พรีไบโอติกส์คืออะไร และมีประโยชน์อย่างไรกับร่างกาย

[PODCAST] Food Choice | EP.22 - อาหารพรีไบโอติกส์ และโพรไบโอติกส์ ปรับสมดุลลำไส้

จากช่อง : Mahidol Channel มหิดล แชนแนล


ดูคำบรรยาย / View Transcript

00:00:0000:00:03 [เสียงดนตรี]

00:00:0300:00:06 You're listening to Mahidol Channel Podcast.

00:00:0600:00:08 Listen for a better life.

00:00:0800:00:11 ฟังเพื่อชีวิตที่ดีกว่า

00:00:1100:00:14 และนี่คือรายการพอดแคสต์ของช่อง Mahidol Channel

00:00:1400:00:16 โดย มหาวิทยาลัยมหิดล

00:00:1600:00:20 [เสียงดนตรี]

00:00:2000:00:22 วันนี้คุณกินอะไร

00:00:2200:00:26 อาหารที่คุณกินจะส่งผลดี ส่งผลเสีย กับสุขภาพของคุณอย่างไร

00:00:2700:00:29 วันนี้หมอจะชวนทุกคนมาพูดคุย

00:00:2900:00:33 เกี่ยวกับรูปแบบของการกินอาหาร ที่ปลอดภัยกับสุขภาพของเรา

00:00:3300:00:37 กับรายการ Food Choice กินดี สุขภาพดี เลือกได้ กับหมอเอ๋

00:00:3700:00:39 แพทย์หญิงดรุณีวัลย์ วโรดมวิจิตร

00:00:4000:00:44 คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล

00:00:4400:00:47 [เสียงดนตรี]

00:00:4800:00:50 สวัสดีค่ะ แพทย์หญิงดรุณีวัลย์ วโรดมวิจิตร

00:00:5000:00:53 มาพบกันอีกครั้งหนึ่ง สำหรับรายการ Food Choice

00:00:5300:00:56 กินดี สุขภาพดี เลือกได้ กับหมอเอ๋นะคะ

00:00:5600:01:01 วันนี้เราจะมาคุยกันในเรื่องของ พรีไบโอติกส์ โพรไบโอติกส์

00:01:0100:01:04 แบคทีเรียที่ช่วยปรับสมดุลลำไส้

00:01:0400:01:08 เราคงเคยได้ยินกันมาตลอดเลยใช่ไหมคะ สำหรับชื่อพรีไบโอติกส์ โพรไบโอติกส์

00:01:0800:01:11 อะไรหว่า อะไรพรี ๆ อะไรโพร ๆ

00:01:1100:01:16 เดี๋ยววันนี้เราจะมาทำความรู้จักกันนะคะ สำหรับชื่อพรีไบโอติกส์ และโพรไบโอติกส์

00:01:1600:01:18 เราจะมีการเลือกอย่างไร

00:01:1800:01:21 แล้วเราจะเรียกยังไงว่าอะไรคืออะไร

00:01:2100:01:23 แล้วมีประโยชน์อย่างไรกับร่างกายค่ะ

00:01:2300:01:26 [เสียงดนตรี]

00:01:2600:01:29 เราจะเริ่มต้นกันที่พรีไบโอติกส์ก่อนนะคะ

00:01:2900:01:31 พรี (Pre) แปลว่า ก่อน

00:01:3100:01:34 เพราะฉะนั้น ง่าย ๆ เลยถ้าจะจำ พรีไบโอติกส์นี่

00:01:3400:01:37 ก็คือสารอาหารที่จะช่วยในเรื่องของ

00:01:3700:01:41 การเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ ที่มีประโยชน์ในลำไส้

00:01:4100:01:46 ทุกคนก็ทราบดีอยู่แล้วนะคะ ว่าในลำไส้ของเราจะมีจุลินทรีย์อยู่มากมาย

00:01:4600:01:48 จริง ๆ จุลินทรีย์มีหลากหลายชนิดเลยค่ะ

00:01:4800:01:52 มีทั้งตัวที่มีประโยชน์กับร่างกาย แล้วก็ตัวที่มีโทษกับร่างกาย

00:01:5200:01:54 ในคนที่สุขภาพดีนี่

00:01:5400:01:56 จะมีความหลากหลายของจุลินทรีย์อยู่

00:01:5600:01:59 แล้วก็จะมีตัวที่มีประโยชน์อยู่เป็นปริมาณมาก

00:01:5900:02:03 ทีนี้ถามว่าจุลินทรีย์เขาก็ต้องอยู่ได้ เขาก็ต้องมีอาหารเนอะ

00:02:0300:02:07 อาหารที่เข้าไป แล้วช่วยในการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์

