00:00:00 → 00:00:10 [เพลง]
00:00:12 → 00:00:22 วันนี้พูดรายละเอียดถึงเรื่องเลปิน่ะนะ เพราะว่าเราก็ยังอยู่ในใน 3 เรื่องของ ST
00:00:22 → 00:00:27 Dependent ฮอร์โมนนะหรือของฮอร์โมนที่เต้องพึ่งพิง
00:00:27 → 00:00:33 พวกคาร์โบไฮเดรต จะมีอยู่ 3 ตัว 3 ตัวเราก็รู้กันมานาน
00:00:33 → 00:00:39 แล้ว นะทีนี้คราวที่แล้วเนี่ยเราพูดถึงภาวะ
00:00:39 → 00:00:46 เอสโตรเจนเด่นนะเป็นฮอร์โมนทางด้านผู้ หญิงนะแต่ว่าในช่วงท้ายๆอะไรเนี่ยเราก็
00:00:46 → 00:00:56 ลืมสรุปไปนะฮะคือสรุปสรุปให้ให้ให้ให้คน ที่เดูไลฟ์หรือว่าเอ่านเรื่องที่เราเอาไป
00:00:56 → 00:01:03 แชร์ที่มันเป็นแบบสเอ่อมันเป็นแบบอ่า กระดาษเอิให้ให้เข้า
00:01:03 → 00:01:09 ใจคือสรุปอย่างเงี้ยเรื่องภาวะเอสโตรเจน เด่นน่ะนะฮะเวื่อกี้นี่ก็มีการเขียนสรุป
00:01:09 → 00:01:17 ไปให้หน่อยนึงนะคือภาวะเอสโตเจนเด่น เอสโตเจนเนี่ยเเป็นฮอร์โมนในลำดับท้ายๆ
00:01:17 → 00:01:26 อ่ะจะเรียกว่าท้ายสุดเลยก็ได้นะฮะของ 2 เรื่องนะอันที่ 1 เนี่ยเอ๊เราไม่ได้เอา
00:01:26 → 00:01:32 ไดอะแกรมเก่ามาลงเนอะอันที่ 1 ก็คือคือ จากไดอะแกรมมันเก่าเนี่ยเราจะเห็นว่า
00:01:32 → 00:01:41 เอสโตเจนเนี่ยไม่ว่าจะเป็นเอนเอไไดออเอออ เนี่ยนะ E1 E2 e3 จะเป็นฮอร์โมนนะที่
00:01:41 → 00:01:48 สร้างมาจากสารต้นทางสำคัญคือคอเลสเตอรอล เนี่ยฮะแต่จะเป็นฮอร์โมนในในช่วงท้ายที่
00:01:48 → 00:01:56 สุดเลยนะฮะที่ร่างกายเขาจะสร้างนะเอ่อแหม จริงๆเมื่อกี้เมื่อกี้น่าจะลงไปก็ดีแล้ว
00:01:56 → 00:02:05 เนาะสไลด์อันเนี้ยนะแต่พอจะนึกออกนะเพราะ ว่าก็เป็นฮอร์โมนเอ่อที่มีสารต้นทางมาจาก
00:02:05 → 00:02:13 พวกคอเลสเตอรอลนะแต่เาจะสร้างในลำดับท้าย สุดนะแต่ว่าการสร้างในลำดับท้ายสุดเนี่ย
00:02:13 → 00:02:20 มันมีตัวฮอร์โมนต้นๆที่จะต้องถูกนำไป สร้างก่อนก็คือโปรเจสเตอโรนแล้วก็ในกลุ่ม
00:02:20 → 00:02:28 ฮอร์โมนคอร์ติซอลออสเตน นะแต่ว่ายังไงก็ตามนะการที่เอยู่ในลำดับ
00:02:28 → 00:02:35 ท้ายสุดเนี่ยนะมันเอ่อมันก็จะเกิดเรื่อง เกิดราวหรือเกิดความผิดปกติอะไรต่างๆจาก
00:02:35 → 00:02:43 ภาวะเอสโตรเจนเด่นเนี่ยในช่วงท้ายๆเมื่อ ฮอร์โมนลำดับต้นๆนะหรือฮอร์โมนที่เป็นต้น
00:02:43 → 00:02:50 เหตุนะของการที่จะไปเกิดเอ่อความโดดเด่น ของตัวฮอร์โมนเอสโตรเจนในภายหลังเนี่ยนะ
00:02:50 → 00:02:57 เขาแอชกันไปหมดแล้วนะฮะหรือเขาแสดงผลอะไร ต่างๆออกมาเยอะแยะไปหมดแล้วคืออ้วนแล้วมี
00:02:57 → 00:03:06 ไขมันสะสมแล้วมีภาวะดือินซุลินแล้วนะหรือ มีต่อหมวกไตล้าไปแล้วนะฮะเอพวกเนี้ยในที่
00:03:06 → 00:03:14 สุดเนี่ยเอเจนเด่นเขาจะมาทีหลังนะฮะเี่ เพราะฉะนั้นในแง่นี้นะฮะนะการที่เราจะ
00:03:14 → 00:03:22 พยายามที่จะรวบรวมหรือพยายามที่จะหาหนทาง ในการที่จะมาแก้ไขเขาเนี่ยนะมันก็เลยค่อน
00:03:22 → 00:03:30 ข้างยากนะฮะคำถามที่ว่าเอ๊ะจะมีการตรวจ ยังไงด้วยมยที่จะรู้ถึงภาวะเอสโตเจนเด่น
00:03:30 → 00:03:37 ในแง่ของความผิดปกติเอ่อการวัดระดับ ฮอร์โมนเนี่ยก็บอกไม่ได้นะฮะนะส่วนใหญ่ก็
00:03:37 → 00:03:45 เป็นเรื่องของการเอ่อรวบรวมในแง่ของอาการ และอาการแสดงมากกว่านะแต่ก่อนจะถึงภาวะ
00:03:45 → 00:03:50 เอสโตรเจนเด่นเนี่ยอย่างเช่นเราก็รู้กัน ในหลายๆคนนว่าก็จะมีภาวะดือินซูลินมาก่อน
00:03:50 → 00:03:57 มีภาวะต่อหมวกไตล้าก่อนมีภาวะเ่อศัพ์ clinical ไฮโปไทรอยด์มาก่อน
00:03:57 → 00:04:04 นะพวกนี้ก็คือคือจะมาก่อนน่ะให้ได้สังเกต นะฮะถ้าเราสังเกตได้หรืออาการมันค่อนข้าง
00:04:04 → 00:04:11 ชัดแจ้งเนี่ยนะเราก็อาจจะเเรียก predict หรือว่าพยากรณ์ได้ว่าก็ในที่สุดจะมี
00:04:11 → 00:04:18 เรื่องเอสโตเจนเด่นไม่มากก็น้อยละนะเพราะ ฉะนั้นในการแก้ไขเนี่ยนะฮะในการแก้ไขการ
00:04:18 → 00:04:27 ตรวจตรวจยากนะการแก้ไขก็เหมือนกันนะฮะนะ เ่ออันนี้ก็เป็นตัวสุดท้ายนะของการสร้าง
00:04:27 → 00:04:34 นะและของความผิดปกติในระบบเรื่องของ metabolism หรือการเผาผลาญเนี่ยนะฮะ
00:04:34 → 00:04:39 เพราะงั้นการแก้ไขก็คือแก้ไอ้ตัวที่ผิด ปกติต้นๆไปก่อนนะแก้เรื่องการืออินซูริน
00:04:39 → 00:04:47 นะแก้เรื่องไทรรอยด์แก้เรื่องคอร์ติซอลนะ ฮะนะแต่ตัวโดยตรงเลยนะเกี่ยวกับระบบ
00:04:47 → 00:04:52 ฮอร์โมนเพศเนี่ยที่เขาไป Counter แหรือไป Balance กับเอสโตรเจนก็คือโปรเจสเตอโรน
00:04:52 → 00:05:00 นะสัดส่วนเนี่ยก็เคยมีเรชให้ดูแล้วว่าตัว โปรเจสเตอโรนเนี่ยจะต้องอยู่อยู่ในระดับ
00:05:00 → 00:05:08 เ่อ 200 ในขณะที่เอสโตเจนเนี่ยอยู่ใน ระดับอัตราส่วนที่ 1 อย่าเงี้ยนะฮะอ่าถ้า
00:05:08 → 00:05:14 เมื่อไหร่โปรเจสเตอโรนมันต่ำลงไปเรื่อยๆๆ ๆจะสาเหตุอะไรก็ตามนะเมื่อนั้นเนี่ยการ
00:05:14 → 00:05:21 Counter แการ Counter Balance นะฮะหรือ ความสมดุลตรงเนี้ยมันก็จะผิดปกติไปเพราะ
00:05:21 → 00:05:28 งั้นเวลาจะแก้เอสโตเจนเด่นถามว่าทำยังไง นะฮะนอกจากกำจัดปัจจัยพื้นฐานต่างๆที่มา
00:05:28 → 00:05:34 เป็นผลสุดท้ายให้เอเจนเด่นแล้วเนี่ยก็ ต้องพยายามส่งเสริมนะหรือเพิ่มปริมาณการ
00:05:34 → 00:05:41 สร้างเพิ่มระดับของตัวฮอร์โมน โปรเจสเตอโรนนะอันนี้นะฮะก็ก็ตรงไปตรงมา
00:05:41 → 00:05:48 อย่างเงี้ยนะฮะนี้เพิ่มโปรเจสเตอโรนทำยัง ไงนะในไลฟคราวที่แล้วก็บอกไปแล้วนะว่า
00:05:48 → 00:05:54 ลักษณะเนี่ยเเป็นฮอร์โมนยังไงนะฮะแล้วก็ จะไปเติมอะไรนะซึ่งการแก้ไขเนี่ยก็ไม่ได้
00:05:54 → 00:06:00 ใช่แก้ไขแบบเอ่อของการแพทย์แผนหลักนะฮะนะ ที่ก็จะมีเรื่องฮอร์โมนทั้งฉีดทั้งกิน
00:06:00 → 00:06:08 ทั้งทาทั้งอมใต้ลิ้นทั้งแปะอะไรต่างๆหรือ ทั้งฝังอะไรเงี้ยนะฮะในแง่ของโภชนาการนะ
00:06:08 → 00:06:13 เราก็ใช้เรื่องอาหารการกินนี่แหละนะฮะ เพียงแต่ว่าเราต้องรู้นิดนึงว่า
00:06:13 → 00:06:20 โปรเจสเตอโรนเป็นฮอร์โมนที่มาจากโปรตีน ที่มีคอเลสเตอรอลนะในระดับระดับไหนอ่ะ
00:06:20 → 00:06:29 ระดับปานกลางนะฮะและนะเขาต้อง combine กับคาฟที่เป็นคาฟเฉียงซ้อนหรือให้ก็เป็น
00:06:29 → 00:06:39 คาฟที่มีเรื่องของระดับน้ำตาลและสารเอ่อ แอนติออกซิแดนท์ที่อยู่ในผลไม้นะอันนี้นะ
00:06:39 → 00:06:46 คือจะเลือกใช้แบบคาฟเชิงซ้อนที่เป็นกลุ่ม แป้งเชิงซ้อนเนี่ยอก็ได้หรือจะเป็นอ่า
00:06:46 → 00:06:55 ผลไม้ที่ดีๆนะที่เราสามารถจะกินได้เนี่ย ก็ได้นะมะพร้าวมะกอกนะเอ่อกะทินะหรือ
00:06:55 → 00:07:02 อโวกาโดอะไรงี้นะอันเนี้ยเราก็ใช้อย่าง เงี้ยมาแก้นะโดยตัวโครงสร้างของมันเนี่ย
00:07:02 → 00:07:11 มันเป็นคอเลสเตอรอลจากสัตว์นะที่เป็น โปรตีนไขมันปานกลางนะแล้วตัวหลักๆเลยที่
00:07:11 → 00:07:18 ดีมากๆเลยก็คือไข่แดงนะเพราะฉะนั้นการที่ จะไไ up นะหรือหรือการจะเพิ่มระดับของ
00:07:18 → 00:07:25 โปรเจสเตอโรนเพื่อมา Counter Balance กับเอเจนเด่นเนี่ยนะเราก็พยายามเรื่องของ
00:07:25 → 00:07:31 การใช้เรื่องของโภชนาการการกินอาหารโดย เฉพาะในมื้อแรกนะที่ที่เขาจะไปช่วยกันใน
00:07:31 → 00:07:38 การสร้างนะฮะนวันนี้หมอเริ่มด้วยสไลด์ อันเนี้ยนะฮะนะนะแต่จริงๆเนี่ยก็อยากจะ
00:07:38 → 00:07:45 เป็นแบบสไลด์ประเดิมทั่วๆไปก่อนนะฮะว่า เ่อในปัจจุบันเนี่ยเนี่ยองค์ความรู้ใน
00:07:45 → 00:07:53 เรื่องของพีระมิดนะทางด้านสุขภาพอันนี้ สุขภาพไม่ใช่โภชนาการนะฮะนะว่าฐานพีระมิด
00:07:53 → 00:07:57 เนี่ยมันคืออะไรยอดพีระมิดมันเป็นยังไงนะ ฮะมันก็จะวนเวียนอยู่ที่เราเรียกว่า
00:07:57 → 00:08:04 เก้าอี้ 4 ขานี่แหละนะอันดับที่ 1 เลยก็ คือเรื่องของโภชนาการนะอ่าในฐานปริมิต
00:08:04 → 00:08:10 สุขภาพอันนี้เนี่ยนะเขามุ่งประเด็นใน เรื่อง Fat loss นะฮะนะเนี่ยการสลายเผา
00:08:10 → 00:08:18 ผันพลังงานจากไขมันนะก็เลยเอามาลงให้ดูนะ ฮะเนี่ยมาก็ทำให้ชัดขึ้นนะตัวที่ most
00:08:18 → 00:08:24 Important นะฮะนะนะเราก็บอกว่าพวกเ All ste Important นะฮะก็คือ Energy
00:08:24 → 00:08:31 Balance เยีในที่นี้นะฮะในที่นี้หมายถึง ในในในฝั่งของทางด้านพาราต่ำเนี่ย eny
00:08:31 → 00:08:38 เราหมายถึงแอ density หรือแอเนะะและ nutrient เนะทั้งเป็นพลังงานที่เป็น
00:08:38 → 00:08:46 แคลอรี่นะฮะนะแล้วก็สารอาหารนิวเทรียนนะ ฮะแล้วทั้งหมดเนี่ยต้องมาจากตัวหลักๆเป็น
00:08:46 → 00:08:54 สำคัญก่อนเลยก็คือคฟโปรตีนแล้วก็แฟตนะฮะ ในคฟเนี่ยหลักๆต้องการอะไรนะฮในโปรตีน
00:08:54 → 00:09:04 เป็นยังไงแฟตต้องมีลักษณะยังไงนะฮะ แล้วก็ลำดับต่อมาก็คือโปรตีนอทคใช่ม
00:09:04 → 00:09:09 เดี๋ยวหมอขยายให้ดูนะโปรตีนอทคเเพูดว่า ยังไง
00:09:09 → 00:09:12 ้ย
00:09:15 → 00:09:22 เอ้ามันหลุดกลับมา มั้ยมันหลุด
00:09:23 → 00:09:30 ไปกลับกลับมามยเนี่ยกลับมาแล้วครับกลับมา แล้วครับเห็นอยู่นะเราดูตรงโปรตีน intake
00:09:30 → 00:09:40 นะฮะเนี่ยเห็นมเในปิระมิดทางด้านสุขภาพ เนี่ยเขาบอกว่าให้คูม 0.7 กรัมถึง 1 กรัม
00:09:40 → 00:09:48 นะคือ 0.7 - 1 กรัมเปอรปอน์นะฮะนะก็คือ ต้องเอาน้ำหนักเ Lean body weight นี่
00:09:48 → 00:09:56 แหละไปเทียบเป็นปอนด์ก่อนนะฮะ 1 ปอนด์ เนี่ยนะก็อ่าระดับเน็ตโปรตีนเนี่ยก็คือ
00:09:56 → 00:10:07 นี่นะฮะอ่า0จ 7-1 กรัมนะฮะเนี่ยเพราะ ฉะนั้นใครที่ผอมๆรูปร่างสมส่วนนะหรือ
00:10:07 → 00:10:13 ต้องการที่จะสร้างมวลกล้ามเนื้อเยอะๆ เนี่ยก็ต้องอยู่ในระดับ 1 กรัมต่อ 1
00:10:13 → 00:10:18 ปอนด์นั่นแหละนะฮะเพรานั้นเทียบน้ำหนัก ออกมาเป็นปอนก่อนนะฮะเนี่ย of body
00:10:18 → 00:10:25 weight นะฮะนะอันนี้นะฮะนะเพราะฉะนั้น โปรตีน intake ก็ต้องระดับนี้นะไม่ใช่ 1
00:10:25 → 00:10:33 กรัมต่อ 1 กลนะฮะ 1 กรัมต่อ 1 ปอนด์หรือ หรือมันอยู่ในช่วงเนี้ย 0 เ่อ 0.7 0.8
00:10:33 → 00:10:39 0.9 1 ถึง 1 นะฮะเ่าต่อปอนด์นึงนะฮะเอา น้ำหนักจากกิโลเทียบเป็นปอนด์คูณ 2.2
00:10:39 → 00:10:49 เข้าไปต่อมาก็คือการเทนะฮะอ่าแล้วเทที่ เท่าไหร่ก็แล้วแต่ 2-5 ครั้งต่อสัปดาห์นะ
00:10:49 → 00:10:57 แล้วครั้งนึงก็อยู่ในช่วงเนี้ยนะประมาณ ไม่เกินเ่อ 45 หรือ 50 นาทีนะฮะ 1 คาบนะ
00:10:57 → 00:11:02 ฮะเนี่ย 30-60 sess นะฮะคือไม่่กว่าครึ่งชั่วโมงไม่ควร
00:11:02 → 00:11:09 จะเกิน 1 ชมงนะต่อครั้งนะฮะแล้วก็สัปดาห์ นึงก็ประมาณอยู่ในช่วงไม่น้อยกว่า 2
00:11:09 → 00:11:18 ครั้ง 2 3 4 5 ก็แล้วแต่อันนี้คือเท นะต่อไปก็คือการนอนก็อยู่ในช่วงเนี่ยอ่า
00:11:18 → 00:11:25 เฉลี่ย 7-9 ชมงนะฮะแล้วก็ต้องมีการนอนที่ มีคุณภาพนะฮะเพื่อจะปรับเปลี่ยนร่างกาย
00:11:25 → 00:11:34 อะไรต่างๆอันนี้นะฮะส่วนคาร์ดิโอเนี่ยมัน อยู่ยดพีระมิดเลยนะฮะอันนี้นะเอเขาก็เ่อ
00:11:34 → 00:11:42 มันมีความสำคัญต่ออะไรนะ mental อ่าแินะ ฮะนะแล้วก็เป็นเรื่อง
00:11:42 → 00:11:49 อ่าคือเป็นเรื่องที่ก็ต้องมีอ่ะนะฮะนะแต่ ไม่ได้ว่าจำเป็นมากมายอะไรต่างๆนะฮะเพ
00:11:49 → 00:11:54 งั้นเฉลี่ยแล้วก็สัปดาห์นึงก็ประมาณเนี่ย อยู่ในช่วงประมาณ 1-2 ครั้ง 1 2 วันต่อ
00:11:54 → 00:12:02 สัปดาห์นะก็เป็นเรื่องคาริโอนะฮะอันนี้ ส่วนใหญใหญ่เนี่ยจะหมายถึงคนที่ลักษณะ
00:12:02 → 00:12:09 เป็นแบบอยู่ในน้ำหนักค่ากลางเฉลี่ยหรือ ค่อนข้างสมส่วนค่อนผอมหรือผอมตกเกณฑไป
00:12:09 → 00:12:16 แล้วนะฮะสำหรับคนที่ยัง overweight นะฮะ หรือไขมันสะสมเยอะๆนะอันนี้ก็ต้องไปปรับ
00:12:16 → 00:12:23 ในเรื่องของอาหารก่อนนะฮะนะนะอาหารเนี่ย ตรงข้างล่างเนี่ยนะฮ eny Balance เอ่อ
00:12:23 → 00:12:29 โปรน intake อะไรต่างๆอันนี้เป็นหลักกฎ เลยนะฮะนะแล้วก็เรื่องการออกแรงออกกำลัง
00:12:29 → 00:12:37 เรื่อง If อะไรต่างๆไว้ทีหลัง เนาะให้มันได้อยู่ในเกณฑ์ที่อ่าออนะิิ
00:12:37 → 00:12:47 หรือว่าสมส่วนเอ่อค่อนอ้วนนะก่อนนะฮะนะ อันนี้ก็เอามาให้ดูคร่าวๆในวันนี้นะ
00:12:47 → 00:12:54 ประเดิมรายการคราวที่แล้วเราคุยกันไปแล้ว นะฮะเรื่องของเ่อระบบเผ่าผันพลังงานที่
00:12:54 → 00:13:00 เกิดปัญหานะโดยข้อสรุปส่วนใหญ่มันก็จะ อยู่ในเรื่องของว่าดอินซูลินเรื้อรังใช่
00:13:00 → 00:13:07 อ่าไทรรอยด์ทำงานต่ำแบบแฝงเป็นศัพท์ clinical ไฮโปไทรอยด์แล้วก็ต่อมหมวกไต
00:13:07 → 00:13:12 ล้าหรือส่อหมใจไม่สมดุลนะฮะ adrenal ์น imbalance นะหลังจากนั้นก็จะเป็นเรื่อง
00:13:12 → 00:13:21 ของเนี่ยอ่าไอ้เป็นระบบฮอร์โมนเพศที่มัน ที่มันไม่สมดุลไม่ปกตินะนะอันนี้หมายถึง
00:13:21 → 00:13:28 ว่ายังไม่เข้าไวยทองนะแล้วสุดท้ายถึงจะ เป็นภาวะเรื่องของเนอสหรือไวทองไวทองนะ
00:13:28 → 00:13:34 อันนี้ก็เกิดได้ทั้งผู้หญิงผู้ชายแต่ข้อ 1 ข้อ 2 ข้อ 3 นี่เจอเยอะมากนะฮะแล้วก็เรา
00:13:34 → 00:13:40 ก็มาไล่เรียงเป็นเรื่องของปัญหาฮอร์โมน ไม่สมุต่างๆพวกเนะหลังจากนั้นเราก็อธิบาย
00:13:40 → 00:13:47 โฟกัสไปในเรื่องของเอสโตรเจนเดดซึ่ง อันเนี้ยมันเป็นตัวสุดท้ายปลายทางของ
00:13:47 → 00:13:53 เรื่องราวอื่นๆทั้งหมดนะฮะเพราะงั้นเวลา ที่ใครก็ตามจะมีภาวะเอสโตรเจนเด่นแปลว่า
00:13:53 → 00:14:02 ฮอร์โมนทั้งหลายทั้งปวงในเบื้องต้นนะก็ ต้องมีความผิดปกติมากน้อยแจมๆร่วมๆอ่า
00:14:02 → 00:14:14 หรือบวกๆนะกันมานะในระยะเวลานึงแล้วนะฮะ แล้วก็มาลงเอยเป็นตัวเอเจนเด่นอ่าหรือเอน
00:14:14 → 00:14:18 dominant เกิดขึ้น นะอันนี้
00:14:18 → 00:14:27 ก็วันนี้หมอก็ขอคุยในแง่ของเรื่องเรื่อง ว่าเอ่อเวลาที่เราอยู่ในฝั่งของพวการคต่ำ
00:14:27 → 00:14:35 เนี่ยนะฮะนะนะจะมีเรื่องนึงนะฮะนะที่มัน จะไปซ้ำเติมนะฮะความผิดปกตินะหรือความไม่
00:14:35 → 00:14:42 สมดุลหรือ imbalance ของพวกฮอร์โมนต่างๆ นะฮะนะก็คือใครก็ตามที่เรื่ององค์ความรู้
00:14:42 → 00:14:50 หรือความเข้าใจนะหรือรายละเอียดทางด้าน ow C เนี่ยยังไม่ไม่แน่นไม่แข็งอะไรต่างๆนะ
00:14:50 → 00:14:57 ฮะก็ต้องระวังนะหลายคนก็พยายามเอาความรู้ เท่าที่ได้รวมทั้งเน้นเรื่องการปฏิบัตินะ
00:14:57 → 00:15:04 ฮะแล้วก็ไม่เกิดการเเรียกว่านิเทศหรือ พยายามทบทวนองค์ความรู้ให้ดีๆนะฮะนะคือ
00:15:04 → 00:15:13 มันจะ ow C ยาวๆไปนักไม่ได้นะฮะนะเราก็ ต้องมีการ ting มี rotating นะฮะหรืออ่า
00:15:13 → 00:15:19 มีการที่จะมาปรับนะทุกอย่างเนี่ยให้มัน เข้าสู่ภาวะที่เราเรียกว่า metabolic
00:15:19 → 00:15:26 flexibility เพราะว่าหัวใจสำคัญที่สุด เลยนะฮะของผการแนวใหม่เนี่ยก็คือการยืด
00:15:26 → 00:15:31 หยุ่นทางด้านพลังงานการยืดหยุ่นในแง่ของ การเผ่าผ่านพลังงานนะเป็นเรื่องสำคัญสูง
00:15:31 → 00:15:38 สุดนะฮะแล้วหมอสังเกตในหลายๆเพจนะฮะนะ หรือหลายๆคนนะฮะโดยเฉพาะคนที่เป็นเบาหวาน
00:15:38 → 00:15:46 แล้วเนี่ยนะฮะอย่ามัวแต่เพลิดเพลินนะหรือ เอาเป็นเอาตายนักกับเรื่องน้ำตาลเรื่อง
00:15:46 → 00:15:56 น้ำตาลสะสมนะฮะนะหลายๆเรื่องนะฮะนะของการ ิัของเบาหวานที่จะเป็นผลอ่าในในระยะที่จะ
00:15:56 → 00:16:02 เป็นตัวตัดสินน่ะว่าคุณรีมิได้หรือ Recover อะไรได้มยอะไรอย่าเงี้ยหรือ
00:16:02 → 00:16:09 ฮอร์โมนมัน Reset ร Balance อะไรหรือยัง เนี่ยนะเขาจะตัดสินกันที่ความยืดหยุ่นนะ
00:16:09 → 00:16:16 ทางด้านการเผาผลาญพลังงานหรือความหรือ metabolic flexibility นะฮะนะถ้ามันมี
00:16:16 → 00:16:24 สิ่งนี้เกิดขึ้นเนี่ยนะฮะเอ่อเราก็จะถือ ว่าโอเคนะคุณน่ะเข้าเกณฑ์หรือคุณน่ะมันมี
00:16:24 → 00:16:33 มันมีอ่าผลลัพธ์ที่เป็นสัญญาณอะไรบาง อย่างนะว่าว่ามันมีความแน่นหนามั่นคงนะฮะ
00:16:33 → 00:16:40 ในการที่จะิันะเดูตรงนี้นะฮะก็คือดูใน เรื่องของความยืดหยุ่นทางด้านการเผาพัน
00:16:40 → 00:16:49 พลังงานนะซึ่งอันเนี้ยนะตัววัดที่สำคัญ เลยคือระดับฮอร์โมนอินซูลินกับ
00:16:49 → 00:16:56 ประสิทธิภาพของอินซูลินอเพราะฉะนั้น fing อินซูลินนะฮะนะเ่อรวมทั้งเรื่องของการ
00:16:56 → 00:17:04 คำนวณฮ่า ir เป็นเรื่องสำคัญนะฮะในในการ ติดตามการเป็นเบาหวานนะอันนี้เ่อเ่อมัน
00:17:04 → 00:17:12 สำคัญอ่าขึ้นไปอีกระดับนึงนะฮะนอกเหนือ จากการ f ในเรื่องของน้ำตาลอ่าก่อนอาหาร
00:17:12 → 00:17:19 หลังอาหารน้ำตาลตอนเช้ารวมทั้งน้ำตาลสะสม นะฮะต้องต้องขึ้นมาถึงจุดนี้ให้ได้นะฮะนะ
00:17:19 → 00:17:25 เพราะว่าความหวังมันอยู่ที่ความยืดหยุ่น ของร่างกายนะเกี่ยวกับระบบเบริหรือการ
00:17:25 → 00:17:32 เผ่าผ่านพลังงานนะ ฮะเนี่ยหลายๆเรื่องนะฮะนะในกรณีที่การตัด
00:17:32 → 00:17:40 คาฟหรือการเอ่อลดคาฟที่ต่ำมากๆและเป็น เวลายาวนานเนี่ยอ่ามีสมดุลของฮอร์โมน 5
00:17:40 → 00:17:49 ตัวที่จะเกิดนะการอ่า imbalance นะฮะก็ คืออินซูลินจะต่ำแล้วก็ฟังฟังก์ชันนะฮะ
00:17:49 → 00:17:58 คอร์ติซอลก็จะสูงขึ้นคือจะพุ่งอ่ะนะพุ่ง ขึ้นนะไทรอยด์จะต่ำและเพี้ยนคล้ายๆ
00:17:58 → 00:18:07 อินซูลินเพราะก็มาด้วยกันโปรเจสเตอโรนก็ จะต่ำนะฮะจะต่ำนะนะแล้วโกดฮอร์โมนก็จะต่ำ
00:18:07 → 00:18:12 ด้วยนะคืออย่างไทรอยด์กับโปรเจสเตอโรน เนี่ยเเป็นฮอร์โมนที่ต้องพึ่งพิงอ่า
00:18:12 → 00:18:19 คาร์โบไฮเดรตอยู่แล้วนะฮะเพราะงั้นการที่ ไปลดต่ำมากๆหรือไปตัดเนี่ยเป็นเวลายาวนาน
00:18:19 → 00:18:26 เนี่ย 2 ตัวเนี่ยนะก็จะจะเดี้ยงอ่ะจะ เดี้ยงจะทำงานไม่ได้ทำงานไม่ไหวเลยนะฮะ
00:18:26 → 00:18:32 เพราะฉะนั้นก็ยิ่งไปทำให้เอสโตเจนมันเด็ด มากขึ้นใช่มล่ะนะนะหรืออินซูลินก็ตามนะฮะ
00:18:32 → 00:18:39 ที่เป็นฮอร์โมนพ่อบ้านแข็งแกร่งเนะเวลา ตัดคาฟสนิทนานๆเนี่ยนะเขาก็จะมีอันเป็นไป
00:18:39 → 00:18:47 ด้วยนะฮะนะซึ่งเราก็มีคำต่างๆนะที่ว่า อินซูลิน Hyper sensitivity นะอ่า
00:18:47 → 00:18:54 reactive อะไร insulin อ่าอะไรน่ะ Hyper responsive N นะฮะนะ
00:18:54 → 00:19:04 อ่าแล้วก็จะมีมีมีมีมีอีก 3-4 คำด้วยนะฮะ นะกับอินซูลินนะฮะนะอ่าอันนี้ไม่ได้ไม่
00:19:04 → 00:19:10 ได้เราต้องมีการ heating มี rotating นะ มาใส่าฟเป็นบางช่วงบางวันนะตามความเหมาะ
00:19:10 → 00:19:16 สมนะฮะนะหรืออย่างคอร์ติซอลเนี่ยนะฮะอ่า เราก็รู้แล้วว่าคอร์ติซอลเนี่ยเขาก็ชอบ
00:19:16 → 00:19:22 เรื่องของน้ำตาลอยู่แล้วนะฮะนะเพราะว่า คาฟมันก็คือน้ำตาลนะเ่าถ้ามีน้ำตาลเนี่ย
00:19:22 → 00:19:30 คอร์ติซอลเขาก็จะสบายใจนะแต่ไปตัดน้ำตาล ตัดแป้งตัดาฟนานๆนะนะนะก็แน่นอนคอร์ติซอล
00:19:30 → 00:19:39 ก็อ่าเมื่อถึงจุดนึงเนี่ยนะก็จะตะบะแตกนะ เพราะฉะนั้นเก็จะพุ่งสูงขึ้นไปนะฮะหรือ
00:19:39 → 00:19:45 อย่างโกดฮอร์โมนเนี่ยนะเพราะอะไรโด ฮอร์โมนถึงต่ำรู้มยนะฮะเวลาตัดคาฟนานๆที่
00:19:45 → 00:19:51 สำคัญเนี่ยอ่าในการกินก็มีเรื่องของท Day นะฮะโดยเฉพาะมื้อเย็นเนี่ยเราก็ต้องมีคาฟ
00:19:51 → 00:19:59 เชิงซ้อนเพื่ออะไรนะฮะก็เพื่อที่นะจะไป ให้สมองหลับนะนะเพราะว่าตรงเนี้ยก็เป็น
00:19:59 → 00:20:06 เรื่องสำคัญของความครบเครื่องนะในเรื่อง ของโภชนาการคาร์โบไฮเดรตโปรตีนไขมันนะ
00:20:06 → 00:20:11 หลังจากนั้นเนี่ยตัวอินซูลินที่ถูกคาฟ เชิงซ้อนในมื้อเย็นกระตุ้นเนี่ยเ่อก็จะทำ
00:20:11 → 00:20:18 ให้สมองเนี่ยเกิดนะการจุดประกายวงจรของ การนอนหลับเกิดขึ้นอ่าหลังจากนั้นเวลามัน
00:20:18 → 00:20:24 รันต่อไปในการหลับแล้วเนี่ยนะหลับๆไป เนี่ยก็มีแอชของอะไรที่เล่าให้ฟังไปคราว
00:20:24 → 00:20:31 ที่แล้วเนี่ยก็คือไทลอยเ่อแคลซิโตนินอะไร อย่างงี้นะฮะอ่าออกมาแล้วหลังจากนั้นก็จะ
00:20:31 → 00:20:40 มีโกดฮอร์โมนเมลานินอออกมาแต่ถ้ามันจุด เนี้ยมันขาดไปอ่ะนะโดยเฉพาะการกดคาฟการ
00:20:40 → 00:20:48 ตัดคาฟการไม่กินาฟนะแล้วเป็นเวลานานๆนะฮะ อันเนี้ยสมองว่าหลับยากขึ้นเรื่อยๆนะนะ
