00:00:06 → 00:00:07 น้ำผลไม้
00:00:07 → 00:00:10 กระป๋องมีวิตามินมีเกลือแร่แร่ธาตุเยอะ
00:00:10 → 00:00:13 แยะเลยน้ำผลไม้เนี่ยแต่มีน้ำตาลแฝงนะแล้ว
00:00:13 → 00:00:15 มันอาจจะไปทำลายสุขภาพได้ถ้าเรากินมาก
00:00:15 → 00:00:18 เกินถ้าไม่กินได้เลยกินผลไม้สดดีที่สุด
00:00:18 → 00:00:21 แต่น้ำผลไม้อาจจะเหมาะสำหรับคนไข้ผู้ป่วย
00:00:21 → 00:00:24 หรือผู้สูงอายุที่รับประทานให้น้อย
00:00:24 → 00:00:26 ต้องการพลังงาน
00:00:26 → 00:00:29 หรือผู้ป่วยมะเร็งที่แบบต้องการหวานๆ
00:00:30 → 00:00:33 เปรี้ยวๆนะเพราะว่าการรับรถของเขาเนี่ย
00:00:33 → 00:00:35 มันไม่ดีแล้วจะเกิดประโยชน์กับบุคคลเหล่า
00:00:35 → 00:00:38 นี้แต่ถ้าเกิดว่ากินไปเลยน้ำผลไม้วันละ 3
00:00:38 → 00:00:40 กล่องเชื่อสิอ้วนเลยทีนี้น้ำนางเอก
00:00:40 → 00:00:42 [เพลง]
00:00:42 → 00:00:46 ฟังทุกเรื่องสุขภาพอัปเดตทุกโรคภัยฟังราย
00:00:46 → 00:00:51 การโรงหมอกิตฉันสุรีพรวงสถิตพรค่ะ
00:00:51 → 00:00:52 [เพลง]
00:00:52 → 00:00:55 สวัสดีค่ะคุณผู้ฟังค่ะขอต้อนรับเข้าสู่
00:00:55 → 00:00:58 รายการโรงหมอทางไทย pbscast ค่ะวันนี้เรา
00:00:58 → 00:01:01 มาพูดคุยกันกับผู้ช่วยศาสตราจารย์ดร
00:01:01 → 00:01:03 เอกราชบำรุงพืชอาจารย์ประจำวิทยาลัยการ
00:01:03 → 00:01:06 แพทย์บูรณาการมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตค่ะ
00:01:06 → 00:01:08 คุยกันถึงเรื่องของเครื่องดื่มสุขภาพที่
00:01:08 → 00:01:09 ทำลายสุขภาพ
00:01:09 → 00:01:13 ไม่รู้ว่ามีอะไรบ้างคะอาจารย์มันก็
00:01:13 → 00:01:16 เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพอ่ะแต่ทำไมมัน
00:01:16 → 00:01:19 ตรงกันข้ามพอฟังบอกเฮ้ยเครื่องดื่มเพื่อ
00:01:19 → 00:01:21 สุขภาพ
00:01:21 → 00:01:23 แต่ว่า
00:01:23 → 00:01:26 อาจารย์เน้นย้ำเสมอว่า
00:01:26 → 00:01:30 No Good Food No Bad Food No
00:01:30 → 00:01:33 Super Food การรับเครื่องดื่มเพื่อ
00:01:33 → 00:01:35 สุขภาพบางอย่าง
00:01:35 → 00:01:40 กินเยอะกินมากกินไม่เหมาะก็มีผลทำลาย
00:01:40 → 00:01:44 สุขภาพได้บางคนมองไม่ออกอาจารย์มันยังไง
00:01:44 → 00:01:47 เหรอคะอาจารย์บอกง่ายๆเราบอกกินขนมปัง
00:01:47 → 00:01:53 โฮลวีต
00:01:53 → 00:01:57 ดีกว่ากินขนมปังขาวแต่ถ้าอาจารย์บอกงั้น
00:01:57 → 00:01:59 มันดีต่อสุขภาพอ่ะขนมปังหวีดงั้นเรากิน
00:02:00 → 00:02:11 สักปอนด์นึงเลยสิสัก 20 ชิ้น
00:02:11 → 00:02:15 มันอาจจะไปทำลายสุขภาพก็ได้เอาง่ายๆเลย
00:02:15 → 00:02:19 เรามองว่าน้ำผลไม้แล้วพอมีวิตามินมีเกลือ
00:02:19 → 00:02:22 แร่ธาตุเยอะแยะเลยน้ำผลไม้เนี่ยก็ผลไม้ไง
00:02:22 → 00:02:27 แต่มีน้ำตาลแฝง
00:02:27 → 00:02:31 สุขภาพได้ถ้าเรากินมากเกินถ้าไม่กินได้
00:02:31 → 00:02:34 เลยกินผลไม้สดดีที่สุด
00:02:34 → 00:02:37 แต่พอมันเป็นน้ำผลไม้
00:02:37 → 00:02:40 เรากินได้ไหมกินได้ไม่ควรเกิน 1 แก้ว 1
00:02:40 → 00:02:43 กล่องสังเกตน้ำตาลแต่มันหมดโคต้านะบางที
00:02:43 → 00:02:46 น้ำตาลมันสูงอ่ะใช่ๆมันก็ไปแย่งกินโควต้า
00:02:46 → 00:02:50 นะกินเป็นผลไม้สดดีกว่าน้ำผลไม้แต่น้ำ
00:02:50 → 00:02:52 ผลไม้อาจจะเหมาะสำหรับ
00:02:52 → 00:02:55 คนไข้ผู้ป่วยหรือผู้สูงอายุที่รับประทาน
00:02:55 → 00:02:58 ได้น้อยต้องการพลังงาน
00:02:58 → 00:03:02 หรือผู้ป่วยมะเร็งที่แบบต้องการหวานๆ
00:03:02 → 00:03:05 เปรี้ยวๆนะเพราะว่าการรับรสของเขาเนี่ย
00:03:05 → 00:03:08 มันไม่ดีแล้วแล้วต้องการแบบเฮ้ยพลังงาน
00:03:09 → 00:03:11 ที่สูงด้วยเพราะเขากินอะไรไม่ค่อยได้จะ
00:03:11 → 00:03:13 เกิดประโยชน์กับบุคคลเหล่านี้เห็นไหมครับ
00:03:13 → 00:03:16 แล้วมันขึ้นอยู่กับความเหมาะสมแต่ถ้าเกิด
00:03:16 → 00:03:19 ว่าเป็นคุณลีแบบโอ้ยกินไปเลยน้ำผลไม้วัน
00:03:19 → 00:03:21 ละ 3 กล่องเชื่อสิอ้วนเลยทีนี้น้ำนางเอก
00:03:21 → 00:03:24 หลังจากนั้นนางเอกกลายเป็นน้ำนางอ้วน
00:03:24 → 00:03:27 มันจะเป็นน้ำนางร้ายไปแล้วค่ะ
00:03:27 → 00:03:31 มันก็ขึ้นอยู่กับชนิดน้องของเครื่องดื่ม
00:03:31 → 00:03:34 ทั้งหลายแหล่อย่างคนยอดนิยมสุดเลยเนี่ยชา
00:03:34 → 00:03:37 กาแฟแล้วก็บอกว่าเฮ้ยกินเพื่อสุขภาพชา
00:03:37 → 00:03:40 เนี่ยโหดีมากเลยนะมีชาเขียวเพิ่มการเผา
00:03:40 → 00:03:44 ผลาญไขมันลดไขมันเนาะชาดำลดน้ำตาลได้ดี
00:03:44 → 00:03:48 อ่าชาวอู่หลงลดการดูดซึมไขมัน
