00:00:00 → 00:00:03 This Is Thai PBS podcast View the
00:00:03 → 00:00:05 world By The
00:00:05 → 00:00:08 Voice เวลาลูกดูแลพ่อแม่บางคนมองเข้าไป
00:00:08 → 00:00:11 เนี่ยโอ๊ยเหนื่อยเนอะออไม่เป็นไรก็พ่อแม่
00:00:11 → 00:00:14 เราอะไรอย่าเงี้ยอันนี้คือยังอยู่ในกำลัง
00:00:14 → 00:00:17 ที่เขาทำได้เขาก็จะไม่รู้สึกเป็นภาระแต่
00:00:17 → 00:00:19 เมื่อไหร่ก็ตามที่มันเกินกำลังเขาอาจจะ
00:00:19 → 00:00:22 ยังมีความสุขที่ได้ทำแต่มันก็มีความอ่อน
00:00:22 → 00:00:24 ล้าเกิดขึ้นภายใต้ความสุขที่ได้ทำเนี่ย
00:00:24 → 00:00:27 มันก็ต้องมีเว้นช่วงเว้นระยะให้ได้พัก
00:00:27 → 00:00:30 บ้างนั้นน่ะเป็นความรู้สึกหนักหนุ
00:00:30 → 00:00:34 ภาระที่บางปให้ใไม่ได้เพราะรู้สึกว่า
00:00:35 → 00:00:39 สังคมวัฒนธรรมของเราเราต้องดูแลบุพการี
00:00:39 → 00:00:42 แล้วคนที่เป็นคนที่เป็นภาระคจะไม่ได้รู้
00:00:42 → 00:00:45 สึกดีกับตัวเองเพราะรู้สึกตัวเราเป็นภาระ
00:00:45 → 00:00:47 ให้คน
00:00:47 → 00:00:51 อื่นฟังทุกเรื่องสุขภาพอัปเดตทุกโรคไทย
00:00:51 → 00:00:57 ฟังรายการโรงหมอกับดิฉันสุรีพร
00:00:57 → 00:01:02 วรล่ะวนี้คุยกันถึงเรื่องผู้สูงวัยนะคะ
00:01:02 → 00:01:05 สูงวัยอย่างไรไม่ให้เป็นภาระเออแต่ว่า
00:01:05 → 00:01:07 ต้องมานิยามความหมายของคำว่าภาระก่อนนะ
00:01:08 → 00:01:10 เพราะว่าคำว่าภาระของแต่ละคนอาจจะเข้าใจ
00:01:10 → 00:01:13 เอ่อในบริบทที่อาจจะต่างกันก็ได้เอ๊ะฉัน
00:01:13 → 00:01:15 เป็นภาระตัวฉันเป็นภาระหรือเปล่าหรืออะไร
00:01:15 → 00:01:18 ยังไงเดี๋ยวคุยกับผู้ช่วยศาสตราจารย์ดร
00:01:18 → 00:01:20 เกสรสำเภาทองอาจารย์ประจำคณะ
00:01:20 → 00:01:22 สาธารณสุขศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญด้านการส่ง
00:01:22 → 00:01:25 เสริมสุขภาพและป้องกันโรคมหาวิทยาลัย
00:01:25 → 00:01:27 ธรรมศาสตร์ค่ะสวัสดีค่ะพี่เกสรคะสวัสดี
00:01:27 → 00:01:28 ค่ะน้อง
00:01:28 → 00:01:33 รีสูงวัยอย่างไรไม่ให้เป็นภาระโอโหค่ะอืม
00:01:33 → 00:01:36 คือหลายคนอาจจะคิดว่าตัวเองเนี่ยเพราะ
00:01:36 → 00:01:39 เกษียณแล้วอาจจะเป็นภาระให้กับลูกหลาน
00:01:39 → 00:01:43 หรือเปล่าหลายคนกังวลแบบนั้นแล้วก็มักจะ
00:01:43 → 00:01:47 ขี้กังวลว่าอเออมีอะไรเป็นอะไรจะไม่ชอบ
00:01:47 → 00:01:51 บอกลูกบอกหลานเกรงใจกลัวเป็นคาเใช่เดี๋ยว
00:01:51 → 00:01:55 เรื่องค่าให้จ่ายอีกล่ะใช่มั้คะโอหกว่าจะ
00:01:55 → 00:01:59 เวลาของเอีกนะคะเออใช่เวลาจกำลังกายกำลัง
00:01:59 → 00:02:03 ใจของเใช่ทุกอย่างคำว่าเป็นภาระอเพราะ
00:02:03 → 00:02:06 ฉะนั้นคำว่าภาระเมันความรู้สึกมันเป็นทาง
00:02:07 → 00:02:11 ลบเนาใช่ใช่ค่ะอค่ะไม่รู้ว่าคือมันอาจจะ
00:02:11 → 00:02:14 เออก่อนหน้านี้เราเคยทำงานได้ด้วยตัวเรา
00:02:14 → 00:02:17 เองเรามีเงินเดือนหน้าเราไม่ต้องอ่ารบกวน
00:02:17 → 00:02:20 ลูกหลานหรือบางคนอาจจะทำงานอยู่ที่บ้านก็
00:02:20 → 00:02:24 ก๊อกๆแก๊กๆกันไปก็ไม่ได้จะต้องมาเป็นภาระ
00:02:24 → 00:02:28 แต่ถ้าเกิดว่าพอวันนึงอายุมากแล้วมีอาการ
00:02:28 → 00:02:31 ป่วยอีกเขาก็ยิ่งกังวลหนักค่ะมันเป็นภาวะ
00:02:31 → 00:02:33 ทางใจที่มันสามารถเกิดขึ้นได้โดย
00:02:33 → 00:02:35 อัตโนมัติเลยแบบนั้นหรือเปล่าคะจริงเลย
00:02:35 → 00:02:37 ค่ะเพราะฉะนั้นพี่คิดว่าเราน่าจะคุยกัน
00:02:37 → 00:02:39 ทั้ง 2 ส่วนนะส่วนของภาระที่มันเป็น
00:02:39 → 00:02:41 เรื่องของจิตใจมันเป็นปัจจัยทั้งดั้น
00:02:42 → 00:02:44 จิตวิทยาเนาะกับอีกส่วนหนึ่งคือมันเป็น
00:02:44 → 00:02:46 ภาระจริงๆที่เกิดขึ้นจากการที่ต้องทำอะไร
00:02:46 → 00:02:49 บางสิ่งบางอย่างอือโดยที่มันอาจจะมากเกิน
00:02:49 → 00:02:52 ไปเราก็เลยเรียกว่ามันเป็นภาระแต่ทั้ง 2
00:02:52 → 00:02:55 ส่วนเนี้ยมันผสมกันนะเออก็เลยอยากจะเริ่ม
00:02:55 → 00:02:57 ต้นแบบมีเล่าเรื่องอะไรนิดนึงไปฟังมาแล้ว
00:02:57 → 00:03:00 แบบเออน่าประทับใจอ่ะค่ะแล้วมันสะท้อนแนว
00:03:00 → 00:03:03 คิดที่ดีมากเลยนะเรื่องเล่าวันเนี้เขา
00:03:03 → 00:03:06 เกิดขึ้นที่ต่างประเทศเขาบอกว่าในในพื้น
00:03:06 → 00:03:09 ที่ห่างไกลความเจริญเนี่ยมันอ่าภูมิภาค
00:03:09 → 00:03:12 เนี่ยเป็นภูเขาอือเขาบอกว่าก็เห็นผู้ชาย
00:03:12 → 00:03:14 คนหนึ่งเขาก็เห็นเด็กอ่ะเด็กอ่ะเอาน้อง
00:03:14 → 00:03:17 ใส่หลังแล้วก็ปีนเนินเขาเพื่อที่จะไปใน
00:03:17 → 00:03:20 หมู่บ้านนะคะเอาน้องใส่หลังแล้วก็ปีนๆผู้
00:03:20 → 00:03:25 ชายคนนี้เห็นก็บอกว่าหนูไม่หนักหรอช่วย
00:03:25 → 00:03:28 มั้ยค่ะอือก็มีน้ำใจอยากจะช่วยเอาน้องแบก
00:03:28 → 00:03:32 ใส่หลังแล้วปีนเินเขาไปอืเด็กคนนั้นก็บอก
00:03:32 → 00:03:35 มาพี่ก็หันมาไม่เหนื่อยไม่หนักหรอกผู้ชาย
00:03:35 → 00:03:37 คนนี้ก็เดินไปแล้วก็บอกไม่เหนื่อยเหรอ
00:03:37 → 00:03:40 น้องก็ตัวใหญ่หนูก็ไม่ได้ใหญ่เท่าไหร่นะ
