00:00:04 → 00:00:14 [เพลง]
00:00:14 → 00:00:16 [ปรบมือ]
00:00:16 → 00:00:24 [เพลง]
00:00:24 → 00:00:26 เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าการมีสุขภาพ
00:00:26 → 00:00:30 ที่ดีต้องอาศัยองค์ประกอบหลายประการอัน
00:00:30 → 00:00:35 กอบไปด้วยอาหารที่ดีและการออกกำลังกายแต่
00:00:35 → 00:00:38 มีน้อยรายนักที่จะทราบว่าการนอนหลับที่มี
00:00:38 → 00:00:41 คุณภาพอย่างพอเพียงก็เป็นหนึ่งในปัจจัย
00:00:41 → 00:00:43 สำคัญที่ไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่า 3 ปัจจัย
00:00:43 → 00:00:46 แรกเลยด้วยวิทยาการทางการแพทย์ก้าวหน้าไป
00:00:47 → 00:00:49 อย่างรวดเร็วทำให้เริ่มมีองค์ความรู้ใหม่
00:00:49 → 00:00:52 ที่พบว่ามีความผิดปกติต่างๆมากมายที่เกิด
00:00:52 → 00:00:56 ขึ้นได้ขณะหลับเช่นภาวะนอนไม่หลับอาการ
00:00:56 → 00:01:00 นอนกรนหยุดหายใจจซึ่งถ้าโรคเหล่านี้ถูกปล
00:01:00 → 00:01:03 ปะละเลยไม่ได้รับการรักษาหรือแก้ไขก็จะ
00:01:03 → 00:01:06 ส่งผลเสียต่อสุขภาพในด้านต่างๆมากมายดัง
00:01:06 → 00:01:10 นั้นสมาคมโรคจากการหลับแห่งประเทศไทยสูนิ
00:01:10 → 00:01:14 ทรลักษณ์โรงพยาบาลศิริราชและชมรมศิริราช
00:01:14 → 00:01:16 อาวุโสจึงได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการให้
00:01:16 → 00:01:19 ความรู้แก่ประชาชนกระตุ้นการตื่นตัวของ
00:01:19 → 00:01:22 สังคมให้มีความตระหนักถึงปัญหาเกี่ยวกับ
00:01:22 → 00:01:25 การนอนหลับเพื่อให้สังคมมีโอกาสเรียนรู้
00:01:25 → 00:01:28 ถึงความสำคัญของการนอนและความผิดปกติที่
00:01:28 → 00:01:31 เกิดจากการนอนหลับที่พบบ่อยจึงได้จัดงาน
00:01:31 → 00:01:34 World Sleep Day หลับสบายหายใจดีชีวี
00:01:34 → 00:01:37 มีสุขขึ้นเพื่อให้ทุกคนตระหนักต่อการนอน
00:01:37 → 00:01:40 หลับที่มีคุณภาพแนวคิดหลักในการจัด
00:01:40 → 00:01:43 กิจกรรมวันนอนหลับโลกก็เพื่อกระตุ้นเตือน
00:01:43 → 00:01:46 ให้คนอ่าทราบถึงความสำคัญของการนอนว่ามัน
00:01:46 → 00:01:49 มีส่วนสำคัญในการสร้างสุขภาพที่ดีแล้วก็
00:01:49 → 00:01:51 ให้คนทราบถึงโรคที่อาจจะเกิดจากการนอน
00:01:51 → 00:01:55 หลับได้หน่วยงานที่ร่วมมือในการจัดงาน
00:01:55 → 00:01:57 กิจกรรมวันนอนหลับโลกในครั้งนี้นะคะคนที่
00:01:57 → 00:01:59 เป็นหัวเรือใหญ่ก็คือสมาคมโลกจากการหลับ
00:01:59 → 00:02:02 แห่งประเทศไทยนะคะร่วมกับเอ่อคณะ
00:02:02 → 00:02:07 แพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลแล้วก็ศูนย์นิทร
00:02:07 → 00:02:09 ลักษณ์ศิริราชโรงพยาบาลศิริราชรวมไปจนถึง
00:02:09 → 00:02:13 ชมรมศิริราชอาวุโสค่ะผู้เข้าร่วมงานใน
00:02:13 → 00:02:16 กิจกรรมในวันนี้ก็จะได้ประโยชน์จากความ
00:02:16 → 00:02:19 รู้ที่วิทยากรให้กับประชาชนทั่วๆไปนะคะใน
00:02:20 → 00:02:22 เรื่องของการนอนหลับคืออะไรแล้วก็โรคที่
00:02:22 → 00:02:24 เกิดจากการนอนหลับมีอะไรได้บ้างรวมไปจน
00:02:24 → 00:02:27 ถึงวิธีการรักษาอ่าโรคที่เกิดจากการนอน
00:02:27 → 00:02:31 หลับที่พบได้บ่อย
00:02:31 → 00:02:34 รายการเล็กๆเปลี่ยนโลกจะนำเสนอการบรรยาย
00:02:34 → 00:02:38 เสวนาทั้งหมด 2 ตอนโดยในตอนแรกมีหัวข้อ
00:02:38 → 00:02:41 การบรรยายและเสวนาจำนวน 3 หัวข้อได้แก่ 1
00:02:41 → 00:02:45 การนอนและความสำคัญของการนอน 2 การนอน
00:02:46 → 00:02:49 หลับผิดปกติและ 3 การนอนไม่หลับสำหรับ
00:02:49 → 00:02:54 ประชาชนช่วงแรกพบกับการบรรยายในหัวข้อการ
00:02:54 → 00:02:57 นอนและความสำคัญของการนอนโดยผู้ช่วย
00:02:57 → 00:03:00 ศาสตราจารย์นายแพทย์วัฒนชัยโชตินวัดคุณ
00:03:00 → 00:03:04 จากสาขาปราสาทวิทยาภาควิชาอายุรศาสตร์คณะ
00:03:04 → 00:03:07 แพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลมหาวิทยาลัย
00:03:07 → 00:03:10 มหิดลสมัยก่อนเราเชื่อกันเลยว่านอนเนี่ย
00:03:10 → 00:03:13 จะได้ประหยัดพลังงานเราเชื่อกันเช่นนั้น
00:03:13 → 00:03:15 แล้วก็บอกนอนเนี่ยเป็นการมันต้องพักอ่ะ
00:03:15 → 00:03:18 ร่างกายจะได้พักแต่จริงๆปัจจุบันการศึกษา
00:03:18 → 00:03:20 เพิ่มมากขึ้นปรากฏว่าการนอนเนี่ยไม่ได้
00:03:20 → 00:03:23 เป็นการเป็นการพักเป็นการนอนเป็นสิ่งถูก
00:03:23 → 00:03:26 บังคับเซตไว้นะครับนะมีสมองส่วนหนึงทำงาน
00:03:26 → 00:03:29 อยู่ตลอดเวลาช่วงเวลานอนไม่ได้หมายความ
00:03:29 → 00:03:32 ว่าพลนอนปุ๊บหยุดการทำงานทันที 100% ไม่
00:03:32 → 00:03:37 ใช่สมองบางส่วนส่วนจะถูกทำงานเต็มที่ 100%
00:03:37 → 00:03:40 เพื่อควบคุมการนอนให้เป็นปกติเพื่ออะไรฮะ
00:03:40 → 00:03:42 เพื่อ 1 เพื่อการทำงานของสมองโดยรวมเนี่ย
00:03:42 → 00:03:44 ได้ดีขึ้นโดยเฉพาะยิ่งเรื่องของความจำเรา
00:03:44 → 00:03:46 เชื่อกันปัจจุบันว่าเรื่องของความจำจะดี
00:03:46 → 00:03:50 ได้การตอบสนองต่างๆจะดีได้ในตอนกลางวันจะ
00:03:50 → 00:03:52 ต้องเกี่ยวข้องกับการนอนอย่างมากการทำงาน
00:03:52 → 00:03:55 ของระบบประสาทอัตโนมัติต่างๆเช่นเรื่อง
00:03:55 → 00:03:57 ของการควบคุมความดันเรื่องของการควบคุม
00:03:57 → 00:04:00 ระบบอะไรต่างๆที่เกี่ยวข้องกับเช่นการควบ
00:04:00 → 00:04:03 คุมเกี่ยวกับการหลั่งฮอร์โมนอะไรหลายๆ
00:04:03 → 00:04:04 อย่างต้องเกี่ยวข้องกับการนอนเป็นอย่าง
00:04:04 → 00:04:07 มากนะครับการประหยัดพลังงานสมัยก่อนเรา
00:04:07 → 00:04:10 คิดว่าโหตอนนอนเนี่ยเซฟพลังงานจังเลยมีคน
00:04:10 → 00:04:13 เอาจับคนไปเลยฮะไปนั่งพิสูจน์กันปรากฏว่า
00:04:13 → 00:04:16 ช่วงนอนประหยัดพลังงานได้อย่างมากที่สุด
00:04:16 → 00:04:19 15% นะครับดีไม่ดีเนี่ยในในบางรายเนี่ย
00:04:19 → 00:04:22 ประหยัดพลังงานได้เท่ากับประมาณเฉลี่ย
00:04:22 → 00:04:24 5-10 เท่านั้นเองจริงๆเราประหยัดเยอะ
00:04:24 → 00:04:27 มั้ยฮะไม่เยอะเพราะไม่งั้นถ้าคนที่ผอมๆทำ
00:04:27 → 00:04:29 ไงอยากอ้วนทำไงฮะก็คงนอนทั้งวันทั้งคืน
00:04:29 → 00:04:31 น่าจะจะน่าจะอ้วนถูกมั้ยฮะไม่ได้เป็นเช่น
00:04:31 → 00:04:34 นั้นนะครับแล้วก็สัมพันธ์กับการเจริญเติบ
00:04:34 → 00:04:36 โตและพัฒนาโดยเฉพาะยิ่งอย่างที่บอกไปแล้ว
00:04:36 → 00:04:38 สมองโดยเฉพาะในเด็กเล็กๆนะครับสังเกตสิฮะ
00:04:38 → 00:04:40 เด็กเล็กๆจะเป็นไงฮะเป็นช่วงที่มีการ
00:04:40 → 00:04:43 พัฒนาของสมองอย่างมากถ้าเราดูเป็นไงฮะ
00:04:43 → 00:04:45 เด็กจะนอนเยอะนอนเป็นอย่างมากยิ่งนอนเยอะ
00:04:45 → 00:04:47 ยิ่งดีทีนี้ไอ้นอนหลับเวลาเขาแยกกันยังไง
00:04:47 → 00:04:50 อุ๊ยหลับตื้นหลับลึกหลับสั้นหลับยาวหลับ
00:04:50 → 00:04:52 ตื้นหลับลึกอะไรเงี้ยเแยกเขาแยกจากคลื่น
00:04:52 → 00:04:55 ไฟฟ้าสมองครับถ้าคื่นตัวโตๆเก็เรียกหลับ
00:04:55 → 00:04:57 ลึกช่วงนึงถ้าคื่นตัวเล็กๆเขาก็เรียกหลับ
00:04:57 → 00:05:00 ตื้นนะครับบางคนก็จะไปอ่านเพช่วงนอนหลับ
00:05:00 → 00:05:02 แบบตาเคลื่อนไหวกับนอนตับแบบตาไม่เคลื่อน
00:05:02 → 00:05:05 ไหวเล็มกับนอนเร็มอ่าอันนี้รู้ไว้นะครับ
00:05:05 → 00:05:08 ทีนี้โดยคนปกติมันไม่ได้นอนแบบหลับตื้น
00:05:08 → 00:05:11 100% หลับลึก 100% เป็นไปไม่ได้มันจะ
00:05:11 → 00:05:15 ต้องปนผสมกันไปตลอดเวลาเป็นวงจรตลอดเวลา
00:05:15 → 00:05:17 จะมีคนพยายามบอกว่าเออเราหลับลึกเยอะๆจะ
00:05:17 → 00:05:19 ดีเป็นไปไม่ได้เพราะร่างกายมันจะถูกเซตใน
00:05:19 → 00:05:22 ค่าปกติอยู่ค่านึงหลับปกติหลับปกตินี่มัน
00:05:22 → 00:05:23 จะมีทั้งหลับตื้นหลับลึกนะครับแล้วก็มี
00:05:23 → 00:05:25 ช่วงหลับฝันหรือเป็นเล็มมันก็จะแบ่ง
00:05:25 → 00:05:27 ประมาณเนี่ย 7525 เผื่อเผื่อรู้ว่าแล้ว
00:05:27 → 00:05:29 มันก็จะเริ่มเข้าจากนอนเล็มก่อนหลับปกติ
00:05:29 → 00:05:31 แล้วเข้าสู่หลับฝันเดี๋ยวไปดูครับว่ายัง
00:05:31 → 00:05:34 ไงคนปกติเวลาวงจรการนอนมันก็จะเป็นคล้ายๆ
00:05:34 → 00:05:36 อย่างงี้มันจะเริ่มจากหลับตื้นกันตื้นๆ
00:05:36 → 00:05:39 แล้วลึกๆๆๆเสร็จแล้วมันก็จะมีไอ้หลับฝัน
00:05:39 → 00:05:41 คืนนึงเนี่ยจะเป็นวงจรประกอบด้วยหลับปกติ
00:05:41 → 00:05:43 หลับฝันหลับปกติหลับฝันหลับปกติหลับฝัน
00:05:43 → 00:05:46 เนี่ยไปเรื่อยๆ 4-5 วงจรเป็นไปไม่ได้ที่
00:05:46 → 00:05:49 มันจะบอกมีแต่หลับตื้นทั้งอันอยากหลับลึก
00:05:49 → 00:05:51 ดีๆทั้งอันไม่ได้ทีนี้ไอ้หลับฝันเนี่ยมัน
00:05:51 → 00:05:54 ก็จะฝันเยอะๆเยะขึ้นเรื่องเริ่มแรกวงจร
00:05:54 → 00:05:57 แรกก็จัดสัก 3-4 นาที 4-5 นาทีพอตอนช่วง
00:05:57 → 00:05:59 ใกล้ๆเช้าหรือใกล้ๆเราตื่นเนี่ยหลับฝัน
00:05:59 → 00:06:01 ไม่มันจะยาวบางคนเนี่ยมันจะฝันเป็นไงช่วง
00:06:02 → 00:06:04 เช้าๆฝันสนุกสนานตช่วงเช้าๆมันก็จะเป็น
00:06:04 → 00:06:07 ลักษณะอย่างเงี้ยเป็นเรียกว่าเป็นคนปกติ
00:06:07 → 00:06:09 อันนี้มันช่วยยังไงช่วยในแง่โรคอะไรที่
00:06:09 → 00:06:11 มันเกี่ยวข้องไอ้หลับไม่ฝัเนี่ยหลับปกติ
00:06:12 → 00:06:14 มันก็จะอยู่ช่วงส่วนใหญ่เป็นไงฮะหรือหลับ
00:06:14 → 00:06:16 ลึกมันก็จะอยู่ช่วงครึ่งนึงของการนอนหลับ
00:06:16 → 00:06:18 ช่วงแรกไอ้โรกที่เกี่ยวข้องกับไอ้นอนหลับ
00:06:18 → 00:06:20 ฝันเช่นเอะอะออกท่าออกทางมันก็จะชอบไป
