00:00:00 → 00:00:02 ผลไม้ต้องห้ามในผู้ป่วยเบาหวาน
00:00:10 → 00:00:13 สวัสดีครับ ผมหมอท๊อป และนี่คือ DOCTOR TOP Channel
00:00:13 → 00:00:16 รายการสุขภาพที่ทั้งสนุกและมีสาระ
00:00:17 → 00:00:22 วันนี้เราจะมาคุยกันเรื่อง ผลไม้ต้องห้ามในผู้ป่วยเบาหวาน
00:00:22 → 00:00:25 4 ผลไม้ต้องห้ามในผู้ป่วยเบาหวาน
00:00:25 → 00:00:28 ผมบอกเลยมีประโยชน์มากๆ ไม่จำเป็นเฉพาะผู้ป่วยเบาหวาน
00:00:28 → 00:00:32 คนทั่วไปคนปกติ ถ้ารู้เรื่องนี้มีประโยชน์สุดๆ
00:00:32 → 00:00:34 ก่อนไปอย่าลืมกด Like กด Share
00:00:34 → 00:00:36 กด Subscribe และกดกดระดิ่ง ขอบคุณครับ
00:00:37 → 00:00:40 สำหรับท่านที่มีเวลาน้อยกระโดดไปที่ 3 นาทีหลังเลย
00:00:40 → 00:00:41 ผมสรุปให้เรียบร้อย
00:00:41 → 00:00:44 ส่วนท่านที่มีเวลา เราไปพร้อมๆ กันเลย
00:00:44 → 00:00:48 สำหรับเรื่องของผลไม้และผู้ป่วยเบาหวาน
00:00:48 → 00:00:50 มันเป็นไม้เบื่อไม้เมาอะไรประมาณนั้น
00:00:50 → 00:00:54 ก็คือว่าผู้ป่วยเบาหวานก็อยากจะควบคุมอาหารถูกต้องใช่ไหม
00:00:54 → 00:00:56 อยากจะควบคุมน้ำตาลถูกต้องไหม
00:00:56 → 00:00:58 แต่เวลาไปตรวจก็เจอคุณหมอบ่นประจำ
00:00:58 → 00:01:01 ว่าทำไมคุณน้ำตาลไม่ได้ ควบคุมเบาหวานไม่ได้
00:01:01 → 00:01:05 แล้วก็ต้องบอกว่าพอเกิดเหตุการณ์อย่างนี้ขึ้นผู้ป่วยเบาหวานทำไง
00:01:05 → 00:01:06 ก็พยายามที่จะลดน้ำตาลต่างๆ
00:01:06 → 00:01:10 และตัวเลือกที่มักจะโดนตัดก็คือผลไม้นั่นเอง
00:01:10 → 00:01:14 ซึ่งจริงๆ แล้วต้องบอกว่าผลไม้จำเป็นกับผู้ป่วยเบาหวานมากๆ
00:01:14 → 00:01:19 และบอกเลยว่าต้องทาน ชัดเจนนะ ต้องทานแต่ทานให้ถูกต้อง
00:01:19 → 00:01:22 และวันนี้ผมจะมาบอก 4 อย่างที่ไม่ควรทาน
00:01:22 → 00:01:26 และแถมด้วยว่าอะไรควรทาน มาลองดูว่ามีอะไรบ้าง
00:01:26 → 00:01:29 อย่างที่ 1 ที่เป็นอันตรายมากๆ กับผู้ป่วยเบาหวาน
00:01:29 → 00:01:32 นั่นก็คือน้ำผลไม้เข้มข้นนั่นเอง
00:01:32 → 00:01:38 น้ำผลไม้ถามว่าดีไหม ผมบอกเลยว่าดี ทานได้ไหม ทานได้
00:01:38 → 00:01:42 แต่ต้องไม่มากเกินไป วันนึงสำหรับคนทั่วไปเลยนะ
00:01:42 → 00:01:45 ไม่ใช่ผู้ป่วยเบาหวาน ผมแนะนำไม่เกินวันละ 1 แก้ว
