00:00:00 → 00:00:03 ขอต้อนรับสู่หมอพัทรพcast Talk ความรู้
00:00:03 → 00:00:06 สุขภาพลึกและฟรีมีที่นี่
00:00:06 → 00:00:10 >> เอเคยสงสัยกันมั้ครับว่าทำไมบางทีเนี่ยนะ
00:00:10 → 00:00:13 การลดน้ำหนักมันถึงได้ยากเย็นขนาดนั้น
00:00:13 → 00:00:17 ทั้งๆที่เราก็พยายามคุมอาหารเต็มที่แล้ว
00:00:17 → 00:00:20 วันนี้เราจะมาไขความลับข้อนี้กันครับเรา
00:00:20 → 00:00:23 จะพาไปทำความรู้จักกับคนที่คุมเกมอยู่
00:00:23 → 00:00:26 เบื้องหลังร่างกายเราจริงๆซึ่งไม่ใช่ตัว
00:00:26 → 00:00:29 เลขบนตาช่างเลยนะครับแต่เป็นฮอร์โมนตัว
00:00:29 → 00:00:33 สำคัญที่ชื่อว่าอินซูลินครับเอาล่ะครับ
00:00:33 → 00:00:36 วันนี้เราจะคุยกันเรื่องอะไรบ้างมาดูกัน
00:00:36 → 00:00:40 เลยอย่างแรกเราจะมาคิดกันใหม่เรื่องเป้า
00:00:40 → 00:00:42 หมายการลดน้ำหนักจริงๆว่ามันคืออะไรกัน
00:00:42 → 00:00:46 แน่จากนั้นไปทำความรู้จักกับคุณพ่อ
00:00:46 → 00:00:50 อินซูลินว่าเขาเป็นใครชอบอะไรไม่ชอบอะไร
00:00:50 → 00:00:52 แล้วถ้าเขาโมโหขึ้นมาล่ะจะเกิดอะไรขึ้น
00:00:52 → 00:00:55 แล้วเราจะมีวิธีผูกมิตรกับเขาได้อย่างไร
00:00:55 → 00:00:58 และสุดท้ายนะครับจะเป็นบทสรุปที่อาจจะ
00:00:58 → 00:01:01 เปลี่ยนมุมมองในการดูแลสุขภาพไปเลยก็ได้
00:01:01 → 00:01:04 ครับโอเคครับมาเริ่มกันที่หัวข้อแรกกัน
00:01:05 → 00:01:07 เลยเราต้องมาลองทบทวนความเชื่อเดิมๆของ
00:01:07 → 00:01:10 เรากันหน่อยว่าจริงๆแล้วความสำเร็จในการ
00:01:10 → 00:01:14 ลดน้ำหนักเนี่ยมันวัดจากอะไรกันแน่ถ้าถาม
00:01:14 → 00:01:17 คำถามนี้นะครับผมเชื่อว่าคำตอบแรกที่ผูด
00:01:17 → 00:01:20 ขึ้นมาในหัวของหลายๆคนเลยเนี่ยก็คงจะเป็น
00:01:20 → 00:01:22 น้ำหนักตัวใช่ไหมมั้ครับแต่เดี๋ยวก่อนข้อ
00:01:22 → 00:01:25 มูลที่เรากำลังจะเห็นต่อไปนี้เนี่ยอาจจะ
00:01:25 → 00:01:27 ทำให้ต้องมองเรื่องนี้ใหม่หมดเลยนะครับ
00:01:27 → 00:01:30 เพราะว่าลำดับความสัสำคัญจริงๆแล้วเนี่ย
00:01:30 → 00:01:33 มันกลับหัวกลับหางเลยล่ะครับนี่ล่ะครับ
00:01:33 → 00:01:36 คีย์หลักมันอยู่ตรงนี้เลยเห็นมั้ครับว่า
00:01:36 → 00:01:38 สิ่งที่สำคัญที่สุดเนี่ยไม่ใช่การลดน้ำ
00:01:38 → 00:01:42 หนักโดยรวมเลยนะครับแต่การลดไขมันในช่อง
00:01:42 → 00:01:44 ท้องต่างหากไอ้เจ้าไขมันตัวร้ายที่มันไป
00:01:45 → 00:01:47 เกาะตามอวัยวะภายในของเราแล้วก็เป็น
00:01:47 → 00:01:50 สาเหตุของสารพัดโรคเลยส่วนเรื่องน้ำหนัก
00:01:50 → 00:01:53 ตัวที่เรากังวลกันนักหนานเนี่ยรู้มั้ครับ
00:01:53 → 00:01:56 ว่ามันสำคัญเป็นอันดับ 4 เท่านั้นเองที
00:01:56 → 00:01:59 นี้พอตัวเลขบนตาช่างไม่ใช่พระเอกของ
00:01:59 → 00:02:02 เรื่องแล้วใครกันล่ะที่เป็นตัวจริงงั้น
00:02:02 → 00:02:04 เรามาทำความรู้จักกับฮอร์โมนที่คุมเกม
00:02:04 → 00:02:08 ทั้งหมดนี้กันดีกว่าครับคืออย่างี้นะครับ
00:02:08 → 00:02:10 อินซูลินเนี่ยเขาเปรียบเหมือนคุณพ่อประจำ
00:02:10 → 00:02:14 บ้างเลยเป็นคนที่มีอำนาจตัดสินใจเด็ดขาด
00:02:14 → 00:02:16 เลยว่าจะเอาพลังงานที่เรากินเข้าไปเนี่ย
00:02:16 → 00:02:20 นะไปใช้เลยทันทีหรือจะเก็บเอาไว้เป็นไข
00:02:20 → 00:02:23 มันสำรองเพราะฉะนั้นการที่เราจะอยู่กับ
00:02:23 → 00:02:25 คุณพ่อคนนี้ได้อย่างสงบสุขเนี่ยนะเราก็
00:02:26 → 00:02:28 ต้องเข้าใจนิสัยใจคอของคุณพ่อให้ดีๆก่อน
00:02:28 → 00:02:32 ครับแล้วเคยเป็นกันมั้ครับที่แบบบางวัน
00:02:32 → 00:02:36 พลังงานก็มาเต็มสุดๆแต่บางวันนี่สิอยู่ดี
00:02:36 → 00:02:39 ๆก็หมดแรงไปเฉยๆเลยหรือแบบจู่ๆก็อยากกิน
00:02:39 → 00:02:42 ของหวานมากๆขึ้นมาซะอย่างนั้นอาการแบบนี้
00:02:43 → 00:02:46 ล่ะครับที่เขาเรียกว่ารดไฟเหาะน้ำตาลใน
00:02:46 → 00:02:49 เลือดซึ่งมันก็เกิดจากการที่เราไปทำให้
00:02:49 → 00:02:52 คุณพ่ออินซูลินเขาไม่พอใจนั่นเองครับงั้น
00:02:52 → 00:02:55 เรามาดูกันต่อเลยครับว่าจะเกิดอะไรขึ้น
00:02:55 → 00:02:58 บ้างถ้าเราดันไปแหกกดของคุณเพราะอินซูลิน
