00:00:00 → 00:00:14 [เพลง]
00:00:14 → 00:00:17 นะแต่ว่าหมอจะพยายามเน้นในจุดประเด็น
00:00:18 → 00:00:22 โฟกัสที่สำคัญที่สุดเลยก็คือ saturated
00:00:22 → 00:00:26 Fat นะโดยเฉพาะไขมันตัวเนี่ยกับ DIY
00:00:26 → 00:00:30 คอสเตอนะคอเลสเตอรอลที่อยู่ในสัตว์ต่างๆ
00:00:30 → 00:00:33 ที่กินอาหารเนี่ย 2 เรื่องเนี้ยมีผลอย่าง
00:00:33 → 00:00:37 ไรบ้างกับการเปลี่ยนแปลงโดยเฉพาะการสูง
00:00:37 → 00:00:42 เพิ่มขึ้นของ ldl คอเลสเตอรอล
00:00:42 → 00:00:45 เอาเอาประเด็นแค่เนี้ยเป็นหลักเลยวันเนี้
00:00:45 → 00:00:48 เอาให้ได้ตรงนี้นะฮะ
00:00:48 → 00:00:54 นะนะอ่ะเอ่อเราเริ่มที่อันแรกเลยที่เป็น
00:00:55 → 00:00:57 หัวข้อเนี่ยที่หมอโชว์ไว้เนี่ยนะ
00:00:57 → 00:01:00 saturated f กับ DIY cholesterol กลไก
00:01:00 → 00:01:06 เพิ่ม ldl คอสเตอได้อย่างไรเอ่าอันนะที
00:01:06 → 00:01:11 นี้ในเรื่องของระดับ ldlc คำว่า ldlc
00:01:11 → 00:01:13 เนี่ยก็หมายถึงค่า
00:01:13 → 00:01:19 ldl ในไปิดโปรไฟล์ 4 ตัวนะฮะ ldlc เนี่ย
00:01:19 → 00:01:22 ก็คือ ldl คอเลสเตอรอลก็คือหมายถึงเป็น
00:01:22 → 00:01:27 ตัวคอเลสเตอรอลที่อยู่บนอนุภาคนำส่งนะจะ
00:01:27 → 00:01:31 เป็นแบบไหนก็ตามนะแล้วเมีมีคอเลสเตอรอล
00:01:31 → 00:01:34 ติดไปด้วยนะอ่าทั้งหมดเนี่ยเราจะรายงาน
00:01:34 → 00:01:36 ออกมาเป็น
00:01:36 → 00:01:39 ldl C ldl คอเลสเตอรอลแล้วกันแต่คำว่า
00:01:39 → 00:01:44 ldl p ตัว P อ่ะนะอันนี้จะหมายถึง
00:01:44 → 00:01:49 particle หมายถึงอนุภาคหมายถึงเรือนำส่ง
00:01:49 → 00:01:53 1 ลำอันนี้คือไลโปโปรตีนนะฮะนะที่จะมี
00:01:53 → 00:01:57 ทุกๆอย่างทั้งคอเลสเตอรอลเอสเตอร์ฟรี
00:01:57 → 00:02:00 คอเลสเตอรอลฟอสโฟไลปิดแล้วก็มีไกินแล้วก็
00:02:00 → 00:02:05 มี AP ต่างๆโปรตีนนะนะอันนั้นเขจะรายงาน
00:02:05 → 00:02:09 ออกมาเป็น ldl particle ldl P ถ้าเห็น
00:02:09 → 00:02:14 ldlc อันนี้หมายถึงก็คือคอสเตอ ldl ที่
00:02:14 → 00:02:19 อยู่ในผลแลบนะที่มันมี Total คอสอไิน hdl
00:02:19 → 00:02:22 แล้วก็ ldl อันนี้หมายถึงตัวนี้นะทนี้
00:02:22 → 00:02:27 ระดับ ldl ในเลือดนะฮะมีการกำหนดโดยอะไร
00:02:27 → 00:02:31 บ้างอันนี้หมอสรุปประเด็นหลักๆเลยนะคือ 4
00:02:31 → 00:02:35 เรื่องนี้นะฮะนะแล้วก็ ldl เนี่ยจะ relate
00:02:35 → 00:02:39 สัมพันธ์กับกระบวนการอ่า metabolism หรือ
00:02:39 → 00:02:42 การเผอผลาพลังงานภายในของตับเพราะฉะนั้น
00:02:42 → 00:02:47 ค่า ldl ซึ่งเป็นอ่าค่าที่อยู่ในแลบไปิด
00:02:47 → 00:02:50 โปรไฟล์ 4 ตัวเนี่ยนะฮะจะผิดปกติยังไงก็
00:02:51 → 00:02:56 จะเกี่ยวกับตับเสมอนะตับจะมีความผิดปกติ
00:02:56 → 00:03:00 ที่จะไปเกี่ยวข้องกับตัว ldl cor
00:03:00 → 00:03:05 นะ ldlc นะฮะอ่าสูงต่ำยังไงก็ตามให้นึกมา
00:03:05 → 00:03:06 ที่
00:03:06 → 00:03:09 อ่าโครงสร้างสำคัญที่สุดที่จัดการกับตัว
00:03:09 → 00:03:13 เขาเนี่ยนะก็คือตับนะแล้วตับเนี่ยก็จะ
00:03:13 → 00:03:16 เป็นอวัยวะที่บอกแล้วว่ามีเรื่องของ
00:03:16 → 00:03:19 กระบวนการเผ่าผันพลังงานมากที่สุดในร่าง
00:03:20 → 00:03:22 กายนะ
00:03:22 → 00:03:27 อ่ะทีนี้เอานะ ldl นะในเลือดที่เราเจาะ
00:03:27 → 00:03:30 ออกมาเนี่ยจะเกี่ยวข้องกับสีเรื่องนี้ 4
00:03:30 → 00:03:33 เรื่องเนี้ยสรุปเลยนะก็คือ 1 saturated
00:03:33 → 00:03:38 fatty Acid นะฮะนะกดไขมันอิ่มตัวนะอัน
00:03:38 → 00:03:42 นี้เขาจะเพิ่ม ldl ในเลือดนะฮะอ่าถ้าไม่
00:03:42 → 00:03:46 อิ่มตัวนะฮะนะ unsaturated fatty Acid
00:03:46 → 00:03:50 นะนะก็จะมีทั้งเชิงเดี่ยวเชิงซ้อนอันนี้
00:03:50 → 00:03:54 จะลด ldl คอเลสตอรอลในเลือดอ่ามีเพิ่มมี
00:03:54 → 00:03:57 ลดนะคอเลสเตอรอลในอาหารนะคอเลสเตอรอลใน
00:03:57 → 00:04:01 อาหารก็คือคอเลสเตอรอลอยู่ในสัตว์นะนะนี่
00:04:01 → 00:04:05 แหละคอเลสเตอรอลในสัตว์ต่างๆที่เรากินใน
00:04:05 → 00:04:08 รูปของโปรตีนนะอันนี้ก็คือเรียก DIY
00:04:08 → 00:04:11 cholesterol ก็จะมีผลในการเพิ่ม ldl
00:04:11 → 00:04:16 คอเลสเตอรอลคล้ายๆกับอ่าไขมันอิ่มตัวนะ
00:04:16 → 00:04:18 อีกอันนึงคือ Gen expression of ldl
00:04:18 → 00:04:22 receptor ที่ตับนะฮะเอ่ออันนี้จะมีบทบาท
00:04:22 → 00:04:27 มากขึ้นในช่วงหลังๆมานี้นะฮะนะตั้งแต่ปี
00:04:27 → 00:04:31 1985 ที่มีการได้รับรางวัลโบ noel อ่ะนะ
00:04:31 → 00:04:33 หลังจากนั้นก็จะมีงานวิจัยเกี่ยวกับ
00:04:33 → 00:04:38 เรื่องของเ่อการควบคุม ldl recep นะโดย
00:04:39 → 00:04:42 ยีนต่างๆนะฮะก็ออกมาเยอะแยะเลยนะใน
00:04:42 → 00:04:45 ปัจจุบันเนี่ยก็มีเรื่องของยน variation
00:04:45 → 00:04:49 ที่จะมีผลต่อ ldl receptor ไปในระดับ
00:04:49 → 00:04:54 ประมาณประมาณ 700 กว่ากว่ายีนแล้วอ่ะนะฮะ
00:04:54 → 00:04:58 ที่จะเกิดการแสดงออกของความผิดปกตินะของ
00:04:58 → 00:05:02 ตัวลับหรือ ldl receptor นะฮะนะแล้วก็จะ
00:05:02 → 00:05:06 ไปมีผลกับตัว ldl คอเลสเตอรอลในเลือดนะ
00:05:06 → 00:05:10 อันนี้นะเเรียกว่า Gen exion of ldl
00:05:10 → 00:05:13 receptor ที่ตับนะฮะ 4 เรื่องเนี้ยสำคัญ
00:05:13 → 00:05:15 ที่สุดที่จะเกี่ยวข้องกับ ldl
00:05:15 → 00:05:19 คอเลสเตอรอลและอ่าตัวสำคัญที่สุดของ
00:05:19 → 00:05:22 อวัยวะในการควบคุมดูแลเรื่องเหล่านี้ก็
00:05:22 → 00:05:27 คือตับนะฮะนะทีนี้เรื่องสุดท้ายที่บอกว่า
00:05:27 → 00:05:30 เกี่ยวกับ Gen expression เนี่ยนะฮะนะ
00:05:30 → 00:05:34 ldl receptor เนี่ยมันมันเกี่ยวข้องกับ
00:05:34 → 00:05:37 ยีนพวกนี้นะฮะนะก็ในงานวิจัยก็จะมีเรื่อง
00:05:37 → 00:05:41 ของโดเมนเรื่องของคาสอะไรต่างๆของยีนเยอะ
00:05:41 → 00:05:45 แยะไปหมดเลยนะฮะอันนี้ก็มีมาตั้ง
00:05:45 → 00:05:50 ประมาณ 15 15 15 ปีแล้วะนะอย่างงาน
00:05:50 → 00:05:53 วิจัยเนี่ยย 15 ปีที่แล้วนะนะเ่าเป็น
00:05:53 → 00:05:56 เรื่องของโครงสร้างของย ldl receptor นะ
00:05:57 → 00:06:01 นะแล้วก็ในรายงานงานขณะเนี้ย 15 ปีที่
00:06:01 → 00:06:05 ผ่านมาเนี่ยนะ ldl receptor นะมีการกลาย
