00:00:00 → 00:00:13 [เพลง]
00:00:13 → 00:00:15 สวัสดีครับพี่หมอ
00:00:15 → 00:00:22 สวัสดีครับผมเกือบไม่ได้ไลฟ์วันนี้ฮะ
00:00:22 → 00:00:24 เพื่อนกันอย่างนี้
00:00:24 → 00:00:27 ติดขัดนิดนึงเดี๋ยววันนี้เราคุยเรื่อง
00:00:27 → 00:00:40 อะไรดีครับ
00:00:40 → 00:00:54 [เพลง]
00:00:54 → 00:00:57 หรือส่วนที่จะต้องโฟกัสเรื่องอินซูลินใน
00:00:57 → 00:01:00 แง่ของ clinical Package เพื่อจะเอามา
00:01:00 → 00:01:03 ใช้แล้วก็เอามาทำความเข้าใจ
00:01:03 → 00:01:07 มันก็จะต้องรู้ยิบยิบย่อยๆพอสมควร
00:01:07 → 00:01:11 จะเห็นว่าในหลายๆเรื่องหลายๆเรื่องในการ
00:01:11 → 00:01:15 นำมาอธิบายมันก็จะเริ่มต้นของความผิดปกติ
00:01:15 → 00:01:19 หรืออะไรก็ตามเนี่ยนะมันเริ่มที่อินซูลิน
00:01:19 → 00:01:22 มันจะเริ่มที่เรื่องจะเป็นพลังงานนี้จะ
00:01:22 → 00:01:27 เป็นสารอาหารจะเป็นคอเลสเตอรอลจะเป็นอับ
00:01:27 → 00:01:31 เป็นไขมันอะไรก็ตามมันก็อันแรกเลยคือ
00:01:31 → 00:01:34 คู่กับพลังงานอยู่แล้ว
00:01:34 → 00:01:37 จะรู้เรื่องอะไรกันบ้างแต่ว่าวันนี้ก็บอก
00:01:37 → 00:01:41 ว่าเรื่องอินซูลินจะเป็นเรื่องเรื่องใน
00:01:41 → 00:01:45 ช่วงในวันนี้นะก็จะยากนิดนึง
00:01:45 → 00:01:50 เราต้องฟังกันดีๆแล้วก็ลองทบทวนดู
00:01:50 → 00:01:53 หมอเริ่มที่สไลด์อันแรกเนี่ยนะ
00:01:53 → 00:01:57 จะบริจาคจริงนะฮะการยืดหยุ่นนั้นพลังงาน
00:01:57 → 00:01:58 เนี่ย
00:01:58 → 00:02:01 แต่ว่าเอ่อเดี๋ยวเราคุยเรื่องอินซูลิน
00:02:01 → 00:02:04 ก่อนนะฮะ
00:02:04 → 00:02:06 ทีนี้คนเราเนี่ยมันก็มี 2 เรื่องอ่ะ
00:02:06 → 00:02:09 เรื่องกินกับมีกลิ่นเลยช่วงไม่กินก็แล้ว
00:02:09 → 00:02:14 แต่จะไปนอนไม่ออกกำลังกายหรือจะไปอ่ามี
00:02:14 → 00:02:17 กิจกรรมอะไรก็ว่าไปนะ
00:02:17 → 00:02:20 ฮะนะ
00:02:20 → 00:02:23 แล้วก็ช่วงในการกินกับไม่กินเนี่ยนะก็
00:02:24 → 00:02:30 เรียกว่า
00:02:30 → 00:02:37 สัดส่วนมันก็ต้องมีความต่างแตกต่างกันนะ
00:02:37 → 00:02:41 จุดประสงค์ของหมอในการตั้งกลุ่มสุขภาพแนว
00:02:41 → 00:02:44 นี้นะหมอจะเน้นในเรื่องของการกินแบบ 2
00:02:44 → 00:02:47 มื้อนะฮะ
00:02:47 → 00:02:51 ซึ่งมันจะเป็นการกินในระยะยาวแล้วก็การ
00:02:51 → 00:02:55 ที่ทำให้ให้ Healthy Life ของเราเนี่ย
00:02:55 → 00:02:59 มันค่อนข้างค่อนข้างปฏิบัติได้แล้วก็ลง
00:02:59 → 00:03:06 ตัวได้ในระยะยาวๆ
00:03:06 → 00:03:10 กับมือหลังซึ่งเป็นมื้อเย็น
00:03:10 → 00:03:13 กับมื้อเย็นแล้วก็พูดกันชินป่าอย่างเงี้ย
00:03:13 → 00:03:14 นะ
00:03:14 → 00:03:21 ในระบบพลังงานเนี่ยของการกินกับไม่กิน
00:03:21 → 00:03:23 เขาก็บอกว่า
00:03:23 → 00:03:26 กินเนี่ยมันกินถูกกินเป็นหรือกินไม่เป็น
00:03:26 → 00:03:32 กินมั่วหรือกินซีซัว
00:03:32 → 00:03:37 ถ้ากินถูกกินดีกินเป็นนะสุขภาพมันก็ดี
00:03:37 → 00:03:42 แต่ถ้ากินไม่เป็นกินมั่วกินซี้ซั้วเราก็
00:03:42 → 00:03:44 ป่วย
00:03:44 → 00:03:47 เพราะความเจ็บป่วยส่วนใหญ่แล้วมันจะมี
00:03:47 → 00:03:50 อิทธิพลมาจากเรื่องการกินโดยเฉพาะในยุค
00:03:50 → 00:03:52 ปัจจุบัน
00:03:52 → 00:03:57 แล้วก็กระบวนการทางด้านพลังงานที่เป็นที่
00:03:57 → 00:03:59 เกี่ยวกับเรื่องการกินแล้วก็ไปทำให้เกิด
00:03:59 → 00:04:02 ความเจ็บป่วยนะถ้าเกิดกินแล้วดีกินแล้ว
00:04:02 → 00:04:07 สุขภาพดีอันนี้ก็ไม่ต้องไปพูดเนี่ยนะ
00:04:07 → 00:04:10 เพราะอะไรเพราะว่ากระบวนการในเรื่องของ
00:04:10 → 00:04:12 การกินเนี่ยร่างกายก็จะมีการ
00:04:12 → 00:04:16 สะสมพลังงานเนี่ยการเจริญเติบโต
00:04:16 → 00:04:20 การดีโมรีชัน
00:04:20 → 00:04:24 เจริญเติบโตการเก็บสะสม
00:04:24 → 00:04:27 ฝั่งนี้เป็นฝั่ง feed นะ feed
00:04:27 → 00:04:31 หรือที่เข้าบางคนเขาก็เรียกว่าฝั่ง
00:04:31 → 00:04:34 อาณาบอลิคอนาถสเปค
00:04:34 → 00:04:38 ตรงกันข้ามนะอีกช่วงนึงก็คือเป็นช่วงการ
00:04:38 → 00:04:40 ไฟฟ้าเตะนะ
00:04:40 → 00:04:44 การงดการเว้นระยะการกินอาหารการจัด
00:04:44 → 00:04:48 ช่วงเวลาในการกินอาหารซึ่งช่วงแบบนี้ของ
00:04:48 → 00:04:53 คนเราใน timing ใน 1 วันก็จะต้องมากกว่า
00:04:53 → 00:04:58 ในช่วงที่จะมีการกินสักประมาณ 2 เท่าขึ้น
00:04:58 → 00:04:59 ไปนะ
00:04:59 → 00:05:21 อย่างเช่นทั่วๆไปเราก็ 16-8
00:05:21 → 00:05:26 กินอากาศอย่างเดียวนะฮะนะแต่ของอื่นๆใน
00:05:26 → 00:05:28 รูปแบบอื่นๆกินไม่ได้หมดนะ
00:05:28 → 00:05:32 แต่ฟ้าก็จะต้องทำเมื่อเราเป็นแซด adap
00:05:32 → 00:05:36 แล้วนะเราก็จะทำในช่วงตื่นนอนใหม่ๆ 1-2
00:05:36 → 00:05:38 ชั่วโมงอันนี้ถือว่ามีประโยชน์มากที่สุด
00:05:38 → 00:05:43 ของระบบการไฟฟ้าของระบบการไฟฟ้า
00:05:43 → 00:05:45 แล้วก็ Fast เนี่ยจะเป็นช่วงที่ร่างกาย
00:05:45 → 00:05:50 อ่ะมีเรื่องของเฮลตี้นะครับ
00:05:50 → 00:05:55 คนเราจะสุขภาพดีกลับมาอยู่ในช่วงของการอด
00:05:55 → 00:05:57 กันมีกลิ่น
00:05:57 → 00:06:00 ทีนี้มันเกี่ยวข้องกับอะไรบ้างในระบบของ
00:06:00 → 00:06:04 พลังงานร่างกายในช่วงที่ฟ้าเนี่ยนะร่าง
00:06:04 → 00:06:08 กายก็จะมีการสลายเผาผลาญนะร่างกายก็เอา
00:06:08 → 00:06:12 สิ่งที่สลายเผาผลาญซึ่งมักจะเป็นพลังงาน
00:06:12 → 00:06:15 แล้วแต่จะได้ขั้นไหนนะได้เป็นฟรี
00:06:15 → 00:06:18 แฟนตี้แอร์ซิสหรือได้เป็นคีโตน
00:06:18 → 00:06:21 อันนี้ก็เอาไปซ่อมแซมเอาไปปรับปรุงโครง
00:06:21 → 00:06:25 สร้างที่เสื่อมสลาย
00:06:25 → 00:06:27 หมอก็ทำหน้าแรกออกมาเปรียบเทียบให้เห็น
00:06:27 → 00:06:32 เลยนะถ้าอยากสุขภาพดีนะ
00:06:32 → 00:06:35 คุณก็ต้องเปิดสวิตซ์การฟ้าแล้วก็ปิด
00:06:35 → 00:06:37 สวิตช์
00:06:37 → 00:06:41 ให้ได้สัดส่วนตามที่บอกไปเมื่อกี้
00:06:41 → 00:06:45 ทีนี้ทั้งสองฝั่งเนี่ยนะตัวควบคุมตัวควบ
00:06:45 → 00:06:45 คุม
00:06:45 → 00:06:48 ก็คือฮอร์โมนนะ
00:06:48 → 00:06:52 อย่างฮอร์โมนในช่วงของการการ
00:06:52 → 00:06:57 จะเป็น 3 พ่อแม่ลูกสาวคนโต
00:06:57 → 00:07:01 ตัวพ่อเป็นตัวแม่คอยที่เศร้านะ
00:07:01 → 00:07:07 ครับอันนี้เขาเก็บสะสมนะแล้วก็กระตุ้นการ
00:07:07 → 00:07:12 เจริญเติบโตแบ่งตัวอะไรต่างๆนะ
00:07:12 → 00:07:16 แต่ว่าฝั่งเนี้ยบางทีในแง่ของเวลาที่เรา
00:07:16 → 00:07:20 เจ็บป่วยอ่ะเราก็ต้องถือว่าเขาสร้างไปแต่
00:07:21 → 00:07:23 เขาก็ทำลายไป
00:07:23 → 00:07:27 ทั้งหลายไปเออ
00:07:27 → 00:07:30 ถ้าเราสามารถปิดสวิตช์เขาได้หรือลดบทบาท
00:07:30 → 00:07:35 เขาได้นะเราก็จะดี
00:07:35 → 00:07:38 จะสุขภาพดี
00:07:38 → 00:07:43 ตรงข้ามอีกฝั่งนึงเนี่ยนะก็จะเป็นฝั่งการ
00:07:43 → 00:07:44 การ
00:07:44 → 00:07:47 ซ่อมแซมการเผาผลาญเรามาซ่อมแซมอันนี้ถูก
00:07:47 → 00:07:58 ควบคุมโดยฝั่งฮอร์โมนตัวลูกๆนะ
00:07:58 → 00:08:18 ลอยเป็นน้องสาวคนกลางลอย
00:08:18 → 00:08:21 อันนี้ก็ค่อนข้างจะเป็นวัยรุ่นหน่อย Tesco
00:08:21 → 00:08:22 slow
00:08:22 → 00:08:28 แล้วก็เล็กสุดเลยก็คืออดีต
00:08:29 → 00:08:34 เป็นฝั่งที่มีบทบาทในการสลายและซ่อมแซม
00:08:34 → 00:08:54 ร่างกายเป็นฝ่ายที่เราอยากจะได้
00:08:54 → 00:08:59 แทบจะทุกตัวเลยนะหดหัวหมดออกไม่ได้ฮะออก
00:08:59 → 00:09:02 ไม่ได้นะเขากลัวพ่อดุ
00:09:02 → 00:09:05 โดยเฉพาะออกมาแบบดุๆ
00:09:05 → 00:09:10 หรือแม่มาคอร์ติซอลมานะฝั่งนี้ก็จะหดหมด
00:09:10 → 00:09:12 เลย
00:09:12 → 00:09:20 ไม่มานะ
00:09:20 → 00:09:29 ครับแต่ถ้าข้อที่เข้ามาแล้วไม่ดูนะ
00:09:29 → 00:09:33 ร่างกายจะเผาผลาญได้ดีเลยแต่อย่าเครียดนะ
00:09:33 → 00:09:40 ซึ่งเราก็ต้องมีการปฏิบัติ
00:09:40 → 00:09:45 นะพี่หมออยากให้พ่อกับแม่ดูนะ
00:09:45 → 00:09:52 ครับ
00:09:52 → 00:09:57 อยู่ในที่ดำเนินไปในแต่ละวันของคนเราใน
00:09:57 → 00:10:01 การกินการมีหลาย activity ต่างๆ
00:10:01 → 00:10:06 ก็สรุปให้เห็นเป็นคานชั่งน้ำหนัก
00:10:06 → 00:10:08 แต่คนในปัจจุบันส่วนใหญ่มันก็จะเอียงกับ
00:10:08 → 00:10:11 เท่เล่มาฝั่งนี้ฝั่งที่เป็นลูกระเบิดแล้ว
00:10:11 → 00:10:15 หัวกะโหลกไขว้
00:10:15 → 00:10:19 ลกันอยู่ 3 ตัว
00:10:19 → 00:10:31 แต่ก็แปลกว่าเรารู้แค่ว่าเออ
00:10:31 → 00:10:35 แต่เอาล่ะยอมรับว่ามันเป็นบทบาทที่เด่น
00:10:35 → 00:10:39 และเป็นเป็นสิ่งก่อโรคนะเยอะแยะไปหมดเลย
00:10:39 → 00:10:43 ซึ่งในปัจจุบันเนี่ยภาวะดื้อสุรินทร์
00:10:43 → 00:10:45 เนี่ยมันเป็นแหล่งที่มาของโลกที่งานวิจัย
00:10:45 → 00:10:48 ที่สุดได้แล้ว 87 โลกโลกนะครับ 87 ลูก
00:10:48 → 00:10:53 แล้วก็มาจากโลกสุดท้ายนะซึ่งจะมาเร็วมา
00:10:53 → 00:10:55 ช้าก็แล้วแต่
00:10:55 → 00:11:00 เบาหวานแล้วแต่อะไรจะเข้าวินก่อน
00:11:00 → 00:11:03 เบา
00:11:03 → 00:11:07 แต่อันอื่นๆยังไม่โผล่หัวโผล่
00:11:07 → 00:11:09 อ่าๆๆๆ
00:11:09 → 00:11:11 ตรงนี้ก็มี
00:11:11 → 00:11:14 หมอเบ็คเนี่ยก็พูดตามเรื่องของ Fat
00:11:14 → 00:11:17 Burning Hormone ก็คือฮอร์โมนลูกเทพ 6
00:11:17 → 00:11:19 ตัวนี้
00:11:19 → 00:11:24 ร่างกายของคนเรามีประมาณ 600 กว่าชนิดนะ
00:11:24 → 00:11:27 แล้วมันก็จะมี 6 ชนิดที่เป็น Fat Burning
00:11:27 → 00:11:31 Home แล้วก็มีสารชนิดที่เป็น Fat Story
00:11:31 → 00:11:35 hormoney
00:11:35 → 00:11:39 ก็ 3 ต่อ 6 แต่ยังไงก็ตามไอ้ 6 เนี่ยสู้
00:11:39 → 00:11:42 ไม่ไหวนะ
00:11:42 → 00:11:49 ครับ
00:11:49 → 00:11:52 เพราะฉะนั้นเขาก็ต้อง
00:11:52 → 00:11:54 ในการที่จะเกิด Fat Burning เนี่ยนะหรือ
00:11:54 → 00:11:58 เกิดในเรื่องของการซ่อมแซมการสลายการเผา
00:11:58 → 00:11:59 ผลาญอะไรต่างๆ
00:12:00 → 00:12:02 เนี่ยเราก็ต้องลดบทบาทของ 3 ตัวนี้แล้วก็
00:12:02 → 00:12:06 เพิ่มบทบาทของ 6 ตัวนี้
00:12:06 → 00:12:09 ครับ
00:12:09 → 00:12:14 บอกถึงเรื่องไอ้ตัววงจรอุบาท
00:12:14 → 00:12:21 ของฮอร์โมนพ่อแม่ลูกสาวคนโตอ่า
00:12:21 → 00:12:25 เขาก็ดีนะฮะนะแต่ผมว่าตอนนี้เราอาจจะมา
00:12:25 → 00:12:30 พูดในแง่ลบๆๆมากๆเพราะเขาทั้ง 3 ก่อนนะ
00:12:30 → 00:12:33 เพราะว่ามันเป็นตัวการที่ทำให้เรามี
00:12:33 → 00:12:35 สุขภาพเสียหาย
00:12:35 → 00:12:37 คำจะแรงนิดนึง
00:12:37 → 00:12:40 ตามสไตล์ของหมอนะ
00:12:40 → 00:12:42 [เสียงหัวเราะ]
00:12:42 → 00:12:45 กลุ่มฮอร์โมนสะสมพลังงานเนี่ยมันก็จะ
00:12:45 → 00:12:46 เริ่มที่
00:12:46 → 00:12:48 ที่เรื่องของการกิน
00:12:48 → 00:12:51 คืออินซูลินมันเป็นฮอร์โมนชนิดเดียวเลยนะ
00:12:51 → 00:12:54 ในเรื่องของบทบาทนั้นพลังงานเนี่ยที่เขา
00:12:54 → 00:12:57 ไม่ขึ้นกับสมอง
00:12:57 → 00:12:57 อ่า
00:12:57 → 00:13:01 ระบบประสาทอัตโนมัติไม่ขึ้นกับสมองระบบ
00:13:01 → 00:13:03 ประสาทส่วนกลางอะไรเลยเขาขึ้นอยู่กับ
00:13:03 → 00:13:05 อาหาร
00:13:05 → 00:13:07 คือวัดทูอีฟ
00:13:07 → 00:13:11 แล้วก็เรื่องต่างๆของอาหารนี่แหละนะก็จะ
00:13:11 → 00:13:13 มากระตุ้นสุรินทร์
00:13:13 → 00:13:16 ซึ่งถ้าอาหารนั้นเนี่ยมันมีผลตามมาที่
00:13:16 → 00:13:19 เป็นพลังงานปุ๊บเนี่ยอินซูลินก็จะต้องออก
00:13:19 → 00:13:25 มามากน้อยนะทำงานขยันขี้เกียจนะวัยหรือ
00:13:25 → 00:13:28 ดื้อด้าน
00:13:28 → 00:13:30 นะเพราะฉะนั้นเรื่องการกินในยุคปัจจุบัน
00:13:30 → 00:13:40 เนี่ยมันเป็นการกินที่เละเทะเละตุ้มเป๊ะ
00:13:40 → 00:13:43 ทำงานเยอะๆๆเข้านะ
00:13:43 → 00:13:46 ร่างกายก็จะรวนแล้วก็เครียดเพราะว่า
00:13:46 → 00:13:50 ฮอร์โมนเนี่ยเขามีผลกระทบเป็นอะไรอ่ะเป็น
00:13:50 → 00:13:53 ถึงกันหมดเลยถึงกันหมดเลย
00:13:53 → 00:14:04 นะ
00:14:04 → 00:14:21 ไม่สดชื่นไม่ดีก็ได้ครับ
00:14:21 → 00:14:24 ร่างกายจะเครียด
00:14:24 → 00:14:27 พอเครียดเนี่ยคำว่าเครียดก็คือข้อที่
00:14:27 → 00:14:32 เศร้าแม่ต้องมามาช่วยความเครียดนะฮะ
00:14:32 → 00:14:34 แล้วการกินในปัจจุบันก็เป็นการกินที่
00:14:34 → 00:14:37 เรื่องของพลังงานแล้วก็สารอาหารมันเพี้ยน
00:14:37 → 00:14:39 น่ะมันไม่เหมาะสม
00:14:39 → 00:14:42 ส่วนใหญ่พลังงานเกินนะ
00:14:42 → 00:14:47 เกินนะแล้วก็สรรหาก็ขาดไม่พอไม่สมดุลนะ
00:14:47 → 00:14:51 อันนี้ทำให้ร่างกายเครียดคำว่าร่างกาย
00:14:51 → 00:14:53 เครียดส่วนใหญ่จะหมายถึงกายเนื้อนะหรือ
00:14:53 → 00:14:55 กายหยาบ
00:14:55 → 00:15:00 ซึ่งเป็นเป็นตัวบอดี้เป็นตัวโครงสร้าง
