00:00:00 → 00:00:03 สวัสดีครับผมคิดว่าหลายๆคนนะครับคงเคยได้
00:00:03 → 00:00:06 ยินว่าเกลือชมพูเกลือดำนะครับหรือเกลือ
00:00:06 → 00:00:10 พิเศษต่างๆเนี่ยมันมีคนบอกว่ามีแร่ธาตุ
00:00:10 → 00:00:13 สูงนะครับแล้วมันเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย
00:00:13 → 00:00:16 ของคนเรามากกว่าเกลือทั่วๆไปที่ขายทอง
00:00:16 → 00:00:18 ท้องตลาดนะครับผมก็เลยอยากจะเอาเรื่องนี้
00:00:18 → 00:00:20 มาเล่าให้ฟังกันเลยว่ามันมีข้อเท็จจริง
00:00:20 → 00:00:23 ประการใดอย่างไรอยู่เบื้องหลังนะครับพบ
00:00:23 → 00:00:25 กับผมนะครับนายแพทย์ธานินทร์ธนีวรรณนะ
00:00:25 → 00:00:27 ครับเป็นอาจารย์แพทย์อยู่ที่ประเทศสหรัฐ
00:00:27 → 00:00:29 อเมริกาเชี่ยวชาญโรคปอดการปลูกถ่ายอ่อน
00:00:29 → 00:00:32 และวิกฤตบำบัดนะครับก่อนที่เราจะเข้าสู่
00:00:32 → 00:00:34 เรื่องของเกลือนั้นผมต้องบอกอย่างนี้ครับ
00:00:34 → 00:00:38 ว่าเกลือเนี่ยมันมีส่วนประกอบหลักไม่ว่า
00:00:38 → 00:00:40 จะเป็นเกลือชนิดไหนก็ตามส่วนประกอบหลัก
00:00:40 → 00:00:42 ของมันก็คือโซเดียมคลอไรด์นะครับและ
00:00:42 → 00:00:45 โซเดียมคลอไรด์นั้นเป็นสิ่งที่เราจำเป็น
00:00:45 → 00:00:47 จะต้องจำกัดการรับประทานในแต่ละวันนะครับ
00:00:47 → 00:00:50 อย่าไปให้มันเกิน 2 กรัมบางคนอาจจะได้ถึง
00:00:50 → 00:00:52 4 กรัมนะครับแต่ถ้ามากกว่านั้นเช่น 5-6
00:00:52 → 00:00:55 กรัมเนี่ยเป็นสิ่งที่ไม่สมควรนะครับ
00:00:55 → 00:00:59 แน่นอนบางท่านอาจจะไปได้ยินมาว่าสาย
00:00:59 → 00:01:02 สุขภาพทุกคนนะครับหรือแม้กระทั่งเป็นกูรู
00:01:02 → 00:01:05 influencer บางท่านเนี่ยบอกว่าเฮ้ยอัน
00:01:05 → 00:01:06 นั้นมันเป็นความรู้เก่าแล้วเดี๋ยวนี้
00:01:06 → 00:01:09 เนี่ยเรามีข้อมูลใหม่ผมว่าเออเราจะต้อง
00:01:09 → 00:01:11 กินเกลือให้มันเยอะกว่านั้นเช่น 5-6 กรัม
00:01:11 → 00:01:13 ต่อวันนะครับแล้วมันจะดีต่อสุขภาพคิดว่า
00:01:13 → 00:01:16 เกลือเนี่ยมันไม่มีปัญหาต่อโรคไตไม่ได้ทำ
00:01:16 → 00:01:20 ให้เกิดโรคไตแต่อย่างใดนะครับก็ต้องขอบอก
00:01:20 → 00:01:23 ว่าสิ่งที่ influencer เหล่านั้นพูดมา
00:01:23 → 00:01:25 เนี่ยมันอาจจะไม่ตรงกับความเป็นจริงสัก
00:01:25 → 00:01:27 เท่าไหร่นะครับแล้วมันก็มีไม่มีหลักฐาน
00:01:27 → 00:01:31 สนับสนุนแต่อย่างใดนะครับงานวิจัยที่มี
00:01:31 → 00:01:33 ทั้งหมดเนี่ยมันก็ตรงกันข้ามกับสิ่งที่
00:01:33 → 00:01:36 เขาพูดนะครับก็คือคนเราเนี่ยปัจจุบันยัง
00:01:36 → 00:01:38 เน้นให้จำกัดเกลือหรือโซเดียมคลอไรด์อยู่
00:01:38 → 00:01:41 ดีนะครับอ่าอย่างมากก็ไม่เกิน 4 กรัมต่อ
00:01:41 → 00:01:43 วันแต่ถ้าให้ทีก็คือต่ำกว่า 2 กรัมต่อวัน
00:01:43 → 00:01:44 นะครับ
00:01:44 → 00:01:47 และเกลือเนี่ยมันสามารถที่จะดูดน้ำไว้ใน
00:01:47 → 00:01:50 ร่างกายของคนเราได้ทำให้เรามีปัญหาก็คือ
00:01:50 → 00:01:54 บางคนก็จะบวมนะครับบางคนถ้ามันเป็นกิน
00:01:54 → 00:01:56 เกลือเยอะๆเรื้อรังเนี่ยมันก็จะทำให้ความ
00:01:56 → 00:01:59 ดันโลหิตสูงได้เพราะว่ามันดูดเอาตัวน้ำ
00:01:59 → 00:02:01 ไว้ในร่างกายเราตลอดเวลานะครับแล้วการที่
00:02:01 → 00:02:03 มีน้ำตลอดเวลาในร่างกายที่มันเยอะจนเกิน
