เมื่อใดควรพบจิตแพทย์หลังจากสูญเสียคนสำคัญ

สภาวะจิตใจเมื่อสูญเสียกะทันหัน | โรงหมอ

จากช่อง : Thai PBS Podcast


ดูคำบรรยาย / View Transcript

00:00:0000:00:03 This Is Thai PBS podcast View the

00:00:0300:00:05 world By The

00:00:0500:00:08 Voice คือแน่นอนแหละชีวิตมันไม่ได้โรย

00:00:0800:00:11 ด้วยกลีบกุหลาบอ่ะคือด้วยสมองอ่ะด้วยเหตุ

00:00:1100:00:14 ผลมันก็รู้ทุกอย่างแต่ว่าเรื่องของจิตใจ

00:00:1400:00:17 อ่ะมันก็ต้องใช้เวลาคือมนุษย์เนี่ยจะมี

00:00:1700:00:21 กลไกทางจิตอยู่ 5 ระยะด้วยกันอืซึ่งระยะ

00:00:2100:00:24 แรกเขาก็พบว่ามันจะเป็นระยะของการ Shock

00:00:2400:00:27 and denial ครั้งแรกที่เรารู้เนี่ยมัน

00:00:2700:00:30 จะแบบช็อก่อนเลยเปรี้ยงแบบเหมือนดนฟ้าพัง

00:00:3000:00:34 ตัวชามือชามึนงงแบบเอ๋อเรียกว่าเอ๋อไป

00:00:3400:00:37 ชั่วขณะแล้วความช็อกเนี่ยมันก็จะมาพร้อม

00:00:3700:00:41 กับคือการปฏิเสธความจริงว่าเฮ้ยไม่ใช่นะ

00:00:4100:00:43 สิ่งที่เกิดขึ้นมันไม่ใช่มันเป็นเรื่อง

00:00:4300:00:47 ตลกหรือเปล่ามันเป็นแค่ความฝันหรือ

00:00:4700:00:51 เปล่าฟังทุกเรื่องสุขภาพอัปเดตทุกโรคไทย

00:00:5100:00:54 ฟังรายการโรงหมอกับดิฉันสุรีพรววงสถิตพร

00:00:5400:00:58 ค่ะ This Is tha PBS podcast วันนี้

00:00:5800:01:01 ค่ะคุณผู้ฟังเราจะมาพูดคุยกันถึงเรื่อง

00:01:0100:01:04 ของการรับมือกับความสูญเสียแบบกะทันหันนะ

00:01:0400:01:07 คะซึ่งในการรับมือตรงนี้เนี่ยเราจะมีวิธี

00:01:0700:01:09 การอย่างไรเพราะว่าบางทีเราอาจจะเจอ

00:01:0900:01:11 เรื่องของความสูญเสียที่แบบเราไม่ทันได้

00:01:1100:01:14 ตั้งตัวหรือไม่ได้เตรียมใจมาก่อนคุยกับ

00:01:1400:01:16 พันตำรวจเอกหญิงแพทย์หญิงอัญชุลี

00:01:1600:01:19 ธีระวงศ์ไพศาลจิตแพทย์นายแพทย์สบ 5 โรง

00:01:1900:01:21 พยาบาลตำรวจค่ะสวัสดีค่ะคุณหมอคะค่ะ

00:01:2200:01:24 สวัสดีค่ะคุณลีแล้วก็สวัสดีคุณผู้ฟังทุก

00:01:2400:01:27 ท่านด้วยค่ะค่ะวันนี้คุยกันเนี่ยมันเป็น

00:01:2700:01:29 เรื่องของหลายๆสถานการณ์ที่เกิดขึ้นนะคะ

00:01:2900:01:32 ในความเป็นสิ่งที่เราไม่คาดคิดมาก่อนใน

00:01:3300:01:35 เรื่องของความสูญเสียในความสูญเสียแบบ

00:01:3500:01:39 กะทันหันนะคะหลายๆคนก็อาจจะเคยเจอใน

00:01:3900:01:42 สถานการณ์แบบนี้มาก่อนหลังๆจะสังเกตตัว

00:01:4200:01:45 เองเหมือนกันค่ะคุณหมอว่าพอหลังๆมาเนี่ยย

00:01:4500:01:48 เราจะเจอคนที่บุคคลที่เป็นที่เคารพรักนะ

00:01:4800:01:51 คะหรือเพื่อนหรือว่าใครก็ตามเนี่ยบางที

00:01:5100:01:54 เราไม่ทันคิดว่าเอ้ยอยู่ๆมาทราบข่าวแล้ว

00:01:5400:01:57 ก็เกิดความสูญเสียเกิดขึ้นบางคนเราผูกพัน

00:01:5700:02:00 เยอะเรามีความรักความห่วงใยเยอะถ้าเป็นคน

00:02:0000:02:03 ในครอบครัวด้วยแล้วเนี่ยตรงเนี้ยเราจะมี

00:02:0300:02:06 ในวิธีการรับมือการสูญเสียกะทันหันแบบนี้

00:02:0600:02:11 ได้ยังไงบ้างค่ะก็ต้องบอกว่ามันเป็นกลไก

00:02:1100:02:14 ทางจิตอย่างนึงนะคะคือมนุษย์เราอ่ะคือก็

00:02:1400:02:17 ต้องบอกว่าชีวิตคนเรามันไม่แน่นอนเนาะเรา

00:02:1700:02:20 ไม่รู้หรอกว่ามันจะมีอะไรเกิดขึ้นกับ

00:02:2000:02:23 ชีวิตเราบ้างอ่ะอือแต่สิ่งที่เราทำได้ก็

00:02:2300:02:26 คือการมีสติรู้เท่านั้นเองค่ะคือแน่นอน

00:02:2600:02:30 แหละมันชีวิตมันไม่ได้โรยด้วยกิบคุณลบอ่ะ

00:02:3000:02:32 เกิดแก่เจ็บตายมันเป็นเรื่องธรรมดาเราก็

00:02:3200:02:36 รู้อยู่ะตรรกะเนี่ยมันรู้คือด้วยสมองอ่ะ

00:02:3700:02:39 ด้วยเหตุผลมันก็รู้ทุกอย่างแต่ว่าเรื่อง

00:02:3900:02:44 ของจิตใจอ่ะมันก็ต้องใช้เวลาในการรับมือ

00:02:4400:02:46 มันเป็นกลไกทางจิตหมดเลยค่ะไม่ว่าอะไรจะ

00:02:4600:02:49 เกิดขึ้นมันก็จะมีความสูญเสียเกิดขึ้นน่ะ

00:02:4900:02:52 มันก็จะเป็นกลไกทางจิตของมนุษย์ที่เราจะ

00:02:5200:02:55 สามารถก้าวผ่านเหตุการณ์วิกฤตแต่ละอย่าง

00:02:5500:02:59 แต่ละอย่างไปได้เนาะซึ่งก็จะมีทฤษฎี

00:02:5900:03:02 เกี่ยวกับกับความสูญเสียนะคะคุณเอลิซาเบธ

00:03:0200:03:04 คูบอลเนี่ยเป็นนักจิตวิทยาชาว

00:03:0400:03:08 สวิตเซอร์แลนด์เนี่ยเขาก็ได้ศึกษาดูกลไก

00:03:0800:03:12 ทางจิตของมนุษย์น่ะปฏิกิริยาการสูญเสีย

00:03:1200:03:14 ของมนุษย์ว่าเวลาที่เราเกิดการสูญเสีย

00:03:1400:03:18 เช่นเกิดเหตุร้ายสูญเสียคนที่เป็นที่รัก

00:03:1800:03:21 หรือสูญเสียแบบอะไรบางอย่างอาจจะสูญเสีย

00:03:2100:03:23 เงินสูญเสียสัตว์เลี้ยงสูญเสียอะไรก็แล้ว

00:03:2300:03:27 แต่คือมนุษย์เนี่ยจะมีกลไกทางจิตอยู่ 5

00:03:2700:03:30 ระยะด้วยกันอืซึ่งระยะแรกระยะที่ 1 เนี่ย

00:03:3000:03:33 เขาก็พบว่ามันจะเป็นระยะของการชอ and

00:03:3400:03:38 denial ช็อก็คือแบบตกใจอ่ะช็อแบบตัวชาไป

00:03:3800:03:42 หมดเลยงงไปหมดเลยแบบตอนนั้นมันจะแบบอึ้ง

00:03:4200:03:44 ตึ้งแบบเหมือนโดนฟ้าผ่าเหมือนเปรี้ยงมา

00:03:4500:03:47 แบบเนี้ยอเออไม่ว่าจะเป็นการสูญเสียหรือ

00:03:4700:03:50 แม้แต่การถูกแฟนบอกเลิกค่ะถูกไล่ออกจาก

00:03:5100:03:55 งานถูกสแกมเมอร์ขโมยเงินอะไรอย่างเงี้ย

00:03:5500:03:57 คือหรือว่าสูญเสียคนที่รักทุกอย่างอ่ะค่ะ

00:03:5700:04:00 ครั้งแรกที่เรารู้เนี่ยมันจะแบบช็อกก่อน

