00:00:00 → 00:00:02 เด็กนะคะถ้าเราวัดทุกเดือนทุกเดือนทุก
00:00:02 → 00:00:04 เดือนจะเห็นได้เลยว่าเด็กจะหยุดสูงช่วง
00:00:05 → 00:00:08 ที่ป่วยแล้วก็เด็กจะหยุดสูงช่วงที่ 2 บาง
00:00:08 → 00:00:11 ทีเราก็ต้องทานยาที่กดภูมิลดน้ำมูกลดการ
00:00:11 → 00:00:14 ไอยาเหล่านั้นน่ะคะมันหยุดการเจริญเติบโต
00:00:14 → 00:00:17 อย่างหลายคนน่ะค่ะก็บอกว่าเล่นบาสะสูงก็
00:00:17 → 00:00:20 ให้ลูกเล่นบาสตลอดจนกระทั่งเขามีปัญหาใน
00:00:21 → 00:00:24 เรื่องของกล้ามเนื้อออนแรงดรหญิงบรรณารัก
00:00:24 → 00:00:28 ธีรมงคลผู้อำนวยการสถาบันเพิ่มความสูงดทส
00:00:28 → 00:00:31 มีประสบการณ์ด้านความสูงกว่า 20 ปีศึกษา
00:00:31 → 00:00:33 เรียนรู้ศาสต์ไคโรแพคติกการจัดกระดูก
00:00:33 → 00:00:36 เพิ่มความสูงทำงานวิจัยเชิงลึกร่วมกับ
00:00:36 → 00:00:38 หน่วยงานต่างๆทำให้รู้เคล็ดลับการเจริญ
00:00:38 → 00:00:41 เติบโตของร่างกายเด็กบางคนตัวเล็กตั้งแต่
00:00:41 → 00:00:44 เด็กแล้วพอ 8-9 ขวบอยู่ดีๆพรวดขึ้นมาทำ
00:00:44 → 00:00:47 ให้เขาอ่ะโตขึ้นเร็วกว่าวัยและทำให้หยุด
00:00:47 → 00:00:49 สูงในวัยผู้ใหญ่เร็วขึ้นบางทีการที่ดู
00:00:49 → 00:00:52 YouTube เยอะๆมันก็เป็นการกระตุ้นที่ทำ
00:00:52 → 00:00:55 ให้เขาอยากจะโตเร็วขึ้นด้วยอ้าแบบนี้ด้วย
00:00:55 → 00:00:58 ใช่มมคะผู้ใหญ่หยุดสูงไปแล้วจะมาเพิ่ม
00:00:58 → 00:01:01 ความสูงได้มคะคุณหมอสามารถจะทำให้เขาสูง
00:01:01 → 00:01:03 ขึ้นหลังจากนั้นได้ส่วนใหญ่ที่เราเห็นก็
00:01:03 → 00:01:06 คืออยู่ที่ 5 ซมแต่ตามหลักการแล้วไปได้จน
00:01:06 → 00:01:09 ถึง 7 ซม 8 ซมได้เลยค่ะแล้วมีอะไรมคะที่
00:01:09 → 00:01:12 เป็นอุปสรรคต่อความสูงไม่ควรรับประทาน 3
00:01:12 → 00:01:15 อย่างเนี่ยส่วนใหญ่หมอจะบอกว่าห้ามเลย
00:01:15 → 00:01:17 แล้วมันทำให้กระดูกใหม่ที่เราพยายามจะ
00:01:17 → 00:01:21 สร้างอ่ะเขาถูกดึงออกมากินนมเยอะๆสูงอัน
00:01:21 → 00:01:23 นี้เป็นเรื่องจริงหรือเป็นตำนานคะคุณหมอ
00:01:24 → 00:01:26 จริงๆกระดูกอ่ะค่ะไม่ได้สร้างจากแคลเซียม
00:01:26 → 00:01:29 นะคะไปศึกษาที่แอฟริกามาแล้วยีราฟก็ไม่
00:01:29 → 00:01:32 ได้ดื่นนมนะคะแต่เขาก็สูงออนี่ความรู้
00:01:32 → 00:01:33 ใหม่เลยนะ
00:01:33 → 00:01:36 เนี่ย on the way with ชมวันนี้ค่ะเรา
00:01:36 → 00:01:40 จะมาพูดคุยกันถึงเรื่องของความสูงค่ะก็ใน
00:01:40 → 00:01:43 ฐานะที่ก็เป็นคุณพ่อคุณแม่นะคะก็เชื่อว่า
00:01:43 → 00:01:46 หลายๆบ้านเนี่ยก็คงจะมีคอนเซิร์นเรื่อง
00:01:46 → 00:01:47 ของการเจริญเติบโตของลูกนะคะแล้วก็โดย
00:01:47 → 00:01:50 เฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของความสูงค่ะบาง
00:01:50 → 00:01:52 บ้านเนี่ยก็อาจจะตัวเล็กทั้งคุณพ่อทั้ง
00:01:52 → 00:01:54 คุณแม่นะคะก็จะกังวลว่าเอ๊ะอย่างเงี้ย
00:01:54 → 00:01:56 พันธุกรรมเรามาแบบนี้เนี่ยลูกเราจะสูงได้
00:01:56 → 00:01:59 ไหจริงๆแล้วเนี่ยพันธุกรรมเป็นแค่เพียง
00:01:59 → 00:02:01 ส่วน 1 เท่านั้นนะคะแต่เรื่องของ
00:02:01 → 00:02:03 ไลฟ์สไตล์นะคะวิทยาศาสตร์การแพทย์นะคะ
00:02:03 → 00:02:06 เรื่องของอาหารโภชนาการการออกกำลังกายการ
00:02:06 → 00:02:09 หลับนอนนะคะรวมถึงเรื่องของฮอร์โมนต่างๆ
00:02:09 → 00:02:12 เนี่ยมีผลต่อการเพิ่มความสูงของลูกทั้ง
00:02:12 → 00:02:14 นั้นนะคะวันนี้เราจะมาคุยเรื่องนี้กันค่ะ
00:02:14 → 00:02:16 วันนี้เราคุยกันเรื่องความสูงนะคะคุณหมอ
00:02:16 → 00:02:21 ค่ะค่ะก็จะเห็นว่าเด็กยุคนี้เขาสูงกันสูง
00:02:21 → 00:02:24 ขึ้นกว่าสมัยก่อนเยอะเลยนะคะตอนนี้ค่า
00:02:25 → 00:02:28 เฉลี่ยความสูงของชายไทยหญิงไทยเอาแบบโต
00:02:28 → 00:02:30 เต็มที่อยู่ที่ประมาณเท่าไหร่คะคุณหมอ
00:02:30 → 00:02:33 เดี๋ยวนี้ค่ะเด็กสมัยเสนใจเรื่องความสูง
00:02:33 → 00:02:35 กันมากคุณพ่อคุณแม่ก็ส่งเสริมเรื่องความ
00:02:35 → 00:02:40 สูงกันค่อนข้างที่จะเยอะมากเมื่อปี 2014
00:02:40 → 00:02:43 ก็มีการเก็บสถิติในเรื่องของความสูงของ
00:02:43 → 00:02:48 จริงๆประชากรโลกเลยนะคะเราก็พบว่าสมัย
00:02:48 → 00:02:52 ก่อนเนี่ยค่ะ 170 สำหรับชายไทยคือจุดรอด
00:02:52 → 00:02:54 ละแต่สมัยเนี้ย 170 เขาบอกไม่รอดแล้วค่ะ
00:02:54 → 00:02:58 ต้องเป็น 173 1775 อัพขึ้นมาผู้หญิงอ่ะ
00:02:58 → 00:03:01 ค่ะก็เหมือนกัน 160 สมัยก่อนเราก็ว่าเป็น
00:03:01 → 00:03:06 จุดรอดละแต่สมัยเค่ะเด็กๆเขารู้สึกว่า 165
00:03:06 → 00:03:08 ถึงจะเป็นจุดรอดอันนี้ก็คือคำนวณค่า
00:03:08 → 00:03:11 เฉลี่ยจากประชากรโลกด้วยค่ะค่ะค่ะ
00:03:11 → 00:03:13 พัฒนาการของเด็กอย่างเงี้ยค่ะคุณหมอมัน
00:03:13 → 00:03:15 เริ่มจากไหนคะมันจะมีช่วงที่แบบว่าเหมือน
00:03:15 → 00:03:18 เป็นมีความสำคัญกับพัฒนาการในเรื่องความ
00:03:18 → 00:03:20 สูขของเขาจริงๆเนี่ยคือช่วงอายุไหนอ่ะคะ
00:03:20 → 00:03:24 ค่ะหลายคนก็ถามอนะคะว่าช่วงนาทีทองของลูก
00:03:24 → 00:03:27 อ่ะควรจะเป็นช่วงไหนพอเรามาทำในเรื่องของ
00:03:27 → 00:03:30 วิเคราะห์นะคะในเรื่องของการเจริญเติบโต
00:03:30 → 00:03:33 ของเด็กเราก็ว่ามีปัจจัยที่ส่งผลด้วยหมอ
00:03:33 → 00:03:37 มองว่าสัก 5 ปัจจัยปัจจัยแรกก็คือ
00:03:37 → 00:03:39 biological ก็คือค่าพันธุกรรมเนี่ยแหละ
00:03:39 → 00:03:42 ความสูงคุณพ่อความสูงคุณแม่โครงสร้างร่าง
00:03:42 → 00:03:45 กายอย่างที่เราทราบแต่เรามักจะติดอยู่แค่
00:03:45 → 00:03:49 ข้อเดียวนะคะมันมีข้ออื่นด้วยข้อ 2 ก็คือ
00:03:49 → 00:03:52 Growth ก็คือเด็กมีการยืดตัวเป็นยังไง
00:03:52 → 00:03:55 บ้างในช่วงของแต่ละวัยก็จะทำให้ความสูง
00:03:55 → 00:03:58 ของแต่ละคนเนี่ยค่อนข้างที่จะแตกต่างกัน
00:03:58 → 00:04:02 ค่ะอันที่ 3 บิดพฤติกรรมปัจจุบันเด็กมี
00:04:02 → 00:04:05 พฤติกรรมที่เปลี่ยนไปแต่ว่าเด็กก็สนใจ
00:04:05 → 00:04:08 เรื่องเพิ่มความสูงมากขึ้นแต่ความสูงทำไม
00:04:08 → 00:04:11 กับมีเวลาที่สั้นลงปัจจัยที่ 4 ก็จะเป็น
00:04:11 → 00:04:13 ในเรื่องของ illness ก็เป็นในเรื่องของ
00:04:14 → 00:04:17 สุขภาพถ้าเกิดสมมุติว่าสุขภาพไม่ดีป่วย
00:04:17 → 00:04:19 ตั้งแต่ตอนเด็กๆอ่ะค่ะการเจริญเติบโตก็จะ
00:04:19 → 00:04:22 ชะงักด้วยหรือว่าโภชนาการไม่ดีทำให้น้อง
00:04:22 → 00:04:25 ตัวเล็กก็ทำให้ชะงักด้วยเหมือนกันค่ะอัน
00:04:25 → 00:04:28 ที่ 5 เดี๋ยวนี้มีการศึกษาเรื่อง mental
00:04:28 → 00:04:32 Health กันมากขึ้นก็คืออชเด็กปัจจุบันมี
00:04:32 → 00:04:35 ความเครียดค่อนข้างที่จะสูงจากการที่คุณ
00:04:35 → 00:04:37 พ่อคุณแม่พาลูกไปโรงเรียนแล้วก็ยังอยาก
00:04:38 → 00:04:41 ให้เรียนพิเศษเพิ่มนอกเวลาเรียนจันทร์ถึง
