00:00:00 → 00:00:02 The Standard ร่วมกับกรุงไทยแอกซ่า
00:00:02 → 00:00:05 ประกันชีวิตจัดงานสเต็ปไลฟ์มาราธอนงาน
00:00:05 → 00:00:08 วิ่งมาราธอนที่ให้แรงบันดาลใจและเป็นกัน
00:00:08 → 00:00:11 เองวันอาทิตย์ที่ 6 พฤศจิกายนนี้ที่
00:00:11 → 00:00:14 จังหวัดอุทัยธานีกับรู้วิ่ง 3 ระยะ 12
00:00:14 → 00:00:17 กิโลเมตรท้าทายระดับ beginner 21
00:00:17 → 00:00:21 กิโลเมตร up Spec ความท้าทายสู่ฮาล์ฟ
00:00:21 → 00:00:22 มาราธอนและ
00:00:22 → 00:00:26 42.195 กิโลเมตรโอมาราธอนที่เก็บครบทุก
00:00:26 → 00:00:29 ไฮไลท์ของตัวเมืองอุทัยธานี
00:00:29 → 00:00:33 เปิดรับสมัครแล้ววันนี้ที่ Red ดอกไทย
00:00:33 → 00:00:36 The Standard member รับส่วนลดพิเศษ
00:00:36 → 00:00:40 25% แล้วมาเจอกันที่งาน Step Life
00:00:40 → 00:00:44 มาราธอน
00:00:44 → 00:00:47 ในโลกที่มีทั้งปิ้งย่างชาบูบุฟเฟ่ต์ทั้ง
00:00:47 → 00:00:51 หลายนะครับ 1 ในไทยอันตรายต่อเรามากก็คือ
00:00:51 → 00:00:54 ไขมันครับเวลาที่เราไปตรวจสุขภาพด้วยครับ
00:00:54 → 00:00:57 บางคนอยากจะโกงผลตรวจสุขภาพโดยการที่หยุด
00:00:57 → 00:01:00 กินบุฟเฟ่ต์ไม่ว่าจะเป็นปิ้งย่างชาบูสัก
00:01:00 → 00:01:02 วันสองวันนะครับเพื่อหวังว่าไปตรวจแล้ว
00:01:02 → 00:01:05 ค่าคอเลสเตอรอลค่าไขมันต่างๆในเลือดเนี่ย
00:01:05 → 00:01:08 มันจะไม่เยอะแล้วก็จะไม่โดนคุณหมอว่าเอา
00:01:08 → 00:01:12 นะครับแล้วไขมันเนี่ยจริงๆแล้วเนี่ยมันดี
00:01:12 → 00:01:14 หรือว่ามันไม่ดีมันอันตรายต่อสุขภาพยังไง
00:01:14 → 00:01:17 บ้างวันนี้นะครับผมฆ่าต้นสมบูรณ์แล้วก็
00:01:17 → 00:01:20 Top to โทรจะพาทุกคนย้อนวัยกลับไปสมัย
00:01:20 → 00:01:23 มัธยมเลยครับเรามาทำความรู้จักกับไขมัน
00:01:23 → 00:01:26 ใหม่ตั้งแต่พื้นฐานเลยว่าไขมันมันมีกี่
00:01:26 → 00:01:29 ประเภทถ้าเรากินเยอะเกินไปแล้วมันจะไป
00:01:29 → 00:01:32 สะสมในร่างกายยังไงแล้วมันอันตรายต่อร่าง
00:01:32 → 00:01:35 กายแล้วก็ส่งผลเสียต่อสุขภาพของเรายังไง
00:01:35 → 00:01:37 บ้างจะได้ใช้ชีวิตอย่างปลอดภัยมากขึ้น
00:01:37 → 00:01:39 ครับ
00:01:39 → 00:01:43 สุขภาพที่ใช้วิทยาศาสตร์ไขปัญหาตั้งแต่
00:01:43 → 00:01:46 หัวจดเท้า
00:01:46 → 00:01:50 เวลาเราพูดถึงไขมันนะครับในยุคสมัยนี้
00:01:50 → 00:01:53 เนี่ยค่อนข้างจะเป็นคำที่ดู Negative
00:01:53 → 00:01:56 แล้วก็เป็นลบมากๆเลยว่าแต่ละคนก็รู้ว่าไข
00:01:57 → 00:01:59 มันหรือว่ามันอร่อยแต่กินเข้าไปแล้วเนี่ย
00:01:59 → 00:02:02 รู้สึกว่ามันทำลายสุขภาพนะครับซึ่งทั้งๆ
00:02:02 → 00:02:05 ที่จริงแล้วตอนที่เราเป็นเด็กๆเนี่ยเรา
00:02:05 → 00:02:07 มักจะได้ยินว่าต้องกินอาหารให้ครบ 5 หมู่
00:02:07 → 00:02:10 และหนึ่งในนั้นมีหมู่ที่เป็นไขมันด้วย
00:02:10 → 00:02:13 นั่นก็แสดงว่าจริงๆแล้วไขมันเนี่ยมันไม่
