ค่า TDEE คืออะไร และใช้เพื่อจุดประสงค์ใดในการจัดการน้ำหนัก

ลดน้ำหนักยังไงก็ไม่สำเร็จ? เพราะไม่รู้จัก TDEE

จากช่อง : Doctor Tany


ดูคำบรรยาย / View Transcript

00:00:0000:00:02 สวัสดีครับสำหรับหลายคนนะครับที่ดูแล

00:00:0200:00:05 สุขภาพร่างกายของตัวเองเนี่ยก็จะมีคำถาม

00:00:0500:00:07 อันหนึ่งที่พบค่อนข้างบ่อยนั่นก็คือคำถาม

00:00:0700:00:10 เกี่ยวข้องกับน้ำหนักนะครับหลายคนมีน้ำ

00:00:1000:00:13 หนักที่เยอะเกินไปก็อยากจะลดมันลงมาบางคน

00:00:1300:00:15 ปรับวิถีการใช้ชีวิตแล้วน้ำหนักช่วงแรก

00:00:1500:00:18 เนี่ยมันลดลงมาดีแต่สักพักมันก็ตันไม่

00:00:1800:00:20 สามารถลดลงไปกว่านั้นได้อีกมันเพราะอะไร

00:00:2000:00:23 นะครับหรือบางคนที่น้ำหนักตัวน้อยจนเกิน

00:00:2300:00:26 ไปบอกว่ากินยังไงมันก็ไม่เห็นอ้วนซักที

00:00:2600:00:28 มันต้องทำยังไงให้น้ำหนักของเราสามารถ

00:00:2800:00:31 เพิ่มขึ้นมาได้อย่างมีสุขภาพดีเรื่องราว

00:00:3100:00:34 เรื่องนี้นะครับผมก็เคยเล่าไปแล้วว่ามัน

00:00:3400:00:37 มีความเกี่ยวข้องกับสมดุลของพลังงานถ้า

00:00:3700:00:39 เราต้องการที่จะลดน้ำหนักพลังงานที่เรา

00:00:3900:00:42 ได้รับเข้าไปมันจะต้องน้อยกว่าที่เราใช้

00:00:4200:00:45 ออกมาส่วนถ้าเราต้องการจะเพิ่มน้ำหนักมัน

00:00:4500:00:48 ก็ต้องทำตรงกันข้ามนะครับแล้วพลังงานที่

00:00:4800:00:50 ว่านี่นะครับมันก็เป็นพลังงานที่เราใช้

00:00:5000:00:53 ออกไปในแต่ละวันหรือที่เราเรียกว่า Total

00:00:5300:00:56 Daily Energy Expenditure หรือค่า TDE

00:00:5600:00:59 นั่นเองหลายคนอาจจะรู้จักค่านี้แล้วหลาย

00:00:5900:01:02 คนอาจจะไม่รู้จักวันนี้ผมจะมาเล่าให้ฟัง

00:01:0200:01:05 ว่าค่า tdee เนี่ยมันคืออะไรกันแน่มัน

00:01:0500:01:08 คำนวณยังไงรวมทั้งเราจะเอามันไปใช้ในทาง

00:01:0800:01:10 ปฏิบัติเพื่อให้น้ำหนักของเรามันเข้าเป้า

00:01:1000:01:13 หมายได้อย่างไรบ้างนะครับพบกับผมนะครับ

00:01:1300:01:15 นายแพทย์ธนีธนียวเป็นอาจารย์แพทย์อยู่ที่

00:01:1500:01:17 ประเทศสหรัฐอเมริกาเชี่ยวชาญโรคปอดการ

00:01:1800:01:21 ปลูกถ่ายปอดและวิกฤตบำบัดนะครับในแต่ละ

00:01:2100:01:25 วันเนี่ยเราจะมีการใช้พลังงานออกมาใน 4

00:01:2500:01:28 รูปแบบนะครับซึ่งทั้งหมดเนี่ยจะรวมเป็น

00:01:2800:01:30 พลังพลังงานที่เราใช้ในแต่ละวันหรือที่

00:01:3000:01:33 เรียกว่า TDE Total Daily Energy

00:01:3400:01:37 Expenditure นะครับพลังงาน 4 รูปแบบที่

00:01:3700:01:41 เราใช้ออกไปทั้งหมดนะครับ 1 ก็คือ Basal

00:01:4100:01:43 Metabolic Rate นะครับเป็นพลังงานที่

00:01:4300:01:46 เราใช้เพื่อมีชีวิตอยู่ให้อวัยวะต่างๆของ

00:01:4600:01:49 เรามันทำงานได้ถ้าเราได้พลังงานน้อยไป

00:01:4900:01:52 กว่าค่านี้แล้วล่ะก็เราก็จะไม่สามารถมี

00:01:5200:01:55 ชีวิตอยู่ได้นะครับแต่บางคนอาจจะเคยได้

00:01:5500:01:57 ยินสิ่งหนึ่งซึ่งเรียกว่าค่า Resting

00:01:5800:02:01 Metabolic rate ในทางปฏิบัตินะครับ 2

00:02:0100:02:03 ค่าเนี้ยเราจะถือว่ามันเป็นค่าเดียวกัน

00:02:0300:02:06 แต่จริงๆมันไม่ใช่อย่างเดียวกันนะครับ

00:02:0600:02:08 resting metabolic rate เนี่ยก็คือ

00:02:0800:02:11 เป็นค่าการใช้พลังงานของร่างกายในสภาวะ

00:02:1100:02:14 พักถ้าเรานั่งอยู่เฉยๆนอนอยู่เฉยๆเนี่ย

00:02:1400:02:17 มันก็จะมีการใช้พลังงานอยู่แล้วในการให้

00:02:1700:02:20 ท่าทางของเราอยู่แบบนั้นเช่นการหายใจนะ

00:02:2000:02:22 ครับการนั่งอยู่กับที่เนี่ยมันก็จะมีการ

00:02:2200:02:26 วางท่าทางที่เรามีการใช้พลังงานพวกนั้นก็

00:02:2600:02:28 คือสิ่งที่เราไปคำนวณ Resting metabolic

00:02:2800:02:32 rate นะครับซึ่งมันจะสูงกว่าค่า basal

00:02:3300:02:36 metabolic rate ประมาณสัก 5-10% นะครับ

00:02:3600:02:38 ในทางปฏิบัติเราจะถือว่ามันเป็นค่าเดียว

00:02:3800:02:40 กันเพราะว่ามันคำนวณค่อนข้างที่จะยาก

00:02:4000:02:43 ลำบากถ้าเราต้องการจะตัดออกมาเฉพาะ basal

00:02:4300:02:46 metabolic rate จริงๆนะครับพลังงานอัน

00:02:4600:02:49 ที่ 2 ที่ประกอบเป็น tdee ก็คือพลังงาน

00:02:4900:02:53 จากการย่อยอาหารนะครับหรือที่เรียกว่าic

00:02:5300:02:55 effect of food นะครับถ้าเรากินอาหาร

00:02:5500:02:58 เข้าไปเวลาย่อยเนี่ยมันจะมีการสร้างความ

00:02:5800:03:01 ร้อนออกมานะครับนั่นก็คือการใช้พลังงานใน

00:03:0100:03:05 รูปแบบหนึ่งนะพลังงานส่วนที่ 3 ที่เรามี

00:03:0600:03:09 การใช้ก็คือพลังงานจากการทำกิจวัตรประจำ

00:03:0900:03:12 วันต่างๆหรือที่เรียกว่า Non exercise

00:03:1200:03:14 activitymogenesis

00:03:1400:03:17 นะครับเช่นเรากวาดบ้านล้างจานเดินไปเดิน

00:03:1700:03:21 มานะครับพิมพ์ดีดเล่นมือถือพวกเนี้ยก็จะ

00:03:2100:03:24 ถือว่าเป็นพลังงานในส่วนนี้นะครับส่วนสุด

00:03:2400:03:27 ท้ายก็คือพลังงานที่ใช้ออกไปจากการ

00:03:2700:03:30 exercise นะครับหรือเรียกว่า exercise

00:03:3000:03:33 activity thermogenesis นะครับพลังงาน

00:03:3300:03:36 ทั้ง 4 อย่างนี้ก็จะรวมเป็นค่า tde

00:03:3600:03:39 เดี๋ยวเราจะมาเจาะลึกในแต่ละอย่างเลยว่า

00:03:3900:03:42 ยังไงกันแน่นะครับขอเริ่มต้นด้วยเรื่อง

00:03:4200:03:45 ของ basal metabolic rate หรืออีกค่า

00:03:4500:03:47 นึงก็คือ resting metabolic rate ผมจะ

00:03:4700:03:49 พูดทั้ง 2 ค่าเเป็นค่าเดียวกันแล้วกัน

00:03:4900:03:51 เพราะว่าในทางปฏิบัติมันคำนวณคล้ายกัน

00:03:5100:03:54 นั่นแหละมันใกล้เคียงกันมากนะครับค่านี้

00:03:5400:03:58 เนี่ยนะฮะมันจะอยู่ที่ประมาณประมาณ 60-70%

00:03:5800:04:01 ของพลังงานที่เราใช้ในแต่ละวันเลยทีเดียว

00:04:0100:04:04 นะครับถือว่าเป็นพลังงานที่ค่อนข้างจะ

00:04:0400:04:06 เยอะและถ้าเราต้องการที่จะทำให้น้ำหนัก

00:04:0600:04:09 ของเรามันลดหรือเพิ่มเนี่ยเราไปจัดการกับ

00:04:0900:04:13 ค่านี้ได้ค่อนข้างที่จะดีนะครับค่าตัวนี้

00:04:1300:04:17 เนี่ยนะฮะวิธีในการวัดเนี่ยถ้าจะวัดจริงๆ

00:04:1700:04:20 มันจะยากมากมันจะต้องใช้การวัดที่เรา

00:04:2000:04:24 เรียกว่า direct caloretry นะครับ direct

00:04:2400:04:27 caloretry เนี่ยมันจะทำกันในงานวิจัย

00:04:2700:04:29 เท่านั้นครับคือเราจะต้องเข้าไปอยู่ใน

00:04:2900:04:32 ห้องหนึ่งแล้วเขาก็จะวัดเลยว่ามีอุณหภูมิ

00:04:3200:04:35 ที่สร้างออกมาจากร่างกายของเราเนี่ยมาก

00:04:3500:04:37 น้อยแค่ไหนนะครับและจะต้องมีการเตรียมตัว

00:04:3700:04:40 เยอะแยะไปหมดเช่นอดอาหารก่อนนะครับเราจะ

00:04:4000:04:43 ต้องไม่เจ็บไม่ป่วยไม่มีการใช้สารต่างๆ

00:04:4300:04:46 เช่นคาเฟอีนนะครับสารกระตุ้นการสูบบุหรี่

00:04:4600:04:49 แอลกอฮอล์หรือยาต่างๆก็จะต้องงดมันให้หมด

00:04:4900:04:51 เลยนะครับนอนก็ต้องนอนเพียงพอเพื่อที่จะ

00:04:5100:04:54 เข้ามาวัดอย่างเงี้ยดังนั้นมันก็เลยเป็น

00:04:5400:04:56 สิ่งที่เราไม่สามารถทำได้จริงในชีวิต

00:04:5600:05:00 ประจำวันต่อมาสิ่งที่ใกล้เคียงกับ direct

00:05:0000:05:03 caloretry ก็คือ indirect calorometry

00:05:0300:05:05 นะครับซึ่งอันนี้ก็ยากเหมือนกันเพราะมัน

00:05:0500:05:08 จะต้องทำในเอ่อโรงพยาบาลนะครับหรือในห้อง

00:05:0800:05:11 แลบวิจัยทางการกีฬาต่างๆพวกนี้เนี่ยนะ

00:05:1100:05:14 ครับมันก็จะมีการคำนวณพลังงานที่เรา

00:05:1400:05:19 ต้องการโดยการวัดปริมาณออกซิเจนที่เราใช้

00:05:1900:05:21 แล้วก็วัดปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ที่เรา

