คุณแม่ควรได้รับแคลเซียมจากแหล่งใดบ้าง

[PODCAST] Food Choice | EP.8 - อาหารบำรุงครรภ์ตามไตรมาส

จากช่อง : Mahidol Channel มหิดล แชนแนล


ดูคำบรรยาย / View Transcript

00:00:0000:00:03 [เสียงดนตรี]

00:00:0300:00:06 You're listening to Mahidol Channel Podcast.

00:00:0600:00:08 Listen for a better life.

00:00:0800:00:11 ฟังเพื่อชีวิตที่ดีกว่า

00:00:1100:00:14 และนี่คือรายการพอดแคสต์ของช่อง Mahidol Channel

00:00:1400:00:16 โดย มหาวิทยาลัยมหิดล

00:00:1600:00:22 [เสียงดนตรี]

00:00:2200:00:24 วันนี้คุณกินอะไร

00:00:2400:00:29 อาหารที่คุณกินจะส่งผลดี ส่งผลเสีย กับสุขภาพของคุณอย่างไร

00:00:2900:00:31 วันนี้หมอจะชวนทุกคนมาพูดคุย

00:00:3100:00:35 เกี่ยวกับรูปแบบของการกินอาหาร ที่ปลอดภัยกับสุขภาพของเรา

00:00:3500:00:40 กับรายการ Food Choice กินดี สุขภาพดี เลือกได้ กับหมอเอ๋

00:00:4000:00:42 แพทย์หญิงดรุณีวัลย์ วโรดมวิจิตร

00:00:4200:00:46 คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล

00:00:4600:00:49 [เสียงดนตรี]

00:00:4900:00:55 วันนี้เราก็จะมาคุยกันในเรื่องของ อาหารบํารุงครรภ์ตามไตรมาส

00:00:5500:00:57 ตอนนี้หลาย ๆ ท่านที่อาจจะกำลังตั้งครรภ์

00:00:5800:01:00 หรือมีการเตรียมพร้อมสำหรับการตั้งครรภ์

00:01:0000:01:04 เราจะมาคุยกันว่า เราควรจะเลือกรับประทานอาหารอย่างไร

00:01:0400:01:08 น้ำหนักควรจะขึ้นเท่าไหร่ และดูแลตัวเองอย่างไร

00:01:0800:01:11 ทีนี้วันนี้สิ่งที่เราจะคุยกัน เราก็จะดูว่า

00:01:1100:01:14 โภชนาการในช่วงระหว่างการตั้งครรภ์

00:01:1400:01:17 แล้วก็จะแยกเป็นในแต่ละไตรมาสกันนะคะ

00:01:1700:01:19 ทีนี้ในเวลาที่เราตั้งครรภ์นะคะ

00:01:1900:01:23 โดยทั่วไป เราก็จะแบ่งการตั้งครรภ์ ออกมาเป็น 3 ช่วงเวลา

00:01:2300:01:27 โดยทั่วไปเราก็จะบอกว่า เราตั้งท้องหรือตั้งครรภ์ประมาณ 9 เดือน

00:01:2700:01:30 เราจะแบ่งออกมาเป็นช่วงเวลาทีละ 3 เดือนนะคะ

00:01:3000:01:31 เราก็เลยเรียกว่าไตรมาส

00:01:3100:01:34 มาส ในที่นี้แปลว่าเดือน

00:01:3500:01:37 ไตรมาสคือทุก ๆ 3 เดือนนะ

00:01:3700:01:40 เพราะฉะนั้นใน 3 เดือนแรก ในระหว่างที่เราตั้งครรภ์

00:01:4000:01:45 เราก็จะมาดูกันว่า เด็ก ๆ มีความต้องการสารอาหารมากแค่ไหน

00:01:4500:01:48 เอาเริ่มต้นก่อน หลาย ๆ คนก็จะรู้ว่าถ้าเราพร้อม

00:01:4800:01:51 หรือเราเตรียมตัวที่จะตั้งครรภ์

00:01:5100:01:54 เราควรจะต้องมีการเตรียมตัว ก่อนที่จะตั้งครรภ์

00:01:5400:01:56 ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการตรวจเลือด

00:01:5600:02:00 การเช็กว่ามีภูมิต้านทานหรือยัง หรือว่าการฉีดวัคซีน

00:02:0000:02:03 รวมถึงการรับประทานโฟเลตเนอะ

00:02:0300:02:06 หลาย ๆ ท่านก็แบบ...ให้ไปกินโฟเลตเลย อะไรอย่างนี้

00:02:0600:02:10 เพื่อจะป้องกันไม่ให้เด็กมีปัญหา ในระหว่างการตั้งครรภ์

00:02:1000:02:11 ทีนี้ถ้าสมมุติว่าตั้งครรภ์แล้ว

00:02:1100:02:15 ต้องบอกว่าในช่วง 3 เดือนแรก หรือว่าไตรมาสแรกนี่

00:02:1500:02:20 จริง ๆ ช่วงนั้น คุณแม่มักจะมีอาการ เรื่องของการแพ้ท้องนะคะ

00:02:2000:02:23 อาการแพ้ท้องจะทำให้รับประทานอาหารได้น้อยลง

00:02:2300:02:26 ช่วงนี้ค่ะ น้ำหนักอาจจะไม่ต้องเพิ่มขึ้นเลยก็ได้

00:02:2600:02:28 หรือว่าถ้าเพิ่ม ก็เพิ่มนิดหน่อย

00:02:2800:02:32 อย่างมากก็ประมาณสัก... เต็มที่คุณหมอว่าสักประมาณไม่เกิน 2 กิโลค่ะ

00:02:3200:02:33 พอแล้ว

00:02:3300:02:36 ส่วนใหญ่นี่ เราอยากมีลูกใช่ไหมคะ

00:02:3600:02:39 ไตรมาสแรกนี่ โอ้โฮ โด๊ปกันเต็มที่เลย ขึ้นไปแล้ว 5 กิโลกรัม

00:02:3900:02:43 อันนี้ต้องระวังนะคะ เพราะไตรมาสหลัง ๆ น้ำหนักมันจะเพิ่มขึ้นไปอีก

00:02:4300:02:46 เดี๋ยวจะกลายเป็นว่า พอหลังคลอดไปแล้วนี่

00:02:4600:02:50 น้ำหนักลูกออกไป 3 กิโล ที่เหลืออยู่กับคุณแม่อีก 20 อะไรแบบนี้

00:02:5000:02:53 เนื่องจากว่าอาหารที่เรากินเข้าไปนี่นะคะ

00:02:5300:02:56 ก็จำเป็นในเรื่องของการเจริญเติบโต ของทารกในครรภ์

00:02:5600:02:59 เพราะฉะนั้น ถ้าเรากินน้อยเกินไป ก็อาจจะมีผลกับเด็ก

00:02:5900:03:02 กินมากเกินไป มันก็จะส่งผลเสียกับตัวเราเอง

00:03:0200:03:06 เพราะฉะนั้น ถามว่า ในช่วงระยะเวลาที่เราตั้งครรภ์อยู่ 9 เดือน

00:03:0600:03:08 น้ำหนักมันควรจะขึ้นเท่าไหร่

00:03:0800:03:11 ถ้าให้คิดกัน หลายคนก็บอก... เอ๊ะ ฉันก็ขึ้นแบบ...

