00:00:00 → 00:00:03 เนี่ยจริงๆก็มีมีอยู่เรื่อยๆอาจจะมีไม่
00:00:03 → 00:00:08 มากแล้วก็ทิศทางของประโยชน์ของชาเนี่ยมี
00:00:08 → 00:00:11 แต่ว่าการวิจัยสเกลใหญ่ๆที่จะออกมาฟันธง
00:00:11 → 00:00:14 เลยมันคงยากแล้วมันคงเป็นไปไม่ได้อย่าง
00:00:14 → 00:00:18 ที่คุณตี๋บอกชามันมีหลายเกรดแพงถูกนัก
00:00:18 → 00:00:21 วิจัยก็คงไม่เอาแบบแพงๆมาทำอันนี้พูดแบบ
00:00:21 → 00:00:26 กว้างๆนะครับแต่สำหรับประชาชนก็อยากให้
00:00:27 → 00:00:30 เป็นจุดที่เราใช้และลองสังเกตอย่างจาก
00:00:30 → 00:00:33 ชีวิตจริงที่ผมคุยกับคุณตี๋เนี่ยเขาก็ให้
00:00:33 → 00:00:37 ลูกค้าสังเกตดูอ่ะสังเกตอะไรครับก็คืออัน
00:00:37 → 00:00:41 ที่ 1 คุณประโยชน์ของชาอ้าอันนี้แบบเหมา
00:00:41 → 00:00:44 รวมเลยก็แล้วกันนะครับที่เป็นไปได้ก็คือ
00:00:44 → 00:00:46 เรื่องตื่นเรื่องสมาธิเรื่องผ่อนคลายอัน
00:00:46 → 00:00:49 นี้เรารู้เราคุยกันเยอะละอ่ะในเชิงลดน้ำ
00:00:49 → 00:00:53 หนักในเชิงภูมิต้านทานโดยเฉพาะภูมิต้าน
00:00:53 → 00:00:57 ทานหลอดลมผมรถเสมหะนะครับช่วงฝุ่น PM
00:00:57 → 00:01:01 อย่างเงี้ยรถคันตาคันผิวหนังนะครับเรื่อง
00:01:01 → 00:01:06 เอ่อสุขภาพท้องนะครับบางคนที่บอกว่าดื่ม
00:01:06 → 00:01:10 ชาแล้วมีลมเยอะท้องผูแต่ก็มีกลุ่มนึงที่
00:01:10 → 00:01:14 ดื่มชาแล้วรู้สึกว่าขับถ่ายได้ดีแก้ปัญหา
00:01:14 → 00:01:16 เรื่อง irritable Bow Syndrome หรือ
00:01:16 → 00:01:19 ภาวะลำไส้แปรปวดนะครับลดโอกาสเสี่ยง
00:01:19 → 00:01:24 มะเร็งลำไส้ก็มีรายงานครับสุดท้ายคืออะไร
00:01:24 → 00:01:27 ฮะเรื่องสุขภาพจิตและสุขภาพสมองสุขภาพจิต
00:01:27 → 00:01:31 เนี่ยชาเอาไว้ช่วยในการบำบัดภาวะซึมเศร้า
00:01:31 → 00:01:35 อารมณ์แปรปวนและชาก็มีรายงานว่าช่วยลดนะ
00:01:35 → 00:01:39 ฮะโอกาสเกิดอัลไซเมอร์หรือโรคสมองเสื่อม
00:01:39 → 00:01:41 ในผู้สูงอายุได้แต่ทั้งนี้ทั้งหมดที่ผม
00:01:41 → 00:01:44 พูดเนี่ยอย่าย้ำอีกทีนะครับมันก็เป็นข้อ
00:01:44 → 00:01:48 มูลและวิจัยที่ค่อนข้างน้อยไม่ได้เยอะมาก
00:01:48 → 00:01:53 อย่างที่ผมพยายามไปหานะครับแต่ถามว่าพิษ
00:01:53 → 00:01:57 ของชาเนี่ยข้อมูลน้อยในเวลาเดียวกันนะฮะ
00:01:57 → 00:02:01 โทษภัยของชาเนี่ยน้อยจะมี S เเฟกเล็กน้อย
00:02:01 → 00:02:03 อย่างที่คุณตีปูก็ไปสังเกตแล้วก็ปรับวิธี
00:02:03 → 00:02:06 นะฮะแต่จากประโยชน์ที่เรามีมันค่อนข้าง
00:02:06 → 00:02:09 เยอะดังนั้นชาก็อาจจะเป็นอชนึงนะฮะที่
00:02:09 → 00:02:15 โบราณเใช้กันมาแล้วเราก็รนอารมณ์ใช้กัน
00:02:15 → 00:02:19 ต่อทีนี้ก่อนที่เราจะเริ่มกินชาเนี่ยเรา
00:02:19 → 00:02:24 มาลองดูกันก่อนว่าชาในตลาดจริงๆแล้วมีกี่
00:02:24 → 00:02:29 ชนิดและที่เา้าประกาศขายกันหรือมีการยิง
00:02:29 → 00:02:30 แอดเรื่อง
00:02:30 → 00:02:32 ชาชา
00:02:32 → 00:02:36 มะกูดชาสารพัดก็ได้ฮะนะฮะมันเป็นชาจริง
00:02:36 → 00:02:39 หรือไม่หรือมันเป็นเพียงแค่ใช้คำว่าน้ำ
00:02:39 → 00:02:45 ต้มนะครับอ่ะเรามาลองคุยกับคุณติดู
00:02:45 → 00:02:49 ครับคนที่อยากจะลองเปลี่ยนจากกาแฟมาเริ่ม
00:02:49 → 00:02:52 เป็นชานะครับก่อนอื่นก็คือต้องบอกก่อนนะ
00:02:53 → 00:02:57 ฮะมีหลายท่านเนี่ยเป็นห่วงว่าดื่มชาแล้ว
00:02:58 → 00:03:00 เนี่ยมีอาการเช่น
00:03:00 → 00:03:05 ใจสั่นปัสสาวะบ่อยปากแห้งคอแห้งหัวใจเต้น
00:03:05 → 00:03:08 เร็วอันนั้นส่วนนึงก็เป็นฤทธิ์ของแเฟที่
00:03:08 → 00:03:12 อยู่ในชาซึ่งเดี๋ยวเราจะมาลองถามคุณติดู
00:03:12 → 00:03:16 ว่ากรณีเช่นนั้นเนี่ยมีวิธีอย่างไรอันที่
00:03:16 → 00:03:19 2 คือคนก็จะบอกว่ากินชาแล้วท้องผูกมีลม
00:03:19 → 00:03:24 เยอะถ่ายไม่ได้นะครับรู้สึกไม่สบายคอนั้น
00:03:24 → 00:03:26 ก็มาลองดูกันว่ากรณีเช่นนั้นเกิดจากการ
00:03:26 → 00:03:31 ที่เขาแช่ชานานไปหรือเปล่านะครับอ่ะคุณตี
00:03:31 → 00:03:35 ครับสำหรับคนที่อยากลองดื่มชาง่ายๆสำหรับ
00:03:35 → 00:03:37 คนในครัวเรือนหรือผู้สูงอายุคุณตีแนะนำ
00:03:37 → 00:03:38 ยังไงดีครับ
00:03:38 → 00:03:41 เอิ่มคำถามคุณหมอตอนแรกที่เกริ่นมานะฮะ
00:03:42 → 00:03:43 เรื่องอาการหลายๆอย่าง
00:03:43 → 00:03:47 เนี่ยต้องบอกว่าในภาพรวมทั้งหมดเนี่ย
00:03:47 → 00:03:50 อุสาหการในเมืองไทยนะฮะผมว่าเราค่อนข้าง
00:03:50 → 00:03:54 ที่จะเบลอๆแล้วเราไม่ค่อยรู้ว่าเรากำลัง
00:03:54 → 00:03:57 กินอะไรอยู่อืเช่นเราบอกว่าชาเนี่ยเรากิน
00:03:58 → 00:04:03 ชานะฮะแม้กระทั่งกินกินนมในขวดนมที่เรา
00:04:03 → 00:04:06 เจอก็มักจะเขียนว่านมโคสดแท้ 100% ในความ
00:04:06 → 00:04:09 เป็นจริงเนี่ยมันก็มีเติม additive อื่นๆ
00:04:09 → 00:04:12 ใส่เข้าไปจนเราไม่แน่ใจว่ามันเป็นอือนม
00:04:12 → 00:04:14 แท้ๆจริงๆหรือเปล่าซึ่งเราเข้าใจไปเองนะ
00:04:14 → 00:04:18 ฮะว่ามันมีแต่นมอือแม้ทั่งชานะฮะอ่าสิ่ง
00:04:18 → 00:04:22 ที่เราเกินอ่าเห็นเป็นชาเยอะๆเลยในในตลาด
00:04:22 → 00:04:26 หรือชาขวดถามว่าชาขวดเนี่ยมันคือชามมย
00:04:26 → 00:04:29 ต้องบอกว่าใช่ครับมันมีบางส่วนที่เป็นสาร
00:04:29 → 00:04:31 สกัดกัดจากชาเสร็จแล้วเก็จะมีการเติม
00:04:31 → 00:04:36 คาเฟอีนเติมน้ำตาลเติมสารแต่งสีแต่งกริ่น
00:04:36 → 00:04:39 แม้กระทั่งอ่ะถ้าเป็นชาใบอ่ะบางคนเขก็ไป
00:04:39 → 00:04:43 เติมสาริีอื่นๆเพิ่มเช่นสารแต่งกลิ่นนะฮะ
00:04:43 → 00:04:46 อาจจะเบนพืชอย่างอื่นใส่เข้าไปอือพอมัน
00:04:46 → 00:04:49 เป็นอย่างนี้ปั๊บคำว่าชาเนี่ยมันเริ่ม
00:04:49 → 00:04:52 เบลอๆแล้วอ่าถูกครดิตไปแล้วอใช่ครับคราว
00:04:52 → 00:04:55 นี้เนี่ยเราอาจจะต้องถามว่าในกรณีที่เรา
00:04:55 → 00:04:58 เกิดอาการไม่พึงประสงค์อนะฮะทั้งใจสั่น
00:04:58 → 00:05:01 และอื่นๆต้องมานั่งดูครับว่าเรากินชา
00:05:01 → 00:05:03 เนี่ยในชานั้นมันเป็นอะไร้ามีอะไรบ้าง
00:05:03 → 00:05:07 ครับอือโดยทั่วไปอนะฮะจริงๆชาผมก็ในมุม
00:05:07 → 00:05:09 มองผมมันไม่ใช่พืชวิเศษอ่ะนะฮะเพียงแต่
