00:00:00 → 00:00:04 หมอเฟิร์นเห็นใจหลายคนมากก็มีหลายคนมา
00:00:04 → 00:00:08 ปรึกษาเนาะว่ากินดีก็กินแล้วนะอาหารก็
00:00:08 → 00:00:11 เปลี่ยนแล้วออกกำลังกายก็ออกขึ้นแล้วนะ
00:00:11 → 00:00:14 พักผ่อนก็พักผ่อนเพียงพอหรือมากขึ้นแล้ว
00:00:14 → 00:00:17 นะแต่ทำไมสุขภาพมันยังเหมือนเดิมทำไม
00:00:17 → 00:00:20 ชีวิตมันยังไม่เปลี่ยนวันนี้หมอเฟิร์นก็
00:00:20 → 00:00:26 เลยจะเอาเทคนิคที่ง่ายสะดวกทุกคนสามารถทำ
00:00:26 → 00:00:30 ได้เพราะชีวิตของเราไม่ได้มีแค่แค่อาหาร
00:00:30 → 00:00:32 ไม่ได้มีแค่การออกกำลังกายไม่ใช่มีไม่ได้
00:00:33 → 00:00:35 มีแค่การนอนไม่ได้มีแค่การจัดการกับ
00:00:35 → 00:00:38 อารมณ์ความรู้สึกแต่มันยังมีอีกสิ่งหนึ่ง
00:00:38 → 00:00:42 ที่อยู่ข้างในนี้ข้างในนี้คืออะไร
00:00:42 → 00:00:47 คือความคิดที่อยู่ข้างในแล้ววิธีการที่
00:00:47 → 00:00:50 เปลี่ยนข้างในนี้ที่ง่ายที่สุดแล้วมัน
00:00:50 → 00:00:52 เป็นวิทยาศาสตร์ที่จับต้องได้ด้วยก็คือ
00:00:53 → 00:00:57 การ affirmation อ่ะ affirmation คืออะไร
00:00:57 → 00:01:01 คือการพูดประโยคในเชิงบวกกับตัวเองซ้ำๆใน
00:01:01 → 00:01:02 ทุกๆ
00:01:02 → 00:01:07 วันเพื่อให้มันลงไปสู่สมองข้างในจิตใต้
00:01:07 → 00:01:10 สำนึกข้างในจิตของเราก็มีจิตใต้สำนึกจิต
00:01:10 → 00:01:12 รู้สำนึกเนาะจิตรู้สำนึกก็คือที่เรารู้
00:01:13 → 00:01:15 ทุกอย่างเลยจะทำนั่นทำนี่จิตใต้สำนึกก็
00:01:15 → 00:01:19 คือสิ่งที่เราทำเป็นนิสัยเป็นอัตโนมัติ
00:01:19 → 00:01:21 โดยที่บางทีไม่รู้ตัวด้วยซ้ำอย่างเช่นบาง
00:01:21 → 00:01:25 คนตื่นขึ้นมาไปแปรงฟันละไปอาบน้ำละไปกิน
00:01:25 → 00:01:28 ข้าวละมันคือแพทเทิร์นนิสัยที่เราทำซ้ำ
00:01:28 → 00:01:32 ซ้ำโดยที่ไม่รู้ตัวแล้วสิ่งสำคัญที่มัน
00:01:32 → 00:01:35 เกี่ยวข้องกันกับเรื่องนี้คือนิสัยทาง
00:01:35 → 00:01:39 ความคิดที่บางทีเราคิดไม่รู้ตัวว่าเรา
00:01:39 → 00:01:42 เป็นคนคิดบวกหรือคิดลบเนาะอย่างที่หมอ
00:01:42 → 00:01:45 เฟิร์นใบ้ไว้ให้ในคลิปก่อนนะว่าถ้าเรา
00:01:45 → 00:01:47 อยากรู้ว่าจริงๆแล้วเราคิดบวกหรือคิดลบ
00:01:47 → 00:01:50 เพราะว่าเราคิดแบบเนี้ยมาทั้งชีวิตเป็น 10
00:01:50 → 00:01:53 กว่าปีแล้วแล้วมันดีหรือไม่ดีกันแน่บางคน
00:01:53 → 00:01:56 ยังคิดว่าตัวเองก็ฉันก็ไม่ได้คิดร้ายคิด
00:01:56 → 00:01:59 แย่คิดต้องไม่ได้นะเพราะว่ามีวิทยาศาสตศา
00:01:59 → 00:02:01 รองรับแล้วอย่างวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ด้วย
00:02:01 → 00:02:04 เป็นวิทยาศาสตร์Quวตัมฟิสิกส์เดี๋หมอ
00:02:04 → 00:02:07 เฟิร์นอธิบายให้ฟังคร่าวๆซึ่งแต่ก่อนที่
00:02:07 → 00:02:10 จะไปพูดขอเช็คภาพเสียงหน่อยเพราะว่ามันมี
00:02:10 → 00:02:13 กรณีที่ภาพไม่ชัดเสียงหายอย่างเงี้ยหมอ
00:02:13 → 00:02:15 เฟิร์นพูดคนเดียวเป็นชั่วโมงอย่างี้ก็ไม่
00:02:15 → 00:02:19 สนุกเลยนะอ่าคุณก็ลองช่วยกันเช็คเนาะว่า
00:02:19 → 00:02:22 ฟังจากที่ไหนมาจากจังหวัดอะไรประเทศอะไร
00:02:22 → 00:02:25 ก็บอกว่าชัดค่ะจากอุบลราชธานีอ่านี้บ้าน
00:02:25 → 00:02:28 คุณแม่หมอเเฟิร์นเองมาจากเชียงรายบ้านหมอ
00:02:28 → 00:02:31 เฟิร์นเองพูดได้เพราะว่าหมอเฟิร์นมาอ่าน
00:02:31 → 00:02:33 คอมเมนต์แล้วก็ชื่นใจมากที่มีคนมาดูจาก
00:02:33 → 00:02:36 หลากหลายจังหวัดจากหลายประเทศเนาะญี่ปุ่น
00:02:36 → 00:02:39 ก็มีเยอรมันก็มีอย่างเงี้ยน่ารักกันทุกคน
00:02:39 → 00:02:42 เลยที่ช่วยหมอเฟิร์นเช็คภาพเสียงอ่ะวัน
00:02:42 → 00:02:44 นี้เราจะมาพูดในเรื่องที่เบาสมองที่ไม่
00:02:44 → 00:02:46 ต้องไปบอกว่าแบบต้องไปกินนั่นกินนี่หรือ
00:02:46 → 00:02:48 ต้องไปทำนั่นทำนี่เพราะว่าเรื่องในวัน
00:02:49 → 00:02:51 เนี้ยเปลี่ยนง่ายที่สุดแล้วมันเป็นเรื่อง
00:02:51 → 00:02:54 แค่สิ่งที่คุณพูดคุยกับตัวเองในทุกๆวัน
00:02:55 → 00:02:57 อ่าคุณใบบอกชัดค่ะจากเชียงรายอ่าจังหวัด
00:02:57 → 00:03:01 เดียวกันเลยขอบคุณที่ช่วยเช็คนะคะ
00:03:01 → 00:03:04 Affirmation เนี่ยจริงๆต้องยอมรับกับคุณ
00:03:04 → 00:03:07 ก่อนกับตัวเองด้วยเพราะว่าหมอเฟิร์นเนี่ย
00:03:07 → 00:03:11 ก็เป็นคนนึงที่ใช้ affirmation เปลี่ยน
00:03:11 → 00:03:15 แปลงตัวเองเหมือนกันตั้งแต่ตั้งแต่ที่
00:03:15 → 00:03:18 เริ่มทำงานละพอรู้จักศาสตร์นี้แล้วมันก็
00:03:18 → 00:03:20 มีวิทยาศาสตร์เบื้องหลังเยอะแยะเลยเนาะ
00:03:20 → 00:03:23 เราก็เป็นคนตรรกะเป็นคนมีเหตุผลระดับนึง
00:03:23 → 00:03:26 ถ้าไม่มีวิทยาศาสตร์ไม่มีการทดลองเราก็จะ
00:03:26 → 00:03:29 ไม่ค่อยเชื่อเชื่อสิ่งไหนง่ายๆซึ่งพอเรา
00:03:29 → 00:03:32 ได้ทำแล้วมันเวิร์คก็เลยจะเอามาแชร์ต่อ
00:03:32 → 00:03:36 ให้คนที่ติดตามหมอเฟิร์นได้รู้ประโยชน์
00:03:36 → 00:03:40 ของมันด้วยเช่นกันเพราะบางคนไม่รู้จะทำ
00:03:40 → 00:03:44 ยังไงแล้วให้ชีวิตดีขึ้นหรือสุขภาพดีขึ้น
00:03:44 → 00:03:47 ถ้ามันไม่มีอะไรจะเสียแล้วอ่ะมันก็ไม่มี
00:03:47 → 00:03:50 อะไรจะเสียที่จะต้องลองทำวิธีใหม่ๆถ้ามัน
00:03:50 → 00:03:54 ยังเป็นแบบเดิมแพทเทิร์นเดิมนิสัยเดิมการ
00:03:54 → 00:03:57 affirmation เนี่ยคือแค่พูดกับตัวเองใน
00:03:57 → 00:04:00 ทุกๆวันคุณรู้มั้ว่าสิ่งที่คุณพูดกับตัว
00:04:00 → 00:04:05 เองไม่ใช่พูดต่อหน้าเป็นคำรวมถึงการพูดใน
00:04:05 → 00:04:09 หัวการคิดในหัวด้วยนะมันมีพลังมากกว่าที่
00:04:09 → 00:04:12 คุณคิดไว้เยอะเลย
00:04:12 → 00:04:15 นะเงียบนี่หมอเฟิร์นไม่ได้ค้างนะแต่หมอ
00:04:15 → 00:04:18 เฟิร์นอยากให้คุณคิดต่อนิดนึงว่ามันมี
