00:00:00 → 00:00:03 Single Being podcast about Living
00:00:03 → 00:00:07 your Best Single Life โดยหมอผิง
00:00:07 → 00:00:11 แพทย์หญิงธิดารุจิพัฒนกุล
00:00:12 → 00:00:16 คำว่ารักตัวเองอ่ะในมุมมองของน้องอิ่มคือ
00:00:16 → 00:00:21 อะไรคะคือการชื่นชมในคุณค่าของตัวเองอือื
00:00:21 → 00:00:26 แล้วก็คือการที่เราใส่ใจในความสุขของเรา
00:00:26 → 00:00:29 เนาะทั้งทางกายแล้วก็ทางจิตใจค่ะพอเรัก
00:00:29 → 00:00:31 เป็นอย่างแท้จริงแล้วเนี่ยเาก็จะเรียนรู้
00:00:31 → 00:00:34 ที่จะรักคนอื่นได้การฝึกรักตัวเองเนี่ย
00:00:34 → 00:00:37 มันอาจจะยากสำหรับบางคนเนาะหรือหลายๆคน
00:00:37 → 00:00:41 เนาะแต่ว่ามันคุ้มค่าที่จะฝึกอืค่ะก็อยาก
00:00:41 → 00:00:43 ให้ลองฝึกกันดูนะ
00:00:43 → 00:00:48 คะดีที่อยู่เดียว Presented by ให้รักดู
00:00:48 → 00:00:53 แลชีวิตไทยประกัน
00:00:53 → 00:00:56 ชีวิตสวัสดีค่ะพบกันอีกครั้งนะคะใน Single
00:00:56 → 00:00:58 Being podcast ที่จะทำให้คุณมีความสุข
00:00:58 → 00:01:00 กับการอยู่ตัวคุณเดียวทุกครั้งเมื่อได้
00:01:00 → 00:01:03 เปิดฟังค่ะคุณผู้ฟังที่ฟัง sle be มาโดย
00:01:03 → 00:01:05 ตลอดก็น่าจะทราบดีว่าเรามักจะพูดถึงใน
00:01:05 → 00:01:09 เรื่องของการดูแลสุขภาพกายการดูแลสุขภาพ
00:01:09 → 00:01:13 ใจเทรน์สุขภาพต่างๆนะคะใหญ่ๆรวมๆเลยเนี่ย
00:01:13 → 00:01:16 มันคือเรื่องของ selc คือการดูแลตัวเองนะ
00:01:16 → 00:01:19 คะเพื่อให้เรามีร่างกายที่ดีมีชีวิตที่ดี
00:01:19 → 00:01:22 แล้วก็มีความสุขกับตัวเองนะคะแต่เเรายัง
00:01:23 → 00:01:25 ไม่เคยพูดถึงในเรื่องของการรักตัวเองเลย
00:01:25 → 00:01:28 นะคะซึ่งจริงๆหมอว่า Self care กับ Self
00:01:28 → 00:01:31 Love เนี่ยมันต่อต่อเนื่องกันคือเราก็
00:01:31 → 00:01:33 ต้องรักตัวเองเนาะเราก็จะอยากดูแลตัวเอง
00:01:33 → 00:01:35 และในขณะเดียวกันเมื่อเราดูแลตัวเองได้ดี
00:01:35 → 00:01:37 เราก็จะรู้สึกรักแลก็ขอบคุณตัวเองวันนี้
00:01:37 → 00:01:40 หมอก็เลยคิดว่าเราน่าจะมาคุยเรื่องนี้กัน
00:01:40 → 00:01:43 แบบเจาะลึกเลยดีกว่าว่ารักตัวเองยังไงให้
00:01:43 → 00:01:45 มันพอดีไม่ได้เกินไปจนกลายเป็นการหลงตัว
00:01:45 → 00:01:47 เองหรือว่าเห็นแก่ตัวแล้วก็คนที่ยังรู้
00:01:47 → 00:01:50 สึกว่าฉันยังรักตัวเองได้ไม่ดีเราจะมี
00:01:50 → 00:01:53 สเต็ปยังไงที่จะทำให้คุณรักตัวเองเป็นมาก
00:01:53 → 00:01:56 ขึ้นค่ะวันนี้นะคะขอยินดีต้อนรับอาจารย์
00:01:56 → 00:01:59 อิ่มแพทย์หญิงอัจราตราชูจิตแพทย์เด็กและ
00:01:59 → 00:02:02 วัยรุ่นจากโรงพยาบาลสมิตติเวชศรีนครินทร์
00:02:02 → 00:02:06 ค่ะสวัสดีค่ะสวัสดีค่ะอาจารย์ผิงค่ะขอ
00:02:06 → 00:02:09 อนุญาตเรียกน้องอิ่มแล้วกันนะคะค่ะก็จริง
00:02:09 → 00:02:12 ๆเนี่ยเรื่องเนี้ยคือมันมีประเด็นมาจาก
00:02:12 → 00:02:14 พี่อ่ะเห็นไถๆฟีดใน Twitter แล้วก็เห็นคน
00:02:14 → 00:02:17 นึงพูดถึงเรื่องว่าแบบรักตัวเองมันจะทำ
00:02:17 → 00:02:19 ยังไงนะก็เลยรู้สึกว่าเอ้ยเรื่องนี้นึก
00:02:19 → 00:02:23 ถึงหน้าน้องอิ่มลอยมาเลยค่ะอขอบคุณค่ะเออ
00:02:23 → 00:02:26 อยากจะน้องอิ่มมาคุยเรื่องนี้จังเลยคือคำ
00:02:26 → 00:02:28 ถามแรกก่อนเลยคือจริงๆแล้วคำว่ารักตัวเอง
00:02:28 → 00:02:33 อ่ะในมุมมุมองของน้องอิ่มคืออะไรคะจริงๆ
00:02:33 → 00:02:36 ถ้าเกิดแบบว่าไปดูที่หลายๆคนพูดถึงนะคะ
00:02:36 → 00:02:39 พี่ผิงก็อาจจะมี definition หรือคำจำกัด
00:02:39 → 00:02:43 ความแบบแตกต่างกันไปบ้างนะคะในที่นี้อิ่ม
00:02:43 → 00:02:45 จะขอพูดถึงว่าการรักตัวเองเนี่ยคือการ
00:02:45 → 00:02:49 ชื่นชมในคุณค่าของตัวเองอือืแล้วก็คือการ
00:02:49 → 00:02:54 ที่เราใส่ใจในความสุขของเราเนาะทั้งทาง
00:02:54 → 00:02:59 กายแล้วก็ทางจิตใจจค่ะอืออือฮึเวลาเราเรา
00:03:00 → 00:03:02 รักตัวเองเนี่ยมันก็อาจจะรวมไปถึงการ
00:03:02 → 00:03:05 กระทำต่างๆที่เราทำอ่ะเพื่อแสดงว่าเราอ่ะ
00:03:05 → 00:03:08 รักตัวเองก็คือการทำเพื่อตัวเองในทั้งทาง
00:03:08 → 00:03:13 ร่างกายแล้วก็ทางจิตใจนะคะออืแต่ถ้าเราจะ
00:03:13 → 00:03:16 พูดถึงส่วนประกอบเนี่ยการรักตัวเองอาจจะ
00:03:16 → 00:03:19 มีส่วนประกอบ 4 อย่างด้วยกันอือฮึนะคะก็
00:03:19 → 00:03:22 คือมี Self awareness ก็คือความตระหนัก