00:02:0700:02:09 โดยเฉพาะจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์

00:02:0900:02:11 อันนี้เราเรียกว่า พรีไบโอติกส์

00:02:1100:02:14 ถามว่าพรีไบโอติกส์คืออะไรหรือ ฟังดูยากจังเลย

00:02:1400:02:17 ถ้าใครฟังโฆษณาเคยได้ยินคำว่า อินนูลิน

00:02:1700:02:21 เคยได้ยิน เอฟโอเอส ฟรุกโตโอลิโกแซคคาไรด์ หรืออะไรอย่างนี้

00:02:2100:02:24 อันนี้ค่ะ เป็นตัวอย่างหนึ่งของพรีไบโอติกส์

00:02:2400:02:26 เอาง่าย ๆ เวลาที่เรากินอาหารเข้าไป

00:02:2600:02:29 ร่างกายเราไม่สามารถที่จะ ดูดซึมสารอาหารได้หมด

00:02:2900:02:32 โดยเฉพาะจะเป็นกลุ่มของคาร์โบไฮเดรต หรือกลุ่มที่มีไฟเบอร์นี่

00:02:3200:02:36 มันก็จะผ่านลงมา แล้วจะไปสู่ลำไส้ใหญ่

00:02:3600:02:40 จุลินทรีย์ที่อยู่ในลำไส้ใหญ่ ก็จะมีการ metabolize

00:02:4000:02:43 หรือว่าเอาอาหารพวกนี้ไปจัดการ

00:02:4300:02:47 มันก็จะเกิดสารตัวหนึ่งขึ้นมา ซึ่งตัวนั้นจะเป็นพลังงาน

00:02:4700:02:51 หรือว่าจะเป็นอาหารให้กับจุลินทรีย์ ที่อยู่ในลำไส้เรา

00:02:5100:02:54 สามารถจะเจริญเติบโตอย่างเป็นปกติ

00:02:5400:02:57 อันนี้เราก็จะเรียกว่าเป็นพรีไบโอติกส์

00:02:5700:02:59 ทีนี้ประโยชน์ของพรีไบโอติกส์

00:02:5900:03:03 นอกจากพอกินเข้าไป หรือว่าเข้าไปในร่างกายเราแล้วนี่

00:03:0300:03:07 จะช่วยในเรื่องของการเจริญเติบโต ของตัวจุลินทรีย์ที่ดีแล้วนี่

00:03:0700:03:11 มันยังทำให้ระบบเรื่องของ ภูมิคุ้มกันในร่างกายดีขึ้นด้วย

00:03:1100:03:15 เนื่องจากว่าที่ลำไส้เรานี่ ถือว่าเป็นระบบภูมิคุ้มกันระบบใหญ่เลย

00:03:1500:03:21 ก็จะช่วยทำให้จุลินทรีย์ที่ อาจจะทำอันตรายกับร่างกายเรา ลดน้อยลง

00:03:2100:03:23 ระบบภูมิคุ้มกันหรือการทำงานในร่างกายดีขึ้น

00:03:2300:03:27 ก็จะช่วยลดความเสี่ยงของโรคต่าง ๆ มากมาย

00:03:2700:03:30 ถัดมาเราก็จะไม่รู้จักกับคำว่า โพรไบโอติกส์

00:03:3000:03:34 โพรไบโอติกส์คือจุลินทรีย์ หรือว่าสิ่งมีชีวิตเล็ก ๆ ที่อยู่ในลำไส้เรา

00:03:3400:03:38 เวลาที่เราจะให้คำจำกัดความ ของคำว่าโพรไบโอติกส์

00:03:3800:03:41 อันแรกเลยก็คือจะต้องเป็น จุลินทรีย์ที่มีประโยชน์กับร่างกาย

00:03:4100:03:46 คือว่าเขาจะต้องมีข้อมูลงานวิจัยสนับสนุน ว่าอันนี้มีประโยชน์กับร่างกาย

00:03:4600:03:50 อันที่ 2 จะต้องมีปริมาณของจุลินทรีย์ ที่มากพอด้วย

00:03:5000:03:53 เพราะฉะนั้น เวลาที่เราจะขึ้นทะเบียน หรือจะเรียกอะไรสักอย่างหนึ่ง

00:03:5300:03:55 ว่ามันเป็นโพรไบโอติกส์นี่

00:03:5500:03:58 เราจะต้องบอกว่ามีจุลินทรีย์ที่ดี และมีปริมาณมากพอ

00:03:5800:04:01 ซึ่งมากพอในที่นี้คือเกิดประโยชน์กับร่างกาย

00:04:0100:04:04 อันนี้ถึงจะสามารถเรียกมันว่าเป็น โพรไบโอติกส์ได้

00:04:0500:04:07 อย่างเช่นบางอย่างนี่ เรากินเข้าไปนี่

00:04:0700:04:10 มันอาจจะมีจุลินทรีย์ที่มีชีวิต แต่ปริมาณไม่มากพอ

00:04:1000:04:12 เวลาที่เขาบอกก็คือผลิตภัณฑ์ชนิดนั้น

00:04:1200:04:15 ประกอบไปด้วยจุลินทรีย์ ที่มีประโยชน์กับร่างกาย

00:04:1500:04:17 แต่เขาจะไม่เรียกว่าเป็นโพรไบโอติกส์

00:04:1700:04:21 ถ้าจะเรียกว่าเป็นโพรไบโอติกส์ จะต้องมีแบคทีเรียที่ดี

00:04:2100:04:23 และก็มีปริมาณที่เพียงพอนะคะ

00:04:2300:04:26 ทีนี้ในส่วนของโพรไบโอติกส์นี่ เวลาที่เราพูดกันนี่

00:04:2600:04:30 เราจะคิดถึงว่ามันมีแบคทีเรีย หรือมีจุลินทรีย์อยู่ในลำไส้

00:04:3000:04:34 จริง ๆ แล้วนอกเหนือจากลำไส้ ยังมีอีกที่หนึ่งที่มีโพรไบโอติกส์อยู่

00:04:3400:04:36 ก็คือในช่องคลอดของผู้หญิง

00:04:3600:04:38 ตรงนี้ก็จะมีโพรไบโอติกส์อยู่เหมือนกันนะคะ

00:04:3800:04:43 เพราะฉะนั้น ในแง่ของการทำงาน ของระบบต่าง ๆ นี่

00:04:4300:04:45 ตรงนี้ก็จะมีความสำคัญเหมือนกัน

00:04:4500:04:49 ดังนั้นในผู้หญิงบางคน ที่จะมีปัญหาเรื่องของตกขาว

00:04:4900:04:52 คันบริเวณของช่องคลอด หรือว่ามีเชื้อรานี่

00:04:5200:04:54 บางครั้งบางทีนี่ การรักษานี่

00:04:5400:04:58 คุณหมอบางคนก็อาจจะให้ พวกของโพรไบโอติกส์เข้าไป

00:04:5800:05:00 ในแง่ของการเหน็บช่องคลอดนะคะ

00:05:0000:05:02 เพื่อจะช่วยปรับสมดุลตรงนั้น

00:05:0200:05:06 แล้วทำให้เรื่องของอาการผิดปกติ บริเวณช่องคลอดดีขึ้นก็มีนะคะ

00:05:0700:05:09 เพราะฉะนั้น มีในร่างกาย 2 จุด ที่จะมีโพรไบโอติกส์

00:05:0900:05:11 อันที่ 1 ก็คือในลำไส้ของเรา

00:05:1100:05:13 อันที่ 2 ก็คือบริเวณของช่องคลอดค่ะ

00:05:1300:05:17 สำหรับโรคที่จะเกี่ยวข้องกับเรื่องของ พรีไบโอติกส์และโพรไบโอติกส์