00:01:45 → 00:01:48 คือประมาณสัก 120-200 cc ไม่เกินนี้
00:01:48 → 00:01:51 แต่ถ้าผู้ป่วยเบาหวานอยากทานได้ไหม นิดหน่อยนะ
00:01:51 → 00:01:53 อาทิตย์นึงสักครั้งสองครั้งได้
00:01:53 → 00:01:56 แต่ว่าทานทุกวันไม่แนะนำ เพราะอะไร
00:01:56 → 00:02:00 เพราะว่าให้นึกภาพ เช่น น้ำส้มแก้ว 120 cc คือแก้วเล็กๆ เลยนะ
00:02:00 → 00:02:08 แก้วเท่านี้ใช้ส้ม 5 ลูก ปกติท่านทานส้ม 2 ลูกก็อิ่มแล้วถูกต้องไหม
00:02:08 → 00:02:13 ได้กากใยด้วย แต่น้ำผลไม้ไม่ได้กากใย ได้น้อยมาก
00:02:12 → 00:02:19 ยังไม่พอ น้ำตาลจากส้ม 5 ลูก มาใส่แก้วยกซดอึกเดียว
00:02:19 → 00:02:22 เป็นไง น้ำตาลในเลือดที่พุ่งกระฉูดปรี๊ดเลย
00:02:22 → 00:02:24 เราจะสังเกตได้ว่าเวลาเราดื่มน้ำผลไม้
00:02:24 → 00:02:28 ท่านลองนึกภาพตามเป็นไง มีความสุข แฮปปี้
00:02:28 → 00:02:32 เพราะน้ำตาลในเลือดมันพุ่งสูงเร็วมาก ทำให้สมองเราไบรท์เลย
00:02:32 → 00:02:38 แต่ว่าพอแป๊บนึงเป็นไง ดรอป แบบนี้คือการสไปค์กิ้งของน้ำตาล
00:02:38 → 00:02:41 ก็คือน้ำตาลพุ่งขึ้นสูงเร็ว ระดับน้ำตาลในเลือดสูงเร็วมาก
00:02:41 → 00:02:44 แล้วก็ทำให้อินซูลินมีสไปค์กิ้งตาม
00:02:44 → 00:02:49 ก็ทำให้ตับอ่อนผลิตอินซูลินออกมามากๆ
00:02:49 → 00:02:51 เพื่อยับยั้งระดับน้ำตาลที่พุ่งขึ้นสูงเกินไป
00:02:51 → 00:02:53 ตับอ่อนทำงานหนัก ทำงานมากขึ้นเรื่อยๆ
00:02:53 → 00:02:56 สิ่งที่เกิดขึ้นคือตับอ่อนเสื่อมและกลายเป็นเบาหวาน
00:02:56 → 00:03:01 หรือเบาหวานแย่ลงในที่สุด รวมทั้งควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดไม่ได้เลย
00:03:01 → 00:03:03 เพราะฉะนั้นแล้วสำหรับน้ำผลไม้
00:03:03 → 00:03:05 ก็ถือว่าอันตรายพอสมควรสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน
00:03:05 → 00:03:10 บางท่านก็แบบน้ำผลไม้มันดี ผมบอกดี
00:03:10 → 00:03:13 เพียงแต่ว่าอาจจะไม่เหมาะกับผู้ป่วยเบาหวานเท่านั้นเอง
00:03:13 → 00:03:16 ก็นานๆ ทานได้ แต่อย่าทานบ่อย
00:03:16 → 00:03:19 น้ำผลไม้ในที่นี้รวมไปถึงพวกน้ำผลไม้ปั่นด้วย
00:03:19 → 00:03:21 มันก็ไม่ได้แตกต่างกัน
00:03:21 → 00:03:25 คือพวกน้ำผลไม้ปั่นมันใส่ผลไม้ก็จริง
