00:00:00 → 00:00:02 ค่ะวันนี้เราอยู่กับคุณวารีทิพย์พึ่ง
00:00:02 → 00:00:05 พันธ์นะคะนักโภชนาการชำนาญการพิเศษสำนัก
00:00:05 → 00:00:08 โภชนาการกรมอนามัยสวัสดีค่ะคุณวารีทิพย์
00:00:08 → 00:00:12 คะค่ะสวัสดีค่ะสวัสดีครับอาจารย์ครับ
00:00:12 → 00:00:20 ได้ยินเสียงชัดเจนนะครับได้ยินชัดเจนครับ
00:00:20 → 00:00:23 ไม่เป็นอาจจะไม่ดู
00:00:23 → 00:00:27 อาจจะต้องอาจจะต้อง
00:00:27 → 00:00:32 อาหารเช้าเนี่ยเอ่อบางคนก็อาจจะว่าอย่าง
00:00:32 → 00:00:34 ผมเนี่ยเมื่อก่อนเนี่ยนะเด็กๆก็อาจารย์
00:00:34 → 00:00:38 ครับคือผมก็ผมอยู่บ้านกับคุณแม่ก็อาจเป็น
00:00:38 → 00:00:40 ชิ้นเป็นอันโหเรียกว่าชุดใหญ่ไฟกระพริบ
00:00:40 → 00:00:43 เลยแต่ว่าพอเริ่มโตขึ้นโตขึ้นอาหารเนี่ย
00:00:43 → 00:00:45 มันก็ไม่ค่อยเป็นโล้เป็นพายสักเท่าไหร่
00:00:45 → 00:00:49 ไอ้คำว่าอาหารเช้าเนี่ยมันมันควรจะเป็น
00:00:49 → 00:00:51 หน้าตาเป็นยังไงลักษณะมันจะต้องกินกันยัง
00:00:51 → 00:00:58 ไงครับมันหนักแค่ไหนคะ
00:00:58 → 00:01:01 ก็คืออย่างที่ที่เมื่อสักครู่เอ่อทาง
00:01:01 → 00:01:03 พิธีกรเก่าไปเนาะว่ามันเป็นเรื่องถกเถียง
00:01:03 → 00:01:07 กันมาสักพักนึงแล้วอ่ะบางกลุ่มก็จะบอกว่า
00:01:07 → 00:01:10 กินได้หรือบางไทรบางกลุ่มก็บอกจำเป็นต้อง
00:01:10 → 00:01:12 กินบางกลุ่มก็บอกเออมันไม่จำเป็นต้องกิน
00:01:12 → 00:01:17 ทีเนี้ยเออถ้าถามในฐานะของนักโภชนาการ
00:01:17 → 00:01:20 เนาะเราก็ยังมองว่าคืออาหารเช้าเนี่ยยัง
00:01:20 → 00:01:24 เป็นมื้อสำคัญของของร่างกายอยู่เนื่องจาก
00:01:24 → 00:01:27 ว่าพอเรานับจากเอ่อมื้อเย็นที่เรารับ
00:01:27 → 00:01:29 ประทานเข้าไปเนี่ยค่ะนับการที่เรานอน
00:01:29 → 00:01:32 เนี่ยร่างกายเราก็ยังทำงานอยู่เนาะยัง
00:01:32 → 00:01:34 ต้องการพลังงานถึงมันจะต้องการน้อยก็ยัง
00:01:34 → 00:01:37 ต้องดึงพลังงานมาใช้ในช่วงในเวลาของการ
00:01:37 → 00:01:40 นอนหลับเพราะฉะนั้นในการที่เราตื่นมาตอน
00:01:40 → 00:01:44 เช้าเนี่ยถ้าเราได้การเติมพลังงานของมื้อ
00:01:44 → 00:01:46 เช้าเข้าไปอ่ะค่ะมันก็จะทำให้ร่างกายเรา
00:01:46 → 00:01:49 รู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเป๋าขึ้นแต่บาง
00:01:49 → 00:01:52 กลุ่มเนี่ยก็จะบอกว่าไม่สามารถยังไม่
00:01:52 → 00:01:56 สามารถทานได้มันก็อาจจะขยับไปได้แต่ถ้ามี
00:01:56 → 00:01:59 การอดอาหารเช้าเป็นเวลานานๆติดต่อกัน
00:01:59 → 00:02:01 เนี่ยค่ะมันก็จะมีผลเสียต่อร่างกายอยู่
00:02:01 → 00:02:05 แล้วอ่ะค่ะยังในส่วนของงานวิจัยของประเทศ
00:02:06 → 00:02:08 ญี่ปุ่นเนี่ยที่ที่เป็นที่แพร่หลายอ่ะค่ะ
00:02:08 → 00:02:11 คือเขามีการตีพิมพ์ลงในวารสารนะคะใน
00:02:11 → 00:02:14 เรื่องของเรื่องของโรคหัวใจและหลอดเลือด
00:02:14 → 00:02:17 อย่างเงี้ยค่ะก็จะพบว่าเขาเอ่อศึกษาใน
00:02:17 → 00:02:20 ประชากรตั้งประมาณ 80,000 กว่าคนนะคะมี
00:02:20 → 00:02:23 ทั้งเพศชายเพศหญิงนะคะอายุประมาณ 45 ถึง
00:02:23 → 00:02:27 74 แล้วเขาก็แบ่งกลุ่มการรับประทานอาหาร
00:02:27 → 00:02:30 ตั้งแต่เป็นกลุ่มที่รับประทานแค่สัปดาห์
00:02:30 → 00:02:34 ละ 2 ครั้งหรือว่ารับประทานสัปดาห์ละ 3-4
00:02:34 → 00:02:36 ครั้งแล้วก็เหมือนกับรับประทานอาหารเช้า
00:02:36 → 00:02:39 เนี่ยทุกวันเนี่ยค่ะก็จะพบว่าในกลุ่มที่
00:02:39 → 00:02:43 ไม่ไม่ทานอาหารเช้าอ่ะค่ะหรือว่าทานอาหาร
00:02:43 → 00:02:46 เช้าน้อยกว่า 2 ครั้งต่อสัปดาห์เนี่ยก็จะ
00:02:46 → 00:02:49 มีความเสี่ยงนะคะต่อการเกิดในเรื่องของ
00:02:49 → 00:02:54 เอ่อเลือดออกในสมองอ่ะค่ะถึง 1.3 เท่า
00:02:54 → 00:02:57 เมื่อเทียบกับคนที่รับประทานอาหารเช้าทุก
00:02:57 → 00:02:58 วันนะคะ
00:02:58 → 00:03:03 ค่ะเพราะว่าเนื่องจากว่าในการที่เราอด
00:03:03 → 00:03:06 อาหารเช้าเนี่ยนะคะมันก็จะทำให้ในส่วนของ
00:03:06 → 00:03:09 ความดันโลหิตสูงเนี่ยมันก็จะเกิดขึ้นนะคะ
00:03:09 → 00:03:12 เพราะว่าร่างกายเราเนี่ยมันจะเกิดความหิว
00:03:12 → 00:03:15 นะคะแล้วก็เกิดในภาวะเรื่องของความเครียด
00:03:15 → 00:03:18 นะคะซึ่งปัจจัยดังกล่าวนี้มันก็จะเป็นผล
00:03:18 → 00:03:23 ทำให้เกิดภาวะเลือดออกในสมองแล้วก็เส้น
00:03:23 → 00:03:27 เลือดแตกได้นะคะถ้ามันมีการสะสมเป็นเวลา
00:03:27 → 00:03:30 นานๆอย่างนี้ค่ะทีนี้มันมีคำถามต่อจาก
00:03:30 → 00:03:33 ประเด็นของงานวิจัยนี้นะคะว่า
00:03:33 → 00:03:37 คำว่าอดเป็นเวลานานๆอาหารเช้าเนี่ยมันนาน
00:03:37 → 00:03:40 แค่ไหนและอาหารเช้าเนี่ยครอบคลุมไปถึง
