00:00:00 → 00:00:03 ที่ถูกต้องอ่ะวันนี้เราจะหยิบยกเรื่องราว
00:00:03 → 00:00:06 ที่ผมเชื่อว่าหลายคนน่าจะเคยเห็นกันมา
00:00:06 → 00:00:11 บ้างนะฮะหลายคนอาจจะเพิ่งเคยเห็นหลายคนก็
00:00:11 → 00:00:14 อาจจะให้มันมาอีกแล้วเหรอนี่
00:00:14 → 00:00:18 ไปค้นข้อมูลเก่าๆมันก็เวียนมาอีกร่อนที่
00:00:18 → 00:00:21 ไปแล้วผมอ่าเรื่องนี้เนี่ยผมพึ่งไปเปย์
00:00:21 → 00:00:24 เป็นคนเป็น search ดูใน Google มาเฮ้ย
00:00:24 → 00:00:27 เมื่อ 2 ปีที่แล้วเนี่ยคุณหมอกรภัคที่เรา
00:00:27 → 00:00:30 ต้องการจะพูดคุยกันอ่ะคุณหมอก็ออกมาพูด
00:00:30 → 00:00:33 เรื่องนี้วันนี้มันกลับมาอีกแล้วเราก็
00:00:33 → 00:00:35 ต้องเชิญคุณหมอในมาพูดข้างให้ความรู้การ
00:00:35 → 00:00:38 ทรงกันนะเลิงหัวข้อที่เราจะพูดคุยกับวัน
00:00:38 → 00:00:40 นี้คือเรื่องอะไรจะไม่น้องจะก็เรื่องของ
00:00:40 → 00:00:44 การสระผมกับก้มหน้าอ่ะสระผมทุกคนก้มหรือ
00:00:44 → 00:00:48 เงยอ่าพี่คิดว่าแบมเอ่อเกินถ้าเกิดขึ้น
00:00:48 → 00:00:52 แล้วก้มนะผมว่าคบอ่ะท่าว่าจะกลัวผมนะคะ
00:00:52 → 00:00:55 ว่าผมกลมใครเลยหน้านี้ควรน้ำอะไรเข้าตา
00:00:55 → 00:00:57 เข้ามาอะไรอ่ะแล้วคือมันมีประเด็นที่ว่า
00:00:57 → 00:01:00 หน้าสระผมใช่มันมีความมืดค่ะวันนี้มาเล่น
00:01:00 → 00:01:04 ว่าเอ๊ะการสระผมก่อนอาบน้ำเนี่ยช่างจะ
00:01:04 → 00:01:07 เป็นปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เราเนี่ยมีโอกาส
00:01:07 → 00:01:11 เกิดอาการเส้นเลือดในสมองแตกเฮ้ยพูดอย่าง
00:01:11 → 00:01:14 นี้แล้วมันเกิดขึ้นได้จริงขนาดไหนเดี๋ยว
00:01:14 → 00:01:16 วันนี้เราจะมาพูดกันคุณหมอกันนะแต่ว่า
00:01:16 → 00:01:18 ก่อนที่เราจะไปพูดคุยกับคุณหมอแนะนำสถาน
00:01:18 → 00:01:21 กันต่อในก่อนนะครับผมซ่าใครมีคำถามเกี่ยว
00:01:21 → 00:01:24 กับเรื่องของอ่าอาการกับเส้นเลือดในสมอง
00:01:24 → 00:01:27 นะโรคหลอดเลือดสมองแตกอะไรเงี้ยสามารถสอบ
00:01:27 → 00:01:29 ถามเข้ามาได้นะครับช่องทางในการติดต่อของ
00:01:29 → 00:01:31 เราก็มีทั้ง Facebook นะครับตอนนี้เราก็
00:01:31 → 00:01:34 ลัดออกจากคู่ขนานกับทาง FM 100.5 นะครับ
00:01:34 → 00:01:36 อะไรที่เป็นคุกพิมพ์เอ็มคอร์ด New FM
00:01:36 → 00:01:39 100.5 แล้วก็ไล่ official นะครับพี่แอ๊ด
00:01:39 → 00:01:43 MCOT News นะครับค่าค่ะคุยกันเข้ามาได้
00:01:43 → 00:01:48 นะคะคุณหมอกรภัคหวังธนะพัฒน์นะคะในแพทย์
00:01:48 → 00:01:51 เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมประสาทสถาบันประสาท
00:01:51 → 00:01:54 วิทยากรมการแพทย์อยู่ในสายกับเราแล้ว
00:01:54 → 00:01:57 สวัสดีค่ะคุณหมอคะสวัสดีครับคุณหมอครับ
00:01:57 → 00:02:01 สวัสดีครับคุณบีมกับนะครับแล้วคุณผู้ฟัง
00:02:01 → 00:02:05 ทุกท่านครับนะครับหัวจำได้ไหมที่จะบอกว่า
00:02:05 → 00:02:08 ขึ้นมาครับให้ความกระจ่างอะไรมาแล้วเมื่อ
00:02:08 → 00:02:11 2 ปีที่แล้วใช่ไหมครับประมาณ 2 บ้างแล้ว
00:02:11 → 00:02:13 นะครับรุ่นนี้มันกลับมาอีกแล้วก็คุณหมอ
00:02:13 → 00:02:17 ครับให้ครับก็คงวนเพราะว่ามันก็เกี่ยวกับ
00:02:17 → 00:02:20 ปัญหาสุขภาพของเราเนี่ยนะครับแล้วก็ถ้า
00:02:20 → 00:02:23 หากว่าพบเจอกันก็คือโรคหลอดเลือดทางสมอง
00:02:23 → 00:02:26 เนี่ยมันก็สามารถพบเจอกันได้แล้วที่นี้พอ
00:02:26 → 00:02:29 เกิดประเด็นขึ้นมาอีกทีนึงเหมือนกับว่าพอ
00:02:29 → 00:02:32 ได้พบอีกทีนึงก็เลยลองเอาเรื่องเก่าๆมา
00:02:32 → 00:02:35 ลองโยงกันดูแบบนี้ครับว่ามันจะเกี่ยวข้อง
00:02:35 → 00:02:37 กันยังไงหรือเปล่าแบบนี้ครับทำไมเรื่อง
00:02:37 → 00:02:43 ของการอาบน้ำสระผมก่อนหลังอุ่นหภูมิก้ม
00:02:43 → 00:02:46 หน้าสระผมมันเป็นประเด็นที่อยู่ในความสน
00:02:46 → 00:02:49 ใจแล้วเขาเป็นกันจริงๆนะครับคุณหมอเข้า
00:02:49 → 00:02:53 กันก้มหน้าเงยหน้าเนี่ยตามหลักการค่ะ
00:02:53 → 00:02:57 เริ่มต้นๆนึงนะครับคนไข้ที่มาหาธรรมะหา
00:02:57 → 00:02:59 เราเนี่ยด้วยเรื่องของเลือดออกในสมอง
00:02:59 → 00:03:02 เนี่ยจัดการซักประวัติย้อนหลังไปเนี่ยเรา
00:03:02 → 00:03:05 จะเห็นว่ามันเกี่ยวข้องกับการที่คนไข้
00:03:05 → 00:03:08 เนี่ยะเข้าออกห้องน้ำในบางครั้งนะครับไม่
00:03:08 → 00:03:11 ว่าจะเป็นในช่วงเช้าหรือช่วงเย็นก็ตามมัก
00:03:11 → 00:03:13 จะมีความสัมพันธ์เกี่ยวกับห้องน้ำเพราะ
00:03:13 → 00:03:16 ฉะนั้นเนี่ยความเข้าใจของผู้พบเห็นเหตุ
00:03:16 → 00:03:19 การณ์ส่วนนึงเนี่ยก็เลยเข้าใจว่ามันมักจะ
00:03:19 → 00:03:22 เกี่ยวกับในเรื่องของการอาบน้ำการสระผม
00:03:22 → 00:03:24 หรือเปล่ารู้เรื่องที่คนรบกวนมาเนี่ย
00:03:24 → 00:03:27 เบื้องต้นเราคงแยกออกเป็น 2 ประเด็นว่าใน
00:03:27 → 00:03:30 เรื่องของการก้มหน้าเป็นประเด็นแรกนะครับ
00:03:30 → 00:03:33 ส่วนประเด็นหนึ่งก็คือในเรื่องของการที่
00:03:33 → 00:03:37 กระผมกับอาบน้ำแล้วก็อุณหภูมิของน้ำที่ 8
00:03:37 → 00:03:40 ต่างกันเนี่ยมันจะมีผลหรือเปล่าก็คงแยก
00:03:40 → 00:03:43 เป็น 2 ประเด็นยังไงให้มันชัดๆนะครับที่
00:03:43 → 00:03:46 นี้เนี่ยเอาประเด็นแรกกว่าในเรื่องของการ
00:03:46 → 00:03:50 ก้มหน้านะครับอย่างโดยปกติแล้วเนี่ยความ
00:03:50 → 00:03:53 เข้าใจของคนเราถ้าหากว่าคิดว่าการก้มหน้า
00:03:53 → 00:03:57 ว่ามันจะเป็นการทำให้เกิดเลือดขาดไป
00:03:57 → 00:03:59 เลี้ยงที่สมองเหมือนเวลาเรานั่งนานๆ
