วิตามินที่ละลายในไขมันมีกลุ่มไหนบ้าง และควรรับประทานอย่างไรให้ปลอดภัย

วิตามิน กินอย่างไรให้ปลอดภัย : โรงพยาบาลธนบุรี

จากช่อง : Thonburi Hospital channel


ดูคำบรรยาย / View Transcript

00:00:0000:00:03 วิตามินคือสารอาหารที่ร่างกายต้องการ

00:00:0300:00:06 เพียงเล็กน้อยแต่ควรได้รับอย่างเพียงพอ

00:00:0600:00:08 เพื่อเสริมสร้างให้ร่างกายแข็งแรงทั้งภาย

00:00:0800:00:12 ในและภายนอกหากเราทานอาหารครบ 5 หมู่ทุก

00:00:1200:00:15 มื้อร่างกายก็จะได้รับวิตามินเพียงพอใน

00:00:1500:00:18 แต่ละวันอยู่แล้วแต่สำหรับในผู้ป่วยบางคน

00:00:1800:00:22 ที่มีภาวะขาดวิตามินจากการเจ็บป่วยอาจ

00:00:2200:00:24 จำเป็นต้องทานวิตามินเสริมแต่ก็ควรทานให้

00:00:2400:00:28 ถูกวิธีและปลอดภัยนะครับวิตามินแบ่งได้ 2

00:00:2800:00:32 กลุ่มคือ 1 วิตามินที่ละลายในน้ำได้แก่

00:00:3200:00:37 วิตามินบสามารถได้รับจากอาหารจำพวกนมถั่ว

00:00:3700:00:41 ไข่แดงเนื้อสัตว์หากร่างกายได้รับมากเกิน

00:00:4100:00:44 ไปจะสามารถขับออกมาได้เองทางปัสสาวะแนะนำ

00:00:4400:00:47 ให้รับประทานวิตามินบีในช่วงเช้าหรือช่วง

00:00:4700:00:50 ระหว่างมื้อเช้าตอนที่ท้องว่างเพื่อให้

00:00:5000:00:53 ร่างกายสามารถดูดซึมได้อย่างเต็มที่โดย

00:00:5300:00:56 ควรหลีกเลี่ยงการทานวิตามินบีในช่วงก่อน

00:00:5600:00:59 นอนเนื่องจากอาจกระตุ้นให้ร่างกายและสมอง

00:00:5900:01:03 ตื่นตัวทำให้นอนไม่หลับได้วิตามินซีร่าง

00:01:0300:01:08 กายต้องการเพียง 10-15 มิลกรัมต่อวันจะพบ

00:01:0800:01:11 ได้ในผลไม้รสเปรี้ยวและผักควรทานวิตามิน

00:01:1100:01:14 ซีหลังมื้อเช้าและกลางวันโดยหลีกเลี่ยง

00:01:1400:01:17 การทานวิตามินซีในมื้อเย็นหรือก่อนนอน

00:01:1700:01:20 เพราะวิตามินซีจะถูกขับออกจากร่างกายภาย

00:01:2000:01:24 ใน 2-3 ชั่วโมงและโดยปกติช่วงกลางคืนที่

00:01:2400:01:27 เรานอนหลับจะไม่ค่อยปัสสาวะดังนั้นร่าง

00:01:2700:01:30 กายก็จะไม่ได้ระบายออกทำให้วิตามินซีอาจ

00:01:3000:01:35 สะสมในไตได้ 2 วิตามินที่ละลายในไขมันได้

00:01:3500:01:41 แก่วิตามิน a d e k วิตามินกลุ่มนี้จะ

00:01:4100:01:45 สะสมในร่างกายไม่สามารถขับออกมาเองได้ทาง

00:01:4500:01:48 ปัสสาวะหากได้รับมากเกินไปอาจมีผลต่อตับ

00:01:4800:01:52 และสมองควรทานวิตามินกลุ่มนี้พร้อมมื้อ

00:01:5200:01:56 อาหารและจิบน้ำเปล่าระหว่างวันวิตามินเอ

00:01:5600:02:00 จะพบได้มากในผักสีเข้มฟักทองแครอทมะเขือ

00:02:0000:02:04 เทศควรได้รับไม่เกิน 30 กรัมต่อวันหากได้

00:02:0400:02:07 รับมากเกินไปอาจทำให้เกิดภาวะตัวเหลือง

00:02:0700:02:11 ได้วิตามินดีมาจากผิวหนังหลังจากได้รับ

00:02:1100:02:16 รังสี uvb จากแสงแดดและพบได้ในเห็ดน้ำมัน

00:02:1600:02:20 ตับปลาไข่แดงควรได้รับไม่เกิน 1 มิลกรัม

00:02:2000:02:24 ต่อวันควรทานในมื้อเที่ยงไม่เกิน 30 นาที

00:02:2400:02:26 ซึ่งเป็นช่วงที่ร่างกายจะเริ่มดูดซึม

00:02:2600:02:30 อาหารและไขมันจากอาหารจะมาช่วยเป็นตัวทำ

00:02:3000:02:33 ละลายให้ร่างกายดูดซึมวิตามินดีอย่างเต็ม

00:02:3300:02:36 ที่มากขึ้นควรหลีกเลี่ยงการกินวิตามินดี

00:02:3600:02:39 ในช่วงบ่ายเกินไปเพราะอาจรบกวนการนอนหลับ

00:02:3900:02:44 ได้วิตามินอหากมีโรคประจำตัวที่ต้องทานยา

00:02:4400:02:47 ประจำอยู่ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทุกครั้งว่า

00:02:4700:02:49 ยาที่รับประทานอยู่เมื่อรับประทานกับ

00:02:4900:02:53 วิตามินอีจะมีปฏิกิริยาต่อกันหรือไม่

00:02:5300:02:57 เพราะอาจทำให้ส่งผลข้างเคียงได้วิตามิน K

00:02:5700:03:00 ควรได้รับในปริมาณที่พอดีตามช่วงอายุที่

00:03:0000:03:03 แพทย์แนะนำวิตามินที่สามารถรับประทานได้

00:03:0300:03:06 ตั้งแต่เด็กเล็กถึงผู้สูงอายุควรรับ

00:03:0600:03:09 ประทานตามความจำเป็นและเพียงพอต่อร่างกาย

00:03:0900:03:12 ควรตรวจสุขภาพเป็นประจำเพื่อป้องกันภาวะ

00:03:1300:03:16 ขาดวิตามินจนเกิดการเจ็บป่วยได้ถ้าคลิป

00:03:1600:03:21 นี้มีประโยชน์อย่าลืมกดไลคกดติดตามและส่ง

00:03:2100:03:24 คลิปดีๆไปให้คนที่คุณรักผู้ที่สนใจเข้า

00:03:2400:03:28 รับการตรวจสุขภาพติดต่อศูนย์ข้อมูลสุขภาพ

00:03:2800:03:34 โรงพยาบาลธนบุรีโทร 1645 กด 1 ต่อ 2005

00:03:3400:03:36 -7 นะ

00:03:3600:03:39 ครับ