00:03:40 → 00:03:44 แป้งกาแฟดำแก้วนึงไหม
00:03:44 → 00:03:48 หรือว่าต้องเป็นโปรตีนนะคะมี 2 คำถามนะคะ
00:03:48 → 00:03:51 รบกวนเอ่อใช่
00:03:51 → 00:03:54 นะคะเพราะว่าเป็นเวลานานนี้หมายความว่า
00:03:54 → 00:03:57 อย่างที่บอกอยากจะหาที่อธิบายว่าในความ
00:03:57 → 00:04:00 เสี่ยงที่เขาทำการวิจัยอย่างเงี้ยค่ะก็
00:04:00 → 00:04:03 ถ้ากรณีที่เราหมายถึงว่าใน 1 สัปดาห์
00:04:03 → 00:04:06 เนี่ยถ้าเรามองเป็น 7 วันใช่ไหมคะถ้าเรา
00:04:06 → 00:04:11 อดเอ่อกินแค่ 2 2 ครั้งคืออาจจะกินวัน
00:04:11 → 00:04:14 เว้นวันนับแล้วเนี่ย 2 ครั้ง 2 ครั้งต่อ
00:04:14 → 00:04:17 สัปดาห์
00:04:17 → 00:04:21 หรือการกินทุกวันค่ะความเสี่ยงมันก็จะแตก
00:04:21 → 00:04:22 ต่างกัน
00:04:22 → 00:04:27 ถือว่าน้อยก็คือ 2-3 ในก็จะมีความเสี่ยง
00:04:27 → 00:04:31 มากกว่าคนที่กินอาหาร 3 ใน 4 ครั้งต่อ
00:04:31 → 00:04:34 สัปดาห์กินอาหารเช้าหรือเสี่ยง
00:04:34 → 00:04:40 มากกว่าคนที่กินอาหารเช้าทุกมื้อทุกวันที
00:04:40 → 00:04:42 นี้มาถึงเรื่องอาหารเรากินกาแฟดำแก้วนึง
00:04:42 → 00:04:46 ได้ไหมคะบางคนถือว่าสดชื่นแล้วก็ถือว่ามี
00:04:46 → 00:04:50 อะไรลงคอแล้ว
00:04:50 → 00:04:54 คุณภาพของอาหารเช้าเนาะเพราะฉะนั้นคือ
00:04:54 → 00:04:56 จริงๆเนี่ยถ้าถามว่าอาหารเช้าที่มีคุณภาพ
00:04:56 → 00:04:59 เนี่ยจริงๆถ้าเป็นไปได้หรือว่าในบางมื้อ
00:04:59 → 00:05:03 ที่เราสามารถพอมีเวลาแล้วก็เลือกได้ก็ควร
00:05:03 → 00:05:06 จะเลือกอย่างน้อย 3 กลุ่ม 3 กลุ่มในอาหาร
00:05:06 → 00:05:09 ทั้งหมดหมายถึงว่าอาหารทั้งหมดมี 5 กลุ่ม
00:05:09 → 00:05:14 ก็คือมีเอ่อมีแป้งมีโปรตีนมีไขมันผัก
00:05:14 → 00:05:19 ผลไม้คุณผู้ฟังฟังนะเลือกยังไงบ้างคะ
00:05:19 → 00:05:23 ก็คือจะเป็นกลุ่มข้าวแป้งข้าวแป้งก็จะรวม
00:05:23 → 00:05:27 ถึงขนมปังที่เป็นอ่ะรวมขนมจีนอะไรทั้งหมด
00:05:27 → 00:05:30 เลยค่ะนอกจากข้าวที่เรามองเห็นกันแล้วอ่ะ
00:05:30 → 00:05:32 ค่ะแล้วอีกกลุ่มนึงที่สำคัญก็คือกลุ่มของ
00:05:32 → 00:05:35 โปรตีนซึ่งมาจากเนื้อสัตว์หรือเป็นถั่ว
00:05:35 → 00:05:40 อย่างเงี้ยค่ะ
00:05:40 → 00:05:43 กลุ่มประเภทถั่วเหลืองแล้วก็อีกกลุ่มนึง
00:05:43 → 00:05:46 ที่สำคัญก็คือผักผักและผลไม้ซึ่งในกลุ่ม
00:05:46 → 00:05:49 ของข้าวแป้งเนี่ยอย่างที่เราทราบมันก็จะ
00:05:49 → 00:05:53 ให้พลังงานโปรตีนนี้ก็คือจะไปไปช่วยเสริม
00:05:53 → 00:05:56 สมองอยู่แล้วนะครับบำรุงกล้ามเนื้อแล้วก็
00:05:56 → 00:05:59 อีกส่วนนึงก็คือในส่วนของผักและผลไม้ก็
00:05:59 → 00:06:03 คือมีวิตามินและแร่ธาตุอ่ะค่ะโอ้โหอันนี้
00:06:03 → 00:06:05 ค่ะอันนี้ถ้าเราได้สมมุติว่าเช้า 1 เนี่ย
00:06:05 → 00:06:09 เราก็กาแฟดำนะคะแม่อาจจะไม่ใส่น้ำตาลไม่
00:06:09 → 00:06:12 ใส่อะไรแล้วก็ขนมปังสักอาจจะเป็นขาไก่สัก
00:06:12 → 00:06:17 2 ชิ้นนี่ที่ที่พี่นกทานอยู่นะคะก็จะใส่
00:06:17 → 00:06:18 เป็น
00:06:18 → 00:06:21 ที่อยู่เลยนะคะยังถือว่าเป็นอาหารเช้าไหม
00:06:21 → 00:06:22 คะ
00:06:22 → 00:06:24 ก็ถือเป็นอาหารเช้านะคะแต่ก็อย่างที่บอก
00:06:24 → 00:06:27 ว่าอาจจะคุณภาพอาจจะน้อยหน่อยเพราะว่า
00:06:27 → 00:06:30 เนื่องจากว่ามีแค่กลุ่มเดียวก็คือกลุ่ม
00:06:30 → 00:06:35 ก็ยังขาดในกลุ่มของโปรตีนแล้วก็พักและ
00:06:35 → 00:06:37 ผลไม้อาจจะเสริมถ้าสมมุติเรากินอาจจะมี
00:06:37 → 00:06:39 ผลไม้
00:06:39 → 00:06:42 สัก 1 ส่วนอย่างเงี้ยค่ะกล้วยน้ำว้าสัก 1
00:06:42 → 00:06:43 ลูก
00:06:43 → 00:06:45 [เพลง]
00:06:45 → 00:06:48 มีคุณผู้ฟังถามมาพอดีเลยค่ะเขาบอกว่าเอ่อ
00:06:48 → 00:06:52 อาหารเช้าของคนที่เร่งรีบใช้ชีวิตมาใน
00:06:52 → 00:06:55 ญี่ปุ่นนะคะทั้งหญิงชายไม่ทันเป็นเรื่อง
00:06:55 → 00:06:58 เป็นราวเลยจะทานเบเกอรี่หรือกล้วยหอมนี่
00:06:58 → 00:07:02 กับกาแฟหรือนมโอ้ยอันนี้ได้โปรตีนด้วยใช่
00:07:02 → 00:07:15 ไหมคะอาจารย์ก็คือแหล่งของโปรตีน
00:07:15 → 00:07:36 [เพลง]
00:07:59 → 00:08:04 วัยไหนควรจะต้องซัดได้เต็มที่มากบางคนทาน
00:08:04 → 00:08:12 เป็นข้าวกระเพราไปเลยนะผู้ใหญ่เลยนะคะ
00:08:12 → 00:08:15 ถ้ามองในฐานะนักโภชนาการเนี่ยถ้าเราถาม
00:08:15 → 00:08:19 ว่ามื้อไหนที่เรากินได้สำคัญสุดหรือว่า
00:08:19 → 00:08:23 กินได้เต็มที่อาจจะเป็นที่หน่อยก็คือเช้า
00:08:23 → 00:08:24 นี้แหละค่ะเพราะว่าเนื่องจากว่าอย่างที่
00:08:24 → 00:08:28 บอกว่าร่างกายมันพักผ่อนพักผ่อนแล้วก็ดึง
00:08:28 → 00:08:30 สารอาหารจากมื้อเย็นคือช่วงเวลาจับมื้อ