00:04:0000:04:03 เลยเปรี้ยงแบบเหมือนดนฟ้าผ่าตัวชามือชา

00:04:0300:04:07 มึนงงแบบเอ๋อเรียกว่าเอ๋อไปชั่วขณะแล้ว

00:04:0700:04:10 ความช็อเนี่ยมันก็จะมาพร้อมกับ denial

00:04:1000:04:14 คือการปฏิเสธความจริงว่าเฮ้ยไม่ใช่นะสิ่ง

00:04:1400:04:16 ที่เกิดขึ้นมันไม่ใช่มันเป็นเรื่องตลก

00:04:1600:04:18 หรือเปล่ามันเป็นแค่ความฝันหรือเปล่าค่ะ

00:04:1800:04:22 เออมันไม่ได้เกิดขึ้นกับฉันแน่นอนเอ๊ะมัน

00:04:2200:04:25 เกิดอะไรขึ้นช่วงระยะแรกเนี่ยจะเป็นช่วง

00:04:2500:04:28 ที่แบบเราจะ Shock and denial ซึ่งเรา

00:04:2800:04:31 ไม่รู้ว่าระยะเนี้ยเมันจะเกิดนานเท่าไหร่

00:04:3100:04:34 ค่ะนะคะแต่ละคนไม่เหมือนกันบางคนแบบอาจจะ

00:04:3400:04:39 ตั้งสติเร็วตั้งหลักได้เร็วเออหายช็อกหาย

00:04:3900:04:42 ก็คือเริ่มยอมรับความจริงมากขึ้นว่าข่าว

00:04:4200:04:44 ร้ายที่มันเกิดขึ้นน่ะความสูญเถียที่เกิด

00:04:4400:04:47 ขึ้นน่ะมันเกิดขึ้นจริงๆนะอืนะคะอันนี้

00:04:4700:04:50 เนี่ยเป็นระยะที่ 1 พอระยะต่อมาเนี่ยเคค

00:04:5000:04:53 ก็พบว่ามนุษย์อ่ะก็จะเริ่มมีความระยะ

00:04:5300:04:56 แองเกอร์เขาเรียกว่าระยะโกรธเนาะระยะที่ 2

00:04:5600:05:01 โกรธโมโหเช่นอาจจะโกรธโมโหคนที่มันเอ่อมา

00:05:0100:05:05 ขับรถชนคนที่มันคือโทษอะไรก็แล้วแต่ไม่

00:05:0500:05:08 ว่าจะโทษมนุษย์ด้วยกันหรือแม้แต่โทษพระ

00:05:0800:05:12 เจ้าค่ะโทษหลวงพ่อโทษทุกสิ่งทุกอย่างเลย

00:05:1200:05:14 เป็นเรื่องเวรกรรมแน่ๆเลยอะไใช่โทษเวรโทษ

00:05:1400:05:18 กรรมโทษแบบจิ้งจกทักโชตหมามาวิ่งตัดหน้า

00:05:1800:05:21 คือแบบโกรธแล้วก็โกรธทุกอย่างแล้วมันก็จะ

00:05:2100:05:24 มีความอาจจะโกรธผู้อื่นหรืออาจจะโกรธตัว

00:05:2400:05:27 เองก็ได้โกรธที่วันนั้นทำไมเราไม่ทำแบบ

00:05:2700:05:30 นี้ทำไมวันนั้นเรา

00:05:3000:05:32 ไม่แบบทำให้มันดีกว่านี้บางคนเกวดโมโหตัว

00:05:3300:05:35 เองก็มีนะคะอันเนี้ยเป็นระยะที่ 2 พอระยะ

00:05:3500:05:39 ที่ 3 มันก็จะเข้าสู่ระยะเาเรียกว่าบาเก

00:05:3900:05:42 หรือว่าระยะแบบต่อรองอ่ะต่อรองเหมือนแบบ

00:05:4200:05:45 ยื้อเช่นบางคนอาจจะไปบนบานสารกล่าวขอให้

00:05:4500:05:49 แบบฟื้นขึ้นมาขอให้แบบเอองานที่เสียกลับ

00:05:4900:05:53 มาหรือขอให้ผัวกลับมาขอให้แบบแฟนที่บอก

00:05:5300:05:56 แล้วเออให้เขาแบบสำนึกได้ให้เกลับมาระยะ

00:05:5600:05:59 เนี้ยมันจะเป็นระยะแบบต่อรองอ่ะเช่นแบบ

00:05:5900:06:03 บางบางคนก็อาจจะไปง้อแฟนแบบทุ่มสุดตัวแบบ

00:06:0300:06:06 เขาเรียกบาเกน่ะคือแบบต่อรองอะไรก็ได้ฉัน

00:06:0600:06:09 ยอมหมดใช่ฉันยอมแล้วกลับมาเถอะนะหรือว่า

00:06:0900:06:14 คนที่ออาจจะสูญเสียคนที่เป็นที่รักอะไร

00:06:1400:06:15 อย่างงี้ใช่มั้ยคะหรืออาจจะเกิด

00:06:1500:06:19 อุบัติเหตุอาจจะไปแบบเออขอพรพระเจ้าไป

00:06:1900:06:23 ไหว้ไปสายมูไปทุกสิ่งอย่างเเป็นสิ่ง

00:06:2400:06:26 ศักดิ์สิทธิ์หมอดูหมอเดาว่าไปใชใช่เพื่อ

00:06:2600:06:29 ให้สิ่งที่เราเสียไปอ่ะมันกลับมาหรือว่า

00:06:2900:06:33 มีอะไรชดเชยนะคะอันเนี้ยเป็นระยะที่ 3 พอ

00:06:3300:06:36 ระยะที่ 4 เนี่ยก็จะเข้าสู่ระยะ deess

00:06:3600:06:38 หรือว่าระยะซึมเศร้าออคือแบบมันจะเป็น

00:06:3900:06:43 กลไกทางจิตที่แบบเออหายช็อกแล้วนะหายหลอก

00:06:4300:06:45 ตัวเองละยอมรับความจริงะว่ามันเกิดขึ้น

00:06:4500:06:49 จริงๆค่ะผ่านระยะแบบโกรธโมโหตัวเองโมโหคน

00:06:4900:06:52 อื่นผ่านระยะแบบต่อรองละบนบานสารเาทุก

00:06:5200:06:55 อย่างะมันไม่ได้ละอันนี้มันเริ่มแบบเข้า

00:06:5500:06:57 สู่ความเป็นจริงแล้วแหละมันก็จะเริ่มซึม

00:06:5700:07:01 เศร้าว่าเออฉันเสียเเป็นจริงๆนะเค้าจาก

00:07:0100:07:04 ฉันไปจริงๆนะอเออมันไปแล้วนะมันหมดแล้วนะ

00:07:0400:07:06 มันไม่เหลืออะไรแล้วนะเหลือแต่ตัวเองแล้ว

00:07:0600:07:10 นะตอนเนี้ยก็จะเริ่มแบบซึมเศร้าบางคน

00:07:1000:07:13 เศร้าท้อแท้เบื่อหน่ายหมดกำลังใจกินไม่

00:07:1300:07:17 ได้นอนไม่หลับนะคะแต่พอหลังจากที่เราซึม

00:07:1700:07:20 เศร้าปึ๊บเราเริ่มทำใจได้มีสติเริ่มปล่อย

00:07:2000:07:24 วางเริ่มแบบดึงตัวเองกลับมาใช้ชีวิตได้

00:07:2400:07:27 ตามปกติคือชีวิตมันดำเนินต่อไปอะไรเสียไป

00:07:2700:07:29 แล้วมันก็แล้วไปแล้วอันนี้เราก็ก็จะเข้า

00:07:2900:07:33 สู่ระยะที่ 5 คือระยะ acceptance คือระยะ

00:07:3300:07:37 แห่งการยอมรับความจริงอืยอมรับความจริง

00:07:3700:07:39 ปรับตัวกับการสูญเสียกับการเปลี่ยนแปลง

00:07:4000:07:43 แล้วก็กลับมามีชีวิตที่สดใสมีความสุขกลับ

00:07:4300:07:46 มาเป็นเราอีกครั้งนึงอันเนี้ยเขาเรียกว่า

00:07:4600:07:49 มันมีปฏิกิริยาที่เป็นด้านจิตวิทยาของ

00:07:4900:07:52 มนุษย์นะค่ะที่เกิดขึ้นหลังจากการสูญเสีย

00:07:5200:07:55 ซึ่ง 5 ระยะเนี่ยบางทีมันไม่ได้ไป 1 2 3

00:07:5500:07:59 4 5 นะมันอาจจะไปเริ่ม 1 อ่ะแน่นอนก่อน

00:07:5900:08:02 เลย 1 เสร็จมันอาจจะไป 2 2 ปุ๊บกลับมา 1

00:08:0200:08:06 ใหม่โกรธปุ๊บอ้ากลับมาแบบเออช็อกใหม่กลับ

00:08:0600:08:09 มาไม่ยอมรับความจริงใหม่เอออาจจะไป 2

00:08:0900:08:13 ปึ๊บไป 3 ไป 3 ย้อนมา 2 ย้อนมา 1 ไป 1 2

00:08:1300:08:15 3 4 ย้อนกลับมาใหม่มันอาจจะสลับไปมา