00:20:48 → 00:20:55 เพราะว่ามันไม่มีความคบเครื่องนะของอ่า อาหารหลักคาร์โบไฮเดรตโปรตีนไขมันนะอ
00:20:55 → 00:21:00 เพราะฉะนั้นในที่สุดแล้วเนี่ยการที่จะ เกิดความต่อเนื่องของฮอร์โมนในการเผาผลาญ
00:21:00 → 00:21:08 พลังงานนะหรือในการที่จะมา่าเผาพลังงาน แล้วเอาไปซ่อมเป็นสร้างอะไต่างๆมันก็จะลด
00:21:08 → 00:21:14 ลงไปเรื่อยๆนะเพราะฉะนั้นเนี่ยคือสาเหตุ ที่ทำให้โดฮอร์โมนต่ำเวลาตัดคาฟนานๆนะ
00:21:14 → 00:21:20 แล้วทั้งหมดเนี้ยปรากฏว่าในผู้หญิงเนี่ย นะซึ่งมันจะเกี่ยวข้องกับเรื่องของ
00:21:20 → 00:21:27 คอร์ติซอลก็ดีนะไทรรอยด์ก็ดีโปรเจสเตอโรน ก็ดีเอสโตรเจนก็ดีนะเหล่านี้นะจะมีความ
00:21:27 → 00:21:34 หมายเยอะมากมากนะต่อผู้หญิงนะแล้วก็ผู้ หญิงก็คือจะมีปัญหาเรื่องนี่แหละเมื่อตัด
00:21:34 → 00:21:40 คาฟไปแล้วเรื่องประจำเดือนเรื่องระบบการ เจริญพันธุ์อะไรต่างๆนะรวมทั้งภาวะอไอ้
00:21:40 → 00:21:46 เอสโตเจนเด่นเนี่ยนะก็จะปรากฏให้เห็นนะ ชัดขึ้นเรื่อยๆเรื่อยๆๆๆเพราะฉะนั้นอัน
00:21:46 → 00:21:54 นี้ต้องระวังแล้วกรณีพวกเนี้ยนะนอกจาก เรื่องของเอ่อประเภทของอาหารโ C นะ
00:21:54 → 00:22:03 ที่ที่ที่ที่ปรับนะหรือที่สร้างขึ้นมานะ แล้วไม่เหมาะกับตัวเองนักเวลาเข้ามาสู่วง
00:22:03 → 00:22:12 การนี้นะฮะนะเนี่ยก็จะไปมีผลอีกเรื่องนึง นะที่มาพร้อมๆกันก็คือ If นะฮะในที่สุด
00:22:12 → 00:22:20 ผู้หญิงนะอ่าก็จะมีอันเป็นไปมากกว่าผู้ ชายนะฮะจากปัญหาในเรื่องของฮอร์โมนที่ผิด
00:22:20 → 00:22:27 ปกติทั้ง 5 ตัววันนี้เวลาตัดคาฟนานๆอัน นี้ก็มาเสริมนะฮะมีข้อสรุปอย่างนี้นะฮะ
00:22:27 → 00:22:35 ว่าฮอร์โมนหลักๆ 3 ตัวที่ต้องมีคาฟนะฮะ ร่วมด้วยเสมอเ่อทั้งในการสร้างและการทำ
00:22:35 → 00:22:42 งานนะก็จะมี 1 2 3 โดยเฉพาะตัวคู่หูกัน เนี่ยก็คือไทรรอยด์กับโปรเจสเตอโรนนะ
00:22:42 → 00:22:48 ไทรรอยด์เป็นฮอร์โมนที่ต้องพึ่งคามากสุด แล้วโปรเจสเตอโรนเนี่ยรองลงมานะส่วน
00:22:48 → 00:22:55 เลปตินนะก็จะเป็นฮอร์โมนอีกวงนึงอ่ะนะแต่ เขาก็ต้องพึ่งพิงคาฟเหมือนกันเนี่ยเราก็
00:22:55 → 00:23:01 มาดูรายละเอียดคร่าวๆนะฮะอย่างไทรเนี่ย พึ่งคาฟมากที่สุดโครงสร้างของฮอร์โมน
00:23:01 → 00:23:08 ไทรรอยด์ก็คือคือไกโคโปรตีนนะฮะก็คือเป็น ลักษณะของตัวโปรตีนคู่กับนะตัว
00:23:08 → 00:23:15 คาร์โบไฮเดรตนะซึ่งอ่าร่างกายสร้าง ฮอร์โมนไทรรอยด์นะฮะนะในลักษณะที่เป็น
00:23:15 → 00:23:23 โครงสร้างของโปรตีนนะหรือกดอมิโนร่วมกับ คาฟเชิงซ้อนนะฮะนะคาฟประเภทแป้งเชิงซอนนะ
00:23:23 → 00:23:29 เพราะงั้นอย่างน้อยฮอร์โมนฮอร์โมนตัวนึง เนี่ยคือไทรรอยด์เนี่ยนะเราก็จะต้องมีการ
00:23:29 → 00:23:36 ใส่คาฟเข้าไปนะอย่างกรณีเป็นเบาหวานเยอะๆ แล้วริไม่ได้เราก็ยังต้องใช้คาฟที่มาจาก
00:23:36 → 00:23:44 ผักหัวนะก็จำกัดปริมาณนะที่จะควบคุมน้ำ ตาลนะนะอันนี้แหละฮะนะมันจำเป็นสำหรับ
00:23:44 → 00:23:51 ไทรรอยด์อ่าไทรรอยด์พึ่งพาคาฟมากที่สุดนะ ในคฟ Dependent ฮอร์โมน 3 ตัวนี้แล้วโครง
00:23:51 → 00:23:59 สร้างเคือไกโคโปรตีนนะก็คือโปรตีนกับคาฟ ประเภทแป้งเชิงซอนนะแล้วไทรรอยด์เนี่ยนะ
00:23:59 → 00:24:04 ความสำคัญก็อยู่ที่อาหารเมื้อเย็นนะฮะ เพราะอาหารเมื้อเย็นเนี่ยเรากินแบบครบ
00:24:04 → 00:24:12 คาร์โบไฮเดรตโปรตีนไขมันนะเพราะฉะนั้นคาฟ ก็ดีไขมันคงลูกที่กินในมื้อเย็นก็ดีนะฮะ
00:24:12 → 00:24:16 ซึ่งอันเนี้ยเราก็ไม่ได้จำกัดเอ้ยเราก็ จำกัดเี่นะฮะว่าไม่ได้กินเยอะแยะอะไร
00:24:16 → 00:24:24 อย่างงี้นะทั้ง 2 พลังงานนี้นะฮะก็จะถูก ไทรรอยด์เป็นผู้จัดการนะในช่วงอาหารมื้อ
00:24:24 → 00:24:32 เย็นหลังจากอินซูลินไปแล้วนะฮะนะไทรอย์ก็ ก็จะมีการเผาผลาญพลังงานที่เราจำกัดในการ
00:24:32 → 00:24:40 กินเข้าไปในเมื้อเย็นนะจากคาฟเชิงซ้อนและ จากไขมันรงลูกนะฮะนะอ่าหลังจากนั้นเนี่ย
00:24:40 → 00:24:48 ถ้าไทรรอยด์เนี่ยยังมีเมีฤทธิ์อยู่เนี่ย นะเขาก็จะเริ่มวงจรการเผาผลาญไขมันที่
00:24:48 → 00:24:54 สะสมในร่างกายนะฮะเพราะเเป็นหนึ่งในกลุ่ม ฮอร์โมนรูกเทพทั้ง 6 ตัว
00:24:54 → 00:25:01 นะแล้วก็ตัวที่จะมารับไม้ต่อมารับลูกต่อ ก็คือเมลาโทนินกับโสฮอร์โมนในช่วงที่เรา
00:25:01 → 00:25:09 นอนหลับไปแล้วนะอันนี้ก็คืออ่าเรื่องราย ละเอียดของไทรอยด์นะฮะอันต่อมาก็คือเ่อ
00:25:09 → 00:25:17 โปรเจสเตอโรนนะฮะที่มีลักษณะคล้ายๆกับ ไทรรอยด์เลยนะฮะเนี่ยนะนี้เขาบอก
00:25:17 → 00:25:25 โปรเจสเตอโรนก็เป็นฮอร์โมนที่ต้องพึ่งพา าฟนะในการสร้างนะคล้ายๆกับไทรรอยด์นะนะ
00:25:25 → 00:25:29 อันนี้คือในแง่ของการสร้างเป็นหลักนะฮะ สำหรับโจสรนแต่ในแง่ของการทำงาน
00:25:29 → 00:25:36 โปรเจสเตอโรนไม่ได้เผาผลาพลังงานจากคาฟนะ ฮะคือปติโปรเจสเตอโรนเขาเผาผลาพลังงานจาก
00:25:36 → 00:25:44 ไขมันนะฮะโดยเฉพาะไขมันที่เราสะสมไว้ นะก็อย่างงนี้นะว่านะตัวโปรเจสเตอโรน
00:25:44 → 00:25:52 เนี่ยโครงสร้างก็คือคอเลสเตอรอลจากสัตว์ นะนะที่มาจากโปรตีนไขมันปานกลางโดยเฉพาะ
00:25:52 → 00:26:01 ไข่แดงนะและจะต้องมีอีกส่วนหนึ่งของโครง สร้างที่เป็นคาฟนะโดยจะเป็นคัเชิงซ้อนจาก
00:26:01 → 00:26:09 แป้งเชิงซ้อนก็ได้หรือนะที่อ่าที่คนส่วน ใหญ่ไ้ที่คนส่วนใหญ่นะเขาใช้กันเนี่ยก็
00:26:09 → 00:26:17 คือเอ่อคาที่เป็นน้ำตาลจากผลไม้นะผลไม้ เพราะฉะนั้นเนี่ยเวลาที่เ่อผู้หญิงจะ
00:26:17 → 00:26:24 สร้างโปรเจสเตอโรนในช่วงที่ไข่ตกไปแล้ว เนี่ยนะฮะคือช่วงระยะวันที่ 14 กลางเดือน
00:26:24 → 00:26:29 เนี่ย นะการสร้างอันเนี้ยนะมันจะไปเค้าเรียกว่า
00:26:29 → 00:26:36 มันไปติ๊กเกอร์นะให้เกิดความอยากนะ เปรี้ยวปากนะอยากจะกินหวานๆากอยากจะกิน
00:26:36 → 00:26:43 ผลไม้อยากจะกินช็อกโกแลตนะอยากจะกินขนม ของหวานอะไรต่างๆนะอันนี้ก็คือเนี่ยร่าง
00:26:43 → 00:26:51 กายเขาต้องการเนี่ยที่จะมีอ่ามีสารที่มา สร้างตัวโปรเจสเตอโรนนะอ่าก็จะสร้างอยู่
00:26:51 → 00:26:59 เนี่ยประมาณ 5-7 วันนะฮะในช่วงกลางๆของ รอบเดือนหลังจากไข่ตกแล้วนะโดยเฉพาะการ
00:26:59 → 00:27:06 สร้างมากที่สุดในช่วง 72 ชั่วโมงแรกหลัง ไข่ตกนะเนี่ยลังไข่ก็จะมีการสร้าง
00:27:06 → 00:27:14 โปรเจสเตอโรนนะฮะโปรเจสเตอโรนนะซึ่งก็จะ ต้องได้รับเนี่ยคอเลสเตอรอลนะเจากไข่แดง
00:27:14 → 00:27:21 นะหรือจากสัตว์ต่างๆนะฮะที่เป็น คอเลสเตอรอลอ่าไขมันปานกลางนะไขมันปาน
00:27:21 → 00:27:30 กลางนะแล้วก็ต้องมีการกินประเภทอ่าคาฟ แป้งถึงซ้อนหรือไม่ก็พวกกลุ่มผลไม้ที่ดี
00:27:30 → 00:27:37 นะที่ดีนะคือเราอาจจะกินผลไม้ที่ให้ไขมัน เป็นหลักก็ได้นะก็คือพวกมะพร้ากะทิ
00:27:37 → 00:27:45 อะโวคาโดมะกอกนะ ฮะเดี๋ยวนี้ก็จะมีอะไรมาอีกเยอะแยะเลยนะ
00:27:45 → 00:27:55 ฮะนะเดี๋ยวในช่วงท้ายๆหมอก็จะแอดให้นะฮะ นะเช่นก็จะเป็นพวกอะไรพวกอ่าพวกพวก Dr
00:27:55 → 00:28:04 feed นะออแกนิ food อะไรต่างๆนะฮะนะนะ ที่มันมีสารไฟโตนิวเทรียนสีอ่า Dark
00:28:04 → 00:28:11 Color นะฮะอ่าเดี๋ยวนี้เก็มาใช้นะซึ่งก็ จะมีผลในการช่วยในการสร้างโปรเจสเตอโรนไป
00:28:11 → 00:28:18 ด้วยนะแล้วเสร็จแล้วเนี่ยตัวโปรเจสเตอโรน เนี่ยก็จะทำหน้าที่นะในการเผาผลาไขมันอ่า
00:28:18 → 00:28:27 ที่ร่างกายสะสมไว้เป็นพลังงานให้กับเซลล์ ของไข่อ่าในผู้หญิงระยะวัยเจริญพันธนะฮะ
00:28:27 → 00:28:33 นะช่วงที่ที่มีการตกไข่แล้วไข่ก็จะต้องมี การเคลื่อนตัวนะซึ่งอันเนี้ยไข่ก็จะต้อง
00:28:33 → 00:28:40 ใช้พลังงานนะเคลื่อนตัวไปในปีกวดลูกและก็ ไปฝังตัวที่โพรงวด
00:28:40 → 00:28:48 ลูกซึ่งจะก็แล้วแต่นะจะได้รับการผสมหรือ ไม่ผสมอะไรต่างๆนะก็จะต้องมีการเดินทาง
00:28:48 → 00:28:54 แบบเนี้ยนะซึ่งเซลล์ของไข่ก็จะต้องใช้ พลังงานนะอันนี้ก็จะเป็นหน้าที่ของ
00:28:54 → 00:28:58 ฮอร์โมนตัวนี้นะฮะในการช่วยการจัดหาพลัง งาน
00:28:58 → 00:29:07 แล้วก็ที่สำคัญเนี่ยนะเขาเป็นตัวานในการ ปรับสมดุลของฮอร์โมนเอสโตรเจนในผู้หญิงนะ
00:29:07 → 00:29:14 เพราะฉะนั้นก็แน่นอนนะเอสโตรเจนฮอร์โมน พิาคนโตเขาก็เลยไม่ชอบไม่ชอบนะเพราะ
00:29:14 → 00:29:22 โปรเจสเตอโรนเเผาไขมันนะฮะแต่เอสโตรเจนก็ เป็นฮอร์โมนสะสมไขมันก็มันก็ตรงกันข้าม
00:29:22 → 00:29:29 กันอีกตัวนึงเนี่ยสำหรับนะ Car Dependent ฮอร์โมนก็คือเลปตินนะฮะซึ่งเดี๋ยวเราจะ
00:29:29 → 00:29:36 พูดค่อนข้างละเอียดในวันนี้นะฮะแต่ตรงนี้ เนี่ยนะก็เอามาแจมเป็นข้อเป็นหัวข้อย่อๆ
00:29:36 → 00:29:43 ไว้ก่อนนะฮะว่าเลปตินเเป็นฮอร์โมนเผาผลาญ พลังงานนะฮะแต่เขาถูกสร้างที่เซลล์กล้าม
00:29:43 → 00:29:50 เนื้อไม่ได้ถูกสร้างที่สมองนะเพราะฉะนั้น อ่าอินซูลินเนี่ยนะก็เหมือนกันเสร้างที่
00:29:50 → 00:29:56 เบต้าเซลล์จากอ่อนนะฮะนะเพราะฉะนั้นเซลล์ ที่คู่กับเขาคือเลปตินอันนี้สร้างจาก
00:29:56 → 00:30:04 เซลล์อ่าเเรียกว่าแฟตเซลล์นะฮะหรือโพไซนะ ฮะเป็นเซลล์ของเนื้อเยื่อไขมันของร่างกาย
00:30:04 → 00:30:12 นะอันนี้ก็จะเป็นฮอร์โมนที่ทำให้เรารู้ึก เกิดความอิ่มนะพออิ่มแล้วเราจะหยุดกิน
00:30:12 → 00:30:19 แล้วเมื่อเราหยุดกินแล้วเนี่ยตัวเลปตินก็ จะมีแอชนะในระยะต่อมาก็คือการเผาผลาญพลัง
00:30:19 → 00:30:26 งานคล้ายๆกับกลุ่มฮอร์โมนเผ่าผลาญพลังงาน ลูกเทพทั้ง 6 นะฮะนะเพียงแต่ว่ากลุ่ม
00:30:26 → 00:30:35 ฮอร์โมนเหล่านั้นมันมาจากสมองนะฮะเรามี การกระตุ้นนะเ่อออกไปจากทางสมองนะฮะแต่นะ
00:30:35 → 00:30:43 ตัวเลปตินเนี่ยไม่ได้มาจากสมองแต่มาจาก เซลล์ไขมันนะฮะอันนี้ก็เป็นลักษณะคร่าวๆ
00:30:43 → 00:30:51 ของฮอร์โมนตัวนี้นี้เรามาดูโครงสร้างนะ ว่าเ่าเพึ่งพิงคาฟยังไงฮอร์โมนตัวนี้นะฮะ
00:30:51 → 00:31:00 นะโครงสร้างเป็นโปรตีนเเรียกโปรตีนเบสนะ ฮะนะแล้วก็มีไขมันดีนะก็คือพวก Good
00:31:00 → 00:31:08 Healthy Fat นะแล้วก็มีสารพฤกษาเคมีสี เข้มๆนะเป็นลักษณะ Dark Color fent นะ
00:31:08 → 00:31:16 ซึ่งอันเนี้ยเอ่อส่วนใหญ่มันจะมีในผลไม้ อ่ามีในผลไม้และมักจะเป็นกลุ่มผลไม้
00:31:16 → 00:31:23 เบอร์รี่เบอร์รี่ต่างๆนะมีทั้งอ่า Blackberry บูเบอรี่อ่าเ่อสตอเบอร์รี่
00:31:23 → 00:31:31 อะไรงงี้นะฮะนะก็สีต่างๆที่มันเข้มๆโดย เฉพาะเข้มๆแบบน้ำตาลดำๆน้ำเงินอะไรอย่าง
00:31:31 → 00:31:38 เงี้ยนะฮะอ่าพวกแบคเบอรี่บลูเบอร์รี่นะ หรือพวกไ่อเ่อ Black ราสเบอรี่อะไรอย่าง
00:31:38 → 00:31:45 เงี้ยนะฮะนะอันนี้ก็จะตอบโจทย์นะที่จะ ช่วยร่างกายในการสร้างฮอร์โมน
00:31:45 → 00:31:53 เลปตินทีนี้ลักษณะนะของเลปตินเนี่ยนะฮะนะ อันแรกเลยเนี่ยเนื้อเยื่อไขมันเนี่ยนะฮะ
00:31:53 → 00:32:00 อ่าคือเวลาเ้าสร้างเนี่ยนะเดี๋ยวเราจะรู้ ว่าว่าเเสร้างตอนไหนนะฮะเนื้อเยื่อไขมัน
00:32:00 → 00:32:06 สร้างสร้างเสร็จแล้วก็สะสมไว้ก่อนนะฮะพอ เซลล์เนื้อเยื่อไขมันคนเราเนี่ยเวลาเรา
00:32:06 → 00:32:13 กินอาหารในแต่ละมื้อเนี่ยนะนะถ้าเกิดการ กินในมื้อนั้นเนี่ยนะนะเกิดการที่ว่าร่าง
00:32:13 → 00:32:22 กายจะต้องมีการสะสมพลังงานเมื่อไหร่นะอ่า ก็เกิดสัญญาณนะอ่าสัญญาณไปที่ไปที่เซลล์
00:32:22 → 00:32:30 เนื้อเยื่อไขมันหรือแฟตเซลล์หืออิไซนะ สัญญาณเยนะว่าให้เตรียมตัวสะสมไขมันนะนะ
00:32:30 → 00:32:38 ขณะเดียวกันการตอบสนองของเซลล์เนื้อเยื่อ ไขมันนะหรือโพไซเนี่ยก็จะเกิดการกระตุ้น
00:32:38 → 00:32:48 การหลั่งเลปตินออกมานะเนี่ยเเรียกว่าอ่า มันเป็นทวนะฮะนะได้รับสัญญาณว่าจะสะสมไข
00:32:48 → 00:32:56 มันก็จะเริ่มที่จะหลั่งอ่าเลปตินนะฮะหั เลปตินนะแล้วไขมันพอไปสะสมที่เซลล์อ่าไข
00:32:56 → 00:33:03 มันเนี่ยนะฮะเลปตินก็จะอ่าเพิ่มระดับขึ้น เรื่อยๆนะทนี้เลปตินที่ออกมาจากเซลล์ไข
00:33:03 → 00:33:10 มันพวกเนี้ยนะฮะไปไหนนะฮะก็จะไปที่อ่า เป็น signaling นะโมเลกุลอย่างนึงที่จะไป
00:33:10 → 00:33:19 ที่อ่าตัวลับสัญญาณที่สมองนะนะก็คือมา ส่วนของสมองที่จะเกิดการตอบสนองในแง่ของ
00:33:19 → 00:33:29 ความรู้สึกอิ่มนะฮะอิ่มพอนะเอ่าถ้าเกิด การสมองส่วนเนี้ยได้รับการกระตุ้นแบบนี้
00:33:29 → 00:33:38 นะฮะจากเลปตินนะฮะร่างกายจะเกิดการค่อยๆ อ่าชะลอและหยุดกินนะฮะนะซึ่งเราก็จะรู้
00:33:38 → 00:33:46 กันในเรื่องของว่าอิ่มะนะฮะอ่าอิ่มแล้วก็ ไม่ได้กินอะไรต่อแล้วนะฮะพอแลนะอันนี้
00:33:46 → 00:33:54 เป็นเรื่องของขั้นที่ 1 นะฮะนะของแอชของ เลปตินนะนะเนี่ยในระบบการทำงานนะขั้นต่อ
00:33:54 → 00:34:02 มาเนี่ยนะฮะหลังจากอิ่มและแล้วก็หยุดกิน ไปแล้วนะฮะเลปตินจะทำงานต่อในช่วงที่ 2
00:34:02 → 00:34:10 ก็คือช่วงของการเกิดนะเนี่ยการเผาผลาญ พลังงานที่กินเข้าไปเรากินอะไรเขไปนะฮะนะ
00:34:10 → 00:34:18 นะเนี่ยรติก็จะสั่งนะให้เกิดกบวนการเผ่า พันพลังงานคล้ายๆกับกลุ่มฮอร์โมนลูกเทศ
00:34:18 → 00:34:25 ต่างๆนะฮะคล้ายๆกับไทรอยด์เอกลูคากอนโกด ฮอร์โมนนะแดนีอะไรพวกเนะฮะนะเหมือนกันนะ
00:34:25 → 00:34:32 ฮะเพียงแต่ว่าฮอร์โมนเหล่านั้นเนี่ยนะ ส่วนใหญ่แล้วจะมีควที่จะต้องมาจากทางสมอง
00:34:32 → 00:34:39 เป็นผู้สั่งการกระตุ้นออกมานะแต่อันนี้ เขาอยู่นอกสมองนะอยู่นอกสมองอยู่ที่เซลล์
00:34:39 → 00:34:45 ไขมันนะฮะแล้วคุณสมบัติอย่างหนึ่งของการ เผาผลาญพลังงานที่เกิดขึ้นสำหรับเลปติน
00:34:45 → 00:34:55 เนี่ยคือเผาอ่าแล้วไม่เกิดการนำไปเก็บ สะสมนะฮะนะถ้าสามารถถ้าเขมีแชนะฮะอย่าง
00:34:55 → 00:35:02 ถูกต้องอย่างเหมาะสมด้วยเนี่ยนะฮะนะอ่า การเผาผลาันนี้นะจะไม่เกิดการหลงเหลือ
00:35:02 → 00:35:08 เพราะว่าส่วนใหญ่เขาก็เผาไขมันนี่แหละ เป็นหลักนะแล้วก็อ่าการเผาไขมันของเขา
00:35:08 → 00:35:15 เนี่ยก็ส่วนใหญ่จะอยู่ในระบบห้อน้ำเหลือง นะฮะอ่าเป็นหลักคล้ายๆกับกลุ่มฮอร์โมนลูก
00:35:15 → 00:35:23 เทศนะเพราะฉะนั้นการเผาผลาญพวกนี้จะไม่ ค่อยมีการเหลือพลังงานที่จะไปเก็บสัสมนะ
00:35:23 → 00:35:28 ฮะอันนี้ก็คือความรู้ที่หมอสรุปมาใน เรื่องของเลปติน
00:35:28 → 00:35:36 ก็ตอันนี้เป็นอ่าความเชื่อมโยงต่างๆนะ อย่างเช่นวอรเนี่ยนะเอ่อแล้วก็สัมพันธ์
00:35:36 → 00:35:43 กับการเกิดเอสโตรเจนเด่นยังไงนะอ่า ไทรรอยด์ต่ำอะไรตรอย่างงี้นะฮะนะรวมทั้ง
00:35:43 → 00:35:50 เนี่ยกัดไทรอย adrenal Connection นะนะเ เนี่ยเก็มี
00:35:50 → 00:35:58 เคืออย่างไทรรอยด์เนี่ยนะไทรอยด์ โปรเจสเตอโรนนะฮะคอร์ติซอลนะเ่อพวกนี้
00:35:58 → 00:36:07 เนี่ยเเเรียกว่าเป็นฮอร์โมนผู้หญิง นะแล้วพวกนี้เนี่ยเวลานะเอ่อมีปัญหาอะไร
00:36:07 → 00:36:16 ต่างๆเนี่ยมันก็จะเหมือนเหมือนเชื่อมโยง ไปกันหมดเลยนะฮะนะเอ่อคอร์ติซอลมานะเอ่อ
00:36:16 → 00:36:23 ไทรรอยด์โปรเจสเตอโรนเอสโตรเจนอะไรต่างๆ นะพวกนี้เป็นฮอร์โมนผู้หญิงที่จะมีการ
00:36:23 → 00:36:31 เปลี่ยนแปลงไปนะโดยเฉพาะในเรื่องของระดับ ความสมดุลและระบบการทำงานนะอย่างสาเหตุ
00:36:31 → 00:36:36 ของปัญหาไทรรอยด์หรือไฮโปไทรอยด์เนี่ย ไทรรอยด์ต่ำแล้วก็ทำงานไม่เก่งไม่ดีไม่
00:36:36 → 00:36:43 ขยันเนี่ยนะฮะนะเนี่ยเรื่องนึงก็คือเนี่ย เขาบอกว่าอ่าภาวะเอสโตรเจนเด่นเนี่ยจะมี
00:36:43 → 00:36:50 ผลอย่างมากเลยถ้ามันเกิดตรงนี้แล้วเนี่ย นะฮะมันจะมีผลอ่ารังแกตัวฮอร์โมนไทรรอยด์
00:36:50 → 00:36:56 นะให้ทำงานไม่ได้เพราะว่าเอสโตรเจนเขาจะ ไปบล็อกตัวลับฮอร์โมนไทรรอยด์นะไม่ให้
00:36:56 → 00:37:05 ไทรรอยด์ไปออกแอคชั่นในการเผาผลาพลังงาน นะฮะนะเนี่ยนะไเอสโตรเจนเคเไปแย่งเไปแย่ง
00:37:05 → 00:37:11 นะหรือเข้าไปบล็อกตัวรับนะหรือตัว เซ็นเซอร์นะที่จะรับฮอร์โมนเข้าไปแล้วก็
00:37:11 → 00:37:19 ไปเผาไตรกีซาไลน์เป็นพลังงานนะพอมันบล็อก ซะนะไทรรอยด์ก็ทำงานต่อไม่ได้นะเ่อปัญหา
00:37:19 → 00:37:24 อย่างนึงของไฮโปไทรอยด์ไทรอยทำงานต่ำ เนี่ยก็คือการขาดหรือความบกพร่องในการ
00:37:24 → 00:37:31 สร้างน้ำดีของตับนะอันนี้ก็แล้วแต่ตับว่า เจะอักเสบเจะมีไขมันพอกตักหรือเขาจะมีอ่า
00:37:31 → 00:37:37 สมรถภาพการทำงานลดลงยังไงจากอะไรเี่ก็ แล้วแต่นะฮะนะแต่สิ่งนี้เนี่ยก็จะเป็น
00:37:37 → 00:37:43 ส่วนหนึ่งที่จะทำให้การเปลี่ยนแปลงอ่า ไทรอยฮอร์โมนเป็น Active form นะะ T3 ี
00:37:43 → 00:37:52 T3 เนี่ยนะฮะอันนี้เขียนผิดไปนิดนึงเน อ่านะไม่ไม่ไม่ปกตินะนะนะตัวที่มันจะทำ
00:37:52 → 00:37:58 งานเก่งๆมันทำงานไม่ได้นะเพราะมันไม่ได้ ถูกเปลี่ยนนะถ้าเกิดน้ำดีน้อยลงนะฮะความ
00:37:58 → 00:38:05 เครียดเพราะต่อมหมวบไตร้าภูมิคุ้มกันไม่ ดีร่างกายมีสตสเนี่ยนะนะหรือมีเพราะการ
00:38:05 → 00:38:11 ติดเชื้อนะฮะนะนอกจากนี้ก็มีเรื่องการขาด สารอาหารต่างๆนะที่จะไปใช้ในการสร้าง
00:38:11 → 00:38:17 ฮอร์โมนไทรอยด์นะโดยเฉพาะแร่ธาตุสำคัญคือ ไอโอดีนสังกสีเซเลเนียมนะฮะอ่าพวกนี้
00:38:17 → 00:38:25 สำคัญนะแล้วเวลาที่อ่าฮอร์โมนเเนสูงแล้ว ก็ไปยับยั้งนะการทำงานต่อมไทรอย์เนี่ยนะ
00:38:25 → 00:38:32 ในระยะยาวๆเนี่ยนะเราจะเห็นอ่าไน symptom อย่างนึงนะโดยเฉพาะไซนของเนี่ยการที่เล็บ
00:38:32 → 00:38:39 มีเส้นนะเเรียกว่า ble nail นะหรือ Rich เนลนะฮะเนี่ยเล็บเนี่ยมันมีเส้นอย่าง
00:38:39 → 00:38:45 เงี้ยนะฮะเส้นตรงๆเงี้ยนะฮะ นะแต่เส้นอันนี้นะถ้าต่อๆไปเนี่ยมันเป็น
00:38:45 → 00:38:55 ปื้นสีน้ำตาลแถบหนาๆอันนี้เขาบอกว่าส่วน ใหญ่มันจะ related นะกับกับมะเร็งมะเร็ง
00:38:55 → 00:39:06 นะฮะอก็ต้องดูนะเนี่ยเนี่ยหรือบางคนจะ เป็นจุดขาวๆที่ปลายเล็บปลายเล็บนะแต่ส่วน
00:39:06 → 00:39:14 ใหญ่เป็นปัญหาของการเป็นมีเส้นนะฮะนะ ble nail นะนะอันนี้ก็แล้วแต่เป็นสัญญาณของ
00:39:14 → 00:39:21 นะการเาหารที่ต่ำลงเนื่องจากไทรอยด์เสีย สมดุลหรือขาดวิตามิน B12 ขาด่า
00:39:22 → 00:39:28 เหล็กทีนี้ภาวะเอสโตรเจนเด่นเนี่ยนะฮะใน ผู้หญิงผู้ชายเนี่ยอันนี้หมอก็มาสรุป
00:39:28 → 00:39:34 เสริมนิดนึงนะฮะจากคราวที่แล้วนะฮะอย่าง เอสโตเจนเด่นเนี่ยเราก็รู้แล้วว่าตัว
00:39:34 → 00:39:42 เนี้ยมันเป็นอะไรที่มันเป็นตัวสรุปรวมมา นะจากฮอร์โมนต่างๆนานานะที่ผิดปกติไปแล้ว
00:39:42 → 00:39:50 มาลงเอยด้วยนะตัวเอสโตรเจนเด่นนะอ่าทับ เข้าไปอีกทีนึงอย่างเงี้ยนะฮะเราก็จะมี
00:39:50 → 00:39:57 ปัญหาพวกนี้นะฮะนะเนี่ยแล้วสิ่งที่เรา พยายามให้สังเกตก็คือภาวะหลอดเลือดดำ
00:39:57 → 00:40:04 คอร์ดนะฮะที่ชั้นผิวๆ superficial นะฮะนะ เดี๋ยวจะมีรูปให้ดูนะแต่ก็อยากจะบอกว่า
00:40:04 → 00:40:10 ทั้งหมดเนี่ยนะฮะมันจะมีที่มาที่ไปก่อน โดยเฉพาะภาวะดื้ออินซูลินกับเรื่องของ
00:40:10 → 00:40:18 คอร์ติซอลนะฮะคอร์ติซอลเด่นนะฮะหรือคิอ มันถูกกระตุ้นเยอะนะเนี่ยมันพุ่งมากนะฮะ
00:40:18 → 00:40:25 นะโดยเฉพาะภาวะต่อหมชล้านนะอันนี้ในผู้ หญิงนะฮะส่วนในผู้ชายเนี่ยก็มีภาวะ
00:40:25 → 00:40:31 เอสโตเจนนะคือปกปกติเนี่ยในผู้ชายเนี่ยนะ เอ่อก็สามารถสร้างเหมือนผู้หญิงได้หมดนะ
00:40:31 → 00:40:39 ฮะแต่มันเลเวลหรือระดับมันไม่ได้เยอะนะฮะ เเจนโปรเจสเตอโรนเทสโทสเตอโรนนะฮะนะคล้าย
00:40:39 → 00:40:48 ๆกันนะฮะนะในเรื่องของการสร้างนะแต่ในผู้ ชายที่นะที่วัยร่วงวัยกลางคนไปเยอะหน่อย
00:40:48 → 00:40:53 ก็คือ 50 ปีเป็นต้นไปนะเก็จะบอกว่า ฮอร์โมนที่เป็นสัญลักษณ์ผู้ชายคือ
00:40:53 → 00:41:02 เทสโทสเตอโรนเนี่ยนะนะเทสโทสเตอโรนเนี่ย นะมันจะเ่ามีการเปลี่ยนแปลงนะฮะนะเปลี่ยน
00:41:02 → 00:41:12 แปลงเป็น 2 เรื่องเนะเป็น dht กับเป็น อ่าตัวอะตัวเอสโตรเจนนะไปเลยนะฮะนะ
00:41:12 → 00:41:19 เอสโตเจนตัวนี้ก็คือ sone นะฮะ sone นะฮะ อ่ามันถูกเอคือเทสโทสเตอโรนเนี่ยมันถูก