00:04:41 → 00:04:44 ศุกร์ก็เรียนหลังเลิกเรียนแล้วยังจะมี
00:04:44 → 00:04:47 เสาร์อาทิตย์อีกที่จะเรียนเต็มวันค่ะงั้น
00:04:47 → 00:04:50 ทำให้้นพดหรือ้น time ของเขาอ่ะค่ะมัน
00:04:50 → 00:04:53 อยู่ในช่วงแค่ 8-15 ปีเท่านั้นเองค่ะคุณ
00:04:53 → 00:04:56 ชมพู่หมายถึงว่าช่วงที่เราจะบิให้เขาสูง
00:04:56 → 00:04:58 ได้จริงๆคือช่วงอายุ 8-15 ขวบอย่างเงี้ย
00:04:58 → 00:05:01 ใช่มใช่อะไรอย่างเงี้ยตั้งแต่แรกเกิดถึง
00:05:01 → 00:05:03 7-8 ขวบอย่างเงี้ยล่ะค่ะคุณหมอมีความ
00:05:03 → 00:05:06 สำคัญมั้ยคะค่ะสำคัญมากค่ะแต่คุณพ่อคุณ
00:05:06 → 00:05:09 แม่ส่วนใหญ่สนใจอยู่แล้วนะคะเหมือนเด็ก
00:05:09 → 00:05:12 แรกเกิดเราก็จะนอนพร้อมลูกกินพร้อมลูกมี
00:05:12 → 00:05:16 การดูแลเอาใจใส่เด็กก็จะเจริญเติบโตที่ดี
00:05:16 → 00:05:19 แต่พอลูกเริ่มเข้าโรงเรียนคุณพ่อคุณแม่
00:05:19 → 00:05:22 เริ่มเปลี่ยนพฤติกรรมแสดงว่าลูกและเด็ก
00:05:22 → 00:05:25 กลับมาใช้พฤติกรรมเหมือนคุณพ่อคุณแม่อาจ
00:05:25 → 00:05:27 จะมีหลายอย่างที่ต้องโฟกัสด้วยใช่มั้ยคะ
00:05:27 → 00:05:30 คุณพ่อคุณแม่ก็อาจจะเหมือนไปมุ่งความสนใจ
00:05:30 → 00:05:32 ไปที่เรื่องความสูงอย่างเดียวไม่ได้เนาะ
00:05:32 → 00:05:36 อันนี้คือพูดพูดจากใจตัวเองเพราะว่ามันก็
00:05:36 → 00:05:39 หลายอย่างเนาะไปโรงเรียนไหนจะเรื่องการ
00:05:39 → 00:05:41 เรียนเรื่องอะไรต่างๆนานาอะไรอย่างเงี้ย
00:05:41 → 00:05:43 บางทีก็คุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่ก็มีเรื่องให้
00:05:43 → 00:05:47 ต้องแบบว่าโฟกัสเยอะพอสมควรใช่ใช่ค่ะเด็ก
00:05:47 → 00:05:50 ก็เหมือนกันนะค่ะเขาก็พยายามจะปรับสภาพ
00:05:50 → 00:05:52 เพราะคุณพ่อคุณแม่คิดว่าการที่ลูกไปโรง
00:05:52 → 00:05:55 เรียนอยู่ในที่ที่เหมาะสมแล้วเขาอยู่ใน
00:05:55 → 00:05:58 เพื่อนกลุ่มเดียวกันแต่ทราบมั้ยคะว่าเด็ก
00:05:58 → 00:06:00 ไปโรงเรียนเดี๋ยวนี้ต้องมีสว vial Mode
00:06:00 → 00:06:04 ด้วยเหมือนกันจากเพื่อนๆที่เข้ามาเกิดการ
00:06:04 → 00:06:07 เปรียบเทียบการถูกชมการถูกตำหนิหรือว่า
00:06:07 → 00:06:11 เกรดของเด็กอ่ะค่ะมีผลในเรื่องของจิตใจ
00:06:11 → 00:06:13 ค่อนข้างที่จะเยอะแล้วมันส่งผลเรื่องของ
00:06:13 → 00:06:17 การเจริญเติบโตด้วยค่ะค่ะหยุดสูงตอนอายุ
00:06:17 → 00:06:20 เท่าไหร่คะคุณหมอส่วนมากจริงๆเราดูตรง
00:06:20 → 00:06:22 นั้นเนี่ยค่ะมันดูค่อนข้างจะยากเพราะว่า
00:06:22 → 00:06:25 ปัจจุบันนะคะสมัยก่อนคุณชมพู่อาจจะได้ยิน
00:06:25 → 00:06:29 ว่าผู้ชายสูงจนถึงอายุ 18 ค่ะนะคะแต่
00:06:29 → 00:06:32 ปัจจุบันเนี่ยเด็กผู้ชายหยุดสูงตั้งแต่
00:06:32 → 00:06:36 อายุ 15 อืนะคะมันเร็วขึ้นมาเด็กผู้หญิง
00:06:36 → 00:06:39 หยุดสูงตั้งแต่อยู่ม 2 ค่ะม 1 ม 2 แล้ว
00:06:39 → 00:06:41 คือเราจะได้ยินว่าตั้งแต่เด็กๆนะแม่ก็จะ
00:06:41 → 00:06:45 พูดว่าถ้าประจำเดือนมาก็จะหยุดสูงประมาณ
00:06:45 → 00:06:47 นี้ใช่มั้คใช่ก็ยังเป็นอย่างงั้นอยู่ค่ะ
00:06:47 → 00:06:50 เพียงแต่สมัยก่อนประจำเดือนผู้หญิงอาจจะ
00:06:50 → 00:06:55 มาตอนม 2 ม 3 แต่ปัจจุบันมาป 4 ค่ะอืโอก็
00:06:55 → 00:06:57 คือเด็กเป็นสาวเร็วขึ้นอ่ะถ้าพูดให้เห็น
00:06:57 → 00:07:01 ภาพใช่ค่ะภาวะเป็นหนุ่มเป็นสาวไวขึ้นค่ะ
00:07:01 → 00:07:04 อันนี้มันมาจากอะไรอ่ะคะคุณหมอมาจากย้อน
00:07:04 → 00:07:07 กลับไปที่ 5 ปัจจัยนั้นเลยค่ะคุณชมพู่
00:07:07 → 00:07:10 แฮบิตของเขานะคะเด็กอ่ะค่ะการหลั่งโกท
00:07:10 → 00:07:15 ฮอร์โมนที่ผิดปกติด้วยมีฮอร์โมนเพศเข้ามา
00:07:15 → 00:07:18 ร่วมกับการเจริญเติบโตของเขาที่เร็วขึ้น
00:07:18 → 00:07:21 ทำให้เขาเกิดภาวะการเป็นหนุ่มเป็นสาวเร็ว
00:07:21 → 00:07:24 ขึ้นด้วยค่ะฮอร์โมนเพศนี่มันมันมากับอะไร
00:07:24 → 00:07:27 อ่ะค่ะคุณมากับอาหารอะไรอย่างเงี้ยหรอคะ
00:07:27 → 00:07:31 เป็นส่วนนึงค่ะแต่จริงๆมมนเพศอ่ะค่ะ
00:07:31 → 00:07:33 เอสโตรเจนของผู้หญิงหรือว่าเทสโทสเตอโรน
00:07:33 → 00:07:36 ของผู้ชายก็อยู่ในตัวเราอยู่แล้วอย่างที่
00:07:36 → 00:07:38 เราได้ยินในเรื่องของการเจริญเติบโตเราก็
00:07:38 → 00:07:42 จะพูดถึงโทฮอร์โมนโรทฮอร์โมนก็คือต่อมใต้
00:07:42 → 00:07:44 สมองของเราอ่ะค่ะก็หลั่งมาเพื่อให้เด็ก
00:07:44 → 00:07:48 ได้มีการเจริญเติบโตที่ดีมีความสูงที่ดี
00:07:48 → 00:07:51 แต่ทีนี้ถ้าเกิดน้องอ่ะค่ะมีความเครียด
00:07:51 → 00:07:55 หรือความกดดันนะคะหรือมีแฮบิตติดเกมก็บาง
00:07:55 → 00:08:00 ทีก็ทำให้ฮอร์โมนเพศเนี่ยเขาออกมาแีเร็ว
00:08:00 → 00:08:02 กว่าเดิมอืนี้พอเออกมา Active เร็วกว่า
00:08:03 → 00:08:05 เดิมอย่างเช่นเด็กอาจจะสูงตั้งแต่เด็กเลย
00:08:05 → 00:08:09 เนาะตั้งแต่แรกเกิด 6 ขวบ 7 ขวบแต่ 8 ขวบ
00:08:09 → 00:08:11 9 ขวบ 10 ขวบเขายังไม่หยุดสูงเขาก็จะ
00:08:11 → 00:08:14 กลายเป็นคนที่เรียกว่าโตก่อนวัยหรือว่า
00:08:14 → 00:08:17 เด็กบางคนตัวเล็กตั้งแต่เด็กแล้วพอ 8-9
00:08:17 → 00:08:20 ขวบอยู่ดีๆพรวดขึ้นมากลุ่มนี้ก็จะทำให้
00:08:20 → 00:08:23 เขาอ่ะโตขึ้นเร็วกว่าไวแล้วทำให้หยุดสูง
00:08:23 → 00:08:26 ในวัยผู้ใหญ่เร็วขึ้นตัวที่กระตุ้นใน
00:08:26 → 00:08:29 เรื่องของการเจริญเติบโตคือโสฮอร์โมนแต่
00:08:29 → 00:08:32 การที่เรามีพฤติกรรมหรือการใช้ชีวิตสิ่ง
00:08:32 → 00:08:35 แวดล้อมเป็นตัวกระตุ้นทำให้ฮอร์โมนเพศอ่ะ
00:08:35 → 00:08:38 ค่ะเขามาแคทีพอเขามาแคทีปุ๊บเขาก็ไปกดดัน
00:08:38 → 00:08:41 โกทฮอร์โมนให้หลั่งมากขึ้นแล้วตัวเขาก็
00:08:41 → 00:08:45 เริ่มแีมากขึ้นเด็กกลุ่มนี้เราก็จะพบว่า
00:08:45 → 00:08:47 ถ้าวัดอายุกระดูกนะคะเดี๋ยวนี้ก็จะมีการ
00:08:47 → 00:08:50 สแกนกระดูกค่ะก็จะพบว่าเด็กกลุ่มเค่ะ
00:08:51 → 00:08:54 กระดูกแก่กว่าใวอืในในเรื่องของฮอร์โมนนะ
00:08:54 → 00:08:57 คะเราพูดถึงโกสฮอร์โมนเราพูดถึงฮอร์โมน
00:08:57 → 00:08:59 เพศแต่มันก็มีฮอร์โมนตัวอื่นด้วยที่ช่วย
00:09:00 → 00:09:03 ในเรื่องของการเจริญเติบโตนะคะอย่างเช่น
00:09:03 → 00:09:05 เซโรโทนินฮอร์โมนก็จะเป็นฮอร์โมนแห่งความ
00:09:05 → 00:09:09 สุขค่ะนะคะเราก็จะได้จากการออกกำลังกาย
00:09:09 → 00:09:13 อยู่กับธรรมชาติได้แสงแดดอ่อนๆอันนี้ก็จะ
00:09:13 → 00:09:16 หลั่งฮอร์โมนในเรื่องของการเจริญเติบโตนะ
00:09:16 → 00:09:19 คะเอนโดฟินนะคะเอนโดฟินก็ได้จากการออก
00:09:19 → 00:09:23 กำลังกายด้วยเหมือนกันก็เป็นฮอร์โมนที่
00:09:23 → 00:09:27 สามารถที่จะช่วยทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายนะ
00:09:27 → 00:09:30 คะหรือออกซิโทซินอันนี้ก็เป็นในเรื่องของ
