00:00:00 → 00:00:02 คุณหมอครับก่อนอื่นที่เราจะไปคุยกัน
00:00:02 → 00:00:04 เรื่องตะคิวกลางค่ำกลางคืนก่อนถามเพื่อ
00:00:04 → 00:00:07 เป็นความรู้ก่อนเลยครับว่าไอ้อาการตะคริว
00:00:07 → 00:00:11 เนี่ยมันคือลักษณะอาการแบบไหนครับถึงถึง
00:00:11 → 00:00:14 ถึงเรียกว่าตะคิวครับคุณหมอครับจริงๆ
00:00:14 → 00:00:16 สาเหตุมันก็เกิดจากการที่กล้ามเนื้อมัน
00:00:16 → 00:00:18 เกิดการหดตัวอย่างรุนแรงอนะครับทำให้เกิด
00:00:18 → 00:00:20 อากาศตวดขึ้นมาที่บริเวณกล้ามเนื้อนะครับ
00:00:21 → 00:00:23 ตรงเนี้ยครับครับซึ่งส่วนใหญ่จะเกิดที่
00:00:23 → 00:00:27 บริเวณเ่อเอ่อณน่องอนะครับด้านหลังของเรา
00:00:27 → 00:00:30 นะครับเพบางั้จะมีที่ต้นขาได้นะครับแต่
00:00:30 → 00:00:33 ว่าส่วนใหญ่จะคือที่นอกมากกว่านะครับอือื
00:00:33 → 00:00:37 โอหต้นขาก็มีเหรอคะอันนี้ต้นขาก็อาจจะมี
00:00:37 → 00:00:41 ได้แต่น้อยน้อยน้ครับอือาการเจ็บปวดเนี่ย
00:00:41 → 00:00:43 คุณคุณหมอครับถ้าเทียบกันเนี่ยถ้าน่องกับ
00:00:43 → 00:00:48 ช่วงต้นขาเนี่ยอันไหนมันมันจะมีความเจ็บ
00:00:48 → 00:00:50 ปวดมากกว่ากันเพราะว่าส่วนตัวผมเองเนี่ย
00:00:50 → 00:00:52 ผมผมไม่เคยขึ้นไปถึงต้นขาส่วนใหญ่เต็มที่
00:00:52 → 00:00:56 ขี้น่องแต่ว่าที่นู้สว่าเออใครเป็นต้นขา
00:00:56 → 00:01:00 มันน่าจะน่ากลัวเหมือนกันอส่วนตัวส่วนตัว
00:01:00 → 00:01:03 เองก็เคยเป็นแค่แต่น่องนะ
00:01:03 → 00:01:06 ครับมันจะมีความเจ็บปวดต่างกันแค่ไหนนะ
00:01:06 → 00:01:08 ครับแต่ส่วนใหญ่ก็จะเป็นที่ที่น้องมาก
00:01:08 → 00:01:10 กว่านะครับส่วนถ้าเป็นที่อื่นจนมันอาจะมี
00:01:10 → 00:01:14 โรกอื่นร่วมด้วยนะครับอืครับผมมันมัน
00:01:14 → 00:01:17 เหมือนแบบว่ายิ่งเราเนี่ยไปขยับเขยื้อน
00:01:17 → 00:01:21 ร่างกายเราไปกระดกปลายเท้าเราไปอะไรอย่าง
00:01:21 → 00:01:24 ไปจับแล้วโอหมันมันยิ่งเกร็งมากขึ้นน่ะ
00:01:24 → 00:01:29 ค่ะคุณหมอค่ะมันมันมีลักษณะของการต่อต้าน
00:01:29 → 00:01:32 ปฏิกิริาร่างกายยังไงอ่ะคะแต่ชิจริงๆมัน
00:01:32 → 00:01:34 จริงๆมันเกิดจากการที่กล้ามเนื้อมันหดตัว
00:01:34 → 00:01:38 นะสมมุติว่ามีอาการที่นอมันเกิดจากกล้าน
00:01:38 → 00:01:40 เนื้อตรงเวนน่องด้านหลังเราหดตัวนะครับมี
00:01:40 → 00:01:43 2 ัใหญ่ๆนะครับซึ่งถ้าเราไปอ่านตามที่เ
00:01:43 → 00:01:47 แนะนำกันส่วนใหญ่เจะแนะนำให้เราสชขายืดขา
00:01:47 → 00:01:50 ให้ปึงแล้วก็พยายามเอามือจับที่ปลายเท้า
00:01:50 → 00:01:53 เพื่อให้ดันให้กระดกข้อเท้าขึ้นมาเพื่อ
00:01:53 → 00:01:55 ให้กล้ามเนื้อมันคลายตัวนะครับแต่บาง
00:01:55 → 00:01:57 ครั้งถ้าเราทำรุนแรงเกินไปขอให้เกิดอาการ
00:01:57 → 00:02:00 ปวดได้นะครับ
00:02:00 → 00:02:02 ท่ๆไปเราก็แนะนำว่าให้อาจจะค่อยๆทำนะครับ
00:02:02 → 00:02:06 ไม่ต้องถึงขั้นว่าว่ายืดให้สุดซักทีเดียว
00:02:06 → 00:02:08 ค่อยๆค่อยๆนวดไป
00:02:08 → 00:02:13 ด้วยใช่ครับอืส่วนใหญ่เนี่ยเวลาที่มักจะ
00:02:13 → 00:02:17 เจอที่มักจะเป็นกันบ่อยๆครับคุณหมอครับ
00:02:17 → 00:02:20 มันมันจะมีช่วงเวลามครับที่มันจะเจอกัน
00:02:20 → 00:02:22 เป็นประจำอะไรอย่าเงี้ยคุณหมอฮะไอ้การ
00:02:22 → 00:02:24 เกิดตะคิวเนี่ยครับส่วนใหญ่ก็เป็นกันตอน
00:02:24 → 00:02:27 กลางคืนนะครับแล้วก็บางครั้งก็อาจจะเป็น
00:02:27 → 00:02:29 ช่วงที่หลับไปแล้วแล้วก็มันเกิดอาการกัน
00:02:29 → 00:02:33 ตะกิวขึ้นมาให้ตื่นขึ้นมาางนึครับอืทีนี้
00:02:33 → 00:02:36 ก็เลยอยากจะรู้เลยครับคุณหมอครับว่าการ
00:02:36 → 00:02:40 เกิดขึ้นของตะคริวในช่วงเวลากลางค่ำกลาง
00:02:40 → 00:02:43 คืนเนี่ยมันมันเกิดขึ้นได้อย่างไรสาเหตุ
00:02:43 → 00:02:46 หลักๆเนี่ยมันมันว่ามันหดตัวเอมันมามันมา
00:02:46 → 00:02:50 จากตรงไหนยังไงฮะจริงๆมันก็อาจจะมีสาเหตุ
00:02:50 → 00:02:52 หลายๆอย่างที่เป็นปัจจัยเสริมอยู่แล้วนะ
00:02:52 → 00:02:54 ครับเช่นเ่อคนใกล้เจะเป็นผู้สูงอายุใช่
00:02:54 → 00:02:58 มั้ยฮะอาจจะมีเส้นเลือดที่ปลายที่ไปเรีย
00:02:58 → 00:03:00 ที่ปลายทางไม่ค่อยดีนะครับอาจจะมีลักษณะ
00:03:00 → 00:03:05 ของตัวเ่อหมอองกระดูกทับเส้นประสาทอยู่นะ
00:03:05 → 00:03:07 ครับนะก็อาจให้เป็นตัวกระตุ้นได้นะครับ
00:03:07 → 00:03:12 แล้วก็เอ่อบางคนผู้สูงอายุกินพวกยาขับ
00:03:12 → 00:03:15 วาวะหรือว่าทานอาหารที่เพียงพอจะมีเรื่อง
00:03:15 → 00:03:18 ของตัวเสือแร่ต่ำกันนะครับเช่นโปแตสเซียม
00:03:18 → 00:03:20 หรือแคลเซียมหรือแมกนีเซียมนะครับนี้ก็
00:03:20 → 00:03:22 เป็นปัจจัยหลักนะครับส่วนปัจจัยเสริมก็
00:03:23 → 00:03:24 อาจจะมีเรื่องของตัวการใช้งานของกล้าม
00:03:24 → 00:03:27 เนื้อในระหว่างวันนะครับอาจจะทำงานออก
00:03:27 → 00:03:31 กำลังกายเยอะเินหรืออาจจะนั่งิ 5 เดินนาน
