00:00:00 → 00:00:02 สวัสดีครับวันนี้ผมจะมาเล่าเกี่ยวข้องกับ
00:00:03 → 00:00:05 เรื่องของ Carnival Diet นะครับหรือคน
00:00:05 → 00:00:07 ที่เขากินแต่เนื้อแล้วก็ผลิตภัณฑ์จาก
00:00:07 → 00:00:10 สัตว์นะครับโดยเป้าหมายของเขาเนี่ยเพื่อ
00:00:10 → 00:00:12 ที่จะต้องการลดน้ำหนักนะครับควบคุมโรค
00:00:12 → 00:00:14 ประจำตัวต่างๆโดยเฉพาะโรคเบาหวานโรคหัวใจ
00:00:14 → 00:00:18 ต่างๆพวกนี้นะครับก็เลยมีการแนะนำกันที
00:00:18 → 00:00:21 นี้แหล่งที่แนะนำในหลายๆคนอาจจะเคยได้ยิน
00:00:21 → 00:00:23 มาจากอินเทอร์เน็ตนะครับจาก YouTube จาก
00:00:23 → 00:00:25 กูรูด้านสุขภาพหรือจาก influencer หรือ
00:00:25 → 00:00:27 Bank แตกกระทั่งได้ยินมาจากคนที่เขาทำ
00:00:27 → 00:00:30 คาร์ดิโอ Diet แล้วเห็นผลนะครับวันนี้ผม
00:00:30 → 00:00:32 ก็เลยอยากจะเอาเรื่องนี้มาเล่าให้ฟังทั้ง
00:00:32 → 00:00:35 ข้อดีข้อเสียนะครับแล้วก็ว่าถ้าเราจะทำ
00:00:35 → 00:00:38 จริงๆเราจะต้องมีอะไรที่ต้องระวังบ้างนะ
00:00:38 → 00:00:41 ครับก็พบกับผมนะครับนายแพทย์คดีทนายวันนะ
00:00:41 → 00:00:42 ครับเป็นอาจารย์แพทย์อยู่ที่ประเทศสหรัฐ
00:00:42 → 00:00:45 อเมริกาเชี่ยวชาญโรคปอดการปลูกถ่ายปอดและ
00:00:45 → 00:00:46 วิกฤตบำบัด
00:00:46 → 00:00:50 สำหรับ Carnival Diet นั้นจริงๆเนี่ยที่
00:00:50 → 00:00:54 มาของมันก็คือคนอยู่กลุ่มหนึ่งเขาสนใจว่า
00:00:54 → 00:00:58 สมัยที่มนุษย์เกิดมาใหม่ๆเนี่ยน่าจะกิน
00:00:58 → 00:01:00 แต่เฉพาะเนื้อสัตว์นะเพราะว่าสมัยก่อนคน
00:01:00 → 00:01:02 เราล่าสัตว์อยู่ประจำนะครับดังนั้นอาหาร
00:01:02 → 00:01:04 ที่กินก็คงจะเป็นพวกกลุ่มเนื้อสัตว์และ
00:01:04 → 00:01:07 หลังจากนั้นจึงตามมาด้วยวิวัฒนาการในด้าน
00:01:07 → 00:01:10 การเพาะปลูกนั่นก็แปลว่าเรื่องของพวกพืช
00:01:10 → 00:01:12 ผักต่างๆเนี่ยมันตามมาทีหลังนะครับเขาก็
00:01:12 → 00:01:15 มีความคิดเห็นว่าเออถ้าเรากินแบบคนสมัย
00:01:15 → 00:01:17 ก่อนเลยนะครับกินแต่เนื้อสัตว์เครื่องใน
00:01:17 → 00:01:19 พวกนี้เนี่ยน่าจะทำให้เราสมบูรณ์แข็งแรง
00:01:19 → 00:01:22 เพราะว่าถ้าเราดูประวัติศาสตร์ในสมัยก่อน
00:01:22 → 00:01:25 คนเราที่เป็นนักล่าอยู่ในสมัยนั้นเนี่ย
00:01:25 → 00:01:27 ครับมีร่างกายที่แข็งแรงมีกล้ามเนื้อกำยำ
00:01:27 → 00:01:30 นะครับก็เลยเป็นที่มาของการที่เออถ้าเรา
00:01:30 → 00:01:32 มาลองทานแบบนี้ดูบ้างล่ะเราจะแข็งแรง
00:01:32 → 00:01:34 เหมือนกับบรรพบุรุษเราหรือเปล่านะครับ
00:01:34 → 00:01:39 แล้วก็แน่นอนพอมีการทำตามนะครับก็มีหลายๆ
00:01:39 → 00:01:42 คนที่รู้สึกสุขภาพของตัวเองดีขึ้นแต่บาง
00:01:42 → 00:01:44 คนก็รู้สึกว่าสุขภาพของตัวเองมันมีปัญหา
00:01:44 → 00:01:47 นะครับวันนี้เราก็เลยอยากจะมาเข้าใจใน
00:01:47 → 00:01:50 เรื่องนี้ว่าเฮ้ยอะไรที่ทำให้มันมีปัญหา
00:01:50 → 00:01:52 เพราะอะไรที่ทำแล้วมันดีนะครับ
00:01:52 → 00:01:55 ก็ต้องขอเริ่มก่อนว่า calibur Diet
00:01:55 → 00:01:57 เนี่ยมันรวมอะไรบ้างนะครับ
00:01:57 → 00:02:01 Cardio Diet เนี่ยก็คือการกินเฉพาะสิ่ง
00:02:01 → 00:02:04 ที่เป็นเนื้อสัตว์แล้วก็ผลิตภัณฑ์จาก
00:02:04 → 00:02:06 สัตว์ยกตัวอย่างเช่นเนื้อแดงทั้งหลายแหล่
00:02:06 → 00:02:08 นะครับเนื้อวัวเนื้อแพะเนื้อแกะเนื้ออะไร
00:02:08 → 00:02:11 ก็แล้วแต่รวมทั้งปลาด้วยนะครับกลุ่มกลุ่ม
00:02:11 → 00:02:14 ผลิตภัณฑ์จากปลาก็เหมือนกันนะครับพวกไก่
00:02:14 → 00:02:17 พวกเป็ดพวกนี้ก็ถือว่ากินได้นะครับหรือ
00:02:17 → 00:02:20 พวกนมพวกชีสนี้ก็กินได้เช่นกันแต่เขาจะ
00:02:20 → 00:02:23 หลีกเลี่ยงการกินผักนะครับทุกอย่างผลไม้
00:02:23 → 00:02:25 ทุกอย่างนะครับพวกนี้ก็จะไม่กินนะครับนี่
00:02:25 → 00:02:28 คือถือเป็นคาร์ดิโอ Diet แล้วถ้าลงลึกไป
00:02:28 → 00:02:30 กว่านั้นสิ่งที่เขาแนะนำก็คือว่าสิ่งที่
00:02:30 → 00:02:33 กินนี้จะต้องมีการปรุงแต่งน้อยที่สุดนะ
00:02:33 → 00:02:36 ครับปรุงแต่งน้อยที่สุดนะเพราะฉะนั้นเป็น
00:02:36 → 00:02:39 สิ่งที่เขาเน้นดังนั้นถ้าปรุงแต่งเยอะๆ
00:02:39 → 00:02:41 เช่นไส้กรอกอะไรอย่างนี้นะครับหรือเบคอน
00:02:41 → 00:02:43 นะครับกลุ่มพวกนี้เขาก็จะไม่แนะนำให้กิน
00:02:43 → 00:02:46 นะครับแต่ว่าแน่นอนว่าคนที่ไม่เข้าใจใน
00:02:46 → 00:02:48 Cardio Diet เนี่ยเขาก็จะบอกว่ากินได้
