00:00:00 → 00:00:03 ในวันนี้เราจะดูว่าเราควรจะกินอาหาร
00:00:03 → 00:00:07 ประเภทไหนหรือลดหรืองดอาหารประเภทไหน
00:00:07 → 00:00:09 เพื่อจะให้ห่างไกลมะเร็งกันครับกลุ่มแรก
00:00:09 → 00:00:12 ก่อนดีกว่านะคะกลุ่มแรกเนี่ยเป็นกลุ่มที่
00:00:12 → 00:00:15 คนก็กลัวเหมือนกันนะคะก็คือกลุ่มกลุ่ม
00:00:15 → 00:00:18 โปรตีนโปรตีนเนี่ยจะเหมือนกับว่าเป็นผู้
00:00:18 → 00:00:21 ร้ายโดยไม่ได้ตั้งใจนะคะบางคนจะมองว่าการ
00:00:21 → 00:00:25 กินโปรตีนมากเกินไปโดยเฉพาะโปรตีนจาก
00:00:25 → 00:00:27 เนื้อสัตว์เนี่ยอาจจะทำให้เกิดโรคมะเร็ง
00:00:27 → 00:00:30 หรือเปล่านะคะมันก็ถามว่าผิดไหมก็ไม่ได้
00:00:30 → 00:00:32 ผิดทั้งหมดแต่ก็ไม่ได้ถูกทั้งหมดมันถูก
00:00:32 → 00:00:34 ส่วนหนึ่งนะคะซึ่งตัวโปรตีนที่อาจจะต้อง
00:00:34 → 00:00:37 เลี่ยงนะคะถ้าเกิดเราไม่อยากจะใกล้ชิด
00:00:37 → 00:00:39 มะเร็งมากนักก็คือในกลุ่มของโปรตีนที่
00:00:39 → 00:00:42 เป็นพวกเนื้อสัตว์แปรรูปเนื้อสัตว์แปรรูป
00:00:42 → 00:00:46 เนี่ยถ้าให้นึกง่ายๆพวกไส้กรอกแฮมนะคะไส้
00:00:46 → 00:00:49 อั่วอะไรพวกนี้นะคะอ่าหรือว่าพวกหมูยอก็
00:00:49 → 00:00:51 ได้นะครับพวกเนื้อสัตว์แปรรูปต่างๆเนาะ
00:00:51 → 00:00:54 มันเป็นสิ่งที่กองทุนวิจัยมะเร็งนานาชาติ
00:00:54 → 00:00:56 เนี่ยแล้วก็องค์การพวกทางด้านมะเร็งเนี่ย
00:00:57 → 00:00:59 เขาจัดลำดับเลยว่าพวกเนื้อสัตว์แปรรูป
00:00:59 → 00:01:01 เนี่ยจะเป็นกลุ่มอาหารที่มีความเสี่ยงสูง
00:01:01 → 00:01:05 ทำให้เกิดมะเร็งหลายคนฟังแล้วก็ทำไมเนาะ
00:01:05 → 00:01:07 ทำไมอาหารพวกนี้ที่เราก็จริงๆเราก็เป็น
00:01:07 → 00:01:10 สิ่งที่สะดวกแล้วเราก็กินอยู่ทุกวันเนอะ
00:01:10 → 00:01:13 ทำไมมันเป็นความเสี่ยงก็เพราะว่าในตัว
00:01:13 → 00:01:16 กลุ่มด้วยค่ะสะดวกมากแล้วก็ใช่อย่างที่
00:01:16 → 00:01:18 บอกว่ามันอร่อยเพราะว่าด้วยรสชาติด้วยนะ
00:01:18 → 00:01:20 คะแต่จะให้ข้อมูลนิดนึงว่าในกลุ่มอาหาร
00:01:21 → 00:01:23 กลุ่มพวกนี้จะมีการใส่พวกสารในใจจริงๆ
00:01:23 → 00:01:27 แล้วในใจเนี่ยก็เป็นเหตุผลทางสุขภาพ
00:01:27 → 00:01:29 เหมือนกันนะคะเพราะว่าเขาป้องกันในเรื่อง
00:01:29 → 00:01:31 ของการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ที่มาก่อ
00:01:31 → 00:01:33 โรคนะคะที่มันจะเจริญเติบโตแต่เนื่องจาก
00:01:33 → 00:01:36 ถ้าเกิดเรากินบ่อยๆกินเป็นประจำเนี่ยพวก
00:01:36 → 00:01:38 สารในไตในเตะเนี่ยมันก็มีส่วนทำให้เป็น
00:01:38 → 00:01:40 ปัจจัยเสี่ยงเกิดโรคมะเร็งได้นะคะแล้วก็
00:01:40 → 00:01:42 พวกเนื้อสัตว์แปรรูปเนี่ยจะเห็นว่ามันจะ
00:01:42 → 00:01:45 มีความเค็มนะคะความเค็มของพวกเนื้อสัตว์
00:01:45 → 00:01:47 แปรรูปเนี้ยการได้รับพวกเกลือหรือโซเดียม
00:01:48 → 00:01:50 มากเกินไปอาจจะเสี่ยงต่อโรคมะเร็งกระเพาะ
00:01:50 → 00:01:52 อาหารได้เหมือนกันนะคะแล้วก็กระบวนการ