00:05:09 → 00:05:13 ว่าถ้าจะมองฉากเป็นก้อนรวมๆสารสกัดจากใบ
00:05:13 → 00:05:16 ชาที่สมมุติดีสุดนนะฮะเราหาใบชามมาแล้วก็
00:05:16 → 00:05:20 สกัดน้ำร้อนเองอือ่ามันจะมีสาร 2 กลุ่ม
00:05:20 → 00:05:23 ซึ่งเรามักจะมองไปที่เพ่งเล็งคาเฟอีนอือ
00:05:23 → 00:05:26 อ่าแต่ผมคิดว่านอกจากคาเฟอีนแล้วเนี่ยมัน
00:05:26 → 00:05:28 ไม่เราดื่มชามันไม่ใช่ตักคาเฟอีนผมมัน
00:05:28 → 00:05:31 ละลายน้ำอนะฮะอือมันมีสารเยอะมากเลยใน
00:05:31 → 00:05:34 นั้นแบ่งอ่ากลุ่มแรกเป็นสารที่ทำให้เรา
00:05:34 → 00:05:36 ผ่อนคลายฮะอไอ้กลุ่มที่ 2 เป็นสารที่ทำ
00:05:37 → 00:05:39 ให้เราตื่นคาเฟอีนเนี่ยเป็นส่วนหนึ่งที่
00:05:39 → 00:05:41 อยู่ในกลุ่มสารที่ทำให้เราตื่นนะฮะอือ
00:05:41 → 00:05:45 คราวนี้เมื่อกี้เนี่ยลองให้คุณหมอทานมาจ
00:05:45 → 00:05:49 ไปแล้วแก้วนึงอนะฮะจริงๆอยากจะถามคุณหมอ
00:05:49 → 00:05:51 ว่าสังเกตตัวเองปั๊บเนี่ยเป็นยังไงบ้าง่ะ
00:05:51 → 00:05:56 ฮะอืผมผมผมรู้สึกผมตื่นนะตื่นแล้วก็ครับ
00:05:56 → 00:06:01 ผมผมว่าผมตื่นผม Alert แล้วก็อคามๆมันผสม
00:06:01 → 00:06:03 กันน่ะมันไม่ได้ตื่นแบบคือผมเป็นคนชอบกิน
00:06:04 → 00:06:07 กาแฟนะตื่นกาแฟมันจะตื่นแบบไม่รีกอ่ะตื่น
00:06:07 → 00:06:12 แบบตึงๆสมาธิแบบจดจ่อยากหน่อยแต่เมื่อ
00:06:12 → 00:06:15 ไหร่ที่ผมลองหันมาดื่มชาเเมันตื่นแต่ว่า
00:06:15 → 00:06:18 มันตื่นแบบนิ่งๆรีกมันไม่ได้เหมือนกับโดน
00:06:18 → 00:06:22 เฆี่ยนมากครับมันผสมกันนะฮะในๆในเนี่ยฮะ
00:06:22 → 00:06:25 ตอนเรียนเนี่ยใกล้สอบแล้วก็โมอ่านหนังสือ
00:06:25 → 00:06:28 กันหนักมากนะฮะแล้วก็ไม่ได้นอนกันอสิ่ง
00:06:28 → 00:06:31 ที่เราทำคือจะเป็นเครื่องดื่มชูกำลังไม่
00:06:31 → 00:06:34 ก็กาแฟก็ได้อัดเข้าไปเพื่อเข้าห้องสอบอือ
00:06:34 → 00:06:36 สิ่งที่สังเกตได้นะฮะแล้วเข้าห้องสอบไป
00:06:36 → 00:06:40 แล้วก็ตื่นเป็นซอมบี้เลยฮะคือตาเนี่ยตื่น
00:06:40 → 00:06:42 อยู่นะฮะต้องคดสอบแต่สมองไม่ทำงานเลยครับ
00:06:42 → 00:06:46 จริงอานี้พอเปลี่ยนมาเป็นอ่าชานะฮะโดย
00:06:46 → 00:06:49 เฉพาะตัวที่เป็นมัจหมายถึงผงมัจแท้ๆนะฮะ
00:06:49 → 00:06:52 สิ่งที่เกิดขึ้นคือมันตื่นนะฮะแต่ตื่นแบบ
00:06:52 → 00:06:55 เราจมดิ่งเข้าสู่ภายในมันเหมือนตื่นแบบ
00:06:55 → 00:06:58 ตื่นในสมาธิสมองแล่นทำงานได้อถูกต้องถูก
00:06:58 → 00:07:00 ต้องเลยครับนั่นเป็นสิ่งที่ผมซึ่ง
00:07:00 → 00:07:03 อันเนี้ยเป็นสิ่งที่เราน่าตั้งคำถามกันนะ
00:07:03 → 00:07:06 ฮะว่ามันเกิดอะไรขึ้นเพียงแต่ว่าในเชิง
00:07:06 → 00:07:09 การวิจัยเราก็ไม่มีใครลงไปทำวิจัยลึกว่า
00:07:09 → 00:07:12 เอ้การตื่นต่างกันเพราะอะไรถ้าบอกเป็น
00:07:12 → 00:07:15 คาเฟอีนเนี่ยในช้าก็มีฮะในคาเฟอีนในคาแฟ
00:07:15 → 00:07:17 ก็มีทำไมมันถึงให้เอฟเฟคต่างกันทั้งนี่
00:07:17 → 00:07:21 มันมีคาเฟอีนเหมือนกันแสดงว่าแบบที่คุณตี
00:07:21 → 00:07:24 พูดก็คือฤทธิ์ของทำให้ผ่อนคลายครับที่
00:07:24 → 00:07:28 อยู่ในชามันผสมกับฤทธิ์ของแคฟีทำให้เรา
00:07:28 → 00:07:32 ได้ Balance ตื่นด้วยคลายด้วยนิ่งด้วย
00:07:32 → 00:07:36 ครับมันมันเป็นก้อนรวมๆนะฮะซึ่งในทาง
00:07:36 → 00:07:39 วิทยาศาสตร์เนี่ยการศึกษาให้ง่ายเนี่ยเรา
00:07:39 → 00:07:42 จับเอามาตัวเดียวใช่มั้ยฮะตัวที่สนใจแต่
00:07:42 → 00:07:45 ในความเป็นจริงเนี่ยพอมันเป็นก้อนรวมมีสา
00:07:45 → 00:07:48 ประมาณ 45,000 ชนิดเนี่ยครับชแล้วเป็น
00:07:48 → 00:07:50 เอฟเฟคต่อเนื่องของศาลหลายตัวทำงานด้วย
00:07:50 → 00:07:55 กันเนี่ยการศึกษายากมากฮะครับครับจริง
00:07:55 → 00:08:00 ครับผมเองก็ผมเชื่อว่าแพทย์ในชีวิตแพทแนะ
00:08:00 → 00:08:03 อย่างน้อย 7 ใน 10 อย่างน้อยนะครับอาจจะ
00:08:03 → 00:08:05 มากกว่าอาจจะน้อยกว่านิดนึงแต่เกินครึ่ง
00:08:05 → 00:08:09 แน่ๆครับเราอาศัยการทำงานการตื่นด้วย
00:08:09 → 00:08:13 กาแฟผมเนี่ยสมัยก่อนเนี่ยจนจบมหาลัยเนี่ย
00:08:14 → 00:08:17 ไม่กินกาแฟไม่กินเลยนะครับอันที่ 1 ก็ไม่
00:08:17 → 00:08:20 มีเงินด้วยแหละสมัยนู้นนะกาแฟแก้วนึง 40
00:08:20 → 00:08:21 50 บาท
00:08:21 → 00:08:26 ไม่ 2 เพิ่งมาเริ่มกินกาแฟตอนจบเป็นแพทย์
00:08:26 → 00:08:29 ใช้ทุนตอนนั้นไปอยู่นครแล้วก็รุ่นพี่ก็พา
00:08:29 → 00:08:33 ไปกินกาแฟแล้วรู้สึกตื่นรู้สึกชอบตั้งแต่
00:08:33 → 00:08:37 นั้นมาเนี่ยรู้สึกวันไหนไม่กินกาแฟเนี่ย
00:08:37 → 00:08:40 ร่างกายมันขับเคลื่อนช้าเหมือนเราต้อง
00:08:40 → 00:08:44 เฆี่ยนนะฮะจนกระทั่งปีเนี้ย 2024 ผมบอก
00:08:44 → 00:08:46 ตัวเองว่าผมจะเลิกกินกาแฟแล้วผมก็หักดิบ
00:08:46 → 00:08:49 เลิกเลยนะครับแต่คำว่าเลิกของผมนี้เลิก
00:08:49 → 00:08:52 หมายถึงว่าเราไม่ต้องกินกาแฟทุกวันกิน
00:08:52 → 00:08:55 เพื่อแบบรีกนานๆทีเจอเพื่อนเจออะไรคือ
00:08:55 → 00:08:59 ดื่มได้แต่ว่าเราไม่ได้ดื่มทุกวันเช่มั้ย
00:08:59 → 00:09:01 ฮะช่วงช่วงนึงเนี่ยเวลาคนไข้เยอะๆหรือ
00:09:01 → 00:09:04 เหนื่อยเนี่ยผมต้องใช้กาแฟถึง 2 แก้วแต่
00:09:04 → 00:09:07 ไม่เคยถึง 3 นะฮะอ๋อยังมีอยู่ครับขอบคุณ
00:09:07 → 00:09:12 มาก 2 ที่คือต่อเนื่อง 1 ๆๆๆๆก็คืออาจจะ
00:09:12 → 00:09:16 เช้า 1 00 แต่ว่ากาแฟที่เขาจะชงให้ผม
00:09:16 → 00:09:18 เนี่ยจะเป็นกาแฟที่น้ำตาลน้อยนมน้อยหมาย
00:09:18 → 00:09:21 ความว่าคุณหมอดื่มกาแฟเช้าทำานถึงใกล้ๆ
00:09:21 → 00:09:23 เที่ยงเที่ยงแล้วก็ขอแกกินข้าวอ่าแล้วก็
00:09:23 → 00:09:26 อีกแก้วนึงแล้วก็มาบูสตอนบ่ายใช่เพื่อว่า
00:09:26 → 00:09:29 ต้องเพราะว่าแพทย์อ่ะผมเชื่อว่าผมก็
00:09:29 → 00:09:32 เหมือนแพทย์หลายๆท่านมันต้องใช้สมองครับ
00:09:32 → 00:09:35 ยิ่งทำงานในภาวะวิกฤตหรือว่าคนไข้เรื้อ
00:09:35 → 00:09:38 รังอ่ะที่ต้องฟังเ้านานๆเนี่ยโอ้โหมัน
00:09:38 → 00:09:41 ต้องใช้พลังสมองมากแต่ถึงจุดนึงอันนี้ผม
00:09:41 → 00:09:44 บอกเลยนะฮะผมเริ่มรู้สึกว่าผมตื่นคำเดียว
00:09:44 → 00:09:49 กับที่คุณตีพูดเลยฮะตื่นแต่เริ่มไม่ค่อย