00:04:18 → 00:04:20 พลังมากๆแล้วมันมีพลังยัง
00:04:20 → 00:04:24 ไงถ้าคุณ affirmation เป็นแอ่งหมอเฟิร์น
00:04:24 → 00:04:26 อ่ะตัวหมอเฟิร์นเองแต่ก่อนก็ไม่ได้มีผู้
00:04:26 → 00:04:30 ติดตามหลักแสนแบบนี้แล้วก็เป็นเด็กที่
00:04:30 → 00:04:33 เป็นคนที่แล้วะกันเด็กก็ได้อ่ะเราเป็นคน
00:04:33 → 00:04:35 หน้าเด็กอ่อนเยาเนาะเราก็เป็นเด็กก็ได้
00:04:35 → 00:04:39 เป็นเด็กที่อายุใกล้จะ 30 ละเป็นเด็กที่
00:04:39 → 00:04:42 ขี้อายด้วยซ้ำไม่คิดว่าตัวเองจะมาพูดหน้า
00:04:42 → 00:04:45 กล้องแบบนี้กับคุณนะที่ผ่านมาได้ก็
00:04:45 → 00:04:49 affirmation มานานเหมือนกันแต่ทำทุกวัน
00:04:49 → 00:04:52 ก็เสริมความมั่นใจความเชื่อมั่นทุกอย่าง
00:04:52 → 00:04:56 ทำให้เป็นหมอเฟิร์นคนนี้ได้ที่พัฒนาพัฒนา
00:04:56 → 00:04:59 ขึ้นในทุกๆวันแล้วก็มาเจอกับคุณเพราะว่า
00:04:59 → 00:05:00 ถ้าหมอเฟิร์นไม่
00:05:00 → 00:05:04 Affirmation และไม่โปรแกรมสมองตัวเองมา
00:05:04 → 00:05:07 ก่อนให้เป็นคนใหม่ที่ดีขึ้นเนี่ยเราก็จะ
00:05:07 → 00:05:09 ไม่ได้เจอกันแน่นอนหมอเเฟิร์นก็คงไปทำงาน
00:05:09 → 00:05:12 อยู่ในคลินิกหรือโรงพยาบาลสักแห่งใน
00:05:12 → 00:05:15 ประเทศไทยเนี่ยแหละแล้วก็ก็ไม่ได้เจอกัน
00:05:15 → 00:05:17 นั่นแหละแต่ว่ามันน่าเสียดายเนาะถ้าเรา
00:05:17 → 00:05:20 ไม่ได้เจอกันแล้วก็ไม่ได้รู้ข้อมูลสุขภาพ
00:05:20 → 00:05:24 ดีๆแบบนี้ดังนั้นก็คอนเฟิร์มเป็นอีกคน
00:05:24 → 00:05:26 หนึ่งที่คอนเฟิร์มว่าเปลี่ยนตัวเองมาจาก
00:05:26 → 00:05:28 affirmation จริงๆการ affirmation ก็
00:05:28 → 00:05:31 เหมือนกันจริงๆมันใช้หลักการอยู่หลักๆ
00:05:31 → 00:05:34 อยู่ 3 อย่างนะก็คือในเรื่องของจิตวิทยา
00:05:34 → 00:05:36 แล้วก็วิทยาศาสตร์quวตัมฟิส์อย่างที่หมอ
00:05:36 → 00:05:39 เฟิร์นบอกเนาะแล้วก็การตั้งโปรแกรมจิตใต้
00:05:39 → 00:05:42 สำนึกคือการรวม 3 อย่างเข้าด้วยกันเลยและ
00:05:42 → 00:05:44 affirmation คืออะไรเหมือนที่บอกเลยพูด
00:05:44 → 00:05:50 กับตัวเองย้ำซ้ำๆในเชิงบวกวงเล็บว่าเชิง
00:05:50 → 00:05:52 บวกด้วยนะซึ่งบาง
00:05:52 → 00:05:56 คนใช้ affirmation ในเชิงเชิงลบไม่รู้ตัว
00:05:56 → 00:05:59 ทำให้ชีวิตที่เป็นอยู่เนี่ยเป็นสิ่งที่
00:05:59 → 00:06:03 คุณคิดคุณพูดมาในอดีตครั้งนั้นเลยนะบางคน
00:06:03 → 00:06:07 ไม่รู้ตัวว่ามันส่งผลกับชีวิตขนาดนี้เลย
00:06:07 → 00:06:11 ซึ่งวันนี้เลยจะมาไขว่า affirmation เชิง
00:06:11 → 00:06:15 บวกเนี่ยมันส่งผลแค่ไหนการที่คุณมีประโยค
00:06:15 → 00:06:18 พูดกับตัวเองแบบเนี้ยในใจในหัวตลอดหรือ
00:06:18 → 00:06:20 พูดออกมาหน้ากระจกเลยก็ได้มันจะเป็นการไป
00:06:20 → 00:06:25 ปรับความคิดความเชื่อแล้วก็ทัศนคติของคุณ
00:06:25 → 00:06:28 ได้เช่นยกตัวอย่างยังไงบ้างประโยคประโยค
00:06:28 → 00:06:33 ง่ายๆนะเช่นฉันเป็นคนที่มีความสามารถและ
00:06:33 → 00:06:37 ประสบความสำเร็จได้ในทุกสิ่งที่ทำคุณลอง
00:06:37 → 00:06:42 ฟังดูสิว่าคุณรู้สึกดีมยที่ฟังแต่คนส่วน
00:06:42 → 00:06:46 ใหญ่มักคิดในหัวก่อนละเวลาทำงานยากหรือ
00:06:46 → 00:06:49 เจอเหตุการณ์อะไรที่มันท้าทายโดนสมองหลอก
00:06:49 → 00:06:53 ขึ้นมาเลยว่าทำไม่ได้หรอกเดี๋ยวทำไปก็ล้ม
00:06:53 → 00:06:55 เหลวเลิกทำเถอะไปทำอย่างอื่นเหอะเนี่ย
00:06:55 → 00:06:57 เห็นมั้ยอันนี้ก็คือ affirmation หนึ่ง
00:06:57 → 00:07:01 ที่คุณโดนสมองหลอกคุณอยู่โดยที่ไม่รู้ตัว
00:07:01 → 00:07:04 นะสิ่งที่ควรจะมีก็คือเหมือนเมื่อกี้ฉัน
00:07:04 → 00:07:08 เป็นคนที่มีความสามารถนะฉันสามารถประสบ
00:07:08 → 00:07:11 ความสำเร็จได้ทุกอย่างที่ฉันเลือกทำเนี่ย
00:07:11 → 00:07:15 คือ 2 ประโยคก็ต่างกันแล้วอันนี้ยกตัว
00:07:15 → 00:07:17 อย่างให้เห็นภาพง่ายๆอย่างเรื่องสุขภาพ
00:07:17 → 00:07:19 เลยแล้วกันเพราะว่าคนที่ติดตามกับเฟิร์
00:07:19 → 00:07:22 เนี่ยสนใจเรื่องสุขภาพหลายคนถ้าคุณ
00:07:22 → 00:07:25 affirmation ไม่ถูกมีความคิดในหัวตลอด
00:07:25 → 00:07:29 ว่าฉันเป็นคนที่ป่วยง่ายออกไปเจออากาศ
00:07:29 → 00:07:31 เปลี่ยนนิดหน่อยก็ไม่สบายเป็นคนอ่อนแอ
00:07:31 → 00:07:33 ตั้งแต่เด็กเป็นอย่างี้มาตั้งแต่เด็กแล้ว
00:07:33 → 00:07:36 เพราะว่าพ่อแม่พี่น้องก็เป็นภูมิแพ้ฉันก็
00:07:36 → 00:07:39 เป็นคุณเห็นมั้ยว่าในเนี้ยมันอยู่ในหัว
00:07:39 → 00:07:42 คุณตลอดมันเลยเป็นเหตุผลที่ทำไมคุณไม่หาย
00:07:42 → 00:07:46 ป่วยสักทีทำไมมันยังชีวิตเหมือนเดิมทำ
00:07:46 → 00:07:49 อะไรเท่าไหร่ก็เป็นเหมือนเดิมเพราะคุณมี
00:07:49 → 00:07:53 ประโยคนี้อยู่ในหัวตลอดไงกลับกันกลับกัน
00:07:53 → 00:07:55 ในทางตรงนั้นข้ามถ้าคุณเป็นคนที่มีความ
00:07:55 → 00:07:57 คิดแบบนี้เหมือนหมอเฟิร์นมีความคิดตั้ง
00:07:57 → 00:08:00 แต่เด็กละก็เลยไม่ป่วยเลยก็คือฉันเป็นคน
00:08:00 → 00:08:04 แข็งแรงสุขภาพดีทำอะไรก็เปลี่ยนไปด้วย
00:08:04 → 00:08:06 พลังใครที่เจอหมอเฟิร์นนะอย่างครูพระะ
00:08:06 → 00:08:09 สมัยเด็กๆเนาะหรือว่าเพื่อนรอบตัวคนรอบ
00:08:10 → 00:08:12 ข้างก็จะตกใจมากที่หมอเฟิร์นเป็นคนตัว
00:08:12 → 00:08:16 เล็กอ่ะสูงแค่ 155 แต่ว่าสามารถมีพลัง
00:08:16 → 00:08:20 เยอะแยะในการยกของหนักหรือทำนั่นทำนี่ทุก
00:08:20 → 00:08:22 คนจะตกใจหมดเลยว่าเหมือนจิ๋วแต๊แจ๋วอ่า
00:08:22 → 00:08:25 เพราะว่าเรามีประโยคนี้ในใจมาตลอดตั้งแต่
00:08:25 → 00:08:30 เด็กแล้วก็คือฉันเป็นคนสุขภาพดีแข็งแรงมี
00:08:30 → 00:08:35 พลังใครเจอเราก็ว้าวอ่ะอ่ะเห็นมั้ยมัน 2
