00:00:00 → 00:00:02 เดี๋ยวนี้เป็นโรคฮิตก็คือโรคลำไส้แปรปวน
00:00:02 → 00:00:05 โรคลำไส้แปรปวนเป็นโรคฮิตหรอคะหมอเป็นโรค
00:00:05 → 00:00:07 ที่คนเป็นเยอะเพราะมีความเครียดแอบแฝง
00:00:07 → 00:00:09 หรือการกินอาหารที่ไม่ค่อยเหมาะกับลำไส้
00:00:09 → 00:00:12 เราบางคนอาจจะมีภาวะไทรรอยด์ต่ำไม่รู้ตัว
00:00:12 → 00:00:14 อ้วนง่ายผมร่วงอย่างเงี้ยอาจจะเริ่มมี
00:00:14 → 00:00:16 อาการซึมเศร้าหรือว่าบางทีเราเป็นโรคเบา
00:00:17 → 00:00:19 หวานไม่รู้ตัวก็ทำให้การเคลื่อนไหวของลม
00:00:19 → 00:00:21 ไส้ผิดเพียนได้กินผักผลไม้แล้วดื่มน้ำ
00:00:21 → 00:00:24 เยอะทั้งวันแต่ก็ยังท้องผูกอยู่ดีเพราะ
00:00:24 → 00:00:26 มันไม่ได้มีแค่ผักผลไม้ผักใบเขียวคนกิน
00:00:26 → 00:00:29 มั้ยผลไม้ที่ไม่ได้หวานมากมีกากอ่ะไม่ใช่
00:00:29 → 00:00:32 กินทุเรียนค่ะกินมะม่วงสุกคุณบอกว่าคุณ
00:00:32 → 00:00:34 กินน้ำเยอะแต่ถ้าสมมติว่าคุณตัวสูงล่ะน้ำ
00:00:34 → 00:00:37 หนักคุณแบบ 80- 90 ก.ล่ะ 2 ลิตรมันจะพอ
00:00:37 → 00:00:39 เหรอพวกโปรไบโอติกอ่ะค่ะก็มีคนไข้บางคน
00:00:39 → 00:00:42 ถามว่าเอ๊ะทำไมบางทีเรากินแล้วมันเวิร์ค
00:00:42 → 00:00:44 บางคนกินแล้วไม่เห็นเวิร์คเลยอย่างเงี้ย
00:00:44 → 00:00:45 มีปัญหาเรื่องของผูกค่ะแต่ไปซื้อ
00:00:45 → 00:00:48 โปรไบโอติกมาหมออ่านมาอ้าวมันเรื่องผิวคะ
00:00:48 → 00:00:50 กินเพื่ออะไรเพื่อภูมิคุ้มกันแต่ว่าเขา
00:00:50 → 00:00:52 บอกว่าเอ๊กินแล้วนอนไม่เห็นหลับเลยมันจะ
00:00:52 → 00:00:54 เป็นสายพันธุ์ถูกมั้คะแต่ละสายพันธุ์ก็
00:00:54 → 00:00:56 ช่วยแต่ละเรื่องที่ไม่เหมือนกันไม่เหมือน
00:00:56 → 00:00:58 กันเราก็ต้องมาศึกษาสายพันธุ์นิดนึงอย่าง
00:00:58 → 00:01:00 เงี้ยค่ะว่าสายพันธุ์ที่เรากินเหมาะกับ
00:01:00 → 00:01:03 ตัวเรามยขอยกตัวอย่าง 2-3 สายพันธุ์เนาะ
00:01:03 → 00:01:04 สายพันธุ์แรกก็
00:01:04 → 00:01:06 [เพลง]
00:01:06 → 00:01:09 สวัสดีค่ะอยู่กับ Doctor พcastที่จะพาคุณ
00:01:09 → 00:01:12 ไปพบแพทย์เพื่อถามคำถามสุขภาพเจน
00:01:12 → 00:01:15 รัติพันธ์พันพินิจค่ะวันนี้จะมาพูดถึง
00:01:15 → 00:01:18 เรื่องปัญหาที่ใครหลายๆคนต้องเจอแน่นอน
00:01:18 → 00:01:20 นั่นก็คือเรื่องปัญหาการขับถ่ายค่ะไม่ว่า
00:01:20 → 00:01:23 จะเป็นปัญหาการขับถ่ายยากท้องผูกหรือบาง
00:01:23 → 00:01:25 คนเนี่ยกินปุ๊บถ่ายปั๊บเอ๊ะอันนี้เป็น
00:01:25 → 00:01:28 เรื่องที่ดีหรือว่าลำไส้เราทำงานผิดปกติ
00:01:28 → 00:01:30 เจเลยเชิญแพทย์ผู้เชี่ยวชาญท่านนี้ค่ะมา
00:01:30 → 00:01:34 พูดคุยตอบคำถามจะได้เข้าใจถึงวิธีการทำ
00:01:34 → 00:01:37 งานของลำไส้ได้ดีขึ้นนะคะใครที่เจอปัญหา
00:01:37 → 00:01:39 แบบนี้อย่าเพิ่งเขินอย่าเพิ่งรีบเลื่อน
00:01:39 → 00:01:41 ผ่านนะคะเพื่อช่วยว่าหลังจากดู EP นี้
00:01:41 → 00:01:44 เสร็จแล้วเนี่ยจะเข้าใจถึงระบบการขับถ่าย
00:01:44 → 00:01:47 ได้ดีขึ้นแน่นอนค่ะสวัสดีค่ะหมอมีสวัสดี
00:01:47 → 00:01:50 ค่ะเจนแพทย์หญิงแอมอรพัทรมงคลกหรือหมอ
00:01:50 → 00:01:53 เอ็มมี่นะคะเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านป้องกัน
00:01:53 → 00:01:57 ปัจจุบันทำงานอยู่ที่ณเวลาคลินิกค่ะคำถาม
00:01:57 → 00:02:00 แรกค่ะหมอกินผักผลไม้แล้วดื่มน้ำเยอะทั้ง
00:02:00 → 00:02:03 วันแต่ก็ยังท้องผูกอยู่ดีบางทีรู้สึกอึด
00:02:03 → 00:02:06 อัดท้องอืดมากเลยค่ะไม่สบายท้องเลยเลย
00:02:06 → 00:02:09 สงสัยว่าทั้งที่เราปรับเปลี่ยนการกินแล้ว
00:02:09 → 00:02:12 แต่ทำไมระบบขับถ่ายยังไม่ดีอันเนี้ยเป็น
00:02:12 → 00:02:15 เพราะอะไรคะแล้วถ้าเป็นแบบนี้เนี่ยอยาก
00:02:15 → 00:02:17 ให้ช่วยขับถ่ายควรจะทำยังไงดีคะคุณหมอ
00:02:17 → 00:02:20 เดี๋ยวหมอขออธิบายเพิ่มเติมก่อนนะคะว่า
00:02:20 → 00:02:22 จริงๆแล้วว่าขับถ่ายที่ไม่ค่อยคล่องไม่
00:02:22 → 00:02:24 ปกติหรือว่าท้องผูกเนี่ยหมายถึงอะไรเนาะ
00:02:24 → 00:02:27 ท้องครัวค่ะก็หมายถึงว่า 1 อาจจะรู้สึก
00:02:27 → 00:02:30 ขับถ่ายยากเนาะนะคะขับถ่ายน้อยกว่าปริมาณ
00:02:30 → 00:02:36 ทั่วไปเนาะแล้วก็บางทีต้องมีการเบ่งนะอ
00:02:36 → 00:02:41 นี้คำว่าผ้าเนูก็คือภายใน 1 อาทิตย์อ่ะ
00:02:42 → 00:02:44 ถ่ายน้อยกว่า 3 ครั้งอืนะคะแล้วก็ต้อง
00:02:45 → 00:02:48 ยิ่งแบบว่าเอ๊ะยิ่งเอ๊ะมากขึ้นถ้าเราอ่ะ
00:02:48 → 00:02:50 ถ่ายเป็นอย่างเงี้ยเป็นระยะเวลามากกว่า 3
00:02:50 → 00:02:52 สัปดาห์ขึ้นไปอ่าอ่ะต้องเริ่มคิดว่าเอ๊ะ
00:02:52 → 00:02:55 มันมีอะไรผิดปกติหรือเปล่าเนาะคราวนี้คำ
00:02:55 → 00:02:57 ว่านอกจากว่าคำว่าท้องผุหมายถึงอะไรแล้ว
00:02:57 → 00:02:59 เนี่ยต้องดูสาเหตุด้วยเพราะเราบอกว่าเอ๊ะ
00:02:59 → 00:03:02 ฉันก็กินผลไม้นะฉันก็กินน้ำแล้วนะแต่ทำไม
00:03:02 → 00:03:04 ยังท้องผูกอยู่เพราะมันไม่ได้มีแค่ผัก
00:03:04 → 00:03:07 ผลไม้แล้วแล้วแบบว่าการกินน้ำไงนะคะมันมี
00:03:07 → 00:03:09 หลายสาเหตุมากๆเอาสาเหตุแรกก่อนแล้วกันก็
00:03:09 → 00:03:12 คือเรื่องการกินเนาะการกินเนี่ยที่เราพูด
00:03:12 → 00:03:15 ถึงทั่วไป 1 คุณกินอาหารที่มีใยอาหาร
00:03:15 → 00:03:18 ไฟเบอร์เพียงพอหรือเปล่าคำว่าเพียงพอหมาย
00:03:18 → 00:03:22 ถึง 25-35 กรัมต่อวันนะอ่าซึ่งมันก็ค่อน
00:03:22 → 00:03:24 ข้างเยอะพอสมควรนะคะแต่ก็ไม่ได้เยอะมาก
00:03:24 → 00:03:28 เกินไปเช่นผักใบเขียวคุณกินมยผักผลไม้ที่
00:03:28 → 00:03:30 ไม่ได้หวานมากมีกากอ่ะไม่ใช่บอกว่ากิน
00:03:30 → 00:03:32 ผลไม้นะกินอะไรอ๋อกินมะม่วงสุกอะไรอย่าง
00:03:32 → 00:03:34 เงี้ยมันมันมันก็แบบกินทุเรียนมันก็มันก็
00:03:34 → 00:03:37 มีอาจจะมีบ้างกากใยแต่มันก็ไม่ได้เยอะมาก
00:03:37 → 00:03:39 พออย่างเงี้ยค่ะอ่ากินผักใบเขียวด้วยมั้ย
00:03:39 → 00:03:42 ข้าวกล้องกินมถ้าเป็นแบบว่าไฟเบอร์เนาะนะ
00:03:42 → 00:03:44 คะที่ช่วยได้อะไรอย่างเงี้ยคราวเนี้นอก
00:03:44 → 00:03:46 จากของการกินไฟเบอร์ให้เพียงพอแล้วก็ต้อง
00:03:46 → 00:03:49 รู้ด้วยว่าน้ำคุณกินถึงมคุณบอกว่าคุณกิน
00:03:49 → 00:03:51 น้ำเยอะแต่ถ้าสมมุติว่าเราบอกว่ากินน้ำ
00:03:51 → 00:03:54 เยอะแค่ไหนเขาบอกว่า 6-8 แก้วต่อวันถูกมย
00:03:54 → 00:03:57 ก็คือ 1.5-2 ลิตรอ้าวแต่ถ้าโจมว่าคุณตัว
00:03:57 → 00:04:01 สูงล่ะสูง 180 คุณแบบ 80 90 ก.ล่ะ 2
00:04:01 → 00:04:04 ลิตรมันจะพอหรอถูกมยมันก็อาจจะไม่พอใช่