00:02:03 → 00:02:06 ที่มันควรจะเป็นเนี่ยมันก็ไปกระตุ้นระบบ
00:02:06 → 00:02:08 ฮอร์โมนต่างๆทำให้เกิดความดันโลหิตสูง
00:02:08 → 00:02:10 ต่างๆตามมานะครับสุดท้ายความดันโลหิตสูง
00:02:10 → 00:02:13 นานๆก็นำไปสู่โรคไตนะครับแล้วถ้าเกิดว่า
00:02:13 → 00:02:16 เราบังเอิญมีโรคประจำตัวอื่นเช่นเบาหวาน
00:02:16 → 00:02:18 นะครับความดันเราเป็นอยู่แล้วนะครับโรคไต
00:02:18 → 00:02:21 อยู่เดิมแล้วเนี่ยการกินเค็มหรือการกิน
00:02:21 → 00:02:24 โซเดียมคลอไรด์เข้าไปเยอะๆเนี่ยมันกลับจะ
00:02:24 → 00:02:26 ยิ่งทำให้เกิดโรคพวกนั้นกำเริบขึ้นมามาก
00:02:26 → 00:02:29 นะครับถ้าท่านมีโรคหัวใจแล้วท่านกินเกลือ
00:02:29 → 00:02:32 เยอะเกินไปน้ำก็จะท่วมปอดนะครับท่านเป็น
00:02:32 → 00:02:34 โรคไตล้างไตอยู่หรือว่าท่านกำลังจะต้อง
00:02:34 → 00:02:37 ล้างไตแล้วกินโซเดียมคลอไรด์หรือกินเกลือ
00:02:37 → 00:02:39 เยอะอย่างที่ influencer บอกท่านก็จะได้
00:02:39 → 00:02:41 รับการล้างไตเร็วขึ้นหรือมิฉะนั้นก็จะมี
00:02:41 → 00:02:44 น้ำท่วมปอดมีขาบวมมีหน้าบวมนะครับงั้น
00:02:44 → 00:02:46 กลุ่มพวกนี้จะต้องระวังเป็นพิเศษนะครับ
00:02:46 → 00:02:50 เป็นคำแนะนำที่ไม่ถูกต้องนะครับถ้าจะบาง
00:02:50 → 00:02:52 คนที่เขากินแล้วโอเคก็คือคนที่ร่างกาย
00:02:52 → 00:02:54 แข็งแรงปกติดีอยู่แล้วแต่ถ้ากินระยะยาวก็
00:02:54 → 00:02:57 ได้มีปัญหาแน่นอนนะครับงั้นอันนี้ผมอยาก
00:02:57 → 00:02:59 จะชี้แจงให้ทราบก่อนว่าเกลือทุกอย่างมี
00:02:59 → 00:03:02 โซเดียมคลอไรด์นะครับทีนี้เกลือเนี่ยมัน
00:03:03 → 00:03:05 มีหลากหลายมากเลยนะครับก็ยกตัวอย่างเช่น
00:03:05 → 00:03:08 เกลือหิมาลายันนะครับเกลือที่เราเห็นทั่ว
00:03:08 → 00:03:10 ไปเราจะเรียกว่า Table source นะครับก็
00:03:10 → 00:03:13 คือเกลือที่มีวางขายกันทั่วๆไปมีเรือทะเล
00:03:13 → 00:03:15 เกลือสมุทรเกลือสินเธาว์นะครับมีเกลือดำ
00:03:15 → 00:03:19 นาเกลือทรัฟเฟิลเกลือชื่อแปลกๆที่
00:03:19 → 00:03:22 ฝรั่งเศสมีนะครับไอ้พวกนี้มันต่างกันยัง
00:03:22 → 00:03:24 ไงนะครับในเมื่อผมบอกว่าทุกอย่างมันมี
00:03:24 → 00:03:26 โซเดียมคลอไรด์เป็นส่วนประกอบหลักประมาณ
00:03:26 → 00:03:29 เกิน 90% ของปริมาณอ่าน้ำหนักของเกลือ
00:03:30 → 00:03:32 เนี่ยจะเป็นโซเดียมคลอไรด์แต่ไอ้ส่วนที่
00:03:32 → 00:03:35 เหลือเนี่ยจะเป็นอย่างอื่นได้นะครับอ่ายก
00:03:35 → 00:03:38 ตัวอย่างเช่นเราเริ่มกันที่เกลือทั่วๆไป
00:03:38 → 00:03:41 ที่เราเจอตามร้านขายขายเกลือขายอาหาร
00:03:42 → 00:03:44 Supermarket ของเราเนี่ยนะครับเกลือนั้น
00:03:44 → 00:03:46 เราเรียกว่าเกลือ Table Soft นะครับโดย
00:03:46 → 00:03:48 Table Sauce เนี่ยมันจะมีส่วนประกอบ
00:03:48 → 00:03:51 เพิ่มไปอีก 2 อย่างอย่างแรกก็คือไอโอดีน
00:03:51 → 00:03:55 นะครับเราอาจจะเคยได้ยินตอนเด็กๆว่าคนที่
00:03:55 → 00:03:57 อยู่บนภูเขาสูงเนี่ยเขาไม่มีเกลือที่มา
00:03:57 → 00:04:00 จากทะเลซึ่งมันมีแร่ธาตุมีไอโอดีนเขาจึง
00:04:00 → 00:04:03 เกิดโรคคอพอกขึ้นมานะครับนี่แหละครับ
00:04:03 → 00:04:05 เกลือพวกนี้ก็เลยมีการใส่ไอโอดีนเข้าไป