00:05:1700:05:19 ขอพูดในภาพรวมแล้วกันนะคะ

00:05:1900:05:23 เพราะพรีไบโอติกส์ก็คืออาหาร ที่จะทำให้จุลินทรีย์ทำงานได้ดีขึ้น

00:05:2300:05:26 โพรไบโอติกส์ก็คือตัวจุลินทรีย์เองนะคะ

00:05:2700:05:29 ทีนี้เวลาที่มันทำงานได้สมดุล

00:05:2900:05:30 สิ่งที่เกิดขึ้นคืออะไร

00:05:3000:05:34 การทำงานของระบบของลำไส้เราจะทำงานได้ดี

00:05:3400:05:39 ก็จะช่วยลดอาการเรื่องของลำไส้อักเสบ ท้องผูก ท้องเสีย ที่เราเคยเห็น

00:05:3900:05:40 แล้วก็ได้ยินกันมาตลอด

00:05:4000:05:43 หรือบางคนก็จะไปผูกกับเรื่องของลำไส้แปรปรวน

00:05:4300:05:47 นอกเหนือจากอาการของระบบทางเดินอาหาร หรือว่าทางระบบลำไส้แล้วนี่

00:05:4700:05:51 อันที่ 2 ที่เกี่ยวข้องก็คือ เรื่องของระบบภูมิคุ้มกัน

00:05:5100:05:52 ถ้าการทำงานอันนี้ไม่สมดุล

00:05:5200:05:54 สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ

00:05:5400:05:58 ลองนึกภาพนะคะ จุลินทรีย์หรือแบคทีเรียที่อยู่ในลำไส้เรานี่

00:05:5800:06:02 สามารถที่จะรุกล้ำเข้าไปในเซลล์ของเรา แล้วเข้าไปในกระแสเลือด

00:06:0200:06:04 อันนี้มีโอกาสที่จะมีการติดเชื้อ

00:06:0400:06:08 หรือทำให้ระบบภูมิคุ้มกันเราทำงานหนักขึ้น

00:06:0800:06:12 ดังนั้น การที่มีสมดุลของแบคทีเรีย หรือจุลินทรีย์ในลำไส้เรานี่

00:06:1200:06:16 จะช่วยทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของเรา ทำงานได้ดีขึ้นค่ะ

00:06:1600:06:19 [เสียงดนตรี]

00:06:1900:06:21 จริง ๆ ต้องบอกว่าในลำไส้เรานะคะ

00:06:2100:06:24 ทุกคนก็ทราบว่ามีจุลินทรีย์ หรือว่ามีแบคทีเรียอยู่

00:06:2400:06:25 ถามว่าแล้วเราอยู่กันอย่างไร

00:06:2600:06:29 ต้องบอกว่าจริง ๆ แล้ว ทุกคนมีแบคทีเรียอยู่กับตัวตลอดเวลาเลย

00:06:2900:06:33 แต่เราไม่เคยมีการติดเชื้อในกระแสเลือด ตลอดเวลาถูกไหมคะ

00:06:3300:06:36 เพราะว่าร่างกายเรานี่มีการทำงานที่ดี

00:06:3600:06:38 มีการแยกกันได้ชัดเจน

00:06:3800:06:42 ดังนั้น ในลำไส้เรานี่ จะมีระบบภูมิคุ้มกันอันหนึ่ง

00:06:4200:06:43 ที่ช่วยป้องกันไว้

00:06:4300:06:46 ด่านแรกก็คือเซลล์ของลำไส้นะคะ

00:06:4600:06:48 เวลาที่มันมีอาหาร ทำงานได้เต็มที่

00:06:4800:06:51 เซลล์ลำไส้เจริญเติบโตเหมือนเป็นรั้วที่ดี

00:06:5100:06:55 ทำให้แบคทีเรียหรือจุลินทรีย์อยู่นอกรั้ว ไม่เข้ามาในบ้านเรา

00:06:5500:06:58 ทีนี้ตัวเม็ดเลือดขาวซึ่งอยู่ในรั้ว

00:06:5800:07:01 อันนี้จะเป็นอีกตัวหนึ่งที่คอยป้องกัน

00:07:0100:07:04 ไม่ให้จุลินทรีย์หรือแบคทีเรีย รุกล้ำเข้ามาในบ้านเรา

00:07:0400:07:08 ในกรณีที่คน ๆ หนึ่งขาดสารอาหาร ไม่รับประทานอาหารเลย

00:07:0800:07:10 สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ

00:07:1000:07:11 สารอาหารได้รับลดลงเนอะ

00:07:1100:07:14 ตัวรั้วมันก็จะมีการผุพัง

00:07:1400:07:18 แบคทีเรียอันนี้ ก็จะสามารถผ่านเข้ามาได้ง่ายขึ้นนะคะ

00:07:1800:07:22 แล้วยิ่งถ้าทำให้ตัวเม็ดเลือดขาว ทำงานได้น้อยลง

00:07:2200:07:24 สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ

00:07:2400:07:28 แบคทีเรียหรือว่าตัวจุลินทรีย์ ที่มีอยู่ในลำไส้เรานี่

00:07:2800:07:30 สามารถจะรุกล้ำเข้ามา แล้วก็เข้าไปสู่กระแสเลือด

00:07:3100:07:33 อาจจะทำให้เกิดเรื่องของ การติดเชื้อในกระแสเลือดได้

00:07:3300:07:36 ความไม่สมดุลของจุลินทรีย์ในลำไส้แปลว่าอะไร

00:07:3600:07:40 แปลว่าจุลินทรีย์ที่ไม่ดี ที่ทำให้เกิดโทษแก่ร่างกาย มันเยอะขึ้น

00:07:4000:07:41 ถ้ามันเข้าสู่ร่างกาย

00:07:4200:07:46 อันนี้ก็จะทำให้มีการติดเชื้อ มีการอักเสบ หรืออะไรเกิดขึ้นได้

00:07:4600:07:50 ถ้าสมมุติว่า ความสมดุลของจุลินทรีย์ดี ใช่ไหมคะ

00:07:5000:07:53 จุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์ เขาก็จะไปกดไว้

