00:00:00 → 00:00:03 This is Thai PBS Podcast the
00:00:03 → 00:00:06 World by the Voice.
00:00:06 → 00:00:08 ก็มีงานวิจัยเนี่ยนะที่พบว่าคนที่อยู่ใน
00:00:08 → 00:00:11 เมืองเนี่ยนะมีโอกาสรับวิตามินดีน้อย
00:00:11 → 00:00:13 เนี่ยหรือขาดวิตามินดีกว่า
00:00:13 → 00:00:13 >> อ
00:00:13 → 00:00:16 >> ได้ถึง 50% ภาคอีสานเนี่ยเป็นภาคที่น่าจะ
00:00:16 → 00:00:18 รับแดดมากที่สุดะ
00:00:18 → 00:00:19 >> อ่ามวลความร้อนคนเดียว
00:00:19 → 00:00:21 >> ก็ยังขาดวิตามินดีอ
00:00:21 → 00:00:24 >> อีกประมาณ 50% นั่นหมายความว่าอะไรแปลว่า
00:00:24 → 00:00:26 จริงๆปัจจัยมันไม่ได้อยู่ที่ว่าแดดมันมา
00:00:26 → 00:00:28 มั้ยมันอยู่ที่เราเอาตัวไปโดนแดดมั้ยถ้า
00:00:29 → 00:00:32 ต่างหากกลไกการสร้างกระดูกอ่ะกระดูกจะ
00:00:32 → 00:00:34 แข็งได้ต้องมีน้ำหนักไปลงถ้าน้ำหนักไม่ลง
00:00:35 → 00:00:38 กระดูกมันจะบางลงเรื่องของการบริโภคไม่
00:00:38 → 00:00:40 โดนแสงแดดและการใช้ชีวิตที่เป็นนั่งตลอด
00:00:40 → 00:00:43 เวลา 3 ปัจจัยนี่แหละทำให้ปัจจุบันเนี้ย
00:00:43 → 00:00:48 มีโอกาสที่จะเป็นกระดูกพรุนมากขึ้น
00:00:48 → 00:00:51 >> ฟังทุกเรื่องสุขภาพอัปเดตทุกโรคภัยฟังราย
00:00:51 → 00:00:55 การโรงหมอกับดิฉันสุรีพรวงษ์สถิตพรค่ะ
00:00:55 → 00:00:58 >> This is Thai PBS Podcast
00:00:58 → 00:01:00 >> คุณผู้ฟังแล้วเราจะมาคุยกันถึงเรื่องของ
00:01:00 → 00:01:02 วัยรุ่นวัยรุ่นหน่อยเนาะแล้วก็วัยทำงานนะ
00:01:03 → 00:01:05 คะมันมีเรื่องนึงค่ะที่เราก็ไม่น่าเชื่อ
00:01:05 → 00:01:07 ว่าวัยรุ่นวัยทำงานเนี่ยจะเกี่ยวกับ
00:01:07 → 00:01:11 เรื่องนี้ได้เรื่องของเสี่ยงกระดูกพรุน
00:01:11 → 00:01:13 เออเป็นยังไงนะคะคุยกันกับดร.นายแพทย์
00:01:14 → 00:01:17 จตุพลคงถาวรสกุลแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้าน
00:01:17 → 00:01:19 กระดูกและคอสจากเพศดร.หมอหมีจ้า
00:01:19 → 00:01:21 >> ครับสวัสดีครับ
00:01:21 → 00:01:23 >> อ่าวันนี้หมอหมีมาก็แน่นอนคุยแต่เรื่อง
00:01:23 → 00:01:25 กระดูกก็เป็นคำถามข้อสงสัยอยู่เหมือนกัน
00:01:25 → 00:01:29 ว่าเอ๊เดี๋ยวนี้นะวัยรุ่นนะวัยทำงานเนี่ย
00:01:29 → 00:01:32 นะไอ้อาการปวดเมื่อยมันมีอยู่แล้วแหละแต่
00:01:32 → 00:01:34 ทำไมมันไปถึงเรื่องกระดูกได้อ่ะ
00:01:34 → 00:01:39 >> คืออย่างี้ฮะในปัจจุบันเนี่ยนะมันพวกเรา
00:01:39 → 00:01:43 เนี่ยเราใช้ชีวิตแบบเคลื่อนตัวน้อยนะจริง
00:01:43 → 00:01:45 ๆแล้วมันมีปัจจัยในการที่ทำให้เกิด
00:01:45 → 00:01:47 >> กระดูกพุนหรือกระดูกบางเนี่ยอยู่ประมาณ
00:01:47 → 00:01:49 2-3 3 ปัจจัย
00:01:49 → 00:01:49 >> ค่ะ
00:01:49 → 00:01:53 >> นะฮะปัจจัยแรกเลยเนี่ยที่ทำให้เป็นกระดูก
00:01:53 → 00:01:55 พุนหรือกระดูกบางมากที่สุดเนี่ยคือเรื่อง
00:01:55 → 00:01:58 ของวิตามินดีจริงๆมันไม่ใช่แค่เรื่องของ
00:01:58 → 00:02:00 กระดูกพุนกระดูกบางนะวิตามินดีที่ต่ำ
00:02:00 → 00:02:03 เนี่ยบางทีเนี่ยอาจจะสัมพันธ์กับการที่ทำ
00:02:03 → 00:02:06 ให้กล้ามเนื้อเนี่ยมันมีความอ่อนแรงได้
00:02:06 → 00:02:08 หรือกล้ามเนื้อเนี่ยมวลกล้ามเนื้อเนี่ย
00:02:08 → 00:02:09 มันน้อยลง
00:02:09 → 00:02:11 >> เพราะวิตามินดีเนี่ยมันควบคุมกระดูกก็
00:02:11 → 00:02:13 จริงแต่ว่ามันจะมีบางส่วนที่เกี่ยวข้อง
00:02:13 → 00:02:15 กับกล้ามเนื้อถามว่าเอ้ยแล้ววิตามินดีมัน
00:02:15 → 00:02:20 ทำไมถึงมีปัญหาเพราะว่าปัจจุบันเนี่ยเรา
00:02:20 → 00:02:22 ไม่เจอแสงแดดเลยอ
00:02:22 → 00:02:25 >> ถูกมั้ยฮะคือคนทำงานสมัยเนี้ย
00:02:25 → 00:02:28 >> มันแทบจะไม่ได้เจอแสงแดดอะไรเลยเพราะว่า
00:02:28 → 00:02:30 คนเราก็กลัวแดด
00:02:30 → 00:02:34 >> แถมคนเรากลัวมลภาวะต่างๆนานาเพราะฉะนั้น
00:02:34 → 00:02:38 เราก็จะนั่งอยู่แต่ในห้องมืดๆทึบๆนะฮะรวม
00:02:38 → 00:02:41 ถึงออฟฟิศเดี๋ยวเนี้ยก็พยายามที่จะทำให้
00:02:41 → 00:02:45 มันcompพactเล็กลงแคบขึ้นอ
00:02:45 → 00:02:48 >> ใช่มั้ฮะเพราะว่ารถคอสหรืออะไรก็แล้วแต่
00:02:48 → 00:02:48 >> ค่ะ
00:02:48 → 00:02:50 >> รวมถึงพวก Work from home
00:02:50 → 00:02:51 >> ก็อยู่แต่บ้านเลยคราวนี้
00:02:52 → 00:02:54 >> หรือว่าอาจจะไปตามคาเฟ่หรือตามอะไรที่มัน
00:02:54 → 00:02:56 เป็นเ่อเค้าเรียกว่าอะไรนะเอ่อเป็นออฟฟิศ
00:02:56 → 00:02:58 ที่เราไปนั่งทำงานได้
00:02:58 → 00:03:00 >> ใช่คืออันนั้นยังดีแต่ไอ้การ work from
00:03:00 → 00:03:03 home เนี่ยปัญหาก็คือว่า
00:03:03 → 00:03:06 >> ไม่ออกจากบ้านเลยไงคืออ่ะอย่างสมมุติว่า
00:03:06 → 00:03:08 เราเดินทางออกจากบ้านเราต้องไปขึ้นรถไฟ
00:03:08 → 00:03:10 ฟ้าเราต้องไปนู่นไปนี่
00:03:10 → 00:03:12 >> ก็จะมีการใช้
00:03:12 → 00:03:15 >> กล้ามเนื้อใช่มมีการเดินลงน้ำหนักเปลี่ยน
00:03:15 → 00:03:17 อิริยาบถบ้างรวมถึงออกไปข้างนอกเราก็จะ
00:03:17 → 00:03:18 เจอแสงแดดบ้าง
00:03:18 → 00:03:19 >> ค่ะ
00:03:19 → 00:03:21 >> นะเพราะฉะนั้นอันนี้เนี่ยก็เท่ากับว่าเจอ
00:03:21 → 00:03:25 แสงแดดเนี่ยน้อยลงส่วนการบริโภคการบริโภค
00:03:25 → 00:03:26 นี่หนักเลย
00:03:26 → 00:03:26 >> อือ
00:03:26 → 00:03:28 >> ปัจจุบันเรากินแต่อะไร Ultra process
00:03:28 → 00:03:29 food
00:03:29 → 00:03:32 >> ใช่มั้ยคือวัยรุ่นยุคนี้ต้องบอกเลยว่า
00:03:32 → 00:03:35 ค่อนข้างใช้ชีวิตแบบ rush คือรีบมาก
00:03:35 → 00:03:36 >> ค่ะ
00:03:36 → 00:03:40 >> ใช่เพราะฉะนั้นรีบไม่พอไม่ขยับด้วยก็คือ
00:03:40 → 00:03:43 อยู่กับที่นิ่งๆนั่งทำงานทั้งวัน