00:08:30 → 00:08:33 เย็นมันจะถึงมื้อเช้ามันก็ห่างกันเนาะอาจ
00:08:33 → 00:08:35 จะ 12 ชั่วโมงเพราะว่าเรากินข้าว 6 โมง
00:08:35 → 00:08:37 เย็นแล้วก็กว่าเราจะตื่นนอนก็ 6 โมงเช้า
00:08:37 → 00:08:40 แล้วนึกออกมั้ยคะเพราะฉะนั้นมื้อเช้า
00:08:40 → 00:08:43 เนี่ยก็คือร่างกายมันขาดพลังงานและต้อง
00:08:43 → 00:08:46 เติมเข้าไปถ้าเรากินข้าวกระเพราก็ได้นะคะ
00:08:46 → 00:08:49 แต่อย่างที่บอกว่ามันอาจจะต้องดูสัดส่วน
00:08:49 → 00:08:53 ดูปริมาณว่ากลุ่มๆไว้แต่ละกลุ่มวัยมันมี
00:08:53 → 00:08:57 ปริมาณที่แตกต่างกันนะคะอย่างถ้าสมมุติ
00:08:57 → 00:08:59 เป็นเด็กเด็กวัยเรียนเนี่ยคิดว่าอาหาร
00:08:59 → 00:09:03 เช้านี้สำคัญมากซึ่งทางกงอนามัยก็ก็แนะนำ
00:09:03 → 00:09:06 เนาะว่ากลุ่มวัยเรียนเนี่ยต้องกินอาหาร
00:09:06 → 00:09:09 เช้าที่มีโปรตีนเพราะว่าเนื่องจากกลุ่ม
00:09:09 → 00:09:12 นี้เขาจะต้องใช้สมองหมายถึงว่าจริงๆทุก
00:09:12 → 00:09:14 กลุ่มใช้สมองหมดแต่ว่าหมายถึงว่าเด็กต้อง
00:09:14 → 00:09:17 เอ่อใช้สมองในการเรียนอะไรอย่างเงี้ยค่ะ
00:09:17 → 00:09:22 ก็จะมีกิจกรรมในแต่ละวันที่ที่ต้องใช้
00:09:22 → 00:09:26 พลังงานก็ยังสามารถกินกินอาหารเช้าประเภท
00:09:26 → 00:09:31 นี้ได้คือในลักษณะของการที่เราพูดว่าอย่า
00:09:31 → 00:09:34 ขาดอาหารเช้าเนี่ยเท่าที่ฟังดูคุณผู้ฟัง
00:09:34 → 00:09:36 แต่ละคนที่ที่
00:09:36 → 00:09:41 ส่งข้อมูลมาเนี่ยนะคะก็แสดงว่ามีสุขภาพ
00:09:41 → 00:09:44 ร่างกายที่ไม่ละเลยอาหารเช้าถือว่าไม่อด
00:09:44 → 00:09:48 ใช่ไหมคะเช่นเอ่อโกโก้ร้อนนมสดข้าวกล้อง
00:09:48 → 00:09:52 แกงจืดผักตำลึงอันนี้เต็มที่เลยนะคะผัก
00:09:52 → 00:09:54 กาดขาวเต้าหู้แล้วก็กล้วยนี่คิดว่าหลายคน
00:09:54 → 00:10:00 เนี่ยทานกล้วยเป็นแหล่งวิตามินเหมือนกัน
00:10:00 → 00:10:03 คือจริงๆก็หมายถึงว่าด้วยความที่มันเร่ง
00:10:03 → 00:10:07 รีบมันอาจจะเป็นข้าวต้มตรงเครื่องที่มัน
00:10:07 → 00:10:10 มีขายอยู่ทั่วไปหรือว่าเป็นโจ๊กเป็นข้าว
00:10:10 → 00:10:13 ผัดหรือเป็นเมนูไข่ต่างๆแต่อย่างที่บอก
00:10:13 → 00:10:15 ว่ามันอาจจะต้องเสริมผักลงไปนิดนึงค่ะ
00:10:15 → 00:10:18 หรือว่าเป็นอาหารสำเร็จรูปที่เป็นซีเรียล
00:10:18 → 00:10:23 นี่ก็อาจจะเป็นเป็นประเภทแบบธัญพืชที่เรา
00:10:23 → 00:10:27 ผสมกับนมจืดหรือว่าที่เรากินแบบเร่งรีบก็
00:10:27 → 00:10:57 คือเป็นแซนด์วิชครับ
00:10:57 → 00:11:00 เพราะว่าตามหลักเลยที่เวลาเราแนะนำเนี่ย
00:11:00 → 00:11:04 เค้าจะบอกว่าต้องกินอาหารให้มันละลาย
00:11:04 → 00:11:07 ถ้าถ้าเต็ม 10 นี่อาหารที่ผมว่าเนี่ยหมู
00:11:07 → 00:11:09 ปิ้งข้าวเหนียวไก่ทอดข้าวเหนียวเนี่ย
00:11:09 → 00:11:12 อาจารย์ให้ซักกี่คะแนนเอง
00:11:12 → 00:11:16 ถ้าสมมุติสัปดาห์ละครั้งเนี่ยก็ก็ยังได้
00:11:16 → 00:11:19 ถ้าอาจารย์พูดถูกกว่าถ้ากินทุกวันนี้ก็
00:11:19 → 00:11:36 น่าจะได้ต่ำกว่า 5 นะคะ
00:11:36 → 00:11:40 1 ครั้งพออย่าลืมนะคะจันทร์ถึงศุกร์หมู
00:11:40 → 00:11:43 ปิ้งเราเหลือบแลไปหน่อยแล้วก็ข้าวต้มสัก
00:11:43 → 00:11:47 วันนึง
00:11:47 → 00:11:52 หรือว่าเป็นข้าวผัดบ้างเป็นแกงจืดเช้าๆ
00:11:52 → 00:11:56 อะไรอย่างเงี้ยค่ะครับอาจารย์ครับแล้ว
00:11:56 → 00:11:59 สมมุติว่าถ้านอกจากสิ่งที่มันจะเกิดขึ้น
00:11:59 → 00:12:02 อย่างเรื่องของเรื่องของโรคหัวใจอย่างที่
00:12:02 → 00:12:04 อาจารย์ได้บอกเนี่ยข้อเสียที่ที่มันจะ
00:12:04 → 00:12:08 เกิดขึ้นตามมาเนี่ยจากการที่เราไม่ทาน
00:12:08 → 00:12:11 อาหารละเลยเรื่องของอาหารเช้าเป็นเวลานาน
00:12:11 → 00:12:13 ๆเนี่ยมันจะมีอะไรตามมาได้บ้างครับ
00:12:13 → 00:12:15 อาจารย์ครับ
00:12:15 → 00:12:18 มีคนบอกว่าน้ำหนักมันจะเพิ่มขึ้นจริงไหม
00:12:18 → 00:12:20 เอาเราไม่กินข้าวเช้าอ่ะน้ำหนักมันจะ
00:12:20 → 00:12:22 เสี่ยงเพิ่มขึ้น
00:12:22 → 00:12:24 หรือเปล่า
00:12:24 → 00:12:29 ก็คือถ้าสมมุติว่าเรางดหมายถึงว่าอดอาหาร
00:12:29 → 00:12:33 เช้าเนาะมันก็จะมีตัวฮอร์โมนที่มันหลัง
00:12:33 → 00:12:37 อย่างที่เราเรียกว่าฮอร์โมนความหิวอ่ะค่ะ
00:12:37 → 00:12:39 มันก็จะหลั่งออกมามากเพราะฉะนั้นมันก็จะ
00:12:39 → 00:12:43 ทำให้เรารู้สึกอยากอาหารในมื้อต่อไปมาก
00:12:43 → 00:12:46 ขึ้นมีหัวก็จะทำให้เรากินอาหารมื้อมื้อ
00:12:46 → 00:12:49 กลางวันในปริมาณที่มาก
00:12:49 → 00:12:53 ก็จะเย็นไหมคะ
00:12:53 → 00:12:56 [เพลง]
00:12:56 → 00:13:00 มันก็คือแบ่งตามช่วงเวลาเพื่อที่จะให้การ
