00:00:06 → 00:00:09 เวลาที่คนคิดลบเนี่ยก็คิดอะไรแต่แง่ไม่ดี
00:00:09 → 00:00:12 อ่ะนะฮะส่วนคนคิดบวกนี่ก็มองอะไรในแง่ดี
00:00:12 → 00:00:15 แต่การมองในแง่ดีเนี่ยบางคนก็ไปเข้าใจผิด
00:00:15 → 00:00:19 อีกว่าโอ๊ยพวกโลกสวยจำได้ไหมคะพวกโลกสวย
00:00:19 → 00:00:23 กับการมองโลกในแง่ดีไม่เหมือนกันนะฮะพวก
00:00:23 → 00:00:25 โลกสวยเนี่ยบางทีไม่ได้อยู่บนภาวะของความ
00:00:25 → 00:00:29 เป็นจริงนะคะแต่ในแง่ของการมองโลกบวกใน
00:00:29 → 00:00:32 แง่ของความเป็นจริงเนี่ยมันต่างกันนั่นก็
00:00:32 → 00:00:35 คือการเพิ่มพลังบวกนั่นคือให้มองในหลายๆ
00:00:35 → 00:00:42 แง่หลายๆมุมนะคะแล้วก็มองหาสิ่งดีๆในนั้น
00:00:42 → 00:00:45 ฟังทุกเรื่องสุขภาพอัปเดตทุกโรคภัยฟังราย
00:00:45 → 00:00:51 การโรงหมอดิฉันสุรีย์พรวงสถิตพรค่ะ
00:00:51 → 00:00:54 สวัสดีค่ะคุณผู้ฟังค่ะขอต้อนรับเข้าสู่
00:00:54 → 00:00:57 รายการโรงหมอทาง Thai PBS podcast ค่ะ
00:00:57 → 00:00:59 สำหรับในวันนี้เราจะมาคุยกันถึงเรื่องของ
00:00:59 → 00:01:02 การเริ่มต้นใหม่เพิ่มพลังบวกกันเถอะนะคะ
00:01:02 → 00:01:05 มาเชิญชวนกันนั่นเองแต่ว่าดิฉันคนเดียว
00:01:05 → 00:01:08 จากชวนคุณผู้ฟังให้มาเพิ่มพลังอาจจะยัง
00:01:08 → 00:01:09 ไม่มีพลังพอเดี๋ยวคุยกับผู้ช่วย
00:01:09 → 00:01:12 ศาสตราจารย์ดรอาจารย์วิภาดิลกสัมพันธ์ผู้
00:01:12 → 00:01:15 ทรงคุณวุฒิมหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จ
00:01:15 → 00:01:17 เจ้าพระยาผู้เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์
00:01:17 → 00:01:19 และครอบครัวค่ะสวัสดีค่ะอาจารย์คะสวัสดี
00:01:19 → 00:01:23 ค่ะสวัสดีค่ะท่านผู้ฟังทุกท่านค่ะเรียก
00:01:23 → 00:01:25 ว่าวันนี้เราจะมาเริ่มต้นอะไรให้มันเป็น
00:01:25 → 00:01:28 แบบพลังบวกในสิ่งดีๆกันดีกว่านะคะอาจารย์
00:01:28 → 00:01:31 นะคะเอ่อเดี๋ยวถามอาจารย์ก่อนพลังบวกนี่
00:01:31 → 00:01:35 เราจะคุยกันในวันเนี้ยบวกแบบไหนบวกบวกใจ
00:01:35 → 00:01:40 บวกกายหรือเราจะเอ๊ะต้องเตรียมตัวพร้อม
00:01:40 → 00:01:44 ปะทะอะไรกันหรือเปล่านะคะอย่างแรกเลยก็คง
00:01:44 → 00:01:47 ต้องบอกว่าไม่ใช่ไปบวกกับเขานะคะแต่หมาย
00:01:47 → 00:01:50 ถึงว่าการเพิ่มพลังบวกนี่ก็คือคนเราเนี่ย
00:01:50 → 00:01:53 เวลาที่มองเห็นอะไรก็ตามเคยได้ยินใช่ไหม
00:01:53 → 00:01:57 คะคนคิดบวกกับคนคิดลบนะคะเพราะฉะนั้นเวลา
00:01:57 → 00:02:00 ที่คนคิดลบเนี่ยก็คิดอะไรไปเงี้ยไม่ดีอ่ะ
00:02:00 → 00:02:03 นะคะส่วนคนคิดบวกนี่ก็มองอะไรในแง่ดีแต่
00:02:03 → 00:02:06 การมองในแง่ดีเนี่ยบางคนก็ไปเข้าใจผิดอีก
00:02:06 → 00:02:10 ว่าโอ๊ยพวกโลกสวยจำได้ไหมคะพวกโลกสวยกับ
00:02:10 → 00:02:14 การมองโลกในแง่ดีไม่เหมือนกันนะฮะพวกโลก
00:02:14 → 00:02:16 สวยเนี่ยบางทีไม่ได้อยู่บนภาวะของความ
00:02:16 → 00:02:20 เป็นจริงนะคะแต่ในแง่ของการมองโลกบวกใน
00:02:20 → 00:02:22 แง่ของความเป็นจริงเนี่ยมันต่างกันนั่นก็
00:02:22 → 00:02:25 คือการเพิ่มพลังบวกนั่นก็คือให้มองในหลาย
00:02:25 → 00:02:29 ๆแง่หลายๆมุมนะคะแล้วก็มองหาสิ่งดีๆใน
00:02:29 → 00:02:33 นั้นนึกออกไหมคะมองหาสิ่งดีๆในนั้นเช่น
00:02:33 → 00:02:36 เอ่อคุณสุรีย์พรเคยได้ยินใช่ไหมอ่ะเวลาคน
00:02:36 → 00:02:39 อกหักอ่ะก็จะบอกอกหักดีกว่ารักไม่เป็น
00:02:39 → 00:02:42 เห็นมั้ยคะมันก็มีข้อดีข้อเสียของทุก
00:02:42 → 00:02:44 อย่างมันอยู่ที่มุมมองของเราแต่ถ้าเป็น
00:02:45 → 00:02:47 มุมมองให้รถทุกๆๆๆๆๆนั่นแหละคือมองอะไร
00:02:47 → 00:02:50 เงี้ยลบนะคะซึ่งตรงเนี้ยขอแถมนิดนึงสมัย
00:02:50 → 00:02:54 นี้อะไรต้องอ้างงานวิจัยถูกไหมก็มีงาน
00:02:54 → 00:02:56 วิจัยเยอะแยะมากเลยนะคะที่เขาอ้างอิงว่า
00:02:57 → 00:03:01 คนคิดบวกหรือมองโลกในแง่บวกไม่ใช่โลกสวย
00:03:01 → 00:03:03 นะคะต้องย้ำแล้วย้ำอีกเพราะว่าเวลาพูด
00:03:03 → 00:03:07 เรื่องบวกจะโรคบวกจะมองโลกในแง่บวกจะถูก
00:03:07 → 00:03:11 คนที่มองว่าพวกโลกสวยทำนองไปทดประชันน่ะ
00:03:11 → 00:03:14 นะฮะจริงๆมันไม่ใช่มันคนละแบบกันคนที่มอง
00:03:14 → 00:03:18 โลกในแง่บวกเนี่ยมักจะเป็นคนที่มีอายุยืน
00:03:18 → 00:03:22 ยาวนะคะสุขภาพจิตดีสุขภาพกายดีนะคะแล้วก็
00:03:22 → 00:03:24 เติบโตในอาชีพการงานของตัวเองได้ดีกว่า
00:03:24 → 00:03:27 อันนี้ผลการวิจัยนะฮะเพราะฉะนั้นเขาบอก
00:03:27 → 00:03:29 ว่าแล้วนอกจากนั้นยังมีการวิจัยที่บอกว่า
00:03:29 → 00:03:32 การฝึกการคิดบวกเยอะๆเนี่ยจะทำให้คนเรา
00:03:32 → 00:03:35 เนี่ยสามารถลดภาวะความเครียดได้ในโลก
00:03:35 → 00:03:37 ปัจจุบันเนี่ยมีวันไหนคุณสุรีย์พรไม่
00:03:37 → 00:03:39 เครียดไหมคะ
00:03:39 → 00:03:42 ไม่มีแทบจะไม่มีเพราะถ้าคนที่ไม่เครียด
00:03:42 → 00:03:44 เลยนะหนูอยู่นู่นค่ะโรงพยาบาลบ้าที่แบบ
00:03:45 → 00:03:47 ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรไปแล้วอ่ะนะคะแต่