00:03:43 → 00:03:44 >> อยู่ในที่แคบๆ
00:03:44 → 00:03:45 >> ค่ะ
00:03:45 → 00:03:48 >> ไม่ค่อยเคลื่อนตัวและการกินก็ยังกินอาหาร
00:03:48 → 00:03:50 แปรรูปอีกต่างหากอ
00:03:50 → 00:03:53 >> นะซึ่งอาหารแปรรูปเนี่ยมันก็จะนำมาซึ่ง
00:03:54 → 00:03:56 โรคหลากหลายและที่สำคัญก็คือสารอาหารมัน
00:03:56 → 00:03:57 ไม่พอ
00:03:57 → 00:03:57 >> ค่ะ
00:03:57 → 00:03:58 >> นะครับ
00:03:58 → 00:03:58 >> อือฮึ
00:03:58 → 00:04:01 >> เพราะฉะนั้นปัจจัยที่ 1 ก็คือเรื่องของ
00:04:01 → 00:04:03 การรับวิตามินดีที่หลดลง
00:04:03 → 00:04:04 >> อ
00:04:04 → 00:04:06 >> ซึ่งมันก็มีงานวิจัยเนี่ยนะที่พบว่าคนที่
00:04:06 → 00:04:09 อยู่ในเมืองเนี่ยนะมีโอกาสที่จะรับ
00:04:09 → 00:04:12 วิตามินดีน้อยเนี่ยหรือขาดวิตามินดีกว่า
00:04:12 → 00:04:12 >> อ
00:04:12 → 00:04:13 >> ได้ถึง 50%
00:04:13 → 00:04:14 >> อือ
00:04:14 → 00:04:16 >> เนี่ยเราอยู่ในเมืองเนี่ยในกรุงเทพฯเนี่ย
00:04:16 → 00:04:19 คือมีโอกาสถึง 50% เราก็เลยคิดว่าเออเอ้ย
00:04:19 → 00:04:22 ที่ต่างจังหวัดเนี่ยนะเอางี้ดีกว่าภาค
00:04:22 → 00:04:25 อีสานเนี่ยเป็นภาคที่น่าจะรับแดดมากที่
00:04:25 → 00:04:25 สุดะ
00:04:25 → 00:04:27 >> อ่ามวลความร้อนคนเดียว
00:04:27 → 00:04:29 >> ก็ยังขาดวิตามินดีเหมือนกัน
00:04:29 → 00:04:30 >> ออ
00:04:30 → 00:04:33 >> อีกประมาณ 50% นั่นหมายความว่าอะไรแปลว่า
00:04:33 → 00:04:35 จริงๆปัจจัยมันไม่ได้อยู่ที่ว่าแดดมันมา
00:04:35 → 00:04:38 มั้ยมันอยู่ที่เราเอาตัวไปโดนแดดมั้ยถ้า
00:04:38 → 00:04:38 หาก
00:04:38 → 00:04:42 >> อือฮึอ่ะเข้าใจได้นะคือเอ้าแต่พอโดนแดดที
00:04:42 → 00:04:46 นึงเนี่ยคือแดดเมืองไทยมันร้อนมากกไก่
00:04:46 → 00:04:50 ล้านตัวโดนนิดนึงก็แบบโอโหแสบหิวแล้วนะ
00:04:50 → 00:04:51 ป้าจะมาอีกอ่ะ
00:04:51 → 00:04:53 >> อ่าเรากลัวไม่สวย
00:04:53 → 00:04:53 >> ใช่
00:04:53 → 00:04:56 >> คือเราไม่ได้ให้ไปโดนแดดกลางแดดตอนเที่ยน
00:04:56 → 00:05:00 อย่างงี้นิใช่มกลางวันเราให้โดนแดดแบบอ่ะ
00:05:00 → 00:05:03 สมมุติว่าตื่นเช้าขึ้นมาให้มันโดนแสงแดด
00:05:03 → 00:05:06 เบาๆบ้างแล้วก็อาจจะสัก 15 นาที 20 นาที
00:05:06 → 00:05:10 ไม่ได้ต้องแบบโอโหโดนแดดจ้ากลางแดดไปเรดอ
00:05:10 → 00:05:11 อะไรงั้นน่ะไม่ใช่งั้น
00:05:11 → 00:05:15 >> อหมอหมีเดี๋ยวนี้แดด 7:00 น.นะนึกว่า
00:05:15 → 00:05:15 เที่ยง
00:05:15 → 00:05:16 >> อ๋อ
00:05:16 → 00:05:18 >> แดดมันแรงมากอ่ะอันนี้อันนี้ด้วยความที่
00:05:18 → 00:05:21 อยู่ในในกรุงเทพฯในที่มันมีแต่ตึกบ้าน
00:05:21 → 00:05:22 ช่องมีแต่ปูน
00:05:22 → 00:05:25 >> ความอบอ้าวมันละอุอ่ะแต่ถ้าต่างจังหวัดพอ
00:05:25 → 00:05:26 ไหวนะ
00:05:26 → 00:05:30 >> ใช่ก็คือเราอาจจะต้องพยายามออกไปเจอแดด
00:05:30 → 00:05:32 นิดนึงทีนี้คนก็จะบอกว่าเอ้าเอ้ยเดี๋จะ
00:05:32 → 00:05:34 เป็นฝ้าเดี๋ยวจะเป็นมะเร็งผิวหนังอะไร
00:05:34 → 00:05:37 อย่างงี้คือถ้ามันออกไปไม่นานน่ะ 15-20
00:05:37 → 00:05:40 นาทีไม่ถึงขั้นได้ฝ้าหรอกฮะเอาจริงๆแล้ว
00:05:40 → 00:05:40 อ่ะอ
00:05:40 → 00:05:43 >> นะเพราะฉะนั้นผมว่าเราอาจจะต้องปรับการ
00:05:43 → 00:05:47 ใช้ชีวิตโดยการไปเจอแดดบ้างแต่อ่ะสมมุติ
00:05:47 → 00:05:48 ว่าเราไม่โดนแดด
00:05:48 → 00:05:52 >> ใช่มั้ฮะวิตามินดีเนี่ยมันก็มีอยู่ในพืช
00:05:52 → 00:05:56 บางชนิดพวกถั่วเหลืองอะไรพวกนี้นะครับมัน
00:05:56 → 00:05:58 เป็นวิตามินดีที่อยู่ในพืชก็จะเป็นใน
00:05:58 → 00:06:00 ฟอร์มเค้าเรียกวิตามิน D2
00:06:00 → 00:06:03 >> นะฮะส่วนวิตามิน D3 มันก็จะมีในพวกเนื้อ
00:06:03 → 00:06:07 สัตว์อะไรงี้ได้บ้างแต่ว่าเอาเป็นว่าถ้า
00:06:07 → 00:06:10 เราไม่มั่นใจเรารู้สึกว่าเอ้ยเราอาจจะ
00:06:10 → 00:06:12 กระดูกพุนหรือกระดูกบางเนี่ย
00:06:12 → 00:06:12 >> อือฮึ
00:06:12 → 00:06:14 >> เราควรจะต้องตรวจวิตามินดีก่อน
00:06:14 → 00:06:16 >> นะฮะอย่างคนอายุน้อยๆเนี่ยส่วนใหญ่เราก็
00:06:16 → 00:06:18 จะไม่ตรวจพวกมวลกระดูกหรอกอ
00:06:18 → 00:06:21 >> เพราะว่าโอกาสที่มวลกระดูกมันจะต่ำเนี่ย
00:06:21 → 00:06:23 ก็น้อยอาจจะให้ตรวจเป็นแคลเซียมกับ
00:06:23 → 00:06:25 วิตามินดีก่อนว่ามันต่ำมั้ย
00:06:25 → 00:06:25 >> อ่าฮะ
00:06:25 → 00:06:28 >> อ่าบางคนวิตามินดีนะมันสัมพันธ์กับการ
00:06:28 → 00:06:30 เรื่องการนอนด้วยคือปัจจุบันเนี่ย anti
00:06:31 → 00:06:34 agaging หรือพวกสาทลอวพวกเนี้ยนะเค้ามี
00:06:34 → 00:06:37 การไปดูเรื่องของวิตามินดีค่อนข้างเยอะ
00:06:37 → 00:06:40 >> นะเดี๋ยวนี้เขา push ขึ้นไปแบบ 40 กว่า 50
00:06:40 → 00:06:40 เลยนะ
00:06:40 → 00:06:40 >> ใช่
00:06:40 → 00:06:43 >> เออแต่ว่าเพื่อนผมเองเนี่ยเอ่อเป็นหมอหมอ
00:06:43 → 00:06:45 พลาสติกเอามาแชร์แล้วกันนะเรื่องนี้
00:06:45 → 00:06:45 >> อ
00:06:45 → 00:06:48 >> เค้าก็มีปัญหาเรื่องนอนไม่หลับ
00:06:48 → 00:06:50 >> อ่าแล้วปรากฏไปตรวจวิตามินดี
00:06:50 → 00:06:50 >> อืเป็นไงอ่ะ
00:06:50 → 00:06:54 >> ก็ประมาณ 22 23 ค่าnorอลมันมากกว่า 30
00:06:54 → 00:06:56 >> โอแต่ 223 ก็ถือว่า
00:06:56 → 00:06:58 >> ต่ำต่ำเลย
00:06:58 → 00:07:00 >> อ่ะต่ำแต่ว่ามันก็ยังมียังมี
00:07:00 → 00:07:02 >> อ่าก็คือต่ำละเอาเป็นว่าพอเวลาเค้าไปกิน
00:07:02 → 00:07:04 วิตามินดีขึ้นมาปุ๊บปรากฏเขาบอกว่าการนอน
00:07:04 → 00:07:06 เ้าดีขึ้น
00:07:06 → 00:07:08 >> อ่าเราก็ไม่รู้นะอันนี้อาจจะเป็นคือในทาง
00:07:08 → 00:07:10 การแพทย์ก็มีเค้าเรียกว่า possible