00:03:31 → 00:03:33 ๆก็เป็นตัวที่กระตุ้นให้เกิดอาการเกิดต
00:03:33 → 00:03:37 คิวได้นะครับอืว่าบางครั้งเราออกตายเรา
00:03:37 → 00:03:39 อาจจะไม่มีการยืดจ้าเนื้อที่เออกก็เป็น
00:03:39 → 00:03:43 ตัวกตุนได้เช่นกันนะครับอืเรื่องของท่า
00:03:43 → 00:03:46 นอนครับคุณหมอในช่วงกลางคืนเนี่ยมันมี
00:03:46 → 00:03:48 ส่วนเกี่ยวข้องกับการทำให้เกิดตะคริวม
00:03:48 → 00:03:52 ครับจริงๆไม่ไม่มีพูดถึงนะครับแต่ว่าแต่
00:03:53 → 00:03:56 ว่าก็มีคนพูดถึงเรื่องของตัวตัวอากาศ
00:03:56 → 00:03:59 เหมือนกันนะครับบางทีอากาศเย็นเกไปก็จะ
00:03:59 → 00:04:02 เป็นตัวกตได้เก็แนะนำว่าจะให้อ่ามีข้าหม
00:04:02 → 00:04:05 บางๆคุมเท้าไว้ซักหน่อยนึงนะครับเวลาเรา
00:04:05 → 00:04:09 นอนนะครับอืลายเท้าเลยใช่มคะคุมให้หมดคุม
00:04:09 → 00:04:14 ให้ถึงใชครับอืแอร์ที่มันปัดเป่าลงมา
00:04:14 → 00:04:18 เนี่ยมันมักจะอยู่ปลายทางเออแล้วก็เรามี
00:04:18 → 00:04:21 ความรู้สึกว่าอุ๊ยมันมันจ่อไปยังไงลักษณะ
00:04:21 → 00:04:25 ของแอร์ที่ที่ลมของแอร์เนี่ยคะแล้วควรจะ
00:04:25 → 00:04:30 ปัดขึ้นไปไม่ให้มันลงข้างล่างเลยยังไงช่ว
00:04:30 → 00:04:32 จริงๆการติดตั้งแอร์ที่เหมาะสมมันก็ไม่
00:04:32 → 00:04:38 ควรจะเป่าลงมาที่ตัวเรานะอืนะครับค่ะออ
00:04:38 → 00:04:40 เพราะว่าอากาศเย็นก็จะเป็นตัวกระตุ้นได้
00:04:40 → 00:04:42 นะครับในกรณีที่อาจจะมีเรื่องของเส้น
00:04:42 → 00:04:44 เลือดที่ไม่ดีเพราะอากาศเย็นปกติเส้น
00:04:44 → 00:04:46 เลือดแล้วร่างกายเราก็จะมีการหดตัวของ
00:04:46 → 00:04:48 เส้นเลือดเพื่อเก็บอุณหภูมิะนะครับนี่อาจ
00:04:49 → 00:04:51 จะเป็นข้อข้อนึงที่เาแนะนำว่าอาจจะมีการม
00:04:52 → 00:04:55 ผ้าบางๆคุมที่ถึงเ้าอะไรพเี้ยนะครับเพื่อ
00:04:55 → 00:04:59 เพื่อรมันเย็นเกินไปจะจะกระตุ้นนะครับอื
00:04:59 → 00:05:03 อืก็คือเรื่องของแอร์นี่ก็าให้เหมาะสมเห
00:05:03 → 00:05:07 ้าให้ดีอืก็อาจจะมีส่วนัดอส่วนเกี่ยวข้อง
00:05:07 → 00:05:11 ด้วยใช่มั้ยครับทีนี้เรื่องของเอ่อการออก
00:05:11 → 00:05:14 กำลังกายที่เยอะเกินไปสมมุติถ้ามันเกิด
00:05:14 → 00:05:17 ขึ้นในกรณีของผู้สูงอายุเนี่ยมันปัจจัย
00:05:17 → 00:05:20 นี้เนี่ยมันมันมันเกี่ยวข้องมากน้อยขนาด
00:05:20 → 00:05:23 ไหนครับคุณหมอครับจริงๆจริงๆครับการข้อ
00:05:23 → 00:05:25 ข้อแนะนำสำหรับเรื่องการป้องกันตะคิว
00:05:25 → 00:05:28 เนี่ยครับแนะนำว่าให้กออกกำลังกายเนี่ย
00:05:28 → 00:05:32 ให้ให้เ่อสให้ให้ยืดกล้ามเนื้อก่อนนะครับ
00:05:32 → 00:05:34 ทั้งทั้งก่อนและหลังออกกำลังกายเสร็จนะ
00:05:34 → 00:05:36 ครับไม่ใช่แบบอยู่เฉยๆไปถึงแล้ววิ่งออก
00:05:36 → 00:05:39 กำลังกายเลยอะไรนี้เแนะนำให้ยืดก้าบเนื้อ
00:05:39 → 00:05:41 ก่อนนะครับแล้วก็หลังจากออกกำลังกายเสร็จ
00:05:41 → 00:05:44 แล้วก็แนะนำให้ดานะครับก็ค่อยๆลดลงไม่ใช่
00:05:44 → 00:05:47 แบบอยู่ๆก็ออกกำลังกายดักๆแล้วหยุดทันที
00:05:47 → 00:05:50 โดยที่ไม่มีการมอาไม่มีการเอ่อยืดกล้าม
00:05:50 → 00:05:52 เมือหลังจากนั้นเลยนะครับแล้วก็การออก
00:05:52 → 00:05:55 กำลังกายเนี่ยในคนที่อาจจะไม่เคยออกกำลัง
00:05:55 → 00:05:57 กายเลยเค่อแนะนำค่อยๆเริ่มก่อนนะครับนะ
00:05:57 → 00:06:00 ไม่ใช่ว่าแบบเอ่อเหมือนไม่เคยออกกำลังกาย
00:06:00 → 00:06:02 เลยก็ไปวิ่งหนักเลยอะไรประมานี้นะครับ
00:06:02 → 00:06:04 ค่อยๆสต็ปไปนะครับเพราะว่าการที่มันมี
00:06:04 → 00:06:06 อาการปวดมีอารตึงของข้ามเเมันก็เป็นการ
00:06:06 → 00:06:09 เตือนว่านตอนที่เราจะใช้ใช้งานกล้ามเนื้อ
00:06:10 → 00:06:12 มากเกินไปนะครับซึ่งในกลางคืนก็อาจจะส่ง
00:06:12 → 00:06:16 ผลให้เกิดอาการตะคิวได้นะครับอืในในนอก
00:06:16 → 00:06:21 จากผู้สูงอายุแล้วเนี่ยในวัยทำงานวัยอาจ
00:06:21 → 00:06:24 จะประมาณ 20 เนี่ยเเป็นกันมยคะ
00:06:24 → 00:06:28 ติวครับก็ในในในในในวัยทำงานก็อาจจะเกิด
00:06:29 → 00:06:31 จากปัจจัยอื่นนนะครับเช่นอ่าอาจจะมี
00:06:31 → 00:06:34 เรื่องของตัวการออกกำลังกายที่มากเกินไป
00:06:34 → 00:06:36 นะครับเพว่าจริงๆแล้วเก็ว่ากันว่าการที่
00:06:36 → 00:06:39 นั่งอยู่ในท่าเดิมนานๆทำงานในท่าเดิมนานๆ
00:06:39 → 00:06:42 โดยที่ไม่ขยับในไม่รู้ไปเปลี่ยนอิริยาบถ
00:06:42 → 00:06:44 เพองก็เป็นตัวกระตุนได้นะ
00:06:44 → 00:06:48 ครับอือันนี้ก็คือก็อย่างเช่นในผู้หญิงก็
00:06:48 → 00:06:50 ไวตั้งผู้หญิงตั้งครรภ์ก็อาจจะเป็นตัว
00:06:50 → 00:06:52 กระตุ้นเรื่องของปะทิวได้เหมือนกันครับอื
00:06:52 → 00:06:54 อ๋อที่บอกมีเชนเลือดขอดมีอะไรด้วยที่นั่ง
00:06:55 → 00:06:58 นานคุณหมอเมีส่วนนึงที่คนบอกว่าเรื่องของ
00:06:58 → 00:07:00 การทานน้ำอย่างตัวเองอยู่ในวัยที่ที่สูง
00:07:00 → 00:07:03 วัยแล้วเนี่ยก็พยายามทานน้ำให้ได้ตลอด