00:04:04 → 00:04:06 มั้ยคะแล้วก็ขึ้นอยู่กับว่าณวันนั้นๆ
00:04:06 → 00:04:09 อากาศร้อนมั้ยคุณออกกำลังกายมั้ยคุณเสีย
00:04:09 → 00:04:11 ปริมาณน้ำเยอะมากน้อยแค่ไหนอย่างเงี้ยมัน
00:04:12 → 00:04:13 ก็เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ต้องมาคิดแล้วที่
00:04:13 → 00:04:17 สำคัญปัจจุบันคนเราเนี่ยนิยมอะไรดื่มกาแฟ
00:04:17 → 00:04:19 ดื่มชาใช่มั้ยวันนึงไม่ใช่แค่แก้วนึงนะ
00:04:19 → 00:04:22 อ่ะอาจจะเป็นแบบว่ากาแฟ 1 แก้วเช้ากาแฟ 1
00:04:22 → 00:04:25 แก้วบ่ายชาเพิ่มอีกนึงมันยิ่งขับน้ำเยอะ
00:04:25 → 00:04:27 มากเลยคราวนี้ก็บอกว่าอ้าแล้วถ้ากินอย่าง
00:04:27 → 00:04:30 เงี้ยน้ำที่เรากินเข้าไปอ่ะ 1.5
00:04:30 → 00:04:33 มันก็อยู่ดีมันก็ไม่พอก็ต้องกินเพอันนี้
00:04:33 → 00:04:36 แค่เรื่องการกินเนวมกับว่าการเคลื่อนไหว
00:04:36 → 00:04:39 เลยนะคะหรือไลฟ์สไตล์ของเราเช่นวันนึงคุณ
00:04:39 → 00:04:43 เดินถึงไที่เราบอกว่าทำไมต้องเดิน 5,9
00:04:43 → 00:04:44 ทำไมต้องเดินติดต่อกันอย่างน้อยสักครึ่ง
00:04:44 → 00:04:48 ชั่วโมงเพื่อกระตุ้นลำไส้ไงให้ลำไส้มัน
00:04:48 → 00:04:50 ขับให้มันมีการขยับเคลื่อนนิดนึงเนาะว่า
00:04:50 → 00:04:53 มันแบบโอเคมั้อย่างเงี้ยถ้าเราแบบนั่งเฉย
00:04:53 → 00:04:54 ๆวันนึงเดือน 1,900 แล้วมันจะขยับยังไง
00:04:54 → 00:04:57 ถูกป่ะนะคะเนาะอันนี้ก็คือเหมือนกับเป็น
00:04:57 → 00:04:59 ไลฟ์สไตล์อันที่ 2 คุณเข้าน้ำเข้าห้องน้ำ
00:04:59 → 00:05:02 เนี่ยเขาเรียกว่าเป็นชีวิตประจำวันว่า
00:05:02 → 00:05:05 ปกติเราตื่นมากินอาหารคุณเข้าห้องน้ำอ่า
00:05:05 → 00:05:07 อันนี้เป็นพฤติกรรมของคนทั่วไปแต่บางคน
00:05:07 → 00:05:10 ไม่บางคนตื่นมาปุ๊บเอ้ยฉันอยากแบบว่า
00:05:10 → 00:05:12 ไดเอตก่อนอะไรอย่างเงี้ยตอนเช้าไม่กินไป
00:05:12 → 00:05:14 กินเที่ยงได้มั้ยมันก็เลยทำให้พฤติกรรม
00:05:15 → 00:05:17 ที่เรากินปุ๊บอยากจะถ่ายมันหายไปช่วงเช้า
00:05:17 → 00:05:19 มันก็เลยเป็นพฤติกรรมที่อาจจะถ่ายไม่ตรง
00:05:19 → 00:05:22 ต่อเวลาอ่าอันเนี้ยก็ทำให้มีปัญหาเรื่อง
00:05:22 → 00:05:24 พฤติกรรมเนาะนะคะแล้วเป็นอะไรได้อีกเนาะ
00:05:24 → 00:05:28 ก็ต้องดูก่อนว่าบางคนน่ะปวดใช่ป่ะแต่ไม่
00:05:28 → 00:05:31 อยากเข้าห้องน้ำไงอืมเออแบบเค้าก็ปวดเฮ้ย
00:05:31 → 00:05:33 แต่ว่าต้องรีบประชุมอ่าต้องรีบนู่นนี่
00:05:33 → 00:05:36 นั่นขับรถอยู่เงี้ยพอความปวดหายไปอ่ะคำ
00:05:36 → 00:05:38 นี้อีกนานเลยกว่าจะได้ถ่ายไม่ปวดแล้ว
00:05:38 → 00:05:41 เมื่อกี้ยังปวดอยู่เลยทำไมมันกลับมามัน
00:05:41 → 00:05:43 หายไปไหนใช่มั้ใช่แล้วมันใช้เวลากว่ามัน
00:05:43 → 00:05:45 จะกลับมาหมอคะอยากรู้อ่ะค่ะสมมุติว่าเรา
00:05:45 → 00:05:48 ปวดอยู่แปลว่าสมมุติอุจจาระมาแล้วะมาแล้ว
00:05:48 → 00:05:50 พอมันหายไปก็คือมันกลับเข้าไปแล้วใช่มัน
00:05:50 → 00:05:52 เข้าไปข้างในก็คือตอนแรกมันแบบฉันจะออก
00:05:52 → 00:05:54 ไม่ให้ฉันจะออกแล้วฉันฉันอยู่ตรงประตู
00:05:54 → 00:05:57 แล้วอย่างเงี้ยแล้วคือเข้าโกปุ๊บออกเลยนะ
00:05:57 → 00:05:59 คราวนี้พอแบปุ๊บมันผ่านแบบมันรีแทคหรือ
00:06:00 → 00:06:03 ว่าย้อนกลับไปอีกว่าใช้เวลากว่าจะแบบนี้
00:06:03 → 00:06:05 ใช่มใช่กลับไปลึกเลยมันก็บอกว่าเออใช้
00:06:05 → 00:06:07 เวลาคุณจะปวดอ่ะควรเข้าไม่ใช่กั้นไว้
00:06:07 → 00:06:10 เพราะกั้นไว้มันก็ทำให้เพี้ยนเวลาไปบางที
00:06:10 → 00:06:12 ขับรถอยู่ไงคะหมอมันแบบใช่เออเพราะฉะนั้น
00:06:12 → 00:06:15 มันต้องเค้าเรียกว่ามันต้องฝึกการถ่ายให้
00:06:15 → 00:06:17 เป็นเวลาเราถึงจะแบบว่าเหมือนคล้ายๆควบ
00:06:17 → 00:06:19 คุมได้ว่าเออช่วงนี้ฉันมีเวลานะฉันจะถ่าย
00:06:19 → 00:06:21 อะไรอย่างเงี้ยมันเลยเป็นสิ่งจำเป็นแล้ว
00:06:21 → 00:06:23 ก็อะไรที่แบบว่าข้าวเช้ามันเลยควรจะกินไง
00:06:23 → 00:06:25 นะคะเพราะเพื่อจะเป็นการฝึกการขับถ่ายอีก
00:06:25 → 00:06:28 อันนึงก็คือปัจจุบันคนเราเนี่ยเดินทาง
00:06:28 → 00:06:30 เยอะแล้วเดินทางบางทีเราไม่ได้เดินทางแบบ
00:06:30 → 00:06:33 กรุงเทพฯชลบุรีใช่มยเราเดินทางกรุงเทพ
00:06:33 → 00:06:35 อเมริกาอะไรอย่างเงี้ยค่ะซึ่ง time โซนก็
00:06:35 → 00:06:37 เปลี่ยนแล้วเวลาการนอนก็เปลี่ยนทำให้ลำ
00:06:37 → 00:06:40 ไส้มันแปรปรวนเนาะก็เลยทำให้ปัญหาเรื่อง
00:06:40 → 00:06:42 การขับถ่ายได้ใช่มั้คะอันนี้อันที่ 1 อ่ะ
00:06:42 → 00:06:45 พูดมาเรื่องของการกิน 2 เรื่องพฤติกรรม 3
00:06:45 → 00:06:48 อะไรอีกอ่ะก็ต้องดูก่อนว่าร่างกายของเรา
00:06:48 → 00:06:51 ปกติมเช่นบางคนอาจจะมีภาวะไทรรอยด์ต่ำไม่
00:06:51 → 00:06:55 รู้ตัวถูกมั้คะพอไทรอยด์ต่ำก็เริ่มแบบว่า
00:06:55 → 00:06:58 เอิมถูกง่ายอ้วนง่ายอาจจะผมร่วงอย่าง
00:06:58 → 00:07:00 เงี้ยอาจจะเริ่มมีอาการซึมเศร้าใช้
00:07:00 → 00:07:02 พฤติกรรมการกินก็อาจจะเริ่มเปลี่ยนเนาะ
00:07:02 → 00:07:05 ระบบการขับถ่ายการเคลื่อนไหวต่างๆก็ช้าลง
00:07:05 → 00:07:07 ทำให้คนอาจจะท้องผูกได้ง่ายอะไรอย่าง
00:07:07 → 00:07:10 เงี้ยค่ะหรือว่าบางทีเราเป็นโรคเบาหวาน
00:07:10 → 00:07:11 ไม่รู้ตัวอะไรอย่างเงี้ยก็ทำให้การ
00:07:11 → 00:07:13 เคลื่อนไหวความลำไส้ผิดเพี้ยนได้อย่าง
00:07:13 → 00:07:16 เงี้ยก็ทำให้เราท้องผูกได้หรือเดี๋ยวนี้
00:07:16 → 00:07:19 เป็นโรคฮิตเหมือนกันก็คือโรคลำไส้แปรปวน
00:07:19 → 00:07:22 อ่าอโรคลำไส้แปรปวนเป็นโรคฮิตหรอคะหมอ
00:07:22 → 00:07:24 เป็นโรคที่คนไข้เป็นเยอะเพราะสมัยนี้เรา
00:07:24 → 00:07:32 มีความเครียดแอบแฝงเยอะอย่างเงี้ย
00:07:32 → 00:07:34 ว่า
00:07:34 → 00:07:36 เราก็ต้องดูก่อนว่าจริงๆแล้วเรามีโรคอะไร
00:07:36 → 00:07:38 แฝงเหล่านี้หรือเปล่าถ้าเราไม่มั่นใจก็
00:07:38 → 00:07:41 ควรไปพบคุณหมอเนาะเพื่อจะรู้ว่าเอ๊ะการ
00:07:41 → 00:07:43 ที่เราขับถ่ายยากอ่ะเพราะมันมีโรคเหล่า
00:07:43 → 00:07:46 นี้มยหรือบางคนอาจจะแบบว่าผ่าตัดมาไม่นาน
00:07:46 → 00:07:48 อย่างเงี้ยค่ะแล้วลำไส้มีอาการตีบเกิด
00:07:48 → 00:07:51 ขึ้นมีผังผืดเกิดขึ้นอย่างเงี้ยก็ทำให้
00:07:51 → 00:07:53 เป็นได้มันก็เลยต้องดูก่อนว่าเอ๊ะมันมี
00:07:53 → 00:07:56 ปัญหาเหล่านี้หรือเปล่าหรือบางคนอีกกรณี
00:07:56 → 00:07:59 นึงชอบกินยาอ่าหรือว่ากินอาหารเสริมใช่ม
00:07:59 → 00:08:01 เช่นผู้หญิงเราหมอบอกว่าเนี่ยส่วนใหญ่ผู้
