00:00:02 → 00:00:05 ม.ค
00:00:05 → 00:00:05 ก็
00:00:05 → 00:00:09 สวัสดีครับผมเอาประเวศเปลี่ยนจิตแพทย์
00:00:09 → 00:00:13 ครับเราพบกันทุกคืนวันอาทิตย์เวลา 2 ทุ่ม
00:00:13 → 00:00:16 สำหรับคืนวันนี้วันอาทิตย์ที่ 18 กันยายน
00:00:16 → 00:00:22 พุทธศักราช 2560 5 เรามีนัดกันในหัวข้อ
00:00:22 → 00:00:26 กลไกทางจิตของความท้อใจ
00:00:26 → 00:00:32 ถ้าเราอยู่ในช่วงที่ผ่านความยากลำบากกัน
00:00:32 → 00:00:36 ทั่วโลกมานานนะครับเราก็แม้ประเทศไทยจะมี
00:00:36 → 00:00:40 สัญญาณฟื้นตัวบางเรื่องนะครับแต่ก็ต้อง
00:00:40 → 00:00:45 ตระหนักว่าไม่ใช่ทุกฝ่ายทุกคนที่กำลังลุก
00:00:45 → 00:00:50 ขึ้นมาได้นะครับผมมีโอกาสได้พูดคุยกับคน
00:00:50 → 00:00:51 ที่
00:00:51 → 00:00:52 อ่า
00:00:52 → 00:00:56 ธุรกิจที่ต้องล้มละลายนะครับแล้วก็ก็ยัง
00:00:56 → 00:01:00 มีความยากลำบากอยู่นะแต่มองในปรากฏการณ์
00:01:00 → 00:01:03 ทั่วโลกจะเห็นได้ว่าหลายปีข้างหน้าก็คงมี
00:01:03 → 00:01:05 เรื่องไม่จบไม่สิ้น
00:01:05 → 00:01:10 นิคสภาพที่เราต้องเจอกับปัญหาที่ยาวนาน
00:01:10 → 00:01:11 เนี่ยอ่ะ
00:01:11 → 00:01:15 ว่ามันจะมีคนกลุ่มหนึ่งที่เกิดความรู้สึก
00:01:15 → 00:01:19 ท้อใจนะครับซึ่งคิดง่ายหรอกจะมองว่าอ๋อคน
00:01:19 → 00:01:21 ที่ได้รับปัญหามากก็น่าจะเป็นกลุ่มที่
00:01:21 → 00:01:24 เสี่ยงกับการท้อใจนะครับอันนี้ก็เป็น
00:01:24 → 00:01:28 เพียงปัจจัยเดียวครับคือความเผชิญปัญหา
00:01:28 → 00:01:31 ถูกกระทบมากที่สุดเช่นในช่วงก่อนหน้านั้น
00:01:31 → 00:01:33 กลุ่มที่ถูกกระทบมากที่สุดก็จะเป็นเช่น
00:01:33 → 00:01:35 ธุรกิจท่องเที่ยวครับ
00:01:35 → 00:01:39 แต่ว่าว่ากลไกการเกิดความท้อใจเนี่ยมัน
00:01:39 → 00:01:42 ไม่ได้เกิดจากปัจจัยภายนอกที่อย่างเดียว
00:01:42 → 00:01:44 ครับมันมีกลไกทางจิตที่เข้ามาเกี่ยวข้อง
00:01:44 → 00:01:50 ด้วยซึ่งถ้าคุณมีโอกาสได้พูดคุยนะครับกับ
00:01:50 → 00:01:53 คนที่กำลังมีความท้ออยู่เนี่ยคุณจะเห็น
00:01:53 → 00:01:57 ร่องรอยของความท้อผ่านคำพูดสีหน้าท่าทาง
00:01:57 → 00:02:01 และโดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวความคิดของเขานะ
00:02:01 → 00:02:05 ครับมันจะมีความคิดทำนองทำต่อไปมันไม่ไหว
00:02:05 → 00:02:07 มันไม่ได้ประโยชน์อะไรมันพยามมาทุกอย่าง
00:02:07 → 00:02:11 มันสู้ต่อไปไม่ไหวแล้วครับบางคนก็จะรู้
00:02:11 → 00:02:14 สึกว่าเออเราจะเนื้อว่าทำไมนะครับ
00:02:14 → 00:02:17 คะซึ่งตรงนี้ก็เป็นความเครียดสะสมนะครับ
00:02:17 → 00:02:20 และมันมีกลไกบางใหญ่อยู่ภายใต้นั้นลึกลง
00:02:20 → 00:02:21 ไปกว่านั้น
00:02:21 → 00:02:24 ความคิดแบบนี้นะครับเวลาที่เกิดขึ้นภายใน
00:02:24 → 00:02:28 บ้านที่ที่อยู่ด้วยกันบางทีก็ก่อให้เกิด
00:02:28 → 00:02:32 ปากเสียงกันทะเลาะกันและการทะเลาะกันก็จะ
00:02:32 → 00:02:36 เพิ่มความเครียดจากปัญหาเรื่องการเงินการ
00:02:36 → 00:02:39 งานธุรกิจกลายเป็นปัญหาความสัมพันธ์ภายใน
00:02:39 → 00:02:43 บ้างแล้วก็อาจจะไปกระทบปัญหาสุขภาพเพราะ
00:02:43 → 00:02:46 ปัญหารุมเร้าคันนี้ก็ยิ่งรู้สึกทอโดย
00:02:46 → 00:02:48 เฉพาะอย่างยิ่งถ้ามันมีตัวปัญหาแล้วมัน
00:02:48 → 00:02:52 กระทบคนใกล้ตัวแล้วก็มากระทบสุขภาพของเรา
00:02:52 → 00:02:54 ด้วย
00:02:54 → 00:02:57 ๆแล้วถ้าเราเพียงจะคุยเพื่อช่วยเขานะบาง
00:02:57 → 00:03:01 ครั้งเพื่อนหรือญาติที่หวังดีก็จะจะคุย
00:03:01 → 00:03:04 โดยหวังว่าจะช่วยเปลี่ยนวิธีคิดของเขา
00:03:04 → 00:03:09 หวังว่าจะช่วยเติมกำลังใจให้ปรากฏว่าเขา
00:03:09 → 00:03:11 จะยิ่งรู้สึกว่าเราไม่เข้าใจเขาแล้วคุย
00:03:11 → 00:03:14 กันไม่รู้เรื่องบางทีก็กลับกลายเป็นการ
00:03:14 → 00:03:16 ทะเลาะกันด้วยสาเหตุที่เป็นเช่นนี้ก็
00:03:16 → 00:03:19 เพราะว่าเวลาที่เรามองจากภายนอกเนี่ยเรา
00:03:19 → 00:03:22 มักจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นข้างในใจเขา
00:03:22 → 00:03:25 ถ้าเราอยากจะให้กำลังใจเขาเนี่ยเราต้อง
00:03:25 → 00:03:28 รู้กันว่าข้างในใจเขาเกิดอะไรขึ้น
00:03:28 → 00:03:32 มันกับที่ผมเคยคุยเรื่องของคำปลอบใจเมื่อ
00:03:32 → 00:03:35 สักหลายเดือนก่อนนะครับฉะนั้นในวันนี้เรา
00:03:35 → 00:03:38 ก็จะมาคุยกันว่าอะไรที่ทำให้คนเราท้อใจ
00:03:38 → 00:03:42 แล้วก็เหตุใดบางคนจะถอดใจง่ายแต่บางคนจะ
00:03:42 → 00:03:45 อดทนความยากลำบากในมากครับซึ่งนี่คือหัว
00:03:45 → 00:03:48 ข้อที่เราจะคุยกันในวันนี้นะครับผมอย่าง
00:03:48 → 00:03:50 จะพยายามครอบคลุมไปถึงเรื่องของกระบวนการ
00:03:50 → 00:03:53 เดินออกจากความรู้สึกทอนใจหรือการเยียวยา
00:03:53 → 00:03:57 ทำได้อย่างไรก็น่าจะป้องกันลูกหลานของเรา
00:03:57 → 00:04:01 นะครับด้วยการเติมอะไรให้กับเขาเพื่อที่
00:04:01 → 00:04:04 ว่าในอนาคตเวลาที่เค้าเจอโจทย์ยากของ
00:04:04 → 00:04:06 ชีวิตเนี่ยทุกคนจะต้องเจออยู่แล้วนะครับ
00:04:06 → 00:04:09 เค้าจะมีกำลังใจสู้ได้ซึ่งแล้วนี่มันเป็น
00:04:09 → 00:04:12 การวางรากฐานตั้งแต่อยู่หน่อยครับซึ่ง
00:04:12 → 00:04:15 เดี๋ยวคุณจะได้รับเนื้อหาตรงนี้ไปด้วยนะ
00:04:15 → 00:04:18 ครับเอาล่ะครับตอนนี้เราก็จะมาเข้าเนื้อ
00:04:18 → 00:04:22 หานะครับว่าเวลาที่เราเจอคนที่ทอเนี่ยมัน
00:04:22 → 00:04:25 มีลักษณะร่วมอย่างหนึ่งในจิตใจของคนที่
00:04:25 → 00:04:28 กำลังท้อใจครับสิ่งนั้นก็มักจะสะท้อนออก
00:04:28 → 00:04:32 มาในรูปแบบหลากหลายนะครับได้รวมอยู่ตรง
00:04:32 → 00:04:35 แกนกลางของจิตใจของเขาเนี่ยมันจะมีลักษณะ
00:04:35 → 00:04:39 ที่เหมือนกับกับเขาควบคุมอะไรไม่ได้ละเขา
00:04:39 → 00:04:42 ทำอะไรไม่ได้มาไม่ประโยชน์แล้วก็จะมีส่วน
00:04:42 → 00:04:44 ที่ลึกลงไปกว่านั้นนะครับก็คือความรู้สึก
00:04:44 → 00:04:46 ที่เขาช่วยเหลือตัวเองไม่ได้
00:04:46 → 00:04:52 สภาวะที่เขาเขารู้สึกว่าตัวเองช่วยเหลือ
00:04:52 → 00:04:56 ถ้าตัวเองไม่ได้ทำอะไรไม่ได้ไม่สามารถควบ
00:04:56 → 00:05:01 คุมอะไรได้ก็จะเป็นสภาวะที่ทรงพลังมาสู่
00:05:01 → 00:05:04 อารมณ์ความรู้สึกและความนึกคิดที่เรา
00:05:04 → 00:05:07 เรียกกันมาถอดใจครับเรื่องนี้ก็มีงาน
00:05:07 → 00:05:12 วิจัยครับไอ้สภาวะที่คนเราเนี่ยรู้สึก
00:05:12 → 00:05:14 ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้
00:05:14 → 00:05:16 ก็จะเป็นงานวิจัยที่เริ่มต้นกับทดลองใน
00:05:16 → 00:05:20 สุนัขและเป็นการทดลองที่ผมเคยหยิบมาพูด
00:05:20 → 00:05:23 อย่างน้อย 2 ครั้งนะครับแต่ว่ามันเป็น
00:05:23 → 00:05:26 เนื้อหาที่ตรงมากกับสิ่งที่จะคุยกันผมจะ
00:05:26 → 00:05:29 ขอนำมาเล่าให้ฟังรอบหนึ่งนะครับคือมีงาน
00:05:29 → 00:05:32 วิจัยทางจิตวิทยาซึ่งทำเมื่อประมาณสัก 40
00:05:32 → 00:05:35 กว่าปีก่อนนะครับในการทดลองนั้นเป็นการทด
00:05:35 → 00:05:39 ลองในสุนัขนะครับจับสุนัขกลุ่มหนึ่งอยู่
00:05:39 → 00:05:42 ในกรงขังแล้วช็อตไฟฟ้า
00:05:42 → 00:05:45 แต่ไม่ว่าสุนัขจะดิ้นรนหนียังไงก็ตามมัน
00:05:45 → 00:05:47 ไม่สามารถมีได้
00:05:47 → 00:05:51 ที่ร้านจากนั้นสุนัขกลุ่มนี้ก็ยอมทุกช็อต
00:05:51 → 00:05:53 เฉยอยู่ตรงนั้น
00:05:53 → 00:05:57 สุนกิจกลุ่มหนึ่งจับเข้าไปในกรงขังที่มี
00:05:57 → 00:06:02 การช๊อตไฟฟ้าแต่ว่ามันจะพยายามดิ้นรนแล้ว
00:06:02 → 00:06:05 มันไปเจอจุดที่สามารถจะทำให้มันนี้ออกมา
00:06:05 → 00:06:07 ได้นะครับ
00:06:07 → 00:06:11 มีสุนัข 2 กลุ่มนี้มีประสบการณ์แตกต่าง
00:06:11 → 00:06:14 กันจะได้ก็หยิบเอาสุนัข 2 กลุ่มเนี้ยใน
00:06:14 → 00:06:20 เข้ากล้องแบบที่ 3 ซึ่งก็เป็นกรงที่
00:06:20 → 00:06:23 ไม่มีทางหนีได้ไหมครับ
00:06:23 → 00:06:27 ขอให้สุนัขผมแรกที่เคยเพียงนี้แล้วนี่ไม่
00:06:27 → 00:06:30 สำเร็จเนี่ยพอมันเข้าไปถูกชอบไฟฟ้าในกรง
00:06:30 → 00:06:34 อื่นนะครับมันก็ไม่สู้ล่ะมันไม่พญามาทาง
00:06:34 → 00:06:38 นี้ครับมันอยู่ในสภาวะที่ที่ไม่คิดว่า
00:06:38 → 00:06:41 ความพยายามของมันจะให้ผลอะไรมันอยู่ใน
00:06:41 → 00:06:44 สภาวะที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ไม่คิดว่า
00:06:44 → 00:06:48 ตัวเองจะช่วยอะไรหรือทำอะไรได้ครับอ่า
00:06:48 → 00:06:51 ก็จะสุนัขกลุ่มที่ 2 เมื่อไปอยู่ในกรงอีก
00:06:51 → 00:06:54 ประเภทมันก็ยังคงควรขวายหาทางนี้จน
00:06:54 → 00:06:58 กระทั่งมันอีสำเร็จกลุ่มแรกเรียนรู้ว่า
00:06:58 → 00:07:01 ฉันช่วยเหลือตัวเองไม่ได้กลุ่มที่ 2
00:07:01 → 00:07:04 เรียนรู้ว่าอย่างนี้ได้ยังมีโอกาสนะครับ
00:07:04 → 00:07:07 ชีวิตมนุษย์เราจะมีประสบการณ์
00:07:07 → 00:07:11 ต่างๆที่อาจจะก่อให้เกิดประสบการณ์แบบ
00:07:11 → 00:07:15 สุนัขกลุ่มที่ 1 ใต้งานวิจัยในชุดนี้ต่อ
00:07:15 → 00:07:18 มาก็ไปศึกษาในมนุษย์แล้วก็นำมาซึ่งการ
00:07:18 → 00:07:20 เรียนรู้เรื่องของการมองโลกแง่ดีและการ
00:07:20 → 00:07:24 มองโลกในไลน์ซึ่งเป็นหัวข้อที่เราคุยกัน 2
00:07:24 → 00:07:26 สำหรับด้วยเช่นกันครับ
00:07:26 → 00:07:29 อะไรครับที่เป็นประสบการณ์ของมนุษย์เรา
00:07:29 → 00:07:33 ที่ทำให้เราถูกวางเงื่อนไขเหมือนเคยถูก
00:07:33 → 00:07:36 ชอบฟ้าในกรมที่ไม่มีทางนี้หรือเป็นเงื่อน
00:07:36 → 00:07:39 ไขที่ทำให้เราอยู่ในสภาวะที่ช่วยเหลือตัว
00:07:39 → 00:07:43 เองไม่ได้แล้วไม่รู้จะทำยังไงพยายามไปก็
00:07:43 → 00:07:45 ไม่ได้ผล
00:07:45 → 00:07:49 ก็ผมจะเรียงประสบการณ์ที่คนเราจะเจอได้
00:07:49 → 00:07:53 เผื่อว่าคุณจะเข้าใจคนใกล้ตัวที่มีความ
00:07:53 → 00:07:55 รู้สึกท้อใจง่าย
00:07:55 → 00:07:59 ตัวอย่างแรกก็คือถ้าเป็นตั้งแต่ตอนโตนะ
00:07:59 → 00:08:01 ครับบางครั้งการที่เราเจอปัญหายืดเยื้อ
00:08:01 → 00:08:04 เรื้อรังและแก้ไม่สำเร็จนานวันเข้าบางที
00:08:04 → 00:08:06 เราสูญเสียความเชื่อมั่นก็จะเกิดความท้อ
00:08:06 → 00:08:07 ใจ
00:08:07 → 00:08:10 แต่กลุ่มนี้ถ้าต้นทุนก่อนหน้านั้นในชีวิต
00:08:10 → 00:08:13 เขาดีนะครับก็อาจจะท้อไม่นานแล้วเขาพอจะ
00:08:13 → 00:08:16 ขึ้นลุกขึ้นสู้ได้
00:08:16 → 00:08:19 แม้แต่ในกลุ่มที่เจอปัญหายืดเยอะเรื้อรัง
00:08:19 → 00:08:23 และแก้ไม่สำเร็จเนี่ยบางส่วนนะครับถ้าเขา
00:08:23 → 00:08:26 มีโจทย์เก่าก่อนหน้านั้นซึ่งผมจะไล่ต่อไป
00:08:26 → 00:08:28 ให้ฟังนะครับถ้าก็มีโจทย์เก่าก่อนหน้า
00:08:28 → 00:08:31 นั้นยิ่งเด็กยิ่งเยอะยิ่งมากยิ่งนานเท่า
00:08:31 → 00:08:35 ไหร่นะครับเขามีโอกาสจะเข้าสู่สภาวะที่
00:08:35 → 00:08:37 ท้อแล้วแบบลูกไม่ขึ้นอ่ะ
00:08:37 → 00:08:40 นะคะนี้ลองถอยหลังมาหน่อยนะครับก็คือ
00:08:40 → 00:08:44 ประสบการณ์การที่เราทำอะไรไม่ได้ช่วย
00:08:44 → 00:08:46 เหลือตัวเองไม่ได้จะเกิดขึ้นในสถานการณ์
00:08:46 → 00:08:49 วิกฤตเศรษฐกิจในคนที่
00:08:49 → 00:08:53 หางานทำไม่ได้สมัครงานแล้วไม่ไม่ได้รับ
00:08:53 → 00:08:58 การตอบรับนะครับหรือในโรงเรียนเด็กนัก
00:08:58 → 00:09:00 เรียนที่ถูก bully ถูกเพื่อนแกล้ง
00:09:00 → 00:09:04 เด็กบางคนถูกเพื่อนแกล้งนะครับไปบอกพ่อ
00:09:04 → 00:09:07 แม่พ่อแม่ไม่สนใจอันนี้จะกลายเป็นความซ้ำ
00:09:07 → 00:09:12 เติมคือเขาอยู่ในสภาวะที่ถูกคุกคามรู้สึก
00:09:12 → 00:09:14 ว่าช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เข้าไปขอความ
00:09:14 → 00:09:16 ช่วยเหลือแต่พ่อแม่ไม่ได้ช่วยเหลือซึ่ง
00:09:16 → 00:09:18 นี้คนอาจจะสงสัยว่ามีด้วยเหรอมีนะครับ
00:09:18 → 00:09:22 หรือว่าที่ไปบอกครูครูก็ไม่ถือเป็นภารกิจ
00:09:22 → 00:09:25 ครับในโดยเฉพาะอย่างยิ่งยุคสมัยที่
00:09:25 → 00:09:28 ประเด็นนี้อ่าไม่ได้รับการเห็นความสำคัญ
00:09:28 → 00:09:30 นะครับ
00:09:30 → 00:09:34 แต่เด็กบางคนครับสอบตกแล้วก็ตกซ้ำแล้วซ้ำ
00:09:34 → 00:09:37 อีกสูญเสียความเชื่อมั่นอันนี้ก็มันจะ
00:09:37 → 00:09:41 เป็นเด็กที่โตหน่อยนึงแล้วก็เด็กเล็กกว่า
00:09:41 → 00:09:44 นั้นก็มีครับฝนปนกันทั้งเด็กเล็กเด็กโต
00:09:44 → 00:09:47 เลยก็คือแพ้ทางใจที่เกิดขึ้นในวัยเด็กอาจ
00:09:47 → 00:09:50 จะเป็นกระสบการณ์การเข้าสู่กระบวนการ
00:09:50 → 00:09:54 รักษาโรคหรือการรักษาช่อปากฟันแล้วต้อง
00:09:54 → 00:09:59 ถูกจับเช่นเอ่อเวลาทำช่องปากในเด็กเนี่ย
00:09:59 → 00:10:02 หมอฟันก็ต้องอีกที่ห่อตัวใช่ไหมครับการ
00:10:02 → 00:10:05 ห่อตัวนี้ก็เพื่อทำหัตถการในช่องปากแล้ว
00:10:05 → 00:10:06 ก็เพื่อความปลอดภัยของเด็ก
00:10:06 → 00:10:09 แต่ไม่มีแง่มุมที่เด็กแต่ละคนจะมี
00:10:09 → 00:10:12 ปฏิกิริยาต่างกันนะครับปฏิกิริยาอย่าง
00:10:12 → 00:10:14 หนึ่งที่เกิดขึ้นได้ก็คือเขาดินไม่ได้นะ
00:10:14 → 00:10:18 ครับเขาสู้ไม่ได้เขากลัวเขาเจ็บอยู่ใน
00:10:18 → 00:10:21 สภาวะเหมือนทุกชาติไฟฟ้าแต่ทำอะไรไม่ได้
00:10:21 → 00:10:24 เดี๋ยวเด็กเป็นคนเป็นเข้าสู่กระบวนการ
00:10:24 → 00:10:27 รักษาโรคที่จะต้องเจ็บตัวซ้ำๆนะครับผมมี
00:10:27 → 00:10:30 รุ่นน้องที่รู้จักกันเล่าแต่ว่าตอนเด็ก
00:10:30 → 00:10:33 ถูกจับรักษา
00:10:33 → 00:10:36 แต่ด้วยความเจ็บป่วยชนิดนึงแล้วต้องอยู่
00:10:36 → 00:10:39 ในกระบวนการเจ็บปวดที่นี่ไม่ได้ต่อเนื่อง
00:10:39 → 00:10:41 ยาวนานนะครับ
00:10:41 → 00:10:44 จะทำมันก็เป็นเรื่องในบ้านครับในบ้านที่
00:10:44 → 00:10:47 พ่อแม่ทะเลาะกันพ่อทำร้ายแม่
00:10:47 → 00:10:51 นี้นะครับเด็กอยู่ในบรรยากาศที่กลัวแล้ว
00:10:51 → 00:10:54 ทำอะไรไม่ได้นะครับเขาเขาอยู่ในสภาวะที่
