00:00:00 → 00:00:04 หลาย ๆ คนอาจจะเคยได้ยินว่า อาหารไทยสามารถต้านโรคต่าง ๆ ได้
00:00:04 → 00:00:07 ไม่ว่าจะเป็นแกงเหลือง แกงป่า แกงเลียง
00:00:07 → 00:00:10 ซึ่งพบว่าสามารถลดอัตราการเกิดเซลล์มะเร็งได้
00:00:10 → 00:00:16 แต่จริง ๆ แล้วยังมีอาหารไทยหลากหลายเมนู ที่มีความอร่อยและยังต้านโรคได้อีกค่ะ
00:00:16 → 00:00:22 [เสียงดนตรี]
00:00:22 → 00:00:25 มาเริ่มที่เมนูยอดฮิตเมนูแรก คือเมนูผัดกะเพรา
00:00:25 → 00:00:30 ซึ่งผัดกะเพราจะเป็นเมนูที่ช่วยเสริมสร้าง ภูมิต้านทานและต้านเชื้อไวรัสได้ค่ะ
00:00:30 → 00:00:35 เนื่องจากผัดกะเพรามีวัตถุดิบหลัก เป็นใบกะเพรา กระเทียม และพริก
00:00:35 → 00:00:38 โดยใบกะเพราจะมีสารกลุ่มฟลาโวนอยด์
00:00:38 → 00:00:40 คือโอเรียนทิน แล้วมีน้ำมันหอมระเหย
00:00:40 → 00:00:42 มีโพลีฟีนอล และลินาลูล
00:00:42 → 00:00:46 ซึ่งสารเหล่านี้มีส่วนช่วย ในการลดโอกาสการติดเชื้อไวรัส
00:00:46 → 00:00:48 และป้องกันไวรัสไข้หวัดใหญ่ได้ค่ะ
00:00:48 → 00:00:51 สำหรับกระเทียมจะมีสารเควอซิทินและอัลลิซิน
00:00:51 → 00:00:53 ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทาน
00:00:53 → 00:00:57 กระตุ้นการหลั่งสารป้องกันการติดเชื้อไวรัส และการทำงานของเม็ดเลือดขาวได้ค่ะ
00:00:57 → 00:01:00 และพริกมีสารแคปไซซินอยด์และแคโรทีนอยด์
00:01:00 → 00:01:01 รวมถึงวิตามินซี
00:01:01 → 00:01:04 ซึ่งจะช่วยในการเสริมสร้างภูมิต้านทาน ให้กับร่างกายได้ค่ะ
00:01:04 → 00:01:07 ข้อแนะนำในการรับประทานผัดกะเพราเพื่อสุขภาพ
00:01:07 → 00:01:09 ให้หลีกเลี่ยงเนื้อสัตว์ที่ติดหนังติดมัน
00:01:09 → 00:01:12 ถ้าเป็นเนื้อหมูเนื้อไก่ที่สับ แนะนำให้บดหรือสับเอง
00:01:12 → 00:01:16 เพื่อหลีกเลี่ยงไขมันแข็ง ซึ่งเป็นไขมันอิ่มตัวที่ติดมา
00:01:16 → 00:01:18 นอกจากนี้ หลีกเลี่ยงการรับประทานคู่กับไข่เจียว
00:01:18 → 00:01:21 เนื่องจากไข่เจียวมีปริมาณน้ำมันที่มาก
00:01:21 → 00:01:23 จะทำให้ร่างกายได้รับพลังงานที่มากเกินไป
00:01:23 → 00:01:26 [เสียงดนตรี]
00:01:26 → 00:01:29 สำหรับเมนูที่ 2 ก็คือเมนูส้มตำ
00:01:29 → 00:01:32 เมนูส้มตำ จะช่วยในการต้านโรคความดันโลหิตสูงได้
00:01:32 → 00:01:37 เพราะส้มตำมีวัตถุดิบหลักเป็น มะละกอดิบ มะเขือเทศ และถั่วฝักยาว
00:01:37 → 00:01:40 ซึ่งทั้ง 3 วัตถุดิบนี้ จะเป็นแหล่งของโพแทสเซียมและใยอาหาร
00:01:40 → 00:01:44 ซึ่งโพแทสเซียมจะช่วยในเรื่องของ การหดคลายตัวของกล้ามเนื้อ
00:01:44 → 00:01:47 โดยเฉพาะกล้ามเนื้อหัวใจ รวมไปถึงการบีบตัวของหลอดเลือด
00:01:47 → 00:01:50 ดังนั้น การได้รับโพแทสเซียมที่เพียงพอ จะช่วยลดความดันโลหิตได้
00:01:50 → 00:01:54 ในส่วนของใยอาหาร จะช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือด
00:01:54 → 00:01:56 ลดไขมัน และควบคุมน้ำหนัก
00:01:56 → 00:01:59 ซึ่งจะเป็นการป้องกันปัจจัยที่ทำให้เกิด ความดันโลหิตสูงได้ค่ะ
