การตรวจสมรรถภาพหัวใจด้วยการออกกำลังกาย (EST) คืออะไร

การออกกำลังกายของหมอแอมป์ EP.4 ในรายการ เคล็ด(ไม่)ลับเพื่อสุขภาพดี ของหมอแอมป์ [Dr.Amp Podcast]

จากช่อง : DrAmp Team


ดูคำบรรยาย / View Transcript

00:00:0700:00:09 บางคนดูกันอยู่ เห็นกันอยู่หลัด ๆ

00:00:0900:00:11 วันดีคืนดีไปออกกำลังกาย

00:00:1200:00:13 เสียชีวิตซะอย่างงั้นน่ะ

00:00:1300:00:16 มันก็ต้องมีเหตุและปัจจัยที่อยู่เบื้องหลัง

00:00:1900:00:21 [ยินดีต้อนรับสู่ Dr.Amp Podcast]

00:00:3000:00:31 สวัสดีครับ พบกับรายการ

00:00:3100:00:35 เคล็ด(ไม่)ลับเพื่อสุขภาพดี ของหมอแอมป์

00:00:3500:00:37 วันนี้ครับ ชื่อตอนว่า

00:00:3700:00:41 "การออกกำลังกายเพื่อสุขภาพของหมอแอมป์"

00:00:4100:00:45 วันนี้ครับ หมอก็ดำเนินรายการมาถึงตอนที่ 4 แล้วเนาะ

00:00:4500:00:48 ตั้งแต่ตอนที่ 1 เรื่องการกิน

00:00:4800:00:51 เรื่องที่ 2 ก็คือเคล็ดลับการนอนของหมอ

00:00:5100:00:54 เรื่องที่ 3 ก็คือการดูแลผิวพรรณของหมอ

00:00:5500:00:56 แล้วก็มาวันนี้ครับ

00:00:5600:01:00 เคล็ดลับการออกกำลังกายของหมอแอมป์เนี่ย เป็นอย่างไร

00:01:0100:01:02 ก่อนที่หมอจะเริ่มครับ

00:01:0200:01:05 หมอก็จะเล่าให้ท่านผู้ฟังฟังก่อนว่า

00:01:0500:01:08 ประเภท ของการออกกำลังกายเนี่ย

00:01:0800:01:10 แบ่งออกเป็นหลัก ๆ สัก 3 หัวข้อ

00:01:1000:01:14 หัวข้อที่ 1 ครับ เรียกว่า Aerobic Exercise การออกกำลังกายแบบแอโรบิก

00:01:1400:01:19 หรือการออกกำลังกายที่เน้น ระบบการไหลเวียนหลอดเลือดและหัวใจ

00:01:2000:01:23 หรือที่เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ

00:01:2300:01:27 คิดภาพครับ เป็นการออกกำลังกายที่ต่อเนื่อง

00:01:2700:01:28 แล้วก็มีความเหนื่อย

00:01:2900:01:32 เช่น การเดิน การวิ่ง

00:01:3200:01:35 การปั่นจักรยาน การว่ายน้ำ

00:01:3500:01:37 การออกกำลังกายต่าง ๆ เนี่ย

00:01:3700:01:40 เรียกว่าเป็นการออกกำลังกายแบบแอโรบิก

00:01:4000:01:43 จะเน้นไปที่เรื่องของการไหลเวียนโลหิต

00:01:4300:01:46 ระบบหัวใจและหลอดเลือด

00:01:4600:01:52 ข้อที่ 2 ครับ เรียกว่า การออกกำลังกายแบบ Strength Training Exercise

00:01:5200:01:56 S-T-R-E-N-G-T-H

00:01:5600:01:58 Strength เนี่ยแปลว่าความแข็งแรง

00:01:5800:02:03 หรืออีกชื่อหนึ่งครับ เรียกว่า การออกกำลังกายแบบแรงต้าน

00:02:0300:02:06 R-E-S-I-S-T-A-N-T

00:02:0700:02:09 Resistant แปลว่าความต้านทาน

00:02:0900:02:11 เพราะฉะนั้นการออกกำลังกายแบบฝึกกล้ามเนื้อ

00:02:1100:02:13 หรือการออกกำลังกายแบบแรงต้านก็คือ

00:02:1300:02:17 การออกกำลังกายที่ ต้านแรงโน้มถ่วงของโลก

00:02:1700:02:18 ก็คือต้องมีการออกแรงนะ

00:02:1900:02:23 เขาเรียกว่าการออกกำลังกายเพื่อ เสริมสร้างความแข็งแรง

00:02:2300:02:26 ของกล้ามเนื้อ กระดูก และเส้นเอ็น

00:02:2700:02:30 เรียกรวม ๆ ว่า Musculoskeletal system

00:02:3100:02:33 เช่นอะไรครับ ต่อต้านแรงโน้มถ่วง

00:02:3300:02:36 การยกน้ำหนัก การเล่นเวท

00:02:3600:02:40 การออกกำลังกายกล้ามเนื้อ การเข้ายิม

00:02:4000:02:43 การซิตอัป การวิดพื้น

00:02:4400:02:49 เหล่านี้แหละครับเรียกว่า การออกกำลังกายแบบแรงต้าน

00:02:4900:02:54 ข้อที่ 3 ครับ แบบที่ 3 เรียกว่า Flexibility Exercise การออกกำลังกายแบบยืดหยุ่น

00:02:5400:02:58 หรือการออกกำลังกาย ที่ช่วยในเรื่องของความยืดหยุ่น

00:02:5800:03:02 ความยืด เส้นเอ็น ข้อต่อ

00:03:0200:03:05 หรือที่เรียกว่า Balance Exercise

00:03:0600:03:09 การออกกำลังกายที่เน้นการทรงตัว

00:03:0900:03:11 ความยืดหยุ่นของเส้นเอ็น

00:03:1100:03:13 มีอะไรบ้างครับ กลุ่มนี้

00:03:1300:03:15 เริ่มตั้งแต่ก่อนออกกำลังกายเลย

00:03:1500:03:16 เราต้องเน้นกลุ่มนี้นะ

00:03:1600:03:19 การยืด การวอร์มอัป

00:03:1900:03:21 การยืดเส้นยืดสายเนี่ย

00:03:2100:03:25 คนเราเนี่ยอยู่ดี ๆ เดินมาปุ๊บเนี่ย ลงไปออกกำลังกายเลยเนี่ย

00:03:2500:03:27 บาดเจ็บกันมานักต่อนัก

00:03:2700:03:32 เพราะฉะนั้นการยืดเส้นเอ็น การยืดเส้น การวอร์มอัป

00:03:3200:03:34 มีความสำคัญมาก

00:03:3400:03:38 อย่างน้อย ๆ ก่อนจะไปออกกำลังกายอะไรก็ตามเนี่ย

00:03:3800:03:43 15-20 นาที ควรจะเป็นการยืดเส้นยืดสาย

00:03:4300:03:45 เพราะฉะนั้นครับ ตัวนี้เป็นตัวสำคัญ

00:03:4500:03:49 กีฬาที่อยู่ในกลุ่มการออกกำลังกาย แบบยืดหยุ่น เช่น

00:03:4900:03:53 โยคะ ไท่เก๊ก พิลาทิส

00:03:5300:03:56 การยืดเหยียด การวอร์มอัป

00:03:5700:03:58 นี่แหละครับคือสิ่งสำคัญ

00:03:5900:04:03 อันนี้หมอแบ่งการออกกำลังกาย เป็นหลัก ๆ 3 หัวข้อ ก่อน

00:04:0300:04:05 แต่ละหัวข้อก็สำคัญต่างกัน

00:04:0600:04:09 กลุ่มแอโรบิกก็เน้นหัวใจ การไหลเวียน

00:04:0900:04:12 การเผาผลาญ การลดน้ำหนัก

00:04:1200:04:15 การเล่นกล้าม ก็เพิ่มความแข็งแรง

00:04:1500:04:18 พละกำลัง มีเรี่ยวแรง

00:04:1800:04:20 ความอึด ความอดทน

00:04:2000:04:23 ความยืดหยุ่น

00:04:2300:04:25 ก็เน้นในเรื่องของปฏิกิริยารีเฟล็กซ์

00:04:2500:04:28 การตอบสนอง การทรงตัว

00:04:2800:04:30 โดยเฉพาะผู้ใหญ่

00:04:3000:04:32 กีฬาที่เกี่ยวกับเรื่องของการทรงตัว

00:04:3200:04:36 ก็จะช่วยป้องกันการพลัดตกหกล้มได้ดี

00:04:3600:04:38 ไปต่อครับ ตัวชี้วัด

00:04:3900:04:40 เมื่อกี้หมอแบ่งประเภทละใช่ไหม

00:04:4000:04:42 การออกกำลังกายมี 3 อย่าง

00:04:4200:04:44 แสดงว่าต้องออกทั้ง 3 อย่าง

00:04:4400:04:47 บอกก่อนเลย เรื่องการออกกำลังกายวันนี้

00:04:4700:04:49 เป็นรายการเคล็ด(ไม่)ลับ ของหมอแอมป์

00:04:5000:04:53 แสดงว่าหมอบอกเป็นภาพ ที่เกี่ยวกับตัวหมอ

00:04:5400:04:59 ท่านผู้ฟังที่รักทุกท่านเนี่ย สามารถไปประยุกต์ ปฏิบัติ

00:04:5900:05:01 ให้เป็นสูตรของตัวเองได้

00:05:0100:05:02 เพราะแต่ละคนเนี่ยต่างกัน

00:05:0200:05:04 หมอเคยเล่าทุกครั้งนะ

00:05:0400:05:06 รหัสพันธุกรรมก็ต่างกัน

00:05:0600:05:07 การใช้ชีวิตก็ต่างกัน

00:05:0800:05:10 เวลาในแต่ละวันก็ต่างกัน

00:05:1000:05:13 เอาแนวคิดคร่าว ๆ แล้วไปปรับเป็นตัวเรา

00:05:1300:05:17 ยังไงซะครับ การออกกำลังกายเนี่ย ไม่มีขาดทุน

00:05:1800:05:20 ถ้าเราไม่ไปออกหนักจนบาดเจ็บนะ

00:05:2000:05:23 ยังไงก็มีแต่กำไร ไปปรับได้ครับ

00:05:2300:05:26 มีเวลาน้อยทำน้อย มีเวลามากทำมาก

00:05:2700:05:30 แต่มากเกินก็ไม่ดี น้อยเกินก็ไม่ดี

00:05:3000:05:33 ทางสายกลางเนี่ยประมาณไหน เดี๋ยวเรามาดูกัน

00:05:3300:05:36 เราไปต่อครับ ตัวชี้วัดของหมอแอมป์ในการวางแผน

00:05:3600:05:39 และติดตามผลการออกกำลังกายเนี่ย

00:05:3900:05:41 หมอใช้อะไรบ้าง ถูกไหม

00:05:4100:05:43 เพราะว่าก่อนที่เราจะไปออกกำลังกายเนาะ

00:05:4300:05:45 เราเคยฟังข่าว เราเคยอ่านข่าวว่า

00:05:4600:05:49 คนบางคนเนี่ยดูแข็งแรงมากเลยนะ

00:05:4900:05:51 ดูหุ่นดี ดูหน้าตาดี

00:05:5200:05:54 เราได้ยินแป๊บ ๆ เสียชีวิตไปแล้ว

00:05:5400:05:57 หรือเจ็บป่วยไป ด้วยโรคต่าง ๆ

00:05:5700:06:00 บางคนอาจจะดูไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไหร่

