00:00:00 → 00:00:03 This Is Thai PBS podcast View the
00:00:03 → 00:00:05 world vi The
00:00:05 → 00:00:08 Voice การที่กินครบ 3 มื้อโดยเฉพาะมื้อ
00:00:08 → 00:00:10 แรกของวันที่เราเบรค Fast เนี่ยมันมีการ
00:00:10 → 00:00:13 ศึกษาวิจัยว่าเฮ้ยมันช่วยควบคุมความหิว
00:00:13 → 00:00:15 ระหว่างวันได้ดีการศึกษาวิจัยอันเนี้ย
00:00:15 → 00:00:17 เพิ่งตีพิมพ์ลงในวารสารวิชาการทางการ
00:00:17 → 00:00:20 แพทย์เนี่ยเมื่อปีที่ผ่านมาเองเขาศึกษา
00:00:20 → 00:00:22 ครับเปรียบเทียบผู้ที่กินอาหารเช้ากับคน
00:00:22 → 00:00:26 ที่ไปเริ่มกินตอนเที่ยนหรือบ่ายเขาพบว่า
00:00:26 → 00:00:28 กลุ่มที่ไม่กินอาหารมื้อแรกหรือมื้อเช้า
00:00:28 → 00:00:31 เนี่ยมีความรู้สึกหิวระหว่างวันมากขึ้น
00:00:31 → 00:00:35 ฮอร์โมนที่ทำให้อิ่มหลั่งน้อยลงระบบการ
00:00:35 → 00:00:38 เผาผลาญพลังงานในร่างกายลดลงครับการแสดง
00:00:38 → 00:00:41 ออกของยีนที่สะสมไขมันเพิ่มขึ้นเสี่ยงต่อ
00:00:41 → 00:00:43 การเกิดโรคอ้วนมาก
00:00:43 → 00:00:47 ขึ้นฟังทุกเรื่องสุขภาพอัปเดตทุกโรคไทย
00:00:47 → 00:00:51 ฟังรายการโรงหมอกับดิฉันสุรีพรวงสถิตพร
00:00:51 → 00:00:53 ค่ะ This Is Toy PBS
00:00:53 → 00:00:56 podcast วันนี้นะคะคุณผู้ฟังคะเราจะคุย
00:00:56 → 00:01:00 กันถึงเรื่องของการกินอาหารตามนาฬิกา
00:01:00 → 00:01:02 ชีวิตนะคะเราอาจจะเคยได้ยินเรื่องของ
00:01:02 → 00:01:06 นาฬิกาชีวิตเนาะเอ่อในการที่จะตื่นนะคะ
00:01:06 → 00:01:09 แล้วก็นอนนะอวัยวะต่างๆในร่างกายของเราก็
00:01:09 → 00:01:11 จะมีหน้าที่ของเขาตามนาฬิกาชีวิตของเขา
00:01:11 → 00:01:14 ที่มันเป็นธรรมชาติอยู่แล้วนะคะแต่ว่ากิน
00:01:14 → 00:01:17 อาหารตามนาฬิกาชีวิตเนี่ยมันเป็นมันเป็น
00:01:17 → 00:01:20 ยังไงนะคะแล้วก็สำคัญหรือเปล่าเดี๋ยวคุย
00:01:20 → 00:01:23 กับผู้ช่วยศาสตราจารย์ดรเอกราชบำรุงพืช
00:01:23 → 00:01:25 จากวิทยาลัยการแพทย์บูรณาการมหาวิทยาลัย
00:01:25 → 00:01:28 ธุรกิจบัณฑิตค่ะสวัสดีค่ะอาจารย์คะครับ
00:01:28 → 00:01:31 สวัสดีครับผมค่ะอาจารย์คะนาฬิกาชีวิต
00:01:31 → 00:01:34 เนี่ยเออเราก็คงจะได้ยินกันมาบ้างแล้ว
00:01:34 → 00:01:37 แหละนะคะว่าในช่วงเวลานั้นนะอวัยวะตัวนี้
00:01:37 → 00:01:40 ทำงานตอนนี้นะก็เป็นช่วงเวลากันไปอย่าง
00:01:40 → 00:01:43 โกรสฮอร์โมนอาจารย์บอกว่าอะไรนะ 22:00 น
00:01:43 → 00:01:46 ใช่ช่วง 22:00 นถึง 2 ก็จะเป็นช่วงที่แบบ
00:01:46 → 00:01:49 เอ้ยโกดฮอร์โมนหลั่งอ่าเขาก็ทำงานของเขคต
00:01:49 → 00:01:52 ตามหน้าที่ของเขาถูกต้องใช่ครับทุกตัว
00:01:52 → 00:01:55 เอ่อของฮอร์โมนของร่างกายของเราเนี่ยอื
00:01:55 → 00:01:58 มันเป็นไปตามระบบนาฬิกาชีวิตเลยนะภาษาทาง
00:01:58 → 00:02:02 การแพทย์เนี่ยเคเรียกว่าเคดีึมเนาะเป็น
00:02:02 → 00:02:05 ลักษณะทางชีวภาพของร่างกายตลอด 24
00:02:05 → 00:02:09 ชั่วโมงที่จะมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นนะ
00:02:09 → 00:02:14 ตามช่วงเวลาเช้ากลางวันเย็นค่ำเช้ากลาง
00:02:14 → 00:02:19 วันเย็นค่ำ 24 ชมซึ่งระบบของร่างกายก็จะ
00:02:19 → 00:02:22 ตอบสนองตามช่วงเวลานะเหล่านี้ทั้งเรื่อง
00:02:22 → 00:02:25 ของฮอร์โมนทั้งเรื่องของเอ่ออุณหภูมิใน
00:02:25 → 00:02:28 ร่างกายเรื่องการหลับการตื่นทั้งหลายแหล่
00:02:28 → 00:02:30 นะเหมือนกับการที่เรารู้สึรู้สึกแบบเฮ้ย
00:02:30 → 00:02:33 ง่วงนอนตอนกลางคืนเพราะร่างกายมันหลั่ง
00:02:33 → 00:02:37 เมลาโทนินออกมานะอืช่วง 21:00 นอย่าง
00:02:37 → 00:02:39 เงี้ยค่ะก็จะหลั่งเมลาโทนินออกมาเพื่อให้
00:02:39 → 00:02:42 เราเริ่มรู้สึกเอ้ยง่วงนอนและแต่บางคนแบบ
00:02:42 → 00:02:45 พอหลุดช่วงนี้ไปอ่ะฉันไม่ง่วงแลเออใช่ๆๆ
00:02:45 → 00:02:48 เพราะเราฝืนนาฬิกาชีวิตทุกวันเนี้ยคนใช้
00:02:48 → 00:02:53 พฤติกรรมสวนทางนาฬิกาชีวิตอืเวลากินเรา
00:02:53 → 00:02:57 นอนค่ะเช้าตื่นมาเนี่ยต้องเลเลือกระหว่าง
00:02:57 → 00:02:59 นอนต่อกับตื่นมากินอาหารเช้าเราเลือกอะไร
00:02:59 → 00:03:02 กันครับส่วนใหญ่นอนต่อค่ะถูกต้องนะส่วน
00:03:02 → 00:03:06 เวลานอนเราไปกินค่ะนะ 22:00 น 23:00 นยัง
00:03:06 → 00:03:09 นั่งฟาดหมูทะหมูย่างเกาหลีบุฟเฟ่ต์ชาบูนะ
00:03:09 → 00:03:13 โออาจารย์ก็ชีวิตสีสันมันอยู่ตอนกลางคืน
00:03:13 → 00:03:18 เวลาสีสันเนี่ยคนใช้ชีวิตสวนทางนาฬิกา
00:03:18 → 00:03:22 ชีวิตทั้งหมดน่าเพราะร่างกายมันตื่นขึ้น
00:03:22 → 00:03:24 มาปุ๊บอ่ะเฮ้ยถ้าเราใช้ตามนาฬิกาชีวิตเรา
00:03:24 → 00:03:27 จะรู้สึกแบบเฮ้ยตื่นขึ้นมาอิสดชื่นสดใส
00:03:27 → 00:03:30 พร้อมทำกิจกรรมค่ะ
