00:00:16 → 00:00:19 สวัสดีทุกท่านนะครับ

00:00:19 → 00:00:23 เออวันนี้เราจะมาตอบคำถามกันนะครับเบื้อง

00:00:23 → 00:00:27 ต้นขอเวลาสัก 2 นาทีนะให้เพื่อนๆเข้ามา

00:00:27 → 00:00:31 แล้วก็ทักทายกันนิดนึงนะครับเสียงเป็นยัง

00:00:31 → 00:00:34 ไงบ้างก็บอกกันหน่อยนะครับที่ผมกำลังฟัง

00:00:34 → 00:00:39 เสียงตัวเองอยู่นะฮะคุณสนทยาประจันทร์

00:00:39 → 00:00:42 สวัสดีนะครับคุณนกวงษ์ดาวสวัสดีนะ

00:00:42 → 00:00:47 ครับหลายๆท่านก็รอเลยนะ 19:30 นโอ้น่าจะ

00:00:47 → 00:00:50 รออยู่ที่มือถือหรือว่าคอมพิวเตอร์กัน

00:00:50 → 00:00:55 เลยสวัดดีครับคุณหน่อยคอยเย็นสวัสดีครับ

00:00:55 → 00:01:01 คุณพัชรินสวัสดีครับคุณสุธาทิพหนูนินะ

00:01:01 → 00:01:07 ครับโอเคเสียงน่าจะโอเคแล้วล่ะนะ

00:01:07 → 00:01:12 ครับคุณพรณีสวัสดีคุณหมอสวัสดีครับคุณ

00:01:12 → 00:01:15 สุภาวดีสวัสดีครับ

00:01:15 → 00:01:19 เอ่อโอเคใครเห็นภาพอะไรเป็นยังไงเสียง

00:01:19 → 00:01:21 เป็นยังไงก็คอมเมนต์บอกกันหน่อยนะครับเรา

00:01:21 → 00:01:24 จะได้แก้ไขกันทันท่วงทีเนาะคุณบัลลือแชร์

00:01:24 → 00:01:27 ให้แล้วค่ะขอบคุณมากครับนะครับขอบคุณที่

00:01:27 → 00:01:28 แชร์นะ

00:01:28 → 00:01:32 เอ่อเอ่อคุณสสิกาสวัสดีนะครับดีใจมากได้

00:01:32 → 00:01:35 คุยสดๆนะครับโอเค

00:01:35 → 00:01:39 เออผมก็จะใช้เวลาซักประมาณ 1 ชมงในการตอบ

00:01:39 → 00:01:44 คำถามที่คนถามมานะครับเอ่อผมถามไว้ประมาณ

00:01:44 → 00:01:48 ซัก 11:00 นประมาณนั้นนะเที่ยงๆประมาณเนะ

00:01:48 → 00:01:52 เอ่อรอบนี้จะแปลกหน่อยคือว่าผมจะตอบคำถาม

00:01:52 → 00:01:56 เอาที่คำถามแรกก่อนนะครับถามแรกที่ถามมา

00:01:56 → 00:01:58 เลยเนี่ยโพสต์ตอน 1100 นแล้วมีคนถามคนแรก

00:01:58 → 00:02:01 เนี่ยฮะธรรมดาผมก็จะใช้ All comment ใช่

00:02:01 → 00:02:03 มั้ยเค้าก็จะเลือกคำถามมาให้อะไรอย่าง

00:02:03 → 00:02:07 เงี้ยนะครับคราวนี้เรามาแบบว่าใช้สิทธิ์

00:02:07 → 00:02:10 คนแรกที่ถามมาเรื่อยๆะกันนะครับก่อนอื่น

00:02:10 → 00:02:13 ขอสวัสดีก่อนสวัสดีครับผมมนัทใครไม่ป่วย

00:02:13 → 00:02:17 ยกมือขึ้นนะครับผมเป็นแพทย์แผนไทยมีความ

00:02:17 → 00:02:19 รู้การแพทย์แผนไทยแพทย์แผนปัจจุบันแพทย์

00:02:19 → 00:02:23 ทางเลือกอายุรเวชแพทย์แผนจีนผสมผสานกัน

00:02:23 → 00:02:26 เพื่อให้ทุกท่านเนี่ยมีความสุขในการดูแล

00:02:26 → 00:02:29 สุขภาพนะครับนะครับลองเอาความรู้นี้ไป

00:02:29 → 00:02:33 ปรับพฤติกรรมดูนะครับโอเคก่อนอื่นนะครับ

00:02:33 → 00:02:36 ก่อนที่จะเราจะรักษาเราก็ขออนุญาตไวู้กัน

00:02:36 → 00:02:39 ก่อนนะครับพนมมือพร้อมการโอมนะโมชีวะโก

00:02:39 → 00:02:44 สิรสาอหังกะรุนสัพพะสัตนโอสถะทิพมตปภาโส

00:02:44 → 00:02:47 สุริยาจันทาโกมลพัจโจปะกาเสสวันทามิ

00:02:47 → 00:02:52 บันทิตสุเมธโสโลคาสุมนาโหมิบุญใดๆที่พวก

00:02:52 → 00:02:55 เราได้ทำวันนี้ขอให้ถึงครูบาอาจารย์พ่อ

00:02:55 → 00:02:58 แม่ทุกท่านแล้วก็ถึงกับครูครูบาอาจารย์

00:02:58 → 00:03:03 ของทุกท่านด้วยอีกนะครับโอเคใครที่เอ่อนำ

00:03:03 → 00:03:06 เอาไปใช้ได้ความรู้หายนำเอาไปประกอบ

00:03:07 → 00:03:10 ธุรกิจก็ฝากทำบุญด้วยนะ 19 บาทนะ

00:03:10 → 00:03:13 ครับที่ไหนก็ได้นะไม่ต้องส่งมาให้ผมนะไป

00:03:13 → 00:03:16 ทำบุญแถวๆบ้านท่านได้เลยนะครับคุณสาธิตา

00:03:16 → 00:03:19 บอกว่าอาหารบำรุงกระดูกค่ะคุณหมออถามสั้น

00:03:20 → 00:03:24 ๆต้องการถามว่ามีอาหารอะไรบ้างที่ช่วย

00:03:24 → 00:03:27 บำรุงกระดูกนะอ่ะมาดูกันนะอาหารช่วยบำรุง

00:03:27 → 00:03:30 กระดูกนะครับผมเอาเป็นข้อข้อมูลจากโรง

00:03:30 → 00:03:33 พยาบาลพญาไทยก็แล้วกันนะครับเอาทางการ

00:03:33 → 00:03:37 แพทย์ปัจจุบันผสมนิดนึงนะก็กลุ้มปะเขาบอก

00:03:37 → 00:03:40 ว่ามี 5 กลุ่มในการดูแลเรื่องกระดูกนะก็

00:03:40 → 00:03:45 จะมีกลุ่มปลากลุ่มนมใช่มยกลุ่มผลไม้แล้ว

00:03:45 → 00:03:48 ก็กลุ่มถั่วเมล็ดแข็งแล้วก็พืชตระกูล

00:03:48 → 00:03:52 กะหล่ำอนะครับกลุ่มปลาทะเลต่างๆปลาซาดิน

00:03:52 → 00:03:54 ปลาทูปลาซัลมอนอะไรพวกเนี้ยแล้วก็มีกรดไข

00:03:55 → 00:03:58 มันประมาณนี้ก็ช่วยบำรุงได้แล้วก็ปลาตัว

00:03:58 → 00:04:01 เล็กก็พอได้นะครับแล้วก็กุ้งแห้งก็ใช้ได้

00:04:01 → 00:04:05 เหมือนกันนะครับเอ่อพวกนี้ก็จะช่วยทำให้

00:04:05 → 00:04:07 บำรุงกระดูกอะไรได้นะครับกลุ่มนมและ

00:04:07 → 00:04:10 โยเกิร์ตเอ่อในสำหรับผมเนี่ยผมไม่ค่อยแนะ

00:04:10 → 00:04:14 นำนมวัวสักเท่าไหร่ก็นมอื่นๆนมจากธัญพืช

00:04:14 → 00:04:17 นมธัญพืชน้ำนมอัลมอนอะไรอย่าเงี้ยก็ใช้

00:04:17 → 00:04:20 ได้นะครับธนพืชชงต่างๆก็ใช้ได้แล้วก็ใคร

00:04:20 → 00:04:24 ที่มีฝีมือซะหน่อยนะครับก็แนะนำการทำ

00:04:24 → 00:04:27 โยเกิร์ตทำเองเอก็พวกเนี้ยก็จะช่วยทำให้

00:04:27 → 00:04:31 เอ่อได้สารอาหารที่ดีได้จุลินทรีย์ที่ดี

00:04:31 → 00:04:33 ด้วยนะครับแล้วก็ได้นมที่มีคุณภาพจาก

00:04:33 → 00:04:38 โยเกิร์ตทำเองนะครับแล้วก็กลุ่มผลไม้ก็จะ

00:04:38 → 00:04:42 เป็นกีวี่กล้วยมะละกอเอ่อเอ่อกีวี่เนี่ย

00:04:42 → 00:04:45 ค่อนข้างดีมากเลยนะครับแล้วก็ผักที่มี

00:04:45 → 00:04:49 แคลเซียมสูงต่างๆนะครับกลุ่มเอ่อเมล็ด

00:04:49 → 00:04:51 ถั่วนะจริงๆถั่วมันก็ได้ทุกอันเพราะว่า

00:04:51 → 00:04:54 ถั่วพวกนี้ก็บำรุงกล้ามเนื้อแล้วก็บำรุง

00:04:54 → 00:04:58 ธาตุดินได้ดีนะแมคคาเดเมียอัลมอนเมล็ด

00:04:58 → 00:05:00 มะม่งหิมพานต์อะไรพวกเนี้ยก็พอช่วยได้แต่

00:05:01 → 00:05:03 ผมแนะนำนะอย่าไปกินอย่างเดียวให้กินสลับก

00:05:04 → 00:05:06 กันไปถั่วแดงถั่วเหลืองถั่วเขียวเอ่อถั่ว

00:05:06 → 00:05:10 ขาวว่ากันไปสลับกันไปช่วยทำให้กล้ามเนื้อ

00:05:10 → 00:05:13 และกระดูกแข็งแรงนะครับแล้วก็ผักตระกูล

00:05:13 → 00:05:16 กะหล่ำเช่นกะหล่ำปีกะหล่ำปมผักกาด

00:05:16 → 00:05:20 บรอกโคลี่ผักเคลผักคะน้าพวกเยก็จะเอ่อ

00:05:20 → 00:05:23 ช่วยบำรุงกระดูกได้ดีมีไฟเบอร์สูงด้วยมี

00:05:23 → 00:05:26 วิตามิน b6 มีโฟลดมีธาตุเหล็กแมงกานีส

00:05:26 → 00:05:28 อะไรอย่างเงี้ยนะครับแล้วก็มีสารอาหารสูง

00:05:28 → 00:05:31 เพราะว่ามันเป็นเป็นผักที่มันเป็นหัวๆ

00:05:31 → 00:05:33 อย่างเงี้ยก็จะมีสารอาหารค่อนข้างสูงแต่

00:05:33 → 00:05:36 ว่าการกินกะหล่ำปลีก็ต้องระวังเรื่องสาร

00:05:36 → 00:05:39 เคมีหน่อยนะครับเลือกให้ดีๆก็แล้วกันนะจะ

00:05:39 → 00:05:42 ช่วยท่านได้คราวนี้พอเราเข้าใจแล้วออโอเค

00:05:42 → 00:05:45 โอเคอาหารกลุ่มนี้เนี่ยช่วยบำรุงเอ่อ

00:05:45 → 00:05:48 กระดูกทำให้ฟันแข็งแรงทำให้กล้ามเนื้อดี

00:05:48 → 00:05:51 ขึ้นนะครับเอาในทางการแพทย์เ่อทางเลือก

00:05:51 → 00:05:53 บ้างแล้วกันนะครับการแพทย์ทางเลือกผมขอ

00:05:53 → 00:05:56 เป็นแพทย์แผนจีนแล้วกันแพทย์แผนจีนเนี่ย

00:05:56 → 00:06:00 เามองว่าการบำรุงกระดูกคือการดูดูแลไต

00:06:00 → 00:06:02 นั่นเองเมื่อไหร่ก็ตามที่ไตเราเนี่ยแข็ง

00:06:02 → 00:06:06 แรงกระดูกก็จะแข็งแรงไปด้วยคนที่ไตไม่

00:06:06 → 00:06:10 แข็งแรงเออผมเพิ่งอัดคลิปลงติตอกลงไปนะก็

00:06:10 → 00:06:12 คือว่าคนที่กระดูกไม่แข็งแรงคือคนที่ไม่

00:06:13 → 00:06:17 ค่อยดูแลไตคนที่ไตออนแอรเช่นคนที่ใช้

00:06:17 → 00:06:19 ชีวิตไม่เป็นเวลาธรรมชาติสักเท่าไหร่นะ

00:06:19 → 00:06:23 ครับเวลานอนก็ไม่นอนเวลากินก็ไม่กินเวลา

00:06:24 → 00:06:26 กินก็กินจุกๆจิกๆเล็กๆน้อยๆอะไรอย่าง

00:06:27 → 00:06:30 เงี้ยนะครับแล้วก็ควบคุมเวลาไม่ค่อยดีทำ

00:06:30 → 00:06:33 งานก็ทำงานทั้งวันจน 1:00 2:00 นแบบ

00:06:33 → 00:06:36 เนี้ยแบบนี้ไตพังแน่นอนเออดังนั้นแล้ว

00:06:36 → 00:06:40 เนี่ยไตพังสัญญาณเตือนก่อนที่ไตจะต้องพัง

00:06:40 → 00:06:44 ต้องฟอกไตเนี่ยก็คือกระดูกมีปัญหากระดูก

00:06:44 → 00:06:48 พรุนนั่นเองนะครับลองดูแล้วกันนะดูแลไตก็

00:06:48 → 00:06:51 จะช่วยให้กระดูกแข็งแรงขึ้นเช่นไม่ไปกิน

00:06:51 → 00:06:54 อาหารรสจัดมากเกินไปแล้วก็แบ่งเวลาให้ชัด

00:06:54 → 00:06:57 เจนนะครับช่วย

00:06:57 → 00:07:02 ได้โอเคอ่ะคุณตันบ้าง่ะใครตอบแล้วผมกด

00:07:02 → 00:07:07 แคร์ไว้ให้นะครับคุณตันทิทักษ์นะบอกว่า

00:07:07 → 00:07:11 เวลามีประจำเดือนปวดหัวมากๆเลยค่ะปวดติด

00:07:11 → 00:07:15 ต่อกันมา 2 วันแล้วทำอย่างไรดีคะโอเคเวลา

00:07:15 → 00:07:17 มีประจำเดือนแล้วก็ปวดหัวเนี่ยเพราะว่า

00:07:17 → 00:07:21 ฮอร์โมนมันเปลี่ยนแปลงนะคือหลายๆท่าน

00:07:21 → 00:07:24 เนี่ยโดยเฉพาะผู้หญิงเนี่ยมีปัญหาเรื่อง

00:07:24 → 00:07:28 ฮอร์โมนเป็นพื้นฐานอยู่แล้วเอ่อมนุษย์เรา

00:07:28 → 00:07:30 เนี่ยควบคุมฮอร์โมนได้ด้วยด้วยต่อมไร้ท่อ

00:07:30 → 00:07:33 ต่างๆนะครับต่อมไร้ท่อเช่นต่อมใต้สมองใช่

00:07:33 → 00:07:37 มั้ยต่อมไทรรอยอต่อมหมวกไตอะไรอย่างเงี้ย

00:07:37 → 00:07:41 เอ่ออะไตับอ่อนอะไรประมาณนี้นะครับพวก

00:07:41 → 00:07:44 เนี้ยก็จะควบคุมระดับฮอร์โมนในร่างกายให้

00:07:44 → 00:07:49 เกิดความสมดุลใช่มั้ยใครก็ตามที่นอนดึก

00:07:49 → 00:07:53 เอ่อไม่ค่อยกินอาหารเป็นมื้อๆนะครับแล้ว

00:07:53 → 00:07:55 ก็ใช้ชีวิตไม่ค่อยเป็นธรรมชาติสักเท่า

00:07:55 → 00:07:59 ไหร่ชอบอยู่ในห้องแอร์ชอบนั่งหน้าเข

00:07:59 → 00:08:02 คอมพิวเตอร์อะไรอย่างเงี้ยนะครับไม่เคยไป

00:08:02 → 00:08:04 เหยียบพื้นไม่เคยไปโดนแดดบ้างอะไรบ้าง

00:08:04 → 00:08:07 เนี่ยมันไม่ค่อยโดนธรรมชาติเท่าไหร่ใคร

00:08:07 → 00:08:10 ที่เป็นแบบนี้เนี่ยต่อมไร้ท่อจะมีปัญหา

00:08:10 → 00:08:13 มากๆเลยนะครับดังนั้นเนี่ยพอช่วงจะมี

00:08:13 → 00:08:16 ประจำเดือนเนี่ยฮอร์โมนก็จะแกว่งเลยใช่

00:08:16 → 00:08:18 มั้ยคุณก็จะมีปัญหานู่นนี่นั่นค่อนข้าง

00:08:18 → 00:08:21 เยอะนะดังนั้นแล้วเนี่ยใครที่มีปัญหาเวลา

00:08:21 → 00:08:23 มีประจำเดือนเช่นปวดหัวปวดท้องรุ่นแรงนะ

00:08:23 → 00:08:26 ครับหรือว่ามีไปก้อนตรงนู้นตงนี้ตรงนั้น

00:08:26 → 00:08:28 เนี่ยสิ่งที่ต้องปรับก่อนเลยคือว่าคุณ

00:08:28 → 00:08:32 ต้องเข้าหาธรรมชาติเออนะครับเช่นโดนแดด

00:08:32 → 00:08:35 บ้างทานอาหารที่มันหลากหลายนะอย่าไปกิน

00:08:35 → 00:08:39 แต่อาหารที่เป็นแปรรูปมาอาหารผงอาหารเม็ด

00:08:39 → 00:08:41 อาหารเสริมอะไอย่างเงี้ยอย่าไปกินเยอะนะ

00:08:41 → 00:08:44 กินอาหารทั่วไปนะครับแล้วก็มื้อสุดท้าย

00:08:44 → 00:08:47 เนี่ยอย่าไปกินดึกเอพยายามกินมื้อสุดท้าย

00:08:47 → 00:08:50 ไม่เกิน 19:00 นก็แล้วกันพอเราทำแบบนี้

00:08:50 → 00:08:52 เนี่ยเข้าหาธรรมชาติเยอะขึ้นทานอาหารที่

00:08:52 → 00:08:56 เป็นธรรมชาติไปอยู่ในที่ที่มันไม่ไม่มี

00:08:56 → 00:08:59 แอร์บ้างนะอยู่ในสวนสาธารณะบ้างโดนต้นไม้

00:08:59 → 00:09:02 ไม้บ้างไปทำกดิที่พื้นบ้างถอดรองเท้าเดิน

00:09:02 → 00:09:05 บ้างเนี่ยพอทำแบบนี้ได้สัก 2-3 เดือน

00:09:05 → 00:09:08 ฮอร์โมนก็จะเริ่มกลับเข้าเป็นปกติก็ดูยัง

00:09:08 → 00:09:12 ไงมนุษย์ที่ฮอร์โมนเป็นปกติแล้วกันผม

00:09:12 → 00:09:16 เนี่ยจะแข็งแรงนะครับผมไม่ร่วงง่ายๆผิว

00:09:16 → 00:09:20 พรรณผ่องใสตื่นนอนเป็นเวลาหิวเป็นเวลา

00:09:20 → 00:09:23 แล้วก็มีความสุขได้ง่ายอันเนี้ยเขาเรียก

00:09:23 → 00:09:27 ว่าฮอร์โมนมันค่อนข้างสมดุลเออดังนั้น

00:09:27 → 00:09:30 แล้วนะลองไปปรับดูนะครับคุณตันที่ินะครับ

00:09:30 → 00:09:34 เอ่อข้อมูลนี้ดีนะกดเลไว้ให้อาหารบบุ

00:09:34 → 00:09:38 กระดูกก็ขอกำหนดกดเลฟไว้ให้นะครับคุณนกวง

00:09:38 → 00:09:41 ดาวบอกว่ารอค่ะเวลาลุกขึ้นยืนจะมีอาการ

00:09:41 → 00:09:45 วูบตื่นนอนมาก็จะมีอาการอาเจียนแต่ไม่มี

00:09:45 → 00:09:50 อะไรออกมารบกวนหน่อยค่ะโอเคคนที่อยากจะ

00:09:50 → 00:09:55 อาเจียนเแสดงว่าภายในช่องท้องเนี่ยรู้สึก

00:09:55 → 00:09:57 ไม่ค่อยแฮปปี้สักเท่าไหร่เออคือมนุษย์ที่

00:09:57 → 00:10:00 แฮปปี้เนี่ยนึกง่ายๆโอ้มีความสุขจังเลย

00:10:01 → 00:10:03 คุณจะกินอาหารอร่อยถูกมั้ยเออใครก็ตามที่

00:10:03 → 00:10:06 ชีวิตไม่ค่อยแฮปปี้ซักเท่าไหร่เนี่ยมันจะ

00:10:06 → 00:10:09 อยากอาเจียนครับมันจะรู้สึกว่าโอมันไม่

00:10:09 → 00:10:11 แฮปปี้เลยกินอะไรก็ไม่ค่อยลงอะไรอย่าง

00:10:11 → 00:10:13 เงี้ยนะครับนะดังนั้นแล้วเนี่ยผมก็แนะนำ

00:10:13 → 00:10:16 ให้คุณนกองงดาวหาอะไรทำที่มันแฮปปี้ทุก

00:10:17 → 00:10:21 วันเลยเช่นหลังเลิกงานช่วงประมาณสัก 18 น

00:10:21 → 00:10:23 19 นอะไรอย่างเงี้ยนะครับหรือว่าประมาณ

00:10:23 → 00:10:26 20:00 นก็ได้หาอะไรทำที่รู้สึกว่าตัวเอง

00:10:26 → 00:10:29 อ่ะชอบแล้วก็สนุกไปกับมันอ่าอ่า

00:10:29 → 00:10:32 คีย์เวิร์ดสำคัญนะคือสนุกด้วยนะต้องสนุก

00:10:32 → 00:10:37 ไปกับมันเช่นปั่นจักรยานใช่มยทำโยคะเล่น

00:10:37 → 00:10:41 เกมมือถือสนุกๆสักเกม 2 ตา 2 ตาอะไรอย่าง

00:10:41 → 00:10:45 เงี้ยหรือเอ่อเล่นรูบิกเออเล่นดนตรีอะไร

00:10:45 → 00:10:51 บางอย่างหางานอดิเรกที่ชอบนะฝึกภาษาใหม่ๆ

00:10:51 → 00:10:53 ดูหนังแบบไม่ต้องไม่ต้องมีทรัพย์ไทยเลย

00:10:53 → 00:10:55 อะไรอย่างเงี้ยนะครับฝึกอะไรที่รู้สึกว่า

00:10:55 → 00:10:58 เออสนุกจังเลยอยากทำต่ออะไรอย่าเงี้ยนะ

00:10:58 → 00:11:01 ครับทำสักชั่วโมง 2 ชั่วโมงเอ่อคุณนกวง

00:11:01 → 00:11:04 ดาวก็จะรู้สึกว่าทุกวันที่ตื่นมาเนี่ยโอ

00:11:04 → 00:11:07 จะมีเวลามีความสุขอ่ะอย่างน้อย 2 ชั่วโมง

00:11:07 → 00:11:09 และตอนค่ำๆตอนอะไรอย่างเงี้ยนะครับดัง

00:11:09 → 00:11:11 นั้นแล้วเนี่ยเมื่อไหร่ก็ตามที่เรามีความ

00:11:11 → 00:11:13 สุขก่อนที่เราจะไปนอนอะไรอย่างเงี้ยเราก็

00:11:13 → 00:11:16 จะนอนหลับได้ดีกินข้าวอร่อยรู้สึกมีความ

00:11:16 → 00:11:19 สุขในการตื่นขึ้นมาความอยากอาเจียนอะไร

00:11:19 → 00:11:22 พวกเก็จะค่อยๆหายไปเออดังนั้นแล้วนะแบ่ง

00:11:22 → 00:11:26 เวลาของความสนุกขึ้นมาด้วยในแต่ละวันคุณ

00:11:26 → 00:11:29 ก็จะไม่อาเจียนง่ายๆเนาะคราวนี้พอเราหลับ

00:11:29 → 00:11:32 ได้ดีอาการวูบเวลาตื่นนอนอะไรพวกเนี้ยก็

00:11:32 → 00:11:36 จะดีขึ้นด้วยสมุนไพรที่ช่วยได้ก็สมุนไพร

00:11:36 → 00:11:38 ที่ช่วยทำให้ช่องท้องนิ่งขึ้นนะเช่นยาหอม

00:11:38 → 00:11:41 ก่อนอาหารทุกมื้อหลังอาหารกินยาธาตุมันจบ

00:11:41 → 00:11:44 ก็ทำให้ช่องท้องนิ่งขึ้นแลละนะครับตื่น

00:11:44 → 00:11:47 เช้ามาถ้าอยากอาเจียนนะก็กินอะไรเปรี้ยวๆ

00:11:47 → 00:11:50 ซะหน่อยก็จะช่วยควบคุมระบบประสาทได้ดีนะ

00:11:50 → 00:11:53 ครับลองดูนะอะไรที่มันเป็นเค้าเรียกว่า

00:11:53 → 00:11:57 แอร์ใช่่มแอร์กินแล้วรู้สึกว่าเอออยากกิน

00:11:57 → 00:12:02 นู่นกินนี่นะครับอ่ะคุณเอ่อสมพรบอกว่า

00:12:02 → 00:12:08 ประจำเดือนหมดตอนอายุ 47 ปีผิดปกติยคะอืม

00:12:08 → 00:12:11 ผิดปกติมมันก็ผิดไปนิดนึงนะครับเพราะว่า

00:12:11 → 00:12:16 เอ่อมันได้ตั้งแต่ 46 -52 ใช่มยแต่ 47

00:12:16 → 00:12:19 มันก็เร็วไปนิดนึงอแล้วทำยังไงให้ยังมี

00:12:19 → 00:12:23 ฮอร์โมนที่ดีก็แล้วกันฮอร์โมนกลับมาดีก็

00:12:23 → 00:12:26 ต้องบำรุงเลือดะสำหรับผู้หญิงนะยาบำรุง

00:12:26 → 00:12:30 เลือดสำหรับผู้หญิงเนี่ยเต็มเลยในในร้าน

00:12:30 → 00:12:33 ขายยาเนี่ยมีเยอะเลยสอบถามเภสัชหน่อยบโอ๊

00:12:33 → 00:12:36 เราอยากจะบำรุงเลือดสำหรับผู้หญิงซะหน่อย

00:12:36 → 00:12:38 อะไรอย่างเงี้ยนะครับพวกยาสตรียาอะไรพวก

00:12:38 → 00:12:42 เนี้ยก็จะช่วยได้นะเออเอ่อถ้าเป็นทางจีน

00:12:42 → 00:12:46 เ้ามีตังกุยมีโสมอะไรใช่มั้ยเบ้านเราก็มี

00:12:46 → 00:12:49 เอ่อกระชายอะไรพวกเนี้ยก็ใช้ได้เหมือนกัน

00:12:49 → 00:12:53 แต่รวมๆคือมันเป็นยาเป็นตำรับและส่วนใหญ่

00:12:53 → 00:12:55 เป็นยาฤทธิร้อนนิดนึงนะครับกินก่อนอาหาร

00:12:55 → 00:12:58 เช้าเย็นอะไรอย่าเงี้ยพวกกลุ่มยาบำรุง

00:12:58 → 00:13:01 เลือดยาบำรุงรโลหิตสตรีเนี่ยงอย่ากินนาน

00:13:01 → 00:13:04 นะกินสักประมาณ 1 สัปดาห์เว้น 1 สัปดาห์

00:13:04 → 00:13:06 ก็ได้เพื่อไม่ให้ร่างกายร้อนเกินไปก็จะ

00:13:06 → 00:13:08 ช่วยทำให้กลับมามีประจำเดือนอีกครั้งหนึง

00:13:08 → 00:13:12 เอ่อกระบวนการชะลอความเสื่อมของร่างกาย

00:13:12 → 00:13:15 ไม่มีอะไรดีไปกว่าการนอนอีกแล้วดังนั้น

00:13:15 → 00:13:20 แล้วนะผมขอให้คุณสมพรใช่มยนอนไวๆนะครับ

00:13:20 → 00:13:24 ถ้านอนไวๆเช่น 21:00 ึ่งหรือ 22:00 นนอน

00:13:24 → 00:13:27 ละแล้วนอนหลับสนิทด้วยนะครับก่อนนอนไม่

00:13:27 → 00:13:29 เล่นมือถือเปลี่ยนเป็นอ่านหนหนังสือแทน

00:13:29 → 00:13:32 อะไรอย่างเงี้ยยิ่งดีเลยนะก็หน้าตาผิว

00:13:32 → 00:13:35 พรรณผ่องใสขึ้นผมไม่ร่วงก่อนวัยอันควร

00:13:35 → 00:13:39 ประจำเดือนก็จะกลับเข้ามาเป็นปกติได้เออ

00:13:39 → 00:13:42 นะครับแต่ถ้ามันต้องหมดจริงๆก็ต้องทำใจนะ

00:13:42 → 00:13:43 ว่ามันเออมันไปต่อไม่ได้แล้วจริงๆอะไร

00:13:44 → 00:13:48 อย่าเงี้ยนะครับก็อย่ากังวลไปนะครับกด

00:13:48 → 00:13:50 แคร์ไว้ให้นะครับคุณสาวนีรอฟังค่ะขอบคุณ

00:13:50 → 00:13:56 นะครับคุณอารมณ์บอกว่านิ้วล็อคเป็นบ่อย

00:13:56 → 00:13:59 ค่ะเออเป็นทั้งนิ้วมือแล้วก็ก็นิ้วเท้า

00:13:59 → 00:14:03 โดยเฉพาะเจออากาศเย็นๆอยู่ประเทศสวีเดนนะ

00:14:03 → 00:14:06 ครับนิ้วล็อคเนี่ยเอ่อมีหลายสาเหตุเหมือน

00:14:06 → 00:14:10 กันนะแต่ที่เราเจอใหญ่ๆบ่อยๆนะครับก็คือ

00:14:10 → 00:14:13 ว่าในนิ้วของเรานะในมือของเราแล้วกันนะ

00:14:13 → 00:14:16 การขยับเนี่ยมันก็จะใช้เส้นเอ็นใช่มั้ย

00:14:16 → 00:14:19 แล้วก็จะมีเหมือนปลอกหุ้มเส้นเอ็นต่างๆ

00:14:19 → 00:14:22 เนี่ยมาด้วยนะครับไอ้ตัวปลอกหุ้มเอ็นอะไร

00:14:22 → 00:14:25 ประมาณเยนะครับเอ่อเวลามันอักเสบอ่ะมันจะ

00:14:25 → 00:14:29 ทำให้เอ็นในภายในนะครับมันจะมันจะขยับไม่

00:14:30 → 00:14:32 ได้เพราะว่ามันบวมอ่ะนะครับนี่คือปรอก

00:14:32 → 00:14:35 หุ้มเอนะปรอกเนี่ยนะครับพอ N อยู่ตรง

00:14:35 → 00:14:37 เนี้ยถ้ามันแน่นเกินไปมันบวมอ่ะนะมันก็จะ

00:14:37 → 00:14:39 รัดนะมันก็ดึงออกไม่ได้เเส้นเอ็นมันก็ไม่

00:14:40 → 00:14:43 ได้ฉะนั้นแล้วเนี่ยเราก็ต้องถามว่าเอ๊ะ

00:14:43 → 00:14:46 ทำไมมนุษย์เราเนี่ยไอ้ตัวเส้นเอ็นปลอก

00:14:46 → 00:14:48 หุ้มเอ็นอะไรอย่าเงี้ยนะครับมันถึงบวมล่ะ

00:14:48 → 00:14:50 เออนะครับส่วนใหญ่เพราะอะไรเพราะว่ามันมี

00:14:50 → 00:14:53 ความร้อนมันมีความอักเสบหรือว่าเราทาน

00:14:53 → 00:14:56 อาหารที่มันทำให้เส้นเอ็นอักเสบได้ง่าย

00:14:56 → 00:14:59 อาหารอะไรบ้างที่ทำให้เส้นเอ็นอักเสบได้

00:14:59 → 00:15:04 ง่ายก็คือน้ำตาลของทอดเนื้อสัตว์ปริมาณ

00:15:04 → 00:15:09 มากชานมหวานๆอะไรเงี้ยกินเบเกอรี่บ่อยๆ

00:15:09 → 00:15:12 เลยพวกเนี้ยเส้นเอ็นมันก็จะบวมปลอกคุ้ม

00:15:12 → 00:15:15 เส้นเอ็นมันก็จะอักเสบบวมได้ง่ายอะไร

00:15:15 → 00:15:16 เงี้ยนะครับฉะนั้นแล้วเนี่ยสิ่งที่เรา

00:15:16 → 00:15:20 ต้องทำคือเราต้องเลี่ยงก่อนลดอาหารอาหาร

00:15:20 → 00:15:24 หวานอาหารเค็มจัดเอ่ออาหารที่มันอร่อยมาก

00:15:24 → 00:15:26 ๆอะไเงี้ยอาหารทอดอะไรพวกเนี้ยพอลดไปแล้ว

00:15:26 → 00:15:29 ใช่มยร่างกายก็ต้องการเขาเรียกว่าขับ

00:15:29 → 00:15:33 อาการบวมทิ้งไปส่วนใหญ่ที่เขาใช้กันเขาก็

00:15:33 → 00:15:36 ใช้พวกสมุนไพรที่ระบายน้ำเหลืองเสียเช่น

00:15:36 → 00:15:41 รางจืดก็ใช้ได้หญ้าหนวดแมวก็ใช้ได้ชา

00:15:41 → 00:15:44 ตะไคร้ชากระเจี๊ยบพวกเนี้ยก็ใช้ได้ก็ช่วย

00:15:44 → 00:15:46 ระบายน้ำเหลืองเสียอะไรพวกนี้ทิ้งไปการ

00:15:46 → 00:15:49 ระบายน้ำพวกเนี้ยคือการลดอาการบวมครับแต่

00:15:49 → 00:15:52 ถ้าต้องการเป็นตำรับยาเลยผมแนะนำพวกยาแก้

00:15:53 → 00:15:55 น้ำเหลืองเสียต่างๆเนี่ยพวกเมันก็เป็น

00:15:55 → 00:15:58 เหมือนยาขับน้ำเหลืองยาขับน้ำส่วนเกินออก

00:15:58 → 00:16:01 ไปด้วยอาการบวมต่างๆเนี่ยก็จะลดลงไปด้วย

00:16:01 → 00:16:04 นะครับข้อสำคัญอีกอย่างคือเอ่อการที่เส้น

00:16:04 → 00:16:08 เอ็นบวมเอ่อปลอกคุ้มเส้นเอ็นบวมเนี่ยเอ่อ

00:16:08 → 00:16:12 ส่วนหนึ่งนะครับมันมาจากตับร้อนเออคนที่

00:16:12 → 00:16:17 ตับร้อนเช่นคนที่นอนดึกเอคนที่ชอบกิน

00:16:17 → 00:16:20 อาหารที่เป็นนมๆทั้งหลายอ่ะเป็นเมือกๆ

00:16:20 → 00:16:24 เป็นนมเป็นเบเกอรี่พวกเนี้ยตับจะร้อนง่าย

00:16:24 → 00:16:28 นะครับแล้วก็คนที่ขี้โมโหเออคนขี้โมโห

00:16:28 → 00:16:31 เนี่ยจะทำทำให้ตับมันร้อนเป็นไฟเลยนะครับ

00:16:31 → 00:16:34 ก็จะทำให้เส้นเอ็นแข็งแล้วก็เป็นนิ้วล็อค

00:16:34 → 00:16:37 ได้ง่ายดังนั้นแล้วเนี่ยพอเราแก้นะทั้ง

