนียวเพะมันจะมาจาก
00:08:34 → 00:08:35 ข้าวเหนียวเนี่ยแล้วมันเปลี่ยนเป็น
00:08:36 → 00:08:39 เซโรโทนินกับเมลาโทนินในสมองเนี่ยอืมัน
00:08:39 → 00:08:42 ใช้เวลาพอสมควรนะกระบวนการในร่างกายนี้ก็
00:08:42 → 00:08:45 มหัศจรรย์มากจริงๆมหัจรรย์มากาเนี้ยพูด
00:08:45 → 00:08:49 ง่ายๆก็คือเอ่อจริงๆอ่ะไม่ว่าจะกินข้าว
00:08:49 → 00:08:50 เจ้าข้าวเหนียวอ่ะก็ง่วงทั้งนั้นแหละน้อง
00:08:50 → 00:08:53 รีแต่ว่าการกินข้าวเหนียวเนี่ยแล้วง่วง
00:08:54 → 00:08:57 นอนกว่าข้าวเจ้าก็เพราะว่ามันย่อยยากย่อย
00:08:57 → 00:09:02 นานอค่ะอ่ะระบบการย่อยเนี่ยก็กระตุ้น
00:09:02 → 00:09:07 หลั่งสารความง่วออกมามากอือแล้วก็นานด้วย
00:09:07 → 00:09:11 ก็เลยกินข้าวเหนียวแล้วยิ่งง่วงมากขึ้นโอ
00:09:11 → 00:09:15 พอได้หลับปุ๊บยาวยิงยาวรู้สึกดีมากต้องจะ
00:09:15 → 00:09:17 กินข้าวเหนียวทุกวันอยู่แล้วอ้าจริงเหรอ
00:09:17 → 00:09:20 ไม่ๆๆคือแบบว่าข้าเหนียวด้วยวัยนี้มันก็
00:09:20 → 00:09:22 โอ๊เดี๋ยวเราพูดประโยชน์ข้าวเหนียวกัน
00:09:22 → 00:09:25 เอ้อดีนะคนนี้ได้อยู่ได้อยู่เพราะว่าคือ
00:09:25 → 00:09:28 ด้วยความที่ฮอร์โมนน่ะเนาะวัเเนาะมันก็
00:09:28 → 00:09:32 แบบงงๆจะหลับมั่งไม่หลับมั่งบางวันก็อืม
00:09:32 → 00:09:35 ไม่หลับอะไรอย่างเงี้ยแต่ว่าจริงๆนะเอาจ
00:09:35 → 00:09:36 จะหลับเองก็ได้แล้วเขไปโทษข้าวเหนียวค่ะ
00:09:37 → 00:09:40 ท่านผู้ฟังท่านผู้ฟังอย่าไม่เชื่ออาจจะ
00:09:40 → 00:09:42 อาจจะเป็นเพราะอย่างอื่นคือไม่หรอกเพราะ
00:09:42 → 00:09:45 ว่าในหลายๆครั้งที่กินข้าวเหนียวแล้วอ่ะ
00:09:45 → 00:09:48 มันมีความรู้สึกว่ามันมันง่วงได้ง่ายกว่า
00:09:49 → 00:09:52 กว่าใช่ใช่แต่ว่าแต่เดี๋ยวเนี้ยคือถ้ากิน
00:09:52 → 00:09:56 อิ่มมากๆเข้าสวยปกตินะคะอิ่มมากๆใช่ก็
00:09:56 → 00:10:00 ง่วงตาปรืนแล้ว่ะถูกจนคคิดว่าเป็นโคม่าู้
00:10:00 → 00:10:02 เอ้ยู้โคม่าเออๆเราเคยพูดฟู้ดโคม่าใช่มั้
00:10:02 → 00:10:04 ใช่คิดว่าเอ๊ะเป็นฟู้ดโคม่าหรือเปล่าหรือ
00:10:04 → 00:10:06 อะไรอย่าเงี้ยแต่ว่าด้วยความที่มันแป้ง
00:10:06 → 00:10:09 มันเยอะค่ะเออแล้วก็แบบสรุปไม่ว่าทานอะไร
00:10:09 → 00:10:12 ก็ฟู้ดโคม่าใช่มั้ยน้องรีง่วงตลอดคือนอน
00:10:12 → 00:10:16 น้อยตามวยอ๋อจริงแต่จริงๆมันเป็นเรื่อง
00:10:16 → 00:10:19 ของหลักวิชาการที่มันมีกระบวนการคือไม่
00:10:19 → 00:10:22 ได้บอกว่าจะมาเป็นแบบเอ้ยคิดไปเองหรือ
00:10:22 → 00:10:26 อะไรมันมีหลักทางวิทยาศาสตร์ใช่ของกระบวน
00:10:26 → 00:10:28 การเพราะฉะนั้นไม่ต้องแปลกใจถ้ากินข้าว
00:10:28 → 00:10:31 เหนียวแล้วบางคนรู้สึกแบบง่วงแต่ที่ได้
00:10:31 → 00:10:33 ยินเบอกว่ากินข้าวเหนียวแล้วอารมณ์ดีอ่า
00:10:33 → 00:10:35 เดี๋ยวเราค่อยไปตรงนั้นยังไม่ทันอารมณ์ดี
00:10:35 → 00:10:39 เลยหลับอย่าพึ่งเตื่นมาก็อารมณ์ดีไงเพราะ