00:03:30 → 00:03:33 เราก็จะเริ่มและนะหลังเรากินอาหารเช้า
00:03:33 → 00:03:36 ตื่นมาฟาสติ้งตลอดทั้งคืนกลางวันเราก็จะ
00:03:36 → 00:03:39 เริ่มแบบว่าเฮ้ยเริ่มแบบเฮ้ยอยากที่จะแบบ
00:03:39 → 00:03:42 อ่ากินและเริ่มมีความรู้สึกคิวแล้วก็ใช้
00:03:42 → 00:03:44 ชีวิตตลอดยันเย็นยันค่ำเราก็เริ่มแบบอุ้ย
00:03:44 → 00:03:48 อ่อนเพียง่วงนอนฮอร์โมนต่างๆมันก็ขึ้นมา
00:03:48 → 00:03:51 โกสฮอร์โมนที่คุณรีบอกเมื่อสักครู่เยที่
00:03:51 → 00:03:53 มันขึ้นมาตอนดึกตอนนอนเพื่ออะไรครับฟื้น
00:03:53 → 00:03:57 ฟูซ่อมแซมเซลล์ต่างๆในร่างกายค่ะงั้นแล้ว
00:03:57 → 00:04:00 เนี่ยถ้าเวลานอนคุณไม่นอนน่ะคุณก็ไม่มี
00:04:00 → 00:04:04 โอกาสฟื้นฟูแล้วอาจารย์บอกเลยนะแทบจะฟัน
00:04:04 → 00:04:08 ธงเลยว่าทุกวันเนี้ยคนเรามีปัญหาสุขภาพ
00:04:08 → 00:04:14 เพราะเราใช้ชีวิตสวนทางนาริกาชีวิตอืเรา
00:04:14 → 00:04:17 เปลี่ยนไม่ได้หรอคะจากแบบว่าเออขยับเวลา
00:04:17 → 00:04:19 ของมันเป็นนาฬิกาชีวิตให้มันจากที่มัน
00:04:19 → 00:04:22 เป็นธรรมชาติตั้งแต่เรากำเนิดเกิดขึ้นมา
00:04:22 → 00:04:25 คุณลีสามารถฝืนธรรมชาติได้มยไม่ได้คุณลี
00:04:25 → 00:04:27 สัพระอาทิตย์กำลังจะตกดินคุณลีบอกว่าอุ
00:04:27 → 00:04:29 ฉันใช้พลังวัดฮึยอย่าเพิ่งตก่งอย่า่งนึก
00:04:30 → 00:04:32 ออกมั้ยก็ไม่ได้อ่ะเพราะว่าฉันยังไม่ได้
00:04:32 → 00:04:36 กินข้าวเย็นเลยอย่าเพิ่งตกนะเห็นมั้ยครับ
00:04:36 → 00:04:38 ไม่ได้ถูกต้องเช้ามาฉันหิวข้าวเช้าแล้ว
00:04:39 → 00:04:41 เอาขึ้นมาหน่อยฮึบๆดวงอาทิตย์ขึ้นมาก็ไม่
00:04:41 → 00:04:44 ได้อันนี้จะพยายามให้ดวงอาทิตย์ลงเร็วๆ
00:04:44 → 00:04:48 เพราะว่าจะได้เลิกงานเร็ว
00:04:48 → 00:04:51 ๆถ้าไปอยู่ประเทศที่พระอาทิตย์เที่ยงคืน
00:04:51 → 00:04:55 นี่ทำงานยาวเลยนะเอ้ยทำยังไงอ่ะนาฬิกา
00:04:55 → 00:04:59 ชีวิตก็ก็ต้องไปตามนั้นครับเราก็ต้องปรับ
00:04:59 → 00:05:02 เปรียนเปลี่ยนตามกลางวันกลางคืนแสงสว่าง
00:05:02 → 00:05:05 พอมันมืดปุ๊บอ่ะพอมันมืดปุ๊บใช่มั้ยครับ
00:05:05 → 00:05:07 ร่างกายของเรามันก็จะเริ่มรู้สึกแบบ
00:05:07 → 00:05:11 เหมือนคาดาวและพอช่วงหัวค่ำมันก็จะเริ่ม
00:05:11 → 00:05:15 เมลาโทนินก็จะเริ่มมาและจะเริ่มอหลั่งไหล
00:05:15 → 00:05:18 ออกมาและแล้วเพราะมันมากับความมืดนะยิ่ง
00:05:18 → 00:05:21 มืดสนิทเมลาโทนินหลัดีอุ๊ยอาจารย์อันนี้
00:05:21 → 00:05:24 ขอเถียงได้มั้ยอ่ะอเมลาโทนินมันหลัตอน
00:05:24 → 00:05:27 กลางวันด้วยค่ะนั่งทำงานก็ง่วงไม่อันนั้น
00:05:27 → 00:05:30 อาจจะเป็นซีโรโทนินจากการที่เรากินแป้ง
00:05:30 → 00:05:33 เยอะกินข้าวมากอ๋อคนละตัวครับอันนี้ก็
00:05:33 → 00:05:37 เหมารวมเมลาโทนินมันทำงานการที่เรากินกิน
00:05:37 → 00:05:39 ข้าวกินแป้งกินน้ำตาลเยอะเราก็จะแบบโอย
00:05:39 → 00:05:43 ง่วงเออก็เซโรโทนินถูกต้องแต่ถ้าถ้าตอน
00:05:43 → 00:05:46 กลางคืนเมลาโทนินเมลาโทนินถูกต้องอย่าง
00:05:46 → 00:05:50 เงี้ยแล้วมันมันมันต้องมันต้องใช้ตาม
00:05:50 → 00:05:52 นาฬิกาชีวิตเนาะร่างกายของเราเนี่ย
00:05:52 → 00:05:55 เปลี่ยนแปลงไปมาได้หมดเลยฮอร์โมนต่างๆ
00:05:55 → 00:05:57 เนี่ยอย่างเช้ามาอีกหนึ่งตัวฮอร์โมนคือ
00:05:57 → 00:06:00 คอร์ติซอลเป็นฮอร์โมนแห่งความเครียดพร้อม
00:06:00 → 00:06:02 เผชิญภาวะอย่างเงี้ยมันก็จะหลั่งออกมา
00:06:02 → 00:06:05 เพราะเรารู้แล้วไงเราตื่นน่ะอืร่างกายมัน
00:06:05 → 00:06:09 ก็จะมีนี่แหละครับระบบของร่างกายระบบของ
00:06:09 → 00:06:11 เอ่อนาฬิกาชีวิตของร่างกายของเราให้เรา
00:06:11 → 00:06:15 แบบเฮ้ยตอบสนองต่อแบบเฮ้ยสิ่งเราได้ตลอด
00:06:15 → 00:06:18 เวลาค่ะอ่าไม่ใช่แค่ในคนนะครับนัก
00:06:18 → 00:06:22 วิทยาศาสตร์ยังพบว่าเอ้ยในพืชในสัตว์เขา
00:06:22 → 00:06:24 ก็มีนาฬิกาชีวิตหรือ biological coock
00:06:24 → 00:06:27 ของเขาอือ่าเรื่องของนาฬิกาชีวิตจริงๆ
00:06:27 → 00:06:29 แล้วมันมีมาไม่นานนี่เองนะครับค่ะอ่า
00:06:29 → 00:06:32 เพราะมีงานวิจัยที่ได้โนเบลไสาขาการแพทย์
00:06:32 → 00:06:35 เมื่อปี 2017 นะว่าเฮ้ยมนุษย์เราเนี่ยมัน
00:06:35 → 00:06:39 มีนาฬิกาชีวิตนะออ่าจะกินอาหารจะใช้ชีวิต
00:06:39 → 00:06:42 ออกกำลงกำลังอะไรอย่าเงี้ยตามนาฬิกาชีวิต
00:06:42 → 00:06:44 หมดเลยหรือกิจกรรมที่เราทำในแต่ละวัน
00:06:44 → 00:06:48 เนี่ยอ่าั้นแล้วถ้าเราสวนทางนาฬิกาชีวิต
00:06:48 → 00:06:49 มันก็จะเกิด
00:06:49 → 00:06:54 เอ่อผลเสียเนาะกับสุขภาพร่างกายของเรา
00:06:54 → 00:06:58 แล้วถ้าเราจะกินตามนาฬิกาชีวิตแน่นอนค่ะ
00:06:58 → 00:07:03 นะคือพูดง่ายๆว่าเช้าตื่นขึ้นมากินพระ
