00:00:06 → 00:00:09 คือกล้ามเนื้ออยู่ดีๆมันเกร็งแล้วมันค้าง
00:00:09 → 00:00:12 สารที่มีความเกี่ยวข้องกับการขดกล้าม
00:00:12 → 00:00:16 เนื้อเนี่ยก็คือโซเดียมแล้วแคลเซียมถ้า
00:00:16 → 00:00:17 โซเดียมมันสูงมากมันจะเกิดการกินกระตุก
00:00:18 → 00:00:20 น้ำที่น้อยเกินไปมันจะทำให้โซเดียมเหมือน
00:00:20 → 00:00:23 เลยแล้วเนี่ยสูงขึ้นทำไมต้องพูดเพราะว่า
00:00:23 → 00:00:28 ผู้หญิงประเทศเราส่วนใหญ่กินน้ำน้อยเพราะ
00:00:28 → 00:00:33 อะไรกลัวฉี่ห้องน้ำไม่ดีอยู่ในรถนานๆขี่
00:00:33 → 00:00:35 เป็นกระเพาะปัสสาวะอักเสบอีกเพราะฉะนั้น
00:00:35 → 00:00:38 วิธีการป้องกันก็คือไม่กินน้ำมันซะมันก็
00:00:38 → 00:00:40 เลยทำให้สมดุลพวกนี้มันเปลี่ยนไป
00:00:40 → 00:00:41 [เพลง]
00:00:41 → 00:00:45 ฟังทุกเรื่องสุขภาพอัปเดตทุกโรคภัยฟังราย
00:00:45 → 00:00:53 การรองหมอสุรีย์พรวงสถิตพรค่ะ
00:00:53 → 00:00:55 สวัสดีค่ะคุณผู้ฟังค่ะขอต้อนรับเข้าสู่
00:00:55 → 00:00:57 รายการโรงหมอทางถ่าย PBS potass ค่ะวัน
00:00:57 → 00:01:00 นี้เรามาพบกันเช่นเคยนะคะติดตามร้านของ
00:01:00 → 00:01:02 เราวันนี้กันได้นะคะคุยกันถึงเรื่องของ
00:01:02 → 00:01:07 ตะคริวเกรงนะคะบริเวณนอกก่อนนอนเอ๊ะเกิด
00:01:07 → 00:01:10 จากอะไรใครเป็นกันบ้างเดี๋ยววันนี้มาฟัง
00:01:10 → 00:01:13 คำตอบกันกับดรนายแพทย์จตุพลคงถาวรสกุล
00:01:13 → 00:01:15 แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศูนย์กล้ามเนื้อ
00:01:15 → 00:01:17 กระดูกและข้อจะเพจดอกเตอร์หมอหมีค่ะ
00:01:17 → 00:01:21 สวัสดีค่ะ
00:01:21 → 00:01:24 เคยเป็นไหมฮะเป็นอย่าเพิ่งมาเป็นเมื่อไม่
00:01:24 → 00:01:26 นานมานี้นะเมื่อก่อนเมื่อก่อนไม่เคยเป็น
00:01:26 → 00:01:29 เลยไหนเล่าให้ฟังหน่อยก็เวลานอนๆอยู่
00:01:29 → 00:01:32 อย่างนี้ใช่ไหมคะดูซีรีย์เดี๋ยวก็เขา
00:01:32 → 00:01:34 เรียกอะไรขาขึ้นมาบ้างเดี๋ยวก็ยืดขาบ้าง
00:01:34 → 00:01:37 พอเมื่อยก็ยืดขาออกเสร็จแล้วก็มาชันบ้าง
00:01:37 → 00:01:39 เหรอก็ไม่ค่อยได้จะรู้สึกอะไรหรอกแต่พอ
00:01:39 → 00:01:44 บางทีนอนๆอยู่ขายืดเหยียดออกไปนะมันเกร็ง
00:01:44 → 00:01:46 ตรงน่องขึ้นมาปวดเลยอ่ะอันนี้เลยใช่ไหม
00:01:46 → 00:01:47 นี่เลย
00:01:47 → 00:01:50 keyword นะฮะที่พี่เพิ่งพูดเมื่อกี้นะฮะ
00:01:50 → 00:01:53 คืออะไรนะฮะนอนๆยืดเหยียดแล้วเกร็งตรง
00:01:53 → 00:01:55 น่องใช่อาการอย่างนี้นะครับผมเชื่อว่าคุณ
00:01:55 → 00:01:58 ผู้หญิงเป็นกันเยอะทำไมต้องเป็นผู้หญิง
00:01:58 → 00:02:00 ส่วนใหญ่เป็นในผู้หญิงเพราะอะไรรู้มั้ยฮะ
00:02:00 → 00:02:04 เพราะผู้หญิงชอบทำร่างกายให้ใช้งานหนัก
00:02:04 → 00:02:07 มากๆตรงบริเวณขาตรงน่องนี่แหละเดี๋ยวเรา
00:02:07 → 00:02:08 จะไปทำความเข้าใจกันว่าตะคริวเนี่ยมัน
00:02:08 → 00:02:12 เกิดจากอะไรได้บ้างแล้วพอเราย้อนกลับมาใน
00:02:12 → 00:02:14 คำพูดที่พี่พูดเมื่อกี้เนี่ยพี่จะรู้ว่า
00:02:14 → 00:02:20 อ๋อถึงว่าเราถึงได้เป็นแล้วทำไมถึงได้
00:02:20 → 00:02:22 เป็นเด็กผู้หญิงนะเราต้องเข้าใจอย่างงี้
00:02:22 → 00:02:23 ก่อน
00:02:23 → 00:02:26 ตะคริวเนี่ยมันคือถ้าในทางการแพทย์เนี่ย
00:02:26 → 00:02:28 เขาเรียกว่ามาสู้ฟัดซึมคือกล้ามเนื้อ
00:02:28 → 00:02:30 เนี่ยอยู่ดีๆมันเกร็งแล้วมันค้างมันไม่
00:02:30 → 00:02:34 คลายนะมันเกร็งแล้วมันหดแล้วพอมันหดปุ๊บ
00:02:34 → 00:02:36 เนี่ยพอเราพยายามจะยืดมันจะกระตุกๆๆอย่าง
00:02:36 → 00:02:39 เงี้ยเพราะว่ามันพยายามจะหดกล้ามเนื้อมัน
00:02:39 → 00:02:43 เก่งคางนะฮะทีนี้เราต้องเข้าใจองค์ประกอบ
00:02:43 → 00:02:45 ของกล้ามเนื้อก่อน
00:02:45 → 00:02:47 ก่อนที่เราจะเข้าใจว่า
00:02:47 → 00:02:50 ตะคริวมันเกิดได้ยังไงเราต้องเข้าใจว่า
00:02:50 → 00:02:52 เพราะเรารู้เราอ่านตะคริวคือกล้ามเนื้อ
00:02:52 → 00:02:55 มันเกิดการเกร็งอย่างรุนแรงและอย่างรวด
00:02:55 → 00:02:57 เร็วกล้ามเนื้อเนี่ยประกอบไปด้วยตัว
00:02:57 → 00:02:59 บริเวณกล้ามมัดกล้ามเองใช่ไหมครับแล้วก็
00:02:59 → 00:03:01 หลอดเลือดที่วิ่งเข้าไปหามันมันกล้ามเอง
00:03:01 → 00:03:05 เนี่ยมันก็จะมีไฟเบอร์ที่เป็นลักษณะชนิด
00:03:05 → 00:03:08 ต่างๆซึ่งข้ามไปช่างมันเอาเป็นว่าเป็น
00:03:08 → 00:03:11 ไฟเบอร์ชิ้นต่างๆซึ่งกล้ามเนื้อเนี่ยองค์
00:03:11 → 00:03:13 ประกอบของมันลึกเข้าไปอีกในระดับโมเลกุล
00:03:13 → 00:03:17 เนี่ยก็คือมันประกอบด้วยโปรตีน
00:03:17 → 00:03:21 แล้วก็น้ำแล้วก็ส่วนของพลังงานสำรองที่
00:03:21 → 00:03:24 อยู่ในตัวมันให้คิดถึงเป็น Unit แบบนี้
00:03:24 → 00:03:27 นะครับเอ่อปกติแล้วเนี่ยกล้ามเนื้อที่มัน
00:03:27 → 00:03:30 จะเกร็งเนี่ยมันมักจะเกิดจากการที่กล้าม
00:03:30 → 00:03:34 เนื้อมันหดปึ๊บนะฮะซึ่งเลือดมันอาจจะวิ่ง
00:03:34 → 00:03:37 ไปเลี้ยงไม่ทันอ่าหรือกล้ามเนื้อที่มัน
00:03:37 → 00:03:42 เกร็งมานานมากเลยแล้วมันมีผังผืดมาหุ้มไป
00:03:42 → 00:03:44 บางส่วนและเพราะมันหดปุ๊บมันก็เลยเกร็ง