00:02:58 → 00:03:01 เข้าจนทำให้เกิดสงครามย่อยๆขึ้นมาในร่าง
00:03:01 → 00:03:06 กายของเราโอ้โหประโยคนี้คือคมมากเลยนะ
00:03:06 → 00:03:09 ครับมันบอกเราได้ชัดเจนเลยว่าไอ้ความอยาก
00:03:09 → 00:03:12 ของหวานเนี่ยจริงๆแล้วมันอาจจะไม่ใช่
00:03:12 → 00:03:15 เพราะเราไม่มีวินัยหรอกนะแต่มันเป็นเพราะ
00:03:15 → 00:03:17 ฮอร์โมนต่างหากที่กำลังสั่งเราอยู่เบื้อง
00:03:17 → 00:03:21 หลังเอาล่ะครับนี่คือ 5 นิสัยตัวดีเลยที่
00:03:21 → 00:03:24 ทำให้คุณพ่ออินซูลินของเราเนี่ยอารมณ์บอด
00:03:24 → 00:03:27 จอยไม่ว่าจะเป็นการปล่อยให้ตัวเองหิวโซโ
00:03:27 → 00:03:30 แล้วก็มากินตู้มเดียวหนักๆหรือการกินจุบ
00:03:30 → 00:03:33 กินจิบไม่หยุดปากพฤติกรรมพวกนี้ทั้งหมด
00:03:33 → 00:03:35 เลยนะครับมันเหมือนเรากำลังตะโกนบอกร่าง
00:03:35 → 00:03:39 กายว่าเฮะเก็บไขมันเลยนะไม่ต้องใช้แล้ว
00:03:39 → 00:03:41 เรื่องมันยังไม่จบแค่นั้นนะครับความ
00:03:41 → 00:03:44 วุ่นวายมันจะเพิ่มขึ้นไปอีกเมื่อคุณพ่อ
00:03:44 → 00:03:47 อินซูลินต้องมาปะทะกับคุณแม่คอร์ติซอล
00:03:47 → 00:03:50 หรือที่เรารู้จักกันในชื่อฮอร์โมนความ
00:03:50 → 00:03:52 เครียดนั่นแหละครับโดยเฉพาะเลยนะในตอน
00:03:52 → 00:03:55 เช้าที่คุณแม่เนี่ยอยากจะปลุกร่างกายให้
00:03:55 → 00:03:58 ตื่นก็เลยปล่อยปล่อยพลังงานออกมาแต่คุณ
00:03:58 → 00:04:00 พ่ออินซูลินที่เพิ่งได้พลังงานจากมื้อ
00:04:00 → 00:04:03 เช้ามากลับอยากจะเก็บมันไว้มันเหมือนภาพ
00:04:03 → 00:04:06 พ่อกับแม่เถียงกันตอนเช้าไม่มีผิดเลยครับ
00:04:06 → 00:04:09 แล้วใครล่ะที่ซวยก็เซลล์ในร่างกายเรานี่
00:04:09 → 00:04:12 แหละครับที่รับผลไปเต็มๆเพราะฉะนั้น
00:04:12 → 00:04:15 ประเด็นสำคัญที่สุดเลยก็คือเราจะเปลี่ยน
00:04:15 → 00:04:18 จากการสู้รบปรบมือกับฮอร์โมนตัวนี้มาเป็น
00:04:18 → 00:04:20 การทำงานร่วมกันเป็นทีมเวิร์คได้อย่างไร
00:04:20 → 00:04:24 มาดูกันครับแต่ไม่ต้องกังวลไปครับข่าวดี
00:04:24 → 00:04:27 ก็คือเรามีกฎท้อง 5 ข้อที่จะช่วยให้เรา
00:04:27 → 00:04:30 กลับมาเป็นเพื่อนซี้กับอินซูลินได้คิดซะ
00:04:30 → 00:04:33 ว่ามันเป็นคู่มือการใช้ร่างกายฉบับที่แบบ
00:04:33 → 00:04:36 เข้าใจง่ายสุดๆแล้วก็ทำตามได้จริงๆเลย
00:04:36 → 00:04:39 ครับข้อแรกเลยนะครับการเริ่มต้นวันด้วย
00:04:39 → 00:04:43 โปรตีนให้ถึงเนี่ยถือเป็นด่านแรกที่สำคัญ
00:04:43 → 00:04:46 ที่สุดเลยครับมันเหมือนกับการวางเสาเอก
00:04:46 → 00:04:49 ให้ระบบเผาผลาญของเราแข็งแรงไปตลอดทั้ง
00:04:49 → 00:04:53 วันเลยการทำแบบนี้เนี่ยมันจะช่วยให้คุณ
00:04:53 → 00:04:55 พ่ออินซูลินไม่ต้องมาคอยทำงานจุกจิกซึ่ง
00:04:55 → 00:04:58 เป็นอะไรที่เขาไม่ชอบเอาซะเลยแล้วเขาก็จะ
00:04:58 → 00:05:01 มีเวลาได้พักหายใจหายคอแล้วก็รีเซตตัวเอง
00:05:01 → 00:05:05 ระหว่างมือได้ด้วยครับง่ายมากๆเลยครับข้อ
00:05:05 → 00:05:08 นี้แค่ลุกขึ้นมาเดินเล่นเบาๆสัก 3-10
00:05:08 → 00:05:12 นาทีหลังกินข้าวแค่นี้เองมันเหมือนเรา
00:05:12 → 00:05:14 จ้างผู้ช่วยไปแบ่งเบาภาระงานของคุณพ่อ
00:05:14 → 00:05:17 อินซูลินได้แบบมหาศาลเลยนะครับแล้วที่
00:05:17 → 00:05:20 สำคัญมันยังช่วยแก้ปัญหาง่วงหลังกินข้าว
00:05:20 → 00:05:24 ได้แบบชะงัดเลยด้วยเอาล่ะครับเรามาถึง
00:05:24 → 00:05:27 ช่วงสุดท้ายกันแล้วมาสรุปรวบยอดทั้งหมด
00:05:27 → 00:05:30 นี้กันดีกว่าครับเพราะฉะนั้นหัวใจสำคัญ
00:05:30 → 00:05:33 ของการมีสุขภาพmetabบolิึมที่ดีจริงๆแล้ว
00:05:33 → 00:05:36 เนี่ยมันไม่ใช่การฝืนหรือต่อสู้กับร่าง
00:05:36 → 00:05:38 กายตัวเองเลยนะครับแต่มันคือการทำความ
00:05:38 → 00:05:41 เข้าใจและทำงานร่วมกับผู้จัดการหลักใน
00:05:41 → 00:05:43 ร่างกายของเราเพื่อสร้างความสมดุลที่มา
00:05:44 → 00:05:47 จากข้างในจริงๆครับและสุดท้ายนี้ครับก็
00:05:47 → 00:05:50 อยากจะฝากคำถามสำคัญให้เราทุกคนได้กลับไป