00:07:03 → 00:07:06 อาทิตย์ขึ้นแล้วก็กินอาหารเช้าอือ่าอัน
00:07:06 → 00:07:09 นี้คือการกินตามนาฬิกาชีวิตเนาะซึ่งอาหาร
00:07:09 → 00:07:14 เช้าเนี่ยก็อยู่ในช่วง 7 นถ 99:00 น 7 น -
00:07:14 → 00:07:17 9:00 นอ่าคืออันเนี้ยคือตามนาฬิกาชีวิต
00:07:17 → 00:07:20 และช่วงเวลาตอนกลางวันเราก็กินเที่ยนพูด
00:07:20 → 00:07:23 พูดง่ายๆว่าเช้าอ่ะไม่ควรกินเกิน 99:00 น
00:07:23 → 00:07:25 อ่ะเพราะถ้าคุณลีบอกว่าเอ้ยฉันกินอาหาร
00:07:25 → 00:07:27 เช้านะฉันกิน 11:00 นนั่นฉันเพลแล้วครับ
00:07:27 → 00:07:31 ถูกมยเพี้ยนตั้งแต่ตอนกินข้าวเช้าแล้วค่ะ
00:07:31 → 00:07:33 เพี้ยนไปทั้งวันเลยทั้งระบบแล้วค่ะตอนนี้
00:07:33 → 00:07:37 ใช่ใช่ใช่โอ้โหนะแล้วมันก็ต้องกินแบบเ้ย
00:07:37 → 00:07:40 ตามนาฬิกาชีวิตอ่ะเช้าตื่นมาถามว่าทำไม
00:07:40 → 00:07:43 เราต้องกินอาหารเช้าล่ะเพราะว่าเรา
00:07:43 → 00:07:47 ฟาสติ้งอดอาหารมาทั้งคืนค่ะอ่าเราไม่ได้
00:07:47 → 00:07:49 กินเลยมีใครต่อท่อต่อสายกินกลางคืนมั้ย
00:07:50 → 00:07:52 ไม่มีอออ่าแล้วการรับประทานอาหารเช้า
00:07:52 → 00:07:57 เนี่ยเมีการศึกษาวิจัยว่าเอ้ยมันมีผลดี
00:07:57 → 00:08:01 กับสุขภาพร่างกายอือาหารมื้อแรกของวัน
00:08:01 → 00:08:03 หลังจากที่เราฟาอ่ะต้องเรียกอย่างงี้บาง
00:08:03 → 00:08:05 คนอาจจะกินสายหน่อยก็ไม่เป็นไรแต่อย่าถึง
00:08:05 → 00:08:08 กับขนาดฉันเพฉันเที่ยงนึกออกมครับงั้นมัน
00:08:08 → 00:08:10 คือ Lunch มันไม่ใช่เ Breakfast
00:08:10 → 00:08:13 Breakfast ก็คือเบรคจากการฟาไงค่ะอ๋อ
00:08:13 → 00:08:15 Breakfast อ่ะ Breakfast
00:08:15 → 00:08:19 Breakfast อ้า Break Fast นะ Fast คือ
00:08:19 → 00:08:21 อะไร Fast คือการอดอาหารที่เราอดมาทั้ง
00:08:21 → 00:08:24 คืนเพราะเรานอนไงอืเนี่ยเราอดแลกินมื้อ
00:08:24 → 00:08:27 เย็นมื้อสุดท้าย 18:00 นจบแล้วแล้วเช้า
00:08:27 → 00:08:29 ขึ้นมาปุ๊บโอกว่าจะกินสมมุติ 8 อย่าง
00:08:29 → 00:08:33 เงี้ยคือเราเบรกจากการ Fast อ่าหรือ 99:00
00:08:33 → 00:08:35 นอย่างเงี้ยเราก็เบรกจากการ Fast เราก็ทำ
00:08:35 → 00:08:38 intermittent fasting ได้นะมันก็เป็น
00:08:38 → 00:08:42 ชีวิตไลฟ์สไตล์ของเราปกติเลยคนทำ If ย้ำ
00:08:42 → 00:08:46 เลยว่าสามารถกินอาหารได้ปกติทั้ง 3 มื้อ
00:08:46 → 00:08:49 ค่ะแต่ถ้าใครพฟรจะกินเช้ากินกลางวันก็
00:08:49 → 00:08:52 แล้วแต่คุณหรือใครกินกลางวันแล้วกินเย็น
00:08:52 → 00:08:54 แล้วคุณยังกินเพียงพออาจารย์ไม่เคยห้าม
00:08:54 → 00:08:57 ไม่เคยแอนตี้ค่ะอ่าเพราะบางคนบอกว่าอ้าก็
00:08:57 → 00:08:59 ฉันกิน 2 มื้อแล้วฉันก็พอสุสุขภาพฉันดี
00:09:00 → 00:09:02 นั่นคือคุณก็แต่ละคนไม่เหมือนกันด้วยนะ
00:09:02 → 00:09:06 ถูกต้องคุณอย่าพยายามเอาทฤษฎีของของคุณไป
00:09:06 → 00:09:09 ครอบกับอีคนนึงเอาจจะไม่เหมือนกันอือ่า
00:09:09 → 00:09:12 เขาอาจจะดีเหมือนคุณก็ได้อ่าฉะนั้นแล้ว
00:09:12 → 00:09:16 เราก็ไม่ได้แอนตี้แต่สำหรับเราสำหรับตัว
00:09:16 → 00:09:19 อาจารย์เองค่ะอาจารย์กินครบ 3 มื้อเพราะ
00:09:19 → 00:09:21 อะไรรู้มั้ยความสุขของอาจารย์คือการกิน
00:09:22 → 00:09:24 ถูกมั้ยครับใช่ค่ะเราได้กินตั้ง 3 ครั้ง
00:09:24 → 00:09:27 อ่ะต่อวันน่ะที่ไม่รวมสนคเบรกเบรกนะอ่า
00:09:27 → 00:09:30 งั้นแล้วเราก็กินได้ได้ตั้ง 3 มื้ออ่ะอ
00:09:30 → 00:09:32 แล้วการที่กินครบ 3 มื้อโดยเฉพาะมื้อแรก
00:09:32 → 00:09:35 ของวันที่เราเบรคฟาสเนี่ยมันมีการศึกษา
00:09:35 → 00:09:38 วิจัยว่าเฮ้ยมันช่วยควบคุมความหิวระหว่าง
00:09:38 → 00:09:41 วันได้ดีนะไม่ทำให้เราแบบว่าเฮ้ยหิวบ่อย
00:09:41 → 00:09:44 นะบางคนแบบเ้ยหิวบ่อยเพราะว่าฉันไม่กิน
00:09:44 → 00:09:46 ฉันอดอาหารมื้อแรกของวันหรือมื้อเช้า
00:09:46 → 00:09:49 เนี่ยนะก็จะแบบว่าเ้ยหิวบ่อยมากอันเนี้ย
00:09:49 → 00:09:52 เป็นการศึกษาวิจัยที่เค้าค้นพบว่าเฮ้ย
00:09:52 → 00:09:54 มื้อแรกหรืออาหารเช้าเนี่ยสำคัญมากนะครับ
00:09:54 → 00:09:57 มีการศึกษาวิจัยอันเนี้ยเพิ่งตีพิมพ์ลงใน
00:09:57 → 00:09:59 วารสารวิชาการทางการแพทย์เนี่ยค่ะเมื่อปี
00:09:59 → 00:10:02 2022 ที่ผ่านมาปีที่ผ่านมาเองเขาศึกษา
00:10:02 → 00:10:06 ครับเปรียบเทียบผู้ที่กินอาหารเช้านะหรือ
00:10:06 → 00:10:08 อาหารมื้อแรกของวันเนี่ยเหมือนตามนาฬิกา
00:10:08 → 00:10:11 ชีวิตอ่ะค่ะกับคนที่ไปเริ่มกินตอนเที่ยน
00:10:11 → 00:10:15 หรือบ่ายแล้วก็กินถึงค่ำแบบไหนจะดีต่อ
00:10:15 → 00:10:18 สุขภาพมากกว่ากันครับก็ต้องแบบกินตอนเช้า
00:10:18 → 00:10:22 อถูกต้องครับผลการศึกษาพบว่าคนที่ไม่กิน