00:03:44 → 00:03:47 อยู่ในท่านั้นหรือกล้ามเนื้อที่ปกติแล้ว
00:03:47 → 00:03:49 เนี่ยมันมีการใช้ๆๆอยู่อย่างนั้นอ่ะแล้ว
00:03:49 → 00:03:51 มันก็เลยทำให้กล้ามเนื้อเนี่ยมันหดคาอยู่
00:03:51 → 00:03:55 ในท่าเดิมก็เอาเป็นว่าโดยรวมเนี่ยมันเกิด
00:03:55 → 00:03:56 จาก
00:03:56 → 00:03:59 สารที่จะต้องไปหล่อเลี้ยงมันน่ะไม่ว่าจะ
00:03:59 → 00:04:02 เป็นน้ำเป็นโซเดียมแคลเซียมอะไรก็ตามที่
00:04:02 → 00:04:04 มันอยู่ในองค์ประกอบของมันเนี่ยนะมันไม่
00:04:04 → 00:04:06 เหมาะสมเมื่อมันไม่เหมาะสมปุ๊บเนี่ยมันจะ
00:04:06 → 00:04:11 เกิดการทำงานของกล้ามเนื้อที่หดเก่งคางนะ
00:04:11 → 00:04:14 ครับน้ำมีส่วนผสมยังไงเพราะในกล้ามเนื้อ
00:04:14 → 00:04:17 เนี่ยถ้าเรามองลึกๆเข้าไปนะในระดับเซลล์
00:04:18 → 00:04:19 นะ
00:04:19 → 00:04:22 ฮะมันจะมีการสมดุลของน้ำภายในเซลล์กับนอก
00:04:22 → 00:04:24 เซลล์เริ่มยากแล้วจริงๆไม่ค่อยอยากจะพูด
00:04:24 → 00:04:26 ในเรื่องนี้เพราะมันดูลึกเกินไปแต่ว่ามัน
00:04:26 → 00:04:29 นำมาถึงสาเหตุเพราะฉะนั้นต้องพูดนิดนึงนะ
00:04:29 → 00:04:31 ฮะก็คือสมดุลของน้ำและสารต่างๆ
00:04:31 → 00:04:35 สารที่มีความเกี่ยวข้องกับการขดกล้าม
00:04:35 → 00:04:39 เนื้อเนี่ยก็คือโซเดียมแล้วแคลเซียมนะฮะ
00:04:39 → 00:04:41 โซเดียมโพแทสเซียมเนี่ยมันจะเป็นตัว
00:04:41 → 00:04:43 Balance ที่เป็น Balance ของเส้นประสาท
00:04:43 → 00:04:47 อ่าถ้าโซเดียมมันสูงมากมันจะเกิดการกิน
00:04:47 → 00:04:49 กระตุกส่วนที่สูงเกินไปมันจะเกิดการกิน
00:04:49 → 00:04:51 กระตุกน้ำที่น้อยเกินไปมันจะทำให้โซเดียม
00:04:51 → 00:04:53 เหมือนเลียถีบลี่แล้วเนี่ยสูงขึ้นใช่มั้ย
00:04:54 → 00:04:56 ฟังแล้วเริ่มพูดเร็วทำไมถึงเริ่มพูดเร็ว
00:04:56 → 00:04:59 เร็วเพราะไม่อยากให้จำโอเคนะไปเอออยากให้
00:04:59 → 00:05:03 อยากให้ข้ามไปให้เข้าใจแค่ว่าสมดุลน้ำและ
00:05:03 → 00:05:07 เกลือแร่เนี่ยถ้าน้ำมันน้อยเกลือแร่มันจะ
00:05:07 → 00:05:10 สูงเมื่อเกลือแร่มันสูงมันจะเกิดการ
00:05:10 → 00:05:13 กระตุกอ่านะมันจะเลยทำให้เกิดการเกร็ง
00:05:13 → 00:05:17 โอเคนะทีนี้แคลเซียมคืออะไรเพราะโซเดียม
00:05:17 → 00:05:18 โพแทสเซียมบอกไปแล้วว่ามันสัมพันธ์กับ
00:05:18 → 00:05:23 เส้นประสาทมันเป็นมันเป็นตัวที่ทำให้ส่ง
00:05:23 → 00:05:25 คำสั่งคือทำให้กระแสประสาทเนี่ยมันวิ่ง
00:05:25 → 00:05:27 วิธีกล้ามเนื้ออืมแล้วจากกล้ามเนื้อเนี่ย
00:05:27 → 00:05:30 จะใช้แคลเซียมเป็นตัวที่ทำให้เกิดการ
00:05:30 → 00:05:31 เกร็ง
00:05:31 → 00:05:33 เพราะฉะนั้นมันเลยมีความเกี่ยวข้องกับ
00:05:33 → 00:05:35 โซเดียมโพแทสเซียมแล้วก็แคลเซียมแล้วก็
00:05:35 → 00:05:37 น้ำ
00:05:37 → 00:05:40 มันเป็นวิทยาศาสตร์อันนี้แต่ถามว่าทำไม
00:05:40 → 00:05:44 ต้องพูดเพราะว่าผู้หญิงประเทศเราส่วนใหญ่
00:05:44 → 00:05:47 กินน้ำน้อย
00:05:48 → 00:05:51 ประเทศเราส่วนใหญ่นะคืออันนี้ไม่ได้เป็น
00:05:51 → 00:05:53 ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์นะเป็นข้อมูลที่ผม
00:05:53 → 00:05:55 เนี่ยประสบกับตัวเองเพราะเวลาเราถามคนไข้
00:05:55 → 00:05:56 ไปอ่ะ
00:05:56 → 00:06:00 เขาก็บอกว่าเออก็กินน้ำไม่เยอะค่ะก็ไม่
00:06:00 → 00:06:03 คือคือมันจะมีกลุ่มที่ชอบกินน้ำเยอะๆ
00:06:03 → 00:06:06 เพราะว่าจะได้ผิวดีเป็นกลางจะได้มีน้ำมี
00:06:06 → 00:06:08 นวลอะไรเงี้ยแต่ว่า
00:06:08 → 00:06:10 เอาจริงๆผู้หญิงที่อยู่ในเมืองประเทศเรา
00:06:10 → 00:06:13 อ่ะกินน้ำน้อยเพราะอะไรกลัวฉี่ขี้เกียจ
00:06:13 → 00:06:18 ลุกไปอ่าห้องน้ำไม่ดีเออไม่มีห้องน้ำอยู่
00:06:18 → 00:06:21 ในรถนานๆเออกั้นฉี่เป็นกระเพาะปัสสาวะ
00:06:21 → 00:06:23 อักเสบอีกเพราะฉะนั้นวิธีการป้องกันก็คือ
00:06:23 → 00:06:26 ไม่กินน้ำมันซะถูกต้องอ่าถูกมั้ยอันเนี้ย
00:06:26 → 00:06:28 มันก็เลยทำให้
00:06:28 → 00:06:32 สมดุลพวกนี้มันเปลี่ยนไปทีนี้เราเข้าใจใน
00:06:32 → 00:06:34 ระดับโมเลกุลละใช่ไหมในระดับเซลล์แล้วว่า
00:06:34 → 00:06:38 โอเคมีน้ำนะมีโซเดียมโพแทสเซียมที่เป็น
00:06:39 → 00:06:42 ตัวที่อยู่ในเส้นประสาทพอเวลาโซเดียมมัน
00:06:42 → 00:06:45 สั่งงานปุ๊บโซเดียมขึ้นนิดนึงอ่ะกระแส
00:06:45 → 00:06:48 ภาษามันจะวิ่งจู๊ดไปที่กล้ามเนื้อและ
00:06:48 → 00:06:51 กล้ามเนื้อมันจะมีตัวรับพอรับเสร็จปุ๊บ
00:06:51 → 00:06:53 มันจะยิงแคลเซียมออกมาแคลเซียมจะทำให้
00:06:53 → 00:06:57 กล้ามเนื้อหดตัวแหม่เร็วจังแค่นี้เลยคือ
00:06:57 → 00:06:59 กระบวนการของการหดเกร็งกล้ามเนื้อก็คือ
00:06:59 → 00:07:03 เส้นประสาทกับกล้ามเนื้อมีแค่นี้อ่าอยู่
00:07:03 → 00:07:06 ดีๆพี่ไม่ได้สั่งงานมันน่ะแต่ทำไมมัน
00:07:06 → 00:07:08 เกร็งอ่ะเอออยู่ๆเป็นก็มีถูกมั้ยพี่ไม่
00:07:08 → 00:07:10 ได้ถีบขาออกมาถูกมั้ยที่พี่พูดเมื่อกี้
00:07:10 → 00:07:14 ประวัติก็คือนอนๆอยู่นะกำลังเผลอๆยืด