00:10:54 → 00:10:55 กลัว
00:10:55 → 00:10:58 เข้าไปยุ่งเกี่ยวได้หนีไปไหนก็ไม่ได้ต้อง
00:10:58 → 00:11:00 อยู่ตรงนั้น
00:11:00 → 00:11:03 ดีหรือเด็กถูกทำร้ายครับมีไปไหนก็ไม่ได้
00:11:03 → 00:11:07 ยกเว้นโตพอแล้วค่อยนี้นะครับเด็กถูกทอด
00:11:07 → 00:11:10 ทิ้งตั้งแต่ยังเล็กและอยู่ในสภาวะที่ยัง
00:11:10 → 00:11:11 ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้
00:11:11 → 00:11:15 ยิ่งเล็กเท่าไหร่ผลกระทบยิ่งมากเท่านั้น
00:11:15 → 00:11:17 ยิ่งเกิดซ้ำเท่าไหร่ยิ่งต่อเนื่องยาวนาน
00:11:17 → 00:11:22 เท่าไหร่ผลกระทบที่ยิ่งมากเท่านั้นบางคน
00:11:22 → 00:11:25 มีเหตุจากที่บ้านเพราะไปโรงเรียนไปโดน
00:11:25 → 00:11:29 บุรี่นะครับก็มีผลต่อโครงสร้างบุคลิกของ
00:11:29 → 00:11:33 เค้าพ่อไปเข้าที่ทำงานปวดถูกบุหรี่ซ้ำ
00:11:33 → 00:11:36 ประสบการณ์เหล่านี้แหละครับที่ถูกวางราก
00:11:36 → 00:11:39 ฐานของสภาวะที่เราช่วยนะตัวเองไม่ได้
00:11:39 → 00:11:43 อย่างต่อเนื่องแล้วแต่แต่ละคนที่ไม่
00:11:43 → 00:11:46 เหมือนกันนั้นถ้ามองแบบนี้ก็แปลว่าแต่ละ
00:11:46 → 00:11:48 คนจะมีต้นทุนประสบการณ์การช่วยเหลือตัว
00:11:48 → 00:11:50 เองไม่ได้ไม่เท่ากันบางคนอาจจะมีไม่มาก
00:11:50 → 00:11:54 นักนะครับบางคนมีมากๆตั้งแต่ต้นเล็กๆ
00:11:54 → 00:11:55 ว่า
00:11:55 → 00:11:58 สิ่งนี้คือต้นทุนในตัวเขาฟังเป็นส่วน
00:11:58 → 00:12:02 หนึ่งในปฏิกิริยาทางอารมณ์ที่จะมีต่อเวลา
00:12:02 → 00:12:04 ที่เค้ามีปัญหาเข้ามา
00:12:04 → 00:12:07 ในมุมกลับกันนะครับเด็กบางคนมีประสบการณ์
00:12:07 → 00:12:10 ความสำเร็จที่สร้างความเชื่อมั่นโตมาเป็น
00:12:10 → 00:12:12 ผู้ใหญ่มีโอกาสสร้างความสำเร็จสร้างความ
00:12:12 → 00:12:15 เชื่อมั่นอาจจะเป็นความสำเร็จเรื่องการ
00:12:15 → 00:12:18 เรียนการงานความสัมพันธ์นะครับการเป็นที่
00:12:18 → 00:12:19 ยอมรับ
00:12:19 → 00:12:24 ความสำเร็จที่มีมาจึงกลายเป็นพลังบวก
00:12:24 → 00:12:27 อย่างในตัวเขาขณะที่สภาวะที่ช่วยเหลือตัว
00:12:27 → 00:12:30 เองไม่ได้ถูกกดดันบางอย่างเขาทำอะไรก็ไม่
00:12:30 → 00:12:33 ได้ผลตัวนั้นก็คือตัวที่จะทำให้เขาเสี่ยง
00:12:33 → 00:12:37 กับการเกิดความท้อใจระดับความท้อใจยาก
00:12:37 → 00:12:40 ง่ายต่างกันครับคนแต่ละคนมันไม่ได้อยู่
00:12:40 → 00:12:43 ที่ว่าเขาเก่งหรือไม่เก่งครับมันอยู่ที่
00:12:43 → 00:12:46 ว่าเขาถูกวางโปรแกรมทางอารมณ์ตั้งแต่ตอน
00:12:46 → 00:12:49 เล็กขึ้นมาเนี่ยเป็นอย่างไรซึ่งโปรแกรม
00:12:49 → 00:12:51 ต่างๆที่เป็นประสบการณ์ตั้งแต่ตอนเด็ก
00:12:51 → 00:12:54 เล็กๆเนี่ยมันเป็นสิ่งที่คนคนนั้นไม่ได้
00:12:54 → 00:12:58 คะแล้วก็เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในขณะที่เขา
00:12:58 → 00:13:00 เองก็ไม่ได้อยู่ในสถานะที่จะทำอะไรของมัน
00:13:00 → 00:13:02 ได้เพราะเขายังเป็นเด็กนะครับแต่
00:13:02 → 00:13:04 ประสบการณ์เหล่านั้นแหละครับที่จะเป็นตัว
00:13:04 → 00:13:09 กำหนดที่มีพลังมากกับการที่เขาจะรู้สึก
00:13:09 → 00:13:11 ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้อ่ะ
00:13:11 → 00:13:14 แต่อย่างไรก็ตามนะครับการช่วยเหลือตัวเอง
00:13:14 → 00:13:16 ไม่ได้เนี่ยเมื่อโตเป็นผู้ใหญ่นะครับถ้า
00:13:16 → 00:13:20 มีแผลทางใจหรือมีปมจากวัยเด็กเนี่ยบางคน
00:13:20 → 00:13:22 ก็อาจจะแปลงมากันเป็นคนที่ซึมเศร้าง่าย
00:13:22 → 00:13:26 บางคนก็จะแปลงมาแกเป็นคนที่ 9 ระเบิด
00:13:26 → 00:13:28 อารมณ์ง่ายนะครับ
00:13:28 → 00:13:31 ข้างในเจ็บปวดคล้ายกันแต่ข้างนอกแสดง
00:13:31 → 00:13:34 อารมณ์ออกมาไม่เหมือนกันอันนึงคือพุ่งไป
00:13:34 → 00:13:37 ทำลายคนข้างนอกคือก้าวร้าวที่การก็คือ
00:13:37 → 00:13:39 พุ่งทำร้ายตัวเองคือซึมเศร้า
00:13:39 → 00:13:42 อันนี้เราเข้าใจแล้วนะครับว่ากลไกสำคัญก็
00:13:42 → 00:13:45 คือมันก็คือการมีประสบการณ์ทางอารมณ์ใน
00:13:45 → 00:13:47 วัยเด่นที่สร้างความรู้สึกช่วยเหลือตัว
00:13:47 → 00:13:49 เองไม่ได้ขึ้นมา
00:13:49 → 00:13:52 แล้วเราทำอะไรได้บ้างนะครับผมจะพูดเป็น 3
00:13:52 → 00:13:55 ประเด็นนะครับประเด็นแรกก็คือเราจะจัดการ
00:13:55 → 00:13:58 ยังไงได้บ้างในโจทย์ที่ระดับความนึกคิด
00:13:58 → 00:14:01 และความรู้สึกผ่านการพูดคุยแต่อาจจะต้อง
00:14:01 → 00:14:03 เป็นการพูดคุยที่มีทักษะช่วยเหลือหน่อย
00:14:03 → 00:14:06 หนึ่งครับ 2 คือกรณีที่อารมณ์ที่มันฝัง
00:14:06 → 00:14:09 ลึกกระบวนการจะแตกต่างกันนะครับเพราะมัน
00:14:09 → 00:14:13 จะซับซ้อนแล้วเจาะลึกกว่าสามเราจะป้องกัน
00:14:13 → 00:14:17 ไม่เกิดขึ้นในลูกหลานของเราได้ยังไงอ่ะ
00:14:17 → 00:14:20 ผู้กระทำแบบที่ 1 ก่อนครับแบบที่ 1 ก็คือ
00:14:20 → 00:14:25 ถ้าเรารู้สึกท้อหรือถ้าเรามีคนรู้จักรู้
00:14:25 → 00:14:27 สึกท้อท้อนะครับ
00:14:27 → 00:14:30 แต่เราก็ต้องเริ่มต้นจากการตระหนักว่าเรา
00:14:30 → 00:14:34 ก็แรงมีชุดความคิดหรือมีวิธีคิดในการ
00:14:34 → 00:14:38 อธิบายสิ่งต่างๆอย่างไรนะครับความตระหนัก
00:14:38 → 00:14:41 นี้จะทำให้เราเห็นได้ว่ามันมีความคิดบาง
00:14:41 → 00:14:44 อย่างที่ทำให้เราท้อใจง่ายซึ่งไม่นี่แหละ
00:14:44 → 00:14:48 ครับก็คือตอนต่อของการศึกษาในสุนัขมาสู่
00:14:48 → 00:14:50 การศึกษาในมนุษย์ของนักวิจัยคนเดียวกัน
00:14:50 → 00:14:53 คือคุณมาร์ตินสลิปแม่นและทีมงานนะครับ
00:14:53 → 00:14:56 เข้ากับเพราะว่ามันจะมีความคิดอยู่ 3
00:14:56 → 00:15:03 ลักษณะซึ่งพบได้ในคนที่ที่มองโลกในรายและ
00:15:03 → 00:15:06 มีแนวโน้มจะอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นในทางทำ
00:15:06 → 00:15:10 ให้หมดกำลังใจและท้อใจนะครับในการศึกษา
00:15:10 → 00:15:12 นี่นี่
00:15:12 → 00:15:15 หมอเขาตระหนักว่าเอามาจากกรณีศึกษาสุนัข
00:15:15 → 00:15:18 นะครับเข้าถนัดว่าชุดความคิดเหล่านี้มัน
00:15:18 → 00:15:21 ถูกสร้างขึ้นมาจากประสบการณ์ในอดีตนะครับ
00:15:21 → 00:15:25 แต่เขาก็เพียงทำโปรแกรมในการปรับปรุงระบบ
00:15:25 → 00:15:26 ความคิด
00:15:26 → 00:15:29 แต่ถ้าลึกไปกว่านี้ต้องใช้การยาวแบบที่ 2
00:15:29 → 00:15:32 นั้นในแบบที่ 1 ผมจะเล่าให้ฟังแบบนี้นะ
00:15:32 → 00:15:34 ครับก็ต้องตระหนักก่อนว่าเรามีความคิดจะ
00:15:34 → 00:15:37 อยู่ในใจและอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นยังไง
00:15:37 → 00:15:41 ซึ่งกรณีนี้ใจเราจะท้อเมื่อหนึ่งเรามอง
00:15:41 → 00:15:43 เห็นปัญหาแล้วรู้สึกว่าปัญหามันไม่จบไม่
00:15:43 → 00:15:47 สิ้นนะครับมันจะ E ลาดยาวนะครับไม่รู้จะ
00:15:47 → 00:15:51 จบเมื่อไหร่ซึ่งจะต่างกันกับการที่เรารู้
00:15:51 → 00:15:54 ดีว่าโอเคเลยช่วงนี้เศรษฐกิจตกช่วงนี้เรา
00:15:54 → 00:15:58 ยังหางานทำไม่ได้นะครับแต่เรารู้ดีว่าถ้า
00:15:58 → 00:16:02 เศรษฐกิจฟื้นตัวลักษณะงานของเรามันคนจะ
00:16:02 → 00:16:04 ขยับได้ตอนไหนตอนไหนอย่างนี้ก็แปลว่าเรา
00:16:04 → 00:16:08 จะยอมรับสภาพว่าเราคงจะต้องอยู่ใครๆแบบ
00:16:08 → 00:16:11 นี้สักพักหนึ่งก่อนเก็บแรงนะครับเหมือน
00:16:11 → 00:16:13 กับที่ผมเล่าให้ฟังบ่อยครั้งว่าคุณหมอ
00:16:13 → 00:16:16 จิตแพทย์ชาวออสเตรียที่ถูกจับอยู่ในแคมป์
00:16:16 → 00:16:20 นาสีที่ชาวยิวนะครับจริงๆแล้วที่บอกว่า
00:16:20 → 00:16:23 เข้าอยู่ในแคมป์นาซีทุกวันมีคนตายแต่เขา
00:16:23 → 00:16:27 คิดในใจว่าสักวันสงครามจะต้องจบลงมีแต่ก็
00:16:27 → 00:16:29 ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่นะครับเข้าเราอยู่สอง
00:16:29 → 00:16:33 ปีครับแต่เข้าร่วมจะต้องจบลงให้ความเชื่อ
00:16:33 → 00:16:35 ว่ามันจะต้องจบลงได้มันทำให้เห็นแสงสว่าง
00:16:35 → 00:16:38 ที่ปลายอุโมงค์นะครับแต่ในคนที่มองแง่
00:16:38 → 00:16:42 ร้ายที่เสี่ยงกับความท้อใจก็คือจะมองว่า
00:16:42 → 00:16:45 ปัญหามันไม่เห็นมันไม่เห็นวันจบมันไม่มี
00:16:45 → 00:16:50 ทางจบสิ้นมันมองไม่เห็นฝักนะครับให้เป็น
00:16:50 → 00:16:53 วิธีคิดตัวที่หนึ่งถ้าคุณเห็นร่องรอยของ
00:16:53 → 00:16:55 ความคิดแบบนี้นะครับขอให้รู้ว่านี่เป็น
00:16:55 → 00:16:59 ความคิดนะครับในหัวเรามันมีช่องมันมีรู
00:16:59 → 00:17:01 โหว่มันอย่างอยู่ในนั้นมันสามารถที่จะ
00:17:01 → 00:17:03 ตั้งคำถามว่าจริงหรือเปล่าที่มันจะไม่จบ
00:17:03 → 00:17:06 ไม่สิ้นนะครับเราสามารถหาข้อมูลเพื่อดู
00:17:06 → 00:17:09 ได้ว่ามันน่าจะเป็นลากยาวได้ไกลสักแค่ไหน
00:17:09 → 00:17:12 เราจะได้มีแผนในการจัดการที่เป็นรูป
00:17:12 → 00:17:15 ประธรรมเราจะได้มีความรู้สึกว่าเราควบคุม
00:17:15 → 00:17:18 ชีวิตเราได้ครับไม่งั้นเราจะรู้สึกมันก็
00:17:18 → 00:17:21 ทำอะไรไม่ได้กับปัญหานั้นอันนี้คงประกอบ
00:17:21 → 00:17:24 ที่ 1 คือปัญหามันไม่จบสิ้นห้องกับที่สอง
00:17:24 → 00:17:27 ก็คือเวลามีปัญหาเรื่องหนึ่งฮะคนที่มอง
00:17:27 → 00:17:30 แง่ร้ายจะรู้สึกว่ามันแย่ไปหมดแล้วชีวิต
00:17:30 → 00:17:33 ฉันครับเช่นตกงาน
00:17:33 → 00:17:37 ถ้าเงินไม่พอใช้
00:17:37 → 00:17:40 ก็รู้สึกแย่รู้สึกท้อ
00:17:40 → 00:17:43 จะไม่ยุ่งกับเพื่อนไม่ดูแลสุขภาพ
00:17:43 → 00:17:48 เก็บตัวปัญหาหนึ่งขยายเป็นปัญหา 2 ปัญหา 3
00:17:48 → 00:17:51 ปัญหา 4 เพราะกระบวนการทางความคิดก็คือ
00:17:51 → 00:17:56 มันมันหมดสิ้นแล้วนะครับสังเกตนะครับทั้ง
00:17:56 → 00:17:59 สองกรณีมันมีลักษณะของการสุดโต่งทางความ
00:17:59 → 00:18:02 คิดแบบขาวกะดำนะครับเพราะเกิดเรื่องนึง
00:18:02 → 00:18:05 มันจะขยายใหญ่เลยนะครับต้องกรณีนี้คือมัน
00:18:05 → 00:18:08 มีเรื่องงานกับเงินก็จะปล่อยเลยนะครับ
00:18:08 → 00:18:11 ชีวิตทั้งชีวิตไม่เหลืออะไรแล้วใครๆกับ
00:18:11 → 00:18:14 เมื่อกี้มีปัญหามันจะไม่จบสิ้น 2 เนี่ย
00:18:14 → 00:18:16 คือร่องรอยที่เราจะเห็นนะครับว่าเวลาที่
00:18:16 → 00:18:19 เราคุยด้วยเราจะรู้ว่าเขามีวิธีคิดที่
00:18:19 → 00:18:21 เหมือนขาวกะดำมีวิธีคิดที่เหมือนขยายความ
00:18:21 → 00:18:25 เป็นปัญหานะครับแต่นั่นคือปฏิกิริยาที่
00:18:25 → 00:18:29 เกิดขึ้นจากตัวลมที่อยู่ลึกๆซึ่งเป็นผล
00:18:29 → 00:18:32 ของประสบการณ์ทางอารมณ์จากวัยเด็กได้และ
00:18:32 → 00:18:34 เขาไม่รู้ตัวได้ว่าเขามีความคิดชุดนี้
00:18:34 → 00:18:36 อยู่นะครับ
00:18:36 → 00:18:39 ที่ 3 นะครับก็คือการที่เวลาเกิดอะไรขึ้น
00:18:39 → 00:18:42 แล้วก็มีนะนกจะโทษตัวเองแล้วก็ทำให้ตัว
00:18:42 → 00:18:46 เองรู้สึกแย่ลงรวมถึงมองไม่เห็นว่าตัวเอง
00:18:46 → 00:18:49 จะทำให้ดีขึ้นได้ยังไงเพราะมองไม่เห็นว่า
00:18:49 → 00:18:52 ตัวเองจะเก่งขึ้นหรือทำให้ได้ผลได้อย่าง
00:18:52 → 00:18:55 ไรคือไม่มีความเชื่อในการพัฒนาตัวเองอยู่
00:18:55 → 00:18:58 ในนั้นด้วย 3 ปัจจัยเช่นนี้นะครับถ้ามัน
00:18:58 → 00:19:02 มีร่องรอยความคิด 3 ตัวนี้นะครับอ่ะ
00:19:02 → 00:19:06 ถ้าเราสังเกตรัตนก.พ.ในขั้นที่ 2 ก็คือ
00:19:06 → 00:19:11 เราหยิบเอาความคิดทั้ง 3 3 ตัว 3 ตัวนี้
00:19:11 → 00:19:14 นะครับเอามานั่งตั้งคำถามเช็คดูว่าจริง
00:19:14 → 00:19:17 ไหมนะครับซึ่งก็คือกระบวนการตรวจสอบความ
00:19:17 → 00:19:20 เป็นจริงของสิ่งที่อยู่ในใจเราซึ่งเจ้า
00:19:20 → 00:19:23 ตัวจำนวนเมื่อมีการตรวจสอบแล้วเขาจะยอม
00:19:23 → 00:19:25 รับว่าเออบางเรื่องก็จะคิดสุดขั้วไปมั้ง
00:19:25 → 00:19:28 เรื่องก็จะมองข้ามสิ่งดีหรือสิ่งที่ยังมี
00:19:28 → 00:19:32 อยู่ไปนะครับก็เหมือนกันนี้ก็จะเป็นการ
00:19:32 → 00:19:35 จัดการที่ระดับความรู้ตัวความมีเหตุมีผล
00:19:35 → 00:19:38 ซึ่งก็จะทำให้พลังของมันลดลงพลังความคิด 3
00:19:38 → 00:19:42 ตัวที่ทำให้เราท้อใจนะครับจากนั้นมันไม่
00:19:42 → 00:19:44 หยุดที่ตรงนี้ครับเมื่อเราตั้งคำถามแล้ว
00:19:44 → 00:19:46 เราเริ่มเห็นว่าไอ้ความคิดของเราบางตัว
00:19:46 → 00:19:48 มันเป็นตัวทำให้เรารู้สึกแย่จริงๆพอเช็ค
00:19:48 → 00:19:51 ดีแล้วมันไม่ได้เป็นตามนั้นหรอกท่านที่
00:19:51 → 00:19:53 เค้าจะหนักตัวนี้พบเราจะต้องสานต่อด้วย
00:19:53 → 00:19:57 กันบอกว่าให้เงินเราจะลงมือทำอะไรครับการ
00:19:57 → 00:20:00 ลงมือทำอะไรเนี่ยหัวใจสำคัญคือเราต้องการ
00:20:00 → 00:20:02 สร้างความรู้สึกว่าเราควบคุมสิ่งที่เรา
00:20:02 → 00:20:05 ได้ในบางเรื่องที่เรายังควบคุมได้นะครับ
00:20:05 → 00:20:10 ดังนั้นถ้าจะเลือกทำอะไรก็ตามให้เลือก
00:20:10 → 00:20:13 สิ่งที่เราทำได้และตั้งเป้าหมายในสิ่งที่
00:20:13 → 00:20:16 เราบรรลุได้ด้วยตัวเรา
00:20:16 → 00:20:19 นั้นเวลาผมฟังตนตั้งเป้าหมายผมจะรู้เลย
00:20:19 → 00:20:21 ว่าวิธีตั้งเป้าหมายแบบนี้เขามีโอกาส
00:20:21 → 00:20:25 สำเร็จแล้วเขาจะรู้สึกดีกับมันได้แต่บาง
00:20:25 → 00:20:27 เป้าหมายจะเป็นเป้าหมายที่เค้าตั้งแล้ว
00:20:27 → 00:20:29 เขาจะรู้สึกว่าเข้าควบคุมอะไรไม่ได้ใน
00:20:29 → 00:20:33 ชีวิตเขาเข้ากลุ่มเป้าหมายไม่ได้เช่นเป้า
00:20:33 → 00:20:36 หมายที่ว่าฉันต้องการให้เขาเขามาขอโทษฉัน
00:20:36 → 00:20:39 ฉันต้องการให้เขาตระหนักว่าสิ่งที่เขาทำ
00:20:39 → 00:20:43 มันมาส่งผลเสียกับฉันยังไงอ่ะคุณป้าไม่
00:20:43 → 00:20:45 แบบนี้เป็นเป้าหมายที่เราควบคุมผลลัพธ์
00:20:45 → 00:20:47 ไม่ได้
00:20:47 → 00:20:51 ด้วยกระบวนการตรงนี้นะครับแปลว่าถ้าเรา
00:20:51 → 00:20:55 กำลังท้อใจเราสามารถสังเกตความคิดตรวจสอบ
00:20:55 → 00:21:00 ความคิดตัวเองเลือกสิ่งที่เราทำได้แล้วลง