00:07:5300:07:57 หรือไปทำให้แบคทีเรียหรือจุลินทรีย์ ที่เป็นโทษลดจำนวนลง

00:07:5700:07:59 อยู่ควบคุมเขาเอาไว้

00:07:5900:08:02 ทำให้เขาไม่รุกล้ำเข้ามาในตัวเรา

00:08:0200:08:06 ทำให้สมดุลของสภาพแวดล้อมในลำไส้เราดีนะคะ

00:08:0600:08:09 อันนี้ก็จะทำให้เรื่องของการขับถ่าย

00:08:0900:08:13 ที่บางคนอาจจะมีท้องผูก บางคนอาจจะมีท้องเสีย หรือทำให้เกิดลำไส้อักเสบ

00:08:1300:08:14 พวกนี้ก็จะดีขึ้น

00:08:1400:08:17 นอกเหนือจากลำไส้เมื่อกี้ ช่องคลอดก็เช่นเดียวกัน

00:08:1700:08:21 เพราะว่าจะมีเรื่องของตัวโพรไบโอติกส์ หรือว่าตัวจุลินทรีย์อยู่

00:08:2100:08:23 นอกจากนี้ที่สำคัญเลยก็คือ

00:08:2300:08:28 เป็นตัวที่จะช่วยทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของเรา ทำงานได้ดีขึ้น

00:08:2800:08:32 อันนี้คือข้อดีของพรีไบโอติกส์และ โพรไบโอติกส์ที่มีอยู่ที่มีอยู่ในร่างกายเรา

00:08:3200:08:35 ทีนี้ถ้าสมมุติว่าเราพูดว่า โอเค เราให้อันแรก

00:08:3500:08:39 เราให้เป็นพรีไบโอติกส์ ก็คือเป็นอาหารของจุลินทรีย์นะคะ

00:08:3900:08:41 อันที่ 2 เราให้เป็นลักษณะของโพรไบโอติกส์

00:08:4100:08:44 ก็คือเป็นลักษณะของตัวจุลินทรีย์

00:08:4400:08:45 เวลาที่เราจะเรียกว่าเป็นโพรไบโอติกส์

00:08:4500:08:48 ก็คือเป็นจุลินทรีย์ที่ดีและปริมาณที่เหมาะสม

00:08:4800:08:53 สมมุติว่าถ้ามันมีอาหารบางอย่าง ให้ทั้ง พรีไบโอติกส์และโพรไบโอติกส์ไปร่วมกันเลย

00:08:5300:08:55 เราจะเรียกว่าเป็นซินไบโอติกส์

00:08:5500:08:58 ซึ่งอันนี้เวลาที่เราเห็นในหนังสือ หรือว่าเราเห็นในอินเทอร์เน็ต

00:08:5800:09:01 หรือว่าเห็นในสื่อทั้งหลายว่า เอ๊ะ อันนี้คืออะไร

00:09:0100:09:05 พรีไบโอติกส์ โพรไบโอติกส์ แล้วก็สุดท้ายคือซินไบโอติกส์ค่ะ

00:09:0500:09:09 [เสียงดนตรี]

00:09:0900:09:14 ทีนี้มันมีความสำคัญนิดนึงเนื่องจากว่า โพรไบโอติกส์คือจุลินทรีย์

00:09:1400:09:17 เพราะฉะนั้น บางทีเวลาผ่านกระเพาะเราไปนี่

00:09:1700:09:18 ซึ่งเป็นภาวะที่มีกรดเยอะ ๆ

00:09:1800:09:21 บางตัวก็จะตายไปใช่ไหมคะ

00:09:2100:09:25 เขาอาจจะไม่ได้เหมาะที่จะอยู่ได้ ในภาวะที่มันเป็นกรดรุนแรงหรือเป็นด่างรุนแรง

00:09:2500:09:27 นั่นคือเหตุผลที่บอกว่า

00:09:2700:09:33 ถ้าเราจะขึ้นทะเบียนหรือเรียกสารตัวหนึ่ง หรืออาหารชนิดหนึ่งว่ามีโพรไบโอติกส์นี่

00:09:3300:09:37 มันจะต้องมีจุลินทรีย์มากพอ ที่จะลงไปจนถึงลำไส้

00:09:3700:09:40 ไม่งั้นถ้ามันมีน้อย เป็นไงคะ มันก็จะตายหมด

00:09:4000:09:42 อันที่ 2 ถ้าสังเกตเนอะ

00:09:4200:09:45 อะไรก็ตามที่มันจะเป็นพวกของโพรไบโอติกส์

00:09:4500:09:49 มักจะอยู่ในตู้เย็นหรืออุณหภูมิที่ไม่ร้อน

00:09:4900:09:50 ถ้าเราไปทำให้มันสุก

00:09:5000:09:53 ส่วนใหญ่แบคทีเรียหรือจุลินทรีย์พวกนี้จะตาย

00:09:5300:09:55 เพราะฉะนั้นมันก็จะไม่ได้ประโยชน์แล้ว

00:09:5500:09:57 เพราะว่าเรากินของที่มันตายแล้ว

00:09:5700:10:00 แต่สิ่งที่เราอยากได้ คือเราอยากได้จุลินทรีย์ที่ยังมีชีวิตอยู่

00:10:0000:10:04 เพราะฉะนั้น เราอาจจะต้องเลือกนิดนึงนะคะ ปริมาณที่กินนะคะ

00:10:0400:10:08 แล้วก็ในขณะที่กินนี่ กินตอนท้องว่าง กินระหว่างมื้อ

00:10:0800:10:11 เพื่อลดเรื่องของการหลั่งน้ำย่อย หลังจากที่กินอาหาร

00:10:1100:10:16 จะได้ทำให้ปริมาณของจุลินทรีย์ เหลือมากพอที่จะไปถึงลำไส้ใหญ่ของเราค่ะ