00:08:1600:08:19 อยู่แบบเยค่ะจนกว่าที่จิตใจเราอ่ะมันจะ

00:08:1900:08:23 เข้มแข็งพอที่มันจะยอมรับความจริงได้อื

00:08:2300:08:26 เออซึ่งตรงเนี้ยมันก็ขึ้นอยู่กับความ

00:08:2600:08:30 สามารถกลไกทางจิตของแต่แต่ละคนน่ะค่ะว่า

00:08:3000:08:35 จะมีความแข็งแกร่งแข็งแรงแล้วสามารถพาตัว

00:08:3500:08:38 เองผ่านพ้นทั้ง 5 ระยะเนี่ยเออจนกลับมา

00:08:3800:08:41 ตั้งหลักกลับมาใช้ชีวิตได้อีกครั้งเนี่ย

00:08:4100:08:44 เออมันขึ้นอยู่กับแต่ละคนว่าจะมีความ

00:08:4400:08:47 สามารถในการปรับตัวได้เร็วแค่ไหนคือถ้า

00:08:4700:08:50 คุณยิ่งยอมรับความจริงได้เร็วแค่ไหนอ่ะ

00:08:5000:08:54 เออมันก็จะแบบจิตใจมันก็จะค่อยๆดีขึ้นแต่

00:08:5400:08:58 ว่าถ้าแค่ข้อแรกอ่ะคุณยังช็อกบางคนแบบ

00:08:5800:09:01 ช็อกตาค้างแบบแบบไม่รับรู้อะไรใครพูดอะไร

00:09:0100:09:04 แบบไม่รู้เรื่องละค่ะหรือว่าบางคนก็ยัง

00:09:0400:09:06 แบบไม่ยอมรับความจริงไม่ไม่ใช่มันเป็น

00:09:0600:09:09 ความฝันมันไม่จริงมันไม่เคยเกิดขึ้นอย่า

00:09:0900:09:12 อันเนี้ยใจจิตใจมันก็จะไม่พัฒนาไปสู่ระยะ

00:09:1200:09:16 อื่นเนาะอ่าก็จะอยู่ตรงนั้นใช่อืมันก็

00:09:1600:09:19 เกี่ยวมที่แบบว่าอย่างบางคนความสูญเสีย

00:09:1900:09:21 ที่เกิดขึ้นเนี่ยมันมีผลกระทบกับชีวิต

00:09:2100:09:24 จริงๆแบบจริงจังอ่ะเช่นสมมุติถ้าเป็น

00:09:2400:09:26 เรื่องงานโอ้โหงานนี้มันเป็นงานที่แบบเรา

00:09:2600:09:29 ต้องเลี้ยงครอบครัวแล้ววันนึงถูกให้ออก

00:09:2900:09:33 อย่างเงี้ยเอ้ยมันตั้งตัวไม่ติดแล้วก็อาจ

00:09:3300:09:35 จะอยู่ในภาวะที่แบบว่าช็อกอยู่แล้วก็ไม่

00:09:3500:09:38 รู้จะทำยังไงไปไม่เป็นละเราไม่เคยคิดว่า

00:09:3800:09:41 เราจะต้องเตรียมตัวหรือแม้กระทั่งก่อน

00:09:4100:09:44 หน้านี้ที่มีโรคระบาดมาปึ๊บไม่มีใครได้

00:09:4400:09:47 แบบว่าเตรียมตัวเลยไม่มีใครรู้ว่าจะเกิด

00:09:4700:09:49 แบบนี้ขึ้นเราไม่เคยมองสถานการณ์อะไรระยะ

00:09:4900:09:52 ไกลขนาดนี้มาก่อนว่าเราต้องมีการเตรียม

00:09:5200:09:55 ความพร้อมถ้าเกิดมันเกิดอะไรขึ้นที่ทำให้

00:09:5500:09:57 เราต้องหยุดชะงักไปแบบนี้เนี่ยมันก็เลยทำ

00:09:5700:10:00 ให้เรายึดติดหรือเรารู้สึกว่าแบบมันกระทบ

00:10:0000:10:02 กระเทือนเยอะอ่ะมันเลยยังช็อกอยู่มันยัง

00:10:0200:10:06 แบบไม่ฉันไม่ไปสู่ขั้นที่ 2 นะคะยังแบบ

00:10:0600:10:09 ว่าไม่จริงใช่มั้ยมันเป็นคำถามที่ถามกับ

00:10:0900:10:13 ตัวเองตลอดแบบนั้นมั้ยคะค่ะก็คือบางคนน่ะ

00:10:1300:10:16 ก็ยอมรับความจริงได้เร็วบางคนเหมือนจะแบบ

00:10:1600:10:19 สตองเข้มแข็งนะคือยอมรับความจริงได้เออ

00:10:1900:10:22 จัดการเรื่องทุกอย่างอะไรได้แต่กลับมาซึม

00:10:2200:10:25 เศร้าตอนหลังก็มีเหมือนกันเหมือนแบบเก็บ

00:10:2500:10:28 เก็บกดเอาไว้อย่างเงี้ยก็มีเหมือนกันเนาะ

00:10:2800:10:31 เออซึ่งออันเนี้ยมันก็เป็นกลไกทางจิตของ

00:10:3100:10:35 แต่ละคนนะว่าเราจะมีความแข็งแกร่งแข็งแรง

00:10:3500:10:41 คือคนที่แบบสติปัญญาดีคนที่มีอารมณ์ดีมี

00:10:4100:10:46 กลไกทางจิตที่ดีมีเหตุมีผลมองโลกเข้าใจ

00:10:4600:10:49 โลกว่ามันเป็นธรรมดามันมีการเปลี่ยนแปลง

00:10:4900:10:54 ได้เสมอคนที่มีครอบครัวมีระบบการเค้า

00:10:5400:10:56 เรียก supporting System มีเพื่อนมีอะไร

00:10:5600:10:59 ที่ซัพพอร์ตดีเนี่ยเออคนเหล่านี้ก็จะเป็น

00:10:5900:11:02 กลุ่มที่ได้เปรียบที่เขาก็จะสามารถแบบทำ

00:11:0200:11:05 ใจแล้วก็ก้าวผ่านเหตุการณ์ไปได้อืเออ

00:11:0500:11:08 อย่างบางคนน่ะอย่างกรณีโควิดที่ผ่านมาใช่

00:11:0900:11:12 มั้ยคะธุรกิจอะไรเงินอะไรมันหายมันพังไป

00:11:1200:11:17 เจ๊งหมดอ่ะเออแต่คนที่มีสติคนที่ทำใจได้

00:11:1700:11:19 เร็วปรับตัวได้เร็วยอมรับตับความสูญเสีย

00:11:1900:11:22 ได้เร็วเขาก็จะสามารถกลับมาตั้งหลักตั้ง

00:11:2200:11:25 ตัวแล้วก็หาช่องทางที่จะเพื่อความอยู่รอด

00:11:2500:11:29 อ่ะเพื่อความเวทอ่ะได้เร็วขึ้นบางคนก็ก็

00:11:2900:11:32 สามารถพลิกวิกฤตเป็นโอกาสบางคนเนี่ยแบบ

00:11:3200:11:35 เจ๊งล้มละลายกแต่ก็สามารถพลิกวิกฤตตรง

00:11:3500:11:38 นั้นมาก็มีงานมีอะไรอย่างบางคนแบบงานนี้

00:11:3800:11:40 มันสำคัญกับชีวิตฉันมากเลยแล้ววันนึงมัน

00:11:4000:11:44 สูญเสียไปอ่ะเออแน่นอนทุกคนมันก็ช็อกแหละ

00:11:4400:11:48 แต่ชีวิตมันก็ต้องดำเนินต่อไปมยโดนไล่ออก

00:11:4800:11:51 จากงานนี้ก็แค่ไปสมัครงานใหม่อก็หางาน

00:11:5100:11:54 ใหม่ไปเรื่อยๆมันไม่มีก็เออลองทำอะไรใหม่

00:11:5400:11:57 ๆดูบางทีเราอาจจะเจออะไรที่ดีกว่าเดิมก็

00:11:5700:12:01 ได้แต่มนุษย์น่ะอ่ะบางทีแบบเรามีเซฟโซน

00:12:0100:12:05 อ่ะอะไรที่มันเดิมๆซ้ำๆแบบเดิมๆมันเป็น

00:12:0500:12:08 แพทเทิร์นเดิมๆอ่ะมันเป็นเซฟเซฟโซนมันรู้

00:12:0800:12:11 สึกเป็นพื้นที่ปลอดภัยค่ะแล้วก็หลายๆคนก็

00:12:1100:12:14 เลยกลัวการเปลี่ยนแปลงพอมีการเปลี่ยนแปลง

00:12:1400:12:17 อะไรไม่ว่าจะเล็กปานกลางใหญ่เข้ามาเนี่ย

00:12:1700:12:20 มันเหมือนแบบโอ้โหเหมือนมันเซฟโซนมันไม่

00:12:2000:12:23 เหมือนเดิมอ่ะมันสั่นสะเทือนความปลอดภัย

00:12:2300:12:27 ของตัวเองก็จะรู้สึกเครียดอืรู้สึกแบบ

00:12:2700:12:30 กังวลรู้สึกแบบจัดการไม่ถูกถูกแต่ว่าถ้า