00:09:49 → 00:09:52 มีสมาธิอนี้ผมบอกจริงๆนะฮผมรู้สึกว่าไม่
00:09:52 → 00:09:54 ใช่ว่าไม่มีสมาธิอย่างนั้นแต่มันรู้สึก
00:09:54 → 00:09:58 มันมันไม่ค่อยอยู่กับปัจจุบันมันตื่นแบบ
00:09:58 → 00:10:01 ตื่นแบบสมองมันเออมันบล็อกๆมันเริ่มคิด
00:10:01 → 00:10:04 ช้าแล้วก็มันเริ่มรู้สึกการตัดสินผมเนี่ย
00:10:04 → 00:10:08 มันช้าลงเยอะแล้วผมเริ่มสังเกตอย่างนี้มา
00:10:08 → 00:10:10 สักพักละผมรู้สึกว่า
00:10:10 → 00:10:14 เอ๊ผมก็เลยตัดสินใจแล้วผมก็เรต้องไปอ่าน
00:10:14 → 00:10:16 เรื่องกาแฟเรื่องอะไรผมก็เข้าใจแลรู้มาก
00:10:16 → 00:10:19 ขึ้นว่าเออจริงๆมันก็เป็นสารเสพติดที่ถูก
00:10:19 → 00:10:23 การยอมรับเป็นสารเสพติดชนิดใหญ่แล้วก็
00:10:23 → 00:10:26 ปริมาณแค่ฟีแต่ละคนเนี่ยแต่ละร้านแต่ละ
00:10:26 → 00:10:29 วิธีการคั้วไม่เหมือนกันผมบอกเลยฮะร้าน
00:10:29 → 00:10:32 ร้านนึงที่ผมกินเนี่ยกินแล้วปวดหัวเลย
00:10:32 → 00:10:35 สั่งแบบเดียวกันไปกินอีกร้านนึงไม่ปวด
00:10:35 → 00:10:39 หัวบางทีภูมิแพ้กำเริบเนี่ยกินกาแฟผมผมผม
00:10:39 → 00:10:41 สังเกตของตัวเองนะฮะแต่ anyway Story
00:10:41 → 00:10:44 Short ก็คือพอผมเลิกต้นปีนะผมเลิกเลยฮะ
00:10:44 → 00:10:49 แล้วผมก็หันมาใช้ชาชาเขียวนะฮะเออมัน
00:10:49 → 00:10:52 เปลี่ยนผมตื่นผมรีกมากขึ้นอย่างที่คุณตี๋
00:10:52 → 00:10:56 พูดเลยฮตื่นแล้วรู้สึกมันคามแล้วผมก็
00:10:56 → 00:11:01 นิ่งก็เลยเป็นที่มาว่าว่าลิขิตเรามาเจอ
00:11:01 → 00:11:04 กันพอดีแล้วผมก็ inspire เรื่องชานะฮะที
00:11:04 → 00:11:07 นี้ก็ก็แทรกเรื่องส่วนตัวนิดนึงว่าที่มา
00:11:07 → 00:11:10 ว่าทำไมถึงแล้วผมก็อยากจะรณรงค์ให้เรา
00:11:10 → 00:11:14 เนี่ยฮะลองหันไปดูนิดนึงว่าส่วนส่วนหนึ่ง
00:11:14 → 00:11:18 ที่เราปวดหัวหนักหัวอยู่บ่อยๆตื่นเช้ามา
00:11:18 → 00:11:21 เนี่ยจะต้องมีกาแฟแก้วแวไม่งั้นเราจะปวด
00:11:21 → 00:11:23 หัวหนักหัวสมองไม่แล่นเนี่ยอันนี้เป็น
00:11:23 → 00:11:27 สัญญาณว่าเราติดแคฟีละ 2 ถ้าเรามีอาการ
00:11:27 → 00:11:31 ขับถ่ายท้องผูกสลับท้องเสียท้องอืดลมเยอะ
00:11:31 → 00:11:34 3 ถ้าเรามีอาการพวกคัดจมูก 4 อันนี้บอก
00:11:34 → 00:11:37 เลยนะฮะสมาธิเริ่มรู้สึกว่ามันคิดความ
00:11:37 → 00:11:43 สร้างสรรค์คิดออกมายะยากจดจ่อยาก 5 รู้
00:11:43 → 00:11:46 สึกว่านอนไม่ค่อยอิ่มหลับๆตื่นๆหลับไม่
00:11:46 → 00:11:49 ลึกรบกวนการนอน 6 ปวดเมื่อยบ่อยอันนี้ลอง
00:11:49 → 00:11:52 ไปสังเกตดูะอาจจะเป็นอาการของแคฟีที่มัน
00:11:52 → 00:11:55 Overdose หรือว่า overuse ของแคฟีในระยะ
00:11:55 → 00:11:58 ยาวลองสังเกตครับมันไม่มีใครพิสูจน์เรา
00:11:58 → 00:12:00 ไม่สามารถตรวจระดับระดับแคฟีในร่างกายได้
00:12:00 → 00:12:04 แต่ผมเป็นตัวอย่างคนนึงที่ผมบอกเลยว่ามัน
00:12:04 → 00:12:08 ช่วยมากงั้นกลับมาที่ชาทีนี้กลับมาคำถาม
00:12:08 → 00:12:11 เดิมฮะโอเคตรงนี้เราสรุปะว่าคุณตีบอกว่า
00:12:11 → 00:12:14 จริงๆเนี่ยชาเนี่ยอย่าเพิ่งไปโทษเพราะว่า
00:12:14 → 00:12:18 ชาเนี่ยมันมีทั้งส่วนผสมเยอะในตลาดถ้ารี
00:12:18 → 00:12:21 บอกถ้าเราสนใจจริงๆลองเอาใบชามาต้มแล้ว
00:12:21 → 00:12:23 กิินเพียวๆเลยแล้วลองดูว่าเราเป็นจริง
00:12:23 → 00:12:26 หรือไม่ถ้าไม่เป็นเดินหน้าต่อถ้าเป็นก็
00:12:26 → 00:12:29 อาจจะเปลี่ยนอ่ะทีนี้สำหรับคนที่มือใหม่
00:12:29 → 00:12:35 ชามันแพงมันมีหลายกรีบแนะนำยังไงดีอืขั้น
00:12:35 → 00:12:39 ตอนการเตรียมจริงๆผมอยากจะแนะนำบอกว่าแต่
00:12:39 → 00:12:42 ละคนน่ะนะฮะมนุษย์เราแตกต่างกันเราดื่มชา
00:12:42 → 00:12:46 เนี่ยดื่มเพื่อความสุขความผ่อนคลายเราเอง
00:12:46 → 00:12:50 เพราะฉะนั้นใครมันจะไปบอกว่ามันดีหรือไม่
00:12:50 → 00:12:52 ดีไม่ได้นอกจากตัวเราเพราะฉะนั้นเวลาดื่ม
00:12:52 → 00:12:55 ชาเอยากจะให้กลับมาสังเกตตัวเราเองก่อน
00:12:55 → 00:12:59 น่ะนะฮะเป็นเกตตัดสินคราวนี้สำหรับมือ
00:12:59 → 00:13:01 ใหม่ที่ดื่มชานะฮะอันนี้ก็อยากจะบอกอัน
00:13:01 → 00:13:04 นึงว่าเท่าที่สังเกตนะฮะแต่มนุษย์แต่ละคน
00:13:04 → 00:13:08 เนี่ยชามีคุณภาพหลากหลายนะฮะแต่ละคนเนี่ย
00:13:08 → 00:13:11 จะมีเส้นบางๆที่ขีดไว้ตรงคุณภาพชาหมาย
00:13:11 → 00:13:15 ความว่าคนที่ 1 นะฮะอ่าสมมุติคุณภาพชามี
00:13:16 → 00:13:18 สเกลตั้งแต่ 1-10
00:13:18 → 00:13:22 เส้นที่คนที่ 1 ดื่มได้หมายความว่าชาถ้า
00:13:22 → 00:13:25 คุณภาพต่ำกว่านี้คนที่ 1 ดื่มแล้วอาจจะมี
00:13:25 → 00:13:29 อาการป่วยเช่นเบอกว่าคนที่ 1 เนี่ยดื่ม
00:13:29 → 00:13:31 ได้ที่ระดับ 3 เนี่ยชารที่ได้คะแนนเกิน 3
00:13:31 → 00:13:34 ขึ้นไปเนี่ยคนที่ 1 ดื่มได้สบายหมดตับ
00:13:34 → 00:13:36 กว่า 3 ลงมาอาจจะมีอาการป่วยอะไรสักอย่าง
00:13:36 → 00:13:40 นึงของผมเองที่เจอบ่อยมากอ่าปวดหัวฮะแล้ว
00:13:40 → 00:13:45 ก็ลิ้นชาซึ่งบางทีก็ปวดท้องบางทีก็บอกไม่
00:13:45 → 00:13:47 ได้ว่ามันมาจากอะไรแต่เป็นอาการที่ไม่พุง
00:13:47 → 00:13:50 ประสงค์ทั้งหลายอือคือถ้าเป็นแบบเนี้ย
00:13:50 → 00:13:52 สิ่งที่ทำได้อันนึงก็คือเราขยับเกรดขึ้น
00:13:52 → 00:13:57 อือลองลองดูชารเกรดที่สูงขึ้นไปอือันที่ 2
00:13:57 → 00:14:01 นะฮะอ่าตที่บอกคุยเมื่อกี้ชาแต่ละอย่าง
00:14:01 → 00:14:04 ของจีนเนี่ยผ่านกระบวนการมานะฮะแบ่งชาได้
00:14:04 → 00:14:06 6 กลุ่มตามกระบวนการผลิตซึ่งไอ้ 6 กลุ่ม
00:14:06 → 00:14:09 เนี่ยทำให้กลิ่นของรถต่างกันไปด้วย
00:14:09 → 00:14:14 คุณสมบัติอื่นๆมันดูกำกวมนะฮะแต่น่า
00:14:14 → 00:14:16 สังเกตว่าแต่ละคนบางคนเนี่ยดื่มชาบาง
00:14:16 → 00:14:20 กลุ่มไม่หลับแต่ดื่มอีกกลุ่มนึงหลับอืตัว
00:14:20 → 00:14:22 อย่างที่ผมเจอบ่อยที่สุดก็คือว่าคนที่
00:14:22 → 00:14:25 ดื่มชาภูเเอ๋อนะฮะซึ่งจริงๆเป็นชาอยู่ใน
00:14:25 → 00:14:29 กลุ่มชาดำอืตอนนี้กำลังฮิตมากเลยจากกระแส
00:14:29 → 00:14:32 สุขภาพจะดื่มผูเเอ๋อเพื่อลดไขมันลดน้ำ
00:14:32 → 00:14:35 หนักออือจะมีคนกลุ่มนึงที่ดื่มดื่มผูเ