00:07:10 → 00:07:13 effect ใช่มั้ยคือเหมือนกินเข้าเข้าไป
00:07:13 → 00:07:15 แล้วได้ผลจากการกินน่ะแต่ว่าไม่ได้ผลจาก
00:07:15 → 00:07:16 ยา
00:07:16 → 00:07:16 >> อื
00:07:16 → 00:07:18 >> เข้าใจมั้ยการบางทีได้ผลจากการกินแต่ไม่
00:07:18 → 00:07:21 ได้ผลจากยานะอันนี้เค้าเรียกเฟเฟect
00:07:21 → 00:07:22 >> ก็คือ
00:07:22 → 00:07:25 >> มีความสบายใจจากการกินยาแล้วก็เลยนอนหลับ
00:07:25 → 00:07:26 ดีขึ้นอันนี้ไม่แน่ใจ
00:07:26 → 00:07:28 >> มันอาจจะสัมพันธ์กับความรู้สึกว่า
00:07:28 → 00:07:31 >> ใช่อันนี้บอกยากเอาเป็นว่าไปตรวจก่อน
00:07:31 → 00:07:34 เพราะว่าคนไทยเราเนี่ยวิตามินดีต่ำเยอะ
00:07:34 → 00:07:37 >> น่าแปลกใจตรงนี้ทั้งที่แดดบ้านเรานี่
00:07:37 → 00:07:40 >> ฝรั่งมาทีนึงนี่นอนอาบแดดกันแบบเต็มๆเลย
00:07:40 → 00:07:40 นะ
00:07:40 → 00:07:43 >> ใช่แล้วพอวิตามินดีมันต่ำเนี่ยการเอา
00:07:43 → 00:07:45 แคลเซียมเข้ากระดูกมันก็ทำไม่ได้
00:07:45 → 00:07:47 >> เพราะวิตามินดีเนี่ยมันจะเป็นตัวดักจับ
00:07:47 → 00:07:50 แคลเซียมที่อยู่ในลำไส้เอาเข้าเส้นเลือด
00:07:50 → 00:07:50 >> อ
00:07:50 → 00:07:52 >> พอเข้าเส้นเลือดเสร็จปุ๊บจากเส้นเลือดมัน
00:07:52 → 00:07:55 ถึงจะไปกระดูกถ้าเกิดว่าแคลเซียมที่เรา
00:07:55 → 00:07:57 บริโภคเข้าไปทุกวันเนี่ยอุจจาระหรืออึออก
00:07:57 → 00:08:00 ไปหมดเนี่ยมันก็จะทำให้มันเข้าสู่ร่างกาย
00:08:00 → 00:08:04 ไม่ได้อันนี้ก็คือเป็นเบสิคของเรื่อง
00:08:04 → 00:08:05 วิตามินดีก่อน
00:08:05 → 00:08:08 >> เดี๋ยวอันนี้ถามนิดนึงว่าเอ่อวิตามินดี
00:08:08 → 00:08:10 อันนี้ก็ไปตรวจมาเหมือนกันเพราะว่าเรื่อง
00:08:10 → 00:08:12 มีปัญหาเรื่องการนอน
00:08:13 → 00:08:17 เออก็แหละนั้นแหละเออก็ได้ตรวจเรื่องของ
00:08:17 → 00:08:19 เอาเอาเลือดอ่ะไปตรวจหาค่าใดๆ
00:08:19 → 00:08:20 >> อฮะทุกอย่าง
00:08:20 → 00:08:23 >> ฮอร์โมนใดๆแล้วก็มาเจอเรื่องของวิตามินดี
00:08:23 → 00:08:26 >> น้อยกว่าของเพื่อนคุณหมออีก
00:08:26 → 00:08:30 >> น้อยจนแบบว่าะเราก็ไม่ได้เป็นอ่าเค้า
00:08:30 → 00:08:32 เรียกอะไรอ่ะโอเคมันออฟฟิศเราเนี่ยกับที่
00:08:32 → 00:08:35 พักมันแค่เดินไม่ได้เดินทางต้องเจอะเจอ
00:08:35 → 00:08:38 อะไรเยอะแยะมากมายหรือถ้าไปไหนเนี่ยปึ๊บ
00:08:38 → 00:08:39 เราเสื้อคลุม
00:08:39 → 00:08:41 >> หมวกกันแดด
00:08:41 → 00:08:45 >> ใช่ใดๆโอ้โหอย่างแบบอย่างกับคนกลัวแดดเลย
00:08:45 → 00:08:46 อ่ะแบบ
00:08:46 → 00:08:48 >> เพราะว่าพอเวลามันผิวมันแสบหรืออะไรเงี้
00:08:48 → 00:08:49 รู้สึกแบบโอ้มันเนาะ
00:08:49 → 00:08:50 >> อะไรเงี้ย
00:08:50 → 00:08:53 >> พยายามโดนแดดบ้างออกจากตึกมาโดนแดดบ้าง
00:08:53 → 00:08:53 >> อื
00:08:53 → 00:08:56 >> แต่การโดนแดดของเราก็ไม่กี่นาทีแค่แบบแวบ
00:08:56 → 00:08:57 ๆ
00:08:57 → 00:08:58 >> ก็แว๊บเดียวเออ
00:08:58 → 00:08:59 >> แวบๆเดียวจากแบบ
00:08:59 → 00:09:01 >> เรียกว่าวิ่งเรียกว่าวิ่งหนีแสงกันดีกว่า
00:09:01 → 00:09:04 >> เอออะไรประมาณนั้นแต่เมื่อกี้หมอหมีบอก
00:09:04 → 00:09:07 ว่าต้องซัก 15 นาที
00:09:07 → 00:09:09 >> ใช่ 15 นาทีถึงครึ่งชั่วโมงถึงครึ่ง
00:09:09 → 00:09:14 ชั่วโมงแต่ถามว่าเมีทำคือปัจจุบันก็ไม่มี
00:09:14 → 00:09:17 ใครกล้าทำหรอกเพราะว่าคือแดดแต่ละประเทศ
00:09:17 → 00:09:19 มันก็ไม่เหมือนกันถูกม
00:09:19 → 00:09:22 >> เออแล้วก็แต่ละคนมันก็มีปัจจัยหลากหลาย
00:09:22 → 00:09:24 แต่ก็เอาเป็นว่าเราก็พยายามโดนแดดให้มาก
00:09:24 → 00:09:26 ขึ้นหรือเราอาจจะไปตรวจเราอาจจะไม่อยาก
00:09:26 → 00:09:27 โดนแดด
00:09:27 → 00:09:30 >> ใช่ป่ะเรากลัวฝ้าขึ้นเรากลัวเป็นมะเร็ง
00:09:30 → 00:09:32 เราก็ตรวจแล้วเสร็จปุ๊บถ้าเกิดเราต่ำจริง
00:09:32 → 00:09:35 ๆเราก็อาจจะใช้วิธีการบริโภคอินเอา
00:09:35 → 00:09:40 >> ใช่ทีนี้จะเลยถามหมอหมีว่าเนี่ยค่า
00:09:40 → 00:09:43 วิตามินดีของเราในปัจจุบันเนี้ยมันน้อย
00:09:43 → 00:09:45 อย่างเงี้ยแต่เมื่อก่อนน่ะมันไม่ได้ถูก
00:09:45 → 00:09:48 สะสมหรอแบบสมัยก่อนเนาะเด็กพวกเราก็วิ่ง
00:09:48 → 00:09:51 เล่นกันกลางสนามโดนแดดโดนอะไรสารพัดมัน
00:09:51 → 00:09:53 อะไรอย่างเงี้ย
00:09:53 → 00:09:55 >> มันไม่ได้แบบว่ามาช่วยอะไรในตอนนี้เลย
00:09:55 → 00:09:56 เหรอ
00:09:56 → 00:09:59 >> เออคนก็จะชอบพูดเรื่องของความการสะสม
00:09:59 → 00:10:03 >> นะคือเช่นออกกำลังกายเยอะๆแล้วอนาคตจะ
00:10:03 → 00:10:03 เจ็บ
00:10:03 → 00:10:07 >> ใช่มั้ยคือการกินเหมือนกันกินเก็บไว้เยอะ
00:10:07 → 00:10:11 ๆแล้วเดี๋ยวโตขึ้นมันจะอยู่คือของพวกนี้
00:10:11 → 00:10:14 เนี่ยนะฮะเรามันไม่เหมือนการสะสมทรัพย์นะ
00:10:14 → 00:10:17 ไม่เหมือนฝักธนาคารนะมันไม่ใช่
00:10:17 → 00:10:19 >> มันไม่ใช่วัตถุเข้าใจมั้ยอันเนี้ยให้เรา
00:10:19 → 00:10:22 คิดว่ามันเป็นผลพวงดีกว่าคือในชีวิตของ
00:10:22 → 00:10:24 มนุษย์เนี่ยมนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตเพราะ
00:10:24 → 00:10:27 ฉะนั้นมันจะค่อนข้างไดนามิ
00:10:27 → 00:10:30 >> ไดนามิก็แปลว่ามันจะมีการเปลี่ยนแปลง
00:10:30 → 00:10:31 อย่างรวดเร็ว
00:10:31 → 00:10:31 >> อือ
00:10:31 → 00:10:34 >> ตามเวลาที่ผ่านไปฉะนั้นสมมุติบอกโหเนี่ย
00:10:35 → 00:10:37 เล่นกีฬาแต่ก่อนเนี่ยเล่นบอลเยอะมากเลย
00:10:37 → 00:10:38 ตอนนี้เจ็บเข่ามั้ย
00:10:38 → 00:10:41 >> ถ้าตอนนั้นเล่นบอลเยอะแต่เล่นด้วยวิธีการ
00:10:41 → 00:10:42 ที่ถูกต้อง
00:10:42 → 00:10:42 >> อื
00:10:42 → 00:10:46 >> ไม่มีอุบัติเหตุเลยไม่บาดเจ็บเลยอย่าง