00:08:01 → 00:08:05 หญิงชอบซีดขาดเลือดอ่ากินซพลทั้งเหล็กกิน
00:08:05 → 00:08:07 ทุกวันเลยบางคนกินเช้ากินเย็นกินเช้ากิน
00:08:07 → 00:08:10 เยอ้าถ่ายไม่ออกอือ่าอย่างเงี้ยกินธาตุ
00:08:10 → 00:08:12 เหล็กเยอะเกินไปจะทำให้ถ่ายไม่ออกได้ใช่
00:08:12 → 00:08:14 มั้ยคะใช่ค่ะหรือว่าบางคนค่อนข้าง
00:08:14 → 00:08:16 sensitive กับธาตุเหล็กก็จะทำให้การ
00:08:16 → 00:08:18 เคลื่อนไหวมันช้าลงอ่าแล้วก็ทำให้เขาถ่าย
00:08:18 → 00:08:20 ยากอะไรอย่างเงี้ยแล้วอุจจาระก็เปลี่ยนสี
00:08:20 → 00:08:22 ได้ด้วยเป็นสีดำด้วยอย่างเงี้ยค่ะหรือบาง
00:08:22 → 00:08:26 คนกินยาแก้ปวดไงอ่าใช่มั้ปวดขาคะปวดนู่น
00:08:26 → 00:08:29 ปวดนี่อ่ะกินยาแก้ปวดกลุ่มพวกโมฟีนก็ทำ
00:08:29 → 00:08:31 ให้การเคลื่อนไหวลำไส้ช้าลงอย่างเงี้ยค่ะ
00:08:31 → 00:08:33 อ๋อยาแก้ปวดสามารถทำให้เราท้องอืดได้ด้วย
00:08:34 → 00:08:36 เหรอคะท้องอืดก็ได้ท้องผูกก็ได้อ่านที่
00:08:36 → 00:08:38 เจอได้บ่อยๆก็คือคนไข้มะเร็งที่เขาปวดคา
00:08:38 → 00:08:40 ปวดกระดูกปวดอะไรอย่างเงี้ยค่ะก็เลยต้อง
00:08:40 → 00:08:42 กินยาแก้ปวดยาแก้ปวดก็เลยทำให้การขับถ่าย
00:08:43 → 00:08:45 มีปัญหาเนาะแล้วก็อีกอันนึงโรคที่ค่อน
00:08:45 → 00:08:49 ข้างฮิตก็คือพวกอะไรพวกกดไหล่ย้อนหรือว่า
00:08:49 → 00:08:51 พวกปวดท้องบอกว่ารู้สึกแสบร้อนหลังกิน
00:08:51 → 00:08:54 อาหารเราชอบกินอะไรยารสกดอ้าใช่มั้พอกิน
00:08:54 → 00:08:57 ยารสกดเสร็จเสร็จปุ๊บก็ทำให้เกิดอาการพวก
00:08:57 → 00:09:00 ท้องอืดอ่าพวกท้องผูกตามมาก็ได้โอ้โหนี่
00:09:00 → 00:09:02 มันหลายปัจจัยมากเลยนะคะเนี่ยใช่ฉะนั้น
00:09:02 → 00:09:04 อันนี้เราก็พูดง่ายๆว่าเนี่ยปัจจัยทั้ง
00:09:04 → 00:09:06 หมดเหล่าเนี้ยมันเลยทำให้เราสามารถมี
00:09:06 → 00:09:10 อาการท้องผูกได้ง่ายฉันถามว่าจะแก้ไขแค่
00:09:10 → 00:09:12 กินผลไม้ให้เยอะขึ้นดื่มน้ำให้มากขึ้นมัน
00:09:12 → 00:09:15 คงไม่พออ่าแล้วก็ต้องแก้ตั้งแต่เลยว่าการ
00:09:15 → 00:09:18 กินที่หมอบอกว่าไฟเบอร์คุณกินถึงมั้ยชา
00:09:18 → 00:09:20 กาแฟคุณกินมากเกินไปหรือเปล่าการเคลื่อน
00:09:20 → 00:09:23 ไหวคุณเคลื่อนไหวถึงมั้ยถูกมั้คะแล้วที่
00:09:23 → 00:09:25 สำคัญมันก็มีทริกเช่นเรารู้ว่าเราเป็นคน
00:09:25 → 00:09:27 ขับถ่ายยากเนี่ยอาจจะช่วยนวดลำไส้ไงตื่น
00:09:27 → 00:09:30 ขึ้นมาตอนเช้าก็นวดก่อนนวดตามอะไรต้วนตาม
00:09:30 → 00:09:33 เข็มนาฬิกาเพราะลำไส้เราอ่ะเป็นแบบนี้
00:09:33 → 00:09:35 แล้วก็นวดเนี่ยนวดตามท้องมาอย่างเงี้ยค่ะ
00:09:35 → 00:09:37 เหมือนจะทำให้ลำไส้เออวนวนตามเข็มเนาะไม่
00:09:37 → 00:09:40 ใช่ทวนเข็มทวนเข็มมันก็ย้อนกลับถูกป่ะเออ
00:09:40 → 00:09:43 ต้องตามเข็มนะคะนะคะเนาะเออแบบว่าตื่นมา
00:09:43 → 00:09:46 ตอนเช้าวนตามเข็มนาฬิกาแล้วก็ดื่มน้ำ
00:09:46 → 00:09:48 เพราะอะไรเพราะการดื่มน้ำเป็นการกระตุ้น
00:09:48 → 00:09:51 ลำไส้อเออก็จะทำให้เราเนี่ยสามารถขับถ่าย
00:09:51 → 00:09:55 ได้ง่ายขึ้นก็คือนแล้วก็โอมจง
00:09:55 → 00:09:58 ถ่ายเออนั่งสมาธิอะไรเงี้แล้วก็การที่เรา
00:09:58 → 00:10:00 ว่ามีสมาธิไม่เครียดก็ทำให้การลำไส้เนี่ย
00:10:01 → 00:10:03 เคลื่อนไหวได้ดีขึ้นอ่าฉะนั้นอันนี้ก็เลย
00:10:03 → 00:10:06 ต้องดูว่าพวกนี้เรามีปัญหาไหแก้ไขได้ถูก
00:10:06 → 00:10:08 ต้องหรือยังอันนี้เป็นทริกง่ายๆคราวนี้
00:10:08 → 00:10:10 ค่ะหมอก็อยากขอบอกทริกนิดนึงนะคะว่า
00:10:10 → 00:10:12 สมมุติว่าเอ๊ะคนไข้ถามว่าถ้าทำตามที่หมอ
00:10:12 → 00:10:15 บอกมาทุกข้อแล้วเนี่ยค่ะก็แล้วดื่มน้ำก็
00:10:15 → 00:10:17 แล้วเงี้ยออกกำลังกายก็แล้วมันยังไม่
00:10:17 → 00:10:19 เวิร์คอาจจะมีอะไรอีกมั้ยที่ช่วยกระตุ้น
00:10:19 → 00:10:21 ลำไส้ทำให้ขับถ่ายได้ดีเนาะก็จะมีเหมือน
00:10:21 → 00:10:24 กันเช่นการที่แอดนะคะจุลินทรียที่ดีเนาะ
00:10:25 → 00:10:26 หรือว่าพวกโปรไบโอติกอ่ะค่ะซึ่ง
00:10:26 → 00:10:29 โปรไบโอติกเนี่ยมันก็ได้จากธรรมชาติเนาะ
00:10:29 → 00:10:31 เช่นคุณอาจจะกินจากโยเกิร์ตคุณอาจจะกิน
00:10:31 → 00:10:34 จากพวกกิมจิก็ได้ถูกมั้ยแล้วก็มันจะมีใน
00:10:34 → 00:10:36 รูปแบบของพวกอาหารเสริมที่เป็นโปรไบโอติก
00:10:36 → 00:10:38 เป็นซองหรือเป็นเม็ดอย่างเงี้ยค่ะคราวนี้
00:10:38 → 00:10:40 ก็บอกว่าเอ๊ะโปรไบโอติกนี่มันมีหลากหลาย
00:10:40 → 00:10:42 มากเลยก็มีคนไข้บางคนถามว่าเอ๊ะทำไมบางที
00:10:43 → 00:10:44 เรากินแล้วมันเวิร์คบางคนกินแล้วไม่เห็น
00:10:44 → 00:10:47 เวิร์คเลยอย่างเงี้ยก็ต้องบอกก่อนว่าคน
00:10:47 → 00:10:49 แต่ละคนน่ะค่ะมันมีเค้าเรียกว่าอาการไม่
00:10:49 → 00:10:51 เหมือนกันอันนี้อันที่ 1 เนาะแล้วก็
00:10:51 → 00:10:53 จุลินเซียลำไส้ที่มันมีแล้วก็มันไม่
00:10:53 → 00:10:56 บาลานซอาจจะไม่เหมือนกันชั้นการกินเนี่ย
00:10:56 → 00:10:58 เราก็อาจจะต้องเลือกสายพันธุ์นิดนึงว่า
00:10:58 → 00:11:01 มันเหมาะกับตัวเรามั้ยเช่นบางคนบอกว่า
00:11:01 → 00:11:03 เอ่อมีปัญหาเรื่องท้องผูกค่ะแต่ไปซื้อ
00:11:03 → 00:11:05 โปรไบโอติกมาหมออ่านมาอ้ามันเรื่องมัน
00:11:05 → 00:11:08 เรื่องผิวนิคุณจะกินเรื่องผิวหรือคุณจะ
00:11:08 → 00:11:10 กินเรื่องลำไส้ไงถูกมั้มันเพราะว่าแต่ละ
00:11:11 → 00:11:13 มันจะเป็นสายพันธุ์ถูกมั้คะแต่ละสาย
00:11:13 → 00:11:14 พันธุ์ก็ช่วยแต่ละเรื่องที่ไม่เหมือนกัน
00:11:14 → 00:11:16 ไม่เหมือนกันหรือบางคนอย่างเงี้ยกินเพื่อ
00:11:16 → 00:11:18 อะไรเพื่อภูมิคุ้มกันเพราะรู้สึกว่าเออ
00:11:18 → 00:11:21 ฉันติดเชื้อง่ายจังเลยไม่สบายบ่อยอย่าง
00:11:21 → 00:11:23 เงี้ยก็อยากกินโพรติที่ช่วยภูมิคุ้มงาน
00:11:23 → 00:11:25 แต่อย่างเงี้เราบอกว่าแต่ว่าเบอกว่าเอ๊
00:11:25 → 00:11:26 กินแล้วนอนไม่เห็นหลับเลยอะไรอย่างเงี้ย
00:11:26 → 00:11:29 แล้วก็อ้ามันก็ไม่ใช่ไงเพราะว่าสาเหตุที่
00:11:29 → 00:11:32 คนอยากจะกินเพราะอันนี้เราก็ต้องอาจจะมา
00:11:32 → 00:11:34 ศึกษาสายพันธุ์นิดนึงอย่างเงี้ยค่ะว่าสาย
00:11:34 → 00:11:37 พันธุ์ที่เรากินเหมาะกับตัวเรามถูกมั้คะ
00:11:37 → 00:11:39 เนาะอันนี้ก็คืออันที่ 1 แล้วก็เสร็จแล้ว
00:11:39 → 00:11:41 เนี่ยนอกจากสายพันธุ์เราเนี่ยก็ต้องมาดู
00:11:41 → 00:11:44 ก่อนว่าที่เรากินเนี่ยมันได้มีการวิจัย
00:11:44 → 00:11:46 เนาะมีงานรับรองตามนั้นด้วยหรือเปล่าถูก