00:03:40 → 00:03:45 ไม่เหนื่อยหรอหนักมั้ยมาเหอะช่วยอเออเนาะ
00:03:45 → 00:03:48 พี่คนนี้ก็ตอบกลับมาไม่เหนื่อยหรอกไม่
00:03:48 → 00:03:51 หนักหรอกไม่ได้เป็นภาระอะไรเลยเพราะว่า
00:03:51 → 00:03:54 เขาเป็นน้องฉัน
00:03:54 → 00:03:59 อ๋อเห็นมั้ยคะผู้ชายคนนี้ก็อึ้งเออก็น้อง
00:03:59 → 00:04:03 เขไงเพราะฉะนั้นความรู้สึกของการเหนื่อย
00:04:03 → 00:04:06 หนักมันคือความรู้สึกที่ว่ามันไม่ใช่ของ
00:04:07 → 00:04:09 เรามันไม่ได้เป็นความรับผิดชอบของเราแล้ว
00:04:09 → 00:04:13 เราต้องไปทำให้มั้ยอือมันก็เลยเป็นภาระอื
00:04:13 → 00:04:16 ีเนี้ยเรื่องเนี้ยเรามันสะท้อน 2 มุมนะ
00:04:16 → 00:04:19 มุมที่ 1 คือร่างกายเขาอาจจะเหนื่อยแต่
00:04:19 → 00:04:22 จิตใจเขามีความสุขที่ได้ทำเพราะนี่น้อง
00:04:22 → 00:04:27 ของเขาอืนะอีกมุมหนึ่งก็คือเคยังทำได้ไงเ
00:04:27 → 00:04:30 ก็เลยไม่รับความช่วยเหลือของอีกคนนึงค่ะ
00:04:30 → 00:04:33 น้องเาเทำได้อืเนอันนี้มันสะท้อนมากเลย
00:04:33 → 00:04:36 เรื่องของผู้สูงอายุพี่คิดว่านัมันใช่เลย
00:04:36 → 00:04:40 นะเวลาลูกดูแลพ่อแม่บางคนมองเข้าไปเโอ๊ย
00:04:40 → 00:04:43 เหนื่อยเนอะอะไรเงี้ยออไม่เป็นไรก็เนาะ
00:04:43 → 00:04:46 พ่อแม่เราอะไรเงี้ยอันนี้คือยังอยู่ใน
00:04:46 → 00:04:49 กำลังที่เขาทำได้แล้วจิตใจเขามีความรู้
00:04:49 → 00:04:52 สึกเป็นสุขที่ได้ให้ไงเขาก็จะไม่รู้สึก
00:04:52 → 00:04:55 เป็นภาระอ่าใช่แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่มัน
00:04:55 → 00:04:59 เกินกำลังเอาจจะยังมีความสุขที่ได้ทำแต่
00:04:59 → 00:05:02 มันก็มีความอ่อนล้าเกิดขึ้นค่ะภายใต้ความ
00:05:02 → 00:05:04 สุขที่ได้ทำเนี่ยมันก็ต้องมีเว้นช่วงเว้น
00:05:04 → 00:05:08 ระยะให้ได้พักบ้างนั้นน่ะเป็นความรู้สึก
00:05:08 → 00:05:11 หนักหน่วงเป็นภาระที่บางคนก็เอ่ยปากให้
00:05:11 → 00:05:15 ใครไม่ได้เพราะรู้สึกว่าสังคมวัฒนธรรมของ
00:05:15 → 00:05:20 เราเราต้องดูแลบุพการีอืก็มีแบบนี้ด้วย
00:05:20 → 00:05:23 อันนี้เป็นแนวความคิดที่อ่าเราอยู่ในใน
00:05:23 → 00:05:26 ความที่ไม่ได้เป็นเป็นเป็นเเรชใหม่อ่ะ
00:05:26 → 00:05:32 เนาะเราก็อนี้อยู่ในวัยที่บอกว่าเรามี
00:05:32 → 00:05:35 บุพการีที่ต้องดูแลนี่คือคือสิ่งที่ต้อง
00:05:35 → 00:05:39 ทำค่ะแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่อะไรแบบ
00:05:39 → 00:05:42 เนี้ยหรือหรือคนมีพระคุณกับเราในในรูปแบบ
00:05:42 → 00:05:45 อาจจะแตกต่างกันไปแล้วแต่ไม่ได้บอกว่า
00:05:45 → 00:05:47 ต้องทำเหมือนกันซะหมดอะไรอย่างงี้ขนาด
00:05:47 → 00:05:51 นั้นแต่ว่าอาจจะหลายคนที่อาจจะไม่พร้อม
00:05:51 → 00:05:54 อ่ะมันก็จะก็จะมองอีกมุมนึงมั้ยคะพี่เก
00:05:54 → 00:05:58 สอนว่าเออมันเป็นภาระจังเลยอันนี้ก็เคย
00:05:58 → 00:06:00 ได้ยินเหมือนแบบ
00:06:00 → 00:06:03 เป็นเป็นเรื่องจริงเป็นเรื่องจริงที่เกิด
00:06:03 → 00:06:07 ขึ้นจริงที่แบบว่าพ่อแม่มีลูกหลายคนใช่
00:06:07 → 00:06:11 มั้ยคะอ่าแล้วก็แบบดูแลลูกใช่มั้ยคะมาได้
00:06:11 → 00:06:14 เป็นอย่างดีด้วยกำลังของ 2 มือของพ่อกับ
00:06:14 → 00:06:18 แม่แต่พอวันนึงกลายเป็นว่าพอพ่อแม่ชราภาพ
00:06:18 → 00:06:20 ไปเนี่ยเขาก็กลับไปเป็นเหมือนเป็นวัยเด็ก
00:06:20 → 00:06:24 อ่ะเนาะถามนู่นถามถามซ้ำถามแล้วถามอีก
00:06:24 → 00:06:27 กลายเป็นว่าลูกเนี่ยรำคาญพ่อแม่แล้วรู้
00:06:27 → 00:06:31 สึกเป็นภาระว่าทำไมต้องมาดูแลค่ะทำไมฉัน
00:06:31 → 00:06:33 ต้องดูแลทำไมเธอไม่ดูแลล่ะลูกก็ตั้งหลาย
00:06:33 → 00:06:36 คนก็เลยเห็นว่าคนอื่นก็อยู่ในสถานะเดียว
00:06:36 → 00:06:38 กันกับฉันน่ะเป็นลูกเหมือนกันก็ลูกเหมือน
00:06:38 → 00:06:40 กันทำไมถึงต้องฉันต้องพ่อแม่ต้องมาเป็น
00:06:40 → 00:06:42 ภาระกับฉันแล้วทำไมไม่ไปอยู่กับลูกคนนั้น
00:06:43 → 00:06:46 คนนี้ลูกคนนั้นคนนี้ก็มองว่าเอ้าก็ฉันก็
00:06:46 → 00:06:48 มีภาระอย่างอื่นเอาเค้ามาอีกก็เป็นภาระ
00:06:48 → 00:06:50 ของฉันก็หนักกว่าเดิมอะไรอย่างเงี้ยมันอ
00:06:50 → 00:06:52 เธอเหมาะที่สุดแล้วเธอเป็นคนโสดสมมุตินะ
00:06:52 → 00:06:55 คะเธอเหมาที่สุดแล้วเธอเป็นลูกสาวคนเล็กอ
00:06:55 → 00:06:58 การงานดีมีเงินที่จะดูแลพ่อแม่ได้อะไร
00:06:58 → 00:07:00 อย่างเงี้ยแต่ในขณะเดียวการที่คนดูแลอาจ
00:07:00 → 00:07:03 จะรู้สึกว่าเอ้ยทำไมต้องมาเป็นภาระของฉัน
00:07:03 → 00:07:06 คนเดียวเอ๊ะมันมีคำว่าภาระแล้วอ่ะใช่เพ
00:07:06 → 00:07:07 นั้นเพื่ออะไรก็ตามที่เราคิดว่าเป็นภาระ
00:07:08 → 00:07:10 นั้นหมายความว่ามันหนักสำหรับเรามันทำให้
00:07:10 → 00:07:13 ชีวิตของเราเนี่ยต้องเพิ่มบางสิ่งบาง
00:07:13 → 00:07:16 อย่างซึ่งเราอาจจะไม่สามารถจัดการได้ใน
00:07:16 → 00:07:19 ความรู้สึกเป็นภาระแล้วคนที่เป็นเป็นคน
