00:00:00 → 00:00:03 วันนี้นะคะเรามีเรื่องพูดคุยที่น่าสนใจ
00:00:03 → 00:00:06 มากๆค่ะเป็นหัวข้อที่เกี่ยวกับไลฟ์สไตล์
00:00:06 → 00:00:10 นะของคนยุคใหม่กับสุขภาพกระดูกฟังถึงตรง
00:00:10 → 00:00:12 เนี้ยหลายคนก็อาจจะสงสัยเอ๊ะพอพูดถึง
00:00:12 → 00:00:15 เรื่องกระดูกเนี่ยก็จะนึกถึงผู้สูงวัย
00:00:15 → 00:00:17 หรือว่าคนที่แบบอายุเยอะๆไปแล้วแล้วถ้าคน
00:00:17 → 00:00:19 ที่เป็นวัยรุ่นวัยทำงานหรือว่าเด็กเนี่ย
00:00:19 → 00:00:21 มีโอกาสที่จะมีปัญหาเกี่ยวกับกระดูกหรือ
00:00:21 → 00:00:24 เปล่าวันเนี้ยเราจะได้พูดคุยกับคุณหมอผู้
00:00:25 → 00:00:27 เชี่ยวชาญอย่างแน่นอนซึ่งวันนี้นะคะทุกคน
00:00:27 → 00:00:30 ก็อยู่กับปาล์มปรางคณิตบุญคุณเผยแล้วก็
00:00:30 → 00:00:34 พี่ขวัญกมลพรนะคะพร้อมกับคุณหมอผู้เชี่ยว
00:00:34 → 00:00:37 ชาญเรื่องกระดูกจริงๆคุณหมอแนะนำตัวค่ะ
00:00:37 → 00:00:39 เชิญคุณหมอได้ครับสวัสดีครับคุณปาลมครับ
00:00:39 → 00:00:41 แล้วก็สวัสดีท่านสวัสดีค่ะครับแล้วก็
00:00:41 → 00:00:43 สวัสดีท่านผู้ชมนะครับที่อยู่ที่บ้านทุก
00:00:43 → 00:00:45 ท่านนะครับผมก็นายแพทย์ธนวัฒน์
00:00:45 → 00:00:48 อัพันทรัพย์นะครับปัจจุบันก็ดำมองตำแหน่ง
00:00:48 → 00:00:50 เป็นประธานศูนย์ความเป็นเลิศโรคกระดูกพุน
00:00:50 → 00:00:53 และโรคกระดูกในผู้สูงอายุกลุ่มงานออโปดิ์
00:00:53 → 00:00:56 โรงพยาบาลตำรวจครับค่ะขอบคุณคุณหมอมากวัน
00:00:56 → 00:00:59 นี้เราได้รับเกียรติจากคุณหมอนะพี่ขวัญมา
00:00:59 → 00:01:02 ร่วมพูดคุยในรายการสุขภาพดี 22:00 น.มาสด
00:01:02 → 00:01:05 ๆถึงที่สตูดิโอเลยดังนั้นแล้วเนี่ยคุณผู้
00:01:05 → 00:01:07 ชมคุณผู้ฟังที่รับฟังจากทางบ้านไม่ว่าจะ
00:01:07 → 00:01:10 เป็นทาง Facebook Live หรือว่า YouTube
00:01:10 → 00:01:14 รวมถึงผู้ฟังที่อยู่ทางคลื่น FM 100.5 5
00:01:14 → 00:01:16 ก็สามารถส่งคำถามกันมาได้รัวๆหรือว่าทัก
00:01:16 → 00:01:19 ทายคุณหมอก็ได้คุณหมอหล่อมากนะวันเนี้ย
00:01:19 → 00:01:23 ขอบคุณครับค่ะอืค่ะเพราะว่าจริงๆแล้ว
00:01:23 → 00:01:25 เรื่องเอ่อของกระดูกเนี่ยมันไม่จำเป็น
00:01:25 → 00:01:27 ต้องเป็นแบบผู้สูงอายุเท่านั้นจริงๆแล้ว
00:01:27 → 00:01:32 ถ้าเราเริ่มดูแลกระดูกกันตั้งแต่เอ่ออายุ
00:01:32 → 00:01:35 อยู่ในวัยรุ่นหรือวัยทำงานความเสื่อมของ
00:01:35 → 00:01:37 กระดูกในช่วงที่เป็นผู้สูงอายุเนี่ยก็จะ
00:01:37 → 00:01:40 มีต้นทุนมากกว่าคนที่ไม่ได้ดูแลอันนี้
00:01:40 → 00:01:42 เป็นความเข้าใจที่ถูกต้องมั้คะคุณหมอคะ
00:01:42 → 00:01:44 เอ่อถูกต้องเลยครับคุณขวัญคืออย่างงี้คือ
00:01:44 → 00:01:47 ถ้าว่าเกิดย้อนไปเมื่อ 10 ปีที่แล้วเนี่ย
00:01:47 → 00:01:50 เราเข้าใจว่าโรคกุดพุนนั้นจะเจอในผู้สูง
00:01:50 → 00:01:52 วัยหรือว่าคนหลังหมดประจำเดือนโดยเฉพาะ
00:01:52 → 00:01:56 เพศหญิงเท่านั้นแต่ณปัจจุบันนี้นะครับเรา
00:01:56 → 00:01:58 เชื่อว่าโรคกระดุพุนเองนั้นเอ่อภาษา
00:01:58 → 00:02:00 อังกฤษเขาเรียกว่าเป็น life span
00:02:00 → 00:02:02 disease ก็คือว่าจริงๆแล้วเนี่ยมันสะสม
00:02:02 → 00:02:05 มาตั้งแต่เด็กแล้วมีการศึกษาในต่างประเทศ
00:02:05 → 00:02:08 นะครับพบว่าเรื่องของโรคกระดูกพุนเนี่ย
00:02:08 → 00:02:10 หรือว่าต้นทุนของกระดูกครับตามที่เอ่อทาง
00:02:10 → 00:02:13 คุณขวาได้แจ้งมาเนี่ยประเด็นคือเราจะมีคำ
00:02:13 → 00:02:16 ว่าพบ mas คำว่าพีคmasสคือพอเราเริ่มอายุ
00:02:16 → 00:02:19 ประมาณ 25-30 ปีอ่ะเราจะมีการสะสมของ
00:02:19 → 00:02:22 กระดูกนั้นมากที่สุดตอนช่วงเวลาเอ่อตอน
00:02:22 → 00:02:25 ตอนช่วงวัยนี้แต่การที่เราจะสะสมมาได้จน
00:02:25 → 00:02:28 ถึงอายุ 25-30 ปีเนี่ยมันต้องสะสมตั้งแต่
00:02:28 → 00:02:30 อยู่ในท้องแม่แล้วนะครับเขาเลยใช้คำว่า
00:02:30 → 00:02:32 เป็นไ span disease ก็คือว่าจริงๆแล้ว
00:02:32 → 00:02:35 เนี่ยเราอ่ะตั้งแต่เด็กที่อยู่ในท้องคุณ
00:02:35 → 00:02:37 แม่เนี่ยครับแต่ว่าเกิดคุณแม่ท่านนั้นดู
00:02:37 → 00:02:40 แลสุขภาพได้ดีนะครับเช่นกินอาหารที่มี
00:02:40 → 00:02:42 ปริมาณแคลเซียมเพียงพอได้รับวิตามินดีที่
00:02:42 → 00:02:45 เพียงพอพอรวมทั้งดูแลสุขภาพตัวเองได้ดีๆ
00:02:45 → 00:02:48 แล้วทำให้ลูกนะครับได้รับตัวสารวิตามิน
00:02:48 → 00:02:50 หรือว่าแคลเซียมได้เพียงพอเนี่ยมีการ
00:02:50 → 00:02:53 ศึกษาในต่างประเทศพบว่าถ้าเกิดว่าเรา
00:02:53 → 00:02:56 สามารถที่จะทำให้มวลกระดูกนะครับเพิ่ม
00:02:56 → 00:02:59 ขึ้นได้ถึง 13% ตอนช่วง 20 ครั้ง 30 ปี
00:02:59 → 00:03:02 สามารถที่จะทำให้เกิดการเลื่อนหรือว่าการ
00:03:02 → 00:03:05 เป็นโรคกระดูกพุนได้ถึง 10 ปีเลยทีเดียว
00:03:05 → 00:03:09 โอก็สามารถยืดระยะเวลาไปได้อีกอ๋อนั่น
00:03:09 → 00:03:12 นั่นแปลว่าไม่ใช่แค่พฤติกรรมในระหว่างที่
00:03:12 → 00:03:14 เราจะเข้าสู่วัยผู้ใหญ่หรือว่าวัยผู้สูง
00:03:14 → 00:03:16 อายุแต่ตั้งแต่เกิดได้เลยใช่ครับอันนี้
00:03:16 → 00:03:17 คือเหมือนกับว่าเป็นการป้องกันตั้งแต่
00:03:17 → 00:03:20 เริ่มแรกค่ะดังนั้นเถอะดีสุดก็คือว่าเกิด
00:03:20 → 00:03:23 เราดูได้ตั้งแต่ตอนเด็กๆเลยแล้วสามารถทำ
00:03:23 → 00:03:25 ให้มวลกระดูกนั้นสูงสุดได้แสดงว่าเรามี
00:03:25 → 00:03:28 ต้นทุนที่ดีพอแล้วเวลาผู้หญิงเราหมดประจำ
00:03:28 → 00:03:30 เดือนเช่นตอนอายุ 50 ปีเราหมดประจำเดือน
00:03:30 → 00:03:32 เรียบร้อยและอหลังจากนั้นล่ะครับที่สิ่ง
00:03:32 → 00:03:34 ที่เราหลีกเลี่ยมไม่ได้ตามธรรมชาติคือมวล
00:03:34 → 00:03:36 กระดูกนั้นจะลดลงอย่างรวดเร็วตามฮอร์โมน
00:03:36 → 00:03:40 เอสโตรเจนที่เราหายไปออใช่ครับดังนั้นเอง
00:03:40 → 00:03:42 ถือว่าเรามีมวลเอ่อกระดูกหรือต้นทุนที่
00:03:42 → 00:03:45 มากพอเนี่ยเวลาเรามีการสูญเสียเหมือนกับ
00:03:45 → 00:03:47 เราเก็บสะสมเงินไว้อ่ะครับพอถึงช่วงที่
00:03:47 → 00:03:50 เราต้องสูญเสียเงินเนี่ยเราก็จะมีโอกาส
00:03:50 → 00:03:53 ที่จะอยู่กับเงินก้อนนี้ได้นานกว่าใช่
00:03:53 → 00:03:56 ครับแล้วสิ่งที่ตามมาครับคือโรคกระดุกพุน
00:03:56 → 00:03:58 นั้นไม่มีอาการครับเพราะฉะนั้นจะมาจริงๆ
00:03:58 → 00:04:00 เนี่ยซึ่งปัจจุบันผมเจอบ่อยๆโดยเฉพาะในคน
00:04:00 → 00:04:03 ไข้คนไทยคือกว่าจะรู้ตัวทีนึงก็คือกระดูก
00:04:03 → 00:04:06 หักเรียบร้อยแล้วออซึ่งนั้นมันก็จะสาย
00:04:06 → 00:04:09 เกินไปแล้วใช่ครับค่ะก็คือจะไม่ได้มี
00:04:09 → 00:04:12 อาการเตือนก่อนหน้านั้นอ่อนๆแอดแอดคือไป
00:04:12 → 00:04:14 อีกทีคือด้วยอาการยังไงส่วนใหญ่จะหกล้ม
00:04:14 → 00:04:17 แล้วก็กระดูกหักครับอ่าแล้วก็ไปตรวจอีกที
00:04:17 → 00:04:20 ก็เลยรู้ว่าเป็นกระดูกพุนใช่ครับอ่าแล้ว
00:04:20 → 00:04:22 แนวทางในการรักษาล่ะคะคุณหมอเมื่อถูก
00:04:22 → 00:04:25 วินิจฉัยว่าเป็นโรคกระดูกทุนแล้วคุณหมอ
00:04:25 → 00:04:27 เนี่ยจะทำยังไงต่อครับก็นี้เอ่อส่วนใหญ่
00:04:27 → 00:04:30 จะเจอในผู้สูงอายุนะครับเดี๋ยวเอ่อยกตัว
00:04:30 → 00:04:32 อย่างเช่นถ้าเกิดว่าเกิดอายุสัก 50 ต้นๆ
00:04:32 → 00:04:35 ถึง 60 ส่วนใหญ่ก็กระดูกที่หักได้บ่อยๆนะ
00:04:35 → 00:04:37 ครับจะมีอยู่ 3 ตำแหน่งด้วยกันนะครับไอ้
00:04:37 → 00:04:39 ก่อนที่จะไปเรื่องของเอ่อการรักษานะครับ
00:04:39 → 00:04:43 ก็คือว่าเอ่อเอ่อ 1 คือกระดูกข้อมือจะหัก
00:04:43 → 00:04:45 ง่ายอย่างเช่นเราเดินอยู่แล้วสะดุดล้มอ่ะ
00:04:45 → 00:04:46 นะครับอันนี้ต้องเป็นอุบัติเหตุที่ไม่
00:04:46 → 00:04:49 รุนแรงด้วยนะครับย้ำนะครับว่าไม่ใช่เกิด
00:04:49 → 00:04:52 จากถูกรถชนหรือว่าไม่ได้เกิดจากแบบตกจาก
00:04:52 → 00:04:54 ที่สูงอ่ะนะครับอันนี้คือแค่เดินๆอยู่
00:04:54 → 00:04:57 แล้ว 6 ล้มหรือว่าตกในระดับความสูงประมาณ
00:04:57 → 00:04:59 1 เมตอย่างเงี้ยซึ่งโดยปกตินั้นเราไม่
00:04:59 → 00:05:01 ควรจะกระดูกหักถูกมั้ยครับแต่ถ้าว่าเกิด
00:05:01 → 00:05:03 เอ่อเราแค่เนี้ยแล้วหักได้แล้วเนี่ยก็
00:05:03 → 00:05:05 แสดงว่ากระดูกเราน่าจะมีปัญหาและตำแหน่ง
00:05:05 → 00:05:07 ที่หักบ่อยๆมี 3 ตำแหน่งด้วยกันครับตาม
00:05:07 → 00:05:09 ที่ผมได้แจ้งไว้อันแรกคือเรื่องของกระดูก
00:05:09 → 00:05:11 ข้อมือ 2 คือกระดูกกรุสันหลังครับพวกนี้
00:05:11 → 00:05:14 จะมาด้วยกรุสันหลังทรุดนะครับหรือว่ามา
00:05:14 → 00:05:16 ด้วยอาการตัวเตี้ยลงหลังคคร่อมมากขึ้นพวก
00:05:16 → 00:05:19 นี้อาจจะมีอาการปวดหลังเป็นไปหายๆครับ
00:05:19 → 00:05:21 แล้วก็สุดท้ายที่เจอได้บ่อยๆตอนอายุ
00:05:21 → 00:05:25 ประมาณ 70-80 ปีก็คือกระดูกสะโพกหักครับ
00:05:25 → 00:05:28 เช่นเดินๆอยู่แล้วหกล้มหรือว่าเอ่อแบบตก
00:05:28 → 00:05:29 จากเก้าอี้แล้วกระดูกสะโพกหักอันเนี้ย
00:05:29 → 00:05:32 ครับแสดงว่าเราต้องสงสัยและว่าเราอาจจะ
00:05:32 → 00:05:35 เป็นโรคกระดูกพุนด้วยนะครับแม้ว่าในทาง
00:05:35 → 00:05:37 การแพทย์โดยเฉพาะทางเอ่อคุณหมอออโถเอง
00:05:37 → 00:05:39 เนี่ยเก็จะมีหน้าที่ในการผ่าตัดครับอย่าง
00:05:39 → 00:05:42 เช่นว่าเกิดกระดูกข้อมือหักนะครับก็อาจจะ
00:05:42 → 00:05:45 ดึงเข้าที่แล้วก็ใส่เฟืออ่อนหรือว่าผ่า
00:05:45 → 00:05:47 ตัดว่าเกิดเราเอ่อเกิดเอ่อมันเคลื่อนเยอะ
00:05:47 → 00:05:49 อย่างเงี้นะครับแต่ถ้าเกิดกระดูกสลังซุด
00:05:49 → 00:05:51 เองเนี่ยสิ่งที่เกิดตามมาคือเราก็จะรู้
00:05:51 → 00:05:54 สึกว่าตัวเตี้ยลงหลังครอบมากขึ้นซึ่งหลัก
00:05:54 → 00:05:55 การรักษาของกระดูกสันหลังทรุดก็มีด้วยกัน
00:05:55 → 00:05:58 2 แบบด้วยกันคืออาจจะใส่เป็นตัวชุดเกาะ
00:05:58 → 00:06:00 ว่าเกิดมันไม่ได้ทรุดเยอะมากหรือว่าไม่
00:06:00 → 00:06:02 ได้ไปกดเรื่องของเส้นประสาทนะครับเพราะ
00:06:02 → 00:06:04 ว่าเกิดมันเป็นเยอะๆเนี่ยมันสามารถไปกดไข
00:06:04 → 00:06:06 สัรมไปกดเส้นประสาทก็ทำให้มีอาการปวด
00:06:06 → 00:06:08 อย่างรุนแรงหรือว่าทำให้เกิดอาการอ่อนแรง
00:06:08 → 00:06:11 ได้ถ้าเกิดเงี้ยเนี่ยต้องผ่าตัดนะครับ
00:06:11 → 00:06:13 เพื่อเอาไอ้กระดูกที่มันทรุดแล้วมันไปกด
00:06:13 → 00:06:16 เส้นประสาทเนี่ยเอาออกเพื่อไปรักษาสาเหตุ
00:06:16 → 00:06:18 แต่ถือว่าเกิดเป็นกระดูกสะโพกหักอันเนี้ย
00:06:18 → 00:06:20 ครับ 100% ต้องผ่าตัดครับเพราะไม่งั้น
00:06:20 → 00:06:22 เดินไม่ได้แล้วกระดูกมันไม่ติดได้ด้วยตัว
00:06:22 → 00:06:24 เองครับหรือว่าถ้าเกิดติดก็ติดแบบผิดรูป
00:06:24 → 00:06:27 ก็ทำให้ถือว่าเราไม่ผ่าตัดคนไข้ก็จะมา
00:06:27 → 00:06:29 ด้วยเอ่อปัญหาคือคล้ายๆกับเชิงพิการเพราะ
00:06:29 → 00:06:32 คนไข้ก็จะมีอาการขาสั้นไม่เท่ากันเวลา
00:06:32 → 00:06:34 เดินก็อาจจะเดินไม่ได้หรือว่าต้องนั่งรถ
00:06:34 → 00:06:36 เข็มไปตลอดชีวิตดังนั้นเองก็ต้องจบด้วย
00:06:36 → 00:06:39 การผ่าตัดโดยการใส่เหล็กเทนอาจจะเปลี่ยน
00:06:39 → 00:06:41 กระดูกปลูกสะโพกเทียมหรือว่าเป็นการใส่
00:06:41 → 00:06:44 เหล็กเพื่อยึดดามให้กระดูกมันติดครับซึ่ง
00:06:44 → 00:06:47 พวกนี้มันก็เป็นภาระทั้งตัวคนไข้เองคนดู
00:06:47 → 00:06:50 แลเป็นอย่างมากอืใช่ครับอันนี้คือเป็นการ