00:05:50 → 00:05:53 ลองคิดกันดูนะครับว่าตอนนี้เรากำลังดูแล
00:05:53 → 00:05:57 คุณพ่อคุณแม่ที่อยู่ในร่างของเราดีพอแล้ว
00:05:57 → 00:05:59 หรือยังเพราะการเปลี่ยนแปลงเล็กๆน้อยๆที่
00:05:59 → 00:06:02 เราเริ่มทำในวันนี้มันอาจจะเป็นจุดเริ่ม
00:06:02 → 00:06:04 ต้นที่ยิ่งใหญ่ของสุขภาพที่ดีอย่างยั่ง
00:06:04 → 00:06:08 ยืนในอนาคตก็ได้นะครับ
00:06:08 → 00:06:11 สวัสดีค่ะขอต้อนรับสู่การสำรวจข้อมูลเชิง
00:06:11 → 00:06:15 ลึกที่เราได้รับมานะคะวันนี้เราจะมาลงลึก
00:06:15 → 00:06:18 กันในเนื้อหาจากเข้าใจนิสัยอินซูลินผิด
00:06:18 → 00:06:19 ชิดสุขภาพค่ะ
00:06:19 → 00:06:21 >> สวัสดีครับ
00:06:21 → 00:06:24 >> แหล่งข้อมูลชุดนี้เนี่ยเอ่อมันน่าสนใจตรง
00:06:24 → 00:06:26 ที่ชวนให้เรามองฮอร์โมนสำคัญอย่าง
00:06:26 → 00:06:29 อินซูลินในมุมที่ต่างออกไปเลยนะคะ
00:06:29 → 00:06:33 >> ใช่ครับเหมือนกับว่าอินซูลินเนี่ยเป็นคนๆ
00:06:33 → 00:06:36 นึงเลยมีบุคลิกมีนิสัยส่วนตัวมีความชอบ
00:06:36 → 00:06:38 ไม่ชอบอะไรแบบนั้นเลยครับ
00:06:38 → 00:06:41 >> ค่ะแล้วก็ยังแนะนำวิธีประเมินผลลัพธ์ด้าน
00:06:41 → 00:06:44 สุขภาพที่ถูกต้องด้วยโดยเฉพาะเวลาเราปรับ
00:06:44 → 00:06:47 อาหารแบบเอ่อ Low Cal High Fat หรือ
00:06:47 → 00:06:49 LCHF นะคะ
00:06:49 → 00:06:50 >> ครับผม
00:06:50 → 00:06:53 >> เป้าหมายของเราวันนี้ก็คือจะมาสกัดเอา
00:06:53 → 00:06:56 แก่นความรู้สำคัญๆคัญที่เอาไปปรับใช้ได้
00:06:56 → 00:06:58 จริงเพื่อสุขภาพที่ดีขึ้นจากมุมมองใน
00:06:58 → 00:07:01 เอกสารนี้นะคะเอาล่ะค่ะมาเริ่มกันเลยดี
00:07:01 → 00:07:04 กว่าครับคือจุดที่น่าสนใจมากอย่างที่บอก
00:07:04 → 00:07:07 ไปคือการเปรียบอินซูลินเหมือนฮอร์โมนคุณ
00:07:07 → 00:07:09 พ่อนะครับซึ่งนิสัยหรือสิ่งที่ท่านไม่
00:07:09 → 00:07:12 ค่อยชอบเนี่ยมันส่งผลต่อสุขภาพเรามากจริง
00:07:12 → 00:07:13 ๆ
00:07:13 → 00:07:15 >> เปิดมาด้วยการเปรียบเทียบที่น่าสนใจมาก
00:07:15 → 00:07:18 ค่ะงั้นเรามาเริ่มกันที่เรื่องแรกก่อนเลย
00:07:18 → 00:07:22 การประเมินผลลัพธ์ LCHF ปกติเวลาคนเริ่ม
00:07:22 → 00:07:24 ทำ LCHF เนี่ยสิ่งแรกที่ทุกคนอยากเห็นเลย
00:07:24 → 00:07:26 ก็คือน้ำหนักลดใช่มั้ยคะ
00:07:26 → 00:07:29 >> ใช่ครับอันนั้นคือสิ่งที่คนส่วนใหญ่โฟกัส
00:07:29 → 00:07:33 เลยแต่ว่าเอ่อในแหล่งข้อมูลนี้เนี่ยเค้า
00:07:33 → 00:07:36 จัดลำดับความสำคัญป่างออกไปนะครับคือน้ำ
00:07:36 → 00:07:40 หนักตัวที่ลดลงเนี่ยกลับถูกมองว่าสำคัญ
00:07:40 → 00:07:42 น้อยกว่าปัจจัยอื่นๆครับ
00:07:42 → 00:07:44 >> จริงหรอคะอันนี้แปลกนิดหน่อยนะคะเพราะ
00:07:44 → 00:07:47 ปกติเราก็จะชั่งน้ำหนักกันตลอดเลยแล้วแบบ
00:07:47 → 00:07:49 นี้อะไรสำคัญกว่าล่ะคะ
00:07:49 → 00:07:51 >> คือจริงๆแล้วสิ่งที่แหล่งข้อมูลนี้ให้
00:07:51 → 00:07:53 ความสำคัญเป็นอันดับ 1 เลยเนี่ยก็คือไข
00:07:53 → 00:07:56 มันในช่องท้อง Viseral Fat ครับ
00:07:56 → 00:07:59 >> อ๋อไขมันในช่องท้องที่เราวัดจากรอบเอวกัน
00:07:59 → 00:08:00 คร่าวๆน่ะหรอคะ
00:08:00 → 00:08:01 >> ครับผม
00:08:01 → 00:08:03 >> ทำไมตัวนี้ถึงสำคัญที่สุดล่ะคะ
00:08:03 → 00:08:06 >> ซึ่งเป็นต้นตอของเอ่อปัญหาสุขภาพเรื้อรัง
00:08:06 → 00:08:09 หลายอย่างเลยครับไม่ว่าจะเป็นเบาหวานไข
00:08:09 → 00:08:12 มันพอกตับหรือว่าโรคหลอดเลือดหัวใจเพราะ
00:08:12 → 00:08:14 ฉะนั้นการที่ไขมันช่องท้องลดลงเนี่ยมัน
00:08:14 → 00:08:17 เป็นสัญญาณที่ชัดเจนที่สุดเลยว่าสุขภาพ
00:08:17 → 00:08:20 เมาบอลิเซึมข้างในเราเนี่ยกำลังดีขึ้น
00:08:20 → 00:08:22 จริงๆแบบแก้ที่ต้นเหตุเลยครับ
00:08:22 → 00:08:26 >> อ๋อเข้าใจแล้วค่ะคือมองลึกลงไปกว่าแค่ตัว
00:08:26 → 00:08:29 เลขน้ำหนักแต่ดูที่ไขมันร้ายที่ซ่อนอยู่
00:08:29 → 00:08:31 ข้างในแทนแล้วลำดับรองลงมาหรอคะ
00:08:31 → 00:08:35 >> ครับอันดับ 2 ก็คือไขมันสะสมรวมในร่างกาย