00:10:39 → 00:10:42 ว่านอนเยอะนอนเยอะนอนนอนเต็มอิ่มอืก็เลย
00:10:42 → 00:10:45 กะว่าจะแบบเออวางยาตัวเองด้วยกันกินข้าว
00:10:45 → 00:10:48 เหนียวดีมยอืแต่วันธรรมดาไม่น่าเนาะไม่
00:10:48 → 00:10:50 ได้ไม่ได้เพราะว่าแบบอืทำงงทำงานอย่างงี้
00:10:50 → 00:10:53 ใช่เจ้านายว่าอีกใช่ค่ะค่ะอ๋อเป็นเพราะ
00:10:53 → 00:10:56 ว่ามันย่อยยากแล้วใช้พลังงานมากย่อยยาก
00:10:56 → 00:11:00 ย่อยนานอืค่ะก็ง่วงได้ทั้งคู่นะคะไม่ต้อง
00:11:00 → 00:11:04 แปลกใจจแต่แค่ย่อยนานหน่อยนั่นเองก็เลย
00:11:04 → 00:11:07 หลัสันออกมามากทีนี้ถ้าแบบคราวนี้เคล็ด
00:11:07 → 00:11:11 ลับเออมันเออถ้าสมมุติน้องีไปทานข้าว
00:11:11 → 00:11:14 เหนียววันธรรมดาเนาะวันทำงานเนี่ยจะทำยัง
00:11:14 → 00:11:17 ไงดีอ่ะไม่ให้ง่วงอ่ะหรือง่วงน้อยอย่าง
00:11:17 → 00:11:20 เงี้ยเดี๋ยวแนะนำให้มีลองลองดูนะอ้าลองดู
00:11:21 → 00:11:24 นะอันที่ 1 เคี้ยวข้าวให้ละเอียดก่อนกลืน
00:11:24 → 00:11:26 ถ้าเราเคี้ยวให้ละเอียดแล้วเนี่ยข้าวที่
00:11:26 → 00:11:30 ผ่านการบดอย่างละเอียดโดยฟันอมันมีโดยอ
00:11:30 → 00:11:33 มันมีโดยอย่างอื่นด้วยเหรอทำจะทำให้ย่อย
00:11:33 → 00:11:37 ง่ายยิ่งขึ้นอเมื่อข้าวเหนียวสู่เข้าสู่
00:11:37 → 00:11:40 กระบวนการย่อยก็จะใช้เวลาไม่นานนักอเมื่อ
00:11:40 → 00:11:43 ย่อยง่ายย่อยเร็วก็จะทำให้ไม่ค่อยง่วงอ๋อ
00:11:43 → 00:11:47 คืออยู่แค่การเคี้ยวข้าวให้ละเอียดใช่อือ
00:11:47 → 00:11:50 ฮึค่ะต่อไปจำกัดปริมาณข้าวเหนียวหน่อยทาน
00:11:50 → 00:11:54 ทีกี่ห่อแล้วประทานแต่พออิ่มเน้นทานข้าว
00:11:54 → 00:11:59 ชนิดอื่นแทนค่าทานกี่ห่อครั้งนึงอ่ะก็
00:11:59 → 00:12:02 แล้วแต่ว่าถ้าน้ำส้มตำมันอร่อยก็ไปจุ่มไป
00:12:02 → 00:12:04 จิ้มปั้นเป็นก้อนๆแล้วไปจุเดี๋ยวนี้ข้าว
00:12:04 → 00:12:07 เหนียว 10 บาทก็นิดเดียวเนาะโอ๊ยบางทีมา
00:12:07 → 00:12:12 แบบแบๆแแบนๆก็ต้อง 2 เอากี่ห่ออุ๊่าเห็นม
00:12:12 → 00:12:16 เยอะเดี๋ยวมันก็ต้องดูก็ต้องถามร้านเขา
00:12:16 → 00:12:19 ว่าเออ 5 บาท 10 บาทของเขาอ่ะมันแค่ไหน
00:12:19 → 00:12:22 ใช่อืแต่พยายามไม่กินข้าวเหนียวเยอะเพราะ
00:12:22 → 00:12:24 มันเป็นแป้งเดี๋ยวมันเป็นน้ำตาลอ้วนอีกอ
00:12:24 → 00:12:29 เอออืก็ไม่ให้ทานเยอะเกินไปต่อไปอใช้ตัว
00:12:29 → 00:12:33 ช่วยโอ้ไหวมยกาแฟเครื่องดื่มสดชื่นนะ
00:12:33 → 00:12:36 เพื่อให้ร่างกายตื่นตัวพร้อมทำงานตอน
00:12:36 → 00:12:39 เที่ยงตอน 13:00 นอะไรประมาณนี้ไหวมั้ย
00:12:39 → 00:12:41 คือเพราะฉะนั้นอยากกินข้าวเหนียวตอนกลาง
00:12:41 → 00:12:45 วันในวันทำงานกินตอนแต่มันอร่อยอ่ะตัวเอง
00:12:45 → 00:12:49 บางทีวี้เพื่อนๆใช่มันต้องกินหลายคนมัน
00:12:49 → 00:12:53 ถึงจะอร่อยใช่เออต่อไปหลังแล้วประทาน