00:02:13 → 00:02:16 น่าจะส่งผลร้ายต่อร่างกายอย่างเดียวนะแต่
00:02:16 → 00:02:18 ว่าร่างกายของเราต้องการไขมันด้วยครับ
00:02:18 → 00:02:21 ซึ่งถูกต้องอย่างนั้นเลยครับไขมันนะครับ
00:02:21 → 00:02:23 จริงๆแล้วเป็นแหล่งพลังงานที่สำคัญของ
00:02:23 → 00:02:27 ร่างกายมากๆนะครับและก็ยังเป็นส่วนประกอบ
00:02:27 → 00:02:31 ที่สำคัญของทุกๆอวัยวะทุกๆเนื้อเยื่อของ
00:02:31 → 00:02:34 ร่างกายเลยรวมไปถึงเป็นสารตั้งต้นในการ
00:02:34 → 00:02:37 ผลิตสารสำคัญต่างๆในร่างกายไม่ว่าจะเป็น
00:02:37 → 00:02:41 ฮอร์โมนหรือว่าสารเคมีต่างๆที่ทำให้ร่าง
00:02:41 → 00:02:44 กายของเรานะครับมีภาวะสมดุลและก็ทำงานได้
00:02:44 → 00:02:48 อย่างปกติครับเพราะฉะนั้นเราควรจะกินไข
00:02:48 → 00:02:52 มันแต่ไม่ใช่ไขมันทุกชนิดเป็นไขมันที่ดี
00:02:52 → 00:02:55 นะครับมันก็มีไขมันตัวร้ายเหมือนกันที่
00:02:55 → 00:02:58 สามารถจะส่งผลเสียต่อร่างกายของเราได้
00:02:58 → 00:03:00 เพราะฉะนั้นวันนี้เราจะก็มาทำความรู้จัก
00:03:00 → 00:03:04 ไขมันทุกประเภทเลยครับที่เรามักจะกินเข้า
00:03:04 → 00:03:07 ไปนำเข้าไปสู่ร่างกายของเราครับผมขอ
00:03:07 → 00:03:12 อนุญาตย้อนไปทางชีวะแล้วก็เคมีนิดนึงนะ
00:03:12 → 00:03:14 ครับตอนที่เราเรียนสมัยมัธยมนะครับผมอยาก
00:03:14 → 00:03:18 ให้ทุกคนจินตนาการถึงคลิปดำครับคลิปที่
00:03:18 → 00:03:22 ติดผมเนี่ยมันจะเป็นคล้ายๆกับกระเปาะแล้ว
00:03:22 → 00:03:26 ก็มีขายยื่นออกมา 2 ขาใช่ไหมครับคือเวลา
00:03:26 → 00:03:29 เราพูดถึงไขมันนะครับโครงสร้างของไขมัน
00:03:29 → 00:03:31 เนี่ยจินตนาการง่ายๆเหมือนกิ๊บดำเลยครับ
00:03:31 → 00:03:34 จะมีส่วนที่เป็นกระเปาะนะครับเป็นแท่งๆ
00:03:34 → 00:03:38 อย่างนี้แล้วก็มีส่วนที่เป็นขายื่นออกไป 3
00:03:38 → 00:03:40 ขานะครับอาจจะเป็น gif 3 ขาแล้วกันนะ
00:03:40 → 00:03:42 ครับส่วนที่เป็นกระเป๋ามันเรียกว่าส่วน
00:03:42 → 00:03:45 ที่เป็นกลีเซอรัลนะครับแต่ส่วนที่เป็นขา
00:03:45 → 00:03:49 เนี่ยมันคือส่วนของกรดไขมันที่เป็นยาวๆ
00:03:49 → 00:03:52 เป็นคาร์บอนต่อไปเรื่อยๆต่อไปเรื่อยๆนะ
00:03:52 → 00:03:55 ครับยาวไปยาวไปแบบนี้นะครับทีนี้ด้วยความ
00:03:55 → 00:03:58 ที่ไขมันทุกชนิดเนี่ยโครงสร้างจะคล้ายๆ
00:03:58 → 00:04:01 กันหน้าตาแบบเหมือนกิ๊บนะครับเราก็จะ
00:04:01 → 00:04:05 สามารถแบ่งไขมันออกได้เป็นกลุ่มๆตามรูป
00:04:05 → 00:04:08 ร่างหน้าตาของไอ้เจ้ากิ๊บดำนี่แหละครับ
00:04:08 → 00:04:12 ตัวแรกนะครับเราเรียกมันว่าไขมันอิ่มตัว
00:04:12 → 00:04:17 หรือว่า saturated ไขมันอิ่มตัวคืออะไรไข
00:04:17 → 00:04:21 มันอิ่มตัวนะครับคือไขมันที่เจ้ากิ๊บดำขา
00:04:21 → 00:04:23 ของกิ๊บดำเนี่ยไม่มีการงอเกิดขึ้นเลยครับ
00:04:23 → 00:04:27 เป็นขาที่มันตรงเรียวยาวเนื่องมาจากไอ้
00:04:27 → 00:04:29 เจ้าคาร์บอนอะตอมหรือว่าตรงส่วนขาเนี่ยนะ