00:06:0000:06:02 แต่อายุกลับยืนยาวกว่า

00:06:0200:06:04 ทำไมมันเป็นอย่างนั้น

00:06:0400:06:06 บางคนดูกันอยู่ เห็นกันอยู่หลัด ๆ นะ

00:06:0600:06:09 วันดีคืนดีไปออกกำลังกาย

00:06:0900:06:12 แล้วก็ไปเสียชีวิตซะอย่างงั้นน่ะ

00:06:1200:06:15 มันก็ต้องมีเหตุและปัจจัยที่อยู่เบื้องหลัง

00:06:1500:06:18 เพราะการออกกำลังกาย ไหนหมอแอมป์บอกว่ามีแต่ข้อดี

00:06:1900:06:22 ทำไมถึงมีคนตายที่ฟิตเนส

00:06:2200:06:25 ไปแข่งมาราธอน แล้วล้มเสียชีวิตไป

00:06:2500:06:28 แสดงว่าต้อง ประเมินตัวเราก่อนว่า

00:06:2800:06:32 ตัวเราเนี่ยมีความเหมาะสม มีความพร้อม

00:06:3200:06:34 ที่จะออกกำลังกายหรือเปล่า

00:06:3500:06:37 หรือยกตัวอย่าง เหมือนนักฟุตบอลเมืองนอกใช่ไหมครับ

00:06:3800:06:40 จะฟิตยังไง จะค่าตัวแพงยังไง

00:06:4000:06:43 ก่อนจะลงเล่นเนี่ย เราจะได้ยินข่าวว่า

00:06:4300:06:44 ต้องเข้ามาตรวจสอบความฟิตนะ

00:06:4500:06:46 ถ้าตรวจสอบความฟิตไม่ผ่าน

00:06:4600:06:49 ต่อให้ดังยังไง ก็ไม่ได้ลงเล่น

00:06:4900:06:53 แสดงว่าวิทยาศาสตร์ทางการแพทย์เนี่ย มามีส่วนช่วย

00:06:5300:06:57 ในการป้องกัน ในการให้ข้อมูล

00:06:5700:06:59 ก่อนที่เราจะไปเสี่ยงนะ

00:07:0000:07:03 งั้นตัวชี้วัดครับ ที่หมอแอมป์จะตรวจกับตัวเองก่อนเนี่ย

00:07:0300:07:05 ก่อนผมจะไปออกกำลังกายเยอะ ๆ เนี่ย

00:07:0500:07:10 ข้อที่ 1 ก็คือสุขภาพหัวใจของตัวเรา

00:07:1000:07:13 เพื่อป้องกันภาวะฉุกเฉินที่คาดไม่ถึง

00:07:1300:07:16 เช่น หัวใจวาย

00:07:1600:07:18 เส้นเลือดหัวใจตีบระหว่างออกกำลังกาย

00:07:1900:07:21 ซึ่งเราเห็นได้บ่อยครั้งในข่าว

00:07:2100:07:23 หรือจากคนใกล้ตัวเรานะ

00:07:2300:07:26 เครื่องมือทางการแพทย์ ที่มามีส่วนช่วยเนี่ย

00:07:2600:07:29 ในการป้องกันภาวะฉุกเฉินเหล่านั้นเนี่ย

00:07:2900:07:31 ก็มีหลายประเภท

00:07:3100:07:36 ตัวที่ 1 ที่หมอเอามาแบ่งปันให้ฟังวันนี้ก็คือ EST

00:07:3600:07:38 Exercise Stress Test การตรวจสมรรถภาพหัวใจด้วยการออกกำลังกาย

00:07:3800:07:41 Exercise แปลว่าออกกำลังกาย

00:07:4100:07:46 Stress S-T-R-E-S-S แปลว่าความเครียดนะ

00:07:4600:07:48 Test ก็แปลว่าการทดลอง

00:07:4900:07:52 เพราะงั้นการตรวจสมรรถภาพหัวใจ ด้วยการออกกำลังกายเนี่ย เป็นการเดินสายพานครับ

00:07:5200:07:53 เมื่อเดินสายพานไปเนี่ย

00:07:5400:07:57 คุณหมอ ผู้เชี่ยวชาญทางด้านหัวใจเนี่ย

00:07:5700:07:59 ท่านก็จะคอยอยู่กับเราเนี่ย ให้เราเดิน

00:07:5900:08:03 แล้วก็ติดมอนิเตอร์ตัววัด ขึ้นไปบนจอ

00:08:0300:08:05 แล้วดูคลื่นไฟฟ้าหัวใจ

00:08:0500:08:07 ตอนที่เราเหนื่อยมาก ๆ เนี่ย

00:08:0700:08:10 คลื่นไฟฟ้าหัวใจมีเปลี่ยนไปบ้างไหม

00:08:1000:08:15 ที่จะส่งสัญญาณบอกว่า มีกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด

00:08:1500:08:17 มีเส้นเลือดหัวใจขาดเลือด

00:08:1700:08:19 นั่นคือตัวสำคัญครับว่า

00:08:1900:08:23 ถ้าเราตรวจ EST และผลออกมาเป็นลบ

00:08:2300:08:25 แปลว่าไม่เจออะไรผิดปกติ

00:08:2500:08:27 อย่างนั้นก็ถือว่าใช้ได้

00:08:2800:08:31 ถ้าใครก็ตามที่เดิน EST หรือเดินสายพานแล้ว

00:08:3100:08:36 หมอหัวใจท่านบอกว่ามีภาวะก่ำกึ่ง หรือผลเป็นบวก

00:08:3600:08:38 คือตรวจเจอเลยเนี่ย อย่างเนี้ย

00:08:3800:08:40 อยู่ดี ๆ จะไปออกกำลังกายเลยไม่ได้

00:08:4000:08:43 ต้องปรึกษาหมอก่อนว่า

00:08:4300:08:47 อย่างงี้เนี่ย ท่านก็จะแนะนำกีฬา ที่ไม่เหนื่อยจนเกินไป

00:08:4800:08:52 ไม่ใช่เดี๋ยวเหนื่อยเกิน แล้วหัวใจขาดเลือด กล้ามเนื้อหัวใจไม่ดี

00:08:5200:08:55 แล้วก็เกิดภาวะฉุกเฉินซะอย่างงั้น

00:08:5600:08:57 ตัวที่ 2 ครับ คล้าย ๆ กัน

00:08:5700:09:00 แต่อันนี้เป็นการดูแลเรื่องลิ้นหัวใจ

00:09:0000:09:03 ก็คือ Exercise Stress Echo การตรวจคลื่นเสียงสะท้อนหัวใจ ด้วยการออกกำลังกาย

00:09:0300:09:07 เพราะงั้นเมื่อกี้ครับ เป็นการเดินสายพาน เพื่อดูคลื่นไฟฟ้าหัวใจ

00:09:0700:09:09 พอเราเดินสายพานจนเหนื่อยเสร็จ

00:09:0900:09:11 แพทย์ท่านก็จะให้นอนลง

00:09:1100:09:14 แล้วก็ทำการตรวจหัวใจด้วยคลื่นสะท้อนความถี่สูง

00:09:1400:09:16 ตรวจดูลิ้นหัวใจ และก็การเปิดปิด

00:09:1600:09:18 เพราะฉะนั้นแล้ว 2 รายการนี้ครับ

00:09:1900:09:23 เป็น 2 รายการที่ ใครก็ตามที่คิดจะออกกำลังกาย

00:09:2300:09:26 หรือยิ่งอายุเริ่มมากขึ้น แล้วเพิ่งมาเริ่มออกเนี่ย

00:09:2600:09:28 ควรจะไปปรึกษาหมอหัวใจ

00:09:2800:09:30 ตรวจดู 2 ภาวะนี้ก่อน

00:09:3000:09:33 อีก 1 รายการครับ ในการดูเส้นเลือดหัวใจ

00:09:3300:09:36 ปัจจุบันครับ มีเครื่องมือที่ชื่อว่า

00:09:3600:09:40 การตรวจวัดระดับแคลเซียมผนังหลอดเลือดหัวใจ แบบไม่ฉีดสี

00:09:4000:09:41 เป็นเครื่อง CT (เครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์)

00:09:4100:09:44 สมัยใหม่เนี่ย ก็คือรังสีน้อย

00:09:4500:09:47 แล้วก็ไม่ต้องฉีดสีเข้าไปเพื่อดูเส้นเลือด

00:09:4700:09:51 แต่สามารถประเมินดูคะแนนความตีบ หรือตะกรัน

00:09:5200:09:55 หรือระดับแคลเซียมผนังหลอดเลือดหัวใจเนี่ย ของหลอดเลือดหัวใจได้

00:09:5600:09:57 รู้ไว้หน่อยก็ดี

00:09:5700:10:01 คะแนน ของระดับแคลเซียมผนังหลอดเลือดหัวใจ เวลาเราตรวจเครื่องเนี่ย

00:10:0100:10:04 ถ้าเกิน 400 เนี่ย เรียกว่าอันตรายมาก

00:10:0400:10:07 คุณหมอหัวใจท่านก็จะดูแลใกล้ชิด

00:10:0700:10:09 อาจจะจำเป็นต้องฉีดสี หรือใส่บอลลูน

00:10:0900:10:13 เพราะน่าจะมีภาวะเส้นเลือดหัวใจตีบ

00:10:1300:10:14 แต่ถ้าใครตรวจแล้วเนี่ย

00:10:1500:10:18 ตรวจวัดระดับแคลเซียมผนังหลอดเลือดหัวใจเนี่ย ได้คะแนนศูนย์

00:10:1800:10:19 หรือไม่มีตะกรันเลย

00:10:1900:10:22 การไปออกกำลังกายคาร์ดิโอ หรือการวิ่ง การเดิน

00:10:2200:10:25 การปั่นจักรยาน การออกกำลังกายต่าง ๆ เนี่ย

00:10:2500:10:29 ก็จะมีความเสี่ยง ที่เส้นเลือดหัวใจจะตีบเนี่ย

00:10:2900:10:30 ก็จะน้อยลง

00:10:3000:10:34 เพิ่มความปลอดภัยให้กับ การออกกำลังกายของเราด้วย

00:10:3400:10:36 อันนั้นคือหัวข้อที่ 1

00:10:3600:10:39 ที่หมอแอมป์ใช้ในการตรวจตัวเอง

00:10:3900:10:41 ก่อนจะไปออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอครับ

00:10:4200:10:43 หัวข้อที่ 2

00:10:4300:10:47 หมอใช้ในการดูสุขภาพหลอดเลือดที่คอ

00:10:4700:10:50 หลอดเลือดจากร่างกายขึ้นไปที่สมองเนี่ย

00:10:5000:10:51 จะผ่านหลอดเลือดที่คอ

00:10:5100:10:56 เราเอามือจับดูจะเต้นตุบ ๆ ๆ เหมือนจับชีพจรเนี่ย

00:10:5600:11:00 หลอดเลือดแดงหลอดนี้ครับ ชื่อว่า Carotid Artery

00:11:0100:11:04 C-A-R-O-T-I-D

00:11:0400:11:07 ข้างละ 1 เส้น ซ้ายเส้นขวาเส้น

00:11:0700:11:09 ขึ้นไปอาจจะมีแขนงด้วย

00:11:0900:11:14 การตรวจที่ชื่อว่า การตรวจหลอดเลือดแดงคาโรติดเนี่ย

00:11:1400:11:17 เป็นการตรวจดูว่า เส้นเลือดที่วิ่งขึ้นสมองหลอดเนี้ย

00:11:1700:11:18 หลอดสำคัญเนี่ย

00:11:1900:11:21 มีภาวะตีบหรือเปล่า

00:11:2100:11:24 ถ้ามีภาวะตีบ ตีบกี่เปอร์เซ็นต์

00:11:2400:11:26 ถ้าตีบมาก ก็น่ากลัวมาก

00:11:2600:11:28 เวลาเราไปยกน้ำหนักเนาะ

00:11:2800:11:30 เวลาเราไปยกอะไรมาก ๆ

00:11:3000:11:31 หน้าเราจะแดงใช่ไหม

00:11:3100:11:32 ต้องใช้แรงดันเยอะ

00:11:3300:11:35 มีความเป็นไปได้หรือความเสี่ยงที่

00:11:3500:11:38 ถ้าเรามีความตีบที่หลอดเลือดคอเยอะ ๆ เนี่ย

00:11:3800:11:41 อาจจะเกิดตะกรัน หรือคราบ

00:11:4100:11:44 หรือก้อนไขมัน หลุดไปอุดได้

00:11:4400:11:46 เพราะฉะนั้นแล้วเนี่ย

00:11:4600:11:48 เรื่องการประเมินหลอดเลือดคอคาโรติดเนี่ย

00:11:4800:11:50 ก็เป็นสิ่งสำคัญ

00:11:5000:11:53 โดยเฉพาะกลุ่มที่ออกกำลังกาย ยกน้ำหนักเยอะ ๆ

00:11:5400:11:56 มีการเกร็ง การออกแรง

00:11:5600:12:00 นี่ก็คือภาวะหนึ่ง ที่ถ้าเราตรวจได้

00:12:0000:12:01 และเราตรวจดูสม่ำเสมอเนี่ย

00:12:0200:12:05 เราก็จะลดอัตราการเกิด Stroke โรคหลอดเลือดสมองครับ

00:12:0500:12:09 หรือโรคที่เรียกว่าโรคหลอดเลือดในสมองตีบ หรือแตกนั่นเอง

00:12:1000:12:11 นั่นคือส่วนที่ 2

00:12:1200:12:15 ไปต่อครับ ข้อมูลส่วนที่ 3 ที่หมอแอมป์ใช้เนี่ยก็คือ

00:12:1600:12:19 การดู สังเกต ตรวจวัด

00:12:1900:12:21 มวลไขมัน มวลกล้ามเนื้อ

00:12:2200:12:25 มวลกระดูก ของร่างกายตัวหมอเอง

00:12:2500:12:28 ด้วยเครื่อง ก็จะมีเครื่องอยู่หลายประเภท

00:12:2800:12:30 เครื่องที่หมอแอมป์ใช้นะ

00:12:3000:12:33 เพราะถือว่าเป็นการตรวจมาตรฐานสูงสุด หรือว่าแม่นยำ

00:12:3300:12:35 เขาเรียกว่าเครื่องตรวจความหนาแน่นกระดูก

00:12:3500:12:37 D-E-X-A

00:12:3700:12:39 เครื่องวัดความหนาแน่นของมวลกระดูกเนี่ย

00:12:3900:12:40 เมื่อสแกนเสร็จจะออกมาเลยว่า

00:12:4100:12:44 ร่างกายหมอแอมป์ แขนขวามีกระดูกเท่าไหร่

00:12:4400:12:45 กี่ขีด กี่กรัม

00:12:4500:12:48 มีกล้ามเนื้อเท่าไหร่ มีไขมันเท่าไหร่

00:12:4800:12:50 ไขมันเนี่ยไปเกาะอยู่ตรงเอวเยอะ

00:12:5000:12:53 หรือตรงก้นเยอะ หรือตรงขาเยอะ

00:12:5300:12:55 มีไขมันกี่กิโลกรัมนะ

00:12:5500:12:59 มีกล้ามเนื้อกี่ขีด กี่กรัม แบบนี้เป็นต้น

00:12:5900:13:02 ตัวหมอแอมป์ครับ ปัจจุบันเนี่ยหมอหนัก 63 กก.

00:13:0300:13:04 เมื่อหมอตรวจเสร็จเนี่ย

00:13:0400:13:07 หมอมีมวลกล้ามเนื้อประมาณ 45 กก.

00:13:0700:13:10 มีไขมันประมาณ 12 กก.

00:13:1000:13:13 ตีซะว่าหมอมีเปอร์เซ็นต์ไขมันประมาณ 19%

00:13:1300:13:15 ก็ถือว่าใช้ได้นะ

00:13:1500:13:17 ผู้ชาย ทั้งตัว 100% เนี่ย

00:13:1800:13:21 ควรจะมีไขมันไม่เกิน 28% ถือว่าดี

00:13:2100:13:26 ผู้หญิง ควรจะมีไขมันทั้งตัวไม่เกิน 32%

00:13:2600:13:28 จะหนักเท่าไหร่ก็ได้

00:13:2800:13:32 หนัก 100 กก. มีแต่กล้ามเนื้อ ไขมันน้อย

00:13:3200:13:33 ก็เรียกผอมนะ

00:13:3300:13:37 หนัก 40 กก. มีแต่ไขมัน ไม่เคยออกกำลังกายเลย

00:13:3700:13:39 อย่างงี้ก็เรียกอ้วนได้

00:13:4000:13:43 แสดงว่าน้ำหนัก ไม่ใช่ตัวบอกแบบแม่นยำ

00:13:4300:13:45 สำหรับสายการกีฬานะ

00:13:4500:13:47 เพราะงั้นการวัดเนี่ยก็จะรู้เลยว่า

00:13:4700:13:50 เราออกกำลังกายแบบนี้ ท่านี้

00:13:5000:13:51 ผ่านไป 6 เดือน

00:13:5100:13:54 กล้ามเนื้อแขนเพิ่มขึ้นกี่กรัม กี่ขีด

00:13:5400:13:56 หมอจะใช้ตัววัดตัวเนี้ยเป็นตัววัดตัวเอง

00:13:5600:13:57 เพื่อที่จะอะไร

00:13:5700:14:01 เพื่อที่จะกระตุ้นครับ ให้หมอมีความขยันเนาะ

00:14:0100:14:02 เหมือนเราเรียนหนังสือล่ะครับ

00:14:0300:14:04 ถ้าเราไม่มีการสอบ

00:14:0400:14:06 เราก็จะอ่านหนังสือแต่อ่านไม่มาก

00:14:0600:14:07 ถ้าเป็นหมอนะ

00:14:0700:14:09 ถ้ามีการสอบเนี่ย หมอก็จะอ่านเยอะ

00:14:1000:14:12 เพราะฉะนั้นการออกกำลังกายของหมอแอมป์ ก็เช่นเดียวกัน

00:14:1300:14:16 ถ้าหมอมีตัววัดว่า หมอมีกล้ามเนื้อกี่กิโลกรัม

00:14:1600:14:18 หมอมีไขมันกี่กิโลกรัม

00:14:1800:14:20 หมอออกกำลังกายไปไขมันน้อยลง

00:14:2000:14:21 หมอก็ปลื้มใจ

00:14:2200:14:24 กล้ามเนื้อดีขึ้น แข็งแรงขึ้น หนาขึ้น

00:14:2500:14:26 หมอก็ดีใจ

00:14:2600:14:28 ถ้าดีมาก ๆ กระดูกหนาแน่นขึ้นด้วย

00:14:2800:14:29 หมอก็ยิ่งมีความสุข

00:14:3000:14:31 อย่างนั้นเป็นต้น

00:14:3200:14:35 ข้อที่ 4 ครับ ที่เป็นตัวชี้วัดของหมอแอมป์ก็คือ

00:14:3500:14:39 เครื่องมือชี้วัดประสิทธิภาพโดยรวม ของร่างกาย

00:14:3900:14:42 แบ่งเป็นหัวข้อ ๆ ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ

00:14:4300:14:44 เดี๋ยวนี้จะมีเครื่องมือครับ

00:14:4400:14:49 ในยุคสมัยใหม่เนี่ย AI หรือปัญญาประดิษฐ์เนี่ย

00:14:5000:14:53 มีส่วนเกี่ยวข้องกับเวชศาสตร์การกีฬา เยอะมาก

00:14:5400:14:57 เพราะฉะนั้นครับ เครื่องมือเหล่านี้สามารถตรวจได้หมดเลยว่า

00:14:5800:15:01 กล้ามเนื้อเราแต่ละมัดเนี่ย มีเรี่ยวมีแรงเท่าไหร่

00:15:0100:15:04 ปฏิกิริยารีเฟล็กซ์ หรือระบบประสาทการตอบสนองเนี่ย

00:15:0400:15:06 เร็วหรือช้า เป็นยังไง

00:15:0600:15:07 แบบนี้เป็นต้น

00:15:0800:15:11 ส่วนตัวครับ หมอก็จะใช้เครื่องมือที่ชื่อว่า DAVID

00:15:1100:15:12 จากประเทศฟินแลนด์เนี่ย

00:15:1200:15:14 วัดกล้ามเนื้อหมอ

00:15:1400:15:17 อันนั้นก็คือคร่าว ๆ 4 อย่าง ครับ

00:15:1800:15:20 ที่หมอใช้ในการที่จะประเมินก่อนว่า

00:15:2100:15:23 ก่อนหมอแอมป์จะเริ่มออกกำลังกายเนี่ย

00:15:2300:15:27 ตัวหมอเองเนี่ย อะไรอยู่ในภาวะไหน

00:15:2700:15:28 อะไรอยู่ในระดับไหน

00:15:2900:15:30 อะไรต้องปรับเพิ่ม

00:15:3000:15:31 อะไรดีพอใช้ได้

00:15:3200:15:34 กล้ามเนื้อซ้ายกับขวาเท่ากันไหม

00:15:3400:15:36 หมอจะออกแบบไหนดี

00:15:3600:15:41 นั่นก็คือการวางแผนนะ ที่หมอมีตัวชี้วัดก่อน

00:15:4100:15:44 เพราะฉะนั้นครับตัวชี้วัด หมอรู้แล้ว

00:15:4400:15:46 หัวใจหมอไม่ตีบ ไม่แตก ไม่ตันนะ

00:15:4700:15:49 หลอดเลือดที่คอหมอใช้ได้นะ

00:15:4900:15:51 มวลไขมันหมอมีประมาณนี้

00:15:5100:15:53 กล้ามเนื้อหมอมีประมาณนั้น

00:15:5300:15:55 หมอจะดำเนินการออกกำลังแล้ว

00:15:5500:15:58 หมอจะทำยังไงต่อดี อย่างงี้เป็นต้น

00:15:5900:16:01 ไปถึงส่วนต่อไป

00:16:0100:16:02 หมอจะมาเล่า

00:16:0200:16:06 แลกเปลี่ยนข้อมูล แลกเปลี่ยนเนื้อหา

00:16:0600:16:08 เล่าสู่กันฟังวันนี้ว่า

00:16:0900:16:12 แล้วมีทฤษฎีต่าง ๆ เนี่ย หรืออะไรบ้าง

00:16:1200:16:15 ที่หมอแอมป์ใช้ ในการวางแผนการออกกำลังกายนะ

00:16:1600:16:17 หมอมีหลายข้อมาฝาก

00:16:1800:16:22 ดร.แลร์รี่ ทักเกอร์ ทำการวิจัยและตีพิมพ์

00:16:2200:16:24 ในวารสาร Preventive Medicine ไว้เนี่ย

00:16:2400:16:28 ในปี 2017 เล่มที่ 100 เนี่ยว่า

00:16:2800:16:31 การออกกำลังกาย โดยการวิ่งนะ

00:16:3100:16:34 เป็นเวลา 30-40 นาที ต่อวัน

00:16:3500:16:37 ประมาณ 5 วันต่อสัปดาห์เนี่ย

00:16:3700:16:42 สามารถลดการหดสั้นลง ของเทโลเมียร์เนี่ย ได้ถึง 9 ปี

00:16:4200:16:44 เมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่ออกกำลังกาย