00:02:48 → 00:02:50 ไม่มีปัญหานะครับจริงๆมันก็ไม่ควรกินนะ
00:02:50 → 00:02:54 ครับอ่าดังนั้นสิ่งนี้คือสิ่งที่เขากิน
00:02:54 → 00:02:55 กันนะฮะ
00:02:55 → 00:02:59 แล้วสิ่งอะไรบ้างที่จะเห็นผลนะครับที่เขา
00:02:59 → 00:03:02 โฆษณากันแน่นอนสิ่งแรกที่เราเจอก็คือน้ำ
00:03:02 → 00:03:04 หนักมันลดลงนะครับเบาหวานคุมได้ดีมากขึ้น
00:03:04 → 00:03:06 นะครับบางครั้งก็จะสามารถทำให้เรามีความ
00:03:06 → 00:03:08 กระปรี้กระเปร่ามีความแข็งแรงเพิ่มขึ้น
00:03:08 → 00:03:12 ได้นะครับสิ่งเหล่านี้เนี่ยมันเกิดขึ้น
00:03:12 → 00:03:15 ได้อย่างไรนะครับต้องบอกแบบนี้ครับเข้าใน
00:03:15 → 00:03:17 mod Diet หรือกลุ่มที่กินกับเนื้อแล้ว
00:03:17 → 00:03:20 ก็ผลิตภัณฑ์จากสัตว์เท่านั้นนะครับมันจะ
00:03:20 → 00:03:24 มีปริมาณคาร์โบไฮเดรตน้อยมากนะครับก็สรุป
00:03:24 → 00:03:26 คือเป็นการจำกัดคาร์โบไฮเดรตนั่นเองนะ
00:03:26 → 00:03:28 ครับไม่ใช่ว่าโปรตีนจากเนื้อสัตว์มันไป
00:03:28 → 00:03:31 ช่วยทำให้เราดีขึ้นนะครับแต่เป็นการกำจัด
00:03:31 → 00:03:33 คาร์โบไฮเดรตออกจากอาหารหลักของเราไปเลย
00:03:33 → 00:03:37 นะครับมันก็เลยทำให้เราเนี่ยมีการคุมน้ำ
00:03:37 → 00:03:39 ตาลได้ดีเพิ่มขึ้นเพราะว่าถ้าเรามี
00:03:39 → 00:03:41 คาร์โบไฮเดรตเยอะมีแป้งเยอะเนี่ยน้ำตาลใน
00:03:41 → 00:03:44 ร่างกายของเรามันก็จะคุมลำบากนะครับน้ำ
00:03:44 → 00:03:46 หนักของเราก็จะคุมได้ด้วยเหมือนกันเพราะ
00:03:46 → 00:03:48 ว่าการคุมคาร์โบไฮเดรตนะครับที่สำคัญคือ
00:03:48 → 00:03:51 โปรตีนเหล่านี้เนี่ยมันไม่ค่อยมีน้ำนะ
00:03:51 → 00:03:54 ครับดังนั้นบางคนที่น้ำหนักเพิ่มขึ้นจาก
00:03:54 → 00:03:57 การมีน้ำในร่างกายในเมื่อเราไม่ได้น้ำ
00:03:57 → 00:03:59 เข้าไปเนี่ยน้ำหนักเรามันก็จะลดลงไปใน
00:03:59 → 00:04:01 ส่วนนี้นะครับนั่นคือกลไกในการที่ทำให้
00:04:01 → 00:04:04 น้ำหนักของเราลดลงนะครับ
00:04:04 → 00:04:10 แล้วทำแบบนี้มันมีปัญหาหรือเปล่ามีครับ
00:04:10 → 00:04:13 ปัญหาอะไรบ้างที่เราสามารถเจอได้จากการ
00:04:13 → 00:04:16 กินคาร์โนเรตนะครับเช่นถ้าเราเริ่มใหม่ๆ
00:04:16 → 00:04:19 นะครับบางคนกินแต่เนื้ออย่างเดียวนะครับ
00:04:19 → 00:04:22 อาจจะมีอาการท้องผูกนะครับอ่าท้องผูกปวด
00:04:22 → 00:04:24 ท้องคลื่นไส้อาเจียนเป็นไปได้นะครับเพราะ
00:04:24 → 00:04:28 ว่าแน่นอนว่าปกติแล้วถ้าเราไม่ทานกากใย
00:04:28 → 00:04:31 เลยซึ่งกากใยเนี่ยมันมีอยู่ในเฉพาะพวกพืช
00:04:31 → 00:04:33 ผักต่างๆนะครับในเนื้อสัตว์ในอะไรพวกนี้
00:04:33 → 00:04:35 มันไม่ค่อยมีหรือถ้ามีก็มีน้อยมากๆนะครับ
00:04:35 → 00:04:38 แต่ส่วนใหญ่ไม่มีนะครับดังนั้นเนี่ยการ
00:04:38 → 00:04:41 ที่เราไม่ได้ทานกากใยเลยเนี่ยบางคนมี
00:04:41 → 00:04:43 ปัญหาเรื่องกระเพาะลำไส้ได้นะครับโดย
00:04:43 → 00:04:46 เฉพาะในช่วงแรกแล้วก็มีบางคนคือแนะนำว่า
00:04:46 → 00:04:49 เออถ้าอย่างนั้นเราก็กินพวกอ่าไขมันดีสิ
00:04:49 → 00:04:53 นะครับเช่นอย่างนี้เป็นต้นนะครับหรือจะไป
00:04:53 → 00:04:56 กินน้ำมันจากน้ำมันสกัดเย็นมะพร้าวน้ำมัน
00:04:56 → 00:04:58 ปาล์มหรืออะไรก็แล้วแต่นะครับก็อันนี้ก็
00:04:58 → 00:05:00 แล้วแต่มันอาจจะพอช่วยได้นะครับแต่ว่า
00:05:00 → 00:05:03 ระยะยาวถ้าเราทานไขมันอิ่มตัวมากๆมันก็มี
00:05:03 → 00:05:05 ปัญหาเหมือนกันนะครับตรงนี้อาจจะตรงกัน
00:05:05 → 00:05:09 ข้ามกับกูรูหลายๆท่านซึ่งต้องการที่จะ
00:05:09 → 00:05:11 โปรโมทในเรื่องของคาร์ดิโอไดเอทนะครับ
00:05:11 → 00:05:13 เพราะว่าจริงๆต้องบอกว่าความรู้เหล่านั้น
00:05:13 → 00:05:16 มันไม่ค่อยถูกต้องเหมือนกันนะฮะ
00:05:16 → 00:05:19 ทีนี้อยากจะมาต่อว่าเฮ้ยแล้วมันมีอะไร
00:05:19 → 00:05:23 อื่นอีกไหมที่มันไม่ดีมีเยอะเลยครับนะ
00:05:23 → 00:05:26 อย่างแรกถ้าท่านมีความเสี่ยงต่อการเป็น
00:05:26 → 00:05:28 เก๊าอยู่แล้วการกินแต่เนื้อสัตว์อย่าง
00:05:28 → 00:05:30 เดียวกินเครื่องในพวกนี้นะครับเกาต์ของ
00:05:30 → 00:05:32 ท่านกำเริบแน่นอนนะครับ
00:05:32 → 00:05:35 ถ้าท่านมีโรคไตการที่ได้โปรตีนปริมาณ
00:05:35 → 00:05:37 มหาศาลเข้าไปแบบนั้นนะครับร่างกายท่านก็
00:05:37 → 00:05:40 จะมีปัญหานะครับโรคตับที่ได้โปรตีนมากจน
00:05:40 → 00:05:42 เกินไปจากเนื้อสัตว์พวกนี้ก็มีปัญหาเช่น
