00:00:06 → 00:00:11 [เพลง]

00:00:11 → 00:00:14 รายการที่จะมาพูดคุยเรื่องราวของสุขภาพ

00:00:14 → 00:00:17 และแบ่งปันประสบการณ์จากแพทย์ผู้เชี่ยว

00:00:17 → 00:00:20 ชาญในสาขาต่างๆของคณะแพทยศาสตร์

00:00:20 → 00:00:23 มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

00:00:23 → 00:00:29 เพราะสุขภาพที่ดีเริ่มได้จากตัวเรา

00:00:29 → 00:00:33 สวัสดีค่ะขอต้อนรับทุกท่านเข้าสู่ฟัง for

00:00:33 → 00:00:35 Health podcast รายการที่จะมาพูดคุย

00:00:36 → 00:00:38 เรื่องราวของสุขภาพนะคะแล้วก็แบ่งปัน

00:00:38 → 00:00:40 ประสบการณ์จากแพทย์เฉพาะทางในสาขาต่างๆ

00:00:40 → 00:00:43 ของคณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ค่ะ

00:00:43 → 00:00:47 อยู่กับดิฉันฟ้าธัญลักษณ์สุดสวยนัก

00:00:47 → 00:00:49 ประชาสัมพันธ์คณะแพทย์ศาสตร์มหาวิทยาลัย

00:00:49 → 00:00:52 เชียงใหม่ podcast นะคะก็เป็นอีกหนึ่ง

00:00:52 → 00:00:55 ช่องทางที่คณะแพทย์มชจะทำขึ้นเพื่อให้ผู้

00:00:55 → 00:00:58 ที่ชื่นชอบในการฟังและรักในการดูแลสุขภาพ

00:00:58 → 00:01:02 นะคะได้เข้าดึงข้อมูลที่ถูกต้องในการดูแล

00:01:02 → 00:01:05 ตัวเองและคนที่คุณรักค่ะเรื่องที่จะมาพูด

00:01:05 → 00:01:07 คุยกันในวันนี้นะคะชื่อว่าผู้ฟังหลายๆคน

00:01:07 → 00:01:11 นะคะคงเคยได้ยินว่าคนที่เป็นโรคเกาต์ไม่

00:01:11 → 00:01:15 ควรกินไก่ค่ะเพราะจะทำให้เก๊าแย่ลงอาการ

00:01:15 → 00:01:18 ปวดตามข้อต่างๆก็จะเพิ่มมากขึ้นแล้วความ

00:01:18 → 00:01:21 จริงเนี่ยคนที่เป็นโรคเก๊าท์สามารถกินไก่

00:01:21 → 00:01:24 ได้ไหมแล้วอาหารประเภทไหนล่ะที่เขาควรจะ

00:01:24 → 00:01:28 หลีกเลี่ยงไม่ให้โรคกำเริบนะคะดิฉันจึง

00:01:28 → 00:01:31 หยิบยกเอาประเด็นนี้นะคะมาพูดคุยกับนัก

00:01:31 → 00:01:34 โภชนาการค่ะเราจะได้มาทำความรู้จักนะคะ

00:01:34 → 00:01:37 ว่าเป็นโรคเกาต์เนี่ยกินสัตว์ปีกกินไก่

00:01:37 → 00:01:40 บ่อยๆทำให้โรคเก๊าท์กำเริบได้จริงไหมแล้ว

00:01:40 → 00:01:43 ผู้ป่วยโรคเก๊าท์เองควรงดอาหารหรือกิน

00:01:43 → 00:01:46 อาหารใดได้บ้างซึ่งผู้ที่จะมาพูดคุยกับ

00:01:46 → 00:01:49 เรานะคะท่านก็พร้อมจะให้ข้อมูลกับผู้ฟัง

00:01:49 → 00:01:53 ทุกท่านแล้วค่ะขอต้อนรับคุณนฤมิตบ้านคุ้ม

00:01:53 → 00:01:57 นักโภชนาการงานโภชนาการโรงพยาบาลมหาราช

00:01:57 → 00:02:00 นครเชียงใหม่คณะคณิตศาสตร์มหาวิทยาลัย

00:02:00 → 00:02:05 เชียงใหม่ค่ะสวัสดีค่ะสวัสดีครับพบกันอีก

00:02:05 → 00:02:07 ครั้งนะคะวันนี้เป็นโชคดีค่ะที่ได้มาพูด

00:02:07 → 00:02:11 คุยกันถึงเรื่องของโรคเก๊าท์ค่ะคุณเคนคะ

00:02:11 → 00:02:14 ก่อนอื่นอยากจะรู้ค่ะโรคเก๊าท์เนี่ยคือ

00:02:14 → 00:02:18 อะไรคะสำหรับโรคเก๊าท์นะครับก็เกิดจากการ

00:02:18 → 00:02:21 ที่ร่างกายของเรานะครับมีระดับกรดยูริคใน

00:02:21 → 00:02:25 เลือดสูงและมีการตกตะกอนอยู่ตามข้อต่างๆ

00:02:25 → 00:02:28 ทำให้เกิดข้ออักเสบขึ้นได้ครับและในขณะ

00:02:28 → 00:02:31 เดียวกันถ้ามีการตกตะกอนในไตก็จะทำให้

00:02:31 → 00:02:34 เกิดเป็นนิ่วหรือทำให้เกิดไตวายได้ครับ

00:02:34 → 00:02:38 ค่ะแล้วสำหรับอาการของผู้ป่วยโรคเก๊าท์จะ

00:02:38 → 00:02:41 มีอาการเป็นยังไงบ้างคะก็สามารถสังเกตได้

00:02:41 → 00:02:44 ง่ายๆเลยนะครับตั้งแต่ข้อ 1 ก็คือมีการ

00:02:45 → 00:02:49 อักเสบบวมแดงที่หลังข้อเท้าข้อนิ้วเท้า