00:07:14 → 00:07:17 เหยียดขาออกไปอ่ะเฮ้ยทำไมมันกระตุกแล้ว
00:07:17 → 00:07:20 เกร็งทันทีจนเราต้องพยายามดึงขากลับมา
00:07:20 → 00:07:23 แล้วมันถึงจะค่อยๆเบาลงถูกมั้ยฮะอันนี้
00:07:23 → 00:07:24 มันเป็นการสั่งการของเส้นประสาทที่มัน
00:07:24 → 00:07:27 สั่งของมันเองเราไม่ได้สั่งถูกมั้ยอ่า
00:07:27 → 00:07:29 แล้วเพราะฉะนั้นมันจะต้องมีปัญหาอะไรบาง
00:07:29 → 00:07:34 อย่างอันนี้คือในระดับเซลล์ในระดับใหญ่ก็
00:07:34 → 00:07:36 คือแบบ gloss ก็คือเรื่องของกล้ามเนื้อ
00:07:36 → 00:07:38 เองเนี่ยมันก็จะมีเรื่องของพังผืดที่ว่า
00:07:38 → 00:07:42 ไปแล้วใช่ไหมคือการที่เรายืนบนส้นสูงนานๆ
00:07:42 → 00:07:45 การที่เราเป็นนักกีฬาฟุตบอลเรามีการวิ่ง
00:07:45 → 00:07:50 การเตะตลอดเวลาพวกนี้คือพวกเล่นบาสมีการ
00:07:50 → 00:07:52 กระโดดเขย่งตลอดเวลาใช่ไหม Only พวก
00:07:52 → 00:07:56 กระโดดเขย่งตลอดเวลาหรือพวกมีการเล่นกีฬา
00:07:56 → 00:08:00 เบาๆแต่ไม่มีการยืดเส้นที่เพียงพอมันก็ทำ
00:08:00 → 00:08:02 ให้กล้ามเนื้อเนี่ยมัน sensitive กว่า
00:08:02 → 00:08:05 ปกตินะครับหรือมันทำให้กล้ามเนื้อมันมี
00:08:05 → 00:08:09 การเกร็งมากกว่าปกติชอบและรวมถึงการที่พอ
00:08:09 → 00:08:12 มันมีการอิตาลีบ่อยๆบ่อยๆเกร็งบ่อยๆปุ๊บ
00:08:12 → 00:08:14 มันก็ทำให้หลอดเลือดเนี่ยมันวิ่งเข้าไป
00:08:14 → 00:08:16 ได้ไม่ดีเพราะหลอดเลือดมันยิ่งวิ่งเข้าไป
00:08:16 → 00:08:20 ได้ไม่ดีการกระบวนการรักษาตัวเองของมันก็
00:08:20 → 00:08:23 ยิ่งแย่ลงพอมันแย่ลงปุ๊บก็เลยทำให้เกิด
00:08:23 → 00:08:24 การกระตุกอย่างนี้อยู่เรื่อยๆ
00:08:24 → 00:08:27 อืมแล้วก็มีอีกคนอีกกลุ่มนึงที่ไม่ใช่
00:08:27 → 00:08:30 เล่นกีฬาไม่ใช่นักกีฬาพวกที่เป็นทำอาชีพ
00:08:30 → 00:08:36 ยืนบนส้นสูงตลอดทั้งวันอ้าพวกเนี้ยเขาพวก
00:08:36 → 00:08:38 นี้หนักกว่านักกีฬาน่ะเพราะว่าท่าที่เขา
00:08:38 → 00:08:41 ยืนคือท่าที่เป็นท่าที่กระตุกเลยถูกมั้ย
00:08:41 → 00:08:43 ฮะคือมันเป็นท่าที่เขายืนอย่างนั้นทั้ง
00:08:43 → 00:08:44 วันเพราะฉะนั้นกล้ามเนื้อเค้าเกร็งแบบ
00:08:44 → 00:08:45 นั้นทั้งวัน
00:08:45 → 00:08:46 แต่กล้ามเนื้อมันอื่นเขาไม่ได้ใช้เลยนะ
00:08:46 → 00:08:48 กล้ามเนื้อมันดีประจำเดือนที่แข็งแรงที่
00:08:48 → 00:08:51 สูงมันตรงน่องอยู่เนี่ยส่วนใหญ่ไปดูเลย
00:08:51 → 00:08:54 ครับ 80% ของคนเป็นตะคริวเป็นห้อง
00:08:54 → 00:08:57 ไม่ค่อยเป็นที่อื่นหรอกเพราะมันเป็นกล้าม
00:08:57 → 00:08:59 เนื้อมันใหญ่ที่มักจะใช้ในการเดินยืน
00:08:59 → 00:09:01 กล้ามเนื้อหน้าขาสะโพกสะโพกอะไรส่วนใหญ่
00:09:01 → 00:09:04 เราไม่ค่อยใช้หรอกนะเพราะว่าเราทำอะไรลุก
00:09:04 → 00:09:07 ๆนั่งๆเดินยืนใช้กล้ามเนื้อน่องทั้งนั้น
00:09:07 → 00:09:10 แต่ถึงแม้ว่าจะมีช่วงเวลาพักถอดรองเท้า
00:09:10 → 00:09:12 หรืออะไรก็ตามแต่มันก็คือยังเกร็งอยู่อ่ะ
00:09:12 → 00:09:13 ถูกต้อง
00:09:13 → 00:09:16 เพราะฉะนั้นอันนี้เนี่ยก็คือเป็นปัญหา
00:09:16 → 00:09:20 หลักๆเลยนะที่เอ่อที่มันที่มันทำให้เกิด
00:09:20 → 00:09:24 การเก่งกระตุกจริงๆมีเหตุผลนึงที่เราพูด
00:09:24 → 00:09:26 ไปเมื่อกี้คือ Over use ก็คือใช้เยอะไม่
00:09:26 → 00:09:30 ว่าจะไปเล่นกีฬาไม่ว่าจะเป็นยืนอีกอันนึง
00:09:30 → 00:09:33 ก็คืออุบัติเหตุอุบัติเหตุเช่นสมมุติเอ่อ
00:09:33 → 00:09:36 วันดีคืนดีมีคนไข้มาประวัตินะวันดีคืนดี
00:09:36 → 00:09:39 เนี่ยขาเนี่ยมันกระแทกโต๊ะเดินๆถอยหลังไป
00:09:39 → 00:09:42 กระแทกอ่าถ้าเกิดการป่วยขึ้นมาทันทีอ่า
00:09:42 → 00:09:45 เสร็จปุ๊บก็กินยาแก้ 2 แก้วเสพไปละก็บด
00:09:45 → 00:09:47 นอนอยู่ดีๆเหยียดขาแล้วกระตุกการอักเสบ
00:09:47 → 00:09:49 เนี่ยมันทำให้กล้ามเนื้อมัน sensitive
00:09:49 → 00:09:52 กว่าปกติรวมถึงเส้นประสาทด้วยทำให้เกิด
00:09:52 → 00:09:54 การกระตุกได้เหมือนกันนะฮะเพราะฉะนั้น
00:09:54 → 00:09:57 สาเหตุเนี่ยจากที่เราพูดมาเนี่ยนะปูจาก
00:09:57 → 00:09:59 เบสิคจากระดับเซลล์ขึ้นมาถึงระดับร้อน
00:09:59 → 00:10:01 เนี่ยคือระดับกล้ามเนื้อเนี่ยนะฮะสิ่งที่
00:10:01 → 00:10:05 เราต้องเข้าใจก็คือ 1 สาเหตุประกอบไปด้วย
00:10:05 → 00:10:11 แคลเซียมที่มันน้อยหุ้ยคนที่แคลเซียมที่
00:10:11 → 00:10:13 ต่ำ
00:10:13 → 00:10:16 แคลเซียมต่ำเนี่ยมันจะมีการคอนโทรลกัน
00:10:16 → 00:10:18 movement ของกล้ามเนื้อไม่ได้อย่างที่
00:10:18 → 00:10:20 บอกไปแล้วโซเดียมที่สูงหรือต่ำกว่าผิด
00:10:21 → 00:10:23 ปกติก็จะทำให้เกิดการเกร็งกระตุกได้
00:10:23 → 00:10:26 น้ำที่น้อยก็จะทำให้เกิดการกระตุกได้
00:10:26 → 00:10:30 เพราะฉะนั้น 3 อย่างนี้นะน้ำน้อยโซเดียม
00:10:30 → 00:10:33 โพแทสเซียมผิดปกติและแคลเซียมเราสามารถ
00:10:33 → 00:10:36 คอนโทรลได้แค่น้ำกับแคลเซียมเพราะถ้าน้ำ
00:10:36 → 00:10:38 เพียงพอโซเดียมโพแทสเซียมมันจะปกติเอง
00:10:38 → 00:10:43 เพราะฉะนั้นน้ำดื่มให้มากเพียงพอวันนึง