00:01:52 → 00:01:55 เนี่ยเอาไปทอดหรือเอาไปรมควันหรือทำอะไร
00:01:55 → 00:01:58 ให้มันมีใช้ความร้อนสูงๆเนี่ยก็เป็น
00:01:58 → 00:02:01 ปัจจัยเสี่ยงทำให้เกิดมะเร็งได้นะคะดัง
00:02:01 → 00:02:03 นั้นฟังแบบนี้เนี่ยก็ไม่ใช่ว่ากินไม่ได้
00:02:03 → 00:02:06 เลยเราอาจจะกินได้บ้างนะคะเป็นบางโอกาส
00:02:06 → 00:02:08 แต่ว่าไม่แนะนำว่าจะต้องกินเป็นประจำนะคะ
00:02:08 → 00:02:11 เพราะว่ามันเป็นกลุ่มที่เป็นเสี่ยงต่อการ
00:02:12 → 00:02:14 เกิดโรคมะเร็งนะคะแล้วควรจะกินอะไรล่ะใน
00:02:14 → 00:02:17 กลุ่มของโปรตีนนะคะเพราะจริงๆแล้วโปรตีน
00:02:17 → 00:02:19 เนี่ยถือว่าเป็นกลุ่มสารอาหารที่มี
00:02:19 → 00:02:21 ประโยชน์ต่อร่างกายนะคะไม่ว่าจะวัยไหนเลย
00:02:21 → 00:02:24 ตั้งแต่เด็กยันผู้ใหญ่ผู้สูงอายุเลยนะคะ
00:02:24 → 00:02:26 โปรตีนหรือว่าเป็นสารอาหารที่สำคัญนะคะ
00:02:26 → 00:02:28 เพราะว่าในวัยเด็กก็ช่วยในเรื่องของการ
00:02:28 → 00:02:31 เจริญเติบโตนะคะในวัยผู้ใหญ่แน่นอนว่าก็
00:02:31 → 00:02:33 ช่วยในเรื่องของการซ่อมแซมส่วนต่างๆสร้าง
00:02:33 → 00:02:36 กล้ามเนื้อนะคะดังนั้นในกลุ่มโปรตีนที่จะ
00:02:36 → 00:02:38 เน้นนะคะที่ว่าควรจะเลือกรับประทานนะคะ
00:02:38 → 00:02:40 เพราะว่าถือว่าเป็นสารอาหารที่ยังมี
00:02:40 → 00:02:42 ประโยชน์ต่อร่างกายมากๆเลยคือกลุ่มพวก
00:02:42 → 00:02:45 เนื้อสัตว์สีขาวเองเช่นไก่ปลาไข่พวกอาหาร
00:02:45 → 00:02:47 ทะเลหรือว่าโปรตีนจากพืชกระดาษนะคะอีก
00:02:47 → 00:02:51 แหล่งนึงก็คือนมนะคะก็เลือกเป็นนมพวกนม
00:02:51 → 00:02:53 จืดต้องมันเลยค่ะมันเลยซึ่งกลุ่มพวกนี้ก็
00:02:53 → 00:02:56 จะเป็นกลุ่มโรซี่ที่ควรจะเลือกรับประทาน
00:02:56 → 00:03:00 คำถามที่สำคัญที่จะตามมาก็คือเรารู้ว่า
00:03:00 → 00:03:02 อะไรที่คุณจะเลี่ยงและอะไรบ้างที่เราควร
00:03:02 → 00:03:06 จะบริโภคแต่เราควรจะได้รับมากขนาดไหนครับ
00:03:06 → 00:03:08 สำหรับโปรตีนเป็นคำถามที่ดีเลยนะคะเพราะ
00:03:08 → 00:03:11 ว่าในบางครั้งเนี่ยเราความพอดีในการรับ
00:03:11 → 00:03:13 ประทานเนี่ยมันก็เป็นประเด็นที่สำคัญ
00:03:13 → 00:03:15 เหมือนกันที่จะทำให้สิ่งที่เรากินเข้าไป
00:03:15 → 00:03:17 เนี่ยเกิดประโยชน์หรือไม่เกิดประโยชน์
00:03:17 → 00:03:19 โปรตีนก็เหมือนกันนะคะโปรตีนเนี่ยปริมาณ
00:03:19 → 00:03:22 ที่กินให้เพียงพอนะคะต่อวันเนี่ยตามธง
00:03:22 → 00:03:25 โภชนาการเท่าที่เราเคยได้เห็นกันนะคะที่
00:03:25 → 00:03:28 กรมอนามัยออกมานะคะก็แนะนำว่าในต่อมื้อ
00:03:28 → 00:03:30 และการลบเพื่อให้เห็นภาพง่ายๆต่อมื้อ
00:03:30 → 00:03:33 เนี่ยเราควรจะรับประทานพวกโปรตีนจากเนื้อ
00:03:33 → 00:03:35 สัตว์หรือจับพืชเนี่ยประมาณ 3-4 ช้อนกิน
00:03:35 → 00:03:38 ข้าวนะคะแล้วก็ดื่มนมนะคะเราเป็นนมจืด
00:03:38 → 00:03:40 กล้องมันเนยหรือขัดมันเลยประมาณ 1 แก้ว
00:03:40 → 00:03:43 ต่อวันเพื่อให้ได้โปรตีนแหล่งแคลเซียมที่