00:07:04 → 00:07:06 ตลอดระยะเวลาที่จะช่วยเรืองนี้ได้ที่ึมัน
00:07:06 → 00:07:10 ก็น่าจะตอนตอนที่เป็นนะคะแล้วก็ตอนเนี้ย
00:07:10 → 00:07:12 ดื่มน้ำแตกต่างกันมันช่วยได้เยอะเลยน้ำ
00:07:12 → 00:07:15 เนี่ยสำคัญแค่ไหนเกี่ยวกับลดอาการเป็น
00:07:15 → 00:07:17 ตคิวครับคุณหนครับครับก็จริงๆเรื่องของ
00:07:17 → 00:07:19 การภาวะการขาดน้ำเนี่ยครับก็เป็นส่วน
00:07:19 → 00:07:23 หนึ่งที่อาการตะคิวนะครับั้นเแนะนำว่าให้
00:07:23 → 00:07:25 ดื่มน้ำไม่เพียงพอก็จะช่วยลดอาการตะคิว
00:07:25 → 00:07:27 ได้ครับแล้วก็หลีกเลี่ยงการออกกำลังกาย
00:07:27 → 00:07:30 ที่ร้อนๆเพราะการออกกำลังที่รอนๆเนี่ยก็
00:07:30 → 00:07:32 จะเสียทั้งงานเสียทั้งเงือใช่มั้ยฮะซก็จะ
00:07:32 → 00:07:36 มีการดุดแกเกลือแร่ด้วยนะครับอือันนี้ก็
00:07:36 → 00:07:41 คือเรื่องราวของืน้ำก็ประมาณเอ 2 ลิตรพอ
00:07:41 → 00:07:45 มั้ยคะคุณหบเกินไปก็โดยโดยเฉลี่ยๆก็น่าจะ
00:07:45 → 00:07:47 ประมาณนั้นต่อวันนนะครับแต่ว่าจริงๆแล้ว
00:07:47 → 00:07:50 ในคนปกติร่างกายคนเรามันจะมีตัวที่ควบคุม
00:07:50 → 00:07:53 อยู่แล้วว่าถ้าเราอย่างเช่นบางวันเราอาจ
00:07:53 → 00:07:57 จะออกไปกลางแข้างนอกเยอะกลางแดดอากาศร้อน
00:07:57 → 00:07:59 เสี่ยเหงื่อเยอะอะไรพวกนี้นะครับร่างกาย
00:07:59 → 00:08:02 เราจะกระตุ้นให้เกิดอาการหิวน้ำอยู่แล้วะ
00:08:02 → 00:08:04 นะครับเราก็อาจจะดูได้จากสีปัสสาวะของเรา
00:08:04 → 00:08:07 เองนะครับซึ่งถ้ามันขาดน้ำเป็นเหลืองเค็ด
00:08:07 → 00:08:12 มากอะไรพวกเนี้ยอืก็ควรจะต้องควรจะต้อง
00:08:12 → 00:08:15 ทานน้ำให้อย่างเพียงพอเพอเพียงเนาะอือใช่
00:08:15 → 00:08:19 อใช่ครับคุณหมอครับทีนี้เนี่ยมันก็มีคำ
00:08:19 → 00:08:22 ถามตามมาว่าไอ้ตะคิวตอนกลางคืนเนี่ยถ้า
00:08:22 → 00:08:26 เกิดขึ้นสักครั้ง 2 ครั้งนานๆเกิดขึ้นที
00:08:26 → 00:08:28 เนี่ยมันไม่มีปัญหาครับแต่ว่าแต่ว่าถ้า
00:08:28 → 00:08:29 มันเกิดขึ้น
00:08:29 → 00:08:35 บ่อยๆหลายคนก็ส่งเอ่อข้อความมาบอกว่าคือ
00:08:35 → 00:08:38 เกิดขึ้นเนี่ยค่อนข้างที่จะบ่อยทีเดียว
00:08:38 → 00:08:40 แล้วมันเลยถามว่ามันมีความสุ่มเสี่ยงต่อ
00:08:40 → 00:08:44 การนำไปสู่โรคภัยไข้เจ็บต่างๆยังไงได้
00:08:44 → 00:08:48 บ้างฮะคุณหมอฮะครับจริงๆก็ถ้าถ้าถ้าเป็น
00:08:48 → 00:08:51 นานๆทีก็อาจจะไม่ได้เป็นปัญหาอะไรมากนัก
00:08:51 → 00:08:53 นะครับแต่ถ้าเกิดว่ามันเป็นถีเป็นบ่อย
00:08:53 → 00:08:56 แล้วดูแล้วเนี่ยเราก็ไม่ได้เอ่อมีปัญหา
00:08:56 → 00:08:59 อย่างเช่นออกกำลังกายหนักใช้งานหนักเรเ
00:08:59 → 00:09:01 แต่ก็ยังเกิดตะคิวบ่อยๆหรือเราหลีกเลี่ยง
00:09:01 → 00:09:03 แล้วก็ยังเกิดอยู่เนี่ยก็ควรจะไปพกแพทนนะ
00:09:03 → 00:09:05 ครับเพราะว่าการเกิดตะคิวที่เป็นถี่แล้ว
00:09:05 → 00:09:07 เป็นบ่อยแล้วก็
00:09:07 → 00:09:10 เอ่อก่อให้เกิดอาการเจ็บปวดแก่เราหรือว่า
00:09:10 → 00:09:13 รบกวนเราเองเนี่ยอาจจะเป็นอาการแสดงอาการ
00:09:13 → 00:09:15 หนึ่งของโรกที่อาจจะซุกซ่อนอยู่นะครับ
00:09:15 → 00:09:17 ซึ่งจริงๆก็อาจจะเจอได้ในได้ในหลายโรค
00:09:17 → 00:09:21 อย่างเช่นพวกโรคอ่าเบาหวาโรคไทรรอยโรคตับ
00:09:21 → 00:09:23 โรคไตอะไรประมาณเนะครับซึ่งก็กดจะเป็นพแพ
00:09:23 → 00:09:27 เพื่อหาสาเหตุนะครับเอ่อมันมันมันมีข้อ
00:09:27 → 00:09:29 สงสัยอยู่ครับแล้วก็ผมเชื่อว่าหหลายคน
00:09:29 → 00:09:31 อยากจะรู้เหมือนกันเพราะว่าไอ้คำว่าเป็น
00:09:31 → 00:09:35 บ่อยเนี่ยมันต้องเป็นกันมันกินกันกี่
00:09:35 → 00:09:38 ครั้งแล้วก็ในระยะเวลาเท่าไหร่มันถึง
00:09:38 → 00:09:41 เรียกว่าบ่อยครับคุณหมอครับจริงๆจริงๆไม่
00:09:41 → 00:09:44 ได้มีไม่ได้มีไม่ได้มีตัวเลขชัดเจน่ะนะ
00:09:44 → 00:09:46 ครับว่าว่าว่าต้องเป็นกี่ครั้งต่อสัปดาห์
00:09:46 → 00:09:48 หรือกี่กี่ครั้งต่อเดือนถึงจะถือว่าบ่อย
00:09:48 → 00:09:52 นะครับเก็ให้คำจตัดความว่าเออถ้ามันแบบ
00:09:52 → 00:09:54 ถึงขรู้สึกว่ามันรบกวนการนอนของเราอะไร
00:09:54 → 00:09:57 ประมาณเยนะครับนะทำให้เรารู้สึกว่ามันไม่
00:09:57 → 00:10:01 สุขสบายตัวรู้สึกทรมานจากมันก็ควรจะไปหา
00:10:01 → 00:10:03 แพทย์นะครับหรือว่ามันอาจจะมีอาการอื่น
00:10:03 → 00:10:07 ที่ที่เราเจอร่วมด้วยนะครับเช่นอาจจะมี
00:10:07 → 00:10:10 เรื่องของตัวอาการอ่อนแรงของขาอาจจะมี
00:10:10 → 00:10:12 อาการชาหลงเหลืออยู่หรืออาจจะมีเรื่องของ
00:10:12 → 00:10:16 ตัวกล้ามเนื้อบวมหรือว่าเอ่อขาบวมอะไรพวก
00:10:16 → 00:10:20 เนะครับอันนี้ก็ควรต้องไปพบแพนนะครับอื
00:10:20 → 00:10:23 มันมองเหมือนกับว่าตคิวเนี่ยมันเป็นอาการ
00:10:23 → 00:10:26 ที่จะเกิดขึ้นควบคู่กับเรื่องของวัยด้วย
00:10:26 → 00:10:29 เรื่องของความเอ่อไม่ดูแลร่างบกพร่อง