00:08:35 → 00:08:37 Total Body Fat ครับตัวเนี้ยจะให้ภาพ
00:08:37 → 00:08:40 รวมที่ดีกว่าแค่น้ำหนักตัวอย่างเดียว
00:08:40 → 00:08:41 >> อื
00:08:41 → 00:08:43 >> เพราะมันดูสัดส่วนไขมันเทียบกับอย่างอื่น
00:08:43 → 00:08:46 ในร่างกายเราอาจจะต้องใช้เครื่องมือช่วย
00:08:46 → 00:08:48 บ้างอย่างพวกDexซ่าSCแกนหรือเครื่องชั่ง
00:08:48 → 00:08:50 inบอดนะครับถึงจะเห็นการเปลี่ยนแปลงเชิง
00:08:50 → 00:08:54 คุณภาพจริงจริงไม่ใช่แค่ตัวเลขบนตาชัง
00:08:54 → 00:08:54 >> ค่ะ
00:08:54 → 00:08:57 >> ถัดมาอันดับ 3 ก็คือมวลกล้ามเนื้อครับอัน
00:08:57 → 00:09:00 นี้สำคัญมากๆอย่างที่เกริ่นไปนิดนึงแล้ว
00:09:00 → 00:09:02 คือเราต้องพยายามรักษาไว้ให้ได้มากที่สุด
00:09:02 → 00:09:05 หรือถ้าเพิ่มได้ก็จะยิ่งดีมากๆเพราะกล้าม
00:09:05 → 00:09:07 เนื้อเนี่ยเหมือนเป็นเตาเผาพลังงานของเรา
00:09:07 → 00:09:10 เลยนะครับถ้าเราเสียกล้ามเนื้อไปเยอะระบบ
00:09:10 → 00:09:14 เผาพลานพื้นฐานหรือ BMR มันก็จะลดลงทีนี้
00:09:14 → 00:09:16 พอลดน้ำหนักไปแล้วมันก็จะกลับมาอ้วนง่าย
00:09:16 → 00:09:19 ที่เราเรียกว่าโยโยเอฟเฟectนั่นแหละครับ
00:09:19 → 00:09:23 >> อ๋อค่ะแสดงว่าการออกกำลังกายควบคู่ไปด้วย
00:09:23 → 00:09:25 มีสำคัญมากๆเลยนะคะเพื่อรักษากล้าเนื้อ
00:09:25 → 00:09:28 ไว้แล้วปัจจัยอื่นๆที่คนสนใจกันบ่อยๆล่ะ
00:09:28 → 00:09:32 คะอย่างน้ำหนักตัวกับเรื่องความหิว
00:09:32 → 00:09:35 >> ครับสำหรับน้ำหนักตัวที่ลดลงแม้จะไม่ใช่
00:09:35 → 00:09:38 ตัวชี้วัดหลักแต่ก็ยังมีความสำคัญนะครับ
00:09:38 → 00:09:42 เป็นอันดับ 4 ส่วนอันดับ 5 ก็คือความหิว
00:09:42 → 00:09:45 ที่ลดลงอันนี้เป็นผลพลอยได้ที่ดีของ LCHF
00:09:45 → 00:09:48 นะครับมันช่วยให้เราคุมการกินได้ง่ายขึ้น
00:09:48 → 00:09:50 แต่ก็ถือว่าเป็นแค่ตัวช่วยสังเกตเชิง
00:09:50 → 00:09:51 พฤติกรรม
00:09:51 → 00:09:53 ไม่ใช่เป้าหมายหลักด้านสุขภาพโดยตรง
00:09:53 → 00:09:56 >> สรุปคือลำดับความสำคัญที่เขาเน้นคือไขมัน
00:09:56 → 00:10:00 ช่องท้องลดไขมันรวมลดกล้ามเนื้อคงที่หรือ
00:10:00 → 00:10:04 เพิ่มน้ำหนักตัวลดแล้วก็ความหิวนโหน่าสน
00:10:04 → 00:10:07 ใจมากค่ะทำให้ต้องเปลี่ยนมุมมองการวัดผล
00:10:07 → 00:10:10 ไปเลยแต่ว่าในทางปฏิบัติเนี่ยการวัดไขมัน
00:10:10 → 00:10:12 ช่องท้องหรือไขมันรวมมันอาจจะไม่ได้ทำได้
00:10:12 → 00:10:14 ง่ายๆทุกวันเหมือนช่างน้ำหนักนะคะแหล่ง
00:10:14 → 00:10:18 ข้อมูลเค้ามีคำแนะนำมั้คะว่าช่วง 3-6
00:10:18 → 00:10:20 เดือนแรกเราควรจะโฟกัสหรือสังเกตอะไรเป็น
00:10:20 → 00:10:22 พิเศษแทนได้บ้าง
00:10:22 → 00:10:25 >> เป็นคำถามที่ดีเลยครับคือในทางปฏิบัติ
00:10:25 → 00:10:27 เนี่ยแหล่งข้อมูลก็แนะนำให้ใช้การวัดรอบ
00:10:27 → 00:10:30 เอวนี่แหละครับเป็นตัวแทนคร่าวๆของไขมัน
00:10:30 → 00:10:31 ช่องทองไปก่อน
00:10:31 → 00:10:31 >> ค่ะ
00:10:31 → 00:10:33 >> แล้วก็สังเกตความรู้สึกแข็งแรงของกล้าม
00:10:33 → 00:10:36 เนื้อตัวเองอาจจะเสริมด้วยการจดบันทึก
00:10:36 → 00:10:39 อาหารเพื่อดูว่าเราได้โปรตีนพอมแล้วก็แน่
00:10:39 → 00:10:43 นอนสังเกตสัญญาณสุขภาพอื่นๆอย่างความดัน
00:10:43 → 00:10:46 ระดับน้ำตาลไขมันในเลือดถ้ามีผลตรวจ
00:10:46 → 00:10:49 สุขภาพเดิมมาเทียบก็จะยิ่งดีครับคือเป็น
00:10:49 → 00:10:52 การมองภาพรวมนะครับไม่ใช่จ้องแค่ตัวเลขใด
00:10:52 → 00:10:53 ตัวเลขหนึ่ง
00:10:53 → 00:10:56 >> ชัดเจนเลยค่ะทีนี้ขอขยับมาอีกประเด็นที่
00:10:56 → 00:10:59 น่าสนใจไม่แพ้กันเลยคือเรื่องนิสัยของ
00:10:59 → 00:11:01 อินซูลินที่เปรียบเหมือนคุณพ่อนี่ล่ะค่ะ
00:11:01 → 00:11:04 แถมยังบอกว่าสำหรับคนที่มีภาวะดื้อ
00:11:04 → 00:11:07 อินซูลินเนี่ยมันจะเหมือนรถไฟเหาะตีลังกา
00:11:07 → 00:11:09 เลยอันนี้คือยังไงหรอคะ
00:11:09 → 00:11:11 >> ครับการเปรียบเทียบนี้ช่วยให้เห็นภาพชัด