00:03:25 → 00:03:27 เห็นเป็นผลไม้เป็นลูกเลย แล้วปั่นก็จริง
00:03:27 → 00:03:30 แต่เขามักเติมน้ำตาลอะไรเยอะแยะ
00:03:30 → 00:03:34 และปริมาณผลไม้ เวลาเราเคี้ยวเองกับปั่นมันจะต่างกัน
00:03:34 → 00:03:37 คือปั่นมันกินง่ายแป๊บเดียวก็หมดแก้วแล้ว
00:03:37 → 00:03:40 แต่ถ้าเป็นลูกมันจะกินยากๆ
00:03:40 → 00:03:45 ก็แนะนำว่าถ้าเป็นไปได้ แนะนำทานผลไม้สำหรับผู้ป่วยเบาหวาน
00:03:45 → 00:03:49 เป็นลูก เป็นชิ้น เปลือกไม่ต้องมาออกกำลังที่ทานได้นะ
00:03:49 → 00:03:54 แต่ไม่ค่อยแนะนำน้ำผลไม้ มื้อนึงกินสัก 1 กำปั้นเล็ก
00:03:54 → 00:03:57 วันละ 3 กำปั้น และควรแบ่งกิน 3 มื้อ
00:03:57 → 00:04:01 ไม่ควรกินในมื้อเดียวนั่นเองสำหรับน้ำผลไม้
00:04:02 → 00:04:06 มาต่อกันที่อย่างที่ 2 ที่เป็นของต้องห้ามเหมือนกัน
00:04:06 → 00:04:10 สำหรับผู้ป่วยเบาหวาน นั่นก็คือผลไม้ตากแห้ง
00:04:10 → 00:04:12 ผลไม้ตากแห้งตัวจี๊ดมากๆ เลย
00:04:12 → 00:04:17 ให้ท่านนึกภาพลูกเกตุ 1 ลูกเล็กๆ กับลูกองุ่นเท่านิ้วโป้ง
00:04:17 → 00:04:21 น้ำตาลเท่ากัน แล้วท่านกินลูกเกด 1 กำมือ
00:04:21 → 00:04:25 เขาเรียกองุ่น 2 กิโล มันจะเท่ากับประมาณนี้
00:04:25 → 00:04:27 ลูกเกด 1 กำมือ น้ำตาลที่ท่านได้
00:04:27 → 00:04:30 เพราะฉะนั้นน้ำตาลจะสูงมากเลย
00:04:30 → 00:04:32 เพราะนั้นถามว่าทานได้ไหม นิดๆ หน่อยๆ
00:04:32 → 00:04:35 ผมก็ทานพวกลูกเกดพวกอะไรอบแห้ง
00:04:35 → 00:04:37 เชอรรี่อบแห้ง กินกับโยเกิร์ต
00:04:37 → 00:04:41 กินกับกาโนล่า กินกับข้าวโอ๊ต แต่ว่าเล็กน้อย
00:04:41 → 00:04:45 ให้มันปรุงรส ให้มีความหวาน ให้มันชุ่มชื่น ให้มันสดชื่น
00:04:45 → 00:04:50 แต่ไม่ใช่มานั่งกินลูกเกดเป็นถ้วย กินเล่นอย่างนี้ไม่แนะนำเลย
00:04:50 → 00:04:52 โดยเฉพาะผู้ป่วยเบาหวาน
00:04:52 → 00:04:58 มาต่อกันที่ผลไม้ชนิดที่ 3 กันบ้าง นั่นก็คือผลไม้กระป๋อง
00:04:58 → 00:05:01 ผลไม้กระป๋องจริงๆ มันอร่อย
00:05:01 → 00:05:05 ผมก็ชอบกินสดชื่นมากเลย ลำไยกระป๋องเสร็จแล้วก็ใส่น้ำแข็ง
00:05:05 → 00:05:09 ลองนึกภาพมันฟิน มันแบบมันสดชื่นอร่อย
00:05:09 → 00:05:15 แต่บอกเลยว่าสำหรับผู้ป่วยเบาหวานแล้ว คงต้องขอไม่ให้ทานแล้วกัน