00:06:05 → 00:06:09 พันธุ์ของยีนมากกว่า 920 การกายพันธไป
00:06:09 → 00:06:13 แล้วนะฮะในปัจจุบันก็เป็นเป็นพันแล้วนะฮะ
00:06:13 → 00:06:15 เป็นพันแล้วเพราะฉะนั้นความไม่แน่นอนของ
00:06:15 → 00:06:19 ldl receptor หรือตัวลับนะฮะตัวลับอยู่
00:06:19 → 00:06:22 ที่ไหนบ้างส่วนใหญ่อยู่ที่ตับนะลองลงมาก็
00:06:22 → 00:06:26 คืออยู่ที่กล้ามเนื้อแล้วก็อยู่ที่อ่า
00:06:26 → 00:06:30 เนื้อเยื่อไขมันอยู่ที่ลำไส้นะเยื่อผิวลำ
00:06:30 → 00:06:33 ไส้นะฮะ 4 ที่เนี้ยนะแต่มากที่สุดก็คือ
00:06:33 → 00:06:36 ที่ตับลองลงมาที่กล้ามเนื้อนะอันดับ 3 ก็
00:06:36 → 00:06:39 ลำไส้อันดับ 4 ก็เนื้อเยื่อไขมันนะฮะอัน
00:06:39 → 00:06:42 นี้มันมีการกายพันธุ์นะโดยเฉพาะการกลาย
00:06:42 → 00:06:46 พันธุ์ที่ตับที่เา้าสนใจนะแล้วก็หาราย
00:06:46 → 00:06:48 ละเอียดแล้วก็ทำงานวิจัยกันอย่างกว้าง
00:06:48 → 00:06:53 กว่านะฮะนะอ่าเพราะฉะนั้นเรื่องอันดับ Gen
00:06:54 → 00:06:56 expression เนี่ยก็จะมีผลมากขึ้นเรื่อยๆ
00:06:56 → 00:06:59 นะสมัยก่อนเนี่ยเระบุเปอร์เซ็นต์ว่ามันมี
00:06:59 → 00:07:04 ผลแค่ประมาณ 23% นะฮะ 23% แต่เดี๋ยวนี้
00:07:04 → 00:07:09 นี่น่าจะขึ้นไปถึงจะเกือบ 10% แล้วล่ะนะ
00:07:09 → 00:07:12 ฮะยน explication ที่เขรู้น่ะจริงๆยน
00:07:12 → 00:07:14 explication มันเปลี่ยนแปลงไปเพราะอะไร
00:07:15 → 00:07:18 อ่ะนะฮะเ่าสิ่งเหล่าเนี้ยที่มันเปลี่ยน
00:07:18 → 00:07:22 แปลงในระดับยีนเนี่ยนะฮะนะเ่อก็เพราะว่า
00:07:22 → 00:07:25 เรื่องของอาหารการกินเรื่องของไลฟ์สไตล์
00:07:25 → 00:07:29 เรื่องของพิษนะเ่าแล้วก็เรื่องของ
00:07:29 → 00:07:33 Evolution ต่างๆนะฮะในเรื่องของทศเรื่อง
00:07:33 → 00:07:36 ของวิวัฒนาการเนี่ยนะฮะอันนี้ไปมีผลต่อใน
00:07:36 → 00:07:41 ระดับ DNA ระดับยีนนะฮะระดับลึกๆเลยนะฮะ
00:07:41 → 00:07:44 เป็นซึ่งเป็นเรื่องการกายพันธุ์นะเเรียก
00:07:44 → 00:07:47 ว่ายีน suti นะ susceptibility หมายถึง
00:07:47 → 00:07:50 ความอ่อนแอนะแล้วก็ยีนพวกนี้ไม่ได้กลาย
00:07:50 → 00:07:53 พันธไปในทางที่ดีฮะส่วนใหญ่เป็นกลายพันไป
00:07:53 → 00:07:58 ในทางที่อ่อนแอนะก็เป็นเเรียก expression
00:07:58 → 00:08:03 นะ Express ออกมายังไงนะและจะเกิดลักษณะ
00:08:03 → 00:08:06 ที่เรียก Gen susceptibility อย่างชัด
00:08:06 → 00:08:09 เจนนะจนไปกลายเป็นข้อสรุปเนี่ยนะก็แล้ว
00:08:09 → 00:08:13 แต่โอเคนะ
00:08:13 → 00:08:18 เอ่อทีนี้ในเรื่องเซลลูคอเลสเตอรอลนะนะ
00:08:18 → 00:08:21 เนี่ยเซลูคอเลสเตอรอลนะหรือลกู
00:08:21 → 00:08:24 คอเลสเตอรอลก็ได้นะมี 2 ชื่อนะแปลความ
00:08:24 → 00:08:27 หมายเหมือนกันนะก็คือคอเลสเตอรอลในระดับ
00:08:27 → 00:08:30 เซลล์นะอันนี้ก็คือเป็นเรื่องของ
00:08:30 → 00:08:33 metabolism หรือ homeostasis ของเซลู
00:08:33 → 00:08:36 คอเลสเตอรอลนะฮะเจ้าพ่อในเรื่องนี้เลยก็
00:08:36 → 00:08:40 คือโทมัส Day sping นะฮะนะตอนหลังๆเนี่
00:08:40 → 00:08:43 ก็ในในช่วงประมาณเดือนที่แล้วก็ออกมา
00:08:43 → 00:08:46 โพสต์ในเรื่องเนี้ยฮะนะอ่าในเรื่องการตอบ
00:08:46 → 00:08:52 คำถามนะฮะนะว่าตอนเนี้ยนะมันมีการให้ความ
00:08:52 → 00:08:55 รู้ไปถึงขั้นไหนแล้วนะฮะเกี่ยวกับเรื่อง
00:08:55 → 00:08:58 ของคอเลสเตอรอลในระดับเซลล์ในระดับเซลล์
00:08:58 → 00:09:02 นะนะอันนี้เขาจะเก่งมากนะเเรียกว่าอะไร
00:09:02 → 00:09:09 เรียกว่าเอ่อไปิด panel Centric นะฮะ rid
00:09:09 → 00:09:14 rid panel นะฮะอันนี้อันนี้ัสเเป็นเจ้า
00:09:14 → 00:09:17 พ่ออันดับ 1 เลยนะฮะก็หรือว่าเป็นกูรู
00:09:17 → 00:09:19 หรือว่าเป็นตำนานเลยก็ได้นะฮะอันนี้หมอก็
00:09:19 → 00:09:24 เคยมาฉายแล้วนะนะอันนี้เราก็ต้องทราบนะ
00:09:24 → 00:09:28 ฮะนี้ทราบอะไรบ้างในเรื่องของ
00:09:28 → 00:09:31 อ่าเซล่าคอเลสเตอรอล homeostasis นะฮะก็
00:09:32 → 00:09:37 ต้องรู้ว่านะ 25% เนี่ยมาจากอ่ามาจากข้าง
00:09:37 → 00:09:41 นอกนะฮะก็คือมาจากการกินเข้าไปนะ 75%
00:09:41 → 00:09:45 เนี่ยเสร้างขึ้นอ่าโดยเซลล์เนื้อเยื่อภาย
00:09:45 → 00:09:50 ในร่างกายต่างๆนะฮะไม่ได้สร้างที่ตับนะฮะ
00:09:50 → 00:09:53 จริงๆแล้วการสร้างที่ตับมีเฉลี่ยประมาณ
00:09:53 → 00:10:00 นี้ 15% นะ 15% เนี่ยนะฮะในคนที่เอ่อเกิน
00:10:00 → 00:10:04 ปกตินะฮะนะเป็นไดเอตที่ดีที่่า proof
00:10:04 → 00:10:07 แล้วนะว่าดีต่อ optimal Health นะฮะนะ
00:10:07 → 00:10:10 อันเนี้ยนะคอเลสเตอรอลที่ตับนะจะมีการ
00:10:10 → 00:10:16 สร้างแค่ 15% นะฮ 85% นี่สร้างอ่าเนี่ย
00:10:16 → 00:10:19 Made by the other Cell นะ
00:10:19 → 00:10:21 throughout Our Body นะก็คือสร้างจาก
00:10:21 → 00:10:25 เซลล์ต่างๆทั่วร่างกาย
00:10:25 → 00:10:29 นะยังไงก็ตามตรงอ่าตรงตับเนี่ยเนี่ยนะฮะ
00:10:29 → 00:10:33 การสร้างตับจะเพิ่มขึ้นในกรณีไหนนะฮะภาวะ
00:10:33 → 00:10:35 ดอินซูลินเนี่ยทำให้เรื่องการสร้าง
00:10:35 → 00:10:39 คอเลสเตอรอลของตับเนี่ยเอ่อเพิ่มขึ้นจาก
00:10:39 → 00:10:42 15% นะเาบอกว่าไปถึงประมาณเกือบ 2 เท่า
00:10:42 → 00:10:45 นะฮะนะในปัจจุบันเยืนยันตัวเลขที่ 27 -
00:10:45 → 00:10:49 28% นะฮะถ้ามีภาวะดือินซูรินหนักๆเลยนะ
00:10:49 → 00:10:51 ตับก็จะทำงานหนักไปด้วยในการสร้าง
00:10:51 → 00:10:54 คอเลสเตอรอลแล้วคอเลสเตอรอลที่ออกมาจาก
00:10:54 → 00:10:58 การสร้างด้วยภาวะดื้ออินซูลินที่ตับนะก็
00:10:58 → 00:11:00 จะเป็นคอเลสเตอรอลที่ไม่ดี
00:11:00 → 00:11:05 นะนะแต่โดยทั่วไปคือ 15% นะทั่วร่างกาย
00:11:05 → 00:11:07 85%
00:11:07 → 00:11:11 นะตัวเลขเหล่าเนี้ยในปัจจุบันค่อนข้าง
00:11:11 → 00:11:15 เป็นฉันทามติเป็น consensus นะฮะนะอันนี้
00:11:15 → 00:11:18 เรามาดูคอเลสเตอรอล 100% ทั่วร่างกายอัน
00:11:18 → 00:11:21 นี้เป็นเซลลูล่าคอเลสเตอรอลทั้งนั้นนะฮะ
00:11:21 → 00:11:25 นะก็ประมาณนี้นะฮะ 20-25 per เนี่ยนะก็
00:11:25 → 00:11:29 เป็นเป็น intake เข้าไปนะฮะก็คือกินอ่า
