00:00:00 → 00:00:01 โรคซึมเศร้าเนี่ยบริบทของครอบครัวค่อน
00:00:01 → 00:00:03 ข้างสำคัญทั้งการฆ่าตัวตายหรือว่าเด็กที่
00:00:03 → 00:00:06 มีปัญหาค่อนข้างเยอะคนที่เป็นโรคซึมเศร้า
00:00:06 → 00:00:08 เนี่ยเขาจะขาดกำลังใจอ่ะไม่ใช่บโอ้ยสู้ๆ
00:00:08 → 00:00:10 นะมันไม่ได้เข้าถึงหัวใจเขาแต่ว่าด้วยตัว
00:00:10 → 00:00:13 ของเขาเองเนี่ยมันไม่มีกำลังใจถ้าเกิดว่า
00:00:13 → 00:00:15 เราเข้าใจเราในทุกขณะเราจะไม่ป่วยแต่ถ้า
00:00:15 → 00:00:17 เกิดว่าเราเอาตัวเองไปติดกับสิ่งแวดล้อม
00:00:18 → 00:00:20 โดยที่เราไม่รู้จักตัวเองเราก็จะไม่ทัน
00:00:20 → 00:00:22 ได้เข้าใจว่าตอนเนี้ยจริงๆแล้วเรามีปัญหา
00:00:22 → 00:00:24 อะไรอยู่โลกซึมเท่าเนี่ยเป็นในผู้หญิงจะ
00:00:24 → 00:00:27 ค่อนข้างมากกว่าผู้ชายเป็นเองหายเองได้คน
00:00:27 → 00:00:29 ที่จะทำร้ายตัวเองเนี่ยเพเหตุมักจะเกิด
00:00:29 → 00:00:31 ขึ้นจากผู้ปวดไม่ได้รับการพักผ่อนสติ
00:00:31 → 00:00:33 สมาธิของเขาอ่ะจะเริ่มหายไปอยู่ๆมามีคน
00:00:33 → 00:00:35 มันทำให้จิตใจของเราตกต่ำเราก็จะเชื่อว่า
00:00:35 → 00:00:38 เราเป็นอย่างนั้นจริงๆแล้วก็นำไปสู่การ
00:00:38 → 00:00:41 ด้อยฆ่าตัวเองถ้าเราไม่ดูแลตัวเองก็จะไม่
00:00:41 → 00:00:43 มีใครมาช่วยเราเรื่องนี้ได้งั้นอย่ารอให้
00:00:43 → 00:00:49 ป่วยก่อนเราแก้โรคเกลานิสัยห่างไกล
00:00:49 → 00:00:52 โรควอันนี้เจอกับคุณหมออีกแล้วใช่ค่ะอย่า
00:00:52 → 00:00:54 เพิ่งเบื่อหน้ากันนะออยังไม่เบื่อค่ะมี
00:00:54 → 00:00:56 แต่คนเรียกร้องนะคะโอขอบคุณมากเลยแล้วก็
00:00:56 → 00:00:59 วันนี้หลายๆคนเนาะคิดว่ามาเจอคุณหมอเนี่ย
00:00:59 → 00:01:02 จะต้องมีเรื่องว่าวว้าวกดดันมากค่ะไม่กด
00:01:03 → 00:01:05 ดันไม่กดดันนี้กสบายใช่แต่ว่าวันนี้บน
00:01:05 → 00:01:08 ทัมเนลหรือหน้าปกเราก็บอกแล้วว่าเราจะมา
00:01:08 → 00:01:10 คุยกันในเรื่องของโรคซึมเศร้าคแต่เราต้อง
00:01:10 → 00:01:12 สดใสก่อนโซค่ะใช่อย่าเพิ่งไปเศร้ากับ
00:01:12 → 00:01:15 ชีวิตเออค่ะแต่หนูขอถามหน่อยตอนเเราจะ
00:01:15 → 00:01:19 เห็นข่าวว่าประเทศไทยอ่ะมีคนที่เป็นโรค
00:01:19 → 00:01:21 ซึมเศร้าเพิ่มมากขึ้นทางคุณหมอเองอ่ะค่ะ
00:01:21 → 00:01:25 มีข้อมูลตรงนี้ว่ายังไงบ้างจริงๆถ้านับใน
00:01:25 → 00:01:27 อดีตเนี่ยอาจจะมีอาการอาจจะเป็นอยู่แล้ว
00:01:27 → 00:01:29 ก็อาจจะเป็นแล้วหายแล้วแต่ว่าเราแค่ไม่
00:01:29 → 00:01:31 รู้จักโรคนี้ว่ามันคืออะไรเพราะมันเหมือน
00:01:31 → 00:01:34 เพิ่งมาเป็นช่วง 4-5 ปีนี้ที่แบบว่าเรา
00:01:34 → 00:01:36 เริ่มรู้จักโรคซึมเศร้ามากขึ้นเราก็เลยไป
00:01:36 → 00:01:39 ตรวจเราก็เลยเจอเนาะถ้ามาถึงอดีตสมัยแบบ
00:01:39 → 00:01:42 1000 ปีก่อนจะมีตำราจีนโบราณอันนึงที่
00:01:42 → 00:01:46 ชื่อว่าจิงกุ้ยเย่าด้วยอ่ะอือ่าอันเนี้ยเ
00:01:46 → 00:01:48 จะพูดถึงโรคเกี่ยวกับอารมณ์เลยสมัยก่อน
00:01:48 → 00:01:52 เนี่ยก็จะมีโรคที่คนอยากกินก็กินไม่ลงคือ
00:01:52 → 00:01:54 อยากออกไปแต่ก็ไม่อยากออกไปอ่าแล้วก็แบบ
00:01:54 → 00:01:56 เดี๋ยวก็ร้องไห้เดี๋ยวก็หัวเราะคล้ายๆจะ
00:01:56 → 00:01:59 แบบอารมณ์ผิดปกติกินข้าวไม่ลงอ่ะอยากนอน
00:01:59 → 00:02:01 ก็นอนไม่หลับอะไรอย่างเงี้ยก็มีบันทึก
00:02:01 → 00:02:04 เรื่องนี้อยู่เหมือนกันแว่าอาการของโรค
00:02:04 → 00:02:07 แบบเนี้ยมันมีมานานแล้วอแต่ว่าเราอาจจะ
00:02:07 → 00:02:09 ยังไม่มีคำจำกัดความหรือว่าคนในอดีตยัง
00:02:09 → 00:02:12 ไม่รู้จักสารสื่อประสาทในสมองในศษาแแน
00:02:12 → 00:02:14 จริงเนี่ยเราจะมองสมดุลของร่างกายเนี่ย
00:02:14 → 00:02:17 อ่าเพถ้าเกิดว่าเขาผิดปกติไปเขาก็จะแสดง
00:02:17 → 00:02:19 ออกถึงอาการต่างๆออกมาซึ่งปัจจุบันเนี่ย
00:02:19 → 00:02:21 เราค้นพบแล้วว่าคนที่เป็นโรคฮึมเศร้า
00:02:21 → 00:02:24 เนี่ยจะมีสารสืประศาสต่างๆที่หลังผิดปกติ
00:02:24 → 00:02:26 ไปแล้วหนูอยากรู้ว่าแล้วในประเทศจีนเอง
00:02:26 → 00:02:28 อ่ะค่ะเรื่องโรคซึมเศร้าเนี่ยประชากรเา
00:02:29 → 00:02:31 เป็นกันเยอะมั้ยคจริงๆถือว่าเป็นเยอะ
00:02:31 → 00:02:33 เหมือนกันนะอ่ะสมัยก่อนตอนที่หมอเรียน
00:02:33 → 00:02:36 อยู่ที่จีนเนี่ยเราจะพบข่าวว่าเด็กคือ
00:02:36 → 00:02:40 เด็กมัธยมเด็กประถมอมีการฆ่าตัวตายหรือ
00:02:40 → 00:02:42 ว่าอารมณ์รุนแรงหอหมอเนี่ยตอนที่ทำงานจะ
00:02:43 → 00:02:46 อยู่ที่ลุงหัวอีเวนที่เซียงไฮแล้วตรงข้าม
00:02:46 → 00:02:48 จะเป็นโรงพยาบาลเสือนจิงปิ้งก็คือโรง
00:02:48 → 00:02:50 พยาบาลเกี่ยวกับจิตเวททีเนี้ยก็จะพบผู้ปก
00:02:50 → 00:02:53 ครองที่พาเด็กที่อาละวาดอยู่เข้าโรง
00:02:53 → 00:02:55 พยาบาลค่อนข้างบ่อยเพราะจะมีเสียงกีดร้อง
00:02:55 → 00:02:58 อยู่ตลอดสภาพแวดล้อมที่เขากดดันมากๆจะแบบ
00:02:58 → 00:03:00 ว่าเขากดดันกว่าประเทศไทยมากๆในการเรียน
00:03:00 → 00:03:03 หนังสือหรือว่าสภาพแวดล้อมของเขาเนี่ยพ่อ
00:03:03 → 00:03:05 แม่ไม่พร้อมที่จะมีในการเลี้ยงดูเด็กคน
00:03:05 → 00:03:07 นึงอะไรเจะมีปัญหาครอบครัวกันจริงๆแล้ว
00:03:07 → 00:03:09 การเกิดโรคซึมเศร้าเนี่ยบริบทของครอบครัว
00:03:09 → 00:03:12 ค่อนข้างสำคัญมากต่างประเทศที่จีนก็แบบ
00:03:12 → 00:03:14 ทั้งการฆ่าตัวตายหรือว่าเด็กที่มีปัญหา
00:03:14 → 00:03:16 เนี่ยค่อนข้างเยอะแล้วอย่างงี้ค่ะโรคซึม
00:03:16 → 00:03:19 เศร้าในศาสตร์การแพทย์แผนจีนมีคำอธิบาย
00:03:19 → 00:03:21 โรคไว้ว่ายังไงบ้างค่ะอ่าเราจะเรียกว่า
00:03:21 → 00:03:23 อี้ยุเจิ้งแล้วจริงๆก็คือโรคซึมเศร้าแต่
00:03:23 → 00:03:27 อี้ยืในสจีนมันเหมือนกับเป็นการกดดันแล้ว
00:03:27 → 00:03:30 ก็มีความติดขัดอยู่ภายในจนทำให้เรามี
00:03:30 → 00:03:33 อาการผิดปกติลองสังเกตง่ายๆก็คือเหมือนมี
00:03:33 → 00:03:36 เสมหะติดคออือ่าอันนี้เป็นอาการเริ่มต้น
00:03:36 → 00:03:38 ถ้าเราจะมองนะอันนี้เราจะเรียกว่าเหมยเหอ
00:03:38 → 00:03:41 ชี่ก็คือพออารมณ์ของเราที่มันติดขัดเนี่ย
00:03:41 → 00:03:44 มันจะยิ่งทำให้สารน้ำพลังชี่ติดขัดแล้ว
00:03:44 → 00:03:46 มันเหมือนมีอะไรจุกคอหลายคนจะมาปรึกษาว่า
00:03:46 → 00:03:49 เหมือนเซม 5 ติดคอขาไม่เข้าคายไม่ออกจริง
00:03:49 → 00:03:51 ๆจะเรียกว่าการเริ่มต้นโรคทางอารมณ์เนี่ย
00:03:51 → 00:03:53 มันจะมีอยู่หลายอันกลุ่มเนี้ยหลายๆคนจะมา
00:03:53 → 00:03:56 จากอารมณ์ที่แบบเครียดนอนหลับได้ไม่ดีเรา
00:03:56 → 00:03:58 จะเรียกว่าพลังชี่ของตับติดขัดเพราะ
00:03:58 → 00:04:00 ฉะนั้นในโลกซึมเศ้าในทาสาแแจรงเนี่ยเราจะ
00:04:00 → 00:04:03 มองเกี่ยวกับอารมณ์ที่ได้รับผลกระทบจาก
00:04:03 → 00:04:05 โรคของตับแต่ตับไม่ใช่แค่ตับแบบตับที่
00:04:05 → 00:04:07 ล้างเลือดออกจะเป็นตับในทาษาแพทยแผ่นจีน
00:04:07 → 00:04:10 ต่นสาแพแผ่นจีนเนี่ยเขาจะดูแลเรื่องนึง
00:04:10 → 00:04:13 เลยก็คือจู่ซูเสี้ยก็คือทำให้พลังชีพใน
00:04:13 → 00:04:16 ร่างกายเนี่ยไหลเวียนดีเสี้ยก็คือเอาที่
00:04:16 → 00:04:18 มันส่วนเกินน่ะออกไปทีนี้ตับเนี่ยเป็นตัว
00:04:18 → 00:04:21 เก็บเลือดด้วยตับของเราเนี่ยต้องการการ
00:04:21 → 00:04:24 พักผ่อนตอนกลางคืนก็คือเส้นลมปานของเขา
00:04:24 → 00:04:26 เนี่ยพลังงานจะเดินไปทำงานได้ดีตอน 1:00
00:04:27 → 00:04:29 น - 3:00 นเป็นเหตุผลว่าทำไมเราจำเป็น
00:04:29 → 00:04:31 ที่ที่จะต้องนอนให้ดีเพหลายๆคนที่นอนไม่
00:04:31 → 00:04:34 ดีรวมถึงคนที่เป็นโรคซึมเศร้าหรือคนที่มี
00:04:34 → 00:04:37 ภาวะซึมเศร้าก็จะทำให้เค้าเนี่ยอาการ
00:04:37 → 00:04:39 กำเริบได้มากถ้าเขาไม่ยอมนอนหรือนอนไม่
00:04:39 → 00:04:42 หลับชอบใช้ชีวิตตอนกลาคืนปิดไฟบางคนก็
00:04:42 → 00:04:44 เล่นโทรศัพท์หรือชอบอยู่ในที่มืดๆเย็นๆ
00:04:44 → 00:04:46 ใครที่แบบอยู่สภาพแบบเยจริงๆจะแนะนำแบบไฟ
00:04:46 → 00:04:49 ที่มันเปิดแต่ตอนเมันจะมีเทคโนโลยีใหม่
00:04:49 → 00:04:52 เป็นงานวิจัยที่เขาจะสามารถส่งแสง 40
00:04:52 → 00:04:54 เฮิตกระตุ้น 3 ตรงเนี้ยงั้นใครที่แบบชอบ
00:04:54 → 00:04:56 นอนดึกๆหรือว่าจำเป็นต้องทำงานดึกๆอย่าง
00:04:57 → 00:05:00 เงี้ยหมอก็จะแนะนำไฟตัวเนี้ยได้เช่วยทำ
00:05:00 → 00:05:03 ให้เราไม่ดีฟมากแล้วหลายคนจะชอบปิดเก็บ
00:05:03 → 00:05:05 ตัวเองอยู่ในที่มืดสารสืบประสาของเรา
00:05:05 → 00:05:08 เนี่ยก็จะทำงานผิดปกติไปได้ง่ายโหจริงๆ
00:05:08 → 00:05:10 มันก็มาจากพฤติกรรมที่เราใช้อย่างเงี้ย
00:05:10 → 00:05:13 แปลว่าคนที่สมมุติตอนนี้เราปกติดีเลยนะคะ
00:05:13 → 00:05:16 แต่ว่าเรามีไลฟ์สไตล์แบบนอนดึกหรือแม้
00:05:16 → 00:05:19 กระทั่งคนที่ทำงานกะดึกใช่อันนี้มีปัญหา
00:05:19 → 00:05:21 มากเอออันนี้ก็จะมีโอกาสเป็นซึมเศร้ามาก
00:05:21 → 00:05:23 กว่าหรค่ะใช่เพราะว่าูปการใช้ชีวิตเนี่ย
00:05:23 → 00:05:25 ถ้าเกิดมองในทางสาแพยแผนจีนเนี่ยเราจะมี
00:05:25 → 00:05:28 สมดุลเราจะเรียกว่าหยินกับหยางพลังหยาง
00:05:28 → 00:05:30 เนี่ยคือแสงอาทิตย์การกระฉับกระเฉงกลาง
00:05:30 → 00:05:33 วันความอบอุ่นธรรมชาติของคนเราเนี่ยพอพระ
00:05:33 → 00:05:35 อาทิตยขึ้นแสงมากระทบร่างกายเราทำให้เรา
00:05:35 → 00:05:37 รู้สึกตัวแล้วเราก็จะมีพลังงานเอเนอร์จี้
00:05:37 → 00:05:39 ออกไปแล้วพอพระอาทิตย์กำลังจะตกอ่ามันก็
00:05:39 → 00:05:41 จะมีแสงสีเหลืองทำให้เรารู้สึกง่วงนอน
00:05:41 → 00:05:43 เก็บตัวเข้าบ้านแล้วคนที่ใช้ชีวิตแบบ
00:05:43 → 00:05:45 เนี้ยถึงแม้กลางวันมีความเครียดนะเขาก็จะ
00:05:45 → 00:05:47 ไม่เกิดโรคง่ายง่าเพราะเขาใช้ชีวิตตาม
00:05:47 → 00:05:50 สมดุลธรรมชาติแต่ว่าถ้าเกิดว่าเขาทำงาน
00:05:50 → 00:05:52 ผิดเวลามากอ่ะเช่นกลางวันก็ทำงานแหละทำ