00:21:00 → 00:21:03 มือทำแบบมีเป้าหมายเพื่อทำให้เรารู้สึก
00:21:03 → 00:21:06 ว่าชีวิตเรายังทำอะไรบางอย่างได้แล้วก็
00:21:06 → 00:21:08 เรียนรู้ที่จะยอมรับสิ่งที่เราทำไม่ได้นะ
00:21:08 → 00:21:10 ครับให้ความรู้สึกว่าเราควบคุมชีวิตและ
00:21:10 → 00:21:13 ควบคุมผลลัพธ์บันอย่างได้นี่แหละคือตัว
00:21:13 → 00:21:17 สำคัญที่จะทำให้เรามีกำลังใจนะครับส่วนคน
00:21:17 → 00:21:21 ที่ท้อใจก็จะมีลักษณะความคิด 3 ตัวนั้น
00:21:21 → 00:21:25 คือมันเขาก็ดำครับมันไม่จบไม่สิ้นชีวิต
00:21:25 → 00:21:29 หมดแล้วฉันเปลี่ยนแปลงไม่ได้
00:21:29 → 00:21:32 ถ้ามันมองไม่เห็นทางออกเพราะคิดแบบนี้
00:21:32 → 00:21:35 แล้วมันเห็นแต่ทางตันนะครับนั้นบางกรณี
00:21:35 → 00:21:37 ระหว่างที่เราจะช่วยกระบวนการความคิดแบบ
00:21:37 → 00:21:40 นี้นะครับถ้านอนไม่หลับอาจจะต้องใช้ยา
00:21:40 → 00:21:43 ช่วยให้หลับหรือสารเคมีที่หาซื้อได้ที่
00:21:44 → 00:21:47 ช่วยให้รับครับถ้าเขามีอาการซึมเศร้าชัด
00:21:47 → 00:21:49 อาจจะต้องใช้ยาแก้ซึมเศร้าแต่กระบวนการ
00:21:49 → 00:21:53 จัดการความคิดยังคงต้องมีอันนี้คือการ
00:21:53 → 00:21:56 เยียวยาระดับที่ 1 นะครับซึ่งสามารถ
00:21:56 → 00:22:00 อธิบายได้และผมคิดว่าหลายท่านฟังแล้วพอจะ
00:22:00 → 00:22:01 นึกออก
00:22:01 → 00:22:04 มีแต่ความยากง่ายไม่เหมือนกันนะครับก็มี
00:22:04 → 00:22:07 ระดับที่สองที่ลึกลงไปและแบบที่ 2 นี่
00:22:07 → 00:22:09 หมายความว่ามันอยู่ตรงความรู้สึกลึกๆที่
00:22:09 → 00:22:12 ฝังมาจากประสบการณ์ทางอารมณ์ในวัยเด็กนะ
00:22:12 → 00:22:15 ครับมันก็มีวิธีของมันนะครับแต่ต้องบอก
00:22:15 → 00:22:18 อย่างนึงเลยว่าการแยกเป็นระดับที่ 1
00:22:18 → 00:22:20 ระดับที่สองเนี่ยมันเป็นเส้นสมมุตินะครับ
00:22:20 → 00:22:23 คือความเป็นจริงแล้วเนี่ยเราต้องเยียวยา
00:22:23 → 00:22:26 ระดับ 2 เข้าไปด้วยไม่มากก็น้อยนะครับบาง
00:22:26 → 00:22:29 ครั้งเราคุยระดับหนึ่งและเราดูแลระดับ 2
00:22:29 → 00:22:33 ในเบื้องต้นก็เพียงพอแล้วสำหรับคนที่
00:22:33 → 00:22:36 กำลังท้อใจในบางครั้งเราทำแบบที่ 1 และ
00:22:36 → 00:22:38 รู้สึกที่ทำไมมันยากจังมันไม่เคยสำเร็จ
00:22:38 → 00:22:41 เพราะว่าระดับที่สองมันแรงมากครับซึ่ง
00:22:41 → 00:22:45 กรณีนั้นการจะคุยเรื่องความได้คิดล้วนๆจะ
00:22:45 → 00:22:48 ทำได้ยากเนี่ยที่ 2 คืออะไรแบบที่ 2 คือ
00:22:48 → 00:22:51 การเยียวยาระดับความรู้สึกครับซึ่งเราก็
00:22:51 → 00:22:54 ต้องใช้วิธีเปิดรับความรู้สึกให้เขารับ
00:22:54 → 00:22:56 รู้ความรู้สึกว่าเข้ามารู้สึกยังไงสามารถ
00:22:56 → 00:22:59 อยู่กับความรู้สึกนั้นได้แล้วก็ถ้าจะ
00:22:59 → 00:23:01 เยียวยาแบบ
00:23:01 → 00:23:05 มีชุดง่ายก่อนก็คือทำให้เขายอมรับความรู้
00:23:05 → 00:23:08 สึกที่เกิดขึ้นและทำให้เขารับรู้ได้ว่ามี
00:23:08 → 00:23:10 คนเข้าใจความรู้สึกของเขา
00:23:10 → 00:23:14 อันนี้คือระดับที่ง่ายของระดับที่ 2 และ
00:23:14 → 00:23:17 ระดับที่ยากกว่านั้นก็คือเราจะเห็นแล้ว
00:23:17 → 00:23:19 ล่ะว่ามันมีอะไรบางอย่างที่ซับซ้อนกว่า
00:23:19 → 00:23:22 นั้นเราใช้คำถามเพื่อเช็คดูก็คือให้ความ
00:23:22 → 00:23:25 รู้สึกที่ก็มีอยู่ตอนนี้ซึ่งเชื่อมกัน
00:23:25 → 00:23:27 อยู่ภายใต้ก้อนใหญ่เลยคือความรู้สึกช่วย
00:23:27 → 00:23:30 เหลือตัวเองอะไรไม่ได้นะครับมันมีความ
00:23:30 → 00:23:34 คุ้นเคยมาก่อนไหมมันเคยเกิดขึ้นในชีวิต
00:23:34 → 00:23:37 ก่อนหน้านี้ไหมนะครับ
00:23:37 → 00:23:40 แต่บางคนมีอายุ 4 50 ปีเพราะผมถามว่า
00:23:40 → 00:23:42 เอ้ยความรู้สึกแบบนี้มันเคยเกิดขึ้นมา
00:23:42 → 00:23:45 ก่อนมั้ยเขาก็จะบอกตอนเรียนมหาลัยเคยมีนะ
00:23:45 → 00:23:48 ครับเพราะว่าโอเคกลมทบทวนอยู่ตรงนั้นอยู่
00:23:48 → 00:23:51 สักพักนึงมันมีเหตุการณ์อะไรในช่วงเด็ก
00:23:51 → 00:23:52 ก่อนหน้านั้นไหมที่เคยทำให้เขารู้สึก
00:23:52 → 00:23:56 ประมาณนั้นนะครับเขาก็จะเลิกจะอ้อปฐมเคย
00:23:56 → 00:23:59 มีให้ธรรมชาติของความรู้สึกในอดีตบางที
00:23:59 → 00:24:02 เราไม่รู้ตัวนะครับแต่เมื่อเราเชื่อมต่อ
00:24:02 → 00:24:04 กับความรู้สึกที่เกิดขึ้นในปัจจุบันและ
00:24:04 → 00:24:06 อยู่ดีๆกับมันบ้างที่เราจะคุ้นๆนะครับบาง
00:24:06 → 00:24:08 คนจะบอกว่ามันเป็นความรู้สึกที่อยู่กับ
00:24:08 → 00:24:11 ฉันมาตั้งแต่จำความได้ถ้าเป็นแบบนี้แปล
00:24:11 → 00:24:15 ว่าเป็นของเก่ามากๆนะครับก็เลยนี้นะครับ
00:24:15 → 00:24:19 เป็นกรณีที่ต้องการการเยียวยาที่เป็นปุ่ม
00:24:19 → 00:24:22 วัยเด็กซึ่งกระบวนการเยียวยานี้พูดคุย
00:24:22 → 00:24:24 ธรรมดาไม่ได้นะครับทำไมถึงพูดคุยธรรมดา
00:24:24 → 00:24:25 ไม่ได้เพราะว่า
00:24:26 → 00:24:28 สมองส่วนที่บันทึกความทรงจำทางอารมณ์
00:24:28 → 00:24:33 เนี่ยมันอยู่ลึกลงไปซึ่งการคุยด้วยเหตุผล
00:24:33 → 00:24:37 มันกระบวนการทางความคิดของเหตุผลมันอยู่
00:24:37 → 00:24:40 ที่มีส่วนส่วนบนแต่กระบวนการที่จัดการ
00:24:40 → 00:24:43 เยียวยาความรู้สึกที่อยู่ลึกลงไปมันเป็น
00:24:43 → 00:24:46 สมองส่วนมากหรือชั้นล่างนั้นก็เป็นการ
00:24:46 → 00:24:50 เยียวยาปอมวัยเด็กจึงไม่สามารถใช้การพูด
00:24:50 → 00:24:53 คุยในเหตุผลได้อย่างเดียวแต่เราแตกได้ก็
00:24:53 → 00:24:55 ตอนที่เราเข้าใจความรู้สึกและยอมรับความ
00:24:55 → 00:24:58 รู้สึกของเขานะครับนั้นในทางปฏิบัติถ้า
00:24:58 → 00:25:03 คุณจะหยิบเอามาเอาไปใช้จากวันนี้ก็คือทำ
00:25:03 → 00:25:06 ระดับที่ 1 แล้วก็แตะที่เลือกที่ 2 คือ
00:25:06 → 00:25:08 ให้พื้นที่อารมณ์ความรู้สึกด้วยความเข้า
00:25:08 → 00:25:10 ใจ
00:25:10 → 00:25:13 นะครับจะมีหัวข้อใหญ่ข้อหนึ่งก็คือน่าจะ
00:25:13 → 00:25:16 ต้องกันเด็กได้ยังไงนะครับคุณคงเห็นแล้ว
00:25:16 → 00:25:18 นะครับว่าเออถ้าอย่างนั้นมันมีประสบการณ์
00:25:18 → 00:25:20 หลายอย่างนะที่ลูกหลานของเราอาจจะไปเจอ
00:25:20 → 00:25:23 แล้วทำให้เขาเกิดความรู้สึกว่าเขาช่วย
00:25:23 → 00:25:26 เหลือตัวเองไม่ได้อ่ะ
00:25:26 → 00:25:29 ขอคำแนะนำต่อจากนี้ผมนั่งเขียนเร็วๆออก
00:25:29 → 00:25:32 จากประสบการณ์โดยไม่ได้ค้นหาอะไรเลยนะ
00:25:32 → 00:25:34 ครับหวังว่าจะครอบคลุมอย่างร้อยแปดสิบ
00:25:34 → 00:25:36 เปอร์เซ็นต์ของคำแนะนำที่ทำเลยผู้เชี่ยว
00:25:36 → 00:25:39 ชาญหรือตำราแต่ละเล่มอย่างไรก็คือเรา
00:25:39 → 00:25:42 จำเป็นที่ต้องเข้าใจพัฒนาการและมีความคาด
00:25:42 → 00:25:46 หวังที่สมวัยของลูกหลานของเรานะครับ
00:25:46 → 00:25:49 สมวัยยังไงก็คือยกตัวอย่างนะครับเด็กที่
00:25:49 → 00:25:52 ยัง
00:25:52 → 00:25:56 และควบคุมอุจจาระปัสสาวะไม่ได้ถ้าเข้า
00:25:56 → 00:26:00 ปัสสาวะอุจจาระลาดคุณจะไปทำโทษเขาเขา
00:26:00 → 00:26:03 เพราะเขาปัสสาวะอุจจาระละตัวยังไงครับ
00:26:03 → 00:26:07 นั่นคือเขาไม่สามารถทำมันได้แต่เขาถูกทำ
00:26:07 → 00:26:10 โทษในสิ่งที่เขาทำมันไม่ได้
00:26:10 → 00:26:12 อันนี้เป็นตัวอย่างที่ตัวอย่างนึงนะครับ
00:26:12 → 00:26:15 ผมพึ่งได้รับการบอกเล่ามาจาก
00:26:15 → 00:26:18 คนวัย 50 กว่าคนหนึ่งในกระบวนการที่เขา
00:26:18 → 00:26:22 เรียนรู้การสำรวจความทรงจำในอดีตเค้า
00:26:22 → 00:26:24 ตระหนักในหลายความทรงจำที่เขาลืมเลือนไป
00:26:24 → 00:26:29 แล้วเค้าจำได้ว่าสมัยที่เป็นเด็กคุณปู่
00:26:29 → 00:26:32 ของเขาเนี่ยจะบังคับให้เขาร้อยหวายเพื่อ
00:26:32 → 00:26:36 สานเป็นตะกร้าหรือเป็นจานชาเป็นชามนะครับ
00:26:36 → 00:26:39 แต่ว่ามันแข็งมากซึ่งมือข้างเนี่ยจับเข้า
00:26:39 → 00:26:42 ไปจับได้แล้วมันมือก็ไม่แข็งแรงพอเขาถูก
00:26:42 → 00:26:46 ทำโทษครับเขาถูกทำโทษ
00:26:46 → 00:26:48 เธอทั้งนั้นที่เขาไม่ได้อยู่ในจุดที่เขา
00:26:48 → 00:26:51 จะทำได้ลักษณะเช่นนี้แหละครับคือตัวที่ทำ
00:26:51 → 00:26:53 ให้เด็กจะรู้สึกเหมือนกับอยู่ในสภาวะกด
00:26:53 → 00:26:55 ดันที่เขาทำอะไรไม่ได้
00:26:55 → 00:26:58 เราจำเป็นที่จะต้องเข้าใจพัฒนาการ
00:26:58 → 00:27:03 และก็ต้องปรับแต่งตามลูกหลังแต่ละคนโดยมี
00:27:03 → 00:27:05 ความขั้นตอนที่เหมาะสมท่านไม่ต้องรู้ลึก
00:27:05 → 00:27:08 ก็ได้ครับท่านแค่รู้ว่าอะไรที่แปลว่าชาติ
00:27:08 → 00:27:11 ผิดปกติสักหน่อยนึงซึ่งมีหาไม่ยากตอนนี้
00:27:11 → 00:27:15 แต่ว่าที่เหลือนะครับให้สังเกตเขาแล้วฝึก
00:27:15 → 00:27:19 ให้เขาได้ทำสิ่งที่ยากขึ้นไปอีกนิดนึงให้
00:27:19 → 00:27:22 เขาได้มีโอกาสรู้สึกถ้าถ่ายและให้เขารู้
00:27:22 → 00:27:25 สึกดีตอนที่เขาทำได้สำเร็จนั่นคือเคล็ด
00:27:25 → 00:27:28 ลับครับคือคาดหวังให้เหมาะสมและสร้าง
00:27:28 → 00:27:31 ประสบการณ์ความสำเร็จในแต่ละวัยอย่างต่อ
00:27:31 → 00:27:32 เนื่อง
00:27:32 → 00:27:33 หมอ
00:27:33 → 00:27:36 ธนาครับก็คือบรรยากาศทางอารมณ์ที่ให้ความ
00:27:36 → 00:27:40 รู้สึกมั่นคงอบอุ่นผ่อนคลายครับถ้าพ่อแม่
00:27:40 → 00:27:43 มีปัญหานะครับพยายามไปขอความช่วยเหลือ
00:27:43 → 00:27:46 เพื่อคลี่คลายปัญหาระหว่างกันและให้ระวัง
00:27:46 → 00:27:49 คนเข้ากับลูกสมัยก่อนตอนผมเป็นจิตแพทย์
00:27:49 → 00:27:54 ใหม่ๆนะครับเอ่อผมจะบอกกับพ่อแม่ว่าการ
00:27:54 → 00:27:57 หย่าร้างของพ่อแม่เนี่ยถ้าทะเลาะกันแล้ว
00:27:57 → 00:28:00 อยู่ด้วยกันและทะเลาะกันการแยกออกจากกัน
00:28:00 → 00:28:04 ให้ผลดีกว่านะครับซึ่งตอนนี้ก็ยังมีส่วน
00:28:04 → 00:28:08 ถูกอยู่นะครับแต่ว่า
00:28:08 → 00:28:10 แต่ยังไงๆการแยกกันก็ยังส่งผลอยู่โดย
00:28:10 → 00:28:13 เฉพาะเด็กเล็กครับและมันจึงเป็นกระบวนการ
00:28:13 → 00:28:16 ที่ต้องการความการออกแบบการช่วยเหลือจาก
00:28:16 → 00:28:20 คนที่ทำงานด้านนี้นะครับถ้าเรามีปัญหา
00:28:20 → 00:28:23 ระหว่างกันเราต้องตระหนักถึงผลกระทบกับ
00:28:23 → 00:28:25 ลูก
00:28:25 → 00:28:29 นั้นพ่อแม่ที่มีความสุขจะเป็นคนที่มีความ
00:28:29 → 00:28:33 พร้อมต่อการสร้างบรรยากาศที่ดี
00:28:33 → 00:28:37 เสื้อยืดหยุ่นผ่อนคลายคาดหวังอย่างเหมาะ
00:28:37 → 00:28:40 สมมันนี่คือสิ่งที่ทำได้บ้าง
00:28:40 → 00:28:43 ก็เหมือนกับที่ผมเคยหยิบเอาคำจากหนังสือ
00:28:43 → 00:28:46 เล่มหนึ่งที่บอกว่าความสุขของคุณครูคือ
00:28:46 → 00:28:49 พลังเปลี่ยนโลกเพราะว่าเหมือนกันเลยครับ
00:28:49 → 00:28:52 ในห้องเรียนก็สำคัญซึ่งก็อยากกำลังจะขยับ
00:28:52 → 00:28:54 มาต่อครับว่า
00:28:54 → 00:28:57 ถ้าพ่อแม่กับโรงเรียนจำเป็นที่ต้องมีความ
00:28:57 → 00:29:01 ร่วมมือกันความร่วมมือดูแลอะไรบ้างหนึ่ง
00:29:01 → 00:29:05 ต้องดูแลที่ทำให้เด็กไม่รู้สึกล้มเหลวใคร
00:29:05 → 00:29:08 บ้างเด็กที่หนังสือไม่เก่งทำยังไงให้เด็ก
00:29:08 → 00:29:11 มีความรู้สึกสำเร็จในแบบของตัวเองถ้าเขา
00:29:11 → 00:29:13 ไม่เก่งคณิตศาสตร์อย่างน้อยก็ทำให้เขารู้
00:29:13 → 00:29:15 ในเบื้องต้นแต่อย่าทำให้เขารู้สึกล้มเหลว
00:29:15 → 00:29:19 จากสิ่งที่เขามีไม่ถนัดนะครับแล้วก็ต้อง
00:29:19 → 00:29:21 ทำให้เขารู้สึกได้ถึงความสำเร็จในบาง
00:29:21 → 00:29:24 เรื่องที่เขายังมีที่ยืนมีความภูมิใจได้
00:29:24 → 00:29:26 เอ้อ
00:29:26 → 00:29:29 ข้อ 2 คือต้องระวังนะครับอยากให้เกิดการ
00:29:29 → 00:29:31 กลั่นแกล้งกันในโรงเรียนนะครับซึ่งการ
00:29:31 → 00:29:33 กลั่นแกล้งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะเด็กนัก
00:29:33 → 00:29:36 เรียนระหว่างกันเองนะครับมันเกิดขึ้น
00:29:36 → 00:29:40 ระหว่างครูทำนักเรียนก็มีแล้วก็รุ่นพี่ทำ
00:29:41 → 00:29:44 รุ่นน้องแล้วก็รุ่นเพื่อนทำกันเองไม่ขึ้น
00:29:44 → 00:29:46 มีรุ่นน้องแกล้งรุ่นพี่
00:29:46 → 00:29:50 ครูกันแกล้งนักเรียนส่งผลกระทบรุนแรงมาก
00:29:50 → 00:29:53 นะครับผมเจอเด็กแต่ตอนนี้มีเด็กละตอนนี้
00:29:53 → 00:29:54 โตเป็น
00:29:54 → 00:29:57 อยู่ในระดับเข้ามหาลัย
00:29:57 → 00:30:01 เล่าให้ฟังว่าตอนอยู่ป 5 หน้าถูกครูเรียก
00:30:01 → 00:30:05 ไปประจานหน้าชั้นแล้วก็พูดในลักษณะที่ทำ
00:30:05 → 00:30:08 ให้เพื่อนๆเนี่ยอย่าไปคบกับเด็กคนนี้
00:30:08 → 00:30:10 เกิดอะไรขึ้นครับ
00:30:10 → 00:30:14 ถ้าเด็กไม่เข้าใจคำว่าเขาทำอะไรผิดแล้วก็
00:30:14 → 00:30:17 เข้าตกอยู่เป็นเป้าหมายของการถูกรังเกียจ
00:30:17 → 00:30:18 อยู่นาน
00:30:18 → 00:30:22 จนถึงตอนนี้แผลของเขายังไม่หายเลยนะครับ
00:30:22 → 00:30:24 แพ้ทางความรู้สึกของเขา
00:30:24 → 00:30:28 แต่ผมนั่งฟังเรื่องราวของ
00:30:28 → 00:30:31 มีของผู้ใหญ่คนนี้
00:30:31 → 00:30:34 และแม้ว่าเราจะไม่รู้ว่ามันครบถ้วนร้อย
00:30:34 → 00:30:36 เปอร์เซ็นต์ไม่มีความจริงนะผมก็นึกได้ว่า
00:30:36 → 00:30:39 ผมแค่มีความเป็นไปได้ที่คุณครูจำนวนหนึ่ง
00:30:39 → 00:30:43 เช่นมีปัญหาส่วนตัวที่ไปลงโทษเด็กใน
00:30:43 → 00:30:45 ลักษณะนี้ได้
00:30:45 → 00:30:48 คะแล้วก็ยังรู้สึกว่าคุณครูท่านนั้นน่ะจะ
00:30:48 → 00:30:50 ไม่ตระหนักว่าสิ่งที่เขาทำมันทำร้ายเด็ก
00:30:50 → 00:30:53 คนนั้นตลอดชีวิตยังไง
00:30:53 → 00:30:56 แล้วก็รู้สึกว่าว่ารับรู้ได้ว่าโรงเรียน
00:30:56 → 00:30:59 เนี่ยจะต้องให้ความสำคัญมากกับสุขภาพจิต
00:30:59 → 00:31:02 ของครูความสุขของครู
00:31:02 → 00:31:05 มีการช่วยเหลือครูที่มีปัญหาชีวิตก็จะ
00:31:05 → 00:31:07 ป้องกันไม่ให้ครูมาสร้างปัญหาให้กับเด็ก
00:31:07 → 00:31:10 แต่ระบบนี้จะเป็นระบบที่ใหญ่ขึ้นไปอีก