00:02:49 → 00:02:52 ข้อเข่าหรือข้ออื่นๆได้ครับอาการที่ 2

00:02:52 → 00:02:55 เนาะอาจจะมีครั่นเนื้อครั่นตัวนะครับรวม

00:02:55 → 00:02:57 ไปถึงมีไข้ซึ่งอาการเหล่านี้นะครับสามารถ

00:02:57 → 00:02:59 เป็นๆหายๆได้ครับ

00:02:59 → 00:03:02 ค่ะแล้วสำหรับอาการที่แสดงเนี่ยมันเหมือน

00:03:02 → 00:03:06 เห็นจากลักษณะภายนอกเลยใช่ไหมคะคุณเคนคือ

00:03:06 → 00:03:08 มันเป็นจุดเริ่มต้นที่เราสังเกตได้เลยว่า

00:03:08 → 00:03:11 มีอาการบวมแดงตามข้อหรือว่าเป็นมาระยะ

00:03:11 → 00:03:13 หนึ่งแล้วถึงจะมาเห็นนะคะจริงๆแล้วนะครับ

00:03:13 → 00:03:16 ถ้าอาการที่ได้กล่าวไปข้างต้นนะครับถ้า

00:03:16 → 00:03:19 ไม่ได้รับการรักษาอาการอักเสบเมื่อมีความ

00:03:19 → 00:03:22 ถี่เพิ่มมากขึ้นไปนานๆขึ้นนะครับก็จะมี

00:03:22 → 00:03:26 การอักเสบเนี่ยในหลายๆข้อพร้อมๆกันจนกลาย

00:03:26 → 00:03:29 เป็นการอักเสบที่เรื้อรังและจนทำให้เกิด

00:03:29 → 00:03:33 มีข้อที่มันผิดรูปยานถาวรได้ครับคุณฟ้า

00:03:33 → 00:03:37 ค่ะคุณเคนคะพอเราทราบถึงลักษณะอาการแล้ว

00:03:37 → 00:03:40 ค่ะแล้วเราอยากจะรู้ว่าในปัจจัยอ่ะปัจจัย

00:03:40 → 00:03:43 อะไรที่ส่งผลให้คนๆนึงเป็นโรคเกาต์ได้ค่ะ

00:03:43 → 00:03:46 ก็สำหรับปัจจัยที่ส่งผลให้เกิดโรคเกาต์นะ

00:03:46 → 00:03:49 ครับ 1 เลยก็คือการดื่มเครื่องดื่มที่มี

00:03:49 → 00:03:52 แอลกอฮอล์อย่างหนักอ่ะครับสำหรับข้อ 2 นะ

00:03:52 → 00:03:55 ครับคือการบริโภคอาหารที่มีสารพิวรีนสูง

00:03:55 → 00:03:58 มากเกินไปยกตัวอย่างเช่นกลุ่มของสัตว์ปีก

00:03:58 → 00:04:02 นะครับเครื่องในบาทยอดผักกุ้งเคยหรือกะปิ

00:04:02 → 00:04:06 ปลาซาดีนรวมไปถึงหอยแมลงภู่เนอะถัดมานะ

00:04:06 → 00:04:10 ครับข้อ 3 ก็คือการดื่มเครื่องดื่มที่

00:04:10 → 00:04:13 เป็นน้ำอัดลมเกินปริมาณที่พอดีต่อวันครับ

00:04:13 → 00:04:17 ซึ่งจากการศึกษานะครับเพราะว่าการบริโภค

00:04:17 → 00:04:19 หรือว่าดื่มน้ำอัดลมประเภทที่มีน้ำตาล

00:04:19 → 00:04:25 ฟรุกโตสสูงมากเกินไปก็จะมีการสะสมของกรด

00:04:25 → 00:04:29 ยูริกในเลือดสูงได้ถึง 85% นอกจากนี้นะ

00:04:29 → 00:04:33 ครับยังรวมไปถึงการดื่มพวกน้ำผลไม้ไม่ว่า

00:04:33 → 00:04:37 จะเป็นน้ำผลไม้ 40% 60% หรือน้ำผลไม้

00:04:37 → 00:04:41 100% นะครับที่มีปริมาณของน้ำตาลฟรุกโตส

00:04:41 → 00:04:44 มากเกินไปครับก็จะส่งผลทำให้ระดับกรด

00:04:44 → 00:04:48 ยูริกในเลือดเพิ่มสูงขึ้นได้

00:04:48 → 00:04:51 ถัดมาครับก็จะเป็นในเรื่องของการได้รับ

00:04:51 → 00:04:55 อาหารที่มีวิตามินซีไม่เพียงพอต่อความ

00:04:55 → 00:04:59 ต้องการของร่างกายครับค่ะถัดมาครับก็ใน

00:04:59 → 00:05:01 เรื่องของของอาการเจ็บป่วยครับที่มีผลต่อ

00:05:01 → 00:05:03 การเปลี่ยนแปลงเซลล์ในร่างกายอย่างรวด

00:05:03 → 00:05:06 เร็วยกตัวอย่างเช่นกลุ่มของโรคสะเก็ดเงิน

00:05:06 → 00:05:10 ขั้นรุนแรงหรือความผิดปกติทางเลือดบาง

00:05:10 → 00:05:13 อย่างครับส่วนข้อสุดท้ายเลยนะครับเนาะก็

00:05:13 → 00:05:15 คือโรคประจําตัวหรือสภาวะของร่างกายบาง

00:05:15 → 00:05:18 อย่างเช่นภาวะน้ำหนักตัวเกินหรือโรคอ้วน

00:05:18 → 00:05:22 รวมไปถึงโรคความดันโลหิตสูงภาวะไขมันใน

00:05:22 → 00:05:26 เลือดสูงรวมไปถึงโรคเบาหวานนะครับคุณเคน

00:05:26 → 00:05:29 คะที่เราคุยมาเราได้รู้จักถึงโรคเก๊าท์ก็