00:06:50 → 00:06:52 รักษาทางด้านแผนกกระดูกนะครับแต่สิ่งที่
00:06:52 → 00:06:55 ต้องเน้นย้ำคือเราก็ต้องรักษาเหตุด้วย
00:06:55 → 00:06:57 ซึ่งในที่นี้คือเรื่องของกระดูกพุนนั่น
00:06:57 → 00:07:00 เองเราก็ต้องมีการรับประทานแคลเซียม
00:07:00 → 00:07:03 วิตามินดีนะครับรวมทั้งอาจจะมีการให้ยา
00:07:04 → 00:07:05 รักษาโรคกระดูกพุนซึ่งมีหลายรูปแบบเลย
00:07:05 → 00:07:07 ครับแล้วก็ราคาค่อนข้างสูงด้วยแล้วก็
00:07:07 → 00:07:10 ปัจจุบันก็ส่วนใหญ่จะเบิกจ่ายไม่ได้ในส
00:07:10 → 00:07:13 ประกันสังคมก็ยาทีนึงก็เป็นหมื่นเหมือน
00:07:13 → 00:07:18 กันครับออคือมันดูแบบอลังการไปหมดตั้งแต่
00:07:18 → 00:07:22 ขาดตัดใช่ครับการพักซื้อยาใช่ครับแล้วก็
00:07:23 → 00:07:26 ต้องรักษาเหตุด้วยค่ะใช่ครับแล้วก็บางคน
00:07:26 → 00:07:28 เองก็ถือว่าเกิดญาติดูแลไม่ไหวก็ต้องไป
00:07:28 → 00:07:31 อยู่ที่ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุแทนค่ะซึ่งค่า
00:07:31 → 00:07:33 ใช้จ่ายเดือนนึงเดือนนึงก็ไม่ใช่ถูกๆเลย
00:07:33 → 00:07:35 ครับบางทีก็ 3-40,000 โหหรือไม่งั้นถือ
00:07:35 → 00:07:37 ว่าเกิดไม่มีเงินก็ต้องลาออกจากงานครับ
00:07:37 → 00:07:41 ญาติต้องลาออกจากงานมาเพื่อดูแลคุณพ่อคุณ
00:07:41 → 00:07:46 แม่ดูแลอืน่าเป็นห่วงมากเลยนี่แบบอันตราย
00:07:46 → 00:07:49 กว่าที่คิดนะคะเนี่ยใช่เพราะว่าพอฟัง
00:07:49 → 00:07:52 อย่างนี้แล้วนะปาล์มการเริ่มต้นในการดูแล
00:07:52 → 00:07:55 กระดูกตั้งแต่ช่วงที่อยู่ในวัยหนุ่มสาว
00:07:55 → 00:07:59 อยู่ก่อนที่เราจะถึงช่วงอายุที่ 25-30 ปี
00:07:59 → 00:08:01 ที่คุณหมอบอกว่าจะเป็นช่วงที่เหมือน
00:08:01 → 00:08:04 กระดูกเอ่อได้มีมวลกระดูกมากสุดมีมวล
00:08:04 → 00:08:07 กระดูกมากสุดใช่มั้คะอันเนี้ยคือ
00:08:07 → 00:08:10 ไลฟ์สไตล์ของคนยุคเนี้ยคนยุคใหม่กับ
00:08:10 → 00:08:12 สุขภาพกระดูกก็เลยเป็นเรื่องที่ฝันอยาก
00:08:12 → 00:08:15 พูดคุยกับคุณหมอในวันนี้คนยุคใหม่อ่ะค่ะ
00:08:15 → 00:08:17 คุณหมอมีพฤติกรรมอะไรบ้างที่เสี่ยงต่อ
00:08:17 → 00:08:20 สุขภาพกระดูกอาจจะไม่โดยแบบทำไปโดยไม่รู้
00:08:20 → 00:08:24 ตัวอะไรอย่างเงี้ยอ่ะถ้าหลายๆคนที่เอ่อพอ
00:08:24 → 00:08:27 จะนึกออกเนี่ยใช่หรือเปล่าสำหรับการดื่ม
00:08:27 → 00:08:30 กาแฟที่เยอะไปหรือมีตัวอย่างอื่นๆมั้ยคะ
00:08:30 → 00:08:32 คุณหมอคะครับจริงๆแล้วต้องขอขอบคุณทางคุณ
00:08:32 → 00:08:34 ขวัญและรายการมากเลยนะครับที่เชิญผมมาพูด
00:08:34 → 00:08:37 ในวันนี้เพราะส่วนใหญ่นั้นเอ่อจะพูดใน
00:08:37 → 00:08:39 เอ่อผู้ฟังส่วนอยากเป็นผู้สูงอายุนะครับ
00:08:39 → 00:08:42 แต่ว่าผมดีใจมากเลยเพราะจริงๆผมมีการโทร
00:08:42 → 00:08:44 กลับไปคุยกับคุณขวัญด้วยซ้ำว่าเออเนี่ย
00:08:44 → 00:08:46 ชอบหัวข้อนี้มากเพราะว่าเรามาลงลึกแต่แรก
00:08:46 → 00:08:48 ครับจริงๆแล้วต้องแจ้งครับว่าวันนี้ที่
00:08:48 → 00:08:51 เรามาคุยกันน่ะพูดง่ายนะครับทฤษฎีง่ายมาก
00:08:51 → 00:08:53 เลยครับแต่ทำค่อนข้างยากอืเพราะว่ามัน
00:08:53 → 00:08:56 ต้องอาศัยอาการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมนะครับ
00:08:56 → 00:08:57 แล้วก็ปรับเปลี่ยนแนวคิดด้วยครับแล้วก็
00:08:57 → 00:09:00 มันไม่ใช่ว่าเอ่อเราทำปุ๊บเห็นผลปั๊บมัน
00:09:00 → 00:09:02 ต้องอาศัยระยะเวลาครับแล้วก็บางครั้งเอง
00:09:02 → 00:09:04 ตามที่บอกครับว่าโรคกระดูกพุนนั้นไม่มี
00:09:04 → 00:09:06 อาการครับเพราะฉะนั้นว่าเกิดไม่มีอาการ
00:09:06 → 00:09:09 ครับคนเราก็ไม่อยากทำครับก็ทำไปก็เห็นมี
00:09:09 → 00:09:12 ความแตกต่างเลยเช่นเราจะออกกำลังกายทำไม
00:09:12 → 00:09:14 ทำไมฉันต้องงดบุหรี่ทำไมฉันต้องงดกาแฟ
00:09:14 → 00:09:16 ซึ่งเดี๋ยวผมจะมีการกล่าวไอ้รายละเอียด
00:09:16 → 00:09:17 ต่อไปนะครับว่าทำไมฉันต้องทำพวกนี้ทั้ง
00:09:17 → 00:09:21 หมดทั้งที่ฉันชอบอืใช่มั้ยฮะแล้วเพื่อ
00:09:21 → 00:09:23 อะไรครับเพื่อรออีก 20-30 ปีข้างหน้าแล้ว
00:09:23 → 00:09:26 ก็ดูจพรุนใช่ครับบางทีฉันอาจจะไปก่อนก็
00:09:26 → 00:09:28 ได้เพราะฉะนั้นทำไมฉันต้องทำแต่ตอนนี้นะ
00:09:28 → 00:09:30 ครับจริงๆแล้วเนี่ยโครงการพวกเนี้ยเช่น
00:09:30 → 00:09:33 สส.เองเงี้ยครับเค้าก็มีเอ่อโครงการเช่น
00:09:33 → 00:09:36 เรื่องของการรณรงค์ให้กินนมตั้งแต่เด็ก
00:09:36 → 00:09:39 ใช่มั้ครับแต่ว่าเราทำมากันไป 10 ปีะแต่
00:09:39 → 00:09:41 จริงๆแล้วก็ต้องพูดตรงๆว่าอาจจะไม่ค่อย
00:09:41 → 00:09:43 ได้ผลมากนักไม่ได้ช่วยขนาดนั้นเออจริงๆ
00:09:44 → 00:09:46 ช่วยครับแต่ประเด็นคือเอ่อเราไม่ได้จริง
00:09:46 → 00:09:49 จังขนาดนั้นครับก็คือเราแค่โลลงว่าโอเค
00:09:49 → 00:09:51 ให้เด็กดื่มนมนะแต่พอผลที่สุดถามว่าณ
00:09:51 → 00:09:53 ปัจจุบันโครงการเหล่าเนี้ยยังมีอยู่มั้ย
00:09:54 → 00:09:55 ใช่มั้ยครับเราแทบจะไม่ได้พูดถึงเลยว่า
00:09:55 → 00:09:58 เออเด็กๆต้องกินนมนะใช่มั้ยครับเอ่อดัง
00:09:58 → 00:10:00 นั้นเองครับก็ถือว่าเกิดมาพูดถึงเรื่อง
00:10:00 → 00:10:02 ของวัยรุ่นกับพฤติกรรมณตอนนี้นะครับผม
00:10:02 → 00:10:05 เชื่อว่าเอ่อกิจกรรมเอ่อพฤติกรรมปัจจุบัน
00:10:05 → 00:10:09 นั้นเอ่อต้องพูดตรงๆว่าแย่กว่าสมัยก่อน
00:10:09 → 00:10:11 เยอะโอ้โหนะครับเพราะว่าอย่างงี้ครับ
00:10:11 → 00:10:14 เพราะสมัยก่อนเองเนี่ยครับเราเข้าใจมั้
00:10:14 → 00:10:17 ว่าปัจจุบันครับทุกๆอย่างครับเราขยับขยาย
00:10:17 → 00:10:21 เอ่อเราขยับร่างกายบ้างบ้างหรือเปล่าอัน
00:10:21 → 00:10:22 นี้ภาษาอังกฤษเ้าเรียกว่า sinyestyle
00:10:22 → 00:10:25 ครับคือเป็นพฤติกรรมเอาอันนี้ของเราพูด
00:10:25 → 00:10:27 แค่เอาแค่คนกรุงเทพฯก็พอเนาะแต่ต่าง
00:10:27 → 00:10:29 จังหวัดเนี้ยมักมักจะดีกว่าเราเพราะต่าง
00:10:29 → 00:10:31 จังหวัดนั้นมักจะไม่ค่อยมีเทคโนโลยีอะไร
00:10:31 → 00:10:34 มากมายนักหรือว่าอาจจะมีการขยับร่างกาย
00:10:34 → 00:10:37 มากกว่าเช่นเอ่อออกเอ่อมีการเดินบ้างนะ
00:10:38 → 00:10:40 ครับไม่ได้ขับรถนะครับมีการไปออกกำลังกาย
00:10:40 → 00:10:42 บ้างแล้วก็รถไม่ได้ติดใช่มั้ครับสมมติว่า
00:10:42 → 00:10:44 เกือบพืเอ่อไอ้พูดถึงพฤติกรรมของคนโดย
00:10:44 → 00:10:47 เฉพาะในกรุงเทพฯเนี่ยบอกเลยครับว่ามีความ
00:10:47 → 00:10:49 เสี่ยในการเกิดโรคคุณทุนสูงมากครับค่ะเอา
00:10:49 → 00:10:52 แง่ตั้งแต่นะครับเรื่องของการทำงานครับ
00:10:52 → 00:10:54 เช่นยกตัวอย่างครับเช่นผมเองอย่างเงี้ย
00:10:54 → 00:10:56 ครับเวลาอยู่โรงพยาบาลครับเอ่อตื่นมาแต่
00:10:56 → 00:10:59 เช้าครับถึงโรงพบาลตั้งแต่ 7:00 น.กว่าจะ
00:10:59 → 00:11:01 เลิกงานครับเช่นวันเนี้ยกว่าผมจะเลิกงาน
00:11:01 → 00:11:04 20:00 น.อไม่เคยไปโดนแดดเลยครับอืเพราะ
00:11:04 → 00:11:06 นั้นก็คือเรานั่งแต่อยู่ในห้องครับนั่ง
00:11:06 → 00:11:09 ตรวจคนไข้ยืนผ่าตัดนั่งผ่าตัดก็ตามแต่ถาม
00:11:09 → 00:11:11 ว่าไม่เคยโดนแดดเลยครับอือากาศข้างนอกไม่
00:11:11 → 00:11:14 ได้สัมผัสเลยใช่ครับเพราะฉะนั้นทำไมแดด
00:11:14 → 00:11:17 ถึงสำคัญครับเพราะแดดนั้นมันเป็นตัวที่
00:11:17 → 00:11:19 สำคัญโดยเฉพาะ UVB ในการสังเคราะห์
00:11:19 → 00:11:21 วิตามินดีที่ผิวหนังครับอืดังนั้นเองครับ
00:11:21 → 00:11:24 คนไทยมักจะเข้าใจผิดครับว่าประเทศไทยอ่ะ
00:11:24 → 00:11:27 ร้อนทั้งปีครับมีแค่ร้อนมากร้อนน้อยฝนตก
00:11:27 → 00:11:29 มากฝนตกน้อยเพราะฉะนั้นคนไทยไม่เคยขาด
00:11:29 → 00:11:31 วิตามินดีซึ่งในความเป็นจริงนั้นจากงาน
00:11:31 → 00:11:33 วิจัยที่ผมทำเองก็ตามหรือว่ามีงานวิจัย
00:11:34 → 00:11:36 จากหลายๆที่เลยครับที่ทำการศึกษาในคนไทย
00:11:36 → 00:11:39 ครับเพราะว่าคนไทยขาดวิตามินดีถึง 80%
00:11:39 → 00:11:42 ครับโอเพราะอะไรครับใช่ครับเพราะอะไรครับ
00:11:42 → 00:11:45 ลองมองดูครับเราเคยไปโดนแดดจริงมั้อ่ะ
00:11:45 → 00:11:48 ครับผู้หญิงเองครับต้องทาครีมกันแดดใส่
00:11:48 → 00:11:51 เสื้อมิชิดครับซึ่ง UVB ครับไม่ผ่านผิว
00:11:51 → 00:11:54 เอ่อไม่ผ่านเสื้อผ้าครับไม่ผ่านกระจกนะ
00:11:54 → 00:11:56 ครับแม้ว่าเราจะไปเดินก็ตามครับแต่ว่า
00:11:56 → 00:12:00 เกิดเราเนี่ยทาครีมกันแดดแสงก็ไม่ได้
00:12:00 → 00:12:01 สามารถไปสังเคราะห์วิตามินยินดีที่ผิว
00:12:01 → 00:12:04 หนังได้ครับอืดังนั้นหมายความว่าแม้ว่า
00:12:04 → 00:12:07 เราจะไปโดนแดดบ้างครับเวลาเรากางร่มนะ
00:12:07 → 00:12:09 ครับเดินก็เดินอยู่ตามเงาตึกอย่างเงี้ย
00:12:09 → 00:12:12 ครับโอกาสก็แทบจะไม่ได้โดนแดดเลยนะครับ
00:12:12 → 00:12:15 อันนี้ประเด็นแรกแล้วนะครับประเด็นที่ 2
00:12:15 → 00:12:17 ครับเราไม่ค่อยขยับร่างกายครับกระดูกนั้น
00:12:17 → 00:12:20 เป็นอวัยวะที่มีชีวิตนะครับอหมายความว่า
00:12:20 → 00:12:22 กระดูกนั้นมันเจริญเติบโตได้หรือเกิดความ
00:12:22 → 00:12:24 แข็งแรงได้โดยเฉพาะทั้งคุณภาพและปริมาณ
00:12:24 → 00:12:27 ของกระดูกที่จะดีขึ้นได้ครับมันต้องมีการ
00:12:27 → 00:12:30 กระแทกมีการลงน้ำหนักครับถามว่าณปัจจุบัน
00:12:30 → 00:12:32 นะครับโดยเฉพาะพาออฟฟิศเองคุณหมอเอง
00:12:32 → 00:12:35 พยาบาลเองครับเดินสักกี่ชั่วโมงต่อวัน
00:12:35 → 00:12:38 ครับเดินได้สักกี่ก้าวต่อวันครับเพราะ
00:12:38 → 00:12:40 ฉะนั้นตอนนี้เราลรงๆให้เดินกัน 19,000
00:12:40 → 00:12:42 ต่อวันหรือประมาณสัก 5 กถูกมั้ครับแต่ถาม
00:12:42 → 00:12:45 ว่าชีวิตของพวกเราเองเช่นเอ่อคุณปอนดเอง
00:12:45 → 00:12:48 คุณปาล์มเออคุณปาล์มเองตอนเครับเดินสัก
00:12:48 → 00:12:51 กี่ก้าวต่อวันครับนั่งซะส่วนใหญ่ครับใช่
00:12:51 → 00:12:53 นั่งอยู่หน้าคอมซะส่วนใหญ่ใช่ครับเออ
00:12:53 → 00:12:55 เพราะฉะนั้นอันนี้ครับก็เป็นพฤติกรรมที่
00:12:55 → 00:12:58 กระดูกนั้นมันไม่มีการลงน้ำหนักเลยครับอื
00:12:58 → 00:12:59 เพราะฉะนั้นอันนี้ก็เป็นพฤติกรรมนึงครับ
00:12:59 → 00:13:02 ว่านอกจากทำให้กระดูกไม่ดีแล้วยังทำให้
00:13:02 → 00:13:04 ปวดหลังง่ายด้วยค่ะนะครับแล้วทำให้น้ำ
00:13:04 → 00:13:06 หนักขึ้นอีกต่างหากอืใช่มั้ยครับโรคทั้ง
00:13:06 → 00:13:09 หลายตามมาครับมเพราะพฤติกรรมการกินอีกนะ
00:13:09 → 00:13:11 ครับเช่นเมื่อกี้ทางคุณขวัญถามมาว่าเนี่ย
00:13:11 → 00:13:14 พวกชากาแฟน้ำอัดลมมีผลมั้ยอันนี้ตอบแล้ว
00:13:14 → 00:13:18 ครับมีครับเพราะว่าตัวชากาแฟน้ำอัดลมอ่ะ
00:13:18 → 00:13:21 ครับมีตัวคาเฟอีนครับซึ่งคาเฟอินีนตัว
00:13:21 → 00:13:24 เนี้ยครับมีตัวเอ่อถือว่าเกิดกินในปริมาณ
00:13:24 → 00:13:26 ที่มากเกินไปนะครับก็คือเอ่อจากการศึกษา
00:13:26 → 00:13:29 นี่ว่ากินประมาณสัก 200 มิลกรัมขึ้นไป
00:13:29 → 00:13:31 เนี่ยไม่ดีหรอกครับเพราะว่าตัวเอ่อไอ้
00:13:31 → 00:13:34 คาฟีอินเองครับมีหน้าที่คือมันทำให้การ
00:13:34 → 00:13:37 ดูดซึมแคลเซียมที่เรากินจากในอาหารเข้าไป
00:13:37 → 00:13:40 เนี่ยดูดซึมได้น้อยลงครับอืรวมทั้งเป็น
00:13:40 → 00:13:43 การขับแคลเซียมออกทางปัสสาวะด้วยครับหมาย
00:13:43 → 00:13:45 ความว่าปกติเรากินแคลเซียมจากในอาหารได้