00:08:35 → 00:08:37 อย่างแค่นี้เองคนไม่รู้ก็คือไม่รู้แล้ว
00:08:37 → 00:08:44 ติดกับดักสุขภาพแบบนี้มานานแล้ว
00:08:44 → 00:08:49 ซึ่งการ affirmation เนี่ยถ้าให้พูดง่ายๆ
00:08:49 → 00:08:53 นะก็เหมือนเป็นการโปรแกรมสมองของคุณใหม่
00:08:53 → 00:08:57 ให้มันลงลึกเข้าไปถึงจิตใต้สำนึกเลยการ
00:08:58 → 00:09:00 โปรแกรมสมองแค่คิดอย่างเดียวมันอยู่ไม่
00:09:00 → 00:09:04 นานแต่ถ้าเมื่อไหร่ที่คุณพูดคิดสิ่งนั้น
00:09:04 → 00:09:09 ซ้ำๆมันจะลงเข้าไปสู่จิตระดับจิตใต้สำนึก
00:09:09 → 00:09:12 แล้วมันก็จะกลายเป็นนิสัยใหม่นิสัยการคิด
00:09:12 → 00:09:15 ในเชิงนี้มากกว่าคิดในเชิงบวกมากกว่าเชิง
00:09:15 → 00:09:20 ลบนะพูดให้ฟังสั้นๆแล้วไม่ใช่แค่หมอ
00:09:20 → 00:09:23 เฟิร์นที่มาคอนเฟิร์มงานวิจัยก็มีงาน
00:09:23 → 00:09:25 วิจัยเหมือนกันเดี๋ยวมาเฟิร์นขึ้นให้
00:09:25 → 00:09:27 เผื่อใครอยากไปหาอ่านงานวิจัยอันนี้จาก
00:09:27 → 00:09:31 มหาวิทยาลัยมหาลัยคานกี้เนาะเค้าก็ทดสอบ
00:09:31 → 00:09:34 ทดลองมาแล้วว่าการ affirmation เนี่ย
00:09:34 → 00:09:37 สามารถช่วยทั้งลดความเครียดแล้วก็ช่วย
00:09:37 → 00:09:40 เพิ่มการตัดสินใจให้คนๆนตัดสินใจได้ดี
00:09:40 → 00:09:42 ขึ้นเพราะอะไรเพราะการ affirmation เนี่ย
00:09:42 → 00:09:46 มันจะไปกระตุ้นสมองส่วนหน้า frontal
00:09:46 → 00:09:50 cortex เออไม่ใช่preฟontal cortex ก็คือ
00:09:50 → 00:09:52 ส่วนหน้าผากของคุณเนี่ยแหละกับข้างในที่
00:09:52 → 00:09:55 ชื่อว่า amiga ซึ่งมันเกี่ยวข้องกับการ
00:09:56 → 00:09:59 ตัดสินใจแล้วการประมวลผลของอารมณ์ของคุณ
00:09:59 → 00:10:02 โดยตรงทำให้เวลาที่คุณ
00:10:02 → 00:10:05 affirmation เชิงบวกกับตัวเองบ่อยๆซ้ำๆ
00:10:06 → 00:10:09 เนี่ยคุณจะจัดการกับความเครียดและอารมณ์
00:10:09 → 00:10:11 ได้ดีขึ้นดังนั้นการฝึก affirmation
00:10:11 → 00:10:14 อย่างสม่ำเสมออันนี้เขาก็คเฟิร์มแล้วว่า
00:10:14 → 00:10:19 ไม่เพียงแต่ช่วยปรับความคิดและการกระทำ
00:10:19 → 00:10:23 ของคุณเองแต่ยังส่งผลต่อโครงสร้างสมอง
00:10:23 → 00:10:26 เนี่ยส่วนสีม่วงๆเนี่ยกับข้างในอมิเตอรอม
00:10:26 → 00:10:28 อยู่ข้างในเนาะที่ส้มๆที่หมอเฟิร์นบอก
00:10:28 → 00:10:29 เมื่อ
00:10:29 → 00:10:33 กี้อ่าเนี่ยเปลี่ยนถึงสมองเลยนะคุณไม่ได้
00:10:33 → 00:10:36 แค่เปลี่ยนแค่ข้างนอกที่คุณแสดงออกมาอัน
00:10:36 → 00:10:39 นี้ก็เป็นการยืนยันนึงของงานวิจัยที่
00:10:39 → 00:10:44 หมอเฟิร์นเอามาบอกเนาะต่อไปแล้วมันเกี่ยว
00:10:44 → 00:10:46 กับวิทยาศาสตร์quวอนตัมยังไงquวอนตัมฟิส์
00:10:46 → 00:10:48 มันเกี่ยวยังไงเดี๋มาเฟิร์นพูดแบบสั้นๆ
00:10:48 → 00:10:52 ง่ายๆเนาะเกี่ยวข้องตรงที่ว่าควตัมคือ
00:10:52 → 00:10:56 อะไรอ่ะสั้นเลยตัมก็คือพลังงานหรือสะสาร
00:10:56 → 00:11:00 ที่เล็กมากๆคุณมองไม่เห็นด้วยตาเปล่าแล้ว
00:11:00 → 00:11:02 ต้องใช้แบบว่าเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์
00:11:02 → 00:11:05 ที่ส่องดูได้เนาะเป็นพวกอะตอมอนุภาคเล็กๆ
00:11:05 → 00:11:07 เลยแต่ถ้าว่าทางฟิสิกส์หรือทาง
00:11:07 → 00:11:12 วิทยาศาสตร์เค้าวัดได้ของควนตัมนะเป็นโลก
00:11:12 → 00:11:16 ของความเป็นไปได้ทุกอย่างจะอยู่ในสถานะ
00:11:17 → 00:11:21 ที่มันซับซับซ้อนกันหมดเลยจนกว่าคุณจะไป
00:11:21 → 00:11:25 สังเกตมันคีย์มันอยู่ตรงนี้ในโลกของ
00:11:25 → 00:11:28 ควนตัมทุกอย่างมันจะไม่เกิดขึ้นจนกว่าคุณ
00:11:28 → 00:11:32 จะไปสังเกตมันอ่ะพูดซ้ำอีกทีเผื่อใครไม่
00:11:32 → 00:11:35 เข้าใจอย่างยกตัวอย่างง่าย
00:11:35 → 00:11:38 ๆถ้าในโลกขวัญต่ำถ้าคุณอยากเจอหมอเฟิร์น
00:11:38 → 00:11:41 แล้วคุณกำลังเข้าคุณก็หยิบโทรศัพท์เข้ามา
00:11:41 → 00:11:44 คุณก็มาดูไลฟ์คุณก็เห็นหน้าหมอเฟิร์น
00:11:45 → 00:11:49 เนี่ยแหละควนตัมแต่ถ้าคุณไม่สังเกตไม่มอง
00:11:49 → 00:11:51 ที่โทรศัพท์หมอเฟิร์ก็จะไม่อยู่ตรง
00:11:51 → 00:11:55 นี้คือทุกความเป็นไปได้คือเหมือนมีเราใน 2
00:11:55 → 00:11:58 แบบหลายเวอร์ชั่นเสมอแล้วแต่ว่าคุณจะ
00:11:58 → 00:12:01 เลือกสังเกตมยจะสังเกตมั้อย่างวันนี้คน
00:12:01 → 00:12:04 ที่เข้ามาก็อยากจะเปลี่ยนแปลงตัวเองในบาง
00:12:04 → 00:12:07 อย่างของชีวิตหรือว่าเป็นเรื่องสุขภาพที่
00:12:07 → 00:12:10 อยากดีขึ้นติดตรงไหนอย่างเงี้ยคุณก็เปิด
00:12:10 → 00:12:13 เข้ามาเจอหมอเฟิร์นพอดีเพราะคุณเลือกมา
00:12:13 → 00:12:15 ก่อนแล้วคุณอยากสังคุณสังเกตหาอยู่ว่ามัน
00:12:15 → 00:12:18 มีวิธีไหนได้บ้างคุณถึงมาเจอกันในวันนี้
00:12:19 → 00:12:21 แต่นั่นแหละอันนี้คร่าวๆแต่เดี๋มหมอ
00:12:21 → 00:12:24 เฟิร์นไปอธิบายแบบละเอียดให้ในหนังสือ
00:12:24 → 00:12:25 แล้วกันเนาะเพราะว่าตอนนี้เขียนหนังสือ
00:12:25 → 00:12:27 อยู่ที่เป็นเกี่ยวกับ affirmation นี่
00:12:27 → 00:12:29 แหละเดี๋ยวหมอเฟิร์นให้รายละเอียดท้าย
00:12:29 → 00:12:32 ไลฟ์แล้วกันซึ่งแล้วมันเกี่ยวกับ
00:12:32 → 00:12:35 affirmation ยังไงการquantตัมฟิ์สเนี่ย
00:12:35 → 00:12:38 มันเกี่ยวตรงที่ว่าการ affirmation เนี่ย
00:12:38 → 00:12:41 มันก็เหมือนเป็นการเลือกความเป็นไปได้
00:12:41 → 00:12:44 ใหม่ๆผ่านการตั้งจิตหรือตั้งสมาธิตั้ง
00:12:44 → 00:12:49 เจตนานั่นแหละมันคือการเลือกเหมือนกัน
00:12:49 → 00:12:51 ซึ่งมันก็ไม่ได้มีแค่งานวิจัยที่หมอ
00:12:51 → 00:12:55 เฟิร์นบอกเมื่อกี้ก็ยังมีนักวิทยาศาสตร์
00:12:55 → 00:12:59 สมองคนหนึ่งที่เก่งมากๆก็คือดร.โจิซ่า
00:12:59 → 00:13:01 เนาะถ้าใครรู้จักเคยอ่านหนังสือก็จะรู้ดี