00:03:22 → 00:03:26 ในตัวเองอือฮึค่ะพอเราตระหนักเนี่ยก็คือ
00:03:26 → 00:03:28 ตระหนักอะไรตระหนักในความคิดของตัวเองว่า
00:03:28 → 00:03:31 มันจะมีผลกระทบต่ออารมณ์แล้วก็พฤติกรรม
00:03:31 → 00:03:34 เรายังไงอืคือคือรู้จักตัวเองว่างั้นใช่
00:03:34 → 00:03:37 มั้ยคใช่แล้วพอเรามีความตระหนักใช่่มั้ย
00:03:37 → 00:03:41 คะมันก็จะทำให้คนๆนั้นเนี่ยสามารถเอาตัว
00:03:41 → 00:03:44 เองออกจากสถานการณ์หรือว่าหลีกเลี่ยง
00:03:44 → 00:03:47 สถานการณ์ที่จะทำให้มีการกระตุ้นอารมณ์
00:03:47 → 00:03:52 ทางลบของเราหรือเกิดปฏิกิริยาในทางลบออื
00:03:52 → 00:03:55 เข้าใจอ่ะค่ะเช่นแบบเรารู้ว่าถ้าเราแบบไป
00:03:55 → 00:03:58 เจอสถานการณ์เนี้ยเราจะต้องแบบโมโหแน่เลย
00:03:58 → 00:04:00 ก็่
00:04:00 → 00:04:04 ใช่มคะใช่ค่ะเนาะซึ่งมันก็จะทำให้แบบเอ้ย
00:04:04 → 00:04:07 เราพาตัวเองไปเจอในสิ่งที่ดีๆนะค่ะเนาะมา
00:04:07 → 00:04:11 ากสิ่งที่ไม่ดีนะคะส่วนประกอบที่ 2 ก็คือ
00:04:11 → 00:04:14 Self worth หรือว่าคุณค่าในตัวเองอือฮึ
00:04:14 → 00:04:16 คืออะไรก็คือศรัทธาที่เรามีเกี่ยวกับตัว
00:04:16 → 00:04:20 เราว่าเรามีสิ่งดีๆในตัวเราอือฮึแต่ว่าเว
00:04:20 → 00:04:23 เนี่ยฟังดูก็ไม่ค่อยง่ายเท่าไหร่คือเว
00:04:23 → 00:04:25 เนี่ยมันเป็นคุณค่าในตัวเองที่เหมือนแบบ
00:04:26 → 00:04:29 เราไม่ต้องมีปัจจัยอะไรมากำหนดนะคะแต่เรา
00:04:29 → 00:04:32 รู้สึกมีคุณคุณค่าในตัวเราเองเช่นแบบไม่
00:04:32 → 00:04:34 ได้ขึ้นกับปัจจัยอะไรอ่ะไม่ได้ขึ้นกับว่า
00:04:34 → 00:04:38 ยูจะสำเร็จหรือว่าจะมีคุณสมบัติดีๆจะต้อง
00:04:38 → 00:04:41 เรียนเก่งไม้เลยอ่ะค่ะก็คือไม่คุณค่าของ
00:04:42 → 00:04:45 เราจะไปแขวนกับคำแยๆใช่ใช่คือเหมือนแบบ
00:04:45 → 00:04:47 ไม่ว่าเราเป็นยังไงอ่ะแต่เราก็รู้ว่าเฮ้ย
00:04:47 → 00:04:52 เรามีคุณค่าในตัวเองอ่าเออแบบนั้นน่ะค่ะ
00:04:52 → 00:04:55 นะคะส่วนที่ 3 ก็คือ Self esteem ก็คือ
00:04:55 → 00:04:59 ความนับถือตนเองการที่เราเห็นน่ะว่าเรามี
00:04:59 → 00:05:03 คุณค่าหรือ Self worth ในตัวเองนะคะแต่
00:05:03 → 00:05:06 ว่า Self esteem เนี่ยอาจจะขึ้นอยู่กับ
00:05:06 → 00:05:10 อย่างอื่นเช่นคุณสมบัติที่ดีๆในตัวเอง
00:05:10 → 00:05:13 หรือว่าความสำเร็จของเราอือฮึนะคะเพราะ
00:05:13 → 00:05:15 ฉะนั้นถ้าเราจะเพิ่ม Self esteem เนี่ย
00:05:15 → 00:05:18 อาจจะง่ายกว่าเช่นแบบการนึกถึงสิ่งดีๆที่
00:05:18 → 00:05:22 เรามีหรือว่านึกถึงสิ่งที่มีคนชื่นชมเรา
00:05:22 → 00:05:26 เป็นต้นอืค่ะนะคะซึ่ง Self worth กับ
00:05:26 → 00:05:28 Self esteem 2 อย่างเนี้ยจะสัมพันธ์
00:05:28 → 00:05:32 กันอคุณเองดีความนับถือตัวเองก็จะดีตามมา
00:05:32 → 00:05:35 อือฮึค่ะแล้วก็จะมีส่วนที่ 4 และส่วนสุด
00:05:35 → 00:05:37 ท้ายส่วนประกอบสุดท้ายก็คือ Self care
00:05:37 → 00:05:40 ก็คือการดูแลตัวเองอันนี้ Single Being
00:05:40 → 00:05:44 เลยอ่าใช่มคะใช่ค่ะก็คือการดูแลร่างกายดู
00:05:44 → 00:05:47 แลจิตใจตัวเองใช่ซึ่งอันนี้ดูเหมือนจะ
00:05:47 → 00:05:52 เป็นส่วนที่เราจะทำได้ง่ายที่สุดนะคะอพี่
00:05:52 → 00:05:54 ว่ามันเหมือนมันประกอบกันด้วยเนาะพอเรามา
00:05:54 → 00:05:56 เทค care ดูแลร่างกายตัวเองเราก็จะรู้สึก
00:05:57 → 00:06:00 แบบภูมิใจในตัวเองใช่รู้สึกดีกับตัวเอง
00:06:00 → 00:06:04 ใช่มคะใช่ค่ะเหมือนอิ่มแค่ไปออกกำลังกาย
00:06:04 → 00:06:07 ปึ๊บก็รู้สึกดีเลยรู้สึกรักตัวเองใช่ขึ
00:06:07 → 00:06:12 เลยใช่ค่ะใช่แต่ทีเนี้รักตัวเองกับบางคน
00:06:12 → 00:06:14 เนี่ยมันหลงตัวเองอันเนี้ยมันมีความต่าง
00:06:14 → 00:06:19 กันใช่มั้ยคะใช่ค่ะมันมีความต่างกันคือ
00:06:19 → 00:06:21 รักตัวเองเนี่ยความหมายจากที่กล่าวมา
00:06:21 → 00:06:23 เมื่อครู่นะคะที่ประกอบด้วย 4 ส่วนเนี่ย
00:06:24 → 00:06:27 ความหมายมันดูบวกๆนะคะอืใช่ความหมายมัน
00:06:27 → 00:06:30 ทางบวกมากแต่ว่าหลงตัวเองเองเนี่ยมันออก
00:06:30 → 00:06:34 จะแนวความหมายไปในทางลบหน่อยนะคะเนาะใช่
00:06:34 → 00:06:36 ก็ขึ้นกับว่าหลงตัวเองแค่ไหนถ้าหลงตัวเอง
00:06:36 → 00:06:40 แบบเออธรรมดาอะไรเงี้ยหลงตัวเองแบบไม่ถึง
00:06:40 → 00:06:43 กับขั้นเป็นมองกระจกว่าเออฉันก็หน้าตาดี
00:06:43 → 00:06:46 นะอ่าใช่ก็ไม่เป็นไรเนาะเบนิดนึงอะไร