00:12:53 → 00:12:56 อาหารทานข้าวเสร็จอย่าลืมออกไปเดินย่อย
00:12:56 → 00:12:59 กระตุ้นการเผาผลาญจะห่างไกลทักความอ้วน
00:12:59 → 00:13:00 แล้วความ
00:13:00 → 00:13:04 งวกเช่นอยู่ที่ทำงานบางที่ค่ะก็มีที่
00:13:04 → 00:13:10 ช้อปปิ้งเยอะอ๋อก็ไปเดินช้อปปิ้งเดินๆๆ
00:13:10 → 00:13:13 ปลายเดือนก็ไม่มีตังค์ก็เดินเฉยๆสำรวจ
00:13:13 → 00:13:16 ตลาดไปเดินให้ลำไส้มันขยับมันจะได้ย่อย
00:13:16 → 00:13:19 ง่ายๆถูกต้องค่ะแล้วเอาอย่างงี้ดีกว่าคุณ
00:13:19 → 00:13:22 หมอไหนๆก็ไหนๆแล้วคุยกับเรื่องข้าวเหนียว
00:13:22 → 00:13:24 ขอความรู้เรื่องข้าวเหนียวหน่อยอ่ามันมี
00:13:24 → 00:13:28 ทั้งข้าวเหนียวขาวข้าวเหนียวดำใช่เออแล้ว
00:13:28 → 00:13:31 ก็บางบางทีไม่ได้เป็นข้าวเหนียวที่กินกับ
00:13:31 → 00:13:35 ส้มตำหรืออะไรเงี้ยเป็นข้าวหลามใช่ขนม
00:13:35 → 00:13:38 หวานข้าวเหนียวอะไรอ่ะก็คืออย่างสมก็คือ
00:13:38 → 00:13:40 อันเดียวกันใช่มถ้าเรากินกับอาหารอีสาน
00:13:41 → 00:13:43 ใช่มั้ยส่วนใหญ่เราก็จะเอ่อรับประทานข้าว
00:13:43 → 00:13:45 เหนียวขาวใช่มั้ยเพราะว่าอะไรเราเราไม่
00:13:45 → 00:13:49 เอานิยมเอามาทานกับอาหารอีสานลาบน้ำตกส้ม
00:13:49 → 00:13:53 ตำอะไรพวกนี้ไกย่างใช่มั้ยเพราะว่าคุณภาพ
00:13:53 → 00:13:55 ของเนื้อสัมผัสเนี่ยจะแข็งกว่าอ่าใชจึง
00:13:55 → 00:13:59 ไม่นิยมรับประทานก็จะข้าวเหนียวขาว
00:13:59 → 00:14:04 แต่ว่าเราเอานินิยมเอามาทำขนมหวานเช่น
00:14:04 → 00:14:08 ข้าวเหนียวดำน้ำกะทิข้าวเหนียวดำถั่วดำ
00:14:08 → 00:14:10 ข้าวเหนียวดำเอ้ยแล้วก็ข้าวหลามอะไรแบบ
00:14:10 → 00:14:12 นี้อ่าใช่แล้วก็เดี๋ยวเราพูดถึงประโยชน์
00:14:12 → 00:14:16 ของข้าวเหนียวดำซึ่งมันมีมากไม่น่าเชื่อ
00:14:16 → 00:14:20 อืเออตัวตัวข้าวเหนียวเองเนี่ยนะจริงๆ
00:14:20 → 00:14:24 เนี่ยมันให้พลังงานมากกว่าข้าวสวยธรรมดา
00:14:24 → 00:14:27 เยอะนะคะข้าวเหนียว 1 ทัพพีให้พลังงาน
00:14:27 → 00:14:31 เท่ากับข้าวสวย 2 พพีโหถ้าถ้าน้องรีทาน 2
00:14:31 → 00:14:36 ห่อก็เท่ากับทานข้าวสวย 4 4 4 ห่อ
00:14:36 → 00:14:41 โเยอะนะเยอะเอ้าตายแล้วต้องกินแต่ว่าข้าว
00:14:41 → 00:14:44 เหนียวนะข้าวเหนียวอุดมไปด้วยสารอาหาร
00:14:44 → 00:14:47 วิตามินแร่ธาตุมีทั้งโฟลิคธาตุเหล็ก
00:14:47 → 00:14:49 ฟอสฟอรัส
00:14:49 → 00:14:56 แคลเซียมไขมันโปรตีนวิตามิน E B1 B2 โอ
00:14:56 → 00:14:58 ประโยชน์เยอะนะใช่ประโยชน์โดยเฉพาะเพะ
00:14:58 → 00:15:01 ข้าวเหนียวดำนะที่เราพูดไปนะค่ะมีสาร
00:15:01 → 00:15:04 อาหารมากกว่าข้าวเหนียวขาวโดยเฉพาะมีสาร
00:15:04 → 00:15:09 พวก opc นะฮะ opc ก็คือโอ้โหชื่อมันยาวนะ
00:15:10 → 00:15:13 โอริโก meric
00:15:13 → 00:15:17 โปรซินคอมเพลก opc อ่ะเรียกว่า opc แล้ว
00:15:17 → 00:15:20 กันที่พบในชมพู่มะเหมี่ยวองุ่นแดงองุ่นดำ