00:12:3000:12:36 เรามีสติเราตั้งหลักดีๆเราแบบหาช่องทางหา

00:12:3600:12:39 ที่ไปให้ตัวเองได้อ่ะแล้วก็ทำใจแล้วก็

00:12:3900:12:42 ต้องยอมรับนะคือคนเรามันไม่ต้องแข็งแกร่ง

00:12:4200:12:45 สตรองตลอดเวลาแบบโอ้โหมีเรื่องเกิดขึ้น

00:12:4500:12:48 แบบนี้ก็ยังแบบเออไม่ซึมเศร้าผ่านไปได้

00:12:4900:12:51 ไม่ต้องหลอกตัวเองหรอกคุณจะทุกข์จะเศร้า

00:12:5100:12:54 จะร้องไห้ก็ร้องไปเลยแต่ว่ามันต้องร้อง

00:12:5400:12:57 แล้วมันต้องหยุดไงไม่ใช่แบบร้องเรื่อย

00:12:5700:13:00 เปื่อยเออซึ่งมันก็เป็นกลไกทางจิตของ

00:13:0000:13:03 มนุษย์อ่ะเราอาจจะร้องแบบวันแรกๆเยอะ

00:13:0300:13:06 หน่อยแต่ว่ามันจะค่อยๆดีขึ้นดีขึ้นอมัน

00:13:0600:13:09 อย่างงี้ด้วยมั้ยคะคุณหมอว่าเราตัวเราเอง

00:13:0900:13:12 อ่ะมันมีกลไกในการป้องกันตัวเองอยู่ด้วย

00:13:1200:13:15 ในการที่จะแบบว่าในการยอมรับในสิ่งที่มัน

00:13:1500:13:17 เกิดขึ้นแบบว่าหรือว่าการพยายามทำตัวตัว

00:13:1700:13:20 เองให้สรองให้แข็งแกร่งฉันไม่รู้สึกอะไร

00:13:2000:13:23 หรอกฉันยังได้ฉันยังไหวอะไรแบบเนี้ยมันมี

00:13:2300:13:26 กลไกแบบนั้นอยู่ในตัวเองทุกคนอยู่แล้ว

00:13:2600:13:28 ด้วยทุกคนมีอค่ะคือก็ต้องบอกว่าสมองอ่ะ

00:13:2800:13:31 มันจะมีส่วนตรรกะเหตุผลใช่มั้ยคะแล้วก็

00:13:3100:13:35 มันก็จะมีสมองส่วนอารมณ์เนาะเออบางคนน่ะ

00:13:3500:13:38 ตรรกะเหตุผลแบบสตรองแข็งแรงให้เหตุผลตัว

00:13:3800:13:41 เองได้แต่คือระดับอารมณ์หรือระดระดับจิต

00:13:4100:13:45 ใจอ่ะมันไปไม่ทันสมองไงมันยังทำใจไม่ได้

00:13:4500:13:48 อย่างยกตัวอย่างอ่ะแฟนบอกเลิกอย่างเงี้ย

00:13:4800:13:50 ก็รู้อยู่แล้วผู้ชายคนนี้มันเลวมันชั่ว

00:13:5000:13:54 มันมีชู้มีโอหาข้อดีอะไรไม่ได้เลยอ่ะสมอง

00:13:5400:13:57 มันรู้ทุกอย่างว่าเออดีแล้วมันไปจากชีวิต

00:13:5700:14:01 น่ะดีแล้วควรจะแบบยินดีดีใจแต่ระดับจิตใจ

00:14:0100:14:06 มันคือแบบฉันรักเค้าเออเออฉันทำใจไม่ได้

00:14:0600:14:10 เอออารมณ์แบบใจมันยังทำใจไม่ได้แต่พอวัน

00:14:1000:14:13 นึงอ่ะเออพอเราแบบค่อยๆทำใจไปเรื่อยๆ

00:14:1300:14:17 เรื่อยๆคือสมองด้านอารมณ์เราอ่ะมันเริ่ม

00:14:1700:14:22 ปรับตัวปรับใจได้แบบเนี้ยเออเราก็จะเออ

00:14:2200:14:24 เริ่มๆแบบเห็นแสงสว่างเริ่มกลับมาเป็นตัว

00:14:2400:14:27 เองกลับมามีความสุขได้อีกครั้งนึ่งเนาะ

00:14:2700:14:30 ซึ่งถ้าเราพูดระดับแบบกบสารเคมีในสมองนะ

00:14:3000:14:32 ระดับเซลล์อย่างเงี้ยก็คือเวลามันเกิด

00:14:3300:14:36 วิกฤตอะไรขึ้นมากับชีวิตเราอ่ะค่ะคือไอ้

00:14:3600:14:39 สตตที่เราเรียกว่า Shock แ denial อ่ะมัน

00:14:3900:14:43 มีผลต่อเซลล์สมองจริงๆคือสมองอ่ะมันตกใจ

00:14:4300:14:46 นะมันรวนนะแล้วมันก็หลั่งสารเคมีออกมาไม่

00:14:4600:14:49 ได้อ่ะเออเค้าศึกษาระดับเซลล์สมองอ่ะมัน

00:14:4900:14:53 จริงๆมันแบบเฮ้ยเหมือนสมองมันช็อกอยู่มัน

00:14:5300:14:56 งงอยู่เหมือนมันแบบว่าเหมือนอารมณ์

00:14:5600:14:58 คอมพิวเตอร์ค้างอ่ะเหมือนเครื่องค้างแบบ

00:14:5800:15:02 ช่ขนาเเออแต่พอสักพักนึงถ้าเราแบบค่อยๆ

00:15:0200:15:06 เยียวยาจิตใจตัวเองคิดบวกใช่มคะให้กำลัง

00:15:0600:15:11 ใจตัวเองแบบเออซูตติ้งทะนถนอมแบบดูแลใจ

00:15:1100:15:15 เราไปเรื่อยๆอ่ะสมองมันก็ค่อยๆกลับมา

00:15:1500:15:18 หลั่งสารใหม่กลับมาทำงานได้เป็นปกติใหม่

00:15:1800:15:22 อีกครั้งนึงนะคะซึ่งเขาก็แนะนำว่าถ้า

00:15:2300:15:25 สมมุติว่ามันเกิดเหตุการณ์ช็อกๆเกิดขึ้น

00:15:2500:15:29 แล้วเนี่ยคือเราอยู่ที่เดิมอ่ะคือทำ

00:15:2900:15:32 ใจอะไรไม่ได้เลยซึมเศร้ายังหลอกตัวเอง

00:15:3200:15:34 อยู่เป็นเดือนๆแบบเนี้ยแนะนำพบจิตแพทย์

00:15:3400:15:38 เลยค่ะอ๋อเออเพราะว่าบางทีแบบสมองมันอาจ

00:15:3800:15:41 จะช็อกจัดไงช็อกจัดจนแบบมันรวนมันทำงาน

00:15:4100:15:43 ไม่ได้มันแบบมันเออมันกลมันกลับมาเหมือน

00:15:4300:15:46 เดิมได้ช้าะมันดูแบบผิดปกติไปใช่มันเอ๋อ

00:15:4700:15:50 มันแบบทำงานไม่ได้เหมือนแบบสารหล่อลื่น

00:15:5000:15:53 ไม่มีอะไรอย่างเงี้ยค่ะมาหาหมอเลยบางคน

00:15:5300:15:57 แบบกินไม่ได้นอนไม่หลับอค่ะบางคนแบบนอน

00:15:5700:16:00 แล้วก็ฝันร้ายบางคนแบบร้องไห้มันร้องไห้

00:16:0000:16:03 เองอ่ะร้องไห้ตลอดเวลาแบบมันหยุดไม่ได้

00:16:0300:16:07 แบบเออนั่นแหละมาพบจิตแพทย์เถอะนะคะมัน

00:16:0700:16:09 เหมือนแบบเป็นการตรอมใจมั้ยคะที่แบบว่า

00:16:0900:16:12 เอออันนี้อยากถามคุณหมอเลยแล้วกันการตรอม

00:16:1200:16:14 ใจเพราะว่าอย่างที่เคยได้เห็นเอ่อไม่ใช่

00:16:1400:16:17 ที่เคยได้เห็นสเคยได้ยินว่าอย่างบางคนสูญ

00:16:1700:16:19 เสียสามีที่อยู่ด้วยกันมานานมากเลยเนี่ย

00:16:1900:16:22 สูญเสียไปเสร็จปุ๊บเนี่ยตัวเองสักพักนึง

00:16:2200:16:25 ก็เสียชีวิตตามเป็นเพราะว่าแบบลูกหลานก็

00:16:2500:16:27 จะบอกว่าเออเป็นการตรอมใจอะไรอย่างเงี้ย

00:16:2700:16:29 ไอ้ตรอมใจตรงเนี้ยมันคืออันนี้มีหรรือ

00:16:2900:16:33 เปล่าใช่ค่ะโรคตรอมใจอ่ะมันมีจริงนะคะออื

00:16:3300:16:36 ตรอมใจมันก็คือโรคซึมเศร้านี่แหละหรือว่า

00:16:3600:16:39 โรคแบบเวลาเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นแล้วแบบ