00:05:29 → 00:05:32 คืออะไรลักษณะอาการเป็นยังไงรวมถึงปัจจัย

00:05:32 → 00:05:35 เสี่ยงที่ทำให้บุคคลคนหนึ่งป่วยเป็นโรค

00:05:35 → 00:05:38 นี้สำหรับคนทั่วไปที่ไม่ได้ป่วยเป็นโรค

00:05:38 → 00:05:42 นี้ก็จะได้ยินเขาบอกว่าอย่ากินไก่เยอะนะ

00:05:42 → 00:05:45 เพราะไก่เนี่ยทำให้เป็นโรคเก๊าท์สำหรับคน

00:05:45 → 00:05:48 ที่เป็นโรคเกาต์แล้วแนะนำว่าไม่ให้กินไก่

00:05:48 → 00:05:51 เลยตรงนี้ค่ะในมุมของนักโภชนาการการที่

00:05:51 → 00:05:55 กินไก่เนี่ยส่งผลยังไงบ้างคะจริงๆแล้วนะ

00:05:55 → 00:05:57 ครับเนาะในมุมของนักโภชนาการหรือน่าจะบอก

00:05:57 → 00:06:00 อาหารของเรานะครับเรามองว่าว่าอาหารกลุ่ม

00:06:00 → 00:06:03 ที่เป็นพิวรีนสูงเนอะจริงๆแล้วไม่ใช่

00:06:03 → 00:06:06 เนื้อไก่นะครับส่วนใหญ่แล้วจะเป็นพวก

00:06:06 → 00:06:09 เครื่องในสัตว์ครับ

00:06:09 → 00:06:12 สำหรับเนื้อเนื้อไก่เนาะหรือว่าเนื้อเป็ด

00:06:12 → 00:06:14 เนาะที่เป็นสัตว์ปีกนะครับจริงๆแล้วจัด

00:06:14 → 00:06:17 เป็นอาหารที่มีพิวรีนขนาดปานกลางครับ

00:06:17 → 00:06:20 ในปริมาณบริโภคที่เรารับประทาน 100 กรัม

00:06:20 → 00:06:24 ที่เท่ากันนะครับ 100 กรัมนี่คือปริมาณ

00:06:24 → 00:06:28 ที่เหมาะสมต่อมื้อใช่ไหมคะซึ่งในเนื้อไก่

00:06:28 → 00:06:30 หรือว่าเนื้อเป็ดนะครับเนาะก็จะมีปริมาณ

00:06:30 → 00:06:34 พิวรีนอยู่ในปริมาณปานกลางเนาะซึ่งเมื่อ

00:06:34 → 00:06:37 เราบริโภคอาหารที่มีพิวรีนระดับปานกลาง

00:06:37 → 00:06:39 หรือว่าระดับสูงเข้าไปแล้วเนี่ยมันก็จะ

00:06:39 → 00:06:42 ขึ้นอยู่ปัจจัยของระบบการเผาผลาญของร่าง

00:06:42 → 00:06:45 กายครับซึ่งแต่ละคนเนาะก็จะมีพันธุกรรม

00:06:45 → 00:06:48 หรือว่า genetic ไม่เหมือนกันยกตัวอย่าง

00:06:48 → 00:06:52 เนาะคุณฟ้ารับประทานเนื้อไก่ 100 กรัม

00:06:52 → 00:06:55 เข้าไปร่างกายอาจจะเผาผลาญแล้วก็ไปสร้าง

00:06:55 → 00:06:58 เป็นกรดยูริกได้ 100% แต่ในขณะที่คนอื่น

00:06:58 → 00:07:03 บริโลกเนื้อไก่ 100 กรัมเท่ากันแต่

00:07:03 → 00:07:05 พันธุกรรมของร่างกายระบบการเผาผลาญของ

00:07:05 → 00:07:08 ร่างกายกับไม่สามารถที่จะสร้างเป็นกรด

00:07:09 → 00:07:13 ยูริกได้ทั้ง 100% พอเข้าใจไหมครับเพราะ

00:07:13 → 00:07:16 ฉะนั้นแต่ละบุคคลก็ต่างกันออกไปนะคะแต่

00:07:16 → 00:07:19 สิ่งที่เราสามารถจำกัดได้ก็คือการรับ

00:07:19 → 00:07:22 ประทานเข้าไปนั่นเองค่ะงั้นข้อที่ต้อง

00:07:22 → 00:07:25 แย้งแรกที่มีความสงสัยเกิดขึ้นก็คือ

00:07:25 → 00:07:28 เรื่องของใครที่ไม่เจ็บไม่อยากเจ็บป่วย

00:07:28 → 00:07:31 ด้วยโรคนี้ห้ามกินไก่ก็อาจจะไม่ใช่ความ

00:07:31 → 00:07:34 จริงครับอาจจะไม่ใช่ความจริงทั้งหมดใช่

00:07:34 → 00:07:38 ค่ะเพราะว่าจริงๆแล้วการที่คนคนนึงเนี่ย

00:07:38 → 00:07:41 รับประทานอาหารให้อยู่ในความพอดีไม่มาก

00:07:41 → 00:07:43 เกินไปเนี่ยโรคภัยก็ไม่น่าจะอยู่ใกล้ตัว

00:07:43 → 00:07:47 อยู่แล้วนะคะมาถึงตรงนี้พอจะทำความเข้าใจ

00:07:47 → 00:07:50 ได้แล้วว่าสำหรับคนที่ไม่เจ็บป่วยเป็นโรค

00:07:50 → 00:07:52 เก๊าท์แต่ก็ระมัดระวังได้นะเราไม่อยาก

00:07:52 → 00:07:55 เป็นโรคนี้เราก็ต้องคอยควบคุมไม่ให้มีการ

00:07:55 → 00:07:58 รับสารคิวรีนจากอาหารที่มากเกินไปแต่

00:07:58 → 00:08:01 สำหรับสำหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคเกาต์ค่ะ

