00:00:00 → 00:00:03 สวัสดีครับผมคิดว่าทุกคนน่าจะเคยได้ยิน
00:00:03 → 00:00:05 เรื่องที่ออกมาเป็นข่าวดังเลยนะครับว่า
00:00:05 → 00:00:08 การกินคุกกี้โอริโอนะมันสามารถที่จะลด
00:00:08 → 00:00:11 ระดับไขมัน ldl คอเลสเตอรอลได้มากกว่าการ
00:00:11 → 00:00:14 กินยาสแตตินสีอีกนะครับเรื่องนี้มันมีที่
00:00:14 → 00:00:17 มาที่ไปอย่างไรผมจะเอางานวิจัยที่อ้าง
00:00:17 → 00:00:19 เรื่องเนี้ยมาอ่านให้ทุกคนฟังกันเลยนะ
00:00:19 → 00:00:22 ครับพบกับผมนะครับนายแพทย์ธานีธนียวัน
00:00:22 → 00:00:23 เป็นอาจารย์แพทย์อยู่ที่ประเทศสหรัฐ
00:00:23 → 00:00:25 อเมริกาเชี่ยวชาญโรคปอดการปลูกไถ่ปอดและ
00:00:25 → 00:00:28 วิกฤตบำบัดนะครับเรามาเข้าเรื่องกันเลยนะ
00:00:28 → 00:00:31 ครับงานวิจัยชินนี้ตีพิมพ์ในวารสารชื่อ
00:00:31 → 00:00:33 metabolite นะครับโดยบอกมีชื่อว่า oreo
00:00:33 → 00:00:35 cooky Treatment lowers ldl
00:00:35 → 00:00:36 cholesterol more than High
00:00:36 → 00:00:38 intensity stat therapy in aline
00:00:38 → 00:00:39 Mass
00:00:39 → 00:00:42 hyperresonance crossover experiment
00:00:42 → 00:00:45 คือถ้าเราอ่านแค่หัวข้อเนี่ยคุณจะเห็นชัด
00:00:45 → 00:00:49 อย่างหนึงครับคือคนที่ทดลองในเนี้ยจะต้อง
00:00:49 → 00:00:52 เป็นคนที่กินคีโตครับไม่สามารถใช้ได้กับ
00:00:52 → 00:00:54 คนทั่วๆไปนะครับดังนั้นถ้าท่านมี
00:00:54 → 00:00:56 คอเลสเตอรอลที่สูงแต่ท่านไม่ได้เป็นคนที่
00:00:56 → 00:00:59 กินคีโตเนี่ยการกินโอริโอไม่ได้ช่วยอะไร
00:00:59 → 00:01:01 ท่านเลยนะครับเผผๆจะทำให้ท่านร่างกายแย่
00:01:01 → 00:01:04 ลงซะอีกนะครับอ่ะเหมือนจะเป็นการดับฝัน
00:01:04 → 00:01:06 ของหลายๆคนนะที่หวังว่าเราจะได้กินโอริโอ
00:01:06 → 00:01:08 ทุกวันเพื่อได้ลดไขมันแล้วเนาะแต่ว่ามัน
00:01:08 → 00:01:10 ไม่ใช่แล้วนะครับอ่ะเรามาดูกันในราย
00:01:10 → 00:01:14 ละเอียดแล้วกันคนที่เขียนงานตัวเนี้ยคือ
00:01:14 → 00:01:17 คนนี้ครับ nas nor เขาเป็นนักเรียนแพทย์
00:01:17 → 00:01:20 มหาวิทยาลัยวารดครับแล้วเขาทดลองกับตัว
00:01:20 → 00:01:23 เขาเองซึ่งเป็นคนที่กินคีนิ Diet นะฮะ
00:01:23 → 00:01:26 แล้วผมจะให้ทุกคนดูว่าฝีมือระดับนักเรียน
00:01:26 → 00:01:28 แพทย์วิรเนี่ยเขาเขียนอะไรออกมาได้นะครับ
00:01:28 → 00:01:30 เราไปดูกัน
00:01:30 → 00:01:35 นะโดย norwich เนี่ยนะครับเค้าก็ทดลองกับ
00:01:35 → 00:01:38 ตัวเองแล้วเาก็เจอสิ่งนึงก็คือในวงการ
00:01:38 → 00:01:41 คีโตเนี่ยจะมีคนกลุ่มหนึ่งที่กินคีโตเยอะ
00:01:41 → 00:01:44 ๆแล้วมันเกิดไขมัน ldl สูงเป็นหลายร้อยนะ
00:01:44 → 00:01:46 ครับแล้วก็เป็นสิ่งที่น่ากังวลมากว่ามัน
00:01:46 → 00:01:48 อาจจะทำให้เกิดโรคหลอดเลือดหัวใจหลอด
00:01:48 → 00:01:51 เลือดสมองได้ในอนาคตนะครับเราเรียกคน
00:01:51 → 00:01:54 กลุ่มนี้ว่า Lean mas Hyper responder
00:01:54 → 00:01:57 คือมีลักษณะดังนี้ 1 ldl คอเลสเตอรอล
00:01:57 → 00:02:01 เนี่ยตั้งแต่ 200 ขึ้นไปนะนะครับ hdl
00:02:01 → 00:02:04 ตั้งแต่ 80 ขึ้นไปและไตรกลีเซอไรด์น้อย
00:02:04 → 00:02:09 กว่า 70 นะครับแล้วมันมีทฤษฎีอันนึงซึ่ง
00:02:09 → 00:02:11 เอาาไว้อธิบายว่าทำไมจึงเกิดแบบนี้ขึ้นมา
00:02:11 → 00:02:14 ได้เราเรียกว่าทฤษฎี lipid Energy Model
00:02:14 → 00:02:18 นะครับทฤษฎนี้ได้กล่าวไว้ว่าในคนที่มีน้ำ
00:02:18 → 00:02:20 หนักตัวน้อยแล้วกินคีโตมากๆเนี่ยสิ่งที่
00:02:20 → 00:02:23 เกิดขึ้นก็คือเค้าไม่มีคาร์โบไฮเดรตเท่า
00:02:23 → 00:02:25 ไหร่ในร่างกายคาร์โบไฮเดรตเนี่ยมันเป็น
00:02:25 → 00:02:28 แหล่งที่เอาไว้ใช้สร้างพลังงานได้อย่างดี
00:02:28 → 00:02:32 โดยปกติในในกล้ามเนื้อจะมีคาร์โบไฮเดรต
00:02:32 → 00:02:34 เก็บอยู่ในรูปของไกลโคเจนเวลาที่ร่างกาย
00:02:34 → 00:02:36 ต้องการพลังงานมันก็จะดึงเอาตรงนี้ออกมา
00:02:36 → 00:02:39 ใช้เลยแต่คนที่กินคีโตเนี่ยปัญหาคือเขาจะ
00:02:39 → 00:02:42 ไม่ค่อยมีไกลโคเจนทีนี้เวลาที่เขาจะสร้าง
00:02:42 → 00:02:44 พลังงานเนี่ยหรือต้องการจะใช้พลังงาน
00:02:44 → 00:02:46 เนี่ยมันก็ต้องเอามาจากสักที่นึงนะครับ
00:02:46 → 00:02:49 ที่นั้นก็คือตับครับตับเนี่ยมันก็จะรวม
00:02:49 → 00:02:52 เอาพวกกรดไขมันต่างๆมาสร้างเป็น
00:02:52 → 00:02:55 ไตรคลอไรด์ใส่่เข้าไปในอนุภาคที่เรียกว่า
00:02:55 → 00:02:58 vldl นะครับแล้วก็ส่งออกมาในเลือดทีนี้
00:02:58 → 00:02:59 ไอ้ตัวนี้เนี่ยเวลาส่งออกมาในเลือดเสร็จ
00:02:59 → 00:03:02 ปุ๊บเนี่ยมันก็จะไปย่อยต่อเป็นไคนเข้าไป
00:03:02 → 00:03:05 ในเอ่อบริเวณเซลล์ต่างๆที่ต้องการใช้นะ
00:03:05 → 00:03:08 ครับแล้วเซลล์ก็จะเอาไซไลดไปใช้เป็นพลัง