00:16:4500:16:47 หมอพูดมาในหลายตอนเรื่องเทโลเมียร์ว่า

00:16:4800:16:51 เป็นตัววัด ถ้ายาวเนี่ยก็คือหนุ่มหรือสาว

00:16:5100:16:53 ถ้าสั้นเนี่ยก็คือแก่

00:16:5300:16:55 หรืออาจจะมีสิทธิ์ป่วยเยอะนะ

00:16:5500:17:00 เขาก็มีการวิจัยเอาเทโลเมียร์มาวิจัย ตัวนั้น ตัวนี้ ตัวนู้น

00:17:0000:17:04 จนมาพบว่า คนออกกำลัง กับคนไม่ออกกำลังกายเนี่ย

00:17:0400:17:06 พูดภาษาให้ฟังเข้าใจง่ายเนี่ย

00:17:0600:17:09 แก่เร็วแก่ช้ากว่ากันตั้ง 9 ปี นะ

00:17:0900:17:13 ถ้าใครอยากหนุ่มขึ้น สุขภาพดี แข็งแรง สัก 9 ปี

00:17:1400:17:15 ก็คงจะมีบวกลบบ้างนะ

00:17:1500:17:18 เพราะการวิจัยก็แต่ละคนก็ต่างกัน

00:17:1800:17:20 แต่เป็นภาพที่หมออยากจะสื่อสารว่า

00:17:2000:17:22 ยังไงออกกำลังกายเนี่ย

00:17:2200:17:25 หนุ่มกว่าไม่ออก สาวกว่าไม่ออกเนี่ย แน่นอน

00:17:2600:17:27 ข้อต่อไปครับ

00:17:2700:17:32 รหัสพันธุกรรมเนี่ยก็มีส่วนเกี่ยวข้องนะ กับการออกกำลังกาย

00:17:3200:17:35 หลาย ๆ ท่านเนี่ยฟังมาหลายตอนจะเห็นว่า

00:17:3500:17:40 Precision Medicine การแพทย์แบบเฉพาะเจาะจง ที่มีการเจาะรหัสพันธุกรรม

00:17:4000:17:42 ตรวจรหัสพันธุกรรมของแต่ละคนเนี่ย

00:17:4200:17:46 ทำให้รู้ว่ามนุษย์แต่ละคนเนี่ย ต่างกันมาก

00:17:4600:17:48 และรหัสพันธุกรรมเนี่ยก็ไม่เหมือนกันนะ

00:17:4900:17:52 หมอแอมป์เองก็มีการตรวจรหัสพันธุกรรมตัวเอง

00:17:5200:17:56 เพื่อวางแผนการออกกำลังกายของตัวผมเองเนี่ย เช่นเดียวกัน

00:17:5700:18:00 รหัสพันธุกรรมที่หมอแอมป์เอามาฝากวันนี้

00:18:0000:18:05 ตัวที่ 1 ครับ ชื่อว่า ACTN3

00:18:0500:18:09 หรือย่อมาจาก อัลฟา แอกตินิน 3

00:18:0900:18:13 รหัสพันธุกรรมตัวนี้ครับ เกี่ยวข้องกับเส้นใยกล้ามเนื้อสีขาว

00:18:1300:18:15 แบบกระตุกเร็วนะ

00:18:1500:18:19 มีส่วนสำคัญกับเรื่องของความแข็งแรง ความเร็ว

00:18:1900:18:22 เช่น นักวิ่งระยะสั้น ระยะกลาง เป็นต้น

00:18:2300:18:27 ถ้าใครมี ข้อดีกับรหัสพันธุกรรมตัวนี้

00:18:2700:18:29 ก็จะเหมาะกับการออกกำลังกายประเภทนั้น ๆ

00:18:2900:18:31 อย่างนี้เป็นต้น

00:18:3100:18:32 แต่ก็ไม่ได้แปลว่า

00:18:3200:18:35 ถ้าใครรหัสพันธุกรรมไม่ดี แล้วจะออกไม่ได้

00:18:3500:18:36 ไม่ได้แปลว่าแบบนั้น

00:18:3700:18:39 ถ้าทุกท่านมีความพยายามเนี่ย

00:18:3900:18:42 เราสามารถที่จะก้าวข้ามไปได้นะ

00:18:4200:18:45 อันนี้เป็นข้อมูลวิชาการที่หมอเอามาฝาก

00:18:4500:18:48 ยีนตัวต่อไปครับ ที่เกี่ยวกับการออกกำลังกาย

00:18:4800:18:51 ชื่อว่า ยีน ACE

00:18:5100:18:56 ย่อมาจาก แองจิโอเทนซิน คอนเวอร์ติง เอนไซม์

00:18:5700:18:59 ใช้ในการเปลี่ยนแองจิโอเทนซิน 1

00:18:5900:19:02 ให้กลายเป็นแองจิโอเทนซิน 2

00:19:0200:19:06 มีส่วนสำคัญครับกับความดันโลหิตของร่างกาย

00:19:0600:19:09 และมีผลกับความแข็งแรง ของกล้ามเนื้อเราด้วยนะ

00:19:0900:19:11 โดยเฉพาะเรื่องความอึด

00:19:1100:19:13 ความอดทน ทรหด

00:19:1300:19:16 หรือที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า Endurance