00:06:20 → 00:06:22 อยู่ช่วงเช้าๆเท่านั้นเองทีนี้เรามาดูอัน
00:06:22 → 00:06:25 นี้เป็นอายุกับรูปแบบของการนอนหลับเด็ก
00:06:25 → 00:06:28 เป็นไงฮะกินปุ๊บหลับกินปุ๊บหลับ 3
00:06:29 → 00:06:31 ชั่วโมงไคลนึงใช่มฮะเป็นทั้งคืนเลยทั้ง
00:06:31 → 00:06:33 วันพ่อแม่ไม่ต้องนอนมันเป็นอย่างงนี้อยู่
00:06:33 → 00:06:35 ช่วงปีแรกพอพอปีที่ 1 เราก็จะเรียกว่ามี
00:06:35 → 00:06:38 ช่วงเเรียกว่ามีช่วงนอนหลับยาวนะครับคน
00:06:38 → 00:06:42 ปกติจะเริ่มเกิดช่วงนอนหลับยาว 1 ช่วงใน
00:06:42 → 00:06:44 เด็กเนี่ยถ้าเราดูมันก็จะมีช่วงหลับกลาง
00:06:44 → 00:06:47 วันหลับกลางวันช่วง 2 ช่วงนะครับแต่ไอ้
00:06:47 → 00:06:49 หลับกลางวันเนี่ยมันจะหายไปตอนอายุ 4-5
00:06:49 → 00:06:52 ขวบคนปกติจะไม่มีหลับกลางวันแล้วมีน้อย
00:06:52 → 00:06:54 ถามว่าอ้าแล้วปัจจุบันเดี๋ยวมีคนบอกเอฉัน
00:06:54 → 00:06:57 ยังหลับกลางวันอยู่เลยเป็นได้ฮะพบได้บ้าง
00:06:57 → 00:07:01 ในคนปกติแต่น้อยมากแต่ถ้าโดยคนทั่วไปเขา
00:07:01 → 00:07:03 ก็จะไม่มีช่วงหลับกลางวันแล้วนะครับพอ
00:07:03 → 00:07:05 อายุประมาณสักเนี่ย 5 ขวบก็จะหายไปนะแต่
00:07:05 → 00:07:08 มันอาจจะง่วงๆบ้างกลางวันนะครับพออายุ
00:07:08 → 00:07:11 อายุเวลาผ่านไปเป็นไงระยะเวลาที่ใช้ในการ
00:07:11 → 00:07:13 นอนเนี่ยส่วนใหญ่จะเป็นตอนกลางคืนนะครับ
00:07:13 → 00:07:16 มันก็จะทำอะไรฮะสั้นลงเรื่อยๆอ้าวทีนี้
00:07:16 → 00:07:17 เรามาดูอันนี้เป็นสิ่งที่เขาเรียกว่าเป็น
00:07:18 → 00:07:20 อะไรเป็นเรื่องปกติตอนเราอายุอันนี้คือ
00:07:20 → 00:07:23 ช่วงช่วงเราเป็นหนุ่มๆสาวๆเป็นไงครับ
00:07:23 → 00:07:26 awake นี่ตื่นนะครับนะช่วงหลับฝันนะครับ
00:07:26 → 00:07:29 โหสมัยก่อนเราเป็นไงหลับตื้นลึกๆอ่ะฝัน
00:07:30 → 00:07:33 หน่อยตื้นลึกฝันตื้นนิดนึงฝันตื้นแล้วก็
00:07:33 → 00:07:36 อย่างงี้ฮะเห็นมสวยงามเป็นช่องๆเราดูอายุ
00:07:36 → 00:07:38 สัก 40 50 60 ประมาณก็เฉลี่ยก็ประมาณ
00:07:38 → 00:07:42 สัก 60 หรือ 65 เป็นไงฮะหลับๆขนาดหลับๆ
00:07:42 → 00:07:45 อยู่ดีๆตื้นขึ้นมาก็มีใช่ไหครับนะมีเป็น
00:07:45 → 00:07:48 ไงสวยมไม่ค่อยสวยแถมเป็นไงชั่วโมงนึงเรา
00:07:48 → 00:07:52 ก็ตื่นะตื่นสั้นๆเห็นมฮะใช่ป่ะในขณะเวงจร
00:07:52 → 00:07:55 นึงเราก็ยังมีตื่นเลยตื่นทั้งคืนตื่นๆ
00:07:55 → 00:07:58 หลับๆปกติมฮะเป็นเรื่องปกตินะอันนี้คือ
00:07:58 → 00:08:00 ปกติของเราเป็นปกปกติตามวัยเพราะฉะนั้น
00:08:00 → 00:08:03 ถ้าเรามีวันนึงเราอายุมากขึ้นแล้วเราก็
00:08:03 → 00:08:06 บอกว่าเออคุณหมอไม่รู้เป็นยังไงสมัยก่อน
00:08:06 → 00:08:09 เี่ไม่เห็นหลับสบายโมีความสุขกับการหลับ
00:08:09 → 00:08:11 มาเดี๋ยวนี้ไม่รู้เป็นอะไรหลับๆตื่นๆตืๆ
00:08:11 → 00:08:14 หลับๆทั้งคืนเพราะนี้เกิดจากอะไรฮะเกิด
00:08:14 → 00:08:17 จากอายุที่มากขึ้นใช่ไหครับอันนี้เป็น
00:08:17 → 00:08:20 ธรรมชาติของมนุษย์ตะกี้นี้เป็นแบบรูปแบบ
00:08:20 → 00:08:22 การนอนนี้เป็นแบบแผนการนอนคนทุกคนไม่
00:08:22 → 00:08:25 จำเป็นต้องนอนเหมือนกันหมดนะคนปกติก็จะ
00:08:25 → 00:08:28 นอนอย่างงนี้ครับนะเราก็จะนอนประมาณไงฮะ
00:08:28 → 00:08:31 ประมาณสัก 34 ใช่มั้ยฮะตื่นประมาณ 6-7 น
00:08:31 → 00:08:34 ถูกมฮะอันนี้คือคนปกติแต่จะมีคนกลุ่มนึง
00:08:34 → 00:08:37 เขาจะนอนเหมือนเรานี่แหละแต่ถ้าจะก็ปกติ
00:08:37 → 00:08:40 ดอกสบายหัวตื่นเช้าสดชื่นเขอนอนยาวหน่อย
00:08:40 → 00:08:43 กลุ่มนี้เเรียกว่านอนนานกว่าปกติเก็นอน
00:08:43 → 00:08:45 เหมือนกันแหละฮะคนปกติเหมือนกันอีกกลุ่ม
00:08:45 → 00:08:47 นึงแต่เขาไปนอนอย่างเงี้ยนอนอย่างคุณ
00:08:48 → 00:08:49 22:00 นเงี้ย 2:00 22:00 นเขานอนไม่
00:08:50 → 00:08:51 หลับหรอกเพราะไม่ใช่เวลานอนของเขาเต้องไป
00:08:51 → 00:08:54 นอนนู่น 1:00 นนู่น 1 นั่นคือเวลาปกตินอน
00:08:54 → 00:08:56 ปุ๊บหัวถึงบอกปุ๊บหลับเลยแต่คแถมเป็นผู้
00:08:56 → 00:09:00 โชคดีอีกตื่นเช้าอีกตี 4 5 ตืนแล้วทำงาน
00:09:00 → 00:09:02 ด้วยโหแล้วเสดชื่นทั้งวันมิหมายความว่า
00:09:02 → 00:09:06 เขานอนเร็วนอนเร็วคนนี้กลุ่มนี้ก็จะเป็น
00:09:06 → 00:09:09 ปกตินอนสัก 19 20:00 นตื่นนู่นฮะ 3:00 น
00:09:09 → 00:09:11 4:00 ถ้าทำอย่างี้ตั้งชีวิตอันนี้เข
00:09:11 → 00:09:13 เรียกกลุ่มคนนอนเร็วอีกคนกลุ่มหนึ่งก็
00:09:13 → 00:09:17 เป็นกลุ่มคนนอนดึกโอยกว่าจะนอนได้ 1:00
00:09:17 → 00:09:20 2:00 นนู่นกว่าจะตื่นได้ 300-400 นนู่น
00:09:20 → 00:09:23 นี้คือคนปกติรู้ได้ไงว่าเาเป็นคนปกติก็
00:09:23 → 00:09:26 ถามคุณน่ะคุณปกติถ้าสบายๆเนี่ยนอนยังไง
00:09:26 → 00:09:28 ถ้าก็นอนอย่างงี้ตั้งแต่หนุ่มๆสาวๆก็เป็น
00:09:28 → 00:09:30 อย่างงี้แหละครับแก้เขาไม่ได้ใช่มครับไอ
00:09:30 → 00:09:33 อันนี้ผิดปกติแ่นอนทั้งวันคือคืออันนี้คน
00:09:33 → 00:09:35 ผิดปกติอาจจะเจอในโลคอะไรบางแล้วนะครับ
00:09:35 → 00:09:38 ถามว่าแก้เยังไงแก้ไม่ได้แต่มีปัญหาใช่ม
00:09:38 → 00:09:41 ฮะเพราะการนอนอย่างเงี้ยเราไม่สามารถนอน
00:09:41 → 00:09:43 ได้เพราะว่าอะไรชีวิตของเราถูกบังคับด้วย
00:09:43 → 00:09:46 อะไรฮะเวลาทำงานการนอนหลับที่เหมาะสมนัก
00:09:46 → 00:09:48 วิทยาศาสตร์คนนึงเบอกเอ้ยไอ้นอนเนี่ยแต่
00:09:48 → 00:09:51 ละสัตว์ละอย่างมันนอนไม่เท่ากันนะเถามว่า
00:09:51 → 00:09:52 ทำไมนอนไม่เท่าทันมันขึ้นกับระบบ
00:09:52 → 00:09:56 เมตาบอลิกคือการเผาผลาญพลังงานต่อสัดส่วน
00:09:56 → 00:10:00 ของพื้นที่ของตัวตัวเรานะครับไอ้โอซัม
00:10:00 → 00:10:04 โอซัมแมวนะเป็นไงไอ้พวกนี้นอนยาวกเราทั้ง
00:10:04 → 00:10:06 นั้นเห็นแมวเคยเห็นแมวแมวขยันมฮะไม่เนาะ
00:10:06 → 00:10:09 เพราะว่าไอ้พวกนี้เมตาบอลิกมันสูงมากคน
00:10:09 → 00:10:11 เนี่ยตกประมาณนี้ไอ้ช้างเนี่ยตัวใหญ่
00:10:11 → 00:10:14 เมตาบอลิกต่ำนะแต่พื้นที่ค้านต่ำเพราะะ
00:10:14 → 00:10:17 นั้นไอ้ช้างแทบไม่นอนเลยตัวสัตว์ตัวใหญ่
00:10:17 → 00:10:19 การนอนยิ่งน้อยสัตว์ตัวเล็กการนอนยิ่งมาก
00:10:19 → 00:10:21 อันนี้อันนี้เพราะสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมนะ
00:10:21 → 00:10:25 ฮะทีนี้การนอนเนี่ยแค่ไหนถึงพอแต่ละคน
00:10:25 → 00:10:27 เนี่ยไม่ไม่รู้ค่าเฉลี่ยเนี่ยจะอยู่
00:10:27 → 00:10:30 ประมาณ 6-7 นะนะครับณปัจจุบัน 67 ประมาณ
00:10:30 → 00:10:33 7.75 ส่วนใหญ่ประมาณ 7.75 7-8 ชั่วโมง
00:10:33 → 00:10:35 จริงๆแล้วเห็นค่าเฉลี่ยอย่าอย่าดีใจฉัน
00:10:36 → 00:10:39 ต้อง 7.75 ิกกับไอเดียไม่มันมีตั้งแต่คุณ
00:10:39 → 00:10:41 ตั้งแต่ 5-1 คุณอาจจะเป็นกลุ่ม 5 ก็ได้
00:10:41 → 00:10:44 คุณอาจจะเป็นกลุ่ม 11 ก็ได้ทีนี้เป็นไง
00:10:44 → 00:10:46 อายุมากขึ้นเป็นไงฮะอย่างที่ผมบอกแล้ว
00:10:46 → 00:10:49 เวลานอนมันสั้นลงมยสั้นลงเรื่อยๆเรืยๆๆๆ
00:10:49 → 00:10:51 เพราะฉนั้นอย่าแปลกใจสั้นลงกี่ชั่วโมง
00:10:51 → 00:10:54 เนี่ยัสัก 18 ซิ 18 สมัยก่อนคุณนอนเท่า
00:10:54 → 00:10:56 ไหร่ประมาณ 11 ใช่มั้ยฮะพอตอน 70 คุณ
00:10:56 → 00:10:58 เหลือเท่าไหร่เหลือประมาณ 7 หายเป็น 4
00:10:58 → 00:11:02 แต่วไงฮะเราต้องการ 4 นั้นคืนมาใช่มฮะทุก
00:11:02 → 00:11:06 คนอยากกันอยากนอนหลับดีเหมือนอดีตเคุณภาพ
00:11:06 → 00:11:09 การนอนที่ดีทำยังไงรู้ได้ยังไงก็คันที่ 1
00:11:09 → 00:11:12 หลักการนอนหลับได้ๆเรียกปกติก็อยู่ค่า
00:11:12 → 00:11:16 เฉลี่ย 7-8 ชมงก็คาดว่าน่าจะปกติอันดับ 2
00:11:16 → 00:11:18 เท่ากับเหมือนคุณที่เป็นอดีตนั่นแหละอดีต
00:11:18 → 00:11:21 คุณนอน 5-6 ชมงถ้าคุณนอนได้ 6 ชั่วโมงผม
00:11:21 → 00:11:24 ว่าคุณก็ปกติแหละคุณภาพหลับได้มากกว่า 80%
00:11:24 → 00:11:26 ในแต่ละคืนคือเข้านอนเตียงไปแล้วสมมุติ
00:11:26 → 00:11:28 เริ่มเข้าเตียงประมาณสัก 22:00 นตื่น
00:11:28 → 00:11:31 ประมาณ 18:00 นคำนวณเวลาออกมาแล้วได้นอน
00:11:31 → 00:11:33 อยู่บนเตียงหลับสบายอยู่บนเตียงเกิน 80%
00:11:33 → 00:11:36 สบายแล้วผมว่าคุณนอนปกติกลางวันนะลักษณะ
00:11:37 → 00:11:39 กลางวันคุณภาพของการนอนกลางวันก็มีลักษณะ
00:11:39 → 00:11:43 สดชื่นสบายดีไม่ง่วงหรือหลับในทำงานได้
00:11:43 → 00:11:46 ตามปกติถือว่าคุณภาพการนอนหลับปกติคนสูง
00:11:46 → 00:11:49 อายุการนอนของคนในสูงอายุกับการนอนในคน
00:11:49 → 00:11:53 หนุ่มสาวเวลาจะไม่เท่ากันนะครับในคนปู่
00:11:53 → 00:11:55 รุ่นปู่กับรุ่นหลานเนี่ยถ้ามาเทียบแล้ว
00:11:55 → 00:11:58 สมัยก่อนเขาก็จะไม่นอนเหมือนเรากลไกควบ
00:11:58 → 00:12:00 คุมเนี่ยมันก็จะใช้ใช้อยู่ 2 อันที่เรา
00:12:00 → 00:12:02 ง่ายๆก็คือเรียกว่าสมดุลการหลับตื่นกัน
00:12:02 → 00:12:05 นาลายกาชีวิตมีลักษณะการทำงานเป็นแบบตรง
00:12:05 → 00:12:08 กันข้ามก็คือพอเราตื่นมากขึ้นเรื่อยๆความ
00:12:08 → 00:12:11 ต้องการในการนอนหลับหลังจากเราตื่นนอนจะ
00:12:11 → 00:12:13 สูงขึ้นเรื่อยๆอันนี้เราคิดว่ามันเป็นจาก
00:12:13 → 00:12:16 การสะสมของสารสื่อประสาทบางตัวมันจะมาก
00:12:16 → 00:12:18 สุดตอนเรานอนก่อนนอนพอเรานอนปุ๊บความ
00:12:19 → 00:12:21 ต้องการในการนอนหลับจะลดลงอย่างมากก็อีก