00:05:2100:05:26 ผลิตออกมาร่วมกับการตรวจวัดค่าปริมาณ

00:05:2600:05:28 โปรตีนที่เราสลายออกไปในแต่ละวันนะครับก็

00:05:2800:05:32 คือออกมาเป็นไนโตรเจนในปัสสาวะแล้วเราก็

00:05:3200:05:34 จะเอามันมาเข้าสูตรสูตรนึงซึ่งเรียกว่า

00:05:3400:05:36 formula นะครับอันเนี้ยเราใช้กันในโรง

00:05:3600:05:39 พยาบาลนะครับผมก็ใช้อันนี้ใน ICU แต่มัน

00:05:3900:05:42 ต้องมีเครื่องมืออ่ะในการวัดต่างๆซึ่งเอา

00:05:4200:05:45 จริงๆในทางปฏิบัติน่ะมันก็ทำกันไม่ได้ละ

00:05:4500:05:49 ดังนั้นจึงเกิดการใช้สูตรต่างๆในการคำนวณ

00:05:4900:05:52 basal metabolic rate ขึ้นมานะครับและ

00:05:5200:05:55 ไอ้สูตรพวกนี้นี่แหละที่เราสามารถหาได้ใน

00:05:5500:05:58 อินเทอร์เน็ตเยอะแยะไปหมดนะครับแต่ละสูตร

00:05:5800:06:00 เนี่ยมันก็จะมีความแม่นยำที่ไม่เหมือนกัน

00:06:0000:06:04 สูตรแรกซึ่งมีกำเนิดขึ้นมาบนโลกนี้เลย

00:06:0400:06:06 ซึ่งนักเรียนแพทย์ทุกคนจะรู้จักก็คือสูตร

00:06:0600:06:08 ที่เรียกว่า Haris Benedict นะครับมีมา

00:06:0800:06:12 ตั้งแต่สมัยปี 1919 แล้วมันก็มีการปรับ

00:06:1200:06:16 เปลี่ยนสูตรตัวเนี้ยในปี 1984 นะครับสูตร

00:06:1600:06:20 นี้มันก็คำนวณไม่ยากเลยใช้ความสูงน้ำหนัก

00:06:2000:06:22 เนี่ยก็อายุเราใส่เข้าไปเท่านั้นมันก็

00:06:2300:06:23 คำนวณมา

00:06:2400:06:27 แต่มันมักจะคำนวณออกมาได้ค่าที่สูงกว่า

00:06:2700:06:30 ความเป็นจริงนะครับถ้าเราเอาค่าที่มันสูง

00:06:3000:06:32 กว่าความเป็นจริงไปใช้มันจะเกิดอะไรขึ้น

00:06:3200:06:34 อ่าเราก็จะเข้าข้างตัวเองถ้าเราต้องการลด

00:06:3400:06:37 น้ำหนักเราบอกว่าเฮ้ยเราค่าตัวเนี้ย

00:06:3700:06:39 สมมุติมันคำนวณออกมาได้แบบ 2,500 เฮ้ยเรา

00:06:4000:06:43 กินซัก 2,400 มันคงไม่เป็นไรมั้งน้ำหนัก

00:06:4300:06:46 มันก็น่าจะลดเนาะแต่จริงๆค่าตัวเนี้ยมัน

00:06:4600:06:50 สูงเกินไปถ้าคำนวณมาจริงๆจริงๆค่าของคุณ

00:06:5000:06:54 มันอาจจะแบบแค่ 2,000 200 ก็ได้นะครับ

00:06:5400:06:57 แล้วคุณไปกิน 2,400 น้ำหนักคุณมันก็ไม่ลด

00:06:5700:06:59 มันอาจจะเพิ่มด้วยซ้ำไปนะครับงั้นเดี๋ยว

00:06:5900:07:01 เนี้ยเราอาจจะไม่ค่อยใช้ Haris Benedic

00:07:0100:07:04 แล้วแต่จะไปใช้อีกตัวนึงแทนนะครับตัวนี้

00:07:0400:07:08 ก็จะชื่ออ่าเป็น Miflin Senture นะครับ

00:07:0800:07:10 Miflin Senture เนี่ยจะค่อนข้างแม่น

00:07:1000:07:13 หน่อยแล้วก็ใช้ในวงการกีฬาแล้วก็อ่าคน

00:07:1300:07:15 ทั่วไปหรือคนที่ต้องการเล่นฟิตเนสเนี่ย

00:07:1600:07:18 ค่อนข้างที่จะใช้ตัวนี้บ่อยมันค่อนข้างจะ

00:07:1800:07:20 แม่นกว่านะครับแล้วก็หาคำนวณได้ทั่วไปนะ

00:07:2000:07:24 ฮะอีกตัวนึงซึ่งซึ่งมีความแม่นมากสำหรับ

00:07:2400:07:27 คนที่รู้ Lean body mas ก็คือต้องต้อง

00:07:2800:07:30 มีการวัดอ่ะวัดไขมันน่ะจะเป็นการวัดด้วย

00:07:3000:07:33 ไอ้ตัวที่หนีบคalิปเปอร์ต่างๆก็คือเป็น

00:07:3300:07:35 การวัดไขมันตามส่วนต่างๆอวัดตรงแขนตรง

00:07:3500:07:37 ท้องตรงหลายๆที่แล้วเอามาคำนวณว่าเรามี

00:07:3700:07:40 ปริมาณไขมันกี่เปอร์เซ็นต์หรือคนไหนจะไป

00:07:4000:07:44 ตรวจค่านี้จากการทำสแกนนะครับ Dexa Scan

00:07:4400:07:46 ก็ได้หรือบางคนก็จะใช้เครื่องพวก Inbody

00:07:4600:07:48 ซึ่งinบodyเนี่ยมันอาจจะไม่แม่นเท่า Dexa

00:07:4800:07:50 Scan นะ Dex Scan เป็นสิ่งที่แม่นที่

00:07:5000:07:53 สุดเพราะว่ามันเป็นการทำเrayทางร่างกาย

00:07:5300:07:56 แล้วมันก็วัดมาเลยว่าไขมันของเรามันมีแค่

00:07:5600:07:58 ไหนกันแน่นะครับตรงนี้เนี่ยจะแม่นที่สุด

00:07:5800:08:01 นะฮะสำหรับคนที่ต้องการตรวจแล้วก็จะ

00:08:0100:08:03 สามารถเอาไปเข้าสูตรอันนึงนะครับอ่าชื่อ

00:08:0300:08:07 ว่าเป็นสูตร Cash Mac Ardol นะครับตัว

00:08:0700:08:09 สูตร Cash McD เนี่ยจะแม่นที่สุดนะครับ

00:08:0900:08:13 เพราะมันจะมีการเอาอ่าน้ำหนักของกล้าม

00:08:1300:08:15 เนื้อหรือ Lean Body M เนี่ยมาคำนวณ

00:08:1500:08:17 ด้วยข้อเสียของมันก็คือคุณต้องไปวัด Lean

00:08:1700:08:19 Body M มาก่อนคุณต้องรู้นะครับถ้ารู้

00:08:1900:08:22 ให้แม่นชัวร์ก็คือต้องไปทำ Dex Scan นะ

00:08:2200:08:25 ครับหรือบางคนก็จะเอาcalิปอร์มาวัดตามที่

00:08:2500:08:27 ต่างๆหรือบางคนก็จะใช้เครื่องinบodyซึ่ง

00:08:2700:08:30 มันไม่ได้แม่นขนาดนั้นนะครับแล้วก็ใช้ได้

00:08:3000:08:33 บ้าง 3 สูตรนี้เนี่ยหาได้ตามอินเทอร์เน็ต

00:08:3300:08:36 ทั่วไปนะครับแล้วก็ไปคำนวณกันนี่พอคำนวณ

00:08:3600:08:38 ออกมาเสร็จปุ๊บมันจะได้ค่า basal

00:08:3800:08:42 metabolic rate คร่าวๆออกมานะครับคร่าว

00:08:4200:08:45 ๆออกมาซึ่งเมื่อกี้บอกแล้วว่า basal

00:08:4500:08:48 metabolic rate เนี่ยมันมีอยู่ถึง

00:08:4800:08:51 60-70% ของค่า total daily Energy

00:08:5100:08:54 expenditure ซึ่งแปลว่าถ้าเราสามารถ

00:08:5400:08:57 เปลี่ยนแปลงมันได้แล้วล่ะก็มันจะสามารถ

00:08:5700:09:00 ที่จะช่วยอะไรเราได้เยอะเลยทีเดียวนะครับ

00:09:0000:09:05 หรือถ้าเกิดว่าเราสามารถที่จะกินอาหารให้

00:09:0500:09:08 มันมีความน้อยหรือมากกว่าค่าเนี้ยมันก็จะ

00:09:0900:09:11 ช่วยเราได้เยอะเลยทีเดียวว่าเฮ้ยเราจะ

00:09:1100:09:12 ต้องทำยังไงให้น้ำหนักของเรามันเปลี่ยน

00:09:1200:09:15 แปลงไปในทางที่เราต้องการนะครับสิ่งที่

00:09:1500:09:18 ต้องรู้นะครับเวลาที่เราคำนวณค่านี้ออกมา