00:11:46 → 00:11:48 มั้คะเพราะว่าปัจจุบันเนี้ยมีงานวิจัย
00:11:48 → 00:11:51 เยอะแยะมากมายเลยกับสายพันธุ์ต่างๆแต่วัน
00:11:51 → 00:11:53 เนี้หมอก็อาจจะขอยกตัวอย่าง 2 3 สาย
00:11:53 → 00:11:56 พันธุ์เนาะที่แบบว่าได้รับการรับรองนะคะ
00:11:56 → 00:11:58 ในเมืองไทยด้วยเนาะเช่นนะคะยกตัวอย่างนิด
00:11:58 → 00:12:01 นึงก็การสายพันธุ์แรกก็ชื่อ BB 12 นะคะ
00:12:01 → 00:12:03 หรือBฟid Bacerium Lactis เนาะอันเนี้ย
00:12:03 → 00:12:06 จะเก่งเรื่องท้องผูกช่วยการขับถ่ายเลยนะ
00:12:06 → 00:12:08 คะเพราะว่าอะไรเพราะว่าสายพันธุ์เนี้ยค่ะ
00:12:08 → 00:12:10 ที่เราสังเกตก็คือจะทำให้การเคลื่อนไหว
00:12:10 → 00:12:13 ของลำไส้ดีขึ้นเร็วขึ้นนะคะแล้วก็ทำให้
00:12:13 → 00:12:16 การฟอร์มนะคะของอุจจาระมันเป็นก้อนสวยมาก
00:12:16 → 00:12:19 ขึ้นเออก็เลยทำให้คนไข้ไม่อันเนี้ยทั้ง
00:12:19 → 00:12:23 เด็กและผู้ใหญ่นะนะคะทำให้สามารถทานขับ
00:12:23 → 00:12:25 ถ่ายมันสมูทมากขึ้นอ๋อก็คือทานได้ทั้ง
00:12:25 → 00:12:26 เด็กทั้งผู้ใหญ่เลยทั้งผู้ใหญ่เลยเมีงาน
00:12:26 → 00:12:29 วิจัยตั้งแต่แบบเด็กทาโลกจนผู้ใหญ่โตเลย
00:12:29 → 00:12:31 เงี้ยค่ะก็สามารถทำให้การเคลื่อนไหวของลำ
00:12:31 → 00:12:33 ไส้มันดีขึ้นเนาะเช่นสมมุติว่าอาทิตย์นึง
00:12:34 → 00:12:36 อ่ะอาจจะขับถ่ายได้แค่ครั้ง 2 ครั้งพอกิน
00:12:36 → 00:12:38 เข้าไปแล้วปึ๊บเนี่ยค่ะก็อาจจะทำให้ขับ
00:12:38 → 00:12:40 ถ่ายได้แบบอาทิตย์นึง 4-5 ครั้งก็ช่วยได้
00:12:40 → 00:12:43 เกือบเท่าตัวเนาะนะคะอันนี้ก็ถือว่าค่อน
00:12:43 → 00:12:45 ข้างโอเคมากเนาะแล้วก็สายพันธุ์ที่ 2 นะ
00:12:45 → 00:12:49 คะก็คือว่า LGG นะคะหรือว่าแลกซิลัสlมนซั
00:12:49 → 00:12:52 นะคะซึ่งอันเนี้ค่ะมันมีตัวพิลที่ยึดเกาะ
00:12:52 → 00:12:55 ลำไส้ที่ดีเนาะคราวนี้คำว่าพิลเนี่ยหมาย
00:12:55 → 00:12:57 ถึงอะไรนะคะหมายถึงว่าปกติแล้วแบคทีเรีย
00:12:57 → 00:12:59 เนี่ยมันก็จะเป็นรูปร่างกลมๆอย่างนี้ใช่ม
00:13:00 → 00:13:02 คราวนี้แบคทีเรียบางตัวมันมีหนวดอ่าบาง
00:13:02 → 00:13:05 ตัวมีคล้ายๆขนอะไรอย่างเงี้ยออกมาซึ่งตัว
00:13:05 → 00:13:08 เนี้ยพิเศษมากๆเลยมันมีขนออกมาอ่าขนเต็ม
00:13:08 → 00:13:11 ตัวเลยเนาะก็คือเกาะเกาะได้เนาะยึดตาม
00:13:11 → 00:13:13 ผนังลำไส้ได้ดีเลยพอมันยึดได้เนี่ยก็แปล
00:13:13 → 00:13:16 ว่าอะไรมันก็ทำให้เกิดการอักเสบในลำไส้
00:13:16 → 00:13:19 ได้ลดลงนะคะพออักเสบในลำไส้ลดลงเนี่ยก็ทำ
00:13:19 → 00:13:23 ให้อาการต่างๆเช่นพวกลำไส้แปรปวนนะคะท้อง
00:13:23 → 00:13:25 ผูกท้องเสียเนี่ยดีขึ้นเพราะว่าอะไรเพราะ
00:13:25 → 00:13:28 ว่าในลำไส้เราเนี่ยค่ะมีพวกเขาเรียกว่า
00:13:28 → 00:13:31 อ่าน้ำเหลืองเนาะอยู่ในลำไส้เยอะมากๆนะคะ
00:13:31 → 00:13:34 ประมาณแบบ 6-70% อยู่ในลำไส้เลยฉะนั้นถ้า
00:13:34 → 00:13:37 คุณมีลำไส้ที่ไม่ดีภูมิคุณก็จะไม่ดีอ่า
00:13:37 → 00:13:40 ถูกมยแต่ถ้าลำไส้การอักเสบคุณดีขึ้นภูมิ
00:13:40 → 00:13:42 คุ้มกันใดรวมคุณก็จะดีขึ้นนะคะฉะนั้นตัว
00:13:42 → 00:13:44 LG เนี่ยจะเป็นตัวที่เน้นเรื่องภูมิคุ้ม
00:13:44 → 00:13:48 กันมากๆนะคะแต่ไม่ใช่แค่ภูมิคุ้มกันนะเขา
00:13:48 → 00:13:50 ก็มีงานวิจัยเพิ่มเติมว่าจริงๆแล้วตัว
00:13:50 → 00:13:53 เนี้เนี่ยนอกจากลำไส้คุณดีแล้วมันก็ทำให้
00:13:53 → 00:13:56 การนะคะสร้างสารสื่อประสาทสมองดีขึ้นด้วย
00:13:56 → 00:13:58 ก็ยังสามารถช่วยเรียกว่ากัด brain assis
00:13:58 → 00:14:00 เนาะก็หมายถึงว่าอะไรลำไส้คุณดีอารมณ์คุณ
00:14:00 → 00:14:04 ก็ดีอ่าstrสนะคะความเครียดก็ลดลงบอกแล้ว
00:14:04 → 00:14:06 ว่าความเครียดเนี่ยเป็นหนึ่งในปัจจัยทำ
00:14:06 → 00:14:08 ให้อาจจะเป็นปัญหาเรื่องท้องผูกท้องเสีย
00:14:08 → 00:14:10 ใช่มเพราะเพราะลำไส้แปรปรวนฉะนั้น
00:14:10 → 00:14:13 อันเนี้ยก็เลยสามารถช่วยได้แล้วก็อันเนี้
00:14:13 → 00:14:14 ค่ะยังเป็นจุลินทรีย์ที่มาจากธรรมชาติ
00:14:14 → 00:14:17 ด้วยนะคะแล้วก็ตัวอย่างที่ 3 นะคะขอเรียก
00:14:17 → 00:14:20 ว่าซียง่ายๆะกันนะคะเนาะซึ่งตัวเนี้ยค่ะ
00:14:20 → 00:14:23 อ่าเมืองไทยอ่ะอาจจะยังไม่ได้เอาเข้ามานะ
00:14:23 → 00:14:25 คะแต่การวิจัยเนี้ยส่วนใหญ่อันเนี้ยค่อน
00:14:25 → 00:14:28 ข้างดังมากเลยเพราะเขาพบว่าถ้าเรานะขาด
00:14:28 → 00:14:30 จุลินทรีย์ตัวนี้นะคะจะให้คุณมีโอกาสอ้วน
00:14:30 → 00:14:33 ได้ง่ายมากอุ๊ยจริงๆนะอันเนี้ยอันเนี้คือ
00:14:33 → 00:14:37 แบบเป็นอะไรที่ตัวอคมนเซียม
00:14:37 → 00:14:40 แต่ละชื่อนี่อลังการมากเลยอลังการมากใช่
00:14:40 → 00:14:42 ฉะนั้นตัวเนี้ยค่ะก็เลยเป็นฮิตฮอตว่าเอ๊ะ
00:14:42 → 00:14:44 ถ้าคุณขาดจุลินทรีย์ตัวเนี้ยจะทำให้เรา
00:14:44 → 00:14:47 อ้วนก็ง่ายเป็นไขมันพอกตับก็ง่ายเป็นเบา
00:14:47 → 00:14:49 หวานก็ง่ายคอเลสเตอรอลสูงก็ง่ายทำให้เรา
00:14:49 → 00:14:51 คิดว่าเอ๊ะแปลว่าถ้าเราจะมีจุลินทรีย์ที่
00:14:52 → 00:14:54 ดีต้องเติมตัวนี้เข้าไปอย่างเงี้ยอันนี้
00:14:54 → 00:14:57 ก็จะเป็นทริกบอกว่าเออในการที่เราจะเลือก
00:14:57 → 00:14:59 สายพันธุ์คนจะเลือกสายพันธุ์ให้เหมาะกับ
00:14:59 → 00:15:01 ตัวเราถูกมั้คะแต่ไม่ใช่แค่สายพันธุ์นะ
00:15:01 → 00:15:04 เจนมีมากกว่านั้นอีกบางคนบอกว่าหมอคะสาย
00:15:04 → 00:15:08 พันธุ์ก็ซื้อถูกนะคะมากินแล้วมันอืดๆอือื
00:15:08 → 00:15:10 เพราะว่าอะไรเพราะมันไม่ใช่แค่สายพันธุ์
00:15:10 → 00:15:13 ไงมันต้องดูที่ปริมาณนะคะหรือว่าความเข้ม
00:15:13 → 00:15:16 ข้นของเชื้อที่เรากินด้วยเพราะว่าอะไร
00:15:16 → 00:15:18 เพราะว่าบางทีอ่ะค่ะเวลาเราซื้อเนี่ยเรา
00:15:18 → 00:15:22 อาจจะลืมอ่านเนาะข้างฉลากว่ามันมี CFU นะ
00:15:22 → 00:15:25 คะ C C Cfu ก็หมายถึงว่าความเข้มข้นของ
00:15:25 → 00:15:27 ตัวแบคทีเรียว่ามีมากน้อยแค่ไหนอ๋อก็คือ
00:15:27 → 00:15:28 เหมือนแบบว่าใน 1 เม็ดใน 1 ซองเนี่ยมัน
00:15:28 → 00:15:32 เข้มข้นมากหรือน้อยใช่นะคะถ้าเข้มข้นมาก
00:15:32 → 00:15:35 เกินไปก็อาจจะทำให้น้องอื่นได้หรอค่ะใช่
00:15:35 → 00:15:37 เพราะว่า CFU หมายถึงว่า Colony forming
00:15:37 → 00:15:39 unit นะคะซึ่งตัวเนี้ยถ้าสมมุติว่าเรามี
00:15:39 → 00:15:42 ปัญหาเยอะแปลว่าตอนที่เราเริ่มกินน่ะเรา
00:15:42 → 00:15:43 อาจจะต้องเริ่มกินโปรไบโอติกที่มีเชื้อ