00:10:46 → 00:10:46 นั้นน่ะ
00:10:46 → 00:10:51 >> โอกาสที่มันจะทำให้ข้อเข่าเสื่อมมันก็
00:10:51 → 00:10:54 น้อยเพราะว่าถ้าผิวข้อสึกไปหรือไม่ได้รับ
00:10:54 → 00:10:57 การบาดเจ็บทำให้ผิวข้อหายไปมันก็ไม่มี
00:10:57 → 00:11:00 ปัญหาฉะนั้นมันไม่มีอะไรสะสมแต่ถ้าสมมุติ
00:11:00 → 00:11:03 ว่าเราเล่นปุ๊บต่อให้ไม่ใช่นักกีฬาต่อให้
00:11:03 → 00:11:07 เล่นไม่บ่อยแต่ดันอ่ะเล่นบอลแล้วล้มเอ็น
00:11:07 → 00:11:08 หน้าขาดไปอย่างเงี้ย
00:11:08 → 00:11:10 >> แค่เนี้ยเนี่ยก็มีโอกาสที่ข้อมันจะเสื่อม
00:11:10 → 00:11:13 แล้วเพราะฉะนั้นมันไม่มีคำว่าสะสมแล้ว
00:11:13 → 00:11:16 ปัจจุบันเนี่ยถ้าเราอายุเยอะขึ้นใช่มั้ย
00:11:16 → 00:11:18 ฮะความเสื่อมของตัวเราเองอ่ะมันมีอยู่
00:11:18 → 00:11:19 แล้ว
00:11:19 → 00:11:23 >> แล้วปัจจัยต่างๆที่พูดถึงเนี่ยมันอยู่ที่
00:11:23 → 00:11:26 การกินการนอนการใช้ชีวิตของวันนี้อยู่
00:11:26 → 00:11:27 แล้วอื
00:11:27 → 00:11:29 >> นะเพราะว่าเด็กเนี่ยต้องอย่าลืมว่ากระบวน
00:11:29 → 00:11:32 การเผาผลาญการสร้างมันมากกว่าการทำลาย
00:11:32 → 00:11:33 อยู่แล้ว
00:11:33 → 00:11:37 >> แต่ในวัยอายุเยอะเนี่ยซึ่งอายุเยอะของโดย
00:11:37 → 00:11:40 ทั่วไปทางการแพทย์เนี่ยนะฮะก็คือเกิน 30
00:11:40 → 00:11:40 ปี
00:11:40 → 00:11:41 >> โหย
00:11:41 → 00:11:45 >> ใช่การทำลายเนี่ยมันจะมากกว่าการสร้าง
00:11:45 → 00:11:46 >> 30 เองนะ
00:11:46 → 00:11:49 >> โอเดี๋ยวนี้นะฮะเราเจอโรคอะไรที่เจอใน
00:11:49 → 00:11:51 อายุน้อยเยอะขึ้น
00:11:51 → 00:11:51 >> อื
00:11:51 → 00:11:54 >> ถามว่าเพราะอะไรจริงๆอ่ะมันมีมานานแล้ว
00:11:54 → 00:11:57 แหละแต่ก่อนน่ะเราแค่ไม่ได้สนใจมันเพราะ
00:11:57 → 00:11:59 เราสนใจคนอายุเยอะก่อน
00:11:59 → 00:12:01 >> เพราะเราคิดว่าคนอายุเยอะเนี่ย
00:12:01 → 00:12:03 >> เค้าเรียกเป็นกลุ่มเปราะบาง
00:12:03 → 00:12:06 >> จึงพยายามจะหาโรคนู้นโรคนี้มีการป้องกัน
00:12:06 → 00:12:09 ทำให้เราตายช้าลงอือฮึแต่ปัจจุบันน่ะงาน
00:12:09 → 00:12:13 วิจัยมันมีมากขึ้นนะมันก็เลยทำให้เราเจอ
00:12:13 → 00:12:16 ว่ามันมีปัจจัยที่เปลี่ยนแปลงไปในอายุ
00:12:16 → 00:12:18 น้อยเยอะขึ้นอ่ะล่าสุดมีงานวิจัยเพิ่งตี
00:12:18 → 00:12:20 พิมพ์นะฮะเกี่ยวกับเรื่องของเบาหวานแต่
00:12:20 → 00:12:22 ก่อนเนี่ยเราจะตรวจเบาหวานเนี่ยนะก็คือ
00:12:22 → 00:12:24 หลังจากอายุ 35 ปีเป็นต้นไป
00:12:24 → 00:12:24 >> อื
00:12:24 → 00:12:27 >> นะฮะก็คือ 35 ปีปุ๊บไปตรวจดูดิเออ A1C ก็
00:12:27 → 00:12:31 คือดูว่ามันมีค่าน้ำตาลสะสมสูงมั้ย
00:12:31 → 00:12:35 >> ค่าน้ำตาลแรนดomมสูงมั้ยถ้าเกิดว่ามัน
00:12:35 → 00:12:37 >> สูงเราก็จะบอกว่าเป็นเบาหวานชนิดที่ 2
00:12:38 → 00:12:39 ใช่มั้ยแต่ไอ้ชนิดที่ 1 เนี่ยเราทำอะไร
00:12:39 → 00:12:41 ไม่ได้อีกแล้วเป็นกรรมพันธ์
00:12:41 → 00:12:42 >> แล้วส่วนใหญ่เป็นแต่เด็ก
00:12:42 → 00:12:45 >> นะแต่น้อยปริมาณน่ะส่วนใหญ่ชนิดที่ 2 ก็
00:12:45 → 00:12:47 คือเกิดจากความอ้วนการกินการบริโภคการ
00:12:47 → 00:12:49 อยู่การใช้ชีวิต
00:12:49 → 00:12:51 >> นะฮะซึ่งอันนี้เนี่ยล่าสุดเขาบอกว่าอายุ
00:12:51 → 00:12:55 15-35 ปีเนี่ยนะมีโอกาสที่จะเป็นเบาหวาน
00:12:55 → 00:12:56 สูงขึ้น
00:12:56 → 00:12:57 >> อื
00:12:57 → 00:12:59 >> นะประมาณ 20-30%
00:12:59 → 00:13:02 >> นะนี้จากงานวิจัยล่าสุดซึ่งเห็นมั้ยขนาด
00:13:02 → 00:13:03 เบาหวาน
00:13:03 → 00:13:05 >> ซึ่งจริงๆแล้วเนี่ยมันคือเกี่ยวข้องกับ
00:13:05 → 00:13:08 กระบวนการเผาผลาไปเกิดอายุ 15-35 ซึ่งมัน
00:13:08 → 00:13:08 เด็กมาก
00:13:08 → 00:13:10 >> ใช่แล้วระบบเผาผ่านเากำลังดีเลยอ่ะ
00:13:10 → 00:13:12 >> ถูกมั้ยซึ่งอันนี้เนี่ยก็คือถ้าเกิดเราทำ
00:13:13 → 00:13:16 วิจัยไปเรื่อยๆสมมุติเราดูค่าวิตามินดี
00:13:16 → 00:13:17 แล้วเราสามารถที่จะเก็บข้อมูลในคนอายุ
00:13:18 → 00:13:20 15-35 ได้เพราะปกติมันไม่มันไม่ตรวจไงอ
00:13:20 → 00:13:21 ค่ะ
00:13:21 → 00:13:23 >> พอไม่ตรวจอ่ะเราก็เลยทำวิจัยไม่ได้
00:13:23 → 00:13:25 >> ถูกมั้ยอยู่ดีๆเราจะเอาคนอายุ 15-35 ปี
00:13:25 → 00:13:28 เนี่ยไปตรวจวิตามินดีมันก็ใช่เรื่องถูก
00:13:28 → 00:13:29 มั้ย
00:13:29 → 00:13:31 >> แต่ถ้าเราตรวจปรากฏว่ามันอาจจะต่ำกว่าคน
00:13:31 → 00:13:32 อายุเยอะก็ได้นะ
00:13:32 → 00:13:33 >> ก็เป็นไปได้
00:13:33 → 00:13:35 >> ถูกมั้เพราะว่าไลฟ์สไตล์ของคนอายุน้อย
00:13:35 → 00:13:37 สมัยนี้คืออะไรก็นั่งเรียนอยู่ในห้องใช้
00:13:37 → 00:13:41 ชีวิตอยู่แบบในที่ปิดหมดแล้วการบริโภคอีก
00:13:41 → 00:13:43 คือก็ไม่ไปไหนอ่ะหลานผมอย่างเงี้ยอยู่แต่
00:13:43 → 00:13:44 ในบ้าน
00:13:44 → 00:13:44 >> ค่ะ
00:13:44 → 00:13:49 >> ไม่แค่นั้นกินอาหารแช่แข็งอ่ะตลอดเวลา
00:13:49 → 00:13:50 >> โอ้ไม่ออกไปทำ activity อะไร
00:13:50 → 00:13:52 >> โอไม่มีแล้ว Ultra Process Food นี่
00:13:52 → 00:13:55 ปัญหามันเยอะคือมันใช้ความร้อนสูงทีนี้ไอ
00:13:55 → 00:13:58 ไอ้สารอาหารที่มันมีคุณค่าเนี่ยมันหายไป
00:13:58 → 00:14:00 บวกกับไอ้สารบางตัวที่เขาเรียกว่าอโคีน
00:14:00 → 00:14:03 เนี่ยนะมันเป็นตัวที่ทำให้ก่อโรคต่างๆได้
00:14:03 → 00:14:06 ฉะนั้นมันทำให้กระบวนการเผ่าผ่านในร่าง
00:14:06 → 00:14:07 กายมันแย่ลง
00:14:07 → 00:14:08 >> อื
00:14:08 → 00:14:10 >> รวมถึง Activity ที่น้อยลงเช่นเรานั่ง
00:14:10 → 00:14:11 ตลอดเวลาเงี้นะ
00:14:11 → 00:14:11 >> ค่ะ