00:16:37 → 00:16:40 ตับแล้วทั้งอารมณ์แล้วลดอาหารที่ไม่ควร

00:16:40 → 00:16:42 กินแล้วนะครับที่เหลือก็เอายาหม่องมานวด

00:16:42 → 00:16:45 บริเวณนิ้วที่มีปัญหาแล้วลดอาการนิ้วล็อค

00:16:45 → 00:16:49 ได้อะไรได้ช่วยได้นะครับอีกนิดนึงคือตับ

00:16:49 → 00:16:53 ต้องการระบายความร้อนก็คือการทานน้ำเปล่า

00:16:53 → 00:16:55 นั่นแหละกินน้ำเปล่าให้ได้ประมาณ 8-10

00:16:55 → 00:17:00 แก้วต่อวันนะครับอาการนิ้วล็อคก็จะหายไป

00:17:00 → 00:17:01 ตามธรรมชาตินะ

00:17:01 → 00:17:06 ครับการที่เราไปดึงมันนะครับอย่าไปทำเยอะ

00:17:06 → 00:17:10 เด้อนะครับอย่าไปอย่าไปพยายามกับมันเยอะ

00:17:10 → 00:17:13 เกินไปเพราะว่ามันจะเค้าเรียกว่ามันจะฉีก

00:17:13 → 00:17:15 ขาดอ่ะนะเออเส้นเอ็นมีปัญหาได้อะไรได้นะ

00:17:15 → 00:17:20 ครับก็พยายามแก้ไขที่ต้นเหตุซะก่อนนะครับ

00:17:20 → 00:17:24 คุณแนนบ้างสวัสดีค่ะคุณหมอมีอาการหนาวใจ

00:17:24 → 00:17:28 สั่นนอนไม่หลับค่ะแล้วก็จะมึนๆงงๆตื้อๆนะ

00:17:28 → 00:17:29 ครับ

00:17:29 → 00:17:34 อ่ะเอมาดูกันอาการหนาวอาการใจสั่นอาการ

00:17:34 → 00:17:36 นอนไม่หลับเนี่ยคนที่หนาวเนี่ยแสดงว่า

00:17:36 → 00:17:39 เลือดไหลเวียนไม่ค่อยทั่วร่างกายแล้วใช่

00:17:39 → 00:17:41 มั้ยความอุ่นเนี่ยไม่สามารถไถเททั่วนร่าง

00:17:41 → 00:17:46 กายได้ก็จะทำให้เกิดความหนาวนะครับใจสัน

00:17:46 → 00:17:49 เนี่ยก็คือว่าเริ่มมีความกลัวนะหัวใจ

00:17:49 → 00:17:52 เนี่ยแทนที่จะทำงานได้ดีก็ทำงานน้อยลงนะ

00:17:52 → 00:17:55 ครับไตอ่อนแอลงก็จะเกิดอาการกลัวหนาวสั่น

00:17:56 → 00:17:59 นะคนที่ไตอ่อนแอเลือดไม่ไหลเวียนอะไร

00:17:59 → 00:18:03 ประมาณเนี้ยมันก็เหมือนเอ่อคนที่เอ่อร่าง

00:18:03 → 00:18:05 กายเนี่ยมันมีแต่ความเย็นอบอวนไปหมดเนี่ย

00:18:05 → 00:18:07 เมื่อไหร่ก็ตามที่ร่างกายมีแต่ความเย็นนะ

00:18:07 → 00:18:10 ครับก็จะกลัวการนอนนอนไม่หลับหลับแล้ว

00:18:10 → 00:18:12 สะดุ้งตื่นอะไรอย่างเงี้ยนะครับมันก็เป็น

00:18:12 → 00:18:15 เรื่องปกตินะคราวนี้เราบอกว่าเอ๊เรา

00:18:15 → 00:18:19 ต้องการให้ร่างกายเราผลิตความอุ่นขึ้นมา

00:18:19 → 00:18:22 ได้ตามธรรมชาติความอุ่นของมนุษย์เราเนี่ย

00:18:22 → 00:18:25 มันอยู่ที่แกนกลางเออแกนกลางเช่นเนี่ยแกน

00:18:25 → 00:18:29 กลางในช่องช่องร่างกายนะเเรียกว่าคอ cor

00:18:29 → 00:18:32 Muscle ฉะนั้นแล้วเนี่ยการออกกำลังกาย

00:18:32 → 00:18:36 ที่ช่วยทำให้เอ่อแกนกลางของร่างกายเนี่ย

00:18:36 → 00:18:40 แข็งแรงเช่นการทำ pranking เออนะครับการ

00:18:40 → 00:18:42 ยืนท่าต้นไม้นานๆหน่อยอะไรเงี้ยนะครับการ

00:18:42 → 00:18:46 เวเวลาที่เรานั่งทำงานเนี่ยพยายามนะครับ

00:18:46 → 00:18:49 ก็คือนั่งแล้วแขม่วท้องแขม่วท้องนะครับ

00:18:49 → 00:18:53 แล้วตัวตรงการทำแบบเคือการออกกำลังกายแกน

00:18:53 → 00:18:56 กลางของลำตัวเออดังนั้นแล้วเนี่ยเมื่อ

00:18:56 → 00:18:58 ไหร่ก็ตามที่เราออกกำลังกายแบบเนี้ยทั้ง

00:18:58 → 00:19:00 วันเลยเลยนะครับเขแหมวท้องนิดนึงตัวตั้ง

00:19:00 → 00:19:03 ตรงเวลานั่งทำงานหรือนั่งดูทีวีอะไรเงี้ย

00:19:03 → 00:19:06 นะครับก็เป็นการสร้างกล้ามเนื้อภายในก็จะ

00:19:06 → 00:19:09 ทำให้โอ้เรามีความอุ่นขึ้นนะตอนที่เราจะ

00:19:09 → 00:19:12 อาบน้ำตอนค่ำอ่ะตอนค่ำนะไม่ใช่ตอนดึกนะ

00:19:12 → 00:19:15 ตอนดึกไม่ควรอาบน้ำแล้วนะเอ่อตอนค่ำเนี่ย

00:19:15 → 00:19:21 ผมแนะนำว่าให้อาบน้ำเย็นสลับน้ำอุ่นเงี้ย

00:19:21 → 00:19:25 ประมาณซัก 2-3 รอบนะครับพออาบน้ำเย็นสลับ

00:19:25 → 00:19:29 น้ำอุ่นเนี่ยความความร้อน้อนความอุ่นที่

00:19:29 → 00:19:32 อยู่ภายในร่างกายเนี่ยอยู่ตรงแนวกระดูก

00:19:32 → 00:19:35 เนี่ยมันจะออกมาที่ผิวหนังเออนะครับเพราะ

00:19:35 → 00:19:38 ว่าเขากลัวว่าเอ๊ะข้างนอกมันหนาวเกินไป

00:19:38 → 00:19:40 เปล่าฉะนั้นเนี่ยความอุ่นที่อยู่ภายใน

00:19:40 → 00:19:43 เนี่ยมันจะสลับมาอยู่ที่บริเวณผิวหนังก็

00:19:43 → 00:19:46 จะทำให้คุณมีความอุ่นข้อที่ 1 นะแล้ว

00:19:46 → 00:19:49 กระบวนการที่เราอาบน้ำสลับกันนะน้ำอุ่น

00:19:49 → 00:19:52 น้ำเย็นสลับกันเนี่ยจะทำให้คุณรู้สึกว่า

00:19:52 → 00:19:55 เอ่อมีความแข็งแรงมากขึ้นเลือดสูบฉีดมาก

00:19:55 → 00:19:58 ขึ้นเอ่อแล้วก็ไม่ขี้หนาวด้วยเออนอกจากาก

00:19:58 → 00:20:01 การที่เลือดไหลลเวียนแล้วก็ไม่ขี้หนาว

00:20:01 → 00:20:03 ด้วยนะร่างกายมีความอุ่นเนี่ยก็รู้สึกว่า

00:20:03 → 00:20:06 เฮ้ยมีกำลังวังชาไอ้รู้ความรู้สึกมีความ

00:20:06 → 00:20:09 กล้ามากขึ้นมีกำลังวังชามากขึ้นเนี่ยเวลา

00:20:09 → 00:20:12 คุณไปนอนเ่ะมันจะนอนด้วยความมั่นใจเออมัน

00:20:12 → 00:20:14 จะนนเอ้ยคืนนี้หลับได้แน่นอนอะไรอย่าง

00:20:14 → 00:20:17 เงี้ยเพราะว่าเรารู้สึกว่าร่างกายอุ่นดี

00:20:17 → 00:20:21 นะพอห่มผ้าก็โอเคอบอุ่นแล้วนะนอนสบายใจนะ

00:20:21 → 00:20:24 อันนี้คือวิธีการเนาะแต่ว่าถ้ายังไม่หา

00:20:24 → 00:20:27 อีกผมแนะนำให้โฟกัสไปที่ไตนี่แหละจะทำยัง

00:20:27 → 00:20:31 ไงให้ไตแข็งแรงเเช่นเดินออกกำลังกายวันละ

00:20:32 → 00:20:35 ประมาณ 30 นาทีเพื่อให้เลือดหมุนเวียนไต

00:20:35 → 00:20:38 เนี่ยชอบการไหล้เวียนเลือดที่ดีเวลาเลือด

00:20:38 → 00:20:40 ไหลเวียนดีเนี่ยก็จะทำให้ร่างกายอุ่นขึ้น

00:20:40 → 00:20:44 ด้วยใช่มยหัวใจที่อ่อนแอจะทำให้หนาวสั่น

00:20:44 → 00:20:47 ได้ง่ายฉะนั้นแล้วเนี่ยสิ่งที่ไม่ควรทำ

00:20:47 → 00:20:51 เลยก็คืออย่าหมกตัวอยู่ในห้องอย่างเดียว

00:20:51 → 00:20:53 อะไรอย่างเงี้ยต้องหาอะไรทำข้างนอกบ้าน

00:20:53 → 00:20:56 บ้างนะครับไปเที่ยวคาเฟ่บ้างใช่มั้ยไป

00:20:56 → 00:20:59 เที่ยวกับเพื่อนๆบ้างไปทำแนออะไรบ้าง

00:20:59 → 00:21:02 เนี่ยจะช่วยทำให้หัวใจเปิดออกก็จะทำให้

00:21:02 → 00:21:05 อาการหนาวสั่นเนี่ยลดลงไปนะครับลองแก้ไข

00:21:05 → 00:21:08 ดู

00:21:08 → 00:21:12 นะอ่ะคุณยุภาพรบอกว่าเวลาเข้าร่วมงานพิธี

00:21:13 → 00:21:17 อล่าสุดเมื่อเช้าร่วมพิธีวันปิยมหาราชรู้

00:21:17 → 00:21:20 สึกตื่นเต้นใจสั่นหายใจลำบากเหมือนจะเป็น

00:21:20 → 00:21:23 ลมตาลายแล้วก็จะล้มให้ได้ต้องแก้ไขอย่าง

00:21:23 → 00:21:26 ไรคะเหมนเป็นแพนิคเคยเป็นแพนิคคะโอเคเออ

00:21:26 → 00:21:29 อาการนี้ก็แพนิคนั่นแหละนะครับแพนนิคมัน

00:21:29 → 00:21:33 มาะนะครับแล้วก็มันจะทำให้หัวใจสั่นหายใจ

00:21:33 → 00:21:35 ลำบากรู้สึกเหมือนจะตายให้ได้อะไรเงี้ยนะ

00:21:35 → 00:21:39 ครับแล้วก็มีอาการตาลายนะก็ต้องนั่งพัก

00:21:39 → 00:21:41 ซึ่งเป็นเรื่องปกตินะคนที่เป็นแพนิคแล้ว

00:21:41 → 00:21:44 จะกลับมาเป็นบ้างก็เป็นเรื่องไม่แปลกอะไร

00:21:44 → 00:21:47 นะครับแต่สิ่งที่ควรทำคืออะไรนะครับเมื่อ

00:21:47 → 00:21:50 เมื่อเราเป็นแพนิคเนี่ย 1 คือเราต้องเข้า

00:21:50 → 00:21:54 ใจก่อนว่ามันไม่ถึงตายอ่ะนะให้ไปนั่งหาย

00:21:54 → 00:21:56 ใจยาวๆบอกเพื่อนซะหน่อยตอนนี้แพนิคเรา

00:21:56 → 00:22:00 ขึ้นนะไม่ต้องตกใจไปเราจะขอนั่งอย่าเพิ่ง

00:22:00 → 00:22:04 ทำเสียงดังๆนะอย่าเพิ่งเอาใครมามุงเยอะๆ

00:22:04 → 00:22:06 นะครับขอเรานั่งเงียบๆก่อนเงี้ยนะครับ

00:22:06 → 00:22:08 แล้วก็อยู่เป็นเพื่อนเราหน่อยนะครับพอทำ

00:22:08 → 00:22:11 แบบนี้ไม่นานน่ะ 5 นาทีนะก็จะเริ่มฟื้น

00:22:11 → 00:22:14 และเริ่มหายใจดีขึ้นอาการแพนิคค่อยๆดี

00:22:14 → 00:22:17 ขึ้นนะครับถ้ามันไม่ดีขึ้นจริงๆจะไปโรง

00:22:17 → 00:22:19 พยาบาลอะไรก็ว่ากันไปนะครับแต่นี่คือ

00:22:19 → 00:22:22 อาการแพนิคเป็นเรื่องปกตินะใครที่ฟังแล้ว

00:22:22 → 00:22:25 อ๋อโอเคฉันก็เคยเป็นอาการนี้เขาเรียกว่า

00:22:25 → 00:22:29 แพนิคเพราะว่าเวลาบางทีเราไปที่ไปหาหมอ

00:22:29 → 00:22:31 หรืออะไรอย่างเงี้ยเขาก็ไม่ได้ิวินิจฉัย

00:22:31 → 00:22:33 ว่าเป็นแพนดิกไงเขาคก็อาจจะบอกว่าเป็นลม

00:22:33 → 00:22:35 อะไรอย่างเงี้เฉยๆนะครับแต่ว่าเราก็เรา

00:22:35 → 00:22:38 รู้นะว่าเราเป็นแพนิคขึ้นแป๊บนึงเดี๋ยว

00:22:38 → 00:22:41 มันก็จะหายไปตามธรรมชาตินะครับแล้วพอคุณ

00:22:41 → 00:22:43 หายแล้วเนี่ยอาการที่มันจะเป็นแพนิคกลับ

00:22:43 → 00:22:46 มาได้ก็จะไม่ค่อยมีแล้วนะไม่ต้องกลัวไป

00:22:46 → 00:22:49 คุณรัชนีบอกว่าสวัสดีค่ะคุณหมอความดันต่ำ

00:22:49 → 00:22:53 ใจสั่นไม่มีแรงตาพร่ามัวเป็นแพนิคด้วยทำ

00:22:53 → 00:22:57 อย่างไรให้ความดันขึ้นคะความดำ่ 87 56

00:22:57 → 00:23:03 อืมโอเคคต่างๆก็คือกำลังของหัวใจค่อนข้าง

00:23:03 → 00:23:07 น้อยคนที่กำลังของหัวใจค่อนข้างน้อยอัน

00:23:07 → 00:23:10 นี้ก็ต้องออกกำลังกายนะนะครับเอ่อเดินออก

00:23:10 → 00:23:14 กำลังกายเดินเร็วเอ่อเดินหลังอาหารก็ได้

00:23:14 → 00:23:17 ยืนแกว่งแขนวันละ 10-15 นาทีเนี่ยยิ่งดี

00:23:17 → 00:23:20 เลยนะครับก็เอ่อไม่ต้องออกกำลังกายเยอะ

00:23:20 → 00:23:23 เกินไปเอาเท่าที่เรารู้สึกสนุกไปกับมันนะ

00:23:23 → 00:23:27 ครับนะปั่นจักรยานเล่นฮูลฮูปอะไรก็ได้แต่

00:23:27 → 00:23:30 ต้องทำทุกวันนะครับพอทำทุกวันเนี่ยหัวใจ

00:23:30 → 00:23:32 จากที่มันเคยอ่อนกำลังเนี่ยมันก็จะเริ่ม

00:23:32 → 00:23:36 มีกำลังมากขึ้นและนะครับอาการความดันต่ำ

00:23:36 → 00:23:40 ใจสั่นไม่มีแรงแพนิคขึ้นง่ายพวกเนี้ยมัน

00:23:40 → 00:23:43 จะหายได้ถ้าออกกำลังกายเป็นประจำเออนะ

00:23:43 → 00:23:46 ครับมนุษย์ที่ออกกำลังกายเป็นประจำเนี่ย

00:23:46 → 00:23:49 จะมีความกล้าขึ้นมาเรื่อยๆตามธรรมชาติโดย

00:23:50 → 00:23:53 ที่เราไม่ต้องไปเบ่งว่าฉันจะเป็นคนมั่นใจ

00:23:53 → 00:23:57 ตัวเองนะไปฟังเอ่อสัมมนานู่นนี่นั่นเรียน

00:23:57 → 00:23:59 ออนไลน์นู่นนู่นนี่นั่นเพื่อให้ตัวเองมี

00:23:59 → 00:24:02 ความมั่นใจแต่จริงๆน่ะลองเริ่มต้นจากการ

00:24:02 → 00:24:04 ออกกำลังกายดูก่อนเพราะว่าการออกกำลังกาย

00:24:05 → 00:24:08 เนี่ยมันต้องสู้กับความกลัวเยอะนะกลัวการ

00:24:08 → 00:24:13 ต้องตื่นนอนกลัวการแต่งตัวออกจากบ้านกลัว

00:24:13 → 00:24:16 การไปสถานที่ใหม่ๆกลัวคนอื่นว่าว่าทำไม

00:24:16 → 00:24:18 มันดูอ่อนแอเหลือเกินอะไรเงี้ยเห็นมั้ย

00:24:18 → 00:24:21 มันเป็นการต่อสู้ไปในตัวอยู่แล้วในราย

00:24:21 → 00:24:23 ละเอียดนะครับฉะนั้นแล้วเนี่ยกทุกๆครั้ง

00:24:23 → 00:24:26 ที่คุณออกกำลังกายเท่ากับคุณกำลังรักษา

00:24:26 → 00:24:29 โรคเออนะครับฉะนั้นอาการความดันต่ำใจสั่น

00:24:29 → 00:24:32 ไม่มีแรงแพนิคเนี่ยหายได้ด้วยการออกกำลัง

00:24:32 → 00:24:35 กายสมุนไพรที่พอจะช่วยได้คือสมุนไพรพวก

00:24:35 → 00:24:38 บำรุงเลือดทั้งหลายเนี่ยสำหรับเพศชายเพศ

00:24:38 → 00:24:40 หญิงก็ได้นะครับเพศชายก็กินของเพศชายเพศ

00:24:40 → 00:24:43 หญิงก็ทานของเพศหญิงกินยาหอมซะหน่อยเพื่อ

00:24:43 → 00:24:46 ทำให้หัวใจไม่เต้นแรงเกินไปทำให้ความดัน

00:24:46 → 00:24:50 เนี่ยมันกลับเข้าสู่ภาวะปกติได้นะครับ

00:24:50 → 00:24:53 เอ่อกินสาหลกทองก็ดีนะตอนตื่นนอนเพื่อให้

00:24:53 → 00:24:55 ร่างกายมันมี

00:24:55 → 00:24:59 กำลังประมาณนี้แล้วก็นอนเร็วช่วยได้นะ

00:24:59 → 00:25:03 ครับสูๆนะฮะออกกำลังกายเดี๋ยวก็หายนะคุณ

00:25:03 → 00:25:06 บุญอุ้มบอกว่านอนไม่หลับปัสสาวะบ่อยต้อง

00:25:07 → 00:25:11 ทำยังไงคะอือันนี้ปัญหาคลาสสิคนอนไม่หลับ

00:25:11 → 00:25:15 เนี่ยมี 2 แบบใหญ่ๆนะครับแบบที่ 1 เนี่ย

00:25:15 → 00:25:19 คือนอนยังไงก็ไม่หลับเออนอนแล้วเฮ้ยมัน

00:25:19 → 00:25:23 คิดนู่นคิดนี่คิดนั่นแบบเนี้ยเกิดจากที่

00:25:23 → 00:25:26 เราใช้สมองเยอะในตอนกลางวันนะคิดนู่นคิด

00:25:26 → 00:25:30 นี่คิดนั่นอใน 1 วินาทีใน 1 นาทีเนี่ย

00:25:30 → 00:25:32 โอ้โหคิดเป็น 10 เรื่องพร้อมๆกันอย่าง

00:25:32 → 00:25:34 เงี้ยนะครับแบบนี้เนี่ยจะทำให้ตอนกลางคืน

00:25:34 → 00:25:37 น่ะเวลาคุณเริ่มหลับตาเนี่ยไอ้สิ่งที่คุณ

00:25:38 → 00:25:40 เคยคิดไว้เยอะๆเนี่ยมันจะมาสุมอยู่ตอนที่

00:25:40 → 00:25:43 คุณจะนอนนัแหละฉะนั้นแล้วเนี่ยใครคิดเยอะ

00:25:44 → 00:25:46 เวลาไปนอนเนี่ยมันจะนอนหลับยากเพราะว่า

00:25:46 → 00:25:49 กว่าที่จะเทเอาของเสียพวกนี้ออกเนี่ยมัน

00:25:49 → 00:25:53 นานนะครับอันนี้แบบที่ 1 นะครับแต่คุณบุญ

00:25:53 → 00:25:56 อุ้มเนี่ยเป็นแบบที่ 2 แบบที่ 2 ก็คือคน

00:25:56 → 00:26:01 ที่ช่วงสร้างอ่อนกำลังถ้าคนนจีนเเรียกไต

00:26:01 → 00:26:06 อ่อนแอเออชอ่อนแอสารจริงน้อยอะไรประมาณ

00:26:06 → 00:26:09 เนี้ยนะครับคือพลังชีวิตน้อยนะครับมนุษย์

00:26:09 → 00:26:12 ที่พลังชีวิตน้อยเนี่ยจะมีสัญลักษณ์นึงก็

00:26:12 → 00:26:16 คือว่าแบตเตอรี่ต่ำคนที่แบตเตอรี่ต่ำ

00:26:16 → 00:26:19 สังเกตไม่ยากครับปัสสาวะบ่อยคือกินน้ำ

00:26:19 → 00:26:22 เข้าไปนิดเดียวเดี๋ยวต้องเข้าห้องน้ำอีกะ

00:26:22 → 00:26:23 นะครับกลางคืนก็ต้องลุกขึ้นมาเข้าห้องน้ำ

00:26:24 → 00:26:26 อะไรเงี้ยนะครับแล้วก็อาจจะมีอาการคลี่

00:26:26 → 00:26:28 กลัวขี้หนาวง่ายอะไรอย่าเงี้ยนะครับ

00:26:28 → 00:26:31 ฉะนั้นช่วงล่างที่อ่อนแอเนี่ยวิธีการแก้

00:26:31 → 00:26:34 คือเราต้องชาร์จแบตเข้าไปใหม่ชาร์จแบต

00:26:34 → 00:26:36 เข้าไปใหม่แล้วก็ต้องเปลี่ยนลักษณะ

00:26:36 → 00:26:38 แบตเตอรี่ด้วยนะครับวิธีการชาร์จแบตให้

00:26:39 → 00:26:42 ร่างกายนะครับคืออะไรบ้างข้อที่ 1 ครับ

00:26:42 → 00:26:45 ต้องกินเออต้องกินอาหารที่มันมีคุณภาพดี

00:26:45 → 00:26:47 อ่ะนะครับเช้ากลางวันเย็นหรือไม่ก็กินวัน

00:26:47 → 00:26:50 ละ 2 มื้อก็ได้อันนี้แล้วแต่นะครับอาหาร

00:26:50 → 00:26:53 แปรรูปไม่ดีกินเข้าไปก็ไม่ค่อยได้สาร

00:26:53 → 00:26:56 อาหารนะครับอาหารที่เป็นผงๆต่างๆที่ชงๆ

00:26:56 → 00:27:00 นู่นนี่นั่นต่างๆเนี่ยถ้าผมแนะนำนะกิน

00:27:00 → 00:27:03 น้อยๆอย่าเป็นอย่าเอาเป็นอาหารหลักกิน

00:27:03 → 00:27:06 อาหารทั่วไปข้าวแกงก๋วยเตี๋ยวอะไรพวกเ

00:27:06 → 00:27:08 เป็นหลักที่ต้องเคี้ยวอาหารดีกว่าเมื่อ

00:27:08 → 00:27:10 ไหร่ก็ตามที่เรากินอาหารได้ดีได้สมบูรณ์

00:27:10 → 00:27:12 แล้วนะมันก็จะกลายเป็นเริ่มเป็นสารอาหาร

00:27:12 → 00:27:16 และนะครับสารอาหารอันนี้คือจากการกินสาร

00:27:16 → 00:27:19 อาหารที่ 2 มาจากการหายใจนะครับมนุษย์เรา

00:27:19 → 00:27:22 เนี่ยหายใจเนี่ยโอ้โหมันอยู่ตลอดเวลานะ 1

00:27:22 → 00:27:24 นาทีเนี่ยหายใจเป็น 10 ๆครั้งเนี่ยนะครับ

00:27:25 → 00:27:27 การหายใจเนี่ยนอกจากจะได้ออกซิเจนแล้ว

00:27:27 → 00:27:30 เนี่ยมันยังได้พลังชีวิตกลับเข้ามาด้วยนะ

00:27:30 → 00:27:34 ครับดังนั้นอาหารบวกกับพลังชีวิตที่ดีมัน

00:27:34 → 00:27:38 ก็จะเป็นพลังงานพลังก้อนพลังงานเนี้ยมัน

00:27:38 → 00:27:40 จะไปค้างอยู่ที่บริเวณช่วงล่างของร่างกาย

00:27:40 → 00:27:43 นะครับจะทำให้ช่วงล่างอุ่นมือเอ่อมือไม่

00:27:43 → 00:27:47 เย็นเท้าไม่เย็นรู้สึกมีกำลังวังชาได้ดี

00:27:47 → 00:27:50 เออนะครับไม่เป็นตะคิวบ่อยๆปัสสาวะไม่

00:27:50 → 00:27:53 บ่อยเกินไปอะไรประมาณนี้นะครับดังนั้นกิน

00:27:53 → 00:27:58 ให้ดีนะหายใจให้ดีช่วยได้นะครับแล้วอะไร

00:27:58 → 00:28:00 บ้างล่ะที่ทำให้เราไม่สามารถเก็บไอ้พลัง

00:28:00 → 00:28:05 งานก้อนเนี้ยทิ้งไปได้นะครับคือการที่เรา

00:28:05 → 00:28:08 ไม่มีสติสตางค์อ่ะอยู่กับตัวเองนะจริงๆ

00:28:08 → 00:28:11 สตางค์ไม่เกี่ยวสตางค์เป็นแค่คำซ้อนไม่มี

00:28:11 → 00:28:15 สติอยู่กับตัวเองเช่นวันๆนั่งเล่นมือถือ

00:28:15 → 00:28:18 ครับนั่งกดไถมือถือไปเรื่อยๆดูนู่นดูนี่

00:28:18 → 00:28:22 ดูนั่นอ่านนู่นอ่านนี่อ่านนั่นหมดไปะทั้ง

00:28:22 → 00:28:25 วันไม่ได้ทำอะไรนอกจากการเอาจิตไปอยู่กับ

00:28:25 → 00:28:27 สิ่งนู้นสิ่งนี้สิ่งนั้นอ่ะไปคุยกับ

00:28:27 → 00:28:30 เพื่อนบ้านนะก็จิตก็ไปอยู่กับเพื่อนบ้าน

00:28:30 → 00:28:33 ไปคุยกับแฟนกับลูกกับหลานทำนู้นทำนี้จิต

00:28:33 → 00:28:35 ก็ไปอยู่ตรงนู้นตรงนี้ตรงนั้นไปเรื่อยเลย

00:28:35 → 00:28:37 นะครับไม่มีสติอยู่กับตัวเองเลยอะไรอย่า

00:28:37 → 00:28:39 เงี้ยนะครับไม่ได้หมายความว่าต้องอยู่

00:28:39 → 00:28:43 เงียบๆนะแต่ว่าต้องนิ่งขึ้นเวลาทำอะไรทำ

00:28:43 → 00:28:46 ทีละอย่างอย่าจิตอย่าหลุดไปนู่นนี่นั่น

00:28:46 → 00:28:49 เยอะเกินไปเมื่อไหร่ก็ตามที่จิตเราทำอะไร

00:28:49 → 00:28:53 ทีละอย่างเอ่อมีสติอยู่กับปัจจุบันเห็นมย

00:28:53 → 00:28:56 แล้วก็กินอาหารดีหายใจดีแบตเตอรี่ที่อยู่

00:28:56 → 00:28:59 ช่วงล่างอ่ะมันจะแน่นครับเออคุณก็จะไม่

00:28:59 → 00:29:02 ปัสสาวะบ่อยไม่ขี้หนาวไม่ขี้กังวลไม่วิตก

00:29:02 → 00:29:06 กังวลได้ง่ายแล้วก็สุดท้ายก็จะนอนหลับดี

00:29:06 → 00:29:10 ไม่ต้องลุกขึ้นตอนนอนมาปัสสาวะไม่ต้องลุก

00:29:10 → 00:29:14 ขึ้นสะดุ้งตื่นนะหูไม่ไวเกินไปเออผมเห็น

00:29:14 → 00:29:17 หลายคนเป็นโอโหได้ยินอะไรไม่ได้เลยเสียง

00:29:17 → 00:29:19 นิดเดียวเนี่ยเท่านั้นแหละตื่นเลยใครที่

00:29:19 → 00:29:22 เป็นแบบเนี้ยอันนี้เป็นนอนไม่หลับแบบ 2

00:29:22 → 00:29:28 คือช่วงล่างอ่อนกำลังอืสู้ๆนะฮะ

00:29:28 → 00:29:31 คุณแม่หลังคลอดเนี่ยเป็นเยอะนะครับเพราะ

00:29:31 → 00:29:35 ว่ามันตื่นมันมีความวิตกนะครับคุณมาลัยรอ

00:29:35 → 00:29:40 ค่ะขอบคุณครับเอ่อคุณอิทธิกรบอกว่าการทาน

00:29:40 → 00:29:46 น้ำมันมะพร้าวควรทานเวลาไหนคะอือายุ

00:29:46 → 00:29:50 53 ผอมเออนะครับมีลักษณะผอมอยากมีน้ำ

00:29:50 → 00:29:53 หนักเพิ่มควรทำอย่างไรบ้างขอบคุณค่ะโอเค

00:29:53 → 00:29:57 การทานน้ำมันมะพร้าวเนี่ยมันมี 2 แบบนะ

00:29:57 → 00:30:00 ครับ 1 ก็คือการที่เราอยากจะเพิ่มน้ำหนัก

00:30:00 → 00:30:02 กับการที่เราต้องการลดน้ำหนักเอาลดน้ำ

00:30:02 → 00:30:05 หนักก่อนนะครับเวลาเรากินน้ำมันมะพร้าวนะ

00:30:05 → 00:30:08 ครับ 1 ช้อนโต๊ะก่อนอาหารสักประมาณ 20

00:30:08 → 00:30:12 นาทีวันละ 2 มื้อก็พอนะครับการทานน้ำมัน

00:30:12 → 00:30:15 มะพร้าวเนี่ยจะช่วยกระตุ้นการเผาผลาญนะ

00:30:15 → 00:30:18 เพราะว่าจริงๆมันเป็นไขมันที่โมเลกุลมัน

00:30:19 → 00:30:22 สายกลางอ่ะย่อยง่ายและเอาไปใช้ได้ง่ายการ

00:30:22 → 00:30:25 ที่มีพลังงานเข้าไปในร่างกายที่แบบเฮ้ย

00:30:25 → 00:30:27 กินนิดเดียวเว้ยแต่ได้พลังงานเยอะเนี่ย

00:30:27 → 00:30:30 ร่างกายบอกว่าโอ้ยคุ้มค่าอย่างงั้นเนี่ย

00:30:30 → 00:30:33 ฉันสามารถเร่งกระบวนการเผาผลาญเป็นพลัง

00:30:33 → 00:30:36 งานได้โอเคมคือกินน้อยแต่ได้พลังงานเยอะ

00:30:36 → 00:30:39 น้ำมันมะพร้าวจึงช่วยได้นะครับเอ่อ

00:30:39 → 00:30:41 อันเนี้ยพอเรากินก่อนอาหารสัก 2 มื้อใช่่

00:30:42 → 00:30:44 ป่ะ 1 กระบวนการเผาผลาญดีขึ้นก็ทำให้คุณ

00:30:44 → 00:30:47 ผอมลงผอมได้ง่ายขึ้นอย่างเงี้ยนะครับอัน

00:30:47 → 00:30:50 ที่ 2 คือเวลาเราทานน้ำมันมะพร้าวเป็น

00:30:50 → 00:30:53 พลังงานแล้วอ่ะร่างกายก็บอกเอ้าเธอเป็น

00:30:53 → 00:30:56 มนุษย์ที่มีพลังงานค่อนข้างโอเคนะดังนั้น

00:30:56 → 00:31:00 แล้วเนี่ยการเก็บสะสมไขมันที่อยู่ในตับ

00:31:00 → 00:31:03 หรือตามกล้ามเนื้อเนี่ยมันก็จะน้อยลงตาม

00:31:03 → 00:31:06 ธรรมชาติก็เลยมียุคนึงเอ่อที่เขาฮิตกิน

00:31:06 → 00:31:09 น้ำมันมะพร้าวเพื่อลดน้ำหนักกันเนี่ยน้ำ

00:31:09 → 00:31:11 น้ำมันมะพร้าวเป็นผงอะไรว่ากันไปนะครับ

00:31:12 → 00:31:14 แต่จริงๆแล้วเนี่ยก็คือน้ำมันมะพร้าวสกาด

00:31:14 → 00:31:17 เย็นปกติเนี่ยใช้ได้แล้วนะครับที่สำคัญ

00:31:17 → 00:31:20 คือกการกระตุ้นการเผาผาแล้วเนี่ยต้องไป

00:31:20 → 00:31:22 ออกกำลังกายนะไม่งั้นร่างกายข้างในมันจะ

00:31:22 → 00:31:25 ค่อนข้างร้อนนะครับก็ไปออกกำลังกายด้วย

00:31:25 → 00:31:28 คราวนี้ก็จะเกิดการเผาผลานทำให้ผอมลงได้

00:31:28 → 00:31:30 นะครับแต่สำหรับคุณอิทธิกรบอกว่าเอ้ยอยาก

00:31:30 → 00:31:32 เพิ่มน้ำหนักทำยังไงก็กินข้าวให้เสร็จ

00:31:32 → 00:31:35 ก่อนประมาณซัก 1 ช่วโมงแล้วกันกระบวนการ

00:31:35 → 00:31:38 ย่อยดีได้สารอาหารเพิ่มและกินน้ำมัน

00:31:38 → 00:31:41 มะพร้าวเติมเข้าไปหน่อยสัก 1 ช้อนโต๊ะก็

00:31:41 → 00:31:44 กลายเป็นว่าคุณได้สารอาหารด้วยได้ไขมัน

00:31:44 → 00:31:47 ที่ดีด้วยนะตามเข้าไปก็จะเกิดการสะสมของ

00:31:47 → 00:31:50 ไขมันที่มันเป็นไขมันที่ดีนะทำให้กล้าม

00:31:50 → 00:31:54 เนื้อแข็งแรงมีความยืดยุ่นทำให้ตับแข็ง

00:31:54 → 00:31:56 แรงขึ้นทำให้ข้อต่อต่างๆแล้วก็เส้นเอ็น

00:31:56 → 00:31:59 ต่างๆแข็งแรงขึ้นจากการที่คุณกินน้ำมัน

00:31:59 → 00:32:02 มะพร้าวสกัดเย็นนะวันละประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ

00:32:02 → 00:32:04 ก็แล้วกันนะครับถ้าเบื่อน้ำมันมะพร้าว

00:32:04 → 00:32:06 แล้วก็กินน้ำมันอื่นได้นะน้ำมันเมล็ดชา

00:32:06 → 00:32:10 น้ำมันถั่วดาวอินคาน้ำมันงาน้ำมันนกรอก

00:32:10 → 00:32:14 อะไรพวกเนี้ยนะครับก็ลองหามาทาน

00:32:15 → 00:32:19 ดูแล้วก็ถ้าอยากจะเพิ่มน้ำหนักนะต้องเล่น

00:32:19 → 00:32:23 เวทนะครับนะยกเวท Ping เท Training อะไร

00:32:23 → 00:32:26 ประมาณเนี้ยนะครับสร้างกล้ามเนื้อให้ได้

00:32:26 → 00:32:29 มากๆหน่อยนะครับจะทำให้ให้มีน้ำหนักเพิ่ม

00:32:29 → 00:32:33 ขึ้นคุณนุ้ยบอกว่ากลัวที่แคบที่ปิดที่มืด

00:32:33 → 00:32:36 ที่สูงเกิดจากอะไรคะต้องรักษาอย่างไรคะ

00:32:36 → 00:32:39 โอเคอันนี้มันเป็นทางจิตใต้สำนึกนะจิตใต้

00:32:39 → 00:32:43 สำนึกเนี่ยพอมันมีสัญญาเก็บไว้นะครับว่า

00:32:43 → 00:32:47 ฉันเป็นคนไม่ชอบที่แคบที่มืดที่ที่มันน่า

00:32:47 → 00:32:50 กลัวอะไรประมาณเนี้ยไอ้สัญญาเนี้ยบางที

00:32:50 → 00:32:52 มันเก็บมาตั้งแต่ตอนเด็กๆนะครับซึ่งเราก็

00:32:52 → 00:32:55 ไม่รู้เนี่ยว่ามันเก็บมาตอนไหนนะครับแต่

00:32:55 → 00:32:57 ถ้าเป็นทางพุทธศาสนาเคก็บอกว่าบางทีสัญญา

00:32:57 → 00:33:01 ยาเนี่ยมันมาตั้งหลายชาติและมันก็ทุกๆ

00:33:01 → 00:33:05 ชาติก็ไล่ตามมาแบบเนี้ยเราก็บอกเอ๊ะเราพอ

00:33:05 → 00:33:08 ะในชาตินี้ในปัจจุบันนี้เราอยากจะจบ

00:33:08 → 00:33:10 เรื่องนี้ซะทีเนี่ยเราไม่อยากต่อไปอีก

00:33:10 → 00:33:13 แล้วเราอยากถอนสัญญานี้แล้วกันนะครับก็

00:33:13 → 00:33:17 ต้องค่อยๆฝึกเอ่อค่อยๆฝึกอยู่คนเดียวนะ

00:33:17 → 00:33:20 ค่อยๆฝึกอยู่ในที่มืดนะครับแล้วก็ค่อยๆ

00:33:20 → 00:33:23 ฝึกในอยู่แบบอยู่ในที่แคบๆค่อยๆฝึกทีละ

00:33:23 → 00:33:26 นิดนะครับเช่นเวลานอนอย่างเงี้ยก็พยายาม

00:33:26 → 00:33:29 ปิดไฟให้มืดสนิทแต่ถ้ารู้สึกว่ามืดแล้ว

00:33:29 → 00:33:32 มันไม่ไหวรู้สึกตื่นเต้นไปนะก็ไปหาไฟสี

00:33:32 → 00:33:35 แดงๆมาเปิดเดี๋ยวนี้ที่เขาฮิตก็เป็นหิน

00:33:35 → 00:33:37 หิมาลายันหินเกลือหิมาลายันอะไรอย่าง

00:33:37 → 00:33:40 เงี้ยนะเอ่อก็จะสีชมพูใช่มั้ยพอเปิดไฟ

00:33:40 → 00:33:44 ปุ๊บมันก็สีแดงๆหน่อยหรือไอ้ตรงเอ่อเค้า

00:33:44 → 00:33:46 เรียกว่าอะไรนะหลอดไฟที่มันมีสีปรับสีได้

00:33:46 → 00:33:48 เนี่ยอย่างเผมเนี่ยเห็นมั้ยปรับเป็นสี

00:33:48 → 00:33:51 น้ำเงินสีชมพูอะไรได้เนี่ยก็หาซื้อมาใช้

00:33:51 → 00:33:55 นะครับสีแดงเนี่ยจะช่วยให้นอนหลับดีเอ่อ

00:33:55 → 00:33:58 คราวนี้พอเราค่อยๆฝึกไปทีละนิดทีละนิดเ่ะ

00:33:59 → 00:34:01 ไอ้ตอนฝึกนี่แหละสำคัญนะขณะฝึกเนี่ยอย่า

00:34:01 → 00:34:05 คิดอะไรเยอะให้ให้จิตมาอยู่กับตัวเองนะ

00:34:05 → 00:34:09 แล้วก็ดูซิว่าเรามีความรู้สึกอะไรนะครับ

00:34:09 → 00:34:11 มนุษย์เนี่ยมันมีไม่กี่ความรู้สึกหรอกนะ

00:34:11 → 00:34:15 ครับความรู้สึกนะใหญ่ๆเลยก็มีชอบเอาเข้า

00:34:15 → 00:34:19 นะนะถ้าไม่ชอบก็ผลักออกถ้ารักเนี่ยอยาก

00:34:19 → 00:34:22 ให้เคอยู่ใกล้ๆเออนะครับไอ้การกลัวความ

00:34:22 → 00:34:26 มืดกลัวที่สูงกลัวที่ปิดกลัวที่แคบเนี่ย

00:34:26 → 00:34:28 อาการอาการเนี้ยส่วนใหญ่ก็คือต้องการผลัก

00:34:28 → 00:34:30 ออกนึกออกะเฮ้ยไม่เอาไม่เอาไอ้ความรู้สึก

00:34:30 → 00:34:33 เนี้ยต้องการผลักออกนะครับเมื่อไหร่ก็ตาม

00:34:33 → 00:34:34 ที่

00:34:34 → 00:34:38 เราดึงเข้าผลักออกชอบอยู่ใกล้ๆเวลาเราทำ

00:34:38 → 00:34:41 บ่อยๆมันจะติดครับเหมือนยาเสพติดนะครับ

00:34:41 → 00:34:44 มันก็จะอยู่อย่างนั้นน่ะอยู่ทั้งปีทั้ง

00:34:44 → 00:34:47 ชาติไปหายักทีวิธีการแก้คือว่าให้ดูเฉยๆ

00:34:47 → 00:34:51 ว่าอ๋ออันนี้แหละคืออารมณ์ที่เราอยากจะ

00:34:51 → 00:34:55 ผลักออกดูเฉยๆแล้วเชื่อผมมันอยู่ไม่นาน

00:34:55 → 00:34:59 ครับนะสมมุติว่าเริ่มลีไปละปิดไฟมืดๆละ

00:34:59 → 00:35:02 จิตใจเรานะมันเริ่มวิ่งนะวิ่งปั่นป่วดละ

00:35:02 → 00:35:05 อยากจะผลักออกอยากจะผลักไอ้ความมืดนี้

00:35:05 → 00:35:07 ทิ้งไปอยากจะผลักความมืดทิ้งไปหรือถ้าเอา

00:35:07 → 00:35:11 ลึกกว่านั้นนะอยากจะผลักอาการกลัวความมืด

00:35:11 → 00:35:15 ทิ้งไปอ่าเรารู้แล้วนะว่านี่คือการกลัว

00:35:15 → 00:35:18 ความมืดเรารู้แล้วอยากจะผลักมันทิ้งไป

00:35:18 → 00:35:22 จริงๆไม่ต้องผลักนะครับดูเฉยๆว่าอ๋อไอ้

00:35:22 → 00:35:25 นี่นี่เองในสิ่งที่เรากลัวมาตั้งนานเห็น

00:35:25 → 00:35:28 แล้วฉันเห็นเธอแล้วเมื่อไหร่ก็ตามนะครับ

00:35:28 → 00:35:31 ที่เราเห็นแล้วเนี่ยเขาเรียกว่าได้สติพอ

00:35:31 → 00:35:34 ได้สติปุ๊บเนี่ยไอ้ความกลัวไอ้ความอยาก

00:35:34 → 00:35:36 ที่จะรัดตึงหรือความอยากที่มันอยู่ใกล้ๆ

00:35:36 → 00:35:39 เนี่ยมันหายไปเองครับตามธรรมชาติฝึกครั้ง

00:35:39 → 00:35:43 นึงได้ะฝึกครั้ง 2 ครั้ง 3 ครั้ง 4 ครั้ง

00:35:43 → 00:35:47 ครั้งที่หมื่นรับรองหายไม่เหลือเลยนะไม่

00:35:47 → 00:35:50 เหลือเค้าโครงที่เดิมเราเคยกลัวที่สูง

00:35:50 → 00:35:53 กลัวที่มืดเ่ะหายไปเลยเออข้อดีคือว่าถ้า

00:35:53 → 00:35:55 มันหายไปแล้วหายไปเลยครับไม่กลับมาแล้วนะ

00:35:55 → 00:35:58 ถ้าเราแก้ด้วยวิธีนี้นะนะครับครับเอ่อ

00:35:58 → 00:36:01 หลายคนเนี่ยเไปทำเยอะแยะเลยนะไปเค้าเรียก

00:36:02 → 00:36:04 ไปเหมือนสะกดจิตอะไรอย่างเงี้ยสำหรับผม

00:36:04 → 00:36:07 แนะนำนะคือแก้เองเถอะนะเพราะว่าให้คนอื่น

00:36:07 → 00:36:09 แก้ให้เนี่ยเราก็ไม่รู้ว่าเค้าเก่งขนาด

00:36:09 → 00:36:11 ไหนใช่มยเราไม่รู้ว่าเค้าฝังเรื่องเรื่อง

00:36:11 → 00:36:14 อะไรเข้าไปใหม่ด้วยดังนั้นแล้วเนี่ยแก้

00:36:14 → 00:36:16 เองดีกว่านะ

00:36:17 → 00:36:19 ครับ

00:36:19 → 00:36:22 อ่อคุณสุภาวดีบอกว่าสวัสดีค่ะคุณหมอนั

00:36:22 → 00:36:27 เพิ่งหายจากอาการป่วยแต่กลับเจ็บก้นขวาใค

00:36:27 → 00:36:29 ปวดกล้ามเนื้อไม่แน่ใจว่าผลข้างเคียงจาก

00:36:29 → 00:36:32 หวัดหรือเปล่าเพราะตอนมีไข้นอนทั้งวันเลย

00:36:32 → 00:36:34 ค่ะปวดแปลบๆ 2 วันแล้วค่ะรบกวนคุณหมอน

00:36:34 → 00:36:37 ด้วยนะคะขอบคุณค่ะโอเคเวลาเราเป็นไข้

00:36:37 → 00:36:41 เนี่ยเอ่อมีหลายอาการมากเลยเป็นไข้ก็ตัว

00:36:41 → 00:36:44 ร้อนตัวเย็นอะไรงเงี้ยนะแล้วก็มีอาการ

00:36:44 → 00:36:48 ละเมอเพอะพบถ้าหนักๆก็ชักเลยอะไรอย่าง

00:36:48 → 00:36:51 เงี้ใช่มั้ยแต่ว่าส่วนนึงที่สำคัญคือว่า

00:36:51 → 00:36:53 มันต้องเกิดการฆ่าเชื้อโลคนะครับกระบวน

00:36:53 → 00:36:56 การฆ่าเชื้อโลคเนี่ยส่วนหนึงก็คือกล้าม

00:36:56 → 00:36:59 เนื้อเราเนี่ยมันจะเกิดการบีบอ่ะเอรัดตัว

00:36:59 → 00:37:02 รัดตัวนะครับรัดตัวบ้างคลายตัวบ้างรัดตัว

00:37:02 → 00:37:04 บ้างคลายตัวบ้างเนี่ยมันเหมือนคนออกกำลัง

00:37:04 → 00:37:07 กายมานะครับฉะนั้นแล้วไอ้สภาวะแบบนั้น

00:37:07 → 00:37:09 เนี่ยมันคือกระบวนการแบบขับน้ำเหลืองเสีย

00:37:09 → 00:37:12 ขับของเสียจากร่างกายแหละเป็นตามธรรมชาติ

00:37:12 → 00:37:14 แต่มันทำนานไปหน่อยมันก็เจ็บเนื้อเจ็บตัว

00:37:14 → 00:37:16 บ้างอันนี้เป็นเรื่องปกติฉะนั้นแล้วเนี่ย

00:37:16 → 00:37:19 เอ่อให้มองเป็นเร่่องปกติก่อนว่าเดี๋ยว

00:37:19 → 00:37:22 มันก็หายแต่ถ้ามันยังไม่หายจริงๆก็กินยา

00:37:22 → 00:37:24 พวกคลายกล้ามเนื้อเถาวันเปรียงเถาโคคาน

00:37:24 → 00:37:27 เถาเอนอ่อนห้อสะพายควายอะไรประประมาณนี้

00:37:27 → 00:37:31 นะครับแล้วก็กินยาที่ช่วยฆ่าชโลคได้นะ

00:37:31 → 00:37:34 ครับเช่นยา 5 รากเออจริงๆแล้วเนี่ยยา 5

00:37:34 → 00:37:37 รากเนี่ยช่วยคลายกล้ามเนื้อได้ดีนะเออ

00:37:37 → 00:37:40 ทั้งแก้ไข้ด้วยแล้วก็คลายกล้ามเนื้อได้

00:37:40 → 00:37:42 ด้วยดังนั้นคนที่เป็นไข้อะไรต่างๆเนี่ยก็

00:37:43 → 00:37:45 กินยาหารากช่วยได้นะ

00:37:45 → 00:37:48 ครับหาหลากก็กิน 2 เม็ดก่อนอาหารเช้าเย็น

00:37:49 → 00:37:54 อะไรเว่าไปคุณพรรณีบอกว่าเป็นภูมิแพ้เป็น

00:37:54 → 00:37:58 ภูมิแพ้นะภูมิแพ้คันตาแน่นจมูก

00:37:58 → 00:38:02 งดทานอะไรบ้างคะปกติไม่ทานน้ำเย็นค่ะอืม

00:38:02 → 00:38:06 อาหารอะไรบ้างน้อที่ทำให้เราเนี่ยมีอาการ

00:38:06 → 00:38:10 คันมีอาการที่ร่างกายบอกเฮ้ยไม่ชอบเลยฉัน

00:38:10 → 00:38:12 อยากจะผลักเธอออกไปจากชีวิตฉันมากๆเลยนะ

00:38:12 → 00:38:15 ครับอาการอารอะไรบ้างเนาะ 1 ก็คือน้ำตาล

00:38:15 → 00:38:19 ครับอาหารที่มีน้ำตาลเยอะๆเนี่ยร่างกาย

00:38:19 → 00:38:23 เราเนี่ยคือถ้ากินเล็กๆน้อยๆเนี่ยร่างกาย

00:38:23 → 00:38:25 โอเคนะแต่กินมากๆครับร่างกายมันอยากจะ

00:38:25 → 00:38:28 ผลักออกนะครับเพราะว่าไอน้ำน้ำตาลเนี่ย

00:38:28 → 00:38:30 มันจะทำให้ภูมิคุ้มกันเราไม่ยอมทำงานซะที

00:38:30 → 00:38:33 ครับดังนั้นแล้วเนี่ยพอกินถึงระยะนึงอ่ะ

00:38:33 → 00:38:35 ร่างกายมันก็จะต่อต้านมันก็จะเริ่มแบบ

00:38:35 → 00:38:38 เฮ้ยไม่เอาเกิดอาการคันอะไรอย่าเงี้ย 1

00:38:38 → 00:38:40 อยากกินน้ำตาลเยอะนะครับโดยเฉพาะน้ำตาล

00:38:40 → 00:38:43 ขัดขาวอะไรต่างๆนะอันที่ 2 คือนมวัวครับ

00:38:43 → 00:38:47 เออนมวัวเนี่ยมันไม่ใช่อาหารสำหรับมนุษย์

00:38:47 → 00:38:49 สักเท่าไหร่ดังนั้นพอกินมากๆเข้ามากๆเข้า

00:38:49 → 00:38:52 เนี่ยร่างกายจะเริ่มต่อต้านนะครับโดย

00:38:52 → 00:38:56 เฉพาะคนไทยเนี่ยแพ้นมวัวเนี่ยเกิน 50% นะ

00:38:56 → 00:38:59 บางทีเาบอก 90% เลยนะฉะนั้นแล้วเนี่ยการ

00:38:59 → 00:39:01 กินเข้าไปก็ไม่เกิดประโยชน์สักเท่าไหร่

00:39:01 → 00:39:04 เพราะว่าในพื้นที่ของเราเนี่ยภูมิประเทศ

00:39:04 → 00:39:07 เราเนี่ยมันเป็นภูมิประเทศที่มีอาหารอื่น

00:39:07 → 00:39:09 ค่อนข้างเยอะไงพวกผักผลไม้อะไรพวกเนี้ย

00:39:09 → 00:39:13 เยอะวัวเนี่ยไม่ใช่สัตว์ประจำถิ่นของเรา

00:39:13 → 00:39:15 อ่ะดังนั้นแล้วเนี่ยอาหารกลุ่มนี้ก็เป็น

00:39:15 → 00:39:17 เหมือนอาหารแปลกปลอมนะร่างกายเราก็ค่อน

00:39:17 → 00:39:21 ข้างต่อต้านก็พยายามเลี่ยงไปนะน้ำตาลนม

00:39:21 → 00:39:24 วัวอาหารที่ใส่ทั้งน้ำตาลและนมก็ชานมนั่น

00:39:24 → 00:39:27 แหละเออกินกาแฟก็ไม่ต้องไปใส่น้ำตาลเยอะ

00:39:27 → 00:39:30 ไม่ต้องไปใส่นมเยอะนะแค่นี้ก็จะพอช่วยได้

00:39:30 → 00:39:33 ะแล้วก็อีกกลุ่มนึงที่เรามักจะเจอบ่อยคือ

00:39:33 → 00:39:37 คนที่แพ้กลูเต้นอ่ากลูเต้นเนี่ยคือแป้ง

00:39:37 → 00:39:40 สาลีนะครับเวลาเรากินขนมปังที่มันอร่อย

00:39:40 → 00:39:44 มากๆเห็นมั้ยขนมปังโอบิดออกมาโอยืดเลยยืด

00:39:44 → 00:39:46 เลยเนี่ยเห็นมั้ยกรูนี่คือมันเหมือนกาว

00:39:46 → 00:39:49 อ่ะนะไอ้กาวพวกเนี้ยเวลากินเข้าไปครับมัน

00:39:49 → 00:39:53 ก็จะไปติดอยู่ตามหลอดอาหารเรากระเพาะเรา

00:39:53 → 00:39:56 ลำไส้เราพวกเนี้ยคือมันย่อยได้ไม่หมดอว่า

00:39:56 → 00:39:58 งั้นเถอะฉะนั้นแล้วเนี่ยร่างกายบอกมัน

00:39:58 → 00:40:01 ย่อยแหมดอ่ะครับกลูเต้นเนี่ยก็เลยไม่อยาก

00:40:01 → 00:40:04 ได้สักเท่าไหร่ฉะนั้นเวลาเรากินขนมปังนะ

00:40:04 → 00:40:08 ลองดูหน่อยขนมปังที่มันอร่อยมากๆยืดๆอ่ะ

00:40:08 → 00:40:11 อย่าไปกินเยอะนะครับก็กินอาหารขนมปังที่

00:40:11 → 00:40:13 มันแข็งหน่อยพวกโวดมันจะขนมปังมันจะแข็งๆ

00:40:13 → 00:40:16 หน่อยเก็จะปรุงรสด้วยน้ำมันมะกอกอะไร

00:40:16 → 00:40:19 ประมาณเนี้ยอันนั้นน่ะจะดีกว่านะครับก็

00:40:19 → 00:40:22 พยายามเลี่ยงๆนะอาการอาการคันต่างๆพวกนี้

00:40:22 → 00:40:25 ก็จะค่อยๆดีขึ้นสมุนไพรที่ช่วยได้นะครับ

00:40:25 → 00:40:30 ก็อย่างเช่นเอ่อฟ้าทลโจรเงี้ยก็พอได้นะ

00:40:30 → 00:40:32 กินอาทิตย์นึงครั้ง 2 ครั้งเงี้ยก็พอช่วย

00:40:32 → 00:40:35 ได้นะเวลาเราเป็นภูมิแพ้ขึ้นจัดๆอย่าง

00:40:35 → 00:40:39 เงี้ยนะครับหนุมานประสานกายยาปราบชมพู

00:40:39 → 00:40:42 ทวีปการอมน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นที่เขา

00:40:42 → 00:40:45 เรียกว่าทำ Oil pooling อันนี้ก็ดีนะ

00:40:45 → 00:40:48 ครับจะช่วยกระตุ้นภูมิกันได้ดีนะครับที่

00:40:48 → 00:40:52 สำคัญนะครับคืออย่างงี้คนที่ใจร้อนเออคน

00:40:52 → 00:40:55 ที่ใจร้อนน่ะทำอะไรต้องรีบด่วนเร็วๆได้

00:40:55 → 00:40:58 เดี๋ยวนี้ทำเดี๋ยวนี้อะไรอย่าเงี้ยใจร้อน

00:40:58 → 00:41:01 เกินไปเนี่ยลมหายใจเราอ่ะจะค่อนข้างแหลม

00:41:01 → 00:41:04 เออมันจะเป็นแหลมๆอ่ะแทงเข้าไปในจมูกแทง

00:41:04 → 00:41:07 เข้าไปในโพรงชนัสเนี่ยจะทำให้เป็นภูมิแพ้

00:41:07 → 00:41:10 ง่ายเดังนั้นใครที่แบบเลี่ยงอาหารกลุ่ม

00:41:10 → 00:41:12 นั้นกลุ่มนี้กลุ่มนี้ก็แล้วแทบจะไม่มี

00:41:12 → 00:41:16 อะไรกินแล้วเนี่ยก็ยังไม่หายเนี่ยให้ลด

00:41:16 → 00:41:19 อารมณ์โกรธฮะอารมณ์ใจร้อนนั่นแหละก็จะ

00:41:19 → 00:41:24 ช่วยให้หายได้ไวนะครับกดหัวใจไว้ให้นะคุณ

00:41:24 → 00:41:28 ชาริสารอฟังค่ะขอบคุณครับเอ่อคุณอัญชัน

00:41:28 → 00:41:32 บอกว่ารบกวนคุณหมอค่ะอยากทราบว่าตรีผลา

00:41:32 → 00:41:34 กับปัญจขันธ์ปัญจขันธ์ก็คือเจียวกุหลา

00:41:35 → 00:41:39 นั่นแหละอย่างละ 1 เม็ดช่วยรักษาภูมิแพ้

00:41:39 → 00:41:42 ได้ไหคะมีหมอแผนไทยบางท่านบอกมาขอคำแนะนำ

00:41:42 → 00:41:46 ค่ะขอบคุณมากค่ะโอเคตรีผลาเนี่ยมีวิตามิน

00:41:46 → 00:41:50 ซีสูงมากนะเอ่อวิตามินซีเนี่ยจะช่วยทำให้

00:41:50 → 00:41:54 เอ่อแม็คโครฟาดใช่มยช่วยทำให้เม็ดเลือด

00:41:54 → 00:41:56 ขาวเนี่ยทำงานเก่งขึ้นเออดังนั้นแล้ว

00:41:57 → 00:42:00 เนี่ยตรีผลาช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ดี

00:42:00 → 00:42:03 นะส่วนเจียกุหลานเนี่ยเป็นทั้งยาฆ่าเชื้อ

00:42:04 → 00:42:06 เจียวกุหลานกับปัญจขันธ์นี่ตัวเดียวกันนะ

00:42:06 → 00:42:10 เป็นทั้งยาฆ่าเชื้อตามธรรมชาตินะแล้วก็

00:42:10 → 00:42:12 เอ่อสมุนไพรที่ช่วยกระตุ้นภูมิพมกันได้

00:42:12 → 00:42:14 ด้วยดังนั้นแล้วเนี่ยกินทั้งตรีผลาและ

00:42:14 → 00:42:19 เจียกุหลานช่วยต้านเชื้อหวัดต่างๆค่าย

00:42:19 → 00:42:21 หวัดใหญ่อะไรพวกเนี้ยได้ดีนะแล้วก็ทำให้

00:42:21 → 00:42:25 ป่วยน้อยลงโดยเฉพาะอาการป่วยบริเวณปอด

00:42:25 → 00:42:28 บริเวณทางเดินหายใจโรคภูมิแพ้แลพเนี้ยมัน

00:42:28 → 00:42:31 ก็จะดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดนะครับหายแล้ว