00:15:43 → 00:15:46 น้อยๆก่อนเพื่อให้ร่างกายมีความคุ้นเคย
00:15:46 → 00:15:48 ค่อยๆระดับค่อยๆระดับขึ้นไปอาจจะกินแบบ 1
00:15:48 → 00:15:51 CF 1 เเรียก 1 บิลเลี่น CFU ถึง 5
00:15:51 → 00:15:54 บิลเลี่น CFU เนี่ยค่อยๆไต่ระดับก่อนผ่าน
00:15:54 → 00:15:57 ไปสัก 2-3 อาทิตย์อ่ะค่อยๆเพิ่มโดสอยู่
00:15:57 → 00:15:59 แต่บางคนเราคิดว่าอุยยิ่งแพงยิ่งดียิ่ง
00:15:59 → 00:16:01 เยอะยิ่งใช่อะไรอย่างเงี้ยมันกินเข้าไป
00:16:01 → 00:16:03 ปุ๊บมันก็เลยเกิดอาการเลยอือๆเออใช่แล้ว
00:16:04 → 00:16:06 ก็ต้องเลือกก่อนว่าที่เราซื้อมาเหมาะมถูก
00:16:07 → 00:16:09 มั้ย 1 สตนเหมาะมั้ 2 ความเข้มข้นเหมาะ
00:16:09 → 00:16:12 มั้ย 3 เวลากินเหมาะหรือเปล่าเช่นเพราะ
00:16:12 → 00:16:14 ว่าอะไรเพราะบางทีบอกว่าเอ้าซื้อมาฉันจะ
00:16:14 → 00:16:16 กินเวลาไหนก็ได้ถูกมั้ยมันก็ไม่ใช่ไง
00:16:16 → 00:16:19 เพราะว่าบางทีการกินน่ะค่ะในเริ่มต้นอาจ
00:16:19 → 00:16:21 จะต้องกินพร้อมอาหารก่อนมั้ยเพราะว่าการ
00:16:21 → 00:16:23 ที่เรากินอาหารเนี่ยมันอาจจะทำให้มีเา
00:16:23 → 00:16:26 เรียกว่าเป็นพรีไบโอติกเนาะอาหารของ
00:16:26 → 00:16:28 จุลินทรีย์ที่ดีอย่างเงี้ยค่ะก็ทำให้
00:16:28 → 00:16:30 โปรไบโอติกเนี่ยทำงานได้มากยิ่งขึ้นนะคะ
00:16:31 → 00:16:33 หรือบางสูตรเนี่ยเขาผสมมาทั้ง 2 อันแล้ว
00:16:33 → 00:16:35 เราไม่จำเป็นจะต้องกินพร้อมอาหารก็ได้อ่า
00:16:35 → 00:16:37 ชั้นเราก็อาจจะต้องเลือกพวกนี้นิดนึงว่า
00:16:37 → 00:16:39 อ่าอาหารเสริมที่เราซื้อมามันเหมาะกับตัว
00:16:40 → 00:16:42 เรามั้ยงั้นก็ง่ายๆเลย 1 เราต้องทำความ
00:16:42 → 00:16:43 เข้าใจของสายพันธุ์ก่อนว่าสายพันธุ์เนี้ย
00:16:44 → 00:16:45 โอเคเหมาะกับปัญหาของเรามั้ยอันที่ 2 ก็
00:16:45 → 00:16:48 คือฤดูปริมาณก็คือ CFU ใช่มั้คะโดยที่คุณ
00:16:48 → 00:16:51 หมอคิดว่าถ้าเป็นเราคงยากแล้วเนาะว่าแต่
00:16:51 → 00:16:53 ละคนต้องกินเท่าไหร่อันนี้มันอาจจะ
00:16:53 → 00:16:55 ละเอียดเกินไปแต่ว่าถ้าเป็นอย่างน้อยเป็น
00:16:56 → 00:16:58 คำเตือนที่สามารถใช้ได้กับทุกคนก็คืออาจ
00:16:58 → 00:17:01 จะเริ่มที่น้อยๆก่อนแล้วก็ให้ไล่ระดับไป
00:17:01 → 00:17:04 ถ้าสมมุติว่าอาจจะครึ่งซองหรือครึ่งเม็ด
00:17:04 → 00:17:07 ก็ได้อะไรอย่างเงี้นะคะก็ระดับไปเนาะแล้ว
00:17:07 → 00:17:09 อันที่ 3 ก็คืออย่าลืมดูข้างฉลากว่าเขา
00:17:09 → 00:17:11 แนะนำให้อาจจะทานก่อนอาหารพร้อมอาหารหรือ
00:17:11 → 00:17:13 หลังอาหารมันจะได้เวิร์คเนาะบางทีเราอาจ
00:17:14 → 00:17:17 จะแบบเลิกทานโดยที่ไม่ไม่ได้ศึกษาก็อาจจะ
00:17:17 → 00:17:20 ทำให้เกิดผลเสียแทนที่จะได้ผลดีใช่แล้วก็
00:17:20 → 00:17:22 อีกอันนึงที่เา้ามีงานวิจัยเพิ่มเติมเนาะ
00:17:22 → 00:17:25 เดี๋ยวนี้เขาจะมีการผสมนะคะเหมือนกับว่า
00:17:25 → 00:17:27 สายพันธุ์ A บวกสายพันธุ์ B อ่ะช่วยอัน
00:17:27 → 00:17:30 นี้ได้เพิ่มเติมก็สามารถศึกษาเพิ่มเติม
00:17:30 → 00:17:32 ได้เหมือนกันนะคะเช่น BB 12 หรือ LG
00:17:32 → 00:17:34 เนี่ยคู่กันก็ได้อย่างเงี้ยค่ะเพื่อจะทำ
00:17:34 → 00:17:37 ให้เนาะได้ทั้งภูมิต้านทานด้วยได้ทั้งการ
00:17:37 → 00:17:39 ขับถ่ายที่ดีด้วยอย่างเงี้ยค่ะหรือบางที
00:17:39 → 00:17:41 เนี่ยเขาอาจจะผสมสูตรอื่นเช่นทำให้เรานอน
00:17:41 → 00:17:43 หลับได้ดีด้วยก็ได้อะไรอย่างเงี้ยฉะนั้น
00:17:43 → 00:17:45 เราก็เลือกนิดนึงละกันนะคะแล้วก็ศึกษา
00:17:45 → 00:17:47 เพิ่มเติมก็แปลว่าอาจจะกินแบบเดี่ยวกิน
00:17:47 → 00:17:49 แบบคู่กินแบบกลุ่มอะไรก็ได้อาจจะต้องดู
00:17:49 → 00:17:52 ที่ว่าอันไหนเหมาะกับเราใช่แล้วก็สังเกต
00:17:52 → 00:17:54 ด้วยว่าฉันมีอาการผิดปกติมั้ยท้องผูกมาก
00:17:54 → 00:17:57 ขึ้นมั้ยอืดมากขึ้นมั้ยหรือเสียเพิ่มขึ้น
00:17:57 → 00:17:59 มั้อย่างเงี้ยค่ะอืค่ะฉะนั้นในเคสนี้
00:17:59 → 00:18:01 เนี่ยจริงๆก็
00:18:02 → 00:18:05 เชื่อว่าหลายๆคนคิดเหมือนเขาว่าฉันกินผัก
00:18:05 → 00:18:07 กินผลไม้กินน้ำมันก็แค่ควรจะเพียงพอแล้ว
00:18:07 → 00:18:09 แต่อย่างคุณหมอบอกว่าจริงๆแล้วมันมีหลาย
00:18:09 → 00:18:12 ปัจจัยมากเลยแล้วผักผลไม้ที่คุณบอกว่าคุณ
00:18:12 → 00:18:15 กินเยอะอ่ะคุณเลือกกินแบบไหนอเป็นผลไม้
00:18:15 → 00:18:17 น้ำตาลสูงหรือเปล่าเนาแล้วก็อีกอันนึง
00:18:17 → 00:18:19 อย่างที่คุณหมอบอกก็คือว่าไลฟ์สไตล์เนาะ
00:18:19 → 00:18:21 สมมุติถ้ากินเยอะแต่คุณอยู่นิ่งๆลำไส้ไม่
00:18:21 → 00:18:24 เขยิบแล้วคุณจะถ่ายได้ยังไงถูกมั้คะแล้ว
00:18:24 → 00:18:27 ก็เอ่อรูการสร้างรูทีนเนาะอย่างเช่นบางคน
00:18:27 → 00:18:29 อาจจะฟสติ้งหรืออาจจะอยากผอมแล้วพอบางที
00:18:29 → 00:18:31 เราไม่ได้ทานอาหารเช้าหรืออะไรอย่างเงี้ย
00:18:31 → 00:18:34 มันก็อาจจะยิ่งทำให้เราขับถ่ายยากไปอีกก็
00:18:34 → 00:18:36 อาจจะลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเหล่านี้หรือ
00:18:36 → 00:18:38 ว่าลองเอ่อเสริมด้วยโพบติกอย่างที่คุณหมอ
00:18:38 → 00:18:41 ได้แนะนำไปก็น่าจะดีขึ้นแต่ถ้ายังไม่ได้
00:18:41 → 00:18:44 ดีขึ้นจริงๆก็ถึงเวลาต้องพบแพทย์ใช่ค่ะ
00:18:44 → 00:18:46 เพราะว่าเผื่อจะต้องหาสาเหตุเนาะอย่างที่
00:18:46 → 00:18:48 หมอบอกอาจจะเป็นไทรอยด์แฝงมยอะไรนะคะ
00:18:48 → 00:18:50 ไทรอยด์ต่ำเนาะหรือว่าอาจจะเป็นโรคเบา
00:18:50 → 00:18:52 หวานมอย่างเงี้ยค่ะเพราะว่าถ้ามันแก้ไข
00:18:52 → 00:18:54 โดยธรรมดาไม่ได้อย่างเงี้ยสมมุติว่าเรา
00:18:54 → 00:18:56 ให้เวลาไปปรับเปลี่ยนสัก 1 เดือนแล้วไม่
00:18:56 → 00:18:58 ดีขึ้นอย่างเงี้ยหมอคิดว่าควรพบแพทย์ดี
00:18:58 → 00:19:01 กว่าค่ะอค่ะเคยเป็นมั้คะกินผักผลไม้ดื่ม
00:19:01 → 00:19:04 น้ำเยอะแล้วแต่ก็ยังขับถ่ายยากอยู่ดีหลาย
00:19:04 → 00:19:06 คนอาจจะยังไม่รู้ว่ามันไม่ได้ขึ้นอยู่กับ
00:19:06 → 00:19:09 อาหารหรือพฤติกรรมของเราเท่านั้นแต่ขึ้น
00:19:09 → 00:19:11 อยู่กับจุลินทรีย์ที่อาจจะไม่สมดุลในลำ
00:19:11 → 00:19:15 ไส้ฉะนั้นถ้าอยากให้การทำงานของลำไส้ดี
00:19:15 → 00:19:16 ขึ้นเนี่ยง่ายๆเลยค่ะเพียงจึงเสริม
00:19:17 → 00:19:19 จุลินทรีย์ที่ดีซึ่งก็คือโปรไบโอติกและ
00:19:19 → 00:19:22 โปรไบโอติกเนี่ยมีมากมายในตลาดเราจะเลือก
00:19:22 → 00:19:25 ยังไงดีล่ะคะวันนี้เจเลยอยากจะแนะนำ
00:19:25 → 00:19:28 สปอนเซอร์ของเราค่ะอย่างProโilc Duo