00:09:1800:09:21 ได้แล้วเนี่ยโดยทั่วไปในเว็บไซต์ที่เราไป

00:09:2100:09:24 หาเวลาเราจะคำนวณค่า tdee เนี่ยมันจะมี

00:09:2400:09:27 สูตรพวกเนี้ยให้เราคำนวณแต่มันจะมีอีก

00:09:2700:09:30 ส่วนหนึ่งก็คือเป็นตัวคูณนะครับตัวคูณ

00:09:3000:09:33 เนี่ยมันจะเป็นสิ่งที่เราจะต้องกำหนดขึ้น

00:09:3300:09:36 มาว่าเราใช้พลังงานในแต่ละวันไปในการทำ

00:09:3600:09:39 อะไรได้บ้างถ้าเกิดวันๆเราเอาแต่นอนเนี่ย

00:09:3900:09:42 พวกเนี้ยตัวคูณก็จะน้อยแต่ถ้าวันๆเราเป็น

00:09:4200:09:44 นักกีฬาเราซ้อมตลอดเราออกกำลังกายตลอดค่า

00:09:4400:09:48 ตัวเนี้ยมันก็จะสูงสมมุติเราใช้สูตรคำนวณ

00:09:4800:09:50 ออกมาละเราได้ค่า Best of double rate

00:09:5000:09:53 มาค่านึงแล้วแล้วเราวันๆอยู่เฉยๆตัวคุณก็

00:09:5300:09:56 ได้แค่ 1.2 แต่ถ้าเราเป็นพวกนักกีฬาเลย

00:09:5600:09:59 เนี่ยตัวคุณอาจจะอยู่ที่ 1.9 ซึ่งสูงมาก

00:09:5900:10:02 ส่วนคนที่ออกกำลังกายประมาณสซักอาทิตย์ละ

00:10:0200:10:05 3-5 วันตัวคูณก็อาจจะอยู่ที่ประมาณ 1.4

00:10:0500:10:08 4 แถวๆเนี้ยบวกลบนะครับก็แล้วแต่ว่าใคร

00:10:0800:10:10 จะใช้ตัวไหนเป็นตัวคูณแต่ว่าเราจะต้อง

00:10:1000:10:12 ซื่อตรงซื่อสัตย์กับตัวเองนะครับไม่ใช่

00:10:1300:10:16 บอกว่าเฮ้ยเราออกกำลังกายเอ้ยมันออก 7

00:10:1600:10:19 วันเลยน่ะเราออกเยอะนะเราต้องเป็นนักกีฬา

00:10:1900:10:22 แน่ๆเลยแล้วก็ใช้ตัวคูณสูงๆค่าที่มันได้

00:10:2200:10:24 ออกมามันก็จะสูงจนเกินไปถ้าเกิดคุณไปทำ

00:10:2400:10:28 ตามค่าน้ำหนักน้ำหนักคุณก็จะไม่ยอมลดนะฮะ

00:10:2800:10:32 ก็มีปัญหาได้และต้องเข้าใจอีกอย่างนึงว่า

00:10:3200:10:36 ค่าตัวนี้เป็นเพียงแค่การประมาณการมันไม่

00:10:3600:10:39 ใช่การวัดแบบ 100% ดังนั้นถ้าคุณเอามันไป

00:10:4000:10:43 ใช้คุณจะต้องมีความระมัดระวังอย่างนึงว่า

00:10:4300:10:46 เวลาใช้แล้วมันอาจจะไม่ตรงกับตัวคุณแบบ

00:10:4600:10:48 100% ก็ได้ดังนั้นจะต้องมีการวัดน้ำหนัก

00:10:4800:10:51 ของตัวเองนะครับว่าเฮ้ยมันเป็นไปตามเกณฑ์

00:10:5100:10:54 อย่างนั้นหรือเปล่าน้ำหนักเวลาที่มันจะลด

00:10:5400:10:58 เนี่ยมันจะต้องลดไม่มากจนเกินไปนะครับโดย

00:10:5800:11:01 ทั่วไปเราลดประมาณสัก 1 กก.ต่อสัปดาห์

00:11:0100:11:04 เนี่ยถือว่าโอเคนะครับไม่ถือว่ามากเกินไป

00:11:0400:11:07 นะแต่ถ้าผ่านไป 1 สัปดาห์แล้วมันยังไม่ลด

00:11:0700:11:10 เลยเนี่ยแสดงว่าเราอาจจะได้รับพลังงานที่

00:11:1000:11:13 มันมากเกินไปนะครับถึงแม้ว่าในหัวเราจะ

00:11:1300:11:16 บอกว่าเนี่ยคำนวณมาแล้วเราจะต้องกินให้

00:11:1600:11:19 ได้วันละประมาณ 2,000 อ่า 2,000 แคลอรี่

00:11:1900:11:22 น้ำหนักแล้วมันถึงจะลดนะครับแต่ปรากฏว่า

00:11:2200:11:26 คุณกินแล้วมันไม่เห็นลดซักทีมันก็แปลว่า

00:11:2600:11:29 คุณเนี่ยได้รับพลังงานเกินไปอยู่ดีไอ้ค่า

00:11:2900:11:31 ที่คุณคำนวณได้เนี่ย

00:11:3100:11:33 มันก็ไม่เหมาะสมและดังนั้นอาจจะต้องมีการ

00:11:3300:11:35 ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหรือสิ่งที่คุณกิน

00:11:3500:11:39 เข้าไปนะครับถ้าคำนวณแคลอรี่จากอาหารเป็น

00:11:3900:11:42 ก็โอเคอาจจะตอาจจะต้องมีการลดปริมาณ

00:11:4200:11:45 แคลอรี่ลงมาอีกแต่บางคนเนี่ยคำนวณไม่เป็น

00:11:4500:11:47 แล้วก็คิดว่าไอ้สิ่งที่ตัวเองกินเนี่ยมัน

00:11:4700:11:50 แคลอรี่ต่ำแล้วก็ปรากฏว่าไม่ใช่การไปกิน

00:11:5000:11:53 สลัดก็อาจจะต้องแยกน้ำไว้เพราะนั่นก็คือ

00:11:5300:11:55 พลังงานที่มันเยอะนะครับบางคนกินสลัดไม่

00:11:5500:11:57 เห็นจะอิ่มเลยแต่ว่าทำไมมันก็ไม่เห็นน้ำ

00:11:5700:11:59 หนักลดเลยเหมือนกันเหตุผลก็อาจจะเพราะว่า

00:12:0000:12:02 น้ำสลัดที่คุณใส่มันเข้าไปก็ได้นะครับตรง

00:12:0200:12:04 นี้ก็เป็นสิ่งหนึ่งซึ่งจะต้องเข้าใจ

00:12:0400:12:06 เกี่ยวข้องกับเรื่องการคำนวณ basal

00:12:0600:12:08 metabolic rate นะครับและ basal

00:12:0800:12:10 metabolic rate เนี่ยมันยังเปลี่ยนแปลง

00:12:1000:12:13 ได้อีกต่างหากนะครับบางคนเนี่ยลดน้ำหนัก

00:12:1300:12:17 ไปสักพักแล้วช่วงแรกลดดีเลยผ่านมาเอ๊ะ

00:12:1700:12:19 ทำไมมันเริ่มตันน้ำหนักมันไม่ลงไปกว่านี้

00:12:1900:12:21 แล้วนั่นเพราะว่าร่างกายของคุณมันปรับตัว

00:12:2100:12:25 ได้แล้วครับเวลาที่มันปรับตัวได้มันก็จะ

00:12:2500:12:27 ปรับค่า basal metabolic rate นี่แหละ

00:12:2700:12:31 ดังนั้นเนี่ยบางทีเราต้องคำนวณใหม่เออเรา

00:12:3100:12:34 ต้องคำนวณใหม่ว่ามันเป็นเท่าไหร่กันแน่นะ

00:12:3400:12:36 ฮะเวลาที่ร่างกายของเราเปลี่ยนแปลงเช่น

00:12:3600:12:39 เรามีกล้ามเนื้อมากขึ้นจากการออกกำลังกาย

00:12:3900:12:42 ค่าตัวเนี้ยมันก็จะสูงขึ้นนะครับมันก็จะ

00:12:4200:12:45 เปลี่ยนแปลงได้แต่ถ้าเกิดว่าคนไหนเนี่ย

00:12:4500:12:49 ที่ไปงดอาหารมากๆเนี่ยงดแหลกเลยทำ IF

00:12:4900:12:51 เพื่อที่ให้ตัวเองกินพลังงานได้น้อยมากๆ

00:12:5100:12:54 เนี่ยร่างกายมันจะเครียดครับพอมันเครียด

00:12:5400:12:57 ไปนานๆสักพักนึงเนี่ยมันบอกว่าไม่ได้แล้ว

00:12:5700:13:00 ฉันต้องปรับตัวพอปรับตัวปุ๊บคราวเนี้ยน้ำ

00:13:0000:13:03 หนักคุณมันก็จะไม่ยอมลงเหมือนตอนแรกและ

00:13:0300:13:06 วิธีแก้ก็คือทำยังไงให้ร่างกายมันไม่ปรับ

00:13:0600:13:10 ตัวเช่นถ้าเกิดว่าคุณวัดน้ำหนักทุก

00:13:1000:13:12 สัปดาห์คุณปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตลดอาหาร

00:13:1200:13:15 ออกกำลังกายเพิ่มมากขึ้นน้ำหนักมันลงมาดี

00:13:1500:13:18 เลยแล้วคุณก็รู้สึกว่าเออช่วงแรกมันก็ลง

00:13:1800:13:20 ดีนะกล 2 กลทุกอาทิตย์เลยแต่สักพักนึงมัน

00:13:2100:13:23 ไม่ยอมลงมันนิ่งและอ่าตอนนั้นนั่นแหละที่

00:13:2400:13:27 คุณจะต้องรู้ว่าคุณเนี่ยเริ่มมีปัญหา

00:13:2700:13:31 วิธีแก้ไขก็คือจะต้องถอยกลับไปอย่าทำให้

00:13:3100:13:35 มันโหดเหมือนกับเดิมเช่นถ้าเกิดคุณทำ IF

00:13:3500:13:39 หรือว่างดอาหารลดพลังงานแคลอรี่มากจนเกิน

00:13:3900:13:42 ไปคุณก็จะต้องเริ่มกลับมากินบ้างนะไม่ใช่

00:13:4200:13:45 ว่ากลับมากินเท่าเดิมเป๊ะเลยนะอาจจะค่อยๆ

00:13:4500:13:48 เพิ่มนะครับเช่นเพิ่มสซัก 100-2 แคลอรี่

00:13:4800:13:50 นะครับหรือบางคนอาจจะเพิ่มได้แต่ไม่เกิน

00:13:5000:13:53 500 แคลอรี่เพิ่มขึ้นมาก่อนให้ร่างกาย

00:13:5300:13:55 มันเหมือนกับว่าเฮ้ยนี่เราได้อาหารมาแล้ว

00:13:5500:13:59 นะก็กินเข้าไปเท่านี้นะครับเพื่อให้เรา

00:13:5900:14:01 สามารถที่จะหลอกร่างกายเราได้ว่าเออเรา

00:14:0100:14:05 ยังมีอาหารอยู่คุณไม่ต้องเพิ่มการใช้พลัง

00:14:0500:14:07 งานหรือลดพลังงานที่เราใช้ไม่ต้องเปลี่ยน

00:14:0700:14:09 แปลงให้มันเหมือนเดิมนี่แหละเราจะได้ทำ

00:14:1000:14:12 ได้อย่างมีประสิทธิภาพนะครับอันเนี้ยก็

00:14:1200:14:15 เป็นสิ่งหนึ่งซึ่งเราสามารถทำได้นะครับ

00:14:1500:14:17 บางคนอาจจะเรียกว่าวิธี reverse diet ก็

00:14:1700:14:20 คือถอยไปกินแบบเดิมแต่ค่อยๆถอยไม่ใช่ถอย

00:14:2000:14:22 ลวดเดียวแบบเฮ้ยฉันกินมาตลอด 2,100

00:14:2200:14:25 แคลอรี่ทุกวันเนี่ยวันเนี้ยกิน 3,000 อัน

00:14:2500:14:27 นั้นก็เยอะเกินไปไม่ได้นะครับค่อยๆถอยอาจ

00:14:2700:14:30 จะเป็น 2,200 เอ่อ 2,300 เพื่อที่จะดูที่

00:14:3000:14:33 ว่าร่างกายเราตอบสนองยังไงบ้างนะครับมัน

00:14:3300:14:36 ต้องค่อยๆทำนะอันนี้เป็นสิ่งนึงซึ่งอ่า

00:14:3600:14:39 บางคนอาจจะไม่รู้แล้วก็การออกกำลังกายถ้า

00:14:3900:14:42 ตอนแรกมันหนักมากเลยก็อาจจะต้องถอยมันลง

00:14:4200:14:45 มาหน่อยเพราะไม่งั้นเนี่ยร่างกายเรามันก็

00:14:4500:14:47 รู้สึกว่าเฮ้ยไม่ได้ฉันจะต้องทำแบบเดิม

00:14:4700:14:49 เก็บพลังงานไว้อย่างเงี้ยนะครับดังนั้น

00:14:4900:14:53 เราต้องลดความเข้มข้นของการทำให้ร่างกาย

00:14:5300:14:55 ตัวเองมันเป็นแบบนั้นให้มันน้อยลงหน่อยนะ

00:14:5500:14:58 ครับมันถึงจะกลับมาเหมือนเดิม

00:14:5800:15:01 อันเนี้ยเป็นสิ่งที่เราจะรู้ได้ก็ต่อ

00:15:0100:15:03 เมื่อเราวัดน้ำหนักของเราทุกวันนะครับเรา

00:15:0300:15:06 จะรู้เลยส่วนบางคนเนี่ยก็จะใช้อีกวิธีนึง

00:15:0600:15:09 ก็คือร่างกายของเรามันจะปรับตัวเปลี่ยน

00:15:0900:15:13 แปลงmetabบolic rate เนี่ยได้เมื่อเราทำ

00:15:1300:15:16 อะไรสักอย่างไปประมาณสัก 2 อาทิตย์นะครับ

00:15:1600:15:19 ดังนั้นมันจะมีอีกวิธีนึงก็คือว่าทุกๆ 2

00:15:1900:15:21 อาทิตย์เนี่ยช่วงแรก 2 อาทิตย์แรกนะเราดู

00:15:2100:15:25 แลตัวเองร่างกายเรางดอาหารลดลดแคลอรี่ออก

00:15:2500:15:27 กำลังกายอย่างโหดเลยผ่านไป 2 อาทิตย์คุณ

00:15:2700:15:31 ต้องหย่อนมันลงมาบ้างและต้องหย่อนอ่ะถือ

00:15:3100:15:33 ว่าเป็นช่วงพักของร่างกายแล้วกันคุณออก

00:15:3300:15:35 กำลังกายคาร์ดิโอให้มันลดลงเวทให้มันเบา

00:15:3500:15:39 ลงหน่อยนะฮะแล้วก็มีการทานอาหารเพิ่มเข้า

00:15:3900:15:41 ไปนิดนึงทำอย่างเงี้ยติดต่อกันอีก 2

00:15:4100:15:43 อาทิตย์เพื่อหลอกร่างกายหรือจะทำแค่

00:15:4300:15:45 อาทิตย์เดียวก็ได้นะครับหลอกร่างกายให้

00:15:4500:15:49 มันไม่เปลี่ยนแปลงระบบเมอิซึมของร่างกาย

00:15:4900:15:50 หลังจากผ่านไปแล้ว 2 อาทิตย์คุณทำอย่างี้

00:15:5000:15:52 คุณก็กลับมาออกกำลังกายได้ใหม่ทำมันเป็น

00:15:5200:15:55 ขั้นๆแบบนี้มันก็จะสามารถทำให้คุณเนี่ย

00:15:5500:15:58 สามารถเปลี่ยนแปลงน้ำหนักได้อย่างยั่งยืน

00:15:5800:16:02 แล้วก็ถาวรนะครับอ่าตรงนี้แต่ว่ามีข้อควร

00:16:0200:16:05 ระวังอย่างหนึ่งคือถ้าเกิดคุณผอมจนเกินไป

00:16:0500:16:07 แล้วเนี่ยเช่นแบบเฮ้ยดูตัวเองแล้วมันผอม

00:16:0700:16:10 เกินไปมีคนมาทักแล้วเงี้ยต้องระวังและ

00:16:1000:16:12 อย่ามากไปกว่านั้นไม่งั้นจะเกิดภาวะทุก