00:42:31 → 00:42:34 ไม่ต้องกินใช่มั้ยเราก็กินเฉพาะตอนที่มี

00:42:34 → 00:42:37 ปัญหาเนาะหรือว่าช่วงไหนที่อากาศเปลี่ยน

00:42:37 → 00:42:39 ก็กินซะหน่อยช่วยได้

00:42:39 → 00:42:44 นะคุณวันเพ็ญบอกว่ามีอาการเจ็บแปลบด้าน

00:42:44 → 00:42:46 ชายโครงขวาเวลาก้มหรือยกของ

00:42:47 → 00:42:50 หนักตับมีปัญหาหรือเปล่าคะกำลังรักษากรด

00:42:50 → 00:42:54 ไรย้อนอยู่ค่ะอืมวิธีการดูว่าตับมีปัญหา

00:42:54 → 00:42:59 หรือเปล่านะคือ 1 คืออุจจาระออกมาแล้วมัน

00:42:59 → 00:43:01 ยังเป็นชิ้นเป็นอันอยู่อ่ะกินผักก็ออกมา

00:43:01 → 00:43:04 เป็นผักกินแครอทก็จะออกมาเป็นแครอทเลย

00:43:04 → 00:43:09 อะไรอย่าเงี้ยนะครับแล้วก็ใจร้อนง่ายอืมี

00:43:09 → 00:43:10 กลิ่น

00:43:10 → 00:43:14 ตัวตาขาวเนี่ยเป็นสีเหลืองๆืเออนะครับ

00:43:14 → 00:43:17 แล้วก็มีหยากย่ในตาบ้างอะไรบ้างเงี้ยแสดง

00:43:17 → 00:43:19 ว่าตับไม่ค่อยดีแต่ถ้าไม่มีเนี่ยแสดงว่า

00:43:19 → 00:43:24 มันก็น่าจะเป็นแค่ลมในลำไส้เฉยๆทำทำให้

00:43:24 → 00:43:27 มันมาแบบมาดันกับกระบังลมตรงเนี้ยทำให้

00:43:27 → 00:43:31 ปอดมีปัญหาบ้างทำให้ตับอึดอัดอะไรเงี้ยทำ

00:43:31 → 00:43:33 งานไม่ค่อยได้อะไรเงี้ยนะครับฉะนั้นแล้ว

00:43:33 → 00:43:36 เนี่ยเอ่อถ้าเราขับลมในลำไส้ออกดีเนี่ยผม

00:43:36 → 00:43:39 ว่าอาการตรงนี้ก็จะดีขึ้นนะครับเช่นกิน

00:43:39 → 00:43:41 อย่าหอมก่อนอาหารทุกมื้อหลังอาหารกิน

00:43:41 → 00:43:44 ขมิ้นชันเม็ดนึงลูกยอเม็ดนึงเงี้ยก็จะ

00:43:44 → 00:43:47 ช่วยทำให้ดูแลตับได้ด้วยแล้วก็ผลักลมผลัก

00:43:47 → 00:43:51 อุจจาระออกไปได้ด้วยนะนะอันนี้ผมแนะนำ

00:43:51 → 00:43:56 นะกินสักเดือนนึงน่าจะช่วยได้นะครับอ่ะ

00:43:56 → 00:44:00 คุณสว่างแลแล้วปัญญาเกิดบอกว่ารอฝ่าฟัง

00:44:00 → 00:44:03 ถามตอบทั้งเวลาได้ความรู้เพียบนะครับ

00:44:03 → 00:44:05 ขอบคุณนะ

00:44:05 → 00:44:10 ครับอคุณวีวันล้อค่า 19:30 นไปทำบุญ 100

00:44:10 → 00:44:13 วันคุณแม่ก่อนโอเคนี้น่าจะมาฟังแล้วเนาะ

00:44:13 → 00:44:17 คุณพรพิมลบอกว่ารอข่ะมีอาการพอเดินมี

00:44:17 → 00:44:20 อาการมึนๆอ่ะเดินแล้วมึนๆเว้ยอ่าบางที

00:44:20 → 00:44:25 เหมือนจะวูบพอกินอาหารพอกินอาหารไปเหมือน

00:44:25 → 00:44:31 จะย่อยช้าค่ะขาไม่ค่อยมีแรงอืมโอเคคือคน

00:44:31 → 00:44:35 ที่กระเพาะไม่ดีเกระเพาะอาหารไม่ดีเนี่ย

00:44:35 → 00:44:38 ขาจะหมดแรงอยู่แล้วนะครับมันจะแบบไม่ค่อย

00:44:38 → 00:44:41 มีกำลังน่ะนะครับที่เขาเรียกว่าเอ่อกอง

00:44:41 → 00:44:44 ทัพต้องเดินด้วยท้องเนี่ยคืออาการนี้แหละ

00:44:44 → 00:44:46 นะครับดังนั้นแล้วเนี่ยแก้ปัญหาที่

00:44:46 → 00:44:50 กระเพาะอาหารเป็นหลักก่อนกระเพาะดีนะขา

00:44:50 → 00:44:53 เนี่ยจะมีกำลังโดยเฉพาะการยกขานะครับคน

00:44:53 → 00:44:56 ที่กระเพาะอาหารไม่ค่อยแข็งแรงเนี่ยคุณจะ

00:44:56 → 00:44:59 ยกขาขึ้นกระไดไม่ค่อยได้ดังนั้นเวลาเดิน

00:44:59 → 00:45:03 น่ะก็จะเหมือนคนเดินลากเท้าอ่ะเออนะครับ

00:45:03 → 00:45:06 นั้นแก้ที่กระเพาะดูแก้ยังไงที่กระเพาะนะ

00:45:06 → 00:45:10 ครับ 1 ก็คืออย่าไปกินอาหารที่มันทำให้

00:45:10 → 00:45:12 น้ำน้ำกรดมันมีปัญหาเยอะเกินไปอะไรเงี้ย

00:45:13 → 00:45:16 นะครับแล้วก็กินอาหารเป็นมื้อๆักนิดนึงนะ

00:45:16 → 00:45:18 ครับอย่าไปกินจุกกินจิกทั้งวันไม่เอาอย่า

00:45:18 → 00:45:22 ไปกินดึกเกินไปเลี่ยงกาแฟ

00:45:22 → 00:45:25 แอลกอฮอล์คาเฟอีนเยอะๆเนี่ยพวกเนี้ยทำให้

00:45:25 → 00:45:30 กระเพาะอาหารมีปัญญหานะแล้วก็เอ่อเครียด

00:45:30 → 00:45:32 ขณะทานข้าวอันนี้กระพาะก็มีปัญหาเหมือน

00:45:32 → 00:45:35 กันลองแก้อาการเหล่านี้ดูนะครับสมุนไพรก็

00:45:35 → 00:45:38 พวกขมิ้นชันก็ใช้ได้นะครับยา

00:45:38 → 00:45:43 ประสะเจตพังคียาประสะการพลูยาประสะกระ

00:45:43 → 00:45:46 กระเพราใช่มั้พวกเนี้ยจะช่วยรักษาแผลใน

00:45:46 → 00:45:50 กระเพาะอาหารได้ดีนะ

00:45:50 → 00:45:54 ครับอ่ากดแกไว้ให้นะคุณมารินบอกว่า

00:45:54 → 00:45:56 ปัสสาวะบ่อยเป็นกระเพาะปัสสาวะอักเสบบ่อย

00:45:56 → 00:46:02 ๆค่ะอืมเอ่อกระบวนการขับปัสสาวะออกอมัน

00:46:02 → 00:46:06 ต้องใช้หลายอย่างเหมือนกันนะคือเราต้องมี

00:46:06 → 00:46:10 เอ่อการขับถ่ายที่ไม่เกิดการอุดกั้นน่ะ

00:46:10 → 00:46:13 ดังนั้นแล้วเนี่ยอาหารที่กินแล้วเกิดความ

00:46:13 → 00:46:16 อุดกั้นง่ายๆอันนี้ต้องลดลงนะครับเช่น

00:46:16 → 00:46:22 ไอติมนะทั้งมีความเย็นสูงใช่มยแล้วก็เอ่อ

00:46:22 → 00:46:24 เกิดไขมันนู่นนี่นั่นค่อนข้างเยอะอะไร

00:46:24 → 00:46:27 เงี้ยดังนั้นอย่าไปกินแบบทุกวันฉันต้อง

00:46:27 → 00:46:29 กินไอติมช็อกโกแลตอะไรอย่าเงี้ยไม่เอาไม่

00:46:29 → 00:46:32 เอาก็กินสักอาทิตย์นึงครั้งนึง 2 ครั้ง

00:46:32 → 00:46:35 เงี้ยพอได้นะครับอันที่ิ 1 นะอันที่ 2

00:46:35 → 00:46:37 คือคุณต้องกินน้ำเปล่านะขอเป็นน้ำเปล่า

00:46:37 → 00:46:40 ไม่เย็นนะน้ำเย็นเนี่ยจะทำให้ทุกอย่างมัน

00:46:40 → 00:46:43 หดตัวมันก็จะทำให้ร่างกายเราหดการปัสสาวะ

00:46:43 → 00:46:45 ออกไม่ค่อยดีซักเท่าไหร่อะไรเงี้ยนะครับ

00:46:45 → 00:46:48 ฉะนั้นก็กินน้ำเปล่าดีกว่าประมาณซัก 6 -8

00:46:48 → 00:46:52 แก้วต่อวันช่วงที่แบบมีภาวะอักเสบนะแต่

00:46:52 → 00:46:55 ว่าถ้าสมมุติว่าเอ่อสมมุติว่าไม่เป็นอะไร

00:46:55 → 00:46:57 ก็กินถึง 10 แก้วได้เพราะว่าอักเสบเนี่ย

00:46:57 → 00:47:00 บางทีปัสสาวะมันเจ็บไงก็ให้กินทีละน้อยๆ

00:47:00 → 00:47:04 จะกินบ่อยๆนะจิ๊บๆๆเอาอย่าเงี้ยจะช่วยได้

00:47:04 → 00:47:08 นะครับสมุนไพรที่พอจะช่วยได้คือสมุนไพร

00:47:08 → 00:47:10 ที่ช่วยลดอาการอักเสบบริเวณทางเดิน

00:47:10 → 00:47:14 ปัสสาวะที่ดีนะครับเช่นเอ่อจริงๆเมื่อกี้

00:47:14 → 00:47:16 ที่เราคุยไปแล้วนะตัวเจียวกุหลานเนี่ยก็

00:47:16 → 00:47:20 พอใช้ได้นะครับหญ้าปักกิ่งอันนี้ดีมากๆ

00:47:20 → 00:47:24 เลยนะครับหญ้าหนวดแมวอะไรเงี้ยใช้ได้หญ้า

00:47:24 → 00:47:29 ไผ่จืดเอ่ออะไรนะพวกไผ่ๆทั้งหลายแหละน้ำ

00:47:29 → 00:47:31 ไผ่น้ำจากต้นไผ่อะไรพวกเนี้ยช่วยได้นะ

00:47:31 → 00:47:35 ช่วยทำให้เกิดทางโล่งอ่ะการปัสสาวะดีขึ้น

00:47:35 → 00:47:39 เอ่อลังจืดเอ่อจะกินแบบเม็ดก็ยังใช้ได้

00:47:39 → 00:47:43 เหมือนกันเออนะครับตรีผลาเนี่ก็พอใช้ได้

00:47:43 → 00:47:45 นะครับแล้วก็อย่าลืมกินเลี่ยงอาหารที่มัน

00:47:45 → 00:47:48 เป็นเมือกๆมันๆอะไรต่างๆควรเลี่ยงไปนะ

00:47:48 → 00:47:52 ครับเอ่อผู้หญิงจะมีอีกอันนึงที่คนมักจะ

00:47:52 → 00:47:55 ลืมคือการใส่กางเกงรัดเกินไปก็จะทำให้

00:47:55 → 00:47:57 กระเพาะปัสสาวะอักเสบได้ค่อนข้างง่ายก็

00:47:58 → 00:48:01 ต้องพยายามเลี่ยงกางเกงที่รัดมากเกินไป

00:48:01 → 00:48:04 เลี่ยงท่านั่งที่ไปกดทับกระเพาะปัสสาวะ

00:48:04 → 00:48:07 เออเช่นโนั่งไขวห้างเยอะเกินไปอะไรเงี้ย

00:48:07 → 00:48:11 นะครับนั่งบิดลำตัวนั่งแอ่นนั่งแอ่นเ

00:48:11 → 00:48:14 เรียกว่าแอ่นท้องอ่ะแอท้องมาข้างหน้านะ

00:48:14 → 00:48:17 ที่ทำให้แบบว่าเอ่อไหล่มันดันไปอย่าง

00:48:17 → 00:48:19 เงี้ยนะครับทำให้ก้นมันกระดกขึ้นมาเงี้ย

00:48:19 → 00:48:22 เพนั้นเถอะฉะนั้นนั่งให้เป็นท่าปกติจะ

00:48:22 → 00:48:26 ช่วยได้นะครับคุณอำพรบอกว่ามือชาสาเหตุ

00:48:26 → 00:48:28 เกิดจากอะไรและรักษาอย่างไรคุณหมอนะครับ

00:48:29 → 00:48:32 มือดชาส่วนใหญ่เนี่ยเกิดจากเอ่อเลือดไม่

00:48:32 → 00:48:35 ค่อยมาถึงที่ปลายมือปลายเท้านะครับฉะนั้น

00:48:36 → 00:48:38 แล้วเนี่ยส่วนใหญ่ก็เกิดจากอาการเลือดข้น

00:48:38 → 00:48:41 นะเลือดข้นเนี่ยมีหลายสาเหตุนะเช่นชอบทาน

00:48:41 → 00:48:45 น้ำเย็นหรือเปล่านะครับชอบกินของทอดของ

00:48:45 → 00:48:48 มันของหวานชอบกินอาหารมื้อดึกชอบกินของ

00:48:49 → 00:48:52 เค็มจัดนะอาหารหวานจัดอะไรอย่าเงี้ยนะ

00:48:52 → 00:48:55 ครับคืออาหารกลุ่มเจะทำให้เลือดข้นหนืดพอ

00:48:55 → 00:48:58 เลือดข้นหนืดเนี่ยไตก็ทำงานน้อยลงหัวใจจ

00:48:58 → 00:49:01 ทำงานยากแรกๆก็ไม่เป็นอะไรหรอกหัวใจยังทำ

00:49:01 → 00:49:06 งานได้แต่ว่าพอเป็นนานๆเข้าครับพอเลือดมา

00:49:06 → 00:49:09 ที่มือได้น้อยลงเออนะครับมือก็จะเริ่มมี

00:49:09 → 00:49:11 น้ำน้อยหลอดเลือดก็จะเริ่มแข็งก็จะเริ่ม

00:49:12 → 00:49:15 มีอาการมือชาฉะนั้นสิ่งที่ควรทำคือต้อง

00:49:15 → 00:49:17 ปรับเลือดก่อนควรทำให้เลือดเนี่ยมันใส

00:49:17 → 00:49:20 ขึ้นนะครับเลือดที่จะใสขึ้นได้เนี่ยก็แนะ

00:49:20 → 00:49:23 นำครับน้ำขิงก็ใช้ได้เครื่องเทศต่างๆ

00:49:24 → 00:49:31 กระวานกพูเอ่อขาตะไคร้กระเทียมเอ่ออบเชย

00:49:31 → 00:49:33 อะไรพวกเนี้ยที่มันเป็นกลุ่มเครื่องเทศ

00:49:33 → 00:49:36 อ่ะส่วนใหญ่แล้วจะช่วยทำให้ละลายละลาย

00:49:36 → 00:49:39 เลือดที่มันเป็นแบที่มันเป็นก้อนๆแข็งๆ

00:49:39 → 00:49:42 น่ะมันก็จะทำเป็นใสๆใช่มยเลือดก็มาเลี้ยง

00:49:42 → 00:49:45 ที่มือที่เท้าได้ดีนะครับแล้วก็เอายา

00:49:45 → 00:49:47 หม่องมานวดซะหน่อยยาหม่องมานวดที่มือนะ

00:49:47 → 00:49:50 ครับยาหม่องมานวดที่แขนนะครับหมุนหัวไหล่

00:49:50 → 00:49:53 ซะหน่อยเช้ามาแกว่งแขนอะไรอย่างเงี้ยนะ

00:49:53 → 00:49:55 ครับเพื่อทำให้เลือดมันเลี้ยงได้ดีนะ

00:49:55 → 00:49:57 อาการมือช

00:49:57 → 00:49:59 ก็จะดีขึ้นด้วยนะครับแต่ต้องบอกงี้ก่อน

00:49:59 → 00:50:02 ว่าอาการมือชาเนี่ยอย่ามองแค่มือช้าก็ไม่

00:50:02 → 00:50:05 มีอะไรหรอกเงี้ยต้องบอกงี้นะถ้าเลือดมา

00:50:05 → 00:50:08 เลี้ยงมือไม่ได้ก็เลี้ยงสมองไม่ได้เหมือน

00:50:08 → 00:50:10 กันนะดังนั้นแล้วเนี่ยเราก็จะมีอาการคิด

00:50:10 → 00:50:14 ช้าคำนวณช้าอย่างเงี้ยนแล้วก็มีอารมณ์ไม่

00:50:14 → 00:50:16 ดีด้วยหงุดหงิดด้วอย่างเงี้ยดังนั้นแล้ว

00:50:16 → 00:50:20 นะการแก้ไขโรคเลือดข้นหนืดนอกจากจะรักษา

00:50:20 → 00:50:23 โรคเบาหวานความดันลดอาการมือชาแล้วเนี่ย

00:50:23 → 00:50:27 ยังช่วยลดอาการสมองเสื่อมเอาใส่ได้ด้วยนะ

00:50:27 → 00:50:31 เออลองปรับแก้ไขดูนะครับผมกดหัวใจไว้ให้

00:50:31 → 00:50:33 นะเรื่องมือชานะ

00:50:34 → 00:50:37 ครับคุณเอกบ่อนไก่บอกว่าเวลาเลอหรือหาวจะ

00:50:38 → 00:50:40 รู้สึกเจ็บหูนิดๆมีเสียงในหูอยู่ที่เงียบ

00:50:41 → 00:50:43 ๆจะรู้สึกเหมือนมีจิ้งหรีดอยู่ในหูแต่ถ้า

00:50:43 → 00:50:46 เกิดใส่ Small Talk เวลาฟังเพลงก็จะช่วย

00:50:46 → 00:50:48 ได้ถ้าอยู่ในที่เงียบๆเนี่ยอยู่แทบไม่ได้

00:50:48 → 00:50:51 เลยครับเสียงจิ้งหรีดจั๊กจั่นมาเลยเกิด

00:50:51 → 00:50:54 จากอะไรครับอืนะครับเอ่อคุณเอกม่นไก่

00:50:54 → 00:50:57 เนี่ยอันนี้ผมเคยเคยอ่านอ่านที่คุณเอกไก

00:50:57 → 00:50:59 พิมพ์บ่อยๆเอ่อมีการคุยในในแชทบ้างอะไร

00:50:59 → 00:51:03 บ้างเนี่ยเเอ่ออาการเนี้ยมันเกิดจากคนที่

00:51:03 → 00:51:06 มีระบบกระเพาะอาหารลำไส้ไม่ดีมาเป็นเวลา

00:51:06 → 00:51:08 ค่อนข้างนานนะครับแล้วก็มีปัญหาเรื่อง

00:51:08 → 00:51:10 ความวิตกกังวลนิดๆหน่อยๆเวลาเราเป็นแบบ

00:51:10 → 00:51:14 นี้เนี่ยเอ่อร่างกายเราเนี่ยก็จะเค้า

00:51:14 → 00:51:17 เรียกว่าอะไรมีพลังชีวิตค่อนข้างน้อยแล้ว

00:51:17 → 00:51:21 ก็เอ่อไม่ค่อยมีสมาธิอ่ะพูดงี้แล้วกันเออ

00:51:21 → 00:51:23 พอมีสมาธิน้อยมีพลังชีวิตน้อยเนี่ยสภาวะ

00:51:24 → 00:51:26 เนี้ยจะเริ่มมีอาการมีเสียงในหูแล้วก็ก็

00:51:26 → 00:51:28 จะรำคาญหงุดหงิดอะไรประมาณนี้ประมาณนี้

00:51:28 → 00:51:31 ว่าไปฉะนั้นสิ่งที่เราต้องทำคือเราต้อง

00:51:31 → 00:51:33 ฝึกสมาธิและนะครับจริงๆคุณเอกบอนไก่เนี่ย

00:51:33 → 00:51:36 ใกล้หายแล้วนะขออีกนิดนึงนะครับผมแนะนำ

00:51:36 → 00:51:39 การเดินจงกรมเออหรือถ้าเดินจงกลมไม่ไหวก็

00:51:39 → 00:51:42 เดินธรรมดานี่แหละก็ได้เหมือนกันขณะเดิน

00:51:42 → 00:51:46 ไม่ฟังอะไรในหูเลยนะเดินไปเรื่อยๆนะครับ

00:51:46 → 00:51:48 เดินจงกรมไปกลับไปกลับเงี้ยนะครับก็จะ

00:51:48 → 00:51:52 ช่วยทำให้จิตใจมีสมาธิมากขึ้นมนุษย์ที่มี

00:51:52 → 00:51:55 สมาธิมากขึ้นเนี่ยมันจะเริ่มมีพลังชีวิต

00:51:55 → 00:51:58 มากขึ้นุมนุษย์ที่มีพลังชีวิตก้อนใหญ่

00:51:58 → 00:52:00 ขึ้นเรื่อยๆใหญ่ขึ้นเรื่อยๆใหญ่ขึ้น

00:52:00 → 00:52:04 เรื่อยๆเนี่ยเอ่อเสียงในหูจะหายไปเออแล้ว

00:52:04 → 00:52:07 ก็ไอ้พวกความหงุดหงิดกระบวนการย่อยไม่ดี

00:52:07 → 00:52:10 หูมีปัญหาอะไรพวกเนี้ยมันก็จะหายไปด้วย

00:52:10 → 00:52:13 เออการอยู่ในที่เงียบๆเนี่ยชอบเลยสบายใจ

00:52:13 → 00:52:16 นะครับดังนั้นก็ฝึกพลังชีวิตดยการเดินจง

00:52:16 → 00:52:20 กลมนะครับถ้าไม่ชอบเดินจงกลมก็ทำอะไรก็

00:52:20 → 00:52:24 ได้ที่มันมีสมาธิเช่นต่อจิ๊กซอเงี้ยได้นะ

00:52:24 → 00:52:28 นะเล่นรูบิกต่อต่อจิ๊กซอขณะต่อจิ๊กซอขณะ

00:52:28 → 00:52:32 เล่นรูบิกขณะทำอะไรที่มันนิ่งๆหน่อยเนี่ย

00:52:32 → 00:52:35 ไม่เปิดเพลงฟังไม่ทำอย่างอื่นเลยโฟกัสที่

00:52:35 → 00:52:38 อย่างเดียวเท่านั้นสวดมนต์ยังได้เลยเออนะ

00:52:38 → 00:52:41 ครับก็ฝากคุณเอกบอนไกรด้วยนะหรือว่าใครก็

00:52:41 → 00:52:43 ตามที่อยู่ที่บ้านเนี่ยแล้วกำลังมีปัญหา

00:52:43 → 00:52:46 ที่หูอะไรพวกเนี้ยลองฝึกสมาธิดูจะช่วยให้

00:52:46 → 00:52:51 คุณหายได้นะ

00:52:51 → 00:52:55 ครับกดแครไว้ให้นะโอเคคุณอุบลรัตน์บอกว่า

00:52:55 → 00:52:57 ทั้งบ้านอยู่คนเดียว

00:52:57 → 00:53:01 มาแสนนานพ่อแม่เสียอะไนะพี่น้องก็อยู่กัน

00:53:01 → 00:53:04 คนละจังหวัดอลูกสาวก็ไม่เคยโทรหาเลยตั้ง

00:53:04 → 00:53:07 แต่ออกไปใช้ชีวิตทำงานได้เลยต้องใช้ชีวิต

00:53:07 → 00:53:09 เหมือนตัวคนเดียวส่วนมากอยู่แต่ในบ้าน

00:53:09 → 00:53:11 ตลอดมีแนวโน้มที่เป็นซึมเศ้าบ้างยคะหมอ

00:53:11 → 00:53:16 โอเคอืต้องบอกงี้ก่อนถ้าพิมพ์มาแบบนี้ได้

00:53:16 → 00:53:19 เนี่ยแสดงว่าเริ่มรู้ตัวะเออคุณอุบลรัตน์