00:11:29 → 00:11:32 จากอาหารโปรตีนและไขมันสัตว์นะฮะแล้ว
00:11:32 → 00:11:35 คอเลสเตอรอลเนี่ยอยู่ในโปรตีนนะจริงๆ
00:11:35 → 00:11:38 คอเลสเตอรอลก็เป็นส่วนหนึ่งของการที่จะ
00:11:38 → 00:11:40 นับสารอาหารเป็นโปรตีนนะฮะไม่ได้นับเป็น
00:11:40 → 00:11:46 ไขมันแต่คอเลสเตอรอลเขาจะมากับไขมันอิ่ม
00:11:46 → 00:11:50 ตัวเท่านั้นนะเอ่อแล้วไขมันอิ่มตัวเหล่า
00:11:50 → 00:11:55 นี้ก็แทรกปะปนอยู่ในโปรตีนนะของสัตว์นะจะ
00:11:55 → 00:11:57 เป็นเนื้อสัตว์เครื่องในสัตว์หรือ
00:11:57 → 00:12:00 ผลิตภัณฑ์เดลี่อะไรต่างต่างๆของสัตว์ก็
00:12:00 → 00:12:03 ตามนะเหล่าเนี้ยอของสัตว์ที่มี
00:12:03 → 00:12:07 คอเลสเตอรอลแน่นอนนะอ่าพวกนี้ก็เป็นไข่
00:12:07 → 00:12:12 แดงเนื้อสัตว์มันสัตว์ชีสโยเกิร์ตต่างๆนะ
00:12:12 → 00:12:18 แล้วอ่าคอเลสเตอรอลจากอาหารพวกนี้ก็จะนะ
00:12:18 → 00:12:21 ในที่สุดเขาจะเข้าช่องทางไหนอ่ะก็ระบบน้ำ
00:12:21 → 00:12:26 เหลืองใช่มั้ยล่ะนะก็ไปกับไขมันอิ่มตัวนะ
00:12:26 → 00:12:31 แล้วถ้าเกิดไปมีการอ่าใช้นะในรูปแบบของ
00:12:31 → 00:12:34 การเ่อเป็นพลังงานอะไรต่างๆนะพร้อมกับมี
00:12:34 → 00:12:38 คอเลสเตอรอลมีสารอาหารอื่นๆไปด้วยนะฮะนะ
00:12:38 → 00:12:41 นะก็เมื่อเกิดการใช้พลังงานพวกเนี้ยนะ
00:12:42 → 00:12:45 ร่างกายก็จะมีคอเลสเตอรอลเกิดขึ้นนะสร้าง
00:12:45 → 00:12:49 ขึ้นมาเพิ่มอีกนะฮะนะก็เป็น ldl ไ a นะ
00:12:49 → 00:12:53 บรรจุอยู่ในเรือนำส่งพลังงานชนิดอ่า ldl
00:12:53 → 00:12:56 โมเลกุลใหญ่
00:12:56 → 00:12:59 นะ 75-80
00:12:59 → 00:13:01 เนี่ยก็คือคอเลสเตอรอลที่เกิดจาก
00:13:01 → 00:13:04 ปฏิกิริยาพลังงานของเซลล์ต่างๆทั่วร่าง
00:13:04 → 00:13:06 กายเซลล์ต่างๆเนี่ยต้องมีปฏิกิริยาทาง
00:13:06 → 00:13:10 ด้านพลังงานซึ่งแล้วเราแบ่งเป็น 2 ฝั่งนะ
00:13:10 → 00:13:15 ฮะก็คือสะสมเก็บกัดสะสมกับสลายเผาผลาญนะ
00:13:15 → 00:13:18 นะในภาวะ optimal Health นะร่างกาย
00:13:18 → 00:13:22 ต้องการปฏิกิริยาทางด้านการสลายเผาผลาญ
00:13:22 → 00:13:26 เป็นหลักนะโดยเฉพาะตับเนี่ยนะเอเาต้องการ
00:13:26 → 00:13:31 เผาเผาๆนะฮะเขาเขาไม่ต้องการการสะสมนะฮะ
00:13:31 → 00:13:35 แต่ว่าก็แล้วแต่ว่าเราจะไปกำหนดเงื่อนไข
00:13:35 → 00:13:38 ยังไงให้เขาแล้วก็มีฮอร์โมนชนิดไหนมาควบ
00:13:38 → 00:13:42 คุมถ้าฝั่งของฮอร์โมนอ่าสะสมพลังงานมาควบ
00:13:42 → 00:13:46 คุมอินซูลินคอร์ติซอลเ่อตับก็จำยอมที่จะ
00:13:46 → 00:13:50 ต้องทำหน้าที่แบบฝืนๆนะฮะไม่เป็นไปตามอ่า
00:13:51 → 00:13:55 ธรรมชาติของเขาคนะที่เเอยากจะทำอ่ะนะฮะนะ
00:13:55 → 00:13:58 แต่ถ้าเกิดเราไปปรับสิ่งต่างๆด้วยความรู้
00:13:58 → 00:13:59 ความเข้าใจ
00:13:59 → 00:14:02 แล้วทำให้ตับเข้าสู่เรื่องของกระบวนการ
00:14:02 → 00:14:06 สลายผอผลาญพลังงานโอตับเก็จะยิ่งชอบนะ
00:14:06 → 00:14:09 แล้วเราก็จะนำมาซึ่งภาวะ optimal Health
00:14:09 → 00:14:10 ต่างๆ
00:14:10 → 00:14:15 นะเรามาดูว่า 75 - 80% ที่ร่างกายนะ
00:14:15 → 00:14:20 สร้างขึ้นนะฮะนะเป็นยังไงบ้างนะฮะเขาบอก
00:14:20 → 00:14:23 ว่าถ้าเรากินพลังงานเกินความต้องการอัน
00:14:23 → 00:14:25 นี้คือภาวะ Energy imbalance นะฮะจะเป็น
00:14:25 → 00:14:29 คัฟเป็นโปรตีนเป็นไขมันอะไรก็ตามถ้าสิ่ง
00:14:29 → 00:14:32 เหล่านี้เกินความต้องการนะตับจะมีการ
00:14:32 → 00:14:36 เปลี่ยนแปลงนะพลังงานที่เกินและเกิดการ
00:14:36 → 00:14:40 สะสมอ่าเป็นไขมันส่วนเกินนะมันก็คือเป็น
00:14:40 → 00:14:44 ไขมันอิ่มตัวนี่แหละนะอ่าและจะเกิดการ
00:14:44 → 00:14:48 สร้างอ่าอ่าเพราะฉะนั้นเนี่ยมีการสะสมไข
00:14:48 → 00:14:51 มันนะสะสมพลังงานก็จะมีการสร้าง
00:14:51 → 00:14:54 คอเลสเตอรอลนะก็มักจะเป็นคอเลสเตอรอล
00:14:54 → 00:14:57 ประเภทอ่าที่ต้องอยู่บนอนุภาค ldl type
00:14:57 → 00:15:03 B นี้นะนะในกรณีนะที่แยกออกมานิดนึงว่า
00:15:03 → 00:15:06 มีการกินไขมันอิ่มตัวเรากำหนดว่าอิ่ม
00:15:06 → 00:15:11 เดี่ยวซ้อน 30 50 20 แต่อ่าบางคนก็ยัง
00:15:11 → 00:15:13 ไม่รู้ไม่เข้าใจในเชิงลึกนะฮะว่าเหตุผล
00:15:13 → 00:15:18 เพราะอะไรนะเกิดพลาดไปกินไขมันตัวเยอะๆนะ
00:15:18 → 00:15:23 อ่ากินเกินกว่า 30% นะอ่าพลังงานรวมอ่า
00:15:24 → 00:15:27 จากไขมันพวกนี้จะกระตุ้นตับให้มีการสร้าง
00:15:27 → 00:15:32 ldl ไมากขึ้นนะฮะเนี่ยอ่าไขมันอิ่มตัว
00:15:32 → 00:15:36 พวกนี้นะฮะนะไปกระตุ้นตับให้มีอ่ากระบวน
00:15:36 → 00:15:39 การสร้าง ldl ไ a มากขึ้นก็เพราะว่าคือไข
00:15:40 → 00:15:42 มันพวกเนี้ยในที่สุดแล้วนะก็เป็นสิ่งที่
00:15:42 → 00:15:45 ดีอ่ะนะเพราะว่าตับก็ต้องการไขมันอิ่มตัว
00:15:45 → 00:15:48 เเผาผลาเพราะเใช้พลังงานในรูปแบบอื่นไม่
00:15:48 → 00:15:53 ได้นะนอกจากอ่าใช้ได้แต่ตัวกดใช้มาอิมตัว
00:15:53 → 00:15:56 นะฮะเพราะฉะนั้นเวลาตับเเผาผลาญในสิ่งที่
00:15:56 → 00:16:00 เชอบนะอ่าเขาคก็จะมีการสร้างคอเลสเตอรอล
00:16:00 → 00:16:04 ชนิดที่เป็นอยู่บนอนุภาค ldl ไ a ไปด้วย
00:16:04 → 00:16:09 นะฮะกรณีที่เรากินเนี่ยพวกคาฟต่างๆนะโดย
00:16:09 → 00:16:13 เฉพาะกินอ่าคาฟที่ไม่ดี Bad คาฟต่างๆนะแล
00:16:13 → 00:16:16 ก็กินล้นเกินนะฮอร์โมนสะสมพลังงานโดยเฉพะ
00:16:16 → 00:16:20 อินซูลินออกมาก็เปลี่ยนหรือปรับนะให้กลาย
00:16:20 → 00:16:24 เป็นไขมันต่างๆนะอ่าเป็นไตกีสไลดที่เป็น
00:16:24 → 00:16:28 ไขมันอิ่มตัวนะแต่ก็เป็นรูปแบบที่ไม่ดี
00:16:28 → 00:16:31 นักนะสะสมที่ตับหรือกระจายสะสมไปทั่วร่าง
00:16:31 → 00:16:35 กายกรณีนี้ตับก็จะเกิดการสร้าง ldl type
00:16:35 → 00:16:40 B ทุกอย่างจะอยู่ที่ตับๆๆหมดนะในการที่
00:16:40 → 00:16:42 จะปรับเรื่องพลังงานอะไรต่างๆเหล่านี้นะ
00:16:43 → 00:16:46 ฮะกรณีที่เราอดนะนานเกิน 12 ชั่วโมงขึ้น
00:16:46 → 00:16:51 ไปนะหรือมีการออกแรงออกกำลังและไม่ได้กิน
00:16:51 → 00:16:56 อะไรนะฮะนะตับจะเกิดการสลายไขมันที่สะสม
00:16:56 → 00:17:00 ออกมาเป็นพลังงานคีโตนนะนะรวมทั้งมีการ
00:17:00 → 00:17:05 สร้างนะคอเลสเตอรอลที่ดีและอยู่บนเรือนำ