00:03:48 → 00:03:51 นะครับฉากขาวมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง
00:03:51 → 00:03:54 อย่างนี้เราก็ดีว่าโอ้โหมันมันดีกับ
00:03:54 → 00:03:58 สุขภาพนะครับแต่หารู้ไม่ว่าเฮ้ยถ้าเรากิน
00:03:58 → 00:03:59 เยอะ
00:03:59 → 00:04:04 สิ่งที่แฝงอยู่ในชาก็คือพวกคาเฟอีนมันก็
00:04:04 → 00:04:08 มีเหมือนในกาแฟนี่แหละนะครับแล้วแทนนิน
00:04:08 → 00:04:12 สารที่มีรสขมรสฝาดมันก็แฝงอยู่ในชาอันนี้
00:04:12 → 00:04:16 บางทีเรามองว่ามันดูแบบมีเพื่อสุขภาพฉัน
00:04:16 → 00:04:18 กินชาเขียวก็ฟาดไปแบบ
00:04:18 → 00:04:20 กินเต็มที่เลยเพราะเพิ่มการเผาผลาญกลาย
00:04:20 → 00:04:22 เป็นว่ากินชายเนี่ยสังเกตง่ายๆเลยนะครับ
00:04:22 → 00:04:25 พวกคาเฟอีนเนี่ยมันมีฤทธิ์เป็นไดยูเรติก
00:04:25 → 00:04:29 ขับน้ำ
00:04:29 → 00:04:32 ทำให้เราเนี่ยปัสสาวะบ่อย
00:04:32 → 00:04:35 แล้วมันก็น่าจะดีหน่อย
00:04:35 → 00:04:41 เอาน้ำออกมากๆขาดน้ำร่างกายเกิดภาวะดีด
00:04:41 → 00:04:44 กลายเป็นว่าน้ำได้กลายเป็นว่าอ้าวเข้า
00:04:45 → 00:04:47 ห้องน้ำบ่อยๆปัสสาวะบ่อยๆอ้าวไม่ใช่เพราะ
00:04:47 → 00:04:50 มันบ่อยมากเกินก็ขาดน้ำได้แล้วทุกครั้ง
00:04:50 → 00:04:53 เนี่ยคือพวกคาเฟอีนเองมันก็มีผลในการที่
00:04:53 → 00:04:55 จะขับพวกแคลเซียมด้วยนะ
00:04:55 → 00:04:59 ก็ทำให้กระดูกเนี่ยอาจจะบางอ่าเพราะว่า
00:04:59 → 00:05:02 เราสูญเสียแคลเซียมสูญเสียน้ำอย่างเงี้ย
00:05:02 → 00:05:07 ครับหรือแม้กระทั่งพวกเอ่อ
00:05:07 → 00:05:10 แทนนินน้องถูกพบในชาที่มีรสฝาด
00:05:10 → 00:05:14 ถ้าเราได้รับเยอะมันจะทำให้ท้องผูกขัด
00:05:14 → 00:05:17 ขวางการดูดซึมพวกแร่ธาตุฉะนั้นแล้วสมมุติ
00:05:17 → 00:05:19 เรากินชาเนี่ยแล้วเรากินหลังมื้ออาหาร
00:05:19 → 00:05:22 แล้วมันมีสารแทนนินอยู่สูงเราบอกให้กิน
00:05:22 → 00:05:24 ช้าเพื่อสุขภาพเพิ่มการเผาผลาญเพิ่มลดการ
00:05:24 → 00:05:26 ดูดซึมไขมัน
00:05:26 → 00:05:29 แฝงอยู่ด้วยมันก็จะกลายเป็นว่าไปขัดขวาง
00:05:29 → 00:05:32 การดูดซึมแคลเซียมดูดซึมเหล็กพวกแร่ธาตุ
00:05:32 → 00:05:34 ทั้งหลายแหล่ก็จะร่างกายก็จะรับน้อยลง
00:05:34 → 00:05:36 อย่างนี้
00:05:36 → 00:05:39 โดยที่เราไม่รู้ตัวเหมือนกับว่าอย่างนี้
00:05:39 → 00:05:43 คือถ้าดื่มชาเนี่ยไปอุตส่าห์ไปซื้อเป็น
00:05:43 → 00:05:46 เครื่องชงชามมาไว้บนโต๊ะอ่ะใส่น้ำใส่ใบ
00:05:46 → 00:05:50 อะไรว่าไปใส่ปึ๊บแล้วก็เททั้งวันจำไม่ได้
00:05:50 → 00:05:53 แนะนำเพราะว่ามันแช่ไม่ควรเกิน 3 นาทีที่
00:05:53 → 00:05:56 อาจารย์บอกใช่ที่เคยบอกว่าเฮ้ยเน้นย้ำไม่
00:05:56 → 00:05:58 เกิน 3 นาทีไม่งั้นเนี่ยเครื่องดื่ม
00:05:58 → 00:06:00 สุขภาพอาจจะทำลายสุขภาพไม่รู้ตัวเพราะ
00:06:00 → 00:06:03 กลายเป็นว่ากูรินทั้งวันคุณก็ไปขับพวก
00:06:03 → 00:06:07 แคลเซียมขับพวกท่านเหล็กออกไปร่างกายก็จะ
00:06:07 → 00:06:11 ขาดแคลเซียมขาดเหล็กจากกระดูกบางแต่ก็จะ
00:06:11 → 00:06:14 เพิ่มความเสื่อมความเสี่ยงเหล่านั้นอัน
00:06:14 → 00:06:17 นี้ในกลุ่มของชาโดยที่เรารู้ว่าชาเนี่ย
00:06:17 → 00:06:21 มันดีมีประโยชน์แต่แค่คุณต้องชงให้เหมาะ
00:06:21 → 00:06:24 สมไม่ควรเกิน 3 นาทีนะครับแล้วก็ดื่ม
00:06:24 → 00:06:26 เนี่ยคือให้พยายามเลี่ยงเป็นระหว่างมื้อ
00:06:26 → 00:06:28 อาหารก็ได้
00:06:28 → 00:06:32 แล้วก็หลัง 3 โมงไม่ควรดื่มแล้วชากาแฟ
00:06:32 → 00:06:34 เพราะมันมีคาเฟอีนอยู่นอนไม่หลับเดี๋ยว
00:06:34 → 00:06:36 นอนไม่หลับส่งผลเสียกับสุขภาพร่างกาย
00:06:36 → 00:06:40 อาจารย์แล้วอย่างชาหมักชาหมึกอะไรที่เขา
00:06:40 → 00:06:42 ขายอยู่เนี่ยกัมพูชา
00:06:42 → 00:06:46 ก็ได้นะครับแต่อย่างที่บอกแหละมันก็อาจจะ
00:06:46 → 00:06:50 เราก็ไม่รู้ว่าไอ้กระบวนการที่เขาแช่เขา
00:06:50 → 00:06:54 ชงมาเนี่ยมันมีแทนเหลือมากน้อยแค่ไหนถ้า
00:06:54 → 00:06:57 มีรถฝาดเมื่อไหร่อันนี้พอจะอนุมานได้ว่า
00:06:57 → 00:06:59 มีแผ่นดินอยู่สูง
00:06:59 → 00:07:02 น้ำตาลส่วนใหญ่พวกนี้ห่วงเรื่องน้ำตาลแฝง
00:07:02 → 00:07:06 ในพวกเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพมันก็อาจจะ
00:07:06 → 00:07:08 ส่งผลเสียต่อสุขภาพเพราะมันมีน้ำตาลแฝง
00:07:08 → 00:07:10 สูงคือได้ไม่คุ้มเสียเวลาผู้ประกอบการ
00:07:10 → 00:07:13 โฆษณาเนี่ยเขาจะโฆษณาแต่สิ่งดีใครจะไปบอก
00:07:13 → 00:07:15 เราว่าตัวเองน้ำตาลสูงตัวเองน้ำตาลสูงไม่
00:07:15 → 00:07:18 บอกนอกจากน้ำตาลไม่มีน้ำตาลต่ำเขาถึงจะ