00:41:19 → 00:41:27 เปลี่ยนเป็น sone นะกับ dht ทั้ง 2 ตัว นี้มีผลไม่ดีทั้งหมดนะฮะเมื่ออายุเกิน 50
00:41:27 → 00:41:34 ดีไปแล้วนะฮะนะนะแลอย่างนึงก็ถ้าอายุ อย่างเนี้ยนะฮอร์โมนเพศชายมันก็ลดลงนะฮะ
00:41:34 → 00:41:40 เ่อไม่ลดลงอย่างเดียวมีหนามซ้ำยังถูก เปลี่ยนนะฮะนะเปลี่ยนเป็น 2 ตัวนี้นะฮะ
00:41:40 → 00:41:48 dht ก็ทำให้อะไรผมร่วงหัวล้านนะนะแล้วก็ อ้วนขึ้นนะแต่จริงๆแล้วมันมีผู้อยู่
00:41:48 → 00:41:56 เบื้องหลังแล้วเห็นมนะว่าผู้อยู่บงหนัง คือตัวอะไรนะอินซูลินนะอินซูลินนะอ่าการ
00:41:56 → 00:42:02 เปลี่ยนเป็นเอสโตรเจนนะก็เป็นผลจาก อินซูลินนะฮะนะที่ทำงานผ่านเอนไซม์โรมาส
00:42:02 → 00:42:08 ที่ออกมาจากตันะฮะเพราะงั้นอินซูลิน อินซูลินเนี่ยนะฮะนะถ้าคุณดื้ออินซูลิน
00:42:08 → 00:42:15 หรืออินซูลินเนี่ยมันพีคนะมันสะสมมัน ไฮเปอร์อินซูลินนีเมียเมื่อไหร่นะฮะเมื่อ
00:42:15 → 00:42:21 นั้นเนี่ยผู้ชายเนี่ยนะโดยเฉพาะตัว ฮอร์โมนเพศชายเทสโทสเตอโรนเนี่ยนะก็จะถูก
00:42:21 → 00:42:29 อินซูลินเข้ามากำกับควบคุมนะก็กลายเป็น เรื่องที่ไม่ดีนะสัญลักษณ์ของผู้ชายอะไร
00:42:29 → 00:42:37 ต่างๆก็จะสูญเสียไปเสื่อมสมภาพทางเพศหัว ล้านผมร่วงนะอ้วนชู้นะเ่อนะแล้วก็มวล
00:42:37 → 00:42:46 กล้ามเนื้อเสียนะลดลงนะฮะนะนะทั้งไม่ว่า จะเป็นภาวะเรื่องเอสโตเจนเด่นนะหรือการ
00:42:46 → 00:42:54 ที่จะเป็น dht เยอะๆเนี่ยนะฮะนี้อาการและ อาการแสดงอ่านะส่วนใหญ่ในที่สุดแล้วเนี่ย
00:42:54 → 00:43:02 นะฮะมันจะออกมาในเรื่องของเอสโตรเจนเด่น อ่าเป็นหลักเป็นหลักนะฮะนะก็แล้วแต่เนี่ย
00:43:02 → 00:43:09 ขึ้นอยู่กับอินซูลินเนี่ยนะเขาจะเปลี่ยน แปลงไปในพวยไหนใน 2 พวนี้นะฮะเแต่ในที่
00:43:09 → 00:43:14 สุดอินซูลินเนี่ยก็จะมาลงเอยที่ภาวะ เอสโตรเจนเด่นเป็นหลักนะฮะแรกๆเขาก็จะไป
00:43:14 → 00:43:21 ยุ่งอยู่กับเรื่อง dht ก่อนนะฮะนี้อาการ ต่างๆเนี่ยก็จะมีอย่างงนี้นะฮะนะที่สรุป
00:43:21 → 00:43:29 มาให้ดูนะฮะคราวที่แล้วไม่ได้ไลฟ์อันนี้ ไปนะตกไปหายไปนะเช่นเดียวกันนะข้อสังเกต
00:43:29 → 00:43:36 นะฮะนะนี่ของภาวะเอสโตรเจนเดดก็เหมือนใน ผู้หญิงนะฮะคือเป็นเรื่องของหลอดเลือดดำ
00:43:36 → 00:43:42 ชั้นผิวๆผิวนอกเนี่ยมันขชั้น superficial นะนอกจากนี้ผู้ชายก็จะมีเรื่องของเต้านม
00:43:42 → 00:43:49 โตแบบผู้หญิงนะฮะนะอ่าแล้วก็มีเสียงแหลม มีต่อมลูกหมากโตเนี่ยต่อมลูกหมากโตนะฮะนะ
00:43:49 → 00:43:57 เนี่ยเสื่อมสมราทางเพศนะแล้วก็อะไรต่างๆ พวกนี้นะฮเป็นสัญลักษณ์หมดเลยนะถ้าเห็นส
00:43:57 → 00:44:04 เหล่านี้ก็แปลว่าอะไรนะนะสิ่งที่อยากจะ ให้เข้าใจนะฮะนะหรือโฟกัสเยอะๆก็คือ
00:44:04 → 00:44:11 อินซูลินอินซูลินอินซูลินนะตัวนี้คือตัว เจ้าปัญหาและเป็นผู้อยู่เบื้องหลังนะของ
00:44:11 → 00:44:20 อะไรต่างๆที่ไม่สวยไม่งามไม่ดีนะพวกนี้ ทั้งหมดนะนะเอแล้วก็เนี่ยภาวะ S เด่นใน
00:44:20 → 00:44:26 ผู้ชายเ่อมันมีที่มาที่ไปในลักษณะนี้นะ
00:44:27 → 00:44:33 อันนี้ก็เป็นเรื่องของเส้นเลือดคอร์ดชั้น superficial นะนะอย่างอันนี้ก็เป็น
00:44:33 → 00:44:41 superficial นะฮะนะแต่ถ้าเป็น deepin นะ ฮะ deepin นะเนี่ยหรือเนี่ยนะฮะ deepin
00:44:41 → 00:44:50 เอ้ยเเนี่ยนะนะพวกนี้จะค่อนข้างนูนนะฮะ นูนนะอ่าเป็นกาปานะฮะเป็นเหมือนเป็นก้อน
00:44:50 → 00:44:56 เลยนะฮะนะแต่ถ้า superficial เนี่ยผิว ส่วนใหญ่มันก็ยังจะเรียบๆอยู่แต่มันจะ
00:44:56 → 00:45:03 เห็นเห็นเป็นเป็นอะไรเนี่ยเป็นเเป็นอย่าง เงี้นะฮะเป็นเป็นใหญ่ๆเป็นอะไรอย่างเงี้ย
00:45:03 → 00:45:08 นะฮะ เนี่ยคือในที่สุดแล้ว superficial นะ
00:45:08 → 00:45:18 อ่าเวรที่มันคอดเนี่ยนะฮะนะมันก็จะไปสู่ EP เนนะฮะอันนี้ในผู้ชายเห็นขาผู้ชายเ
00:45:18 → 00:45:26 ที่มีปัญหาเรื่องเอเจนเดนะฮะแล้วก็มีเส้น เลือดคอร์ดที่ชั้นผิวๆนะฮะเนี่ยเออันนี้
00:45:26 → 00:45:28 นะ
00:45:29 → 00:45:36 หรือเนี่ยอันนี้นะฮะนะเ่อก็เป็นลักษณะนะ คือคนเนี้ยเดิมเนี่ยเขาก็เป็นทรงสายเนื้อ
00:45:36 → 00:45:43 พุงเครียดแหละนะแล้วก็น้ำหนักอยู่ประมาณ 82 นะนะก็สูงประมาณ 167 แล้วก็ตอนหลังก็
00:45:43 → 00:45:52 เป็นเบาหวานนะฮะนะตอนนี้ก็พยายามจะ reever remission เบาหวานนะฮะนะนะก็มาปรับนะแต่
00:45:52 → 00:45:58 จุดเด่นของเขาในการปรับก็เป็นเรื่องของ การปรับทางด้านเอาออกแรงออกกำลังนะฮะก็
00:45:58 → 00:46:04 ทั้งหมดเลยนะทั้งเวททั้งคาร์ดิโอทั้งการ resistance Training นะการยืดเหยียด
00:46:04 → 00:46:13 อะไรต่างๆนะฮะนะมันก็เป็นเก้าอี้สีขาชนิด นึงอ่ะนะที่ทรงประสิทธิภาพนะฮะนะเอ่อไม่
00:46:13 → 00:46:20 ได้อ่าเรื่องเรื่อง Diet นี่ก็คือ Diet เนี่ยก็สำคัญนะและสำคัญในระยะยาวนะฮะนะ
00:46:20 → 00:46:28 แต่อันนี้เาก็ยังสามารถที่จะมีเเรียกว่า มีมีความตั้งใจอ่ะมีมีทัศนคติมี mindset
00:46:28 → 00:46:36 ที่ที่จะเอาจริงเอาจังแล้วก็อ่าแก้ไขอะไร ต่างๆนะเพื่อให้ชีวิตมันจะได้ยืดยาวไม่
00:46:36 → 00:46:42 ทุกข์ทรมานไม่ได้มีผลข้างเคียงแพ็คเกจของ โลกอื่นๆตามมานะนี้อย่างนึงเนี่ยอยากให้
00:46:42 → 00:46:50 สังเกตก็คือเรื่องของนะภาวะที่เขาเป็นอ่า งเครียดแล้วก็เ่อเป็นปัญหาทางด้านดื้อ
00:46:50 → 00:46:55 อินซูลินจนกระทั่งไปเป็นเบาหวานเนี่ยนะ เ่อผลพวกเนี้ยในคนุงเียกมันก็จะมีปัญหา
00:46:55 → 00:47:01 เรื่องเอสโตรเจนเด่นนะแล้วเอสโตเจนเด่น เนี่ยนะอ่าส่วนหนึ่งก็เรื่องของนอกจาก
00:47:01 → 00:47:07 เส้นคอ์ดนะก็จะเป็นเรื่องของเต้านมนะก็จะ เป็นลักษณะแบบนี้นะฮะนะอันนี้ขนาดตอน
00:47:07 → 00:47:16 เนี้ยของเขาอ่าอยู่ในน้ำหนักค่ากลางดี แล้วนะฮะเ่อน่าจะประมาณ 60 ไม่ไม่เกิน 65
00:47:16 → 00:47:23 นะฮะนะเนี่ยนะแต่ว่าก็จะเห็นว่าร่องรอย ของภาวะเอสโตรเจนเด่นเนี่ยยังส่งผลนะให้
00:47:23 → 00:47:34 เห็นอยู่นะฮะพวกนี้ก็จะแก้ยากหน่อยนะ อ่าสำหรับวันนี้เนี่ยเราคุยกันนะอ่าหลักๆ
00:47:34 → 00:47:44 เลยถึงฮอร์โมนนะในฝั่งที่ต้องพึ่งพาคาฟนะ ก็คือนอกจากไทรรอยด์โปรเจสเตอโรนก็ยังมี
00:47:44 → 00:47:48 ตัวนึงคือเลปตินวันนี้เราดูรายละเอียด ต่างๆของ
00:47:48 → 00:47:55 เลปตินพวกเราเนี่ยคงได้ฟังคำว่าดื้อ เลปตินนะฮะแล้วเราก็พอรู้ว่าเวลาเราดื้อ
00:47:55 → 00:48:03 อินซูลินเนี่ยไม่ช้าไม่นานหรืออ่าแฝงๆ เนี่ยมันน่าจะมีปัญหาเืองดื้อเลปตินอยู่
00:48:03 → 00:48:09 ด้วยนะโดยเฉพาะคนที่อ้วนเยอะๆนะเป็นพวก สายเนื้อเป็นพวกพรุงเครียดเป็นพวก
00:48:09 → 00:48:16 เอสโตเจนเด่นนะพวกเนี้ยนอกจากดื้อ อินซูลินนะมันจะมีเรื่องการดื้อเลปตินนะ
00:48:16 → 00:48:22 ฮะแต่จริงๆเนี่ยเขาก็มาคู่กันไปนะฮะนะคือ ดื้ออินซูลินนะอ่าแล้วก็เป็นดื้อ
00:48:22 → 00:48:29 คอร์ติซอลนะฮะนะแล้วก็เอสโตรเจนเดดแล้วก็ ดื้อเลปตินนะฮะมันก็จะเป็น 4 4 รูปแบบ
00:48:29 → 00:48:38 นี้นะในวันนี้เราพูดถึงภาวะดื้อเลปตินนะ ฮะนะและการแก้ไขนะฮะแต่ในช่วงแรกๆเนี่ยนะ
00:48:38 → 00:48:45 เรามาดูกันว่าเลปตินเนี่ยนะเมีที่มาที่ไป อะไรยังไงนะฮะอันนี้หมอให้หัวข้อไว้ว่า
00:48:45 → 00:48:51 เล็ฮอร์โมนเลปตินเนี่ยเป็นฮอร์โมนช่วยใน การเผ่าผันพลังงานตัวนึงนะฮะและก็ช่วยลด
00:48:51 → 00:48:57 คอเลสเตอรอลนะฮะจริงๆแล้วเลปตินเนี่ยเ เป็นตัวที่ช่วยร่างกายหรือช่วยตับในการ
00:48:57 → 00:49:04 สร้าง ldl type a นะฮะนะนะอ่าและถ้า เกิดมีภาวะดื้อเลปตินจะมีแนวทางออกในการ
00:49:04 → 00:49:13 แก้ไขยังไงอ่าอันนี้หมอก็มีข้อสรุปที่ เป็นตัวตเต่า 10 ต 10 ตนะเราจะใช้ในการ
00:49:13 → 00:49:20 แก้ไขภาวะดื้อเลปตินให้เให้เขา sensitivity นะ sensitive กลับมาให้ได้
00:49:20 → 00:49:28 อรุยักเลปตินกดนะเตินเนี่ยเป็นหนึ่งใน กลุ่มฮอรโมนเผ่าผลพลังงานนะนอกจากฮอร์โมน
00:49:28 → 00:49:35 ลูกเทพ 6 ตัวแล้วเลปตินสร้างจากเซลล์ เนื้อเยื่อไขมันหรือแฟตเซลล์หรือ
00:49:35 → 00:49:42 โพไซในร่างกายของเรานะการสร้างเลปติน เนี่ยจะเกิดขึ้นพร้อมๆกับการสร้างกลุ่ม
00:49:42 → 00:49:49 ฮอร์โมนที่มีสารตั้งต้น อ่ามาจากการใช้คอเลสเตอรอลเป็นตัวสร้างนะ
00:49:49 → 00:49:57 ฮะคือเลปตินเนี่ยเขาไม่ได้ใช้คอเลสเตอรอล เขาใช้ไขมันดีใช้โปรตีนนะไม่ใช้สารพรึกษา
00:49:57 → 00:50:07 เคมีสร้างแต่ไอ้เซลล์ในเยือไขมันเนี่ยเจะ สร้างอันเนี้ยมาพร้อมๆกับนะการที่อวัยวะ
00:50:07 → 00:50:15 บางอย่างนะฮะเช่นรังไข่เช่นต่อหมวกไตเช่น อันทะอ่าอ่าจะเอาฮอร์โมนเอ้ยโทษทีจะเอา
00:50:15 → 00:50:21 สารคอเลสเตอรอลเนี่ยไปสร้างฮอร์โมนพวกนี้ นะฮะคือสร้างเอ่อคอร์ติซอลออสเตร
00:50:21 → 00:50:28 โปรเจสเตอโรนเทสโทสเตอโรนเอสโตรเจนนะ วิตามินดีอันนี้เขาจะสร้างพร้อมๆกันนะฮะ
00:50:28 → 00:50:38 นะนะแล้วก็มีเลปตินนะสร้างด้วยในช่วงเวลา เดียวกันนะแล้วทั้งหมดนี้เกิดจากระบบภาย
00:50:38 → 00:50:46 ในของร่างกายในการสร้างขึ้นนะฮะช่วงเวลา ในการที่สร้างก็คือช่วงตอนเช้าๆเราวๆ 8-10
00:50:46 → 00:50:51 นช่วงนี้เป็นช่วงการสร้างฮอร์โมนที่หมอ พูดวันนี้นะฮะนะ
00:50:51 → 00:51:01 นะโดยที่การสร้างเนี่ยนะตับเนะซึ่งเป็นส ศูที่สำคัญที่สุดของระบบพลังงานจะต้องยัง
00:51:01 → 00:51:08 อยู่ในสภาวะคีตสินนะฮะก็คือตับเซลล์ของ ตับยังมีการทำงานในการเผาผาญพลังงานหรือ
00:51:08 → 00:51:16 การเบิรนไขมันเป็นพลังงานนะฮะอ่าซึ่งนะ เลปตินเนี่ยเขาก็จะไปมีเอี่ยวช่วยตันะฮะ
00:51:16 → 00:51:23 นะเพราะว่าการอยู่ในคีโตซิสในลักษณะนี้นะ ฮะสิ่งที่จะได้ตามมาก็คือ ldl type a
00:51:23 → 00:51:31 นะฮะ ldl type a นะ ldl a เนี่ยนะก็จะ กลายเป็นสารตั้งต้นนะฮะในการเอา
00:51:31 → 00:51:41 คอเลสเตอรอลต่างๆนะฮะนะไปให้อวัยวะในการ สร้างฮอร์โมนพวกนี้รวมทั้งวิตามินดีนะที่
00:51:41 → 00:51:47 สร้างที่ผิวหนังด้วยนะฮะแต่เราก็จะต้องมี การช่วยช่วยร่างกายอย่างเช่นจะสร้าง
00:51:47 → 00:51:55 วิตามินดีเนี่ยก็ต้องมีการไปตากแดดนะฮะนะ ให้แสงอุลตร้าไวตเนี่ยมามีส่วนอ่าเข้าไป
00:51:55 → 00:52:05 ในปฏิกปยาการสร้างนะฮะเพราะงั้นตอนนี้รู้ แล้วว่าเลปตินนะเขสร้างตอนไหนนะก็ตอนสายๆ
00:52:05 → 00:52:14 นิดนึงนะฮะนะนะโดยนะช่วงที่เขาจะมีการ สร้างอันเนี้ยนะฮะก็จะต้องมีการลดระดับลง
00:52:14 → 00:52:22 ของคอร์ติซอล นะไปไประดับนึงแล้วนะฮะนะแต่ถ้าคอร์ติซอล
00:52:22 → 00:52:31 ยังอยู่ปุ๊บเนี่ยนะฮะนะสิ่งเหล่านี้ต้าง ไม่ได้เมันจะถูกบล็อกทันทีนะฮะ
00:52:31 → 00:52:39 นะคือคิอเนี่ยเขมาตั้งแต่ 3:00 น 400 น ใช่มยล่ะแล้วค่อนข้างค่อนข้างพีคในช่วง
00:52:39 → 00:52:48 สัก 600 นถึง 8 นนะอ่าแล้วประมาณ 8-9 นเ จะเริ่มลดระดับลงนะอย่างประมาณสัก 9:30 น
00:52:48 → 00:52:55 10 นเนี่ยคิอเนี่ยเหลือในระดับ low Level แล้วนะ low Level แล้วนะเพราะ
00:52:55 → 00:53:02 ฉะนั้นเนี้ยนะในช่วงที่ร่างกายนะไม่ต้อง ไม่ต้องไปอะไลอาวรหรือว่าไม่ต้องไปแคร์
00:53:02 → 00:53:09 กับคอร์ติซอลอะไรมากมายนักเนี่ยนะฮะช่วง นี้เนี่ยต่อมหมวกไตนะต่อมเพศอะไรต่างๆ
00:53:09 → 00:53:16 ทั้งผู้หญิงผู้ชายเนี่ยนะก็จะเริ่มนะการ สร้างฮอร์โมนนะที่ในเรื่องของการชะลอวัย
00:53:16 → 00:53:25 นะเรวมทั้งเนี่ยอ่าคอร์ติซอลออสเตน โปรเจสเตอโรนนะเทสโทสเตอโรนเอสโตรเจนนะ
00:53:25 → 00:53:31 แต่ในในการสร้างเนี่ยนะเมีเวลาสร้างที่ ไม่ได้นานเนนะฮะก็คือช่วงสักชั่วโมง 2
00:53:31 → 00:53:40 ชั่วโมง 8 น 9:00 น 10:00 นนะฮะแล้วระดับ ของการสร้างนะเขาจะสร้างตามความพอดีเพราะ
00:53:40 → 00:53:47 ในขณะนั้นเนี่ยร่างกายยังอยู่ในอ่าเรื่อง ของกระบวนการเผาผันพลังงานหรือคีโตสิส
00:53:47 → 00:53:55 อยู่นะฮะนะอ่าอาจจะมีคีโตนเกิดขึ้นมาด้วย นะฮะนะเนี่ยนะแต่สิ่งเหล่านี้เนี่ยนะฮะนะ
00:53:55 → 00:54:02 ก็จะจะมีการสร้างนะในทุกสิ่งทุกอย่างนะฮะ ในระดับที่พอดีไม่ได้สร้างสะสมไว้เยอะๆ
00:54:02 → 00:54:10 อะไรอย่างงั้นวันต่อวันนะซึ่งในส่วนของ เซลล์ไขมันก็จะมีการสร้างเลปตินนะเพื่อ
00:54:10 → 00:54:18 ให้เลปตินเป็นฮอร์โมนในการเผาผลาญพลังงาน นะอ่าคือมีสร้างแล้วก็เอามาใช้นะนะเพราะ
00:54:18 → 00:54:24 อะไรเพราะหลังจากนี้เนี่ยถ้าเรามีการ เบรคฟาสแล้วเรากินในมื้อแรกนะฮะนะโดย
00:54:24 → 00:54:30 เฉพาะมื้อแรกถ้ากินแบบครับ High Good Fat TE Oil นะเราก็จะมีไขมันใช่มล่ะ
00:54:30 → 00:54:37 เนี่ยเนี่ยเราก็ต้องเผาผลาไขมันเป็นพลัง งานนะฮะคราวที่แล้วก็คุยไปแล้วว่าตัวที่
00:54:37 → 00:54:43 มาช่วยในการเผาผันพลังงานไขมันเป็นพลัง งานในช่วงกลางวันตอนมื้อแรกเนี่ยอันดับ 1
00:54:43 → 00:54:49 คือเลปตินนะอันดับ 2 คือ อินกินะฮะอันนี้มาจากอ่าทางเดือนอาหารมา
00:54:49 → 00:54:55 จากลำไส้นะฮะและอันดับที่ 3 คือโกด ฮอร์โมนก็คือมีหัวหน้าของฮอร์โมนลูกเทพนะ
00:54:55 → 00:55:03 ฮะก็คือโกดฮอร์โมนนะเพียงแต่ ว่าในตอนเนี้ยนะระบบร่างกายโดยเฉพาะตับเ
00:55:03 → 00:55:11 จะต้องอยู่ในภาวะคีโตสินะฮะอยู่คือ Stay on คีตสิเป็น Fat burner นะฮะแต่ถ้าเรา
00:55:11 → 00:55:20 กินผิดเรากินไม่เป็นเราไม่เข้าใจอะไรต่าง ๆนะฮะนะเราไปกินโค้งกินคาฟอินซูลินมานะนะ
00:55:20 → 00:55:28 หรือมันมีปัญหาที่ทำให้คอร์ติซอลนะเากลับ มาพีกลับมานะถูกกระตุ้นออกมาอีกอินซูลิน
00:55:28 → 00:55:35 กับคอร์ติซอลมาสิ่งต่างๆที่หมอพูดไปทั้ง หมดเมื่อกี้นี้หายไปหมดเลยจบนะฮะนะอ่ามัน
00:55:35 → 00:55:44 ก็ยากที่จะเกิดขึ้น อทีนี้หลังจากนั้นเนี่ยนะฮะเลปตินนะอ่าจะ
00:55:44 → 00:55:51 เกิดการทำงานนะเมื่อเมื่อเราได้กินอาหาร โดยเฉพาะการเบรค Fast ในมื้อแรกนะเนี่ยนะ
00:55:51 → 00:56:00 แล้วอ่ายังไงอ่ะนะแล้วร่างกายนะฮะนะก็จะ เกิดการส่งสัญญาณตามที่บอกเมื่อกี้เนี่ย
00:56:00 → 00:56:06 นะในเรื่องของการจะเก็บพลังงานอ่าไว้ที่ เซลล์เนื้อเยื่อไขมันนะฮะก็จะเป็นการที่
00:56:06 → 00:56:16 กระตุ้นให้เซเยื่อไขมันนะเปล่อยไอ้ตัว เลปตินตัวเยออกมาเพื่อไปบอกสมองนะให้อิ่ม
00:56:16 → 00:56:23 นะฮะเเป็นอันนี้ signaling โมเลกุลเป็น สัญญาณนะฮะของความอิ่มนะฮะจากสมองนะก็จะ
00:56:23 → 00:56:31 เกิดการหยุดกินนะฮะอันนี้เราถือว่าเลปติน ทำงานผ่านและในช่วงแรกนะฮะหลังจากนั้น
00:56:31 → 00:56:39 เลปตินก็จะทำงานในช่วงที่ 2 ก็คือการเผา ผันพลังงานที่กินที่กินนะฮะนะเพื่อเอา
00:56:39 → 00:56:46 พลังงานเนี่ยยไปใช้นะไปใช้งานนะฮะนะเพราะ ในช่วงกลางวันเราก็ต้องใชมีการใช้พลังงาน
00:56:46 → 00:56:55 นะฮะนะเนี่ยเอาไปใช้งานนะต่อๆไปนะฮะแล้ว นะถ้าทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ในความพอเหมาะพอ
00:56:55 → 00:57:05 ดีสัดส่วนดีปริมาณพอดีก็จะไม่มีการอ่านำ ไปเก็บสะสมนะนะอันนี้ก็เรียกว่า compete
00:57:05 → 00:57:12 ในการทำงานในช่วงที่ 2 ของเลปตินเลปตินนะ ฮะทำงาน 2 ช่วงนะนะช่วงแรกเนี่ยนะก็คือ
00:57:12 → 00:57:20 การไปบอกสมองให้อิ่มและหยุดกินช่วงที่ 2 นะก็คือเนี่ยการเผาผลาญพลังงานโดยไม่มี
00:57:20 → 00:57:31 การเก็บสะสมนะอนี้ก็ยังอยู่กันมั้ยล่ะถ้า จะถามนิดนึงว่าการทำงานช่วงแรกเนี่ยเมัน
00:57:31 → 00:57:38 จะถูกเค้าเรียกว่าถูกขัดขวางโดยอะไรหรือ การทำงานช่วงที่ 2 เนี่ยมันมักจะถูกขัด
00:57:38 → 00:57:48 ขวางโดยฮอร์โมนตัวไหนลองทายกันดูนะจะมี อะไรหรือจะมีฮอร์โมนตัวไหนที่มาขัดขวาง
00:57:48 → 00:57:56 อ่าการทำงานของเลปตินในช่วงแรกกับช่วงที่ 2 นะพอรู้มย
00:57:56 → 00:58:00 แล้วสิ่งเนี้ยถ้ามันเกิดอยู่บ่อยๆนะเราก็ จะดื้อ
00:58:00 → 00:58:09 เลปตินอินซูลินครับใช่นะการทำงานช่วงแรก ของเลปตินนะตัวที่ขัดขวางนะที่สำคัญที่
00:58:09 → 00:58:16 สุดก็คือตัวพ่อเลปตินเพราะฉะนั้นถ้ามื้อ แรกกินไม่ถูกไปกระตุ้นอินซูลินมาอินซูลิน
00:58:16 → 00:58:26 ก็จะมาบล็อกเลปตินนะแล้วทำให้การเผาผลาญ พลังงานไม่เกิดขึ้นนะฮะนะนะแล้วหน้าที่
00:58:26 → 00:58:33 ต่อไปก็คืออินซูลินก็ไม่สนใจแล้วกูจะเก็บ สะสมพลังงานนะฮะนะเพราะั้นตัวเลปตินนี่
00:58:33 → 00:58:39 ต่างกระจุยกระจายห้ามทำงานต่อนะฮะเพราะ ว่าพวกนี้ใครๆเขาก็ต้องกลัวอินซูลินนะ
00:58:39 → 00:58:46 อินซูลินเป็นพ่อ บ้านส่วนในกรณีที่เลปตินจะสั่งอ่าสมมุติ
00:58:46 → 00:58:53 ว่าเอาล่ะเรากินโลคราฟแล้วเลปตินเนี่ยเ่า แล้วอินซูลินเ่ะเไม่มากินถูกแล้วะนะแต่
00:58:53 → 00:59:00 ถามว่าพอกินๆเข้าไปแล้วเนี่ยนะเอ่อแล้ว มันไม่เผาได้มนะคือกระบวนการในขั้นที่ 2
00:59:00 → 00:59:09 ของเลปตินเนี่ยนะทุกอย่างมันจะสูทเลยต่าง ๆนะฮะนะแต่ว่าขั้นที่ 2 เนี่ยที่ว่าเข
00:59:09 → 00:59:16 ช่วยในการเผอขันพลังงานนะพร้อมๆกับอิโนกิ หรือโกสฮอร์โมนหรือพวกอ่าฮอร์โมนลูกเทพ
00:59:16 → 00:59:22 พวกกลูคากอนแีนนะหรือแม้แต่ไทรรอยด์ถ้า มานะถ้ามาได้ในตอนกลางวันนะ
00:59:22 → 00:59:28 เนี่ยแต่สิ่งเหล่าเนี้มันจะไม่เกิดขึึ้น เพะเพราะเพราะขบวนการในช่วงที่ 2 การทำ
00:59:28 → 00:59:33 งานช่วงที่ 2 เนี่ยมันมักจะมีอะไรมาขวาง มา
00:59:33 → 00:59:42 ขัดช่วงแรกอินซูลินมานะแอชอินซูลินจะ บล็อกในช่วงแรกนะช่วงที่ 2 นี่ล่ะคิดว่า
00:59:42 → 00:59:48 ส่วนใหญ่เป็นการขัดขวางการทำงานของอะไร โดยเฉพาะกรณีที่เรากินโลค้าผมว่าพี่ไพโรจ
00:59:48 → 01:00:02 น่าจะรู้ครับมีที่เมาบ็อบนะการทำงานของิ 2 ตแล้วคิอครับใช่แ
01:00:02 → 01:00:09 คิอทีนี้พอคอร์ติซอลมาบล็อกแล้วเนี่ยนะ บล็อกเลปตินแล้วเนี่ยคอร์ติซอลเนี่ยเขาก็
01:00:09 → 01:00:16 มี 2 แชนั่นแหละนะฮะก็คือ 1 ในเมื่อร่าง กายขาดพลังงานเขาก็อาจจะสั่งให้เกิดการ
01:00:16 → 01:00:23 เผาผลาญพลังงานนะนะเอาไปใช้แต่การเผาผลา พลังงานของคอซอก็รู้อยู่ว่าเขาไม่มีลิมิต
01:00:23 → 01:00:30 นะนะอ่า กับอันที่ 2 เนี่ยส่วนใหญ่่ในระยะนานๆไป
01:00:30 → 01:00:38 แล้วเนี่ยนะส่วนใหญ่คอก็จะมา Action ใน การสะสมพลังงานนะถ้าคอเนี่ยเปิดนะโหมดของ
01:00:38 → 01:00:45 การสะสมพลังงานเแต่เขาสะสมไม่ได้เขาไม่ เคยทำหน้าที่แบบเนะเขาก็จะเรียกอินซูลิน
01:00:45 → 01:00:53 มาแล้วก็มาเกิดการสะสมที่ viser Fat กัน เนี่ยเพราั้นเลตินก็จะถูกขัดขวางในการทำ
01:00:53 → 01:01:02 งานนะในแล้วแต่ช่วงแรกกับช่วงที่ 2 นะฮะ นะแล้วก็อันนี้นะเลปตินบอกไปแล้วนะโครง
01:01:02 → 01:01:10 สร้างคือโปรตีนไขมันดีและสารพฤกษาเคมีนะ ฮะนะโดยต้องเป็นโทนสีเข้มๆ Dark Color
01:01:10 → 01:01:19 ไินนะมักจะเกิดจากผลไม้นะในคาฟประเภท ผลไม้โดยเฉพาะเบอร์รี่
01:01:19 → 01:01:28 นะอ่ะทีนี้การดื้อเลปตินนะฮะอ่าเนี่ยการ ดื้อเลปตินส่วนใหญ่การดื้อเลปตินเนี่ยนะ
01:01:28 → 01:01:36 ถ้าจะเป็นแค่ข้อสรุปนะก็คือมี 2 เรื่องนะ ฮะก็คืออันที่ 1 คล้ายๆอินซูลินนะฮะนะก็
01:01:36 → 01:01:42 คือ what to eat what to eat นะฮะนะ กับอันที่ 2 ก็คือเรื่อง When to eat
01:01:42 → 01:01:48 When to eat นะฮะนะเนี่ยนะนอกจาก what to eat When to eat ที่จะทำให้เกิด
01:01:48 → 01:01:54 การดื้ออุแล้วก็จะดื้อเลตินนะฮะเรามาดูไ ในลักษณะของการที่มีผลในการดื้อเลปติน
01:01:54 → 01:02:02 เนี่ยนะฮะเลปตินเนี่ยการดื้อเลปตินมันก็ จะคล้ายๆกับไอ้พวกเอสโตเจนเด่นนี่แหละนะ
01:02:02 → 01:02:09 คือเขาจะต้องเป็นอะไรที่ตามมานะฮะก็คือ เรากินไม่ถูกนะฮะนะอ่าแล้วการกินอันเนี้ย
01:02:09 → 01:02:13 มันไปกระตุ้นอินซูลินนะฮะหรือบางที กระตุ้นทั้งอินซูลินทั้งคอร์ติซอลทั้ง
01:02:13 → 01:02:19 เอสโตรเจนเลยนะนะสิ่งเหล่านี้ก็คล้ายๆกับ พอินซูลินนั่นแหละนะก็คือกลุ่มอาหารแปร
01:02:19 → 01:02:27 รูปแนอ่าไซเคิลอะไรต่างๆเหล่าเนะจากค้า โปรตีนไขมันที่ไม่ถูกต้องปรุงแต่งนะเนี่ย