00:31:10 → 00:31:11 หน่อยนึง
00:31:11 → 00:31:13 จากหน้าโรงเรียนควรมีโปรแกรมอะไรครับโรง
00:31:13 → 00:31:16 เรียนควรจะมีโปรแกรมใส่ใจคนที่มีความปลอด
00:31:16 → 00:31:19 บางที่อาจจะการเป็นกลุ่มที่ถูกกลั่นแกล้ง
00:31:19 → 00:31:23 ใครบ้างเด็กที่มีความพิการรวมมีลักษณะบาง
00:31:23 → 00:31:25 อย่างที่อาจจะตกเป็นเป้าได้เช่นตัวเล็ก
00:31:26 → 00:31:30 เลยมีลักษณะเฉพาะบนตัวนะครับหรือเด็กผู้
00:31:30 → 00:31:32 ชายที่ทำตัวเป็นเด็กผู้หญิง
00:31:32 → 00:31:36 ฮะซึ่งตั้งแต่ชั้นประถมบางคนก็เห็นแล้ว
00:31:36 → 00:31:39 ครับกลุ่มนี้แหละครับที่จะถูก bully จะ
00:31:39 → 00:31:42 ถูกกันแกล้งแล้วกลุ่มนี้แหละครับที่จะมี
00:31:42 → 00:31:43 โอกาส
00:31:43 → 00:31:46 ว่าโตมาจะเสี่ยงกับซึมเศร้าหรือไม่ก็เป็น
00:31:46 → 00:31:49 คนระเบิดอารมณ์ง่ายแต่ลึกลงไปกว่านั้นก็
00:31:49 → 00:31:51 คือเข้าอยู่ในสภาวะที่เขาช่วยเหลือตัวเอง
00:31:51 → 00:31:53 ไม่ได้อ่ะ
00:31:53 → 00:31:56 มีแต่เขาแปลงความรู้สึกนั้นออกมาคนละรูป
00:31:56 → 00:31:57 แบบกัน
00:31:57 → 00:32:02 จะเอานะครับชีวิตคนเรานะครับนี่เตรียมจบ
00:32:02 → 00:32:04 นะครับชีวิตคนเรามันจะต้องมีช่วงเวลาที่
00:32:04 → 00:32:07 จะต้องเจอโจทย์ท้าทายครับและโจทย์ถ้าไทย
00:32:07 → 00:32:09 นั้นบางครั้งมันก็ต่อเนื่องยาวนานซึ่งมัน
00:32:10 → 00:32:14 ก็ทำให้เรามีความเครียดเรื้อรังได้ครับผม
00:32:14 → 00:32:16 ไม่คิดว่าจะมีใครที่ไม่เจอปัญหาในชีวิตนะ
00:32:16 → 00:32:19 ครับนั้นการสร้างต้นทุนให้กับเด็กเนี่ย
00:32:19 → 00:32:22 ถือเป็นการลงทุนในระยะยาวมากต้นทุนอะไรก็
00:32:22 → 00:32:26 คือต้นทุนของความรู้สึกมีคุณค่าและเป็น
00:32:26 → 00:32:29 ที่ยอมรับตลอดจนมีพื้นที่ในการได้ทดลอง
00:32:29 → 00:32:33 ผิดถูกๆและมีโอกาสที่จะมีประสบการณ์ความ
00:32:33 → 00:32:36 สำเร็จหลีกเลี่ยงจากการไปเจอสภาวะที่เค้า
00:32:36 → 00:32:40 ถูกบีบคั้นแบบทำอะไรไม่ได้ครับ
00:32:40 → 00:32:43 กระบวนการแบบนี้นะครับจะลดความเสี่ยงต่อ
00:32:43 → 00:32:45 การเกิดปัญหาสุขภาพจิตตอนโตลดความเสี่ยง
00:32:45 → 00:32:48 ต่อการป่วยเป็นซึมเศร้าและวิตกกังวล
00:32:48 → 00:32:52 นอกจากนี้นะครับการฝึกทักษะความคิด
00:32:52 → 00:32:56 ค่ะเพื่อป้องกันความคิดที่ดึงเราไปสู่
00:32:56 → 00:32:57 ความช่วยเหลือตัวเองไม่ได้
00:32:57 → 00:33:01 มันมีวิธีการฝนครับมันควรจะเป็นส่วนหนึ่ง
00:33:01 → 00:33:05 ของการพัฒนาเด็กขึ้นมานะครับ
00:33:05 → 00:33:09 มีแต่มันไม่มีการสอนยังมีอยู่ฉะนั้น
00:33:09 → 00:33:12 สำหรับเราทุกคนนะครับในสังคมเราจำเป็นที่
00:33:12 → 00:33:15 ต้องปรับทัศนะให้ถูกต้องเนื่องจากว่าแม้
00:33:15 → 00:33:18 ว่าประเทศไทยกำลังขยับเดินหน้าและสัญญาณ
00:33:18 → 00:33:20 ดีๆละอย่างกำลังมาคนที่ได้ประโยชน์ก็
00:33:20 → 00:33:23 กำลังลุกขึ้นและก็กำลังเริ่มมีชีวิตชีวา
00:33:23 → 00:33:27 มีความหวังนะครับได้มีคนจำนวนหนึ่งนะครับ
00:33:27 → 00:33:30 ผมไม่ทราบว่ามากหรือน้อยแค่ไหนที่เขายัง
00:33:30 → 00:33:33 อยู่ในสภาพที่ยังลุกไม่ขึ้นยังยืนไม่ได้
00:33:33 → 00:33:36 คุณอาจจะไปเจอหรือตัวคุณเองอาจจะมีความ
00:33:36 → 00:33:40 รู้สึกทอนนะครับเวลาที่คุณทอนะครับให้แยก
00:33:40 → 00:33:43 ระหว่างสำนักงานภายนอกที่เกิดเป็นปัญหา
00:33:43 → 00:33:47 กับคำอธิบายที่เรามีว่าเรากำลังอธิบายใน
00:33:47 → 00:33:49 แบบที่ทำให้เราท้อหรือเปล่าเช็คความคิด
00:33:50 → 00:33:53 ตัวเองดูแลความรู้สึกตัวเองตรงนั้น
00:33:53 → 00:33:56 มีแต่ถ้าคุณรู้จักไข่ที่กำลังท้อนะครับ
00:33:56 → 00:33:58 อย่าเพิ่งตัดสินเค้านะครับอย่าเพิ่งคิด
00:33:58 → 00:34:01 ว่าคุณมีคำแนะนำให้กับเขาเพราะคุณไม่รู้
00:34:01 → 00:34:04 ว่าเขาผ่านอะไรมาบ้างคุณไม่รู้ว่าในวัย
00:34:04 → 00:34:08 เด็กทุกวางโปรแกรมอะไรไปบ้างนั้นการช่วย
00:34:08 → 00:34:11 เหลือจึงแบ่งเป็นระดับตามที่ผมได้เล่าไป
00:34:11 → 00:34:15 อันนี้คือเรื่องของกลไกทางจิตของความท้อ
00:34:15 → 00:34:20 ใจที่ผมนำมาฝากให้กับทุกท่านในวันนี้นะ
00:34:20 → 00:34:24 ครับวันนี้ผมจะมามาดูที่ YouTube นะครับ
00:34:24 → 00:34:26 ท่านแรกบอกว่า
00:34:26 → 00:34:29 อย่าท้อใจอาจเพราะผิดหวังกับเรื่องเดิม
00:34:29 → 00:34:31 ซ้ำๆ
00:34:31 → 00:34:35 มีจุดคิดใหม่ทำใหม่โดยเปลี่ยนวิธีใช้วิธี
00:34:35 → 00:34:37 เปลี่ยนไปแล้วสังเกตผลลัพธ์ปรับความคิด
00:34:37 → 00:34:42 ตัวเองให้มองมุมใหม่ๆนะครับโดยหลักคิดเป้
00:34:42 → 00:34:44 หมดทุกข้อเลยนะครับ
00:34:44 → 00:34:47 คะแล้วก็จริงครับเราท้อใจเพราะรอผิดหวัง
00:34:47 → 00:34:49 ซ้ำซากในเรื่องเดิม
00:34:49 → 00:34:52 แล้ววิธีแก้ยังไงคือเปลี่ยนวิธีคิด
00:34:52 → 00:34:53 เปลี่ยนวิธีทำ
00:34:53 → 00:34:58 โดยหลักคนจำนวนที่ทอเหตุนี้แล้วลุกขึ้นมา
00:34:58 → 00:35:01 ได้เขาใช้สูตรนี้ได้เลยครับแต่ถ้าคุณฟัง
00:35:01 → 00:35:04 ผมคุณจะรู้แล้วล่ะว่าอ้อคนบางคนที่ลูกไม่
00:35:04 → 00:35:07 ได้คนบางคนที่เปลี่ยนวิธีคิดใหม่ทำไมไม่
00:35:07 → 00:35:10 ได้เพราะว่ามีตัวดูดพลังงานของเขาจาก
00:35:10 → 00:35:14 ประสบการณ์ก่อนหน้านั้นหรือบางคนอาจจะไม่
00:35:14 → 00:35:16 ลึกขนาดนั้นก็ได้ใช่ไม่ได้เป็นปมลึกซึ้ง
00:35:16 → 00:35:19 ยิ่งจะเข้าไม่เห็นความคิดตัวเองครับนั้น
00:35:19 → 00:35:21 เราจำเป็นต้องรู้กันว่าความคิดเดิมวิ่ง
00:35:21 → 00:35:24 ยังไงนะครับและอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นยัง
00:35:24 → 00:35:26 ไงอย่างที่ผมจะยกตัวอย่างไปแล้ว
00:35:26 → 00:35:31 ถัดมาก็คือรอฟังรอฟังรอฟังขอบคุณรอชมนะ
00:35:31 → 00:35:35 ครับมีสองท่านนะครับที่เขียนมาว่าท้อใจ
00:35:35 → 00:35:38 กับเรื่องคุยกับลูกวัย 14 และ 17 ที่ไม่
00:35:38 → 00:35:42 ค่อยเข้ากันไว้นี้คิดต่างกับพ่อแม่วัย 53
00:35:42 → 00:35:45 ปีมากต้องปรับกันตลอดอ่ะค่ะเหนื่อยมากคุณ
00:35:45 → 00:35:47 หมอนะครับ
00:35:47 → 00:35:51 เตือนผมให้กำลังใจนะครับตอนที่เค้าพ้น
00:35:51 → 00:35:55 ช่วงวัยรุ่นควรจะคลี่คลายลงสำคัญก็คือเรา
00:35:55 → 00:35:58 เอาให้ความเป็นธรรมและก็ให้บรรยากาศของ
00:35:58 → 00:36:02 ความรักของพ่อแม่ให้กับลูกทั้งสองคน
00:36:02 → 00:36:05 เราจะเข้ามีปัญหากันมากกว่านั้นเพราะเผลอ
00:36:05 → 00:36:08 มันมีต้นตอจากเด็กกว่านั้นครับอันนี้คน
00:36:08 → 00:36:11 อาจจะลองนั่งทบทวนดูแต่ตอนนี้ก็ต้องใช้
00:36:11 → 00:36:14 ความรักความอดทนไปก่อนอ่ะ
00:36:14 → 00:36:17 นายกลองดูแล้วกันว่าสิ่งที่ผมพูดมีอะไร
00:36:17 → 00:36:20 ที่ประยุกต์ใช้ได้ไหมนะครับอ่ะค่ะวันนี้
00:36:20 → 00:36:24 จะฟังให้ทันอาศัยคลิปเดิมหัวข้อถูกใจมาก
00:36:24 → 00:36:28 ขอบคุณเนี่ยเป็นคำกล่าวของสมาชิกใน
00:36:28 → 00:36:33 YouTube นะครับตอนนี้มาดูที่เพจของผมมี
00:36:33 → 00:36:36 คนส่งข้อความเข้ามา 36 รายการนะครับ
00:36:36 → 00:36:41 ให้คำขอบคุณนะครับทำขอบคุณหัวข้อโดนใจ
00:36:41 → 00:36:46 ขอบคุณสำหรับคำแนะนำหัวข้อดีน่าสนใจรอฟัง
00:36:46 → 00:36:49 คุณหมอสำหรับคนที่กำลังท้อใจนะครับถ้าคุณ
00:36:49 → 00:36:52 รู้ตัวคุณกำลังท้อใจแล้วคุณกำลังแสวงหาคำ
00:36:52 → 00:36:55 ตอบในวิธีคิดเพราะเพียงแค่คุณใช้กันยาว
00:36:55 → 00:36:57 อันดับที่ 1 ก็คือสังเกตว่าเรากำลัง
00:36:57 → 00:36:59 อธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นยังไงมันมีลักษณะ
00:36:59 → 00:37:03 3 ประการนั้นไหมให้ทำความคิดให้ชัดแล้ว
00:37:03 → 00:37:06 ตรวจสอบดูอาจจะหาคนที่เข้ามองอะไรได้รอบ
00:37:06 → 00:37:10 มาช่วยมองแต่ควรจะเป็นคนที่รับฟัง
00:37:10 → 00:37:14 ถัดมานะครับหัวข้อโดนใจมากเพิ่งจะเริ่ม
00:37:14 → 00:37:17 ท้อใจยังไม่เคยคาดคิดมาก่อนสอนกัน 2
00:37:17 → 00:37:20 เรื่องจิตใจท่อมากกับชีวิตพยางค์บอกตัว
00:37:20 → 00:37:22 เองว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาไม่ใช่เราคน
00:37:22 → 00:37:25 เดียวที่เจอคนอื่นก็เจอแต่ใจห่อเหี่ยวดี
00:37:25 → 00:37:27 ตรงที่ได้ออกกำลังกายกับเพื่อนทุกวันสวด
00:37:27 → 00:37:30 มนต์ไหว้พระจึงพออยู่ได้แต่ก็เศร้าใจมาก
00:37:30 → 00:37:33 หมดกำลังใจไม่เคยนึกว่าจะเจอเรื่องไหมคัด
00:37:33 → 00:37:35 ฝัน
00:37:35 → 00:37:39 กับพวกมาทำเรื่องไหมครับฝันนี้นะครับที่
00:37:39 → 00:37:42 ทำให้คุณรู้สึกเสียใจท้อใจเนี่ยคุณมอง
00:37:42 → 00:37:47 เห็นวันที่มันจะจบลงไหมครับคุณขีดวงผล
00:37:47 → 00:37:50 กระทบของมันและยอมรับว่ามันต้องใช้เวลา
00:37:50 → 00:37:53 คลี่คลาย
00:37:53 → 00:37:56 ก็ได้ไหมนะครับแล้วก็คุณมองเห็นบทเรียน
00:37:56 → 00:37:58 ที่คุณได้เพื่อจะได้เรียกเรื่องจากการตก
00:37:58 → 00:38:02 ลงมาในร่องนี้ในครั้งหน้าในใหม่นะครับอัน
00:38:02 → 00:38:05 นี้คือชุดความคิดที่จะไปแก้กันกับ 3 ตัว
00:38:05 → 00:38:09 ที่ผมพูดไปเมื่อสักครู่นี้หวังว่ามันจะ
00:38:09 → 00:38:11 เป็นหลักคิดที่เผื่อคุณจะใช้ประโยชน์ได้
00:38:11 → 00:38:14 นะครับมีคนถามว่าจะรับคนไข้เพิ่มได้ไหมผม
00:38:14 → 00:38:17 รับไม่ไหวจริงๆครับเพราะว่า
00:38:17 → 00:38:20 อยู่ในวัยอายุเยอะแล้วนะครับต้องการปรับ
00:38:20 → 00:38:24 การใช้เวลาของชีวิตครับ
00:38:24 → 00:38:27 กำลังท้อเบื่อเหนื่อยใจอายุเกิน 60 ตรง
00:38:27 → 00:38:31 ได้หลายอย่างเรื่องใกล้ตัวยากบางครั้งพูด
00:38:31 → 00:38:34 จริงตีว่าพูดเล่นจนเกินงามพูดเล่นที่ว่า
00:38:34 → 00:38:38 เป็นจริงจนเถียงกันเว้นระยะห่างพูดเท่า
00:38:38 → 00:38:42 ที่จำเป็นทำไมพูดเข้าใจยากมีอะไรกันกลาง
00:38:42 → 00:38:46 ความสัมพันธ์เป็นไปได้ครับมันสมัยก่อนจะ
00:38:46 → 00:38:49 มีคำว่าปัญหาท่าทีนะครับแล้วก็บางครั้ง
00:38:49 → 00:38:52 มันมีอารมณ์ความรู้สึกที่ค้างอยู่แต่ที่
00:38:52 → 00:38:55 สำคัญแต่บางครั้งเรามองต่างคนต่างมองจาก
00:38:55 → 00:38:59 มุมของตัวเองไม่ตระหนักว่าอีกฝ่ายหนึ่ง
00:38:59 → 00:39:01 เขาเห็นอะไรนะครับแล้วก็ไม่มีวิธีเปิด
00:39:01 → 00:39:04 พื้นที่แลกเปลี่ยนคุณลองดู LINE ในหัวข้อ
00:39:04 → 00:39:07 การสื่อสารว่าจะเป็นประโยชน์กับคุณไหมนะ
00:39:07 → 00:39:08 ครับ
00:39:08 → 00:39:12 แต่ถ้ายังไม่ได้มันอยู่ตรงที่ว่าเลิกจะ
00:39:12 → 00:39:14 อยู่ด้วยกันยังไงโจทย์ข้อนี้เป็นโจทย์ที่
00:39:14 → 00:39:17 มีแง่มุมเยอะเหมือนกันนะครับจะไม่ได้ว่า
00:39:17 → 00:39:20 เกิดพูดได้บ้างไหมครับเป็นหัวข้อที่โดน
00:39:20 → 00:39:22 อีกแล้วกำลังรู้สึกเบื่อทอนเหนื่อยพอดี
00:39:22 → 00:39:26 หากมีเหตุการณ์เข้าสู่คนสูงวัยเกิน 60
00:39:26 → 00:39:29 เห็นคนรอบตัวเริ่มแกะไม่สบายคนใกล้ตัวมี
00:39:29 → 00:39:32 โรคร้ายเสียชีวิตติดกันหลายคนทั้งที่เข้า
00:39:32 → 00:39:36 ใจรับรู้ว่ามันเป็นธรรมดาเป็นสภาพจิตใจ
00:39:36 → 00:39:40 ที่ตรงไม่ได้อ่ะมีโจทย์ของคุณยากตรงนึงนะ
00:39:40 → 00:39:45 ครับเพราะว่าเอ่อคนในวัยเกิน 60 เนี่ยเขา
00:39:45 → 00:39:49 กำลังมองเห็นปลายทางที่มันจะจบลงแบบไม่
00:39:49 → 00:39:53 สวยแตกต่างจากคนในวัยก่อนหน้านั้นที่มัก
00:39:53 → 00:39:56 จะมองเห็นปลายทางว่าเขาอยากจะได้เป้าหมาย
00:39:56 → 00:39:59 ที่ดีขึ้นอะไรมีบ้านใหม่มีรถใหม่มีลูก
00:39:59 → 00:40:02 เติบโตลูกจบรับปริญญานะครับทุกอย่างมัน
00:40:02 → 00:40:05 เป็นเป้าหมายในทางที่เราหวังว่าจะมีสิ่ง
00:40:05 → 00:40:08 ดีๆแต่พ่อคนสูงวัยพบมาทีเริ่มมองไอ้เอ้
00:40:08 → 00:40:11 มันจะมีแต่ขาลงเนี่ยไม่มีก็ลงนั่งกับไป
00:40:11 → 00:40:15 นี่ก็เสียชีวิตมีกับป่วยนะครับมันทำให้
00:40:15 → 00:40:20 เราชวนปวดหัวใจได้นอกเสียจากคุณจะยอมรับ
00:40:20 → 00:40:22 ถ้าคุณก็บอกเองคุณรู้มันเป็นความจริงคุณ
00:40:22 → 00:40:25 ทำใจไม่ได้ใช่ไหมครับนั้นเหตุผลก็เรื่อง
00:40:25 → 00:40:26 หนึ่งอารมณ์ก็เรื่องหนึ่งคุณอาจจะต้องการ
00:40:26 → 00:40:30 ขบวนการเพื่อดูแลทางอารมณ์ซึ่งวิธีการดู
00:40:30 → 00:40:33 แลทางอารมณ์กรณีดีที่สุดก็คือการสุดอยู่
00:40:33 → 00:40:35 กับตัวเอง
00:40:35 → 00:40:38 ด้วยหนังสือกับกิจเวชและฟังธรรมช่วยได้
00:40:38 → 00:40:43 เยอะเอาความท้อเป็นพลังและกำลังใจ
00:40:43 → 00:40:46 แม่สอนลูกให้รู้ว่าถ้าเราทอจะมีผลสียังไง
00:40:46 → 00:40:51 ให้สอนด้วยทั้งเหตุผลและอารมณ์นะครับเด็ก
00:40:51 → 00:40:53 ต้องการเรียนรู้ธรรมชาติของอารมณ์ไม่แพ้
00:40:53 → 00:40:56 ความเป็นเหตุเป็นผลนะครับอ่า
00:40:56 → 00:41:00 ฮะซึ่งง่ายๆแต่ว่าเป็นโจทย์สาระสำคัญของ
00:41:00 → 00:41:03 แม่และพ่อเลยนะครับน่าสนใจนะครับ
00:41:03 → 00:41:06 อย่าทำเฒ่าใจเกิดจากความผิดหวังได้ไหมแตก
00:41:06 → 00:41:09 ต่างจากความเบื่อหน่ายอย่างไรก็ได้ครับ
00:41:09 → 00:41:12 เมื่อสักครู่ก็มีคนบอกว่าผิดหวังซ้ำๆก็ขอ
00:41:12 → 00:41:14 ให้เกิดความท้อใจความเบื่อหน่ายเหมือนกับ
00:41:14 → 00:41:16 เราไม่อยู่กับมันแล้วไม่อยากอยู่กับมัน
00:41:16 → 00:41:19 แล้วครับแต่มันไม่รู้จะหนีไปไหนส่วนนี้
00:41:19 → 00:41:21 เป็นอย่างนั้นนะครับไม่ชอบ
00:41:21 → 00:41:24 ถ้าไม่อยากอยู่กับมันแล้วแต่ไม่รู้จะหนี
00:41:24 → 00:41:25 ไปไหน
00:41:25 → 00:41:30 ก็เบื่อแต่ท่อนี้ก็คือแบบที่มันคิดพูดไป
00:41:30 → 00:41:33 ต่างกันใหม่หนึ่งรู้สึกไหมครับตั้งเป้า
00:41:33 → 00:41:35 หมายว่าสักวันเราต้องไปถึงจุดสูงสุดของ
00:41:35 → 00:41:38 งานซึ่งใช้เวลานานมากพอมาถึงจุดนั้นกับ