00:15:20 → 00:15:23 มะเขือม่วงอืมันเป็นอะไรรู้เปล่ามันเป็น
00:15:23 → 00:15:26 แอนตี้ออกซินค่ะอืที่อยู่ในข้าวเหนียวดำ
00:15:26 → 00:15:30 อ่าจะช่วยชะลอความเสถอยอ่าช่วยบำรุงร่าง
00:15:30 → 00:15:35 กายช่วยป้องกันโรคส่งผลดีต่อจิตใจอืช่วย
00:15:35 → 00:15:38 ชะลอความเสื่อมถอยทำไมทำให้เซลล์ผิวหนัง
00:15:38 → 00:15:41 แข็งแรงไม่เหียวยนจ้ะหลอดเลือดหลอดเลือด
00:15:41 → 00:15:44 มีความยืดหยุ่นไม่เปราะแตกง่ายครีมไม่
00:15:44 → 00:15:46 ต้องข้าวเหนียวดำดีกว่าวครีมไม่ต้องกิน
00:15:46 → 00:15:50 ข้าวเหนียวดำก็เป่าได้ระวังน้ำหนักขึ้นนะ
00:15:50 → 00:15:53 เออๆเนี่ยถึงว่าทำไมกินข้าวเหนียวดำแล้ว
00:15:53 → 00:15:55 ก็เอ้ยไม่ใช่กินข้าวเหนียวแล้วมันก็จะแบบ
00:15:55 → 00:15:58 ว่าที่เมื่อกี้ถามคุณหมอไว้แบบกินข้าว
00:15:58 → 00:16:00 ข้าวเหนียวแล้วอารมณ์ดีเนี่ยเออก็เป็นพวก
00:16:00 → 00:16:03 สารพวกเนี้ยที่มันอยู่ในข้าวเหนียวเนาะ
00:16:03 → 00:16:05 เหนียวดนวข้าวเหนียวนะเช่มั้ยช่วยคคร
00:16:05 → 00:16:09 เครียดช่วยทำให้จิตใจสงบรู้สึกผ่อนคลาย
00:16:09 → 00:16:12 ช่วยให้ทำกิจกรรมในระหว่างวันได้สดใสร่า
00:16:12 → 00:16:17 เริงนะคะเออพลังข้าวเหนียวใช่พลังข้าว
00:16:17 → 00:16:21 เหนียวส่วนตัวข้าวเหนียวดำเองเนี่ยโอ
00:16:21 → 00:16:24 อย่างที่บอกเนี่ยไอ้ฤทธิ์แอนตี้ออกซินกับ
00:16:24 → 00:16:28 ชะลอความเสื่อมของเซลล์เนี่ยอืดีเลยนะเค
00:16:28 → 00:16:31 บอกลดความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจแล้วก็
00:16:31 → 00:16:34 เส้นเลือดอุดตันสมองด้วยปรับสมดุลฮอร์โมน
00:16:34 → 00:16:38 กระตุ้นการหลั่งโกดฮอร์โมนอะไรหลายๆอย่าง
00:16:38 → 00:16:42 ค่ะใช่โอ้โหคุณผู้ฟังจัดสเอ๊เพราะฉะนั้น
00:16:42 → 00:16:45 เราไปทานข้าวเหนียวข้าวเหนียวดำน้ำกะทิ
00:16:45 → 00:16:46 กัน
00:16:46 → 00:16:51 มข้าวเหนียวน้ำกะทิด้วยเหรอเอได้ๆๆๆนานๆ
00:16:51 → 00:16:53 กินทีได้นานๆกินทีใช่มั้ยข้าวเหนียว
00:16:54 → 00:16:56 ทุเรียนข้าวเหนียวมะม่วงงี้ข้าวเหนียว
00:16:56 → 00:16:58 ทุเรียนข้าวเหนียวมะม่วงเป็นข้าวเหนียว
00:16:58 → 00:17:00 ขาวอ๋อข้าวหลามดิเดี๋ยวนี้มีเป็นข้าว
00:17:00 → 00:17:04 เหนียวดำด้วยนะข้าวหลามอ่ะอใช่อุ๊ยชอบมาก
00:17:04 → 00:17:08 เลยแล้วก็บางทีไปกินพวกของหวานที่ใส่กัน
00:17:08 → 00:17:11 แบบหลายๆอย่างอ่ะจะใส่ข้าวเหนียวถ้ามี
00:17:11 → 00:17:13 ข้าวเหนียวดำก็จะให้ใส่ข้าวเหนียวดำเช
00:17:13 → 00:17:15 เช่นอะไรใส่หลายๆที่ที่มันเป็นพวกเชง
00:17:15 → 00:17:19 ซิมอี๊อะไรพวกเนี้ยโอที่มันจะต้องเอมี
00:17:19 → 00:17:22 ข้าวโพดมีทับทิ่มมีขนุนมีให้เลือกหลายๆ
00:17:22 → 00:17:25 อย่างใส่ทุกอย่างว่างั้นหอย่าไม่ๆๆเพืจะ
00:17:25 → 00:17:27 พาะที่ชอบแต่ข้าวเหนียวอ่ะยังคือถ้าไม่มี