00:14:11 → 00:14:14 >> โหลดที่ลงที่ขามันก็น้อยลงโหลดที่ลงที่
00:14:14 → 00:14:17 สะโพกมันก็น้อยลงโหลดที่ไปลงที่หลังจริงๆ
00:14:17 → 00:14:20 เหมือนจะมากขึ้นแต่ว่าเราก็นั่งตลอด
00:14:20 → 00:14:22 ฉะนั้นพอโหลดมันน้อยเนี่ยสิ่งที่จะบอกก็
00:14:22 → 00:14:27 คือว่ากลไกการสร้างกระดูกอ่ะกระดูกจะแข็ง
00:14:27 → 00:14:30 ได้ต้องมีน้ำหนักไปลงถ้าน้ำหนักไม่ลง
00:14:30 → 00:14:32 กระดูกมันจะบางลง
00:14:32 → 00:14:32 >> อื
00:14:32 → 00:14:35 >> อันนี้คือกฎเค้าเรียกฟlaเมื่อไหร่ก็ตาม
00:14:35 → 00:14:39 ที่เราลงน้ำหนักน้อยจะทำให้กระดูกอ่ะมัน
00:14:39 → 00:14:42 บางเ้านึงบอกว่าเราจะเพิ่มความแข็งแรงของ
00:14:42 → 00:14:44 กระดูกได้ยังไงเราต้องไปเล่นเวทไงอ
00:14:44 → 00:14:47 >> อ่าพอเล่นเวทแต่ไม่ได้เล่นแบบหนักโคตรเลย
00:14:47 → 00:14:50 นะเพราะบางทีหนักเกินไปมันไปทำลายเนื้อ
00:14:50 → 00:14:51 เยื่ออ่อนของเราแทน
00:14:51 → 00:14:54 >> ใช่มั้ยเช่นไปยกเวทเยอะๆหมอนรอกกระดูอาจ
00:14:54 → 00:14:55 จะปิ้นได้อะไรงี้
00:14:55 → 00:14:55 >> อือฮึ
00:14:55 → 00:14:57 >> เราก็ยกแต่พอดี
00:14:57 → 00:14:59 >> นะการวิ่งเนี่ยก็คือทำให้โรนมันลงเหมือน
00:14:59 → 00:15:01 กันใช่มั้การออกกำลังกายง่ายๆเนี่ยทำให้
00:15:02 → 00:15:04 น้ำหนักมันลงพอน้ำหนักมันลงปุ๊บก็จะทำให้
00:15:04 → 00:15:06 กระดูกมันแข็งแรงขึ้นเพราะฉะนั้นจาก
00:15:06 → 00:15:09 ปัจจัยที่พูดมาเนี่ยเรื่องของการ
00:15:09 → 00:15:12 >> บริโภคไม่โดนแสงแดดและการใช้ชีวิต
00:15:12 → 00:15:15 >> เป็นแบบไลฟ์สไตล์ที่เป็นนั่งตลอดเวลาแล้ว
00:15:15 → 00:15:18 ก็ไม่ได้มีการใช้งานเนี่ย 3 ปัจจัยนี่
00:15:18 → 00:15:21 แหละทำให้ปัจจุบันเนี้ยมีโอกาสที่วัยรุ่น
00:15:21 → 00:15:24 หรือวัยทำงานเนี่ยมีโอกาสที่จะเป็นกระดูก
00:15:24 → 00:15:25 พรุนมากขึ้น
00:15:26 → 00:15:29 >> แต่อันเนี้ต้องบอกอย่างนึงเตือนสังคมนะ
00:15:29 → 00:15:31 >> การที่เราจะไปตรวจว่าเราเป็นหรือไม่เป็น
00:15:31 → 00:15:32 เนี่ยเพราะว่าเนี่ยวันนี้หมอหมีพูดปุ๊บ
00:15:32 → 00:15:34 เนี่ยเดี๋อ่ะคราวนี้ก็เริ่มนอยเลยอ่ะ
00:15:34 → 00:15:38 >> นอยเลยคราวอ่าอายุสัก 25 เอาอยากตรวจมวล
00:15:38 → 00:15:39 กระดูกแล้วไง
00:15:39 → 00:15:42 >> ปรากฏเดินไปตามห้างเห็นที่วัดข้อมือเอา
00:15:42 → 00:15:43 มือเสียบเข้าไปเงี้ย
00:15:43 → 00:15:45 >> หรือที่วัดข้อเท้าเคยเห็นมั้ยเอาเท้าส้น
00:15:45 → 00:15:47 เท้าวางลงไปอ่ะ
00:15:47 → 00:15:50 >> อ่าปรากฏว่าตรวจปุ๊บไอ้พวกเนี้ย
00:15:50 → 00:15:53 >> บอกเลยไม่แม่นยำนะ
00:15:53 → 00:15:54 >> อ๋อหรอ
00:15:54 → 00:15:56 >> จำไว้เลยนะฮะใครเจอเครื่องพวกนี้เดินหนี
00:15:56 → 00:15:57 อย่างเดียว
00:15:57 → 00:15:58 >> เออบางทีก็เคยสงสัยเหมือนกันนะแค่
00:15:58 → 00:15:59 >> เดินหนีอย่างเดียว
00:15:59 → 00:16:02 >> แค่การวางเท้าเอามือจับไอ้ที่ด้ามจับที่
00:16:02 → 00:16:04 มันเป็นเหมือนแผ่นเหล็กอะไรสักอย่างนึง
00:16:04 → 00:16:07 อ่ะอันนั้นอันนั้นคือเขาจะตรวจเรื่องของ
00:16:07 → 00:16:10 แมสคือกล้ามเนื้ออ่าซึ่งอันนี้มันไม่
00:16:10 → 00:16:12 เกี่ยวกันคือเนื้ออน
00:16:12 → 00:16:15 >> มันมีเครื่องที่ใช้ตรวจมวลกระดูกอยู่หลาก
00:16:15 → 00:16:16 หลาย
00:16:16 → 00:16:16 >> อื
00:16:16 → 00:16:18 >> ซึ่งจริงๆแล้วเนี่ย
00:16:18 → 00:16:22 >> แต่ก่อนเ่ะเขาใช้เป็นสeningก็คือตรวจปุ๊บ
00:16:22 → 00:16:25 เนี่ยถ้ามันมีปัญหาค่อยไปตรวจเครื่องใหญ่
00:16:25 → 00:16:28 แต่จริงๆอ่ะมันมีเครื่องตรวจเเรียกตรวจ
00:16:28 → 00:16:31 BMD นะหรือเรียก Dexa Scan คือมันจะ
00:16:31 → 00:16:35 เป็นเครื่อง Xray ในห้อง Xray ใหญ่ๆเลยนะ
00:16:35 → 00:16:36 ฮะอันหน้าตรวจจริงจัง
00:16:36 → 00:16:36 >> อือ
00:16:36 → 00:16:38 >> นะฮะแต่ราคาก็จะสูงหน่อยอาจจะ 2-3,000
00:16:38 → 00:16:42 แล้วแต่ที่นะฮะซึ่งอันนั้นน่ะค่อนข้าง
00:16:42 → 00:16:44 แม่นยำเ้าจะตรวจที่สะโพกกับที่หลัง
00:16:44 → 00:16:45 >> อื
00:16:45 → 00:16:48 >> แต่ปัญหาเนี่ยคนเ้าเอาเครื่องสกรีนิ่ง
00:16:48 → 00:16:51 สมมุติวันนี้ผมจะขายแคลเซียมผมไม่ได้ว่า
00:16:51 → 00:16:55 อะไรใครนะปึ๊บผมก็เอาเครื่องนี้มาตั้ง
00:16:55 → 00:16:55 >> อ่าาฮะ
00:16:55 → 00:16:58 >> สมมุติว่าตรวจไปเนี่ยสมมุติวันนี้ผมเจอ
00:16:58 → 00:17:02 50% ที่กระดูกมันดูเหมือนจะพรุนจาก
00:17:02 → 00:17:05 เครื่องนี้ก็ขายแคลเซียมได้
00:17:05 → 00:17:05 >> เสริมแคลเซียมได้
00:17:05 → 00:17:06 >> อันนี้พูดตรงๆเลย
00:17:06 → 00:17:10 >> ถูกป่ะล่ะฉะนั้นถ้าตั้งใจจะตรวจสกรีนนี่
00:17:10 → 00:17:13 จริงๆก็อย่าขายแคลเซียมข้างดิ
00:17:13 → 00:17:14 >> อื
00:17:14 → 00:17:17 >> อ่าถูกมั้ยที่สำคัญนะหนักไปกว่านั้นคืออ
00:17:17 → 00:17:22 >> บ้านเราอ่ะเป็นบ้านที่ตกใจง่ายตกใจง่ายไง
00:17:22 → 00:17:25 สมมุติว่าตรวจไปเนี่ยมันเคยมีเด็กอายุ 17
00:17:25 → 00:17:29 ตรวจมาปุ๊บเนี่ยค่า Normal ของมวลกระดูก
00:17:29 → 00:17:32 คนเราอ่ะไม่ควรจะต่ำกว่า -1 นะ
00:17:32 → 00:17:32 >> ค่ะ
00:17:32 → 00:17:35 >> ถ้ากระดูกพรุนก็คือต่ำกว่า -2.5 5 ปรากฏ
00:17:35 → 00:17:38 เด็กผู้ชายคนนั้นนะเด็กผู้ชายอายุ 17 ปี
00:17:38 → 00:17:40 เนี่ยตัวเรามา -7
00:17:40 → 00:17:42 >> อ้าติดลบด้วยอ่ะไม่ควรต่ำกว่า 1 เออ
00:17:43 → 00:17:47 >> พี่คือขนาดแหมอาม่าอายุ 85
00:17:47 → 00:17:48 >> ยังไม่ขนาดนี้
00:17:49 → 00:17:51 >> -3 นี่ก็โอ้โหอย่างหนักแล้ว
00:17:51 → 00:17:51 >> เออ
00:17:51 → 00:17:53 >> -7 เนี่ยเครื่อง error แน่ๆ