00:13:01 → 00:13:04 ว่าเค้าทดสอบทดลองเกี่ยวกับquวตัมฟิสิกส์
00:13:04 → 00:13:08 เยอะมากๆเพิสูจน์แล้วว่าความคิดความคิด
00:13:08 → 00:13:10 นี้และความเชื่อสามารถเปลี่ยนโครงสร้าง
00:13:10 → 00:13:13 ของสมองและพฤติกรรมของเราได้โดยในการทด
00:13:13 → 00:13:17 ลองของเขาค้าเนี่ยทดสอบพบว่าการ
00:13:17 → 00:13:20 สังเกตของเราไม่ว่าเราจะสังเกตอะไรก็ตาม
00:13:20 → 00:13:23 ตอนนี้เห็นโทรศัพท์เห็นคอมเห็นเก้าอี้
00:13:23 → 00:13:26 เห็นโซฟาเห็นเตียงนอนอะไรอย่างเงี้ยการ
00:13:26 → 00:13:30 สังเกตเนี่ยส่งผลต่อพฤติพฤติกรรมในอนุภาค
00:13:30 → 00:13:32 ของควนตัมที่เป็นสารเป็นอะตอมจริง
00:13:33 → 00:13:38 ๆพูดง่ายๆเลยนะอ่ะสรุปขมวดมิตใต้สำนึกของ
00:13:38 → 00:13:41 เราเนี่ยเปรียบเสมือนผู้สังเกตที่เปลี่ยน
00:13:41 → 00:13:45 พลังงานให้กลายเป็นความจริงได้ถ้าคุณยิ่ง
00:13:45 → 00:13:48 ไปสังเกตสิ่งใดคุณก็จะยิ่งเห็นสิ่งนั้น
00:13:48 → 00:13:51 มากขึ้นมากขึ้นเรื่อยๆอย่างเช่นสมมุติว่า
00:13:51 → 00:13:54 ตอนนี้คุณอย่างหมอเฟิร์นช่วงนี้กำลังดูรถ
00:13:54 → 00:13:57 เป็นพิเศษเนาะอย่างหมอเฟิร์นชอบรถเทสลอ่ะ
00:13:57 → 00:14:03 รถไฟฟ้าของอีอนมาสเนาะถ้าเรามีสิ่งนี้
00:14:03 → 00:14:06 อยู่ในหัวบ่อยๆเนี่ยหันไปทางไหนขนาดหมอ
00:14:06 → 00:14:09 เฟิร์นบ้านอยู่เชียงรายนะยังเจอรถเทสลเลย
00:14:09 → 00:14:12 อ่ะเนี่ยแหละแต่ถ้าเราไม่สังเกตมันก็ไม่
00:14:12 → 00:14:17 เห็นอย่างบางคนแบบกำลังคิดถึงรถสีแดงคุณ
00:14:17 → 00:14:20 ลองพูดสิสีแดงรถสีแดงบ่อยๆเดี๋ยวคุณออก
00:14:20 → 00:14:22 นอยท้องถนนนี้เจอแต่รถสีแดงเต็มไปหมดเจอ
00:14:22 → 00:14:24 แต่รถยี่ห้อนี้เต็มไปหมดที่คุณคิดอยู่
00:14:24 → 00:14:28 เนี่ยมันก็คือการสังเกตแล้วคุณถึงจะเห็น
00:14:28 → 00:14:30 Affirmation ก็เหมือนกันก็คือการที่คุณ
00:14:31 → 00:14:34 พูดกับตัวเองในเชิงบวกบ่อยๆซ้ำๆยิ่งคุณ
00:14:35 → 00:14:38 ให้ความสำคัญหรือโฟกัสสังเกตสิ่งใดสิ่ง
00:14:39 → 00:14:42 นั้นแหละก็จะเจอในสภาพแวดล้อมเจอในชีวิต
00:14:42 → 00:14:45 จริงของคุณเต็มไปหมดเลยแต่กลับกันกับคน
00:14:45 → 00:14:46 ที่ไม่รู้นะ
00:14:46 → 00:14:51 แล้วคิดถึงแต่อะไรที่เป็นเหตุการณ์แย่ๆใน
00:14:51 → 00:14:55 ทางลบเนาะหรือว่าสังเกตหาแต่แบบโรคภัยไข้
00:14:55 → 00:14:59 เจ็บก็เช่นเดียวกันคุณก็จะเจอแต่โรคภัย
00:14:59 → 00:15:02 ไข้เจ็บคิดถึงแต่อุบัติเหตุคุณก็จะเจอ
00:15:02 → 00:15:04 อุบัติเหตุไม่ว่าจะอาจจะไม่เจอกับตัวเอง
00:15:04 → 00:15:07 แต่อาจจะเจอตามท้องถนนอะไรเงี้ยก็จะเจอ
00:15:07 → 00:15:10 แต่แบบนั้นนั่นแหละอันนี้คือพูดเรื่อง
00:15:10 → 00:15:12 ใหม่ๆบ้างเนาะเพราะว่าถ้าพูดแต่เรื่องว่า
00:15:12 → 00:15:14 ต้องกินนั่นกินนี่ต้องปรับเปลี่ยน
00:15:14 → 00:15:16 พฤติกรรมมันก็จะเป็นเรื่องเดิมๆหมอเฟิร์น
00:15:16 → 00:15:19 ขอมาแตะในเรื่องของวิทยาศาสตร์สมองและ
00:15:19 → 00:15:22 วิทยาศาสตร์สมัยใหม่เพื่อให้คนที่ตามหมอ
00:15:22 → 00:15:23 เฟิร์นเนี่ยมีความรู้ในเรื่องนี้มากขึ้น
00:15:23 → 00:15:26 ซึ่งเรื่องเนี้ยมันง่ายมากๆถ้าคุณเปลี่ยน
00:15:26 → 00:15:30 แค่แเรื่องนี้พฤติกรรมการกินอาหารทั้งหมด
00:15:30 → 00:15:34 คุณจะเปลี่ยนโดยที่ไม่ต้องพยายามถ้าคุณ
00:15:34 → 00:15:37 เปลี่ยนสิ่งนี้ได้นะเปลี่ยนสิ่งใดเนี้ย
00:15:37 → 00:15:39 ซึ่งเครื่องมือที่ให้ไปแล้วมันช่วยได้มาก
00:15:39 → 00:15:42 ก็คือ affirmation เทคนิคให้เทคนิคไปง่าย
00:15:42 → 00:15:45 ๆแล้วกันถ้าเผื่อใครที่ไม่ได้ซื้อหนังสือ
00:15:45 → 00:15:47 หมอเฟิร์นเนาะคุณก็เดี๋หมอเฟิร์นก็ออกมา
00:15:47 → 00:15:50 สอนไลฟ์ฟรีเงี้ยเยอะอยู่แล้วคุณก็ฟังฟรี
00:15:50 → 00:15:52 จากหมอเฟิร์นก็ได้แล้วก็เอาเทคนิคในวัน
00:15:52 → 00:15:56 นี้ไปปรับใช้ก็ได้แล้วถ้าได้ผลยังไงก็ได้
00:15:56 → 00:15:58 ผลยังไงก็มาเล่าบอกใน Line แอดหรือใน
00:15:59 → 00:16:01 คอมเมนต์ก็ได้เนาะไม่ซื้อก็ไม่เป็นไร
00:16:01 → 00:16:02 เพราะหมอเฟิร์นเขียนอยู่แล้วเพราะว่ามัน
00:16:02 → 00:16:05 เป็นสิ่งที่หมอเฟิร์นเอามาใช้กับตัวเอง
00:16:05 → 00:16:08 แล้วถ้าใครสนใจก็ค่อยสั่งซื้อทีหลังก็ได้
00:16:08 → 00:16:11 เทคนิคในการทำการพูด affirmation ให้ได้
00:16:11 → 00:16:14 ผลแล้วเชื่อมโยงกับวิทยาศาสตร์ควนตัมที่
00:16:14 → 00:16:16 อย่างที่หมอเฟิร์นบอกก็คือให้ 3 ข้อง่ายๆ
00:16:17 → 00:16:20 เลยวันนี้ใครทันก็พิมพ์ตามได้นะข้อ 1 ก็
00:16:20 → 00:16:25 คือให้คุณตั้งเจตนาที่ชัดเจนข้อ 1 คือ
00:16:25 → 00:16:28 ต้องมีเจตนาที่ชัดเจนก่อนคุณต้องให้ความ
00:16:28 → 00:16:31 สำคัญกับสิ่งที่คุณต้องการพูดง่ายๆก็คือ
00:16:31 → 00:16:34 โฟกัสว่าตอนเนี้ยคุณอยากได้อะไรสมมุติคุณ
00:16:34 → 00:16:37 ป่วยไม่ว่าคุณจะเป็นโรคร้ายหรือว่าโรค
00:16:37 → 00:16:41 เรื้อรังใดๆก็ตามคุณต้องการอะไรคุณ
00:16:41 → 00:16:44 ต้องการหายป่วยคุณอยากมีสุขภาพที่ดีให้
00:16:44 → 00:16:48 คุณโฟกัสสิ่งที่คุณอยากได้ไม่ใช่สิ่งที่
00:16:48 → 00:16:50 คุณกลัวหรือสิ่งที่คุณไม่ต้องการเพราะ
00:16:50 → 00:16:53 อย่างที่บอกยิ่งคุณสังเกตสิ่งใดสิ่งนั้น
00:16:53 → 00:16:55 มันก็จะยิ่งเพิ่มพูนยิ่งยิ่งขยายยิ่งเข้า
00:16:55 → 00:16:59 มาอยู่ในชีวิตคุณมากขึ้นอ่าข้อนี้ง่ายมาก
00:16:59 → 00:17:03 ๆคือตั้งเจตนาให้ชัดเจนว่าตัวเองต้องการ
00:17:03 → 00:17:07 อะไรข้อ 1 ใครเข้าใจพิมพ์ 1 พิมพ์เลข 1
00:17:07 → 00:17:11 ก็พอง่ายดีพิมพ์แค่เลข 1 มาไปเทคนิคข้อ