00:11:11 → 00:11:15 ขึ้นมากเลยครับคือแหล่งข้อมูลอธิบายว่า
00:11:15 → 00:11:18 อินซูลินหรือคุณพ่อท่านนี้เนี่ยมีสิ่งที่
00:11:18 → 00:11:21 ท่านไม่ชอบอยู่ 5 อย่างหลักๆซึ่งการที่
00:11:21 → 00:11:23 เราไปทำสิ่งเหล่านี้ซ้ำๆก็เหมือนไป
00:11:23 → 00:11:25 กระตุ้นให้ท่านทำงานผิดเพี้ยนไปจนเกิด
00:11:25 → 00:11:29 ปัญหาต่างๆโดยเฉพาะภาวะดื้ออินซูลินที่ทำ
00:11:29 → 00:11:31 ให้น้ำตาลในเลือดมันแกว่งขึ้นลงรุนแรง
00:11:31 → 00:11:32 เหมือนรถไฟหอนนั่นแหละครับ
00:11:32 → 00:11:35 >> ค่ะแล้วมีอะไรบ้างคะ 5 อย่างนี้
00:11:35 → 00:11:38 >> ข้อแรกเลยนะครับอินซูลินไม่ชอบความหิวแต่
00:11:38 → 00:11:41 เป็นความหิวที่ตามมาด้วยการกินผิดนะครับ
00:11:41 → 00:11:44 >> เอ๊หมายถึงไม่ใช่ว่าห้ามหิวเลยแต่ไม่ชอบ
00:11:44 → 00:11:47 เวลาหิวจัดๆแล้วเราไปกินผิดวิธีอย่างนั้น
00:11:47 → 00:11:50 ล่ะคะเช่นแบบอดนานๆแล้วกินหนักๆที่มีแต่
00:11:50 → 00:11:52 แป้งน้ำตาลหรือว่ากินจุบๆทั้งวัน
00:11:52 → 00:11:56 >> ถูกเลยครับไม่ใช่ตัวความหิวเองแต่เป็น
00:11:56 → 00:11:59 แพทเทิร์นการกินที่ไม่ถูกต้องคือท่านไม่
00:11:59 → 00:12:02 ชอบการถูกกระตุ้นให้ทำงานหนักเกินไปหรือ
00:12:02 → 00:12:05 ถูกเรียกใช้บ่อยๆด้วยของว่างเล็กๆน้อยๆ
00:12:05 → 00:12:08 ตลอดวันการกินแบบนั้นเนี่ยมันเหมือนการ
00:12:08 → 00:12:11 สั่งงานที่คุณพ่อไม่ชอบทำให้ท่านทำงานได้
00:12:11 → 00:12:15 แย่ลงหรือเฉื่อยลงเรื่อยๆครับแล้วก็
00:12:15 → 00:12:17 เสี่ยงต่อเบาหวานมากขึ้นแหล่งข้อมูลยัง
00:12:17 → 00:12:20 เปรียบเทียบว่าการกินของหวานหรือน้ำหวาน
00:12:20 → 00:12:22 ตอนท้องว่างเนี่ยเหมือนสั่งให้พ่อทำงาน
00:12:22 → 00:12:26 ล่วงเวลาแต่ไม่จ่าย OT ท่านก็จะเหวี่ยง
00:12:26 → 00:12:28 กลับด้วยการเก็บไขมันสะสมแทนซะเลย
00:12:29 → 00:12:32 >> โหเปรียบเทียบให้เห็นภาพเลยค่ะแล้วข้อ 2
00:12:32 → 00:12:32 ล่ะคะ
00:12:32 → 00:12:36 >> ข้อที่ 2 ครับอินซูลินไม่ชอบการติดหวาน
00:12:36 → 00:12:38 >> จำได้ว่าในแหล่งข้อมูลใช้คำแรงเหมือนกัน
00:12:38 → 00:12:42 นะคะติดหวานมากกว่าคนอกหักติดเพลงเศร้า
00:12:42 → 00:12:45 เลยทีเดียวแล้วการตามใจปากเรื่องหวานๆนี่
00:12:45 → 00:12:48 มันส่งผลเสียโดยตรงยังไงคะคือการกินหวาน
00:12:48 → 00:12:51 โดยเฉพาะตอนท้องว่างนะครับมันคือการสร้าง
00:12:51 → 00:12:54 สถานการณ์รถไฟเหาะดีๆนี้เองน้ำตาลในเลือด
00:12:54 → 00:12:56 จะพุ่งสูงปรี๊ดเลย
00:12:56 → 00:12:57 >> อื้อหือ
00:12:57 → 00:13:00 >> ทำให้อินซูลินต้องออกมาเยอะมากเร็วมาก
00:13:00 → 00:13:03 เพื่อกดน้ำตาลลงแต่บ่อยครั้งที่การตอบ
00:13:04 → 00:13:07 สนองนี้มันรุนแรงเกินไปจนกดน้ำตาลลงต่ำ
00:13:07 → 00:13:11 กว่าปกติอีกเกิดภาวะน้ำตาลตกตามมา
00:13:11 → 00:13:12 >> อ๋อ
00:13:12 → 00:13:15 >> ซึ่งพอตกปุ๊บมันก็กระตุ้นให้เราอยากหวาน
00:13:15 → 00:13:18 อีกวนเป็นหูบไปเรื่อยๆครับเป็นการสั่งงาน
00:13:18 → 00:13:21 หนักให้อินซูลินซ้ำๆแล้วก็ส่งเสริมการ
00:13:21 → 00:13:23 เก็บไขมันอย่างที่บอกไปตอนแรกครับ
00:13:23 → 00:13:25 >> เข้าใจแล้วค่ะแล้วข้อ 3 ล่ะคะ
00:13:25 → 00:13:28 >> ข้อที่ 3 อินซูลินไม่ชอบการปะทะกับ
00:13:28 → 00:13:31 คอร์ติซอลครับแหล่งข้อมูลเปรียบคอร์ติซอล
00:13:31 → 00:13:33 เหมือนฮอร์โมนแม่ที่มีความขี้หึงอยู่
00:13:33 → 00:13:34 หน่อยๆ
00:13:34 → 00:13:38 >> โหพ่อกับแม่ไม่ค่อยลงรอยกันหรอคะเวลาเรา
00:13:38 → 00:13:42 เครียดๆหรือน้ำตาลแกว่งเนี่ยน่าสนใจมาก
00:13:42 → 00:13:44 ค่ะมันส่งผลเป็นลูกโซ่ยังไงต่อร่างกายเรา
00:13:45 → 00:13:45 คะ
00:13:45 → 00:13:49 >> คลายครับคือเวลาเราเครียดหรือเวลาน้ำตาล
00:13:49 → 00:13:51 ในเลือดมันแกว่งซึ่งมักจะเกิดคู่กันนะ
00:13:51 → 00:13:55 ร่างกายจะหลั่งคอร์ติโซอลหรือแม่ออกมาใน
00:13:55 → 00:13:57 ขณะที่อินซูลินหรือพ่อก็พยายามจัดการกับ
00:13:58 → 00:14:01 น้ำตาลอยู่ปัญหาคือถ้ามีภาวะดื้ออินซูลิน