00:09:30 → 00:09:33 ความรักเชื่อมโยงของความรักการกอดการอยู่
00:09:33 → 00:09:36 กับสัตว์เลี้ยงหรือการทานข้าวในครอบครัว
00:09:36 → 00:09:39 ข้อโมนเหล่านี้ค่ะก็ช่วยในเรื่องของการ
00:09:39 → 00:09:42 เจริญเติบโตเราไม่ได้โฟกัสแค่โกรทฮอร์โมน
00:09:42 → 00:09:45 อย่างเดียวถ้าเรากระตุ้นให้เด็กเมีอารมณ์
00:09:45 → 00:09:49 ดีรู้สึกไม่เครียดไม่ตึงเครียดนอนหลับพัก
00:09:49 → 00:09:52 ผ่อนดีก็จะทำให้การเจริญเติบโตเป็นไปโดย
00:09:52 → 00:09:55 ธรรมชาติค่ะอย่าเพิ่งไปยุ่งกับฮอร์โมนเพศ
00:09:55 → 00:09:57 มันก็คือเรื่องของฮอร์โมนเนี่ยแหละนอก
00:09:57 → 00:09:59 เหนือมาจากเอ่อพันธุกรรมถูกมั้ยคะเพราะ
00:09:59 → 00:10:03 ฉะนั้นการที่เด็กเนี่ยเขามีไลฟ์สไตล์ที่
00:10:03 → 00:10:06 สมดุลเพื่อที่ให้ฮอร์โมนในร่างกายของเขา
00:10:06 → 00:10:09 เนี่ยเรียกว่ามันหลั่งออกมาแล้วก็ทำงาน
00:10:09 → 00:10:11 อย่างสมดุลเนี่ยเขาก็เจริญเติบโตไปได้ตาม
00:10:12 → 00:10:14 วัยอันสมควรของเขาไม่ถูกรบกวนอย่างเงี้ย
00:10:14 → 00:10:17 ถูกมั้ยคะใช่ค่ะไม่ถูกกระตุ้นไงคะเพราะ
00:10:17 → 00:10:20 ว่าบางทีการที่ดู YouTube เยอะๆมันก็เป็น
00:10:20 → 00:10:22 การกระตุ้นที่ทำให้เขาอยากจะโตเร็วขึ้น
00:10:22 → 00:10:26 ด้วยออแบบนี้ด้วยใช่มั้ยคะใช่ค่ะทีนี้ถ้า
00:10:26 → 00:10:29 ทั้งฝั่งคุณพ่อคุณแม่อย่างเงี้ยค่ะไม่ส
00:10:29 → 00:10:33 สูงตัวเล็กเนาะใจมีหวังมยคะคุณหมอว่ารุ่น
00:10:33 → 00:10:37 ลูกเนี่ยจะสูงขึ้นได้มีหวังค่ะเราคำนวณ
00:10:37 → 00:10:39 จากค่าพันธุกรรมก่อนจริงๆทุกครอบครัวค่ะ
00:10:39 → 00:10:42 ควรจะรู้ว่าการคำนวณค่าพันธุกรรมอ่ะเป็น
00:10:42 → 00:10:45 อย่างไรบ้างก็คำนวณจากความสูงของคุณพ่อ
00:10:45 → 00:10:49 บวกความสูงของคุณแม่ถ้าเป็นลูกชายก็บวก 13
00:10:49 → 00:10:53 แล้วก็ค่อยหาร 2 นะคะถ้าเป็นลูกสาวก็ความ
00:10:53 → 00:10:57 สูงคุณพ่อบวกความสูงคุณแม่ -13 แล้วก็หาร
00:10:57 → 00:11:00 2 อ๋อค่ะอันนี้จะได้ค่าเฉลี่ยพันธุกรรม
00:11:01 → 00:11:04 นะคะอย่างวันก่อนนะค่ะก็มีมาปรึกษาด้วย
00:11:04 → 00:11:08 เหมือนกันคุณพ่อคุณแม่อ่ะค่ะตัวเล็กนะคะ
00:11:08 → 00:11:10 ได้ค่าเฉลี่ยค่าพันธุกรรมสำหรับลูกชาย
00:11:10 → 00:11:13 อยู่ที่ 166 ค่ะนะคะแต่เด็กไม่ได้อยากสูง
00:11:13 → 00:11:17 แค่ 166 เาอยากสูงอย่างน้อย 176 เพราะว่า
00:11:17 → 00:11:19 พอได้จากค่าพันธุกรรมแล้วเราสามารถที่จะ
00:11:19 → 00:11:22 บวก 10 ได้อีกค่ะดังนั้นจากค่าพันธุกรรม
00:11:22 → 00:11:25 ที่เราได้มันมีทั้ง + 10 แล้วก็มีทั้ง
00:11:25 → 00:11:28 -10 ค่ะนั่นก็คือการเจริญเติบโตปกติตาม
00:11:28 → 00:11:31 ค่าพันธุกรรด้วยซ้ำค่ะก็มีหลายเคสที่เรา
00:11:31 → 00:11:35 สามารถที่จะก้าวข้ามค่าพันธุกรรมได้ต้อง
00:11:35 → 00:11:37 ทำอะไรบ้างอ่ะคะคุณหมอสิ่งแรกอ่ะค่ะที่
00:11:37 → 00:11:40 เราจะได้ความสูงเราต้องมีการวางแผนวางแผน
00:11:40 → 00:11:42 ให้กับลูกเราเลยว่าลูกเราอ่ะอยากจะให้
00:11:42 → 00:11:45 เขาคสูงเท่าไหร่แล้วก็ดูในเรื่องของ
00:11:45 → 00:11:48 ปัจจัยเสี่ยงต่างๆถ้าเราสามารถที่จะลดทอน
00:11:48 → 00:11:51 ลงได้หลายๆประเทศอ่ะค่ะอย่างเช่นประเทศ
00:11:51 → 00:11:55 จีนเขาต้องการที่จะพัฒนาอ่านักกีฬาของเค
00:11:55 → 00:11:58 คนในประเทศของเขาคเคก็คำนวณจากค่า
00:11:58 → 00:12:00 พันธุกรรมแล้วแล้วเขาก็ให้คนของเขาอ่ะสูง
00:12:00 → 00:12:03 ขึ้นจากค่าพันธุกรรม 10 ซมคโดยการที่ทั้ง
00:12:03 → 00:12:08 ออกกำลังกายดูแลโภชนาการนอนหลับที่ดีคก็
00:12:08 → 00:12:10 จะส่งผลด้วยเหมือนกันเรื่องของการนอนนี่
00:12:10 → 00:12:13 น่าจะมีผลมากๆถูกมั้ยคะคุณหมอโสฮอร์โมนมี
00:12:13 → 00:12:16 ผลค่ะการนอนน่ะค่ะทำให้เกิดการหลั่งโกรส
00:12:16 → 00:12:21 ฮอร์โมนที่ดีแต่ก็ต้องนอนหลับสนิทนอนเร็ว
00:12:21 → 00:12:25 นอนปิดไฟแอร์เย็นๆนะคะถ้าเกิดนอนหลับไม่
00:12:25 → 00:12:29 สนิทนอนเร็วเราก็ไม่ได้ผลลัพธ์ที่ดีอืมัก
00:12:29 → 00:12:33 จะถามว่าเด็กควรจะนอนกี่ชั่วโมงค่ะนะคะก็
00:12:33 → 00:12:38 โดยปกติอ่ะค่ะถ้าเด็ก 7 ขวบถึง 11 ปีนะคะ
00:12:38 → 00:12:41 ควรจะนอนให้ได้ 10 ชมงต่อวันอย่างน้อยเ
00:12:41 → 00:12:44 จริงๆอย่างพอดีเลยค่ะชเกินกว่านั้นก็ไม่
00:12:44 → 00:12:47 ดีใช่มั้ยเกินกว่านั้นก็ไม่เหมาะลค่ะถ้า
00:12:47 → 00:12:51 เกิด 11-14 ก็ประมาณสัก 9 ชมครึ่งนะคะถ้า
00:12:51 → 00:12:55 14 ขึ้นไปก็อาจจะประมาณ 9 ชมกำลังดีเด็ก
00:12:55 → 00:12:58 ควรจะนอนกี่โมงซึ่งหลายๆคนถามนะคะในงาน
00:12:58 → 00:13:01 วิจัยบอกว่าเด็กควรที่จะตื่นหรือคนนเรา
00:13:01 → 00:13:03 อ่ะควรที่จะตื่นประมาณ 5:00 นเพราะงาน
00:13:04 → 00:13:06 วิจัยบอกว่าถ้าเด็กได้ตื่น 5:00 นเขาจะ
00:13:06 → 00:13:10 พัฒนาในเรื่องของศักยภาพสมองมีความฉลาดนะ
00:13:10 → 00:13:13 คะมีพัฒนาการทางกายได้ดีแล้วถ้าเด็กต้อง
00:13:13 → 00:13:17 นอน 10 ชมงคุณชมพู่ต้องเอา 5:00 นลบลงไป
00:13:17 → 00:13:21 10 ชมงถึงจะได้เวลาที่เหมาะสมที่เขาควร
00:13:21 → 00:13:24 ที่จะนอน 19:00 นเหรอคะ 19:00 นค่ะใช่แต่
00:13:24 → 00:13:28 ปัจจุบันเราพบว่าเด็ก 7 ขวบ 8 ขวบ 9 ขวบ
00:13:28 → 00:13:31 นอนไม่เกิน 2 19:30 นค่ะดังนั้นแล้วเขา
00:13:31 → 00:13:35 ก็ไปเพิ่มว่าตื่นสายค่ะแทนที่ให้ได้ 10
00:13:35 → 00:13:38 ชมงแต่เด็กในกลุ่มเนี้ยเป็นการกระตุ้นทำ
00:13:38 → 00:13:40 ให้ฮอร์โมนเพศเขาขึ้นมา Active ด้วย
00:13:40 → 00:13:43 เหมือนกันออที่เราพบว่าภาวะเป็นหนุ่มเป็น
00:13:43 → 00:13:47 สาวก่อนวัยก็เกี่ยวพันจากการที่นอนไม่ถูก
00:13:47 → 00:13:50 ต้องตามเวลาของเขาหรือว่าตื่นไม่ถูกต้อง
00:13:50 → 00:13:53 ตามเวลาก็คือว่า ideally เนี่ยก็คือว่า
00:13:53 → 00:13:56 ควรจะต้องนอน 19:00 นนตื่น 5:00 นอันนี้
00:13:56 → 00:14:00 จากงานวิจัยเลยค่ะอืที่เขาอ่าสออกมาอืม
00:14:00 → 00:14:03 แล้วตื่นเนี่ยคือ biological Clock ของ
00:14:03 → 00:14:05 เขาทำงานตื่นเองหรือว่าตื่นด้วยนาฬิกา
00:14:05 → 00:14:08 ปลุกมาจริงๆ biological Clock ของเขา
00:14:08 → 00:14:10 ตื่นเองอ่ะค่ะแต่ด้วยการที่พอพฤติกรรมพอ
00:14:11 → 00:14:14 เขานอนดึกก็ทำให้เขาตื่นสายเพราะว่าเวลา
00:14:14 → 00:14:17 ตื่นจะกำหนดเวลานอนของมนุษย์เสมอค่ะ
00:14:17 → 00:14:19 สมมุติว่ามันนอน 1900 นึงไม่ได้อย่าง
00:14:19 → 00:14:22 เงี้ยค่ะคุณหมอสมมุติว่าเราเขยิบมาเป็น
00:14:22 → 00:14:24 20:00 นแล้วเราตื่น 6:00 นแทนอย่างเงี้ย
00:14:24 → 00:14:27 ทำไมมันถึงส่งผลกับโรสฮอร์โมนเราได้ไม่
00:14:27 → 00:14:29 เหมือนกันนะคะอ่าคุณชมพู่ได้ยินใช่มั้ยคะ
00:14:29 → 00:14:32 ว่าโกธมนต์หลังมากที่สุดคือ 22:00 นถ 1