00:15:00 → 00:15:03 มันจะได้รับผลกระทบมากเพราะสารอาหารที่
00:15:03 → 00:15:05 มันไม่เหมาะสม
00:15:05 → 00:15:12 กับร่างกายเครียดคอติซอลก็มาแล้วนะ
00:15:12 → 00:15:17 เมื่อเครียดต้องคิดนะเมื่อคิดๆๆก็ต้องกิน
00:15:17 → 00:15:19 แล้วกินมั่ว
00:15:19 → 00:15:29 เพราะฉะนั้นทั้งอินซูลินอลก็วุ่นวายแทบ
00:15:29 → 00:15:34 ระยะยาวๆไปแล้วนะร่างกายมีอันเป็นไปแล้ว
00:15:34 → 00:15:37 นะ
00:15:37 → 00:15:40 ส่วนใหญ่ก็คือร่างกายก็จะพยายามเก็บงำ
00:15:40 → 00:15:44 เก็บสะสมไอ้ตัวพลังงานในรูปแบบของแซ็ค
00:15:44 → 00:15:47 ต่างๆ
00:15:47 → 00:15:51 ซึ่งไอ้ตัว Fat ที่เก็บไว้เยอะๆเนี่ยนะ
00:15:51 → 00:15:53 มันก็จะมีภาวะการอักเสบ
00:15:53 → 00:16:00 เกิดขึ้นนะจะเป็นการอักเสบแบบโคนิคชั่น
00:16:00 → 00:16:04 แล้วก็ถึงจุดนึงเนี่ยก็จะมีตัวเอสโตรเจน
00:16:04 → 00:16:07 ซึ่งเป็นฮอร์โมนลูกสาวคนโตถูกสร้างออกมา
00:16:07 → 00:16:10 ด้วยพร้อมกับการอักเสบแบบเรื้อรัง
00:16:10 → 00:16:13 เพราะฉะนั้นภาวะเอสโตรเจนเด่นนะเมื่อ
00:16:13 → 00:16:16 อินซูลินคอร์ติซอล
00:16:16 → 00:16:23 เขาทะเลาะกัน
00:16:23 → 00:16:27 เพราะฉะนั้นเราก็จะป่วยจากเรื่องของ 3
00:16:27 → 00:16:32 ฮอร์โมนเนี่ยนะ
00:16:32 → 00:16:34 แล้วก็
00:16:34 → 00:16:37 ถ้าพูดถึง 3 ตัวนี้นะไม่พูดถึงอีกตัวนึง
00:16:37 → 00:16:39 ไม่ได้คือไทยลอย
00:16:39 → 00:16:43 ขณะที่ 3 ตัวนี้แรงมาก
00:16:43 → 00:16:48 ไทรอยด์ก็จะยิ่งอ่อนลงอ่อนแอนะยิ่งแบบ
00:16:48 → 00:16:52 เหมือนแบบต้องขังตัวเองแอคชั่นอะไรไม่ได้
00:16:52 → 00:16:53 เลยอ่ะ
00:16:53 → 00:16:56 ใครลอยใครลอย
00:16:56 → 00:16:59 เหล่านี้เป็นวงจรอุบาทของฝั่งการสะสมพลัง
00:16:59 → 00:17:00 งาน
00:17:00 → 00:17:06 ซึ่งอินซูลินเป็นตัวเอ่อเริ่มต้นอ๋อครับ
00:17:06 → 00:17:11 ผม
00:17:11 → 00:17:19 แล้วก็กินไม่หยุดนะ
00:17:19 → 00:17:23 แล้วเราก็รู้จักคำว่า
00:17:23 → 00:17:26 เป็นสาเหตุของเบาหวานชนิดที่ 2
00:17:26 → 00:17:30 ทีลักษณะการด้วยอินซูลินของอวัยวะ
00:17:30 → 00:17:32 มันจะเริ่มที่
00:17:32 → 00:17:39 ที่เนื้อเยื่อไขมันก่อน
00:17:39 → 00:17:43 เยอะแยะเลยในการเก็บพลังงานส่วนเกิน
00:17:43 → 00:17:47 ถ้าตัวนี้ดื้อแล้วเนี่ยตัวต่อมาที่จะดื้อ
00:17:47 → 00:17:51 ก็คือกล้ามเนื้อกับแต่ว่ากล้ามเนื้อเนี่ย
00:17:51 → 00:17:53 จะดื้อ
00:17:53 → 00:17:56 เร็วแล้วก็หนักกว่า
00:17:56 → 00:17:59 เพราะว่ากล้ามเนื้อมันมีพื้นที่มีโครง
00:17:59 → 00:18:03 สร้างเยอะแยะไปหมดนะ
00:18:03 → 00:18:06 เพราะฉะนั้นเนื้อเยื่อไขมันดื้อก่อนแล้ว
00:18:06 → 00:18:10 กล้ามเนื้อก็ดื้อแล้วก็ไปดื้อที่ตับหลัง
00:18:10 → 00:18:14 จากดับดื้อไม่นานตับอ่อนก็จะดื้อต่อนะก็
00:18:14 → 00:18:18 คือร่างคือพลังงานมันก็จะเอาเอาเป็น
00:18:18 → 00:18:20 เปลี่ยนเป็นไขมันแล้วก็ไปสะสมในสิ่งเหล่า
00:18:20 → 00:18:21 นี้
00:18:21 → 00:18:26 เดี๋ยวจะมีภาพรวมๆไว้ดูทีนี้เวลา Reverse
00:18:26 → 00:18:29 หรือเวลาแก้ไข Reverse reverse
00:18:29 → 00:18:33 เราก็จะต้องเอาเรื่องของพลังงานสะสมพวก
00:18:33 → 00:18:35 ไตรกลีเซอไรด์ที่แทรกอยู่ในเซลล์ต่างๆของ
00:18:36 → 00:18:38 เนื้อเยื่อตับอ่อน
00:18:38 → 00:18:41 ให้หมดไปก่อนนะ
00:18:41 → 00:18:45 เรื่องของ Safety diver นะหรือไขมันก็
00:18:45 → 00:18:48 ถึงจะเป็นลดไขมันที่กล้ามเนื้อ
00:18:48 → 00:18:51 เราถึงจะไปถึงเนื้อเยื่อ
00:18:51 → 00:18:54 สัก
00:18:54 → 00:18:58 ในช่วงที่แพลนเครียดกับลิเวอร์เนื้อที่
00:18:58 → 00:19:00 มันมีไขมันมาสะสม
00:19:00 → 00:19:03 ในช่องท้องของเราเนี่ยก็จะอวัยวะอื่นๆ
00:19:03 → 00:19:06 เนี่ยก็มีไขมันมาสะสมไปด้วยแหละซึ่งเรา
00:19:06 → 00:19:07 เรียกว่าวิสรร
00:19:07 → 00:19:10 ที่
00:19:10 → 00:19:13 แทนที่ไขมันที่แพงที่ตับอ่อนลดลงไขมันที่
00:19:13 → 00:19:20 ตับลดลงนะครับเข้าใจค่อยๆลดลง
00:19:21 → 00:19:22 เวลา
00:19:22 → 00:19:26 ก่อนลูกศรจะย้อนกลับแต่เวลาเริ่มที่มันจะ
00:19:27 → 00:19:29 เป็นเนี่ยมันจะเริ่มที่ตัว layer ไขมัน
00:19:29 → 00:19:33 ก่อนเราไปสิ้นสุดซึ่งอันเนี้ยเราก็จะป่วย
00:19:33 → 00:19:37 เป็นเบาหวานชนิดค่อนข้างหนักและเพียบและ
00:19:37 → 00:19:40 ถ้าตับอ่อนเราดื้อ
00:19:40 → 00:19:44 ทีนี้หน้านี้สำคัญ
00:19:44 → 00:19:48 เขาเรียกว่าฟังแล้วดูแล้วอ่านแล้วต้อง get
00:19:48 → 00:19:51 เอาไปใช้นะฮะการที่สุรินทร์ของร่างกาย
00:19:51 → 00:19:54 เรียงลำดับก็คือเนื้อเยื่อไขมันกล้าม
00:19:54 → 00:19:56 เนื้อตับแล้วก็ตับอ่อน
00:19:56 → 00:19:59 นะแล้วก็ปวดเป็นเบาหวาน
00:19:59 → 00:20:02 การหายจากการดื้อสีเขียว
00:20:02 → 00:20:05 ตับอ่อนจะหายก่อนรองลงมาคือตับแล้วก็มา
00:20:05 → 00:20:08 กล้ามเนื้อแล้วก็เนื้อเยื่อไขมัน
00:20:08 → 00:20:11 แต่ส่วนใหญ่มันก็จะมาสิ้นสุดที่ตับอ่อน
00:20:11 → 00:20:12 กับตับ
00:20:12 → 00:20:17 ก็เรียกว่าเราจะดีขึ้นมาเยอะแยะเลย
00:20:17 → 00:20:21 กล้ามเนื้ออาจจะยังยังมีดื้ออยู่บ้างแต่
00:20:21 → 00:20:23 ต้องค่อยๆฝึกกล้ามเนื้อค่อยๆสร้างกล้าม
00:20:23 → 00:20:27 เนื้อแล้วออกกำลังกายค่อยๆเวรหรือว่า
00:20:27 → 00:20:31 อ่าต้านแรงอะไรต่างๆไปเรื่อยๆ
00:20:31 → 00:20:34 ส่วนความหวังที่จะไปถึงไอ้สัตว์ Q Center
00:20:34 → 00:20:38 เนี่ยที่อยู่เอ่อที่ใต้ผิวหนังต่างๆอะไร
00:20:38 → 00:20:42 อย่างเงี้ยนะเราก็ไม่ได้ไปถึงมากมายถึง
00:20:42 → 00:20:45 จุดนั้นน่ะแต่ถ้ามันไปได้มันก็ดีอ่ะนะรูป
00:20:45 → 00:20:49 ร่างดีขึ้นเยอะเลยครับก็สิ่งเหล่านี้มัน
00:20:49 → 00:20:53 มันก็เป็นไปตามธรรมชาตินะนะมีการดื้อก็จะ
00:20:53 → 00:20:56 หายดื้อหรือการ Reverse หรือตามลำดับขั้น
00:20:56 → 00:20:58 แบบเนี่ยนะ
00:20:58 → 00:21:02 การ Reverse ทีนี้
00:21:02 → 00:21:06 ตับอ่อนเนี่ยนะมันมี Point หรือมีประเด็น
00:21:06 → 00:21:09 ในการที่จะทำให้เกิดการ Reverse หรือการ
00:21:09 → 00:21:12 ฟื้นตัวจากการดื้อของอินซูลินเนี่ยของตัว
00:21:12 → 00:21:13 ตับอ่อน
00:21:13 → 00:21:19 เรามีหลักการเนี่ยอยู่ 2 บรรทัด
00:21:19 → 00:21:22 เราจะต้องมีการตัดหรืองดค้าที่บอกว่าให้
00:21:22 → 00:21:26 ไปกิน CD kcd ไปเลยยิ่งดีใหญ่
00:21:26 → 00:21:29 อันนี้ก็ถูกหมอสนับสนุน
00:21:29 → 00:21:32 หากจะต้องมีการเติมครับคุณจะต้องเติมให้
00:21:32 → 00:21:35 น้อยน้อยมากๆ
00:21:35 → 00:21:37 ในช่วงแรกๆ
00:21:39 → 00:21:41 โดยอ่า
00:21:41 → 00:21:44 เน็ตครับ
00:21:44 → 00:21:50 ต่อวัน
00:21:50 → 00:21:53 ฮอร์โมนต่างๆก็ยังจะไม่เพี้ยนนะฮะอันนี้
00:21:53 → 00:21:57 เป็นการ reverse
00:21:57 → 00:22:02 ครับ
00:22:02 → 00:22:07 หลักการก็คือต้องมีการใส่ไขมันดีให้ตับ
00:22:07 → 00:22:11 เนี่ยเบิร์นเยอะๆเพราะว่าชอบน้ำมันสกัด
00:22:11 → 00:22:13 เย็น
00:22:13 → 00:22:15 ครับเพราะฉะนั้นด้วยเหตุนี้จึงต้องมีการ
00:22:15 → 00:22:18 ใช้กลุ่มเรื่องน้ำมันสกัดเย็นกินในมื้อ
00:22:18 → 00:22:21 แรกกินในรูปน้ำสลัด
00:22:21 → 00:22:25 เอามาเป็นประเด็นนะที่ต้องต้องทำความเข้า
00:22:25 → 00:22:28 ใจก็เพราะว่าเราอยาก Reverse เพราะว่า
00:22:28 → 00:22:34 อินซูลินที่ตัดหรือแม้แต่
00:22:34 → 00:22:37 เราก็ใช้หลักการพวกนี้ก็คือต้องใช้ไขมัน
00:22:37 → 00:22:40 ดีในรูปของน้ำมันสกัดเย็น
00:22:40 → 00:22:44 คือเราจะมากินจากหมูจากๆไขมันที่อยู่ใน
00:22:44 → 00:22:47 โปรตีนของสัตว์อะไรอย่างนี้หรือกรอกน้ำ
00:22:47 → 00:22:48 มันเนี่ย
00:22:48 → 00:22:51 ตับเขาไม่ให้ไม่รับด้วย
00:22:51 → 00:22:55 อาจจะรับได้พวก mct Oil หรือน้ำมัน
00:22:55 → 00:22:57 มะพร้าวนิดหน่อย
00:22:57 → 00:23:00 แต่เขาไม่ได้รับพวกกฎไขมันสายยาวนะพวกมา
00:23:00 → 00:23:03 ก่อพวกงานขี้ม้อนดาวอินคาอะไรอย่างนี้
00:23:03 → 00:23:05 ด้วยนะ
00:23:05 → 00:23:09 เพราะฉะนั้นเนี่ย
00:23:09 → 00:23:12 เพราะว่าเราจะฟื้นการดื้อสุรินทร์ที่ต่าง
00:23:12 → 00:23:14 เราก็ต้องใช้หลักการบริหาร
00:23:14 → 00:23:17 ในกรณีจะเติมคาร์ฟเนี่ยก็ต้องไปคัดเชิง
00:23:17 → 00:23:20 ซ้อนที่มีเน็ตครับอยู่ในช่วง 25 ถึง 50
00:23:21 → 00:23:24 กรัมนะครับตัวเลขนี้พิมพ์ผิดไปนิดนึง
00:23:24 → 00:23:26 ประมาณนี้ 25-50 กรัม
00:23:26 → 00:23:30 ไม่เกิน 50 กรัมซึ่งอันนี้เราก็เรียกว่า
00:23:30 → 00:23:33 low carft หรือ low
00:23:33 → 00:23:36 Fat ส่วนใหญ่จะเป็นคำที่เนี่ยมีความหมาย
00:23:36 → 00:23:42 ที่จะฟื้นฟูครับผมแต่ถ้ามาขั้นของ cd kcd
00:23:42 → 00:23:43 หรือแม้แต่
00:23:43 → 00:23:47 classical keto มันก็จะเป็นการฟื้นฟู
00:23:47 → 00:23:52 ตับอ่อน
00:23:52 → 00:23:55 ถ้าเป็นกล้ามเนื้อเนี่ยกล้ามเนื้อเนี่ย
00:23:55 → 00:23:57 เราจะทำยังไงกล้ามเนื้อเนี่ยเขาต้องการ
00:23:57 → 00:24:02 สารอาหารครบทั้งคาร์โบไฮเดรตโปรตีนไขมัน
00:24:02 → 00:24:05 ไขมันก็ต้องมีทั้งไขมันดีต้องมี
00:24:05 → 00:24:06 คอเลสเตอรอลอะไร
00:24:06 → 00:24:09 โปรตีนก็ต้องโปรตีนคุณภาพ
00:24:09 → 00:24:12 แล้วค้าบเนี่ยก็จะจำเป็นเพราะว่าอินซูลิน
00:24:12 → 00:24:16 เนี่ยเขาจะต้องนำสารอาหารนำพลังงานนะที่
00:24:16 → 00:24:19 จะเข้าไปฟื้นฟูไปซ่อมแซมแล้วก็ไปสร้างบุญ
00:24:19 → 00:24:21 สร้างเนื้อใหม่
00:24:21 → 00:24:24 นะอันนี้มื้อเย็นเป็นมื้อสำคัญมื้อเย็น
00:24:24 → 00:24:27 มื้อสำคัญการฟื้นฟูกล้ามเนื้ออยู่ที่หลัก
00:24:27 → 00:24:30 การอยู่ที่มื้อเย็นหรือมื้อหลัง
00:24:30 → 00:24:35 การฟื้นฟูตับหลักการอยู่ที่มือแรกมือแรก
00:24:35 → 00:24:39 มื้อแรกวันนั้นมื้อแรกถึงจะต้องกินแบบ
00:24:39 → 00:24:43 โปรตีนบวกไขมันค่อนข้างอลังการเราเน้น
00:24:43 → 00:24:46 พลังงานเป็นหลักมื้อเย็นสารอาหารครบไป
00:24:46 → 00:24:49 ซ่อมกล้ามเนื้อกล้ามเนื้อจะซ่อมก็ซ่อมตอน
00:24:49 → 00:24:52 นอนแต่จริงๆกล้ามเนื้อเนี่ยเขาซ่อมแล้ว
00:24:52 → 00:24:55 เขาก็สร้างมวลกล้ามเนื้อใหม่ 2 ช่วงนะ
00:24:55 → 00:24:59 ทั้งการนอนและตอนกล้ามเนื้อเขาขยับตอน
00:24:59 → 00:25:04 ตื่นด้วย
00:25:04 → 00:25:07 สำหรับที่จะซ่อมกล้ามเนื้อหรือว่าเสริม
00:25:07 → 00:25:09 สร้างกล้ามเนื้อเสริมสร้างมวลกล้ามเนื้อ
00:25:09 → 00:25:12 ให้เพิ่มขึ้น
00:25:12 → 00:25:14 อันนี้เด็ดขาดจะต้องเยอะขึ้นมาอีกนิดนึง
00:25:14 → 00:25:19 อยู่ในช่วงนี้ประมาณ 50-80 หรือ 50-100
00:25:19 → 00:25:21 นะ
00:25:21 → 00:25:25 บางคนก็อาจจะต้อง 80-100 นะถ้าผอมเยอะๆ
00:25:25 → 00:25:27 แล้วก็ต้องสร้างเมืองกล้ามเนื้อโดยเฉพาะ
00:25:27 → 00:25:31 ที่บอดี้ไทยแบบพุงตับแล้วก็ไทยอ่อนๆนะ
00:25:31 → 00:25:34 ครับเออวันนี้ก็เลยเห็นมีคนโพสต์ถามเคส
00:25:34 → 00:25:37 นึงอ่ะ
00:25:37 → 00:25:43 สูง 160 น้ำหนัก 45 เนี่ยชัดมากเลยอ่ะ
00:25:43 → 00:25:52 ครับ
00:25:52 → 00:25:58 แต่ hdl มันขึ้นไป 90 กว่า 96 อ่าๆๆใช่
00:25:58 → 00:25:59 ครับ
00:25:59 → 00:26:02 ซึ่งคนนี้คนนี้ก็คือนี่คุณต้องฟื้นฟู
00:26:02 → 00:26:06 กล้ามเนื้อนะแล้วคุณก็ต้องเติมครับนะก็มี
00:26:06 → 00:26:09 คนที่อยู่ในกลุ่มของเราเนี่ยก็ไปบอกว่า
00:26:09 → 00:26:12 เออให้รถ good Fat ลงแล้วก็เพิ่ม Craft
00:26:12 → 00:26:22 อันนั้นถูกต้องนะดีใจมาก
00:26:22 → 00:26:26 คุณจะทำอะไรเนี่ยมันมีความหมาย
00:26:26 → 00:26:29 เออมึงจะแก้ที่เอาเองว่าไหนแล้วเขาต้องมี
00:26:29 → 00:26:32 การ set up เห็นเรื่องอาหารเนี่ยลืม
00:26:32 → 00:26:35 โภชนาการเป็นแบบไหนเพราะอะไร
00:26:35 → 00:26:38 สมมุติว่าคุณแก้ตับอ่อนแล้วนะ
00:26:38 → 00:26:39 เออ
00:26:39 → 00:26:41 แล้วก็
00:26:41 → 00:26:44 คุณก็ต้องมาแคร์เวลาคุณมาแก้ตับเนี่ยคุณ
00:26:44 → 00:26:46 จะไปกินพลังงานหรือไปกินค้าเท่าเนี้ยมัน
00:26:46 → 00:26:50 ก็ไม่ได้นะเพราะหลักการก็จับอ่อนเนี่ยก็
00:26:50 → 00:26:54 คือหลักการคว้า
00:26:54 → 00:26:58 การจำกัดคราบให้น้อยที่สุดนะ
00:26:58 → 00:26:58 เออ
00:26:58 → 00:27:01 อันนี้ๆเขาฟื้นฟูตัดออก
00:27:01 → 00:27:03 ว่าอะไรอ่ะ
00:27:03 → 00:27:18 fasting My Meeting diethoding
00:27:18 → 00:27:22 คุณก็ต้องใส่แล้วนะมื้อแรกเนี่ยต้องน้ำ
00:27:22 → 00:27:25 มันสกัดเย็นทีออยแล้วเรามื้อเย็นก็เพิ่ม
00:27:25 → 00:27:29 ครับนิดหน่อยเป็นคลาสสิค
00:27:29 → 00:27:32 แต่ถ้ามาฟื้นฟูกล้ามเนื้อสมมุติว่าผ่าน