00:03:1100:03:15 ได้ยินข่าวโน่นนี่นั่น บอก 10 กิโล 20 กิโลอะไรอย่างนี้นะคะ

00:03:1500:03:19 จริง ๆ แล้ว น้ำหนักที่เหมาะสม ในระหว่างการตั้งครรภ์นะคะ

00:03:1900:03:21 ก็อยู่ที่ประมาณสัก 11-15 กิโลกรัม

00:03:2100:03:27 อันนี้สำหรับคนที่เริ่มต้นก่อนการตั้งครรภ์ ไม่อ้วน ไม่ผอม คือน้ำหนักปกตินะคะ

00:03:2700:03:29 ถ้าคนเริ่มต้นก่อนที่จะท้องนี่

00:03:2900:03:31 เขาผอมมาก หรือเขาผอม

00:03:3100:03:34 เขาสามารถจะเพิ่มน้ำหนัก ในระหว่างการตั้งครรภ์

00:03:3400:03:37 ได้ถึง 15 กิโลกรัมนะคะ

00:03:3700:03:39 ในขณะที่ถ้าเกิดเป็นคนที่อ้วนอยู่แล้ว

00:03:3900:03:40 แล้วมาตั้งครรภ์

00:03:4100:03:44 อันนี้เราจะให้เขาควบคุมน้ำหนักนะคะ

00:03:4400:03:46 อยู่ที่ประมาณ 9-11 กิโลกรัม

00:03:4600:03:49 คือไม่ให้เยอะกว่านี้ในระหว่างการตั้งครรภ์

00:03:4900:03:51 เพราะถ้ามากกว่านี้ มันอาจจะส่งผลเสีย

00:03:5100:03:53 และมีภาวะแทรกซ้อนในระหว่างการตั้งครรภ์ได้

00:03:5400:03:56 อันนี้คือมองในภาพรวมว่า ถ้าสมมุติเราตั้งครรภ์

00:03:5700:03:59 น้ำหนักเราควรจะขึ้นเท่าไหร่นะคะ

00:03:5900:04:01 แล้วในแต่ละไตรมาสนี่

00:04:0100:04:03 การเพิ่มขึ้นของน้ำหนักก็ไม่เท่ากัน

00:04:0400:04:07 เรามาดูกันที่ไตรมาสแรกก่อนนะคะ

00:04:0700:04:11 [เสียงดนตรี]

00:04:1200:04:13 ในไตรมาสแรกเองนี่

00:04:1300:04:18 จริง ๆ แล้ว น้ำหนักควรจะเพิ่มขึ้นอยู่ประมาณ 1-3 กิโลกรัมเท่านั้นเอง ไม่เยอะ

00:04:1800:04:23 เหตุผลเพราะว่าช่วงนี้จะเป็นช่วงที่ ร่างกายเรามีเรื่องของการแพ้ท้อง

00:04:2300:04:24 จะมีคลื่นไส้อาเจียน

00:04:2500:04:27 จริง ๆ สิ่งที่ต้องระวังมากกว่าในไตรมาสแรก

00:04:2700:04:30 คือในกรณีที่เรากินอะไรไม่ได้เลยนะคะ

00:04:3000:04:33 ถ้าเรากินอะไรไม่ได้เลย อันนี้จะเป็นอันตรายกับเด็กนะคะ

00:04:3300:04:37 อันนี้อาจจะจำเป็นที่จะต้องมีการ ให้สารอาหาร หรือว่าให้น้ำเกลือ

00:04:3700:04:41 ถามว่ารู้ได้ยังไง คือถ้าเราอ้วกมาก ๆ แล้วเรากินอะไรไม่ได้เลย

00:04:4100:04:43 คุณหมอจะมีการตรวจปัสสาวะ

00:04:4300:04:45 พอตรวจปัสสาวะเสร็จปั๊บ

00:04:4500:04:47 มันมีสารที่เราเรียกว่าคีโตนขึ้นมา

00:04:4700:04:50 อย่างนี้แสดงว่าร่างกายเราไม่มีสารอาหาร

00:04:5000:04:54 แล้วร่างกายเราสลาย เอาไขมันมาใช้จนเต็มที่แล้ว

00:04:5400:04:58 แบบนี้ค่ะคุณหมอก็จะให้เข้าโรงพยาบาล แล้วก็ให้น้ำเกลือ

00:04:5800:05:02 ในส่วนของยาที่จะช่วยเรื่องของ การคลื่นไส้อาเจียนนี่

00:05:0200:05:05 จริง ๆ ถ้าเป็นมาก ก็ทานได้

00:05:0500:05:08 ซึ่งบางทีเราก็จะมีการให้เป็นพวกวิตามินบี 6

00:05:0800:05:13 ซึ่งจะช่วยในเรื่องของลดอาการคลื่นไส้อาเจียน ในระหว่างที่ตั้งครรภ์ได้

00:05:1300:05:16 ถามว่าอาหารมีอาหารอะไรบ้างที่มีบี 6

00:05:1600:05:20 ก็จะมีพวกกล้วย พวกนม พวกเนื้อสัตว์ ทั้งหลายนะคะ

00:05:2000:05:23 หรือว่าพวกของธัญพืชอะไรพวกนี้ก็จะมีบี 6

00:05:2300:05:27 เพราะฉะนั้นอาจจะใช้เป็นอาหารกลุ่มนี้ เพิ่มขึ้นก็ได้

00:05:2700:05:31 ถ้าสมมุติว่ามันเป็นมากจริง ๆ นี่ หลาย ๆ ท่านก็อาจจะจำเป็นต้องใช้ยา

00:05:3100:05:33 แนะนำว่าให้ไปพบแพทย์แล้วกันเนอะ

00:05:3300:05:36 แต่จริง ๆ กลุ่มคนท้องนี่ ไม่ค่อยกังวลเท่าไหร่

00:05:3600:05:38 เพราะว่ากลุ่มนี้เขาจะมีความกังวลค่อนข้างมาก

00:05:3800:05:41 แล้วก็ไม่ค่อยจะกล้าซื้อยากินเองอยู่แล้วนะคะ

00:05:4100:05:44 อันนี้ก็สำหรับไตรมาสแรกนะคะ

00:05:4400:05:49 ในกรณีของหลาย ๆ ท่านที่อาจจะมีปัญหา เรื่องการแพ้ท้องในระหว่างการตั้งครรภ์

00:05:4900:05:51 ก็อาจจะแนะนำว่า ให้แบ่งมื้อรับประทาน

00:05:5100:05:54 เป็นอาหารที่น้อย ๆ แล้วก็กินบ่อย ๆ นะคะ

00:05:5400:05:57 อาจจะหลีกเลี่ยงพวกของเครื่องเทศเยอะ ๆ

00:05:5700:05:59 เพราะว่าจะทำให้มีกลิ่น รส ที่ค่อนข้างฉุน

00:05:5900:06:03 แล้วอาจจะทำให้กระตุ้นให้เรื่องของ การแพ้ท้องเป็นมากขึ้นนะคะ

00:06:0300:06:05 ดื่มน้ำให้เยอะขึ้นนะคะ

00:06:0500:06:07 แล้วก็หลีกเลี่ยงพวกอาหารรสจัดนะคะ

00:06:0800:06:11 เพราะว่าในช่วงแรก ๆ นี่ ก็อาจจะมีเรื่องของการคลื่นไส้ร่วมด้วยค่ะ

00:06:1100:06:16 [เสียงดนตรี]

00:06:1600:06:19 พอเข้ามาสู่ไตรมาสที่ 2 นี่

00:06:1900:06:22 ส่วนใหญ่เรื่องของอาการคลื่นไส้อาเจียน ก็จะเริ่มหายไปแล้ว

00:06:2200:06:24 ซึ่งเราเชื่อว่าอาจจะเป็นเรื่องของฮอร์โมน

00:06:2400:06:27 พอเข้าสู่ไตรมาสที่ 2 นี่ เด็กในท้องก็จะเริ่มโตขึ้น

00:06:2700:06:29 พอเด็กโตขึ้นปั๊บนี่

00:06:2900:06:31 เขาก็จะต้องการสารอาหารที่มากขึ้น

00:06:3100:06:34 ตอนนี้คุณแม่จำเป็นต้องกินอาหารเพิ่มขึ้นแล้ว

00:06:3400:06:36 เพิ่มเท่าไหร่จากปกติที่เคยทานอยู่

00:06:3600:06:40 อาจจะต้องเพิ่มขึ้นอยู่ประมาณ 300 แคลอรีต่อวัน

00:06:4000:06:44 ถามว่าช่วงนี้น้ำหนักจะเพิ่มขึ้นเท่าไหร่ มันจะค่อย ๆ เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ นะคะ