00:05:53 → 00:05:55 งานปกติแต่กลางคืนก็ 2:00 น 3:00 นกว่าน
00:05:55 → 00:05:57 จะนอนงพลังชีพของตับเนี่ยไม่ได้พักผ่อน
00:05:57 → 00:06:00 เมื่อสักครู่พูดถึงพลังงานของตับ 1 1 -
00:06:00 → 00:06:01 3:00 นเนาะคนที่เป็นโรคซึมเศร้ามากๆอ่ะ
00:06:01 → 00:06:04 มีอาการแพนิคหรือกดไหลย้อนเนี่ยมักจะเกิด
00:06:04 → 00:06:06 อาการป่วยจากการที่ดูแลตัวเองในช่วงเวลา
00:06:06 → 00:06:09 เยได้ไม่ดีหมอขออนุญาตเล่าตับกับถุงน้ำดี
00:06:09 → 00:06:11 อ่าเขาจะเป็นเส้นลงปาลที่ทำงานคู่กันงั้น
00:06:11 → 00:06:13 ถุงน้ำดีเขาจะอยู่ 23:00 นถึง 1:00 นตับ
00:06:13 → 00:06:15 1:00 นถึง 3:00 นอ่าในทางทรัพย์ให้เป็น
00:06:15 → 00:06:17 จีนจะแนะนำให้คนที่ไม่อยากป่วยเป็นโรค
00:06:17 → 00:06:20 อารมณ์แบบเนี้ยให้นอนเร็วก่อน 23:00 น
00:06:20 → 00:06:22 เพื่อที่จะให้ถุงน้ำดีดีเนี่ยเขาสามารถ
00:06:22 → 00:06:25 เก็บน้ำดีจากตับได้ดีแล้วก็ใส่สะอาดอ่าใน
00:06:25 → 00:06:26 มุมมองของแพทแผ่นจีนเนี่ยเราจะมองว่าถ้า
00:06:26 → 00:06:28 เกิดว่าเรานอนหลับพักผ่อนเราจะไม่ได้ไป
00:06:28 → 00:06:31 กระตุ้นพลังงานควร้อนขึ้นมาทำให้น้ำดีของ
00:06:31 → 00:06:33 เราเนี่ยจะใส่สะอาดแล้วก็ไม่ร้อนไม่แห้ง
00:06:33 → 00:06:35 งั้นทีนี้ถ้าเกิดว่าเราไม่ยอมนอนไปเนี่ย
00:06:35 → 00:06:37 ถุงน้ำดีเนี่ยนอกจากการเก็บน้ำดีในการ
00:06:37 → 00:06:40 ช่วยย่อยสารไขมันต่างๆเขายังเป็นตัวที่
00:06:40 → 00:06:43 ช่วยส่งเสริมหัวใจในการสร้างความกล้าหาญ
00:06:43 → 00:06:45 กล้าตัดสินใจถ้าเรานอนได้ๆถุงน้ำดีแข็ง
00:06:45 → 00:06:48 แรงเขาจะมีกำลังส่งให้หัวใจของเราทำให้
00:06:48 → 00:06:50 หัวใจของเรามีกำลังแข็งแรงขึ้นนั้นหลายๆ
00:06:50 → 00:06:53 คนที่เป็นโรคซึมเศร้าเนี่ยเขาจะขาดกำลัง
00:06:53 → 00:06:55 ใจอ่ะไม่ใช่เราโอ้ยสู้ๆนะมันไม่ได้เข้า
00:06:55 → 00:06:57 ถึงหัวใจเขาแต่ว่าด้วยตัวของเขาเองเนี่ย
00:06:57 → 00:07:00 มันไม่มีกำลังใจ 1 ในกำลังใจที่เราสามารถ
00:07:00 → 00:07:03 สร้างได้ด้วยตัวเราเองก็คือถึงเวลาต้อง
00:07:03 → 00:07:05 นอนด้วยยาของแผนปัจจุบันเนี่ยเขาจะค่อน
00:07:05 → 00:07:08 ข้างจ่ายยาใครกังวลกับยานอนหลับให้คนไข้
00:07:08 → 00:07:10 ฐานถ้าพูดในทางสาพแผนจีนก็เรื่องนี้เลย
00:07:10 → 00:07:12 เพราะว่ายิ่งถ้าเราตื่นหรือเราไม่ยอมนอน
00:07:12 → 00:07:14 ในเวลาที่เราควรจะนอนเนี่ยมันจะไปกระตุ้น
00:07:14 → 00:07:16 ไฟในร่างกายมันจะเรียกว่าไฟต่ำมันจะยิ่ง
00:07:16 → 00:07:18 ทำให้ร่างกายของเราร้อนกระตุ้นไปถึงข้าง
00:07:18 → 00:07:22 บนหัวเราจะร้อนแล้วเราก็จะไม่มีกำลังใจใน
00:07:22 → 00:07:24 เรื่องนี้ก็จะส่งเสริมถึงความกล้าหาญกล้า
00:07:24 → 00:07:27 ตัดสินใจความย้ำคิดย้ำทำก็คือถ้าถุงทำจดี
00:07:27 → 00:07:31 ของเราแข็งแรงเราจะสสามารถมีกำลังใจในการ
00:07:31 → 00:07:33 ต่อสู้กับปัญหาได้ใครที่แบบว่ามีปัญหา
00:07:33 → 00:07:35 ชีวิตเยอะๆเราก็จัดการไม่ได้แล้วก็ไม่ยอม
00:07:35 → 00:07:38 นอนแล้วก็เหมือนยิ่งแก้ยิ่งยุ่งแต่ถ้า
00:07:38 → 00:07:40 เกิดว่าใครแบบอ่ะตัดก่อนนอนก่อนสักตื่น
00:07:40 → 00:07:43 นึงกำลังใจของเราฟื้นขึ้นมาเนี่ยเราก็จะ
00:07:43 → 00:07:46 มีสมาธิดีขึ้นมีกำลังใจที่จะไปต่อสู้กับ
00:07:46 → 00:07:48 ปัญหาได้ดีขึ้นภาษาจีนเนี่ยโดยพื้นฐานเขา
00:07:48 → 00:07:50 จะมีอยู่ 2 ขำที่เกี่ยวกับถุงน้ำดีอันนึง
00:07:50 → 00:07:53 คือเรียกว่าต้าต่านต้าต่านก็คือแบบกล้าหา
00:07:53 → 00:07:56 ความกล้าหาญกล้าหารแบบยิ่งใหญ่เนาะต่า
00:07:56 → 00:07:58 เนี่ยแปลว่าถุงน้ำดีต้าแปลว่าใหญ่แล้วอีก
00:07:58 → 00:08:01 คำนึงก็คือเสียวต่านพวกถุงน้ำดีเล็กเราจะ
00:08:01 → 00:08:04 มักพูดถึงคนที่ขี้ขาดว่าต่านเสียวกุ่ยก็
00:08:04 → 00:08:07 คือแบบผีขี้ขาดเพราะว่าโดยวัฒนธรรมจีน
00:08:07 → 00:08:09 เนี่ยเรื่องของอารมณ์ความรู้สึกแล้วก็
00:08:09 → 00:08:11 ความกล้าหาญเนี่ยจะค่อนข้างสัมพันธ์กับ
00:08:11 → 00:08:14 ตับและถุงน้ำดีอเพรางั้นยิ่งใครที่แบบดู
00:08:14 → 00:08:17 จอไม่พักผ่อนแล้วก็นอนดึกๆเนี่ยยิ่งมี
00:08:17 → 00:08:19 โอกาสที่จะทำให้สารสื่อประสาทหลั่งผิด
00:08:19 → 00:08:22 ปกติหรือว่าทำให้ตับไรถุงน้ำดีในทางสาต
00:08:22 → 00:08:25 แพทยแผนจีนเนี่ยเกิดปัญหาขึ้นคือถ้าเรา
00:08:25 → 00:08:28 อยากที่จะเป็นคนที่มีกำลังใจดีก็ต้องนอน
00:08:28 → 00:08:31 ดีใช่อเหมือนกับว่าการโนเนี่ยเป็นวิธีที่
00:08:31 → 00:08:33 ช่วยในการจัดการกับความเครียดหรือเขา
00:08:33 → 00:08:35 เรียกว่าแบบเหมือนล้างความเครียดออกไปเลย
00:08:35 → 00:08:37 มยคะอเอ่อใช่ค่ะเพราะถ้าเกิดว่าความ
00:08:37 → 00:08:40 เครียดเนี่ยจะไปกระทบพลังชีของตับสังเกต
00:08:40 → 00:08:42 นะเวลาเราทำงานเครียดๆเนี่ยเราจะหายใจไม่
00:08:42 → 00:08:45 อิ่มหรือกลั้นหายใจโดยอัตโนมัติแล้วเราก็
00:08:45 → 00:08:47 จะแบบว่าปวดตึงกล้ามเนื้อตับในดูแลเส้น
00:08:47 → 00:08:50 เอ็นตับเปิดทวารที่ดวงตายิ่งเราใช้สายตา
00:08:50 → 00:08:52 เยอะๆเนี่ยมันก็จะยิ่งเป็นการกระตุ้น
00:08:52 → 00:08:54 ประสาทพอความเครียดทำให้พลังชี่ของตับติด
00:08:54 → 00:08:56 ขัดพอเราไม่ยอมนอนทำให้ตับไม่สามารถไหล
00:08:56 → 00:08:59 เวียนพลังชี่ได้มันก็เลยกระจุกอยู่อ่า
00:08:59 → 00:09:01 แล้วมันก็ไม่ทลายลงไปนอกจากซึมเศร้าเนี่ย
00:09:01 → 00:09:03 คนที่นอนดึกมากๆหรือนอนดึกต่อเนื่องอ่ะ
00:09:03 → 00:09:05 ลองวัดความดันความดันก็จะขึ้นได้ง่ายอัน
00:09:05 → 00:09:07 ในกลุ่มที่มีภาวะความดันสูงเนี่ยมันจะ
00:09:07 → 00:09:09 เป็นตัวกระตุ้นไฟของตับเกินขึ้นมาเมันจะ
00:09:09 → 00:09:11 เกิดความแกร่งมีโอกาสเป็นสต๊กเราจะเห็น
00:09:11 → 00:09:14 ข่าวนะไม่เคยตรวจโรคประจำตัวตรวจไม่เจอ
00:09:14 → 00:09:16 หรือว่าแบบปกติไปตรวจความนั้นก็ไม่ขึ้นนะ
00:09:16 → 00:09:18 แต่ว่าช่วงนี้แบบทำงานเคลดมากมีปัญหา
00:09:18 → 00:09:21 ชีวิตปัญหาบริษัทต่างๆอยู่ๆเส 2 แตกมันจะ
00:09:21 → 00:09:24 แบเกิดกระทันหันน่ะเออแล้วก็สมัยเนี้ยจะ
00:09:24 → 00:09:26 เกิดตั้งแต่วัยน้อยแบบอายุไม่เยอะไวทำงาน
00:09:26 → 00:09:29 แบบคิดว่าเแข็งแรงอ่ะเออแต่ว่าทีนี้พอพอ
00:09:29 → 00:09:31 มันมีเรื่องมากระทบแล้วเราไม่ได้พักผ่อน
00:09:31 → 00:09:33 เนี่ยเพความดันสูงกระทันหันก็ทำให้เรา
00:09:33 → 00:09:37 ป่วยได้ตับเนี่ยเขาจะเป็นตัวระบายส่วน
00:09:37 → 00:09:39 เกินคือจู่ซูซูคือทำให้หมุนเวียนเสี้ยก็
00:09:39 → 00:09:42 คือทำให้ส่วนเกินเนี่ยออกไปถ้าเรานอนได้
00:09:42 → 00:09:44 ดีความเครียดเนี่ยมันจะหายไปบางคนบอกหมอ
00:09:44 → 00:09:46 นอนดึกไม่ได้เครียดนะว่าไม่ได้ทำงานด้วย
00:09:46 → 00:09:48 แบบดูซีรียส์อะไรอย่างเงี้ยจริงๆร่างกาย
00:09:48 → 00:09:50 มันจะตึงอ่ะมันจะไม่ได้สดชื่นใช่มันก็เลย
00:09:50 → 00:09:53 จำเป็นต้องนอนเพื่อส่งเสริมจิตใจของเราอ
00:09:53 → 00:09:55 เข้าใจิที่เขาบอกว่าการนอนคือการปรับ
00:09:55 → 00:09:57 สมดุลร่างกายใช่ๆมันต้องเบรคแป๊บนึงเมื่อ
00:09:57 → 00:09:59 กี้ที่คุณหมอบอกว่าบางคนบอกว่าเฮ้ยเราไม่
00:09:59 → 00:10:01 ได้เป็นซึมเศร้าหรือเราไม่ได้มีอาการ
00:10:01 → 00:10:03 เศร้าอะไรเลยแต่ว่าที่เรานอนดึกเพราะว่า
00:10:03 → 00:10:05 เรา Enjoy ไอยู่อาจจะเป็นช่วงเวลาพักของ
00:10:05 → 00:10:07 เราด้วยซ้ำเรารีแลกอยู่แต่อันนี้ก็ไม่ดี
00:10:07 → 00:10:10 เหมือนกันที่คุณบอกใช่ๆแล้วคือเราอ่ะมัก
00:10:10 → 00:10:12 จะเที่ยวกันแบบวัยรุ่นอะไรอย่างเงี้ยจะ
00:10:12 → 00:10:14 แบบลองสังเกตดูดีๆถ้าเกิดว่าใครที่แบบติด
00:10:14 → 00:10:16 ปาร์ตี้ตอนกลางคืนบ่อยๆเนี่ยลองกลับมาถ้า
00:10:16 → 00:10:18 เกิดว่าเราอยู่คนเดียวเงียบๆเนี่ยเรารู้
00:10:18 → 00:10:20 สึกเศร้าไหมเหมือนกับว่าเราไปเที่ยวเนี่ย
00:10:20 → 00:10:22 เราสนุก Enjoy ใช่มั้พอกลับมาบ้านปุ๊บเรา
00:10:22 → 00:10:24 ต้องไปอยู่คนเดียวหรืออยู่กับคนในบ้าน
00:10:24 → 00:10:26 เนี่ยเรารู้สึกมีความสุขอยู่ไหมเพราะบาง
00:10:26 → 00:10:28 ทีที่เราไปติดตอนกลางคืนตอนแบบนั้นเนี่ย
00:10:28 → 00:10:31 เพราะว่าเราติดบรรยากาศที่มันแบบเออมีคน
00:10:31 → 00:10:32 คุยสนุกหรืออะไรอย่างเงี้ยแต่เราไม่
00:10:32 → 00:10:34 สามารถมีเวลาเป็นของตัวเราเองเราไม่
00:10:34 → 00:10:36 สามารถอยู่กับตัวเราเองได้จริงๆแล้วแปล
00:10:36 → 00:10:39 ว่าเราอ่ะอาจจะหลบหนีเวลาแบบเงียบๆมืดๆ
00:10:39 → 00:10:41 ที่บ้านไปแบบปาร์ตี้ข้างนอกใช่นี้ก็มัน
00:10:41 → 00:10:43 เป็นจุดสังเกตได้เพราะคนกลุ่มเยก็จะเป็น
00:10:43 → 00:10:45 อีกกลุ่มนึงที่จะมีภาวะที่จะป่วยเป็นโรค
00:10:45 → 00:10:48 ทางจิตใจได้ง่ายค่ะแล้วการที่เราเป็นคน
00:10:48 → 00:10:52 ที่แบบเหมือนใช้ชีวิตไปแบบสนุกชอบเข้า
00:10:52 → 00:10:53 สังคมหรือสมัยนี้อาจจะเรียกว่าเราเป็นคน
00:10:53 → 00:10:55 extrovert เอออะไรอย่างงั้นน่ะนะคะก็
00:10:55 → 00:10:58 สำคัญใช่มั้ยคะคือการที่เราไม่ค่อยมีเวลา
00:10:58 → 00:11:00 อยู่กับตัวเองนะนำไปสู่การเป็นซึมเศร้า
00:11:00 → 00:11:03 ได้มยเป็นหนึ่งในสาเหตุแล้วะกันเหมือนกับ
00:11:03 → 00:11:06 ว่าถ้าเกิดว่าเราไม่เอาตัวเองเนี่ยไปอยู่
00:11:06 → 00:11:08 กับคนอื่นมากๆเราจะไม่ค่อยเข้าใจตัวเอง
00:11:09 → 00:11:11 เป็นเเวร์ก็ได้แต่ว่าเราก็ต้องเข้าใจตัว
00:11:11 → 00:11:13 เราเองแล้วเราก็สามารถอยู่กับตัวเองได้
00:11:13 → 00:11:15 ถ้าเกิดว่าเราเข้าใจเราในทุกขณะเราจะไม่
00:11:15 → 00:11:18 ป่วยแต่ถ้าเกิดว่าเราเอาตัวเองไปติดกับ
00:11:18 → 00:11:21 สิ่งแวดล้อมแไปติดกับสังคมหรือบทบาทอื่นๆ