00:10:43 → 00:10:46 อ่ะ 2-3 ลิตรนะครับ 1 ลิตรเนี่ยต่ำไปแน่
00:10:46 → 00:10:49 นอนเพราะว่าถ้าคำนวณจากน้ำหนักตัวนะหนัก
00:10:49 → 00:10:52 50 กมปกติแล้วเนี่ยต้องการประมาณ 1,000
00:10:52 → 00:10:56 กว่าๆนะ 1,800-2,000 บาทก็คือว่าประมาณ 2
00:10:56 → 00:10:56 ลิตรอ่ะพอ
00:10:57 → 00:10:58 อาจจะเกินนิดหน่อยแต่ไม่เป็นไรเพราะว่า
00:10:58 → 00:11:00 เราไม่ได้เป็นถ้าคนที่แบบไม่ได้เป็นโรคตง
00:11:00 → 00:11:02 โรคไตอะไรเงี้ยก็ไม่ต้องควบคุมปริมาณน้ำ
00:11:02 → 00:11:05 มากขนาดนั้นถ้ากินเยอะไปมันก็ฉี่ออกนะฮะ
00:11:05 → 00:11:08 ก็ประมาณ 2 ลิตรถ้าคนน้ำหนัก 50 นะก็
00:11:08 → 00:11:11 ประมาณ 2 ลิตรนะครับก็ส่วนแคลเซียมเนี่ย
00:11:11 → 00:11:14 เราจะทำยังไงดีเราต้องไปซื้อแคลเซียม
00:11:14 → 00:11:17 บริโภคมั้ยเป็นเม็ดไหมอันนี้อาจจะอาจจะ
00:11:17 → 00:11:19 จำเป็นในคนสูงอายุเพราะว่าในคนสูงอายุ
00:11:19 → 00:11:21 เนี่ยการดูดซึมแคลเซียมเขาแย่ถูกมั้ยฮะ
00:11:21 → 00:11:23 เพราะฉะนั้นอันนี้อาจจะมีความจำเป็นถาม
00:11:23 → 00:11:26 ว่าถ้าคนอายุน้อยๆเนี่ยการดูดซึมดีก็กิน
00:11:26 → 00:11:29 นมไปกินนมมีน้ำด้วยนะอย่าลืมได้ทั้งนม
00:11:29 → 00:11:31 ทั้งน้ำนะถูกมั้ยฮะเพราะฉะนั้นกิน
00:11:31 → 00:11:33 แคลเซียมเม็ดอ่ะเดี๋ยวกินน้ำน้อยอีกไม่
00:11:33 → 00:11:35 ได้อีกใช่ไหมครับเพราะฉะนั้น
00:11:35 → 00:11:39 ก็จะมีเรื่องของแคลเซียมที่ต่ำ
00:11:39 → 00:11:43 โซเดียมผิดปกติแล้วก็น้ำน้อยอันต่อมาคน
00:11:43 → 00:11:46 ท้องคนท้องเนี่ยทนทุกข์ทรมานกับเรื่อง
00:11:46 → 00:11:48 ตะคริวตลอดเวลาผมเชื่อว่าใครที่ฟังอยู่
00:11:48 → 00:11:50 แล้วคนพูดเรื่องตะคริวนะถ้าหมอไม่พูด
00:11:50 → 00:11:53 เรื่องคนท้องปิดไม่ฟังไม่ฟัง
00:11:53 → 00:11:58 หมอเนี่ยไม่เก่งถูกไหมคนที่เป็นตะคริวมาก
00:11:58 → 00:12:01 ที่สุดในโลกคือคนท้องถูกไหมฮะ
00:12:01 → 00:12:03 คือคนท้องเนี่ยมันมี 2 ปัจจัยปัจจัยที่ 1
00:12:03 → 00:12:06 คือแคลเซียมมันจะต่ำหน่อยๆอยู่แล้วเพราะ
00:12:06 → 00:12:09 ว่ามันต้องแบ่งไว้ลูกถูกมั้ยฮะอันดับที่ 2
00:12:09 → 00:12:12 เนี่ยก็คือเขาต้องยืนอยู่ในน้ำหนักที่มาก
00:12:12 → 00:12:14 ขึ้นมากขึ้นมากขึ้นทุกวันด้วยกล้ามเนื้อ
00:12:14 → 00:12:18 ชนิดเดิมเพราะฉะนั้นเหมือนเขาเป็นนักกีฬา
00:12:18 → 00:12:19 อยู่ทุกวันเลย
00:12:19 → 00:12:21 แล้วเค้าต้องฝึกซ้อมหนักขึ้นเรื่อยๆด้วย
00:12:21 → 00:12:23 มั้ยฮะเพราะว่าน้ำหนักเนี่ยเขาเพิ่มขึ้น
00:12:23 → 00:12:27 ประมาณ 11 กกอันนี้คือ Standard นะเดือน
00:12:27 → 00:12:31 แรก 5 โลเหลือที่ 2 5 กก 3 เดือนแรก 5
00:12:31 → 00:12:34 กก 3 เดือนที่ 2 5 โลแล้วก็ 30 สุดท้าย 1
00:12:34 → 00:12:35 กิโล
00:12:35 → 00:12:37 แต่อันนั้นคือ Standard นะแต่ในความเป็น
00:12:37 → 00:12:40 จริงเกินแน่ๆ
00:12:40 → 00:12:45 คนไทยเราท้องปุ๊บโดปเอาผู้หญิงกลายเป็น
00:12:45 → 00:12:48 ยักษ์ได้อะไร 1 ปีเอาว่าตายก็มีของกิน
00:12:48 → 00:12:51 เยอะคืออันนี้ก็ไม่เคยมีลูกอะนะแต่ว่า
00:12:51 → 00:12:54 เท่าที่เห็นจากประสบการณ์เพื่อนๆที่เขามี
00:12:54 → 00:12:58 ลูกน้ำหนักโอ้โหแบบขึ้นกระฉูดขนาดคนที่
00:12:58 → 00:13:01 ผอมผอมเลยนะก็ขึ้นทีนึงแบบเกือบ 20 โลอะ
00:13:01 → 00:13:03 ซึ่งมันมากไปเอาจริงๆ 11 กิโลกรัมพอแล้ว
00:13:03 → 00:13:06 แต่ว่ามัน Control ยากเข้าใจนะเพราะมันมี
00:13:06 → 00:13:08 เรื่องของ emotional ด้วยมีเรื่องของ
00:13:08 → 00:13:10 physical ที่มัน Change เพราะฉะนั้นมัน
00:13:10 → 00:13:15 เลือกคนที่ดีกว่าง่ายๆเพราะฉะนั้นตรงนี้
00:13:15 → 00:13:18 เรื่องของคนท้องเนี่ยปกติแล้วเนี่ยเขาก็
00:13:18 → 00:13:20 จะเราก็แนะนำอยู่แล้วคนท้องนะกินน้ำเยอะๆ
00:13:20 → 00:13:24 อันนี้แน่ๆ 2 เพิ่มแคลเซียมเพราะฉะนั้นคน
00:13:24 → 00:13:27 ที่เป็นคนท้องเนี่ยมันจะมีหลายปัจจัยนะ
00:13:27 → 00:13:29 มันมีเรื่องๆๆด้วยนะมันคนท้องต้องกิน
00:13:30 → 00:13:33 วิตามินกินแคลเซียมกินโฟร์ริกแล้วก็
00:13:33 → 00:13:35 พยายามควบคุมน้ำหนักอย่าให้เยอะมากเกินไป
00:13:35 → 00:13:38 เราก็มีการออกกำลังกายเช่นเดี๋ยวนี้เขาจะ
00:13:38 → 00:13:40 มีธาราบำบัดไปออกกำลังกายกล้ามเนื้อขา
00:13:40 → 00:13:43 เพื่อให้มันมีการขยับแต่ว่าเราก็อยู่ใน
00:13:43 → 00:13:46 น้ำเพื่อรักษาบาลานซ์ไม่ล้มด้วย 1 2 คือ
00:13:46 → 00:13:48 มันจะได้ไม่หนักจนเกินไปเดี๋ยวกล้ามเนื้อ
00:13:48 → 00:13:50 อิตาลีอีกอันนี้คือเรื่องของคนท้องเพราะ
00:13:50 → 00:13:53 ฉะนั้นคนท้องเนี่ยก็ก็เป็นปัจจัยที่
00:13:53 → 00:13:57 สามารถทำให้เกิดได้กระทงกระแทกทำให้เกิด
00:13:57 → 00:13:59 การ sensitive ของกล้ามเนื้อมากกว่าปกติ
00:13:59 → 00:14:02 อันนี้ก็บอกไปแล้วนะครับแล้วก็มีการใช้
00:14:02 → 00:14:05 งานเรื้อรังเช่นเป็นนักฟุตบอลเป็นนักบาส
00:14:05 → 00:14:07 พวกนี้มีการใช้มากจนเกินไปบางคนเทรนด์
00:14:07 → 00:14:10 เนี่ยวันนึง 3 ชั่วโมง 6 ชั่วโมงตะคริวมา