00:13:00 → 00:13:03 เติมพลังงานมันต่อเนื่องอ่ะค่ะแล้วก็กิน
00:13:03 → 00:13:05 ในสัดส่วนที่
00:13:05 → 00:13:09 ตามความต้องการของร่างกายได้พอเหมาะอ่ะ
00:13:09 → 00:13:13 ค่ะถ้าลดลงงดเว้นบางมื้อไปเนี่ยมันก็จะ
00:13:13 → 00:13:16 เกิดความหิวนะคะแล้วก็ระบบการทำงานในร่าง
00:13:16 → 00:13:19 กายมันก็จะรวนนะคะเนื่องจากการทำงานใน
00:13:19 → 00:13:20 ร่างกายมันจะเป็นเหมือนระบบออโต้
00:13:20 → 00:13:23 อัตโนมัติอ่ะค่ะ
00:13:23 → 00:13:26 มีการดึงพลังงานมาใช้ถ้าสมมุติเราไม่กิน
00:13:26 → 00:13:30 พลังงานเติมไปมันจะไปเริ่มดึงใจคอลเจนจาก
00:13:30 → 00:13:32 ตับมาอะไรอย่างเงี้ยค่ะ
00:13:32 → 00:13:36 เป็นห่วงโซ่ไปอ๋อก็ถือว่ามีผลเสียทำให้
00:13:36 → 00:13:38 เรารู้สึกว่าอย่างตอนเช้าเนี่ยถ้าเราไม่
00:13:38 → 00:13:40 กินมื้อเช้าตื่นมาแล้วรู้สึกว่าเราไม่
00:13:40 → 00:13:43 กะปิกระเป๋าเพราะว่าเออตัวสมองเนี่ยมัน
00:13:43 → 00:13:46 ต้องการกลูโคสต์ไปเลี้ยงสมองเพราะฉะนั้น
00:13:46 → 00:13:50 ถ้าเราไม่มีสารอาหารเติมเข้าไปสมองเราก็
00:13:50 → 00:13:52 จะรู้สึกเหนื่อยช้า
00:13:52 → 00:13:55 หรือว่าการทำงานของระบบสมองมันก็ทำงานได้
00:13:55 → 00:13:58 ไม่มีประสิทธิภาพค่ะอยากถามในช่วงเวลาแค่
00:13:58 → 00:14:00 ไหนที่บอกว่าตื่นขึ้นมาแล้วแล้วไม่ได้
00:14:00 → 00:14:03 อาหารที่จะทำให้เราเกิดเอาความเครียด
00:14:03 → 00:14:06 ฮอร์โมนแห่งความหิวออกเนี่ยสมมุติเราตื่น
00:14:06 → 00:14:10 7 โมงเช้าเราจะกินน้ำเปล่าไปได้ถึงกี่
00:14:10 → 00:14:12 ชั่วโมงคะ
00:14:12 → 00:14:16 ก็น่าจะรับประทานได้แบบประมาณไม่เกิน 10
00:14:16 → 00:14:20 โมงนะคะหมายถึงว่านะคะ
00:14:20 → 00:14:23 อันนี้ผมขอถามทานกาแฟดำไปนะที่ไม่นับว่า
00:14:23 → 00:14:26 เป็นอาหารเนาะสมมุติบางคนนะคะติดอันนี้ผม
00:14:26 → 00:14:29 ขอถามเผื่อคนที่เขาอาจจะมีวิถีชีวิตไม่
00:14:29 → 00:14:32 ได้ใช้ชีวิตปกติแบบแบบคนปกติทั่วไปอ่ะ
00:14:33 → 00:14:34 สมมุติถ้าเป็นนักดนตรีกลางคืนอะไรเงี้ย
00:14:34 → 00:14:38 อ่ะเพื่อนผมเนี่ยใช้ใช้ชีวิตช่วงเวลากลาง
00:14:38 → 00:14:41 คืนกว่ามันจะกลับมาก็โอ้โหกดเที่ยงคืนตี 1
00:14:41 → 00:14:44 บางทีก็เช้าตื่นมาอีกทีก็ช่วงบ่ายเนี่ย
00:14:44 → 00:14:48 คืออันนี้เราๆจะนับเป็นอาหารเช้าของๆเขา
00:14:48 → 00:14:51 ได้ไหมครับอาจารย์ครับก็คือตื่นนะเค้า
00:14:51 → 00:14:54 ตื่นตื่นเที่ยงตื่นบ่ายอย่างเงี้ยอ่ะแต่
00:14:54 → 00:15:02 อันนี้มันๆก็ด้วยวิธีชีวิตเนาะ
00:15:02 → 00:15:07 ทำงานเป็นรอบที่ไม่เหมือนคนอื่นนะคะ
00:15:07 → 00:15:10 ก็ได้อย่างนี้ถือว่าเป็นที่แรกของเขาเป็น
00:15:10 → 00:15:14 ของชีวิตก็ได้นะคะเพราะว่า
00:15:14 → 00:15:18 6 โมงเช้าเราจะให้เขากินข้าวตอนก่อนนอน
00:15:18 → 00:15:20 เลยก็ไม่ได้แต่ละคนมันไม่เหมือนกันนะวิถี
00:15:20 → 00:15:22 ชีวิตแต่ว่าคิดว่าคนที่นอนดึกอย่างเพื่อน
00:15:22 → 00:15:27 ดรีมเนี่ยก็น่าจะทานดึก
00:15:27 → 00:15:30 ใช่ค่ะก็เขาใช้พลังงานในช่วงยามกลางคืน
00:15:30 → 00:15:37 เล่นดนตรีอะไรอย่างเงี้ยฮะ
00:15:37 → 00:15:40 พระอาทิตย์ตกเราอาจจะนอนแต่ว่าพระอาทิตย์
00:15:40 → 00:15:43 ตกของเขานี่คือเพิ่งเริ่มเพิ่งเริ่มใช้
00:15:43 → 00:15:46 ชีวิตอะไรเงี้ยอ๋อนี่มันก็ลามไปถึงเรื่อง
00:15:46 → 00:15:49 ของการทำให้ระบบเผาผลาญของร่างกายเราไม่
00:15:49 → 00:15:52 ดีด้วยใช่ไหมครับถ้าเราปวดเมื่อยมันก็จะ
00:15:52 → 00:15:54 เป็นห่วงโซ่ที่อธิบายให้ฟังเมื่อสักครู่
00:15:54 → 00:15:58 มันก็จะต่อเนื่องกันไปต้องดูว่าเราคือนอก
00:15:58 → 00:16:00 จากปัจจัยของอาหารแล้วมันก็จะต้องมี
00:16:00 → 00:16:03 เรื่องของกิจกรรมทางกายอื่นๆเข้ามาเกี่ยว
00:16:03 → 00:16:06 ข้องด้วยอะไรอย่างเงี้ยค่ะก็จะสังเกตว่า
00:16:06 → 00:16:08 ถ้าส่วนใหญ่
00:16:08 → 00:16:12 เอ่อผู้ที่เขาเรียกว่าทำงานกะกลางคืนหรือ
00:16:12 → 00:16:16 เอ่อนอนในตอนเช้าเนี่ย
00:16:16 → 00:16:19 ตัวเองเนี่ยประสบมารู้สึกว่านอนยังไงมัน
00:16:19 → 00:16:21 ก็ไม่พอเนาะกินเท่าไหร่ก็รู้สึกว่าไม่
00:16:21 → 00:16:24 อิ่ม
00:16:24 → 00:16:27 ไม่แน่ใจว่ารับทองพิธีกรเป็นบ้างไหมคะ
00:16:27 → 00:16:30 เพราะว่ารู้สึกว่าก็ 4 ทุ่มนี่ก็ดึกนะคะ
00:16:30 → 00:16:35 ใช่ค่ะใช่ค่ะมีประเด็นนึงเนี่ยที่ตรงใจ
00:16:35 → 00:16:40 เลยก็คือเรื่องของ If มีมีตอนนี้เป็นที่
00:16:40 → 00:16:43 ยอดฮิตที่น่าจะตรงกับที่คุณผู้ฟังท่านนึง
00:16:43 → 00:16:46 ถามมานะเป็นน่าจะเป็นฟ้องคุณแม่มาว่าคุณ