00:11:21 → 00:11:23 ภายนอกเนี่ยโดยที่เราไม่รู้จักตัวเองเรา
00:11:23 → 00:11:25 ก็จะไม่ทันได้เข้าใจว่าตอนเนี้ยจริงๆแล้ว
00:11:26 → 00:11:28 เรามีมีปัญหาอะไรอยู่เรามีความไม่เข้าใจ
00:11:28 → 00:11:30 อะไรกับตัวเองหรือเปล่าแล้วหลายคนที่พอไป
00:11:30 → 00:11:32 ปาร์ตี้เสร็จกลับมานอนไม่หลับอีกมีปัญหา
00:11:32 → 00:11:34 นอนไม่หลับกลับมาจริงๆแล้ว 1 ก็คือมันเลย
00:11:34 → 00:11:36 เวลาธรรมชาติในการนอนถ้าเกิดสมมติเราเลิก
00:11:36 → 00:11:38 งาน 5600 นเก็บตัวเข้าบ้านเตรียมตัวเข้า
00:11:38 → 00:11:40 นอนช่วงเวลาที่เราจะเข้านอนได้ดีถ้าเกิด
00:11:40 → 00:11:43 เราเตรียมตัวเข้านอนได้ดีนะประมาณ 2:3 น
00:11:43 → 00:11:45 เนี่ยเราก็จะเข้านอนได้ละแต่ว่าถ้าเกิด
00:11:45 → 00:11:47 ว่าใครไปปาร์ตี้ต่อมันจะเลยเวลาที่ง่วง
00:11:47 → 00:11:49 นอนไปนะหลายคนจะชอบง่วงนอนตอนหัวค่ำเนาะ
00:11:49 → 00:11:51 แล้วไม่ยอมนอนจะไปนอนอีกทีตอนเที่ยงคืน
00:11:51 → 00:11:54 เพราะมันเลยูปที่เราควรจะนอนมันก็เลยเลย
00:11:54 → 00:11:56 เวลาไปทีเนี้พอคนไปปาร์ตี้จนถึง 3:00 น
00:11:56 → 00:11:58 แล้วหลายคนหรือว่าทำงานเป็นกะเนี่ยเรา
00:11:58 → 00:12:00 เลิกออกมาตอน 3:00 นจะนอนก็นอนไม่หลับอีก
00:12:00 → 00:12:02 เพราะว่าเราจะเรียกว่าพลังหยินน่ะมัน
00:12:02 → 00:12:04 ไปมันทำให้เกิดรู้สึกร้อนกระสับกระส่ายก็
00:12:04 → 00:12:06 เลยทำให้เราเข้านอนยากขึ้นถ้าเกิดว่าเรา
00:12:06 → 00:12:08 ไม่เข้าใจตัวเองแล้วเราก็จัดการเวลาของ
00:12:08 → 00:12:10 เราได้ไม่ดีเนี่ยแล้วเรามีนิสัยแบบเยไป
00:12:10 → 00:12:13 เรื่อยๆมันก็จะลองสังเกตบางคนก็อาจจะไม่
00:12:13 → 00:12:14 เป็นอะไรแต่ว่าอันนี้เป็นจุดนึงที่สังเกต
00:12:14 → 00:12:16 ได้ว่าพฤติกรรมเหล่าเนี้ยเป็นตัวกระตุ้น
00:12:16 → 00:12:18 การเกิดโรคของเราแต่เมื่อกี้เราพูดถึง
00:12:18 → 00:12:21 เเวร์ไม่ไม่ได้หมายความว่าเเวร์จะเป็นซึม
00:12:21 → 00:12:24 เศร้าเท่านั้นมันอยู่ที่พฤติกรรมเราค่ะ
00:12:24 → 00:12:26 แล้วหนูอยากถามว่าแล้วอย่างเงี้ยค่ะเรา
00:12:26 → 00:12:28 พูดๆกันมาหนูว่าตัวการนึงที่สำคัญมากๆคือ
00:12:28 → 00:12:31 เรื่องความเครียดอืแล้วทีเนี้ยเราจะ
00:12:31 → 00:12:33 สังเกตตัวเองได้ยังไงว่าเฮ้ยตอนนี้เรา
00:12:33 → 00:12:35 กำลังเครียดอยู่หรือเปล่าเพราะบางทีเรา
00:12:35 → 00:12:37 ไม่รู้ตัวเนาะความตึงเลยรู้สึกตึงหรือว่า
00:12:38 → 00:12:40 แบบรู้สึกหายใจสั้นหายใจไม่อิ่มอันนี้จะ
00:12:40 → 00:12:43 บอกว่าเอ่อเกิดความเครียดในร่างกายของเรา
00:12:43 → 00:12:45 หมอจะชอบแนะนำคนไข้ว่าเมื่อไหร่ที่อวด
00:12:45 → 00:12:47 กล้ามเนื้อคอไม่หายซะทีหรือว่าหายใจไม่
00:12:47 → 00:12:50 โลงหายใจไม่อิ่มเนี่ยปกติไม่ได้มีงาน
00:12:50 → 00:12:53 เครียดเลยแบบเงินก็มีใช้งานก็มีทำอะไร
00:12:53 → 00:12:55 อย่างงี้ให้ออกกำลังกายอ่าบางทีเราจะไม่
00:12:55 → 00:12:57 รู้แต่ว่าเราเครียดหรรือเปล่าให้สังเกตลม
00:12:57 → 00:13:00 หายใจให้สังเกสกตว่าเราหายใจแบบหายใจสุด
00:13:00 → 00:13:02 มยแล้วก็อาการปวดตึงเพราะพลังงานของตับ
00:13:02 → 00:13:05 เนี่ยเขาจะดูแลเส้นเอ็นถ้าเกิดพลังชของ
00:13:05 → 00:13:07 เขาไม่ดีเนี่ยเราจะปวดตึงกล้ามเนื้อทั้ง
00:13:07 → 00:13:10 ตัวได้ง่ายแต่ว่าพอเราออกกำลังกายปุ๊บมัน
00:13:10 → 00:13:12 จะเป็นการผ่อนคลายถ้าใครออกกำลังกายอย่าง
00:13:12 → 00:13:14 พอดีเนี่ยแล้วเอาเงือออกซึมๆขึ้นมาเนี่ย
00:13:14 → 00:13:16 เรารู้สึกโล่งเบาสบายแล้วเราจะรู้สึกว่า
00:13:16 → 00:13:18 อ่ะเมื่อสักครู่นี้เรื่องหนักๆเมันจะหาย
00:13:18 → 00:13:21 ไปเลยพร้อมกับการออกกำลังกายใครที่ไม่รู้
00:13:21 → 00:13:23 ตัวว่าเครียดหรือไม่เครียดลองออกกำลังกาย
00:13:23 → 00:13:25 สม่ำเสมอก็จะช่วยได้เรื่องนี้เลยถามเพิ่ม
00:13:25 → 00:13:28 นิดนึงแล้วอย่างแบบมนุษย์ออฟฟิศหรือคนที่
00:13:28 → 00:13:30 แบบนั่งนั่งเก้าอี้หน้าคอมนานๆแล้วเกิด
00:13:30 → 00:13:33 อาการตึงร่างกายแบบเป็นออฟฟิ Syndrome
00:13:33 → 00:13:35 อันเนี้ยอเป็นกันเยอะมากอันนี้ก็คือความ
00:13:35 → 00:13:37 เครียดมั้ยคะอ่าอาจจะมีความเครียดสะสมเรา
00:13:37 → 00:13:39 จะเป็นความเครียดทางความคิดเนาะเพราะเราอ
00:13:39 → 00:13:41 เอ้ยเราคิดหรือวิตกกังวลเรื่องนี้กับความ
00:13:41 → 00:13:44 เครียดของร่างกายทีเวิธีการบาลานซ์ง่ายๆ
00:13:44 → 00:13:46 ไม่ว่าจะเป็นทางอารมณ์หรือทางร่างกาย
00:13:46 → 00:13:48 เนี่ยก็คือหมอจะแนะนำแค่ 2 อย่างเลยอัน
00:13:48 → 00:13:50 แรกเลยก็คือการออกกำลังกายอีกอันนึงก็คือ
00:13:50 → 00:13:52 การนอนเพราะการออกกำลังกายเนี่ยจะเป็นการ
00:13:52 → 00:13:54 กระตุ้นการไหลเวียนของเลือดทั้งหมดเลยจาก
00:13:54 → 00:13:56 ใครที่แบบอยู่ออฟฟิศเนี่ยแอร์เย็นๆปุ๊บ
00:13:56 → 00:13:58 มือเท้าเย็นแต่ออกกำลังกายจนต่อเนื่อง
00:13:58 → 00:14:00 เนี่ยมือเท้าเราจะอุ่นขึ้นอแสดงว่าพลัง
00:14:00 → 00:14:03 หยางหมุนเวียนเลือดไปทั่วทุกอนูในร่างกาย
00:14:03 → 00:14:06 แล้วก็การนอนเนี่ยจะเป็นการลดความร้อนของ
00:14:06 → 00:14:08 ตับตอนที่เรานอนเจะเป็นการฟื้นฟูพลังหยิน
00:14:08 → 00:14:10 ขึ้นมาพลังหยินคือความเย็นสารน้ำเลือด
00:14:10 → 00:14:13 แล้วก็ผ่อนคลายไม่ให้พลังชีพของตับติดขัด
00:14:13 → 00:14:15 แล้วตับสามารถเก็บเลือดได้เต็มใครที่แบบ
00:14:15 → 00:14:17 ว่ามีความเครียดหน้าตาหมองค้ำไม่อยากเป็น
00:14:17 → 00:14:21 ฝากกะแล้วก็พอคนนอนดึกๆเนี่ยอารมณ์ยิ่งป
00:14:21 → 00:14:24 ป่วนง่ายขี้หงุดหงิดขี้โมโหใช่ทีพอเรานอน
00:14:24 → 00:14:26 ได้ดีเนี่ยพลังงานของตับจะอ่อนนุ่มขึ้น
00:14:26 → 00:14:28 ถ้าเรานอนสบายตื่นมาเราจะสดชื่นอ่าตัวเรา
00:14:28 → 00:14:31 จะไม่ให้ปวดตึงง่ายตำราเนี่ยจะบอกว่าถ้า
00:14:31 → 00:14:33 เกิดว่าถุงน้ำดีล้างน้ำดีได้สะอาดอตับ
00:14:33 → 00:14:35 ล้างเลือดได้สะอาดเนี่ยตื่นเช้ามาหน้าตา
00:14:35 → 00:14:38 ของเราจะแจ่มใสสมองของเราจะปลอดโปร่งเพรา
00:14:38 → 00:14:41 งั้นใครที่รู้สึกปรับบาลานซ์เรื่องอารมณ์
00:14:41 → 00:14:42 ได้ไม่ดีหรือว่ารู้สึกว่าร่างกายของเรา
00:14:42 → 00:14:44 อาจจะสะสมความเครียดเนี่ยดูแลแค่การออก
00:14:44 → 00:14:47 กำลังกายกับการนอนอ่าก็จะช่วยฟื้นฟู
00:14:47 → 00:14:49 เรื่องนี้ได้หนูอยากถามว่าแล้วก่อนที่เรา
00:14:49 → 00:14:51 จะไปถึงโรคซึมเศร้าค่ะมันอาจจะมีเรื่อง
00:14:51 → 00:14:54 ของภาวะซึมเศร้ามาก่อนเนาะซึ่งไม่ใช่โรค
00:14:54 → 00:14:56 แล้วเราจะแยกภาวะซึมเศร้ากับโรคซึมเศร้า
00:14:56 → 00:14:59 ออกจากกันได้ยังไงคะจริงๆภาวะวซึมเศร้า
00:14:59 → 00:15:02 เนี่ยอาจจะไม่ได้เป็นต่อเนื่องทุกวันตลอด
00:15:02 → 00:15:04 เวลาถึง 2 สัปดาห์อาจจะเป็นแค่แบบว่าเอ้ย
00:15:04 → 00:15:07 วันนี้เราแบบช่วงมีประจำเดือนลึกเศร้า
00:15:07 → 00:15:09 อยากร้องไห้ผู้หญิงนี่เป็นกันเยอะมากจริง
00:15:09 → 00:15:11 ๆโรกซึมเศร้าเนี่ยเป็นในผู้หญิงจะค่อน
00:15:11 → 00:15:14 ข้างมากกว่าผู้ชายแล้วในทั้งสาจรเนี่ยจะ
00:15:14 → 00:15:16 มองว่าผู้หญิงเนี่ยจะป่วยเป็นโรคของตับใน
00:15:16 → 00:15:19 าาแยพิญจีนค่อนข้างเยอะเป็นเองหายเองได้
00:15:19 → 00:15:21 ก็คือเป็นไม่ถึง 2 สัปดาห์อันนี้เป็นภาวะ
00:15:21 → 00:15:23 นะเป็นช่วงสั้นๆหมอก็จะมีทริกง่ายๆสำหรับ
00:15:23 → 00:15:27 สาวๆถ้าเกิดว่าเราไม่อยากมีภาวะอารมณ์ที่
00:15:27 → 00:15:29 แปกป่วนอ่ะในช่วงก่อนมีประจำเดือนอะไร
00:15:29 → 00:15:32 อย่างเงี้ยให้ปรับสมดุลง่ายๆอ่ะหมอจะไล่
00:15:32 → 00:15:35 ตั้งแต่การนอนหลายคนจะบอกหมออยากนอนอยู่
00:15:35 → 00:15:37 แต่นอนไม่หลับให้ทำยังไงดีหมอจะเล่าเส้น
00:15:37 → 00:15:39 ลมปราของเยื่อหุ้มหัวใจเยื่อหุหัวใจเนี่ย
00:15:39 → 00:15:42 จะอยู่ที่เอ่อ 19:00 นถ 21:00 นหมอมักจะ
00:15:42 → 00:15:45 แนะนำให้คนไข้เนี่ยพูดคุยกับตัวเองทำความ
00:15:45 → 00:15:47 เข้าใจกับตัวเองในเวลานี้เพราะว่าเวลานี้
00:15:47 → 00:15:49 เป็นเวลาของเยี่ยวหุ้มหัวใจเป็นเส้นโงบาล
00:15:49 → 00:15:52 ที่จะช่วยการผ่อนคลายของหัวใจหลายคนน่ะ
00:15:52 → 00:15:55 อาจอาจจะมีปัญหาชีวิตต่างๆแล้วเราก็ไม่
00:15:55 → 00:15:57 รู้จะจัดการยังไงแล้วเราก็ไม่ไม่ทันได้
00:15:57 → 00:16:00 เข้าทำความเข้าใจกับอารมณ์ของเรามันก็เลย
00:16:00 → 00:16:02 วางไม่ลงเราจะเรียกว่าไฟหัวใจเกินมันก็จะ
00:16:02 → 00:16:05 กระสับกระส่ายจะนอนก็นอนไม่หลับหือตา
00:16:05 → 00:16:07 สว่างล้านะแต่นอนไม่หลับอ่าอันนี้ก็คือ
00:16:08 → 00:16:10 ให้มาปรับช่วงเวลานี้ช่วงเวลานี้แนะนำให้
00:16:10 → 00:16:12 เดินเล่นได้เป็นการผ่อนคลายเนาะเสร็จแล้ว
00:16:12 → 00:16:14 เอ่อ 21:00 นถึงก่อน 23:00 นเนี่ยเป็น
00:16:14 → 00:16:17 เวลาของซานเจียวซานเจียวเป็นทางเดินของา
00:16:17 → 00:16:20 น้ำทำให้ไม่ไม่มีส่วนใดส่วนหนึ่งร้อนเกิน
00:16:20 → 00:16:22 ไปเพราะว่าาน้ำไม่ถึงหรือไม่ทำให้ส่่วนใ
00:16:22 → 00:16:25 ได้ส่หนเย็นเกินไปเพราะน้ำมันไปกรองใน
00:16:25 → 00:16:27 ช่วงเวลาของซานเจียวเนี่ยจะแนะนำให้คนไข้
00:16:27 → 00:16:29 เข้านอนเข้านอนในที่นี้ก็คือเก็บอุปกรณ์
00:16:29 → 00:16:32 ปิดทุกอย่างแล้วก็นอนหลายคนอาจจะบอกว่า
00:16:32 → 00:16:34 โอ๊ยหมอมันก็ยังไม่หลับไม่เป็นไรในช่วง
00:16:34 → 00:16:36 แรกอาจจะย่างนิดนึงแต่ให้คนไข้ค่อยๆปรับ
00:16:36 → 00:16:38 อ่ะช่วงเวลานี้ถ้าคนไข้นอนได้ดีเนี่ยทั้ง
00:16:38 → 00:16:41 เรื่องผิวพรรณเรื่องสมาธิอ่ารวมถึงเรื่อง
00:16:41 → 00:16:43 อารมณ์เนี่ยจะดีขึ้นมากๆเพราะเเป็นสารน้ำ
00:16:43 → 00:16:46 ที่จะไหลไม่ทำให้ไฟส่วนบนเกินถ้าไฟส่วนบน