00:04:05 → 00:04:08 เพื่อที่จะป้องกันไม่ให้คนที่อยู่บนภูเขา
00:04:08 → 00:04:10 สูงเกิดโรคคอพอกถ้าเรากินพวกนี้เราก็จะ
00:04:10 → 00:04:14 ป้องกันตรงนี้ได้นะครับแต่นอกเหนือจากนี้
00:04:14 → 00:04:18 ให้เกลือที่เรากินทั่วๆไปเนี่ยนะครับมัน
00:04:18 → 00:04:21 จะมีสารที่เรียกว่า anticaking ก็คือเรา
00:04:21 → 00:04:23 ต้องไม่ให้เกลือมันจับเป็นก้อนนะครับ
00:04:23 → 00:04:25 เพราะเราไม่ชอบจับเป็นก้อนเวลาเก็บไว้มัน
00:04:25 → 00:04:26 เก็บได้ไม่นานเวลาโดนความชื้นมันก็กลาย
00:04:26 → 00:04:28 เป็นก้อนๆเราก็ไม่ต้องการมันก็เลยมีการ
00:04:28 → 00:04:31 ใส่สารเข้าไปในนี้นะครับสารแอนตี้เค้ก
00:04:31 → 00:04:34 หรือสารการจับการเป็นก้อนเนี่ยมันก็มี
00:04:34 → 00:04:37 หลักๆก็คือเอ่อเป็นแมกนีเซียมคาร์บอเนตนะ
00:04:37 → 00:04:40 ครับเป็นแคลเซียมซิลิเกตมีอ่ามีโล
00:04:40 → 00:04:43 อะลูมิโน silicate นะครับก็คืออลูมินัม
00:04:43 → 00:04:46 นั่นแหละอะลูมิเนียมบวกกับพวกนี้เข้าไปที
00:04:46 → 00:04:48 นี้มันก็มีคนบางคนบอกว่าไอ้พวกนี้อันตราย
00:04:48 → 00:04:52 จริงๆมันไม่ได้อันตรายนะครับปริมาณที่ใส่
00:04:52 → 00:04:54 เข้าไปนะครับมันเป็นปริมาณที่น้อยมากแล้ว
00:04:54 → 00:04:56 ก็ไม่ได้เกิดปัญหาอะไรต่อร่างกายเลยนะ
00:04:56 → 00:04:59 ครับแต่แน่นอนถ้าเกิดว่าท่านรู้สึกว่าถ้า
00:04:59 → 00:05:01 เรากินเข้าไปนานๆตลอดชีวิตเนี่ยมันมีการ
00:05:01 → 00:05:05 สะสมนะครับก็กลัวว่าอาจจะเกิดปัญหาใน
00:05:05 → 00:05:08 อนาคตได้ท่านจะเลี่ยงเกลือชนิดนี้ไปก่อน
00:05:08 → 00:05:10 ก็ได้นะครับเกลือที่วางขายทั่วๆไปเรียก
00:05:10 → 00:05:12 ว่า Table for ท่านจะเลี่ยงไปเลยก็ได้นะ
00:05:12 → 00:05:15 ครับอ่างั้นก็แล้วแต่คนนะครับแต่อย่างไร
00:05:15 → 00:05:18 ก็ตามเราควรจะต้องจำกัดคือตั้งแต่แรกอยู่
00:05:18 → 00:05:20 แล้วดังนั้นการถ้าถ้าเราจำกัดเกลือแต่แรก
00:05:20 → 00:05:22 อยู่แล้วไม่ว่าจะเป็นเกลือชนิดไหนมันก็
00:05:22 → 00:05:24 ไม่มีปัญหาอะไรกับร่างกายเราทั้งนั้นแหละ
00:05:24 → 00:05:28 ครับนะต่อมาเป็นเกลือทะเลนะครับเกลือทะเล
00:05:28 → 00:05:31 นี่ดอกมันจะใหญ่กว่าเกลือปกติที่เรากิน
00:05:31 → 00:05:34 ที่เราซื้อนะครับไอ้เกลือทะเลเนี่ยนะครับ
00:05:34 → 00:05:38 มันก็แน่นอนว่าเอามาจากน้ำทะเลที่มันมี
00:05:38 → 00:05:40 เกลือตกผลึกนะครับมันก็จะมีส่วนประกอบที่
00:05:40 → 00:05:43 แตกต่างไปจากเกลือโต๊ะธรรมดาเกลือช้อน
00:05:43 → 00:05:46 ธรรมดานะครับพวกนี้เนี่ยมันก็จะมีส่วน
00:05:46 → 00:05:49 ประกอบเช่นมีแมกนีเซียมมีแคลเซียมมีผล
00:05:49 → 00:05:50 แคลเซียมอยู่ในนั้นนะครับเป็นเกลือแร่แต่
00:05:51 → 00:05:52 มันเป็นเพียงเล็กน้อยนะครับไม่ได้มีความ
00:05:52 → 00:05:55 สลักสำคัญอะไรมากขนาดนั้นนะครับนอกเหนือ
00:05:55 → 00:05:58 จากนี้เกลือที่มันมาจากทะเลเนี่ยเขายังมี
00:05:58 → 00:06:01 การศึกษาพบว่ามันมีสารปนเปื้อนอันหนึ่งก็
00:06:01 → 00:06:04 คือไมโครพลัสติกก็คือพลาสติกเม็ดเล็กๆนี่
00:06:04 → 00:06:07 แหละครับที่มันมาจากเทคโนโลยีพลาสติกของ
00:06:07 → 00:06:09 มนุษย์ที่เราทำเนี่ยแล้วทิ้งลงไปในทะเล
00:06:09 → 00:06:11 หรือด้วยอะไรก็แล้วแต่นะครับมันก็อาจจะมี