00:16:1200:16:15 โภชนาการเกิดขึ้นได้นะครับอ่าดังนั้นอัน

00:16:1500:16:17 นี้ทุกคนก็คงจะทราบแล้วนะว่าเราจะคำนวณ

00:16:1700:16:21 ค่า BMR อย่างไรใช้ตัวคูณแบบไหนวัดผล

00:16:2100:16:23 อย่างไรรวมทั้งจะแก้อย่างไรเมื่อมันตันนะ

00:16:2300:16:28 ครับอ่ะอ่านี่คือ 60-70% ของค่า TDE นะ

00:16:2800:16:30 ครับ Basal Metabolic rate ค่าที่

00:16:3000:16:32 2mogenic

00:16:3200:16:35 effect of food นะครับคือเวลาเรารับ

00:16:3500:16:37 ประทานอาหารแต่ละอย่างเนี่ยมันจะมีการใช้

00:16:3700:16:40 พลังงานแล้วสร้างออกมาเป็นความร้อนอาหาร

00:16:4100:16:42 ของเราก็มี 3 อย่างครับที่หลักๆเป็น

00:16:4200:16:46 แมคโครนิวทรียนโปรตีนไขมันคาร์โบไฮเดรตนะ

00:16:4600:16:49 ครับ 3 อย่างนี้เนี่ยมันใช้พลังงานในการ

00:16:4900:16:51 ย่อยไม่เท่ากันโปรตีนเนี่ยจะใช้พลังงานใน

00:16:5100:16:55 การย่อยสูงที่สุดนะครับประมาณสัก 10% เลย

00:16:5500:16:58 แหละนะฮะถ้าเป็นคาร์โบไฮเดรตก็จะรองลงมา

00:16:5800:17:01 ไขมันเนี่ยต่ำสุดดังนั้นถ้าเกิดคุณอยากจะ

00:17:0100:17:04 ให้ร่างกรรมคุณใช้พลังงานเยอะๆเพื่อที่จะ

00:17:0400:17:07 ลดน้ำหนักคุณก็ต้องเปลี่ยนอาหารเป็นกลุ่ม

00:17:0700:17:09 โปรตีนเยอะหน่อยนะครับไม่ว่าจะเป็นโปรตีน

00:17:1000:17:13 จากพืชหรือโปรตีนจากสัตว์นะครับแต่ถ้าถาม

00:17:1300:17:15 ผมนะควรจะเป็นโปรตีนที่มันหลากหลายไม่ใช่

00:17:1500:17:17 อย่างใดอย่างหนึ่งเพราะว่าโปรตีนอย่างใด

00:17:1700:17:19 อย่างหนึ่งเนี่ยมันจะได้ไม่ค่อยครบเช่นผม

00:17:1900:17:22 เคยพูดเรื่องโปรตีนจากพืชจากสัตว์ไปแล้ว

00:17:2200:17:25 ถ้าเป็นโปรตีนจากพืชเนี่ยเช่นพวกเรากิน

00:17:2500:17:27 ถั่วอะไรเงี้เข้าไปเนี่ยมันจะมีปัญหา

00:17:2700:17:29 เรื่องของการดูดซึมด้วยเรื่องของกากใย

00:17:2900:17:32 ต่างๆมันจะทำให้โปรตีนจากพืชถูกดูดซึมได้

00:17:3200:17:34 น้อยลงดังนั้นเนี่ยมันเข้าไปในร่างกายก็

00:17:3400:17:37 อาจจะไม่เต็มที่เท่าไหร่รวมทั้งโปรตีนจาก

00:17:3700:17:40 พืชเนี่ยกรดอะมิโนจำเป็นน่ะมันจะน้อยกว่า

00:17:4000:17:42 สัตว์นะครับความหลากหลายมันจะน้อยกว่า

00:17:4200:17:44 สัตว์ดังนั้นเนี่ยอาจจะทำให้เรามีปัญหา

00:17:4400:17:47 เรื่องพวกนี้ถ้าเรากินทั้งเนื้อสัตว์หรือ

00:17:4700:17:49 เอ่อปนกับตัวโปรตีนจากพืชเนี่ยมันจะเป็น

00:17:4900:17:52 สิ่งที่สมดุลมากที่สุดนะครับบางคนกลัว

00:17:5200:17:54 เนื้อแดงเพราะเพราะว่ามันจะก่อเกิดการ

00:17:5400:17:57 อักเสบในร่างกายเช่นมันไปก่อให้เกิดการ

00:17:5700:17:59 สารการสร้างสารตัวนึงชื่อว่า TMAO ซึ่งผม

00:17:5900:18:02 เคยเล่าไปแล้วนะครับก็อยากจะกินโปรตีนจาก

00:18:0200:18:04 พืชเพิ่มมากขึ้นหรือบางคนอาจจะขอเป็น

00:18:0400:18:07 เนื้อขาวได้มั้พวกปลาได้มั้ยก็ได้นะครับ

00:18:0700:18:09 แต่ว่าขอให้หลากหลายเป็นใช้ได้จะดีที่สุด

00:18:0900:18:12 ปัจจุบันเรารู้แล้วว่าอาหารแบบที่เป็น

00:18:1200:18:15 อาหารสมดุลหลากหลายเน้นพวกกากใยไฟเบอร์

00:18:1500:18:18 พวกผักเนี่ยจะดีที่สุดนะครับมีความหลาก

00:18:1800:18:21 หลายโอเคที่สุดเราจะไม่แนะนำว่าให้คุณกิน

00:18:2100:18:24 อาหารแบบสุดโต่งเช่นกินแต่เนื้อ

00:18:2400:18:26 คาร์ดีอไดเอตกินแต่ผักแบบอย่างเดียวเลย

00:18:2600:18:29 ไม่เอาผลิตภัณฑ์อะไรจากสัตว์แบบ 100% นะ

00:18:2900:18:32 ครับส่วนบางคนก็อาจจะบอกว่ามีหลายแบบเ่อ

00:18:3200:18:35 บางบางแบบก็บอกเออกินไข่ได้บางแบบก็อ่า

00:18:3500:18:37 กินอนุโลมนมหรือเอาอะไรอย่างี้ได้อันนี้

00:18:3700:18:39 ก็แล้วแต่คุณคิดแต่ว่ามันก็ไม่สมดุลอยู่

00:18:3900:18:43 ดีหรือบางคนก็จะบอกว่าไม่อ่ะฉันจะกิน

00:18:4300:18:46 คีโตเจนิคไดเอตจะกินแต่แบบพวกไขมันเยอะๆ

00:18:4600:18:49 เลยให้มันสร้างเอ่อสารคีโตนลดปริมาณ

00:18:4900:18:51 คาร์โบไฮเดรตลงไปนะครับพวกเนี้ยทั้งหมด

00:18:5100:18:54 เนี่ยมันจะได้ผลมากๆในช่วงแรกแต่หลังจาก

00:18:5400:18:56 นั้นระยะยาวมันจะมีปัญหากับร่างกายขึ้นมา

00:18:5600:18:59 นะครับดังนั้นถ้าจะทำเนี่ยก็ทำในช่วงแรกๆ

00:18:5900:19:01 แล้วก็ถ้าร่างกายเข้าสู่สมดุลเนี่ยเรา

00:19:0100:19:05 ต้องถอยกลับมาใช้อาหารแบบที่มันมีความ

00:19:0500:19:07 หลากหลายมีความสมดุลเพิ่มมากขึ้นนะครับ

00:19:0700:19:11 การทำ IF นะครับก็ต้องบอกว่ามันเป็นการ