00:05:15 → 00:05:20 ไม่ให้ทานหรือว่าอาทิตย์นึงอาจจะสักครั้งนึงให้มันชุ่มชื่นหัวใจ
00:05:20 → 00:05:25 ให้ท่านลองนึกถึงภาพลำไยกระป๋อง สับปะรดกระป๋อง เงาะกระป๋อง
00:05:25 → 00:05:28 ทุกอย่างนี้เป็นไง มันหวานมันสดชื่น
00:05:28 → 00:05:30 โดยตัวผลไม้ก็หวานเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
00:05:30 → 00:05:34 ไอ้น้ำเชื่อมที่ใส่เข้ามาก็หวานเป็นเข้าไปอีก
00:05:34 → 00:05:39 เป็นไง สุดยอดเลย น้ำตาลที่พุ่งกระฉูดถึงฟ้าเลยทีเดียว
00:05:39 → 00:05:40 เพราะฉะนั้นเรื่องของผลไม้กระป๋อง
00:05:40 → 00:05:43 ผมว่าทุกท่านคงทราบกันอยู่แล้วว่ามันหวานจริงๆ
00:05:43 → 00:05:45 มันหวานมาก มันเหมือนขนมหวาน
00:05:45 → 00:05:46 แต่ว่ามันชื่อผลไม้กระป๋อง
00:05:46 → 00:05:50 แต่ผมคิดในใจว่ามันคือขนมหวานกระป๋องมากกว่า มันหวานจริงๆ
00:05:50 → 00:05:52 ถามว่าทานได้ไหม ทานได้
00:05:52 → 00:05:54 มีประโยชน์ไหม มีประโยชน์ แต่เยอะไปไม่ดี
00:05:54 → 00:05:58 ผมบอกแล้วว่าทุกสิ่งทุกอย่างโลกนี้มีประโยชน์ทั้งนั้น
00:05:58 → 00:06:00 ถ้าท่านเลือกได้ถูกต้อง ทานได้ถูกต้อง
00:06:00 → 00:06:03 ในปริมาณที่เหมาะสมและในเวลาที่เหมาะสม
00:06:03 → 00:06:07 ให้คิดดูน้ำเปล่า ถ้าท่านทานน้อยไปก็มีโทษ
00:06:07 → 00:06:10 ทานมากไปก็มีโทษ ผลไม้ก็เหมือนกัน
00:06:11 → 00:06:16 ผลไม้แช่อิ่ม ผลไม้หวานๆ ก็ยิ่งมีโทษมาก เพราะว่ามีน้ำตาลสูง
00:06:16 → 00:06:18 ยิ่งน้ำตาลสูงการควบคุมเบาหวานก็แย่
00:06:18 → 00:06:21 เมื่อการควบคุมเบาหวานแย่ หลอดเลือดในร่างกายต่างๆก็แย่
00:06:21 → 00:06:25 หลอดเลือดที่ตาแย่ ตาบอด หลอดเลือดที่หัวใจแย่ หัวใจขาดเลือด
00:06:25 → 00:06:27 หลอดเลือดที่สมองแย่ อัมพฤกษ์อัมพาต
00:06:27 → 00:06:30 หลอดเลือดที่มือเท้าแย่ แผลไม่หาย โดนตัดแขนตัดขา
00:06:30 → 00:06:34 อันตรายจริงๆ เพราะฉะนั้นแนะนำลด ละ เลิก
00:06:34 → 00:06:38 ทานผลไม้สดดีกว่า ได้กากใย ลดความเสี่ยงมะเร็งลำไส้ใหญ่
00:06:39 → 00:06:41 มาต่อกันที่ผลไม้ชนิดที่ 4 บ้าง
00:06:41 → 00:06:45 กลุ่มที่ 4 ที่ผมจะแนะนำว่าควรหลีกเลี่ยงในผู้ป่วยเบาหวาน
00:06:45 → 00:06:50 นั่นก็คือผลไม้ที่มีไกลซิมิกอินเด็กซ์สูง