00:14:32 → 00:14:34 ใช่มั้ยคะแล้วหลายคนก็เข้าใจว่าพระโกธ
00:14:34 → 00:14:37 มนต์หลังมากที่สุด 22:00 นถ 1 นลูกก็ควร
00:14:37 → 00:14:40 ที่จะนอนถ้านอนก่อน 22:00 นแปลว่าปลอดภัย
00:14:40 → 00:14:44 แล้วนะคะแต่ความเป็นจริง 22:00 นถึง 1:00
00:14:44 → 00:14:46 นเป็นช่วงที่โกสฮอร์โมนหลั่งได้ดีตลอด
00:14:46 → 00:14:49 ชีวิตอยู่แล้วตอนเด็กๆเราจะมาในเรื่องของ
00:14:49 → 00:14:52 การเจริญเติบโตใช่มั้ยคะแล้วก็ตอนหลังเรา
00:14:52 → 00:14:54 ก็จะมาคุยในว่าพอโตเป็นผู้ใหญ่เราก็ยังมี
00:14:54 → 00:14:57 โกรทฮอร์โมนอยู่แต่เขาจะมาดูแลในเรื่อง
00:14:57 → 00:15:01 ของซ่อมแซมส่วนที่สึกหลอค่ะงั้นช่วง 22:00
00:15:01 → 00:15:04 นถึง 1:00 นเขาก็จะไปดูอวัยวะภายในของเรา
00:15:04 → 00:15:08 ละปอดตับกระเพาะลำไส้หัวใจสมองซึ่งมัน
00:15:08 → 00:15:11 เป็นอวัยวะในเรื่องของการดำรงของสิ่งมี
00:15:11 → 00:15:14 ชีวิตแต่การเจริญเติบโตจะอยู่ที่หัวค่ำ
00:15:14 → 00:15:17 จากงาน study ของเราอนะคะในงานวิจัยช่วง
00:15:17 → 00:15:20 18:00 นถึง 21:00 นเป็นโกรทฮอร์โมนที่มา
00:15:21 → 00:15:23 ดูแลเรื่องการเจริญเติบโตก็คือกระดูกค่ะ
00:15:23 → 00:15:27 ช่วง 20:00 น - 21:00 นโดยร่างกายอ่ะค่ะ
00:15:27 → 00:15:29 จะหลั่งสารเพื่อจะลดในเรื่องของการเจ็บ
00:15:29 → 00:15:33 ปวดลงพูดง่ายๆทั้งวันเราเครียดเนาะวิ่งก็
00:15:33 → 00:15:36 เครียดละร่างกายก็เกิดสสละดังนั้นร่างกาย
00:15:36 → 00:15:39 ต้อง delete ออกไม่ให้สะสม 21:00 น -
00:15:39 → 00:15:43 22:00 นเป็นเวลาของกล้ามเนื้ออืดังนั้น
00:15:43 → 00:15:46 ถ้าลูกเรานอนเลทจากเวลาที่เขาควรจะเป็นก็
00:15:46 → 00:15:50 ตกรอบมันก็เลยทำให้ฮอร์โมนเพศเขาค่ะผุด
00:15:51 → 00:15:54 ขึ้นมา Active อืหลายคนเบลมในเรื่องของ
00:15:54 → 00:15:56 โภชนาการแต่มันไม่ใช่แค่นั้นนะคะมันเป็น
00:15:56 → 00:15:59 ในเรื่องของพฤติกรรมอืเหมือนว่าเด็กอยาก
00:15:59 → 00:16:02 จะโตเร็วหรืออยากจะพยายามจะกระตุ้นตัวเอง
00:16:02 → 00:16:05 เร็วก็ส่งผลทั้งจิตใจแล้วก็ส่งผลทำให้
00:16:05 → 00:16:08 ฮอร์โมนเพศเขาออกมา Active ด้วยเหมือนกัน
00:16:08 → 00:16:10 อันนี้คือชมสงสัยส่วนตัวค่ะคุณคือชมอ่ะ
00:16:10 → 00:16:14 ไม่เข้าใจว่าเรื่องของฮอร์โมนเนี่ยมันมัน
00:16:14 → 00:16:17 มาผูกกับนาฬิกาได้ยังไงอ่ะคะเค้าเรียก
00:16:17 → 00:16:21 อะไร cardian ry หรือว่าหรือยังไงเพราะ
00:16:21 → 00:16:24 ว่าแต่ละคนมันตื่นนอนเข้านอนไม่พร้อมกัน
00:16:24 → 00:16:28 น่ะคือมันผูกอะไรทำไมตอนหัวค่ำต้องเป็น
00:16:28 → 00:16:30 เรื่องนี้แล้วตอนหลัง 2200 นไปแล้วถึง
00:16:30 → 00:16:32 เป็นเรื่องอะไรอย่าเงี้ยคือมันมันผูกกัน
00:16:32 → 00:16:35 ยังไงคุณค่ะค่ะเราอ่ะค่ะขึ้นอยู่ใน
00:16:35 → 00:16:38 สุริยจักรวาลดังนั้นสิ่งมีชีวิตเกิดขึ้น
00:16:38 → 00:16:40 จากพระอาทิตย์ขึ้นกับพระอาทิตย์ตกเรายัง
00:16:40 → 00:16:44 อยู่ใน timing ตรงนี้อยู่ต้นไม้เขาก็มี
00:16:44 → 00:16:46 เวลาของเขาเพราะพระทิตกเขาก็หลั่ง
00:16:46 → 00:16:48 คาร์บอนไดออกไซด์ถูกมั้ยคะตอนกลางวันเขา
00:16:48 → 00:16:50 ก็หลั่งออกซิเจนร่างกายของเราก็จะมี
00:16:50 → 00:16:52 biological Clock ของเราอย่างนี้เหมือน
00:16:52 → 00:16:56 กันแต่เนื่องจากวิถีชีวิตสิ่งที่เราไป
00:16:56 → 00:17:00 กระตุ้นสมัยก่อนเราก็ดูทีวีดึกสมัยนี้
00:17:00 → 00:17:04 ไม่นะคเราดูตลอดเวลา 24
00:17:04 → 00:17:08 ชมของเราอ่ะเปลี่ยนไปแต่ biological
00:17:08 → 00:17:11 Clock ร่างกายไม่เปลี่ยนไปค่ะหลายคนพอ
00:17:11 → 00:17:15 ใช้ชีวิตที่ไม่ถูกต้องไปนานๆก็สุขภาพ
00:17:15 → 00:17:18 เริ่มเสื่อมโทรงเด็กมปลายหลายคนที่มาคุณ
00:17:18 → 00:17:20 พ่อคุณแม่มาปรึกษาเรื่องเพิ่มความสูงมา
00:17:20 → 00:17:23 พร้อมกับปัญหาโรคซึมเศร้าด้วยค่ะซึ่งเรา
00:17:23 → 00:17:26 จะต้องมานั่งคอยแก้เขาด้วยเหมือนกันค่ะ
00:17:26 → 00:17:30 เป็นเพราะว่าเคมีในองเขาอ่ะทำงานแล้วมัน
00:17:30 → 00:17:33 เพี้ยนอย่างเช่นสมองควรจะใช้ถึงแค่ 19:00
00:17:33 → 00:17:35 นมากที่สุดหลัง 19:00 นไม่ควรจะเรียน
00:17:35 → 00:17:38 พิเศษไม่ควรจะทำอะไรเลยแต่เรารู้สึกว่า
00:17:38 → 00:17:41 ช่วงนั้นลูกว่างอยู่ค่ะแล้วลูกก็เรียน
00:17:41 → 00:17:44 พิเศษแล้วเราก็ส่งเสริมด้วยนะลูกฉันขยัน
00:17:44 → 00:17:47 จังเลยเรียนพิเศษแต่การเรียนหนังสือการจด
00:17:47 → 00:17:51 จำที่ดีคือตื่น 4:00 น 5:00 นค่ะช่วงนั้น
00:17:51 → 00:17:54 ก็คือให้ร่างกายเขา settle ให้เขาล้างพวก
00:17:54 → 00:17:58 ขยะของเสียให้เขาบูสตัวเองแล้วก็มาตื่น
00:17:58 → 00:18:00 เช้าตี 4:00 5:00 นช่วงนั้นน่ะค่ะจะเป็น
00:18:00 → 00:18:03 ช่วงที่ความจำที่ดีที่สุดแต่ถ้าลูกต้อง
00:18:03 → 00:18:06 ตื่น 4:00 น 5:00 นเราก็เดือดร้อนเนาะคุณ
00:18:06 → 00:18:08 พ่อคุณแม่ก็เดือดร้อนเนาะแม่ก็ขี้เกียจ
00:18:08 → 00:18:12 ตื่นเหมือนกันใช่พอตื่นมาลูกจะทำอะไรหมอ
00:18:12 → 00:18:14 ก็บอกไปเลยว่าถ้าจะตื่น 4:00 น 5:00 นการ
00:18:14 → 00:18:18 บ้านที่ค้างอยู่คุณมาเก็บทำตอนนั้นก็ได้
00:18:18 → 00:18:21 หรือถ้าเด็กบางคนอยากเล่นเกมคุณมาเล่นเกม
00:18:21 → 00:18:24 ตอนนั้นไม่ติดเลยเพราะเป็นเวลาของสมองค่ะ
00:18:24 → 00:18:28 ขอแค่ 19:00 นคุณยุติการใช้มือถือหรือการ
00:18:28 → 00:18:30 กระตุ้นเซลล์สมองเพราะเวลาที่เราใช้มือ
00:18:30 → 00:18:34 ถือเราถูกกระตุ้นตลอดเวลาแล้วเราก็ติดใช่
00:18:34 → 00:18:37 มยคะนี้พอเราวางมือถือลงอ่ะสมองอ่ะที่เขา
00:18:38 → 00:18:40 ถูกปั่นน่ะค่ะเขาก็จะปั่นไปเรื่อยๆพอไม่
00:18:40 → 00:18:43 ถูกกระตุ้นต่อเขาก็จะเริ่มเอื่อยๆลงทำให้
00:18:43 → 00:18:47 เด็กปัจจุบันค่ะเวลาหลับหลับไม่ลึกค่ะพอ
00:18:47 → 00:18:49 หลับไม่ลึกปุ๊บอันนั้นก็กระตุ้นฮอร์โมน
00:18:49 → 00:18:51 เพศด้วยเช่นกันอืเรื่องของการออกกำลังกาย
00:18:51 → 00:18:54 ล่ะคะคุณหมอควรจะส่งเสริมให้ลูกเล่นกีฬา
00:18:54 → 00:18:56 ประเภทไหนหรือว่าออกกำลังกายยังไงคะถึงจะ
00:18:56 → 00:19:00 แบบช่วยแบบเพิ่มความสูงได้ Active ค่ะการ
00:19:00 → 00:19:04 ให้ให้ลูกออกไปวิ่งเล่นเล่นบาสเกตบอล
00:19:04 → 00:19:07 วอลเลย์บอลในส่วนตรงเยค่ะปล่อยให้เขาแคที
00:19:07 → 00:19:10 ไปเลยส่วนใหญ่ก็จะส่งเสริมอะไรก็ได้ที่
00:19:10 → 00:19:13 กระโดดกลางอากาศค่ะนะคะแล้วก็การว่ายน้ำ
00:19:13 → 00:19:15 ว่ายน้ำก็ช่วยในเรื่องของการยืดหยุ่นด้วย
00:19:15 → 00:19:18 เหมือนกันค่ะก็อะไรที่เป็นแทีข้างนอกให้
00:19:18 → 00:19:21 เขาห่างจากตำราเรียนบ้างให้เขาอยู่กับ
00:19:21 → 00:19:24 สังคมอยู่กับเพื่อนก็จะเอื้อนในเรื่องของ