00:06:4400:06:47 แล้วจะเพิ่มขึ้นมากที่สุดในช่วงไตรมาสที่ 3

00:06:4700:06:51 ซึ่งอาจจะเพิ่มขึ้นอยู่ประมาณสัก สัปดาห์ละครึ่งกิโลกรัมเลยด้วยซ้ำ

00:06:5100:06:54 ทีนี้ในช่วงไตรมาสที่ 2 นี่ค่ะ

00:06:5400:06:56 การเจริญเติบโตของเด็ก เขาต้องการสารอาหารมากขึ้น

00:06:5600:07:01 คุณแม่ต้องเลือกอาหารให้เหมาะสม ให้ครบถ้วนทั้ง 5 หมู่นะคะ

00:07:0100:07:03 ถ้าสมมุติมันไม่เพียงพอ สิ่งที่เขาทำคือ

00:07:0300:07:05 เด็กเขาจะมาเอาของคุณแม่ไปใช้

00:07:0600:07:09 สังเกตว่าตอนนี้ค่ะ คุณแม่อาจจะมีปัญหาเรื่องฟันผุแล้ว

00:07:0900:07:10 ถ้าเกิดกินแคลเซียมไม่พอ

00:07:1000:07:15 เพราะว่าเด็กเขาต้องมีการสร้าง เรื่องของกระดูกและฟัน

00:07:1500:07:18 แคลเซียมก็ได้จากอะไรบ้าง พวกของเต้าหู้นะคะ

00:07:1800:07:22 ถั่วเหลือง ผักใบเขียว งา ปลาตัวเล็กตัวน้อย

00:07:2200:07:26 อันนี้ก็จะเป็นแหล่งแร่ธาตุ ที่จะให้พวกแคลเซียม

00:07:2600:07:28 ซึ่งส่วนใหญ่คุณแม่ก็จะเลือกดื่มนม

00:07:2800:07:31 ทีนี้มันจะมีอีกประเด็นหนึ่ง ก็คือเรื่องของแคลเซียม

00:07:3100:07:33 หลายคนก็จะทานเป็นนม

00:07:3300:07:35 จริง ๆ ทานเป็นนม ไม่ได้มีปัญหานะคะ

00:07:3500:07:38 ถามว่าจำเป็นไหม ที่จะต้องเป็นนมเสริมแคลเซียม

00:07:3800:07:41 จริง ๆ แล้วนมทั่วไป ก็จะมีแคลเซียมในระดับหนึ่ง

00:07:4100:07:43 ประมาณสัก 30 มิลลิกรัมนะคะ

00:07:4300:07:48 แต่ว่าการที่เสริมแคลเซียม หมายความว่า เรากินน้อยแต่เราได้แคลเซียมมากขึ้น

00:07:4800:07:50 ถามว่า กินนมเยอะ ๆ ดีไหม

00:07:5000:07:53 มันก็จะมีข้อมูลอย่างนี้ค่ะ ในกรณีของคนที่ตั้งครรภ์

00:07:5300:07:55 ถ้าเดิม ไม่ค่อยจะกินนมแล้ว

00:07:5600:07:58 ไม่แนะนำว่าให้กินนมเพิ่มขึ้นเยอะ ๆ

00:07:5800:08:02 เพราะว่าในอนาคต เด็กมีโอกาสที่จะเกิดเรื่องของการแพ้นม

00:08:0200:08:05 แต่ถ้าสมมุติว่าคุณแม่กินนมอยู่แล้ว กินได้เลยนะคะ

00:08:0600:08:09 หรือถ้าเกิดบอกว่า เอ๊ะ ฉันไม่กินนม ฉันจะกินนมได้ไหม

00:08:0900:08:14 กินได้ค่ะ แต่ไม่ต้องกินทีเดียวแบบหักโหม ทีละแบบ 2-3 แก้วอะไรแบบนี้

00:08:1400:08:17 หรือถ้าไม่อยากจะทานนมที่เป็นนมวัว

00:08:1700:08:20 ก็อาจจะเลือกแหล่งของแคลเซียมจากที่อื่น

00:08:2000:08:22 ไม่ว่าจะเป็นเต้าหู้ ถั่วเหลืองนะคะ

00:08:2200:08:26 งา ปลาตัวเล็กตัวน้อย หรือจะเป็นผักใบเขียวก็ได้ค่ะ

00:08:2600:08:27 อันที่สอง ธาตุเหล็กค่ะ

00:08:2700:08:29 คุณแม่อาจจะมีปัญหาเรื่องของธาตุเหล็กลดลง

00:08:2900:08:32 เพราะว่าเด็กเขาต้องสร้างเม็ดเลือดนะคะ

00:08:3200:08:34 คุณแม่ก็อาจจะมีปัญหาเรื่องซีด

00:08:3400:08:35 ธาตุเหล็กอยู่ในไหน

00:08:3500:08:38 ธาตุเหล็กในเครื่องใน ในตับใช่ไหมคะ เนื้อแดงนะคะ

00:08:3800:08:42 แล้วก็จะมีผักสีเขียวเข้ม ๆ อันนี้ก็จะมีธาตุเหล็ก

00:08:4200:08:46 ในช่วงแรกเราจะไม่แนะนำให้กิน พวกของ supplement

00:08:4600:08:48 หรือว่าพวกของวิตามินหรือแร่ธาตุเสริม

00:08:4900:08:51 เหตุผลเพราะว่ามันมีเรื่องของ คลื่นไส้อาเจียนร่วมด้วย

00:08:5100:08:55 ถ้าเกิดไปแนะนำให้กินพวกของ ธาตุเหล็กในช่วงแรก

00:08:5500:08:57 อาจจะมีปัญหานะคะ

00:08:5700:08:59 เพราะว่าพวกนี้นี่ มันอาจจะทำให้เกิดการระคายเคือง

00:08:5900:09:03 แล้วก็จะทำให้กระตุ้นให้มีเรื่องของ คลื่นไส้อาเจียนได้ด้วยเหมือนกัน

00:09:0300:09:07 อันถัดมาค่ะ คุณแม่ควรจะต้อง ดื่มน้ำให้เพียงพอนะคะ

00:09:0700:09:10 ดื่มน้ำประมาณ 8-10 แก้วต่อวันนะคะ

00:09:1000:09:14 คุณแม่อาจจะมีปัญหาจริง ๆ เพราะว่าเวลาที่มดลูกมันโตขึ้น

00:09:1400:09:18 จะทำให้ไปกดทับตัวของกระเพาะปัสสาวะ แล้วทำให้ฉี่บ่อย

00:09:1800:09:21 แต่ว่าตรงนี้คุณแม่จำเป็น ที่จะต้องดื่มน้ำให้เพียงพอค่ะ

00:09:2100:09:23 ในส่วนของอาหารที่มีโปรตีนนะคะ

00:09:2300:09:25 คุณแม่ก็จำเป็นที่จะต้องได้โปรตีนสูงขึ้น

00:09:2500:09:28 เพื่อจะช่วยเรื่องการเจริญเติบโต ของลูกด้วยนะคะ

00:09:2800:09:33 ซึ่งแหล่งที่จะให้โปรตีน ก็จะเป็นเนื้อสัตว์ ไข่ นม ถั่ว ใช่ไหมคะ

00:09:3300:09:36 ทีนี้หลาย ๆ ท่าน ก็จะชอบบอกว่า กินปลาสิ

00:09:3600:09:39 ทีนี้ปลา นอกจากจะเป็นโปรตีนที่ดี ย่อยง่ายแล้วนี่

00:09:3900:09:43 ในปลาเองก็จะมีกรดไขมันชนิดหนึ่ง ที่เรียกว่าโอเมกา 3

00:09:4300:09:46 หลาย ๆ คนก็พยายามที่จะกินปลาให้เยอะขึ้น

00:09:4600:09:49 มีข้อควรระวังอยู่ 2-3 อย่างค่ะ

00:09:4900:09:51 อันแรกคือกินปลาได้นะคะ

00:09:5100:09:56 แต่ว่าถ้าไปซื้อเป็นพวกของแคปซูล ที่เป็นกรดไขมันที่เป็นโอเมกา 3 นี่