00:06:50 → 00:06:51 ไกลซิมิกอินเด็กซ์คืออะไร
00:06:51 → 00:06:57 ก็คือค่าดัชนีน้ำตาลที่บ่งบอกว่าผลไม้นี้ดูดซึมในเลือดได้เร็ว
00:06:57 → 00:06:58 ก็จะมีค่าประมาณ 100 นั่นเอง
00:06:58 → 00:07:03 ถ้าไกลซิมิกสูงใกล้เคียงร้อย 80 90 100 ไกลซิมิกอินเด็กซ์สูง
00:07:03 → 00:07:08 70 ก็สูงและ พวกนี้ไม่ค่อยแนะนำให้ทานในผู้ป่วยเบาหวาน
00:07:08 → 00:07:15 มีอะไรบ้าง ก็เช่น พวกฟักทอง แตงโม อินทผาลัม
00:07:15 → 00:07:20 มะละกอสุก สับปะรด ทุเรียน มันก็อร่อยทั้งนั้นแหละ
00:07:20 → 00:07:22 ถามว่าไม่แนะนำให้ทานเยอะ
00:07:22 → 00:07:26 แต่ถ้าทานคำสองคำโอเค ไม่ได้แบบไม่ห้ามอะไรขนาดนั้น
00:07:26 → 00:07:31 คราวนี้มีแต่แนะนำให้ทาน มีแนะนำให้ทานไหม มี
00:07:31 → 00:07:33 แนะนำที่ให้ทานพวกไกลซิมิกอินเด็กซ์ต่ำ
00:07:33 → 00:07:36 ก็คือมีน้ำตาลเหมือนกันแหละ แต่ดูดซึมช้า
00:07:36 → 00:07:39 ทำให้น้ำตาลมันไม่กระชากขึ้นสูง
00:07:39 → 00:07:44 เช่น ผลไม้กลุ่มเบอร์รี่ ไม่ว่าจะเป็นสตอเบอรี่ โกจิเบอร์รี่
00:07:44 → 00:07:47 บลูเบอร์รี่ มัลเบอรี่ สตอเบอรี่
00:07:47 → 00:07:54 แต่ขอให้เป็นผลไม้สด ไม่ใช่แช่อิ่ม ไม่ใช่เป็นแบบแปรรูปมาใส่น้ำตาลมา
00:07:54 → 00:07:58 ไม่แนะนำหรือเอาไปปั่นเป็นน้ำ กินเล่นได้นานๆ ทีแต่ว่าอย่าทานเยอะ
00:07:58 → 00:08:01 เพราะว่าเอาไปใส่ทีทั้งกำมืออย่างนี้มันก็เยอะเกินไป
00:08:01 → 00:08:03 อย่าลืมว่าอะไรที่ทานได้
00:08:03 → 00:08:08 ก็แนะนำปริมาณไม่เกิน 1 กำปั้นเล็ก ต่อ 1 มื้อ
00:08:08 → 00:08:12 แบ่งเป็น 3 มื้อ ในผู้ป่วยเบาหวาน ต้องเน้นย้ำตรงนี้กันนิดนึง
00:08:12 → 00:08:16 ยังมีอะไรอีก เช่น ผลไม้กลุ่มที่ผมชอบทานมากๆ นะ อะโวคาโด
00:08:16 → 00:08:18 อะโวคาโดที่สุดยอด ซุปเปอร์ฟู้ดนะ
00:08:18 → 00:08:23 มีไขมันชั้นดี ทำให้ไขมันเลวในร่างกายลดความเสี่ยงโรคหัวใจ
00:08:23 → 00:08:27 ยังไม่พอไกลซิมิกอินเด็กซ์ต่ำ ควบคุมน้ำตาลในระดับในเลือดได้ดี
00:08:27 → 00:08:30 อร่อยด้วยนะ ดีจริงๆ ตัวอะโวคาโด
00:08:30 → 00:08:33 ของไทยก็มีของเมืองนอกก็ได้ เอาที่ชอบเอาที่สะดวก
00:08:33 → 00:08:37 ต่อมาฝรั่ง ผมชอบมาก อันนี้แนะนำนะ แนะนำเลย