00:05:42 → 00:05:43 กันนะครับ
00:05:43 → 00:05:46 โดยเฉพาะคนที่เป็นตับแข็งแล้วถ้าท่านได้
00:05:46 → 00:05:48 โปรตีนเข้าไปเรื่อยๆนะครับมันก็จะเกิด
00:05:48 → 00:05:53 ภาวะอันหนึ่งเรียกว่าแพ้เด็กก็คือสมองของ
00:05:53 → 00:05:55 ท่านจะไม่สามารถกำจัดสิ่งของเสียที่เกิด
00:05:55 → 00:05:57 จากโปรตีนเหล่านี้ออกไปได้นะครับก็จะมี
00:05:57 → 00:06:01 อาการมึนงงสับสนนะครับจนกระทั่งชักหมดสติ
00:06:01 → 00:06:03 แล้วก็เสียชีวิตได้ถ้าเราไม่ได้รับการ
00:06:03 → 00:06:06 รักษาให้ดีนะครับแล้วไอ้โรคนี้บางทีมัน
00:06:06 → 00:06:08 หายได้แล้วมันก็เป็นซ้ำได้อีกถ้าท่านอยาก
00:06:08 → 00:06:10 ไปกินแบบเดิมที่มีโปรตีนสูงๆถูกเหมือน
00:06:10 → 00:06:12 เดิมนะครับงั้นโรคตับโรคไตเนี่ยจะต้อง
00:06:12 → 00:06:16 ระวังนะครับนอกเหนือจากนี้การที่ท่านกิน
00:06:16 → 00:06:18 พวกนี้เข้าไปมากๆนะครับได้โปรตีนจากเนื้อ
00:06:18 → 00:06:21 สัตว์มากๆคนที่เป็นนิ่วในไตมันก็จะยิ่ง
00:06:21 → 00:06:23 เป็นนะครับคนไหนที่ไม่เคยเป็นก็อาจจะเป็น
00:06:23 → 00:06:26 ก็ได้นะครับงั้นโรคเกาต์โรคไตนะครับ
00:06:26 → 00:06:28 เรื่องนิ่วในไตพวกนี้ก็จะมีความเสี่ยง
00:06:28 → 00:06:31 เพิ่มขึ้นนะครับการรับประทานแต่เนื้อ
00:06:31 → 00:06:32 อย่างเดียวนะครับ
00:06:32 → 00:06:35 โดยเฉพาะเนื้อแดงถ้าท่านได้มากจนเกินไป
00:06:35 → 00:06:37 เรารู้กันอยู่แล้วนะครับว่ากลุ่มเนื้อแดง
00:06:37 → 00:06:40 ถ้าได้มากๆเนี่ยมันเป็นการก่อการอักเสบใน
00:06:40 → 00:06:43 ร่างกายนะครับเวลาก่อการอักเสบในร่างกาย
00:06:43 → 00:06:45 แล้วมันเกิดอะไรขึ้นนะครับเวลาก่อการ
00:06:45 → 00:06:47 อักเสบในร่างกายเนี่ยมันก็จะเกิดการ
00:06:47 → 00:06:49 อักเสบในพวกหลอดเลือดอะไรพวกนี้นะครับ
00:06:49 → 00:06:51 หลอดเลือดท่านก็จะมีปัญหาได้นะครับแล้ว
00:06:51 → 00:06:53 สุดท้ายก็จะมีโรคต่างๆที่เกิดจากการ
00:06:53 → 00:06:56 อักเสบเช่นโรคที่เราอายุเพิ่มขึ้นเซลล์
00:06:56 → 00:06:58 ของเรามันแก่ตัวเร็วขึ้นอย่างนี้เป็นต้น
00:06:58 → 00:07:02 โรคมะเร็งบางอย่างโดยเฉพาะนะครับเรารู้
00:07:02 → 00:07:04 อยู่แล้วว่าถ้าท่านกินเฉพาะเนื้ออย่างนี้
00:07:04 → 00:07:08 ตลอดไปนะครับโอกาสเกิดมะเร็งลำไส้สูงขึ้น
00:07:08 → 00:07:09 นะครับหรือที่เราเรียกว่า
00:07:09 → 00:07:12 โคโรเลตโต้แคนเซอร์นะครับสูงขึ้นนะครับ
00:07:12 → 00:07:15 มีความเกี่ยวข้องกับเรื่องของมะเร็งต่อม
00:07:15 → 00:07:17 ลูกหมากเช่นกันนะครับอันนี้ความเกี่ยว
00:07:17 → 00:07:19 ข้องอาจจะไม่ชัดเจนมากแต่ว่าอย่างน้อยก็
00:07:19 → 00:07:21 มีความเกี่ยวข้องกับมะเร็งต่อมลุกมาแล้ว
00:07:21 → 00:07:24 การกินแต่เนื้ออย่างเดียวนะครับผลิตภัณฑ์
00:07:24 → 00:07:27 จากเนื้อสัตว์นะครับมันก็ทำให้ท่านมี
00:07:27 → 00:07:29 โอกาสจะเป็นต่อมลูกหมากโตได้เพิ่มขึ้นคน
00:07:29 → 00:07:30 ไหนตอนอยู่แล้วมันก็อาจจะโตเพิ่มขึ้นอีก
00:07:30 → 00:07:33 กว่าเดิมนะครับงั้นนี่ก็คือเป็นสิ่งที่
00:07:33 → 00:07:36 เราอาจจะเจอได้นะครับจากการที่เรากินระยะ
00:07:36 → 00:07:36 ยาว
00:07:36 → 00:07:39 นอกเหนือจากนี้มีอีกประการหนึ่งซึ่งเป็น
00:07:39 → 00:07:42 ที่ถกเถียงกันเพราะว่าข้อแรกคนที่เขาบอก
00:07:42 → 00:07:44 ว่าคนสมัยก่อนนะเขากินแต่เนื้ออย่างเดียว
00:07:45 → 00:07:47 เนี่ยบรรพบุรุษของเรากินแต่เนื้ออย่าง
00:07:47 → 00:07:49 เดียวก็ดูแข็งแรงล่าสัตว์มีกล้ามเนื้อ
00:07:49 → 00:07:51 กำยำล่ำสันนะครับแล้วก็น่าจะอายุยืนด้วย
00:07:51 → 00:07:55 แต่คำกล่าวเหล่านี้มันอาจจะไม่จริงก็ได้
00:07:55 → 00:07:58 นะครับมันอาจจะไม่ใช่อาหารทางสุขภาพอย่าง
00:07:58 → 00:08:01 ที่หลายๆคนคิดก็ได้นะครับถามว่าทำไมผมถึง
00:08:01 → 00:08:02 คิดเช่นนั้นนะครับ
00:08:02 → 00:08:05 คนเราในสมัยก่อนเนี่ยธรรมชาติมันต้องการ
00:08:05 → 00:08:07 ให้คนเราทำอะไรครับ
00:08:07 → 00:08:11 มันต้องการเดาดำรงเผ่าพันธุ์ของคนเราไว้
00:08:11 → 00:08:13 ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นสัตว์หรือจะเป็นพืช
00:08:13 → 00:08:15 หรือจะเป็นอะไรก็แล้วแต่ถ้าเมื่อไหร่สืบ
00:08:15 → 00:08:17 พันธุ์มีลูกมีหลานแล้วอันนั้นคือจบความ
00:08:17 → 00:08:19 ต้องการของธรรมชาติแล้วนะครับความต้องการ
00:08:19 → 00:08:21 ของธรรมชาติไม่ได้ต้องการให้เราอายุยืน
