00:00:00 → 00:00:04 คุณหมอครับเรื่องของเอ่อคำจำกัดความของคำ
00:00:04 → 00:00:06 ว่าการนอนดีเนี่ย
00:00:06 → 00:00:09 มันมันต้องนอนยังไงครับมันถึงเราสามารถ
00:00:09 → 00:00:12 พูดได้อย่างเต็มปากเต็มภาคภูมิว่ามันคือ
00:00:12 → 00:00:15 การนอนดีครับคุณหมอครับ
00:00:15 → 00:00:19 การนอนดีนี่ก็คือระยะเวลาการนอนหลับไม่
00:00:19 → 00:00:23 เพียงพอนะคะซึ่งแต่ละวัยก็จะไม่เท่ากันนะ
00:00:23 → 00:00:26 คะซึ่งถ้าเด็กแรกเกิดเนี่ยอาจจะต้องนอน
00:00:27 → 00:00:30 ถึง 10 ปีถึง 16 ชั่วโมงนะคะแล้วก็ลด
00:00:30 → 00:00:34 หลั่นลงมาเรื่อยๆค่ะแล้วก็ถ้าเป็นในวัย
00:00:34 → 00:00:37 ผู้ใหญ่เนี่ยก็แนะนำนอน 7-9 ชั่วโมงต่อ
00:00:37 → 00:00:40 วันนะคะในคนสูงอายุอาจจะถึง 7-8 ชั่วโมง
00:00:40 → 00:00:43 ต่อวัน
00:00:43 → 00:00:44 ถ้า 7 ถึง
00:00:44 → 00:00:47 ระยะเวลาแล้วก็อีกส่วนหนึ่งก็คือเรื่อง
00:00:47 → 00:00:52 ของคุณภาพการนอนนะคะซึ่งก็ต้องรู้ว่าเรา
00:00:52 → 00:00:55 มีอาจจะมีโรคการนอนหลับซ่อนเร้นหรือเปล่า
00:00:55 → 00:00:57 ที่ทำให้คุณภาพการนอนได้ดี
00:00:57 → 00:01:02 ก็ต้องสังเกตอาการค่ะคือระยะเวลาการนอน
00:01:02 → 00:01:06 เนี่ยโอเคเราก็พอจะได้ทราบตัวเลขจากที่
00:01:06 → 00:01:09 คุณหมอได้บอกไปแล้วแต่ว่าสนใจตรงที่คำว่า
00:01:09 → 00:01:13 คุณภาพการนอนครับคุณหมอครับถ้าเรานอนใน
00:01:13 → 00:01:17 ระยะเวลาที่อย่างที่มันควรจะเป็นละ 7-8
00:01:17 → 00:01:20 ชั่วโมง 6-8 ชั่วโมงแต่ว่ารู้สึกว่ามัน
00:01:20 → 00:01:24 ยังไม่เพียงพอร่างกายมันยังรู้สึกว่ายัง
00:01:24 → 00:01:26 ต้องการอีกตรงนี้เนี่ยมันๆคือคุณภาพการ
00:01:27 → 00:01:30 นอนที่ถูกต้องเหมาะสมมั้ยฮะถ้า
00:01:30 → 00:01:33 ถ้ามีอาการง่วงมากในเวลากลางวันเนี่ยเรา
00:01:33 → 00:01:37 ก็ต้องหาสาเหตุนะว่าเกิดจากถ้าเรานอน
00:01:37 → 00:01:39 เพียงพอแล้วยังมีอาการก็อาจจะมีโรคซ่อน
00:01:39 → 00:01:44 เร้นนะคะเช่นโรคจากการหลับซึ่งก็จะมีโรค
00:01:44 → 00:01:47 ที่เราจะได้ก็คือโรคนอนไม่หลับเกิดบ่อยนะ
00:01:47 → 00:01:50 คะซึ่งอาการก็จะมีเรื่องของนอนหลับยาก
00:01:50 → 00:01:54 หรือว่าหลับไม่สนิทตื่นบ่อยกลางคืนแล้วก็
00:01:54 → 00:01:56 ตื่นก่อนเวลาที่ควรจะเป็นเงี้ยค่ะแล้วทำ
00:01:56 → 00:01:59 ให้ตื่นมาแล้วก็ไม่สดชื่นนะคะก็จะมีผลต่อ
00:02:00 → 00:02:03 เรื่องของการทำงานการเรียนการเข้าสังคม
00:02:03 → 00:02:05 อะไรอย่างนี้ค่ะซึ่งอาการอย่างนี้ก็มี
00:02:05 → 00:02:08 อย่างน้อย 3 ครั้งต่อสัปดาห์ก็ถือว่าเป็น
00:02:08 → 00:02:12 โรคนอนไม่หลับนะคะแล้วก็โรคอื่นๆเช่นอาจ
00:02:12 → 00:02:15 จะมีโรคนอนกรนหรือว่าหยุดหายใจขณะหลับอัน
00:02:15 → 00:02:18 นี้เราต้องสังเกตอาการนะคะซึ่งบางคนอาจจะ
00:02:18 → 00:02:21 มีคนแล้วก็มีคนนอนด้วยสังเกตว่านอนแล้ว
00:02:21 → 00:02:24 นิ่งไปเลยให้หยุดหายใจหรือว่านอนสะดุ้ง
00:02:24 → 00:02:28 ขึ้นเงี้ยค่ะก็อาจจะมีเรื่องของตื่นมารับ
00:02:28 → 00:02:31 เงินศีรษะไม่สดชื่นง่วงกลาง
00:02:31 → 00:02:34 หรืออาจจะมีกัดฟันมีปัสสาวะกลางคืนอะไร
00:02:34 → 00:02:36 อย่างนี้ก็เป็นอาการของโรคนอนกรนหยุดหาย
00:02:36 → 00:02:39 ใจขณะหลับได้นะคะเริ่มตื่นที่ที่จะเจออีก
00:02:39 → 00:02:44 ก็จะมีโลกของมีการขยับเวลานอนเช่นอาจจะ
00:02:44 → 00:02:48 ขยับขาหรือว่าขาไม่สะดวกเราไม่รู้สึกไม่
00:02:48 → 00:02:51 รู้สึกไม่สบายขาอะไรเงี้ยค่ะก็จะเป็นโรคๆ
00:02:51 → 00:02:53 เหมือนกันแบบนี้
00:02:53 → 00:02:57 ใช่ค่ะนอนกัดฟันหรือว่านอนละเมออะไรเงี้ย
00:02:57 → 00:02:59 ค่ะแล้วก็อีกอันนึงก็จะเป็นโลกของนาฬิกา
00:02:59 → 00:03:03 ชีวิตนะคะก็คือเช่นบางท่านอาจจะนอนดึก
00:03:03 → 00:03:06 แล้วก็ตื่นสายอะไรเงี้ยค่ะตอนนี้เราจะพบ
00:03:06 → 00:03:10 ได้ในวัยรุ่นหรือวัยทำงานที่แบบบางทีอ่า
00:03:10 → 00:03:13 ดูหนังหรือว่าเล่นโซเชียลเพลินอะไรอย่าง
00:03:13 → 00:03:16 เงี้ยค่ะก็ทำให้นอนดึกแล้วก็ทำให้ตื่นสาย
00:03:16 → 00:03:18 แล้วก็ถ้าวันไหนที่เราต้องไปเรียนหนังสือ
00:03:18 → 00:03:23 หรือว่าต้องทำงานก็ทำให้เรานอนไม่พอนะคะ
00:03:23 → 00:03:24 ก็
00:03:24 → 00:03:29 ถามเรื่องของการอย่างที่อาจารย์บอกคือไอ้
00:03:29 → 00:03:31 อาการโรคนอนไม่หลับเนี่ย 3 ครั้งต่อ
00:03:31 → 00:03:34 สัปดาห์เนี่ยถ้ามันไม่ดีขึ้นถือว่าน่า
00:03:34 → 00:03:38 กังวลและคำว่า 3 ครั้งต่อสัปดาห์เนี่ยคือ
00:03:38 → 00:03:40 มันมันจะต้องเป็นเป็นครั้งหนึ่งกันเยอะ
00:03:40 → 00:03:43 ขนาดไหนครับอาจารย์ครับถ้าเรามีอาการ
00:03:43 → 00:03:44 เนี่ยใช่ๆ