00:04:29 → 00:04:30 ครับมัน
00:04:30 → 00:04:34 จับมือกันด้วยแขนอันเดียวหรือว่าพันธะ
00:04:34 → 00:04:36 เดี่ยวไปเรื่อยๆนะครับสุดท้ายมันก็เลยได้
00:04:36 → 00:04:39 ไขมันที่หน้าตาเหมือนกิ๊บดำที่ขาของมัน
00:04:39 → 00:04:41 ไม่มีการงอนั่นหมายความว่าถ้าเราเอาเจ้า
00:04:41 → 00:04:45 กิ๊บดำเนี่ยครับมาเรียงซ้อนต่อกันให้แน่น
00:04:45 → 00:04:47 ๆเนี่ยครับมันก็จะซ้อนแล้วก็แพ็คกันได้
00:04:47 → 00:04:51 แน่นเลยถูกไหมครับก็เปรียบเหมือนกับว่าไข
00:04:51 → 00:04:53 มันอิ่มตัวเนี่ยนะครับถ้าอยู่ในอุณหภูมิ
00:04:53 → 00:04:56 ห้องเนี่ยมันมักจะเป็นของแข็งครับก็คือ
00:04:56 → 00:05:00 แพ็คกันแน่นจินตนาการไปถึงพวกมันหมูไขมัน
00:05:00 → 00:05:04 จากสัตว์พวกนั้นแหละคือไขมันอิ่มตัวครับ
00:05:04 → 00:05:08 ทีนี้มีไขมันอิ่มตัวแล้วมีไขมันอีกกลุ่ม
00:05:08 → 00:05:11 หนึ่งครับก็หลายๆคนอาจจะเดาได้เรียกว่าไข
00:05:11 → 00:05:16 มันไม่อิ่มตัวหรือว่าอันแซ่บนะครับ
00:05:16 → 00:05:19 สามารถจินตนาการได้ง่ายๆมันคือเจ้า Gift
00:05:19 → 00:05:22 ดำที่ขาของมันเนี่ยนะครับเกิดการงอขึ้น
00:05:22 → 00:05:27 ครับขาเนี่ยอาจจะงอ 1 ขางอทั้ง 2 ขาหรือ
00:05:27 → 00:05:30 จะงอทั้ง 3 ขาเลยก็ได้นะครับเหตุผลที่มัน
00:05:30 → 00:05:33 งอเพราะอะไรเพราะว่าตัวคาร์บอนอะตอมที่
00:05:33 → 00:05:36 อยู่ตรงขาด้วยนะครับมันจับกันด้วยพันธะ
00:05:36 → 00:05:40 คู่ฟังดูอาจจะเริ่มยากนะครับไม่เป็นไรเอา
00:05:40 → 00:05:43 เป็นว่าขามันจะงอแล้วกันพอเจ้ากิ๊บดำขา
00:05:43 → 00:05:45 มันงอเนี่ยครับแล้วเอามาเรียงต่อๆกัน
00:05:45 → 00:05:48 เนี่ยมันไม่สามารถที่จะแพ็คกันได้แน่น
00:05:48 → 00:05:51 เหมือนกับไขมันอิ่มตัวเพราะว่าขาตรงกิ๊บ
00:05:51 → 00:05:53 มันตรงถูกไหมครับเพราะฉะนั้นมันก็จะอยู่
00:05:53 → 00:05:56 กันอย่างหลวมๆครับไขมันไม่อิ่มตัวที่เรา
00:05:56 → 00:05:59 มักจะคุ้นเคยมันก็เลยมักจะมาในรูปของของ
00:06:00 → 00:06:04 เหลวก็คือพวกน้ำมันต่างๆนั่นเองครับไขมัน
00:06:04 → 00:06:08 ไม่อิ่มตัวก็ยังสามารถที่จะแบ่งออกเป็น
00:06:08 → 00:06:11 กลุ่มย่อยๆได้อีก 2 กลุ่มนะครับคำอาจจะ
00:06:11 → 00:06:14 เริ่มยากขึ้นนิดนึงคือไขมันไม่อิ่มตัว
00:06:14 → 00:06:18 เชิงเดี่ยวกับเชิงซ้อนครับสิ่งที่ต่างกัน
00:06:18 → 00:06:20 ของเชิงเดี่ยวกับเชิงซ้อนเนี่ยมันคือ
00:06:20 → 00:06:24 ปริมาณพันธะคู่ที่คาร์บอนอะตอมต่อตรงขา
00:06:24 → 00:06:26 กิ๊บดำนี่แหละว่ามันจะงอยังไงนะครับเอา
00:06:27 → 00:06:30 เป็นว่าทั้ง 2 กลุ่มนี้จัดอยู่ในกลุ่มที่
00:06:30 → 00:06:33 เป็นไขมันไม่อิ่มตัวทั้งคู่แล้วกันครับ
00:06:33 → 00:06:37 อาหารที่จะมีไขมันไม่อิ่มตัวนะครับมักจะ
00:06:37 → 00:06:40 เป็นอะไรมักจะเป็นอาหารที่เป็นอาหาร
00:06:40 → 00:06:43 สุขภาพทั้งนั้นเลยครับชนิดของน้ำมันเนี่ย