00:06:12 → 00:06:14 การปนเปื้อนได้นะครับแต่มีงานวิจัยหลาย
00:06:14 → 00:06:17 งานแล้วนะครับพบว่าการป่นเปื้อนของ
00:06:17 → 00:06:20 ไมโครพลัสติกเนี่ยไม่ได้เยอะถึงขั้นที่จะ
00:06:20 → 00:06:22 ก่อให้เกิดปัญหาต่อสุขภาพของเราได้นะครับ
00:06:22 → 00:06:25 แต่แน่นอนอย่างที่ผมบอก
00:06:25 → 00:06:27 สายสุขภาพเรากังวลกับเรื่องไมโครพลาสติก
00:06:27 → 00:06:30 มากๆนะครับท่านก็อาจจะเลือกไปกินเกลือที่
00:06:30 → 00:06:34 มันไม่ใช่เกลือมาจากทะเลก็ได้นะครับแล้ว
00:06:34 → 00:06:36 ขอเสริมความรู้ให้อีกนิดนึงมีคนไปศึกษา
00:06:36 → 00:06:41 ครับว่าเกลือทะเลที่ไหนมีไมโครพลาสติกสูง
00:06:41 → 00:06:43 ที่สุดและที่ไหนมีต่ำที่สุดเขาพบว่า
00:06:43 → 00:06:48 บังเอิญเกลือทะเลที่อยู่ในแถบของประเทศ
00:06:48 → 00:06:52 เอเชียมีไมโครพลาสติกสูงสุดครับและที่ต่ำ
00:06:52 → 00:06:55 ที่สุดคือเรือทะเลที่ประเทศฝรั่งเศสนะ
00:06:55 → 00:06:57 ครับดูไฮโซถ้าเรากินเกลือฝรั่งเศสเราก็จะ
00:06:57 → 00:07:00 ได้ไมโครพลาสติกน้อยนะครับไปกดพลาสติกที่
00:07:00 → 00:07:02 เขาดูเนี่ยอย่างที่บอกคือ
00:07:02 → 00:07:04 มันไม่ได้อันตรายถึงขั้นทำให้เกิดปัญหา
00:07:04 → 00:07:06 ต่อร่างกายนะครับแต่แน่นอนถ้าคนกังวลมากๆ
00:07:06 → 00:07:08 เค้ากลัวว่าเอ๊ะ Micro Plus เนี่ยมันอาจ
00:07:08 → 00:07:12 จะไปดูดซับสารยาฆ่าแมลงต่างๆสารเคมีเอามา
00:07:12 → 00:07:14 ไว้กับตัวมันนะครับแล้วเวลาเรากินเข้าไป
00:07:14 → 00:07:16 มันก็ปล่อยออกมาทำให้เราได้รับสารพวกนั้น
00:07:16 → 00:07:19 ไปด้วยนะครับก็เลยเป็นการบอกว่าเฮ้ยอย่า
00:07:19 → 00:07:21 ไปกินเผื่อพวกนั้นนะครับซึ่งจริงๆผมก็
00:07:21 → 00:07:24 ต้องบอกอย่างนี้ครับว่าปริมาณหนึ่งมัน
00:07:24 → 00:07:26 น้อยมากอันที่ 2 ท่านควรจะจำกัดเหลือตั้ง
00:07:26 → 00:07:28 แต่แรกอยู่แล้วนะครับถ้าท่านจำกัดเหลือ
00:07:28 → 00:07:30 ตั้งแต่แรกนะครับไม่ได้กินเกลือเยอะอยู่
00:07:30 → 00:07:33 แล้วตั้งแต่แรกท่านไม่มีความจำเป็นจะต้อง
00:07:33 → 00:07:35 กังวลเรื่องนี้เลยนะครับแต่ถ้าท่านยัง
00:07:35 → 00:07:37 กังวลอยู่ท่านก็เลี่ยงไม่ต้องกินเกลือ
00:07:37 → 00:07:39 ทะเลเท่านั้นเองนะครับง่ายๆนะฮะ
00:07:39 → 00:07:43 ทีนี้มาถึงตัวพระเอกของเรากันดีกว่าคือ
00:07:43 → 00:07:45 เกลือชมพูหรือเกลือหิมาลายันนั่นเองนะ
00:07:45 → 00:07:47 ครับเรือชมพูเนี่ยมันก็แน่นอนว่ามาจาก
00:07:48 → 00:07:51 เทือกเขาหิมาลายันที่เขาไปเอามาจากตรงภู
00:07:51 → 00:07:53 เขานะครับพวกนี้มันก็จะไม่มีไอโอดีนอยู่
00:07:53 → 00:07:55 ในนั้นแน่นอนนะครับแล้วการที่มันมีสีออก
00:07:55 → 00:07:57 ชมพูหรือออกแดงนิดหน่อยเนี่ยมันเป็นเพราะ
00:07:57 → 00:08:00 ว่ามันมีธาตุเหล็กอยู่ในนั้นนะครับธาตุ
00:08:00 → 00:08:02 เหล็กที่มันมีไม่ได้มีเยอะมากจนกระทั่งมี
00:08:02 → 00:08:04 ความสละสำคัญแต่อย่างใดอย่างที่บอกนะครับ
00:08:04 → 00:08:07 คือถ้าเกิดว่าเราไปได้ยินมาบอกว่าเกลือ
00:08:07 → 00:08:10 หิมาลายันนะมันมีแร่ธาตุอย่างอื่นเยอะแยะ
00:08:10 → 00:08:13 ไปหมดนะครับแล้วมันดีต่อสุขภาพเราเพราะ
00:08:13 → 00:08:16 ว่าแร่ธาตุที่มันมีอันเนี้ยเป็นคำกล่าว