00:08:37 → 00:08:40 เพราะว่าลูกนึงแคลอรี่ไม่เยอะ คุมน้ำหนักได้ดี
00:08:40 → 00:08:43 ไกลซิมิกอินเดกซ์ต่ำ ทำให้อิ่มนาน กากใยสูง
00:08:43 → 00:08:45 ลดความเสี่ยงมะเร็งลำไส้ใหญ่
00:08:45 → 00:08:48 มีอย่างอื่นอีกไหม มี ชมพู่ก็ได้นะ
00:08:48 → 00:08:50 ชมพู่ก็เหมือนกัน ผมก็ชอบทานนะ
00:08:50 → 00:08:55 ส่วนใหญ่ผมจะชอบทานแอปเปิ้ล ฝรั่ง ชมพู่ สามทหารเสือผมเลย
00:08:55 → 00:08:59 มื้อนึง 1 กำปั้นเล็ก แบ่งเป็น 3 มื้อ ชีวิตจะดีขึ้นมาก
00:08:59 → 00:09:04 และนี่คือ 4 ผลไม้ต้องห้ามในผู้ป่วยเบาหวาน
00:09:04 → 00:09:08 ก็ขอให้ทุกท่านห่างไกลโรคเบาหวานและมีสุขภาพดีทุกๆ คน
00:09:08 → 00:09:12 คราวนี้ผมขออนุญาตสรุป
00:09:12 → 00:09:18 4 ผลไม้ต้องห้าม 4 อย่าง 4 กลุ่มในผู้ป่วยเบาหวาน
00:09:18 → 00:09:20 คือจริงๆ แล้วเหมาะกับทุกๆ คนเลย ผมใช้คำนี้เลย
00:09:20 → 00:09:23 แต่ว่าผู้ป่วยเบาหวานมากๆ
00:09:23 → 00:09:27 มาดูผลไม้กลุ่มแรก นั่นก็คือกลุ่มน้ำผลไม้นั่นเอง
00:09:27 → 00:09:30 น้ำผลไม้จริงๆ แล้วดี แต่วันนึงไม่ควรทานเกิน 1 แก้ว
00:09:30 → 00:09:32 บอกเลยน้ำตาลมาสูงมาก
00:09:32 → 00:09:35 และน้ำตาลสูงมาก รวมทั้งร่างกายดูดซึมได้เร็ว
00:09:35 → 00:09:39 เพราะมันเป็นแบบสารประเภทน้ำ ท่านดื่มไปสดชื่นเลย
00:09:39 → 00:09:43 แบบนี้แปลว่าน้ำตาลดูดซึมเร็วมาก อันตราย
00:09:43 → 00:09:45 เบาหวานจะสวิง น้ำตาลจะสวิง
00:09:45 → 00:09:48 ทำให้ตับอ่อนยิ่งทำงานหนัก เบาหวานก็ยิ่งแย่ลงนั่นเอง
00:09:48 → 00:09:52 เพราะฉะนั้นไม่ค่อยแนะนำเท่าไหร่ ทานได้ไหม เล็กน้อย
00:09:52 → 00:09:57 และโดยเฉพาะผู้ป่วยเบาหวานน้อยมากๆ แนะนำให้ทานผลไม้สดดีกว่า
00:09:57 → 00:10:01 ก็จะเป็นประโยชน์ต่อชีวิต แล้วก็ได้กลับใหญ่ที่ดีกว่า
00:10:02 → 00:10:06 แล้วก็วิตามินที่ดีกว่านั่นเอง อิ่มด้วย ควบคุมน้ำหนักได้ดี
00:10:06 → 00:10:11 มาต่อกันที่ผลไม้ชนิดที่ 2 ที่ห้ามกันบ้าง นั่นก็คือกลุ่มผลไม้ตากแห้ง
00:10:11 → 00:10:15 ให้ท่านนึกถึงลูกเกด ลูกเล็กๆ กับองุ่นลูกเท่านิ้วโป้ง
00:10:15 → 00:10:19 องุ่นลูกเท่านิ้วโป้ง ถนอมอาหารกลายเป็นลูกเกดเม็ดเล็กๆ
00:10:19 → 00:10:24 ท่านทานลูกเกด 1 กำมือ ก็ปริมาณน้ำตาล