00:06:43 → 00:06:45 ก็จะเป็นน้ำมันสุขภาพไม่ว่าจะเป็นน้ำมัน
00:06:45 → 00:06:48 มะกอกน้ำมันรำข้าวนะครับน้ำมันดอกทาน
00:06:48 → 00:06:52 ตะวันน้ำมันถั่วเหลืองน้ำมันข้าวโพดน้ำ
00:06:52 → 00:06:55 มันดอกคำฝอยน้ำมันงาต่างๆนะครับน้ำมันที่
00:06:55 → 00:06:58 เป็นกลุ่มไขมันไม่อิ่มตัวแน่ครับมักจะทน
00:06:58 → 00:07:01 ความร้อนได้ต่ำมากกว่าซึ่งก็มักจะเหมาะ
00:07:01 → 00:07:05 กับการนำมาผัดมากกว่าการนำไปทอดนะครับแตก
00:07:05 → 00:07:07 ต่างจากน้ำมันที่เป็นกลุ่มน้ำมันที่เป็น
00:07:07 → 00:07:10 ไขมันอิ่มตัวไม่ว่าจำเป็นน้ำมันปลาหรือไง
00:07:10 → 00:07:13 ครับที่อาจจะเหมาะกับการนำไปทอด Deep
00:07:13 → 00:07:15 file เลยเพราะว่ามันสามารถที่จะทนความ
00:07:15 → 00:07:18 ร้อนได้ดีกว่านั่นเองครับนอกจากนี้ไขมัน
00:07:18 → 00:07:21 ไม่อิ่มตัวยังมีอะไรครับอาหารสุขภาพต่างๆ
00:07:21 → 00:07:24 ครับไม่ว่าจะเป็นปลาทะเลนะครับ
00:07:24 → 00:07:28 แซลมอนทูน่าครับที่มีกรดไขมันไม่อิ่มตัว
00:07:28 → 00:07:31 หรือว่าพวกโอเมก้าต่างๆนะครับรวมไปถึง
00:07:31 → 00:07:34 อะโวคาโดนะครับแล้วก็พวกถั่วธัญพืชต่างๆ
00:07:34 → 00:07:37 พวกนี้มักจะมีกรดไขมันไม่อิ่มตัวอยู่ใน
00:07:37 → 00:07:40 นั้นครับนอกจากนี้หลายคนอาจจะเคยคุ้นๆกับ
00:07:40 → 00:07:44 คำว่าโอเมก้าเคยได้ยินโอเมก้าเนอะโอเมก้า
00:07:44 → 00:07:46 เป็นสิ่งที่ดีนะโอเมก้า 3 โอเมก้า 6
00:07:46 → 00:07:49 โอเมก้า 9 นะครับผมเล่าให้ฟังนิดนึงแล้ว
00:07:49 → 00:07:51 กันเป็นเกร็ดว่าเอ๊ะเจ้าโอเมก้ามันคือ
00:07:51 → 00:07:54 อะไรย้อนกลับไปที่เจ้าคลิปดำครับคลิปดำ
00:07:54 → 00:07:57 มันมีขาใช่ไหมจริงๆเราเรียกขาฝั่งฝั่ง
00:07:57 → 00:08:00 ปลายของกิ๊บเนี่ยครับฝั่งเราเรียกมันว่า
00:08:00 → 00:08:04 ฝั่งโอเมก้าครับทีนี้โอเมก้า 3 6 9 มัน
00:08:04 → 00:08:08 คืออะไรมันคือการนับย้อนกลับมาครับว่าไอ้
00:08:08 → 00:08:09 เจ้าพันธะคู่เนี่ยมันอยู่ที่ตำแหน่ง
00:08:09 → 00:08:12 คาร์บอนตำแหน่งที่เท่าไหร่ถ้านับย้อนกลับ
00:08:12 → 00:08:16 มา 1 2 3 แล้วเจอพันธะคู่อันนั้นน่ะเรา
00:08:16 → 00:08:19 เรียกมันว่าโอเมก้า 3 ถ้าต้องนับกลับไป
00:08:19 → 00:08:23 อีก 6 ตัวเราเรียกว่า omen ก็ 6 แล้วก็ Oh
00:08:23 → 00:08:25 my god 9 นะครับเจ้าโอเมก้า 3 กับเจ้า
00:08:25 → 00:08:28 โอเมก้า 6 เนี่ยคือกดไขมันไม่อิ่มตัวเชิง
00:08:28 → 00:08:31 เดี่ยวส่วนโอเมก้าจะเป็นกรดไขมันไม่อิ่ม
00:08:31 → 00:08:34 ตัวเชิงซ้อนแต่ไม่ว่ายังไงก็ตามนะครับถ้า
00:08:34 → 00:08:36 ขึ้นชื่อว่าเป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัวเนี่ย
00:08:36 → 00:08:40 ก็มักจะดีต่อสุขภาพของเราค่ะอ่ะมาถึงไข
00:08:40 → 00:08:43 มันอีกกลุ่มนึงนะครับกลุ่มที่ 3 เราเรียก
00:08:43 → 00:08:47 มันว่าไขมันทรานส์ครับถ้าใครที่เป็นคนรัก
00:08:47 → 00:08:50 สุขภาพเนี่ยจะเริ่มดูนะครับว่าเฮ้ยเมื่อ