00:10:22 → 00:10:25 อาหารเช้าหรือมื้อแรกของวันเนี่ยค่ะนะ
00:10:25 → 00:10:27 มื้อแรกอาจารย์ก็ยังอนุโลมนะ 99:00 น 9:00
00:10:27 → 00:10:31 นกว่าๆก็ยังโอเคนะอ่าแต่ไม่ใช่ไปนู่นกิน
00:10:31 → 00:10:35 เที่ยงกินบ่ายนะครับเขาพบว่ากลุ่มที่ไม่
00:10:35 → 00:10:37 กินอาหารมื้อแรกหรือมื้อเช้าเนี่ยมีความ
00:10:37 → 00:10:41 รู้สึกหิวระหว่างวันมากขึ้นฮอร์โมนเขาดู
00:10:41 → 00:10:43 ฮอร์โมนเลปตินด้วยที่ทำให้อิ่มอ่ะหลั่ง
00:10:43 → 00:10:49 น้อยลงอ่าแล้วคือจะแบบว่าไม่ค่อยอิ่มออ่า
00:10:49 → 00:10:52 แล้วหิวบ่อยระบบการเผาผลาญพลังงานในร่าง
00:10:52 → 00:10:54 กายนี่เวัด Energy metabolism การเผา
00:10:54 → 00:10:58 ผลาญนะลดลงครับค่ะคนไม่กินอาหารเช้าบดพาน
00:10:58 → 00:11:02 เผาผลาลดลงการแสดงออกของยีนที่สะสมไขมัน
00:11:02 → 00:11:05 เพิ่มขึ้นค่ะอ่ายีนที่สะสมไขมันน่ะมีการ
00:11:05 → 00:11:07 แสดงออกมาเพิ่มขึ้นเสี่ยงต่อการเกิดโรค
00:11:07 → 00:11:10 อ้วนมากขึ้นคนไม่กินอาหารเช้าและมีกระบวน
00:11:10 → 00:11:14 การออฟีที่เราเคยคุยกันไปบ้างแล้วนะการ
00:11:14 → 00:11:16 ดีท็อกซ์ระดับเซลล์หรือช่วยในการชะลอวัย
00:11:16 → 00:11:20 เนี่ยลดลงครับอุยั้นแล้วไม่กินอาหารเช้า
00:11:20 → 00:11:23 สัมพันธ์กับความอ้วนสัมพันธ์กับการเผา
00:11:23 → 00:11:26 ผลาญสัมพันธ์กับความแก่นะแล้วงานวิจัยไม่
00:11:26 → 00:11:29 ได้มีงานวิจัยนี้ก่อนหน้านี้ก็มีผลกระทบ
00:11:29 → 00:11:31 ของการไม่รับประทานอาหารมื้อเช้าก็คือ
00:11:31 → 00:11:33 เสี่ยงต่อการเกิดโรคอ้วนโรคเบาหวานโรค
00:11:33 → 00:11:36 ความดันโรคหัวใจและหลอดเลือดโรคสมอง
00:11:36 → 00:11:40 เสื่อมและอัตราการเสียชีวิตสูงแค่มื้อ
00:11:40 → 00:11:43 เช้าเนี่ยนะถูกต้องครับั้นแล้วเถึงบอกว่า
00:11:43 → 00:11:46 เอ้ยเป็นมื้อที่สำคัญมากแต่คนไม่ค่อยให้
00:11:46 → 00:11:48 ความสำคัญถ้าเลือกระหว่างตื่นมากินมื้อ
00:11:48 → 00:11:50 เช้ากับนอนคือนอนคำว่าเช้านี่ไม่จำเป็น
00:11:50 → 00:11:53 ต้อง 6:00 น 7:00 นนะถ้าคุณบอกฟาสติ้ง
00:11:53 → 00:11:57 อยู่่ะอาจารย์มันยังไม่ได้ 14 ชมงเพราะ 14
00:11:57 → 00:11:59 ชมงเป็นอย่างน้อยของการทำไ
00:11:59 → 00:12:04 นะขอสัก 16 ชมงอ้าคุณก็มากินตอน 99:00 น
00:12:04 → 00:12:06 ได้นี่ไม่เห็นมีปัญหาก็ยังไม่ได้เลยเวลา
00:12:06 → 00:12:09 ช่วงชใช่ครับอแล้วคุณได้ทั้ง If แล้วคุณ
00:12:09 → 00:12:13 ได้ทั้งมื้อเช้าแต่ทำไมคุณไม่กินมื้อเช้า
00:12:13 → 00:12:15 เพราะอะไรรู้มั้ยเพราะคุณไปกินมื้อสุด
00:12:15 → 00:12:18 ท้ายของการทำฟาสติ้ง 22:00 น 23:00 นงคืน
00:12:18 → 00:12:20 มันก็เลยต้องนับชั่วโมงไปอีกถูกต้องใช่ไป
00:12:20 → 00:12:23 กินอีกทีอาจารย์เนี่ยยัง If อยู่เลยเนี่ย
00:12:23 → 00:12:26 กว่าจะกินได้เนี่ยเที่ยนอือนะไปกินได้อ่ะ
00:12:26 → 00:12:28 14:00 นชวนไปกินข้าวเที่ยนด้วยกันทำไม
00:12:28 → 00:12:31 ไม่กินล่ะหนูยัง If อยู่เลยอาจารย์เ้า
00:12:31 → 00:12:33 มื้อสุดท้ายกินเมื่อไหร่เมื่อคืนหนูกิน
00:12:33 → 00:12:36 ดึก 23 นเยงหนูเลยยังไม่
00:12:36 → 00:12:39 ครบนึกออกมั้ครับโหดมากทำไได้โหดมากงั้น
00:12:39 → 00:12:41 แล้วเนี่ยคือกลายเป็นว่าเพราะมื้อสุดท้าย
00:12:41 → 00:12:45 ของคุณกินดึกไงมันก็เลยผลกระทบตกกระทบกับ
00:12:46 → 00:12:49 มื้อเช้าเพราะฉะนั้นถ้าสักประมาณ 18:00 น
00:12:49 → 00:12:53 ถูกต้องก็ตื่นเช้ามาก็ได้อันนี้ 12 ชม
00:12:53 → 00:12:57 แล้วใช่ครับ 12 13 14 อ้า 8 นจริงๆแล้ว
00:12:57 → 00:13:00 งานวิจจัยเคพบว่า 14 ชมก็เริ่มมีผลดีกับ
00:13:00 → 00:13:02 สุขภาพแล้วอ่า 99:00 นก็ได้อ่ะให้อีก 1
00:13:02 → 00:13:06 ถูกต้องอเห็นมั้ยงั้นแล้วเนี่ยบางคนกิน 17
00:13:06 → 00:13:09 น 99:00 นเช้าโอโหได้ตั้ง 16 ชมงอ่ะอ่าออ
00:13:09 → 00:13:11 ก็เกิดประโยชน์แล้ววันเนี้ยวันนี้อาจจะ
00:13:11 → 00:13:13 8:00 นก็ได้ก็ได้ 15 ชมงเอ้ยก็เป็น
00:13:13 → 00:13:16 ประโยชน์ฉันแล้วเห็นมั้ยครับแล้วมันชีวิต
00:13:16 → 00:13:18 มันก็เป็นไลฟ์สไตล์ได้ไม่ใช่แบบช่วงนี้
00:13:18 → 00:13:22 ฉันทำช่วงนี้ฉันทำทำไมต้องช่วงนี้ฉันทำ
00:13:22 → 00:13:26 ทำไมคุณไม่ทำให้มันเป็นไลฟ์สไตล์ทำให้มัน
00:13:26 → 00:13:30 เป็นตลอดๆดถูกต้องมันคือส่วนหนึ่งในชีวิต
00:13:30 → 00:13:33 ประจำวันของเราอืมันคือ habit มันคือ
00:13:33 → 00:13:36 พฤติกรรมในชีวิตประจำวันของเราเราทำ
00:13:36 → 00:13:39 ฟาสติ้งทุกวันอาจารย์ทำฟาสติ้งได้ทุกวัน
00:13:39 → 00:13:41 ค่ะเพราะอาจารย์ไม่ได้ทำแบบหักโหมไม่ได้
00:13:41 → 00:13:44 ทำแบบสุดโต่งวันนี้ฉันต้อง 20 ชั่วโมง 22
00:13:44 → 00:13:46 ช่มช่วงนี้ฉันทำฟาเป็นไงครับฉันก็จะผอม