00:16:3900:16:43 ปรับตัวปรับใจไม่ได้อ่ะมันก็ตอมใจเศร้าใจ

00:16:4300:16:47 ทุกข์ใจแล้วก็พัฒนาไปเป็นโรคซึมเศร้าคือ

00:16:4700:16:50 เวลาที่มันเกิดเหตุการณ์วิกฤตใช่มั้ยคะ

00:16:5000:16:53 สมองมันช็อกแบบเนี้ยมันผลิตสารเคมีไม่ได้

00:16:5300:16:57 มันก็จะพัฒนาไปเป็นโรคซึมเศร้าคือจริงๆ

00:16:5700:17:00 เค้าบอกว่ารพวกซึมเศร้าอ่ะมันส่งผลลต่อ

00:17:0000:17:02 ร่างกายมนุษย์เยอะมากเลยนะคะไม่ว่าจะเป็น

00:17:0200:17:06 ระบบหัวใจหลอดเลือดความดันแล้วก็เวลาที่

00:17:0600:17:09 มนุษย์มีความเครียดอ่ะสมองมันหลั่งสาร

00:17:0900:17:11 แห่งความเครียดเป็นสารกลุ่มสเตียรอยด์

00:17:1100:17:15 คอร์ติซอลอย่างเงี้ยค่ะออกมาแบบมหาศาลทำ

00:17:1500:17:19 ให้แบบร่างกายทรุดอ่ะเออแบบจะแข็งแรงแบบ

00:17:1900:17:22 ทรุดวูบอย่างเงี้ยหรือว่าตอนที่ตอมใจหนัก

00:17:2200:17:25 หนักซึมเศร้านะสมองแบบมันจะเหมือนคนเป็น

00:17:2500:17:29 อัลไซเมอร์เลยนะจำอะไรไม่ค่อยได้แบบลืมไป

00:17:2900:17:33 หมดเลยหลงลืมแบบสมาธิไม่ดีแบบมันเหมือน

00:17:3300:17:37 แบบสมองเสื่อมไปชั่วขณะนึงอ่ะอืแต่พอถ้า

00:17:3700:17:40 เราค่อยๆแบบเออตั้งหลักทำใจทุกวันทุกวัน

00:17:4000:17:43 ทุกวันก็เออต้องแบบกลับมารักตัวเอง

00:17:4300:17:48 เยียวยาตัวเองคือสามีจะเอออยู่กันมานาน

00:17:4800:17:50 แค่ไหนรักกันมานานแค่ไหนหรือแม้แต่ลูก

00:17:5000:17:53 หรือแม้แต่เพื่อนคือมันมี 2 อย่างอ่ะมัน

00:17:5300:17:57 จากเป็นกับจากตายอ่ะเราไม่รู้ว่าจะจากกัน

00:17:5700:18:00 เมื่อไหร่อเราแค่แค่ทำปัจจุบันให้ดีเรา

00:18:0100:18:03 ไม่รู้อนาคตมันจะเกิดอะไรขึ้นเนาะแค่ทำ

00:18:0300:18:06 ปัจจุบันให้ดีวันที่อยู่ด้วยกันก็ดีต่อ

00:18:0600:18:10 กันพูดดีต่อกันดูแลกันวันที่จากกันก็จาก

00:18:1000:18:13 กันด้วยดีไม่ว่าจะเป็นจากเป็นหรือจากตาย

00:18:1300:18:17 จากตายก็ตายคนใดคนนึงตายเสียชีวิตไม่ว่า

00:18:1700:18:20 จะด้วยเหตุใดก็แล้วแต่จากเป็นก็อาจจะผิด

00:18:2000:18:24 ใจกันแบบเลิกลากันก็เออแค่แบบ Say กบาย

00:18:2400:18:27 แค่เวลาเวลาของเรามันหมดแล้วมันก็ต้องยาก

00:18:2800:18:29 ย้ายจากกันไป

00:18:2900:18:32 เออคือมันต้องฝึกนะคือเรื่องใจอ่ะมันต้อง

00:18:3200:18:36 ฝึกฝึกการสูญเสียตั้งแต่เล็กตั้งแต่เด็ก

00:18:3600:18:41 ตั้งแต่โตมาคนที่ฝึกตัวเองได้ดีเขาก็จะทำ

00:18:4100:18:44 ใจได้เร็วเขาก็จะยอมรับตัวเองได้ว่าเออ

00:18:4400:18:47 เราทุกข์นะเราเศร้านะเราเสียใจอยู่นะแต่

00:18:4700:18:51 มันจะค่อยๆดีขึ้นมันจะดีขึ้นในทุกวันใน

00:18:5100:18:55 ทุกทางมันก็ต้องให้เวลากับตัวเองด้วยมัน

00:18:5500:18:57 เคยมีอยู่ช่วงนึงค่ะคุณหมออันนี้ก็เล่า

00:18:5700:19:00 ประสบการณ์ให้ฟังแล้วก็เหมือนกับว่าพอเรา

00:19:0000:19:02 ผ่านระยะเวลาในในความสูญเสียหลืหรืออะไร

00:19:0200:19:04 ก็แล้วแต่ต่างๆเหล่าเที่เราคิดว่าเฮ้ยเรา

00:19:0400:19:07 ต้องเข้มแข็งสิเราต้องเราเราต้องร้องไห้

00:19:0700:19:09 ไม่ได้นะนู่นนี่นั่นเนี่ยมันทำให้เรามัน

00:19:0900:19:11 กลายเป็นอีกคนนึงโดยที่เราไม่รู้ตัว

00:19:1100:19:13 เหมือนกันอย่างที่คุณหมอบอกไปตั้งแต่ตอน

00:19:1300:19:16 แรกค่ะคุณผู้ฟังว่าถ้าอยากจะร้องรู้สึก

00:19:1600:19:18 ยังไงให้แสดงความรู้สึกแบบนั้นออกมาเลย

00:19:1800:19:21 อยากร้องก็คือร้องเพราะว่าเคยอยู่ในภาวะ

00:19:2100:19:24 ที่เราแบบต้องสรองตลอดอ่ะค่ะเหมือนกับแบบ

00:19:2400:19:27 เอ้ยเสียใจเฮ้ยร้องไห้ไม่ได้นู่นนี่นั่น

00:19:2700:19:29 เก็บไว้ทุกอย่างเลยค่ะจนกระทั่งไปฟังราย

00:19:2900:19:33 การนึงวันนึงมีคนที่เขาบอกว่าเค้าเหมือน

00:19:3300:19:36 สะกดจิตตัวเองมั้งเหมือนแบบว่าฉันแข็ง

00:19:3600:19:39 แกร่งฉันไม่ร้องฉันเป็นคนเก่งอะไรอย่าง

00:19:3900:19:41 งี้ใช่มั้ยคะท้ายที่สุดแล้วร้องไห้ไม่

00:19:4100:19:44 เป็นเลยในช่วงนั้นนะคะไม่ว่าจะแบบอยากจะ

00:19:4400:19:47 ร้องไห้ขนาดไหนอ่ะแต่น้ำตาไม่ยอมออกเลยจน

00:19:4700:19:49 กระทั่งพอมาฟังรายการของเขาปุ๊บเนี่ยแบบ