00:53:19 → 00:53:22 น่าจะเริ่มแบบเอ๊มันเริ่มมีอาการแล้วนะ

00:53:22 → 00:53:25 ครับต้องบอกอย่างงี้ครับอืมอันนี้ผมเพิ่ง

00:53:25 → 00:53:29 ฟังเมื่อเช้าเลยนะเป็นงานวิจัยจากฮ

00:53:29 → 00:53:34 มหาวิทยาลัยฮวดนะครับผมฟังจากช่อง TNN

00:53:34 → 00:53:37 Health เบอกงี้เป็นเป็นงานวิจัยที่ทำนาน

00:53:37 → 00:53:39 มากนะ 75 ปี

00:53:39 → 00:53:43 เอ่อคนทำเนี่ยรู้สึกว่า 3 รุ่นหรือ 5

00:53:43 → 00:53:46 รุ่นเคือทำมาตลอดเค่อยๆไล่ไปเรื่อยๆนะ

00:53:46 → 00:53:49 ครับแต่ว่าทำสำหรับเอ่อชีวิตคนคนนึงอนะนะ

00:53:49 → 00:53:53 ครับ 75 ปีฉะนั้นแล้วเนี่ยพอเค้าตรวจว่า

00:53:53 → 00:53:56 เอ๊ะมนุษย์คนๆนึงอ่ะความสุขมันอยู่อยู่

00:53:56 → 00:53:59 ที่ไหนกันแน่อันนี้คือมนุษย์ปกตินะว่า

00:53:59 → 00:54:02 ความสุขอยู่ที่ไหนกันแน่เงินทองหรือเปล่า

00:54:02 → 00:54:05 นะครับหรือว่าเรื่องสุขภาพเรื่องอะไรกัน

00:54:05 → 00:54:07 แน่เ้าบอกหลังจากงาน

00:54:07 → 00:54:11 วิจัยคำนวณแล้วเนี่ยดูแล้วเนี่ยงานวิจัย

00:54:11 → 00:54:14 ออกมาว่าเอ่อจริงๆแล้วความสุขของมนุษย์

00:54:14 → 00:54:17 ที่สุดเนี่ยเมื่อสุดท้ายแล้วเนี่ยสิ่งที่

00:54:17 → 00:54:20 มีความสุขก็คือความสัมพันธ์เออดังนั้น

00:54:20 → 00:54:23 แล้วนะเมื่อไหร่ที่คุณอรัตน์เนี่ยเริ่มๆ

00:54:23 → 00:54:25 ทิ้งความสัมพันธ์ต่างๆรอบตัวเช่นความ

00:54:25 → 00:54:27 สัมพันธ์กับสัตว์เลี้ยงความสัมพันธ์กับ

00:54:27 → 00:54:31 พี่น้องคนรอบบ้านอะไรอย่างเงี้ยมันจะทำ

00:54:31 → 00:54:33 ให้ความสุขน้อยลงแล้วก็อาจจะเกิดโรคซึม

00:54:34 → 00:54:36 เศร้าได้ผมก็เลยแนะนำคุณอุบลรัตน์งี้ครับ

00:54:36 → 00:54:39 ว่าเบื้องต้นนะต้องหาความสุขนอกบ้านบ้าง

00:54:39 → 00:54:42 และเออเช่นไปออกกำลังกายหากิจกรรมทำนะ

00:54:42 → 00:54:46 ครับเอ่อหางานที่เป็นอาสาสมัครในรพสต

00:54:46 → 00:54:48 ต้องการคนช่วยหรือเปล่าน่ะเวลาเา้ามีงาน

00:54:48 → 00:54:52 บวชงานแต่งงานวัดอะไรอย่างเงี้ยช่วยทำของ

00:54:52 → 00:54:54 ประกอบของอะไรต่างๆเงี้ยก็ไปช่วยเขาหน่อย

00:54:54 → 00:54:57 เอองานอาสาสมัครต่างต่างเนี่ยเ่อไปช่วยคน

00:54:57 → 00:55:00 น้ำท่วงน้ำท่วมอะไเงี้ยถ้าไปช่วยได้นะผม

00:55:00 → 00:55:04 บอกเลยพูดตรงๆเลยหายแน่นอนเออนะครับเพราะ

00:55:04 → 00:55:07 เหมือนเราได้ออกไปเจออะไรใหม่ๆบ้างไปเจอ

00:55:07 → 00:55:10 ความสัมพันธ์กับคนใหม่ๆผู้คนใหม่ๆได้พูด

00:55:10 → 00:55:13 คุยอะไรประมาณเนี้ยความสัมพันธ์ใหม่ๆโดย

00:55:13 → 00:55:16 เฉพาะความสัมพันธ์ที่ดีนะจะช่วยทำให้มี

00:55:17 → 00:55:21 ความสุขมากขึ้นเออสามารถที่จะหยุดยั้งโรค

00:55:21 → 00:55:24 ซึมเศร้าได้ด้วยนะครับแล้วก็สิ่งอีกสิ่ง

00:55:24 → 00:55:27 หนึงที่สำคัญนะก็คือว่าอย่าเขินเอออย่า

00:55:27 → 00:55:32 เขินที่จะโทรหาคนที่เรารักนะจะเ่นลูกแฟน

00:55:32 → 00:55:36 สามีอะไรก็ว่ากันไปพ่อแม่อะไรว่าไปนะคือ

00:55:36 → 00:55:40 เอ่อคุยกับใครก็ได้ที่เรารู้สึกสบายใจแต่

00:55:40 → 00:55:43 ก็อย่าไปทำให้เค้ารำคาญนะก็คุยสาทุกข์สุข

00:55:43 → 00:55:46 ดิบมีความสุขอวยพรอะไรกันบ้างก็ดีนะครับ

00:55:46 → 00:55:49 แล้วก็หาอะไรทำพบเจอผู้คนซะหน่อยจะช่วย

00:55:49 → 00:55:52 ได้นะครับอันนี้คือบุคคลทั่วไปนะถ้าทำได้

00:55:53 → 00:55:56 นะคุณวรัตน์ก็จะดีขึ้นนะครับแต่ถ้าบอกว่า

00:55:56 → 00:55:59 ไม่มีจริงๆนะมันแบบว่าเป็นหมู่บ้านที่แบบ

00:55:59 → 00:56:01 เหงาๆหน่อยอะไรอย่างเงี้ยไม่มีใครทำ

00:56:01 → 00:56:03 กิจกรรมอะไรเป็นพิเศษนะครับก็แนะนำว่า

00:56:03 → 00:56:06 ต้องบอกงี้ว่าการอยู่คนเดียวแล้วมีความ

00:56:06 → 00:56:09 สุขเป็นไปได้ไม่ใช่เป็นไปไม่ได้นะครับก็

00:56:09 → 00:56:12 คือว่าให้เรามีงานทางจิตทำนะมีงานทาง

00:56:12 → 00:56:16 จิตธรรมเช่นเราเอ่อตั้งเป้าไว้กับตัวเอง

00:56:16 → 00:56:20 เช่นขณะนี้เราจะทำงานบ้านเป็นเวลา 1

00:56:20 → 00:56:24 ช่วโมงใน 1 ช่วโมงเนี้ยเราจะทำงานบ้านไม่

00:56:24 → 00:56:28 หยุดเลยนะไม่ฟังเพลงเองไม่ไปทำก๊อกแก๊ก

00:56:28 → 00:56:30 นู่นนี่นั่นทำงานบ้านนิดนึงไปจับอันนู้น

00:56:30 → 00:56:33 อันนี้อันนั้นอะไรเงี้ยไม่เอาทำทีละอย่าง

00:56:33 → 00:56:36 ซักผ้าก็ซักผ้าให้เสร็จถูบ้านก็ถูบ้านให้

00:56:36 → 00:56:40 เสร็จล้างห้องน้ำให้ดีปัดกวาดเช็ดถูแล้ว

00:56:40 → 00:56:43 ก็เดี๋ยวไปต่อเรื่องของการปลูกผักผลไม้

00:56:43 → 00:56:47 อะไรว่าไปนะครับทำอะไรทำทีละอย่างแล้วก็

00:56:47 → 00:56:50 เหมือน challeng ตัวเองซะหน่อย challeng

00:56:50 → 00:56:52 ก็คือเอ่อเค้าเรียกว่าอะไรตั้งเป้าซะ

00:56:52 → 00:56:54 หน่อยว่าเฮ้ยฉันจะทำให้เสร็จให้ได้ภายใน 2

00:56:54 → 00:56:56 ชั่วโมงอะไรประมาณนี้นะครับโดยโดยที่จิต

00:56:56 → 00:57:01 ใจไม่วอกแวกเลยพอคุณอุบรัตน์ทำแบบนี้มี

00:57:01 → 00:57:03 การตั้งเป้าแบบนี้เนี่ยคุณอุบรัตน์จะรู้

00:57:03 → 00:57:07 สึกว่าเฮ้ยสนุกเว้ยเออในการที่ฉันสามารถ

00:57:07 → 00:57:10 ที่จะทำอะไรบางอย่างแล้วก็โฟกัสกลับมาได้

00:57:10 → 00:57:13 ดีนะครับกระบวนการทำแบบนี้เนี่ยเราจะได้

00:57:13 → 00:57:17 อะไรมาเยอะมากเลยเช่นเอ่อโดพามีนนะ

00:57:17 → 00:57:21 เอนโดฟินเซโรโทนินอะไรประมาณเนี้ยเอ่อคือ

00:57:21 → 00:57:23 ในสมองเราฮอร์โมนในสมองเนี่ยมันจะกลับ

00:57:24 → 00:57:26 เข้าสู่ธรรมชาติได้ดีเออนะครับถ้าสมมุติ

00:57:27 → 00:57:29 เรามีโฟกัสกับอะไรบางสิ่งแล้วเราก็ทำ

00:57:29 → 00:57:32 สำเร็จได้นะครับเอางานบ้านนี่แหละเป็นตัว

00:57:32 → 00:57:35 ตั้งจะดีมากนะครับงานบ้านทำเสร็จแล้วทำไง

00:57:35 → 00:57:38 ต่ออ่ะไปเดินออกกำลังกายมยไปเดินจงกรมม

00:57:38 → 00:57:40 หรือแม้แต่ฝึกสมาธิตั้งเป้านะอ่ะตั้ง

00:57:41 → 00:57:43 นาฬิกาไว้หน่อยฉันจะนั่งสมาธิครึ่ง

00:57:43 → 00:57:46 ชั่วโมงทำได้คราวนี้แหละโรคซึมซ่งซึม

00:57:46 → 00:57:52 เศร้าหายหมดน่ะนะครับลองดูแล้ว

00:57:52 → 00:57:56 กันอ่าคุณสุมาลีบอกว่าเป็นมะเร็งเท่านมอส

00:57:56 → 00:57:59 3 ปีที่แล้วรักษาแผนปัจจุบันแล้วนะครับ

00:57:59 → 00:58:02 เบาหวานความดันกดะย้อนทผูกกินสารพัดสุด

00:58:02 → 00:58:05 แล้วลำไส้ก็ยังไม่เคลื่อนไหวต้องกิน

00:58:05 → 00:58:09 ชามะขามแขกระบายถ่ายไม่สุดต้องพึ่งยา

00:58:09 → 00:58:12 กระสัยเส้นตราเด็กพันทองเป็นประจำถ่าย

00:58:12 → 00:58:14 แล้วก็เหนื่อยค่ะขอคำแนะนำด้วยค่ะโอเคนะ

00:58:14 → 00:58:19 ครับต้องบอกงี้ครับเอ่อเวลาเราไปรักษาโรค

00:58:19 → 00:58:21 อะไรหนักๆอะไรอย่างเงี้ยแล้วก็เป็นโรค

00:58:22 → 00:58:25 อะไรที่มันค่อนข้างหนักๆเนี่ยนะครับเอ่อ

00:58:25 → 00:58:29 ร่างกายไจิตใจเยจะมีความเครียดจะมีความ

00:58:29 → 00:58:32 วิตกกังวลว่าจะหายมนะมันจะดีขึ้นเมื่อ

00:58:32 → 00:58:34 ไหร่อะไรอย่างเงี้ยมีความซึมเศร้าเหงา

00:58:34 → 00:58:37 เซ็งอะไรเงี้ยผสมด้วยนะครับภาวะที่มีความ

00:58:37 → 00:58:39 เครียดในลักษณะนี้นะครับสมดุลของ

00:58:39 → 00:58:41 จุลินทรีย์ในลำไส้เนี่ยมันก็จะเปลี่ยนไป

00:58:41 → 00:58:44 หมดเลยนะครับเปลี่ยนไปตามอารมณ์ของเรา

00:58:44 → 00:58:47 ฉะนั้นแล้วเนี่ยก่อนที่เราจะแก้ไขอะไร

00:58:47 → 00:58:49 เนี่ยผมแนะนำให้คุณสุมาลีเปลี่ยนอารมณ์

00:58:49 → 00:58:53 ก่อนปรับอารมณ์ให้กลับเข้าสู่สมดุลก่อนนะ

00:58:53 → 00:58:56 ครับเอ่อกระบวนการปรับอารมณ์ให้เข้าสู่สู

00:58:56 → 00:58:58 สมดุลเนี่ยผมแนะนำการปรับชีวิตตามเวลา

00:58:58 → 00:58:59 ธรรมชาติ

00:58:59 → 00:59:03 ก่อนเช่นตื่นเช้ามา 7:00 นไปโดนแดดซะ

00:59:03 → 00:59:06 หน่อยเดินออกกำลังกายวิ่งจอกกิ้งคุยกับ

00:59:06 → 00:59:09 เพื่อนเม้ามอยอะไรบ้างนะครับมากินข้าว

00:59:09 → 00:59:12 เช้าเออขณะกินข้าวเช้านะไม่เร่งรีบเกินไป

00:59:12 → 00:59:15 กินให้หลากหลายอาหารเม็ดอาหารกระป๋อง

00:59:15 → 00:59:17 อาหารชงอะไรพประมาณเนี้ยเลี่ยงๆไปกิน

00:59:17 → 00:59:20 อาหารจริงๆเเข้าไปนะครับแล้วก็ทำอาหารเอง

00:59:20 → 00:59:24 ได้ยิ่งดีนะพอทำแบบนี้เนี่ยเอ่อมันเริ่ม

00:59:24 → 00:59:28 กลับเข้าสู่ธรรมชาติและเอ่อนอนเร็วขึ้นอ

00:59:28 → 00:59:31 21-4 นเนี่ยนอนและนอนหลับให้สนิทนะครับ

00:59:31 → 00:59:36 แล้วก็พยายามเลี่ยงอะไรที่มันทำให้เกิด

00:59:36 → 00:59:39 ความคิดในแง่ลบอ่ะเช่นการดูขาวลบๆกันดู

00:59:39 → 00:59:43 ซีรียส์ที่มันยากเกินไปดูหนังดราม่าเกิน

00:59:43 → 00:59:47 ไปการนินทาว่าร้ายในสังคมเล่นโซเชียลก็

00:59:47 → 00:59:49 พยายามเลี่ยงๆไอ้ที่เขานินทาว่าร้ายอะไร

00:59:49 → 00:59:52 กันดราม่าอะไรกันเ่ะไม่เอาเลยนะครับคราว

00:59:52 → 00:59:55 นี้เราก็จะอยู่ในภาวะที่มีความสุขมากขึ้น

00:59:55 → 00:59:58 เอ่อดำเนินชีวิตตามธรรมชาติได้เนี่ยไอ้

00:59:58 → 01:00:01 สมดุลตรงเที่เกิดขึ้นใหม่เนี่ยจุลินทรีย์

01:00:01 → 01:00:04 ที่ดีจุลินทรีย์ที่เอ่ออยู่ในลำไส้เนี่ย

01:00:04 → 01:00:07 มันจะเริ่มสมดุลละอารย่อยอาหารการขับถ่าย

01:00:07 → 01:00:09 อะไรพวกเนี้ยมันจะเริ่มกลับเข้าสู่

01:00:09 → 01:00:12 ธรรมชาติคราวนี้ในจังหวะที่เราเริ่มปรับ

01:00:12 → 01:00:14 ชีวิตประจำวันแล้วเนี่ยเราก็ค่อยๆเติม

01:00:14 → 01:00:18 จุลินทรีย์เข้าไปเช่นเอ่อก่อนอาหารกินยา

01:00:18 → 01:00:21 ธาตบรรจบเช้ากลางวันเย็นหรือกินเช้าเย็น

01:00:21 → 01:00:24 ก็ได้นะหลังอาหารก็กินพวกโปรไบโอติกแบบผง

01:00:24 → 01:00:27 แบบเม็ดแบบน้ำได้หมดเลยที่เป็นเอนไซม์

01:00:27 → 01:00:29 Apple ไซเดอร์สับปะรดไซเดอร์โคโคนัท

01:00:29 → 01:00:33 ไซเดอร์อะไรก็ได้พอทำแบบเนี้ยทั้ง

01:00:33 → 01:00:35 จุรินทรีย์เนี่ยเริ่มสมดุลแล้วคุณก็เติม

01:00:35 → 01:00:38 จุลินทรีย์ใหม่ๆเข้าไปใช่มยพอทำแบบนี้ได้

01:00:38 → 01:00:40 เนี่ยการขับถ่ายอะไรประมาณเนี้ยมันจะ

01:00:40 → 01:00:44 เริ่มดีขึ้นและนะครับถ้ายังไม่ดีขึ้นอีก

01:00:44 → 01:00:47 ผมแนะนำให้โฟกัสไปที่ช่องท้องและนะครับ

01:00:47 → 01:00:50 มนุษย์เราเนี่ยช่องท้องเนี่ยมันคือความ

01:00:50 → 01:00:53 มั่นอกมั่นใจดังนั้นแล้วเนี่ยต้องฝึกความ

01:00:53 → 01:00:56 มั่นใจในตัวเองขึ้นมาดูซิว่าเอ้ยความมั่น

01:00:56 → 01:00:59 ใจของตัวเราเนี่ยมันหายไปเยอะหรือเปล่านะ

01:00:59 → 01:01:02 เออความมั่นใจโอ้มันหายไปเยอะแล้วไม่กล้า

01:01:02 → 01:01:04 ทำอะไรใหม่ๆเลยอย่างเงี้ยก็ลองหาอะไรใหม่

01:01:04 → 01:01:07 ๆที่มันค่อนข้างที่จะต้องใช้เวลาในการฝึก

01:01:07 → 01:01:12 เเช่นฝึกขี่จักรยานนะฝึกออกกำลังกายแบบ

01:01:12 → 01:01:15 ใหม่ๆฝึกการเล่นโยคะฝึกภาษาใหม่ฝึกอะไร

01:01:15 → 01:01:19 ใหม่ๆที่มันยากซะหน่อยฝึกดนตรีใหม่ๆอะไร

01:01:19 → 01:01:21 เงี้ยนะครับคราวนี้พอเราได้ฝึกเนี่ยเราจะ

01:01:21 → 01:01:24 เริ่มรู้สึกว่าเฮ้ยเราก็ทำได้นะเออไอ้

01:01:24 → 01:01:27 กระบวนการที่เรายอยอมรับว่าเฮ้ยฉันก็เก่ง

01:01:27 → 01:01:30 เหมือนกันนะเว้ยเออทำไอ้นู่นก็ได้ทำ

01:01:30 → 01:01:33 อันนี่ก็ได้ไอ้สภาวะเแหละจะทำให้ลำไส้

01:01:33 → 01:01:36 มั่นคงขึ้นลำไส้ที่มั่นคงขึ้นสมดุล

01:01:36 → 01:01:40 จุรินทรีย์ก็จะดีขึ้นได้นะครับอ่ะลองแบบ

01:01:40 → 01:01:45 นี้ดูแล้วกันนะผมกดแคร์ไว้ให้เอ่อคุณนาย

01:01:45 → 01:01:49 แอดเอ่อสวัสดีคุณหมอรอฟังค่ะขอบคุณครับ

01:01:49 → 01:01:52 แม่หญิงน้องนายถ้าวันไหนมีอาการแสบท้อง

01:01:52 → 01:01:55 วันนั้นอารมณ์ก็หมนหมองไปด้วยค่ะคุณหมอ

01:01:55 → 01:01:59 เออใช่เลยนะครับกองทัพต้องเดินด้วยท้องนะ

01:01:59 → 01:02:01 ครับชีวิตเนี่ยก็ต้องเดินด้วยการย่อย

01:02:02 → 01:02:04 อาหารนี่แหละเมื่อไหร่ก็ตามที่เราย่อย

01:02:04 → 01:02:07 อาหารไม่ดีสมองก็จะบอกว่าเฮ้ยวันนี้

01:02:07 → 01:02:10 อันตรายอันตรายอย่าไปทำอะไรที่มันหนักๆนะ

01:02:10 → 01:02:13 นอนดีกว่าอยู่บ้านดีกว่าอาหารไม่พร้อมเออ

01:02:13 → 01:02:15 ดังนั้นแล้วนะใครก็ตามที่กระบวนการย่อย

01:02:15 → 01:02:19 ไม่ดีก็จะเป็นคนที่กลัวนะจะเป็นคนที่แบบ

01:02:19 → 01:02:21 ไม่ค่อยกล้าไปไหนเขาก็จะไม่ค่อยมีแรงด้วย

01:02:21 → 01:02:24 อะไรเงี้ยนะครับฉะนั้นกระบวนการย่อยดีสุด

01:02:24 → 01:02:27 ท้ายก็จะเริ่มมีกำลังวังชาขาเริ่มมีกำลัง

01:02:27 → 01:02:29 ไปด้วยตามธรรมชาตินะ

01:02:29 → 01:02:33 ครับอ่าผมกดหัวใจไว้ให้นะเรื่องนี้นะครับ

01:02:33 → 01:02:36 อ่ะคุณหนูอินดี้คลาสสิกบอกว่าเป็นไขมันใน

01:02:36 → 01:02:41 เลือดสูงทานสมุนไพรอะไรดีคะหมอนัทนะครับ

01:02:41 → 01:02:44 ไขมันในเลือดสูงเนี่ยจริงๆต้องบอกก่อนว่า

01:02:44 → 01:02:47 เอ่อถ้าคอเลสเตอรอลสูงเนี่ยอย่าเพิ่งไป

01:02:47 → 01:02:50 กังวลมากเพราะว่าคอเลสเตอรอล

01:02:50 → 01:02:54 เนี่ยมันถูกผลิตส่วนคอเลสเตอรอลส่วนใหญ่

01:02:54 → 01:02:57 เนี่ยร่างกายเป็นคนผลิตเเให้คุณนึกตาม

01:02:57 → 01:03:01 ธรรมชาตินะคอเลสเตอรอลร่างกายผลิตเอง

01:03:01 → 01:03:04 ฉะนั้นร่างกายจะทำร้ายตัวเองทำไมล่ะเออ

01:03:04 → 01:03:06 แล้วก็มันผลิตบ่อยด้วยมันไม่ใช่ผลิตแค่

01:03:06 → 01:03:09 ตอนที่ป่วยนะมันผลิตทุกวันของมันอยู่แล้ว

01:03:09 → 01:03:12 อะไรเงี้ยนะครับเอาไว้ซ่อมแซมร่างกายซ่อม

01:03:12 → 01:03:15 แซมเซลล์ปราสาทเป็นตัวหอมหุ้มของเซลล์

01:03:15 → 01:03:18 ซ่อมแซมสมองได้ดีอะไรเงี้ยมันมีเอ่อ

01:03:18 → 01:03:21 สรรพคุณของคอเลสเตอรอลค่อนข้างเยอะเออ

01:03:21 → 01:03:24 ฉะนั้นแล้วเนี่ยแสดงว่าคอเลสเตอรอลมี

01:03:24 → 01:03:26 ประโยชน์เออดังนั้นอย่าไปมองว่าเเป็นผู้

01:03:26 → 01:03:28 ร้ายนะดังนั้นแต่เราสิ่งที่เราต้องมองก็

01:03:28 → 01:03:32 คือว่าเอ๊ะทำไมช่วงนี้ไขมันเราสูงเวอร์

01:03:32 → 01:03:36 เช่น 300 400 เนี่ยแสดงว่าร่างกายเราอ่ะ

01:03:36 → 01:03:39 ต้องการการซ่อมหรือเปล่าเช่นเอ่อผมคุยกับ

01:03:39 → 01:03:42 คนหลายคนนะช่วงนี้นะเครียดครับทำงานไม่