00:06:46 → 00:06:49 อย่างเงี้ยค่ะแต่ว่าถ้าเกิดมันก็จะมีหลง
00:06:49 → 00:06:51 ตัวเองแบบที่เป็นแบบลักษณะของบุคลิกภาพ
00:06:51 → 00:06:55 ผิดปกติเลยอือค่ะเนาะอันนั้นก็จะแบบเกิด
00:06:55 → 00:07:00 ผลเสียอืหลายอย่างตามมามันมากเกินไปจนมัน
00:07:00 → 00:07:02 มีผลเสียกับตัวเองต่อผู้อื่นมันก็ไม่ได้
00:07:02 → 00:07:06 Healthy ใช่มคะใช่ค่ะทีนี้เอ้ยบางทีเรา
00:07:06 → 00:07:09 แยกยากเนาะอิว่าเราลองเทียบแบบเช่นสมมุติ
00:07:09 → 00:07:13 ว่าเรามีแฟนค่ะหรือเราชอบแบบสมมุติเราผู้
00:07:13 → 00:07:15 หญิงเราชอบผู้ชายคนนึงแบบนี้นะคะหรือเรา
00:07:15 → 00:07:19 ชอบแฟนเราเนี่ยให้ลองคิดว่ารักแฟนกับหลง
00:07:19 → 00:07:21 แฟนต่างกันยังไงเราอาจจะบอกความแตกต่าง
00:07:21 → 00:07:24 ได้ชัดอก็คือถ้ารักเนี่ยไม่ว่าเขาเป็นยัง
00:07:24 → 00:07:28 ไงเราก็รักใช่มยคะค่ะแต่ว่าถ้าหลงเนี่ย
00:07:28 → 00:07:31 สมมุติเราหลงความหล่อวันนึงเขาไม่หล่อเรา
00:07:31 → 00:07:33 ก็อาจจะเลือกรักหมดหลงอ่าหรือว่าหลงว่า
00:07:33 → 00:07:37 เขารวยเท้วันนึงเาไม่รวยแล้วเราก็อาจจะ
00:07:37 → 00:07:40 ไม่รักแบบนี้อเออก็คือเหมือนหลงตัวเอง
00:07:40 → 00:07:45 เนี่ยไม่ใช่ความรักที่แท้จริงอ๋อเข้าใจ
00:07:45 → 00:07:47 แล้วค่ะถ้าเราหลงว่าตัวเองหน้าตาดีจนเกิน
00:07:47 → 00:07:50 กว่าเหตุถ้าวันไหนที่เราแบบแก่ลงหน้าตา
00:07:50 → 00:07:52 ไม่ดีเราก็จะเกิดความเครียดเลิกสนใจตัว
00:07:52 → 00:07:54 เองเลิกรักตัวเองขึ้นมาอย่างงั้นใช่มยใช่
00:07:54 → 00:07:57 ค่ะเพราะฉะนั้นก็คือถ้าคนที่รักตัวเอง
00:07:57 → 00:08:00 เนี่ยก็จะคือเห็นข้อดีของตัวเองเเนาะแล้ว
00:08:00 → 00:08:04 ก็ยอมรับตัวเองได้อย่างแท้จริงอนะคะมี
00:08:04 → 00:08:07 ความนับถือตัวเองที่ดีแต่ถ้าคนหลงตัวเอง
00:08:07 → 00:08:11 ก็คือก็เห็นข้อดีของตนแหละแต่ว่าไม่ได้
00:08:11 → 00:08:13 ยอมรับตัวเองจริงๆแล้วก็จริงๆเนี่ยอาจจะ
00:08:13 → 00:08:17 ความนับถือตัวเองหรือเมไม่ได้ดีจริงนะคะ
00:08:17 → 00:08:21 อาสำคัญใช่อาจจะแบบเปราะบางได้ง่ายเช่น
00:08:21 → 00:08:24 แบบหลงตัวเองมากเลยแต่ว่าถ้าเกิดว่ามีคน
00:08:24 → 00:08:27 มาว่าเราเงี้ยเฮ้ยเธอไม่เก่งเธอไม่ดีอ่ะ
00:08:27 → 00:08:30 ก็จะแบบเดือดร้อนรับไม่ได้ถ้าคนที่รักตัว
00:08:30 → 00:08:32 เองจริงๆเนี่ยต่อให้คนอื่นจะว่ายังไงเนาะ
00:08:32 → 00:08:35 แต่เขาแบบมีคุณค่าในตัวเองนับถือตัวเอง
00:08:35 → 00:08:38 อ่ะเขาก็จะไม่อ่อนไวไปตามคำวิจารณ์คนอื่น
00:08:38 → 00:08:40 นี่คนที่รักตัวเองเนี่ยก็จะแบบไม่เห็นแก่
00:08:40 → 00:08:44 ตัวด้วยออกำลังจะถามเลยว่าถ้ารักตัวเอง
00:08:44 → 00:08:46 บางคนบอกว่าเฮ้ยรักตัวเองมากไปมันจะกลาย
00:08:46 → 00:08:49 เป็นเห็นแก่ตัวหรือเปล่าคือเขาว่างงี้ท้า
00:08:49 → 00:08:52 รักตัวเองแบบ S Love จริงๆอย่างที่เรา
00:08:52 → 00:08:55 พูดกันมาตั้งแต่ต้นนะคะพี่ผิงก็คือเหมือน
00:08:55 → 00:08:58 พอเารักตัวเองอย่างแท้จริงแล้วเนี่ยเขาก็
00:08:58 → 00:09:01 จะเรียนรู้ที่จะรักคนอื่นได้นะเห็นข้อดี
00:09:01 → 00:09:05 ของตัวเองก็เห็นข้อดีคนอื่นได้ชื่นชมตัว
00:09:05 → 00:09:09 เองแต่ก็ชื่นชมคนอื่นได้เหมือนกันนะคะคน
00:09:09 → 00:09:12 อื่นได้ดีเราก็ยินดีเนาะแต่ว่าถ้าเกิด
00:09:12 → 00:09:16 เป็นหลงตัวเองเนี่ยมันก็จะมีการเห็นแก่
00:09:16 → 00:09:20 ตัวได้อืนะคะไม่เหมือนคนที่รักตัวเองคน
00:09:20 → 00:09:22 ที่หลงตัวเองก็อาจจะแบบเอาตัวเองเป็น
00:09:22 → 00:09:25 ศูนย์กลางทำทุกอย่างเพื่อตัวเองอือฮึอ่า
00:09:25 → 00:09:28 ถึงชมตัวเองแต่ว่าทักคนอื่นได้ดีกว่ารับ
00:09:28 → 00:09:30 ไม่ได้จะไม่ยอมรับว่าคนอื่นดีกว่าตัวเอง
00:09:30 → 00:09:34 จะไม่ชอบอืนะคะแล้วก็ไม่ยอมรับข้อบกพร่อง
00:09:34 → 00:09:37 ของตัวเองไม่พร้อมที่จะแก้ไขอาจจะพยายาม
00:09:37 → 00:09:41 มองข้ามมันไปอือืแล้วก็ขาดความเห็นอกเห็น
00:09:41 → 00:09:46 ใจผู้อื่นอืโอเคดังนั้นนะคะก็เส้นบางๆมาก
00:09:46 → 00:09:49 เลยจะเห็นได้ว่ารักตัวเองเนี่ยจริงๆฟังดู
00:09:49 → 00:09:51 เหมือนมันจะมีประโยชน์หลายอย่างกับเรามาก
00:09:51 → 00:09:53 ๆเลยใช่มั้ยคะสรุปเกี่ยวกับเรื่องของ
00:09:53 → 00:09:55 ประโยชน์ของการรักตัวเองให้ฟังหน่อยได้
00:09:55 → 00:09:58 มั้ยคะความรักตัวเองนี่สำคัญมากเลยนะคะ
00:09:58 → 00:10:01 ประโยชน์คืออะไรบ้างก็คือถ้าเรารักตัวเอง