00:14:10 → 00:14:12 อยู่แล้วแล้วในนักกีฬาที่เล่นเยอะๆเนี่ย
00:14:12 → 00:14:15 มันไม่ใช่แค่เป็นเรื่องของกล้ามเนื้อ
00:14:15 → 00:14:17 เกร็งเพราะ sensitive นะเป็นเพราะว่าเขา
00:14:17 → 00:14:19 กินน้ำน้อยด้วยเพราะว่าเขาเสียน้ำและ
00:14:19 → 00:14:24 โซเดียมไปพร้อมๆกันถูกมั้ยฮะอ่าบางคนกิน
00:14:24 → 00:14:26 น้ำอย่างเดียวไม่ได้กินน้ำเกลือแร่ตะคริว
00:14:26 → 00:14:29 มาอีกนะอืมเพราะฉะนั้นคุณต้องกินทั้ง
00:14:29 → 00:14:31 โซเดียมและกินทั้งน้ำเปล่าไม่งั้นคุณต้อง
00:14:31 → 00:14:33 กินน้ำเกลือแร่บ้างกินน้ำเปล่าบ้างแต่ว่า
00:14:33 → 00:14:37 ต้องบริโภคน้ำให้เพียงพอนะอย่างผมเอง
00:14:37 → 00:14:39 เนี่ยผมเป็นคนที่เหงื่อออกเยอะนะผมเล่น
00:14:39 → 00:14:42 กีฬาวันนึง 3 ชั่วโมงบางทีบางวันเล่นอีก 5
00:14:42 → 00:14:44 ชั่วโมงก็มีนะเอ่อเล่นเช้า 2 เย็น 3
00:14:44 → 00:14:47 อย่างเงี้ยคิดว่าเล่นติด 5 ชมอ๋อไม่ไหว
00:14:47 → 00:14:51 ครับตายก่อนก็พอสักเย็นๆเนี่ยมันก่อนนอน
00:14:51 → 00:14:53 มันจะมีแล้วตะคริวมาเลยแปลว่าวันนั้นผม
00:14:53 → 00:14:56 ไม่กินเกลือแร่น้อยผมก็ต้องกินเอ่อน้ำ
00:14:56 → 00:14:57 น้อยเพราะงั้นเราไปกินน้ำเยอะขึ้นพวก
00:14:57 → 00:14:59 ประกันจะดีขึ้นหรือบางทีกินน้ำเกลือแร่
00:14:59 → 00:15:02 ปุ๊บเบาเลยก็คิ้วหายเลยอ่า
00:15:02 → 00:15:05 ซึ่งอันนี้อันนี้เป็นสิ่งที่สำคัญถ้างั้น
00:15:05 → 00:15:07 อย่างนี้คือผู้หญิงเองถ้าเกิดแบบไปยืนส้น
00:15:07 → 00:15:10 สูงหรือยืนนานๆจะด้วยเนี่ยอันนี้ก็เป็น
00:15:10 → 00:15:13 สาเหตุต่อไปที่จะพูดก็คือผู้หญิงที่ยืนบน
00:15:13 → 00:15:17 ชั้นสูงยิ่งสูงยิ่งเกร็งยิ่งเกร็งและผู้
00:15:17 → 00:15:20 หญิงที่ยืนทำงานก็ไม่กินน้ำด้วยเดี๋ยวปวด
00:15:20 → 00:15:22 ฉี่ต้องไปเข้าห้องน้ำโดนนายด่าอีกถูกไหม
00:15:22 → 00:15:25 เพราะฉะนั้นพวกนี้เนี่ยเขาก็ไม่มีเวลากิน
00:15:25 → 00:15:27 น้ำแล้วก็ต้องยืนใช้งานกล้ามเนื้อตลอด
00:15:27 → 00:15:29 เวลามันก็จะ sensitive แล้วมันก็จะมีการ
00:15:29 → 00:15:34 เกรงการแก้ไขก็ผมว่านะถ้าสำหรับคนที่แบบ
00:15:34 → 00:15:37 อ่าไปรีเซฟชั่นก็ตามหรือเป็นพนักงานขาย
00:15:37 → 00:15:41 กลุ่มนี้ก็จะเป็นกันเยอะนะเราอาจจะกินน้ำ
00:15:41 → 00:15:44 ในช่วงที่เราสามารถเข้าห้องน้ำได้อ่ะเช่น
00:15:44 → 00:15:48 พักเที่ยงนะฮะแล้วก็เอ่ออาจจะกินนิดนึงไป
00:15:48 → 00:15:49 เลย
00:15:49 → 00:15:52 นะครับหรือไม่ก็ตอนเย็นกับถึงบ้านปุ๊บก็
00:15:52 → 00:15:53 กินนิดนึงไปเลยแต่ผู้หญิงก็จะมีอีกนะ
00:15:54 → 00:15:56 เดี๋ยวตื่นกลางคืนมาฉี่แล้วนอนไม่สบายอีก
00:15:56 → 00:15:59 นี่ไงผมถึงบอกว่ามันเป็นอะไรที่มันๆเป็น
00:15:59 → 00:16:02 เงื่อนไขแล้วล่ะทั้งนั้นมันๆผู้หญิงเค้า
00:16:02 → 00:16:03 จะเข้าห้องน้ำทีนึงก็ใช้เวลามันก็ลำบาก
00:16:03 → 00:16:06 ใช่ป่ะล่ะอันนี้เราก็เข้าใจได้แต่ว่าเรา
00:16:06 → 00:16:08 ต้องจัดสรรเวลาเอาเองตรงนี้แต่ผมก็จะบอก
00:16:08 → 00:16:11 เลยว่ามันปัจจัยมันคือเรื่องของความยืด
00:16:11 → 00:16:12 หยุ่นของกล้ามเนื้อมันไม่ดีนะครับแล้วก็
00:16:12 → 00:16:16 เรื่องของการดื่มน้ำที่น้อยดื่มน้ำเลยถ้า
00:16:16 → 00:16:19 งั้นดีมากเลยครับนะแล้วก็อีกอันนึงอีกอัน
00:16:19 → 00:16:22 นึงอันนี้ถ้าเราไม่พูดถึงคนสูงอายุเดี๋ยว
00:16:22 → 00:16:25 เขาก็บอกหมอไม่เก่งอีกคำพูดที่ขอบอ่ะครบ
00:16:25 → 00:16:27 เลยอ่าเดี๋ยวหมอมีไม่เก่ง
00:16:27 → 00:16:30 ความสูงอายุเนี่ยก็จะมีปัจจัยอีกอันหนึ่ง
00:16:30 → 00:16:32 ก็คือเรื่องหลอดเลือดอุดตันหลอดเลือดอุด
00:16:32 → 00:16:34 ตันเพราะหลอดเลือดมันไม่วิ่งเข้าไปใน
00:16:34 → 00:16:36 กล้ามเนื้อมันไม่ใช่อุดตันในหัวใจอย่าง
00:16:36 → 00:16:38 เดียวมันไม่ใช่เส้นเลือดขอดอะไรอย่างนี้
00:16:38 → 00:16:41 ใช่ไหมไม่ใช่เส้นเลือดขอดคือเส้นเลือดดำ
00:16:41 → 00:16:44 เส้นเลือดที่เป็นเส้นเลือดแดงนะก็คือคน
00:16:44 → 00:16:46 ที่มีหลอดเลือดอุดตันเช่นในสมองก็ตามใน
00:16:46 → 00:16:49 หัวใจก็ตามมันไม่ได้ตันแค่นั้นมันตันทุก
00:16:49 → 00:16:52 ที่แหละแต่มันดันไปออกอาการหนักที่หัวใจ
00:16:52 → 00:16:55 กับสมองนะแต่ว่าในที่ที่มันไปหลอดเลือด
00:16:55 → 00:16:57 เนี่ยเฮ้ยในที่ขอโทษด้วยในที่ที่มันไป
00:16:57 → 00:17:01 กล้ามเนื้อเนี่ยมันก็มีอืมที่มันมีการอุด
00:17:01 → 00:17:04 ตันด้วยนะถึงแม้จะเป็นหลอดเลือดอันเส้น
00:17:04 → 00:17:06 เล็กๆก็ตามเนี่ยแต่มันก็มีการอุดตันเพราะ
00:17:06 → 00:17:07 ฉะนั้นเมื่อไม่มีการอุดตันเลือดวิ่งไป
00:17:07 → 00:17:10 เลี้ยงไม่พออันนี้หนักที่สุดกล้ามเนื้อ
00:17:10 → 00:17:12 เกร็งกระตุกเลยนะครับในคนไข้กลุ่มนี้
00:17:12 → 00:17:17 เนี่ยเอ่อเราทำอะไรได้ยากมากเพราะว่ามัน
00:17:17 → 00:17:20 เป็นโรคแล้วคราวนี้นะฮะเราก็อาจจะต้องกิน
00:17:20 → 00:17:23 พวกยาหลายๆลิ่มเลือดซึ่งถ้าเกิดเป็นโรค
00:17:23 → 00:17:24 หลอดเลือดอุดตันเนี่ยเขาจะได้บริโภคยา