00:27:32 → 00:27:34 แล้วตับอ่อนเมื่อผ่านแล้วตับก็ผ่านแล้ว
00:27:34 → 00:27:38 คุณจะไปแช่กินเนี่ยครับ 20 กรัมอยู่เป็น
00:27:39 → 00:27:42 ตาปีตาชาติเนี่ยไม่ได้
00:27:42 → 00:27:44 เนื้อยิ่งเนี่ย
00:27:44 → 00:27:48 45 อย่างเงี้ย
00:27:48 → 00:27:55 คุณก็ต้องเพิ่มครับอ่าเขาเอ่อ
00:27:56 → 00:27:59 ถ้าพอถ้าพอก็
00:27:59 → 00:28:03 จะจะลดลงมาบ้างนิดหน่อยอะไรก็ได้นะแต่ว่า
00:28:03 → 00:28:07 ไม่กลับอ่อนก็ตับเนี่ยมันหายดีแล้วอ่าตอน
00:28:07 → 00:28:09 นี้เราจะมาทำให้กล้ามเนื้อหายด้วย
00:28:09 → 00:28:12 อินซูลิน
00:28:12 → 00:28:18 ที่ผมผอมหรือว่าที่สมส่วนผมหรือว่าบอดี้
00:28:18 → 00:28:25 ไทยแบบสายแป้ง
00:28:25 → 00:28:29 ก็ไล่เรียงลำดับมานะถ้าเกิดมีการดื้อแล้ว
00:28:29 → 00:28:35 ก็จะ
00:28:35 → 00:28:40 สำคัญมากๆเลยในระยะยาว
00:28:40 → 00:28:42 เพราะฉะนั้น
00:28:42 → 00:28:46 สารอาหารต้องครบนะพลังงานทุ่มถึง
00:28:46 → 00:28:49 แล้วศาลทหารในมื้อเย็นมีความหมายถ้าไม่
00:28:49 → 00:28:58 ถึงก็นอนไม่หลับนอนไม่หลับ
00:28:58 → 00:29:03 เป็นตัวตัดสินนะว่าจะทำอะไรต่อได้ไหม
00:29:03 → 00:29:05 พอไม่มีความรู้เรื่องตรงนี้ปั๊บก็จะไป
00:29:05 → 00:29:08 อยู่ที่ตับอ่อนอย่างเดียวนะพี่หมอผมว่าจะ
00:29:08 → 00:29:11 กลัวก็จะไม่กินขาเลยบางคนก็ตัด 100% มัน
00:29:11 → 00:29:16 ก็มีนะ
00:29:16 → 00:29:20 อวัยวะด้วยนะคือพลังงานเนี่ย
00:29:20 → 00:29:23 มันก็ต้องดูทั้งหมดดูอวัยวะแล้วก็ดูรูป
00:29:23 → 00:29:27 จะใส่อะไรใส่อะไรมันก็มีคราฟมีโปรตีนมี
00:29:27 → 00:29:30 Fat นี่แหละนะเออเราเดินหน้าถอยหลัง
00:29:30 → 00:29:35 เพิ่มลดปรับอะไรกันอยู่อย่างเงี้ยนะ
00:29:35 → 00:29:38 แต่ก็ดูเป็นเหตุเป็นผลไปนะฮะเอาชีวะวิธี
00:29:38 → 00:29:42 อ่ามาอธิบายมาจับด้วย
00:29:42 → 00:29:46 อันนี้ก็เป็นรูปนะที่พยายามตัดมาเราจะ
00:29:46 → 00:29:47 เห็นว่า
00:29:47 → 00:29:51 แคลอรี่ intake เพิ่มนะก็คือเมื่อไหร่
00:29:51 → 00:29:54 Over Energy แล้วคนปัจจุบัน Over นี้
00:29:54 → 00:29:59 จากอะไรส่วนใหญ่ก็จะ Craft
00:29:59 → 00:30:11 ทั้งไขมันแต่มันเป็นแปรรูปแต่รูปเนี่ย
00:30:11 → 00:30:15 ก็ไปสะสมที่
00:30:15 → 00:30:18 ใช่
00:30:18 → 00:30:23 คนเราเนี่ยมันก็จะมีข้อจำกัดตามกรรม
00:30:23 → 00:30:25 พันธุ์ที่ควบคุม
00:30:25 → 00:30:28 ตามแบบรูปร่าง Body type 4 แบบที่เรา
00:30:28 → 00:30:31 ได้ผ่านหูผ่านตากันมาเยอะแล้วนะ
00:30:31 → 00:30:34 ถ้ามันสะสมได้แค่เนี้ยมันก็แค่เนี้ยชาติ
00:30:34 → 00:30:37 นี้มันเกิดมามันอ้วนได้ 60 โลมันก็อยู่
00:30:37 → 00:30:42 แค่ 60 กมเหรอวะ
00:30:42 → 00:30:45 แก่ตัวระเบิดตายแล้ว
00:30:45 → 00:30:48 หลังจากมันเต็มที่ 60 โลแล้วคราวนี้มันก็
00:30:48 → 00:30:51 Converse กลายเป็นตัวโรค
00:30:51 → 00:30:55 มันมากเกินเนาะ
00:30:55 → 00:31:01 ทีนี้ถ้าเกิดไอ้เซลล์เนี่ย
00:31:01 → 00:31:05 มันเต็มอัตราศึกแล้วนะคราวนี้มันก็จะมา
00:31:05 → 00:31:09 ที่ไหนต่อที่ตัดกับที่กล้ามเนื้อ
00:31:09 → 00:31:12 ก็จะเริ่มสะสมมีไขมันพอกตับมีไขมันพอก
00:31:12 → 00:31:16 กล้ามเนื้อไปพร้อมๆกันแต่ว่าพื้นที่หรือ
00:31:16 → 00:31:19 เนื้อที่ของตับมันน้อยกว่า
00:31:19 → 00:31:25 น้ำมันก็ตับมันก็ไปก่อน
00:31:25 → 00:31:28 แล้วหลังจากนั้นมือถึงจะเผื่อแผ่ไปที่
00:31:28 → 00:31:30 ได้รับผลกระทบ
00:31:30 → 00:31:33 แต่ทั้งหมดเนี่ยเกิดจากอะไรอ่ะเกิดจาก
00:31:33 → 00:31:36 วัตถุ eat ที่จะไปมีผลต่อฮอร์โมนสะสมพลัง
00:31:36 → 00:31:43 งานคือตัวนี้ฮะ
00:31:43 → 00:31:45 เขาจะทำ
00:31:45 → 00:31:49 อะไรยังไงต่อเนี่ยมันก็จะมีผลต่อมีผล
00:31:49 → 00:31:56 แบล็คอัพกลับไปที่เรื่องของเนี่ย
00:31:56 → 00:31:59 สมัยปัจจุบันที่เราเรียกว่า Lander
00:31:59 → 00:32:03 Reaction หรือ Lander
00:32:03 → 00:32:05 เพราะฉะนั้นตัวอยู่เบื้องหลังจริงก็คือ
00:32:05 → 00:32:12 ฮอร์โมนสะสมพลังงานตัวพ่ออินซูลินครับ
00:32:12 → 00:32:16 เกิดการใช้พลังงานไม่ได้นะไม่ต้องปัญญา
00:32:16 → 00:32:21 เม็ดตาบ่ไร้ไอ้พวกไขมันจากเรื่องของ
00:32:21 → 00:32:22 Safety
00:32:22 → 00:32:28 Acid เนี่ยไม่ได้นะ
00:32:28 → 00:32:34 แล้วก็ไอ้ตัวฟรี
00:32:34 → 00:32:39 ไม่ยอมให้กูโคตรเข้าเข้าสู่
00:32:39 → 00:32:43 mitochism
00:32:43 → 00:32:45 อยู่ข้างนอก
00:32:45 → 00:32:47 พอเราอยู่ข้างนอกร่างกายมันก็ต้องเปลี่ยน
00:32:47 → 00:32:51 เป็นไตรกลีเซอไรด์แต่ก็เอาเป็นสะสมไม่มี
00:32:51 → 00:32:55 แล้วนะสะสมไม่ได้ก็กลายเป็นเปลี่ยนต่อไม่
00:32:55 → 00:32:56 ได้ก็เป็นเบาหวานไป
00:32:57 → 00:33:00 เป็นเบาหวานต่อ
00:33:00 → 00:33:04 แล้วทีนี้พอไปรักษาโดนยาบังคับให้เอาน้ำ
00:33:04 → 00:33:09 ตาลเข้าเซลล์ก็ไปอัดกันอยู่ในเซลล์อ่ะ
00:33:09 → 00:33:14 กินยาแล้ว
00:33:14 → 00:33:29 กินกินไม่ถูกน้ำตาลเยอะก็เอายามาฮัดต่อ
00:33:29 → 00:33:33 ก็แล้วแต่ว่า
00:33:33 → 00:33:39 [เพลง]
00:33:39 → 00:33:41 หลุดโลกไปเรื่อยๆ
00:33:42 → 00:33:50 อันนี้ก็จะเป็นตัวสรุปเนี่ย
00:33:50 → 00:33:54 อันนี้ก็จะเป็นเรื่องของเขามีส่วนเกี่ยว
00:33:54 → 00:33:58 ข้องที่ Personal Festival คือคนแต่ละคน
00:33:58 → 00:34:00 เนี่ยมันมีบอดเหมือนกันการสะสมพลังงาน
00:34:00 → 00:34:02 ต่างๆกัน
00:34:02 → 00:34:05 ถ้าเป็นสายเนื้อเนี่ยก็อาจจะอ้วนได้เยอะๆ
00:34:05 → 00:34:10 หน่อยนะอ่ามีลาภปากกินได้เยอะหน่อย
00:34:10 → 00:34:11 ครับ
00:34:11 → 00:34:14 สายแป้งนี่มันก็เร็วหน่อย
00:34:14 → 00:34:15 นะ
00:34:15 → 00:34:18 กินให้น้อยควบคุมตับนี่ก็ไม่มีพื้นที่
00:34:18 → 00:34:20 สะสมไขมัน
00:34:20 → 00:34:27 ก็เข้าไปสะสมกันอยู่ในวิศวะ
00:34:27 → 00:34:29 เพราะฉะนั้นเนี่ยในเรื่อง Personal
00:34:29 → 00:34:33 Festival เนี่ยมันจะเป็นเรื่องของไอ้ตัว
00:34:33 → 00:34:35 ศัพท์ Q10 เนี่ย
00:34:35 → 00:34:38 ทิชชูจะมีกี่ความสามารถที่จะอ้วนได้แค่
00:34:38 → 00:34:39 ไหน
00:34:39 → 00:34:42 สะสมพลังงานได้แค่ไหนถ้าเต็มที่แล้วเนี่ย
00:34:42 → 00:34:46 มันก็จะมาถึงเรื่องของมาสคูล่าแล้วนะ
00:34:46 → 00:34:50 กล้ามเนื้อแล้วนะก็จะต้องเอา Flash มัน
00:34:50 → 00:34:57 ติดต่อกลายเป็นมาสคูล่าอินซูลิน
00:34:57 → 00:35:04 นั่นแหละนะ
00:35:04 → 00:35:07 เพิ่มขึ้น
00:35:07 → 00:35:11 Cycle ที่เป็นการดื้อของอินซูลินแล้วก็
00:35:11 → 00:35:16 จะมีผลทำให้เกิดน้ำตาลเข้าตับต่อไม่ได้
00:35:16 → 00:35:21 จะล้นอยู่ในกระแสเลือด
00:35:21 → 00:35:24 ที่นี้ตับเนี่ยอาจจะมีอีกวิธีการนึงก็คือ
00:35:24 → 00:35:31 พยายามที่จะเค้าเรียกอะไรอ่ะเออ
00:35:31 → 00:35:34 ทีนี้แพ็คกิ้งอ่ะแพ็คกิ้งต่างๆนะเกี่ยว
00:35:34 → 00:35:38 กับน้ำตาลเกี่ยวกับอ่า Fat นะ
00:35:38 → 00:35:40 ให้กลายเป็นเนี่ย
00:35:40 → 00:35:41 เป็น
00:35:41 → 00:35:44 อะไรอ่ะ
00:35:44 → 00:35:49 แล้วก็ส่งไปกับเรือนำส่งพลังงาน vld ตาม
00:35:49 → 00:35:50 ที่เรารู้กัน
00:35:50 → 00:35:55 ทีนี้เวลามันไปที่ตับอ่อนนะมันก็ไปสะสมไข
00:35:55 → 00:35:58 มันต่อที่ตับอ่อนก็ไปจากเรือลำนี้ที่ออก
00:35:58 → 00:36:00 ไปจาก
00:36:00 → 00:36:03 เพราะฉะนั้นถ้าตับเต็มแล้วต่อไปก็ตัดออก
00:36:03 → 00:36:07 พอตับอ่อนเต็มเรียบร้อยแล้วนะ
00:36:07 → 00:36:12 หรือการสร้างอินซูลินของ datale ลดลง
00:36:12 → 00:36:16 กลูโคสเพิ่มขึ้นแล้วก็พลาสม่าเพิ่มขึ้นก็
00:36:16 → 00:36:21 เป็นเบาหวาน
00:36:21 → 00:36:26 ที่อธิบายมาตั้งแต่แรกๆ
00:36:26 → 00:36:29 นี่การตอบสนองเนี่ยนะ
00:36:29 → 00:36:32 เราก็พูดไปหลายครั้งแล้วในเรื่องนี้นะ
00:36:32 → 00:36:36 ครับเนี่ยชอบอะไรไม่ชอบอะไร
00:36:36 → 00:36:39 เงื่อนไขมันกับน้ำตาลเนี่ยนะอินซูลิน
00:36:39 → 00:36:42 คอร์ติซอลมีปฏิกิริยาไงคือสรุปคำนี้นะฮะ
00:36:42 → 00:36:46 ว่าอินซูลินนี่เขาชอบไขมันดี Good
00:36:46 → 00:36:49 Healthy Fat แดกข้าวเกรียบครับเขาจะมี
00:36:49 → 00:36:54 ปฏิกิริยารุนแรงต่อครับนะโดยเฉพาะครับที่
00:36:54 → 00:36:57 มาไม่เป็นเวล่ำเวลา
00:36:57 → 00:37:00 มาเป็นเวล่ำเวลาแต่ถ้านอกเวลาต้องมาทำ
00:37:00 → 00:37:02 โอทีนี่
00:37:02 → 00:37:05 จะมีพฤติกรรมตรงกันข้ามไปหมด
00:37:05 → 00:37:08 [เสียงหัวเราะ]
00:37:08 → 00:37:15 ส่วนคอติซอลเนี่ยเขาจะฟินจะชอบนะคือ Craft
00:37:15 → 00:37:34 แล้วคอติซอล
00:37:34 → 00:37:38 เป็นพื้นฐานที่เราจะต้องมีอยู่ในใจอยู่
00:37:38 → 00:37:42 ตลอดนะ
00:37:42 → 00:37:46 แล็บหรือเราจะไปซักประวัติหรือจะไปต่อ
00:37:46 → 00:37:49 เรื่องต่อราวพูดคุยกับเขาก็จะแนะนำเขาอ่ะ
00:37:49 → 00:37:53 นะฮะไม่งั้นแล้วเนี่ยมันข้อมูลมันจะปะติด
00:37:53 → 00:37:55 ปะต่ออะไรไม่ได้เลย
00:37:55 → 00:37:58 เพราะว่าที่มาที่ไปของโภชนาการโดยเฉพาะ
00:37:58 → 00:38:00 คาร์โบไฮเดรตโปรตีนไขมันเนี่ยมันก็ต้อง
00:38:00 → 00:38:05 รู้เรื่องนะว่าอะไรเป็นอะไรนะโอเคไม่
00:38:05 → 00:38:08 process เรียง Food นะแล้วก็ Action มี
00:38:08 → 00:38:12 ผลต่อฮอร์โมนยังไงเออ
00:38:12 → 00:38:16 ทีนี้เฉพาะอินซูลินตัวพ่ออันนี้ก็ต้องจำ
00:38:16 → 00:38:23 นะต้องจำเพราะเป็นหัวใจเลยนะ
00:38:23 → 00:38:25 เราต้องรู้อะไรบ้างพื้นฐานที่ต้องรู้ผิว
00:38:25 → 00:38:28 อินซูลินมี 3 ข้อนี้เลย
00:38:28 → 00:38:31 3 ข้อนี้ต้องเข้าใจเขาให้เยอะๆเลยอันที่
00:38:31 → 00:38:32
00:38:32 → 00:39:02 เวลาในการทำงานตามธรรมชาติ
00:39:02 → 00:39:07 ใน 1 วันเนี่ยเอ่ออินซูลินเขามี
00:39:07 → 00:39:10 มีพฤติกรรมยังไงอ่ะบ้างนะฮะเราจะมีคำอยู่
00:39:10 → 00:39:15 2 คำนะฮะอันนี้ต้องจำ
00:39:15 → 00:39:20 อินซูลิน sensitivity
00:39:20 → 00:39:24 Stand จะเกิดขึ้นในช่วงเวลาตั้งแต่เมื่อ
00:39:24 → 00:39:28 เราตื่นนอนยาวต่อเนื่องไปเรื่อยๆจนถึง
00:39:28 → 00:39:29 บ่ายๆอ่า
00:39:29 → 00:39:34 ใกล้เย็นๆนะและตอนหัวค่ำ
00:39:34 → 00:39:36 อันนี้อันนี้ก็คือ
00:39:36 → 00:39:39 อินซูลินเขาจะดื้อเขาจะ
00:39:39 → 00:39:42 เขาจะขี้เกียจเข้าใจไม่อยากทำอะไรอยากจะ
00:39:42 → 00:39:47 พักอยากจะสงบไม่อยากจะต้องมาทำงานอะไร
00:39:47 → 00:39:50 ทั้งสิ้นนะตามหน้าที่อันนี้ต้องเข้าใจเขา
00:39:50 → 00:39:54 ด้วยนะ
00:39:54 → 00:39:58 แต่เขาจะมาทำในช่วง physiogic insulin
00:39:58 → 00:40:01 sensitivity เดี๋ยวจะพูดต่อไปทีนี้ของ
00:40:01 → 00:40:06 อินซูลเนี่ยก็จะเป็นช่วงกลางคืนตั้งแต่
00:40:06 → 00:40:09 เวลา 4 ทุ่มไปเรื่อยๆจนถึง
00:40:09 → 00:40:14 คลอดลูกคลอดลูกเนี่ยก็ประมาณตี 3 ตี 4 นะ
00:40:14 → 00:40:21 เพราะว่าแม่จะมาแล้วนะ
00:40:21 → 00:40:26 เนี่ยก็จะต้องหมดหน้าที่หมดบทบาทไปนะฮะ
00:40:26 → 00:40:28 ซึ่งในระหว่างนั้นเนี่ยอินซูลินจะต้องไม่
00:40:28 → 00:40:35 มานะต้องไม่มาเขาเรียกว่า
00:40:35 → 00:40:38 แล้วเขาบอกว่าช่วงที่อินซูลินดื้อด้านมาก
00:40:38 → 00:40:44 ที่สุดเลยก็คือช่วงหลังตื่นนอนใหม่ๆ
00:40:44 → 00:40:47 หลังตื่นนอนใหม่ๆอินซูลินจะไม่อยากทำงาน
00:40:47 → 00:40:53 ถ้าไปกระตุ้นให้เขาทำงานเขาจะโมโหเขาจะทำ
00:40:53 → 00:40:56 งานตรงกันข้ามกับสิ่งที่ควรเขาควรจะทำตาม
00:40:56 → 00:40:58 หน้าที่ดีๆ
00:40:58 → 00:40:59 ครับ
00:40:59 → 00:41:03 อันนี้เราเราก็ถูกปลูกฝังกันมาว่าตื่นมา
00:41:03 → 00:41:05 แล้วต้องรีบกินไงพี่หมอ
00:41:05 → 00:41:13 แล้วไปกินอะไรอ่ะ
00:41:13 → 00:41:15 ข้าวต้ม
00:41:15 → 00:41:26 หมอจะบอกชัดนะ
00:41:26 → 00:41:30 คุณเป็นคนต่างจังหวัดจริงๆหรือเปล่าคุณ
00:41:30 → 00:41:34 เป็นคนไทยที่รู้เรื่องความเป็นไทยในคนยุค
00:41:34 → 00:41:37 เก่าๆจริงหรออ่า
00:41:37 → 00:41:39 ๆคุณต้องไปถาม
00:41:39 → 00:41:42 ปู่ย่าตายายหรือพ่อของปู่พ่อคงย่าพ่อของ
00:41:42 → 00:41:44 ตาพ่อ
00:41:44 → 00:41:47 เช้าเนี่ยครับผมไม่ได้กินอะไรเยอะแยะหรอก
00:41:47 → 00:41:50 นะฮะนะ
00:41:50 → 00:41:54 ที่เขาจะต้องหุงต้มเป็นแบบกับข้าวมื้อ
00:41:54 → 00:41:58 ใหญ่มื้อโตอะไร
00:41:58 → 00:42:01 อืมไม่ใช่เขาไม่ได้ทำอย่างนั้นคือเขากิน
00:42:01 → 00:42:03 น่ะถูกเขาอาจจะกินข้าวเหนียวกินข้าวเจ้า
00:42:03 → 00:42:06 นะแต่เขาเตรียมไปอ่ะนะฮะก็เตรียมไปแล้ว
00:42:06 → 00:42:10 เขาจะมีกับข้าวง่ายๆนะที่เป็นปลาย่างปลา