00:17:05 → 00:17:09 ส่งที่เป็น ldl ไ a นะฮะ 1 2 3 4
00:17:09 → 00:17:12 เหล่าเนี้ยเราก็ต้องดูให้เข้าใจนะเขาจะ
00:17:12 → 00:17:16 สัมพันธ์กับเรื่องการสร้างคอเลสเตอรอลนะ
00:17:16 → 00:17:20 ทั่วร่างกายนะที่ว่าไม่ได้สร้างที่ตับนะ
00:17:20 → 00:17:24 ส่วนใหญ่สร้างทั่วร่างกายนะฮะ 15% เนี่ย
00:17:24 → 00:17:28 สร้างที่ตับอันนี้ตามภาวะปกตินะและขณะ
00:17:28 → 00:17:30 เดียวกันตับจะเป็นอวัยวะที่เอา
00:17:30 → 00:17:34 คอเลสเตอรอลจากอาหาร 20 - 25% นะกับที่
00:17:34 → 00:17:38 ตับเองสร้างขึ้นนะฮะรวมเป็นประมาณ 40%
00:17:38 → 00:17:41 แล้วส่งออกสู่ระบบเลือดนะฮะอันนี้เราก็
00:17:42 → 00:17:46 ทราบอยู่แล้วส่งออกในรูปแบบอ่าของเรือนำ
00:17:46 → 00:17:51 ส่งคือ vldl นั่นแหละนะฮะนะแล้วก็ไปกับ
00:17:51 → 00:17:55 ตัวไตกีสไลนอะไรต่างๆนะในภาพแห่งปีที่เรา
00:17:55 → 00:17:58 ไลฟกันไปหลายครั้งแล้วนะฮะเพราะฉะนั้นตรง
00:17:58 → 00:18:02 นี้นะนะฮะนี่ไปแล้ว 40% ออกสู่ระบบเลือด
00:18:02 → 00:18:03 นะ
00:18:03 → 00:18:08 อออกไปแล้วเนี่ยนะเค้าก็เหมือนติดกับพลัง
00:18:08 → 00:18:10 งานต่างๆไปอ่ะนะในที่สุดเดี๋ยวเค้าก็จะ
00:18:10 → 00:18:12 กลับมาที่ตัดนะฮะ
00:18:13 → 00:18:18 นะแล้วก็จริงๆ 40% อันเนี้ยนะมันเป็น 40%
00:18:18 → 00:18:21 ที่ที่มันไม่มีความหมายอ่ะนะเพราะว่า
00:18:21 → 00:18:24 เซลล์ต่างๆเไม่โอเคที่อยากจะได้รับไปใช้
00:18:24 → 00:18:28 หรือไม่ทำอะไรนะเออกไป 40 ก็กลับมาเกือบๆ
00:18:28 → 00:18:31 40 10 อาจจะไปตกหล่นนิดๆหน่อยๆนะฮะ
00:18:31 → 00:18:34 เพราะไม่มีใครอยากได้นะเนื่องจากโครง
00:18:34 → 00:18:37 สร้างร่างกายต่างๆเนี่ยที่เป็นเซลล์อื่นๆ
00:18:37 → 00:18:41 นอกตับเนี่ยเขาก็มีระบบพลังงานของเขาที่
00:18:41 → 00:18:43 จะสะสมหรือเผาผ่านแล้วเขาก็จะสร้าง
00:18:43 → 00:18:46 คอเลสเตอรอลจากปฏิกิริยาของพลังงานคู่
00:18:47 → 00:18:50 ขนานเข้าไปเสมอนะฮะนี้มันเป็นทฤษฎีทาง
00:18:50 → 00:18:54 วิวัฒนาการที่ตายตัวนะเนี่ยแล้วก็พบว่า
00:18:54 → 00:18:57 คอเลสเตอรอลอีกประมาณ 60% สร้างจากเซลล์
00:18:57 → 00:19:01 อื่นๆที่อยู่นอกตับนะซึ่งกรณีพวกเนี้ยนะ
00:19:01 → 00:19:05 เ่อก็จะมีเรือนำส่งพลังงานตัวสำคัญเลยก็
00:19:05 → 00:19:08 คือ hdl คอเลสเตอรอลนะฮะนะที่เกิดจาก
00:19:08 → 00:19:10 ปฏิกิริยาของพลังงาน
00:19:10 → 00:19:15 นะมีการอ่าใช้กัดเก็บหรือสะสมหรือสลายเผา
00:19:15 → 00:19:19 ผลก็ตามเกิด hdl แล hdl ก็จะมาพาเอาตัพ
00:19:19 → 00:19:22 ที่เกิดขึ้นพร้อมๆกับปฏิกิริยาของพลังงาน
00:19:22 → 00:19:27 นะอเอาไปเอาไปเอาไปที่ไหนอ่ะเอาไปแจกจ่าย
00:19:27 → 00:19:31 ที่ 5 พวนะนะฮะนะแล้วก็ไปเคลียร์ Lance
00:19:31 → 00:19:35 ด้วยนะอันนี้ก็สรุปให้คร่าวๆนะฮะเกี่ยว
00:19:35 → 00:19:38 กับอ่าเซลูคอเลสเตอรอล
00:19:38 → 00:19:42 นะเรามาดูจากแผนภาพอวันนี้นะฮะก็เคยฉายไป
00:19:42 → 00:19:46 แล้วอันนี้หมอทำมาให้หวังว่าน่าจะเห็นชัด
00:19:46 → 00:19:50 และเข้าใจอะไรมากขึ้นนะใครสงสัยอะไรถาม
00:19:50 → 00:19:54 ได้เลยนะฮะนะนะทีนี้ระบบของคอเลสเตอรอล
00:19:54 → 00:19:56 อันนี้เราพูดถึงคอเลสเตอรอลนะไม่ใช่พลัง
00:19:56 → 00:19:59 งานนะเรื่องพลังงานเนี่ยเราก็พูดไปเยอะะ
00:19:59 → 00:20:01 นะแผนภาพนี้เป็นเรื่องแผนภาพทางด้าน
00:20:01 → 00:20:04 คอเลสเตอรอลและเป็นคอเลสเตอรอลคือสาร
00:20:04 → 00:20:06 อาหารใช่มั้ยครับพี่หมอคอเลสเตอรอลเราถือ
00:20:06 → 00:20:11 ว่าเป็นสารชีวภาพนะครับนะตัวเค้าเนี่ย
00:20:11 → 00:20:16 เา้าเรียกว่าสารชีวภาพตัวสำคัญนะฮะแต่เขา
00:20:16 → 00:20:18 มาอยู่ในอาหารประเภท
00:20:18 → 00:20:23 โปรตีนและและจะต้องไปคู่กับไขมันอิ่ม
00:20:23 → 00:20:28 ตัวเสมอใช่มั้ยฮะพอเอยู่กับโปรตีนและไป
00:20:28 → 00:20:31 เอ้อพอเขไปกับไขมันอีตัวแล้วอยู่ในโปรตีน
00:20:31 → 00:20:34 เราเรียกว่าเป็นสารอาหารแต่ลำพังตัว
00:20:34 → 00:20:38 เดี่ยวๆเราเรียกว่าเป็นชีวโมเลกุลเป็นสาร
00:20:38 → 00:20:43 ชีวภาพชีวภาพนะคอเลสเตอเป็นสภาพนะเพราะ
00:20:44 → 00:20:46 ฉะนั้นโมเลกุล่าหรือเซลลูล่าคอเลสเตอรอล
00:20:46 → 00:20:51 เราถือว่าเขาเป็นสารชีวภาพนะฮะนะอ่าอัน
00:20:51 → 00:20:56 นี้นะก็มี 3 พารทนะฮะจะเห็นว่านะอ่าลำไส้
00:20:56 → 00:21:00 ลำไส้ก็จะเกี่ยวข้องกับการการกินนะฮะนะ
00:21:00 → 00:21:04 อันนี้ก็เป็น Diary คอสอนั่นเองนะซึ่งก็
00:21:04 → 00:21:09 จะมาพร้อมกับไคมอิซนะแล้วก็เข้าทางลำไส้
00:21:09 → 00:21:11 เข้าไปนะ
00:21:11 → 00:21:17 นะอันนี้ก็เป็นช่องทางนึงนะฮะนะที่ที่ที่
00:21:18 → 00:21:20 จะมีตัวคอเลสเตอรอลเกิดขึ้นนะฮะขณะเดียว
00:21:20 → 00:21:23 กันเซลล์ลำไส้นะก็จะมีการสร้าง
00:21:23 → 00:21:26 คอเลสเตอรอลด้วยนะฮะก็คือเซลล์เขาจะเอา
00:21:26 → 00:21:30 อะไรอ่าคาร์โบไฮโปรตีนไขมันมาเปลี่ยนเป็น
00:21:30 → 00:21:35 สารตัวกลางนะฮะสารตัวกลางร่วมคือิค a นะ
00:21:35 → 00:21:39 ฮะตัวซิค a เนี่ยก็จะมีพวยในการเปลี่ยน
00:21:39 → 00:21:42 แปลงเป็นคอเลสเตอรอลนะคือคือคอเลสเตอรอล
00:21:42 → 00:21:45 ในที่สุดแล้วเนี่ยมันอยู่ในระดับเซลล์นะ
00:21:45 → 00:21:47 ฮะนะแล้วเซลล์เหล่านั้นมีปฏิกิริยาของ
00:21:47 → 00:21:51 พลังงานอ่าพลังงานพวกเนี้ยนะก็จะมีอ่า
00:21:51 → 00:21:52 ส่วนที่เป็น
00:21:52 → 00:21:55 อิโอที่เขาจะเปลี่ยนไปเป็นคอเลสเตอรอลให้
00:21:56 → 00:21:59 เพราะงั้นกินเข้าไปหรือลำไส้เล็กสร้างเอง
00:21:59 → 00:22:02 นะก็จะกลายเป็นคอเลสเตอรอลกลุ่มนึงนะซึ่ง
00:22:02 → 00:22:06 อันเนี้ยนะช่องทางนี้จะ 20-25 per ทั่ว
00:22:06 → 00:22:10 ร่างกายนะฮะแล้วช่องทางนี้จะถูกนะ
00:22:10 → 00:22:13 คอเลสเตอรอลจะถูกนำไปโดย
00:22:13 → 00:22:18 อ่าคือก็คือจะมีไคโรไครอนกับ hdl แหละนะฮ
00:22:18 → 00:22:21 คือ hdl เนี่ยเทำหน้าที่โดยตามวิถีทำ
00:22:21 → 00:22:23 ธรรมชาติที่ต้องมารับคอเลสเตอรอลอยู่แล้ว
00:22:23 → 00:22:26 เมื่อมีปฏิกิริยาของพลังงานแต่ไคโรคอน
00:22:26 → 00:22:30 เนี่ยจุดสำคัญเลยนะเขามีไฟกระพริบที่เขา