00:07:18 → 00:07:22 บอกเขาก็จะบอกว่าเนี่ยนะชาของเขาเนี่ยออก
00:07:22 → 00:07:26 ฤทธิ์ได้ดีลดไขมันได้ดีเผาผลาญได้ดีแต่
00:07:26 → 00:07:28 น้ำตาลที่แฝงมาอยู่เนี่ย 5 กำ 10 กรัม 20
00:07:28 → 00:07:30 กรัมเขาไม่พูดถึง
00:07:30 → 00:07:32 ออกใช่มั้ยครับมันทำให้เครื่องดื่มเค้า
00:07:32 → 00:07:36 แบบดื่มแล้วแบบเออมันโอเคคือเค้าก็จะมอง
00:07:36 → 00:07:40 ในด้านบวกอ่าแต่อย่าลืมว่าเฮ้ยมันมีมันมี
00:07:40 → 00:07:42 ด้านที่ต้องพึงระวังด้วยดังนั้นแสดงว่า
00:07:42 → 00:07:45 ดื่มชาได้แหละแต่ดื่มระหว่างมื้ออาหาร
00:07:45 → 00:07:49 แล้วก็ถ้าเกิดว่ามันมีรถฝาดก็อย่าไปดื่ม
00:07:49 → 00:07:51 เยอะอย่าไปกินเยอะถูกต้องเพราะมันจะทำให้
00:07:51 → 00:07:54 ท้องผูกขัดขวางการดูดซึมธาตุเหล็กนะครับ
00:07:54 → 00:07:57 แล้วถ้าดื่มชาเนี่ยถ้าดื่มเยอะวันนึง
00:07:57 → 00:07:59 เนี่ยสัก 2 ถ้วย 3 ถ้วยเต็มที่นะไม่ควร
00:07:59 → 00:08:00 เกินนี้นะ
00:08:00 → 00:08:02 อ่าไม่ใช่
00:08:02 → 00:08:06 ก็คือถ้วยแบบประมาณ 120 cc เป็นชาร้อน
00:08:06 → 00:08:10 อ่ะก็แก้วๆร้อนถูกต้องก็ประมาณ 120 ซีซี
00:08:10 → 00:08:13 ประมาณเนี้ยครับแค่นั้นแหละจริงๆพอแล้ว
00:08:13 → 00:08:16 กาแฟก็เหมือนกันวันนึงก็ไม่ควรเกิน 2-3
00:08:16 → 00:08:21 ถ้วยต่อวันกาแฟจะเน้นที่ตัวคาเฟอีนกาแฟ
00:08:21 → 00:08:23 ถามว่ามีประโยชน์นู่นนี่นั่นได้เยอะมาก
00:08:23 → 00:08:25 เลยแต่สิ่งที่ต้องพึงระวังคือขับน้ำ
00:08:25 → 00:08:28 เหมือนกันคนกินกาแฟปัสสาวะบ่อยใช่ค่ะฉี่
00:08:28 → 00:08:29 บ่อยอุ๊ยเดี๋ยวเข้าไปแล้วก็เริ่มแบบอุ๊ย
00:08:29 → 00:08:35 ปากแห้งเริ่มแบบขาดน้ำอันนี้เห็นชัดแล้ว
00:08:35 → 00:08:37 ก็การขับปัสสาวะอย่างที่บอกว่าเฮ้ยมันก็
00:08:37 → 00:08:40 มีผลเพราะกาแฟเนี่ยมันมีคาเฟอีนเองเนี่ย
00:08:40 → 00:08:43 มันมีฤทธิ์ในเรื่องของเป็นอาหารที่สร้าง
00:08:43 → 00:08:47 กรดในร่างกายของเราเอาแล้วร่างกายของเรา
00:08:47 → 00:08:49 เนี่ยก็จะลดความเป็นกรดปรับสมดุลบัฟเฟอร์
00:08:49 → 00:08:51 ในร่างกายของเราก็คือไปสลายแคลเซียมที่
00:08:51 → 00:08:52 กระดูกออกมา
00:08:52 → 00:08:56 แล้วกินกาแฟเยอะกาแฟมากขับฟรีมากกระดูกก็
00:08:56 → 00:08:59 จะบางมากอ่างั้นเราก็ต้องกินอาหารที่เป็น
00:09:00 → 00:09:02 แหล่งของแคลเซียมเพียงพอเนาะแล้วก็ดื่ม
00:09:02 → 00:09:04 น้ำให้เพียงพอไม่ให้ร่างกายขาดน้ำเกิด
00:09:04 → 00:09:08 ภาวะดีไฮเดย์นะครับอ่านอกจากนี้คนที่มี
00:09:08 → 00:09:13 ความดันโลหิตสูงอ่ากินกาแฟได้ไหมสูงมาก
00:09:13 → 00:09:15 ให้เลี่ยงครับเพราะกาแฟอย่าลืมนะมันทำให้
00:09:15 → 00:09:19 หัวใจหัวใจทำงานหนักขึ้นบีบตัวมากขึ้นอ่า
00:09:19 → 00:09:25 อันนี้ข้อพึงระวังและโรคกรดไหลย้อน
00:09:25 → 00:09:27 อ๊า
00:09:27 → 00:09:31 บางคนช้ามากินอะไรอ๋อข้าวเหนียวหมูปิ้ง
00:09:31 → 00:09:33 อาจารย์แล้วก็ตบด้วยกาแฟ
00:09:33 → 00:09:35 อาหารแสลงเลย
00:09:35 → 00:09:38 ไปกระตุ้นกรดไหลย้อนเลยถูกไหมครับเพราะ
00:09:38 → 00:09:40 ข้าวเหนียวหมูปิ้ง
00:09:40 → 00:09:44 ก็คือแบบกูกินมันๆน่ะคุณกินมันๆเข้าไปอ่ะ
00:09:44 → 00:09:46 ปิ้งย่างปิ้งย่างมันๆอย่างนี้มันเป็น
00:09:46 → 00:09:49 อาหารแสลงของคนที่กรดไหลย้อนอยู่แล้วเป็น
00:09:49 → 00:09:51 อัดกาแฟเข้าไปอย่างนี้ไก่ทอดข้าวเหนียว
00:09:51 → 00:09:54 หมูทอดแล้วก็กินกาแฟเข้าไปเนี่ยกรดไหล
00:09:54 → 00:09:59 ย้อนถามหาลุยก็แบบขึ้นมาอือหือแสบคอจะ
00:09:59 → 00:10:02 เปรี้ยวปรี๊ดขึ้นมาเลย
00:10:02 → 00:10:04 นานแล้วเนี่ยให้
00:10:04 → 00:10:07 พึงระวังนะครับไม่งั้นเนี่ยกลายเป็นว่า
00:10:07 → 00:10:09 ไอ้เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพที่เราว่าแบบ
00:10:09 → 00:10:12 เฮ้ยมันก็มีส่วนดีเนี่ยมันอาจจะแบบไป
00:10:12 → 00:10:14 ทำลายสุขภาพถ้าอย่างนั้นอาจารย์บอกว่า
00:10:14 → 00:10:18 เอิ่มข้าวเหนียวหมูปิ้งอะไรพวกนี้หมูทอง
00:10:18 → 00:10:21 หมูทอดข้าวเหนียวซึ่งก็เดี๋ยวนี้เขา
00:10:21 → 00:10:25 คิดนะเพราะมันง่ายสะดวกแล้วก็อิ่มท้อง
00:10:25 → 00:10:27 ด้วยไงกินได้นะเออ
00:10:27 → 00:10:31 กินได้แต่อย่ากินคู่กับกาแฟใช่มั้ยฮะถ้า
00:10:31 → 00:10:33 คนที่เป็นกรดไหลย้อนถ้าไม่เป็นกรดไหลย้อน
00:10:33 → 00:10:36 ก็กินได้ถูกต้องแล้วเนี่ยมันอารมณ์คล้ายๆ
00:10:36 → 00:10:41 ประมาณที่ว่าแบบคนเอ่อ