00:42:10 → 00:42:14 ทอดเขาไม่ทอดหรอกมั้งสมัยก่อนไม่มีการขาด
00:42:14 → 00:42:16 มีแต่ย่างมีแต่ปิ้งอะไรเงี้ย
00:42:16 → 00:42:20 น้ำจิ้มกระแทบจะไม่มีส่วนผักอะไรต่างๆ
00:42:20 → 00:42:22 เนี่ยเขาก็ไปเด็ดตอนที่เขาเดินไปไล่ไปนา
00:42:22 → 00:42:24 อย่างนั้นแหละ
00:42:24 → 00:42:27 แต่เวลาที่เขาไปเนี่ย
00:42:27 → 00:42:30 ถ้าเขาหิวเขาก็จะกินนะแต่แต่ส่วนใหญ่มัน
00:42:30 → 00:42:33 ร่างกายมันไม่หิวโดยธรรมชาติของร่างกาย
00:42:33 → 00:42:36 อยู่แล้วอ่ะนะเพราะว่าเวลาแม่มาเอามา
00:42:36 → 00:42:39 เนี่ยมันกลูโคเนียวจิเนี่ยร่างกายมีน้ำ
00:42:39 → 00:42:41 ตาลที่มันอยู่แล้ว
00:42:41 → 00:42:43 ส่วนใหญ่โดยธรรมชาติเขาจะไม่หิวนะฮะไอ้
00:42:43 → 00:42:45 ที่เขาเตรียมไปเนี่ยส่วนใหญ่ที่จะไปกิน
00:42:45 → 00:42:46 มื้อเที่ยงน่ะ
00:42:47 → 00:42:50 มื้อเช้าเนี่ยคนไทยจริงๆในสมัยก่อนเนี่ย
00:42:50 → 00:42:53 เขาก็ไม่ได้กินกันอลังการงานสร้างแบบสมัย
00:42:53 → 00:42:54 เนี้ย
00:42:54 → 00:42:58 บานเบอะอะไรไปอย่างนั้นนะ
00:42:58 → 00:43:02 ครับ process Fat อะไรเงี้ยฮ่าๆๆทั้ง
00:43:02 → 00:43:04 นั้นนะครับเออ
00:43:04 → 00:43:05 นะ
00:43:05 → 00:43:10 โดนลมโดนอากาศเอ่อ
00:43:10 → 00:43:14 เขาก็แฮปปี้เขาก็มีพลังงานอยู่แล้วร่าง
00:43:14 → 00:43:17 กายมันเป็นงานเตรียมไว้อยู่แล้ว
00:43:17 → 00:43:41 ของเรากินเสร็จปั๊บเข้าห้องแอร์เลยครับผม
00:43:41 → 00:43:47 [เสียงหัวเราะ]
00:43:47 → 00:44:05 ไม่รู้มาก่อนเหมือนกันครับ
00:44:05 → 00:44:08 พี่
00:44:08 → 00:44:14 นะครับไม่มีนะ
00:44:14 → 00:44:25 ตอนที่มีวิชาโรค
00:44:25 → 00:44:29 อันนี้ก็คือเป็นธรรมชาติเลยของอินซูลิน
00:44:29 → 00:44:33 ที่เขาจะมาตอนเย็นตอนพระอาทิตย์จะรับขอบ
00:44:33 → 00:44:34 ฟ้า
00:44:34 → 00:44:37 ก็คือพอมีแสงแดงมาเนี่ยอินซูลินจะมา
00:44:37 → 00:44:44 อินซูลินจะมาพร้อมกับแสงแดงนะ
00:44:44 → 00:44:45 ตาม
00:44:45 → 00:45:00 ตามพระอาทิตย์
00:45:00 → 00:45:02 เราเน้นสารอาหาร
00:45:02 → 00:45:05 ซึ่งก็ต้องมีภพทั้งคาร์โบไฮเดรตโปรตีนไข
00:45:05 → 00:45:06 มัน
00:45:06 → 00:45:12 จะต้องจำกัดปริมาณไม่ใช่กินเท่าไหร่ก็ได้
00:45:12 → 00:45:16 แล้วก็ให้ Craft ก็ไปเพื่อจะตอบสนองต่อ
00:45:16 → 00:45:19 การทำหน้าที่ตามปกติของอินซูลิน
00:45:19 → 00:45:23 เขาจะแอคชั่นช่วงประมาณ 6 โมงเย็นถึง 2
00:45:23 → 00:45:30 ทุ่มเป็นพีคนะสูงสุด
00:45:30 → 00:45:34 ถึง 4 ทุ่มพอ 4 ทุ่มนี่ก็เป็น
00:45:34 → 00:45:38 หายไปเกือบหมดแล้วนะ
00:45:38 → 00:45:41 ก็จะเป็นอย่างนี้นะตาม
00:45:41 → 00:45:45 ที่เขาบอกว่า
00:45:45 → 00:45:49 ได้เมื่อไหร่ก็คือช่วงนี้แล้วอาหารมื้อ
00:45:49 → 00:45:51 เย็นเนี่ยเป็นอาหารมื้อหลักของมนุษยชาติ
00:45:51 → 00:45:55 เรากินเย็นนะเราไม่ได้กินเช้าเราไม่กิน
00:45:55 → 00:45:56 เที่ยงนะ
00:45:56 → 00:46:00 มื้อเย็นจะเป็นมื้อหลัก
00:46:00 → 00:46:04 แล้วการมาของอินซูลินและการใส่คราฟเข้าไป
00:46:04 → 00:46:05 ในมื้อเย็น
00:46:05 → 00:46:08 เพื่อการที่จะนอนอันนี้เพื่อสมองจะได้สาร
00:46:08 → 00:46:13 อาหารครบสมองท่านได้สาระครบการแสดงออกก็
00:46:13 → 00:46:14 คือการหลับ
00:46:14 → 00:46:17 เขาจะหลับ
00:46:17 → 00:46:18 ก็ตามนี้นะ
00:46:18 → 00:46:21 เพราะฉะนั้นถ้าเราทำอะไรถูกต้องเนี่ยการ
00:46:21 → 00:46:23 ตอบสนองของอินซูลินเนี่ยเขาจะเรียกว่า
00:46:23 → 00:46:26 อินซูลิน sensitivity
00:46:26 → 00:46:31 ไม่ใช่อินซูลินไฮเปอร์เซ็นติเวช
00:46:31 → 00:46:35 แต่ถ้าคุณตอบสนองผิดโดยการที่คุณใส่บาง
00:46:35 → 00:46:37 สิ่งบางอย่างที่ไปกระตุ้นอินซูลินในตอน
00:46:37 → 00:46:41 เย็นแบบผิดๆมันจะเกิดภาวะ
00:46:41 → 00:46:46 เช่นมื้อเย็นกินนม
00:46:46 → 00:46:50 มื้อเย็นกินผลไม้มื้อเย็น
00:46:50 → 00:46:56 กินอะไรสลัดผักส้มตำผลไม้มื้อเย็นกินน้ำ
00:46:56 → 00:46:57 ตาลน้ำหวาน
00:46:57 → 00:47:02 มื้อเย็นกินโปรตีนแปรรูปโปรตีนผงกินเวย์
00:47:02 → 00:47:04 อะไรพวกนี้
00:47:04 → 00:47:05 ไม่ใช่นะ
00:47:06 → 00:47:08 ร่างกายเขาไม่ได้ต้องการครับประเภทนี้ก็
00:47:08 → 00:47:11 ต้องการครับเชิงซ้อนหรือไม่ก็พัก
00:47:11 → 00:47:16 หัวหินจะตอบสนองแบบสุภาพไม่ดูนะ
00:47:16 → 00:47:21 แล้วก็ทำงานแบบได้อย่างมีประสิทธิภาพ
00:47:21 → 00:47:27 แต่ถ้าคุณไปตอบสนองเขาแบบอย่างนี้นะ
00:47:27 → 00:47:30 กินนมกินน้ำเต้าหู้
00:47:30 → 00:47:33 กินอะไรอ่ะกินนมนมเปรี้ยวโยเกิร์ตน้ำ
00:47:33 → 00:47:51 เต้าหู้กินสลัดผักกินส้มตำผลไม้เรียบร้อย
00:47:51 → 00:47:56 ที่ควรจะยังไม่มาก็จะต้องออกมาทำงาน OT
00:47:56 → 00:47:58 เพื่อ Balance กับอินซูลินที่ทำงานแบบ
00:47:58 → 00:48:02 ไฮเปอร์เซนต์ CCTV ที่แล้วหลังจากนั้น
00:48:02 → 00:48:07 จะทะเลาะกันตลอดคือคุณจะหลับคุณหลับไม่
00:48:07 → 00:48:10 ได้เพราะเวลาคอจะพีคขึ้นมาเนี่ยมันจะดื้อ
00:48:10 → 00:48:17 นะฮะ
00:48:17 → 00:48:21 อันที่ 2 อินซูลินชอบไม่ชอบอะไรอันนี้คือ
00:48:21 → 00:48:24 การวัดคุณภาพการทำงานนั่นเอง
00:48:24 → 00:48:28 อินซูลินก็ชอบไขมันดีโดยเฉพาะน้ำมันสกัด
00:48:28 → 00:48:29 เย็น
00:48:29 → 00:48:34 เขาชอบครับเชิงซ้อนที่เป็นพวกผักหัวหรือ
00:48:34 → 00:48:37 เป็นแป้งเชิงซ้อนในปริมาณที่ไม่ได้เยอะ
00:48:37 → 00:48:39 แยะ
00:48:39 → 00:48:43 ในปริมาณเน็ตครับก็แล้วแต่ว่าช่วงนั้นคุณ
00:48:43 → 00:48:47 จะแก้ไขภาวะหนี้อินซูลินของอวัยวะไหนโครง
00:48:47 → 00:48:55 สร้างไหนรับก่อนตับหรือกล้ามเนื้อ
00:48:55 → 00:48:58 แต่ถ้าเกิดค้าที่มันไม่ถูกต้องนะ
00:48:58 → 00:49:03 อินซูลินจะมีความเกลียดดูโมโหก้าวร้าว
00:49:03 → 00:49:07 มีปฏิกิริยาตอบสนองแบบรุนแรงที่เราเรียก
00:49:07 → 00:49:11 รถไปออกตีลังกา Rover coaster ก็คือ
00:49:11 → 00:49:14 Isuzu
00:49:14 → 00:49:17 พวกพาดเลยนะฮะ
00:49:17 → 00:49:20 นะเพราะนึกว่าเกิดสงครามตายแล้วนะกิน
00:49:20 → 00:49:24 ผลไม้เข้ามากินน้ำตาลฟรุกโตสเข้ามานะกิน
00:49:24 → 00:49:27 ขนมอะไรก็ไม่รู้เข้ามานะกินน้ำหวาน
00:49:27 → 00:49:29 เฮลบลูบอยเข้ามา
00:49:29 → 00:49:31 เสร็จแล้วไงอ่ะ
00:49:31 → 00:49:32 [เพลง]
00:49:32 → 00:49:36 เขาเวลาเขาเป็นรถน้ำตาลพวกนี้เขาจะลดแบบ
00:49:36 → 00:49:38 วูบลงไปเลย
00:49:38 → 00:49:43 น้ำตาลมันดิ่งลงต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานก็
00:49:43 → 00:49:47 เกิดภาวะน้ำตาลต่ำพอภาวะน้ำตาลต่ำปุ๊บแม่
00:49:47 → 00:49:50 คอติซอลนะทนไม่ได้เดี๋ยวมันจะตายเดี๋ยว
00:49:50 → 00:49:54 มันจะขาดพลังงานก็รีบออกมาบาลานซ์กูคน
00:49:54 → 00:49:57 เดียวเพิ่มน้ำมันเข้ามา
00:49:57 → 00:49:59 แต่เขาจะเพิ่มแบบพวกผ้า
00:49:59 → 00:50:02 เพราะว่าอินซูลินมันดิ่งน้ำตาลอย่างพวก
00:50:02 → 00:50:05 เนี่ย
00:50:05 → 00:50:07 ก็เลยเกิดเนี่ยเขาเรียกว่า Roller
00:50:07 → 00:50:10 coaster รถไฟออกตีลังกาเอาขึ้นเอาลงเอา
00:50:10 → 00:50:11 ขึ้นเอาลง
00:50:11 → 00:50:14 แล้วเหตุที่สิ่งเหล่านี้ต้องดำเนินไปเป็น
00:50:14 → 00:50:18 ระยะเวลานานๆบางทีถึง 2-3 วันเนี่ยก็
00:50:18 → 00:50:21 เพราะว่าอินซูลินที่ออกมาผิดเวลาหรือออก
00:50:21 → 00:50:23 มาแบบหยุดๆเนี่ยเขาจะ
00:50:23 → 00:50:27 ซัดเทนซัสเทนแปลว่าเขาจะคงอยู่นะเขาจะไม่
00:50:27 → 00:50:30 ไม่ตกลงมาแบบไปพักไปอะไรอ่ะ
00:50:30 → 00:50:33 เค้าก็จะอยู่คายอยู่อย่างนั้นแหละแล้วก็
00:50:33 → 00:50:37 ท้าทายมาอีก 4-4 ออกมาสิ
00:50:37 → 00:50:43 จัดการดั้ม
00:50:43 → 00:50:47 อันนี้เข้าใจนะความชอบไม่ชอบเนี่ยเพราะ
00:50:47 → 00:50:51 ฉะนั้นให้เขาให้อาหารให้มันถูก
00:50:51 → 00:50:55 อันต่อมาเนี่ยอันนี้สำคัญนะก็คือการยืด
00:50:55 → 00:50:57 หยุ่นการยืดหยุ่นเนี่ยเป็นเรื่อง
00:50:57 → 00:51:01 ประสิทธิภาพการทำงานของอินซูลินอันนี้มี
00:51:01 → 00:51:07 ผลมากๆต่อคนผอมคนสมส่วนหรือคนบอดี้ไทยสาย
00:51:07 → 00:51:09 แป้ง
00:51:09 → 00:51:12 คุณจะรีเซ็ตฮอร์โมนเนี่ยเมื่อรีเซ็ตได้
00:51:12 → 00:51:15 ระดับหนึ่งแล้วอย่างช่วงหนึ่งแล้วเนี่ย
00:51:15 → 00:51:20 คุณจะต้องให้ทำให้เขายืดหยุ่นเกิดความยืด
00:51:20 → 00:51:22 หยุ่น
00:51:22 → 00:51:26 ก็คือมีการกระตุ้นมีการฝึกฝนในการทำหน้า
00:51:26 → 00:51:27 ที่
00:51:27 → 00:51:31 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน
00:51:31 → 00:51:34 เหล่านี้จะมีผลดีต่อตัวกล้ามเนื้อกระดูก
00:51:34 → 00:51:38 ผิวพรรณผมเล็บ
00:51:38 → 00:51:41 ก็คือวิธีการฝึกในการยืดหยุ่น
00:51:41 → 00:51:43 ก็คือ
00:51:43 → 00:51:47 ก็คือให้เขามาทำงานแบบแปลกๆอ่ะครับอย่าง
00:51:47 → 00:51:51 เช่นเรา Local
00:51:51 → 00:51:55 5 วันอีกสัก 1 หรือ 2 วันเนี่ย
00:51:55 → 00:52:00 เราก็เป็น High Protein
00:52:00 → 00:52:11 ไป
00:52:11 → 00:52:14 ก็เรียกว่า sheeting Day หรือว่าอะไรอ่ะ
00:52:14 → 00:52:16 treat Day
00:52:16 → 00:52:22 อันนี้ก็จะนำมาใช้กับคนที่สายแป้งหรือพุง
00:52:22 → 00:52:23 ตับ
00:52:23 → 00:52:28 ไทรอยด์เวลาที่จะมีการปรับการ Balance
00:52:28 → 00:52:30 ฮอร์โมน
00:52:30 → 00:52:34 เรื่องของภาวะอินซูลินที่มันต้องมีความ
00:52:34 → 00:52:37 ยืดหยุ่น
00:52:37 → 00:52:41 แต่ในแง่ของคนอ้วนอะไรอย่างนี้ไม่จำเป็น
00:52:41 → 00:52:45 อันนี้ไม่จำเป็นที่หยุด
00:52:45 → 00:52:52 ด้วยว่าเราเป็นแบบไหน
00:52:52 → 00:52:56 อันนี้ก็สำคัญอันนี้ที่หมอพยายามสรุปไว้
00:52:56 → 00:53:00 คนอ้วนหรือสมส่วนค่อนอ้วน
00:53:00 → 00:53:05 เวลาเราเวลาเขามีการกระตุ้นเค้าไปกิน
00:53:05 → 00:53:06 อาหาร
00:53:06 → 00:53:11 เยอะๆนะแล้วประสิทธิภาพการทำงานจะตอบสนอง
00:53:11 → 00:53:16 ดีเร็วว่องไวนะคุณภาพการประมาณดีคือ
00:53:16 → 00:53:18 อินซูลินมันขยันในการ
00:53:18 → 00:53:20 ลดน้ำตาลหรือในการเปลี่ยนน้ำตาลไปเป็น
00:53:20 → 00:53:26 ไตรกลีเซอไรด์
00:53:26 → 00:53:31 ซึ่งถ้าคนอ้วนคนสมส่วนค่อนอ้วนนะแล้วมี
00:53:31 → 00:53:35 การกระตุ้นอินซูลินอยู่บ่อยๆ
00:53:35 → 00:53:38 คุณสมบัติของอินซูลินที่พูดไปอย่างนี้นะ
00:53:38 → 00:53:42 มันก็จะมากมายซะจนแบบ
00:53:42 → 00:53:46 คือคือมันก็ดีขึ้นไปหมดเลยอ่ะนะมันไม่
00:53:46 → 00:53:50 เสียหายมันไม่ไม่ลดประสิทธิภาพอะไรเลยนะ
00:53:50 → 00:53:53 แต่เซลล์ของเราเนี่ยมันจะทนไม่ไหว
00:53:53 → 00:53:58 คำว่าอินซูลเนี่ยความหมายส่วนใหญ่ก็คือ
00:53:58 → 00:54:01 ความหมายที่ตัวเซลล์ของร่างกายเนี่ยกลัว
00:54:01 → 00:54:04 กลัวอินซูลินกลัวน้ำตาลแล้วเกิดความดื้อ
00:54:04 → 00:54:08 ด้านปรับตัวใหม่โดยไม่ตอบสนองต่ออินซูลิน
00:54:08 → 00:54:11 ไม่ให้อินซูลินเนี่ยมาเกาะแล้วมาเปิด
00:54:11 → 00:54:14 ประตูกัด 4 อ่ะเอาน้ำตาลเข้า
00:54:14 → 00:54:18 มันจะเป็นอย่างนี้นะแต่เหตุเนี่ยย้อนกลับ
00:54:18 → 00:54:21 มาแล้วก็คือเราไปกระตุ้นจากการใช้อาหาร
00:54:21 → 00:54:22 ที่ผิด
00:54:22 → 00:54:25 อันนี้จะเป็นปฏิกิริยาในคนอ้วนหรือคนสม
00:54:25 → 00:54:27 ส่วน
00:54:27 → 00:54:30 ทีนี้เวลาที่คนอ้วนคนสมควรเอ้ารู้ตัวแล้ว
00:54:30 → 00:54:34 ล่ะว่าไม่ดี
00:54:34 → 00:54:37 เดี๋ยวแกก็จะเป็นโรคเยอะแยะเลย 87 ลูก
00:54:38 → 00:54:40 ก็ต้องหยุดยั้งอินซูลิน
00:54:40 → 00:54:43 เวลาคนกลุ่มนี้เนี่ยเขาหยุดยั้งอินซูลิน
00:54:43 → 00:54:44 เขาทำอะไร
00:54:44 → 00:54:48 เขาก็เปลี่ยนโภชนาการเป็นคีโตซีดีเคซีดี
00:54:48 → 00:54:51 เป็นโรคอะไร
00:54:51 → 00:54:54 อีกทำ is
00:54:54 → 00:54:58 หรือไปออกกำลังกาย
00:54:58 → 00:55:02 ก็แล้วแต่จะทำได้ 123 หรืออีกอย่าง 2
00:55:02 → 00:55:06 อย่างอะไรเงี้ยนะเมื่ออินซูลินถูกรถนะถูก
00:55:06 → 00:55:08 รถเนี่ยปริมาณมันจะลดลงถูกยับยั้งเนี่ย
00:55:08 → 00:55:12 ฮะนะแต่ประสิทธิภาพของตัวอินซูลินที่มัน
00:55:12 → 00:55:16 ลดลงไปเนี่ยมันก็ยังตอบสนองได้ดีอ่ะนะถ้า
00:55:16 → 00:55:19 จะให้มันเอาน้ำตาลเข้าเซลล์หรือว่าเอา
00:55:19 → 00:55:21 พลังงานเข้าเซลล์หรือเอาพลังงานเปลี่ยนไป
00:55:21 → 00:55:23 เป็นไตรกลีเซอไรด์สะสม
00:55:23 → 00:55:26 เพราะฉะนั้นคุณภาพการทำงานก็ยังพอใช้ได้
00:55:26 → 00:55:27 อ่ะนะ
00:55:27 → 00:55:30 เค้าไม่ได้มีปัญหาอะไรนะ
00:55:30 → 00:55:33 แต่เซลล์เนี่ยก็จะดีหน่อยก็คือไม่กลัวมาก