00:07:19 → 00:07:22 ที่เป็นภาระ่ะค่ะจะไม่ได้รู้สึกดีกับตัว
00:07:22 → 00:07:24 เองเพราะรู้สึกตัวเราอ่ะเป็นภาระให้คน
00:07:24 → 00:07:27 อื่นอืไม่ต้องอื่นไกบางทีเราไปเที่ยวอ่ะ
00:07:27 → 00:07:29 แล้วรู้สึกว่าโอ้ยเราเป็นภาระของคนอื่น
00:07:29 → 00:07:31 อื่นจังเลยเรานู่นนี่นี่นั่นเราก็ยังไม่
00:07:31 → 00:07:34 ชอบเลยใช่มั้ยคะแล้วถ้าเป็นผู้สูงอายุล่ะ
00:07:34 → 00:07:36 คะในวัยที่เขารู้สึกว่าเรี่ยวแรงก็ไม่ดี
00:07:36 → 00:07:39 เนาะอะไรต่างๆร่างกายก็เปลี่ยนไปแล้วก็คน
00:07:39 → 00:07:42 ที่เราเคยเลี้ยงดู้มาเลี้ยงดูมาแล้วเขา
00:07:42 → 00:07:46 คิดว่าเราเป็นภาระความรู้สึกทางด้านจิตใจ
00:07:46 → 00:07:49 เนี่ยมันจะดาวลงมันจะตกต่ำลงทันทีเลยถึง
00:07:49 → 00:07:51 แม้บางทีไม่ได้พูดออกมาเนี่ยเขาก็จะคิด
00:07:52 → 00:07:54 ว่าตัวเขาเป็นภาระอยู่แล้วนะแล้วถ้าเกิด
00:07:54 → 00:07:56 ลูกหลานยิ่งมาแบบพูดจาอาจจะไม่ได้ใช้คำ
00:07:56 → 00:08:00 ว่าภาระหรอกแต่มันทำก็แล้วแต่ที่ให้เครู้
00:08:00 → 00:08:04 สึกว่าเฮ้ยฉันเป็นภาระจริงๆด้วยอ่ะเขาจะ
00:08:04 → 00:08:07 ยิ่งรู้สึกแบบดาวลงแย่ลงไปได้เลยเนาะใช่
00:08:07 → 00:08:10 นัคือที่มาว่าเราต้องมองในมุมของว่าทำ
00:08:10 → 00:08:13 อย่างไรถึงจะเปลี่ยนคำว่าภาระเนี่ยไปเป็น
00:08:13 → 00:08:17 พลังอือ่ามันก็จะมีคอมันก็จะมีแนวคิดนี้
00:08:17 → 00:08:20 นะคะคอนเซปนี้ว่าเปลี่ยนจากภาระไปเป็น
00:08:20 → 00:08:23 พลังคือใช่ร่างกายของผู้สูงวัยอาจจะไม่
00:08:23 → 00:08:26 ได้เอ่อกลับมาแข็งแรงดูแลตัวเองได้เหมือน
00:08:26 → 00:08:28 เดิมแต่ว่าแนวคิดของเราที่ยังคงมองเห็น
00:08:28 → 00:08:32 สิ่งในตัวเขาว่าเยังมีพลังบางสิ่งบาง
00:08:32 → 00:08:35 อย่างอยู่นะคงไว้ซึ่งพลังที่เขายังทำได้
00:08:35 → 00:08:39 ให้มากที่สุดนะคะแล้วในขณะเดียวกันเนี่ย
00:08:39 → 00:08:42 สิ่งที่มันเกินกำลังเแล้วเราต้องทำอ่ะเรา
00:08:42 → 00:08:44 อย่าไปคิดว่ามันเป็นภาระแม้ว่าเราต้องลง
00:08:44 → 00:08:50 แรงลงกายใจแม้กระทั่งใช้เงินทองนะคะแต่
00:08:50 → 00:08:52 ถ้าเรามองว่ามันเป็นความรับผิดชอบส่วน
00:08:52 → 00:08:55 หนึ่งด้วยนะคะแล้วก็เป็นความสุขทางใจ
00:08:55 → 00:08:58 เหมือนเด็กน้อยที่แบกน้องใส่หลังเดินข้าม
00:08:58 → 00:09:02 ภูเขาไปแล้วบอกไม่เหนื่อยหรอกไม่หนักหรอก
00:09:02 → 00:09:04 เพราะว่าเขาเป็นน้องฉันไอ้ความคิดที่ว่า
00:09:04 → 00:09:07 มันไม่ได้มันเป็นภาระมันก็หมดไปแล้วมา
00:09:07 → 00:09:10 แสวงหาคนช่วยเหลือเพราะว่าพลังมันต้องหมด
00:09:10 → 00:09:12 สักวันนึงอ่ะเนาะกำลังเรี่ยวแรงอะไรที่
00:09:12 → 00:09:14 ต้องแบกเอาไว้บนหลังตลอดเวลามันคงไม่ได้
00:09:14 → 00:09:17 ก็คงต้องมีวันที่วางลงแต่ในวางลงก็มั่นใจ
00:09:17 → 00:09:20 ว่าการวางของเราอ่ะไม่ได้ทำให้คนที่เรา
00:09:20 → 00:09:23 วางลงไปอ่ะเขาประสบกับปัญหาทุกข์ยากลำบาก
00:09:23 → 00:09:26 จนเกินไปมีคนมาช่วยรับเอาไว้ในวันที่เรา
00:09:26 → 00:09:30 ต้องการนั่นคือการสนับสนุนจากครอบครัวคน
00:09:30 → 00:09:33 รอบข้างแม้กระทั่งสังคมอ่ะก็ต้องมาช่วยอ
00:09:33 → 00:09:37 รับเอาไว้ในบางเวลาให้เขาเติมพลังเพที่จะ
00:09:37 → 00:09:40 กลับขึ้นมาบนหลังเขาอีกครั้งหนึ่งอ่ะอืก็
00:09:40 → 00:09:44 จำเป็นีกำลังมองว่าถ้าใช้คำว่าภาระเนี่ย
00:09:44 → 00:09:47 มันแบบมันก็ดูเป็นภาพลบเนาะแต่ถ้าเป็นคำ
00:09:47 → 00:09:49 ว่าภารกิจ
00:09:49 → 00:09:52 แทนออกเสียงมีภารกิจเป็นิัเออออกเสียง
00:09:52 → 00:09:55 กึ่งนึงคำว่าระเนี่ยกึ่งนึงแล้วก็มีนะคะ
00:09:55 → 00:09:59 อันนี้พจะได้คำนี้นะมันเป็นภารกิจนะเรา
00:09:59 → 00:10:02 ต้องเอ้ยเราทำมีมุ่งมั่นมีเป้าหมายทำให้
00:10:02 → 00:10:04 มันสำเร็จอาจจะไม่ได้ทำคนเดียวเราก็แสวง
00:10:04 → 00:10:07 หาความช่วยเหลือได้แล้วภารกิจนี้ก็จะรู้
00:10:07 → 00:10:10 ล่วงกลายไม่ไม่เป็นแค่คำว่าพอใช้คำว่า
00:10:10 → 00:10:13 ภาระเราก็หยุดแค่คำนี้ภาระมันก็เออหนัก
00:10:13 → 00:10:16 เลยนะคะฟันหนักทีนี้กลับมาที่ตัวผู้สูง
00:10:16 → 00:10:19 อายุบ้างนะคะท่านจะทำอย่างไรเป็นลก็ไม่
00:10:19 → 00:10:21 อยากเป็นภาระใครเนาะไม่มีใครอยากเป็นภาระ
00:10:21 → 00:10:24 ของใครเลยอ่ะใช่อันนี้ริไม่แน่ใจว่าอัน
00:10:24 → 00:10:28 นี้คือด้วยความที่เพิ่งอ่านเจอเมื่อไม่
00:10:28 → 00:10:30 กี่วันก่อนเค่ะพี่ก็สอนเป็นเรื่องจริงอีก
00:10:30 → 00:10:34 ลเป็นเรื่องจริงเอ่อมีคุณแม่ที่เอ่อท่าน
00:10:34 → 00:10:36 สูงอายุแล้วอ่ะนะคะท่านนึงท่านก็แบบว่า
00:10:36 → 00:10:40 กลัวว่าตัวเองเนี่ยจะเป็นภาระกับลูกหลาน
00:10:40 → 00:10:45 นะคะท่านก็ทำสิ่งๆนึงโดยที่ไม่เคยบอกลูก
00:10:45 → 00:10:49 หลานมาก่อนเลยด้วยการเก็บหอมรอมลิฟเวลามี
00:10:49 → 00:10:52 สตางค์เศษสตางค์หรืออะไรก็แล้วแต่ที่ท่าน
00:10:52 → 00:10:54 ได้สตางค์มาท่านจะหยอดใส่กระปุกเอาไว้