00:10:41 → 00:10:45 คนเป็นเก๊าท์ให้เลี่ยงไก่แต่คนกินไก่ไม่
00:10:45 → 00:10:47 ได้ทำให้เกิดเก๊าท์
00:10:47 → 00:10:50 ถึงออกไหมครับ
00:10:50 → 00:10:53 แบบกินหมูปิ้งกับข้าวเหนียวมากๆกรดไหล
00:10:53 → 00:10:55 ย้อนเหรอไม่ใช่จะกรดไหลย้อนนะห้ามกิน
00:10:55 → 00:10:59 เพราะมันจะไปแสลงทำให้ไปกระตุ้นนึกออกไหม
00:10:59 → 00:11:03 กดให้ไหลย้อนขึ้นมามากถ้างั้นกินเพียวๆ
00:11:03 → 00:11:06 เลยได้ไหมดื่มกาแฟตอนเช้ากูจะกินเพียวๆ
00:11:06 → 00:11:08 เลยก็ได้บางคนทำ
00:11:08 → 00:11:11 อาหารประเภทอื่นเลยอ่ะ
00:11:11 → 00:11:15 ก็ได้ก็ไม่ได้ว่ากันเขาสิ่งที่ได้ยินมา
00:11:15 → 00:11:19 ตลอดหลายๆครั้งแหมกินไปได้เลยกาแฟทำให้
00:11:19 → 00:11:20 แบบว่า
00:11:20 → 00:11:23 กระเพาะอ่ะ
00:11:23 → 00:11:26 คนเป็นโรคกระเพาะแล้วกินกาแฟไม่ได้ทำให้
00:11:26 → 00:11:29 เป็นโรคกระเพาะอ่าแต่คนเป็นโรคกระเพาะถูก
00:11:29 → 00:11:31 ต้องอารมณ์เหมือนกรดไหลย้อนเลยต้องมี
00:11:31 → 00:11:35 อาหารถูกต้องใช่แล้วเนี่ยพอเป็นโรค
00:11:35 → 00:11:37 กระเพาะปุ๊บไปกินกาแฟมันกระตุ้นการหลั่ง
00:11:37 → 00:11:41 กรดไงครับมันก็ออกมากมันก็จะมาทำทำลายไป
00:11:41 → 00:11:44 แผลที่กระเพาะอาหารหรือลำไส้อักเสบอย่าง
00:11:44 → 00:11:48 นี้ที่มีผลในการที่จะทำให้แผลนั้นหายได้
00:11:48 → 00:11:52 ยากเกิดการอักเสบบาดเจ็บเพิ่มขึ้น
00:11:52 → 00:11:56 เป็นสิ่งที่ต้องพึงระวังเหล่านี้ต้องพึง
00:11:56 → 00:11:59 ระวังแค่ชากาแฟมื้อเช้าที่เราก็แบบว่าชิม
00:11:59 → 00:12:02 ๆกันเนาะอาจารย์แบบแนะนำจริงๆแล้วมันควร
00:12:02 → 00:12:04 จะมีอาหารอื่นด้วยอ่ะแซนด์วิชทูน่าก็ได้
00:12:04 → 00:12:05 อ่ะ
00:12:05 → 00:12:09 นึกออกไหมครับเอ้ยไม่มีอะไรแบบลงไปย่อย
00:12:09 → 00:12:12 คือมันก็จะต้องมีสารอาหารที่ครบอ่ะทั้ง
00:12:12 → 00:12:14 คาร์โบไฮเดรตทั้งโปรตีนทั้งไขมันแต่เอา
00:12:14 → 00:12:17 ง่ายๆนะใช้วิธีทูน่าก็จะต้องมีผักเข้าไป
00:12:17 → 00:12:21 อยู่ในแซนด์วิชด้วยไม่ใช่แบบแซนด์วิช
00:12:21 → 00:12:24 ทูน่าอ๋ออาจารย์มีแค่ทูน่าและเอ่อมีอะไร
00:12:24 → 00:12:28 นะมายองเนสปลายๆหน่อยนึงอะไรเงี้ยมันก็
00:12:28 → 00:12:32 ได้รับใยอาหารน้อยเราก็ต้องเติมมื้อเช้า
00:12:32 → 00:12:34 แอปเปิ้ลสักลูกนึงเคยไป
00:12:35 → 00:12:38 ลูกนึงก็จบแล้วนะถูกมั้ยแล้วกินกาแฟเรา
00:12:38 → 00:12:39 กิน
00:12:39 → 00:12:42 เราได้คาร์โบไฮเดรตจากแซนวิชถ้าเกิดว่า
00:12:42 → 00:12:46 เป็นโฮลวีทด้วยยิ่งดีเราได้โปรตีนจากปลา
00:12:46 → 00:12:49 ถ้าไม่มีไม่มีผักก็ไม่ได้ว่ากันคุณกิน
00:12:49 → 00:12:52 ผลไม้ไปก็ได้ถ้าอย่างนั้นเราถ้าเกิดผัก
00:12:52 → 00:12:54 ผลไม้ไม่ได้มีแบบนั้นเดี๋ยวนี้เขามีฮิต
00:12:54 → 00:12:57 อย่างที่อาจารย์เคยเล่าให้ฟังกาแฟใส่น้ำ
00:12:57 → 00:13:00 ส้มกาแฟใส่น้ำมะพร้าวใส่อะไรอีกนะคะ
00:13:00 → 00:13:02 อาจารย์ที่อาจารย์อันนี้
00:13:02 → 00:13:07 สูตรแบบว่าเฮ้ยมันมีแบบนี้ด้วยพวกนี้ได้
00:13:07 → 00:13:10 ไหมได้จะมีได้แต่เราก็ยังไม่ได้สารอาหาร
00:13:10 → 00:13:14 ครบนะอ่าเราอาจจะได้วิตามินแร่ธาตุในกาแฟ
00:13:14 → 00:13:18 บ้างในน้ำส้มน้ำมะพร้าวที่เราใส่
00:13:18 → 00:13:19 แต่
00:13:19 → 00:13:21 ไอ้ส่วนของคาร์ดิโอกับโปรตีนน่ะใครมาน่ะ
00:13:21 → 00:13:23 จำไม่ได้นะ
00:13:23 → 00:13:26 นึกออกมั้ยเราอาจจะได้คาร์ดิจากน้ำตาลถ้า
00:13:26 → 00:13:29 เราเติมเข้ามาในน้ำในน้ำส้มมีน้ำตาลแฝง
00:13:29 → 00:13:32 อยู่แล้วอย่างเงี้ยอ่าเราได้จากน้ำ
00:13:32 → 00:13:34 มะพร้าวอย่างเงี้ยน้ำผลไม้เนี่ยมีน้ำตาล
00:13:34 → 00:13:36 แฝงอยู่แล้วเติมเข้าไปในกาแฟเราได้หมด
00:13:36 → 00:13:38 คาร์โบไฮเดรตเราก็ต้องนึกว่าเฮ้ยเข้าไปดิ
00:13:38 → 00:13:44 เราได้แล้วน้ำตาเนี่ยอ่ะโปรตีน
00:13:44 → 00:13:49 มีขนมปังแซนวิชหรืออะไรสักหน่อยเสริมเข้า
00:13:49 → 00:13:52 ไปนิดนึงไขมันมันก็ได้จากไอ้ตัวทูน่าอยู่
00:13:52 → 00:13:54 แล้วนะที่มีกลุ่มไขมันดีโอเมก้า 3 อะไร
00:13:54 → 00:13:56 อย่างนี้เด็กๆน้อยๆก็ยังดีแต่อย่างน้อย
00:13:56 → 00:13:59 แบบเฮ้ยได้โปรตีนได้เข้าไปเดทเนาะแล้วก็
00:13:59 → 00:14:00 มีไขมัน
00:14:00 → 00:14:04 วิตามินแร่ธาตุมันก็มาจากน้ำผลไม้หรือ
00:14:04 → 00:14:06 อะไรที่เรากินเข้าไปแต่อย่าลืมน้ำตาลแฝง
00:14:06 → 00:14:09 หรือผักสดอย่างนี้เรากินเข้าไปเลยแต่ใย
00:14:09 → 00:14:11 อาหารเนี่ยเราจะไม่ได้