01:02:27 → 01:02:36 แปลรูปอะไรต่างๆพวกนี้ทั้งหมดุ่นนะฮะอีก อันนึงคือภาวะวิตามินดีต่ำนะก็จะมีผลนะ
01:02:36 → 01:02:43 ย้อนกลับไปให้ร่างกายเกิดภาวะดื้อเลปติน นะดื้อเลปตินนะนะอันนี้ในแง่ของ what to
01:02:43 → 01:02:49 eat เป็นอ่า 3 อันนี้นะฮะนะส่วนในเรื่อง รูปแบบของการกินหรือ When to eat เนี่ย
01:02:49 → 01:02:57 นะฮะเก็พบว่าอย่างงี้นะกินอาหาร 1 วัน เยอะมากนะฮะก็คือกินบ่อยๆไม่รู้จะกี่มื้อ
01:02:57 → 01:03:04 นะหิวกินหิวกินหิวกินเนี่ยนะฮะนะล่ะกิน อะไรก็ตามนะกินถูกกินผิดแต่ว่าแปลว่า 1
01:03:04 → 01:03:11 วัน 24 ชมโหกินเยอะมากนะฮะนะเยอะมากทั้ง ปริมาณเยอะมากทั้งความถี่ทั้งจำนวนมื้อ
01:03:11 → 01:03:21 อะไงนะอันที่ 2 คือกินอาหาร 1 มื้อต่อ 1 วันนะก็คือ OM นะแต่กินเยอะมากๆนะฮะนะ
01:03:21 → 01:03:28 แล้วก็ทำแบบยาวนานไปเป็นระดับหลายเดือน หรือเป็นปี
01:03:28 → 01:03:36 นะอคือกิน 1 มื้ออ๋ออันนี้กิน 1 มื้อแต่ ไม่สนใจว่าจะกินแบบไหนนะฮะนะนะก็คือเป็น
01:03:36 → 01:03:42 omas เหมือนกันเแต่เป็น omas ที่ไม่ได้ omas ทางฝั่งโภชนาการคต่ำนะฮะแต่ถ้าเป็น
01:03:42 → 01:03:49 OM ทางฝั่งโารคต่ำเนี่ยเขาเรียกว่าเป็น การกินแบบ Big me Big me นะฮะนะซึ่ง
01:03:49 → 01:03:55 อันเนี้ยส่วนใหญ่นะมันจะเป็นการกินที่ ow C แต่มันจะเป็น High โปรตีนนะครับนะ
01:03:55 → 01:04:02 โปรตีนแล้วก็เป็นโปรตีนที่มีแฟตนะแทรกปับ ปนอยู่ในโปรตีนเหล่านั้นก็คือไม่ได้กิน
01:04:02 → 01:04:09 Good Healthy Fat นะฮะอันนี้ก็เรื่อง OM มี 2 แบบนะฮะอีกแบบนึงก็คือการดื่ม
01:04:09 → 01:04:19 การกินอาหารใน 1 วันแบบกินเรื่อยๆทีๆโดย ที่ระยะห่างกันน้อยกว่า 4 ชมงนะฮะคืออัน
01:04:19 → 01:04:26 นี้เรื่องของ vent E เนี่ยก็จะเป็นรูป แบบอะไรต่างๆแบบนี้นะฮะนะนะซึ่งแบบนี้
01:04:26 → 01:04:36 เนี่ยนะอ่าเลปตินนะจะมีการถูกกระตุ้นนะฮะ จะมีรีชเนี่ยนะที่จะออกมาครั้งและเยอะๆนะ
01:04:36 → 01:04:42 ครั้งะเยอะๆ นะจนกระทั่งร่างกายในสุดดื้อแลตินนะก็คือ
01:04:42 → 01:04:50 อันเนี้ยนะถ้าทำเป็นอะไรประจำบ่อยๆเป็น เวลานานๆร่างกายจะเกิดการปรับตัวลดความ
01:04:50 → 01:04:58 ว่องไวของอินซูลินเพิ่มความต้านทานต่อ เอ้ยโทษทีต่อินนะฮะนะอ่าแล้วในที่สุด
01:04:58 → 01:05:06 เนี่ยนะฟังก์ชันของตัวเลปตินต่อสมองเนี่ย อ่าก็คือก็คือมันมันมันไม่ฟังก์ชันนะก็
01:05:06 → 01:05:14 คือในแง่ของสมองเขาจะไม่รับรู้สัญญาณเของ เลปตินนะฮะนะอันนี้เราก็เรียกว่าเป็นภาวะ
01:05:14 → 01:05:20 ดื้อเลปตินนะคือดื้อเลปตินเนี่ยส่วนใหญ่ มันก็จะเป็นความหมายแค่เรื่องสัญญาณที่ไป
01:05:20 → 01:05:26 ทางสมองแล้วสมองไม่ตอบ รับเพราะฉะนั้นเนี่ยจริงๆเนี่ยอาจจะพูด
01:05:26 → 01:05:36 อ้อมๆเลยก็ได้ว่าการดื้ออินซูลินนะเป็น เหตุสำคัญที่สุดของภาวะดื้อเล็บตินะเพราะ
01:05:36 → 01:05:42 ว่าจริงๆตั้งต้นเี่ส่วนใหญ่มันก็จะมาจาก เรื่องอินซูลินนะแต่บางส่วนเนี่ยก็จะมา
01:05:42 → 01:05:47 จากเรื่องแบบนี้นะฮะก็คือก็คือเรากิน low C High Good Fat อะไรต่างๆแล้วเนี่ย
01:05:47 → 01:05:54 นะฮะแต่เรามามีเรื่องของเ to eat ที่ เป็นรูปแบบอะไรอย่างนี้นะฮะนะแล้วก็ไป
01:05:54 → 01:06:00 ดื้อเลปตินต่อนะคือไม่ดื้ออินซูลินแล้วนะ แต่มันเป็นดื้อ
01:06:00 → 01:06:07 เรตินเพราะร่างกายก็จะมีแต่เรื่อง คอร์ติซอลนะไปมีผลต่อภาวะดืเลตินนะทั้งๆ
01:06:07 → 01:06:17 ที่ทุกอย่างในแงอินซูลินเนี่ยปรับได้ดี แล้วได้วยอะไรด้วยตัดคด้วยแต่ทำไมมันยัง
01:06:17 → 01:06:24 ไม่ฟื้นยังไม่ดีนะะเพราะว่าเนี่ยเรื่อง คอร์ติซอลกับภาวะดื้อปินนะะยังดำเนินไป
01:06:24 → 01:06:31 อยู่เรื่อยๆ นะคือในแง่ของการทำงานเลปตินนะฮะนะเลปติน
01:06:31 → 01:06:37 ไม่ได้เป็นฮอร์โมนที่จะมีหน้าที่นะ 2 อย่างที่บอกไปแต่อันนั้นเป็นเป็นหน้าที่
01:06:37 → 01:06:46 ตามธรรมชาตินะอ่าของเลปตินที่ที่ดีที่ ปกตินะฮะนะจะเป็นหน้าที่แบบนั้นนะฮะส่วน
01:06:46 → 01:06:53 หน้าที่อื่นๆที่เป็นหน้าที่รองๆนะของตัว เลปตินเนี่ยก็คือลดการติดเชื้อนะฮะคือ
01:06:53 → 01:07:01 เป็นหน้าที่ในการกระตุ้นภูมิคุ้มกันนะฮะ อ่าลดภาวะแพ้ภูมิภูมิไวเกินภูมิเพี้ยนนะ
01:07:01 → 01:07:08 ฮะนะลดการอักเสบได้นะอ่าแล้วก็คือคือหน้า ที่พวกเนี้มันเป็นหน้าที่คล้ายๆกับ
01:07:08 → 01:07:16 คอร์ติซอลนะคอร์ติซอล นะป้องกันการอ่าขาดสารอาหารป้องกันเซลล์
01:07:16 → 01:07:22 ขาดสารอาหารต่างๆนะฮะเขาก็เลยมีคำพูดนึง อ่ะที่ว่านะ
01:07:22 → 01:07:29 อ่าเมื่อเกิดสัญญาณเริ่มต้นของพระภาวะ ดื้อแลปินมันก็คือสัญญาณเริ่มต้นของการ
01:07:29 → 01:07:36 เจ็บป่วยที่จะอุบัติขึ้น อคือบางครั้งเนี่ยเอ่อเราไปโฟกัสหรือเรา
01:07:36 → 01:07:44 ไปดูที่แค่ดื้ออินซูลินอย่างเดียวไม่ได้ นะฮะนะเมื่อไหร่ก็ตามที่มันดื้ออินซูลิน
01:07:44 → 01:07:51 ไปจนถึงจุดที่จะเริ่มต้นของภาวะดื้อ เลปตินนะอันเนี้ยมันจะเกิดขึ้นพร้อมๆกับ
01:07:51 → 01:07:59 การค่อยๆปรากฏตัวของการป่วยนะ เพราะฉะนั้นมันจะสตาร์ทพร้อมๆกันในการ
01:07:59 → 01:08:07 เจ็บป่วยทางด้าน ncd กับภาวะดื้อ เลปตินแต่ว่าในเรื่องของดื้ออินซูลินอัน
01:08:07 → 01:08:13 นั้นเขา โคนิคไฮเปอร์อินซูลินนีเมียอิซูลินนึม
01:08:13 → 01:08:15 อะไรมา
01:08:17 → 01:08:26 ก่อนนเราก็รู้แล้วล่ะว่าเลปตินเนี่ยสร้าง ยังไงมีหน้าที่ยังไงแล้วก็เกิดความปกติ
01:08:26 → 01:08:33 ที่กลายเป็นภาวะดื้นเลปตินได้ยัง ไงนี้เวลาที่จะเพิ่มเเรียกว่าการกระตุ้น
01:08:33 → 01:08:40 หรือเพิ่มประสิทธิภาพความไว sensitivity ในการทำงานของเลปตินนะฮะอัน
01:08:40 → 01:08:51 นี้อ่ามีอะไรบ้างก็คือมีมี 10 ต 10 ตใน 10 ตเนี่ยก็จะมีเรื่องของการตัดนะการต้องและ
01:08:51 → 01:08:58 การเติมนะเค้าเรียกว่าตัดต้องเติมนะฮะนะ 10 อย่าง 10 อย่างนะไล่เรียงไปตามความ
01:08:58 → 01:09:06 สำคัญตามความสำคัญอันดับ 1 เลยในแง่ของ เลติ sensitivity นะนะหรือการฟื้นฟูภาวะ
01:09:06 → 01:09:13 ดื้อเลตินเนี่ยคือต้องเอาเรื่องของ High Bad C ออกไปก่อนคล้ายๆอินซูลินนฮะนะ
01:09:13 → 01:09:21 เพราะฉะนั้นการตัดน้ำตาลแป้งขัดขาวอาหาร แปรรูกนะไม่ว่าจะเป็นค้าโปรตีนไขมันต่างๆ
01:09:21 → 01:09:29 นะฮะนะรวมทั้งเนี่ยนะเรื่องของไอไซผงปปุง รสนะไขมันแปรรูปผ่านกรรมวิธีไขมันทรานสาร
01:09:29 → 01:09:37 แต่งเติมอาหารนะฮะนะเนี่ยเนี่ยเยอะแยะเลย นะฮะเพราะว่าพวกนี้มันมีผลทั้งการกระตุ้น
01:09:37 → 01:09:45 อินซูลินคอร์ติซอลเอสโตรเจนร่วมด้วยนะฮะ แล้วก็ไปไปกดดันหรือว่าไปบีบคั้นนะเลปติน
01:09:45 → 01:09:53 ให้ดื้อนะตามมาอีกด้วยนะฮะนะอันนี้นะสิ่ง เหล่านี้ถ้าเอาออกได้เขาก็จะบอกว่าจะช่วย
01:09:53 → 01:10:00 ให้นะอ่าทั้งฮอร์โมนอ่าสะสมพลังงาน 3 ตัว เนี่ยลดลงและอินซูลินเอ้ยและเลปตินทำงาน
01:10:00 → 01:10:07 ส่งสัญญาณได้ง่ายและว่องไวขึ้นอันนี้ข้อ แรกเลยนะตัดอันนี้สำคัญที่สุดในแง่ของ
01:10:07 → 01:10:14 repin sensitivity นะอันที่ 2 ก็คือ ต้องนะเเรียกว่าต้องกินอาหาร low C High
01:10:14 → 01:10:22 Food Fat tre Oil นะฮะเนี่ยอย่างงนี้ เลยนะฮะก็คือเราจะใช้โพชนาการที่มีไขมัน
01:10:22 → 01:10:31 ดีสูงๆนะฮะเพื่อที่จะอ่ามามาช่วยในการ กระตุ้นเลปตินเพราะว่าเลปตินเนี่ยพื้นฐาน
01:10:31 → 01:10:39 ของเขาก็คือโปรตีนไขมันดีไจุดไขมันดีนี่ แหละนะสำคัญมากนะฮะแล้วก็ต้องเป็นไขมันดี
01:10:39 → 01:10:47 ประเภทนี้นะฮะก็คือไขมันดีจากพืชในรูปแบบ ของทรีออยน้ำสลัดทรีออยนะฮะคือคือต้องดี
01:10:47 → 01:10:55 นะทั้งทางกายภาพคุณภาพนะฮะนะและ ประสิทธิภาพนี่นะฮะเพราะฉะนั้นก็ต้องเป็น
01:10:55 → 01:11:03 ไขมันดีจากพืชมีแหล่งที่มาอย่างดีนะแล้ว ก็มีสารองค์ประกอบอะไรต่างๆโดยเฉพาะสาร
01:11:03 → 01:11:08 พรึกษา เคมีเนี่ย ow C High Good f tre Oil
01:11:08 → 01:11:14 นะเ่าทำไมถึงสามารถที่จะอ่าแก้ไขเรื่อง ดื้ออินซูลินดื้อ
01:11:14 → 01:11:22 คอซอดื้อเอสโตรเจนแล้วก็ดื้อเลปตินได้นะ ฮะนะแล้วก็เป็นพื้นฐานที่สุดเลยนะเนี่ยก็
01:11:22 → 01:11:29 รูปแบบเนี่ยสัดส่วนนะคาฟเท่าไหร่โปรตีน เท่าไหร่นะแฟตยังไงนะฮะแฟตก็ต้องทั้งแปร
01:11:29 → 01:11:39 รูปและคงรูปไม่น้อยกว่า 60% ของพลังงาน รวมทั้งวันทงวันนะซึ่งจะมีผลในการช่วย
01:11:39 → 01:11:45 กระตุ้นการสร้างนะมีผลต่อการสร้างนะฮะนะ เพราะว่าเขาจะครบเครื่องอ่ะทั้งโปรตีนไข
01:11:45 → 01:11:51 มันดีแล้วก็สารเคมีนะส่งเสริมปฏิกิริยา ตอบสนองของฮอร์โมนเลปตินได้อย่างว่องไว
01:11:51 → 01:12:01 และเหมาะสมดีที่สุดนะฮะคือคือในลักษณะของ ลคไอยเนี่ยนะฮะนะมันมีสิ่งอื่นเนี่ยที่จะ
01:12:01 → 01:12:08 เกิดขึ้นพร้อมๆกับสิ่งดีๆอื่นๆนะฮะพ้อกับ ฮอร์โมนเลปตินด้วยนะที่จะ reever
01:12:08 → 01:12:16 sensitivity กลับคืนมาเนี่ยก็คือเขาจะ ช่วยในเรื่องของการนะการปรับระดับหรือลด
01:12:16 → 01:12:22 ระดับฮอร์โมนเกลินฮอร์โมนหิวนะนะอ่าแล้ว ก็ฮอร์โมนเผ่าพันธุ์พลังงานอีกตัวนึงคือ
01:12:22 → 01:12:31 อินตินนะฮะนะเนี่ยที่ที่จะถูกกระตุ้นออก มาจากากเซลล์บุของลำไส้นะฮะนะนอกจากนี้
01:12:31 → 01:12:39 เนี่ยรูปแบบของโลคไอยก็จะทำให้ร่างกาย หรือตับเนี่ยนะมันเกิดการเผาผลาญพลังงาน
01:12:39 → 01:12:46 นะซึ่งผลสุดท้ายคือ ldl type a นะฮะ ซึ่งเป็น ldl โมเลกุลใหญ่ที่ดีและร่างกาย
01:12:46 → 01:12:52 ก็จะนำไปใช้ในการสร้างอ่าฮอร์โมนต่างๆที่ เล่าไปตั้งแต่ตอนแรกต่อ
01:12:52 → 01:13:00 นะเอนะก็อันนี้ก็ไม่มีอะไรก็มาย้ำเท่า นั้นนะว่าโครงสร้างของเลปตินเป็นโปรตีน
01:13:00 → 01:13:10 เบสไขมันดีแล้วสารพษาเคมีทนสีเข้มๆนะ ฮะทีนี้ในแง่ของโปรตีนเบสนะฮะที่ร่างกาย
01:13:10 → 01:13:17 จะใช้ในการสร้างเลปตินเนี่ยนะก็คือกลุ่ม อาหารโปรตีนไขมันปานกลางนะฮะอ่าเขาถือว่า
01:13:17 → 01:13:23 กลุ่มอาหารโปรตีนประเภทนี้มีความสำคัญมาก ในการนำมาใช้กินเป็นหลักเพื่อการบาน
01:13:23 → 01:13:30 ฮอร์โมนอ่าโดยเฉพาะฮอร์โมนตัวนี้แรวมทั้ง ฮอร์โมนรูกเทพต่างๆด้วยนะแล้วก็จะใช้
01:13:30 → 01:13:36 โปรตีนไขมันปานกลางนี่แหละนะแล้วตัวสำคัญ ในการกินก็คือไข่ทั้งฟองโดยเฉพาะไข่แดงนะ
01:13:36 → 01:13:44 ฮะนะรวบกับเนื้อสัตว์ใหญ่ติดหนังติดมันนะ เนี่ยไข่แดงต้องกินนะและกินเป็นแบบไข่น้ง
01:13:44 → 01:13:53 ฟองแล้วก็ปรุงให้เป็นให้ถูกต้องด้วยนะนะ นะส่วนเนื้อสัตว์ใหญ่ติดหนังติดมันนะอัน
01:13:53 → 01:14:00 เนี้ยนะก็ต้องเลือดเลือนะเลือกในกลุ่มที่ เป็นไขมันปานกลางนะฮะนะคือคือโปรตีนจาก
01:14:00 → 01:14:07 สัตว์เหล่านี้สำคัญมากต่อเรื่องของเลปติน และฮอร์โมนอื่นๆที่มีสารต้นๆมาจาก
01:14:07 → 01:14:19 คอเลสเตอรอลที่จะเป็น ldl type a นะแต่ เราก็คงทราบกันแล้วว่าเคนส่วนใหญ่ในในใน
01:14:19 → 01:14:25 ยุคอ่ะนะยุคไหนก็ตามรวมทั้งถึงยุคนี้ เนี่ยนะฮะคิดว่าคนเกิน 90% ก็มีความรู้
01:14:25 → 01:14:32 ความเข้าใจแบบเดิมๆอยู่นะฮะว่าเออถ้าจะ กินเนี่ยโปรตีนแบบนี้นี่ไม่ดีนะอันตรายนะ
01:14:32 → 01:14:39 คอเลสเตอรอลจะสูงนะเอ่อไขมันจะเยอะนะจะ อ้วนนะอะไรอย่างเงี้ยนะฮะนะอันนี้ก็ยากนะ
01:14:39 → 01:14:46 เ่อเขาคก็เนี่ยมีการสอนกันมาให้หวาดกลัว ในการกินแบบนี้ถ้าจะกินยิ่งจะกินมากๆกิน
01:14:46 → 01:14:55 บ่อยๆกินไม่ได้นะฮะนะวันนี้หมอก็มีคนไข้ 130 กลคนนึงมาเจอกันเมื่อปีปีที่แล้วก็
01:14:55 → 01:15:03 บอกเตอนนั้นเ 100 เท่าไหร่ 123 กแต่วัน นี้ก็พุ่งขึ้นไป 138 เขาบอกว่าเก็เชื่อนะ
01:15:03 → 01:15:10 แล้วเก็ไปเข้ากลุ่มอยู่เกนร้อยหลังจาก นั้นพอเไปทำแล้วก็ถูกแม่ด่าเช็ดเลย
01:15:10 → 01:15:18 นะว่ามึงต้องกินผักเข้าไปถ้ามึงจะมาเ่า กินแต่อาณาจักรสัตว์ Animal เสเนี่ยอ่า
01:15:18 → 01:15:28 เ่อไม่ได้นะฮะนะอืก็ไม่ไม่รู้จะว่าไงล อุ้มไป 123 ไปเป็น 138 นะฮะวันนี้มาขอไม่
01:15:28 → 01:15:31 รองแพททำไปกับ
01:15:32 → 01:15:42 ขี่อ่าเนี่ยเราเห็นโปรตีนอยู่ใช่มั้ยล่ะ นะเอ่อเรามีโปรตีนไขมันสูงเนี่ยเป็นอะไร 3
01:15:42 → 01:15:51 ชั้นสัตว์ 3 ชั้นมีนมมีชีสมีโยเกิร์ตนะฮะ เบคอนนะแต่ที่เราจะต้องใช้นะในกรณีของการ
01:15:51 → 01:15:58 กระตุ้นเลปตินเนี่ยนี่คือโปรตีนไขมันปาน กลางมีไข่ทั้งฟองมีเนื้อสัตว์ติดหนังติด
01:15:58 → 01:16:05 มันนะฮะอ่ามีเนื้อสัตว์อ่าอะไรอ่ะอ่าอัน นี้ติดหนังอันนี้ติดมันเนาะแล้วก็มี
01:16:05 → 01:16:14 โปรตีนพืชแต่โปรตีนพืชนี้มัน อ่อมันมันมันไม่ใช่นะฮะนะส่วนใหญ่นะต้อง
01:16:14 → 01:16:23 เป็นอย่างนี้นะฮะนะโปรตีนะเนี่ยเที่เมี ตัวคอเลสเตอรอลที่ไปทำให้ตับนี่แหละนะ
01:16:23 → 01:16:27 เอ่อ เปลี่ยนไป
01:16:29 → 01:16:35 เป็นตอนี้นะกลุ่มโปรตีนไข่มปางกางเป็น อย่างเงี้ยส่วนใหญ่ก็คือไข่ทั้งฟองโดย
01:16:35 → 01:16:42 เฉพาะไข่แดงแต่กินให้ถูกปรุงให้เป็นนะอ่า แล้วก็เนืมันนะโดยเฉพาะสัตว์ใหญ่สัตว์บก
01:16:42 → 01:16:54 นะฮะนะกินได้นะกินได้นะนี่โปรตีนไขมันปาน กลางนะก็อาจจะมีส่วนของโปรตีนจากพืชนะจาก
01:16:54 → 01:17:01 ตัวหมักอะไรต่างๆฮะนะที่กินกันในช่วงกิน เจนเนะครับ
01:17:02 → 01:17:09 ผมอ่ะทีนี้ผ่านไป 2 ข้อแล้วนะในการ กระตุ้นนะเรื่องของเล็บตินอันต่อมาข้อ 3
01:17:09 → 01:17:18 คือตัดสนคตัด snack snack ต้องไม่มีถ้า คุณจะบูสเรตินนะฮะทีนี้หมออยากให้เข้าใจ 3
01:17:18 → 01:17:27 เรื่องนะฮะคำว่ามื้ออาหาร อ่ามื้อว่างหรือสนคแล้วก็การดื่มนะฮะนะ
01:17:27 → 01:17:33 คือคำว่ามื้ออาหารเนี่ยนะฮะนะนะอาหาร เนี่ยของเราทูมีกว่า Day ก็ 2 มื้อมื้อ
01:17:33 → 01:17:39 แรกกับมื้อหลังใช่มล่ะถ้ามื้อแรกเนี่ย แล้วเรียกว่าเป็นมื้ออาหารได้เขาจะต้องมี
01:17:39 → 01:17:47 3 อย่างอ่ะก็คือมีคาฟมีโปรตีนมีแฟตนะ สิ่งที่ร่างกายต้องการจะคาฟสำคัญที่สุด
01:17:47 → 01:17:53 โดยเฉพาะในมื้อแรกคือไฟเบอร์และเป็น ไฟเบอร์ละลายน้ำมากกว่าไม่ละลายนะฮะนะลอง
01:17:53 → 01:18:01 มาก็คือเป็นวิตามินแล่ธาตเอนไซม์นะสาร พฤกษาเคมีที่ละลายในน้ำที่มาจากคานะฮะ
01:18:01 → 01:18:09 ประมาณ 20% นะโปรตีนนี่ต้องเป็นเร Food นะเรเร Meat นะเร Meat นะอ่าคือเป็น
01:18:09 → 01:18:17 โปรตีนอ่าสัตว์นะที่เป็นกาสเฟดที่เป็นอ่า เลี้ยงอนามัยไล่ทุ่งอะไรก็ตามนะแล้วแฟตก็
01:18:17 → 01:18:24 เป็นคงรูปแปรรูปที่ดีแต่รูปที่ดีก็น้ำมัน สกัดเย็นนะฮะซึ่งนะในรูปแบบของความเป็น
01:18:24 → 01:18:32 มื้ออาหารเนี่ยก็จะต้องมีการที่ย่อยดุซึม และการเข้าถึงระดับเซลล์ให้ได้นะนะเนี่ย
01:18:32 → 01:18:39 ก็คือจะเข้าทางระบบเลื่อนระบบืเื่นก็ตาม นะแต่สารอาหารหลักนะฮะนะหรือพลังงานและ
01:18:39 → 01:18:46 สารอาหารทั้ง 3 อย่างนี้นะฮะจะต้องเข้า ถึงเซลล์นะเ่อจะเป็นการเข้าโดยอินซูลินไป
01:18:46 → 01:18:53 เปิดประตูหรือจะมีการแพร่ในระบบน้ำเหลือง อะไรก็ตามนะฮะหลังจากนั้นเนี่ยเซลล์จะ
01:18:53 → 01:19:01 ต้องมีการนำไปใช้งานต่อนะได้ดีอย่างมี นัยยะสำคัญมากกว่าการเก็บสะสมคือเราเน้น
01:19:01 → 01:19:09 ในเรื่องของการใช้งานนะฮะนะการขอหารเป็น พลังงานมากกว่านำไปเก็บสะสมแต่ก็อาจจะพอ
01:19:09 → 01:19:16 ไปเก็บสะสมได้บ้างนะฮะนะถ้ามันเกินเลยนะ ฮะนะเพราะว่าในที่สุดแล้วเนี่ยการกินมัน
01:19:16 → 01:19:19 ก็จะมีกินเกินกินขาดอะไรต่างๆแล้วเราค่อย มา
01:19:19 → 01:19:27 มชนะซึ่งถ้าอยู่ในสภาวะอย่างนี้เนี่ยการ กินอาหารเป็นเป็นมื้อนะอ่าจะถูกต้องตามคำ
01:19:27 → 01:19:34 จำกัดความและจะเกิดภาวะ Energy Balance นะนะเพราะงั้นมื้ออาหารจริงๆนะนะตาม
01:19:34 → 01:19:43 ไครทีเรียหรือตามคำจำกัดความก็จะต้องมี ลักษณะดังที่บอกนะก็คืออ่าสารอาหารและ
01:19:43 → 01:19:52 พลังงานเนะเ่อต้องครบ 3 อย่างคือคฟโปรตีน Fat นะฮะนะในรูปแบบในลักษณะที่โบกนะอ่า
01:19:52 → 01:20:00 มีการแพร่กระจายนะเข้าถึงระดับเซลล์และ เซลล์สามารถนำไปใช้ได้นะฮะมากกว่าการเก็บ
01:20:00 → 01:20:09 สะสมอืมเกิดภาวะอิบาานะนอกเหนือจากนี้เรา จะไม่ถือว่าเป็นมื้ออาหารที่สมบูรณ์นะเรา
01:20:09 → 01:20:18 จะเรียกว่าอาหารระหว่างมื้อนะหรือมื้อ ว่างหรืออ่อภาษาของอาหารเนี่ยนะเใช้คำว่า
01:20:18 → 01:20:26 snack you are snack นะฮะนะ snack ก็ คือมื้อนั้นมีไม่ครบนะอาจจะขาดตกบกพร่อง
01:20:26 → 01:20:33 นะฮะนะนะหรือไม่มีสัดส่วนไม่สมบูรณ์ไม่ สมดุลนะฮะในในอาหารหลัก 3 อย่างเนี่ยคือ
01:20:33 → 01:20:41 คาร์โบไฮเดรตโปรตีนไขมันนะมันไม่พอนะฮะนะ ก็คือไฟเบอร์ไม่พออ่าเรียวโปรตีนอ่าไม่
01:20:41 → 01:20:49 ใช่อาจจะมีโสมีแปรรูปอ่าทางกายภาพทางเคมี อะไรอย่างเงี้ยนะฮะนะทั้งคาฟโปรตีนไขมัน
01:20:49 → 01:20:57 ต่างๆหรือมีไม่ครบอ่ะนะอ่ามีแค่ 2 อย่าง ขาดไปอย่างนึงอะไรต่างๆเหล่าเนี้ยนะฮะนะ
01:20:57 → 01:21:04 ซึ่งนะสิ่งเหล่านี้นะฮะจากความไม่ครบไม่ พอขาดอะไอย่าเงี้ยนะการเข้าถึงเซลล์จะไม่
01:21:04 → 01:21:13 ดีนะก็อาจจะมีเข้าถึงเซลล์ได้บ้างนะแต่ ไม่ไม่ถึงจุดน่ะไม่ถึงในระดับนะนะที่เรา
01:21:13 → 01:21:21 จะเรียกว่าว่าได้ได้ได้อย่างได้อย่าง เพียงพอนะฮะมันก็ไม่ค่อยได้นะฮะจึงมักจะ
01:21:21 → 01:21:28 ถูกร่างกายนะนำไปเก็บสะสมมากกว่านำไปใช้ อ่าจนเกิดสภาวะที่เรียกว่า ener
01:21:28 → 01:21:34 imbalance นะนะอันนี้เราเรียกว่า snack นะฮะอีกอันนึงเนี่ยที่เรายังจะเข้าใจผิด
01:21:34 → 01:21:45 กันนะการดื่มใดๆก็ตามนะอ่าจะถูกจัดเป็น สนคนะฮะถ้านะคือเบอกว่าสิ่งใดๆก็ตามที่
01:21:45 → 01:21:54 ไม่ใช่น้ำเปล่าหรือนะเป็นน้ำเปล่าแต่ก็มี การปะปนนะฮะของอ่าอาหารสารอาหารหรือพลัง
01:21:54 → 01:22:03 งานที่มีจำนวนแคลอรี่เกิน 34 แคลอรี่ขึ้น ไปเราจะถูกนับว่าสิ่งที่คุณกำลังกินหรือ
01:22:03 → 01:22:09 กำลังดื่มเนี่ยนะโดยเฉพาะการดื่มนี่แหละ นะนะเรียกว่าเป็นหนมื้ออาหารและเราจะ
01:22:09 → 01:22:18 เรียกว่า ur sn นะนะซึ่งกรณีอย่างนี้มัน ก็จะเหมือนกรณีของมือว่างนี่นะเพราะั้นใน
01:22:18 → 01:22:28 แง่ของเการจะ OST เลปตินเนี่ยนะถึงที่บอก นะว่ามันมันมีระหว่างมื้อที่ที่น้อยกว่า 4
01:22:28 → 01:22:35 ชมงเี่ไม่ได้ไม่ได้ถ้าคุณดื้อแลเเนี่ยนะ ฮะนะคุณก็จะต้องอดรนทนให้มัน extend ออก
01:22:35 → 01:22:43 ไปเกิน 4 ชมงนะฮะนะถ้าหากว่าจำเป็นว่าจะ ต้องมีการอ่ามีมื้อว่างมีอะไรต่างๆนะ
01:22:43 → 01:22:50 เพราะงั้นต้องเข้าใจอีกคำนึงคือคำว่าดื่ม ให้ดีนะฮะนะอ่าหลายคนไปดื่มนะฮะอย่างเช่น
01:22:50 → 01:22:57 infusion Water อะไรต่างๆเหล่าเนี้ยนะ ที่มีใบนู่นใบนี่นะหรือมีการฝานอะไรตอะไร
01:22:57 → 01:23:03 เข้าไปเนี่ยแต่พวกนี้ก็ผ่านน่ะนะฮะเราจะ ถือว่าเป็นน้ำเปล่าแล้วก็มันมีสารที่เรา
01:23:03 → 01:23:10 ไม่ที่แคลอรี่มันยังไม่เกิน 34 แคลอรี่ ขึ้นไปอะไรอย่าเงี้ยนะแต่ถ้าส่วนใหญ่ถ้า
01:23:10 → 01:23:19 มันเกินก็จะเป็น 1 มื้ออาหารไปแล้ว นะอันนี้นะข้อ 3 ก็คือต้องตัดสนคข้อ 4 นะ
01:23:19 → 01:23:25 ฮะข้อ 4 ก็คือตัวมื้ออาหารน่ะนะตัวมื้อ อาหารก่อนที่ที่จะนอนอันนี้ก็คืออาหาร
01:23:25 → 01:23:33 มื้อหลังสุดก่อนที่จะนอนนะฮะนะต้องมีช่วง เวลาที่เหมาะสมก็คือระหว่าง 34 ช่วโมงนะ
01:23:33 → 01:23:44 อ่าไม่ควรน้อยกว่า 2 ช่วโมงนะและไม่ควรจะ นานเกิน 4 ชมขึ้นไปนะฮะนะดีที่สุดเลยคือ
01:23:44 → 01:23:51 3-4 ชมงนะฮะ เนี่ยคือคืออย่างงี้นะบางคนเนี่ยกินแล้ว
01:23:51 → 01:24:02 นอนนะฮะเอ่อกินแล้วรีบนอนนะฮะนะเออ่านะใน ช่วงเวลาที่น้อยเกินไปหรือเร็วเกินไปก็