00:13:45 → 00:13:48 น้อยอยู่แล้วนะครับพอเรากินคาเฟอีนเช่น
00:13:48 → 00:13:52 กาแฟน้ำอัดลมนะครับแล้วก็ชาบางอย่างนะ
00:13:52 → 00:13:54 ครับเอ่อที่ยกเว้นคือพวกชาเขียวถ้าเกิด
00:13:54 → 00:13:57 แต่ชาเขียวเนี่ยได้นะครับเอ่อถือว่าเกิด
00:13:57 → 00:13:59 กินอย่างงี้แล้วครับนอกจากเรากินแคลเซียม
00:13:59 → 00:14:03 ยังไอ้ไอยังไม่พอครับยังไปกินสารที่ขับ
00:14:03 → 00:14:06 แคลเซียมออกอีกอย่างเช่นอะไรคะคุณหมอก็
00:14:06 → 00:14:08 ที่แจ้งไปเมื่อกี้ครับก็คือกาแฟขับออกมา
00:14:08 → 00:14:11 เลยใช่ครับก็คือถือว่าเกิดกินใช่ครับถือ
00:14:11 → 00:14:12 ว่าเกิดกินไอ้คาเฟอินเกิน 200 มกรคือ
00:14:12 → 00:14:15 เปรียบเทียบง่ายๆคือประมาณเอ่อ 2 แก้วอื
00:14:16 → 00:14:18 ต่อวันใช่ครับหรือว่าประมาณ 200 ซีซเอ่อ
00:14:18 → 00:14:20 200 ซีซก็คือประมาณว่าเกิดบางคนก็คือ
00:14:20 → 00:14:23 ประมาณ 1 แก้วอ่ะครับค่ะใช่ครับแค่เนี้ย
00:14:23 → 00:14:26 ครับก็ทำให้ขับปัสสาวะเป็นแคลเซียมออกมา
00:14:26 → 00:14:30 หมดแล้วโอโอ้โหใช่ครับอุ๊ยเกี่ยวก็ดูด้วย
00:14:30 → 00:14:33 เนาะใช่ครับอครับขวัญต้องเปลี่ยนพฤติกรรม
00:14:33 → 00:14:36 การกินกาแฟเลยนะคะคุณหมอเพราะว่าเกินแน่
00:14:36 → 00:14:39 นอนครับแล้วก็มีน้ำอัดลมด้วยนะครับเพราะ
00:14:39 → 00:14:41 น้ำอัดลมเนี่ยโดยเฉพาะไอ้น้ำไอ้น้ำอัดลม
00:14:41 → 00:14:43 สีดำนะครับคือผมคือผมไม่ได้บอกยี่ห้อเนาะ
00:14:43 → 00:14:46 ก็สีดำแบบไหนก็ตามครับอันเนี้ยก็จะมีตัว
00:14:46 → 00:14:48 คาเฟอีนค่อนข้างเยอะแม้ว่าจะเป็นเอ่อแบบ
00:14:48 → 00:14:50 ไม่มีน้ำตาลแล้วไม่มีแคลอรี่แล้วครับแต่
00:14:50 → 00:14:52 เขาก็ยังมีผสมตัวคาเฟอีนอยู่นะครับถือว่า
00:14:52 → 00:14:55 เกิดกินในปริมาณที่มากเกินไปพวกนี้เอง
00:14:55 → 00:14:57 เนี่ยนอกจากตัวคาเฟอีนจะมีผลที่กระดูก
00:14:57 → 00:15:00 เรื่องของแคลเซียมตามที่ผมได้จะเอ่อได้
00:15:00 → 00:15:02 กล่าวไปแล้วเนี่ยยังมีอีกอันนึงคือมีการ
00:15:02 → 00:15:05 ศึกษาพบว่าคนที่มีพฤติกรรมการกินน้ำอัดลม
00:15:05 → 00:15:08 เป็นประจำค่ะจะมีพฤติกรรมการกินอาหารที่
00:15:09 → 00:15:11 ไม่ค่อยครบ 5 หมู่ค่ะแล้วก็พฤติกรรมของ
00:15:12 → 00:15:14 การใช้ชีวิตนั้นจะไม่ค่อยดีครับใช่มั้
00:15:14 → 00:15:17 ครับก็คือตรงไปตรงมาเหมือนคุณหมอกำลังพูด
00:15:17 → 00:15:19 ถึงปากอยู่จริงๆแล้วผมไม่ได้ว่าใครเนาะ
00:15:19 → 00:15:22 เพราะว่าพวกนี้เองเพราะว่าส่วนใหญ่ครับพอ
00:15:22 → 00:15:24 เรากินปุ๊บฮะที่เกิดขึ้นคืออะไรครับท้อง
00:15:24 → 00:15:26 เราก็จะอืดครับเพราะอะไรมันมีแก๊สถูกมั้ย
00:15:26 → 00:15:28 ครับเออแล้วก็ถว่าเกิดมีแก๊สเสร็จปุ๊บ
00:15:28 → 00:15:30 สิ่งที่ตามมาคืออะไรน้ำหนักก็จะขึ้นครับ
00:15:30 → 00:15:33 เพราะว่าเอ่อเบาหวานก็จะตามมาครับเบาหวาน
00:15:33 → 00:15:35 นั้นเป็นปัจจัยที่สำคัญมากเลยนะครับที่ทำ
00:15:35 → 00:15:37 ให้เป็นโรคกระดูกพุนเช่นกันอืดังนั้น
00:15:37 → 00:15:39 เนี่ยมันก็คือทั้งทางตรงคืออะไรครับตัว
00:15:40 → 00:15:42 คาเฟอีนมีผลต่อกระดูกโดยตรงและแถมถือว่า
00:15:42 → 00:15:44 เกิดเราควบคุมน้ำตาไม่ดีพอพอเป็นเบาหวาน
00:15:44 → 00:15:47 ปุ๊บโรคเบาหวานเก็ก็จะเป็นทางอ้อมครับที่
00:15:47 → 00:15:50 ทำให้กระดูกนั้นเกิดอาการพุนได้อนะครับ
00:15:50 → 00:15:53 ไอ้นอกจากนี้เองนะครับก็ยังมีนะครับการ
00:15:53 → 00:15:56 สูบบุหรี่ครับสูบบุหรี่นั้นตัวสารนิโคติน
00:15:56 → 00:15:58 นะครับไม่ว่าจะเป็นการสูบบุหรี่ปกติหรือ
00:15:58 → 00:16:01 วัตถุบุหรี่แบบเบบุหรี่ไฟฟ้าก็ตามเนี่ยก็
00:16:01 → 00:16:03 ตัวนิโคตินเองนั้นมีผลต่อเซลล์กระดูกโดย
00:16:03 → 00:16:07 ตรงครับทำให้เซลล์ในการสร้างกระดูกนั้น
00:16:07 → 00:16:10 ตายไปครับค่ะก็ทำให้เอ่อการสร้างกระดูก
00:16:10 → 00:16:14 นั้นมันไม่ดีพอค่ะนะครับอันนี้คือพูดถึง
00:16:14 → 00:16:16 ตัวบุหรี่นะครับนอกจากนี้เองก็ยังมีตัว
00:16:16 → 00:16:19 เรื่องของแอลกอฮอล์ครับตัวแอลกอฮอล์เองนะ
00:16:19 → 00:16:22 ครับนอกจากทำให้ตัวเอ่อกระดูกนั้นไม่ดี
00:16:23 → 00:16:24 แล้วยางเพิ่มปัจจัยเสียอีกอันนึงครับหก
00:16:25 → 00:16:28 ล้มง่ายพอหกล้มง่ายกระดูกไม่
00:16:28 → 00:16:31 ตามกระดูกหักเพราะฉะนั้นเกิดดื่ม
00:16:31 → 00:16:33 แอลกอฮอล์ 2 เลยครับคือกระดูกไม่ดีแล้ว
00:16:33 → 00:16:35 เกิดกินแบบเป็นประจำแล้วระยะเวลานานนะ
00:16:35 → 00:16:39 ครับแล้วก็เอ่อหกล้มง่ายก็ยิ่งหักครับโห
00:16:39 → 00:16:42 ยิ่งเป็นภัยต่อกระดูกเลยคือสิ่งที่คุณหมอ
00:16:42 → 00:16:44 พูดมาเมื่อสักครู่เกี่ยวกับเรื่องของ
00:16:45 → 00:16:47 อาหารการกินเนี่ยไม่เพียงแต่ส่งผลต่อ
00:16:47 → 00:16:50 กระดูกเนาะคือมันมีโรคอื่นๆที่เกี่ยวข้อง
00:16:50 → 00:16:52 อย่างแน่นอนพวกน้ำอัดลมคาเฟอีนเกี่ยวกับ
00:16:52 → 00:16:56 พวกระดับน้ำตาลเบาหวานไขมันแล้วก็นิโคติน
00:16:56 → 00:16:58 เนี่ยที่สูบุหรี่ก็มีผลต่อเซลล์กระดูกโดย
00:16:58 → 00:17:00 ตรงที่คุณหมอบอกใช่นอกจากว่าเป็นมะเร็ง
00:17:00 → 00:17:02 ปอดแล้วนะครับอืใช่ครับก็แล้วแต่ว่าก็
00:17:02 → 00:17:05 เลือกเอาครับว่าจะวิตจากอะไรก่อนใช่มั้ย
00:17:05 → 00:17:07 ถือว่าเป็นมะเร็งก่อก็ไปใช่ครับแน่แต่โดน
00:17:07 → 00:17:10 แน่ๆเปอร์เซ็นต์สูงมากคุณหมอคะอันนี้คือ
00:17:10 → 00:17:13 อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงแล้วอาหารที่เราควร
00:17:13 → 00:17:16 ทานนอกจากนมมีอะไรบ้างคะก็อย่างงี้ครับ
00:17:16 → 00:17:18 เอ่ออาหารควรต้องแบ่งเป็น 2 กลุ่มนะครับ
00:17:18 → 00:17:19 เพราะเมื่อกี้ที่ผมกล่าวไปจริงๆแล้วมันมี
00:17:19 → 00:17:21 กลุ่มอื่นครับแต่ว่าเดี๋กล่าวในละเอียด
00:17:21 → 00:17:24 ต่อไปเอ่อตัวแรกก็คือว่าตัวแคลเซียมครับ
00:17:24 → 00:17:26 แคลเซียมครับจริงๆประเทศไทยโชคดีครับเรา
00:17:26 → 00:17:29 มีอาหารพวกเอ่อที่มีแคลเซียมค่อนข้างเยอะ
00:17:29 → 00:17:32 อืยกตัวอย่างเช่นนะครับตามที่ทางคุณปาบอก
00:17:32 → 00:17:35 เลยคือนมครับหาง่ายมากค่ะนะครับแต่ว่าอาจ
00:17:35 → 00:17:38 จะมีข้อยกเว้นคือเอ่ออาจจะมีเอ่อเอ่อเค้า
00:17:38 → 00:17:41 เรียกว่าเอ่อประชาชนบางท่านไม่สามารถดื่ม
00:17:41 → 00:17:45 น้มได้นะครับเช่นอาจจะมีเรื่องของเอ่อแพ้
00:17:45 → 00:17:47 เอ่อเค้าเรียกว่าไม่ไม่สามารถย่อยแลคโตส
00:17:47 → 00:17:51 ได้นะครับก็จะมาด้วยอาการกินปุ๊บท้องเสีย
00:17:51 → 00:17:53 หรือไม่สบายท้องอันเนี้ก็เป็นข้อยกเว้น
00:17:53 → 00:17:55 ว่าโอเคอาจจะต้องไปกินกลุ่มอื่นแทนแต่ว่า
00:17:55 → 00:17:57 สิ่งที่ง่ายสุดคือนมเนี่ยแหละครับไม่ว่า
00:17:57 → 00:17:59 จะเป็นเอ่อแต่ว่าไอ้สิ่งที่มากสุดก็คือมา
00:18:00 → 00:18:03 จากนมวัวนะครับนมวัวอ่าลองลงมาก็คือเป็น
00:18:03 → 00:18:07 นมจากพืชนมพืชครับแต่นมข้าวโพดไม่มี
00:18:07 → 00:18:09 แคลเซียมนะครับออ่าเพราะฉะนั้นต้องแบ่ง
00:18:09 → 00:18:12 ด้วยเพราะทั้งหมดเนี่ยครับนมข้าวโพดไม่มี
00:18:12 → 00:18:13 แคลเซียมนะครับแต่มีประโยชน์ทางด้านอื่น
00:18:14 → 00:18:16 นะไม่งั้นไม่งั้นเดี๋ยวเดี๋คนผลิตนมข้าว
00:18:16 → 00:18:19 โพดจะมาโจมตีผมเนาะใช่ครับจริงๆแล้วนม
00:18:19 → 00:18:20 ข้าวโพดก็มีประโยชน์ในส่วนของเขาแต่ว่า
00:18:20 → 00:18:23 ถามว่าแต่ถ้าว่าเกิดพูดถึงแคลเซียมเนี่ย
00:18:23 → 00:18:26 นมข้าวโพดไม่ค่อยมีประโยชน์มีแคลเซียม
00:18:26 → 00:18:29 ข้างน้อยแต่ว่านมที่ผมจะคือนมจากวัวนี่
00:18:29 → 00:18:32 แหละครับเออง่ายมากเลยคืออัตราส่วน 1:1
00:18:32 → 00:18:36 ครับคือ 1 ซลเซียม 1 มลกรัมอืใช่ครับ
00:18:36 → 00:18:38 เพราะฉะนั้นผมต้องย้อนก่อนว่าคนเรานะครับ
00:18:38 → 00:18:40 ต้องการแคลเซียมตัวเล็กกลมๆเลยคือประมาณ
00:18:40 → 00:18:44 1,000 -1,200 มิลกัมต่อวันสำหรับคนท้อง
00:18:44 → 00:18:47 กับคนผู้สูงอายุหรือว่าคนที่เป็นโรคุคูณ
00:18:47 → 00:18:49 เรียบร้อยแล้วเนี่ยต้องการแคลเซียม 1,000
00:18:49 → 00:18:54 ถึง 1,200 มลกัมต่อวันค่ะซึ่งถามว่าเอ่อ
00:18:54 → 00:18:57 จากการศึกษานะครับเอ่อในเอ่อที่ขอนแก่นนะ
00:18:57 → 00:18:59 ครับโดยอาจารย์ฉัตเลิศเนี่ยก็มีการศึกษา
00:18:59 → 00:19:03 พบว่าเอ่อปริมาณแคลเซียมที่คนไทยได้เนี่ย
00:19:03 → 00:19:06 เฉลี่ยให้ดาวครับประมาณกี่มิลลิกัมต่อวัน
00:19:06 → 00:19:08 แบบกินอาหารเต็มที่แล้วนะครับให้เดาฮะคิด
00:19:08 → 00:19:11 ว่าถึงครึ่งนึงมั้ฮะไม่ถึงครึ่งนะครับถูก
00:19:11 → 00:19:14 ต้องครับได้ประมาณแค่ 400 เองครับอออัน
00:19:14 → 00:19:17 นี้คือขนาดกินแบบเต็มที่แล้วนะครับได้แค่
00:19:17 → 00:19:18 400 มิลกรัมเองครับเพราะฉะนั้นอีกครึ่ง
00:19:18 → 00:19:21 นึงครับถือว่าเกิดวัยรุ่นหรือว่าอายุยัง
00:19:21 → 00:19:23 ไม่เยอะพอไหวครับแต่ถ้าเกิดอายุมากคือเรา
00:19:23 → 00:19:25 เนี่ยคุณต้องกินแคลเซียมเสริมและอนะครับ
00:19:25 → 00:19:27 ดังนั้นเองก็ต้องย้อนมาครับว่าเออแล้วนอก
00:19:27 → 00:19:29 จากนมแล้วมีที่ไหนอีกนะครับเมื่อกี้ผม
00:19:29 → 00:19:31 กล่าวไปแล้วว่านมง่ายสุดเท่าไหร่ครับเรา
00:19:31 → 00:19:33 กิน 1 ซีซได้ 1 มลิกรัมหมายความว่าเรา
00:19:33 → 00:19:36 ต้องการประมาณ 500 มลกัต่อวันก็คือกินนม 2
00:19:36 → 00:19:39 กล่องต่อวันครับเพราะกล่องนึงประมาณ 250
00:19:39 → 00:19:41 ซีซก็กินมื้อเช้ามื้อนึงอ่าแล้วก็มื้อ
00:19:41 → 00:19:44 เย็นอีกมื้อนึงในกรณีที่ไม่แพ้นมนะครับนะ
00:19:44 → 00:19:47 ครับแต่ถ้าเกิดแพ้นมก็มีอย่างอื่นต่อครับ
00:19:47 → 00:19:50 เช่นพวกกุ้งฝอยปลาตัวเล็กตัวน้อยนะครับ
00:19:51 → 00:19:53 กะปิก็มีเยอะนะครับผักใบเขียวก็มีเยอะนะ
00:19:53 → 00:19:55 ครับแต่ต้องเน้นย้ำว่าเป็นผักใบเขียวแบบ
00:19:55 → 00:19:59 ชนิดด้านใช่เป็นผักใบเขียวแบบมันอย่าง
00:19:59 → 00:20:01 เช่นนะครับเพราะว่าเอ่อถือว่าเกิดด้านๆ
00:20:01 → 00:20:05 เช่นผักคะน้าครับอืผักโหมผักกวางตุ้ง
00:20:05 → 00:20:07 อย่างเงี้ยครับนะครับพวกนี้เองนั้นจะมี
00:20:07 → 00:20:09 แคลเซียมค่อนข้างเยอะแต่ถามว่ามันก็เป็น
00:20:09 → 00:20:12 กากบใยครับคนเราคงไม่สามารถกินผักได้วัน
00:20:12 → 00:20:15 นึงเป็นกิโลกิโลครับอ๋อซึมซัดไม่ได้ครับ
00:20:15 → 00:20:17 ดังนั้นเองเนี่ยบางคนก็ไม่ยอมกินผักด้วย
00:20:17 → 00:20:20 ซ้ำค่ะใช่มั้ยครับดังนั้นอีกใช่ครับถูก
00:20:20 → 00:20:22 ต้องครับดังนั้นเองครับก็เลยบอกว่าเรา
00:20:22 → 00:20:25 ต้องกินอาหารให้หลากขายครับยกตัวอย่าง
00:20:25 → 00:20:26 เช่นอาหารที่มีเยอะๆแล้วมีอีกอันนึงคือ
00:20:26 → 00:20:29 เต้าหู้ครับกับผลิตภัณฑ์ของนมนะครับบางคน
00:20:29 → 00:20:31 กินนมไม่ได้ไม่เป็นไรครับไปกินโยเกิร์ตไป
00:20:31 → 00:20:34 กินชีสก็ได้ครับค่ะเอ่าซึ่งอันเนี้ยก็มี
00:20:34 → 00:20:36 ประมาณแคลเซียมสูงนะครับแล้วก็ถือว่าเกิด
00:20:36 → 00:20:38 เราเนี่ยมีกินนมส่วนใหญ่หลังๆครับ
00:20:38 → 00:20:41 ผลิตภัณฑ์ที่เขามาเก็จะมีแอดตัวแคลเซียม
00:20:41 → 00:20:44 อยู่และซึ่งพวกเนี้ยก็ทำให้เราเนี่ยกินนม
00:20:44 → 00:20:46 ปริมาณเท่ากันแต่เราได้แคลเซียมเพิ่มขึ้น