00:16:46 → 00:16:48 แม่ก็ทานเนี่ยมันไม่เป็นมื้อหรอกเท่าที่
00:16:48 → 00:16:53 เท่าที่ฟังดูเนี่ยคือทำ 10 โมงชุดใหญ่มี
00:16:53 → 00:16:57 ทั้งโปรตีนหมดเลยนะคะนมไก่โปรตีนหมูสลัด
00:16:57 → 00:17:01 ทานก็คือเขาเรียกว่าเอ่อเว้นช่วงแล้วก็
00:17:01 → 00:17:03 บ่ายๆทานของว่างนี้ไม่เว้นเท่าไหร่นะ
00:17:03 → 00:17:07 ช่วงระยะเวลาในการเนี่ยลักษณะเหมือนผมว่า
00:17:07 → 00:17:10 เหมือนการทำ If แล้วเย็นน่าจะอดนะเนี่ย
00:17:10 → 00:17:13 ผ่านแค่วันละที
00:17:13 → 00:17:17 เป็นห่วงสุขภาพเพราะว่าคุณแม่เพราะคุณแม่
00:17:17 → 00:17:20 คุณแม่ก็อายุก็ไม่ใช่น้อยๆแล้ว
00:17:20 → 00:17:23 ก็เลยถ้าสมมุติว่าเปรียบร่างกายเราเหมือน
00:17:23 → 00:17:27 เป็นโรงงานนะคะเป็นโรงงานถ้าเราป้อนงาน
00:17:27 → 00:17:30 เข้าไปเยอะๆคือเครื่องจักรมันก็จะทำทำงาน
00:17:30 → 00:17:33 หนักเนาะหมายถึงว่าถ้าเรากินอาหารมื้อ
00:17:33 → 00:17:36 ใหญ่ทีเดียวเนี่ยการเผาผลาญในร่างกายมัน
00:17:36 → 00:17:38 ก็จะต้องดึงทุกส่วนในร่างกายมาใช้ในการ
00:17:38 → 00:17:42 ย่อยแล้วก็ดึงพลังงานออกไปใช้ก็จะทำงาน
00:17:42 → 00:17:44 หนักเพราะฉะนั้นในการแนะนำที่เราบอกว่า
00:17:44 → 00:17:48 กินอาหารเนี่ยจริงๆนอกจาก 3 มื้อหลักเรา
00:17:48 → 00:17:52 ยังมีในมือว่าที่จะแบ่งอาหารเอาไหมคะ
00:17:52 → 00:17:55 เพื่อที่จะให้ร่างกายเราค่อยๆดูดซึมอาหาร
00:17:55 → 00:17:59 ไปแล้วก็เหมือนค่อยๆทำงานก็ทำงานไม่หนัก
00:17:59 → 00:18:01 ในแต่ละมื้ออย่างนี้ค่ะโดยที่สัดส่วนของ
00:18:01 → 00:18:04 อาหารเนี่ยยังก็ยังเน้นอยู่ว่าต้องควบคุม
00:18:04 → 00:18:07 ปริมาณเนาะตามความต้องการของร่างกายว่า
00:18:07 → 00:18:10 ตามกลุ่มช่วงอายุอย่างถ้าสมมุติเป็นผู้
00:18:10 → 00:18:12 สูงอายุเองเนี่ยเรื่องของระบบการเผาผลาญ
00:18:12 → 00:18:16 เนี่ยมันก็จะลดลงเพราะฉะนั้นถ้าเราไปกิน
00:18:16 → 00:18:20 เน้นๆในบางมื้อที่ปริมาณมากๆเป็นเวลานานๆ
00:18:20 → 00:18:23 เนี่ยคือกินอย่างนี้ทุกวันอย่างเงี้ยร่าง
00:18:23 → 00:18:26 กายมันก็เอ่อระบบการทำงานของร่างกายเนี่ย
00:18:26 → 00:18:29 มันก็จะรัวนะคะอย่างที่อย่างที่กล่าวไปก็
00:18:29 → 00:18:31 คือสูงวัยแล้วต้องต้องทานใหญ่อย่างมื้อ
00:18:31 → 00:18:32 ใหญ่มาก
00:18:32 → 00:18:35 ในกรณีของของคุณผู้ฟังท่านนี้ก็คืออาจจะ
00:18:35 → 00:18:38 ต้องอาจจะซอย
00:18:38 → 00:18:42 อ๋อเพราะว่าเนื่องจากว่าพอดูดซึมเลยกิน
00:18:42 → 00:18:46 ปริมาณเยอะๆก็อาจจะท้องอืดไม่ย่อยอะไร
00:18:46 → 00:18:50 อย่างเงี้ยค่ะใช่แต่คือถ้าทำบ่อยๆทำทุก
00:18:50 → 00:18:52 วันจนรู้สึกว่าเป็นนิสัยเนี่ยอย่างนี้
00:18:52 → 00:18:55 เนี่ยมันจะถือว่าร่างกายของเรามีการปรับ
00:18:55 → 00:18:58 สภาพได้แล้วไหมฮะอาจารย์ฮะ
00:18:58 → 00:19:02 ก็ก็ปรับสภาพได้แต่ก็อย่างที่บอกว่าร่าง
00:19:02 → 00:19:05 กายมันก็จะทำงานหนักอ่ะค่ะใช้งานหนักกว่า
00:19:05 → 00:19:09 คนที่กินอาหารทุกมื้อเป็นปกติอย่างนี้ค่ะ
00:19:09 → 00:19:13 ในปริมาณปกติทุกมื้อก็คือเพราะฉะนั้นถ้า
00:19:13 → 00:19:16 อย่างกรณีนี้ก็คืออาจจะให้คำแนะนำว่าคุณ
00:19:16 → 00:19:19 ลูกก็อาจจะไปบอกคุณแม่ว่าอาจจะต้องปรับ
00:19:19 → 00:19:22 แต่เราอาจจะเพิ่มมื้อเป็นสักจากมื้อเดียว
00:19:22 → 00:19:26 เนี่ยก็เป็นสัก 2 มื้อแล้วก็ค่อยๆทยอยทาน
00:19:26 → 00:19:29 แบบนั้นจะดีกว่าถ้าสมมุติว่ามื้อเช้าขยับ
00:19:29 → 00:19:32 มากินเร็วสักนิดนึงเพื่อที่จะมีมื้อว่าง
00:19:32 → 00:19:35 เช้าอีกนิดนึงในปริมาณที่กินเท่ากันเท่า
00:19:36 → 00:19:39 เดิมเนี่ยก็ได้สารอาหารหรือว่าปริมาณเท่า
00:19:39 → 00:19:42 กันกับที่กินแบบเพียงแต่ว่าก็แบ่งเขา
00:19:42 → 00:19:44 เรียกว่าแบ่งป้อนงานให้กับเครื่องจักรใน
00:19:44 → 00:19:47 ร่างกายเอ่อคุณผู้ฟังท่านเนี้ยไม่รู้ว่า
00:19:47 → 00:19:51 จะตื่นสายหรือเปล่าขออนุญาตนะคะถ้าทัน
00:19:51 → 00:19:53 10:00 นเนี่ยอันนี้คือคุณกำลังสบายๆนะ
00:19:53 → 00:19:56 คุณแม่จะสบายๆเพราะวัย 61 นี่ก็คือน่าจะ
00:19:56 → 00:19:58 เกษียณอายุแล้วใช่มั้ยคะ
00:19:58 → 00:20:01 ไม่มีการที่ต้องตื่นเช้าอาจจะทาน 10:00 น
00:20:01 → 00:20:04 แล้วมื้อต่อไปก็น้อยลงน้อยลงเป็นชีวิตที่
00:20:04 → 00:20:09 ผมอยากได้มากเลยตื่นสายจัดชุดใหญ่ไปๆมา
00:20:09 → 00:20:12 ออกกำลังกายโอ้โหดูมีชีวิตที่ดี
00:20:12 → 00:20:16 ของวันของเขาเนี่ยถ้าสมมุติว่านอนสบายๆ
00:20:16 → 00:20:18 เนี่ยก็เป็นมื้อเช้าที่ดีใช่ไหมคะอาจารย์
00:20:18 → 00:20:21 เนอะ