00:17:24 → 00:17:27 อะไรลื่นๆอยู่แล้วซึ่งในกลุ่มเนี้ยมันก็
00:17:27 → 00:17:31 จะค่อยๆดีขึ้นจากการบริโภคยานะครับบางที
00:17:31 → 00:17:34 มันก็จะเป็นทรายนะผมว่าสำหรับคนที่คิดว่า
00:17:34 → 00:17:36 ตัวเองสุขภาพแข็งแรงแต่มีการเกร็งกระตุก
00:17:36 → 00:17:39 บ่อยๆอาจจะเป็นตัวบอกว่าเรามีโรคหลอด
00:17:39 → 00:17:41 เลือดอุดตันหรือเปล่าได้นึกออกมั้ยฮะ
00:17:41 → 00:17:43 เพราะว่ามันอาจจะเป็นสวนกันก็ได้นะคือเรา
00:17:43 → 00:17:47 เริ่มมีอาการตะคริวหรือมีการเกร็งเนี่ย
00:17:47 → 00:17:50 เราอาจจะต้องคิดถึงพวกกลุ่มโรคหลอดเลือด
00:17:50 → 00:17:53 อุดตันได้นะครับทีนี้พอเรารู้แล้วอันนี้
00:17:53 → 00:17:58 สาเหตุแล้วเราทำไงดีการแก้ไขนะก็หนึ่งเลย
00:17:58 → 00:18:01 ดื่มน้ำเยอะๆน้ำเยอะๆ
00:18:01 → 00:18:05 ดื่มนมตอนเช้าอย่าไปกินดื่มตอนก่อนนอนนะ
00:18:05 → 00:18:09 ดื่มน้ำแล้วดื่มนมตอนก่อนนอนฉี่ทั้งคืนนะ
00:18:09 → 00:18:12 ให้เลือกผมก็ดื่มน้ำ 1 ลิตรเลยตอนเช้า
00:18:12 → 00:18:15 แล้วก็ดื่มนมนะครับแล้วออกไปทำงานเราก็จะ
00:18:15 → 00:18:17 สามารถที่เข้าห้องน้ำได้เลยได้ง่ายๆใช่
00:18:17 → 00:18:20 ไหมฮะแล้วก็ตอนกลางคืนอ่ะถ้านอนน่ะ
00:18:20 → 00:18:24 สมมุติเรานอนไอ้อากาศเย็นๆเลือดมัน
00:18:24 → 00:18:26 ก็วิ่งไปเลี้ยงกล้ามเนื้อได้ไม่ถูกไหมผม
00:18:26 → 00:18:28 บอกแล้วว่าสำหรับคนที่หลอดเลือดมันวิ่งไป
00:18:28 → 00:18:30 เลี้ยงกล้ามเนื้อไม่ดีมันทำให้เกิดการ
00:18:30 → 00:18:34 เป็นตะคริวกระตุกได้เขาแนะนำว่าให้ห่มผ้า
00:18:34 → 00:18:38 ให้สร้างความอบอุ่นให้ขายดีนะห่มผ้าให้
00:18:39 → 00:18:41 มันมีความอบอุ่นแล้วมันจะไม่ค่อยกระตุก
00:18:41 → 00:18:45 แล้วก็ดื่มน้ำดื่มตรงนี้ตอนเช้านะตอนกลาง
00:18:45 → 00:18:46 คืนก็อาจจะดื่มน้ำอีกเอาให้เพียงพอให้ครบ
00:18:46 → 00:18:48 2 ลิตรอ่ะฮะนะแล้วก็
00:18:48 → 00:18:51 ออกกำลังกายก่อนนอนทำอะไรดีออกกำลังกาย
00:18:51 → 00:18:53 เนี่ยแนะนำอย่างงี้
00:18:53 → 00:18:54 ให้
00:18:54 → 00:18:57 ส่วนใหญ่มันจะเป็นตอนที่เราเหยียดขา
00:18:57 → 00:19:00 เหยียดเข่ายกขาขึ้นแล้วก็ถีบข้อเท้าออกไป
00:19:00 → 00:19:04 ถูกไหมเราแนะนำให้ทำถ้ากระดกข้อเท้า
00:19:04 → 00:19:07 Reverse เหยียดขาเหยียดเข่ากระดกข้อเท้า
00:19:07 → 00:19:10 นับ 1-10 ค้างไว้ 1 2 3 4 5 6 9 10
00:19:10 → 00:19:13 แล้วก็ปล่อยมันก็ตึงนะเนี่ยนี่ไงก็คือทำ
00:19:13 → 00:19:15 ท่านี้ก่อนเลยก่อนนอนเนี่ยยกขึ้นมา
00:19:15 → 00:19:17 ละเอียดงี้ไว้อ่าอย่าไปถีบเท้าออกอย่า
00:19:17 → 00:19:20 เพิ่งถีบให้ยกขึ้นค้างไว้ก่อนอ่ะนับ 1-10
00:19:20 → 00:19:22 ทำอันเนี้ยสักประมาณ 50 ครั้งหรือ 100
00:19:22 → 00:19:24 ครั้งก็ได้ก่อนนอน
00:19:24 → 00:19:27 50-100 ครั้งเลยหรอแป๊บเดียว
00:19:27 → 00:19:31 ฟังเพลง 3 เพลงก็หมดแล้วอ่ะๆๆยกขึ้นค้าง
00:19:31 → 00:19:34 ไว้พอเราทำครบไซเคิลสมมุติแรกๆนะอ่ะคิกิ
00:19:34 → 00:19:37 ขี้เกียจเลยทำไป 20 รอบก่อนเออๆๆอ่ะ 1 2
00:19:37 → 00:19:40 4 1 ถึง 10 ทำไป 20 ครั้งเสร็จปุ๊บเค้า
00:19:40 → 00:19:44 ให้หมุนข้อเท้าอ๋อแต่อย่าเค้าไม่แนะนำให้
00:19:44 → 00:19:47 ถีบออกเพราะถีบออกเดี๋ยวจะคิวมันมาเขาให้
00:19:47 → 00:19:50 หมุนเอาหมุนเพื่อให้มันมีอีลาสติก
00:19:50 → 00:19:53 ขึ้นลงเงี้ยทำเงี้ยมันจะทำให้กล้ามเนื้อ
00:19:54 → 00:19:56 เนี่ยมันมีการ relax ถูกมั้ยเพราะฉะนั้น
00:19:56 → 00:19:59 ให้ทำ 2 ท่านี้นะฮะก็จะทำให้กล้ามเนื้อ
00:20:00 → 00:20:02 มันดีขึ้นแล้วก็ห่มผ้าให้เรียบร้อยเสร็จ
00:20:02 → 00:20:05 ปุ๊บเรื่องของการออกกำลังกายเราแนะนำ
00:20:05 → 00:20:08 อย่างงี้เราอย่าไปออกกำลังกายแบบเดี๋ยว
00:20:08 → 00:20:11 มากไปเดี๋ยวน้อยไปหรือไม่ออกเลยอะไรเงี้ย
00:20:12 → 00:20:15 ยิ่งผู้หญิงสมัยนี้ชอบชกมวย
00:20:15 → 00:20:18 สังเกตมันแล้วผู้ที่ชกมวยก็มักจะเป็น
00:20:18 → 00:20:19 ตะคริว
00:20:19 → 00:20:22 เพราะมันต้องเขย่งข้างนึงพอเรายืนอ่ะถูก
00:20:22 → 00:20:25 ป่ะขามันต้องรองรับน้ำหนักอยู่แล้วถูกไหม
00:20:25 → 00:20:29 ฮะพอเราเตะไปปุ๊บเนี่ยบางทีมันก็จะทำให้
00:20:29 → 00:20:32 กล้ามเนื้อมันหนึ่งอินดูลิลลี่ละใช่ป่ะ 2
00:20:32 → 00:20:34 ก็คือทำให้เกิดการเกร็งมากกว่าปกติเพราะ
00:20:34 → 00:20:37 ฉะนั้นอันนี้ก็มากเกินไปนะผมแนะนำอย่าง
00:20:37 → 00:20:39 นี้เราอาจจะออกกำลังกายในกลุ่มที่เป็น
00:20:39 → 00:20:42 เรื่องของเพิ่ม electricity หรือเพิ่ม
00:20:42 → 00:20:45 ความยืดหยุ่นเช่นเล่นโยคะโยคะผู้ที่เป็น
00:20:45 → 00:20:47 โยคะเฟรชชิ่งนะไม่ใช่โยคะแอคทีฟ
00:20:47 → 00:20:50 โยคาสเซ็ทชิ่งก็คือยืดมันอย่างเดียวเนี่ย
00:20:50 → 00:20:53 พวกเนี้ยก็จะทำให้เราไม่ค่อยเป็นตะคริว
00:20:53 → 00:20:56 เท่าไหร่แต่เราก็พบว่าคนที่เป็นเล่นโยคะ
00:20:56 → 00:20:59 เป็นตะคริวเยอะอยู่เพราะเหตุผลก่อนๆเพราะ
00:20:59 → 00:21:02 ฉะนั้นวันนี้เราเลยมาพูดให้หมดไงว่าถ้า