00:10:1600:10:19 ทีนี้ถ้าเราถามว่า แล้วเราจะต้องกินโพรไบโอติกส์เท่าไร

00:10:1900:10:21 ถึงจะได้ประโยชน์

00:10:2100:10:24 จริง ๆ ต้องบอกว่าเวลาที่เราจะขึ้นทะเบียน กับ อย. ว่า

00:10:2400:10:26 ช่วงระยะเวลาของการเก็บรักษา

00:10:2600:10:30 จะต้องมีตัวของจุลินทรีย์ ตามชนิดที่เขากำหนดไว้

00:10:3000:10:31 เขาจะมีกำหนดไว้ค่ะ

00:10:3100:10:33 ตอนนี้น่าจะสักประมาณ 23 ตัว

00:10:3300:10:35 ว่าถ้าเป็นหนึ่งใน 23 ตัวนี้

00:10:3500:10:39 เก็บรักษาเอาไว้แล้ว ปริมาณของจุลินทรีย์ยังมีมากพอ

00:10:3900:10:43 มากพอในที่นี้คือ 10 กำลัง 6 ต่อ 1 กรัมของอาหาร

00:10:4300:10:45 อันนี้ค่ะเขาถึงจะยอม

00:10:4500:10:47 ไม่ใช่หมายความว่าเรากิน 10 กำลัง 6 นะ

00:10:4700:10:50 แต่หมายความว่า ถ้าเรากินอาหารชนิดนั้นเข้าไป 1 กรัม

00:10:5000:10:52 แล้วมีจุลินทรีย์อันนี้มากกว่า 10 กำลัง 6

00:10:5300:10:55 เราจะขึ้นทะเบียน หรือเราจะเรียกมันว่าเป็นโพรไบโอติกส์ได้

00:10:5600:10:59 ทีนี้ถามว่า แล้วโพรไบโอติกส์นี่จะมีปัญหาไหม

00:10:5900:11:01 เมื่อกี้เราบอกว่า เรากินพรีไบโอติกส์มากเกินไป

00:11:0100:11:05 ก็อาจจะทำให้มีท้องอืด มีท้องเสีย มีแก๊สในกระเพาะใช่ไหมคะ

00:11:0500:11:08 ทีนี้ถ้าโพรไบโอติกส์ มันคือจุลินทรีย์เนอะ

00:11:0800:11:10 ถามว่ากินมากเกินไปจะมีปัญหาไหม

00:11:1000:11:12 ส่วนใหญ่ต้องบอกว่า ข้อแรกก่อน

00:11:1300:11:17 เรามักจะเลือกจุลินทรีย์ที่เราคิดว่า เขาได้ประโยชน์กับร่างกายเรานะคะ

00:11:1700:11:20 คนกลุ่มหนึ่งที่อาจจะ

00:11:2000:11:24 ใช้คำว่าอาจจะนะคะ มีปัญหากับการกินพวกของโพรไบโอติกส์

00:11:2400:11:27 ก็คือคนที่ภูมิคุ้มกันต่ำ ยกตัวอย่างเช่น

00:11:2700:11:30 คนไข้อาจจะได้รับเคมีบำบัด

00:11:3000:11:31 แล้วได้รับยากดภูมิ

00:11:3200:11:35 แล้วปรากฏว่าภูมิคุ้มกันต่ำมากตอนนี้ ภูมิคุ้มกันต่ำมากเลย

00:11:3500:11:38 เพราะฉะนั้นนี่ ภูมิคุ้มกันเขาต่ำ

00:11:3800:11:40 แค่แบคทีเรียในลำไส้ของเขา

00:11:4000:11:43 ก็มีโอกาสที่จะลุกลามเข้ามาได้อยู่แล้ว นึกออกไหมคะ

00:11:4300:11:45 แล้วเราไปเติมแบคทีเรียเข้าไปอีก

00:11:4500:11:48 อันนี้ก็อาจจะทำให้เกิดปัญหาได้

00:11:4800:11:53 ดังนั้น โดยทั่วไปนะคะ เวลาที่คนไข้ได้รับยาเคมีบำบัดในระดับสูง ๆ

00:11:5300:11:57 หรือมีการกดไขกระดูก มีการกดภูมิคุ้มกันเยอะ ๆ

00:11:5700:12:01 อันนี้เราไม่แนะนำ ที่จะให้รับประทานกลุ่มที่เป็นโพรไบโอติกส์

00:12:0200:12:06 แต่ถ้าหลังจากนั้น แล้วกลับมาเป็นปกติ ภูมิคุ้มกันโอเคแล้ว

00:12:0700:12:09 อยากจะกิน อันนี้ก็ยังโอเคนะคะ ไม่ได้มีปัญหา

00:12:1000:12:13 [เสียงดนตรี]

00:12:1300:12:14 สำหรับอาหารนะคะ

00:12:1400:12:17 เราจะมีจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ในอาหาร กลุ่มไหนบ้าง

00:12:1700:12:23 อันแรกเลยที่เราได้ยินกันบ่อย ๆ ก็คือ โยเกิร์ตปกติก็ได้หรือกรีกโยเกิร์ตก็ได้

00:12:2300:12:25 ก็จะมีจุลินทรีย์อยู่

00:12:2500:12:27 อันที่สอง ถ้าเป็นกรณีของนมเปรี้ยว

00:12:2700:12:29 นมเปรี้ยวนี่ หลาย ๆ ชนิดต้องไปดูนิดนึง

00:12:3000:12:32 เขาจะบอกว่ามีจุลินทรีย์ที่มีชีวิตนะคะ

00:12:3200:12:37 แต่ว่าถ้าไปดูในตัวของ นมเปรี้ยวหลาย ๆ ยี่ห้อในเมืองไทย

00:12:3700:12:40 ปรากฏว่าจุลินทรีย์ที่มี

00:12:4000:12:44 มันไม่ใช่ตัวที่ถูกขึ้นทะเบียน ว่าเป็นโพรไบโอติกส์

00:12:4400:12:46 เพราะฉะนั้น เวลาที่กินเข้าไปนี่

00:12:4600:12:49 เขาก็อาจจะไม่ได้ถูกเรียกว่าเป็นโพรไบโอติกส์

00:12:4900:12:52 อีกอันหนึ่งที่จะมีเรื่องของโพรไบโอติกส์

00:12:5200:12:55 ก็จะมีนัตโตะ พวกของเทมเป้

00:12:5500:12:58 แล้วก็จะมีพวกของมิโซะใช่ไหมคะ ที่เราจะได้ยินบ่อย ๆ

00:12:5800:13:00 ถั่วเน่าด้วยอะไรอย่างนี้นะคะ

00:13:0000:13:03 แล้วก็จะมีพวกของตัวชีสนะคะ

00:13:0300:13:07 แอปเปิลไซเดอร์ก็จะมีบ้าง แต่ว่าปริมาณมันอาจจะไม่ได้เยอะมาก

00:13:0700:13:10 อีกอันหนึ่งก็คือจะเป็นพวกของผักดอง หรือว่าของหมักดอง

00:13:1100:13:13 จริง ๆ เวลาที่เราหมักของพวกนี้ค่ะ

00:13:1300:13:15 มันก็จะมีจุลินทรีย์เกิดขึ้น

00:13:1500:13:16 แต่คำถามคือ

00:13:1600:13:21 มันไม่ได้ของหมักดองทุกชนิดที่จะเกิด จุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ นึกภาพออกใช่ไหมคะ