00:19:4900:19:53 เฮ้ยเออเราต้องรู้สึกคือเรารู้สึกอะไรให้

00:19:5300:19:55 แสดงออกเหมือนที่คุณหมอบอกเลยเมื่อกี้ดี

00:19:5500:19:59 ใจก็ก็ดีใจไปอยากร้องไห้ก็ร้องไปไม่มีใคร

00:19:5900:20:02 ว่าเราอาจจะไปร้องคนเดียวก็ได้หรืออะไรก็

00:20:0200:20:05 ได้ให้แสดงออกมามันจะมันจะโล่งเลยตอนนั้น

00:20:0500:20:07 แบบปลดล็อคเลยค่ะคุณหมอจากที่เราแบบว่า

00:20:0700:20:11 เฮ้ยเราแข็งแกร่งเราไม่ร้องเจอเรื่องอะไร

00:20:1100:20:13 เราต้องไม่ร้องอะไรอย่างเงี้ยค่ะเหมือน

00:20:1300:20:17 แบบเก็บมากๆมากๆเข้ามาเลยเป็นภาวะแบบอะไร

00:20:1700:20:20 ก็ไม่รู้กับตัวเองไปสตายแล้วปลดล็อคได้

00:20:2000:20:23 แล้วก็ใช้ระยะเวลาแล้วก็เหมือนกับว่าเวลา

00:20:2300:20:26 ที่เราเกิดความสูญเสียอะไรก็แล้วแต่เนี่ย

00:20:2600:20:30 ช่วงแรกอาจจะยังแบบอ่ะะจริงหรอเฮ้ยใช่หรอ

00:20:3000:20:33 หรืออะไรเงี้ยค่ะแต่ว่าเราก็ก้าวข้ามผ่าน

00:20:3300:20:36 ตรงจุดนั้นมาได้แบบได้ด้วยระยะเวลาที่ไม่

00:20:3600:20:40 นานมากนักอือค่ะก็คือจริงๆถ้าเรายอมรับ

00:20:4000:20:42 ความจริงตั้งแต่แรกยอมรับอารมณ์ยอมรับ

00:20:4200:20:45 ความรู้สึกยอมรับความสูญเสียยอมรับว่าเรา

00:20:4500:20:48 ก็อ่อนแอได้ยอมรับว่าเราเป็นมนุษย์คนนึง

00:20:4800:20:52 เราก็ทุกข์ได้ร้องไห้ได้เนี่ยจริงๆแล้ว

00:20:5200:20:55 มันเอ้ยปฏิกิริยาหรือว่ากลไกทางจิตอ่ะมัน

00:20:5600:20:58 จะทำงานได้ไวขึ้นแต่ถ้าเรามวลแต่แบบไป

00:20:5800:21:02 หลอกตัวเองอ่ะว่าโอ๊ยฉันแข็งแกร่งฉันไม่

00:21:0200:21:06 ร้องให้หรอกอ้ยไม่จำเป็นต้องร้องเออไม่

00:21:0600:21:08 เป็นไรฉันจัดการได้บางทีมันเป็นการหลอก

00:21:0800:21:11 ตัวเองไงอๆเออมันหลอกตัวเองแล้วมันก็เป็น

00:21:1100:21:15 การเก็บกดความรู้สึกอ่ะเออพอมันเก็บไว้

00:21:1500:21:19 มันก็เหมือนแค่มันมีขยะอยู่อ่ะแต่ว่าเรา

00:21:1900:21:23 แค่เอาอะไรมาปิดอ่ะแต่ขยะมันก็ยังอยู่มัน

00:21:2300:21:26 ก็รอวันเน่าเสียหมักหมมแค่แค่เราแบบไม่

00:21:2600:21:29 เปิดมันมาดูอ่ะอแบบเออเราก็ยอมรับความ

00:21:2900:21:33 จริงเนาะร้องไหก็ร้องไปเลยแต่ไม่ใช่มัน

00:21:3300:21:36 ร้องแบบกลางรถเมล์กลาง BTS เดี๋ยวคนตกใจ

00:21:3600:21:39 ใช่มั้ยหรือไปยืนร้องกลางสายฝนเดี๋ยวฟ้า

00:21:3900:21:42 ผ่าตายอะไรอย่างเงี้ยเออเราก็หาที่สงบๆ

00:21:4200:21:46 ร้องกับตัวเองก็ได้เออร้องร้องแบบเออให้

00:21:4600:21:50 น้ำตามันไหลบางทีน้ำตาเนี่ยมันช่วยชำระ

00:21:5000:21:54 ล้างจิตใจจมันช่วยแบบล้างความทุกข์มัน

00:21:5400:21:57 ช่วยล้างแบบมันได้ปลดปล่อยอ่ะออกไปทางน้ำ

00:21:5700:22:01 ตาแบบเนี้ยเออมันรู้สึกโล่งเพราะว่าจริงๆ

00:22:0100:22:04 แล้วมันเป็นแบบมันเป็นร่างกายมนุษย์น่ะ

00:22:0400:22:09 มันมหัศจรรย์ไงมันออกแบบมาให้ให้แบบเรามี

00:22:0900:22:12 กลไกหลายๆอย่างที่จะให้เราช่วยให้จิตใจ

00:22:1200:22:17 เราดีขึ้นขนาดเขามีการศึกษาแบบน้ำตาน้ำตา

00:22:1700:22:20 มนุษย์นะเเอาน้ำตาคนน่ะไปหย่อดลงไปใน

00:22:2000:22:23 กล้องจุลทัศน์อ่ะเพราะว่าน้ำตาแห่งความ

00:22:2300:22:27 สูญเสียอืเสียใจร้องไห้กับน้ำตาแห่งความ

00:22:2700:22:31 ปิติมีคความสุขน้ำตาแห่งความโกรธอ่ะคือ

00:22:3100:22:33 มันไม่เหมือนกันเลยมันเป็นผลึกที่แบบแตก

00:22:3300:22:36 ต่างกันเลยนะผลึกมันแตกต่างกันเลยน้ำตาคน

00:22:3600:22:39 เดียวกันนะมนุษย์คนเดียวกันน่ะแล้วเทำ

00:22:3900:22:42 วิจัยเลยทดลองเลยอ่ะดีใจปึ๊บเนี่ยเอาน้ำ

00:22:4200:22:47 ตามันเนี่ยเอาวกล้องดูเลยเออผลึกสวยเป็น

00:22:4700:22:50 ประกายแบบเงี้ยมันไม่เหมือนกันเลยเออแปลก

00:22:5000:22:54 มากนะคะเพราะฉะนั้นก็คือสิ่งสำคัญคือการ

00:22:5400:22:57 ที่เราต้องแบบว่าใช้ระยะเวลาแล้วก็จะบอก

00:22:5700:23:00 ว่าฝึกในการรับมือกับสิ่งที่มันเกิดความ

00:23:0000:23:03 สูญเสียบางอย่างมันก็ไม่น่าฝึกเนาะในการ

00:23:0300:23:05 สูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักอะไรอย่างเงี้ย