00:10:30 → 00:10:32 เรื่องนู้นเรื่องนี้มันเป็นปกติมคะถ้าคน
00:10:33 → 00:10:37 เป็นตคิวเนี่ยถือว่าหายเอ่อนานๆมาทีนึง
00:10:37 → 00:10:40 คือเขาไม่ควรที่จะต้องวิตกกังวลอะไรมาก
00:10:40 → 00:10:43 มายใช่มคะสกินี่เป็นอาการที่เจอได้บ่อยนะ
00:10:43 → 00:10:47 ครับแต่ว่าอดูว่าดูว่ามันเป็นตำแหน่งไหน
00:10:47 → 00:10:50 นะครับอย่างเช่นตำแหน่งที่เราเ่อเจอได้
00:10:50 → 00:10:53 บ่อยที่ที่มันไม่ค่อยมันเจอได้บ่อยริคือ
00:10:53 → 00:10:56 ที่ที่น่องอ่ะนะครับถ้าเป็นคิวที่อื่นเก็
00:10:56 → 00:10:58 อาจจะต้องไปไปพบแพท์เพื่อหาสาเหตุเพราะ
00:10:58 → 00:11:01 ส่่วนใหญ่่ตคิวจะเกิดนที่นเป็นหลักนะครับ
00:11:01 → 00:11:03 2 นะครับก็อย่างที่บอกว่ามันมีอาการร่วม
00:11:03 → 00:11:06 อย่างอื่นด้วยมยนะครับเช่นเ่ออาการขา
00:11:06 → 00:11:10 เปลี่ยนสีอาการเช่นแบบอ่าขาอะไพวกเเพ
00:11:10 → 00:11:13 อาการหอแรงใช่มครับปกติตะคิวเราอย่างมาก
00:11:13 → 00:11:16 เราก็มีอาการเอ่อเกรงกล้ามเนื้อก่อให้
00:11:16 → 00:11:18 เกิดความเจ็บปวดใช่มครับหลังจากนั้น
00:11:18 → 00:11:20 ประมาณสักเ่อเป็นวินาทีหรือเป็นนาทีมันก็
00:11:20 → 00:11:23 จะเริ่มคลายๆตัวลงใช่มครับตรงนั้นแต่ว่า
00:11:23 → 00:11:26 ในในบางลายเนี่ยอาจจะมีอาการปวดกล้าม
00:11:26 → 00:11:28 เนื้อลงเหลืออยู่ได้บ้างซึ่งอาการปวดเก็
00:11:28 → 00:11:31 จะค่อยๆดีขึ้นะครับแต่ถ้าอากตรวจมันยังคง
00:11:31 → 00:11:33 อยู่ไม่ดีขึ้นเลยหรือว่ามีอาการร่วมอย่าง
00:11:33 → 00:11:36 อื่นด้วยเช่นรู้สึกว่าขามันชาการเคลื่อน
00:11:36 → 00:11:38 ไหวของขามันผิดปกติไปมันอ่อนแรงอะไรเก็
00:11:38 → 00:11:40 เป็นส่วนหนึ่งที่อาจะต้องไปพบแพทนนะครับ
00:11:40 → 00:11:43 นอกจากที่ว่ารู้สึกว่ามันเป็นถี่เป็นบ่อย
00:11:43 → 00:11:45 จนมันรบกวน
00:11:45 → 00:11:48 กันใช้ชีวิตประจำวันของเรานะครับตอนนี้
00:11:48 → 00:11:51 ขึ้นขึ้นลิมาที่สถานีแล้วเดี๋ยวขออนุญาต
00:11:51 → 00:11:55 ถ้าสัญญาณหายนะคะอืออก็คือหมายความว่ามัน
00:11:55 → 00:11:59 มันมันก็จะต้องดูจากหลายๆเรื่องเรื่องราว
00:11:59 → 00:12:01 เรื่องของปัจจัยด้วยใช่มั้ยคุณหมอครับใช่
00:12:01 → 00:12:05 ครับอืมคุณหมอครับเอ่อทีนี้เนี่ยมันไอ้
00:12:05 → 00:12:09 เรื่องของอัตราความถี่เนี่ยมันอาจจะยัง
00:12:09 → 00:12:12 ไม่ได้มีบอกในตำราชัดเจนใช่มั้ยครับเอ่อ
00:12:12 → 00:12:15 ถ้าถ้าคุณหมอแนะนำเนี่ยอย่างให้คุณหมอแนะ
00:12:15 → 00:12:19 นำหรือว่าเลลองๆองๆองคาดเอ่ออะไรเค้า
00:12:19 → 00:12:22 เรียกว่าลองพูดถึงจำนวนที่แบบว่ามันมัน
00:12:22 → 00:12:26 ควรจะต้องลองสังเกตตัวเองละมันควรจะต้อง
00:12:26 → 00:12:29 เป็นประมาณมากน้อยขนาดไหนครับคุณหมอครับ
00:12:29 → 00:12:31 อืตัวนี้ต้องตัวนี้ต้องเรียนจริงๆว่ามัน
00:12:31 → 00:12:33 มันไม่ได้มีตัวเล็กชัดเจนนะครับถ้าอย่าง
00:12:33 → 00:12:36 ที่อย่างที่บอกถ้ามันมีอ่าอาการร่วมอนะ
00:12:36 → 00:12:41 ครับนะนำให้มาทันทีเลยนะครับนะอว่า 2 ก็
00:12:41 → 00:12:43 คือว่าเอ่อถ้ามันคนไข้เองรู้สึกว่ามัน
00:12:43 → 00:12:46 เป็นีทอย่างเช่นเป็นทุกวันอะไรพวกเนะครับ
00:12:46 → 00:12:49 นว่าเป็นแบบอาทิต์ลหลายๆวันติดต่อกันอะไร
00:12:49 → 00:12:51 พวกนี้นะครับหรือทั้งๆที่เราแบบก็หลีก
00:12:51 → 00:12:53 เลี่ยงปัจจัยที่เราพูดถึงแล้วนะครับเช่น
00:12:54 → 00:12:57 การขาดน้ำการออกกำลังกายหนักๆการไม่ยืด
00:12:57 → 00:12:59 กล้ามเนื้ออะไรพวกเยนะครับอครับถ้ายัง
00:12:59 → 00:13:01 เกิดี่เกิดบ่อยอยู่เนี่ยก็รู้ว่ามันเกิด
00:13:01 → 00:13:03 ในตำแหน่งที่มันผิดแผกจากที่มันควรจะเป็น
00:13:03 → 00:13:06 ไปเช่นที่อื่นนอกจากที่น่องอะไรพวต้อง
00:13:06 → 00:13:12 มาคบแพทย์นะครับอืมีคุณผู้ฟังฝากถามมาว่า
00:13:12 → 00:13:15 มันเกิดขึ้นจากความผิดปกติของต่อม
00:13:15 → 00:13:17 ไทรรอยด์เมีโอกาสเกี่ยวข้องได้ด้วยมครับ
00:13:17 → 00:13:20 คุณหมอครับเอมีได้ครับมีได้ครับเพราะว่า
00:13:20 → 00:13:22 หลายๆครั้งเราก็เพะว่าโรคบางอย่างโรคทาง
00:13:22 → 00:13:24 กายบางอย่างนะครับอย่างเช่นโรคตับโรคเบา
00:13:24 → 00:13:27 หวานโรคไทรอยด์นี้ก็อาจจะเป็นตัวกระตุ้น
00:13:27 → 00:13:29 ให้เกิดอาการตคิวได้เช่นกันนะครับอือหือ
00:13:29 → 00:13:32 อืมันๆมันเพฉะนั้นเราก็รักษาตามสาเหตุไป
00:13:32 → 00:13:35 ใช่ครับอือเรื่องของโครงสร้างร่างกายมี
00:13:35 → 00:13:37 ความเกี่ยวข้องด้วยมครับอย่างเช่นคนที่
00:13:37 → 00:13:41 เท้าแบนหรือว่าเอ่อมีอาการเหมือนเกี่ยว
00:13:42 → 00:13:45 กับโรคโพรงกระดูกสันหลังตีบแคบอะไรประมาณ
00:13:45 → 00:13:48 เฮะคุณหมอครับเอ่อเท้าแบนดนี่ก็อาจจะเป็น
00:13:48 → 00:13:51 ผลจากการที่การยืนนานๆอนะครับนะฮะแล้วก็