00:13:2100:13:22 เพราะฉะนั้นนี่ ถ้าเรารู้ว่า

00:13:2300:13:26 อันนี้คือของที่จะทำให้เกิด จุลินทรีย์ที่มีประโยชน์

00:13:2600:13:29 อันนี้ค่ะ เราถึงจะเรียกมันว่าเป็น เรื่องของโพรไบโอติกส์

00:13:2900:13:33 เพราะฉะนั้นนี่ ในแง่ของของหมักดอง อาจจะต้องระมัดระวังนิดนึง

00:13:3300:13:34 ถามว่าเราจะรู้ได้อย่างไร

00:13:3400:13:37 มันก็ขึ้นกับวัตถุดิบในการที่เราจะเอามาหมัก

00:13:3700:13:40 ว่ามันจะคืออะไร แล้วมันจะกลายไปเป็นอะไรนะคะ

00:13:4000:13:42 ซึ่งอันนี้มันจะมีรายละเอียดนิดนึง

00:13:4200:13:44 ถ้าอย่างนั้นนี่ ถ้าจะกิน ถ้าจะใช้พวกนี้

00:13:4400:13:47 อาจจะต้องระมัดระวัง แล้วก็ไปศึกษาเพิ่มเติมว่า

00:13:4800:13:50 เราจะใช้อะไรเป็นตัวเริ่มต้น

00:13:5000:13:53 แล้วที่สำคัญคือความสะอาดในแง่ของการผลิต

00:13:5300:13:55 ไม่งั้นนี่มันจะมีการปนเปื้อน

00:13:5500:14:00 แล้วจะกลายเป็นจุลินทรีย์ที่ไม่มีประโยชน์ หรือจุลินทรีย์ที่มีโทษเจริญเติบโตมากขึ้น

00:14:0000:14:02 อันนี้ก็อาจจะทำให้ท้องเสียได้ค่ะ

00:14:0200:14:05 [เสียงดนตรี]

00:14:0500:14:09 สำหรับอาหารที่จะไปเพิ่ม ในกลุ่มที่เป็นพรีไบโอติกส์

00:14:0900:14:12 หลัก ๆ เลยก็จะมาจากพวกของไฟเบอร์นะคะ

00:14:1200:14:15 หรือว่าพวกที่เป็นคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนนะคะ

00:14:1500:14:20 ฉะนั้น ถ้าในรูปแบบของอาหาร ก็คือเป็นผัก ผลไม้ ธัญพืชนะคะ

00:14:2000:14:22 หรือว่ารวมถึงพวกสมุนไพรด้วย

00:14:2200:14:27 กลุ่มนี้ก็จะให้ในส่วนที่จะเป็น เรื่องของพรีไบโอติกส์นะคะ

00:14:2700:14:29 หลัก ๆ นะคะ เวลาที่เราจะเลือกรับประทานก่อน

00:14:2900:14:31 อันที่หนึ่งก่อน พรีไบโอติกส์เนอะ

00:14:3100:14:33 ในส่วนของพรีไบโอติกส์นะคะ

00:14:3300:14:36 ก็จะเป็นกลุ่มของอาหารที่มันจะเป็น พวกไฟเบอร์แล้วกันเนอะ

00:14:3600:14:39 จะเป็นกลุ่มที่มาจากพวกของคาร์โบไฮเดรต ที่เป็นเชิงซ้อน

00:14:3900:14:41 ร่างกายเราก็จะย่อย แล้วก็ดูดซึม

00:14:4100:14:43 ทีนี้บางส่วนค่ะ มันดูดซึมไม่หมด

00:14:4300:14:45 มันก็จะไหลผ่านลงมา

00:14:4500:14:49 เอามาให้จุลินทรีย์ที่ลำไส้ใหญ่นี่ มีการ metabolize

00:14:4900:14:51 แล้วหลังจากนั้นนี่ ก็เอามาใช้งาน

00:14:5100:14:53 แล้วก็เกิดเป็นอาหาร

00:14:5300:14:57 หรือเป็นพลังงานให้กับแบคทีเรีย หรือจุลินทรีย์ที่บริเวณของลำไส้ใหญ่

00:14:5700:15:00 ดังนั้น หลัก ๆ ของกลุ่มที่จะเป็น พรีไบโอติกส์นี่

00:15:0100:15:04 จะได้มาจากอาหารกลุ่มที่เป็น คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน

00:15:0400:15:07 หรือว่ากลุ่มที่มีไฟเบอร์เยอะ

00:15:0700:15:12 ทีนี้ในบางราย ต้องใช้ในบางรายนะคะ ที่อาจจะมีลำไส้แปรปรวนหรืออะไรก็ตาม

00:15:1200:15:17 แล้วเราเลือกชนิดของตัวคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน หรือว่าเราเลือกไฟเบอร์ได้ไม่ได้ดีนัก

00:15:1700:15:20 สิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นคือ อาจจะมีปัญหาเรื่องของท้องอืด