00:19:1100:19:14 จำกัดแคลอรี่เพราะมันจำกัดเวลาที่เรารับ

00:19:1400:19:16 ประทานอาหารได้นะครับซึ่งตรงนี้ผมก็เคยทำ

00:19:1600:19:19 คลิปไปแล้วถ้าเราทำ IF แต่เรากินพลังงาน

00:19:1900:19:20 เหมือนเดิมเปี๊ยบเลยน้ำหนักของเราจะไม่

00:19:2000:19:23 เปลี่ยนแปลงมันจะเท่าเดิมนี่แหละนะฮะงั้น

00:19:2300:19:26 เราก็ต้องมีความระมัดระวังในตัวส่วนนี้

00:19:2600:19:28 ด้วยนะครับว่าเราจะทำยังไงก็ได้แต่ว่า

00:19:2800:19:31 ต้องอย่าให้มันเกิดอันตรายขึ้นกับร่างกาย

00:19:3100:19:33 ของเรานะครับถ้าใครอยากจะรู้รายละเอียด

00:19:3300:19:34 พวกนั้นก็ไปฟังในคลิปเหล่านั้นแล้วกัน

00:19:3400:19:37 เพราะเราไปหมดแล้วนะครับนี่คือเรื่องของ

00:19:3700:19:40 อาหารนะครับกินโปรตีนเป็นหลักเราจะใช้

00:19:4000:19:43 พลังงานได้เยอะนะฮะอ่าแล้วเราก็จะน้ำหนัก

00:19:4300:19:47 มันมีโอกาสลดลงมาอันที่ 3 กิจกรรมในแต่ละ

00:19:4700:19:49 วันของเรานะครับก็คือ Non exercise

00:19:4900:19:52 activity Thermogenesis นะครับการใช้

00:19:5200:19:54 พลังงานของร่างกายในแต่ละวันเช่นการเดิน

00:19:5400:19:56 ไปเดินมาอย่างเงี้ยพวกนี้ก็คือการใช้พลัง

00:19:5600:19:59 งานแล้วไอ้ค่าเนี้ยแต่ละคนมันจะไม่เท่า

00:19:5900:20:03 กันถ้าใครที่ใช้พลังงานในแต่ละวันเป็นคน

00:20:0300:20:05 ที่แคtiveหน่อยฮะเดินขึ้นบันไดแทนที่จะ

00:20:0500:20:08 ขึ้นลิฟตนะครับเดินเร็วพวกเนี้ยก็จะมีการ

00:20:0800:20:12 ใช้พลังงานที่มากกว่าปกติได้นะครับดัง

00:20:1200:20:14 นั้นคนไหนที่นั่งหน้าจอคอมพิวเตอร์แล้วก็

00:20:1400:20:16 อย่างเงี้ยอยู่เฉยๆพิมพ์ไปทั้งวันเนี่ย

00:20:1600:20:18 มันก็จะไม่ได้ใช้พลังงานเท่าไหร่แล้วแถม

00:20:1800:20:21 บางคนก็ปวดคอบาลเป็นออฟฟิศsyนrมอีกต่างฮะ

00:20:2100:20:24 นะครับคนที่เดินไปเดินมาเดินขึ้นบันได

00:20:2400:20:26 วิ่งอะไรอย่างเงี้ยนะครับใช้ชีวิตแบบแคที

00:20:2600:20:29 หน่อยก็จะเป็นคนที่มีค่าตัวเนี้ยสูงขึ้น

00:20:3000:20:32 แล้วก็จะทำให้เราใช้พลังงานในแต่ละวันได้

00:20:3200:20:35 มากขึ้นนะครับและแน่นอนครับส่วนสุดท้าย

00:20:3500:20:38 exercise นะครับใครที่เป็นใส่exerร์ซise

00:20:3800:20:41 เนี่ยก็จะเป็นคนที่ใช้พลังงานเยอะหน่อยนะ

00:20:4100:20:43 ครับแล้วถามว่าต้อง exercise แบบไหนมัน

00:20:4300:20:46 ถึงจะดีอันเนี้จริงๆก็ต้องบอกว่ามันต้อง

00:20:4600:20:48 ทำให้ครบทุกแบบเแหละเพราะว่าทุกแบบเนี่ย

00:20:4800:20:51 มันจะมีประโยชน์กับตัวเองมากนะครับถ้าเรา

00:20:5100:20:54 น้ำหนักตัวเยอะเช่นเราอ้วนมากๆแล้วเรา

00:20:5400:20:55 อยากจะเริ่มออกกำลังกายสิ่งที่ดีสำหรับ

00:20:5500:20:59 เราในช่วงแรกก็อาจจะเป็นการเดินนะครับ

00:20:5900:21:01 หรือการปั่นจักรยานที่มันอยู่กับที่เพราะ

00:21:0100:21:04 ว่ามันจะได้ไม่เกิดการบาดเจ็บที่มันง่าย

00:21:0400:21:06 เกินไปเพราะถ้าอ้วนมากแล้วไปวิ่งเลยเนี่ย

00:21:0600:21:09 มันอาจจะมีการลงน้ำหนักที่ผิดแล้วมันก็

00:21:0900:21:12 อาจจะบาดเจ็บได้ดังนั้นการเดินนะเดินเร็ว

00:21:1200:21:14 เดินขึ้นเนินนะครับการปั่นจักรยานที่มัน

00:21:1400:21:16 มีน้ำหนักบ้างเป็นจักรยานตั้งอยู่กับที่

00:21:1600:21:18 ตรงนี้ก็จะเหมาะกับคนที่น้ำหนักตัวเยอะ

00:21:1800:21:21 หน่อยอาจจะยกน้ำยกยกเวทได้บ้างเล็กๆน้อยๆ

00:21:2100:21:23 เพื่อให้มันมีการเสริมสร้างกำลังของกล้าม

00:21:2400:21:26 เนื้อนะครับก็เป็นเรื่องราวที่เราต้องทำ

00:21:2600:21:29 นะฮะคาร์ดิโออันนี้สำคัญมากนะฮะเป็นการทำ

00:21:2900:21:31 ให้ระบบหลอดเลือดแล้วหัวใจของเรามันแข็ง

00:21:3100:21:34 แรงดังนั้นคนที่น้ำหนักตัวเยอะมากเนี่ย

00:21:3400:21:35 เราต้องสร้างความแข็งแรงของระบบหลอดเลือด

00:21:3600:21:38 ของหัวใจของเราให้มันแข็งแรงก่อนหลังจาก

00:21:3800:21:40 นั้นเราจะไปทำการออกกำลังกายแบบอื่นมันก็

00:21:4000:21:43 จะง่ายขึ้นนะครับอย่างที่ 2ight training

00:21:4300:21:46 สร้างกล้ามเนื้อนะครับตัวเคนที่ผอมเกินไป

00:21:4600:21:48 เวลาที่เราสร้างกล้ามเนื้อขึ้นมาได้แล้ว

00:21:4800:21:50 เนี่ยน้ำหนักของเรามันจะเพิ่มขึ้นมาคนที่

00:21:5000:21:53 ผอมแล้วบอกว่าตัวเองกินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วน