00:10:55 → 00:10:57 หยอดๆดๆเสร็จแล้วก็ซ่อนเอาไว้ค่ะซ่อนเอา
00:10:58 → 00:11:02 ไว้้เอ่อเอาพาคุมจนแบบลูกหลานเนี่ยไม่รู้
00:11:02 → 00:11:05 เลยว่ามีเงินซ่อนอยู่ว่าว่ามีอะไรใช่ๆคือ
00:11:05 → 00:11:08 ไม่เคยรู้เลยปรากฏว่าวันนึงเนี่ยคุณแม่
00:11:08 → 00:11:12 ท่านเนี้ยเอ่อเข้าโรงพยาบาลแล้วก็น่าจะ
00:11:13 → 00:11:14 คิดแหละว่าตัวเองจะเป็นภาระลูกหลานใน
00:11:15 → 00:11:17 อนาคตหรือเปล่าหรืออะไรอย่าเงี้ยนะคะก็
00:11:17 → 00:11:21 ไม่ยอมที่จะรักษาหรือเอาเงินตรงนั้นเนี่ย
00:11:21 → 00:11:26 มารักษาตัวยอมที่จะเสียชีวิตอืยอมที่จะ
00:11:26 → 00:11:30 เจ็บปวดแล้วพ้อมที่จะแบบว่าคิดว่าเออ
00:11:30 → 00:11:33 อ่คใช่ค่ะสุดท้ายก็คืออ่ะโอเคไม่ใช่เป็น
00:11:33 → 00:11:38 ครอบครัวที่มีฐานะอ่ะนะคะก็แบบอาจจะลำบาก
00:11:38 → 00:11:40 นิดนึงหรืออะไรอย่างเงี้ยค่ะปรากฏว่าก็
00:11:40 → 00:11:42 จัดงานส่งงานศพซึ่งมันมีค่าใช้จ่ายเดี๋ยว
00:11:42 → 00:11:45 นี้งานศพค่าใช้จ่ายที 1 เยอะใช่มั้ยคะ
00:11:45 → 00:11:49 ปรากฏว่าลูกหลานก็ไปเก็บของของคุณแม่ไป
00:11:49 → 00:11:54 เจอกระปุกออมสินเนี่ยหลายๆกระปุกเลยค่ะ
00:11:54 → 00:11:57 แล้วก็พอเปิดมานับเงินได้เป็นหลักแสนพี่
00:11:57 → 00:12:01 แกสอนอืที่คุณแม่ท่านนั้นจะสามารถเอาไป
00:12:01 → 00:12:04 รักษาตัวเองก็ได้แต่ก็ไม่เอาไปก็ได้แต่
00:12:04 → 00:12:07 ไม่เอาไปปรากฏว่าก็ได้เงินตรงนั้นเนี่ยมา
00:12:07 → 00:12:09 เป็นค่าใช้จ่ายเรื่องของการจัดงานที่จะ
00:12:09 → 00:12:12 ต้องจ่ายหรือก็เหลือไว้ให้ลูกหลานด้วย
00:12:12 → 00:12:15 อะไรอย่าเงี้ยเฮ้ยมันอันนี้ก็คือความคิด
00:12:15 → 00:12:17 ของท่านที่ว่าวันหนึ่งชีวิตก็ต้องจากไปเ
00:12:17 → 00:12:20 อะไรที่เราทิ้งไว้ให้ได้ใช่มั้ยคะไม่เป็น
00:12:20 → 00:12:22 ภาระเนาะใชเพื่อที่เค้าไม่ลูกหลานไม่เป็น
00:12:22 → 00:12:24 ภาระอันนี้ก็เหมือนกับอันนี้ก็เล่า
00:12:24 → 00:12:27 ประสบการณ์ตัวเองคือคุณพ่ออ่ะค่ะอ่าด้วย
00:12:27 → 00:12:30 ความที่ท่านกลัวว่าพอเวลาวันนึงท่านจะจาก
00:12:30 → 00:12:35 ไปเนี่ยลูกหลานจะลำบากในการหาฮวงซุ้ยอือื
00:12:35 → 00:12:38 ซื้อไว้ให้ตัวเองล่วงหน้าเป็น 10 ปีนะคะ
00:12:38 → 00:12:42 ออไปวางแผนเรียบร้อยเลยแล้วก็ไปหาซื้อที่
00:12:42 → 00:12:47 สำหรับที่จะฝังตัวเองในอนาคตกับของคุณแม่
00:12:47 → 00:12:49 คู่กันเตรียมการไว้เป็นเป็นหวงซุ้ยคนจีน
00:12:49 → 00:12:51 น่ะเนาะอะไรอย่างเงี้ยค่ะเตรียมการไปซื้อ
00:12:51 → 00:12:55 ที่ไว้เลยปรับอ่าปบไปจ้างคนงานมาดูแลทุก
00:12:55 → 00:12:58 ปีนู่นนี่นั่นทุกอย่างคือเพื่อให้แบบว่า
00:12:58 → 00:13:01 เวลาเา้าไปแล้วเนี่ยไม่เป็นไม่ต้องไปหา
00:13:01 → 00:13:04 ยากคือเเจะไปดูเรื่องของอ่ะหวงจุ้ยเนาหวง
00:13:04 → 00:13:07 จุ้ยด้วยอะไรประมาณนี้ค่ะอยู่ใกล้กับ
00:13:07 → 00:13:10 เพื่อนเนะเพื่อนสนิทเนะอะไรอย่างเงี้ยค่ะ
00:13:10 → 00:13:13 เขพากันไปซื้อกันเองเลยนะคะอันนี้คือมา
00:13:13 → 00:13:15 รู้ทีหลังว่าคุณพ่อได้เตรียมการเอาไว้แบบ
00:13:15 → 00:13:18 นี้แล้วกลายเป็นว่าพอถึงเวลาจริงขึ้นมา
00:13:18 → 00:13:22 จริงๆก็ได้ใช้เราก็ได้ใช้ที่ที่เขามองว่า
00:13:22 → 00:13:27 ตรงเนี้ยเาเหมาะสมสำหรับในการที่เขาจะไป
00:13:27 → 00:13:29 แล้วอะไรอย่าเงี้ยเป็นแบบก็เอตามหงจุ้ย
00:13:29 → 00:13:33 อะไรประมาณนี้ค่ะใช่ๆคือการเตรียมการนะคะ
00:13:33 → 00:13:35 คือคือเรื่องของการเตรียมการแล้วก็ทำให้
00:13:35 → 00:13:38 ตัวเองไม่เป็นภาระกับคนอ่าลูกหลานหรือ
00:13:38 → 00:13:41 ครอบครัวอะไรอย่างเงี้ยนะฮะมันมันมันต้อง
00:13:41 → 00:13:43 เตรียมมาเป็นระยะเวลาหนึ่งเลยนะอย่างเช่น
00:13:43 → 00:13:46 กรณีที่น้องรีเล่าว่าสะสมเงินเห็นมั้ยคะ
00:13:46 → 00:13:48 มันไม่ได้ใส่วันเดียวจะได้เป็นแสนถูกมั้ย
00:13:48 → 00:13:51 คะเพก็ต้องเก็บสะสมมาหรือว่าการดังนั้น
00:13:51 → 00:13:54 การเตรียมเนี่ยเตรียมไม่เป็นภาระอันดับ
00:13:54 → 00:13:56 แรกก็คือเตรียมร่างกายของเราด้วยอ่ะนะคะ
00:13:56 → 00:13:59 แน่นอนทุกคนรู้อยู่แล้วว่าต้องเตรียมร่าง
00:13:59 → 00:14:03 กายให้มีความอ่าแข็งแรงในระดับที่ดูแลตัว
00:14:03 → 00:14:05 เองได้ดูแลตัวเองได้เนี่ยทางด้านผู้สูง
00:14:05 → 00:14:07 อายุเค้าก็จะพูดว่าในกิจวัตรประจำวันก่อน
00:14:07 → 00:14:11 เบสิคก่อนนะคะเช่นอาบน้ำแต่งตัวทำอาหาร
00:14:11 → 00:14:13 ถ้าทำอาหารเองไม่ได้ก็รับประทานอาหารเอง
00:14:13 → 00:14:16 ได้ทำความสะอาดอะไรได้แล้วทำความสอาดสิ่ง
00:14:16 → 00:14:18 แวดล้อมเื่อรอบๆตัวเองได้อยู่อยู่ได้อาจ
00:14:18 → 00:14:22 จะมีคนช่วยบ้างนะแต่ว่าไม่ได้เป็นสิ่งที่
00:14:22 → 00:14:25 คนอื่นต้องใช้เวลากับเรามากนักอย่าเงี้ย
00:14:25 → 00:14:29 คือคือในในระดับที่ว่าดูแลตัวเอง
00:14:29 → 00:14:34 งประำตัวอะไคือปิบัติตัวเองดีกินยาได้อะไ