00:09:5600:10:00 อาจจะต้องระวังนิดหน่อย โดยเฉพาะในช่วงการตั้งครรภ์ในช่วงแรก

00:10:0000:10:03 เพราะว่าหลาย ๆ ท่านนี่ ภายในช่วง 3 เดือนแรกนี่

00:10:0300:10:07 การตั้งครรภ์ที่ไม่สมบูรณ์หรือมีปัญหา อาจจะทำให้เกิดการแท้งได้

00:10:0700:10:10 ทีนี้กรดไขมันโอเมกา 3 ค่ะ

00:10:1000:10:13 มันจะทำให้เลือดมันใส มันจางนะคะ

00:10:1300:10:16 ละลายลิ่มเลือด คุณสมบัติเหมือนกับแอสไพริน

00:10:1600:10:17 เพราะฉะนั้นโอกาสเลือดออก มี

00:10:1700:10:20 หลาย ๆ ท่านก็จะไม่แนะนำให้ไปกิน พวกของน้ำมันปลา

00:10:2000:10:23 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงของไตรมาสแรก

00:10:2300:10:26 อันที่สอง ถ้าเราจะเลือกอาหารที่เป็นปลา

00:10:2600:10:28 เราอาจจะต้องให้ความระมัดระวังนิดนึง

00:10:2800:10:31 คือโดยทั่วไปเราจะบอกว่า เราให้กินปลาได้นะคะ

00:10:3100:10:34 แต่ถ้าหากว่าจะกินปลา แนะนำว่า

00:10:3400:10:35 ควรจะกินให้หลากหลาย

00:10:3600:10:38 เหตุผลเพราะบางคนอยากได้โอเมกา 3

00:10:3800:10:40 เลือกกินปลาทะเลน้ำลึก

00:10:4000:10:42 แล้วก็ไปซื้อมากิน แล้วกินเยอะ ๆ

00:10:4200:10:46 สิ่งหนึ่งที่อาจจะต้องระมัดระวังก็คือ สารปนเปื้อนที่ติดมากับปลา

00:10:4600:10:49 ไม่ว่าจะเป็นพวกของสารปรอท แคดเมียม อะไรอย่างนี้

00:10:4900:10:52 มันจะส่งผลกับเรื่องของสมองของเด็กได้ค่ะ

00:10:5200:10:55 ดังนั้น ในกรณีของคนที่ตั้งครรภ์

00:10:5500:11:00 เราจะแนะนำว่าให้กินปลา ประมาณ 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์

00:11:0000:11:02 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ ในที่นี้

00:11:0200:11:06 ก็คือ 1 ครั้ง เรากินประมาณเท่ากับ 1 ฝ่ามือ

00:11:0600:11:07 อันนี้ก็คือ 1 ส่วน

00:11:0700:11:11 แล้วก็ให้กินอยู่ที่ประมาณ สัก 1 หรือ 2 ส่วนต่อสัปดาห์

00:11:1100:11:14 เพื่อจะให้ได้รับโปรตีนที่เพียงพอ มีโอเมกา 3

00:11:1400:11:15 ในขณะเดียวกันนี่

00:11:1500:11:21 ก็ช่วยป้องกันไม่ให้ได้รับพวกของสารปรอท ที่มันมากเกินไปที่อาจจะปนเปื้อนมากับปลา

00:11:2100:11:25 นอกจากนี้เราอาจจะเลือกปลา ที่ไม่ใช่เป็นพวกปลาทะเล

00:11:2500:11:27 กินปลาน้ำจืดร่วมด้วยได้

00:11:2700:11:28 ให้กินให้หลากหลาย

00:11:2800:11:29 แล้วก็พวกของโฟเลต

00:11:2900:11:31 โฟเลตอันนี้สำคัญ

00:11:3100:11:34 จริง ๆ ต้องบอกว่าโฟเลต สำคัญมาตั้งแต่ก่อนตั้งครรภ์แล้ว

00:11:3400:11:36 จนกระทั่งตอนช่วงไตรมาสที่ 2 นี่

00:11:3600:11:39 โฟเลตสำคัญในเรื่องของ การสร้างในระบบประสาทของเด็ก

00:11:4000:11:44 ตัวโฟเลตเองก็สามารถที่จะช่วยป้องกัน เรื่องของปากแหว่งเพดานโหว่

00:11:4400:11:48 แล้วก็เรื่องของระบบประสาทของเด็ก ที่ผิดปกติได้

00:11:4800:11:50 ที่เราเรียกว่าเป็น Neural tube defects

00:11:5000:11:51 ถามว่ามีอยู่ในไหน

00:11:5100:11:53 ในผักใบเขียวนะคะ

00:11:5300:11:54 ในนมก็มีนะคะ

00:11:5500:11:57 แล้วก็จะเป็นพวกของเครื่องในนะคะ

00:11:5700:11:58 อาจจะเป็นพวกของตับ

00:11:5800:12:01 พวกนี้ก็จะมีพวกของธาตุเหล็ก แล้วก็มีโฟเลตอยู่ค่ะ

00:12:0100:12:04 ดังนั้นก็เลยบอกว่า ถ้าสมมุติมันป้องกันได้

00:12:0400:12:05 การกินโฟเลตเข้าไป

00:12:0500:12:08 แล้วจะทำให้ความเสี่ยงตรงนี้ลดลง เราก็แนะนำว่า

00:12:0800:12:10 ถ้าใครมีแพลนที่จะตั้งท้อง

00:12:1000:12:12 ก็ควรจะทานโฟเลตไปเลย

00:12:1200:12:14 แล้วก็จะเป็นไอโอดีน

00:12:1400:12:18 ขาดไอโอดีน คุณแม่ขา ลูกเกิดมา มีปัญหาเรื่องของไทรอยด์

00:12:1800:12:21 หรือว่าจะมีปัญหาเรื่องของ ที่เขาเรียกว่าโรคเอ๋อได้

00:12:2100:12:24 เพราะฉะนั้น สติปัญญาของลูกก็จำเป็นเนอะ

00:12:2400:12:25 ไอโอดีนเอามาจากไหน

00:12:2500:12:27 อันที่ 1 เกลือที่เราใช้นี่

00:12:2700:12:30 ส่วนใหญ่ถ้าเกิดเป็นเกลือ ที่ผสมไอโอดีนอยู่แล้ว ก็โอเค

00:12:3100:12:33 อันที่สองก็มาจากพวกของอาหารทะเล

00:12:3300:12:36 อันนี้ก็จะเป็นแหล่งที่จะได้ไอโอดีนนะคะ

00:12:3600:12:38 ในส่วนของข้าว แป้งเองนี่

00:12:3800:12:39 ก็อาจจะต้องบอกว่ากินได้

00:12:3900:12:42 แต่ว่าให้จำกัดในส่วนที่เป็นน้ำตาล

00:12:4200:12:43 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในคนที่เริ่มต้น