00:03:44 → 00:03:47 ใน
00:03:47 → 00:03:50 1 สัปดาห์เนี่ยประมาณว่าเรามีอาการอย่าง
00:03:50 → 00:03:52 นี้ประมาณอย่างน้อยสัก 3 ครั้งแล้วแต่ว่า
00:03:52 → 00:03:55 เริ่มเริ่มผิดปกติแล้วค่ะแต่ว่าถ้าระยะ
00:03:55 → 00:03:58 เวลามากกว่า 3 เดือนเนี่ยก็ถือว่าเป็นแบบ
00:03:58 → 00:04:01 นอนไม่หลับเรื้อรังละซึ่งนอนไม่หลับเสีย
00:04:01 → 00:04:04 พันเนี่ยบางทีอาจจะมีเขาเรียกว่าเอ่อ
00:04:04 → 00:04:07 ปัจจัยกระตุ้นนะคะซึ่งถ้าเราแก้ไขได้ก็ก็
00:04:07 → 00:04:11 สามารถหาได้ด้วยตัวเองแต่ว่าถ้าแบบอ่าเรา
00:04:11 → 00:04:14 ประเมินและเอ่อเรื่องของบุคลิกเอ่อ
00:04:14 → 00:04:18 บุคลิกภาพเช่นมีคนเอ่อเป็นคนที่ค่อนข้าง
00:04:18 → 00:04:21 ที่จะวิตกกังวลง่ายอะไรอย่างเงี้ยค่ะหรือ
00:04:21 → 00:04:24 ว่าสิ่งกระตุ้นแก้ไขยากหรือว่าเขาอาจจะทำ
00:04:24 → 00:04:27 พฤติผิดปกติเนอะเช่นนอนกลางวันทานกาแฟ
00:04:27 → 00:04:29 ก่อนนอนอะไรเงี้ยค่ะซึ่งสิ่งเหล่านี้ถ้า
00:04:29 → 00:04:33 เราแก้ที่ต้นเหตุได้ก็สามารถหาได้แต่ถ้า
00:04:33 → 00:04:36 ยังไม่ดีแนะนำน่าจะพบแพทย์นะคะอาจจะ
00:04:36 → 00:04:39 พิจารณากันให้ยาในระยะสั้นนะคะแล้วถ้า
00:04:39 → 00:04:41 เป็นเรื้อรังเนี่ยก็ต้องมาเข้ากลุ่มนะคะ
00:04:42 → 00:04:45 ซึ่งอ่ารักษาแบบเขาเรียกว่าปรับความคิด
00:04:45 → 00:04:49 แล้วก็พฤติกรรมก็จะช่วยทำให้อาการนอนไม่
00:04:49 → 00:04:51 หลับเรื้อรังดีขึ้นค่ะ
00:04:51 → 00:04:53 อาจารย์ครับพฤติกรรมนอนไม่พอนอนไม่อิ่ม
00:04:53 → 00:04:55 อย่างที่อาจารย์บอกค่ะว่าคุณภาพการนอนมัน
00:04:55 → 00:04:58 ไม่ดีเลยค่ะมันมีตัวชี้วัดอะไรนอกจากแบบ
00:04:58 → 00:05:01 ตื่นมาแล้วยังง่วงนอนอยู่แต่ก็เห็นคนก็หา
00:05:01 → 00:05:04 บ่อยนะคะบางแบบอาจจะแบบเอออากาศร้อนอบ
00:05:04 → 00:05:07 อ้าวก็ก็หาวเย็นก็หาง่วงอะไรเงี้ยค่ะ
00:05:07 → 00:05:10 อาจารย์คือบางคนก็ตั้งแต่มันคือเกมชี้วัด
00:05:10 → 00:05:12 คือต้องต้องหานอนอย่างเดียวหรอคะหรือว่า
00:05:12 → 00:05:15 มันมีอะไรอื่นๆอีกบ้างค่ะ
00:05:15 → 00:05:18 โรคการนอนไม่พอหรือว่าโลกจากการหลับเนี่ย
00:05:18 → 00:05:21 เอ่อในระยะสั้นก็คือจะมีเรื่องของความ
00:05:21 → 00:05:25 ง่วงนะคะแต่ว่าเอ่ออาการน่าจะมีได้เช่น
00:05:25 → 00:05:30 คุณภาพชีวิตมีผลต่อการทำงานการเรียนมีผล
00:05:30 → 00:05:34 ได้นะคะความจำสมาธิสั้นแล้วก็ในระยะยาวก็
00:05:34 → 00:05:39 จะมีโรคทางหลอดเลือดหัวใจเช่นความดันที่
00:05:39 → 00:05:43 คุมได้ยากหรือว่าเบาหวานไขมันโรคสมอง
00:05:43 → 00:05:47 อย่างนี้ค่ะความจำเสื่อมหรือว่าจะเป็นถ้า
00:05:47 → 00:05:50 ถ้าแบบนุ่งมากๆเนี่ยก็คืออาจจะเกิด
00:05:50 → 00:05:54 อุบัติเหตุในขณะทำงานหรือว่าในขณะขับรถก็
00:05:54 → 00:05:57 อาจจะเป็นสาเหตุเพราะฉะนั้นของโรคทางจิต
00:05:57 → 00:05:59 ใจบางอย่างด้านเหมือนกันนะเออโรคความ
00:06:00 → 00:06:03 เครียดแล้วก็ซึมเศร้าอะไรเงี้ยค่ะรู้จัก
00:06:03 → 00:06:04 กังวลอะไรเงี้ยค่ะ
00:06:04 → 00:06:07 แต่ว่าส่วนใหญ่ค่ะคุณไม่ค่อยรู้ตัวนะ
00:06:07 → 00:06:09 เพราะคิดว่าเออเราก็แค่ง่วงนอนอย่างเดียว
00:06:09 → 00:06:11 แบบเอ๊ะยังนอนไม่อิ่มเลยแต่ว่าพออาจารย์
00:06:11 → 00:06:14 พูดถึงคุณภาพการนอนนะคะคุณภาพการนอนนี่
00:06:14 → 00:06:16 มันคืออะไรครับปัจจัยที่จะทำให้เรานอน
00:06:16 → 00:06:18 อย่างนี้คุณภาพอ่ะค่ะแล้วคุณภาพการนอนมัน
00:06:18 → 00:06:20 ส่งผลยังไงกับเราอ่ะค่ะ
00:06:20 → 00:06:24 เออก็คือเอ่อเราต้องมารู้ก่อนนะว่า
00:06:24 → 00:06:27 การนอนนี้มีความสำคัญก็คือเป็นช่วงเวลา
00:06:27 → 00:06:31 ที่ร่างกายได้ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอที่เรา
00:06:31 → 00:06:34 ทำมาทั้งวันเนาะแล้วก็เป็นเวลาที่ร่างกาย
00:06:34 → 00:06:37 เขาเรียกกำจัดสารพิษเนาะแล้วก็มีการสะสม
00:06:37 → 00:06:41 พลังงานนะคะแล้วก็ควบคุมอุณหภูมิแล้วก็
00:06:41 → 00:06:44 รักษาสมดุลของพวกฮอร์โมนและการผลิตอะไร
00:06:44 → 00:06:47 ต่างๆนะคะแล้วก็ถ้าเรานอนหลับได้ลึกนะคะ
00:06:47 → 00:06:50 หรือว่าหลับฝันเนี่ยก็จะมีการหลั่ง
00:06:50 → 00:06:55 ฮอร์โมนที่ดีนะเช่นโกสฮอร์โมนก็ทำให้ใน
00:06:55 → 00:06:57 โดยเฉพาะในนี้ก็จะเกี่ยวกับเรื่องความสูง
00:06:57 → 00:07:01 เนาะแล้วก็ทำให้ความทรงจำที่เราเรียบ
00:07:01 → 00:07:04 เรียงมาเรียนหนังสือหรือทำอะไรมาในกลาง
00:07:04 → 00:07:06 วันเนี้ยเอ่อในสมองคนเราเนี่ยก็จะเรียบ
00:07:06 → 00:07:10 เรียงเป็นความทรงจำไประยะยาวนะคะพอส่วน
00:07:10 → 00:07:12 หนึ่งก็คือเรื่องของฮอร์โมนก็เกี่ยวกับ