00:12:21 → 00:12:24 อันนึงก็คือนาฬิกาชีวิตนาฬิกาชีวิตก็คือ
00:12:24 → 00:12:26 มันจะอยู่ที่นี่บริเวณของเเรียกว่าเนื้อต
00:12:26 → 00:12:28 ต่อมใต้สมองนะครับไฮโปทาลามัสเนี่ยนะครับ
00:12:28 → 00:12:31 มันก็จะมีสัญญาณประสาทจะวิ่งเข้าไปเข้า
00:12:31 → 00:12:33 ทางผ่านตาเราเนี่ยนะครับเรไปกระตุ้นเสร็จ
00:12:33 → 00:12:35 แล้วไอ้ตัวนี้เป็นตัวกำหนดโดยใช้
00:12:35 → 00:12:37 พันธุกรรมของเราเป็นตัวกำหนดก็จะมีลักษณะ
00:12:38 → 00:12:40 ปิดๆเปิดๆของมันเนี่ยของมันอยู่แล้วนะ
00:12:40 → 00:12:43 ครับหรร่วมกับสารเมลาโทนินบางอย่างสาร
00:12:43 → 00:12:45 เมลานินภายในร่างกายเรานะร่วมกับพฤติกรรม
00:12:45 → 00:12:48 บางอย่างของเราเนื่องจากนาฬิกาชีวิตของ
00:12:48 → 00:12:50 เราเนี่ยเวลามันไม่ 24 เป๊ะมันจะตกอยู่
00:12:50 → 00:12:53 ประมาณ 24 10 กว่านาทีเพื่อเนั้นลืเรา
00:12:53 → 00:12:56 ใช้นาฬิกาชีวิตเป็นตัวกำหนดเป็นไงฮะวันๆ
00:12:56 → 00:12:58 เป็นไงเราจะเลื่อนเวลาของเราไปเรื่อๆวัน
00:12:58 → 00:13:00 ละ 10 กว่า 10 กว่านาที 10 กว่านาทีทีนี้
00:13:00 → 00:13:03 ทำยังไงให้มันนั่นได้มันก็จะมีตัวสัญญาณ
00:13:03 → 00:13:05 ประสาทตัวหลายๆตัวเนี่ยควบคุมก็คืออะไร
00:13:05 → 00:13:09 แสงฮะพฤติกรรมของเราตอนกลางวันฮะแล้วทำ
00:13:09 → 00:13:11 ให้มันเหลือ 24 อยู่ตลอดเวลาไอ้ตัวเเป็น
00:13:11 → 00:13:15 สมดุลนี้เป็นปัญหาผลของการนอนเนี่ยเป็น
00:13:15 → 00:13:18 ยังไงการนอนเนี่ยปฏิกิยาการตอบสนองต่อ
00:13:18 → 00:13:21 ร่างกายเราอดนอนเป็นไงฮะอันนี้ tion ถาม
00:13:21 → 00:13:24 ก็เหมือนปฏิกริยาตอบสนองอดนอนหรือนอน 5
00:13:24 → 00:13:27 ชมก็นอน 8 ชมบนเตียงคือไอ้คนนึงไม่อดนอน
00:13:27 → 00:13:29 ไอคนนึงอดนอนอันนี้อดนอนนะสีแดงอดนอนเป็น
00:13:29 → 00:13:33 ไงปฏิกิริยาเป็นไงฮะช้าลงถูกมฮะอันนี้
00:13:33 → 00:13:35 ช่วยไงมันก็ช่วยบอกที่เรากลัวคืออะไร
00:13:35 → 00:13:38 ปฏิกิริยาช้าลงคืออะไรอุบัติเหตุถูกไห
00:13:38 → 00:13:41 ครับนอนไม่ดีอุบัติเหตุสูงถูกไหครับการ
00:13:41 → 00:13:43 ตอบสนองของร่างกายที่ความเร็ว 70 ไมลต่อ
00:13:43 → 00:13:48 ชั่มท่านเริ่มตอบสนอง 0 ระยะรก็ 0 ถูกป่ะ
00:13:48 → 00:13:52 ถ้าตอบสนองแค่ 150 มิลเองอ่ะสั้นมากเลย
00:13:52 → 00:13:55 กระพริบเลยกระพกระพริบตาเองนะครับเป็นไง
00:13:55 → 00:13:59 ฮะเราออกนอกทางไป 15 ฟุต 15 ฟุตก็คือ 4
00:13:59 → 00:14:01 เมตกว่าๆ 5 เมตเป็นไงฮะแค่หลับในเท่านั้น
00:14:01 → 00:14:04 เองนะฮะหลับในปึบตื่นมาอีกทีก็ไม่แปลกใจ
00:14:04 → 00:14:06 ที่ตื่นมาอีกทีอาจจะไม่ได้คุยกับเราแล้ว
00:14:06 → 00:14:09 หลับในสั้นๆเองใช่มคุณหิเหยียบรถด้วยความ
00:14:09 → 00:14:12 เร็ว 70 ไมล 70 ไมลก็ตกประมาณ 100 กมต่อ
00:14:12 → 00:14:15 ช่มอ้าวใครเสี่ยงอ่ะแล้วอย่างี้ใครเสี่ยง
00:14:15 → 00:14:17 เสียงเป็นไงบ้างฮะกิจการขนส่งทั้งหมดคน
00:14:17 → 00:14:20 เดินทางไกลๆอันนี้คือคนเดินทางที่ไปๆกลับ
00:14:20 → 00:14:23 ๆแบบแบบเรา่ะฮะบ้านอยู่ปทุมธานีทำงานกลาง
00:14:23 → 00:14:26 เมืองขับรถทันที 3 ชั่วโมงก็อดนอนก็หลับ
00:14:26 → 00:14:30 ในนะครับก็มีโอกาสหลับในนะแพทย์พยาบาลแหง
00:14:30 → 00:14:33 หรือคนทำงานเป็นกะต้องทำงานดึกๆเดินๆนะคน
00:14:33 → 00:14:36 อายุน้อยๆคนอายุน้อยๆถามว่าอ้าวทำไมคน
00:14:36 → 00:14:38 อายุน้อยๆเป็นคนอายุน้อยๆส่วนใหญ่เป็นไง
00:14:38 → 00:14:40 ชอบอดนอนทำนู่นทำนี่ทำนู่นทำนี่ส่วนใหญ่
00:14:40 → 00:14:42 ก็เป็นปัญหาเพราะว่าเขานอนยาวแต่เขาต้อง
00:14:42 → 00:14:45 อดนอนอายุน้อยมันนอนยาวจะเป็นไงอยากนอน
00:14:46 → 00:14:48 สั้นเล่นเกมเล่นอะไรมั่งเป็นไงอดนอนนะ
00:14:48 → 00:14:50 ครับตื่นนอนเร็วเห็นมั้ยอย่างที่ผมบอก
00:14:50 → 00:14:53 แล้วตื่นนอนเร็วก็อดนอนนะครับเจ็บป่วยอัน
00:14:53 → 00:14:55 นี้เจ็บป่วยมันเป็นอยู่แล้วความง่วงกับผล
00:14:55 → 00:14:57 การเรียนยิ่งง่วงมากเป็นไงฮะถ้าเป็น a
00:14:57 → 00:15:00 เนี่ยส่วนใหญ่ a ยิ่งน้อยยิ่งดีเป็นไง
00:15:00 → 00:15:04 เด็กที่เรียนได้เกรด A เป็นไงไม่ค่อยง่วง
00:15:04 → 00:15:07 ไอ้เด็กที่เรียนเกด C เป็นไงโหง่วงเลยใช่
00:15:07 → 00:15:09 มฮะเพราะฉะนั้นถ้าอยากทำให้ลูกหลานเรียน
00:15:09 → 00:15:12 ต้องให้มันง่วงมต้องให้อดนอนมไม่อดนอนไม่
00:15:12 → 00:15:14 ต้องดูหนังสือดึกๆต้องดูหนังสือให้เป็น
00:15:14 → 00:15:17 เวลานอนกับน้ำหนักตัวยิ่งนอนมากน้ำหนัก
00:15:17 → 00:15:19 ตัวยิ่งเยอะยิ่งนอนน้อยน้ำหนักตัวยิ่ง
00:15:19 → 00:15:22 เยอะนะครับสังเกตว่ามีความสัมพันธ์กันการ
00:15:22 → 00:15:25 นอนเนี่ยในคนเนี่ยนะถ้ามันอยู่ในช่วง 7-8
00:15:25 → 00:15:27 ชั่วโมงเนี่ยมันจะสัมพันธ์กับน้ำหนักตัว
00:15:27 → 00:15:29 ที่ดีนะครับไม่ได้หมายความว่ากลับไปคืน
00:15:29 → 00:15:31 นี้ทำนอนให้มันสั้นๆเซียเลยไม่ใช่เพียง
00:15:31 → 00:15:33 แต่ว่าเรารู้ไว้ว่าเออถ้าเราเป็นกลุ่มที่
00:15:33 → 00:15:35 นอนน้อยเราก็คงมีน้ำหนักตัวที่เยอะขึ้น
00:15:35 → 00:15:37 หรือ้าเรานอนมากก็มีโอกาสที่จะน้ำหนักตัว
00:15:37 → 00:15:40 ที่เยอะขึ้นนะครับเป็นความสัมพันธ์ไม่ได้
00:15:40 → 00:15:42 เป็นความเสี่ยงอะไรนะครับแลอาจจะยังไม่
00:15:42 → 00:15:45 จำเป็นต้องแก้นะครับเมีคนเทียบให้ดูไอ้
00:15:45 → 00:15:47 นอนเนี่ยส่วนใหญ่ก็จะเทียบไงดีมันง่วง
00:15:47 → 00:15:49 ขนาดไหนง่วงกับกินเหล้าก็แล้วกันนอนสัก
00:15:49 → 00:15:51 เท่าไหร่เองอ่ะ 3-4 ชั่วโมงเองนะเออกิน
00:15:51 → 00:15:53 เข้ากินเหล้าดิงนึงแถ้านอนเหลือ 3
00:15:53 → 00:15:55 ชั่วโมงนี่กินเหล้าครึ่งขวดเลยนะเพรางั้น
00:15:55 → 00:15:58 การอดนอนเนี่ยมีอันตรายนะครับต่อการขับรถ
00:15:58 → 00:16:01 ไม่ต่างจากกินเหล้าเลยนะควบคุมการนอนเป็น
00:16:01 → 00:16:05 ไงหาง่ายกาแฟนะครับกาแฟหาได้เยอะแยะเลย
00:16:05 → 00:16:08 ใช่มั้ยครับมันจะกระตุ้นสมองที่ต้องกิน
00:16:08 → 00:16:09 อย่างน้อยเท่าไหร่เขาก็บอกว่ากินประมาณ
00:16:09 → 00:16:12 100 มิลลิกรัมแต่วันนึงไม่ควรกินเกิน 300
00:16:12 → 00:16:15 มิลลิกรัมเพเกิน 300 มิลลิกรัมมันจะเริ่ม
00:16:15 → 00:16:17 เกิดการติดเกิดการเรียกอะไรเกิดเพลียเกิด
00:16:17 → 00:16:20 อะไรคือมีไซดเอฟเฟคมีเร่องใจสั่นมีขนข้าง
00:16:20 → 00:16:23 เคียงเยอะใจสั่นอะไรหลายๆอย่างเวธีกรรม
00:16:23 → 00:16:25 นี้ถ้าเราไปเจอกาแฟสดขั่วระบทที่เราชอบมย
00:16:25 → 00:16:29 หอมอะไรดีแก้วนึงเนี่ยประมาณเท่าไหร่เี่ย
00:16:29 → 00:16:32 ตามท้องตลาดประมาณนี้ 80 - 140 วันนึง
00:16:32 → 00:16:35 กินแก้วเดียวพอมฮะพอแล้วกาแฟผงสำเร็จรูก
00:16:35 → 00:16:38 ก็ประมาณใกล้ๆกันหย่อนนิดหน่อยไม่ใช่กาแฟ
00:16:38 → 00:16:42 อย่างเดียวที่จะจะมีไอ้มิลลิกรัมอ้าฝัน
00:16:42 → 00:16:45 ฝันมันเป็นส่วนหนึ่งของการนอนหลับมัน
00:16:45 → 00:16:47 สัมพันธ์กับการนอนหลับเรียกว่าแบบเล็มเขา
00:16:47 → 00:16:50 คิดว่ามันเกี่ยวข้องกับการปรับสัญญาณ
00:16:50 → 00:16:52 ประสาทส่วนที่เกี่ยวกับการรับรู้และการ
00:16:52 → 00:16:54 เคลื่อนไหวของร่างกายให้มันทำงานได้ดี
00:16:54 → 00:16:57 ขึ้นพบในทารกมากกว่าผู้ใหญ่ถ้าเราสังเกต
00:16:57 → 00:16:59 เด็กเป็นไงฮะเด็กจะชอบออกท่าออกทางตอนนอน
00:17:00 → 00:17:02 ใช่มั้ยด๊อกแด๊กด๊อกแด๊กร้องมั่งอะไรมั่ง
00:17:02 → 00:17:05 นะครับสัมพันธ์การจำทีนี้ลักษณะของฝันมัน
00:17:05 → 00:17:08 จะมี 2 แบบฝันที่เราชอบคุยกันนเห็นเป็นงู
00:17:08 → 00:17:10 เห็นเป็นหนหูมันจังเลยอันนี้เรียกว่าฝัน
00:17:10 → 00:17:12 เสมือนจริงเกิดขึ้นในช่วงที่เราเรียกว่า
00:17:12 → 00:17:14 rid Eye movement ก็คือช่วงนั้นจะมี
00:17:14 → 00:17:17 การเคลื่อนไหวกรอกตารวดเร็วมีชีวิตชวามี
00:17:17 → 00:17:19 รายละเอียดเยอะแยะเลยสนุกสนานออกท่าทาง
00:17:19 → 00:17:21 ให้ความรู้สึกฝันว่าอย่างงู้นอย่างงี้
00:17:21 → 00:17:23 อย่างงั้นโอ้โหตื่นมาเล่าเป็นฉากฉากแถม
00:17:23 → 00:17:25 วันต่อวันนสามารถต่อเนื่องกันได้อีกอยาก
00:17:25 → 00:17:28 กลับไปฝันแบบเมื่อวานจังเลยไปดูซิว่ามัน
00:17:28 → 00:17:31 เรื่องอะไรนะครับเป็นไปไม่ได้นะไม่เกี่ยว
00:17:31 → 00:17:32 ข้องกับอะไรนะผมบอกเลยไม่เกี่ยวข้องกับ
00:17:32 → 00:17:35 อะไรไม่เกี่ยวกับสัญญาณอะไรไม่เกี่ยวกับ
00:17:35 → 00:17:37 อะไรช่วยอะไรไม่ได้เลยก็โงสนุกตามร่างกาย
00:17:37 → 00:17:40 ของมันของมันเองอีกอันนึงเป็นฝันแบบคิด
00:17:40 → 00:17:42 อันนี้จะเกิดขึ้นในช่วงนอนเลมลักษณะก็จะ
00:17:43 → 00:17:45 เหมือนเราคิดตอนกลางวันเนี่ยคิดจะทำนู่น
00:17:45 → 00:17:48 ทำนี่ทำนั่นมันจะไม่เป็นภาพแต่เป็นรูปแบบ
00:17:48 → 00:17:51 ของการคิดเช่นเราจะวางแผนไปทำนู่นเดี๋ยว
00:17:51 → 00:17:54 จะไปซื้อของเราเราสามารถวางแผนเป็นภาพได้
00:17:54 → 00:17:56 มยไม่ได้ใช่มเราจะวางแผนเป็นการคิดอันนี้
00:17:56 → 00:17:59 จะเป็นฝันอีกแบบนึงจริงๆเราเนี่ยฝัน 100%
00:17:59 → 00:18:02 ของเวลาอยู่ตลอดเวลามีคนวิจัยว่ามันฝัน
00:18:02 → 00:18:04 อยู่ตลอดแต่ในช่วงนอนเล็มมันจะฝันเป็นแบบ