00:12:4300:12:45 ก่อนตั้งครรภ์นี่ อ้วนอยู่แล้ว

00:12:4500:12:48 มีประวัติครอบครัวเบาหวาน หรือว่าน้ำหนักขึ้นเร็ว ๆ

00:12:4800:12:52 อันนี้ต้องระวัง ไม่งั้นเดี๋ยวจะมีปัญหา เรื่องของเบาหวานในระหว่างตั้งครรภ์

00:12:5200:12:54 ในช่วงไตรมาสที่ 2 นี่นะคะ

00:12:5400:12:56 ทีนี้เราก็คุยกันแล้วเรื่องของอาหาร

00:12:5600:13:00 ทีนี้คุณแม่หลายคนพอไม่แพ้ท้องแล้วนี่

00:13:0000:13:01 ก็เพิ่มกินเยอะขึ้น

00:13:0100:13:04 เวลาทำให้น้ำหนักมันเพิ่มขึ้นมากเกินไป

00:13:0400:13:06 หรือว่าคนไข้ที่มีปัญหาเรื่องอ้วนอยู่แล้ว

00:13:0600:13:11 ให้ระวังด้วย เพราะว่ามีโอกาสที่จะเกิด เรื่องของเบาหวานในขณะตั้งครรภ์

00:13:1100:13:14 ดังนั้น สิ่งที่อาจจะต้องหลีกเลี่ยง หรือต้องระวัง

00:13:1400:13:18 ก็คือพวกน้ำหวานหรือว่าเครื่องดื่ม ที่มีน้ำตาลเป็นปริมาณมากนะคะ

00:13:1800:13:22 แล้วก็อาจจะมีการตรวจเรื่องของน้ำตาล ในระหว่างนี้

00:13:2200:13:25 เพื่อจะดูว่ามีเบาหวาน ในระหว่างตั้งครรภ์หรือเปล่า

00:13:2500:13:29 ถ้ามีเบาหวานในระหว่างการตั้งครรภ์ อันนี้ก็จะส่งผลเสียกับเด็ก

00:13:2900:13:31 อาจจะต้องมีการฉีดยาเยอะแยะไปหมดเลย

00:13:3100:13:34 เพราะฉะนั้น เราเริ่มจาก เราคุมอาหารเราก่อนนะคะ

00:13:3400:13:36 ให้น้ำหนักขึ้นตามเกณฑ์

00:13:3600:13:39 ไม่มากเกินไปไม่น้อยเกินไปนะคะ

00:13:3900:13:41 แล้วก็เลือกอาหารที่เหมาะสม

00:13:4100:13:44 ไม่เลือกอาหารที่มันมีน้ำตาลสูงมากนะคะ

00:13:4400:13:48 อันนี้ก็จะเป็นทางหนึ่งที่จะช่วยป้องกัน เรื่องของเบาหวานระหว่างการตั้งครรภ์

00:13:4800:13:51 ในกรณีที่เรามีเบาหวานระหว่างการตั้งครรภ์

00:13:5100:13:52 สิ่งที่จะเกิดขึ้นก็คือ

00:13:5200:13:55 เด็กเขาจะได้รับน้ำตาลจากตัวคุณแม่

00:13:5500:13:57 เด็กก็จะตัวโต

00:13:5700:14:00 ฉะนั้นถามว่า เด็กตัวโตก็ดีสิ ฉันอยากให้ลูกฉันตัวโต

00:14:0000:14:03 ประเด็นก็คือว่า เด็กตัวโต เวลาจะคลอดก็จะคลอดยาก

00:14:0300:14:05 อันที่สอง พอคลอดปั๊บ

00:14:0500:14:08 เด็กเขาจะต้องมาใช้ ระบบไหลเวียนของตัวเขาเองแล้ว

00:14:0800:14:10 จากเดิมที่เขาได้รับจากคุณแม่

00:14:1000:14:13 เพราะฉะนั้น จากเดิม เด็กที่เคยได้รับน้ำตาลสูง ๆ

00:14:1300:14:14 พอตัดสายสะดือปั๊บ

00:14:1400:14:17 หมายถึงว่าระดับน้ำตาลในเลือดเขาไม่พอ เด็กก็จะน้ำตาลตก

00:14:1800:14:20 ก็อาจจะมีปัญหากับเด็กได้

00:14:2000:14:22 อันนี้คือสิ่งที่เจอบ่อยนะคะ

00:14:2200:14:25 เพราะฉะนั้น เราไม่ต้องการให้เกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้น

00:14:2500:14:28 เราก็ต้องการทำให้น้ำหนักของคุณแม่ อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม

00:14:2800:14:31 ระดับน้ำตาลในเลือดของคุณแม่

00:14:3100:14:36 [เสียงดนตรี]

00:14:3700:14:39 แล้วเราก็เข้ามาสู่ในไตรมาสที่ 3 แล้วนะคะ

00:14:3900:14:42 ถ้าสมมุติว่าการตั้งครรภ์ผ่านมาได้ด้วยดี

00:14:4200:14:43 พอมาถึงไตรมาสที่ 3 นี่

00:14:4300:14:47 ลักษณะของอาหารเสริม หรือว่าลักษณะของวิตามินและเกลือแร่เสริมนี่

00:14:4700:14:49 ส่วนใหญ่ก็จะยังคล้าย ๆ เดิมอยู่นะคะ

00:14:4900:14:53 น้ำหนักตัวจะเริ่มเพิ่มมากขึ้นแล้ว ตามน้ำหนักเด็กที่โตขึ้น

00:14:5300:14:58 ช่วงนี้นี่เราต้องการสารอาหารเพิ่มขึ้น อยู่ประมาณสัก 400 แคลอรีต่อวันแล้ว