00:20:46 → 00:20:49 เพราะว่าเขาใส่เข้ามาอแต่ถ้าว่าเกิดใน
00:20:49 → 00:20:51 เมืองนอกครับแต่ประเทศไทยยังไม่มีนะครับ
00:20:51 → 00:20:53 เขาจะแอดแคลเซียมเข้าไปในน้ำผลไม้ด้วยค่ะ
00:20:54 → 00:20:56 นะครับเช่นใส่ไปในน้ำส้มอย่างเงี้ยครับนะ
00:20:56 → 00:20:58 ครับแต่ของเรานั้นยังไม่มีใช่ครับดังนั้น
00:20:59 → 00:21:01 เองจริงๆมันมีแหล่งที่ได้จากในอาหารค่อน
00:21:01 → 00:21:03 ข้างเยอะนะครับสำหรับตัวแคลเซียมตามที่
00:21:03 → 00:21:05 หมอได้แจ้งไปนะครับเมนูอาหารอย่างเช่น
00:21:05 → 00:21:08 เป็นพวกผัดไทยอย่างเงี้ยครับเพะผัดไทย
00:21:08 → 00:21:10 นั้นเราก็จะมีกุ้งใช่มั้ยเช่นเรากินกุ้ง
00:21:10 → 00:21:13 แห้งมีตัวเต้าหู้ครับแล้วก็ข้าวคุกกะปิ
00:21:13 → 00:21:16 ครับข้าวคุกกะปิเนี่ยเราได้กะปินะครับตัว
00:21:16 → 00:21:19 กะปิเนี่ยทำมาจากเคยครับเคยนั้นก็เป็น
00:21:19 → 00:21:21 กุ้งแบบนึงอืใช่ครับเพราะฉะนั้นน่ะพวกนี้
00:21:21 → 00:21:25 เองก็เป็นอาหารเป็นเมนูที่เอ่อหลังๆเนี่ย
00:21:25 → 00:21:28 ตามแต่ละโรงพยาบาลครับเค้าก็จะผลิตอาหาร
00:21:28 → 00:21:30 ที่เป็นเค้าเรียกว่าเป็นเอ่ออาหารเพื่อ
00:21:30 → 00:21:33 สุขภาพโดยเนาะว่าอันเนี้ยมีแคลเซียมสูงอื
00:21:33 → 00:21:35 นะครับอันนี้คือกลุ่มแรกนะครับคือในส่วน
00:21:35 → 00:21:38 ของแคลเซียมอีกอันนึงนะครับก็คือในส่วน
00:21:38 → 00:21:40 ของวิตามินดีครับเมื่อกี้ผมได้แจ้งไปแล้ว
00:21:40 → 00:21:42 เนาะว่าวิตามินดีจริงๆหาได้ง่ายมากเลย
00:21:42 → 00:21:46 ครับจากแสงแดดครับค่ะแต่ณปัจจุบันครับ 3-4
00:21:46 → 00:21:48 ปีที่ผ่านมาครับเราเผชิญกับภาวะ PM 2.5
00:21:48 → 00:21:50 5 ครับอ่าซึ่งเราก็คงทราบอยู่แล้วว่าเรา
00:21:50 → 00:21:53 คงต้องเผชิญกับเ้าไปตลอดแล้วแหละอืนะอัน
00:21:53 → 00:21:55 นี้คือมองโลกแบบในความเป็นจริงเนาะไม่ได้
00:21:55 → 00:21:58 มองแบบโลกสวยนะครับผมเชื่อว่ายังไง PM
00:21:58 → 00:22:00 ยังไงคงอยู่กับเราไปเรื่อยๆใช่ครับเพราะ
00:22:00 → 00:22:02 ฉะนั้นเองเนี่ยผมเชื่อว่าณปัจจุบันเนี่ย
00:22:02 → 00:22:06 คนที่ออกกำลังกายกลางแจ้งน้อยลงครับไปออก
00:22:06 → 00:22:09 กำลังกายในยิมยิมมากกว่าเพราะอะไรครับออก
00:22:09 → 00:22:10 กำลังกายแข็งแรงก็จริงครับแต่เขาต้อง
00:22:10 → 00:22:14 เผชิญกับโรคปอดแทนอใช่มั้ยครับดังนั้นเอง
00:22:14 → 00:22:16 เนี่ยเขาก็เลยหลีกเลี่ยงครับก็เลยไปออก
00:22:16 → 00:22:18 กำลังในยิ้มซึ่งถามว่าก็ไม่โดนแดกแดดอยู่
00:22:18 → 00:22:21 ดีครับ่แต่ก้ามแรงนะครับคือออกนี่ยิมออก
00:22:21 → 00:22:23 ได้นะครับแล้วก็สงเสริมด้วยแต่มันจะสู้
00:22:23 → 00:22:25 ออกกำลังกายกลางแจ้งไม่ได้เพราะว่าออก
00:22:25 → 00:22:27 กำลังกายกลางแจ้งจะได้ 2 ประโยชน์คือ 1
00:22:27 → 00:22:29 กล้ามเนื้อแข็งแรงจากการที่เราไปออกกำลัง
00:22:29 → 00:22:31 กายกับเราได้แดดอค่ะนะครับแล้วก็ใส่
00:22:31 → 00:22:33 ทูพีceอะไรอย่างเงี้ยครับมันก็จะได้แดด
00:22:33 → 00:22:35 เต็มที่ดังนั้นสมมติว่าเกิดช่วงไหนที่ PM
00:22:35 → 00:22:38 น้อยๆก็ลดลง 5 ให้ไปออกกำลังกายกลางแจ้ง
00:22:38 → 00:22:41 ก็จะได้ประโยชน์ 2 2 แบบเลยนะครับแต่ว่า
00:22:41 → 00:22:43 อันนึงครับคือวิตามินดีนั้นจะหาได้จากใน
00:22:44 → 00:22:47 อาหารได้บ้างครับแต่หาได้น้อยอ๋อยกตัว
00:22:47 → 00:22:51 สั่งอาหารที่มีวิตามินดีนะครับ 1 ก็คือ
00:22:51 → 00:22:55 เอ่อพวกเอ่อปลาแซลมอนครับอ๋อปลาแซลมอน
00:22:55 → 00:22:58 หรือว่าเป็นพวกปลาแมเครลปลาไหลครับแต่
00:22:58 → 00:23:03 ต้องเป็นปลาที่อยู่ในธรรมชาติครับออค่ะ
00:23:03 → 00:23:05 แล้วอาหารพวกนี้เองในในประเทศไทยมีบ้าง
00:23:05 → 00:23:08 มั้อ่ะครับหาน้อยอ่ะค่ะส่วนใหญ่จะเป็นปลา
00:23:08 → 00:23:10 เลี้ยงครับใช่มั้ครับก็คือว่าอยู่ในร้าน
00:23:10 → 00:23:12 อาหารญี่ปุ่นก็จริงนะครับแต่เดี๋ยวนี้
00:23:12 → 00:23:14 ครับเไม่ได้เอามาจากธรรมชาติแล้วครับอ่า
00:23:14 → 00:23:17 ครับเพราะว่าถ้าเกิดเลี้ยงเองครับเค้าเก็
00:23:17 → 00:23:19 เป็นเลี้ยงอยู่ในวงจรปิดก็ไม่ได้โดนแดด
00:23:19 → 00:23:22 ครับเพราะฉะนั้นปลาพวกนี้ครับมันต้องรับ
00:23:22 → 00:23:25 แดดแล้วก็สะสมเอ่อตัววิตามินดีอยู่ตรงผิว
00:23:25 → 00:23:27 หนังของตัวปลาครับค่ะครับเพราะฉะนั้น
00:23:27 → 00:23:30 เนี่ยปลาเนี่ยจะมีตัววิตามินดีสูงตามที่
00:23:30 → 00:23:32 ผมได้กล่าวไว้แล้วก็ปลาจำเพเอ่อจำจำพวก
00:23:32 → 00:23:36 เนี้ยราคาสูงครับอืครับอีกแบบนึงที่มีก็
00:23:36 → 00:23:39 คือตัวเอ่อเห็ดครับต้องเป็นเห็ดที่ตาก
00:23:39 → 00:23:42 แห้งด้วยนะครับเช่นเห็ดหอมเห็ดชิตเกดอืนะ
00:23:43 → 00:23:45 ครับดังนั้นเองถามว่าวิตามินดีอ่ะครับ
00:23:45 → 00:23:48 สำหรับคนไทยเองหาได้จากในอาหารค่อนข้าง
00:23:48 → 00:23:51 ยากครับอเลยเป็นที่มาครับที่เวลาผมทำงาน
00:23:51 → 00:23:53 วิจัยแล้วก็เจาะเลือดนะครับของกลุ่มเอ่อ
00:23:53 → 00:23:56 แพทย์และพยาบาลในในโรงตำรวจที่เป็นเพศ
00:23:56 → 00:23:58 หญิงนะครับที่ผมทำการวิจัยไปประมาณ 3 ปี
00:23:58 → 00:24:00 ที่แล้วเนี่ยอายุเฉลี่ยแค่ 50 ปีนะครับ
00:24:00 → 00:24:03 แข็งแรงดีไม่มีโรคประจำตัวนะครับแต่ขาด
00:24:03 → 00:24:05 วิตามินดีนะครับคือมีวิตามินดีในเลือด
00:24:05 → 00:24:09 เนี่ยต่ำกว่าเกณฑ์เนี่ยประมาณ 98% ครับโอ
00:24:09 → 00:24:11 อันนี้เป็นตัวเลขที่น่าตกใจนะครับแล้วก็
00:24:11 → 00:24:14 แย่กว่าคนไข้ที่กระดูกหักจากโรคกระดูกพุน
00:24:14 → 00:24:18 อีกครับโอ้กลุ่มนี้เโดนแดดไงครับแต่
00:24:18 → 00:24:20 บุคลากรทางการแพทย์ไม่โดนแดดเลยครับใช่
00:24:21 → 00:24:22 ครับเพราะฉะนั้นมันก็เลยมีโครงการที่ผมทำ
00:24:22 → 00:24:26 ขึ้นมาคือว่าคุณมีดีพอหรือยังครับออ
00:24:26 → 00:24:29 วิตามินดีใช่ไม่ได้ว่าไปด่าเค้านะครับว่า
00:24:29 → 00:24:32 คุณมีดีหรือยังเงี้ยคือคุณดีพอหรือยังใช่
00:24:32 → 00:24:34 ครับใช่ครับแล้วก็เสร็จแล้วพอเจาะเลือด
00:24:34 → 00:24:37 เสร็จปุ๊บครับเราก็เลยอาหารมันไม่มีครับ
00:24:37 → 00:24:40 เราก็เลยให้วิตามินดีsupพลementเลยคือก็
00:24:40 → 00:24:43 คือให้กินเป็นในรูปแบบของอาหารเสริมครับ
00:24:43 → 00:24:46 ซึ่งราคาก็ไม่แพงครับกินแบบอาทิตยละครั้ง
00:24:46 → 00:24:49 ครับราคาก็ค่อนข้างดีใช่ครับราคาก็ค่อน
00:24:49 → 00:24:51 ข้างจะถูกด้วยครับเม็ดนึงราคาเอ้ไม่กี่
00:24:51 → 00:24:54 บาทครับค่ะใช่ครับอ๋อแบบนี้ก็คือจะดีแล้ว
00:24:54 → 00:24:57 ก็ได้รับวิตามินที่เพียงพอต่อร่างกายอ่ะ
00:24:57 → 00:24:58 เราใช่ครับใช่ครับเพราะฉะนั้นอาหารเองโดย
00:24:59 → 00:25:01 สรุปก็จะมีแคลเซียมกับวิตามินดีนะครับ
00:25:01 → 00:25:03 ส่วนตอนนี้เองเนี่ยอาจจะมีเอ่อทางเอ่อผู้
00:25:03 → 00:25:06 ชมทางบ้านอาจจะถามว่าอ้าวแล้วพวกวิตามิน K
00:25:06 → 00:25:09 ล่ะแมกนีเซียมล่ะนะครับเพราะหลังๆก็มี
00:25:09 → 00:25:11 ประเด็นตรงนี้ค่อนข้างเยอะครับอันนี้ก็
00:25:11 → 00:25:13 ต้องกล่าวตรงๆครับว่าจริงๆแล้วเนี่ยอาหาร
00:25:13 → 00:25:15 กลุ่มนี้ครับก็ยังมีประโยชน์ต่อกระดูกนะ
00:25:15 → 00:25:18 ครับนะครับเช่นวิตามิน K อันเนี้ยก็ช่วย
00:25:18 → 00:25:20 กระตุ้นการสร้างเซลล์ของกระดูกเช่นกัน
00:25:20 → 00:25:23 ครับแต่ว่าอาจจะต้องกินในปริมาณที่เหมาะ
00:25:23 → 00:25:24 สมครับเพราะจริงๆร่างกายเราไม่ได้ต้องการ
00:25:25 → 00:25:28 มากแล้วก็ว่าเกิดเราเนี่ยกินผักใบเขียวนะ
00:25:28 → 00:25:30 ครับก็จะได้รับวิตามิน K ที่เพียงพออยู่
00:25:30 → 00:25:32 แล้วนะครับจริงๆแล้วอาจจะไม่ได้จำเป็น
00:25:32 → 00:25:34 ขั้นที่จำเป็นต้องเสริมนะครับยกเว้นว่า
00:25:34 → 00:25:37 เรามีการไปพิสูจน์แล้วว่าเรามีการขาดจริง
00:25:37 → 00:25:39 ๆอันเนี้ยก็สามารถซื้อมากินได้แต่ราคามัน
00:25:39 → 00:25:41 ค่อนข้างสูงนะครับแล้วก็อาจจะต้องมีข้อ
00:25:41 → 00:25:44 ห้ามในคนไข้บางจำพวกเช่นคนไข้กลุ่มที่
00:25:44 → 00:25:45 เป็นโรคหัว
00:25:45 → 00:25:48 หรือว่าใครคิดกินยาอะไรลืมเลือดซึ่งอัน
00:25:48 → 00:25:49 นี้ครับอาจจะต้องระมัดระวังในการกิน
00:25:49 → 00:25:52 วิตามิน K เพราะวิตามิน K บางชนิดอาจจะทำ
00:25:52 → 00:25:56 ให้เอ่อเลือดหยุดยากค่ะนะครับส่วน
00:25:56 → 00:25:58 แมกนีเซียมเองครับก็มีผลต่อการช่วยการดูด
00:25:58 → 00:26:01 ซึมของตัวแคลเซียมครับแต่ว่าสิ่งที่
00:26:01 → 00:26:04 พิสูจน์ก็คือว่าเราก็ต้องกินจริงๆในคนไข้
00:26:04 → 00:26:06 ที่ขาดด้วยครับถึงมีประโยชน์ค่ะซึ่ง
00:26:06 → 00:26:08 แมกนีเซียมเองก็อยู่ในผักใบเขียวเช่นกัน
00:26:08 → 00:26:10 ครับเพราะฉะนั้นหมายความว่าถือว่าเกิดเรา
00:26:10 → 00:26:13 นะครับเอ่อกินผักได้เพียงพอครับการที่เรา
00:26:13 → 00:26:15 ต้องกินอาหารเสริมบางอย่างอาจจะไม่มีความ
00:26:15 → 00:26:18 จำเป็นครับเอาเงินตรงนี้ไปเก็บสะสมทำ
00:26:18 → 00:26:20 อย่างอื่นดีกว่าแต่ว่าเกิดใครไม่กินผัก
00:26:20 → 00:26:22 เลยอันนั่นแหละครับเป็นปัญหาและอาจต้อง
00:26:22 → 00:26:24 กินวิตามินเสริมว่าแต่ว่าเกิดว่าไม่มั่น
00:26:24 → 00:26:26 ใจยังไงก็อาจจะไปเจาะเลือดดูก่อนก็ได้
00:26:26 → 00:26:29 ครับค่ะว่าเราขาดมั้ยถ้าเกิดขาดก็กินก็มี
00:26:29 → 00:26:32 ประโยชน์ค่ะอ่าซึ่งคุณหมอก็จะมีการแนะนำ
00:26:32 → 00:26:34 เอ่อเมื่อสักครู่ที่คุณหมอแนะนำมาก็เป็น
00:26:34 → 00:26:37 ประโยชน์มากๆเลยทีเนี้ยปัมสนใจในเรื่อง
00:26:37 → 00:26:39 ของการรับวิตามินสมมุติว่าถ้าเราไปรับ
00:26:39 → 00:26:42 วิตามินดีแบบกลางแจ้งอฉีดออโอเคเหมือนว่า
00:26:42 → 00:26:47 ไปรับแดกทำแดกที่พูดคือแล้วมันมีข้อจำกัด
00:26:47 → 00:26:49 คะว่าจะต้องเป็นแดดช่วงไหนถึงจะดีหรือว่า
00:26:49 → 00:26:52 แดดอันไหนมันอันตรายต่อเราเอ่ยเอ่อต้อง
00:26:52 → 00:26:54 แช่อย่างงี้ครับว่าจริงๆเนี่ยแดดที่จัด
00:26:54 → 00:26:56 มากที่สุดแล้วเราได้วิตามินดีมากสุดคือ
00:26:56 → 00:26:59 ช่วงเที่ยนครับกับช่วงบ่ายต้นๆแต่ประเด็น
00:26:59 → 00:27:02 คือสำหรับเอ่อโซนประเทศไทยครับคงไม่ไหว
00:27:02 → 00:27:05 ครับก็คือเราคงผิวดำก่อนหรือไม่ก็เป็น
00:27:05 → 00:27:07 มะเร็งผิวหนังก่อนครับลมแดดก่อนใช่ครับ
00:27:07 → 00:27:09 เพราะฉะนั้นเองเนี่ยผมว่ามันขึ้นอยู่กับ
00:27:09 → 00:27:12 ภูมิประเทศลัติไอ้รติูดของประเทศแต่ถ้า
00:27:12 → 00:27:15 เกิดสประเทศไทยครับควรจะเป็นแดดช่วงเชด
00:27:15 → 00:27:19 ช่วงบ่ายครับยกตัวอย่างเชนอันนี้จริงๆ
00:27:19 → 00:27:21 ขึ้นอยู่กับฤดูด้วยเนาะแต่ว่าเกิดช่วงเจะ
00:27:21 → 00:27:24 เข้าหน้าร้อนแล้วเราอาจจะต้องเอ่อเช้ามาก
00:27:24 → 00:27:26 กว่านี้หน่อยแต่ถ้าเกิดว่าช่วงหน้าหนาว
00:27:26 → 00:27:29 ที่ผ่านมาครับกว่าแดดจะออกมันก็เรทหน่อย
00:27:29 → 00:27:31 ใช่มั้ยครับมันเวลาเราออกกำลังกายอ่ะครับ
00:27:31 → 00:27:33 ถือว่าเกิดโอเคทั่วๆไปอ่ะ 7:00 น- 9:00
00:27:33 → 00:27:36 น.ไหวแล้วเกิดช่วงบ่ายก็คือประมาณ 15 น-
00:27:36 → 00:27:38 1700 น.ค่ะนะครับแล้วก็ควรโดนแดดนะครับ
00:27:38 → 00:27:40 อย่างน้อยก็ประมาณสักครึ่งชั่วโมงต่อวัน