01:03:42 → 01:03:45 พักไม่ผ่อนไม่มีคำว่าเสาร์อาทิตย์ต่อให้

01:03:45 → 01:03:48 เสาร์อาทิตย์นะไปเที่ยวต่างจังหวัดเที่ยว

01:03:48 → 01:03:50 นู่นเที่ยวนี้ขี่รถไปนู่นนี่นั่นสมองก็

01:03:51 → 01:03:53 ยังคิดแต่เรื่องงานอยู่ใครที่ทำแบบนี้

01:03:53 → 01:03:56 เนี่ยก็ต้องซ่อมแซมเซลล์สมองเซลล์สมองก็

01:03:56 → 01:03:58 ต้องเสื่อมไปเป็นธรรมดาใช่มั้ยร่างกายก็

01:03:58 → 01:04:01 ต้องผลิตคอเลสเตอรอลมาซ่อมแซมเซลล์เป็น

01:04:01 → 01:04:04 เรื่องปกติแต่ถ้าเรามองว่ามันเป็นไม่ใช่

01:04:05 → 01:04:08 เรื่องปกติล่ะเออเราก็ไปกินยาอะไรบาง

01:04:08 → 01:04:10 อย่างที่โกรธคอเลสเตอรอลลงไปโกรด

01:04:10 → 01:04:13 คอเลสเตอรอลลงไปร่างกายก็จะงงๆนะบอกว่า

01:04:13 → 01:04:16 เอ๊ฉันกำลังผลิตคอเลสเตอรอลมาให้เธอซ่อม

01:04:16 → 01:04:19 ร่างกายทำไมเธอไม่ให้ฉันผลิตล่ะเขาก็จะงง

01:04:19 → 01:04:22 ๆกับเราใช่มยใช่มยฉะนั้นสิ่งที่ต้องคิด

01:04:22 → 01:04:26 ใหม่ก็คือว่าอ๋อที่เค้าผลิตคอเลสเตอรอล

01:04:26 → 01:04:29 ออกมาให้เราค่อนข้างเยอะเนี่ยแสดงว่าเรา

01:04:29 → 01:04:32 กำลังทำให้เซลล์น่ะมีปัญหาใช่มยแทนที่จะ

01:04:32 → 01:04:35 โทษคอเลสเตอรอลเรามาโทษเราดีกว่าใช่มยว่า

01:04:35 → 01:04:38 อ๋อช่วงนี้เราใช้สมองเยอะเปล่าช่วงนี้เรา

01:04:38 → 01:04:40 ใช้เซลล์ประสาทเยอะเกินไปหรือเปล่าเช่น

01:04:40 → 01:04:43 เครียดเกินไปหรือเปล่าทำอะไรที่มันจะต้อง

01:04:43 → 01:04:45 จริงจังมากเกินไปหรือเปล่าหรือออกกำลัง

01:04:45 → 01:04:47 กายเวอร์วังเกินไปหรือเปล่าอะไรอย่าเงี้ย

01:04:47 → 01:04:50 ให้กลับมาดูเห็นมยแก้ที่ตัวเราแล้วเดี๋ยว

01:04:50 → 01:04:53 คอเลสเตอรอลเก็ลดลงตามธรรมชาติจริงๆเขาก็

01:04:53 → 01:04:56 ไม่ได้อยากผลิตออกมาเยอะหรอกโอเคมยแต่ถ้า

01:04:56 → 01:04:59 ไตรกีสไลดสูงอันเนี้ยอันนี้ใช่และเออแสดง

01:04:59 → 01:05:01 ว่าคุณกินแย่จริงๆเช่นกินขนมปังเยอะกิน

01:05:02 → 01:05:04 น้ำตาลเยอะกินของหวานเบเกอรี่เยอะอันนี้

01:05:04 → 01:05:09 ต้องลดลงไปไกไลเนี่ยค่อนข้างตรงตัวนะกิน

01:05:09 → 01:05:12 น้อยมันก็น้อยกินเยอะมันก็เยอะเกินไปตาม

01:05:12 → 01:05:13 ธรรมชาติแต่ส่วนใหญ่รู้อยู่แล้วเรื่อง

01:05:13 → 01:05:18 ไกินนะครับส่วนเรื่อง hdl ldl เนี่ย 2

01:05:18 → 01:05:22 อย่างเนี้ยมันขึ้นๆลงๆตามคอเลสเตอรอลตาม

01:05:22 → 01:05:25 กันไปนะครับเพราะว่ามันเป็นผลรวมนะครับ H

01:05:25 → 01:05:27 hdl ldl V ldl บวกกันก็กลายเป็น

01:05:27 → 01:05:30 คอเลสเตอรอลฉะนั้นมันก็ขึ้นๆลงๆตาม

01:05:30 → 01:05:35 ธรรมชาติขึ้นเกิดจากร่างกายเราเสื่อมนะ

01:05:35 → 01:05:38 ถ้ามันเป็นอยู่ในค่าที่มันแบบว่ากลางๆก็

01:05:38 → 01:05:41 แสดงว่าร่างกายเราโอเคดีอ่ะคุณนอนหลับดี

01:05:41 → 01:05:44 ไม่เครียดเกินไปเนี่ยมันก็เข้ามาสู่ค่า

01:05:44 → 01:05:48 กลางเนาะอาหารที่ทำให้ไขมันสูง

01:05:48 → 01:05:51 คอเลสเตอรอลสูงจริงๆเนี่ยไม่ใช่อาหารที่

01:05:51 → 01:05:54 มีไขมันเยอะนะเออแต่เป็นไเป็นอาหารที่ทำ

01:05:54 → 01:05:58 ให้ร่างกายเสื่อมโทรมต่างหากเช่นน้ำตาล

01:05:58 → 01:06:01 เยอะๆเอออาหารที่มีน้ำตาลสูงอ่ะอาหารแปร

01:06:01 → 01:06:05 รูปอาหารที่มันปิ้งย่างหนักๆอ่ะไปกินปิ้ง

01:06:05 → 01:06:07 ย่างหมูกระทะนู่นนี่นั่นเพวกเนี้ยทำให้

01:06:07 → 01:06:10 ร่างกายเสื่อมโทรมพอเซลล์เสื่อมโทรมร่าง

01:06:10 → 01:06:14 กายจึงต้องผลิตคอเลสเตอรอลมาซ่อมดันไปโทษ

01:06:14 → 01:06:16 คอเลสเตอรอลเฉยเลยอย่างงี้ไม่ถูกต้องโทษ

01:06:16 → 01:06:19 ว่าเรากินอะไรเข้าไปต่างหากโอเคมั้นมัน

01:06:19 → 01:06:21 ไม่ได้เชื่อมโยงกันว่าฉันกินของปิ้งย่าง

01:06:21 → 01:06:24 แล้วคอเลสเตอรอลในของปิ้งย่างกลายเป็น

01:06:24 → 01:06:28 คอเลสเตอรอลในเลือดไม่ใช่นะครับอ่ะลอง

01:06:28 → 01:06:30 ปรับแก้ไขดูนะ

01:06:31 → 01:06:35 ครับอ่ะของโค้สุดท้ายในการตอบแบบใน

01:06:35 → 01:06:38 Facebook นะครับคุณศิริยาบอกว่าใจหวิว

01:06:38 → 01:06:41 เหมือนจะเป็นลมไปหาหมอเจาะเลือดตรวจปอด

01:06:41 → 01:06:44 แล้วก็วัดคลื่นหัวใจแล้วหมอบอกว่าปกติ

01:06:44 → 01:06:47 สาเหตุเกิดจากอะไรคะอายุ 53 ปีค่ะโอเคใจ

01:06:47 → 01:06:49 หวิวมันจะเป็นลมในอายุ 53 เนี่ยต้องบอก

01:06:49 → 01:06:52 ว่าเป็นเรื่องปกติก่อนคือคนที่หมดประจำ

01:06:53 → 01:06:55 เดือนเป็นต้นไปเนี่ยวัย 46 เป็นต้นไป

01:06:55 → 01:06:56 เนี่ย

01:06:56 → 01:06:58 ร่างกายจะเริ่มเข้าสู่วัยที่เป็นโรค

01:06:58 → 01:07:01 เกี่ยวกับธาตุลมธาตุลมก็จะมีความรู้สึก

01:07:01 → 01:07:04 เป็นเอ่อกังวลวิตกอะไรอย่างเงี้ยนะครับมี

01:07:04 → 01:07:07 อาการมึนหัวจะเป็นลมบ้างเงี้ยเป็นเรื่อง

01:07:07 → 01:07:10 ปกติวิธีการแก้ง่ายๆที่สุดก็คือกินยาหอม

01:07:10 → 01:07:12 นะครับสมมุติใจหวิวจะเป็นลมก็กินยาหอมซะ

01:07:12 → 01:07:16 หน่อยนะครับยาหอมสำหรับคนที่วัยทองเป็น

01:07:16 → 01:07:19 ต้นไปเนี่ย 40 กว่าๆเป็นต้นไปเนี่ยกินได้

01:07:19 → 01:07:22 ทุกวันนนะครับเพียงแต่ว่าเวลาไหนที่ไม่

01:07:22 → 01:07:24 ได้มีอาการน่ะก็ไม่ต้องไปกินช่วงไหนที่ใจ

01:07:24 → 01:07:27 หวิวๆแล้วพเนี้ก็กินได้นะครับแต่ถ้าบอก

01:07:27 → 01:07:31 ว่าไม่อยากกินยาอยากจะดูแลร่างกายตัวเอง

01:07:31 → 01:07:33 อยากจะให้ไม่หวิวเกินไปเนี่ยก็ต้องดูแล

01:07:33 → 01:07:36 ที่หัวใจเรานี่แหละนะครับวิธีการดูแลหัว

01:07:36 → 01:07:39 ใจคือออกกำลังกายเป็นประจำนะครับเอ่ออย่า

01:07:39 → 01:07:43 ไปยุ่งเรื่องที่มันไม่ใช่เรื่องของเราอ่ะ

01:07:43 → 01:07:46 เยอะเกินไปนึกออกมั้อย่าไปนั่งอ่าน

01:07:46 → 01:07:49 โซเชียลอะไรเยอะเกินไปดูแลจิตใจเราให้ดี

01:07:49 → 01:07:53 พอและเออนั้นน่ะจะทำให้ธาตุลมไม่กำเริบนะ

01:07:53 → 01:07:57 ครับอฝากด้วยแล้วกันนะครับครับอ่ะคราวนี้

01:07:58 → 01:08:04 มาดูในแชทบ้างดีกว่านะครับมาดูในแชท

01:08:04 → 01:08:09 นะขอดูบนๆหน่อยนะส่วนก็ส่วนใหญ่ก็สวัสดี

01:08:09 → 01:08:12 นะสวัสดีเสียงชัดค่ะคุณขวัญบอกว่าสวัสดี

01:08:12 → 01:08:15 คุณหมอผู้มีพระคุณโอ้โหขนาดนั้นนะครับ

01:08:15 → 01:08:18 ขอบคุณมากครับเอ่อแล้วก็บอกว่ามาจาก

01:08:18 → 01:08:22 เชียงใหม่บ้างอะไรบ้างอะไรเงี้ยนะอ่าคุณ

01:08:22 → 01:08:28 ทักสพรบอกว่าเป็นโรคตายควรทานอะไรดีคะอื

01:08:28 → 01:08:30 อาหารที่ดูแลไตได้ดีอันนี้ผมก็ไม่รู้ว่า

01:08:30 → 01:08:33 ไตระยะเท่าไหร่นะแต่ถ้าเอาแบบไม่เกินระยะ

01:08:33 → 01:08:37 3 ก็แล้วกันนะครับคืออาหารที่เอ่อช่วยทำ

01:08:37 → 01:08:43 ให้ไตแข็งแรงขึ้นเเช่นถั่วถั่วแดงถั่วดำ

01:08:43 → 01:08:46 ถั่วเขียวพวกเนี้ยทานสลับๆกันไปแต่กินวัน

01:08:46 → 01:08:48 ้อยน้อยๆพอนะไม่ต้องไปกินเยอะนะครับช่วย

01:08:48 → 01:08:51 ได้สาหร่ายเกียวทองช่วยได้โสมช่วยได้

01:08:51 → 01:08:55 กระชายช่วยได้นะเอากระชายมาปั่นโหระพาใส่

01:08:55 → 01:08:58 สับปะรดเข้าไปนิดหน่อยหเสามารถบำรุงไตได้

01:08:58 → 01:09:02 นะครับแล้วก็การดูแลไตที่ดีที่สุดนะครับ

01:09:02 → 01:09:06 ก็คือการที่เราเอ่อใช้ชีวิตแบบสมดุลซะ

01:09:06 → 01:09:09 หน่อยนะนะครับไม่ควรแบบทำอะไรอย่างเดียว

01:09:09 → 01:09:13 ทั้งวันน่ะทำงานอย่างเดียวทั้งวันเล่นเกม

01:09:13 → 01:09:15 อย่างเดียวทั้งวันเงี้ยไม่ได้ต้องแบ่ง

01:09:15 → 01:09:19 เวลาให้ชัดเจนเช่นตอนเช้าทำงานชนิดนึงตอน

01:09:19 → 01:09:22 บ่ายทำงานอันนึงใช่มั้ตอนเย็นพักซะหน่อย

01:09:22 → 01:09:25 อะไรอย่างเงี้ยทำงานเล็กๆน้อยๆตอนช่วง 10

01:09:25 → 01:09:28 โมเอ้ยตอนช่วง 19:00 น 20:00 นอะไรเงี้ย

01:09:28 → 01:09:30 บ้างเงี้ยคือแบ่งเวลาให้ชัดเจนว่าเวลานี้

01:09:30 → 01:09:34 ควรทำอะไรแต่ว่าอย่าอย่าเอาแบบผมเป็นที่

01:09:34 → 01:09:37 ตั้งนะให้เอาชีวิตของคุณเป็นที่ตั้งว่า

01:09:37 → 01:09:41 เฮ้ยสำหรับฉันเนี่ยมันเป็นลักษณะนี้แล้ว

01:09:41 → 01:09:43 รู้สึกว่ามีความสุขดีแต่แบ่งเวลาให้ชัด

01:09:43 → 01:09:46 เจนนะครับอย่ามั่วนะเอ่อทำงานบ้างพักบ้าง

01:09:47 → 01:09:50 เล่น Facebook ฟังเพลงไปด้วยเนี่ยทำอะไร

01:09:50 → 01:09:52 หลายๆอย่างพร้อมๆกันเนี่ยมันจะไม่ดีสัก

01:09:52 → 01:09:56 อย่างนะแล้วก็ความสมดุลที่ไตเนี่ยก็จะลด

01:09:56 → 01:09:59 ลงด้วยคุณก็จะรู้สึกอ่อนเพลียนะครับ

01:09:59 → 01:10:02 ฉะนั้นโลกไตก็ต้องแบ่งเวลาชัดเจนแล้วก็

01:10:02 → 01:10:06 กินสมุนไพรกินอาหารบำรุงไตได้บ้างช่วยได้

01:10:06 → 01:10:10 นะครับอาหารที่รสจัดๆอ่ะเค็มจัดหวานจัด

01:10:10 → 01:10:14 เผ็ดจัดพวกเนี้ยก็พยายามเลี่ยงๆไปนะ

01:10:14 → 01:10:19 ครับอ่าคุณเฉินห้าวเป้โอ้โหชื่นน่ารัก

01:10:19 → 01:10:23 เอ่อบอกว่าอรนเพลียช่วงบ่ายๆเย็นๆทำอย่าง

01:10:23 → 01:10:26 ไรดีครับอื

01:10:26 → 01:10:29 มี 2 สาเหตุใหญ่นะอันที่ 1 ก็คือว่าอ่อน

01:10:29 → 01:10:33 เพียช่วงบ่ายเพราะว่ากินอาหารเสร็จนะแล้ว

01:10:33 → 01:10:36 ไม่พักซะหน่อยเออก็คือกินเสร็จแล้วก็ทำ

01:10:36 → 01:10:38 งานต่อเลยอะไรอย่างเงี้ยใครที่เป็นแบบนี้

01:10:38 → 01:10:41 เนี่ยเลือดจะไม่พอเลือดก็จะไปเลี้ยง

01:10:41 → 01:10:43 กระเพาะใช่มั้ยคุณก็จะรู้สึกเพียนๆทั้ง

01:10:43 → 01:10:47 วันหลังช่วงบ่ายอะไรเงี้ยนะครับอันนี้ก็

01:10:47 → 01:10:50 คือการที่คุณต้องพักซะหน่อยหลังกินข้าว

01:10:50 → 01:10:52 กลางวันสักประมาณ 10 นาทีอะไรพวกนี้

01:10:52 → 01:10:55 ประมาณเนี้ยก็จะช่วยได้ถ้ามากหน่อยก็

01:10:55 → 01:10:57 ครึ่งชั่วโมงไปเลยนะครับพักครึ่งชั่วโมง

01:10:57 → 01:10:59 หลังจากกินข้าวเที่ยงแล้วแล้วค่อยมาจริง

01:10:59 → 01:11:02 จังกับการทำงานนะครับหรือบางคนก็ถ้ามีที่

01:11:02 → 01:11:05 นอนก็นอนไปเลยนะครับไม่ต้องกลัวกดไหลย้อน

01:11:05 → 01:11:08 สามารถนอนได้ไม่ต้องห่วงนะครับพอทำแบบนี้

01:11:08 → 01:11:10 ได้อาการอ่อนเพลียช่วงบ่ายๆก็จะดีขึ้นนะ

01:11:10 → 01:11:14 ครับอันนี้อันที่ 1 นะแบบที่ 2 ก็คือว่า

01:11:14 → 01:11:18 คนที่เอ่อทำงานหลายๆอย่างพร้อมๆกันมัติส

01:11:18 → 01:11:22 อ่ะในใน 1 วินาทีคิดโอ้หลากหลายเรื่องนะ

01:11:22 → 01:11:24 ทำงานเรื่องนี้ก็คิดถึงเรื่องอนาคตบางที

01:11:24 → 01:11:26 ก็คิดถึงเรื่องเื่อวานอะไรอย่างเงี้ยนะ

01:11:26 → 01:11:29 ครับความคิดที่มันวิ่งวุ่นเกินไปเนี่ยมัน

01:11:29 → 01:11:32 ใช้พลังสมองค่อนข้างเยอะครับสุดท้ายเนี่ย

01:11:32 → 01:11:35 พอถึงบ่ายๆคุณจะง่วงอ่อนเพลียแล้วก็หมด

01:11:35 → 01:11:38 แรงฉะนั้นแล้วเนี่ยเอ่อวิธีการที่จะไม่

01:11:38 → 01:11:41 หมดแรงตอนช่วงบ่ายๆนะหรือบางคนเนี่ยขับรถ

01:11:41 → 01:11:44 แล้วก็ง่วงเนี่ยคือทำอะไรทำทีละอย่างครับ

01:11:44 → 01:11:47 นะเช่นขณะที่คุณทำงานเนี่ยก็ไม่ต้องนั่ง

01:11:47 → 01:11:51 ฟังเพลงไปด้วยขณะทำงานก็โฟกัสกับมันนะ

01:11:51 → 01:11:55 ครับแล้วก็เอ่อแนะนำอย่างนี้นะว่าขณะทำ

01:11:55 → 01:12:00 งานเนี่ยทำงานให้สนุกเนะครับเช่นคิดว่า

01:12:00 → 01:12:02 งานนั้นที่คุณกำลังทำเป็นการพัฒนาตัวเอง

01:12:02 → 01:12:04 ไปด้วยอย่าไปคิดแต่เรื่องเงินอย่างเดียว

01:12:04 → 01:12:06 อะไรเงี้ยอย่าไปคิดถึงเรื่องว่าเฮ้ยต้อง

01:12:06 → 01:12:10 เป็นที่พอใจของเจ้านายต้องเป็นที่พอใจของ

01:12:10 → 01:12:12 ลูกค้าลูกน้องอย่างเงี้ยพวกเมันก็โอเค

01:12:12 → 01:12:15 แหละแต่อย่าไปคิดเป็นหลักนะคิดเป็นหลัก

01:12:15 → 01:12:18 คือว่าทำแล้วสนุกเออทำแล้วมันเว้ยเออทำ

01:12:18 → 01:12:20 แล้วด้วยพัฒนาตัวเองแบบเนะครับมันจะ

01:12:20 → 01:12:24 เหมือนกันกับว่าเหมือนตอนเด็กๆอ่ะที่เรา

01:12:24 → 01:12:26 ขึ้นปั่นจากจยาน่ะเวลาขึ้นแ่นจักรยาน

01:12:26 → 01:12:28 เนี่ยเราไม่ได้คิดอะไรเยอะนะคิดแต่ว่า

01:12:28 → 01:12:32 ต้องปั่นให้ได้ต้องให้สนุกไปกับมันให้ได้

01:12:32 → 01:12:33 อะไรอย่าเงี้ยเห็นเพื่อนปั่นจักรยานเป็น

01:12:33 → 01:12:36 อะไเว้ยอยากปั่นได้กับเมากงจังเลยขึ้น

01:12:36 → 01:12:39 จักรยานแล้วก็ปั่นสุดท้ายปั่นได้นั่นน่ะ

01:12:39 → 01:12:41 คือความสนุกไปด้วยแล้วก็พัฒนาตัวเองไป

01:12:41 → 01:12:44 ด้วยอาจจะยากซะหน่อยในช่วงแรกนะครับ

01:12:44 → 01:12:47 ฉะนั้นแล้วเนี่ยถ้าคุณเปลี่ยนทัศนคติเป็น

01:12:47 → 01:12:50 ความสนุกนะแล้วก็ทำงานไปด้วยโฟกัสกับมัน

01:12:50 → 01:12:53 ไม่คิดอะไรเยอะเกินไปเนี่ยสมองจะมีกำลัง

01:12:53 → 01:12:57 เหลือเยอะแล้วก็ก็ไม่ต้องเหนื่อยเพลีย

01:12:57 → 01:13:00 หลังตอนเที่ยงเป็นต้นไปนะครับลองดูนะยาก

01:13:00 → 01:13:06 ซักหน่อยแต่ผมเชื่อนะว่าทำได้นะครับ

01:13:06 → 01:13:10 เอ่ออ่าคุณธันวาบอกว่าฟังคุณหมอที่ไรไม่

01:13:10 → 01:13:13 เคยจบซักทีฟังไปแล้วหลับไปดีแล้วครับหลับ

01:13:13 → 01:13:16 ก็ดีแล้วครับแล้วค่อยมาฟังใหม่นะ

01:13:16 → 01:13:21 เอ่ออ่ะคุณทวาบอกว่าสวัสดีค่ะคุณหมอรักษา

01:13:21 → 01:13:25 แผลในกระเพาะจนไม่มีอาการเจ็บแสบร้อนแล้ว

01:13:25 → 01:13:29 แต่ทำไมยังจุกท้องนะแล้วก็แต่เป็นไม่มาก

01:13:29 → 01:13:32 นะแล้วก็เรอบ่อยๆหลังอาหารขอคำแนะนำด้วย

01:13:32 → 01:13:35 ค่ะต้องบอกงี้ก่อนว่าถ้าสมมุติว่าเพิ่ง

01:13:35 → 01:13:38 หายใหม่ๆนะอันนี้เป็นเรื่องปกติเพราะว่า

01:13:38 → 01:13:41 เมื่อเราหายจากโรคกดไรย้อนใหม่ๆโรค

01:13:41 → 01:13:44 กระเพาะใหม่ๆเนี่ยกระเพาะอาหารเราเนี่ย

01:13:44 → 01:13:47 มันจะมีแรงมากขึ้นลำไส้เราก็จะทำงานได้

01:13:47 → 01:13:50 แรงขึ้นลมที่มันค้างเนี่ยมันก็จะเล่อออก

01:13:50 → 01:13:53 มาเลอเอิกอ้าอะไรออกมาประมาณเนี้ยเป็น

01:13:53 → 01:13:56 เรื่องปกติซึ่งดีแล้วนะแต่ถ้าบอกว่าเอ้ย

01:13:56 → 01:13:58 ฉันหายมาระยะหนึ่งแล้วเนี่ย 2-3 เดือน

01:13:58 → 01:14:01 แล้วเนี่ยทำไมยังมีลมอยู่แสดงว่ามันยัง

01:14:01 → 01:14:04 เกิดการหมักหมมในลำไส้อยู่โดยมากเกิดจาก

01:14:04 → 01:14:06 จุลินทรีย์ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ดังนั้นต้อง