00:03:47 → 00:03:50 ถ้าคนที่ปกติมันต้องมีความเครียดตั้งแต่
00:03:50 → 00:03:53 ระดับน้อยไปถึงระดับมากซึ่งส่วนตัวของ
00:03:53 → 00:03:57 อาจารย์วิภาเองเนี่ยไม่เห็นด้วยกับการที่
00:03:57 → 00:03:59 บอกชีวิตต้องไม่เครียดไม่ใช่ค่ะต้องมีนิด
00:03:59 → 00:04:03 นึงเพราะความเครียดในเชิงบวกมันมีนะคะนะ
00:04:03 → 00:04:07 คะแล้วก็การคิดบวกเนี่ยจะทำให้เรายอมรับ
00:04:07 → 00:04:10 นะคะในสิ่งดีๆที่มีอยู่ในโลกนี้ได้มากมาย
00:04:10 → 00:04:13 เลยเพราะฉะนั้นเราควรจะฝึกการคิดบวกนะคะ
00:04:13 → 00:04:16 ไม่ใช่ว่าปล่อยให้คือฝึกการคิดบวกที่จะ
00:04:16 → 00:04:20 บอกว่าโลกมันยังมีมุมดีๆอ่ะนะคะอย่างเช่น
00:04:20 → 00:04:22 เราบอกว่าโรคเกิดสงครามมันดูแล้วไม่ดีแต่
00:04:22 → 00:04:25 ในขณะเดียวกันน่ะเราไปเห็นสารคดีที่มันมี
00:04:25 → 00:04:28 เปลือกโลกบางจุดที่มันสวยๆอะไรอย่างเงี้ย
00:04:28 → 00:04:32 นึกออกมั้ยลูกเป็นลักษณะนั้นนะคะทีนี้ถ้า
00:04:32 → 00:04:34 ถามว่าเราจะมาเพิ่มพลังบวกกันเถอะดีไหม
00:04:34 → 00:04:37 เริ่มต้นใหม่เพราะนี่มันก็ปีใหม่เนาะใกล้
00:04:37 → 00:04:39 ๆปีใหม่มาแล้วเนี่ย
00:04:39 → 00:04:42 เอ่อบางทีอะไรที่มันผ่านไปปีที่แล้วปีที่
00:04:42 → 00:04:45 แล้วก็ดูๆเนาะปีเสือนะคะมันมีอะไรที่เกิด
00:04:45 → 00:04:47 ขึ้นที่ทำให้เราเสียอกเสียใจกันทั้ง
00:04:47 → 00:04:49 ประเทศไหนเยอะมากนะคะ
00:04:49 → 00:04:51 เพราะฉะนั้นเราก็ควรจะมาตั้งต้นใหม่โดย
00:04:51 → 00:04:52 การเพิ่ม
00:04:52 → 00:04:56 ชีวิตใหม่ของเรานะคะชีวิตคนเราตั้งต้น
00:04:56 → 00:05:00 ใหม่ได้เสมออย่าไปคิดว่าแหมมันจะพังพินาศ
00:05:00 → 00:05:02 ไปทันทีด้วยความล้มเหลวหรืออะไรเพียง
00:05:03 → 00:05:06 ครั้งคราวนะคะมันอาจจะมีในมุมบังความคิด
00:05:06 → 00:05:11 ของบางคนนะคะอาจารย์ตรงที่ว่าก็พยายามที่
00:05:11 → 00:05:15 จะเริ่มต้นใหม่มาเรื่อยๆอยู่แล้วแต่ด้วย
00:05:15 → 00:05:18 สถานการณ์อะไรหลายๆอย่างภาพรวมองค์รวม
00:05:18 → 00:05:21 อะไรล่ะเนาะว่าไปทำให้บางทีการจะเริ่มต้น
00:05:21 → 00:05:25 ใหม่บ่อยๆมันก็ไร้ซึ่งแรงพลังมันก็ไม่ไหว
00:05:25 → 00:05:28 ไม่รู้จะเริ่มต้นใหม่ยังไงต้นทุนชีวิตก็
00:05:28 → 00:05:31 ไม่ได้เยอะมากพอมันก็เลยอาจจะเป็นเอ่อ
00:05:31 → 00:05:33 ปัจจัยอย่างหนึ่งด้วยไหมที่ทำให้หลายคน
00:05:33 → 00:05:36 รู้สึกว่าไม่ไหวละช่างมันเถอะไม่ๆไม่ต้อง
00:05:36 → 00:05:40 มาเอาแค่วันนี้ผ่านไปวันๆจะให้มาเริ่มต้น
00:05:40 → 00:05:43 ใหม่อะไรบ่อยๆมันก็ไม่ไหวค่ะเริ่มต้นตรง
00:05:43 → 00:05:45 นี้มันไม่ได้แปลว่าเริ่มเอ่อเริ่มต้นการ
00:05:45 → 00:05:48 ทำอะไรหรือเปลี่ยนชีวิตนะคะแต่หมายถึง
00:05:48 → 00:05:52 เริ่มต้นที่จะหัดคิดบวกสำหรับคนที่
00:05:52 → 00:05:55 มักจะคิดลบเสมออ่ะมันทำให้ชีวิตเราเครียด
00:05:55 → 00:05:58 ดูฝ่อดูท้อแท้เหมือนที่คุณสุรีย์พรเนี่ย
00:05:58 → 00:06:02 ว่าไม่ไหวแล้วที่จะมาตั้งต้นใหม่ไม่จริง
00:06:02 → 00:06:04 ค่ะถ้าเราคิดว่าทุกอย่างเนี่ยมันมีการ
00:06:04 → 00:06:08 ตั้งต้นใหม่เสมอมันเริ่มต้นก่อนหน้านี้
00:06:08 → 00:06:11 เราก็ไม่มีอะไรมาเลยทุกคนออกมาจากท้องแม่
00:06:11 → 00:06:14 ท้องพ่อถูกไหมคะแล้วเราก็มาสร้างจน
00:06:14 → 00:06:17 กระทั่งมันกลายเป็นศูนย์ใหม่เราก็เริ่ม
00:06:17 → 00:06:19 ได้อีกแหละแต่ไม่ได้จุดมุ่งหมายตรงนั้น
00:06:19 → 00:06:22 เนี่ยมันไม่ใช่จุดมุ่งหมายที่ว่าสมมุติ
00:06:22 → 00:06:24 เราจะมีให้ได้ถึงพันล้านอะไรอย่างนี้มัน
00:06:24 → 00:06:26 ไม่ใช่นะคะเพราะว่าจริงๆแล้วอยากให้เข้า
00:06:27 → 00:06:31 ใจว่าความสุขกับความสบายมันต่างกันเงิน
00:06:31 → 00:06:34 มันเป็นปัจจัยที่ทำให้เราเกิดความสบายแต่
00:06:34 → 00:06:37 ถามว่าเรามีความสุขจริงหรือไม่ใช่ใช่มั้ย
00:06:37 → 00:06:39 คะเพราะฉะนั้นบางคนเนี่ยทำไมเขาถึงได้
00:06:39 → 00:06:42 สมมุติว่าเขามีเงินเป็นพันๆล้านแต่ในที่
00:06:42 → 00:06:46 สุดเขาขอไปถือศีลไม่เอาอะไรเลยมีแค่ตุ้ง
00:06:46 → 00:06:49 ขาวห่มขาวหรือบางคนก็บวชเลยทำไมเค้ามี
00:06:49 → 00:06:52 ความสุขล่ะคะอืมเห็นไหมคะถ้านั่นจะไม่พา
00:06:52 → 00:06:54 ไม่อยากให้ท่านผู้ฟังหรือทุกคนเนี่ยไปคิด
00:06:54 → 00:06:57 ในความสำเร็จในแง่ของหน้าที่การงานการมี
00:06:57 → 00:07:01 เงินเยอะๆการก้าวหน้าในตำแหน่งสูงๆไม่ใช่
00:07:01 → 00:07:04 นะคะนะฮะแต่เรามาดูซิว่าเราจะเริ่มต้น
00:07:04 → 00:07:07 อย่างไรหรือบางทีเราผิดหวังท้อแท้เอาเอา
00:07:07 → 00:07:10 ประเด็นที่มักจะเกิดขึ้นกันอย่างเช่น
00:07:10 → 00:07:13 หนุ่มสาวเงี้ยรักกันมาตั้งนานจะแต่งกัน
00:07:13 → 00:07:16 อยู่แล้วอ้าวมันผิดพลาดไปแล้วบอกจะตั้ง
00:07:16 → 00:07:19 ต้นไม้โอ้ฉันทำไม่ได้แล้วขาดเธอเหมือนฉัน
00:07:19 → 00:07:21 จะขาดใจอะไรอย่างเงี้ยแต่เราต้องคลิกมุม
00:07:21 → 00:07:25 มองของเราใหม่นะคะแล้วทำยังไงที่เราจะมี