00:15:2000:15:23 หรืออาจจะมีแก๊สในกระเพาะเยอะขึ้น

00:15:2300:15:24 หรืออาจจะทำให้ถ่ายเยอะขึ้นได้

00:15:2400:15:27 ถ้าเรารับในปริมาณที่มากเกินไป

00:15:2700:15:30 ลองนึกภาพว่ามันเป็นอาหารที่โหลดเข้าไปเยอะ ๆ

00:15:3000:15:32 แล้วแบคทีเรียหรือจุลินทรีย์เราเต็มไปหมดเลย

00:15:3200:15:34 ทุกครั้งที่เขาเอาอาหารไปใช้ค่ะ

00:15:3500:15:37 มันจะเกิดแก๊สขึ้นมา เป็นคาร์บอนไดออกไซด์

00:15:3700:15:38 จะเกิดน้ำขึ้นมา

00:15:3800:15:41 เพราะฉะนั้นนี่ มันอาจจะมากเกินไป

00:15:4100:15:43 เวลาที่เราพูดคำว่าพรีไบโอติกส์

00:15:4300:15:45 ไม่ได้หมายความว่าทุกคนกินแล้วจะได้ประโยชน์

00:15:4500:15:48 แต่ละคนจะมีปริมาณที่เหมาะสมกับตัวเอง

00:15:4800:15:50 จะรู้ได้อย่างไร เป็นคำถามที่ดีเลยค่ะ

00:15:5000:15:54 เราไม่สามารถจะไปวัดได้ว่า แต่ละคนมีแบคทีเรียอะไร มากแค่ไหน

00:15:5400:15:55 ให้สังเกตค่ะ

00:15:5500:15:59 ถ้าสมมุติว่าเรากินเป็นผักเข้าไป หรือว่าเป็นพวกของธัญพืช

00:15:5900:16:01 หรือว่าจะเป็นคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน

00:16:0100:16:05 พอกินเข้าไปแล้วรู้สึกว่า มันแบบ... ท้องอืดมากเลย มีแก๊สมากเลย

00:16:0500:16:06 อันนี้เราต้องลดลง

00:16:0600:16:10 อีกวิธีหนึ่ง เราก็อาจจะต้องปรับในเรื่องของชนิด

00:16:1000:16:11 เพื่อจะหวังว่า

00:16:1100:16:14 โอเค อาจจะให้ได้ตัวนี้น้อยลง ตัวนั้นมากขึ้น อะไรอย่างนี้

00:16:1400:16:16 เราจะมีการปรับเปลี่ยน แล้วก็เลือกเอา

00:16:1600:16:20 อันแรกเราอาจจะปรับปริมาณก่อน อย่ากินครั้งนึงเยอะมาก ๆ

00:16:2000:16:22 แต่ให้กระจายมื้อ กินให้เยอะขึ้น

00:16:2200:16:24 กินทุก ๆ มื้อ ให้ร่างกายมีการปรับตัว

00:16:2500:16:26 อันนี้น่าจะดีขึ้นมากกว่าค่ะ

00:16:2700:16:29 กินในรูปแบบที่เป็นของสดเนอะ

00:16:2900:16:31 อย่าพยายามต้ม หรือว่าอย่าพยายามผ่านความร้อน

00:16:3100:16:34 เพื่อจะให้ได้วิตามิน แล้วก็เกลือแร่ครบถ้วนด้วย

00:16:3400:16:35 เช่น เป็นพวกอะไรได้บ้างเอ่ย

00:16:3500:16:38 หัวหอมก็ได้นะคะ หรือว่าจะเป็นหน่อไม้ฝรั่ง

00:16:3800:16:42 เป็นมะเขือเทศนะคะ ต้นหอมญี่ปุ่น พวกผักกาดทั้งหลาย

00:16:4200:16:46 อันนี้ก็ถือว่าเป็นกลุ่มที่มีพรีไบโอติกส์

00:16:4600:16:50 กลุ่มที่สองค่ะ ก็จะเป็นพวกของผลไม้ อันนี้ง่ายเลยเนอะ

00:16:5000:16:52 กล้วย แอปเปิล ส้ม

00:16:5200:16:54 พวกสตรอว์เบอร์รี เบอร์รีได้หมดนะคะ

00:16:5400:16:57 พวกนี้ก็จะเป็นกลุ่มที่มีเรื่องของไฟเบอร์

00:16:5700:16:59 แล้วก็มีเรื่องของพรีไบโอติกส์นะคะ

00:16:5900:17:02 อันที่สาม ก็จะเป็นพวกธัญพืชนะคะ

00:17:0200:17:08 ยกตัวอย่างเช่น เป็นพวกของกลุ่มข้าวบาร์เลย์ ข้าวโอ๊ต หรือว่าข้าวสาลีนะคะ

00:17:0800:17:10 ถั่วเมล็ดแห้งด้วยก็ได้นะคะ

00:17:1000:17:13 หรือว่าจะเป็นพวกของลูกเดือย หรืออะไรอย่างนี้ก็ได้ค่ะ

00:17:1300:17:18 กลุ่มนี้นี่เป็นกลุ่มที่เป็นธัญพืชนี่ ก็จะมีเรื่องของพรีไบโอติกส์ด้วยเช่นกัน

00:17:1800:17:23 เพราะฉะนั้น เลือกกินอาหารกลุ่มนี้ ให้มีความหลากหลาย กระจายในทุก ๆ มื้อ

00:17:2300:17:25 เพื่อจะช่วยทำให้เป็นประโยชน์

00:17:2500:17:28 หรือว่าไปเป็นอาหาร สำหรับจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ในลำไส้ค่ะ

00:17:2800:17:31 แต่อย่างไรก็ตาม เหมือนที่บอกค่ะ ให้สังเกตนิดนึง

00:17:3100:17:34 ถ้าสมมุติว่าเรากินของ ที่เราเรียกว่าเป็นพรีไบโอติกส์แล้ว

00:17:3400:17:37 มันอาจจะตอบสนองกับร่างกายไม่เหมือนกัน

00:17:3700:17:41 เนื่องจากว่าแบคทีเรียในตัวเรา หรือจุลินทรีย์ในตัวเรานี่มีไม่เท่ากัน

00:17:4100:17:44 ถ้าเรากินแล้ว แล้วเรารู้สึกว่า มันอาจจะท้องอืดมากขึ้น

00:17:4400:17:45 หรือมันท้องเสียมากขึ้น

00:17:4500:17:47 ให้เราหยุดหรือลดปริมาณลง

00:17:4700:17:50 กระจายการกินพวกของไฟเบอร์ หรือคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนนี้