00:16:46 → 00:16:48 เกินเนี่ยประสาทเราจะเกินสมาธิเราก็จะไม่
00:16:48 → 00:16:51 มีเราก็จะมีอาการของโรคต่างๆทีนี้หลัง
00:16:51 → 00:16:53 2300 นไปถ้าเกิดว่าเราไม่ยอมนอนจะเกิด
00:16:53 → 00:16:56 อะไรขึ้นนะในทางสาไพยแผ่นจีนที่หมอบอกไป
00:16:56 → 00:16:59 ก็คือความกล้าหาญของถุงน้ำดีอ่ะที่พูดถึง
00:16:59 → 00:17:01 ถุงน้ำดีดีเล็กใหญ่เนาะถ้าเรานอนไม่ดี
00:17:01 → 00:17:03 เนี่ยพลังงานของถุงน้ำดีของเราจะอ่อนแอทำ
00:17:03 → 00:17:06 ให้ระบบย่อยเผาพานของเราพังแล้วก็จะทำให้
00:17:06 → 00:17:09 อารมณ์ความมั่นใจในตัวเองของเราอ่ะแย่ล
00:17:09 → 00:17:11 หลายคนเนี่ยจะเกิดโรคจากการที่เราพักฟื้น
00:17:11 → 00:17:15 ตัวเองได้ไม่ดีอ่ะพอถุงน้ำดีไม่สามารถ
00:17:15 → 00:17:17 ฟื้นฟูพลังงานของเขาได้เนี่ยเขาก็จะส่ง
00:17:17 → 00:17:20 กำลังใจไปให้หัวใจไม่พออแล้วก็จะขาดกำลัง
00:17:20 → 00:17:22 หัวใจเนาะงั้นถุงน้ำดีทำงานคู่กับตับตับ
00:17:22 → 00:17:24 เป็นตัวเก็บเลือดของเราถ้าเกิดว่าร่างกาย
00:17:24 → 00:17:28 ของเรามันร้อนเกินไปคนที่เป็นซึมเศร้า
00:17:28 → 00:17:30 เป็นโรคเครียดเนี่ยมันจะมองว่าพลังชีของ
00:17:30 → 00:17:33 ตับติดขัดมันจะยิ่งทำให้เลือดร้อนเลือด
00:17:33 → 00:17:35 แห้งแล้วก็ทำให้เขามีอารมณ์ที่แปรปรวนใน
00:17:35 → 00:17:37 ตอนกลางวันได้ง่ายถ้าเกิดว่าเมื่อคืนนี้
00:17:37 → 00:17:39 เรานอนไม่ดีวันเนี้ยทั้งสมาธิในการทำงาน
00:17:39 → 00:17:42 หรืออารมณ์ที่จะจัดการในวันนั้นน่ะจะแย่
00:17:42 → 00:17:44 ลงเลยเพราะว่าความเย็นเราจะเรียกว่าพลัง
00:17:44 → 00:17:46 หยินน่ะไม่ได้บาลานขึ้นอร่างกายของเขา
00:17:46 → 00:17:48 ร้อนขึ้นแล้วจะนอนก็ยิ่งกระสับกระส่าย
00:17:48 → 00:17:50 เพราะฉะนั้นเพื่อตัดปัญหาไม่ให้เกิดสิ่ง
00:17:50 → 00:17:53 ที่ไม่ดีตามมาเนี่ยก็เลยให้จัดการเวลา
00:17:53 → 00:17:55 ตั้งแต่หัวค่ำจนถึงเวลาเข้านอนอ่าเราก็จะ
00:17:55 → 00:17:59 ลดสาเหตุการป่วยทางอารมณ์อ่ะได้ง่ายขึ้น
00:17:59 → 00:18:00 ใช่เดี๋ยวหมอเสริมอีกอันนึงก็คือเรื่อง
00:18:00 → 00:18:03 การกินในตำราจิงกุ้ยเย้าเลี่เนี่ยเขาจะ
00:18:03 → 00:18:07 พูดถึงการป่วยของผู้หญิงเราจะเรียกว่ากิน
00:18:07 → 00:18:09 ไม่ได้นอนไม่หลับเดี๋ยวก็ร้องไห้เดี๋ยวก็
00:18:09 → 00:18:11 หัวเราะอะไรอย่าเงี้ยคือเรื่องอารมณ์หลาย
00:18:11 → 00:18:13 คนที่เป็นซึมเศร้าเนี่ยจะรู้สึกท้อแท้กับ
00:18:13 → 00:18:15 ชีวิตไม่อยากตื่นขึ้นมาไม่อยากขยับบางที
00:18:15 → 00:18:17 ก็กินมากเกินไปแล้วก็บางทีก็ไม่กินเลย
00:18:17 → 00:18:19 อะไรอย่างเงี้ยแล้ววิธีการจัดการกับ
00:18:20 → 00:18:21 อารมณ์แบบเนี้ยก่อนที่จะเกิดโรคที่ตับ
00:18:22 → 00:18:25 เนี่ยให้ไปดูแลที่มมมก็คือการกินหลายคนก็
00:18:25 → 00:18:27 คือพอไม่ระวังเรื่องการกินจะทำให้เกิด
00:18:27 → 00:18:30 ความชื้นหะในร่างกายมากม้ามเนี่ยจะไม่ชอบ
00:18:30 → 00:18:33 ความหวานหลายคนที่เครียดชอบกินหวานผู้
00:18:33 → 00:18:35 หญิงช่วงก่อนมีประจำเดือนก็จะอยากกินหวาน
00:18:35 → 00:18:39 ด้วยอใช่ใช่จริงๆเราจะรู้สึกดีตอนที่กิน
00:18:39 → 00:18:41 ค่ะแต่หลังจากนั้นน่ะเราอาจจะไม่รู้สึก
00:18:41 → 00:18:42 เหมือนเดิมเหมือนเหมือนเราจะต้องกินเพื่อ
00:18:42 → 00:18:45 ให้เราผ่อนคลายพอเราหมอจะให้ตัดเคิฟก็คือ
00:18:45 → 00:18:48 เราจะไม่ให้ทานหวานที่มันแปรรูปมากเกินไป
00:18:48 → 00:18:51 อแต่เราอาจจะหวานจากผลไม้ให้ได้บ้างแต่
00:18:51 → 00:18:53 ว่าถ้าเกิดว่าหวานแบบหวานที่มันปรุงแต่ง
00:18:53 → 00:18:55 มากๆเนี่ยจะให้ตัดออกถ้าเกิดว่าช่วงที่
00:18:55 → 00:18:59 อารมณ์แปรปรวนมากๆนอนให้ดีอ่ะนอนดีแล้วมา
00:18:59 → 00:19:02 กินให้ดีเพื่อไม่ให้เกิดเสมหะความชื้นใน
00:19:02 → 00:19:04 ร่างกายมากมมเนี่ยจะเป็นอวัยวะที่ไม่ชอบ
00:19:04 → 00:19:07 ความคิดมากถ้าเกิดว่าเราคิดมากมากๆเนี่ย
00:19:07 → 00:19:10 มันจะทำร้ายพลังชีพของมมเนาะแล้วมไม่ชอบ
00:19:10 → 00:19:14 ความชื้นสังเกตคนที่อยู่ในสภาพอากาศที่
00:19:14 → 00:19:17 ชื้นหรืออากาศที่ฝนครึมๆตลอดเวลาหรือว่า
00:19:17 → 00:19:20 PM 2.5 เยอะๆเนี่ยมีโอกาสกระตุ้นทาง
00:19:21 → 00:19:24 อารมณ์ได้ก็เาอาจจะมีความซึมเศร้าท้อแท้
00:19:24 → 00:19:26 เกิดขึ้นได้ก็จะเป็นผลต่อสภาพอากาศอ่ะภาย
00:19:26 → 00:19:30 นอกที่กระทบมทำให้เราเกิดอารมณ์ที่ไม่ดี
00:19:30 → 00:19:33 ขึ้นมาเนาะแล้วก็ความชื้นภายในค่ะส่วนนึง
00:19:33 → 00:19:35 มาจากการกินกินอาหารที่ที่หมอบอกไปก็คือ
00:19:35 → 00:19:38 หวานแปรรูปมากๆเราอาจจะมีความสุขตอนที่
00:19:38 → 00:19:40 เรากินแต่ว่าหลังจากนั้นเยเราจะรู้สึกไม่
00:19:40 → 00:19:42 สดชื่นได้ว่าความหวานชื้นมากๆเนี่ยมันจะ
00:19:42 → 00:19:44 ทำให้เราหนักเนื้อหนักตัวหนักหัวเราก็จะ
00:19:44 → 00:19:46 รู้สึกไม่ปลอดโป่งอืออ่าถ้าเกิดว่าผู้
00:19:46 → 00:19:49 หญิงก่อนมีประจำเดือนถ้าเกิดอยากทานหวาน
00:19:49 → 00:19:53 ทานหวานที่ไม่หวานแปรูปมากพวกขนมเค้กขนม
00:19:53 → 00:19:55 ปังจะให้ตัดออกหาธาติอ่าหวานจากธรรมชาติ
00:19:55 → 00:19:57 ได้บ้างเพื่อไม่ให้เราทานอย่างผิดปกติ
00:19:57 → 00:20:00 เนี่ยให้นอนปรับเวลาการนอนให้ดีอารมณ์ตอน
00:20:00 → 00:20:02 กลางวันของเราเนี่ยก็จะลี้ขึ้นเพราะเราจะ
00:20:02 → 00:20:04 เรียกว่าไฟของตับเนี่ยมันจะไม่เกิน
00:20:04 → 00:20:07 คีย์เวิร์ดหลักก็คือการนอนทั้งนั้นเลยที่
00:20:07 → 00:20:09 จะช่วยปรับสมดุลปรับโรคทางอารมณ์เนาะที่
00:20:09 → 00:20:11 คุณหมอบอกตั้งแต่แรกแล้วอย่างซึมเศร้าอ่ะ
00:20:11 → 00:20:13 ค่ะคุณหมอเราได้ยินคำว่าซึมเศร้าเราจะ
00:20:14 → 00:20:16 เข้าใจว่ามีแต่อารมณ์เศร้าแล้วในความเป็น
00:20:16 → 00:20:19 จริงหรือในศาสตร์การแพทย์แผนจีนน่ะค่ะโรค
00:20:19 → 00:20:21 ซึมเศร้ามีแต่อารมณ์เศร้าอย่างเดียวหรือ
00:20:21 → 00:20:23 มีอารมณ์อื่นๆปนอยู่ด้วยค่ะอโอถ้าเกิดว่า
00:20:23 → 00:20:26 ในตำราเนี่ยจะเขียนยาวมากเราเราจะเรียก
00:20:26 → 00:20:28 ว่าหยวนเหวนก็คือเป็นศัพท์โบราณจะเป็น
00:20:28 → 00:20:30 วรรคยาวมากแต่ว่าหนึในนั้นเนี่ยมันจะมี
00:20:30 → 00:20:35 อารมณ์เศร้าอ่ะคิดซือซือก็แบบตัวคิดมากสี
00:20:35 → 00:20:39 สีก็คือหัวเราะดีใจครูอยู่ๆก็ร้องไห้แล้ว
00:20:39 → 00:20:42 ก็พูดถึงการขยับเ่นร่างกายด้วยก็คือแบบ
00:20:42 → 00:20:45 อยู่ๆก็ไม่อยากสิงสิงก็คือเดินอ่าหรือว่า
00:20:45 → 00:20:48 อยากจะนอนก็ไม่นอนนอนไม่หลับอะไรเงี้ยอ่า
00:20:48 → 00:20:50 ก็จะมีอาการแบบเนี้ยร่วมด้วยแต่ถ้าเกิด
00:20:50 → 00:20:52 ว่าในปัจจุบันเนี่ยเราจะมองอาการของคนที่
00:20:52 → 00:20:54 เป็นโรคซึมเศร้าที่สอดคล้องกับทงสาแพทย
00:20:54 → 00:20:57 แผนจีนก็คือเรื่องความท้อแท้ไม่มั่นใจใน
00:20:57 → 00:21:00 ตัวเองขาดความความกระตือรือร้นในการใช้
00:21:00 → 00:21:02 ชีวิตอ่ะรู้สึกอ่ะไม่อยากทำอะไรแล้วอะไร
00:21:02 → 00:21:05 อย่างงี้เนาะแล้วก็โกรธโมโหอยู่ๆก็ฉุน
00:21:05 → 00:21:07 เฉี่ยวง่ายอ่ะในบางทีแล้วก็อยู่ๆก็ร้อง
00:21:07 → 00:21:10 ไห้อารมณ์เขาจะค่อนข้างแปรปรวนในแต่ละ
00:21:10 → 00:21:12 ช่วงแล้วส่วนนึงเลยก็คือความไม่เห็นคุณ
00:21:12 → 00:21:15 ค่าในตัวเองอ่ะหายไปอันนี้ก็เลยเป็น
00:21:15 → 00:21:17 เรื่องของทำไมถึงเน้นเรื่องการนอนที่ดี
00:21:17 → 00:21:20 เพราะว่าเราจะได้พักฝืนแล้วถ้าเราแบบตื่น
00:21:20 → 00:21:23 24 ชม 36 ช่มอะไรอย่างเงี้ยมันจะทำให้
00:21:23 → 00:21:26 ประสาทของเรายิ่งเกินแล้วคนที่จะทำร้าย
00:21:26 → 00:21:28 ตัวเองเนี่ยเหตุมักจะเกิดขึ้นตอนกลางคืน
00:21:28 → 00:21:30 แล้วก็เหมักจะเกิดขึ้นจากผู้ป่วยไม่ได้
00:21:30 → 00:21:32 รับการพักผ่อนแต่จะเริ่มสติสมาธิของเขา
00:21:33 → 00:21:35 อ่ะจะเริ่มหายไปแล้วเขาจะชอบอยู่ที่มืดๆ
00:21:35 → 00:21:38 เย็นๆนั่นหมายความว่าถ้าใครที่กำลังเจอ
00:21:38 → 00:21:40 แบบสภาวะหรือเจอปัญหาหรือเจออะไรที่ทำให้
00:21:40 → 00:21:43 เรารู้สึกว่าเราพอแล้วเราไม่เอาแล้วไปนอน
00:21:43 → 00:21:47 ก่อนแล้วเราจะพักก่อนแป๊บนึงใช่ๆเแบบว่า
00:21:47 → 00:21:49 ขอให้แบบหลับตาก่อนวางทุกอย่างเราก็ลองไป
00:21:49 → 00:21:51 นอนก่อนมันอาจจะเป็นการตัดเบรกแป๊บนึงแต่
00:21:51 → 00:21:53 ถ้ามันเป็นช่วงของเวลากลางวันเรารูดม่าน
00:21:54 → 00:21:56 ออกเปิดอ่ะตอนนี้แสงสว่างเข้ามาจริงๆถ้า
00:21:56 → 00:21:58 เกิดว่าอยู่ในช่วงที่เรามีอาการป่วยเขึ้น
00:21:58 → 00:22:00 มาต้องมีเพื่อนนะเพราะว่าอะไรก็เกิดขึ้น
00:22:00 → 00:22:02 ได้เนาะแต่ถ้าเรายังพอควบคุมสติได้เนี่ย
00:22:02 → 00:22:05 กิจวัตรประจำวันน่ะตอนกลางวันแนะนำให้ไป
00:22:05 → 00:22:07 เดินออกกำลังกายเดินเจอแสงแดดจะมีเทคนิค
00:22:07 → 00:22:10 การรักษาซึมเศร้าอันนึงของอาจารย์ที่จีน
00:22:10 → 00:22:12 เราจะเรียกว่าโฉงหยางรุ่นจื้อก็คือใช้
00:22:12 → 00:22:15 พลังหยางในการรักษาคนไข้ก็คือรักษาด้วย
00:22:15 → 00:22:17 แสงแสงคืออันที่ 1 อันที่ 2 ก็คือปลุก
00:22:17 → 00:22:19 พลังอย่างในร่างกายของเราเราจะมองคนที่
00:22:19 → 00:22:21 เป็นโรคซึมเศร้าเนี่ยก็คือซึมแล้วก็เศร้า
00:22:21 → 00:22:24 เลยอันนี้นะก็คือช่วงที่เขาหนักล่ะเขาก็
00:22:24 → 00:22:26 จะแบบไม่อยากทำอะไรไม่อยากกินเก็บตัวอยู่
00:22:26 → 00:22:29 ในที่คนเดียวไม่พูดพูดไม่จาอะไรอย่าเงี้ย
00:22:29 → 00:22:31 อาการเขาจะค่อนข้างหนักเราจะมองกลุ่ม
00:22:31 → 00:22:33 อาการแบบเยว่าป่วยเป็นแบบกลุ่มพลังเย็นก็
00:22:33 → 00:22:35 คือความเย็นของเขาอ่ะกำเริบไม่มีพลัง
00:22:35 → 00:22:38 อย่างก็คือความสดใสเข้ามาเราจะใช้ยากลุ่ม