00:14:34 → 00:14:38 ได้เนาไม่ทำให้เหมือนปล่อยปลเลยซะจนมัน
00:14:38 → 00:14:42 กลายไปเป็นอาการหนักแล้วสุดท้ายก็ต้อง
00:14:42 → 00:14:44 เป็นภาระอย่างที่ว่านี้นะอันนี้ก็คือสิ่ง
00:14:44 → 00:14:47 นั้นนอกจากนี้แล้วคือไม่เป็นภาระทั้งด้าน
00:14:47 → 00:14:50 การเงินค่ะจริงๆเลยนะคะเพราะว่าแน่นอนน่ะ
00:14:50 → 00:14:52 ยำเกษียณแล้วหรือว่าอายุเยอะแล้วเราก็ไม่
00:14:52 → 00:14:55 ได้หารายได้เท่าเดิมหารายได้ไม่เท่าเดิม
00:14:55 → 00:14:59 นอกจากบางคนที่มีอ่อมีมรดกมีมีเเรียกว่า
00:14:59 → 00:15:02 รายได้ทางอ้อมมี Passive Income อะไร
00:15:02 → 00:15:05 อย่างงี้ก็อาจจะยังคงมีรายได้แต่ส่วนใหญ่
00:15:05 → 00:15:08 แล้วผู้สงอุจะมีแต่รายจ่ายนะคะเอ่อกินใช้
00:15:08 → 00:15:10 ไปในแต่ละวันอะไรอย่าเงี้นะคะแต่ว่าการ
00:15:10 → 00:15:13 วางแผนทางด้านการเงินเก็บออมไว้เหมือนที่
00:15:13 → 00:15:15 น้องรีเล่าว่าเก็บเงินเอาไว้ในวั่นปลาย
00:15:15 → 00:15:18 ของชีวิตแม้กระทั่งโอ้ก็ป่วยแล้วมันก็
00:15:18 → 00:15:21 ต้องจากไปก็จะเอาเงินมาใช้รักษาทำไมรักษา
00:15:21 → 00:15:24 แล้วคงต้องจากไปเอาไว้ให้ลูกให้หลานไว้
00:15:24 → 00:15:26 จัดงานในบั้นปลายของชีวิตก็แล้วกันอันนี้
00:15:26 → 00:15:28 ก็เป็นการเตรียมการของเขาในในมุมของเขานะ
00:15:28 → 00:15:30 คเพราะฉะนั้นแต่ละคนก็อาจจะมีมุมไม่
00:15:30 → 00:15:34 เหมือนกันซึ่งเรายอมรับได้ก็เป็นแนวคิด
00:15:34 → 00:15:36 ของผู้สูงวัยท่านหนึ่งเลยนะฮะแล้วก็หลายๆ
00:15:36 → 00:15:39 ท่านก็คิดอย่างนี้บอกว่าบอกไว้เลยว่าอย่า
00:15:39 → 00:15:41 เอาเงินที่เก็บไว้เนี่ยมาทุ่มเพื่อการ
00:15:41 → 00:15:45 รักษาเพราะว่าวันหนึ่งก็ต้องไปอยู่ดีนะจะ
00:15:45 → 00:15:48 ให้มันไปพร้อมกับครอบครัวยากจนเพื่ออะไร
00:15:48 → 00:15:51 นะคะบางคนก็คิดอย่างงี้ไปพร้อมกับว่าการ
00:15:51 → 00:15:53 ล่มสลายทางเศรษฐกิจของครอบครัวเพะเอาเงิน
00:15:53 → 00:15:55 มาโถมลงไปแล้วก็อยู่กับความทุกข์ทรมานของ
00:15:55 → 00:15:58 โรคภัยไข้เจ็บจะอยู่เพื่ออะไรอันนี้ก็
00:15:58 → 00:16:00 ต้องคุยกันนะคะนี้ก็ต้องคุยกันเพราะว่า
00:16:00 → 00:16:02 ตอนเดี๋ยวนี้มันก็จะมีเรื่องของการตายดี
00:16:02 → 00:16:06 ใช่มคะตายแล้วไม่ไม่ได้พร้อมกับความยากจน
00:16:06 → 00:16:08 หรือว่าล่มสลายของครอบครัวเพราะใช้เงินไป
00:16:08 → 00:16:10 หมดเลยอะไรอย่างเงี้ยนะคะอันนี้ก็เป็นอีก
00:16:10 → 00:16:13 อันหนึ่งเพราะฉะนั้นการที่เราจะป้องกัน
00:16:13 → 00:16:16 ไม่ให้เป็นภาระนิหนึคือเราอ่ะดูแลตัวเอง
00:16:16 → 00:16:19 ได้นะเราก็จะได้ไม่เป็นภาระโดยการเอาเวลา
00:16:19 → 00:16:23 ของคนอื่นมาดูแลเราเนเรามีเงินทองเก็บออม
00:16:23 → 00:16:27 พอสมควรเพื่อที่จะใช้จ่ายในยามสูงวัยก็
00:16:27 → 00:16:30 ไม่ต้องถึงกับให้ลูกหลานมา 100% กับเรา
00:16:30 → 00:16:33 เนาะไม่ว่าเอ่อเพราะว่าลูกหลานเองก็ต้อง
00:16:33 → 00:16:36 มีภาระอย่างอื่นด้วยเป็นเรื่องธรรมดานะคะ
00:16:36 → 00:16:38 นอกจากนี้อีกอันหนึ่งซึว่าจะไม่ค่อยได้
00:16:38 → 00:16:41 พูดคืออย่าเป็นภาระทางด้านจิตใจอถ้าเรา
00:16:41 → 00:16:43 ไม่ได้มีอาการสมองเสื่อมหรืออะไรอย่าง
00:16:43 → 00:16:46 เงี้ยอย่าเป็นภาระทางด้านจิตใจให้คนอื่นค
00:16:46 → 00:16:49 ักจิตใจเกิดขึ้นอะไรนะคะมันก็มีงานวิจัย
00:16:49 → 00:16:51 บอกเลยนะว่าสำรวจมาเนี่ยส่วนใหญ่ลูกหลาน
00:16:51 → 00:16:54 จะไม่ชอบให้ผู้สูงอายุมาจู้จี้ซักไซ้ถาม
00:16:54 → 00:16:56 อ่ะเพราะเขารู้สึกว่ามันเหนื่อยแล้วอ่ะ
00:16:56 → 00:17:00 ต้องมานั่งอธิบายแต่บางคนยังยังดียังเข้า
00:17:00 → 00:17:03 ใจก็จะมีอะไรก็มาเล่าแต่ว่าเออบางทีแล้ว
00:17:03 → 00:17:05 ผู้สูงอายุก็จะบอกว่างั้นไม่ต้องถามอะไร
00:17:05 → 00:17:07 เลยเหรออยู่กันไม่คุยกันเหรอแล้วก็อาจจะ
00:17:07 → 00:17:10 คุยเรื่องทั่วๆไปเพราะว่าบางทีลูกหลานก็
00:17:10 → 00:17:12 อย่าที่บอกสังคมปัจจุบันนี้ลูกหลานนี่
00:17:12 → 00:17:15 เครียดมาจากงานพอสมควรแล้วนะคะเรามีอะไร
00:17:16 → 00:17:18 ที่ทำแล้วเขาสบายใจก็เรียนรู้กันไปอย่าไป
00:17:18 → 00:17:21 เป็นภาระทางด้านจิตใจให้คนอื่นเรียกร้อง
00:17:21 → 00:17:24 ความสนใจซึ่งคือมันเป็นเรื่องที่ลูกหลาน
00:17:24 → 00:17:27 ควรจะต้องรู้แล้วก็ทำให้แต่ไม่ใช่เรียก
00:17:27 → 00:17:31 ร้องทุกเทศกาลเรียกร้องทุกเวลาทุกวันอะไร
00:17:31 → 00:17:33 อย่างเงี้ยนะคะว่าต้องมาสนใจเพราะฉะนั้น
00:17:33 → 00:17:36 ผู้สูงอายุข้อนึงบอกว่ามี 4 กลุ่มนะคะใน
00:17:36 → 00:17:38 ยามในการที่จะไม่เป็นภาระกลุ่มที่ 1 คือ
00:17:38 → 00:17:41 แอคทีฟดูแลตัวเองได้กลุ่มนี้ลูกหลานนี้
00:17:41 → 00:17:44 สบายใจได้โชคดีอออ่อสุขภาพของพ่อแม่คือ
00:17:44 → 00:17:47 ที่ดีคือของขวัญของลูกเจอเยอะมากค่ะแนว
00:17:47 → 00:17:52 นี้ไปแบบเข้าฟิตเนสแบบไปออกกำลังกายโนะคะ