00:13:46 → 00:13:48 หน่อยแล้วช่วงไหนฉันไม่ได้ทำฉันก็จะบวม
00:13:48 → 00:13:52 หน่อยยุบหนอพองหนอยุบหนอพองหนอพอดีกันเอ
00:13:52 → 00:13:55 มีบางคนทำ 18 24 ก็มีนะคะอ่าทำเยอะๆก็มี
00:13:55 → 00:13:58 อันนั้นนานๆทีได้เอยากจะเร่งกระบวนการ
00:13:58 → 00:14:02 โฟจีให้มันแบบพีกๆโอ้โหขนาดนั้นเลยอ่าก็
00:14:02 → 00:14:05 ก็ได้ไม่ได้ว่ากันมันก็อะเพื่ออยากจะทำ
00:14:05 → 00:14:07 เพื่อความสบายใจแล้วก็ดีต่อสุขภาพแล้วคุณ
00:14:07 → 00:14:09 ก็ยังได้รับสารอาหารเพียงพอแต่ไม่ใช่ว่า
00:14:09 → 00:14:13 หูคุณแบบไม่กินเลยแบบ 3 วันอย่างเงี้ยกิน
00:14:13 → 00:14:15 แต่น้ำอย่างเงี้ยคุณอาจจะขาดโปรตีนนะ
00:14:15 → 00:14:17 เพราะคุณติดรบอย่าลืมความต้องการพลังงาน
00:14:17 → 00:14:20 และสารอาหารในแต่ละวันถ้าคุณต้องการ
00:14:20 → 00:14:22 โปรตีนวันนึงสมมุติว่าหนักแค่ 50 ต้องการ
00:14:22 → 00:14:26 50 กรัมคุณลีบอกว่าคุณลีทำไ 2 วันไม่กิน
00:14:26 → 00:14:30 อะไรเลยเนี่ยค่ะคุณลีติดรบชีวิตติดรบสาร
00:14:30 → 00:14:33 อาหารไป 100 กรัมโปรตีน 100 กรัมคุณลีก็
00:14:34 → 00:14:37 ต้องมาชดเชยให้เพียงพอถูกต้องสู้ก็สู้ให้
00:14:37 → 00:14:41 มันเดินทางสายกลางดีกว่าถูกต้องใช่อย่าง
00:14:41 → 00:14:44 ที่อาจารย์บอกว่าอ้าก็ก็เนี่ยก็กินตาม
00:14:44 → 00:14:47 นาฬิกาชีวิตค่ะเนาะก็คือเช้าตื่นมาอ่ะเรา
00:14:47 → 00:14:51 ก็กินนะหลังพระทิตตกดินแล้วก็ไม่กินอืนะ
00:14:51 → 00:14:54 แล้วก็เลือกกินให้อย่างเหมาะสมอาจารย์
00:14:54 → 00:14:56 แล้วถ้าเกิดตอนเช้าตื่นมาเนี่ยตามนาฬิกา
00:14:56 → 00:14:59 ชีวิตตื่นมาปึ๊บออาหารเช้าเนี่ยเอ่อเป็น
00:14:59 → 00:15:01 แบบแนวอเมริกัน Breakfast ได้มคะแบบขนม
00:15:01 → 00:15:06 ปังดีมากสำคัญมากไม่ใช่ว่าหมูปิ้งไม้
00:15:06 → 00:15:11 เหนียวห่อนะแฟถ้วยขนมปังแผ่นเออได้มอ่า
00:15:11 → 00:15:14 คือคนส่วนใหญ่ก็จะแบบชีวิตเร่งรีบเอานี่
00:15:14 → 00:15:17 แล้วเอาหมูปิ้ง 3 น้อยอเนี่ยเอาหมูทอด
00:15:17 → 00:15:22 เชียงรายหมูกระจกไก่ทอดนะอาหารเช้าเงี้ย
00:15:22 → 00:15:25 ปลาต้องโก๋คูงเออก็ดีกว่าไม่กินเลยไงอ่า
00:15:25 → 00:15:27 ก็จะคิดอย่างงั้นอันนี้อาจจะไม่กินอาจจะ
00:15:27 → 00:15:31 ดีกว่าก็ได้นะอ๋อก็กินแล้วมันพังอ่ะคือ
00:15:31 → 00:15:33 คือกินให้มีคุณภาพในมื้อเช้าไปเลยต้อง
00:15:33 → 00:15:35 มื้อเช้าโดยเฉพาะมื้อเช้านะครับสารอาหาร
00:15:35 → 00:15:39 ที่โอสำคัญมากสำหรับมื้อเช้าเลยเนี่ยก็
00:15:39 → 00:15:46 คือเรื่องของโปรตีนอ่าโปรตีนนะครับค่ะโดย
00:15:46 → 00:15:49 เฉพาะกรดอะมิโนที่ชื่อว่าไทโรซีนจริงๆ
00:15:49 → 00:15:50 แล้วมันก็คืออยู่ในอาหารประเภทโปรตีนนี่
00:15:50 → 00:15:54 แหละนะเรากินนมกินไข่นะตอนเช้าเราก็ได้
00:15:54 → 00:15:58 พวกโปรตีนนะจากโปงจากปลาทั้งหลายแหล่นะ
00:15:58 → 00:16:01 ครับอ่าซึ่งโปรตีนในมื้อเช้าเนี่ยเาพบว่า
00:16:01 → 00:16:04 มันสามารถที่จะเพิ่มระดับโดปามีนโดปามีน
00:16:04 → 00:16:07 เป็นฮอร์โมนแห่งความสุขฮอร์โมนตัวนึงทำ
00:16:07 → 00:16:12 ให้เราอ่ะรู้สึกสดชื่นตื่นตัวกระฉับ
00:16:12 → 00:16:16 กระเฉงพร้อมที่จะทำงานพอไปถึงโต๊ะทำงาน
00:16:17 → 00:16:19 ปุ๊บห่อเหี่ยวหัว
00:16:19 → 00:16:24 ใจใช่แล้วอาหารประเภทโปรตีนค่ะนะครับใน
00:16:24 → 00:16:28 มื้อเช้าสำคัญแล้วช่วยเพิ่มการเผาผลาอ
00:16:28 → 00:16:29 ช่วย
00:16:29 → 00:16:32 ช่วยควบคุมความผิวระหว่างวันได้ดีมีการ
00:16:32 → 00:16:34 วิจัยถึงขั้นที่ว่ามื้อเช้าอ่ะกินโปรตีน
00:16:34 → 00:16:38 จากไข่อ่ะครับคุณลีค่ะลาฟองอ่ะสามารถที่
00:16:38 → 00:16:42 จะลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคอ้วนหาโรคเบา
00:16:42 → 00:16:45 หวานได้อุ้ยหรอถูกต้องแต่ไม่ใช่โปรตีน
00:16:45 → 00:16:47 อย่างเดียวนะครับโปรตีนเนี่ยดีในมื้อเช้า
00:16:47 → 00:16:50 เพราะมันช่วยบูทโดปามีนค่ะโดปามีนเป็น
00:16:50 → 00:16:53 ฮอร์โมนที่ทำให้เรารู้สึกแฮปปี้มีความสุข
00:16:53 → 00:16:58 นะกระฉับกระเฉงมุ่งมั่นนะตื่นตัวอ่าซึ่ง
00:16:58 → 00:17:00 มันมันสมควรตอนเช้าถูกมั้ยไม่ใช่จะไปบูท
00:17:00 → 00:17:04 ตอนกลางคืนนะจะไปนอนเตียงแล้วจะไปกระจอก
00:17:04 → 00:17:07 กระเฉงมุ่งมั่นตายแล้วทีนี้ไม่หลับเลยอ่า
00:17:07 → 00:17:10 แล้วเนี่ยเห็นมั้ยมันเป็นตามนาฬิกาชีวิต
00:17:10 → 00:17:12 ของเราแต่เราก็ต้องกินตามนาฬิกาชีวิตนี่
00:17:12 → 00:17:15 ไงอือคือเนื้อเช้าเน้นโปรตีนมากหน่อยนะ
00:17:15 → 00:17:19 แล้วก็เติมไฟเบอร์ครับอาจารย์เพิ่งไปดู
00:17:19 → 00:17:23 งานมาที่ประเทศญี่ปุ่นค่ะนะยังเอาขนมมา