00:22:38 → 00:22:41 ที่กระตุ้นพลังอย่างในร่างกายของเขาบวก
00:22:41 → 00:22:44 กับแนะนำให้เขาไปออกกำลังกายตอนกลางวัน
00:22:44 → 00:22:46 เจอแสงแดดตอนกลางวันเพื่อที่ให้เขาฟื้นฟู
00:22:46 → 00:22:49 พลังหยางในร่าของเขาแสงพระอาทิตย์จะทำให้
00:22:49 → 00:22:51 สดชื่นขึ้นแล้วก็เราจะบำรุงพลังหยางด้วย
00:22:51 → 00:22:54 ธรรมชาติอ่ะก็คือจากพระอาทิตย์เลยผู้ป่วย
00:22:54 → 00:22:56 ที่ยังเก็บตัวแล้วก็ปิดทุกอย่างอาการจะ
00:22:56 → 00:22:58 กำเริบได้ง่ายแปลว่าถ้าเรารู้ตัวว่าเรามี
00:22:58 → 00:23:02 อาการเนี่ยเราก็บางทีเราอาจจะต้องฝืนทำ
00:23:02 → 00:23:04 ใช้ชีวิตในแบบที่ไม่ได้อยากใช้เพราะว่า
00:23:04 → 00:23:06 ถ้าเราเป็นเหนูว่าหลายๆคนที่เป็นเขาก็จะ
00:23:06 → 00:23:08 รู้สึกว่าไม่อยากเจอคนอยากเก็บตัวอยาก
00:23:08 → 00:23:11 อะไรแต่ในถ้าการรักษาคือเราต้องต้องพาตัว
00:23:11 → 00:23:13 เองออกไปหรือว่าใครที่เป็นคนใกล้ชิดอ่ะ
00:23:13 → 00:23:16 พยายามพาเขาออกมาเออหรือว่าเราพอเรารู้
00:23:16 → 00:23:19 ตัวหรือใครได้ฟังใช่มก็โอเคพาเราออกมา
00:23:19 → 00:23:21 แป๊บนึงมันจะเหมือนกับตัดบริบทของเราจาก
00:23:21 → 00:23:23 ที่เราแบบเหมือนมีเสียงหรือว่ามีความคิด
00:23:23 → 00:23:26 ท้อแท้หรือว่าด้อย่าตัวเองเนี่ยพอเราออก
00:23:26 → 00:23:28 มาเจอแสงธรรมชาติเราจะรู้สึกสดชื่นขึ้น
00:23:28 → 00:23:31 ได้เลยถ้าออกมาเจอรถติดหรือตึกเยอะๆก็จะ
00:23:31 → 00:23:34 เค็ดดีกว่าไปหาแบบแสงสีเขียวอะไรแบบต้น
00:23:35 → 00:23:37 ไม้อาจะผ่อนคลายกว่าใช่ค่ะก็ต้องเลือกนิด
00:23:37 → 00:23:40 นึงแล้วอย่างบางคนที่เขาอาจจะรู้สึกว่า
00:23:40 → 00:23:43 เราก็มีอาการะกันแต่ว่าเราเป็นพนักงาน
00:23:43 → 00:23:45 ออฟฟิศกลางวันก็ต้องอยู่ในตึกอย่างเงี้ย
00:23:45 → 00:23:48 นั่งทำงานไม่ได้เจอแสงก็เลิกงานก็ไปก็มืด
00:23:48 → 00:23:51 แล้วอะไรเงี้ยค่ะเราจะทำยังไงได้บ้างตอน
00:23:51 → 00:23:54 เนี้ยเขาจะมีเทคโนโลยีใหม่อ่าที่เป็นงาน
00:23:54 → 00:23:57 วิจัยระดับโลกเลยนะเขาค้นพบคลื่นความถี่
00:23:57 → 00:24:00 ของแสง 40 เฮิอที่แบบเข้าทางสายตาแล้วไป
00:24:00 → 00:24:03 กระตุ้นสมองของเราอันนี้คลื่นแกมม่าทำให้
00:24:03 → 00:24:06 เรามีความรับรู้คือมีสติอ่ะมากขึ้นเพราะ
00:24:07 → 00:24:10 ส่วนใหญ่คนที่ป่วยอ่ะจะขาดสติับด้อย่าตัว
00:24:10 → 00:24:13 เองแบบไม่ได้คิดในระดับของคนปกติงั้นตัว
00:24:13 → 00:24:16 เนี้ยจะเป็นโคมแบบนี้เลยเราสามารถเอามา
00:24:16 → 00:24:18 ใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างถ้าเกิดว่าเรา
00:24:18 → 00:24:20 มีผู้ป่วยที่อยู่ในบ้านอ่ะเป็นโรคซึม
00:24:20 → 00:24:22 เศร้าหรือว่าเราอาจจะอยู่ในความเสี่ยงเมี
00:24:23 → 00:24:25 ปัญหาชีวิตเครียดหรือว่าแบบตอนดึกๆชอบปิด
00:24:25 → 00:24:27 ไฟแล้วก็เล่นโทรศัพท์อะไรเงี้ยลองเอาโคม
00:24:27 → 00:24:30 ตัวเนี้ยไปใช้ในชีวิตประจำวันอ่าก็จะช่วย
00:24:30 → 00:24:32 ทำให้สมองของเราเนี่ยทำงานได้อย่างเป็น
00:24:32 → 00:24:35 ปกติมากขึ้นอ่าแล้วการรับรู้สติสมาธิของ
00:24:35 → 00:24:39 เราดีขึ้นแล้วก็จะรู้ทันตัวเองในทุกขณะ
00:24:39 → 00:24:41 ถ้าเกิดว่าใครแบบไม่มีโอกาสเลยที่จะแบบ
00:24:41 → 00:24:43 ออกมาจากออฟฟิศก็มืดะอะไรอย่างเงี้ยอ่ะก็
00:24:43 → 00:24:46 สามารถใช้แสงตัวเนี้ยได้ลองดูเนาะใช่ค่ะ
00:24:47 → 00:24:49 เป็นตัวช่วยเสริมในคนที่แบบมีปัญหาด้าน
00:24:49 → 00:24:52 เนี้ยแล้วโลคซึมเศร้าอ่ะคะในแต่ละช่วงวัย
00:24:52 → 00:24:54 อ่ะอาการเหมือนกันมั้ยคะหรือว่าซึมเศร้า
00:24:54 → 00:24:56 ในแต่ละช่วงวัยอาการต่างกันยังไงจริงๆถ้า
00:24:56 → 00:24:58 เป็นเด็กๆเนี่ยผู้ใหญ่อาจจะมองว่าเอเอ๊
00:24:58 → 00:25:01 ทำไมไม่ภาษาจีนจะพปุทิ้งฮัก็คือแบบทำไม
00:25:01 → 00:25:03 ไม่ฟังเลยทำไมไม่เชื่อฟังเลยอะไรอย่าง
00:25:03 → 00:25:05 เงี้ยจริงๆแล้วเอ่อถ้ามองอาการซึมเศร้า
00:25:05 → 00:25:07 หรืออาการทางจิตใจเนี่ยที่มันจะพัฒนาเป็น
00:25:07 → 00:25:10 โรคหนักๆในอนาคตเนี่ยจริงๆจะเป็นตั้งแต่
00:25:10 → 00:25:12 สถาบันครอบครัวหรือตั้งแต่เบบี๋ที่คลอด
00:25:12 → 00:25:14 ออกมาเลยตั้งแต่เด็กๆเนี่ยถ้าเกิดว่าเรา
00:25:14 → 00:25:16 เลี้ยงดูเขาด้วยความรักที่ไม่เพียงพอเด็ก
00:25:16 → 00:25:19 0 -7 ขวบในผู้หญิงแล้วก็ 0 -8 ขวบใน
00:25:19 → 00:25:21 ผู้ชายเนี่ยจะเป็นพลังงานของไตที่ยังไม่
00:25:21 → 00:25:23 โตเต็มที่พลังงานของไตคืออะไรพลังงานของ
00:25:23 → 00:25:25 ไตในษาแแผนจีนเนี่ยเขาจะไปหล่อเลี้ยง
00:25:25 → 00:25:28 กระดูกทำให้เขาโตขึ้นอ่ะสะท้อนความแข็ง
00:25:28 → 00:25:30 แรงด้วยฟันพอพลังงานของไตของเขาอ่ะเริ่ม
00:25:30 → 00:25:33 เต็มฟันแท้เขาจะขึ้นอ่าฟันเป็นตัวสะท้อน
00:25:33 → 00:25:36 แล้วก็ก่อนที่เขาจะมีรอบเดือนก็คือมี
00:25:36 → 00:25:38 ประจำเดือนหรือมีอสุจิเป็นตัวของเขาเอง
00:25:38 → 00:25:40 เนี่ยเขาจะเอาสารจริงของไตเที่เราพูดกัน
00:25:40 → 00:25:42 EP นู้นเนาะสารจรงของไตเนี่ยจะขึ้นไป
00:25:42 → 00:25:46 เลี้ยงสมองของเขาอ่าทำให้เขามีความย้ำคิด
00:25:46 → 00:25:49 ย้ำทำรู้ว่าอะไรถูกผิดบังเอิญว่าเขาอยู่
00:25:49 → 00:25:52 ในครอบครัวที่ทะเลาะกันรุนแรงมากไม่มีใคร
00:25:52 → 00:25:55 ให้ความรักความเข้าใจกับเขาหรือว่าให้ไม่
00:25:55 → 00:25:58 พอหรือให้แบบสวิงอ่ะพอแม่อารมณ์ดีหน่อยก็
00:25:58 → 00:26:02 เอออะไรเงี้ยพราะแม่อารมณ์ไม่ดีก็รุนแรง
00:26:02 → 00:26:05 อันนี้จะทำให้เขาไม่เข้าใจโลคแบบคือเขา
00:26:05 → 00:26:07 ยังเด็กมากจนไม่เข้าใจเรื่องพวกนี้แล้ว
00:26:07 → 00:26:09 บังเอิญว่าอารมณ์หรือสิ่งแวดล้อมพวกนั้น
00:26:09 → 00:26:12 ไปกระทบพลังงานของไตของเขาจนทำให้เขาไม่
00:26:12 → 00:26:14 สามารถดึงพลังงานที่ดีไปเลี้ยงสมองของเขา
00:26:14 → 00:26:17 ได้แล้วกลุ่มเยเขาก็จะมีปมเล็กๆในใบเด็ก
00:26:17 → 00:26:19 เพราะฉนั้นคนที่เป็นโรคซึมเศร้าตอนโต
00:26:19 → 00:26:21 เนี่ยส่วนนึงอาการของโรคอาจจะยังไม่ได้
00:26:21 → 00:26:24 กำเริบนะแล้วมันก็จะไปกำเริบตอนที่เขามี
00:26:24 → 00:26:26 ปัญหาในตอนโตแต่ว่าพื้นฐานของเขาเนี่ยตอน
00:26:26 → 00:26:29 เด็กเขาได้รับมาไม่เต็มอ่ะเด็กอีกประมาณ
00:26:29 → 00:26:32 7-8 ขวบเริ่มมีปัญหาบางคนไม่ได้เป็นซึม
00:26:32 → 00:26:35 เศร้าแต่ว่าจะเป็นโรคโตก่อนวัยโตก่อนวัก็
00:26:35 → 00:26:37 เป็นโรคหรคะเขาจะเป็นโรคเขาจะองรักษาเลย
00:26:38 → 00:26:39 นะเพราะว่าเขาจะแบบมีประจำเดือนเร็วเกิน
00:26:39 → 00:26:42 ไปจริงๆแล้วถ้าในทางสหพผจีนผู้หญิงอ่ะจะ
00:26:42 → 00:26:45 ต้องมีประจำเดือนประมาณ 14 อ่ะ 124 พอไหว
00:26:45 → 00:26:48 แต่ว่าสมัยเนี้ยมี 7-8 ขวบอ่าเพราะพลัง
00:26:48 → 00:26:50 งานของไตที่หมอบอกว่าเขาจะไปเลี้ยงสมอง
00:26:50 → 00:26:52 เนี่ยเขาเลี้ยงอยู่แต่เลี้ยงไม่พอไม่เต็ม
00:26:52 → 00:26:54 ที่เขาจะพลังงานส่วนนั้นน่ะไปเรี้ยงมดลูก
00:26:54 → 00:26:57 แทนทำให้เขาอ่ามีประจำเดือนทำให้เขาจะมี
00:26:57 → 00:26:59 สมาธิที่สสั้นลงแล้วอารมณ์ของเขาอ่ะจะ
00:26:59 → 00:27:02 สวิงได้ง่ายก็จะเป็นตัวก่อโรคในอนาคตได้
00:27:02 → 00:27:05 ถ้าเราแบบบังเอิญดูแลเขาได้ไม่ดีเนาะที
00:27:05 → 00:27:08 นี้ในเด็กๆที่จีนที่แบบมีปัญหาในการฆ่า
00:27:08 → 00:27:11 ตัวตายอัตราการฆ่าตัวตายตั้งแต่เด็กประถม
00:27:11 → 00:27:14 เออสูงมากก็คือเหมือนเขาแค่ถลากันกับ
00:27:14 → 00:27:17 เพื่อนหรือโดนล้ออย่างเงี้ยแล้วเขาเบาะ
00:27:17 → 00:27:19 บางมากเขาอาจจะไม่รู้จะจัดการกับปัญหา
00:27:19 → 00:27:22 นั้นยังไงอ่าเขาก็ไปทำร้ายตัวเองซะอย่าง
00:27:22 → 00:27:25 งั้นเลยใช่เพราะงั้นในการดูแลเด็กคนนึง
00:27:25 → 00:27:27 ถ้าเกิดไม่อยากให้เขามีความเบาะบางทาง
00:27:27 → 00:27:30 อารมณ์มากหรือว่าพัฒนาจนเขาเกิดเป็นป่วย
00:27:30 → 00:27:32 ทั้งโรคจิตเวทเนี่ยก็พยายามรักษาพลังงาน
00:27:32 → 00:27:35 ของไตของเขาให้ดีอ่าด้วยความรักอันนึงเลย
00:27:35 → 00:27:37 ก็คือความรักของผู้ปกครองความสมูทของ
00:27:37 → 00:27:39 อารมณ์อ่ะมาไม่ให้เขาสวิงมากของผู้ปกครอง
00:27:40 → 00:27:41 นะคือเด็กอ่ะสวิงได้แต่เราจะรับมือกับ
00:27:41 → 00:27:44 อารมณ์สวิงของเด็กนั้นยังไงจนทำให้เขา
00:27:44 → 00:27:46 เข้าใจว่าอ๋อเขาต้องจัดการอารมณ์นั้นยัง
00:27:46 → 00:27:48 ไงผู้ปกครองอ่ะจะชอบทำไมถึงทำอย่างงั้นก็
00:27:48 → 00:27:51 คือดุแต่ว่าคือเด็กเขาเพิ่ง 2-3 ขวบอ่ะ
00:27:51 → 00:27:53 เขายังไม่เข้าใจการจัดการอารมณ์เนาะแต่
00:27:53 → 00:27:55 ถ้าเกิดว่าผู้ปกครองดูแลเรื่องเของเขาได้
00:27:55 → 00:27:57 ไม่ดีก็จะมีปัญหาคุณพ่อคุณแม่ก็ต้องมี
00:27:57 → 00:28:00 ความความมั่นคงทางอารมณ์อารมณ์ใช่ค่ะแล้ว
00:28:00 → 00:28:02 ก็อีกอันนึงก็คืออาหารถ้าเด็กๆถ้าเกิด
00:28:02 → 00:28:05 อยากดูแลเขาไม่ให้เป็นแบบโตก่อนไวหรือว่า
00:28:05 → 00:28:07 มีภาวะอารมณ์ที่สวิงอ่ะอาหารก็คือต้องดู
00:28:07 → 00:28:10 แลการกินที่ดีสมัยนี้ก็คือแปรรูปค่อนข้าง
00:28:10 → 00:28:13 เยอะก็หมอจะแนะนำให้ทานอาหารธรรมชาติปกติ
00:28:13 → 00:28:16 ได้นะขนมนมเนยอาหารเสริมๆเนี่ยให้ลดลงได้
00:28:16 → 00:28:18 มมเนี่ยเขาจะเป็นตัวดูแลสารพลังงานในร่าง
00:28:19 → 00:28:20 กายส่งไปเลี้ยงส่วนต่างๆถ้าเราให้อาหาร
00:28:20 → 00:28:22 ให้มมได้ไม่ดีเนี่ยเขาจะไปเลี้ยงส่วนต่าง
00:28:22 → 00:28:25 ๆได้ได้ไม่พอก็จะเกิดอารมณ์ที่ไม่ดี
00:28:25 → 00:28:28 ได้สังเกตเด็กกินหวานกินขนมเยอะเนี่ยจะ
00:28:28 → 00:28:30 ก้าวร้าวได้ง่ายอ่าแล้วก็จะเป็นความ
00:28:30 → 00:28:33 สัมพันธ์กันทีนี้กลุ่มอายุโตขึ้นมาหน่อย