00:07:12 → 00:07:16 ความอ้วนเหมือนกันนะฮะมันก็จะอ้วนได้นะคะ
00:07:16 → 00:07:19 ก็คือไม่มีความเอ่อขาดความสมดุลของ
00:07:19 → 00:07:22 ฮอร์โมนบางตัวนะคะก็ในผู้ใหญ่เนี่ยคือถ้า
00:07:22 → 00:07:26 นอนดีก็จะทำให้คุ้มกันก็จะไม่ค่อยเป็นโรค
00:07:26 → 00:07:30 นะจริงๆแล้วการนอนเนี่ยเป็นระยะเวลาที่
00:07:30 → 00:07:34 สำคัญมากเลยนะคะเพราะว่า 1 ใน 3 ของชีวิต
00:07:34 → 00:07:37 คนเราเนี่ยก็ต้องนอนเนาะเพราะว่าไม่ใช่
00:07:37 → 00:07:40 แค่หลับตาแล้วก็นอนเฉยๆแต่จริงๆข้างใน
00:07:40 → 00:07:43 ร่างกายเราเนี่ยมีการทำหน้าที่อะไรเยอะ
00:07:43 → 00:07:47 แยะเลยค่ะมาข้างต้นนะคะก็อาจารย์บอกว่า
00:07:47 → 00:07:49 ต้องหลับลึกเนาะแล้ววิธีทำให้หลับลึกล่ะ
00:07:49 → 00:07:53 คะอาจารย์
00:07:53 → 00:07:57 ออกกำลังกายเนาะถ้าเราออกกำลังกายอย่าง
00:07:57 → 00:07:59 น้อย 30 นาทีต่อวัน 5 ครั้งต่อสัปดาห์
00:07:59 → 00:08:02 เนอะแล้วก็ไม่ใกล้เวลานอนนะคะเพราะว่าการ
00:08:02 → 00:08:04 นอนที่ดีเนี่ยเราต้องอาศัยอุณหภูมิร่าง
00:08:04 → 00:08:06 กายที่เย็นถ้าออกกำลังกายใกล้เวลานอน
00:08:06 → 00:08:09 เนี่ยทำให้มีการกระตุ้นของระบบประสาท
00:08:09 → 00:08:12 โดนัทแล้วก็เรื่องของอุณหภูมิในร่างกาย
00:08:12 → 00:08:15 สูงก็ทำให้เรานอนหลับยากค่ะสำหรับการออก
00:08:15 → 00:08:18 กำลังกายให้ดีนะคะทำให้หลับต้องลึกแล้วก็
00:08:18 → 00:08:21 หลับได้เลยค่ะอืม
00:08:21 → 00:08:23 เรื่องของ
00:08:23 → 00:08:27 สวดมนต์นั่งสมาธิก่อนนอนก็ช่วยได้ค่ะทำ
00:08:27 → 00:08:31 ให้เราสามารถเข้าระยะแบบลึกได้ดี
00:08:31 → 00:08:37 ก็คือไม่ห่วงไม่มีอะไรกังวลเราก็จะได้
00:08:37 → 00:08:39 อย่างนี้ใช่ไหมครับคุณหมอครับ
00:08:39 → 00:08:43 ไม่ควรจะต้องเก็บอะไรมาคิดมันจะช่วยเรา
00:08:43 → 00:08:46 หลับลึกขึ้นได้ใช่ไหม
00:08:46 → 00:08:51 แล้วไอ้การหลับแล้วที่มันหลายคนฝันเป็นตุ
00:08:51 → 00:08:53 เป็นตะนู่นนี่นั่นอะไรอย่างเงี้ยอันนี้
00:08:53 → 00:08:54 มันถือว่าเป็นภาวะ
00:08:54 → 00:08:57 หลับลึกจนเห็นจินตนาการอะไรอย่างนี้ถือ
00:08:57 → 00:09:01 ถือว่าใช่ไหมฮะ
00:09:01 → 00:09:05 ธรรมชาติของคนเรามีการหลับฝันดีทุกคืนนะ
00:09:05 → 00:09:08 คะก็คือคืนหนึ่งเนี่ยประมาณ 4-5 วงจรเนอะ
00:09:08 → 00:09:13 คือเริ่มแต่เราตื่นแล้วก็หลับตื้นหลับลึก
00:09:13 → 00:09:17 หลับฝันนะคะคือวงจรนึงเนี่ยประมาณ 90-110
00:09:17 → 00:09:20 นาทีแล้วก็จะเอารันวงจรอย่างนี้ประมาณ 4-5
00:09:20 → 00:09:23 วงจรต่อต่อคืนนะคะเพราะฉะนั้นทุกคนเนี่ย
00:09:23 → 00:09:26 ฝันหมดเพียงแต่ว่าฝันจำไม่ได้เพราะว่าเรา
00:09:26 → 00:09:30 ไม่ตื่นตอนฝันบางคนที่แบบว่าตื่นตื่นตอน
00:09:30 → 00:09:33 ฝันก็จะจำได้ว่าเอ้ยเมื่อคืนฝันอะไรยังไง
00:09:33 → 00:09:35 อะไรอย่างเงี้ยค่ะแต่ก็จริงทุกคนเนี่ยมี
00:09:36 → 00:09:38 ฝันนะครับเพราะว่าระยะนอนฝันแต่ระยะหลับ
00:09:38 → 00:09:41 ลึกเนี่ยเป็นระยะการนอนที่ดีนะคะที่เอ่อ
00:09:42 → 00:09:44 เกี่ยวกับเรื่องของฮอร์โมนเรื่องของความ
00:09:44 → 00:09:47 คิดจินตนาการอะไรทั้งหลายความจำอะไรเงี้ย
00:09:47 → 00:09:49 ค่ะ
00:09:49 → 00:09:52 คือไอ้การที่นอนแล้วก็ฝันเนี่ยถือว่าก็
00:09:52 → 00:09:55 เป็นเป็นอีกหนึ่งระดับของการหลับลึกเช่น
00:09:55 → 00:09:58 เดียวกัน
00:09:58 → 00:10:01 เวลาที่นอนฝันเนี่ยถือว่าเรายังหลับได้
00:10:01 → 00:10:05 ไม่ดีเท่าที่ควรอะไรอย่างเงี้ย
00:10:05 → 00:10:09 คือร่างกายจะผ่อนคลายไปนะคะแล้วตอนนี้มา
00:10:09 → 00:10:11 ตรวจการนอนหลับเนี่ยคุณหมอจะเห็นเลยว่า
00:10:11 → 00:10:13 กล้ามเนื้อทุกอย่างผ่อนคลายยกเว้นกล้าม
00:10:13 → 00:10:17 เนื้อตากล้ามเนื้อหูแล้วก็เรื่องของระบบ
00:10:17 → 00:10:19 ประสาทอัตโนมัติก็คือหัวใจในการหายใจนั่น
00:10:19 → 00:10:22 เองค่ะแต่ว่ากล้ามเนื้อข้างกล้ามเนื้อขา
00:10:22 → 00:10:25 อะไรเงี้ยจะผ่อนคลายหมดไงระยะที่ร่างกาย
00:10:25 → 00:10:28 ได้พักค่ะไม่ว่าคุณจะฝันดีฝันร้ายฝันเห็น
00:10:28 → 00:10:31 หวยฝันอะไรก็ตามคือผ่อนคลายหมด
00:10:31 → 00:10:35 เพราะฝันร้ายก็ถือว่าเป็นเป็นถือว่าร่าง
00:10:35 → 00:10:36 กายได้ผ่อนคลายแต่ว่าอาจจะเป็นเรื่องของ
00:10:36 → 00:10:39 จินตนาการเรื่องนู่นนี่นั่นของเราไปอย่าง
00:10:39 → 00:10:41 นี้หรอคะคุณหมอ
00:10:41 → 00:10:43 ร้ายมันก็เป็นกลุ่มโลกโลกนึงเหมือนกันนะ
00:10:43 → 00:10:47 คะแต่ว่าคือปกติเนี่ยฝันแบบเขาเรียกว่า
00:10:48 → 00:10:51 ระยะเลนส์ก็คือจะฝันแบบตื่นเต้นอะไรอย่าง