00:08:16 → 00:08:18 ที่ไม่ถูกต้องนะครับเพราะว่าปริมาณมัน
00:08:18 → 00:08:20 น้อยมากจนกระทั่งไม่มีความสลักสำคัญแต่
00:08:21 → 00:08:23 อย่างใดเพราะว่าไอ้ของแบบนั้นเนี่ยเราได้
00:08:23 → 00:08:25 มาจากอาหารทั่วๆไปของเราอยู่แล้วนะครับ
00:08:25 → 00:08:27 ดังนั้นเรื่องนี้เนี่ยไม่มีความเป็นจริง
00:08:27 → 00:08:29 แต่อย่างใดนะครับแต่แน่นอนเกลือหิมาลายัน
00:08:29 → 00:08:32 เนี่ยเนื่องจากมันเอามาจากภูเขามันไม่ได้
00:08:32 → 00:08:34 เอามาจากทะเลดังนั้นโอกาสที่มันจะปน
00:08:34 → 00:08:37 เปื้อนไมโครพลาสติกเนี่ยไม่มีนะครับไม่มี
00:08:37 → 00:08:39 เพราะว่าทีมอะไรเนี่ยตอนนั้นเนี่ยมนุษย์
00:08:39 → 00:08:41 สัญชาติของเราเนี่ยยังไม่ได้มีเทคโนโลยี
00:08:41 → 00:08:43 เกี่ยวข้องกับพลาสติกไปยุ่งอะไรกับตรงภู
00:08:43 → 00:08:46 เขาดังนั้นการที่เอาเกลือมาจากตรงภูเขาก็
00:08:46 → 00:08:49 จะไม่มีการปนเปื้อนของไมโครพลาสติกถ้า
00:08:49 → 00:08:51 เกิดว่าเป็นสายสุขภาพที่แค่นิดหน่อยก็ไม่
00:08:51 → 00:08:54 ได้อ่ะท่านก็เลือกกินเกลือหิมาลายันละกัน
00:08:54 → 00:08:58 นะครับตรงนี้ก็อาจจะดีกว่าอ่าต่อมามีคน
00:08:58 → 00:09:00 บอกว่าเราเกลือดำล่ะเกลือดำมันคืออะไร
00:09:00 → 00:09:04 ทำไมมันถึงดำนะครับเกลือดำเนี่ยมันมาจาก
00:09:04 → 00:09:08 ภูเขาไฟนะครับแล้วสาเหตุที่มันกลายเป็นสี
00:09:08 → 00:09:10 ดำเพราะว่าในนั้นมันมีผงถ่านกำมะโดยที่
00:09:10 → 00:09:13 เราเรียกว่า activated ผมทานดำๆของเรานี่
00:09:13 → 00:09:15 แหละครับผสมอยู่กับตัวเกลือซึ่งเป็น
00:09:15 → 00:09:17 โซเดียมคลอไรด์นะครับ
00:09:17 → 00:09:20 ตัวนี้มันก็อาจจะให้รสชาติที่แตกต่างไป
00:09:20 → 00:09:23 จากเกลือธรรมดานิดหน่อยนะครับแล้วก็มันมี
00:09:23 → 00:09:25 เกลือดำจากหลายที่ยกตัวอย่างเช่นเรือดำ
00:09:25 → 00:09:28 ที่ฮาวายนะครับเกลือดำที่ไอซ์แลนด์นะครับ
00:09:28 → 00:09:30 อย่างนี้เป็นต้นก็อาจจะรสชาติแตกต่างจาก
00:09:30 → 00:09:33 เกลือธรรมดาตรงนี้ก็ต้องแล้วแต่คนที่เขา
00:09:33 → 00:09:35 ปรุงอาหารแล้วครับว่าจะเอาเกลือชนิดไหนมา
00:09:35 → 00:09:37 ใช้นะครับแน่นอนส่วนประกอบหลักของมันก็
00:09:37 → 00:09:40 ยังคงเป็นโซเดียมคลอไรด์เช่นเดิมนะครับ
00:09:40 → 00:09:43 ทีนี้มันจะมีอ่าเกลือดำอีกชนิดนึงที่
00:09:43 → 00:09:47 อินเดียที่ผมจำได้เพราะว่าลักษณะของมัน
00:09:47 → 00:09:49 เนี่ยมันจะไม่เหมือนเกลือดำของประเทศอื่น
00:09:49 → 00:09:52 แล้วมันก็จะมีกลิ่นเฉพาะตัวมากเพราะว่ามี
00:09:52 → 00:09:55 สารซัลเฟตอยู่ในนั้นนะครับก็กลิ่นมันจะ
00:09:55 → 00:09:57 ออกกรรมฐานนิดนึงนะครับแล้วไอ้เนี่ยมัน
00:09:57 → 00:10:00 เอามาประกอบอาหารอินเดียบางชนิดได้ซึ่งผม
00:10:00 → 00:10:02 ก็จำไม่ได้ว่าอาหารอะไรที่เขาใช้แล้วผม
00:10:02 → 00:10:04 เคยถามเพื่อนที่เป็นคนอินเดียเขาก็ใช้
00:10:04 → 00:10:08 เกลือดำตัวนี้เหมือนกันนะครับมันมีเอ่อมี
00:10:08 → 00:10:10 ชื่อน่าจะเรียกว่าอ่าคารานะครับ
00:10:10 → 00:10:13 คาลานามรรคเนี่ยมันเป็นไอ้เรือดำของคน
00:10:13 → 00:10:15 อินเดียนะฮะผมเป็นเพื่อนนิดเดียวก็ใช้กัน
00:10:15 → 00:10:18 เหมือนกันตรงนี้ก็แล้วแต่คนนะครับคนชอบคน