00:07:25 → 00:07:28 กำลังใจแล้วเดินก้าวต่อไปอย่างนี้ค่ะ
00:07:28 → 00:07:29 เพราะฉะนั้นเนี่ยค่ะก็จะเป็นจุดเริ่มต้น
00:07:29 → 00:07:32 สำหรับครูผู้ฟังที่ฟังรายการอยู่ในวันนี้
00:07:32 → 00:07:36 นะคะก็จะได้มาเริ่มต้นกันเพิ่มพลังใจกัน
00:07:36 → 00:07:38 นะคะเมื่อกี้อาจารย์บอกแล้วว่ามันไม่ได้
00:07:38 → 00:07:43 เป็นเรื่องของแค่ในเชิงของการที่จะแบบ
00:07:43 → 00:07:44 อะไรก็เริ่มไม่ได้แต่มันเป็นเรื่องของ
00:07:44 → 00:07:47 สภาพของจิตใจที่เราแบบเอาแหละเราต้อง
00:07:47 → 00:07:50 เริ่มแล้วมันต้องพร้อมแล้วนะคะค่อยๆสเต็ป
00:07:50 → 00:07:52 ทีละนิดก็ได้ถ้างั้นถามอาจารย์ดีกว่าว่า
00:07:52 → 00:07:55 อาจารย์จะแนะนำยังไงคะอ่าเพื่อพลังยังไง
00:07:55 → 00:08:00 กันดีเอ่ออยากจะเป็นโดยย่อนะคะแล้วก็ง่าย
00:08:00 → 00:08:03 ๆทุกคนจะทำได้เพราะว่าเราต้องให้ทันกับ
00:08:03 → 00:08:05 เวลาของรายการเราด้วยนะคะก็จะเริ่มอย่าง
00:08:05 → 00:08:08 แรกเลยก็คือขอให้เข้าใจในความเป็นไปของ
00:08:08 → 00:08:11 ทุกอย่างบนโลกนะฮะเช่นผิดหวังเป็นเรื่อง
00:08:11 → 00:08:14 ธรรมดาค่ะคุณศิริพรนะฮะถ้าเรารู้สึกผิด
00:08:15 → 00:08:17 หวังแล้วมันล้มเหลวทุกอย่างไม่ว่าจะ
00:08:17 → 00:08:20 เรื่องอะไรก็ตามนะฮะเพราะว่า
00:08:20 → 00:08:22 มันไม่มีใครหรอกค่ะที่ในชีวิตนี้ไม่เคย
00:08:22 → 00:08:26 เจอกับความผิดหวังแต่เราจะแต่ได้เรียนรู้
00:08:26 → 00:08:28 ชีวิตอย่างแท้จริงเพราะฉะนั้นต้องบอกว่า
00:08:28 → 00:08:30 การเลี้ยงดูลูกหรืออะไรก็ตามเนี่ยนะคะ
00:08:30 → 00:08:33 ต้องให้เด็กได้ผิดหวังบ้างไม่อย่างนั้น
00:08:33 → 00:08:35 แล้วเด็กจะไม่มีภูมิต้านทาน
00:08:35 → 00:08:38 มันจะทุกครั้งที่เกิดความผิดหวังเขาจะ
00:08:38 → 00:08:40 ดำเนินชีวิตต่อไปไม่ได้แล้วนะฮะเพราะ
00:08:40 → 00:08:43 ฉะนั้นถ้าเราถ้าเราฝึกให้เขารู้จักความ
00:08:43 → 00:08:46 ผิดหวังรู้จักว่าทุกอย่างมันไม่มีใครสม
00:08:46 → 00:08:49 หวังในชีวิตได้อย่างก็ต้องเสียอย่างบาง
00:08:49 → 00:08:52 ครั้งอ่ะนะฮะหรือเสียหลายๆอย่างอะไรอย่าง
00:08:52 → 00:08:54 เงี้ยเพราะฉะนั้นทุกคนก็ต้องผิดหวังแต่
00:08:54 → 00:08:56 เราต้องเรียนรู้จากความผิดหวังนะว่าเพราะ
00:08:56 → 00:09:01 อะไรนะฮะอ่าอย่างที่ 2 นะฮะนอกจากเข้าใจ
00:09:01 → 00:09:04 ความเป็นไปของโลกแล้วเนี่ยเราต้องยอมรับ
00:09:04 → 00:09:06 ความจริงนะฮะที่เป็นหนทางที่อาจทำให้เรา
00:09:06 → 00:09:10 เนี่ยเอ่อทุกสิ่งทุกอย่างเนี่ยมันไม่ยาก
00:09:10 → 00:09:13 เกินที่จะผ่านพ้นไปได้หรอกแต่ณเวลานั้น
00:09:13 → 00:09:16 น่ะมันจะรู้สึกเจ็บปวดท้อแท้อยู่ไม่ได้
00:09:16 → 00:09:19 เช่นขาดเธอเหมือนฉันขาดใจนะคะแต่ในความ
00:09:19 → 00:09:21 เป็นจริงแล้วแล้วเนี่ยถ้าเป็นอย่างนั้น
00:09:21 → 00:09:25 ถ้าคนอกหักทุกคนเนี่ยแล้วตายเนี่ยคงไม่มี
00:09:25 → 00:09:27 ใครเหลือแล้วล่ะในโลกนี้นะคะเพราะฉะนั้น
00:09:27 → 00:09:31 ต้องต้องอะไรดีอ่ะต้องยอมรับความเป็นจริง
00:09:31 → 00:09:34 ในโลกนี้ค่ะนะฮะที่เขาบอกว่าสิ่งที่ที่
00:09:34 → 00:09:37 แน่นอนที่สุดก็คือความไม่แน่นอนถ้าเรา
00:09:37 → 00:09:41 เข้าใจตรงนี้นะคะใช่เราก็จะรู้ว่าจะเป็น
00:09:41 → 00:09:43 ของเราอยู่แล้วนี่แค่เอื้อมเนี่ย
00:09:43 → 00:09:45 มันก็ยังพลาดไป
00:09:45 → 00:09:48 เพราะฉะนั้นสิ่งเหล่านี้เราต้องยอมรับ
00:09:48 → 00:09:52 ความจริงนะคะอ่าประเด็นต่อไปก็คือเราจะ
00:09:52 → 00:09:55 ต้องเรียนรู้กับการมีความสุขกับสิ่งเล็กๆ
00:09:55 → 00:09:59 น้อยๆในชีวิตค่ะใช่ถามว่าทำไมคะก็เพราะ
00:09:59 → 00:10:01 ว่าไม่แม้มันจะเป็นเรื่องเล็กน้อยเนี่ย
00:10:01 → 00:10:04 มันก็มีความสุขเอาง่ายๆนะคะ
00:10:04 → 00:10:06 เอ่อมีคนถามอาจารย์วิภาวันหลังเกษียณ
00:10:06 → 00:10:09 เนี่ยทำไมถึงมีความสุขกับต้นไม้ทั้งๆที่
00:10:09 → 00:10:11 ก่อนหน้านี้ไม่รู้จักต้นไม้ด้วยซ้ำนะฮะ
00:10:12 → 00:10:16 แต่ตอนนี้มาลงมาอย่างๆสภาพร่างกายตอนนี้
00:10:16 → 00:10:18 นะคะมันไม่สามารถจะทำอะไรหนักๆได้แล้ว
00:10:18 → 00:10:20 เนื่องจากความเจ็บป่วยที่มันมาเยือนพร้อม
00:10:20 → 00:10:23 กับวัยเนี่ยนะคะตอนแรกๆเราก็สามารถจะตอน
00:10:23 → 00:10:26 จะทำจะอะไรที่มันต้องแอบมี activity เยอะ
00:10:26 → 00:10:29 ทำสวนครัวที่ต้องลงไปดูทุกวันอะไรเงี้ย
00:10:29 → 00:10:33 ตอนนี้นะคะแค่เอาเมล็ดต้นไม้เช่นเอาขนุน
00:10:33 → 00:10:36 มาเพราะแล้วมันงอกใบเลี้ยงขึ้นมาเนี่ยก็
00:10:36 → 00:10:39 มีความสุขและใจฟูนี่ค่ะสิ่งเล็กๆน้อยๆใน
00:10:39 → 00:10:43 ชีวิตน่ะค่ะนะคะหรือเรา
00:10:43 → 00:10:47 ทำอาหารไปแล้วก็เอาไปเลี้ยงหมาที่มันเป็น
00:10:47 → 00:10:49 หมาไม่มีเจ้าของอ่ะนะฮะแล้วก็มาเตะอยู่
00:10:49 → 00:10:50 แถวบ้านไง
00:10:51 → 00:10:54 เอ่อฝีมืออาหารเราอ่ะเนาะพอเราเอาไปตั้ง
00:10:54 → 00:10:56 แล้วเนี่ยมันกินจนไม่เหลือสักหยดไงจะได้