00:55:33 → 00:55:38 นะแล้วไม่พยายามที่จะปรับตัวนะไปไปแบบ
00:55:38 → 00:55:40 ดื้อ
00:55:40 → 00:55:43 ครับเพราะฉะนั้นไอ้คนอ้วนหรือคนสมส่วนขอ
00:55:43 → 00:55:47 ให้จำนะครับพวกเรานะเวลาเราจะปรับเนี่ย
00:55:47 → 00:55:51 เราจะยับยั้งอินซูลินแล้วก็ทำมาถึงในจุด
00:55:51 → 00:55:54 นี้ในจุดที่อินซูลินเนี่ยมันยังทำให้
00:55:54 → 00:55:57 เซลล์ทำงานได้ตามปกติ
00:55:57 → 00:56:00 เราก็จะทำได้แค่นี้นะส่วนคุณจะเป็นโรค
00:56:00 → 00:56:04 อ้วนเป็นเบาหวานหรือเป็นความดันเป็น
00:56:05 → 00:56:09 อินซูลิน resistance ขนาดไหน
00:56:09 → 00:56:11 ซึ่งก็ดูไม่ยาก
00:56:11 → 00:56:14 ไม่ยากนะเราไม่ค่อยเกิดปัญหาอะไรหรอก
00:56:14 → 00:56:17 นะถ้าเราเข้าใจแบบนี้นะ
00:56:17 → 00:56:21 ถ้าเกิดเราทำมาได้ถึงร่างกายมันสมส่วนถ้า
00:56:21 → 00:56:23 มันสมส่วนมันก็ยังมีการตอบสนองแบบเนี้ย
00:56:23 → 00:56:28 แบบเนี้ยอ่า
00:56:28 → 00:56:30 ทีนี้มาดูอีกฝั่งนึงอ่ะฝั่งเนี้ยปัญหา
00:56:30 → 00:56:35 เยอะโดยเฉพาะในปัจจุบันเนี่ยอ่า
00:56:35 → 00:56:38 ส่วนใหญ่จะเป็นคนกลุ่มนี้
00:56:38 → 00:56:43 ก็คือคนผอมหรือสมส่วนค่อนข้างผอมหรือเป็น
00:56:43 → 00:56:47 คนอ้วนนะแล้วก็เปลี่ยนโภชนาการทำ If ออก
00:56:47 → 00:56:50 กำลังกายจนกระทั่งมาเป็นคนกลุ่มเนี้ยก็
00:56:50 → 00:56:54 คือคนสมส่วนค่อนข้างจะเบ็ดของนะครับอัน
00:56:54 → 00:56:57 นี้เนี่ยคุณจะมาทำแบบนี้ไม่ได้
00:56:57 → 00:57:02 ทำอะไรแบบอย่างนี้ไม่ได้
00:57:02 → 00:57:04 คนพวกนี้นะ
00:57:04 → 00:57:08 เวลาเนี่ยเวลาเขาแก้ไขเวลาก็แก้ไข
00:57:08 → 00:57:13 ถ้าเอาสูตรของคนอ้วนมาแก้เนี่ยนะ
00:57:13 → 00:57:15 ถ้าศูนย์คนอ้วนก็คือยับยั้งอินซูลินใช่
00:57:15 → 00:57:16 ไหมฮะเนี่ย
00:57:16 → 00:57:18 ลองดูอันนี้ก่อน
00:57:18 → 00:57:21 ถ้าสมมุติเขายับยั้งอินซูลินเนี่ยเขาทำ
00:57:21 → 00:57:22 อะไรอ่ะ
00:57:22 → 00:57:25 เขาผอมก็ผอมแล้วนะ
00:57:25 → 00:57:27 แต่เขาเป็นเบาหวานอย่างเงี้ยนะคุณก็ไป
00:57:27 → 00:57:31 สั่งให้เขา low Car เอ่อ CD เลยอ่ะนะ
00:57:31 → 00:57:36 แล้วทำไงอ่ะเออกินวันมีวันดีไอ้เอฟ 23/1
00:57:36 → 00:57:46 แล้วก็เอ่อ
00:57:46 → 00:57:49 อันนี้มันจะยังไงอ่ะนะก็อินซูลินถูกยับ
00:57:49 → 00:58:12 ยั้งโอเคถูกยับยั้งครับ
00:58:12 → 00:58:15 อันนี้แหละฮะที่มันจะเกิดปัญหากันเยอะๆใน
00:58:15 → 00:58:20 การที่ทำแบบนี้กับกลุ่มคนที่พร้อมนะสม
00:58:20 → 00:58:23 ส่วนค่อนข้างผอมหรือพวกสายแป้งสายแป้งก็
00:58:24 → 00:58:31 คือพุงเครียดกับไทรอยด์เราเจอเยอะมากนะ
00:58:31 → 00:58:44 แต่ถ้าทำแบบนี้นะ
00:58:44 → 00:58:47 อาจจะมีปริมาณ
00:58:47 → 00:58:54 เพิ่มขึ้นก็จะเพิ่มไม่เยอะ
00:58:54 → 00:58:57 เขาก็ไม่ได้มาในปริมาณเยอะๆเหมือนคนอ้วน
00:58:57 → 00:59:00 เพราะถ้ามาอย่างนี้ตอบสนองเนี่ยเขาก็อ้วน
00:59:00 → 00:59:02 ไปแล้วนะฮะ
00:59:02 → 00:59:04 คนผอมเนี่ยอย่าลืมว่ามีสุรินทร์ไม่ได้
00:59:04 → 00:59:15 เยอะนะฮะ
00:59:15 → 00:59:19 ถึง 10 หรือ 10 ไม่เกิน 15 เท่ากับออกมา
00:59:19 → 00:59:22 มันก็เป็นอย่างเงี้ยเพราะฉะนั้น
00:59:22 → 00:59:25 เลเวลไม่ได้
00:59:25 → 00:59:29 แต่ปัญหาเนี่ยปัญหาก็คือเป็นปัญหาที่ว่า
00:59:29 → 00:59:35 ถ้าคุณไปยึดหลักแบบข้างบนเนี่ยแล้วคุณไป
00:59:35 → 00:59:36 ดี
00:59:36 → 00:59:41 โอเมสออกกำลังกายเนี่ยมันก็จะเกิดภาวะ
00:59:41 → 00:59:45 อย่างนี้ถ้ายิ่งทำนานๆแบบนี้
00:59:45 → 00:59:48 คือมันทำได้ก็ทำได้แบบนี้นะ
00:59:48 → 00:59:52 แบบนี้นะคือต้องกระตุ้นอินซูลินบ้างนะ
00:59:52 → 00:59:56 ครับประสิทธิภาพแต่ประสิทธิภาพเนี่ยของคน
00:59:56 → 00:59:57 ญี่ปุ่นเนี่ย
00:59:57 → 01:00:00 มันก็ไม่ได้ว่องไวอะไรนักหนาหรอกนะเพราะ
01:00:00 → 01:00:02 ว่ามันค่อนข้างที่จะไปทางดื้อแล้วไม่งั้น
01:00:02 → 01:00:05 เขาก็อ้วนไปแล้วนะอ่า
01:00:05 → 01:00:08 แล้วคุณภาพการทำงานของอินซูลินพวกนี้ก็
01:00:08 → 01:00:10 เฉื่อยเหนื่อยอยู่แล้วล่ะ
01:00:10 → 01:00:13 แล้วก็เซลล์ตอบสนองไม่ค่อยดีนักนะไม่ค่อย
01:00:13 → 01:00:16 ดีนะ
01:00:16 → 01:00:20 เพราะฉะนั้นถามว่าถ้าผอมสมส่วนค่อนข้าง
01:00:20 → 01:00:22 ผอมนะ
01:00:22 → 01:00:26 แล้วจะแก้ไขไอ้พวกเนี้ยนะมันจะต้องทำยัง
01:00:26 → 01:00:31 ไงนะแรกๆเนี่ยคุณอาจจะทำแบบเนี่ยยับยั้ง
01:00:31 → 01:00:32 อินซูลินเนี่ยเอ่อ
01:00:32 → 01:00:37 แม้ออกกำลังกายถ้าทำได้นะ
01:00:37 → 01:00:41 แต่ต้องมีธรรมมิ่งอ่ะที่ไม่ไม่ยาวนานเกิน
01:00:41 → 01:00:42 ไป
01:00:42 → 01:00:48 แล้วก็รีบรีบค่อยๆเติมโน่นเติมนี่เข้าไป
01:00:48 → 01:00:51 เพราะว่าอะไรเพราะว่าอินซูลินของเขาเนี่ย
01:00:51 → 01:00:56 คุณภาพมันไม่ดีประสิทธิภาพมันขี้เกียจมัน
01:00:56 → 01:00:58 เฉยเลยมันไม่ค่อยอยากทำงาน
01:00:59 → 01:01:01 มันเป็นเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องปริมาณ
01:01:01 → 01:01:03 อินซูลิน
01:01:03 → 01:01:06 พวกผอมๆสมส่วนค่อนข้างผอมไม่ได้เกี่ยวกับ
01:01:06 → 01:01:11 เรื่องปริมาณแต่ไอ้พวกปริมาณตอบสนองดีๆ
01:01:11 → 01:01:14 อะไรพวกนี้มันเป็นเรื่องของคนอ้วนสมส่วน
01:01:14 → 01:01:18 ค่อนข้างอ้วนอวบอันนี้มากกว่า
01:01:18 → 01:01:22 ซึ่งไอ้ความผิดปกติของอันนี้มันอยู่ที่
01:01:22 → 01:01:24 ตัวเซลล์
01:01:24 → 01:01:26 ที่อยู่ที่ตัวอินซูลินไม่ได้อยู่ที่ตับ
01:01:26 → 01:01:27 อ่อน
01:01:27 → 01:01:30 แต่อันเนี้ยอันเนี้ยความผิดปกติไม่ได้
01:01:30 → 01:01:33 อยู่ที่ตัวเซลล์นะเซลล์ก็อยากจะตอบสนอง
01:01:33 → 01:01:38 ถ้าอยากจะได้ Craft เข้าไปบ้างเพื่อไป
01:01:38 → 01:01:39 Best
01:01:39 → 01:01:45 นะแต่อะไรอ่ะแต่มันไม่มีอินซูลินที่ที่ดี
01:01:45 → 01:01:47 ๆที่ขยันขยันน่ะช่วย
01:01:47 → 01:01:49 เขียด
01:01:50 → 01:01:54 นะทำงานไม่เวิร์ค
01:01:54 → 01:01:59 คนละอย่างใครเนอะ
01:01:59 → 01:02:04 อันนี้เป็นหัวใจของอินซูลินทั้งนั้นเลย
01:02:04 → 01:02:07 เพราะฉะนั้นเรื่องของอินซูลินเนี่ยนะ
01:02:07 → 01:02:11 The law of Small Number
01:02:11 → 01:02:16 ว่ากินรองเท้ากินคีโตอะไรอย่างนี้นะครับ
01:02:16 → 01:02:17 นะ
01:02:17 → 01:02:25 แต่มันทำได้เฉพาะกลุ่มคนที่อ้วนนะ
01:02:25 → 01:02:29 ต้องดูเป็นคนๆนะแยกเป็น
01:02:29 → 01:02:33 กลุ่มๆไปด้วย
01:02:33 → 01:02:38 แต่ก็ดูที่ไทม์ด้วยนานเกินไปไม่ได้แล้ว
01:02:38 → 01:02:42 เปลี่ยนหรือมันเริ่มฟ้องเวลาเริ่มฟ้อง
01:02:42 → 01:02:51 ฟ้องอะไรอ่ะนะครับ
01:02:51 → 01:02:53 นะเพราะว่าคุณไม่มีการยืดหยุ่น
01:02:53 → 01:02:55 นะ
01:02:55 → 01:03:00 ครับไม่มีคิดติ้งเดย์ไม่มีทริคเดย์อ่ะนะ
01:03:00 → 01:03:02 กล้ามเนื้อคุณก็จะฝ่อ
01:03:02 → 01:03:04 นะคุณจะนอนไม่หลับ
01:03:04 → 01:03:08 กระดูกนะกระดูกก็
01:03:08 → 01:03:13 จะโป่งบานเดี๋ยวกระดูกมันจะจางผิวพรรณก็
01:03:13 → 01:03:19 ไม่ดีผมร่วงเล็บเปราะ
01:03:19 → 01:03:22 พวกนี้โปรตีนมันขาดโปรตีน
01:03:22 → 01:03:25 เพราะว่าอินซูลินมันต้อง
01:03:25 → 01:03:29 เอาโปรตีนนะเข้าไปที่ตัวพวกกล้ามเนื้อพวก
01:03:29 → 01:03:55 กระดูกนะ
01:03:55 → 01:04:00 แต่ก็ต้องแบ่งกลุ่มด้วยเท่านั้นแหละนะ
01:04:00 → 01:04:03 เพียงแต่ว่าคนในปัจจุบันเนี่ยมัน
01:04:03 → 01:04:17 คนมันอ้วนเยอะไง
01:04:17 → 01:04:20 อันนี้เป็นคำที่บัญญัติขึ้นมา
01:04:20 → 01:04:24 ที่ตรงข้ามกับอินซูลินรีซิสแตนท์
01:04:24 → 01:04:30 พูดง่ายๆก็คือมันใช้กับคนอ้วนครับคนอ้วน
01:04:30 → 01:04:33 คนพวกสะสมพลังงานเยอะๆ
01:04:33 → 01:04:37 แต่ว่าพวกอินซูลินดีฟังก์ชันเนี่ยมันจะ
01:04:37 → 01:04:41 ใช้กับกลุ่มผอม
01:04:41 → 01:04:50 กลุ่มคนผอมคนน้ำหนักสมส่วน
01:04:50 → 01:04:52 ไทรอยด์
01:04:52 → 01:04:56 การที่อินซูลินลดระดับเป็นเวลานานๆนะเรา
01:04:56 → 01:04:59 อาจจะเกิดคล้ายๆภาวะดื้อสุรินทร์ขึ้นมา
01:04:59 → 01:05:02 อีกรูปแบบหนึ่งแต่เป็นรูปแบบที่มี
01:05:02 → 01:05:04 อินซูลินน้อยๆ
01:05:04 → 01:05:06 เพราะว่าอินซูลินมันทำงานไม่ได้
01:05:06 → 01:05:10 เป็นงานไม่ได้มันน้อยแล้วมันทำงานไม่ได้
01:05:10 → 01:05:14 แต่ไอ้คนอ้วนเนี่ยอินซูลินมันมากมันทำงาน
01:05:14 → 01:05:17 ได้แต่เซลล์มันกันไว้กูไม่ให้เข้ากูไม่
01:05:18 → 01:05:20 ให้เข้า
01:05:20 → 01:05:24 เซลล์ไม่เข้า
01:05:24 → 01:05:27 ตรงกันข้ามนะซึ่งอันนี้คุณภาพประสิทธิภาพ
01:05:27 → 01:05:30 ไม่ดี
01:05:30 → 01:05:33 แต่อินซูลินแบบคนอ้วนเนี่ยไม่มีอะไรไม่ดี
01:05:33 → 01:05:36 ทุกอย่างยังดีหมดแต่มันไม่ดีที่ตัวเซลล์
01:05:36 → 01:05:40 เซลล์มันกันไว้เซลล์มันบล็อกไว้มันเต็ม
01:05:40 → 01:05:43 แล้วเดี๋ยวจะแก้ยังไงอ่ะเดี๋ยวก็จะบอก
01:05:43 → 01:05:46 คนที่อินซูลินนี้ฟังก์ชันเนี่ยมันก็เป็น
01:05:46 → 01:05:48 แบบที่เราคุยกันไปเมื่อกี้นี้แหละฮะว่า
01:05:48 → 01:05:51 เขาไม่เข้าใจเรื่องการกินเรื่องของอาหาร
01:05:51 → 01:05:53 อะไรต่างๆ
01:05:53 → 01:05:56 เขาไม่เข้าใจนะนะ
01:05:56 → 01:05:59 มื้อแรกกินยังไงทำไมจะต้องพลังงานมือสอง
01:05:59 → 01:06:03 ทำไมต้องสารอาหารได้ครบแต่ไปจัดสารอาหาร
01:06:03 → 01:06:07 คาร์ฟก็ผิดประเภทโปรตีนก็ไม่มีคุณภาพนะฮะ
01:06:07 → 01:06:10 ไขมันก็ไปกินน้ำมงน้ำมันเอาน้ำมันไปผัดไป
01:06:10 → 01:06:12 ทอดอย่างเงี้ยนะไม่ใช่ไขมันคงรูปอย่าง
01:06:12 → 01:06:16 เงี้ยอันนี้ก็ไปเลยฮะยิ่งผอมด้วยยิ่งสม
01:06:16 → 01:06:19 ส่วนด้วยเหรอแล้วยิ่งป่วยด้วยอย่างเงี้ย
01:06:19 → 01:06:23 เนี่ยอินซูลินที่ฟังก์ชันก็มาแบบเนี้ยนะ
01:06:23 → 01:06:26 แล้วพอมาแล้วเนี่ยไม่ใช่ว่าอินซูลินผิด
01:06:26 → 01:06:29 ปกติจะผิดปกติครับ
01:06:29 → 01:06:34 ฮอร์โมนอื่นๆนะทั้งทั้งบ้านเนี่ยนะฮะนะ
01:06:34 → 01:06:37 ข้อที่ 2 ก็จะต้องมาผิดปกติ
01:06:37 → 01:06:40 เอสโตรเจนอาจจะไม่ชัดเจนนะแต่ลูกเทพนี่
01:06:40 → 01:06:47 ต้องผิดผิดปกติร่วมไปด้วย
01:06:47 → 01:06:52 เรามาดูหน้าที่หลักๆของอินซูลิน
01:06:52 → 01:06:55 อันนี้ก็เป็นหน้าที่ที่เราจะเจอเสมอใน
01:06:55 → 01:06:59 เรื่องของ
01:06:59 → 01:07:02 ค่าแลปหรือว่าอาการอะไรต่างๆที่เข้ามา
01:07:02 → 01:07:04 แจ้งกัน
01:07:04 → 01:07:07 หน้าที่หลักๆที่อินซูลินเขาต้องทำในช่วง
01:07:07 → 01:07:11 ที่เรากินโภชนาการ low carp
01:07:11 → 01:07:14 ลดระดับน้ำตาลในเลือด
01:07:14 → 01:07:15 [เพลง]
01:07:15 → 01:07:20 ลดลงนะหน้าที่อันนี้ก็น้อยลงไปครับ
01:07:20 → 01:07:23 ประคองกล้ามเนื้อในการเอาอาหารไปส่งให้
01:07:23 → 01:07:27 เซลล์กล้ามเนื้ออันนี้ก็สำคัญโดยเฉพาะคน
01:07:27 → 01:07:28 ผอม
01:07:28 → 01:07:31 สร้างมวลกล้ามเนื้อน่ะเพราะกล้ามเนื้อเรา
01:07:31 → 01:07:35 สำคัญ
01:07:35 → 01:07:42 พอมีกล้ามเนื้อเยอะ
01:07:42 → 01:07:46 ๆก็มีการซ่อมแซมร่างกายที่เสื่อมสภาพ
01:07:46 → 01:07:51 การเผาผลาญพลังงานนะมันต้องใช้อินซูลิน
01:07:51 → 01:07:55 เป็นบางอวัยวะนะฮะ
01:07:55 → 01:08:03 การขนถ่ายสารอาหารนะเข้าเข้าต่อมไทรอยด์
01:08:03 → 01:08:05 เพราะว่าถ้าอินซูลินน้อยเกินไป
01:08:05 → 01:08:08 ต่อมไทรอยด์ก็ไม่มีสารอาหารที่จะไปสร้าง
01:08:09 → 01:08:13 t4
01:08:13 → 01:08:18 ต้องอาศัยอินซูลินนะอันนี้ไทรอยด์
01:08:18 → 01:08:31 ก็ต้องคู่กันไปนะ
01:08:31 → 01:08:38 เพื่อเก็บ ldl เข้าไปไว้ในเซลล์ต่าง
01:08:38 → 01:08:40 เพราะว่ายังไงคอเลสเตอรอลเนี่ยมันก็ร่าง
01:08:40 → 01:08:47 กายก็ต้องเอามาใช้
01:08:47 → 01:08:49 เพราะฉะนั้นไอ้ตัวรีเซ็ตเตอร์ก็จะต้องรับ
01:08:49 → 01:08:53 ได้นะแต่ถ้าเกิดไม่มีสุรินทร์และไม่มี
01:08:53 → 01:08:57 ไทรอยด์นะครับ
01:08:57 → 01:09:01 เพราะฉะนั้น ldl มันก็เลยเยอะ
01:09:01 → 01:09:03 อินซูลินเนี่ยบางครั้งเนี่ยเราก็ต้อง
01:09:03 → 01:09:05 กระตุ้นให้เข้ามาทำงาน
01:09:05 → 01:09:09 โดยเฉพาะในคนผมผอมๆคุณจะไป low
01:09:09 → 01:09:14 ยันตีแรมเดือนแรมปีตลอดไปนะไม่ได้คุณต้อง
01:09:14 → 01:09:22 ดูเป็นช่วงๆไปด้วย
01:09:23 → 01:09:27 มันเกิดการทำงานแบบโง่ๆอะไรก็ตาม
01:09:27 → 01:09:30 แล้วมันจะตามมาด้วยการเจ็บป่วยวิธีแก้ไข
01:09:30 → 01:09:34 อินซูลินดิสฟังก์ชั่นก็คือฝึกฝนอินซูลิน
01:09:34 → 01:09:40 ให้ทำงานนะแบบตรงกันข้าม
01:09:40 → 01:09:43 ก็คือการกินการนอนการเว้นระยะการกินการ
01:09:43 → 01:09:45 ออกแรงออกกำลังแต่อินซูลินมันเกี่ยวกับ