00:18:04 → 00:18:06 คิดในช่วงของเล็มที่เราปลุกมันจะเป็นฝัน
00:18:06 → 00:18:08 แบบนี้เ่านั้นเองนะครับความสำคัญของการ
00:18:08 → 00:18:10 นอนต้องมีแน่นอนนะคะไม่งั้นคนเราไม่ใช้
00:18:10 → 00:18:13 เวลา 1 ใน 3 ของชีวิตไปกับการนอน 8 ชมงใน
00:18:13 → 00:18:17 24 ชั่วมงของคนเราต้องอ่าใช้ไปกับการนอน
00:18:17 → 00:18:19 เพราะฉะนั้นความการนอนต้องมีความสำคัญมาก
00:18:19 → 00:18:22 โดยที่มันจะทำให้ร่างกายมีสุขภาพที่แข็ง
00:18:22 → 00:18:25 แรงอายุจะยืนยาวถ้าเรานอนได้อย่างมี
00:18:25 → 00:18:28 คุณภาพและปริมาณที่พอเพียง
00:18:28 → 00:18:34 [เพลง]
00:18:34 → 00:18:37 ความผิดปกติที่เกิดจากการนอนแบ่งย่อยออก
00:18:37 → 00:18:40 เป็นหลายๆหมวดหมู่มากมายนะคะมีทั้งหมด 8
00:18:40 → 00:18:42 หมวดหมู่หลักนะคะแต่หมวดหมู่ที่เจอได้พบ
00:18:42 → 00:18:45 เ่อพบได้บ่อยที่สุดก็คือในเรื่องของภาวะ
00:18:45 → 00:18:48 นอนไม่หลับแล้วก็ภาวะนอนกรนหยุดหายใจ 2
00:18:48 → 00:18:51 โรคเนี้ย 2 ภาวะนี้เป็นภาวะที่ควรจะต้อง
00:18:51 → 00:18:54 มองหาแล้วก็ให้รับการรักษาโดยที่สาเหตุ
00:18:54 → 00:18:56 ของทั้ง 2 ภาวะนี้ก็ขึ้นอยู่กับหลายๆ
00:18:56 → 00:18:58 สาเหตุเพราะฉะนั้นเราก็ต้องมองหาสาเหตุ
00:18:58 → 00:19:01 แล้วก็แก้ไขแต่ละจุดไปไม่สามารถบอกได้
00:19:02 → 00:19:04 เฉพาะเจาะจงว่าโรคนี้ต้องรักษายังไงขึ้น
00:19:04 → 00:19:06 อยู่กับสาเหตุเป็นหลัก
00:19:06 → 00:19:10 ค่ะช่วงนี้พบกับการบรรยายในหัวข้อการนอน
00:19:10 → 00:19:13 หลับผิดปกติโดยผู้ช่วยศาสตราจารย์นาย
00:19:13 → 00:19:17 แพทย์วัฒนชัยโชตินวัดกุลจากสาขาปราสาท
00:19:17 → 00:19:20 วิทยาภาควิชาอายุรศาสตร์คณะแพทยศาสตร์
00:19:20 → 00:19:24 ศิริราชพยาบาลมหาวิทยาลัยมหิดลทีนี้เรามา
00:19:24 → 00:19:27 ดูเรื่องว่าไอ้นอนนอนหลับผิดปกติเนี่ยมัน
00:19:27 → 00:19:30 มีเยอะมากน้อยสำสำัญยังไงนะครับนะทีนี้
00:19:30 → 00:19:32 เรามาดูก่อนดูสถิติส่วนใหญ่เนี่ยสถิติผม
00:19:32 → 00:19:36 ก็จะเอาเป็นจากเมืองนอกมากกว่านะครับแต่
00:19:36 → 00:19:39 ว่าของเราทำเนี่ยก็ไม่ค่อยแตกต่างกันนะผม
00:19:39 → 00:19:42 ให้มาดูนะความชุกของโลกเกี่ยวกับการผิด
00:19:42 → 00:19:44 ปกติของการนอนหลับเทียบกับโลกที่เรารู้
00:19:44 → 00:19:47 จักกันง่ายๆไมเกรนผมเอาไมเกรนไมเกรนนี่
00:19:47 → 00:19:50 รู้สึกจะเป็นเยอะเพราะว่าปวดหัวนะกลมชัก
00:19:50 → 00:19:53 ประมาณเย 2,000 ในแสนไอ้โรคทางเดินหายใจ
00:19:53 → 00:19:56 อุดกั้นขณะหลับเนี่ยเยอะนะนะครับขึ้นกับ
00:19:56 → 00:19:59 ตัวตักว่าใช้อะไรนะนะครับโดยปกติก็ประมาณ
00:19:59 → 00:20:02 เนี้ยจริงๆเยอะด้วยนะพากินสันที่บอกเป็น
00:20:02 → 00:20:04 โรครุนแรงกลัวกันแทบตายน้อยกว่าตั้งเยอะ
00:20:04 → 00:20:07 โรคผิดปกติจากการนอนหลับเนี่ยอะไรเนี่ย
00:20:07 → 00:20:09 เจอเยอะอันที่ 1 เป็นเรื่องของนอนไม่หลับ
00:20:10 → 00:20:13 เจอเยอะสุด 30% 1 ใน 30 มีปัญหาเี่การ
00:20:13 → 00:20:16 ผิดปกติหายใจขณะนอนหลับนะครับก็ขึ้นกตัว
00:20:16 → 00:20:18 ตัดว่าประมาณนั้นปกติประมาณนี้ 10 เท่า 10
00:20:18 → 00:20:21 เท่าโรกอันที่ 3 ของโลกคนอนไม่หลับโรกลม
00:20:21 → 00:20:24 หลับนะจริงๆภาษาไทยไม่มีนะครับเราก็ตั้ง
00:20:24 → 00:20:27 ชื่อกันเองว่าต้องลงลมหลักมาจากชื่อคำว่า
00:20:27 → 00:20:30 นาโคเลซี่คือเปี่เป็นชัก่ะฮะเป็นลมชักอัน
00:20:30 → 00:20:32 นี้มันหลับมันก็เป็นลมหลับทีนี้ไปดูว่า
00:20:32 → 00:20:35 เป็นยังไงนะครับทีนี้อาการนอนหลับผิดปกติ
00:20:35 → 00:20:38 ที่มาหาหมอเจอกันบ่อยๆเนี่ยมีอะไรมั่ง 1
00:20:38 → 00:20:42 นะครับนอนน้อยไปนอนน้อยไปก็เป็นปัญหานอน
00:20:42 → 00:20:46 น้อยไปมาหาหมอแน่นอนไม่เป็นไว้ร่ำเวลาอกู
00:20:46 → 00:20:49 นะเดิมทีนอนดีอันนี้ 3 นอนแล้วมันไม่หลับ
00:20:50 → 00:20:53 โอกว่าจะหลับได้สมัยก่อนหัวถึงหมอนตู้ม
00:20:53 → 00:20:55 หลับสบายโหคราวนี้ตั้งนานแกว่าจะหลับหลับ
00:20:55 → 00:20:57 แล้วตื่นยากตอนเช้าตื่นโอ้โหมันงัวเงีย
00:20:57 → 00:21:00 ไม่สดชื่นขึ้นเลยกลางคืนไม่รู้เป็นยังไง
00:21:00 → 00:21:02 มันสลับกระสับกระส่ายหลับแล้วมันกระสับ
00:21:02 → 00:21:04 กระส่ายทั้งคืนไม่เหมือนเดิมหรือมี
00:21:04 → 00:21:08 เคลื่อนไหวผิดปกติออกท่าออกทางเตะๆต่อยๆ
00:21:08 → 00:21:11 ต่อยนู่นต่อยนี่เอ้ยเออนะครับกรนอาจจะรู้
00:21:11 → 00:21:14 ตัวเองหรือชาวบ้านบอกว่ากนดังจังเลยเธอนะ
00:21:14 → 00:21:18 ครับสำลักกลางดึกนอนๆไปสะดุ้งขึ้นมา
00:21:18 → 00:21:21 เหมือนไอเหมือนสำลักเหมือนจะหุดหายใจนะ
00:21:21 → 00:21:24 ครับปวดหัวหลับทีไรตื่นเช้าปวดหัวนิด
00:21:24 → 00:21:27 หน่อยสักประเดียวก็หายนะครับแล้วก็อารมณ์
00:21:27 → 00:21:29 แหมมันหงุดหงิดไม่จบอยเลยนอนหลับยังไงไม่
00:21:29 → 00:21:33 รู้แต่เช้ามามันแบบงุดงิดงุดงิดนะครับนะ
00:21:33 → 00:21:36 รู้สึกมีความกังวลหรือกลัวอะไรเกี่ยวกับ
00:21:36 → 00:21:38 การนอนหลับแล้วก็ก่อนนอนหลับบางคนอาจจะมี
00:21:38 → 00:21:41 ้ยมันทำไมลูกขาฉันขยับยอกแยกยแยยยมีอาการ
00:21:41 → 00:21:44 อะไรแปลกๆก่อนหลับนะครับทีนี้โลกของการ
00:21:44 → 00:21:47 นอนหลับนะครับโรคนอนไม่หลับเนี่ยทีนี้
00:21:47 → 00:21:49 แบ่งกลุ่มโลกเนี่ยได้ 7-8 กลุ่มมี 80
00:21:49 → 00:21:52 กว่าโรคแรู้มยฮะแทบไม่รู้เลยเนอะกลุ่มแรก
00:21:52 → 00:21:55 เลือกอะไรโรคนอนไม่หลับอินซอมเนียกลุ่ม
00:21:55 → 00:21:57 ที่ 2 โรคของเกี่ยวข้องกับการทางเดินหาย
00:21:57 → 00:22:01 ใจขณะหลับโรคเกี่ยวกับสมองนะครับอันนี้
00:22:01 → 00:22:03 เช่นโรคลมหลับที่ผมว่าไปนาโค lepy หรือ
00:22:03 → 00:22:06 อะไรพกนั้นน่ะนะครับ cate rit disorder
00:22:06 → 00:22:09 นะครับเรื่องของนาฬิกาชีวิตมันทำงานผิด
00:22:09 → 00:22:13 ปกติเร็วไปช้าไปเจ็ L อันนึงเนี่ยเจ็ L
00:22:13 → 00:22:15 Ship เวิร์คอันเนี้ยจริงๆเป็นอันนึงนะ
00:22:15 → 00:22:18 เคลื่อนไหวผิดปกติสัมพันธ์กับตอนหลับโลก
00:22:18 → 00:22:20 อื่นๆสารพัดโลกที่มันไม่เข้ากลุ่มนี้ก็มี
00:22:20 → 00:22:23 นะครับทีนี้สังเกตการนอนไม่พอเนี่ยเอา
00:22:23 → 00:22:26 ก่อนการนอนไม่พอเนี่ย 4 40% ผู้ใหญ่สังก
00:22:26 → 00:22:29 ว่านอนหลับผิดปกตินะครับส่วนใหญ่เนี่ยถ้า
00:22:29 → 00:22:31 เราไปดูเนี่ยไอ้เรื่องของการนอนหลับปกติ
00:22:31 → 00:22:34 ถ้าเราทำงานวิจัยกัน 25% เจอิง 16% ในผู้
00:22:34 → 00:22:38 ชายนะครับอะไรที่เป็นเจอเยอะๆนะ unless
00:22:38 → 00:22:40 นะรู้สึกนอนหลับไม่ดีอันที่ 2 คือนอนหลับ
00:22:40 → 00:22:44 ยากทีนี้เอามาดูนอนไม่หลับออมเนียง่ายมาก
00:22:44 → 00:22:47 เลยนอนไม่หลับถามว่ารู้ได้ไงว่าฉันนอนไม่
00:22:47 → 00:22:51 หลับก็คือเริ่มหลับลำบากหลับไปแล้วก็หลับ
00:22:51 → 00:22:53 ยากหลับไปแล้วคือไม่ต่อเนื่องคือมีความ
00:22:53 → 00:22:56 รู้สึกหลับๆตื่นๆตืๆหลับๆเสร็จแล้วมีความ
00:22:56 → 00:22:59 จำเป็นมนอนไม่หลับแล้วจะต้องง่วงกลางวัน
00:22:59 → 00:23:02 ไห้นะอาการที่นอนไม่หลับเนี่ยบางทีเนี่ย
00:23:02 → 00:23:03 มันไม่ได้อาการกลางวันเนี่ยมันไม่ได้เป็น
00:23:03 → 00:23:05 ง่วงนะเป็นอาการอื่นอะไรก็ได้ 1 ในนี้
00:23:05 → 00:23:08 อะไรก็ได้เช่น Fat เห็นมยฮะเป็นเพลียก็
00:23:08 → 00:23:11 ได้อันที่ 2 เป็นไงสมาธิเสียนอนไม่หลับ
00:23:11 → 00:23:14 เช้ามาสมาธิเสียนะครับความจำลดลงนะครับ
00:23:14 → 00:23:17 อารมณ์เปลี่ยนแปลงกลางวันง่วงเป็นหนึ่งใน
00:23:17 → 00:23:20 นั้นเท่านั้นเองเห็นมยฮะ motivation ความ
00:23:20 → 00:23:24 อยากจะทำอะไรเนี่ยอีอย่างอื่นเนี่ยลดลง
00:23:24 → 00:23:26 หรือมีอาการอื่นมันนอนไม่หลับแล้วจริงๆมา
00:23:26 → 00:23:28 ด้วยอะไรมาด้วยสบายอย่าไม่สบายอื่นปวดหัว
00:23:28 → 00:23:32 ปวดท้องเียอึ้นไส้อาเจียนอ่านะครับอาจจะ
00:23:32 → 00:23:34 เป็นไปได้ลกนอนไม่หลับผลกระทบมันยังไงผล
00:23:34 → 00:23:37 กระทบจะเริ่มแลกจากอะไรจากตัวเองเสมอ
00:23:37 → 00:23:40 เสร็จแล้วสู่อะไรสู่คนรอบข้างนะเริ่มแรก
00:23:40 → 00:23:42 เป็นอะไรก็อาจจะเป็นสมาธิสั้นลดความ
00:23:42 → 00:23:44 สามารถคุณภาพชีวิตลงเสร็จแล้วเป็นไงอาจจะ
00:23:44 → 00:23:47 มีเรื่องของอารมณ์ผิดปกติเสร็จแล้วเป็นไง
00:23:47 → 00:23:50 ทันทำงานลุดลงอันนี้มันมีความสำคัญอะไร
00:23:50 → 00:23:52 บ้างปัจจุบันเรารู้ว่ามันไอ้โลกไอ้นอนกน
00:23:52 → 00:23:56 ผิดปกติมันสัมพันธ์กับสุขภาพของหลอดเลือด
00:23:56 → 00:23:58 ยิ่งเป็นมากยิ่งแย่นักนะครับอันนี้ที่ 2
00:23:58 → 00:24:01 โรคของเมตาบอลิกบางอย่างเรื่องของโรคความ
00:24:01 → 00:24:03 ดันเรื่องของอะไรยิ่งเป็นมากยิ่งเป็นมาก
00:24:03 → 00:24:06 ขึ้นนะครับอ่ะเรามาดูโรคหลบหลับนาโคเลซี่
00:24:06 → 00:24:09 ไอ้นคปเนี่ยมันเป็นโรคที่เกิดจากความผิด
00:24:09 → 00:24:11 ปกติของระบบส่วนกลางระบบประสาทส่วนนึง
00:24:11 → 00:24:16 ซึ่งควบคุมระหว่างการหลับและตื่นไม่ดีทำ
00:24:16 → 00:24:18 ให้เวลาเรานอนเนี่ยเกิดการเเรียกอะไร
00:24:18 → 00:24:20 ระหว่างช่วงที่หลับเราต้องการหลับตลอด
00:24:20 → 00:24:22 เวลาใช่มั้ยเราไม่ต้องการช่วงที่ตื่นแทรก