00:03:59 → 00:04:01 สมมุตินะครับถ้าเกิดนั่งนานๆแล้วเกิด
00:04:01 → 00:04:05 อาการพระอาการเน็ตงบกับคุณดินเคยเป็นเลย
00:04:05 → 00:04:08 หมอไม่อยู่บ้านครับมีอยู่บ้างครับผมอาจจะ
00:04:08 → 00:04:10 ยังเป็นไม่บอก
00:04:10 → 00:04:14 โจทย์ยังลูกอย่างนั้นกับอยู่ครับคือนี้
00:04:14 → 00:04:16 เนี่ยกระดูกคอเนี่ยเราจะไม่เหมือนกับ
00:04:16 → 00:04:20 กระดูกของบริเวณบริเวณข้อพับต่างๆในร่าง
00:04:20 → 00:04:23 กายเนื่องจากว่าเราไม่สามารถที่จะก้มหรือ
00:04:23 → 00:04:25 ว่าทำการพับให้หลอดเลือดเนี่ยมันมีการปิด
00:04:25 → 00:04:30 ตัวหรือบิดได้ถึงกระทั่งจนขาดเลือดไป
00:04:30 → 00:04:33 เลี้ยงสมองนะครับเพราะฉะนั้นเนี่ยในเหตุ
00:04:33 → 00:04:36 การณ์ที่ก้มหรือเงยเพื่อสระผมแล้วเนี่ย
00:04:36 → 00:04:40 ความสัมพันธ์ในเรื่องของการที่ไปทำให้
00:04:40 → 00:04:43 เลือดไม่ไปเลี้ยงสมองเนี่ยคงไม่ใช่
00:04:43 → 00:04:46 นะครับประเด็นวิเคราะห์คนถือว่าตกไปอ่าๆๆ
00:04:46 → 00:04:50 อย่างนี้ขอขอที่เข้าใจกันครับก็คือคุณหมอ
00:04:50 → 00:04:54 ก็จะเปรียบเทียบว่าถ้าเรานั่งเส้นเลือด
00:04:54 → 00:04:56 ที่เราทำให้แก่การช้าเนี่ยก็คือส่วนเนี้ย
00:04:56 → 00:04:59 เป็นได้เพราะว่ามันเป็นเบิดออกเหมือนกับ
00:04:59 → 00:05:03 ว่า area พื้นที่ที่มันเกิดขึ้นได้แต่ถ้า
00:05:03 → 00:05:05 คอหนังพร้อมขา
00:05:05 → 00:05:10 มันไม่ใช่ถ้าคอนี่ไม่ใช่ใครครับแล้วก็นอก
00:05:10 → 00:05:13 จากนี้หลอดเลือดที่อยู่ในบทเรียนที่จะ
00:05:13 → 00:05:16 ขึ้นไปเลี้ยงสมองเนี่ยจะอยู่บริเวณที่
00:05:16 → 00:05:19 ค่อนข้างลึกแตกต่างกับบริเวณแขนขาที่เรา
00:05:19 → 00:05:22 เห็นสามารถขับที่ประจรได้ค่อนข้างชัดค่า
00:05:22 → 00:05:25 แบบนั้นครับก็เลยทำให้หลอดเลือดที่ขึ้นไป
00:05:25 → 00:05:28 เลี้ยงสมองเนี่ยถือว่ามีความค่อนข้างปลอด
00:05:28 → 00:05:31 ภัยต่อการที่จะเกิดการหักพับแบบนั้นครับ
00:05:31 → 00:05:35 เป็นไปไม่ได้ใช่ไหมคะในกรณีนี้เป็นไปไม่
00:05:35 → 00:05:39 ได้บอกว่าเท่าไหร่อยู่ในลักษณะที่หักพับ
00:05:39 → 00:05:42 ก็มีค่ะอย่างนั้นนานแค่ไหนอ่ะคือถือได้
00:05:42 → 00:05:45 ว่าซีเรียสเลยทีเดียวก็ไม่ควรทำอย่างยิ่ง
00:05:45 → 00:05:48 ก็เหมือนที่ว่าครับพี่กินแล้วเนี่ยการก้ม
00:05:48 → 00:05:52 คอหรือว่าการเงยหน้านานๆเนี่ยหลอดเลือด
00:05:52 → 00:05:56 ของเราเนี่ยมันไม่ได้ถูกครับงอไปไปลักษณะ
00:05:56 → 00:05:59 อย่างเต็มที่แต่ว่ามันจะมีลักษณะอาการที่
00:05:59 → 00:06:02 เกิดขึ้นเนี่ยเป็นอาการที่เกิดจากการที่
00:06:02 → 00:06:04 กล้ามเนื้อคอละหรือว่าในบางครั้งเนี่ย
00:06:04 → 00:06:07 เกิดจากการที่กระดูกคอหรือหมอนรองกระดูก
00:06:07 → 00:06:11 คอเนี่ยมันมีความเสื่อมอยู่แล้วนะครับเลย
00:06:11 → 00:06:13 ทำให้อาการที่เกิดขึ้นกับกลายเป็นว่าเป็น
00:06:13 → 00:06:16 การไปกดเบียดบริเวณเส้นประสาทบริเวณที่
00:06:16 → 00:06:20 ออกที่บริเวณลำคอหรือว่าเป็นประสาทที่จัก
00:06:20 → 00:06:22 แฟนก้านสมองลงมาเพื่อไปเลี้ยงลำตัวแบบ
00:06:22 → 00:06:23 นั้นมากกว่า
00:06:23 → 00:06:26 ก็คือจะต้องมีประเด็นอยู่แล้วไม่ใช่ว่า
00:06:26 → 00:06:31 อะไรคนปกติทั่วไปจะเป็นได้ครับแล้วเรื่อง
00:06:31 → 00:06:35 อาการที่เขาจะแชร์กันนะฮะเอ่อเรื่องของ
00:06:35 → 00:06:39 การสระผมก่อนอาบน้ำนี่นะฮะมันมีโอกาสที่
00:06:39 → 00:06:44 จะทำให้เสี่ยงต่อโรคนี้ได้จริงๆนะครับหมอ
00:06:44 → 00:06:47 มีแต่ดินไหมคะเท่าไหร่คะโอ้โหโอ้โหนี่มึง
00:06:47 → 00:06:49 มันถูกก็ต้องใช้กันเยอะทีเดียวครับคุณหมอ
00:06:49 → 00:06:54 ครับฮ่าๆๆมันเป็นที่น่าจะเป็นความเข้าใจ
00:06:54 → 00:06:56 เกี่ยวกับในเรื่องของอุณหภูมิและข้อความ
00:06:56 → 00:06:59 แตกต่างระหว่างอุณหภูมิของภายนอกกับมุม
00:06:59 → 00:07:02 วิวอุณหภูมิภายในหลอดเลือดแท้ครับยังโดย
00:07:02 → 00:07:06 ปกติอย่างเราเวลาไปแก้น้ำน้ำอุ่นอย่างนี้
00:07:06 → 00:07:09 เราก็จะรู้สึกว่าโหเลือดมันถูกขีดไปหมด
00:07:09 → 00:07:12 ทั้งตัวเลยครับอย่างนี้ก็ไหมครับข้าวว่า
00:07:12 → 00:07:16 แดงหน้าแดงไปหมดเลยแบบนั้นเนาะแต่ว่ากลไก
00:07:16 → 00:07:19 ของร่างกายของเราเนี่ยมันมีกลไกในการที่
00:07:19 → 00:07:23 จะค่อยๆปรับตัวส่วนนึงเนี่ยลักษณะที่เรา
00:07:23 → 00:07:25 เห็นว่าเป็นลักษณะแดงหรือเรารู้สึกร้อน
00:07:25 → 00:07:27 เนี่ยอันนี้เป็นนักขณะ
00:07:27 → 00:07:30 คุณภูมิที่มันเปลี่ยนแปลงบริเวณผิวหนัง
00:07:30 → 00:07:34 แต่แกนกลางเนี่ยเราจะมีระบบในการรักษา
00:07:34 → 00:07:37 อุณหภูมิไว้เพื่อให้มันมีการจับเปลี่ยน
00:07:37 → 00:07:39 อุณหภูมิเนี่ยไปอย่างช้าที่สุด
00:07:39 → 00:07:42 หมอเขาฉะนั้นที่เราเห็นว่าหน้าแดงหรือว่า
00:07:42 → 00:07:45 รู้สึกร้อนขึ้นมาเนี่ยเป็นลักษณะการ
00:07:45 → 00:07:48 เปลี่ยนแปลงของเส้นเลือดเฉพาะบริเวณของ
00:07:48 → 00:07:51 ผิวหนังแล้วก็เป็นการรับความรู้สึกของ
00:07:51 → 00:07:54 เส้นประสาทบริเวณผิวหนังเท่านั้นครับยก
00:07:54 → 00:07:56 เว้นในกรณีที่เราไปอยู่ในที่อุณหภูมิที่
00:07:56 → 00:07:59 มันเปลี่ยนแปลงนานๆเนี่ยแน่นอนว่ามันจะ
00:07:59 → 00:08:02 ส่งผลกับอุณหภูมิแกนกลางภายในทั้งหมดได้
00:08:02 → 00:08:06 เข้าคณะนี้เนี่ยถ้าเราเข้าใจในหลักการนี้
00:08:06 → 00:08:10 แล้วเนี่ยการสระผมหรือการอาบน้ำด้วยน้ำ
00:08:10 → 00:08:12 อุณหภูมิแตกต่างกันหรือว่าการกลับผมก่อน