00:22:30 → 00:22:33 จะมารับตัวพลังงานตัวไตทิสไลนนี้ไปนะแต่
00:22:33 → 00:22:37 เผอิญไอ้ตัวไขมันอิ่มตัวเนี่ยมันจะมี
00:22:37 → 00:22:39 คอเลสเตอรอลจับมาด้วยเพราะว่าเขาก็จะไป
00:22:39 → 00:22:43 คู่กันไม่แยกจากกันนะเพราะฉะนั้นในที่สุด
00:22:43 → 00:22:46 แล้วไคโลคอนก็รับคอเลสเตอรอลไปด้วย hdl
00:22:46 → 00:22:49 ก็มารับด้วยตามหน้าที่อแล้วเราก็รู้ว่า
00:22:49 → 00:22:53 พวยนี้เขาเข้าทางระบบน้ำเหลืองก่อนหลัง
00:22:53 → 00:22:56 จากนั้นไปออกทางระบบน้ำเลือดเพื่อจะมาเดน
00:22:56 → 00:22:59 เข้าที่ตัดนะเพราะงั้นในที่สุดแล้วเนี่ย
00:22:59 → 00:23:02 เราพูดถึงคอเลสเตอรอลเราไม่พูดถึงพลังงาน
00:23:02 → 00:23:05 นะเพราะงั้นคอเลสเตอรอลก็จะมาที่ตับนะโดย
00:23:05 → 00:23:10 มาจากระบบทางเดินอาหารส่วนลำไส้นะฮะตัว
00:23:10 → 00:23:13 ตับเองนะฮะตัวตับเองเนี่ยเขาก็มี
00:23:13 → 00:23:16 ปฏิกิริยาทางด้านพลังงานนะปกติตับเนี่ยก็
00:23:16 → 00:23:19 สร้างคอเลสเตอรอล 15% อ่าไม่ได้สร้างเยอะ
00:23:19 → 00:23:23 ที่สุดในร่างกายนะอ่าถ้าเกิดตับมีความผิด
00:23:23 → 00:23:25 ปกติมีภาวะด้วอินซูลินนะโดยเฉพาะอันเนี้ย
00:23:25 → 00:23:28 นะหรือจะมีการอักเสบหรือจะมีเรื่องไขมัน
00:23:29 → 00:23:30 พอกตับอะไรต่างๆซึ่งเหล่านี้มันก็อยู่ใน
00:23:31 → 00:23:34 เรื่องของกลไกของภาวะดอินซูลินนี่แหละนะ
00:23:34 → 00:23:37 เนี่ยเอ่อการสร้างคอเลสเตอรอลของตับจะ
00:23:37 → 00:23:40 เพิ่มขึ้นนะฮะเราถือว่าผิดปกตินะก็จะอัพ
00:23:40 → 00:23:43 จาก 15% กลายเป็น 27
00:23:43 → 00:23:48 28% แล้วไงอ่ะแล้วปฏิกิริยาของตับไม่ว่า
00:23:48 → 00:23:51 จะสะสมเผาผลาญพลังงานก็จะเกิดการเปลี่ยน
00:23:51 → 00:23:55 นะไอ้ตัวคาร์โบไฮเดรตโปรตีนไขมันกลายเป็น
00:23:55 → 00:23:59 อสิโอนะแล้วก็เอาคอเลสเตอรอลเลมารวมไว้
00:23:59 → 00:24:03 ที่ในตัวของเซลล์ตับนะหรือในตับนี่แหละนะ
00:24:03 → 00:24:08 ฮะนะเพื่อเพื่อที่จะไปไหนอ่าเพื่อที่จะ
00:24:08 → 00:24:11 เอาออกนะฮะเพื่อเคลียร์ Lan นะฮะนะ
00:24:11 → 00:24:14 เคลียร์ Lance ออกทางระบบน้ำ B นะแล้วก็
00:24:14 → 00:24:16 ออกทางลำไส้แล้วก็ไปก็อุจจาระ
00:24:16 → 00:24:20 นะนะอันนี้คือของตับเองก็จะมีประมาณนี้นะ
00:24:20 → 00:24:24 ฮะนะแต่ส่วนใหญ่แล้วคอเลสเตอรอลนะจะอยู่
00:24:24 → 00:24:29 ที่เตปิทิชชูนะซึ่งนี่จะรวมถึงสมองด้วยนะ
00:24:29 → 00:24:32 ฮะนะอันนี้ก็จะเป็นแหล่งคอเลสเตอรอลใหญ่ๆ
00:24:32 → 00:24:36 เลยก็จะมีประมาณ 60 - 65% นะฮะแล้วทั้ง
00:24:36 → 00:24:39 หมดเนี่ก็จะรวมกันเป็น 100% Extra heic
00:24:39 → 00:24:41 ทิชชูก็จะมีปฏิกิริยาของเซลล์ทางด้านพลัง
00:24:41 → 00:24:45 งานต่างๆซึ่งก็จะมีการใช้คารบเดดโปรตีนไข
00:24:45 → 00:24:49 มันและมีสารตัวกลางร่วมคืออิค a นะแล้ว
00:24:49 → 00:24:51 ตัวนี้ก็เปลี่ยนเป็นคอเลสเตอรอล
00:24:51 → 00:24:54 คอเลสเตอรอลจาก Extra heic ทิชชูก็จะมี
00:24:54 → 00:24:59 ldl เอ้ยโทษทีจะมี hdl นะฮะมาเป็นเรือมา
00:24:59 → 00:25:04 เป็นอนุภาคนำส่งนะเอาไปไหนก็เอาเข้าสู่
00:25:04 → 00:25:08 ระบบน้ำเลือดนะแล้วก็เอาไปที่ตัเอาไปที่
00:25:08 → 00:25:12 ตันะฮะนะเพราะฉะนั้นจะเห็นว่าระบบการหมุน
00:25:12 → 00:25:15 เวียนคอเลสเตอรอลนะไม่ใช่พลังงานนะอันนี้
00:25:15 → 00:25:18 นะเอาคอเลสเตอรอลอย่างเดียวเลยนะก็จะเป็น
00:25:18 → 00:25:22 รูปแบบที่เป็นภาพเหล่านี้นะฮะนี่ตัวตัเอง
00:25:22 → 00:25:25 เนี่ยนะตัวตัพเองเนี่ยเวลาเมีคอเลสเตอรอล
00:25:25 → 00:25:29 สะสมเยอะๆเนี่ยเห็นมทิศทางจากเต้าเติก็
00:25:29 → 00:25:31 ต้องเอ่อเยอะที่สุดเลยอ่ะ 60 กว่า
00:25:31 → 00:25:36 เปอรเซ็นนะฮะจากลำไส้นี่ก็มาประมาณ 20 25
00:25:36 → 00:25:42 2 แหล่งนี้ก็ 80 ะนะประมาณ 80 เกือบ 90
00:25:42 → 00:25:45 ไปแล้วนะฮะนะแล้วก็ยังมีที่ตัวเเองอีกนะ
00:25:45 → 00:25:48 ฮะเพราะฉะนั้นบางครั้งเนี่ยการส่งออกนะ
00:25:48 → 00:25:52 ที่จะหวังว่าเอออ่าเดี๋ยวจะมีช่องทางใน
00:25:52 → 00:25:57 การเคลียร์แนซตคงจะดีๆล่ะนะแล้วก็เปิด
00:25:57 → 00:25:58 ประตูเอา
00:25:58 → 00:26:02 เข้าไปอ่าอ่าเปลี่ยนนะคอเลสเตอรอลนี่
00:26:02 → 00:26:04 ประมาณ 90% เลยทีเดียวนะที่จะถูกเปลี่ยน
00:26:04 → 00:26:09 เป็นน้ำดีน้ำดีนะอันเนี้ยนะก็เป็นช่องทาง
00:26:09 → 00:26:12 ในการที่จะเอาคอเลสเตอรอลออกแต่บางทีมัน
00:26:12 → 00:26:14 ไม่เป็นไปตามนั้นเมื่อกี้เราเห็นแล้วใช่
00:26:14 → 00:26:18 มั้ล่ะที่มันจะมีปัญหาเรื่องของยีนอ่ายีน
00:26:18 → 00:26:22 expression ที่มันไม่ไม่ปกติในปัจจุบัน
00:26:22 → 00:26:25 นะฮะเนี่ยเ่าเพราะฉะนั้นเนี่ยก็เลยมีการ
00:26:25 → 00:26:30 ท้นนะก็จะต้องมีพวกอนุภาคหรือเรือนำสงก็
00:26:30 → 00:26:34 คือเราก็รู้ว่าเป็น vldl นะที่จะนำออกไป
00:26:34 → 00:26:37 นะไปแล่นเรือออกไปนอกตับชั่วครั้งชั่ว
00:26:38 → 00:26:40 คราวเพราะอะไรเพราะไม่งั้นตับมันจะสำลัก
00:26:41 → 00:26:43 มันจะเต็มไปหมดนะฮะคอเลสเตอรอลนี่เป็น
00:26:43 → 00:26:48 ผลึกที่เป็นหนามนะคล้ายๆิแล้วมันแหลมนะ
00:26:48 → 00:26:51 เออเพราะฉะนั้นเอาไว้ที่เซลล์เอาไว้ที่
00:26:51 → 00:26:55 อวัยวะอะไรก็ตามนะมันไม่ดีทั้งนั้นแหละนะ
00:26:55 → 00:26:58 ฮะนะมันต้องมีการหมุนเวียน clearance
00:26:58 → 00:27:00 circulate อะไรอย่างเงี้ยนะฮะเพราะงั้น
00:27:00 → 00:27:04 ก็จะมีระบบแบบเนี้ยนะฮะนะที่จะเกิดการนำ
00:27:04 → 00:27:08 ส่งทั้ทั้งคอสเตอและพลังงานอ่าก็คือไปทาง
00:27:08 → 00:27:12 ระบบน้ำเลือดนะโดยเรือนำส่งตัวที่สำคัญ
00:27:12 → 00:27:14 ที่สุดก็คือ vldl นี่เขาก็จะไปพร้อมกับ
00:27:14 → 00:27:18 พลังงานไตกีสลยนะแล้วเวลาไปแล้วเนี่ยนะ
00:27:18 → 00:27:23 vdl ก็จะแจกจ่ายไตกีออกไปนะฮะนะเวลาแจก
00:27:23 → 00:27:27 จ่ายไกีสไลดออกไปก็จะเกิดเป็น hdl อยู่ใน
00:27:27 → 00:27:30 พลาสมาที่หลังจาก vldl เรือลำนี้เจ่าย
00:27:31 → 00:27:35 พลังงานนะ hdl เนี่ยก็จะพยายามช่วยนะใน
00:27:35 → 00:27:41 การถ่องถ่ายนะอ่าเอาตัวไอ้ไอ้ตัว