00:10:18 → 00:10:20 ไม่ชอบก็ต้องไปดูกันเอาเองนะครับไม่ได้มี
00:10:20 → 00:10:22 ความวิเศษวิโสอะไรมากกว่าเกราะเกลือ
00:10:22 → 00:10:23 ธรรมดาแล้วส่วนประกอบหลักก็เป็น
00:10:23 → 00:10:26 โซเดียมคลอไรด์เหมือนเดิมแค่มี activated
00:10:26 → 00:10:28 หรือไอ้ตัวผงถ่านกับมันให้รสชาติที่มัน
00:10:28 → 00:10:30 อาจจะแปลกๆไปนิดหน่อยเท่านั้นเองนะครับ
00:10:30 → 00:10:34 ดังนั้นไม่ได้ดีเพิ่มจากเดิมเมื่อเทียบ
00:10:34 → 00:10:37 กับเกลือธรรมดาทั่วไปนะครับอ่านอกเหนือ
00:10:37 → 00:10:38 จากนี้มันยังมีเกลือพิเศษอีกหลายอย่าง
00:10:38 → 00:10:42 เช่นที่ฮาวายเนี่ยมันจะมีเกลืออันนึงเป็น
00:10:42 → 00:10:44 สีแดงอ่าอันนี้อาจจะไม่เคยมีคนเห็นเท่า
00:10:44 → 00:11:22 ไหร่นะครับเกลือแดงตรงนี้
00:11:22 → 00:11:25 ถ้าใครผ่านไปฮาวายก็ไปลองดูก็ได้นะครับ
00:11:25 → 00:11:28 มันมี Red aliece แปลกดีนะครับสวยดีผมก็
00:11:28 → 00:11:31 เคยผมก็เคยซื้อมาเล่นเมื่อนานมาแล้วนะ
00:11:31 → 00:11:33 ครับตอนนี้ก็หายไปไหนแล้วไม่รู้นะครับก็
00:11:33 → 00:11:35 ไม่ได้ใช้ต่อนะครับ
00:11:35 → 00:11:38 ถามว่ามีเกลืออย่างอื่นอีกไหมมีครับเยอะ
00:11:38 → 00:11:40 แยะเลยยกตัวอย่างเช่นเกลือทรัฟเฟิลนะครับ
00:11:40 → 00:11:42 คือเขาเอาเกลือนี่แหละครับมาผสมกับเห็ด
00:11:42 → 00:11:45 ทรัฟเฟิลซึ่งมันแพงๆนี่แหละครับมันจะทำ
00:11:45 → 00:11:47 ให้เกลือตัวนี้มันมีกลิ่นของตัวเห็ด
00:11:47 → 00:11:49 ทรัฟเฟิลก็จะทำให้เป็นเกลือไฮโซแล้วจริงๆ
00:11:49 → 00:11:51 เกลือทรัฟเฟิลเนี่ยมันเป็นเกลือที่แพงที่
00:11:51 → 00:11:52 สุดในโลกและตอนนี้เพราะว่าไอ้เห็ด
00:11:52 → 00:11:54 ทรัฟเฟิลเนี่ยมันแพงนะครับการที่เอามาผสม
00:11:54 → 00:11:56 กันพวกนี้ก็จะดีขึ้นนะฮะ
00:11:56 → 00:12:00 เกลือที่ผมกล่าวมาถ้าไม่นับเกลือที่ใช้ใน
00:12:00 → 00:12:02 ชีวิตประจำวันที่เราซื้อตาม
00:12:02 → 00:12:04 ซุปเปอร์มาเก็ตได้เนี่ยทั้งหมดไม่มีสาร
00:12:04 → 00:12:06 แอนตี้เคดกิ้งนะครับไม่มีสารแอฟริกาจึง
00:12:06 → 00:12:10 ไม่มีไอ้พวกอลูมิเนียม silicate นะครับ
00:12:10 → 00:12:12 แคลเซียมซิลิเกตหรือว่าพวก macism
00:12:12 → 00:12:13 คาร์บอเนตอะไรพวกนี้ไม่มีนะครับดังนั้น
00:12:13 → 00:12:16 ถ้าเกิดคนไหนที่กลัวของพวกนี้ก็กินเกลือ
00:12:16 → 00:12:17 อย่างอื่นที่ไม่ใช่เกลือช้อนโต๊ะเกลือ
00:12:17 → 00:12:20 บ้านที่เรามีกันทั่วๆไปนะครับอ่าตัวนี้ก็
00:12:20 → 00:12:23 จะเป็นเกลืออย่างอื่นอีกนะครับทีนี้เมื่อ
00:12:23 → 00:12:25 กี้ที่ผมบอกว่าให้เกลือที่ฝรั่งเศสเนี่ย
00:12:25 → 00:12:29 มันทำไมวิเศษวิโสนักหนานะครับคือเกลือที่
00:12:29 → 00:12:31 ฝรั่งเศสเขาก็จะมีวิธีในการเก็บเกลือของ
00:12:31 → 00:12:33 เขาในการทำเกลือของเขาที่ไม่เหมือนกับ
00:12:33 → 00:12:35 ประเทศอื่นๆโดยที่เขาอ้างว่าเออมันเป็น
00:12:35 → 00:12:37 วิธีดั้งเดิมของเขานะครับแล้วก็อย่างที่
00:12:37 → 00:12:39 เราสร้างจากงานวิจัยว่า
00:12:39 → 00:12:42 ทะเลที่ฝรั่งเศสที่เขาเก็บไอ้เรือพวกนี้
00:12:42 → 00:12:45 มันมีปริมาณสารไมโครพลาสติกต่ำที่สุดใน
00:12:45 → 00:12:47 โลกนะครับ
00:12:47 → 00:12:50 ดังนั้นอาจจะแพ้เกลือหิมาลายันอย่างหนึ่ง