00:08:12 → 00:08:15 หรืออาบน้ำก่อนเนี่ยเนี่ยก็แทบจะไม่มีผล
00:08:15 → 00:08:18 กับอุณหภูมิในแกนกลางของร่างกายเลย
00:08:18 → 00:08:22 ยังลงค่ะเปลี่ยนสมองเนี่ยนะครับมันมีนอก
00:08:22 → 00:08:24 จากมีผิวหนังแล้วยังมีกะโหลกป้องกันอีก
00:08:24 → 00:08:27 ชั้นนึงก่อนด้วยภาพรถแค่นั้นถือว่าเป็น
00:08:27 → 00:08:31 บริเวณที่ค่อนข้างมีความปลอดภัยกับใน
00:08:31 → 00:08:34 เรื่องของการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิครับได้
00:08:34 → 00:08:36 ดีกว่าบริเวณต่างๆของร่างกายการโดยตาม
00:08:36 → 00:08:40 ครับโหสบายใจขึ้นมาเลยอ่ะดีกว่าที่
00:08:40 → 00:08:44 อุณหภูมิที่ว่าเนี่ยจะไปส่งผลกระทบถึงแกน
00:08:44 → 00:08:49 กลางสมองที่คุณหมอบอกเนี่ยมันก็นานคือกิน
00:08:49 → 00:08:53 ระยะเวลาหนึ่งทีเดียวไม่ได้กระทบกันในฉับ
00:08:53 → 00:08:56 พลันทันทีที่เรากระทบกับน้ำที่มีฝักบัว
00:08:56 → 00:09:00 ที่ลงมาไม่ว่าจะอุณหภูมิร้อนหรือเย็นใช่
00:09:00 → 00:09:03 ไหมคะคุณหมอคะไอ้ครับมันมีกะโหลกมีอะไร
00:09:03 → 00:09:06 ใกล้ๆกันเยอะแยะนะเมื่อคือว่าชนะไว้ข้อ
00:09:06 → 00:09:09 มูลที่ส่งถูกส่งต่อแชร์กันมาเนี่ยก็คือ
00:09:09 → 00:09:12 เข้าที่เขาบอกว่าการสระผมก่อนอาบน้ำจะทำ
00:09:12 → 00:09:15 ให้ร่างกายเนี่ยเทียบก็ทำอุณหภูมิเร็วมาก
00:09:15 → 00:09:18 เกือบต้องไปเลี้ยงสมองเนี่ยะอย่างรวดแรกๆ
00:09:18 → 00:09:20 เลยอ้ะมันก็คือถือว่า
00:09:20 → 00:09:24 ก็ไม่ไม่ใช่ใช่ไหมวะเดี๋ยวเบนซ์เป็นเธอ
00:09:24 → 00:09:28 ไม่รู้หรอว่าเราจะเป็นโรคอะไรอยู่แต่มัน
00:09:28 → 00:09:31 ดิบอันนี้มันมีประเด็นอยู่โดยเฉพาะในกรณี
00:09:31 → 00:09:35 ที่เราเราตัดในเรื่องของการก้มเงยศีรษะ
00:09:35 → 00:09:37 หรือว่าการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิ
00:09:37 → 00:09:41 และจะได้แล้วนะครับตัดทิ้งไปแล้วเนี่ยมัน
00:09:41 → 00:09:45 จะมีประเด็นอยู่ที่เราเจอว่าคนไข้ที่มัก
00:09:45 → 00:09:47 จะมีปัญหาโรคเลือดออกแล้วว่าไปสัมพันธ์
00:09:47 → 00:09:51 กับห้องน้ำที่บอกไว้ตอนแรกก็คือแน่นอนว่า
00:09:51 → 00:09:52 ถ้าหากว่า
00:09:52 → 00:09:56 คนที่เคยมีเรื่องของโรคหลอดเลือดในสมอง
00:09:56 → 00:09:58 อยู่แล้วเนี่ยอันนี้ถือว่าเป็นปัจจัย
00:09:58 → 00:10:01 เสี่ยงแต่อีกปัจจัยหนึ่งที่บอกว่าเกี่ยว
00:10:01 → 00:10:04 ข้องกับห้องน้ำเนี่ยก็มักจะเป็นในเรื่อง
00:10:04 → 00:10:08 ของการที่เปลี่ยนแปลงถ้าอย่างฉับพลันหรือ
00:10:08 → 00:10:12 แม้แต่การเบ่งนะครับในห้องน้ำก็จะมีผลได้
00:10:12 → 00:10:17 เพราะว่าการเปลี่ยนแปลงถ้าเนี่ยจะมีผลฮะ
00:10:17 → 00:10:20 ไอ้เรื่องของการปรับเปลี่ยนความดันที่
00:10:20 → 00:10:23 ขึ้นไปเลี้ยงก็เข้าใจแน่นอนนะครับแน่นอน
00:10:23 → 00:10:26 ว่าถ้าสมมติเรานั่งอยู่ครับอยู่ที่มาดู
00:10:26 → 00:10:30 หนังฟังคนคงเคยมีความรู้สึกว่าหน้ามืด
00:10:30 → 00:10:34 อากาศหน้ามืดเนี่ยเพี้ยนกลัวได้ซึ่งส่วน
00:10:34 → 00:10:36 นึงเนี่ยมันเป็นมาจากการที่ร่างกายเรา
00:10:36 → 00:10:39 ต้องมีการปรับเปลี่ยนความดำเป็นความดัน
00:10:39 → 00:10:42 ให้เหมาะสมซึ่งตอนที่เรานั่งกับดิวเนี่ย
00:10:42 → 00:10:44 หัวใจจะทำงานไม่เท่ากัน
00:10:44 → 00:10:48 ลดความดันโลหิตมาเลยใช่ไหมครับขวัญมันใช้
00:10:48 → 00:10:51 เวลาในการที่จะกลับตัวมันเปรียบได้เหมือน
00:10:51 → 00:10:54 กับปั๊มน้ำเนี่ยเวลาที่เราจะสูบน้ำขึ้นไป
00:10:54 → 00:10:58 ชั้น 1 ตอนที่เรานั่งอยู่แต่พอเรายืนขึ้น
00:10:58 → 00:11:01 ปุ๊บมันสูบขึ้นไปมากกว่าชั้น 1 นะเนี่ย
00:11:01 → 00:11:03 ขวดใจมันเป็นอวัยวะที่ไม่ได้เหมือนปั๊ม
00:11:04 → 00:11:06 น้ำเลยก็ทีเดียวนะครับมันต้องใช้เวลาใน
00:11:06 → 00:11:09 การปรับเพิ่มแรงขึ้นเพื่อให้น้ำเนี่ยหรือ
00:11:09 → 00:11:13 เลือกเนี่ยส่งขึ้นไปถึง
00:11:13 → 00:11:17 ก็คือจะอธิบายให้ฟังนะคะว่าคือว่าคุณหมอ
00:11:17 → 00:11:20 จะเปรียบเทียบว่านอกจากภาวะของอุณหภูมิมี
00:11:20 → 00:11:23 พ้นนะคะที่บอกมาแล้วแต่ปัญหาเรื่องคอพับ
00:11:23 → 00:11:27 อยู่ในขณะนานที่แกนสมองอยู่ตรงกลางมันไม่
00:11:27 → 00:11:30 กระทบมากมันจะมีภาวะหนึ่งที่เราเรียกว่า
00:11:30 → 00:11:33 ความดันนี้แหละมันพุ่งพรวด
00:11:33 → 00:11:36 ซึ่งเราอาจจะมีภาวะนั้นอยู่แล้วพี่ดินกัน
00:11:37 → 00:11:39 ทั้งหมดที่ดินยังเด็กนะผมยังไม่ที่ดูไม่
00:11:39 → 00:11:43 เคยลูกไม่มีแฟนก็เร็วอะไรยกรู้เลยไอ้
00:11:43 → 00:11:47 เริ่มอายุเมื่อคืนใช่หน้ามืดพันกับเรื่อง
00:11:47 → 00:11:52 โหลดลาดชายด้วยนี่ว่าจะได้โลหิตลนทัพไม่
00:11:52 → 00:11:56 ว่าจะเป็นโรคหลอดเลือดที่หัวใจเองโรคหลอด
00:11:56 → 00:11:58 เลือดที่คอหรือโรคหลอดเลือดที่สมองเนี่ย
00:11:58 → 00:12:01 ครับที่ถ้าหากว่ามันมีแล้วก็จะเป็นการไป
00:12:01 → 00:12:03 เพิ่มปัจจัยเสี่ยงเหมือนกับว่าก็ทำให้
00:12:03 → 00:12:06 ระบบของร่างกายเนี่ยทำงานไม่ได้ร้อย
00:12:06 → 00:12:08 เปอร์เซ็นต์ทำงานไม่ได้รวดเร็วเหมือนหนัก
00:12:08 → 00:12:13 ใจแบบมันเหมือนพี่ดีมาครับ
00:12:13 → 00:12:16 อายุเท่าไหร่ที่เราจะรู้สึกแบบนี้หน้ามืด
00:12:16 → 00:12:19 ได้แล้วหรอคะอย่างโดยปกติทั่วไปในเรื่อง
00:12:19 → 00:12:23 ของการที่เราจะแนะนำว่าควรจะมาเช็ดหรือมา
00:12:23 → 00:12:25 ตรวจสุขภาพเนี่ย
00:12:25 → 00:12:28 สอบถาม 15 ปีขึ้นไปเราก็ควรที่จะมาเริ่ม