00:19:1600:19:19 จะเกี่ยวกับยีนตัวนี้

00:19:1900:19:21 ยีนตัวต่อไปครับ เป็นกลุ่ม

00:19:2100:19:24 มีสัก 3 ตัว ที่หมอเอามาฝาก

00:19:2400:19:29 คือยีนที่ชื่อว่า COL1A1

00:19:2900:19:31 หรือคอลลาเจนชนิด 1 อัลฟ่า 1

00:19:3100:19:34 ตัวต่อไปครับ COL5A1

00:19:3400:19:37 หรือคอลลาเจนชนิด 5 อัลฟ่า 1

00:19:3700:19:41 และก็ยีนอีกตัวนึงครับ ชื่อว่า MPP7

00:19:4100:19:46 หรือย่อมาจาก เมมเบรน โปรตีน พามิทอยเล็ต 7

00:19:4600:19:50 ยีนเหล่านี้ครับมีบทบาท ต่อการสร้างคอลลาเจนของร่างกาย

00:19:5000:19:53 ซึ่งเป็นส่วนประกอบหลักนะ ของเส้นเอ็น

00:19:5300:19:57 จึงใช้ในการประเมินความเสี่ยงต่าง ๆ ของระบบเส้นเอ็น

00:19:5700:20:01 เช่น เอ็นร้อยหวาย เอ็นหัวเข่าเรา เป็นต้น

00:20:0100:20:03 เพราะฉะนั้นครับ ตัวหมอเองเนี่ยนะ

00:20:0300:20:06 หมอตรวจแล้วเนี่ย หมอแอมป์เนี่ยมีความเสี่ยง

00:20:0600:20:10 ที่จะบาดเจ็บเอ็นไขว้หน้าข้อเข่า หรือเอ็นหัวเข่าเนี่ย

00:20:1000:20:12 สูงกว่าปกตินะ

00:20:1200:20:14 หมอรู้รหัสพันธุกรรมปุ๊บ

00:20:1400:20:17 โชคดี หมอไม่ใช่นักกีฬามืออาชีพ

00:20:1700:20:21 แต่หมอก็ต้องระมัดระวังกีฬาที่ใช้เข่าเยอะ ๆ นะ

00:20:2100:20:25 เช่น การเล่นสกี การเล่นฟุตบอลนะ

00:20:2500:20:27 ก็ต้องพยายามอย่าปะทะ

00:20:2700:20:29 หรือถ้าไปเกร็ง หรือไปล้มเนี่ย

00:20:2900:20:33 ก็มีสิทธิ์ที่เอ็นหัวเข่าเนี่ยจะขาดง่าย

00:20:3300:20:34 เพราะงั้นรหัสพันธุกรรมครับ

00:20:3400:20:39 ก็จะมีส่วนเกี่ยวข้องกับนักกีฬา หรือผู้รักการออกกำลังกายเนี่ย

00:20:3900:20:41 มากขึ้น ๆ เรื่อย ๆ

00:20:4100:20:45 เพราะมนุษย์เราครับ พบรหัสพันธุกรรมมากขึ้น

00:20:4500:20:47 และรหัสพันธุกรรมเหล่านี้แหละครับ

00:20:4700:20:50 สามารถต่อยอดไปถึงเรื่องของการรักษา

00:20:5000:20:53 ป้องกัน ดูแลสุขภาพได้ ในอนาคต

00:20:5300:20:55 อย่างมากมายมหาศาล

00:20:5500:20:58 ข้อต่อไปครับ ที่หมอแอมป์ใช้เป็นเทคนิค

00:20:5800:20:59 มาเป็นองค์ประกอบเนาะ

00:21:0000:21:06 มีการวิจัยไว้ครับในวารสาร Journal of Pediatric Orthopaedics

00:21:0600:21:11 ในปี 2014 โดยคณะ ดร.มิริวสกี้

00:21:1100:21:14 นักกีฬาที่นอนหลับ น้อยกว่า 8 ชั่วโมงต่อวัน

00:21:1500:21:17 ใครนอนน้อยกว่า 8 ชั่วโมงนะ ไปดูนะ

00:21:1700:21:20 การออกกำลังกายเนี่ย การนอนมีส่วนสำคัญ

00:21:2000:21:24 เราจะเคยเจอบางวันเรา ง่วงนอนมากเลย

00:21:2400:21:27 และแบบไปออกกำลังกายดีกว่า เผื่อจะหาย

00:21:2700:21:29 ไม่หายนะ ยิ่งเหนื่อยกว่าเดิม

00:21:3000:21:33 เพราะฉะนั้นครับ นักกีฬาที่นอนน้อยกว่า 8 ชั่วโมง เนี่ย

00:21:3300:21:36 มีความเสี่ยงที่จะเกิดการบาดเจ็บ

00:21:3600:21:39 มากกว่าปกติ 1.7 เท่า

00:21:3900:21:41 โอ้โห การวิจัยนี้

00:21:4100:21:44 ถ้าเราเป็นนักกีฬาค่าตัวมหาศาลนะ

00:21:4500:21:48 1.7 เท่าเนี่ย โอ้โห มีความหมายมาก ๆ

00:21:4800:21:53 ปัจจุบันครับ นักกีฬาเลยหันมารณรงค์ เรื่องการนอนเยอะ

00:21:5300:21:56 เพื่อรักษาตัว เพื่อเพิ่มพละกำลังกันมากขึ้น

00:21:5700:21:59 หรือครับ อีกบทความหนึ่ง

00:21:5900:22:03 โดยคุณเบอร์เกอร์ครับ ใน CBS Sports

00:22:0300:22:07 มีการตีพิมพ์ไว้ครับว่า นักกีฬาบาสเกตบอล NBA

00:22:0700:22:10 ชื่อ อังเดร อิกัวดาลา

00:22:1000:22:13 ปัจจุบันอยู่ทีม โกลเดน สเตท วอร์ริเออร์ส

00:22:1300:22:16 เปรียบเทียบครับ ประสิทธิภาพการเล่นนะ

00:22:1600:22:19 ในวันที่นอนมีคุณภาพก็คือ 8 ชั่วโมง

00:22:1900:22:22 กับ วันที่นอนไม่ถึง 8 ชั่วโมง เนี่ย

00:22:2200:22:24 วันที่นอนดี

00:22:2400:22:27 ทำแต้มต่อนาทีได้สูงขึ้น 29%

00:22:2700:22:29 เล่นได้นานขึ้น 12%

00:22:2900:22:32 โยนลูกโทษลงมากขึ้น 9%

00:22:3200:22:37 และที่สำคัญครับ ทำผิดกติกาน้อยลงตั้ง 45% นะ

00:22:3700:22:41 ทำให้ปัจจุบันเนี่ยในวงการนักกีฬาเนี่ย มีการพูดถึง

00:22:4100:22:46 มีการจ้างผู้เชี่ยวชาญ ทางด้านการนอน มาดูแล

00:22:4600:22:48 เพราะต้องอย่าลืม กีฬาเนี่ย

00:22:4800:22:52 มูลค่าของนักกีฬาแต่ละคนเนี่ย มหาศาลมาก

00:22:5300:22:56 เพราะฉะนั้นครับ อะไรที่เพิ่มประสิทธิภาพได้เนี่ย

00:22:5600:22:57 แม้แต่เพียงนิดเดียวเนี่ย

00:22:5700:23:00 ก็สามารถตัดสินเรื่องแชมป์ได้เลยนะ

00:23:0100:23:03 อันนั้นก็คือส่วนสำคัญของการนอน

00:23:0300:23:07 ที่เกี่ยวเนื่องกับเรื่องของการออกกำลังกาย

00:23:0700:23:10 มีการวิจัยมากมายครับ สนับสนุนว่า

00:23:1000:23:13 การออกกำลังกายเนี่ย หรือการเคลื่อนไหวร่างกาย

00:23:1300:23:15 ปัจจุบันใครไม่มีเวลาออกกำลังนะ

00:23:1500:23:17 เราเคลื่อนไหวร่างกายเยอะ ๆ

00:23:1800:23:21 หรือที่เรียกว่า Physical Activity

00:23:2100:23:25 กิจกรรมทางกายเนี่ย การเดินเยอะ การกวาดบ้าน

00:23:2500:23:31 การปั่นจักรยาน การตัดต้นไม้ การซักผ้านะ

00:23:3100:23:34 เรียกเป็นกิจกรรมทางกายได้หมดเลย

00:23:3400:23:37 ฉะนั้น การวิจัยเนี่ยเขาบอกว่า

00:23:3700:23:39 การออกกำลังกายเนี่ยช่วยลด

00:23:3900:23:42 อัตราการตาย การเสียชีวิต

00:23:4200:23:45 ความรุนแรงต่าง ๆ ของโรคต่าง ๆ เช่น

00:23:4500:23:47 โรคหลอดเลือดหัวใจ

00:23:4700:23:49 โรคหลอดเลือดสมอง

00:23:4900:23:51 โรคมะเร็งหลายชนิด

00:23:5100:23:53 เช่น มะเร็งเต้านม

00:23:5300:23:56 มะเร็งลำไส้ มะเร็งต่อมลูกหมาก

00:23:5600:23:59 โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง

00:23:5900:24:02 โรคกระดูกพรุน และโรคอ้วนเนี่ย

00:24:0200:24:04 มีการวิจัยไว้เยอะมาก

00:24:0400:24:06 หมอไม่สามารถสรุปทั้งหมดมาได้

00:24:0600:24:10 เอาเป็นว่าแพร่หลาย และได้รับการยอมรับ ทั่วโลกนะว่า

00:24:1000:24:13 การออกกำลังกายเนี่ยสามารถ

00:24:1300:24:16 ลดความเสี่ยงของโรคต่าง ๆ เหล่านี้ได้เยอะ

00:24:1700:24:21 ต่อไปครับ การออกกำลังกายเนี่ย มีส่วนช่วยเด็ก ๆ

00:24:2100:24:24 ในเรื่องของการเพิ่มความแข็งแรงของกระดูก

00:24:2400:24:28 บำรุง ระบบการทำงาน ของหัวใจและหลอดเลือด

00:24:2800:24:32 เพิ่มประสิทธิภาพของอารมณ์ และสุขภาพจิตของเด็ก ๆ ได้ด้วย

00:24:3200:24:34 ต่อมา มีการตีพิมพ์

00:24:3400:24:38 ใน Physical Activity Guidelines for Americans

00:24:3800:24:41 สรุปไว้ว่าการออกกำลังกายเนี่ย

00:24:4100:24:44 มีส่วนช่วยสำคัญ ในการลดความเครียด

00:24:4400:24:46 ลดความวิตกกังวล

00:24:4600:24:49 ลดโอกาสการเกิดภาวะซึมเศร้า

00:24:4900:24:51 ช่วยให้เรานอนหลับมีคุณภาพมากขึ้น

00:24:5100:24:52 และที่สำคัญครับ

00:24:5300:24:56 ช่วยเพิ่มระดับคุณภาพชีวิตของเราได้อีกด้วยนะครับ

00:24:5600:25:00 นี่ก็คือข้อมูลที่มาเป็นตัวสนับสนุน

00:25:0000:25:04 ให้หมอแอมป์เนี่ย วันนี้ มาชักชวน

00:25:0400:25:06 ให้ทุกท่าน ลุกขึ้นมาขยับครับ

00:25:0600:25:08 ใครออกกำลังกายได้ยิ่งดี

00:25:0900:25:11 ใครยังไม่ได้ขยับตัวให้เยอะ

00:25:1100:25:14 ใครไม่ไหวจริง ๆ เดินให้ได้สัก 8,000 ก้าวต่อวัน

00:25:1400:25:15 ช่วยกันครับ

00:25:1500:25:18 แล้วจะเกิดผลประโยชน์อันดีงามมาก

00:25:1800:25:22 เป็นของขวัญครับ ให้กับสุขภาพและชีวิตตัวเรา

00:25:2300:25:25 ข้อต่อไป ที่หมอเอามาฝากเนี่ย

00:25:2500:25:28 ที่เราพูดกันถึงเรื่องของการออกกำลังกายเนี่ย

00:25:2800:25:29 เรามารู้จักคำหนึ่งครับ

00:25:3000:25:34 ชื่อว่า MET M-E-T

00:25:3400:25:39 ย่อมาจาก A Metabolic Equivalents of Tasks

00:25:3900:25:44 คือปริมาณการใช้พลังงานครับ ของร่างกายเราในกิจกรรมนั้น ๆ

00:25:4400:25:45 เทียบกับใคร

00:25:4500:25:51 เทียบกับปริมาณการใช้พลังงานของร่างกายเรา ขณะเราอยู่เฉย ๆ

00:25:5100:25:52 เพราะฉะนั้นตัวอย่างครับ

00:25:5200:25:56 1 MET ก็เท่ากับตอนเราอยู่เฉย ๆ ครับ

00:25:5600:25:59 อัตราการใช้พลังงานของเราตอนอยู่เฉย ๆ ตอนนั่งพักเนี่ย

00:25:5900:26:02 เท่ากับ 1 MET

00:26:0300:26:10 1 MET เนี่ยเท่ากับ 1 กิโลแคลอรี่ต่อกิโลกรัมต่อชั่วโมง

00:26:1000:26:17 หรือเท่าการใช้ออกซิเจน 3.5 มิลลิลิตรต่อกิโลกรัมต่อนาทีนะ

00:26:1700:26:21 ถ้าเราปั่นจักรยาน ด้วยความเร็วปานกลางนะ

00:26:2100:26:24 ประมาณสัก 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเนี่ย

00:26:2400:26:25 จะเท่ากับ 8 MET

00:26:2500:26:29 ก็คือมากกว่าตอนเรานั่งอยู่เฉย ๆ เนี่ย 8 เท่า

00:26:2900:26:32 หรือ ถ้าเราทำสวนนะ

00:26:3200:26:34 ตัดแต่งต้นไม้นะ ด้วยการใช้กรรไกรมือเนี่ย

00:26:3400:26:38 ตัดไป ๆ เนี่ย จะเท่ากับ 6 MET

00:26:3800:26:41 ก็คือมากกว่าตอนเราอยู่เฉย ๆ เนี่ย 6 เท่า

00:26:4200:26:45 ถ้าเราทำความสะอาด ถูบ้าน

00:26:4500:26:47 คุณแม่บ้านทั้งหลายนะ คุณพ่อบ้านทั้งหลาย

00:26:4700:26:49 ก็เรียกว่าออกกำลังกายนะ

00:26:5000:26:52 ได้ 3.5 MET

00:26:5200:26:54 อันนี้คือคำศัพท์ที่หมอเอามา

00:26:5400:26:55 เวลาเราไปอ่านเราจะได้รู้ว่า

00:26:5600:26:59 ทำไมเขาเขียนว่า MET MET คืออะไร

00:27:0000:27:08 ศัพท์ต่อไปครับ คำว่า Moderate intensity activity การออกกำลังกายแบบปานกลาง

00:27:0800:27:11 เหนื่อยปานกลางก็คือเหนื่อยแหละครับ หอบ

00:27:1100:27:13 แต่ยังพูดประโยคสั้น ๆ ได้

00:27:1300:27:15 แต่ร้องเพลงไม่ได้ละนะครับ

00:27:1500:27:17 เริ่มติดขัด เรื่องขาดท่อนและ

00:27:1700:27:19 แต่พูดถามตอบเนี่ยยังได้อยู่

00:27:1900:27:21 นี่เขาเรียกเหนื่อยปานกลาง

00:27:2100:27:24 ถ้าเหนื่อยมากเลยเนี่ย คือพูดไม่ได้แล้ว

00:27:2400:27:28 เพราะงั้นการออกกำลังกาย หรือการทำกิจกรรมระดับปานกลางเนี่ย

00:27:2800:27:32 ก็จะเท่ากับ 3-5.9 MET อย่างงี้เป็นต้น

00:27:3200:27:35 จะได้รู้ว่า เวลาหมอบอกว่า

00:27:3500:27:38 เราไปอ่านบทความวิจัย เขาแบบปานกลาง

00:27:3800:27:39 คือปานกลางเป็นแบบไหน

00:27:3900:27:41 เหนื่อยประมาณนี้นะ

00:27:4100:27:42 เหนื่อยประมาณทำสวนนะ

00:27:4200:27:44 ประมาณอย่างนั้น

00:27:4400:27:49 มีการวิจัยไว้ครับ ใน Exercise Immunology Review

00:27:4900:27:52 โดยคณะ ของดร.ฟรานซิสโก

00:27:5200:27:56 ในปี ค.ศ. 2021 นี้เองว่า

00:27:5600:28:00 การออกกำลังกาย ระดับความเหนื่อยปานกลาง

00:28:0000:28:05 มีส่วนช่วย ในการเพิ่มประสิทธิภาพของระบบภูมิต้านทาน

00:28:0500:28:07 หน่วยเพชฌฆาตของตัวเรา

00:28:0700:28:10 หรือที่เรียกว่าหน่วย NK cell (Natural Killer cell)