01:09:45 → 01:09:47 อาหารเนี่ยอย่างที่บอกไปตั้งแต่ตอนแรก
01:09:47 → 01:09:53 เพราะฝึกที่การกินจึงต้องมีคำว่า sheeting
01:09:53 → 01:09:57 Day นะ
01:09:57 → 01:10:01 1-2 วันต่อสัปดาห์คุณต้องฝึกอินซูลินโดย
01:10:01 → 01:10:06 กินคาร์ฟในมื้อแรก
01:10:06 → 01:10:10 แล้วก็ไปกินค้ามื้อเย็นอีกนะแต่ว่าวันนี้
01:10:10 → 01:10:13 ทั้งวันเนี่ยก็พยายามลดหรือตัดไขมันต่างๆ
01:10:13 → 01:10:18 ถ้าจะมีไขมันก็ให้อยู่ในรูปของไขมันคมรูป
01:10:18 → 01:10:24 ครับ
01:10:24 → 01:10:29 สาย
01:10:29 → 01:10:35 พุงตับไทรอยด์ต้องทำนะ
01:10:35 → 01:10:38 จริงๆมันเข้าทางเลยนะเนี่ยพี่หมอ
01:10:38 → 01:10:49 เออใช่อันนี้ก็จะเป็นประเด็นเลยเนี่ย
01:10:49 → 01:10:54 อันนี้หมอสรุปไปนิดหน่อยนะ
01:10:54 → 01:10:58 อย่างตัวแม่คอติซอลเนี่ยเขาจะมาหรือจะมาก
01:10:58 → 01:11:02 ขึ้นหรือเด่นจากอะไรบ้างการกินผิดๆร่าง
01:11:02 → 01:11:04 กายมันเครียด
01:11:04 → 01:11:08 ผิดปริมาณผิดชนิดผิดสัดส่วนปรุงไม่เป็นนะ
01:11:08 → 01:11:12 เวลามีกินในการกินไม่ถูกต้อง
01:11:12 → 01:11:16 อันนี้ร่างกายเครียดนะแต่วันสองวันก็อาจ
01:11:16 → 01:11:19 จะไม่เครียดแต่ถ้าคุณทำเป็นเดือนแล้ว
01:11:19 → 01:11:22 เดือนเล่าเดือนแล้ว
01:11:22 → 01:11:28 ไม่รอดฮะอ้าวเรื่องเลยนะเออนะ
01:11:28 → 01:11:30 เพราะว่าคอร์ติซอลมันเป็นฮอร์โมนที่เขาจะ
01:11:30 → 01:11:32 มาเมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงทางด้าน
01:11:32 → 01:11:37 พฤติกรรม
01:11:37 → 01:11:39 กินโปรตีนล้นเกินต่อมื้อ
01:11:39 → 01:11:45 ในบางคนโดยเฉพาะสายแป้ง
01:11:45 → 01:11:49 กินผิดหรือกินล้นเกินกินเยอะๆหรือไม่ควร
01:11:49 → 01:11:51 จะวันมีวันดี
01:11:51 → 01:11:54 ก็ไปวันมีวันดีโดยที่ร่างกายเขาไม่โอเค
01:11:54 → 01:11:57 ด้วย
01:11:57 → 01:12:00 เกินไป
01:12:00 → 01:12:04 การนอนไม่พอหลับไม่ลึกไม่มีคุณภาพการได้
01:12:04 → 01:12:06 รับสารพิษท็อกซีน
01:12:06 → 01:12:16 ออกกำลังกายมากหนักบ่อยนะ
01:12:16 → 01:12:19 [เพลง]
01:12:19 → 01:12:35 สายเนี่ยสายที่มันอ้วนยากไง
01:12:35 → 01:12:37 สะดุ้งเลย
01:12:37 → 01:12:41 ทีนี้ข้อที่ 2 จะเกิดเมื่อนั่งมากและนาน
01:12:41 → 01:12:45 เกินนะ
01:12:45 → 01:12:52 เขาเรียกว่านั่งจนรากแก้วล่าอากาศงอก
01:12:52 → 01:12:55 มันถูกกระตุ้นโดยไม่รู้ตัวนะ
01:12:55 → 01:12:58 เพราะว่ามนุษย์เนี่ยธรรมชาติสร้างขึ้นมา
01:12:58 → 01:13:03 คือให้ลงน้ำหนักที่ขา 2 ข้างนะ
01:13:03 → 01:13:05 ถ้าเรานั่งปุ๊บเนี่ยน้ำหนักมันจะมีโหลด
01:13:05 → 01:13:08 ที่หลังที่หลังส่วนล่างกระเบนเหน็บแล้วก็
01:13:08 → 01:13:18 ที่ก้นมันผิดธรรมชาติ
01:13:18 → 01:13:23 [เพลง]
01:13:23 → 01:13:27 ไม่รู้ว่ามีการหลอกกำลังการบนกลางล่าง
01:13:27 → 01:13:32 มีการปรับมาปรับสมดุลกล้ามเนื้อ
01:13:32 → 01:13:35 คอบ่าไหล่
01:13:35 → 01:13:38 แล้วก็ภูมิ
01:13:38 → 01:13:45 จะเดินอะไรต่างๆเนี่ยให้ก็ให้ทำหลังอาหาร
01:13:45 → 01:13:48 อดอาหารอย่างไม่เหมาะสมนะฮะ
01:13:48 → 01:13:51 แล้วมื้อเย็นเนี่ยจะเป็นนี้มื้อที่มีผล
01:13:51 → 01:13:55 ต่อฮอร์โมนเครียดมากที่สุดคือมื้อเย็นถ้า
01:13:55 → 01:13:56 เรากินถูกเนี่ย
01:13:56 → 01:13:59 อินซูลินเนี่ยเขาก็มาของเขาอยู่แล้วนะ
01:13:59 → 01:14:01 แต่มื้อเย็นเนี่ยฮอร์โมนเครียดไม่ควรจะมา
01:14:01 → 01:14:04 เพราะถ้าฮอร์โมนเสี้ยนมามื้อเย็นเนี่ยคุณ
01:14:04 → 01:14:08 ก็จะไม่หลับเลยตั้งต้นไม่หลับนะ
01:14:08 → 01:14:11 เพราะฉะนั้นมื้อเย็นจะกินยังไงให้คอติซอล
01:14:11 → 01:14:12 ไม่มา
01:14:12 → 01:14:16 ก็กินให้มันครบด้วยสารอาหารครบพอคอติซอล
01:14:16 → 01:14:19 ไม่มาเราก็หลับเพราะถ้าคอยที่ชอบมาเราไม่
01:14:19 → 01:14:20 หลับ
01:14:20 → 01:14:23 ก็เรียกว่าไม่เกิดภาวะ Deep Sleep นะ
01:14:23 → 01:14:28 อย่างไม่มีคุณภาพ
01:14:28 → 01:14:29 แล้วก็
01:14:29 → 01:14:34 การเสพติดเลิกไม่ได้คือเสพติดแล้วแต่ว่า
01:14:34 → 01:14:39 อันนี้มันเป็นเรื่องพฤติกรรมพฤติกรรมที่
01:14:39 → 01:14:41 ที่ว่า
01:14:41 → 01:14:44 ที่มันค่อนข้างมากเกินไป
01:14:44 → 01:14:48 ของแต่ละคนคือเราอ่ะมีความเคยชินจน
01:14:48 → 01:14:51 กระทั่งไม่รู้จักความพอดีเพราะว่างั้น
01:14:51 → 01:14:55 มันชินไปแล้วกินกาแฟชินไปแล้วทั้งๆที่
01:14:55 → 01:14:57 กาแฟก็มีคาเฟอีน
01:14:57 → 01:15:02 ก็มีผลอะไรอ่ะไปกระตุ้นร่างกายไปกระตุ้น
01:15:02 → 01:15:05 ไอ้ลีนอะไรอย่างเงี้ยนะ
01:15:05 → 01:15:08 แต่ก่อนกินทั้งวันเลยพี่หมอ
01:15:08 → 01:15:11 คือกินได้แต่มือก็ต้องเลือกกินเว้นระยะ
01:15:12 → 01:15:15 การกินหรือมีสูตรในการกินอะไรอย่างเงี้ย
01:15:15 → 01:15:19 ครับอะไรที่เนี่ยติดหวานบ่อยๆกินกาแฟบ่อย
01:15:19 → 01:15:22 ๆกินนมบ่อยๆกินเดลี่โปรดักบ่อยๆกินของทอด
01:15:22 → 01:15:26 บ่อยๆกินผลไม้
01:15:26 → 01:15:30 กินยาโน่นยานี่กินอาหารเสริมนั่งทั้งวัน
01:15:30 → 01:15:35 วิ่งทุกวันอ่าไม่โดนละผมสลับแล้วผมรอด
01:15:35 → 01:15:36 แล้ว
01:15:36 → 01:15:39 อาการติดอย่างนี้เป็นอาการที่จะกระตุ้น
01:15:39 → 01:15:43 คอติซอลแบบแบบไม่เจตนานะแล้วมันจะเป็นการ
01:15:43 → 01:15:47 กระตุ้นแบบเรื้อรัง
01:15:47 → 01:15:51 พวกนี้ก็คือกระตุ้นฮอร์โมนเครียดนะแล้ว
01:15:51 → 01:15:55 ฮอร์โมนที่จะ Action มากๆที่ตัดกับกล้าม
01:15:55 → 01:15:56 เนื้อ
01:15:56 → 01:15:59 เวลาเราฮอร์โมนเครียดสมมุติว่าอินซูลิน
01:15:59 → 01:16:02 เยอะอย่างนี้นะ
01:16:02 → 01:16:04 มันก็มาแอคชั่นที่ตับนะถ้าฮอร์โมนเครียด
01:16:04 → 01:16:07 ก็เหมือนกัน
01:16:08 → 01:16:11 นะแล้วก็กล้ามเนื้อ
01:16:11 → 01:16:15 เนี่ยตัดกับกล้ามเนื้อ
01:16:15 → 01:16:18 เพราะฉะนั้นเวลาจะลดฮอร์โมนเครียดก็ต้อง
01:16:18 → 01:16:22 ไปแก้ที่ที่บอกว่าออกกำลังกายต่ำ
01:16:22 → 01:16:24 กับออกกำลังกายกล้ามเนื้อ
01:16:24 → 01:16:27 ครับ
01:16:27 → 01:16:31 ฮอร์โมนอื่นๆนะฮะนะที่จะมีผลรวมด้วยกับ
01:16:31 → 01:16:33 ตัวพ่อตัวแม่เนี่ย
01:16:33 → 01:16:36 ถ้าเกิดเราจำกัดค้านะ
01:16:36 → 01:16:45 มากเกินไปมากเกินไปครับ
01:16:45 → 01:16:48 ตัวหลักเลยคือไทรอยด์นะอันนี้พึ่งครับมาก
01:16:48 → 01:16:50 ที่สุด
01:16:50 → 01:16:53 ใครที่ตัดครับนานๆตัดครับเยอะๆโดยเฉพาะ
01:16:53 → 01:16:56 Body type สายแป้งนะคุณจะมีปัญหากับ
01:16:56 → 01:16:59 ไทรอยด์แล้วไทรอยด์ก็ไปทำให้ค่าแล็บ
01:16:59 → 01:17:02 เปลี่ยนแปลงทำไทรอยด์ไปทำให้เกิดอาการ
01:17:02 → 01:17:05 hypo Hyper ไทรอยด์
01:17:05 → 01:17:11 ใน 6 ระดับนะ
01:17:11 → 01:17:16 ก็คือเนี่ยไทรอยด์
01:17:16 → 01:17:18 เขาชอบแป้ง
01:17:18 → 01:17:22 ชอบแป้งชอบแป้งชอบกูเต้นชอบหลุมปังชอบ
01:17:22 → 01:17:26 เดลี่ไอ้เบเกอรี่นะแล้วก็ชอบน้ำเต้าหู้ก็
01:17:26 → 01:17:30 เป็นแป้งอย่างนึงอ่าอันนี้ไม่ได้นะถ้าเรา
01:17:30 → 01:17:34 เป็นทรงไทรอยด์เนี่ยไทรอยด์บอดี้ไทยเด่น
01:17:34 → 01:17:37 เนี่ยตัดของพวกนี้ออกไป
01:17:37 → 01:17:40 ได้นะครับไม่ได้
01:17:40 → 01:17:42 ส่วน Project slow เนี่ยก็เป็น Craft
01:17:42 → 01:17:45 Dependent Hormone เหมือนกันนะ
01:17:45 → 01:17:47 แต่ Project slow เนี่ยให้ทายว่าเค้า
01:17:47 → 01:17:51 พึ่งค้าประเภทไหน
01:17:51 → 01:17:54 การที่ Project slow เนี่ย
01:17:54 → 01:17:59 มันจะออกมาได้มันจะออกมาได้ดีอ่ะนะ
01:17:59 → 01:18:02 ก็ต้องมี Craft ไปให้เขา
01:18:02 → 01:18:04 แต่ถามว่า Craft ประเภทไหนที่
01:18:04 → 01:18:06 โปรเจสเตอโรนชอบ
01:18:06 → 01:18:13 เชิงซ้อนมากพี่หมอ
01:18:13 → 01:18:21 ยังไงพี่หมอยังไงยังไง
01:18:21 → 01:18:26 เป็นฮอร์โมนเจริญธรรมที่ต้องมีผลไม้เข้า
01:18:26 → 01:18:28 ไปร่างกายร่างกายมันถึงจะสร้าง
01:18:28 → 01:18:36 ผู้หญิงชอบกินผลไม้
01:18:36 → 01:18:44 [เสียงหัวเราะ]
01:18:44 → 01:18:48 เป็นน้องสาวที่เอสโตรเจนจะเกลียดมากที่
01:18:48 → 01:18:49 สุดนะฮะ
01:18:49 → 01:18:51 เพราะฉะนั้นเอสโตรเจนเขาจะทำลาย
01:18:51 → 01:18:54 โปรเจสโลว์
01:18:54 → 01:18:57 ปัญหาพวกเนี้ยผู้หญิงก็จะมีปัญหาในระบบ
01:18:57 → 01:18:59 เจริญพันธุ์มนุษย์ลูกรังไข่
01:18:59 → 01:19:02 ส่วนใหญ่ก็เป็นปัญหาที่ Project slow
01:19:02 → 01:19:06 ไม่ถูกสร้างหรือสร้างได้น้อยทำให้
01:19:06 → 01:19:07 เอสโตรเจน
01:19:08 → 01:19:10 เนี่ยไทรอยด์กับโปรเจคเตอร์เนี่ยมันต้อง
01:19:10 → 01:19:12 พึ่งพิงครับ
01:19:12 → 01:19:16 ไทรอยด์พึ่งพิงแป้ง
01:19:16 → 01:19:26 ผลไม้นะผลไม้
01:19:26 → 01:19:30 จาก
01:19:30 → 01:19:33 ที่เขาจะออกมาแล้วบอกให้เราอิ่ม
01:19:33 → 01:19:39 แต่ว่ามันก็จะต้องมีตัวคาร์โบไฮเดรตไป
01:19:39 → 01:19:43 ติ๊กเกอร์ไปกระตุ้น
01:19:43 → 01:19:46 คือไม่มีไม่ได้อ่าไม่มีไม่ได้ก็ต้องมีสัก
01:19:46 → 01:19:48 หน่อยนึง
01:19:48 → 01:19:51 ครับ
01:19:51 → 01:19:56 แนวทางโภชนาการทางเลือกพวกนี้นะที่จะเรา
01:19:56 → 01:20:00 จะเอามาดูแลสุขภาพ
01:20:00 → 01:20:04 มากๆอันนี้หมอสรุปให้ว่ามันจะมีฮอร์โมน
01:20:04 → 01:20:07 สำคัญ 5 ชนิดเนี่ยที่จะเกิดความผิดปกติ
01:20:07 → 01:20:11 อินซูลินตัดครับเยอะๆอินซูลจะต่ำแล้ว this
01:20:11 → 01:20:13 function หรือเพี้ยน
01:20:13 → 01:20:17 ซึ่งจะเกิดในคนผอมหรือสมส่วน
01:20:17 → 01:20:22 โดยเฉพาะสายเปย์ข้อที่ 2 จะพุ่งจะสูงถ้า
01:20:22 → 01:20:27 คุณตัดขาเพราะว่าคอติซอลเขาจะสงบก็คือ
01:20:27 → 01:20:30 ต้องเติมครับแต่ถ้าไม่มีครับให้เขาเขาก็
01:20:30 → 01:20:34 จะวุ่นวาย
01:20:34 → 01:20:38 จะต่ำแล้วเพี้ยนเหมือนๆอินซูลิน
01:20:38 → 01:20:43 ไทรอยด์ก็จะไม่ทำงานพอไทรอยด์ไม่ทำงาน
01:20:43 → 01:20:48 receptor ที่ตับนะตัว ce-tp นะก็จะไม่ทำ
01:20:48 → 01:20:50 งานไปด้วย
01:20:50 → 01:20:54 โปรเจสเตอโรนจะต่ำนะอันนี้ก็จะเอสโตรเจน
01:20:54 → 01:20:57 เด่นก็จะเป็นโรคเกี่ยวกับระบบเจริญพรใน
01:20:57 → 01:20:58 ผู้หญิง
01:20:58 → 01:21:00 โกรทฮอร์โมนจะต่ำ
01:21:00 → 01:21:03 ผมฮอร์โมนต่ำ
01:21:03 → 01:21:07 มันก็จะไม่มี igf1 ที่จะมาซ่อมแซมส่วนที่
01:21:07 → 01:21:08 สึกลง
01:21:08 → 01:21:14 ในที่สุดแล้วเนี่ยความสำคัญของ Craft
01:21:14 → 01:21:17 แม้ว่าร่างกายต้องการ
01:21:17 → 01:21:20 น้อยนิดเนี่ยก็จะต้องได้ไปตัดเขาเลยที
01:21:20 → 01:21:24 เดียวหรือไม่ให้เขาไปอย่างผิวพรในระยะ
01:21:24 → 01:21:27 เวลานานๆเนี่ยนะถ้าชาวมอญเนี่ยมีผลหมดเลย
01:21:27 → 01:21:32 ซึ่งสำคัญหมดผู้หญิงก็จะมีอาการและอาการ
01:21:32 → 01:21:38 แสดงที่ผิดปกติมากมาย
01:21:38 → 01:21:41 การกระตุ้นอินซูลินในร่างกายเนี่ยนะฮะ
01:21:41 → 01:21:44 ทั้งหมดโดยรวมแล้วเนี่ยนะ
01:21:44 → 01:21:48 อาหารคาร์โบไฮเดรตมีผล 27% โปรตีนโดย
01:21:48 → 01:21:51 เฉพาะโปรตีนแปรรูปมีผล 10%
01:21:51 → 01:21:54 ไขมันมีผลน้อยมาก
01:21:54 → 01:21:56 ใช่ไหม
01:21:56 → 01:22:00 แต่อีก 63% เนี่ยอินซูลินเนี่ยที่มัน
01:22:00 → 01:22:02 เปลี่ยนแปลงไปไม่ว่ามันจะเยอะหรือมันจะ
01:22:02 → 01:22:04 เพี้ยน
01:22:04 → 01:22:08 นะหรือว่ามันจะ
01:22:08 → 01:22:18 อะไรอ่ะ
01:22:18 → 01:22:23 หลายอย่างเลยในนี้นะฮะ
01:22:23 → 01:22:26 แต่ว่าอาหารเป็นเรื่องหลักนะอาหารเป็น
01:22:26 → 01:22:29 เรื่องใหญ่สุดนะเพราะว่าประมาณสักเกือบๆ
01:22:29 → 01:22:34 เนี่ยเท่าไหร่อ่ะเกือบๆ 30 เกือบ 40% น่ะ
01:22:34 → 01:22:40 307 308% น่ะเป็นผลมาจากอาหาร
01:22:40 → 01:22:47 ฮอร์โมนรับคำสั่งจากอาหารอารมณ์อากาศ
01:22:47 → 01:22:50 เพราะฉะนั้นอาหารที่กินอารมณ์อากาศ
01:22:50 → 01:22:54 ก็จะทำให้ฮอร์โมนเกิดปฏิกิริยาการทำงาน
01:22:54 → 01:22:58 ถ้าเราไม่มีความเข้าใจขาดความรู้ในหลัก
01:22:58 → 01:23:02 ความสมดุลของฮอร์โมนนะ
01:23:02 → 01:23:05 มีการฝืนหรือบังคับให้ร่างกายมีการกินการ
01:23:05 → 01:23:09 นอนการออกกำลังกาย
01:23:09 → 01:23:14 ต้องดูความพอดีต้องมีความรู้เหรอ
01:23:14 → 01:23:18 แล้วเน้นว่าฮอร์โมนเครียดทำงานผ่านตับกับ
01:23:18 → 01:23:21 กล้ามเนื้อ
01:23:21 → 01:23:24 ตับก็จะไปเกี่ยวกับสมองสมองก็เกี่ยวกับ
01:23:24 → 01:23:25 การนอนหลับ
01:23:25 → 01:23:29 ส่วนกล้ามเนื้อเนี่ยก็คือมวลกล้ามเนื้อลด
01:23:29 → 01:23:30 ลง
01:23:30 → 01:23:33 น้ำหนักลดนะ