00:12:28 → 00:12:31 ตระหนักแล้วนะครับเพราะว่ามีความเสี่ยง
00:12:31 → 00:12:34 ที่จะเป็นในเรื่องของโรคความดันโรคหลอด
00:12:34 → 00:12:37 เลือดต่างๆหรือแม้แต่โรคเบาหวานโรคไขมัน
00:12:37 → 00:12:40 อย่างนี้ครับซึ่งมันจะกลายเป็นปัจจัยสิ่ง
00:12:40 → 00:12:42 ที่จะทำให้เกิดโลกของหลอดเลือดไม่ว่าจะ
00:12:42 → 00:12:45 มองเองหรือว่าโลกของหัวใจหรือว่าควรจะดู
00:12:45 → 00:12:48 ความร่างกายเองก็ตามนะครับค่ะย้อนกลับไป
00:12:48 → 00:12:50 ที่ห้องน้ำครับห้องน้ำเนี่ยเป็นบ่อเกิด
00:12:50 → 00:12:54 ของที่คุณหมอบอกว่าอุบัติการณ์ที่คนเกิด
00:12:54 → 00:12:59 ลมหูน้ำคนหน้ามืดคนแม้จะนั่งเอ่อทำธุระ
00:12:59 → 00:13:02 ส่วนตัวเขานะคะมันหนักเบาก็ตามลุกขึ้นมา
00:13:02 → 00:13:07 เพื่อพลาดแม่ไม่เอ่อโยงไปถึงสระผมอาจนะ
00:13:07 → 00:13:11 เนี่ยคุณหมอแล้วมันมีภาวะเช่นนี้ทำให้
00:13:11 → 00:13:14 เกิดอาการเสื้อสมองมากน้อยแค่ไหนอ่ะคน
00:13:14 → 00:13:17 อยู่ในห้องน้ำเนี่ยค่ะคนอยู่ในห้องน้ำ
00:13:17 → 00:13:20 เนี่ยจริงๆแล้วเนี่ยถ้าหากว่าโดยทั่วไปนะ
00:13:20 → 00:13:23 ครับถ้าหากว่าไม่มีตัวโลกสาเหตุอื่นใดๆ
00:13:23 → 00:13:26 เนี่ยนะครับโอกาสถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้
00:13:26 → 00:13:29 จริงถือว่าค่อนข้างน้อย
00:13:29 → 00:13:33 ยิ่งโดยเฉพาะถ้าหากว่าคนไหนที่มันมาตรวจ
00:13:33 → 00:13:36 สุขภาพเพื่อสุขภาพเป็นประจำแล้วเนี่ยวิ่ง
00:13:36 → 00:13:39 ๆๆว่ากูโอกาสที่จะเกิดเนี่ยมันไม่ควรจะมี
00:13:39 → 00:13:42 ที่เราเจอส่วนใหญ่เนี่ยมักจะเจอว่ามี
00:13:42 → 00:13:47 เรื่องของโรคอื่นร่วมมาด้วยทำครับโดย
00:13:47 → 00:13:51 เฉพาะเรื่องของโหลดโรคหลอดเลือดทางสมองจะ
00:13:51 → 00:13:54 มีอีกอย่างนึงอย่างโดยปกติแล้วเนี่ยโลก
00:13:54 → 00:13:56 ที่เลือดออกในสมองที่จะนำมาได้นอกจาก
00:13:56 → 00:13:59 เรื่องความดันแล้วเนี่ยเราจะเจออย่างเช่น
00:13:59 → 00:14:03 โรคหลอดเลือดโป่งพองนะครับโยกหลอดเลือดตา
00:14:03 → 00:14:06 ในสมองเนี่ยซึ่งถ้าหากว่ามันมีการเปลี่ยน
00:14:06 → 00:14:09 ความดันขึ้นอย่างรวดเร็วเนี่ยจะทำให้เกิด
00:14:09 → 00:14:14 ภาวะเลือดออกจากตัวโรคต่างๆได้
00:14:14 → 00:14:17 นะครับบางครั้งจะเห็นในเรื่องของการที่
00:14:17 → 00:14:21 แคบเบ่งอย่างนี้นะครับแต่บางทีมันจะเป็น
00:14:21 → 00:14:24 การไปเพิ่มความดันในสมองให้สุกขึ้นจนทำ
00:14:24 → 00:14:27 ให้มีเลือดออกได้เหมือนกันแค่แบ่งที่อัน
00:14:27 → 00:14:30 เขาผู้นี้คือเบ่งถ้ายังเข้าห้องน้ำมันงา
00:14:30 → 00:14:33 เหล้าน้ำแดงเลยไอ้ควรทำเลยใช่ไหมครับผม
00:14:33 → 00:14:37 หรอคะมันดิบคนข้างยาไปคิดก็คืออย่างที่
00:14:37 → 00:14:41 ว่าเวลาที่เราเราพอมีอายุเยอะขึ้นเราปวด
00:14:41 → 00:14:44 ที่จะไปหาคุณหมอและเพื่ออย่างไว้ดูความ
00:14:44 → 00:14:47 ดันก่อนว่ามันมีความดันที่ผิดปกติหรือ
00:14:47 → 00:14:50 เปล่าถ้าเป็นไปได้ก็ควรทำการตรวจสุขภาพ
00:14:50 → 00:14:53 เป็นชนะกรรมอย่างนี้นะครับก็เดินช่วยลด
00:14:53 → 00:14:58 ความเสี่ยงหรือว่าช่วยสกรีนหาตัวโลกความ
00:14:58 → 00:15:01 เสี่ยงของโรคหลอดเลือดในสมองหรือปกลบหลอด
00:15:01 → 00:15:04 เลือดของหัวใจได้แต่มีครับครับเดี๋ยวขอ
00:15:04 → 00:15:08 เกี่ยวกับเรื่องในห้องน้ำในอะไรนี้ต่อนะ
00:15:08 → 00:15:11 พี่บอกแล้วเมื่อกี้พี่หมอบอกว่าไอ้การอาบ
00:15:11 → 00:15:14 น้ำเนี่ยการสระผมอะไรเนี่ยก็อาจจะไม่มีผล
00:15:14 → 00:15:16 มากก็เป็นถ้ามีโรคเกาต์อยู่ในพื้นที่ที่
00:15:16 → 00:15:19 มันพูดดีกว่าอ่านไม่ค่อยๆเลยอุณหภูมิ
00:15:19 → 00:15:23 เคลียร์ให้ชัดเจนไปหาไม่มีผลเลยไม่ใช่ถ้า
00:15:23 → 00:15:26 อยากเป็นการนั่งซาวน่าเข้าไปอบซาวน่า
00:15:26 → 00:15:28 เพราะว่าถ้าซาวน่ามันต้องใช้เวลาอย่าง
00:15:28 → 00:15:31 น้อย 20 30 นาทีอันนี้มีโอกาสที่จะทำให้
00:15:31 → 00:15:34 เกิดได้เบื่อไม่ทำด้วยใช่มะมันร้อนมากเลย
00:15:34 → 00:15:38 นะฮะไอ้ครับนอกจากในเรื่องของคุณภูมิที่
00:15:38 → 00:15:40 เปลี่ยนไปในร่างกายกว่าเราจะเสียเหงื่อ
00:15:40 → 00:15:44 ด้วยอือเพราะฉะนั้นจะทำให้การไหลเวียนของ
00:15:44 → 00:15:48 เลือดใหญ่ผิดปกติเพราะฉะนั้นข้อแนะนำของ
00:15:48 → 00:15:51 การที่จะเข้าซาวน่าเนี่ยทุกที่เขาจะต้อง
00:15:51 → 00:15:56 แนะนำว่าห้ามผู้ป่วยที่มีเรื่องขอโทษโลก
00:15:56 → 00:15:59 หลอดเลือดหัวใจแล้วก็โรคหลอดเลือดสมอง
00:15:59 → 00:16:01 เนี่ยเขาใช้เลย
00:16:01 → 00:16:05 นะครับปณิตามีด้านละข้างนอกติดไว้อยู่
00:16:05 → 00:16:09 แล้วเพราะว่าในการที่อุณหภูมิเปลี่ยนแปลง
00:16:09 → 00:16:13 ไปในช่วงเวลาที่นานรวมถึงมีการเสียน้ำออก
00:16:13 → 00:16:16 จากร่างกายในปริมาณที่เยอะเนี่ยจะทำให้ตา
00:16:16 → 00:16:19 ไหลเวียนของเลือดอย่างมันผิดปกติไปอาจจะ
00:16:19 → 00:16:21 ไม่ได้เป็นแค่ในเรื่องของเลือดออกในสมอง
00:16:21 → 00:16:24 นะครับแต่กลายเป็นว่ามีความเสี่ยงใน
00:16:24 → 00:16:27 เรื่องของโลกสมองขาดเลือดหรือโรคหัวใจขาด
00:16:27 → 00:16:30 เลือดขึ้นหน้าแพนมากกว่าโอ้โห
00:16:30 → 00:16:34 พูดนี้ก็ทำงานไม่ใช่ว่าจะสำหรับทำได้ทั่ว
00:16:34 → 00:16:37 ไปทุกคนซาวน่าเนี่ยนะคะท้ายมันก็ยังไม่ยก
00:16:37 → 00:16:39 เว้นอยู่นะฮะอย่างที่คุณหมอบอกอาจยัง
00:16:39 → 00:16:42 เศร้านั้นก็ยังพอมีข้อยกเว้นเรื่องของการ
00:16:42 → 00:16:46 แช่น้ำในอ่างอาบน้ำเป็นเวลาน้ำอุ่นไม่ได้