00:10:01 → 00:10:05 เป็นจริงๆนะคะเราจะมีสุขภาพจิตแล้วก็
00:10:05 → 00:10:09 สุขภาพกายที่ดีเราก็จะสามารถดูแลตัวเอง
00:10:09 → 00:10:12 ได้ทั้งกายและใจเนาะเรารู้ว่าเรามีคุณค่า
00:10:12 → 00:10:15 ในตัวเองนับถือตัวเองเพราะฉะนั้นเราก็จะ
00:10:15 → 00:10:19 นำพาตัวเราอ่ะไปสู่สิ่งที่ดีและหลีก
00:10:19 → 00:10:24 เลี่ยงสิ่งที่จะทำให้เกิดผลเสียออืนะคะ
00:10:24 → 00:10:27 ประโยชน์อีกอย่างก็คือมันจะทำให้เรามี
00:10:27 → 00:10:32 อิสระคะเหมือนมีอิสรภาพอ่ะทางใจอ่ะเราไม่
00:10:32 → 00:10:34 ต้องขึ้นกับใครไม่ต้องรอให้คนอื่นชมไม่
00:10:34 → 00:10:39 ต้องรอความรักจากคนอื่นอ๋อไม่ได้ต้องไป
00:10:39 → 00:10:41 แขวนความรู้สึกตัวเองไว้จับคนอื่นใช่
00:10:41 → 00:10:43 เหมือนแบบถ้าเราเอาไปแขวนกับคนอื่นนะคะ
00:10:43 → 00:10:46 เพราะเรารักตัวเองไม่ได้จริงๆเนี่ยเหมือน
00:10:46 → 00:10:48 แฟนต้องรักฉันฉันถึงจะรักตัวเองได้อย่าง
00:10:48 → 00:10:51 งี้เนาะพ่อแม่ต้องชมฉันถ้าพ่อแม่ไม่ชมฉัน
00:10:51 → 00:10:55 ก็ไม่เคยชมตัวเองได้เลยอืแบบนี้อ่ะค่ะ
00:10:55 → 00:10:57 เพราะฉะนั้นถ้าคนที่รักตัวเองเนี่ยเขาจะ
00:10:57 → 00:11:00 ยอมรับตัวเองได้รักตัวเองได้เหมือนมี
00:11:00 → 00:11:03 อิสรภาพทางใจโดยไม่เอาชีวิตไปแขวนกับคน
00:11:03 → 00:11:05 อื่นอย่างที่พี่ผิงบอกเลยค่ะพี่ชอบคำนี้
00:11:05 → 00:11:08 มากเลยรักตัวเองเป็นแล้วมันจะมีอิสรภาพ
00:11:08 → 00:11:11 ทางใจค่ะเป็นคำที่แบบอืจริงๆด้วยอะไร
00:11:11 → 00:11:14 เงี้ยค่ะอืค่ะแล้วถ้าคนที่รักตัวเองไม่
00:11:14 → 00:11:18 เป็นคาดว่าน้องอิ่มน่าจะเคยเจอน้องๆวัย
00:11:18 → 00:11:19 รุ่นอยู่เนาะมันมีปัญหาอะไรบ้างมยคะถ้า
00:11:20 → 00:11:22 รักตัวเองไม่เป็นถ้ารักตัวเองไม่เป็นจริง
00:11:22 → 00:11:26 ๆก็เจอบ่อยเหมือนกันนะคะพี่พิก็คือแบบพอเ
00:11:26 → 00:11:30 มีปัญหาเนาะอือฮึบางคนก็จะเกิดอยากจะทำ
00:11:30 → 00:11:35 ร้ายตัวเองอืนะคะเช่นแฟนไม่รักก็อยากจะ
00:11:35 → 00:11:38 แบบทำร้ายตัวเองไม่อยากมีชีวิตอยู่เพราะ
00:11:38 → 00:11:42 ว่าความรักเขาอ่ะไปขึ้นกับแฟนไงอืเออต้อง
00:11:42 → 00:11:45 แฟนรักฉันน่ะฉันถือมีคุณค่าถ้าแฟนไม่รัก
00:11:45 → 00:11:49 ฉันทิ้งฉันก็คือฉันไม่มีคุณค่าคุณค่าอื
00:11:49 → 00:11:53 เออแบบนี้นะคะหรือว่าพ่อแม่ไม่ชมเช่นเคย
00:11:53 → 00:11:56 เจอวัยรุ่นแบบเลียนเก่งมากเลยนะแบบเอเสาร
00:11:56 → 00:12:01 อะไรเงี้ยแต่ว่าแม่แบบไม่ชมอออือแม่ก็พูด
00:12:01 → 00:12:05 แค่ว่าอือก็ทำอย่างนี้ต่อไปนะอือฮึเออ
00:12:05 → 00:12:07 เขาคก็ไม่รู้สึกว่าเป็นเก่งเครู้สึกว่า
00:12:07 → 00:12:09 ตัวเองไม่ดีพอเลยแบบเนี้ยค่ะก็จะเกิด
00:12:09 → 00:12:13 อารมณ์เศร้าเครียดตามมานะคะเพราะฉะนั้น
00:12:13 → 00:12:16 เวลาเรารักตัวเองไม่เป็นเนี่ยอืปัญหาก็
00:12:16 → 00:12:22 คือจะทำให้เกิดปัญหาสุขภาพจิตอืค่ะคะใช่
00:12:22 → 00:12:25 กังวลเครียดทำร้ายตัวเองแบบนี้เนาะอแล้ว
00:12:25 → 00:12:29 พอปัญหาทางจิตใจมันเกิดขึ้นเนี่ยมันก็จะส
00:12:29 → 00:12:33 ผลต่อร่างกายใช่มั้ยคะอือฮึอื้าอันนี้
00:12:33 → 00:12:36 ทั้งแบบอาจจะเกิดจากแบบพอใจเราไม่ดีเราก็
00:12:36 → 00:12:39 ดูแลตัวเองไม่ดีหรือว่าอาจจะเกิดจากเวลา
00:12:39 → 00:12:42 เรามีปัญหาทางใจเนาะเช่นซึนเศร้ากังวลน่ะ
00:12:42 → 00:12:45 มันก็ย่อมมีผลต่อร่างกายอยู่แล้วอ๋อนะคะ
00:12:45 → 00:12:49 เช่นบางคนกังวลปุ๊บก็กินข้าวไม่ลงขึ้นใส่
00:12:49 → 00:12:52 อาเจียนปวดหัวอะไรอย่างเงี้ยมันก็กระทบ
00:12:52 → 00:12:55 ทั้งกายไปหมดเลยเพราะว่าใช่กายกับใจมันมี
00:12:55 → 00:13:00 ความสัมพันธ์กันอืจริงๆค่ะอีกอย่างก็คือ
00:13:00 → 00:13:02 จะสอดคล้องกับเมื่อสักครู่นี้นะคะพี่ผิง
00:13:02 → 00:13:05 ก็คือว่าพอเรารักเเองไม่เป็นเนี่ยเราก็จะ
00:13:05 → 00:13:10 ไม่สามารถเติมเต็มความปรารถนาในใจตัวเอง
00:13:10 → 00:13:13 ได้นะคะอืความปรารถนาคืออะไรบ้างความ
00:13:13 → 00:13:16 ปรารถนาเนี่ยจะค่อนข้างเค้าเรียกว่าเป็น
00:13:16 → 00:13:20 สิ่งที่สากลมนุษย์เนี่ยจะมีคล้ายๆกันค่ะ
00:13:20 → 00:13:25 อืเช่นความรักอือฮึการยอมรับอือฮึความสงบ
00:13:25 → 00:13:31 อิสรภาพทางใจเป็นต้นอืออือือฮึนะคะอืค่ะ
00:13:31 → 00:13:33 น่าจะกระทบถึงเรื่องของความรักด้วยมั้ยคะ