00:28:33 → 00:28:36 วัยทำงานจะมีอาการยังไงบ้างใช่มั้ยคะส่วน
00:28:36 → 00:28:38 ใหญ่เนี่ยอันนึงเลยก็คือเป็นปมแต่เด็กกับ
00:28:38 → 00:28:40 เป็นสิ่งแวดล้อมปัจจุบันอก็คือเราไม่
00:28:40 → 00:28:42 สามารถจัดการได้ก็คือตอนเด็กๆโอ๊ยพ่อแม่
00:28:43 → 00:28:45 เลี้ยงเรามาดีมากเหมือนไข่ในหินหัวใจเรา
00:28:45 → 00:28:47 เบาะบางก็คือเราเหมือนกับเห็นโลกมาสวยงาม
00:28:48 → 00:28:50 เลี้ยงดีแบบไข่ในหินก็ยังจะเป็นซึมเศร้า
00:28:50 → 00:28:53 ได้สามารถเป็นได้จริงๆมันเป็นเรื่องของ
00:28:53 → 00:28:55 การดูแลชีวิตประจำวันความเข้าใจชีวิตอ่ะ
00:28:55 → 00:28:59 มันจะทำให้เรารอดพ้นจากอาการของอารมณ์คือ
00:28:59 → 00:29:02 ถ้าเกิดว่าเราเข้าใจมันก็จะไม่เกิดโรคได้
00:29:02 → 00:29:04 ง่ายเนาะแต่ทีนี้พอเราขาดประสบการณ์ใน
00:29:04 → 00:29:06 ชีวิตหรือว่าเราไม่สามารถจัดการกับอารมณ์
00:29:06 → 00:29:09 บางอย่างหรือสถานการณ์บางอย่างในชีวิตได้
00:29:09 → 00:29:12 มันสะสมบางทีอาจจะเป็นแค่ภาวะซึมเศร้าแต่
00:29:12 → 00:29:14 พอเราจัดการไม่ได้นานๆเนี่ยมันก็เลยกลาย
00:29:14 → 00:29:16 เป็นโรคเป็นการต่อเนื่องป่วยนานก็เลยต้อง
00:29:16 → 00:29:19 ไปพบคุณหมออใช่เพราะฉะนั้นถ้าปรับ
00:29:19 → 00:29:21 พฤติกรรมง่ายๆสำหรับใครที่แบบเป็นโรคซึม
00:29:21 → 00:29:24 เศร้าหรือมีภาวะอยู่อยู่ๆก็อยากร้องไห้
00:29:24 → 00:29:27 อยู่ๆก็ด้อย่าตัวเองหมอจะให้ดูแลออกกำลัง
00:29:27 → 00:29:29 กาย
00:29:29 → 00:29:31 ทีนี้ก็คือเพิ่มการกินอาหารที่ดีเข้ามา
00:29:31 → 00:29:34 แล้วมกระพาะเนี่ยจะเป็นตัวที่รับอาหาร
00:29:34 → 00:29:36 เพื่อมาหล่อเลี้ยงทั่วทั้งร่างกายหนึ่งใน
00:29:36 → 00:29:38 นั้นก็คือเป็นเลือดของตับด้วยแล้วก็เป็น
00:29:38 → 00:29:40 ตัวที่ดึงสารพลังงานไปเลี้ยงสมองให้เรา
00:29:40 → 00:29:44 ด้วยถ้าเรากินอาหารที่แปรรูปมากๆลดจัดมาก
00:29:44 → 00:29:46 ๆหรือว่ากินยิบๆตลอดทั้งวันทำให้ม้า
00:29:46 → 00:29:49 กระเพาะเขาของอ่อนแอเขาก็จะผลิตพลังงาน
00:29:49 → 00:29:52 ที่ดีได้ไม่พอไปเลี้ยงส่วนต่างๆเราก็จะมี
00:29:52 → 00:29:55 อารมณ์ได้ภาษาจีนคำว่าโรคซึมเศร้าเนี่ย
00:29:55 → 00:29:57 เราจะเรียกว่าอี้ยุคำว่ายุเนี่ยมันจะเป็น
00:29:57 → 00:30:00 ยยุจิ้ในศึษาภเป็นจีน1ึในนั้นเราจะเรียก
00:30:00 → 00:30:03 ว่าฉือยืก็คืออาหารที่มันติดขัดจนทำให้
00:30:03 → 00:30:06 เกิดพิษในร่างกายทีนี้พอถึงในวัยผู้สูง
00:30:06 → 00:30:08 อายุเราจะพบว่าผู้สูงอายุเนี่ยนอกจาก
00:30:08 → 00:30:11 อัลไซเมอร์ก็จะมีความซึมเศร้าเริ่มพูด
00:30:11 → 00:30:13 เหมือนเด็กๆเริ่มไม่เข้าใจแล้วก็แบบว่าจะ
00:30:13 → 00:30:15 ตีกันกับลูกหลานในบ้านหรือลูกหลานในบ้าน
00:30:15 → 00:30:17 ก็อาจจะเป็นซึมเศร้าเพผู้สูงอายุเลยอ่า
00:30:17 → 00:30:20 เพราะว่าเขาจะมีการเปลี่ยนแปลงเนาะงผู้
00:30:20 → 00:30:22 สูงอายุเนี่ยเมเมื่อตอนเด็กๆหมอจะพูดถึง
00:30:22 → 00:30:24 พลังงานของไตที่กำลังจะขึ้นไม่เต็มเรา
00:30:24 → 00:30:26 ต้องระวังช่วง 0-7 ขวบให้ดีเนาะส่วนผู้
00:30:26 → 00:30:29 สูงอายุเนี่ยคือวั 7 80 เนี่ยพลังงานของ
00:30:29 → 00:30:32 ไตมันตกมากๆะทำให้ทั้งระบบความคิดสมองของ
00:30:32 → 00:30:34 เขาเนี่ยเสื่อมลงทีนี้ทางด้านจิตใจเนี่ย
00:30:34 → 00:30:37 ผู้สูงอายุที่ไม่มีความมั่นใจในตัวเองใน
00:30:37 → 00:30:41 การก้าวเดินหลายคนจะเริ่มแบบเออขาไม่แข็ง
00:30:41 → 00:30:44 ก็เลยไม่กล้าเดินก็เลยแบบเก็บตัวทผู้สูง
00:30:44 → 00:30:46 อายุจะด้ค่าตัวเองค่อนข้างเยอะลูกหลานไม่
00:30:46 → 00:30:50 รักออยู่ๆร้องไห้หมอจะเจอผู้สูงอายุที่
00:30:50 → 00:30:52 เขาจะเก็บตัวแต่อยู่ในบ้านไม่กล้าออกไป
00:30:52 → 00:30:54 เจอแสงข้างนอกเลยหมอก็จะแนะนำว่ายังไงก็
00:30:55 → 00:30:57 ต้องพาตัวเองอ่ะเอาหลังไปรับแสงก็ยังดี
00:30:57 → 00:31:00 อ่ะแทรับพลังยางสดเพราะผู้สูงอายุเนี่ย
00:31:00 → 00:31:02 เราจะเปรียบเด็กแรกเกิดกับคนที่ใกล้แล้ว
00:31:02 → 00:31:04 อ่ะเอ่อเด็กแรกเกิดเนี่ยจะเป็นพลังยางอ่ะ
00:31:04 → 00:31:06 หมอบอกว่าพลังยางคือความสดใสกระปี้
00:31:06 → 00:31:08 กระเป๋าเนาะส่วนตอนที่เราจะใกล้ถึงฝั่ง
00:31:08 → 00:31:11 เนี่ยมันจะเป็นหมวดพลังหยินร่างกายจะแข็ง
00:31:11 → 00:31:14 ทื่อจับมือผู้สูงอายุเนี่ยจะเย็นพลังยาง
00:31:14 → 00:31:17 ของเขาจะน้อยลงั้นความสดใสในร่างกายของ
00:31:17 → 00:31:20 เขาอ่ะจะลดลงทำให้เขามีโอกาสป่วยเป็นซึม
00:31:20 → 00:31:22 เศร้าสมัยก่อนจะพูดถึงผู้สูงอายุที่เป็น
00:31:22 → 00:31:24 ซึมเศร้าเนี่ยค่อนข้างมากแต่ตอนนี้มัน
00:31:24 → 00:31:27 พัฒนาคนที่ไปวทำงานก็เลยมีโรคเครียดแวด
00:31:27 → 00:31:29 ล้อมเนาะแล้วผู้สูงอายุเนี่ยก็จะมีอาการ
00:31:29 → 00:31:32 ถ้าเราเป็นคนที่ดูแลผู้สูงอายุแนะนำให้พา
00:31:32 → 00:31:35 เขาเดินถ้าเขาเดินไม่ได้ก็พาเขาไปเจอแสง
00:31:35 → 00:31:39 แดดให้เห็นแสงธรรมชาติเป็นการเติมพลังหยง
00:31:39 → 00:31:42 ในร่างกายจากแสงธรรมชาติเนาะแต่ถ้าเกิด
00:31:42 → 00:31:46 ว่าในวันที่อฟ้าครึ้มฝนตกแล้วเราก็มันออก
00:31:46 → 00:31:49 ไปไม่ได้อาจจะมีไฟที่เรากล่าวถึงก็คือแสง
00:31:49 → 00:31:52 40 เฮิตไปเปิดไว้ในบ้านได้ให้เขาทำ
00:31:52 → 00:31:54 กิจกรรมต่างๆแล้วลองสังเกตดูว่าอาการของ
00:31:54 → 00:31:56 เขาเนี่ยเขาจะไม่เศร้าหรือว่าเขาจะแบบคุย
00:31:56 → 00:31:59 กับเรารู้เรื่องขึ้นอารมณ์เขาจะไม่ดาวมาก
00:31:59 → 00:32:02 อจะอย่าให้เขาอยู่ในที่มืดๆเย็นๆพยายามทำ
00:32:02 → 00:32:03 ร่างกายให้อุ่นก็เป็นเรื่องของการปรับ
00:32:03 → 00:32:07 สมดุลหมดเลยใช่หยินหยินมากไปก็ไม่ดียมาก
00:32:07 → 00:32:10 ไปก็ไม่ดีใช่ไม่ดีใช่ๆค่ะทีนี้เมื่อกี้
00:32:10 → 00:32:12 เราไปถึงอาการของโรคซึมเศร้าในแต่ละช่วง
00:32:12 → 00:32:14 วัยเราน่าจะได้สะท้อนตัวเองกันแล้วเราและ
00:32:14 → 00:32:17 คนใกล้ตัวเราเนี่ยมีความเข้าขายหรือว่ามี
00:32:17 → 00:32:19 โอกาสที่จะเป็นหรือเปล่าอ่าแล้วทีนี้ค่ะ
00:32:19 → 00:32:21 หนูอยากรู้ว่าแล้วพฤติกรรมอะไรหรือว่า
00:32:21 → 00:32:24 ความคิดแบบไหนหรือนิสัยแบบไหนที่เราสะสม
00:32:24 → 00:32:26 มาโดยที่เราไม่รู้ตัวแต่ว่าเฮ้ยอันนั้น
00:32:26 → 00:32:29 น่ะอาจจะนำไปสู่การเป็นโรคซึมเศร้าได้
00:32:29 → 00:32:32 นิสัยเลยเนี่ยก็คือเราจะไม่เปิดรับสิ่ง
00:32:32 → 00:32:36 ใหม่อือ่าปิดเก็บแล้วก็เราจะเชื่อแต่ด้าน
00:32:36 → 00:32:39 เดียวด้านของเราแต่ถ้าเกิดว่าเราอยู่ๆมา
00:32:39 → 00:32:41 เรามีคนมาทำให้จิตใจของเราตกต่ำเราก็จะ
00:32:41 → 00:32:44 เชื่อว่าเราเป็นอย่างนั้นจริงๆแล้วก็นำไป
00:32:44 → 00:32:46 สู่การด้อยฆ่าตัวเองอ่าเพราะฉะนั้นถ้า
00:32:46 → 00:32:49 เกิดว่าเราแบบเปิดรับแล้วก็ฝึกทำสิ่งใหม่
00:32:49 → 00:32:51 ให้เกิดความภูมิใจในแต่ละวันอ่าพฤติกรรม
00:32:51 → 00:32:53 เนี่ยยจะเป็นตัวที่จะป้องกันโรคให้เราได้
00:32:53 → 00:32:57 ถ้าเกิดเรามีความเชื่อมั่นภูมิใจเนาะเรา
00:32:57 → 00:32:59 ก็จะรู้สึกว่าเราทำได้อ่าเราก็จะไม่ด้อย
00:32:59 → 00:33:02 ่าตัวเองอ่าแล้วถ้าเกิดว่าเราเข้าใจว่า
00:33:02 → 00:33:06 เรามีภาวะเศร้าถ้าเกิดเรามีสติอมีสมาธิ
00:33:06 → 00:33:08 มากพอในการมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเราก็
00:33:09 → 00:33:11 จะรู้ทันอารมณ์เหล่านั้นแต่ว่าหลายคนน่ะ
00:33:11 → 00:33:13 ก็คือจะขาดเรื่องนี้เลยถ้าว่างหน่อยก็คือ
00:33:13 → 00:33:17 จับโทรศัพท์แล้วก็เสพๆๆๆๆเสพไปสักพักนึง
00:33:17 → 00:33:20 ไม่ถูกใจก็อาจจะคอมเมนต์หรือว่ามาทะเลาะ
00:33:20 → 00:33:22 หรือมาเครียดกับตัวเองหรือมาทะเลาะกับคน
00:33:22 → 00:33:24 ในบ้านอ่ะทำไปแบบเนี้ยไปนานๆมันก็จะเป็น
00:33:24 → 00:33:26 สิ่งแวดล้อมที่เป็นลบแล้วถ้าเกิด 2 คนที่
00:33:26 → 00:33:30 อยู่ในบ้านเดียวกันเสพคทนคนละแนวแล้วก็มา
00:33:30 → 00:33:33 คุยกันแล้วก็ตีกันเองอย่าเงี้ยมันก็จะแบบ
00:33:33 → 00:33:35 จากที่เราควรจะผ่อนคลายพูดกันแบบมีความ
00:33:35 → 00:33:37 สุขหรือว่าสอบถามสาทุกขสูตดิบเนาะแต่ก็
00:33:37 → 00:33:40 กลายเป็นการทะเลาะกันแทนไแบบเนี้ยมันก็จะ
00:33:40 → 00:33:43 ดิ่งไปเรื่อยๆพลังหัวใจไม่บวกขึ้นมากับ
00:33:43 → 00:33:46 ไอ้พฤติกรรมที่เป็นพฤติกรรมของเราอันนั้น
00:33:46 → 00:33:48 เป็นนิสัยเนาะพฤติกรรมก็คือถ้าเราเป็นคน
00:33:48 → 00:33:50 ที่อดหลับอดนอนหมอจะชอบแนะนำให้คณไข้นอน
00:33:50 → 00:33:53 มากๆแต่ว่านอนเป็นเวลานะแต่ถ้าเกิดว่าเรา
00:33:53 → 00:33:56 แบบไปนอนทั้งวี่ทั้งวันนอนทั้งคืนก็คือ
00:33:56 → 00:33:58 แบบอันนี้คืออาจจะมีโอกาสเป็นเศร้าได้นอน
00:33:58 → 00:34:01 มากไปนอนมากไปก็คืออาจจะตื่นนะแต่ว่าไม่
00:34:01 → 00:34:04 ขยับร่างกายเลยก็คือลืมตากลิ้งโทรศัพท์อ
00:34:04 → 00:34:07 เหนื่อยก็หลับอันนี้ก็ด้วยตื่นตื่นแล้ว
00:34:07 → 00:34:09 แต่ก็ใช่ตื่นแล้วไม่ยอมลุกอ่าไม่ยอมขยับ
00:34:09 → 00:34:11 อันนี้คือมันไม่ยอมใช้พลังหยางในเด็กๆ
00:34:11 → 00:34:14 เป็นบ่อยก็คือแสงธรรมชาติขึ้นละเราตื่นละ
00:34:14 → 00:34:17 แต่เราขอกลิ้งก่อนจนถึงเที่ยงบ่ายสังเกต
00:34:17 → 00:34:19 พอเราจะลุกมาเวียนหัวเลยนะพลังอย่างช
00:34:19 → 00:34:21 เลือดเนี่ยมันไม่ได้ฟื้นขึ้นมาพอสะสมไป
00:34:21 → 00:34:24 นานๆเนี่ยเราอาจจะรู้สึกเออหน้าหมองค้ำ
00:34:24 → 00:34:27 แล้วก็เริ่มไม่มั่นใจแล้วก็อาจจะแบบมี
00:34:27 → 00:34:30 อารมณ์ที่ไม่เป็นบวกเกิดขึ้นเพราะฉะนั้น
00:34:30 → 00:34:32 เราต้องมีูปการใช้ชีวิตเนี่ยหลายคนอาจจะ
00:34:32 → 00:34:35 ดูว่ามันน่าเบื่อเ้ยมันทำไมมันธรรมดาจัง