00:08:50 → 00:08:52 ไหร่ได้ยินไขมันทรานส์ใช่ไหมครับเป็นสิ่ง
00:08:52 → 00:08:55 ที่ไม่ดีมากๆเลยอย่างในอเมริกามีการแบร์
00:08:55 → 00:08:58 แล้วนะครับห้ามใช้อะไรก็ตามที่ผลิตด้วยไข
00:08:58 → 00:09:02 มันไขมันทรานส์เกิดจากอะไรมันเกิดจากการ
00:09:02 → 00:09:04 ดัดแปลงไอ้เจ้าไขมันไม่อิ่มตัวที่เป็น
00:09:04 → 00:09:08 กิ๊บที่ขามันงอเนี่ยครับทำให้ขามันเหยียด
00:09:08 → 00:09:10 ตึงมากยิ่งขึ้นครับจากงอๆเนี่ยกลายเป็น
00:09:10 → 00:09:13 ตึงแล้วทำให้มันแพ็คกันแน่นขึ้นกลายเป็น
00:09:13 → 00:09:16 ไขมันอิ่มตัวนั่นเองซึ่งมันเกิดขึ้นได้ก็
00:09:16 → 00:09:18 ต่อเมื่อมีการเติม
00:09:18 → 00:09:22 อะตอมไฮโดรเจนลงไปตรงบริเวณขาของกรดไขมัน
00:09:22 → 00:09:25 นะครับซึ่งการเปลี่ยนกรดไขมันไม่อิ่มตัว
00:09:25 → 00:09:28 กลายเป็นกรดไขมันอิ่มตัวที่เป็นไขมัน
00:09:28 → 00:09:31 ทรานส์ก็จะเจอในอาหารอย่างพวกมาการีนแล้ว
00:09:31 → 00:09:33 ก็เนยขาวนะครับเป็นสิ่งที่ควรจะหลีก
00:09:33 → 00:09:36 เลี่ยงมากๆแล้วก็ใครที่ชอบกินของทอดต้อง
00:09:36 → 00:09:38 ระวังให้ดีครับถ้าเกิดว่าการทำของทอดนั้น
00:09:38 → 00:09:40 เกิดจากการใช้ไขมันหรือว่าน้ำมันที่เป็น
00:09:40 → 00:09:43 น้ำมันทรานส์หรือว่าไขมันทรานส์อันตราย
00:09:43 → 00:09:46 กับร่างกายมากๆนะครับทีนี้กินไขมันทรานส์
00:09:46 → 00:09:48 แล้วมันไม่ดียังไงไขมันทรานส์นะครับกิน
00:09:48 → 00:09:50 เข้าไปเยอะๆเนี่ยมันส่งผลต่อปริมาณ
00:09:50 → 00:09:53 โคเรสเตอรอลในร่างกายของเรานะครับโดย
00:09:53 → 00:09:56 เฉพาะมันจะไปเพิ่มปริมาณคอเลสเตอรอลตัว
00:09:56 → 00:09:59 ไม่ดีครับหรือหลายๆคนอาจจะคุ้นเคยจัดการ
00:09:59 → 00:10:02 ไปตรวจสุขภาพว่ามันชื่อว่า
00:10:02 → 00:10:05 ldl นะครับเท่านั้นยังไม่พอยังจะไปลด
00:10:05 → 00:10:08 ปริมาณคอเลสเตอรอลตัวดีด้วยหรือว่าที่
00:10:08 → 00:10:09 ชื่อว่า
00:10:09 → 00:10:13 hdl นั่นเองแล้วอย่างนี้คอเลสเตอรอลมัน
00:10:13 → 00:10:16 คืออะไรเดี๋ยวเรามาพูดเจาะคอเลสเตอรอลกัน
00:10:16 → 00:10:18 ต่อเลยนะครับ Code Restaurant นะครับ
00:10:18 → 00:10:21 จริงๆแล้วมันเป็นสารกลุ่มประเภท
00:10:21 → 00:10:24 ลายโพโปรตีนหรือว่าเกิดจากการรวมตัวกัน
00:10:24 → 00:10:28 ของไขมันแล้วก็โปรตีนครับโคเลสเตอรอล
00:10:28 → 00:10:31 เนี่ยนะครับมันก็จะแบ่งได้ง่ายๆแล้วกัน
00:10:31 → 00:10:34 เป็น 2 กลุ่มก็คือ ldl กับ hdl นะครับ ldl
00:10:34 → 00:10:38 ย่อมาจาก low dentity lipop โปรตีนนะ
00:10:38 → 00:10:41 ครับ correctural ส่วน hdl ก็คือ high-den
00:10:41 → 00:10:44 City Lip correctural เอ้ยทำไม low
00:10:44 → 00:10:47 มันถึงไม่ดี low density นั่นหมายความ
00:10:47 → 00:10:51 ว่าปริมาณสัดส่วนของไขมันมันเยอะกว่า
00:10:51 → 00:10:53 โปรตีนครับเพราะไขมันเนี่ยมันค่อนข้างหนา