01:24:02 → 01:24:10 คือน้อยกว่า 2 ชั่วโมงนะนะอันนี้ก็ไม่ ช่วยในการที่จะไปกระตุ้นเลปตินะนะฮะนะนะ
01:24:10 → 01:24:16 เพราะระบบร่างกายและฮอร์โมนเนี่ยอ่า อินซูลินคอร์ติซอลอเเขาก็จะอยู่ไม่สุข
01:24:16 → 01:24:25 แล้วนะฮะนะอันต่อมานะก็คือ extend หรือ ว่ายืดระยะเวลาในการกินกับการนอนเห่างมาก
01:24:25 → 01:24:33 เกินไปก็คือเกิน 4 ชมงนะเกิน 4 ชมงนะนะเา ก็บอกว่าจะมีผลต่อความเชื่อมโยงของวงจร
01:24:33 → 01:24:42 การนอนการหลับการตื่นที่ผิดปกติไปนะนะก็ จะเกิดอะไรเกิดปัญหาการตื่นการหลับอ่า
01:24:42 → 01:24:51 เป็นรอบสั้นๆนะฮะ 2-3 รอบนะหรือหลายรอบ กว่านั้นนะฮะนะนอกจากนี้นะอาจจะมีการตื่น
01:24:51 → 01:24:58 นอนที่เร็วขึ้นกว่าอ่อปกติก็คือไปตื่นเอา ราวๆ 2:00 3:00 นแล้วหลังจากนั้นหลับต่อ
01:24:58 → 01:25:04 ไปอีกไม่ได้นะฮะเพราะนะเพราะว่าจะเกิด เนี่ยการกระตุ้นคอร์ติซอลหรือฮอร์โมนโแม
01:25:04 → 01:25:10 เนี่ยออกมานะแล้วก็ทำให้เราหลับไม่ได้ หลับไม่ได้เพราะคอร์ติซอลเปลูกให้เราตื่น
01:25:10 → 01:25:17 อ่าก็เป็นฮอร์โมนที่ทำให้ตื่นใช่มนะอ่า แล้วตื่นแล้วไงก็ต้องหิวเต้องหิวต้องมี
01:25:17 → 01:25:25 พลังงานตอดนะฮะนะเนี่ยก็จะควบคุมการหลับ ต่อไม่ได้อีกนะฮะคือบางคนกินตั้งแต่จบ
01:25:25 → 01:25:31 บ่ายจบ 15:00 น 14:00 นอย่างเงี้ยแล้วไป นอนเอา 21:00 2:00 นอะไรอย่าเงี้ยมันก็
01:25:31 → 01:25:38 เกิน 4 ชมงไปแล้วนะก็ทายได้เลยว่าคนคนเย มีแนวโน้มที่จะตื่นเร็วนะหรือหลับๆตื่นๆ
01:25:38 → 01:25:46 เอ่อเป็นรอบๆไปนะเนี่ยอเพราะว่าอันนี้มัน เป็นการเค้าเรียกไป AG หรือว่าไปนี่แหละ
01:25:46 → 01:25:54 ไป disr ในเรื่องของเควริธึมนะฮะแล้วเกิด อ่าอะไรอ่า
01:25:54 → 01:26:02 ไเบรคอ่ะก็คือเกิดเกิดการเบรคนะของวงจร การนอนหลับตามปกตินะฮะนะเพราะว่าเราไปฝืน
01:26:02 → 01:26:09 ในเรื่องของวงจรการโคจรกลางวันกลางคืนอ่า ดวงอาทิตย์พระจันทร์อะไรต่างๆไม่ได้นะการ
01:26:09 → 01:26:16 หมุนการโคจรของโลกโดยอทิศพระจันทร์งนี้นะ นะอีกเรื่องนึงในกรณีพวกเนี้นะก็คือผู้
01:26:16 → 01:26:24 ที่ยังไม่รู้ไม่เข้าใจเลยไม่มีความรู้ใน การกินอาหารใน 1 วันที่ถูกต้องโดยเฉพาะส
01:26:24 → 01:26:31 กลางๆในระยะยาวๆไปเนี่ยเราเรียก ว่ามื้อแรกต้องไม่มีครับเพราะอะไรนะฮะ
01:26:31 → 01:26:38 แล้วมื้อเย็นเนี่ยต้องมีคเพราะอะไรนะแล้ว ก็สัดสวนพลังงานอะไรต่างๆเหล่าเที่เป็นนะ
01:26:38 → 01:26:45 ก็เรียกว่าถ้าเกิดโดยเฉพาะมื้อเย็นนะกิน ไม่เป็นกินไม่ถูกนะะนะพวกนี้ก็จะเกิดการ
01:26:45 → 01:26:55 disr นะนะก็คือการรบกวนนะในเรื่องของการ เอการนอนนะการนอนเโดยตัวฮอร์โมนสำคัญที่
01:26:55 → 01:27:00 ออกมาก็คือคอร์ติซอลนะฮะนะพวกนี้ คอร์ติซอลก็จะออกมานะ
01:27:00 → 01:27:05 เอ่อแล้วก็มาวุ่นวายอะไรต่างๆเหล่านี้นะ ฮะ
01:27:05 → 01:27:15 นะเอ่อข้อ 4 แล้วนะข้อ 4 ตัดนะข้อ 5 ก็ คือต้องนะก็คือต่อเนื่องกันนะว่านี้นี้
01:27:15 → 01:27:22 ถ้าเกิดทำอะไรถูกต้องแล้วนะคอซอไม่มาแล้ว สงบไปแล้วนะฮะนะการนอนเนี่ยนะเ้าเรียกว่า
01:27:22 → 01:27:31 นอนหลับอย่างมีคุณภาพนะฮะนะระยะเวลาก็คือ 7-8 ช่ม 7-8 ชมนะลักษณะก็คือหลับเร็ว
01:27:31 → 01:27:38 หลับเร็วก็คือภายใน 5 นาทีนะฮะนะมีความ ลึกสนิทนะอันนี้เราเรียกว่า Deep Sleep
01:27:38 → 01:27:48 นะฮะแล้วการหลับแบบลึกสนิทเนี่ยยาวไปแบบ ลวดเดียวตื่นอันนี้เราเรียกว่าเอ่อเอ่อ
01:27:48 → 01:27:56 อะไรอ่ะ Quality Sleeping นะฮะนะก็คือ เป็นวงจรการนหลับที่มีคุณภาพที่สุดนะก็
01:27:56 → 01:28:04 คือกินแบบมีคุณภาพแล้วก็ต้องนอนแบบมี คุณภาพด้วยนะนะอันนี้ก็คือข้อ 5 นะถ้า
01:28:04 → 01:28:10 เป็นอย่างงนี้เนี่ยนะระบบความสมดุลของ ฮอร์โมนทุกอย่างรวมทั้งเลปตินเนี่ยก็ปกติ
01:28:10 → 01:28:18 นะฮะนะเพราะฉะนั้นช่วง 1 2 3 4 เรื่อง กีนนะฮะนะอ่าก็มีทั้งต้องมีทั้งตัดนะฮะนะ
01:28:18 → 01:28:25 ข้อ 5 นี่ก็คือนอนก็ต้องนอนแบบนี้นะนะไม่ งั้นก็ต้องมีเครื่องเรื่องช่วยอ่ะก็แล้ว
01:28:25 → 01:28:36 แต่นะเจะเปิดอะไรหล่ะเปิดเปิดเสียงเปิด เปิดเพลงคลาสสิคหรือว่าใช้หลอดไฟอ่า R
01:28:36 → 01:28:43 Light เปีอะไรอย่างงี้นะฮะนะหรือจะนั่ง สมาธิฝึกจิตทำใจอะไรต่างๆมีหลายอย่างแล้ว
01:28:43 → 01:28:53 กันอ่ะมาข้อ 6 นะฮะข้อ 6 คือการตากแดดนะ ก็ใช่ตัวตเต่าว่าตากแดดนะฮะตากแดด
01:28:53 → 01:29:00 อันเนี้ยก็คืออะไรนะฮะเออก็คือต้องฟังทำ ความเข้าใจนิดนึงนะฮะนะเาบอกว่าแสงแดด
01:29:00 → 01:29:07 อ่อนๆนะฮะนะก็คือแสงอุลต้า Violet ในช่วง แรกของวันที่ิขึ้นเนี่ยอ่าอุลตร้า Violet
01:29:07 → 01:29:15 อ่อนๆนะนะในช่วงเวลาเช้าถึงสายไม่เกิน 11:00 นนะมีผลยังไงบ้างนะฮะมีผลยังไง
01:29:15 → 01:29:23 บ้างอันนี้คือเรื่องของการตักแดดนะฮะอ่า ช่วยให้เซลล์น้อเยื่อไขมันนะอ่าทำการ
01:29:23 → 01:29:28 สร้างและเก็บสะสมฮอร์โมนเลปตินเพราะ ฉะนั้นฮอร์โมนเลปตินเป็นฮอร์โมนที่ขึ้น
01:29:28 → 01:29:37 อยู่กับแสงแดดในช่วงเช้าๆถึงสายไม่เกิน 11 โมคือแสงอุลตร้าไวกเออช่วยกระตุ้นเซลล์
01:29:37 → 01:29:43 เนื้อเยื่อไขมันสร้างเลปตินนะฮะสร้างแล้ว เก็บสร้างแล้วเก็บนะฮะอันนี้นะอันนี้ก็
01:29:43 → 01:29:52 คือกระตุ้นโดยตรงนะจากแสงแดดจากแสงแดดออก นะแล้วก็นะแสงแดดอันนี้ยังช่วยการสร้าง
01:29:52 → 01:30:01 ฮอร์โมนของต่อมเพศนะหอมต่อมเพศนะที่บอก เมื่อกี้นี่แหละนะว่าไอ้ที่ตัวอะไรอ่ะ
01:30:01 → 01:30:07 เนื้อเยื่อไขมันเสร้างกับฮอร์โมนต่อมเพศ ฮอร์โมนต่อหมวไตอ่ะนะด้วยนะนะก็คือเป็น
01:30:07 → 01:30:13 การสร้างฮอร์โมนต่างๆจากสารตั้งต้นที่ เป็นคอเลสเตอรอลนะเราจะต้องเสริมด้วยการ
01:30:13 → 01:30:19 ตักแดดนะงั้นโปรเจสเตอโรนเทสโทสเตอโรน เอสโตรเจนอะไรต่างๆนะฮะนะสิ่งเหล่านี้อ่า
01:30:19 → 01:30:26 มีแดดอ่ามาช่วยนะฮะกระตุ้นการสร้างนะเป็น การสร้างจากระบบการเผาผ่านพลังงานของร่าง
01:30:26 → 01:30:33 กายโดยที่ตับยังจะต้องคีโตซิสและอยู่ใน ฝั่งของการเป็นแฟตเบอร์เนอร์เผ่าาพลังงาน
01:30:33 → 01:30:40 นะฮะนะเพราะฉะนั้นช่วงเนี้ยก็ยังไม่ต้อง ไปเบรคฟ้าอะไรต่างๆนะฮะนะก็คือมาสร้าง
01:30:40 → 01:30:47 เลปตินนะมาสร้างฮอร์โมนชะลอวัยฮอร์โมนเพศ อะไรต่างๆที่ทำให้เป็นหนุ่มเป็นสาวนะ
01:30:47 → 01:30:54 สร้างกล้ามเนื้อนะฮะนะแล้วก็สร้างอารมณ์ สร้างเอ่ออ่าระบบเพศน่ะนะฮะนะเอเจนเป็น
01:30:54 → 01:31:01 เทรนเป็นเทสเตอโรนเพราะว่าสิ่งเหล่านี้นะ เวลาเสร้างในลักษณะแบบนี้นะคือสร้างจาก
01:31:01 → 01:31:07 ระบบการพอผ่านพลังงานของร่างกายเขาจะ สร้างอย่างพอดีเ่อไม่เกินไม่ขาดไม่น้อยไป
01:31:07 → 01:31:16 ไม่มากไปนะฮะนะแล้วก็มีการเก็บสะสมไวด้วย นะนะอันต่อมานะฮะแสงแดดนะจากการตากแดดใน
01:31:16 → 01:31:23 ช่วงเช้าถึงสายเนี่ยช่วยลดนะหรือเเรียก ว่ากระบวนการ Down regulate นะเรื่องของ
01:31:23 → 01:31:31 ฮอรโมนคอร์ติซอลลงไปนะฮะนะคอร์ติซอลด้วย เออสนด้วยนะฮะนะจะมาอยู่ในระดับ minimum
01:31:31 → 01:31:39 low Level นะฮะนะอันนี้ก็แดดมีผลนะเพ นั้นตากแดดลดฮอร์โมนเครียดได้นะฮะนะตาก
01:31:39 → 01:31:47 ให้ถูกเวลานะส่วนการกระตุ้นการสร้าง วิตามินดีโดยผิวหนังนะอ่าจากแสนอุลต้าอ่า
01:31:47 → 01:31:54 uvb อุต้าเ่า Ultra viet B เนี่ยนะฮะ อันนี้เนี่ยมันจะต้องมีความเข้มของ uvb
01:31:54 → 01:32:02 นะอ่าในระดับนึงซึ่งความเข้มของแสง uvb อันนี้นะที่จะมาช่วยในการสร้างอ่าถือหนัง
01:32:02 → 01:32:10 ในการวิตามินดีนะก็จะต้องช่วงเวลาตั้งแต่ 11:00 นถึง 15:00 น 11 นครับผมอ่ะคนละ
01:32:10 → 01:32:15 ช่วงเวลากับอันแรกๆที่สร้างเล็บตีน
01:32:16 → 01:32:25 กลับก็ในคนอ้วนๆนะฮะหรือมีไขมันสะสมใน ร่างกายมากๆนะก็มักจะเกิดทั้งการดื้อ
01:32:25 → 01:32:33 อินซูลินและดื้อเลปตินไปด้วยพร้อมๆกันนะ เขาพบว่าจะมีปริมาณความเข้มข้นของวิตามิน
01:32:33 → 01:32:41 ดีสะสมด้วยร่างกายน้อยนะรวมทั้งการมี วิตามินดีแิมในกระแสเลือดที่ต่ำนะซึ่งจะ
01:32:41 → 01:32:49 มีผลทำให้ความว่องไวในการทำงานของ อินซูลินลดลงอย่างชัดเจนก็คือเาจะมีผลต่อ
01:32:49 → 01:32:57 ต่อเนี่ยต่อทั้งอินซูลินคอร์ติซอลเลนะฮะ แต่ในแง่วิตามิน D Active form ในกระแส
01:32:57 → 01:33:04 เลือดน้อยเนี่ยนะก็คือผลในการลดความว่อง ไวของการทำงานของเลปติน
01:33:04 → 01:33:14 นะอันนี้ก็แดดจะช่วยนะนะถ้าไม่สะดวกก็ ต้องกินวิตามินดีเสริมนะวิตามิน
01:33:14 → 01:33:21 ดี D3 K2 อ่ะมาข้อ 7 นะข้อ 7 เนี่ยเรารู้ว่า
01:33:21 → 01:33:28 โครงสร้างนะของเลติเนี่ยเขาจะต้องมีสาร พฤกษสารเคมีเอาล่ะตอนนี้เราได้โปรตีนแล
01:33:28 → 01:33:35 ได้ไขมันอะไรต่างๆแล้วในรูปของอ่าทีออย อะไรต่างๆตามสัดส่วนตามความพอดีเหมาะสมนะ
01:33:35 → 01:33:45 เนี่ยครับผมเราจะต้องมี Dark Color ไต นิวนนะจากผลไม้อ่าผลไม้นะฮะอันนี้อ่าอัน
01:33:45 → 01:33:54 นี้เราก็เนะทีนี้ผลไม้ในที่นี้เนี่ยได้ แก่อะไนะฮะเนี่ยหมอสรุปไว้ในแถบเลเวลสี
01:33:54 → 01:34:03 เขียวนะครับนะอันดับแรกคือ Blackberry นะ ฮะแล้วก็ Black บี่นะครับบี่นะเเริ่มจาก
01:34:03 → 01:34:12 อันนี้ดำๆนะอันนี้ดำแดงดำแดง Black บอรี่ บูเบอรี่ก็สีอะไรบี่เนี่ยสีน้ำเงินเข้มนะ
01:34:12 → 01:34:22 ฮะของม่วงๆครับผมนะเนี่ยเแล้วก็มาอะไร Black current นะ Black Cent เห็นมนะ
01:34:22 → 01:34:32 เห็นครับเออเป็นไปทางดำๆเลยใช่คือ Black Cent เนี่ยมันมีมันมีมันมีไขมันนะฮะนะก็
01:34:32 → 01:34:41 คือเป็นผลมที่มีไขมันนะฮะนะที่มีไขมัน คล้ายๆกับมะพร้าวมะกอกอะโวคาโดแสดงคาฟมัน
01:34:41 → 01:34:48 ก็น้อยใช่ครับผมใช่คาฟมันน้อยนะไขมัน โอเมก้า 6 เป็นแบบโอเมก้า 6 ที่ essential
01:34:48 → 01:35:00 ก็คืออ่า GL นะฮะ GL นะครับผมแนนะฮะแล้ว ตัว GL ในแนเนี่ยมันดีต่อข้อต่อนะเอ่อ
01:35:00 → 01:35:05 แล้วในตอนเมันมี Back Cent ที่เป็นฟีด แล้วเป็นผงที่เขาดึงเอาไอ้ตัวฟุกโตสกับ
01:35:05 → 01:35:12 น้ำตาลออกไปแล้วหมอกำลังหาซื้ออยู่นะฮะ เนี่ยเพราะว่าหมอจะมาเสริมเรื่องเข่าตี
01:35:12 → 01:35:21 แบตนะคือโครงสร้างข้อต่อกล้ามเนื้อกระดูก แล้วก็ก็การอักเสบอ่าของของกายวิภาษที่
01:35:21 → 01:35:31 มันเป็นข้อต่อเนี่ยนะฮะเไอ้ตัว GL อ่ะนะ อ่า GL ก็คือกดไขมันไม่มีตัวอ่าโอเมก้า 6
01:35:31 → 01:35:38 เนี่ยมันมาช่วยรักษาการอักเสบพวกนี้ได้ดี นะเราก็พบว่ามันเยอะเลยใน Black current
01:35:38 → 01:35:46 อ่าอย่างผลไม้อ่ะที่เรานับไขมันเนี่ยที่ เรารู้กันเนี่ยก็จะมีแค่ 3 ตัวหลักๆก็คือ
01:35:46 → 01:35:57 เนื้อมะพร้าวอโวกาโดแล้วก็มะกอกอ่ามะกอก ฝรั่งนะแต่มันก็จะมีอีก 2 ตัวนะก็คือ Back
01:35:57 → 01:36:05 current Back current แล้วก็อะไรนะอีก ตัว
01:36:05 → 01:36:14 นึงอีกตัวนึงนะอีกตัวนึงเดี๋ยวมีลืมชื่อ ไปละนะทีนี้นอกจากแ Cent เนี่ยก็จะมีอะไร
01:36:14 → 01:36:24 บี่คืออะไรนะฮะคือเกี้นะฮะเออสตอเบอร์รี่ นะฮะอันนี้ก็เริ่มมาทางสีแดงสีส้มละนะอ่า
01:36:24 → 01:36:34 แดงเข้มๆนะอ่าแล้วก็มาดำเลยคราวนี้กาแฟ อ่าชาดำอัสชาเขียวอ่าชาเขียวที่ดีต้อง
01:36:34 → 01:36:40 เป็นชาเขียวหมักนะซึ่งก็จะมีตัว โปรไบโอติกนะที่จะไปช่วยอ่าเค้าเรียกว่า
01:36:40 → 01:36:50 ไปช่วยผลิตหรือช่วยสร้างอีอะไร EC gc เนี่ยนะฮะเป็นสารไอสารเคมีตัวสำคัญของชา
01:36:50 → 01:36:58 เขียวเนี่ยนะชาเขียวัฉะเนี่ยนะแลีกอย่าง โกโก้นะเนี่ยเลเบลแถบสีนี้นะฮะนะก็คือสาร
01:36:58 → 01:37:06 พฤกษาเคมีโทนสีเข้มๆที่มีประโยชน์นะฮะนะ ต่อเนื้อเยื่อไขมันในการสร้างเลปติน
01:37:06 → 01:37:16 เลปตินเนะจะหากินยังไงในรูปของชาหรือว่า ในรูปของอะไรอ่ะพวกที่เป็นอ่า Dr ีดที่
01:37:16 → 01:37:25 เป็นผงนะฮะนะกินแบบสดๆแช่แข็งอย่างละเล็ก ละน้อยนะฮะนะเอ่อต่อวัน 2-4 เม็ดในทุกๆ
01:37:25 → 01:37:31 มื้อก็ได้นะฮะนะเพราะในปัจจุบันเนี่ยของ พวกนี้เขาก็พยายาม exception ในการที่จะ
01:37:31 → 01:37:38 ไปไปไปนับหรือไปคำนวณหาฟุกโสกันแล้วแต่จะ ต้องไม่เยอะนะไม่เยอะนะฮะหรือในมื้อเย็น
01:37:38 → 01:37:46 จะดีที่สุดนะฮะมันมีปัจจุบันมีแบบแห้งนะ ที่เ Dr ฟีดเนี่ย Dr ฟฟีด Dr Dr feed
01:37:46 → 01:37:52 นี่แหละนะจนเป็นผง่ะนะในรูปของพวกผง เบอร์รี่ Plus อะไรงี้นะฮะเอาเบอร์รี่
01:37:52 → 01:38:00 อะไรอย่างมาแต่เวลาไปซื้อก็ต้องดูฉลากนะ ดูการผลิตให้ดีๆนะนะพวกนี้คือสารพฤกษา
01:38:00 → 01:38:06 เคมีตัวเก่งนะฮะที่จะมีผลในการเพิ่ม sensitivity ในการทำงานเล็บ
01:38:06 → 01:38:11 ีนะ เออ
01:38:11 → 01:38:18 อ่าอีก 3 ข้อข้อ 8 นะฮะข้อ 8 ในการทำ เรื่องของการอดนะฮะ If หรือล Fast เนี่ย
01:38:18 → 01:38:28 นะฮะนะอันนี้นะก็จะต้องหาความเหมาะสมนะฮะ นะให้ดีนะฮะในแต่ละบุคคลแต่ละบอ typ รวม
01:38:28 → 01:38:35 ถึงการออกแรงออกกำลังด้วยนะฮะเพราะว่า ทั้งการอดและการออกแรงออกกำลังก็จะมีผลใน
01:38:35 → 01:38:42 การกระตุ้นเรื่องของคอร์ติซอลเพราะเวลา คอร์ติซอลมาเรตินก็ไม่มานะหรือเรตินทำงาน
01:38:42 → 01:38:48 ไม่ได้นะครับผมนะโดยเฉพาะฤเดตของ คอร์ติซอลจะอยู่ในช่วงการทำงานช่วงที่ 2
01:38:48 → 01:38:57 ของเลปตินนะฮะนะเนี่ยนะจะมีผลมากๆนะที่จะ ทำให้ไม่เกิดการหรือยับยั้งการเผาผลาพลัง
01:38:57 → 01:39:09 งานของเลบตีนในช่วงที่ 2 นะนะอันนี้ก็ ต้องนะต้องต้องต้องกำหนดนะอ่าทั้งการไ
01:39:09 → 01:39:19 หรือการออกกำลังกายให้ดีต่อมาก็คือเติม อะไร C exposure นะนะก็คือเป็นการเติม
01:39:19 → 01:39:27 ความเย็นนะอ่าอาจจะเป็นน้ำที่เย็นจัดๆน้ำ แข็งหิมะนะนะหรือการหมกนะเนี่ยเเรียกว่า
01:39:27 → 01:39:35 การแช่การหมกตัวอยู่ในความหนาวเย็นนะนะใน ช่วงเวลาสั้นๆก็คือประมาณ 1-3 นาทีแล้ว
01:39:35 → 01:39:41 แต่เท่าที่จะไหวว่าจะกี่รอบนะเหล่านี้จะ เป็นการกระตุ้นในเรื่องการสร้างรวมทั้ง
01:39:41 → 01:39:46 การเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานเล็บดินนะอัน นี้คือการเติม C
01:39:46 → 01:39:55 exposure นะสุดท้ายสุดท้ายสุดท้ายเนี่ย เรารู้มว่าร่างกายเรามีกายหยาบกายละเอียด
01:39:55 → 01:40:03 นะร่างกายเรามีเรื่องของอ่าความเป็นร่าง กายนะเป็นเนื้อหนังมังสาเนี่ยกระดูขต่อ
01:40:03 → 01:40:10 และก็มีเรื่องของจิตใจสมองนะฮะคำถามก็คือ สิ่งเหล่านี้เนี่ยมีอะไรเป็นตัวเชื่อมมี
01:40:10 → 01:40:17 อะไรเป็นตัวเชื่อมนะฮะเออร่างกายจิตใจ เนี่ยเราคิดว่าอ่ะอย่างเคิดว่ามันมีอะไร
01:40:17 → 01:40:25 เป็นตัวเชื่อมการทำงานของ 2 ส่วนเนะฮะนะ หรือเชื่อมกันอยาก
01:40:25 → 01:40:36 ห้ะตัวเชื่อมคืออะไรมไม่ใช่มนตัวเชื่อม คือนี้นี่กล้ามเนื้อกล้ามเนื้ออ๋อครับผม
01:40:36 → 01:40:44 คือข้อ 10 เราต้องโฟกัสการควบคุมกล้าม เนื้อนะอืทีนี้กล้ามเนื้อในร่างกายของคน
01:40:44 → 01:40:50 เราเนี่ยนะฮะนะเอ่อส่วนใหญ่เจะแบ่งเป็น 2 ฝั่งคือกล้ามเนื้อเรียบกับกล้ามเนื้อลาย
01:40:50 → 01:40:55 แต่ถ้าแบ่งให้ละเอียดลึกๆเข้าไปอีกเนี่ย มันจะมี 4 รูปแบบอันที่ 1 คือกล้ามเนื้อ
01:40:55 → 01:41:01 เรียบกล้ามเนื้อเรียบก็คือกล้ามเนื้อผนัง หล่อนเลือดอะไรอย่างเงี้ยนะนะหรือกล้าม
01:41:01 → 01:41:06 เนื้อของลำไส้กล้ามเนื้อของทางเดือนอาหาร กล้ามเนื้อของหลอดอาหารอันนี้คือกล้าม
01:41:06 → 01:41:12 เนื้อเรียบแล้วกล้ามเนื้อเรียบเนี่ยเออ มันพึ่งพาการทำงานของระบบ
01:41:12 → 01:41:19 ประสาทระบบประสาท พาซิส่วนใหญ่เป็นระบบประสาพนะฮะ
01:41:19 → 01:41:26 อ่ะต่อมาก็คือกล้ามเนื้อลลายนะกล้ามเนื้อ ลายก็คือกล้ามเนื้อที่เราเดินเราเคลื่อน
01:41:26 → 01:41:33 ไว้้เราออกแรงออกกำลังเราหยิบเราขับรถเรา เนี่ยกล้ามเนื้อแขนขานะมีทั้งแบบแบนๆกับ
01:41:33 → 01:41:40 มีทั้งแบบเป็นมัดกลมๆอะไรต่างๆนะมีหลายๆ เหลี่ยมมีเป็นสามเหลี่ยมสี่เหลี่ยมมีเป็น
01:41:40 → 01:41:46 มัดเป็นเรียวๆอะไรเงี้นะเอ่อเหล่าเเรา เรียกว่ากล้ามเนื้อลายนะฮะนะกล้ามเนื้อ
01:41:46 → 01:41:56 ลายเนี่ยส่วนใหญ่แล้วเขาจะพึ่งพาระบบ ประสาทซาตินะฮะนะาติเป็นหลักมากกว่า
01:41:56 → 01:42:01 พาราซิมพาเทติกแต่กล้ามเนื้อเรียบจะพึ่ง เรื่องของพาราซิมพาเทติก
01:42:01 → 01:42:08 กว่านะฮะทนี้มีมีกล้ามเนื้ออีก 2 กลุ่ม ที่อยู่ระหว่างเรียบกับลายนะฮะก็คือกล้าม
01:42:08 → 01:42:16 เนื้อหัวใจกับกล้ามเนื้อกระบังลมนะะกล้าม เนื้อหัวใจนะมันจะมีการเปลี่ยนแปลงไปใน
01:42:16 → 01:42:21 ทางที่จะเป็นกล้ามเนื้อเรียบส่วนกล้าม เนื้อกับบังลมก็ปิดกล้ามเนื้อระหว่าง
01:42:21 → 01:42:30 เรียบกับลายผสมผสมกันนะฮะนะเนี่ยก้ามเื้อ กระบังลงนะก็จะจะมีลักษณะเป็น 4 กลุ่ม
01:42:30 → 01:42:36 อย่างเงี้นะนะแต่ถ้าเกิดตัดไอ้พวกหัวใจ กับกระบังลมออกไปเนี่ยนะอ่าก็จะมีแต่
01:42:36 → 01:42:44 กล้ามเนื้อเรียบกับกล้ามเนื้อลายนะนะแต่ กล้ามเนื้อที่เป็นตัวเชื่อมโยงนะที่เให้
01:42:44 → 01:42:51 น้ำหนักนะที่ต้องโฟกัสก็คือกล้ามเนื้อลาย นะฮะกล้ามเนื้อลายนะแล้วพบว่ากล้ามเนื้อ
01:42:51 → 01:42:57 ลายเนี่ยจะไปช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำ งานของเลปตินในการเผาผลาญพลังงานนะฮะคือ
01:42:57 → 01:43:05 ไม่ได้ไปสร้างเลปตินแต่ไปเพิ่มในเรื่องนะ อ่าประสิทธิภาพการทำงานของเลปตินอ่าให้มี
01:43:05 → 01:43:12 การเผาผลาญพลังงานเกิดขึ้นแต่ทั้งหมด เนี้ยนะฮะเราก็จะต้องรู้วงจรของความ
01:43:12 → 01:43:18 เชื่อมโยงของกล้ามเนื้อนะซึ่งมันเป็นตัว อ่าเชื่อมโยงระหว่างกายหยาบกายละเอียดนะ
01:43:18 → 01:43:28 หรือเป็นตัวเชื่อมโยงนะฮะระหว่างสมองนะ อ่าอสมองกับเนี่ยกับตัวมันเนี่ยนะฮะเราก็
01:43:28 → 01:43:34 จะมาเกี่ยวข้องกับเรื่องของการกินและ เกี่ยวกับอาหารนะคือขั้นตอนเนี่ยเอาดู
01:43:34 → 01:43:40 อย่างนี้ก่อนนะก็คืออาหารอาหารเหล่านี้ไป ที่ตับจริงงตับเนี่ยก็เป็นกล้ามเนื้อ
01:43:40 → 01:43:50 เรียบนะอย่างนึงอ่ะนะนะอ่าตับก็จะอ่าเกิด การเผาผาสะสมพลังงานแล้วแล้วมีฮอร์โมนนะ
01:43:50 → 01:43:59 ออกมาสั่งการนะนะอ่าแล้วก็มีการกระตุ้น ระบบอัตโนมัตินะอ่าแล้วก็ไปที่สมองเพื่อ
01:43:59 → 01:44:09 ให้เกิดการรับรู้นะอสมองก็ออกคำสั่งผ่าน ระบบประสาทอัตโนมัตินะแต่มาที่กล้ามเนื้อ
01:44:09 → 01:44:17 นะฮะก็คือมีตับนะอ่าแล้วก็มีฮอร์โมนระบบ ประาอัตโนมัติแล้วก็มีสมองออ่าแล้วก็ผ่าน
01:44:17 → 01:44:24 ระบบประสาอัตโนมัตินี้มากล้ามเนื้อนะนะ แล้วกล้ามเนื้อเนี่ยนะก็จะเกิดการสร้าง
01:44:24 → 01:44:33 เกิดการทำลายนะเกิดการซ่อมเกิดการ อ่าการเผาผลาญพลังงานเกิดอะไรต่างๆเหล่า
01:44:33 → 01:44:42 เนี้ยนะฮะนะส่งผลให้หวนกลับมานะที่ว่า เอ่อเนี่ยนะจะมีการหิวการกินการอิ่มและ
01:44:42 → 01:44:51 การเผ่าผลาญนะและเกิดความต้องการอาหารที่ จะอ่ามาปรับจุดนี้นะฮะเเขาบอกว่าวงจรการ
01:44:51 → 01:44:57 เชื่อมโยงก็จะเป็นอย่างนี้นะแล้วเจะให้ ความสัมคัญกับตัวกล้ามเนื้อลายเพราะอะไร
01:44:57 → 01:45:05 นะฮะเพราะอ่าเราจะทำบางสิ่งบางอย่างผ่าน กล้ามเนื้อลายนะเพื่อให้วงจรอันเนี้ยมัน
01:45:05 → 01:45:14 เกิดขึ้นนะฮะมันเกิดขึ้นนะคือปกติเนี่ย ถ้าสมองเสั่งการเนี่ยนะนะเค้าก็เรียกว่า
01:45:14 → 01:45:26 สั่งการในแบบอัตโนมัตินะฮะนะแต่เราอ่ะเรา เนะนะฮะเราก็สามารถที่จะเสริมนะนะเพราะ
01:45:26 → 01:45:33 เราเป็นเป็นผู้กำหนดอ่ะนะได้นะในการจะ เสริมการทำงานของระบบอัตโนมัติผ่านสมองนะ
01:45:33 → 01:45:42 ฮะแล้วเราสามารถเลือกเฟนนะฮะว่าจะกินจะ หิวจะอิ่มจะกินอะไรจะเผาผลาญยังไงนะแล้ว