00:08:21 → 00:08:24 แต่มันต้องการให้เราสืบพันธุ์ต่อนะครับ
00:08:24 → 00:08:27 นั่นหมายความว่าถ้าคนสมัยก่อนกินแต่เนื้อ
00:08:27 → 00:08:30 นะครับพอเราสืบพันธุ์เสร็จนะครับในช่วง
00:08:30 → 00:08:32 สมัยก่อนก็อาจจะอายุประมาณ 20 อย่างเงี้ย
00:08:32 → 00:08:34 ก็มีลูกกันและเรียบร้อยแล้วในบรรพบุรุษ
00:08:34 → 00:08:37 ของเรานะครับนั่นก็คือจบแล้วนะครับถูก
00:08:37 → 00:08:39 มั้ยฮะหลังจากนั้นนี่คือก็อาจจะมีลูกต่อ
00:08:39 → 00:08:42 ไปได้อีกสักพักนึงแล้วหลังจากนั้นก็ไม่มี
00:08:42 → 00:08:44 ความจำเป็นที่ธรรมชาติมันจะต้องการเรานะ
00:08:44 → 00:08:47 ครับดังนั้นการที่จะบอกว่า Carnival Diet
00:08:47 → 00:08:49 แบบคนสมัยก่อนแบบบรรพบุรุษของเรานั้น
00:08:49 → 00:08:52 สามารถทำให้เราอายุยืนได้นี้อันนี้ไม่น่า
00:08:52 → 00:08:55 จะจริงนะครับนอกเหนือจากนี้มันยังมีหลัก
00:08:55 → 00:08:58 ฐานอีกหลายอย่างเช่นพวกเนื้อแดงเหล่านี้
00:08:58 → 00:09:00 นะครับหรือพวกเครื่องในต่างๆมันจะทำให้
00:09:00 → 00:09:02 เกิดการอักเสบขึ้นในร่างกายนะครับ
00:09:02 → 00:09:04 แล้วการอักเสบพวกนี้แน่นอนว่ามันสามารถ
00:09:04 → 00:09:09 เร่งกระบวนการแก่ตัวของเราได้นะครับอัน
00:09:09 → 00:09:12 นี้มีหลักฐานหลายๆอย่างที่เอามายืนยันตรง
00:09:12 → 00:09:14 นี้นะครับแต่ว่าผมเข้าใจว่าก็จะมีบางคน
00:09:15 → 00:09:17 ที่บอกว่าเห็นไหมเนี่ยมีงานวิจัยอันนึง
00:09:17 → 00:09:20 ที่ถ้าเราตัดคาร์โบไฮเดรตออกไปจากอาหาร
00:09:20 → 00:09:22 ของเราแล้วทดแทนมันด้วยเนื้อหรือ
00:09:22 → 00:09:24 ผลิตภัณฑ์อย่างเนื้อที่เป็น Carnival
00:09:24 → 00:09:26 อย่างเดียวนั้นมันสามารถลดการอักเสบได้นะ
00:09:26 → 00:09:29 ครับงานวิจัยชิ้นนี้ถ้าท่านไปอ่านดูดีๆ
00:09:29 → 00:09:32 เลยนะครับมันตรวจอย่างเดียวก็คือค่า crp
00:09:33 → 00:09:36 ซีเรียสถีบแถบไทยนะครับซึ่งมันเป็นการ
00:09:36 → 00:09:38 ตรวจที่ยากมากๆเลยถึงในแง่ของการดูการ
00:09:39 → 00:09:41 อักเสบเพราะว่าเวลาที่เราดูการอักเสบใน
00:09:41 → 00:09:43 ร่างกายของทางแพทย์ที่เขาดูเนี่ยเขาดู
00:09:43 → 00:09:45 อะไรบ้างนะท่านต้องทราบก่อนนะครับถ้าท่าน
00:09:45 → 00:09:47 ไม่ทราบแล้วท่านมาวิจารณ์บอกว่าเอ้ยนี่ไง
00:09:47 → 00:09:50 งานวิจัยนี้เขาเขียนดีไม่ได้ครับเวลาเรา
00:09:50 → 00:09:52 ดูการอักเสบเนี่ย CRF เฉยๆไม่ได้เราต้อง
00:09:52 → 00:09:55 ดู High sensitivity ที่ 4 นั่นคือ 1
00:09:55 → 00:09:56 ตัว
00:09:56 → 00:09:58 interruisensix intelligent eight in
00:09:58 → 00:10:01 the login1 tnf Alpha พวกนี้นะครับ
00:10:01 → 00:10:03 ท่านรู้จักเรื่องพวกนี้หรือเปล่านะฮะ
00:10:03 → 00:10:05 การที่เราจะดูการอักเสบเราต้องรู้เรื่อง
00:10:05 → 00:10:08 พวกนี้ก่อนนะครับถ้ามีทำมาตัวเดียวแล้ว
00:10:08 → 00:10:10 มันไม่สูงขึ้นมันต่ำลงอันนั้นไม่ได้บอก
00:10:10 → 00:10:13 อะไรเลยนะครับเราต้องดูให้มันครบวงจรของ
00:10:13 → 00:10:16 การอักเสบทั้งหมดเราถึงจะบอกได้ว่ามันมี
00:10:16 → 00:10:18 ความเกี่ยวข้องคือไม่เกี่ยวข้องกันอักเสบ
00:10:18 → 00:10:20 นะครับแต่หลักฐานส่วนใหญ่ชี้ไปในแง่ของ
00:10:20 → 00:10:23 บอกว่าถ้าเป็นพวกเนื้อแดงหลายๆอย่างนี้นะ
00:10:23 → 00:10:25 ครับมันมีความเกี่ยวข้องกับการอักเสบ
00:10:25 → 00:10:28 เพิ่มขึ้นนะครับดังนั้น
00:10:28 → 00:10:33 มันมีข้อดีแล้วมันก็มีข้อเสียทีนี้ข้อดี
00:10:33 → 00:10:35 มันเย้ายวนใจเราเหลือเกินนะครับคือมันทำ
00:10:35 → 00:10:37 ให้เราสามารถที่จะลดน้ำหนักได้ควบคุมเบา
00:10:37 → 00:10:41 หวานได้เราอยากจะทำจริงๆแล้วแล้วเราต้อง
00:10:41 → 00:10:43 ทำยังไงดีทำไปนานแค่ไหนแล้วเราจำเป็นจะ
00:10:43 → 00:10:46 ต้องทำยังไงต่อบ้างในการปฏิบัติตัวนะครับ
00:10:46 → 00:10:50 อย่างแรกนะครับคนที่กินคาวใน Word จะขาด
00:10:50 → 00:10:52 น้ำง่ายมากเพราะว่าโปรตีนพวกนี้มันไม่
00:10:52 → 00:10:53 ค่อยมีน้ำอยู่ในนั้นเท่าไหร่นะครับท่าน
00:10:53 → 00:10:56 อาจจะต้องดื่มน้ำเพิ่มขึ้นมานะครับเกลือ
00:10:56 → 00:10:58 แร่ต่างๆก็อาจจะมีการขาดยกตัวอย่างเช่น
00:10:58 → 00:11:01 โซเดียมโพแทสเซียมแมกนีเซียมพวกนี้ซึ่ง
00:11:01 → 00:11:03 มันมักจะไม่ค่อยมีในเนื้อสัตว์เท่าไหร่นะ
00:11:03 → 00:11:05 ครับบางทีอาจจะมีในสัตว์อาหารทะเลนะครับ