00:27:40 → 00:27:43 อ่านะครับอันนี้คือเป็นเทคนิคแบบนึงครับ
00:27:43 → 00:27:45 แล้วก็ที่สำคัญสุดครับผู้หญิงเรามักกลัว
00:27:45 → 00:27:48 ฝ้าครับเพราะฉะนั้นผมจะคุยเสมอว่าเอ๊ะ
00:27:48 → 00:27:51 เอ่อระหว่างเลือกว่ามีฝ้ากับกระดูกพูนผู้
00:27:51 → 00:27:53 หญิงส่วนใหญ่จะเรียกว่าฉันยอมเป็นกระดูก
00:27:53 → 00:27:56 พูนมากกว่าเป็นฝ้ายากมากเลยอ่ะตัวข้อ
00:27:56 → 00:27:58 เนี้ยครับใช่แต่ว่าจริงๆมันมีเทคนิคครับ
00:27:58 → 00:28:01 เราก็ใช้ครีมกันแดดเฉพาะหน้ากับคอครับอ๋อ
00:28:01 → 00:28:02 ให้มันไปได้รับในตัวของเราใช่ครับเพราะ
00:28:02 → 00:28:04 เพราะว่าพวกนี้ครับขึ้นอยู่กับพื้นที่ผิว
00:28:04 → 00:28:07 ครับว่าเกิดเราโดนแดดได้ในพื้นที่ผิวเยอะ
00:28:07 → 00:28:11 ๆเช่นอะไรครับพวกเอ่อหลังหน้าท้องแขนขา
00:28:11 → 00:28:13 ครับแค่นี้ก็เพียงพอครับส่วนหน้าที่เรา
00:28:13 → 00:28:16 ต้องการความสวยงามครับเราก็โปะให้เต็มที่
00:28:16 → 00:28:18 ครับอค่ะนะครับแต่ก็ระวังนิดนึงแล้วกัน
00:28:18 → 00:28:20 ว่าหน้ากับคอจะขาวครับแต่ตัวก็จะดำตัวจะ
00:28:20 → 00:28:23 ดำใช่ครับแต่ว่าเราก็จะแข็งแรงใช่ครับดัง
00:28:23 → 00:28:25 นั้นเองเทคนิคก็คือว่า 1 ช่วงเวลาตามที่
00:28:25 → 00:28:28 ผมบอกไว้แล้วก็เสร็จแล้วครับก็คืออาจจะ
00:28:28 → 00:28:31 ใส่นุ่งน้อยห่มน้อยนิดนึงนะครับเช่นว่า
00:28:31 → 00:28:33 เกิดผู้ชายเองอาจจะใส่เป็นเสื้อกล้ามกับ
00:28:33 → 00:28:35 กางเกงขาสั้นผู้หญิงก็ใส่ทูพีceหน่อยแล้ว
00:28:35 → 00:28:37 ก็ไปออกกำลังกายในสถานที่ที่ปลอดภัยนิด
00:28:37 → 00:28:40 นึงอ่ะนะครับแล้วก็เสร็จแล้วก็เอ่ออาจจะ
00:28:40 → 00:28:43 เอ่อทาครีมกระแดเฉพาะหน้ากับคออ๋อใช่ครับ
00:28:43 → 00:28:45 ก็จะทำให้เราได้รับวิตามินดีประมาณนึงนะ
00:28:45 → 00:28:46 ครับแต่ว่าถ้าเกิดว่าเกิดในผู้สูงอายุ
00:28:46 → 00:28:49 แล้วอันนั้นสำหรับผมเองคิดว่าออกกำลังกาย
00:28:49 → 00:28:51 ได้ครับโดนแดดได้แต่อย่าไปหวังผลมากนัก
00:28:51 → 00:28:54 ว่าจะทำให้วิตามินดีกลับมาปกติอันเนี้ย
00:28:54 → 00:28:56 สำหรับผู้สูงอายุหรือว่าคนที่หมดประจำ
00:28:56 → 00:28:58 เดือนแล้วส่วนตัวผมจะแนะนำว่าให้กิน
00:28:58 → 00:29:02 วิตามินดีเสริมจะดีกว่าอืนะครับค่ะครับ
00:29:02 → 00:29:05 ค่ะเออคุณหมอคะอันนี้สงสัยนิดนึงเดี๋
00:29:05 → 00:29:08 เดี๋ยวฝากคำถามไว้กับคุณหมอก่อนแล้วก็
00:29:08 → 00:29:11 เดี๋ยวช่วงหน้ามาตอบก็ได้ค่ะว่าในกรณีที่
00:29:11 → 00:29:14 ผู้หญิงที่เอ่ออาจจะมีปัญหาเรื่องของ
00:29:14 → 00:29:17 เนื้องอกหรือว่ามีปัญหาที่จะต้องตัดตัว
00:29:17 → 00:29:21 ของรังไข่ออกไปในตัวผลิตฮอร์โมนสำหรับผู้
00:29:21 → 00:29:23 หญิงอ่ะนะคะอาจจะยังไม่ถึงวัยที่หมดประจำ
00:29:23 → 00:29:26 เดือนน่ะเขาจะมีสิทธิ์ที่จะกระดูกพรุนได้
00:29:26 → 00:29:29 ง่ายกว่าคนอื่นๆหรือเปล่าเดี๋ยวไว้รอคำ
00:29:29 → 00:29:32 ตอบกับคุณหมอช่วงหน้าเดี๋ยวช่วงนี้พักกัน
00:29:32 → 00:29:34 สักครู่ก่อนค่ะวันนี้ก็อยู่กับปาล์มแล้ว
00:29:34 → 00:29:37 ก็พี่พี่ขวัญเช่นเคยซึ่งถ้าใครได้ฟังราย
00:29:37 → 00:29:40 การในช่วงแรกนะคะก็กำลังคุยกันเพลินๆ
00:29:40 → 00:29:42 เกี่ยวกับเรื่องสุขภาพก็ทำให้เราแบบอ๋อใน
00:29:42 → 00:29:45 หลายๆเรื่องเนาะพี่ขวัญก็เป็นเรื่องที่
00:29:45 → 00:29:47 เราไม่เคยทราบมาก่อนวันนี้ท่านพันตำรวจ
00:29:47 → 00:29:50 เอกนายแพทย์ธนวัฒเนี่ยท่านก็ได้ให้
00:29:50 → 00:29:54 เกียรตินะคะมาเล่าให้ฟังอ่าได้มาตีแผ่
00:29:54 → 00:29:56 ความรู้ต่างๆนะคะรวมถึงแนวทางในการป้อง
00:29:56 → 00:29:59 กันข้อแนะนำดีๆนะคะเอาเป็นว่าช่วงที่ 2
00:29:59 → 00:30:02 เนี่ยพี่ขวัญมีคำถามค้างเอาไว้ที่จะถาม
00:30:02 → 00:30:04 คุณหมอต่อส่วนคุณผู้ฟังทางบ้านเนี่ยถ้ามี
00:30:04 → 00:30:07 ใครสนใจเนี่ยหรือว่าสงสัยตรงไหนนะคะก็
00:30:07 → 00:30:09 สามารถคอมเมนต์กันมาได้ซึ่งตอนนี้ก็เริ่ม
00:30:09 → 00:30:11 เห็นมีคอมเมนต์กันเข้ามาและเดี๋ยวเอาคำ
00:30:11 → 00:30:15 ถามของพี่ขวัญก่อนแล้วกันค่ะค่ะก็ช่วงแรก
00:30:15 → 00:30:18 นะคะได้ถามไว้ว่าถ้าในกรณีที่ผู้หญิงคน
00:30:19 → 00:30:21 นึงนะคะอาจจะไม่อยู่ในวัยหมดประจำเดือน
00:30:21 → 00:30:24 แต่มีความจำเป็นต้องตัดรังไข่ออกไปก่อน
00:30:24 → 00:30:26 แล้วรังไข่ก็มีผลต่อฮอร์โมนใช่มั้ยคะตรง
00:30:26 → 00:30:29 เนี้ยเขาจะมีความเสี่ยงมากกว่าคนผู้หญิง
00:30:29 → 00:30:32 คนอื่นๆหรือเปล่าต่อกระดูกคลุนน่ะค่ะคุณ
00:30:32 → 00:30:34 หมอคะครับก็ขอบคุณคำถามจากคุณขวัญมากอัน
00:30:34 → 00:30:37 นี้เป็นประเด็นที่สำคัญมากครับคือรังไข่
00:30:37 → 00:30:40 นั้นเป็นอวัยวะของผู้หญิงที่สำคัญมากนะ
00:30:40 → 00:30:42 ครับในการสร้างฮอร์โมนเอสโตรเจนหรือว่า
00:30:42 → 00:30:45 ฮอร์โมนเพศหญิงครับดังนั้นเองหมายความว่า
00:30:45 → 00:30:48 เกิดเรายิ่งตัดรังไข่ด้วยเหตุผลใดๆก็ตาม
00:30:48 → 00:30:51 นะครับในยิ่งอายุน้อยเท่าไหร่เนี่ยยิ่งมี
00:30:51 → 00:30:54 ผลต่อกระดูกแน่นอนครับเพราะว่าอย่างเช่น
00:30:54 → 00:30:56 นะครับตอนเนี้ยตามหลักวิชาการเนี่ยถือว่า
00:30:56 → 00:30:59 เกิดเราเนี่ยเอ่อถูกตัดรังไข่ 2 ข้างก่อน
00:30:59 → 00:31:00 นะครับถือว่าเกิดตัดข้างเดียวแล้วอีกข้าง
00:31:01 → 00:31:03 นึงยังดีเนี่ยก็ยังมีฮอร์โมนเอสโตรเจน
00:31:03 → 00:31:05 เพียงพอในการดูแลสุขภาพกระดูกอยู่แต่ถ้า
00:31:05 → 00:31:08 ว่าเกิดตะลังไข่ 2 ข้างไปนะครับก่อนอายุ
00:31:08 → 00:31:11 45 ปีครับถือว่าเป็นปัจจัยเสี่ยงที่
00:31:11 → 00:31:13 สำคัญครับที่ทำให้กระดูกพุนได้เร็วยิ่ง
00:31:13 → 00:31:16 ขึ้นครับเพราะว่าพอเราเอสโตรเจนออกจาก
00:31:16 → 00:31:18 ร่างกายปุ๊บครับตามที่ผมได้แจ้งช่วงแรก
00:31:18 → 00:31:20 ครับจากมวลกระดูกที่สลายนะครับประมาณ 1-2%
00:31:21 → 00:31:23 ต่อปีครับพอเราไม่มีฮอร์โมนเอสโตรเจนครับ
00:31:23 → 00:31:26 จะดับเบิ้ลขึ้นไปเป็น 3-6% ต่อปีเลยครับ
00:31:26 → 00:31:31 อืครับเยอะมากใช่ครับค่ะครับดังนั้นก็
00:31:31 → 00:31:33 หมายความว่าไงครับหมายความว่าถ้าเกิดว่า
00:31:33 → 00:31:36 รังคาไข่เรายังดีอยู่นะครับแม้ว่าเราจะมี
00:31:36 → 00:31:38 ลูกเพียงพอแล้วหรือเราคิดว่าเราจะไม่มี
00:31:38 → 00:31:41 ลูกแล้วเนี่ยก็มีความจำเป็นครับที่ต้อง
00:31:41 → 00:31:43 ให้คุณหมอไปตัดออกโดยไม่จำเป็นนะครับอืนะ
00:31:44 → 00:31:46 ครับซึ่งส่วนใหญ่ครับสาเหตุที่เจอบ่อยๆนะ
00:31:46 → 00:31:47 ครับก็คือว่าอย่างเช่นเป็นเอ่อเป็นเนื้อ
00:31:47 → 00:31:50 งอกที่มดลูกอย่างเงี้ยครับถ้าเกิดเป็น
00:31:50 → 00:31:53 สมัยก่อนเนี่ยคุณหมอก็มักจะแถมใช่มั้ย
00:31:53 → 00:31:55 ครับคือโอเคตัดไอ้ตัดมดลูกแล้วก็อ่ะรัง
00:31:55 → 00:31:58 ไข่เห็นดูแล้วฝ่อและไม่ค่อยได้ใช้และใน
00:31:58 → 00:32:00 อายุน้อยนะครับก็ตัดด้วยแล้วแถมไส้ติ่ง
00:32:00 → 00:32:03 ด้วยแต่ณปัจจุบันผมเชื่อว่าคุณหมอแผนแผนก
00:32:03 → 00:32:05 สูเองเนี่ยเขาเริ่มมีความเข้าใจตรงนี้มาก
00:32:05 → 00:32:08 ขึ้นครับเพราะฉะนั้นเขาก็จะเอาเฉพาะสิ่ง
00:32:08 → 00:32:10 ที่เอ่อไอ้ไม่จำเป็นหรือว่ามีปัญหาออก
00:32:10 → 00:32:13 ครับแล้วก็เหลือรังไขไว้ซึ่งก็เป็นเอ่อ
00:32:13 → 00:32:15 จุดรุ่งเอ่อไอ้จุดเริ่มต้นที่ดีครับที่ทำ
00:32:15 → 00:32:17 ให้เรายังมีฮอร์โมนเอสโตรเจนอยู่ในร่าง
00:32:17 → 00:32:22 กายอยู่ครับค่ะอ้าเดี๋ยวแวะคำถามจากทาง
00:32:22 → 00:32:25 บ้านเนาะตอนนี้มีคนส่งมาถามหลายคำถามมาก
00:32:25 → 00:32:28 เอาคนแรกก่อนแล้วกันค่ะคุณผาบุบผานะคะ
00:32:28 → 00:32:31 ย้อนไปเมื่อสักครู่ว่าคุณหมอคะที่คุณหมอ
00:32:31 → 00:32:33 แนะนำว่าเอ่อถ้าไม่ทานนมบัวตัวนมโคอะไร
00:32:33 → 00:32:37 แล้วเนี่ยแล้วทานชีสได้ทีเนี้ยการทานชีส
00:32:37 → 00:32:39 เนี่ยมันจะมีผลต่อน้ำหนักมันจะทำให้อ้วน
00:32:39 → 00:32:42 มั้ยมีคนกังวลเรื่องน้ำหนักตัวคืออย่าง
00:32:42 → 00:32:44 งี้ครับคือทุกๆอย่างครับต้องกินทุกความ
00:32:44 → 00:32:46 เหมาะสมนะครับนะครับถือว่าเกิดกินอะไรสุด
00:32:46 → 00:32:49 โต่งเกินไปมากเกินไปก็จะมีผลอยู่แล้วครับ
00:32:49 → 00:32:50 แล้วก็พวกนี้เองเนี่ยมันต้องออกกำลังกาย
00:32:50 → 00:32:53 ด้วยเนาะคือไม่งั้นว่าเรากินเข้าไปเนี่ย
00:32:53 → 00:32:55 แล้วเราไม่ได้ใช้พลังงานมันก็อ้วนนะครับ
00:32:55 → 00:32:57 ดังนั้นหมายความว่าอย่างงี้ครับเอ่ออาหาร
00:32:57 → 00:32:59 ที่มีแคลเซียมตามที่ผมแจ้งไว้มันมีหลาย
00:32:59 → 00:33:01 แบบด้วยกันนะครับผมไม่ได้หมายความว่าพอ
00:33:01 → 00:33:03 วันนี้จบไปปุ๊บพรุ่งนี้ตื่นเช้ามาปราาตัว
00:33:03 → 00:33:05 เองว่าฉันจะกินแต่นมจะกินแต่ชีสอย่าง
00:33:05 → 00:33:07 เดียวก็มีอยู่หลายๆอย่างครับเช่นจะกินผัก
00:33:08 → 00:33:10 บาลานซกับชีสก็ได้ครับอย่างเช่นง่ายๆครับ
00:33:10 → 00:33:13 ฝรั่งที่เขาชอบทำคือกินสลัดครับก็คือกิน
00:33:13 → 00:33:15 สลัดผักแล้วก็มีการใส่ชีสเข้าไปด้วยครับ
00:33:16 → 00:33:17 ใช่มั้ครับเพราะฉะนั้นอันนี้เองเนี่ยมัน
00:33:17 → 00:33:19 ก็บาลานซด้วยตัวมันเองครับผมคงไม่ได้หมาย
00:33:19 → 00:33:22 ความว่าเออเนี่ยให้กินชีสกับไขมันหรือว่า
00:33:22 → 00:33:25 กินชีสเพียวๆอ่ะครับตั้งหน้าตั้งตากินใช่
00:33:25 → 00:33:27 ครับแล้วก็อย่างชีสมันมีหลายแบบด้วยนะ
00:33:27 → 00:33:30 ครับเออเพราะฉะนั้นดังนั้นเองมันก็ไม่ได้
00:33:30 → 00:33:31 หมายความว่าชีสทุกอย่างจะมีคอเลสเตอรอล
00:33:31 → 00:33:34 สูงหมดดังนั้นโดยสุดก็คือว่ากินในปริมาณ
00:33:34 → 00:33:36 ที่เหมาะสมแล้วกันครับแล้วก็กินให้หลาก
00:33:36 → 00:33:39 หลายอันนี้ก็เป็นจุดที่สำคัญครับค่ะกิน
00:33:39 → 00:33:41 เสร็จแล้วก็เผาผลาญออกใช่ครับแล้วก็ต้อง
00:33:41 → 00:33:43 กินเนื้อบ้างด้วยนะครับผมเห็นงี้ไม่งั้น
00:33:43 → 00:33:45 เนี่ยเดี๋โอ้ยผักมีประโยชน์เหลือเกิน
00:33:45 → 00:33:47 เพราะว่าผักมีทั้งแคลเซียมเอ่อมีทั้ง
00:33:47 → 00:33:49 แมกนีเซียมมีทั้งตัววิตามิน K เพราะ
00:33:49 → 00:33:52 ฉะนั้นต่อไปนี้ฉันจะกินเป็นมังซาบิรัส
00:33:52 → 00:33:55 แล้วอ่ะเวนั้นเลยใช่ครับซึ่งตอนนี้เอง
00:33:55 → 00:33:57 ครับอาจจะดีต่อกระดูกก็ได้ครับแต่ว่า
00:33:57 → 00:33:59 ประเด็นคือกล้ามเนื้อเราก็จะมีปัญหาครับ
00:33:59 → 00:34:01 เพราะว่ากล้ามเนื้อเราจะสร้างได้เราต้อง
00:34:01 → 00:34:03 มีโปรตีนครับซึ่งโปรตีนนั้นโปรตีนจากถั่ว
00:34:03 → 00:34:06 ไม่เพียงพออืต้องได้โปรตีนจากเนื้อสัตว์
00:34:06 → 00:34:08 ครับค่ะดังนั้นเองหมายความว่าทุกอย่างควร
00:34:08 → 00:34:10 ต้องบาลานซครับก็คือว่าอาจจะต้องมีเนื้อ
00:34:11 → 00:34:13 เอ่อ 1 ส่วนผลไม้หรือว่าผัก 2 ส่วนอะไร
00:34:13 → 00:34:15 อย่างเงี้ยครับแต่ถือว่าเกิดแบบ 5 ส่วน
00:34:15 → 00:34:19 เป็นผักผลไม้หมดมันก็อาจจะสุดโต่งเกินไปอ
00:34:19 → 00:34:20 ใช่ครับทุกอย่างควรต้องบาลานซกันด้วยค่ะ
00:34:20 → 00:34:24 ยังไงก็ต้องยึดหลักทานอาหาร 5 หมู่อยู่ดี
00:34:24 → 00:34:28 ท่านที่ 2 นะคะคุณนิดหน่อยคอมเมนต์มาถาม