00:17:11 → 00:17:14 ที่ 2 การทำ affirmation ให้ได้ผลมันง่าย
00:17:14 → 00:17:19 มากข้อ 2 ก็คือใช้ประโยคที่เป็นปัจจุบัน
00:17:19 → 00:17:21 หรือ now ในตอนนี้
00:17:21 → 00:17:26 เช่นฉันมีสุขภาพที่ดีไม่ใช่การใช้ว่าฉัน
00:17:26 → 00:17:28 อยากมีสุขภาพที่ดีอย่างเงี้ยอันนี้เป็น
00:17:28 → 00:17:31 อนาคตแล้วเนาะหรือว่าไม่รู้จะเกิดเมื่อ
00:17:31 → 00:17:33 ไหร่ให้ใช้นาวไปเลยว่าฉันมีสุขภาพที่ดี
00:17:33 → 00:17:35 ฉันหน้าเด็กฉันดูอ่อนเยาอันนี้หมอเฟิร์น
00:17:35 → 00:17:38 ใช้ประจำก็เลยพูดออกมาได้เลยฉันหน้าเด็ก
00:17:38 → 00:17:41 ฉันอ่อนเยาไม่ใช่บอกว่า
00:17:41 → 00:17:44 ฉันอยากหน้าเด็กอย่างเงี้ยเมื่อไหร่จะ
00:17:44 → 00:17:46 หน้าเด็กให้พูดไปเลยปัจจุบันยิ่งสังเกต
00:17:46 → 00:17:50 ยิ่งเห็นอ่าข้อที่ 3 อ่ะข้อ 2 เมื่อกี้
00:17:50 → 00:17:52 พิมพ์ 2 ใครทันข้อ 2 พิมพ์ 2 ใช้ประโยค
00:17:52 → 00:17:56 ปัจจุบันเวลาจะคิดจะพูดอะไรที่อันนี้ก็
00:17:56 → 00:17:58 คือที่พูดกับตัวเองนะ Affirmation คือการ
00:17:58 → 00:18:01 พูดกับตัวเองนะไม่ใช่คุณไปพูดกับคนอื่นนะ
00:18:01 → 00:18:04 ให้พูดประโยคปัจจุบันกับตัวเองตลอดเวลา
00:18:04 → 00:18:07 ฉันหน้าเด็กฉันอ่อนเยาฉันมีสุขภาพที่ดี
00:18:07 → 00:18:11 ฉันแข็งแรงฉันเป็นคนหน้าตาดีหุ่นดีโอพูด
00:18:11 → 00:18:14 แล้วก็สดชื่นเนาะแล้วมันก็จะเป็นจริง
00:18:14 → 00:18:16 อย่างงั้นจริงๆเพราะจริงๆหมอเฟิร์นก็ไม่
00:18:16 → 00:18:19 ใช่คนแบบนี้ไม่ใช่คนหน้าใสแบบนี้เพราะว่า
00:18:19 → 00:18:22 เป็นเด็กที่ชอบกินแป้งน้ำตาลมากแต่ก่อนก็
00:18:22 → 00:18:25 จะมีสิวมีริ้วรอยเยอะเหมือนกันแต่ตอนเเรา
00:18:25 → 00:18:27 เปลี่ยนแปลงตัวเองเราเป็นคนสุขภาพดีบอก
00:18:27 → 00:18:29 ตัวเองบ่อยๆว่าเราเป็นคนสุขภาพดีสุดท้าย
00:18:29 → 00:18:32 เราก็จะเลือกกินผักกินอาหารคาร์โบไฮเดรต
00:18:32 → 00:18:35 ต่ำกินพวกกินกับมากกว่าข้าวอย่างเงี้ยมัน
00:18:35 → 00:18:37 ก็จะเปลี่ยนไปโดยปริยายจริงแต่มันไม่ได้
00:18:37 → 00:18:40 แบบเปลี่ยนทันทีคุณก็ต้องทำแบบต่อเนื่อง
00:18:40 → 00:18:43 ทำจนกว่าความคิดใหม่ความเชื่อมันจะลงไป
00:18:43 → 00:18:46 เป็นความเชื่อแล้วมันจะเป็นนิสัยใหม่ไม่
00:18:46 → 00:18:48 ใช่บอกว่าทำไม่กี่วันไม่เห็นได้ผลเลยอัน
00:18:48 → 00:18:52 นี้คุณยังทำไม่จริงใครเข้าใจข้อ 2 พิมพ์
00:18:52 → 00:18:55 ข้อของใช้ประโยคปัจจุบันเท่านั้นที่คุย
00:18:56 → 00:18:58 กับตัวเองข้อที่
00:18:58 → 00:19:03 3 มาถึงขนาดนี้ละคุณต้องใช้ภาพด้วยก็คือ
00:19:03 → 00:19:06 ใช้จินตนาการควบคู่กับ affirmation ไม่
00:19:06 → 00:19:10 ใช่พูดๆอย่างเดียวไม่เคยเห็นภาพเลยอย่าง
00:19:10 → 00:19:13 คุณอยากถ้าเกิดว่าตอนนี้คุณอยากลดน้ำหนัก
00:19:13 → 00:19:16 อยากมีหุ่นที่ดีคุณก็บอกว่าคุณเป็นคนหุ่น
00:19:16 → 00:19:20 ดีแล้วคุณก็เห็นภาพตัวเองหุ่นดีด้วยส่อง
00:19:20 → 00:19:23 กระจกแม้ว่าคนในกระจกตอนเนี่ยอาจจะหุ่น
00:19:23 → 00:19:27 ไม่ได้ดีมีพุงแต่ให้คุณเห็นไว้ก่อนเลยว่า
00:19:27 → 00:19:29 เวลาที่ตัวเองหุ่นดีมันเป็นยังไงถ้าคุณ
00:19:29 → 00:19:33 คิดไม่ออกขนาดนั้นนะไปหาภาพคนที่หุ่นดี
00:19:33 → 00:19:36 หุ่นที่คุณต้องการแล้วเอาหน้าคุณไปแปะก็
00:19:36 → 00:19:39 ได้แบบนี้ก็ได้เหมือนกันเพราะว่ามีคนใช้
00:19:39 → 00:19:41 เทคนิคนี้เยอะมากอาจารย์หมอเฟิร์นก็ใช้
00:19:41 → 00:19:44 แต่ก่อนแกก็เป็นคนแบบอ้วนลงพุงเนาะแล้วแก
00:19:44 → 00:19:47 อยากได้หุ่นแบบ Superman แกก็เอาหน้าตัว
00:19:47 → 00:19:49 เองเไปแปะตัดต่อใส่หุ่น Superman ตอนนี้
00:19:49 → 00:19:54 แกเป็นอย่างงั้นจริงๆภายในเวลา 3-4 ปีคือ
00:19:54 → 00:19:58 เห็นคาตาเอาอย่างงี้อันนี้คือไม่ไม่ต้อง
00:19:58 → 00:20:01 มีใครมาพิสูจน์ยืนยันหมอเฟิร์นี่แหละยืน
00:20:01 → 00:20:05 ยันให้ว่ามันทำได้จริงๆพอแกทำแบบนี้เห็น
00:20:05 → 00:20:07 ภาพตัวเองแบบนี้แล้วพูดกับตัวเองว่าแก
00:20:07 → 00:20:10 เป็นคนหุ่นดีหุ่นเหมือนเลยแกก็ออกกำลัง
00:20:10 → 00:20:13 กายเองโดยอัตโนมัติแกก็กินคลีนเองโดย
00:20:13 → 00:20:16 อัตโนมัติแต่ก่อนแกก็ไม่ใช่คนแบบนี้นะอ่า
00:20:16 → 00:20:18 อันนี้เป็นพูดเป็นกำลังใจให้สำหรับใครที่
00:20:18 → 00:20:21 อยากเปลี่ยนแปลงตัวเองไม่ว่าด้านใดก็ตาม
00:20:21 → 00:20:23 เนาะแต่ว่าโดยเฉพาะด้านสุขภาพเนี่ยสำคัญ
00:20:23 → 00:20:27 มากๆถ้าสุขภาพดีชีวิตคุณจะดีและมีความสุข
00:20:27 → 00:20:29 มากขึ้นอีกเยอะ
00:20:29 → 00:20:33 อ่ะแค่นั้นแหละแค่สร้างภาพในใจให้ชัดเจน
00:20:33 → 00:20:36 ร่วมทำร่วมกับ affirmation ข้อ 3 มีแค่
00:20:36 → 00:20:39 นี้แค่นี้จริงๆอ่ะเอาตัวอย่าง affirmation
00:20:40 → 00:20:43 ให้ถ้าที่หมอเฟินเคยใช้นะอ่าเอาที่หมอ
00:20:43 → 00:20:46 เฟิร์นเคยใช้ถ้าในเรื่องสุขภาพก็คือฉัน
00:20:46 → 00:20:49 สุขภาพของฉันดีขึ้นเรื่อยๆในทุกๆวันและ
00:20:49 → 00:20:51 ทุกๆทางใครอยากจดเอาไปพูดพูดกับตัวเองก็
00:20:51 → 00:20:55 ได้ฟรีเลยให้แล้วคุณก็ไปสังเกตเอาคุณลอง
00:20:55 → 00:20:59 พูดติดต่อกันสัก 21 วันอ 21 วันก็เริ่ม
00:20:59 → 00:21:04 เห็นละว่ามีพฤติกรรมในการใช้ชีวิตดีขึ้น
00:21:04 → 00:21:07 ในเรื่องของการกินการอย่างอยู่ก็อยากออก
00:21:07 → 00:21:09 กำลังกายอยู่ๆก็อยากกินผักขึ้นมาถ้าคุณ
00:21:09 → 00:21:12 พูดอย่างนี้ทุกวันนะสุขภาพของฉันดีขึ้น
00:21:12 → 00:21:15 เรื่อยๆในทุกๆวันและทุกๆทางอีกอันนึงแล้ว
00:21:15 → 00:21:16 กันเกี่ยวกับ
00:21:16 → 00:21:21 หุ่นฉันเป็นคนหุ่นดีมีระบบเผาผันทำงานดี