00:27:41 → 00:27:45 คอเลสเตอรอลเไตกีสไลต่างๆเหล่าเนี้ยนะฮะ
00:27:45 → 00:27:50 นะนอกจากนี้ตัวระบบของ hdl เนี่ยนะก็ยัง
00:27:50 → 00:27:51 มีการ
00:27:51 → 00:27:54 วิวัฒนาการสร้างตัวช่วยผู้ช่วยก็คือ ldl
00:27:54 → 00:27:58 มาช่วย hdl นะที่จะเอาคอเลสเตอรอลต่าง
00:27:58 → 00:28:03 ต่างเนี่ยนะนะออกจากตัว hdl เพราะว่า hdl
00:28:03 → 00:28:07 เนี่ยนะเเป็นเรือด่วนนะก็เป็นรถหวอๆๆ
00:28:07 → 00:28:11 แอมบูแลนซ์เร่งด่วนนะที่จะต้องรีบกลับไป
00:28:11 → 00:28:15 ที่เนื้อเยื่อนะเ่าก็มีไฟกระพริบนะที่จะ
00:28:15 → 00:28:18 เป็นตัวรับสัญญาณส่งสัญญาณอะไรต่างๆนะว่า
00:28:18 → 00:28:20 เนื้อเยื่อตรงไหนมีคอเลสเตอรอลเกิดขึ้น
00:28:20 → 00:28:23 จากปฏิกิริยาของพลังงานเขาก็ต้องรีบหวอๆๆ
00:28:23 → 00:28:26 ไปรับนะเพราะไม่งั้นแล้วคอเลสเตอรอลจะตก
00:28:26 → 00:28:28 หลึกกลายเป็นอันตรายต่อต่อเซลล์เนื้อ
00:28:28 → 00:28:32 เยื่อพวกนั้นนะฮะเพราะฉะนั้นจังหวะที่ตัว
00:28:32 → 00:28:35 hdl เนี่ยเจะครอบครองคอเลสเตอรอลเนี่ยจะ
00:28:35 → 00:28:39 ไม่นานนักนะฮะนะเขาจะกำหนดตัวผู้ช่วยคือ
00:28:39 → 00:28:43 ldl นะมาช่วยรับไปทีรับไปทีเก็จะมีการ
00:28:43 → 00:28:46 แลกเปลี่ยนกันภายใต้เอนไซม์ C TP อ่ะที่
00:28:46 → 00:28:50 เรารู้นะฮะใช่มั้ยล่ะนะแล้วอัตราส่วนเป็น
00:28:50 → 00:28:54 ยังไงอ่ะนะ ldl ลำนึงจะรับคอเลสเตอรอลจาก
00:28:54 → 00:29:00 hdl ได้ 3 ลำนะหรือในกณีงานวิจัยของหมอ
00:29:00 → 00:29:04 จอกเกอร์เนี่ยก็ให้สูงสุดได้ถึง 3.3 เท่า
00:29:04 → 00:29:07 นะฮะนะเพราะฉนั้น ldl สามารถที่จะรับ
00:29:07 → 00:29:11 คอเลสเตอรอลจาก hdl ได้ 3.3 เท่านะก็ยัง
00:29:11 → 00:29:14 อยู่ในภาวะที่ปกติไม่ได้เกิดเรื่องเกิด
00:29:14 → 00:29:18 ราวนะฮะหลังจากนั้น ldl จะไปไหนนะฮะจะไป
00:29:19 → 00:29:23 ไหนนะส่วนใหญ่ก็คือเขาจะเอาคอเลสเตอรอลมา
00:29:23 → 00:29:27 วนผ่านเข้าตับนะเพื่อจะถ่ายออกนั่นเองนะ
00:29:27 → 00:29:29 เพื่อจะถ่ายออกนะเพราะว่ากระบวนการ
00:29:29 → 00:29:32 เคลียร์แลนและขบวนการที่จะออกทางระบบน้ำ
00:29:32 → 00:29:36 ดีและลำไส้เนี่ยเขาต้องใช้เวลาอ่าเขาต้อง
00:29:36 → 00:29:40 ใช้เวลาการเคลียร์แลนออกทางนี้นะส่วนใหญ่
00:29:40 → 00:29:42 ที่บอกหมอบอกว่าใช้เวลาก็คือเขาไม่ได้
00:29:42 → 00:29:45 ดำเนินไป 24 ชมงนะฮะเต้องอาศัยฮอร์โมน
00:29:45 → 00:29:50 ต้องอาศัยความพร้อมเพรียงต่างๆในในหลายๆ
00:29:50 → 00:29:54 ปัจจัยนะโดยเฉพาะเวลาเวลาการเคลียของเขา
00:29:54 → 00:29:57 ก็คือช่วงเวลาการทำงานของตับตามจังหวะใน
00:29:57 → 00:30:02 กาชีวิตช่วงไหนอ่ะนะต่าก็ทำงานหนักๆนะเ่อ
00:30:02 → 00:30:06 ที่จะเคลียร์ไอ้ตรงเนี้ยนะก็คือเช่วง 1 น
00:30:06 → 00:30:10 ถึงถึง 3:00 นเนี่ยอะไรอย่างเงี้ยนะฮะนะ
00:30:10 → 00:30:12 ต้องมีฮอร์โมฮอร์โมนต้องมีพิธีรีตองนิด
00:30:12 → 00:30:15 นึงนะฮะนะเพราะฉะนั้นเนี่ยมันก็เลยเกิด
00:30:15 → 00:30:19 การล้นท้นก็ต้องมีการหมุนวนอย่างเงี้ยนะ
00:30:19 → 00:30:24 ฮะอันนี้อันนี้พอเข้าใจเนาะนะคือยังไงก็
00:30:24 → 00:30:28 ตามตัว hdl เนี่ยที่มาช่วยรับเนี่ยนะเขา
00:30:28 → 00:30:31 ก็จะมีการแลกเปลี่ยนกับตัว ldl ที่
00:30:31 → 00:30:34 วิวัฒนาการเนี่ยนะร่างกายก็สร้างตัวนี้
00:30:34 → 00:30:38 ขึ้นมาเป็นผู้ช่วยของ HD นะฮะ
00:30:38 → 00:30:43 นี่อันนี้ดูแล้วพอง่ายขึ้นมั้ยนะฮะคือใน
00:30:43 → 00:30:46 ที่สุดแล้วเนี่ยภาวะสมดุลเนี่ยนะฮะนะหรือ
00:30:46 → 00:30:49 โฮมสเตสิเนี่ยก็คือคอเลสเตอรอลที่สร้าง
00:30:49 → 00:30:52 ขึ้นในแต่ละวันนะจะต้องเท่ากับ
00:30:52 → 00:30:56 คอเลสเตอรอลที่พยายามมีการขับออกนะฮะอัน
00:30:56 → 00:30:59 นี้เราเรียกว่าสมดุลนะแต่ส่วนใหญ่ของยุค
00:30:59 → 00:31:03 สมัยที่เปลี่ยนไปนะฮะนะเราเองนะเราจะมี
00:31:03 → 00:31:07 การสร้างมากนะขับออกน้อยก็คือการเคลียร์
00:31:08 → 00:31:13 แนเนี่ยมันช้ามันมีอุปสรรคนะมันไม่คือมัน
00:31:13 → 00:31:18 ไม่ไม่สอดคล้องนะนะขณะเดียวกันการสร้าง
00:31:18 → 00:31:21 นี่ก็มโหฬารบาประทัยนะจากกระบวนการเรื่อง
00:31:21 → 00:31:26 ของการกินนะเพราะฉะนั้นเนี่ยเราก็ต้องคือ
00:31:26 → 00:31:29 มีองค์ความรู้่ะฮะที่จะกทำำทำให้มันเกิด
00:31:29 → 00:31:34 ความเสมอภาคนะสร้างและขับออกนะฮะนะโดย
00:31:34 → 00:31:37 เฉพาะการสร้างก็ต้องเรียนรู้เรื่องการกิน
00:31:37 → 00:31:40 ให้ถูกกินให้เป็นกินให้เหมาะสมนะฮะนะไม่
00:31:40 → 00:31:43 งั้นแล้วเนี่ยระบบพลังงานสารอาหารมันก็จะ
00:31:43 → 00:31:48 มีมีเกินมีขาดมีเพี้ยนอะไรต่างๆอืมนะนะ
00:31:48 → 00:31:52 อันนี้ก็จะเป็นเรื่องเ่าคร่าวๆในรูปแบบ
00:31:52 → 00:31:54 นี้นะฮะนี่ก็เป็นเรื่องของ rit Centric
00:31:54 → 00:31:58 panel นะฮะมีคำถามครับพี่หมอ
00:31:58 → 00:32:02 ว่าคำถามที่พี่หมอเคย
00:32:02 → 00:32:03 ถาม
00:32:03 → 00:32:09 ว่าจากหนูกวางนะครับคุณหมอคะร่างกายชอบ
00:32:09 → 00:32:11 คอเลสเตอรอลแบบไหนที่มาจากอาหารหรือจาก
00:32:11 → 00:32:18 การสร้างเองคะเออลงไทายซินะคำ
00:32:18 → 00:32:22 ตอบร่างกายเ้าชอบคอเลสเตอที่มาจากสาร
00:32:22 → 00:32:26 อาหารนะครับคือขบวนการสร้างเนี่ยมัน
00:32:26 → 00:32:28 เหนื่อย
00:32:28 → 00:32:30 มันเหนื่อยนะมันต้องเผาผลาญพลังงานอะไร
00:32:30 → 00:32:33 มันต้องมีปฏิกิยาหลายขั้นตอนแต่ถ้าเข้าไป
00:32:33 → 00:32:38 เนี่ยจากทางเนี้ยนะฮะนะมันจะดีกว่าเยอะนะ
00:32:38 → 00:32:41 คือการสร้างมันก็สร้างได้แต่คอเลสเตอรอล
00:32:41 → 00:32:44 นะฮะแต่คอเลสเตอรอลที่เป็น DIY เนี่ยส่วน
00:32:44 → 00:32:49 ใหญ่มันก็จะมีพลังงานมีโปรตีนคือมีมีความ
00:32:49 → 00:32:52 พร้อมมีวิตามินแร่ธาตุมีสารพรึกษาเคมี
00:32:52 → 00:32:54 อะไรต่างๆนะ
00:32:54 → 00:32:59 ฮะก็คืออันเนี้ยมันเป็นสิ่งที่ที่เ่อระบบ
00:32:59 → 00:33:03 ร่างกายเนี่ยเชอบโดยเฉพาะตับนะตับเนี่ยนะ
00:33:03 → 00:33:08 ตับเชอบคอเลสเตอรอลนะที่กิงเข้าไปผ่านทาง
00:33:08 → 00:33:12 ระบบน้ำเหลืองนะแล้วไปผ่านระบบเลือดแล้ว
00:33:12 → 00:33:16 ก็ไปเข้าที่ตับนะฮะเพราะว่าคอเลสเตอรอล