00:34:28 → 00:34:31 หลากหลายคำถามคือฟังแล้วสงสัยมากบอกว่ารบ
00:34:31 → 00:34:34 กวนควรถามคุณหมอให้หน่อยนะคะว่าอ่ะคำถาม
00:34:34 → 00:34:38 แรกนะคะทำไมคุณคนเป็นเบาหวานถึงมีผลต่อ
00:34:38 → 00:34:42 กระดูกพุนคะโอเคครับก็ต้องแจ้งอย่างงี้นะ
00:34:42 → 00:34:44 ครับว่าเอ่อเบาหวานนั้นมี 2 แบบนะครับแบบ
00:34:44 → 00:34:46 แรกเเรียกว่าเป็นเบาหวานชิ้นที่ 1 ที่
00:34:46 → 00:34:48 ต้องฉีดพวกอินซูลินอันเนี้ยครับตัวเบา
00:34:48 → 00:34:51 หวานเองนั้นมีผลโดยตรงนะครับต่อเอ่อ
00:34:51 → 00:34:53 เรื่องของเซลล์สลายของกระดูกนะครับทำให้
00:34:53 → 00:34:55 เซลล์สลายของกระดูกนั้นเกิดการสูดเสีย
00:34:55 → 00:34:58 อย่างรวดเร็วส่วนเอ่อเบาหวานชิที่ 2 ครับ
00:34:58 → 00:35:00 อันนี้ก็คือที่เราใช้กินยาแล้วก็เจอในคน
00:35:00 → 00:35:02 ไข้ส่วนใหญ่ของประเทศไทยที่เป็นเบาหวาน
00:35:02 → 00:35:05 ชิ้นที่ 2 ก็คือกินยารักษาได้เนี่ยพวกนี้
00:35:05 → 00:35:07 เองนะครับเอ่อจะแปลกนิดนึงครับคือว่าเป็น
00:35:07 → 00:35:11 เบาชิที่ 1 นั้นคนไข้มักจะผอมๆบางๆซึ่ง
00:35:11 → 00:35:13 อันนี้ครับด้วยที่ผมได้กล่าวไปว่าตัวโรค
00:35:13 → 00:35:17 เบาหวานเองจะทำให้การของกระดูกสูงและแล้ว
00:35:17 → 00:35:19 รูปร่างผอมอีกเวลาล้มก็ไม่มีอะไรรองรับก็
00:35:19 → 00:35:22 ยิ่งหักง่ายแต่ถ้าว่าเป็นเบาหวานชิ้นที่ 2
00:35:22 → 00:35:25 เองครับมันจะผ่านทางกลไกที่เกี่ยวกับตัว
00:35:25 → 00:35:28 แอนไซค์บางอย่างครับที่ทำให้เกิดการสลาย
00:35:28 → 00:35:31 ของกระดูกเร็วขึ้นอืนะครับเอ่อแล้วก็แต่
00:35:32 → 00:35:34 ว่าพวกนี้เองนั้นคนไข้มักจะไม่ค่อยผอม
00:35:34 → 00:35:37 ครับจะมาด้วยการอ้วนๆน้ำหนักเยอะๆแต่ว่า
00:35:37 → 00:35:39 เป็นแบบน้ำหนักเยอะๆจากการที่มีไขมันเยอะ
00:35:39 → 00:35:41 ไม่ได้เกิดจากการที่มีกล้ามเนื้อเยอะอื
00:35:42 → 00:35:44 ดังนั้นเองหมายความว่ากลุ่มเนี้ยครับจะ
00:35:44 → 00:35:46 ค่อนข้างจะตรวจวินิจฉัยยากครับเพราะว่า
00:35:46 → 00:35:49 ปัจจัยเสี่ยงไม่ค่อยมีแต่ว่าเวลาเกิดการ
00:35:49 → 00:35:52 หักจะหักง่ายทั้งๆที่มวลกระดูกยังปกติดี
00:35:52 → 00:35:54 อืดังนั้นหมายความว่ากระดูกคุณเออเค้า
00:35:54 → 00:35:57 เรียกว่าเบาหวานชิดที่ 2 นั้นจะเป็นเบา
00:35:57 → 00:35:59 หวานชนิดที่คุณภาพของกระดูกนั้นไม่ดีค่ะ
00:35:59 → 00:36:02 นะครับคือไปตรวจวาดมวลกระดูกนั้นปกติดี
00:36:02 → 00:36:05 ครับแล้วก็รูปร่างอ้วนท้วนด้วยครับอือๆ
00:36:05 → 00:36:08 แต่ว่ากระดูกหักง่ายค่ะทั้งๆที่มวลกระดูก
00:36:08 → 00:36:10 ยังดีอยู่เพราะว่าคุณภาพกระดูกไม่ดีค่ะนะ
00:36:10 → 00:36:12 ครับดังนั้นเองตอบคำถามคือว่าเบาหวานนั้น
00:36:12 → 00:36:14 มันมีผลต่อเรื่องของเซลล์ที่ใช้ในการสลาย
00:36:14 → 00:36:17 ของกระดูกครับเรียกว่าภาษาอังกฤษคือออสค
00:36:17 → 00:36:19 พวกเนี้ยจะทำงานเยอะมากนะครับแล้วก็ไปทำ
00:36:19 → 00:36:22 ให้เอ่อตัวออสซอบที่เป็นตัวเซลล์การสร้าง
00:36:22 → 00:36:23 กระดูกนั้นก็มีปัญหาเหมือนกันเพราะฉะนั้น
00:36:24 → 00:36:27 โดยรวมก็คือพอมันสลายกระดูกเยอะสร้างน้อย
00:36:27 → 00:36:30 ก็เลยทำให้กระดูกขุดนั่นเองค่ะค่ะค่ะค่ะ
00:36:30 → 00:36:33 ทีเนี้ยนอกจากเคุณนิดหน่อยเขาบอกว่าเได้
00:36:33 → 00:36:36 มีการไปดูคลิปหลายๆคลิปที่คุณหมอท่านอื่น
00:36:36 → 00:36:39 ๆเนี่ยนะคะเป็นคนพูดว่าการทานนมเนี่ยมัน
00:36:39 → 00:36:42 ก็ไม่ดีมันมีผลเสียบ้างอะไรบ้างก็เลยทำ
00:36:43 → 00:36:46 ให้เขา้าเนี่ยไม่กล้าที่จะทานนมมันมีข้อ
00:36:46 → 00:36:47 เสียด้วยหรอคะคุณหมอนมครับก็อย่างงี้ก่อน
00:36:47 → 00:36:49 นะครับคือจริงๆอ่ะประเด็นเรื่องของนมโดย
00:36:49 → 00:36:51 เฉพาะนมบัวเนี่ยเป็นที่ถกเถียงในสังคม
00:36:52 → 00:36:53 ค่อนข้างเยอะนะครับโดยเฉพาะช่วงโควิดที่
00:36:53 → 00:36:55 ผ่านมาเพราะว่าเแบ่งเอ่อคุณหมอเป็น 2
00:36:55 → 00:36:57 กลุ่มครับกลุ่มนึงเค้าเรียกว่าเป็นตัว
00:36:57 → 00:37:00 เอ่อเค้าเรียกว่าเป็นเอ่อคุณหมอหมอทาง
00:37:00 → 00:37:03 ด้านก็คือว่าเป็นไปเป็นสายเพื่อชะลอวัย
00:37:03 → 00:37:06 ครับจะเป็นอีกกลุ่มนึงก็คือว่าเป็นหมอ
00:37:06 → 00:37:09 แพทย์แผนปัจจุบันนะครับแต่ต้องต้องเอ่อ
00:37:09 → 00:37:12 ต้องต้องแจ้งอย่างงี้ครับว่าเอ่อจากเอ่อ
00:37:12 → 00:37:15 จะมีเค้าเรียกว่ามีประกาศนะครับจากเอ่อ
00:37:15 → 00:37:19 จากไอ้ราภวิทยาลัยกุมารแพทย์ค่ะนะครับที่
00:37:19 → 00:37:22 มีการระบุชัดเจนครับว่ามีการศึกษามีงาน
00:37:22 → 00:37:26 วิจัยทั่วโลกครับบอกแล้วว่าการกินนมบัวนะ
00:37:26 → 00:37:29 ครับมีประโยชน์มากกว่าโทษอือืนะครับเพราะ
00:37:29 → 00:37:31 ว่าบางคนครับเขากลัวว่าเกิดกินนมวัวตั้ง
00:37:31 → 00:37:33 แต่เด็กๆเลยถ้าเกิดกินเยอะๆจะทำให้เด็ก
00:37:33 → 00:37:37 เป็นภูมิแพ้จะทำให้เด็กนั้นแพ้นมวัวทำให้
00:37:37 → 00:37:40 เด็กนั้นป่วยง่ายไม่สบายเป็นหวัดง่ายนะ
00:37:40 → 00:37:42 ครับแต่อย่างไรก็ตามครับยังไม่มีงานวิจัย
00:37:42 → 00:37:47 ที่มีการศึกษาที่ดีพอที่บอกว่านมนั้นมีผล
00:37:47 → 00:37:50 เสียมากกว่าผลดีค่ะนะครับดังนั้นเองถ้า
00:37:50 → 00:37:52 ว่าเกิดเราพูดถึงแง่ว่าโอเคเราไม่ได้แพ้
00:37:52 → 00:37:56 นมนะเรากินนมมาตั้งนานแล้วนะครับการกินนม
00:37:56 → 00:37:58 อะไรประมาณที่เหมาะสมนะครับแล้วเราไม่ได้
00:37:58 → 00:38:00 แพ้อะไรเนี่ยก็ยังมีประโยชน์มากกว่าผล
00:38:00 → 00:38:02 เสียที่เกิดขึ้นซึ่งส่วนใหญ่ผลเสียที่
00:38:02 → 00:38:04 เกิดขึ้นก็คือเรื่องเกี่ยวกับภูมิแพ้ค่ะ
00:38:05 → 00:38:06 นะครับแล้วก็บางคนก็กลัวเรื่องของท้อง
00:38:06 → 00:38:08 เสียบ้างซึ่งถ้าเกิดเขาแพ้อย่างงั้นก็
00:38:08 → 00:38:12 ปรับไปกินเป็นนมจากพืชแทนก็ได้นะครับอ่า
00:38:12 → 00:38:16 แล้วก็คำถามจากคุณนิดหน่อยคำถามสุดท้าย
00:38:16 → 00:38:18 แล้วเธอถามมา 3 คำถามอันนี้น่าสนใจเธอบอก
00:38:18 → 00:38:21 ว่าการทานวิตามินดีน่าจะเป็นการทานอาหาร
00:38:22 → 00:38:24 เสริมเนี่ยจะต้องทำยังไงถ้ามันมีขายตาม
00:38:24 → 00:38:27 ท้องตลาดดูยังไงว่าเราจะไม่โดนหลอกดูยัง
00:38:27 → 00:38:30 ไงว่าเฮ้ยจะเป็นวิตามินที่มันมีคุณภาพพอ
00:38:30 → 00:38:32 ที่เราจะทานเข้าไปเงี้ยค่ะครับจริงๆอัน
00:38:32 → 00:38:34 นี้ก็สังเกตยากเนาะเพราะว่าปัจจุบันนั้น
00:38:34 → 00:38:37 เลียมแบบเหมือนเหมือนมากนะครับจริงๆแล้ว
00:38:37 → 00:38:39 ส่วนตัวผมเองเนี่ยถ้าเกิดให้ดีสุดครับมา
00:38:39 → 00:38:41 รับที่โรงพยาบาลครับค่ะออใช่มั้ยครับ
00:38:41 → 00:38:43 เพราะอย่างงี้ครับคือเอ่อถ้าเกิดแคลเซียม
00:38:43 → 00:38:46 เองเนี่ยเอ่อส่วนตัวผมคิดว่าสามารถเกิด
00:38:46 → 00:38:48 เราคิดว่าเรากินอาหารไม่เพียงพอไอ้ตามไอ้
00:38:48 → 00:38:50 ตามที่เราคุยกันตั้งแต่ต้นชั่วโมงอ่ะนะ
00:38:50 → 00:38:53 ครับว่าโอเคฉันกินอาหารไม่ค่อยครบเนี่ย
00:38:53 → 00:38:56 การซื้อแคลเซียมจากร้านขายยาที่ได้รับ
00:38:56 → 00:38:58 มาตรฐานก่อนเนาะเพราะว่าปัจจุบันมันมี
00:38:58 → 00:39:01 ช่องทางออนไลน์เนาะเช่นเอ่อซื้อผ่านเอ่อ
00:39:01 → 00:39:04 จุดๆที่เป็นสีส้มอย่างเงี้ยบางทีเองเนี่ย
00:39:04 → 00:39:06 เราอาจต้องดูนิดนึงว่าต้องเป็นมอใช่มั้
00:39:06 → 00:39:08 ครับคือต้องเป็นช้อปปิ้งmมออะไรอย่าง
00:39:08 → 00:39:10 เงี้ยครับไม่ใช่แบบเอ่อเห็นราคาไว้ก่อน
00:39:10 → 00:39:12 ซึ่งอันเนี้ยมันเลียนแบบเหมือนมากนะครับ
00:39:12 → 00:39:14 บางทีเองผมผมยังดูไม่ออกครับเพราะว่ามัน
00:39:14 → 00:39:17 เรียนแบบอย.ก็มีทุกอย่างเหมือนกันหมดแล้ว
00:39:17 → 00:39:20 ครับแต่เปลี่ยนแค่สีซีดลงนิดหน่อยแต่ว่า
00:39:20 → 00:39:22 ก็ขายทุกข์ถูกๆเราก็ซื้อมากินอย่างเงี้ย
00:39:22 → 00:39:24 ครับซึ่งนั้นมันก็มีความเสี่ยงสูงที่จะ
00:39:24 → 00:39:27 เป็นของปลอมนะครับเพราะฉะนั้นแคลเซียมเอง
00:39:27 → 00:39:30 อาจจะต้องเอ่อพยายามซื้อจากในร้านยาที่
00:39:30 → 00:39:33 เราไว้ใจได้หรือว่ามีคุณภาพนะครับเอ่อต่อ
00:39:33 → 00:39:36 มาครับวิตามินดีเองเนี่ยส่วนตัวผมแนะนำ
00:39:36 → 00:39:37 ว่าถ้าเกิดพอเป็นไปได้ครับอยากให้มาเจาะ
00:39:37 → 00:39:40 เลือดดูก่อนอ่าเพราะบางคนอาจบางคนอาจจะ
00:39:40 → 00:39:42 ไม่ได้ขาดขนาดนั้นแล้วก็พวกนี้มันแบ่ง
00:39:42 → 00:39:44 เป็นเลเวลครับว่าเราขาดวิตามินดีในระดับ
00:39:44 → 00:39:47 แค่ห้องหรือขาดเลยซึ่งมันจะมีผลต่อ
00:39:47 → 00:39:49 การปรับยาครับค่ะถ้าเกิดเปรียบเทียบง่ายๆ
00:39:49 → 00:39:51 ครับเหมือนกับเอ่อเราไอ้เราเป็นเบาหวานนะ
00:39:51 → 00:39:53 ครับเราก็ต้องไปเจาะเลือดทุกครั้งถูกมั้ย
00:39:53 → 00:39:55 ครับเราคงไม่ใช่ว่าโอเคฉันเดาว่าฉันเป็น
00:39:55 → 00:39:58 เบาหวานเพราะฉะนั้นฉันไปซื้อยากินเองใช่
00:39:58 → 00:39:59 มั้ยครับกินไปกินมาก็เกิดผลเสียเหมือนกัน
00:39:59 → 00:40:01 เพราะฉะนั้นก็เลยเป็นที่มาครับว่าทำไมคน
00:40:01 → 00:40:04 เป็นเบาหวานคนเป็นความดันทำไมฉันก็กินยา
00:40:04 → 00:40:06 เหมือนเดิมมาเป็น 10 ปีทำไมฉันยังต้องไป
00:40:06 → 00:40:08 เจาะเลือดหรือว่าต้องไปหาคุณหมอทุกๆ 3
00:40:08 → 00:40:10 หรือ 6 เดือนอยู่เหตุผลเหมือนกันเลยครับ
00:40:10 → 00:40:13 เพราะว่าพวกนี้เองเราควรต้องปรับยาโดย
00:40:13 → 00:40:15 เฉพาะวิตามินดีเนี่ยตามผลเลือดเลือดอืใช่
00:40:15 → 00:40:17 ครับดังนั้นเองเนี่ยผมยังแนะนำว่าถ้าเกิด
00:40:17 → 00:40:19 ไปไม่ไปไม่ได้เนี่ยซื้อโรงพยาบาลครับแล้ว
00:40:19 → 00:40:22 ก็ณปัจจุบันครับโรงพยาบาลรัดนะครับราคายา
00:40:22 → 00:40:25 ค่อนข้างถูกครับค่ะใช่ครับไปตรวจดีกว่า
00:40:25 → 00:40:27 ให้รู้ว่าขาดมากน้อยแค่ไหนคุณหมอเขาก็จะ
00:40:27 → 00:40:30 ได้แนะนำถูกเนาะว่าทานประมาณเท่าไหร่ใช่
00:40:30 → 00:40:32 ครับแล้วอย่างวิตามินดีถูกมากครับราคา
00:40:32 → 00:40:34 เม็ดนึงไม่ถึง 3 บาทครับออถือว่าเกิดของ
00:40:34 → 00:40:36 โรงพยาบาลรัดนะครับแล้วก็อาทิตย์นึงนะ
00:40:36 → 00:40:38 ครับอย่างมากสุดนะครับกิน 3 แคปซูลครับ
00:40:38 → 00:40:41 ไม่ถึง 10 บาทครับอืไม่ถึง 10 บาทต่อวัน
00:40:41 → 00:40:43 ด้วยค่ะต่ออาทิตย์ด้วยครับ 10 บาทนี่ต่อ
00:40:43 → 00:40:45 อาทิตย์นะครับต่ออาทิตย์ใช่ครับออเพราะ
00:40:45 → 00:40:47 ว่าเราไม่ต้องจำเป็นต้องทานทุกวันเออก็
00:40:47 → 00:40:49 คือกินอาทิตย์ละครั้งครับกินอาทิตย์ละ
00:40:49 → 00:40:51 ครั้งใช่ครั้งละ 1-3 แคปซูลครับขึ้นอยู่
00:40:51 → 00:40:53 กับปริมาณที่เราขาดหรือเปล่าอันนั้นเ
00:40:53 → 00:40:55 เรียกว่าเป็นวิตามิน D2 นะครับก็คือเอ่อ
00:40:55 → 00:40:58 ทำจากพืชแต่ถือว่าเกิดณปัจจุบันก็จะมี
00:40:58 → 00:41:00 ผลิตเอ่อโดักเช่นเป็นวิตามิน D3 ซึ่ง
00:41:00 → 00:41:02 อันเนี้ยประสิทธิภาพก็จะดีกว่า D2 ครับ
00:41:02 → 00:41:04 แต่ว่ามันเบิกจ่ายไม่ได้แล้วก็ต้องกินทุก
00:41:04 → 00:41:07 วันครับอใช่ครับราคาก็อาจจะขึ้นมาประมาณ 9
00:41:07 → 00:41:11 บาทถึง 20 บาทต่อเม็ดค่ะใช่ครับก็แล้วแต่
00:41:11 → 00:41:14 ความเอ่อสบายใจของคนไข้ที่กินแล้วกันอ่า