00:12:50 → 00:12:53 นะครับแต่ว่ามันมีเกลือที่ฝรั่งเศสอยู่
00:12:53 → 00:12:55 หลายอย่างมากเลยนะครับที่เป็นสุดยอดของ
00:12:55 → 00:12:57 เกลือเช่นเกลือ celtic หรือบางคนอ่านว่า
00:12:57 → 00:13:00 celtic ก็ได้นะครับเหมือนเหมือนไพ่
00:13:00 → 00:13:02 เซลติกนะครับบางคนก็อ่านไพ่โชตินะครับตัว
00:13:02 → 00:13:05 เดียวกันเลยพวกนี้มันเอามาจากที่ฝรั่งเศส
00:13:05 → 00:13:07 ก็จะเป็นเกลือทะเลชนิดหนึ่งเหมือนกันนะ
00:13:07 → 00:13:10 เกลือ teltic อ่าเกลือ
00:13:10 → 00:13:13 มีอันนึงชื่อ socrist นะครับ socris แล้ว
00:13:13 → 00:13:15 ก็ fer The Saw นะครับ 3 ตัวเนี่ยเป็น
00:13:15 → 00:13:17 ของฝรั่งเศสแล้วมันก็จะราคาค่อนข้างสูง
00:13:17 → 00:13:19 นิดนึงนะครับโดย
00:13:19 → 00:13:21 ตัว celtic เนี่ยตัวนี้อาจจะแพงหน่อยแล้ว
00:13:21 → 00:13:24 ก็เฟอร์เดอะซอก็แพงเหมือนกันนะครับคือไอ้
00:13:24 → 00:13:25 เกลือของฝรั่งเศสทั้งหมดเนี่ยนะครับ
00:13:25 → 00:13:27 เนื่องจากว่ามันมีไมโครพลาสติกต่ำแล้วก็
00:13:27 → 00:13:30 ลักษณะของมันจะเป็นเป็นเม็ดที่ใหญ่ขึ้นมา
00:13:30 → 00:13:33 นิดนึงนะครับบางคนที่ทำอาหารเก่งๆแล้วเขา
00:13:33 → 00:13:35 จะเลือกเกลือดีๆนะเขาก็อาจจะไปเลือกเรือ
00:13:35 → 00:13:37 จากฝรั่งเศสซึ่งมันราคาสูงกว่าปกติก็ได้
00:13:37 → 00:13:40 หรือบางคนก็อาจจะอยากจะใช้เกลือทรัฟเฟิล
00:13:40 → 00:13:43 มาทำอาหารก็ได้เพราะว่ามันดูมีส่วนผสมของ
00:13:43 → 00:13:46 ไอ้ตัวเห็ดทรัฟเฟิลนะครับเนี่ยก็คือเป็น
00:13:46 → 00:13:49 เกลือหลายๆชนิดพิเศษที่เราเอามาคุยให้ฟัง
00:13:49 → 00:13:53 กันนะครับงั้นโดยสรุปแล้วนะครับเกลือนะ
00:13:53 → 00:13:57 ครับทุกอย่างในโลกนี้มีส่วนผสมหลักก็คือ
00:13:57 → 00:13:59 โซเดียมคลอไรด์นั่นเองการที่มันมีสีที่
00:13:59 → 00:14:02 แตกต่างกันก็เพราะว่ามันมีส่วนผสมอื่นยก
00:14:02 → 00:14:04 ตัวอย่างเช่นหิมาลายันนะครับที่เป็นชมพู
00:14:04 → 00:14:07 เพราะมีธาตุเหล็กนะครับเรือเรดอะไรอันนี้
00:14:07 → 00:14:08 ธาตุเหล็กเยอะนิดนึงก็อาจจะออกเป็นสีแดงๆ
00:14:08 → 00:14:11 นะครับเป็นอ่าเป็นเหล็กออกไซด์ค่อยออกแดง
00:14:11 → 00:14:14 ๆนิดนึงนะครับเรือดำก็จะมีผงถ่านกำมันผสม
00:14:14 → 00:14:17 อยู่ในนั้นอย่างนี้เป็นต้นนะครับอ่า
00:14:17 → 00:14:20 ปริมาณเกลือเราควรจะต้องจำกัดอยู่ดีนะ
00:14:20 → 00:14:22 ครับแต่ถ้าเกิดว่าคนไหนอยากจะเชื่อ
00:14:22 → 00:14:24 influencer ที่บอกว่ากินเยอะๆแล้วไม่
00:14:24 → 00:14:25 เป็นไรกินแล้วยิ่งดีอันนั้นแล้วแต่ท่านนะ
00:14:25 → 00:14:27 ครับถ้าเป็นตัวผมถ้าเป็นพ่อแม่ผมผมจะแนะ
00:14:27 → 00:14:30 นำว่าอย่าไปทำแบบนั้นนะเพราะว่าเรารู้ดี
00:14:30 → 00:14:33 กันในวงการการแพทย์เรารู้ดีว่าไอ้ของพวก
00:14:33 → 00:14:35 นี้มันไม่ดีต่อร่างกายยังไงเรารู้ดีว่าคน
00:14:35 → 00:14:38 ที่กินเกลือเยอะเกินไปแล้วสุดท้ายมานอน
00:14:38 → 00:14:40 ป่วยอยู่ที่โรงพยาบาลมันเป็นยังไงเพราะ
00:14:40 → 00:14:42 ว่าตอนที่เขาป่วยเขาไม่มีใครไปหา
00:14:42 → 00:14:44 enfluencer คนนั้นสักคนเขามาที่โรง
00:14:44 → 00:14:47 พยาบาลกันนะครับเราก็เอ่อก็ต้องดูแลกันไป