00:14:35 → 00:14:37 เอ๋อแล้วไม่หลับกลุ่มนี้เนี่ยเราให้ชา
00:14:37 → 00:14:40 เขียวเนี่ยกลับหลับฮะอืแล้วก็กลับกันนะฮะ
00:14:40 → 00:14:43 กลุ่มคนที่ดื่มชาเขียวหลับเนี่ยเอาผูเอ๋อ
00:14:43 → 00:14:47 มาให้กินเนี่ยตื่นฮะอืั้นกลายเป็นว่ามัน
00:14:47 → 00:14:50 ดูไม่มีคำตอบสำเร็จรูปนะฮะแต่ข้อดีของมัน
00:14:50 → 00:14:54 คือว่าชามันอาจจะไม่ได้มีความเป็นพิษมาก
00:14:54 → 00:14:58 มายทดลองได้แล้วก็ดูตัวเองอืแล้วเริ่มที่
00:14:58 → 00:15:02 ชาเลยดีครับชาอะไรก็ได้ครับหาชาที่ตัวเอง
00:15:02 → 00:15:06 ชอบให้เจออืโอเคชาดำชาเขียวชาขาวเริ่ม
00:15:06 → 00:15:09 อะไรก็ได้เลยครับลองอะไรก็ได้ฮะะโอเค
00:15:09 → 00:15:12 เริ่มเริ่มจากสักตัวนึงเสร็จแล้วเนี่ยเรา
00:15:12 → 00:15:15 จะเห็นร่างกายเราตอบสนองมันว่าเราชอบ
00:15:15 → 00:15:19 กลิ่นของมันมั้ยเอออ่าความรู้สึกอื่นๆที่
00:15:19 → 00:15:22 เกิดขึ้นตามมาเช่นของคุณหมอเองหลังจากดึม
00:15:22 → 00:15:24 มัจะเป็นยังไงบ้างฮะดีครับอย่างที่ผมบอก
00:15:24 → 00:15:28 ผมตื่นแล้วก็ผมคามผมรีกครับถ้าถ้ากรณีที่
00:15:28 → 00:15:30 เป็นแบบคุณหมอนะฮะก็จะแนะนำว่าอย่างงั้น
00:15:30 → 00:15:32 คุณหมอก็ลองดื่มมัฉะต่อแล้วลองดูว่ามัน
00:15:33 → 00:15:35 ยังเป็นแบบนี้ให้เอฟเฟคที่ต้องการได้มั้ย
00:15:35 → 00:15:39 ออืแต่ชาขาวนี้ผมชอบนะผมรู้สึกมันเบาครับ
00:15:39 → 00:15:42 มัฉะตะกี้ผมมันอาจจะมีความเข้มข้นอาจจะ
00:15:43 → 00:15:46 เป็นเพราะผงหรืออะไรแต่ว่าชาขาวนี่ผมดื่ม
00:15:47 → 00:15:50 แล้วผมรู้สึกก็รีกครับอีกแบบนึงแต่ชาขาว
00:15:50 → 00:15:53 จะไม่ไม่สามารถให้ความตื่นแบบอ่าทรงพลัง
00:15:53 → 00:15:57 ได้แบบมัจะมัจะใช่มั้ยฮะคราวนี้เนี่ย
00:15:57 → 00:15:58 เหมือนกับอย่างอื่นนะฮะมัจะตอนนี้เนี่ย
00:15:59 → 00:16:02 ตลาดเนี่ยบ้านจริงๆเป็นเรื่องที่ซับซ้อน
00:16:02 → 00:16:06 อันนึงพอตลาดมัจะมันบุมปั๊บอ่ามันมีชา
00:16:06 → 00:16:10 หลายๆอย่างนะฮะแม้กระทั่งเอาชาที่เป็นใบ
00:16:10 → 00:16:13 ชาเฉยๆนะฮะมาปดเป็นโผงแล้วเติมสีเขียว
00:16:13 → 00:16:16 อะไรก็ได้เขียวๆบ้านเราเรียกมาจะหมดเออก็
00:16:16 → 00:16:21 มีครั้งนึงที่ผมไปร้านขายขนมแล้วก็หมาย
00:16:21 → 00:16:23 ถึงขายส่งอุปกรณ์ทำขนมนนะฮะแล้วก็เห็นถุง
00:16:23 → 00:16:29 จตั้งไว้ก็หยิบปลาดูกอ่าไขมันตาตามกับน้ำ
00:16:29 → 00:16:31 ตาลรวมกันได้
00:16:31 → 00:16:34 98% 2% แต่งสีแต่งกิ่นเฮ้ยงชายอยู่ไหน
00:16:34 → 00:16:40 อ่ะเออไม่มีครับอืแต่ก็คือกลายเป็นงมาจ
00:16:40 → 00:16:43 แบบที่บ้านเราใช้กันอ๋อโอเคก็คือคุตี
00:16:43 → 00:16:47 กำลังจะบอกว่าก็ต้องระวังเรื่องพวกนี้
00:16:47 → 00:16:50 เวลาไปคัดไปดูนิดนึงว่ามันมีชาหรือเปล่า
00:16:50 → 00:16:53 หรือเป็นแค่สีปรุงแต่งใใช่ครับแม้กระทั่ง
00:16:53 → 00:16:56 ตอนหลังเองญี่ปุ่นก็ทำมัจสังเคราะห์ออกมา
00:16:56 → 00:17:00 นะฮะอือซึ่งคนไม่เคยกินมะจะจะแยกไม่ได้
00:17:00 → 00:17:04 เลยอืเเอาสารสกัดชานะฮะมาทำเป็นผงเสร็จ
00:17:04 → 00:17:10 แล้วก็อ่าแปะไปบนแิอบางอย่างอืเติมสีเติม
00:17:10 → 00:17:11 กลิ่นอาจจะเติมสีธรรมชาติด้วยกลิ่น
00:17:11 → 00:17:15 ธรรมชาติด้วยใส่คาเฟอีนออือราคาต่างกันมา
00:17:15 → 00:17:19 จะจริงเยอะมากเลยฮะแต่จากของผมเองเนี่ย
00:17:19 → 00:17:21 ดื่มตัวเนี้ยมีปัญหาก็คือว่าผมรู้สึก
00:17:21 → 00:17:24 เหมือนผมเด่นคนดื่มกาแฟไม่ค่อยได้ดื่ม
00:17:24 → 00:17:26 แล้วใจสั่นอืไอ้คาเฟอีนที่มันเติมไปใน
00:17:26 → 00:17:31 เนี่ยมันทำให้ผมใจสั่นเหมือนกาแฟเลยอือื
00:17:31 → 00:17:35 ครับโอเคก็สรุปที่คุณตี๋พูดเรก็คือกลับมา
00:17:35 → 00:17:37 อีกเรื่องนึงนะฮะก็คือสสำหรับใครที่รู้
00:17:37 → 00:17:40 สึกว่าดื่มชาแล้วมี Side affect ก็ไปดู
00:17:40 → 00:17:44 ว่ามันเป็นจากสิ่งเติมอย่างอื่นหรือเปล่า
00:17:44 → 00:17:46 additive หรือเปล่าให้ลองใช้ชาด้วยตัว
00:17:46 → 00:17:50 เอง 3 เลือกอะไครับชาขาวชาเขียวชาดำนะชา
00:17:50 → 00:17:53 อุลงอะไรก็ได้ลองเริ่มดูแล้วสังเกตถ้า
00:17:53 → 00:17:58 เป็นก็ขยับเกรดขึ้นถ้าไม่เป็นก็ต่อ 4 คือ
00:17:58 → 00:18:02 วิธีีการชงทีนี้ชงยังไงครับถ้าถ้าเขาบอก
00:18:02 → 00:18:05 เค้าไม่อยากได้กาแฟแคฟออออย่างที่เราผม
00:18:05 → 00:18:10 รู้ๆมาก็คือว่าชงแล้วก็ให้ 1 นาทีปุ๊บรีบ
00:18:10 → 00:18:13 เทน้ำทิ้งก่อนอ่ะอันนี้วิธีการชงยังไง
00:18:13 → 00:18:16 ครับไม่ให้มันมีสารตกค้างอะไรอย่าเงี้ย
00:18:16 → 00:18:20 อ่าสำหรับผมเองเนะฮะครับสมมุติว่าเราได้
00:18:20 → 00:18:23 ใบชามาอันนึงเนี่ยอ่าเราทำให้ง่ายมันก็
00:18:23 → 00:18:26 ได้ฮะมันก็คือเอาแค่ใบชามาผ่านน้ำร้อนใช่
00:18:26 → 00:18:30 มั้ยฮะแช่นานแค่ไหนแล้วก็กรองเอาน้ำดื่ม
00:18:30 → 00:18:33 เสร็จแล้วมันก็ยังกลับมาที่คนดื่มอีกฮะ
00:18:33 → 00:18:36 คุณดื่มสิ่งที่ชงแล้วพอใจมอ่าถ้าไม่พอใจ
00:18:36 → 00:18:39 มันก็ต้องปรับวิธีการโชงหน่อยโอเคครับ
00:18:39 → 00:18:43 คราวนี้สำหรับชาที่เรากินเอาประณีตเอา
00:18:43 → 00:18:47 กลิ่นหอมเอารถที่ดีนะฮะต้องบอกก่อนชาแต่
00:18:47 → 00:18:51 ละตัวมันมีบุคลิกที่มันควรจะเป็นอยู่นะฮะ
00:18:51 → 00:18:55 เหมือนวายเหมือนอ่าอเครื่องดื่มอื่นๆนะฮะ
00:18:55 → 00:18:59 เช่นชาอุลงที่ทำแถบๆฮเกี้ยนผมรู้สึกว่า
00:18:59 → 00:19:04 มันบุคลิกเ่าผู้ชายฮะเข้มแข็งอตรงไปตรงมา
00:19:04 → 00:19:08 ไปกินพวกกลิ่นไม้กลิ่นเครื่องเทศส่วน
00:19:08 → 00:19:13 บุคลิกของชาอุลงที่มาจากทางวางตุ้งอนะฮะ
00:19:13 → 00:19:16 คนต้าจิ๋วทำมันก็จะอ่อนช้อนประดิษประดอย
00:19:16 → 00:19:20 ฮะกลิ่นผลไม้กลิ่นดอกไม้อืฟรุ้งฟริ้งเยอะ
00:19:20 → 00:19:24 ไปหมดอืคราวนี้พอเรารู้ว่าบุคลิกของชาแต่
00:19:24 → 00:19:27 ละถิ่นที่เรากำลังชงเป็นยังไง่ะนะฮะถ้าจะ
00:19:27 → 00:19:29 ชงให้อร่อยเราก็ต้องชงเข้าหาบุคลิกที่ดี
00:19:29 → 00:19:32 ของมันอให้มันแสดงบุคลิกได้ตามที่มันควร
00:19:32 → 00:19:35 จะเป็นอืเข้าใจเห็นภาพเลยฮะครับฮะอันนี้