00:17:53 → 00:17:55 >> อายุ 17 เค้าตั้งค่าเครื่องได้มั้อ่ะ
00:17:55 → 00:17:57 >> ผมไม่รู้เหมือนกันแต่ว่าเครื่องมันเอ๋อ
00:17:57 → 00:17:58 แน่นอน
00:17:58 → 00:18:01 >> คือบางทีพอเราตรวจดูเนี่ย
00:18:01 → 00:18:04 >> คือมันต้องมันต้องมันต้องมีความเข้าใจ
00:18:04 → 00:18:09 ระดับนึงคือโฆษณาขายของสมัยเนี้ยไม่ว่าจะ
00:18:09 → 00:18:11 ไปที่ไหนเราจะเห็นมันมีแต่โฆษณาเต็มไปหมด
00:18:11 → 00:18:11 >> ค่ะ
00:18:11 → 00:18:15 >> ซึ่งบางทีเราแยกโฆษณากับความจริงออกจาก
00:18:15 → 00:18:17 กันได้ยากเพราะว่าพอมันเป็นเรื่องของ
00:18:17 → 00:18:20 สุขภาพปุ๊บเนี่ยคนมันก็จะเชื่อไปหมดอ
00:18:20 → 00:18:23 >> เพราะว่าคนก็จะรู้สึกว่าเรื่องของสุขภาพ
00:18:23 → 00:18:24 เราไม่เข้าใจ
00:18:24 → 00:18:24 >> อ
00:18:24 → 00:18:26 >> ฉะนั้นเราต้องใช้ความเชื่อไม่ใช่เลย
00:18:27 → 00:18:27 >> อื
00:18:27 → 00:18:29 >> ตรงกันข้ามเลยนะเรื่องของสุขภาพถ้าไม่
00:18:29 → 00:18:31 เข้าใจก็ต้องอย่าเชื่อ
00:18:31 → 00:18:31 >> อือ
00:18:31 → 00:18:35 >> จำไว้เลยคือจริงๆคนไทยพี่ลองคิดดีๆนะคน
00:18:35 → 00:18:41 ไทยส่วนใหญ่ไม่เข้าใจเชื่อไปก่อนผิดอือฮึ
00:18:41 → 00:18:43 >> จำไว้เลยว่าถ้าไม่เข้าใจจงอย่าเชื่อและ
00:18:43 → 00:18:45 อย่าเชื่อไม่พอต้องอย่าบริโภคสิ่งนั้น
00:18:45 → 00:18:45 ด้วย
00:18:46 → 00:18:47 >> อ่าหาข้อมูลก่อน
00:18:47 → 00:18:49 >> ถูกต้องเพราะฉะนั้นเอ่อเด็กคนนั้นน่ะพอมา
00:18:49 → 00:18:51 ตรวจอ่ะ Normal เลย
00:18:51 → 00:18:52 >> ปกติทั่วไป
00:18:52 → 00:18:54 >> ปกติเลยคือยังไม่ถึง -1 เลยอ
00:18:54 → 00:19:01 >> อ่าสูงกว่า -1 อีกแล้วก็เคยมีอายุ 48 50
00:19:01 → 00:19:03 30 กว่ามาตรวจ
00:19:03 → 00:19:06 >> ค่ะเครื่องเนี้ยแล้วก็เอามา -2 มั่ง -2.5
00:19:06 → 00:19:09 มั้งเพตจริงๆ normal คำถามคือกลายเป็นว่า
00:19:09 → 00:19:12 การตรวจสรีนingอ่ะออฮะ
00:19:12 → 00:19:15 >> ไปใช้ตรวจกับคนทั่วไปปกติสรีนing่ะสมมุติ
00:19:15 → 00:19:17 ว่าวันเนี้นะพี่จะไปตรวจว่าพี่เป็นเบา
00:19:17 → 00:19:20 หวานมั้ยพี่ควรจะเป็นยังไงพี่ควรจะต้องมี
00:19:20 → 00:19:21 อาการฉี่บ่อย
00:19:21 → 00:19:22 >> อ๋อ
00:19:22 → 00:19:23 >> พี่ควรต้องมีการอะไรสักอย่างนึง
00:19:23 → 00:19:24 >> ต้องมีอะไรถึงถึงไปตรวจ
00:19:24 → 00:19:26 >> เออสักอย่างนึงอ่ะถึงจะไปตรวจถูกมั้ย
00:19:26 → 00:19:29 >> เว้นสแต่ว่าพี่ตรวจประจำปี
00:19:29 → 00:19:32 >> ใช่ซึ่งการตรวจประจำปีอ่ะมันก็ต้องดูอีก
00:19:32 → 00:19:35 ว่ามันมีความน่าจะเป็นหรือเปล่าที่จะเป็น
00:19:35 → 00:19:37 เช่นวันนี้พี่คงจะไม่ได้ไปตรวจเรื่องโรค
00:19:37 → 00:19:39 แพ้ภูมิเป็นสรีนิ่ง
00:19:39 → 00:19:39 >> อ่าฮะ
00:19:39 → 00:19:42 >> เว้นแต่ว่าพี่จะมีอาการเจ็บข้อเจ็บไปเจ็บ
00:19:42 → 00:19:45 มาใช่ป่ะแล้วก็ตอนเช้าเป็นอยู่ชั่วโมงนึง
00:19:45 → 00:19:47 ครึ่งชั่วโมงอะไรเงี้ยพี่อาจจะค่อยตรวจ
00:19:47 → 00:19:49 ระยะเวลานึงและดูผิดปกติจริงๆ
00:19:49 → 00:19:51 >> ถูกมั้ยคือถ้าไม่มีความผิดปกติอยู่ดีพี่
00:19:51 → 00:19:53 จะไปตรวจสกรีนิ่งทำไม
00:19:53 → 00:19:54 >> ไม่ไม่ไปอ่ะ
00:19:54 → 00:19:57 >> อ่าแต่ประเทศนี้ตามห้างนะเห็นเลยชัดๆเลย
00:19:57 → 00:20:00 นะตัวมวงกระดูกอ่ะมีแน่ๆไอ้ตัวสรีนิ่งตัว
00:20:01 → 00:20:01 เนี้ยซึ่ง
00:20:02 → 00:20:02 >> อ
00:20:02 → 00:20:04 >> เห็นเด็กอายุ 17 เดินเข้ามาไม่ควรตรวจ
00:20:04 → 00:20:05 อยู่แล้ว
00:20:05 → 00:20:07 >> ไม่อันนี้คือเค้าไปตรวจมาแล้วเสร็จปุ๊บ
00:20:07 → 00:20:10 เ้ารู้ว่ามันอ่ะมีแคลเซียมเสริมมาหรือ
00:20:10 → 00:20:10 อะไรอย่างเงี้ย
00:20:10 → 00:20:12 >> อ้าเค้าก็ซื้อแคลเซียมมาแล้วเค้าก็มาหา
00:20:12 → 00:20:13 เราแล้วก็บอกว่าเออเนี่ยคุณหมอผมจะตาย
00:20:13 → 00:20:14 มั้ย
00:20:14 → 00:20:15 >> เฮ้ย
00:20:15 → 00:20:16 >> ก็ลบ 7
00:20:16 → 00:20:16 >> อ๋อ
00:20:16 → 00:20:17 >> เอ้ยพี่เข้าใจป่ะคือ
00:20:17 → 00:20:19 >> ออคือความกังวลมันเกิดและ
00:20:19 → 00:20:22 >> โอ้โหคือกลายเป็นว่าการตรวจเนี่ยแทนที่จะ
00:20:22 → 00:20:23 ทำให้เราสบายใจ
00:20:23 → 00:20:24 >> ค่ะ
00:20:24 → 00:20:25 >> กลายเป็นทำให้เราทุกข์ใจ
00:20:25 → 00:20:28 >> แล้วพอตรวจออกมา -7 ปุ๊บคราวนี้ก็ผวากัน
00:20:28 → 00:20:29 หมดเลยทุกคน
00:20:29 → 00:20:32 >> ก็คือผู้ตรวจเองเนี่ยก็ไม่ได้มีความรู้
00:20:32 → 00:20:33 มากนัก
00:20:33 → 00:20:37 >> ก็เจ้าเจ้าหน้าที่ทั่วไปงานรจึงทำให้อื
00:20:37 → 00:20:41 >> เค้าพารานอยแล้วคนไข้ก็คือจากที่ไม่ควรจะ
00:20:41 → 00:20:43 ต้องตรวจด้วยซ้ำอ่ะแล้วพอไปตรวจก็ได้ความ
00:20:43 → 00:20:47 ทุกข์ไปแถมมาเสียตังค์ค่าตรวจ BMD
00:20:47 → 00:20:48 >> ในโรงพยาบาลอีก
00:20:48 → 00:20:49 >> เออ
00:20:49 → 00:20:51 >> เสียไปอีก 4-5,000 จากคนธรรมดาไปเดินเล่น
00:20:51 → 00:20:53 ที่ห้างไปกินข้าวอ่ะ
00:20:53 → 00:20:55 >> ซึ่งไม่ควรจะต้องมาเสียอะไรแบบนี้แหละเออ
00:20:55 → 00:20:59 เออใช่มั้คือมันอีกอันนึงที่เจอบ่อยนะก็
00:20:59 → 00:21:00 คืออ
00:21:00 → 00:21:04 >> ไปห้างแล้วก็ตรวจเท้า
00:21:04 → 00:21:06 มันจะมีเครื่องพิมพ์เท้าอ่ะเครื่องตรวจ
00:21:06 → 00:21:10 แบบเอ้ยคนนี้เท้าแบนคนนี้เท้าโก่งคนนี้
00:21:10 → 00:21:11 เท้าเป็นอย่างงั้นอย่างงี้
00:21:11 → 00:21:13 >> ตรวจเสร็จปุ๊บก็เอ้ยอันเนี้ยต้องตัดแผ่น
00:21:13 → 00:21:14 ลองนะ
00:21:14 → 00:21:15 >> อื
00:21:15 → 00:21:17 >> มันเจออย่างงี้ประจำผมต้องบอกอย่างงี้ถ้า