00:19:24 → 00:19:26 การเจริญเติบโตที่ดีค่ะกระโดดกลางอากาศ
00:19:26 → 00:19:28 นี่คืออย่างพวกแทมโบลีนอย่างเงี้ใช่มั้ย
00:19:28 → 00:19:30 คะคุณหมอใช่ค่ะใชแล้วอย่ากระโดดเชือกอ่ะ
00:19:30 → 00:19:33 คะต่างกันค่ะคุณชมพู่เวลาที่เรากระโดด
00:19:34 → 00:19:35 กลางอากาศไม่ว่าจะเล่นบาสเกตบอล
00:19:35 → 00:19:38 วอลเลย์บอลหรือว่าการกระโดดแทมโพลีนการ
00:19:38 → 00:19:40 กระโดดแทมโพลีนก็ต้องมาดูว่าเรากระโดด
00:19:40 → 00:19:42 เพื่อกระดูกหรือเราจะกระโดดเพื่อกล้าม
00:19:43 → 00:19:46 เนื้อเราสามารถฝึกได้หรือเหนอไม่เหมือน
00:19:46 → 00:19:48 กันค่ะหรือว่าจะกระโดดเพื่อจะกระตุ้นระบบ
00:19:48 → 00:19:51 อมู System ระบบภูมิคุ้มกันงั้นถ้ากระโดด
00:19:51 → 00:19:54 อ่ะค่ะก็จะแตกต่างกันแต่กระโดดกลางอากาศ
00:19:54 → 00:19:56 หมายถึงกระโดดแล้วยืนตรงนะคะแล้วกระโดด
00:19:56 → 00:20:00 ไม่ใช่กระโดดตีลังกากลางอากาศ
00:20:00 → 00:20:05 ค่ะอันนั้นอันตรายอันตตัวแมพที่เราใน
00:20:05 → 00:20:08 เร่องความสูงคมันจะมีข้อกำหนดว่าความ
00:20:08 → 00:20:13 กว้างไม่ควรจะเกินเมต 20 หรือ 1.50 ดัง
00:20:13 → 00:20:16 นั้นเนี่ยแทมโพลีนที่ 3 เม 4 เมตไม่ได้
00:20:16 → 00:20:18 ถูกดีไซน์มาในเรื่องของความสูงที่เขาไป
00:20:18 → 00:20:20 กระโดดระดกันที่เด็กๆชอบไปเล่นแบบนั้นไม่
00:20:20 → 00:20:23 นับใช่มคะใช่อันนั้นนค่ะเพราะเขาถูก
00:20:23 → 00:20:25 ดีไซน์มาเพื่อให้เรากระโดดแล้วเราทิ้งตัว
00:20:25 → 00:20:28 ลงอืเพื่อจะรองรับดังนั้นเขาก็จะมีควความ
00:20:28 → 00:20:31 หย่อนค่ะนะคะเด็กก็จะเล่นสนุกแล้วก็ปลอด
00:20:31 → 00:20:34 ภัยแต่ถ้าจะกระโดดเพื่อความสูงอ่ะค่ะมัน
00:20:34 → 00:20:37 จะมีความมันต้องตึงเหหรอคะคุณหมอไม่ถึง
00:20:37 → 00:20:39 กับตึงมากอ่ะค่ะเพราะว่าจริงๆมันคือการ
00:20:39 → 00:20:41 กระโดดกลางอากาศเพราะถ้าเรากระโดดแล้ว
00:20:41 → 00:20:44 กระแทกกับพื้นน่ะค่ะมันก็อาจจะเกิดการบาด
00:20:44 → 00:20:46 เจ็บที่บริเวณข้อต่อกระดูกหรือกล้ามเนื้อ
00:20:46 → 00:20:49 ได้ก็จะเหมือนโดดเชือกถ้าอย่างงั้นคล้ายๆ
00:20:49 → 00:20:51 ค่ะแต่โดดเชือกอ่ะค่ะเนื่องจากว่าพอ
00:20:51 → 00:20:53 กระโดดเชือกเราไม่ได้กระโดดสูงค่ะดังนั้น
00:20:53 → 00:20:56 เราไม่ได้มีความกระแทกที่มันที่มันรุนแรง
00:20:56 → 00:20:59 อสิบอ่ะค่ะก็คือกระโดดกดดเชือกเพื่อให้
00:20:59 → 00:21:01 เชือกมันผ่านเท่านั้นเองงั้นบางคนคุณพ่อ
00:21:01 → 00:21:05 คุณแม่ถามว่ากระโดดสัก 500 ครั้งได้มยอาจ
00:21:05 → 00:21:07 จะไม่ได้เรื่องความสูงแต่อาจจะได้น่องโต
00:21:07 → 00:21:09 อืเพราะว่าพอเรากระโดดเชือกเราจะกระโดด
00:21:10 → 00:21:12 ด้วยปลายเท้าคใช่มั้ยคะพอเรากระโดดด้วย
00:21:12 → 00:21:16 ปลายเท้าแรงสปริงอ่ะค่ะมันจะได้ความเร็ว
00:21:16 → 00:21:18 เพราะความเร็วมันจะลงไปถึงกล้ามเนื้อจะ
00:21:18 → 00:21:21 ไม่ได้ในเรื่องของข้อต่อกระดูกเท่าที่ควร
00:21:21 → 00:21:23 ในหลักทางวิทยาศาสตร์อย่างเงี้ค่ะการ
00:21:23 → 00:21:25 กระโดดกลางอากาศมันทำให้เราสูงขึ้นยังไง
00:21:25 → 00:21:28 อ่ะคะคุณหมอช่วงที่เราต้องยกคือช่วงซี่
00:21:28 → 00:21:31 ครบในโครงสร้างหรือกระดูกของเราซี่โครงจะ
00:21:31 → 00:21:34 หนักที่สุดใชมคะกระดูกคอ 7 ข้อไม่มีอะไร
00:21:34 → 00:21:37 แต่กระดูกซี่โครงเรามีซี่โครงที่ออกมาการ
00:21:37 → 00:21:40 กระโดดกลางอากาศก็คือเรากำลังยืดตัวเรา
00:21:40 → 00:21:43 ขึ้นนั่นคือเรากำลังกระโดดยกซี่โครงเรา
00:21:43 → 00:21:46 น่ะนะคะพอเรายกซี่โครงไปแล้วเนี่ยค่ะแล้ว
00:21:46 → 00:21:48 เรากระโดดบนแทมโพลีนเนี่ยค่ะมันจะมีผ้าใบ
00:21:48 → 00:21:51 แทมโพลีนที่รองรับดังนั้นเราไม่เกิดการ
00:21:51 → 00:21:54 กระแทกเพราะเวลาที่เรากระโดดสูงกลางอากาศ
00:21:54 → 00:21:58 แล้วเราทิ้งตัวลงบนผ้าใบแทมโพลีนตัวตัว
00:21:58 → 00:22:00 ฟอสของเราอ่ะค่ะที่เรากระโดดมันจะกระแทก
00:22:00 → 00:22:03 จากใต้แทมโพลีนไปจถึงพื้นแล้วเขาก็จะ
00:22:03 → 00:22:06 กระดอนขึ้นมาแต่ว่ามันไม่ถึงตัวเรามันเลย
00:22:06 → 00:22:09 ทำให้ไม่เกิดการบาดเจ็บนี้การกระโดดกลาง
00:22:09 → 00:22:11 อากาศนั่นหมายความว่าเรากำลังยกน้ำหนัก
00:22:11 → 00:22:14 ของเราซี่โครงของเราอ่ะค่ะสู้กับฟอสแรง
00:22:14 → 00:22:17 โน้มถ่วงของโลกอืมันไม่เหมือนกระโดดจาก
00:22:17 → 00:22:20 พื้นแข็งกระโดดจากพื้นแข็งก็คือเราเหยียบ
00:22:20 → 00:22:23 ที่พื้นแล้วก็ฉีบตัวขึ้นค่ะถูกมั้ยคะ
00:22:23 → 00:22:25 เหมือนเวลาเราว่ายน้ำอ่ะคุณชมพู่ถ้าเรา
00:22:25 → 00:22:28 ว่ายน้ำแล้วเราฉีบตัวจากขอบสระเราก็จะไป
00:22:28 → 00:22:31 ได้ได้ไกลเพราะว่ามันเกิดการถีบใช่มั้ยคะ
00:22:31 → 00:22:33 แต่ถ้าเราอยู่กลางสระแล้วเราต้องถีบตัวไป
00:22:33 → 00:22:36 เรากำลังสู้กับแรง Force ของน้ำน้ำอันนี้
00:22:36 → 00:22:39 เนี่ยการกระโดดของเราก็คือการต่อสู้กับ
00:22:39 → 00:22:42 แรงฟอสของแรงโน้มถ่วนของโลกเราก็เลยต้อง
00:22:42 → 00:22:45 ใช้แรงเยอะกว่าเดิม 3 เท่าค่ะการกระโดด
00:22:45 → 00:22:47 แทมโพลีนหรือรีบาวเดอร์อ่ะค่ะเป็นการที่
00:22:47 → 00:22:50 ทำให้ร่างกายช็อกเล็กๆอืในการที่เรา
00:22:50 → 00:22:53 กระตุ้นแล้วแทมโพลีนเป็นอุปกรณ์เดียวที่
00:22:53 → 00:22:56 เขาเรียกว่า Cell Exercise เรากำลังออก
00:22:56 → 00:22:59 กำลังกายทุกเซล์ในร่างกายหมดเลยใช่รวม
00:22:59 → 00:23:02 ทั้งเซลลสมองด้วยงั้นเทคนิคที่ใช้ A
00:23:02 → 00:23:05 Dynamic Exercise ก็คือเรากำลังกระตุ้น
00:23:05 → 00:23:08 ให้เซลล์สมองของเขาอ่ะคะให้น้องทุกคนน่ะ
00:23:08 → 00:23:11 ฉลาดขึ้นเก่งขึ้นเพื่อจะย้อนกลับมาดูแล
00:23:11 → 00:23:13 เรื่องพัฒนาการทางร่างกายของเรานอกเหนือ
00:23:13 → 00:23:15 จากการกระโดดแทมรินแล้วมีอย่างอื่นมคะที่
00:23:15 → 00:23:18 นับว่าเป็น A Dynamic Exercise นะคะ
00:23:18 → 00:23:20 อะไรก็ตามที่อยู่กลางอากาศกระโดดกลาง
00:23:20 → 00:23:25 อากาศให้ได้นานที่สุดนะคะมีการโหนบาก็
00:23:25 → 00:23:28 เป็นการฝึกด้วยเหมือนกันการใช้เครื่องพีิ
00:23:28 → 00:23:31 อหลายคนบอกใช้เครื่องพทิสูงหรือเปล่าเรา
00:23:31 → 00:23:34 กำลังใช้เครื่องพทิเพื่อให้ตัวระยางขาค่ะ
00:23:34 → 00:23:37 มีการยืดเหยียดที่ดีขึ้นทำให้เขากระโดด
00:23:37 → 00:23:41 กลางอากาศที่ดีขึ้นจะมีท่าในการฝึกเทคนิค
00:23:41 → 00:23:44 แร Dynamic Exercise ซึ่งเราจะต้อง
00:23:44 → 00:23:47 ประคองให้เขากระโดดกลางอากาศได้นานที่สุด
00:23:47 → 00:23:49 เพราะถ้าเรากระโดดแล้วเราตุ๊บลงมาแสดงว่า
00:23:49 → 00:23:52 กล้ามเนื้อเราหนักเหมือนนักกีฬาบาสเกตบอล