00:10:51 → 00:10:54 เงี้ยค่อนข้างจะอ่าเป็นแบบเดวิดจีนอะไร
00:10:54 → 00:10:57 อย่างเงี้ยก็คือเอ่อฝันแบบมีจินตนาการ
00:10:57 → 00:11:08 อะไรอย่างเงี้ยค่ะ
00:11:08 → 00:11:11 คุณหมอครับแล้วอย่างเรื่องของการที่จะ
00:11:11 → 00:11:14 ช่วยให้การหลับลึกมากยิ่งขึ้นเมื่อกี้คุณ
00:11:14 → 00:11:17 หมอบอกก็คืออ่ะออกกำลังกายช่วยได้เพราะ
00:11:17 → 00:11:21 อ่าใช่ก่อนนอนก็อาจจะนั่งสมาธิ
00:11:21 → 00:11:25 นั่งผ่อนคลายสวดมนต์อะไรเงี้ยเรื่องของ
00:11:25 → 00:11:29 การหาเครื่องดื่มอะไรมาช่วยทำให้เราหลับ
00:11:29 → 00:11:34 ลึกได้บ้างไหมฮะ
00:11:34 → 00:11:39 หรือว่าสลิปให้ดีซึ่งอ่าโดยทั่วไปเขาจะมี
00:11:39 → 00:11:42 ประมาณ 10 ประการนะคะที่จะเคล็ดลับในการ
00:11:42 → 00:11:45 นอนหลับดีก็คือเอ่อแนะนำเนี่ยควรจะเข้า
00:11:45 → 00:11:49 นอนให้เป็นเวลาตื่นให้เป็นเวลาในทุกวัน
00:11:49 → 00:11:51 เลยนะคะไม่ว่าจะวันที่เราทำงานหรือว่าวัน
00:11:51 → 00:11:54 หยุดอันนี้เพื่อรักษาสมดุลของนาฬิกาชีวิต
00:11:54 → 00:11:58 ในสมองเราแล้วก็การออกกำลังกายข้อที่ 2
00:11:58 → 00:12:01 ก็คือออกกำลังกายเนี่ยก็คือแนะนำให้ทำนะ
00:12:01 → 00:12:03 คะอย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน 5 วันต่อ
00:12:03 → 00:12:07 สัปดาห์แต่ว่าไม่แนะนำใกล้เวลานอนในช่วง 2
00:12:07 → 00:12:10 ชั่วโมงก่อนนอนนี่มาแนะนำนะคะแล้วก็อีก
00:12:10 → 00:12:13 อย่างหนึ่งคือเรื่องของนอนกลางวันแล้วบาง
00:12:13 → 00:12:17 ท่านเข้าใจผิดว่านอนกลางวันมันไม่นอนหลับ
00:12:17 → 00:12:20 ดีอะไรอย่างนี้แต่ว่าถ้าเราปกติคนเรา
00:12:20 → 00:12:24 เนี่ยสมองจะมีการหลังศาลตัวนึงนะคะเขา
00:12:24 → 00:12:28 เรียกว่าสถานที่สะสมความง่วงถ้าเราไปแอบ
00:12:28 → 00:12:30 นอนกลางวันไปแล้วเนี่ยทำให้สารนั้นเนี่ย
00:12:30 → 00:12:33 มันดรอปลงเพราะฉะนั้นก็ต้องเริ่มใส่เข้า
00:12:33 → 00:12:37 ใหม่ก็ทำให้มีปัญหาเรื่องของการหลับยากนะ
00:12:37 → 00:12:39 คะเพราะฉะนั้นถ้าไม่จำเป็นไม่ควรจะนอน
00:12:39 → 00:12:42 กลางวันนะคะแล้วก็เรื่องของสารที่กระตุ้น
00:12:42 → 00:12:47 นะคะเช่นกาแฟเนาะกาแฟเนี่ยถ้าทานไม่ควร
00:12:47 → 00:12:50 ทานหลังเที่ยงเพราะว่าถ้าทำใกล้เวลานอน
00:12:50 → 00:12:52 อย่างน้อย 6 ชั่วโมงเนี่ยก็จะไปกระตุ้น
00:12:52 → 00:12:55 สมองก็ทำให้นอนหลับยากอ่ะค่ะแล้วศาลอย่าง
00:12:55 → 00:12:58 อื่นเช่นอ่าเรื่องของบุหรี่เรื่องของเล่า
00:12:58 → 00:13:00 ก็เหมือนกันเหมือนกันค่ะประมาณ 4-6
00:13:00 → 00:13:01 ชั่วโมงก่อนนอนควรจะหลีกเลี่ยงเพราะว่า
00:13:01 → 00:13:04 ศาลพวกนี้ทั้งกระตุ้นหัวใจกระตุ้นสมองนะ
00:13:04 → 00:13:08 คะแล้วก็อาหารเนี่ยในช่วงใกล้เวลานอนจริง
00:13:08 → 00:13:10 ๆเขาไม่ค่อยแนะนำนะในช่วง 2-4 ชั่วโมง
00:13:10 → 00:13:13 ก่อนนอนอะไรเงี้ยเพราะว่าส่วนหนึ่งก็คือ
00:13:13 → 00:13:16 อ่ามีการกระตุ้นเกี่ยวกับเรื่องของกรดไหล
00:13:16 → 00:13:19 ย้อนนะคะคือหลังทานข้าวเนี่ยจะทำให้มีการ
00:13:19 → 00:13:22 หลั่งกรดแล้วก็โดยธรรมชาติของมนุษย์เนี่ย
00:13:22 → 00:13:25 กดกดในกระเพาะเนี่ยก็จะหลังมากกลางคืน
00:13:25 → 00:13:28 อยู่แล้วถ้าเราทานอาหารใกล้เวลานอนเนี่ย
00:13:28 → 00:13:31 จะสังเกตว่าคืนนั้นเราจะรู้สึกอึดอัดอาจ
00:13:31 → 00:13:33 จะไม่ออกอะไรเงี้ยค่ะเพราะฉะนั้นตรง
00:13:33 → 00:13:34 นี้ก็ระวังแล้วก็มีงานวิจัยเกี่ยวกับ
00:13:34 → 00:13:38 เรื่องของไขมันที่เพิ่มขึ้นในในช่วงถ้า
00:13:38 → 00:13:40 เราทานดึกอะไรเงี้ยค่ะอือ
00:13:40 → 00:13:43 ก็ต้องระวังตรงนี้นะคะแล้วก็เอ่อเรื่อง
00:13:43 → 00:13:48 ของอ่าห้องนอนนะคะห้องนอนก็แนะนำตอนนอน
00:13:48 → 00:13:51 เนี่ยควรจะปิดไฟนะคะเพราะว่าการปิดไฟ
00:13:51 → 00:13:54 เนี่ยจะไปกระตุ้นสมองแล้วก็กระตุ้นนาฬิกา
00:13:54 → 00:13:57 ชีวิตแล้วก็เรื่องของความอ่าฮอร์โมนในการ
00:13:57 → 00:14:59 หลั่งนะคะ
00:14:59 → 00:15:02 ไม่รู้จักตีกันแล้วก็มาทำอะไรเบาๆนะคะ
00:15:02 → 00:15:08 ซึ่งอ่านหนังสือหรือว่าสวดมนต์ไม่ใช่เปิด
00:15:08 → 00:15:10 ทีวีหรือว่าเล่นมือถืออะไรเงี้ยไม่ได้นะ
00:15:10 → 00:15:13 คะทำให้นอนหลับยากมันก็จะทำให้เขาเรียก
00:15:13 → 00:15:17 ว่าระยะเวลาบนเตียงของเราเนี่ยมีคุณภาพมี
00:15:17 → 00:15:19 ประสิทธิภาพการหมักที่ดี
00:15:19 → 00:15:23 ว่าเป็นเคล็ดลับประมาณ 10 ข้อนะคะที่ถ้า
00:15:23 → 00:15:27 เราไปทำเนี่ยจะทำให้เราดับได้ดีขึ้นค่ะสน
00:15:27 → 00:15:29 ใจข้อสุดท้ายครับคุณหมอครับไอ้การที่คุณ
00:15:29 → 00:15:33 หมอบอกว่าเราจะควรจะต้องขึ้นบนเตียงเมื่อ