00:17:27 → 00:17:29 ข้าวเหนียวดำก็จะใส่ข้าวเหนียวที่มันเป็น
00:17:29 → 00:17:32 สามเหลี่ยมเล็กๆอ่ะอ๋อข้าวต้มน้ำมุ้น
00:17:32 → 00:17:34 อย่างงั้นเหรอเค้าเรียกข้าวต้มน้ำมุ้นก็
00:17:34 → 00:17:37 ไม่รู้จักใช่มะไม่รู้จักเลยเ้าเรียกข้าว
00:17:37 → 00:17:39 ต้มมวุ้นข้าวเหนียวตรงนั้นเป็นไม่ไม่ข้าว
00:17:39 → 00:17:41 เหนียวดำเนาะไอ้สามเหลี่ยมนั้นน่ะอ่ะบาง
00:17:42 → 00:17:44 ทีบางบางร้านก็ได้เป็นข้าวเหนียวดำก็จะ
00:17:44 → 00:17:48 เลือกข้าวเหนียวดำอืเออแต่ว่าเอ๊ะมันมัน
00:17:48 → 00:17:52 มันก็เป็นข้าวเหนียวที่เอามาทำหุงนึ่งใช่
00:17:52 → 00:17:54 ปกติแต่แค่ว่าเอามาใส่ในของหวานใช่มั้ยคะ
00:17:54 → 00:17:57 อ๋อเพราะฉะนั้นก็เผื่อว่าบางคนชอบแบบว่า
00:17:57 → 00:18:01 อ่ะข้าวเหนียวดำที่กินกับขนมหวานค่ะเพราะ
00:18:01 → 00:18:04 ว่าเมื่อกี้คุณหมอบอกว่ามันค่อนข้างเนื้อ
00:18:04 → 00:18:07 จะแข็งอุ๊ยแต่มันกไม่ค่อยนิยมดีนะเพิ่ง
00:18:07 → 00:18:09 คือคือเพิ่งรู้ประโยชน์ของข้าวเหนียวดำ
00:18:09 → 00:18:11 เหมือนกันนี่แหละเออว่ามันไม่น่าเชื่อ
00:18:11 → 00:18:14 ปกติเราจะหลีกเลี่ยงเพราะว่าเราก็กลัวหนึ
00:18:14 → 00:18:17 กลัวอ้วนมันหวานหรือว่าอะไรก็ไม่ทานบ่อย
00:18:17 → 00:18:19 ใช่มั้ยที่เขาขายก็เป็นข้าวเหนียวเปียก
00:18:19 → 00:18:24 ใช่มั้ยข้าวเหนียวดำเนี่ยอ่าใช่เอแล้วก็
00:18:24 → 00:18:30 ข้าวเหนียวแล้วใส่ถั่วดำด้วยออรือพวกเออ
00:18:30 → 00:18:32 เพิ่งรู้ว่ามันมีประโยนแล้วก็มีพวกข้าว
00:18:32 → 00:18:36 เหนียวหมูฝอยหมูทอดหรืออะไรพวกที่เขาขาย
00:18:36 → 00:18:38 ตามตลาดตอนเช้าๆอพวกนั้นก็ทานกับข้าว
00:18:38 → 00:18:41 เหนียวขาวปบางบางร้านมีข้าวเหนียวดำด้วย
00:18:41 → 00:18:43 นะก็จะเลือกข้าวเหนียวดำเพราะเป็นคนชอบ
00:18:43 → 00:18:46 กินข้าวเหนียวดำมากโอ้อะไรประมาณเนี้ยถ้า
00:18:46 → 00:18:48 ถ้ามีให้เลือกนะข้าวเหนียวดำมาอันดับ 1
00:18:48 → 00:18:51 ข้าวเหนียวข้าวทีข้าวเหนียวดำมันจะกรุบๆ
00:18:51 → 00:18:54 นิดนึงนะมันกึ๊บๆอ่ามันจะมีไฟเบอร์เยอะ
00:18:54 → 00:18:57 กว่าแต่มันมันอัดทรสถ้ากินกับส้มตำมันไม่
00:18:57 → 00:19:00 ค่อยเข้ากันจริงๆแหละมันข้าวเหนียวขาวอ่ะ
00:19:00 → 00:19:03 ใชใช่แล้วข้าวเหนียวขาวถ้าแบบหุงแบบฟูๆ
00:19:03 → 00:19:06 ที่ไม่ได้แบบมาใส่ห่อแล้วแบนๆตีให้มัน
00:19:06 → 00:19:08 เป็นแบนก้อนสี่เหลี่ยมอย่างเงี้ยใช่อัน
00:19:08 → 00:19:11 นั้นกินปึ๊บนะหลับ
00:19:11 → 00:19:16 เลยทันทีเลยโอยังงงว่าคือมันไม่ได้มีเว้น
00:19:16 → 00:19:20 ระยะเวลาอย่างที่บอกมันไปได้ทันทียังไม่
00:19:20 → 00:19:24 ทันได้อารมณ์ดีเลยเอาๆตื่นมาแล้วอารมณ์ดี
00:19:24 → 00:19:28 แล้วกันแต่ว่าเท่าที่ไปดูนะในตเอ่อรีวิว
00:19:28 → 00:19:33 เคนะเมีวิธีหุงข้าวเหนียวดำอไม่ให้ไม่ให้
00:19:33 → 00:19:38 มันแข็งอ๋อเมีเทคนิคการหุงค่ะด้วยท่านผู้