00:34:35 → 00:34:37 เลยสิ่งที่หมอพูดแต่ว่าถ้าเราทำได้เนี่ย
00:34:37 → 00:34:39 เรานอนเป็นเวลาเช้าแล้วตื่นมาเราต้องขยับ
00:34:39 → 00:34:42 ร่างกายอ่ะพอตกกลางคืนเราก็เก็บตัวเข้ามา
00:34:42 → 00:34:44 อ่าอันนี้ก็จะเป็นูปที่ทำให้เราสุขภาพ
00:34:44 → 00:34:47 แข็งแรงอแต่หลายคนก่อนหน้าเนี้ยมากๆเขาก็
00:34:47 → 00:34:50 จะแบบไม่เชื่อูปนี้เขาก็จะใช้ชีวิตสวิง
00:34:50 → 00:34:53 มากๆจนเราเริ่มเห็นว่าเออมันป่วยนะเขาก็
00:34:53 → 00:34:55 เลยเริ่มปรับพฤติกรรมแบบเริ่มมีคนมาพูด
00:34:55 → 00:34:59 ว่าการนนกคืนสำคัญใช่แล้วก็ตอนขยับการออก
00:34:59 → 00:35:01 กำลังกายสำคัญยังไงแล้วถ้าอย่างเงี้ยค่ะ
00:35:01 → 00:35:04 ตอนนี้ยังไม่ป่วยไม่ทำรอป่วยก่อนค่อยแก้
00:35:04 → 00:35:07 ได้มั้ยค่อยทำแพงกว่าอ่าการรักษาเนี่ยจะ
00:35:07 → 00:35:10 แพงกว่าเสมอหมอจะชอบบอกคนไข้ว่าการสร้าง
00:35:10 → 00:35:12 สุขภาพเนี่ยไม่ใช่เรื่องของหมอเลยคือหมอ
00:35:12 → 00:35:14 อยู่กับคนไข้อ่ะคนไข้จะแบบชอบน้อยใจ 15
00:35:14 → 00:35:17 นาที 5 นาทีเองอ่าแล้วก็แบบหมอไม่เห็นถาม
00:35:17 → 00:35:19 อะไรเยอะแยะไม่เห็นแนะนำอะไรเลยอะไรอย่า
00:35:19 → 00:35:22 เงี้ยก็คือคุณหมอท่านน่ะเอาจจะเคยแนะนำคน
00:35:22 → 00:35:24 ไขแล้วแต่คนไข้ไม่ทำแล้วก็เวลาเขาอาจจะมี
00:35:24 → 00:35:26 ไม่พอแต่ว่าเราอ่ะอยู่กับตัวเองค่อนข้าง
00:35:27 → 00:35:30 นานถ้าเราไม่ดูแลตัวเองอ่ะเออก็จะไม่มี
00:35:30 → 00:35:32 ใครมาช่วยเราเรื่องนี้ได้เพรางั้นอย่า
00:35:32 → 00:35:34 อย่ารอให้ป่วยก่อนภาษาจีนน่ะจะมีอีกอัน
00:35:34 → 00:35:36 นึงเราจะเรียกว่าจื่อเว่ยปิ้งก็คือการ
00:35:36 → 00:35:39 รักษาก่อนที่จะเกิดโรคหรือป่วยเป็นโรค
00:35:39 → 00:35:42 แล้วไม่ให้มันกระทบระบบอื่นๆจนป่วยลาม
00:35:42 → 00:35:44 หลายคนน่ะคือป่วยโรคนี้แล้วก็เป็น 2 3 4
00:35:44 → 00:35:47 5 ตามมาศาลเนี้ยเขาจะพูดมาในอาจารย์คน
00:35:47 → 00:35:50 เดียวกันเลยก็คือจาจ้งจริงเขาจะแบบว่าแนะ
00:35:50 → 00:35:53 นำให้เราป้องกันก่อนที่โรคจะเกิดขึ้น
00:35:53 → 00:35:54 เพราะฉะนั้นในสิ่งที่พวกเรากำลังพูดกัน
00:35:55 → 00:35:56 อยู่ก็คือการป้องกันไม่ให้เราเกิดโรคอย่า
00:35:57 → 00:36:00 รอให้ป่วยก่อนก่อนนอกจากการนอนการกิน
00:36:00 → 00:36:03 อาหารอือออกกำลังกายออกกำลังกายเราสามารถ
00:36:03 → 00:36:06 ป้องกันการเกิดโรคซึมเศร้าได้ยังไงอีก
00:36:06 → 00:36:09 บ้างมั้ยคะหมอขอชี้ไปที่การออกกำลังกาย
00:36:09 → 00:36:12 การออกกำลังกายจริงๆในช่วงระยะเวลาที่เรา
00:36:12 → 00:36:14 ออกกำลังกายเนี่ยมันจะเกิดสมาธิขึ้นมัน
00:36:14 → 00:36:16 เป็นการทำสิ่งเดียวซ้ำๆเนาะเราจะพูดถึง
00:36:16 → 00:36:18 เรื่องของปอดนะคะการออกกำลังกายมักจะได้
00:36:19 → 00:36:21 ปอดหรือว่าการทำสมาธิการฝึกลมหายใจก็ได้
00:36:21 → 00:36:25 ปอดเหมือนกันปอดจะดูแลลมหายใจเข้าออกคะพอ
00:36:25 → 00:36:27 ออกกำลังกายเราจะออกกำลังกายแล้วลมหายใจ
00:36:27 → 00:36:29 ของเราเนี่ยจะสม่ำเสมอขึ้นอ่าต่อเนื่อง
00:36:29 → 00:36:32 ขึ้นเนาะหรือว่าเราทำสมาธิเราก็จะมีลมหาย
00:36:32 → 00:36:34 ใจที่สม่ำเสมอหรือถ้าเรานอนหลับเราก็จะมี
00:36:34 → 00:36:37 ลมหายใจที่สม่ำเสมออันนี้มันจะได้พลังงาน
00:36:37 → 00:36:40 ของปอดซึ่งปอดจะสัมพันธ์กับความเศร้าอ่า
00:36:40 → 00:36:42 ถ้าเกิดว่าเราไม่ออกกำลังกายหรือว่าเรา
00:36:42 → 00:36:45 ไม่ฝึกสมาธิไม่นอนจะกระทบปอดเลยเราก็เลย
00:36:45 → 00:36:48 มักจะมีความเศร้าผิดปกติขึ้นมาถ้าเกิดว่า
00:36:48 → 00:36:50 เราอยากสร้างพฤติกรรมที่ไม่ให้เกิดซึม
00:36:50 → 00:36:53 เศร้าใช่มยเราจะป้องกันได้ยังไงบ้างเนาะ
00:36:53 → 00:36:56 ก็อันนึงเลยก็คือดูแลที่ปอดการฝึกลมหายใจ
00:36:56 → 00:36:59 ของเราถ้าเว่าเราแบบมีอาการอยู่ตอนเนี้ย
00:36:59 → 00:37:01 หนักเลยเราไม่รู้จะทำอะไรดีหมอก็จะชอบแนะ
00:37:01 → 00:37:04 นำให้หายใจก่อนอารมณ์เราจะนิ่งขึ้นเนาะ
00:37:04 → 00:37:07 อารมณ์ที่เราโมโหอันเนี้ยจะไปทำร้ายตับ
00:37:07 → 00:37:10 เพราะงั้นถ้าเกิดว่าเราไม่อยากให้ความซึม
00:37:10 → 00:37:12 เศร้าความโมโหอารมณ์เราสวิงเนี่ยก็เลย
00:37:12 → 00:37:14 ต้องไปดูแลพลังงานของตับให้ดีมันก็เลย
00:37:14 → 00:37:16 เป็นเรื่องการนอนเออมันก็เลยจะวนอยู่เป็น
00:37:17 → 00:37:19 กิจวัตใช่มันเป็นกิจวัตรของเราอแต่ถ้าหมอ
00:37:19 → 00:37:21 จะเน้นของใครที่มีอารมณ์เศร้ามากๆเนี่ย
00:37:21 → 00:37:24 ลองดูแลที่ปอดนะลองแบบไปออกกำลังกายให้มี
00:37:24 → 00:37:27 เหงื่อออกความเศร้าจะหายไปได้เร็วขึ้นใน
00:37:27 → 00:37:30 EP ก่อนๆเเรื่องของการหายใจอืเป็นเสียง
00:37:30 → 00:37:34 คลื่นทะเลค่ะมีคนขอ How to มาอันนี้หมอ
00:37:34 → 00:37:37 จะบอกว่าหมอแบบเอ่อไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญทาง
00:37:37 → 00:37:39 ด้านนี้หมอเป็นผู้เรียนเหมือนกันอไม่ใช่
00:37:39 → 00:37:41 อาจารย์เนาะแต่ว่าเท่าที่ได้จากอาจารย์
00:37:41 → 00:37:43 ที่สอนหมอมาอันนี้จะเป็นอาจารย์โยคะที่
00:37:43 → 00:37:46 จีนตอนแรกเนี่ยหน้าที่ของปอดหน้าที่นึงก็
00:37:46 → 00:37:49 คือการปรับสมดุลเราจะเรียกว่าจู่จื้อเจี๋
00:37:49 → 00:37:50 อ่ะเป็นหน้าที่ของปอดหมอไม่เข้าใจเรื่อง
00:37:50 → 00:37:53 นี้เลยตอนที่เรียนแล้วจนไปเรียนโยคะแล้ว
00:37:53 → 00:37:55 อาจารย์หมอก็บอกว่าให้หายใจถ้าเจ็บอยู่ก็
00:37:55 → 00:37:59 ให้หายใจอ๋อถ้าเจ็บอ่าถ้าตอนยึดเส้นท่า
00:37:59 → 00:38:01 โยคาเนี่ยมันจะเป็นท่าที่เจ็บแล้วก็
00:38:01 → 00:38:03 เหนื่อยแล้วเราทำไม่ไหวอ่ะเราจะคงท่านั้น
00:38:03 → 00:38:06 ไม่ไหวแล้วอาจารย์ก็จะพูดว่าให้หายใจให้
00:38:06 → 00:38:08 หายใจไปเรื่อยๆเพรางั้นเราอาจจะยังไม่
00:38:08 → 00:38:11 เข้าใจว่าหายใจยังไงแต่เราหายใจก่อนหายใจ
00:38:11 → 00:38:14 ให้ยาวออกให้หมดออกให้หมดถึงหน้าท้องของ
00:38:14 → 00:38:17 เราออกให้นานให้สุดอ่าแล้วเราลองทำไป
00:38:17 → 00:38:33 เรื่อยๆอ่ะถ้าบอกสาธิต
00:38:33 → 00:38:35 ก็คือมันจะออกถ้าขึ้นก็คือขึ้นให้เหมือน
00:38:35 → 00:38:38 แบบมันพลังชีเี่มันดันขึ้นครั้งที่แล้วจะ
00:38:38 → 00:38:41 พูดป่ายหุ้ยเนาะมันขึ้นข้างบนแล้วก็พอออก
00:38:41 → 00:38:44 เนี่ยออกให้ถึงตาเถียนคือจุดที่หน้าท้อง
00:38:44 → 00:38:46 ข้างล่างให้หมดแต่ถ้าตอนเนี้ยไม่เป็นไม่
00:38:46 → 00:38:48 เป็นไรให้เราลองหายใจไปเรื่อยๆถ้าเรารู้
00:38:48 → 00:38:52 สึกเจ็บหรือรู้สึกทรมานพอคนอกหักมาจะเป็น
00:38:52 → 00:38:54 อะไรอย่างเงี้ยลองหายใจค่อยๆหายใจไม่ใช่
00:38:54 → 00:38:56 แค่เจ็บทางกายเจ็บทางใจก็ได้ด้วยทางใจใช่
00:38:56 → 00:38:59 เพราะว่าอหน้าที่การปรับสมดุลของปอดแค่
00:38:59 → 00:39:02 เรื่องลมหายใจเนี่ยคือรักษาอาการทางจิตใจ
00:39:02 → 00:39:04 อ่ะได้ดีมากๆถ้าเรากำลังทนทุกข์ความเจ็บ
00:39:04 → 00:39:07 ป่วยไม่ว่าจากภายในหรือภายนอกให้ค่อยๆหาย
00:39:07 → 00:39:10 ใจเราจะเหมือนแบบอยู่กับความเจ็บนั้นได้
00:39:10 → 00:39:12 นานขึ้นหมายถึงว่าเราจะไม่ต้องใช้ยาแก้
00:39:12 → 00:39:15 ปวดคือบางคนน่ะจะช็อกแบบทนพิษบาดแผลไม่
00:39:15 → 00:39:18 ไหวอ่าทีนี้พอเราทนพิษบาดแผลไม่ไหวเราก็
00:39:18 → 00:39:21 เลยแบบเสียชีวิตไปแต่พอเราทนพิษบาดแผลไหว
00:39:21 → 00:39:23 แล้วก็รอให้ร่างกายของเราฟื้นตัวเองขึ้น
00:39:23 → 00:39:26 มาเนี่ยมันก็เลยทำให้เราต่อชีวิตได้หมอจะ
00:39:26 → 00:39:28 ชอบแบบพูดกับคนไข้ว่าถ้าตอนเเราแขนขาด
00:39:28 → 00:39:31 แล้วเราเจ็บมากก็ให้เราหายใจแต่ระหว่าง
00:39:31 → 00:39:33 นี้ก็ไปหาหมอนะอ่าเพราะบางคนก็คือถ้าเกิด
00:39:33 → 00:39:36 เจ็บมากแล้วเทนไม่ไหวเขาช็อกอ่ะพอช็อกก็
00:39:36 → 00:39:38 คือช่วยไม่ได้แล้วใช่แต่ถ้าเกิดว่าเราตอน
00:39:38 → 00:39:42 เนี้เราแบบกั้นใจแล้วเราก็หายใจอดทนแล้ว
00:39:42 → 00:39:44 เราก็หายใจเราก็จะทนพิษเยได้ไหวแต่ต้อง
00:39:44 → 00:39:46 รีบไปโรงพยาบาลเพราะถ้าเสียเลือดมากก็ไม่
00:39:46 → 00:39:48 ได้อยู่ดีใช่หรือว่าคนที่แบบมีอาการทาง
00:39:48 → 00:39:50 ซึมเศร้าแล้วก็แบบเอ้ยตอนนี้มันหนักมาก
00:39:50 → 00:39:53 แล้วเราคิดอะไรไม่ออกถ้าได้ฟังเสียงหมอก็
00:39:53 → 00:39:56 คือหายใจอ่ะลองหายใจมันก็จะช่วยให้เรา
00:39:56 → 00:39:58 ฟื้นฟูได้มันเป็นสิ่งที่ไม่ต้องการอย่าง
00:39:58 → 00:40:00 อื่นเลยต้องการตัวเราเองว่ายังมีสติหายใจ
00:40:00 → 00:40:03 อยู่มอใช่คำว่าสติเลยเพราะว่าเวลาที่เรา
00:40:03 → 00:40:05 เห็นแบบใครที่กำลังประสบอุบัตติเหตุหรือ
00:40:05 → 00:40:07 ได้รับบาดแผลหรืออะไรก็ตามเนาะคนที่มา
00:40:07 → 00:40:10 ช่วยก็จะแบบมีสตินะมีสติใช่มีสติใช่ๆแล้ว
00:40:10 → 00:40:12 คนที่ไปช่วยก็เป็นคนที่มีสติด้วยคนที่ไป
00:40:12 → 00:40:15 ช่วยก็สำคัญใช่เพราะคนจะแบอ้าทำยังไงดีรน
00:40:15 → 00:40:19 อีกใช่ก็คือแบบหายใจก่อนแล้วสติก็จะตามมา
00:40:19 → 00:40:21 แต่ทั้งหมดเยมันต้องฝึกหมอกำลังฝึกอยู่
00:40:21 → 00:40:24 เหมือนกันอืค่ะแสดงว่าเจริญสติเจริญสติ
00:40:24 → 00:40:26 ค่ะมันก็เลยกลับมามันมันเรื่องเดียวกัน
00:40:26 → 00:40:28 หมดเลยใช่ใช่มันก็จะมีเรื่องของการทำ
00:40:28 → 00:40:31 สมาธิเข้ามาด้วยที่หนูว่าจะได้ยินว่าการ
00:40:31 → 00:40:34 ทำสมาธิเนี่ยช่วยรักษาโรคซึมเศร้าได้เออ
00:40:34 → 00:40:36 หนูอยากรู้ว่าในศาสตร์การแพทยแผนจีนสมาธิ
00:40:36 → 00:40:39 ช่วยรักษาโรคซึมเศร้าได้จริงมคะใช่ก็คือ
00:40:39 → 00:40:42 อย่างที่พูดถึงเรื่องของปอดปอดเนี่ยจะดู
00:40:42 → 00:40:45 แลลมหายใจเนาะก็คือลมหายใจเข้าออกหน้าที่