00:14:11 → 00:14:14 มันก็สำคัญไงถึงต้องบอกว่าเฮ้ยมื้อเช้า
00:14:14 → 00:14:17 เนี่ยเป็นมื้อที่สำคัญที่บางคนอ๋อกาแฟดำ
00:14:17 → 00:14:19 แก้วนึงขนมปังแผ่นนึง
00:14:19 → 00:14:22 เอากันดีกว่าไม่กินอ่ะพูดอย่างงั้นดีกว่า
00:14:22 → 00:14:25 กินแต่คุณก็คุณก็ได้สารอาหารได้ไม่เต็ม
00:14:25 → 00:14:26 ที่
00:14:26 → 00:14:31 คือชากาแฟดื่มได้แหละแต่ว่ามันต้องมีอะไร
00:14:31 → 00:14:33 มาเป็นองค์ประกอบให้มันมันครบถ้วนหน่อย
00:14:33 → 00:14:37 แล้วก็ประกอบในมือนั้นขายกาแฟตัวมันเอง
00:14:37 → 00:14:40 เดี่ยวๆก็มีประโยชน์แต่สิ่งที่ต้องพึง
00:14:40 → 00:14:43 ระวังที่จะทำให้เกิดโทษมันก็มีสารในนั้น
00:14:43 → 00:14:47 ถูกต้องดื่มเยอะเกินไปก็ไม่ดีถูกต้องอ่า
00:14:47 → 00:14:49 ส่วนใหญ่แล้วเนี่ยในเครื่องดื่มเพื่อ
00:14:49 → 00:14:52 สุขภาพส่วนใหญ่แล้วนะประเด็นคือน้ำตาลแฝง
00:14:52 → 00:14:54 อย่างที่บอกครับว่าเฮ้ยน้ำผลไม้หรือแม้
00:14:54 → 00:14:56 กระทั่งน้ำเกลือแร่อย่างเงี้ยบางคนบอกว่า
00:14:56 → 00:14:59 เอ้ยกินน้ำเกลือแร่เครื่องดื่มบำรุงกำลัง
00:14:59 → 00:15:02 อย่างเงี้ยลืมแม้กระทั่งน้ำวิตามินอ๋อที่
00:15:02 → 00:15:05 ขายกันเต็มไปหมดเลยอ่ะมีประโยชน์มากเลย
00:15:05 → 00:15:07 น้ำวิตามินมีวิตามุงวิตามินเยอะเดี๋ยวนี้
00:15:07 → 00:15:28 ล่าสุดอาจารย์เห็นง่ายๆ
00:15:28 → 00:15:31 มันดีใช่ไหมถามว่าดีไหมอาจารย์บอกเลยว่า
00:15:31 → 00:15:35 มันเป็นซากศพของปูไบโอติกไม่เหลือโอเมติก
00:15:35 → 00:15:37 ที่มีชีวิตหรอกเพราะว่ามันแบบหูออกมาอยู่
00:15:37 → 00:15:40 ในขวดใสๆอย่างนี้โดนแสงโดนแดดโดนความร้อน
00:15:40 → 00:15:42 การเก็บรักษาอุณหภูมิบ้านเราเนี่ยอ่านอก
00:15:42 → 00:15:44 จากคุณเก็บไว้ในตู้เย็นอยู่ตลอดอย่าง
00:15:44 → 00:15:47 เงี้ยค่ะจะพอเหลืออยู่รอดโอ๊ะถามว่าถ้า
00:15:47 → 00:15:49 เกิดประโยชน์มั้ยก็เกิดประโยชน์แต่ก็อาจ
00:15:49 → 00:15:52 จะไม่ได้ไม่ได้เต็มที่นะครับพวกนี้เขา
00:15:52 → 00:15:52 เรียกว่า
00:15:52 → 00:15:57 โพสต์ไบโอติกมันเป็นชีวิตหลังความตายของ
00:15:57 → 00:15:59 โปรไบโอติก
00:15:59 → 00:16:04 กำลังจะดีอยู่แล้วเชียวก็ดีได้ไม่เต็มที่
00:16:04 → 00:16:06 กับ Pro เหมือน probiotic ที่มีอยู่ด้วย
00:16:06 → 00:16:08 ในที่แบบ
00:16:08 → 00:16:12 ฉันยังมีชีวิตอยู่ฉันก็ทำงานได้ทำงานได้
00:16:12 → 00:16:15 เต็มที่เพราะฉันตายไปแล้วฉันก็ยังยัง
00:16:15 → 00:16:19 ประโยชน์ได้อีกแต่ประโยชน์ 2 ต่อตอนอยู่
00:16:19 → 00:16:22 และตอนตายแต่ถ้ากินแบบตายไปแล้วก็ได้
00:16:22 → 00:16:25 ประโยชน์ตอนตายอย่างเดียวซึ่งอาจจะได้ไม่
00:16:25 → 00:16:28 ได้เยอะเท่าเต็มที่อยู่แล้วแล้วเราก็เลย
00:16:28 → 00:16:31 เลือกจุลินทรีย์ที่มันมีชีวิตเนาะแต่มัน
00:16:31 → 00:16:34 ก็เป็น Option นึงนะครับแต่ถามว่าสิ่งที่
00:16:34 → 00:16:38 น่ากลัวอยู่ในพวกน้ำตาลพวกเครื่องดื่มน้ำ
00:16:38 → 00:16:41 วิตามินคือน้ำตาลแฝงหรือบางทีมันมีแต่
00:16:41 → 00:16:44 กลิ่นรสรสชาติอย่างนี้เฟเวอร์ทั้งหลาย
00:16:44 → 00:16:48 แหล่หรือพวกน้ำตาลเทียมเขาก็มีการใช้
00:16:48 → 00:16:50 แล้วถ้าเป็นน้ำตาลเทียมบางกลุ่มที่ต้อง
00:16:50 → 00:16:52 พึงระวังเช่น astram หรืออะไรอย่างนี้
00:16:52 → 00:16:55 แล้วใช้ในปริมาณเยอะโรคเรากินน้ำเรากิน
00:16:55 → 00:16:57 วันนึงเยอะไงครับ
00:16:57 → 00:17:01 บางทีมันก็ต้องต้องพึงระวังอาจจะแบบเกิด
00:17:01 → 00:17:04 โทษได้หรือแม้กระทั่งน้ำแร่เนี่ยเราบอก
00:17:04 → 00:17:06 ว่าเฮ้ยมันมีประโยชน์นะเออใช่แต่มันก็มี
00:17:06 → 00:17:08 สิ่งที่ต้องพึงระวังอาจารย์ไม่อยากบอกว่า
00:17:08 → 00:17:11 โทษสิ่งที่ต้องวางแล้วกันอย่างเงี้ยเวลา
00:17:11 → 00:17:13 เรากินเข้าไปเยอะๆเนี่ยน้ำแร่เนี่ยบอกเลย
00:17:13 → 00:17:16 ว่าโดยเฉพาะบางคนบางกลุ่มเนาะที่กินยา
00:17:17 → 00:17:20 ปฏิชีวนะบางกลุ่มต้องบอกงี้อาจจะปรึกษา
00:17:20 → 00:17:22 แพทย์ต้องบอกงี้เวลาเราไปนอนโรงพยาบาล
00:17:22 → 00:17:26 แล้วก็เฮ้ยกินน้ำแร่จะได้สดชื่นแต่เผอิญ
00:17:26 → 00:17:29 กินกับยาบางตัวมันมีผลทำให้ยาปฏิชีวนะออก
00:17:29 → 00:17:32 ฤทธิ์ได้ไม่ดีก็ส่งผลเหมือนทำให้พูดง่ายๆ
00:17:32 → 00:17:34 ว่าเหมือนอารมณ์แบบว่าอยากกินยาเข้าไป
00:17:34 → 00:17:37 แล้วไม่ได้ผลนะอ่าเหมือนเรากินยากับนม
00:17:37 → 00:17:40 อย่างเงี้ยบางอย่างเรากินเข้าไปแล้วมันไป