00:03:43 → 00:03:45 เพียงพอค่ะซึ่งตรงนี้ก็จะเป็นความพอดีของ
00:03:45 → 00:03:47 การรับประทานอาหารกลุ่มโปรตีนค่ะครับผม
00:03:47 → 00:03:50 ตอนนี้เราพูดถึงโปรตีนละกลุ่มต่อไปนะครับ
00:03:50 → 00:03:54 คุณต่อไปพอมีโปรตีนก็ต้องมีคาร์โบไฮเดรต
00:03:54 → 00:03:56 ใช่ไหมคะเพราะว่าเขาพูดเท่ๆเนี่ยเป็น
00:03:56 → 00:03:59 กลุ่มอาหารหลักสารอาหารหลักที่สำคัญแล้ว
00:03:59 → 00:04:01 ก็เป็นแหล่งงานที่สำคัญของร่างกายเลย
00:04:01 → 00:04:04 เพียงแต่ว่าในการเลือกรับประทานเนาะก็
00:04:04 → 00:04:07 ต้องดูว่าสิ่งไหนจะเหมาะสมในการที่จะกิน
00:04:07 → 00:04:09 แล้วมันจะห่างไกลจากโรคมะเร็งนะคะอันดับ
00:04:09 → 00:04:12 แรกเลยในเรื่องของสิ่งที่ควรเลี่ยงอาจจะ
00:04:12 → 00:04:14 ไม่ใช่สาเหตุโดยตรงที่ทำให้เกิดโรคมะเร็ง
00:04:14 → 00:04:17 นะคะแต่มันก็อาจจะเป็นปัจจัยเชื่อมโยงทำ
00:04:17 → 00:04:19 ให้เกิดมีความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งได้
00:04:19 → 00:04:21 อย่างเช่นพวกกลุ่มที่เป็นคาร์โบไฮเดรตที่
00:04:21 → 00:04:24 ขัดขาวนะคะอย่างเช่นพวกข้าวแป้งไข่ขาวน้ำ
00:04:24 → 00:04:27 ตาลต่างๆที่มันไม่ค่อยมีกากใยซึ่งอาหาร
00:04:27 → 00:04:29 กลุ่มพวกนี้จะเห็นว่าเรากินแป๊บเดียวแล้ว
00:04:29 → 00:04:31 เราก็จะหิวบ่อยแล้วเราก็จะกินได้ปริมาณ
00:04:31 → 00:04:34 เยอะด้วยซึ่งแบบนี้เนี่ยมันจะมีผลต่อการ
00:04:34 → 00:04:37 สะสมในเรื่องของไขมันแล้วก็ภาวะอ้วนได้
00:04:37 → 00:04:39 เพราะว่าอ้วนเนี่ยถือว่าเป็นปัจจัยเสี่ยง
00:04:39 → 00:04:42 ทำให้เกิดโรคมะเร็งหลายๆอวัยวะมากกว่า 10
00:04:42 → 00:04:44 อวัยวะเลยนะคะดังนั้นเนี่ยการเลือกกลุ่ม
00:04:44 → 00:04:46 พวกคาร์โบไฮเดรตที่มันไม่ค่อยมีกากใยอ่ะ
00:04:46 → 00:04:49 มันมีโอกาสที่เรามักจะกินได้มากนะคะแล้ว
00:04:49 → 00:04:51 ก็จะฮีลบ่อยเป็นที่มาของในตัวของเค้าอ่ะ
00:04:51 → 00:04:55 อ้วนได้ดังนั้นเราควรเลือกอะไรนะคะเราก็
00:04:55 → 00:04:57 ควรจะเลือกในกลุ่มที่เป็นมีใยอาหารเยอะๆ
00:04:57 → 00:04:59 หน่อยอย่างเช่นพวกธัญพืชที่มันเต็มเมล็ด
00:04:59 → 00:05:02 ไม่ว่าจะเป็นถั่วเขียวถั่วแดงถั่วดำหรือ
00:05:02 → 00:05:04 ว่าพวกข้าวก็เป็นข้าวกล้องนะคะหรือพวก
00:05:04 → 00:05:08 ครีมนวดนะคะแล้วก็พวกธัญพืชต่างๆที่เขา
00:05:08 → 00:05:10 โพสต์ก็ได้นะคะถ้าเราชอบรับประทานซึ่ง
00:05:10 → 00:05:13 กลุ่มพวกนี้เนี่ยประโยชน์ของมันก็คือมัน
00:05:13 → 00:05:15 จะมีใยอาหารพอใยอาหารมีเยอะปุ๊บเนี่ยมัน
00:05:15 → 00:05:18 ทำให้เราอิ่มได้ไวแล้วก็อิ่มได้นานนะคะ
00:05:18 → 00:05:21 ซึ่งตรงนี้มันเสมือนว่ามันช่วยในการควบ
00:05:21 → 00:05:23 คุมในเรื่องปริมาณอาหารของเราได้ด้วยนะคะ
00:05:23 → 00:05:26 และอีกอย่างหนึ่งการรับประทานอาหารพวกนี้
00:05:26 → 00:05:28 เนี่ยก็จะช่วยในเรื่องของระบบขับถ่ายที่