00:17:52 → 00:17:55 บางทีลูกหลานบอกรู้สึกจะเป็นห่วงจะทิ้ง
00:17:55 → 00:17:58 ลูกไปแล้วนะทิ้งลูกมากไปหรือเปล่าเยวเยว
00:17:58 → 00:18:00 บ่อย
00:18:00 → 00:18:02 อันนี้อาจจะเหมาะสำหคนที่แบบว่าเไม่ได้มี
00:18:02 → 00:18:05 ภาระไงคะพี่เกสรที่จะต้องแบบกังวลอะไร
00:18:05 → 00:18:07 อย่าเงี้ยก็เลยแบบดูแลตัวเองได้เป็นอย่าง
00:18:07 → 00:18:11 ดีแล้วเปิดโรทัมีกลุ่มมีก้อนมีอะไรชมรม
00:18:11 → 00:18:14 ที่จะไปกลุ่มที่ 2 อร่างกายยังดีแต่วนี้
00:18:14 → 00:18:18 ทางด้านจิตใจอืกลุ่มเร่างกายเดีจริงๆไม่
00:18:18 → 00:18:20 มีอะไรนะแต่นี้ทางด้านจิตใจเหมือนกับว่า
00:18:20 → 00:18:23 มันมีความขาดบางสิ่งบางอย่างอยากจะได้รับ
00:18:23 → 00:18:26 ความสนใจอยากจะได้รับความดูแลเป็นเรื่อง
00:18:26 → 00:18:29 ของบุคลิกภาพของแต่ละคนด้วยนะคะกลุ่มนี้
00:18:29 → 00:18:32 เนี่ยคือถ้าหากว่าเขามาเริ่มสนใจตัวเอง
00:18:32 → 00:18:36 แล้วก็คิดว่าในยามนี้อ่าก็สิ่งที่ได้รับ
00:18:36 → 00:18:38 ความสนใจก็อาจจะดีแต่ถ้าไม่ได้ก็ต้องมี
00:18:38 → 00:18:41 ความสุขกับตัวเองได้ด้วยแล้วก็มองหา
00:18:41 → 00:18:43 เพื่อนอันข้อเนี้ยค่ะอันนี้ก็อันนี้ขอ
00:18:43 → 00:18:46 อนุญาตยกตัวอย่างให้พี่เกสรฟังว่าเพื่อน
00:18:46 → 00:18:50 เนี่ยค่ะก็เป็นลูกคนเดียวของของแม่เนาะ
00:18:50 → 00:18:53 คือสามีเสียชีวิตคุณพ่อเาเสียชีวิตไปะ
00:18:53 → 00:18:55 เหลือแม่ก็อยู่กันมา 2 คนอย่างเงี้ยค่ะ
00:18:55 → 00:18:57 ตั้งแต่เล็กจนจนอ่ะเพื่อนแต่งเพื่อนแต่ง
00:18:58 → 00:19:00 งานไปเรียบรอยะอะไรอย่าเงี้ยค่ะคุณแม่ก็
00:19:00 → 00:19:03 จะอยู่คนเดียวส่วนลูกกับหลานกับสามีเจะ
00:19:03 → 00:19:06 อยู่กรุงเทพฯนะคะประกอบสมอาชีพค้าขายอะไร
00:19:06 → 00:19:10 ไปส่วนส่วนของรีเนี่ยความที่มีพี่น้อง
00:19:10 → 00:19:12 อะไรอย่างเงี้ใช่มั้ยคะเขาก็จะหันกลับมา
00:19:12 → 00:19:15 มองมองเหมือนกับว่าอิจฉาคนที่มีพี่น้อง
00:19:15 → 00:19:19 เยอะเพราะว่ามีคนดูแลพ่อแม่อ่าแต่ตัวเา
00:19:19 → 00:19:23 อ่ะค่ะอาจจะไม่ได้สามารถอยู่กับไปอยู่กับ
00:19:23 → 00:19:25 แม่ได้เพราะอยู่อยู่คนละจังหวัดใช่มั้ยคะ
00:19:25 → 00:19:28 พอแม่อยู่คนเดียวก็เริ่มละพอพอคุณแม่่
00:19:28 → 00:19:32 เริ่มอายุมากอ่ะการเรียกร้องอืยิ่งมาก
00:19:32 → 00:19:36 ขึ้นที่อยากจะให้มาดูแลหรืออะไรเงี้ยบาง
00:19:36 → 00:19:40 ทีก็ไปอยู่ไปอยู่กับลูกด้วยก็จริงแต่ว่า
00:19:40 → 00:19:45 ก็ความอาจจะคอนฟลิกกับลูกเคยมันก็ไม่ได้
00:19:45 → 00:19:47 สะดวกสบายเหมือนอยู่บ้านตัวเองใชก็เลยทำ
00:19:47 → 00:19:50 ให้ให้แบบทำให้เอ่อบางอย่างเนี่ยเมา
00:19:50 → 00:19:53 สะท้อนผ่านโซเชียหนักใจใช่สะท้อนผ่าน
00:19:53 → 00:19:56 โซเชียลแล้วไม่ใช่แค่สะท้อนผ่านแค่
00:19:56 → 00:19:58 โซเชียลอย่างเดียวอ่ะไปถึงโซเชียลของ
00:19:58 → 00:20:01 เพื่อนลูกไงอ๋อทีเนี้ยลูกมาเห็นคุณแม่
00:20:01 → 00:20:04 เนี่ยนะคะใช่ค่ะพอลูกมาเห็นปุ๊บก็ไม่สบาย
00:20:04 → 00:20:06 ใจเพราะว่ามันทำให้เขาถูกมองไม่ดีเหมือน
00:20:06 → 00:20:09 กันอ่าภาพรักของเาใช่เพราะว่าอย่างของรี
00:20:09 → 00:20:11 เองเป็นเพื่อนกับเขาเนี่ยเราเห็นละเราก็
00:20:11 → 00:20:13 รู้สึกไม่สบายใจเราก็ต้องคุยกับเพื่อนเรา
00:20:13 → 00:20:18 ว่าเออลองคุยกับแม่มว่าเอ่อบางอย่างเนี่ย
00:20:18 → 00:20:22 โอเคคุยกันเอง 2 คนเถอะใช่มั้ยคะเพราะมัน
00:20:22 → 00:20:24 เป็นภาพที่ไม่ดีของทั้งคู่อะไรแบบนี้จริง
00:20:24 → 00:20:27 ๆก็เข้าใจทั้ง 2 ฝ่ายนะคะแบบว่าอีกฝ่าย
00:20:27 → 00:20:29 นึงก็ต้องการกันใส่ใจดูแล
00:20:29 → 00:20:31 อยู่
00:20:31 → 00:20:35 นี้ทางด้านก็คงจะไม่ได้สบายใจที่ต้องห่าง
00:20:35 → 00:20:37 เหินไปไม่ได้ห่างเหินห่างไกลหรือว่าไม่
00:20:37 → 00:20:40 ได้มีเวลาใช้เวลาด้วยกันอยู่อยู่มากนัก
00:20:40 → 00:20:43 อะไรเงี้ยก็ด้วยภาระด้วยอะไรต่างๆเนาะอัน
00:20:43 → 00:20:45 นี้เหมเหมือนว่าต้องคุยแล้วก็มีมุมมองทาง
00:20:45 → 00:20:49 บวกต่อกันเนาะน่าก็น่าจะช่วยได้เพราะ
00:20:49 → 00:20:51 เรื่องของภาระทางด้านจิตใจมันก็มาด้วย
00:20:51 → 00:20:53 เรื่องของเวลาบ้างเงินบ้างกำลังกายบ้าง
00:20:53 → 00:20:56 อันเยค่ะแล้วก็กระทบให้รู้สึกว่าจิตใจที่
00:20:56 → 00:21:00 หนักหน่วงแลเป็นภาระออืนะคะอันนี้ค่ะก็
00:21:00 → 00:21:03 เลยก็เลยเป็นเป็นเป็นส่วนที่แบบมีความรู้
00:21:03 → 00:21:06 สึกว่าทางด้านจิตใจอ่ะไม่เป็นภาระทางด้าน
00:21:06 → 00:21:09 จิตใจให้ลูกหลานเนี่ยมันสำคัญมากๆจริงๆ
00:21:09 → 00:21:11 เพราะมันบั่นทอนทั้งตัวเาแล้วก็ลูกหลาน
00:21:11 → 00:21:13 ด้วยนะใช่ทีนี้เมื่อกี้เราไป 2 กลุ่มนะ
00:21:13 → 00:21:16 กลุ่มนึงแคทีดีเลยแบบลืมลูกเลยสบายมากนะ
00:21:16 → 00:21:19 ลูกมาก็ยินดีลูกไม่มาแล้วก็ก็ไปหลของเคนะ
00:21:20 → 00:21:22 กลุ่มที่ 2 เี่ร่างกายยังดีแต่ว่าเรียก