00:03:08 → 00:03:11 งานทำให้ไซไลดในร่างกายต่ำแต่ในขณะที่
00:03:11 → 00:03:14 vldl เนี่ยมันโดนย่อยเอาไซไลด์ออกเนี่ย
00:03:14 → 00:03:17 มันจะแปลงร่างกลายไปเป็น ldl ก็เลยเป็น
00:03:17 → 00:03:20 ที่มาของการที่ ldl สูงขึ้นในคนพวกนี้นะ
00:03:20 → 00:03:24 ครับอ่าทีนี้ทฤษฎีมันมีแล้วเราก็ต้องทด
00:03:24 → 00:03:26 สอบว่าทฤษฎีนี้มันเป็นไปได้จริงหรือเปล่า
00:03:26 → 00:03:29 โดยการนี่แครับเค้าก็คิดว่าเฮ้ยถ้าเกิด
00:03:29 → 00:03:31 ว่าเหตุเหตุผลที่มันเป็นแบบเนี้ยเพราะว่า
00:03:31 → 00:03:36 เรามีระดับพวกเอ่อของเอ่อสารคาร์โบไฮเดรต
00:03:36 → 00:03:37 ในร่างกายไม่เพียงพอถ้าเราเติม
00:03:38 → 00:03:40 คาร์โบไฮเดรตเข้าไปในร่างกายล่ะมันน่าจะ
00:03:40 → 00:03:42 แก้ไขภาวะนี้ได้ถูกมั้ยครับดังนั้นเขาก็
00:03:42 → 00:03:44 เลยคิดว่าเอ๊ะถ้าอย่างงั้นเนี่ยเรากิน
00:03:44 → 00:03:47 โอริโอเข้าไปซึ่งเป็นคาร์โบไฮเดรตถ้าเรา
00:03:47 → 00:03:50 กินแล้วทฤษฎีนี้มันจริงนะครับ ldl ของเขค
00:03:50 → 00:03:53 ต้องลดลงถูกมั้ยฮะอ่าเขาคก็เลยทำการทดลอง
00:03:53 → 00:03:57 นะครับคนเนี้ยเขาก็เป็นคนที่กินคีโตอยู่
00:03:57 → 00:03:59 แล้วนะครับดังนั้นเขาก็บอกว่าเออลองกิน
00:03:59 → 00:04:01 เสร็จปุ๊บนะกินกินเข้าไปเดี๋ยวผมจะให้ดู
00:04:02 → 00:04:03 รายละเอียดว่าเค้ากินยังไงอะไรนะครับคือ
00:04:04 → 00:04:06 เคกินโอริโอทั้งหมด 16 วันด้วยกันวันละ
00:04:06 → 00:04:09 เอ่อ 12 ชิ้นนะฮะ 12 ชิ้นก็คือประมาณสัก
00:04:09 → 00:04:12 100 กรัมของคาร์โบไฮเดรตต่อวันแล้วพอ
00:04:12 → 00:04:15 เค้ากินเสร็จปุ๊บเนี่ยเขาก็ไปตรวจนะฮะ
00:04:15 → 00:04:18 หลังจากที่เขากินครบ 16 วันเาก็หยุดกิน
00:04:18 → 00:04:19 กลับไปกินคีโตเหมือนเดิมทุกอย่างเหมือน
00:04:19 → 00:04:22 เดิมหมดนะฮะแล้วพอกินคีโตไปทั้งหมด 3
00:04:22 → 00:04:25 เดือนเขาก็ทดลองใหม่ครับกินไป 3 เดือนเ
00:04:25 → 00:04:28 เนี่ยเาทดลองกับยาสตินตัวนึงชื่อ rua tas
00:04:28 → 00:04:30 in กินขนาด 20 มิกกรต่อวันซึ่งถือว่า
00:04:30 → 00:04:34 ระดับค่อนข้างสูงนะครับแต่คราวเนี้ยกิน 6
00:04:34 → 00:04:37 สัปดาห์เลยสิ่งที่เขาเจอก็คือว่าก่อนที่
00:04:37 → 00:04:40 เาจะเริ่มการกินโอโอเนี่ย ldl ของเขาอยู่
00:04:40 → 00:04:42 ที่ 384 หลังจากกินไปทั้งหมด 16 วันมันลด
00:04:42 → 00:04:46 ลงมาเหลือ 111 ครับเฮ้ยน่าตื่นเต้นเนาะลด
00:04:46 → 00:04:49 ตั้งเยอะแล้วพอหลังจากที่เขากลับไปกิน
00:04:49 → 00:04:52 คีโตใหม่เพื่อที่จะทดลองสตินก่อนหน้าที่
00:04:52 → 00:04:54 เขาจะเริ่มกินสตินเนี่ย ldl เกลับไปเหลือ
00:04:54 → 00:04:58 กลับไปสูงเหมือนเหมือนเดิมละ 421 นะฮะพอ
00:04:58 → 00:05:01 กิ่นสติปรากฏว่าเฮ้ยมันลดลงมาเหมือนกัน
00:05:01 → 00:05:04 แต่มันลดเหลือแค่ 284 ซึ่งยังไม่ถึงแบบ
00:05:04 → 00:05:07 ระดับหลัก 10 110 เลยอ่ะเหมือนเมื่อกี้
00:05:07 → 00:05:11 เลยนะครับก็บอกว่าเฮ้ยอย่างงี้สตินกิน
00:05:11 → 00:05:15 ขนาดนี้มันยังลดได้น้อยกว่าการกินโอริโอ
00:05:15 → 00:05:19 ซะอีกนี่แะครับเป็นที่มาของเรื่องนี้นะฮะ
00:05:19 → 00:05:21 ดังนั้นถ้าเราอ่านเฉพาะแค่บทคัดย่ออย่าง
00:05:21 → 00:05:23 เดียวเลยเนี่ยเราบอกได้แล้วครับว่า
00:05:23 → 00:05:26 อันเนี้ยใช้ได้เฉพาะกับคนที่กินคีโตแล้ว
00:05:26 → 00:05:29 มี ldl คอเลสเตอรอลในร่างกายที่สูงมากๆนะ
00:05:29 → 00:05:31 ครับแต่ว่าเดี๋ยวต้องไปดูรายละเอียดอย่าง
00:05:31 → 00:05:33 อื่นก่อนนะครับผมได้ขีดไอ้พวกนี้ไว้หมด
00:05:33 → 00:05:35 แล้วถ้าเกิดว่าใครอยากจะสนใจไปดูตรงไหน
00:05:35 → 00:05:37 อ่าสามารถตามไปอ่านงานวิจัยซึ่งผมจะทิ้ง
00:05:37 → 00:05:40 ลิงก์ไว้ให้นะฮะอ่าเมื่อกี้เราบอกไปแล้ว
00:05:40 → 00:05:42 ว่านิยามของคำว่า Lean mas Hyper
00:05:42 → 00:05:45 responder นี่หน้าตามันเป็นยังไงนะครับ
00:05:45 → 00:05:49 อืมแล้วสิ่งที่เขาเจออย่างนึงว่าคนไหนที่
00:05:49 → 00:05:51 มีโอกาสเกิด Lean mas Hyper respond
00:05:51 → 00:05:55 ได้ก็คือนี่ครับคนที่มี BMI ที่ต่ำก็คือ
00:05:55 → 00:05:58 น้ำหนักตัวเนี่ยมันน้อยตั้งแต่แรกอยู่
00:05:58 → 00:06:00 แล้วแล้วไปกินคีโตนเนี่ยโอกาสจะเป็นอย่าง
00:06:00 → 00:06:04 เงี้ยมันสูงนะครับอืลายปิดอ่า Energy
00:06:04 → 00:06:07 Model เมื่อกี้ที่ผมอธิบายไปนะครับแต่ผม
00:06:07 → 00:06:10 เน้นไว้อย่างหนึ่งคือตัวนี้ด้วยครับไม่
00:06:10 → 00:06:12 ใช่เพียงแค่ ldl คอเลสเตอรอลที่มันสูง
00:06:12 → 00:06:16 ขึ้นนะครับแต่อนุภาคของ ldl มันก็สูงขึ้น
00:06:16 → 00:06:19 ด้วยนะฮะเพราะว่ามันมีคนเข้าใจผิดบ่อยมาก
00:06:19 → 00:06:22 เลยเวลาที่กินคีโตนแล้วมี ldl
00:06:22 → 00:06:25 คอเลสเตอรอลในร่างกายสูงๆนะครับเก็บอกว่า