00:15:33 → 00:15:36 ต่อเมื่อเราง่วงเท่านั้นคือเอาส่วนตัวผม
00:15:36 → 00:15:40 นี่คือผมก็อ่ะพยายามที่จะนอนเร็วแต่คือพอ
00:15:40 → 00:15:45 พอไปบนเตียงด้วยก่อนเวลาที่จะนอนปกติมัน
00:15:45 → 00:15:48 มันไม่ค่อยหลับเราก็พยายามที่จะฝืนร่าง
00:15:48 → 00:15:50 กายอย่างเงี้ยนอนอยู่อย่างนั้นนอนอย่าง
00:15:50 → 00:15:51 นั้นเผื่อว่ามันจะนอนมันจะหลับไงอย่างนี้
00:15:51 → 00:15:57 ก็ถือว่าไม่ไม่แนะนำไม่ดีเลยเหรอไม่แนะนำ
00:15:57 → 00:16:00 ค่ะก็คือโดยทั่วไปอยากให้ขึ้นเตียงเมื่อ
00:16:00 → 00:16:03 เราง่วงจริงๆซึ่งถ้าเราแบบว่าทำได้สม่ำ
00:16:03 → 00:16:06 เสมอเนี่ยคือถึงเวลาหรืออะไรเงี้ยเราก็
00:16:06 → 00:16:08 เราก็จะหลับได้แล้วก็จริงๆสมองคนเราเนี่ย
00:16:08 → 00:16:12 สามารถปรับเปลี่ยนได้นะคะเอ่อจะหลับเร็ว
00:16:12 → 00:16:14 หลับช้าได้ 1 ถึง 1-2 ชั่วโมงเลยนะคะ
00:16:14 → 00:16:18 เพราะฉะนั้นเอ่อก็ๆก็คือแล้วแต่ว่าสมอง
00:16:18 → 00:16:21 ของคนนั้นจะปรับได้เลยได้ช้าไงเพราะ
00:16:21 → 00:16:23 ฉะนั้นเราก็อย่าไปคิดว่าเอ้อเราจะต้อง
00:16:23 → 00:16:27 หลับตอนนี้หรือว่าอะไรเงี้ยค่ะเออก็คือจะ
00:16:27 → 00:16:28 ทำให้ร่างกายเครียดอะไรเงี้ยค่ะเพราะ
00:16:28 → 00:16:34 ฉะนั้นก็สามารถปรับเปลี่ยนได้ค่ะ
00:16:34 → 00:16:38 บางครั้งอ่ะค่ะพอเราเคยตื่นเช้าสมมุติเรา
00:16:38 → 00:16:40 ตื่นอ่ะ 5:30 นทุกวันซัก 2 วันอย่างเงี้ย
00:16:40 → 00:16:43 พอวันที่ 3 ถัดไปมันก็ตื่นเองอันนี้มัน
00:16:43 → 00:16:45 เป็นกลไกนาฬิกาของเราที่มันปรับไปตาม
00:16:45 → 00:16:48 เหมือนแบบมันเรื่องสินทรัพย์หรือเปล่าคะ
00:16:48 → 00:16:52 ก็ต้องดูว่าเราตอนนอนที่เรานอนสมมุติเรา
00:16:52 → 00:16:54 นอนกี่โมงนะคะถ้าตื่นตี 5 เนี่ย
00:16:54 → 00:16:58 ค่ะอาจารย์
00:16:58 → 00:17:01 อาทิตย์ที่นอนตื่นอย่างนี้หรอคะเสาร์
00:17:01 → 00:17:03 อาทิตย์ก็คล้ายๆอย่างนี้เหมือนกันค่ะมัน
00:17:03 → 00:17:06 ตื่นเองค่ะอาจารย์
00:17:06 → 00:17:14 น้อยนะคะ
00:17:14 → 00:17:17 หมายถึงว่ามือศีรษะปวดศีรษะง่วงอะไรอย่าง
00:17:17 → 00:17:20 นี้นะคะก็มีบางครั้งนี่ง่วงค่ะอาจารย์แต่
00:17:20 → 00:17:22 ก็อาจจะอาจจะเป็นคนแบบอย่างที่อาจารย์นะ
00:17:22 → 00:17:25 คะถ้าเราไปนอนตอนกลางวันแล้วเราจะนั่นแบบ
00:17:25 → 00:17:28 แต่เผลอแบบว่าจะหลับไม่หลับแต่ว่าจริงๆ
00:17:28 → 00:17:29 แล้วมันก็ไม่ค่อยหลับอ่ะค่ะแต่มันก็ทำให้
00:17:29 → 00:17:33 บางครั้งก็ก็หลับดีนะคะอืมแต่ว่าการที่
00:17:33 → 00:17:36 แบบปิดอ่าห้องให้มืดสนิทอย่างเงี้ยค่ะมัน
00:17:36 → 00:17:47 ช่วยได้จริงๆเนาะ
00:17:47 → 00:17:50 แล้วก็ไม่มีความแตกต่างระหว่างวันทำงาน
00:17:50 → 00:17:52 กับวันหยุดเนี่ยก็แสดงว่าเราเป็นคนนอน
00:17:52 → 00:17:58 ประมาณนี้ก็เพียงพอ
00:17:58 → 00:18:01 6 ชั่วโมงเนี่ยก็เพิ่มอัตราการเสียชีวิต
00:18:01 → 00:18:08 นะคะ
00:18:08 → 00:18:12 นอนเกิน 10 ชั่วโมงนี่ก็ไม่ดีเหมือนกับ
00:18:12 → 00:18:19 ร่างกายไม่ได้มีการขยับเลยนะคะ
00:18:19 → 00:18:22 อันนี้โดยเฉพาะกลุ่มๆวัยรุ่นอะนะที่เขา
00:18:22 → 00:18:25 นอนกันแบบว่าโอ้โหที่คุณพ่อคุณแม่ผู้ใหญ่
00:18:25 → 00:18:27 เขามักจะใช้ว่านอนกินบ้านกินเมืองอย่าง
00:18:27 → 00:18:30 เงี้ยคือมันเป็นแค่ช่วงวัยนึงเนี่ยถ้ามัน
00:18:30 → 00:18:33 สะสมไปเรื่อยๆมันๆจะส่งผลต่อร่างกายใน
00:18:33 → 00:18:36 ระยะยาวได้ด้วยเหรอครับคุณหมอครับ
00:18:36 → 00:18:41 น้องเขานอนดึกหรือเปล่าค่ะเพราะว่าในวัย
00:18:41 → 00:18:43 รุ่นปัจจุบันเนี่ยมักจะติดโซเชียล
00:18:43 → 00:18:47 คอมพิวเตอร์เนี่ยก็จะนอนตี 3 ตื่นเที่ยง
00:18:47 → 00:18:50 หรืออะไรหรือเปล่าต้องไปดูตรงจุดนั้นด้วย
00:18:50 → 00:18:53 นะมันก็เป็นโรคของนาฬิกาชีวิตนิดนึงนะคะ
00:18:53 → 00:18:56 เขาเรียกว่า delay Sweet เสร็จก็คือนอน
00:18:56 → 00:18:58 ดึกตื่นสาย
00:18:59 → 00:19:02 ต้องไปดูว่าเอ่อตารางการนอนของเขาเนี่ย
00:19:02 → 00:19:05 เป็นอย่างไรอย่างเงี้ยค่ะแล้วก็เขาหลับ
00:19:05 → 00:19:07 เร็วไหมมีตื่นบ่อยมั้ยหรือว่ามีความกรอบ
00:19:07 → 00:19:11 ของการนอนหรือเปล่าอย่างเงี้ยค่ะอืมก็ๆก็
00:19:11 → 00:19:14 คงต้องไปถามในรายละเอียดค่ะค่ะเนี่ยค่ะ
00:19:15 → 00:19:17 อาจารย์มีคุณผู้ฟังทางบ้านถามมาแบบนี้พอ
00:19:17 → 00:19:20 ดีเลยค่ะว่าเนี่ยค่ะอายุ 64 นะคะเอ่อไม่
00:19:20 → 00:19:23 เคยนอน 6 หรือ 7 ชั่วโมงนะคะนอนเต็มที่ก็
00:19:23 → 00:19:27 แค่ 5 ชั่วโมงตอนนี้ถือว่าผิดปกติไหมคะ
00:19:27 → 00:19:31 แล้วก็อย่างที่กล่าวนะก็คงต้องต้องรู้ว่า