00:19:35 → 00:19:37 จะรู้ได้ยังไงล่ะอก็ต้องหาตัวอย่างที่ถูก
00:19:37 → 00:19:41 ต้องให้เจอก่อนอืฮะก็ต้องหาคนชงชาหรือ
00:19:41 → 00:19:45 ร้านชาซึ่งเสามารถสกัดชาออกมาได้ดีถ้ากิน
00:19:45 → 00:19:50 แล้วชอบอะนะฮะก็ต้องถามใบชาจากเค้าละฮะ
00:19:50 → 00:19:54 แล้วก็วิธีโชงอออซึ่งก็ต้องค่อยๆฝึกเรียน
00:19:54 → 00:19:57 รู้ไปครับใบชามันเหมือนวัตถุดิบในการทำ
00:19:57 → 00:20:00 อาหารนะฮะการชงเหมือนการปรุงอาหารอืเช่น
00:20:00 → 00:20:04 บอกว่าเอ้ยฉันชอบกินออมเล็ตน่ะมันก็ไข่ฮะ
00:20:04 → 00:20:08 ต่อยลงบนกระทะอืออทามเนี้ยพอเรากินอรตที่
00:20:08 → 00:20:10 ดีปั๊บเนี่ยแล้วกลับมาอยากทำเนี่ยทำได้
00:20:10 → 00:20:13 เหมือนที่เราประทับใจมมันต้องฝึกมืออีก
00:20:13 → 00:20:16 ระยะหนึอฮะมันดูง่ายๆแต่ต้องค่อยๆปรับกับ
00:20:16 → 00:20:20 มันนะฮะครับเท่าที่ฟังคุณตี๋คือชาเนี่ย
00:20:20 → 00:20:23 มันก็เป็นศิลปะเหมือนกาแฟนะฮะเหมือนอาหาร
00:20:23 → 00:20:27 หลายๆอย่างมันอาจจะดูง่ายเป็นแค่ใบชาแต่
00:20:27 → 00:20:30 จริงๆตัวชาเองก็มีความหลากหลายจริตของมัน
00:20:30 → 00:20:34 เองและดูไงให้แมตชกับเราก็คงจะตอบประมาณ
00:20:34 → 00:20:38 นี้ว่าสำสำหรับถ้าคนที่อยากจะลองเริ่มชา
00:20:39 → 00:20:43 ก็ให้ศึกษาหรือไปร้านชาก่อนคนที่เาชงเป็น
00:20:43 → 00:20:49 ลองไปไปฟังสอฟังวิธีแล้วก็ลองดื่มถ้าชอบ
00:20:49 → 00:20:52 แชก็เอาชาอย่างงั้นไปทำต่อที่บ้านหรือเรา
00:20:52 → 00:20:55 จะลองฝึกฝนเองด้วยตัวเราอันนี้คือสำหรับ
00:20:55 → 00:20:58 คนที่อยากเดินสายชาหรือลองแบบเริ่มเก็บ
00:20:58 → 00:21:01 เกี่ยวศิลปะการชงชานะฮะแต่สำหรับคนที่
00:21:02 → 00:21:05 ต้องการอย่างที่คุณตี๋บอกต้องการแค่ตื่น
00:21:05 → 00:21:09 Kick Off แทนแคฟอออแทนแทนกาแฟเนี่ยก็
00:21:09 → 00:21:13 ลองใช้มัจฉะดูนะครับชงทีนี้สำหรับคนที่
00:21:13 → 00:21:18 แบบขอแบบเอาตื่นต้องการวีนออกจากคอฟฟี่
00:21:18 → 00:21:21 ไม่อยากลองหันมากินชาแทนเนี่ยยังไงดีฮะ
00:21:21 → 00:21:24 ให้เลือกอะไรดีถ้าเป็นสุอ่าตอนนี้ถ้า
00:21:24 → 00:21:27 ที่ี่เคยลองกับลูกค้าหลายๆคนนะฮะอ่านมา
00:21:27 → 00:21:30 ที่ลูกค้าที่ผ่านไม่ให้ลองกันนะฮะมาด้วย
00:21:30 → 00:21:34 อาการปวดหัวฮะอืผมคซึซึ่งอ่าเป็นอาการติด
00:21:34 → 00:21:37 คาเฟอีนพอเราคุยสัมภาษณ์เขาจะรู้เลยว่าเ
00:21:37 → 00:21:41 ดื่มคาเฟอีนกาแฟฮะหนักแล้วก็ดื่มทุกวันจน
00:21:41 → 00:21:44 วันไหนไม่ดื่มเนี่ยการปวดหัวเนี่ยจะ
00:21:44 → 00:21:49 สัมพันธกับการขาดกาแฟของเขาอืแล้วดื่ม
00:21:49 → 00:21:52 ดื่มปุ๊บอาการปวดหายอือแต่ไปถึงจุดนึงนะ
00:21:52 → 00:21:57 ฮะมันกลายเป็นเลือกระหว่างดื่มหายปวดแต่
00:21:57 → 00:22:00 ดื่มแล้วจะกระตุทำให้เกิดอาการกวดไหลย้อน
00:22:00 → 00:22:03 ปวดท้องอีกอืๆครับผมแล้วคนกลุ่มนี้ถ้าถาม
00:22:03 → 00:22:07 ว่าถ้าอยากเลิกสวิตช์จากอ่ากแฟมออกมาจะทำ
00:22:07 → 00:22:11 ยังไงสิ่งที่ทดลองทำอนะฮะอ่าผมเอามัจะฮะ
00:22:11 → 00:22:15 ชงค่อนข้างเยอะนะฮะอาจจะ 3-5 กรัม 1 ถ้วย
00:22:15 → 00:22:19 ครับตอนเปิดหัวให้ดื่มแล้วให้งดกาแฟนะฮะ
00:22:19 → 00:22:21 แล้วก็ดื่มมเวลาอยากจะคลิกเมื่อไหร่นะให้
00:22:21 → 00:22:24 ดื่มมัฉะแทนทำงี้สัก 7 วันนะแต่ต้องไม่
00:22:24 → 00:22:27 ดื่มกาแฟเลยแล้วหลังจากนั้นเนี่ยจะถอนมั
00:22:27 → 00:22:30 จะถอนกาแฟเนี่ยมันก็ก็จะหมดอาระ
00:22:30 → 00:22:34 อืครับโอเคนอกเหนือจากมัฉะมีสูตรอื่นมั้ย
00:22:34 → 00:22:37 ครับตัวอื่นยังไม่เจอยังไม่เคยทดลองแล้ว
00:22:37 → 00:22:40 ก็ใช้ได้ผลนะฮะจากที่ลองๆอแต่มัจฉะนี่
00:22:40 → 00:22:45 ช่วยครับอืแล้วอ่าตัวมัจเองเนี่ยที่ลองนะ
00:22:45 → 00:22:51 ฮะในในคนบางคนจะช่วยเรื่องอ่าไมเกรนอืโดย
00:22:51 → 00:22:54 เฉพาะคนปวดไมเกรนแบบคลาสสิคใช่มั้ยฮะที่
00:22:54 → 00:22:56 มีการเตือนล่วงหน้าแล้วเรู้ว่าเจะปวด
00:22:56 → 00:23:00 ไมเกรนและออือๆถ้าเราให้ยาแก้ปวดปกติมัน
00:23:00 → 00:23:03 จะใช้เวลาออนซประมาณ 15-20 นาทีแต่มจมัน
00:23:03 → 00:23:06 เร็วกว่านั้นนะฮะอชงไปแก้วนึงดื่มเลยฮะ
00:23:06 → 00:23:09 แล้วก็หาที่พักเย็นๆสงบๆที่เขาจะหลบจัด
00:23:10 → 00:23:13 อาการกระตุ้นไมเกรนได้อืมันจะหยุดเร็ว
00:23:13 → 00:23:19 อืวันนึงนี้ดื่มพวกชาพวกเนี้ยดื่มได้กี่
00:23:19 → 00:23:23 แก้วคำถามคุณหมอเหมือนกับถามว่าผมจะดื่ม
00:23:23 → 00:23:27 เหล้าได้กี่ถ้วยแล้วเห่าอือ่ะมันตอบไม่
00:23:27 → 00:23:29 ได้ฮะมันจะต้องต้องทดลองฮะค่อยๆดื่มแล้ว
00:23:30 → 00:23:34 สังเกตตัวเองฮะสเกผมเองเนี่ยผมอ่าผมเองนะ
00:23:34 → 00:23:38 ฮะถ้าดื่มมจะผมจะดื่มได้ประมาณ 20 กรัม
00:23:38 → 00:23:42 ซึ่งพอเกิน 20 กรัมปั๊บสิ่งที่จะเกิดขึ้น
00:23:42 → 00:23:44 ก็คือผมจะรู้สึกตื่นแล้ววันนั้นผมจะไม่
00:23:44 → 00:23:47 สามารถนอนได้จน 3:00 น 4:00 นก็ยังตื่น
00:23:47 → 00:23:51 ตลอดเลยอืหลับตาได้นะฮะรู้สึกหลับแต่ถาม
00:23:51 → 00:23:53 ตัวเองเสมอเลยฮะมืดมืดเนี่ยในในความที่
00:23:53 → 00:23:56 เหมือนฝันว่าฉันตื่นอยู่หรือว่าหลับอยู่
00:23:56 → 00:24:00 กันแน่อือืๆอืๆครับไอ้ไอ้จุดนั้นคือไม่
00:24:00 → 00:24:04 โอเคแล้วถูกต้องโอ้โหมันมันโดนกับผมเลยฮะ
00:24:04 → 00:24:07 อาการเหล่านี้อืๆโอเคถคือคุณตี๋กำลังจะ
00:24:07 → 00:24:09 บอก
00:24:09 → 00:24:13 ว่าถ้าจะให้พูดเป็นแก้วมันก็ง่ายไปแต่ว่า
00:24:13 → 00:24:15 อยากเหมือนเหมือนหลักการที่ผมใช้เหมือน
00:24:15 → 00:24:18 กันให้สังเกตตัวเองเป็นหลักดื่มแก้ว 2
00:24:18 → 00:24:20 แก้ว 3 แก้วแต่เมื่อไหร่ถ้าเราเริ่มรู้
00:24:20 → 00:24:24 สึกว่าเราหลับไม่ลึกสมองแล่นกลางดึกแสดง
00:24:24 → 00:24:29 ว่ามันอาจจะเริ่มเยอะไปนะครับอ
00:24:29 → 00:24:32 อันนี้ชาขาวชาขาวถ้วยที่วตัวนี้จะชงได้
00:24:32 → 00:24:36 เรื่อยๆฮะชงได้สัก 10 ครั้งได้มฮะ้ว 2 อื
00:24:36 → 00:24:41 อืวันนี้เป็นพแสรีกมากเลยผมถามหน่อย
00:24:41 → 00:24:47 ฮะจะมีคนที่ชอบแช่ใบชานานๆอย่าอย่างที่