01:23:33 → 01:23:36 ไขมันลดกล้ามเนื้อลดแต่กล้ามเนื้อลดมาก
01:23:36 → 01:23:38 กว่า
01:23:38 → 01:23:41 มันก็เลยดูน้ำหนักลดแต่พอคุ้มตรวจแลปออก
01:23:41 → 01:23:45 มา
01:23:45 → 01:23:47 ทั้งๆที่น้ำหนักลด
01:23:47 → 01:23:50 แต่คั้นไปดูว่าน้ำหนักลดอะไรลดแน่
01:23:50 → 01:23:53 การเมืองลดไม่ใช่เปอร์เซ็นต์ body fat
01:23:53 → 01:23:56 Road
01:23:56 → 01:23:59 เพราะฉะนั้นนะฮะเนี่ยการกินเหล่าเนี้ยนะ
01:23:59 → 01:24:02 หมอเคยแนะนำไว้แล้วนะเออ
01:24:02 → 01:24:10 กินเป็นกินยังไงอ่ะนะทำไมถึงกินไม่เป็นนะ
01:24:10 → 01:24:14 กินโปรตีนแบบไหนผิดโดยกินไขมันยังไงผิด
01:24:14 → 01:24:18 กินหลุดกินปนเปื้อนกินแอบแฝงกินหยวนๆ
01:24:18 → 01:24:28 หย่อนๆตามใจปากตามใจยา
01:24:28 → 01:24:31 ก็จะไปมีผลต่อฝั่งฮอร์โมนอะไร
01:24:31 → 01:24:36 สะสมพลังงานหรือเผาผลาญพลังงานนะ
01:24:36 → 01:24:40 ก็ต้องดูว่าโปรตีนเป็นแบบไหนไขมันเป็นแบบ
01:24:40 → 01:24:42 ไหน
01:24:42 → 01:24:46 จะเกิดการเผาผลาญพลังงานหรือการสะสมพลัง
01:24:46 → 01:24:52 งานซึ่งจะเป็นอิทธิพลของฮอร์โมนฟังหน่อย
01:24:52 → 01:24:55 อย่างเช่นโปรตีนมาพร้อมกับ
01:24:55 → 01:25:00 46 อันนี้ก็เรียบร้อยขอติดซ่อมมาร่างกาย
01:25:00 → 01:25:05 จะเกิดการเปลี่ยนแปลงด้านศาสนา
01:25:05 → 01:25:09 แต่ถ้าเกิดมาพร้อมกับไขมันอิ่มตัวอีก 408
01:25:09 → 01:25:15 อันนี้ห่อบนฝั่งลูกเทพ
01:25:15 → 01:25:17 หรือว่าโปรตีนที่เรากินเนี่ยเรากินพร้อม
01:25:17 → 01:25:22 กับน้ำสลัดที่มีสัดส่วนของน้ำมันสกัดเย็น
01:25:22 → 01:25:26 เดียวซ้อนอย่างเหมาะสมก็จะเป็นแบบเนี่ย
01:25:26 → 01:25:30 นะครับก็ตับก็จะเผาผลาญพลังงาน Action ก็
01:25:30 → 01:25:37 จะเป็นฝั่งฮอร์โมนลูกเทพ 6 ตัว
01:25:37 → 01:25:41 แล้วถ้ากินไม่ถูกหลับมันก็จะเป็นอย่างนี้
01:25:41 → 01:25:44 อย่างนี้
01:25:44 → 01:25:46 ตามเยอะ
01:25:46 → 01:25:54 ละเอียดคาร์โบไฮเดรต
01:25:54 → 01:25:59 ว่ากินคีโตโรคาทำ If แบบอดยาวๆ
01:25:59 → 01:26:03 แต่ก็ยังป่วย
01:26:03 → 01:26:07 เพราะเราไม่รู้ไม่เข้าใจอะไรต่างๆ
01:26:07 → 01:26:10 คือการกินสิ่งเหล่านี้ยังไงก็ตามมันเป็น
01:26:10 → 01:26:12 การเปลี่ยนแปลงของ
01:26:12 → 01:26:15 ของพฤติกรรมของร่างกายอย่างหนึ่งที่อยาก
01:26:15 → 01:26:19 จะดูแลสุขภาพ
01:26:19 → 01:26:23 เวลากินเข้าไปแล้วจะมีผลทั้งในระยะสั้น
01:26:23 → 01:26:27 และระยะยาวส่วนใครจะเกิดมากเกิดน้อยนะ
01:26:27 → 01:26:30 ระยะสั้นก็เกิดช่วงแรกๆอาจจะเป็น
01:26:30 → 01:26:34 ปฏิกิริยารุนแรงที่เราเรียกคีโตฟู
01:26:34 → 01:26:36 แต่บางคนก็ไม่มีคีโตฟูนะ
01:26:36 → 01:26:42 บางคนก็ไปมีเอาในระยะยาวๆที่กินหลายเดือน
01:26:42 → 01:26:45 เพราะว่าเมื่อคุณเริ่มต้นที่จะกินเนี่ยนะ
01:26:45 → 01:26:48 มันไม่เข้าใจอ่ะในรายละเอียดหรือไส้ในของ
01:26:48 → 01:26:50 อาหารไม่เข้าใจ
01:26:50 → 01:26:54 แล้วคุณก็ยังมา Add on ไอ้พวกการทำ If
01:26:54 → 01:26:58 การออกกำลังกายมันก็เลยไปแบบโอ้ยอะไรก็
01:26:58 → 01:27:01 ไม่รู้อ่ะ
01:27:01 → 01:27:04 แลปเพราะแลปมันออกอย่างนี้ก็มาโพสต์ถาม
01:27:04 → 01:27:05 กัน
01:27:05 → 01:27:09 เว้นเวลาไล่กลับเนี่ยที่จะ Reverse ที่จะ
01:27:09 → 01:27:11 แก้ที่จะมาปรับกันเนี่ยมันก็ต้องย้อนกลับ
01:27:11 → 01:27:13 เยอะนะ
01:27:13 → 01:27:15 เพราะฉะนั้นบางครั้งเนี่ยการให้ข้อมูลราย
01:27:15 → 01:27:17 ละเอียดเนี่ยสำคัญมากๆนะ
01:27:17 → 01:27:20 หรือถ้ามาเจอหมอนะ
01:27:20 → 01:27:23 ก็จะต้องถามกับตรงนั้นคุยกัน
01:27:23 → 01:27:27 ถ้าจะเอาหลักการพวกนี้เป็นหลักนะ
01:27:27 → 01:27:30 ก็ธรรมดาถ้าเกิดเราไปหาหมอหมอก็ไม่เข้าใจ
01:27:30 → 01:27:37 เรื่องราวเหล่านี้ก็ไม่เข้าใจโภชนาการ
01:27:37 → 01:27:40 ไปอ่า
01:27:40 → 01:27:44 เราก็งงอ่ะงงปุ๊บเราก็มาโพสต์ถามจะกินยา
01:27:44 → 01:27:47 ดีไหม
01:27:47 → 01:27:50 ก็กินแบบนึงอ่ะก็ไปเจอหมออีกแบบนึง
01:27:50 → 01:27:52 แล้วก็ยังไม่ได้ยาอีก
01:27:52 → 01:27:54 เออ
01:27:54 → 01:27:58 นะ
01:27:58 → 01:28:02 ระยะยาวเนี่ยนะส่วนใหญ่เนี่ยมันอาจจะเกิด
01:28:02 → 01:28:05 ปัญหาในลักษณะนี้ที่ไปลงเอยในเรื่องของ
01:28:05 → 01:28:08 การเป็นนิ่วก็ได้
01:28:08 → 01:28:10 นิ่วในถุงน้ำดี
01:28:10 → 01:28:15 เกิดง่ายนะฮะนะโดยเฉพาะคนผอมอ่ะนะที่
01:28:15 → 01:28:20 กินนี่แหละกินคีโตโรครับกินทำ If อะไร
01:28:20 → 01:28:23 ต่างๆแล้วไม่เข้าใจเรื่องเนี่ยเรื่อง
01:28:23 → 01:28:26 อินซูลินดิสฟังก์ชัน
01:28:26 → 01:28:27 แล้วก็ไม่ปรับอาหาร
01:28:27 → 01:28:32 หรือไม่ไม่ผ่อนปรนในเรื่องของการทำการออก
01:28:32 → 01:28:42 กำลังกายนะในช่วงระยะเวลาต่างๆ
01:28:42 → 01:28:52 ทำไมไขมันไตรกลีเซอไรด์เพิ่มขึ้น
01:28:52 → 01:28:55 แบบด้วยคนอ้วนเลย
01:28:55 → 01:28:59 มันเป็นแบบทางคู่ขนานนะ
01:28:59 → 01:29:04 สูงมากๆผมก็ป่วยแบบอินซูลินอ่ะดื้อ
01:29:04 → 01:29:07 สุรินทร์ต่ำมากๆอ่ะแล้วทำงานไม่เป็นเลย
01:29:07 → 01:29:10 อย่างเงี้ยมันก็จะป่วยแบบคล้ายๆกันเนี่ย
01:29:10 → 01:29:11 ครับนะ
01:29:11 → 01:29:14 เพียงแต่ว่าเหตุมันตรงกันข้ามมันสุดตรง
01:29:14 → 01:29:17 ของแต่ละฝ่ายเนี่ยมันจะกลายเป็นอะไรที่มา
01:29:17 → 01:29:19 บรรจบกันน่ะ
01:29:19 → 01:29:30 ครับเอออันนี้มันเจอมาแล้วเนอะ
01:29:30 → 01:29:40 ใช่ครับ
01:29:40 → 01:29:43 แล้วถึงเวลาคุณก็ต้องมาปรับตัวลง
01:29:43 → 01:29:49 ครับที่ตับอ่อนโยคะที่ตับเนื้อต้องมี
01:29:49 → 01:29:51 ชีทติ้ง
01:29:51 → 01:29:55 ปรับไปตามความเข้าใจด้วย
01:29:55 → 01:29:58 ต้องรู้ด้วยเราย้ำอีกแล้วฮอร์โมนเครียดทำ
01:29:58 → 01:30:06 งานผ่านตับกล้ามเนื้อ
01:30:06 → 01:30:10 มีข้อสรุปให้นะ
01:30:10 → 01:30:13 ส่วนใหญ่มันจะเกิดในภาวะที่อินซูลินต่ำ
01:30:13 → 01:30:15 เกินไป
01:30:15 → 01:30:18 แล้วก็ต่ำนานไปเพราะไม่ยอมเปลี่ยนเรื่อง
01:30:18 → 01:30:22 โภชนาการ
01:30:22 → 01:30:25 ทำให้ฮอร์โมนเครียดหรือคอติซอลสูงเกินไป
01:30:25 → 01:30:35 มีผลกระทบต่อไทรอยด์ project
01:30:35 → 01:30:39 เปลี่ยนไปตามด้วย
01:30:39 → 01:30:41 อันที่ 2 ก็คือ
01:30:41 → 01:30:46 พวกนี้จะขาดสารอาหารนะเพราะว่าในสายของ
01:30:46 → 01:30:50 low carp ทุกรูปแบบนะครับ
01:30:50 → 01:30:54 เวลาที่ร่างกายเผาผลาญไขมันทั้งการเป็น
01:30:54 → 01:30:58 Fat Fat adaptation หรือคีโตแดปส์
01:30:58 → 01:31:01 การเผาผลาญพวกนี้ร่างกายจะต้องใช้วัตถุ
01:31:01 → 01:31:04 ดิบที่เป็นพวกสารอาหารรองเยอะมากโดยเฉพาะ
01:31:04 → 01:31:06 วิตามินแร่ธาตุ
01:31:06 → 01:31:10 แล้วปรากฏว่าวิตามินแร่ธาตุมันจะต้องมี
01:31:10 → 01:31:13 ส่วนหนึ่งที่มาจากพืชซึ่งเราก็จะต้องเติม
01:31:13 → 01:31:14 ในรูปแบบของ
01:31:15 → 01:31:16 ของผัก
01:31:16 → 01:31:23 หวาน
01:31:23 → 01:31:25 พอแล้ว
01:31:25 → 01:31:30 แต่เราก็บางทีต้องเติมผักผงดายฟรีซลงไป
01:31:30 → 01:31:32 ด้วย
01:31:32 → 01:31:35 เพราะอันนี้พวกนี้สำคัญหรือบางทีก็ต้อง
01:31:35 → 01:31:38 ใช้สารอาหารสารเสื่อมอาหารในช่วงแรกๆ
01:31:38 → 01:31:39 อ่า
01:31:39 → 01:31:41 ถ้าไม่เติมถ้าไม่เติม
01:31:41 → 01:31:45 โดยเฉพาะคนผอมเนี่ยคนผอมด้วย
01:31:45 → 01:31:49 มีแนวโน้มการสะสมสารอาหารรองเนี่ยเขาก็มี
01:31:49 → 01:31:52 น้อยแต่ไอ้พวกคนอ้วนเนี่ยมันได้เปรียบ
01:31:52 → 01:31:53 ทั้งๆที่มันอ้วนเนี่ย
01:31:54 → 01:31:57 นะไขมันมันเยอะแต่สารอาหารอื่นๆทั้งมีพิษ
01:31:57 → 01:32:00 ไม่มีพิษมันก็เยอะด้วยนะ
01:32:00 → 01:32:04 ไม่ต้องไปห่วงเขาฮะไอ้พวกอ้วนแล้วก็ลดลด
01:32:04 → 01:32:07 ลงมาได้อะไรได้เนี่ยเขาไม่ตายง่ายๆ
01:32:07 → 01:32:12 นะมันต้องเติมอ่ะมันต้องเติมนะ
01:32:12 → 01:32:16 แล้วพอหมอรักษาหรือไปเห็นเคสคนผอมๆมา
01:32:16 → 01:32:17 โพสต์ถามเนี่ย
01:32:17 → 01:32:22 แล้วทุกวันนี้ก็ยังโอเมนยังกินโลอะไรอ่ะ
01:32:22 → 01:32:25 พลังงานนี่ถืออะไรอย่างเงี้ยไม่รู้จะว่า
01:32:25 → 01:32:27 ไงเราจะไปแก้กันยังไงเนี่ยสงสัยต้องปล่อย
01:32:27 → 01:32:29 แสงแล้วล่ะ
01:32:29 → 01:32:31 นะ
01:32:31 → 01:32:35 ทหารอะไรพลังงานอะไรอย่างเงี้ยนะเออจะ
01:32:35 → 01:32:38 เข้าใจกันขนาดไหนนะแล้วอีกอย่างคุณก็ไป
01:32:38 → 01:32:40 สร้างกล้ามเนื้อด้วยอ่ะ
01:32:40 → 01:32:43 นะกล้ามเนื้อเนี่ยมันจะเป็นที่เก็บนะฮะ
01:32:43 → 01:32:46 คือเราไม่ได้ให้คุณสร้างไขมันให้อ้วนขึ้น
01:32:46 → 01:32:51 แบบว่ามี fated หรือสะสมไขมันไงแต่เราก็
01:32:51 → 01:32:53 อยากให้คุณน้ำหนักเพิ่มขึ้นแต่เป็นน้ำ
01:32:53 → 01:32:55 หนักของกล้ามเนื้อที่เพิ่มขึ้น
01:32:55 → 01:32:58 เพราะว่าไอ้ตัวกล้ามนี้แหละมันจะเป็นยุ้ง
01:32:58 → 01:33:03 ขายุ้มฉางในการเก็บสะสมไอ้พวกเนี้ยนะพวก
01:33:03 → 01:33:06 โปรตีนพวกคอเลสเตอรอลพวกไขมันไอ้พวกสาร
01:33:06 → 01:33:09 อาหารรองพวกนี้
01:33:09 → 01:33:15 จะสร้างได้เวลาจะสร้างได้ไหมนะ
01:33:15 → 01:33:20 การสร้างก็คือจะต้องเวท
01:33:20 → 01:33:22 ต้องเวทต้อง resistance Training
01:33:22 → 01:33:26 ต้องมีการยืดหยุ่นอะไรนะ
01:33:26 → 01:33:30 ยืดหยุ่นร่างกายแบบโยคะอะไรต่างๆอาจจะมี
01:33:30 → 01:33:33 Cardio นิดหน่อยแล้วคุณก็เติมสารอาหารใน
01:33:33 → 01:33:37 มื้อเย็นหรือไม่ก็ต้องเพิ่มโปรตีนคุณภาพ
01:33:37 → 01:33:38 จากพืชเข้าไปด้วย
01:33:38 → 01:33:41 [เพลง]
01:33:41 → 01:33:45 มันจะมีความสมดุลแล้วร่างกายมันก็จะเกิด
01:33:45 → 01:33:50 การจะเกิดการซ่อมแซมแล้วก็สร้างใหม่
01:33:50 → 01:33:53 สร้างกล้ามเนื้อก็สำคัญเลยล่ะในคนผอมคนสม
01:33:53 → 01:33:54 ส่วน
01:33:54 → 01:33:57 แม้แต่คนอ้วนเนี่ยพอคุณทำน้ำหนักลงมาที่
01:33:57 → 01:34:00 อยู่ที่ Upper Limit แล้วเนี่ยนะ
01:34:00 → 01:34:04 คุณต้องเริ่มออกกำลังกาย
01:34:04 → 01:34:07 เราต้องมีเป็นแบบรวมๆกันอย่างน้อย
01:34:07 → 01:34:10 คาร์ดิโอคูเวต
01:34:10 → 01:34:12 แต่ถ้าอ้วนๆอยู่ผู้อยากออกกำลังกายคุณก็
01:34:12 → 01:34:14 คาดิโอไปเรื่อยๆ
01:34:14 → 01:34:16 ก็ได้
01:34:16 → 01:34:18 ครับ
01:34:18 → 01:34:23 วิดีโอนะ
01:34:23 → 01:34:27 เราจะไปต่อเรื่องดอนเมืองไหม
01:34:27 → 01:34:31 ครับอันนี้อันนี้จะเยอะไหมครับพี่หมอก็
01:34:31 → 01:34:36 เยอะอยู่นะเป็นตัวอย่างเคสไป
01:34:36 → 01:34:38 เยอะตอนนี้มันชั่วโมงครึ่งแล้วอ่ะครับพี่
01:34:38 → 01:34:40 หมอตัดแล้วตัดไปอีกอีก section หนึ่งดี
01:34:40 → 01:34:41 ไหมครับ
01:34:41 → 01:34:43 ก็ได้นะก็ได้เพราะว่าตอนนี้มันชั่วโมง
01:34:43 → 01:34:46 ครึ่งนะถ้าอย่างนั้นไม่งั้นจะปาเข้าไปอีก
01:34:46 → 01:35:00 2 ชั่วโมงแน่เลย
01:35:00 → 01:35:03 เพราะว่าพ่อบ้านแม่บ้านเขาต้องมาคู่กัน
01:35:03 → 01:35:08 ก็อยากจะให้พวกเราอ่ะรับรู้ในเรื่องว่า
01:35:08 → 01:35:11 ฮอร์โมนหลักๆที่จะมาควบคุมเรื่องอาหารการ
01:35:11 → 01:35:15 กินเนี่ยไม่ว่าเราจะกินในแนวทางการโยคะ
01:35:15 → 01:35:16 แบบไหนก็ตาม
01:35:16 → 01:35:20 มันก็จะต้องมีมีแล้วเราต้องเข้าใจเขา
01:35:20 → 01:35:21 [เพลง]
01:35:21 → 01:35:23 แล้วก็คนเนี่ย
01:35:23 → 01:35:27 ไหนจะมีบอดี้ไทยต่างๆเป็น 4 รูปแบบในจะมี
01:35:27 → 01:35:32 กลุ่มที่อ้วนนะสายเนื้อสายแป้งอะไรอย่าง
01:35:32 → 01:35:32 นี้
01:35:32 → 01:35:37 มันก็ต้องมีการแยกแยะไปด้วยในแต่ละคนนะฮะ
01:35:37 → 01:35:42 เวลาที่เรามีปัญหาเกี่ยวกับการทำพยากรแนว
01:35:42 → 01:35:46 นี้ทางแล้วก็การไปตรวจแลปการแปลผล Lab
01:35:46 → 01:35:50 อะไรต่างๆการอธิบายทำความเข้าใจทาง
01:35:50 → 01:35:54 ชีววิทยาต้องมีพื้นฐานความรู้
01:35:54 → 01:35:59 แล้วก็จะต้องเข้าใจในเชิงลึกนิดหน่อยไม่
01:35:59 → 01:36:03 งั้นเราก็จะติดแล้วมันก็จะงงๆๆ
01:36:03 → 01:36:08 ว่าทำถูกหรือไม่ถูกหรือผิดที่จะทำยังไงดี
01:36:08 → 01:36:14 อะไรอย่างนี้จะทำต่อไหมอะไรอย่างนี้
01:36:14 → 01:36:15 เนี่ย
01:36:15 → 01:36:18 หลัก 4 หลักในการปรับสมดุลนะฮะที่เราใช้
01:36:18 → 01:36:22 กันเป็นพื้นฐานเลยก็คือ 1 เราดูเรื่อง
01:36:22 → 01:36:26 บอดี้ไทยนะฮะ Body ก็หาอ่านได้ในเพจลอง
01:36:26 → 01:36:28 ทีวีที่ Thailand
01:36:28 → 01:36:32 อันต่อมาก็คือพลังงานนะเออจะจัดสรรพลัง
01:36:32 → 01:36:35 งานยังไง
01:36:35 → 01:36:40 ของรูปร่างแต่ละแบบเนี่ยนะผมเครียดพุงตับ