00:41:38 → 00:41:42 รู้สึกทอฮึบางทีก็ขึ้นมาทีก็อยากตายแต่ก็
00:41:42 → 00:41:44 ปวดอาย
00:41:44 → 00:41:48 ครับรถเราต้องการเป้าหมายบางอย่างเราบาง
00:41:48 → 00:41:50 ทีเราก็วิ่งแล้วก็สู้จะถึงเป้าหมายนั้น
00:41:50 → 00:41:52 แล้วก็พบว่าไอ้มาถึงแล้วมันยังไงต่อลมไม่
00:41:52 → 00:41:54 ไม่ได้รู้สึกว่ามันดีอย่างที่คิดว่ามันดี
00:41:54 → 00:41:56 เราไม่ทันคิดด้วยซ้ำว่าไปถึงน้ำมันจะดี
00:41:56 → 00:41:59 ยังไงนะครับถึงเป็นโอกาสที่ดีเลยครับที่
00:41:59 → 00:42:02 ควรจะได้ทบทวนว่าก่อนหน้านั้นคุณอยากได้
00:42:02 → 00:42:05 สิ่งนี้เพราะอะไรอ่ะเออแล้วตอนนี้เมื่อ
00:42:05 → 00:42:09 คุณได้มาคุณไม่ได้รู้สึกอย่างที่คุณคิด
00:42:09 → 00:42:13 ไว้คุณเรียนรู้อะไรเกี่ยวกับธรรมชาติของ
00:42:13 → 00:42:16 ความอยากของเราและเป้าหมายของเราบ้างแล้ว
00:42:16 → 00:42:19 การเรียนรู้นี้จะเอาไปใช้วางแผนชีวิตต่อ
00:42:19 → 00:42:21 ยังไงครับ
00:42:21 → 00:42:26 โอ้โหขอโดนใจครับมีหัวข้อน่าสนใจ
00:42:26 → 00:42:30 มารอฟังพร้อมกับไปใช้ขอบคุณคุณหมอมากที่
00:42:30 → 00:42:33 คอยให้ความรู้ท้อใจฟังดูเหมือนเป็นอีก
00:42:33 → 00:42:36 ขั้นของลมลบเช่นเสียใจมากเรื่องใดเรื่อง
00:42:36 → 00:42:39 หนึ่งแล้วไม่มีทางออกชนหมดหวังแล้วท้อใจ
00:42:39 → 00:42:42 ผมก็จะถูกต้องไหมแบบนี้ต้องแก้ไขอย่างไร
00:42:42 → 00:42:45 ครับมันมีความคล้ายกันตรงนั้นใช่ไหมครับ
00:42:45 → 00:42:49 มันเป็นสภาวะทางใจที่ปนปนกันของตัวอารมณ์
00:42:49 → 00:42:52 ตัวความนึกคิดและมันสัมพันธ์กับสภาพร่าง
00:42:52 → 00:42:55 กายด้วยเพราะเวลาที่เรามีอารมณ์เนี่ย
00:42:55 → 00:42:57 อารมณ์มันส่งผลต่อการทำงานของร่างกายเรา
00:42:58 → 00:43:00 ที่แตกต่างกันตัวอย่างที่ชาติก็จะเป็นตอน
00:43:00 → 00:43:04 ที่เราท้อหมดแรงไม่อยากสู้แล้วนะครับกับ
00:43:04 → 00:43:08 ตอนที่เราโกรธพลังงานคนละแบบกันครับ
00:43:08 → 00:43:11 ผมอยากทราบว่าความเหนื่อยล้าและการพัก
00:43:11 → 00:43:13 ผ่อนได้พอเป็นตัวเร่งให้เกิดความคิดทอและ
00:43:13 → 00:43:16 เศร้าได้ไหมได้ครับสังเกตนะครับว่าบางที
00:43:16 → 00:43:20 พอเราอดนอนพอเราเหนื่อยล้าเราไม่ได้กิน
00:43:20 → 00:43:24 อาหารไม่ได้กินไม่ได้นอนนะครับพลังงานใน
00:43:24 → 00:43:26 ร่างกายเราที่ตกลงเนี่ยทำให้ความรู้สึก
00:43:26 → 00:43:29 แย่ๆมาเพิ่มมากขึ้นครับการดูแลร่างกาย
00:43:29 → 00:43:32 เป็นฐานสำคัญเสมอครับเกิดจากความเหนื่อย
00:43:32 → 00:43:35 สะสมหาทางออกไม่เจอค่ะยังไม่รู้ว่าจุด
00:43:35 → 00:43:38 สิ้นสุดอยู่ตรงไหนแต่ก็พยายามสู้พูดถึง
00:43:38 → 00:43:41 กรณีคุณพ่อป่วยเป็นอัลไซเมอร์แล้วขาอ่อน
00:43:41 → 00:43:44 แรงนอนแค่วันละ 1-2 ชั่วโมงครับบ่นปวด
00:43:44 → 00:43:46 ตลอดต้องเฝ้า 24 ชั่วโมงพวกเขาเรียกร้อง
00:43:46 → 00:43:50 ให้นั่งจับนั่งนอนตลอดไม่งั้นเขาจะลงเดิน
00:43:50 → 00:43:56 อันตรายตอนนี้คุณหมอกำลังหาสาเหตุ
00:43:56 → 00:44:00 ขอเชิญระหว่างนี้นะครับอาจจะต้องมียาช่วย
00:44:00 → 00:44:03 เพื่อทำให้คุณพ่อของคุณรับได้ไม่อย่าง
00:44:03 → 00:44:07 นั้นคนดูแลจะเหนื่อยมากนะครับอ่ะ
00:44:07 → 00:44:09 แต่ผมที่ว่าคุณอาจจะต้องปรึกษาหมอเรื่อง
00:44:09 → 00:44:12 ว่าเขาไม่หลับนะครับเรื่องปวดก็เรื่องนึง
00:44:12 → 00:44:14 นะครับอาจจะต้องหาสาเหตุแต่การสั่งยา
00:44:14 → 00:44:16 เพื่อช่วยให้หลับเนี่ยไม่ใช่แค่รักษาคุณ
00:44:16 → 00:44:19 พ่อของคุณนะครับคือการนอนไม่พอจะทำให้
00:44:19 → 00:44:22 อาการสมองแย่ลงงั้นยังไงก็ต้องช่วยให้
00:44:22 → 00:44:25 หลับแต่การหลับของเขาจะดีกับคุณด้วยนั่น
00:44:25 → 00:44:28 เป็นจุดโฟกัสเลยที่น่าทำ
00:44:28 → 00:44:33 จะรอฟังนะครับหนูอายุ 50 โสดทำงานคนเดียว
00:44:33 → 00:44:37 พี่สาวป่วยจิตเวชสองคนและแม่รวมเป็น 3
00:44:37 → 00:44:41 ชีวิตที่กำลังแก่ชราเริ่มป่วยกันทอจนฝัง
00:44:41 → 00:44:44 ในใจแต่ได้รับเขาคิดดีๆจากการร้ายในหลาย
00:44:44 → 00:44:46 ตอนของคุณหมออย่างที่คุณน้องมีอายุยืนยาว
00:44:46 → 00:44:50 มาให้ความรู้แบบนี้ไปเรื่อยๆ
00:44:50 → 00:44:55 ยินดีครับผมตั้งใจว่าผมจะทำไปเรื่อยๆจน
00:44:55 → 00:44:59 ไม่มีแรงนะครับถ้าแรงเริ่มน้อยลงพอมันจะ
00:44:59 → 00:45:04 ทำเป็นเทพบันทึกโดยไม่ตอบสดนะครับเก็บแรง
00:45:04 → 00:45:05 ไว้
00:45:05 → 00:45:08 แต่การดูแลผู้ป่วยจิตเวชหลายคนในบ้านถือ
00:45:08 → 00:45:10 เป็นงานที่หนักมากนะครับคุณอาจจะต้องการ
00:45:10 → 00:45:14 การดูแลตัวเองเบสิคขั้นต่ำที่สุดคือกิน
00:45:14 → 00:45:17 อาดีกับสุขภาพนอนเพียงพอ 7 ชั่วโมงออก
00:45:17 → 00:45:20 กำลังกายเป็นประจำ
00:45:20 → 00:45:22 ถ้าคุณต้องการเวลาส่วนตัวด้วยครับคุณลอง
00:45:22 → 00:45:25 ดูแล้วกันนะคุณจัดสรรทรัพยากรได้เวลายัง
00:45:25 → 00:45:28 ไงนะครับขอบคุณสำหรับท่านอื่นที่เขียน
00:45:28 → 00:45:31 ขอบคุณมาแล้วก็เขียนถึงการอยากฟังมานะ
00:45:31 → 00:45:34 ครับมีคนถามเรื่องความพอใจของผู้ดูแลครับ
00:45:34 → 00:45:38 ผมต่อไปพอดีเลยนะครับว่ายารับภาระเป็นผู้
00:45:38 → 00:45:41 ดูแลหลักคนเดียวให้แบ่งเบาแล้วก็รู้ความ
00:45:41 → 00:45:44 ต้องการตัวเองถ้าคุณจะตอบสนองความต้องการ
00:45:44 → 00:45:47 ของตัวเองไม่ได้นะครับแปลว่าคุณมีปัญหา
00:45:47 → 00:45:49 ปัญญาซึ่งเป็นปมเก่า
00:45:49 → 00:45:53 ฮะซึ่งตัวนั้นคุณต้องกับแกตรงนั้นครับ
00:45:53 → 00:45:55 นี้นะครับตอนนี้จะมาตอบคำถามที่ส่งเข้ามา
00:45:55 → 00:45:58 สดนะครับขอบคุณทุกท่านที่ทักทายนะครับ
00:45:58 → 00:46:03 เครียดจนเก็บมาฝันพบคุณหมอได้ที่ไหนพบได้
00:46:03 → 00:46:06 ทางช่องทาง YouTube นี้ครับเอ่อเพราะว่า
00:46:06 → 00:46:10 ผมไม่ได้รับเคสใหม่นะครับดีใจมาทันอยู่
00:46:10 → 00:46:13 โรงบาลไหนอยากป.ป.ช.ไม่ได้รับเคสใหม่นะ
00:46:13 → 00:46:17 ครับดีใจได้ฟังสดซิดนีย์นะครับ 11:00 น
00:46:18 → 00:46:21 ที่ 10 นี่นะครับตอนนี้ก็เท่ากับ 5 ทุ่ม
00:46:21 → 00:46:23 กว่าเกือบเที่ยงคืนละสิครับวันนี้เรามา
00:46:24 → 00:46:29 ฟังสดฟังสดสักทีวันนี้มาฟัง
00:46:29 → 00:46:31 เอ่อ 8 ต้น
00:46:31 → 00:46:34 จะไปเอาอารมณ์ดิ่งมากก็เป็นตามที่จะเหมาะ
00:46:34 → 00:46:36 กำลังพูด
00:46:36 → 00:46:40 นี่เป็นครั้งแรกที่เข้ามาฟังสดดูคลิปย้อน
00:46:40 → 00:46:43 หลังมาปีหนึ่งได้ข้อคิดแนวทางรู้สึกเข้า
00:46:43 → 00:46:46 ใจตัวเองมากขึ้นยินดีมากเลยนะครับเป็นหัว
00:46:46 → 00:46:48 ข้อน่าสนใจบางครั้งคนที่ยอมตกเป็นเหยื่อ
00:46:48 → 00:46:51 ก็ไม่ชอบให้เราช่วยเหลือทหารมาตรวจคนช่วย
00:46:51 → 00:46:53 ซะอย่างนั้นให้ๆกับเมื่อกี้นี้ที่ผม
00:46:53 → 00:46:56 อธิบายนะครับบางครั้งความตั้งใจช่วยเหลือ
00:46:56 → 00:46:59 ของเราเขาจะยิ่งรู้สึกเหมือนเราไม่ยอมรับ
00:46:59 → 00:47:03 เราไปว่าเขาก็ยังได้เลยนะครับอ่ะ
00:47:03 → 00:47:06 อยู่ในนั้นไม่เชื่อความคิดเราอย่าเอาความ
00:47:06 → 00:47:09 คิดของเราไปสู้นะครับแต่ช่วยเข้าเห็นความ
00:47:09 → 00:47:11 คิดตัวเองซึ่งผมเองก็ยังต้องใช้วิธีนั้น
00:47:11 → 00:47:14 เลยนะครับผมไม่เคยฟังและให้คำแนะนำกับใคร
00:47:14 → 00:47:18 ผมชวนให้เขารู้ความคิดตัวเองก่อนแล้วก็ผม
00:47:18 → 00:47:21 เปิดพื้นที่ความรู้สึกให้กับเขาให้เขารู้
00:47:21 → 00:47:23 ว่ามันมีพื้นที่ที่ยอมรับเพื่อให้เข้าฝึก
00:47:23 → 00:47:26 ให้เขายอมรับลมตัวเองด้วยนั่นเป็นฐาน
00:47:26 → 00:47:28 สำคัญของทุกเรื่อง
00:47:28 → 00:47:32 จากนี้ไทยแลนด์วันนี้ฟังทันดีใจนะครับฟัง
00:47:32 → 00:47:35 ย้อนหลังเสมอปนาเข้ามาในชีวิตเยอะมาก
00:47:35 → 00:47:38 จะเป็นหัวหน้าครอบครัวต้องสู้ทุกอย่างฟัง
00:47:38 → 00:47:40 หมดแล้วมีกำลังใจขึ้นมากยินดีเลยครับ
00:47:40 → 00:47:43 สภาวะจิตใจของเด็กเวลาตัวขึ้นแต่ละ
00:47:43 → 00:47:45 ครอบครัวไม่เหมือนกันเพราะไม่มีส่วนสำคัญ
00:47:45 → 00:47:49 ใช่เลยครับกำลังท้อใจอยู่หวังว่าคุณจะได้
00:47:49 → 00:47:52 ข้อคิดบ้างนะครับตรงประเด็นเลยคุณหมอลูก
00:47:52 → 00:47:56 สาวกำลังป่วยโรคจิตกังวลท้อใจน้อยใจอยู่
00:47:56 → 00:47:59 ที่ทำงานโมโหง่าย
00:47:59 → 00:48:02 และนั่นเป็นโปรแกรมที่เกิดขึ้นและเราบาง
00:48:02 → 00:48:05 ทีเราพ่อแม่ก็ไม่รู้นะครับเป็นเรื่องที่
00:48:05 → 00:48:09 ในใจทั้งพ่อแม่ลูกจากเท็กซัสฟังคุณหมอและ
00:48:09 → 00:48:11 พยามรักษาใจในแดน
00:48:12 → 00:48:16 เต็มบวกช่วยวันช่วยพันวันหนักนะครับ Happy
00:48:16 → 00:48:21 ต้ามะนามทุกครั้งที่อ่อนแอจะฟังนานมากต่อ
00:48:21 → 00:48:23 จากนี้คุณก็ไม่ได้แอบแล้วนะครับคุณติดตาม
00:48:23 → 00:48:25 อย่างเปิดเผยได้เลย
00:48:25 → 00:48:28 แต่บางครั้งต้องต่อสู้กับความคิดที่เข้า
00:48:28 → 00:48:30 มาในหัวโดยเฉพาะความคิดลบเหนื่อยเหมือน
00:48:30 → 00:48:33 กันด้วยหลักแล้วนะครับให้คุณตระหนักว่า
00:48:33 → 00:48:36 คุณมีความคิดเช่นนั้นเขียนอะมาใส่กระดาษ
00:48:36 → 00:48:40 อย่าพึ่งต่อสู้กับความคิดตัวเองนะครับ
00:48:40 → 00:48:42 สังเกตความรู้สึกด้วยเพราะว่าหลายครั้ง
00:48:42 → 00:48:44 ที่ความคิดที่วิ่งลบมันเกิดจากอารมณ์บาง
00:48:44 → 00:48:48 อย่างที่ถูกวางโปรแกรมไว้จากกระดิ่ง
00:48:48 → 00:48:52 วิธีการเจ็บชะลอตัวนี้ลงได้คุณต้องรับรู้
00:48:52 → 00:48:56 อารมณ์ตรงนั้นแล้วก็มีวิธีการในการทำให้
00:48:56 → 00:49:00 ใจมันสงบลงผ่านเทคนิคการผ่อนคลายการออก
00:49:00 → 00:49:02 กำลังกายการดูแลความรู้สึกตัวเองหรือมี
00:49:02 → 00:49:04 เพื่อนที่ไว้ใจรับฟังและคุณเข้ามานั่งดู
00:49:04 → 00:49:07 ความคิดอีกทีนึงเพราะว่าการจะสู้กันกับ
00:49:07 → 00:49:10 ความคิดตอนที่อารมณ์ข้างล่างมันมีพลัง
00:49:10 → 00:49:12 เนี่ยยิ่งสู้ยิ่งขัดแย้งภายในและยิ่ง
00:49:12 → 00:49:14 เหนื่อยครับ
00:49:14 → 00:49:16 ก็ฟังคุณหมอแล้วเริ่มเข้าใจตัวเองว่ามี
00:49:16 → 00:49:19 สาเหตุอะไรบ้างที่ทำให้ป่วยซึมเศร้ามี
00:49:19 → 00:49:21 ความหวังที่หายเหมือนมองเห็นแสงสว่างที่
00:49:21 → 00:49:25 ปลายอุโมงค์ครับต้นเหตุอันนึงของความซึม
00:49:25 → 00:49:28 เศร้าก็คือประสบการณ์วัยเด็กซึ่งผมจะเยอะ
00:49:28 → 00:49:31 มากแล้วมันมาโผล่ตรงสิ่งที่มันสักครู่ลอง
00:49:31 → 00:49:35 คุยกันมันเป็นกลไกในทางความคิดซึ่งทำให้
00:49:35 → 00:49:38 เกิดซึมเศร้าได้
00:49:38 → 00:49:41 ดิฉันนอนไม่หลับถ้าไม่กินยาปรับรม
00:49:41 → 00:49:44 ไม่ใช่ความเพศสะสมหรือไม่อยากหลับแบบไม่
00:49:44 → 00:49:49 กินยา
00:49:49 → 00:49:51 ผมขับเบอร์
00:49:51 → 00:49:54 ผมบอกไม่ได้ครับว่ามันเป็นความเครียดสะสม
00:49:54 → 00:49:57 ที่อย่างเดียวไหมที่จริงแล้วคุณน่าจะถาม
00:49:57 → 00:50:01 หมอที่ดูแลคุณนะครับเพราะว่าคุณได้ยาอยู่
00:50:01 → 00:50:05 แล้วถ้าหมอที่ดูแลคุณไม่ใช่จิตแพทย์
00:50:05 → 00:50:07 มีคนอาจจะต้องไปปรึกษาจิตแพทย์เพื่อให้
00:50:07 → 00:50:09 ประเมินดูนะครับแต่ต้องดูด้วยนะครับว่า
00:50:09 → 00:50:13 แทบท่านนั้นเน้นแต่อย่างเดียวแล้วออกแบบ
00:50:13 → 00:50:16 โปรแกรมด้วยแต่บางทีเราก็หายากคุณก็เอา
00:50:16 → 00:50:18 อย่ามาก่อนแล้วก็มาใช้ส่วนที่ไม่ใช่ยาจาก
00:50:18 → 00:50:22 กันค้นหาความรู้รู้จักแหล่งต่างๆรวมถึง
00:50:22 → 00:50:25 ช่องนี้ก็ได้ครับขอวิธีเลี้ยงลูกไม่มี
00:50:25 → 00:50:28 ปุ่มภายใต้พ่อแม่ที่มีพรมขนลายโปร่งวิธี
00:50:28 → 00:50:32 ที่สำคัญที่สุดก็คือพ่อและแม่จัดการปมของ
00:50:32 → 00:50:35 ตัวเองให้เสร็จครับเป็นไปไม่ได้ที่พ่อและ
00:50:35 → 00:50:38 แม่จะไม่สร้างป้อมให้ลูกถ้าตัวเองยังมี
00:50:38 → 00:50:41 ปุ่มอยู่นะครับมันจะส่งผ่านจากรุ่นสู่
00:50:41 → 00:50:45 รุ่นซึ่งมีบันทึกไว้มีงานศึกษาเรียบร้อย
00:50:45 → 00:50:49 ครับว่ามีวิธีเดียวคือพ่อแม่ต้องแก้ปมตัว
00:50:49 → 00:50:51 เองให้สำเร็จ
00:50:51 → 00:50:54 ขอชวนคุณมาเรียนบทเรียนแก้ปมครั้งใจเปิด
00:50:54 → 00:50:58 รอบหน้ากลางเดือนม.ค.ปีหน้าครับติดต่อได้
00:50:58 → 00:50:59 ทาง Line
00:50:59 → 00:51:02 ออกจากระยองปกติฟัง YouTube ย้อนหลัง
00:51:02 → 00:51:06 สุภาพผิดดีขึ้นมากขอบคุณผมหวังว่าน้ำจะ
00:51:06 → 00:51:09 ไม่ได้ท่วมบ้านคุณนะครับหรือถ้าท่วมก็
00:51:09 → 00:51:12 หวังว่าน้ำจะลดลงเร็วแต่ในความเป็นจริงก็
00:51:12 → 00:51:15 คือมันเป็นไปตามปัจจัยนะครับยังไงก็ตามขอ
00:51:15 → 00:51:17 ให้คุณดูแลตัวเองด้วยครับ
00:51:17 → 00:51:21 ลูกสาวเรียนม 5 ต้องพักการเรียนรู้สึกว่า
00:51:21 → 00:51:26 ลูกร่าเริงมากขึ้นขอบคุณอาจารย์มาก
00:51:26 → 00:51:29 แต่ถ้าเขาพักกันแล้วก็ดีนะครับเมื่อไหร่
00:51:29 → 00:51:31 จะแปลว่าตอนที่เรียนมามีแหล่งความเครียด
00:51:31 → 00:51:35 บางอย่างแต่การที่คดีจากการพักกาเรียน
00:51:35 → 00:51:38 อย่าเพิ่งคิดว่าปัญหาจบลงนะครับเราน่าจะ
00:51:38 → 00:51:40 ต้องทำความเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นใน
00:51:40 → 00:51:44 ระหว่างที่เขาเรียนอาจจะเป็นการเรียนใน
00:51:44 → 00:51:46 สายที่ไม่ตรงกับความต้องการในทางเดิน
00:51:46 → 00:51:49 ชีวิตของเขาใช้วิทย์สายศิลป์ยกตัวอย่างนะ
00:51:49 → 00:51:53 ครับอาจจะมีปัญหาบางอย่างที่ทำให้เขา
00:51:53 → 00:51:56 เครียดเกินความจำเป็นซึ่งควรจะใช้ช่วง
00:51:56 → 00:51:59 เวลาที่เข้าพักรีบเยียวยาแล้วก็เติม
00:51:59 → 00:52:00 ศักยภาพให้เขา
00:52:00 → 00:52:05 ติดตามตลอดใน YouTube ไม่เล่น Facebook
00:52:05 → 00:52:08 ก็เพราะจะดูเฟสเจ๊ยิ่งรู้สึกแก