00:13:51 → 00:13:55 ส่วนเรื่องของตัวอ่าตัวไอ้โพงสลังตีบแค่น
00:13:55 → 00:13:57 ก็คือเป็นปัจจัยหนึ่งที่กระตุ้นให้เกิด
00:13:57 → 00:13:58 โรคได้ครับอย่างที่อย่างที่เรียนในครับ
00:13:58 → 00:14:01 ตอนเบื้องต้นนะครับที่ว่าลักษณะของตัวหมอ
00:14:01 → 00:14:04 รองกระดูกทับเส้นประสาทนะครับอืตนี้มันก็
00:14:04 → 00:14:06 จะเป็นตัวที่อันนึงที่กระตุ้นให้เกิด
00:14:06 → 00:14:09 อาการของติวได้เช่นกันครับครับโหมันเป็น
00:14:09 → 00:14:12 ลักษณะของการไหลเวียนเลือดอืไปเลี้ยง
00:14:12 → 00:14:15 กล้ามเนื้อใช่มยคะคุณหมอใช่ครับก็ถ้าปกติ
00:14:15 → 00:14:18 อย่างนอกจากเรื่องของตัวหมอลองดซซก็มี
00:14:18 → 00:14:20 เรื่องของตัวเส้นเลือดโรคของเส้นเลือดที่
00:14:20 → 00:14:22 บรเวณเท้านะครับในในผู้สูงอายุที่เป็นเบา
00:14:22 → 00:14:25 หวานความดังไขมันนอกจากจะมีปัญหาเ่นความ
00:14:25 → 00:14:27 เสี่ยงของเส้นเลือดสมองเส้นเลือดหัวใจ
00:14:27 → 00:14:30 แล้วเนี่ยก็ยังมีปัญหาเรตัวเส้นเลือดปลาย
00:14:30 → 00:14:32 มือปลายเท้าก็อาจจะมีการอุดปันมีการตีบ
00:14:32 → 00:14:37 ได้นะครับซึ่งพอเราใช้งานเดินเยอะๆอะไร
00:14:37 → 00:14:39 พวกเนะครับนะหรือว่าออกกำลังกายเยอะๆ
00:14:40 → 00:14:41 กล้ามเนื้อตอนที่เราออกกำลังกายเนี่ย
00:14:41 → 00:14:43 กล้ามเนื้อก็ต้องการเลือดไปเลียงใช่มั้ย
00:14:43 → 00:14:46 ครับซึ่งบางครั้งการที่เส้นเลือดมันตีบ
00:14:46 → 00:14:48 หรือมันอุดแตก็อาจจะทำให้เลือดไปเลี้ยง
00:14:48 → 00:14:49 ได้น้อยก็อาจจะเป็นตัวปัจจัยหนึ่งที่
00:14:49 → 00:14:52 กระตุ้นให้เกิดตคิวได้เช่นกันพูดถึง
00:14:52 → 00:14:54 เรื่องของปลายมือปลายเท้าเนี่ยเมื่อเมื่อ
00:14:54 → 00:14:56 เย็นนี้เองเพิ่งเกิดอาการชาที่ที่ปลาย
00:14:56 → 00:15:00 นิ้วมือกประจวบเหมาะพอดีเลยค่ะไปอยู่ใน
00:15:00 → 00:15:03 สถานที่ที่ปิดแล้วก็มีแอร์ที่ที่เย็นแล้ว
00:15:03 → 00:15:06 ข้างนอกก็ฝนตกตอนแรกก็เป็นเป็นมือข้าง
00:15:06 → 00:15:08 เดียวแล้วก็มีความรู้สึกว่าเอ๊ะกดลงไปนี่
00:15:08 → 00:15:12 มันมันมันเย็นมันไม่รู้สึกก็เลยเอ่อถอด
00:15:12 → 00:15:15 กำไรที่ที่อาจจะรัดข้อมืออ่ะออกมาใส่อีก
00:15:15 → 00:15:18 ฝั่งนึงก็ก็ไม่ได้หายอะไรแล้วก็ทานน้ำ
00:15:18 → 00:15:20 อุ่นเข้าไปแต่ปรากฏว่าต่อมาเนี่ยก็เป็น
00:15:20 → 00:15:24 ที่ที่ปลายนิ้วทั้ง 2 แขนเลยค่ะคุณหมอคะก
00:15:24 → 00:15:27 เป็นที่นิ้วนิ้วไหนอ่ะครับที่ที่ที่ทั้ง 5
00:15:27 → 00:15:30 นิ้วเลยค่ะเป็นชาอากาศเย็นมากค่ะเกี่ยว
00:15:30 → 00:15:33 กับอากาศเย็นมยคะชก็อาจจะเกี่ยวกได้นะ
00:15:33 → 00:15:35 ครับเป็นมันเป็นที่นิ้วนิ้วนิ้วด้านนิ้ว
00:15:35 → 00:15:39 ชี้นิ้วกลางปลนิ้วกลางนิ้วกลางคุณหมอนิ้ว
00:15:39 → 00:15:42 กลางกดกๆดูก็จะเป็นจี๊ดๆเล็กๆแต่ตอนนี้ก็
00:15:42 → 00:15:46 หายปกติแล้วใช้เวลาประมาณเอ่อไม่ถึง 10
00:15:46 → 00:15:49 นาทีอ่ะค่ะอืเราก็นวดเข้าไปเหมือนกับว่า
00:15:49 → 00:15:51 เอ๊ะกำไรเราไปรัดที่ข้อมืออะไรเดินเลือด
00:15:51 → 00:15:53 อะไรหรือเปล่าแต่อากาศมันเย็นค่ะเกี่ยว
00:15:53 → 00:15:55 ข้องใช่มเป็นจังหวะเป็นจังหวะที่ใช้แบบ
00:15:55 → 00:15:58 ประมาณแบบเหมือนกับใช้งานข้อมือป่าคะเช่น
00:15:58 → 00:16:02 เขียนเขียนหนังสือถือหนังสือใชใช้ iPad
00:16:02 → 00:16:05 ใช้โทรศัพท์อะไรรือเปล่าไม่ค่อยค่ะเลยตก
00:16:05 → 00:16:07 ใจขึ้นมาพอดีเอ๊จะพูดเรื่องตะคริวพอดีถาม
00:16:08 → 00:16:10 คุณหมอเลยดีกว่ามันมันเกี่ยวกับที่บอก
00:16:10 → 00:16:13 ปลายประสาทเป็นอะไรยังไงมั้ยคะคุณหมอก็ก็
00:16:13 → 00:16:15 อันนึงที่สันนิษฐานก็จะเป็นเรื่องของตัว
00:16:15 → 00:16:17 ที่จะได้บ่อยสุดก็เป็นไอ้ตัว carpal
00:16:17 → 00:16:20 Syndrome อนะครับที่มันเป็นตัวตัวพังผืน
00:16:20 → 00:16:22 ทับเส้นประสาทนะครับพวกนี้ก็จะมีอาการชา
00:16:22 → 00:16:25 ที่ที่ปลายนิ้วเ่อเเรียกปลายนิ้วชี้นิ้ว
00:16:25 → 00:16:29 โป้องนิ้วกลางได้นะครับวนะคะมันคืออะไร
00:16:29 → 00:16:32 อ่ะคะไอ้ผังผืดที่ที่ทับเส้นประสาทเอ่อ
00:16:32 → 00:16:35 มันจะเป็นเราจะมีผังผืดที่ข้อมือทุกคนน่ะ
00:16:35 → 00:16:37 นะครับก็จะมีเส้นประสาทรอดอยู่ข้างใต้นะ
00:16:37 → 00:16:40 ครับทีนี้พอเราอายุมากขึ้นเราเป็นอาชีพ
00:16:40 → 00:16:43 ที่ต้องใช้งานข้อมือเยอะๆมีการหักการงอ
00:16:43 → 00:16:46 ข้อมือตลอดเวลาน่าจะใช้น่าจะใช้ตัวพังผื
00:16:46 → 00:16:49 ตัวนี้มันจะจะหนาตัวขึ้นนะครับมันก็จะทำ
00:16:49 → 00:16:51 เส้นประสาทที่ไปเลี้ยงปลายนิ้วมือนะครับ
00:16:51 → 00:16:54 อืมันก็จะทำให้มีอาการเหมือนกับเหมือนเรา
00:16:54 → 00:16:56 นั่งพับเพียบมาาๆแล้วเป็นเหน็บชาได้อะไร
00:16:56 → 00:17:00 พวได้นะครับพอเราอืยหอย่าบดสะบัดมือหรือ
00:17:00 → 00:17:02 ว่าเปลี่ยนท่าอะไรเงี้ยมันก็จะทำให้ดี