00:10:56 → 00:11:00 พาก็นั่งยิ้มขำตัวเองนะคะว่าโอ้โหหมามัน
00:11:00 → 00:11:36 กินไม่เหลือสักหยดเลย
00:11:36 → 00:11:40 ให้บันทึกว่าวันนี้เราเดินมามหาลัยเนี่ย
00:11:40 → 00:11:43 เราชื่นใจอะไรบ้างเราได้ทำอะไรบ้างแล้ว
00:11:43 → 00:11:47 เสร็จแล้ววันวันที่เรากำลังมัวๆหมองๆ
00:11:47 → 00:11:49 เนี่ยนะลองมาอ่านไอ้สิ่งเล็กๆน้อยๆพวก
00:11:49 → 00:11:51 เนี้ยมันเป็นการทบทวนความจำก็จะทำให้เรา
00:11:51 → 00:11:53 เนี่ยรู้สึกว่าเอ้อตรงนั้นเราเคยมีความ
00:11:53 → 00:11:55 สุขตรงนี้เราเคยมีความสุขกับเรื่องเล็กๆ
00:11:55 → 00:11:58 น้อยๆนี่ล่ะค่ะฝึกให้ชินไม่งั้นเราจะนึก
00:11:58 → 00:12:01 ไม่ออกว่าเราเคยสุขอะไรนะคะค่ะ
00:12:01 → 00:12:04 ประการต่อไปก็คืออย่าทะเยอทะยานให้มาก
00:12:04 → 00:12:06 เกินไป
00:12:06 → 00:12:09 นะฮะคนเราในเวลาที่เราบอกว่ามันไม่เคย
00:12:09 → 00:12:11 เกิดความรู้สึกที่ดีเลยเพราะบางทีไอ้สิ่ง
00:12:11 → 00:12:14 ที่เราคาดหวังอ่ะค่ะมันไกลเกินเอื้อมคุณ
00:12:14 → 00:12:17 สุรีย์พรอย่างเช่นเนี่ยเราบอกว่าเราอยาก
00:12:17 → 00:12:19 จะเก็บสตางค์ให้ได้ 100 ล้านหรือล้านนึง
00:12:19 → 00:12:22 เอา 1 ล้านบาทมันไม่ถึงสักทีนะมันมีเหตุ
00:12:22 → 00:12:25 ว่าใช่ต้องนั่งตรงนี้มันก็ทุกข์อยู่นั่น
00:12:25 → 00:12:29 น่ะแต่ถ้าเราตั้งเล็กๆเอาแค่เนี้ยกระปุก
00:12:29 → 00:12:33 สักใบนึงนะฮะจะบอกนะไอ้ขวดน้ำที่เอามา
00:12:33 → 00:12:35 รีไซเคิลก็ได้จะไม่พาชอบเรื่องฟรีเลยก็
00:12:35 → 00:12:39 คือนะคะเจาะรูเข้าหยอดเหรียญ 5 เหรียญ 10
00:12:39 → 00:12:41 อะไรเงี้ยแค่มันเต็มขวดแล้วก็ดีใจแล้วนะ
00:12:41 → 00:12:44 คะนั่นก็คือทีละขั้นทีละขั้นทีละขั้นเห็น
00:12:44 → 00:12:46 ในข่าวใช่ไหมคะที่บางคนมาเปิดกระปุก
00:12:46 → 00:12:48 ออมสินตัวเองปรากฏว่าโอ้โหได้ตั้งหลายแสน
00:12:48 → 00:12:53 อันเนี้ยมันคือเราทำในสิ่งที่เราเอื้อม
00:12:53 → 00:12:56 ถึงเป็นไปได้ตั้งจุดมุ่งหมายในชีวิตและ
00:12:57 → 00:12:59 พิธีละขั้นนะฮะอย่าเพิ่งไปถึงเยอะแค่นั้น
00:12:59 → 00:13:02 เองเช่นคนอยากจะลดน้ำหนักเงี้ยอยากจะลด
00:13:02 → 00:13:05 ให้ได้สัก 100 กมแต่มันเป็นไปไม่ได้มองที
00:13:05 → 00:13:09 ไรไม่ถึงวันนี้ฉันลดอาหารจากที่ฉันเคยกิน
00:13:09 → 00:13:13 3 ชามวันนี้เหลือ 2 ชามครึ่งโอ๊ยสำเร็จ
00:13:13 → 00:13:16 แหละพรุ่งนี้อะไรอย่างนี้นะคะทีละนิดทีละ
00:13:16 → 00:13:19 นิดทีละขั้นทีละตอนหรือเตือนตัวเองให้ออก
00:13:19 → 00:13:21 กำลังกายเราทำได้เท่านี้เอานี้เพิ่มอีก
00:13:21 → 00:13:24 นิดนึงเพิ่มอีกนิดนึงอะไรอย่างนี้มันก็จะ
00:13:24 → 00:13:26 ทำให้เรารู้สึกดีขึ้นเพราะฉะนั้นประเด็น
00:13:26 → 00:13:30 นี้ก็คืออย่าทะเยอทะยานมากจนเกินไปนะคะ
00:13:30 → 00:13:32 มันจะทำให้เราคว้าลมอยู่เรื่อยแล้วก็จะ
00:13:32 → 00:13:35 เกิดจากความผิดหวังผิดหวังผิดหวังแล้วก็
00:13:35 → 00:13:37 จะเหนื่อยด้วยใช่ค่ะ
00:13:37 → 00:13:40 อาการต่อไปค่ะอย่าเปรียบเทียบตัวเองกับคน
00:13:40 → 00:13:40 อื่น
00:13:41 → 00:13:44 อันเนี้ยนะคะบางคนเนี่ยชอบแข่งขันซะจริง
00:13:45 → 00:13:50 เลยทำไมต้องเป็นฉันทำไมทำไมถึงฉันทำไม่
00:13:50 → 00:13:53 ได้สักทีทำไมฉันสู้เขาไม่ได้สักทีนะคะขอ
00:13:53 → 00:13:55 ให้ภูมิใจที่เราเป็นเราอาจารย์วิภาชอบมาก
00:13:55 → 00:13:57 เลยนะฮะที่บอกว่า
00:13:57 → 00:14:01 เราเป็นหนึ่งเดียวคนนี้ถูกไหมคะไม่มีใคร
00:14:01 → 00:14:04 เหมือนเราแล้วก็ไม่มีไม่มีใครที่เป็นได้
00:14:04 → 00:14:06 อย่างเราเรานี่เป็นมาสเตอร์พีซอยู่คน
00:14:06 → 00:14:08 เดียวเพราะไม่อย่างนั้นเนี่ยนะคะก็กลาย
00:14:08 → 00:14:11 เป็นเรามองลบกับตัวเองนะคะแล้วในที่สุด
00:14:11 → 00:14:14 เราก็มองตัวเองเป็นเหยื่อทำไมต้องเป็นฉัน
00:14:14 → 00:14:18 ทำไมทำไมฉันไม่ได้ล่ะทำไมคนอื่นเขาได้
00:14:18 → 00:14:21 ทำไมฉันไม่ได้ล่ะอะไรอย่างนี้นะคะเพราะ
00:14:21 → 00:14:23 ฉะนั้นอย่าไปเปรียบเทียบกับใครเพราะว่า
00:14:23 → 00:14:24 ยิ่งการเปรียบเทียบมันจะทำให้เรามีแต่
00:14:24 → 00:14:27 ความทุกข์ค่ะอันนี้มันขอเสริมพระอาจารย์
00:14:27 → 00:14:29 นิดนึงเพราะว่าคืออะไรก็ตามเนี่ยจริงๆ
00:14:29 → 00:14:33 แล้วได้ยินคำนี้มาบ่อยมากว่าการคิดลบกับ
00:14:33 → 00:14:36 ตัวเองอ่ะร้ายแรงกว่าคนที่คิดลบกับเราใช่
00:14:36 → 00:14:38 ด้วยซ้ำไปเพราะตัวเราเป็นคนสะกดจิตตัวเอง
00:14:38 → 00:14:42 ให้แบบตัวเองแบบไม่ดีไม่ได้ทำไมอย่างนู้น
00:14:42 → 00:14:44 อย่างนี้ไม่ได้อย่างเขาอะไรอย่างเงี้ยที่
00:14:44 → 00:14:46 อาจารย์บอกนะครับเพราะฉะนั้นตรงนี้ค่ะอาจ
00:14:46 → 00:14:49 จะต้องแบบเปลี่ยนมุมมองเปลี่ยนวิธีคิด
00:14:49 → 00:14:52 ด้วยเพราะบางทีเราก็มีอะไรที่ดีๆใช่เยอะ
00:14:52 → 00:14:55 เลยนะฮะแต่ว่าเรามองไม่เห็นโดยเฉพาะตัว
00:14:55 → 00:14:58 เราเองเรามองไม่เห็นแล้วบางทีโอกาสมันมา
00:14:58 → 00:15:00 เนี่ยคนอื่นเขาหยิบยื่นให้อันนี้จะไม่พา