00:20:21 → 00:20:25 ครับอันนี้มันก็เลยสืบเนื่องกับคำถามคุณ
00:20:25 → 00:20:27 ผู้ฟังทางบ้านถามมาทาง Facebook Live
00:20:27 → 00:20:30 ของ FM 100.5 ถามว่าแล้วอย่างคนสูงอายุ
00:20:30 → 00:20:34 ที่ไม่ได้ทำงานอาจจะไม่ได้ใช้พลังงานมาก
00:20:34 → 00:20:36 จำเป็นต้องทานครบ 3 มื้อเลยหรือเปล่าครับ
00:20:36 → 00:20:41 อาจารย์จริงๆคือในในเขาเรียกว่าในจำนวน
00:20:41 → 00:20:44 มือที่เรา
00:20:44 → 00:20:48 ให้กินให้ทานก็คือทั้งคนที่ทำงานและไม่ทำ
00:20:48 → 00:20:50 งานเนี่ยร่างกายมันก็จะเหมือนกันเพียงแต่
00:20:50 → 00:20:52 ว่า activity ในการเผาผลาญมันก็อาจจะไม่
00:20:52 → 00:20:55 เหมือนกันคือกินครบ 3 มื้อเนี่ยกินได้
00:20:55 → 00:20:58 เพียงแต่ว่าในส่วนของอาหารเนี่ยอาจจะต้อง
00:20:58 → 00:21:02 มีการเลือกนิดนึงถ้าสมมติว่าเอ่อในกลุ่ม
00:21:02 → 00:21:06 ที่ใช้พลังงานเยอะก็สามารถกินอาหารที่มี
00:21:06 → 00:21:09 พลังงานได้เยอะขึ้นนิดหน่อยกว่าคนที่ใช้
00:21:09 → 00:21:13 พลังงานน้อยอ่ะค่ะเขาก็จะมีการแบบคือตาม
00:21:13 → 00:21:16 ความแนะนำเนี่ยก็จะมีการแบ่งว่าเออเป็น
00:21:16 → 00:21:19 กลุ่มที่ใช้แรงงานหรือว่าใช้พลังงานมากก็
00:21:19 → 00:21:22 จะสามารถอย่างวัยทำงานเนี่ยก็จะสามารถทาน
00:21:22 → 00:21:26 ได้ถึง 2,000 บาทแคลอรี่ต่อวันค่ะแต่ถ้า
00:21:26 → 00:21:28 สมมุติใช้พลังงานน้อยหน่อยก็แค่ 1,600
00:21:28 → 00:21:31 อืมโดยที่มันซอยแบ่งเป็นมื้อ 3 มื้อหรือ
00:21:31 → 00:21:33 ว่าห้ามรื้ออีก 2 มื้อย่อยอะไรอย่างเงี้ย
00:21:33 → 00:21:34 ค่ะ
00:21:34 → 00:21:38 ก็ทานได้แต่ว่าก็อาจจะต้องดูเรื่องของ
00:21:38 → 00:21:41 ปริมาณพลังงานที่ที่ควรจะต้องได้รับในแต่
00:21:41 → 00:21:44 ละวันใช่ไหมครับอ๋อมีคำถามเพิ่มเติมครับ
00:21:44 → 00:21:47 อาจารย์ครับพูดถึงเรื่องของอาหารและบางคน
00:21:47 → 00:21:49 บอกว่าเอ้ยเราก็อยากจะทานอาหารนะแต่ว่า
00:21:49 → 00:21:50 ตอนนี้
00:21:50 → 00:21:53 มีอาการที่รู้สึกว่ากินแล้วมันกินไม่ลงรส
00:21:53 → 00:21:57 ชาติแปลกๆไม่ทราบว่าจะแก้ไขได้บ้างไหม
00:21:57 → 00:22:01 ครับโดยเฉพาะเอ่ออาหารที่มีไขมันเยอะๆ
00:22:01 → 00:22:03 หรือว่าพวกที่มีนมสดเนี่ยกินไม่ได้เลย
00:22:03 → 00:22:06 อะไรเงี้ยเออเราจะแก้ไขได้ยังไงบ้างครับ
00:22:06 → 00:22:09 คุณพี่ท่านนี้บางทีอาจจะแบบก็อยากจะทาน
00:22:09 → 00:22:11 อาหารเช้านะแต่รู้สึกว่าเฮ้ยพอกินแล้วมัน
00:22:11 → 00:22:14 ยังไม่หิวกินไม่กินไม่ลงเลยรสชาติแปลกๆ
00:22:14 → 00:22:15 เนี่ยเราจะมีวิธีการแก้ไขได้ไหมครับ
00:22:15 → 00:22:16 อาจารย์ครับ
00:22:16 → 00:22:20 เราอาจจะต้องลองๆเริ่มจากอาหารที่ย่อย
00:22:20 → 00:22:22 ย่อยง่ายๆ
00:22:22 → 00:22:25 แบบเอ่อข้าวต้มหรืออะไรอย่างเงี้ยค่ะ
00:22:25 → 00:22:28 เริ่มเริ่มจากที่มันย่อยง่ายๆก่อนไป
00:22:28 → 00:22:30 เรื่อยๆอ่ะค่ะเหมือนๆอารมณ์เหมือนเด็กที่
00:22:30 → 00:22:37 เราฝึกเด็กอ่ะค่ะ
00:22:37 → 00:22:39 ค่อยๆเพิ่มปริมาณมากเนี่ยถ้าสมมุติว่าคน
00:22:39 → 00:22:40 ที่
00:22:40 → 00:22:44 กินนมแล้วรู้สึกพออืดท้องเนี่ยรู้สึกว่า
00:22:44 → 00:22:47 ท้องว่างอาจจะกินควบคู่ไปกับขนมปังแต่ว่า
00:22:47 → 00:22:49 ค่อยๆติดไปอะไรอย่างเงี้ยค่ะไม่ได้กินใน
00:22:49 → 00:22:52 ปริมาณที่เยอะ
00:22:52 → 00:22:55 เพราะว่าก็เป็นไปได้ค่ะที่ส่วนใหญ่ผู้สูง
00:22:55 → 00:22:57 อายุเนี่ยเรื่องของนมหรือว่าเรื่องของ
00:22:57 → 00:22:59 อาหารเนี่ยเขาจะเกิดอาการเบื่ออาหารเพราะ
00:22:59 → 00:23:03 ว่าอย่างคุณแม่ที่บ้านเนี่ยอายุ 75 ก็ก็
00:23:03 → 00:23:07 ไม่อยากทานแล้วก็จะแบบให้ทานอาหารที่มัน
00:23:07 → 00:23:10 ย่อยง่ายๆหรือว่าเป็นผักแทนที่จะโปรตีน
00:23:10 → 00:23:13 เนี่ยก็จะเป็นเนื้อหมายถึงว่าเป็นเนื้อ
00:23:13 → 00:23:16 แดงนะคะก็จะไม่ค่อยมีใครมันอะไรอย่างนี้
00:23:16 → 00:23:19 ในความรู้สึกนะคะว่าเป็นผู้สูงวัยแล้ว
00:23:19 → 00:23:22 เหมือนกันอาหารเช้าสำหรับคนที่ทานไม่ค่อย
00:23:22 → 00:23:23 ได้เนี่ย
00:23:23 → 00:23:26 ถ้าสมมุติว่าเราจะทานอาหารร้อนๆข้าวต้ม
00:23:26 → 00:23:29 อะไรหอมๆเนี่ยมันก็น่าจะคล่องคอดีใช่ไหม
00:23:29 → 00:23:33 คะน่าจะหาแบบนี้ได้ไหมคะใช่ค่ะหรือว่ากิน
00:23:33 → 00:23:37 อาหารที่คู่กับเอ่อน้ำซุปหรือว่าต้มแกง
00:23:37 → 00:23:40 จืด
00:23:40 → 00:23:43 ครับผมมีคนแนะนำเรื่องทานโยเกิร์ตถ้าดื่ม
00:23:43 → 00:23:45 นมไม่ได้โอ้โหโยเกิร์ตนี่ขนาดบางคนนี่ก็
00:23:45 → 00:23:47 น่าจะไม่ค่อยชอบเลยไหมคะ