00:17:02 → 00:17:04 ขึ้นนะครับครับไม่เกี่ยวกับอากาศเย็นใช่
00:17:04 → 00:17:07 มั้ยคะอากาศเย็นก็อาจจะเป็นได้ครับแต่ว่า
00:17:07 → 00:17:10 มันก็แต่แต่ว่าก็ต้องดูว่ามันเย็นมากหรือ
00:17:10 → 00:17:12 เปล่าหรืออะไรประมาณเนะครับออือือันนี้
00:17:12 → 00:17:14 มันเกี่ยวกับเราขาดวิตามินอะไรมคะมีน้อง
00:17:14 → 00:17:18 ที่ใกล้ๆเขบอกว่าอืต้องเป็นปลายประสาท
00:17:18 → 00:17:21 อักเสบพระทานวิตามินบีรวมอะไรอย่างเงี้ย
00:17:21 → 00:17:24 ค่ะอ่าอือครับจริงๆจริงๆเรื่องวิตามิน
00:17:24 → 00:17:27 เนี่ยจริงๆส่วนใหญ่ก็ก็เอ่อถ้าทานอาหาร
00:17:27 → 00:17:29 ครบ 5 หมู่เราก็ไม่ได้มีปัญหาเรื่องของ
00:17:29 → 00:17:31 การดูดซึมวิตามินอะไรก็ไม่ไม่ค่อยเราก็
00:17:31 → 00:17:33 ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องการขาดวิตามินน่ะนะ
00:17:33 → 00:17:36 ครับค่ะส่วนเรื่องของการจะทานเสริมก็อาจ
00:17:36 → 00:17:38 จะเป็นเรื่องของเอ่อเ้าเรียกอะไรก็เป็น
00:17:39 → 00:17:41 เรื่องของความสบายใจนะครับแต่ก็เลือกใน
00:17:41 → 00:17:43 ปริมาณที่เหมาะสมอย่ามากอย่าน้อยเกินไปนะ
00:17:43 → 00:17:46 ครับอ๋อก็ไม่จำเป็นใช่มั้ยคะก็จริงๆคือ
00:17:46 → 00:17:49 ถ้าทานครบ 5 หมู่ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรอื
00:17:49 → 00:17:52 เหมือนเหมือนสูงวัยแล้วเนี่ยเราก็มักจะ
00:17:52 → 00:17:54 ทานได้น้อยลงอย่างที่เคยพูดกันมาหลาย
00:17:54 → 00:17:57 ครั้งแล้วก็คือในเนื้อสัตว์ที่จะไม่ค่อย
00:17:57 → 00:18:00 ทานใช่ในผู้สูงอายุประมาณนั้นนะครับที่
00:18:00 → 00:18:03 ฟันอาจจะมีปัญหาทำให้การเคี้ยวการอะไรที่
00:18:03 → 00:18:07 เาทำได้ไม่ดีอนะครับค่ะครับคุณหมอครับมี
00:18:07 → 00:18:10 คุณผู้ฟังทางบ้านเนี่ยเอ่อฝากถามมาเหมือน
00:18:10 → 00:18:14 กันมีคุณผู้ฟังท่านนี้เนี่ยมีปัญหากับ
00:18:14 → 00:18:17 น้องสาวเหมือนกันนะฮะน้องสาวท่านนี้เนี่ย
00:18:17 → 00:18:23 อายุ 73 ปีะอืทานดื่มน้ำเนี่ยก็ดื่มน้ำ
00:18:23 → 00:18:25 ทั้งวันเหมือนกันนะแต่ว่าเป็นน้ำอัดลม
00:18:25 → 00:18:29 โอ้ย 73 เออน้ำอัดลมเดี๋ยวคุณผู้ฟังท่าน
00:18:29 → 00:18:31 นี้ก็จะต้องมากกว่า 73 แล้วมีปัญหาเรื่อง
00:18:31 → 00:18:35 ของอาการเป็นตะคิวคุณหมอแนะนำเอ๊ะคุณผู้
00:18:35 → 00:18:38 ฟังท่านนี้ยังไงดีครับคุณหมอครับแปลกๆชอบ
00:18:38 → 00:18:39 ดื่มน้ำเหลือเกินแต่ว่าเป็นดื่มน้ำอัดลม
00:18:39 → 00:18:42 ฮะดื่มน้ำเยอะมากๆเลยฮะแทนที่จะดื่มน้ำ
00:18:42 → 00:18:44 เปล่าอย่างที่คุณหมอบอกเคุณหมอครับมันจะ
00:18:45 → 00:18:48 มันจะมีผลหรือว่ามันจะช่วยเรื่องของตะคิว
00:18:48 → 00:18:51 ได้บ้างหรรือเปล่าการดื่มน้ำอัดลมทดแทน
00:18:51 → 00:18:53 น้ำเปล่าอะไรอย่างเงี้ฮะการการดื่นนจะเฉย
00:18:53 → 00:18:55 ดีนะครับแต่การดื่นม้ำดลมอาจจะไม่ดีนะ
00:18:55 → 00:18:59 ครับอย่างที่เรารู้ๆอยู่แล้วนะครับถ้า
00:18:59 → 00:19:02 เป็นน้ำอัดลมทั่วๆไปก็จะมีน้ำตาลใชเป็น
00:19:02 → 00:19:04 ความเสี่ยงของเบาหวานได้นะครับในขเดียว
00:19:04 → 00:19:08 กันกับน้ำน้ำอัดลมเองก็มีข้อมูลว่าเอ่อ
00:19:08 → 00:19:12 กินเยอะๆอาจทำให้เอ่อมันมีแคลเซียมกระดูก
00:19:12 → 00:19:15 เราบางลงอะไรพวกเนี้ยนะครับนะอนะครับแล้ว
00:19:15 → 00:19:18 ก็่ส่วนเรื่องของตัวตัวจริงๆก็แนะนำให้
00:19:18 → 00:19:22 ดื่มดื่มน้ำเปล่ามากกว่านะครับอืก็คือไม่
00:19:22 → 00:19:26 เข้าใจเรื่องของวัยเลขผิดป่าฮะที่พี่ดรม
00:19:26 → 00:19:30 ดู 73 นี่ไม่ผิดไวมากๆแล้วนะคะใช่ๆๆเนี่ย
00:19:30 → 00:19:32 73 อย่างงี้ที่เเรียกว่าอาการที่ไม่มี
00:19:33 → 00:19:35 น้ำเปล่าเข้าไปเนี่ยมันจะทำให้เลือดข้น
00:19:35 → 00:19:37 หนืดอะไรอย่างงี้มั้ยคะคุณหมอนอกจากน้ำ
00:19:37 → 00:19:40 ตาลน่ะไม่ไม่ไม่หรอกครับร่างกายเราคือคือ
00:19:40 → 00:19:43 คือคือน้ำอัดลมมันก็จะมีน้ำตาลมีมีน้ำ
00:19:43 → 00:19:49 โซเดียมมีอ่าคบเค้าเรียกอะไรนะตัวตัวตัว
00:19:49 → 00:19:52 แก๊สใช่มใช่ครับใช่มีแก๊สใช่มั้ยฮะมี
00:19:52 → 00:19:55 คาร์บอเนตอยู่อะไพใช่มั้ยฮะจริงร่างกาย
00:19:55 → 00:19:58 เราก็สามารถกรองนะแล้วก็แล้วก็ก็เคเรียก
00:19:58 → 00:20:00 อะไรกำจัดส่วนอื่นออกไปได้อยู่แล้วแต่ใน
00:20:00 → 00:20:02 บางครั้งก็อย่างที่เรากินแค่อาหารปกติ
00:20:02 → 00:20:06 เนี่ยพออายุเราเยอะขึ้นในการเผ่าผ่านอะไ
00:20:06 → 00:20:08 พวกนี้หรือการกำจัดของพวกนี้เรามันก็น้อย
00:20:08 → 00:20:11 ลงแล้วก็เกิดถึงเกิดโรคที่เป็นอ่าบเบา
00:20:11 → 00:20:13 หวานเป็นความดันเป็นไขมันตามมาอะไรอย่า
00:20:13 → 00:20:16 เงี้นะครับนะจริงๆแล้วก็ควรจะทานหวานแต่
00:20:16 → 00:20:19 พอหมพอสมนะครับนะเพราะว่าการทานเยอะเกิน
00:20:19 → 00:20:21 ไปก็การตูนให้เกิดโรคเบาหวานได้กตูนให้