00:17:23 → 00:17:26 ฝากคุณรีเนี่ยนะครับแต่อันนั้นเก็บไว้กิน
00:17:26 → 00:17:28 มื้อกลางวันนะค่อยๆกินค่อยๆกิน
00:17:29 → 00:17:33 จะบอกว่าเขามีทฤษฎีอันนึงนะเรียกว่าจริงๆ
00:17:33 → 00:17:35 แล้วมันมีมานานแล้วแหละนะบ้านเราคนยังไม่
00:17:35 → 00:17:39 ค่อยพูดถึงกันเยอะก็คือ
00:17:39 → 00:17:45 ครนนิติโครโนครโครโนนิิตัวเนี้ยมัน
00:17:45 → 00:17:51 คือกินตามนาฬิกาชีวิตนี่แหละอืเค้าพบว่า
00:17:51 → 00:17:53 แต่มันมีรายละเอียดนะพบว่าการที่เราได้
00:17:53 → 00:17:57 รับใยอาหารค่ะหรือไฟเบอร์เนี่ยในมื้อเช้า
00:17:57 → 00:17:59 และมื้อกลางวัน
00:17:59 → 00:18:02 นะที่ปริมาณเพียงพอค่ะนะคือเน้นกิน
00:18:02 → 00:18:06 ไฟเบอร์นะจากผักผลไม้มื้อเช้ามื้อกลางวัน
00:18:06 → 00:18:08 ช่วยมันจะช่วยควบคุมน้ำ
00:18:08 → 00:18:13 ตาลในมื้อเย็นได้อ๋ออ้าคุณรีคิดดูมันไม่
00:18:13 → 00:18:16 ใช่คุมในมื้อนั้นอย่างเดียวนะเค้าทำการ
00:18:16 → 00:18:19 ศึกษาวิจัยเลย 2 กลุ่มครับแยกกันเลยให้
00:18:19 → 00:18:22 กินไฟเบอร์มื้อเช้ามื้อกลางวันอค่ะอีก
00:18:22 → 00:18:25 กลุ่มนึงอ่ะไม่ค่อยกินไฟเบอร์อ่ะเช้าและ
00:18:25 → 00:18:27 กลางวันแล้วไปเกี่ยวอะไรกับมื้อเย็นล่ะ
00:18:27 → 00:18:32 ก่อนนอนน่ะไปดูเรื่องของบาซูก้าสปคคือน้ำ
00:18:32 → 00:18:35 ตาลที่พุ่งหลังมื้ออาหารกลายเป็นว่าหุ้ย
00:18:35 → 00:18:38 คนกินไฟเบอร์เช้ากับกลางวันน่ะไปคุมน้ำ
00:18:38 → 00:18:41 ตาลในเลือดหลังมื้ออาหารน่ะมื้อเย็นน่ะ
00:18:41 → 00:18:45 ได้ดีด้วยค่ะอืมันต้องมีระยะเวลาหมายถึง
00:18:45 → 00:18:47 ว่าเอ่อกินตอน 10:00 นไม่เกินเที่ยนหรือ
00:18:47 → 00:18:51 ว่าแบบอจริงๆแล้วกลวตามปกติเราเนี่ยคือ
00:18:51 → 00:18:55 ตามทฤษฎีที่เราทราบกันคือปกติไฟเบอร์ใย
00:18:55 → 00:18:58 อาหารเนี่ยมันก็ควบคุมน้ำตาลควบคุมไขมัน
00:18:58 → 00:19:02 นะในมื้อนั้นๆอยู่แล้วนึกออกมั้ยครับอแต่
00:19:02 → 00:19:06 อันเนี้ยมันมันไปมีผลต่อเนื่องยาวนานให้
00:19:06 → 00:19:10 ถึงมื้อเย็นอือ่าซึ่งมันสำคัญมากนะเพราะ
00:19:10 → 00:19:11 ว่าไม่งั้นเนี่ยเกิดมื้อเย็นน้ำตาลใน
00:19:11 → 00:19:13 เลือดสูงๆอ่ะมันส่งผลต่อการยับยั้งโกส
00:19:13 → 00:19:17 ฮอร์โมนอ่าใช่ๆๆเห็นมั้ยครับนั้นแล้ว
00:19:17 → 00:19:20 เนี่ยมันก็ส่งผลกระทบถึงบอกว่าเอ้ยเรื่อง
00:19:20 → 00:19:22 ของโครโน
00:19:22 → 00:19:25 นิิการกินตามนาฬิกาชีวิตเนี่ยโอสำคัญ
00:19:25 → 00:19:28 โภชนาการตามช่วงเวลาว่าเฮ้ยเช้าเนี่ย
00:19:28 → 00:19:31 เราควรจะได้รับโปรตีนนะได้รับไฟเบอร์นะ
00:19:31 → 00:19:34 อืออ่ากลางวันอย่างเงี้ยเราควรจะแบบเฮ้ย
00:19:34 → 00:19:39 กินอาหารที่มันแบบพลังงานให้พลังงานนะ
00:19:39 → 00:19:41 เพื่อชดเชยว่าเฮ้ยเราทำงานมาครึ่งวันแล้ว
00:19:41 → 00:19:44 ก็พร้อมที่จะลุยนะมีความตื่นตัวมีความ
00:19:44 → 00:19:47 กระฉับกระเฉงอือนะครับอ่ามื้อเย็นอย่าง
00:19:47 → 00:19:49 เงี้ยเราไม่ควรกินน้ำตาลเยอะแล้วควบคุม
00:19:49 → 00:19:52 น้ำตาลในเลือดอย่างเงี้ยพวกแป้งเปิ้งทั้ง
00:19:52 → 00:19:56 หลายแหล่เพราะน้ำตาลแป้งมันจะไปยับยั้ง
00:19:56 → 00:20:02 โกสฮอร์โมนอืที่ช่วงเราจะหลั่งกลางคืน
00:20:02 → 00:20:05 ยิ่งกลางคืนไม่ควรกินอะไรอย่างที่อาจารย์
00:20:05 → 00:20:08 บอกค่ะหลัง 18:00 นหลังพลาสติตกดินเราไม่
00:20:08 → 00:20:12 ควรกินอะไรแล้วนะนอกจากน้ำเปล่าคือไม่
00:20:12 → 00:20:15 ต้องถึงขนาดว่าอย่างแบบเออ 7:00 นถึง
00:20:15 → 00:20:17 99:00 นเป็นเวลาของกระเพาะอาหารก็กิน
00:20:17 → 00:20:20 อาหารเช้ากัน 99:00 นถึง 11:00 นเป็นเวลา
00:20:20 → 00:20:22 ของม้ามกับตับอ่อนอ่าเข้าใจอันนั้นตาม
00:20:22 → 00:20:26 ทฤษฎีอันนั้นน่ะแพทย์แผนจีนอ้าเหรออ่า
00:20:26 → 00:20:30 ซึ่งถามว่าาสอดพร้องกับนี่แหละอืเอ่อตาม
00:20:30 → 00:20:34 หลักวิชาการสะเอ่อสากลก็คือเป็นแพทย์แผน
00:20:34 → 00:20:37 ตะวันตกค่ะอ่าซึ่งถามว่ามันสอดคล้องกัน
00:20:37 → 00:20:39 มั้ยจริงๆแล้วมันก็สอดคล้องกันนี่แหละ
00:20:39 → 00:20:41 เรื่องของตับเรื่องของม้ามถูกต้องเพราะ
00:20:41 → 00:20:44 ว่าใครจะไปกินเย็นถ้าเกิดว่ากินแป้งมาก
00:20:44 → 00:20:48 เฮ้ยตับทำงานหนักนะน้ำตาลเยอะตับทำนักงาน
00:20:48 → 00:20:52 หนักแถมไขมันยังไปพอกตับอีกอือ่าแล้วแล้ว
00:20:52 → 00:20:54 มันก็เกี่ยวข้องกับกลไกไม่ว่าจะเป็นการ
00:20:54 → 00:20:57 แพทย์แผนจีนเนาะหรือการแพทย์แผนตะวันออกอ
00:20:57 → 00:21:00 นะอ่าการแพทย์ทางเลือกทั้งหลายแหลทุกซิตี
00:21:00 → 00:21:04 อมันแบบเฮ้ยสอดคล้องค่ะนะสอดคล้องกันหมด
00:21:04 → 00:21:07 เลยนะครับว่าเฮ้ยมนุษย์เราเนี่ยมันมี