00:11:05 → 00:11:07 แต่ว่าถ้าเราจะกินอาหารทะเลทุกมื้อมันก็
00:11:07 → 00:11:08 ไม่ได้นะครับ
00:11:08 → 00:11:11 แล้วที่สำคัญคือเรื่องของ
00:11:11 → 00:11:14 วิตามินบางอย่างนะครับที่มันจะมีในพืชพวก
00:11:14 → 00:11:16 กากใยพวกนี้มันจะมีวิตามินเยอะกว่าไอ้
00:11:16 → 00:11:18 สัตว์อย่างเดียวถ้าเรากินเพียวๆสัตว์
00:11:18 → 00:11:19 อย่างเดียวเนี่ย
00:11:19 → 00:11:22 หรือกินเครื่องในนะครับเครื่องในพวกนี้
00:11:22 → 00:11:24 มันจะให้วิตามิน a d e และเขตซึ่งอยู่
00:11:24 → 00:11:26 ในตับนะครับแต่นอกเหนือจากนั้นอาจจะไม่
00:11:26 → 00:11:28 ค่อยมีนะครับเช่นพวกวิตามินบีต่างๆพวกนี้
00:11:28 → 00:11:30 จะเจอในพืชมากกว่านะครับท่านก็อาจจะต้อง
00:11:30 → 00:11:32 ไปกินเสริมในช่วงนั้นบ้างนะครับ
00:11:32 → 00:11:36 อ่าแล้วก็บางคนก็บอกว่าเนี่ยมีคนแนะนำบอก
00:11:36 → 00:11:39 ว่าให้กินน้ำเข้าไปเยอะๆผสมกับเกลือชมพู
00:11:39 → 00:11:42 นะครับตรงนี้มีความจริงแค่ไหนนะครับจริงๆ
00:11:42 → 00:11:44 เกลืออะไรก็ได้ครับไม่จำเป็นจะต้องเป็น
00:11:44 → 00:11:45 เกลือชมพูนะครับเกลือชมพูมันก็ไม่ได้มี
00:11:45 → 00:11:48 ความดีแตกต่างมาจากเกลือธรรมดามากขนาด
00:11:48 → 00:11:50 นั้นนะครับอย่างที่ผมเคยเล่าไปในคลิป
00:11:50 → 00:11:52 เรื่องเกี่ยวข้องกับเกลือต่างๆนะครับท่าน
00:11:52 → 00:11:53 ก็ต้องลองกลับไปฝั่งตรงนั้นดูว่าผมอธิบาย
00:11:54 → 00:11:55 อะไรไว้บ้างนะครับเกี่ยวข้องกับเกลือนะ
00:11:55 → 00:11:59 ครับแต่ว่าการทานเกลือก็อย่าไปทานเยอะจน
00:11:59 → 00:12:01 เกินไปเพราะว่าการทานเยอะจนเกินไปก็มี
00:12:01 → 00:12:04 ปัญหานะครับคนที่เขาบอกว่าเออเราควรจะทาน
00:12:04 → 00:12:06 เกลือวันละประมาณ 4-5 กรัมต่อวันอันนี้ก็
00:12:06 → 00:12:09 ไม่รู้เอาหลักฐานมาจากตรงไหนเหมือนกัน
00:12:09 → 00:12:11 เห็นเขาบอกว่ามีหลักฐานแต่ผมไปค้นดูก็ไม่
00:12:11 → 00:12:14 ได้มีนะครับส่วนที่มีก็มักจะเป็นจากกูรู
00:12:14 → 00:12:16 ท่านอื่นๆที่เขาพูดกันมานะครับหรือว่าคน
00:12:16 → 00:12:18 นู้นคนนี้พูดจากการที่เขาเขียนหนังสือมา
00:12:18 → 00:12:22 นะครับแต่ว่าถ้าไปดูในงานวิจัยจริงๆก็ไม่
00:12:22 → 00:12:24 มีแบบนั้นนะครับก็ไม่มีผมก็ไม่แน่ใจ
00:12:24 → 00:12:26 เหมือนกันว่าเขาไปหามาจากแหล่งซึ่งผมไม่
00:12:26 → 00:12:29 ทราบหรือเปล่านะครับแล้วโดยเฉพาะถ้ามัน
00:12:29 → 00:12:30 เป็นแหล่งที่ผมไม่ทราบเนี่ยส่วนใหญ่มัน
00:12:30 → 00:12:33 มักจะเป็นแหล่งที่มันผิดนะครับแล้วคนพวก
00:12:33 → 00:12:35 นี้เวลาเขาเชื่ออะไรสักอย่างเขาก็จะไปหา
00:12:35 → 00:12:37 แต่หลักฐานที่มาสนับสนุนความเชื่อของเขา
00:12:37 → 00:12:39 โดยที่เขาไม่ได้มองหลักฐานด้านอื่นนะครับ
00:12:39 → 00:12:42 หรือบางครั้งก็ไม่ได้พิจารณาให้ดีว่าหลัก
00:12:42 → 00:12:44 ฐานเหล่านั้นมันอาจจะสรุปแบบนั้นไม่ได้นะ
00:12:44 → 00:12:47 ครับทั้งๆที่ตัวเองเนี่ยก็มีความรู้ความ
00:12:47 → 00:12:49 เชี่ยวชาญทางด้านงานวิจัยแต่ว่ากลับไม่
00:12:49 → 00:12:51 ยอมอ่านเพราะว่าเออเห็นมันสรุปตรงกับชั้น
00:12:51 → 00:12:54 แล้วชั้นก็เอาแบบนี้ละกันนะครับงั้นก็ไม่
00:12:54 → 00:12:56 ถูกต้องนะครับอ่า
00:12:56 → 00:13:00 นอกเหนือจากนี้สิ่งที่ถ้าท่านจะทำจริงๆ
00:13:00 → 00:13:02 แล้วโอเคเรื่องของการกินพวกวิตามินเสริม
00:13:02 → 00:13:04 กินน้ำเสริมอะไรพวกนี้ท่านอย่าไปทำต่อ
00:13:04 → 00:13:07 เนื่องกันยาวๆนะครับถ้าจะทำจริงๆลองแบบ
00:13:07 → 00:13:10 นี้ครับทำสัก 6 วันนะครับแล้ววันที่ 7
00:13:10 → 00:13:12 เนี่ยก็กินแบบปกตินะครับกินให้มันมีพืช
00:13:12 → 00:13:14 ผักอะไรพอเข้าไปวันที่ 7 เนี่ยเยอะๆนะ
00:13:14 → 00:13:17 ครับแล้วก็ทำอย่างนี้สลับไปสลับไปเรื่อยๆ
00:13:17 → 00:13:22 ได้นะครับแต่ผมแนะนำว่าอย่าไปทำจนเกินสัก
00:13:22 → 00:13:25 เดือนนึงหรือถ้าท่านรู้สึกว่าน้ำหนักเรา
00:13:25 → 00:13:27 เข้าที่เข้าทางแล้วนะครับร่างกายเราเริ่ม
00:13:27 → 00:13:29 รู้สึกดูดีขึ้นมาแล้วตรงนั้นเนี่ยให้
00:13:29 → 00:13:32 พยายามหันกลับไปเป็นด้านตรงกันข้ามแทนก็
00:13:32 → 00:13:34 คือกินผักกินพืชพวกนี้เพิ่มขึ้นหน่อยนะ
00:13:34 → 00:13:36 ครับเพราะว่าร่างกายเรามันต้องการความ
00:13:36 → 00:13:40 สมดุลนะครับก่อนหน้านั้นเนี่ยที่คนหลายๆ
00:13:40 → 00:13:42 คนบอกว่าเฮ้ยเนี่ยมีคนบอกว่ากินคาร์ดิโอ