00:19:28 → 00:19:31 Proบoticที่ใช้ 2 สายพันธุ์ที่มีงานวิจัย
00:19:31 → 00:19:34 ในมนุษย์รองรับมากที่สุดอย่างlactobาซิัส
00:19:34 → 00:19:38 ramnos GG หรือ LG ที่เก่งเรื่องเสริม
00:19:38 → 00:19:42 สร้างภูมิคุ้มกันยึดเกาะผนังลำไส้ได้ดีลด
00:19:42 → 00:19:45 การอักเสบและป้องกันอาการท้องเสียด้วยค่ะ
00:19:45 → 00:19:48 และบิฟidacียหรือ BB12 ที่ช่วยให้อุจจาระ
00:19:48 → 00:19:51 นิ่มขับถ่ายได้ง่ายขึ้นและเพิ่มความถี่ใน
00:19:51 → 00:19:54 การขับถ่ายได้จริงค่ะพอ 2 สายพันธุ์นี้มา
00:19:54 → 00:19:57 รวมกันจะทำให้ระบบขับถ่ายสมดุลขึ้นช่วย
00:19:57 → 00:20:01 ได้ทั้งลดอาการท้องผูกท้องเสียและลดความ
00:20:01 → 00:20:03 เสี่ยงการติดเชื้อในทางเดินอาหารด้วยค่ะ
00:20:03 → 00:20:06 เพราะอย่าลืมนะคะลำไส้ไม่ใช่แค่เรื่องของ
00:20:06 → 00:20:09 อุจสาระแต่เป็นเรื่องของระบบภูมิคุ้มกัน
00:20:09 → 00:20:11 ฮอร์โมนความเครียดแล้วก็เรื่องการนอนหลับ
00:20:11 → 00:20:14 ด้วยค่ะถ้ารู้ตัวว่ายังไม่บาanceซลองหา
00:20:14 → 00:20:17 โปรไบโอติกดีๆอย่าง Probilct Duo
00:20:17 → 00:20:20 Proบoicมาช่วยดูแลลำไส้ให้ทำงานได้ดีขึ้น
00:20:20 → 00:20:23 นะคะที่สำคัญไม่มีส่วนประกอบของสารที่ทำ
00:20:23 → 00:20:26 ให้เกิดการแพ้ไม่ว่าจะเป็นนมไข่ปลาอาหาร
00:20:26 → 00:20:29 ทะเลพลูเทนแป้งสาลีถั่วเหลืองหรือถั่ว
00:20:29 → 00:20:32 ลิสง์ค่ะ
00:20:32 → 00:20:35 สำหรับใครที่สนใจนะคะสามารถหาซื้อได้ตาม
00:20:35 → 00:20:37 ร้านขายยาทั่วไปหรือseสิรช Dutchm
00:20:37 → 00:20:40 Delivery ได้ในเว็บไซต์หรือ Dutchmil
00:20:40 → 00:20:43 Probilac ตามช่องทางออนไลน์ได้ทั่วไปเลย
00:20:43 → 00:20:46 ค่ะคำถามต่อไปคือตรงข้ามกับเคสแรกเลยค่ะ
00:20:46 → 00:20:49 เป็นคนกินแล้วขับถ่ายง่ายมากกินปุ๊บถ่าย
00:20:49 → 00:20:51 ปั๊บหลายครั้งที่ไปกินข้าวกับเพื่อนก็จะ
00:20:51 → 00:20:53 เป็นคนเดียวที่ท้องเสียทั้งที่กินเหมือน
00:20:53 → 00:20:57 กันเป๊ะเลยค่ะอันเนี้ยคือระบบขับถ่ายดี
00:20:57 → 00:21:00 หรือว่าเราเสี่ยงเป็นโรคกันแน่คะแล้วมี
00:21:00 → 00:21:02 วิธีไหนช่วยได้มั้คะเพราะบางทีก็รู้สึก
00:21:02 → 00:21:05 ว่าใช้ชีวิตประจำวันลำบากมากเลยค่ะโดย
00:21:06 → 00:21:08 เฉพาะเวลาต้องเดินทางต้องดูก่อนว่ากิน
00:21:08 → 00:21:11 ปึ๊บถ่ายปั๊บเนี่ยแล้วถ่ายถ่ายปกติมั้ย
00:21:11 → 00:21:13 หรือถ่ายเสียก่อนเนาะอันนี้อันที่ 1 ก็
00:21:13 → 00:21:15 เลยอยากจะบอกว่าการที่เรากินปุ๊บอ่ะค่ะ
00:21:15 → 00:21:17 แล้วก็รู้สึกปวดอยากจะถ่ายนะจริงๆเป็น
00:21:17 → 00:21:19 เรื่องปกติเนาะคำนิยามอันเนี้ยค่ะเรา
00:21:19 → 00:21:22 เรียกว่าแกสroนะคะหรือกระเพาะคonicคือลำ
00:21:22 → 00:21:25 ไส้รีฟก็คือบอกว่าการrespอนะคะหรือการตอบ
00:21:25 → 00:21:28 สนองกับการกินเพราะว่าอะไรพอเรากินน้ำนะ
00:21:28 → 00:21:30 คะหรือกินอาหารเข้าไปปุ๊บเนี่ยกระเพาะเรา
00:21:30 → 00:21:33 จะมีการขยายถูกป่ะพอมันขยายปุ๊บมันก็จะ
00:21:33 → 00:21:35 ส่งสัญญาณไปที่ลำไส้ให้มีการเคลื่อนไหวพอ
00:21:35 → 00:21:37 เคลื่อนไหวเสร็จปุ๊บเนี่ยทางลำไส้ใหญ่ก็
00:21:37 → 00:21:39 บอกว่าของเก่าเธอต้องออกไปนะเพราะฉันต้อง
00:21:39 → 00:21:41 รับของใหม่เข้ามาแล้วฉันมันเป็นเรื่อง
00:21:41 → 00:21:44 ปกติมากที่คุณกินแล้วคุณจะรู้สึกอยากจะไป
00:21:44 → 00:21:47 ถ่ายแต่มันต้องเป็นแบบแค่รู้สึกอยาก
00:21:47 → 00:21:49 จะถ่ายแล้วก็เข้าห้องน้ำธรรมดาไงเช่นกิน
00:21:49 → 00:21:52 ปุ๊บอ่ะค่ะอาจจะเป็น 15 นาทีถึง 90 นาที
00:21:52 → 00:21:54 เริ่มอยากเข้าห้องน้ำแต่การถ่ายคนจะถ่าย
00:21:54 → 00:21:56 เป็นลักษณะปกติเช่นเป็นลักษณะคล้ายๆกล้วย
00:21:56 → 00:21:59 หอมเนาะไม่ได้แข็งไปไม่ได้นิ่มไปไม่ได้
00:21:59 → 00:22:01 แบบท้องเสียแล้วก็ไม่รู้สึกว่ามวลท้องปวด
00:22:01 → 00:22:05 ท้องอันเนี้ยเรียกว่าปกติออือแต่ถ้า
00:22:05 → 00:22:07 สมมุติว่ากินปึ๊บต้องแบบว่าโหรู้สึกมวล
00:22:07 → 00:22:09 ท้องแก๊สเยอะจังเลยต้องรีบเข้าห้องน้ำอัน
00:22:09 → 00:22:11 นี้เรียกว่าไม่ปกตินะคะเพราะว่าอะไรเพราะ
00:22:12 → 00:22:14 ว่าอันนั้นน่ะอาจจะมีสาเหตุอื่นแอบแฝงได้
00:22:14 → 00:22:17 เนาะเช่นว่าปึ๊บเนี่ยถ้าเรากินเข้าไปปุ๊บ
00:22:17 → 00:22:18 อ่ะค่ะแล้วก็ถ่ายปุ๊บเนี่ยอาจจะเป็นเค้า
00:22:18 → 00:22:21 เรียกว่าโรคลำไส้แปรปวนเนาะกินปุ๊บนี่
00:22:21 → 00:22:23 ต้องเข้าห้องน้ำทันทีถูกมั้คะกินปุ๊บแล้ว
00:22:23 → 00:22:24 เข้าห้องน้ำทันทีอย่างที่คุณหมอบอกว่าถ้า
00:22:24 → 00:22:26 กินปุ๊บแล้วเข้าห้องน้ำเนี่ยสมมุติกินไป
00:22:27 → 00:22:30 15 นาทีถึง 90 นาทีอันเนี้ยยังถือว่าน่า
00:22:30 → 00:22:32 จะปกติแต่ก็อย่าลืมว่าเราต้องหันไปมอง
00:22:32 → 00:22:35 ก่อนว่าปกติสิ่งที่ออกมามันดูปกติมั้ใช่
00:22:35 → 00:22:38 มั้คะแต่ถ้าสมมุติกินปุ๊บ 5 นาที 10 นาที
00:22:38 → 00:22:40 ไปแล้วอันเนี้ยอันนี้น่าจะเริ่มไม่ใช่
00:22:40 → 00:22:42 แล้วน่าจะเริ่มเอ้ยอะไรผิดปกติมั้ยนะคะ
00:22:42 → 00:22:45 โดยเฉพาะอาหารการกินที่เราอาจจะเริ่มแบบ
00:22:45 → 00:22:47 ว่าสังเกตได้ว่ามันเป็นอะไรที่แบบซ้ำๆ
00:22:47 → 00:22:49 เช่นกินนมปุ๊บแบบอุยไม่ได้แล้วฉันต้องรีบ
00:22:49 → 00:22:51 เข้าห้องน้ำแล้วกินอาหารทะเลกินกุ้งทีไร
00:22:51 → 00:22:53 เข้าห้องน้ำทันทีอย่างเงี้ยแปลว่าคุณอาจ
00:22:53 → 00:22:56 จะแพ้สิ่งนั้นหรือเปล่านะคะหรือว่าคนส่วน
00:22:56 → 00:22:57 ใหญ่โดยเฉพาะคนเอเชียเนี่ยไม่มีเขาเรียก
00:22:57 → 00:22:59 ว่าเอนไซม์ในการย่อยนมเนาะหรือว่าตัว
00:22:59 → 00:23:02 แลคเตสนะคะทำให้เรามีปัญหาเรื่องการย่อย
00:23:02 → 00:23:05 น้ำตาลแลกโตสก็เลยพอเรากินนมเข้าไป
00:23:05 → 00:23:07 ปึ๊บเนี่ยมันอืดใช่มยอืดแล้วเฟิร์นแล้วก็
00:23:07 → 00:23:09 ลำไส้ยิ่งเคลื่อนไหวเร็วๆก็เลยทำให้เข้า
00:23:09 → 00:23:10 ห้องน้ำแล้วส่วนใหญ่ถ่ายออกมาจะเป็นรูป
00:23:10 → 00:23:13 แบบเหลวๆด้วยเสียด้วยอย่างเงี้ยค่ะอันนี้
00:23:13 → 00:23:15 ก็เรียกก็ไม่ปกติแล้วนะคะหรือว่าจะเป็นใน
00:23:15 → 00:23:18 กลุ่มที่เขาเรียกว่าเราว่าโรคลำไส้แปรปวน
00:23:18 → 00:23:20 เนี้ยกินปุ๊บอาจจะแบบนี่เครียดด้วยอะไร
00:23:20 → 00:23:21 ด้วยใช่มั้ก็ต้องรีบเข้าห้องน้ำอย่าง
00:23:21 → 00:23:24 เงี้ยค่ะอันนี้เราก็เรียกว่าไม่ปกติละ