00:14:5800:15:00 เราก็จะมีเกณฑ์ว่าน้ำหนักควรจะขึ้นเท่าไหร่

00:15:0100:15:03 ในแต่ละรอบที่เราไปตรวจครรภ์นี่

00:15:0300:15:07 เขาก็อาจจะให้เราสังเกตนิดนึงว่า ขาเราจะเริ่มบวมหรือยัง

00:15:0700:15:08 คุณแม่จะเริ่มมีปัญหาแล้วค่ะ

00:15:0800:15:11 เพราะว่าพอเข้าสู่ไตรมาสที่ 3 ปั๊บนี่

00:15:1100:15:13 พอครรภ์มันสูงขึ้น โตขึ้น

00:15:1300:15:14 สิ่งที่เกิดขึ้นเวลากินนี่

00:15:1400:15:17 ก็จะมีปัญหาเรื่องของกรดไหลย้อน

00:15:1700:15:20 กินเข้าไปนิดนึง ก็อาจจะรู้สึกว่า โอ้โฮ มันแน่น

00:15:2000:15:22 มันรู้สึกเหมือนกับมีกรดไหลขึ้นมาเลย

00:15:2200:15:24 เพราะฉะนั้นตอนนี้ ต้องแบ่งมื้อกินแล้วค่ะ

00:15:2400:15:26 กินน้อย ๆ กินบ่อย ๆ นะคะ

00:15:2600:15:29 เพราะไม่งั้นนี่ จะมีปัญหาเรื่องกรดไหลย้อน

00:15:2900:15:31 คุณแม่อาจจะมีปัญหาเรื่องปวดหลังมากขึ้น

00:15:3100:15:34 คุณแม่อาจจะมีปัญหาเรื่องของขาบวม

00:15:3400:15:36 เวลาขาบวมนี่ ต้องระวังนิดนึงค่ะ

00:15:3600:15:38 เวลาไปตรวจ เขาจะต้องตรวจดูปัสสาวะด้วย

00:15:3800:15:41 ถ้าสมมุติว่าตรวจปัสสาวะ แล้วมีโปรตีนขึ้นมา

00:15:4100:15:44 หรือคุณแม่ที่อยู่ที่บ้าน แล้วมีเครื่องวัดความดัน

00:15:4400:15:45 แล้วความดันสูง

00:15:4600:15:49 อันนี้ต้องระวังนะคะ ความดันสูง มีโปรตีนขึ้น ขาบวม

00:15:4900:15:52 อันนี้เป็นการบ่งบอกว่าจะมีภาวะครรภ์เป็นพิษ

00:15:5300:15:55 ซึ่งอันนี้ต้องรีบไปเจอคุณหมอแล้วนะคะ

00:15:5500:15:58 ก็ในกรณีที่มีภาวะครรภ์เป็นพิษนะคะ

00:15:5800:16:00 ก็คือภาวะความดันสูงในคุณแม่

00:16:0000:16:02 ทีนี้พอเวลาความดันสูงมาก ๆ นี่

00:16:0200:16:05 ก็จะมีโปรตีนไข่ขาวรั่ว ขาบวมได้

00:16:0500:16:07 อันนี้ก็จะตรวจได้นะคะ

00:16:0700:16:09 ทุก ๆ ครั้งที่เราไปฝากครรภ์

00:16:0900:16:10 คุณหมอเขาก็อาจจะขอตรวจปัสสาวะ

00:16:1000:16:13 เพื่อจะเช็กพวกนี้ แล้วก็วัดความดันนะคะ

00:16:1300:16:18 ถ้ามันเป็นมาก ๆ นี่ สิ่งที่เป็น ก็อาจจะทำให้คุณแม่มีตามัว

00:16:1800:16:22 หรือว่ารุนแรงจริง ๆ บางคนถึงขนาดชักได้เลย

00:16:2200:16:26 ส่วนลูกนี่ สุขภาพของลูกในท้อง ก็จะบอกว่าเด็กสุขภาพไม่ดี

00:16:2600:16:27 เวลาเด็กสุขภาพไม่ดี

00:16:2700:16:31 เขาก็อาจจะไม่สามารถที่จะอยู่ในท้องได้แล้ว

00:16:3100:16:33 ก็อาจจะทำให้มีการคลอดก่อนกำหนด

00:16:3300:16:37 หรือว่าบางที คุณหมออาจจะจำเป็น ที่จะต้องหยุดการตั้งครรภ์

00:16:3700:16:39 เพราะว่าถ้าเกิดอยู่ในท้องนี่

00:16:3900:16:41 เด็กอาจจะเป็นอันตรายมากกว่า

00:16:4100:16:43 ต้องรีบเอาเด็กออกมา แล้วมาเลี้ยงข้างนอกนะคะ

00:16:4300:16:45 ซึ่งอันนี้เป็นภาวะที่ไม่มีใครอยากให้เจอ

00:16:4500:16:47 ถามว่าจะต้องทำอย่างไร

00:16:4700:16:52 หนึ่ง ติดตาม ระวัง แล้วก็ถ้าสมมุติว่าเจอ ก็รีบรักษาตั้งแต่เริ่มต้นนะคะ

00:16:5200:16:55 โดยสรุปนะคะ ก็คือเวลาที่เราตั้งครรภ์

00:16:5500:16:57 ต้องบอกก่อนว่า ค่าเฉลี่ยเวลาที่เด็กคลอด

00:16:5700:17:00 อยู่ประมาณ 2 กิโลครึ่งถึง 3 กิโลกรัม

00:17:0000:17:02 เมื่อไหร่เราจะเรียกว่าเด็กตัวโต

00:17:0200:17:04 เกินกว่า 4 กิโลกรัม

00:17:0400:17:07 ถ้าใครคลอดเด็กแล้ว ลูกเกิดมานี่หนักเกิน 4 กิโลกรัม

00:17:0700:17:10 อันนี้ต้องมาเช็กแล้วค่ะ ว่าคุณแม่จะเป็นเบาหวานหรือเปล่า

00:17:1100:17:14 อันที่สองก็คือถ้าเกิดลูก อยู่ในระดับประมาณนี้

00:17:1400:17:15 ก็ต้องนึกภาพว่า

00:17:1500:17:18 อุ๊ย น้ำหนักที่เพิ่มขึ้นในระหว่างตั้งครรภ์ ตอนนี้อยู่กับแม่

00:17:1800:17:22 ต่อให้เอารกออกไป น้ำคร่ำออกไป จริง ๆ ก็ไม่กี่กิโลนะคะ

00:17:2200:17:25 ดังนั้น ในแง่ของการตั้งครรภ์

00:17:2500:17:29 น้ำหนักที่เหมาะสมอยู่ประมาณ 11 กิโลกรัม สำหรับคนที่ก่อนตั้งครรภ์น้ำหนักปกติ

00:17:3000:17:33 ถ้าผอมตั้งแต่ก่อนตั้งครรภ์ เพิ่มได้มากกว่านี้

00:17:3300:17:35 ถ้าอ้วน ต้องลดให้น้อยกว่านี้

00:17:3500:17:39 เพราะฉะนั้น อยู่ที่ประมาณสัก 9-13 กิโลกรัม

00:17:3900:17:41 11 ตรงกลางสำหรับคนที่น้ำหนักปกติ

00:17:4100:17:43 คนอ้วนเพิ่มประมาณสัก 9 กิโลกรัม

00:17:4300:17:47 คนผอม เพิ่มได้ 13 กิโลกรัม อะไรอย่างนี้เป็นต้นนะคะ

00:17:4700:17:49 อีกอันนึงก็คือท้องแฝดนะคะ

00:17:4900:17:53 หลาย ๆ คนเดี๋ยวนี้ไม่ว่าจะท้องแฝด ด้วยเรื่องของเป็นไปตามธรรมชาติ

00:17:5300:17:57 หรือว่าใช้วิวัฒนาการทางการแพทย์ แล้วทำให้มีการตั้งครรภ์แฝดเพิ่มขึ้น

00:17:5700:17:58 ในคนที่ท้องแฝดนี่

00:17:5800:18:03 จริง ๆ เราอนุญาตให้เพิ่มน้ำหนัก ได้มากกว่าท้องปกติหรือว่าท้องเดี่ยว

00:18:0300:18:05 ท้องเดี่ยวเพิ่มได้ 11 กิโลกรัมอย่างนี้

00:18:0500:18:07 ท้องแฝดอาจจะถึงเกือบ 20 กิโลกรัมนะคะ

00:18:0800:18:10 แต่ว่าเวลาที่เพิ่มไปถึง 20 กิโลนี่ ต้องบอกว่า

00:18:1000:18:13 ภาวะแทรกซ้อนที่จะเกิดขึ้น ในคนที่ตั้งครรภ์แฝดนี่

00:18:1300:18:16 จะมีมากกว่าคนที่ตั้งครรภ์ปกติ

00:18:1600:18:19 เพราะฉะนั้นบอกว่าคนมักจะพูด โอ๊ย ดีจังเลยท้องแฝด

00:18:1900:18:21 คลอดทีเดียว ได้ลูก 2 คน

00:18:2100:18:24 ต้องบอกว่าอันตรายกับสุขภาพ ของคุณแม่และลูกมากกว่าท้องเดี่ยว

00:18:2400:18:26 อันที่ 2 คือหลังคลอดไปแล้วนี่

00:18:2600:18:28 การดูแลก็จะลำบากมากขึ้นเหมือนกันค่ะ

00:18:2900:18:34 [เสียงดนเตรี]