00:21:17 → 00:21:21 เราจะตรวจอะไรอ่ะเราต้องมี
00:21:22 → 00:21:24 ความน่าจะเป็นสักนิดนึงที่มันจะเป็นโรค
00:21:24 → 00:21:25 นั้นหรือเปล่า
00:21:25 → 00:21:27 >> นะอย่างแพ็คเกจในการตรวจร่างกายในโรง
00:21:27 → 00:21:30 พยาบาลเดี๋ยวเนี้ยมันก็จะมีมวลกระดูกเข้า
00:21:30 → 00:21:32 ไปด้วยค่อนข้างเยอะซึ่ง
00:21:32 → 00:21:34 >> อย่างเอาจริงจริงๆนะอย่างผมเนี่ยผู้ชาย
00:21:34 → 00:21:37 ใช่ 40 กว่าปีจริงๆก็ยังไม่ค่อยน่าตรวจ
00:21:37 → 00:21:39 เท่าไหร่ไม่รู้จะตรวจไปทำไมผมเห็นก็ตรวจ
00:21:39 → 00:21:41 อยู่ในแพ็คเกจแพ็คใหญ่เนี่ยต้องคิดดีๆนะ
00:21:41 → 00:21:45 บางทีถ้าตรวจแล้วมันไม่ได้มีความน่าจะ
00:21:45 → 00:21:47 เป็นที่เป็นเลยอ่ะแต่อยู่ดีๆมันเป็นน่ะ
00:21:47 → 00:21:50 คราวนี้เราจะต้องไปตรวจจนกว่ามันจะปกติ
00:21:50 → 00:21:51 อีกอือ
00:21:51 → 00:21:53 >> ฮึเอาความแน่ใจว่าอ่าซึ่งอันนี้มันมันทำ
00:21:53 → 00:21:56 ให้เราลำบากขึ้นเพราะฉะนั้นจากที่พูดไป
00:21:56 → 00:21:58 แล้วเนี่ยนะฮะปัจจัย 3-4 อย่างที่พูดไป
00:21:58 → 00:22:03 แล้วเนี่ยว่าอาจจะทำให้เราเนี่ยมีกระดูก
00:22:03 → 00:22:05 ที่มันพรุนหรือบางลงได้
00:22:05 → 00:22:05 >> ค่ะ
00:22:05 → 00:22:08 >> นอกจากนั้นจริงๆมันมีอีกอันนึงนะฮะคือคน
00:22:08 → 00:22:09 ท้อง
00:22:09 → 00:22:09 >> อ๋อ
00:22:09 → 00:22:12 >> คนที่ท้องแล้วเพิ่งคลอดลูกเนี่ย
00:22:12 → 00:22:15 >> อันนี้สามารถที่จะทำให้มวลกระดูกมัน
00:22:15 → 00:22:15 >> บาง
00:22:15 → 00:22:18 >> บางหรือพรุนเลยนะได้ประมาณ 6 เดือนหลัง
00:22:18 → 00:22:19 คลอด
00:22:19 → 00:22:19 >> อื
00:22:19 → 00:22:22 >> เพราะฉะนั้น 6 เดือนหลังคลอดจริงๆแล้วอ่ะ
00:22:22 → 00:22:24 นะไม่ต้องตรวจเพราะว่ามันโอกาสมันบางมัน
00:22:24 → 00:22:27 สูงหรือพุนมันสูงเพราะฉะนั้นปกติเราไม่
00:22:27 → 00:22:28 ได้รักษาอยู่แล้ว
00:22:28 → 00:22:28 >> อฮ
00:22:28 → 00:22:30 >> สมมุติถ้าเราไปตรวจตอนหลังคลอดปุ๊บเนี่ย
00:22:30 → 00:22:34 เราอาจจะต้องไปกินยาลดการกระดูกฉีดยานู่น
00:22:34 → 00:22:38 นี่นั่นทั้งๆจริงๆแล้วเนี่ยเรารอ 6 เดือน
00:22:38 → 00:22:40 กระบวนการในร่างกายมันก็จะกลับมา
00:22:40 → 00:22:41 >> เป็นปกติได้
00:22:41 → 00:22:42 >> อ๋อ
00:22:42 → 00:22:43 >> เข้าใจมั้ยครับเพราะฉะนั้นอันนี้ก็ต้องก็
00:22:43 → 00:22:45 ต้องระมัดระวังคือ
00:22:45 → 00:22:48 >> การตรวจหรือการกังวลเรื่องของกระดูกปูน
00:22:48 → 00:22:49 กระดูกบางเนี่ย
00:22:50 → 00:22:52 >> ผมว่าเราอย่าเพิ่งไปทำอะไรให้มันเยอะเกิน
00:22:52 → 00:22:53 กว่าที่ควรจะเป็น
00:22:53 → 00:22:53 >> อื
00:22:53 → 00:22:56 >> นะฮะตรวจก่อนค่อยกินด้วยนะพวกซื้อ
00:22:56 → 00:23:00 แคลเซียมวิตามินดีกินยาลดการสลายเข้าไป
00:23:00 → 00:23:04 โรงพยาบาลบางนิดหน่อยฉีดละพวกนี้ไม่
00:23:04 → 00:23:06 จำเป็นนะเราไม่จำเป็นต้องไปป้องกันแบบ
00:23:06 → 00:23:07 นั้น
00:23:07 → 00:23:11 >> แล้วเลือกวิธีการที่ไม่ต้องเอาสารอะไร
00:23:11 → 00:23:14 เข้าไปในร่างกายก่อนดีที่สุดเช่นโดนแดด
00:23:14 → 00:23:17 บ้างออกกำลังกายเพิ่มขึ้น
00:23:17 → 00:23:17 >> อื
00:23:17 → 00:23:19 >> นะแล้วก็จากที่เรากินแต่อาหารที่มันไม่มี
00:23:20 → 00:23:22 ประโยชน์เราก็หันไปกินอาหารที่มันปรุงสุก
00:23:22 → 00:23:26 แล้วก็กินอาหารที่มีประโยชน์กินผักผลไม้
00:23:26 → 00:23:28 กินเนื้อสัตว์ให้มันเหมาะสมอ
00:23:28 → 00:23:32 >> สิ่งพวกนี้แหละจะทำให้วัยรุ่นและวัยทำงาน
00:23:32 → 00:23:34 ในประเทศเราเนี่ยมีสุขภาพที่ดีขึ้น
00:23:35 → 00:23:38 >> นะผมว่าการปรับการใช้ชีวิตไม่ต้องเป็นคน
00:23:38 → 00:23:40 ออฟฟิศมากจนเกินไป
00:23:40 → 00:23:42 >> ผมว่าอันเนี้ยอาจจะช่วยเรื่องของสุขภาพ
00:23:42 → 00:23:46 เราได้ถามว่าทำไมสมัยก่อนยุคเราเด็กๆอ่ะ
00:23:46 → 00:23:47 ไม่เห็นจะมีใครมาพูดถึงเรื่องกระดูกพุน
00:23:48 → 00:23:48 กระดูกบางเลย
00:23:48 → 00:23:50 >> ไม่มีไม่มีป
00:23:50 → 00:23:51 >> ใช้ชีวิตปกติว่า
00:23:51 → 00:23:53 >> ไลฟ์สไตล์สมัยก่อนคอมก็ยังไม่มีเลย
00:23:53 → 00:23:54 คอมพิวเตอร์มาปี 2000 น่ะ
00:23:55 → 00:23:56 >> วิ่งกันข้างนอกอย่างเดียวอ่ะ
00:23:56 → 00:23:58 >> อ่ายุคแต่ก่อนเราเนี่ยนะพิมพ์ดี่กันทั้ง
00:23:58 → 00:23:59 วันน่ะ
00:23:59 → 00:24:02 >> ขับนิ้วแล้วถามว่ามีมั้ยมานั่งมองพิมพ์
00:24:02 → 00:24:05 ดีดทั้งวันสมัยก่อนแล้วจะมองทำไมอ่ะแต่
00:24:05 → 00:24:07 ไอ้คอมเนี่ยไม่เหมือนกันคอมี่มันนั่งมอง
00:24:07 → 00:24:07 ทั้งวันเลย
00:24:07 → 00:24:09 >> มันมีจอมันมีภาพมันมีอะไรถูก
00:24:09 → 00:24:11 >> ถูกมั้เพราะฉะนั้นอันเนี้ยเป็นอะไรที่เรา
00:24:11 → 00:24:13 ว่าต้อง
00:24:13 → 00:24:17 ค่อยๆนั่งคิดกันนะฮะวัยรุ่นวัยทำงานถ้า
00:24:17 → 00:24:19 เราอยากมีสุขภาพที่ดี
00:24:19 → 00:24:23 >> เราต้องใช้ชีวิตแบบที่จะทำให้สุขภาพเราดี
00:24:23 → 00:24:23 ด้วย
00:24:23 → 00:24:24 >> ค่ะ
00:24:24 → 00:24:25 >> กิน
00:24:25 → 00:24:29 >> นอนพักผ่อนออกกำลังกายอย่างเหมาะสมจะทำ
00:24:29 → 00:24:31 ให้โอกาสการเป็นกระดูกพุนและกระดูกบางเรา
00:24:31 → 00:24:32 ลดลงแน่นอนครับ
00:24:32 → 00:24:34 >> อือฮึก็ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเอาอย่าเพิ่ง
00:24:34 → 00:24:37 ไปเสริมนะคะยังอยู่ในวัยที่แบบร่างกายยัง
00:24:37 → 00:24:40 ปรับอะไรขึ้นมาได้อยู่นะคะอ่าขอบคุณหมอ
00:24:40 → 00:24:43 หมีค่ะที่มาร่วมพูดคุยในการขอบคุณค่ะ
00:24:43 → 00:24:44 สวัสดีค่ะ