00:15:00 → 00:15:03 จะมีหนุ่มสาวมาปรึกษาด้วยเสมอนะคะคือ
00:15:03 → 00:15:06 โอกาสที่คนอื่นเขาหยิบยื่นให้นะเพราะมอง
00:15:06 → 00:15:08 เห็นแล้วว่าเราทำได้แต่เราจะบอกศักยภาพ
00:15:08 → 00:15:11 เราไม่พอเราทำไม่ได้หรอกอะไรอย่างเงี้ย
00:15:11 → 00:15:15 ค่ะมันก็เลยทำให้เราพลาดโอกาสนะคะมีผู้
00:15:15 → 00:15:18 ใหญ่คนนึงเล่าให้อาจารย์วิภาฟังเอ่อท่าน
00:15:18 → 00:15:21 บอกว่าท่านสอนลูกว่าเมื่อโอกาสมาถึงเนี่ย
00:15:21 → 00:15:24 อย่าปล่อยมันไปเพราะท่านได้กับชีวิตตัว
00:15:24 → 00:15:27 ท่านเองท่านบอกว่าท่านเป็นครูน้อยนะคะจบ
00:15:27 → 00:15:30 มาแล้วเป็นครูครูโรงเรียนประถมปัจจุบัน
00:15:30 → 00:15:34 สมัยก่อนเนี่ยเสร็จแล้วก็มีเขาหยิบยื่น
00:15:34 → 00:15:37 ให้ท่านมาขึ้นมาเป็นใหญ่ในตำบลน่ะนะคะ
00:15:37 → 00:15:38 เรียกศึกษา
00:15:38 → 00:15:41 ศึกษาธิการอะไรทำนองนี้นะคะแล้วท่าน
00:15:41 → 00:15:44 ปฏิเสธท่านมองว่าท่านยังเป็นแค่ครูใหญ่
00:15:44 → 00:15:47 ต้องต๋อยอยู่เพราะฉะนั้นท่านก็ปฏิเสธไป
00:15:47 → 00:15:51 แล้วจากนั้นน่ะค่ะต่อมาอีก 30 ปีถ้าท่าน
00:15:51 → 00:15:54 ก็ได้เป็นแค่ครูใหญ่จนแก่ตายโอ๊ยนึกออก
00:15:54 → 00:15:56 มั้ยฮะเพราะฉะนั้นท่านก็เลยบอกว่าเนี่ย
00:15:56 → 00:15:58 โอกาสมันมาแล้วแต่เราเองเนี่ยมองตัวเอง
00:15:58 → 00:16:02 ไม่ไม่มีศักยภาพพอแล้วโอกาสมันไม่ได้มา
00:16:02 → 00:16:04 บ่อยๆเพราะฉะนั้นท่านสอนลูกท่านว่าถ้า
00:16:04 → 00:16:07 โอกาสมาอย่าปล่อยให้มันลอยไปนะลูกอะไร
00:16:07 → 00:16:10 อย่างเงี้ยนึกออกไหมคะเพราะฉะนั้นเนี่ย
00:16:10 → 00:16:12 สิ่งที่เรารับเอาไว้เนี่ยเราค่อยๆเรียน
00:16:12 → 00:16:16 รู้ค่อยอะไรและถ้ามันพลาดเราก็ถอนออกมา
00:16:16 → 00:16:19 ได้ไม่มีใครว่าอะไรหรอกเพราะว่าเราไม่ได้
00:16:19 → 00:16:22 ไขว่คว้าที่จะตะเกียกตะกายแต่คนอื่นเขา
00:16:22 → 00:16:25 มองเห็นแล้วเขาให้โอกาสถูกไหมคะเราก็ค่อย
00:16:25 → 00:16:28 ๆเรียนรู้ไปอย่างนี้เป็นต้นและถ้าทำหลัก
00:16:28 → 00:16:32 อย่างเรานี้แล้วนะคะอันนึงที่สำคัญมากเลย
00:16:32 → 00:16:35 ก็คือการยอมรับและการปล่อยวางหัวข้อนี้
00:16:35 → 00:16:38 สำคัญสำคัญมากค่ะตรงที่ว่าบางทีเราทำแล้ว
00:16:38 → 00:16:41 เขาบอกคนเราจะได้อะไรต้องเสียสละอะไรบาง
00:16:41 → 00:16:44 อย่างนึกออกไหมคะบางครั้งระบบโอ้โหฉัน
00:16:44 → 00:16:46 เสียสละมาแล้ว 10 อย่างนะฉันยังไม่ได้
00:16:46 → 00:16:48 อย่างที่ฉันอยากได้เลยคือบางที
00:16:48 → 00:16:52 มันก็เป็นจังหวะชีวิตบางทีมันก็แพ้เส้น
00:16:52 → 00:16:56 ทางของคนอื่นหรืออะไรทำนองนี้นะคะเพราะ
00:16:56 → 00:16:58 ฉะนั้นสุดท้ายเนี่ยจารุภาอยากให้มองว่า
00:16:58 → 00:17:03 ปล่อยวางค่ะนะคะก็คืออย่าไปเอ่อเราทำเต็ม
00:17:03 → 00:17:06 ที่แล้วนะคะแล้วมันไม่ได้มันไม่ได้ก็คือ
00:17:06 → 00:17:09 ไม่ได้นะคะนั่นก็คือการปล่อยวางซึ่งตรง
00:17:09 → 00:17:13 นี้ทำยากที่สุดต้องฝึกค่ะนะคะต้องฝึกฝึก
00:17:13 → 00:17:16 ฝึกฝึกฝึกและฝึกนะฮะพออาจารย์บอกว่าให้
00:17:16 → 00:17:19 ฝึกๆๆแสดงว่าเราต้องเจออะไรให้เรามาฝึกๆๆ
00:17:19 → 00:17:20 ๆ
00:17:20 → 00:17:24 นะฮะเพราะว่าบางทีเนี่ยเราต้องทบทวนด้วย
00:17:24 → 00:17:28 ว่าเราเราทำไมเราถึงอยากได้อย่างนั้นเอา
00:17:28 → 00:17:30 งี้แล้วกันนะคะสมมติเราดิ้นรนเพื่อจะได้
00:17:30 → 00:17:32 สิ่งนี้สักสิ่งนึงเนี่ยทำไมเราอยากได้
00:17:32 → 00:17:35 อย่างนั้นนะคะการอันนี้คือการฝึกการปล่อย
00:17:35 → 00:17:38 วางอ่ะนะคะแล้วเราก็ทบทวนดูและถามตัวเอง
00:17:38 → 00:17:40 ดูว่าทำไมเราอยากได้ถ้าสิ่งนั้นเนี่ยมัน
00:17:40 → 00:17:44 เป็นรูปธรรมเช่นถ้าเราไม่ได้นะฮะเราจะตก
00:17:44 → 00:17:47 งานเราจะเสียเงินเราจะเป็นอันตรายต่อเรา
00:17:47 → 00:17:49 และคนอื่นอะไรอย่างนี้นะคะถ้าเป็นรูปธรรม
00:17:49 → 00:17:52 อย่างนั้นก็ลองเปลี่ยนโจทย์ใหม่ดูนะคะ
00:17:52 → 00:17:55 เอ่อเพื่อรับมือกับผลกระทบนั้นๆที่จะเกิด
00:17:55 → 00:17:58 ขึ้นนะคะหมายถึงว่าในสิ่งนั้นที่เราอยาก
00:17:58 → 00:18:01 ได้อ่ะนะฮะแต่ถ้าสิ่งที่ตามมานั้นมันเป็น
00:18:01 → 00:18:03 นามธรรมเช่นถ้าเราไม่ได้มันเนี่ยเราจะ
00:18:03 → 00:18:07 เสียใจเราจะปวดใจเราจะหงุดหงิดเราจะผิด
00:18:07 → 00:18:10 หวังอะไรอย่างเงี้ยนะคะเราก็ลองเปิดใจรับ
00:18:10 → 00:18:14 รู้ดูว่าเรากลัวใช่ไหมนะฮะเรากลัวความ
00:18:14 → 00:18:17 เสียใจเรากลัวความเจ็บปวดเรากลัวความ
00:18:17 → 00:18:21 หงุดหงิดใช่ไหมนะฮะถ้าเราเอ่อจะปฏิเสธ
00:18:21 → 00:18:24 หรือจะยอมรับมันเราจะเผชิญมากกับมันยังไง
00:18:24 → 00:18:27 นะคะเราจะได้เตรียมตัวที่จะรับสิ่งเหล่า
00:18:27 → 00:18:28 นั้นเอาไว้
00:18:28 → 00:18:31 อันนี้สิ่งเหล่านี้มันจะต้องฝึกทั้งนั้น
00:18:31 → 00:18:33 แหละค่ะคุณสุรีย์พรไม่ใช่ว่าบอกปั๊บแล้ว
00:18:33 → 00:18:36 มันจะทำได้ฟังดูง่ายนะแต่มันไม่ง่ายนะคะ