00:14:47 → 00:14:49 นะครับดังนั้นจำกัดปริมาณเกลือนะครับ
00:14:49 → 00:14:51 เกลือแต่ละชนิดไม่ได้มีความแตกต่างอะไร
00:14:51 → 00:14:53 กันมากขนาดนั้นนะครับทุกอย่างก็คือ
00:14:53 → 00:14:56 โซเดียมคลอไรด์แต่ถ้าท่านเป็นคนที่คิด
00:14:56 → 00:14:59 เยอะอ่าเล็กๆน้อยๆก็ไม่ได้นะครับไม่
00:14:59 → 00:15:00 ต้องการไมโครพลาสติกเลยท่านก็กินเกลือ
00:15:00 → 00:15:03 หิมาลายันที่เป็นสีชมพูนะครับหรือเกลือ
00:15:03 → 00:15:05 อะไรที่ไม่ได้แม่น้ำจากทะเลถ้าท่านจะกิน
00:15:05 → 00:15:07 เกลือที่มาจากทะเลทั้งก็ต้องเลือกเกิดจาก
00:15:07 → 00:15:11 ฝรั่งเศสเช่นเรือเซลติกเอ่อเกลือ socress
00:15:11 → 00:15:13 นะครับเกือบโซนอย่างนี้เป็นต้นของ
00:15:13 → 00:15:15 ฝรั่งเศสนะฮะท่านก็ไปกินพวกนั้นแทนนะครับ
00:15:15 → 00:15:18 ถ้าเป็นเกลือสมุทรเราแน่นอนว่าประเทศแถบ
00:15:18 → 00:15:21 เอเชียมีส่วนผสมของไมโครพลาสติกสูงกว่า
00:15:21 → 00:15:23 ที่อื่นนะครับแล้วก็เกลือที่เป็นช้อนโต๊ะ
00:15:23 → 00:15:26 ที่ขายทั่วๆไปตรงนี้ก็มีสารแอนตี้เคคกิ้ง
00:15:27 → 00:15:29 ซึ่งบางคนก็ไม่อยากได้เลยอันนี้ก็แล้วแต่
00:15:29 → 00:15:31 ท่านท่านก็ไม่ต้องกินก็ได้นะครับหรือถ้า
00:15:31 → 00:15:35 ท่านอ่ากลัวการผสมของไอโอดีนท่านจะไม่เอา
00:15:35 → 00:15:37 เลยก็ได้เหมือนกันนะฮะนอกเหนือจากนี้มัน
00:15:37 → 00:15:39 ก็มีเกลืออย่างอื่นอีกอย่างที่ผมยังไม่
00:15:39 → 00:15:41 ได้พูดถึงยกตัวอย่างเช่นเกลือ
00:15:41 → 00:15:43 พริกเกลือ
00:15:43 → 00:15:46 ทุกๆอย่างเดิมอ่ะครับคือไม่ว่าท่านจะกิน
00:15:46 → 00:15:48 เกลือตัวไหนเนี่ย
00:15:48 → 00:15:50 มันโซเดียมคลอไรด์หมดเหมือนกันนะครับแต่
00:15:51 → 00:15:53 ว่ามันอาจจะให้รสชาติที่แตกต่างกันไปบ้าง
00:15:53 → 00:15:55 แล้วก็ลักษณะพื้นผิวของมันที่แตกต่างกัน
00:15:55 → 00:15:57 ไปดังนั้นการเลือกเรือเนี่ยบางคนเขาจะ
00:15:57 → 00:15:59 เลือกแบบว่าเราเอาไปทำอาหารอะไรเรามีความ
00:15:59 → 00:16:01 เชี่ยวชาญประมาณไหนเราจะต้องการให้รสชาติ
00:16:01 → 00:16:04 ประมาณไหนให้มันมีความขรุขระเนื้อหยาบของ
00:16:04 → 00:16:07 เกลือแค่ไหนตรงนั้นต้องไปถามคนที่ทำทำ
00:16:07 → 00:16:09 อาหารเก่งและถามผมแล้วผมก็ไม่รู้นะครับ
00:16:09 → 00:16:11 เพราะว่าเกลือของผมเนี่ยผมปกติไม่กิน
00:16:11 → 00:16:13 เกลืออยู่แล้วนะครับไม่ค่อยได้ใส่อะไรลง
00:16:13 → 00:16:17 ไปในอาหารนะฮะอันนั้นไม่มีเกลือในดีกว่า
00:16:17 → 00:16:20 เกลือใดนะครับแล้วก็อย่าไปกินเยอะนะครับ
00:16:20 → 00:16:22 การกินเข้าไปเพิ่มไม่ได้ทำให้สุขภาพของ
00:16:22 → 00:16:25 ท่านดีเพิ่มขึ้นแต่อย่างใดแต่บางครั้งบาง
00:16:25 → 00:16:27 ครั้งมันจะทำให้สุขภาพของท่านแย่ลงกว่า
00:16:27 → 00:16:29 เดิมนะครับดังนั้นจำกัดปริมาณเกลือนะครับ
00:16:29 → 00:16:32 เกลือชมพูเกลือดำไม่ได้ดีไปกว่าเกลืออื่น
00:16:32 → 00:16:35 ๆมันอาจจะอร่อยกว่าเรือนอื่นตามแล้วแต่คน
00:16:36 → 00:16:38 คิดนะครับโอเควันนี้ก็มาให้ความกระจ่าง
00:16:38 → 00:16:40 ประมาณนี้นะครับถ้าใครมีอะไรสงสัยหรือ
00:16:40 → 00:16:42 เพิ่มเติมก็เขียนข้อความมาได้นะครับ
00:16:42 → 00:16:46 ขอบคุณมากครับสวัสดีครับ