00:17:40 → 00:17:43 ขัดขวางการดูดซึมหรือการออกฤทธิ์ของยาก็
00:17:43 → 00:17:46 ทำให้ยาออกฤทธิ์ได้ไม่เต็มที่ทั้งๆที่
00:17:46 → 00:17:49 เฮ้ยมันมีประโยชน์นะน้ำแร่เนี่ยนมเนี่ย
00:17:49 → 00:17:51 มันมีประโยชน์นะต่างคนต่างมีประโยชน์แหละ
00:17:51 → 00:17:55 แต่พอมาเจอกันเจอกับอะไรสักอย่างนึงปุ๊บ
00:17:55 → 00:17:56 กลายเป็นแบบเฮ้ยแทนที่จะได้ประโยชน์เต็ม
00:17:57 → 00:17:59 ที่ก็กลายเป็นอาจจะแบบว่าเฮ้ยไม่มี
00:18:00 → 00:18:01 ประโยชน์
00:18:01 → 00:18:04 เขาไม่อยากไม่ควรกินคู่กันแต่ถ้าแยกกัน
00:18:04 → 00:18:07 กินฉันจะมีประโยชน์ถูกต้องถูกต้องฉะนั้น
00:18:07 → 00:18:08 แล้ว
00:18:08 → 00:18:14 มันมันก็ต้องพิจารณาให้เหมาะสม
00:18:14 → 00:18:16 อย่างนี้เราบอกอุ๊ยมีประโยชน์มากเลยนมอ่ะ
00:18:16 → 00:18:19 คุณรีนึกออกไหมใช่อ่ะมีประโยชน์ก็เราก็
00:18:19 → 00:18:21 รู้อยู่แล้วนมมีประโยชน์ในเสริมแคลเซียม
00:18:21 → 00:18:26 อะไรอย่างนี้เนาะใช่ฉะนั้นแล้วเนี่ยเอ่อ
00:18:26 → 00:18:29 เราก็ต้องพิจารณาให้เหมาะสมว่าเฮ้ยนมมัน
00:18:29 → 00:18:33 มีประโยชน์นะแต่ถ้าเรากินเยอะหรือบางคนมี
00:18:33 → 00:18:37 ปัญหาย่อยน้ำตาลในนมหญ้า
00:18:37 → 00:18:40 ท้องเสียถูกต้องและโต๊ดอินเท่าไหร่แล้ว
00:18:40 → 00:18:43 กลายเป็นว่าเราบอกว่าเครื่องดื่มนมเนี่ย
00:18:43 → 00:18:45 มีประโยชน์นะมีโปรตีนมีแคลเซียมนู่นนี่
00:18:45 → 00:18:48 นั่นหรือบางคนแพ้นมวัวอย่างเงี้ย
00:18:48 → 00:18:52 ก็แย่แล้ว
00:18:52 → 00:18:54 นมเป็นกลุ่ม
00:18:54 → 00:18:56 อาหารเพื่อสุขภาพเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ
00:18:56 → 00:19:00 แต่พอกินเข้าไปปุ๊บอ้าวบางคนมันเพื่อ
00:19:00 → 00:19:04 สุขภาพมันไม่ได้เพื่อสุขภาพทุกคนอย่างนี้
00:19:04 → 00:19:08 มันก็มันก็มีผลหมดเลยมีผลหมดอย่างนมนี่
00:19:08 → 00:19:10 ประสบการณ์โดยตรงคือเป็นคนกินนมได้อยู่
00:19:10 → 00:19:14 แล้วไม่ได้มีปัญหาได้ค่ะทีนี้วันนั้นก็
00:19:14 → 00:19:17 ไม่รู้นึกคิดยังไงไปที่ shelf แล้วก็อุ้ย
00:19:17 → 00:19:21 ไม่อยากกินขวดเลยแล้วอ่ะมันไม่สาแก่ใจก็
00:19:21 → 00:19:23 เลือกขวดที่แบบประมาณนี้เออขวดใหญ่เลยแต่
00:19:23 → 00:19:26 ไม่ใช่แบบขวดลิตรขนาดนั้นนะคะกะว่าแบบเออ
00:19:26 → 00:19:30 มื้อเดียวกินก็กินตรงนี้แหละอ่าก็ใส่ไป
00:19:30 → 00:19:35 เต็มที่ดูๆๆไม่เหลือแล้วค่ะเป็นไงจุ๊บๆ
00:19:35 → 00:19:39 แสดงว่าจริงๆแล้วเนี่ยคุณลีมีศักยภาพหรือ
00:19:39 → 00:19:43 ความสามารถในการย่อยอ่าและโต๊ดในนมได้
00:19:43 → 00:19:46 เนี่ยอาจจะมีอยู่จำกัดนึกออกมั้ยไม่ใช่
00:19:46 → 00:19:50 ว่าไม่ได้เลยคือสมมุติว่าคุณรีอาจจะกิน
00:19:50 → 00:19:55 กล่องนึงปริมาณซัก 200 ซีซีสมมุตินะ 200
00:19:55 → 00:19:58 ML อ่ะกินได้โอเคไม่มีอะไรอ่าพูดง่าย
00:19:58 → 00:20:02 กล่องเล็กธรรมดาพอเริ่มกินเยอะขึ้นใช่อาจ
00:20:02 → 00:20:05 จะเอนไซม์ของเราเนี่ยหรือน้ำย่อยของคนเรา
00:20:05 → 00:20:10 เนี่ยโดยเฉพาะคนไทยเนี่ย 80% เกิน 80%
00:20:10 → 00:20:14 ด้วยซ้ำที่ขาดหรือพร่อง
00:20:14 → 00:20:17 เอนไซม์หรือน้ำย่อยที่ชื่อว่า
00:20:17 → 00:20:21 แลคเตสที่มาย่อยน้ำตาลในนมที่ชื่อว่า
00:20:21 → 00:20:25 แลคโตสแล้วคนไทยก็เลยเกิดปัญหาเรื่องของ
00:20:25 → 00:20:27 แลคโตส interact ฉันไม่ทนต่อน้ำตาลแลคโตส
00:20:27 → 00:20:31 คือไม่ทนคือเธอเข้ามาเนี่ยฉันทิ้งเธอคือ
00:20:31 → 00:20:34 ขำขายพูดง่ายๆว่าระบายออกไปจูลุจูลู่ถ่าย
00:20:34 → 00:20:37 ท้องออกไปอะไรเป็นปัญหาเยอะมาก
00:20:37 → 00:20:40 นะครับคุณก็เลย
00:20:40 → 00:20:44 จะค่อนข้างที่จะแบบเลี่ยงนมจะถามว่าบางคน
00:20:44 → 00:20:47 ยังอยากกินกินโยเกิร์ตเพราะเราให้
00:20:47 → 00:20:50 โปรไบโอติกจุลินทรีย์จุลินทรีย์พวก
00:20:50 → 00:20:54 โปรเมติกเขาจะมีเอนไซม์และเตสมาย่อยน้ำ
00:20:54 → 00:20:58 ตาลแลคโตสให้แทนเรา
00:20:58 → 00:21:00 เกิดดีกว่า
00:21:00 → 00:21:03 เพราะเราไม่ทำให้แบบเฮ้ยท้องอืดท้องเสีย
00:21:03 → 00:21:08 ย่อยยากอะไรอย่างนี้ครับเขามาย่อยแทนมี
00:21:08 → 00:21:10 บางคนบอกว่าตอนนั้นตอนนั้นท้องเสียแล้วมี
00:21:10 → 00:21:12 คนบอกว่าให้กินโยเกิร์ตกินโยเกิร์ตตอนที่
00:21:12 → 00:21:16 ฉันยังท้องเสียอยู่เลย
00:21:16 → 00:21:19 แล้วก็ใยอาหารช่วงท้องเสียไม่ควรกินนะ
00:21:19 → 00:21:22 ครับบางคนบอกโอ้ยท้องเสียปุ๊บเอ้ยฉันไม่
00:21:22 → 00:21:25 กินโยเกิร์ตยิงท้องเสียใหญ่แล้วใยอาหาร