00:21:22 → 00:21:25 ร้องอยากได้มาดูแลมาใส่ใจกลุ่มที่ 3 เ
00:21:25 → 00:21:31 ร่างกายไม่ดีอาจจะมีภาวะติดบ้านอตเอันนี้
00:21:31 → 00:21:34 เป็นความสำคญอย่างิ่งที่ลูกหลนจะใส่ใจดู
00:21:34 → 00:21:37 แลนะคะแต่ถ้าผู้สูุท่านนี้พอมีเงินอยู่
00:21:37 → 00:21:40 เนี่ยเดี๋ยวเระบบการดูแลภายนอกเอกชนหรือ
00:21:40 → 00:21:43 ว่ารัฐภาครัฐก็มีแล้วนะอาจจะมี day care
00:21:44 → 00:21:46 ผู้สูงอุไปอยู่กลางวันนะคะหรือว่าไปอยู่
00:21:46 → 00:21:49 ในบ้านพักเลยอะไรต่างๆมีมีระบบดูแลหรือ
00:21:49 → 00:21:52 แม้กระทั่งหากคนดูแลมาอยู่ที่บ้านแล้วก็
00:21:52 → 00:21:55 ควบคุมกำกับคุณภาพด้วยการใช้กล้องบ้าง
00:21:55 → 00:21:58 อะไรต่างๆนี่ก็ก็พอได้แต่ที่สำคัญเลย
00:21:58 → 00:22:00 เนี่ยนะคะถ้าเป็นผู้สูงอายุที่ป่วยติด
00:22:01 → 00:22:04 เตียงซะแล้วเนี่ยคำว่าภาระเนี่ยมันอาจจะ
00:22:04 → 00:22:06 เรี่ยงไม่ได้มันต้องมีแต่ต้องใช้การ
00:22:06 → 00:22:09 บริหารจัดการค่ะอต้องบริหารจัดการให้ทุก
00:22:09 → 00:22:13 คนเอ่ออยู่ในภาวะที่ยอมรับได้มีช่วงเวลา
00:22:14 → 00:22:16 ของการผ่อนคลายสำหรับผู้ดูแลในขณะเดียว
00:22:16 → 00:22:20 กันเนี่ยผู้ดูแลเองอ่ะก็มีทัศนคติทางบวก
00:22:20 → 00:22:24 ต่อสิ่งนี้ว่าทำบุญนะนี่คือพ่อแม่เรานะ
00:22:24 → 00:22:27 ภาระเนี่ยมันเป็นความรู้สึกที่เราคิดไปใน
00:22:27 → 00:22:31 ทางลบเราทำให้ดีที่สุดแล้วมีมีมือเข้ามา
00:22:31 → 00:22:34 ช่วยนะคะด้วยการบริหารจัดการการบริหารจัด
00:22:35 → 00:22:38 การสำคัญมากในระยะนี้บริหารจัดการให้ให้
00:22:38 → 00:22:41 ผู้ดูแลหลักได้พักบริหารจัดการหลักบริหาร
00:22:41 → 00:22:45 จัดการให้ผู้ดูแลได้พักผ่อนคลายมีสภาพจิต
00:22:45 → 00:22:47 มีจิตใจที่มีกำลังดีแล้วก็กลับมาดูอีก
00:22:47 → 00:22:50 ครั้งหนึ่งอือันนี้ค่ะจะทำให้คำว่าภาระ
00:22:50 → 00:22:53 เนี่ยยังคงเป็นพลังได้พลังของผู้ดูแลที่
00:22:53 → 00:22:57 ต้องมีพลังกายพลังใจพลังทางด้านเศรษฐกิจ
00:22:57 → 00:23:00 กำลังเงินเนี่ยก็สำคัญด้วยอืค่ะถ้า
00:23:00 → 00:23:03 ปราศจากซึ่งสิ่งเหล่านี้ก็จะเป็นภาระที่
00:23:03 → 00:23:06 หนักหนวกจริงๆเลยแม้จะบอกว่านี่พ่อแม่ฉัน
00:23:06 → 00:23:09 นี่ปู่ย่าตายายชันแต่กำลังกายไม่มีกำลัง
00:23:09 → 00:23:13 ใจไม่มีกำลังทรัพย์ไม่มียังไงก็หนักค่ะ
00:23:13 → 00:23:16 ค่ะอืจริงมันมันเป็นองค์ประกอบหลายปัจจัย
00:23:17 → 00:23:20 เหมือนกันนะคะพี่เกสรคือมันใช่ค่ะตัวตัว
00:23:20 → 00:23:23 เา้าที่ไม่คิดว่าถ้าไม่ได้คิดว่าตัวเอง
00:23:23 → 00:23:26 เป็นภาระเนี่ยจะมันก็ยากอ่ะเอาจริงๆนี้
00:23:26 → 00:23:29 ว่าความคิดของคนที่อายุมากๆแล้วอ่ะก็เป็น
00:23:29 → 00:23:32 ห่วงคือความเป็นห่วงแหละค่ะเลยทำให้แบบ
00:23:32 → 00:23:34 ตัวเองพยายามที่จะไม่ให้เป็นภาระของใคร
00:23:34 → 00:23:37 แล้วก็การป้องกันหลักๆเลยก่อนที่จะเข้า
00:23:37 → 00:23:39 สู่ภาวะที่ว่าป่วยติดเตียงนี่คือ 1 ต้อง
00:23:39 → 00:23:42 ป้องกันการหกล้มเลยค่ะโอ้โหเพราะว่าเป็น
00:23:42 → 00:23:45 เรื่องใหญ่มากบางทีแข็งแรงดีแต่หกล้มปึ๊บ
00:23:45 → 00:23:48 ไปกระดูกสะโพกหักนี่เป็นภาระจริงๆแล้วนะ
00:23:48 → 00:23:51 คะเพราะว่าทุกข์ทรมานด้วยนะคะแล้วก็ป้อง
00:23:51 → 00:23:53 กันเรื่องสมองเสื่อมเอาไว้เพราะบางทีร่าง
00:23:53 → 00:23:56 กายแข็งแรงแต่สมองไม่ฟังก์ชั่นอค่ะก็มัน
00:23:56 → 00:23:59 ก็เป็นภาระทางด้านจิตใจความรู้สึกนะคะการ
00:23:59 → 00:24:03 ใช้ชีวิตร่วมกันอะไรมากมายที่จะตามมานะคะ
00:24:03 → 00:24:05 แล้วก็โรคเรื้อรังเนี่ยมีไว้มันก็ต้องมี
00:24:05 → 00:24:09 ไม่ได้มีไว้นะคือมันมีมานานแล้วก็ดูแลควบ
00:24:09 → 00:24:13 คุมไปนะคะใช้ยาพบแพทย์ให้ดีอย่าให้มัน
00:24:13 → 00:24:15 กำเริบจนถึงขั้นที่พอมันคุมไม่ได้เนี่ย
00:24:15 → 00:24:19 มันจะรวนไปทั้งระบบค่ะค่ะค่ะความดันเบา
00:24:19 → 00:24:22 หวานอะไรพวกนี้ดูแลได้ดีมากๆดูให้ดีเลย
00:24:22 → 00:24:24 ค่ะใช่ค่ะเนี่ยถ้าทำได้ตามนี้ก็จะไม่เป็น
00:24:24 → 00:24:28 ภาระของลูกหลานนะคะเป็นพลังต่อไปอ่าคือ
00:24:28 → 00:24:30 คือฟังฟังตรงนี้เนี่ยในการพูดคุยกันดู
00:24:30 → 00:24:33 เหมือนง่ายนะคะแต่ว่าจริงๆเราสามารถจะคุณ
00:24:33 → 00:24:36 ผู้ฟังที่อายุมากๆแล้วเนี่ยต้องต้องลอง
00:24:36 → 00:24:38 ปรับอาจจะความคิดสักนิดนึงหรืออะไรอย่าง
00:24:39 → 00:24:41 เงี้ยค่ะบางทีเราเราจริงๆไม่ใช่เป็นภาระ
00:24:41 → 00:24:43 ของใครเลยลูกหลานอาจจะยังไม่ได้คิดอะไร
00:24:43 → 00:24:46 เลยแต่เราไปคิดเองแล้วบั่นทอนตัวเองแล้ว
00:24:46 → 00:24:48 นะคะหรือบางคนอาจจะคิดว่าตัวเองไม่อยาก
00:24:48 → 00:24:50 เป็นภาระก็เลยพยายามที่จะ Active ตัวเอง
00:24:50 → 00:24:53 ขึ้นมาหรือทำอะไรก็แล้วแต่ที่ให้มันรู้
00:24:53 → 00:24:55 สึกว่าเอ้ยเราไม่ได้เป็นภาระลูกหลานนะอัน