00:16:46 → 00:16:50 นี้จะบ้านคนแบบว่ามีฐานะน่ะอ่ะกูจะอาบน้ำ
00:16:50 → 00:16:53 เนี่ยมันจะมีผลด้วยไหมคะคุณหมอฮะควรทำ
00:16:53 → 00:16:57 อย่างไรดีคะครับคุณเนี่ยเวลาที่เราแช่น้ำ
00:16:57 → 00:16:59 อาจจะอุณหภูมิไม่เหมือนกับในห้องคราวหน้า
00:16:59 → 00:17:02 ถ้าไม่ครับแต่บางคนอาจจะบอกว่าถ้าชอบแค่
00:17:02 → 00:17:06 น้ำร้อนมากนะครับแต่ที่นี้เนี่ยจังหวะที่
00:17:06 → 00:17:09 เราที่จะทำการแค่แล้วเสร็จแล้วขึ้นมา
00:17:10 → 00:17:13 เนี่ยในช่วงที่เราจะทำการเปลี่ยนเปลี่ยน
00:17:13 → 00:17:16 อิริยาบถหรือว่าเรียนรัตนเนี่ยเราควรจะ
00:17:16 → 00:17:19 ค่อยๆทำการปรับเปลี่ยนอิริยาบถมันก็จะ
00:17:19 → 00:17:22 เป็นการช่วยให้ร่างกายเนี่ยกับผมดูใน
00:17:22 → 00:17:25 เรื่องของความดันโลหิตเพื่อป้องกันไม่ให้
00:17:25 → 00:17:28 เกิดภาวะเลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอหรือเลือด
00:17:28 → 00:17:31 ออกในสมองขึ้นมาอย่างนี้ครับก็คือว่าไม่
00:17:31 → 00:17:34 ควรจะทำการเปลี่ยนท่าอย่างรวดเร็วอาจทำ
00:17:34 → 00:17:36 เป็นวัยรุ่นหนุ่มสาวอย่างนี้เราก็คงอ่าน
00:17:36 → 00:17:39 ไม่มีปัญหาเพราะว่าเราเคยไปแค่น้ำกันมา
00:17:39 → 00:17:43 แต่สำหรับคนที่อายุสูงขึ้นหรือไม่มีโรค
00:17:43 → 00:17:45 ประจำตัวอย่างโรคความดันอยู่แล้วเนี่ยบาง
00:17:45 → 00:17:48 ครั้งเนี่ยการปรับเปลี่ยนความดันในร่าง
00:17:48 → 00:17:51 กายเนี่ยมันจะไม่ได้เร็วและเพราะฉะนั้น
00:17:51 → 00:17:54 เราก็คงต้องค่อยๆทำการเปลี่ยนอิริยาบถ
00:17:54 → 00:17:58 อย่างแค่ช้านะครับอย่างเพราะเวลาที่จะลุก
00:17:58 → 00:18:01 ขึ้นมาจากบริเวณที่อ่างน้ำเนี่ยถ้าไปก็ไป
00:18:01 → 00:18:04 จะทำการปรับเปลี่ยนจากท่าที่เราเอนนอน
00:18:04 → 00:18:07 เนี่ยลุกขึ้นมาก่อนเป็นการนั่งตัวตรงขึ้น
00:18:07 → 00:18:11 มาก่อนนะคะจะช่วงแบบนั้นได้ถ้าเป็นไปได้
00:18:11 → 00:18:14 ก็คืออ่าค่อยๆขยับขึ้นมาบริเวณขอบอ่างอาบ
00:18:14 → 00:18:18 แล้วก็ค่อยๆยืนซึ่งในแต่ละช่วงเนี่ยอาจจะ
00:18:18 → 00:18:21 ทิ้งเวลากันให้ร่างกายได้ปรับตัวสักหน่อย
00:18:21 → 00:18:24 โดยทั่วไปเนี่ยก็คงอยู่ที่ประมาณ 2-3
00:18:24 → 00:18:27 นาทีแต่ว่าแล้วแต่ดูๆแล้วแต่คนนะครับว่า
00:18:27 → 00:18:30 จะไหวขนาดไหน
00:18:30 → 00:18:33 ครับอย่างนี้ก็จะเป็นการช่วยให้ร่างกาย
00:18:33 → 00:18:35 เนี่ยค่อยๆปรับตัวได้ไม่ใช่เปลี่ยนในทัน
00:18:35 → 00:18:39 ทีทันใดอันนี้ก็ปรับตัวไม่ไหวครับย้อน
00:18:39 → 00:18:44 กลับไปที่การสระผมอาบน้ำก่อนครับเอ่อตอน
00:18:44 → 00:18:47 นี้เราก็ใครข้องใจแล้วว่าไม่ใช่สระผมก่อน
00:18:47 → 00:18:52 จะอันตรายขนาดนั้นนะคะคอร์ดไม่ต้องตึกใน
00:18:52 → 00:18:55 ลักษณะทั่วไปของคนเราเนี่ยต้องสระผมก่อน
00:18:55 → 00:18:58 อาบน้ำนะคะคุณหมอคะ
00:18:58 → 00:19:03 แล้วแล้วแต่ทำไงดีแทคคนจะพิมพ์อะไรก็ได้
00:19:03 → 00:19:06 ใช่ไหมคะถ้ายังโดยความเชื่อของเราก็จะ
00:19:06 → 00:19:09 เข้าใจว่าอาเราชะล้างสิ่งตกกระโปรกจาก
00:19:09 → 00:19:12 ข้างบนลงมาก่อนที่สหกรณ์ไฟๆค่อยๆลงไปตาม
00:19:12 → 00:19:15 ลำดับเพื่อเพื่อให้มันไหลลงไปทีเดียว
00:19:15 → 00:19:18 อย่างบางครั้งอาจบางคนรู้สึกว่า ape น้ำ
00:19:18 → 00:19:21 ก่อนแล้วก็จะเมื่อทำมาที่เราไม่ใช่หลัง
00:19:21 → 00:19:26 ฟ้องกับผมลงไปอีกแบบนี้นะครับก็ก็ก็อยาก
00:19:26 → 00:19:30 จะเคลียร์ให้ชัดว่าไม่มีผลมันหมดเลย
00:19:30 → 00:19:31 ก็ก็
00:19:31 → 00:19:35 ในปัจจุบันเราก็มี
00:19:35 → 00:19:39 วิทยาศาสตร์หรือว่ามีการศึกษาข้อมูลมาทัด
00:19:39 → 00:19:42 เจนแล้วว่าโอเคว่าร่างกายของเราเนี่ยมัน
00:19:42 → 00:19:45 มีการเก็บอุณหภูมิมีการรักษาอุณหภูมิแกน
00:19:45 → 00:19:49 กลางเนี่ยได้ค่อนข้างอยู่ดีทีเดียว
00:19:49 → 00:19:52 ถ้าเป็นการอาบน้ำเนี่ยไม่ได้เป็นการแช่
00:19:52 → 00:19:54 น้ำไม่มีผลแน่นอน
00:19:54 → 00:19:57 อาจจะนำน้ำของคนไทยเราเนี่ยก็ไม่ได้ว่า
00:19:57 → 00:20:01 นั่งนอนใช่ใช่ไม่ควรน้อยกว่านั้นน้อยมาก
00:20:01 → 00:20:04 นี่คือบ้านเราไม่ได้วันหนาวฝรั่งกว่าจะ
00:20:04 → 00:20:07 แช่น้ำในวะอุ่นๆทำไมต้องถามข้อมูลอื่นนะ
00:20:07 → 00:20:11 คะใช่นะครับผมแล้วก็หลักการที่อันนี้มามา
00:20:11 → 00:20:15 รวมเรื่องของการป้องกันใช่ของหลอดเลือด
00:20:15 → 00:20:17 เรื่องของความผันผวน
00:20:17 → 00:20:22 เอ่อระวังป้องกันในห้องน้ำค่ะคุณหมอคะเรา
00:20:22 → 00:20:26 ก็มีหลังยางต้องบางคนบอกว่าไปดื่มน้ำก่อน
00:20:26 → 00:20:31 เข้าห้องน้ำเพื่อเพิ่มเหมือนว่าร่างกายมี
00:20:31 → 00:20:34 ความต้านทานมีความสดชื่นอย่างนั้นเลยนะคะ
00:20:34 → 00:20:37 มีหลากหลายมากเลยค่ะเรื่องกันเข้าน้ำยัง
00:20:37 → 00:20:41 ค่ะคุณหรอคะสำหรับผู้สูงอายุด้วยครับ
00:20:41 → 00:20:45 สำหรับผู้สูงอายุจริงๆก็คือพยายามดูแล
00:20:45 → 00:20:48 สุขภาพของตัวเองโดยเฉพาะถ้าหากว่ามีย้าย
00:20:48 → 00:20:51 เนี่ยก็คือต้องทานยาเป็นประจำครับอันนี้
00:20:51 → 00:20:54 ก็จะช่วยทำให้การควบคุมขั้วเกรืองเกี่ยว
00:20:54 → 00:20:56 กับความดันเนี่ยที่เป็นปัจจัยสำคัญของ
00:20:56 → 00:20:59 ภาวะเลือดออกในสมองหรือว่าโรคสมองขาด
00:20:59 → 00:21:02 เลือดเนี่ยกลุ่มได้ดีแต่ทีนี้ในเรื่องของ
00:21:02 → 00:21:06 การเตรียมตัวก่อนเช่าอาบน้ำเนี่ยถ้าหาก
00:21:06 → 00:21:09 ว่าในเรื่องของการดื่มน้ำหรืออะไรอย่าง