00:52:08 → 00:52:11 เกิดความรู้สึกเบื่อพูดขึ้นในใจบ่อยทำให้
00:52:11 → 00:52:14 ท้องไม่อยากทำอะไรเป็นอุปสรรคในการใช้
00:52:14 → 00:52:17 ชีวิตควรทำอย่างไร
00:52:17 → 00:52:19 ขอเบอร์
00:52:19 → 00:52:22 ถ้ามันมีโจทย์มากกลับไปที่ขั้นตอนเบสิค
00:52:22 → 00:52:25 กินนอนออกกำลังกายก่อนครับแล้วคุณลองดู
00:52:25 → 00:52:28 ว่าว่าคำบรรยายวันนี้จะมีอะไรช่วยคุณได้
00:52:28 → 00:52:31 บ้างถ้าคุณยังนึกไม่ออกผมคิดว่าคุณ
00:52:31 → 00:52:34 ต้องการความช่วยเหลือนะครับลองหาที่
00:52:34 → 00:52:37 ปรึกษาที่คุณจะพูดคุยได้ซึ่งไม่มีน้ำเป็น
00:52:37 → 00:52:40 จิตแพทย์ก็ได้นะครับบางครั้งคนใกล้ตัวที่
00:52:40 → 00:52:44 รับฟังดีๆก็ช่วยได้
00:52:44 → 00:52:49 แต่หลังหลังๆที่เห็นคือคนถูก bully คือคน
00:52:49 → 00:52:54 เก่งเด่นและควรแนะนำให้เขาเอาอย่างไรดี
00:52:54 → 00:52:58 The House ถ้าคุณเป็นคุณครู
00:52:58 → 00:53:01 ถ้าคุณครูต้องช่วยกันสร้างระบบในโรงเรียน
00:53:01 → 00:53:02 ครับ
00:53:02 → 00:53:04 อีกแล้วมันเป็นเรื่องของกระบวนการสร้าง
00:53:04 → 00:53:07 ค่านิยมให้ถูกต้องในโรงเรียน
00:53:07 → 00:53:10 ก็เพราะว่าไปแก้ที่ตัวบุคคลไม่ได้ครับ
00:53:10 → 00:53:13 เรื่องแบบนี้ต้องแก้ที่ระบบต้องแก้ที่
00:53:13 → 00:53:17 กลไกภายในโรงเรียนนะครับ
00:53:17 → 00:53:20 มีแต่แน่นอนเด็กก็ต้องได้รับการ Coast จะ
00:53:20 → 00:53:24 รับกันช่วยเหลือนะครับผมจำได้ตอนที่ลูกผม
00:53:24 → 00:53:27 ถูกเพื่อนคนหนึ่งแกล้งตอนที่เขาอยู่ใน
00:53:27 → 00:53:31 ชั้นแถวชั้นอนุบาล 3 หรือปอ 1 ปอ 2 แถว
00:53:31 → 00:53:36 นี้นะครับเล็กมากข้าไม่รู้จะทำไง
00:53:36 → 00:53:38 ต่อเนื่องจากสถานการณ์ผมดูแล้วมันเป็น
00:53:38 → 00:53:41 ระดับที่ยังไม่ได้รุนแรงมากผมก็ต้องติว
00:53:41 → 00:53:43 กับว่าจะจัดการยังไง
00:53:43 → 00:53:47 ซึ่งไม่ได้เป็นไปตามตำรานะครับแต่เรียบ
00:53:47 → 00:53:49 ร้อยดีครับ
00:53:49 → 00:53:51 ร้านเหล้าไม่ได้ด้วย
00:53:51 → 00:53:55 ผมซื้อที่ต่างจังหวัดแต่มีเสาไฟกินเข้ามา
00:53:55 → 00:53:58 ในที่เจ้าของเดิมบอกจะเอาออกให้ล่าสุดโทร
00:53:58 → 00:54:00 ไปถามทำไมยังไม่ออกเขาขอเวลาหน่อยเพราะกด
00:54:00 → 00:54:03 วันรุ่งขึ้นครับผมขอตายรู้มาว่าเขามีหนี้
00:54:03 → 00:54:07 สินมากพร้อมแอบรู้สึกผิดควรทำอย่างไรดี
00:54:07 → 00:54:10 ว่ามันเป็นเรื่องเที่ยวข้าไม่ถึงจริงๆนะ
00:54:10 → 00:54:14 ครับความรู้สึกผิดของคุณสังเกตนะครับว่า
00:54:14 → 00:54:17 คุณคิดอะไรอยู่ในใจคุณอธิบายสิ่งที่เกิด
00:54:17 → 00:54:21 ขึ้นยังไงความคิดตัวนั้นเนี่ยมีการกล่าว
00:54:21 → 00:54:26 โทษตำหนิตัวคุณอะไรบ้างขอให้หยิบความคิด
00:54:26 → 00:54:29 นั้นมากลางให้ชัดแล้วลองดูว่าความคิดนั้น
00:54:29 → 00:54:32 แฟนหรือเป็นธรรมกับคุณไหมคุณเชื่อความคิด
00:54:32 → 00:54:34 นั้นร้อยเปอร์เซ็นต์หรือกี่เปอร์เซ็นต์นะ
00:54:34 → 00:54:37 ครับมันคือส่วนการจัดการความรู้สึกภายใน
00:54:37 → 00:54:41 ครับส่วนที่เหลือคุณจะทำอะไรต่อถ้าคุณ
00:54:41 → 00:54:44 เชื่อเรื่องบาปบุญคุณโทษคุณก็ลองดูละกัน
00:54:44 → 00:54:47 ครับว่าคุณจะช่วยอะไรให้เขาได้บ้างอ่ะ
00:54:47 → 00:54:51 เมื่อรับชมที่โตเกียวดีใจมากที่ได้ชมสด
00:54:51 → 00:54:54 ทานยาผ่อนคลายอยู่หลายปีตอนนี้ไม่ได้ทาน
00:54:54 → 00:54:58 แล้วเอามาปฏิบัติฟังแล้วมาปฏิบัติดีขึ้น
00:54:58 → 00:55:01 รวมทั้งธรรมะด้วยนะครับถ้าไม่ลองสุดให้ใจ
00:55:01 → 00:55:04 และอึดอัดคอกับหน้าอกมันเป็นพระคุณอย่าง
00:55:04 → 00:55:08 เก่งครับคนที่จะสุดในเจดีย์จะจะจะเรียน
00:55:08 → 00:55:10 รู้การเคลื่อนไหวระหว่างกล้ามเนื้อซี่
00:55:10 → 00:55:13 โครงกับกระบังลมนะครับถ้าคนสุดท้ายใจและ
00:55:13 → 00:55:16 ยังไม่ค่อยคล่องให้ใช้การเคลื่อนไหว
00:55:16 → 00:55:20 ประกอบเช่นคุณกว่ามือขึ้นนะครับหายใจเข้า
00:55:20 → 00:55:24 พนมมือคุณกว่ามือลงให้ใช่ออกคุณจะเพราะ
00:55:24 → 00:55:28 ว่ากันให้ใช้ง่ายขึ้นหรือคุณขยับมือหาย
00:55:28 → 00:55:30 เจ็กเข้า
00:55:30 → 00:55:34 บ่หายใจออกนะครับวิธีนี้มันเป็นการช่วย 4
00:55:34 → 00:55:38 ครองให้มีการขยับนะครับถ้าคุณชอบแนวนี้นะ
00:55:38 → 00:55:40 ครับให้เปิดคลิปใน YouTube นะครับมีคลิป
00:55:40 → 00:55:43 แนวนี้เยอะมากครับ
00:55:43 → 00:55:47 อ.ธัญบุรีชัดเจนเคยเจอครูดึงกระดาษคำตอบ
00:55:47 → 00:55:49 ไปดูระหว่างสอบแล้วพูดกับครูอีกคนว่าไม่
00:55:49 → 00:55:53 น่าเชื่อนะว่าจะทำได้แบบนี้คือครู bully
00:55:54 → 00:55:57 ไหมคะคือนี่แหละครับผมคิดว่าบางทีครูเขา
00:55:57 → 00:56:00 ก็ลืมตัวไปนะครับก็ไม่รู้ว่าสิ่งที่เค้า
00:56:00 → 00:56:03 พูดและทำมันกระทบเด็กยังไงครับ
00:56:03 → 00:56:05 อย่าไปเล่นน่ะสิได้ครับที่
00:56:05 → 00:56:08 ข้อความเข้าใจเรื่องจิตใจของเด็กไม่ได้
00:56:08 → 00:56:10 กลายเป็นฐานของวิชานี้ผมไม่รู้ตอนนี้มี
00:56:10 → 00:56:13 หรือยังครับ
00:56:13 → 00:56:17 ก็ฟังคุณหมอแล้วรู้สึกดีขึ้นขอบคุณมากแต่
00:56:17 → 00:56:19 อย่างว่านะครูเยอะมากนะครับมันต้องมีข้าง
00:56:19 → 00:56:21 ที่ควรเป็นครูดีกับกูไม่ดีเอาเงี้ยกันนะ
00:56:21 → 00:56:24 ครับก็เหมือนกับทุกวงการนะครับเฉพาะข้า
00:56:24 → 00:56:27 ราชการครูนะครับอยู่ในระบบราชการ 4 แสนคน
00:56:27 → 00:56:31 นะครับเหมือนกับมีข้าราชการกระทรวง
00:56:31 → 00:56:33 สาธารณสุขมีสองแสนคนผมไม่รู้เปลี่ยนตัว
00:56:33 → 00:56:35 เลขได้มากแค่ไหนนะครับมันต้องมีคนดีกับคน
00:56:36 → 00:56:38 ไม่ดีผลกันครับอ่ะ
00:56:38 → 00:56:41 ถ้าคุณพ่ออายุ 80 ไม่อยากทานยาแอบสู้แอบ
00:56:41 → 00:56:44 ทิ้งชักท้อใจในการดูแลแก้ไขยังไง
00:56:44 → 00:56:48 ดูเขาตื่นเลยครับไล่ก็อ้าปากดู
00:56:48 → 00:56:51 ดีหรือไม่ก็อาจจะต้องเปลี่ยนรูปแบบการกิน
00:56:51 → 00:56:54 แทนเช่นผสมในน้ำแล้วแต่ครับคุณด้วยปรึกษา
00:56:54 → 00:56:59 หมอว่ามีรูปแบบอื่นไหมนะครับหนูเท่าใจ
00:56:59 → 00:57:01 เรื่องงานงานเยอะไม่มีเวลาพักกันที่สนุก
00:57:01 → 00:57:04 มาที่ท่ออยู่ไกลครอบครัวเพิ่งเสียคุณยาย
00:57:04 → 00:57:07 อยากเกษียณไปอยู่บ้านนอกใช้เวลาอยู่กับ
00:57:07 → 00:57:10 ครอบครัวจะต้องเก็บเงินก่อนนั่นสิครับ
00:57:10 → 00:57:13 ความยากก็คือนี้เลยครับคุณอยากได้สิ่ง
00:57:13 → 00:57:15 หนึ่งแต่คุณต้องทนสิ่งหนึ่งเพื่อจะได้
00:57:15 → 00:57:18 สิ่งนั้นมันเป็นการจัดสมดุลครับซึ่งได้
00:57:18 → 00:57:21 บางอย่างก็จะต้องเสียบางอย่างแล้วมั้งที
00:57:21 → 00:57:24 เราก็เลือกที่เราจะต้อง
00:57:24 → 00:57:26 จะทำสิ่งที่เราไม่ชอบเพื่อจะได้ตอบโจทย์
00:57:26 → 00:57:30 ระยะยาวบางอย่างผมหวังว่าคุณจะค่อยๆคิด
00:57:30 → 00:57:34 แล้วก็ลองดูว่าคุณจะสามารถหาทางออกยังไง
00:57:34 → 00:57:37 ได้บ้างครับเพราะบางทีจบแบบเนี้ยมันมี
00:57:37 → 00:57:40 หลักการของมันครับอ่ะ
00:57:40 → 00:57:43 มีประกันก็คือเราจะผสมผสานความต้องการของ
00:57:43 → 00:57:47 เราด้วยไลฟ์สไตล์อะไรได้บ้างซึ่งตัวนี้
00:57:47 → 00:57:51 มันต้องลงรายละเอียดของแต่ละคนเลยอ่ะ
00:57:51 → 00:57:56 อย่าท้อใจกับคำพูดที่ชอบพูดดูถูกไม่
00:57:56 → 00:58:00 เกียรติเรา
00:58:00 → 00:58:04 และนั่นเป็นสิ่งที่เราควบคุมไม่ได้ด้วย
00:58:04 → 00:58:07 มีแต่สิ่งที่คุณควบคุมได้ก็คือคำพูดได้มา
00:58:07 → 00:58:10 กระทบใจคุณเนี่ยคุณกำลังออกไปใช้อะไรต่อ
00:58:10 → 00:58:13 ครึ่งกำลังอธิบายสิ่งที่เขาทำกับคุณยังไง
00:58:13 → 00:58:16 ครับตัวน่าจะเพิ่มความเจ็บปวดหรือจะคล้าย
00:58:16 → 00:58:19 มาลงตัวนี้อยู่ข้างในเราแต่คำพูดอยู่ข้าง
00:58:19 → 00:58:22 นอกนะครับพูดง่ายนะครับแต่ทำยากตัวนี้
00:58:22 → 00:58:24 ต้องฝึกเยอะพอสมควร
00:58:24 → 00:58:27 มีแต่มีคำถามหนึ่งว่าอะไรทำให้คุณยังอยู่
00:58:27 → 00:58:31 ใกล้เขาครับคุณมีตัวเลือกหรือเปล่าถ้าเขา
00:58:31 → 00:58:33 เป็นคู่ชีวิตผมไม่ได้บอกให้เลิกนะครับผม
00:58:33 → 00:58:36 แค่ทำให้รู้ว่าถ้าคุณยังอยู่ทนเพราะอะไร
00:58:36 → 00:58:38 ทำให้คุณอยู่ตรงนี้
00:58:38 → 00:58:40 เออกูจะได้รู้ว่าคุณอยู่ตรงนี้คุณกำลัง
00:58:40 → 00:58:42 ได้รับอะไรอยู่
00:58:42 → 00:58:45 ถ้าเช่าท่อร้องให้กับตัวเองจะสามารถแก้
00:58:45 → 00:58:48 ปวดได้ไหมหนูรู้สึกการไล่คนฟังไม่ปลอดภัย
00:58:48 → 00:58:52 คุณร้องไห้มันไม่ได้แก้ปมครับมันเป็น
00:58:52 → 00:58:54 เพียงการระบายอารมณ์นะครับคุณลองไปฟัง
00:58:54 → 00:58:57 เรื่องปมที่ผมพูดอยู่หลายครั้งดูนะครับ
00:58:57 → 00:58:59 อย่างน้อยคุณอาจจะเข้าใจหลักการอยู่ใน
00:58:59 → 00:59:02 นั้นด้วยนะครับอ่ะ
00:59:02 → 00:59:05 ก็เห็นพ่อแม่ทะเลาะกันตั้งแต่จำความได้
00:59:05 → 00:59:08 ก็ทำอะไรไม่ประสบความสำเร็จสักอย่างคุณ
00:59:08 → 00:59:11 หมอเป็นพลังขับเครื่องดีมาก
00:59:11 → 00:59:14 แต่ถ้าคุณตระหนักมันฝังอยู่ในความรู้สึก
00:59:14 → 00:59:17 ลึกๆที่มีทั้งความกลัวกับความรู้สึกช่วย
00:59:17 → 00:59:19 เหลือตัวเองไม่ได้ทำอะไรไม่ได้
00:59:19 → 00:59:23 เด็กบางคนที่โตมาจะมีความโกรธตัวเองด้วย
00:59:23 → 00:59:26 นะครับเช่นโกรธที่ปกป้องแม่ไม่ได้แล้วก็
00:59:26 → 00:59:29 กลัวด้วยแต่ต้องกบทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้
00:59:29 → 00:59:33 ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดสภาวะหลายอย่าง
00:59:33 → 00:59:36 มากเน็ตจิตใจที่อยู่ลึกลงไปแล้วพรุ่งนี้
00:59:36 → 00:59:38 วันที่เราไม่รู้ตัวนะมันเป็นตัวที่วิ่ง
00:59:38 → 00:59:41 อยู่ในระดับที่ภาษาของทางจิ๋วยามันจะ
00:59:41 → 00:59:44 เรียกว่าอยู่ในจิตใต้สำนึกนะครับเคย
00:59:44 → 00:59:46 ระเบิดอารมณ์ใส่คุณแม่แม่ไม่รับฟังเลย
00:59:46 → 00:59:49 ช่วงหลังมาพยายามเข้าใจว่าแม่รักแต่แม่
00:59:49 → 00:59:51 ไม่ยอมรับฟังเหมือนเดิมมากจะใช้ความเป็น
00:59:51 → 00:59:56 แม่เอาความต้องการตัวเองต้องการให้ทำอะไร
00:59:56 → 00:59:58 อยู่ในทันที
00:59:58 → 01:00:01 นี้นะครับต้องกดอารมณ์ไว้
01:00:01 → 01:00:04 ผมเจอลูกที่ต้องเจอแม่แบบมีอยู่จำนวน
01:00:04 → 01:00:05 หนึ่งครับ
01:00:05 → 01:00:07 โอ๊ยลูกที่จะอยู่แบบนี้ได้จะต้องพัฒนา
01:00:07 → 01:00:10 ข้างในเยอะมากเพื่อจะได้อยู่กับแม่ได้โดย
01:00:10 → 01:00:14 นิ่งพอนะครับ
01:00:14 → 01:00:17 แต่ละก็คุณแม่อาจจะมีโจทย์ของตัวเองอยู่
01:00:17 → 01:00:19 ครับแต่เขาไม่รู้
01:00:19 → 01:00:22 อุ้ยทำไมเวลาทอดทานน้อยลงนอนน้อยหลวงมัน
01:00:22 → 01:00:24 เป็นรูปแบบหนึ่งของความเครียดครับซึ่งทำ
01:00:24 → 01:00:27 ให้ระบบร่างกายทำงานรวนไปในกรณีนี้คือ
01:00:27 → 01:00:30 ความเครียดเรื้อรังทำให้ระบบทำงานของลำ
01:00:30 → 01:00:33 ไส้ทำแย่ลงความตื่นตัวทำให้เรานอนหลับแย่
01:00:33 → 01:00:37 ลงครับท้อใจกับลูกชายวัยสิบแปดเตรียมตัว
01:00:37 → 01:00:41 เข้ามหาวิทยาลัยไม่เคยพูดพูดน้อย
01:00:41 → 01:00:44 ก็สวัสดีจากญี่ปุ่นคุณหมอตอนนี้ไต้ฝุ่น
01:00:44 → 01:00:46 กำลังนะเข้าอยากทราบเรื่องการให้ความช่วย
01:00:46 → 01:00:50 เหลือเทคนิคการรับฟังคนมีปมครั้งใจมัน
01:00:50 → 01:00:54 โอ้โหอนุญาตเลยครับเพราะว่ามันไม่มีวิธี
01:00:54 → 01:00:58 การเยียวยาปมด้วยกันรับฟังครับ
01:00:58 → 01:01:01 นะแต่ว่าการรับฟังที่ดีช่วยเป็นพื้นที่
01:01:01 → 01:01:04 ทางอารมณ์ได้แต่มันจะไม่ได้แก้ต้นทางนะ
01:01:04 → 01:01:07 ครับมันแค่คล้ายลงเป็นข้างๆได้
01:01:07 → 01:01:11 ซึ่งการฟังแบบนั้นไม่แตกต่างกันครับฟัง
01:01:11 → 01:01:15 เข้าใจไม่ต้องตัดสินไม่ต้องแนะนำให้เวลา
01:01:15 → 01:01:19 เท่าที่เราให้ได้กำหนดเวลาตั้งแต่ต้น
01:01:19 → 01:01:25 ก็เช่นวันนี้ฉันมีเวลากับเธอประมาณ 20
01:01:25 → 01:01:29 นาทีนะฉันจะฟังอันจะรับรู้ความรู้สึกของ
01:01:29 → 01:01:33 เธอแล้วก็ทวนสิ่งที่เค้าพูด
01:01:33 → 01:01:36 หยิบเอาคิว Word หรือคำสำคัญที่เค้าพูด
01:01:36 → 01:01:38 ที่มีอารมณ์ความรู้สึกออกมาบางทำเช่นเธอ
01:01:38 → 01:01:41 รู้สึกโกรธมากเธอรู้สึกเสียใจมาก
01:01:41 → 01:01:43 นะครับแต่สิ่งนี้คือสิ่งที่เค้าพูดแล้วก็
01:01:43 → 01:01:47 พูดทวนตามอันนี้คือการฟังทำให้เขารู้ว่า
01:01:47 → 01:01:51 เราได้ยินครับขอบคุณคุณหมอในทุกไลฟ์ตั้ง
01:01:51 → 01:01:53 แต่ฟังคุณหมอทำให้เข้าใจคนรอบข้างมากขึ้น
01:01:53 → 01:01:55 เพราะแต่ละคนมีพื้นฐานเหมือนกันส่วนตัว
01:01:55 → 01:01:58 เวลาฟังแล้วจะเก็บเป็นข้อมูลไว้เพราะเจอ
01:01:58 → 01:02:01 ปัญหาก็ตรงกับที่กรณีที่ตรงกับกันที่หมอ
01:02:01 → 01:02:05 พูดก็จะหยิบมาใช้จากมิชิแกนอเมริกาขอแชร์
01:02:05 → 01:02:08 ความรู้และแนวทางแก้ไขขอบคุณมากเลยครับ
01:02:08 → 01:02:11 ขอบคุณขอบคุณขอบคุณผมนะครับฟังค่ะหมอทุก
01:02:11 → 01:02:15 อาทิตย์มาตั้งแต่ปี 2019 3 ปีละสิครับ
01:02:15 → 01:02:19 ก็รู้สึกตัวเองมองชีวิตดีขึ้นมากดีใจยิน
01:02:19 → 01:02:21 ดีเลยครับบางที่อยากไปไหนรู้สึกผิดที่
01:02:21 → 01:02:24 ต้องปล่อยแม่ไว้แต่ไม่มีเวลาของตัวเองรู้
01:02:24 → 01:02:26 สึกว่าถ้าตัวเองไปภาคก็มีความสุขคนเดียว
01:02:26 → 01:02:27 เหมือนทิ้งเขาไว้
01:02:27 → 01:02:32 ความคิดแบบนี้ทำยังไงกับความคิดแบบนี้ดี
01:02:32 → 01:02:35 มันเป็นส่วนหนึ่งของความคาดหวังที่คุณมี
01:02:35 → 01:02:38 กับตัวเองครับคุณต้องถามตัวเองว่าคุณเห็น
01:02:38 → 01:02:41 ด้วยกับความคาดหวังที่มีกับตัวเองอันนี้