00:19:31 → 00:19:33 เวลาเข้านอน
00:19:33 → 00:19:37 กี่โมงใช้เวลากี่นาทีกว่าจะหลับหรือว่ามี
00:19:37 → 00:19:41 ตื่นระหว่างคืนไหมแล้วก็ตื่นกี่โมงอย่าง
00:19:41 → 00:19:44 เงี้ย 5 ชั่วโมงแบบสม่ำเสมอทุกวันเลยไหม
00:19:44 → 00:19:46 วันธรรมดาวันหยุดหรือว่ามีนอนกลางวันอะไร
00:19:46 → 00:19:49 เงี้ยค่ะก็คงต้องไปดูรายละเอียดแต่ว่าแบบ
00:19:49 → 00:19:54 นอน 5 ชั่วโมงแล้วตื่นมาสดชื่นก็คือไม่
00:19:54 → 00:19:57 ได้ต้องแอบกังวาลอะไรอย่างเงี้ยค่ะแล้วก็
00:19:57 → 00:20:00 ถือว่าเป็นปกติของของท่านนั้นอยู่แล้ว
00:20:00 → 00:20:05 เงี้ยค่ะก็ก็น่าจะน่าจะโอเคนะคะอ๋อคือถ้า
00:20:05 → 00:20:08 ถ้านอนอาจจะไม่ถึง 6 ไม่ถึง 7 ชั่วโมงแต่
00:20:08 → 00:20:11 ว่าในช่วงระยะเวลา 5 ชั่วโมงเนี่ยถ้าตื่น
00:20:11 → 00:20:16 มามันดูกระปรี้กระเป่าสดใสไม่ง่วงไม่ซึม
00:20:16 → 00:20:20 ไม่ดูเหงาๆไงก็ถือว่าโอเคใช่มั้ยครับก็
00:20:20 → 00:20:23 เพียงพอของร่างกายเออพี่ๆแนะนำเนี่ยเป็น
00:20:23 → 00:20:25 แบบค่าเฉลี่ยนะคะ
00:20:25 → 00:20:29 ส่วนใหญ่เราจะมีบางท่านที่แบบเอ่อนอน
00:20:29 → 00:20:32 พรุ่งนี้ก็ทำงานได้อะไรอย่างเงี้ยไม่ง่วง
00:20:32 → 00:20:36 อะไรเงี้ยก็ถือว่าโอเคค่ะได้ยินมาแต่ก่อน
00:20:36 → 00:20:38 นะคะอาจารย์เศรษฐีนอน 6 จะส่งเงิน 8
00:20:38 → 00:20:41 อย่างเงี้ยค่ะเพราะใครก็ดีสินะอะไรเงี้ย
00:20:41 → 00:20:42 บอกว่าเออ
00:20:42 → 00:20:48 มันก็สรุปคือไม่ใช่
00:20:48 → 00:20:55 คุณหมอขำเลยทีเดียว
00:20:55 → 00:21:01 ไปหาคุณหมออีกทีถ้านอนแบบนั้น
00:21:01 → 00:21:03 คุณหมอครับมีคุณผู้ฟังฝากถามมาเหมือนกัน
00:21:03 → 00:21:07 คุณผู้ฟังท่านนี้บอกว่าเป็นโรคนอนไม่หลับ
00:21:07 → 00:21:10 อยู่แล้วก็เลยอยากจะขอเรียนถามคุณหมอว่า
00:21:10 → 00:21:14 กินยาคลายเครียดเนี่ยช่วยได้หรือไม่ครับ
00:21:14 → 00:21:27 ควรหรือไม่ควรครับ
00:21:27 → 00:21:32 เพราะฉะนั้นคือต้องต้องเอ่อพยายามเอ่อเขา
00:21:32 → 00:21:35 เรียกว่าเอ้ยของเรามีปัญหาตรงนั้นหรือ
00:21:35 → 00:21:38 เปล่าอะไรเงี้ยค่ะถ้ามีเราก็แก้ที่ต้น
00:21:38 → 00:21:41 เหตุก็จะทำให้ดีขึ้นแล้วก็ในช่วงระหว่าง
00:21:41 → 00:21:46 รอรักษาทางด้านจิตบำบัดเลยทั้งหลายก็ยา
00:21:46 → 00:21:51 ที่ออกฤทธิ์สั้นแล้วก็เหมาะสมสำหรับท่าน
00:21:51 → 00:21:54 นั้นอะไรอย่างเงี้ยเช่นถ้าอายุเยอะมีโรค
00:21:54 → 00:21:58 ประจำตัวเยอะก็ต้องระวังยาบางกลุ่มที่จะ
00:21:58 → 00:22:01 มีผลในการกดสมองกดการหายใจอะไรเงี้ยค่ะ
00:22:01 → 00:22:04 นั้นคือถ้าเราไม่แน่ใจก็ต้องปรึกษาแพทย์
00:22:04 → 00:22:07 ผู้เชี่ยวชาญด้านการนอนหลับเนี่ยว่างาน
00:22:07 → 00:22:08 ไหนเหมาะสม
00:22:08 → 00:22:11 ซื้อหาซื้อทานเองได้ไหมครับคุณหมอครับ
00:22:11 → 00:22:13 อย่าไป search ดูใน Google อะไรอย่างนี้
00:22:13 → 00:22:17 ไม่มีขายค่ะยานมาหลับนี่เขาก็ไม่ขายตาม
00:22:17 → 00:22:21 ร้านขายยาทั่วไป
00:22:21 → 00:22:25 คุณหมอครับอาการโรคนอนไม่หลับเนี่ยเมื่อ
00:22:25 → 00:22:28 กี้ฟังที่คุณหมอได้อธิบายมาก็คือมันเกิด
00:22:28 → 00:22:30 จากภาวะต่างๆให้เพื่อนอาจจะเป็นเรื่องของ
00:22:30 → 00:22:33 ความเครียดโรคซึมเศร้านู่นนี่นั่นมากมาย
00:22:33 → 00:22:36 มันมีไหมครับคนที่นอนไม่หลับโดยที่ไม่ได้
00:22:36 → 00:22:39 มีภาวะอะไรเหล่านี้เกิดขึ้นกับร่างกายแต่
00:22:39 → 00:22:45 ว่ามันนอนไม่หลับอ่ะมันมีไหมครับคุณหมอฮะ
00:22:45 → 00:22:50 ธรรมชาติธรรมชาติของมนุษย์ก็ต้องได้อ่ามี
00:22:50 → 00:22:53 เวลาพักผ่อนนอนหลับดีเนี่ยเค้าเรียกว่า
00:22:53 → 00:22:56 ระยะเวลาเพียงพอแล้วก็หลับเข้าสู่ระยะ
00:22:56 → 00:23:00 หลับลึกแล้วต่อเนื่องนะคะแต่ว่าถ้าแบบมี
00:23:00 → 00:23:03 ปัญหาว่านอนหลับตื่นรู้สึกไม่ได้หลับเลย
00:23:03 → 00:23:06 อะไรอย่างเงี้ยอันนี้ก็น่าจะผิดปกตินะคะ
00:23:06 → 00:23:08 น่าจะมาปรึกษาดูว่าเอ้ยเพราะอาจจะมีอะไร
00:23:08 → 00:23:12 ซ่อมเองหรือเปล่าอะไรเงี้ยค่ะว่าบำรุง
00:23:12 → 00:23:17 สาเหตุที่ทำให้เขามีอาการอย่างนั้นค่ะค่ะ
00:23:17 → 00:23:21 ปัจจัยที่บางคนบอกว่านางก็มีความรู้สึก
00:23:21 → 00:23:23 ว่าไม่อินไม่พอนอนไม่หลับแล้วก็บางคนบอก
00:23:23 → 00:23:27 ว่าถ้าเราหาซื้อทานยามเองก็ไม่ได้เนาะ
00:23:27 → 00:23:30 ต้องออกกำลังกายแต่บางคนแบบก็ไม่ค่อยอยาก
00:23:30 → 00:23:33 ออกอ่ะบางคนก็เลยบอกว่าถ้าอย่างนั้นเรา
00:23:33 → 00:23:38 ใช้แบบนี้ได้ไหมแบบทานวิตามินทานฮอร์โมน
00:23:38 → 00:23:41 หรือบางคนก็บอกว่าอ่ะถ้างั้นบอกว่ามีกิน