00:21:09 → 00:21:11 นี้ก็คืออยากจะให้ดื่มอย่างที่เป็น
00:21:11 → 00:21:14 ธรรมชาติยังโดยปกติร่างกายของคนเราเนี่ย
00:21:14 → 00:21:18 ที่โดยเฉพาะช่วงนี้อากาศร้อนค่านั้นจะมี
00:21:18 → 00:21:21 ตังค์เสียน้ำได้ค่อนข้างเยอะก็คือไม่ได้
00:21:21 → 00:21:24 แนะนำว่ารู้ต้องโหมน้ำเลยก่อนเข้าเข้า
00:21:24 → 00:21:28 ห้องน้ำเขาจูบจริงการที่ดื่มน้ำเยอะๆใน
00:21:28 → 00:21:31 บางครั้งเนี่ยมันจะไปกระตุ้นให้ระบบของ
00:21:31 → 00:21:35 ร่างกายในการดูดซึมระบบในการเอ่อย่อย
00:21:35 → 00:21:38 อาหารทำงานเยอะขึ้นซึ่งจะกลายเป็นว่ากับ
00:21:38 → 00:21:40 การเล่นเหลือแต่มันจะต้องถูกส่งมาช่วยใน
00:21:40 → 00:21:44 การที่จะดูดซึมน้ำย่อยอาหารนะครับเพราะ
00:21:44 → 00:21:47 ฉะนั้นเวลาที่เราทานน้ำอยากจะให้ค่อยๆ
00:21:47 → 00:21:52 ผ่านเกิดทานอย่างสม่ำเสมอและส่วนหนึ่งเรา
00:21:52 → 00:21:54 จะดูได้ยังไงว่าร่างกายเราน้ำเพียงพอแล้ว
00:21:54 → 00:21:57 เนี่ยที่ง่ายๆเลยคือดูจากสีปัสสาวะของเรา
00:21:57 → 00:22:01 ค่ะครับการหากว่ามันออกเป็นลักษณะเรื่อง
00:22:01 → 00:22:04 ว่ามันอ่อนๆถึงใสเนี่ยถือว่าร่างกายเรา
00:22:04 → 00:22:07 เนี่ยน้ำเพียงพอและแต่ถ้าหากว่าปัสสาวะ
00:22:07 → 00:22:09 ออกเป็นสีเข้มเหลืองเข้มอย่างเนี่ยแต่ว่า
00:22:09 → 00:22:12 ร่างกายเราเนี่ยนะไม่พอเพราะฉะนั้นโดย
00:22:12 → 00:22:15 สรุปแล้วเนี่ยน้ำเนี่ยไม่อยากให้พยายาม
00:22:15 → 00:22:18 โหมน้ำก่อนเข้าห้องน้ำนะครับเพราะว่าบาง
00:22:18 → 00:22:21 ครั้งมันจะทำให้เกิดภาวะความดันต่างกับ
00:22:21 → 00:22:24 นัดหรือซ้ำวันที่นักลืมน้ำเนี่ยเป็นระยะ
00:22:24 → 00:22:27 ระยะอย่างเหมาะสมนะครับออนเดี๋ยวคือวิธี
00:22:27 → 00:22:30 การที่จะกับคำถามที่เรื่องของการดื่มน้ำ
00:22:30 → 00:22:35 ใช่มั้ยพี่นกใช่บางคนมันมีในเรื่องของมูล
00:22:35 → 00:22:38 ครับกูมันมีอีกอย่างบางคนไปออกกำลังกายมา
00:22:38 → 00:22:42 อาบน้ำเลยได้ไหมครับอะไรอย่างนี้นะครับ
00:22:42 → 00:22:45 เราก็ควรที่จะทำการให้ร่างกายได้พักก่อน
00:22:45 → 00:22:48 กลับมาอยู่ในสภาพที่เหมาะสมก่อน
00:22:48 → 00:22:51 ก็อ่าก็คือต้องนั่งพักสักควรป่ะเดี๋ยว
00:22:51 → 00:22:54 ก่อนจะไม่คุณหมอๆคนที่จะทำการพักผ่อน
00:22:54 → 00:22:57 อย่างน้อยเนี่ยเวลาที่เราไปออกกำลังกาย
00:22:57 → 00:23:00 เนี่ยสิ่งที่เราควรจะดูแล้วก็ดูง่ายที่
00:23:00 → 00:23:04 สุดเลยก็คือที่ประจรของเราคาบครับอย่าง
00:23:04 → 00:23:07 น้อยควรที่จะพักเนี่ยให้ลักษณะที่ประจร
00:23:07 → 00:23:10 ของเราเนี่ยอยู่เหมือนกับ
00:23:10 → 00:23:13 มีภาวะปกติก่อน
00:23:13 → 00:23:18 ก็คือดูทำอะไรก็ตามอย่าอย่ารวดเร็วอยาก
00:23:18 → 00:23:22 ปรับเปลี่ยนโดยฉันปวดพักผ่อนเหมือนกับว่า
00:23:22 → 00:23:26 ถ้าที่ประจรกลับมาอยู่ในจังหวะอัตราการ
00:23:26 → 00:23:28 เต้นเท่ากับปกติก่อนที่จันทร์ไปออกกำลัง
00:23:28 → 00:23:31 กายแล้วเนี่ยแต่ว่าส่วนนึงเนี่ยหัวใจมัน
00:23:31 → 00:23:34 กลับมาอยู่ในสภาวะที่จะพร้อมรับรับ
00:23:34 → 00:23:37 สถานการณ์ถัดไปละ
00:23:37 → 00:23:40 กูไม่เคยว่าโหเต้นตุ๊บตุ๊บตั๊บอยู่ are
00:23:40 → 00:23:43 doing ไปเลยแบบนี้เคยคนพูดเป็นครับเธอ
00:23:43 → 00:23:46 เป็นเหมือนกันคือโอ้โหก็ไม่เต้นเลยออกมา
00:23:46 → 00:23:50 อย่างหนักเลยชั่วโมงกว่าไร่นะคะร้อนผ่าว
00:23:50 → 00:23:53 เลยแล้วไม่รอแล้วไม่รอเออเลยแล้วก็ไปอาบ
00:23:53 → 00:23:56 น้ำเลยไม่ได้รู้สึกว่าแบบร่างกายมันแปลกๆ
00:23:56 → 00:23:59 กับคุณหมอเหมือนกับเราร่างกายเราร้อนแล้ว
00:23:59 → 00:24:01 เราไปเจอแบบคุณหภูมิที่ค่อนข้างที่จะเย็น
00:24:01 → 00:24:06 สุดยอดนะอาบน้ำเลยเนี่ยมันจะมีความสุข
00:24:06 → 00:24:09 อัพเดทอะไรยังไงบ้างมึงแค่คืนแค่พักแค่
00:24:09 → 00:24:13 ประมาณ 5-10 นาทีนี่ให้ใจเข้าไปยังยืดใช่
00:24:13 → 00:24:16 ไหมคะให้ร่างกายมีนั่นอยู่เดือนที่ปกติ
00:24:16 → 00:24:19 แล้วนะครับเพราะว่ายังเวลาประมาณพระถ้าคน
00:24:19 → 00:24:22 ที่สุขภาพร่างกายแข็งแรงดีเนี่ยพักประมาณ
00:24:22 → 00:24:25 5 นาทีเขาก็กลับมาปกติได้แล้วแต่ก็คือ
00:24:25 → 00:24:28 ประมาณนี้แหละครับ 5-10 นาที
00:24:28 → 00:24:30 เนื้อหาเหมือนกับเราไปเผาแค่ 1 10 นาที
00:24:30 → 00:24:32 เท่าไหร่เผาเครื่องยนต์มาในร่างกายของเรา
00:24:32 → 00:24:35 เนี่ยแค่นั้นก็กำลังร้อนอ่ะนะครับคงให้
00:24:35 → 00:24:38 มันเย็นลงก่อนอนาคตเพราะฉะนั้นแล้วคือ
00:24:38 → 00:24:42 เรื่องของการอาบน้ำทักษะทั้งแรงเอาครับ
00:24:42 → 00:24:45 หน้าข้างหน้าอุณหภูมิต่างๆเนี่ยไม่มีผลนะ
00:24:45 → 00:24:48 คะเออมันไม่ต้องกังวลนะครับผมว่าเรื่อง
00:24:48 → 00:24:53 เส้นอันโลหิตครับผมในสมองก็บอกว่าภาวะ
00:24:53 → 00:24:55 เรื่องของโลกเช่นดิสมองแตกเนี่ยตอนนี้มัน
00:24:55 → 00:24:57 เป็นยังไงบ้างคะ
00:24:57 → 00:25:02 โอเคครับในปัจจุบันเนี่ยเรื่องของโรคภาวะ
00:25:02 → 00:25:06 เลือดออกในสมองเนี่ยะก็คือเรามีวิทยาการ
00:25:06 → 00:25:09 ที่ในการวินิจฉัยและก็ในการรักษาเนี่ย
00:25:09 → 00:25:12 ค่อนข้างทันสมัยมากขึ้นกว่าในอดีตเมื่อ
00:25:12 → 00:25:15 ก่อนเนี่ยความเข้าใจของเราก็คือว่าถ้าหาก
00:25:15 → 00:25:19 ว่าเลือดออกในสมองแล้วเนี่ยยังง่ายๆว่ามี
00:25:19 → 00:25:21 โอกาสที่จะนอนเป็นเจ้าชายเจ้าหญิง with
00:25:21 → 00:25:25 ทานเนี่ยเยอะนะครับแต่ในปัจจุบันเนี่ยถ้า