01:02:41 → 01:02:47 ไหมนะครับแล้วคุณคิดว่าคุณสมควรจะได้รับ
01:02:47 → 01:02:51 มีเวลาในการออกไปมีไปพักผ่อนจากการดูแล
01:02:51 → 01:02:55 ท่านไหมถ้าทั้ง 2 ตัวคุณรู้ในเชิงเหตุผล
01:02:55 → 01:02:58 แต่คุณทำไม่ได้ในเชิงความรู้สึกลึกๆนั่น
01:02:58 → 01:02:59 เป็นโปร่งอย่างหนึ่งที่ฟังออกมาเป็น
01:02:59 → 01:03:03 ปรากฏการณ์แต่ที่เราพยายามปรับความนึกคิด
01:03:03 → 01:03:07 ด้วยความเข้าใจแล้วแต่มันไม่ไปด้วยกันมัน
01:03:07 → 01:03:10 มีอะไรบางอย่างที่กำหนดพลังของอารมณ์ที่
01:03:10 → 01:03:12 ยืมอันอยู่
01:03:12 → 01:03:13 และ
01:03:13 → 01:03:17 ภรรยาเสียชีวิตไปผมยังคงคุยกับรูปเธอทุก
01:03:17 → 01:03:20 วันเอาเสื้อที่เธอชอบใส่มาแขวนในห้องช่วย
01:03:20 → 01:03:22 ให้กำลังใจเหมือนเธอยังอยู่ด้วยกันบางที
01:03:22 → 01:03:26 ก็ทำให้เศร้าเอาถือว่าปกติไหม
01:03:26 → 01:03:31 เกิดการสูญเสียคนใกล้ตัวนะครับคนรักที่
01:03:31 → 01:03:36 ผูกพันมากๆไม่มีเส้นแบ่งชัดว่านานแค่ไหน
01:03:36 → 01:03:40 ถึงจะเรียกว่าผิดปกติอ่ะ
01:03:40 → 01:03:43 มีพฤติกรรมของคุณคล้ายกับพฤติกรรมของคน
01:03:43 → 01:03:47 ที่ไม่อยากยอมรับว่าเขาจากไปแล้วแต่ฟังดู
01:03:47 → 01:03:51 ก็เหมือนกับคุณรับรู้ว่าเขาจับแล้วอ่ะ
01:03:51 → 01:03:55 ถ้าผมมีคุณแม่ท่านหนึ่งเสียลูกซึ่งมีอายุ
01:03:55 → 01:03:59 ประมาณ 20 คุณแม่ท่านนี้อายุประมาณ 50
01:03:59 → 01:04:00 บาท
01:04:00 → 01:04:04 หมอเขายังเก็บห้องของลูกไว้ช่วงแรกๆก็ยัง
01:04:04 → 01:04:07 ทำทุกอย่างเหมือนลูกมีชีวิตอยู่นะครับแต่
01:04:07 → 01:04:10 พอเข้าไปที่ 3 ตอนที่ลูกอีกคนกลับมาอยู่
01:04:10 → 01:04:13 ด้วยตอนที่เขามีหมามีสุนัขเลี้ยงดูน่ารัก
01:04:13 → 01:04:17 4 ตัวตอนที่เริ่มมีแฟนของลูกมาช่วยกันดู
01:04:17 → 01:04:20 แลชีวิตเขาเดินหน้านะครับ
01:04:20 → 01:04:23 หมอเขาก็เริ่มทำใจกับการสูญเสียลูกไปดี
01:04:23 → 01:04:26 ขึ้นเป็นลำดับแต่เขาเวลาที่นึกถึงเขายัง
01:04:26 → 01:04:28 รู้สึกเสียใจอยู่
01:04:28 → 01:04:34 3 4 ปีแล้วครับนั้นมันจึงเป็นเรื่องของ
01:04:34 → 01:04:36 มีการเดินไปข้างหน้าของเรา
01:04:36 → 01:04:41 กับการเก็บความทรงจำที่เรามีกับคนที่เรา
01:04:41 → 01:04:47 สูญเสียไปกับการดูว่าเวลาแค่เนี้ยเราอยาก
01:04:47 → 01:04:50 ทำอะไรต่อในชีวิตบ้างอ่ะ
01:04:51 → 01:04:53 ฮะซึ่งเมื่อไหร่ก็ตามที่เรามีเป้าหมายใน
01:04:53 → 01:04:59 การเดินต่อเราจะพบว่าอดีตที่มีพลังมาก
01:04:59 → 01:05:02 แต่พลังของมันจะอ่อนลงตามเวลานะครับ
01:05:02 → 01:05:05 ถ้ามันไม่ได้แปลว่าลืมเขาครับมันแปลว่า
01:05:05 → 01:05:08 เรากำลังจัดความสัมพันธ์ระหว่างเรากับเขา
01:05:08 → 01:05:12 ความทรงจำของที่มีกับข้าวใหม่ปลา
01:05:12 → 01:05:15 ถ้าพ่อแม่ผมไม่เชื่อเรื่องกิริยาเลยครับ
01:05:15 → 01:05:18 เชื่อประสบการณ์ตัวเองดูแลผู้ป่วยยาเสพ
01:05:18 → 01:05:21 ติดพบคนที่เป็นโรคจิตเภทซึมเศร้าเยอะมาก
01:05:21 → 01:05:24 สงสารผู้ป่วยแต่ตัวเราก็ต้องเข้มแข็ง
01:05:24 → 01:05:27 ถ้าอยากได้คำแนะนำจากคุณหมอ
01:05:27 → 01:05:31 มีหลักการสำคัญนะครับก็คือคุณก็ต้องการดู
01:05:31 → 01:05:35 แลตัวเองคุณต้องการความคาดหวังที่เหมาะสม
01:05:35 → 01:05:39 กับตัวเองและที่สำคัญก็คือคุณจำเป็นต้อง
01:05:39 → 01:05:42 มีความรู้ความเข้าใจและทักษะในการจัดการ
01:05:42 → 01:05:46 โจทย์แบบนี้นะครับโมเดลหรือกรอบความคิดใน
01:05:46 → 01:05:49 การดูแลผู้ป่วยยาเสพติดในประเทศไทยรวมถึง
01:05:49 → 01:05:52 คนที่เป็นจิตเภทและซึมเศร้าเนี่ยส่วนใหญ่
01:05:52 → 01:05:55 ยังเป็นการมองที่ระดับพฤติกรรมและการ
01:05:55 → 01:05:57 รักษาตัวอย่างนะครับมันทำให้งานไม่ค่อย
01:05:57 → 01:06:02 สนุกผมพูดว่าเมื่อผมได้
01:06:02 → 01:06:06 นักเรียนรู้เพื่อที่จะดูแลผู้ป่วยในขณะ
01:06:06 → 01:06:09 ที่เป็นมนุษย์คนหนึ่งมันมีอะไรให้เราทำ
01:06:09 → 01:06:11 อีกหลายอย่างและมองไม่ว่าเขาจะป่วยเป็น
01:06:11 → 01:06:14 อะไรครับเข้าเป็นมนุษย์ที่มีชีวิตมันทำ
01:06:14 → 01:06:18 ให้เวลาคุยกับใครก็ตามเนี่ยมันมีมิติที่
01:06:18 → 01:06:20 ทำให้ชีวิตที่ทำให้งานของเรามามีความสนุก
01:06:20 → 01:06:25 ขึ้นมามีความหลากหลายขึ้นนะครับอ่ะ
01:06:25 → 01:06:27 และหน่วยงานบางหน่วยเราอยู่แล้วเรารู้สึก
01:06:27 → 01:06:30 ไม่สนุกเราก็ต้องถามว่าให้เราจะอยู่ที่มี
01:06:30 → 01:06:33 ต่อเลยจะอยู่ที่อื่นเพราะผมก็ยอมรับว่า
01:06:33 → 01:06:35 ตัวตรงนี้ก็เลือกที่ทำงานที่ทำให้เราได้
01:06:35 → 01:06:38 สนุกกับสิ่งที่เรามีพื้นที่ที่เราอยาก
01:06:38 → 01:06:40 สนุกด้วยเช่นผมเลือกที่จะไม่อยู่โรง
01:06:40 → 01:06:44 พยาบาลจิตเวชเพราะว่าเวลาตัวข้างๆน้อยดู
01:06:44 → 01:06:49 คนไข้เยอะใช้ได้แต่อย่างไม่สนุกครับ
01:06:49 → 01:06:53 หางานง่ายแต่หนักไม่ใช่ง่ายนะครับคือมัน
01:06:53 → 01:06:56 ไม่ต้องลงรายละเอียดของความคิดที่เราต้อง
01:06:56 → 01:06:59 ทำอะไรที่เราจะทำจิตบำบัดมันเป็นงานคนละ
01:06:59 → 01:07:02 แบบกันผมเลือกที่จะอยู่ในพื้นที่คนละแบบ
01:07:02 → 01:07:05 ถามว่าถูกหรือผิดผมเข้ามาเป็นทางเลือก
01:07:05 → 01:07:07 ครับ
01:07:07 → 01:07:10 ติดตามคุณหมอเมื่อไหร่คือกินดีครับ
01:07:10 → 01:07:15 ก็เข้าไม่คล่องคุยกับลูกยากมากชอบถามแต่
01:07:15 → 01:07:18 พอเราตอบเขามาไม่พอใจ
01:07:18 → 01:07:22 ก็แปลว่าเขาถามแบบมีเป้าหมายเพื่อคุณตอบ
01:07:22 → 01:07:25 ให้ถูกใจเขาหรือเพื่อเป็นข้ออ้างมันอย่าง
01:07:25 → 01:07:29 สำหรับเขาคุณต้องรู้ทันเจตนาของเขาแทนที่
01:07:29 → 01:07:32 จะตอบตามคำถามของเขานะครับลองดูว่าเขา
01:07:32 → 01:07:34 ต้องการอะไร
01:07:34 → 01:07:37 ขอบคุณคุณหมอที่มอบความรู้ดีๆขออวยพร
01:07:37 → 01:07:40 ขอบคุณสำหรับคำอวยพรของคุณที่มาอย่างสม่ำ
01:07:40 → 01:07:42 เสมอนะครับที่ฉันโชคดีมีคุณหมอเป็นหมอ
01:07:42 → 01:07:46 ประจำตัวฟังแล้วสบายใจก็
01:07:46 → 01:07:48 ม.ค
01:07:48 → 01:07:52 ถ้าคุณหมายถึงว่าคุณเป็นคนไข้ของผมนะครับ
01:07:52 → 01:07:55 คุณหมอครับโพธิ์ CD มีหลายระดับหรือไม่
01:07:55 → 01:07:57 ครับคนที่เป็น ocd จะถ่ายทอดไปยังลูกไหม
01:07:57 → 01:08:00 ถ้าเราฝึกงาน funes เราย้ำคิดแต่ไม่ยอมทำ
01:08:00 → 01:08:03 ก็พอจะได้ไหม
01:08:03 → 01:08:06 ความรุนแรงของ ocd หรือโรคย้ำคิดย้ำทำมี
01:08:06 → 01:08:09 หลายระดับครับ
01:08:09 → 01:08:11 คะแล้วก็
01:08:11 → 01:08:14 ก็เชื่อกันว่านะครับมีข้อมูลเรื่องกรรม
01:08:14 → 01:08:17 พันธุ์ในระดับหนึ่ง
01:08:17 → 01:08:20 มีประสบการณ์ของผมก็คือ ocd เป็นอาการของ
01:08:20 → 01:08:24 ความวิตกกังวลที่ค่อนข้างจะรุนแรงและหลาย
01:08:24 → 01:08:28 คนมีประวัติที่สัมพันธ์กับปมเก่าในวัย
01:08:28 → 01:08:31 เด็กโดยที่เขาไม่รู้ตัวนะบางทีผมเห็นแม่
01:08:31 → 01:08:34 เป็นลูกเป็นนะครับแล้วก็เห็นพรมที่แม่
01:08:34 → 01:08:37 สร้างให้ลูกยังไงอ่ะ
01:08:37 → 01:08:39 แต่พ่อแม่ก็ไม่สบายครับ
01:08:39 → 01:08:43 ถ้าอย่างนั้นแต่ที่ผมเอาคุณอยากจะฝึกเอง
01:08:43 → 01:08:46 แล้วก็ยาวยาเองทำได้มั้ยคุณต้องดูว่าคุณ
01:08:46 → 01:08:50 มีความสุขดีไหมแล้วก็คุณได้สร้างบรรยากาศ
01:08:50 → 01:08:53 ที่ยืดหยุ่นไหมเพราะคนเป็น ocd มากจะไม่
01:08:53 → 01:08:56 ค่อยยืดหยุ่นลูกเนี่ยต้องการพื้นที่ในการ
01:08:56 → 01:08:58 ทดลองชีวิตครับ
01:08:58 → 01:09:03 ตัวอย่างปลอดภัยโดยมีขอบเขตที่เหมาะสมถ้า
01:09:03 → 01:09:06 อาการย้ำคิดย้ำทำของคุณไม่ทำให้คุณมีความ
01:09:06 → 01:09:11 เข้มงวดมีกรอบที่แข็งตัวตรงนั้นมันจะทำ
01:09:11 → 01:09:13 ให้โอกาสของเด็กน้อยลงนะครับถ้าคุณไม่
01:09:13 → 01:09:17 เป็นอย่างนั้นผมคิดว่าผลกระทบก็คงน้อยไป
01:09:17 → 01:09:20 ขอดูคลิปย้อนหลังเร็วหัวข้อที่ตรงใจวัน
01:09:20 → 01:09:23 นี้ดีใจมากได้ฟังสดค่อยกันมาแข็งแรง
01:09:23 → 01:09:26 ตั้งเวลาทอดหรือมีเรื่องมันกระทบความรู้
01:09:26 → 01:09:28 สึกที่ Place มากสามารถนอนอยู่บนเตียง
01:09:28 → 01:09:31 เป็นอาทิตย์ไม่อาบน้ำแทบไม่กินกูตัวเอง
01:09:31 → 01:09:35 ออกจากหลุมดำยากมาก
01:09:35 → 01:09:38 ขอให้คุณสังเกตนะครับว่าระหว่างที่คุณทอ
01:09:38 → 01:09:41 เนี่ยมันมีความคิดวิ่งอยู่ใกล้ตัวความคิด
01:09:41 → 01:09:44 ที่วิ่งอยู่นะเนี่ยคือตัวเลี้ยงความรู้
01:09:44 → 01:09:47 สึกแย่ของเราถ้าคุณรู้ตัวว่าคุณคิดอะไร
01:09:47 → 01:09:51 อยู่มันจะลดพลังลมนะครับแต่คนส่วนใหญ่ไม่
01:09:51 → 01:09:53 รู้ตัวว่ากำลังคิดอะไรรู้แต่ว่าสภาวะจิต
01:09:53 → 01:09:55 ใจมันแย่ลงแย่ลง
01:09:55 → 01:09:57 มีแต่ไม่มีความคิดถึงอยู่ในนั้นด้วยครับ
01:09:57 → 01:10:01 พอใจกับแม่มากไม่เอาใจยากฉุนเฉียวลมร้าย
01:10:01 → 01:10:03 รับมือยังไงอ่ะ
01:10:03 → 01:10:06 โน้ท
01:10:06 → 01:10:10 มีคำถามของโจทย์ซับซ้อนตอบยากมากครับผม
01:10:10 → 01:10:12 แต่ผมจะบอกอย่างนี้ครับการรับมือก็ประกอบ
01:10:12 → 01:10:15 ด้วย 1 ปัจจัยที่ตัวแม่ใช่ไหมครับคุณจะ
01:10:15 → 01:10:18 ต้องสังเกตว่าเงื่อนไขที่จะไม่แม่แย่ลง
01:10:18 → 01:10:21 นั่นใครที่ทำให้แม่ดีขึ้นมีไหม 2 อยู่ที่
01:10:21 → 01:10:25 ตัวคุณครับคุณต้องดูว่าว่าคุณได้พัฒนาตัว
01:10:25 → 01:10:29 เองในการทำให้อารมณ์ของแม่ไม่มากระทบใจ
01:10:29 → 01:10:33 คุณได้แค่ไหนซึ่งทำได้ฝึกได้
01:10:33 → 01:10:37 อันนั้นในบางครั้งความฉุนเฉียวของแม่อาจ
01:10:37 → 01:10:40 จะเกิดจากกันดูท่าทีของลูกที่เป็นกระตุ้น
01:10:40 → 01:10:43 แม่เลยไม่รู้ตัวได้ด้วยนั้นคุณต้องเห็น
01:10:43 → 01:10:46 ปฏิสัมพันธ์ระหว่างกันซึ่งบางครั้งเราไม่
01:10:46 → 01:10:50 เห็นครับโจทย์ข้อเนี้ยคุณอาจจะต้องการคน
01:10:50 → 01:10:53 ใกล้ๆตัวช่วยดูด้วยนะหนูสงสัยตัวเองก็
01:10:53 → 01:10:55 เป็นแพนิคหรือซึมเศร้าชอบคิดเรื่องอาการ
01:10:55 → 01:10:58 ป่วยซ้ำๆกลัวนอนไม่หลับคิดว่าตัวเองกำลัง
01:10:58 → 01:11:01 จะตายมื้อลอยไม่มีความสุข
01:11:01 → 01:11:05 ควรไปพบหมอมั้ยไม่รู้เริ่มยังไงคือจริงๆ
01:11:05 → 01:11:07 คุณไม่ต้องวินิจฉัยตัวเองว่าเป็นผลิตซึม
01:11:07 → 01:11:09 เศร้าครับ
01:11:09 → 01:11:12 ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของจิตแพทย์ได้เลย
01:11:12 → 01:11:16 แล้วก็คนจำนวนมากมีซึมเศร้าแล้วเป็นแพนิค
01:11:16 → 01:11:17 หลาย
01:11:17 → 01:11:19 ก็มีสินทรัพย์เป็นหลักและมีอาการ Panic
01:11:19 → 01:11:23 เป็นตัวประกอบผู้เปิดผลิตบางคนป่วยเป็น
01:11:23 → 01:11:26 แพนิคหรือรังก็มีสึกเศร้าได้ 2 โลกนี้ไม่
01:11:26 → 01:11:28 ได้แต่ว่าต้องเป็นโรคไตโรคหนึ่งมันไม่
01:11:28 → 01:11:32 สำคัญครับว่าคุณต้องเป็นโรคไหนสักโรคแต่
01:11:32 → 01:11:35 มันสำคัญว่ามันมีอาการไอรบกวนและเราจะ
01:11:35 → 01:11:38 เยียวยามันยังไงมากกว่างั้นถ้าคุณมีอาการ
01:11:38 → 01:11:41 รบกวนอยู่ผมให้เราว่าคุณปรึกษาผู้รู้นะ
01:11:41 → 01:11:44 ครับส่วนเข้าใช้โมเดลในการรักษาคุณเข้า
01:11:44 → 01:11:48 ประเมินดูนะครับว่าคุณจะหาเธอ Model ที่
01:11:48 → 01:11:51 ตอบโจทย์คุณได้รอบด้านยังไง
01:11:51 → 01:11:55 ครูของลูกพูดว่าเด็กเตะครูน่าจะมีปัญหา
01:11:55 → 01:11:57 จากการถูกกดดันจากโรงเรียนและเป็นครูที่
01:11:57 → 01:11:59 ไม่มีชีวิตยาในการพูดกับเด็กชนลูกไม่อยาก
01:11:59 → 01:12:03 อยู่โรงเรียนเดิมเราใช้ลูกทำยังไงดีจะ
01:12:03 → 01:12:05 เตรียมลูกแก้ปัญหาอย่างไรมันต้องดูว่าลูก
01:12:05 → 01:12:08 คุณอายุเท่าไหร่นะครับถ้าลูกคุณเป็นเด็ก
01:12:08 → 01:12:10 เล็กคุณจะสอนเด็กเล็กให้ไปลองรับกันไปจัด
01:12:10 → 01:12:12 การปัญหาผู้ใหญ่ที่มีอำนาจเหนือเท่านั้น
01:12:12 → 01:12:15 ได้ยากมากก
01:12:15 → 01:12:18 แต่ผมกลับคิดว่าถ้ากูกันนะมีปัญหา
01:12:18 → 01:12:21 แต่ผมต้องคุยกับผู้ไปหาโรงเรียน
01:12:21 → 01:12:25 แต่ถ้ามองในแง่ที่ว่าไม่ใช่ผมนะครับ
01:12:25 → 01:12:28 แต่ว่าเราต้องดูว่ามันไม่ใช่แค่ลูกของเรา
01:12:28 → 01:12:30 เพราะครูกันนั่นแหละจะทำร้ายเด็กคนอื่น
01:12:30 → 01:12:33 ได้ด้วยอ่ะ
01:12:33 → 01:12:35 มีแต่ผู้ไปหาโรงเรียนคนจะดูแลครูคนนั้น
01:12:35 → 01:12:37 ด้วยความเมตตา
01:12:37 → 01:12:41 มีวิธีไหนต้องแล้วแต่บริบท
01:12:41 → 01:12:45 ๆแล้วถ้าเราพบว่าครูคนนึง abuse เด็กใน
01:12:45 → 01:12:48 ชั้นเรียนและโรงเรียนไม่ทำอะไรถ้าผมเป็น
01:12:48 → 01:12:51 พ่อแม่เด็กครับผมเป็นพ่อเด็กโทรมาจะเอา
01:12:51 → 01:12:54 ลูกยายโรงเรียน
01:12:54 → 01:12:56 ถ้าคุณอาจจะคิดว่านั่นดูเหมือนเป็นการหนี
01:12:56 → 01:13:00 ปัญหาไหมนะครับได้แผลทางใจของลูกเป็นสิ่ง
01:13:00 → 01:13:02 ที่เราต้องปกป้องลูกไว้อย่าให้เขาไปเจอ
01:13:02 → 01:13:05 แต่ไม่ได้แปลว่าเขามีปัญหานะครับมันต้อง
01:13:05 → 01:13:08 ดูเป็นเรื่องไป
01:13:08 → 01:13:10 ตั้งแต่พรุ่งนี้ผมไม่รู้ซีเรียสแค่ไหน
01:13:10 → 01:13:15 ครับ
01:13:15 → 01:13:18 มีคนระแวงแก้แบบใด Day
01:13:18 → 01:13:23 ไม่เข้าใจนะครับอภิสิทธิ์ทะเลสิ่งบริกรรม
01:13:23 → 01:13:25 ดูเหมือนจะเป็นหมอนรองกระดูกทับเส้น
01:13:25 → 01:13:27 ประสาทน้อยกินยาตัวนี้มา 8 วันพยายาม
01:13:27 → 01:13:30 เลี่ยงกินยารักษาโรควิตกกังวลสุดท้ายต้อง
01:13:30 → 01:13:32 มาลองทานแล้วจะติดหรือมีผลเสียไหมยาตัว
01:13:32 → 01:13:35 นี้ไม่มีฤทธิ์เสพติดครับเป็นยาที่ดีมาก
01:13:35 → 01:13:38 กับประกันแก้ปัญหาการปวดเรื้อรังนะครับ