00:24:44 → 00:24:46 >> หมดเวลาแล้วค่ะคุณผู้ฟังพบกันใหม่ครั้ง
00:24:46 → 00:24:49 หน้ากับรายการโรงหมอทาง Thai PBS
00:24:49 → 00:24:52 Podcast ค่ะวันนี้ลาไปก่อนสวัสดีค่ะ
00:24:52 → 00:24:55 >> This is Thai PBS Podcast
00:24:55 → 00:24:57 >> การตรวจไขมันในเลือดนอกจากค่าคอเลสเตอรอล
00:24:57 → 00:24:59 ต้องดูค่าอะไรอีกบ้างทำไมเป็นภัยเงียบต่อ
00:24:59 → 00:25:02 ร่างกายเกณฑ์ไม่ควรเกินเท่าไหร่นายแพทย์
00:25:02 → 00:25:04 นิธิวัฒศรีกาญจนวัตรอยุรแพทย์โรงพยาบาล
00:25:04 → 00:25:07 World Medical มาเล่าให้ฟังครับ
00:25:07 → 00:25:10 คำว่าไขมันในเลือดสูงเนาะอันนี้มันจะเป็น
00:25:10 → 00:25:13 คำรวมๆต้องบอกว่าเวลาเราตรวจไขมันเนี่ยนะ
00:25:13 → 00:25:17 ครับเราจะได้ผลตรวจออกมา 4 ค่านะครับก็
00:25:17 → 00:25:20 คือคอเลสเตอรอลรวมนะครับไตรกลิเซอรดนะ
00:25:20 → 00:25:23 ครับ HDL หรือว่าภาษาไทยจะเรียกว่าไขมัน
00:25:23 → 00:25:26 ดีนะครับ LDL หรือภาษาไทยเรียกว่าไขมัน
00:25:26 → 00:25:29 เลว 4 ค่าเนี้ยนะครับรวมกันแล้วก็เรียก
00:25:29 → 00:25:32 ว่าเป็นผลไขมันนะครับแต่ว่าทั้ง 4 ค่า
00:25:32 → 00:25:34 เนี้ยนะครับก็จะมีไตรกรซอไรด์ที่ไม่ใช่
00:25:34 → 00:25:37 คอเลสเตอรอลทีเนี้ยเวลาที่เราเจอไขมันใน
00:25:37 → 00:25:40 เลือดสูงนะครับจริงๆแล้วประเด็นความน่า
00:25:40 → 00:25:44 กลัวคือมันเป็นภัยเงียบคนส่วนใหญ่เวลา
00:25:44 → 00:25:46 เป็นไขมันในเลือดสูงเนี่ยไม่ได้มีอาการ
00:25:46 → 00:25:49 ชัดเจนนะครับแต่ว่าไขมันในหลอดเลือดเรา
00:25:49 → 00:25:51 เนี่ยมันสามารถที่จะค่อยๆเกาะผนังหลอด
00:25:51 → 00:25:54 เลือดแล้วก็สุดท้ายเนี่ยนะครับวันดีคืนดี
00:25:54 → 00:25:57 นะครับตะกรันไขมันต่างๆเนี่ยที่มันมาจาก
00:25:57 → 00:26:00 ไขมันในเลือดที่สูงอยู่นานเรื้อรังเนี่ย
00:26:00 → 00:26:02 นะเมื่อมันไปเจอการอักเสบเมื่อมันไปเจอ
00:26:02 → 00:26:04 ปัจจัยกระตุ้นเนี่ยวันดีคืนดีแต่การแขน
00:26:04 → 00:26:07 มันก็อาจจะแตกกลายเป็นว่ามันก็จะเรียก
00:26:07 → 00:26:09 ลิ่มเลือดนะครับเรียกเกล็ดเลือดนะครับไป
00:26:09 → 00:26:11 สร้างลิ่มเลือดแล้วก็อุดันเส้นเลือดได้
00:26:11 → 00:26:14 ซึ่งเวลาที่ไปอุดตันเส้นเลือดนี่แหละนะ
00:26:14 → 00:26:17 ครับก็เป็นที่มาของการเกิดโรคหลักๆอย่าง
00:26:17 → 00:26:19 เช่นโรคหลอดเลือดหัวใจนะครับโรคหลอดเลือด
00:26:19 → 00:26:23 สมองนะครับซึ่งบางคนเนี่ยนะฮะกว่าจะรู้
00:26:23 → 00:26:25 ว่าเรามีภาวะไขมันในเลือดสูงนะฮโดยเฉพาะ
00:26:25 → 00:26:28 คนที่ไม่ได้ตรวจสุขภาพประจำปีจนเรารู้ตัว
00:26:28 → 00:26:31 เองอยู่แล้วเนี่ยนะครับกว่าจะไปเจอเนี่ย
00:26:31 → 00:26:34 บางทีก็จะเป็นภาวะแทรกซ้อนของไขมันใน
00:26:34 → 00:26:36 เลือดสูงไปแล้วก็คือไปเจอตอนที่เรากลาย
00:26:36 → 00:26:39 เป็นโรคหัวใจหรือเรากลายเป็นโรคหลอดเลือด
00:26:39 → 00:26:41 สมองไปแล้วเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ
00:26:41 → 00:26:45 ต้นๆเลยด้วยทีเนี้ยถ้าตามrepอร์ตผลตรวจ
00:26:45 → 00:26:47 สุขภาพเนี่ยนะครับเกณฑ์ปกติเนี่ยเก็จะ
00:26:47 → 00:26:50 ตั้งไว้อ่าในค่าต่างๆก็คือคอเลสเตอรอลรวม
00:26:50 → 00:26:53 นะจะไม่ให้เกิน 200 แล้วก็ไตรกลิเซอรดนะ
00:26:54 → 00:26:57 ครับก็ไม่อยากให้เกิน 150 ส่วน HDL นะ
00:26:57 → 00:27:01 ครับในผู้ชายนะครับก็ควรจะมากกว่า 40 และ
00:27:01 → 00:27:03 ถ้าในผู้หญิงก็ควรจะเกิน 50 ขึ้นไป
00:27:03 → 00:27:06 อันเนี้ก็ต้องบอกว่าเป็นเกณฑ์ตามมาตรฐาน
00:27:06 → 00:27:08 ก็คือถ้าเกิดว่าไม่ได้อยู่ในเกณฑ์เนี้ย
00:27:08 → 00:27:11 >> ก็เหมือนเป็นการalิtเราแล้วว่าร่างกายเรา
00:27:11 → 00:27:14 เนี่ยควรมีการพัฒนาเนาะนะครับให้สุขภาพไข
00:27:14 → 00:27:17 มันในเลือดเราเนี่ยดีขึ้นเพื่อให้เราลด
00:27:17 → 00:27:20 โอกาสที่จะเกิดภาวะแทรกซ้อนนะไตรกรซาย
00:27:20 → 00:27:23 เนี่ยมันเป็นไขมันก็จริงแต่ว่าจริงๆแล้ว
00:27:23 → 00:27:25 เนี่ยส่วนที่ทำให้ไตรกลีซรายขึ้นเยอะ
00:27:25 → 00:27:28 เนี่ยนะครับมันมาจากคาร์โบไฮเดรตมันมาจาก
00:27:28 → 00:27:31 การกินข้าวแป้งน้ำตาลโดยเฉพาะอาหารแปรรูป
00:27:32 → 00:27:34 เนาะพวกคาร์โบไฮเดรตแปรรูปหรือกินน้ำตาล
00:27:34 → 00:27:37 ทั้งหลายของหวานขนมน้ำอัดลมเนี่ยแหละรวม
00:27:37 → 00:27:40 ทั้งแอลกอฮอล์ด้วยบางคนเนี่ยเข้าใจผิดว่า
00:27:40 → 00:27:43 ไตเกซไลด์คือไขมันวิธีแก้คือต้องไปลดของ
00:27:43 → 00:27:45 มันแต่เรายังกินคาร์โบไฮเดรตจัดเต็มยัง
00:27:45 → 00:27:48 กินน้ำตาลจัดเต็มของหวานจัดเต็มบางทีสิ่ง
00:27:48 → 00:27:50 เหล่านั้นน่ะมันอาจจะแทบไม่มีไขมันเลยก็
00:27:50 → 00:27:52 ได้นะอย่างเช่นเราดื่มน้ำหวานเข้าไปอย่าง
00:27:52 → 00:27:55 เงี้ยนะครับรวมถึงน้ำผลไม้ด้วยนะนะครับ
00:27:55 → 00:27:57 กินเข้าไปอย่างเงี้ยบางทีเอ๊ะมันก็ไม่มี
00:27:57 → 00:27:59 ไขมันอยู่ในสิ่งที่เรากินเนาะแต่ว่า
00:27:59 → 00:28:01 คาร์โบไฮเดรตส่วนเกินเหล่าเนี้ยครับน้ำ
00:28:01 → 00:28:04 ตาลส่วนเกินที่ร่างกายไม่ได้ใช้เนี่ยร่าง
00:28:04 → 00:28:08 กายก็จะเปลี่ยนเป็นไขมันไรสรนี่แหละ
00:28:08 → 00:28:09 [เพลง]
00:28:09 → 00:28:14 >> This is Thai PBS Podcast
00:28:14 → 00:28:17 >> ติดตามรายการของ Thai PBBS Podcast ได้
00:28:17 → 00:28:19 ทางเว็บไซต์ www.thaipspodcast.com
00:28:19 → 00:28:21 thaippbspodcast.com
00:28:21 → 00:28:25 แอปพลิเคช Thai PBBS Podcast รวมถึงฟัง
00:28:25 → 00:28:29 ผ่านพcastช่องทางอื่นๆ Spotify YouTube
00:28:29 → 00:28:32 Apple Podcast และ Soundcloud เ้า
00:28:32 → 00:28:36 [เพลง]