00:13:33 → 00:13:36 คือถ้ารักตัวเองไม่เป็นเนี่ยการที่จะมี
00:13:36 → 00:13:40 ความรักกับคนอื่นที่มันจะมั่นคงหรือว่า
00:13:40 → 00:13:42 แบบสมูทไม่มีปัญหามันก็น่าจะยากขึ้นด้วย
00:13:42 → 00:13:46 มั้ยคะอืใช่ค่ะจริงๆมันเป็นอย่างนั้น
00:13:46 → 00:13:48 เพราะว่าเหมือนถ้าเรารักตัวเองไม่เป็น
00:13:48 → 00:13:51 เนาะเราจะแบบไปรักคนอื่นได้ยังไงเหมือน
00:13:51 → 00:13:54 มันจะเสมือนว่าเราอ่ะไม่มีความรักเนาะ
00:13:54 → 00:13:57 แล้วเราจะเอาความรักไปให้ใครได้ไงในเมื่อ
00:13:57 → 00:14:00 เราไม่มีเออในเมื่อเราไม่มีเออเออพอเรา
00:14:00 → 00:14:02 ไม่มีแล้วเราจะเอาอะไรไปให้เเนให้อื่นได้
00:14:02 → 00:14:06 ยังไงเออมันก็ไม่ได้เนาะอฟังมาถึงตรงนี้
00:14:06 → 00:14:09 แล้วคนที่แบบฟังมาแล้วก็เฮ้ยมันใช่ฉันเลย
00:14:09 → 00:14:11 เนี่ยแหละรู้สึกว่าจริงๆแล้วปัญหาในชีวิต
00:14:11 → 00:14:13 ของฉันมันอาจจะเริ่มจากฉันรักตัวเองไม่
00:14:13 → 00:14:16 เป็นจะเริ่มรักตัวเองให้เป็นต้องทำยังไง
00:14:16 → 00:14:19 คะค่ะอยากชัวร์นะคะงั้นเรามาฝึกเริ่มรัก
00:14:19 → 00:14:21 ตัวเองกันนะคะเดี๋ยวจะพูดเป็นข้อๆแล้วกัน
00:14:22 → 00:14:25 เนาะจะได้แบบอาจจะลองไปฝึกได้ง่ายนะคะข้อ
00:14:25 → 00:14:29 ที่ 1 ก็คือฝึกคุยกับตัวเองแล้วก็รับฟัง
00:14:29 → 00:14:32 ตัวเองค่ะอือันนี้พี่ทำ
00:14:32 → 00:14:34 ออเยี่ยมเลยค่ะแล้วเป็นไงบ้างคะพี่ผิงได้
00:14:34 → 00:14:37 ประโยชน์อะไมั้เวลาคุยกับตัวเองเวลาขับรถ
00:14:37 → 00:14:39 เวลอย่างงี้แล้วเราก็แบบพูดคุยกับตัวเอง
00:14:39 → 00:14:41 อย่างงั้นหรือเปล่าคะหรือว่าต้องคุยแบบ
00:14:41 → 00:14:44 คุยมากกว่านั้นอีกคุยกับตัวเองเผินๆก็ได้
00:14:44 → 00:14:47 นะคะแต่ว่าเราจะรู้สึกว่ามันแบบได้ผลมาก
00:14:47 → 00:14:50 ขึ้นน่ะแล้วสัมผัสด้วยใจเนี่ยก็คือเราอาจ
00:14:50 → 00:14:53 จะต้องคุยไปในระดับลึกหน่อยเช่นคุยในช่วง
00:14:53 → 00:14:57 เงียบๆคุยแบบฟังใจตัวเองจริงๆอ่ะค่ะไม่
00:14:57 → 00:15:00 ใช่คุยไปด้วยความคิดเหมือนเอาความคิด 2
00:15:00 → 00:15:04 อย่างมาถกเถียงกันอะไรอย่างเงี้นะคะแต่
00:15:04 → 00:15:08 ว่าฟังแบบฟังจากใจเราจริงๆอ่ะอ๋อเหมือนก
00:15:08 → 00:15:11 อย่างพี่แบบพอิดงานลงค่ำๆพี่อาจจะคุยกับ
00:15:11 → 00:15:14 ตัวเองว่าแบบเอ๊ะวันนี้ตอนไหนบ้างที่
00:15:14 → 00:15:16 เครียดอะไรอย่างเงี้ยแล้วก็ทบทวนอย่างงี้
00:15:16 → 00:15:20 ที่ใช่มยอ่ะก็ใช่นะคะพี่พิงใช่เลยถ้า
00:15:20 → 00:15:23 เพิ่มเติมก็คือเหมือนเป็นการสำรวจลึกลงไป
00:15:23 → 00:15:27 อีกก็คือว่าสำรวจว่าใจเราเนี่ยรู้สึกยัง
00:15:27 → 00:15:31 ไงอ่ารู้สึกยังไงกับเรื่องนี้ทำไมเราถึง
00:15:31 → 00:15:33 เครียดกับเรื่องนี้นะอะไรอย่าเงี้เหรอใ
00:15:33 → 00:15:37 ใช่ใจเราคิดยังไงใจเราแบบจริงๆเราคาดหวัง
00:15:37 → 00:15:41 อะไรอือฮึอเนาะหรือเราโหยหาอะไรกันแน่แบบ
00:15:41 → 00:15:46 เงี้ยนะอค่ะโอเคได้เดี๋ยวจะทำคุยยาวๆลึกๆ
00:15:46 → 00:15:48 กับตัวเองมากขึ้นใช่ซึ่งจริงๆมันก็ไม่ใช่
00:15:48 → 00:15:50 เรื่องง่ายนะเป็นผิมันต้องฝึกเหมือนกัน
00:15:50 → 00:15:53 น่ะที่เราจะเข้าใจใจแล้วได้เพราะว่าอือฮึ
00:15:54 → 00:15:56 ใจเราบางอย่างมันเหมือนอยู่จิตใต้สำนึก
00:15:56 → 00:15:58 เนาะเราอาจจะไม่รู้ทั้งหมดแต่ถ้าเราฝึก
00:15:58 → 00:16:01 สำรวจบ่ออ่ะเราจะเข้าใจตัวเองมากขึ้นโอเค
00:16:01 → 00:16:04 เพราะว่าบางคนไม่เคยคุยกับตัวเองนะอ่า
00:16:04 → 00:16:07 อิ่มเคยถามคนใครเคยคุยกับตัวเองมั้ยไม่
00:16:07 → 00:16:11 เคยค่ะคุยยังไงอะไรอย่างงี้เออแบบเฮ้ยเคย
00:16:11 → 00:16:14 ปลอบตัวเองมั้ยเช่นอิ่มก็จะเคยแบบเอ้อฉัน
00:16:14 → 00:16:17 สงสารตัวเองจังเลยอะไรแบบเนี้ยคนไข้บางคน
00:16:17 → 00:16:21 เาไม่เคยคุยกับตัวเองเลยอืนะคะอ่าต่อไป
00:16:21 → 00:16:27 ข้อ 2 นะคะก็คือฝึกให้อภัยตัวเองอ่าโอเค
00:16:27 → 00:16:30 อันนี้พี่เป็นเป็นอโอเคก็คือเวลาบางทีเรา
00:16:30 → 00:16:32 ทำพลาดเนาะมันก็อาจจะแบบมีโมเมนต์ที่โกธ
00:16:32 → 00:16:35 ตัวเองแล้วก็เฮ้ยไม่เป็นไรนะจริงๆก็ทำมา
00:16:35 → 00:16:37 เยอะแล้วนะดีแล้วแหละอะไรอย่างเงี้ย
00:16:37 → 00:16:39 เดี๋ยวเอาใหม่เอาใหม่ตั้งเป้าใหม่อย่าง
00:16:39 → 00:16:41 งี้ป่ะประมาณนี้มยค่ะใช่ความหมายมันออกจะ
00:16:41 → 00:16:43 Positive นะให้อภัยตัวเองไม่ได้หมายความ