00:25:25 → 00:25:29 หากว่าเราสามารถที่จะนำคนอามาผิดโรง
00:25:29 → 00:25:32 พยาบาลได้ไวเนี่ยการวินิจฉัยในปัจจุบัน
00:25:32 → 00:25:34 เราก็ทำได้รวดเร็วเหมือนกันแล้วก็การ
00:25:34 → 00:25:37 รักษาเนี่ยเรามีความปลอดภัยที่มากขึ้นนะ
00:25:37 → 00:25:39 ครับเพราะฉะนั้นเนี่ยถึงแม้ว่าจะเกิดเหตุ
00:25:39 → 00:25:42 การณ์ดังกล่าวแล้วเนี่ยในปัจจุบันเราก็
00:25:42 → 00:25:45 ไม่ต้องตกหรือไม่ต้องกังวลมากเกินไปเพราะ
00:25:45 → 00:25:48 ว่าปัจจุบันเนี่ยเรามีอุปกรณ์แล้วก็มี
00:25:48 → 00:25:51 ความรู้ต่างๆในการที่จะใช้รักษาเนี่ยได้
00:25:51 → 00:25:54 ดีมากกว่าในอดีตแล้ว
00:25:54 → 00:25:57 ครับผมโอเคก็ไม่ต้องส่งเพราะฉะนั้นเรา
00:25:57 → 00:26:00 อยากจะถามไม่ว่าการลดความเสี่ยงครับ
00:26:00 → 00:26:03 ปัจจัยที่จะนำไปสู่เรื่องของโรคหลอดเลือด
00:26:03 → 00:26:08 สมองแตกทั้งในผู้สูงอายุไว้ทำงานก็ดีหรือ
00:26:08 → 00:26:11 ว่าจะเป็นวัยรุ่นเนี่ยเราสามารถ
00:26:11 → 00:26:14 ลดปัจจัยเสี่ยงตรงไหนได้บ้างครับคุณหมอ
00:26:14 → 00:26:18 แนะนะครับก็ปัจจัยที่สำคัญที่ทำให้เกิด
00:26:18 → 00:26:21 เรื่องของภาวะเลือดออกในสมองเนี่ยะก็คง
00:26:21 → 00:26:24 หนีไม่พ้นในเรื่องความดันนะครับแต่ว่ามัน
00:26:24 → 00:26:28 ก็ยังมีโรคตื่นๆอีกนะครับรวมถึงพฤติกรรม
00:26:28 → 00:26:32 แล้วก็อ่านใช้การใช้สารบางอย่างนะครับก็
00:26:32 → 00:26:35 จะทำให้มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นอย่างถ้าเรา
00:26:35 → 00:26:38 พักเรื่องของความดันไปก่อนโลกเดือนที่มี
00:26:38 → 00:26:40 ปัจจัยที่จะเสี่ยงที่จะทำให้เกิดโรคหลอด
00:26:40 → 00:26:42 เลือดสมองเนี่ยะก็คือเรื่องของเบาหวาน
00:26:42 → 00:26:47 แล้วก็ในเรื่องของไขมันในโลหิตสูงนะครับ
00:26:47 → 00:26:51 หนึ่งซึ่งเราก็ต้องพยายามควบคุม 2 รูปนี้
00:26:51 → 00:26:55 เนี่ยจริงๆสามารถควบคุมได้ด้วยการคุม
00:26:55 → 00:26:56 อาหาร
00:26:56 → 00:27:01 ร้านอาหารนะครับครับหรืออาหารก็เป็นทหาร
00:27:01 → 00:27:05 ยังไงบ้างหมอก็เสียของเราในปัจจุบันเนี่ย
00:27:05 → 00:27:08 ในเรื่องของพฤติกรรมการบริโภคที่เวลาค่อน
00:27:08 → 00:27:12 ข้างกระชั้นนะครับรวมถึงการขาดการดล
00:27:12 → 00:27:15 รณรงค์ในเรื่องของการควบคุมปริมาณน้ำตาล
00:27:15 → 00:27:19 รวมถึงการใช้น้ำมันหลุดการใช้เรือในการ
00:27:19 → 00:27:23 ปรุงอาหารต่างๆมันทำให้สุขภาพของเราเนี่ย
00:27:23 → 00:27:27 แย่ลงครับคนไทยเนี่ยไม่ได้เป็นคนที่ชอบ
00:27:27 → 00:27:31 อาหารรสจัดเชียงแต่ชอบอาหารที่มีรสลดที่
00:27:31 → 00:27:34 ค่อนข้างชัดเจนเพื่อนรสเผ็ดเฉยๆแต่ใน
00:27:34 → 00:27:36 ปัจจุบันกับกลายเป็นว่านอกจากเป็ดแล้ว
00:27:36 → 00:27:40 เนี่ยเราเค็มมากหวานมากมันน่าขึ้นในอีก
00:27:40 → 00:27:41 เลย
00:27:41 → 00:27:45 ทำให้ร่างกายของคนเราเนี่ยมันเกิดโรคหลอด
00:27:45 → 00:27:48 เลือดแบบนี้ด้วยง่ายขึ้นนะครับก็จะนะฮะจะ
00:27:48 → 00:27:52 เป็นปัจจัยที่สำคัญที่จะควบคุมได้ถึงนั้น
00:27:52 → 00:27:55 ใช่แล้วอีกอย่างนึงเนี่ยก็คือในเรื่องของ
00:27:55 → 00:28:00 การใช้แต่ไม่ว่าจะเป็นบุหรี่หรือว่าตุลา
00:28:00 → 00:28:04 คำก็จะทำให้มีผลต่อเรื่องของหลอดเลือด
00:28:04 → 00:28:07 เนี่ยอย่างชัดเจนเลย
00:28:07 → 00:28:10 กูนอนนอกจากในเรื่องของตัวตับแล้วก็ตัว
00:28:10 → 00:28:13 ต่อตัวเองนะแบบเดือนก็โดนผลกระทบที่รุน
00:28:13 → 00:28:17 แรงไม่แพ้กันนะครับก็จะทำให้เกิดทั้งปลอบ
00:28:17 → 00:28:20 รถติดเองก็ได้หรือหลอดด้วยแตกเองก็ได้
00:28:20 → 00:28:22 เพราะฉะนั้นหลากหลายอย่างที่ไม่ได้เกี่ยว
00:28:22 → 00:28:26 กับนายเรื่องของอะไรเลยนะฮะก็คือละกลับ
00:28:26 → 00:28:29 คืนมาหาก็บุหรี่และแอลกอฮอล์เครื่องดื่ม
00:28:29 → 00:28:31 แอลกอฮอล์เฮ้ยเดี๋ยวผมขออนุญาตถามคุณหมอ
00:28:31 → 00:28:34 เองไอ้คำที่หลายคนมักจะเคยได้ยินกันว่า
00:28:34 → 00:28:37 ทานแอลกอฮอลล์ทานวันนี้กวาหน่อยเพื่อให้
00:28:37 → 00:28:40 เลือดมันสูบฉีดนี่มันใช้ได้จริงอยู่นะนม
00:28:40 → 00:28:44 เดินใช่ฮะวันละกั๊กวันละแบนอะไรเพราะว่า
00:28:44 → 00:28:46 มันไปนะฮะ
00:28:46 → 00:28:51 ตามที่มีการแนะนำกันนะครับค่ะและก็คือไม่
00:28:51 → 00:28:54 ไม่ไม่ได้ถึงกับชักกับแดนแล้วก็บริการแถว
00:28:54 → 00:28:57 ก็โหปริมาณแอลกอฮอล์เนี่ยก็คือไม่ได้สูง
00:28:57 → 00:29:00 ถึงขนาดที่เป็นเบียร์หรือว่าเล่าใน
00:29:00 → 00:29:04 ปัจจุบันเลยครับด้วยซ้ำต่อไปถ่ายครับแต่
00:29:04 → 00:29:08 ว่ายังไงก็ตามเนี่ยคิดว่าเรามีผลการศึกษา
00:29:08 → 00:29:12 ที่ค่อนข้างชัดเจนแล้วครับว่าการดื่ม
00:29:12 → 00:29:13 แอลกอฮอล์เนี่ย
00:29:13 → 00:29:17 ในคนที่มีในเรื่องของโรคหลอดเลือดแล้ว
00:29:17 → 00:29:21 อยู่แล้วเนี่ยเราไม่แนะนำนะครับส่วนใน
00:29:21 → 00:29:24 เรื่องของการกินเพื่อป้องกันเนี่ยการ
00:29:24 → 00:29:28 ศึกษาขนของแอลกอฮอล์ตัวนี้เนี่ยก็ไม่มีผล
00:29:28 → 00:29:31 ที่แตกต่างกันอย่างชัดเจนในเรื่องของการ
00:29:31 → 00:29:35 ที่จะกินเพื่อป้องกันนะครับเพราะแค่นั้น
00:29:35 → 00:29:37 เท่ากับว่าจริงๆแล้วเนี่ยเราไม่มีผลการ
00:29:37 → 00:29:39 ยืนยันที่อัพเดทเลยในเรื่องของการใช้
00:29:39 → 00:29:43 แอลกอฮอล์เพื่อป้องกันตัวเรื่องโลกหลอด
00:29:43 → 00:29:47 เลือดรูปภาพแต่ความรู้สึกใช่ไหมคะของคน