00:21:25 → 00:21:27 บางอย่างเนี่ยยิ่งกินเข้าไปยิ่งมันยิ่ง
00:21:27 → 00:21:30 เป็นทำให้ระบายไงครับอ่ากาแฟอย่างเงี้ยก็
00:21:30 → 00:21:32 ไม่ควรเพราะมันไปกระตุ้นการบีบตัวของลำ
00:21:32 → 00:21:35 ไส้โหมันๆๆรู้สึกได้เลยว่ามันแบบกำลังแบบ
00:21:35 → 00:21:39 พยายามที่จะกำจัดมันออกไงเพราะร่างกายก็
00:21:39 → 00:21:41 ไม่ได้อะไรที่ร่างกายเราย่อยไม่ได้นะครับ
00:21:41 → 00:21:44 จำไว้เลยว่าร่างกายของเราก็จะขับออก
00:21:44 → 00:21:49 ในรูปแบบปัสสาวะไปต่ออย่างเงี้ยเราย่อย
00:21:49 → 00:21:52 ไม่ได้อ่ะน้ำตาลในมันย่อยได้ยากหรือบางคน
00:21:52 → 00:21:55 ย่อยโปรตีนในนมหญ้าผู้สูงอายุเงี้ยย่อย
00:21:55 → 00:21:57 โปรตีนที่ชื่อว่า KC นมเนี่ยมันจะมี
00:21:57 → 00:22:00 โปรตีนอยู่ 2 ชนิดหลักๆก็คือเวย์โปรตีน
00:22:00 → 00:22:03 กับ KC นี่จะย่อยยากโดยเฉพาะผู้สูงอายุ
00:22:03 → 00:22:06 เวลาเกิดการย่อยยากปุ๊บท้องมันก็จะอืด
00:22:06 → 00:22:10 นั่นน่ะสิก็จะเกิดแบบปัญหาตามมาส่วนใหญ่
00:22:10 → 00:22:12 นมวัวเนี่ยบางทีก็เป็นประเด็นที่สำคัญ
00:22:12 → 00:22:14 เนาะเพราะว่าคนส่วนใหญ่ก็จะแบบว่าเฮ้ย
00:22:14 → 00:22:18 ค่อนข้างที่จะแบบ sensitive ต่อต่อนมวัว
00:22:18 → 00:22:20 มันเป็นไปได้ด้วยไหมคะว่าเครื่องดื่ม
00:22:20 → 00:22:22 เพื่อสุขภาพเนี่ยยังนมเนี่ยเราเคยดื่มได้
00:22:22 → 00:22:26 มาในไม่เคยมีปัญหาอะไรมาเลยแต่พอพอวันนึง
00:22:26 → 00:22:28 เราพอเราเริ่มอายุมากขึ้นหรือยังเงี้ย
00:22:28 → 00:22:31 แล้วแบบดื่มไม่ได้แล้วอ่ะถูกต้องมีครับ
00:22:31 → 00:22:33 อ่าส่วนใหญ่ก็จะเป็นอย่างนี้กันเยอะผู้
00:22:33 → 00:22:35 สูงอายุก็จะมีปัญหาไม่ทนต่อน้ำตาลแลคโตส
00:22:35 → 00:22:38 นะครับเพราะว่าทำไมวัยรุ่นหนุ่มสาวลืมได้
00:22:38 → 00:22:41 ก็กลายเป็นแบบเอ้ยอายุเยอะดื่มไม่ได้ก็
00:22:41 → 00:22:44 ดื่มปุ๊บอาจจะมีปัญหาแบบเฮ้ยท้องเสียปวด
00:22:44 → 00:22:47 ท้องปวดบิดอะไรอย่างเงี้ยครับก็ต้องทาง
00:22:47 → 00:22:49 เลือกเช่นโยเกิร์ตหรืออาจจะต้องไปนมทาง
00:22:49 → 00:22:53 เลือดเช่นนมอัลมอนด์นมถั่วเหลืองแต่บางคน
00:22:53 → 00:22:56 แพ้ถั่วก็เปลี่ยนไปเป็นนมข้าวที่นมข้าว
00:22:56 → 00:22:58 โอ๊ตจะมีแคลเซียมสูงแต่โปรตีนต่ำกว่านม
00:22:58 → 00:23:02 วัวนะครับได้แคลเซียมเยอะนมข้าวโอ๊ตแล้ว
00:23:02 → 00:23:05 นมแพะได้ไหมคะได้ครับนมแพะก็ได้นมควายก็
00:23:05 → 00:23:09 ได้
00:23:09 → 00:23:12 มากเลยตามท้องตลาดทุกวันนี้นมพืชเนี่ย
00:23:12 → 00:23:16 เนอะหรือนมแพะอย่างนี้เขาก็จะบอกว่ามี
00:23:16 → 00:23:19 โปรตีนที่มันย่อยได้ง่ายอะไรอย่างนี้อ่า
00:23:19 → 00:23:22 หรือแลคโตสฟรีแต่ว่าแลคโตสฟรีเนี่ยจริงๆ
00:23:22 → 00:23:25 แล้วเนี่ยเขาใช้กระบวนการทางอุตสาหกรรม
00:23:25 → 00:23:28 อาหารในการที่จะย่อยโมเลกุลของน้ำตาล
00:23:28 → 00:23:29 แลคโตสเนี่ย
00:23:29 → 00:23:33 ให้กลายเป็นกลูโคสต์กับกาแล็กโตสซึ่งถาม
00:23:33 → 00:23:36 ว่าเอ่อย่อยได้ง่ายขึ้นมาให้ย่อยได้ง่าย
00:23:36 → 00:23:39 ขึ้นอาจจะสบายท้องขึ้นนะครับแต่ปริมาณน้ำ
00:23:39 → 00:23:42 ตาลมันก็อาจจะยังมีอยู่เยอะนะอ่าก็ต้อง
00:23:42 → 00:23:44 พึงระวังเนาะทุกอย่างเนี่ยอาจารย์ถึงกลับ
00:23:45 → 00:23:48 ไปที่จุดเดิมที่พูดว่า No Good Food No
00:23:48 → 00:23:50 Bad Food No Super Food มันไม่มี
00:23:50 → 00:23:54 อะไรแบบว่าดีแท้ 100%
00:23:54 → 00:23:57 ข้าวกล้องดีมากเลยอาจารย์เอกราชเข้ากล้อง
00:23:57 → 00:23:59 มือเลยหม้อ
00:23:59 → 00:24:02 นึกออกไหมมื้อละ 3 จานอาจารย์ก็อ้วนได้นะ
00:24:02 → 00:24:05 ไขมันเนี่ยดีมากเลยอาจารย์เนี่ยน้ำมัน
00:24:05 → 00:24:07 เนี่ยดีมากเลยดีต่อระบบหัวใจแล้วหลอด
00:24:07 → 00:24:09 เลือดไขมันดีไขมันเลว 1 กำให้ 9 กิโล
00:24:09 → 00:24:11 แคลอรี่เท่ากันครับเพราะถ้าอาจารย์ฟาด
00:24:11 → 00:24:15 เยอะกินเยอะถ้าเค้าอ้วนได้อื้มมันกลับมา
00:24:15 → 00:24:17 ทางสายกลางอีกแหละอาจารย์ถูกต้องทุกอย่าง
00:24:17 → 00:24:21 คือต้องแบบอยู่ในความพอดีถูกต้องน้อยไปก็
00:24:21 → 00:24:25 ขาดมากไปก็เกินอีก 1 สิ่งฝากไว้ให้ก่อน
00:24:25 → 00:24:27 ปิดท้ายอะไรคะเครื่องดื่มนี้บางคนบอกดี
00:24:27 → 00:24:32 กับสุขภาพถ้าดื่มแต่พอดีไวครับอ๋อ
00:24:32 → 00:24:35 เล่าสปายวายเบียร์บางคนบอกอุ๊ยกินแล้วดี
00:24:35 → 00:24:39 เลือดสูบฉีดเพิ่มเออไขมันดีแต่ไม่กินดี