00:40:45 → 00:40:48 นึงของปอดเลยเนี่ยคือการปรับสมดุลร่างกาย
00:40:48 → 00:40:50 อ่ะทีเนี้ยปอดกับหัวใจเนี่ยเขาจะมีเป็น
00:40:50 → 00:40:53 ตำแหน่งที่ใกล้แเราจะเรียกว่าสร้างเจี่ยว
00:40:53 → 00:40:55 อยู่ด้านบนของร่างกายถ้าเกิดว่าเราหายใจ
00:40:55 → 00:40:58 ได้ดีแล้วล็อออกซิเจนได้เพียงพอในการต้าน
00:40:58 → 00:41:01 ความเสื่อมของระบบประสาทหรือเซลล์ร่างกาย
00:41:01 → 00:41:03 เนี่ยก็จะดีมากขึ้นทีนี้ถ้าเกิดว่าเราทำ
00:41:03 → 00:41:05 สมาธิได้ดีร่างกายเราจะค่อนข้างเย็นเราจะ
00:41:05 → 00:41:07 คิดฟุ้งสร้างแต่เรารู้ทันทุกขณะแบบเนี้ย
00:41:07 → 00:41:10 มันก็เลยเป็นการฝึกเราในการเจอเหตุการณ์
00:41:10 → 00:41:13 อื่นๆในทั้งโลกว่าเราแบบไปเจอเรื่องไม่ดี
00:41:13 → 00:41:16 ยังไงมาบ้างหรือว่าใครทำอะไรให้ใครยังไง
00:41:16 → 00:41:18 แล้วเราก็มีความรู้สึกกับอันนั้นจนมา
00:41:18 → 00:41:20 กระทบจิตใจของเราเนี่ยแต่บังเอิญว่าเรา
00:41:20 → 00:41:21 เป็นคนที่ฝึกสมาธิตลอดเหมือนที่หมอพูด
00:41:22 → 00:41:24 เมื่อสักครู่นี้ก็คือฝึกลมหายใจอยู่ตลอด
00:41:24 → 00:41:26 เราอาจจะไม่เข้าใจว่าทำยังไงก็ได้แต่ว่า
00:41:26 → 00:41:28 ให้เรารู้เหตุการณ์เเนี่ยเราควรจะหายใจ
00:41:28 → 00:41:31 อ่ารักษาสมดุนลมหายใจก็เหมือนกับเรากำลัง
00:41:31 → 00:41:34 ฝึกการทำสมาธิโดยเฉพาะคนที่ฝึกทำสมาธิ
00:41:34 → 00:41:36 อยู่เป็นประจำเนี่ยเราจะค่อนข้างรู้เร็ว
00:41:36 → 00:41:39 รู้เร็วกว่าคนที่หลงอ่ะตอนที่เรียนธรรมะ
00:41:40 → 00:41:42 ตอนเด็กๆสมัยประถมเราไม่ค่อยเข้าใจเรื่อง
00:41:42 → 00:41:44 นี้เท่าไหร่แต่พอเรามาถึงจุดนี้ปุ๊บเราก็
00:41:44 → 00:41:47 เลยรู้ว่าอ๋อพอเรารู้แล้วว่ามีเหตุการณ์
00:41:47 → 00:41:49 เข้ามาเราอาจจะเศร้าเสียใจทุกข์อยู่แต่
00:41:49 → 00:41:53 เราเห็นมันเราก็เลยเริ่มจับมันทันมันก็
00:41:53 → 00:41:55 เลยทำร้ายเราไม่นานแต่ถ้าเกิดว่าเราก็ยัง
00:41:55 → 00:41:58 หลงอยู่หลงอยู่กับหวงอารมณ์พวกนั้นเนี่ย
00:41:58 → 00:42:00 มันก็จะยิ่งทำให้เราติดกลับดักแล้วเราก็
00:42:00 → 00:42:02 จะป่วยหลายๆคนที่ป่วยเป็นซึมเศร้าก็หมอ
00:42:02 → 00:42:06 ทำไมหนูยังไม่หายักทีต้องกินยาขนาดไหนถึง
00:42:06 → 00:42:09 จะหายแต่ปรึกษาหมอตอน 2:00 นส่งข้อความมา
00:42:09 → 00:42:12 ตอน 2:00 นหมอก็โอเคถ้าเกิดเป็นอย่างนี้
00:42:12 → 00:42:15 เนี่ยคนไข้ก็คือยังไม่เข้าใจหมอก็เลยต้อง
00:42:15 → 00:42:17 แบบคนไข้จะต้องพยายามปรับตัวเองก่อนถ้า
00:42:17 → 00:42:20 ยังมีนิสัยแบบนี้อาการจะสงบได้ยากอ่าถ้า
00:42:20 → 00:42:22 เกิดว่าเรานอนไม่หลับจริงๆก็ลองทำสมาธิทำ
00:42:22 → 00:42:24 แป๊บเดียวเดี๋ยวจะหลับเลยง่วงอคนที่ทำ
00:42:24 → 00:42:27 สมาธิเี่จะง่วงง่ายอีกนิดนึงก็คนที่เป็น
00:42:27 → 00:42:30 แบบซึมเศร้าเป็นแพนิคแล้วก็เป็นกดไหลย้อน
00:42:30 → 00:42:33 จริงๆเนี่ย 3 วันเนี้ยสาเหตุมาจากพลังชีพ
00:42:33 → 00:42:35 ของตับติดขัดเลยหลายคนมักจะแบบหมอหนูเป็น
00:42:35 → 00:42:38 กฎไหลย้อนค่ะคุยไปคุยมาหนูมีแพนิคด้วย
00:42:38 → 00:42:41 แล้วก็หนูแบบมีซึมเศร้าด้วยแล้วก็หมอจะ
00:42:41 → 00:42:44 เจอคนไข้ที่แพ็คเกจอันเเนี่ยยมาด้วยกัน
00:42:44 → 00:42:47 แล้วก็คนเหล่านี้มักจะทักเข้ามาตอนดึกๆ
00:42:47 → 00:42:49 อาจจะเห็นคลิปหมอตอนดึกๆก็เลยทักเข้ามา
00:42:49 → 00:42:52 งั้นเราก็ควรจะปรับพลังงานของตับให้ดี
00:42:52 → 00:42:54 พลังงานของตับง่ายๆเลยก็คือการนอนอพอเรา
00:42:54 → 00:42:57 นอนได้ดีอารมณ์เราจะนิ่งขึ้นงั้นพอเรานอน
00:42:57 → 00:42:59 ได้ดีถุงน้ำดีเนี่ยเขาจะทำงานในการช่วย
00:42:59 → 00:43:01 ย่อยได้ดีพลังชีพของมกระเพาะเนี่ยจะไม่
00:43:01 → 00:43:03 ติดขัดตับเนี่ยเขาจะเป็นตัวหมุนเวียนพลัง
00:43:03 → 00:43:05 ชีพแล้วก็เอาพลังงานส่วนเกินออกไปใช่ไหมม
00:43:06 → 00:43:08 หนึ่งในนั้นเขาจะไปช่วยพลังงานของกระเพาะ
00:43:08 → 00:43:10 ในการดันลงอ่ะกดไหลย้อนเนี่ยก็คือพลังงาน
00:43:10 → 00:43:13 จากกระเพาะมันตีขึ้นมาทำให้เขาแสบต่างๆ
00:43:13 → 00:43:15 ระบบการย่อยไม่ดีดูดซึมไม่ดีเขาก็เลยมี
00:43:15 → 00:43:18 การวิงเวียนหนักเนื้อหนักตัวไม่สดชื่นถ้า
00:43:18 → 00:43:21 เิดว่าเรานอนได้ดีปุ๊บพลังงานของตับผ่อน
00:43:21 → 00:43:23 คลายส่งเสริมให้ม้ามกระเพาะย่อยดูดซึมดี
00:43:23 → 00:43:26 พลังงานไม่ติดขัดตรงกลางอ่ะอาการกรดยองเ
00:43:26 → 00:43:29 ก็จะดีขึ้นงั้นในการรักษากลุ่มเนี้ยเราก็
00:43:29 → 00:43:32 จะแบบแนะนำให้เขาไปดูแลตับให้ดีก็คือ
00:43:32 → 00:43:34 เรื่องการนอนตอนกลางคืนเนาะแล้วปัจจุบัน
00:43:34 → 00:43:37 นี้ค่ะคุณหมอมีเทคโนโลยีอะไรอีกบ้างที่จะ
00:43:37 → 00:43:40 ช่วยในการรักษาโรคซุมเศร้าได้อ่ะค่ะมีงาน
00:43:40 → 00:43:44 วิจัยที่อเมริกาเขาอยากจะรักษาโรคให้กับ
00:43:44 → 00:43:47 กลุ่มโรคทางสมองเนาะทีนี้เขาก็ไปค้นพบ
00:43:47 → 00:43:50 คลื่นแสง 40 เฮิตอไปส่องอเหมือนที่เราพูด
00:43:50 → 00:43:52 กันไปก่อนหน้านี้ใช่ใช่ค่ะช่วยเรื่องทาง
00:43:52 → 00:43:55 จิตใจอาการทางจิตของเราได้เพราะงั้นใคร
00:43:55 → 00:43:58 ที่แบบว่ามีอาการซึมเศร้ารู้ตัวเลยว่าฉัน
00:43:58 → 00:44:01 มักจะปิดไฟเต้นโทรศัพท์อยู่ในที่มืดๆไม่
00:44:01 → 00:44:04 อยากออกไปเจอแสงเลยแบบ 24 ช่มเนี่ยหมอจะ
00:44:04 → 00:44:07 แนะนำคลื่นเนี้ยไปเปิดที่บ้านอือใช่เขาก็
00:44:07 → 00:44:10 จะแบบเป็นตัวนึงที่ช่วยส่งเสริมทำให้เรา
00:44:10 → 00:44:13 มีสติอ่ามีสมาธิได้เพราะเป็นคลื่นที่
00:44:13 → 00:44:16 สามารถช่วยคลื่นสมองคลื่นแกมม่าของสมองใน
00:44:16 → 00:44:18 การแบบรับรู้เพราหลายคนที่ป่วยเป็นอาการ
00:44:18 → 00:44:21 ทางจิตเนี่ยจิตที่รับรู้ของเขาอ่ะมันไม่
00:44:21 → 00:44:23 เกิดอ่าเขาก็เลยแบบจัดการอะไรไม่ได้กับ
00:44:23 → 00:44:27 อารมณ์แล้วพอเขามีตัวช่วยในการทำให้เขแบบ
00:44:27 → 00:44:30 มีสติได้ง่ายขึ้นอ่ะก็จะทำให้อาการของโรค
00:44:30 → 00:44:32 กำเริบได้ยากขึ้นหรืออาการไม่กำเริบขึ้น
00:44:32 → 00:44:35 มาได้แล้วเรื่องของแสงที่เราพูดกันน่ะค่ะ
00:44:35 → 00:44:37 มันจะมีตอนแรกที่คุณหมอแนะนำเรื่องของการ
00:44:37 → 00:44:40 ไปแบบออกข้างนอกแล้วก็ไปเจอแสงอาทิตย์อ่า
00:44:40 → 00:44:42 กับแสงอาทิตย์เนี่ยเราต้องแบบเจอหรือว่า
00:44:42 → 00:44:46 เดินตากแตงตากแดกนานขนาดไหนแล้วก็รวมถึง
00:44:46 → 00:44:48 แบบถ้าเป็นมไฟหรือเป็นไฟที่เปิดเนี่ยต้อง
00:44:48 → 00:44:51 เปิดนานขนาดไหนขนาถ้าเกิดว่าจริงๆโดยส่วน
00:44:51 → 00:44:53 ตัวถ้าหมอแนะนำเนี่ยพระอาทิตย์ขึ้นกับพระ
00:44:53 → 00:44:55 อาทิตย์ตกอมันจะเป็นช่วงเวลาธรรมชาติเพรา
00:44:55 → 00:44:57 งั้นตอนที่พระอาทิตย์ขึ้นเนี่ยหมอก็ก็จะ
00:44:57 → 00:45:00 แนะนำให้ไปเจอในแสงตอนเช้าไปหมอมักจะแนะ
00:45:00 → 00:45:02 นำให้คนไข้เนี่ยไปเดินออกกำลังกายจนมี
00:45:02 → 00:45:05 เหงื่อออกซึมๆอาเจกับแสงธรรมชาติอ่ะแบบ
00:45:05 → 00:45:08 เนี้ยก็โอเคตอนเย็นก็เหมือนกันอระหว่าง
00:45:08 → 00:45:10 วันหรือว่าถ้าเกิดว่าในวันนั้นเป็นเมฆฟ้า
00:45:10 → 00:45:13 ครึ้มเนี่ยก็สามารถใช้แสงเนี้ยได้คำแนะนำ
00:45:13 → 00:45:15 เนี่ยประมาณ 5-6 ชมในการตอนที่เราทำงานใน
00:45:15 → 00:45:17 ช่วงเวลานึงตอนกลางวันก็ได้หรือว่าตอน
00:45:17 → 00:45:19 กลางคืนเราก็แบบกำลังจะเก็บตัวเข้านอน
00:45:19 → 00:45:20 อะไรเงี้ยหรือว่าเรากำลังเคลียร์งานตอน
00:45:20 → 00:45:23 กลางคืนก็มาเปิดใช้แป๊บนึงได้แต่จริงๆถ้า
00:45:23 → 00:45:26 เกิดว่าหมออยากให้เคลียร์งานให้เสร็จแล้ว
00:45:26 → 00:45:28 ก็เราได้เตรียมตัวนอนเราจะได้นอนได้ดี
00:45:28 → 00:45:31 เนาะเพราะแสงเนี่ยตอนนอนแล้วไม่ต้องเปิด
00:45:31 → 00:45:34 อ่าตอนนอนแล้วคือหลับตาเนาะแล้วแสงเขาจะ
00:45:34 → 00:45:36 ไปเข้าสู่ทางสายตาแล้วก็ไปกระตุ้นคลื่น
00:45:36 → 00:45:38 สมองให้เราใช่เพราะตอนกลางคืนแล้วจริงๆ
00:45:39 → 00:45:41 แล้วด้วยทางสาแพยแผนจีนเนี่ยตอนนอนก็คือ
00:45:41 → 00:45:44 เป็นพลังหยินก็คือความมืดอแล้วควรจะนอนใน
00:45:44 → 00:45:46 ในความมืดเสร็จแล้วตอนที่เราตื่นก็คือให้
00:45:46 → 00:45:50 ใช้แสงมีแสงเข้ามาอืก็เป็นตัวเลือกที่น่า
00:45:50 → 00:45:52 สนใจมากๆใช่แต่ว่าไอ้ตัวเนี้ยด้วยงาน
00:45:52 → 00:45:55 วิจัยของเขาที่ยาวนานมากๆแล้วก็ในการผลิต
00:45:56 → 00:45:59 เนี่ยจะค่อนข้างทำยากิจริงๆจะหาซื้อตาม
00:45:59 → 00:46:02 ท้องตลาดเนี่ยได้ยากต้องมีใบไปขอเป็นตัว
00:46:02 → 00:46:05 แทนจำหน่ายของเขาต้องดูดีๆว่ามาจากแหล่ง
00:46:05 → 00:46:07 ผลิตที่ถูกต้องมยก่อนจะซื้อเนาะเราก็ต้อง
00:46:07 → 00:46:10 ไว้ใจใช่ๆสำหรับใครที่สนใจนะคะข้อมูลแสง
00:46:10 → 00:46:13 40 เฮิตสามารถปรึกษาเพิ่มเติมนะคะได้ที่
00:46:13 → 00:46:15 ใต้คลิปนี้เลยเนาะเรามีทิ้งลิงก์เอาไว้
00:46:15 → 00:46:18 ให้แล้วนะคะยังไงก็ก่อนที่เราจะเลือกซื้อ
00:46:18 → 00:46:20 อะไรเนาะเราก็ต้องรู้ในสิ่งนั้นแล้วก็
00:46:20 → 00:46:22 อยากให้ทุกคนได้ศึกษาด้วยตัวเองจริงๆค่ะ
00:46:22 → 00:46:25 ฝากทุกๆคนนะคะเป็นกำลังใจให้ทีมงานแล้วก็
00:46:25 → 00:46:27 คุณหมอกานะคะฝากกดไลก์กดชแชร์กด Subscribe
00:46:27 → 00:46:29 นะคะแล้วก็แชร์ไปให้คนที่เรารักให้ได้ดู
00:46:30 → 00:46:31 คลิปนี้ด้วยนะคะสำหรับวันนี้นะคะก็ต้องขอ
00:46:32 → 00:46:34 ขอบคุณคุณหมอกามากๆค่ะที่มาให้ความรู้
00:46:34 → 00:46:36 เรื่องโรคซุมเศร้าในศาสตร์แพทย์แผนจีนค่ะ
00:46:36 → 00:46:39 ขอบคุณค่ะขอบคุณ
00:46:39 → 00:46:52 [เพลง]
00:46:52 → 00:46:55
00:46:55 → 00:46:55 [เพลง]
00:46:55 → 00:46:58 ค่ะ FE
00:46:58 → 00:47:03 [เพลง]