00:06:25 → 00:06:27 เฮ้ยมันเป็น ldl คอเลสเตอรอลตัวใหญ่ไม่
00:06:27 → 00:06:30 ใช่ตัวเล็กหรือเป็น large ldl ไม่ใช่ไม่
00:06:30 → 00:06:32 ใช่ Small DS ldl แล้วก็จะอ้างว่าการ
00:06:33 → 00:06:35 ที่คอเลสเตอรอลตัวเมันสูงในร่างกายเนี่ย
00:06:35 → 00:06:37 ไม่เป็นไรเพราะตัวมันใหญ่เปล่าครับตอน
00:06:37 → 00:06:40 หลังเรารู้แล้วว่ามันเกี่ยวข้องกับจำนวน
00:06:40 → 00:06:43 อนุภาคหรือ ldl particle ในการที่จะก่อ
00:06:43 → 00:06:45 ให้เกิดความเสี่ยงต่อการเกิดหลอดเลือดหัว
00:06:45 → 00:06:48 ใจหลอดเลือดสมองหรือว่าหลอดเลือดบริเวณ
00:06:48 → 00:06:50 อื่นมันอักเสบแล้วก็ติดตันนะฮะมันอยู่ที่
00:06:50 → 00:06:54 ldl particle ไม่ใช่ขนาดเพียงอย่าง
00:06:54 → 00:06:57 เดียวแล้ว lal particle มีส่วนมากกว่า
00:06:57 → 00:07:00 ขนาดอีกซะด้วย้ำนะครับและในกรณีของคีนิ
00:07:00 → 00:07:02 ไดเอตนี่เรารู้ว่า ldl particle เพิ่ม
00:07:02 → 00:07:05 ขึ้นนะครับอ่าอันนี้เหมือนเป็นการบอกเลย
00:07:05 → 00:07:07 นะครับว่าคนที่กินคีโตเนี่ยอย่าไปเชื่อ
00:07:08 → 00:07:10 ลักธิคีโตมากนะครับที่บอกว่ากินแล้วสูง
00:07:10 → 00:07:12 ไม่เป็นไรเพราะว่าเนี่ยมันใช้ชชัดเจนว่า
00:07:12 → 00:07:17 มันไม่ใช่แบบนั้นนะฮะอ่ะเรามาดู ect คน
00:07:17 → 00:07:19 นี้นะครับคือคนคุณนิโคลัสที่เขาเขียนงาน
00:07:19 → 00:07:23 เยเป็นนักเรียนแพทย์นะฮะอายุ 27 ปีนะครับ
00:07:23 → 00:07:25 ทำการทดลองกับตัวเองเขาเป็นคนที่กิน
00:07:25 → 00:07:27 ketogenic Diet อยู่แล้วนะครับตั้งแต่
00:07:27 → 00:07:30 แรกเพราะว่าเขาเป็นโรคๆนึงที่เป็นลำไส้
00:07:30 → 00:07:32 อักเสบชนิดที่เรียกว่า alca colitis นะ
00:07:32 → 00:07:35 ครับเ้ากินมาตั้งเป็นชาติแล้วกินมา 1,500
00:07:35 → 00:07:36 กว่าวันนะ
00:07:36 → 00:07:41 ฮะแล้วคนๆนี้เนี่ยคือเค้ากิน ketogenic
00:07:41 → 00:07:43 Diet แล้วก็รักษากับแพทย์แผนปัจจุบันจน
00:07:43 → 00:07:45 กระทั่งโรคของเขาคเนี่ยอยู่ในระยะที่เป็น
00:07:46 → 00:07:49 โรคสงบนะฮะตอนก่อนเขาเริ่มการรักษาเนี่ย
00:07:49 → 00:07:52 BMI ของเขาอยู่ที่ 20 นะครับซึ่งถือว่า
00:07:52 → 00:07:56 ค่อนข้างจะไปทางน้อยนะฮะอ่า ldl ก่อนที่
00:07:56 → 00:07:59 เขาจะกินคีโตน Diet นะครับนี่คือก่อนเขา
00:07:59 → 00:08:02 รักษาด้วยการกินคีโตเจนิในตอนแรกอยู่ที่
00:08:02 → 00:08:07 95 นะฮะแล้วพอเคเริ่มกินคีโตจุดสูงสุด
00:08:07 → 00:08:10 ของเขามันขึ้นไปถึงนี่เลยครับ 545 เคก็ตก
00:08:10 → 00:08:12 ใจกังวลนะฮะเพราะระดับนักเรียนแพทย์
00:08:12 → 00:08:14 ฮาร์เวิร์ดเขาก็ต้องสงสัยอยู่แล้วเฮ้ยมัน
00:08:15 → 00:08:17 ที่เราไปฟังคนอื่นพูดว่า ldl สูงไม่เป็น
00:08:17 → 00:08:20 ไรเคก็ไม่เชื่อนะซึ่งถึงถึงแบบบอกว่าเฮ้ย
00:08:20 → 00:08:23 มันไม่เชื่อถูกแล้วนะฮะและนักเรียนคนนี้
00:08:23 → 00:08:26 เายังเคยตรวจยีนด้วยครับคือเรียกว่า exom
00:08:26 → 00:08:29 sequencing พบว่าไม่มีปัญหาอะไรเกี่ยว
00:08:29 → 00:08:32 กับเรื่องของไขมันทั้งสิ้นนะครับดังนั้น
00:08:32 → 00:08:35 ยืนยันได้ว่าการที่เา้ากินคีโตแล้วไขมัน
00:08:35 → 00:08:37 ของเขาคสูงเนี่ยไม่ได้เป็นเพราะว่า
00:08:37 → 00:08:39 พันธุกรรมหรือกรรมพันธ์แต่มันเป็นเพราะ
00:08:39 → 00:08:42 ว่าการกินคีโตตรงๆเลยนี่แหละนะครับไม่
00:08:42 → 00:08:44 เกี่ยวอะไรกับพันธุกรรมเลยสักนิดเดียวนะ
00:08:44 → 00:08:45 ครับอันนี้เป็นการยืนยันซึ่งถือว่าทำให้
00:08:46 → 00:08:49 การทดลองอันเนี้ยมันค่อนข้างที่จะมีผลดี
00:08:49 → 00:08:52 มากในแง่ของการดูข้อมูลก็จะเป็นข้อมูลที่
00:08:52 → 00:08:55 ทางการแพทย์เราเรียกว่าคลีนมากนะครับคือ
00:08:55 → 00:08:57 ไม่มีอะไรที่เราเถียงมันได้เลยอ่ะเพราะ
00:08:57 → 00:08:59 ว่านี่เราบอกว่าเฮ้ยบางคนอาจจะเถียงบอก
00:08:59 → 00:09:01 ว่าไขมันสูงขนาดนี้เพราะว่ากรพันธ์หรือ
00:09:01 → 00:09:03 เปล่าเตรวจมาแล้วครับไม่เป็นนะฮะเป็นจาก
00:09:04 → 00:09:08 ketogenic Diet ล้วนๆเลยนะฮะอ่าคนนี้
00:09:08 → 00:09:10 นี่เขาเป็น medical student นะครับเป็น
00:09:10 → 00:09:12 phd researcher แล้วก็เป็น Primary
00:09:12 → 00:09:15 author เป็นคนที่เขียนเรื่องนี้คนแรกนะ
00:09:15 → 00:09:18 อันนี้เจ๋งมากเลยนะครับเเขียนกันในนี้
00:09:18 → 00:09:21 แล้วเก็เป็นคนที่ออกกำลังกายครับนี่มี
00:09:21 → 00:09:23 physical activity ครับเคออก 6-7
00:09:23 → 00:09:26 ชั่วมงของ cic weight Training ต่อ
00:09:26 → 00:09:30 สัปดาห์แล้วก็เดิน 19,000 ต่อวันนะฮะอ่า
00:09:30 → 00:09:32 เป็นระดับนักเรียนแพทย์ยังออกกำลังกายได้
00:09:32 → 00:09:35 ขนาดนี้เลยนะครับคิดดูนะฮะทีนี้มีอย่าง