00:10:53 → 00:10:55 แน่นน้อยกว่าโปรตีนมันก็เลยเกิดเป็น
00:10:55 → 00:10:58 โมเลกุลที่มีความหนาแน่นน้อยนั่นเอง ldl
00:10:58 → 00:11:02 ถึงเป็นตัวแย่แต่ hdl ถึงเป็นตัวดีนะครับ
00:11:02 → 00:11:05 hdl เนี่ยครับทำไมเป็นตัว D เพราะว่า hdl
00:11:05 → 00:11:08 เนี่ยสามารถที่จะคอยกำจัดไอ้เจ้า ldl
00:11:08 → 00:11:11 หรือว่าตัวคอเลสเตอรอลตัวร้ายๆส่วนผสมจะ
00:11:11 → 00:11:12 วิ่งเข้าไปตามเส้นเลือดส่วนต่างๆแล้วก็
00:11:12 → 00:11:15 คอยกำจัดคนเข้าตัวร้ายได้นะครับในขณะที่
00:11:15 → 00:11:20 ไอ้เจ้า ldl เนี่ยครับมันจะไปพอกพูนตาม
00:11:20 → 00:11:24 เส้นเลือดครับทำให้ช่องว่างของเส้นเลือด
00:11:24 → 00:11:26 ที่เป็นถนนให้เลือดวิ่งเนี่ยมันตีบลง
00:11:26 → 00:11:29 เรื่อยมันก็จะไหลไม่ดีนะครับซึ่งถ้าเกิด
00:11:29 → 00:11:31 เส้นเลือดส่วนไหนไปเลี้ยงอวัยวะที่สำคัญๆ
00:11:31 → 00:11:35 ยกตัวอย่างเช่นหัวใจหรือว่าสมองเนี่ยนะ
00:11:35 → 00:11:38 ครับมันก็จะอาจเป็นโรคหัวใจหรือว่าเส้น
00:11:38 → 00:11:40 เลือดตีบในหัวใจหรือว่าเส้นเลือดตีบใน
00:11:40 → 00:11:43 สมองได้นะครับหรือว่าเป็น Stroke นั่นเอง
00:11:43 → 00:11:45 อาการเหล่านี้นะครับก็มีสาเหตุมาจาก
00:11:45 → 00:11:49 คอเลสเตอรอลตัวร้ายนั่นเองครับทีนี้มันมา
00:11:49 → 00:11:50 จากไหนได้บ้างนะครับต้องบอกว่า
00:11:50 → 00:11:53 โคเวเลสเตอรัลเป็นสิ่งที่เจอได้เฉพาะใน
00:11:53 → 00:11:56 สัตว์ไม่เจอในพืชเลยนะครับเพราะฉะนั้นการ
00:11:56 → 00:11:58 ที่เรากินเนื้อสัตว์ไขมันจากสัตว์
00:11:58 → 00:12:01 ผลิตภัณฑ์จากสัตว์เราก็จะได้โคเรนเตอรอล
00:12:01 → 00:12:03 เข้าไปหรือว่าการที่เรากินกรดไขมันอิ่ม
00:12:03 → 00:12:07 ตัวแล้วก็ไขมันทรานส์เข้าไปเยอะๆเนี่ยนะ
00:12:07 → 00:12:10 ครับมันก็จะเป็นวัตถุดิบสำคัญเลยที่จะเอา
00:12:10 → 00:12:13 ไปสร้างโคเลสเตอรอลตัวร้ายในร่างกายของ
00:12:13 → 00:12:17 เรานะครับฉะนั้นการที่เรากินพืชเยอะๆหรือ
00:12:17 → 00:12:19 ว่าการที่คนหันมากินอาหารที่เป็นร้านเบส
00:12:19 → 00:12:22 มากขึ้นเนี่ยก็จะเป็นการช่วยลดความเสี่ยง
00:12:22 → 00:12:25 ที่จะเอาโควเลอร์เข้าไปสู่ในร่างกายของ
00:12:25 → 00:12:28 เราครับทีนี้นอกจากโคเลสเตอรอลนะครับเวลา
00:12:28 → 00:12:31 เราไปตรวจสุขภาพเนี่ยจะมีค่าอีกหนึ่งค่า
00:12:31 → 00:12:34 ที่คนมักจะให้ความสำคัญก็คือ
00:12:34 → 00:12:37 ไตรกลีเซอไรด์ครับไตรกลีเซอไรด์เกิดจาก
00:12:37 → 00:12:40 อะไรนะครับมันเกิดมาจากการที่เรากินอาหาร
00:12:40 → 00:12:42 เข้าไปเยอะเกินกว่าความต้องการของร่างกาย
00:12:42 → 00:12:44 ง่ายๆคือกินแคลอรี่เข้าไปเยอะเกินนะครับ
00:12:45 → 00:12:48 ไม่ว่าจะเป็นคาร์โบไฮเดรตหรือแป้งหรือว่า
00:12:48 → 00:12:50 น้ำตาลนะครับพอเรากินแป้งน้ำตาลเข้าไป
00:12:50 → 00:12:53 เยอะเกินไปเนี่ยครับมันจะไปไหนมันก็จะถูก