00:18:3400:18:37 นอกเหนือจากการที่เราจะเลือกว่า เราจะกินอาหารชนิดไหนแล้วนี่

00:18:3700:18:39 การปรุงอาหารก็สำคัญนะคะ

00:18:3900:18:42 ไม่ใช่แค่คนท้องค่ะ คนทั่วไปก็ตาม

00:18:4200:18:44 ควรจะเลือกอาหารที่สุก สะอาดนะคะ

00:18:4400:18:47 แล้วก็ใหม่ในการที่จะเอามาปรุงอาหารนะคะ

00:18:4700:18:51 หลีกเลี่ยงอาหารพวกที่เป็นอาหารแปรรูป หรือว่าอาหารหมักดองนะคะ

00:18:5100:18:53 ทีนี้ตรงนี้ถามว่าช่วยอะไร

00:18:5300:18:58 เพราะว่าจริง ๆ แล้ว ถ้าเกิดอาหารที่เรากิน มันไม่สุก ไม่สะอาด หรือมีการปนเปื้อน

00:18:5800:19:01 มันอาจจะทำให้เกิดเรื่องของการติดเชื้อ หรือว่าท้องเสีย

00:19:0100:19:04 จะทำให้คุณแม่มีปัญหาเรื่องของการขาดน้ำ

00:19:0400:19:05 เสียน้ำ เสียเกลือแร่

00:19:0600:19:08 หรืออาจจะมีอันตรายกับเด็กได้ค่ะ

00:19:0800:19:10 อันนี้ก็เลยทำให้ส่วนใหญ่เราก็จะบอกว่า

00:19:1000:19:14 ในคนท้องควรจะกินอาหารที่ปรุงสุก สะอาดนะคะ

00:19:1400:19:16 นอกเหนือจากอาหารที่เราแนะนำให้กินแล้ว

00:19:1600:19:17 ถามว่าแล้วเราห้ามกินอะไร

00:19:1800:19:19 อันนี้อาจจะพูดไปบ้างแล้ว

00:19:1900:19:22 ก็คือข้อแรก เราจะห้ามพวกที่เป็นน้ำตาลเยอะ ๆ

00:19:2200:19:24 เมื่อกี้บอกไปแล้วว่าเสี่ยง

00:19:2400:19:26 ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของน้ำหนักเลย

00:19:2600:19:29 หรือว่าจะเป็นเรื่องของ เบาหวานในระหว่างตั้งครรภ์

00:19:2900:19:31 พวกของไขมันเยอะ ๆ

00:19:3100:19:33 ไขมันเยอะนี่ นอกเหนือจากเรื่องของน้ำหนักตัวนี่

00:19:3300:19:36 ต้องบอกก่อนเลยว่า คุณแม่ที่ตั้งท้องเมื่อสักครู่นี่จะบอกว่า

00:19:3700:19:39 เนื่องจากพออายุครรภ์มากขึ้นนะคะ

00:19:4000:19:42 ในท้องเรา มันมีเด็กอยู่

00:19:4200:19:46 การบีบตัวหรืออะไรของลำไส้ก็จะลำบาก

00:19:4600:19:48 คุณแม่มีโอกาสที่จะเกิดเรื่องของท้องอืด

00:19:4800:19:50 มีเรื่องของกรดไหลย้อนได้ง่ายอยู่แล้ว

00:19:5100:19:53 การที่เรากินอาหารที่มีไขมันมาก

00:19:5300:19:55 การบีบตัวของลำไส้จะทำได้ช้าลง

00:19:5500:19:58 โอกาสที่จะเกิดท้องอืด จะยิ่งเยอะขึ้น

00:19:5800:20:03 เพราะฉะนั้นการกินอาหารไขมันมาก จะทำให้คุณแม่มีโอกาสท้องอืดมากขึ้น

00:20:0300:20:05 แล้วสุดท้ายก็จะเป็นกลุ่มอาหารรสจัด

00:20:0500:20:08 ซึ่งอันนี้อาจจะไปเกี่ยวข้องกับ เรื่องของกรดไหลย้อนนะคะ

00:20:0800:20:11 เพราะฉะนั้น ในกรณีที่พอตั้งครรภ์เยอะขึ้น

00:20:1100:20:13 ไตรมาสสูง ๆ มากขึ้นนี่

00:20:1300:20:16 ก็จะมีเรื่องของกรดไหลย้อน ก็หลีกเลี่ยงอาหารรสจัดค่ะ

00:20:1600:20:17 คำถามยอดฮิตของคุณแม่นะคะ

00:20:1700:20:18 ก็จะมีอยู่ 2-3อย่าง

00:20:1800:20:22 อันแรกคือ จะไปปาร์ตี้ได้ไหม จะกินแอลกอฮอล์ได้หรือเปล่า

00:20:2200:20:25 อันที่สองก็คือ จะยังกินชากาแฟได้ไหม

00:20:2500:20:28 แอลกอฮอล์ จริง ๆ ไม่ค่อยแนะนำนะคะ

00:20:2800:20:31 อันที่สอง ในส่วนของชากาแฟนะคะ

00:20:3100:20:33 ชา กาแฟนี่ จริง ๆ แล้ว ถามว่ามีข้อเสียอย่างไร

00:20:3400:20:37 มันมีข้อมูลค่ะว่า คาเฟอีนอาจจะมีผลกระทบ

00:20:3700:20:38 ทำให้มีผลกระทบกับเด็ก

00:20:3800:20:41 อย่างเช่นสมมุติในช่วงไตรมาสแรก

00:20:4100:20:44 อาจจะทำให้มีการแท้งหรืออะไรเกิดขึ้นนะคะ

00:20:4500:20:47 ทีนี้ถามว่าถ้าเกิดชอบมากจริง ๆ นี่

00:20:4700:20:49 ส่วนใหญ่คุณแม่ที่อยากจะตั้งครรภ์ หรืออยากมีลูกนี่

00:20:4900:20:52 ก็พยายามหยุดเองอยู่แล้วแหละ ที่เห็นนะคะ

00:20:5200:20:54 แต่ถ้าหยุดไม่ได้จริง ๆ หลายคนก็พยายามที่จะเลี่ยง

00:20:5400:20:58 โดยการที่จะไปกินเครื่องดื่ม ที่มันเป็นดีคาเฟอีน

00:20:5800:20:59 หรือว่าเปลี่ยนไปเป็นอย่างอื่นเลย

00:20:5900:21:01 อันนี้ก็มีได้เหมือนกันนะคะ

00:21:0100:21:03 ถามว่าจำเป็นที่จะต้องหยุดเลยไหม

00:21:0300:21:05 จริง ๆ ข้อมูลหลาย ๆ คนก็อาจจะบอกว่า

00:21:0500:21:07 อาจจะยังพอทานได้ แต่ว่าในปริมาณที่น้อย

00:21:0700:21:09 เช่น ประมาณสัก 1 แก้วนะคะ

00:21:0900:21:12 หรือว่าเปลี่ยนไปเป็นพวกของดีแคฟ อย่างนี้เป็นต้นค่ะ

00:21:1300:21:16 สรุปแล้ว จริง ๆ แล้ว อาหารกับการตั้งครรภ์ ก็มีความสำคัญมากเนอะ

00:21:1600:21:20 เพราะว่าในช่วงเวลาปกตินี่ เรากินอาหารเพื่อตัวเราคนเดียว

00:21:2000:21:21 แต่ในระหว่างที่เราตั้งครรภ์นี่

00:21:2100:21:25 เรากินอาหารเพื่อส่งผลกระทบ ไปถึงลูกของเราด้วย

00:21:2500:21:28 แล้วเราก็ต้องการให้ลูกเราออกมา เจริญเติบโต แข็งแรง

00:21:2800:21:29 เป็นเด็กที่มีสุขภาพดี

00:21:3000:21:30 มีความฉลาด

00:21:3000:21:32 เพราะฉะนั้น ของที่เรากิน

00:21:3200:21:35 กินยังไง มันก็จะส่งผลถึงลูกเราอย่างนั้น

00:21:3500:21:39 อันแรกที่เราจะดูกันก็คือน้ำหนักที่เหมาะสม

00:21:3900:21:43 แล้วก็เลือกชนิดของอาหาร ที่เหมาะสมสำหรับเด็ก

00:21:4300:21:47 เป็นอาหารที่มีโปรตีนสูง แคลเซียม ธาตุเหล็ก แล้วก็โฟเลตนะคะ

00:21:4700:21:48 รวมถึงไอโอดีนนะคะ

00:21:4800:21:52 เรื่องของน้ำมันปลา หรือว่าโอเมกา 3 อันนี้ก็จำเป็น

00:21:5200:21:57 แต่ว่าอาจจะอยู่ในรูปของอาหาร มากกว่าจะอยู่ในรูปของผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร

00:21:5700:22:00 ที่สำคัญเลยค่ะ เราควรจะต้องไปฝากครรภ์นะคะ

00:22:0000:22:03 เพราะว่าในระหว่างที่เราฝากครรภ์ มันก็จะมีการติดตาม

00:22:0300:22:06 ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของน้ำหนัก เรื่องของความดัน

00:22:0600:22:09 หรือสิ่งผิดปกติ ที่อาจจะเกิดขึ้นกับลูกเราเป็นระยะ ๆ

00:22:0900:22:12 ทำให้เราสามารถที่จะเจอได้ตั้งแต่ในระยะต้น

00:22:1200:22:14 แล้วก็รักษาได้นะคะ

00:22:1400:22:16 ดังนั้น ถ้าใครตั้งครรภ์นี่ ก็แนะนำว่า

00:22:1600:22:19 ควรจะต้องไปฝากครรภ์นะคะ พบคุณหมอเป็นระยะ ๆ ค่ะ

00:22:1900:22:23 สำหรับในคนท้องนะคะ ก็จะมีความเป็นห่วงลูกอยู่แล้ว

00:22:2300:22:26 แล้วก็ระมัดระวังมากเลยในเรื่องของการใช้ยา

00:22:2600:22:30 ยากลุ่มแรกโดยเฉพาะในกลุ่มที่เป็นยาปฏิชีวนะ

00:22:3000:22:32 อันนี้นอกเหนือจากว่าเราแพ้ยานี่

00:22:3200:22:36 ยาปฏิชีวนะบางชนิดเราก็ไม่แนะนำ ในคนตั้งครรภ์นะคะ

00:22:3600:22:40 โดยเฉพาะกลุ่มเตตราไซคลีน พวกของสเตรปโตมัยซิน

00:22:4000:22:43 คลอแรมเฟนิคอล หรือว่าไนโตรฟูรานโทอิน

00:22:4300:22:46 นอกจากนี้ถ้ายาปฏิชีวนะตัวใหม่ ๆ นี่

00:22:4600:22:47 ถ้าจะใช้นี่

00:22:4700:22:50 ต้องบอกคุณหมอเสมอนะคะว่าตัวเองตั้งครรภ์อยู่

00:22:5000:22:54 แล้วต้องเช็กว่าสามารถให้ได้ ในผู้หญิงที่ตั้งครรภ์

00:22:5400:22:57 กลุ่มที่ 2 จะเป็นพวกของยาแก้ปวดลดไข้

00:22:5700:23:00 อันนี้แนะนำให้กินพาราเซตามอลนะคะ

00:23:0000:23:02 กลุ่มของเอ็นเสดหรือว่าแอสไพริน

00:23:0200:23:04 เช่นพวกของไอบูโพรเฟน

00:23:0400:23:06 นาโปรเซน หรือโวลทาเรน พวกนี้นี่

00:23:0600:23:09 ถ้าคุณแม่กินในช่วงตั้งครรภ์อ่อน ๆ นี่

00:23:0900:23:11 อาจจะเพิ่มความเสี่ยงของการแท้งได้นะคะ

00:23:1100:23:15 เพราะว่ายานี้มันจะไปทำให้เลือด ไม่ค่อยแข็งตัวนะคะ

00:23:1500:23:18 ในบางรายอาจจะมีการให้รับประทานแอสไพริน

00:23:1800:23:19 แต่ว่าด้วยเหตุผลอื่น

00:23:1900:23:24 เพราะฉะนั้นตรงนี้ขึ้นกับว่า เขาจะให้กินด้วยเหตุผลอะไร

00:23:2400:23:28 อีกกลุ่มหนึ่ง ก็จะเป็นพวกของยาแก้คัน หรือว่ายาแก้แพ้

00:23:2800:23:32 บางทีคุณแม่อาจจะบอกว่า เอ๊ะ มีน้ำมูก มีโน่นนี่นั่น อะไรอย่างนี้

00:23:3200:23:34 ถ้าเป็นไปได้ก็ล้างจมูกนะคะ

00:23:3400:23:37 หรือไม่ก็รักษาตามอาการไปก่อน

00:23:3700:23:41 ยาแก้แพ้บางกลุ่ม เราก็ไม่แนะนำให้คนไข้รับประทาน

00:23:4100:23:43 โดยเฉพาะถ้าเป็นคนไข้ที่มีการตั้งครรภ์อยู่

00:23:4300:23:45 ส่วนของยาแก้ไอนี่

00:23:4500:23:48 ให้หลีกเลี่ยงยาแก้ไอที่มีส่วนผสมของไอโอดีน

00:23:4800:23:50 เพราะว่าอันนี้จะมีผลกับเด็กในท้อง

00:23:5000:23:53 อาจจะทำให้เด็กมีคอพอกได้

00:23:5300:23:56 แล้วก็ยานอนหลับ ไม่แนะนำเลยสำหรับคุณแม่

00:23:5600:23:59 เพราะว่าอาจจะไปกดเรื่องของ กล้ามเนื้อการหายใจของเด็กนะคะ

00:23:5900:24:02 ทำให้มีอาการเรื่องของ กล้ามเนื้ออ่อนแรงได้ค่ะ

00:24:0600:24:09 หลังจากที่เราทราบไปแล้วนะคะ ว่าอาหารอะไรที่ควรจะกิน

00:24:0900:24:11 อาหารอะไรที่ไม่ควรจะกิน

00:24:1100:24:13 แต่ว่าหลายคนก็ยังนึกภาพไม่ออกว่า

00:24:1300:24:14 เอ๊ะ แล้วฉันจะกินอะไรได้บ้าง

00:24:1400:24:17 หรือเมนูอาหาร หน้าตามันจะเป็นยังไงนะคะ

00:24:1700:24:19 ข้างล่างค่ะ จะมี Link ให้นะคะ

00:24:1900:24:21 เข้าไปติดตามดูได้เลย

00:24:2100:24:25 จะมีเมนูอาหารในแต่ละไตรมาส นำเสนอทุกท่านนะคะ

00:24:2500:24:30 พบกับรายการ Food Choice กินดี สุขภาพดีเลือกได้

00:24:3000:24:32 ทุกวันจันทร์เวลา 18:00 น.

00:24:3200:24:34 ที่ Mahidol Channel Podcast

00:24:3400:24:36 ผ่านช่องทาง Facebook Mahidol Channel

00:24:3600:24:38 YouTube Mahidol Channel

00:24:3800:24:39 Apple Podcasts

00:24:3900:24:41 Spotify

00:24:4100:24:41 Anchor

00:24:4100:24:42 Blockdit

00:24:4500:24:50 ดำเนินรายการโดยหมอเอ๋ ผศ.พญ.ดรุณีวัลย์ วโรดมวิจิตร

00:24:5000:24:53 [เสียงดนตรี]