00:09:35 → 00:09:38 นึงที่ผมจะเน้นไอ้ไอ้สีเหลืองตรงนี้เพราะ
00:09:38 → 00:09:41 ว่าอะไรเพราะว่ามันจะเทสไอ้สมมติฐาน
00:09:41 → 00:09:45 อันเนี้ยอีกอีกอย่างนึงเขบอกว่าในช่วงวค
00:09:45 → 00:09:48 สุดท้ายคือวคที่ 6 นะครับที่เา้ากินยา
00:09:48 → 00:09:51 สแตตินเนี่ยเค้าเพิ่มการเดินเป็น 29,000
00:09:51 → 00:09:54 ถามว่าเค้าเพิ่มไปทำไมนะฮะเพิ่มไปเพราะ
00:09:54 → 00:09:57 อย่างนี้ครับคือถ้าเกิดว่าในสมมุติฐาน
00:09:57 → 00:10:00 เรื่องของเ่อลายปิด Energy Model เนี่ย
00:10:00 → 00:10:03 มันเป็นจริงนะฮะแปลว่าถ้าร่างกายต้องการ
00:10:03 → 00:10:06 พลังงานเพิ่มขึ้นมันต้องมีการสร้าง ldl
00:10:06 → 00:10:10 ออกมาเพิ่มขึ้นด้วยถูกมั้ยครับอ่าทีนี้ใน
00:10:10 → 00:10:12 ช่วงเวลา 5 สัปดาห์ที่เค้ากินยาสแตติน
00:10:13 → 00:10:16 ทั้งหมดเนี่ยเค้ากินจนกระทั่งโอเคค่า LD
00:10:16 → 00:10:18 ของค้ามันคงที่และเค้ามีตรวจออกมาชัดเจน
00:10:18 → 00:10:20 ว่ามันคงที่ทีนี้พอมันคงที่เสร็จปุ๊บเค้า
00:10:20 → 00:10:23 ก็อยากรู้ว่าเออถ้ามันคงที่ทุกอย่างแล้วเ
00:10:23 → 00:10:26 เพิ่มปริมาณความต้องการของพลังงานเข้าไป
00:10:26 → 00:10:28 อีกละเช่นเดินเพิ่มขึ้นร่างกายก็ต้องการ
00:10:28 → 00:10:30 พลังงานเพิ่มขึ้นขึ้นถ้ามันเป็นเพราะว่า
00:10:30 → 00:10:33 อย่างนี้จริงๆนะมันก็จะต้องมีการสร้าง ldl
00:10:33 → 00:10:36 เพิ่มขึ้นมันแปลว่า ldl ของเาเนี่ยตอนแรก
00:10:36 → 00:10:38 ที่กินสติมันคุณจะต้องลดๆๆเสร็จปุ๊บพอเ
00:10:39 → 00:10:40 ต้องการพลังงานเพิ่มขึ้นใช่ไหมยครับใน
00:10:40 → 00:10:43 ร่างการผลิตพลังงานเพิ่มขึ้น ldl ก็เพิ่ม
00:10:43 → 00:10:45 ขึ้นดังนั้นตอนนั้นเนี่ยจากที่มันลดมามัน
00:10:45 → 00:10:47 ควรจะนิ่งแล้วก็เพิ่มขึ้นอีกตอนหนึ่งนะ
00:10:47 → 00:10:49 ครับเจะเทสตรงนี้ว่าเป็นจริงหรือเปล่า
00:10:49 → 00:10:51 ด้วยนะครับอ่ะเราไป
00:10:51 → 00:10:56 ดูนี่นะฮะตรงนี้คือเบส LINE นะครับคือ
00:10:56 → 00:10:58 ก่อนหน้าที่เขาจะเริ่มการศึกษาเนี่ยเากิน
00:10:58 → 00:11:03 วันนึง 2,600 แคลอรีนะครับเขากินไขมัน
00:11:03 → 00:11:07 เนี่ยมี saturated Fat น้อย 55 55 กรัม
00:11:07 → 00:11:10 นะครับนี่แล้วกลุ่ม unsaturated Fat ก็
00:11:10 → 00:11:13 เยอะกว่านะครับคือเป็นไขมันอิ่มตัวแค่
00:11:13 → 00:11:15 ส่วนนึงเท่านั้นเองแต่ว่าเป็นไขมันไม่
00:11:15 → 00:11:18 อิ่มตัวซะเยอะกว่านะครับแล้วพอกินโอริโอ
00:11:18 → 00:11:20 พลังงานนี่เพิ่มเป็น 3,300 เลยคือเยอะ
00:11:20 → 00:11:24 ขึ้นนะครับแล้วพอหลังจากที่เขาจากโอริโอ
00:11:24 → 00:11:26 มาเป็นสตินเนี่ยเ้าหยุดไปทั้งหมด 3 เดือน
00:11:26 → 00:11:30 นะครับหยุดไป 3 เดือนแล้วจึงมากินสแตติน
00:11:30 → 00:11:33 นะฮะตอนที่เขากินสแตตินนี่คือก็กลับมากิน
00:11:33 → 00:11:35 คีโตเหมือนเดิมคือปริมาณแคลอรี่ก็ลดลงนะ
00:11:35 → 00:11:40 ครับนี่เป็นสิ่งที่เขาทำนะฮะอ่าถ้าถามว่า
00:11:40 → 00:11:42 เอ๊ะทำไมเค้าต้องเลือกโอริโอเไม่กินอย่าง
00:11:42 → 00:11:46 อื่นล่ะบอกว่าโอริโอเนี่ยมันเป็นของที่หา
00:11:46 → 00:11:49 ง่ายอร่อยแล้วก็เป็นอาหารที่ unhealthy
00:11:49 → 00:11:52 สุดๆใช่มกินแล้วแบบสุขภาพไม่ดีสุดๆแต่เขา
00:11:52 → 00:11:56 อยากจะทดลองว่าเฮ้ยก็ในในปิด Energy โมล
00:11:56 → 00:11:58 เมื่อตะกี้เยมันไม่บอกนว่าคาร์โบไฮเดรต
00:11:58 → 00:11:59 ที่ต้องเข้าไปในร่างร่างกายเนี่ยมัน
00:11:59 → 00:12:02 คาร์โบไฮเดรตแบบไหนดังนั้นชั้นก็เรา
00:12:02 → 00:12:04 คาร์โบไฮเดรตที่มันหาง่ายเด็กวัยรุ่นก็
00:12:04 → 00:12:07 ชอบกินนะครับแล้วก็ดูเป็นของ uny รูซมัน
00:12:07 → 00:12:09 จะได้ผลจริงหรือเปล่าแทนที่จะไปนั่งกิน
00:12:09 → 00:12:12 แบบพวกโฮเกนนะครับพวกคาร์โบไฮเดรตเชิง
00:12:12 → 00:12:14 ซ้อนอื่นๆเขาคก็ไม่สนใจเค้าก็เลือกโอริโอ
00:12:14 → 00:12:16 มากินนี่แหละครับแต่ทำไมต้องเป็นยี่ห้อ
00:12:16 → 00:12:18 โอโอนี่ผมก็ไม่รู้เหมือนกันนะฮะเค้าอาจจะ
00:12:18 → 00:12:21 มีความชอบเป็นการส่วนตัวก็ได้นะครับ
00:12:21 → 00:12:24 อ่านี่เขาก็บอกเลยว่าเอ้ยคาร์โบไฮเดรต
00:12:24 → 00:12:27 Quality คือมันไม่มันไม่เกี่ยวอะไรกัน
00:12:27 → 00:12:29 นี่ในทฤษฎีนี้คือมันจะเป็นคาร์โบไฮเชิง
00:12:29 → 00:12:32 เชิงเดี่ยวเชิงซ้อนอะไรดีไม่ดีเค้าก็ไม่
00:12:32 → 00:12:34 ได้บอกไว้นี่ดังนั้นเราจะเลือกอะไรก็มัน
00:12:34 → 00:12:35 แล้วแต่เราเราก็เลือกของที่ชอบแล้วกันใน
00:12:36 → 00:12:38 นี้ที่นี่ก็คือโอริโอนะครับเค้ากินทั้ง
00:12:38 → 00:12:43 หมด 12 คุกกี้ต่อวันนะครับนี่ก็จะมีมี Fat
00:12:44 → 00:12:46 อยู่ในนี้ด้วยเป็น saturator Fat นะครับ
00:12:46 → 00:12:50 อ่านี้ก็เป็นเป็นพวกโอริโอว่ามันลักษณะ