01:14:06 → 01:14:09 เร่งเติมจุลินทรีย์ที่ดีเช่นกินกิมจิโชยุ

01:14:09 → 01:14:13 มิโสะกินเอ่อโปรไบโอติกแบบผงหรือกินแบบ

01:14:13 → 01:14:16 เอ่อไซเดอร์ต่างๆ 1 ช้อนโต๊ะผสมน้ำครึ่ง

01:14:16 → 01:14:19 แก้วทานพร้อมอาหารวันละ 2 มื้ออย่างเงี้ย

01:14:19 → 01:14:21 ก็จะช่วยเพิ่มจุลินทรีย์ที่ดีได้นะครับ

01:14:21 → 01:14:25 ที่สำคัญคือจุลินทรีย์ที่ดีจะสมดุลได้ก็

01:14:25 → 01:14:29 ต่อเมื่อเราไม่เครียดคนที่เครียดเนี่ย

01:14:29 → 01:14:31 จุลินทรีย์จะค่อนข้างปั่นป่วนนะแล้วก็ทำ

01:14:31 → 01:14:33 ให้เป็นโรคกระเพราะได้ด้วยนะครับความ

01:14:33 → 01:14:36 เครียดเนี่ยนะครับ

01:14:36 → 01:14:44 เอ่อโอเคคุณเรียวเมสอ่าเมสอ่าบอกว่าหมึน

01:14:44 → 01:14:48 หัวตลอดเวลาบางวันมีอาการเหมือนจะวูบบาง

01:14:48 → 01:14:53 วันมีอาการปวดหัวตุ๊บๆแล้วก็ร้อนวูบวาอื

01:14:53 → 01:14:56 อาการนี้เหมือนวัทองเหมือนกันเนาะนะครับ

01:14:56 → 01:14:59 เอ่อคล้ายๆไวัทองเอางี้ไม่รู้วัยทองหรือ

01:14:59 → 01:15:01 เปล่าแต่สภาวะเเค้าเรียกว่าธาตุลมกำเริบ

01:15:01 → 01:15:05 ผมเจอบ่อยกับคนที่พักผ่อนน้อยเช่นนอนดึก

01:15:05 → 01:15:11 เป็นประจำนะเอ่อทำงานจนถึงดึกมากแบบ 21:00

01:15:11 → 01:15:14 น 22:00 นยังทำงานอยู่อ่ะไปหลับก็จริงนะ

01:15:14 → 01:15:17 แต่มันเป็นการหลับที่แบบเพลียแล้วหลับเออ

01:15:17 → 01:15:20 บางคนเนี่ยทำงานยัน 2200 นเลยเหนื่อยมาก

01:15:20 → 01:15:23 เลยหลับมันหลับไม่จริงครับอาการอย่าง

01:15:23 → 01:15:26 เงี้ยมันก็จะมึนหัวดังนั้นแล้วเนี่ยก่อน

01:15:26 → 01:15:31 ที่เราจะนอนหลับเราควรพักงานพักการเล่น

01:15:31 → 01:15:33 มือถืออย่างน้อยนะ 1 ชั่วโมงถึง 2

01:15:33 → 01:15:37 ชั่วโมงถ้าคุณทำได้จะทำให้หลับได้ดีธาตุ

01:15:37 → 01:15:40 ลมไม่กำเริบเแล้วก็อาการเหมือนหัวเวียน

01:15:40 → 01:15:44 หัวเหมือนจะวูบอะไรพวกเนี้ยก็จะดีขึ้นนะ

01:15:44 → 01:15:47 ส่วนร้อนวูบวาบเนี่ยส่วนใหญ่แล้วเนี่ยมัน

01:15:47 → 01:15:50 คือภาวะธาตุลมในตามร่างกายนะผมแนะนำคือทำ

01:15:50 → 01:15:53 ไงก็ได้ให้เหงื่อออกถ้าเหงื่อออกเนี่ย

01:15:53 → 01:15:56 อาการร้อนวุบบ้าบก็จะลดลงไปเช่นออกกำลัง

01:15:56 → 01:15:58 กายนะแล้วก็อย่าไปออกกำลังกายในห้องแอร์

01:15:58 → 01:16:01 เย็นๆอะไเงี้ยไม่เอาออกกำลังกายที่มีแดด

01:16:01 → 01:16:06 อากาศปอดโปร่งจะช่วยคุณได้มากเลยนะ

01:16:06 → 01:16:08 ครับ

01:16:08 → 01:16:11 เอ่อ

01:16:11 → 01:16:16 โอเคคุณเล็กๆจ้าบอกว่าคุณหมอคะมีอาการปวด

01:16:16 → 01:16:20 ปัสสาวะตลอดเวลาเกิดจากสาเหตุอะไรไอจาม

01:16:20 → 01:16:25 ปัสสาวะเล็ดตลอดเลยนะครับอ่ะช่วงล่างของ

01:16:25 → 01:16:29 ร่างกายช่วงร่างของร่างกายเนี่ยมันคืออื

01:16:29 → 01:16:32 การเปลี่ยนแปลงของชีวิตอันนี้ขอแบบลึกๆ

01:16:32 → 01:16:36 นิดนึงนะนะครับเอ่อมนุษย์คนไหนก็ตามที่

01:16:36 → 01:16:39 จริงๆชีวิตตอนนี้จะต้องเปลี่ยนะเอเปลี่ยน

01:16:39 → 01:16:42 อาชีพเอ่อบางคนเนี่ย

01:16:42 → 01:16:46 โอ้ทำเงินไม่ค่อยได้และเพราะว่าอาชีพเดิม

01:16:46 → 01:16:48 เนี่ยมันโดน disrupt ไปแล้วอะไรอย่าเงี้ย

01:16:48 → 01:16:50 นะครับแต่ก็ยังทู่ซี้ทำเหมือนเดิมนะตลาด

01:16:50 → 01:16:53 นี้ที่เราเคยขายของเนี่ยเคยเป็นแม่ค้าขาย

01:16:53 → 01:16:55 ของเนี่ยตลาดมันขายไม่ดีแล้วอ่ะคนไม่เดิน

01:16:56 → 01:16:58 แล้วเคเปลี่ยนที่เดินกันแล้วแต่ก็ยังยัง

01:16:58 → 01:17:00 อยากอยู่ที่เดิมอยู่อะไรอย่างเงี้ยนะครับ

01:17:00 → 01:17:04 หรือยังกอดรัดอะไรสิ่งที่มันเป็นอดีตความ

01:17:04 → 01:17:07 สำเร็จในอดีตอยู่เคยขายดีขายออนไลน์ได้

01:17:07 → 01:17:08 แต่เดี๋ยวนี้ทำไมคนไม่ซื้อกับเราแล้วอะไร

01:17:08 → 01:17:11 อย่าเงี้ยเคยกอดรัดอดีตไว้เนี่ยใครที่

01:17:11 → 01:17:14 เป็นแบบนี้นะจะมีปัญหากับช่วงล่างโดย

01:17:14 → 01:17:18 เฉพาะการปัสสาวะหรือฤทสีดวงอุจจาระอะไร

01:17:18 → 01:17:20 ประมาณเนี้ยนะครับแต่ส่วนใหญ่ก็เกิดจาก

01:17:20 → 01:17:23 การเอ่อเกิดที่ปัญหากระเพาะปัสวะนี่แหละเ

01:17:23 → 01:17:26 ฉะนั้นสิ่งที่ควรทำทำเอ่ออันแรกคือว่า

01:17:26 → 01:17:31 เอ่อต้องดูก่อนว่าตัวเราอ่ะมีความยึดติด

01:17:31 → 01:17:35 อะไรมั้ยยึดติดกับอาชีพเก่ายึดติดกับคน

01:17:35 → 01:17:38 ที่หายไปแล้วคนที่เสียไปแล้วแฟนหายไปแล้ว

01:17:38 → 01:17:42 อะไรประมาณเนี้ยเราทิ้งใหเริ่มชีวิตใหม่

01:17:42 → 01:17:43 เออเมื่อไหร่ก็ตามที่เริ่มชีวิตใหม่เนี่ย

01:17:44 → 01:17:46 มันจะยากซักหน่อยนะเอ่อเริ่มอะไรที่มัน

01:17:46 → 01:17:48 ใหม่ๆบ้างอะไรบ้างเนี่ยก็จะช่วยทำให้เรา

01:17:48 → 01:17:51 รู้สึกว่าแรกๆเราก็ฉี่บ่อยเหมือนเดิมแหละ

01:17:51 → 01:17:53 เรายังไม่มั่นใจใช่มั้ยแต่พอเราเริ่มฝึก

01:17:53 → 01:17:57 ฝนหาที่ใหม่ๆใหม่ทำเงินได้มากขึ้นมีความ

01:17:57 → 01:18:00 สุขง่ายขึ้นเอ่อสามารถพัฒนาความสัมพันธ์

01:18:00 → 01:18:03 ที่ดีใหม่ๆได้มีแฟนใหม่มีบ้านหลังใหม่

01:18:03 → 01:18:06 เอ่อชีวิตดีขึ้นชีวิตมั่นคงขึ้นเนี่ยมัน

01:18:06 → 01:18:10 จะเริ่มมั่นอกมั่นใจขึ้นและเออไอ้ตรงช่วง

01:18:10 → 01:18:12 ช่องท้องเนี่ยบริเวณกระเพาะปัสสาวะเนี่ย

01:18:12 → 01:18:14 มันจะเริ่มฉี่น้อยลงและเมื่อไหร่ก็ตามที่

01:18:14 → 01:18:18 คุณยอมรับที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตขึ้นมา

01:18:18 → 01:18:22 ใหม่นะนะครับก็คือเอ่อ้าในทางจักระใช่

01:18:22 → 01:18:26 มั้ยมูลฐานมูลาราอะไรอย่างเงี้ยนะครับก็

01:18:26 → 01:18:30 มูลฐานคือเราสามารถพลิกชีวิตมาเป็นชีวิต

01:18:30 → 01:18:32 ใหม่ที่ดีขึ้นได้นั่นแหละการปัสสาวะบ่อย

01:18:32 → 01:18:34 ก็จะน้อยลงแต่ถ้าบอกว่าเอ้ยไม่เกี่ยวเลย

01:18:34 → 01:18:36 คุณหมอไม่ได้เป็นแบบที่คุณหมอว่าเลยแสดง

01:18:36 → 01:18:39 ว่ามันเป็นที่กระเพาะปัสสาวะโดยตรงและอัน

01:18:39 → 01:18:42 นี้ไม่ยากและก็คือไปหาถุงร้อนมาไปหาถุง

01:18:42 → 01:18:45 ร้อนมาประคบที่บริเวณกระเพาะปัสสาวะเอ่อ

01:18:45 → 01:18:47 ทุกคืนก่อนนอนนะครับก็จะทำให้กระเพาะ

01:18:47 → 01:18:52 ปัสาวะอุ่นดีเลี่ยงอาหารที่มีคาเฟอีนสูงๆ

01:18:52 → 01:18:56 กาแฟเอ่อน้ำอัดลมช้าชาเขียวชาจีนพวกเ

01:18:56 → 01:19:00 เลี่ยงไปพยายามทานน้ำเปล่านะครับแล้วก็

01:19:00 → 01:19:03 สมุนไพรที่ช่วยทำให้ช่วงล่างอุ่นๆนะคือ

01:19:03 → 01:19:06 พวกกระชายเนี่ยพวกเนี้ยก็ช่วยใชให้ช่วง

01:19:06 → 01:19:10 ล่างอุ่นดีถ้าแบบเป็นเยอะก็กินโสมอย่าง

01:19:10 → 01:19:17 เงี้ยช่วยได้นะ

01:19:17 → 01:19:21 ครับอ่ะคุณภูริดาบอกว่าคุณหมอครับพี่ไป

01:19:21 → 01:19:25 ตรวจสุขภาพประจำปีมาพี่อายุ 60 15 ปีคุณ

01:19:25 → 01:19:27 หมอ

01:19:27 → 01:19:31 บอกไม่มีโรคอะไรที่อันตรายมีแค่ไขมันยัง

01:19:31 → 01:19:33 ไม่ต้องกินยาให้มาออกกำลังกายคุณหมอช่วย

01:19:33 → 01:19:36 แนะนำอาหารให้หน่อยค่ะโอเคอาหารที่ช่วย

01:19:36 → 01:19:39 ควบคุมไขมันได้ดีนะครับก็คืออาหารที่มัน

01:19:39 → 01:19:45 เอ่อช่วยซึมซับอ่ะซึมซับพวกแปะแป้งน้ำตาล

01:19:45 → 01:19:48 เอ่อพวกไขมันดูดซับไขมันอะไรพวกเนี้ได้ดี

01:19:48 → 01:19:50 นะครับเพราส่วนใหญ่ก็ผักนั่นแหละนะครับ

01:19:50 → 01:19:55 ใครก็ตามที่กินผักหลากหลายกินปักทอง

01:19:55 → 01:19:59 กินเผือกมันมันเทศมันแกวอะไรบ้างเงี้ยนะ

01:19:59 → 01:20:03 ครับเอ่อพวกเนี้ยก็จะช่วยทำให้เอ่อลำไส้

01:20:03 → 01:20:06 เราอ่ะไม่ดูดไขมันเร็วเกินไปเออนะครับก็

01:20:06 → 01:20:09 ลดไขมันได้เพราะฉนั้นเถอะสรุปก็คือกินผัก

01:20:09 → 01:20:12 ให้หลากหลายนี่แหละช่วยลดไขมันได้ดีนะ

01:20:12 → 01:20:14 ครับแล้วก็สำคัญก็คือวันนี้เราพูดบ่อยนะ

01:20:14 → 01:20:19 ขอพูดอีกทีคือเวลาเราอายุมากขึ้น 50 ขึ้น

01:20:19 → 01:20:22 ไปนะครับร่างกายจะเสื่อมถอยเป็นธรรมดาจะ

01:20:22 → 01:20:24 เกิดกระบวนการซ่อมแซมเซลล์เป็นเรื่อง

01:20:25 → 01:20:27 ธรรมดาดังนั้นคอเลสเตอรอลที่สูงขึ้นเป็น

01:20:27 → 01:20:30 เรื่องปกตินะสมมุติว่าอายุ 65 แล้ว

01:20:30 → 01:20:34 คอเลสเตอรอลประมาณ 200 กว่าๆธรรมดาไม่มี

01:20:34 → 01:20:36 อะไรนะครับแต่ไอ้คำว่าไม่มีอะไรเนี่ยก็

01:20:36 → 01:20:39 ต้องกลับมาดูพฤติกรรมด้วยนะว่าไอ้คำว่า

01:20:39 → 01:20:43 ไม่มีอะไรเช่นโอ้ฉันกินของทอดได้เลยสบาย

01:20:43 → 01:20:46 ใจแฮปปี้อะไรอย่าเงี้ยไม่ใช่นะคำว่า

01:20:46 → 01:20:49 คอเลสเตอรอล 200 กว่าๆแต่พฤติกรรมเราไม่

01:20:49 → 01:20:51 กินไอติมเยอะเกินไปไม่กินของทอดเยอะเกิน

01:20:51 → 01:20:54 ไปของหวานเรากินเล็กๆน้อยๆเบเกอรี่เรากิน

01:20:54 → 01:20:57 บ้างเล็กๆน้อยๆไม่ได้กินบ่อยๆถ้าคุณมั่น

01:20:57 → 01:21:00 ใจว่าทำได้นะแล้วก็ปรับเปลี่ยนน้ำมันที่

01:21:00 → 01:21:02 ทำอาหารซะหน่อยที่บ้านเป็นน้ำมันที่

01:21:02 → 01:21:05 คุณภาพดีแค่เนี้ยอย่าไปกังวลเยอะละแสดง

01:21:05 → 01:21:08 ว่ามันเป็นคอเลสเตอรอลตามสมดุลของร่างกาย

01:21:08 → 01:21:10 คุณเป็นธรรมชาติเป็นเรื่องที่ดีแล้วนะ

01:21:11 → 01:21:14 คอเลสเตอรอลดีแสดงว่าสมองยังดีใช่มยเซลล์

01:21:14 → 01:21:18 ประสาทยังทำงานได้ดีนะครับเอ่อน้ำดียังมี

01:21:18 → 01:21:22 คุณภาพดีทำไมจะไม่ดีล่ะใช่มนะครับเอ่อพูด

01:21:22 → 01:21:25 ง่ายๆคือดูที่พฤติกรรมดีกว่านะพฤติกรรมดี

01:21:25 → 01:21:26 จบนะ

01:21:26 → 01:21:31 ครับ

01:21:31 → 01:21:35 เอ่ออ่ะคุณจิตตมาสบอกว่าคุณพ่อลมหายใจมี

01:21:35 → 01:21:38 กลิ่นเอ่อเกิดจากอะไรคะแปรงฟันแล้วก็ยัง

01:21:38 → 01:21:41 ไม่หายเพิ่มเติมคุณพ่อมีความอ้วนอะไร

01:21:41 → 01:21:44 อย่างเงี้ยนะครับเออกลิ่นลมหายใจอะไร

01:21:44 → 01:21:46 อย่างเงี้ยนะครับมันมีจากหลากหลายสาเหตุ

01:21:46 → 01:21:49 มากเลยนะกลิ่นลมหายใจที่เกิดจากการทานของ

01:21:49 → 01:21:52 หวานมีนะครับดังนั้นก็สังเกตด้วยว่าคุณ

01:21:53 → 01:21:55 พ่อกินของหวานมั้ยแต่ถ้าบอกว่า

01:21:55 → 01:21:58 เอ่อเอ่อมีน้ำหนักเยอะหน่อยเออนะครับแสดง

01:21:58 → 01:22:01 ว่าอาจจะชอบกินของหวานนะของหวานจะทำให้

01:22:01 → 01:22:03 เกิดกลิมปากได้ง่ายอันที่ 2 คือยุค

01:22:03 → 01:22:06 ปัจจุบันคือกาแฟครับใครที่ชอบกกาแฟบ่อยๆ

01:22:07 → 01:22:09 อ่ะนะครับจะมีกลิ่นปากได้ง่ายดังนั้นก็

01:22:09 → 01:22:13 เอ่อเลี่ยงของหวานเลี่ยงการทานกาแฟจะช่วย

01:22:13 → 01:22:16 ลดกลิ่นลมหายใจได้นะถ้าเขายอมเลี่ยงนะเ

01:22:17 → 01:22:18 บอกว่าเอ้อเพยายามเลี่ยงซะหน่อยอะไรอย่าง

01:22:19 → 01:22:21 เงี้ยนะครับแล้วก็อีกอันนึงคือลมหายใจจาก

01:22:21 → 01:22:24 ความเครียดเออเมื่อไหร่ก็ตามที่เรามีความ

01:22:24 → 01:22:27 เครียดเนี่ยมันจะมีกลิ่นลมหายใจลักษณะนึ

01:22:27 → 01:22:30 ออกมาเออถ้าคุณพ่อไม่ได้เครียดก็ไม่เป็น

01:22:30 → 01:22:34 ไรก็พยายามเอ่อถ้ามีลมหายใจจากความเครียด

01:22:34 → 01:22:37 ก็ออกกำลังกายช่วยได้นะครับช่วยคุณพ่อไป

01:22:37 → 01:22:40 ออกกำลังกายหาอะไรให้คุณพ่อทำเอ่อฝึกงาน

01:22:40 → 01:22:44 อดิเรกอะไรอย่างเงี้ยนะครับหรือไม่ก็หา

01:22:44 → 01:22:47 งานใหม่ให้คุณพ่อทำเลยถ้าสมมุติว่าคุณพ่อ

01:22:47 → 01:22:50 เคยังไหวนะก็หาเฮ้ยอันนี้ให้คุณพ่อช่วยทำ

01:22:50 → 01:22:52 อันนี้หน่อยเช่นปลูกต้นไม้ต้นนี้หน่อยให้

01:22:52 → 01:22:54 หน่อยอะไรอย่าเงี้ยนะครับให้มีอะไรทำไป

01:22:54 → 01:22:57 เลยเงี้ยถ้าอยู่ตันวันก็ช่วยเลี้ยงปลา

01:22:57 → 01:22:59 ช่วยเลี้ยงไก่หน่อยอะไรอย่างเงี้ยก็จะ

01:22:59 → 01:23:01 ช่วยทำให้ท่านแบบมีเหมือนมีความสุขใน

01:23:01 → 01:23:03 ชีวิตมากขึ้นอะไรอย่างเงี้ยนะ

01:23:03 → 01:23:12 ครับอ่าลองดูนะ

01:23:12 → 01:23:16 ครับโอเคอ่ะคุณดวงกมลบอกว่าสวัสดีค่ะคุณ

01:23:16 → 01:23:18 หมอดิฉันไม่เคยโดนแดดมา 10 กว่าปีแล้วนะ

01:23:18 → 01:23:22 ครับตอนนี้วูบๆวาบๆไปบ้านสวนยายไปยืนกลาง

01:23:22 → 01:23:26 แดดเลอตลอดเลยค่ะกดจุดแขว่งแขนตลอดเลย

01:23:26 → 01:23:29 ตลอดเลยเป็นกดละย้อนรวมกับเนื้องอกมดลูก

01:23:29 → 01:23:33 ค่ะแต่รู้สึกดีขึ้นค่ะโอ้ดีมากเลยครับแสง

01:23:33 → 01:23:36 แดดเนี่ยนอกจากจะช่วยทำให้เราอบอุ่นแล้ว

01:23:36 → 01:23:41 นะแสงแดดเนี่ยจะเป็นตัวรีเซตอรีเซตสมอง

01:23:41 → 01:23:44 เราเนี่ยว่าตอนนี้เราต้องการอะไรนะครับ

01:23:44 → 01:23:47 ใครก็ตามที่ไม่ค่อยโดนแดดเลยอ่ะสมองจะไม่

01:23:47 → 01:23:50 ค่อยโดนรีเซตก็จะมีปัญหานึงเช่นหลักยาก

01:23:50 → 01:23:53 เออนอนหลับไม่ค่อยสนิทมีอาการมึนๆหัวอะไร

01:23:53 → 01:23:56 อย่างเงี้ยนะครับแต่พอพเราเริ่มโดนแดดเรา

01:23:56 → 01:23:59 เริ่มนอนหลับได้สนิทกลางคืนหลับเป็นเวลา

01:23:59 → 01:24:03 เนี่ยมีการรีเซตสมองใหม่มนุษย์ที่รีเซต

01:24:03 → 01:24:06 ทุกคืนนะสิ่งหนึที่เกิดขึ้นได้คือว่าคุณ

01:24:06 → 01:24:09 เก็บขยะในสมองทุกคืนก่อนตอนนอนนะครับ

01:24:10 → 01:24:12 มนุษย์ที่เก็บขยะตอนนอนจะไม่เป็น

01:24:12 → 01:24:15 อัลไซเมอร์เออก็จะเป็นโรคสมองเสื่อมช้า

01:24:15 → 01:24:19 หน่อยอะไรเงี้ยการเก็บขยะในร่างกายก็จะทำ

01:24:19 → 01:24:23 ให้เราไม่ปวดตามข้อไม่เป็นโรคเก๊าไม่เป็น

01:24:23 → 01:24:26 ยูริกสสูงอะไรประมาณเนี้ยนะครับไม่เจ็บ

01:24:26 → 01:24:28 ตามตัวอะไรเงี้ยนะครับแต่นเราเนี่ยดีแล้ว

01:24:28 → 01:24:31 นะที่คุณดวงกมลทำแต่สิ่งที่ต้องทำเพิ่มก็

01:24:31 → 01:24:35 คือผมแนะนำให้ปรับที่ตับด้วยนะเพื่อทำให้

01:24:35 → 01:24:37 มดลูกดีขึ้นเนื้องอกหายไปอะไรอย่าเงี้ยนะ

01:24:37 → 01:24:41 ครับแล้วก็การดูแลตับเนี่ยก็จะช่วยทำให้

01:24:41 → 01:24:44 กระบวนการย่อยดีขึ้นด้วยเช่นเอ่อกินขมิ้น

01:24:44 → 01:24:47 ชันก่อนอาหารเช้าเย็นเอก็จะทำให้กระบวน

01:24:47 → 01:24:51 การย่อยดีหลังน้ำดีมาย่อยอาหารดีลดการ

01:24:51 → 01:24:54 เกิดแก๊สทำให้ตับแข็งแรงขึ้นได้นะนะครับ

01:24:54 → 01:24:57 แล้วก็อาจจะกินน้ำำมันมะพร้าวก็ได้ 1

01:24:57 → 01:25:00 ช้อนโต๊ะตอนตื่นนอนเพื่อทำให้ตับแข็งแรง

01:25:00 → 01:25:02 ขึ้นได้นะครับแล้วก็ช่วยกันในการขับถ่าย

01:25:02 → 01:25:05 ได้ดีด้วยก่อนนอนก็กินยาถ่ายน้ำเหลือง

01:25:05 → 01:25:08 เสียนะวันเว้นวันอย่างเงี้ยกินสัก 2

01:25:08 → 01:25:10 เดือนนะแล้วก็ขมิ้นชันก็เหมือนกินสัก 2

01:25:10 → 01:25:14 เดือนทำแบบนี้เนี่ยผมว่าน่าจะช่วยได้นะนะ

01:25:14 → 01:25:17 ครับเรื่องกดไหลย้อนเรื่องเนื้องอกนะครับ

01:25:17 → 01:25:18 ช่วยได้

01:25:19 → 01:25:24 ดีอ่าหลักๆก็เป็นสวัสดีนะคุณอรรธทำไม

01:25:24 → 01:25:28 ประจำเดือนมาไม่ตรงคะเอออย่างที่บอกวัน

01:25:28 → 01:25:31 นี้ก็คือต่อมไร้ท่อมีปัญหาต่อมไร้ท่อที่

01:25:31 → 01:25:36 มีปัญหาเช่นนอนดึกเอ่อกินข้าวดึกเอ่อไม่

01:25:37 → 01:25:39 ไม่ทำอะไรเป็นเวลาธรรมชาติสักเท่าไหร่นะ

01:25:39 → 01:25:43 ครับก็จะทำให้ฮอร์โมนค่อนข้างเปลี่ยนแปลง

01:25:43 → 01:25:46 นะแล้วก็ประจำเดือนมาไม่ค่อยตรงเวลาดัง

01:25:46 → 01:25:48 นั้นแล้วเนี่ยเริ่มจากการนอนเร็วตื่นเช้า

01:25:48 → 01:25:51 อกำลังกายกินข้าวเช้าทำ 3 อย่างนี้ก่อน

01:25:51 → 01:25:54 ถ้าทำได้นะฮอร์โมนจะเริ่มเป็นปกติ

01:25:54 → 01:25:58 ประจำเดือนจะเริ่มมาเป็นเวลาละนะครับ

01:25:58 → 01:26:03 เอ่อ 20:00 นหยุดทำงานนะครับ 21:00 น

01:26:03 → 01:26:06 22:00 นอะไรประมาณเนี้ยให้หาอะไราทำที่

01:26:06 → 01:26:09 มันสนุกๆหน่อยนะครับเอ่อเป็นงานอดิเรกที่

01:26:09 → 01:26:12 พัฒนาตัวเองได้ก็โอเคนะครับแล้วก็รู้สึก

01:26:12 → 01:26:15 มีความสุขไปกับชีวิตเนี่ยพอเราทำแบบนี้

01:26:15 → 01:26:18 มันก็จะกลายเป็นว่ามีเวลาทำงานนะแล้วก็มี

01:26:18 → 01:26:21 เวลาพักด้วยแล้วก็มีเวลานอนพอแบ่งเวลาได้

01:26:21 → 01:26:24 พอสมควรนะนะครับก็จะทำให้ไอ้ต่อมไรทอด

01:26:24 → 01:26:27 ต่างๆเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติถ้ายังไม่

01:26:27 → 01:26:30 ดีขึ้นแบบชัดเจนผมแนะนำการไปนวดฝ่าเท้านะ

01:26:30 → 01:26:32 ครับนวดฝ่าเท้าเนี่ยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง

01:26:32 → 01:26:36 เนี่ยประมาณสัก 1 เดือนจะช่วยปรับฮอร์โมน

01:26:36 → 01:26:39 นะแล้วก็ต่อมไลท่อช่วยทำให้ประจำเดือน

01:26:39 → 01:26:42 เนี่ยมาเป็นปกติได้นะ

01:26:42 → 01:26:45 ครับคุณผู้หญิงข่าคยาแตะบอกว่าคลินิกใหม่

01:26:45 → 01:26:48 อยู่ไหนครับอยู่ที่เดิมครับอยู่พระดำม 3

01:26:48 → 01:26:51 ตรงข้ามวัดดอกไม้แต่ว่าตอนนี้เอ่อส่ง

01:26:51 → 01:26:54 เอกสารให้กระทรวงอยู่นะครับกระทรวงก็

01:26:54 → 01:26:56 พยายามตรวจสอบอยู่นะครับว่าถูกต้องมั้ย

01:26:56 → 01:26:58 อะไรอย่างเงี้ยนะครับถ้าเขาคบอกว่าโอเค

01:26:58 → 01:27:03 เมื่อไหร่เราก็จะเปิดมาคุยกันนะ

01:27:03 → 01:27:08 ครับอ่าคุณพ่อแม่ให้กำเนิดทำดีเถิดเพื่อ

01:27:08 → 01:27:13 แทนคุณนะคุณหมอคะสวัสดีค่ะฮอร์โมนเครียด

01:27:13 → 01:27:16 หลังเยอะทำอย่างไรดีคะโอเคฮอร์โมนเครียด

01:27:16 → 01:27:20 ก็คือฮอร์โมนอะดรีนาลีนอฮอร์โมนคอร์ติซอล

01:27:20 → 01:27:24 นะครับเวลาฮอร์โมนเครียดออกมาเนี่ยมัน

01:27:24 → 01:27:27 เป็นฮอร์โมนที่บอกว่าข้างนอกไม่ปลอดภัย

01:27:27 → 01:27:30 เออฉะนั้นร่างกายเราก็ต้องเผาผลาญเผาผลา

01:27:30 → 01:27:34 พลังงานเช่นเาผลาถ้าเป็นยุคสมัยก่อนคือ

01:27:34 → 01:27:36 กระบวนการเผาผลาญกล้ามเนื้อเผาผลาญไขมัน

01:27:36 → 01:27:38 เผาผลาญน้ำตาลให้เป็นพลังงานเพื่อให้คุณ

01:27:38 → 01:27:43 ไปหาอาหารเออเพื่อให้คุณวิ่งเร็ววิ่งหนี

01:27:43 → 01:27:46 ตาทำงานได้ดีเอออะไรอย่าเงี้ยนะครับ

01:27:46 → 01:27:48 กระบวนการย่อยอย่าเพิ่งทำงานนะเวลา

01:27:48 → 01:27:50 ฮอร์โมนเกลียดทำงานเงี้ยมันก็จะทำให้เรา

01:27:50 → 01:27:53 ไม่หิวครับแล้วก็ทำนู่นทำนี่ได้นะอยู่ใน

01:27:53 → 01:27:56 บรอากาศร้อนๆเงี้ยอยู่ได้สบายมากอะไร

01:27:56 → 01:27:59 ประมาณเนี้ยฉะนั้นแล้วนะเอ่อคำว่าฮอร์โมน

01:27:59 → 01:28:02 เครียดออกมาเยอะเนี่ยแสดงว่าคุณอยู่ใน

01:28:02 → 01:28:06 สภาวะแวดล้อมที่มีความเครียดเอดังนั้น

01:28:06 → 01:28:08 แล้วนะผมแนะนำว่าเอ้ยเราอยากลดฮอร์โมน

01:28:09 → 01:28:11 ความเครียดทำไงได้บ้างนะครับก็ต้องสร้าง

01:28:11 → 01:28:15 สภาวแวดล้อมที่ทำให้เราไม่เครียดเกินไปนะ

01:28:15 → 01:28:17 ครับ

01:28:17 → 01:28:21 เช่นอย่าไปอยู่เอ่อเค้าเรียกอะไรในที่ที่

01:28:22 → 01:28:24 เค้านินทากันเยอะๆนะครับเวลาเค้าเนินทาง

01:28:24 → 01:28:26 เยอะๆเนี่ยมันจะน่ากลัวครับเฮ้ยเราจะโดน

01:28:26 → 01:28:29 บ้างมั้ยวะอะไรอย่าเงี้ยเราจะต้องใช้คำ

01:28:29 → 01:28:31 พูดแบบไหนดีอะไรเงี้ยนะครับอย่าไปอยู่กับ

01:28:31 → 01:28:35 คนที่คิดลบเยอะๆอย่าไปดูหนังซีรีส์ที่มัน

01:28:35 → 01:28:38 แบบว่าโหดๆฆาตกรรมต้องคิดเยอะๆเป็นซีรีส์

01:28:38 → 01:28:41 ที่ต้องแบบว่าต้องแคกสมองออกมาอะไรประมาณ

01:28:41 → 01:28:43 เนี้ยไม่เอานะครับอะไรที่มันยากๆๆอย่า

01:28:43 → 01:28:46 เงี้ยก็อย่าไปดูมันนะครับข่าวลบๆต่างๆใน

01:28:46 → 01:28:51 โซเชียลมีเดียข่าวที่ก็เปิดมามีแต่หวยมี

01:28:51 → 01:28:54 แต่อะไรเรื่องอะไรลบๆพ่อฆ่าลูกอะไรอย่าง

01:28:54 → 01:28:56 เงี้ยนะครับยิงก็อะไรเงี้ยไม่เอาก็เลี่งๆ

01:28:56 → 01:29:00 ไปฉะนั้นพอเราเอ่อเลี่ยงอะไรพวกนั้นไปะ

01:29:00 → 01:29:03 เอ่อพอสมควรนะครับคือไม่ใช่เลี่ยงแบบ 100%

01:29:03 → 01:29:05 มันคงเป็นไปไม่ได้แต่เลี่ยงไปสักประมาณ 50

01:29:05 → 01:29:08 60% เนี่ยคุณจะเริ่มรู้สึกว่าเออสังคม

01:29:08 → 01:29:11 มันเริ่มน่าอยู่ขึ้นเว้ยฉะนั้นไอ้คำว่า

01:29:11 → 01:29:13 สังคมหน้าอยู่ขึ้นเนี่ยคุณต้องผลิตสังคม

01:29:13 → 01:29:17 หน้าอยู่ด้วยนะเช่นคุณเป็นคนฟังคนมากขึ้น

01:29:17 → 01:29:19 เอ่อฟังคนมากขึ้นน่ะเวลาคุณไปคุยกับใคร

01:29:19 → 01:29:22 อย่าไปสอนเค้าอย่างเดียวให้ไปฟังเค้านะ

01:29:22 → 01:29:24 อยู่กับเพื่อนฟังเพื่อนเยอะหน่อยเอยู่กับ

01:29:24 → 01:29:27 เจ้านายฟังเจ้านายเยอะหน่อยอยู่กับลูก

01:29:27 → 01:29:29 น้องฟังลูกน้องเยอะหน่อยอยู่กับสัตว์

01:29:29 → 01:29:31 เลี้ยงบ้างอะไรบ้างเงี้ยนะครับฉะนั้นพอ

01:29:31 → 01:29:34 คุณเป็นคนฟังเก่งเงี้ยคุณจะทำให้บรรยากาศ

01:29:34 → 01:29:37 โดยรอบเนี่ยมันไม่ชนกันน่ะพอมันไม่ชนกัน

01:29:37 → 01:29:40 ความเครียดมันก็จะน้อยลงคุณไม่ต้องต่อสู้

01:29:40 → 01:29:42 อยู่ตลอดเวลาเพราะว่าคุณฟังเป็นไงนี่คือ

01:29:42 → 01:29:45 ทักษะนึงนะครับฟังเป็นก็ต้องพูดเป็นด้วย

01:29:45 → 01:29:48 ใช่มยพูดเป็นคือพูดจาอะไรเนี่ยก็เค้า

01:29:48 → 01:29:52 เรียกอย่าเป็นแบบขวานผ่าซากมะนาวไม่มีน้ำ

01:29:52 → 01:29:55 อะไรอย่างเงี้ยนะครับคือแล้วก็พูดจาอะไร

01:29:55 → 01:29:59 ก็เป็นที่เหมาะสมอะไรเงี้ยถูกกาลเทศะฟัง

01:29:59 → 01:30:02 เป็นเป็นไงฟังแค่นี้ก็เออบรรอากาศโดยรอบ

01:30:02 → 01:30:05 ก็ดีขึ้นแล้วเนอะไม่คิดลบเกินไปมีคนฟัง

01:30:05 → 01:30:07 กันและกันอะไรอย่างเงี้ยนะครับมันเริ่ม

01:30:07 → 01:30:10 จากตัวเราถ้าทำได้นะฮอร์โมนความเครียด

01:30:10 → 01:30:14 อะไรพวกเก็จะลดลงไปตามธรรมชาตินะครับที่

01:30:14 → 01:30:17 เหลือก็คือว่าคุณก็ต้องกินอาหารที่มันมี

01:30:17 → 01:30:20 คุณภาพหน่อยเนาะอาหารที่ดีเนี่ยจะช่วยทำ

01:30:20 → 01:30:23 ให้ร่างกายมีสารอาหารเวลาเรามีสารอาหาร

01:30:23 → 01:30:27 ที่ดีเอ่อร่างกายก็บอกโอ๊ยคนคนเปลอดภัยะ

01:30:27 → 01:30:29 เพราะมีสารอาหารแล้วไงไม่ต้องมีความ

01:30:29 → 01:30:32 เครียดเยอะเกินไปดังนั้นแล้วนะสกิลนึงที่

01:30:32 → 01:30:34 จะช่วยลดความเครียดได้คือสกิลทำอาหารครับ

01:30:35 → 01:30:37 ไปเลือกซื้ออาหารที่ตลาดซุปเปอร์มาร์เก็ต

01:30:37 → 01:30:40 แล้วมาทำกินเองเนี่ยถ้าใครทำแบบนี้ได้นะ

01:30:40 → 01:30:43 จะลดฮอร์โมนความเครียดไปได้ค่อนข้างเยอะ

01:30:43 → 01:30:49 มากๆเลยเออนะครับฝากด้วยแล้วกันนะ

01:30:49 → 01:30:54 ครับอ่ะคุณ

01:30:54 → 01:30:58 บอกว่าปวดหลังลามลงก้นและต้นขาคอบ่าไหล

01:30:58 → 01:31:00 แล้วก็ปวดตึงขึ้นถึงขมับจะแก้อาการอย่าง

01:31:00 → 01:31:03 ไรดีครับทำงานนั่งหน้าจอเกือบทั้งวันเลย

01:31:03 → 01:31:06 เออนะครับอันนี้ก็ต่อกันเลยนะคือใครก็ตาม

01:31:07 → 01:31:10 ที่อยู่ในภาวะเครียดนะสันหลังเราเนี่ยนะ

01:31:11 → 01:31:13 มันจะมีไฟฟ้าเข้าไปตลอดเวลาเลยพอสันหลัง

01:31:13 → 01:31:16 เรามีไฟฟ้าเข้าไปตลอดเวลาเนี่ยมันก็จะปวด

01:31:16 → 01:31:19 หลังจนกระทั่งนะหลังอ่อนแอเพราะหลังอ่อน

01:31:19 → 01:31:22 แอเนี่ยบ่าไหล่เราก็จะงุ้มมาข้างหน้าอะไร

01:31:22 → 01:31:25 เงี้ยแล้วก็มีความแข็งแรงน้อยนลงนะฉะนั้น

01:31:25 → 01:31:28 สิ่งที่เราควรทำก่อนก็คือว่าขณะที่คุณ

01:31:28 → 01:31:31 ศิวโรจน์เอ่อหรือคุณผู้ชมคุณผู้ฟังเนี่ย

01:31:31 → 01:31:34 ขณะทำงานอะไรเงี้ยนะครับสิ่งที่ควรทำก็

01:31:34 → 01:31:36 คือว่าจะต้อง

01:31:36 → 01:31:40 เอ่อโฟกัสให้ดีนะครับคืออย่าไปทำอะไรแบบ

01:31:40 → 01:31:42 หลายๆอย่างพร้อมๆกันเพราะว่าสุดท้ายแล้ว

01:31:42 → 01:31:44 มันจะไม่เสร็จสักอย่างนึงแล้วก็สุดท้ายผล

01:31:45 → 01:31:48 งานก็ไม่ดีด้วยเออดังนั้นแล้วนะถ้าเรา

01:31:48 → 01:31:51 โฟกัสกับอะไรสักอย่างนึงแบบจริงๆจังๆนะ

01:31:51 → 01:31:54 เชื่อเถอะมันจะดีขึ้นแน่นอนน่ะผลงานที่

01:31:54 → 01:31:56 คุณจะทำมันจะดีขึ้นแน่นอนฉะนั้นคุณจะมั่น

01:31:56 → 01:32:00 ใจแล้วว่าผลงานดีแน่ถ้าฉันโฟกัสกับมัน

01:32:00 → 01:32:03 ฉะนั้นเมื่อไหร่ก็ตามที่โฟกัสเนี่ยความ

01:32:03 → 01:32:05 เครียดจะน้อยลงคุณก็ไม่ต้องตึงมากไม่ต้อง

01:32:05 → 01:32:08 เนชัมากเพราะว่าเดี๋ยวมันก็ต้องดีแน่นอน

01:32:08 → 01:32:11 ถ้าไม่ดีเดี๋ยวแก้ใหม่มันก็ต้องดีขึ้นอีก

01:32:11 → 01:32:13 แหละเออดังนั้นแล้วเนี่ยพอเราโฟกัสกับมัน

01:32:13 → 01:32:16 ไม่คิดถึงผลลัพธ์มากเกินไปไม่ไปคิดถึง

01:32:16 → 01:32:19 อดีตมากเกินไปอยู่ในปัจจุบันได้ดีนะครับ

01:32:19 → 01:32:22 เวลาเป็นแบบนี้เนี่ยสันหลังของเราเนี่ย

01:32:22 → 01:32:25 มันจะไม่ต่อสู้เยอะเออดังนั้นไฟฟ้าเนี่ย

01:32:25 → 01:32:28 มันจะไม่วิ่งเข้าไปที่เอ่อไขสหลังเยอะ

01:32:28 → 01:32:31 เกินไปหลังคุณก็จะยังมีความแข็งแรงอยู่นะ

01:32:31 → 01:32:34 ที่เหลือทำยังไงปรับสรีระให้ดีเช่นแแมว

01:32:35 → 01:32:38 ท้องนิดนึงนะยืดหลักยืดหลังนิดนึงใช่มย

01:32:38 → 01:32:41 แล้วก็ไหลไม่ห่อเกินไปการทำแบบนี้เนี่ย

01:32:41 → 01:32:45 เขาเรียกว่ากายานุสติปัฏฐานเอาสติมาอยู่

01:32:45 → 01:32:48 กับร่างกายพอสติมาอยู่กับร่างกายครับมัน

01:32:48 → 01:32:50 ก็จะไม่ฟุ้งซ่านไปคิดนู้นคิดนี้คิดนั้น

01:32:50 → 01:32:54 เยอะๆเห็นมยดักไว้ 2 ทาง 1 คือโฟกัสกับ

01:32:54 → 01:32:58 งานไม่คิดถึงอนาคตแล้วก็อดีตมากเกินไปอัน

01:32:58 → 01:33:01 ที่ 2 ก็คือว่าทำสรีระร่างกายให้ดีซะ

01:33:01 → 01:33:04 หน่อยทำ 2 อย่างเยรับรองครับอาการปวดตึง

01:33:04 → 01:33:08 คอบ่าไหล่มึนหัวอาการแบบว่าอะไรนะปวดตึง

01:33:08 → 01:33:11 ขึ้นถึงมับอะไรพวกเนี่ยมันจะหายไปถ้าเรา

01:33:11 → 01:33:14 มีสติกับการนั่งทำงานได้ดีนะครับสมมุติ

01:33:14 → 01:33:18 ว่าเริ่มแบบไม่ไหวละสติเริ่มหลุดะก็ลุก

01:33:18 → 01:33:22 ขึ้นมาซะหน่อยไปแกว่งแขนไปชงชากินซะหน่อย

01:33:22 → 01:33:24 อะไรเงี้ยนะครับไปกินน้ำซะหน่อยไปยืด

01:33:24 → 01:33:27 เหยียดซะหน่อยไปคุยเม้ามอยเล็กๆน้อยๆแล้ว

01:33:27 → 01:33:30 ค่อยกลับมาตั้งสติอีกครั้งนึงเออทำได้มัน

01:33:30 → 01:33:33 ก็จะรู้สึกว่าเอ้อกลับบ้านแล้วรู้สึกไม่

01:33:33 → 01:33:35 ปวดหลังแฮะเอ่อนั่งทำงานนานๆก็ไม่รู้สึก

01:33:35 → 01:33:38 อะไรแล้วก็รู้สึกว่ามีความสุขดีในวันนี้

01:33:38 → 01:33:41 ก่อนนอนสวดมนต์ไหว้พระซะหน่อยนะแล้วก็นอน

01:33:42 → 01:33:45 แค่นี้เองก็จะช่วยได้ดีนะครับข้อดีของ

01:33:45 → 01:33:48 เรื่องนี้ก็คือว่าเอ่อมันจะเกิดสภาวะธรรม

01:33:48 → 01:33:52 ด้วยไงมันก็จะแบบมีกิเลสน้อยมีความสุขมาก

01:33:52 → 01:33:55 ขึ้นเวลาเรามีกิเลสน้อยมีความสุขมากขึ้น

01:33:55 → 01:33:58 น่ะคุณจะไม่กลัวที่ทำงานะคุณจะรู้สึกว่า

01:33:58 → 01:34:00 เอ้อมาทำงานก็มีความสุขดีนะเออไม่ไม่รู้

01:34:00 → 01:34:03 สึกว่าเอ้ยเลิกงานต้องรีบกลับอะไรอย่า

01:34:03 → 01:34:10 เงี้ยนะครับฝากด้วยแล้วกันนะครับ

01:34:10 → 01:34:15 เอ่ออ่ะคุณเบ็งบอกว่ามีสารพิษในร่างกาย

01:34:15 → 01:34:19 ต้องใช้พืชผักชิดได้ล้างสารพิษในร่างกาย

01:34:19 → 01:34:22 ออกได้หมดค่ะอืมหลักๆแล้วที่เา้าใช้กัน

01:34:22 → 01:34:25 เยอะๆนะครับก็จะมีตัวลังจืดนี่แหละง่าย

01:34:25 → 01:34:28 สุดและนะครับลังจืดก็กินสักสัปดาห์ละ 2

01:34:28 → 01:34:31 วันอะไรอย่างเงี้ยนะครับเอ่อก็จะช่วยล้าง

01:34:32 → 01:34:34 สารพิษได้แต่ถ้าคุณบอกว่าเอ้ยฉันก็เลือก

01:34:34 → 01:34:36 อาหารได้ดีแล้วนะก็อาจจะกินแค่ 2 อาทิตย์

01:34:36 → 01:34:39 ครั้งนึงอะไรเงี้ยก็โอเคแล้วนะครับจะช่วย

01:34:39 → 01:34:43 ล้างสารพิษในร่างกายได้นะครับเอ่ออาหาร

01:34:43 → 01:34:47 ที่ควรเลี้ยงๆนะครับเวลาที่มันมักจะมีสาร

01:34:47 → 01:34:49 พิษเยอะนะในบ้านเรานะก็ส่วนใหญ่ก็จะเป็น

01:34:49 → 01:34:54 กะหล่ำปลีพริกใช่มยผักบุ้งคะน้าโหแค่นี้

01:34:54 → 01:34:57 ก็ยากใช่มนะครับฉะนั้นก็ลองเลือกอาหารให้

01:34:57 → 01:34:59 ดีนะครับถ้าเลือกไม่ได้ถ้ามันเลือกไม่ได้

01:34:59 → 01:35:02 จริงๆก็อย่าไปคิดมากก็ใช้รังจืดเนี่ยใน

01:35:02 → 01:35:05 การล้างสารพิษให้ดีได้นะครับเอ่ออีกอัน

01:35:05 → 01:35:08 นึงคือเมื่อไหร่ก็ตามที่เรามีจุลินทรีย์

01:35:08 → 01:35:13 ที่ดีในลำไส้อ่ะเราจะกำจัดสารพิษได้ตาม

01:35:13 → 01:35:15 ธรรมชาติเหมือนกันนะดังนั้นแล้วเนี่ย

01:35:15 → 01:35:18 จุลินทรีย์ที่ดีจะทำให้สารพิษในเลือดน้อย

01:35:18 → 01:35:21 ลงดังนั้นก็พยายามกินอาหารที่มันมีอาการ

01:35:22 → 01:35:26 หมักมาด้วยนะครับกะปิโชยุมิโสะข้าวมาก

01:35:27 → 01:35:30 อะไรพวกนี้นะอะไรที่หมักๆมาแล้วก็ช่วยทำ

01:35:30 → 01:35:34 ให้จุลินทรีย์ที่ดีเพิ่มขึ้นได้นะ

01:35:34 → 01:35:39 ครับอ่ะคลินิคคุณหมอจะเสร็จเมื่อไหร่คะ

01:35:39 → 01:35:43 เสร็จแล้วรอรอกระทรวงค่าอนุมัตินะครับ

01:35:43 → 01:35:45 จริงๆต้องบอกงี้นะเดี๋ยววนๆงเอ๊ะหมอไม่

01:35:45 → 01:35:48 เคยเปิดคลินิกเลยหรือเปล่านะผมเคยเปิด

01:35:48 → 01:35:51 คลินิกแล้วนะ 10 ปีแล้วก็ปิดไปตอนนั้น

01:35:51 → 01:35:55 เอ่อปิดโควิดนี่แหละแล้วก็พอปิดปุ๊บ 3 ปี

01:35:55 → 01:35:58 ในช่วง 3 ปีเนี่ยผมก็ทำร้านนวดอะไรเงี้ย

01:35:58 → 01:36:02 นะแล้วก็มันไปไม่ได้ร้านนวดตอนโควิดอนะก็

01:36:02 → 01:36:04 เลยปิดไปด้วยดังนั้นแล้วเนี่ยผมก็เลย

01:36:04 → 01:36:06 โฟกัสไปที่การทำคทนอ่ะทำ YouTube ทำ

01:36:06 → 01:36:08 Facebook ทำอะไรประมาณเนี้ยที่ทุกท่าน

01:36:08 → 01:36:11 ได้เห็นกันนี่แหละในช่วง 3 ปีเยนะเอ่อตอน

01:36:11 → 01:36:14 นี้เอ่อโควิดจบะกำลังจะกลับมาเปิดคลินิก

01:36:14 → 01:36:17 อีกครั้งนึงแต่ว่ามันจะต้องให้เา้าตรวจ

01:36:17 → 01:36:19 อีกครั้งนึงว่าเอ้ยคลินิกพร้อมหรือยัง

01:36:19 → 01:36:21 อะไรประมาณนี้นะครับฉะนั้นแล้วเนี่ยการ

01:36:21 → 01:36:24 เปิดคลินิกครั้งนี้นะครับก็จะโฟกัสหน่อย

01:36:24 → 01:36:26 ก็คือว่าไม่มีนวดแล้วนะนะครับจะเป็นการ

01:36:26 → 01:36:30 รักษาโรคที่แท้จริงแล้วก็รักษาพวกโรคกดไล

01:36:30 → 01:36:33 ย้อนไมเกรนโรคเครียดโรคอะไรพวกเนี้ยแพนิค

01:36:33 → 01:36:36 อะไรพวกเนี้ยก็จะรักษาแต่ว่าต้องบอกก่อน

01:36:36 → 01:36:39 ว่าเป้าหมายที่จะรักษาครั้งนี้นะเอ่อจะ

01:36:39 → 01:36:42 โฟกัสไปที่ทำให้ท่านน่ะรักษาตัวเองนะไม่

01:36:42 → 01:36:45 ใช่บโอ้มานั่งรับยาจ่ายยากันตลอดอย่าง

01:36:45 → 01:36:48 เงี้ไม่ใช่นะเราต้องเข้าใจว่าการมาคลินิก

01:36:48 → 01:36:51 คือการพัฒนาตัวเองไปด้วยอะไรอย่าเงี้ยนะ

01:36:51 → 01:36:53 ครับเดี๋ยวมาเดี๋ยวมาดูอีกทีแล้วกันว่า

01:36:53 → 01:36:57 เราทำยังไงรับรองว่าไม่เหมือนเดิมแน่

01:36:57 → 01:37:05 นอนอ่าขอสุดท้ายแล้วกัน

01:37:05 → 01:37:11 นะอ่ะคุณหนูจิรดาบอกว่าสวัสดีค่ะคุณหมอ

01:37:11 → 01:37:16 เวลาไม่สบายปวดหัวภูมิแพ้เหลือกากดดย้อน

01:37:16 → 01:37:20 กระเพาะกำเริบชอบมีอาการหน้าบวมตาบวมด้วย

01:37:20 → 01:37:23 เป็นเพราะอะไรคะต้องแก้อย่างไรคะนะครับ

01:37:23 → 01:37:25 โอเคคือถ้าภูมิแพ้บ่อยอะไรประมาณนี้ก็

01:37:25 → 01:37:29 แสดงว่าภูมิคุ้มกันค่อนข้างไวนะมนุษย์ที่

01:37:29 → 01:37:31 มีภูมิคุ้มกันค่อนข้างไวเนี่ยมีหลายหลาย

01:37:31 → 01:37:34 สาเหตุนะก็คือ 1 ก็คืออาจจะกินของที่มัน

01:37:34 → 01:37:38 แพ้ได้ง่ายเช่นขนมปังกลูเต้นแป้งสาลีอะไร

01:37:38 → 01:37:41 เงี้ยนะเอ่อไข่กินเยอะเกินไปหรือเปล่ากิน

01:37:42 → 01:37:44 นมวัวเยอะเกินไปหรือเปล่ากินของหวานเยอะ

01:37:44 → 01:37:48 เกินไปหรือเปล่าเอ่อถ้าคุณคุณหนูบอกว่าก็

01:37:48 → 01:37:50 ไม่ค่อยได้กินนะเออดังนั้นก็ต้องมาดู

01:37:50 → 01:37:54 พฤติกรรมว่าพฤติกรรมนอนเร็วมยนะบางทีนอน

01:37:54 → 01:37:57 ดึกเกินไปมยหรือว่าเอ่อเค้าเรียกว่า

01:37:57 → 01:37:59 เครียดเกินไปมั้ยเวลาเรามีความเครียดอ่ะ

01:38:00 → 01:38:02 จะทำให้ภูมิกันเนี่ยค่อนข้างเพี้ยนนะครับ

01:38:02 → 01:38:06 ดังนั้นแล้วนะลองปรับอาหารดูนะครับปรับ

01:38:06 → 01:38:08 เวลานอนดูนะครับแล้วก็กินอาหารให้เป็น

01:38:08 → 01:38:11 เวลานะพอทำแบบนี้เนี่ยไอ้อาการภูมิพุ่ง

01:38:11 → 01:38:13 กันที่มันไม่ค่อยดีนักอะไรพวกเนี้ยมันก็

01:38:14 → 01:38:16 จะดีขึ้นได้แล้วถ้าบอกว่าเป็นกรดไหล่ย้อน

01:38:16 → 01:38:19 ด้วยเนี่ยผมคิดว่านะผมคิดว่าน่าจะมีความ

01:38:19 → 01:38:22 เครียดผสมค่อนข้างเยอะนะครับเอ่อมนุษย์

01:38:22 → 01:38:25 ที่มีความเครียดจะเป็นโรคกรดไย้อนได้ง่าย

01:38:25 → 01:38:27 ความเครียดก็ยิ่งทำให้เป็นโรคภูมิแพ้ได้

01:38:27 → 01:38:30 ง่ายดังนั้นต้องแก้ไขที่ความเครียดนี่

01:38:30 → 01:38:33 แหละวิธีการแก้ไขที่ความเครียดก็อ่าจะมี

01:38:34 → 01:38:37 วิธีนึงนะเาเรียกว่า Break Down เ Break

01:38:37 → 01:38:40 Down ก็คือสมมุติว่าเราต้องทำอะไรที่มัน

01:38:40 → 01:38:44 ยากมากๆเลยต้องใช้พลังงานถึง 10 ส่วนนะ

01:38:44 → 01:38:47 ดังนั้นแล้วเนี่ยเฮ้ยโอโหยากเหลือเกินลอง

01:38:47 → 01:38:50 ใช้ค่อยๆปรับไปเรื่อยๆค่อยๆปรับไปเรื่อยๆ

01:38:50 → 01:38:53 เช่นเราบอกว่าฉันจะวิ่ง 10 กให้ได้เออจะ

01:38:54 → 01:38:56 วิ่ง 10 กกให้ได้เลยนะฉะนั้นค่อยๆซ้อมเอา

01:38:57 → 01:39:00 วันละลลวันละโลก่อนเฮ้ย 1 กได้แล้วเว้ย

01:39:00 → 01:39:02 เอ่อซักอาทิตย์หน้าเราเริ่มเป็น 2 กอีก

01:39:03 → 01:39:05 อาทิตย์นึงเพิ่มไป 3 ก 4 ก 5 กภายใน 10

01:39:05 → 01:39:08 อาทิตย์เนี่ยคุณได้ 10 กแน่นอนฉะนั้นน่ะ

01:39:08 → 01:39:11 คำว่าเบรคดาวคือค่อยๆทำทีละนิดค่อยๆปรับ

01:39:11 → 01:39:14 ทีละองศาอย่างเงี้ยฉะนั้นแล้วเนี่ยถ้าเรา

01:39:14 → 01:39:17 อยากพัฒนาตัวเองให้เหมาะสมกับที่ทำงานนะ

01:39:17 → 01:39:19 เพิ่งเปลี่ยนงานใหม่อยากจะค้าขายของดี

01:39:20 → 01:39:21 ขึ้นอะไรอย่างเงี้ยนะครับสมมุติว่าอยากจะ

01:39:21 → 01:39:24 ขายออนไลน์ให้ดีขึ้นเงี้ยคุณก็ต้องมาดู

01:39:24 → 01:39:28 ว่าแล้วคุณสมบัติในการขายออนไลน์มีอะไร

01:39:28 → 01:39:31 บ้างที่คุณต้องฝึกแต่ถ้าไปมองว่าเอ้ยฉัน

01:39:31 → 01:39:33 อยากได้แบบคนนู้นคนนี้เนี่ยมันเครียดแน่

01:39:33 → 01:39:35 นอนถูกป่ะก็ต้องมาดูว่าเอ้ยต้องใช้อะไร

01:39:35 → 01:39:37 ฝึกการสื่อสารให้ดีหรือยังฝึกการทำคลิป

01:39:37 → 01:39:39 ให้ดีหรือยังมีอะไรบ้างที่ฉันยังไม่ทำ

01:39:40 → 01:39:42 ค่อยๆทำไปทีละนิดทีละนิดทีละนิดเชื่อเถอะ

01:39:42 → 01:39:44 พอทำไปเรื่อยๆทีละนิดทีละนิดเ่ะมันกลาย

01:39:44 → 01:39:48 เป็นก้อนใหญ่เองแต่ไอตอนทำทีละนิดทีละนิด

01:39:48 → 01:39:50 เนี่ยมันจะสนุกครับมันจะต่างกันกับการที่

01:39:50 → 01:39:53 เราคาดหวังสูงๆใช่ป่ะแล้วเราค่อยๆแบบหิน

01:39:53 → 01:39:56 ก็นได้ใหญ่ไปด้วยเงี้ยมันไม่สนุกแล้วมัน

01:39:56 → 01:39:58 ก็เครียดตื่นเช้ามาก็เครียดแล้วแต่ถ้าบอก

01:39:58 → 01:40:02 ว่าตื่นเช้ามาถือหินก้อนเล็กนิดเดียวเออ

01:40:02 → 01:40:04 แล้วก็เดินไปอย่างนี้มันสนุกครับอ่ะเยน

01:40:04 → 01:40:07 โยนไปโยนมาได้โอ้เก่งขึ้นแล้วอ่ะถือ 2

01:40:07 → 01:40:10 ก้อนได้อะไรได้ดังนั้นแล้วนะค่อยๆฝึกไปที

01:40:10 → 01:40:14 ละนิดลดความเครียดก็ทำให้โรคกตย้อนดีขึ้น

01:40:14 → 01:40:17 โรคภูมิแพ้ดีขึ้นได้ตามธรรมชาตินะครับก็

01:40:17 → 01:40:20 อาจจะไม่เป็นแบบที่ผมว่าก็ได้นะแต่ขอให้

01:40:20 → 01:40:23 ทุกท่านเนี่ยลองไปปรับแก้ไขดูแล้วกันนะ

01:40:23 → 01:40:27 ครับครับอ่าก็ทำให้ลบคำเครนลงไปนะโอเคตอน

01:40:27 → 01:40:30 นี้มีคนฟังอยู่ 900 กว่าคนเนี่ยโอ้เยอะ

01:40:30 → 01:40:32 มากเลยนะก็ขอให้ทุกท่านที่ฟังอยู่นะแล้ว

01:40:32 → 01:40:35 ก็อธิปิดไปแล้วด้วยนะครับขอให้มีความสุข

01:40:35 → 01:40:38 บุญใดๆที่เราร่วมฟังกันมาเนี่ยขอให้ถึง

01:40:38 → 01:40:41 แก่เจ้ากรรมนายเวรทำให้ทุกท่านหายจากโรค

01:40:41 → 01:40:45 ภัยแล้วก็นอนหลับฝันดีทุกท่านนะครับวัน

01:40:45 → 01:40:52 นี้ลาไปก่อนสวัสดี

01:40:52 → 01:40:56 ครับอ