01:45:42 → 01:45:49 จะกดกำหนดให้ให้ตับให้ฮอร์โมนอะไรต่างๆ เนี่ยมาทำงานนะแต่ก็ต้องมีความรู้นะทีนี้
01:45:49 → 01:45:53 เอาเฉพาะเรื่องกล้ามเนื้อก่อนนะฮะนะอ่า ระบบ
01:45:53 → 01:45:59 การทำงานเเรียกว่า Power movement นะฮะ นะคำว่า Power movement ประกอบไปด้วยการ
01:45:59 → 01:46:08 เทการต้านแรงการคาริโอการทำยึดซินะฮะแล้ว การบานยืดเหยียนะก็จะมี 4 รูปแบบนะะทีนี้
01:46:08 → 01:46:14 ใครจะต้องทำอะไรมากกว่าอะไรอะไรอย่าง เงี้ยนะอันนี้ก็ต้องมีการศึกษานะฮะนะใน
01:46:14 → 01:46:22 ช่วงเนี้นะร่างกายเป็นอย่างเงิดปกติอย่าง เงี้ยนะก็ต้องเวทเทเทนะฮะนะแต่ถ้าไปทำผิด
01:46:22 → 01:46:30 อ่าไปทำคาร์ดิคาร์ดิโออะไรต่างๆนะมันก็จะ ร่างกายมันก็จะเสียมันก็จะจะคือมันก็จะมา
01:46:30 → 01:46:37 เชื่อมต่อวงจรที่ปกติดีๆอย่างเงี้ยไม่ได้ ถ้าเชื่อมต่อไม่ได้นะนะฮอร์โมนต่างๆก็ไป
01:46:37 → 01:46:47 หมดะโดยเฉพาะเลปตินก็ก็ก็ผิดไปนะทำงานไม่ ถูกนะเนี่ยนะสมองจะก่อให้เกิดปฏิกิริยาอ
01:46:47 → 01:46:54 การตอบสนองเป็นวงจรของความหิวกินอิ่มนะ และเผาผลาญสร้างพลังงานและเก็บกัพลังงาน
01:46:54 → 01:47:02 ที่จำเป็นเอาไว้อย่างสมดุนพอดีนะครับผมก็ คือสรุปว่าก็คือคือกล้ามเนื้อต้องมีการทำ
01:47:02 → 01:47:10 งานอย่างถูกต้องประสานงานกับสมองนะเพื่อ จะก่อให้เกิดการกินการหิวการอิ่มและการ
01:47:10 → 01:47:18 เผาผลาญหรือสะสมพลังงานสารอาหารนะแล้วทุก อย่างจะอยู่ในภาวะโฮมสเต sis นะก็จะเป็น
01:47:18 → 01:47:26 เป็นผลทำให้ฮอร์โมนต่างๆนะปกติเนา จริงๆเนี่ยมันมันมันก็แปลงมาจากรูปอันนี้
01:47:26 → 01:47:33 ละฮะนะเนี่ยมีการเสียพลังงานมี Food consumption นะไปที่สมองนะเนี่ยแล้วก็ไป
01:47:33 → 01:47:40 ผ่านระบบศาสตร์ an autonomic nous System นโรฮอร์โมนอะไรต่างๆนะฮะนะแล้วก็
01:47:40 → 01:47:46 มาเกิดอะไรต่างๆในร่างกายเหล่าเนี้ยนะฮะ รวมทั้งมีเรื่องของอินซูลินคอร์ติซอล
01:47:46 → 01:47:52 เอ๊มันมันวนอยู่อย่างเงี้ยนะฮะมันเป็น อย่างงนี้มันก็คือมันเป็นูปมันเป็นวงจร
01:47:52 → 01:47:57 บางสิ่งบางอย่างนะที่จะเกิดขึ้นในเรื่อง ความพอ
01:47:57 → 01:48:08 ดีนะมันก็เอาดูคร่าๆไปนะฮะครับผมครับผม อ่าอันนี้ก็จบเรื่องเลปตินแล้วแต่ว่ามัน
01:48:08 → 01:48:16 จะมีตอนหลังเนี่ยมันมีเรื่องของเอ่อ เรื่องของเค้าเรียกว่างานวิจัยนะในหมอที่
01:48:16 → 01:48:22 เค้าเล่นเรื่องมะเร็งนะฮะแล้วเค้าก็มาเผย แพร่เรื่องอันนี้นะฮะเรื่องผลไม้ที่จะ
01:48:22 → 01:48:30 ช่วยกระตุ้นร่างกายให้มีเพิ่มขึ้นเพื่อ การชะลอไวและการนำมารักษาโรคบางอย่างโดย
01:48:30 → 01:48:37 เฉพาะรวมถึงโรค รมีผลไม้อะไรสร้างสตมเซลนะมันก็เป็นกลุ่ม
01:48:37 → 01:48:46 ผลไม้ที่ไปสร้างเลปตินนี่แหละฮะคือเขาจะ มีสไฟนตัวเด็ดๆต่างๆก็มีแบี่นะะที่ทำงาน
01:48:46 → 01:48:55 วิจัยนะฮะเขาไม่มีแบรี่นะ ก็บแล้วก็บูรี่แมงโก้ก็คือมะม่วงแล้วก็
01:48:55 → 01:49:04 พรุนนะเนี่ยอันนี้เนี่ยเ้าเอาไปทำอะไรเไป ทำ Dr Ed หรือฟีด Dr นะฮะก็คือไปอบแห้ง
01:49:04 → 01:49:14 นะฮะอบแห้งภายใต้ความเครับอ่าแล้วก็ทำ เป็นผงนะก็คือน้ำเนี่ยกับพวกน้ำตาลต่างๆ
01:49:14 → 01:49:22 ทั้งฟุกโสซูโคสแล้วก็กลูโคสเนี่ยมันจะไป พร้อมกับน้ำนะฮะนะการอกแห้งแล้วก็ทำเป็นพ
01:49:22 → 01:49:29 เรียกเป็นผงเนี่ยนะฮะโดยที่น้ำกับพวกน้ำ ตาลอะไรต่างๆที่เราไม่ต้องการเนี่ยนะอมัน
01:49:29 → 01:49:38 ออกไปนะฮะอมันก็เลยเหลือความเป็นผงกับสาร ดีๆนะฮะที่ไม่ถูกทำลายนะก็คือพวกไฟเบอร์
01:49:38 → 01:49:48 ไฟโตนิวเทรียนอะไรต่างๆนะที่เราต้องการ ที่เราต้องการนี่แหละนะฮะอแล้วก็มีตัว
01:49:48 → 01:49:58 อื่นๆเมีซีบอนนะฮะนะก็ซีบอนเนี่ยก็จะมีไข มันนะะก็คือเนื้อมะพร้าวอะโวคาโดมะกอก
01:49:58 → 01:50:09 แนซีบทตอนนี้มี 5 อันแล้วนะที่เป็นผลไม้ แต่เรานับครับผมแล้วตัวบอยบอยบอยบชน
01:50:09 → 01:50:19 เบอรี่มันมีเป็นยังไงบ้าง ครับไนนะมันไม่ไม่เคยไม่เคยได้ยนเคยเห็น
01:50:19 → 01:50:24 บี่ เหรอบี่เป็นราสเบอร์รี่ที่เปรับปรุงสาย
01:50:24 → 01:50:33 พันธุ์นฮะเเอาราสเบอร์รี่กับแบคเบอรี่มา ผสมกันเเรียกว่าบอรี่นะฮะมันจะเป็นสีดำๆ
01:50:33 → 01:50:42 แดงๆนะคือเขาบอกว่าตัวแบรี่เนี่ยมันจะมี ลูกขนาดใหญ่กว่า Black rasberry นะฮะแต่
01:50:42 → 01:50:49 คุณสมบัติมันจะใกล้กันใกล้ๆครับมันจะใกล้ ๆกันนะเพราะฉะนั้น Blackberry เนี่ย
01:50:49 → 01:50:56 อันดับ 1 ที่เราเคยเคยทายปัญหากันในเงา ว่าเบอร์รี่อะไรที่มีสารสาเคมีที่สุดก็
01:50:56 → 01:51:04 คือแบล็คเบอร์รี่นะฮะใช่ครับผมแล้วก็มา แบร์รี่ลองลงมาในปัจจุบันนะอืครับนะเนี่ย
01:51:04 → 01:51:14 นอกจากนั้นแเนนะฮะซีบอนหรือเซนจานะอันนี้ เอันนี้มันอยู่ที่จีนที่ไปชิดกับไอ้พวก
01:51:14 → 01:51:23 ทางอินเดียฮะนะซีรักธรีอืออจแล้วก็มี โกจิเบอรี่หรือเก๋ากี้นะฮะนะมะเกลือเทศ
01:51:23 → 01:51:31 ยอดอ่อนบล็อกโคลี่นะกาแฟชาดำอสัชาเขียว มัจฉะแล้วก็โกโก้นะเนี่ยสิ่งเหล่านี้
01:51:31 → 01:51:39 เนี่ยมันช่วยเพิ่มสเต็มเซลล์นะไปกระตุ้น นะเ่อการเพิ่มสเตมเซลล์ได้นะฮะแต่ว่าเตม
01:51:39 → 01:51:46 เซลล์เนี่ยมันถูกยับยั้งการสร้างโดยโดย อะไรโดยน้ำตาลเกลืออุตสาหกรรมนะ ldl type
01:51:46 → 01:51:52 B บุหรี่แอลกอฮอล์ 5 อย่างนี้ยับยั้ง สเต็มเซลอถ
01:51:52 → 01:52:00 ว่าสเต็มเซลล์หรือเซลล์ตัวอ่อนเนี่ยมัน อยู่ในระบบน้ำ
01:52:00 → 01:52:08 อะไรน้ำเหลืองครับผมเออสเต็มเซลล์ส่วน ใหญ่เนี่ยนะมันก็คืออะไรมันก็คือเรารู้
01:52:08 → 01:52:17 จักโบนแรก็คือไขกระนะเก็จะไปเต็มเซลล์ที่ ไขกระดูกกันเป็นส่วนใหญ่ใช่มั้ยละแต่จริง
01:52:17 → 01:52:23 ๆแล้วในร่างกายคนเราเนี่ยนะเราก็มี สเตมเซลล์นะที่ไม่ได้อยู่ที่ตัวกระดูก
01:52:23 → 01:52:29 อย่างเดียวนะฮะนะอวยวะอื่นๆมันมีนะแต่พวก สเตมเซลล์เหล่านี้เนี่ยเป็นเซลล์ตัวอ่อน
01:52:29 → 01:52:37 นะฮะนะมันจะอยู่รวมกันที่ระบบน้ำเหลือง ระบบน้ำเหลืองอืครับผมน้ำเหลืองตีเดดเลย
01:52:37 → 01:52:46 ครับเอแล้วเวลาที่เขาจะไปสร้างไปซ่อมอะไร อย่างเงี้ยนะเขาก็จะต้องอพยพจากระบบนเข้า
01:52:46 → 01:52:53 สู่ระบอบเลือดนะแล้วกระจายออกไปที่เป็น ซ่อมแซงอวัยวะต่างๆนะแต่แต่บ้านของเขา
01:52:53 → 01:53:02 เนี่ยหรือแหล่งนะที่อยู่นะที่เขาปลอดภัย ที่เขาอยู่แล้วนะเขาแบ่งตัวเสร้างตัวเองเ
01:53:02 → 01:53:08 ปรับตัวเองให้ให้แข็งแรงดีๆได้เนี่ยก็ อยู่ในระบบน้ำเหลืองระบบน้ำเหลืองครับผม
01:53:08 → 01:53:18 เพราะฉะนั้นเนี่ยพวกกลุ่มสารพฤกษาเคมี ต่างๆเเหล่านี้เนี่ยนะฮะนะนะก็เอ่อในการ
01:53:18 → 01:53:25 กินเนี่ยก็จะต้องมีอะไรนะก็จะต้องมีการ กินในแบบ ow C High Good Fat TE Oil
01:53:25 → 01:53:31 หรือต้องมีกลุ่มน้ำมันสกัดเย็นเนี่ยนะ ซึ่งเป็นไขมันพืชที่ดีนะเพราะว่าสารภาษา
01:53:31 → 01:53:39 เคมีหรือไฟโตนิวเทรียนท์นี้เขาจะต้อง ละลายอยู่ในนะอยู่ในน้ำมันไม่ใช่
01:53:39 → 01:53:46 นาเพราะฉะนั้นเมื่อได้เมื่ออยากให้เต็ม เซลล์เนี่ยแข็งแรงแบ่งตัวเยอะๆนะฮะแล้วจะ
01:53:46 → 01:53:56 ได้ได้ได้ได้ถูกนำออกมานะฮะเพื่อที่จะมา มามารักษาโรคนะรวมถึงการมารักษามะเร็ง
01:53:56 → 01:54:05 เนี่ยนะเขาก็จะต้องเนี่ยมีการใส่นะสิ่งดี ๆที่เป็นสารรษาเคมีนะอยู่ในรูปของความ
01:54:05 → 01:54:14 เป็นอาหารที่ละลายในน้ำมันน้ำมันที่ ดีแต่ว่าเห็นมตัวขาดขวางเคือน้ำตาลเกลือ
01:54:14 → 01:54:22 เออเกลืออุตสาหกรรมนะฮะนะ ldm ไ B ldm TY B เกิดจากอะไรก็เกิดจากอิซูดินน้ำ
01:54:22 → 01:54:29 ตาลนะนะที่ไปทำให้ตัว ldl typ a เปลี่ยนโครงสร้างนะฮะมันก็คือไม่พ้นของ
01:54:29 → 01:54:36 พวกนี้นะแล้วก็ยังมีมูอิสระจากบุหรี่กับ แอลกอฮอล์นะในปัจจุบันเนี่ยก็จะมีกลุ่ม
01:54:36 → 01:54:44 อาหารเสริมอะไรต่างๆนะฮะนะที่เป็น berry Mix นะก็คือเป็นเอ่อ Ed Dr นะฮะ Ed Dr
01:54:44 → 01:54:50 หมดนะฮะนะแต่ว่าก็ต้องดูข้างกระป๋องนะฮะ นะคือด้วยตัวของเบอร์รี่ต่างๆที่เป็น
01:54:50 → 01:54:55 เบอร์รี่ Plus เนี่ยนะที่มาทำเป็นพวก ออร์แกนิคอ่าสำเร็จรูปอะไรต่างๆแล้วมาให้
01:54:55 → 01:55:02 เรากินเนี่ยนะแต่ผู้ผลิตเนี่ยที่ไม่เข้า ใจในเรื่องของสุขภาพต่างๆก็จะไปเติมของ
01:55:02 → 01:55:10 บางสิ่งบางอย่างเข้าไปโดยเฉพาะโทคินอ่าซู คาโรนะหรือไปเติมสารที่มันปรุงแต่งอะไร
01:55:10 → 01:55:18 ต่างๆสีกลิ่นรสอะไรเงี้ยนะมั่วนะฮะเพราะ ฉะนั้นเราต้องเลือกดีๆเลือกดีๆนะ
01:55:18 → 01:55:25 นะแพง ก็หมดแล้ว
01:55:25 → 01:55:31 นะ อ่าหมดแล้วอันนี้อนี้พูดไป
01:55:31 → 01:55:41 แล้วก็มีเคสนะนะที่อ่าจะมาคุยเสริมๆกัน 2-3 เคสเนี่ยพวกเนี้ยไม่เยอะหรอกนะฮะลอง
01:55:41 → 01:55:51 ดูไปก็ได้เนาะนะครับผมก็คือคราวที่แล้ว เนี่ยเราก็เราก็อ่าตัดในเรื่องคำถามนะของ
01:55:51 → 01:56:00 เคสไปนะอย่างอันเนี้ยประมาณ 3-4 เคสเนี่ย นะฮะนะรบกวนสอบถามค่ะตอนนี้ ow C High
01:56:00 → 01:56:08 โปรตีนอยู่นะก็คือคนนี้เก็ไม่รู้จัก เรื่อง High Fat นะเอ่อน้ำหนักลดลง 6 กล
01:56:08 → 01:56:17 อ่าสัดส่วนก็ลดนะน้ำตาลสะสม 5.6 ก็ดีนะฮะ ก็ก็เพราะว่าเป็น ow คาฟนะแล้วก็ไฮโปรตีน
01:56:17 → 01:56:26 อแต่พลังงานไม่รู้พอไม่พอก็ไม่น่าจะพอนะ แต่ทำไมไขมันพุ่งเลยล่ะคะเออคอเลสเตอรอล
01:56:26 → 01:56:35 300 ไกไล 155 นะ hdl 67 ldl 200 แล้ว จะต้องปรับอาหารอะไรเนี่ยก็กินอ่าเป็น
01:56:35 → 01:56:46 สะโพกไก่เ่อหมูสันในนะแล้วก็ปลาแล้วการ ปรุงก็ใช้การกิวนะฮะเการกิวกับการต้มซึ่ง
01:56:46 → 01:56:54 ใช้น้ำมันน้อยมากอันนี้ก็ไม่มีน้ำมันนะฮะ เนี่ยการกิวนะฮะนะก็คือเอาไฟเหมือนไฟแช็ค
01:56:54 → 01:57:01 อ่ะมาฉีดอ่าเอาทาน้ำมันพ่นน้ำมันนิดๆ หน่อยๆนะเนี่ยให้มันสุกเลี่ยงอ่ะเลี่ยง
01:57:01 → 01:57:07 น้ำมันเต็มที่นะก็จะเรียกว่าคนนี้ก็คือ กิน low C High โปรตีน and very low
01:57:07 → 01:57:14 Fat อ่าเพราะฉะนั้นถ้าเห็นในลักษณะนี้ โดยเฉพาะสะโพกไก่หมูสันในอันนี้ก็คือ
01:57:14 → 01:57:22 โปรตีนไขมันต่ำนะเพราะฉะนั้นคนนี้เขา เลี่ยงไขมันนะเอ่อแล้วทำไมไขมันโดยเฉพาะ
01:57:22 → 01:57:29 ไตกสไลนมันพุ่มขึ้นอย่างเงี้เนาะใช่อ่า เพราะฉะนั้นผลแหลบอวันนี้เราลองไปดูอัน
01:57:29 → 01:57:41 นี้นะฮะนะไปดูในตารางนะเนี่ยก็คือโตคสอ 300 นะไกีซ 155 อ่าเราจะมีภาอินซูลิน
01:57:41 → 01:57:48 นะแล้วก็มีเลนเกินอ่าแล้วก็มีโปรตีนเกิน นะ
01:57:48 → 01:57:57 ฮะแต่ดูโปรตีนจะเกินไม่มากเนาะ นะห่างจาก 0 ไปแค่ -3 เองนะเพราะถ้าลบ
01:57:57 → 01:58:05 เยอะๆนี่โปรตีนเกินมาก นะส่วนไอ้ไขมันอิ่มตัวเนี่ยที่เกินเนี่ย
01:58:05 → 01:58:12 จากสัตว์เนี่ยก็ไม่ได้เกินเยอะนะฮนะก็คือ เกิน 19 ไป 33 นะส่วนใหญ่มันน่าจะพ้วน
01:58:12 → 01:58:19 เพี้ยนอยู่แถวๆ 10 อ่ะนะอันนี้มันก็เกิน ไปนะเพราะฉะนั้นจะเห็นเนี่ยว่ามันแดงไป
01:58:19 → 01:58:25 หมดเลยที่บอกว่าโปรตีนเกินนะนะแล้วก็เลน ก็เกินนะเพราะงั้นทั้งโปรตีนและเลนเกิน
01:58:25 → 01:58:32 เนี่ยคอร์ติซอลเก็จะออกมานะเพื่อเพื่อจะ เปลี่ยนสิ่งเหล่าเนี้ยทั้งโปรตีนทั้งไข
01:58:32 → 01:58:40 มันอิ่มตัวจากสัตว์เนี่ยไปเป็นพลังงานนะ ฮะแล้วก็การเปลี่ยนเนี่ยนะก็เปลี่ยนไปได้
01:58:40 → 01:58:46 ระดับนึงนะแต่พอดีพลังงานเนี่ยมันเอาไป ใช้งานไม่ได้นะมันก็เลยลอยเท้งเต้งไปไป
01:58:46 → 01:58:53 กสลอยู่ในกระแสเลือดเวลาเจาะเลือดมันไม่ เกิน 100 นะฮนะแต่ตอนนี้เนี่ยเหมือนจะ
01:58:53 → 01:59:02 เริ่มเอ่อกลับมาดื้ออินซูลินด้วยแล้วนะฮะ จะเห็นว่าตัดอ่อนเนี่ยนะเอ่อเริ่มอ่า
01:59:02 → 01:59:11 สร้างอินซูลินออกมาเยอะขึ้นเรื่อยๆแล้วนะ ฮะเนี่ยอันนี้อันนี้สำคัญที่สุดเนี่ยขอ
01:59:11 → 01:59:19 ให้กลับไปดูที่ประวัติก็คือในประวัติทั้ง หมดเนี่ยก็คือคนๆนี้กินไขมันน้อยมากนะกิน
01:59:19 → 01:59:25 ไขน้อยมากเพราะฉะนั้นช่องเล็มนั้นที่ว่า มีปัญหาคล้ายๆไขมันเกินเจริงๆแล้วเนี่ย
01:59:25 → 01:59:33 มันเป็นลักษณะเหมือนกับว่าไขมันมันจะขาด ไปด้วยล่ะไม่ได้เกินหรอกนะคือไขมันมันไม่
01:59:33 → 01:59:39 ไม่ปกติอ่ะเหมือนกินผิดแหละเเรียกว่าเอ่อ ช่องเนี้ยเ่อส่วนใหญ่เนี่ยนะมันจะเป็น
01:59:39 → 01:59:45 ลักษณะเกินแบบเพราะว่ากินผิดนะฮะคือ เหมือนกินไขมันไปแต่ไขมันเอาไปผผ่านพลัง
01:59:45 → 01:59:51 งานไม่ได้ก็เลยเอาไปเก็บก็ไม่ได้เพราะว่า อินซูลินก็ไม่มีนะมันก็เลยลอยอยู่ในกระแส
01:59:51 → 01:59:57 เลือดไสไลมันก็เลย 155 นะแล้วพวกโปรตีนเกินก็เป็นโปรตีนที่
01:59:57 → 02:00:04 กระตุ้นอินซูลินนั้นเลยอสะโพกไก่อย่าง เงี้ยหมูสันในนะหรือก็ปลาอย่างเงี้ยนะฮะ
02:00:04 → 02:00:11 นะเขาไม่กินโปรตีนเนื้อสัตว์ใหญ่ที่มีไข มันสูงอะไรเลยนะหรือแม้แต่โปรตีนไขมันปาน
02:00:11 → 02:00:17 กลางพวกไข่ก็แทบจะไม่กินเลยมั้งเนี่ยคน เนี้ยไม่เห็นมีคำว่าไข่เลยเอ่อทั้งที่
02:00:17 → 02:00:23 ทั้งๆที่ถ้ากินไข่เนี่ยค่าแลบมันจะดีกว่า นี้ด้วยเออเห็นมเพราะฉะนั้นเนี่ยเราจะ
02:00:23 → 02:00:31 เห็นว่าน้ำหนักลดสัดสวนลด a1c ก็ดีแต่นะ แต่เรื่องของระบบพลังงานสารอาหารมันผิด
02:00:31 → 02:00:41 อ่ะนะก็คือกิน low C High โปตนแล้ว very low Fat นะฮะนะก็เขาก็ไม่รู้หรอกนะฮะนะ
02:00:41 → 02:00:47 เพราะ ว่าก็ก็ก็หาทางไปเรื่อยๆแหละนะมันจะผิด
02:00:47 → 02:00:54 ปกติยังไงต่อก็ไม่รู้ละนะฮะนะถ้าไม่เข้า ใจนะเพนั้นเรื่องเหล่านี้นะต้องมีองค์
02:00:54 → 02:01:02 ความรู้และมีการทำความเข้าใจแล้วไปแก้ หรือไปปฏิบัติที่ถูกนะนะค่าแลบก็ในตาราง
02:01:02 → 02:01:10 มันเป็นอย่างงนี้นะเอ่อมันก็ไม่ได้ดีอนะ ฮะนะโดยเฉพาะไกิลที่ขึ้นนะ
02:01:10 → 02:01:19 อ่าอันนี้ก็คือปกติต้องไม่เกิน 100 นะฮะ นะแต่กสลเนาะแล้วนี่คนนี้อีกคนนึงนะนะ
02:01:19 → 02:01:26 คอเลสเตอรอล คอเลสเตอรอลอะไรก็ไม่รู้นะฮะ ldl ผมเกือบ
02:01:26 → 02:01:33 500 ผมออกกำลังกายเกือบทุกวันเลี่ยงแป้ง น้ำตาลมาปีนึงแล้วนะผมเข้าใจว่า
02:01:33 → 02:01:40 คอเลสเตอรอลไม่ใช่สาเหตุของโลกและ ldl ที่สูงเนี่ยก็เพราะว่าผมีนผมรีนนะออก
02:01:40 → 02:01:52 กำลังกายจนีนหรือผอมสมส่วนอะไอย่างี้แหละ นะฮะแต่ก็แอบกมนว่านะตัวนะเนี่ย ldl ผม
02:01:52 → 02:02:01 เกือบ 500 แล้วนี้โติปาเข้าไปจะ 700 เหรอ 600 กว่า 700 เนาะอืครับผมแล้วเก็ไปแอบ
02:02:01 → 02:02:07 ปลอบใจก็ว่าเอ้ยเขาก็แอบปลอบใจว่ารู้นะ คอเลสเตอรอลเนี่ยไม่ได้เป็นสาเหตุของโลก
02:02:07 → 02:02:14 อะไรหรอกนะฮะแล้วที่ปฏิกิริยาการตอบสนอง ที่ค่าบ ldl มันขึ้นไป 500 เนี่ยเพราะว่า
02:02:14 → 02:02:23 เขอมเออแล้วก็มาบอกว่าแต่ก็แอบกังวลว่า ตัวเลขมันจะสูงไปไครับ
02:02:24 → 02:02:29 ก็คือก็หลักๆก็คือน่าจะเป็นการกินผิดนี่ แหละนะนะ
02:02:29 → 02:02:35 เออก็คือออกกำลังคงออกกำลังกายเรทานเนี่ย นะแต่ what to eat เนี่ยมันคืออะไรต้อง
02:02:35 → 02:02:41 มีรายละเอียดนะนะก็อันนี้มีมันเหมือนกับ มาเล่าสู่กันฟังเเรียกว่าอย่างงั้นก็เล่า
02:02:41 → 02:02:51 มาก็เล่าก็ก็ไม่รู้จะว่ายังไงก็เอก็แล้ว แต่จะคิดเอ่านะอ่ะมาดูคนนี้ดีกว่าเออคน
02:02:51 → 02:03:01 นี้สีขาวๆนะอ่าสีขาวๆบ้างนะฮะเ่าสีขาวๆคน นี้ก็เลื่อนมาอันนี้เลยเนาะเนี่ยเขบอกสอบ
02:03:01 → 02:03:08 ถามพี่ๆในกลุ่มหน่อยนะในกรณีที่ไขมันใน เลือดสูงมากเอ่อคอเลสเตอรอลเกือบ 400 ldl
02:03:08 → 02:03:16 300 เกือบ 300 ไกิสไลน 120 hdl 80 กว่านะพี่ในกลุ่มมีใครเป็นกังวลแล้วต้อง
02:03:16 → 02:03:27 ทานยาลดไขมันไหมครับแล้วถ้าไม่อยากทานยา ลดไขมันจะมีวิธีอ่าที่จะเอาคอสเอ้เอา ldl
02:03:27 → 02:03:37 ลงลงมาค่าปกติเอ่อเอกลับคอเลสเตอรอลลงมา ได้ไหมครับขอคำแนะนำรูปร่าง
02:03:37 → 02:03:43 ผอมคือเขาก็ไม่บอกอะไรเลยอ่ะนะฮะนะก็ เหมือนเฟี้ยงตัวเลขมาว่านี่นะของชั้น
02:03:43 → 02:03:54 Total คสอ 366 ldl เกือบ 300 อ่ะ 275 นะไกไล 120 แล้ว hdl 83 แล้วฉันผอมนะม
02:03:54 → 02:04:01 แล้วก็มามาอะไรรายละเอียดเกี่ยวกับว่าจะ เอาลงดีไม่ดีต้องกินยามยนะมีใครเป็นยังไง
02:04:01 → 02:04:08 กันบ้างช่วยบอกกันมาทีใช่ครับยังไม่บอก การกีว่ากินอะไรแบบไหนเลยครับนั่นแหละ
02:04:08 → 02:04:14 เนี่ยเราก็มาเทียบตารางก็อย่างเงี้ยนะฮะ นะแล้วก็จะเห็นว่าค่าทุกอย่างก็ดีนะฮะเลม
02:04:14 → 02:04:22 แน้น 8 นะแล้วก็ตัวอโปรตีนอะไรต่างๆก็ดู ดีนะนะก็คือสรุปว่าว่าเหมือนเคกินถูกแล้ว
02:04:22 → 02:04:31 ล่ะแล้วร่างกายตอนนี้ก็เป็น Fat burner นะฮะแต่ทำไมอ่าไตกิลมัน 120 ก็ไม่รู้นะฮะ
02:04:31 → 02:04:40 แล้วก็ผอมเผอมเนี่ยนะคอเลสเตอรอลก็น่าจะ ออกมาแล้วล่ะนะฮะออกมาว่าการในคนผอมๆ
02:04:40 → 02:04:46 เนี่ยคอเลสเตอรอลมันไวนะที่มันจะต้องออก มาบริหารจัดการนะก็น่าจะกินโลคราฟน่าจะ
02:04:46 → 02:04:53 ตัดอินซูลินไปแล้วอ่ะนะเพราะฉะนั้นไตคซ มันสูงเพราะเพราะคอร์ติซอลนะนะน่าจะเป็น
02:04:53 → 02:05:01 การเก็บสะสมพลังงานนะนะแต่มันก็เอาไปเก็บ อะไรไม่ได้เพราะอินซูลินมันน้อยนะนะมันก็
02:05:01 → 02:05:07 เลยลอยอยู่ในกระแสเลือดอยู่อย่างนั้นแะนะ นะแต่กีลมันคั่งนะเพราะร่างกายเป็นแฟต
02:05:07 → 02:05:15 เบอร์เนอร์อยู่นะแต่คอร์ติซอลเนี่ยเอก็ กึ่งๆเผาผลาญไปด้วยเก็บสะสมไปด้วยแต่ก็
02:05:15 → 02:05:20 ไม่รู้จะเก็บยังไงเพราะว่ากระตุ้น อินซูลินอินซูลินก็ไม่ค่อยจะมาหรือมาไม่
02:05:20 → 02:05:31 พอนะนะเนื่องจากเถูกกดไว้ด้วยปัญหาเรื่อง โคฟ่ะกินกินโคฟอยู่นะอไม่มีรายละเอียด
02:05:31 → 02:05:41 อื่นก็ยากนะฮะครับไอ้คนเยคนเนี้เค้า inbox เข้ามาถามผมเหมือนกันนะครับอ้าเคเค้าเเ
02:05:41 → 02:05:48 เป็นเค้าเป็นนิ่วมาก่อนแล้วเค้าก็นิ่วหาย ไปแล้วอยู่ดีๆมันก็หายไปเองนะครับคือคือ
02:05:48 → 02:05:56 ก่อนก่อนหน้าเนี้ยที่เค้ามามาบ่นเรื่อง นิ่้วแล้วแล้วเก็อบมาถามในเพจเนี่ยแหละ
02:05:56 → 02:06:01 แล้วก็บอกว่าให้กินไขมันกินอะไรไปเนี่ย เค้าก็ไปกินได้กินไขมันสัตว์หรืออะไรคิดน
02:06:01 → 02:06:08 ได้พักนึงมั้งแล้วเก็บอกมันอยู่ดีๆมันก็ หายไปเองนิ้วที่ไหนถุงน้ำดีนิวถุงน้ำดี
02:06:08 → 02:06:16 ครับถุงน้ำดีแล้วตอนนี้เมีปัญหาเรื่องว่า ค่าไต่มันลงจาก 90 กว่าๆลงมาเหลือ 80 8
02:06:16 → 02:06:22 8 80 80 กลางๆแล้วกันครับออ 80 กลางๆ อายุ 32 เออ
02:06:22 → 02:06:30 ครับแล้วก็มีปัญหาเรื่องเอ่อคนละย้อนอะไร อย่างเงี้ยระบบลำไส้มันแปรป่วนอย่างเงี้ย
02:06:30 → 02:06:37 ผมก็บอกให้เขาคกินทีออยก็ก็บอกไปตั้งแต่ ตอนนู้นะตอนตอนที่ inbox มาถามในเพจอ่ะ
02:06:37 → 02:06:45 ครับแล้ววันนี้เคก็อินบประถามอีกผมก็เลย บอกให้กินทีออยในเมื่อนิก็ไม่มีแล้วก็กิน
02:06:45 → 02:06:54 ได้เลยเออครับนะนั่นแหละมันมันอตับน่ะอ่า เขเรียกว่าระบบทอดน้ำดีตับเี่มันสร้างน้ำ
02:06:54 → 02:07:02 ดีได้เยอะๆแล้วน้ำดีที่สร้างเป็นน้ำดี คุณภาพมันก็จะมาล้างหรือมาละลายนิ่วนะ
02:07:02 → 02:07:07 ซึ่งการเกิดนิ่วเนี่ยมันเพราะว่าอะไร เพราะว่าน้ำดีเพราะว่าคอเลสเตอรอลไม่ดี
02:07:07 → 02:07:15 เพราะว่ามันมีสารเหนียวๆนะจากโปรตีนจาก อ่าพวกไขมันนะ
02:07:15 → 02:07:23 นะแต่ถ้าได้ไขมันดีแล้วก็ได้คอเลสเตอรอล ที่ดีนะพวกนี้มันก็ก็จะเกิดการอ่าการแปร
02:07:23 → 02:07:30 เปลี่ยนน่ะนะจากการตกตะกอนเป็นนิ่้วก็จะ เกิดการขับนิ่วต่างๆที่เป็นระดับแบบเม็ด
02:07:30 → 02:07:39 ทรายอ่ะนะนะออกไปได้หมดนะมันก็จะเคลียร์ ไปเลยนะคือนิ่วที่อ่าขนาดเนี่ยมันไม่เกิน
02:07:39 → 02:07:47 มันไม่ใหญ่เกินไปอ่ะคือไม่เกิน 1.2 ซมน่ะ นะฮะมันมีโอกาสที่จะสลายละลายได้ทั้งๆที่