00:17:5000:17:52 ให้มันเป็นหลาย ๆ มื้อ

00:17:5200:17:54 แต่ละมื้อ ปริมาณไม่มาก

00:17:5400:17:58 อันนี้ก็จะสามารถช่วยในเรื่องของ ระบบทางเดินอาหารที่ผิดปกตินะคะ

00:17:5900:18:00 อีกอันหนึ่งค่ะ

00:18:0000:18:03 บางคนบอกว่าถ้าเอาไปต้มให้สุกหรือว่าทำให้สุก

00:18:0300:18:04 แทนที่จะกินสดนี่

00:18:0400:18:07 มันจะช่วยลดอาการของทางเดินอาหารได้

00:18:0700:18:08 อันนี้อาจจะถูกต้อง

00:18:0800:18:10 ถามว่าพรีไบโอติกส์หายไหม

00:18:1000:18:11 พรีไบโอติกส์อาจจะไม่หาย

00:18:1100:18:15 แต่สิ่งที่หายก็อาจจะเป็นพวกของวิตามิน โดยเฉพาะวิตามินที่ละลายน้ำ

00:18:1500:18:17 ที่อาจจะลดลงนะคะ

00:18:1700:18:19 เพราะฉะนั้น ลองปรับดูนะคะ ในส่วนของพรีไบโอติกส์

00:18:2000:18:21 ว่าอันไหนที่เหมาะกับเรา

00:18:2100:18:23 แล้วก็พยายามเลือกกินให้หลากหลาย

00:18:2300:18:26 แล้วก็ในแต่ละวัน กินกระจายทุก ๆ มื้อค่ะ

00:18:2600:18:30 [เสียงดนตรี]

00:18:3000:18:34 อันสุดท้าย สำหรับคนที่กำลังจะเลือกรับประทานอาหาร

00:18:3400:18:39 หรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ถูกขึ้นทะเบียน ว่าเป็นพรีไบโอติกส์ โพรไบโอติกส์

00:18:3900:18:41 จะมีข้อควรระวังอย่างไร

00:18:4100:18:43 อันที่หนึ่ง ถ้ารับประทานจากอาหาร

00:18:4300:18:46 อันนี้ไม่ได้มีข้อควรระวังอะไรเยอะมากนะคะ

00:18:4600:18:47 ก็คือแค่กินตามปกติ

00:18:4700:18:51 โดยทั่วไป มักจะไม่ค่อยทำให้เกิดอันตรายกับสุขภาพ

00:18:5100:18:55 เราเอาเข้ามารวมในอาหารปกติที่เรากิน

00:18:5500:18:59 แล้วก็ในคนที่มีปัญหา จะเป็นเรื่องของกลุ่มลำไส้แปรปรวน

00:18:5900:19:03 อาจจะพิจารณาปริมาณ และชนิดของตัวไฟเบอร์ที่กินนิดนึง

00:19:0300:19:08 ในกรณีของการที่คนบางคน จะขอเลือกใช้เป็น Supplement ได้ไหม

00:19:0800:19:09 เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารได้ไหม

00:19:0900:19:13 อันที่หนึ่งก่อน เราดูก่อนว่าอันนี้มันเหมาะสมไหม

00:19:1300:19:16 ก็คือตอนที่เขาขึ้นทะเบียนนะคะ

00:19:1600:19:18 เวลาขึ้นทะเบียนนี่ ถ้าเกิด อย. ให้ขึ้นทะเบียน

00:19:1800:19:19 แสดงว่าผ่านแล้ว

00:19:1900:19:21 อันแรกก็คือชนิดของแบคทีเรียที่ดี

00:19:2100:19:24 อันที่สองคือปริมาณของแบคทีเรียมีมากพอ

00:19:2400:19:26 อันที่สาม เวลาที่เราจะดู

00:19:2600:19:29 ถามตัวเองก่อนว่า เราเป็นกลุ่มที่มี ภูมิคุ้มกันบกพร่องหรือเปล่า

00:19:2900:19:32 ถ้าตอนนี้ต้องได้ยากดภูมิเยอะแยะเลยนะคะ

00:19:3200:19:35 หรือว่าเป็นคนไข้มะเร็งที่ต้องได้ยาเคมีบำบัด

00:19:3600:19:39 หรืออะไรก็แล้วแต่ที่ทำให้ ภูมิคุ้มกันในร่างกายเราต่ำมาก ๆ

00:19:3900:19:42 อันนี้เลี่ยงก่อนนะคะ อย่าเพิ่งกินในช่วงนี้

00:19:4300:19:45 เดี๋ยวรอให้ภูมิคุ้มกันในชีวิตเราดีขึ้น

00:19:4500:19:47 แล้วเราถึงจะค่อยพิจารณาว่าเราจะกิน

00:19:4700:19:50 ที่สำคัญค่ะ เวลาที่เราจะกิน ถามตัวเองก่อนเนอะ

00:19:5000:19:51 จะไปซื้ออะไรพวกนี้มากิน

00:19:5200:19:54 เรากินเพราะอะไร กินเพื่ออะไร

00:19:5400:19:55 ต้องให้ได้ประโยชน์ก่อน

00:19:5500:19:57 แล้วมาดูซิว่ามันมีโทษไหม

00:19:5700:20:00 ถ้ามันไม่มีประโยชน์ ต่อให้มันไม่มีโทษ อันนี้ขึ้นกับคุณ

00:20:0000:20:03 แต่ถ้าสมมุติว่าไม่ได้ประโยชน์ แล้วอาจจะมีโทษด้วย

00:20:0300:20:05 กรุณาอย่าซื้อมากินนะคะ

00:20:0600:20:10 พบกับรายการ Food Choice กินดี สุขภาพดีเลือกได้

00:20:1000:20:12 ทุกวันจันทร์เวลา 18:00 น.

00:20:1200:20:14 ที่ Mahidol Channel Podcast

00:20:1400:20:17 ผ่านช่องทาง Facebook Mahidol Channel

00:20:1700:20:19 YouTube Mahidol Channel

00:20:1900:20:20 Apple Podcasts

00:20:2000:20:21 Spotify

00:20:2100:20:22 Anchor

00:20:2200:20:23 Joox

00:20:2300:20:29 ดำเนินรายการโดยหมอเอ๋ ผศ.พญ.ดรุณีวัลย์ วโรดมวิจิตร

00:20:2900:20:32 [เสียงดนตรี]

00:20:3200:20:36 Food Choice กินดี สุขภาพดีเลือกได้