00:05:28 → 00:05:31 ทำให้ขับถ่ายได้ปกติมากขึ้นตรงนี้ก็จะ
00:05:31 → 00:05:32 ช่วยป้องกันในเรื่องของโรคมะเร็งลำไส้
00:05:33 → 00:05:36 ใหญ่ได้นะคะจะเห็นว่าแค่เลือกอาหารเนี่ย
00:05:36 → 00:05:39 มันก็จะทำให้เราได้รับผลที่ดีต่อร่างกาย
00:05:39 → 00:05:42 ล่ะค่ะผมเป็นคนที่ชอบชอบกินข้าวมากครับใน
00:05:42 → 00:05:45 แต่ละมื้อเนี่ยควรจะกินข้าวเยอะขนาดไหน
00:05:45 → 00:05:48 ครับสมมุติว่าผมๆตัดใจจากข้าวขาวละหรือ
00:05:48 → 00:05:51 ว่าแป้งขาดขาวและข้าวควรจะเป็นข้าวกล้อง
00:05:51 → 00:05:54 แล้วเนี่ยควรจะซักกี่ทัพพีควรจะซักกี่
00:05:54 → 00:05:57 เท่าไหร่ยังไงครับเป็นคำถามที่ดีมากเลยนะ
00:05:57 → 00:06:00 ครับเพราะว่าจากการดูแลบุคลอุปกรณ์หรือ
00:06:00 → 00:06:02 ว่าผู้ป่วยเวลาเราบอกว่าอะไรดีเนี่ยเรา
00:06:03 → 00:06:05 ลืมแนะนำปริมาณไปมักจะกลับมาด้วยน้ำหนัก
00:06:05 → 00:06:08 ที่เพิ่มมากขึ้นกินทุกอย่างที่บอกไปเลย
00:06:08 → 00:06:11 ถั่วต่างๆข้าวกล้องแต่ลืมแนะนำปริมาณไป
00:06:11 → 00:06:13 ตรงนี้ก็จะเป็นจุดอ่อนเหมือนกันนะคะที่
00:06:13 → 00:06:16 เวลาไปในเชิงปฏิบัตินะคะก็อาจจะทำให้
00:06:16 → 00:06:18 ปฏิบัติได้ไม่ถูกต้องนะคะดังนั้นปริมาณ
00:06:18 → 00:06:21 ของกลุ่มคาร์โบไฮเดรตนะคะพวกข้าวแป้งต่าง
00:06:21 → 00:06:24 ๆเนี่ยต่อ 1 มื้อเนี่ยแนะนำประมาณ 2-10
00:06:24 → 00:06:26 ทัพพีต่อ 1 มือซึ่งตรงนี้จะเป็นปริมาณที่
00:06:26 → 00:06:29 พอดีนะคะที่แต่อย่างที่อาจารย์เต้บอกก็
00:06:29 → 00:06:32 เหมือนโปรตีนเหมือนกันแล้วแต่สภาวะเลยค่ะ
00:06:32 → 00:06:34 ว่าความต้องการเนี่ยมากน้อยแค่ไหนขึ้น
00:06:34 → 00:06:36 อยู่กับกิจกรรมด้วยนะคะแล้วก็ขึ้นอยู่กับ
00:06:36 → 00:06:39 ณภาวนาเนี่ยเราอยู่ในสเต็ปไหนบางคนเนี่ย
00:06:39 → 00:06:41 อาจจะมีน้ำหนักเกินเนี่ยถ้าบอกให้กิน 4
00:06:41 → 00:06:43 ทัพพีต่อเบอร์ก็ดูจะมากเกินไปนะคะอาจจะ
00:06:43 → 00:06:46 ต้องเหลือแค่ 2 ทัพพีต่อมือค่ะตรงนี้ก็จะ
00:06:46 → 00:06:49 เป็นความพอดีนะคะในการรับประทานอาหารพูด
00:06:49 → 00:06:51 ถึงโปรตีนนะเราพูดถึงกลุ่มข้าวแป้งอ่ะ
00:06:51 → 00:06:54 กลุ่มต่อไปก็กลุ่มต่อไปฮะกลุ่มผักผลไม้นะ
00:06:54 → 00:06:57 คะกลุ่มผักผลไม้เนี่ยทุกคนก็ถูกทราบดีนะ
00:06:57 → 00:06:59 ว่าผักผลไม้เนี่ยถือว่าเป็น
00:06:59 → 00:07:02 ของอาหารเพื่อสุขภาพเลยนะคะแต่ว่าถ้าเกิด
00:07:02 → 00:07:05 เราเลือกกลุ่มผักผลไม้ที่อาจจะไม่เหมาะ
00:07:05 → 00:07:07 เนี่ยก็อาจจะเป็นความเสี่ยงต่อสุขภาพได้
00:07:07 → 00:07:09 บางคนบอกว่ากินผักผลไม้ดองสิก็เป็นผัก
00:07:09 → 00:07:12 ผลไม้เหมือนกันก็น่าจะได้ประโยชน์จากใย
00:07:12 → 00:07:14 อาหารได้เหมือนกันนะคะถามว่าประโยชน์จาก
00:07:14 → 00:07:16 ใยอาหารได้ไหมก็ได้นะคะเพียงแต่ว่ามันมี
00:07:16 → 00:07:20 สิ่งที่แอบแฝงที่อาจจะเป็นอันตรายที่มาก
00:07:20 → 00:07:22 กว่าประโยชน์ที่เราจะได้รับจากแกหายก็คือ