00:28:1000:28:13 หน่วยนี้ใช้ในการต่อสู้กับเชื้อไวรัสได้ด้วย

00:28:1300:28:15 โรคระบาดได้ด้วยนะ

00:28:1500:28:17 เพราะฉะนั้นครับ เลยหมายความว่า

00:28:1800:28:22 การออกกำลังกายเนี่ย สามารถเพิ่มภูมิต้านทานตัวเราได้

00:28:2200:28:26 และยังมีอีกหนึ่งงานวิจัยครับ ของดร.นีแมน และคณะ

00:28:2600:28:30 ในวารสาร Medicine & Science in Sports & Exercise นะ

00:28:3000:28:33 พบว่ากลุ่มผู้หญิงสูงวัย

00:28:3300:28:35 ที่ออกกำลังกายระดับเหนื่อยปานกลางเนี่ย

00:28:3500:28:39 ส่งผลให้การทำงานของเซลล์เพชฌฆาต เซลล์ เนทเชอรัล คิลเลอร์เนี่ย

00:28:3900:28:41 ทำงานดีขึ้น

00:28:4100:28:43 ต่อไปครับ มีการวิจัย

00:28:4300:28:46 ในวารสารเวชศาสตร์ป้องกัน

00:28:4600:28:49 หรือที่เรียกว่า Preventive Medicine

00:28:4900:28:52 ในปี ค.ศ. 2016

00:28:5200:28:56 ติดตามคนอายุเกิน 65 ปี ชาวอเมริกันเนี่ย 3 หมื่นกว่าคน

00:28:5600:28:58 เป็นเวลา 15 ปี

00:28:5900:29:01 พบว่าผู้ใหญ่ที่ออกกำลังกายเนี่ย

00:29:0100:29:03 บวกกับการเล่นกล้ามเนื้อ

00:29:0300:29:05 หรือออกกำลังกายกล้ามเนื้อไปด้วยเนี่ย

00:29:0500:29:07 2 ครั้งต่อสัปดาห์ขึ้นไป

00:29:0800:29:11 มีอัตราการเสียชีวิตเนี่ยดีกว่า

00:29:1100:29:14 กลุ่มที่ไม่เล่นกล้ามเนื้อถึง 46%

00:29:1400:29:17 แสดงว่าผู้ใหญ่ ออกกำลังกายคาร์ดิโอ

00:29:1700:29:20 หรือว่าหัวใจอย่างเดียวเนี่ยไม่พอ

00:29:2000:29:21 ถ้าเราจะออกเนี่ย

00:29:2200:29:24 ผู้ใหญ่เนี่ยบางทีพออายุมากขึ้น

00:29:2400:29:25 เข้าวัยทองไปแล้วเนี่ย

00:29:2500:29:29 ฮอร์โมนหายไปเนี่ย กล้ามเนื้อจะฝ่อง่าย

00:29:2900:29:30 เพราะงั้นการออกกำลังเนี่ย

00:29:3000:29:32 ต้องเน้นทั้งคาดิโอ เน้นทั้งเวทเทรนนิง

00:29:3300:29:34 พูดให้เข้าใจง่ายคือ

00:29:3400:29:36 ออกทั้งหัวใจ ออกทั้งกล้ามเนื้อด้วย

00:29:3600:29:40 ถ้าทำ 2 ส่วนนี้ด้วยเนี่ย กล้ามเนื้อจะไม่ฝ่อ

00:29:4000:29:42 หัวใจนี่จะดีนะ

00:29:4200:29:45 จะส่งผลดีต่อร่างกายขึ้นไปอีก

00:29:4500:29:47 มีการวิจัยไว้อีกครับ

00:29:4700:29:51 ในวารสาร New England Journal of Medicine

00:29:5100:29:53 วารสารที่แพร่หลาย และก็โด่งดัง

00:29:5300:29:55 ในปี 2017 ครับ ว่า

00:29:5500:29:59 การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ หัวใจครับ

00:29:5900:30:03 บวกการออกกำลังกายแบบเล่นกล้าม

00:30:0300:30:04 หรือการออกกำลังกายแบบแรงต้านเนี่ย

00:30:0500:30:08 ทำให้การลดน้ำหนักครับ มีประสิทธิภาพมากขึ้น

00:30:0900:30:11 นอกจากจะช่วยเพิ่มการเผาผลาญแล้วเนี่ย

00:30:1100:30:13 ยังช่วยให้น้ำหนักที่เราลดลงไปเนี่ย

00:30:1400:30:15 ไม่เป็นการเสียกล้ามเนื้อ

00:30:1600:30:19 ยกตัวอย่างครับ บางครั้งเนี่ยเราเล่นคาร์ดิโออย่างเดียว

00:30:1900:30:22 เราก็เผาผลาญไป ๆ น้ำหนักเราลดดี ๆ

00:30:2200:30:26 แต่พอเราไปตรวจมวลสแกนของ Dexa Scan กลายเป็น

00:30:2600:30:29 สมมติ น้ำหนักลงไป 5 กก. เนี่ย

00:30:2900:30:32 เผลอกลายเป็นกล้ามเนื้อออกไปด้วยตั้ง 2 กก.

00:30:3200:30:35 เพราะฉะนั้นสู้อย่างงี้ เราลดแค่ 3 กก. ก็พอ

00:30:3500:30:37 แล้วไม่ให้กล้ามเสียไป 2 กก.

00:30:3700:30:38 คิดภาพออกไหมครับ

00:30:3800:30:42 แสดงว่าเป็นการวิ่งด้วย ว่ายน้ำด้วย ปั่นจักรยานด้วย

00:30:4200:30:44 แล้วก็เล่นเวทด้วย ซิตอัปด้วย

00:30:4400:30:47 วิดพื้นด้วย ยกน้ำหนักด้วย

00:30:4700:30:49 ทำให้น้ำหนักไม่ต้องลงเยอะครับ

00:30:4900:30:52 แต่สิ่งที่เสียไปเนี่ยมีแต่ไขมัน

00:30:5200:30:54 แล้วก็ได้กล้ามเนื้อกลับมา

00:30:5400:30:57 เราเลยไม่จำเป็นต้องยึดติด กับตัวเลขบนตาชั่ง

00:30:5700:31:00 เพราะอาจจะเกิดภาวะเหล่านี้ได้ เช่น

00:31:0000:31:02 น้ำหนักลดเยอะนะ เราก็ดีใจ

00:31:0200:31:03 แต่กลายเป็นกล้ามเนื้อหายไป

00:31:0300:31:05 แล้วเราก็เหี่ยวลง แก่ลงอย่างเงี้ย

00:31:0500:31:07 ก็ไม่ดี

00:31:0700:31:11 มีการวิจัยไว้อีกครับ ในวารสาร Sexual Medicine

00:31:1100:31:13 ในปี 2018 ครับว่า

00:31:1400:31:17 การออกกำลังกายแบบปานกลางไปถึงหนักนะ

00:31:1700:31:19 วันละ 40 นาทีต่อวัน

00:31:1900:31:21 เป็นจำนวน 4 วันต่ออาทิตย์

00:31:2100:31:25 ก็ติดต่อกัน ก็เรียกว่า 160 นาทีต่ออาทิตย์

00:31:2500:31:27 ติดต่อกันสัก 6 เดือน ครับ

00:31:2700:31:31 ช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ ได้อย่างมีนัยสำคัญเลยทีเดียว

00:31:3100:31:35 นั่นก็คือข้อมูลคร่าว ๆ ที่หมอมาประกอบนะ

00:31:3500:31:39 ส่วนที่ 1 การออกกำลังกายมีกี่แบบ

00:31:3900:31:43 ส่วนที่ 2 หมอต้องตรวจร่างกายตัวเองก่อนว่า ไม่เกิดความเสี่ยงนะ

00:31:4300:31:47 ไม่ใช่หมอแอมป์ไปออกกำลังกาย แล้วก็ล้ม

00:31:4700:31:49 แล้วก็เกิดภาวะอันตรายต่อสุขภาพ

00:31:4900:31:51 หมอก็ต้องตรวจตัวเองให้มั่นใจนะ

00:31:5100:31:53 นั่นคือส่วนที่ 2

00:31:5300:31:56 มาถึงส่วนที่ 3 คือทฤษฎีต่าง ๆ ที่หมออ่าน

00:31:5600:31:58 หมอประยุกต์ นำมาใช้

00:31:5800:32:02 นำมาเล่าสู่กันฟัง กับท่านผู้ฟังที่รักทุกท่านว่า

00:32:0200:32:06 อะไรเป็นทฤษฎี ที่อยู่เบื้องหลังการวางแผนต่าง ๆ

00:32:0700:32:10 แล้วมาถึงส่วนสุดท้ายของรายการในวันนี้

00:32:1000:32:15 ก็คือเคล็ด(ไม่)ลับการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ ของหมอแอมป์