00:14:01 → 00:14:04 อยู่แล้วเนี่ยพ่ออาจจะทำงานช้าลงปล่อยให้
00:14:04 → 00:14:07 น้ำตาลสูงอยู่นานพอพ่อเริ่มทำงานก็อาจจะ
00:14:07 → 00:14:10 เหวี่ยงน้ำตาลลงต่ำเร็วไปอีกพอตกต่ำแม่
00:14:10 → 00:14:14 คอติศอกก็จะออกมาแก้เกมครับกระตุ้นให้หิว
00:14:14 → 00:14:17 อยากหวานอีกแล้วแล้วก็สั่งให้ตับปล่อยน้ำ
00:14:17 → 00:14:19 ตาลเพิ่มวนไปอย่างนี้ครับ
00:14:19 → 00:14:21 >> อื้อหือวนหลูบเลย
00:14:21 → 00:14:24 >> ใช่ครับแล้วระหว่างที่พ่อแม่เถียงกันผ่าน
00:14:24 → 00:14:26 ระดับน้ำตาลที่ผันผวนเนี่ยเซลล์ต่างๆใน
00:14:26 → 00:14:29 ร่างกายหรือลูกๆก็จะเครียดไปด้วยอาจจะมี
00:14:29 → 00:14:32 อาการแบบเหนื่อยสมองตื้อคิดอะไรไม่ค่อย
00:14:32 → 00:14:34 ออกในช่วงที่น้ำตาลมันสูงหรือแกว่งมากๆ
00:14:34 → 00:14:35 ด้วยครับ
00:14:35 → 00:14:38 >> ฟังดูซับซ้อนเหมือนกันนะคะเนี่ยแล้วข้อ 4
00:14:38 → 00:14:39 ล่ะคะ
00:14:39 → 00:14:42 >> ข้อที่ 4 อินซูลินไม่ชอบการอยู่นิ่งๆครับ
00:14:42 → 00:14:46 >> อ้าวปกติกินอิ่มๆหนังท้องตึงหนังตาก็
00:14:46 → 00:14:49 หย่อนอยากจะนั่งพักยาวๆเลยนะคะการนั่งแช่
00:14:49 → 00:14:52 หลังกินนี่อินซูลินไม่ปลื้มหรอคะ
00:14:52 → 00:14:56 >> ใช่ครับไม่ปลื้มเลยแหล่งข้อมูลบอกว่าการ
00:14:56 → 00:14:58 เคลื่อนไหวร่างกายหลังมื้ออาหารเนี่ยแม้
00:14:58 → 00:15:02 จะแค่เดินเล่นเบาๆสัก 3-10 นาทีมี
00:15:02 → 00:15:04 ประโยชน์มากเลยนะครับมันช่วยให้เซลล์เรา
00:15:04 → 00:15:07 เนี่ยนำน้ำตาลไปใช้ได้ดีขึ้นแล้วก็ลดภาระ
00:15:08 → 00:15:10 ของอินซูลินที่ต้องออกมาจัดการกับน้ำตาล
00:15:10 → 00:15:13 ที่สูงขึ้นหลังกินการนั่งนิ่งๆติดต่อกัน
00:15:13 → 00:15:16 นานๆโดยเฉพาะหลังมื้ออาหารเนี่ยมันส่งผล
00:15:16 → 00:15:19 เสียต่อสุขภาพเมาบอลิเซึมมากในแหล่งข้อ
00:15:19 → 00:15:22 มูลถึงกับเปรียบว่าอาจจะเสียพอๆกับการสูบ
00:15:22 → 00:15:25 บุหรี่เลยนะครับโหแรงเหมือนกันนะคะเนี่ย
00:15:25 → 00:15:29 แค่นั่งเฉยๆแล้วข้อสุดท้ายล่ะคะข้อ 5
00:15:29 → 00:15:32 >> ข้อสุดท้ายข้อที่ 5 อินซูลินไม่ชอบการนอน
00:15:32 → 00:15:36 ที่มีปัญหาหรือวงจรการนอนที่ถูกรบกวนครับ
00:15:36 → 00:15:38 >> อันนี้คงไม่ใช่แค่เรื่องนอนดึกนอนน้อยใช่
00:15:39 → 00:15:42 มั้ยคะแต่หมายถึงคุณภาพการนอนด้วย
00:15:42 → 00:15:45 >> ถูกต้องครับคุณภาพและที่สำคัญมันคือความ
00:15:45 → 00:15:48 ต่อเนื่องของการนอนครับการนอนเนี่ยเป็น
00:15:49 → 00:15:52 ช่วงสำคัญที่ร่างกายซ่อมแซมตัวเองแล้ว
00:15:52 → 00:15:55 ฮอร์โมนต่างๆรวมถึงอินซูลินเนี่ยจะได้พัก
00:15:55 → 00:15:58 ผ่อนรีเซตตัวเองการตื่นกลางดึกบ่อยๆนะ
00:15:58 → 00:16:02 ครับแม้ว่ารวมๆแล้วจะนอนหลายชั่วโมงแต่
00:16:02 → 00:16:04 ถ้าวงจรการหลับลึกหลับตื้นมันถูกขัด
00:16:04 → 00:16:07 จังหวะคือเป้าหมายคืออยากให้หลับต่อ
00:16:07 → 00:16:10 เนื่องได้สัก 4 รอบหรือราวๆ 6-8 ชมง
00:16:10 → 00:16:11 >> ค่ะ
00:16:11 → 00:16:14 >> มันจะส่งผลเสียต่อความไวของอินซูลินในวัน
00:16:14 → 00:16:17 ถัดไปมากกว่าการนอนดึกไปบ้างแต่หลับยาว
00:16:17 → 00:16:19 รวดเดียวจนเช้าซะอีก
00:16:19 → 00:16:20 >> อ๋ออย่างี้นี่เอง
00:16:20 → 00:16:23 >> ครับแหล่งข้อมูลยังเสริมเรื่องความสำคัญ
00:16:23 → 00:16:26 ของการตื่นนอนตามธรรมชาติใกล้ๆเวลาพระ
00:16:26 → 00:16:28 อาทิตย์ขึ้นแล้วก็เรื่องแร่ธาตุสำคัญ
00:16:28 → 00:16:31 อย่างโซเดียมโพแทสเซียมแมกนีเซียมที่
00:16:31 → 00:16:34 เพียงพอซึ่งมันส่งผลต่อคุณภาพการนอนแล้ว
00:16:34 → 00:16:36 ก็จังหวะชีวภาพร่างกายด้วยครับ
00:16:36 → 00:16:39 >> พอได้ฟังคัน 5 ข้อที่ไม่ชอบของคุณพ่อ
00:16:39 → 00:16:42 อินซูลินแล้วเนี่ยทำให้เห็นภาพชัดขึ้นมาก
00:16:42 → 00:16:45 เลยค่ะว่าพฤติกรรมกรรมในชีวิตประจำวันเรา
00:16:45 → 00:16:48 นี่ส่งผลต่อฮอร์โมนตัวนี้โดยตรงจริงๆ
00:16:48 → 00:16:51 เมื่อรู้แล้วว่าท่านไม่ชอบอะไรคำถามต่อไป