00:21:5300:21:55 เราไม่ต้องการให้คุณอ้วนครับเพราะว่าถ้า

00:21:5500:21:57 อ้วนน่ะน้ำหนักที่เพิ่มมากขึ้นน่ะมันคือ

00:21:5700:21:59 น้ำหนักไขมันซึ่งมันไม่ดีต่อร่างกายเรา

00:21:5900:22:01 ต้องการให้น้ำหนักที่เพิ่มขึ้นเป็นน้ำ

00:22:0100:22:03 หนักของกล้ามเนื้อแล้วก็กระดูกมันถึงจะ

00:22:0300:22:06 เป็นน้ำหนักที่มีสุขภาพดีนะครับดังนั้น

00:22:0600:22:09 พวกนี้เราก็จะแนะนำว่าออกกำลังกายแบบ

00:22:0900:22:10 weight training ร่วมกับการรับประทาน

00:22:1100:22:14 อาหารเพิ่มมากขึ้นแต่การออกแบบเนี้ยมันก็

00:22:1400:22:17 ไม่ได้ครบวงจรนะครับมันเราไม่ใช่วันๆมี

00:22:1800:22:20 แต่คาร์ดิโอเราก็ไม่ได้วันมันมีแต่ยกน้ำ

00:22:2000:22:22 หนักใช่มั้ครับเราต้องมีการยืดเหยียด

00:22:2200:22:25 เพื่อป้องกันการบาดเจ็บด้วยนะครับอ่าทำ

00:22:2500:22:28 พวกโยคะการยืดกล้ามเนื้อต่างๆนะครับข้อ

00:22:2800:22:31 ต่อต่างๆเพื่อให้เราไม่บาดเจ็บง่ายนะครับ

00:22:3100:22:34 อันนี้ก็เป็นสิ่งสำคัญอีกอย่างนึงก็เป็น

00:22:3400:22:36 การออกกำลังกายที่บางคนเรียกว่าพวกฟังกal

00:22:3700:22:39 หรือ agility เป็นความคล่องตัวในการใช้

00:22:3900:22:41 ชีวิตประจำวันนะครับเพราะคนเราคงจะไม่มา

00:22:4100:22:44 นั่งทำ bench press ทุกวันหรือยกเวทหรือ

00:22:4400:22:46 วิ่งนั่นมันไม่ใช่การใช้ชีวิตประจำวันของ

00:22:4600:22:48 เรานะครับชีวิตประจำวันของเราอาจจะมีการ

00:22:4900:22:52 เดินบนฟุตบาตซึ่งเดี๋ยวมันเป็นทางที่ไม่

00:22:5200:22:54 เท่ากันมีการขึ้นบันไดนะครับมีการเอี้ยว

00:22:5400:22:57 ตัวหยิบของอะไรอย่างเงี้ยซึ่งการทำการออก

00:22:5700:23:00 กำลังกายที่เข้ากับการใช้ชีวิตประจำวัน

00:23:0000:23:01 ของเราเนี่ยเป็นสิ่งที่เรียกว่า

00:23:0100:23:03 functional training ซึ่งมันก็มีความ

00:23:0300:23:05 จำเป็นเหมือนกันที่เราจะต้องทำแบบนั้นนะ

00:23:0500:23:08 ครับเราจะได้มีสุขภาพของเราที่สมบูรณ์

00:23:0800:23:11 แข็งแรงที่สุดนะครับอ่าดังนั้นนี่คือพลัง

00:23:1100:23:15 งาน 4 อย่างซึ่งเราสามารถเอาค่า TDE ที่

00:23:1500:23:17 เราคำนวณเนี่ยมาคิดได้ว่าเราจะทำยังไงกับ

00:23:1700:23:19 การใช้พลังงานพวกพวกนี้เพื่อที่จะให้น้ำ

00:23:1900:23:22 หนักของเรามันเข้าเป้าหมายนะครับมีอีก

00:23:2200:23:23 อย่างนึงซึ่งอยากจะพูดก็คือเรื่องของ

00:23:2400:23:26 basal metabolic rate เนี่ยทุกคนเนี่ย

00:23:2600:23:30 มันต้องรู้ว่ามันเปลี่ยนแปลงได้นะครับ

00:23:3000:23:32 เวลาที่ร่างกายของเราเปลี่ยนแปลงน้ำหนัก

00:23:3200:23:33 ของเรามันเปลี่ยนแปลงไปค่าตัวนี้ก็จะ

00:23:3300:23:35 เปลี่ยนแปลงไปเราอาจจะต้องคำนวณมันใหม่นะ

00:23:3500:23:38 ครับตรงนี้ขอเน้นย้ำอย่างนึงแล้วบางคนอาจ

00:23:3800:23:43 จะบอกว่ามันมีบางคนเนี่ยโฆษณาว่าเฮ้ยกิน

00:23:4300:23:46 ไอ้นี่เข้าไปสิเดี๋ยวมันจะเพิ่มการใช้

00:23:4600:23:49 พลังงานเพิ่มทำให้ร่างกายของเรามันมีความ

00:23:4900:23:51 ร้อนเพิ่มมากขึ้นก็คือทำพูดง่ายๆก็คือทำ

00:23:5100:23:54 ให้เราผอมลงได้นั่นแหละนะครับค่าตัวนี้

00:23:5400:23:57 ตัวที่ค่อนข้างปลอดภัยก็คือคาเฟอีนนะครับ

00:23:5700:24:00 กาแฟเรานี่แหละนะคือมันจะไปเร่ง basal

00:24:0000:24:02 metabolic rate ให้มันสูงขึ้นก็จะมีการ

00:24:0200:24:04 ใช้พลังงานเพิ่มมากขึ้นตัวเนี้ยก็จะเป็น

00:24:0400:24:09 ตัวที่ปลอดภัยค่อนข้างได้ผลส่วนอื่นๆมัน

00:24:0900:24:11 ก็ไม่ค่อยได้ดีเท่ากับตัวนี้ดังนั้นถ้า

00:24:1100:24:13 ถามน่ะมันไม่จำเป็นที่จะต้องไปกินของพวก

00:24:1300:24:17 นั้นเลยนะครับไม่มีประโยชน์นะฮะและถ้า

00:24:1700:24:19 เกิดสมมุติสมมุติคุณทำเต็มที่และนะครับ

00:24:1900:24:22 คำนวณ basal metabolic rate ตามสูตรชัด

00:24:2200:24:26 เจนมีการเอาตัวคูณที่มันชัดเจนเข้าไปดูแล

00:24:2600:24:29 ร่างกายของตัวเองและนะครับแต่มันยังไม่

00:24:2900:24:30 เปลี่ยนแปลงอ่ะทำไมน้ำหนักของเรามันไม่ลด

00:24:3000:24:33 ซักทีทั้งๆที่เรากินทุกอย่างเหมาะสมหมด

00:24:3300:24:36 อันเนี้ยอาจจะต้องไปตรวจว่าคุณมีโรคประจำ

00:24:3600:24:38 ตัวอะไรอยู่หรือเปล่าบางคนเป็นโรคไทรอยด์

00:24:3800:24:40 ต่ำอ่าน้ำหนักมันก็ไม่ยอมลดซักทีนะครับ

00:24:4000:24:44 บางคนมีโรคถุงน้ำในรังไข่หลายใบ PCOS การ