00:23:0500:23:07 เราแต่เราทำอะไรอย่างอื่นได้อีกมั้ยหมาย

00:23:0700:23:10 ถึงว่าแบบนอกจากการที่เราใช้ระยะเวลาแล้ว

00:23:1000:23:13 ในการพยายามเข้าใจความเป็นจริงอันนี้

00:23:1300:23:16 สำคัญด้วยใช่ค่ะแล้วก็เริ่มจากการฝึกฝึก

00:23:1600:23:21 สติเนาะเออมีมีสติรู้รู้อารมณ์ตัวเองออ่า

00:23:2100:23:24 รู้ว่าเราทุกข์อยู่เราดีใจอยู่เราเสียใจ

00:23:2400:23:27 อยู่รู้วิธีที่จะแบบปอบอารมณ์ตัวเองเช่น

00:23:2700:23:31 บางคนอาจจะชอบดูหนังอาจจะชอบฟังเพลงอาจจะ

00:23:3100:23:35 ชอบแบบปลูกต้นไม้ก็เออพาตัวเองไปให้จิตใจ

00:23:3500:23:39 มันสสงบร่มเย็นสบายรู้จักแบบให้กำลังใจ

00:23:3900:23:43 ตัวเองแล้วก็รู้ว่าชีวิตมันไม่มีอะไรแน่

00:23:4300:23:47 นอนอืรู้ว่าเออเราไม่รู้หรอกอนาคตจะเกิด

00:23:4700:23:49 อะไรขึ้นแต่เราสามารถที่จะอยู่กับ

00:23:4900:23:53 ปัจจุบันมีความสุขกับปัจจุบันอนาคตอะไร

00:23:5300:23:56 มันจะเกิดมันก็ต้องเกิดเราก็จะรับมือกับ

00:23:5600:23:59 มันแล้วก็พาตัวเองผ่านพ้นวิกฤตนั้นไปได้

00:23:5900:24:02 ที่สุดนี่แหละชีวิตมนุษย์มันมีแค่นี้เอง

00:24:0200:24:06 เนาะไม่ว่าจะเป็นศาสนาไหนอ่ะเขาคก็จะสอน

00:24:0600:24:10 เออสอนจริงๆหลักศาสนาก็จะสอนคล้ายๆกันหมด

00:24:1000:24:12 เลยอย่างศาสนาพุทธก็สอนให้อยู่กับ

00:24:1200:24:17 ปัจจุบันไม่มีอะไรแน่นอนอนิจจังใช่มั้ยคะ

00:24:1700:24:21 อยู่กับปัจจุบันมีสติแล้วก็เอ่อบางอย่าง

00:24:2200:24:24 บางทีบทเรียนบางอย่างก็เราเรียนรู้จากคน

00:24:2400:24:27 อื่นได้นะคะวันนึงเราอาจจะเจอแบบเค้าก็

00:24:2700:24:29 ได้หรืออาจจะเจอหนักกว่าหรืออะไรอย่าง

00:24:3000:24:32 น้อยเราก็ได้เรียนรู้ะมีสติกับตัวเองะ

00:24:3200:24:35 แล้วก็รับมือได้แต่ถ้าไม่ไหวจริงๆไปพบคุณ

00:24:3600:24:38 หมอใช่ค่ะมาปรึกษาจิตแพทย์เลยค่ะการมาพบ

00:24:3800:24:41 จิตแพทย์ไม่ได้แปลว่าคุณเป็นคนบ้าไม่ได้

00:24:4100:24:44 แปลว่าคุณเป็นคนอ่อนแอการมาพบจิตแพทย์

00:24:4400:24:47 นั่นแปลว่าคุณน่ะเป็นคนทันสมัยที่มีความ

00:24:4700:24:51 รู้ความเข้าใจด้านสุขภาพจิตที่ดีการมาพบ

00:24:5100:24:54 จิตแพทย์บางครั้งถ้ามันจำเป็นจะต้องรับ

00:24:5400:24:57 ประทานยามันก็ช่วยทำให้คุณก้าวผ่านความ

00:24:5700:25:01 ทุกข์ได้ไวขึ้นค่ะเพราะอย่างบางคนน่ะคือ

00:25:0100:25:04 คือสมองเหตุผลน่ะรู้เข้าใจมันเป็นธรรมดา

00:25:0400:25:06 โรคมันเป็นความสูญเสียเกิดแก่เจ็บตายเป็น

00:25:0600:25:10 เรื่องธรรมดาแต่ร่างกายมันไม่ฟังอ่ะมัน

00:25:1000:25:13 นอนไม่ได้ตาค้างอยู่แบบเนี้ยพอนอนไม่ได้

00:25:1300:25:17 ร่างกายมันก็รวนใช่มั้ยคะมาหาหมอบางทีคุณ

00:25:1700:25:20 อาจจะจำเป็นต้องกินยาแค่ช่วงระยะเนี้ย

00:25:2000:25:23 อาทิตย์นึง 2 อาทิตย์ให้มันหลับได้นอนได้

00:25:2300:25:27 ร่างกายมันจะฟื้นแล้วมันก็จะดีขึ้นค่ะมา

00:25:2700:25:30 ปรึกษาเลยค่ะอืมอันนี้ก็จะได้แนวทางที่

00:25:3000:25:33 ถูกต้องด้วยไม่ใช่แบบว่าไปในผิดรูผิดทาง

00:25:3400:25:39 หรือไปหาคนอื่นไปปรึกษาหมอดูหมอดูมันอาจ

00:25:3900:25:41 จะผิดทางก็ได้เเอบางคนอาจจะไปหาหมอดูไปทำ

00:25:4100:25:45 พิธีถ้าเจอเจอหมอดูที่ดีมีศีลมีธรรมก็ดี

00:25:4500:25:49 ไปนะเออเขาคก็จะสอนเออให้ทำใจให้เข้าใจ

00:25:4900:25:52 โลกแต่ถ้าเจอคนไม่ดีอย่างเงี้ยเออก็จะ

00:25:5200:25:54 ยิ่งเพิ่มความทุกข์ยิ่งซ้ำเติมความทุกข์

00:25:5400:25:57 ของเราเข้าไปอีกรู้ว่าจิตเรากำลังอ่อนแอ

00:25:5700:25:59 เนี่ยใช่เค้าก็ใช้หลักจิตวิยาเหมือนกัน

00:25:5900:26:01 นั่นแหละเออเพียงแต่ว่าคแบหาประโยชน์จาก

00:26:0100:26:04 ความทุกข์ของเราอืก็ไปหาจิตแพทย์ดีกว่าไป

00:26:0400:26:07 หาหมอดูอย่างเดียวนะคนจะเลือกไปหาหมอดู

00:26:0700:26:09 มากกว่าไงใช่มั้ยคะแต่จิตแพทย์เข้าหาได้

00:26:1000:26:13 เดี๋ยวนี้คือแบบอุ้ยคือเข้าไปคุยยเข้าไป

00:26:1300:26:15 เล่าเรื่องราวอะไรก็ได้บางทีเราอาจจะไม่

00:26:1500:26:18 ได้จำเป็นต้องเอายากลับบ้านก็ได้นะไปคุย

00:26:1800:26:22 แล้วได้รู้ว่าเหตุปัจจัยแล้วมันมันเหตุผล

00:26:2200:26:24 มันเป็นยังไงเหตุของแล้วก็ผลมาอย่างเงี้ย

00:26:2400:26:27 แล้วก็ทำตามคำแนะนำบางทีดีขึ้นได้ง่ายๆ