01:13:38 → 01:13:42 แล้วก็มีฤทธิ์ช่วยให้หลับตีขึ้นด้วย
01:13:42 → 01:13:45 ขอแก้ความกังวลเรื้อรังในด้วย
01:13:45 → 01:13:49 ผมใช้ในกรณีอาการปวดเรื้อรังด้วย
01:13:49 → 01:13:53 ไม่เสร็จติดครับขนาดต่ำนะครับ 10:00 น
01:13:53 → 01:13:57 ขนาดต่ำผลข้างเคียงด้วยขณะนี้ต่ำมากครับ
01:13:57 → 01:14:00 ขอฟังอาจารย์หมอได้ความรู้สึกกับทิศยินดี
01:14:00 → 01:14:04 ครับทุกคนล้วนมีผมข้างใจด้วยกันทุกคนคือ
01:14:04 → 01:14:06 ทุกคนมีประสบการณ์ทางอารมณ์ที่อาจจะส่งผล
01:14:06 → 01:14:09 ที่มันส่งผลต่อความเป็นตัวเค้านะครับแต่
01:14:09 → 01:14:11 เวลาที่เราพูดถึงปุ่มแล้วมันส่งผลเสียใน
01:14:11 → 01:14:15 เวลาที่เข้าควบคุมจัดการไม่ได้
01:14:15 → 01:14:19 มีแต่นี่เป็นเส้นที่ผมลากเองนะครับหนู
01:14:19 → 01:14:21 เป็นวิตกกังวลชอบคิดว่าตัวเองเป็นโรคร้าย
01:14:21 → 01:14:24 ไปรักษาแล้วได้ยามากินอาทิตย์เดียวเขากิน
01:14:24 → 01:14:26 แล้วง่วงนอนตลอดเวลาหาหนังสือไม่รู้
01:14:26 → 01:14:29 เรื่องไม่เข้าหัวเลยหักดิบไม่กินนั่ง
01:14:29 → 01:14:32 สมาธิคิดบวกช่วยได้เหยียบหนูกำลังเป็นเลย
01:14:32 → 01:14:34 ค่ะหมอไม่มีความสุขในที่ทำงานเก่าไม่อยาก
01:14:34 → 01:14:36 กลับไป
01:14:36 → 01:14:41 เล่นการพนันไม่มีสารเสพติดทำไมคนติดกัน
01:14:41 → 01:14:44 ขนาดถึงเลิกไม่ได้
01:14:44 → 01:14:50 0-0 ความพอใจ
01:14:50 → 01:14:53 จะเป็นกลไกการทำงานในสมองที่ใช้ในการ
01:14:53 → 01:14:56 อธิบายพฤติกรรมเสพติดของมนุษย์เราเหมือน
01:14:56 → 01:15:00 กับคนที่ติดกินหวานแต่ติดกี่ไหวมีทิศทาง
01:15:00 → 01:15:02 เคมีในสมองนะครับ
01:15:02 → 01:15:08 เอ่อติดโทรศัพท์มือถือก็เสพติดการพนันก็
01:15:08 → 01:15:11 เสร็จติดเพราะว่ามันตอบคำต้องการบางอย่าง
01:15:11 → 01:15:15 ในตรงนั้นความรู้ความตื่นเต้นแล้วบาง
01:15:15 → 01:15:19 ครั้งมันเป็นการพาเราออกจากโจทย์อย่าง
01:15:19 → 01:15:20 ข้างในใจ
01:15:20 → 01:15:24 หมอคุณหมอกระบะมาสเตเข้าช่วยยืนยันกับผม
01:15:24 → 01:15:26 เพราะว่าผมไม่ได้ทำเรื่องยาเสพติดการเสพ
01:15:26 → 01:15:29 ติดโดยตรงนะครับแต่ก็เชื่อว่าทุกกรณี
01:15:29 → 01:15:32 เกี่ยวการเสพติดเกิดจากปัญหาจัดโปรฯชัก
01:15:32 → 01:15:33 วัยเด็กครับ
01:15:33 → 01:15:35 อยู่ในนั้น
01:15:35 → 01:15:38 มารับผมก็เจอนะครับว่าคนที่มีปัญหาการ
01:15:38 → 01:15:41 พนันที่คุมไม่ได้เนี่ยก็มีปุ่มจริงๆนะ
01:15:41 → 01:15:43 ครับเพียงแต่ผมคนที่มีปัญหาการพนันไม่ได้
01:15:43 → 01:15:46 มาหาผมเยอะนะครับผมมีบางเคส sanneng ที่
01:15:46 → 01:15:49 เข้ามาหาด้วยสมัยก่อนนะครับ
01:15:49 → 01:15:52 แล้วก็เห็นหรือว่าเอามาสัมพันธ์กันครับผม
01:15:52 → 01:15:55 วัยเด็กด้วยทานยาโรคซึมเศร้าและยานอนหลับ
01:15:55 → 01:15:58 ทุกวันมีผลกระทบใดบ้างเรื่องยาขอให้
01:15:58 → 01:16:01 ปรึกษาหมอโดยตรงเพราะว่ามันขึ้นกับตัวแต่
01:16:01 → 01:16:03 ละตัวที่คุณใช่ขนาดและระยะเวลาการใช้นะ
01:16:03 → 01:16:06 ครับกับความจำเป็นเพราะมันต้องชั่งน้ำ
01:16:06 → 01:16:09 หนักของประโยชน์กับกับการไม่กินจะเกิด
01:16:09 → 01:16:10 อะไรขึ้น
01:16:10 → 01:16:14 ทุกวันนี้ผมรักษาโรคซึมเศร้าที่สมาธิซึ่ง
01:16:14 → 01:16:16 มีงานรายงานว่าได้ผลนะครับ
01:16:16 → 01:16:20 และมีการปวดไมเกรนซึมเศร้าหนักมาก
01:16:20 → 01:16:22 อ่าจนต้องทำสมาธิพอนิ่งก็จะเข้าไปดูจิต
01:16:22 → 01:16:25 ฝึกมานานเริ่มเห็นผมแน่ะอดีตเมื่อเห็นมัน
01:16:25 → 01:16:28 ก็คลี่คลายยินดีเลยครับคุณหมอเชื่อพูดถึง
01:16:28 → 01:16:31 การฝึกกับได้ลึกเข้าไปสนามปีผมไม่
01:16:31 → 01:16:34 ได้ศึกษาเรื่องดิตรงครับคิดว่าถ้าคุณคีย์
01:16:34 → 01:16:37 คำนี้นะครับแล้วก็ไปใน YouTube เนี่ยคุณ
01:16:37 → 01:16:40 จะได้รับอ่า
01:16:40 → 01:16:44 ถ้าคุณจะได้รับคำบรรยายออกมาพอสมควรครับ
01:16:44 → 01:16:46 ผมรู้ว่ามีเพียงแต่มันผมไม่สามารถที่จะ
01:16:46 → 01:16:49 พยายามไปรู้ทุกเรื่องของก็เลยรู้แต่ว่า
01:16:49 → 01:16:51 มันมีอยู่แต่ว่าไม่ได้เป็นใส่ใจมากนักนะ
01:16:51 → 01:16:54 ครับฟังแล้วได้ข้อคิดอาจารย์จะพยายามลอง
01:16:54 → 01:16:58 ปรับเปลี่ยนทุกความทุกถ้อยเป็นความสนุก
01:16:58 → 01:17:03 สวัสดีจากสวีเดนยินดีมากได้ดูไลน์อยู่ที่
01:17:03 → 01:17:06 นี่ฟิวแยกบ่อยจะพยายามเปลี่ยนบางครั้งรู้
01:17:06 → 01:17:09 สึกมันหลอกตัวเองอย่าลืมนะครับการออก
01:17:09 → 01:17:11 กำลังกายช่วยได้มากนะครับมันดึงพลังงาน
01:17:11 → 01:17:13 ออกมาแล้วมันเปลี่ยนการไปจมอยู่กับเรื่อง
01:17:13 → 01:17:16 เรื่องหนึ่งได้รวยนะครับ
01:17:16 → 01:17:19 มีแต่ต้องมีจำกัดความคิดอย่างที่คุณหมอ
01:17:19 → 01:17:22 ท่านว่าการทำสมาธิของผมก็มาจากการตัดความ
01:17:22 → 01:17:25 คิดก่อนครับ
01:17:25 → 01:17:28 ก็เวลาเจอเรื่องแทงใจดำแทบจะหยุดหายใจควร
01:17:28 → 01:17:33 ผ่อนคลายอารมณ์อย่างไรฝึกหายใจแล้วก็จัด
01:17:33 → 01:17:39 การป๋มที่เป็นจุดถูกแทงใจดำนะครับ
01:17:39 → 01:17:43 หมอคุณหมอจากฝั่งลาวสวัสดีค่ะคุณหมอจาก
01:17:43 → 01:17:48 ฝั่งเราชอบเวลาที่คุณยิ้มขอบคุณครับทฤษฎี
01:17:48 → 01:17:51 rebt ต่างจาก 4bt อ่ะโหนี้เป็นธรรม
01:17:51 → 01:17:53 วิชาการมากครับ
01:17:53 → 01:17:56 คุณข้ามของดิฉันไป
01:17:56 → 01:18:00 ทำไมบางคนบางนากถ้าจำเป็นต้องอยู่ใกล้คน
01:18:00 → 01:18:06 แบบนี้ทำยังไงก็จะไม่ชอบ
01:18:06 → 01:18:09 ถ้าไม่มีใครชอบครับการอยู่ภายใต้คนที่
01:18:09 → 01:18:11 บ้านหน้า
01:18:11 → 01:18:13 มีแต่ถ้าคุณคิดว่าคุณต้องอยู่ด้วยเหตุไร
01:18:13 → 01:18:17 ก็ตามคุณรักษาระยะห่างยังไงถึงจะดีแล้วทำ
01:18:17 → 01:18:20 ยังไงไม่ให้การแสดงอำนาจของเข้ามากระทบ
01:18:20 → 01:18:23 และมีปฏิกิริยาข้างใน
01:18:23 → 01:18:26 นะครับผมสงสัยว่าจะมีคนบ้าอำนาจคนไหนที่
01:18:26 → 01:18:28 คุณ
01:18:28 → 01:18:32 ก็ต้องอยู่ใกล้โดยไม่มีทางเลือกผมจะยกตัว
01:18:32 → 01:18:36 อย่างนะครับมีลูกบังหลายคนที่อยู่ในบ้าน
01:18:36 → 01:18:39 ที่ข้ออาจจะเรียกว่าพ่อบ้างพ่อแม่บ้าง
01:18:39 → 01:18:42 หน้าเขาเลือกที่จะถอยออกมาอยู่คนละบ้าน
01:18:42 → 01:18:47 และแวะไปดูแลเพื่อจัดพื้นที่งั้นผมไม่แน่
01:18:47 → 01:18:49 ใจว่าคุณหมายถึงใครที่บอกว่าจำเป็นต้อง
01:18:49 → 01:18:50 อยู่ใกล้
01:18:50 → 01:18:53 การรักษาระยะห่างเป็นหนึ่งในวิธีจัดการ
01:18:53 → 01:18:56 แต่ต้องอยู่ใกล้ก็คือเราต้องมีเกาะในใจ
01:18:56 → 01:18:59 ของเราซึ่งมีหลายตัวมากตัวสำคัญที่สุดคือ
01:18:59 → 01:19:03 เรากำลังอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นยังไงเพื่อ
01:19:03 → 01:19:05 เข้ากันได้กับหัวข้อวันนี้
01:19:05 → 01:19:09 ขอฟังสดครั้งแรกกดกระดิ่งแล้วได้ความรู้
01:19:09 → 01:19:12 ดีมากนะครับแม่ก็ยังไม่อยู่กับเราที่บ้าน
01:19:12 → 01:19:17 แต่เริ่มมีปัญหาบ่อยความคิดไม่ตรงกัน
01:19:17 → 01:19:22 นี่คือแม่กับลูกเนี่ยมีปุ่มต่อกันกระตุ้น
01:19:22 → 01:19:25 อารมณ์กันง่ายเหมือนกันนะ
01:19:25 → 01:19:29 แต่ถ้าคุณเป็นลูกคุณพัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆ
01:19:29 → 01:19:31 คุณจะพบว่า
01:19:31 → 01:19:34 ที่มันกระทบกันน้อยลงเพราะว่าเวลาแม่มา
01:19:34 → 01:19:37 กับกระตุ้นเราเรามีปฏิกิริยาน้อยลงแล้ว
01:19:37 → 01:19:40 เรารู้ตัวเราเลยเป็นต้นแม่น้อยลงให้คุณ
01:19:40 → 01:19:43 ลองดูว่าคุณจะพัฒนาตัวเองไงได้บ้าง
01:19:43 → 01:19:46 โอ๊ยลูกยุ 12 ทำมันจะจบป 6 เพราะแม่คิด
01:19:46 → 01:19:48 ว่าจะเปลี่ยนโรงเรียนก่อนจะแจ้งปัญหานี้
01:19:48 → 01:19:51 กับผู้บริหารโรงเรียนพ่อแม่คิดว่าไม่น่า
01:19:51 → 01:19:53 จะหนักแต่ลูกกดไว้จนออกที่หัวใจเต้นเร็ว
01:19:53 → 01:19:56 เขาเครียดครับ
01:19:56 → 01:19:58 แต่ผมคิดว่า
01:19:58 → 01:20:01 คุณมีสิทธิ์ในฐานะที่คุณนะลูกไปฝากไว้ที่
01:20:01 → 01:20:04 โรงเรียนนะครับและโรงเรียนในฝ่ายบริหารก็
01:20:04 → 01:20:07 ต้องดูแลคุณภาพครูดูแลสุขภาพจิตครูด้วย
01:20:07 → 01:20:11 ความเมตตาแต่เราก็ต้องปกป้องเด็กในชั้น
01:20:11 → 01:20:13 เรียนด้วยนะครับคือมันเป็นการมองด้วยคำ
01:20:13 → 01:20:15 เข้าใจทุกมุม
01:20:15 → 01:20:19 สวัสดีจากเยอรมันร้านชอายุ 13 ปีเขาชอบไป
01:20:19 → 01:20:22 โรงเรียนแต่บอกว่าท้อใจเพราะไม่ไม่ได้ทำ
01:20:22 → 01:20:27 การงานส่งครูครูก็ให้งานครูขอก็ให้ครูคอ
01:20:27 → 01:20:31 ก็ให้พี่ก็เลยปล่อยไม่ทำเลยทางที่ตอนแรก
01:20:31 → 01:20:34 ตั้งใจจะทำร้านเป็นสมาธิสั้นเกี่ยวไหม
01:20:34 → 01:20:39 เอ่ยความรู้สึกท่วงเราช่วยเขาได้ด้วยกัน
01:20:39 → 01:20:43 จัดทำงานทีละชิ้นนะครับแล้วก็ต้องดูนะ
01:20:43 → 01:20:45 ครับว่าทำว่าสมาธิสั้นนี่มีปัจจัยอะไร
01:20:45 → 01:20:47 บ้างที่เกิดจากประสบการณ์วัยเด็กนะครับ
01:20:47 → 01:20:52 ถ้าใช่ให้แก้วด้วยนะครับ
01:20:52 → 01:20:54 ก็เพราะชนะที่สั้นเป็นในการหนึ่งของเด็ก
01:20:54 → 01:20:57 ที่มีปมได้แต่ไม่ใช่ทุกคนเป็นอย่างนั้นนะ
01:20:57 → 01:21:00 ครับท่อระบบชีวภาพของการมีสมาธิแต่ละคน
01:21:00 → 01:21:02 ไม่เท่ากัน
01:21:02 → 01:21:05 คนที่หมกมุ่นเรื่องเพศซื้อบริการดูคลิป
01:21:05 → 01:21:07 โป๊ทางที่มีแฟนแล้วและสร้างหนี้เป็นแสน
01:21:07 → 01:21:11 เพราะเสพติดเรื่องเพศมีทางรักษาไหมโหต้อง
01:21:11 → 01:21:14 ดูก่อนว่าเขาเห็นปัญหาไหมแล้วเขาต้องการ
01:21:14 → 01:21:18 รักษาไหมเพราะว่ามันเกลือการเสพติดซึ่งมี
01:21:18 → 01:21:20 กลไกค่ายกับเรื่องยาการเสพติดที่ผมเคยพูด
01:21:20 → 01:21:22 ไปก่อนหน้านั้นนะครับถ้าคุณยังไม่เคยฟัง
01:21:22 → 01:21:26 ไปฟังดูมันไม่สำคัญว่ามีทางรักษาไหมมา
01:21:26 → 01:21:29 สำคัญว่าเขาอยากรักษาไหมครับเพราะถ้าเขา
01:21:29 → 01:21:33 อยากรักษาวิธีรักษาก็มีนะครับแต่ก็ไม่
01:21:33 → 01:21:36 อยากรักษาวิธีลักษณะก็ไม่ได้ผล
01:21:36 → 01:21:39 และในบางกรณีนะครับคู่สมรสจะเป็นคนบอกว่า
01:21:39 → 01:21:43 ถ้าเธอถ้าพี่ไม่ไปรักษาเราเลิกกันนะฉัน
01:21:43 → 01:21:46 อยู่ไม่ได้แล้วนะครับอย่างงั้นก็ถึงยอมไป
01:21:46 → 01:21:48 รักษา
01:21:48 → 01:21:50 ถ้ายังงั้นเพลงได้ประโยชน์แต่ว่าต้องไปหา
01:21:50 → 01:21:54 คนที่มีคุณภาพในการรักษานะครับต้องทำการ
01:21:54 → 01:21:57 บ้านในการหาผู้รักษาหน่อยหนึ่งอ้างจาก
01:21:57 → 01:22:00 บล็อกโดฝรั่งเศสนะครับนอนไม่หลับตั้งแต่
01:22:00 → 01:22:04 กินน้ำต้มกัญชาเข้านอนจนทำให้ความดันต่ำ
01:22:04 → 01:22:08 แต่นั้นมานอนไม่หลับคือกัญชาผมเจอมาเยอะ
01:22:08 → 01:22:11 นะครับร้อนแล้วก็จะ
01:22:11 → 01:22:15 ก็เป็นแพนิคแล้วก็นอนไม่หลับแต่ส่วนใหญ่
01:22:15 → 01:22:19 เขาหยุดไปสักพักก็ดีขึ้นนะครับเขานี้ตอน
01:22:19 → 01:22:21 นี้จะขึ้นหยุดดื่มแล้วนะครับยืมหยุดดื่ม
01:22:21 → 01:22:24 น้ำต้มกัญชาแล้ว
01:22:24 → 01:22:26 ถ้าคุณอาจจะต้องใช้สารอะไรบางอย่างมาช่วย
01:22:26 → 01:22:29 เพื่อนหลับในช่วงแรกไปก่อนก็ได้เช่นขี้
01:22:29 → 01:22:31 เหล็ก
01:22:31 → 01:22:36 ดีหรือไม่ลาโทนินนะครับที่นอนไม่หลับไป
01:22:36 → 01:22:38 ออกกำลังกายท่อออกตอนเย็นก็ยิ่งนอนไม่
01:22:38 → 01:22:40 หลับเกี่ยวกันไหมเกี่ยวครับเพราะว่าถ้า
01:22:40 → 01:22:43 คุณอยากหลับคุณต้องออกกำลังกายไม่ไม่ช้า
01:22:43 → 01:22:46 เกินไปนะครับถ้าคุณออกใกล้เข้านอนระบบ
01:22:46 → 01:22:48 ร่างกายคุณมาถูกกระตุ้นมันจะทำให้คุณนอน
01:22:48 → 01:22:50 ไม่หลับครับแต่ถ้าคุณออกกำลังกายตอนเช้า
01:22:50 → 01:22:53 หรือตอนเย็นเนี่ยอันเนี่ยจะหลับจะดีขึ้น
01:22:53 → 01:22:56 กลางวันไม่สดชื่นเชื่องช้ากลางคืนตาสว่าง
01:22:56 → 01:22:58 เป็นโรคหรือไม่
01:22:58 → 01:23:02 แต่ผมคิดว่าคุณอาจจะใช้เวลาผิดผิดถูกหรอก
01:23:02 → 01:23:06 เวลาอยู่นะครับมันไม่ดีกับสุขภาพแน่นอน
01:23:06 → 01:23:08 ครับตอนนี้มีงานวิจัยเยอะมากที่พบว่า
01:23:08 → 01:23:11 มนุษย์ที่ใช้เวลาไม่ตรงกับวงจรของภาพที่
01:23:11 → 01:23:15 ทำมาส่งผลเสียกับหลบร่างกายยังไงผมจะไม่
01:23:15 → 01:23:17 ว่าเคยมาพูดให้หน่อยหนึ่งด้วยเตือนตอนวัย
01:23:17 → 01:23:21 รุ่นเคยคิดว่าแม่รักพี่สาวมากกว่าอาบอก
01:23:21 → 01:23:23 ว่าและแม่รักที่สามารถกว่าถ้าคุณคิดว่า
01:23:23 → 01:23:25 คุณมีปุ่มนะครับผมแนะนำว่าคุณเยียวยาตัว
01:23:25 → 01:23:28 เองครับอย่าไปคิดแต่ว่ามีเรื่องนั้นใน
01:23:28 → 01:23:30 เรื่องนี้อย่างเดียวเพราะมันไม่ได้แก้นะ
01:23:30 → 01:23:33 ครับการจำได้ของความทรงจำและการตรวจสอบ
01:23:33 → 01:23:35 ความเป็นจริงว่าเกิดอะไรขึ้นไม่ได้แก้ปม
01:23:35 → 01:23:38 นะครับเพราะมันเป็นส่วนหนึ่งในกลไกการทำ
01:23:38 → 01:23:41 งานของจิตใจเราซึ่งมันต้องอาศัยกระบวนการ
01:23:41 → 01:23:43 ในการเชื่อมต่อเพื่อเยียวยาโดยเราเป็น
01:23:43 → 01:23:46 เจ้าของพื้นที่นั้นซึ่งมีรายละเอียดเยอะ
01:23:46 → 01:23:48 มากนะครับคุณลงไปนั่งไล่ฟังเรื่องนั้นดู
01:23:48 → 01:23:51 เรื่องที่ผมพูดกับผมดูก่อนนะครับเป็นนัก
01:23:51 → 01:23:54 เรียนของคุณหมอสวัสดีจากอเมริกาอ้าวผมจำ
01:23:54 → 01:23:57 คุณได้นั่นคือทั้งหมดที่ส่งข้อความมาคุย
01:23:57 → 01:24:01 กันนะครับวันนี้ไม่มีคนดูสดทะลุเกิน 600
01:24:01 → 01:24:03 คนผมเข้าใจว่าเป็นครั้งแรกครับขอบคุณทุก
01:24:03 → 01:24:07 ท่านที่มาช่วยกันสร้างสีสันของการคุยกัน
01:24:07 → 01:24:09 ในวันนี้นะครับอาทิตย์หน้าพบกันใหม่เวลา
01:24:09 → 01:24:14 8:00 นวันนี้สวัสดีทุกท่านครับ e