00:16:51 → 00:16:54 ก็คือแล้วเราจะดูแลท่านยังไงดีคะให้ท่าน
00:16:54 → 00:16:57 ทำงานได้ดีมีประสิทธิภาพแหล่งข้อมูลมี
00:16:58 → 00:17:01 กลยุทธ์หรือแนวทางปฏิบัติแนะนำไว้มั้คะ
00:17:01 → 00:17:04 >> มีครับมีคำแนะนำที่ชัดเจนแล้วก็ปฏิบัติ
00:17:04 → 00:17:07 ได้จริงหลายข้อเลยซึ่งมันก็สอดคล้องกับ
00:17:07 → 00:17:08 สิ่งที่เราคุยกันไปเมื่อกี้นี้แหละครับ
00:17:08 → 00:17:11 ว่าท่านไม่ชอบอะไรบ้าง
00:17:11 → 00:17:11 >> ค่ะ
00:17:11 → 00:17:16 >> ข้อแรกเลยคือกินให้เป็นมื้อไม่กินจุบอัน
00:17:16 → 00:17:19 นี้ตรงไปตรงมาเลยครับเพื่อเลี่ยงการไปกวน
00:17:19 → 00:17:23 คุณพ่อบ่อยๆก็คือแก้ดิสไลท์ข้อ 1 ควรกิน
00:17:23 → 00:17:25 อาหารที่สมบูรณ์ในแต่ละมื้อนะครับคือมี
00:17:25 → 00:17:28 ครบทั้งคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนเน้นใยอาหาร
00:17:28 → 00:17:32 โปรตีนดีแล้วก็ไขมันดีไม่ใช่แค่กาแฟแก้ว
00:17:32 → 00:17:35 เดียวหรือโปรตีนบาร์อันนึงหรือกินแค่
00:17:35 → 00:17:38 ผลไม้แบบนั้นไม่นับเป็นมื้อที่สมบูรณ์พอ
00:17:38 → 00:17:40 จะให้อิ่มนานสารอาหารครบครับ
00:17:40 → 00:17:41 >> ค่ะ
00:17:41 → 00:17:44 >> พอโดยเฉพาะมื้อแรกของวันครับโปรตีนนี่
00:17:44 → 00:17:47 สำคัญมากในการช่วยจัดการการตอบสนองของ
00:17:47 → 00:17:49 อินซูลินแก้ดิสไลค 2 และช่วยเลื่อน
00:17:49 → 00:17:52 dislike 3 ทางอ้อมด้วยเฉพาะมื้อเช้าที่
00:17:52 → 00:17:56 คอรีซอลหรือแม่มักจะสูงตามธรรมชาติแล้ว
00:17:56 → 00:17:58 เซลล์อาจจะตอบสนองต่ออินซูลินได้ไม่ดี
00:17:58 → 00:18:01 เท่าช่วงอื่นการมีโปรตีนพอเนี่ยเหมือน
00:18:01 → 00:18:03 เรียกฮอร์โมนลูกหลานตัวอื่นมาช่วยแบ่งเบา
00:18:03 → 00:18:06 ภาระพ่ออินซูลินควรตั้งเป้าโปรตีนอย่าง
00:18:06 → 00:18:09 น้อยสัก 20-30 กรัมต่อมื้อนะครับเช่นไข
00:18:09 → 00:18:12 สัก 3-4 ฟองหรือเนื้อสัตว์ประมาณฝ่ามือ
00:18:12 → 00:18:16 แล้วก็กระจายให้พอทั้งวันรวมๆ 1-2 กรัม
00:18:16 → 00:18:18 ต่อน้ำหนักตัว 1 กกัแหล่งข้อมูลมีข้อ
00:18:19 → 00:18:21 สังเกตน่าสนใจด้วยครับเขาเปรียบเทียบไข่
00:18:21 → 00:18:24 กับเนื้อปลาบอกว่าไข่ทั้งฟองที่มีไขมันดี
00:18:24 → 00:18:27 จากไข่แดงด้วยอาจจะช่วยให้การตอบสนองของ
00:18:27 → 00:18:30 อินซูลินสมดุลกว่าการกินเนื้อปลาล้วนๆที่
00:18:30 → 00:18:33 ไขมันน้อยกว่าในมื้อเช้านะครับเพราะไขมัน
00:18:33 → 00:18:36 ดีช่วยชะลอการดูดซึมลดการกระตุ้นอินซูลิน
00:18:36 → 00:18:37 ได้
00:18:37 → 00:18:39 >> การเน้นโปรตีนมื้อเช้านี่เป็นเคล็ดลับที่
00:18:39 → 00:18:42 น่าสนใจมากเลยค่ะแล้วเรื่องอื่นอื่นล่ะคะ
00:18:42 → 00:18:44 มีอะไรอีกบ้าง
00:18:44 → 00:18:47 >> ข้อ 3 เคี้ยวอาหารให้ละเอียดครับข้อนี้ดู
00:18:47 → 00:18:50 เหมือนง่ายๆนะแต่สำคัญมากอันนี้ก็ช่วยแก้
00:18:50 → 00:18:52 ดิสไลท์ 1 ทางอ้อม
00:18:52 → 00:18:53 >> ค่ะ
00:18:53 → 00:18:56 >> การเคี้ยวช้าๆให้ละเอียดเนี่ยช่วยลดภาระ
00:18:56 → 00:18:59 ทั้งระบบย่อยอาหารแล้วก็อินซูลินด้วยการ
00:18:59 → 00:19:02 ที่เรากลืนเร็วๆเคี้ยวไม่กี่ทีนอกจากจะ
00:19:02 → 00:19:04 ดูดซึมสารอาหารได้ไม่ดีแล้วยังเหมือนไป
00:19:04 → 00:19:06 บังคับให้ตับอ่อนต้องปั๊มอินซูลินออกมา
00:19:07 → 00:19:10 เร็วๆเยอะๆนอกจากนั้นนะครับแหล่งข้อมูล
00:19:10 → 00:19:13 ยังบอกว่าการที่ตับอ่อนต้องทุ่มกำลังไป
00:19:13 → 00:19:15 ผลิตอินซูลินมากๆเนี่ยอาจจะกระทบความ
00:19:15 → 00:19:18 สามารถในการผลิตน้ำย่อยอื่นๆด้วยพวก
00:19:18 → 00:19:22 อไมเลสโรทีสไเปสทำให้การย่อยโดยรวมแย่ลง
00:19:22 → 00:19:23 ไปอีก
00:19:23 → 00:19:25 >> เรื่องเคี้ยวละเอียดนี่พูดง่ายแต่ทำยาก
00:19:25 → 00:19:29 เหมือนกันนะคะต้องมีสติมากๆเลยมีข้อแนะนำ
00:19:29 → 00:19:30 อื่นอีกมั้คะ
00:19:30 → 00:19:33 >> ข้อ 4 เคลื่อนไหวร่างกายหลังอาหารครับอัน
00:19:33 → 00:19:35 นี้ก็เชื่อมกับ dislike 4 โดยตรงเลยแค่