00:13:42 → 00:13:44 Diet แล้วโหน้ำหนักลดลงดีเลยหุ่นลีนดูดี
00:13:44 → 00:13:47 นะครับบางคนก็กินมาเป็นเดือนบางคนก็กินมา
00:13:47 → 00:13:49 เป็นปีแล้วไม่เห็นเขาจะเป็นอะไรเลยต้อง
00:13:49 → 00:13:50 บอกอย่างนี้ครับร่างกายของคนเราไม่เหมือน
00:13:50 → 00:13:53 กันนะครับคนๆนึงทำแบบนึงได้ผลไม่ได้แปล
00:13:53 → 00:13:55 ว่าทุกๆคนทำแบบเขาแล้วมันจะได้ผลนะครับ
00:13:55 → 00:13:58 ท่านจะต้องดูร่างกายของท่านเองด้วยนะครับ
00:13:58 → 00:14:00 อย่างบางคนกินเข้าไปกิน Carnival Diet
00:14:00 → 00:14:03 เต็มๆเข้าไปแล้วมันมีปัญหาเช่นคลื่นไส้
00:14:03 → 00:14:06 อาเจียนมึนหัวมากเลยนะครับรู้สึกไม่มีแรง
00:14:06 → 00:14:09 ก็มีคนเป็นแบบนั้นเช่นกันท้องผูกบางคน
00:14:09 → 00:14:11 ท้องเสียก็มีแบบนั้นเช่นกันนะครับไม่ได้
00:14:11 → 00:14:13 แปลว่าทุกคนจะปลอดภัยหรือบางคนกิน
00:14:13 → 00:14:16 คาร์ดิโอ Diet นานๆนะครับแล้วก็หวังว่า
00:14:16 → 00:14:19 เออเราจะได้พวกไขมันดีจากสัตว์เข้าไปนะ
00:14:19 → 00:14:22 ครับจากแซลมอนจากปลาจากเนื้อหรือจากอะไร
00:14:22 → 00:14:24 ก็แล้วแต่ที่เรากินเข้าไปมันน่าจะดีแล้ว
00:14:24 → 00:14:26 ก็ไปตรวจผมว่าเออไขมันเรามันสูงแต่มีคน
00:14:26 → 00:14:29 บอกว่าเออไขมันสูง ldl ของเราสูงไม่เป็น
00:14:29 → 00:14:32 อะไรหรอกนะครับก็ไม่จริงนะครับเพราะว่า
00:14:32 → 00:14:34 มันก็มีคนที่เป็นอะไรมาแล้วนะครับเป็นโรค
00:14:34 → 00:14:36 หัวใจกำเริบขึ้นมานะครับจากการกิน
00:14:36 → 00:14:38 คาร์บูเรเตอร์นั้นๆมันก็มีตัวอย่างแบบนี้
00:14:38 → 00:14:41 เหมือนกันนะครับงั้นมีคนจะบอกว่าเฮ้ยนี่
00:14:41 → 00:14:43 ผมยกตัวอย่างมาแค่ 1 ตัวอย่างหรือเปล่า
00:14:43 → 00:14:45 ต้องบอกว่าครับว่าตัวท่านเองก็ยกตัวอย่าง
00:14:45 → 00:14:47 แบบนี้มันเหมือนกันนะครับบอกว่าเอ้ยคน
00:14:47 → 00:14:49 นั้นเขากินแล้วเบาหวานหายคนนี้เขากินแล้ว
00:14:49 → 00:14:52 นั่นไงผมก็ยกตัวอย่างบ้างว่านี่คนที่กิน
00:14:52 → 00:14:54 แล้วเขามีปัญหาก็มีจริงๆนะครับส่วนถ้าจะ
00:14:54 → 00:14:57 เอางานวิจัยมาว่ากันนั้นเราก็ต้องไปดูดู
00:14:57 → 00:14:58 เหมือนที่ว่างานวิจัยออนไลน์ของท่านที่
00:14:58 → 00:15:02 เอามาบ่งบอกว่ามันมีข้อดีดังนั้นเราก็
00:15:02 → 00:15:04 ต้องไปดูตรงนี้นะครับงั้นถ้าเราจะกิน
00:15:04 → 00:15:06 คาร์ดิโอไดเอทจริงๆนะครับเพื่อที่จะลดน้ำ
00:15:06 → 00:15:09 หนักลดหน้าท้องของเราเพื่อให้เราดูแข็ง
00:15:09 → 00:15:11 แรงมากขึ้นควบคุมเบาหวานได้ดีนะครับพวก
00:15:11 → 00:15:14 นี้เนี่ยก็แนะนำว่าเรากินไป 6 วันแล้วก็
00:15:14 → 00:15:17 ปล่อยสักวันหนึ่งนะครับกินพืชผักอะไรให้
00:15:17 → 00:15:19 เยอะๆบ้างเพื่อที่เราจะได้เสริมร่างกาย
00:15:19 → 00:15:21 ให้มีความสมบูรณ์เพิ่มขึ้นนะครับอย่าทำ
00:15:21 → 00:15:24 ให้มันเกินเดือนนึงแล้วก็ถ้าทานไปแล้วนะ
00:15:24 → 00:15:26 ครับเกิดปัญหาเยอะๆอันนี้ท่านจำเป็นจะ
00:15:26 → 00:15:28 ต้องหยุดทานนะครับถ้าทานไปแล้วรู้สึกดี
00:15:28 → 00:15:31 ร่างกายเริ่มเที่ยวที่เข้าทางพวกนี้เราก็
00:15:31 → 00:15:33 ควรจะหยุดทานด้วยนะครับเพราะว่าถ้าเราทำ
00:15:33 → 00:15:36 ต่อเนื่องไประยะยาวอย่างที่ผมบอกผลระยะ
00:15:36 → 00:15:39 ยาวเนี่ยเช่นโรคหัวใจต่างๆมันมีได้นะครับ
00:15:39 → 00:15:43 โรคมะเร็งลำไส้มีได้นะครับอ่าพวกเนี้ยโรค
00:15:43 → 00:15:45 ต่อมลูกหมากโตมะเร็งต่อมลูกหมากก็มีได้
00:15:45 → 00:15:49 เช่นกันโรคนิ่วโรคเกาต์นะครับหรือบางคนก็
00:15:49 → 00:15:51 มีการแก่ก่อนวัยเพราะว่ามีการอักเสบจาก
00:15:51 → 00:15:54 การกินเนื้อแดงเข้าไปมากๆนะครับพวกเนี้ย
00:15:54 → 00:15:56 มันมีความเกี่ยวข้องกันหมดนะครับ
00:15:56 → 00:15:59 อาหารของมนุษย์มันควรจะเป็นอาหารที่สมดุล
00:15:59 → 00:16:02 เพราะว่าถ้าเราไปยึดบรรพบุรุษของเราตั้ง
00:16:02 → 00:16:04 แต่สมัยก่อนที่เขาล่าสัตว์ท่านรู้ได้ยัง
00:16:04 → 00:16:06 ไงว่าเขาล่ากษัตริย์
00:16:06 → 00:16:09 นะครับสมัยก่อนเนื้อสัตว์มันไม่ได้ล่ากัน
00:16:09 → 00:16:12 ง่ายๆนะครับแน่นอนว่าถ้ามนุษย์ล่าสัตว์
00:16:12 → 00:16:14 ไม่ได้ก็ต้องกินอะไรครับก็ต้องไปเก็บพวก
00:16:14 → 00:16:16 ผักต่างๆที่มันงอกมาตามที่ต่างๆพืชผัก
00:16:16 → 00:16:19 ผลไม้เก็บกินอยู่แล้วครับคนเราไม่ได้แบบ
00:16:19 → 00:16:21 จะล่าสัตว์อย่างเดียวแล้วไม่เก็บผลไม้ถูก