00:01:59 → 00:02:02 นอกจากนี้ในถั่วฝักยาวยังมีแร่ธาตุแมกนีเซียม
00:02:02 → 00:02:07 ซึ่งแร่ธาตุแมกนีเซียมจะเป็นตัวรักษาสมดุล แร่ธาตุแคลเซียมและโพแทสเซียม
00:02:07 → 00:02:10 รวมถึงช่วยในเรื่องของการคลายตัวของหลอดเลือด
00:02:10 → 00:02:12 ส่งผลให้ช่วยลดความดันโลหิตเราได้ค่ะ
00:02:12 → 00:02:14 ข้อควรระวังในการรับประทานส้มตำ
00:02:14 → 00:02:17 เนื่องจากส้มตำจะมีโซเดียมสูง จากการปรุงประกอบ
00:02:17 → 00:02:19 ทั้งน้ำปลา น้ำปลาร้า หรือผงชูรส
00:02:19 → 00:02:23 ดังนั้น ข้อแนะนำในการรับประทาน เพื่อลดปริมาณโซเดียม
00:02:23 → 00:02:24 หลีกเลี่ยงการซดน้ำส้มตำ
00:02:24 → 00:02:26 ใช้ส้อมในการรับประทาน
00:02:26 → 00:02:28 หลีกเลี่ยงการใช้ผงชูรสในการปรุงรส
00:02:28 → 00:02:31 และเลือกใช้น้ำปลาลดโซเดียมในการปรุงประกอบ
00:02:31 → 00:02:34 [เสียงดนตรี]
00:02:34 → 00:02:37 สำหรับเมนูต่อมาก็คือต้มยำกุ้งค่ะ
00:02:37 → 00:02:38 สำหรับเมนูต้มยำกุ้ง
00:02:38 → 00:02:40 เป็นเมนูที่ช่วยต้านโรคมะเร็งได้ค่ะ
00:02:40 → 00:02:45 โดยมีวัตถุดิบหลักเป็น เห็ด ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด และมะนาว
00:02:45 → 00:02:46 เห็ดจะมีเบตากลูแคน
00:02:46 → 00:02:50 สำหรับมะนาวจะมีวิตามินซี สารเฮสเพอริดิน และนารินจีนิน
00:02:50 → 00:02:51 ที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ
00:02:51 → 00:02:53 โดยข่าจะมีสารกาแลนจิน
00:02:53 → 00:02:55 และตะไคร้จะมีสารไมริสทิซิน
00:02:55 → 00:02:56 ซึ่งจะช่วยต้านอนุมูลอิสระ
00:02:56 → 00:03:00 สำหรับสารต้านอนุมูลอิสระ จะป้องกันความเสียหายที่เกิดกับเซลล์
00:03:00 → 00:03:03 ซึ่งจะลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งได้ค่ะ
00:03:03 → 00:03:05 ข้อแนะนำในการรับประทานต้มยำกุ้ง
00:03:05 → 00:03:07 ควรหั่นข่าและตะไคร้เป็นชิ้นเล็ก ๆ
00:03:07 → 00:03:11 เพื่อเราจะได้กินเข้าไปและได้ประโยชน์ จากสมุนไพรอย่างเต็มที่ค่ะ
00:03:11 → 00:03:14 [เสียงดนตรี]
00:03:14 → 00:03:17 สำหรับเมนูต่อมาคือเมนูแกงส้มมะรุม
00:03:17 → 00:03:20 ซึ่งจะต้านโรคเบาหวาน และภาวะแทรกซ้อนจากเบาหวานได้
00:03:20 → 00:03:27 โดยแกงส้มมะรุมจะมีวัตถุดิบหลักเป็น ฝักมะรุม กระชาย และปลาช่อนหรือกุ้ง
00:03:27 → 00:03:31 โดยฝักมะรุมจะมีสารแคมพ์เฟอรอล เควอซิทิน และซาโปนิน
00:03:31 → 00:03:35 ซึ่งจะช่วยในเรื่องของการหลั่งอินซูลิน ลดระดับน้ำตาล และลดไขมันได้ค่ะ
00:03:35 → 00:03:39 สำหรับกระชายจะมีสารแพนดูราทินเอ พิโนสโตรบิน
00:03:39 → 00:03:42 ซึ่งจะช่วยในการลดไขมัน และลดความดันโลหิตได้ค่ะ
00:03:42 → 00:03:44 สำหรับปลาช่อนหรือกุ้ง
00:03:44 → 00:03:46 เป็นกลุ่มโปรตีนที่มีไขมันอิ่มตัวต่ำ
00:03:46 → 00:03:49 ซึ่งจะช่วยในการควบคุม ในเรื่องของไขมันในเลือด