00:21:07 → 00:21:11 นาฬิกาชีวิตนะแต่เราอ่ะจะกินตามนาฬิกา
00:21:11 → 00:21:14 ชีวิตหรือเปล่านะครับอ่าโดยเฉพาะในมื้อ
00:21:14 → 00:21:16 เย็นอย่างเงี้ยเราต้องเรียกเกลี่ยงน้ำตาล
00:21:16 → 00:21:19 สูงพวกแป้งทั้งหลายแหล่นะครับแต่ถ้าเกิด
00:21:19 → 00:21:19 ว่า
00:21:20 → 00:21:23 เอ้ยถ้าเราจะกินเนี่ยนะพวกเนี้ยเราควรจะ
00:21:23 → 00:21:26 ไปกินเป็นมื้อกลางวันอือ่าเพราะร่างกาย
00:21:26 → 00:21:29 ยังมีกิจกรรมทางกายค่ะนะยังมีกระบวนการ
00:21:29 → 00:21:31 ที่ร่างกายต้องใช้พลังงานแบบว่าเยอะนะถ้า
00:21:31 → 00:21:34 เกิดว่ากินมื้อค่ำมื้อเย็นต่างๆเนี่ย
00:21:34 → 00:21:38 อันเนี้ยก็จะส่งผลและงั้นแล้วอาจารย์ฝาก
00:21:38 → 00:21:44 คุณผู้ฟังว่าเอ้ยคนที่ทำ If เนี่ยเนาะคือ
00:21:44 → 00:21:49 ควรจะกินเป็นตามนาฬิกาชีวิตด้วยนะครับก็
00:21:49 → 00:21:50 คือ
00:21:50 → 00:21:54 เคียนึมนะหรือเคเดน If คือ intermittent
00:21:54 → 00:21:57 fasting ที่ตามนาฬิกาชีวิตไม่ใช่ว่าเฮ้ย
00:21:57 → 00:21:59 ฉัน If
00:21:59 → 00:22:01 คือฉันกินมื้อสุดท้ายอ่ะตอน 22:00 นอ่ะ
00:22:01 → 00:22:04 อาจารย์เพมื้อมันก็ตรงส่งผลกระทบว่าเช้า
00:22:04 → 00:22:07 จะกินได้ไงเพราะว่าเวลามันยังไม่ถึง 16
00:22:07 → 00:22:10 ชมก็ต้องไปกินนู่น 14:00 นอย่างเงี้ยค่ะ
00:22:10 → 00:22:17 อ่าซึ่งกับคนที่เขากินเหมือนกันนะ 1700 น
00:22:17 → 00:22:19 เขากินนะเช้าเขาก็ได้กินอาหารเช้าแล้ว
00:22:19 → 00:22:22 9:00 นเขาก็กินได้และค่ะอ่างั้นแล้ว
00:22:22 → 00:22:25 เนี่ยผลลัพธ์เนี่ยมันต่างกันโดยสิ้นต่าง
00:22:25 → 00:22:28 กันเยอะนะน้ำหนักคุณอาจจะมองถ้าคุณโฟกัส
00:22:28 → 00:22:31 แค่น้ำหนักบนตาช่างอาจจะใช่แต่มันมีงาน
00:22:31 → 00:22:33 วิจัยลงลึกถึงเรื่องของกระบวนการเผาผลาญ
00:22:33 → 00:22:36 และระดับน้ำตาลในเลือดเพบว่าคนที่ทำ If
00:22:37 → 00:22:42 ตามนาฬิกาชีวิตนะระบบร่างกายจะดีกว่าน้ำ
00:22:42 → 00:22:44 หนักตัวอาจจะลดลงไม่ต่างกับคนที่ทำสวนทาง
00:22:45 → 00:22:48 นาฬิกาชีวิตไที่สวนทางนาฬิกาชีวิตจะมีการ
00:22:48 → 00:22:52 เผาผลาญไขมันลดลงถึง 20% อืน้ำตาลในเลือด
00:22:52 → 00:22:56 เพิ่มขึ้นถึง 10% โออ่าเพราะมันกินดึกไง
00:22:56 → 00:22:59 นึกออกมั้ึกแล้วเราไม่ได้ใช้อะไรอ่ะแล้ว
00:22:59 → 00:23:01 บางคนกินเสร็จแล้วปุ๊บไม่กี่ชั่วโมงนอน
00:23:01 → 00:23:05 เลยนะผึ่งพุงแล้วหลับเลยกกนคอคอๆไขมันก็
00:23:05 → 00:23:09 ไปพอกตับค่ะอ่าแล้วก็เราก็ต้องกลับมากิน
00:23:09 → 00:23:14 ตามนาฬิกาชีวิตและใช้ชีวิตตามนาฬิกาชีวิต
00:23:14 → 00:23:17 น่ามันไม่ใช่แค่เรื่องกินอย่างเดียวเนาะ
00:23:17 → 00:23:20 อ่าเรื่องของการแบบออกกำลังเรื่องของอะไร
00:23:20 → 00:23:22 อย่างเงี้ยต่างๆอยู่ด้วยเพราะบางคนออก
00:23:22 → 00:23:25 กำลังกายดึกเกินอืนอนไม่หลับอีกใช่ๆๆเอ
00:23:25 → 00:23:27 อย่างเงี้ยนึกออกมั้ยครับมันมันก็ต้องใช้
00:23:27 → 00:23:30 ให้มันไม่สวนทางนาฬิกาชีวิตเวลานอนก็นอน
00:23:30 → 00:23:34 ก็คือนอนก็คือนอนไม่ใช่แบบโอหยังทำงาน
00:23:34 → 00:23:37 อยู่ 23 นเง 1:00 นอย่างเงี้ยแล้วทุก
00:23:37 → 00:23:40 อย่างมันก็จะรวนหมดถ้านาฬิกาชีวิตคุณพัง
00:23:40 → 00:23:43 สุขภาพร่างกายคุณก็พังลงไปด้วยอืก็เหมือน
00:23:43 → 00:23:46 กับว่านาฬิกาชีวิตของแต่ละคนก็อาจจะมีคือ
00:23:46 → 00:23:48 จริงๆนาฬิกาชีวิตทุกคนน่ะมันรูปแบบเดียว
00:23:48 → 00:23:50 กันแหละแต่ว่าแค่ไลฟ์สไตล์ในการใช้ชีวิต
00:23:50 → 00:23:53 เนี่ยมันอาจจะต่างกันอะไรอย่างงี้แต่ให้
00:23:53 → 00:23:55 ยึดหลักไว้เราไม่ต้องถึงขนาดแบบย่อยเป็น
00:23:55 → 00:23:59 รายชั่วโมงขนาดนั้นก็ได้เป็นหลักนะคะโอห
00:23:59 → 00:24:02 แบบช่วงเวลานี้ดื่มน้ำช่วงเวลานี้แบบกิน
00:24:02 → 00:24:05 อันนี้หรืออะไรโอ้โหชีวิตอย่าไปใช้ให้มัน
00:24:05 → 00:24:09 ยากขนาดนั้นค่ะถูกต้องก็ตามหลัก 3 มื้อ
00:24:09 → 00:24:12 พยายามให้ครบ 5 หมู่ให้ได้มากที่สุดนะคะ
00:24:12 → 00:24:14 หลักการง่ายๆที่เราเรียนมาตั้งแต่เด็กแต่
00:24:14 → 00:24:19 ทำยากมากในตอนโตเราค่อยๆปรับไปนะคือค่อยๆ
00:24:19 → 00:24:21 ปรับไปยังไม่ต้องแบบว่าโอ้โหรีบเร่งรีบ
00:24:21 → 00:24:24 ร้อนแบบว่าเฮ้ยฉันต้องแบบไอ้นี่ทันทีเลย
00:24:24 → 00:24:27 นะอะไรอย่างเงี้ยแบบให้ได้แบบทันทีเลย
00:24:27 → 00:24:30 อย่างเงี้ยเคยเคยนอนอย่างเงี้ยเที่ยง 1:00
00:24:30 → 00:24:34 อยู่ๆอ่ะเราจะมาหักดิบนอน 21:00 นโอ้โห
00:24:34 → 00:24:38 ยากมากใช่เราค่อยๆกระเถิบมาค่อยๆปรับมา
00:24:38 → 00:24:41 ว่าเฮ้ยเคยนอนเที่งค 1 เสัก 23:30 นสัก
00:24:41 → 00:24:44 อาทิตย์นึงค่อยๆปรับมาสัก 23:00 นอืเมื่อ