00:12:53 → 00:12:56 สะสมแล้วก็เปลี่ยนรูปร่างให้กลายไปเป็น
00:12:56 → 00:12:58 ไตรกลีเซอไรด์ครับไตรกลีเซอไรด์นะครับมัน
00:12:58 → 00:13:00 ก็จะไป Block เส้นเลือดของเราทำให้เกิด
00:13:00 → 00:13:03 การอุดตันทั้งไตรกลีเซอไรด์แล้วก็
00:13:03 → 00:13:05 คอเลสเตอรอลนะครับก็ทำให้เกิดโรคตามมามาก
00:13:05 → 00:13:08 มายนะครับไม่ว่าจะเป็นโรคอ้วนความดันเบา
00:13:08 → 00:13:11 หวานนะครับไขมันอุดตันในเส้นเลือดทำให้
00:13:11 → 00:13:14 เกิดโรคหัวใจรวมไปถึงเส้นเลือดไปเลี้ยง
00:13:14 → 00:13:16 สมองไม่เพียงพอหรือว่า Stroke ด้วยนะครับ
00:13:16 → 00:13:19 ทีนี้เรารู้จักทั้งคอร์เลสเตอรอลและ
00:13:19 → 00:13:21 ไตรกลีเซอไรด์นะครับเวลาเราไปตรวจสุขภาพ
00:13:21 → 00:13:23 ก็จะมีค่าของคอเลสเตอรอลแล้วก็
00:13:24 → 00:13:26 ไตรกลีเซอไรด์ที่ควรจะเป็นนะครับอย่าง
00:13:26 → 00:13:29 คอเลสเตอรอลนะครับไม่ควรจะเกิน 200
00:13:29 → 00:13:32 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตรหรือว่าเลือด 100 ML
00:13:32 → 00:13:35 ในขณะที่ไตรกลีเซอไรด์เนี่ยฆ่าไม่ควรจะ
00:13:35 → 00:13:39 สูงกว่า 150 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตรและถ้า
00:13:39 → 00:13:41 จะแตกตัวคอเลสเตอรอลให้ละเอียดกว่านั้นนะ
00:13:41 → 00:13:45 ครับตัว hdl หรือว่าโคเลสเตอรอลตัวดีนะ
00:13:45 → 00:13:49 ครับควรจะมีค่าสูงกว่า 50 มิลลิกรัมต่อ
00:13:49 → 00:13:52 เดซิลิตรก็จะดีมากนะครับในขณะที่เจ้า
00:13:52 → 00:13:55 colesterol ตัวร้ายหรือว่า ldl เนี่ย
00:13:55 → 00:13:59 ครับค่าไม่ควรจะเกิน 130 มิลลิกรัมต่อ
00:13:59 → 00:14:02 เพราะฉะนั้นเวลาที่ไปตรวจสุขภาพนะครับก็
00:14:02 → 00:14:05 เทียบตารางเลยครับแล้วก็คอยมอนิเตอร์ตัว
00:14:05 → 00:14:08 เองว่าตอนนี้พฤติกรรมของเรามีความเสี่ยง
00:14:08 → 00:14:11 ที่จะมีไขมันตัวร้ายทั้งคอเลสเตอรอลแล้ว
00:14:11 → 00:14:14 ก็ไตรกลีเซอไรด์มากน้อยแค่ไหนครับแต่ที
00:14:14 → 00:14:17 นี้เราจะมีคอเลสเตอรอลหรือว่า
00:14:17 → 00:14:19 ไตรกลีเซอไรด์หรือว่าไขมันตัวร้ายในร่าง
00:14:19 → 00:14:22 กายมากน้อยเนี่ยมันมีสาเหตุมาจากอะไรได้
00:14:22 → 00:14:24 บ้างนะครับผมก็แบ่งได้ 2 กลุ่มง่ายๆเลย
00:14:24 → 00:14:27 ครับอย่างแรกคือพันธุกรรมอย่างที่ 2 คือ
00:14:27 → 00:14:29 พฤติกรรมนะครับผมขอเรียกง่ายๆในการ
00:14:29 → 00:14:32 พันธุกรรมเนี่ยมันคือแต้มบุญครับที่เรา
00:14:32 → 00:14:35 ได้มาเป็นของขวัญจากคุณพ่อคุณแม่นะครับ
00:14:35 → 00:14:39 อย่างที่ 2 พฤติกรรมเนี่ยมันคือบาปบุญที่
00:14:39 → 00:14:41 คุณทำตัวคุณเองนะครับเรามาเริ่มจากแต้ม
00:14:41 → 00:14:43 บุญหรือว่าพันธุกรรมก่อนละกันนะครับต้อง
00:14:43 → 00:14:45 บอกว่าพันธุกรรมเนี่ยเป็นสิ่งที่ติดตัว
00:14:45 → 00:14:48 เรามาเราเลือกไม่ได้นะครับแต่มันก็สามารถ