00:24:47 → 00:24:53 เราทราบกันมาพวกศาแทนนินนะครับอ่ะคุณคุณ
00:24:53 → 00:24:56 ตีจะแนะนำยังไงดีครับชาไม่ควรจะแช่นาน
00:24:56 → 00:24:59 หรือว่า 3 ช่วโมงต้องทิ้งอ่ะกลับมาที่ตัว
00:24:59 → 00:25:03 เองีกฮะอ่าลองชิมมันดูแล้วถามตัวเองว่า
00:25:04 → 00:25:07 ร่างกายตัวเองเรารับมันได้ไหมมยังไงครับเ
00:25:07 → 00:25:10 ขยายความอ่ะสมมุติผมแช่ชาไว้ละที่ทำงาน
00:25:10 → 00:25:13 สมมครับแช่ตั้งแต่เช้า 8 นเงี้ยอ่ะเอาตัว
00:25:13 → 00:25:16 ที่เป็นรูปธรรมฮะอ่าชากขาวตัวเนี้ยอ่าฮะ
00:25:16 → 00:25:19 มันถูกอัดเป็นก้อนนะฮะเราแช่ครั้งนึง
00:25:19 → 00:25:23 ประมาณ 30-40 วินาทีครับผมแล้วชงดื่มได้
00:25:23 → 00:25:25 เพราะว่ามันเริ่มมีรถมีกลิ่นที่หน้า
00:25:25 → 00:25:28 พิศมัยอาฮะคราวนี้
00:25:28 → 00:25:33 ถ้าสงสงสัยนะฮะแบบคำถามคุณหมอผมก็จะลองอ
00:25:33 → 00:25:36 แช่ค้างคืนเอาไว้อ่ะอ่าพรุ่งนี้เช้ารินมา
00:25:36 → 00:25:39 ให้ชิมออแล้วถามตัวเองว่าเรายังร่างกาย
00:25:39 → 00:25:42 เรายังโอเคกับมันไหมแสดงว่าคุณตี๋กำลังจะ
00:25:42 → 00:25:44 บอกว่ามันไม่มีสูตรอีกอันนี้ก็ต้องไป
00:25:44 → 00:25:46 สังเกตอีกมันมันเป็น
00:25:46 → 00:25:50 ปัจจัยเยอะมากฮะมันไม่ใช่ชาอย่างเดียวมัน
00:25:50 → 00:25:53 ขึ้นกับคุณภาพชาวิธีการชงซึ่งวิธีการชง
00:25:53 → 00:25:56 เนี่ยครอบคลุมไปถึงอุปกรณ์น้ำและอื่นๆ
00:25:56 → 00:25:59 ซึ่งอย่างนี้ชาวบ้านจะรู้ได้ไงว่าชาเนี่ย
00:25:59 → 00:26:02 เพราะเพราะฉะนั้นที่ง่ายที่สุดคือทำที่
00:26:02 → 00:26:04 อยากลองแล้วกลับมาดูที่ตัวเราเองแล้วตัว
00:26:05 → 00:26:08 เราเองจะตอบมันได้เองโอเคซึ่งตัวคำตอบของ
00:26:08 → 00:26:10 เราไม่จำเป็นต้องเป็นคำตอบสำหรับคนอื่นนะ
00:26:10 → 00:26:12 ฮะแต่มันตอบเราแต่มันจะมีพิษมั้ยถ้าเรา
00:26:12 → 00:26:16 แช่แบบอ่าแช่ไว้แบบข้ามคืนอย่างเงี้ยถ้า
00:26:16 → 00:26:20 เป็นชาที่ไม่มีอะไรผิดปกตินะฮะไม่ดตัวมัน
00:26:20 → 00:26:25 เองไม่มีอ่ายาข้ามแมลงที่เกินมาตรฐานไม่
00:26:25 → 00:26:28 มีโลหะหนักไม่มีสารต้องห้ามที่ไม่ควรมีใน
00:26:28 → 00:26:30 อาหารนะฮะไอ้พวกนั้นเนี่ยมันอาจจะเกิดมา
00:26:30 → 00:26:34 ได้ภายใต้ชื่อชาออฮะเพราะบ้านเราเนี่ยตาม
00:26:34 → 00:26:36 กฎหมายเราก็บอกว่าชาเนี่ยห้ามแต่งสีแต่ง
00:26:36 → 00:26:39 กลิ่นแต่ก็ลองไปดูครับในตลาดมันก็มีไอ้
00:26:39 → 00:26:43 แบบแปลกๆพวกเนี้ยอแต่ถ้าเกิดเป็นชาปกติผม
00:26:43 → 00:26:47 คิดว่ามันไม่น่ามีพิษเกินเสี่ยงอืมอย่าง
00:26:47 → 00:26:49 มากก็มันมีกฎมกดดัมมี่รูหมายถึงว่าเออ
00:26:49 → 00:26:53 เฮ้ยชาเนี่ยอย่างของของของของคนอินเดีย
00:26:53 → 00:26:56 อย่างเงี้ยอ่าเขาก็จะบอกว่าจะดื่มเมื่อ
00:26:56 → 00:27:01 ไหร่ทำเมื่อนั้นอันที่ 1 2 คือชาไม่ควร
00:27:01 → 00:27:03 ทำแล้วแช่ให้เย็นแล้วก็กลับไปทำร้อนใหม่
00:27:03 → 00:27:06 อันนี้อันนี้แบบดัมมี่รูกดแบบสำหรับคน
00:27:06 → 00:27:11 นั้นคือคือไปอ่าผมมองในแง่คนเตรียมชาที่
00:27:11 → 00:27:13 ตั้งใจจะเตรียมชาให้ลดดีที่สุดสำหรับคน
00:27:13 → 00:27:17 อื่่นอ่าฮะแต่พอมัน Shift มาเป็นคำถาม
00:27:17 → 00:27:22 เซิมสุขภาพแล้วเนี่ยอ่าประเด็นกดที่ตั้ง
00:27:22 → 00:27:25 มันถูกทำด้วยจุดประสงค์ต่างกันโอเคไม่
00:27:25 → 00:27:28 โอเคผมผมเข้าใจคุณตี๋ลคือถ้าถ้าคนที่จะ
00:27:28 → 00:27:31 ตั้งใจชงให้ดีอฮะมันก็จะชงใหม่ไอ้คำถาม
00:27:31 → 00:27:33 ที่บอกแช่ 3 วันแช่ข้ามคืนมันจะไม่เกิด
00:27:33 → 00:27:39 เลยอ้าโอเคผมผมเข้าใจคำคำคำตอบของคุณตี
00:27:39 → 00:27:44 ว่าจริงๆเราดื่มชาเพื่ออะไรครับเพื่อความ
00:27:44 → 00:27:47 ผ่อนคลายเพื่ออารมณ์เพื่อลดมันเพื่อความ
00:27:47 → 00:27:50 ตื่นของมันอันนั้นเราก็ด้วยเจตนานั้นเรา
00:27:50 → 00:27:54 คงทำใช่ฮะอ่าผมถามในเชิงว่าสำหรับชาวบ้าน
00:27:54 → 00:28:00 สมมุติว่าอ่ะเขาคเริ่มช้าละเแช่
00:28:00 → 00:28:02 แช่เช้าอย่างเงี้ยมนุษย์ออฟฟิศอย่างเงี้ย
00:28:02 → 00:28:05 อ่ะแช่ชาตอนเช้ามันจะมีกระติกที่ไอ้ถ้วย
00:28:05 → 00:28:07 ที่มันเอาไว้ครับใส่ผงแล้วก็เติมน้ำร้อน
00:28:07 → 00:28:10 ไปได้เรื่อยๆครับไอ้พวกนี้เนี่ยเราเติมไป
00:28:10 → 00:28:14 ได้เรื่อยๆเลยมั้ยแบบว่า 4-5 ช่วโมงก็ยัง
00:28:14 → 00:28:16 เติมไปได้เรื่อยๆเลยมั้ยคำถามที่มักจะเจอ
00:28:16 → 00:28:18 คล้ายๆถามว่าเอ๊ะชาตัวเนี้ยมันชงได้กี่
00:28:18 → 00:28:22 ครั้งอ่าโอเคคำถามนั้นก็ได้ครับนะฮะอ่า
00:28:22 → 00:28:26 เราตอบได้คล้ายๆกับการเคี้ยวหมักฝรั่งอื
00:28:26 → 00:28:29 บางคนเนี่ยเคี้ยวหมักฝรั่งจ๊บจ๊บ 3 ทีจืด
00:28:29 → 00:28:31 แล้วฉันคายทิ้งอ่าฮะบางคนเนี่ยเคี้ยวได้
00:28:31 → 00:28:35 คึกหวันเลยต่อมาฝรั่งลูกหนึอืมันก็เลย
00:28:35 → 00:28:38 กลับมาว่าคนดื่มหรือว่าชาเนี่ยรู้สึกจืด
00:28:38 → 00:28:42 ที่เมื่อไหร่อ๋อโอเคเก็ดละเก็ดละเพราะ
00:28:42 → 00:28:45 ฉะนั้นเนี่ยในในด้านนึงเนี่ยฮะตอนแรกเรา
00:28:45 → 00:28:47 อาจจะบอกผมอาจจะบอกว่าเอ้ยฉาขาวตัวนี้
00:28:47 → 00:28:50 เนี่ยของผมเนี่ยชงด้วยคุณภาพ10ิน้ำนะอื
00:28:50 → 00:28:55 อันนั้นเป็นไกดหลายพอชงไปจริงปั๊บคนดื่ม
00:28:55 → 00:28:58 เนี่ยพอใจที่แค่ไหนก็หยุดแค่นั้นหรือไม่อ
00:28:58 → 00:29:02 ชงไปได้เรื่อยๆ 2 วัน 3 วันอ่าผมเข้าใจะ
00:29:02 → 00:29:05 ผมเข้าใจคอนเซปของคุณตีลคุณตีกำลังบอกว่า
00:29:05 → 00:29:09 อ่ะสมมุติคุณชงแล้วคุณอันนี้ในเชิงของ
00:29:09 → 00:29:12 ความอร่อยย้ำอีกทีความฟินความอะไรอย่าง
00:29:12 → 00:29:14 เงี้ยคุณชงตอนเช้าตอนบ่ายถ้าคุณยังได้
00:29:15 → 00:29:18 ความรู้สึกเหมือนเดิมก็ไปต่อได้แต่ถ้าคุณ
00:29:18 → 00:29:21 ไม่ได้ความรู้สึกเหมือนเดิมละไม่ตรงตาม
00:29:21 → 00:29:25 วัตถุประสงค์ก็เบรกคุดีบอกว่าตามหลักการ
00:29:25 → 00:29:28 จะต่อให้เขาบอกว่าต้มได้ไม่เกิน 3 ครั้ง 5
00:29:28 → 00:29:31 ครั้ง 6 ครั้งแต่มันชีวิตจริงมันไม่ใช่
00:29:31 → 00:29:34 ครับรถนั้นเขาอาจจะบอกว่า 6 ครั้งแต่พอมา