00:32:1600:32:18 มีทั้งหมด 7 ข้อ

00:32:1800:32:22 ข้อที่ 1 ครับ หมอแอมป์เนี่ยจะออกกำลังกาย

00:32:2200:32:26 ในวันที่เมื่อคืนเนี่ย หมอนอนหลับพักผ่อนมีคุณภาพ

00:32:2600:32:28 นอนก่อน 4 ทุ่ม

00:32:2800:32:30 แล้วก็นอนได้ครบ 8 ชั่วโมง

00:32:3000:32:32 ตื่นมาสดชื่น

00:32:3200:32:36 เพื่อครับ ให้ร่างกายเนี่ย มีประสิทธิภาพสูงสุด

00:32:3600:32:38 ลดความเสี่ยงจากอาการบาดเจ็บนะ

00:32:3800:32:41 แสดงว่าวันไหนเพลียนอนน้อย นอนดึก

00:32:4200:32:44 วันต่อมาหมอก็จะไม่ออกกำลังกายแบบจริงจังอะ

00:32:4400:32:47 จะข้าม หรือไม่ก็อย่างมาก

00:32:4700:32:49 ก็จะใช้เดินเอา ไม่ให้เหนื่อยมาก

00:32:4900:32:51 เดินให้ได้สัก 8,000 ก้าว

00:32:5200:32:55 วันไหนนอนดี ตื่นมาเรี่ยวแรงเยอะ

00:32:5500:32:58 เราก็จะออกกำลังกายตามแผนการ ที่เราวางเอาไว้อย่างนั้น

00:32:5800:32:59 นั่นคือข้อที่ 1 ครับ

00:33:0000:33:03 ไปต่อเคล็ด(ไม่)ลับ ข้อที่ 2 ของผม

00:33:0300:33:05 การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอครับ

00:33:0500:33:09 หมอแอมป์เนี่ยจะออกคาร์ดิโอเนี่ย โดยการปั่นจักรยานนะ

00:33:0900:33:10 อันนี้แล้วแต่ทุกท่านชอบ

00:33:1100:33:13 ใครเป็นนักวิ่ง ไปวิ่ง

00:33:1300:33:14 ดูแลหัวเข่าด้วย

00:33:1400:33:17 ใครชอบออกกำลังกายปั่นจักรยาน แบบผมนะ

00:33:1700:33:18 สามารถ…

00:33:1800:33:20 ใครอยากจะว่ายน้ำนะ ยิ่งดีเลย

00:33:2000:33:23 ว่ายน้ำนี่ก็เป็นคาร์ดิโอที่ดีมาก

00:33:2300:33:24 หรือจะทำอย่างอื่น

00:33:2400:33:26 จะเตะตะกร้อ จะเล่นวอลเลย์บอล

00:33:2600:33:28 จะเตะฟุตบอล ได้หมด

00:33:2800:33:30 แม้กระทั่งการเต้นรำเนี่ย

00:33:3000:33:33 ก็เรียกว่าการออกกำลังกาย แบบคาร์ดิโอเหมือนกันนะ

00:33:3300:33:34 เพราะฉะนั้นครับ

00:33:3400:33:37 หมอแอมป์จะออกกำลังกายคาร์ดิโอ โดยการปั่นจักรยาน

00:33:3700:33:39 ถ้ามีเวลาก็ปั่นไปข้างนอก

00:33:3900:33:42 ถ้าไม่มีก็จักรยานปั่นอยู่กับที่

00:33:4200:33:46 เปิดให้หนืด ๆ หน่อยนะ เช่น เบอร์ 4 เบอร์ 5

00:33:4600:33:48 ถ้าปั่นจักรยานไปข้างนอกก็ขึ้นเนิน

00:33:4800:33:52 จะได้ทั้งคาร์ดิโอ บวกกับได้เรื่องกล้ามเนื้อด้วย

00:33:5200:33:54 เพราะถ้าเกิดเรามีความหนืด

00:33:5400:33:56 เราก็จะได้กล้ามเนื้อมากขึ้นด้วย

00:33:5700:34:00 หมอจะปั่นจักรยานครับ ประมาณวันละ 1 ชั่วโมง

00:34:0100:34:03 5 วันต่อสัปดาห์ อย่างน้อย 4 วัน

00:34:0300:34:05 บางอาทิตย์ได้ 5 วัน

00:34:0500:34:08 หยุด 2 วัน ให้ร่างกายได้พักนะ

00:34:0800:34:11 เพื่อบำรุงระบบไหลเวียนโลหิตหัวใจ

00:34:1100:34:13 และหลอดเลือดของตัวหมอเอง

00:34:1400:34:18 และเพิ่มประสิทธิภาพครับ ทุกระบบในร่างกายของตัวเรานะ

00:34:1800:34:20 ส่วนเวลาในการออกก็ปรับเปลี่ยนครับ

00:34:2000:34:23 บางวันถ้าเวลาเช้าได้ก็จะดีมาก

00:34:2300:34:26 ถ้าไม่ได้จริง ๆ ก็ช่วงบ่าย ๆ

00:34:2600:34:27 แต่ต้องอย่าลืม

00:34:2700:34:31 ไม่ควรออกกำลังกายอย่างน้อย 3 ชั่วโมง ก่อนนอน

00:34:3100:34:32 เดี๋ยวจะหลับไม่ลึก

00:34:3200:34:34 เพื่อคุณภาพการนอนเนาะ

00:34:3400:34:37 เพราะฉะนั้นครับ นี่คือข้อที่ 2 ของผมเอง

00:34:3800:34:39 ไปต่อข้อที่ 3

00:34:3900:34:42 สำหรับเคล็ด(ไม่)ลับของผมเอง ในการออกกำลังกาย

00:34:4200:34:46 ข้อที่ 3 หมอแอมป์จะออกกำลังกายกล้ามเนื้อครับ

00:34:4600:34:47 หรือเวทเทรนนิงเนี่ย

00:34:4700:34:49 ประมาณครึ่งชั่วโมง ทุกเช้า

00:34:5000:34:52 ส่วนใหญ่หมอก็จะเข้าห้องน้ำแปรงฟัน

00:34:5200:34:55 ทำธุระส่วนตัว อาบน้ำให้เรียบร้อย

00:34:5500:34:58 และหมอก็จะออกมาอยู่ข้างเตียงเนี่ยแหละครับ

00:34:5800:34:59 ก็จะมีเบาะ

00:34:5900:35:02 หมอก็จะวิดพื้นครับ หลัก ๆ เลยนะ

00:35:0300:35:06 วิดพื้น เพิ่มกล้ามเนื้อร่างกายส่วนบน

00:35:0600:35:10 ซิตอัป เพิ่มกล้ามเนื้อ ส่วนกลางลำตัว

00:35:1000:35:11 แล้วก็กล้ามท้อง

00:35:1100:35:13 และก็แพลงกิ้ง Plank Exercise

00:35:1300:35:15 ใครไม่รู้จักต้องไปกดกูเกิลดูนะ

00:35:1500:35:19 แพลงกิ้งก็คือการออกกำลังกายแกนกลางลําตัว

00:35:1900:35:22 แล้วก็ยกน้ำหนัก หมอก็จะมีดัมเบล

00:35:2200:35:24 คราวนี้ก็แล้วแต่ทุกท่านนะฮะ

00:35:2400:35:27 ใครอยากจะได้…เริ่มต้น 1 กก. ก่อนก็โอเค

00:35:2700:35:30 แล้วก็ไป 2 กก. ไป 3 กก. ไป 4 กก.

00:35:3000:35:32 แล้วแต่ถนัด

00:35:3200:35:35 สิ่งสำคัญคืออย่าหนักเกินจนบาดเจ็บ

00:35:3500:35:37 จนเส้นเอ็นอักเสบ

00:35:3700:35:39 แล้วต้องพัก 6 เดือน พัก 3 เดือน

00:35:3900:35:41 เพราะเอ็นฉีก เอ็นขาดอย่างเงี้ย ไม่คุ้มเลย

00:35:4100:35:42 ไม่ต้องหนักมากครับ

00:35:4200:35:44 ใช้ความสม่ำเสมอนะ

00:35:4500:35:48 หมอแอมป์ยกดัมเบล กล้ามเนื้อหัวไหล่ กล้ามเนื้อแขน

00:35:4800:35:50 อันนี้คือข้อที่ 3 ครับ

00:35:5000:35:52 เพื่อให้กล้ามเนื้อหมอเนี่ยโอเค

00:35:5200:35:55 หมอทำแบบนี้เกือบทุกเช้าเท่าที่มีเวลา

00:35:5500:35:57 แสดงว่าเวทเทรนนิ่ง หมอแอมป์ครึ่งชั่วโมงเนี่ย

00:35:5700:35:59 หมอทำได้เกือบทุกวัน

00:35:5900:36:02 แต่ถ้าคาร์ดิโอเนี่ย หมอทำ 4-5 วันต่อสัปดาห์

00:36:0300:36:07 ไปต่อข้อที่ 4 ครับ ก่อนจะออกกำลังกายทั้งหมดเนี่ย

00:36:0700:36:10 หมอจะเพิ่มความยืดหยุ่นของร่างกาย

00:36:1000:36:12 หรือระบบเส้นเอ็น สำคัญมาก

00:36:1200:36:17 15-20 นาที อย่างน้อย ก่อนออกกำลังกายทุกอย่าง

00:36:1700:36:20 ต้องยืดเหยียด มียืด

00:36:2000:36:22 เหมือนเด็ก ๆ ตอนเราวอร์มอัปล่ะครับ

00:36:2200:36:25 มีการ สะบัดมือ สะบัดไหล่

00:36:2500:36:27 ยืดขา ยืดแขน

00:36:2700:36:29 ยืดไปเรื่อย ๆ ยืดไปเรื่อย ๆ

00:36:2900:36:32 ให้เส้นเอ็นต่าง ๆ เนี่ยได้มีการกระตุ้น

00:36:3200:36:33 มีการยืด

00:36:3300:36:35 เพื่อจะลดโอกาส

00:36:3500:36:38 ที่ลงไปออกกำลังกาย แล้วจะบาดเจ็บ

00:36:3800:36:41 งั้นเส้นเอ็นต่าง ๆ ครับ เราทำงานมาทั้งวัน

00:36:4100:36:44 เป็นโรคออฟฟิศซินโดรมบ้างล่ะ นั่งเก้าอี้เยอะบ้างล่ะ

00:36:4400:36:46 ยึดบ้างล่ะ บ่าติดบ้างล่ะ

00:36:4600:36:49 ไหล่ติดบ้างล่ะ ก้นกบติดบ้างล่ะ

00:36:4900:36:53 อาการเหล่านี้ครับ ต้องมีการแก้ไข

00:36:5300:36:56 งั้นกีฬาต่าง ๆ หรือภาวะต่าง ๆ ที่ช่วยเรื่องเส้นเอ็นเนี่ย

00:36:5600:36:59 หมอแอมป์จะให้ความใส่ใจมากเลย

00:36:5900:37:02 ไม่ว่าจะเป็นการยืดเหยียด

00:37:0200:37:07 การเล่นโยคะก็ดี การรำไท่เก๊กก็ดี การกายภาพก็ดี

00:37:0700:37:11 ที่หมอติดมาก ๆ เลย ก็คือการนวดแผนไทย

00:37:1100:37:14 ทุกท่านก็ต้องหามือดีที่เชี่ยวชาญ

00:37:1400:37:16 และก็ถูกจริตตัวเราล่ะ

00:37:1600:37:19 หมอนวดนี่ก็เหมือนกับแพทย์ประจำตัว

00:37:1900:37:21 ต้องรู้เส้น ต้องรู้จุด

00:37:2200:37:26 การนวดแผนไทยครับ ก็จะเป็นตัวที่ช่วยเรื่องการยืดกล้ามเนื้อ

00:37:2600:37:29 ยืดเส้นเอ็น แกะพังผืดต่าง ๆ

00:37:2900:37:32 ให้การออกกำลังกายเราเนี่ย มีคุณภาพมากขึ้น

00:37:3300:37:34 เพราะการออกกำลังกายครับ

00:37:3400:37:37 ถ้าคาร์ดิโอเนี่ยเราก็ไม่ได้ใช้เส้นเอ็นมากเท่าไหร่

00:37:3700:37:39 แต่เวลาเรายกเวท ยกน้ำหนักเนี่ย

00:37:3900:37:41 เราใช้เส้นเอ็น ใช้กล้ามเนื้อเนี่ยเยอะ

00:37:4200:37:44 มีความเป็นไปได้ที่กล้ามเนื้อจะหดรั้ง

00:37:4400:37:47 เกิดจุดปวดในกล้ามเนื้อ เกิดเส้นเอ็น

00:37:4700:37:50 การยืด ความยืดหยุ่น

00:37:5000:37:53 ก็จะมาช่วยให้การไหลเวียนเนี่ยดีขึ้น

00:37:5300:37:57 และก็ลดโอกาสการเกิด พวกโรคออฟฟิศซินโดรม

00:37:5700:38:01 ถ้าท่านเป็นเยอะ ๆ ก็ต้องปรึกษาหมอกายภาพ

00:38:0100:38:04 เดี๋ยวนี้จะมีวิธีในการรักษา โรคต่าง ๆ เหล่านี้

00:38:0500:38:08 ตั้งแต่การใช้นิ้วมือนวด การทำกายภาพ การยืดเหยียด

00:38:0800:38:12 ไปจนถึงการใช้เลเซอร์ การใช้คลื่นกระแทก ในการรักษา

00:38:1200:38:15 หรือว่าคลายภาวะเหล่าเนี้ยเป็นต้น

00:38:1600:38:19 ข้อที่ 5 ครับนะ ที่หมอถือว่าเป็นเคล็ด(ไม่)ลับ

00:38:2000:38:21 เวลาออกกำลังกายครับ

00:38:2100:38:25 ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนดี ๆ หลายชนิดเลย