00:08:01 → 00:08:03 ข้อจำกัดของเขาก็ต้องเพิ่มมากขึ้นกว่า

00:08:03 → 00:08:07 เดิมแล้วอะไรล่ะคะที่จะทำให้ในแต่ละมื้อ

00:08:07 → 00:08:10 อาหารที่เราต้องทานเหมาะสมในมุมของนัก

00:08:10 → 00:08:13 กำหนดอาหารค่ะที่ผู้ป่วยโรคเก๊าท์สามารถ

00:08:13 → 00:08:17 ทานได้ทุกวันค่ะมีอะไรบ้างค่ะก็จริงๆแล้ว

00:08:17 → 00:08:19 นะครับเนาะเราก็จะแบ่งกลุ่มอาหารออกเป็น

00:08:19 → 00:08:21 ทั้งหมด 3 กลุ่มด้วยกันเนาะกลุ่มแรกก็คือ

00:08:21 → 00:08:24 กลุ่มที่สามารถทานได้ทุกวันเนาะยกตัว

00:08:24 → 00:08:27 อย่างเลยก็คือกลุ่มของผักและผลไม้ทั่วไป

00:08:27 → 00:08:29 ก่อนนะครับเนาะอ่าอันนี้สามารถเลือกรับ

00:08:29 → 00:08:32 ประทานได้ตามหลักธงโภชนาการได้เลยนะครับ

00:08:32 → 00:08:35 เนาะก็คืออาจจะทานเป็นพวกผักเนี่ยให้ได้

00:08:35 → 00:08:38 มื้อละ 2 ฝ่ามือเนาะแล้วก็สำหรับผลไม้ก็

00:08:38 → 00:08:42 คือทานได้มื้อละ 1 อุ้งมือนะครับอ่าเน้น

00:08:42 → 00:08:45 ย้ำเลยตามหลักของโภชนาการก็คือผลไม้จะ

00:08:45 → 00:08:48 ต้องเป็นผลไม้ที่มีรสชาติจืดๆหวานน้อยๆนะ

00:08:48 → 00:08:51 ครับเนาะยกตัวอย่างก็จะมีพวกแอปเปิ้ล

00:08:51 → 00:08:54 สาลี่แก้วมังกรอย่างนี้เป็นต้นนะครับอ่า

00:08:54 → 00:08:56 ถัดมาก็จะเป็นในเรื่องของกุมภาพันธ์เนาะ

00:08:56 → 00:08:59 เราอาจจะต้องเน้นเป็นพวกผักที่ไม่ใช่เป็น

00:08:59 → 00:09:02 ทอดยอดหรือว่าผักหัวนะครับอาจจะหรืออาจจะ

00:09:02 → 00:09:07 เป็นผักที่มีกลุ่มของพิวรีนอยู่น้อยๆผัก

00:09:07 → 00:09:09 ทอดยอดนะครับที่ควันหลีกเลี่ยงเนอะอาจจะ

00:09:09 → 00:09:12 เป็นยอดผักบุ้งนะครับยอดกระถินยอดชะอมนะ

00:09:12 → 00:09:15 ครับอย่างนี้เป็นต้นอาจจะต้องหลีกเลี่ยง

00:09:15 → 00:09:18 นะครับก็ต้องระมัดระวังในเรื่องของการรับ

00:09:18 → 00:09:21 ประทานผักทอดยอดนะคะหากคุณเคนคะตอนนี้ก็

00:09:21 → 00:09:25 มีผักและผลไม้และค่ะที่สามารถทานได้ทุก

00:09:25 → 00:09:28 มื้อเลยค่ะแล้วก็ในกลุ่มของข้าวแป้งนะ

00:09:28 → 00:09:31 ครับข้าวแป้งก็ทานได้ทุกมื้อนะใช่ๆจริงๆ

00:09:31 → 00:09:35 แล้วก็แนะนำนะครับเนาะสามารถทานได้ใน

00:09:35 → 00:09:38 เรื่องของข้าวกล้องข้าวซ้อมมือเนาะข้าว

00:09:38 → 00:09:41 ขาวทั่วไปอย่างเงี้ยสามารถเลือกบริโภคได้

00:09:41 → 00:09:44 เลยครับเนาะแล้วก็ในส่วนของขนมปังนะครับ

00:09:44 → 00:09:47 อันนี้อาจจะต้องดูนิดนึงนะครับเนาะว่ามี

00:09:48 → 00:09:50 ส่วนผสมของยีสต์ที่มากเกินไปหรือเปล่าอาจ

00:09:50 → 00:09:52 จะต้องดูที่ฉลากโภชนาการหรือว่าส่วน

00:09:52 → 00:09:54 ประกอบครับค่ะอีกทีนึง

00:09:54 → 00:09:58 ถัดมาก็จะเป็นพวกไข่ไก่นะครับรวมไปถึงพวก

00:09:58 → 00:10:00 นมและผลิตภัณฑ์จากนมครับเป็นแหล่งของ

00:10:00 → 00:10:03 โปรตีนเนอะสามารถบริโภคได้ทุกวันครับ

00:10:03 → 00:10:06 โปรตีนนอกจากไข่กับนมเนี่ยทุกมื้ออาหาร

00:10:06 → 00:10:09 ที่สามารถทานได้นี่เนื้อที่จะมีอะไรบ้าง

00:10:09 → 00:10:12 อย่างที่เราเคยคุยกันไปแล้วเบื้องต้นเนอะ

00:10:12 → 00:10:15 ก็คือในกลุ่มของเนื้อปลาครับเป็นโปรตีน

00:10:15 → 00:10:18 ที่ไขมันต่ำย่อยได้ง่ายหรือซึมได้ดีนะ

00:10:18 → 00:10:20 ครับหลักๆเลยเราสามารถบริโภคเนื้อสัตว์

00:10:20 → 00:10:23 ได้ใน 1 มื้อก็คือ 1 ฝ่ามือของตนเองครับ

00:10:23 → 00:10:27 คุณฟ้าหรืออาจจะเป็นปริมาณก็คือ 100 กรัม

00:10:27 → 00:10:31 โปรตีนต่อมื้อนะครับก็แทบจะไม่แตกต่างจาก

00:10:31 → 00:10:35 ปกติทั่วไปผู้ป่วยที่เป็นโรคเก๊านะคะผู้

00:10:35 → 00:10:38 ฟังท่านไหนที่คนในครอบครัวเป็นโรคนี้ไม่

00:10:38 → 00:10:40 ต้องกังวลใจว่าจะกินยากหรือเปล่าข้อจำกัด

00:10:40 → 00:10:44 จะเยอะหรือเปล่าพอมาฟังตรงนี้เราแทบจะไม่

00:10:44 → 00:10:46 ต่างจากมื้อที่เหมาะสมนะตามหลักธง

00:10:46 → 00:10:49 โภชนาการเลยนี่คือสามารถทานได้ทุกวันเลย

00:10:49 → 00:10:53 นะคะแล้วที่ทานได้บ้างไม่ควรจะปล่อยนี่

00:10:53 → 00:10:55 อาจจะต้องมีการจำกัดสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง

00:10:55 → 00:10:58 นะครับอันนี้ยกตัวอย่างเนาะก็จะเป็นกลุ่ม

00:10:58 → 00:10:59 ของ

00:10:59 → 00:11:02 เนื้อปูนะครับปลาหมึกปลากระพงแดงนะครับ

00:11:02 → 00:11:05 อ่าแล้วก็สังเกตไหมครับจะเป็นเนื้อสัตว์

00:11:05 → 00:11:09 ที่มีสีแดงมากขึ้นเนาะก็จะเป็นพวกเนื้อ

00:11:09 → 00:11:12 วัวนะครับเนื้อหมูอันนี้อาจจะต้องจำกัด

00:11:12 → 00:11:14 การเลือกทานนะครับถัดมาก็จะเป็นกลุ่มของ

00:11:14 → 00:11:17 ธัญพืชครับที่อาจจะต้องจำกัดปริมาณหรือ

00:11:17 → 00:11:19 ว่าจำกัดความถี่ของการบริโภคใน 1 สัปดาห์

00:11:19 → 00:11:23 นั่นก็คือข้าวโอ๊ตถั่วลิสงถั่วลันเตานะ

00:11:23 → 00:11:26 ครับถ้าเป็นกลุ่มผักเนาะอันที่เราจะต้อง

00:11:26 → 00:11:29 จำกัดเลยก็คือจะเป็นพวกผักโขมสะตอนะครับ

00:11:29 → 00:11:32 หน่อไม้อันนี้คนเหนือบ้านเราชอบทานกันใช่

00:11:32 → 00:11:34 ไหมครับ

00:11:34 → 00:11:37 ต้องระมัดระวังนะคะรวมไปถึงพวกใบขี้เหล็ก

00:11:37 → 00:11:40 แล้วก็ดอกกะหล่ำครับคุณฟ้าเนาะก็ทานได้

00:11:40 → 00:11:45 แต่ว่าสัปดาห์ละครั้งสองครั้ง

00:11:45 → 00:11:49 ที่อยากจะทราบเลยเราได้รู้แล้วแหละว่าผู้

00:11:49 → 00:11:52 ป่วยโรคเนี่ยทานอะไรถึงเหมาะสมทานได้ทุก

00:11:52 → 00:11:55 วันหรือสัปดาห์ละครั้งสองครั้งมาถึงตรง

00:11:55 → 00:11:59 นี้ค่ะข้อห้ามไหนที่ไม่ควร

00:11:59 → 00:12:02 หรือทานให้ได้น้อยที่สุดคะมีอะไรบ้างคะ

00:12:02 → 00:12:05 อันนี้อยากจะให้ผู้ป่วยโรคเก๊าท์นะครับ

00:12:05 → 00:12:08 เราต้องสังเกตตัวเองก่อนนะครับเนาะว่าทาน

00:12:08 → 00:12:10 อาหารชนิดไหนแล้วหรือว่าประเภทไหนแล้วทำ

00:12:10 → 00:12:14 ให้เก๊าท์กำเริบได้เนาะตามหลักวิชาการ

00:12:14 → 00:12:16 แล้วกันนะครับอาหารที่จะต้องงดหรือว่าทาน

00:12:16 → 00:12:18 ให้น้อยที่สุดหรือว่าลดความถี่ของการ

00:12:18 → 00:12:21 บริโภคเพื่อป้องกันการกำเริบของโรคเกาต์

00:12:21 → 00:12:24 นะครับเริ่มต้นตั้งแต่เครื่องในสัตว์ครับ

00:12:24 → 00:12:26 คุณฟ้าถัดมาก็จะเป็นกลุ่มของเนื้อสัตว์

00:12:26 → 00:12:30 ปีกเนาะไม่ว่าจะเป็นไก่เป็ดถัดมาก็จะเป็น

00:12:30 → 00:12:32 เนื้อปลาครับก็จะเป็นพวกปลาดุกเนาะปลา

00:12:33 → 00:12:35 ซาดีนอันนี้อาจจะมีพิวรีนอยู่สูงมากนะ

00:12:35 → 00:12:39 ครับปลาอินทรีย์เนาะรวมไปถึงพวกน้ำซุปต้ม

00:12:39 → 00:12:41 กระดูกครับคุณฟ้าอันนี้จะมีพิวรีนอยู่สูง

00:12:41 → 00:12:45 นะครับถัดมาก็จะเป็นพวกไข่ปลานะครับแล้ว

00:12:45 → 00:12:48 ก็มีพวกถั่วเมล็ดแห้งผมเน้นย้ำนะครับผม

00:12:48 → 00:12:51 ใช้คำว่าถั่วเมล็ดแห้งเราก็จะมีพวกถั่วดำ

00:12:51 → 00:12:54 ถั่วแดงนะครับถั่วเขียวถั่วลิสงเป็นต้นนะ

00:12:54 → 00:12:57 ครับรวมไปถึงพวกผักทอดยอดมาแล้วครับนั่น

00:12:57 → 00:13:01 ก็เป็นพวกยอดกฐินถึงยอดชะอมยอดสะเดารวมไป

00:13:01 → 00:13:03 ถึงอันนี้คนเหนือเราชอบทานก็คือยอด

00:13:03 → 00:13:07 มะพร้าวอ่อนค่ะสำหรับกลุ่มผู้ป่วยโรค

00:13:07 → 00:13:10 เก๊าท์ต้องระมัดระวังอย่างมากเลยต้องคอย

00:13:10 → 00:13:13 สังเกตตัวเองครับว่าบริโภคอาหารชนิดไหน

00:13:13 → 00:13:16 แล้วทำให้เก๊าท์กำเริบสำหรับตรงนี้นะคะ