00:20:21 → 00:20:24 เกิดโรคอย่างอื่นพวกไขมันความดันพวกที่
00:20:24 → 00:20:27 ตามมาได้นะครับจริงๆก็อาจจะทานิดหน่อยแค่
00:20:27 → 00:20:30 พก็แบบหลายๆท่านอาจจะติดน้ำอลมเพราะว่า
00:20:30 → 00:20:33 มันรู้สึกซ่าทำไม่สดชื่นอะไรพวเก็ควรจะ
00:20:33 → 00:20:36 ทานในปริมาณที่ที่เหมาะสมอนะครับอันนี้เ
00:20:36 → 00:20:38 ถามมาว่าเป็นตะคริวด้วยอันนี้จะเกี่ยว
00:20:38 → 00:20:40 ข้องด้วยมยคะคุณหมอน้ำมันน้อยอยู่แล้วถ้า
00:20:40 → 00:20:43 ทานน้ำอัดลมอ๋อไม่หรอกครับเพราะว่าปริมาณ
00:20:43 → 00:20:45 น้ำยังไงมันก็ได้น้ำเยอะๆแต่มันจะได้น้ำ
00:20:45 → 00:20:49 ตาลได้น้ำตาลได้ได้โซเดียมเข้าไปด้วยนะ
00:20:49 → 00:20:52 ครับตนั้นอมันจะนำไปสู่เรื่องของโรคภัย
00:20:52 → 00:20:56 ไข้เจ็บอื่นๆแล้วก็ฟันด้วยนะคะมีน้ำตาล
00:20:56 → 00:21:02 ฟันผุด้วยครับพอจะมีวิธีการหรือว่าอะไร
00:21:02 → 00:21:05 ที่มันพอจะช่วยลดโอกาสการเกิดการเป็น
00:21:05 → 00:21:08 ตะคริวได้บ้างมั้ยครับคุณมีอาบน้ำอุ่นแช่
00:21:08 → 00:21:11 น้ำอุ่นได้ด้วยมั้ยคะจริงๆก็มีเรื่อง
00:21:11 → 00:21:13 เรื่องเรื่องที่เราคุยกันไปแล้วนะครับก็
00:21:13 → 00:21:16 คือ 1 ก็คืออ่ะไม่กินทานน้ำได้เยอะนะครับ
00:21:16 → 00:21:20 วคาดน้ำนะครับนะ 2 ก็คือออกกำลังกายพอ
00:21:20 → 00:21:24 เหมาะพอเหมาะพอสมอนะครับแต่ถ้าจะแต่ว่า
00:21:24 → 00:21:26 ถ้าอยากจะออกเยอะๆก็อาจจะค่อยๆสเต็ปไป
00:21:26 → 00:21:28 อย่าเพิ่งหักโมทีเดียวค่อยๆใช้เวลาในการ
00:21:28 → 00:21:31 ทำให้ร่างกายเราคุ้นคุ้นคุ้นเคยกับการออก
00:21:31 → 00:21:33 กำลังกายนะครับแล้วก็ก่อนที่จะออกกำลัง
00:21:33 → 00:21:36 กายก็ควรจะยืดกล้ามเนื้อก่อนนะครับแล้วก็
00:21:36 → 00:21:38 แล้วก็ภายหลังจากออกกำลังกายเสร็จก็ควรจะ
00:21:38 → 00:21:40 วอร์ดาวไม่ควรจะหยุดทันทีแล้วควรจะมีการ
00:21:40 → 00:21:43 ยืดกล้ามเนื้อด้วยนะครับสำหรับในคนที่มี
00:21:43 → 00:21:46 อาการตะคิวบ่อยๆอะไรพวกนี้นะครับสอนนอน
00:21:46 → 00:21:48 เนี่ยจริงๆเค้าก็แนะนำว่าให้ทำการยืด
00:21:48 → 00:21:53 กล้ามเนื้อก็จะช่วยได้ครับออครับอ๋อคือ
00:21:53 → 00:21:56 ครับก็คือเหมือนกับว่าทำเค้าเรียกว่า
00:21:56 → 00:22:00 กายภาพนิดนึงใช่มั้ยคะใช่ครับนอนลาบกับ
00:22:00 → 00:22:04 พื้นอืครับใช่ครับกระดกขาค่ะอืคุณหมอมัน
00:22:04 → 00:22:08 มีคำแนะนำนึงที่ผมไปอ่านเจอในโลกโซเชียล
00:22:08 → 00:22:11 มาเบอกว่าถ้ากลางคืนเนี่ยคุณเป็นตะคริว
00:22:11 → 00:22:14 กันบ่อยๆเนี่ยเค้าแนะนำให้ดื่มนมก่อนนอน
00:22:14 → 00:22:16 เพื่อเป็นการเพิ่มแคลเซียมให้กับร่างกาย
00:22:16 → 00:22:19 เพื่อที่จะลดอาการเป็นตะคริวอันนี้คือมัน
00:22:19 → 00:22:22 มันมันใช้ได้จริงมั้ยฮคุณหมอครับอืเอ่อ
00:22:22 → 00:22:25 จริงๆก็มีก็มีคนแนะนำแบบนั้นเหมือนกันนะ
00:22:25 → 00:22:27 ครับเพราะว่าเาเชื่อว่าจริงๆภาวะแคลเซียม
00:22:27 → 00:22:29 ตำเนี่ยมันก็จะเป็นตัวกระตุ้นได้นะครับ
00:22:29 → 00:22:32 อ๋ออ่าหลายๆครั้งเนี่ยเราก็จะเห็นว่ามีคำ
00:22:32 → 00:22:34 แนะนำประเภทว่าให้ทานมก่อนนอนเพะนมมันจะ
00:22:34 → 00:22:37 มีแคลเซียมนะครับอเอ่อหรือส่วนตัวเองก็
00:22:37 → 00:22:40 บางทีก็แนะนำคนไข้ว่าปกติคนไข้จะชอบผอ
00:22:40 → 00:22:42 แคลเซียมกไปกินอยู่แล้วผู้ทรุงอายุใช่
00:22:42 → 00:22:45 มั้ยฮะลองกินก่อนนอนดูอะไรพวกเนะครับแต่
00:22:45 → 00:22:47 อันนี้มันก็เป็นเหมือนเหมความเห็นของผู้
00:22:47 → 00:22:51 เชี่ยวชาญที่มีคนพูดถึงนะนะครับไม่เมีการ
00:22:51 → 00:22:53 ศึกษาวิจัยว่ามันได้ผลมั้ยแต่จริงๆมันก็
00:22:53 → 00:22:56 เป็นการกระทำที่ไม่ได้มีอันตรายอะไรนะ
00:22:56 → 00:23:00 ครับผมว่าก็ผมว่าทำได้นะครับอืมันมีอีก
00:23:00 → 00:23:03 หนึคำแนะนำเหมือนกันครับอันนี้แนะนำมาว่า
00:23:03 → 00:23:07 เวลานอนเนี่ยให้ลองเอาหมอนรองขาให้สูง
00:23:07 → 00:23:11 ขึ้นจากเตียงประมาณสัก 10 ซมหรือว่า
00:23:11 → 00:23:14 ประมาณ 4 นิ้วเพื่อที่จะลดโอกาสในการที่
00:23:14 → 00:23:17 จะเกิดตะคิวในช่วงกลางคืนด้วยไม่ทราบว่า
00:23:17 → 00:23:20 มันมันมันมันใช้ได้ด้วยมยฮะคุณหมอครับอัน
00:23:20 → 00:23:24 นี้ส่วนตัวไม่ไม่เคยเห็นเหมือนกันครับเคย
00:23:24 → 00:23:26 เคมีคนแนะนำว่านอนแล้วสบายอันนั้นเช่วย
00:23:26 → 00:23:28 เรื่องหลังใช่มั้ยคะคุณหมอ
00:23:28 → 00:23:31 ไอ้หมอไอ้หมอนรองขานี่จะช่วยจะช่วยในคน
00:23:31 → 00:23:35 ไข้ที่แบบมีอาการขาบวมมากกว่าอ๋อไม่น่า
00:23:35 → 00:23:38 เกี่วสังเกตว่าผู้สูงอายุหรือผู้หญิงบาง
00:23:38 → 00:23:41 ท่านเวลานั่งนานขาจะบวงอะไรตเี้ยนะครับนำ
00:23:41 → 00:23:45 นำในในขาเคะอืใช่ครับพอนอนยกขาสูงมันก็ทำ
00:23:45 → 00:23:49 ให้ขาตื่นเช้ามาก็ขาก็จะไม่ได้บวมมากครับ