00:23:47 → 00:23:50 สำหรับคนที่ต้องทำใจกับสายโยเกิร์ตแต่ว่า
00:23:50 → 00:23:52 มันก็มีความหอมหวานผลไม้นะมันก็ช่วย
00:23:52 → 00:23:53 เรื่องของระบบขับถ่ายดีเหมือนกันนะครับ
00:23:53 → 00:23:57 เป็นอาหารเช้าที่ดีไหมคะอาจารย์ครับก็ทาน
00:23:57 → 00:24:00 ได้นะคะอืมแต่ว่าก็ต้องระวังเรื่องน้ำตาล
00:24:00 → 00:24:03 นิดนึงถ้าถ้าในผู้สูงอายุพอในโยเกิร์ต
00:24:03 → 00:24:05 เนี่ยส่วนใหญ่ก็จะต่างกันเยอะ
00:24:05 → 00:24:10 ก็เป็นรถธรรมชาติแล้วก็ใส่ผลไม้ที่หวาน
00:24:10 → 00:24:12 น้อยลงไปแทนอันนี้เพิ่มอาจจะเลือกเป็นพวก
00:24:12 → 00:24:17 กรีกโยเกิร์ตก็ได้ใช่ไหมครับอาจารย์ครับ
00:24:17 → 00:24:22 [เพลง]
00:24:22 → 00:24:27 มีคำถามนิดนึงครับท่านนี้ถามมาว่าอาจจะ
00:24:27 → 00:24:31 เป็นด้วยเรื่องของผลไม้ถามว่าถ้าไม่ไม่
00:24:31 → 00:24:34 ทานผลไม้สดผลไม้แห้งอย่างเช่นลูกเกดเนี่ย
00:24:34 → 00:24:37 เรานับว่ามันจะเป็นอาหารที่มันจะช่วย
00:24:37 → 00:24:39 เสริมวิตามินให้กับคนไทยกับนมนะ
00:24:39 → 00:24:42 เนี่ยได้ไหมครับอาจารย์ครับ
00:24:42 → 00:24:45 ในส่วนของพวกผลไม้อบแห้ง
00:24:45 → 00:24:49 สตอเบอรี่หรือเป็นลูกเกดเนี่ยข้อควรระวัง
00:24:49 → 00:24:52 จริงๆหามาทานได้มั้ยทานได้แต่ครอบครัว
00:24:52 → 00:24:56 ระวังก็คือมันจะมีตัวน้ำตาลสูงเท่ากับว่า
00:24:56 → 00:25:00 คือมันถูกดึงน้ำออกไปใช่ไหมคะทีนี้ปริมาณ
00:25:00 → 00:25:03 พอมันแห้งแล้วอ่ะค่ะกินหลายๆเม็ดรวมกัน
00:25:03 → 00:25:05 กับเรากินของสดเนี่ยถ้าเทียบกันอย่าง
00:25:05 → 00:25:08 เงี้ยเออผลไม้แห้งพวกนี้ก็จะมีน้ำตาลสูง
00:25:08 → 00:25:11 กว่าถ้าถามว่ากินได้ไหมก็กินได้แต่ต้อง
00:25:11 → 00:25:14 ระวังเรื่องของปริมาณนิดนึงนะคะอ๋อก็อาจ
00:25:14 → 00:25:16 จะต้องดูปริมาณนิดนึง
00:25:16 → 00:25:24 [เพลง]
00:25:24 → 00:25:28 มันก็มีคำถามอีกหนึ่งคำถามสำคัญครับถาม
00:25:28 → 00:25:34 ว่าคือถ้าเรางดมื้อเช้าบ่อยๆเป็นเวลานานๆ
00:25:34 → 00:25:37 มันเสี่ยงต่อการเสียชีวิตได้ด้วยไหมฮะ
00:25:37 → 00:25:39 อาจารย์
00:25:39 → 00:25:42 เสียชีวิตได้ไหมก็อย่างที่บอกไปเมื่อตอน
00:25:42 → 00:25:44 ต้นรายการเนอะว่าในงานวิจัยเนี่ยของ
00:25:44 → 00:25:48 ญี่ปุ่นเนี่ยคือเขาก็ดีใจเรื่องของการงด
00:25:48 → 00:25:51 อาหารเช้าเนี่ยก็คือกลุ่มคนที่ไม่กินเลย
00:25:51 → 00:25:53 เนี่ยคือความเสี่ยงที่เกิด
00:25:53 → 00:25:58 โรคหลอดเลือดสมองซึ่งมันนำมาซึ่งการเสีย
00:25:58 → 00:26:02 ชีวิตเนี่ยก็มีเปอร์เซ็นต์เยอะอยู่ค่ะใน
00:26:02 → 00:26:04 กลุ่มอาสาสมัครที่เขาทดลองเนี่ยประมาณ
00:26:04 → 00:26:08 80,000 นี่ก็มีถึงประมาณเกือบ 1,000 คน
00:26:08 → 00:26:11 คืออันนี้เก็บข้อมูลเป็นระยะเวลานานมาก
00:26:11 → 00:26:14 เลยนะคะก็คือ 75 ปี
00:26:14 → 00:26:19 มีอัมพฤกษ์อัมพาตก็เกิดได้
00:26:19 → 00:26:23 ค่ะ
00:26:23 → 00:26:28 15 ปีปี 95 ปี
00:26:28 → 00:26:31 กลุ่มอาสาสมัครแล้วก็มีเรื่องเก็บเรื่อง
00:26:31 → 00:26:34 ข้อมูลพฤติกรรมการบริโภคการออกกำลังกาย
00:26:34 → 00:26:37 การกินยาเรื่องของโรคประจำตัวคือเก็บหมด
00:26:37 → 00:26:41 เลยค่ะข้อมูลของงานวิจัยก็คือพอเรารู้ตัว
00:26:41 → 00:26:43 เนี่ยทุกคนคิดว่าน่าจะรู้ตัวถ้าเราไม่ได้
00:26:43 → 00:26:46 กินอะไรเข้าไปเนี่ยโอ้โหอารมณ์ไม่ดีแล้ว
00:26:46 → 00:26:48 ใช่ไหมคะ
00:26:48 → 00:26:53 ความดันสูงขึ้นมาเครียดเหมือนกับว่าตัว
00:26:53 → 00:26:56 กลูโคสต์ในเลือดมันจะต่ำนะคะ
00:26:56 → 00:26:59 เพราะว่ากลูโคสเนี่ยมันจะมีหน้าที่เอาไป
00:26:59 → 00:27:02 เลี้ยงสมองเนาะพอสมองเราไม่ได้รับกลูโคส
00:27:02 → 00:27:06 เนี่ยก็จะตั้งร่มหงุดหงิดง่ายฉุนเขียว
00:27:06 → 00:27:10 เป็นธรรมดาค่ะแต่เห็นมีบางคนเนี่ยตอนนี้
00:27:10 → 00:27:13 เท่าที่สังเกตอ่ะดื่มเครื่องดื่มชูกำลัง
00:27:13 → 00:27:17 ในตอนเช้าโอ้โหแล้วสดชื่นขึ้นมาเลย
00:27:17 → 00:27:20 คือทานกันเป็นเรื่องเป็นราวเลยอันเนี้ย
00:27:20 → 00:27:22 ถือว่าเป็นอาหารเช้าไหมคะเขาก็คลายเครียด
00:27:22 → 00:27:27 เลยนะคะวิ่งเข้าสะดวกซื้อผมก็จะเจอบรรดา
00:27:27 → 00:27:31 พี่น้องผู้ใช้แรงงานหรือไม่ก็อาจจะเป็น
00:27:31 → 00:27:36 กาแฟกระป๋องซึ่งไม่มีของหวาน
00:27:36 → 00:27:40 ของเครื่องดื่มชูกำลังเนี่ยตามที่เขาแนะ
00:27:40 → 00:27:43 นำหมายถึงว่าตามโฆษณาของเขาเนาะก็จะบอก
00:27:43 → 00:27:47 ว่าควรดื่มวันละ 1 ขวด
00:27:47 → 00:27:51 ที่แนะนำก็คือปริมาณตามนั้นคือไม่เจอใช่