00:33:16 → 00:33:20 อันเนี้ยจะเป็นคอเลสเตอรอลที่อ่าที่มี
00:33:20 → 00:33:23 พลังงานที่ตับก็ต้องการก็คือไขมันอิ่มตัว
00:33:23 → 00:33:27 อ่ามีวิตามินมีเกลือแร่มีสารพรึกษาเคมีเ
00:33:27 → 00:33:31 เรียกสารยานะแล้วตับก็จะเอาสิ่งเหล่านี้
00:33:31 → 00:33:35 เนี่ยไปกำจัดพิษไปสร้างอ่าเซลล์ไปทำ
00:33:35 → 00:33:38 ปฏิกิริยาทางด้านพลังงานอะไรต่างๆเยอะแยะ
00:33:38 → 00:33:42 ไปหมดเพหน้าที่ตับก็มีหน้าที่มากกว่า 500
00:33:42 → 00:33:45 หน้าที่นะมันก็เลยสบายไม่ต้องมาสร้างเอง
00:33:45 → 00:33:48 นะเพราะคอเลสเตอรอลที่อ่าร่างกายสร้างเอง
00:33:48 → 00:33:52 ต่างๆต่างๆต่างๆเหล่าเนี้ยจริงๆแล้วนะมัน
00:33:52 → 00:33:55 ก็เป็นคอเลสเตอรอลที่ล้นเกินไปทั้งนั้น
00:33:55 → 00:33:58 แหละนะเซลล์ต่างๆเมื่อมีปฏิกิริยาด้าน
00:33:58 → 00:34:01 พลังงานเมื่อไหร่จะสะสมเผาผลาญสร้างๆๆนะ
00:34:01 → 00:34:06 ฮะแล้วก็ต้องมีตัวไปรับไปรับไปส่งอะไร
00:34:06 → 00:34:08 ต่างๆคือสร้างก็สร้างแต่เป็นสารชีวภาพ
00:34:08 → 00:34:11 คอเลสเตอรอลนะฮไม่ได้สร้างวิตามินแร่ธาตุ
00:34:11 → 00:34:15 ไม่ได้สร้างเอ่อความเพียบพร้อมนะอื่นๆมา
00:34:15 → 00:34:21 ด้วยนะฮะก็ตามนี้แหละนะฮะเพราะฉะนั้น DIY
00:34:21 → 00:34:25 คอสอเนี่ยเป็นสิ่งที่ที่ร่างกายเต้องการ
00:34:25 → 00:34:28 อืโดยเฉพาะตับตับเต้องการแบบนี้
00:34:28 → 00:34:31 นะพี่หมอครับไอ้คอเลสเตอรอลที่มันสร้าง
00:34:31 → 00:34:36 จากเซลล์แต่ละเซลล์อ่ะครับเอ่ามันมันมัน
00:34:36 → 00:34:39 มีแบบ hdl ไปเก็บไม่ทันจนมันตกพลึกมยฮะ
00:34:39 → 00:34:44 อ๋อไม่มีฮะไม่มีอ่าเดี๋ยวเราจะเห็นนะฮะ
00:34:44 → 00:34:48 หมอบอกคร่าวๆ hdl เนี่ยมันเป็นอนุภาคนะ
00:34:48 → 00:34:51 เรือนำโ่งเป็นไลโปโปรตีนแต่เรารู้มั้ยว่า
00:34:51 → 00:34:55 hdl เนี่ยองค์ประกอบที่สำคัญที่สุดเคือ
00:34:56 → 00:34:58 คือ Apple A1
00:34:58 → 00:35:03 เมีอะไรอีกอเขาจะไม่มีเาจะไม่มีตัว B อ่ะ
00:35:03 → 00:35:06 นะไลโปโปรตีน B ไม่มีแต่ hdl เนี่ยจะมี
00:35:06 → 00:35:13 Apple A1 อ่า aple C1 C2 มี aple CS
00:35:13 → 00:35:18 มี Apple E นะฮะตัวสำคัญใน hdl 2 ตัว
00:35:18 → 00:35:22 คือ Apple A1 กับ Apple E มันคือไฟ
00:35:22 → 00:35:26 กระพริบนะฮะเพราะว่า hdl เนี่ยมันมีการ
00:35:26 → 00:35:31 เคลื่อนที่มีการเ่อมีมีมีมีการเข้าออกมี
00:35:31 → 00:35:35 การหมุนเวียนน่ะเร็วมากๆนะตอนนั้นเราเคย
00:35:35 → 00:35:38 ไลฟไปแล้วนะฮะทีนี้ aple A1 ที่ hdl คือ
00:35:38 → 00:35:44 ไฟกระพริบไฟกระพริบที่ที่จะไปส่งสัญญาณ
00:35:44 → 00:35:48 กับอ่ากับตัวโปรตีนน่ะที่เป็นเอนไซม์ที่
00:35:48 → 00:35:53 ที่ที่เยื่อหุ้มเซลล์นะฮะนะนะเอ่อเขาจะ
00:35:53 → 00:35:55 ส่งสัญญาณไงเพอเวลาเซลล์มีปฏิกิริยาด้าน
00:35:55 → 00:35:58 พลังงานมันก็จะเกิดคอเลสเตอรอลขึ้นมาจะ
00:35:58 → 00:36:01 เป็นคอเลสเตอรอลที่ดีหรือไม่ดีก็ตามนะไอ้
00:36:01 → 00:36:06 ตัวโปรตีนเนี่ยนะที่เซลล์เนี่ยนะฮะมันมัน
00:36:07 → 00:36:09 มันจะคือมันจะทนไม่ได้อ่ะเพราะ
00:36:09 → 00:36:11 คอเลสเตอรอลมันเป็นหนามเป็นผลึกที่ทิ่ม
00:36:11 → 00:36:17 แทงนะอ่ามันก็จะเริ่ม signal ละนะตัว hdl
00:36:17 → 00:36:19 เนี่ยนะโดยธรรมชาติเนี่ยเค้าก็มี Apple
00:36:19 → 00:36:23 A1 ที่เป็นไฟกระพริบอ่าเจะส่งสัญญาณทัน
00:36:23 → 00:36:25 ทีว่ากูอยู่นี่กูอยู่นี่กูอยู่นี่ใคร
00:36:25 → 00:36:29 ต้องการใครต้องการเรือนะหรือรถที่จะไปรับ
00:36:29 → 00:36:33 ของไม่ดีออกจากเซลล์นะฮะอันเนี้ยเขาจะทำ
00:36:33 → 00:36:36 งานร่วมกันนะฮะเพราะฉะนั้น hdl เนี่ยถึง
00:36:36 → 00:36:39 ต้องหมุนเวียนอย่างรวดเร็วแล้วมีการที่จะ
00:36:39 → 00:36:42 ไม่เก็บอะไรไว้นานๆเพราะเขามีหน้าที่ตาม
00:36:42 → 00:36:44 ธรรมชาติคือต้องไปรับคอเลสเตอรอลไปรับ
00:36:44 → 00:36:48 คอเลสเตอรอลนะเพราะงั้นในที่สุดแล้วเนี่ย
00:36:48 → 00:36:52 hdl ก็จะไปรับคอเลสเตอรอลค่อนข้างจะทัน
00:36:52 → 00:36:57 ยกเว้นแต่มีปัญหาของการที่อ่ามีการสร้าง
00:36:57 → 00:37:00 คอเอ้ยมีการสร้าง hdl อะไรต่างๆเที่มัน
00:37:00 → 00:37:04 ไม่ปกตินะอันนั้นมันก็เจอเป็นส่วนน้อยนะ
00:37:04 → 00:37:08 โดยกลไกธรรมชาติแล้วเนี่ยเรื่องของเรือนำ
00:37:08 → 00:37:12 ส่งไอ้ตัว hdl เนี่ยมันเป็นมันเป็นเรื่อง
00:37:12 → 00:37:15 แรกๆเลยของระบบการนำส่งพลังงานและ
00:37:15 → 00:37:18 คอเลสเตอรอลของร่างกายที่มัน develop
00:37:19 → 00:37:22 ขึ้นมานะแล้วทำให้มนุษย์เมีชีวิตอ่าแล้ว
00:37:22 → 00:37:27 ก็เกิดการสร้างอาณาจักรขึ้นมาเรื่อยๆได้
00:37:27 → 00:37:31 นะแต่ถ้า hdl มันมีปัญหาเราก็คงจะสูญพันธ
00:37:31 → 00:37:34 ไปแล้วนะแล้วทีนี้วิวัฒนาการของเราเนี่ย
00:37:34 → 00:37:37 ตอนหลังๆเนี่ยก็จะเป็นวิวัฒนาการในการ
00:37:37 → 00:37:42 สร้างผู้ช่วย hdl ก็คือ ldl นะ
00:37:42 → 00:37:47 นะอันเนี้ยทีนี้ Apple E ทำอะไร Apple E
00:37:47 → 00:37:51 ทำอะไรฮะนะ Apple E เนี่ยมันก็เป็น
00:37:51 → 00:37:54 เหมือนสัญญาณไฟกระพริบเช่นเดียวกันแต่มัน
00:37:54 → 00:37:59 จะมันจะไปมันจะไปโฟกัสที่ตับนะฮะนะก็คือ
00:37:59 → 00:38:05 ที่ตับเนี่ยมันจะมีตัวซตนะที่มันจะเรียก
00:38:05 → 00:38:09 ไอ้ตัวที่มันไม่ใช่ a b อ่ะนะฮะนะอ่า
00:38:09 → 00:38:12 เดี๋ยวในรูปเนี่ยมันจะเป็นซตเขียวๆเลยที่
00:38:12 → 00:38:15 ที่ตับเนี่ยนะซึ่งมันจะมีแรงดึงดูดนะ
00:38:15 → 00:38:19 เนี่ยมันจะดูด Apple E นะเพราะฉะนั้น hdl
00:38:19 → 00:38:22 เนี่ยนะมันมี Apple E นะมันก็จะถูกตับ
00:38:22 → 00:38:26 ดูดนะแต่ว่าแรงดูดระหว่าง Apple E ที่
00:38:26 → 00:38:31 ตับกับแรงดูดของ aple A1 aple A1 ชนะ
00:38:31 → 00:38:33 นะฮะนะเพราะ
00:38:33 → 00:38:37 ว่ามันจะถูกดูดมาที่ตับเนี่ยเพื่อมาคาย
00:38:37 → 00:38:40 คอเลสเตอรอลให้กับตับเนี่ยแค่ประมาณ 10%
00:38:40 → 00:38:43 ไม่เกิน 20% แต่ส่วนใหญ่ 80 90% เนี่ย
00:38:43 → 00:38:46 มันจะต้องไปรับคอเลสเตอรอลตามเซลล์ต่างๆ
00:38:46 → 00:38:50 อันนี้คือธรรมชาติของมัน