00:12:50 → 00:12:52 เป็นยังไงนะครับแล้วในระหว่างที่เขคกิน
00:12:52 → 00:12:55 โอริโออยู่เนี่ยแน่นอนว่ามันหลุดคีโตถูก
00:12:55 → 00:12:57 มั้ยคนที่กินคีโตบอกว่าหลุดคีโตเราไปกิน
00:12:57 → 00:13:00 คาร์โบไฮเดรตขนาดนั้นได้ยังไง
00:13:00 → 00:13:02 เขคก็กลัวว่าการหลุดคีโตนเนี่ยมันจะทำให้
00:13:02 → 00:13:05 ปริมาณคีโตนบอดี้ในร่างกายลดลงแล้วอาจจะ
00:13:05 → 00:13:09 มีผลนะครับต่อผลการทดลองของเขาก็ได้เขาก็
00:13:09 → 00:13:12 เลยนี่ครับควบคุมปัจจัยนี้ด้วยการตรวจ
00:13:12 → 00:13:17 ระดับคีโตตลอดเวลานะครับนี่แล้วพอมันต่ำ
00:13:17 → 00:13:21 เขาก็จะมนคือกินเข้าไปอีกกินคีโตนมันจะมี
00:13:21 → 00:13:23 อาหารเสริมที่เป็นคีโตนโดยเฉพาะนะครับ
00:13:23 → 00:13:27 ชื่ออันนี้เลยนะฮเเอ่อ D B hydroxy
00:13:27 → 00:13:30 bate นะครับของของยี่ห้ออเมริกันคีโตนเ
00:13:30 → 00:13:33 ก็กินเข้าไปแล้วก็ตรวจให้ระดับคีโตนของ
00:13:33 → 00:13:35 ร่างกายเนิ่งนะครับดังนั้นผลการทดลองของ
00:13:35 → 00:13:38 เขาจะไม่โดนรบกวนได้ด้วยการที่คีโตนบอดี้
00:13:38 → 00:13:41 ในร่างกายมันลดลงจากการที่ไปหลุดคีโตนโดย
00:13:41 → 00:13:43 การกินคุกกี้นี่เข้าไปนะฮะแสดงว่านัก
00:13:43 → 00:13:46 เรียนคนเนี้ยเขาเข้าใจการทดลองอย่างดีนะ
00:13:46 → 00:13:49 ตัดตัวแปรที่ทำให้คนแปรผลผิดออกไปได้ตัด
00:13:49 → 00:13:51 ตัวแปรกวนออกไปได้หมดเลยนะครับในที่นี้ก็
00:13:51 → 00:13:54 คือคีโตนนั่นเองซึ่งผมมองว่าตรงเฉลาดมาก
00:13:54 → 00:13:59 นะฮะแล้วเขาก็ใช้มันมีตัวคีโตนที่เอามาม
00:13:59 → 00:14:01 มิเตอร์ได้ก็คือชื่อยี่ห้อเฮะ ket mj
00:14:01 → 00:14:05 meer นะฮะนี่อ่ะเรามาดูรูปนี้กันดีกว่า
00:14:05 → 00:14:08 นะครับตอนนี้เบสไลน์ก็คือหลังจากที่เากิน
00:14:08 → 00:14:13 คีโตนมาประมาณ 1,500 กว่าวันนะครับเค้าก็
00:14:13 → 00:14:16 นี่เบสไลน์มีการเจาะเลือดทั้งหมด 2
00:14:16 → 00:14:18 สัปดาห์ตรงเนี้ยเจาะเลือดนะครับหลังจาก
00:14:18 → 00:14:21 นั้นก็กินโอริโอทั้งหมด 16 วันนะฮะกิน 16
00:14:21 → 00:14:23 วันก็ระหว่างนี้มีการเจาะเลือดเป็นช่วงๆ
00:14:23 → 00:14:25 นะครับเอามาตรวจดูว่ามันมีอะไรบ้างนะฮะ
00:14:26 → 00:14:28 แล้วพอหลังจากจบการศึกษาครั้งแรกก็มี
00:14:28 → 00:14:30 Watch Out ก็คือส่วนที่เขากลับไปกิน
00:14:30 → 00:14:33 คีโตใหม่ทั้งหมด 3 เดือนแล้วพอครบเสร็จ
00:14:33 → 00:14:35 ปุ๊บเขาก็มีการเจาะเลือดซ้ำหลังจากนั้นก็
00:14:35 → 00:14:38 มากินสิอีกทั้งหมด 6 สัปดาห์นะครับก็คือ
00:14:38 → 00:14:42 UA ไิทั้งหมด 20 มิลกรัมต่อวันนะฮะและ
00:14:42 → 00:14:44 อย่างที่บอกในเนี้ยเค้ากิน 6 สัปดาห์
00:14:44 → 00:14:47 สัปดาห์ที่ 6 ตรงนี้นะครับนี่สัปดาห์ที่ 6
00:14:47 → 00:14:51 6 Week นะครับเขาก็มีการเพิ่มการ
00:14:51 → 00:14:54 Exercise เป็น 29,000 ต่อวันเพื่อที่จะ
00:14:54 → 00:14:57 ดูว่าถ้าเขาต้องการพลังงานเพิ่มขึ้นแล้ว
00:14:57 → 00:14:59 เนี่ยร่างกายมันจะสร้าง ldl เพิ่มขึ้นตาม
00:14:59 → 00:15:04 ทฤษฎีไปิด Energy Model หรือเปล่านะครับ
00:15:04 → 00:15:08 อ่าเค้าก็มีการนี่เลยครับเจาะไขมันไ pid
00:15:08 → 00:15:12 panel นะฮะโดยเค้ามีการอดอาหารก่อนแล้ว
00:15:13 → 00:15:17 ก็เจาะนะครับนี่ผลทุกอย่างของเค้าที่มี
00:15:17 → 00:15:20 ตลอด 4 ปีกว่าเนี่ยเขาคก็มีไว้หมดเรียบ
00:15:20 → 00:15:22 ร้อยแล้วเบอกว่าตัวเคเองเป็นแพทเทิร์น a
00:15:22 → 00:15:26 ด้วยนะนแล้วเค้าก็ตรวจดูว่าก่อนหน้าที่
00:15:26 → 00:15:28 เขาจะเริ่มการทดลองเเค้ามีปัญหาอะไรบ้าง
00:15:28 → 00:15:31 นะฮะนี่มีทั้งหมดเลยมีการเจาะ ldl
00:15:31 → 00:15:33 particle มี a b อะไรซึ่งพวกเนี้ผมเคย
00:15:33 → 00:15:35 เล่าไปคร่าวๆแล้วแต่วันนี้จะไม่ลงราย
00:15:35 → 00:15:37 ละเอียดแล้วกันนะครับแล้วก็เจอว่า ldl
00:15:37 → 00:15:40 cholesterol ของเขาสูงที่สุดคือ 545
00:15:40 → 00:15:43 ซึ่งถือว่าเยอะมากนะครับก่อนที่เขาจะ
00:15:43 → 00:15:45 เริ่ม orio เนี่ยคือเขามีไม่ได้เป็นเบา
00:15:45 → 00:15:48 หวานค่า a1c ค่อนข้างต่ำนะครับมีการ
00:15:48 → 00:15:51 อักเสบในร่างกายหรือจากค่า High
00:15:51 → 00:15:54 sensibility crp เนี่ยน้อยนะครับซึ่งก็
00:15:54 → 00:15:56 ถือว่าดีอินซูลินก็ต่ำ insulin
00:15:56 → 00:15:58 resistance ไม่มีปัญหาคือดูทุกอย่างดี
00:15:58 → 00:16:00 หมดยกเว้น ldl อย่างนี้ที่มันสูงอย่าง
00:16:00 → 00:16:02 เดียวนี่ก็คือคนที่เรียกว่า Lean mas
00:16:02 → 00:16:04 Hyper responder ในคนที่กินคีโตนะครับ
00:16:04 → 00:16:09 อ่าเขาก็มีการดูซิว่าเอ่อทางด้านของเอิ
00:16:09 → 00:16:11 เนี่ยมันเป็นยังไงบ้างก็คือทางจริธรรมมัน
00:16:11 → 00:16:13 ถูกหรือเปล่าเขาก็บอกว่าถูกเพราะมันทดลอง