00:24:55 → 00:25:00 นี้ก็ก็เป็นสิ่งที่ดีดีใช่ๆค่ะก็ต้อง
00:25:00 → 00:25:02 เรียกว่าเห็นใจซึ่งกันและกันนะค่ะเห็นใจ
00:25:02 → 00:25:05 มีน้ำจิตน้ำใจซึ่งกันและกันนะรักลูกหลาน
00:25:05 → 00:25:10 ก็ดูแลตัวเองค่ะด้วยนะคะของขวัที่ดีที่
00:25:10 → 00:25:12 สุดของลูกหลานก็คือสุขภาพที่ดีของพ่อแม่
00:25:12 → 00:25:15 ค่ะหลาใช่ค่ะยังมีคนให้กอดเนี่ยกลับไป
00:25:15 → 00:25:18 แล้วได้กอดเนี่ยดีที่สุดนะคะดีกว่าที่จะ
00:25:18 → 00:25:21 แบบวันนึงเราเคว้งคว้างมาเคยอยู่กับพ่อ
00:25:21 → 00:25:25 กับแม่ปู่ย่าตายายในสังคมแบบคนไทยเมื่อ
00:25:25 → 00:25:27 ก่อนน่ะเนาะที่อยู่กันเป็นครอบครัวใหญอบ
00:25:27 → 00:25:30 อ่นเราไม่มีที่ไหนบนโลกใบนี้อยู่แบบนี้นะ
00:25:30 → 00:25:33 คะต่างประเทศเพอเริ่มแบบ
00:25:33 → 00:25:37 เอ่อก็ไปแล้วค่ะใช่ก็จะเป็น & I ละไม่
00:25:37 → 00:25:40 ได้คุณพ่อคุณแม่ปู่ย่าตายายลุงป้านเมื่อ
00:25:40 → 00:25:43 ก่อนแดดดี้มามี้นะพอตอนโตขึ้นมาก็ u&i &
00:25:43 → 00:25:46 ละใช่คนตไปใช่คนี่สังคมวัฒนธรรมแบบทาง
00:25:46 → 00:25:49 เอเชียของเราเนี่ยยังโอเคคคค่ะเป็นสังคม
00:25:49 → 00:25:52 วัฒนธรรมที่สร้างความอบอุ่นนะคะให้กับคน
00:25:52 → 00:25:55 ทุกวัยไม่ใช่เฉพาะสูงวัยแล้วอบอุ่นเท่า
00:25:55 → 00:25:57 นั้นนะลูกหลานเองก็อบอุ่นที่มีผู้สูงววย
00:25:57 → 00:26:00 อยู่ด้วยกันค่ะก็ให้กำลังใจผู้สูงวัยทุก
00:26:00 → 00:26:05 ท่านนะคะขอบคุณพี่เกสรค่ะขอบคุสวัสดีค่ะ
00:26:05 → 00:26:06 หมดเวลาแล้วค่ะคุณผู้ฟังพบกันใหม่ครั้ง
00:26:06 → 00:26:09 หน้ากับรายการโรงหมอทางไย PBS podcast
00:26:09 → 00:26:13 นะคะวันนี้ลาไปก่อนสวัสดีค่ะ This Is
00:26:13 → 00:26:16 Thai PBS podcast อาหารรสมันเป็นรส
00:26:16 → 00:26:18 ชาติที่มนุษย์ชอบกินเพราะร่างกายจะตอบ
00:26:18 → 00:26:20 สนองต่อสารเคมีที่หลั่งออกมาโดยเฉพาะของ
00:26:21 → 00:26:24 ทอดผู้ช่วยศาสตราจารย์ดรเอกราชบำรุงพืช
00:26:24 → 00:26:27 จากมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตมาเล่าให้ฟัง
00:26:27 → 00:26:30 ครับทำไมเราชอบกินของทอดโออย่างเดียวเลย
00:26:30 → 00:26:33 ครับเหตุผลเดียวคือมันอร่อยแล้วเวลามัน
00:26:33 → 00:26:35 กินเนี่ยถ้าอธิบายตามหลักวิทยาศาสตร์นะ
00:26:35 → 00:26:39 ครับคุณรีคือเอ่อมันจะไปกระตุ้นสารสื่อ
00:26:39 → 00:26:42 ประสาทตัวนึงที่เขาเรียกว่าเอนโดฟินนี้พอ
00:26:42 → 00:26:45 เอนโดฟินหลังปุ๊บคนมันก็รู้สึกเฮ้ยแฮปปี้
00:26:45 → 00:26:47 ค่ะอ่าแล้วเวลาเรากินเข้าไปเนี่ยคือเรา
00:26:47 → 00:26:51 รู้สึกแบบแหมมันรู้สึกดีหายเหนื่อยทำให้
00:26:51 → 00:26:55 เราแบบอิ่มฟินน่ะครับมันฟินเวลากินของทอด
00:26:55 → 00:26:58 บางทีลูกชิ้นทอดค่ะมีอยู่ช่วงนึงกระแสแบบ
00:26:58 → 00:27:01 ฟีเวอร์มากกินแบบโหยิ่งกินยิ่งมันใช่อย่า
00:27:01 → 00:27:03 ลืมว่าจริงๆแล้วเนี่ยมันไม่ใช่ของทอด
00:27:03 → 00:27:07 อย่างเดียวของทอดของมันของหวานค่ะของเค็ม
00:27:07 → 00:27:09 หรือพูดง่ายๆว่าหวานมันเค็มเนี่ยมันมีคำ
00:27:09 → 00:27:12 ว่ามันอยู่เห็นมั้ยหวานมันเค็มมันคือสิ่ง
00:27:12 → 00:27:15 ที่คนติดเพราะมันกินแล้วมันรู้สึกว่าผ่อน
00:27:15 → 00:27:19 คลายรู้สึกฟินรู้สึกฟินเพรางั้นคนไทยก็
00:27:19 → 00:27:22 กินเยอะไอ้หวานก็กินเยอะเค็มก็กินเยอะมัน
00:27:22 → 00:27:25 ก็กินเยอะนะครับทุกวันเนี้ยก็เป็นเหตุให้
00:27:25 → 00:27:28 ให้ให้คนอ้วนได้ถามว่าเอ้ยทำไมเราถึงติด
00:27:28 → 00:27:32 คือเวลาเรากินอาหารใดๆก็ตามโดยเฉพาะใน
00:27:32 → 00:27:34 กลุ่มของทอดเนี่ยอาจารย์บอกเลยว่ามันตก
00:27:34 → 00:27:38 กระทบอายตนะทั้ง 6 เราครบชุดนะตาหูจมูก
00:27:39 → 00:27:41 ลิ้นกลายใจเออตั้งแต่ตาที่เราเห็นแล้วว่า
00:27:41 → 00:27:45 อู้หูน่ากินจังเลยมันน่ากินจังเลยมันแบบ
00:27:45 → 00:27:49 สีเหลืองนวลแบบน่ากินค่ะนะหูเราเวลาเรา
00:27:50 → 00:27:55 เคี้ยวของทอดกรอบมันกรุบกรอบน่ามันมัน
00:27:55 → 00:27:59 เพลิดเพลินค่ะนะตาหูจมูกได้กลิ่นค่ะนะ
00:27:59 → 00:28:03 กลิ่นของทอดเนี่ยมันหอมนะลิ้นของเราที่
00:28:03 → 00:28:06 รับรสเนาะต่างๆเนี่ยของทอดเนี่ยโอ้โหมัน
00:28:06 → 00:28:08 มันอร่อยอยู่แล้วแหละอย่างที่บอก่ะความ
00:28:08 → 00:28:13 ความมันของเรานะแบบเต็มที่เลยนะครับอ่าพอ
00:28:13 → 00:28:18 โดนสัมผัสเข้าไปเราเคี้ยวมันก็ลักษณะ
00:28:18 → 00:28:21 เนื้อสัมผัสมันน่ะครับอ่าที่เคี้ยวเนี่ย
00:28:21 → 00:28:26 มันก็ให้ความฟินอนะคนก็เลยแบบติดอาหารของ
00:28:26 → 00:28:29 ทอดกันเนี่ยเยอะ
00:28:29 → 00:28:30 [เพลง]
00:28:30 → 00:28:34 This Is Thai PBS
00:28:34 → 00:28:37 podcast ติดตามรายการของ Thai PBS
00:28:37 → 00:28:38 podcast ได้ทางเว็บไซต์
00:28:39 → 00:28:53 www.thaipbs.or.th
00:28:53 → 00:28:58 [เพลง]
00:28:58 → 00:29:01 อ