00:24:22 → 00:24:24 เข้ามาเลยแต่ปัจจุบันปรากฏว่าในในคนไข้
00:24:25 → 00:24:27 กลุ่มนี้เนี่ยเวลาเรานอนไปหลับไปปุ๊บ
00:24:27 → 00:24:29 ปรากฏว่ามีช่วงตื่นแทรกเข้ามาในขณะเดียว
00:24:29 → 00:24:31 กันพอตอนจะตื่นด้านมีหลับแทรกเข้ามาปัญหา
00:24:31 → 00:24:33 ก็คือทำให้คนไข้เนี่ยเกิดการผิดปกติเดี๋ย
00:24:34 → 00:24:36 อาการผิดปกติมีอะไรบ้างนะครับพบมั้ยเยอะม
00:24:36 → 00:24:39 1 ต่อ 2,000 ก็น้อยนะไม่เยอะเท่าไหร่ผู้
00:24:39 → 00:24:41 ป่วยก็จะมีลักษณะเป็นง่วงมากกลางวันแล้ว
00:24:41 → 00:24:44 ก็มีความผิดปกติลักษณะที่น่าสงสัยก็คือ 1
00:24:44 → 00:24:47 กลางวันง่วงผิดปกติอยู่ๆเนี่ยง่วงทันที
00:24:47 → 00:24:49 เลยอยู่ๆจะหลับเนี่ยนึกจะหลับก็หลับเลย
00:24:49 → 00:24:51 ต้านมันไม่ได้เพราะอยู่ๆพอเราตื่นเนี่ย
00:24:51 → 00:24:53 ปรากฏไช่วงที่จะหลับมันแทรกเข้ามานะครับ
00:24:53 → 00:24:56 โชคยังดีส่วนใหญ่ไม่ค่อยเป็นในคนสูงอายุ
00:24:56 → 00:24:59 อายุ 10 กว่าๆถึง 20 กว่าๆนะครับแล้วก็
00:24:59 → 00:25:02 เป็นไปแล้วก็หยุดนะครับนะพอายุมากขึ้นมัก
00:25:02 → 00:25:05 ดีขึ้นเห็นภาพหลอนตช่วงลอยต่อลอยต่อ
00:25:05 → 00:25:07 ระหว่างจะหลับหรือจะตื่นคนกลุ่มนี้ก็จะ
00:25:07 → 00:25:09 เห็นเป็นภาพหล้อนเพราะเนื่องจากว่าไอ้ฝัน
00:25:09 → 00:25:11 ส่วนที่เรียกว่านอนหลับฝันส่วนหนึ่งที่
00:25:11 → 00:25:13 เราเรียกว่าเลม Sleep โผล่เข้ามาช่วงนั้น
00:25:13 → 00:25:17 คนไข้ก็เห็นภาพหลอนเลยนะครับทั้งๆที่ตัว
00:25:17 → 00:25:19 เองจะตื่นยังตื่นอยู่หรือจะหลับอยู่เกิด
00:25:19 → 00:25:22 อาการผีอำผีอำเพราะว่าอะไรเพราะว่าคนไข้
00:25:22 → 00:25:24 ตื่นแล้วในขณะเดียวกันไอ้ตัวที่ไปควบคุม
00:25:24 → 00:25:26 กล้ามเนื้อยังไม่ตื่นเป็นไงคนไข้ก็ตื่นใน
00:25:26 → 00:25:29 ขณะตื่นแล้วรู้รู้สึกว่าเคลื่อนไหวไม่ได้
00:25:29 → 00:25:33 เหมือนผีอำเป็นบ่อยๆกลัวมยกลัวสิกลัวตาย
00:25:33 → 00:25:35 ใช่มฮะตื่นขึ้นมาฉันยังขยับไม่ได้รู้ตัว
00:25:35 → 00:25:38 แล้วด้วยขยับไม่ได้ใช่มั้ยฮะคนปกติเป็น
00:25:38 → 00:25:41 ได้นะผีอำแต่ไม่บ่อยในรายที่นอนหลับได้
00:25:41 → 00:25:44 ไม่ดีอดนอนหรืออะไรอาจจะมีผีอำเล็กๆน้อยๆ
00:25:44 → 00:25:46 ได้เครียดหรอะไรเแต่คนกลุ่มนี้เป็นตลอด
00:25:46 → 00:25:50 เป็นทุกวันวันนึงเนี่ยนอนๆบางทีตื่นมาหือ
00:25:50 → 00:25:52 หลับเนี่ยทั้งตื่นทั้งหลับเป็นหลายคนนะ
00:25:52 → 00:25:54 เวลาดีใจและอ่อนแรงมีใครเป็นบ้างฮะ
00:25:54 → 00:25:56 หัวเราะแล้วเอาลงไปกองกับพื้นคนกลุ่มนี้
00:25:56 → 00:25:59 ปรากฏว่าเป็นไงดีใจขึ้นมารับรางวัลลงไป
00:26:00 → 00:26:03 ก่อนทรุดพวบกองกับพื้นไปที่เราเจอในคนไทย
00:26:03 → 00:26:06 หัวเราะแล้วกินเวลากินข้าวถ้าพูดเพื่อน
00:26:06 → 00:26:08 พูดหัวเราะแล้วเคี้ยวต่อไม่ได้เพราะมันทำ
00:26:08 → 00:26:10 อะไรฮะหุบคางไม่ได้
00:26:10 → 00:26:14 ฮะสักประเดี๋ยวก็ดีขึ้นนะคนไข้เป็นตั้ง
00:26:15 → 00:26:18 นานแนะครับนะเป็นตั้งหลายคนนะครับเก็นึก
00:26:18 → 00:26:20 ว่าเขาเป็นปกติของเขานะครับก็ง่วงนิด
00:26:20 → 00:26:23 หน่อยนะเออช่วงหลับมีตื่นบ่อยแถมบอกแล้ว
00:26:23 → 00:26:25 บอกว่าเป็นไงไอ้นอนหลับมันไม่ดีมันก็แทรก
00:26:25 → 00:26:27 เข้าแทรกออกอยู่เนี่ยตอนจะหลับก็ดันมี
00:26:27 → 00:26:29 ตื่นตอนจะตื่นดันมีหลับก็จะมีช่วงหลับมี
00:26:29 → 00:26:31 ตื่นบ่อยอันนี้ให้ดูเด็กๆเล่นเต้นๆ
00:26:31 → 00:26:34 หัวเราะเป็นไงอ่อนแรงขาสักประเดี๋ยวเต้นๆ
00:26:35 → 00:26:37 ไปเต้ไปนี่หัวเราะเล่นไปนะครับเาก็อันนี้
00:26:37 → 00:26:41 เกระตุ้นตรวจไปเกระตุ้นไปนะครับนะเออเ
00:26:41 → 00:26:44 กระตุ้นไปพอเด็กดีใจสักประเดี๋ยวเป็นไง
00:26:44 → 00:26:47 ลุกไม่ขึ้นลุกไม่ขึ้นนะครับบางคนเป็นมาก
00:26:47 → 00:26:49 นี่ฟุบไปกับพื้นเลยนะเป็นนาทีเลยนะไม่ได้
00:26:49 → 00:26:51 หมดสตินะรู้ตัวตลอดกล้ามเนื้อมันอ่อนแรง
00:26:51 → 00:26:55 คนไทยมีนะครับคนไทยมีนอนเข้าโรงพยาบาล
00:26:55 → 00:26:58 ศริราชนี่ 2-3 คนและนะครับนะอันนี้ก็ถถือ
00:26:58 → 00:27:01 ว่าเป็นปัญหาบ้างนิดนึงนะครับนะแล้วสัก
00:27:01 → 00:27:04 เดี๋ยวก็เป็นปกติอ่ะอันที่ 2 โรคขาอยู่
00:27:04 → 00:27:06 ไม่สุขเจอเยอะเหมือนกันนะครับในคนสูงอายุ
00:27:06 → 00:27:09 เพราะว่ามาด้วยโรคอื่นคือมาด้วยคล้ายๆ
00:27:09 → 00:27:11 เป็นเส้นประสาทอักเสบหรือจริงๆคืออาการคน
00:27:11 → 00:27:14 ไข้เนี่ยถ้าถามว่าเจอเยอะมยเจอประมาณ 10%
00:27:14 → 00:27:16 อ่ะผมพูดคำนี้ประมาณ 10% นะครับมันก็
00:27:16 → 00:27:18 อาการที่บ่นจริงๆเนี่ยมาด้วยอะไรคนไข้บาง
00:27:18 → 00:27:21 คนมาบอกว่าตอนจะอยู่เฉยๆนั่งอยู่เฉยๆ
00:27:21 → 00:27:23 เนี่ยมีความรู้สึกเหมือนอะไรมาไต่ขา
00:27:23 → 00:27:25 เมื่อยๆอะไรไม่รู้มันไต่ขาบางคนมันเหมือน
00:27:25 → 00:27:28 เป็นแบบยุบๆยุบๆยุๆนะครับบางคนเป็นตะคิว
00:27:28 → 00:27:31 บางคนเป็นปวดแสบปวดร้อนบางคนเหมือนเหมือน
00:27:31 → 00:27:33 อะไรฮะเหมือนมีอะไรมาดึงขาถามว่ามันเอา
00:27:33 → 00:27:36 มันแยกไงคนพวกเมันจะมาหาหมอเพราะอะไรมาหา
00:27:36 → 00:27:38 หมอเพราะว่าส่วนใหญ่มันรำคาญมากด้านความ
00:27:38 → 00:27:40 รู้สึกมันรำคาญมากมันจะเป็นตอนช่วงไหน
00:27:40 → 00:27:42 ช่วงจะนอนเป็นไงถ้ามีอาการอย่างนี้มีความ
00:27:42 → 00:27:45 รู้สึกไงนอนได้มยไม่ได้มันก็ต้องขยับอยู่
00:27:45 → 00:27:47 นั่นน่ะสักประเดี๋ยวถึงนอนได้นะครับก็
00:27:47 → 00:27:49 เป็นปัญหาอายุเนี่ยมันจะเริ่มตั้งแต่อายุ
00:27:49 → 00:27:51 ประมาณ 20 หรือ 40 ปีส่วนใหญ่ประมาณ 30
00:27:51 → 00:27:54 40 ปีไม่ได้เป็นทุกวันแรกๆไม่ได้เป็นทุก
00:27:54 → 00:27:58 วันแอาจจะเป็นแค่วัน 2 วันต่อสัปดาห์แล้ว
00:27:58 → 00:28:00 เป็นที่ขาก่อนหลังๆมันจะเป็นทั้งตัวเป็น
00:28:00 → 00:28:02 มากขึ้นเป็นมากขึ้นเป็นทั้งตัวเคิดว่า
00:28:02 → 00:28:05 ความผิดปกติเกิดจากไอ้สารโดปามีนในสมอง
00:28:05 → 00:28:08 หรือว่าการใช้สารเหล็กเนี่ยในสมองในการ
00:28:08 → 00:28:11 เคลื่อนย้ายสารเหล็กในสมองการรักษาเนี่ยเ
00:28:11 → 00:28:13 ก็มีวิธีวินิจฉัยนะครับอย่างที่ผมบอกก็
00:28:13 → 00:28:16 คือว่าเขาก็จะใช้ไอ้ยารักษาพากกินสันไม่
00:28:16 → 00:28:19 ได้เป็นโรคากินสันนะครับแต่กินยาพากินสัน
00:28:19 → 00:28:22 แล้วหายอ่ะทีนี้มาดูไอ้นอนหลับผิดปกติใน
00:28:22 → 00:28:25 สูงอายุผมบอกแล้วในสูงอายุเนี่ยเป็นปัญหา
00:28:25 → 00:28:28 ถามว่าทำไมเกิดการเสื่อมของระบบร่างกาย
00:28:28 → 00:28:31 ขึ้นมาแสงเข้าเป็นไงเลนสก็เสื่อมเลนฝ้า
00:28:31 → 00:28:34 แสงเข้าได้น้อยอาจบประสาทตาก็ไม่ค่อยจะดี
00:28:34 → 00:28:37 นะครับนะมันก็ไอ้แสงเข้าไปน้อยเอาทางเดิน
00:28:37 → 00:28:40 เส้นประสาทก็แย่อีกขาดมั่งติดมั่งนะเสร็จ
00:28:40 → 00:28:43 ท้ายสัญญาณเข้าไปกระตุ้นสมองมีน้อยอันที่
00:28:43 → 00:28:46 2 ไอ้ตัวไอ้ตัวนาฬิกาชีวิตเป็นไงอยู่ๆไป
00:28:46 → 00:28:49 มันก็คงโดนทำลายไปบางส่วนทำงานน้อยลงอ่ะ
00:28:49 → 00:28:52 อันนี้มันตามสภาพนะครับมันก็แย่ลงอันที่ 3
00:28:52 → 00:28:55 ไอ้ตัวควบคุมของสมองมันก็ทำงานลดลงมันก็
00:28:55 → 00:28:57 ทำให้ทั้งหมดเนี่ยมันก็เลยทำให้อะไรฮะเรา
00:28:57 → 00:29:00 นอนหลับได้ไม่ค่อยดีในคนสูงอายุแลแถมมี
00:29:00 → 00:29:02 ปัจจัยอื่นตั้งเยอะตั้งแยะช่วยทำให้คนสูง
00:29:02 → 00:29:05 อายุนอนหลับไม่ดีมีอะไรบ้าง 1 ไม่คุ้นเคย
00:29:05 → 00:29:07 ใช่มั้ยฮะนอนเร็วกับปกติใช่มั้ยฮะ
00:29:07 → 00:29:09 activity สมัยก่อนมีงานให้ทำเยอะแยะเลย
00:29:10 → 00:29:12 ปัจจุบันมีอะไรฮะตอนเย็นแทบไม่มีอะไรก็
00:29:12 → 00:29:14 นอนดีกว่าใช้ยานอนหลับเป็นไงพอนอนไม่หลับ
00:29:14 → 00:29:16 เป็นไงก็ไปใช้ยานอนหลับใช้ไปนานๆเป็นไง
00:29:16 → 00:29:20 ติดยานอนหลับติดภาวะการถอนยานอนหลับยุ่ง
00:29:20 → 00:29:22 กันหนักเข้าไปใหญ่นะประสิทธิภาพสมองลดลง
00:29:23 → 00:29:25 อย่างที่ผมบอกแล้วนะครับมีโรคทางกายอีก
00:29:25 → 00:29:27 ช่วยปนเข้าไปอีกยุ่งกันใหญ่สังเกตมั้ยฮะ
00:29:27 → 00:29:29 บางคนบอกว่าตอจะหลับทีไรฉันขากระตุกทุกที
00:29:29 → 00:29:33 เลยขากระตุกแขนกระตุกในบางคนเป็นใช่มฮะ
00:29:33 → 00:29:35 กระตุกเป็นระยะระะอยู่ตลอดเลยบางคนนอนจะ
00:29:35 → 00:29:38 นอนทีใดขากระตุกตึ๊กๆๆเป็นปัญหาเพราะจริง
00:29:38 → 00:29:40 ๆส่วนส่ใหญ่ในคนกลุ่มนี้ไม่ค่อยมีไม่ค่อย
00:29:40 → 00:29:43 รู้อ่ะเพราะตัวเากระตุกเเป็นปกติแต่ไอ้
00:29:43 → 00:29:46 ที่เป็นผิดปกติบางทีมันกระตุกแรงก็ทำให้
00:29:46 → 00:29:48 ตื่นบางทีกระตุกแรงไอ้คนข้างๆก็นึกว่า
00:29:48 → 00:29:51 เป็นโรคอะไรจริงๆมันก็ไม่มีอะไรนะครับนี้
00:29:51 → 00:29:53 อีกอันนึงก็คือพาราซอมเนียพาราซอมเนียก็
00:29:53 → 00:29:55 คือภาวะอะไรก็ได้เกิดการเคลื่อนไหวผิด
00:29:55 → 00:29:58 ปกติหรือพฤติกรรมผิดปกติช่วงนอนเป็นการ
00:29:58 → 00:30:00 เคลื่อนไหวผปกติที่สัมพันธ์กันในช่วงการ
00:30:00 → 00:30:03 นอนหลับฝันออกท่าทางตอนฝันปัญหาที่พบก็
00:30:03 → 00:30:05 คือมันออกท่าทางเวลาฝันแล้วเนี่ยมันออก