00:16:13 → 00:16:15 กับตัวเองนะครับแล้วการกินโอริโอในคนที่
00:16:15 → 00:16:17 เป็นวัยรุ่นมันก็ไม่ได้ถือว่ามีปัญหาอะไร
00:16:17 → 00:16:19 มันไม่ได้ผิดจริยธรรมอะไรนะครับ
00:16:20 → 00:16:22 นี่นี่เลยเบอกว่าเอ๊ะช่วงนี้เค้ากิน
00:16:22 → 00:16:26 โอริโอเนี่ยนะครับคือน้ำหนักขึ้น 1 กึนะ
00:16:26 → 00:16:28 ครับซึ่งก็ไม่ได้แปลกใจอะไรมันเป็นปกติ
00:16:28 → 00:16:30 ที่เราได้พลังงานมันต้องเป็นอย่างงั้นนะ
00:16:30 → 00:16:33 ครับนี่แล้วตรงนี้เข้าก็มีผลการทดลองว่า
00:16:33 → 00:16:35 ldl ของเขาคเป็นเท่าไหร่นะครับอันนี้ใน
00:16:35 → 00:16:39 ช่วงของ orio นะะนี่อันนี้คือของโอริตอน
00:16:39 → 00:16:42 เริ่มต้นอาทิตย์แรกนะครับไกินของเขาเอ้
00:16:42 → 00:16:44 Total คอเลสตอรอลของเขาคเนี่ยมันยังสูง
00:16:44 → 00:16:47 อยู่พอกินไปกินมาอ่าลด ldl ตอนแรก 300
00:16:47 → 00:16:52 กว่าพอกินมา 16 วันอ่าลดนะครับ hdl เนี่ย
00:16:52 → 00:16:54 เฮ้ยมันไม่ค่อยเปลี่ยนแปลงแฮะแสดงว่าการ
00:16:54 → 00:16:56 เติมคาร์โบไฮเดรตเข้าไปในร่างกายเนี่ยไม่
00:16:56 → 00:16:59 ได้ทำให้ไอ้ตัว H hdl มันเปลี่ยนแปลงมาก
00:16:59 → 00:17:03 ถ้า hdl มันขนาดเนี้ยถือว่าดีนะครับ
00:17:03 → 00:17:06 ไครินเฮ้ยไครินมันก็ไม่เพิ่มขึ้นด้วยแฮะ
00:17:07 → 00:17:09 ผิดจากการที่บอกว่าบางคนหลุดคีโตแล้วกลัว
00:17:09 → 00:17:11 ไตรกีซาไลน์สูงขึ้นในร่างกายแล้วบางคนก็
00:17:11 → 00:17:14 บอกว่าไตกีสไลสูงงๆจะเป็นอันตรายต่อร่าง
00:17:14 → 00:17:16 กายซึ่งไตกีสูงเป็นอันตรายต่อร่างกายจริง
00:17:16 → 00:17:19 ๆแต่นี่คุณเห็นอะไรมั้ครับกินโอริโอมันก็
00:17:19 → 00:17:21 ไม่ทำให้มันสูงขึ้นมาครับในคนที่กินคีโต
00:17:21 → 00:17:25 เคร่งๆนะฮะแล้วพอมากินยาสตินบ้างเจออะไร
00:17:25 → 00:17:29 บ้างนะครับเราจะดูแค่ใน Week ที่ถึง Week
00:17:29 → 00:17:30 ที่ 5 แล้วกันเพราะ Week ที่ 6 เนี่ยเป็น
00:17:30 → 00:17:33 การเพิ่ม Exercise นะครับเพิ่ม Exercise
00:17:33 → 00:17:36 ผมจะเขียนไว้ตรงนี้
00:17:36 → 00:17:39 อ่าทีนี้ตอนแรกเราเริ่มต้นด้วย ldl 400
00:17:39 → 00:17:43 ก่อนนะครับนี่ 421 กินไปอาทิตย์แรกเอ้ย
00:17:43 → 00:17:47 เริ่มลด 22 เริ่มลดลดๆๆลงมาเรื่อยๆนะครับ
00:17:47 → 00:17:51 Week 3 Week เนี่ยนะครับ 4 3 4 5
00:17:51 → 00:17:54 เนี่ยระดับไขมันของเค้าเนี่ยค่อนข้างคง
00:17:54 → 00:17:56 ที่แล้วคุณเห็นอะไรนี่มั้
00:17:56 → 00:18:00 ครับหลังจากมีการเพิ่ม Exercise LD ของ
00:18:00 → 00:18:03 เขาคเพิ่มเป็น 346 ตรงตามสมมุติฐานที่
00:18:03 → 00:18:06 ตั้งโดยทฤษฎี lpd Energy Model เยอะเลย
00:18:06 → 00:18:08 นะครับแปลว่าอะไรแปลว่าถ้าร่างกายต้องการ
00:18:08 → 00:18:11 พลังงานเพิ่มขึ้นร่างกายของเค้าในคนที่
00:18:11 → 00:18:15 กินคีโตก็จะเพิ่มการผลิต ldl ครับนะเออ
00:18:15 → 00:18:19 เนี่ยเป็นการทดสอบดูว่ามันเป็นแบบไหนนะฮะ
00:18:19 → 00:18:22 แต่จากตรงนี้เราก็จะรู้ว่าในคนที่กิน
00:18:22 → 00:18:24 โอริโอนี่นะครับกินโอริโอเนี่ย ldl หลัง
00:18:24 → 00:18:28 จากกินโอริโอไปมันลดลงมา 71% แต่ในขณะที่
00:18:28 → 00:18:31 กินสแตตินนมันลดเพียงแค่ 32% เท่านั้นเอง
00:18:31 → 00:18:34 นะครับแปลว่าอะไรแปลว่าจริงๆเนี่ยถ้าเกิด
00:18:34 → 00:18:37 คุณกินคีโตเคร่งจนเกินไปนะครับโดยเฉพาะ
00:18:37 → 00:18:40 ถ้าคุณเป็นคนที่มี Body M index หรือ
00:18:40 → 00:18:43 BMI ค่อนข้างไปทางต่ำคุณเกิดภาวะนี้ขึ้น
00:18:43 → 00:18:45 มาได้ง่ายแล้วคุณก็จะมี ldl ที่สูงขึ้น
00:18:45 → 00:18:48 ทั้งก ldl cholesterol และ ldl particle
00:18:48 → 00:18:50 ซึ่งเป็นความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอด
00:18:50 → 00:18:52 เลือดหัวใจหลอดเลือดสมองหลอดเลือดทางร่าง
00:18:52 → 00:18:55 กายมากกว่าคนที่กินคีโตนแล้วไม่มี ldl
00:18:55 → 00:19:00 ที่สูงขึ้นนะครับและในคนเหล่านี้เนี่ยถ้า
00:19:00 → 00:19:02 ลดความเคร่งลงมาหน่อยเติมคาร์โบไฮเดรต
00:19:02 → 00:19:05 เข้าไปในร่างกายนิดหน่อยปัญหานี้หายไปเลย
00:19:05 → 00:19:09 ครับใช่มั้ยฮะนี่แสดงว่าเราไม่ต้องสุด
00:19:09 → 00:19:13 โต่งมันก็หายได้มันก็ดีได้ครับนะแล้วนัก
00:19:13 → 00:19:15 เรียนคนนี้เค้าเป็นคนที่ออกกำลังกายสม่ำ
00:19:15 → 00:19:17 เสมออยู่แล้วด้วยดังนั้นเนี่ยการที่เคออก
00:19:17 → 00:19:19 กำลังกายอย่างเดียวไม่สามารถลด ldl ได้
00:19:20 → 00:19:23 ครับนี่งานวิจัยที่บอกได้หลายอย่างเลยนะ
00:19:23 → 00:19:25 เค้าเป็นคนที่ออกกำลังกายทุกวันใช่มั้ยฮะ
00:19:25 → 00:19:28 คาสินะสัปดาห์ละ 6-7 ชั่วโมงมีการเล่นเว
00:19:28 → 00:19:31 เทอีกต่างหากนะครับก็คือแปลว่าอะไรแปลว่า