00:23:49 → 00:23:52 นะฮในในส่วนตัวเนี่ยขอแชร์ประสบการณ์ที่
00:23:52 → 00:23:54 ก็เคยอยากทำแล้วหลังมันก็จะเหมือนกับว่า
00:23:54 → 00:23:58 แนบสบายนะคะตอนต้นน่ะทีนี้พอเอาขเรืจริงๆ
00:23:58 → 00:24:02 มันรำคาญค่ะคือทำไม่ได้ทำได้ประมาณคืนคืน
00:24:02 → 00:24:05 นึง 2 คืนก็ไม่สามารถทำได้ก็อาจจะแนะนำ
00:24:05 → 00:24:08 ว่าอาจะบางบางบางจริงๆมันเป็นทาตที่อาจจะ
00:24:08 → 00:24:11 ไม่ได้สบายที่เดียวมขามจะเป็นแบบยกขึ้น
00:24:11 → 00:24:14 ใช่มั้ยครับใช่ก็ถ้าสูงเกินไปแต่ถ้าเกิด
00:24:14 → 00:24:16 แบบนิดๆหน่อยๆเช่นอาจจะใช้เป็นผ้านวมอะไร
00:24:16 → 00:24:19 พวเอาจจะพอืนเล็กๆพอบทาอาการได้ใช่ครับ
00:24:19 → 00:24:21 เพราะหมอนบางทีจะสูงไปนิดนึงอะไรพวกเย
00:24:22 → 00:24:25 ครับอือืมันเป็นมันเป็นอย่างงี้นะมันเป็น
00:24:25 → 00:24:28 เทคนิคซึ่งบางคนเค้าก็ชอบคือกว่าจะนอนให้
00:24:28 → 00:24:32 ได้ท่าที่สบายในลักษณะของคนที่ตั้งใจอ่ะ
00:24:32 → 00:24:36 เนาะอืคือมีความตั้งใจสูงก็เลยไม่สบายเลย
00:24:36 → 00:24:41 อ่ะมันจะหนุนนู่นหนุนนี่ไปจริงๆก็คืออทำ
00:24:41 → 00:24:44 ตามธรรมชาติแล้วก็หลับค่ะครับคุณหมอครับ
00:24:44 → 00:24:47 เอ่อช่วงท้ายครับคุณหมอครับอยากให้คุณหมอ
00:24:47 → 00:24:50 ช่วยแนะนำย้ำอีกสักครั้งนึงว่าสมมุติถ้า
00:24:50 → 00:24:55 เราเกิดอาการเป็นตะคิวแล้วการที่จะแก้
00:24:55 → 00:24:57 หรือว่าคลายเรื่องของอาการตะคิวที่เกิด้
00:24:57 → 00:25:00 ขึ้นเนี่ยได้เร็วที่สุดได้ง่ายที่สุดและ
00:25:00 → 00:25:03 กลับมาเจ็บปวดน้อยที่สุดเนี่ยเราเราเรา
00:25:03 → 00:25:06 สามารถทำได้ด้วยวิธีอะไรบ้างครับครับก็เ
00:25:06 → 00:25:08 ก็แนะนำว่าถ้าเกิดเรามีอาการตคิวช่วง
00:25:08 → 00:25:11 สมมติช่วงกลางคืนนะครับทำให้เราปวดมาก
00:25:11 → 00:25:14 แล้วก็ตื่นจากการนอนเนะครับเแนะนำก็ค่อยๆ
00:25:14 → 00:25:17 เอามือดกล้ามเนื้อเบาๆนะครับอย่างนุ่มวน
00:25:17 → 00:25:20 นะครับแล้วก็ค่อยๆค่อยๆยืดขาออกนะครับยืด
00:25:20 → 00:25:23 ขาออกแล้วก็อาจจะค่อยๆอ่ากระดกข้อเท้า
00:25:23 → 00:25:26 ขึ้นนะครับจะใช้มือดันแต่ว่าไม่ค่อยๆอย่า
00:25:26 → 00:25:28 ฝืนนะครับเพราะว่าเพราะว่าตอนนั้นกล้าม
00:25:28 → 00:25:31 เนื้อมันหดมันตึงตัวอยู่ถ้าเราไปทำรุนแรง
00:25:31 → 00:25:33 มันอาจจะกลายแทนที่มันอาจจะบรรเทาอาการ
00:25:33 → 00:25:36 ปวดอาจจะกลายเป็นปวดมากขึ้นได้นะครับแล้ว
00:25:36 → 00:25:40 ก็เก็แนะนำว่าถ้าเกิดว่ามีเ่อเจลอุ่นๆ
00:25:40 → 00:25:43 อยู่นะครับก็สามารถมาประคบได้นะครับแต่น
00:25:43 → 00:25:45 นั้นคงต้องมีคนช่วยอนะครับเพราะว่าเรา
00:25:45 → 00:25:47 ตื่นมาเราคงไม่สามารถลุบไปเอาเจลอะไรพวก
00:25:47 → 00:25:50 นี้ได้นะครับก็ส่วนตัวก็แนะนำว่าใช้บีบ
00:25:50 → 00:25:52 นวดกล้ามเนื้อเบาๆนะครับแล้วก็ค่อยๆยืด
00:25:52 → 00:25:55 ออกนะครับช้าๆนะครับต้องไม่ต้องฝืนรุนแรง
00:25:55 → 00:25:58 ครับครับเจลอุ่นๆที่ว่านี่คือเป็นประเภท
00:25:58 → 00:26:00 พวกยานวดอะไรที่มันมีฤทธิ์ร้อนๆแบบนั้น
00:26:00 → 00:26:02 หรือเปล่าครับคุณหมอครับผมเข้าใจถูกจะใช้
00:26:02 → 00:26:04 เป็นจะใช้เป็นยานวดนก็ได้ครับหรืออาจจะ
00:26:04 → 00:26:06 เป็นเกวนี่หมายถึงว่าเราแบบที่เรามีติด
00:26:06 → 00:26:09 บ้านกัน่ะครับเป็นถุงพวกครีมทาทาทาไอ้
00:26:09 → 00:26:11 กล้ามเนื้อเป็นถุงถุงถุงร้อนเย็นอ่ะครับ
00:26:11 → 00:26:15 ถุงร้ออๆถุงร้อนเยคโอเคโอคโอเอ๋อเป็นแบบ
00:26:15 → 00:26:17 นั้นเป็นแบบนั้นนะครับพอจะช่วยครับแต่ว่า
00:26:17 → 00:26:19 แต่ว่าเอาในชีวิตจริงคงไม่มีใครเตรียมไว้
00:26:19 → 00:26:23 นะครับแต่สิ่งที่ไม่ควรทำคืออย่าไปฉุกระ
00:26:23 → 00:26:25 หุกกับเค้าใช่มั้ยคะอย่าคือคุณหมอบอกค่อย
00:26:25 → 00:26:29 ๆนุ่มนวลเอออย่าไปฝืนใช่ครับก้าวขาแรง
00:26:29 → 00:26:32 อะไรอย่างเงี้ยไม่ได้มันจะปวดขึ้นมาทัน
00:26:32 → 00:26:34 อาจจะก่อให้เกิดอาการเจ็บปวดใช่ครับออืพอ
00:26:34 → 00:26:37 มันปวดพอมันมันมันขึ้นมาเมันขึ้นมาเป็น
00:26:37 → 00:26:39 พ่อเลยใช่เป็นลูกเลยเชื่อว่าหลายคนเรียน
00:26:39 → 00:26:42 รู้ว่าเ้ยถ้าแรงไปมันปวดนะต้องค่อยๆแล้ว
00:26:42 → 00:26:46 ก็เหมือนกับว่าต้องหายใจจแบบเข้าออกช้าๆ
00:26:46 → 00:26:49 ด้วยนะคะคุณหมอกระบวนการมันต้องค่อยๆเป็น
00:26:49 → 00:26:51 ค่อยๆไปในทุกกระบวนการเลยใช่มั้ยครับคุณ
00:26:51 → 00:26:54 หมอครับเหมือนเหมนผ่อนครับใช่ครับค่อยๆ
00:26:54 → 00:26:58 ค่อๆไปครับใช่ครับอืได้ครับผมก็วันนี้
00:26:58 → 00:27:00 ต้องขอขอบพระคุณคุณหมอมากๆนะครับที่มาให้
00:27:00 → 00:27:02 ความรู้กับเราเรื่องของตาคิวนะครับคุณหมอ
00:27:02 → 00:27:05 ครับขอบพระคุณมากนะคะคุณหมอคครับขอบพระ
00:27:05 → 00:27:10 คุณครับคุณหมอครับสวัสดีครับสวัสดีค่ะอื