00:07:22 → 00:07:24 กลุ่มของผักผลไม้ดองเนี่ยก็อาจจะมีในตัว
00:07:24 → 00:07:26 ของโซเดียมที่มากเกินไปซึ่งโซเดียมเนี่ย
00:07:26 → 00:07:29 ถ้าเกิดเราได้รับมากเกินไปก็พบว่ามันเป็น
00:07:29 → 00:07:31 ปัจจัยเสี่ยงทำให้เกิดพวกโรคมะเร็ง
00:07:31 → 00:07:34 กระเพาะอาหารได้เหมือนกันนะคะแล้วก็ยัง
00:07:34 → 00:07:36 ไม่นับรวมโรคอื่นๆที่ไม่ใช่มะเร็งเนี่ยก็
00:07:36 → 00:07:37 เป็นความเสี่ยงเหมือนกันแง่ของการได้รับ
00:07:37 → 00:07:40 ครบส่วนเตรียมนะคะดังนั้นเนี่ยแนะนำว่า
00:07:40 → 00:07:43 ผักผลไม้อะไรที่เราจะแนะนำเพื่อให้ห่าง
00:07:43 → 00:07:45 ไกลจากมะเร็งเราอาจจะเคยได้ยินนะคะว่ากิน
00:07:45 → 00:07:48 ผักผลไม้ให้หลากหลายหลากสีเป็นสีรุ้งไป
00:07:48 → 00:07:51 เลยนะคะจริงๆแล้วบางคนฟังแบบนี้ก็ไม่รู้
00:07:51 → 00:07:54 ว่าทำไมจะต้องหลากสีจริงๆแล้วในแต่ราศี
00:07:54 → 00:07:57 เนี่ยเขามีประโยชน์ที่เป็นจุดเด่นเหมือน
00:07:57 → 00:08:00 กันในแง่ของสารพฤกษศาสตร์เคมีหรือไปนะคะ
00:08:00 → 00:08:03 ในแง่ของใยอาหารผักผลไม้ได้แน่นอนอยู่
00:08:03 → 00:08:06 แล้วนะคะแต่ว่าในแง่ของสีต่างๆก็จะมีความ
00:08:06 → 00:08:08 โดดเด่นแตกต่างกันไปนะคะอย่างเช่นสีแดง
00:08:08 → 00:08:11 เนี่ยอย่างเช่นมะเขือเทศใช่ไหมคะหรือแตง
00:08:11 → 00:08:14 โมพวกนี้เราจะได้ไลโคปีนแต่อะไรครูปี
00:08:14 → 00:08:16 เนี่ยทุกคนก็จะเคยได้ยินว่าช่วยป้องกัน
00:08:16 → 00:08:19 พวกมะเร็งต่อมลูกหมากอะไรพวกนี้ได้ใช่ไหม
00:08:19 → 00:08:23 คะอ่าหรือว่าในพวกสีส้มพวกเบต้าแคโรทีนนะ
00:08:23 → 00:08:26 คะเบต้าแคโรทีนเนี่ยก็จะได้จากพวกแครอทนะ
00:08:26 → 00:08:30 คะอ่าหรือว่าผักผลไม้สีส้มนะคะรวมถึงสี
00:08:30 → 00:08:32 เหลืองด้วยนะคะอย่างเช่นฟักทองก็ได้
00:08:32 → 00:08:35 เหมือนกันแต่ฟังแบบนี้อาจจะมีคำแนะนำนิด
00:08:35 → 00:08:38 นึงพอทุกคนได้ยินคำว่าเบต้าแคโรทีนจะไป
00:08:38 → 00:08:40 ซื้อรับประทานดีไหมนะคะอันนี้ไม่ให้ข้อ
00:08:40 → 00:08:43 มูลเพิ่มเติมนะคะว่าในข้อมูลการศึกษา
00:08:43 → 00:08:46 วิจัยเนี่ยก็พบว่าการไปซื้อในแง่ของอาหาร
00:08:46 → 00:08:48 เสริมใช่ป่ะพอเรากินเดี่ยวๆรับประทาน
00:08:48 → 00:08:51 เนี่ยพบว่าเป็นปัจจัยเสี่ยงทำให้เกิดโรค
00:08:51 → 00:08:53 มะเร็งปอดมากขึ้นโดยเฉพาะกลุ่มที่มี
00:08:53 → 00:08:55 ปัจจัยเสี่ยงอยู่แล้วอย่างเช่นผู้สูบ
00:08:55 → 00:08:57 บุหรี่นะคะดังนั้นเนี่ยอันนี้เราพูดในมุม
00:08:57 → 00:09:00 ของอาหารนะคะไม่ใช่จับแบบสาดนี้ปุ๊บ
00:09:00 → 00:09:03 เดี๋ยวไปสืบร้านขายยาไปซื้อรับประทานไม่
00:09:03 → 00:09:05 แนะนำนะคะแล้วก็เป็นไกด์ไลน์เลยว่าไม่แนะ
00:09:05 → 00:09:07 นำให้รับประทานอาหารเสริมเพื่อป้องกัน
00:09:07 → 00:09:10 เรื่องโรคมะเร็งนะคะแล้วก็เมื่อกี้สีแดง
00:09:10 → 00:09:14 สีส้มสีเหลืองไปแล้วนะคะก็พวกสีเขียวนะคะ
00:09:14 → 00:09:16 จริงๆสีเขียวเนี่ยเป็นโลโก้ของผักเลยนะ