00:30:05 → 00:30:08 ท่าทางด้วยเตะต่อยก็เกิดความบาดเจ็บขนาด
00:30:08 → 00:30:11 หลับตัวเองไม่ไม่พอชาวบ้านนอนเต่อยต่อยคน
00:30:11 → 00:30:14 นอนด้วยตาเขียวเลยครับบางทีถีบตกเตียงเลย
00:30:14 → 00:30:17 บางทีก็ตกเตียงลงมาสะโพกหักก็มีนะครับนอน
00:30:17 → 00:30:19 ไม่ต่อเนื่องเวลามีมันก็นอนไม่ต่อเนื่อง
00:30:19 → 00:30:22 ฝันน่ารำคาญฝันเฉยๆไม่เป็นไรไอ้พวกนี้ฝัน
00:30:22 → 00:30:25 ลออกท่าทางด้วยนะมีแขนขากระตุกเจอบ่อยนะ
00:30:25 → 00:30:27 ครับนะเป็นไงนอนๆเดี๋ยวดูนะใครๆนอนเป็น
00:30:27 → 00:30:31 งี้มั่งบอกเลยนะผมว่าน่าจะต้องรักษานี่ๆ
00:30:31 → 00:30:35 นอนอยู่สบายดีไม่มีอะไรให้มือขยับมั้ยยอก
00:30:35 → 00:30:38 แยกยแยอ้าขาขยับไม่มีไรสมมติสมมติตข้าง
00:30:38 → 00:30:40 ข้างเฮ้ยลุกขึ้นมาทำอะไรเนี่ยอันนี้ก็
00:30:40 → 00:30:45 ตรวจการนอนหลับไปนะนี่ตีซัก
00:30:46 → 00:30:50 ทีคุณไข้ผมเป็นอย่างงี้จริงๆนะโรคแปลกๆ
00:30:50 → 00:30:52 อย่างอื่นอีกให้รู้แวนะครับเช่นพอหลับ
00:30:52 → 00:30:55 ปุ๊บแล้วลงไปคว้าของในตู้เย็นกินทุกอย่าง
00:30:55 → 00:30:57 เสร็จแล้วลงไปนอนนะครับอันนี้ก็เป็น
00:30:57 → 00:30:59 ปัญญหามันกินหมดทุกอย่างบนตู้เย็นเลยนะ
00:30:59 → 00:31:02 น้ำหนักขึ้นเลยแล้วมันก็ไม่รู้ตัวด้วยนะ
00:31:02 → 00:31:04 อาจจะเป็นจากโรคของเขาหรือเป็นจากการกิน
00:31:04 → 00:31:07 ยาก็ได้อ่ะอันนี้นาฬิกาชีวิตโรคผิดปกติ
00:31:07 → 00:31:10 จากนาฬิกาชีวิตนะจริงๆก็คืออย่างที่ผมบอก
00:31:10 → 00:31:12 บางคนเนี่ยนาฬิกาชีวิตมันก็เลื่อนไปข้าง
00:31:12 → 00:31:15 หน้าเยอะเขาก็เป็นปัญหาอันนี้ปกติะอย่าง
00:31:15 → 00:31:17 ที่เรารู้กันนะครับบางคนเลื่อนไปข้างหลัง
00:31:17 → 00:31:19 เยอะก็เป็นปัญหาเพราะว่าเป็นปัญหาเพราะ
00:31:19 → 00:31:21 เนื่องจากว่าอะไรฮะการทำงานการทำงานมัน
00:31:21 → 00:31:24 โดนฟิกเนื่องจากชีวิตการทำงานของเรามัน
00:31:24 → 00:31:25 โดนฟิกอยู่ตลอดว่าต้องเป็นประมาณเนี้ยของ
00:31:25 → 00:31:27 คนปกติถ้าเราเลื่อนไปข้างหน้าเยอะหรือ
00:31:27 → 00:31:30 เลื่อนไปข้างหลังเยอะมันก็เจอความผิดปกติ
00:31:30 → 00:31:32 แต่จริงๆที่มันเจอเยอะๆเนี่ยของเราไม่เจอ
00:31:32 → 00:31:35 เยอะคือเจ็ r ของเราไม่มีของเราไม่ค่อยมี
00:31:35 → 00:31:38 เพราะเราเดินทางกันน้อยแล้วไปในประเทศเรา
00:31:38 → 00:31:40 เนี่ยมันก็อยู่แค่ Time โซนเดียวไม่มีเจ็
00:31:40 → 00:31:44 L อย่างอเมริกามัน 5 5 Time ซนชีวิต
00:31:44 → 00:31:46 มันบางทีมันเช้ามันทำงานนึงเย็นมันก็ทำ
00:31:46 → 00:31:48 งานมันเจ็ดแลกกันอุตลุดเลยนะครับนะของเรา
00:31:48 → 00:31:51 เป็นอันนี้ฮะที่เจอิเวิร์คที่เจอเยอะสุด
00:31:51 → 00:31:53 คือลักษณะิเวิรคของเราที่เจอเป็นเร
00:31:53 → 00:31:55 คอมพิวเตอร์ก็คือหมายความว่าคนเราปกตินอน
00:31:55 → 00:31:58 แล้วเป็นไงต้องตื่นเร็วขึ้นเพื่ออะไรมาทำ
00:31:58 → 00:31:59 งานตอนเช้าเสร็จแล้วก็หลับจริงๆเป็นชิ
00:31:59 → 00:32:02 เวิร์คแบบนึงแต่ที่เราอันที่ 2 ที่เจอชิ
00:32:02 → 00:32:04 เวิร์คคือเป็นกะทำงานเป็นกะความผิดปกติ
00:32:04 → 00:32:06 การนอนหลับก็มีวิธีการตรวจการนอนหลับ
00:32:06 → 00:32:08 เพื่อประเมินโรครักษาทีนี้เราอยากให้ดู
00:32:08 → 00:32:11 ว่าวิธีการตรวจมันก็มีหลายแบบตรวจไอ้ psg
00:32:11 → 00:32:12 นี่แหละหรือเป็นตรวจกลางวันนี่แหละที่
00:32:12 → 00:32:15 เรียก mslt ตรวจการนอนหลับเจะมาติดเงี้
00:32:15 → 00:32:17 ไม่ใช่มานอนเฉยๆเช่วงนอนเจะติดอุปกรณ์ดู
00:32:17 → 00:32:20 คลื่นสมองดูการหายใจดูการขยับเสร็จแล้ว
00:32:20 → 00:32:22 กับผลทั้งหมดเไปแปลแล้วดูว่าเป็นโรคอะไร
00:32:22 → 00:32:25 แค่ผมถามเมื่อ 3 วันก่อนคุณนอนยังไงมีใคร
00:32:25 → 00:32:28 ตอบผมได้บ้างมผมเองเออไม่ได้เลยเมื่อ 3
00:32:28 → 00:32:30 วันก่อนนอนไงนอนกี่โมงตื่นกี่โมงทีนี้
00:32:30 → 00:32:33 วิธีการอย่างเงี้ได้ข้อมูลยังไงเราก็ให้
00:32:33 → 00:32:35 กลับบ้านน่ะกลับบ้านเอาไอ้นี่ไปอ่ะกระดาษ
00:32:35 → 00:32:38 ไปใบนึงอ่ะคุณนอนตอนกี่โมงคุณมาคมาด้วยนะ
00:32:38 → 00:32:40 คุณตื่นตอนกี่โมงมาคมาด้วยเราก็จะมีวิธี
00:32:40 → 00:32:43 ประเมินว่านอนง่วงเนี่ยนอกจากคำถามบางที
00:32:43 → 00:32:46 เราก็มีวิธีการไปทดสอบความง่วงนอนว่ามัน
00:32:46 → 00:32:49 ไม่เยอะมากน้อยแค่ไหนแล้วเถาม 8 ถามอยู่ 7
00:32:49 → 00:32:52 หรือ 8 พฤติกรรมเสร็จแล้วดูว่ามีอาการผิด
00:32:52 → 00:32:54 ปกติมากหรือน้อยแค่ไหนเริ่มการรักษาอะไร
00:32:54 → 00:32:56 แต่ละอย่างไปโลกทุกโรกไม่จำเป็นต้องมา
00:32:56 → 00:32:59 ตรวจการนอนหลับแต่แนวโน้มส่วนใหญ่จะได้
00:32:59 → 00:33:01 ต้องมารับการตรวจนอนหลับนะ
00:33:01 → 00:33:07 [เพลง]
00:33:07 → 00:33:11 ครับการนอนไม่หลับนี่ส่วนใหญ่จะเกิดปัญหา
00:33:11 → 00:33:13 กับสุขภาพก็ต่อเมื่อเป็นการภาวะของการนอน
00:33:13 → 00:33:15 ไม่หลับเรือลังเพราะส่วนใหญ่ของชีวิตคน
00:33:15 → 00:33:18 เราคงจะต้องมีบางช่วงของชีวิตที่ประสบ
00:33:18 → 00:33:20 ปัญหานอนไม่หลับบ้างชั่วครั้งชั่วคราว
00:33:20 → 00:33:22 เช่นเกิดภาวะความตึงเครียดอะไรในชีวิตนะ
00:33:22 → 00:33:24 คะแต่ถ้าเมื่อไหร่ก็ตามที่มันเข้าสู่ระยะ
00:33:24 → 00:33:27 เรื้อรังแล้วไม่สามารถนอนหลับได้มันจะทำ
00:33:27 → 00:33:30 ให้ประสิทธิภาพในการทำงานถดถอยคุณภาพ
00:33:30 → 00:33:33 ชีวิตถดถอยมีความอ่อนอ่อนเพลียมากในตอน
00:33:33 → 00:33:35 กลางวันในกรณีอย่างนั้นถ้าคิดว่าเราไม่
00:33:35 → 00:33:38 สามารถแก้ไขด้วยการกำจัดสาเหตุได้ด้วยตน
00:33:38 → 00:33:42 เองหรือแม้บางครั้งนะคะสาเหตุโดยตรงที่
00:33:42 → 00:33:44 เคยก่อให้เราเกิดปัญหานอนไม่หลับนั้นได้
00:33:44 → 00:33:46 หมดไปแล้วแต่โรคนั้นยังคงอยู่กับเราแล้ว
00:33:46 → 00:33:49 ก็คงต้องอาศัยแพทย์หรือว่าปรึกษาแพทย์
00:33:49 → 00:33:52 เพื่อช่วยในการรักษาเรา
00:33:53 → 00:33:56 ค่ะช่วงนี้พบกับการบรรยายในหัวข้อการนอน
00:33:56 → 00:33:58 ไม่หลับสำหรับประ
00:33:58 → 00:34:02 โดยอาจารย์นายแพทย์สทับุราทิตจากพรรควิชา
00:34:02 → 00:34:05 จิตเวชศาสตร์คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
00:34:05 → 00:34:09 มหาวิทยาลัยมหิดลหลายๆคนบถาม
00:34:09 → 00:34:14 ว่านอนเท่าไหร่ถึงจะพอนะคนไข้ถามตลอดนอน
00:34:14 → 00:34:20 เท่าไหร่ถึงจะพอคำตอบมันไม่ตายตัวนะครับ
00:34:20 → 00:34:22 คนเราเนี่ยจะรู้ได้ไงว่าเรานอนเท่าไหร่
00:34:22 → 00:34:24 ถึงจะพอดูที่ตัวเราเองฮะว่าเรานอนแล้วเรา
00:34:24 → 00:34:29 ตื่นขึ้นมาสดชื่นหรือไม่สดชื่นบางคนนอน 6
00:34:29 → 00:34:33 ชมงตื่นขึ้นมาสดชื่นก็ถือว่า 6 ช่มพอบาง
00:34:33 → 00:34:38 คนนอนไป 8 ชมตื่นมาสดชื่นก็คือ 8 ชมงนะ
00:34:38 → 00:34:41 ครับไม่มีกฎเกณฑ์ตายตัวว่านอนเท่าไหร่ถึง
00:34:41 → 00:34:45 จะพอนะครับแต่มีข้อสังเกตเล็กน้อยเขาเคย
00:34:45 → 00:34:48 ศึกษาคนที่เป็นคนนอนน้อยนะครับที่คือนอน 6
00:34:48 → 00:34:50 ช่วโมงแล้วตื่นมาสดชื่นเนี่ยนะฮะกับคนที่
00:34:50 → 00:34:53 นอน 8 ช่วโมงตื่นมาแล้วสดชื่นเนี่ยแบบไหน
00:34:53 → 00:34:57 อายุยืนกว่ากันก่อนที่จะเฉลยนะฮะในห้อนี้
00:34:57 → 00:35:01 ใคร 6 ชมแล้วพอบ้างฮะอ่าใครต้องการ 7
00:35:01 → 00:35:04 ชั่วโมงฮะใครไกล 8
00:35:05 → 00:35:09 ชมใครมากกว่านั้นฮะหรือใคร 5 ชั่วโมงจริง
00:35:09 → 00:35:14 ๆนะฮะก็ศึกษามาเบอกว่าคนนอนน้อยก็ตายเร็ว
00:35:14 → 00:35:20 ฮะนอนมากก็ตายเร็วฮะเบอกประมาณ 7 ช่ม
00:35:20 → 00:35:23 เนี่ยอายุยืนที่สุด 6 ชัวโมงก็ตายเร็ว 8
00:35:23 → 00:35:25 ช่วโมงก็ตายเร็วเพราะฉะนั้นไม่ใช่ไป
00:35:25 → 00:35:28 บังคับให้เรานอน 7 ช่วโมงนะครับคือถ้าเรา
00:35:28 → 00:35:31 เรา 8 ชมงพอก็คือต้องนอน 8 ช่มนะครับแล้ว
00:35:31 → 00:35:33 ถามว่าเมื่อไหร่ถึงจะเรียกว่านอนไม่หลับ
00:35:33 → 00:35:36 เราเข้าไปนอนแล้วนานม
00:35:36 → 00:35:38 ฮะกว่าจะหลับนานเท่าไหร่เนี่ยถึงจะเรียก
00:35:39 → 00:35:41 ว่านอนไม่หลับนะฮะเป็นคำถามกันว่าเป็นนอน
00:35:41 → 00:35:44 ไม่หลับหรือเปล่าคนส่วนใหญ่เอาอะไรเป็น
00:35:44 → 00:35:46 ตัวตั้งฮะนอนแล้วรู้สึกทรมานเมื่อไหร่ก็
00:35:46 → 00:35:48 นั่นแหละคือนอนไม่หลับแต่การองค์การแพทย์
00:35:48 → 00:35:51 ว่าว่ายังไงฮะถ้าเข้าไปนอนแล้ว 20-30
00:35:51 → 00:35:53 นาทีไม่หลับถึงจะเรียกว่านอนไม่หลับครับ
00:35:53 → 00:35:56 แล้วเมื่อไหร่ถึงจะเรียกว่าเป็นโรคนอนไม่
00:35:56 → 00:35:59 หลับนะในห้องนี้นะครับต้องเคยมี
00:35:59 → 00:36:02 ประสบการณ์การนอนไม่หลับอยู่แล้วทุกคนเคย
00:36:02 → 00:36:04 นอนไม่หลับแล้วถามว่าเมื่อไหร่่ะถึงจะ
00:36:04 → 00:36:06 เรียกว่าเป็นโรคนอนไม่หลับถ้าเอาตามหลัก
00:36:06 → 00:36:10 วิชาการก็คือเป็นบ่อยๆจนเราทรมานนั่นแหละ
00:36:10 → 00:36:13 นะครับไม่ต้องสนใจข้อมูลมากเรารู้สึกว่า
00:36:13 → 00:36:15 มันเป็นหลายๆคืนติดๆกันหรืออาทิตย์นึง
00:36:15 → 00:36:18 เป็นสัก 2-3 คืน 4 คืนนะครับแล้วเป็น
00:36:18 → 00:36:20 เรื่อยๆเป็นบ่อยๆอันนั้นถึงเรียกว่าเป็น
00:36:20 → 00:36:24 โรคนอนไม่หลับแต่ถ้าเป็นแค่คืนเดียวหรือ 2