00:10:24 → 00:10:27 ก็เท่ากับองุ่นประมาณ 1-2 กิโลกรัม
00:10:27 → 00:10:30 คือทานลูกเกด 1 กำมือ มันแป๊บเดียว
00:10:30 → 00:10:32 แต่เหมือนกินน้ำตาลแบบเป็นถ้วยอย่างนี้
00:10:32 → 00:10:34 ก็อันตราย คุมเบาหวานได้ยาก
00:10:34 → 00:10:36 ทานได้ไหม ทานได้นิดหน่อย เติมแต่งให้อร่อย
00:10:36 → 00:10:38 ผมก็ทาน ไม่ใช่ผมทาน
00:10:38 → 00:10:40 ผมทานใส่โยเกิร์ต ใส่กาโนล่า ใส่ข้าวโอ๊ต
00:10:40 → 00:10:44 แล้วก็เอาพวกเบอรี่แห้งหรือว่าลูกเกด
00:10:44 → 00:10:48 หรือผลบลูเบอร์รี่อบแห้งเล็กๆ น้อยๆ ที่มันหวานใส่ลงไปนิดๆ หน่อยๆ
00:10:48 → 00:10:50 ปรุงแต่งให้รสชาติมันดีขึ้นเท่านั้นเอง
00:10:50 → 00:10:53 แต่อย่ากินให้อิ่ม อย่างนี้มันไม่อิ่ม
00:10:53 → 00:10:56 ยิ่งหวาน ยิ่งกินมัน ยิ่งไม่อิ่ม
00:10:56 → 00:11:00 ปิดบังศูนย์ความอิ่มได้เลยความหวานของเรา อันตรายมากๆ
00:11:00 → 00:11:04 มาต่อกันที่ผลไม้ชนิดที่ 3 ที่ไม่แนะนำเลยในผู้ป่วยเบาหวาน
00:11:04 → 00:11:07 นั่นก็คือผลไม้กระป๋องนั่นเอง
00:11:07 → 00:11:10 เงาะกระป๋อง ลำไยกระป๋อง ลิ้นจี่กระป๋อง กระป๋องทั้งหลาย
00:11:10 → 00:11:13 เพราะว่าอะไร หนึ่งคือมันเป็นผลไม้แปรรูป
00:11:13 → 00:11:15 ก็คือเรื่องของการบรรจุอะไรต่างๆ พวกนี้
00:11:15 → 00:11:18 มันทำให้สูญเสียทั้งวิตามิน สูญเสียทั้งแร่ธาตุบางส่วนไป
00:11:18 → 00:11:21 รวมทั้งมีน้ำตาลสูงมากๆ ในน้ำเชื่อม
00:11:21 → 00:11:24 ตัวผลไม้ก็หวานอยู่แล้ว น้ำตาลใส่เข้าไปอีก
00:11:24 → 00:11:26 แบบนี้เจอไม่สามารถที่จะคุมน้ำตาลได้เลย
00:11:27 → 00:11:29 ยิ่งทานยิ่งแย่ แต่มันอร่อยจริงๆ
00:11:29 → 00:11:33 ถ้าผู้ป่วยเบาหวานอยากทาน ผมให้อาทิตย์ละถ้วยเล็กๆ
00:11:33 → 00:11:37 ลำไยสัก 5 เม็ด แล้วก็ใส่น้ำแข็งเยอะๆ หน่อย
00:11:37 → 00:11:40 ให้หวานมันลดลงหน่อย มันก็จะสดชื่นอร่อย
00:11:40 → 00:11:44 ไม่ได้ห้าม แต่เลือกปริมาณให้เล็กให้น้อย ทานได้
00:11:44 → 00:11:46 ชีวิตเราต้องมีสีสันต้องมีความสดใสบ้าง
00:11:46 → 00:11:48 จะไปทุกข์ทรมานอย่างเดียวมันไม่ได้
00:11:48 → 00:11:51 มาต่อกันที่ผลไม้ชนิดที่ 4 กันบ้าง
00:11:51 → 00:11:54 นั่นก็คือผลไม้ที่มีไกลซิมิกอินเด็กซ์สูง