00:23:52 → 00:23:55 คุณชมพู่เขาก็ฝึกแทมโพลีนเหมือนกันดัง
00:23:55 → 00:23:57 นั้นนักกีฬาบาสเกตบอลถ้าเขาอยู่กลางอากาศ
00:23:57 → 00:24:01 ได้นานการชูตหรือการดังของเขาเขามีโอกาส
00:24:01 → 00:24:04 เล็งได้มากกว่าอืนักกีฬากลุ่มนี้ก็จะถูก
00:24:04 → 00:24:07 ฝึกในเรื่องของการกระโดดกลางอากาศซึ่งมัน
00:24:07 → 00:24:09 ต้องควบคุมในเรื่องของ heart rate งั้น
00:24:09 → 00:24:11 เวลาที่เราฝึกมันก็จะมีโซนด้วยเหมือนกัน
00:24:11 → 00:24:15 โซน 1 โซน 2 โซน 3 โซน 4 โซน 5 การ
00:24:15 → 00:24:17 กระตุ้นให้ร่างกายอ่ะค่ะ movement เป็น
00:24:17 → 00:24:20 Bone Station ก็จะช่วยทำให้การออกกำลัง
00:24:20 → 00:24:23 กายของเราแทนที่จะไปลงเรื่องกล้ามเนื้อก็
00:24:23 → 00:24:25 จะลงในเรื่องของกระดูกเพราะว่าตอนที่เรา
00:24:25 → 00:24:27 หวังผลจริงๆก็คือตอนที่เราอยู่ลอยอยู่
00:24:27 → 00:24:30 กลางอ่ะกันถูกมยคะใช่นั่นก็คือเราต้องทำ
00:24:30 → 00:24:33 ให้กล้ามเนื้อเขาเบาด้วยค่ะทำยังไงอ่ะคะ
00:24:33 → 00:24:37 ให้กล้ามเนื้อเบา stretching อการว่ายน้ำ
00:24:37 → 00:24:39 ที่เราบอกต้องการ flexibility เพราะบางที
00:24:40 → 00:24:43 ถ้าเราออกกำลังกายที่ในแนวกระแทกตลอดเวลา
00:24:43 → 00:24:46 มันก็จะทำให้กล้ามเนื้อมันแน่นเกินไปดัง
00:24:46 → 00:24:48 นั้นเราก็จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงเขาถึง
00:24:48 → 00:24:50 ได้บอกว่าเราจะต้องมี warm up Cool
00:24:50 → 00:24:53 Down ก็คือการ stretching กล้ามเนื้ออ๋อ
00:24:53 → 00:24:54 อันนี้ก็อาจจะเป็นที่มาด้วยหรือเปล่าที่
00:24:54 → 00:24:58 แบบว่าไม่ควรจะเริ่มเล่นเวทเร็วเกินไปใช่
00:24:58 → 00:25:01 ใช้ถ้าเราเล่นเวทเร็วเกินไปอ่ะค่ะมันก็ทำ
00:25:01 → 00:25:03 ให้กล้ามเนื้อไปบล็อกการทำงานของกระดูก
00:25:03 → 00:25:06 แล้วทำให้โกรสฮอร์โมนถ้าเหลั่งเค้าก็จะไป
00:25:06 → 00:25:08 ที่กล้ามเนื้อก่อนกระดูกเพราะกล้ามเนื้อ
00:25:08 → 00:25:10 ถึงก่อนกระดูกแล้วอย่างเรื่องอาหารล่ะค่ะ
00:25:10 → 00:25:14 คุณหมอสมัยก่อนเราก็จะต้องนมนะกินนมเยอะๆ
00:25:14 → 00:25:17 สูงอันนี้เป็นเรื่องจริงหรือเป็นตำนานคะ
00:25:17 → 00:25:19 คุณหมอเป็นเรื่องจริงอยู่ค่ะดื่มนมอ่ะค่ะ
00:25:19 → 00:25:23 สำหรับตัวเองนะคะคิดว่าเหมาะสมกับเด็กมาก
00:25:23 → 00:25:26 ที่สุดแต่ปัจจุบันเราก็พบว่าเด็กมีการแพ้
00:25:26 → 00:25:30 นมเยอะมากค่ะนะคะแพ้แพ้แลคโตสในนมไม่ย่อย
00:25:30 → 00:25:32 ก็เดี๋ยวนี้ก็มีผลิตภัณฑ์ที่เรียกว่า
00:25:32 → 00:25:36 แลคโตสฟรีมากขึ้นนะคะถ้าเราได้ดื่มนมอ่ะ
00:25:36 → 00:25:39 คะในนมมันก็จะมีทั้งโปรตีนไขมันแคลเซียม
00:25:39 → 00:25:42 แล้วก็มิเนอรัลตัวอื่นที่ช่วยในเรื่องของ
00:25:42 → 00:25:45 เอื้อการเจริญเติบโตแต่ก็ไม่ใช่แค่นมนะคะ
00:25:45 → 00:25:48 เรายังต้องทานพวกเนื้อสัตว์ด้วยเนื้อหมู
00:25:48 → 00:25:51 เนื้อวัวเนื้อไก่เนื้อปลานะคะเน้นเรื่อง
00:25:51 → 00:25:54 ของเนื้อสัตว์แล้วก็ไข่ค่ะจากการที่เป็น
00:25:54 → 00:25:56 คุณแม่มาแล้วก็แชร์กับคุณแม่หลายๆคนก็คือ
00:25:56 → 00:26:01 ว่าหลายๆบ้านก็มันจะมีจุดชะงักตอนช่วงที่
00:26:01 → 00:26:03 เหมือนช่วงเปลี่ยนนมอ่ะคุณหมอบางคนก็อาจ
00:26:03 → 00:26:06 จะจากนมแม่มาแล้วเปลี่ยนเป็นเอ่อเป็นนม
00:26:06 → 00:26:09 สูตพูดง่ายๆก็คือพอเด็กโตถึงจุดนึงแล้ว
00:26:09 → 00:26:12 ไม่เอานมอย่างเงี้ยค่ะเราจะทำยังไงได้
00:26:12 → 00:26:15 บ้างอ่ะค่ะคุณหมอก็มีหลายคนน่ะค่ะที่พอโต
00:26:15 → 00:26:17 ละไม่อยากดื่มนมเพราะเรู้สึกว่าดื่มมา
00:26:18 → 00:26:21 เยอะแล้วแต่ยังอยากสูงอยู่นะคะถ้าในกรณี
00:26:21 → 00:26:24 ที่น้องดื่มนมแล้วไม่แพ้นมค่ะนะคะเราก็จะ
00:26:24 → 00:26:27 มาคุยว่าเาต้องดื่มนมประมาณเท่าไหร่แล้วเ
00:26:27 → 00:26:30 ได้ประโยชน์อะไรแต่ถ้าเกิดเขาไม่ดื่มนมก็
00:26:31 → 00:26:33 ไม่จำเป็นต้องเป็นนมอย่างเดียวนะคะทานพวก
00:26:33 → 00:26:36 ดักอื่นก็ได้อย่างชีสงั้นหมอก็ไม่ได้เน้น
00:26:36 → 00:26:38 แค่เฉพาะนมอย่างเดียวนมเป็นแค่หนึ่งใน
00:26:38 → 00:26:42 ปัจจัยแต่เราไปทานชีสก็ได้เราก็ได้พวก
00:26:42 → 00:26:46 แคลเซียมพวกโปรตีนต่างๆด้วยปลาเล็กปลา
00:26:46 → 00:26:49 น้อยค่ะอ่าอย่างคนที่แพ้นมทานไม่ได้ล่ะ
00:26:49 → 00:26:52 เขาจะได้แคลเซียมจากไหนยีราฟก็ไม่ได้ดื่ม
00:26:52 → 00:26:55 นมนะคะแต่เขาก็สูงอ้าเขาไม่ใช่เป็นสัตว์
00:26:55 → 00:26:57 สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนหมอยีราฟยีราฟพอโต
00:26:57 → 00:27:00 ขึ้นก็ทแคลเซียมจการดูดแคลเซียมจากกระดูก
00:27:00 → 00:27:04 สัตว์อันนี้เราไปศึกษาที่แอฟริกามาแล้ว
00:27:04 → 00:27:06 อ้าเาไม่ได้กินใบไม้เหรอคุณหมอเกินใบไม้
00:27:06 → 00:27:08 ค่ะแต่เขายังต้องการแคลเซียมในเรื่องการ
00:27:08 → 00:27:11 ดูแลกระดูกของเขาเขาเป็นสัตว์กินพืชเขาก็
00:27:12 → 00:27:15 จะทานพวกใบไม้ที่มีแคลเซียมด้วยแต่เขาก็
00:27:15 → 00:27:18 จะเก็บพวกกระดูกสัตว์ที่ที่ตายอ่ะนะคะใน
00:27:18 → 00:27:21 ป่าเขาก็จะดูดแคลเซียมจากอันนั้นแต่เขาจะ
00:27:21 → 00:27:24 ไม่ล่าเองเไม่ลากค่ะเไม่ลากเไม่ลากออนี่
00:27:24 → 00:27:27 ความรู้ใหม่เลยนะเนี่ยค่ะอย่างงี้อ่ะ
00:27:27 → 00:27:31 อย่างที่เรารู้กันโปรตีนเนาะแคลเซียมนะคะ
00:27:31 → 00:27:33 มีสารอาหารอะไรอีกบ้างคะที่จำเป็นต่อความ
00:27:33 → 00:27:36 สูงหลักๆก็จะเป็นในเรื่องของโปรตีน
00:27:36 → 00:27:41 แคลเซียมไข่นะคะผักผลไม้ก็สำคัญด้วย
00:27:41 → 00:27:43 เหมือนกันหมอชอบให้ทานอาหารที่เป็นอาหาร
00:27:43 → 00:27:46 หลักมากกว่าอาหารเสริมต้องบอกก่อนเพราะ
00:27:46 → 00:27:49 ว่าการเคี้ยวจะช่วยเรื่องการเจริญเติบโต
00:27:49 → 00:27:51 เดีถ้าเราไปพูดถึงโปรตีนบางทีจะมาเป็นใน
00:27:51 → 00:27:54 รูปแบบชงละค่ะนะคะถึงได้บอกว่าเป็นเนื้อ
00:27:55 → 00:27:57 หมูเนื้อวัวเนื้อไก่ให้เป็นแบบในรูปแบบ
00:27:57 → 00:28:00 การขีเคี้ยวจะดีกว่าเมื่อไหร่ที่เรา
00:28:00 → 00:28:02 เคี้ยวอ่ะค่ะไม่ว่าจะเคี้ยวอาหารอะไรก็
00:28:02 → 00:28:04 แล้วแต่หรือโปรตีนเนี่ยค่ะการเคี้ยวจะส่ง
00:28:04 → 00:28:07 ผลเรื่องการเจริญเติบโตของสมองส่งมาใน
00:28:07 → 00:28:12 เรื่องของร่างกายค่ะนะคะนอกจากว่าเอ่อ
00:28:12 → 00:28:15 เนื้อนมไข่แล้วก็เป็นพวกผักผลไม้เรา
00:28:15 → 00:28:18 ต้องการไฟเบอร์ที่ได้จากผักที่เกิดจากการ
00:28:18 → 00:28:23 เคี้ยวนะคะผักเม็ดก็ถ้าจำเป็นก็ทานได้ถ้า
00:28:23 → 00:28:26 เราสามารถที่จะหาได้ว่าเขาชอบอะไรไม่ชอบ
00:28:26 → 00:28:29 อะไรคุณพ่อพ่อคุณแม่หลายคนยังไม่แน่ใจจ
00:28:29 → 00:28:32 แล้วว่าลูกชอบอะไรต้องลองไปศึกษาดูค่ะว่า