00:16:43 → 00:16:46 ว่าเหมือนให้ท้ายตัวเองอะไรแบบนี้นะแบบ
00:16:46 → 00:16:49 ให้อภัยตัวเองว่าเฮ้ยฉันพยายามแล้วเนาะทำ
00:16:49 → 00:16:53 เต็มที่คนเราก็ผิดพลาดได้นะคะมันจะไป
00:16:53 → 00:16:56 สัมพันธ์กับข้อ 3 ก็คือฝึกเห็นอกเห็นใจ
00:16:56 → 00:16:59 ตัวเองเห็นอกเห็นใจตัวเองเอ้ยมันอข้อ 2
00:16:59 → 00:17:01 ยังไงคะจริงๆว่ามันสัมพันธ์กันแหละมันน่า
00:17:02 → 00:17:04 จะมาด้วยกันก็คือข้อ 2 ก็คือเราเหมือน
00:17:04 → 00:17:07 forgive ให้อภัยตัวเองใช่มั้ยคะแต่เห็น
00:17:07 → 00:17:10 อกเห็นใจตัวเองเนี่ยก็คือเราก็คงต้องเห็น
00:17:10 → 00:17:12 อกเห็นใจก่อนเนาะเราถึงจะให้อภัยตัวเอง
00:17:12 → 00:17:15 ได้แต่ว่าเห็นอกเห็นใจเนี่ยภาษาอังกฤษก็
00:17:15 → 00:17:18 คือเรียกว่า Self compassion แบบนี้นะคะ
00:17:18 → 00:17:21 ก็คือฝึกเห็นใจตัวเองมากกว่าที่จะตัดสิน
00:17:22 → 00:17:25 ตัวเองตำหนิตัวเองแล้วก็วิจารณ์ตัวเองใน
00:17:25 → 00:17:29 ทางลบโอเคแล้วข้อต่อไปก็ข้อ 4 นะคะก็คือ
00:17:29 → 00:17:35 ฝึกขอบคุณตัวเองอืนะคะเช่นแบบขอบคุณนะที่
00:17:35 → 00:17:40 เธอทำงานหนักอืขอบคุณที่อดทนนะอย่างเงี้ย
00:17:40 → 00:17:44 เป็นต้นนะค่ะพี่พิอือค่ะอันนี้พี่ก็ทำ
00:17:44 → 00:17:47 อยู่บ้างนะแต่มันคนบ่อยแค่ไหนอ่ะน้องอิ่ม
00:17:47 → 00:17:50 โออันนี้มันก็ไม่มีตายตัวนะคะหรือแบบเวลา
00:17:50 → 00:17:52 เราท้อก็นึกขอบคุณตัวเองขึ้นมาอย่างงี้
00:17:52 → 00:17:56 หรออืมใช่หรือไม่งั้นอิ่มว่าก็ลองแบบทบ
00:17:56 → 00:17:59 ทวนในแต่ละวันก็ได้ค่ะเช่นเรามีมีสิ่ง
00:17:59 → 00:18:02 อะไรดีๆบ้างเนาะในวันนี้ที่เกิดขึ้นแล้ว
00:18:03 → 00:18:06 เราก็ขอบคุณตัวเองในแต่ละวันงี้ก็ได้ค่ะ
00:18:06 → 00:18:10 โอเคเออดีเหมือนกันได้ๆๆเดี๋ยวพี่จะลองทำ
00:18:10 → 00:18:14 ค่ะแล้วก็บีมก็ไปลองทำเหมือนกันค่ะบางที
00:18:14 → 00:18:18 ยุ่งก็ไม่ได้ทำนะคะนะข้อ 5 ต่อไปค่ะก็คือ
00:18:18 → 00:18:22 เหมือนสร้างพาเวอรหรือว่าพลังให้ตัวเองอื
00:18:22 → 00:18:25 ทำยังไงค่ะเหมือนอย่างงี้บางทีเราอาจจะ
00:18:25 → 00:18:28 เจออะไรเน็ดเหนื่อยหรือว่าเครียดใช่มั้ย
00:18:28 → 00:18:31 คะอือฮึมาทั้งวันมาตลอดสัปดาห์แบบเนี้ย
00:18:31 → 00:18:35 เราอาจจะรู้สึกว่าโอเราหมดพลังอย่างงี้นะ
00:18:35 → 00:18:38 วิธีทำที่จะทำให้เหมือนมีพาเวอรกลับมาสู่
00:18:38 → 00:18:43 ตัวเราก็คือลองมองหาบางสิ่งบางอย่างที่
00:18:43 → 00:18:47 เราอ่ะสามารถจัดการสามารถควบคุมมันได้
00:18:47 → 00:18:50 เช่นแบบเรื่องเนี้ยเราทำสำเร็จนะเราก็จะ
00:18:50 → 00:18:53 รู้สึกว่าเฮ้ยเรามีพาเวอรนี่นาเรามีพลัง
00:18:53 → 00:18:55 ตรงนั้นเราก็จะรู้สึกว่าพอเราพลังมากขึ้น
00:18:55 → 00:18:59 ใช่มั้ยคะอือเราก็จะรู้สึกว่าเราอ่ะรัก
00:18:59 → 00:19:03 ตัวเองมากขึ้นอือืออย่างแบบทำอาหารเช้า
00:19:03 → 00:19:05 แล้วก็รู้สึกว่าโอ้อาหารเช้าเราอร่อยจัง
00:19:05 → 00:19:08 เ้ยฉันทำอาหารเชาอร่อยๆกินเองได้นะอย่าง
00:19:08 → 00:19:11 งี้ได้มั้ยก็ได้นะคะพี่ผีจริงๆพวกเนี้ย
00:19:11 → 00:19:14 แบบอะไรก็ได้อ่ะที่มันแบบเอ้ยเป็นบวก
00:19:14 → 00:19:18 Positive อ่าอะไรอย่างเงี้นะคะอืเวลาพี่
00:19:18 → 00:19:20 ออกกำลังเสร็จตามที่ตั้งใจไว้พี่ก็จะรู้
00:19:20 → 00:19:24 สึกแบบอืฉันแบบเฮ้อสบายใจมีพาวเวอร์อะไร
00:19:24 → 00:19:29 เงี้ยโอ้ฉันทำได้ใช่ๆอ่าๆๆดีมากเลยค่ะค่ะ
00:19:29 → 00:19:33 ต่อไปข้อ 6 ก็คืออาจจะลองหาแบบหาเป็นคำหา
00:19:33 → 00:19:36 เป็นประโยคหรือว่าเป็นเหมือนแบบคติพจน์
00:19:36 → 00:19:40 อย่างเงี้ยค่ะที่มาบอกกับตัวเราเองในแนว
00:19:40 → 00:19:43 ว่าเรารักตัวเองเราชื่นชมตัวเองหรือเรา
00:19:43 → 00:19:46 เห็นคุณค่าตัวเองนะยกตัวอย่างเช่นแบบคำ
00:19:46 → 00:19:49 พูดเช่นแบบเฮ้ยเธอเป็นคนพิเศษนะอย่าง
00:19:49 → 00:19:52 เงี้ยหมายถึงพูดชมตัวเองใช่มั้ยอืใช่
00:19:52 → 00:19:55 ทำนองนั้นหรืออาจจะไม่ชมก็ได้เป็นเหมือน
00:19:55 → 00:19:58 แบบยืนยันน่ะคอนเฟิร์มอ่ะว่าเราแบบเฮ้ย
00:19:58 → 00:20:02 เราดีนะอะไรอย่างงี้นะคะเช่นแบบเฮ้ยเธอ
00:20:02 → 00:20:05 เป็นคนที่สมควรได้รับความรักอือืเธอไม่
00:20:06 → 00:20:08 จำเป็นต้องโหยหาความรักจากใครเธอรักตัว
00:20:08 → 00:20:11 เองได้อะไรก็ได้ที่เราแบบเขียนแล้วมันแบบ