00:24:4400:24:47 ลดน้ำหนักมันก็จะยากกว่าปกตินะครับอ่าพวก

00:24:4800:24:51 เนี้ยหรือบางคนมีปัญหาฮอร์โมนต่างๆผิด

00:24:5100:24:54 ปกติมันก็จะทำให้น้ำหนักของเรามันไม่ยอม

00:24:5400:24:57 ลดซักทีนะครับพวกเนี้ยถ้าเกิดว่าคุณทำ

00:24:5700:25:00 เต็มที่แล้วแล้วมันไม่ดีขึ้นควรจะต้องไป

00:25:0000:25:02 ตรวจกับหมอด้วยว่าเฮ้ยเรามีโรคอะไรซ่อน

00:25:0200:25:05 อยู่ในร่างกายที่มันต้องได้รับการแก้ไขมย

00:25:0500:25:09 นะครับส่วนบางคนก็ผอมจนเกินไปแล้วทำยังไง

00:25:0900:25:10 ออกกำลังกายก็แล้วเพิ่มน้ำหนักกล้ามเนื้อ

00:25:1000:25:13 กินเยอะก็แล้วมันก็ไม่เพิ่มซะทีพวกนี้ก็

00:25:1300:25:15 ต้องไปตรวจเหมือนกันนะครับว่าเฮ้ยเรามี

00:25:1500:25:18 ปัญหาอ่ามีไทรอยด์เป็นปัญหาเป็นพิษอยู่

00:25:1800:25:21 หรือเปล่าหรือในคนสูงอายุกล้ามเนื้อมันจะ

00:25:2100:25:25 สลายไปตามปกติอยู่แล้วมันก็จะแก้ไขได้นะ

00:25:2500:25:27 อายุเนี่ยไม่ว่าจะเท่าไหร่คุณก็สามารถ

00:25:2700:25:30 เพิ่มมวลกล้ามเนื้อได้ 70 80 ออกกำลัง

00:25:3000:25:32 กายมวลกล้ามเนื้อก็ยังสามารถเพิ่มได้อยู่

00:25:3200:25:35 ดังนั้นไม่ต้องหมดหวังนะครับยังสามารถทำ

00:25:3500:25:38 ได้และไม่มีอะไรที่ใส่จนเกินไปด้วยแต่คน

00:25:3800:25:42 สูงอายุบางคนที่กินข้าวได้น้อยเบื่ออาหาร

00:25:4200:25:44 นะครับแล้วก็บางคนน้ำหนักก็ลงไปเรื่อยๆ

00:25:4400:25:47 เนี่ยอันเนี้ยอาจจะต้องตรวจดูว่ามีอะไร

00:25:4700:25:50 แทรกซ้อนใหม่เช่นบางคนเนี่ยอายุเยอะแล้ว

00:25:5000:25:53 ซึมเศร้าเพื่อนเราก็เสียไปหมดแล้วเราไป

00:25:5300:25:56 ไหนก็ไม่ได้ไปก็ลำบากแล้วก็อยู่แต่บ้าน

00:25:5600:25:59 อยู่แต่ห้องมันก็น้อยใจลูกหลานก็ไม่มาดู

00:25:5900:26:02 แลนะครับพวกเนี้ยก็ต้องได้รับการแก้ไขไม่

00:26:0200:26:04 งั้นเขาก็จะไม่กินข้าวน้ำหนักก็จะไม่

00:26:0400:26:07 เพิ่มขึ้นไม่ใช่ว่าแบบเฮ้ยพ่อแม่ฉันไม่

00:26:0700:26:10 กินข้าวเลยทำไงอ่ะมีวิตามินอะไรบำรุงมั้ย

00:26:1000:26:13 มีอ่ายาอะไรมั้ยที่ทำให้เขาอยากอาหารขึ้น

00:26:1300:26:16 มาถ้าเกิดเขาเป็นซึมเศร้าลูกคุณไม่แก้แก้

00:26:1600:26:18 ไขนะครับยังไงเค้าก็ไม่กินอยู่ดีวิตามิน

00:26:1900:26:21 กินไปก็ไม่มีประโยชน์อยู่ดีเอาอาหารเสริม

00:26:2100:26:23 ต่างๆไปให้เค้ากินเค้าก็ไม่กินอยู่ดีหรือ

00:26:2300:26:26 กินแป๊บเดียวก็ไม่เอาแล้วหรือบางคนถ้าน้ำ

00:26:2600:26:28 หนักลดเยอะๆเนี่ยต้องไปตรวจถ้าอายุเยอะ

00:26:2800:26:30 แน่ๆว่าเราต้องสงสัยพวกโรคมะเร็งต่างๆนะ

00:26:3000:26:32 ครับก็ต้องไปตรวจด้วยว่ามีอะไรที่เรา

00:26:3200:26:35 จำเป็นต้องรีบแก้ไขหรือเปล่านะครับอ่ะ

00:26:3500:26:37 โอเควันนี้ผมก็หวังว่าทุกคนจะรู้จักกับ

00:26:3700:26:40 ค่า Total Daily Energy Expenditure

00:26:4000:26:42 เพิ่มมากขึ้นนะครับมันมีวิธีการคำนวณต่าง

00:26:4200:26:45 ๆคุณก็เสิร์ชหาในอินเทอร์เน็ตก็ได้ค่า TDE

00:26:4500:26:48 E คำนวณยังไงถ้าให้เลือกสูตรนะครับก็

00:26:4800:26:51 ทั่วไปให้เลือกสูตร Miflin Centr มันจะ

00:26:5100:26:55 แม่นสุดนะครับถ้าเกิดว่าคุณไปตรวจค่าป

00:26:5500:26:57 เอ่อปริมาณหรือเปอร์เซ็นต์ไขมันในร่างกาย

00:26:5700:27:00 มาแล้วนะครับก็ใช้สูตร CMA Ardle นะครับ

00:27:0000:27:02 อันนี้ก็จะแม่นสุดนะครับแต่ไม่ว่าคุณจะ

00:27:0200:27:05 ใช้คำนวณสูตรไหนก็แล้วแต่นะครับคุณจะต้อง

00:27:0500:27:07 มีการวัดผลเสมอวัดน้ำหนักมันทุกอาทิตย์

00:27:0700:27:10 เลยวัดทุกวันยิ่งดีนะครับดูว่าถ้าคุณปรับ

00:27:1000:27:13 เปลี่ยนวิถีการใช้ชีวิตแล้วเนี่ยมันได้ผล

00:27:1300:27:15 อย่างที่มันควรจะได้จริงหรือเปล่านะครับ

00:27:1600:27:19 ถ้ามันไม่ได้จริงคุณก็จะต้องมาดูแล้วว่า

00:27:1900:27:22 ข้อแรกคุณทำอะไรพลาดในชีวิตประจำวันหรือ

00:27:2200:27:24 เปล่ามันถึงไม่ลดอาหารที่คุณกินมันอาจจะ

00:27:2400:27:27 มีแคลอรี่สูงหรืออันที่ 2 ก็คือว่าจริงๆ

00:27:2700:27:28 แล้วไอ้ค่าที่คำนวณของคุณน่ะมันอาจจะ

00:27:2900:27:31 เพี้ยนไปกว่าของที่มันเป็นจริงก็ได้นะ

00:27:3100:27:34 ครับอ่ะวันนี้ผมก็เล่าให้ฟังเพียงเท่านี้

00:27:3400:27:37 นะครับถ้าใครมีอะไรสงสัยก็สอบถามมานะครับ

00:27:3700:27:40 ขอบคุณมากครับสวัสดีครับ