00:28:33 → 00:28:37 การการทานของลูกลูกชอบแบบนิ่มนิ่หรือเขา
00:28:37 → 00:28:40 ไม่ชอบนิ่มๆเด็กทุกคนชอบนิ่มๆอยู่ละอะไร
00:28:40 → 00:28:42 ที่เขาที่เขาไม่ชอบผักเพราะว่าเขาจะต้อง
00:28:42 → 00:28:46 ใช้การเคี้ยวที่มันเยอะขึ้นหรือเนื้อ
00:28:46 → 00:28:48 สัตว์ที่มันเยอะขึ้นถ้าเราอยากจะให้ลูก
00:28:48 → 00:28:50 ค่อยๆเรียนรู้จากอย่างที่คุณชมพู่บอก
00:28:50 → 00:28:53 เปลี่ยนวัยเนาะในส่วนตรงนั้นเราก็อาจจะ
00:28:53 → 00:28:56 ต้องเริ่มทำอะไรที่มันนิ่มๆให้กับเขาก่อน
00:28:56 → 00:28:59 นะคะแล้วก็พอเคุ้นเคยแล้วเราค่อยๆเพิ่ม
00:28:59 → 00:29:02 เพิ่มความความแข็งอืเด็กก็จะไม่ต่อต้าน
00:29:02 → 00:29:05 เรื่องผักหรอกค่ะเราเราสร้างแรงบันดาลใจ
00:29:05 → 00:29:08 ด้วย Story ก็ได้พูดถึงป๊อปอายการกินผัก
00:29:08 → 00:29:11 โขมอะไรอย่างเงี้ยค่ะก็จะสามารถที่จะช่วย
00:29:12 → 00:29:15 สร้างแรงบันดาลใจที่ดีให้กับเขาผลไม้ก็จะ
00:29:15 → 00:29:18 มีนิวเทรียนจริงๆกระดูกอ่ะค่ะไม่ได้สร้าง
00:29:18 → 00:29:21 จากแคลเซียมนะคะแคลเซียมเป็นหนใน 12
00:29:21 → 00:29:24 มิเนอรัลค่ะเวลาที่เราพูดถึงกระดูกอ่ะค่ะ
00:29:24 → 00:29:26 การสร้างกระดูกหรือกระดูกอ่อนใหม่อ่ะค่ะ
00:29:27 → 00:29:30 มันเกิดจาก 12 มินัลอืแคลเซียมเป็นแค่ 1
00:29:30 → 00:29:33 ในนั้นเท่านั้นเองแล้วมีอะไรมคะที่เป็น
00:29:33 → 00:29:36 อุปสรรคต่อความสูงไม่ควรรับประทานอุปสรรค
00:29:36 → 00:29:39 ในเรื่องความสูงอะไรก็ตามที่เป็นกรดค่ะ
00:29:39 → 00:29:42 เพราะว่ากรดจะไปดึงแคลเซียมในในกระดูก
00:29:42 → 00:29:44 หรือในร่างกายแล้วก็ทำให้กระดูกไม่แข็ง
00:29:44 → 00:29:48 แรงด้วยอย่างเช่นน้ำอัดลมค่ะนะคะเด็กสมัย
00:29:48 → 00:29:51 นี้ทานน้ำอัดลมกันมากขึ้นนะคะเราอาจจะ
00:29:51 → 00:29:54 ต้องหลีกเลี่ยงการทานห้ามเลยก็ดีนะคะใน
00:29:54 → 00:29:58 เรื่องของน้ำอัดลมอาหารรสจัดรสเผ็ดก็ทำ
00:29:58 → 00:30:00 ให้ร่างกายเป็นกรดคุณหมอค่ะพวกน้ำซ่าค่ะ
00:30:00 → 00:30:04 ถือว่าเป็นกรดมยคะเป็นค่ะอะไรที่มีโซดามี
00:30:04 → 00:30:07 แก๊สอันนั้นถือว่าเป็นกรดค่ะชากาแฟ 3
00:30:07 → 00:30:10 อย่างเนี่ยส่วนใหญ่หมอจะบอกว่าห้ามเลย
00:30:10 → 00:30:12 เพราะว่ามันทำให้มีฤทธิ์เป็นกรดแล้วมันทำ
00:30:12 → 00:30:15 ให้กระดูกใหม่ที่เราพยายามจะสร้างอ่ะเขา
00:30:15 → 00:30:17 ถูกดึงออกมาใช้งานเพื่อจะให้ค่าพีชเป็น
00:30:17 → 00:30:21 ด่างในร่างกายอือ่ะอาหารไปแล้วการออก
00:30:21 → 00:30:24 กำลังกายไปแล้วการนอนไปแล้วทีนี้
00:30:24 → 00:30:27 เทคโนโลยีหรือว่านวัตกรรมอ่ะคะที่จะช่วย
00:30:27 → 00:30:29 เพิ่มความสูงมีอะไรนอกเหนือจากนี้มั้ยคะ
00:30:29 → 00:30:32 เวลาที่เราดูค่ะในเรื่องของความสูงเรามี
00:30:32 → 00:30:36 การสร้างนวัตกรรมทางเทคโนโลยีมากขึ้นเรา
00:30:36 → 00:30:39 มีทีมแพทย์ที่ดูแลในเรื่องของโครงสร้าง
00:30:39 → 00:30:42 โดยเฉพาะนะคะในเรื่องของกระดูกข้อต่อ
00:30:42 → 00:30:44 เพื่อจะตรวจประเมิน Total Body ของน้อง
00:30:44 → 00:30:48 เลยในการดูซิว่าน้องมีความสมดุลในเรื่อง
00:30:48 → 00:30:50 ของการเจริญเติบโตอย่างไรบ้างแล้วเราไม่
00:30:50 → 00:30:53 ได้ดูแค่โครงสร้างเราดูถึงพอร์ด้วยบุคลิก
00:30:53 → 00:30:57 ท่าทางเด็กปัจจุบันหลังค่อมคอยยื่นหลัง
00:30:57 → 00:31:00 โก่งสิ่งเหล่าเนี้ยเราก็เลยจะต้องมีความู
00:31:00 → 00:31:02 นี้สำหรับน้องแต่ละคน innovation ของเรา
00:31:02 → 00:31:04 มันจะต้องมีในเรื่องของ long Leg System
00:31:04 → 00:31:07 ด้วยอื long Le System ก็จะถูกสร้าง
00:31:07 → 00:31:10 ขึ้นมาเปรียบเสมือนให้น้องเนี่ยไปนอนตอน
00:31:10 → 00:31:13 กลางคืนนะคะน้องก็จะนอนในเครื่องก็จะมี
00:31:13 → 00:31:16 การกระตุ้นที่ระยางขาหรือกระดูกขาอันนี้
00:31:16 → 00:31:19 เราลงไปเล่นในเรื่องของโดเพลตละนะคะพูด
00:31:19 → 00:31:22 ถึงดเพตก็คือตัวช่วงข้อต่อกระดูกของเรา
00:31:22 → 00:31:26 ตรงปลายกระดูกเราจะมีโดเพลตเวลาที่กระดูก
00:31:26 → 00:31:28 ยาวขึ้นน่ะคะมันจะเกิดจากการการกระตุ้น
00:31:28 → 00:31:31 ที่โสเพจในการสร้างเนื้อเยื่อกระดูกเนื้อ
00:31:31 → 00:31:33 เยื่อกระดูกใหม่ที่เราสร้างเราเรียกว่า
00:31:33 → 00:31:37 ออสเตสก็คือลงไปลึกมากขึ้นละเป็นระดับใน
00:31:37 → 00:31:39 เรื่องของเนื้อเยื่อสิ่งที่เราทำก็คือ
00:31:39 → 00:31:42 สร้างสภาพแวดล้อมของการเจริญเติบโตน้องก็
00:31:42 → 00:31:44 จะไปนอนในเครื่องแต่ห้องจะถูกดีไซน์ให้
00:31:44 → 00:31:47 มันเป็น relax room ก็คือเขาก็จะหลับไป
00:31:47 → 00:31:50 เขไปนอนนานั้ยคะ 30 นาทีค่ะเขาก็จะรู้สึก
00:31:50 → 00:31:53 สบายผ่อนคลายเพราะเครื่องจะเข้าไปกระตุ้น
00:31:53 → 00:31:56 ทำให้เกิด Blood circulation ในระบบข้อ
00:31:56 → 00:31:59 ต่อกระดูกก็คือเอื้อให้เขาเจริญเติบโตได้
00:31:59 → 00:32:02 ใช่ค่ะความสูงของเราเราต้องวัดค่าได้
00:32:02 → 00:32:04 ประวัติการเจริญเติบโตของน้องเป็นยังไง
00:32:04 → 00:32:06 บ้างช่วงนี้น้องมีการยืดตัวหรือยังน้อง
00:32:06 → 00:32:09 อยู่ในช่วงพรีหรือเปล่าหรือในช่วงโกเด้น
00:32:09 → 00:32:13 หรือว่าโพสก็คือหลังยืดตัวงั้นในเด็กแต่
00:32:13 → 00:32:15 ละกลุ่มเราจะต้องการจัดอะไรที่มันเหมาะสม
00:32:15 → 00:32:17 กับเโกเด้นนี่คือ 8-15 ใช่มั้ยคะไม่ค่ะ
00:32:18 → 00:32:21 โกเด้นนี่คือช่วงที่เขากำลังยืดตัวพีคือ
00:32:21 → 00:32:24 ตั้งแต่ 8 ขวบอ๋อใช่มั้ยคะโกลเด้นก็คือ
00:32:24 → 00:32:26 เสียงแตกแล้วหรือมีประจำเดือนแล้วค่ะหรือ
00:32:26 → 00:32:29 กำลังใกล้มีแล้วสุดท้ายแล้วใช่ค่ะแล้ว
00:32:29 → 00:32:32 โพสตก็คือหลังจากที่เกิดขึ้นไปแล้วการ
00:32:32 → 00:32:35 เจริญเติบโตเขาจะลดลงช่วง 2 ปีหลังจาก
00:32:35 → 00:32:39 โกลเด้นไปแล้วแล้วก็หยุดสูงกระดูกปิดอค่ะ
00:32:39 → 00:32:41 แต่กระดูกปิดแล้วก็ยังใจมีหวังใช่มั้ยคะ
00:32:41 → 00:32:44 คุณหมอค่ะอย่างที่บอกเราเล่นกับโกดเพตเคะ
00:32:44 → 00:32:47 ทำให้เกิดปฏิกิริยาที่เรียกว่าออสเตสได้
00:32:47 → 00:32:50 เราก็สามารถจะเอื้อความสูงไปได้ด้วยเช่น
00:32:50 → 00:32:55 กันค่ะอค่ะอย่างงี้แปลว่าผู้ใหญ่นะหยุด
00:32:55 → 00:32:58 สูงไปแล้วจะมาเพิ่มความสูงได้มั้ยคะคุณ
00:32:58 → 00:33:02 ชมพูอยากสูงเพิ่มเหรอคะถามเื่อคน
00:33:02 → 00:33:06 อื่นค่ะหลายคนค่ะผู้ใหญ่ก็อยากกลับมาสูง
00:33:06 → 00:33:09 อยู่อย่างที่บอกอ่ะคะเราเคต้องมีสภาพแวด
00:33:09 → 00:33:13 ล้อมของการเจริญเติบโตด้วยเหมือนกันนะคะ
00:33:13 → 00:33:15 ช่วงวัยที่เราเรียกว่าโคงสุดท้ายสุดท้าย
00:33:16 → 00:33:17 สุดท้ายจริงๆที่เรายังถือว่ามี