00:19:38 → 00:19:43 ฟังลองเข้าไปดูสิแล้วก็มีบางบางบางรายเขา
00:19:43 → 00:19:46 ก็ใช้ข้าวเหนียวขาวปนกับข้าวเหนียวดำไม่
00:19:46 → 00:19:48 รู้แหละสัดส่วนอย่างละเท่าไหร่เนี่ยมี
00:19:48 → 00:19:51 เหมือนกันลองดูอืเผื่อบางคนไม่ชอบกินข้าว
00:19:51 → 00:19:56 เหนียวดำใช่ก็ได้ประโยชน์ทั้งคู่ไงได้
00:19:56 → 00:20:00 ทั้งขาวทั้งดำรวมกันทีเดียวข้าหุงทีเดียว
00:20:00 → 00:20:02 ค่ะมันก็เลยกลายเป็นว่าเอาจริงๆแล้วเนี่ย
00:20:02 → 00:20:05 ในการกินข้าวเหนียวแล้วง่วงมันเป็นหลัก
00:20:05 → 00:20:09 การในในในทางแบบโภชนาการแล้วก็
00:20:09 → 00:20:14 วิทยาศาสตร์จริงๆเลยเออจริงๆสารข้างในตัว
00:20:14 → 00:20:17 ข้าวเหนียวทำให้เราเองก็มีประโยชน์เยอะ
00:20:17 → 00:20:19 เออไม่น่าเชื่อว่ามีประโยชน์เยอะอืเพราะ
00:20:19 → 00:20:21 ฉะนั้นต้องเปลี่ยนออกมาเป็นข้าวเหนียวดำ
00:20:21 → 00:20:25 ดูบ้างใช่อย่างที่บอกขวเหขเท่าที่ไปรีวิว
00:20:25 → 00:20:28 โอ้โหไม่น่าเชื่อเฮ้ยประโยชน์ของขวเหนียว
00:20:28 → 00:20:32 มะม่วงแทนที่จะเป็นโทษนะข้าวเหนียวมะม่วง
00:20:32 → 00:20:35 โอ้โหอร่อยข้าวเหนียวทุเรียนเฮ้ยมันมี
00:20:35 → 00:20:38 ประโยชน์เหรอมันก็ต้องส่วนใหญ่เราจะกลัว
00:20:38 → 00:20:43 มากค่ะใช่มั้ยคะใช่ๆอ่าก็เวลาถึงหน้าฤดู
00:20:43 → 00:20:48 ของมันเนี่ยเออก็อยากทานเนอะก็ทานเถอะไม่
00:20:48 → 00:20:51 ได้ห้ามนะไม่ได้ห้ามคหคุณหมอยังไม่ห้าม
00:20:51 → 00:20:55 เลยนะเดี๋ยวสิฟังก่อนคือเพราะว่ามันจะมี
00:20:55 → 00:20:57 หน้าของมันใช่ป่ะมะม่วงเนี่ยมันก็มีจะถึง
00:20:57 → 00:21:00 หน้าอ่ะแล้วมันก็หมดใช่มั้ยคะทุเรียนเอง
00:21:00 → 00:21:04 ก็เหมือนกันยิ่งทุเรียนปีนี้เนี่ยแพงใช่
00:21:04 → 00:21:08 หาทานตามรถรถรถกระบะที่มันมาขายอ่ะไม่มี
00:21:08 → 00:21:12 นะส่งออกจีนหมดเลยนะมีตอนช่วงประมาณสัก 2
00:21:12 → 00:21:15 เดือนที่แล้วอ่ะพอมีมาบ้างค่ะก็ยังแพง
00:21:15 → 00:21:18 อยู่โหอะไรประมาณเนี้ยค่ะอืถ้าคนไม่เป็น
00:21:18 → 00:21:23 เบาวงเบาหวานอะไรเนี่ยก็พอจะทานได้โดยไม่
00:21:23 → 00:21:26 ต้องระวังเท่าไหร่อืแต่บางเจ้าเค้าก็ทำ
00:21:26 → 00:21:33 แบบน้ำกะทิวหานใช่แต่ก็คือเทำขนมหวานมัน
00:21:33 → 00:21:36 ก็ต้องหวานแหละอืแต่เดี๋ยวนี้บางเจ้าก็ก็
00:21:36 → 00:21:39 เก็ทราบอยู่นะเพราะว่าคนที่ชอบทานมักจะ
00:21:39 → 00:21:42 เป็นเบาหวานไงอ่ะเขมาซื้อแหมมันอ่นไม่ได้
00:21:42 → 00:21:45 จริงๆพจิมันเป็นความสุขอ่ะที่ได้กินเอา
00:21:45 → 00:21:48 จริงๆเออถึงแม้แบบกินไปแล้วฉันจะแบบ
00:21:48 → 00:21:51 อือหือตาปรืออยู่ในระหว่างวันแต่ฉันก็ก็
00:21:51 → 00:21:54 มันมัน Enjoy ในการที่จะกินมีความสุขอ่ะ
00:21:54 → 00:21:56 ใช่กินแล้วมันต้องมีความสุขไม่กินไปแล้ว
00:21:56 → 00:22:00 ทรมานใช่เออแล้วเดี๋ยวนี้นะบอกให้เอ่อ