00:09:16 → 00:09:19 ผักทุกชนิดเนี่ยก็มักจะมีสีเขียวนะคะหรือ
00:09:19 → 00:09:21 ผลไม้ก็ได้เหมือนกันพวกแอปเปิ้ลเขียวนะคะ
00:09:21 → 00:09:24 สีเขียวก็จะมีคลอโรฟิลล์นะคะแล้วก็ดู
00:09:24 → 00:09:26 ทีซินเซนทีนนะคะซึ่งก็เป็นสถานศึกษาเคมี
00:09:26 → 00:09:29 ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพกันนะคะแล้วก็สี
00:09:29 → 00:09:33 ม่วงใช่ไหมคะสีม่วงก็จะพวกแอนโทไซยานิน
00:09:33 → 00:09:36 เราเจอได้ในไหนบ้างก็จะเป็นพวกกะหล่ำปลี
00:09:36 → 00:09:39 ม่วงนะคะหรือว่าบลูเบอรี่มัลเบอรี่นะคะ
00:09:39 → 00:09:42 แถมพวกนี้หรือองุ่นก็ได้นะคะแล้วก็พวกสี
00:09:42 → 00:09:46 ขาวสีน้ำตาลนะคะก็จะมีสารพวกอารีซีนสาร
00:09:46 → 00:09:50 พวกรอยต่างๆนะคะเราจะเจอในเหตุในสาลี่นะ
00:09:50 → 00:09:53 คะก็มีผลไม้อีกมากมายเลยจะเห็นว่าในแต่ละ
00:09:53 → 00:09:55 สีเนี่ยเค้าก็จะมีความโดดเด่นหรือมี
00:09:55 → 00:09:57 ซิกเนเจอร์ของเขาอยู่ดังนั้นเนี่ยถ้าเรา
00:09:57 → 00:10:00 อยากได้ประโยชน์ที่มันหลากหลายเนาะเราก็
00:10:00 → 00:10:03 แนะนำว่าเราก็ทานผักผลไม้ให้หลากสีนะคะก็
00:10:03 → 00:10:05 จะช่วยทำให้เราได้ใยอาหารได้สารพัดยังมี
00:10:05 → 00:10:08 ที่มากมายที่แบบป้องกันทำให้เราห่างไกล
00:10:08 → 00:10:09 จากมะเร็งได้ค่ะ
00:10:09 → 00:10:14 หลากสีแล้วก็ให้หลักชนิดแต่คำถามคือมาก
00:10:14 → 00:10:18 ขนาดไหนครับเอ้เป็นคำถามที่ดีเหมือนกัน
00:10:18 → 00:10:20 เลยค่ะผักเนี่ยจะไม่ค่อยมีปัญหานะคะแต่จะ
00:10:20 → 00:10:22 เป็นเรื่องผลไม้มากกว่า
00:10:22 → 00:10:25 เพราะว่าผลไม้เนี่ยดีต่อสุขภาพแต่ถ้าเกิด
00:10:25 → 00:10:27 ไม่จำกัดปริมาณเนี่ยเนื่องจากผลไม้เนี่ย
00:10:27 → 00:10:29 นอกจากตัวใหญ่อาหารแล้วเนี่ยเขามี
00:10:29 → 00:10:31 คาร์โบไฮเดรตที่ค่อนข้างมากอยู่เหมือนกัน
00:10:31 → 00:10:34 ดังนั้นเนี่ยถ้าเราไม่จำกัดปริมาณผลไม้
00:10:34 → 00:10:36 เนี่ยมันมีโอกาสที่เราได้รับคาร์โบไฮเดรต
00:10:36 → 00:10:38 มากเกินไปก็อาจจะเป็นที่มาของน้ำหนักที่
00:10:38 → 00:10:40 มากเกินได้เหมือนกันรวมถึงภาวะ
00:10:40 → 00:10:41 ไตรกลีเซอไรด์ที่อาจจะเพิ่มขึ้นได้นะคะ
00:10:41 → 00:10:45 ดังนั้นเนี่ยตัวผลไม้เนี่ยแนะนำว่าต่อ 1
00:10:45 → 00:10:48 มื้อเนี่ยประมาณ 6-8 ชิ้นคำก็จะเป็นความ
00:10:48 → 00:10:51 พอดีในการรับประทานผลไม้ส่วนผักเนี่ยแนะ
00:10:51 → 00:10:54 นำเลยว่าจริงๆกินได้ไม่จำกัดเลยนะคะโดย
00:10:54 → 00:10:56 ส่วนใหญ่มักจะกินไม่ถึงจะมากกว่านะคะแนะ
00:10:56 → 00:10:59 นำว่า 1-2 ทัพพีต่อมื้อนะคะแต่แนะนำว่า
00:10:59 → 00:11:02 เป็นผักก็เป็นผักใบผักที่มันมีแป้งเยอะ
00:11:02 → 00:11:05 หน่อยอย่างเช่นฟักทองแครอทต้องอาจจะต้อง
00:11:05 → 00:11:07 ระมัดระวังนิดนึงเนี่ยทานเยอะเกินไปนะคะ
00:11:07 → 00:11:09 ตรงนี้เนี่ยอาจจะทำให้เราได้รับคาร์โบมาก