00:20:11 → 00:20:15 เฮ้ยช่วยเราอะไรแบบเยนะคะอืูมตัวเองอะไรง
00:20:15 → 00:20:18 งี้เนาะใช่โอนี้เดี๋ยวพี่ต้องไปคิดพี่ยัง
00:20:18 → 00:20:20 ไม่เคยมีคำนี้มันจะต้องเป็นคำที่แบบเป็น
00:20:20 → 00:20:22 ภาษาของเราเองที่เรารู้สึกว่ามันเข้ากับ
00:20:22 → 00:20:25 เราใช่มใช่ถูกมากเลยค่ะพี่ผิใช่เลยมัน
00:20:25 → 00:20:28 ต้องเป็นอะไรที่มันแบบตงใจเราคือสมมติเรา
00:20:28 → 00:20:30 ไปยืมของคนอื่นมาแล้วมันไม่ตงใจเรามันก็
00:20:30 → 00:20:33 ไม่ใช่อ่ะมันต้องแบบโดนใจอะไรแบบนี้นะคะ
00:20:33 → 00:20:36 เดี๋ยวพี่ไปหาประโยคปลุกใจนะโใช่ๆต้อง
00:20:36 → 00:20:39 เป็นของเราเองแล้วก็ข้อ 7 ก็คือเหมือนพูด
00:20:39 → 00:20:42 ไปแล้วนิดนึงอ่ะพูดจำอิธีก็คือเหมือนเป็น
00:20:42 → 00:20:44 Exercise เป็น Self Love Exercise ก็
00:20:44 → 00:20:47 คือออกกำลังกายเราก็แบบออกทุกวันเนาะหรือ
00:20:47 → 00:20:49 ว่า 3 ครั้งต่อสัปดาห์อันนี้เราก็
00:20:49 → 00:20:52 Exercise โดยแบบเขียนสิ่งดีๆของตัวเองใน
00:20:52 → 00:20:55 แต่ละวันเช่น 3 สิ่งดีๆที่ฉันพบในแต่ละ
00:20:55 → 00:20:59 วันมีอะไรบ้างแบบเนี้ยค่ะอือก็คือเขียน
00:20:59 → 00:21:01 คิดเชิงบวกในเรื่องของตัวเองแล้วเขียนลง
00:21:01 → 00:21:03 ไปใช่มั้ยคะใช่เหมือนหาข้อดีเพราะว่า
00:21:03 → 00:21:07 อย่างอิมคุยกับคนไข้ใช่มั้ยคะเคสเงี้ยก็
00:21:07 → 00:21:11 หลายๆคนก็คือจะมีตลบอ่าฮะอ่าแบบว่าสมมุติ
00:21:11 → 00:21:14 แบบเฮ้ยข้อเสียของเราแบบเขาก็จะคิดได้
00:21:14 → 00:21:18 เช่นแบบเยเป็น 10 เลยเป็น 10 ข้อบางคนถาม
00:21:18 → 00:21:21 ว่าแล้วมีข้อดีอะไรบ้างช่วยบอกหมอหน่อย
00:21:21 → 00:21:25 ได้มั้ยคะเขาก็จะแบบอึ้งไปใช่เพราะว่าอือ
00:21:25 → 00:21:29 คงไม่เคยแบบฝึกอ่ะนะคะใช่ที่การที่ฝึก
00:21:29 → 00:21:31 อย่างเงี้ยมันก็จะทำให้เราแบบเลือกมองบวก
00:21:31 → 00:21:34 มากกว่าลบค่ะเนาะเพราะชีวิตคนเรามันก็มี
00:21:34 → 00:21:37 ทั้งบวกและลบใช่มั้ยคะอือฮึแต่ว่าคนส่วน
00:21:37 → 00:21:40 หนึงคือเขาเลือกมองแต่ลบอ่ะเป็นหลักอ่ะ
00:21:40 → 00:21:44 มันก็จะทำให้ชีวิตแบบไม่มีความสุขอืคคะ
00:21:44 → 00:21:47 เพราะฉะนั้นก็ฝึกอุ๊ยการบ้านเยอะมากเลยนะ
00:21:47 → 00:21:51 ที่ต้องเยอะมากเลยนะค่ะต่อไปข้อ 8 ข้อ 8
00:21:51 → 00:21:54 ก็คือฝึกเหมือนฝึกรักคนอื่นให้เป็นอ้าค่ะ
00:21:55 → 00:21:57 ค่ะมันก็จะแบบเฮ้ยพอเรารักคนอื่นเป็นใช่
00:21:57 → 00:22:01 มยเราก็ครักตัวเองมากขึ้นอืออ่าเราต้อง
00:22:01 → 00:22:03 รักตัวเองเราถึงจะให้คนอื่นได้แบบเนี้ย
00:22:04 → 00:22:07 ค่ะอิ่มว่ามันก็จะช่วยแบบทำให้เราเนี่ย
00:22:07 → 00:22:10 ห่างไกลจากความเห็นแก่ตัวอืมากขึ้นเรื่อย
00:22:10 → 00:22:15 ๆเรื่อยๆนะคะจริงพี่ว่าอันเนี้ยไม่ใช่แค่
00:22:15 → 00:22:17 คนนะเป็นแบบสัตว์เลี้ยงก็ได้นะอย่างพี่
00:22:17 → 00:22:21 แบบมีน้องหมาเนาะคือพี่รู้สึกว่าพอพี่มี
00:22:21 → 00:22:24 น้องหมาแล้วก็รักเแล้วพี่ก็เออเสียสละ
00:22:24 → 00:22:26 หลายๆอย่างเพื่อเขาได้อ่ะเออมันทำให้เรา
00:22:27 → 00:22:29 รู้สึกว่าแบบเออเรารักเเป็นเนาะแล้วก็รู้
00:22:29 → 00:22:31 สึกรักตัวเองที่เราแบบมอบความรักให้กับ
00:22:31 → 00:22:34 เขาได้ค่ะค่ะใช่จริงๆเนาะคือเรารักคนอื่น
00:22:34 → 00:22:37 แต่เอ๊ะทำไมเราถึงรู้สึกรักตัวเองมากขึ้น
00:22:37 → 00:22:39 แต่มันเป็นอย่างงั้นจริงๆนะคะเนาะออือฮึ
00:22:39 → 00:22:41 ใช่เออติว่าส่วนนึงมันอาจจะเกี่ยวกับว่า
00:22:41 → 00:22:44 แบบพอเรารักคนอื่นน่ะเราก็รู้สึกแบบ
00:22:44 → 00:22:46 เหมือน appreciate ตัวเองด้วยอ่ะอือๆใน
00:22:46 → 00:22:49 ความดีตรงนั้นของเราอ่ะแบบเฮ้ยฉันเป็นคน
00:22:49 → 00:22:52 ดีจังเลยอะไรอย่างงี้แล้วเราก็รักติมาก
00:22:52 → 00:22:55 ขึ้นไปอีกแบบนี้นะคะอเค้าไม่สบายอย่างี้
00:22:55 → 00:23:00 นะพี่ก็แบบไปนอนข้างข้อเวันตรงพื้นโอทั้ง
00:23:00 → 00:23:03 คืนเลยพี่ก็อืทำเพื่อเคเพราะสงสารเคเ้อง
00:23:03 → 00:23:06 งิดๆเงี้ยพี่ก็ู้สึกโอหเรารักเคจริงๆแท้
00:23:06 → 00:23:08 เสียสละเตียงนอนอันแสนสบายไปนอนข้างข้อ
00:23:08 → 00:23:11 เออน่ารักมากแล้วแล้วพอพี่ผิงรู้อย่าง
00:23:11 → 00:23:13 เงี้ยแล้วเรยังไงรู้มว่าเฮ้ยมันทำให้พี่
00:23:13 → 00:23:16 พิงรักเมากขึ้นได้ไงคะเออพี่ก็รู้สึกว่า
00:23:16 → 00:23:20 แบบเวลาเรารักเ้าเราเสียสละให้เขาแบบมัน