00:14:48 → 00:14:52 ที่จะใช้ในการป้องกันตัวเองได้โดยการ
00:14:52 → 00:14:56 สำรวจครับว่าคนในครอบครัวในตระกูล
00:14:56 → 00:15:59 วงศาคณาญาติของเราเนี่ยนะครับมี
00:15:59 → 00:16:02 อยากจะแนะนำว่าเราควรจะรักษาสุขภาพแล้วก็
00:16:02 → 00:16:06 มีวินัยในการนำปริมาณไขมันเข้าไปร่างกาย
00:16:06 → 00:16:10 ที่ดีน่าจะดีกว่าครับอย่างแรกคือเรื่อง
00:16:10 → 00:16:13 ของการกินครับวันนี้ผมนำไขมันมาให้ทุกคน
00:16:13 → 00:16:16 รู้จักและหลายตัวเลยนะครับคือไขมันไม่
00:16:16 → 00:16:19 อิ่มตัวอิ่มตัวแล้วก็ไขมันทรานส์แน่ๆเลย
00:16:19 → 00:16:23 ครับเราควรจะเลือกกินไข่มันที่ไม่อิ่มตัว
00:16:23 → 00:16:26 ให้เข้าไปเยอะที่สุดและหลีกเลี่ยงทั้งไข
00:16:26 → 00:16:30 มันทรานส์แล้วก็ไขมันที่อิ่มตัวนะครับ
00:16:30 → 00:16:33 เวลาที่เราจะกินอาหารแต่ละมื้อเวลาที่เรา
00:16:33 → 00:16:36 ไปซื้ออาหารอาจจะสำเร็จรูปแล้วก็มีฉลาก
00:16:36 → 00:16:40 โภชนาการดูสักหน่อยสังเกตสักหน่อยครับว่า
00:16:40 → 00:16:42 อาหารแต่ละชิ้นที่เราจะเอาเข้าไปในร่าง
00:16:42 → 00:16:44 กายของเราเนี่ยมันมีไขมันแต่ละประเภทอยู่
00:16:44 → 00:16:48 เท่าไหร่บ้างและก็พยายามลดปริมาณไขมันที่
00:16:48 → 00:16:51 ไม่ดีออกไปให้มากที่สุดครับมีคำแนะนำด้วย
00:16:51 → 00:16:54 นะครับว่าวันนึงเราควรจะได้รับพลังงานที่
00:16:54 → 00:16:58 มาจากไขมันเนี่ยเกิน 30% ของพลังงานทั้ง
00:16:58 → 00:17:00 หมดที่เราต้องการต่อวันนะครับและปริมาณไข
00:17:00 → 00:17:04 มันที่เรากินเข้าไปทั้งหมดไม่ควรจะเป็นไข
00:17:04 → 00:17:08 มันที่อิ่มตัวเกิน 10% ครับแล้วก็ที่
00:17:08 → 00:17:11 สำคัญนะครับไขมันทรานส์กินให้น้อยที่สุด
00:17:11 → 00:17:13 เท่าที่จะเป็นไปได้ครับไม่กินเลยดีที่สุด
00:17:13 → 00:17:17 นั่นคือเรื่องของการกินนะครับนอกจากนี้
00:17:17 → 00:17:20 ครับการไม่กินแอลกอฮอล์ก็เป็นสิ่งที่จะ
00:17:20 → 00:17:22 ช่วยได้มากๆนะครับเพราะการกินแอลกอฮอล์
00:17:22 → 00:17:25 เข้าไปแล้วเนี่ยจะทำให้ระบบเผาผลาญไขมัน
00:17:25 → 00:17:28 เนี่ยมันแย่ลงแล้วก็ทำให้ไขมันไปอุดตัน
00:17:28 → 00:17:31 ตามเส้นเลือดได้ดีมากยิ่งขึ้นง่ายยิ่ง
00:17:31 → 00:17:33 ขึ้นนะครับไขมันเนี่ยครับเมื่อไหร่ก็ตาม
00:17:33 → 00:17:37 ที่มันแทรกแล้วก็ไปพอกพูนอยู่ในเซลล์
00:17:37 → 00:17:40 เยื่อบุบริเวณเส้นเลือดแล้วนะครับมันก็จะ
00:17:40 → 00:17:43 ค่อยๆป่องป่องป่องออกมานะครับแล้วก็ทำให้
00:17:43 → 00:17:46 เลือดเนี่ยวิ่งเข้าไปไม่ดีนะครับอันตราย
00:17:46 → 00:17:49 มากๆครับสุดท้ายนะครับนอกจากจะเลือกกินไข
00:17:49 → 00:17:52 มันที่ดีเข้าไปในร่างกายเลี่ยงการกิน
00:17:52 → 00:17:54 แอลกอฮอล์แล้วนะครับการออกกำลังกายก็เป็น
00:17:54 → 00:17:56 สิ่งที่สำคัญมากนะครับอย่างน้อยควรจะออก
00:17:56 → 00:18:00 กำลังกายอาทิตย์ละ 3 ครั้ง