00:11:09 → 00:11:12 เกินค่ะเครื่องดื่มนี้มีข้อแนะนำไงครับ
00:11:12 → 00:11:16 จริงๆกลุ่มนี้เนี่ยดูเหมือนจะเป็นกลุ่ม
00:11:16 → 00:11:18 ที่เราอาจจะมองข้ามแต่จริงๆมันเป็นกลุ่ม
00:11:18 → 00:11:21 ที่ถ้าเราไม่ได้ใส่ใจเนี่ยมันเป็นอันตราย
00:11:21 → 00:11:22 ต่อสุขภาพ
00:11:22 → 00:11:25 สำหรับในตัวเครื่องดื่มเนี่ยเครื่องดื่ม
00:11:25 → 00:11:27 กลุ่มที่อาจจะต้องหลีกเลี่ยงนะคะหรือว่า
00:11:27 → 00:11:29 ถ้ารับประทานก็อย่ารับประทานแล้วเยอะเกิน
00:11:29 → 00:11:32 ไปคือพวกกลุ่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพราะ
00:11:32 → 00:11:34 กลุ่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก็จะมีในกลุ่ม
00:11:34 → 00:11:36 ของ External เนาะซึ่งพวกนี้เนี่ยก็จะ
00:11:36 → 00:11:38 เป็นปัจจัยเสี่ยงให้เกิดโรคมะเร็งได้
00:11:38 → 00:11:40 เหมือนกันตั้งแต่มาเร่งรอดนะอาหารนะคะ
00:11:40 → 00:11:43 หรือมะเร็งตับต่อไปได้ดังนั้นการดื่ม
00:11:43 → 00:11:47 แอลกอฮอล์ก็ถ้ากินเล็กๆน้อยๆนะคะถ้าตามคำ
00:11:47 → 00:11:50 แนะนำเลยถ้าดื่มเนี่ยไม่ควรเกินถ้าผู้
00:11:50 → 00:11:52 หญิงไม่ควรเกิน 1 drink ผู้ชายไม่ควร
00:11:52 → 00:11:54 เกิน 2 drink นะคะ 1 drink ในแง่ของ
00:11:54 → 00:11:56 แอลกอฮอล์ถ้าเป็นพวกเหล้านะคะก็จะประมาณ 1
00:11:57 → 00:11:59 เป๊กนะคะเรียกว่า 1 จริงหรือว่าถ้าเบียร์
00:11:59 → 00:12:01 นะคะก็จะประมาณ 1 กระป๋องหรือว่าถ้ามัน
00:12:01 → 00:12:04 ทุกวัยก็ประมาณ 144 นะคะวันหนึ่งแก้ว Y
00:12:04 → 00:12:07 สวยๆซึ่งตรงนี้เนี่ยก็จะเป็นปริมาณที่พอ
00:12:07 → 00:12:09 เหมาะถ้าเกิดจำเป็นจะต้องไปสั่งศาลนะคะ
00:12:09 → 00:12:12 สำหรับในตัวของเครื่องดื่มที่แนะนำนะคะ
00:12:12 → 00:12:15 แน่นอนเลยว่าตัวเครื่องดื่มที่ที่มันเป็น
00:12:15 → 00:12:17 เบอร์หนึ่งของการดูแลสุขภาพก็คือส่วนน้ำ
00:12:17 → 00:12:20 เปล่าตัวน้ำเปล่าแน่นอนว่าร่างกายของเรา
00:12:20 → 00:12:22 เนี่ยมีน้ำเป็นองค์ประกอบถึงประมาณ 60
00:12:22 → 00:12:24 เปอร์เซ็นต์เลยดังนั้นเนี่ยน้ำที่ดีที่
00:12:24 → 00:12:26 สุดคือน้ำบริสุทธิ์น้ำเปล่านะคะน้ำเปล่า
00:12:26 → 00:12:29 ดื่มไม่เพียงพอก็จะช่วยในการดูแลสุขภาพ
00:12:29 → 00:12:32 แล้วซึ่งปริมาณเนี่ยหลายคนอาจจะยังไม่
00:12:32 → 00:12:34 เข้าใจว่าปริมาณที่เหมาะสมสำหรับการดื่ม
00:12:34 → 00:12:37 น้ำเปล่าเนี่ยควรเท่าไหร่นะคะเพราะจากการ
00:12:37 → 00:12:39 ที่เราดูแลบุคลากรอย่างที่เรามาธิบดี
00:12:39 → 00:12:42 เนี่ยก็จะมีเครื่อง dia ที่วัดน้ำในร่าง
00:12:42 → 00:12:45 กายหลายคนมาเนี่ยก็พบว่าปริมาณน้ำในร่าง
00:12:45 → 00:12:48 กายเนี่ยพบว่าต่ำกว่าเกณฑ์นะคะพอถามไปถึง
00:12:48 → 00:12:50 วิธีการกินน้ำหรือปริมาณการกินนะทุกคนยัง
00:12:50 → 00:12:53 ไม่รู้เลยว่าปริมาณน้ำที่เหมาะสมเท่าไหร่
00:12:53 → 00:12:55 จำได้ว่า 2 ลิตรหรือเปล่าซึ่งจริงๆแล้ว