00:24:44 → 00:24:48 ก่อนอาจารย์โอทำงานดึกช่วงจบมาใหม่ๆพอทุก
00:24:48 → 00:24:50 วันนี้นะ
00:24:50 → 00:24:53 เฮ้ย 22:00 นหัวถึงหมอนแล้วเพราะเรารู้
00:24:53 → 00:24:58 ยิ่งอายุมากขึ้นน่ะการนอนชาร์จแบตชาร์จ
00:24:58 → 00:25:02 พลังฟื้นฟูเซลล์ฟื้นฟูธาตุขันของเรานะให้
00:25:02 → 00:25:05 ทรงพลังได้เหมือนเดิมให้มากที่สุดอย่าสัก
00:25:05 → 00:25:09 แต่กินดีอย่าสักแต่ออกกำลังกายแล้วแบบเ้า
00:25:09 → 00:25:12 นอนคุณนอนไม่ดีคุณปล่อยปัแล้วเลยไม่เสีย
00:25:12 → 00:25:15 ตังค์เลยสักบาทคุณลีคิดดูการนอนที่ดีอ่ะอ
00:25:15 → 00:25:17 จริอ่าเพราะฉะนั้นแล้วใช้ชีวิตตามนาฬิกา
00:25:17 → 00:25:22 ชีวิตนะแล้วชีวิตคุณจะแฮปปี้นะชีวีก็จะ
00:25:22 → 00:25:26 ยืนยาวและมีสุขครับอ่านะถ้าอยากมีสุขก็
00:25:26 → 00:25:28 ต้องเนี่ยตามที่อาจารย์บอกเลยขอบคุณค่ะ
00:25:28 → 00:25:31 อาจารย์เอกราชขาสวัสดีค่ะครับผมหมดเวลา
00:25:31 → 00:25:33 แล้วค่ะคุณผู้ฟังพบกันใหม่ครั้งหน้านะคะ
00:25:33 → 00:25:36 วันนี้ลาไปก่อนค่ะสวัสดีค่ะ This Is Toy
00:25:36 → 00:25:39 PBS podcast คนที่ทำงานหรือเข้ากะงาน
00:25:39 → 00:25:42 ตอนกลางคืนส่งผลต่อคุณภาพการนอนอย่างไร
00:25:42 → 00:25:45 และมีผลทำให้เกิดโรคอะไรได้บ้างแพทย์หญิง
00:25:45 → 00:25:48 ชีวารัตน์ปราสานจากโรงพยาบาลนพรัตน์
00:25:48 → 00:25:52 ราชธานีมาเล่าให้ฟังครับในร่างกายของเรา
00:25:52 → 00:25:55 เนี่ยจะมีเรียกว่าเคเดนึมอยู่หรือว่า
00:25:55 → 00:25:58 นาฬิกาชีวิตเนี่ยตอนเช้าเช้าเนี่ยร่างกาย
00:25:58 → 00:26:02 เราจะหลั่งฮอร์โมนออกมาให้มีการตื่นตัวอื
00:26:02 → 00:26:06 ทำงานแคทีนะคะแต่ตอนกลางคืนพอพระอาทิตย์
00:26:06 → 00:26:08 ตกดินเนี่ยร่างกายเราก็จะมีการหลั่ง
00:26:08 → 00:26:12 ฮอร์โมนโกรสฮอร์โมนฮอร์โมนการหลับการง่วง
00:26:12 → 00:26:15 นอนนะคะให้เราพักผ่อนแล้วก็มีการซ่อมแซม
00:26:15 → 00:26:18 ส่วนที่สึกหลอของร่างกายถ้าสมมุติต้องทำ
00:26:18 → 00:26:22 งานกะกลางคืนแล้วเราไม่ได้นอนพักผ่อน
00:26:22 → 00:26:25 เพียงพอเนี่ยจะทำให้ฮอร์โมนโกรทฮอร์โมน
00:26:25 → 00:26:28 หรือว่าฮอร์โมนในร่างกายต่างๆของเราเนี่ย
00:26:28 → 00:26:32 มันหลั่งออกมาน้อยหรือเยอะกว่าปกตินะคะ
00:26:32 → 00:26:36 รวมถึงพฤติกรรมต่างๆเวลาที่เราทำงานตอน
00:26:36 → 00:26:39 กลางคืนทำงานเสร็จอ่อนเพลียก็มีการกิน
00:26:39 → 00:26:43 อาหารก็ทำให้น้ำตาลในร่างกายมันสูงขึ้นอื
00:26:43 → 00:26:46 ในช่วงเวลาที่ไม่ควรจะสูงเพราะว่าในช่วง
00:26:46 → 00:26:49 พักผ่อนเนี่ยเราไม่ควรที่จะทานอะไรเยอะ
00:26:49 → 00:26:52 และพวกแป้งพวกน้ำตาลควรจะลดเพื่อให้ร่าง
00:26:52 → 00:26:55 กายได้พักผ่อนและแต่นี้พอเราทำงานเสร็จ
00:26:55 → 00:26:57 แล้วเราไปทานเนี่ยมันจะทำให้ระดับน้ำน้ำ
00:26:57 → 00:27:00 ตาลในร่างกายสูงแลถ้าเป็นอย่างเงี้ยระยะ
00:27:00 → 00:27:03 เวลานานเข้าก็จะทำให้เกิดโรคเบาหวานโรค
00:27:03 → 00:27:06 ความดันโลหิตสูงตามขึ้นมาได้หรือโรคไขมัน
00:27:06 → 00:27:09 ในือดสูงขึ้นมาได้เวลาเรานอนจะมีวงจรการ
00:27:09 → 00:27:13 นอนอยู่นะคะมันก็จะแบ่งเป็นการหลับมันจะ
00:27:13 → 00:27:16 มีหลายระยะเริ่มแรกก็คือเราเริ่มเคลิ้มๆ
00:27:16 → 00:27:20 ก่อนเริ่มง่วงค่ะนะคะต่อมาเราก็จะเริ่ม
00:27:20 → 00:27:23 เริ่มหลับะอ่าอ่าหลับตื้นๆตอนเนี้ยหัวใจ
00:27:23 → 00:27:27 เต้นช้าลงอุณหภูมิร่างกายลดลงค่ะอันเริ่ม
00:27:27 → 00:27:31 หลับะประมาณระยะเนี้ยจะประมาณ
00:27:31 → 00:27:35 50% แล้วก็ต่อมาเราจะเริ่มหลับลึกค่ะนะ
00:27:35 → 00:27:37 คะหลับลึกเนี่ยคือร่างกายได้พักและร่าง
00:27:37 → 00:27:40 กายมีการหลังกรดฮอร์โมนมีการซ่อมแซมส่วน
00:27:40 → 00:27:44 ที่สึกหล่อของร่างกายอือค่ะแล้วก็สุดท้าย
00:27:44 → 00:27:48 เลยก็คือร่างกายเราจะเริ่มมีการฝันอ่าอ่า
00:27:48 → 00:27:51 อันนี้เป็นระยะฝันละค่ะค่ะอันนี้ก็ร่าง
00:27:51 → 00:27:53 กายเราจะทำงานคล้ายกับตอนตื่นแต่ก็ยัง
00:27:53 → 00:27:58 หลับอยู่นะค่ะอันยฝันใช่ฝันจะมีการทบทวน
00:27:58 → 00:28:01 เรื่องของความจำความทรงจำต่างๆในระยะนี้
00:28:01 → 00:28:04 ค่ะ
00:28:04 → 00:28:09 ค่ะ This Is Toy PBS
00:28:09 → 00:28:13 podcast ติดตามรายการทางเว็บไซต์และแปลช
00:28:13 → 00:28:16 ของ Thai PBS podcast spotify South
00:28:16 → 00:28:19 Cloud Google podcast Apple podcast
00:28:19 → 00:28:22 และ YouTube Channel Thai PBS podcast
00:28:22 → 00:28:26 tha PBS podcast View the world
00:28:26 → 00:28:27 via The Voice
00:28:27 → 00:28:37 [เพลง]
00:28:37 → 00:28:40 แ