00:23:41 → 00:23:44 นมอุ่นๆก่อนนอนแล้วจะหลับนะอะไรอย่าง
00:23:44 → 00:23:46 เงี้ยค่ะ
00:23:46 → 00:23:57 อาจารย์
00:23:57 → 00:24:01 หมอนได้ดีขึ้นอย่างเงี้ยค่ะค่ะ
00:24:01 → 00:24:04 ก็อาจจะช่วยได้แต่ว่าอาจจะไม่ได้ทั้งหมด
00:24:04 → 00:24:53 ทั้งมวลทีเดียว
00:24:53 → 00:24:56 เท่าๆกับตัวอาคารข้างนอกนะคะมันจะช่วยให้
00:24:56 → 00:25:00 เราหลับไหมคะ
00:25:00 → 00:25:04 ถ้าคนไข้นอนในโรงพยาบาลเนี่ยระหว่างเตียง
00:25:04 → 00:25:07 ที่อยู่มืดๆกับเตียงที่อยู่ข้างหน้าต่าง
00:25:07 → 00:25:10 ที่สว่างๆปรากฏว่าคนที่อยู่ใกล้หน้าต่าง
00:25:10 → 00:25:18 หายเร็วกว่าในโลกเดียวกันนะคะ
00:25:18 → 00:25:22 ก็คือต้องได้แดดด้วยถึงคราวสว่างก็ต้อง
00:25:22 → 00:25:24 สว่างถึงคราวหลับให้สนิทก็ต้องมืดแล้วก็
00:25:24 → 00:25:27 เย็น
00:25:27 → 00:25:31 หรือว่าความมืดน่าจะมีผลต่อสมบูรณ์สลับ
00:25:31 → 00:25:37 สำคัญมากค่ะค่ะ
00:25:37 → 00:25:40 ต้องนอนหลับแบบติดต่อกันแบบนอนทดเวลาได้
00:25:40 → 00:25:43 ไหมคะอาจารย์อันนี้นอนไปแล้วหรอข้อดี
00:25:43 → 00:25:47 เนี่ยควรจะต่อเนื่องค่ะนะคะเพียงพอต่อ
00:25:47 → 00:25:50 เนื่องและเข้าสู่ระยะหลับลึกซึ่งจะมีการ
00:25:50 → 00:25:53 หลั่งเขาเรียกว่า ormore หรือว่าฮอร์โมน
00:25:53 → 00:25:56 เกี่ยวกับการเจริญเติบโตซึ่งจะมีหลาย
00:25:56 → 00:25:58 อย่างนะครับไม่ใช่แค่ความสูงนะคะเกี่ยว
00:25:58 → 00:26:01 กับความจำเกี่ยวกับเรื่องของ
00:26:01 → 00:26:02 เอ่อ
00:26:02 → 00:26:05 ภูมิคุ้มกันในร่างกายนะคะถ้าเรานอนได้ลึก
00:26:05 → 00:26:08 เนี่ยเราก็จะไม่ค่อยป่วยค่ะ
00:26:08 → 00:26:11 อันนี้ก็สงสัยเหมือนกันทำไมเราตอนกลางวัน
00:26:11 → 00:26:13 เรากินอิ่มแล้วเราก็จะแบบง่วงแต่ทำไม
00:26:13 → 00:26:16 อาจารย์บอกว่ากลางคืนห้ามห่างกันห้ามห้าม
00:26:16 → 00:26:18 แบบประมาณ 3-4 ชั่วโมงก่อนนอนอะไรเงี้ย
00:26:18 → 00:26:21 ค่ะอาจารย์
00:26:21 → 00:26:26 เค้าเรียกว่านาฬิกาชีวิตเนี่ยเขาจะมีระยะ
00:26:26 → 00:26:30 ที่เค้าเรียกว่าเซอร์คาเดียดิก็คืออาจจะ
00:26:30 → 00:26:33 มีความสมดุลของความง่วงเนี่ยได้ตอนช่วง
00:26:33 → 00:26:36 บ่ายๆค่ะประมาณบ่าย 2 บ่าย 3
00:26:36 → 00:26:39 บางท่านเนี่ยสังเกตว่าเอ๊ะคันอาหารกลาง
00:26:39 → 00:26:40 วันแล้วรู้สึกง่วงแต่จริงๆแล้วมันเป็น
00:26:40 → 00:26:44 ธรรมชาติของชีวิตคนเราอยู่แล้วว่าจะมีตอน
00:26:44 → 00:26:48 นั้นนิดนึงแล้วก็ค่อยมาตอนช่วงที่เราหวัง
00:26:48 → 00:26:51 เพราะฉะนั้นคือการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับ
00:26:51 → 00:26:53 เรื่องของอุบัติเหตุก็มักจะเกิดตอนนั้น
00:26:53 → 00:26:56 เหมือนกันนะคะ
00:26:56 → 00:27:00 ตอนกลางคืนนะคะถ้าเข้าไปขับรถกลางคืน
00:27:00 → 00:27:03 เนี่ยก็มีรายงานเกี่ยวกับอุบัติเหตุเยอะ
00:27:03 → 00:27:04 ขึ้นนะคะ
00:27:04 → 00:27:08 เอ่อมีอีกหนึ่งคำถามครับอันนี้ผมไม่แน่ใจ
00:27:08 → 00:27:10 ว่าเขานัดกันมาหรือเปล่าพอดีว่ามีคนถามมา
00:27:10 → 00:27:13 2 คนติดเหมือนกันอันนี้ไม่รู้ว่าจะเอาฮา
00:27:13 → 00:27:15 หรือว่าเอาสาระนะฮะเดี๋ยวฝากถามคุณหมอ
00:27:15 → 00:27:19 แล้วกันฟันแล้วได้นอนแล้วเนี่ยฝันว่านอน
00:27:19 → 00:27:20 ไม่หลับ
00:27:20 → 00:27:25 อันนี้มันถือว่าเป็นในเรื่องที่ที่ดีหรือ
00:27:25 → 00:27:29 ไม่ดีนอนแล้วแต่ฝันว่านอนไม่หลับโอ้โหนี่
00:27:29 → 00:27:36 มัน Inception มากเลยนะ
00:27:36 → 00:27:44 นอนไม่หลับกระวนกระวายอะไร
00:27:44 → 00:27:47 อยู่ด้วยกันเป็นญาติกันบอกว่าแน่นอนไม่
00:27:47 → 00:27:51 หลับเลยอ่ะแต่พอหันไปก็หลับดีนะ
00:27:51 → 00:27:55 นอนไม่หลับ
00:27:55 → 00:27:59 บางคนลองสังเกตดูถ้าเราแบบเปิดทีวีหรือ
00:27:59 → 00:28:03 ว่าเปิดไฟนอนเงี้ยเร็วๆสังเกตว่าคืนนั้น
00:28:03 → 00:28:05 เราเหมือนกับไม่ได้นอนเลยอะไรอย่างเงี้ย
00:28:05 → 00:28:08 ค่ะตื้นๆก็เลยเหมือนกับไม่หลับอะไรเงี้ย
00:28:08 → 00:28:11 ค่ะแล้วก็ไม่ค่อยสดชื่นด้วยตื่นมาก็แบบ
00:28:11 → 00:28:13 มันๆอะไรอย่างเงี้ยค่ะ
00:28:13 → 00:28:16 งั้นคือถ้าเราแบบอ่าอย่างที่กล่าวแล้วก็
00:28:16 → 00:28:20 คือติดไฟอะไรอย่างเงี้ยแล้วก็เอ่อ
00:28:20 → 00:28:23 ติดทีวีนะมันบางท่านนี่ดูทีวีแล้วก็หลับ
00:28:23 → 00:28:26 คาทีวีอะไรอย่างเงี้ยก็ไม่ดีนะคะหรือว่า
00:28:26 → 00:28:28 เปิดวิทยุอะไรเงี้ย
00:28:28 → 00:28:31 ส่องไปเรื่อยๆก็ทำให้เหมือนกับร่างกาย
00:28:31 → 00:28:33 เมืองกระตุ้นตลอดก็จะหลับไม่รู้ก็เหมือน
00:28:33 → 00:28:35 กับเราไม่ได้หลับอะไรเงี้ยค่ะ