00:12:55 → 00:12:58 มันอาจจะเป็นคำแนะนำกว้างๆนะคะและจะให้
00:12:58 → 00:13:01 ตัวเลขไปลองคำนวณของตัวเองนะคะว่าปริมาณ
00:13:01 → 00:13:04 น้ำเปล่าที่เหมาะสมหรือว่าน้ำที่เหมาะสม
00:13:04 → 00:13:07 ต่อหนึ่งวันเนี่ยของเหลวเลยควรจะได้รับ
00:13:07 → 00:13:09 เท่าไหร่เอาน้ำหนักตัวของเราณปัจจุบันนะ
00:13:09 → 00:13:12 คะคูณด้วย 40 มิลลิลิตรนะคะก็จะเป็น
00:13:12 → 00:13:16 ปริมาณน้ำที่พอดีบางคนเนี่ยหนัก 80 กก
00:13:16 → 00:13:20 เนาะบอกว่าจะกินน้ำ 2 ลิตร 80 * 4 8 4
00:13:20 → 00:13:22 32 3.2 ลิตร
00:13:22 → 00:13:25 เวลาประเมินก็พบว่ามันก็ยังน้ำในร่างกาย
00:13:25 → 00:13:27 ก็ยังต่ำกว่าเกณฑ์ก็เพราะว่ามันยังไม่ได้
00:13:27 → 00:13:29 แมตช์กับนางแบบน้ำหนักเพราะว่า 2 ลิตร
00:13:29 → 00:13:32 เนี่ยมันคิดที่น้ำหนักตัว 50 กกซึ่งเรา
00:13:32 → 00:13:35 ไม่ใช่คนน้ำหนัก 50 กกนะคะแล้วก็อีกตัว
00:13:35 → 00:13:39 นึงกาแฟดำนะคะกาแฟดำจริงๆถ้าถามว่าเราไม่
00:13:39 → 00:13:41 เคยกินแล้วจำเป็นจะต้องไปกินเพื่อห่างไกล
00:13:41 → 00:13:43 มะเร็งมั้ยก็อาจจะไม่ได้จำเป็นนะคะเพราะ
00:13:43 → 00:13:45 ว่าณตอนนี้ต้องบอกเลยว่ามันยังเป็นข้อมูล
00:13:45 → 00:13:48 ที่อาจจะยังใหม่แล้วยังไม่ได้มากพอที่อาจ
00:13:48 → 00:13:50 จะเป็นคำแนะนำว่าเอ้ยกินแล้วมันจะช่วย
00:13:51 → 00:13:53 ป้องกันห่างไกลจากมะเร็งได้แต่ก็เอามาให้
00:13:53 → 00:13:55 ดูนะคะว่ามันยังมีข้อมูลจำนวนหนึ่งที่พบ
00:13:55 → 00:13:58 ว่าการรับประทานกลุ่มกาแฟนะคะแต่แนะนำว่า
00:13:58 → 00:14:00 เป็นกาแฟดำที่ต้องเช็กกาแฟดำเพราะว่าถ้า
00:14:00 → 00:14:03 เกิดบอกกาแฟปุ๊บเนี่ยหลายคนเนี่ยอาจจะถูก
00:14:03 → 00:14:06 ใจเลยว่าเอ้าก็กินอยู่ทุกวันก็น่าจะห่าง
00:14:06 → 00:14:09 ไกลมะเร็งเป็นกาแฟดำนะคะกาแฟดำเนี่ยเพราะ
00:14:09 → 00:14:11 ว่ามีความสัมพันธ์กับการลดความเสี่ยงต่อ
00:14:11 → 00:14:13 การเกิดโรคมะเร็งตับนะคะแต่อย่างไรก็ตาม
00:14:13 → 00:14:15 เนี่ยปริมาณที่เหมาะสมเราก็อย่าลืมไปว่า
00:14:15 → 00:14:18 กาแฟเนี่ยก็จะมีส่วนของคาเฟอีนที่จริงๆก็
00:14:18 → 00:14:20 เป็นข้อควรระวังเหมือนกันในการรับประทาน
00:14:20 → 00:14:23 นะคะก็แนะนำว่าไม่ควรเกิน 2 แก้วต่อวันนะ
00:14:23 → 00:14:26 คะเพราะว่าในวันนึงเนี่ยก็มีคำแนะนำว่า
00:14:26 → 00:14:29 คาเฟอีนต่อ 1 วันไม่ควรเกิน 3 วันก็ยังมี
00:14:29 → 00:14:32 ข้อจำกัดว่าในการรับประทานแต่ถ้าใครฟัง
00:14:32 → 00:14:34 แบบ Revo เฮ้ยยังไม่เคยกินกาแฟเขาบอกว่า
00:14:34 → 00:14:37 กินกาแฟดำแล้วจะช่วยห่างไกลมะเร็งแล้วไป
00:14:37 → 00:14:39 ริเริ่มในจริงไม่ได้แนะนำนะคะอันนี้เป็น
00:14:39 → 00:14:42 ข้อมูลให้นะคะเพื่อประกอบการตัดสินใจใน
00:14:42 → 00:14:44 การรับประทานอาหารค่ะความรู้ทำให้ทุก
00:14:44 → 00:14:48 อย่างเป็นไปได้มหาวิทยาลัยมหิดลปัญญาของ
00:14:48 → 00:14:49 แผ่นดิน
00:14:49 → 00:14:56 [เพลง]