00:18:36 → 00:18:39 อย่างที่อาจารย์บอกมาวิธีเพิ่มพลังเหลือ
00:18:39 → 00:18:42 หรือการที่จะต้องแบบปรับมุมมองความคิด
00:18:42 → 00:18:45 หรืออะไรเงี้ยเชื่อว่าหลายคนน่าจะผ่าน
00:18:45 → 00:18:50 อะไรมาบ้างแล้วนะคะแต่อาจบางคนอาจจะยัง
00:18:50 → 00:18:53 ไม่มากพออาจจะต้องเติมในบางข้อเพื่อที่จะ
00:18:53 → 00:18:56 ได้แบบให้มันเขาเรียกอะไรความรู้สึกมัน
00:18:56 → 00:18:59 เข้าใจในสิ่งนั้นสิ่งที่เกิดมากขึ้นแต่ใน
00:19:00 → 00:19:03 ท้ายข้อสุดท้ายการปล่อยวางนี่แหละตัวที่
00:19:03 → 00:19:05 มันเป็นแบบอย่างที่อาจารย์บอกเลยว่ามัน
00:19:05 → 00:19:10 ต้องฝึกเยอะจริงๆนะมากๆเลยเราก็ต้องเข้า
00:19:10 → 00:19:14 ใจแล้วจะปล่อยวางได้ก็ไม่ง่ายนะคะอาจารย์
00:19:14 → 00:19:18 จริงๆแล้วอ่ะเป็นเรื่องที่ใช้ทำอะไร
00:19:18 → 00:19:20 มันเป็นไปตามวัยด้วยนะคะ
00:19:20 → 00:19:25 คือเวลาที่เรากำลังวัยหนุ่มสาวเนี่ยบางที
00:19:25 → 00:19:27 มันจะคิดไม่ได้เท่าไหร่แต่ในเรื่องเดียว
00:19:27 → 00:19:30 กันน่ะเพราะอายุมากขึ้นความคิดหรือวิธี
00:19:30 → 00:19:32 ตัดสินใจเนี่ยมันจะเปลี่ยนไปแล้วนะคะ
00:19:32 → 00:19:35 เพราะฉะนั้นในประเด็นต่างๆที่ได้พูดมา
00:19:35 → 00:19:38 ตั้งแต่ต้นเนี่ยนะคะ 5-6 ประเด็นเนี่ยเรา
00:19:38 → 00:19:41 จะฝึกทั้ง 5 ข้อก็ได้นะคะเราจะเลือกเอา
00:19:41 → 00:19:44 บางข้อก็ได้แต่ขอให้เริ่มฝึกหรือเริ่มทำ
00:19:44 → 00:19:46 เพียงแต่มันเป็นประเด็นต่างๆเพราะบางคน
00:19:46 → 00:19:49 เนี่ยบางข้อดีอยู่แล้วนึกออกไหมคะเพื่อ
00:19:49 → 00:19:52 ที่เราจะมีทางเลือกเอาที่เราสบายใจนะคะ
00:19:52 → 00:19:56 ที่จะทำแต่ขอเตือนว่าถ้าท่านผู้ฟังนะคะ
00:19:56 → 00:20:00 ยังรักที่จะใช้ชีวิตแบบเดิมก็คือแบบลบๆ
00:20:00 → 00:20:02 อ่ะนะคิดอะไรก็เป็นลบเห็นอะไรก็เป็น
00:20:02 → 00:20:05 อุปสรรคหมดไม่คิดจะแก้ไขไม่คิดอะไรและผล
00:20:05 → 00:20:06 ลัพธ์เนี่ยมันก็ทำให้ชีวิตเราเป็นแบบเดิม
00:20:06 → 00:20:10 ยกตัวอย่างเช่นสมมุติว่าเราจะต้องเปลี่ยน
00:20:10 → 00:20:13 งานนะคะแต่เราก็จะกลัวไปหมดแล้วว่า
00:20:13 → 00:20:15 เปลี่ยนแล้วจะอย่างนั้นอย่างนี้ๆอย่าง
00:20:15 → 00:20:17 นั้นอย่างนั้นอย่างงี้นะคะเราก็จะได้ผล
00:20:17 → 00:20:20 ลัพธ์แบบเดิมก็คือถ้าคุณไม่เปลี่ยนงานไม่
00:20:20 → 00:20:23 ย้ายงานคุณก็ต้องทนแบบนั้นน่ะเธอทนเจ้า
00:20:23 → 00:20:25 นายแบบนั้นน่ะงานแบบนั้นน่ะที่คุณไม่ได้
00:20:25 → 00:20:28 รักมันนะฮะหรือทนสภาพแวดล้อมเก่าๆก็ต้อง
00:20:28 → 00:20:30 ยอมรับใช่ไหมคะเพราะฉะนั้นถ้าคุณไม่เปิด
00:20:30 → 00:20:33 โอกาสให้ตัวเองอ่ะชีวิตมันก็ไม่ดีมีอะไร
00:20:33 → 00:20:34 ดีขึ้น
00:20:34 → 00:20:36 นะฮะไม่ว่าจะเป็นเรื่องงานเรื่องชีวิต
00:20:36 → 00:20:38 ส่วนตัวเช่นเรื่องแฟนอย่างเงี้ยเราก็รู้
00:20:38 → 00:20:40 ว่ามันไปไม่ได้แต่เราก็ยื้อกันอยู่อย่าง
00:20:40 → 00:20:43 นั้นน่ะนึกออกไหมคะยื้อกันที่ชีวิตมันก็
00:20:43 → 00:20:45 จะไม่มีอะไรดีขึ้นมันก็ยังเหมือนเดิม
00:20:45 → 00:20:49 เพราะกลัวการเปลี่ยนแปลงกลัวเสียใจกลัว
00:20:49 → 00:20:52 เหงากลัวอะไรอย่างนี้นะคะเพราะฉะนั้นคุณ
00:20:52 → 00:20:54 ก็จะเสียดายโอกาสนะคะเพราะฉะนั้นตรงนี้
00:20:54 → 00:20:57 ไม่มีสิทธิ์ไปโทษฟ้าดินอะไรใดๆทั้งสิ้น
00:20:57 → 00:21:01 มันอยู่ที่คุณเป็นคนตัดสินใจนะฮะเพราะ
00:21:01 → 00:21:04 ฉะนั้นเนี่ยก็ฝากความคำพูดไว้สักนิดนึงนะ
00:21:04 → 00:21:08 คะว่าฝึกการคิดบวกวันละนิดชีวิตจะเป็นสุข
00:21:08 → 00:21:11 ค่ะเชื่อเถอะใช่ไหมคะคือเราอยากจะสุขหรือ
00:21:11 → 00:21:14 ว่าเราอยากจะถูกก็อยู่ที่ความคิดของเรา
00:21:14 → 00:21:17 ใช่ไหมคะมีคำพูดคำพูดนึงค่ะอาจารย์ที่ได้
00:21:17 → 00:21:19 ยินมาบ่อยๆคุณผู้ฟังก็อาจจะเคยได้ยิน
00:21:19 → 00:21:23 สิ่งใดเกิดขึ้นแล้วสิ่งนั้นย่อมดีเสมอค่ะ
00:21:23 → 00:21:26 นะฮะดีหรือไม่ดีไม่รู้แหละแต่อยู่ที่ว่า
00:21:26 → 00:21:28 ตอนนั้นเนี่ยเรารู้สึกว่ามันเป็นเรื่องดี
00:21:28 → 00:21:30 หรือเปล่าค่ะหรือว่ามันเป็นเรื่องที่เรา
00:21:30 → 00:21:34 ยังคงกังวลใจยังหาอะไรไม่ออกยังแบบยังมอง
00:21:34 → 00:21:36 ไม่เห็นทางค่ะแต่ไม่แน่มันอาจจะดีก็ได้
00:21:36 → 00:21:38 ค่ะมันไม่มีอะไรบอกอยากจะให้เป็นอย่างนี้
00:21:38 → 00:21:42 เลยค่ะอาจารย์ค่ะคิดเป็นมุมมองไงคะเออจะ
00:21:42 → 00:21:44 มีความจำเป็นมุมมองของปัญหาเดียวกันน่ะ
00:21:44 → 00:21:48 แต่คนจะมีมุมมองยังไงคือเราไม่ได้มีสูตร
00:21:48 → 00:21:51 สำเร็จตายตัวค่ะคุณผู้ฟังว่าตื่นเช้ามา
00:21:51 → 00:21:53 เราส่องกระจกใช่ไหมคะแล้วมันก็จะมีตัวข้อ
00:21:53 → 00:21:56 ความว่าเธอเป็นคนดีเธอเก่งด้านนี้นะเธอ
00:21:57 → 00:21:59 ไม่ได้มีอะไรบอกมาแบบอย่างนั้นใช่ไหมคะ
00:21:59 → 00:22:02 เราก็ต้องมองตัวเองผ่านกระจกหรือแบบคุย
00:22:02 → 00:22:04 กับตัวเองบ้างมีคนเคยสอนเหมือนกันค่ะ