00:21:21 → 00:21:24 เยี่ยมอ่ะหรือว่าเอาแค่ฉันเป็นคนหุ่นดี
00:21:24 → 00:21:27 หรือพูดแค่รับฉันมีระบบเผ่าผลาญที่ทำงาน
00:21:27 → 00:21:31 ดีเยี่ยมกินเท่าไหร่ก็ผอมโอ้โหคุณอย่าไป
00:21:31 → 00:21:33 พูดนะว่ากินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วนสมองไม่รู้
00:21:33 → 00:21:38 นะว่าไม่คืออะไรพอคุณพูดถึงคำว่าอ้วนคิด
00:21:38 → 00:21:40 ไปแล้วว่าอ้วนเหมือนยกตัวอย่างหมอเฟิร์น
00:21:40 → 00:21:44 บอกว่าคุณห้ามคิดถึงแมวสีชมพูนะคุณเห็น
00:21:44 → 00:21:48 อะไรคุณเห็นแมวสีชมพูทันทีบอกว่าห้ามไงก็
00:21:48 → 00:21:51 ยังเห็นมั้ยถ้าจะใช้ประโยคจบกับตัวเองคุณ
00:21:51 → 00:21:53 ต้องรู้วิธีด้วยซึ่งเคล็ดลับพวกเนี้ยหมอ
00:21:53 → 00:21:56 เฟิร์นเขียนให้หมดเลยถ้าใครที่อ่านใน
00:21:56 → 00:21:59 หนังสือ Affirmation นะก็ก็กำลังทำอยู่
00:21:59 → 00:22:01 แล้วก็อินเนาะอย่าใช้ประโยคปฏิเสธให้พูด
00:22:01 → 00:22:03 ไปเลยว่าอยากได้อะไรอยากหุ่นดีก็บอกว่า
00:22:03 → 00:22:05 หุ่นดีไม่ใช่บอกว่าไม่อ้วนเข้าใจนะใคร
00:22:06 → 00:22:08 เข้าใจพิมพ์เข้าใจหน่อย
00:22:08 → 00:22:10 อ่าแค่นั้นแหละแล้วก็อ่ะถ้าสมมุติเรื่อง
00:22:10 → 00:22:13 อื่นๆเพราะว่าที่หมอเฟิร์นเขียนไม่ได้มี
00:22:13 → 00:22:16 แค่เรื่องสุขภาพด้านเดียวยังมีเรื่องพวก
00:22:16 → 00:22:19 ความสำเร็จการเงินการงานความรักทั้งหมด
00:22:19 → 00:22:23 อันอื่นก็ก็อ่าอีกตัวนึงแล้วกันอีกตัว
00:22:23 → 00:22:25 อย่างนึงก็คือฉันเชื่อมั่นในศักยภาพของ
00:22:25 → 00:22:30 ตัวเองว่าเราทำได้ทุกอย่างอื้อหือแค่พูด
00:22:31 → 00:22:33 แบบเนี้ยคุณก็มีกำลังใจเยอะแล้วไม่ต้องมี
00:22:34 → 00:22:37 ใครไม่ต้องรอใครมาเป็นกำลังใจคุณคนเดียว
00:22:37 → 00:22:40 นั่นแหละที่เป็นคนเลือกทุกอย่างที่มัน
00:22:40 → 00:22:43 เกิดขึ้นในตอนนี้ใครฟังถึงตรงนี้แล้วชอบ
00:22:43 → 00:22:47 แล้วสนใจเรื่องแบบนี้อ่านได้อ่าเดี๋
00:22:47 → 00:22:50 มาเฟิร์นบอกแล้วกันรายละเอียดมีอะไรบ้าง
00:22:50 → 00:22:52 ก็คืออ่านได้ใน
00:22:52 → 00:22:55 หนังสือ 99 Affirmation โปรแกรมสมองให้
00:22:56 → 00:22:59 ดีขึ้นให้ชีวิตดีขึ้นทุกด้านเล่มนี้หมอ
00:22:59 → 00:23:02 เฟิร์นตั้งใจเขียนมากเพราะว่าแอบบอกว่า
00:23:02 → 00:23:05 ตั้งใจเขียนมาให้ตัวเองด้วยแล้วก็จะเอา
00:23:05 → 00:23:10 ให้ครอบครัวให้คนรักทุกคนด้วยเพราะว่าหมอ
00:23:10 → 00:23:13 เฟิร์นรู้คีย์ข้อนี้ดีว่าคนเราถ้าอยากจะ
00:23:13 → 00:23:16 เปลี่ยนแปลงด้านไหนก่อนที่จะเปลี่ยนภาย
00:23:16 → 00:23:20 นอกให้เปลี่ยนข้างในก่อนถ้าคุณเปลี่ยน
00:23:20 → 00:23:23 ข้างในได้ข้างนอกไม่ยากไม่ต้องใช้ความ
00:23:23 → 00:23:27 พยายามเลยถ้าข้างในคุณถูกต้องถ้าคุณมี
00:23:27 → 00:23:30 mindซตที่ถูกความคิดที่ถูกต้องข้างนอก
00:23:30 → 00:23:35 สบายแล้วชีวิตคุณจะง่ายสะดวกสบายดีแบบไม่
00:23:35 → 00:23:38 คาดคิดมาก่อนจนคิดว่าชีวิตแบบนี้มันไป
00:23:38 → 00:23:41 อยู่ที่ไหนมาพ่อเฟิก็เคยเป็นคนหนึ่งที่
00:23:41 → 00:23:44 เคยยากลำบากกับชีวิตเหมือนกันทำออนไลน์มา
00:23:44 → 00:23:48 เนี่ยกว่าจะมีผู้ติดตามเป็นแสนโอ้โหโห
00:23:48 → 00:23:52 โพสต์คลิปวันละ 3-4 คลิปก็ 0 วิวจน
00:23:52 → 00:23:55 ปัจจุบันเโพสต์นิดเดียวคนดูคนตามคน
00:23:55 → 00:23:57 คอมเมนต์เต็มไปหมดเลยก็ต้องขอบคุณทุกคน
00:23:57 → 00:24:00 มากที่สนับสนุนแล้วแล้วตอนนั้นหมอเฟิร์น
00:24:00 → 00:24:03 มีความมั่นใจมาจากไหนอ่ะว่าตัวเองจะมีคน
00:24:03 → 00:24:05 ดูมีผู้ติดตามก็ใช้ affirmation เนี่ย
00:24:05 → 00:24:08 แหละแล้วก็แต่ก่อนหมอเวฟเวินก็ไม่ได้หน้า
00:24:08 → 00:24:10 ตาแบบนี้หน้าไม่ได้ใสไม่ได้หน้าเด็กแบบ
00:24:10 → 00:24:12 นี้ก็หน้าเหมือนคนทั่วไปเนี่ยแหละก็ไม่
00:24:12 → 00:24:14 ได้น่ามองไม่ได้หน้าขาวใสก็ใช้
00:24:14 → 00:24:16 affirmation นี่แหละที่ให้ตัวเองหน้า
00:24:16 → 00:24:19 เด็กดูอ่อนเยาวส่องกระจกทีไรก็ฉันเป็นคน
00:24:19 → 00:24:21 หน้าใสหน้าเด็กมากขึ้นทุกวันทุกทางไม่ว่า
00:24:21 → 00:24:23 อายุจะเพิ่มขึ้นเท่าไหร่ก็ตามเราก็เป็นคน
00:24:23 → 00:24:27 หุ่นดีไม่เคยอ้วนเลยทั้งชีวิตอ่ะทุกอย่าง
00:24:27 → 00:24:30 อยู่ในนี้หมดเลยซึ่งเล่มนี้จะบอกว่าไม่
00:24:30 → 00:24:33 ได้รวบรวมแค่ประโยคเชิงบวกหรือ
00:24:33 → 00:24:36 affirmation ธรรมดานะแต่ยังมีการอธิบาย
00:24:36 → 00:24:39 วิทยาศาสตร์สมัยใหม่ที่เป็นquวตัมฟิสิกส์
00:24:39 → 00:24:41 ที่ต้นๆเนาะในหนังสือก็จะเขียนละเอียด
00:24:41 → 00:24:44 แล้วก็ยกตัวอย่างด้วยแล้วแบบที่คุณเข้าใจ
00:24:44 → 00:24:47 ง่ายๆเอาไปใช้ได้เลยแล้วก็จะเสริมว่ามี
00:24:47 → 00:24:50 งานวิจัยของคนไหนที่ช่วยซัพพอร์ตบ้าง
00:24:50 → 00:24:53 เพื่ออะไรเพื่อให้คุณเชื่อมั่นว่า
00:24:53 → 00:24:55 affirmation ในเนี้ยที่หมอเฟิร์นในคัดมา
00:24:55 → 00:24:59 เนี่ยมันจะได้ผลกับคุณยังไงบ้างแล้วมัน
00:24:59 → 00:25:05 ได้ผลได้ผลถ้าคุณทำตามที่บอกและแต่ละข้อ
00:25:05 → 00:25:08 ความก็ถูกออกแบบมาเฉพาะเจาะจงพิเศษหลาย
00:25:08 → 00:25:11 หลายเป้าหมายในชีวิตของคุณที่อย่างที่บอก
00:25:11 → 00:25:14 ว่ามีทั้งเรื่องการงานการเงินความรักความ
00:25:14 → 00:25:17 สงบจิตสงบใจของเราเรื่องสุขภาพด้วยสุขภาพ
00:25:18 → 00:25:21 นี่จะเน้นเป็นพิเศษหน่อยเนาะถ้าใครที่ติด
00:25:21 → 00:25:24 ในเรื่องสุขภาพอะไรอยู่ทำทุกอย่างแล้วแต่
00:25:24 → 00:25:27 ไม่ดีขึ้นก็ลองไม่มีอะไรจะเสียหายแล้ว
00:25:27 → 00:25:30 ซึ่งหมอเฟิร์นจะเป็นคนเลือกเองโดยเฉพาะ