00:22:00 → 00:22:04 ข้าวเหนียวทุเรียนสำเร็จรูปอ่ะของบาง
00:22:04 → 00:22:08 ยี่ห้อบริษัทนึงสำเร็จรูปอ่ะเป็นไงเป็นคน
00:22:08 → 00:22:13 ไม่ชอบทานของสำเร็จเฮ้ยอร่อยอ่ะใช้ได้ที
00:22:13 → 00:22:15 เดียวเอามาอุ่นถ้าเทียบกับแม่ค้าถูกต้อง
00:22:15 → 00:22:19 ถ้าเทียบกับแม่ค้าเอ่อที่อยู่ริมถนนเนี่ย
00:22:19 → 00:22:22 นะเรื่องความสะออกสะอาดนี่โอ้โหกินขาดเลย
00:22:22 → 00:22:24 อืออร่อยใช้ได้แต่เนื้อทุเรียนมันมีอยู่
00:22:24 → 00:22:29 ประมาณนิ้วหัวแม่โป้งอะไรประมาณนี้แก็ไม่
00:22:29 → 00:22:31 ใช่ซื้อทุเรียนมาเพิ่มสิจ๊ะโอ้โหอะไร
00:22:31 → 00:22:35 ประมาณนั้นเอื้อถ้าคุณหมอง่วงนี่เป็น
00:22:35 → 00:22:40 เพราะข้าวเหนียวไม่ๆๆไม่ทานบ่อยอ๋อเออแต่
00:22:40 → 00:22:43 แต่อันนั้นมันคือแบบมันก็เป็นแช่แข็งมา
00:22:43 → 00:22:47 แล้วก็ใช่อุ่นอุ้ยแต่มัน่ก็ก็ถ้าเราอเก็บ
00:22:47 → 00:22:49 ไว้ได้นานหลายเดือนทีเดียวอ่ะถ้าพ้นฤดู
00:22:49 → 00:22:52 มันแล้วเนี่ยยังทานข้าวเหนียวทุเรียนได้
00:22:52 → 00:22:55 เลยอืแต่อย่ากินบ่อยนะคะอาหารแช่แขงไม่
00:22:55 → 00:22:57 บ่อยค่ะไม่บ่อยทำไมอ่ะแล้วมันก็ไม่ดีต่อน
00:22:57 → 00:22:59 สุกา
00:22:59 → 00:23:03 โอ้โหจริงเปล่าจริงๆเออเดี๋ยวนี้คือคุย
00:23:03 → 00:23:06 กับอาจารย์นักโภชนาการน่ะตลอดเงี้คะจนตอน
00:23:06 → 00:23:08 เกลายเป็นคนกลัวโซเดียมคือดูอ่านฉลากตลอด
00:23:08 → 00:23:12 เวลาจนตอนนี้แผ่ขยายความการอ่านฉลากไปยัง
00:23:12 → 00:23:15 เพื่อนร่วมาไปแล้วทุกคนก็จะแบบว่าไม่เคย
00:23:15 → 00:23:19 อ่านมาก่อนเนี่ยเป็นเพราะเราเลยต้องมา
00:23:19 → 00:23:22 อ่านใครจะกินอาหารแช่แข็งปึ๊บดูโซเดียม
00:23:22 → 00:23:24 ก่อนดูโซเดียมก่อนอะไรอย่างเงี้ยเราก็จะ
00:23:24 → 00:23:28 คอยเตือนอใช่ๆมันน่ากลัวมากโซเดียมอ่ะเอา
00:23:28 → 00:23:32 จริงๆกินเผ็ดกินมันยมันยังพอยังแบบอ่าฮ
00:23:32 → 00:23:36 เออนะหวานมันเค็มไม่ไม่ควรเนาะดีค่ะน้องี
00:23:36 → 00:23:38 รายการเพื่อ
00:23:38 → 00:23:40 สุขภาพเพราะฉะนั้นกินข้าวเหนียวแล้วง่วง
00:23:40 → 00:23:44 จริงๆค่ะอืตามหลักเลยนะฮะถ้าใครกินไม่
00:23:44 → 00:23:47 ง่วงไม่ต้องตกใจมันอาจจะระบบการย่อยเอาจ
00:23:47 → 00:23:51 จะดีก็ได้เออถูกต้องไม่ย่อยนานมากเกินไป
00:23:51 → 00:23:53 โอเคได้ความรู้กันไปเรียบร้อยแล้วขอบคุณ
00:23:54 → 00:23:57 คุณหมอค่ะสวัสดีค่ะหมดเวลาแล้วค่ะคุณผู้
00:23:57 → 00:23:59 ฟังคะพบกันกันใหม่ครั้งหน้ากับรายการโรง
00:23:59 → 00:24:02 หมอทางไย PBS podcast ค่ะวันนี้ลาไปก่อน
00:24:02 → 00:24:06 สวัสดีค่ะ This Is Thai PBS podcast
00:24:06 → 00:24:08 ทำไมผู้สูงอายุและคนใกล้ชิดจำเป็นต้องให้
00:24:08 → 00:24:10 ความสำคัญกับการเสพสื่อหรือข่าวให้มาก
00:24:11 → 00:24:13 ขึ้นกว่าเดิมผู้ช่วยศาสตราจารย์ดรเกสร