02:07:47 → 02:07:54 มันอยู่ในท่อน้ำดีถุงน้ำดีอนะ ออืครับคือตอนนี้เกังวลเรื่องค่าไขมันสูง
02:07:54 → 02:08:00 แล้วก็น้ำหนักของเขาน้อยเค้าก็ทำยังไงน้ำ หนักเขาก็ไม่ขึ้นแล้วก็เรื่องของกดไหย้อน
02:08:00 → 02:08:08 อะไรอย่างงี้อีก โอครับก็น่าจะเป็นทรงประเภทไทรรอยด์นะอ
02:08:08 → 02:08:17 ครับผมแล้วก็มากวลเรื่องค่าไตอีกมีอูแต่ ค่าไต 80 กว่าโอไม่ต้องไปกังวลเลยนะนะ
02:08:17 → 02:08:23 ครับผมถ้าจะกังวลขอให้มันร่วงลงมาใกล้ๆ 60 หรือต่ำกว่า 6 6 นิดหน่อยก่อนนะก็เป็น
02:08:23 → 02:08:32 ลักษณะ ckd typ a ก่อนนะถ้ามันนิดๆ หน่อยๆ 80 กว่า 80 ต้นๆไม่ต้องไปกังวลนะ
02:08:32 → 02:08:41 นะยังว่าเอ้ออยู่ในเกณฑ์เไหวไม่ได้น่าจะ เดือดร้อนเลยหรอกือ
02:08:42 → 02:08:52 32 ให้มันมาปุ้นเปี้ยนใกล้ๆ 60 อ่ะเออก็ให้พลังงานถึงสารอาหารถึงถึงแล้ว
02:08:52 → 02:08:57 กินมาในรูปแบบนี้นะในรูปแบบที่มันเป็น อาหารจริงไม่แปรรูปแล้วก็ low C High
02:08:57 → 02:09:04 Good Fat จะทอยไม่ทอยเนี่ยได้ทั้งนั้น นะฮะแล้วค่อยๆปรับกันไปแต่ถ้าทอยได้ตั้ง
02:09:04 → 02:09:07 แต่ช่วงแรกๆเลยก็
02:09:10 → 02:09:20 ดีก็ถ้าจะให้ดีที่สุดเขาต้องเข้าคีโตสิส ให้ได้นะนะมันถึงจะไปอีกสต็ปนึงนะจาก fash
02:09:20 → 02:09:28 adap ไปเป็นคียโ adapt นะนะแล้วเนี่ยมัน ถึงจะลด Total คอสอกับ
02:09:28 → 02:09:35 ldl แต่ในเบื้องต้นเนี่ยหมอว่าน่าจะต้อง รักษาเรื่องกดไหลย้อนก่อนนะ้าจะรักษากด
02:09:35 → 02:09:43 ไหลย้อนก็ต้องให้สารอาหารที่มีความเป็นกด ธรรมชาตินะ 2 รูปแบบเข้าไปก่อนก็คือกด
02:09:43 → 02:09:49 เปรี้ยวกับกดไม่เปรี้ยวสำคัญคือกดไม่ เปรี้ยวก็คือกดอะมิโนกับกดไขมันเพราะ
02:09:49 → 02:09:55 ฉะนั้นก็ต้องกินโ High Oil นะฮะส่วนกดเปรี้ยวก็น้ำส้มสายชูหมาก
02:09:55 → 02:10:04 แอปเปิ้ลแล้วก็มะนาวนะฮะก็คือต้องมีทั้ง กดซิติกกดอะซิติกกดมาริกนะฮะ
02:10:04 → 02:10:14 นะพวกเนี้ยนะมันถึงจะไปแก้กดไหลย้อนได้นะ ทั้งกดไม่เปรี้ยวคือกดอะมิโนกดไขมันและกด
02:10:14 → 02:10:20 เปรี้ยวนะ เ่อกดเปรี้ยวเนี่ยก็พยายามเจือจางไปในน้ำ
02:10:20 → 02:10:28 ซุปต้มกระดูกอยู่กับเกลือ 3 สีนะสีแดงสี ดำแล้วก็สีเทา
02:10:28 → 02:10:37 ๆนั่นแหละนะพวกเนี้ยนะมันจะไปปรับสภาพ ความเป็นกดที่อยู่ในกระเพาะ
02:10:37 → 02:10:45 นะก็คือปรับอะไรปรับไฮโดรเจนไอออนกับปรับ คลอไรด์ให้มันเป็น hcl นะไฮโดรคลอริก
02:10:45 → 02:10:51 แอซิดนะที่ปกติอ่าไฮโดรคลอลิกแอซิดที่ ปกติก็คือพี
02:10:51 → 02:11:01 1-3 นะฮะตอนนี้ก็เป็นกดไหลย้อนตัวพีน่า จะเกิน 3 ก็คือความเป็นกดอ่อนลงนะหรือ
02:11:01 → 02:11:11 ปริมาณน้อยลงนะเพราะฉะนั้นฟคนะหรือ เอ่อการสะท้อนกลับมาที่กล้ามเนื้อหูรูด
02:11:11 → 02:11:19 ระหว่างหลอดอาหารกับกระเพาะอาหารเนี่ยมัน จะมันจะไม่ไม่อะไรไม่ไม่ contact ไม่หด
02:11:19 → 02:11:26 ตัวแล้วปิดสนิทมันจะอดตัวแล้วมันก็ยัง หลวมๆอยู่เพราะฉะนั้นเนี่ยมันเลยเกิดการ
02:11:26 → 02:11:34 กระฉอกของกฎขึ้นมากลายเป็นกดไห ย้อนงั้นกฎไหย้อนเนี่ยนะ 3 เรื่องอันดับ
02:11:34 → 02:11:44 ที่ 1 นะก็คือต้องปรับสภาพความเป็นกฎใน กระเพาะให้ให้มีปริมาณฮะและให้มีตัวพีนะ
02:11:44 → 02:11:51 ที่ดีที่สุดให้ได้ก่อนนะฮะด้วย 2 กฎคือกด เปรี้ยวกับกดไม่เปรี้ยวนะกดไม่เปรี้ยวก็
02:11:51 → 02:11:58 คือสำคัญกว่าคือกดอะมิโนกับกดไขมันก็ต้อง กินแบบโล C High Good กดเปรี้ยวก็คือ 2
02:11:58 → 02:12:09 กดเนี่ยอะซิติกกับกดอ่าพวกซิตินะก็คือน้ำ ส้มใส่ชูมะนาวนะฮะพวกนี้นะแล้วก็ต้องมี
02:12:09 → 02:12:17 น้ำซุปต้มกระดูกซึ่งมันจะมีตัวคอลลาเจนนะ ที่จะมี healing lining อ่าเยื่อเยื่อ
02:12:17 → 02:12:24 บู่ผิวของกระเพาะนะฮะ แล้วก็อันนี้เหล่าเนี้ยสำคัญส่วนจะมี
02:12:24 → 02:12:33 เครื่องเทศสมุนไพรอะไรต่างๆแต่งเติมขมิ้น อะไรต่างๆอ่าได้หมดนะฮะนะขมิ้นขิงอบเชย
02:12:33 → 02:12:39 เ่อพริกไทยอะไรนิดหน่อยอะไรต่างๆพวกเนี้ย ปรุงมาในน้ำซุปส้มกระดูกนแหละน้ำซุปส้ม
02:12:39 → 02:12:47 กระดูก 2 สำคัญต้องกินทุก มื้อแล้วพอความเป็นกดหรือพีมันอยู่ใน
02:12:47 → 02:12:54 ระดับ 1 ถึง 1.5 หรือเ่อไม่เกิน 3 เนี่ยนะก็คือ
02:12:54 → 02:13:02 ประมาณเยระดับ 2 เนี่ยนะ 1.5 -2.5 ได้ เนี่ยนะพวกนี้เนี่ยสิเตอร์กล้ามเนื้อหูหู
02:13:02 → 02:13:08 รูดต่างๆที่เป็นกล้ามเนื้อเรียบมันจะหด ตัวโดยอัตโนมัติเลยแล้วจะไม่เกิดการ
02:13:08 → 02:13:14 กระฉอกของกดอ่าเราก็จะไม่มีอาการแบบฮารด เบินอะไรต่างๆหรือมันกระฉอกขึ้นมาถึง
02:13:14 → 02:13:23 กล่องเสียงคอหอยอะไรต่างๆพวก นี้แล้วหลังจากนั้นก็ต้องมีการฝึกการหาย
02:13:23 → 02:13:30 ใจเพื่อให้กล้ามเนื้อกระบังลมมันแข็ง แรงให้กล้ามเนื้อกระบังลมมันแข็งแรงพอ
02:13:30 → 02:13:35 กล้ามเนื้อกระบังลมมันแขงแข็งแรงเนี่ยมัน จะเป็นกล้ามเนื้อที่ไปซัพพอร์ตกล้ามเนื้อ
02:13:35 → 02:13:42 หูรูดนะที่บริเวณรอยต่อของหลอดอาหารกับ กระเพาะอาหารอ่ามันจะยิ่งแน่นยิ่งกระชับ
02:13:42 → 02:13:50 ก็คือไอ้วงหูรูดเนี่ยทั้งภายในภายนอกนะ มันจะยิ่งบีบกันกระชับกันมากนะก็กดละย้อม
02:13:50 → 02:13:56 ก็จะหายไป แล้วครับก็คือต้องหายใจด้วยท้องใช่มั้ย
02:13:56 → 02:14:03 ครับก็ใช่ใช่คือเอ่อไม่ห้ามหายใจด้วยปาก หายใจด้วยจมูกครับนะจะเป็นฝึกล้ามเนื้อ
02:14:03 → 02:14:10 กระบังลมนะหรือเป็นการฝึกการหายใจด้วย ช่องท้องเพราะถ้าหายใจด้วยปากนะมันก็จะ
02:14:10 → 02:14:15 เป็นการหายใจด้วย intercostal Muscle คือกล้ามเนื้อทรวงอกนะไม่สามารถกล้าหายใจ
02:14:15 → 02:14:22 ด้วยกล้ามเนื้อท้องกล้ามเนื้อกบังลมได้ หายใจแต่ว่าเ่าไอ้ระบบหายใจเนี่ยก็ยัง
02:14:22 → 02:14:27 เป็นรองนะฮะนะสำคัญที่สุดอันดับหนึ่งคือ ต้องกินโค High Good Fat เพื่อให้ได้กด
02:14:27 → 02:14:35 อะมิโนกับกดไขมันนะเพราะว่าจะเป็นที่มา ของไฮโดรเจนไอออนกับคลอไรด์นะที่จะไปเป็น
02:14:35 → 02:14:42 ไฮโดรคลอริกแอซิดที่มีประสิทธิภาพแล้ว ไฮโดรคลอริกแอซิดในกระเพาะของคนเรามันก็
02:14:42 → 02:14:47 จะมาจากสิ่งเหล่าเนี้ยแต่ทีนี้คุณไปทำลาย ไฮโดรคลอริกแอซิดด้วยอะไรอ่ะด้วยการกิน
02:14:47 → 02:14:56 ข้าวกินผลไม้นะเอกินพวกอะไรต่างๆอ่ะที่ มันมันบอกว่ามันเป็นโด่งเป็นด่างอ่ะนะ
02:14:56 → 02:15:02 แล้วก็ไปกินยารสกดแล้วก็ไปกินไอ้พวก เครือบกระปงกระเพาะอะไรต่างๆพวกเนี้ยนะ
02:15:02 → 02:15:08 อันนี้ก็ผิดทิศผิดทางไปหมดนะแทนที่จะดี มันก็เลยคาราคาซังอยู่อย่างเงี้ยแล้วคุณ
02:15:08 → 02:15:18 ก็ไปไปหาหมอนมาหนุนไปโอ๊ไปกินยาโรคจิตเวช อะไต่างๆแทนที่จะใช้อาหารเป็นยาให้ถูก
02:15:18 → 02:15:25 ต้องตามหลักการเนี่ยนะ เออเนี่ยกดไลย้อนแก้
02:15:25 → 02:15:34 เงี้ยแล้วรู้มยว่าในงานวิจัยเนี่ยอาหาร อะไน้อที่ทำให้คนเราในทั่วโลกนะฮะในทั่ว
02:15:34 → 02:15:39 โลกเป็นโรคกดไหลย้อนหรือเป็นโรคกระเพาะ เลื้อังมากที่
02:15:39 → 02:15:47 สุดอาหารนั้นคือน้ำตาลครับ้าแปรูปลม้ ผลไม้
02:15:47 → 02:15:58 ฮะผลไม้คือสาเหตุดับ 1 เอ่อของการเกิดโรค กดไหลย้อนและอ่ออ่าโรคกระเพาะเลื้อหลัง
02:15:58 → 02:16:04 เพราะฉะนั้นคนเป็นโรคนี้ห้ามกิน ผลไม้ตัดไปเลยเหมือนเป็นโรคเก๊านัแหละนะ
02:16:04 → 02:16:11 เอ่อไม่กินนะฮะไม่กินกดไย้อไม่กินผลไม้นะ ฮะ
02:16:12 → 02:16:21 นะอาจจะดูแปลกๆนะฮะลองทำดูมันจะได้ผลทั้ง นั้นแหละนะฮะแต่ต้องใจกล้าหน่อยนะฮะ
02:16:21 → 02:16:29 นะอันเนี้ยขั้นเด็ดขาดเลยนะฮะอย่ามี เรื่องของผลไม้พวกพืชผักได้ใบผักเพผัก
02:16:29 → 02:16:36 อะไรต่างๆพอได้แต่ในส่วนที่เป็นผลไม้หรือ เป็นส่วนที่จะเป็นโป้งเป็นแป้งอะไรต่างๆ
02:16:36 → 02:16:46 นะหรือเป็นค้าแปรรูปไม่ได้เลยผลไม้แปรรูป น้ำผลไม้ยิ่งไม่ได้ถึงจะออร์แกนิคถึงจะดี
02:16:46 → 02:16:53 ขนาดไหนอะไรต่างๆก็ไม่ได้นะให้หายดีให้ สนิทก่อน
02:16:53 → 02:17:00 เลยเออก็ไม่ไม่น่าห่วงอะไรหรอกคนเนี้ยคือ ดูแล้วเหมือนเหมือนว่าพอไอ้ตารางพวกนี้
02:17:00 → 02:17:06 มันเขียวๆเหลืองๆเนี่ยนะมันก็ยังยังอยู่ ในเกณฑ์ที่น่าจะดีอยู่หรอกเพียงแต่ว่าเขา
02:17:06 → 02:17:13 เไม่เปิดใจยอมรับว่าอ๋อเป็นอ่า Fat burner นะแล้วก็กินแบบ ow C High Good
02:17:13 → 02:17:19 Fat แล้วก็ร่างกายผอมอ่าเป็นบอดี้ใช้สาย แป้งนะมันก็ต้องตัวเลขมันก็ขึ้นไปอย่าง
02:17:19 → 02:17:29 นี้แหละเอนะอันนี้ก็ต้องเปิดใจรับปรับใจ ยอมรับนะเออว่ามันเป็นเรื่องของคนอในบอ
02:17:29 → 02:17:38 typ แบบนี้กินแบบนี้นะแล้วก็มีแนวทาง ชีวิตทางด้านสุขภาพอย่างนี้นะนะแล้วพวก
02:17:38 → 02:17:46 เนี้ยคำนวณอะไรตอะไรออกมาเนี่ยอย่างเช่น ไอ้อะไรไอ้ิคอสออะไรโค้ชเนี่ยนะนะมันก็
02:17:46 → 02:17:55 ไม่มีปัญหาหรอกนะฮะเแต่ว่าอืมไม่มีปัญหา อะไรหรอกนะ hdl มันก็ 83 นะเพราะเป็นบอ
02:17:55 → 02:18:04 typ สายแป้ง ฮะเอานะเดี๋ยวเราเลยไปก่อนสุดท้ายนี้นะฮะ
02:18:04 → 02:18:13 ว่านะตอนเช้าอ่าไข่ต้ม 5 ลูกอะโวคาโด 1 ลูกนะฮะแล้วเที่ยงเก็กินข้าวกับโปรตีน
02:18:13 → 02:18:20 ส่วนตอนเย็นเนี่ยกินโปรตีนอย่างเดียวอัน นี้ต้องการลดไขมันเพราะว่าหนักตั้ง 90 กล
02:18:20 → 02:18:28 แล้วสูง 100 60 เป็นผู้หญิงนะฮะนะอ่าถ้า หนูทานแบบนี้ลดไขมันกับน้ำตาลได้ไหมคะคุณ
02:18:28 → 02:18:36 หมอก็ตอบหนูเลยว่าลดไม่ได้ยิ่งกินยิ่ง เพิ่มนะอ่าเพราะตอนเช้ากินอะไรเข้าไปอ่ะ
02:18:36 → 02:18:45 นะกินไข่ต้ม 5 ลูกนะฮะนะเอ่อเป็นแบบ โปรตีนน่ะแล้วมาเชื่อมโยงกับเอ่อไขมันดี
02:18:45 → 02:18:55 นะที่เป็นไขมันคงลูกมันพลังงานไม่พออ่ะนะ นะเกินไปก็ไม่แปลกที่เดี๋ยวเที่ยงก็ต้อง
02:18:55 → 02:19:03 หาอะไรกินอีกแล้วนะฮะคือพลังงานไม่ไม่พอ ฮะเยบนนะก็ต้องหาพลังงานมาเติมแล้วหนู
02:19:03 → 02:19:09 เล่นไปเติมกินข้าวกับโปรตีนเนะข้าว กระตุ้นอินซูลินมกระตุ้นจากเซอเลเวล 10
02:19:09 → 02:19:17 เท่าแล้วโปรตีนล่ะโปรตีนก็กระตุ้น 3 เท่า นะโปรตีนกระตุ้น 3 เท่านะเแล้วหนูก็ยัง
02:19:17 → 02:19:23 ขาดพลังงานอยู่ดีอ่ะนะฮะนะแล้วตอนตอนเย็น เนี่ยหนูก็มาใส่แต่โปรตีนเงี้ยนะในขณะที่
02:19:23 → 02:19:31 พลังงานทั้งวันแทบไม่พอนะเออใส่โปรตีน เก่งจังแล้วก็ไม่รู้โปรตีนอะไรแล้วโปรตีน
02:19:31 → 02:19:38 มื้อเย็นเนี่ยนะมันก็ไม่ครบอ่ะนะ คาร์โบไฮเดรตไม่มีนะไขมันมีเปล่าไม่รู้นะ
02:19:38 → 02:19:48 นะหนูก็ไม่หลับนะเอพลังงานไม่พอเออสาร อาหารก็ไม่รู้นะแล้วบอกว่าจะลดไขมันหลด
02:19:48 → 02:19:56 ไม่ได้ฮะนะเพราะไม่มีสามารถปรับตัวเข้า สู่ไอ้เรื่องของการเผาผลาพลังงานได้เลยนะ
02:19:56 → 02:20:03 มันจะกลายเป็นปรับไปในโหมดการสะสมเ่อเก็บ กัดพลังงานน่ะนะแล้วตอนนี้อินซูลินน่าจะ
02:20:03 → 02:20:13 เยอะเลยอ่ะนะฮะนะอินซูลินสั่งการปุ๊บนะ ถึงออกมาน้อยๆเนี่ยนะนะเาก็โอโหนะยกกำลัง
02:20:13 → 02:20:20 เลยล่ะนะฮะนะเทวีจำนวนแบบยกกำลังเเพราะ ฉะนั้นเนี่ยนะหยุดนะเอ่อเผาไม่ได้เผาไม่
02:20:20 → 02:20:31 ได้นะปิดสวิตช์เก็บต่อนะ 90 กลเข้าไปแล้ว นะอันนี้ก็ตอบแบบนี้เอออ้าอันนี้ไม่มี
02:20:31 → 02:20:38 อะไรนี้ฉายไปแล้วนะฮะคือคืออย่าลืมนะว่า ในข้อสรุปอันนี้เป็นข้อสรุปทางด้านของ
02:20:38 → 02:20:46 เอ่อองค์การองค์การรู้สึกจะเป็นองค์การ สหประชาชาติเลยล่ะนะฮะนะในฝั่งของเรื่อง
02:20:46 → 02:20:51 ของการมีสุขภาพดีตั้งแต่ปีที่แล้วแล้ว เนี่ยนะ Healthy Diet เนี่ยนะนะก็คือรูป
02:20:51 → 02:20:59 แบบของโภชนาการนะฮะนะที่จะต้องมีอะไรมี ไฟเบอร์มีไขมันอิ่มตัวอ่าไม่เยอะนะไขมัน
02:20:59 → 02:21:05 อ่าไม่งตัวเชิงเดี่ยวเยอะนะฮะแล้วก็ต้อง มีโอเมก้า 3 เยอะๆนะมีโปรตีนที่เป็น
02:21:05 → 02:21:13 โปรตีนสมบูรณ์แบบแล้วก็มีกลุ่มบเนที่มี ลิวซีนนะฮะนะรดเกลือนะรดเกลือแต่อันนี้
02:21:13 → 02:21:20 ไม่น่าจะไม่ถ้าถ้าในในรูปแบบของเราไม่ได้ เราต้องเพิ่มเกลือนะแล้วก็มีไฟโต
02:21:20 → 02:21:26 นิวเทรียนหรือไ Chemical ด้วยนะแล้ว Healthy di ในลักษณะที่เขาบอกแบบกลางๆ
02:21:26 → 02:21:33 เหล่าเนี้ยก็จะไปช่วยเรื่องพวกนี้นะนะฮนะ นอกจากนี้เนี่ยเจะมีอะไรมีการเสริมเเรียก
02:21:33 → 02:21:41 ว่า Diary restriction ก็คือ If นั่นแนะ If นะฮะแลอันนี้เป็น Exercise Training
02:21:41 → 02:21:49 นะทนี้ If มาดูนิดนึงนะแ restriction หรือ If แล้วก็เป็นโ restriction ด้วยก็
02:21:49 → 02:21:58 คือเป็น moderate โนนะไม่ได้แนะนำให้กิน โปรตีนพวก High โปรตีนในอนะฮะนะนะอ่าใน
02:21:58 → 02:22:04 เรื่องของ Exercise Training เนี่ยก็มี aic arobic นี่จะไปกระตุ้นอ่าการเกิด
02:22:04 → 02:22:12 ประตูกัดโฟนะฮะนะนะเอ่อที่จะ อ่าเอาน้ำตาลเข้าไปเก็บไปไกลโคเจนที่
02:22:12 → 02:22:19 กล้ามเนื้อนะนะแล้วมี resistance tring นะฮะนะแต่ว่าทั้งหมดเนี้ยนะทั้งเรื่อง
02:22:19 → 02:22:26 Exercise กับไไเนี่ยนะฮะนะมันจะมาอยู่ ที่เรื่องนี้นะฮะก็คือ wal adiposity นะ
02:22:26 → 02:22:33 ฮะก็คือการสะสมไขมันที่ viser Space นะ ฮะนะซึ่งอันนี้เป็นเรื่อง Action ของ
02:22:33 → 02:22:41 คิอเพราะฉะนั้นเนี่ยถ้าตรงนี้เนี่ยนะตรง เนี้ยนะข้อสรุปที่สำคัญก็คือนะการที่จะ
02:22:41 → 02:22:48 ปลดอาหารนะหรือทำไโปล Fast ก็ตามนะและการ Exercise เนี่ยต้องระวังควบคุมคอร์ติซอล
02:22:48 → 02:22:58 ให้ดีๆนะนะถ้าทำผิดไปอะไรต่างๆเนะก็จะ เกิดเรื่องของเนี่ยเรื่องของ vis Fat นะ
02:22:58 → 02:23:06 ที่จะเป็นตัวกระตุ้นการอักเสบแล้วผลจาก viser Fat พวกนี้ก็จะมาเป็นอ่าลูกศรที่
02:23:06 → 02:23:11 จะกลายเป็น ascvd นะแล้วก็มีบางส่วนไปในทางที่จะไป
02:23:11 → 02:23:19 เป็นแคนเซอร์ด้วย นะครับผมอืก็เ Healthy di นะฮะอันนี้น่า
02:23:19 → 02:23:27 จะเป็นการควบคุมอินซูลินินนะฮะแต่ส่วน อื่นๆนะฮะนะโดยเฉพาะ If และเรื่องของ
02:23:27 → 02:23:31 Exercise อันนี้จะเป็นการควบคุม คอร์ติซอล
02:23:31 → 02:23:38 ส่วนเรื่องของ My Health อะไรต่างๆพวก นี้เนี่ยก็จะเป็นตัวเสริมนะ
02:23:38 → 02:23:46 เอเป็นเรื่องการนอนเป็นเรื่องของ Minds mental state อะไรต่างๆ Meditation นะ
02:23:46 → 02:23:52 การหายใจช้าๆนะอ่าหลายอย่างอยู่
02:23:53 → 02:24:02 อันนี้ก็ไม่มีอะไรว่าจะมามาคุยทวนๆกันนิด นึงก็ไม่เป็นไรไม่ต้องนะฮะครับผมคือใน
02:24:02 → 02:24:10 ทั้งหมดเนี่ยหมออยากจะบอกว่านะเวลาที่เรา เราคิดถึงไตกิลไตกิลสูงเนี่ยให้คิดถึง
02:24:10 → 02:24:18 แหล่งที่มาของไตกลยจากข้อ 1 ข้อ 2 ข้อ 3 นะแล้วถ้าเลมแนนสูงๆเนี่ยให้คิดถึงข้อ 2
02:24:18 → 02:24:27 นะฮะไกิสลายสูงนะเวลาเจาะเลือดไตเยอะนะ เวลาคำนวณเลนเยอะเถ้าไตเยอะเนี่ยข้อ 1 มา
02:24:27 → 02:24:33 จากอะไรก็คือมาจากพวกคาฟแฝงนะฮะแต่ถ้าบอก ว่าไม่มีกิน High Good f แล้วก็ควบคุม
02:24:33 → 02:24:41 เรื่องคฟได้ดีเลยก็ไม่มีข้อนซึ่งคแต่งพวก นี้มาทางน้ำเลือดมาที่ตนะแล้วก็มาออกเป็น
02:24:41 → 02:24:50 vldl ข้อ 2 นะข้อ 2 กับข้อ 4 เนี่ยนะฮะ ก็คือไขมันที่มันเข้าทางระบบน้ำเหลืองนะ
02:24:50 → 02:24:58 แล้วมันส่วนใหญ่เนี่ยมันจะเป็นไขมันอิ่ม ตัวนะกับโอเมก้า 6 นะฮะที่จะไปต่อนะจะไป
02:24:58 → 02:25:05 ต่อไปต่อที่ไหนบ้างนะถ้าข้อ 2 เนี่ยเขาจะ เข้าไปที่ตับแล้วจากที่ตับเนี่ยมันถ้ามัน
02:25:05 → 02:25:11 ล้นเกินแล้วตับมันเก็บไม่ได้เนี่ยมันก็จะ ออกมาเป็น VL dl แล้วก็มาเป็นข้อ 2 ตรง
02:25:11 → 02:25:17 นี้นะฮะส่วนข้อ 4 เนี่ยข้อ 4 เนี่ยการที่ ไปทางระบบน้ำเหลืองแล้วไปผ่านหัวใจแล้ว
02:25:17 → 02:25:24 เข้าทางระบบเลือดเนี่ยนะแล้วไปที่ตับส่วน หนึงแล้วเนี่ยก็จะไปที่ไปที่นี่เลยฮะนะไป
02:25:24 → 02:25:31 ที่เนื้อเยื่อไขมันอิพทิชชูเลยนะก็คือมัน เป็นพวยจากไรมอนเนี่ยเอาไปสะสมที่อิพ
02:25:31 → 02:25:39 ทิชชูได้นะนะแต่เขาก็ยังอยู่ในกระแสเลือด นะฮะนะเนี่ยพวกนี้ยังอยู่ในกระแสเลือด
02:25:39 → 02:25:47 งั้นเวลาเราเจาะเลือดเนี่ยแล้วเราเจอไตกี โตในในในข้างใต้โตคอเลสเตอรอลเยอะเนี่ยนะ
02:25:47 → 02:25:56 ฮะอ่าไตคิไรเนี่ยมาจากเรื่องของตับนะที่ กินคาฟเข้าไปหรือเปล่าหรือมาจากไขมันนะ
02:25:56 → 02:26:03 ที่กินไปกับโปรตีนนะฮะนะเยอะๆนะแล้วมัน เป็นไขมันอิ่มตัวหรือมันเป็นโอเมก้า 6
02:26:03 → 02:26:10 ที่เกินไปหรือเปล่านะเนี่ยแล้วมันก็ยคั่ง อยู่ในกระแสเลือดเราไปแจ็คพอตไปเจาะพอดี
02:26:10 → 02:26:18 เลยนะฮะส่วนข้อ 3 เนี่ยเป็นช่วงที่ว่า เวลาเราไปจอดแล้วเราาติไปเวลาาติไปร่าง
02:26:18 → 02:26:26 กายไม่มีพลังงานหรือถ้ายาวๆเกิน 12 ช่มไป เนี่ยนะฮะอธิพจน์ทิชชูเนี่ยนะมันก็จะสลาย
02:26:26 → 02:26:33 ไตกีสลายออกไปอยู่ในกระแสเลือดนะฮะก็เป็น เบอร์ 3 เนะะเพราะฉะนั้นเนี่ยเวลาเจาะ
02:26:33 → 02:26:41 เลือดปุ๊บนะแล้วไตกีสลายสูงเนี่ยนะมันน่า จะมาจากเบอร์ 1 ที่กินเข้าไปนะเป็นพวก
02:26:41 → 02:26:50 กลุ่มคาฟที่จะแปลงเป็นไขมันไกิลหรือมาจาก เบอร์ 2 นะฮะกับเบอร์ 4 อร่วมกันึซึ่งมัน
02:26:50 → 02:26:55 ก็ยังอยู่ในกระแสเลือดพวกเนี้ยเพราะว่า มันเอาไปเก็บไม่ได้เนื่องจากเรากินโลคาฟ
02:26:55 → 02:27:02 แล้วไม่มีอินซูลินมาช่วยนะฮะเพราะฉะนั้น เนี่ยแอชของคอร์ติซอลก็อาจจะให้สะสมพลัง
02:27:02 → 02:27:07 งานแต่มันเก็บไม่ได้มันก็เลยค้างเติ่ง อยู่กับไคโนไมคอนในเลือดเนี่ยอ่าเป็น
02:27:07 → 02:27:14 เบอร์ 2 หรือเบอร์ 4 นะฮะนะแล้วเวลาที่ เราฟาเนี่ยนะเวลาไปเจอดเลือดมันเกินยาว
02:27:14 → 02:27:21 นานเกิน 8-12 ชมงไปถ้าเกินเนี่ยมันจะต้อง มีเ่อจากการสลายหจากอิพทิชชูเป็นเบอร์ 3
02:27:21 → 02:27:28 ออกมาร่วมด้วยนะฮแต่ถ้าไปในช่วงเวลาแล้ว ได้จอดเลือดแบบพอดีๆๆเนี่ยเบอร์ 3 ก็จะ
02:27:28 → 02:27:34 ไม่ออกเพราะเวลาที่อ่าอิพทิชูจะสลายไตคิ สไลออกมาเนี่ยมันขึ้นอยู่กับฮอร์โมนลูก
02:27:34 → 02:27:39 เทพซึ่งฮอร์โมนพวกเนี้ยเาไม่ใช่ฮอร์โมน เครียดคอร์ติซอลเวลาเคทำงานเทำงานแบบพอดี
02:27:39 → 02:27:47 ๆดีนะฮะอยากใช้แค่ไหนเอาไปแค่นั้นไม่ค่อย เรือนะฮะเพราะฉะนั้นเนี่ยถ้ากินโลคานะ
02:27:47 → 02:27:53 แล้วอ่าอ่าไม่มีฮอร์โมนลูกเทพออกมาสลาย เยอะแยะอะไรต่างๆเจาะเลือดในช่วงเวลาถูก
02:27:53 → 02:28:02 ต้องนะส่วนใหญ่แล้วไตกีสไลนนะมันจะเยอะ เนื่องจากข้อ 2 กับข้อ 4 นะฮะซึ่งมันมา
02:28:02 → 02:28:09 จากการกินโปรตีนที่มีไขมันอิ่มตัวอะไร ต่างๆนะหรือการทอดการผักที่มันเยอะนะ
02:28:09 → 02:28:16 เนี่ยนะจะเป็นข้อ 2 กับข้อ 4 ข้อ 1 ข้อ 3 ไม่ค่อยนะแล้วมันก็ทำให้เลมนั้นเยอะไป
02:28:16 → 02:28:19 ด้วยนะ
02:28:22 → 02:28:29 อันนี้เอาภาพมาคุยกันเในเรื่องเบาหวานก็ ไม่มีอะไรเวลาเจาะเนี่ยอย่าลืมที่หมอบอก
02:28:29 → 02:28:38 ไปตั้งแต่แรกอ่ะก็คือเรื่องความยืดหยุ่น ของพลังงานในร่างกายคือขนาดคุณเป็นเบา
02:28:38 → 02:28:44 หวานแล้วเนี่ยนะฮะนะคุณต้องตรวจสอบนะว่า ตอนนี้เนี่ยระบบความยืดหยุ่นนะหรือ
02:28:44 → 02:28:51 metabolic flexibility ดีแค่ไหนอ่า เพราะว่าการที่ DM จะ emission หรือ Reset
02:28:51 → 02:28:56 อะไรต่างๆได้เนี่ยนะ metabolic FC ability หรือความยืดหยุ่นทางด้านพลังงาน
02:28:56 → 02:29:05 ต้องดีแล้วตัวที่จะวัดเนี่ยก็คืออินซูลิน และโ ir หรือประสิทธิภาพอินซูลินมันมี
02:29:05 → 02:29:11 ความ sensitivity ไในคนอ้วนๆเนี่ยปริมาณ อาจจะเยอะแต่ sensitivity มันจะดีแต่ในคน
02:29:11 → 02:29:20 ผอมๆเนี่ยปริมาณอาจจะไม่เยอะหรือ Normal หรือน้อยนะหรือปิ่มๆ low Level นะแต่
02:29:20 → 02:29:28 sensitivity นะหรือ homa ir มันจะไม่ ดีมันต้องมีตัวเลขที่อยู่ในขั้นที่พอดี