00:41:14 → 00:41:18 อ่าอออันที่ไม่กินเอ่ออันที่กินทุกวันแต่
00:41:18 → 00:41:22 เราอ่ะสมมุติว่ามีกำลังซื้อเลือกกินแบบ
00:41:22 → 00:41:27 กินทุกวันแต่กินไม่สม่ำเสมอมันมันได้ผลพอ
00:41:27 → 00:41:29 กันมั้กับการที่กินอาทิตย์ละครั้งอ่ะคะ
00:41:29 → 00:41:31 คุณหมอครับจริงๆก็เป็นคำถามที่ดีมากเลย
00:41:31 → 00:41:34 อ่ะเอ่อจะต้องแจ้งครับว่าวิตามินดีไม่
00:41:34 → 00:41:36 เหมือนกับยาตัวอื่นนะครับวิตามินดีครับ
00:41:36 → 00:41:39 แต่ว่าเกิดเรากินไม่สม่ำเสมอครับปริมาณ
00:41:39 → 00:41:41 เลือดจะไม่คงที่ครับแล้วก็พวกนี้เองเนี่ย
00:41:41 → 00:41:44 อยู่ในกระแสเลือดได้แค่ 7-10 วันครับหมาย
00:41:44 → 00:41:47 ความว่าถือว่าเกิดเรานะครับกินยาไปแล้ว
00:41:47 → 00:41:49 ด้วยความสม่ำเสมอร่วมมือดีมากเลยนะครับ
00:41:49 → 00:41:52 แต่สมมุติเราไปต่างประเทศครับสักอาทิตย์
00:41:52 → 00:41:55 นึงกลับมาเจาะเลือดใหม่เนี่ยลงมาอยู่ที่
00:41:55 → 00:41:57 ลดลงเรียบร้อยแล้วครับหมายความว่าพวกนี้
00:41:58 → 00:42:00 ต้องกินสม่ำเสมอครับแล้วก็ต้องควรควรกิน
00:42:00 → 00:42:02 ต่อเนื่องด้วยครับก็เลยเป็นที่มาครับว่า
00:42:02 → 00:42:05 ส่วนตัวผมเองเนี่ยไม่ค่อยแนะนำว่าให้ไป
00:42:05 → 00:42:08 ดิบวิตามินดีเท่าไหร่นะครับอืเพราะว่า 1
00:42:08 → 00:42:11 ราคาค่อนข้างสูงครับ 2 คือเวลาเขาดิบยา
00:42:11 → 00:42:13 กลุ่มนี้นั้นมันปริมาณสูงครับประมาณ
00:42:13 → 00:42:16 300,000-500,000 IU ค่ะนะครับแล้วก็ดิบ
00:42:16 → 00:42:18 แล้วเนี่ยก็ไม่ได้หมายความว่าดิบแล้วจะ
00:42:18 → 00:42:20 อยู่ได้ไปตลอดชีวิตนะครับยังไงก็ต้องไป
00:42:20 → 00:42:22 ดิบต่อทุก 3 เดือนอยู่ดีแล้วราคามันค่อน
00:42:22 → 00:42:24 ข้างแพงครับดังนั้นเองส่วนตัวผมเองเนี่ย
00:42:24 → 00:42:26 ถ้าเกิดว่าเกิดกินเอ่อวิตามินดีจาก
00:42:26 → 00:42:29 ประสบการณ์ที่ใช้ยาตัวนี้มาเป็น 10 ปี
00:42:29 → 00:42:32 เนี่ยเอ่อก็ขึ้นได้ครับตัวเอ่อผลเลือดแต่
00:42:32 → 00:42:34 สมมติว่าเกิดมันไม่ไหวจริงๆก็เปลี่ยนจาก
00:42:34 → 00:42:37 D2 ไป D3 ครับค่ะใช่ครับอ่าครับแล้วควร
00:42:37 → 00:42:41 กินสม่ำเสมอด้วยนะครับอ่าค่ะค่ะพอพูดถึง
00:42:41 → 00:42:44 เรื่องของสุขภาพภาพกระดูกแล้วอ่ะอย่าง
00:42:44 → 00:42:46 อย่าเวลาคนที่น้ำหนักตัวเยอะอ่ะอย่างปลา
00:42:46 → 00:42:48 อย่างเงี้ยก็จะเริ่มปวดเข่า 7 จริงๆก็ยัง
00:42:48 → 00:42:51 ไม่ได้เยอะมากนะฮะอคุณหมอเนี่ยเป็นกำลัง
00:42:51 → 00:42:53 ใจไปออกกำลังกายต่อคือถ้าสมมุติว่าคนที่
00:42:53 → 00:42:56 น้ำหนักตัวเยอะแล้วมีอาการปวดเข่าปวด
00:42:56 → 00:42:59 กระดูกเนี่ยมันมีมาจากสาเหตุอะไรแล้วถ้า
00:42:59 → 00:43:01 เราจะออกกำลังกายเนี่ยต้องออกท่าไหนถึงจะ
00:43:01 → 00:43:03 เหมาะสมเพราะแค่เดินก็ปวดแล้วอ่ะค่ะคุณป
00:43:03 → 00:43:05 โอเคครับเอ่อเดี๋ยวผมต้องมาอีกเรื่องนึง
00:43:05 → 00:43:08 ก่อนคือเอ่อณปัจจุบันครับยินดีมากเลยครับ
00:43:08 → 00:43:10 ที่คุณปาล์มถามคำถามนี้ครับจริงๆผมเกือบ
00:43:10 → 00:43:12 ลืมไปะเอ่อต้องแยกก่อนนะครับว่าโรคข้อ
00:43:12 → 00:43:16 เสื่อมอืกับโรคกระดุพุนคนละโลกนะครับค่ะ
00:43:16 → 00:43:19 แต่เจอในผู้สูงอายุเหมือนกันอ๋อนะครับ
00:43:19 → 00:43:21 เหมือนกับเบาหวานความดันคือคนละโลกครับ
00:43:21 → 00:43:23 แต่เจอในผู้สูงอายุได้เหมือนกันครับเพราะ
00:43:23 → 00:43:26 ว่าอย่างงี้ครับคนไทยครับยังเอ่อยังมี
00:43:26 → 00:43:28 ความเชื่อหรือว่ายังมีความเข้าใจที่ผิด
00:43:28 → 00:43:30 ครับว่าโรคเขาเสื่อมกับโรคกระดูกพุนคือ
00:43:30 → 00:43:33 โรคเดียวกันอ่าดังนั้นครับชื่อบอกอยู่
00:43:33 → 00:43:35 แล้วครับโรคข้อเสื่อมคือเกี่ยวกับไขข้อ
00:43:35 → 00:43:38 ครับพวกนี้จะเกี่ยวกับกระดูกอ่อนก็คือจะ
00:43:38 → 00:43:41 มาด้วยอาการปวดครับเช่นปวดเข่าปวดสะโพกนะ
00:43:41 → 00:43:44 ครับเอ่อหรือว่าปวดตามข้อต่อทั้งหลายพวก
00:43:44 → 00:43:46 นี้จะมาด้วยอาการปวดครับไม่ได้มาด้วย
00:43:46 → 00:43:48 อาการหักนะครับดังนั้นอันนี้คือข้อเสื่อม
00:43:48 → 00:43:51 ครับนะครับส่วนโรคกระดูกพูนครับตามที่ผม
00:43:51 → 00:43:53 ได้แจ้งไปครับเป็นภัยเงียบครับไม่มีอาการ
00:43:53 → 00:43:56 นำมาก่อนเลยและเป็นปัญหาที่กระดูกก็คือ
00:43:56 → 00:43:58 ปริมาณกับคุณภาพของกระดูกที่แย่ลงเพราะ
00:43:58 → 00:44:00 ฉะนั้นจะมาด้วยอาการกระดูกหักจาก
00:44:00 → 00:44:01 อุบัติเหตุเพียงเล็กน้อยเพราะฉะนั้นเป็น
00:44:01 → 00:44:04 คนละโรคกันเลยนะครับเพราะฉะนั้นการรักษา
00:44:04 → 00:44:06 การดูแลตัวเองหรือว่าคนที่มีความเสี่ยง
00:44:06 → 00:44:08 นั้นจะคนละกลุ่มเลยอ่ายกตัวอย่างเช่นนะ
00:44:08 → 00:44:10 ครับถือว่าเป็นโรคกระดูกพุนตามที่ผมได้
00:44:10 → 00:44:13 แจ้งไปแล้วก็ต้องกินแคลเซียมกินวิตามินดี
00:44:13 → 00:44:15 โดนแดดออกกำลังกายถือว่าเกิดเป็นโรค
00:44:15 → 00:44:17 กระดูกพุนและหรือหักเรียบร้อยและก็ต้องไป
00:44:17 → 00:44:19 ใช้ยารักษาโรคกระดูกพุนอันนี้คือเกี่ยว
00:44:19 → 00:44:21 กับกระดูกพุนแต่ถ้าว่าเป็นข้อเข่าเสื่อม
00:44:21 → 00:44:25 ครับก็หลักการก็คือว่าโอเคปวดก็กินยาแก้
00:44:25 → 00:44:27 ปวดครับอืหรือว่าไปกินยาพวกบรรลุน้ำใน
00:44:27 → 00:44:31 เข่าก็มีตั้งแต่ยากินเป็นยาซองแคปซูลก็มี
00:44:31 → 00:44:33 หรือว่าไปฉีดยาบรุงน้ำในเข่าหรือว่าถ้า
00:44:33 → 00:44:35 เกิดไม่ไหวมันก็จบด้วยการไปผ่าตัดเปลี่ยน
00:44:35 → 00:44:38 ข้อสข้อเทียมครับแต่หลักการดูแลตัวเองน่า
00:44:38 → 00:44:40 จะเป็นอีกเรื่องนึงนะครับเพราะถ้าเกิดเขา
00:44:40 → 00:44:42 เสื่อมน้าหมายความว่าอะไรครับเจอในน้ำ
00:44:42 → 00:44:44 หนักตัวเยอะครับอหรือว่าใช้กิจวัตรประจำ
00:44:44 → 00:44:47 วันเยอะเช่นขึ้นลงบันไดเยอะมีกิจกรรมการ
00:44:47 → 00:44:50 งอเข่าเยอะๆเช่นนั่งพับเพียบนั่งขัดสมาด
00:44:50 → 00:44:53 นั่งยองๆขึ้นลงบันไดเยอะๆอย่างเงี้ยครับ
00:44:53 → 00:44:55 อันเนี้ยจะยิ่งทำให้เขามันเสื่อมแล้วจะมา
00:44:55 → 00:44:57 ด้วยอาการปวดครับเพราะฉะนั้นเราก็ต้องทำ
00:44:57 → 00:45:00 ไงครับ 1 ลดน้ำหนักตัวครับอือ 2 คือลด
00:45:00 → 00:45:03 กิจกรรมหรือว่ากีฬาที่ไปกระแทกเยอะๆเช่น
00:45:03 → 00:45:07 พวกกระโดดนะครับหรือว่าเอ่อพวกวิ่งเยอะๆ
00:45:07 → 00:45:09 ที่ต้องมีการกระแทกอย่างเงี้ยครับเอ่อ
00:45:09 → 00:45:11 แล้วก็หลีกเลี่ยมพฤติกรรมการงอเข่าก็
00:45:11 → 00:45:14 อย่างเช่นอาจจะต้องนั่งเก้าอี้แทนและหรือ
00:45:14 → 00:45:16 ว่าพวกไปงอเข่าเยอะๆอาจต้องหลีกเลี่ยงและ
00:45:16 → 00:45:18 อันนี้คือเกี่ยวกับข้อเข่าเสื่อมตามที่
00:45:18 → 00:45:20 คุณปาล์มถามแต่ถ้าเกิดเป็นกระดูกพูนนั้น
00:45:20 → 00:45:23 ความเสี่ยงคือผอมครับผอมเกินไปเลยทำให้
00:45:23 → 00:45:26 เป็นกระดูกพูนกระดูกหักง่ายเพราะฉะนั้น
00:45:26 → 00:45:29 กลุ่มนี้ก็ต้องทำไงครับให้กล้ามเนื้อมีทำ
00:45:29 → 00:45:31 ให้น้ำหนักตัวนั้นอยู่ในเกณฑ์ที่ปกติแต่
00:45:31 → 00:45:34 ว่าก็ไม่ใช่อ้วนเกินไปนะครับเพราะฉะนั้น
00:45:34 → 00:45:36 คนอ้วนกับคนผอมนั้นก็จะมีวิบากกรรมแตก
00:45:36 → 00:45:39 ต่างกันครับคือคนอ้วนนั้นก็จะมาด้วยอะไร
00:45:39 → 00:45:41 ครับพอยุเยอะขึ้นก็จะมาด้วยเบาหวานความ
00:45:41 → 00:45:45 ดันโรคหัวใจใช่มั้ยครับแต่ถ้าเกิดคนผอม
00:45:45 → 00:45:47 ครับอาจจะไม่เป็น 3 โรคนี้ครับแต่จะเป็น
00:45:47 → 00:45:50 โรคกระดุพุนอือ่านะครับเพราะฉะนั้นก็ผม
00:45:50 → 00:45:54 ว่าบาลานซร่างกายดีสุดครับค่ะครับค่ะอัน
00:45:54 → 00:45:58 นี้พอพูดถึงเรื่องของการปวดเจ็บตรงข้อมี
00:45:58 → 00:46:01 คำถามจากคุณผู้ฟังค่ะว่ากรณีของรูมาตอย
00:46:01 → 00:46:05 อ่ะค่ะทำให้กระดูกพรุนมั้ยแล้วก็ถ้าเป็น
00:46:05 → 00:46:07 เนี่ยคือควรรับประทานวิตามินอะไรเสริมได้
00:46:07 → 00:46:10 บ้างมั้ยคะอครับจริงๆแล้วโรคเอ่อรูมาตอย
00:46:10 → 00:46:13 ครับเป็นโรคที่รักษายากมากนะครับอืแต่ว่า
00:46:13 → 00:46:15 ก็ส่วนใหญ่เจอในผู้หญิงด้วยครับอายุ
00:46:15 → 00:46:18 ประมาณ 40-50 ขึ้นไปนะครับโรครูมาตอยนั้น
00:46:18 → 00:46:20 เอ่อไม่ได้เป็นทางขมรักษาเนาะอันนี้ต้อง
00:46:20 → 00:46:23 ให้หมอทางด้านรูมาโตนะครับหรือว่าเป็นหมอ
00:46:23 → 00:46:26 อายุกรรมโรคครอบเป็นแผนกรักษาแต่ถามว่า
00:46:26 → 00:46:29 โรครูมาตอยครับด้วยตัวโรคเองครับเป็นโรค
00:46:29 → 00:46:32 ที่เกี่ยวกับข้ออักเสบครับซึ่งแตกต่างจาก
00:46:32 → 00:46:34 ข้อเสื่อมนะครับข้อเสื่อมนั้นเป็นความ
00:46:34 → 00:46:37 เสื่อมของร่างกายตามที่ได้กล่าวไปแต่แรก
00:46:37 → 00:46:39 แต่รูมาตอยหรือว่ารูมาติึมเนี่ยครับหรือ
00:46:39 → 00:46:42 โรคเก๊าก็ตามนะครับโรคนี้เป็นโรคการ
00:46:42 → 00:46:44 อักเสบของข้อครับค่ะดังนั้นเองครับด้วย
00:46:44 → 00:46:47 ตัวโรคเองครับทำให้กระดุพุนครับเพราะว่า
00:46:47 → 00:46:49 การอักเสบของร่างกายนั้นมีผลทำให้เกิดการ
00:46:49 → 00:46:52 สลายของกระดูกเพิ่มขึ้นนะครับผ่านทางพวก
00:46:52 → 00:46:55 สารหลังคัดหลังเช่นพวกไซโตไคดอินโตลูคิน
00:46:55 → 00:46:57 เป็นสัตว์ทางเทคนิคอ่ะนะครับพวกนี้เอง
00:46:57 → 00:47:00 เนี่ยทำให้การอักเสบยิ่งเยอะครับโดยเฉพาะ
00:47:00 → 00:47:02 ช่วงที่เอ่อเอ่อทางเป็นข้ออักเสบแบบที่
00:47:02 → 00:47:06 แคทีหรือว่าที่มันกำลังกำเลิบเนี่ยยิ่งทำ
00:47:06 → 00:47:09 ให้กระดูกคุณง่ายครับนอกจากนี้เองครับถ้า
00:47:09 → 00:47:11 เกิดว่าเกิดเราต้องใช้ยาในการรักษาครับยา
00:47:11 → 00:47:13 ที่เกี่ยวกับการรักษาโรคข้อเสพลูมาตอยด์
00:47:13 → 00:47:16 มักจะเป็นสเตียรอยดครับยากลุ่มสเตียรอยด์
00:47:16 → 00:47:19 เนี่ยครับเป็นผลสำคัญเลยครับที่ทำให้เกิด
00:47:19 → 00:47:22 กระดูกพุนครับดังนั้นหมายความว่าโรคข้อ
00:47:22 → 00:47:24 อักเสบรูมาตอยครับจะเกิดจะแจ็คพอต 2 แบบ
00:47:24 → 00:47:27 ครับ 1 ด้วยตัวโรคเองถเกิดคุมไม่ดีมีการ
00:47:27 → 00:47:30 อักเสบเยอะก็กระดูกสายเร็วครับแล้วเป็นใน
00:47:30 → 00:47:33 ผู้หญิงด้วยกับ 2 ถว่าเราใช้ยาสเตรอยด์
00:47:33 → 00:47:35 มากเกินไปในการควบคุมยานี่แหละครับก็ทำ
00:47:35 → 00:47:38 ให้กระดูกสลายเร็วเหมือนกันดังนั้นหมาย
00:47:38 → 00:47:40 ความว่าการรักษาโรคนี้จะค่อนข้างยากครับ
00:47:40 → 00:47:42 เราต้องอยู่ในแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้าน
00:47:42 → 00:47:44 นี้ในการคอนโทรลยาให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะ
00:47:44 → 00:47:47 สมคุมโรคได้ด้วยแล้วก็ไม่ใช้สเตรียรอยด์
00:47:47 → 00:47:49 มากเกินไปเพื่อไม่ใช้เอ่อเกิดเรื่องของ
00:47:49 → 00:47:54 การสายกระดุกมากครับอืค่ะค่ะส่วนทางคุณ
00:47:54 → 00:47:58 อ้วนรามคำแหงนะคะถามคุณหมอว่ากระดูกพรุน
00:47:58 → 00:48:01 พบในเพศใดมากกว่ากันตามที่คุณหมอเคยรักษา
00:48:01 → 00:48:03 มาครับจริงๆเจอในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย
00:48:03 → 00:48:05 ครับแต่เน้นย้ำนะครับผู้ชายเจอได้ด้วยนะ
00:48:05 → 00:48:08 ครับอืแล้วก็ถือว่าเกผู้ชายทายนะครับ