00:23:24 → 00:23:26 คราวนี้ก็เลยต้องดูก่อนว่าเอ๊ะถ้าเราไม่
00:23:26 → 00:23:29 ปกติเนี่ยอาการมันเป็นยังไงนะคะ 1 อย่าง
00:23:29 → 00:23:31 ที่บอกก็คือเวลาสั้นๆใช่มั้คะกินปุ๊บถ่าย
00:23:31 → 00:23:33 ออกเลยนะคะเร็วกว่า 15 นาทีอย่างเงี้ย
00:23:33 → 00:23:36 หรือ 2 กินปุ๊บแล้วเนี่ยรู้สึกว่าท้องอืด
00:23:36 → 00:23:38 ท้องเฟ้อและมวลท้องมวลท้องนี่เป็นคีย์
00:23:38 → 00:23:40 สำคัญมากๆเนาะเพราะจริงๆแล้วคุณควรจะรู้
00:23:40 → 00:23:44 สึกแค่อยากถ่ายแต่ไม่มวลไงอถ้ามวที่ไม่
00:23:44 → 00:23:48 ใช่อนะคะ 3 ปุ๊บถ่ายเนี่ยมันเหลวหรือว่า
00:23:48 → 00:23:51 มันมีเลือดเพราะว่าบางคนอาจจะมีปัญหา
00:23:51 → 00:23:54 เรื่องว่าลำไส้อักเสบแอบแฝงได้เช่นคุณไม่
00:23:54 → 00:23:57 ควรกินขนมปังเพราะในขนมปังมีกลูเทิร์น
00:23:57 → 00:23:59 เนาะซึ่งกลูเทิร์นเนี่ยค่ะถ้าเรากินไม่
00:23:59 → 00:24:02 ได้เราแพ้เนี่ยจะให้เกิดภาวะลำไส้อักเสบ
00:24:02 → 00:24:05 ได้เยอะมากอนะคะก็เลยจะให้ปวดท้องมวลท้อง
00:24:05 → 00:24:07 มากๆเงี้ยตอนกินอย่างเงี้ยเขาเรียกว่าโรค
00:24:07 → 00:24:10 ซีรีacaseนะคะหรือว่าเป็นพวก gluten
00:24:10 → 00:24:13 inent เงี้ยคือมันมัน sensitive มากๆกับ
00:24:13 → 00:24:15 อย่างเงี้ยค่ะก็กินไม่ได้เงี้ยหรือบางคน
00:24:15 → 00:24:17 เนี่ยเป็นโรคลำไส้อักเสบจากภูมิคุ้มกัน
00:24:17 → 00:24:20 ของตัวเองนะคะเช่นเมเลือดขาวของคุณเนี่ย
00:24:20 → 00:24:22 ไปทำลายผนังลำไส้เนาะทำให้กินอาหารเข้าไป
00:24:22 → 00:24:25 ปุ๊บถ่ายออกมาเป็นเลือดเป็นต้นอย่างเงี้ย
00:24:25 → 00:24:27 ค่ะก็ทำให้มีปัญหาได้หรือว่าบางคนเขา
00:24:27 → 00:24:30 เรียกว่าดัing syndrome
00:24:30 → 00:24:33 ดัingก็คือทิ้งปุ๊งอย่าเงี้ยก็syนrมหมาย
00:24:33 → 00:24:35 ถึงว่าอะไรเวลาที่คุณเนี่ยจะต้องกินเสร็จ
00:24:35 → 00:24:38 ปุ๊บคุณอยากจะเข้าห้องน้ำแต่มันจะมีข้อ
00:24:38 → 00:24:41 แตกคุณจะมีอาการใจสั่นคุณจะมีอาการแบบ
00:24:41 → 00:24:43 เหงื่อตกอะไรอย่างเงี้ยค่ะเหมือนจะเป็นลม
00:24:43 → 00:24:44 อะไรอย่างเงี้ยเขาเรียกว่า dumping
00:24:44 → 00:24:46 syndrome ซึ่งถ้ามีอาการเหล่านี้ผิดปกติ
00:24:46 → 00:24:48 อ่ะหมอก็แนะนำว่าจริงๆควรจะไปพบแพทย์ดี
00:24:48 → 00:24:50 กว่านะเพราะว่ามันอาจจะไม่ใช่ว่าอุ๊ยคุณ
00:24:50 → 00:24:52 แบบลำไส้สั้นอย่างเงี้ยแล้วทำให้คุณแบบ
00:24:52 → 00:24:55 ขับถ่ายได้ดีไม่ใช่เพราะว่าคนเราอ่ะค่ะลำ
00:24:55 → 00:24:57 ไส้โดยเฉลี่ยมันยาวเท่ากันเนาะลำไส้เล็ก
00:24:57 → 00:25:00 เนี่ยยาวประมาณ 6 เมตลำไส้ใหญ่ยาว 1 เมต
00:25:00 → 00:25:03 อย่างเงี้ยค่ะยาวมากใช่ฉะนั้นปกติแล้วมัน
00:25:03 → 00:25:05 ก็เลยควรจะแบบมีอาการที่อยากจะเข้าห้อง
00:25:05 → 00:25:09 น้ำใกล้เคียงกันไม่ใช่เร็วไปนะคะอือแล้ว
00:25:09 → 00:25:11 อันเนี้ยค่ะเวลาเราไปกินกับเพื่อนเนาะ
00:25:11 → 00:25:14 โต๊ะใหญ่แต่เราคือคนเดียวที่ท้องเสียก็
00:25:14 → 00:25:17 แปลว่าเขาอาจจะเป็นคนที่ลำไส้ไวต่อหลายๆ
00:25:17 → 00:25:19 อย่างไม่ใช่แค่ไม่ใช่แค่ตอนนั่งกินคน
00:25:20 → 00:25:22 เดียวแล้วแพ้อะไรอย่างเงี้ยค่ะใช่ใช่ค่ะ
00:25:22 → 00:25:24 ก็คือมันก็เลยดูว่า 1 มันเป็นอาหารที่เรา
00:25:24 → 00:25:26 กินมยอย่างเงี้ยค่ะหรือว่าเรามีปัญหา
00:25:27 → 00:25:29 เรื่องอ่าลำไส้ของเราอยู่แล้วมยอย่าง
00:25:29 → 00:25:32 เงี้ยหรือบางคนที่หมอเคยเจอเนาะก็คือชอบ
00:25:32 → 00:25:35 กินหมาล่าหมาล่าเผ็ดไงอ่าพอเผ็ดเผ็ดปุ๊บ
00:25:35 → 00:25:37 ใช่มั้ยโอ้โหต้องรีบวิ่งเข้าห้องน้ำเลย
00:25:37 → 00:25:40 เพราะเราแบบ sensitive กับตัวหมาล่าไงอ่า
00:25:40 → 00:25:42 ฉันเราก็เลยจำเป็นต้องสังเกตดูว่าอาหาร
00:25:42 → 00:25:44 ที่เรากินน่ะมันโอเคกับเราด้วยจริงๆคือ
00:25:44 → 00:25:47 เห็นพวกบางทีมันจะมีพวกพวกพริกอัดเม็ด
00:25:47 → 00:25:48 หรืออะไรเงี้ยจริงๆพวกอะไรแบบนี้มันก็
00:25:48 → 00:25:50 ช่วยเป็นมีฤทธิ์ช่วยให้ทายอยู่แล้วถูกมั้
00:25:50 → 00:25:53 คะใช่ค่ะอืแล้วก็บางทีเนี่ยบางคนก็อาจจะ
00:25:53 → 00:25:56 กินยาอะไรบางอย่างอยู่แล้วมยที่มันทำให้
00:25:56 → 00:25:58 เหมือนแบบว่าการขับถ่ายเขาง่ายอยู่แล้ว
00:25:58 → 00:26:00 อะไรอย่างเงี้ยค่ะก็เลยอาจจะทำให้มันแบบ
00:26:00 → 00:26:02 ว่ามีปัญหาในพาร์ทนี้ได้ฉะนั้นถ้าให้คุณ
00:26:02 → 00:26:04 หมอแนะนำคนเนี้ยค่ะว่าเขารู้สึกว่าเขา
00:26:04 → 00:26:07 อยากทักขับถ่ายให้ยากขึ้นอืให้ช้าลงให้
00:26:07 → 00:26:10 ช้าลงควรจะเริ่มต้นยังไงดีหมอว่าจริงๆอ่ะ
00:26:10 → 00:26:13 ต้องสังเกตก่อนเลยว่า 1 เรามีปัญหาเรื่อง
00:26:13 → 00:26:15 การขับถ่ายเนี่ยมานานหรือยังนะคะเพราะว่า
00:26:15 → 00:26:17 ส่วนใหญ่ถ้ามันเป็นอย่างเงี้ยติดต่อกัน
00:26:17 → 00:26:21 เกิน 3 อาทิตย์ขึ้นไปควรจะพบแพทย์ละนะคะ 2
00:26:21 → 00:26:23 สังเกตนิดนึงว่าเวลาที่เรากินเข้าไปอ่ะ
00:26:23 → 00:26:25 ค่ะมันมีอาการอื่นแอบแฝงด้วยหรือเปล่า
00:26:25 → 00:26:29 เช่นนะคะมีตดเยอะผิดปกติถ่ายลมนะคะหรือ
00:26:29 → 00:26:32 ว่าเรอมากๆปวดท้องมวลท้องด้วยอะไรอย่าง
00:26:32 → 00:26:35 เงี้ยเพราะบางทีเราอาจจะต้องใช้เช่นนะคะ
00:26:35 → 00:26:37 เช่นอ่าตัวย่อยเสริมมเพราะคุณกินอาหารนี้
00:26:37 → 00:26:39 ไม่ได้อาจจะต้องใช้แบบตัวย่อยเสริมอะไร
00:26:39 → 00:26:40 อย่างเงี้ยเงี้ยค่ะเพื่อช่วยในการย่อย
00:26:40 → 00:26:42 อาหารเนาะหรือว่าคุณอาจจะเลี่ยงอาหาร
00:26:43 → 00:26:45 เหล่านั้นไปเลยเพราะว่าเช่นกลูเทิร์นถ้า
00:26:45 → 00:26:47 คุณกินไม่ได้คุณก็ไม่สามารถกินที่มันมีใน
00:26:47 → 00:26:50 ขนมปังได้ถูกมั้คะอันนี้ก็คือควรจะเลี่ยง
00:26:50 → 00:26:52 ไปเลยหรือว่า 3 เนี่ยคุณอาจจะเป็นโรคลำ
00:26:52 → 00:26:54 ไส้แปรปรวนอย่างที่หมอบอกคุณเครียดปุ๊บ
00:26:54 → 00:26:56 เนี่ยคุณก็ต้องรีบเข้าห้องน้ำถ่ายอันเนี้
00:26:56 → 00:26:59 ทางคุณหมอเขาอาจจะมียาที่ช่วยอย่างเงี้ย
00:26:59 → 00:27:01 ค่ะเพื่อทำให้การ movement นะคะหรือว่า
00:27:01 → 00:27:04 การเคลื่อนไหวของลำไส้ช้าลงแล้วบางคนถ้า
00:27:04 → 00:27:06 มีอาการยิ่งมวลท้องด้วยอะไรอย่างเงี้ยอาจ
00:27:06 → 00:27:09 จะมียาที่ช่วยในการลดการหดเกร็งนะคะของลำ
00:27:09 → 00:27:11 ไส้ที่ก็ทำให้เราแบบว่าสบายขึ้นแล้วถ้า
00:27:11 → 00:27:15 สมมุตินะคะถ่ายเยอะก็ผอมดีไม่เป็นไรหรอก
00:27:15 → 00:27:17 ก็ปล่อยไว้อย่างเงี้ยถ้าสมมุติว่าทิ้งไว้