00:33:17 → 00:33:20 ประสิทธิภาพเรื่องการเจริญเติบโตอยู่ก็จะ
00:33:20 → 00:33:24 เป็นน้องๆม 6 ที่กำลังจะเข้ามหาวิทยาลัย
00:33:24 → 00:33:26 แล้วก็จะมีอีกกลุ่มนึงก็จะเป็นเด็ก
00:33:26 → 00:33:29 มหาวิทยาลัยก็ยังได้อยู่นะคะเพราะเขาก็
00:33:29 → 00:33:31 ยังสนใจเรื่องการเจริมันจะได้สักกี่เซนคะ
00:33:31 → 00:33:33 คุณหมอถ้าแบบว่าเป็นโค้งสุดท้ายแล้วเลยนะ
00:33:33 → 00:33:36 คะเรียกว่าเป็นโพสต์ละกันก็คือหลังจากที่
00:33:36 → 00:33:40 กระดูกปิดไปแล้ว 3 ปี 5 ปีอะไรไม่ไม่ได้
00:33:40 → 00:33:43 สูงขึ้นมา 3 3 ปีแล้วปีแล้ว 5 ปีแล้วเรา
00:33:43 → 00:33:46 ก็สามารถจะทำให้เขาสูงขึ้นหลังจากนั้นได้
00:33:46 → 00:33:49 ส่วนใหญ่ที่เราเห็นก็คืออยู่ที่ 5 ซมแต่
00:33:49 → 00:33:51 ตามหลักการแล้วไปได้จนถึง 7 ซม 8 ซมได้
00:33:51 → 00:33:54 เลยค่ะแล้วก็เห็นบอกว่ามีอาหารเสริมที่มี
00:33:54 → 00:33:57 อะไรนะคะคุณมอคอลอสตุ้มเหรอคะค่ะคอสม
00:33:57 → 00:33:59 คอลอสตุ้มนะคะอันนี้ช่วยเพิ่มความสูงได้
00:34:00 → 00:34:01 เหมือนกันแล้วคคุณหมต้องบอกก่อนคอลอสตุ้ม
00:34:01 → 00:34:04 เนี่ยเป็นน้ำนมแม่หลังจากคลอด 73 ชมคือ
00:34:05 → 00:34:06 เหมือนน้ำน้ำนมเหลืองของคุณแม่เนี่ยนะคะ
00:34:06 → 00:34:09 ใช่ค่ะแต่แล้วเคสกัดมาจากอะไรอ่ะคะคุณก็
00:34:09 → 00:34:11 น้ำนมเหลืองของวัวเนี่ยแหละค่ะคุณก็คือ
00:34:11 → 00:34:14 วัวคุณแม่วัวคลอดรูกก็จะมีน้ำนมเหลือง
00:34:14 → 00:34:18 อยู่ 72 ช่มซึ่งจริงๆนะคะคอลอสตุ้มเนี่ย
00:34:18 → 00:34:20 ได้คุณประโยชน์มากเกี่ยวกับในเรื่องของ
00:34:20 → 00:34:24 ภูมิคุ้มกันค่ะสำหรับลูกยังไม่มีตัวไหน
00:34:24 → 00:34:28 ที่ออกมาพูดถึงในเรื่องของอ่าความความสูง
00:34:28 → 00:34:31 เท่าไหร่นะค่ะนะคะทานแล้วมีประโยชน์มั้ย
00:34:31 → 00:34:33 ทานแล้วมีประโยชน์แต่ประเทศไทยส่วนใหญ่
00:34:33 → 00:34:37 ทิ้งค่ะเพราะว่าเป็นนมที่กลิ่นแรงแล้วก็
00:34:37 → 00:34:40 ไม่สามารถจะเอาไปคือไม่ถูกปากเด็กเด็กก็
00:34:40 → 00:34:44 ไม่ทานค่ะมีเคสที่แบบยากยากเลยมั้ยคะที่
00:34:44 → 00:34:48 คุณหมอเคยเจอมาบางทีคุณแม่ก็พามาว่าลูกมี
00:34:49 → 00:34:53 โรคประจำตัวนะคะเป็นหอบหืดนะคะแล้วเด็ก
00:34:53 → 00:34:56 อ่ะต้องทานยาตลอดเวลาก็เป็นในกลุ่มของอนส
00:34:56 → 00:34:59 ละดังนั้นเด็กกลุ่มเยค่ะเจริญเติบโตจะยาก
00:34:59 → 00:35:04 มากคือยังไงอ่ะคะคุณหมอคือการใช้ยามีผล
00:35:04 → 00:35:07 ต่อโทฮอร์โมนหรือว่าเด็กที่เขาป่วยบ่อย
00:35:07 → 00:35:09 อ่ะค่ะมันไปชะลอการเจริญเติบโตเขายังไง
00:35:10 → 00:35:12 อ่ะคะเพราะว่า Side เอฟเฟคของยาค่ะอย่าง
00:35:12 → 00:35:14 เช่นยาที่เกี่ยวกับในเรื่องของการเป็น
00:35:14 → 00:35:18 หวัดบ่อยบางทีเราก็ต้องทานยาที่กดภูมิลด
00:35:18 → 00:35:22 น้ำมูกลดการไอยาเหล่านั้นนะคะมันหยุดการ
00:35:22 → 00:35:26 เจริญเติบโตถ้าเราดูจากสถิติปกตินะคะเด็ก
00:35:26 → 00:35:29 นะคะถ้าเราวัดปกปกติเลยนะวัดทุกเดือนทุก
00:35:29 → 00:35:31 เดือนทุกเดือนจะเห็นได้เลยว่าเด็กจะหยุด
00:35:31 → 00:35:34 สูงช่วงที่ป่วยแล้วก็เด็กจะหยุดสูงช่วง
00:35:34 → 00:35:38 ที่สอบอืเพราะว่าความเครียดค่ะก็เข้ามามี
00:35:38 → 00:35:42 ผลด้วยเหมือนกันอดังนั้นยามีผลกับการ
00:35:42 → 00:35:47 เจริญเติบโตชมเชื่อว่าเราน่าจะเคยได้ยิน
00:35:47 → 00:35:50 ตำนานอะไรมาเยอะแยะแว่าทำอย่างงั้นสูงทำ
00:35:50 → 00:35:53 อย่างนี้สูงมีอะไรที่คุณหมอเคยได้ยินมั้ย
00:35:53 → 00:35:55 คะที่แบบว่าเฮ้ยอันเนี้ยแบบมันไม่ใช่อย่า
00:35:55 → 00:35:58 หาทำแล้วก็ไม่ได้เกิดประโยชน์
00:35:58 → 00:36:01 อย่างหลายคนนะคะก็บอกว่าเล่นบาสละสูงค่ะ
00:36:01 → 00:36:05 ก็ให้ลูกเล่นบาสตลอดจนกระทั่งเขามีปัญหา
00:36:05 → 00:36:07 ในเรื่องของกล้ามเนื้ออ่อนแรงเพราะว่า
00:36:08 → 00:36:10 เวลาที่เราเล่นออกกำลังกายเรากำลังใช้
00:36:10 → 00:36:12 กล้ามเนื้อเยอะกล้ามเนื้อต้องพักอย่าง
00:36:12 → 00:36:16 เช่นเล่นติดต่อกัน 3 วันเต้องพักละ 2 วัน
00:36:16 → 00:36:20 ดังนั้นการซ้อมตลอดเวลาโดยที่เขากำลัง
00:36:20 → 00:36:24 เจริญเติบโตอยู่นะคะเราพบว่าเด็กไทยเนี่ย
00:36:24 → 00:36:28 ค่ะเก่งในเรื่องของกีฬาในวัยเด็กมากค่ะ
00:36:28 → 00:36:31 แต่พอว่าจะต่อไปในวัยผู้ใหญ่ปรากฏว่าความ
00:36:31 → 00:36:34 สูงเขาไม่ได้มันเกิดจากการที่ 1 ซ้อมมาก
00:36:34 → 00:36:39 เกินไปโนใช่วทนแล้วก็เทรนดึกด้วยค่ะอย่าง
00:36:39 → 00:36:43 กีฬาบางคนน่ะค่ะกว่าจะได้ซ้อมคือกว่าจะลม
00:36:43 → 00:36:47 กลุ่มมาเริ่มซ้อมตอน 19:00 นซ้อมตอน 21:00
00:36:47 → 00:36:50 น 21:00 นถึงจะทานข้าวเย็นทานข้าวเย็นลูก
00:36:51 → 00:36:54 ก็กว่าจะนอนหลังจากที่ต้องย่อยด้วยเด็กใน
00:36:54 → 00:36:57 กลุ่มนี้ก็กลายเป็นนอน 2-5 นค่ะทั้งๆที่
00:36:57 → 00:37:00 ที่บอกลูกออกกำลังกายเยอะทำไมถึงไม่สูงก็
00:37:00 → 00:37:03 กลายเป็น overuse เไปใช่ค่ะอันนี้ต้อง
00:37:03 → 00:37:05 ระวังมากแล้วก็อยากจะบอกคุณพ่อคุณแม่ทุก
00:37:05 → 00:37:09 คนด้วยนะคะว่าหลายคนก็อยากให้ลูกเป็นนัก
00:37:09 → 00:37:12 กีฬาเพราะว่าอยากให้ลูกแข็งแรงอยากให้ลูก
00:37:12 → 00:37:15 มีอนาคตที่ดีค่ะแต่ก็ต้องระวังเพราะว่า
00:37:15 → 00:37:18 เราก็ไม่อยากให้ลูกแป๊กตั้งแต่ในวัยเด็ก
00:37:18 → 00:37:20 แล้วอยากจะแนะนำคุณพ่อคุณแม่ทุกคนเลยนะคะ
00:37:20 → 00:37:23 ถ้าอยากจะเพิ่มความสูงนะคะวัดส่วนสูงของ
00:37:24 → 00:37:28 ลูกค่ะทุกๆ 3 เดือนค่ะเก็บเป็นเรคคอร์ด
00:37:28 → 00:37:30 เลยเพราะว่าเราจะเริ่มดีทคละว่าเกิดอะไร
00:37:30 → 00:37:32 กับลูกหรือเปล่าเราจะรู้ว่าช่วงไหนที่เขา
00:37:32 → 00:37:35 ชะงักใช่มยคะใช่ใช่แล้วเราก็จะเรียนรู้
00:37:35 → 00:37:37 เกี่ยวกับลูกเรามากขึ้นสำหรับคุณพ่อคุณ
00:37:37 → 00:37:40 แม่นะคะที่สนใจในเรื่องของการเจริญเติบโต
00:37:40 → 00:37:43 ของลูกนะคะก็สามารถที่มาปรึกษากับที่ดร
00:37:43 → 00:37:47 เซอร์ได้เรามีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญสามารถ
00:37:47 → 00:37:50 ให้คำปรึกษาแล้วก็ทีมผู้เชี่ยวชาญทุกคน
00:37:50 → 00:37:54 ค่ะที่สามารถจะดูแลลูกๆของคุณพ่อคุณแม่
00:37:54 → 00:37:57 ให้สูงอย่างมั่นใจได้เลยค่ะฝากฝากติดตาม
00:37:58 → 00:37:59 on the way with ชมด้วยนะคะแล้วก็
00:37:59 → 00:38:02 อย่าลืมกดไลคกดแชร์กด Subscribe นะคะทั้ง
00:38:02 → 00:38:04 ทาง YouTube แล้วก็ Facebook นะคะแล้วก็
00:38:04 → 00:38:06 อย่าลืมกดกระดิ่งแจ้งเตือนด้วยนะคะจะได้
00:38:06 → 00:38:10 ไม่พลาดสาระดีๆจากทางไ doot ค่ะขอไลกรัวๆ
00:38:10 → 00:38:14 เลยนะคะ
00:38:14 → 00:38:17 [เพลง]