00:48:08 → 00:48:10 พิสูจน์แล้วว่ามีกระดูกพุนแล้วก็เกิด
00:48:10 → 00:48:13 กระดูกหักแล้วเนี่ยต้องรีบหาสาเหตุนะครับ
00:48:13 → 00:48:16 เพราะว่าผู้หญิงเนี่ย 80% ครับเกิดจากที่
00:48:16 → 00:48:19 หมวดประจำเดือนครับแต่ผู้ชายเนี่ย 50%
00:48:19 → 00:48:21 ครับที่เป็นกระดูกพุนนั้นมักจะเกิดจาก
00:48:21 → 00:48:24 สาเหตุอื่นเช่นอาจจะเกิดจากการใช้พวกยา
00:48:24 → 00:48:27 บางอย่างหรือว่าเกิดจากฮอร์โมนเพศชายผิด
00:48:27 → 00:48:30 ปกติอนะครับดังนั้นหมายความว่าผู้ชายนั้น
00:48:30 → 00:48:32 มีโอกาสเป็นได้ครับแต่เป็นได้น้อยกว่าผู้
00:48:32 → 00:48:34 หญิงแต่ถ้าเกิดเป็นแล้วครับต้องรีบรักษา
00:48:35 → 00:48:38 ต้องรีบหาสาเหตุครับค่ะอืค่ะอืพอพูดถึง
00:48:38 → 00:48:42 เรื่องเพศว่าเพศหญิงมีโอกาสเป็นมากกว่า
00:48:42 → 00:48:45 แล้วก็การดูแลตัวเองในวัยเด็กเนี่ยก็จะดี
00:48:45 → 00:48:48 เหมือนเป็นอะไรเหมือนเป็นสิ่งที่สะสมอ่า
00:48:48 → 00:48:51 ต้นทุนต้นทุนเยอะทีเนี้ยถ้าผู้สูงอายุที่
00:48:51 → 00:48:54 เขาอาจจะไม่ได้คือเลยจุดนั้นมาแล้วจุด
00:48:54 → 00:48:57 นั้นมาแล้วคือเลยจุดสะสมบุญแล้วไม่เป็นไร
00:48:57 → 00:48:59 ครับคืออย่างน้อยครับเราเริ่มตอนนี้ก็ไม่
00:48:59 → 00:49:01 สายครับอืครับมีการศึกษาบอกเรียบร้อยแล้ว
00:49:01 → 00:49:04 ครับว่าแม้ว่าเราจะเอ่อเผชิญอะไรมาก็ตาม
00:49:04 → 00:49:06 เช่นอ่ะเป็นโรคเรียบร้อยและใช้ยาเรียบ
00:49:06 → 00:49:08 ร้อยแล้วเช่นบางคนเป็นรูมาตอยเรียบร้อย
00:49:08 → 00:49:09 แล้วเป็นเบาวานเรียบร้อยแล้วโออย่างงี้
00:49:09 → 00:49:11 ฉันก็ไม่รอรักษาแล้วกันเพราะยังไงก็หมด
00:49:11 → 00:49:14 หวังจริงๆไม่ใช่นะครับแต่ว่าเกิดเราเจาะ
00:49:14 → 00:49:16 เลือดแล้วตรวจมูลกระดูกแล้วพิสูจน์ว่าเรา
00:49:17 → 00:49:19 ยังไม่หักนะครับแล้วเรารักษาตั้งแต่ตอน
00:49:19 → 00:49:21 นี้ยังรักษาทันครับก็กินแคลเซียมให้เพียง
00:49:21 → 00:49:23 พอวิตามินดีให้เพียงพอแล้วก็ใช้ยารักษา
00:49:23 → 00:49:25 โรคกระดูกพุนครับปัจจุบันเรามียาอยู่ใน
00:49:26 → 00:49:28 มือค่อนข้างเยอะครับแล้วก็แต่ละตัวราคาก็
00:49:28 → 00:49:31 ถูกลงครับแล้วก็ถือว่าเกิดใช้อย่างเอ่อ
00:49:31 → 00:49:33 ถูกวิธีใช้โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเนี่ยเอ่อ
00:49:33 → 00:49:35 ผมเห็นหลายๆเคสนะครับที่ได้โบนัสคือมวล
00:49:35 → 00:49:38 กระดูกนั้นดีขึ้นได้ครับแล้วก็สามารถชะลอ
00:49:38 → 00:49:41 การเกิดการหักได้ด้วยครับอค่ะครับโอ้โห
00:49:41 → 00:49:44 อันนี้ก็ถือว่าเป็นโบนัสนะคะใครอย่าเพิ่ง
00:49:44 → 00:49:47 หมดใจอย่าเพิ่งหมดหวังเราเริ่มกันตอนนี้
00:49:47 → 00:49:50 วันพรุ่งนี้เริ่มได้เลยแต่ว่าชีวิตของคน
00:49:50 → 00:49:53 สมัยใหม่ค่ะคุณหมอคะนอกจากนั่งโต๊ะทำงาน
00:49:53 → 00:49:55 หลายๆชั่วโมงติดต่อกันแล้วการใช้
00:49:55 → 00:49:59 สมาร์ทโฟนก็หลายคนติดมือถือมากรวมถึงตัว
00:49:59 → 00:50:01 ฝั่งเองก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วยการใช้
00:50:01 → 00:50:05 สมาร์ทโฟนนั่งกดแล้วก็ก้มแบบงอแบบเค้า
00:50:05 → 00:50:07 เรียกอะไรนะงอคอ
00:50:07 → 00:50:09 ท่าเดิมๆอ่าท่าเดิมๆอย่างเงี้ยมันมีผลต่อ
00:50:09 → 00:50:12 กระดูกมั้คะเออต้องแจ้งอย่างงี้ครับว่า
00:50:12 → 00:50:14 เกิดในผู้สูงอายุนั้นจะมีเพราะว่าเราต้อง
00:50:14 → 00:50:15 ก้มหลังค่อนข้างเยอะหรือว่าเค้าเรียว่าไป
00:50:15 → 00:50:18 เอ่อค่อนข้างก้มหลังทำให้กระดูกสหลังสุด
00:50:18 → 00:50:21 ได้แต่สำหรับวัยรุ่นเองหรือวัยทำงานครับ
00:50:21 → 00:50:23 ส่วนใหญ่อาจจะไม่ได้มีผลต่อกระดูกโดยตรง
00:50:23 → 00:50:25 นะครับแต่โดยทางอ้อมคืออะไรครับก็มาจบ
00:50:26 → 00:50:27 ด้วยคนเล่นมือถือส่วนใหญ่ไม่ค่อยออกกำลัง
00:50:27 → 00:50:30 กายครับออเป็นในเวนั้นมากกว่าอใช่มั้ย
00:50:30 → 00:50:32 ครับเพราะฉะนั้นมันก็คือเป็น indir หรือ
00:50:32 → 00:50:34 ว่าเป็นทางอ้อมครับแต่อันนึงก็คือว่าพวก
00:50:34 → 00:50:37 นี้จะมาด้วยอฟิศsyrมหรือว่าปวดเอ่อปวด
00:50:37 → 00:50:39 เมื่อยกล้ามเนื้อเรื้อรังครับค่ะใช่มั้
00:50:39 → 00:50:40 ครับแล้วก็พวกนี้เองเนี่ยเรื่องของ
00:50:40 → 00:50:43 โพสเจอร์หรือว่าเรื่องของพฤติกรรมรวมทั้ง
00:50:43 → 00:50:46 เอ่อการบุคลิกก็จะเปลี่ยนไปเพราะอะไรครับ
00:50:46 → 00:50:49 เวลาเราดูมือถือครับสิ่งที่เกิดตามมาคือ
00:50:49 → 00:50:52 หลังค่อมครับเพราะเราก็จะมาแต่ก้มชีวิตมี
00:50:52 → 00:50:55 แต่ก้มหน้าครับดังนั้นเองครับเราก็จะทำ
00:50:55 → 00:50:58 ให้ทำไปทำมาแล้วก็เกิดความคุ้นคุ้นชิน
00:50:58 → 00:51:00 คุ้นเคยเพราะฉะนั้นถ้าเกิดสังเกตครับคน
00:51:00 → 00:51:02 ที่ก้มเล่นมือถือตลอดเวลานั้นบุคลิกจะ
00:51:02 → 00:51:05 เสียไปครับค่ะจะไม่ค่อยเหมือนกับเอ่อพวก
00:51:05 → 00:51:07 เอ่อเอ่อเค้าเรียกว่านายแบบที่ต้องเดิน
00:51:07 → 00:51:10 แบบเชิดไหล่หรือว่าทหารที่แบบต้องยืดอก
00:51:10 → 00:51:12 ใช่มั้ครับเพราะฉะนั้นเองเนี่ยพอเสะสมไป
00:51:12 → 00:51:15 เรื่อยๆครับพอถึงจุดๆนึงที่เขาเข้าสู่ผู้
00:51:15 → 00:51:17 สูงวัยเา้าก็มีพฤติกรรมเหมือนเดิมครับคือ
00:51:17 → 00:51:20 เขาก็ก้มอยู่ดีพอก้มเสร็จปุ๊บก็อาจจะทำ
00:51:20 → 00:51:22 ให้กระดูกนั้นสุดได้ครับอครับแต่ว่าไม่
00:51:22 → 00:51:27 ได้เป็นผลโดยตรงครับอืค่ะค่ะซึ่งคุณหมอ
00:51:27 → 00:51:30 ได้มีการแนะนำวิธีของการดูแลตัวเองป้อง
00:51:30 → 00:51:32 กันไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอาหารการกินการ
00:51:32 → 00:51:34 พักผ่อนการออกกำลังกายอย่างเพียงพอกันไป
00:51:34 → 00:51:37 โดนวิตามินดีอะไรแล้วเนี่ยการออกกำลังกาย
00:51:37 → 00:51:39 เนี่ยคุณหมอมันมันมีมั้คะว่าเราต้องออก
00:51:39 → 00:51:43 กำลังกายประเภทไหนท่าไหนจึงจะเหมาะสมพอดี
00:51:43 → 00:51:44 พองามอะไรอย่างเงี้ยค่ะครับก็ต้องแย่ง
00:51:45 → 00:51:46 ก่อนถือว่าเกิดคนไข้นะครับเป็นแค่กระดูก
00:51:46 → 00:51:49 พุนก่อนนะครับยังไม่เป็นเข่าเสื่อมเนาะ
00:51:49 → 00:51:50 เพราะว่าอันนี้จะยากแล้วถือว่าเป็นทั้ง
00:51:50 → 00:51:51 กระดูกพุนและเข่าเสื่อมด้วยเพราะอย่างงี้
00:51:51 → 00:51:53 ครับตามที่ผมไม่ได้แจ้งไปตั้งแต่ต้นราย
00:51:53 → 00:51:55 การนะครับว่ากระดูกนั้นเป็นสิ่งที่ยังมี
00:51:55 → 00:51:57 ชีวิตอยู่อดังนั้นมันต้องมีการกระแทกครับ
00:51:57 → 00:52:00 เค้าเรียกว่าโหลดingค่ะดังนั้นกิจกรรม
00:52:00 → 00:52:02 อะไรก็ตามครับที่มีการกระแทกครับก็จะดี
00:52:02 → 00:52:04 ต่อกระดูกครับทำให้กระดูกพุนนั้นน้อยลง
00:52:04 → 00:52:08 ครับยกตัวอย่างเช่นการไปวิ่งการเดินนะ
00:52:08 → 00:52:11 ครับการเต้นหรือการรำเอ่อเช่นการเต้น
00:52:11 → 00:52:15 ไอโรบิกการรำเอ่อไทเกกการเอ่อมวยจีนนะ
00:52:15 → 00:52:18 ครับหรือว่าพวกไทชินะครับพวกนี้เองเนี่ย
00:52:18 → 00:52:20 จะมีการลงน้ำหนักครับแล้วสิ่งที่สำคัญ
00:52:20 → 00:52:22 ครับพวกนี้จะมีการเอ่อเรื่องของการทรงตัว
00:52:22 → 00:52:25 ด้วยนะครับอันนึงที่ผมลืมพูดไปคือเรา
00:52:25 → 00:52:26 เนี่ยเน้นการออกกำลังกายแต่เราไม่ค่อย
00:52:26 → 00:52:28 เน้นการทรงตัวครับเพราะว่าถ้าเกิดเราทรง
00:52:29 → 00:52:30 ตัวได้ดีๆเนี่ยโดยเฉพาะผู้สูงอายุครับเรา
00:52:30 → 00:52:33 ก็จะล้มได้น้อยลงเมื่อเราล้มน้อยลงครับ
00:52:33 → 00:52:36 เราก็ไม่หักครับผมเชื่อว่าเรารักษาดีขนาด
00:52:36 → 00:52:39 ไหนถือว่าเกิดหกลมก็หักได้นะครับดังนั้น
00:52:39 → 00:52:41 โดยรวมครับถือว่าเกิดเราไปกระดูกพูนครับ
00:52:41 → 00:52:43 กิจกรรมอะไรที่มีการกระแทกลงน้ำหนักครับ
00:52:43 → 00:52:46 ทำได้เลยครับดังนั้นหมายความว่ายน้ำจะไอ้
00:52:46 → 00:52:48 ไอ้จะไม่ค่อยดีกับกระดูกพุนแต่ถือว่าเรา
00:52:48 → 00:52:50 เป็นเข่าเสื่อมด้วยครับการไปกระแทกเยอะๆ
00:52:50 → 00:52:53 ทำให้ปวดเข่าครับไม่ได้ใช่ครับดังนั้นเอง
00:52:53 → 00:52:55 อาจจะต้องไปจบด้วยการไปปั่นจักรยานหรือ
00:52:56 → 00:52:58 ว่าเป็นการเดินแทนอะไรหรือว่าเป็นการแบบ
00:52:58 → 00:53:01 รำมวยจีนหรือว่ารำไทเกกแทนที่ไม่มีการ
00:53:01 → 00:53:05 กระแทกเยอะๆก็น่าจะเป็นคำตอบครับอ๋อเห็น
00:53:05 → 00:53:08 เลยถ้าอย่างนั้นกีฬาที่กระแทกเยอะๆเช่น
00:53:08 → 00:53:12 บาสเกตบอลแบดมินตันหรือเอ่อตัวของฟุตบอล
00:53:12 → 00:53:15 อย่างเงี้ยค่ะมันดีหรือไม่ดีกับกระดูกกัน
00:53:15 → 00:53:17 แน่คะคุณหมอเพราะมันก็ค่อนข้างกระแทกอ
00:53:17 → 00:53:19 จริงๆแล้วเอ่อกิจกรรมหรือกีฬาที่คุณขวัญ
00:53:19 → 00:53:22 แจ้งมาครับอันนั้นคือก็เหมาะเหมาะสมในวัย
00:53:22 → 00:53:24 รุ่นใช่มั้ยครับแต่ถ้าถือว่าเป็นผู้สูง
00:53:24 → 00:53:26 อายุเนี่ยกิจกรรมที่พูดมาอาจจะยากนิดนึง
00:53:26 → 00:53:30 ครับเพราะว่า 1 คือมันมีโอกาสกระแทกสูงมี
00:53:30 → 00:53:31 โอกาสบาดเจ็บได้ง่ายครับเพราะฉะนั้นส่วน
00:53:31 → 00:53:33 ตัวผมไม่ค่อยแนะนำเท่าไหร่นะครับถือว่า
00:53:33 → 00:53:35 เกิดจะไปเล่นฟุตบอลเล่นบาสเกตบอลหรือว่า
00:53:35 → 00:53:38 อะไรที่รุนแรงในผู้สูงอายุแต่ถเป็นวัย
00:53:38 → 00:53:40 รุ่นนะครับทำได้เลยครับพวกเนี้ยก็เพราะ
00:53:40 → 00:53:42 อะไรครับข่าวเรายังไม่เสื่อมไงครับว่า
00:53:42 → 00:53:45 เกิดวัยรุ่นอายุ 20 30 เนี่ยเล่นได้เลย
00:53:45 → 00:53:46 ครับแต่ระมัดระวังการบาดเจ็บแล้วกันเพราะ
00:53:46 → 00:53:48 ว่ามีเหมือนกันคือเล่นฟุตบอลหรือเล่น
00:53:48 → 00:53:51 บาสเก็ตบอลแล้วเอ็นไขว้ขาดครับว่ามันเกิด
00:53:51 → 00:53:53 อุบัติเหตุครับพอเอ็นไขว้เอ่อพอพอเอ็น
00:53:53 → 00:53:55 ไขว้ขาดปุ๊บเนี่ยสิ่งที่ตามมาคือเข่า
00:53:55 → 00:53:58 เสื่อมเกิดขึ้นเร็วขึ้นอนะครับเพราะ
00:53:58 → 00:53:59 ฉะนั้นเอ่ออะไรก็ตามเนี่ยก็เป็นวัยรุ่นทำ
00:54:00 → 00:54:02 ได้ทุกอย่างครับก็กินอาหารให้ได้เอ่อ
00:54:02 → 00:54:05 เพียงพอออกกำลังกายโดนแดดกลางแจ้งแล้วก็
00:54:05 → 00:54:08 ใช้ชีวิตอย่าเป็นแบบชิลๆไลฟ์สไตล์ครับออก
00:54:08 → 00:54:11 ไปโดนแดดบ้างมีกิจกรรมเหมือนในอดีตครับก็
00:54:11 → 00:54:15 ก็น่าจะดีก็เพียงพอแล้วครับค่ะโอ้โหครบ
00:54:15 → 00:54:17 ถ้วนมากๆนะคะวันนี้คุณหมออธิบายได้เห็น
00:54:17 → 00:54:19 ภาพทุกอย่างหวังว่าจะเป็นประโยชน์กับทุก
00:54:19 → 00:54:21 คนไม่ต้องหวังว่าแหละเป็นประโยชน์มากๆใน
00:54:21 → 00:54:24 วันนี้แล้วก็คุณผู้ชมคุณผู้ฟังเนี่ยก็รู้
00:54:24 → 00:54:26 สึกว่าชอบแล้วก็ถามกันมาอย่างรัวๆวันนี้
00:54:26 → 00:54:29 ต้องขอขอบพระคุณนะคะพันตำรวจเอกนายแพทย์
00:54:29 → 00:54:31 ธนวัฒอัมพันทรัพย์นะคะประธานศูนย์ความ
00:54:31 → 00:54:33 เป็นเลิศโรคโรคกระดูกพรุนและโรคกระดูกใน
00:54:34 → 00:54:36 ผู้สูงอายุกลุ่มงานอโทปิโรงพยาบาลตำรวจ
00:54:37 → 00:54:40 ขอบคุณเป็นอย่างสูงนะคะขอบคุณค่ะแล้ววัน
00:54:40 → 00:54:42 นี้รายการของเราก็หมดเวลาลงแล้วนะคะคุณ
00:54:42 → 00:54:45 ผู้ฟังพี่ขวัญคะปาล์มกับพี่ขวัญก็ต้องขอ
00:54:45 → 00:54:47 ลาคุณผู้ชมคุณผู้ฟังไปก่อนฝันดี
00:54:47 → 00:54:53 ราตรีสวัสดิ์ค่ะสวัสดีค่ะสวัสดี