00:22:04 → 00:22:07 อาจารย์บอกว่าถ้ามีเวลาว่างๆเนี่ยนะคะให้
00:22:07 → 00:22:12 อยู่กับตัวเองแล้วก็ให้ถามตัวเองค่ะให้
00:22:12 → 00:22:15 เขียนมาแบ่งเป็นด้านซ้ายด้านขวาบ้างของ
00:22:15 → 00:22:18 ข้อดีของเราคืออะไรข้อไม่ดีของเราคืออะไร
00:22:18 → 00:22:22 ให้เขียนออกมาคือจะลองอะไรข้อดีเออมันก็
00:22:22 → 00:22:25 มีข้อดีนะอันนี้ไม่ได้เข้าข้างตัวเองบอก
00:22:25 → 00:22:29 ก่อนแล้วก็อ่ามีข้อดีข้อเสียบางอย่างข้อ
00:22:29 → 00:22:32 ดีมันก็เป็นข้อเสียกึ่งๆกันได้เหมือนกัน
00:22:32 → 00:22:35 เราก็เฮ้ยเออเนาะมันก็จะได้มองเห็นตัวเอง
00:22:36 → 00:22:38 แล้วก็อยู่กับตัวเองว่าตลอดที่ทำมาเนี่ย
00:22:38 → 00:22:42 มันมีอะไรที่มันแบบเป็นสิ่งดีๆใช่ค่ะแล้ว
00:22:42 → 00:22:44 ก็อย่างที่อาจารย์บอกมันอยู่ในหัวข้อเลย
00:22:44 → 00:22:48 ค่ะว่าเราไม่มองความสุขเป็นก้อนใหญ่ละไม่
00:22:48 → 00:22:51 รอก้อนใหญ่แล้วเดินระหว่างทางค่ะเฮ้ยน้อง
00:22:51 → 00:22:55 หมาน่ารักซอยมันเป็นเรื่องเล็กๆเล็กๆวัน
00:22:55 → 00:22:58 นี้แบบเฮ้ยงานเสร็จเว้ยไม่ต้องค้างงาน
00:22:58 → 00:23:02 พรุ่งนี้ก็กลับบ้านไปจะได้ดูซีรีย์มีความ
00:23:02 → 00:23:05 สุขเฮ้ยมีความสุขกับสิ่งเหล่านี้ได้เออ
00:23:05 → 00:23:08 ไม่ได้แบบต้องไปรอว่าเราจะต้องเติบโตใน
00:23:08 → 00:23:11 หน้าที่การงานก่อนนะเราถึงจะมีความสุขจะ
00:23:11 → 00:23:14 มีความสุขโอ้โหไม่งั้นไม่เจอใช่ฮะไม่เห็น
00:23:14 → 00:23:18 จริงๆคือมันได้อะไรจากที่แบบประสบการ
00:23:18 → 00:23:23 เรื่องของอายุค่ะที่เราจะมองที่แบบเออมอง
00:23:23 → 00:23:27 โลกเปลี่ยนไปไม่มองโลกสวยเลยค่ะไม่มองโลก
00:23:27 → 00:23:30 ในแง่ร้ายเหมือนเมื่อก่อนแล้วจะมองตาม
00:23:30 → 00:23:33 ความเป็นจริงเห็นคนนี้เป็นแบบนี้อืมๆๆไม่
00:23:33 → 00:23:34 เป็นไรหรอก
00:23:34 → 00:23:38 คนนี้อย่างนี้เฮ้ยดีสนับสนุนให้กำลังใจ
00:23:38 → 00:23:42 พูดคำดีๆให้เขาเขาจะได้มีความสุขอะไร
00:23:42 → 00:23:44 อย่างเงี้ยค่ะมันๆโอ้โหมันสอนมากแต่เหลือ
00:23:44 → 00:23:45 ข้อเดียว
00:23:45 → 00:23:50 ปล่อยวางยากมากเลยอาจารย์คุณผู้ฟังลองทำ
00:23:50 → 00:23:53 ดูมันเป็นวัยด้วยไงคะวัยของคุณสุรีย์พร
00:23:53 → 00:23:55 เนี่ยการปล่อยวางมันอาจจะยังยากอยู่แต่
00:23:55 → 00:23:58 ไม่ได้แปลว่าต้องรอให้แก่นะคะอ่ะมันอยู่
00:23:58 → 00:24:01 ที่ว่าบางทีอย่างเอ่อเราอยากจะช่วยคนๆนี้
00:24:01 → 00:24:05 นะฮะช่วยเขาเต็มที่แล้วยังไงๆแต่ในที่สุด
00:24:05 → 00:24:07 เขาไม่เอาอ่ะ
00:24:07 → 00:24:11 เราแนะนำวิธีที่เขาจะแก้ปัญหาตรงนี้ไปได้
00:24:11 → 00:24:14 เป็นหมื่นวิธีแต่เขาเลือกวิธีที่เราไม่
00:24:14 → 00:24:17 โอเคอ่ะอืม
00:24:17 → 00:24:19 ก็ในที่สุดเราก็ต้องปล่อยวางว่านั่นคือ
00:24:19 → 00:24:23 ชีวิตเขาถูกมั้ยคะพอเป็นแบบนี้ค่ะอาจารย์
00:24:23 → 00:24:26 บางทีเราก็ต้องแบบดูบริบทของเค้าด้วยว่า
00:24:26 → 00:24:28 ทำไมเขาถึงทำแบบเราไม่ได้ไม่ใช่เหมือนว่า
00:24:28 → 00:24:31 อึ้ยเขาต้องทำได้เหมือนเราสิเราทำมาแล้ว
00:24:31 → 00:24:34 เราผ่านมาแล้วบางทีปัจจัยบางอย่างในชีวิต
00:24:34 → 00:24:36 เขามันไม่ได้เอื้อมของเราเพราะฉะนั้นไม่
00:24:36 → 00:24:39 ใช่คนที่เราแนะนำด้วยนะคะแม้แต่บอสเราอ่ะ
00:24:39 → 00:24:42 เจ้านายเราอ่ะจริงไหมล่ะนะฮะเราทำงานมา
00:24:42 → 00:24:44 สมมุติเรามีประสบการณ์เราบอกเขาตั้งหลาย
00:24:44 → 00:24:47 วิธีว่าอย่างงี้แต่เขาจะเลือกวิธีของเขา
00:24:47 → 00:24:50 อ่ะซึ่งเรารู้ว่ามันตันน่ะแต่เราก็ต้องทำ
00:24:50 → 00:24:52 ใช่ไหมคะเพราะยังไงเขาก็เป็นนายนะคะ
00:24:52 → 00:24:54 ขอบคุณ
00:24:54 → 00:24:57 ปวดหัวปวด
00:24:57 → 00:25:01 ก็ต้องยอมค่ะแต่นี่ก็เป็นแนวทางให้คุณผู้
00:25:01 → 00:25:03 ฟังเพราะว่าเราไม่สามารถที่จะบอกว่าต้อง
00:25:03 → 00:25:06 ทำนะต้องอะไรนะเพราะว่าแต่ละคนมี
00:25:06 → 00:25:09 ประสบการณ์ไม่เหมือนกันวันนี้คุณผู้ฟัง
00:25:09 → 00:25:12 ฟังแล้วอาจจะแบบเฮ้ยมันไม่น่าทำได้ขนาด
00:25:12 → 00:25:15 นั้นไม่แน่วันนึงคุณผู้ฟังพอย้อนกลับมาจะ
00:25:15 → 00:25:18 รู้สึกว่าอ้าวก็ทำได้นี่แล้วก็จะรู้สึก
00:25:18 → 00:25:21 ว่าเออก็มีความสุขก็เพิ่มพลังบวกให้กับ
00:25:21 → 00:25:25 ตัวเองได้แล้วก็ปล่อยพลังบวกให้คนอื่น
00:25:25 → 00:25:26 บ้างเพราะตอนนี้รู้สึกดีใจมากเลยค่ะ
00:25:26 → 00:25:28 อาจารย์นอกจากมีอาจารย์เป็นพลังบวกของ
00:25:28 → 00:25:31 ศิริพรแล้วยังได้เพิ่มมาอีก 1 คนด้วยค่ะ
00:25:31 → 00:25:35 อีกคนนึงที่เราได้มาแบบงงๆแต่ก็ได้ความ
00:25:35 → 00:25:37 จริงใจได้พลังบวกมีอะไรปุ๊บเนี่ยค่ะเจอ
00:25:37 → 00:25:40 ปุ๊บต้องขอกอดตลอด
00:25:40 → 00:25:43 ตัวเข้าไปอยู่กับคนที่มีพลังบวกเยอะๆนะคะ
00:25:43 → 00:25:48 ใช่ค่ะใช่นะอ่ะก็เป็นแนวทางให้แล้วเนาะก็
00:25:48 → 00:25:51 คงจะได้ให้คุณผู้ฟังได้มีความสุขกันตลอด