00:25:30 → 00:25:33 เพราะว่าเราต้องขัดเองต้องผ่านตาแล้วก็
00:25:33 → 00:25:35 เราต้องเอามาใช้แล้วเอาไปให้ครอบครัวเรา
00:25:35 → 00:25:40 ด้วยใครสนใจก็พิมพ์สนใจไว้รอได้เลยเพราะ
00:25:40 → 00:25:43 ว่าเดี๋ยวจะได้อ่านในช่วงมกราคมถึง
00:25:43 → 00:25:44 กุมภาพันธ์แล้วเนาะหมอเฟิร์นก็จะเลือกแต่
00:25:44 → 00:25:48 ประโยคที่มันมีผลต่อจิตใต้สำนึกของเรา
00:25:48 → 00:25:52 ด้วยจริงๆเพราะว่าไม่ใช่ประโยคไหนก็ได้
00:25:52 → 00:25:56 มันต้องเป็นประโยคที่อ่านแล้วเอามาพูด
00:25:56 → 00:25:59 แล้วมันเร้าใจให้มันเกิดอารมณ์ในเชิงบวก
00:25:59 → 00:26:02 จริงๆเพราะถ้าเราอ่านแล้วเราเฉยๆอ่ะก็ไม่
00:26:02 → 00:26:06 มีผลพูดอย่างี้เลยอารมณ์ของเราสำคัญมากๆ
00:26:06 → 00:26:11 ในการใช้ศาสตร์นี้ซึ่งมีคนมาถามว่ามัน
00:26:11 → 00:26:14 เกี่ยวกับneวโรไซนมั้ยเกี่ยวแน่นอนเพราะ
00:26:14 → 00:26:17 ว่ามันเปลี่ยนเข้าไปถึงสมองอย่างที่บอก
00:26:17 → 00:26:19 ว่ามันเกี่ยวกับสมองส่วนหน้าที่เปลี่ยน
00:26:19 → 00:26:21 แล้วก็ข้างในabาร่าด้วยเนาะที่
00:26:21 → 00:26:25 เปลี่ยนคือมันรวมกันทั้งจิตวิทยา
00:26:26 → 00:26:29 ควนตัฟิกิส์neวโร science ก็อยู่ด้วยกัน
00:26:29 → 00:26:33 หมดเลยในเนี้ยแล้วมันเป็นวิธีแฮกชีวิตของ
00:26:33 → 00:26:35 คุณที่ง่ายที่สุด
00:26:35 → 00:26:38 ะอ่ะให้ยกตัวอย่างแล้วะกันน้ำจิ้มในหนัง
00:26:39 → 00:26:41 ในหนังสือเล่มนี้สัก 2 ประโยคอ่ะเมื่อกี้
00:26:41 → 00:26:44 หมอเฟิร์นพูดไปแล้วนี่พูดอีกรอบก็ได้ยก
00:26:44 → 00:26:47 ตัวอย่างอย่างเช่นสุขภาพของฉันดีขึ้น
00:26:47 → 00:26:51 เรื่อยๆในทุกๆวันทุกๆทางทำไมต้องมีดีขึ้น
00:26:51 → 00:26:53 เรื่อยๆในทุกๆวันทุกๆทางมันมีเหตุผลนะ
00:26:53 → 00:26:55 เพราะว่าอาจจะบอกว่าฉันเป็นคนสุขภาพดีบาง
00:26:55 → 00:26:59 ทีไม่รู้เหมคุณมีประสบการณ์ใดๆมาคุณอาจ
00:26:59 → 00:27:01 สมองของคุณอาจจะโดนต้านไปเลยว่าไม่จริง
00:27:01 → 00:27:05 คุณเนี่ยอ่อนแอเธออ่อนแอจะตายหมอเฟิร์น
00:27:05 → 00:27:07 เลยใส่คำว่าดีขึ้นเรื่อยๆในทุกๆวันทุกๆ
00:27:07 → 00:27:11 ทางให้สมองของคุณไม่ย้อนแย้งให้มันแบบ
00:27:11 → 00:27:14 ค่อยๆดีขึ้นอันเนี้ยสมองจะไม่ค่อยต้านอ่ะ
00:27:14 → 00:27:18 เราใช้หลักการในนั้นเยอะมากที่ให้มันให้
00:27:18 → 00:27:20 คุณได้ผลที่สุด
00:27:20 → 00:27:25 อ่ะหรือว่าเอาเรื่องความมั่งความร่ำรวย
00:27:25 → 00:27:27 บ้างเนาะอันนี้หมอเฟิร์นใช้ประจำก็คือฉัน
00:27:27 → 00:27:30 มั่งคั่งเหลือเฟือมากขึ้นทุกวันทุกทางอัน
00:27:30 → 00:27:33 นี้ใช้กับตัวเองแล้วเห็นผลลัพธ์ชัดเจนมาก
00:27:33 → 00:27:35 ๆไม่ต้องพูดเยอะเนาะเพราะว่าถ้าถ้าหมอ
00:27:35 → 00:27:37 เฟิร์นไม่ไม่มั่งคั่งเหลือเฟื้อมากขึ้น
00:27:38 → 00:27:40 ทุกวันทุกทางหมอเฟิร์นจะไม่สามารถมาไลฟ์
00:27:40 → 00:27:43 ฟรีๆให้คุณแบบนี้ได้ไม่สามารถมาทำในสิ่ง
00:27:43 → 00:27:46 ที่รักที่ชอบแบบนี้ได้ทุกวันไม่งั้นหมา
00:27:46 → 00:27:50 เเฟิร์นก็คงจะไปอยู่แต่ในคลินิกโรงพยาบาล
00:27:50 → 00:27:52 อย่างเงี้ยแล้วก็ไม่ได้มาเจอคุณแล้วก็ได้
00:27:52 → 00:27:55 เงินเดือนโอ้โหไม่กี่หมื่นอย่างเงี้ยถ้า
00:27:55 → 00:27:57 ไม่มาอยู่ตรงนี้ถ้าหมอเฟิร์นไม่ใช้
00:27:57 → 00:28:00 affirmation นี้ก็พูดเลยว่าไม่ได้เจอกัน
00:28:01 → 00:28:04 มีแค่นี้จริงๆ
00:28:04 → 00:28:08 อ่าโอเควันนี้คิดแต่เรื่องควเอ้คุณคุณสัน
00:28:08 → 00:28:10 บอกว่าวันนี้คิดแต่เรื่องควนตัมฟิสิกส์
00:28:11 → 00:28:12 ตลอดเลยแล้วมาเจอหมอเฟิร์นพูดอีกพอดีเห็น
00:28:13 → 00:28:16 มยเนี่ยแหละคือควนตัมอย่างหนึ่งเวลาคุณ
00:28:16 → 00:28:20 คิดถึงแต่สิ่งไหนแล้วคุณสังเกตเนี่ยแหละ
00:28:20 → 00:28:22 เกิดขึ้นเราเลยมาเจอกันอันนี้ก็เป็น
00:28:22 → 00:28:24 เรื่องควนตัมอย่างหนึ่งเดี๋หมอเฟิร์น
00:28:24 → 00:28:27 เขียนอธิบายไว้ให้ในเล่มนี้เนาะซึ่งมันก็
00:28:27 → 00:28:30 ต้องรีบมาบอกเพราะว่าจริงๆเล่มเนี้ย
00:28:30 → 00:28:31 พีอเดอร์เริ่มบอกตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว
00:28:31 → 00:28:35 แล้ววันนี้มันเป็นวันสุดท้ายพอดีกลัวหลาย
00:28:35 → 00:28:38 คนตกรถพลาดราคาพิเศษเนาะเพราะว่าหนังสือ
00:28:38 → 00:28:41 หมอเฟิร์นถ้าใครเคยเคยสั่งจองมาจะรู้ว่า
00:28:41 → 00:28:44 ช่วงที่พรีอเดอร์เนี่ยราคาดีที่สุดแล้ว
00:28:44 → 00:28:47 คุ้มที่สุดแล้ววันนี้มันคือวันสุดท้ายแต่
00:28:47 → 00:28:49 หมอเฟิร์นขอให้อีก 1 วันคือพรุ่งนี้เพราะ
00:28:49 → 00:28:52 ว่าวันนี้มาไลฟ์ดึกแล้วเนาะเกือบไม่ได้มา
00:28:52 → 00:28:55 บอกราคาพิเศษคนที่มาดูไลฟ์ในวันนี้นะถ้า
00:28:55 → 00:28:59 สั่งจองหนังสือพีอเดอร์ 99 Affirmation
00:28:59 → 00:29:02 เนี่ยปกติถ้าหนังสือพิมพ์เสร็จจะเล่มละ
00:29:02 → 00:29:07 หลักพันราคาเต็มก็คือ 1,100 1,990 บาท
00:29:07 → 00:29:10 แต่ถ้าคุณสั่งจองตั้งแต่วันนี้นะจะได้
00:29:10 → 00:29:15 ราคาพิเศษ 900 เอ้ย 900 ไม่ใช่ 690
00:29:15 → 00:29:19 บาทเฉพาะวันนี้ยังทันหรือพรุ่งนี้คุณ
00:29:19 → 00:29:21 เพิ่งมาเปิดดูฟังย้อนหลังหมอเฟิร์นก็เข้า
00:29:21 → 00:29:24 ใจบางคนฟังย้อนหลังเยอะมากฟังย้อนหลังยัง
00:29:24 → 00:29:28 ได้อยู่ถ้าคุณทักหาแอดมินในวันพรุ่งนี้
00:29:28 → 00:29:31 ยังได้ก็พิมพ์ใครสนใจก็พิมพ์ว่า CF 690
00:29:31 → 00:29:34 หรือว่า CF Affirmation อย่างี้ก็ได้
00:29:34 → 00:29:36 แล้วเดี๋แอดมินส่งรายละเอียดการจอง
00:29:36 → 00:29:39 หนังสือให้จะได้อ่านช่วงไหนได้อ่านพร้อม
00:29:39 → 00:29:41 กันในช่วงประมาณปลายเดือนมกราคมถึง