00:03:49 → 00:03:52 ซึ่งเป็นภาวะแทรกซ้อน จากการเป็นโรคเบาหวานได้ค่ะ
00:03:52 → 00:03:54 ข้อแนะนำในการรับประทานแกงส้มมะรุม
00:03:54 → 00:03:56 เนื่องจากการที่มีระดับน้ำตาลในเลือดสูง
00:03:56 → 00:03:59 ต้องการใยอาหารมาช่วย ในการควบคุมระดับน้ำตาล
00:03:59 → 00:04:02 ดังนั้น แนะนำเพิ่มเป็นผักใบ อย่างเช่นดอกแค
00:04:02 → 00:04:05 ซึ่งจะเพิ่มใยอาหาร ให้กับการรับประทานแกงส้มมะรุมได้ค่ะ
00:04:05 → 00:04:08 [เสียงดนตรี]
00:04:09 → 00:04:13 สำหรับอาหารไทยเมนูสุดท้าย ที่ช่วยต้านโรคก็คือเมนูยําถั่วพู
00:04:13 → 00:04:16 ซึ่งยําถั่วพูจะช่วยต้านโรคหัวใจและหลอดเลือด
00:04:16 → 00:04:18 โดยวัตถุดิบหลักของยำถั่วพู
00:04:18 → 00:04:22 จะมีถั่วพู ถั่วลิสง หรือเม็ดมะม่วงหิมพานต์ และหอมแดงค่ะ
00:04:22 → 00:04:24 โดยถั่วพูจะมีใยอาหารที่สูง
00:04:24 → 00:04:27 ใน 100 กรัม จะมีใยอาหารถึง 4 กรัม
00:04:27 → 00:04:29 นอกจากนี้ ถั่วพูยังมีแคลเซียม
00:04:29 → 00:04:33 จะช่วยในการควบคุมความดัน ควบคุมระดับน้ำตาล และไขมันในเลือด
00:04:33 → 00:04:35 และยังมีวิตามินซีและสารกลุ่มฟลาโวนอยด์
00:04:35 → 00:04:37 ซึ่งจะช่วยต้านอนุมูลอิสระ
00:04:37 → 00:04:39 ซึ่งจะช่วยปกป้องในเรื่องของหลอดเลือดได้ค่ะ
00:04:39 → 00:04:42 สำหรับถั่วลิสงหรือเม็ดมะม่วงหิมพานต์
00:04:42 → 00:04:43 จะเป็นแหล่งไขมันที่ดี
00:04:43 → 00:04:45 ช่วยลดระดับ LDL คอเลสเตอรอลในเลือด
00:04:45 → 00:04:47 มีแมกนีเซียมช่วยลดความดัน
00:04:47 → 00:04:50 และมีวิตามินอีช่วยต้านอนุมูลอิสระ
00:04:50 → 00:04:52 ซึ่งจะช่วยดูแลหลอดเลือด ไม่ให้ขาดความยืดหยุ่นได้ค่ะ
00:04:52 → 00:04:54 และหอมแดงมีสารเควอซิทิน
00:04:54 → 00:04:57 ซึ่งช่วยต้านอาการอักเสบและต้านอนุมูลอิสระ
00:04:57 → 00:04:59 ซึ่งจะช่วยป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือดได้ค่ะ
00:04:59 → 00:05:02 สำหรับยำถั่วพูจะมีรสชาติที่จัด
00:05:02 → 00:05:06 ดังนั้น แนะนำให้ใช้เครื่องปรุงรส ที่ลดโซเดียมในการปรุงประกอบอาหาร
00:05:06 → 00:05:08 รวมทั้งของทอดต่าง ๆ ที่ใส่ในยำถั่วพู
00:05:08 → 00:05:12 ไม่ว่าจะเป็นหอมเจียว กระเทียมเจียว ถั่วทอด
00:05:12 → 00:05:16 เราสามารถหลีกเลี่ยง โดยใช้เป็นถั่วอบและก็ใช้เป็นหอมแดง
00:05:16 → 00:05:18 เพื่อลดในเรื่องของไขมัน ที่ให้พลังงานสูงได้ค่ะ
00:05:18 → 00:05:20 [เสียงดนตรี]
00:05:20 → 00:05:24 จะเห็นได้ว่าอาหารไทยมีสารอาหาร ที่เป็นประโยชน์ที่ช่วยดูแลสุขภาพ
00:05:24 → 00:05:27 แต่ก็เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่ง ที่จะช่วยป้องกันการเกิดโรคได้
00:05:27 → 00:05:31 ดังนั้น เราควรจะต้องดูแลในเรื่องของ การออกกำลังกาย การนอนหลับพักผ่อน
00:05:31 → 00:05:33 การจัดการความเครียด
00:05:33 → 00:05:36 เพื่อให้โดยรวมแล้ว เรายังมีสุขภาพที่แข็งแรงได้ค่ะ
00:05:36 → 00:05:41 [เสียงดนตรี]