00:16:21 → 00:16:23 ไหมครับดังนั้นคนเราเนี่ยแต่แรกแหละถ้า
00:16:23 → 00:16:25 เราย้อนกลับไปคิดดูจริงๆนะก็น่าจะมีการ
00:16:25 → 00:16:28 รับประทานทั้งเนื้อสัตว์แล้วก็ผักผลไม้นะ
00:16:28 → 00:16:31 ครับต่อมาเมื่อมีการเพาะปลูกก็อาจจะได้
00:16:31 → 00:16:33 ผักผลไม้เพิ่มขึ้นนะครับแล้วคนเราเนี่ย
00:16:33 → 00:16:37 วิวัฒนาการมาจากนั้นน่ะครับเราผ่านจาก
00:16:37 → 00:16:40 ช่วงล่าสัตว์มาช่วงเพาะปลูกนะครับช่วง
00:16:40 → 00:16:42 แล้วก็ช่วงอุตสาหกรรมที่มีทั้งคู่ให้เรา
00:16:42 → 00:16:44 เลือกกินนะครับก็แปลว่าถ้าเราเคยกินแบบ
00:16:44 → 00:16:46 เนี้ยมาทั้งคู่นะครับคนเราเนี่ยควรจะมี
00:16:46 → 00:16:48 ความสมดุลทั้ง 2 แบบซึ่งเราเรียกแบบนี้
00:16:48 → 00:16:51 ว่าอ้อมนีวอนนะครับคือกินทั้งทั้งพืชผัก
00:16:51 → 00:16:54 แล้วก็กินทางเนื้อสัตว์นะครับทั้ง 2
00:16:54 → 00:16:56 อย่างนี้ทำให้สมดุลแล้วมันก็จะดีนะครับ
00:16:56 → 00:16:59 สำหรับคนที่บอกว่าสมดุลอยู่ตรงไหนนะครับ
00:16:59 → 00:17:02 แล้วทำไมกินไอ้คาร์ดิโอไดเอทหรือกิน keto
00:17:02 → 00:17:05 กิน cario ต่างๆแล้วน้ำหนักมันลดลงนะครับ
00:17:05 → 00:17:08 ทั้งๆที่มันดูเหมือนจะไม่น่าสมดุลต้องบอก
00:17:08 → 00:17:11 แบบนี้ครับก่อนหน้านั้นเนี่ยที่ท่านมีโรค
00:17:11 → 00:17:13 ประจำตัวเยอะๆนะครับที่ท่านน้ำหนักเยอะ
00:17:13 → 00:17:16 พวกนี้มันเป็นเพราะว่าท่านกินไม่สมดุล
00:17:16 → 00:17:18 ตั้งแต่แรกอยู่แล้วครับท่านอาจจะกิน
00:17:18 → 00:17:20 คาร์โบไฮเดรตเยอะกินน้ำตาลเยอะพวกนี้นะ
00:17:20 → 00:17:22 ครับมันก็เลยทำให้ท่านมีลักษณะแบบนั้น
00:17:22 → 00:17:24 ท่านไม่ออกกำลังกายก็มีลักษณะแบบนั้นมี
00:17:24 → 00:17:27 โรคประจำตัวนะครับแล้วเวลาไปหาหมอเนี่ย
00:17:27 → 00:17:29 หมอเขาจะบอกว่าอะไรท่านจะต้องพยายามกิน
00:17:29 → 00:17:32 พืชผักผลไม้เยอะหน่อยนะพยายามลดพวกกลุ่ม
00:17:32 → 00:17:35 คาร์โบไฮเดรตลงออกกำลังกายนะครับแล้วมัน
00:17:35 → 00:17:39 ก็จะดีขึ้นถามว่าท่านทำหรือเปล่านะครับก็
00:17:39 → 00:17:41 มีบางคนทำบางคนไม่ทำส่วนคนที่ไม่ทำเนี่ย
00:17:41 → 00:17:44 ก็เวลาไปหาหมอทีไรก็รู้สึกมันแย่ลงทุกที
00:17:44 → 00:17:47 น้ำหนักก็เพิ่มขึ้นนะครับไขมันต่างๆมันก็
00:17:47 → 00:17:50 ดูไม่หายไปไหนเลยเบาหวานก็เป็นทั้งๆที่
00:17:50 → 00:17:52 เรากินแต่ผักกินแต่สลัดแล้วทำไมมันยัง
00:17:52 → 00:17:55 เป็นต้องบอกครับว่าเวลาคนที่กินแต่ผักกิน
00:17:55 → 00:17:57 แต่สลัดมันก็กินพวกน้ำสลัดเข้าไปด้วยซึ่ง
00:17:57 → 00:17:59 มีแคลอรี่สูงนะครับบางครั้งก็กินผลไม้ที่
00:17:59 → 00:18:01 มันมีน้ำตาลสูงอ่ะกินสับปะรดเข้าไปเยอะๆ
00:18:01 → 00:18:03 อย่างเงี้ยนะครับกินทุเรียนอะไรอย่าง
00:18:03 → 00:18:04 เงี้ยนะครับซึ่งมันมีคาร์โบไฮเดรตสูงพวก
00:18:04 → 00:18:07 นั้นก็จะมีปัญหาได้นะฮะแต่ถ้าเราไปหันไป
00:18:07 → 00:18:10 กินคาร์ดิโอ cardivor มันจะจำกัดของพวก
00:18:10 → 00:18:11 นี้อยู่แล้วจำกัดคาร์โบไฮเดรตอย่างที่ผม
00:18:11 → 00:18:14 บอกนะครับดังนั้นมันไม่ได้แปลว่าตัวเนื้อ
00:18:14 → 00:18:16 สัตว์เครื่องในหรือว่าผลิตภัณฑ์จากสัตว์
00:18:16 → 00:18:19 เนี่ยมันทำให้เราแข็งแรงนะครับในตัวมัน
00:18:19 → 00:18:22 เองมันก็เป็นการจำกัดปริมาณคาร์โบไฮเดรต
00:18:22 → 00:18:24 ให้เราอยู่แล้วนะครับดังนั้นถ้าท่านจะดี
00:18:24 → 00:18:26 ขึ้นก็ไม่ได้แปลกอะไรเพราะว่าก่อนหน้า
00:18:26 → 00:18:28 นั้นท่านกินของพวกนั้นเยอะเกินไปถ้าท่าน
00:18:28 → 00:18:30 หยุดกินมันก็ต้องดีขึ้นอยู่แล้วครับแต่
00:18:30 → 00:18:32 คาร์โบไฮเดรตมันก็สำคัญต่อร่างกายของท่าน
00:18:33 → 00:18:35 เช่นกันนะครับเมื่อไหร่ก็ตามที่ท่านเข้า
00:18:35 → 00:18:36 สู่จุดสมดุลก็คือน้ำหนักทุกอย่างปกติและ
00:18:36 → 00:18:39 เบาหวานอะไรพวกนั้นพวกเนี้ยควบคุมได้แล้ว
00:18:39 → 00:18:42 ถ้าท่านยังขืนทำอะไรที่มันผิดปกติกิน
00:18:42 → 00:18:45 คาร์ดิโอได้ต่อไปเรื่อยๆเนี่ยนะครับมันก็
00:18:45 → 00:18:47 จะเริ่มเข้าสู่อีกภาวะนึงก็คือภาวะไม่
00:18:47 → 00:18:52 สมดุลอีกแล้วครับนะฮะดังนั้นเราจะต้องดึง
00:18:52 → 00:18:54 กลับมาให้อยู่ในจุดสมดุลก็คือฐานให้มัน
00:18:54 → 00:18:55 หลากหลายทานให้เหมาะสมดุลนะครับดังนั้น
00:18:55 → 00:18:58 นี่คือเป็นสิ่งที่อยากจะมาทำความเข้าใจ