00:29:34 → 00:29:37 ต้มจริง 3 ครั้งก็หมดแล้วหมดความรู้สึก
00:29:37 → 00:29:40 นั้นแล้วใช่มยฮะก็ย้ำอีกทีเราต้องเป็นคน
00:29:40 → 00:29:44 สังเกตโอเคเครับมันมีคนกลุ่มนึงอ่ะฮะกิน
00:29:44 → 00:29:46 ชาโดยเฉพาะกลุ่ม
00:29:46 → 00:29:50 ผู่เอ๋อซึ่งโดยทั่วไปเรานึกว่าเรากินชา
00:29:50 → 00:29:53 เอากลิ่นเอารสที่อร่อยนะฮะอืคนกลุ่มนี้
00:29:53 → 00:29:57 ไม่ใช่ฮะเคกินเอาความรู้สึกสัมผัสได้จาก
00:29:57 → 00:30:00 ร่างกายเรู้สึกร่างกายเขรีกฮเหมือนถูกนวด
00:30:00 → 00:30:04 เหมือนแช่บ่อน้ำร้อนอืเพราะฉะนั้นเอา
00:30:04 → 00:30:06 กลิ่นรสไปตัดสินให้คนกลุ่มนี้ไม่ได้เลยฮะ
00:30:06 → 00:30:10 อาฮะเพราะฉะนั้นเ้าจะตัดสินชาโดยเอฟเฟค
00:30:10 → 00:30:13 ของร่างกายถ้าถามว่ากินกี่น้ำจืดเนี่ยมัน
00:30:14 → 00:30:17 คนละเรื่องแต่คอนเซปเเลยเข้าใจเข้าใจก็
00:30:17 → 00:30:20 ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ที่เราดื่มชาถ้า
00:30:20 → 00:30:23 เราอยากดื่มชาให้รีแลกครับจะต่อให้คุณทำ
00:30:23 → 00:30:26 เติมน้ำไปแล้ว 3 ครั้งถ้ามันยังได้ิรีก
00:30:26 → 00:30:28 อยู่ก็เดินหน้าต่อโอเคประชาบางตัวเนี่ย
00:30:28 → 00:30:32 จืดแทบไม่มีรถเลยอแต่เ้าเนี่ยพอใจมากกับ
00:30:32 → 00:30:37 ความรีกที่ได้จากชาอืเคครับอ้าจบตอนที่ 1
00:30:37 → 00:30:41 สนุกมากเลยครับไม่เอิ่มชานะฮะในภาษาไทย
00:30:41 → 00:30:44 เนี่ยจริงๆในภาษาหลายภาษาเป็นคำที่ค่อน
00:30:44 → 00:30:47 ข้างกำกวมอะนะฮะคราวนี้ถ้าจะแบ่งเนี่ย
00:30:47 → 00:30:51 แบ่งได้ใหญ่ๆผมคิดว่ามี 2 อันแรกหมายถึง
00:30:51 → 00:30:55 เครื่องดื่มที่สกัดมาจากต้นชาอืเป็นพืช
00:30:55 → 00:31:00 พวกกลุ่มแคมโบเดียนะครับครับอีกพวกนึงเรา
00:31:00 → 00:31:05 หมายถึงน้ำสกัดของสมุนไพรหรือพืชหรืออะไร
00:31:05 → 00:31:07 ก็ได้นะฮะสกัดด้วยน้ำร้อนสิ่งที่ของเหลว
00:31:07 → 00:31:10 ที่สกัดได้ออกมาก็เราก็เรียกชาเหมือนกัน
00:31:10 → 00:31:12 อืเพราะฉะนั้นความหมายใหญ่ๆเนี่ยผมคิดว่า
00:31:12 → 00:31:17 มี 2 กลุ่มครับคำว่าสรุปก็คือมีชาที่เกิด
00:31:17 → 00:31:21 มาจากใบชาครับใบของต้นชาใช่มั้ยครับอีก
00:31:21 → 00:31:23 กลุ่มนึงก็คือเป็นน้ำสกัดขอใช้คำว่าน้ำ
00:31:23 → 00:31:27 สกัดแต่ใช้ชื่อว่าเป็นชาครับใช่มั้ยฮะอ่ะ
00:31:27 → 00:31:31 ทีนี้นี้ในบริบทนี้เราจะลงลึกเรื่องน้ำชา
00:31:31 → 00:31:34 ที่มาจากใบชานะครับเพื่อไม่ให้เกิดการซับ
00:31:34 → 00:31:38 ซ้อนนะครับทีนี้ใบชาจริงๆแล้วเนี่ยมีกี่
00:31:38 → 00:31:43 ชนิดะเอิ่ใบชาหลักๆถ้าจำแนกทางพฤกษศาสตร์
00:31:43 → 00:31:47 ใหญ่ๆเนี่ยผมคิดว่ามันมี 2 แบบคือใบชาที่
00:31:47 → 00:31:50 เป็นอ่าสายพันธุ์จีนน่ะนะฮะซึ่งเป็นชา
00:31:50 → 00:31:53 กลุ่มใบเล็กแล้วก็อีกพวกนึงเป็นชาพวกอั
00:31:53 → 00:31:56 ที่ึเป็นชาใใหญ่กว้างๆอัที่ที่มาจาก
00:31:56 → 00:31:59 อินเดียใช่ครับออแต่จริงๆเป็นพืชที่
00:31:59 → 00:32:02 กระจายตัวกว้างอนะฮะในอินเดียในทางตอน
00:32:02 → 00:32:07 เหนือของพม่าไทยลาวรอยต่ออ่าหลายๆประเทศ
00:32:07 → 00:32:11 ตรงเยฮะเป็นจุดที่เราพบต้นชาอายุเก่าแก่
00:32:11 → 00:32:14 มากที่สุดเกิน 2,000 ปีอืก็เลยก็เชื่อกัน
00:32:14 → 00:32:17 ว่านะฮะในทางวิทยาศาสตร์ว่าตรงเนี้ยน่าจะ
00:32:17 → 00:32:21 เป็นจุดกำเนิดของต้นฉ่าอืจริงครับเพราะ
00:32:21 → 00:32:26 ว่าเอ่อ civilization หรืออารยธรรมของคน
00:32:26 → 00:32:31 อินเดียและคนจีนพวกเราเนี่ยก็ใช้ชาเป็น
00:32:31 → 00:32:34 หลักในการดำรงชีวิตยิ่งผู้หลักผู้ใหญ่
00:32:34 → 00:32:37 เนี่ยตื่นมาจะต้องดื่มชาเจอกันจะต้องใช้
00:32:37 → 00:32:41 ชาก็เหมือนคนจีนนะไม่ไม่ต่างกันเลยฮะโอเค
00:32:41 → 00:32:44 แต่ทีนี้เอ่อในในชีวิตจริงเนี่ยเขาก็จะ
00:32:44 → 00:32:49 แบ่งเป็นชา 4 ชนิดชนิดก็คือพวกชาขาวชา
00:32:49 → 00:32:54 เขียวชาอุลงชาดำอ่าในกรณีแบบเนะฮะเดี๋ยว
00:32:55 → 00:32:59 ต้องเล่าย้อนนิดนึงครับอ่าแรกเริ่มเดิมที
00:32:59 → 00:33:04 เนี่ยเราเดาว่านะฮะชาน่าจะเหมือนพืชอย่าง
00:33:04 → 00:33:06 อื่นในโลกหลายๆอย่างที่มนุษย์กินเพื่อโดป
00:33:06 → 00:33:10 อ่ามันก็จะมีโคคาบ้างนะฮะในบางประเภทใน
00:33:10 → 00:33:14 บางประเทศก็ใช้สมุนไพรตัวอื่นในแถวเนี้ย
00:33:14 → 00:33:19 ก็บางคนก็ใช้หมาอ่ากลุ่มชนเผ่ากลุ่มนึงผม
00:33:19 → 00:33:23 คิดว่าเป็นพวกเผ่าไทยอ่ะนะฮะใช้ฉาแล้วจีน
00:33:23 → 00:33:26 เนี่ยเมื่อบันทึกสัก 2,000 กว่าปีที่แล้ว
00:33:26 → 00:33:29 เจะอยู่ทางเหนือขึ้นไปซึ่งไม่มีต้นชานะฮะ
00:33:29 → 00:33:32 ก็จะเรียกชาเป็นบรรณาการจากเมืองแถวแถวๆ
00:33:32 → 00:33:38 เนี้ยฮะขึ้นไปอือ่าคราวนี้เนี่ยเดิมเนี่ย
00:33:38 → 00:33:40 จีนเองพอเอาชาจากบรรณาการขึ้นไปปั๊บใน
00:33:40 → 00:33:44 เวลา 2,000 ปีเนี่ยจีนพัฒนากการดื่มชา
00:33:44 → 00:33:47 แล้วก็มีทิศทางแนวคิดนะฮะเรื่องความ
00:33:47 → 00:33:50 ประณีตในเรื่องอารยธรรมอาหารเครื่องดื่ม
00:33:50 → 00:33:52 มันก็เลยถูกทำให้เป็นเครื่องดื่มที่
00:33:52 → 00:33:56 ประณีตเอ่อละเมียดละไมขึ้นเรื่อยๆอืครา
00:33:56 → 00:33:59 นี้กระบวนการทำชาเนี่ยที่ผ่านมาประมาณ
00:33:59 → 00:34:03 23,000 ปีเนี่ยมันทำให้เกิดการดัดแปลง
00:34:03 → 00:34:07 ชานะฮะให้มีกลิ่นรสหลากหลายมากเลยคราวนี้
00:34:07 → 00:34:10 เนี่ยทั้งหมดมักจะขึ้นอยู่กระบวนการอัน
00:34:10 → 00:34:13 เดียวคือออกซิเดชันนั่นหมายความว่าอ่าจาก
00:34:13 → 00:34:16 เดิมเนี่ยแรกเริ่มที่พิทีที่สุดเลยเราทำ
00:34:16 → 00:34:20 ชาที่ออกซิไม่ออกซิไดซ์เลยนะฮะคือเอาใบชา
00:34:20 → 00:34:23 มาปุ๊บผ่านความร้อนกลุมพวกนี้เนี่ยเป็นชา
00:34:23 → 00:34:26 เขียวครานี้ถ้าเราให้เกิดกระบวนการ
00:34:26 → 00:34:31 ออกซิเดชันไปจนสุดของมันเราจะได้ชาที่อ่า
00:34:31 → 00:34:33 เป็นสีแดงนะฮะคือใบชาเนี่ยพอเกิด
00:34:33 → 00:34:37 ออกซิเดชันจากใบเขียวสดอืออ่าขอบใบจะ
00:34:37 → 00:34:40 เริ่มขึ้นแดงนะฮะแล้วก็ใบชาจะเริ่มคล้ำลง