00:28:35 → 00:28:39 อาจจะไม่ได้หลับถึงขั้นหลับลึกอาจจะหลับ
00:28:39 → 00:28:42 ตื้นๆก็เลยอาจจะมีอาการลักษณะแบบนี้เนาะ
00:28:42 → 00:28:47 คุณหมอครับผมย้อนกลับไปเรื่องของการนอน
00:28:47 → 00:28:50 กลางคืนเสร็จก็คือแนะนำว่าต้องให้ห้องมืด
00:28:50 → 00:28:54 เช้าตื่นมาควรจะต้องไปออกแดดการออกแดดที่
00:28:54 → 00:28:58 ว่าในคือมันจะต้องออกกันขนาดไหนแล้วยังไง
00:28:58 → 00:28:59 มันถึงจะมีความ
00:28:59 → 00:29:02 พอเหมาะพอเจาะกับสิ่งที่คุณหมอแนะนำให้
00:29:02 → 00:29:08 คุณหมอฉันเห็นสายตาเพราะออกกำลังกาย
00:29:08 → 00:29:13 ตอนเช้าแดดตอนเช้าก็จะดีนะคะรับวิตามินดี
00:29:13 → 00:29:15 ด้วยอะไรอย่างเงี้ยเราก็ไม่ร้อนมากเกินไป
00:29:15 → 00:29:20 อย่างน้อย 30 นาทีต่อวันอะไรเงี้ยค่ะก็ก็
00:29:20 → 00:29:23 จะทำให้เอ่อสมดุลของนาฬิกาชีวิตเนี่ยใน
00:29:23 → 00:29:24 ร่างกายเราดีขึ้น
00:29:24 → 00:29:27 อ๋อก็คือเป็นแดดตอนเช้าๆ
00:29:27 → 00:29:31 ไม่ร้อนเกินไปคุณจะต้องมีช่วงระยะเวลาฮะ
00:29:31 → 00:29:34 ช่วงไหนยังไงอะไรอย่างเงี้ยฮะ
00:29:34 → 00:29:39 ก่อนกี่โมงหลังกี่โมงอะไรเงี้ย
00:29:39 → 00:29:43 แดดช้าสักประมาณ 5 อ่า
00:29:43 → 00:29:50 ประมาณนั้นไหมอะไรอย่างเงี้ยค่ะ
00:29:50 → 00:29:53 [ปรบมือ]
00:29:53 → 00:29:57 หรือว่าเกี่ยวกับผิวหนังอะไรเงี้ยค่ะ
00:29:57 → 00:30:01 น้องต้องการนี้ของเราทั้งโลกไม่ชอบแดก
00:30:01 → 00:30:05 ใช่ไม่ชอบเลยครับคุณหมอครับเอ๊ะหมดเวลา
00:30:05 → 00:30:06 มันเท่าไหร่
00:30:06 → 00:30:10 ไม่ค่อยชอบมันร้อนมากเลยคุณหมอครับเดี๋ยว
00:30:10 → 00:30:12 นี้ตื่นมาตอนประมาณ 6 โมงเช้าเนี่ยออกไป
00:30:12 → 00:30:14 ริมระเบียงรู้สึกว่าโอ้โหมันร้อนวูบวาบๆ
00:30:14 → 00:30:18 เลยครับคุณหมอครับผมก็เลยอ่ะ
00:30:18 → 00:30:21 [เพลง]
00:30:21 → 00:30:32 ค่ะอาจารย์
00:30:32 → 00:30:35 ฮะก็เลยอยากจะถามคุณหมอเพื่อเป็นความรู้
00:30:35 → 00:30:38 นิดนึงว่าคนที่เขานอนไม่หลับเนี่ยมันมี
00:30:38 → 00:30:41 ความเสี่ยงเป็นโรคสมองฝ่อเป็นอัลไซเมอร์
00:30:41 → 00:30:42 เนี่ย
00:30:42 → 00:30:46 ได้จริงหรือเท็จทั้งหมดอ่ะ
00:30:46 → 00:30:50 เยอะเลยค่ะไม่ว่าจะเหมือนไม่เพียงพอหรือ
00:30:50 → 00:30:54 ว่านอกจากการหลับนะไม่ว่าจะเป็นโรคนอนไม่
00:30:54 → 00:30:57 หลับโรคนอนเปลืองมันหยุดหายใจขณะหลับแล้ว
00:30:57 → 00:31:00 ก็โรคอื่นๆนะคะก็คือพวกเนี้ยจะมีความ
00:31:00 → 00:31:03 เสี่ยงต่อโรคทางเส้นเลือดอ่ะค่ะไม่ว่าจะ
00:31:03 → 00:31:06 เป็นโรคของเอ่อหัวใจฉันด้วยแล้วสิ่งหนึ่ง
00:31:06 → 00:31:10 คือสมองแล้วก็มีงานวิจัยรองรับว่าแบบอ่า
00:31:10 → 00:31:12 มีความสัมพันธ์กับโรคสมองเสื่อมอะไรเงี้ย
00:31:12 → 00:31:13 ค่ะ
00:31:13 → 00:31:17 หรือว่าการทานยานอนกันเนี่ยการทานยานอน
00:31:17 → 00:31:20 หลับบางกลุ่มในระยะยาวก็เพิ่มความเสี่ยง
00:31:20 → 00:31:23 ต่อโรคสมองเสื่อมเหมือนกัน
00:31:23 → 00:31:27 ถ้าเรานอนเองได้โดยที่ไม่ได้ใช้ยาที่จะดี
00:31:27 → 00:31:30 ที่สุดนะคะอาจารย์คะเขาบอกว่าถ้าเกิด
00:31:30 → 00:31:31 สมมุติคนเราแบบนอนไม่หลับเนี่ยลองปรับ
00:31:31 → 00:31:34 อ่านหนังสือแต่ๆแต่สำหรับหยกเป็นนะบาง
00:31:34 → 00:31:37 ครั้งแบบอ่านสัก 5-6 หน้าเอาละตาเริ่ม
00:31:37 → 00:31:42 แล้วเออหลับเลยอันนี้มันเกี่ยวกับ
00:31:42 → 00:31:47 ก็คือถ้าเป็นหนังสือแบบไม่ใช่นะ
00:31:47 → 00:31:52 ก็หมายถึงว่าเอ่อแสงธรรมชาติหนังสือแบบ
00:31:52 → 00:31:54 ธรรมดาอะไรเงี้ยไม่ใช่หนังสือกลับไปแอบ
00:31:54 → 00:31:56 อะไรพวกเนี้ยค่ะเพราะงั้นคือแสงสีฟ้าก็
00:31:56 → 00:32:00 ยิ่งไปยับยั้งการหลั่งในเวลาตอนนี้ก็ทำ
00:32:00 → 00:32:03 ให้เราหลับยากก็ไม่ใหญ่ค่ะแล้วแต่เทคนิค
00:32:03 → 00:32:08 นะคะก่อนนอนบางท่านอาจจะฟังเสียงน้ำทะเล
00:32:08 → 00:32:11 เสียงน้ำตกอะไรเงี้ยเสียงนกอะไรเงี้ยหรือ
00:32:11 → 00:32:14 ว่าอันนี้เบาๆนั่งสมาธิสวดมนต์อะไรเงี้ย
00:32:14 → 00:32:17 อะไรที่ผ่อนคลายอะไรเงี้ยก็จะทำให้เรา
00:32:17 → 00:32:19 หลับได้ดีขึ้น
00:32:19 → 00:32:22 ครับผมก็เรียกว่าวันนี้เราได้รับความรู้
00:32:22 → 00:32:26 นะเรื่องของการนอนดีมันก็จะนำมาซึ่ง
00:32:26 → 00:32:29 สุขภาพร่างกายที่ดีตามมาด้วยสุขภาพร่าง
00:32:29 → 00:32:32 กายแข็งแรงเริ่มได้ที่การนอนเนาะเออได้
00:32:32 → 00:32:34 ครับวันนี้ต้องขอขอบพระคุณคุณหมอมากๆนะ
00:32:34 → 00:32:36 ครับที่ให้ความรู้กับเราในค่ำคืนวันนี้นะ
00:32:36 → 00:32:38 ครับคุณหมอครับ
00:32:38 → 00:32:40 ครับ
00:32:40 → 00:32:45 สวัสดีครับสวัสดีครับ