00:18:58 → 00:19:01 ให้ฟังนะครับเพราะว่าเดี๋ยวนี้ความรู้ใน
00:19:01 → 00:19:03 อินเทอร์เน็ตมันค่อนข้างที่จะหลากหลายนะ
00:19:03 → 00:19:06 ครับสายสุขภาพทั้งหลายแหล่ที่ไม่ใช่คุณ
00:19:06 → 00:19:07 หมอนะครับไม่ได้เรียนมาทางนี้ไม่ได้เป็น
00:19:07 → 00:19:11 นักโภชนาการก็พยายามจะออกมาดูว่าเอออะไร
00:19:11 → 00:19:13 ที่เราสามารถเอามาแนะนำได้นะครับซึ่งมัน
00:19:13 → 00:19:15 เป็นสิ่งที่ดีแต่บางครั้งเนี่ยการเข้าใจ
00:19:15 → 00:19:18 แค่มุมเดียวไม่เข้าใจร่างกายของคนเราทั้ง
00:19:18 → 00:19:20 หมดเนี่ยมันทำให้เราแนะนำเขาไม่ถูกต้องนะ
00:19:20 → 00:19:23 ครับแล้วพอมันเกิดปัญหาขึ้นมาเนี่ยเขาทำ
00:19:23 → 00:19:27 ยังไงครับเขาก็ไปหาหมอถูกไหมครับเข้ามาหา
00:19:27 → 00:19:30 ท่านหรือเปล่าก็ไม่มีนะครับหรือบางครั้ง
00:19:30 → 00:19:34 อาจจะมีการสอบถามไปทาง inbox สอบถามไปทาง
00:19:34 → 00:19:37 คลิปหรือท็อปถามไปทางอะไรของ influencer
00:19:37 → 00:19:40 ท่านต่างๆหรือกูรูท่านต่างๆเนี่ยส่วนมาก
00:19:40 → 00:19:54 ได้คำตอบหรือเปล่าครับอ่า
00:19:54 → 00:19:56 สุดท้ายเขาไม่ไหวจริงๆเขาต้องไปไหนเขาก็
00:19:56 → 00:19:59 ต้องไปหาหมออยู่ดีนะครับแล้วพอหมอก็ต้อง
00:19:59 → 00:20:01 มานั่งอธิบายเรื่องพวกนี้อยู่ดีนะครับมัน
00:20:01 → 00:20:04 ก็ไม่ได้ไปไหนสักเท่าไหร่ดังนั้นถ้าเราจะ
00:20:04 → 00:20:06 ให้ความรู้ในด้านสุขภาพเนี่ยเราควรจะ
00:20:06 → 00:20:09 ศึกษาให้มันครบวงจรซะก่อนนะครับแล้วถ้ามี
00:20:09 → 00:20:11 คนท้วงติงว่าเออความรู้ที่เราให้เนี่ยมัน
00:20:11 → 00:20:13 อาจจะมีขาดตกบกพร่องไปบ้างนะครับโดยเฉพาะ
00:20:13 → 00:20:17 ถ้ามันไม่ใช่สายของเรานะครับถ้าเราเป็น
00:20:17 → 00:20:20 อาจจะเป็นนักกฎหมายและอยากจะมาพูดเรื่อง
00:20:20 → 00:20:23 ของอาหารอย่างเงี้ยนะครับเอ้ออาหารมันไม่
00:20:23 → 00:20:25 ใช่ทางของเราตอนเราเรียนกฎหมายไม่ได้สอน
00:20:25 → 00:20:27 เรื่องการกินคาร์ดิโอไดเอทนะครับไม่ได้
00:20:27 → 00:20:30 สอนการกินคีโตแล้วเราอยู่ๆบอกว่าเราศึกษา
00:20:30 → 00:20:32 เองแล้วอยากจะมาพูดนะครับมันก็ดีครับที่
00:20:32 → 00:20:35 ท่านศึกษาแล้วก็อยากจะแบ่งปันความรู้นะ
00:20:35 → 00:20:37 ครับแต่เนื่องจากว่าท่านไม่ได้มีพื้นฐาน
00:20:37 → 00:20:39 มาตั้งแต่แรกดังนั้นบางครั้งเนี่ยมันอาจ
00:20:39 → 00:20:42 จะผิดพลาดได้นะครับก็จะต้องรับฟังเราก็จะ
00:20:42 → 00:20:44 ต้องปรับปรุงในสิ่งที่ท่านต้องการพูดแบบ
00:20:44 → 00:20:47 นี้ประชาชนก็จะได้ประโยชน์มากที่สุดนะ
00:20:47 → 00:20:49 ครับส่วนของผมผมก็จะพยายามจะพูดให้มัน
00:20:49 → 00:20:51 เป็นกลางที่สุดนะครับอะไรที่เท่าที่ผม
00:20:51 → 00:20:54 วิเคราะห์ได้ในมุมมองทางการแพทย์นะครับ
00:20:54 → 00:20:56 เราก็จะเอาตรงนั้นมาพูดกันนะครับเพราะว่า
00:20:56 → 00:20:58 แน่นอนปัจจุบันแพทย์ก็โดนโจมตีค่อนข้าง
00:20:58 → 00:21:00 บ่อยนะครับบอกว่าเออเชื่อหมอแล้วมันเป็น
00:21:00 → 00:21:02 แบบนั้นแบบนี้เชื่อหมอแล้วเบาหวานไม่เห็น
00:21:02 → 00:21:05 ดีขึ้นไปทีไรก็เพิ่มยาทุกทีเลยนะครับหมอ
00:21:05 → 00:21:07 บอกให้กินผักกินอะไรเยอะๆแต่พอมากินเนื้อ
00:21:07 → 00:21:09 แล้วให้มันดีขึ้นอย่างนี้ไปเชื่อหมอได้
00:21:09 → 00:21:11 ยังไงก็อย่างที่ผมบอกไงครับว่ากินเนื้อ
00:21:11 → 00:21:13 แล้วมันดีขึ้นได้ยังไงนะครับแล้วนานๆไป
00:21:13 → 00:21:16 มันมีปัญหาได้ยังไงนะครับแล้วปัญหาพวกนี้
00:21:16 → 00:21:19 เอาเข้าจริงๆอ่ะกูรูเคยบอกหรือเปล่า
00:21:19 → 00:21:22 influencer ต่างๆเคยบอกหรือเปล่าผมก็ไม่
00:21:22 → 00:21:24 เห็นมีคนไหนที่เขาบอกละเอียดเยอะแยะขนาด
00:21:24 → 00:21:25 เท่าไหร่เลยนะครับก็เพราะคนเขากินน้องมี
00:21:25 → 00:21:28 ปัญหาก็ก็ไม่ได้โทษ influencer แต่กลับมา
00:21:28 → 00:21:31 โทษหมอที่เอ่อไม่ดูแลดีอะไรอย่างเงี้ยนะ
00:21:31 → 00:21:33 ครับก็วันนี้ก็ประมาณเท่านี้นะครับดัง
00:21:33 → 00:21:35 นั้นถ้าใครจะกินคาร์ดิโอไดเอทก็ดูดีๆละ
00:21:35 → 00:21:38 กันนะครับอย่าไปกินจนเยอะเกินไปนะครับกิน
00:21:38 → 00:21:40 ให้มันมีผ่อนคลายบ้างเราก็สุดท้ายการกิน
00:21:40 → 00:21:42 แบบสมดุลก็ยังดีที่สุดอยู่ดีในปัจจุบัน
00:21:42 → 00:21:44 นี้นะครับโอเควันนี้เท่านี้นะครับขอบคุณ
00:21:44 → 00:21:47 มากครับสวัสดีครับ