00:23:20 → 00:23:22 รู้สึกดีอ่ะที่ตัวเองเป็นคนที่หยิบยื่น
00:23:22 → 00:23:25 ความรักการดูแลให้กับสิ่งมีชีวิตเล็กๆ
00:23:25 → 00:23:27 ซึ่งเขาก็ไม่ได้มีอะไรให้กับเราได้เลยนะ
00:23:27 → 00:23:29 นอกจากว่าได้รับการดูแลความรักให้เรา
00:23:29 → 00:23:33 เงี้ยมันดีค่ะมันดีอืดีเนาะแล้วก็อิ่มว่า
00:23:33 → 00:23:35 ก็จะทำให้แบบ Self esteem S worth
00:23:35 → 00:23:38 อะไรพี่ผิงก็คือดีขึ้นไปอีกใช่มั้ยคะออือ
00:23:38 → 00:23:41 ใช่ค่ะดีจริงๆอืต่อไปข้อสุดท้ายที่จะพูด
00:23:41 → 00:23:45 วันนี้นะคะข้อ 9 ก็คือเราอาจจะฝึกนั่ง
00:23:45 → 00:23:47 สมาธิเ้าเรียกว่ามันอาจจะมีแบบเขาเรียก
00:23:47 → 00:23:49 ว่า Self Love Meditation อะไรเงี้ยแต่
00:23:49 → 00:23:52 ถ้าพูดง่ายๆก็คือเหมือนแบบเราอาจจะนั่ง
00:23:52 → 00:23:55 สมาธิหรือเราอาจจะไม่เชิญสมาธิก็ได้เรา
00:23:55 → 00:23:58 อาจจะแค่แบบหลับตาอยู่เงียบๆกับตัวเอง
00:23:58 → 00:24:02 เข้าไปสำรวจในใจของตัวเองเชื่อมโยงกับใจ
00:24:02 → 00:24:07 เรานะคะเชื่อมโยงกับข้อดีสิ่งดีๆหรือ
00:24:07 → 00:24:11 ทรัพยากรทางบวกในตัวเราที่เรามีค่ะมันจะ
00:24:11 → 00:24:15 ทำให้แบบเรารู้สึกว่าเฮ้ยเรามีคุณค่าเรา
00:24:15 → 00:24:17 มีความนับถือตัวเองมากขึ้นแล้วมันก็ทำให้
00:24:17 → 00:24:20 เรารู้สึกเหมือนแบบมีพลังเพิ่มขึ้นนะคะ
00:24:20 → 00:24:22 พี่พิงเหมือนแบบเฮ้ยเหมือนมีพลังชีวิต
00:24:22 → 00:24:25 เพิ่มขึ้นอือฮึอ่ะซึ่งต้องลองทำดูซึ่ง
00:24:25 → 00:24:27 อิ่มเคยลองทำมาแล้วแล้วมันรู้สึกแบบนั้น
00:24:27 → 00:24:31 จริงๆนะคะอือ๋อดีเลยค่ะแล้วตั้งสมาธิแต่
00:24:31 → 00:24:33 ก่อนพี่ก็นั่งนะหลังๆยุ่งไม่ค่อยมีเวลา
00:24:33 → 00:24:36 นั่งเดี๋ยวกลับไปนั่งเอคก็คือครบ 9 ข้อ
00:24:36 → 00:24:39 ครบค่ะการบ้านเยอะมากเลยไม่รู้จะฝึกตรง
00:24:39 → 00:24:43 ไหนก่อนดีดกันรือเปล่านะคะแต่คิดว่าถ้าทำ
00:24:43 → 00:24:46 ได้ครบทุกข้อนี่มันจะดีมากๆเลยนะคะใช่ๆ
00:24:46 → 00:24:48 แต่ว่าจริงๆฟังเหมือนง่ายแต่จริงๆมันไม่
00:24:48 → 00:24:51 ง่ายนะคะพี่ผิจริงๆมันไม่ง่ายจริงๆนะโดย
00:24:51 → 00:24:54 เฉพาะถ้าเป็นแบบอย่างเวลาอิ่มดูเคสเนาะคน
00:24:54 → 00:24:57 ไข้ที่มาปรึกษาบอกเลยว่าการรักตัวเองมัน
00:24:57 → 00:24:59 ยากมากจริงๆ
00:24:59 → 00:25:02 แต่ถ้าฝึกหนนี่มันแก้ผยากใช่ใช่ๆคือบอก
00:25:03 → 00:25:04 ว่าการฝึกรักตัวเองเนี่ยมันอาจจะยาก
00:25:05 → 00:25:07 สำหรับบางคนเนาะหรือหลายๆคนเนาะแต่ว่ามัน
00:25:08 → 00:25:11 คุ้มค่าที่จะฝึกอือค่ะก็อยากให้ลองฝึกกัน
00:25:11 → 00:25:15 ดูนะคะค่ะโอหวันนี้นะคะก็คิดว่าได้ความ
00:25:15 → 00:25:18 รู้กันไปเต็มๆเลยว่าการรักตัวเองเนี่ยมาก
00:25:18 → 00:25:21 ไปน้อยไปมันจะเป็นยังไงทำยังไงให้มันพอดี
00:25:21 → 00:25:24 แล้วก็วิธีการก้าวสเต็ปในการเริ่มรักตัว
00:25:24 → 00:25:27 เองนะคะก็ขอบคุณมากๆเลยนะคะอาจารย์อิ่ม
00:25:27 → 00:25:30 แพทย์หญิงอัจฉราตราชูค่ะขอบคุณนะคะค่ะ
00:25:30 → 00:25:33 ขอบคุณมากค่ะวันนี้นะคะต้องบอกเลยว่า
00:25:33 → 00:25:36 อาจารย์อิ่มนะคะส่งพลังบวกมาเต็มๆเลยให้
00:25:36 → 00:25:39 กับพวกเราชาว Single be นะคะใครที่อยาก
00:25:39 → 00:25:41 ให้คนที่คุณรักได้รับพลังงานดีๆนะคะรับ
00:25:41 → 00:25:45 พลังบวกดีๆแบบใจฟูๆแบบวันนี้นะคะก็แชร์
00:25:45 → 00:25:47 เลยค่ะ podcast EP นี้นะคะไปให้กับคนที่
00:25:47 → 00:25:52 คุณรักได้ฟังให้รักดูแลชีวิตไปด้วยกันนะ
00:25:52 → 00:25:55 คะถ้าอยากให้หมอคุยเรื่องอะไรหรืออยากจะ
00:25:55 → 00:25:58 ให้หมอชวนใครมาคุยใน podcast นะคะก็ทมา
00:25:58 → 00:26:02 บอกกันได้ที่ธาการ t h i d a K A R
00:26:02 → 00:26:04 N นะคะหรือว่าจะคอมเมนต์อยู่ในช่องทาง
00:26:04 → 00:26:07 ที่คุณกำลังฟัง podcast อยู่ก็ได้ค่ะส่วน
00:26:07 → 00:26:09 ใครที่ยังไม่ได้กด Subscribe กดติดตามนะ
00:26:09 → 00:26:12 คะอย่าลืมนะคะฝากกดด้วยค่ะแล้วพบกันใหม่
00:26:12 → 00:26:14 ใน EP หน้าค่ะสวัสดี
00:26:14 → 00:26:19 ค่ะ Single Being podcast about
00:26:19 → 00:26:22 Living your Best Single Life โดย
00:26:22 → 00:26:26 หมอผิงแพทย์หญิงธิดากรรุจิพัฒนกุล
00:26:26 → 00:26:32 ดีที่อยู่เดียว Presented by ให้รักดูแล
00:26:32 → 00:26:36 ชีวิตไทยประกันชีวิต