00:13:16 → 00:13:18 การสังเกตตัวเองของแต่ละบุคคลเนี่ยไม่

00:13:18 → 00:13:20 เหมือนกันนะบางคนกินแล้วไม่เป็นอะไรใช่

00:13:20 → 00:13:23 แล้วแต่บางคนกินปุ๊บอาการมาเลยมีการเจ็บ

00:13:23 → 00:13:26 ปวดตามข้อตามมาเลยอาจจะต้องให้เวลาสังเกต

00:13:26 → 00:13:28 ตัวเองประมาณ 24 ชั่วโมงหลังจากบริโภค

00:13:28 → 00:13:30 อาหารนานๆครับ

00:13:30 → 00:13:34 เราสามารถสังเกตตัวเองได้นะครับเนาะว่า

00:13:34 → 00:13:36 อาหารที่ผมได้กล่าวเข้าไปเบื้องต้นเนาะ

00:13:36 → 00:13:38 ว่าเป็นกลุ่มที่มีอาหารที่มีพิวรีนอยู่

00:13:38 → 00:13:41 สูงเนี่ยทางผู้ป่วยเองอาจจะต้องมีการ

00:13:41 → 00:13:43 สังเกตตัวเองเนาะหลังจากที่บริโภคเข้าไป

00:13:43 → 00:13:46 แล้วภายใน 24 ชั่วโมงทำให้เกิดมีการ

00:13:46 → 00:13:50 อักเสบตามข้อบวมแดงตรงไหนหรือเปล่าเราอาจ

00:13:50 → 00:13:53 จะต้องมีการบันทึกไว้เนาะว่ากลุ่มอาหาร

00:13:53 → 00:13:56 พวกเนี้ยเราทานเข้าไปแล้วมันทำให้เกิด

00:13:56 → 00:13:59 เกาต์กำเริบได้ในแต่ละบุคคลนะครับคุณฟ้า

00:13:59 → 00:14:02 เพราะฉะนั้นผู้ป่วยโรคเก๊าท์ที่มานั่งคุย

00:14:02 → 00:14:05 กันนะว่าฉันกินไส้ย่างไม่เห็นเป็นอะไรเลย

00:14:05 → 00:14:08 แต่อีกคนบอกฉันกินซะย่างไม่ได้เลยตรงนี้

00:14:08 → 00:14:11 มันต่างกันเนาะคือแต่ละคนน่ะมันไม่มีถ้า

00:14:11 → 00:14:14 คนไม่มีเหมือนกันแตกต่างกันแต่ถ้าผู้ป่วย

00:14:14 → 00:14:17 ทั้ง 2 ท่านเนี่ยงดหรือทานให้ได้น้อยที่

00:14:17 → 00:14:19 สุดคือในกลุ่มที่คุณเทรนกล่าวมาเนี่ยยิ่ง

00:14:19 → 00:14:22 จะทำให้เป็นการลดปัจจัยเสี่ยงโรคเก๊าท์

00:14:22 → 00:14:25 กำเริบเราได้ข้อมูลดีๆเยอะมากค่ะเพราะว่า

00:14:25 → 00:14:27 ในมื้ออาหารเนี่ยเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ

00:14:27 → 00:14:30 ผู้ป่วยเองมีการรักษาโดยทีมแพทย์อยู่แล้ว

00:14:30 → 00:14:33 แต่พอกลับไปที่บ้านนะคะอาหารการกินเป็น

00:14:33 → 00:14:36 เรื่องที่ละเลยไม่ได้เลยค่ะคนในครอบครัว

00:14:36 → 00:14:40 ก็จำเป็นจะต้องรู้นะว่าผู้ป่วยโรคเกาต์

00:14:40 → 00:14:42 เนี่ยควรจะปฏิบัติตัวอย่างไรกินอย่างไร

00:14:42 → 00:14:46 ถึงจะเหมาะสมนะคะที่สำคัญค่ะคุณเคนพูดมา

00:14:46 → 00:14:49 ถึงเมนูอาหารต่างๆแล้วค่ะข้อปฏิบัติตัว

00:14:49 → 00:14:53 ค่ะตรงนี้อยากจะให้คุณเคนนะคะในมุมของนัก

00:14:53 → 00:14:55 กำหนดอาหารนักเพราะฉะนั้นการเนี่ยช่วย

00:14:55 → 00:14:58 เล่าถึงการปฏิบัติตัวเมื่อผู้ป่วยเนี่ย

00:14:58 → 00:15:01 เป็นโรคเกาต์ให้พวกเราฟังหน่อยค่ะครับ

00:15:01 → 00:15:04 อย่างแรกเลยนะครับในมุมของนักโภชนาการนัก

00:15:04 → 00:15:06 กับหลอดอาหารเนี่ยเราอยากจะบอกว่าแนะนำ

00:15:06 → 00:15:09 ให้รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ตามหลัก

00:15:09 → 00:15:11 ของธงโภชนาการหรือหลักการง่ายๆคือสามารถ

00:15:12 → 00:15:15 บริโภคอาหารตามจานอาหารสุขภาพ 2-11 นะ

00:15:15 → 00:15:19 ครับ 211 ก็คือมีผักอยู่ 2 ส่วนของจาน

00:15:19 → 00:15:23 หรือว่าครึ่งจานนะครับแล้วก็มีข้าว

00:15:23 → 00:15:26 คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนนะครับคุณภาพดีข้าว

00:15:26 → 00:15:28 กล้องข้าวซ้อมมือเข้าไลฟ์เบอร์รี่เนาะ 1

00:15:28 → 00:15:31 ส่วนของจานนะครับ 2-3 ทัพพีต่อมื้อนะครับ

00:15:31 → 00:15:34 แล้วก็ถัดมาส่วนสุดท้ายของจานก็จะเป็นใน

00:15:34 → 00:15:36 เรื่องของเนื้อสัตว์ไขมันต่ำนั่นก็คือ

00:15:36 → 00:15:39 เนื้อปลานะครับเนาะปริมาณก็คือ 100 กรัม

00:15:39 → 00:15:43 โปรตีนหรือ 1 ฝ่ามือของตนเองนะครับชอบจัง

00:15:43 → 00:15:45 เลยเวลาที่มาคุยกับนักโภชนาการนักคำนวณ

00:15:45 → 00:15:48 อาหารคำว่าจะพูดย้ำกลับมาอีกรอบนึงว่าสุด

00:15:48 → 00:15:51 ท้ายแล้วปัจจัยสำคัญที่สุดก็คือการรับ

00:15:51 → 00:15:55 ประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ในจานสุขภาพนั่น

00:15:55 → 00:15:59 เองในเนื้อหาที่เรียกว่าจานสุขภาพ 211 นะ

00:15:59 → 00:16:01 คะค่ะตรงนี้คุณผู้ฟังก็เหมือนได้ย้ำนะ EP

00:16:01 → 00:16:04 ก่อนๆเราอาจจะลืมกันแล้วนะคะในเรื่องของ

00:16:04 → 00:16:06 การจัดจานอาหารจากนั้นยังมีอะไรอีกบ้างคะ

00:16:06 → 00:16:09 ถัดมาเลยนะครับก็คือการดื่มน้ำสะอาดให้

00:16:09 → 00:16:12 ให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายจริงๆ

00:16:12 → 00:16:14 แล้วนะครับเนาะคำแนะนำเบื้องต้นเลยเนาะก็

00:16:14 → 00:16:17 เหมือนตามหลักธงโภชนาการทั่วไปเลยก็คือ

00:16:17 → 00:16:22 สามารถจะดื่มน้ำเนาะให้ได้วันละ 1.5 ถึง 2

00:16:22 → 00:16:25 ลิตรขึ้นไปเนาะทั้งนี้ทั้งนั้นควรจะอยู่

00:16:25 → 00:16:28 คำแนะนำของแพทย์ผู้รักษาอีกทีนึงครับแล้ว

00:16:28 → 00:16:31 ก็ส่วนข้อถัดมานะครับน้องก็คืออาจจะต้อง

00:16:31 → 00:16:34 มีการหลีกเลี่ยงหรือว่าลดความถี่ของการ

00:16:34 → 00:16:37 ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์นะครับ

00:16:37 → 00:16:40 สำคัญมากๆสำคัญมากๆเลยครับอันนี้โดยเฉพาะ

00:16:40 → 00:16:44 พวกเบียร์นะครับอ่าอาจจะสังเกตได้ไม่ยาก

00:16:45 → 00:16:47 ค่ะผู้ป่วยที่เป็นโรคเกาต์ที่เข้าพรรษา

00:16:47 → 00:16:50 เนี่ยอาจจะไม่มีอาการอะไรเลยอยู่นิ่งๆไม่

00:16:50 → 00:16:54 มีการกำเริบตอนนี้อยู่ในช่วงของออกพรรษา

00:16:54 → 00:16:58 แล้วกลับมาดื่มนะดื่มปุ๊บอาการกำเริบเลย

00:16:58 → 00:17:03 ตรงนี้นักพัฒนาการก็ย้ำนะคะว่าอยากจะให้

00:17:03 → 00:17:05 หลีกเลี่ยงหรืองดนะคะในเรื่องของการดื่ม

00:17:05 → 00:17:09 แอลกอฮอล์นั่นเองของการดื่มและการครับถ้า

00:17:09 → 00:17:11 เลิกได้เลยก็ยิ่งดีต่อสุขภาพนั่นเองค่ะ

00:17:11 → 00:17:15 นอกจากนี้ยังมีอะไรอีกบ้างคะพอจะมีการ

00:17:15 → 00:17:18 หลีกเลี่ยงหรือว่าลดการดื่มเครื่องดื่ม

00:17:18 → 00:17:20 ที่เป็นน้ำอัดลมนะครับหรือว่าเครื่องดื่ม

00:17:20 → 00:17:23 ที่มีน้ำตาลฟรุกโตสเป็นส่วนประกอบค่ะก็

00:17:23 → 00:17:26 คือพวกน้ำหวานน้ำอัดลมรวมไปถึงน้ำผลไม้

00:17:26 → 00:17:30 น้ำผลไม้ก็ต้องระมัดระวังนะเพราะว่าหลาย

00:17:30 → 00:17:34 คนคิดว่าเรารักษาสุขภาพเราดูแลสุขภาพเรา

00:17:34 → 00:17:36 เป็นโรคเกาต์ด้วยเราก็ดื่มน้ำผลไม้แท้เลย

00:17:36 → 00:17:41 100% เพราะว่าจะได้ความเป็นน้ำผลไม้แท้

00:17:41 → 00:17:43 อย่างเงี้ยค่ะน่าจะปลอดภัยตรงนี้ต้อง

00:17:43 → 00:17:45 ระมัดระวังเพราะอะไรคะเอ่อจริงๆแล้วใน

00:17:45 → 00:17:48 กลุ่มของผู้ป่วยโรคเก๊านะครับอาจจะต้อง

00:17:48 → 00:17:51 ระมัดระวังเนาะเนื่องจากว่าในน้ำผลไม้แท้

00:17:51 → 00:17:54 100% ก็จะมีกลุ่มของน้ำตาลฟรุกโตสที่

00:17:54 → 00:17:56 อยู่สูงซึ่งน้ำตาลฟรุกโตสเนี่ยก็จะเป็น

00:17:56 → 00:17:59 ตัวช่วยเนาะระบบการเผาผลาญร่างกายของคน

00:17:59 → 00:18:02 ที่เป็นโรคเกาต์เนี่ยทำให้เกิดการเผาผลาญ

00:18:02 → 00:18:06 อาหารที่มีพิวรีนสูงกลายมาเป็นกรดยูริกใน

00:18:06 → 00:18:09 เลือดเพิ่มสูงขึ้นได้นั่นเองครับคุณฟ้าก็

00:18:09 → 00:18:12 อย่างที่บอกนะคะถ้าคนๆนึงเนี่ยเข้าทาน

00:18:12 → 00:18:15 เครื่องในเครื่องในไก่เนี่ยทานในมื้อนั้น

00:18:15 → 00:18:18 ละแต่เขาไม่มีอาการกำเริบเพราะว่าทานอาจ

00:18:18 → 00:18:20 จะในปริมาณที่เหมาะสมไม่ได้สูงอะไรมากแต่

00:18:21 → 00:18:23 พอดื่มน้ำผลไม้เข้าไปอีก 1 แก้วระบบการ

00:18:23 → 00:18:26 เผาผลาญก็เปลี่ยนไปแล้วทำให้ในเลือดเนี่ย

00:18:26 → 00:18:28 มีกรดยูริกเพิ่มสูงขึ้นได้ครับอาการเจ็บ

00:18:28 → 00:18:32 ปวดตามข้อตามเลิกกลับมาได้อันนี้ต้อง

00:18:32 → 00:18:34 ระมัดระวังครับถัดจากนั้นมีอะไรอีกบ้างคะ

00:18:34 → 00:18:38 เป็นคำแนะนำโดยพื้นฐานทั่วไปเลยก็คือหลีก

00:18:38 → 00:18:41 เลี่ยงอาหารที่มีพิวรีนอยู่สูงเนาะซึ่ง

00:18:41 → 00:18:43 ได้กล่าวไปข้างต้นแล้วเนาะถ้านึกอะไรไม่

00:18:43 → 00:18:46 ออกนะครับจำง่ายๆก็จะมีตั้งแต่เครื่องใน

00:18:46 → 00:18:48 สัตว์เนาะอาหารทะเลสัตว์ปีกแล้วก็ถั่ว

00:18:48 → 00:18:52 เมล็ดแห้งบางชนิดนะครับสำหรับข้อสุดท้าย

00:18:52 → 00:18:55 เลยนะครับเนาะอยากทิ้งท้ายก็คือสำหรับผู้

00:18:55 → 00:18:57 ป่วยที่มีภาวะอ้วนหรือน้ำหนักตัวเกินนะ

00:18:57 → 00:18:58 ครับเนาะ

00:18:58 → 00:19:02 จะต้องหันมาปรับพฤติกรรมสุขภาพนะครับควบ

00:19:02 → 00:19:04 คุมระดับน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกตินะครับ

00:19:04 → 00:19:07 เนาะซึ่งสำหรับน้ำหนักตัวที่อยู่ในเกณฑ์

00:19:07 → 00:19:10 ปกติเราอาจจะมีวิธีการคำนวณง่ายๆเลยนะ

00:19:10 → 00:19:13 ครับเนาะเพศชายก็คือเอาส่วนสูงของตนเอง

00:19:13 → 00:19:16 เป็นเซนติเมตรลบกับ 100 นะครับก็จะได้น้ำ

00:19:16 → 00:19:19 หนักตัวที่ควรจะเป็นน้องน้ำหนักตัว

00:19:19 → 00:19:22 มาตรฐานสำหรับเพศหญิงก็คือส่วนสูงของตน

00:19:22 → 00:19:24 เองลบกับ 105 นะครับ

00:19:24 → 00:19:28 ผู้ชายจะลบด้วย 100 ผู้หญิงจะลบที่ 105

00:19:28 → 00:19:31 นะคะจากนั้นก็คือจะออกมาเป็นตัวเลขที่น้ำ

00:19:31 → 00:19:36 หนักที่เหมาะสมแต่ละบุคคลนะคะค่ะวันนี้

00:19:36 → 00:19:38 เราได้ข้อมูลที่ดีเยอะมากเลยไม่ว่าจะเป็น

00:19:38 → 00:19:41 เรื่องอาหารการกินเรื่องของการดูแลสุขภาพ

00:19:41 → 00:19:44 ผู้ป่วยโรคเก๊าท์หรือใครที่ไม่อยากเป็น

00:19:44 → 00:19:47 โรคเกาต์การรับประทานก็สำคัญเช่นกันค่ะ

00:19:47 → 00:19:51 เวลาหมดแล้วค่ะสวัสดีค่ะสวัสดีครับและขอ

00:19:51 → 00:19:54 ขอบคุณผู้ฟังทุกท่านที่อยู่ด้วยกันตรงนี้

00:19:54 → 00:19:57 ค่ะนอกจากนี้นะคะผู้ฟังยังสามารถติดตาม

00:19:57 → 00:19:59 ข่าวสารของแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัย

00:19:59 → 00:20:02 เชียงใหม่ได้อีกหลากหลายช่องทางค่ะไม่ว่า

00:20:03 → 00:20:05 จะเป็นบนเว็บไซต์ Facebook YouTube

00:20:05 → 00:20:09 Twitter telegram Instagram podcast

00:20:09 → 00:20:13 เพียงพิมพ์คำที่ช่องค้นหาว่า metcmu นะคะ

00:20:13 → 00:20:17 med cmu เพียงเท่านี้ค่ะก็จะมีข้อมูล

00:20:17 → 00:20:20 เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพอีกมากมายเลยค่ะ

00:20:20 → 00:20:22 สำหรับวันนี้นะคะต้องมาทุกท่านไปก่อน

00:20:22 → 00:20:25 ครั้งหน้าจะเป็นเรื่องอะไรอย่าลืมติดตาม

00:20:25 → 00:20:30 กันต่อนะคะสวัสดีค่ะ

00:20:30 → 00:20:36 เพราะสุขภาพที่ดีเริ่มได้จากตัวเรา