00:19:31 → 00:19:34 ขณาออกกำลังกายขนาดนี้ไขมันยังไม่ลงถ้า
00:19:34 → 00:19:37 เกิดคุณเจอคนที่เป็นคีโตแล้วก็ไขมัน ldl
00:19:37 → 00:19:39 สูงนะครับข้อแรกคือบอกว่าตัวเองเฮ้ยไม่
00:19:39 → 00:19:42 เป็นไรเปล่าครับมันเป็นไรแล้วเพราะว่า ldl
00:19:42 → 00:19:44 particle หรืออนุภาคสูงขึ้นด้วยก็เป็น
00:19:44 → 00:19:47 ความเสี่ยงนะครับอันที่ 2 ก็คือบอกว่า
00:19:47 → 00:19:49 เฮ้ยคุณก็ไปออกกำลังกายสิเดี๋ยวมันก็ลงมา
00:19:49 → 00:19:51 ไม่เป็นไงครับนักศึกษาแพทย์คนนี้ออกก็ไม่
00:19:51 → 00:19:55 เห็นมันลงมาแต่การเติมโอริเข้าไปนิดนึง
00:19:55 → 00:19:57 เป็นการเติมคาร์โบไฮเดรตเข้าไปนิดเดียวดี
00:19:57 → 00:19:59 ขึ้นเลยนะไม่ต้องเติมเยอะนะฮะเติมทีละนิด
00:19:59 → 00:20:01 เดียวก็ดีขึ้นแล้วนะครับแปลว่าไม่สุดโต่ง
00:20:01 → 00:20:05 เนี่ยดีที่สุดนะฮะอ่าอันนี้เขาคก็ทำเป็น
00:20:05 → 00:20:08 กราฟนะครับให้เราดูว่ามันเป็นยังไงบ้างแ
00:20:09 → 00:20:11 ldl พวกนี้มันลดลงมาเป็นแบบไหนในคนที่
00:20:11 → 00:20:13 กินโอริโอแล้วก็สินเทียบกันนะครับและนี่
00:20:13 → 00:20:16 เป็นการเทียบกันใน Subject หรือคนทดลองคน
00:20:16 → 00:20:19 เดียวดังนั้นมันเป็นสิ่งที่ดีทำให้เรารู้
00:20:19 → 00:20:22 ว่าเอ๊ะมันไม่มีการเปลี่ยนแปลงคนทดลองนะ
00:20:22 → 00:20:23 ครับไม่ใช่แบ่งกลุ่มนึงกินโอริโอกลุ่มนึง
00:20:24 → 00:20:25 กินสตินนะครับแต่เป็นการทดลองกับตัวเอง
00:20:25 → 00:20:28 ดังนั้นทุกๆอย่างในร่างกายของตัวเองเนี่ย
00:20:28 → 00:20:30 ไม่ว่าจะจะเป็นพันธุกรรมระบบเอนไซม์ทุก
00:20:30 → 00:20:32 อย่างมันจะเหมือนกันหมดดังนั้นเนี่ยการทด
00:20:32 → 00:20:33 ลองกับตัวเองเนี่ยมันจะได้ผลที่ค่อนข้าง
00:20:33 → 00:20:38 แม่นยำมากกว่าการทดลองกับคนอื่นนะครับ
00:20:38 → 00:20:43 อืมนี่อ่าเค้าเจอผลข้างเคียงอย่างหนึ่ง
00:20:43 → 00:20:45 เขาคบอกว่าตอนที่เค้ากินสตินเนี่ยนะครับเ
00:20:45 → 00:20:48 มีอาการปวดกล้ามเนื้อด้วยนะครับแล้วก็มี
00:20:48 → 00:20:51 กีนีฟอสโฟไคเนสสูงขึ้นอยู่ในระดับ 300
00:20:51 → 00:20:53 ซึ่งไม่ได้ถือว่าสูงมากนะครับแต่เค้ามี
00:20:53 → 00:20:55 ความใจความเสี่ยงอยู่แล้วก็คือข้อแรกเ้า
00:20:55 → 00:20:58 มี Lower BMI คือ BMI ของเค่อนข้างไปทาง
00:20:58 → 00:21:00 ต่ำและเค้าก็มี physical activity ที่
00:21:00 → 00:21:01 ค่อนข้างเยอะคือออกกำลังกายค่อนข้างเยอะ
00:21:01 → 00:21:05 นะฮะอย่างไรก็ตามเค้าไม่หยุดยาเค้ากินต่อ
00:21:05 → 00:21:07 เนื่องครับบางคนจะบอกว่าเอ๊ะมันลดขนาด
00:21:07 → 00:21:09 หรือหยุดหรือเปล่านะครับถ้าลดขนาดหรือ
00:21:09 → 00:21:11 หยุดนี่ก็อาจจะทำให้การทดลองมันเพี้ยนไป
00:21:11 → 00:21:15 ก็ได้แต่เค้าไม่ได้หยุดนะฮะอืมงั้นตรงนี้
00:21:15 → 00:21:18 เนี่ยผมก็สรุปให้อันนี้อีกทีนึงนะครับคน
00:21:18 → 00:21:20 ที่เป็น Lean mas Hyper responder
00:21:20 → 00:21:22 เนี่ยมักจะเป็นคนที่มี BMI ต่ำแล้วไปกิน
00:21:22 → 00:21:24 คีโตนะครับจะมีลักษณะ ldl ที่สูงขึ้น hdl
00:21:24 → 00:21:28 สูงขึ้นแต่ไซไลดต่ำลงนะครับโดยทฤษฎีนึง
00:21:28 → 00:21:30 ที่อธิบายปรากฏการณ์นี้ก็คือ rpd Energy
00:21:30 → 00:21:33 โลเค้าบอกว่าเรามีคาร์โบไฮเดรตต่ำในร่าง
00:21:33 → 00:21:37 กายนะครับแล้วมี BMI ก็คือมีปริมาณไขมัน
00:21:37 → 00:21:39 ต่ำในร่างกายดังนั้นเวลาจะใช้พลังงาน
00:21:39 → 00:21:41 เนี่ยมันต้องไปดึงมาจากสักที่นึงนี่แหละ
00:21:41 → 00:21:43 นะครับแล้วพอมันไม่มีปุ๊บตับก็ต้องทำหน้า
00:21:43 → 00:21:46 ที่ในการสร้าง vldl ออกมานะครับแล้วส่งไป
00:21:46 → 00:21:49 ที่เซลล์ต่างๆนะครับพอส่งไปที่เซลล์ต่างๆ
00:21:49 → 00:21:52 เซลล์เนี้มันก็จะย่อยไอ้ก้อน vldl เนี่ย
00:21:52 → 00:21:54 กลายเป็นเป็นไสไลนแล้วเอาไปสร้างพลังงาน
00:21:54 → 00:21:58 นะครับในขณะนั้นมันก็จะมีการสร้าง ldl
00:21:58 → 00:22:01 และ hdl สูงขึ้นมาด้วยในตอนนี้นะครับอัน
00:22:01 → 00:22:05 นี้ก็คือเป็นอย่างหนึ่งนะครับที่สำคัญ
00:22:05 → 00:22:09 นะังนั้นอันเนี้ยมันเป็นการทดสอบเลยว่า
00:22:09 → 00:22:13 ทฤษฎีเนี้ยมันจริงแล้วแฮะนะครับมันจริงนะ
00:22:13 → 00:22:16 ครับนี่ถ้าเกิดว่าใครอยากจะอ่านอะไรเพิ่ม
00:22:16 → 00:22:18 เติมก็สามารถไปอ่านตรงนี้ได้นะครับนี่ตรง
00:22:18 → 00:22:22 นี้แล้วเขาก็มีการอ้างอิงไว้นะว่ามันเคย
00:22:22 → 00:22:25 มีคนทำการศึกษาใหญ่ครั้งหนึ่งนะครับถ้า
00:22:25 → 00:22:29 เกิดว่าเราเอาให้เค้ากินนี่คบกบไฮเดรต
00:22:29 → 00:22:32 น้้อยมากๆเจะเจอว่า ldl เพิ่มขึ้นในคนที่
00:22:32 → 00:22:35 BMI ต่ำกว่า 25 แปลว่าอะไรคนไหนที่ผอม
00:22:35 → 00:22:38 ตั้งแต่แรกอยู่แล้วนะกินคีโตเนี่ยมันยิ่ง