00:19:35 → 00:19:38 ลุกเดินเบาๆหรือทำงานบ้านเล็กน้อยหลัง
00:19:38 → 00:19:41 อาหารสัก 5-10 นาทีก็ช่วยให้เซลล์ไวต่อ
00:19:41 → 00:19:43 อินซูลินมากขึ้นเยอะเลยครับช่วยคุมระดับ
00:19:43 → 00:19:45 น้ำตาลได้ดีขึ้นมาก
00:19:45 → 00:19:45 >> ค่ะ
00:19:45 → 00:19:49 >> ข้อ 5 นอนหลับให้มีคุณภาพอันนี้แก้
00:19:49 → 00:19:52 dislike 5 ตรงๆเลยเน้นความต่อเนื่องไม่
00:19:52 → 00:19:56 ตื่นกลางดึกจัดห้องนอนให้ดีแล้วก็ใส่ใจ
00:19:56 → 00:19:59 เรื่องแร่ธาตุที่จำเป็นอย่างที่บอกไป
00:19:59 → 00:20:02 โซเดียมโพแทสเซียมแมกนีเซียมอาจจะช่วยได้
00:20:02 → 00:20:03 ครับ
00:20:03 → 00:20:04 >> ค่ะ
00:20:04 → 00:20:07 >> ข้อสุดท้ายข้อ 6 เลือกแหล่งพลังงานที่
00:20:07 → 00:20:10 เป็นมิตรกับอินซูลินครับคือเป้าหมายเรา
00:20:10 → 00:20:12 คือลดภาระอินซูลินใช่มั้ยครับแหล่งข้อมูล
00:20:12 → 00:20:15 เลยแนะนำให้เน้นใช้ไขมันดีเป็นแหล่งพลัง
00:20:15 → 00:20:16 งานหลัก
00:20:16 → 00:20:17 >> เช่นอะไรบ้างคะ
00:20:17 → 00:20:20 >> อย่างเช่นน้ำมันมะกอกน้ำมันมะพร้าวสกัด
00:20:20 → 00:20:23 เย็นอะโวกโด้ถัวต่างๆพวกนี้ครับแทน
00:20:23 → 00:20:27 คาร์โบไฮเรตที่ขัดสีเยอะๆเพราะไขมันเนี่ย
00:20:27 → 00:20:29 กระตุ้นอินซูลินน้อยที่สุดในขณะที่ใย
00:20:29 → 00:20:33 อาหารไม่ได้ให้พลังงานตรงๆส่วนโปรตีนก็
00:20:33 → 00:20:35 ไม่ควรเป็นแหล่งพลังงานหลักเราควรกินพลัง
00:20:35 → 00:20:38 งานรวมให้พอต่อความต้องการร่างกายนะครับ
00:20:38 → 00:20:41 โดยแบ่งเป็น 2-3 มื้อหลักต่อวันเพื่อให้
00:20:41 → 00:20:44 คุณพ่ออินซูลินได้มีเวลาพักระหว่างมื้อ
00:20:44 → 00:20:45 ด้วยครับ
00:20:45 → 00:20:48 >> ฟังดูแล้วแนวทางการดูแลคุณพ่ออินซูลิน
00:20:48 → 00:20:50 เหล่านี้ก็คือการปรับพฤติกรรมพื้นฐานใน
00:20:50 → 00:20:53 ชีวิตประจำวันเรานี่เองนะคะทั้งเรื่องกิน
00:20:53 → 00:20:56 การเคลื่อนไหวการนอนซึ่งมันก็สอดคล้องกัน
00:20:56 → 00:21:00 ไปหมดเลยสรุปแล้วการทำความเข้าใจความ
00:21:00 → 00:21:02 ต้องการและความไม่ชอบของอินซูลินก็เหมือน
00:21:02 → 00:21:04 การเรียนรู้วิธีสื่อสารและทำงานร่วมกับ
00:21:04 → 00:21:07 ระบบภายในร่างกายเราจริงๆนะคะเพื่อให้
00:21:07 → 00:21:11 สุขภาพดีจากต้นเหตุถูกต้องเลยครับหัวใจ
00:21:11 → 00:21:15 สำคัญคือความเข้าใจความสม่ำเสมอแล้วก็การ
00:21:15 → 00:21:18 มองไปที่การแก้ปัญหาที่ต้นตอจริงๆทั้ง
00:21:18 → 00:21:21 เรื่องอาหารการจัดการความเครียดการนอนไม่
00:21:21 → 00:21:23 ใช่แค่ไปจัดการอาการปลายเหตุอย่างระดับ
00:21:24 → 00:21:27 น้ำตาลที่สูงหลักการพวกนี้เนี่ยไม่ใช่แค่
00:21:27 → 00:21:29 สำหรับคนที่ป่วยแล้วนะครับแต่ยังเป็นแนว
00:21:29 → 00:21:32 ทางป้องกันโรค NCDS หรือโรคไม่ติดต่อ
00:21:32 → 00:21:34 เรื้อรังต่างๆได้ตั้งแต่เนิ่นๆเลยครับไม่
00:21:34 → 00:21:36 ต้องรอให้ป่วยก่อน
00:21:36 → 00:21:38 >> เป็นการเจาะลึกที่ให้มุมมองที่เป็น
00:21:38 → 00:21:39 ประโยชน์แล้วก็เอาไปปรับปรับใช้ได้จริง
00:21:39 → 00:21:42 มากเลยค่ะขอบคุณสำหรับข้อมูลวันนี้มากนะ
00:21:42 → 00:21:43 คะ
00:21:43 → 00:21:44 >> ยินดีครับ
00:21:44 → 00:21:47 >> สุดท้ายนี้ก็มีประเด็นชวนคลิปทิ้งท้ายจาก
00:21:47 → 00:21:50 สิ่งที่เราคุยกันวันนี้นะคะเมื่อเรามอง
00:21:50 → 00:21:52 อินซูลินกับคอร์ติซอลเปรียบเสมือนคุณพ่อ
00:21:52 → 00:21:55 คุณแม่ที่มีปฏิสัมพันธ์กันในร่างกายเรา
00:21:55 → 00:21:59 แล้วเนี่ยการลองขยายมุมมองไปทำความเข้าใจ
00:21:59 → 00:22:02 สมาชิกครอบครัวคนอื่นๆซึ่งก็คือฮอร์โมน
00:22:02 → 00:22:05 ตัวอื่นๆที่ทำงานร่วมกันอย่างซับซ้อนอาจ
00:22:05 → 00:22:07 จะเปลี่ยนวิธีที่เรามองและตัดสินใจใน
00:22:07 → 00:22:09 เรื่องเล็กๆน้อยๆเกี่ยวกับสุขภาพภาพในแต่
00:22:09 → 00:22:11 ละวันของเราไปได้อย่างไรบ้างลองนำคำถาม
00:22:12 → 00:22:14 นี้ไปขบคิดกันต่อดูนะคะ
00:22:14 → 00:22:32 [เพลง]