00:24:39 → 00:24:43 กว่าอ่าแต่ถ้าเอาจริงๆคุณก็แบบว่าปริมาณ
00:24:43 → 00:24:46 ที่เหมาะสม 1 หญิง 2 ชาย 1 หญิง 2 ชายคือ
00:24:46 → 00:24:51 หญิงไม่เกิน 1 drink อ่าหรือ 1 เป๊กอ่ะ
00:24:51 → 00:24:55 อ๋อเดี๋ยวกลัวซะว่าจะไปไหว้ 1 30 ซีซี
00:24:55 → 00:25:59 ประมาณ 1 เป๊กอ่ะอ่าชายไม่เกิน 2 ลิ้งค์
00:25:59 → 00:26:02 ก็อยากกินก็ได้ไม่ได้มีปัญหาอะไรถูกต้อง
00:26:02 → 00:26:04 ทุกวันนะอาจารย์เหมือนกาแฟอย่างนี้ถ้าเรา
00:26:04 → 00:26:06 กินอย่างถูกต้องเหมาะสมวันละแก้วๆทุกวัน
00:26:06 → 00:26:09 ก็มีปัญหาอะไรก็ไม่เกินถูกต้อง
00:26:09 → 00:26:13 เราเห็นข้ออ้างว่าเฮ้ยไวน์มันเป็นเครื่อง
00:26:13 → 00:26:16 ดื่มเพื่อสุขภาพดีต่อใจอ่าแต่ถ้าเกิดว่า
00:26:16 → 00:26:20 กินมากไปใจก็ไม่ดีกาย
00:26:20 → 00:26:23 อันนี้ฝากไว้ให้คิด
00:26:23 → 00:26:26 ได้แนวทางแล้วล่ะก็ต้องระวังด้วยอะไรบาง
00:26:26 → 00:26:28 อย่างที่เขาบอกว่าเพื่อสุขภาพเคลมว่า
00:26:28 → 00:26:30 เพื่อสุขภาพอาจจะไม่ได้เพื่อสุขภาพในการ
00:26:30 → 00:26:33 ที่เรากินในปริมาณที่เกินพอดีหรืออาจจะ
00:26:33 → 00:26:35 ไม่ได้เพื่อสุขภาพสำหรับทุกคนก็ได้นะต้อง
00:26:35 → 00:26:38 ดูตัวเองนะคะว่าเหมาะสมกันยังไงนะคะ
00:26:38 → 00:26:41 ขอบคุณอาจารย์เอกราชค่ะขอบคุณค่ะ
00:26:41 → 00:26:43 เอาล่ะหมดเวลาแล้วค่ะคุณผู้ฟังค่ะพบกัน
00:26:43 → 00:26:46 ใหม่ครั้งหน้ากับรายการตรงหมอทางไทย PBS
00:26:46 → 00:26:48 podcast วันนี้ลาไปก่อนนะคะขอบคุณที่ติด
00:26:48 → 00:26:51 ตามรับฟังสวัสดีค่ะ This Is Choice PBS
00:26:51 → 00:26:54 5 อันดับโรคอะไรที่ทำให้คนไทยเสียชีวิต
00:26:54 → 00:26:57 มากที่สุดส่วนมะเร็งชนิดใดที่คนไทยเป็น
00:26:57 → 00:27:00 มากที่สุดเฉลี่ยวันละ 400 คนแพทย์หญิง
00:27:00 → 00:27:02 กิตติยาศรีเลิศฟ้าแทนอายุรกรรมฝ่ายการ
00:27:02 → 00:27:05 แพทย์ AIA มาเล่าให้ฟังครับ
00:27:05 → 00:27:09 การเสียชีวิตของคนไทยมากที่สุดในปีที่
00:27:09 → 00:27:12 ผ่านมาอัตราเสียชีวิตต่อประชากรแสนเนี่ย
00:27:12 → 00:27:15 แบ่งเป็น 7 กลุ่มของคนไทยนะคะมะเร็งมา
00:27:15 → 00:27:18 อันดับ 1 มะเร็งและเนื้องอกทุกชนิด 128
00:27:18 → 00:27:23 คนต่อแสงหลอดเลือดสมองนี่ 55 คนต่อแสนปอด
00:27:23 → 00:27:27 บวมประมาณ 50 คนแล้วก็มาหัวใจขาดเลือดเบา
00:27:27 → 00:27:30 หวานความดันโรคเอดส์ก็มะเร็งเนี่ยเป็น
00:27:30 → 00:27:33 สาเหตุอันดับต้นๆใช่ไหมของการเสียชีวิต 2
00:27:33 → 00:27:36 คนไทยตลอด 23 ปีที่ผ่านมาเนี่ยอันดับ 1
00:27:36 → 00:27:40 ตลอดแล้วก็ยังมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น
00:27:40 → 00:27:41 เรื่อยๆ
00:27:41 → 00:27:44 มีโอกาสเกิดกับคนอายุน้อยเพิ่มมากขึ้น
00:27:44 → 00:27:46 เรื่อยๆเนื่องจากอะไรเนื่องจากผลกระทบ
00:27:46 → 00:27:48 ทั้งภายในและภายนอกร่างกายและมีปัจจัย
00:27:48 → 00:27:53 กระตุ้นทำให้เกิดโรคมะเร็งซึ่งจากข้อมูล
00:27:53 → 00:27:56 สถิติทะเบียนมะเร็งของประเทศไทยโดยสถาบัน
00:27:56 → 00:27:59 มะเร็งแห่งชาตินะปี 64 เขาบอกว่าปีนึง
00:27:59 → 00:28:02 เนี่ยผู้ป่วยมะเร็งรายใหม่ประมาณ 140,000
00:28:02 → 00:28:05 บาทคนซึ่งโรคมะเร็งที่พบมาก 5 อันดับแรก
00:28:05 → 00:28:10 นะก็คือมะเร็งตับแล้วดีปอดเต้านมลำไส้
00:28:10 → 00:28:14 ใหญ่ปากมดลูกมะเร็ง 5 อันดับแรกในชายมี
00:28:14 → 00:28:17 อะไรบ้างอันดับ 1 มะเร็งตับและท่อน้ำดี
00:28:17 → 00:28:19 ร้อยละ 33.2
00:28:19 → 00:28:23 1 ใน 3 ของมะเร็งในผู้ชายคือมะเร็งตับ
00:28:23 → 00:28:27 ต่อมารองลงมาคือปอดร้อยละประมาณร้อยละ 20
00:28:27 → 00:28:31 แล้วก็มาลำไส้ใหญ่ต่อมลูกหมากต่อมน้ำ
00:28:31 → 00:28:34 เหลืองสำหรับผู้หญิงมะเร็งเต้านมประมาณ
00:28:34 → 00:28:38 ร้อยละ 3 4.2 แล้วก็รองลงมาไม่ใช่ปาก
00:28:38 → 00:28:41 มดลูกนะคะรองลงมาคือมะเร็งลำไส้ใหญ่และ
00:28:41 → 00:28:44 ไส้ตรงปากมดลูกนี่พบอันดับ 5 ของหญิงไทย
00:28:44 → 00:28:46 จ้ะเพราะอะไรเพราะว่าเดี๋ยวนี้เรามี
00:28:46 → 00:28:50 วัคซีนอันนั้นคือมะเร็งในชายและมะเร็งใน
00:28:50 → 00:28:58 หญิง
00:28:58 → 00:29:01 ติดตามรายการทางเว็บไซต์และ Application
00:29:01 → 00:29:05 ของไทย pdasport card spotify
00:29:05 → 00:29:07 soundcloud google podcast Apple
00:29:07 → 00:29:10 podcast และ YouTube Channel Thai PBS
00:29:10 → 00:29:16 portcut ท้าย PBS beautiful
00:29:16 → 00:29:21 [เพลง]