00:11:54 → 00:11:57 ไกลซิมิกอินเด็กซ์ก็คือค่าดัชนีน้ำตาลนั่นเอง
00:11:57 → 00:12:00 เมื่อไหร่ก็ตามที่มีค่าดัชนีน้ำตาลสูง
00:12:00 → 00:12:02 แปลว่ามันดูดซึมเข้าร่างกายเร็วมาก
00:12:02 → 00:12:04 เมื่อดูดซึมเข้าร่างกายเร็วมาก
00:12:04 → 00:12:06 ตับอ่อนต้องรีบผลิตอินซูลินออกมาเร็วมาก
00:12:06 → 00:12:09 เพื่อยับยั้งให้ระดับน้ำตาลในเลือดกลับสู่ระดับปกติ
00:12:09 → 00:12:11 ทำให้ตับอ่อนทำงานหนัก
00:12:11 → 00:12:14 สักพักหนึ่งก็กลายเป็นเบาหวานสำหรับผู้ที่ไม่เป็นเบาหวาน
00:12:14 → 00:12:17 แต่ผู้ที่เป็นเบาหวานอยู่แล้ว ยิ่งควบคุมระดับน้ำตาลยากเข้าไปอีก
00:12:17 → 00:12:20 งงไปหมด ทำให้ร่างกายเราแย่ขึ้น
00:12:20 → 00:12:25 ให้คิดง่ายๆ ถ้าระดับน้ำตาลมันแย่ หลอดเลือดต่างๆในร่างกายเราก็แย่
00:12:25 → 00:12:27 หลอดเลือดไปที่ตาแย่ ตาบอด
00:12:27 → 00:12:28 หลอดเลือดไปที่สมองแย่ เป็นอัมพาต
00:12:29 → 00:12:31 หลอดเลือดไปที่งหัวใจแย่ เป็นหัวใจขาดเลือด
00:12:31 → 00:12:32 หลอดเลือดไปที่แขนขาแย่
00:12:32 → 00:12:35 แผลไม่หาย โดนตัดแขนตัดขา อันตรายสุดๆ
00:12:35 → 00:12:38 เพราะฉะนั้นไม่แนะนำเลย สำหรับผลไม้ที่มีไกลซิมิกอินเด็กซ์สูง
00:12:38 → 00:12:45 มีอะไรบ้าง เช่น ฟักทอง แตงโม อินทผาลัม สับปะรด ทุเรียนมะละกอสุก
00:12:45 → 00:12:47 ไม่ค่อยแนะนำเท่าไหร่ จริงๆ อีกหลายอย่าง
00:12:47 → 00:12:50 กด Google เอา ไกลซิมิกอินเด็กซ์สูงเลือกเอา อย่าไปทาน
00:12:51 → 00:12:53 เลือกทานไกลซิมิกอินเด็กซ์ต่ำ มีอะไรบ้าง
00:12:53 → 00:12:59 ผลเบอร์รี่ อะโวคาโด ฝรั่ง ชมพู่ และอีกมากมายก็กดดูเอาใน Google
00:12:59 → 00:13:02 ผลไม้ไกลซิมิกอินเด็กซ์หรือค่าดัชนีน้ำตาลต่ำ
00:13:02 → 00:13:04 มีให้ท่านเลือกสรร แต่อย่าลืม
00:13:04 → 00:13:09 แม้จะต่ำก็ต้องกินปริมาณไม่เกิน 1 กำปั้นเล็ก ต่อ 1 มื้อ
00:13:09 → 00:13:14 และไม่ควรรวมกิน 3 มื้อในมื้อเดียว โดยเฉพาะผู้ป่วยเบาหวาน
00:13:14 → 00:13:17 ก็ขอให้ทุกท่านมีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงดีทุกคน
00:13:17 → 00:13:19 ก่อนไปอย่าลืมกด Like กด Share
00:13:19 → 00:13:21 กด Subscribe และกดกระดิ่ง ขอบคุณครับ