00:24:13 → 00:24:15 สำเภาทองจากคณะสาธารณสุขศาสตร์
00:24:15 → 00:24:19 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์มาเล่าให้ฟังครับ
00:24:19 → 00:24:22 แต่ละวันเนี่ยของผู้สูงอายุในชีวิตท่าน
00:24:22 → 00:24:26 น่ะมีข้อความมีสื่อมีศาอะไรต่างๆอ่ะมาถึง
00:24:26 → 00:24:29 ท่านจำนวนมากแล้วท่านก็เลยกลายเป็นเป้า
00:24:29 → 00:24:33 หมายของสื่อบางประเภทด้วยนะคะอย่างเช่นใน
00:24:33 → 00:24:34 เรื่องของสื่อโฆษณา
00:24:34 → 00:24:38 สินค้าสื่อโฆษณาพวกเกี่ยวกับอ่าผลิตภัณฑ์
00:24:38 → 00:24:42 ดูแลสุขภาพนะคะหรือแม้กระทั่งข่าวสารอะไร
00:24:42 → 00:24:45 ต่างๆเนี่ยกลุ่มอ่าผู้สูงอายุท่านก็จะ
00:24:45 → 00:24:47 เปิดรับสื่อค่อนข้างเยอะทีนี้ถ้าเกิดว่า
00:24:47 → 00:24:51 เปิดรับสื่อไปแล้วแล้วได้ประโยชน์อันนี้
00:24:51 → 00:24:53 ก็เป็นสิ่งที่ดีไม่ได้หมาคามว่าสื่อจะไม่
00:24:53 → 00:24:56 ดีนะคะจริงๆแล้วสื่อสารต่างๆเนี่ยข้อมูล
00:24:56 → 00:24:58 ที่เข้ามาก็เป็นสิ่งที่มีประโยชประโชนถ่า
00:24:58 → 00:25:03 สื่อนั้นจะถูกต้องนะคะตรงไปตรงมามีความ
00:25:03 → 00:25:06 แม่นยำในเชิงของวิชาการกรณีที่ต้องไปใช้
00:25:06 → 00:25:09 กับชีวิตและร่างกายนี้ก็จะเป็นประโยชน์นะ
00:25:09 → 00:25:13 คะแล้วการแชร์ข้อมูลต่อๆไปถ้าเป็นสิ่งที่
00:25:13 → 00:25:17 ดีก็เป็นประโยชน์ด้วยเช่นตอนนี้มีรถติด
00:25:17 → 00:25:19 ที่นั่นมีอุบัติเที่นี่ต้องเลี่ยงเส้นทาง
00:25:19 → 00:25:20 อะไรอย่าเงี้อันนี้ก็เป็นประโยชน์นะคะเรา
00:25:20 → 00:25:23 แบ่งปันให้เพื่อนเรารู้หรือว่าเราถูกหลอก
00:25:23 → 00:25:26 ลวงเราไปอะไรยังไงเราแบ่งปันให้เพื่อนรู้
00:25:26 → 00:25:28 อันนี้ก็เป็นประ
00:25:28 → 00:25:32 ค่ะแต่มันก็มีมากมายทีเดียวที่การแบ่งปัน
00:25:32 → 00:25:36 ข้อมูลไปเป็นข้อมูลที่ไม่ถูกต้องเป็นข้อ
00:25:36 → 00:25:39 มูลที่บิดเบือนเป็นข้อมูลที่อาจจะสร้าง
00:25:39 → 00:25:43 ความโกรธเกลียดนะคะเป็นข้อมูลที่อาจจะ
00:25:43 → 00:25:47 สร้างความเข้าใจผิดหลงผิดหลงเชื่อก็มี
00:25:47 → 00:25:50 ด้วยมีปนไปด้วยดังนั้นคนทุกวัยเลยนะคะ
00:25:50 → 00:25:53 เป็นเป้าหมายของสื่อหมดล่ะค่ะแต่ผู้สูง
00:25:53 → 00:25:56 อายุท่านอาจจะมีจุดอ่อนหลายๆจุดที่ทำให้
00:25:56 → 00:26:03 เราต้องช่วยกันดูแลให้ท่านรู้เท่าทัน
00:26:03 → 00:26:08 สื่อ This Is Toy PBS
00:26:08 → 00:26:12 podcast ติดตามรายการทางเว็บไซต์และแปลช
00:26:12 → 00:26:15 ของ Thai PBS podcast spotify
00:26:15 → 00:26:17 soundcloud Google podcast Apple
00:26:17 → 00:26:20 podcast และ YouTube Channel Thai PBS
00:26:20 → 00:26:24 podcast Thai PBS podcast View the
00:26:24 → 00:26:26 world via The
00:26:26 → 00:26:36 Voice
00:26:36 → 00:26:39 แ