00:21:02 → 00:21:06 คุณกินน้ำแล้วกินแคลเซียมแล้วดื่มนมแล้ว
00:21:06 → 00:21:09 ยืดเส้นแล้วเล่นโยคะแล้ว
00:21:09 → 00:21:13 ยังเป็นอีกยืนบนส้นสูงหรือเปล่าอ่าไม่ยืน
00:21:13 → 00:21:16 แล้วเปลี่ยนละเปลี่ยนหมดแล้ว
00:21:16 → 00:21:17 เป็นโรคหลอดเลือดอะไรหรือเปล่าเช็คหรือ
00:21:17 → 00:21:18 ยัง
00:21:18 → 00:21:20 สุดท้ายอาจจะต้องไปเช็คว่าเป็นโรคอะไร
00:21:20 → 00:21:22 หรือเปล่าไงถ้าทำทั้งหมดแล้วบอกโอ้ยไม่
00:21:22 → 00:22:09 เป็นไรเลย
00:22:09 → 00:22:12 เปลี่ยนรองเท้าคือมันค่อยๆทำอย่างเงี้ย
00:22:12 → 00:22:15 แล้วสุดท้ายนะพอได้ข้อห้ามมันเลยข้อ 1
00:22:15 → 00:22:18 นึกออกมั้ยพอได้เข้าอกลืมข้อ 2 1 2 ไม่
00:22:18 → 00:22:21 ทำแล้วเฮ้ยก็ทำแล้วมันไม่หายไงไม่ใช่เขา
00:22:21 → 00:22:23 ให้ทำทั้งหมด
00:22:23 → 00:22:28 1 2 3 4 5 เอ้าไม่หายละไปทำ 6 แล้ว
00:22:28 → 00:22:30 ไม่ทำ 1 2 3 4 5 ละมันไม่ได้ก็ต้องทำ
00:22:30 → 00:22:31 ทั้งหมด
00:22:31 → 00:22:35 นี่คือเข้าใจว่ามันเป็นเพราะว่าการเกร็ง
00:22:35 → 00:22:38 กล้ามเนื้อแบบเป็นเพราะยืดแน่นๆหรือใส่
00:22:38 → 00:22:41 ส้นสูงไปมองอย่างนั้นมากกว่าคิดแค่ปัจจัย
00:22:41 → 00:22:43 เดียวคือเรื่องของการโอย use คือการใช้
00:22:43 → 00:22:45 งานมันเยอะๆหรือถ้ามีอุบัติเหตุเนี่ยคน
00:22:45 → 00:22:47 ทั่วไปก็จะมองว่าโอ๊ยมันเป็นอุบัติเหตุ
00:22:47 → 00:22:49 แหละมันก็เลยเจ็บอย่างงี้ใช่ป่ะอ๋อนี่คือ
00:22:49 → 00:22:52 มันสูงก็เลยถอดเปลี่ยนเนี่ยก็เดินรองเท้า
00:22:52 → 00:22:54 ปกติมาตั้ง 2 อาทิตย์แล้วเนี่ยอย่างเงี้ย
00:22:54 → 00:22:57 ยังไม่หายเลยมันไม่ใช่มันอาจจะไม่ได้เป็น
00:22:57 → 00:22:59 ปัจจัยแก้ยังไงก็ไม่หายแล้วถ้าสมมติว่า
00:22:59 → 00:23:01 มันเกร็งตอนนั้นเนี่ยเราควรทำอะไรหรือว่า
00:23:01 → 00:23:04 เราก็ปล่อยไว้เดี๋ยวมันก็หายเองถ้าเกร็ง
00:23:04 → 00:23:07 ตอนนั้นเนี่ยไปดื่มน้ำก่อนเลยถ้าใครที่
00:23:07 → 00:23:09 ออกกำลังกายหนักๆแล้วเสียเหงื่อเยอะๆดื่ม
00:23:09 → 00:23:11 น้ำเกลือแร่ได้เลยวันนี้ดื่มน้ำดื่มน้ำ
00:23:11 → 00:23:13 เกลือแร่อาการดีขึ้น
00:23:13 → 00:23:16 ไม่ไหวนะอ๋อเราก็ต้องส่วนใหญ่พวกนี้ต้อง
00:23:16 → 00:23:20 search
00:23:20 → 00:23:22 เลยสู้กับมันเลยใช่ไหม
00:23:23 → 00:23:26 อย่าไปอย่าไปอย่าไปเจอคือการเจอคือการ
00:23:26 → 00:23:28 กระตุกอย่างงี้เจอคือแปลว่ากระตุกให้เรา
00:23:28 → 00:23:31 ค่อยๆชิ่งยืดทีละนิดถ้ามีคนนอนอยู่ข้าง
00:23:31 → 00:23:34 ด้วยให้เขาช่วยยืดทีละนิดไปนวดนวดศาสตร์
00:23:34 → 00:23:37 ได้อ๋อได้นวด Massage แล้วก็ searching
00:23:37 → 00:23:39 ค่อยๆทำแล้วพอเสร็จชิ่งถึงจังหวะนึงมันก็
00:23:39 → 00:23:41 relax แล้วก็ปล่อยไว้แล้วก็ไปเอาน้ำมา
00:23:41 → 00:23:44 กินอ่าหรือไม่ก็ต้องมีน้ำตาลอยู่แล้วตอน
00:23:45 → 00:23:47 นี้มันลุกลามแล้วในแง่ที่ว่าไม่ใช่แค่แบบ
00:23:47 → 00:23:52 นอนแล้วก็เป็นนะบางทีขับขับรถอยู่ตะคริว
00:23:52 → 00:23:55 กินน่องเลยอ่านี่ไงเออ
00:23:55 → 00:23:58 เราต้องระวังนะเพราะมันจะหมายถึงความปลอด
00:23:58 → 00:24:00 ภัยของเราด้วยนะครับ
00:24:00 → 00:24:03 ไม่ใช่แค่เราอย่างเดียวเพราะฉะนั้นก็
00:24:03 → 00:24:06 ระวังอ่ะถ้าเกิดสมมุติเป็นตอนขับรถอยู่ทำ
00:24:06 → 00:24:09 ไงได้บ้างอ่ะก็ทำได้แค่ยืดเสร็จชิ่งจอดรถ
00:24:09 → 00:24:11 เลยฮะยังไงต้องจอดรถอยู่แล้วถ้าเกิด
00:24:11 → 00:24:13 ตะคริวมาตอนตอนเป็นเนี่ยให้จอดรถเลยแล้ว
00:24:13 → 00:24:17 ก็ส่วนใหญ่เอ่อท่าที่ผมจะทำอ่ะผมมักจะชอบ
00:24:17 → 00:24:20 ยืนบนฟุตบาทเลยผมลงแล้วยิงบนฟุตบาทเลย
00:24:20 → 00:24:22 แล้วก็เอาปลายเท้าเหยียบฟุตบาทแล้วก็
00:24:22 → 00:24:26 ปล่อยขาลงให้มันกระดกคอเยอะๆแล้วไอ้ตรง
00:24:26 → 00:24:28 กล้ามเนื้อที่เกร็งอ่ะมันก็จะเบาลงแต่ว่า
00:24:28 → 00:24:31 ไม่ได้ทำวิธีเดียวนะอาจจะทำสักนับ 1-10
00:24:31 → 00:24:35 คือ 1 นะก็ทำสักประมาณ 20% แล้วก็ลองเดิน
00:24:35 → 00:24:38 ๆดูก่อนถ้าเดินโอเคก็ขึ้นรถแล้วก็ไปกิน
00:24:38 → 00:24:40 น้ำมันเกลือแร่อ่าผมก็จะเป็นอย่างนี้แหละ
00:24:40 → 00:24:42 เป็นประจำเพราะว่าเราออกกำลังกายพวก 5
00:24:42 → 00:24:45 ชั่วโมงเนี่ยเป็นประจำนิ้วยังตะคริวเลย
00:24:45 → 00:24:49 บางทีอ่ะอืมมีๆๆมีบางทีใส่นี่ขนาดใส่ผ้า
00:24:49 → 00:24:54 ใบนะจะยืนนานเดินเยอะนะโอ้โห
00:24:54 → 00:24:57 อยากให้เนี่ยเราย้อนกลับไปที่เราคุยกันใน
00:24:57 → 00:24:59 ช่วงแรกใช่มั้ยที่พี่บอกว่ายกขาแล้วเกร็ง
00:24:59 → 00:25:04 จำได้ไหมขาแล้วถีบขาปุ๊บกระตุกทันทีเนี่ย
00:25:04 → 00:25:06 ตอนเนี้ยพอพี่เป็นอย่างงี้พี่จะรู้แล้ว
00:25:06 → 00:25:10 ว่าอ๋อปัจจัยมันมี 1 2 3 4 5 6 7 8
00:25:10 → 00:25:14 เราแก้ทีละอย่างพอเราแก้ได้มันก็จะหายขอ
00:25:14 → 00:25:16 ให้เป็นแค่เรื่องของการกินน้ำน้อยก็พอ
00:25:16 → 00:25:18 อยากให้เป็นอย่างนั้นเหมือนกัน
00:25:18 → 00:25:21 ได้ความรู้นะเนี่ยเพราะว่าบางทีเราอาจจะ