00:22:38 → 00:22:40 ldl ยิ่งสูงนะครับโดยเฉพาะคนที่ BMI ต่ำ
00:22:40 → 00:22:43 ๆกว่า 25 นะครับ
00:22:43 → 00:22:47 อือ่าแล้วเดี๋ยวตรงนี้มันมีตรงไหนที่ผม
00:22:47 → 00:22:51 บอกนะ
00:22:51 → 00:22:56 ฮะอ่าตรงนี้อย่างไรก็ตามนะครับผมจะสรุป
00:22:56 → 00:22:59 งานนี้ให้ฟังเลยนะครับคือตัวงานเนี้ยผม
00:22:59 → 00:23:02 มองว่าทำได้ดีมากนะครับมีระบบระเบียบงาน
00:23:02 → 00:23:05 วิจัยที่ค่อนข้างที่จะดีรัดกุมทุกอย่าง
00:23:05 → 00:23:08 เลยนะครับแล้วก็คนน้องคนนี้ที่เขาเขียน
00:23:08 → 00:23:10 เนี่ยฉลาดมากในการควบคุมปัจจัยที่มันเป็น
00:23:10 → 00:23:13 ปัจจัยตัวกวนปจรบกวนทั้งหมดนะครับสรุปได้
00:23:13 → 00:23:18 ว่าคนที่ BMI ต่ำกว่า 25 แล้วไปกินคีโต
00:23:18 → 00:23:21 เนี่ยจะมีโอกาสที่ ldl คอเลสเตอรอลจะสูง
00:23:21 → 00:23:23 นะครับแล้วถ้ามันสูงเนี่ยจะมีความเสี่ยง
00:23:23 → 00:23:26 ต่อการเกิดโรคหลอใจลดแลสมองได้วิธีในการ
00:23:26 → 00:23:29 แก้ไขก็คือการกินคาร์โบไฮเดรตเข้าไปนะ
00:23:29 → 00:23:32 ครับเพื่อที่จะลดไม่ให้มันมีภาวะที่ร่าง
00:23:32 → 00:23:35 กายขาดพลังงานจนจะต้องสร้างไขมันเพิ่ม
00:23:35 → 00:23:38 ขึ้นมาจากต่ำนะครับแต่อย่างไรก็ตามในนี้
00:23:38 → 00:23:43 เนี่ยเาทิ้งท้ายว่าไอ้ตัวการกินโอริโอ
00:23:43 → 00:23:45 เนี่ยมันก็ไม่ใช่อาหารที่สุขภาพดีนี่เค้า
00:23:45 → 00:23:47 กินระยะเวลาสั้นๆคือ 16 วันเพื่อที่จะทด
00:23:47 → 00:23:49 สอบสมมุติฐานนี้กับทฤษฎีนี้ว่ามันเป็น
00:23:49 → 00:23:52 จริงหรือเปล่านะครับแต่ในระยะยาวเนี่ยอาจ
00:23:52 → 00:23:54 จะต้องกินคาร์โบไฮเดรตชนิดที่มันดีกว่า
00:23:54 → 00:23:56 นี้ไม่ใช่กลิ่นโอริโอหรือน้ำตาลเชงเดี่ยว
00:23:56 → 00:23:59 เข้าไปนะครับนี่
00:23:59 → 00:24:01 นะฮะเค้าก็สรุปไว้ตรงนั้นแต่ผมไม่ได้
00:24:01 → 00:24:04 เขียนตรงนี้ไว้นะครับนี่คือข้อสรุปที่เขค
00:24:04 → 00:24:08 เขียนไว้นะฮะอ่านะฮะงั้นงานชิ้นนี้ใช้กับ
00:24:08 → 00:24:11 คนที่กิน ketogenic Diet นะครับคือสรุป
00:24:11 → 00:24:13 มาทั้งงานเนี่ยบอกได้เลยว่าลปิด Energy
00:24:13 → 00:24:16 Model เนี่ยมันเป็นจริงนะครับมันสามารถ
00:24:16 → 00:24:19 ที่จะมาอธิบายคนที่กิน
00:24:19 → 00:24:21 คีติกา
00:24:22 → 00:24:24 แก้คืออย่าไปสุดโต่งขอให้เติม
00:24:24 → 00:24:26 คาร์โบไฮเดรตเข้าไปสักนิดนึงร่างกายคุณก็
00:24:27 → 00:24:29 จะดีขึ้นนะครับการให้คนพวกนี้ไปออกกำลัง
00:24:29 → 00:24:32 กายหรือเปลี่ยนวิธีการกินไขมันนะครับไป
00:24:32 → 00:24:35 กินอ่า Poly unsaturated Fat มากๆหรือ
00:24:35 → 00:24:37 ว่ายังไงมันก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงนี้ได้
00:24:37 → 00:24:40 นะครับบังเอิญในเรื่องเนี้ยเค้าพูดถึงอ่อ
00:24:40 → 00:24:42 saturated Fat กับ Poly unsaturated
00:24:42 → 00:24:45 Fat กับเ่อ Mono unsaturated Fat ไว้
00:24:45 → 00:24:47 ด้วยนะครับแต่ว่าผมไม่ได้ยกไม่ให้ดู
00:24:47 → 00:24:49 เดี๋ยวมันจะยาวเกินไปดังนั้นถ้าใครสนใจ
00:24:49 → 00:24:51 เนี่ยลองไปอ่านตัวเนื้องานตรงนี้ดูนะครับ
00:24:51 → 00:24:55 มันมีพูดถึงตรงนั้นไหว้ว่าน้องเค้ามีการ
00:24:55 → 00:24:57 กินโอริโอที่มันมี saturated Fat สูง
00:24:57 → 00:25:00 ขึ้นในตอนนั้นนะครับแต่การที่ saturated
00:25:01 → 00:25:03 Fat สูงมากๆเนี่ยมันไม่ได้ทำให้ ldl ของ
00:25:03 → 00:25:05 น้องเเพิ่มขึ้นแต่อย่างใดมันกลับทำให้ลด
00:25:05 → 00:25:09 ลงด้วยการเติมคาร์โบไฮเดรตเข้าไปนะครับ
00:25:09 → 00:25:11 โอเควันนี้ผมก็หวังว่าจะได้ประโยชน์จาก
00:25:11 → 00:25:14 งานวิจัยชิ้นนี้นะครับถ้าใครอ่านนะฮะคน
00:25:14 → 00:25:19 ที่กินแล้วมันจะดีก็คือคนที่มีเป็น Lean
00:25:19 → 00:25:21 Body mas Hyper responder นะครับแล้ว
00:25:21 → 00:25:23 มี ldl สูงๆกิน ketogenic ไดเอทอยู่การ
00:25:23 → 00:25:26 กินคาร์โบไฮเดรตเพิ่มเข้าไปจะสามารถลด
00:25:26 → 00:25:29 ปริมาณ ldl แล้วก็ก็ลดความเสี่ยงต่อการ
00:25:29 → 00:25:31 เกิดโรคในอนาคตของท่านได้นะครับแต่ว่าจะ
00:25:31 → 00:25:33 ต้องเลือกคาร์โบไฮเดรตที่มันดีหน่อยไม่
00:25:33 → 00:25:36 ใช่โอริโอนะครับส่วนคนที่ไม่ได้กินคีต
00:25:36 → 00:25:39 เจนิ Diet แล้วมีค่า ldl ที่สูงในร่างกาย
00:25:39 → 00:25:40 ท่านไม่ต้องไปกินโอริโอไม่ต้องไปกิน
00:25:40 → 00:25:42 คาร์โบไฮเดรตเพิ่มท่านควรจะต้องลด
00:25:42 → 00:25:44 คาร์โบไฮเดรตด้วยซ้ำไปนะครับไม่มฉะนั้นก็
00:25:44 → 00:25:47 อาจจะมีปัญหาต่างๆตามมาได้นะครับโอเควัน
00:25:47 → 00:25:49 นี้ก็เท่านี้นะครับถ้าใครมีอะไรสงสัยก็
00:25:49 → 00:25:51 สอบถามมาแล้วกันนะครับขอบคุณมากครับ
00:25:51 → 00:25:54 สวัสดีครับ