01:36:40 → 01:36:42 นะเออหรือว่า
01:36:42 → 01:36:45 ไอ้พวกไทรอยด์นะเอสโตรเจนเองอะไรอย่าง
01:36:45 → 01:36:48 เงี้ยไม่ไม่เหมือนกันแตกต่างกันนิดๆหน่อย
01:36:48 → 01:36:52 แล้วก็รู้ในเรื่องความสมดุลของพลังงานฟัง
01:36:52 → 01:36:55 สะสมพลังงานสะสมไขมัน 3 ตัว
01:36:55 → 01:36:59 ฟังซ่อมแซมรักษาหรือใช้ไขมันเผาผลาญไขมัน
01:36:59 → 01:37:02 ก็ลูกเทพหกตัว
01:37:02 → 01:37:06 แล้วก็ยังมีการ remove replace Repair
01:37:06 → 01:37:07 rebalance
01:37:07 → 01:37:10 อันนี้ก็เป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆ
01:37:10 → 01:37:37 ก็ถือว่ามีความสำคัญเนี่ย 4r
01:37:37 → 01:37:40 อันนี้ก็เป็นพวกสารอาหารหรือวิตามินอาหาร
01:37:40 → 01:37:43 เสริมในช่วงแรกเอ่อพวก Repair Repair
01:37:43 → 01:37:48 หลักๆก็คือต้องเลี่ยงนะกลุ่มอาหารอ่า
01:37:48 → 01:37:51 ที่ไม่ดีต่างๆที่ทำให้ร่างกายมันมีการ
01:37:51 → 01:37:53 อักเสบในระดับทางเดินอาหารนะ
01:37:53 → 01:37:57 เช่นนมๆปัง
01:37:57 → 01:38:02 ทดแทนความหวานอาหารแปรรูปนะแล้วก็ฟรุกโตส
01:38:02 → 01:38:07 คอนไซน์น้ำมันพืชไขมันทรานส์เนยเทียมก็
01:38:07 → 01:38:10 พวกนี้ที่เรารู้กันอยู่แล้วกูเต้นเงี้ย
01:38:10 → 01:38:12 ใส่เข้าไปข้างใน
01:38:12 → 01:38:15 อยู่นั่นแหละ
01:38:15 → 01:38:19 ภูมิแพ้ภูมิเพี้ยน
01:38:19 → 01:38:21 แล้วก็ rebalance เนี่ยอันนี้ก็จะเป็น
01:38:21 → 01:38:29 เรื่องของพวกโปรไบโอติกพรีไบโอติก
01:38:29 → 01:38:30 [เพลง]
01:38:30 → 01:38:37 ใครจะกินอย่างอื่น
01:38:37 → 01:38:39 [เพลง]
01:38:39 → 01:38:49 มื้อเย็นด้วย
01:38:49 → 01:38:57 [เพลง]
01:38:57 → 01:39:03 คนมาโพสต์ถามอายุ 35 ปีอ่ะ
01:39:03 → 01:39:07 อ่าผู้หญิงใช่มั้ยเออ
01:39:07 → 01:39:10 อ่านอ่านแล้วอ่านแล้วครับก็คือหมอตอบเลย
01:39:10 → 01:39:15 นะฮะว่าเคสนี้ขอยกย่องนะเขาเป็นคีโต้นะ
01:39:15 → 01:39:16 ครับ
01:39:16 → 01:39:22 เคสนี้เขาเป็นเคสคีโตะสวยงามมาก
01:39:22 → 01:39:25 หมอติอย่างเดียวเท่านั้นเนี่ยก็คือตัว
01:39:25 → 01:39:27 ไตรกลีเซอไรด์มันน้อยไปหน่อย
01:39:27 → 01:39:30 เพราะว่าจะต้องถามในเรื่องของการกินน้ำ
01:39:30 → 01:39:33 มันมะพร้าวสกัดเย็นของเขาว่า
01:39:33 → 01:39:34 เขากินยังไง
01:39:34 → 01:39:36 [เพลง]
01:39:36 → 01:39:39 เขากินยังไงแต่ว่าคิดว่าเขากินถึงนะแล้ว
01:39:39 → 01:39:41 ไอ้ตัวน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นเนี่ยมันก็ไป
01:39:41 → 01:39:45 ออกฤทธิ์ที่ตับมันทำให้
01:39:45 → 01:39:49 มันทำให้ตับมีการสร้างคีโตนได้เร็วเพราะ
01:39:49 → 01:39:50 ฉะนั้นพวกนี้
01:39:50 → 01:39:54 พวกนี้ไม่แปลกอ่ะนะ
01:39:54 → 01:40:01 คอเลสเตอรอล 165 164 นะหมอก็จดไว้อยู่นะ
01:40:01 → 01:40:03 ครับ
01:40:03 → 01:40:06 ก็อันนี้เป็นรูปแบบของคีโต
01:40:06 → 01:40:11 เป็นคนที่คีโตแล้วร่างกายเป็นภูมิตับนะ
01:40:11 → 01:40:15 แต่เขาก็ดูแลตัวเองได้ดีนะ
01:40:15 → 01:40:17 [ปรบมือ]
01:40:17 → 01:40:20 พอมันคีย์ตัว Adapter เนี่ยนะ
01:40:20 → 01:40:25 ไอ้ตัวคอติซอลเนี่ยมันจะลดลงโดยปริยายเลย
01:40:25 → 01:40:28 แต่ว่ามีน้องคนนึงก็ไปตอบว่าอ่าอาจจะ
01:40:29 → 01:40:32 ไตรกลีเซอไรด์
01:40:32 → 01:40:36 0.5 อาจจะมีความเครียด
01:40:36 → 01:40:37 คอติซอลมา
01:40:37 → 01:40:41 หมอต้องบอกก่อนว่าคนนี้
01:40:41 → 01:40:44 รู้จักอะไรก็คือ hdl10 เนื่องจากว่า
01:40:44 → 01:40:48 cortisol ถ้ามันสูงเนี่ยมันจะมาพร้อมกับ
01:40:48 → 01:40:51 HP ปฏิกไรซ์แล้วให้ปฏิกไนเปสมันจะเป็นรส
01:40:51 → 01:40:53 hdl
01:40:53 → 01:40:58 แต่คนนี้เนี่ยภาวะมีตัวทำให้คอร์ติซอลเขา
01:40:58 → 01:41:00 ต่ำ
01:41:00 → 01:41:02 ข้อนี้
01:41:02 → 01:41:04 ใหญ่กว่า
01:41:04 → 01:41:07 คุณหมอดูจากตรงไหนอ่ะครับที่ที่มีเป็น
01:41:07 → 01:41:10 คีโตน Adapter แล้วครับ
01:41:10 → 01:41:14 อ๋อ 1 River function สวยงามมาก
01:41:14 → 01:41:20 2 อัตราการอักเสบ esr 10 10
01:41:20 → 01:41:24 คือในผู้หญิงเนี่ย esr ยังไงมันต้องแตกๆ
01:41:24 → 01:41:29 20 ตลอดนะผู้หญิงที่ esr เป็นเลขเดี่ยวๆ
01:41:29 → 01:41:32 อ่ะเลขหรือเลข 10 เนี่ยอันนี้แปลว่าคุณ
01:41:32 → 01:41:34 ไม่อักเสบ
01:41:34 → 01:41:39 เลยอ่ะฮะนะคุณจะไม่อักเสบได้อ่ะพลังที่จะ
01:41:39 → 01:41:46 ทำให้คุณแม่อักเสบคือคีโตนเนี่ยครับ
01:41:46 → 01:41:49 นะนี่ esr ในผู้หญิงเนี่ยเจาะยังไงอ่ะผู้
01:41:49 → 01:41:51 หญิงมันมีเมนส์มีประจำเดือนมีมันต้องมี
01:41:51 → 01:41:56 การอักเสบ
01:41:56 → 01:42:00 มันจะอยู่ที่ประมาณใกล้ๆ 20
01:42:00 → 01:42:02 หรือเกิน 20 หน่อยๆ
01:42:02 → 01:42:06 นะคนนี้มันแชทจะเป็นเลขตัวเดียวร่างกายก็
01:42:06 → 01:42:10 สะอาดมากแล้วดูดิว่าฟังก์ชันสิไอ้ตัว sgp
01:42:10 → 01:42:12 เนี่ยใช่
01:42:12 → 01:42:23 ใช่
01:42:23 → 01:42:27 ผลไม้นิดๆหน่อยๆถ้าเขาเข้าใจนะแล้วเป็น
01:42:27 → 01:42:30 ผู้หญิงที่จะสร้างโปรเจสเตอโรนได้นะโดย
01:42:30 → 01:42:36 เฉพาะเรียกกินพวกเบอร์รี่อ่ะนะ
01:42:36 → 01:42:40 อันนี้จะโอเคเลยนะฮะต้องหมอก็หวังว่าเขา
01:42:40 → 01:42:43 จะเป็นอย่างนั้นคือคือผลทุกอย่างเขาไม่มี
01:42:43 → 01:42:45 ปัญหา
01:42:45 → 01:42:48 ทีนี้ก็มามาแค่สงสัยในเรื่องหรือว่า
01:42:48 → 01:42:52 ไตรกลีเซอไรด์มันน้อยอ่ะนะ
01:42:52 → 01:42:57 คิดว่าปัญหาสัดส่วนของของน้ำมันอิ่มเดียว
01:42:57 → 01:43:02 ซ้อนเนี่ยไม่ถูกไม่ถูกต้องไม่ถูกต้อง
01:43:02 → 01:43:06 แหม่พี่หมอไอ้ที่มีสอนเรื่องน้ำมันอิ่ม
01:43:06 → 01:43:08 เดี๋ยวซ้อนมากินรวมกันก็มีพี่หมอสอนเนี่ย
01:43:08 → 01:43:13 แหละที่อื่นเขาก็จับรถจับซดทั้งนั้น
01:43:13 → 01:43:16 แต่เขาก็ทำอะไรต่างๆได้ค่อนข้างดีไปหมด
01:43:16 → 01:43:18 แล้วล่ะ
01:43:18 → 01:43:21 แต่ว่าเขาต้องสร้างกล้ามเนื้อเพราะว่าตัว
01:43:21 → 01:43:26 creatinine เขา 0.53
01:43:26 → 01:43:30 0.0.59 ครับ
01:43:30 → 01:43:33 คนที่มีกล้ามเนื้อเคลียร์จริงๆจะไม่ต่ำ
01:43:33 → 01:43:52 กว่า 0.7
01:43:52 → 01:44:00 ปี
01:44:00 → 01:44:07 คือกล้ามเนื้อเนี่ยมันๆถูกสลับ
01:44:07 → 01:44:10 กลัวจะถูกสลายจากฮอร์โมนเครียดนี่แหละ
01:44:10 → 01:44:11 นะ
01:44:11 → 01:44:18 แล้วพอกล้ามเนื้อน้อยเนี่ยฮะนะ
01:44:18 → 01:44:22 เราไม่รู้สัดส่วนไขมันที่เขากินมันต้องมี
01:44:22 → 01:44:24 การถามประวัติเพิ่ม
01:44:24 → 01:44:28 แต่รูปแบบของอะไรปิดโปรไฟล์เป็นรูปแบบของ
01:44:28 → 01:44:32 คีโต adapter
01:44:32 → 01:44:34 เป็นรูปแบบที่เหนือกว่า low cap Diet
01:44:34 → 01:44:39 ขึ้นไป
01:44:39 → 01:44:42 เขียนไว้ 2-3 บรรทัดล่างเขาบอกว่า
01:44:42 → 01:44:46 เขาเป็นภูมิแพ้มา 20 ปีเขาหายสนิทเป็นติด
01:44:46 → 01:44:49 ทิ้งเลย
01:44:49 → 01:44:50 ทำไมถึงหาย
01:44:50 → 01:44:53 ก็เพราะ esr มัน 10 อ่ะ
01:44:53 → 01:44:56 มันไม่หายได้ไงมันไม่มีอะไรอักเสบแล้ว
01:44:56 → 01:44:59 ร่างกายเขาสะอาดตับก็สะอาดลำไส้ก็สะอาด
01:44:59 → 01:45:02 esr นี้เขาวัดวัดการอักเสบโดยรวมเหรอ
01:45:02 → 01:45:05 ครับพี่หมอเป็นการอักเสบโดยรวมทั่ว All
01:45:05 → 01:45:06 ทั่วร่างกาย
01:45:06 → 01:45:09 สมมุติว่าถ้าปวดหัวเนี่ย
01:45:09 → 01:45:14 esr ก็สูงได้เจ็บข้อเจ็บเข่าปวดกล้าม
01:45:14 → 01:45:19 เนื้ออ่าอะไรไอ้นู้นไอ้นี่อักเสบเป็นสิว
01:45:19 → 01:45:21 อะไรอย่างเงี้ยขึ้นหมดแล้ว
01:45:21 → 01:45:24 เนี่ยมันมีเมนส์มันมีการลอกหลุดของเซลล์
01:45:24 → 01:45:29 เยื่อบุโพรงมดลูกเอ่อคือผู้หญิงอ่ะมัน
01:45:29 → 01:45:31 อักเสบง่าย
01:45:31 → 01:45:33 กับผู้ชาย
01:45:33 → 01:45:40 หน่อยเป็นประจำด้วยทุกเดือน
01:45:40 → 01:45:45 แต่ค่าเข้าออกมาดีดีมาก
01:45:45 → 01:45:51 มันโชว์จากผลแล้ว
01:45:51 → 01:45:54 แต่ก็ไม่ได้ไปตอบอะไรหรอกครับเพราะว่ามัน
01:45:54 → 01:45:57 มันต้องมันต้องคุยครับมันต้องคุยมันต้อง
01:45:57 → 01:46:00 คุยอันนี้มันจะต้อง
01:46:00 → 01:46:04 จะต้องเข้าใจไปเฉยๆ
01:46:04 → 01:46:07 ก็ไม่เป็นไรเอาไว้เราก็ดูเคสของเราแล้ว
01:46:07 → 01:46:10 กัน
01:46:10 → 01:46:15 ตรงนี้นะฮะหมออยากจะบอกทุกคนนะว่า
01:46:15 → 01:46:17 ตอนนี้เรื่องอินซูลินเราพอเข้าใจอะไรยึด
01:46:17 → 01:46:20 ลึกๆแล้วลองดูถูกนะ
01:46:20 → 01:46:22 แล้วเอาไว้หมอจะมาพูดเรื่อง
01:46:22 → 01:46:27 เรื่องคอจะเศร้านะกับ 10 บทบาทหน้าที่ของ
01:46:27 → 01:46:31 ข้อที่ซ่อนเราจะกระจ่างเลยนะฮะนะเราก็จะ
01:46:31 → 01:46:37 จางเลยนะว่าข้อที่เนี่ยเขามีอันนี้นี่เอง
01:46:37 → 01:46:41 นะฮะนะแล้วเราจะกระจ่างต่อไปว่า
01:46:41 → 01:46:45 เออทำไมกินผิดถึงได้เครียดคอติซอลเยอะ
01:46:45 → 01:46:49 ทำไมทำไอเอสยาวนานไปทำไม Heavy Exercise
01:46:49 → 01:46:55 เอ่อหรือว่าหักโหมเกินไปอะไรอย่างเงี้ยนะ
01:46:55 → 01:47:02 เนี่ย
01:47:02 → 01:47:05 แล้วคอติซอลเนี่ยเขาขึ้นอยู่กับระบบ
01:47:05 → 01:47:09 ประสาทส่วนกลางไม่เหมือนอินซูลินครับ
01:47:09 → 01:47:13 เป็นฮอร์โมนที่น่าศึกษาแล้วถ้าเรารู้เขา
01:47:13 → 01:47:16 ลึกๆแบบเหมือนเรารู้อินซูลินวันนี้ถ้ารู้
01:47:16 → 01:47:17 จัก
01:47:17 → 01:47:20 แล้วจะผสมผสานแล้วมันจะอธิบายอะไรได้แตก
01:47:20 → 01:47:23 ฉานหมดเลยแต่เมื่อกี้ที่หมอบอกว่าทำไมคน
01:47:23 → 01:47:25 นี้ถึงได้บอกว่า
01:47:25 → 01:47:29 ทำไมอักเสบแล้วอะไรอย่างเงี้ย
01:47:29 → 01:47:33 20 ปีหายแล้วแค่กินอย่างเงี้ยแล้วก็ตัด
01:47:33 → 01:47:37 ผลออกไม้อะไรอย่างเงี้ยใช่ครับเออมันก็
01:47:37 → 01:47:38 มันเป็นอย่างนี้แหละ
01:47:38 → 01:47:44 เออๆมันมีอะไรไหม
01:47:44 → 01:47:49 เนี่ยในยุคนี้เป็นผลไม้เป็นถึงจะเป็น
01:47:49 → 01:47:52 ธรรมชาติแต่มันคือผลไม้แปรรูปหมดเลย
01:47:52 → 01:47:58 ลูกหมดแล้วแต่รูปมาตั้งแต่จีนเลยนะ
01:47:58 → 01:48:08 แบบผลไม้ป่าอันนั้นเนี่ย Real Food เออ
01:48:08 → 01:48:13 มานานนะพี่หมอผมยังไม่เคยเจอผลไม้หวานๆใน
01:48:13 → 01:48:16 ป่าเลยนะมีแต่เปรี้ยวกว่าฝาดก็เป็นอย่าง
01:48:16 → 01:48:17 นั้นแหละ
01:48:17 → 01:48:20 เพราะฉะนั้นผลไม้ไม่ใช่สิ่งที่มนุษย์จะ
01:48:20 → 01:48:22 ต้องกิน
01:48:22 → 01:48:25 เรากินผลไม้ไม่ได้สิ่งที่เรากินเนี่ยมัน
01:48:25 → 01:48:28 ไม่เรียกว่าผลไม้ถ้าจะเรียกนิดนึงก็เรียก
01:48:28 → 01:48:31 ว่าผลไม้แปรรูป
01:48:31 → 01:48:33 เพราะว่ามันเน้นแต่แป้งเน้นแต่น้ำตาลเน้น
01:48:33 → 01:48:41 แต่ลูกใหญ่เน้นแต่ให้ออกผลทั้งปี
01:48:41 → 01:48:45 ตัดมันออกไปซะถ้าจะกินกินผักจะเอา
01:48:45 → 01:48:48 โปแตสเซียมเอาวิตามินซีเนี่ยเอาจากพืชจาก
01:48:48 → 01:48:52 ผักอย่าไปเอาผลไม้ผลไม้ไม่ให้หรอกนะ
01:48:52 → 01:48:54 อินซูลินเข้ามารอแล้ว
01:48:54 → 01:48:57 วิตามินซีเหรอโปแตสเซียมเหรอรอก่อนรอก่อน
01:48:57 → 01:49:00 เดี๋ยวเดี๋ยวจัดน้ำตาลเข้าเซลล์ก่อนจัด
01:49:00 → 01:49:05 ฟลุคโตสเข้าตับก่อนเออรอก่อนรอก่อนรอไฟรอ
01:49:05 → 01:49:10 มาเลือดมาพาไปเยี่ยวทิ้ง
01:49:10 → 01:49:19 อย่างนั้นแหละ
01:49:19 → 01:49:23 ก็ต้องกินในรูปของเขาเรียก Bio Active
01:49:23 → 01:49:25 Bio Active
01:49:25 → 01:49:28 มันมีอะไรบางอย่างที่ต้องถีบเข้าไปใน
01:49:28 → 01:49:30 เซลล์ถ้าไม่งั้นก็ต้องกินในรูปแบบที่
01:49:30 → 01:49:32 ละลายในไขมัน
01:49:32 → 01:49:36 มงคลฟังแล้วจะแปลกใจเฮ้ยวิตามินบีวิตามิน
01:49:36 → 01:49:40 ซีรู้แต่ละลายในน้ำเรียนมาตั้งไม่รู้กี่
01:49:40 → 01:49:41 สิบปี
01:49:41 → 01:49:48 ไม่ได้ยุคนี้เขามีละลายในไขมันมีเยอะแยะ
01:49:48 → 01:49:50 หุ้มเซลล์ไม่ได้หรอก
01:49:50 → 01:49:53 แล้วถ้าจะละลายในน้ำแล้วรออินซูลินมาพา
01:49:53 → 01:49:56 เข้าอินซูลินก็พาน้ำตาลเข้าไปหมดแล้ว
01:49:56 → 01:50:00 อันนี้ก็ไม่ให้เข้าหรอกนะแล้วเลือดมาพาไป
01:50:00 → 01:50:01 เยี่ยว
01:50:01 → 01:50:07 เยี่ยวไปเยี่ยวออกไป
01:50:07 → 01:50:11 ผมไม่กล้าไปเดินตลาดไทยนะเนี่ย
01:50:11 → 01:50:15 วันนี้เราพอใจดีกว่าครับ
01:50:15 → 01:50:19 อันนี้หมอก็สรุปมาให้ค่อนข้างเป็นระเบียบ
01:50:19 → 01:50:23 เรียบร้อยแล้วเอาไปใช้ต้องเอาไปใช้นะโอเค
01:50:23 → 01:50:29 วันนี้นะขอบคุณครับ
01:50:29 → 01:50:38 [เพลง]
01:50:38 → 01:50:38 [ปรบมือ]
01:50:38 → 01:50:43 [เพลง]
01:50:43 → 01:50:47