00:29:41 → 00:29:43 กุมภาพันธ์เนาะเนาะเพราะว่าต้องเอาไป
00:29:43 → 00:29:45 พิมพ์เพราะอันเนี้เป็นหนังสือเล่มที่จะทำ
00:29:45 → 00:29:47 ให้เป็นไซส์เป็น pocketbook เวลาคุณไปไหน
00:29:47 → 00:29:50 จะได้พกไปอ่านหรือว่าเปิดอ่านวันละ 1 ข้อ
00:29:50 → 00:29:54 ความก็ได้อันนี้จะเอาให้สะดวกที่สุดเป็น
00:29:54 → 00:29:56 pocket book แล้วก็ต้องพิมพ์ก็เลยถ้า
00:29:56 → 00:29:59 ใครสั่งจองก็ได้สิทธิ์พิเศษก็คือราคาดี
00:29:59 → 00:30:02 กว่าคนที่จองตอนที่หนังสือซื้อตอนที่
00:30:02 → 00:30:05 หนังสือเสร็จแล้วแน่นอนอ่ะอันนี้ทำขึ้นมา
00:30:05 → 00:30:08 เพราะว่าก็เห็นคนสนใจเยอะมากแล้วหมอ
00:30:08 → 00:30:11 เฟิร์นเองก็เป็นคนที่ทำใช้อยู่ก็เออถ้ามี
00:30:11 → 00:30:15 หนังสือเล่มนี้ขึ้นมาแล้วพกคนไทยได้พกติด
00:30:15 → 00:30:20 ตัวได้อ่านประโยคในเชิงบวกทุกวันถ้าใคร
00:30:20 → 00:30:23 บางเพื่อที่จะให้ไปเหมือนที่หมอเฟิร์นเคย
00:30:23 → 00:30:26 อธิบายว่าบางทีเราไม่รู้ตัวว่าเราเป็นคน
00:30:26 → 00:30:29 คิดลบเพราะว่าเราเป็นแพทเทิร์นการคิด
00:30:29 → 00:30:31 อย่างเงี้ยมาทั้งชีวิตแล้วเราก็แค่อ่าน
00:30:31 → 00:30:35 ประโยคในเชิงบวกทับถมมันเข้าไปเหมือนเอา
00:30:35 → 00:30:37 น้ำดีไปเจือจางน้ำเสียไปเรื่อยๆแล้วอีก
00:30:37 → 00:30:40 หน่อยไอ้ประโยคในเชิงลบที่คุณไม่ค่อยให้
00:30:40 → 00:30:43 ค่าให้ความสนใจมาแล้วมันจะไม่ค่อยมีพลัง
00:30:43 → 00:30:47 คุณคิดเวลาคุณคิดมันก็จะเปลี่ยนการคิด
00:30:47 → 00:30:51 ใหม่เปลี่ยนไปในเวที่คุณใส่เข้าไปใส่ชุด
00:30:51 → 00:30:54 ความเชื่อชุดความคิดใหม่ๆอันนี้แหละที่
00:30:54 → 00:31:01 เปลี่ยนได้แล้วมันง่ายขอแค่คุณลงมือทำ
00:31:01 → 00:31:03 เพราะว่าถ้าหมอเฟิร์นพูดเรื่องอย่างเงี้ย
00:31:03 → 00:31:05 เป็นพันคลิปแต่ถ้าคุณไม่ทำแม้แต่ครั้ง
00:31:05 → 00:31:08 เดียวก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนเรื่องแบบนี้มัน
00:31:08 → 00:31:12 ต้องคนทำเท่านั้นถึงจะรู้เนาะใครสนใจก็ CF
00:31:12 → 00:31:16 690 ได้เลยอ่ามีคน CF แล้วถ้า CF ใน
00:31:16 → 00:31:19 YouTube ต้องขออภัยมันแอดมินไม่สามารถ
00:31:19 → 00:31:22 ถักหาได้เนาะให้คุณแอดไปที่ Line แ@
00:31:22 → 00:31:24 หมอเฟิร์นแล้วกันเนาะ Line แอแ@ @
00:31:24 → 00:31:27 หมอเฟิร์นพิมพ์แอแล้วก็ M O R F E R
00:31:27 → 00:31:31 N พิมพ์ว่า CF 690 1 เล่มแล้วหมอแล้ว
00:31:31 → 00:31:34 น้องๆแอดมินอ่ะหรือว่าถ้าน้องแอดมินตอบ
00:31:34 → 00:31:36 ไม่ทันหมอเฟิร์นก็อาจจะไปช่วยตอบด้วยเนาะ
00:31:36 → 00:31:40 ก็เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาก็มีคน CF เก็บไป
00:31:40 → 00:31:42 เยอะแล้วเหมือนกันแล้ววันนี้มันวันสุด
00:31:42 → 00:31:45 ท้ายขออภัยที่มาบอกคุณดึกมากๆพรุ่งนี้ก็
00:31:45 → 00:31:48 เลยให้ขยายไปถึงวันพรุ่งนี้ 1 วันเนาะคน
00:31:48 → 00:31:51 ที่ฟังย้อนหลังจะได้ CF ทันก็ใครฟังจาก
00:31:51 → 00:31:54 YouTube ก็แอด Line ไป CF นะคะหรือว่า
00:31:54 → 00:31:57 เดี๋ยวถ้าจบไลฟ์เดี๋ยวจะมีลิงก์ให้ข้าง
00:31:57 → 00:31:59 ล่างแล้วะกันว่าให้คลิกตรงนี้ก็แอดได้เลย
00:31:59 → 00:32:02 อย่างี้ดีกว่าเนาะสรุปละ
00:32:02 → 00:32:08 กันสรุปคร่าวๆสำหรับนิดๆหน่อยๆ
00:32:08 → 00:32:12 ให้อ่าหมอเฟิร์นปิดรูปก่อนสรุปก็คือจะบอก
00:32:12 → 00:32:15 ว่าการ affirmation เนี่ยมันไม่ใช่เรื่อง
00:32:15 → 00:32:18 ที่จับตงไม่ได้หรือว่าเป็นเรื่องลี้ลับ
00:32:18 → 00:32:21 แต่อย่างใดแต่ว่ามันมีพื้นฐานของจิตวิทยา
00:32:21 → 00:32:24 แล้วก็วิทยาศาสตร์ควตัมสนับสนุนอยู่
00:32:24 → 00:32:26 เบื้องหลังทั้งหมดเลยและความคิดและคำพูด
00:32:27 → 00:32:32 ของเราเนี่ยคือพลังงานที่ส่งผลต่อชีวิต
00:32:32 → 00:32:37 เราได้จริงๆคนทำเท่านั้นที่ถึงจะรู้แล้ว
00:32:37 → 00:32:40 พูดออกมาได้เพราะเพิก็คนนึงแหละที่ทำมา
00:32:40 → 00:32:43 แล้วแล้วก็ไม่ใช่คนเดียวก็มีการวิจัยทด
00:32:44 → 00:32:47 สอบทดลองมากมายซึ่งจะบอกว่าอันเนี้ยมันก็
00:32:47 → 00:32:49 เป็นศาสตร์แห่งอนาคตเลยนะวิทยาศาสตร์แห่ง
00:32:49 → 00:32:53 อนาคตเลยถ้าใครที่ยังไม่เรียนรู้สิ่งใหม่
00:32:53 → 00:32:56 หรือไม่ยอมเปลี่ยนถ้าคุณพอใจกับชีวิตที่
00:32:56 → 00:32:59 คุณเป็นอยู่ตอนนี้นะไม่เป็นไรเลยคุณไม่
00:32:59 → 00:33:01 ต้องเปลี่ยนอะไรก็ได้แต่ถ้าคุณยังอยากมี
00:33:01 → 00:33:04 ชีวิตที่ดีขึ้นอยากมีสุขภาพดีขึ้นอยาก
00:33:04 → 00:33:07 หน้าเด็กอยากอ่อนเยาอยากชะลอไวอยากรวยมาก
00:33:07 → 00:33:10 ขึ้นอ่ะพูดอย่างี้เลยใครก็อยากรวยมากขึ้น
00:33:10 → 00:33:13 อยากจะมีความรักที่ดีขึ้นอยากมีความสงบ
00:33:13 → 00:33:16 จิตสงบใจไม่มีอะไรจะเสียแล้วอันนี้
00:33:16 → 00:33:18 [เพลง]
00:33:18 → 00:33:21 คือเป็นวิธีที่ง่ายมากแล้วแล้วถูกมากๆกับ
00:33:21 → 00:33:25 ราคาเนี้ยถึงหมอเฟิร์นขาย 1,900 ก็ยังถูก
00:33:25 → 00:33:28 ไปเลยอ่ะกับสิ่งที่คุณจะได้รับในอนาคตอ่ะ
00:33:28 → 00:33:32 มีแค่นี้จริงๆใครสนใจก็พิมพ์ CF 690 ได้
00:33:32 → 00:33:35 เลยเนาะขออวยพรให้คุณมีสุขภาพที่ดีขึ้นมี
00:33:35 → 00:33:40 ชีวิตดีขึ้นในทุกๆด้านในทุกๆวันรักทุกคน
00:33:40 → 00:33:43 ค่ะขอบคุณที่เข้ามาฟังแล้วก็เข้ามาคุย
00:33:43 → 00:33:45 ทั้งสดๆแล้วก็ย้อนหลังหมอเฟิร์นเห็น
00:33:45 → 00:33:48 คอมเมนต์ทุกคนน่ารักมากๆแล้วพบกันใน
00:33:48 → 00:33:51 หนังสือ 99 Affirmation ในเดือนมกราคม
00:33:51 → 00:33:55 ถึงกุมภาพันธ์นี้เนาะขอบคุณมาก Yeah.