00:26:2700:26:29 เลยด้วยซ้ำคือมาแล้วเนี่ยคุณจะเข้าใจตัว

00:26:2900:26:34 เองมากขึ้นนะคะคือจะไปหาหมอดูไปสายมูไป

00:26:3400:26:37 วัดไปอะไรก็แล้วแต่ไม่เป็นไรไม่ว่ากันถ้า

00:26:3700:26:40 ไปแล้วมันไม่หายไม่ดีขึ้นแนะนำนะคะ

00:26:4000:26:43 จิตแพทย์เป็นคนสุดท้ายที่คุณจะมาเราก็ดี

00:26:4300:26:45 ใจแล้วนะคะที่ได้ช่วยคุณไม่ต้องกลัวคุณ

00:26:4500:26:48 หมอว่างงานค่ะค่ะทุกวันนี้คิวคุณหมอก็

00:26:4800:26:52 เยอะอยู่ใช่มั้ยคะอ่านี้ก็เป็นสิ่งที่เรา

00:26:5200:26:54 ฝากไว้นะฮะถึงเรื่องของการทำความเข้าใจ

00:26:5400:26:57 กับความสูญเสียในการรับมือต่างๆเหล่านี้

00:26:5700:27:01 นะคะเราจะก้าวขาข้ามผ่านพ้นไปได้เนี่ยก็

00:27:0100:27:02 ทั้งหมดทั้งมวลอยู่ที่ตัวเราด้วยนะคะ

00:27:0300:27:06 ขอบคุณคุณหมอค่ะสวัสดีค่ะสวัสดีค่ะเอาล่ะ

00:27:0600:27:08 ค่ะคุณผู้ฟังหมดเวลาแล้วนะคะพบกันใหม่

00:27:0800:27:10 ครั้งหน้ากับรายการโรงหมอไทย PB podcast

00:27:1000:27:13 นะคะวันนี้ลาไปก่อนสวัสดีค่ะ This Is

00:27:1300:27:16 Thai PBS podcast น้ำเปล่าถือเป็นน้ำ

00:27:1600:27:18 ที่ดีต่อร่างกายของมนุษย์มากที่สุดในแต่

00:27:1800:27:21 ละวันสำหรับแต่ละคนมีวิธีการคำนวณการดื่ม

00:27:2100:27:24 น้ำอย่างไรผู้ช่วยศาสตราจารย์ดรเอกราช

00:27:2400:27:26 บำรุงพืชผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการมาเล่า

00:27:2600:27:30 ให้ฟังครับคนเราเนี่ยบอกเลยว่าต้องการน้ำ

00:27:3000:27:33 คุณขาดอาหารคุณยังมีชีวิตอยู่ได้หลายวัน

00:27:3300:27:36 แต่ขาดน้ำนี่ไม่กี่วันคุณตายนะครับเพราะ

00:27:3600:27:38 70% ขององค์ประกอบของร่างกายเนี่ยมีน้ำ

00:27:3800:27:41 เป็นหลักเลยแล้วมันมีบทบาทสำคัญโอโห

00:27:4100:27:44 ประโยชน์เยอะมากค่ะเอาง่ายๆเลยเนี่ยน้ำใน

00:27:4400:27:46 ร่างกายของเราเนี่ยน้ำเลือดในระบบไหล

00:27:4600:27:49 เวียนทั้งหลายแหล่ถูกมั้ยครับที่นำพาสาร

00:27:4900:27:53 อาหารนำพาออกซิเจนนำพาโอ้โหเพียบเลยหลาย

00:27:5300:27:54 สิ่งอย่างที่มีประโยชน์ไหลายเวียนทั่ว

00:27:5400:27:57 ร่างกายอือมันก็ต้องเนี่ยอาศัยเรื่องของ

00:27:5700:27:59 น้ำก็

00:27:5900:28:03 คผก็ต้องอาศัยน้ำอืหรือผิวพรรณอย่างเงี้ย

00:28:0300:28:06 ถ้าคุณขาดน้ำผิวพรรณคุณแห้งเลยนะก็จะเห็น

00:28:0600:28:09 ชัดเลยคนกินน้ำไม่ถึงเนี่ยนะขับถ่ายก็ไม่

00:28:0900:28:12 ดีท้องผูกเห็นมั้ยอันนี้คือสิ่งที่

00:28:1200:28:15 ประจักษ์ชัดสะท้อนให้เราเห็นเลยว่ามันมี

00:28:1500:28:17 ผลโดยตรงเลยเรื่องของระบบไหลเวียนโลหิต

00:28:1700:28:21 กระบวนการเผาผลาญผิวพรรณระบบขับถ่ายถ้า

00:28:2100:28:23 เราขาดน้ำกินน้ำไม่พอเห็นชัดๆเลยแบบว่า

00:28:2300:28:26 ท้องผูกถึงบอกว่ามีความสำคัญแล้วถ้าคนรับ

00:28:2600:28:29 ประทานน้ำดื่มน้ำน้ำให้เพียงพอบริโภคน้ำ

00:28:2900:28:32 ให้เพียงพอในแต่ละวันเนี่ยเขาสามารถที่จะ

00:28:3200:28:35 มีชีวิตที่เปลี่ยนไปเลยปริมาณโดยทั่วไป

00:28:3500:28:37 เราแนะนำเนี่ยน้ำเปล่าเนี่ยคือดื่มวันละ

00:28:3700:28:42 ประมาณ 2-3 ลิตรก็คือ 8-10 แก้วต่อวันนะ

00:28:4200:28:45 วิธีการคำนวณง่ายๆในปริมาณน้ำที่เราจะ

00:28:4500:28:48 ดื่มเนี่ยคือเอาน้ำหนักตัวของเราคูณด้วย

00:28:4800:28:52 30 เช่นอาจารย์หนัก 65 อาจารย์ก็ต้องเอา

00:28:5200:28:56 65 เนี่ยคูได้ 30 นะโดยช่วงเวลาการดื่ม

00:28:5600:28:59 น้ำก็มีผลนะครับตื่นพมาอาจารย์ก็จะเติม

00:28:5900:29:02 น้ำ 1 แก้วอหรือ 1 ขวดอือ่าฉะนั้นแล้ว

00:29:0200:29:05 ตื่นมาปุ๊บเนี่ยคือหลังตื่นนอนเนี่ยเรา

00:29:0500:29:08 ดื่มน้ำ 1 แก้วนะระบบไหลเวียนเราก็ดีขึ้น

00:29:0800:29:12 แล้วก็ช่วยชดเชยที่เราอดน้ำอดอาหารมาทั้ง

00:29:1200:29:14 คืนที่เรา

00:29:1400:29:19 นอน This Is Thai PBS

00:29:1900:29:22 podcast ติดตามรายการของ Thai PBS

00:29:2200:29:24 podcast ได้ทางเว็บไซต์

00:29:2400:29:28 www.thaipbs.or.th

00:29:2800:29:31 Application Thai PBS podcast รวมถึง

00:29:3100:29:34 ฟังผ่าน podcast ช่องทางอื่นๆ spotify

00:29:3400:29:37 YouTube Apple podcast และ Sound

00:29:3700:29:39 Cloud

00:29:3900:29:42 [เพลง]