00:34:40 → 00:34:43 เรื่อยๆเป็นสีเขียวคล้ำแล้วไปๆอีกเนี่ย
00:34:43 → 00:34:46 ไอ้ความเป็นสีแดงมันก็จะลามทั้งใบจนเป็น
00:34:46 → 00:34:49 สีทองแดงอืถึงจุดนั้นเนี่ยออกซิเดชันมัน
00:34:49 → 00:34:52 เกิดสมบูรณ์ใบชาตรงนั้นเราเรียกเป็นชาแดง
00:34:52 → 00:34:56 อืคราวนี้จากชาเขียวถึงชาแดงเนี่ยมัน
00:34:56 → 00:34:59 สามารถตัดกบวนการย่อยๆจำกัดระดับการ
00:34:59 → 00:35:03 ออกซิเดชันซึ่งทำให้กลิ่นและรสของชาเนี่ย
00:35:03 → 00:35:05 เปลี่ยนไปเรื่อยๆนะฮะในกระบวนการนี้เนี่ย
00:35:05 → 00:35:09 บางทีก็เรียกว่ามันก็ทำให้เกิดอ่าแบ่งชา
00:35:09 → 00:35:11 ตามกระบวนการนะฮะมันก็จะมีชาเขียวที่ไม่
00:35:11 → 00:35:13 ออกซิไดซ์เลยออกซิไดซ์ขึ้นมานิดนึงเป็นชา
00:35:14 → 00:35:16 ขาวเป็นชาเหลืองอืออ่าอันนึงที่เราเรียก
00:35:17 → 00:35:20 ชาอุลงเนี่ยเนื่องจากพวกนี้เนี่ยจำแนกชา
00:35:20 → 00:35:24 โดยสีนะฮะเพื่อไม่ให้เกิดคำกำกวมอุลงนี่
00:35:24 → 00:35:28 เป็นคำกำกวมอหนึอือ่าเราบอกว่าเป็นชากึ่ง
00:35:28 → 00:35:30 ออกซิเดชันไม่สมบูรณ์น่ะนะฮะจำกัด
00:35:30 → 00:35:33 ออกซิเดชันกลุ่มนี้จะเรียกชาสีนิลหรือไม่
00:35:33 → 00:35:38 ก็ชาสีฟ้าอืแล้วก็ไปจนสุดเป็นชาแดกแล้วก็
00:35:38 → 00:35:41 อีกทีนึงนะฮะเอาชาเนี่ยไปผัดกระบวนการ
00:35:41 → 00:35:45 หมักโดยใช้เชื้อราความร้อนก็จะได้ชาพวก
00:35:45 → 00:35:49 นึงเป็นชาดำอืเพราะฉะนั้นถ้าอิงกระบวนการ
00:35:49 → 00:35:54 ทำชาของจีนเก็จะแบ่งเป็นชาขาวชาเขียวชา
00:35:54 → 00:35:58 เหลืองชาสีฟ้าชาสีแดงชาสีดำได้ 6 6 ชนิด
00:35:58 → 00:36:00 โอ้โห
00:36:00 → 00:36:04 อืมสมกว่าที่เขาเรียกว่าเป็นปรมจารย์ของ
00:36:04 → 00:36:06 ชาจริงๆเลยฮะในสื่อที่เขาเขียนเกี่ยวกับ
00:36:06 → 00:36:12 คุณตี๋นะฮะโอเคขอบคุณมากครับ
00:36:12 → 00:36:15 โอเคผมควรจะเริ่มดื่มเลยมเอได้ครับเอาตาม
00:36:15 → 00:36:18 สบายเลยครับอันนี้เป็นชาขาวระหว่างที่เรา
00:36:19 → 00:36:22 สนทนากันนะฮะเพราเป็นแก้วที่ 2 ที่คุณตี่
00:36:22 → 00:36:25 เนี่ยชงให้ผมชาแรกเป็นชาอ่าเป็นมัจจะเป็น
00:36:25 → 00:36:29 ชาเขียวอันนี้เป็นชาเขียวโบนะฮะทำในจีนทำ
00:36:29 → 00:36:34 สมัยราชวงศ์่งประมาณศตวรรษที่ 101 ลมมัน
00:36:34 → 00:36:37 ก็ถูกพาไปที่ญี่ปุ่นครับจีนพอเปลี่ยน
00:36:37 → 00:36:40 ราชวงศ์อฮะความนิยมทำชาแบบนี้ก็เลยเสื่อม
00:36:40 → 00:36:43 มัจก็เลยหายไปจากจีนนะะที่ญี่ปุ่นก็ยัง
00:36:43 → 00:36:48 ทำมจะต่อเนื่องมาเรื่อยๆอืแล้วชาขาวเนี่ย
00:36:48 → 00:36:51 นี่ที่ผมอันนี้คือชาขาวเป็นชาขาวฮะจะเป็น
00:36:51 → 00:36:54 ชาเป็นชาตั้งต้นที่มาจากใบเลยใช่มั้ยอ่า
00:36:54 → 00:36:57 ใช่ครับเ่ามันเป็นพันชาที่ใบอ่อนกว่ามัน
00:36:57 → 00:37:02 มีสีขาวเงินอ่าฮะนะฮะก็เด็ดมาแล้วก็คราว
00:37:02 → 00:37:05 นี้กระบวนการทำคือจะให้มัน
00:37:05 → 00:37:10 อ่าสลดนะฮะช้าๆจะบางคนก็ทำกลางจ้งบางคนก็
00:37:10 → 00:37:13 ทำในร่มบางคนก็สลับไปสลับมาครับในระหว่าง
00:37:13 → 00:37:16 กระบวนการทิ้งเอาไว้ให้ให้มันสลดนะฮะมัน
00:37:16 → 00:37:19 จะเกิดออกซิเดชันน้อยๆขึ้นช้าๆแล้วก็จะมี
00:37:19 → 00:37:23 กลิ่นดอกไม้ขึ้นมาอันนี้ก็แล้วเสร็จแล้ว
00:37:23 → 00:37:25 เนี่ยพอได้ถึงระดับที่ต้องการเก็ฟิกให้
00:37:25 → 00:37:29 มันแห้งอลดความชื้นให้มันต่ำกว่า 15%
00:37:29 → 00:37:32 ครับแล้วก็จะได้เป็นชาขาวขึ้นมาแต่ตัวที่
00:37:32 → 00:37:34 ดื่มเนี่ยอ่านอกจากเป็นชาขาวแล้วมันผ่าน
00:37:34 → 00:37:38 การบมใหประมาณ 10 กว่าปีตัวนี้ผลิตประมาณ
00:37:38 → 00:37:41 ปี 2012
00:37:41 → 00:37:46 อือทีนี้ในบรรดาชาเนี่ยฮะครับถ่าทางการ
00:37:46 → 00:37:50 แพทย์ชาขาวกับชาเขียวเนี่ยจะถือว่าเป็นชา
00:37:50 → 00:37:53 ที่เกรดดีมากเอ่าไม่ใช่ฮะธันชาทุกกลุ่มอ
00:37:53 → 00:37:56 นะฮะมันมีเกรดตั้งแต่ล่างถึงบนแต่ละกลุ่ม
00:37:56 → 00:37:59 เลยแต่ละกลุ่มแค่จำแนกบอกว่ามันผ่าน
00:37:59 → 00:38:01 กระบวนการทำมาไม่เหมือนกันนะ
00:38:01 → 00:38:06 ฮะแค่นั้นเหรอแค่นั้นฮะอืครับในเชิงทาง
00:38:06 → 00:38:10 วิจัยทางการแพทย์ที่ยอมรับว่ามีไม่เยอะ
00:38:10 → 00:38:15 มากแต่ก็มีอยู่เรื่อยๆก็คือชาเขียวอืลอง
00:38:15 → 00:38:18 ลงมาคือชาขาวแล้วแล้วแต่ทำ่ะฮะคราวนี้
00:38:18 → 00:38:21 เนี่ยต้องบอกว่าในในการวิจัยเองเนี่ยมัน
00:38:21 → 00:38:24 สามารถทำโดยการจับตัวอย่างขึ้นมาตัวอย่าง
00:38:24 → 00:38:28 นึงครับและเป็นตัวแทนของชาทั้งหมดหมดซึ่ง
00:38:28 → 00:38:31 บางทีชามันมีเยอะมากจนบางทีเราบอกไม่ได้
00:38:31 → 00:38:33 ด้วยซ้ำแต่ว่าไอ้ตัวอย่างนั่นน่ะมันแทน
00:38:33 → 00:38:36 อะไรได้จริงๆเลยในโลกของชาอืเข้าใจฮะคือ
00:38:37 → 00:38:40 คุณติกำลังจะบอกว่าวิจัยเนี่ยเขาแค่หยิบ
00:38:40 → 00:38:44 ขึ้นมา 1 ชาครับและอาจจะเอา
00:38:44 → 00:38:48 ไปเอาไปหว่านบอกว่าสรรพคุณพบได้ในทุกชา
00:38:48 → 00:38:52 ครับใช่ชาเกวดบนๆนะฮะราคามันแพงเป็นทอง
00:38:52 → 00:38:55 เลยฮะถามคือนักวิจัยเราคงไม่เอามาทำอะไร
00:38:56 → 00:38:59 ฮะชาอะไรที่แบบแพงุตัวที่เกรดบนเนี่ยราคา
00:38:59 → 00:39:04 สูงหมดนะฮะอ่าชาขาวเกรดบนๆนะฮะน่าจะหมาย
00:39:04 → 00:39:08 ถึงราคาตลาดที่ไม่ใช่เอราคาประมูลน่ะนะฮะ
00:39:08 → 00:39:12 น่าจะตกได้อยู่ที่กรัมนึงประมาณ 10 กร
00:39:12 → 00:39:15 5,000 บาทกรัประมาณ 500 บาท
00:39:15 → 00:39:21 โหครับส่วนชาบางตัวที่ขึ้นๆไปแบบชาอูหลง
00:39:21 → 00:39:26 อ่าตัวท็อปของมันอยู่ที่โรงประมาณล้าน 5-6
00:39:26 → 00:39:31 ล้านฮะตอนนี้ออืตัดเป็นกรัมนึงน่าจะหลัก
00:39:31 → 00:39:35 หมื่นอือหือหวังว่าคงได้ประโยชน์นะครับ
00:39:35 → 00:39:39 สำหรับผมหมอวินัยกับเวทีหมอชวนคุยกับหัว
00:39:39 → 00:39:43 ข้อปัญหาสังคมที่มีคนเก่งกว่าผมมานั่งบน
00:39:43 → 00:39:47 เวทีนี้แลกเปลี่ยนและแบ่งปันแขกรับเชิญคน
00:39:47 → 00:39:50 ต่อไปจะเป็นใครรอติดตามลาแล้วครับสวัสดี
00:39:50 → 00:39:55 ครับขอบคุณมากคุณตี๋