02:29:28 → 02:29:35 และสมเหตุสมผลนะที่เราจะแปลว่าเออ DM remission แล้วตอนเนี้ย metabolic
02:29:35 → 02:29:44 captivity หรือความยืดหยุ่นทางการใช้ พลังงานอ่าดีนะก็ถึงจะเรียกว่าโอเคนะ
02:29:44 → 02:29:49 เพราะฉะนั้นเวลาจะเจาะอะไร for เนี่ยอย่า ไปบ้าคั่งเจาะแต่น้ำตาลสะสมกับน้ำตาลปลาย
02:29:49 → 02:29:56 นิ้วตอนตอนเช้าเท่านั้นนะฮะพยายามมาเจาะ อินซูลินคำนวณฮ่า ir นะพยายามดูในเรื่อง
02:29:56 → 02:30:03 ของ viser Fat นะดูเปอร์เซ็นต์ไขมันดู เปอร์เซ็นต์มวลกล้ามเนื้อนะแล้วก็มาคำนวณ
02:30:03 → 02:30:12 ทางอ้อมจากรปิดโปรไฟล์อะไรต่างๆเตรวจให้ มันเยอะๆหน่อยนะเออนะเนี่ยแล้วเดี๋ยวนี้
02:30:12 → 02:30:20 a1c เนี่ยเยอมรับก็ที่ 5.5 แล้วนะฮะนะ ไม่ใช่ 5.7 นะอัปเดตมากเกินไปแล้วล่ะนะ
02:30:20 → 02:30:25 เออแล้วก็การดื้ออินซูลินเนี่ยดูอะไรบ้าง ่า ir ดู TG
02:30:25 → 02:30:32 ด้วยเออเพราะว่า TG เนี่ยมันยังมาอีกทิศ ทางนึงก็คือมาจากต่อหมวกไตภาวต่อหมวกไต
02:30:32 → 02:30:38 ล้าเนี่ยตับมันดื้ออินซูลินได้แม้ว่าตับ อ่อนมันจะดีแล้วแต่ T G ไม่ดีนะเพราะ
02:30:38 → 02:30:45 ฉะนั้นก็ต้องไปปรับคอร์ติซอลไปปรับซอ Fat นะเอไม่งั้นแล้วก็การิัจาก DM มันไม่
02:30:45 → 02:30:54 สมบูรณ์นักหรอกนะเก็เป็นตารางพวกเยฮะนะ อ่าหมดจบแล้ว
02:30:54 → 02:31:01 ฮจบแล้ววันนี้เรื่องเล็บตินนะฮะนะนะสรุปไ เรื่องเล็บตินเนี่ยเรารู้ 10 ปัจจัยแล้ว
02:31:01 → 02:31:12 นะหมอยังไม่ได้มาสรุปเป็นหน้าเดียวนะเอนะ 10 ปัจจัยในเรื่องเลปติน
02:31:13 → 02:31:26 นะกลไกการสร้างการทำงานมี 2 ขั้นตอนนะฮะ แล้วก็โครงสร้างมีอะไรแล้วตอนเนี้ยจะให้
02:31:26 → 02:31:33 เขาสร้างให้เขาทำงานให้เมีโครงสร้างนะ เป็นเลปตินออกมาเยอะๆแล้วไม่ดื้อเลปติน
02:31:33 → 02:31:41 เนี่ยเออจะต้องไปไปไปไปปรับอะไรบ้างนะฮะ 10 อย่างนี้นะไปตัดอะไรไปเติมอะไรไปต้อง
02:31:41 → 02:31:46 ทำ อะไรก็แค่
02:31:47 → 02:31:58 นั้นหมอมีถามครับอืก็อ่าวันนั้นที่ถามอ ครับพี่หมอคือถ้าเกิดคนที่อ่าเบต้าเซลล์
02:31:58 → 02:32:05 ของตับอ่อนนะครับอ่าไปถูกทำลายด้วยด้วยยา คือแพ้ยาครับพี่หมออืคราวนี้มันก็อาการ
02:32:05 → 02:32:09 เหมือนกับอ่าไทวันเลยเบาหวันชนิดที่ 1 อ่ะ
02:32:09 → 02:32:17 ครับมันยังจะสามารถพอ Recover กลับมาได้ มั้ยฮะพี่หมอไม่
02:32:17 → 02:32:27 ได้ไม่ไม่ได้ใชฮเออก็คือช่วยตับอ่อนแบบ ที่คนเป็น DM ไทวันหรือเป็นดารนะหรือเป็น
02:32:27 → 02:32:34 โมดี้ก็คือไปเอาไปเอาอินซูลินเนี่ยมามา ใส่เข้า
02:32:34 → 02:32:45 ไปไปเอาอินซูลินที่เป็นยานะมาฉีดช่วยนะฮะ ครับนะมาฉีดช่วยนะแล้วก็ระดับนะหรือตัว
02:32:45 → 02:32:53 เลขในการที่จะฉีดเนี่ยก็พยายามนะปรับให้ ให้ได้อยู่ในช่วงเนี่ยเ่อประมาณ 2 ถึงไม่
02:32:53 → 02:32:58 เกิน 10 นะ IU ต่อวัน
02:32:58 → 02:33:07 อ่าแล้วคนกลุ่มเนี้ยถ้า a1c เ้าเกิน 10 10 กว่าๆงี้ถือว่าปกติมยพี่หมอเออไม่
02:33:07 → 02:33:18 ปกตินะไม่ปกตินะ a1c จะต้องลงมาให้มากที่ สุดแล้วใช้อินซูลินให้น้อยที่สุดนะฮะ
02:33:18 → 02:33:23 อินซูลินที่ ให้น้อยที่สุดในลักษณะ a1c ที่ต้องยอมรับ
02:33:23 → 02:33:29 ได้ยอมรับได้นี่คือเหมือนเกณฑ์เกณฑ์ของคน ปกติหรือเปล่าครับหรือว่าสูงกว่านั้น
02:33:29 → 02:33:36 หน่อยได้หรือยังไงครับสูงกว่าได้ 2 หรือ 3 เท่านะนะก็คือเกณฑ์ปกติของคนเนี่ยนะฮะของ
02:33:36 → 02:33:46 คนเนี่ยนะก็อยู่ถ้าปกติแบบดีๆเลยนะ 2-5 นะอ่าเริ่มที่จะเอ่อ
02:33:46 → 02:33:55 เอ่อดีน้อยกว่าอดีน้อยกว่าก็คือก็คือ 2-8 นะแล้วก็เกือบๆจะไม่ค่อยไปในทางที่ไม่ดี
02:33:55 → 02:34:04 แล้วก็คือ 2-10 นะแล้วหลังจากนั้นคุณก็ คูณเข้าไปว่าเ่อจะยอมให้ให้ได้ไปถึงเท่า
02:34:04 → 02:34:13 ไหร่ 3 เท่าหรือ 2 เท่านะฮะเอหมายถึง a1c เหรอครับไม่ใช่หมายถึงค่าอินนะฮะค่า
02:34:13 → 02:34:20 อินซูลินใช่่มครับที่มันจะขึ้นไปได้เนะ ว่าออเออ
02:34:20 → 02:34:27 ว่าจะฉีดสมมุติว่าต้องฉีดน่ะอินซูลินตับ อ่อนเียไปแล้วนะครับตับอ่อนผลิตอินซูลิน
02:34:27 → 02:34:37 อลมาไม่ได้ถึง 1 IU อ่ะนะฮะแล้วคุณพอจะ มีประวัติรู้เก่าๆมว่าคนๆเนี้ยเอ่อเระดับ
02:34:37 → 02:34:44 อินซูลินเลเวลเท่าไหร่นี้ถ้าสมมุติคุณไม่ รู้นะถ้าไม่รู้เนี่ยคนผอมเนี่ยนะคนผอม
02:34:44 → 02:34:52 เนี่ยอินซูลินมันค่อนข้างจะอยู่ที่ 2-5 หรือ 6 เออแต่ถ้าคนรูปร่างกกาสมส่วนเนี่ย
02:34:52 → 02:34:59 อินซูลินก็จะอยู่ที่ประมาณ 2-8 แต่ถ้าคน อ้วนๆเนี่ยอินซูลินมันจะอยู่ได้ถึง 10 นะ
02:34:59 → 02:35:07 ครับทีนี้คุณน่ะผอมสมส่วนหรืออ้วนน่ะที่ มันเบเซล
02:35:07 → 02:35:14 faia ถ้าถ้าคุณสมส่วนนะเรายอมให้อินซูลินได้
02:35:14 → 02:35:25 ถึงเท่าไหร่ได้ถึง 8 อ่าแล้วก็ 3 เท่า 83 24 นะเพราะฉะนั้นเนี่ยคุณก็ควร
02:35:25 → 02:35:35 จะมีการฉีดอินซูลินให้อยู่ในช่วงประมาณ 24 IU ไม่เกินนี้ครับนะคือแ Maximum ของคุณ
02:35:35 → 02:35:43 เนี่ยถ้ายอมรับที่ 3 เท่านะก็ 24 IU แล้วดูซิว่าดูซิว่านะว่า a1c เนี่ยมันจะ
02:35:43 → 02:35:51 ลงมาเ่อเหลือสักกี่เปอร์เซ็นต์ได้ครับคือ คือต้องพยายามปรับ a1c ให้น้อยที่สุดแล้ว
02:35:51 → 02:35:59 ใช้อินซูลินให้น้อยที่สุดแต่เราก็จะมีตัว เลขที่เป็นลิมิว่าจะเอา 2 หรือ 3 เท่า
02:35:59 → 02:36:08 นะก็ขึ้นอยู่กับว่าวินิจฉัยเนี่ยเป็นมา นานแล้วนะแล้วก็สภาพร่างกายเนี่ยค่อนข้าง
02:36:08 → 02:36:16 ขาดพลังงานขาดสารอาหารหรือมีคลิชเอ่อป่วย อันนนอันนี้ 1 2 3 เนี่ยนะบางทีเราอาจ
02:36:16 → 02:36:22 จะต้องยอมให้ใช้อินซูลินได้ถึง 3 เท่าอ่ะ นะฮะ
02:36:22 → 02:36:32 อืหรือกดตัวเลข a1c ให้มันให้ลดลงให้ได้ น้อยที่สุดครับโอนี่แต่อเพื่อนผมเองอนะ
02:36:32 → 02:36:39 พี่หมอก็เป็นเวรเป็นกรรมนะอยู่ดีๆแพ้ยาพอ แพ้ยาเสร็จโอ้โหหมอก็ให้สเตียรอยด์แล้ว
02:36:39 → 02:36:45 มันก็ลามเละเทะไปหมดเลยสะโพกร้าวอะไร อย่างเงี้ยครับ
02:36:47 → 02:36:55 อแต่ว่า ในการที่จะใช้อินซูลินฉีดเสริมเเท่าไหร่
02:36:55 → 02:37:02 ในการที่จะกด a1c ต่างๆลงมาเหลือเท่าไหร่ เนี่ยคุณจะต้องมาผ่านเบสิคในเรื่องโหง
02:37:02 → 02:37:09 อาหารอะไรต่างๆให้ดีที่สุดเท่าที่จะดีได้ จะ low C High Good Fat อะไร
02:37:09 → 02:37:18 อะไรได้ขั้นไหนขนาดไหนจะเสริมวิตามินแร่ ธาตุอ่าโครเมียมสังกสีอะไรนี่แหละเบอร์บี
02:37:18 → 02:37:25 อะไรอย่างเงี้ยนะฮะครับึซึ่งในปัจจุบัน เนี่ยนะพวกพวกฝั่งทางด้านกลุ่มอาหารเสริม
02:37:25 → 02:37:33 ที่เอามาเป็นตัวช่วยเนี่ยก็ช่วยได้ดีเลย นะจะบอกให้นะอืมันเป็นเทคโนโลยีใหม่ๆอะไร
02:37:33 → 02:37:39 ต่างๆเ่ะนะที่เขมาช่วยได้ดีเลยเพียงแต่ ว่าสิ่งเหล่านี้มันต้องมันต้องมีเงินน่ะ
02:37:39 → 02:37:47 เอ่อครับไปด้วยมันก็ต้องเวทกันหลายๆอย่าง นะอาหารทำได้แค่ไหนจะเสริมอะไรได้แค่ไหน
02:37:47 → 02:37:56 แล้วก็ตัวเลขต่างๆจะโอเคอตกลงกันได้เท่า นั้นเท่านี้นะเออได้ครับเออมันหลายอย่าง
02:37:56 → 02:38:03 อยู่เหมือนกันใช่ๆพอรักษาทางกระแสหลัก เค้าก็เค้าก็ไม่ได้อะไรกับเรื่องอาหารนะ
02:38:03 → 02:38:11 ครับพี่หมอเให้นับขาดอย่างเดียวแต่ว่าผม ฟัง a1c เา้าบอกว่ามัน 10 กว่าเนี่ยผมก็
02:38:11 → 02:38:18 ไม่แน่ใจว่ามันเป็นปกติของคนที่เป็นไทวัน หรือเปล่าแต่ดูแล้วมันแปลกๆอ่ะผมกลัวจะ
02:38:18 → 02:38:24 ออนท็อปอิ ไม่คนที่เป็นไทวันเนี่ยเต้องกดลงให้เหลือ
02:38:24 → 02:38:34 ให้ดีที่สุดก็คือไม่เกิน 7 อื อืไทวันนะเแต่ถามว่าส่วนใหญ่ทำได้มั้ยไม่
02:38:34 → 02:38:42 ค่อยได้เพราะอะไรเพราะมันอยู่ที่อาหาร what to eat โอ๊มันจะได้ได้ไงพี่
02:38:42 → 02:38:49 หมอเก็เลยต้องปล่อย ๆอืครับผม
02:38:49 → 02:38:59 อโอแต่ถ้าเกิดพยายามใส่ใจเรื่องอาหารหา รายละเอียดหาคอนซาหรือว่าเอ่อเอ่อศึกษา
02:38:59 → 02:39:05 เอาอ่ะศึกษาเรียนรู้เอาอะไรเอาซ็อกแซก หน่อยนะฮะเราเป็นหนักๆถึงขั้นนี้แล้ว
02:39:05 → 02:39:15 เนี่ยนะอกลัวตายอยากมีชีวิตรอดอยากอยู่ดี อยากเอ่ออะไรอ่ะไม่ไม่เ้าเรียกว่าไม่บไม่
02:39:15 → 02:39:22 ไม่ชนิดไม่ไม่อยู่แบบอะไรซังกระตายเศร้า หมองอะไมากมายแล้วเนี่ยครับก็พอสู้ไหวร
02:39:22 → 02:39:27 หรอกเพราะว่าไม่งั้นเดี๋ยวน้ำตาลสูงๆ อย่างงี้เซลล์มันก็พังทลายหมดแล้วนะพี่
02:39:27 → 02:39:36 หมอนะเพราะฉะนั้นพื้นฐานก็คือ what to eat เนี่ยเป็นสิ่งที่ต้องเอาให้ดีที่สุด
02:39:36 → 02:39:41 ให้ได้ก่อนนะแล้วมันเป็นการจัดการได้ด้วย ตัวเราเองไม่ต้องไปพึ่งพาใครเ้าไม่ต้องไป
02:39:41 → 02:39:51 พึ่งหมอพึ่งนักอะไรนู่นนี่เอ่อครับผมเคด นี้จบครับแล้วก็เผมเจอมา 2 คนละกินทีออย
02:39:51 → 02:40:05 มา 4 วันไขมันอะไนะว่ามูนไขมัน ขึ้นกินมา 4 วัน 4 วันผมก็เกาหัวแกก
02:40:05 → 02:40:18 ๆกมวนไขมันขึ้นบบว่าใช้ตาช่างช่างอ่ะเหรอ ครับเอ่อเค้ากินสิ่งที่แอ on ในมื้อแรก
02:40:18 → 02:40:23 อ่ะ มันมีบางอย่างที่ต้องห้ามที่จะไปเกิดแนิ
02:40:23 → 02:40:30 ไว้อืเพราะว่าถ้ามันจะสะสมเมื่อไหร่มันก็ แปลว่ามันต้องแนิอะไรสักอย่างนึงใช่่มั้ย
02:40:30 → 02:40:35 ครับพี่หมอใช่น่าจะเป็นอย่างนั้นเออหรือ ว่าอาจจะอาจจะมีอะไรของเดิมหรือเปล่าหมาย
02:40:35 → 02:40:43 ถึงว่าฮอร์โมนเดิมมันลวนๆหรือเปล่าเอ่อ ถ้าถ้ายังเป็นการไล่ไขมันเก่าเนี่ยมันก็
02:40:43 → 02:40:50 จะส่วนใหญ่มันก็จะประมาณสัก 3 อาทิตย์ไม่ เกิน 6 อาทิตย์น่ะอ่าที่เขาบอกว่าช่วงแรก
02:40:50 → 02:41:00 ๆของการคีโตโลคหรือว่าเอ่ออกคต่ำเนี่ยมัน ก็จะมีการไล่น้ำตาไล่แขมันอมาครับั้นไลน
02:41:00 → 02:41:11 มันจะสูงเ่อตัว a1c ตัวฟมอมันจะขึ้นอย่า เงี้ยนะเ่อก็เป็นได้ในช่วงแรกๆอ่ะนะอื 3-4
02:41:11 → 02:41:16 อาทิตย์ใช่มครับเอเป็นเป็นโอประมาณ 3 อาทิตย์นัแหละ 21 วันนี่แหละนะก็ประมาณ
02:41:16 → 02:41:21 เดือนนึงอ่ะอ่ะแต่ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยเกิน 6 อาทิตย์
02:41:21 → 02:41:30 อ๋อมันจะเริ่มเข้าที่บางครั้งเนี่ยในการ เข้ามาสู่อ่ารูปรูปแบบของการกินแบบเนี้ย
02:41:30 → 02:41:35 นะในช่วงแรกๆเนี่ยก็อาจจะต้องตัดใจที่ อย่าเพิ่งรีบที่จะเจาะเลือด
02:41:35 → 02:41:41 ประเมินคือกินไปอาทิตย์นึงแล้วก็ไปเจอด นู่นเจอดนี่อะไรอย่างเงี้ยบางทีมันยังส
02:41:41 → 02:41:50 ขวนอยู่ต้อง 3 3 อาทิตย์ 3 อาทิตย์ขึ้น ไปกัน 21 วันขึ้นไปครับผมเป็นสถิติเลยของ
02:41:50 → 02:41:56 การเปลี่ยนแปลงทางด้าน เบลิเออจะบอกพี่หมอว่าช่วงนี้ผมฉี่กลาง
02:41:56 → 02:42:03 วันประมาณ 2-3 รอบเองนะพี่หมอ เออเริ่มเริ่มดีแล้วนะแต่ก่อนแต่ก่อนฉี่
02:42:03 → 02:42:05 [\h__\h]ทั้งวัน [เสียงหัวเราะ]
02:42:05 → 02:42:15 เลยอ๋อก็น่าจะคีโตสีจนกระทั่งอาจจะมี คีโตนนี่แหละนะไปกระตุ้นพาราซิมพาตินะ
02:42:15 → 02:42:26 หรือไปไปลดความไวของซิิโทนนะเพราะฉะนั้น เนี่ยเมื่อความไวมันลดลงนะมันก็เลยไม่
02:42:26 → 02:42:35 ต้องปวดท้องฉี่ไวขึ้นแล้วก็เอไปขี่บ่อย อันนี้อันนี้คือตรงตามตที่พี่หมอบอกไงอือ
02:42:35 → 02:42:39 ที่พี่หมอเคยบอกแล้วเรื่องการฉี่ตอนกลาง วันมันก็สะท้อนสะท้อนเรื่องของของ
02:42:39 → 02:42:47 คอร์ติซอลเรื่องของคีโตนเหมือนกันใช่มใช่ เพราะดีที่สุดเนี่ยก็คือ 24 ชมไม่ควรเกิน
02:42:47 → 02:42:52 3 ครั้งแต่ ในการแพทย์จีนและการแพทย์แผนไทยส่วนใหญ่
02:42:52 → 02:42:59 เขาก็จะให้ไม่เกินไม่เกิน 4 5 ครั้งนะ คือกลางคืนไม่เกินครั้งกลางวันไม่เกิน 4
02:42:59 → 02:43:05 ครั้ง ครับแต่ถ้า 6 ครั้งเนี่ไม่ได้แล้วนะฮะ
02:43:05 → 02:43:11 เพราะว่ากลางวันมันมี ac กลางวันมันมีการ กินกลางวันมันมีเรื่อง
02:43:11 → 02:43:18 ของใช้พลังงานใช้มันไม่ได้นิ่งอ่ะมันไม่ ได้นิ่งอส่วนน้ำก็กินประมาณวันละ 3 ลิตร
02:43:18 → 02:43:24 ช่วงกลางวันนะพี่หมอเออก็แบ่งก็จิกๆไปไม่ ได้อะไร
02:43:24 → 02:43:31 อือมีข้อเสียเรื่องเรื่องเรื่องไอ้นี่ แหละเรื่องคอิซอหน่อยเรื่องช่วงนี้นอนดึก
02:43:31 → 02:43:36 อืครับแล้วเดี๋ยวก็เข้าที่
02:43:37 → 02:43:44 ครับโอเคครับผมหมดคำถามคือคือเรื่อง ฮอร์โมนเนี่ยเรื่องฮอร์โมนเห็นมั้นะ
02:43:44 → 02:43:51 เอ่อหมอจะติดเรื่องไทรรอยด์อีกเรื่องนึง นะฮะในสำหรับ C Dependent ฮอร์โมนนะตอนเ
02:43:51 → 02:43:59 เราถือว่าเอ่อไอ้เรื่องอะไรอ่ะเอสโตรเจน เด่นเนี่ยนะก็ก็คือเป็นการพูดถ้าเป็นใน
02:43:59 → 02:44:03 แง่ของการรักษาก็คือพูดถึงโปรเจสเตอโรน นั่นแหละนะเพราะงั้นอันนั้นก็จบไปแล้ว
02:44:03 → 02:44:12 เมื่อไลฟที่แล้วนะทีนี้ครั้งเนี้ยก็จบ เรื่องเลปตินนะแต่ว่าเรื่องที่มันเยอะที่
02:44:12 → 02:44:21 สุดหน่อยก็คือก็คือไทรรอยด์นะไทรรอยด์ที่ จะพูดครั้งเนี้ยนะอาจจะอีกอาทิตย์นึงเลย
02:44:21 → 02:44:31 ล่ะนะครับอันเนี้ยพูดถึงเรื่องของคล้ายๆ เลตินแบบเนี้ยที่มาที่ไปและวิธีอ่าแนวทาง
02:44:31 → 02:44:37 แบบที่จะนำไปสู่การปฏิบัตินว่าเราจะควบ คุมภาวะั clinical ไฮโปไทรอยด์ได้ยังไง
02:44:37 → 02:44:45 เพราะว่าปัญหาในไทรรอยด์ก็คือมันเดี้ยง แล้วมันก็มันขี้เกียจที่จะทำงานน่ะนะคือ
02:44:45 → 02:44:50 คือเวลาคุณตรวจแลบนมันไม่ได้ต่ำไม่ได้สูง อะไรอย่างมีนัยยะสำคัญนักหรอกแต่ในแง่ง
02:44:50 → 02:44:57 ฟังก์ชันเนี่ยนะของ อีลูกสาวคนกลางตัวนี้แหละนะเาเล่นดื้อเ
02:44:57 → 02:45:05 เล่นเพี้ยนเเล่นแบบบุ้ยใบ้อ่ะนะนะคือเขา มีผลอยู่แต่เขาไม่ได้แสดงออกในตัวเลขของ
02:45:05 → 02:45:11 การต่ำไปสูงไปอย่างหวือหวาเพราะฉะนั้นบาง คนไปตรวจแล้วปกติก็มานั่งเถียงกันอยู่
02:45:11 → 02:45:17 แหละว่าไม่ไม่ได้เป็นนะฮะแต่จริงๆแล้วทุก อย่างมันเป็นศัพ์ขึนเข้าไฮโปไทรอยด์นะ
02:45:17 → 02:45:24 ซึ่งมันเจอเยอะมากในเรื่องของแนวทาง โภชนาการที่มันเกิดภาวะ ncd อ่ะนะแล้ว
02:45:24 → 02:45:33 ทั้งเอสโตเจนเด่นนะทั้งศัพท์ขข้อ ไฮโปไทรอยด์นะอทั้งดื้อเลปตินทั้งอีตัว
02:45:33 → 02:45:41 โปรเจสเตอโรนที่มันดรอปๆๆต่ำๆๆแล้วมันไม่ แอชที่มาสู้กับอีตัวเอสโตรเจนเด่นเี่เอัน
02:45:41 → 02:45:50 นี้มันเกิดนะแต่มันเกิดแบบไม่รู้จะวัดยัง ไงไม่รู้จะตรวจยังไงตรวจอะไรไปบอก
02:45:50 → 02:45:58 อะไรแต่ถ้ามาเป็นเรื่องเล่ามาเป็นแบบ เนี่ยผูกเรื่องผูกราวให้เห็นอ่าแบบเนี้ย
02:45:58 → 02:46:09 มันจะพอรู้พอเข้าใจว่าเออเค้ามีผลจริงๆนะ เค้ามีเอ่อมีมามีไปมีน้อยมีอะไรของเค้า
02:46:09 → 02:46:17 อยู่อ่ะนะฮะเพียงแต่เรานึกไม่ ถึงเ่าเพราะว่าตอนนี้หมอก็เอือมลอาเหลือ
02:46:17 → 02:46:22 เกินกับ กับที่เห็นว่าคนมันก็จะไปวนเวียนอยู่กับ
02:46:22 → 02:46:30 น้ำตาลอินซูลินแล้วก็กินคาฟไม่กินคาฟกิน คาฟนนนนี่อะไรอยู่แค่นั้นน่ะมันไปไม่พ้น
02:46:30 → 02:46:38 เรื่องอื่นสักทีนะแล้วเมื่อไหร่จะมา คอร์ติซอลมาไทรรอยด์มาตัวนู้นตัวนี้บ้าง
02:46:38 → 02:46:45 เมื่อไรมันไม่มีกราฟมาอวดไงพี่ หมอแบบนั้นมันมันเจาะมีตัวเลขมีกราฟไอ้
02:46:45 → 02:46:50 ไอ้นี่มันมันลึกไม่มีกราฟมาอวด
02:46:50 → 02:46:59 อาจารย์ถามถ้าไอไอ้ับคริติคอลไฮโปไทรอยด์ กับไอ้ดื้อเลปตินเนี่ยมันมันมักจะต้องมี
02:46:59 → 02:47:05 ดื้อคอร์ติซอลเสมอมั้ยครับหรือว่าดื้อ อินซูลินอย่างเดียวมันก็เกิดได้
02:47:05 → 02:47:11 เอ่อมันจะมีควบกันเลยทั้งดื้ออินซูลินและ ดื้อคอร์ติซอลคือเวลาคุณดื้ออินซูลิน
02:47:11 → 02:47:19 เนี่ยก็ต่อๆมาเนี่ยคอร์ติซอลก็จะมาแทรกๆะ เนี่ยเออเพราะว่าฮอร์โมนเนี่ยเไปคู่กัน
02:47:19 → 02:47:22 อย่างนี้แหละ
02:47:23 → 02:47:32 นะพอพออินซูลินมันผิดปกติอ่ะนะคอร์ติซอล ก็จะมาและแต่จะมาแบบมากน้อยเกินขาดหรือ
02:47:32 → 02:47:41 เพี้ยนไปขนาดไหนคือจะมาแบบดุมาแบบเอ่อพีค สูงๆคล้ายๆอินซูลินเนี่ยสวิงอ่ะนะหรือมา
02:47:41 → 02:47:49 แบบดื้ออะไรอย่างเงี้ยนะมันพูดยากเหมือน กันนะนะแต่ถือว่าคอร์ติซอลไม่ปก
02:47:49 → 02:47:57 ปกติเพราะฉะนั้นคำถามที่บอกอ่ะถ้าดื้อ อินซูลินแล้วจะไม่ไม่มีปัญหากับคอร์ติซอล
02:47:57 → 02:48:04 มยไม่หรอกต้องมีปัญหาด้วยนะโดยเฉพาะถ้า ดื้ออินซูลินเป็นพื้นฐานแล้วเนี่ยมันมีสั
02:48:04 → 02:48:12 ขึเข้าไฮโปรไทรอยแล้วก็มีเอสโตรเจนเด่น แล้วเงี้ยนะคอซอมาอยู่แล้ว
02:48:17 → 02:48:23 นะแต่เวลาแก้ก็แก้หลักๆก็คืออินซูลินกับ คอซอนี่
02:48:23 → 02:48:32 แหละแล้วถ้ายังไม่รู้จะทำอะไรยังไงเลยก็ เอาอินซูลินให้มันให้มันน้อยลงให้ได้ก่อน
02:48:32 → 02:48:38 นะที่เราจะนำไปสู่ของภาวะที่เราเรียกว่า metabolic flexibility นี่แหละเกิดการ
02:48:38 → 02:48:46 ยืดหยุ่นทางด้านการเผาผลาญพลังงานนะให้ มันได้สิ่งนี้ขึ้นมาบ้างก่อน
02:48:54 → 02:49:02 โอเคโอเคครับกำลังจะถามพอดีว่ากับไอ้ค่า แลบล่าสุดเนี่ยมันค่าบางตัวมันยังไม่ครบ
02:49:02 → 02:49:09 ่ะครับถ้าผมรออีกสัก 3 อาทิตย์แล้วค่อย เจาะเจาะแบบหาแบที่เจาะครบๆไปไปดีกว่าไ
02:49:09 → 02:49:12 ครับ
02:49:13 → 02:49:22 อหไม่ดีก็คือมันจะห่างเกินไปแล้วเดี๋ยว มันก็ก็จะมันจะเป็นการแปรผลแบบกระชั้นจน
02:49:22 → 02:49:29 เกินไปนะอันนี้เพิ่งจะจไปแล้วอีกเดือนไป เจาะอะไรเงี้ยมันค่อนข้างใกล้กกันอืไม่
02:49:29 → 02:49:35 งั้นก็แปลผลเท่าที่ไปตรวจมาก็เอาแค่นั้น น่ะแล้วหลังจากนั้นครบเดือน 3 เดือนเอ่อ
02:49:35 → 02:49:43 ตามคำนเอ่อเราก็จะไปตรวจแลบนอกไปตรวจแลบ ใช่เอ่อเปลี่ยนใหม่แล้วอะไรใช่เพราะว่า
02:49:43 → 02:49:49 เพราะว่าของของที่เดิมก็ผมขอขอย้ายย้าย แล้วเพะขัดใจ
02:49:49 → 02:49:58 ขัดใจอสะเบอกว่าชุดใหญ่ผมคิดว่าขนาดตดไต ก็ค่าใบค่าใบยังไม่ใส่มาให้เลยผม
02:49:58 → 02:50:10 โอ้โหสเจาะไป แล้วอืไาวหน้าไปเลยใช่ๆครับ
02:50:11 → 02:50:19 ผมแล้วก็ที่คุณหมอบอกเนสนัแหละลองดูอีกที นึงครับเนสเองก็กินไอ้เพียวออยในในรูปแบบ
02:50:19 → 02:50:26 น้ำสกัดเย็นมาตั้งเยอะแยะแล้วกินแทบทุก วี่ทุกวันอย่างเงี้ยเออก็เห็นมล่ะค่าอะไร
02:50:26 → 02:50:33 ปิดโปรไฟล์อ่ะมันก็ยังอยู่ในระดับเ่อใกล้ ๆ 200 เอ่อใกล้ๆ 100 100 นิดๆอะไรอย่าง
02:50:33 → 02:50:41 งั้นแะทำไมไม่เห็นพุ่งไปหลายๆร้อยเลยล่ะ ยาเยอก็ไม่ได้ไปกินกดมันอยู่อ่ะใช่ๆครับ
02:50:41 → 02:50:48 ผมครั้งนี้มา ขึ้น hdl ขึ้นมาสะดุ้งมากสะใจ 80 10
02:50:48 → 02:50:58 กว่าครับอืแต่ก็อยู่ในเกณฑ์ที่โอเคไม่ได้ พุ่งพวดไปเลยครับผมอือแล้วก็สามารถกด rl
02:50:58 → 02:51:06 ลงมาได้ไม่เกิน 100 ก็โอเคแล้ว ครับ 17 อใช่ครับ
02:51:06 → 02:51:17 ผมอยู่ระดับน่ารักๆหมดเลยอือครับ ผมเอคแค่นั้นวันนี้ก็แค่นี้โอเคครับพรุ่ง
02:51:17 → 02:51:24 นี้เอาขึึ้นเหมือนเดิมครับพี่หมออๆได้ แล้วแล้วก็เอ่อของผมเหลืออีกประมาณ 30%
02:51:24 → 02:51:33 ครับอืใกล้ะใกละใช่ครับใช่ครับอีก 30% ตอนนี้บทความดูดลงมาก็ 800 กว่าบทความนะ
02:51:33 → 02:51:42 ฮะโอ้โห 800 กว่าบทความนี่น่าจะเกือบ 2,000 หน้าได้แล้วมั้งหนัง
02:51:42 → 02:51:49 หนังสือเล่มใหญ่ๆสักเล่มนหนังสือโทรศัพท์ เล่มนึงอ่ะใช่
02:51:51 → 02:52:02 ครับผมโอเคนนักโรงเรียนฮิวก็นักบรงเรียน ฮิวเจอเจอเขคุณหมอไปโอโหหนาๆเลยเออนี้ 3
02:52:02 → 02:52:08 วันนี้ผมอัดเต็มที่เลยเนี่ยทำตั้งแต่เช้า กันค่ำเลยอ่ะเสาร์
02:52:08 → 02:52:18 อาทิตย์โอเคครับงั้นก็เจอกันครับ๋ครับทำ ทำรูปส่งไปให้ครับผมครับผมขอบคุณครับ
02:52:18 → 02:52:23 ขอบคุณพี่หมอครับขอบคุณทุกคนครับครับ ขอบคุณครับสวัสดีครับสัสดีสวัครับขอบคุณ
02:52:23 → 02:52:27 ครับครับสวัสดีครับ
02:52:30 → 02:52:42 [เพลง]
02:52:46 → 02:52:51 ครับ y
02:52:51 → 02:52:56 [เพลง]