00:25:51 → 00:25:55 ตลอดไปเลยอ่าไม่ต้องรอปีพ.ศไหนเลยนะคะวัน
00:25:55 → 00:25:58 นี้ขอบคุณอาจารย์ด้วยค่ะยินดีค่ะสวัสดี
00:25:58 → 00:26:58 ค่ะ
00:26:58 → 00:27:01 หลายๆอย่างเพราะว่ายกตัวอย่างเช่นถ้าคน
00:27:01 → 00:27:03 ไข้ก่อนหน้านี้ไม่เคยเป็นลมพิษเลยเพิ่งไป
00:27:03 → 00:27:06 รับประทานอาหารมานะครับสักประมาณชั่วโมง 2
00:27:06 → 00:27:10 ชั่วโมงโหผื่นลมพิษลำทั้งตัวอันนี้จะเข้า
00:27:10 → 00:27:13 definition ของฉับพลันถ้าแบบฉับพลัน
00:27:13 → 00:27:15 เนี่ยเราต้องระวังในกลุ่มพวกกลุ่มที่แพ้
00:27:15 → 00:27:20 อาหารแพ้ยานะครับแพ้แมลงนะครับแล้วก็มัน
00:27:20 → 00:27:22 อาจจะเป็นจากการติดเชื้อหรืออะไรที่
00:27:22 → 00:27:25 กระตุ้นได้แบบฉับพลันนะครับแล้วถ้าแบบไม่
00:27:25 → 00:27:27 ฉับพลันเนี่ยตัวนี้มันเป็นได้หลายอย่าง
00:27:27 → 00:27:30 มากเลยนะครับแล้วในปัจจุบันเจอเยอะด้วยนะ
00:27:30 → 00:27:32 ครับเนาะอย่างคนไข้เวลามีการติดเชื้อต่าง
00:27:32 → 00:27:35 ๆขึ้นมายกตัวอย่างเช่นโควิดก็ได้นะครับ
00:27:35 → 00:27:37 เนาะหรือได้รับวัคซีนโควิดมาเงี้ยครับนะ
00:27:37 → 00:27:40 สักประมาณอ่าเดือนนึงเกือบๆเดือนนึงเนี่ย
00:27:40 → 00:27:43 ผมเริ่มรู้สึกมีลมพิษขึ้นเกือบทุกวันโดย
00:27:43 → 00:27:44 ที่ไม่สัมพันธ์กับอาหารไม่สำคัญกับอะไร
00:27:44 → 00:27:46 พวกเนี้ยอาจจะสัมพันธ์กับภูมิคุ้มกันของ
00:27:46 → 00:27:49 เราที่มันเพียงไปนะครับที่ทำให้สั่งการ
00:27:49 → 00:27:52 ที่ทำให้ผื่นลมพิษอ่ะมันเกิดขึ้นมาแล้ว
00:27:52 → 00:27:53 คราวนี้เกิดขึ้นได้ทุกวันโดยไม่มีปัจจัย
00:27:54 → 00:27:56 กระตุ้นก็ได้หรือถ้าเกิดว่าแบบไม่ฉับพลัน
00:27:57 → 00:28:00 ก็อาจจะเป็นเซลล์ที่ทำให้เกิดผื่นลมพิษ
00:28:00 → 00:28:03 เองนะครับเนาะซึ่งเซลล์นี้ดันถูกกระตุ้น
00:28:03 → 00:28:06 ด้วยอะไรที่ไม่ควรทำให้เกิดผื่นลมพิษนะ
00:28:06 → 00:28:09 ครับเช่นความร้อนความเย็นการออกกำลังกาย
00:28:09 → 00:28:12 ต่างๆพวกนี้กระตุ้นได้หมดเลยเวลาการแพ้
00:28:12 → 00:28:15 จริงๆมันมีอาการได้หลายระบบมากๆไม่ใช่แค่
00:28:15 → 00:28:19 ผิวหนังนะครับและการแพ้แพ้จริงๆเราจะแบ่ง
00:28:19 → 00:28:21 เป็นการแพ้ฉับพลันกับไม่ฉับพลันอีกลักษณะ
00:28:21 → 00:28:23 ของผื่นลมพิษเนี่ยเวลาเราเป็นมักจะเป็น
00:28:23 → 00:28:25 การแพ้ฉับพลันเช่นเรารับประทานอาหารไป
00:28:25 → 00:28:28 เนี่ยภายใน 6 ชั่วโมงเรามักจะเกิดถ้าเรา
00:28:28 → 00:28:30 แพ้อาหารชนิดนั้นและในนี้สำคัญมากๆเพราะ
00:28:30 → 00:28:33 ว่าเวลาไปเจอคุณหมอเนี่ยคุณหมอจะซัก
00:28:33 → 00:28:35 ประวัติละเอียดมากและอยากให้คนไข้เนี่ยทบ
00:28:35 → 00:28:37 ทวนอาหารทั้งหมดที่รับประทานด้วยนะครับ
00:28:37 → 00:28:40 เพราะว่าต้องบอกว่าเดี๋ยวนี้เราเจอคนไข้
00:28:40 → 00:28:44 ที่แพ้อาหารเยอะมากขึ้นเรื่อยๆอาหารที่
00:28:44 → 00:28:47 เคยทานมาได้ตลอดเราก็เพิ่งมาแพ้ได้นะครับ
00:28:47 → 00:28:50 เราเพิ่งเจอแบบคนที่อ่าแพ้แป้งสาลีเนี่ย
00:28:50 → 00:28:53 ส่วนใหญ่ที่เจออ่ะเยอะสุดอายุประมาณ 30
00:28:53 → 00:28:56 ปลายๆ 40 ทั้งๆที่เคยกินขนมปังมาได้ตลอด
00:28:56 → 00:29:00 เพราะแพกุ้งก็จะแพ้ประมาณสักอายุ 20 ทั้ง
00:29:00 → 00:29:02 ๆที่ก่อนหน้าเนี้ยไม่เคยทานมาได้ตลอดทาน
00:29:02 → 00:29:05 บุฟเฟ่ต์เลยด้วยซ้ำเช่นเดียวกัน 2 ถ้า
00:29:05 → 00:29:06 ฝั่งตะวันตกเขาทานพวกนี้นัดพวกถั่วเยอะ
00:29:06 → 00:29:09 เขาก็แพ้พี่นัดเยอะมากเพราะฉะนั้นเนี่ย
00:29:09 → 00:29:11 ตรงเนี้ยก็คือลักษณะของการแพ้เนี่ยถ้า
00:29:11 → 00:29:13 เป็นฉับพลันเนี่ยจริงๆมันเป็นได้หลายระบบ
00:29:13 → 00:29:16 เหมือนกันนะครับแต่ถ้าเป็นผื่นลมพิษเนี่ย
00:29:16 → 00:29:19 มันชอบเป็นลักษณะที่เป็นการแพ้แบบฉับพลัน
00:29:19 → 00:29:22 ทีนี้นะครับระบบอื่นๆของการแพ้มันมีได้
00:29:22 → 00:29:25 เหมือนกันนะครับอย่างเช่นหายใจไม่ออกหลอด
00:29:25 → 00:29:28 ลมตีบแล้วก็อาจจะมีความดันตกช็อกเลยได้
00:29:28 → 00:29:31 ถ้ารุนแรงบางรายอาจจะมีถ่ายเหลวเยอะๆปวด
00:29:31 → 00:29:34 ท้องมากๆได้พวกนี้ถ้ามีอาการส่องใน 4
00:29:34 → 00:29:36 ระบบนะครับที่เมื่อกี้ผมพูดมามี 4 อาการ
00:29:36 → 00:29:39 ของอาการทางผิวหนังอาการทางระบบทางเดิน
00:29:39 → 00:29:42 หายใจอาการทางระบบทางเดินอาหารแล้วก็
00:29:42 → 00:29:44 อาการทางระบบหัวใจและหลอดเลือดที่ความดัน
00:29:44 → 00:29:46 ตกนะครับแล้ววูบหมดสติพวกนี้นะครับถ้ามี 2
00:29:46 → 00:29:49 ใน 4 ระบบถือว่าเป็นอาการแพ้รุนแรงซึ่ง
00:29:49 → 00:29:57 ถึงชีวิตได้ครับ
00:29:57 → 00:30:00 ติดตามรายการทางเว็บไซต์และแอปพลิเคชั่น
00:30:00 → 00:30:02 ของไทยทีเด็ดขาด
00:30:02 → 00:30:05 spotify Sound Cloud Google podcast
00:30:05 → 00:30:08 Apple podcast และ YouTube Channel
00:30:08 → 00:30:11 Thai PBS กด Class ใช้ PBS Plus
00:30:11 → 00:30:15 beautiful
00:30:15 → 00:30:20 [เพลง]