00:36:24 → 00:36:27 คืนติดกันไม่เป็นไรอย่างเช่นพรุ่งนี้ลูก
00:36:27 → 00:36:31 สาวจะแต่งงานไม่ชอบลูกเขยเครียดนะครับ
00:36:31 → 00:36:34 เครียดนอนไม่หลับอยู่ 2 คืนพอลูกสาวแต่ง
00:36:34 → 00:36:40 งานมีงานมั่นลูกเขยเอาทอรมาให้ 200 บาท
00:36:40 → 00:36:44 เออมีความสุขขึ้นคือคืนนี้แต่งงานเส็นอน
00:36:44 → 00:36:45 หลับแล้วอันนี้ไม่ถือว่าเป็นโรคนอนไม่
00:36:45 → 00:36:47 หลับแต่ถ้าเกิดนอนไม่หลับมันเป็นต่อ
00:36:47 → 00:36:49 เนื่องต่อเนื่องกันนะครับเราถึงจะเลือก
00:36:49 → 00:36:52 ว่าเป็นโรคนอนไม่หลับอะไรเป็นสาเหตุที่ทำ
00:36:52 → 00:36:55 ให้นอนไม่หลับมีหลายสาเหตุตั้งแต่โรคต่าง
00:36:55 → 00:36:58 ๆโรคประจำตัวนะครับบางคนเป็นเบาหวานลุก
00:36:58 → 00:37:02 ขึ้นมาปัสสาวะบ่อยก็นอนหลับอยู่ดีๆต้อง
00:37:02 → 00:37:04 ตื่นมาปัสสาวะแล้วก็กลับไปนอนนอนต่อหลับ
00:37:04 → 00:37:07 ยากอันนั้นคือเบาหวานนะครับบางคนเป็นโรค
00:37:07 → 00:37:09 ปวดหลังนะคนสูงอายุปวดหลังปวดเข่านะครับ
00:37:10 → 00:37:12 อ่ะปวดก็ทำให้นอนไม่หลับได้นะครับเป็นโรค
00:37:12 → 00:37:17 หอบหืดนะครับหอ่าเป็นถุงลมโป่งพองเหนื่อย
00:37:17 → 00:37:19 นอนลำบากก็นอนไม่หลับนะครับอันนี้คือแต่
00:37:20 → 00:37:22 คนส่วนใหญ่่จะรู้ว่าตัวเองนอนไม่หลับ
00:37:22 → 00:37:24 เพราะอะไรเพราะว่าเราปวดปวดเข่านอนไม่
00:37:24 → 00:37:27 หลับเพราะว่าเราหอบนะครับจะไม่ค่อยกังวล
00:37:27 → 00:37:29 แต่จะมีอีกส่วนนึงคือที่เกิดจากความ
00:37:29 → 00:37:31 เครียดเช่นเครียดเรื่องธุรกิจเครียด
00:37:31 → 00:37:33 เรื่องงานเครียดเรื่องครอบครัวก็เกิด
00:37:33 → 00:37:35 ปัญหานอนไม่หลับขึ้นมาอันนี้เป็นเรื่อง
00:37:35 → 00:37:38 เล็กนะครับคนเราทุกคนมีความเครียดนะครับ
00:37:38 → 00:37:40 ในชีวิตเรามีความเครียดได้พอเครียดเราก็
00:37:40 → 00:37:42 จะนอนไม่หลับแต่ถามว่าพอความเครียดมันหมด
00:37:42 → 00:37:45 ไปเราก็ควรจะนอนหลับใช่ไหมมครับอ่ะไม่มี
00:37:45 → 00:37:47 เงินพอวันที่ 1 เงินเดินออกเรามีเงินเข้า
00:37:47 → 00:37:49 กระเป๋่าปั๊บเราก็ควรจะนอนหลับตไปเรายัง
00:37:49 → 00:37:52 นอนไม่หลับอยู่อีกพอเริ่มต้นมันเริ่มจาก
00:37:52 → 00:37:54 ความเครียดเรื่องอะไรก็แล้วแต่ว่าเราจะทำ
00:37:54 → 00:37:56 ให้นอนไม่หลับพอ 2-3 คืนที่ไม่หลับต่อมา
00:37:56 → 00:37:58 พอคืนที่ 4 ไอ้ความเครียบมันหมดไปแล้ว
00:37:58 → 00:38:00 เงินมีแล้วแต่ยังนอนไม่หลับอยู่อีกเพราะ
00:38:00 → 00:38:02 ว่าเราเริ่มกังวลแล้วฮะว่าจะนอนไม่หลับ
00:38:02 → 00:38:05 กลัวว่าจะนอนไม่หลับเป็นสาเหตุที่ทำให้
00:38:05 → 00:38:08 เรานอนไม่หลับเรือหลังบางคนไม่ใช่แค่กลัว
00:38:08 → 00:38:11 นะฮะพอกลัวจะนอนไม่หลับปั๊บทำยังไงฮะก็
00:38:11 → 00:38:14 ต้องวางแผนด้วงหน้าคืนนี้จะทำยังไงถึงจะ
00:38:14 → 00:38:17 หลับคนส่วนใหญ่ทำยังไงฮะสมมติว่าหูนอนไม่
00:38:17 → 00:38:19 หลับมา 3 คืนแล้วคืนที่ 4 นี้ทำยังไง
00:38:19 → 00:38:22 เมื่อก่อนซื้อยานอนหลับได้ฮะหมอตี๋มีขาย
00:38:22 → 00:38:24 เดี๋ยวนี้ห้ามขายแล้วครับหมอตี๋ไม่ขายยา
00:38:24 → 00:38:27 นอนหลับแล้วฮะร้านขายยาขายไม่ได้
00:38:28 → 00:38:30 นะครับคนส่วนใหญ่ทำไงฮะเข้านอนให้เร็ว
00:38:30 → 00:38:33 ขึ้นเผื่อว่าเราจะได้หลับได้มากขึ้นถาม
00:38:33 → 00:38:35 ว่าทำยังไงเลยกว่าถึงจะนอนหลับพอเรานอน
00:38:35 → 00:38:38 ไม่หลับแล้วเนี่ยหลายคนไม่สนใจหรอกทำไมจะ
00:38:38 → 00:38:41 นอนไม่หลับจากอะไรทำยังไงให้ก็ได้ให้ฉัน
00:38:41 → 00:38:44 นอนหลับเราดูที่สุขลักษณะของการนอนนะครับ
00:38:44 → 00:38:47 สำหรับคนที่นอนไม่หลับเริ่มแรกดูจากห้อง
00:38:47 → 00:38:49 นอนก่อนนะฮะห้องนอนนี่ต้องเป็นห้องที่
00:38:49 → 00:38:53 เหมาะสมกับการนอนนะครับเงียบ
00:38:53 → 00:38:58 สงบสบายนะครับอุณหภูมิพอเหมาะนะครับไม่
00:38:59 → 00:39:03 ใช่มีเสียงดังนอกจากนี้นะครับอันนี้สำคัญ
00:39:03 → 00:39:08 มากห้องนอนนะฮะต้องเอาไว้นอนเท่า
00:39:08 → 00:39:12 นั้นนะครับหลายคนใช้ห้องนอนดู
00:39:12 → 00:39:15 ทีวีนะครับอ่าน
00:39:15 → 00:39:20 หนังสือนะครับอ่าเล่นคอมพิวเตอร์โอ้บางคน
00:39:20 → 00:39:24 ถึงว่ากินข้าวในห้องนอนเลยพฤติกรรมแบบนี้
00:39:24 → 00:39:25 เราต้องละลาย
00:39:25 → 00:39:29 ซะนะครับห้องนอนต้องเอาไว้นอนเท่านั้นนะ
00:39:29 → 00:39:33 ครับปัญหาที่จะเกิดขึ้นบ่อยๆคือในคนไข้
00:39:33 → 00:39:37 ของผมหรือคนที่มีปัญหานอนดับที่อยู่หอพัก
00:39:37 → 00:39:39 หรือว่าบางคนอยู่ตึกแถวบอกมีฉันมีอยู่
00:39:39 → 00:39:42 ห้องแค่ในข้างล่างขายของข้างบนมีพอพอขาย
00:39:42 → 00:39:44 ของเสร็จปิดร้านเสร็จ
00:39:44 → 00:39:48 ก็ขึ้นห้องไม่มีที่ไปถ้าคนที่มีที่ไปก็
00:39:48 → 00:39:52 แนะนำได้ให้ออกนอกห้องแต่บางคนไม่มีอยู่
00:39:52 → 00:39:56 หออยู่ตึกแถวนะครับทำยังไงก็ต้องพยายาม
00:39:56 → 00:39:59 หลีกเลียกนะครับนะพยายามอยู่ในห้องนอนให้
00:39:59 → 00:40:02 น้อยที่สุดนะครับตื่นเช้ามาแล้วลุกออกจาก
00:40:02 → 00:40:05 ห้องนอนนะครับลุกเลย 6:00 น 7 นลุกออกห
00:40:05 → 00:40:08 ไม่นอนแช่แล้วกลางวันพยายามไม่กลับเข้าพอ
00:40:08 → 00:40:11 กลางคืนพยายามเข้าให้ดึกที่สุดนะครับกิน
00:40:11 → 00:40:14 ข้าวข้างนอกดูทีวีข้างนอกถ้าอยู่หอพัก
00:40:14 → 00:40:17 แล้วมันอยู่หอพักหรืออยู่ในที่ที่มันไม่
00:40:17 → 00:40:22 สามารถอ่าใช้ชีวิตที่อื่นได้ในช่วงหัวค่ำ
00:40:22 → 00:40:24 วันนี้ผมก็แนะนำให้เราเอาฉากมากั้นนะไป
00:40:24 → 00:40:27 ซื้อฉากถูกๆแล้วนะมากั้นห้องตรงเตียงนอน
00:40:27 → 00:40:30 ให้เป็นสัดสวนแคบๆซะตรงนี้เป็นห้องนอนนะ
00:40:30 → 00:40:34 ครับไม่ให้ตาเรามองเห็นเตียงนะครับก็อาจ
00:40:34 → 00:40:39 จะพอช่วยได้บ้างอีกอันนึงคือชากาแฟนะครับ
00:40:39 → 00:40:41 หลีกเลี่ยงชากาแฟอันนี้ทุกคนรู้นะฮะกิน
00:40:41 → 00:40:46 กาแฟแล้วนำไม่หลับแต่คนบอกว่าเมื่อก่อน
00:40:46 → 00:40:49 ฉันกินกาแฟ 3 แก้วฉันก็ยังหลับเพราะฉัน
00:40:49 → 00:40:51 ไม่เกี่ยว
00:40:51 → 00:40:57 อตอนเราเป็นสาวๆนะฮะผมเอาตอนผมหนุ่มๆแล้ว
00:40:57 → 00:40:59 กันเด็กๆเลยเรียนเรียนหมออยู่ที่ศิริราช
00:40:59 → 00:41:02 เนี่ยฮะเล่นกับเพื่อนเล่นกีฬาเสร็จ 20:00
00:41:02 → 00:41:06 นกินโค้กไปแก้วนึงขวดนึงเหนื่อย 23:00 น
00:41:06 → 00:41:08 นอนหลับปุ๋ยไม่มี
00:41:08 → 00:41:12 ปัญหานะครับทำเดี๋ยวนี้ถ้า 21:00 นผมกิน
00:41:12 → 00:41:15 โค้กเข้าไปขวดหือกินกาแฟไปแก้วนึงไม่ต้อง
00:41:15 → 00:41:20 หลับแล้วครับคืนนั้นทั้งคืนเลยนะ
00:41:20 → 00:41:23 ครับความแตกต่างนี้เพราะว่าอะไรพอเราอายุ
00:41:23 → 00:41:26 มากขึ้นร่างกายจะขจัดคาเฟอีนที่มีอยู่ใน
00:41:26 → 00:41:30 กาแฟได้ช้าลงนะในเด็กๆเนี่ยอาจจะใช้เวลา
00:41:30 → 00:41:33 ชั่วโมงเดียวนะฮะเด็กเล็กๆอ่าเด็กประถม
00:41:33 → 00:41:36 มัธยมชั่วโมงเดียวเนี่ย 2 ชั่วโมงคาเฟอิน
00:41:36 → 00:41:41 เนี่ยโดนขจัดเรียบออกจากร่างกายแต่พอขึ้น
00:41:41 → 00:41:45 มาอายุมากขึ้น 40 50 60 บางคนใช้เวลา
00:41:45 → 00:41:48 ครึ่งวันเพราะฉะนั้นถ้าเรานอน 2200 นเรา
00:41:48 → 00:41:53 กินกาแฟตอน 15:00 นบางทีกาแฟคาเฟอีนอยู่
00:41:53 → 00:41:57 ในร่างกายเราถ้าอยากกินกินตอนเช้านะครับ
00:41:57 → 00:42:01 ตอนบ่ายๆแล้วอย่าไปทานนะครับออกกำลังกาย
00:42:01 → 00:42:05 นะครับหลายคนบอกว่าออกกำลังกายแล้วเป็นไง
00:42:05 → 00:42:07 เหนื่อยนอนไม่หลับต้องออกกำลังกายเยอะๆ
00:42:07 → 00:42:10 ให้เราเหนื่อยเหนื่อยแล้วเราจะได้หลับถูก
00:42:10 → 00:42:12 ครึ่งเดียวเพราะว่าถ้าเราออกกำลังกายแล้ว
00:42:12 → 00:42:15 เราเหนื่อยมากตอนเราออกหัวใจเต้นตุ๊บๆ
00:42:15 → 00:42:19 ๆ 120 ครั้งต่อนาทีเราเข้าไปนอนใจเราก็
00:42:19 → 00:42:23 เต้นตุ๊บๆๆๆๆึๆๆๆอยู่นะครับมันมีการหลัก
00:42:23 → 00:42:26 อรนลินตอนเราออกกำลังกายนะร่างกายยังถูก
00:42:26 → 00:42:28 กระตุ้นเต็มที่เลยว่าเราจะหลับมยหลับไม่
00:42:28 → 00:42:30 ดีฮะเพราะฉะนั้นถ้าออกกำลังกายแล้วให้
00:42:30 → 00:42:32 หลับดีควรจะห่างจากเวลานอนอย่างน้อย 5-6
00:42:32 → 00:42:35 ช่วโมงนะครับเรื่องทานข้าวครับถ้าเราทาน
00:42:35 → 00:42:38 อาหารเวลาอาหารเย็นเนี่ยคนเราทานไม่พร้อม
00:42:38 → 00:42:41 กันใช่ไหมครับบางคนทานอาหารเย็น 17:00 น
00:42:41 → 00:42:43 บางคนทาน 20:00 น 2100 นถ้าเราทานอาหาร
00:42:43 → 00:42:46 เย็นเยอะๆหนักๆก่อนนอนจะเกิดอะไรขึ้นฮะ
00:42:46 → 00:42:48 มันหนังท้องตึงใช่มฮะเราโอ้หนังท้องตึง
00:42:49 → 00:42:51 หนังตาหย่อนมันหย่อนจริงนะฮะแต่พอเรานอน
00:42:51 → 00:42:54 ไปเป็นไงฮะกรดไหลย้อนเพราะพอทานไปปั๊บน้ำ
00:42:54 → 00:42:57 ย่อยในกระเพาะมันออกมาย่อยอาหารย่อยไก่
00:42:57 → 00:42:59 ตัวเนี้ยกว่ามันจะย่อยหมดแล้วเราไปนอนนะ
00:42:59 → 00:43:03 ครับจากเราหัวตั้งๆเรานอนปั๊บนอนลาบกดมัน
00:43:03 → 00:43:07 ก็ไหลย้อนพอย้อนขึ้นมาเป็นไงฮะมันก็เจ็บ
00:43:07 → 00:43:11 แสบหน้าอกตรงนี้แล้วก็ตื่นขึ้นมานอนหลับ
00:43:11 → 00:43:16 ยากนะครับเวลาเราควรนอนตอนกี่โมงอันนี้