00:27:51 → 00:27:55 ค่ะไม่เกินวันละ 2 ครั้ง
00:27:55 → 00:27:59 เนื่องจากว่ากลูโคสมันก็จะถูกดึงๆไปใช้
00:27:59 → 00:28:01 เพียงแต่ว่าก็อย่างที่บอกว่ามันก็จะได้
00:28:01 → 00:28:04 สารอาหารเพียงแค่กลุ่มเดียวก็คือได้แค่
00:28:04 → 00:28:07 กลูโคสก็คือน้ำตาล
00:28:07 → 00:28:09 แล้วต่อไปเขาก็ต้องหาอะไรทานภายในหลังจาก
00:28:09 → 00:28:12 นั้นเลยใช่ไหมคะเราสามารถเป็นอาหารเช้า
00:28:12 → 00:28:13 หลักได้
00:28:13 → 00:28:16 ก็ถือว่าได้ในชั่วโมงเร่งด่วนแต่ก็เป็น
00:28:16 → 00:28:20 กลุ่มที่ไม่ไม่ดีถ้าให้เกรดนี่ก็คือไม่
00:28:20 → 00:28:40 ได้อยู่ AB นะคะอาจารย์ใช่ค่ะ
00:28:40 → 00:28:45 มีคาเฟอีนถ้าสมมติกินในปริมาณที่มากติด
00:28:45 → 00:28:47 ต่อกันเป็นเวลานานๆก็จะมีผลกระทบต่อร่าง
00:28:47 → 00:29:00 กายเหมือนกัน
00:29:00 → 00:29:03 ในขณะที่เครื่องดื่มมีคาเฟอีนเหมือนกัน
00:29:03 → 00:29:08 กาแฟดำยังดีกว่าตัวเครื่องดื่มชูกำลัง
00:29:08 → 00:29:13 แต่มันไม่ได้ไปมีน้ำตาลใช่ค่ะ
00:29:13 → 00:29:15 อาจารย์ครับมาถึงช่วงสุดท้ายแล้วอยากให้
00:29:15 → 00:29:20 อาจารย์ช่วยแนะนำรวมทั้งช่วยย้ำเตือนถึง
00:29:20 → 00:29:23 ความสำคัญของอาหารเช้าอีกสักครั้งหนึ่ง
00:29:23 → 00:29:24 ครับว่า
00:29:24 → 00:29:27 จำเป็นขนาดไหนอาจารย์อยากจะให้เว้าวอนกัน
00:29:27 → 00:29:29 หน่อยเพราะว่าหลายคนผมเชื่อว่า
00:29:29 → 00:29:35 ก็อาจจะมองข้ามไปนิดนึง
00:29:35 → 00:29:38 ของการใช้ชีวิตในปัจจุบันโดยเฉพาะคนเมือง
00:29:38 → 00:29:40 เนาะคนวัยทำงานที่มันอาจจะ
00:29:41 → 00:29:44 ละเลยกันไปพอสมควรทีเดียวใช่ครับอาจารย์
00:29:44 → 00:29:48 อยากให้ฝากทิ้งท้ายไว้นิดนึงครับ
00:29:48 → 00:29:52 ก็ในฐานะที่เป็นนักโภชนาการนะคะก็อยากจะ
00:29:52 → 00:29:56 ขอแนะนำว่าในส่วนของอาหารเช้าเนี่ยเราก็
00:29:57 → 00:30:00 ยังมองว่าเป็นมือสำคัญแล้วก็จำเป็นนะคะ
00:30:00 → 00:30:04 สำหรับทุกกลุ่มวัยเลยนะคะโดยเฉพาะในกลุ่ม
00:30:04 → 00:30:07 ของเด็กวัยเรียนวัยเรียนนะคะเนื่องจากว่า
00:30:07 → 00:30:12 ร่างกายเนี่ยมันมีการดึงสารอาหารสำรองใน
00:30:12 → 00:30:15 ยามที่เราหลับสามารถใช้ทดแทนเพราะฉะนั้น
00:30:15 → 00:30:18 การที่เราเติมพลังงานหรือเติมสารอาหาร
00:30:18 → 00:30:21 เข้าไปในตอนเช้าอ่ะก็จะทำให้ร่างกายเนี่ย
00:30:21 → 00:30:25 รู้สึกกระปรี้กระเปร่านะคะแล้วก็เหมือน
00:30:25 → 00:30:29 เป็นการเตรียมเตรียมตัวเพื่อที่จะเอ่อทำ
00:30:30 → 00:30:35 กิจกรรมในในระหว่างวันนะคะค่ะพูดถึงงาน
00:30:35 → 00:30:37 วิจัยนี้ก็น่าจะวิจัยกันต่อว่าคนที่ทาน
00:30:37 → 00:30:39 อาหารเช้าตลอดเนี่ย
00:30:39 → 00:30:44 โรคภัยต่างๆมันหายไปได้ขนาดไหน
00:30:44 → 00:30:48 ในส่วนของโรคภัยเนี่ยกลับๆอาหารเช้าเพียง
00:30:48 → 00:30:51 อย่างเดียวมันอาจจะไม่ได้ตอบตอบทุกโรคนะ
00:30:51 → 00:30:54 คะเพราะว่ามันก็มีปัจจัยอื่นเข้ามาเกี่ยว
00:30:54 → 00:30:58 ข้องอีกนะคะในการเป็นโรคเพราะฉะนั้น 1
00:30:58 → 00:31:02 มื้อก็คือเป็นส่วนหนึ่งที่ที่ป้องกันนะคะ
00:31:03 → 00:31:06 แต่ไม่ได้หมายความว่ากินแค่อาหารเช้า 1
00:31:06 → 00:31:10 มื้อเราก็จะปลอดโรคนะคะก็ต้องเรียกคุณภาพ
00:31:10 → 00:31:14 อาหารด้วยเช่นกันแล้วก็ในทุกๆมื้อด้วยค่ะ
00:31:14 → 00:31:18 เอามื้อกลางวันมื้อเย็นค่ะครับผมได้ครับ
00:31:18 → 00:31:20 วันนี้ต้องขอขอบพระคุณอาจารย์มากๆนะครับ
00:31:20 → 00:31:23 ที่ไม่ให้ความรู้กับเราให้เราได้เห็นถึง
00:31:23 → 00:31:25 ความสำคัญของการทานอาหารเช้าเดี๋ยวพรุ่ง
00:31:25 → 00:31:26 นี้ผมจะ
00:31:26 → 00:31:28 ไม่ไปซื้อหมูปิ้งข้าวเหนียวทานแล้วครับ
00:31:28 → 00:31:37 อาจารย์ผมจะไปหาแดกดีกว่าในสัปดาห์นี้
00:31:37 → 00:31:40 อาจารย์ให้มา
00:31:40 → 00:31:42 ต้องเปลี่ยนแล้วขอบพระคุณอาจารย์มากๆนะ
00:31:42 → 00:31:44 ครับอาจารย์ขอบพระคุณครับสวัสดีครับ
00:31:44 → 00:31:49 อาจารย์ครับเท่าที่ฟังคำถามมาแล้วก็ที่
00:31:49 → 00:31:51 อาจารย์คุยเนี่ยคิดว่าหลายคนที่ถามมา
00:31:51 → 00:31:54 เนี่ยเข้าใจนะเรื่องความสำคัญของอาหาร
00:31:54 → 00:31:57 เช้าแต่มีทานหลากหลายกันแตกต่างก็หลาก
00:31:57 → 00:31:59 หลายรูปแบบใช่นะครับวันนี้ต้องขอขอบคุณ
00:31:59 → 00:32:01 อาจารย์วารีทิพย์พึ่งพันธ์นะครับท่านเป็น
00:32:01 → 00:32:05 นักโภชนาการชำนาญการพิเศษจากกรมอนามัยมา
00:32:05 → 00:32:08 ให้ความรู้กับเรานะครับเราพักกันสักครู่
00:32:08 → 00:32:10 หนึ่งนะคะเดี๋ยวมาช่วงที่ 2 ของรายการ
00:32:10 → 00:32:14 สุขภาพดี 22:00 นค่ะ