00:29:47 → 00:29:49 ที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และนำถือว่า
00:29:49 → 00:29:52 มันดูมันเริ่มผู้หญิงอ่าอะไรอย่างเงี้ย
00:29:52 → 00:29:57 ช่างสร้างความสดชื่นว่าเค้าคิดไปเองนี่
00:29:57 → 00:30:00 ครับคุณหมอครับพอพูดถึงเรื่องวันละก้าวคน
00:30:00 → 00:30:03 ละแบงก็มีคู่ฟังถามว่าถ้าเป็นวายละไว้ขาว
00:30:03 → 00:30:07 สักวันละแก้วนึงคือว่าเคไม่ได้แดงถ้าคน
00:30:07 → 00:30:11 ว่าเค้าให้ครับอย่างตอนนี้เนี่ยถ้าเราลอง
00:30:11 → 00:30:15 ไปสืบหาข้อมูลเนี่ยที่มีความสำคัญมีหลัก
00:30:15 → 00:30:18 ฐานถักแท็ตเกณฑ์ทางวิทยาศาสตร์เนี่ยเรา
00:30:18 → 00:30:21 เนี่ยจะไม่พบเห็นข้อมูลในเรื่องของปริมาณ
00:30:21 → 00:30:25 แอลกอฮอล์ที่แนะนำเลยเป็นเท่ากับว่ายัง
00:30:25 → 00:30:29 ที่แนะนำกันว่าอาจไว้ไหว้วันรัตน์แก้วนะ
00:30:29 → 00:30:31 ครับเขาบอกว่าเป็นล้างหลอดเลือด
00:30:31 → 00:30:36 ครับอันนี้เนี่ยไม่มีผล
00:30:36 → 00:30:37 นะครับ
00:30:37 → 00:30:40 และนี่ก็คือเราเราไม่มีผลเลยแพ็คเกจว่า
00:30:40 → 00:30:43 โอเคกินไวน์แก้วนึงแล้วจะทำให้สุขภาพเรา
00:30:43 → 00:30:45 ดีขึ้น
00:30:45 → 00:30:50 ไม่มีผลนะครับผมใช่เป็นความรู้สึกล้วนๆ
00:30:50 → 00:30:54 ไม่มีผลการศึกษาที่มาอยู่ยังไม่ใช่คนทั้ง
00:30:54 → 00:30:57 เรียกค่ะถ้าในพูดในปัจจุบันแล้วเนี่ยเรา
00:30:57 → 00:31:01 ก็จะเน้นที่การศึกษาถ้ามีการมีการตามการ
00:31:01 → 00:31:06 เก็บข้อมูลมาการรับรองครับใช่แต่พรุ่งนี้
00:31:06 → 00:31:08 เนี่ยก็เห็ดในเรื่องของเนี่ยไม่มีผลเลย
00:31:08 → 00:31:12 ที่พี่บอกว่าได้ผลในการที่กินเพื่อป้อง
00:31:12 → 00:31:16 กันครับผมอีกคำถามคุณหมอครับพอดีว่าเมื่อ
00:31:16 → 00:31:18 กี้คุณหมอบอกว่าแนะนำเรื่องของการทานน้ำ
00:31:18 → 00:31:21 แล้วก็ให้สังเกตสีของประชาว่าและมีคุณที่
00:31:21 → 00:31:24 ท่านหนึ่งถามเข้ามาว่าอ่าปัสสาวะออกมา
00:31:24 → 00:31:27 แล้วเนี่ยรู้สึกว่ามันรสร้อนๆแต่ว่าไม่
00:31:27 → 00:31:29 ได้ระบุเรื่องของสีมาแล้วบอกว่าน่าจะอยู่
00:31:29 → 00:31:32 นั่นแหละภูมิเรื่องต่างมันหมายความว่าเรา
00:31:32 → 00:31:35 เนี่ยดื่มน้ำน้อยไปหรือเปล่าครับผมอ๊อด
00:31:35 → 00:31:38 ครับที่นี่เนี่ยอุณหภูมิว่ามันจะเป็นอีก
00:31:38 → 00:31:41 เรื่องนึงเพราะว่าถ้ารับว่าปริมาณน้ำใน
00:31:41 → 00:31:44 ร่างกายที่พอหรือไม่พอเลยมันจะบอกได้จาก
00:31:44 → 00:31:46 ความเข้มข้นของปัสสาวะ
00:31:46 → 00:31:50 นะครับแต่ถ้าว่าเรารู้สึกว่าปากปัสสาวะ
00:31:50 → 00:31:53 แล้วเนี่ยรู้สึกว่าร้อนกว่าปกติเนี่ยแต่
00:31:53 → 00:31:55 ว่าอาจจะมีปัญหาในเรื่องของอุณหภูมิที่
00:31:55 → 00:31:58 มันเปลี่ยนแปลงแล้วก็ลูกที่มันมักจะมี
00:31:58 → 00:32:02 ปัญหากับในเรื่องของคุณภูมิเนี่ยก็คือใน
00:32:02 → 00:32:04 เรื่องของโรคติดเชื้อทำมากกว่าแบบนี้ครับ
00:32:04 → 00:32:08 ก็คืออาจจะต้องมาเช็คดูกันซะหน่อยว่ามัน
00:32:08 → 00:32:11 มีลักษณะความผิดปกติอื่นหรือเปล่าที่ตรวจ
00:32:11 → 00:32:14 ได้จากการตรวจปัสสาวะเพื่อจะพอบอกได้ว่า
00:32:14 → 00:32:18 การที่เรารู้สึกอย่างมันผิดปกติอะไรแต่
00:32:18 → 00:32:21 บางครั้งเนี่ยเวลาที่เราไปในอุณหภูมิที่
00:32:21 → 00:32:23 มันแตกต่างกันเยอะๆเนี่ยอย่างไปในที่
00:32:23 → 00:32:27 อุณหภูมิที่มันเย็นมากๆเนี่ยร่างกายเรา
00:32:27 → 00:32:30 สามารถรักษาอุณหภูมิไว้ได้เนี่ยที่ประมาณ
00:32:30 → 00:32:33 37 องศาเนี่ยเวลาที่เราปัตตะว่าออกมา
00:32:33 → 00:32:36 แล้วก็จะรู้สึกว่าเออให้อุณหภูมิที่ร้อน
00:32:36 → 00:32:38 กว่าบริ้งใช้ห้องเสียดายถึงเช่นนั้น
00:32:38 → 00:32:42 อุณหภูมิที่ปกติและเรารู้สึกว่าปัสสาวะ
00:32:42 → 00:32:45 ร้อนเนี่ยแต่ว่าอาจจะเริ่มมีความผิดปกติ
00:32:45 → 00:32:48 และแนะนำว่าควรที่จะไปทำการตรวจดีกว่าโม
00:32:48 → 00:32:52 ถ้าอุณหภูมิในปัสสาวะมันสูงเกินใช่รู้สึก
00:32:52 → 00:32:58 ว่ามันๆบ่งบอกถึงอุณหภูมิแฟนการร่างกาย
00:32:58 → 00:33:02 เราคงเคยตอนไม่สบายเป็นไข้อยู่อย่างนี้นะ
00:33:02 → 00:33:04 ครับแล้วไปตัดสะวะแล้วก็ยังรู้สึกตายว่า
00:33:04 → 00:33:07 เออบางครั้งเนี่ยปัสสาวะมันอุณหภูมิร้อน
00:33:07 → 00:33:11 ให้ใช่เวลาเป็นไส้อ่ะแล้วก็ดื่มน้ำเข้าไป
00:33:11 → 00:33:13 ให้เราหายไข้ลดไข้ปัสสาวะมันก็จะมี
00:33:13 → 00:33:16 อุณหภูมิสูงครับผมเป็นกันนั้นเพราะฉะนั้น
00:33:16 → 00:33:18 มันจะเป็นอีกเรื่องนึงไม่ได้เกี่ยวกับใน
00:33:18 → 00:33:22 เรื่องของปริมาณปริมาณน้ำในร่างกายและอัน
00:33:22 → 00:33:24 นี้ก็คืออาจจะมีเรื่องราวของโรคภัยอื่นๆ
00:33:24 → 00:33:27 ที่อาจจะซุกซ่อนรัวอยู่หรือเปล่านี้ต้อง
00:33:27 → 00:33:31 ไปตรวจหาคุณหมอที่ที่เชี่ยวชาญดีกว่านะ
00:33:31 → 00:33:34 ครับผมเอาครับครับผมวันนี้ต้องขอขอบพระ
00:33:34 → 00:33:36 คุณคุณหมอมากนะครับหัวรุ่งเวลา masago ที
00:33:36 → 00:33:40 เดียวครับผมและมีปีละหนอันนี้แล้วแบบเป็น
00:33:40 → 00:33:43 Sea Games for Free ครั้งขอบพระคุณ
00:33:43 → 00:33:45 คุณหมอมากๆนะครับที่ให้ความรู้กับเราใน
00:33:45 → 00:33:47 ค่ำคืนนี้นะครับเพราะว่าคุณค่านะครับคุณ
00:33:47 → 00:33:48 หมอครับ
00:33:48 → 00:33:50 ครับ
00:33:50 → 00:33:54 สวัสดีครับคุณหมอกรภัคหวังธนภาสนะครับ
00:33:54 → 00:33:57 เป็นนายแพทย์เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมประสาท
00:33:57 → 00:34:00 จากสถาบันประสาท