00:25:21 → 00:25:24 คิดแค่พฤติกรรมเราอย่างเดียวเราไม่ได้คิด
00:25:24 → 00:25:27 ถึงปัจจัยอื่นนะคะจะได้ไปดื่มน้ำเยอะๆไม่
00:25:27 → 00:25:29 ต้องห่วงละหรอกเรื่องห้องน้ำกินดีกว่า
00:25:29 → 00:25:33 เหอะนะคะขอบคุณหมอหมีจ้าขอบคุณค่ะสวัสดี
00:25:33 → 00:25:35 ค่ะเอาล่ะค่ะคุณผู้ฟังหมดเวลาแล้วนะคะกับ
00:25:36 → 00:25:39 รายการโรงหมอทาง ThaiPBS podcast ค่ะพบ
00:25:39 → 00:25:41 กันใหม่ครั้งหน้านะคะติดตามรับฟังกันได้
00:25:41 → 00:25:43 สาระดีๆรออยู่วันนี้ลาไปก่อนขอบคุณที่ติด
00:25:43 → 00:25:47 ตามรับฟังสวัสดีค่ะ
00:25:47 → 00:25:50 รูปที่เกิดจากการทำงานมีปัจจัยอะไรบ้าง
00:25:50 → 00:25:52 และสาเหตุที่ทำให้เกิดออฟฟิศซินโดรมมาจาก
00:25:52 → 00:25:55 อะไรแพทย์หญิงชิวารัตน์ปราสาทแพทย์ชำนาญ
00:25:55 → 00:25:59 การพิเศษจากโรงพยาบาลนพรัตน์ราชธานีมา
00:25:59 → 00:26:00 เล่าให้ฟังครับ
00:26:00 → 00:26:03 นอกจากการทำงานมันจะไม่เหมือนกับโรคอื่นๆ
00:26:03 → 00:26:08 นะคะคือการทำงานเนี่ยมันจะทำงานแล้วมีการ
00:26:08 → 00:26:10 สัมผัสความเสี่ยงด้านต่างๆไม่ว่าจะเป็น
00:26:10 → 00:26:15 ด้านกายภาพเสียงแสงความร้อนนะคะด้านสาร
00:26:15 → 00:26:18 เคมีชนิดต่างๆหรือว่าเชื้อโรคต่างๆ
00:26:18 → 00:26:22 การมีท่าทางการทำงานที่ไม่เหมาะสมหรือมี
00:26:22 → 00:26:25 ความเครียดมันก็จะสะสมความเสี่ยงนี้ไป
00:26:25 → 00:26:28 เรื่อยๆจนถึงระยะเวลานึงอ่ะค่ะก็จะทำให้
00:26:28 → 00:26:31 เกิดอาการซึ่งระยะเวลาเนี่ยก็ขึ้นอยู่กับ
00:26:31 → 00:26:35 สภาพร่างกายของแต่ละคนนะคะแล้วก็ขึ้นอยู่
00:26:35 → 00:26:38 กับลักษณะงานความเสี่ยงสภาพแวดล้อมในงาน
00:26:38 → 00:26:41 เพราะฉะนั้นคือระยะเวลานานเลยกว่าจะเกิด
00:26:41 → 00:26:44 อาการอาการก็จะเริ่มต้นตั้งแต่อาการเล็ก
00:26:44 → 00:26:47 น้อยเช่นราคาเคืองนะคะหรือว่าอาการ
00:26:47 → 00:26:49 เหนื่อยกว่าปกติหรืออาการในระบบต่างๆใน
00:26:49 → 00:26:52 ระยะเริ่มต้นและถ้ารุนแรงที่สุดถ้าศาล
00:26:52 → 00:26:55 นั้นเนี่ยมันเป็นสารก่อมะเร็งอ่ายกตัว
00:26:55 → 00:26:58 อย่างเช่นแร่ใยหินถ้าใยหินนะคะจะอยู่ใน
00:26:58 → 00:27:02 พวกผ้าเบรคอุตสาหกรรมที่ทำฉนวนกันความ
00:27:02 → 00:27:05 ร้อนถ้าคนงานเนี่ยสัมผัสสารเหล่าเนี้ยไป
00:27:05 → 00:27:09 ในระยะเวลานึง 10 20 ปีส่วนใหญ่จะ 20 30
00:27:09 → 00:27:12 ปีขึ้นไปอ่ะค่ะก็จะเกิดเป็นโรคมะเร็งขึ้น
00:27:12 → 00:27:15 มาเนี่ยค่ะมันอาการเนี่ยได้ตั้งแต่เล็ก
00:27:15 → 00:27:18 น้อยจนถึงรุนแรงถึงโรคมะเร็งเลยอ่ะค่ะโรค
00:27:18 → 00:27:21 ออฟฟิศซินโดรมก็เป็นโรคที่จากการทำงาน
00:27:21 → 00:27:24 เหมือนกันนะคะเป็นเกี่ยวกับระบบกระดูกและ
00:27:24 → 00:27:27 กล้ามเนื้อความเสี่ยงคืออะไรความเสี่ยงก็
00:27:27 → 00:27:30 คือเรื่องของท่าทางการนั่งหรือว่าสถานี
00:27:30 → 00:27:33 งานที่ไม่เหมาะสมตามหลักอากาโกโนมิกหรือ
00:27:33 → 00:27:36 ตามหลักการยศาสตร์นะคะยกตัวอย่างเช่น
00:27:36 → 00:27:39 คอมพิวเตอร์อย่างนี้ค่ะทุกคนลองสังเกตดู
00:27:39 → 00:27:42 ว่าที่เรามองอยู่เนี่ยเราก้มเยอะเกินไป
00:27:42 → 00:27:46 ไหมจออยู่ระดับสายตาไหมนั่งเนี่ยเก้าอี้
00:27:46 → 00:27:49 พิงพนักหรือเปล่าเท้าแตะพื้นไหมค่ะเพราะ
00:27:49 → 00:27:52 ว่าถ้าเรานั่งเท้าไม่แตะพื้นตามหลักหรือ
00:27:52 → 00:27:55 ว่าหลังไม่พิงพนักตามหลักประมาณ 90 องศา
00:27:55 → 00:27:58 หรือว่าประมาณ 100 องศาเนี่ยมันก็ทำให้
00:27:58 → 00:28:01 เราปวดเมื่อยได้ถ้าเรานั่งแบบท่าที่ผิด
00:28:01 → 00:28:04 ท่าตลอด 8 ชั่วโมงเนี่ยค่ะจะทำให้มีอาการ
00:28:04 → 00:28:07 ปวดคอบ่าไหล่แล้วก็การทำงานกับ
00:28:07 → 00:28:10 คอมพิวเตอร์เป็นระยะเวลานานค่ะจะทำให้มี
00:28:10 → 00:28:15 อาการตาแห้งได้ค่ะก็ต้องมีการพักสายตามอง
00:28:15 → 00:28:17 ต้นไม้สีเขียวหรือมองวิวภายนอกหรือว่า
00:28:17 → 00:28:20 เปลี่ยนอิริยาบถในการยืดเหยียดกล้ามเนื้อ
00:28:20 → 00:28:24 ระหว่างทำงานก็จะช่วยลดความเสี่ยงใน
00:28:24 → 00:28:26 เรื่องของการอยู่ท่าทางที่ไม่เหมาะสมนั้น
00:28:26 → 00:28:31 ๆได้พอเราทำงานไปเพลินก็จะรู้สึกว่ามัน
00:28:31 → 00:28:34 มันไม่เป็นไรหรอกแต่ว่าพอถึงระยะเวลานึง
00:28:34 → 00:28:37 พอมันเป็นแล้วเนี่ยมันจะหายยากมากเลย
00:28:37 → 00:28:40 เริ่มมีการปวดเรื้อรังหรือบางคนเป็น
00:28:40 → 00:28:42 รุนแรงก็อาจจะเป็นถึงหมอนรองกระดูกกดทับ
00:28:42 → 00:28:47 เส้นประสาทหรือว่ามีอาการหมอนรองคอกดทับ
00:28:47 → 00:28:51 เส้นประสาทมีอาการชาแขนหรือปวดเรื้อรัง
00:28:51 → 00:28:59 อย่างเงี้ยค่ะ
00:28:59 → 00:29:02 ติดตามรายการทางเว็บไซต์และแอปพลิเคชั่น
00:29:02 → 00:29:04 ของไทย
00:29:04 → 00:29:06 ซุปเปอร์ไฟล์ Sound Cloud Google
00:29:06 → 00:29:09 podcast Apple podcast และ YouTube
00:29:09 → 00:29:13 Channel Thai PBS port ใช้ PBS Plus
00:29:13 → 00:29:16 ค่ะ beautiful
00:29:16 → 00:29:22 [เพลง]