00:27:17 → 00:27:19 นานๆแล้วเราเป็นคนถ่ายง่ายแบบนี้เสมออ่ะ
00:27:19 → 00:27:22 ค่ะมีผลอะไรระยะยาวต่อสุขภาพมั้คะจริงๆ
00:27:23 → 00:27:25 อ่ะบางคนคิดว่าถ่ายเยอะก็ดีสิก็มัน
00:27:25 → 00:27:27 เคลียร์ลำไส้ใช่มยทำให้การแบบของเสียออก
00:27:28 → 00:27:30 ไปนู่นนี่นั่นไปวันนี้ฉันถ่าย 5 รอบผอม
00:27:30 → 00:27:32 มากเลยค่ะหมอมันก็มีrู of 3 อีกเหมือน
00:27:32 → 00:27:35 กันอ่าเมื่อกี้เราบอกว่าถ้าแบบว่าท้องผูก
00:27:35 → 00:27:37 ก็คือมากกว่า 3 ครั้งต่ออาทิตย์เนาะเรียก
00:27:37 → 00:27:40 ว่าท้องผูกใช่มั้คะแต่ว่าภาวะที่ว่าถ่าย
00:27:40 → 00:27:42 บ่อยเกินไปก็มีก็คือแบบว่าถ่ายมากกว่า 3
00:27:42 → 00:27:44 ครั้งต่อวันเหมือนกันอันนี้ก็ถือว่าเยอะ
00:27:44 → 00:27:47 มากเกินไปเนาะซึ่งมันทำให้เราไม่สบายตัว 2
00:27:47 → 00:27:49 บางทีเวลาเราเดินทางไปเนี่ยคุณควบคุมเวลา
00:27:49 → 00:27:52 ไม่ได้คอยอยากอยู่ใกล้ห้องน้ำเออซึ่งหมอ
00:27:52 → 00:27:54 ก็มีคนไข้เหมือนกันนะคะก็คือเป็นคุณป้า
00:27:54 → 00:27:57 อายุ 70 กว่ามาหาหมอเนาะวันนึงถ่าย 5-6
00:27:57 → 00:28:00 ครั้งอ่ะโอหซึ่งแบบว่าป้าบอกว่ากว่าจะมา
00:28:00 → 00:28:03 หาหมอได้นะป้าก็ต้องนั่งรถเมล์อยู่ชาน
00:28:03 → 00:28:06 เมืองต่อรถเมล์อีกมาเจอหมอแวะเราต้องแวะ
00:28:06 → 00:28:08 เข้าห้องน้ำอีกเเต้องแบบพอยแมพเลยอ่ะว่า
00:28:08 → 00:28:10 อยู่ตรงไหนบอกเดี๋ฉันจะเข้าห้องน้ำตรงนี้
00:28:10 → 00:28:12 นะตรงนี้นะตรงนี้ก่อนมาหาหมอก่อนมาหาหมอ
00:28:12 → 00:28:14 เงี้ยซึ่งหมอก็คือโออันนี้มันก็แบบหนัก
00:28:14 → 00:28:17 หนาไปนะคุณป้าเนาะแต่ว่าคุณป้าเมีปัญหา
00:28:17 → 00:28:19 เรื่องโรคลำไส้อักเสบอยู่แล้วเงี้ยค่ะก็
00:28:19 → 00:28:21 เลยทำให้เราเนี่ยจำเป็นต้องต้องปรับ
00:28:21 → 00:28:24 พฤติกรรมการกินอย่างที่หมอบอกเนาะนะคะว่า
00:28:24 → 00:28:26 อะไรที่ทำให้ลำไส้มันเคลื่อนไหวง่ายเกิน
00:28:26 → 00:28:29 ไปแล้วก็เอามันออกเช่นอาจจะเป็นพวกนม
00:28:29 → 00:28:31 อย่างเงี้ยนะคะอาจจะเป็นในกลุ่มพวกชีส
00:28:31 → 00:28:33 อะไรอย่างเงี้ยที่ทำให้เขาแบบว่าน้ำไส้
00:28:33 → 00:28:36 เคลื่อนไหวเร็วไปหรือบางคนกลับกันพวก
00:28:36 → 00:28:39 จุลินทรีย์แรกๆอาจจะยังกินไม่ได้อ่าเมื่อ
00:28:39 → 00:28:41 กี้เราบอกว่าถ้าท้องผุอาจจะกินจุลินทรีย์
00:28:41 → 00:28:43 ได้ถูกมั้ยถ้าท้องเสียมากเกินไปแรกๆ
00:28:43 → 00:28:45 จุลินทรีย์ที่มันมีเยอะเกินไปอาจจะทำให้
00:28:45 → 00:28:48 ท้องอืดท้องเฟ้อมากไปอ่าต้องรักษาให้แบบ
00:28:48 → 00:28:50 ลำไส้มันดีก่อนนะแล้วค่อยเติมจุลินทรีย์
00:28:50 → 00:28:52 ที่ดีเข้าไปอย่างเงี้ยค่ะนะคะก็อาจจะแบบ
00:28:52 → 00:28:55 ช่วยได้หรือมันจะมีจุลินทรีย์บางตัวที่
00:28:55 → 00:28:57 เราบอกว่าท้องเสียก็ช่วยได้นะอย่างเงี้ย
00:28:57 → 00:28:59 ก็สามารถแอด on prบoicเหล่านั้นเข้าไปได้
00:29:00 → 00:29:02 ฉะนั้นการรักษาอย่างคุณป้าเคนเยค่ะก็เลย
00:29:02 → 00:29:04 ต้องมีการทั้งปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์นะคะ
00:29:04 → 00:29:06 ปรับเปลี่ยนการกินอันนี้มีให้ยาด้วยมั้คะ
00:29:06 → 00:29:09 คุณป้าค่ะอ่าคุณป้าค่ะมีให้ยาเหมือนกัน
00:29:09 → 00:29:11 เพราะว่าบางทีเวลาแกท้องเสียแกปวดแล้วแบบ
00:29:11 → 00:29:14 เกร็งมากๆเงี้ยก็ต้องมีการให้ยาลดการ
00:29:14 → 00:29:18 เกร็งนะคะของลำไส้เนี่ยก็ทำให้แกค่อยๆดี
00:29:18 → 00:29:21 ขึ้นจากว่าถ่ายวันละ 7 ครั้งก็ถ่ายลงมา
00:29:21 → 00:29:22 เหลือ 4 ครั้งปัจจุบันก็เหลือวันนึงไม่
00:29:22 → 00:29:25 เกิน 2 ครั้งก็ปกติละอืคราวนี้ค่ะถ้า
00:29:25 → 00:29:28 อย่างของเคสคุณป้าคนเนี้ยแล้วแกไม่รักษา
00:29:28 → 00:29:31 เนาะปัญหาคืออะไรนอกจากไม่สะดวกสบายแล้ว
00:29:31 → 00:29:35 อ่ะอย่าลืมว่าถ้าคุณมีอาหารในลำไส้เวลา
00:29:35 → 00:29:37 ที่สั้นเกินไปการดูดซึมก็ไม่ได้ก็แปลว่า
00:29:37 → 00:29:39 เหมือนที่เรากินไปคือเราทิ้งเออคือกิน
00:29:39 → 00:29:43 ปุ๊บออกหมดเลยก็คืออุตส่าห์วิตามินเอยผัก
00:29:43 → 00:29:47 อาหารก็คือทิ้งเพราะยังไม่ได้ดูดซึมเลย
00:29:47 → 00:29:49 ใช่ค่ะฉะนั้นอาจจะมีปัญหาการดูดซึมเรื่อง
00:29:49 → 00:29:51 โปรตีนโปรตีนอาจจะไม่ถึงนะคะแล้วก็อย่าง
00:29:51 → 00:29:54 วิตามินบีเนี่ยเจอได้ค่อนข้างเยอะมากโดย
00:29:54 → 00:29:56 เฉพาะวิตามิน B12 เงี้ยค่ะที่อาจจะแบบว่า
00:29:56 → 00:29:59 ทำให้จุลินทรีย์ในลำไส้เนาะมีเวลาไม่มาก
00:29:59 → 00:30:02 พอนะคะในการดูดซึมอะไรอย่างเงี้ยก็ทำให้
00:30:02 → 00:30:04 คนไข้กลุ่มเหล่าเนี้ยมีปัญหาเรื่องเา้า
00:30:04 → 00:30:06 เรียกว่าโภชนาการมีปัญหาหรือว่าขาดแคน
00:30:06 → 00:30:09 ง่ายค่ะอืโอเคงั้นก็เป็นหลายปัจจัยมากๆ
00:30:09 → 00:30:11 เลยเนาะแต่ก็อาจจะเริ่มต้นอย่างที่คุณหมอ
00:30:11 → 00:30:13 บอกแหละว่าดูระยะเวลาก่อน 3 อาทิตย์ถ้า
00:30:13 → 00:30:15 เกิน 3 อาทิตย์และอ่ะลองปรับเปลี่ยน
00:30:15 → 00:30:17 ไลฟ์ไซตก็แล้วอะไรก็แล้วอาจจะต้องพบแพทย์
00:30:17 → 00:30:19 น่าจะดีที่สุดนะเพราะว่าถ้าขับถ่ายวันละ
00:30:19 → 00:30:22 หลายๆรอบเนี่ยอันนี้ก็มากเกินอ่ะไม่ไหว
00:30:22 → 00:30:24 จริงๆเหนื่อยด้วยไม่ได้สารอาหารด้วยนะคะ
00:30:24 → 00:30:27 วันนี้ขอบคุณคุณหมอมากเลยนะคะได้มาตอบคำ
00:30:27 → 00:30:31 ถามกันแบบทั้งท้องผูกนะคะแล้วก็ท้องร่วง
00:30:31 → 00:30:33 ขับถ่ายเยอะอะไรอย่างเงี้ยแล้วก็พูด
00:30:33 → 00:30:35 เรื่องโปรไบโอติกรู้สึกว่ามันหลายๆคนน่า
00:30:35 → 00:30:37 จะเข้าใจเรื่องวิธีการปรับเปลี่ยน
00:30:37 → 00:30:39 ไลฟ์สไตล์เพื่อให้ขับถ่ายดีขึ้นได้มากๆ
00:30:39 → 00:30:42 แล้วเดี๋ยวไว้เชิญมาตอบเรื่องคำถามเรื่อง
00:30:42 → 00:30:45 ลำไส้แบบนี้อีกนะคะคุณหมอยินดีค่ะถ้าใคร
00:30:45 → 00:30:48 มีคำถามเรื่องการขับถ่ายนะคะหรือปัญหา
00:30:48 → 00:30:50 เกี่ยวกับลำไส้สามารถพิมพ์คอมเมนต์มาได้
00:30:50 → 00:30:52 ในช่องอ่าคอมเมนต์ด้านล่างเลยนะคะหรือถ้า
00:30:52 → 00:30:55 เป็นปัญหาสุขภาพอื่นๆก็สามารถเขียนเข้ามา
00:30:55 → 00:30:58 ได้เช่นเดียวกันค่ะถ้าชอบคเทนแนวนี้อย่า
00:30:58 → 00:31:00 ลืมกด Subscribe แล้วก็กดไลค์เป็นกำลังใจ
00:31:00 → 00:31:03 ให้เจนหมอและทีมงานด้วยนะคะแล้วเจอกัน
00:31:03 → 00:31:08 ใหม่ในเทปหน้าสวัสดีค่ะสวัสดีค่ะ