00:43:16 → 00:43:18 ไม่มีคำตอบครับคนเราเนี่ยนะฮะมันจะมี
00:43:18 → 00:43:22 นาฬิกาใช่ไมครับมีนาฬิกาชีวภาพอยู่ในสมอง
00:43:22 → 00:43:25 นาฬิกาของเราแต่ละเรือนนี้แต่ละคนเนี่ย
00:43:25 → 00:43:27 ไม่เหมือนกันบางคนบอกว่าว่า 20:00 นง่วง
00:43:27 → 00:43:30 บางคนบอก 22:00 นง่วงบางคนบอกเที่ยงคื
00:43:30 → 00:43:33 นาฬิกาบอกกี่โมงก็ตอนนั้นแหละครับถ้า
00:43:33 → 00:43:35 นาฬิกาเราบอก 21:00 นก็คือ 21:00 นถ้าการ
00:43:35 → 00:43:37 บอก 2200 นก็คือ 22 นคือง่วงเมื่อไหร่
00:43:37 → 00:43:40 ง่ายๆง่วงเมื่อไหร่ถึงจะนอนนะครับคนที่
00:43:40 → 00:43:43 นอนไม่หลับที่มีปัญหาคืออะไรฮะชอบเข้านอน
00:43:43 → 00:43:46 เร็วฮะเข้าใจผิดคิดว่าโหเมื่อก่อนเคยนอน
00:43:46 → 00:43:48 22:00 นดูละครจบถึงจะเข้านอนเดี๋ยวนี้
00:43:48 → 00:43:51 มันนอนไม่หลับมาอาทิตย์นึงกังวลมากแล้วคอ
00:43:51 → 00:43:53 เริ่มฉายก็เข้านอน 20:00 นเข้านอนแล้ว
00:43:53 → 00:43:56 เพราะคาดหวังว่าพอเราเข้าไปนอนได้เร็วเรา
00:43:56 → 00:44:00 จะหลับได้เร็วหรือว่ามีเวลาหลับแล้วเราจะ
00:44:00 → 00:44:05 นอนได้มากขึ้นซึ่งผิดนะครับเพราะถ้ายัง
00:44:05 → 00:44:08 ไม่ถึงเวลานอนเราเช่น 22:30 นเราเคยนอน
00:44:08 → 00:44:10 ตอนเราหลับจะหลับเนี่ยตอนนั้นเเมลานิน
00:44:10 → 00:44:12 เมลานินมันจะหลัมาเยอะเมลานินมันจะหลัมา
00:44:12 → 00:44:16 เยอะนะครับพอหลังมาเยอะเราง่วงแล้วเราถึง
00:44:16 → 00:44:19 หลับแต่ถ้าเราเข้านอนเร็วเมลาโทนินมันยัง
00:44:19 → 00:44:22 ไม่ออกมามันยังไม่ง่วงแล้วเราเข้าไปนอนจะ
00:44:23 → 00:44:25 เกิดอะไรขึ้นฮะมันจะเริ่มกระสับกระสาย
00:44:25 → 00:44:29 กระวนกระวายโววนไปวนมากลัวไปกลัวมาไม่
00:44:29 → 00:44:32 หลับสักทีหงุดหงิด
00:44:32 → 00:44:36 โมโหทีนี้มันเอาชนะอาการง่วหมดแล้วครับ
00:44:36 → 00:44:39 ลากยาไป 22:30 นก็ไม่หลับเที่ยงคืนก็ไม่
00:44:39 → 00:44:42 หลับหรือบางคนอาจจะหลับได้นะหลับพอเข้า
00:44:42 → 00:44:45 นอน 2 น 21:00 นอาจจะหลับได้สัก 2 ช่วโมง
00:44:45 → 00:44:49 ตื่นขึ้นมา 233 นทีนี้ตาสว่างนะครับไม่
00:44:49 → 00:44:52 หลับต่อนะครับคนโบราณบอกห้ามนอนทับตะวัน
00:44:53 → 00:44:55 ใช่ะพอนอนหลับปุ๊บมันตื่นขึ้นมากลางดึก
00:44:55 → 00:44:57 แล้วมันหลับต่อไม่ได้
00:44:57 → 00:45:01 นะครับเพราะฉะนั้นรอให้ง่วงถึงเข้านอนนะ
00:45:01 → 00:45:03 ครับถ้ายังไม่ง่วงอย่าเพิ่งเข้าแล้วถ้า
00:45:03 → 00:45:05 เกิดเรามีปัญหาเรื่องนอนไม่หลับจะแก้ยัง
00:45:05 → 00:45:09 ไงนอนให้ดึกนะครับเช่นเราเคยนอน 22 นแล้ว
00:45:09 → 00:45:11 หลับได้ตอนนี้เรานอนไม่หลับทำไงเข้านอน
00:45:11 → 00:45:15 เที่ยงคืนรอให้มันง่วงจัดๆรอให้มันถึง
00:45:15 → 00:45:17 เวลาง่วงแล้วเข้านอนแล้วมันจะหลับได้ง่าย
00:45:17 → 00:45:20 ขึ้นนะครับลองทำแบบนี้ก่อนอย่าเพิ่งไปกิน
00:45:20 → 00:45:23 ยานอนหลับคนไข้ผมหลายคนนะครับพอมาหาผม
00:45:23 → 00:45:27 เรื่องนอนไม่หลับบอกให้นอนให้ดึกขึ้น
00:45:27 → 00:45:30 ดีขึ้นโดยไม่ต้องกินยานอนหลับนะครับแล้ว
00:45:30 → 00:45:34 พอหลับได้ก็จะดีคนที่เข้านอนๆจะเกิดอะไร
00:45:34 → 00:45:36 ขึ้นบางครั้งพอเราเข้านอนเร็วเช่นเข้านอน
00:45:36 → 00:45:39 ตอน 20:00 นเราตื่น 18:00 นมันมีเวลาอยู่
00:45:39 → 00:45:42 10 ชมงอยู่บนเตียงใช่มฮะแต่ปกติเรานอน 6
00:45:43 → 00:45:46 หรือ 7 ชั่วโมงพอมันทำไงฮะมันก็กระจายมัน
00:45:46 → 00:45:49 ก็จะหลับเป็นช่วงๆชๆชๆได้ 6 หรือ 7
00:45:49 → 00:45:51 ชั่วโมงแต่มันกระจายอยู่ใน 10 ชั่วโมง
00:45:51 → 00:45:55 ตั้งแต่ 20:00 นจ 6:00 นพอมันกระจายการ
00:45:55 → 00:45:58 นอนมันก็จะกลายเป็นการนอนที่เป็นกระปิด
00:45:58 → 00:46:01 กระปอยนะครับเหมือนเรากินข้าวปกติกินข้าว
00:46:01 → 00:46:03 3 มื้อเชกลางวันเย็นแต่ถ้าเกิดเราไม่กิน
00:46:03 → 00:46:06 ข้าวเราไปกินขนมที่เด็กเราบอกชอบบอกลูก
00:46:06 → 00:46:09 หลานเรานะกินขนมกนขนมกนขนมถึงเวลากินข้าว
00:46:09 → 00:46:12 ไม่กินเราก็เหมือนกันเราก็นอนกระปิด
00:46:12 → 00:46:15 กระปอยตอนกลางวันนอน 2 ช่วโมงกลางคืนนอน
00:46:15 → 00:46:17 ชั่วมงนึงพอถึงดึกๆจริงเราไม่นอนแบบเดียว
00:46:18 → 00:46:20 กับลูกหลานเราเด็กตัวเล็กๆกินขนมเราใช้
00:46:20 → 00:46:24 เวลนอนนอนนอนตรงนั้นชั่วโมงนึงครึ่ง
00:46:24 → 00:46:27 ชั่วโมงนั้นพอถึงกลางคืนมันนอนหลับไม่ดี
00:46:27 → 00:46:30 นะครับยิ่งเข้านอนเร็วยิ่งหลับยากนะครับ
00:46:30 → 00:46:34 โดยรวมถ้าเกิดมีปัญหานอนไม่หลับนะครับทำ
00:46:34 → 00:46:37 ยังไงก่อนที่จะเริ่มกินยานอนหลับนะครับ
00:46:37 → 00:46:40 หรือมาพบแพทย์สำรวจดูตัวเองก่อนว่าเราทำ
00:46:40 → 00:46:45 ตัวถูกต้องไหม 1 เราเข้านอนเร็วยเรากิน
00:46:45 → 00:46:49 กาแฟมนะครับเราออกกำลังกายก่อนนอนมนะครับ
00:46:49 → 00:46:53 เรามีความเครียดมีอะไรหรือเปล่านะครับที
00:46:53 → 00:46:55 นี้ถ้าทั้งหมดหรือห้องนอนเราเป็นยังไงเรา
00:46:55 → 00:46:58 ใช้ชีวิตในห้องนอนแก้ไขทุกอย่างนะครับพอ
00:46:58 → 00:47:02 เราง่วงเราถึงเข้าเข้านอนถ้าเข้าไปนอน
00:47:02 → 00:47:06 แล้วครึ่งชั่วโมงไม่หลับให้เราลุกขึ้นออก
00:47:06 → 00:47:09 จากห้องนอนมานั่งอ่านหนังสือธรรมะก็ได้
00:47:09 → 00:47:12 สวดมนต์ก็ได้นั่งเฉยๆรอจนดูทีวีก็ได้จน
00:47:12 → 00:47:15 กว่าจะง่วงแล้วค่อยกลับเข้าไปนอนใหม่นะ
00:47:15 → 00:47:17 ครับมันหลับเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้นอย่าไป
00:47:17 → 00:47:20 ฝืนมันนะครับการนอนหลับนี่เป็นอะไรที่ฝืน
00:47:20 → 00:47:23 ไม่ได้เวลาเรานอนเนี่ยนะฮะถ้าเราเนี่ย
00:47:23 → 00:47:25 นั่งฟังผมเนี่ยบอกว่าอย่าหลับ
00:47:25 → 00:47:29 นะมันง่วงหน้าดูเลยมันจะง่วงมันจะวูบนะ
00:47:29 → 00:47:33 บอกอย่าหลับนะเดี๋ยวผมมองอยู่ขอยอยู่อย่า
00:47:33 → 00:47:37 หลับนะมันจะเริ่มง่วงง่วงๆนะครับแต่พอผม
00:47:37 → 00:47:40 พอผมเอาเตรียมาให้นอนบอกอ่ะนอนให้หลับไม่
00:47:40 → 00:47:44 หลับนะครับทีนี้ถ้าทำทุกอย่างแล้วครับมัน
00:47:44 → 00:47:48 ยังไม่หลับก็อาจต้องพึ่งยานอนหลับนะครับ
00:47:48 → 00:47:51 ทีนี้ยานอนหลับหลายๆคนถ้าอนี้ทานอยู่นะ
00:47:51 → 00:47:54 ครับเราควรจะทานตอนไหนบางคนไปหาหมอหมอบอก
00:47:54 → 00:47:57 ให้ทานเร็วๆตั้งแต่ 18:00 นหรือ 1900 20
00:47:57 → 00:47:59 เพื่อยามันจะได้ออกธจะได้หลับดีจริงๆแล้ว
00:47:59 → 00:48:02 ยานอนหลับเนี่ยนะครับชื่อมันบอกแล้วยานอน
00:48:02 → 00:48:05 หลับพอกินปั๊บมันต้องหลับถ้ามากินแล้วรอ
00:48:05 → 00:48:07 อีก 3 ชั่วโมงหลับมันก็ไม่ใช่ยานออนหลับ
00:48:07 → 00:48:07 แล้ว
00:48:07 → 00:48:13 ครับนะครับแล้วก็พอยาหลับบางทีมัน 3 4
00:48:13 → 00:48:16 ชมงมันก็หมดฤทธิ์แล้วเรากินตอน 20 นเราไป
00:48:16 → 00:48:18 หลับตอน 2300 นเที่ยงคืนมันก็หมดฤทธิ์
00:48:18 → 00:48:21 แล้วเพราะั้นยานนหลับถ้ากินนะครับเราจะ
00:48:21 → 00:48:24 เข้านอนเมื่อไหร่เช่นเข้านอน 2300 นก็กิน
00:48:24 → 00:48:28 ตอน 23 นไม่ต้องรีบกินนะฮะถ้าจะรีบกิน
00:48:28 → 00:48:29 ตั้งแต่ 20:00 นให้หลับตั้งแต่ 20:00 น
00:48:29 → 00:48:33 เกิดอะไรขึ้นฮะต้องกินหลายเม็ดเพราะต้อง
00:48:33 → 00:48:36 เอาความแรงเข้ามาคมแต่พอถ้าเรารอให้ง่วง
00:48:36 → 00:48:40 จัดๆแล้วเรากินเม็ดเดียวก็หรือครึ่งเม็ด
00:48:40 → 00:48:43 ก็อยู่แล้วนะครับฉะนั้นถ้าเกิดใครทันยา
00:48:43 → 00:48:47 นอนหลับอยู่ก็ทานให้ดึกหน่อยนะครับการส่ง
00:48:47 → 00:48:50 เสริมสุขอนามัยในการนอนหลับก็จะทำให้การ
00:48:50 → 00:48:53 นอนของเรานั้นมีคุณภาพที่ดีขึ้นนะคะแล้ว
00:48:53 → 00:48:57 ก็ปริมาณได้เหมาะสมมากขึ้นเพราะในบางคน
00:48:57 → 00:49:00 นอนไปทั้งๆที่สุขาอนามัยการนอนไม่ดีจำนวน
00:49:00 → 00:49:02 ชั่วโมงเอาจจะได้เยอะจริงนะคะแต่อาจจะได้
00:49:02 → 00:49:05 เป็นท่อนๆเช่นตอนกลางคืน 3 ชั่วโมงตอน
00:49:05 → 00:49:08 กลางวันอีกอย่างละหน่อยทีละ 2 ชั่วโมง 3
00:49:08 → 00:49:11 ชั่วโมงถามว่าจำนวนชั่วโมงเพียงพอไหต่อ
00:49:11 → 00:49:13 วันแล้ว 24 ชั่วโมงนั้นนั้นเอาจจะได้รับ
00:49:13 → 00:49:16 จำนวนชั่วโมงที่เพียงพอแต่คุณภาพของการ
00:49:16 → 00:49:19 นอนที่แตกแยกเป็นหลายๆครั้งต่อวันอาจจะ
00:49:19 → 00:49:22 ไม่ได้มีคุณภาพดีเทียบเท่ากับการนอนอย่าง
00:49:22 → 00:49:27 ต่อเนื่องยาวนานเป็น 8 ชมต่อวัน
00:49:27 → 00:49:30 สำหรับตอน World Sleep Day หลับสบายหาย
00:49:30 → 00:49:34 ใจดีชีวีมีสุขออกอากาศทั้งหมด 2 ตอนโดย
00:49:34 → 00:49:37 ตอนต่อไปจะมีเนื้อหาเกี่ยวกับการนอนกรน
00:49:37 → 00:49:40 และการหยุดหายใจที่จะมาสรุปเกี่ยวกับ
00:49:40 → 00:49:43 สาเหตุการป้องกันและการรักษาในรูปแบบต่าง
00:49:43 → 00:49:47 ๆและการเสริมสุขอนามัยในการนอนหลับท่าน
00:49:47 → 00:49:50 ผู้ชมสามารถสอบถามข้อมูลได้ทางิทรลักษณ์
00:49:50 → 00:49:54 ศิริราชโรงพยาบาลศิริราชและค้นหาข้อมูล
00:49:54 → 00:50:00 ทางเว็บไซต์ที่ www DSI mahidol.ac.th
00:50:00 → 00:50:21 [เพลง]
00:50:21 → 00:50:21 [ปรบมือ]
00:50:21 → 00:50:26 [เพลง]
00:50:26 → 00:50:28 อ
00:50:28 → 00:50:49 [เพลง]