00:38:2500:38:27 ออกมาบำรุงร่างกายเรา

00:38:2700:38:29 ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ

00:38:2900:38:31 ช่วยชะลอความแก่

00:38:3100:38:33 ช่วยหลาย ๆ เรื่อง

00:38:3300:38:36 ส่วนสร้างกล้ามเนื้อก็มีเทสโทสเตอโรน

00:38:3600:38:37 มีโกรทฮอร์โมน

00:38:3700:38:41 ที่สำคัญครับ มีฮอร์โมนช่วยลดความเครียดได้ด้วย

00:38:4100:38:42 หรือที่เรียกว่าเอ็นดอร์ฟิน

00:38:4300:38:44 ช่วยลดความกังวล

00:38:4400:38:46 ทำให้เราออกกำลังกายแล้วเป็นไงครับ

00:38:4600:38:49 คนที่ออกสม่ำเสมอ จะติด

00:38:4900:38:51 มีความสุข จะฟิน

00:38:5100:38:53 เคล็ดลับครับ เวลาออกกำลังกายเนี่ย

00:38:5400:38:56 พยายามครับ อย่าไปคิดเรื่องอื่น

00:38:5600:38:58 จริง ๆ ตอนเราออกกำลังกายเนี่ย

00:38:5800:39:01 เลือดไหลเวียนไปทั่วร่างกายเนี่ย ไม่ได้ไปสมองเยอะเนี่ย

00:39:0100:39:03 เราก็คิดเรื่องอื่นไม่ค่อยออกอยู่และนะ

00:39:0300:39:05 หมอถึงถือว่าการออกกำลังกายเนี่ย

00:39:0500:39:08 เป็นการคลายเครียดอย่างหนึ่ง

00:39:0800:39:10 เราก็เติมลงไปให้ดีกว่าเดิมคือ

00:39:1000:39:13 ยิ่งเราออกกำลังกาย เราก็ไม่คิดเรื่องอื่น

00:39:1300:39:15 นั่งสมาธิในใจ

00:39:1500:39:18 ไปคิดเรื่องกังวลทำไมให้มันวุ่นวาย

00:39:1800:39:20 ปล่อยใจสบาย ๆ

00:39:2000:39:21 อยู่กับปัจจุบัน

00:39:2200:39:26 การออกกำลังกายก็จะช่วย บำรุงสุขภาพจิตได้อีกด้วย

00:39:2600:39:28 นั่นคือข้อที่ 5 ที่หมอทำประจำนะ

00:39:2800:39:32 เวลาออกกำลังกายหมอก็จะ ไม่เอางานมาทำไปด้วย

00:39:3200:39:34 หรือนั่งอ่านอีเมลนะ

00:39:3400:39:36 หมอก็จะปล่อยให้ใจลอย

00:39:3700:39:39 หรือบางวันก็นั่งสมาธิไปด้วย

00:39:3900:39:41 แล้วแต่เทคนิคอะ แล้วแต่วันด้วย

00:39:4100:39:44 ออกกำลังกายเราทำเกือบทุกวันเนี่ย เรามีหลายเทคนิค

00:39:4400:39:46 ทุกท่านไปปรับเอาได้เลย

00:39:4600:39:49 เอาเป็นว่าอย่าไปเครียด เวลาออกกำลังกายเนี่ย

00:39:4900:39:54 ข้อที่ 6 ครับ วันไหนที่หมอ ไม่มีเวลาออกกำลังกายจริง ๆ

00:39:5400:39:56 เนื่องจากติดภารกิจ

00:39:5600:39:58 ต้องตื่นเช้า ต้องประชุม

00:39:5900:40:03 ก็จะพยายามครับ ตั้งเป้าเดินให้ได้ 8,000 ก้าว ขึ้นไป

00:40:0300:40:04 ใครได้ 10,000 ก้าว นี่เก่งมาก

00:40:0400:40:06 แต่หมอยังไม่ถึงสักทีนะ

00:40:0600:40:08 การอยู่ในกรุงเทพฯเนี่ย

00:40:0800:40:10 บางทีทำให้การเดินเนี่ยมีข้อจำกัด

00:40:1100:40:14 เพราะฉะนั้นครับ พยายามใช้บันไดแทนลิฟต์

00:40:1400:40:16 เดินไปประชุมที่ต่าง ๆ ก็

00:40:1600:40:17 เอาเท่าที่ทำได้ก็จะเดิน

00:40:1700:40:21 แต่ถ้าไกลมากเนี่ย อย่างเงี้ยมันก็ไม่ไหว

00:40:2100:40:23 ถ้าเป็นท่านผู้ฟังก็สามารถปรับ

00:40:2300:40:26 เช่น เราไปซูเปอร์มาร์เก็ต

00:40:2600:40:29 เราก็จอดไกล ๆ แล้วก็เดินเข้าไป

00:40:2900:40:31 เวลาเราซื้อของเสร็จ เราก็ไม่ใส่รถเข็น

00:40:3100:40:34 เราก็ถือยกน้ำหนัก เดินกลับมารถเราอย่างงี้

00:40:3400:40:35 ช่วยได้

00:40:3500:40:38 การทำสวนครับ ตัดต้นไม้ครับ

00:40:3800:40:40 เป็นการออกกำลังที่ดีมาก

00:40:4000:40:42 ตัดสวน แต่งสวน

00:40:4200:40:43 นั่นคือสิ่งสำคัญ

00:40:4300:40:46 การปัดกวาด การเช็ดถู

00:40:4600:40:48 เป็นกิจกรรมทางกายทั้งสิ้น

00:40:4900:40:51 เพราะฉะนั้นครับ ข้อที่ 6 ก็คือ

00:40:5100:40:54 ขยับตัวให้เยอะครับ ทุกวันขยับให้มาก

00:40:5400:40:57 นั่นก็คือการเริ่มออกกำลังกายแล้ว

00:40:5800:41:01 และมาถึงข้อสุดท้ายครับ ที่วันนี้หมอเอามาฝากกัน

00:41:0200:41:06 เคล็บลับ ข้อที่ 7 ที่จะทำให้เรามีวินัย

00:41:0600:41:09 ออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่ดีได้สม่ำเสมอนะ

00:41:1000:41:12 และได้ยาวนาน โดยที่เราไม่เบื่อ

00:41:1300:41:14 ไม่ถอดใจไปซะก่อน

00:41:1400:41:16 หลายท่านน่าจะเคยเป็นนะ

00:41:1600:41:17 ตั้งเป้า เราจะเอาละ

00:41:1700:41:20 ปีใหม่ละ วันเกิดละ เราจะออกกำลังกาย

00:41:2000:41:21 เราตั้งใจเต็มที่

00:41:2100:41:24 ไปซื้ออุปกรณ์มาแพงมาก ใส่ทุกอย่างไปหมด

00:41:2400:41:27 ทำได้ 3 เดือน แล้วก็แผ่ว

00:41:2700:41:29 และก็หงอย และก็เฉา แล้วก็เลิกนะ

00:41:2900:41:30 ไม่เอา

00:41:3100:41:34 เราอย่าไปตั้งอะไรที่มันยาก ๆ ทำยาก

00:41:3400:41:36 เช่น จะออกวันหนึ่ง 2 ชั่วโมง

00:41:3600:41:38 จะทำให้ครบตามนี้ ออกทุกวัน

00:41:3900:41:42 และพอมีกิจกรรม มีกิจวัตร มีงานเข้ามาเนี่ย

00:41:4200:41:44 เราก็ไม่ได้ทำ

00:41:4400:41:47 พอไม่ได้ทำนาน ๆ เข้า เราก็ขี้เกียจ

00:41:4700:41:49 เพราะฉะนั้นครับ เทคนิคหมอแอมป์

00:41:5000:41:53 พยายามตั้งเป้าให้ง่ายครับ และทำได้สะดวก

00:41:5300:41:56 เช่นครับ ถ้าจะปั่นจักรยานนะ

00:41:5600:41:59 ให้ตั้งไว้ก่อนเลยว่า เราจะเริ่มวันละ 10 นาที

00:41:5900:42:01 และเราจะทำไปตลอดเลย

00:42:0100:42:02 เชื่อหมอเถอะครับ

00:42:0300:42:06 พอเราขึ้นไปปั่นเนี่ย เราอาจจะได้ 15 นาที

00:42:0600:42:11 บางวันเผลอ ๆ ดูซีรีส์ไปด้วย ได้ครึ่งชั่วโมง ได้ 40 นาที

00:42:1100:42:12 ก็เป็นไปได้

00:42:1200:42:14 ดีกว่าไปตั้งไว้เยอะ ๆ ครับ

00:42:1400:42:17 แล้วเวลาเหลือไม่พอ เราไม่ออกละ อย่างเงี้ย

00:42:1700:42:20 เราก็จะประสบความสำเร็จในระยะสั้น

00:42:2000:42:23 แต่ระยะยาวเนี่ย เรายืนระยะไม่ไหว

00:42:2300:42:26 เพราะฉะนั้นครับ ความยากที่สุดของการออกกำลังกายคือ

00:42:2700:42:29 การนำตัวเราไปออกกำลังนั่นแหละครับ ยากที่สุด

00:42:3000:42:32 เพราะฉะนั้นครับ ตั้งน้อย ๆ

00:42:3200:42:34 ทำได้บ่อย ๆ ทำได้นาน ๆ

00:42:3500:42:36 ทำไปเรื่อย ๆ แล้วเราจะไม่เบื่อ

00:42:3600:42:38 จะอยู่คู่กับเขาไปตลอดชีวิต

00:42:3800:42:40 ให้ตั้งเป้าหมายแบบนั้น

00:42:4000:42:42 และเชื่อเถอะครับว่า

00:42:4200:42:45 จะได้มากขึ้น จะได้ถี่ขึ้น สม่ำเสมอขึ้นแน่นอน

00:42:4600:42:48 เริ่มน้อย ๆ ให้เรามีกำลังใจ

00:42:4800:42:49 มีวินัยอยากจะทำ

00:42:4900:42:52 พอเครื่องติดปุ๊บ เดี๋ยวไปต่อได้แน่นอนครับ

00:42:5300:42:55 นั่นแหละครับคือทั้งหมด

00:42:5500:42:58 ที่วันนี้ หมอรวบรวมมานะ

00:42:5800:43:00 เป็นเคล็ด(ไม่)ลับส่วนตัว

00:43:0000:43:03 ที่มาแบ่งปันให้ท่านผู้ฟังที่รักทุกท่านเนี่ย

00:43:0300:43:06 ได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์กัน

00:43:0600:43:08 วันนี้ครับ สมควรแก่เวลา

00:43:0800:43:11 หวังว่าข้อมูลต่าง ๆ ที่หมอมาเล่าให้ฟัง

00:43:1100:43:14 จะก่อให้เกิดประโยชน์ กับท่านผู้ฟัง

00:43:1400:43:16 ไม่มากก็น้อย

00:43:1600:43:20 และเราก็มาร่วมสร้างสังคมสุขภาพดีกัน

00:43:2000:43:22 ใครมีเทคนิคดี ๆ เจ๋ง ๆ นะ

00:43:2200:43:24 เราก็แลกเปลี่ยน กับเพื่อน ๆ

00:43:2400:43:27 ที่ติดตามอยู่ด้วยกันมา

00:43:2700:43:29 ก็ขอขอบคุณมาก อบอุ่นจริง ๆ

00:43:2900:43:31 ที่ติดตามกันมานาน

00:43:3100:43:33 วันนี้ก็ขอลาไปก่อน

00:43:3300:43:35 พบกันใหม่ในตอนหน้า

00:43:3500:43:37 ขอบคุณมากนะครับ สวัสดีครับ