00:38:50 → 00:38:56 นะพอเข้าใจเนาะเอพอเข้าใจครับนะแล้วก็การ
00:38:56 → 00:39:01 ส่งสัญญาณว่ากูอยู่นี่กูอยู่นี่เอ่อจะให้
00:39:01 → 00:39:05 ทำอะไรนะส่งสัญญาณมาเลยเ่อจะไปที่ตับหรือ
00:39:05 → 00:39:08 จะไปรับคอเลสเตอรอลต่างๆที่เอ่อเกิด
00:39:08 → 00:39:11 ปฏิกิริยาทางด้านพลังงานนะทนี้เรามาดูโดย
00:39:11 → 00:39:17 รวมนะฮะบอคอเลสเตอรอลพู S นะอันเนี้ยนะฮะ
00:39:17 → 00:39:21 เอออันนี้คอเลสเตอรอลรวมทั้งร่างกายนะฮะ
00:39:21 → 00:39:24 อ้าอ่ะเราเทียบอย่างงนี้นะฮะเราเทียบ
00:39:24 → 00:39:28 อย่างงี้ในคน 70 กเอ่าจะมีคอเลสเตอรอล
00:39:28 → 00:39:32 ประมาณนี้นะฮะนะคือประมาณเนี่ย 12-15
00:39:32 → 00:39:36 กรัมต่อน้ำหนัก 70 กลนะคอเลสเตอรอลที่
00:39:36 → 00:39:39 เป็นจำนวนกรัต่างๆพวกเนี้ยนะมันจะไปอยู่
00:39:39 → 00:39:43 ที่ไหนบ้างส่วนใหญ่ๆส่วนใหญ่ๆก็คือเพิอ
00:39:43 → 00:39:46 ทิชชูนะฮะซึ่งหมายถึงเซลล์เนื้อเยื่อต่าง
00:39:46 → 00:39:52 ๆทั่ร่างกายรวมทั้งสมองนะฮะแต่สมองเนี่ย
00:39:52 → 00:39:56 นะมันจะมี 20% แล้วนะฮะของทั้งหมดเนี่ย
00:39:56 → 00:40:00 ของทั้งหมดประมาณ 12-15 กรัมนะฮะสมอง
00:40:00 → 00:40:04 เนี่ยอ่า 20% นะฮะนะเพราะฉะนั้นเเรียก
00:40:04 → 00:40:07 paral tissue เนี่ยนะมีเกือบๆ 10 กรัม
00:40:07 → 00:40:11 นะฮะมีเกือบๆ 10 กรัม 9.36 มากที่สุดนะ
00:40:11 → 00:40:15 คอเลสเตอรอลอยู่ที่นี่นะฮะแล้วระบบของ
00:40:15 → 00:40:18 คอเลสเตอรอลที่อยู่ที่นี่จะเรียก hdl มา
00:40:18 → 00:40:21 ทำงานเอาไปทีเอาไปทีเอาไปทีกูจะตายอยู่
00:40:21 → 00:40:22 แล้วกูเจ็บ
00:40:22 → 00:40:27 นะต่อไปลองลงมาจากตรงนี้คือคือที่ไหนไหน
00:40:27 → 00:40:32 ฮะที่เลือดที่บัเซลล์นะฮะอ่าบัดเซลล์
00:40:32 → 00:40:35 เนี่ยอ่าบัเซลล์เก็จะหมายถึง 3 เซลล์นะก็
00:40:35 → 00:40:40 คือเมลแดงเมลขาวแล้วก็เมก้าคาริโอก็คือ
00:40:40 → 00:40:44 ตัวแม่ราชินีของการสร้างเก็บเลือดคือระบบ
00:40:44 → 00:40:47 บัตเซลล์ของร่างกายเนี่ยมันมี 3 แบบนะฮะ
00:40:47 → 00:40:51 เม็ดเลือดแดงนี่มีขนาดเป็น 10 ล้านนะฮะนะ
00:40:51 → 00:40:55 10 ล้านเยอะที่สุดอ่าออกมาจากเนี่ยไข
00:40:55 → 00:40:59 กระดูกนะฮะนะเม็ดเลือดขาวมีระดับเป็นเท่า
00:40:59 → 00:41:03 ไหร่เป็นพันเป็นพันนะฮะแล้วก็เกลดเลือดมี
00:41:03 → 00:41:06 ระดับเป็นแสนนะฮะเพียงแต่ว่าเกล็ดเลือด
00:41:06 → 00:41:08 ที่เราตรวจเลือดเนี่ยอันนี้มันเป็นเศษ
00:41:08 → 00:41:11 เซลล์มันไม่ได้มีความเป็นเซลล์นะฮะนะเม็ด
00:41:11 → 00:41:14 เลือดแดงเม็ดเลือดขาวเกล็ดเลือดนะฮะนะอัน
00:41:14 → 00:41:17 นี้บัตเซลล์บัเซลล์เหล่าเต้องมีเรื่องของ
00:41:18 → 00:41:21 ระบบพลังงานใช่มล่ะเม็ดเลือดแดงไม่มี
00:41:21 → 00:41:25 ไมโตคอนเดรียใช้น้ำตาลกลูโคสเป็นพลังงาน
00:41:25 → 00:41:28 อ่าเมแดงแที่
00:41:28 → 00:41:31 ออกซิเจนกับคาร์บอนไดออกไซด์แลกเปลี่ยน
00:41:31 → 00:41:34 กันกับเนื้อเยื่อเมื่อไหร่ก็ตามที่เม็ด
00:41:34 → 00:41:37 เลือดแดงมีไมโตคอนเดรีย
00:41:37 → 00:41:41 เออเราอาจจะสูญพันธุ์นะฮะนะเพราะว่า
00:41:41 → 00:41:45 ไมโตคอนเดรียที่เเลือดแดงเขาจะเาจะใช้
00:41:45 → 00:41:47 ออกซิเจนในการเผาผลาญพลังงานเแย่ง
00:41:47 → 00:41:49 ออกซิเจนไปหมดไม่เอาออกซิเจนไปให้เนื้อ
00:41:49 → 00:41:52 เยื่อนะเพราะฉะนั้นเม็แดงเนี่ยก็เลยเป็น
00:41:52 → 00:41:56 เซลล์ที่อ่าที่ใช้แต่น้ำตาลเป็นพลังงาน
00:41:56 → 00:41:59 ไม่มีมีไมโตคลียในการใช้ไขมันเป็นพลังงาน
00:41:59 → 00:42:03 นะโอ้อันนี้เพิ่งรู้เลยนะครับเนี่ยคถามก็
00:42:03 → 00:42:05 คือเม็ดเลือดแดงเนี่ยที่มีระดับเป็น 10 ๆ
00:42:05 → 00:42:09 ล้านเซลล์อะไรอย่างเงี้ยนะถามว่าเค้าอ่ะ
00:42:09 → 00:42:12 เค้าจะมีคอเลสเตอรอลที่ดีมั้ย
00:42:12 → 00:42:17 ฮะเค้าใช้น้ำตาลเป็นพลังงานเค้าใช้น้ำตาล
00:42:17 → 00:42:22 เป็นพลังงานไม่ดีครับเออก็น่าจะไม่ดีเนอะ
00:42:22 → 00:42:27 น่าจะเหนียวหนืดเออนั่นแหละ
00:42:27 → 00:42:30 ก็มีโอกาสที่จะไม่ดีนะมากนะอันนี้ทายกัน
00:42:30 → 00:42:34 เล่นๆแต่ไม่มีใครก็ตั้งคำถามแบบเนะอ้า
00:42:34 → 00:42:36 เม็ดเลแดงอยู่ที่ไหน
00:42:36 → 00:42:40 ฮะระบบเลือดนะไม่ได้อยู่ในระบบน้ำเหลือง
00:42:40 → 00:42:43 นี่เม็ดเลือดขาวเม็ดเลือดขาวอยู่ได้ทั้ง
00:42:43 → 00:42:46 ระบบน้ำเลือดและน้ำเหลืองแต่ส่วนใหญ่เม็ด
00:42:46 → 00:42:49 เลือดขาวชอบอยู่ที่ระบบน้ำเหลืองเม็ด
00:42:49 → 00:42:53 เลือดขาวมีไมโตคอนเดียเม็ดเลือดขาวอ่าใช้
00:42:54 → 00:42:57 ออกซิเจนและกินไขมันเป็นพลังงานเพราะ
00:42:57 → 00:43:00 ฉะนั้นอยากได้ไขมันดีๆก็ต้องไปอยู่ในระบบ
00:43:00 → 00:43:03 น้ำเหลือนะแต่ถึงบางครั้งจะต้องมาอยู่ใน
00:43:04 → 00:43:07 ระบบน้ำเลือดก็ไม่ผิดกติกาขอให้มีไขมันดี
00:43:07 → 00:43:10 ๆกินก็แล้วกันเพียงแต่แม่เลกขาวมันมีไม่
00:43:10 → 00:43:14 เยอะนะมีไม่เยอะนะอย่างไรก็ตามด้วย
00:43:14 → 00:43:18 พฤติกรรมของคนเราชอบไปบังคับให้เมขาวกิน
00:43:18 → 00:43:24 อะไรกินน้ำตาลกินมฮะกินนะแต่กินไป
00:43:24 → 00:43:31 ก็ก็ก็ง่อยไปเรเรื่อยๆนะฮะเมขาวนะกินไปก็
00:43:31 → 00:43:34 ง่อยไปเรื่อยๆนะมันไม่เก่งสู้รบตบมือไม่
00:43:34 → 00:43:38 เก่งเป็นทหารที่ยิงปืนไม่แม่นอ่าอย่าง
00:43:38 → 00:43:42 เงี้ยอ่านะอ่าเม็ดเลือขาวเม็ขาวอยู่ใน
00:43:42 → 00:43:44 ระบบน้นเหลืองเป็นหลักอยู่ในระบบน้ำเลือด
00:43:44 → 00:43:49 นะถ้ามีของดีๆให้เขากินนะแต่ถ้าเกิดเราไป
00:43:49 → 00:43:52 กำหนดการอ่าฟีดดิ้ง
00:43:52 → 00:43:56 กินไม่เป็นอะไรอย่างงี้นะฮะนะเมขาวก็ส่วน
00:43:56 → 00:43:59 ใหญ่หิวก็ต้องออกมาอยู่ในระบบน้ำเลือด
00:43:59 → 00:44:02 แล้วก็มากินน้ำตาลแล้วมันก็เลยผิดปกตินะ
00:44:02 → 00:44:06 ฮะบางทีก็โง่กินพวกเดียวกันเองนะพี่หมอ
00:44:06 → 00:44:10 เออนะก็แล้วแต่เพี้ยนไปด้วยจากแอนติบอดี้
00:44:10 → 00:44:13 อะไรต่างๆย้อนกลับเมดเเลือดแดงนิดนึงนะฮะ
00:44:13 → 00:44:16 ว่าคือเมด้าแดงเนี่ยเค้ากินอะไรอ่ะเกิน
00:44:16 → 00:44:19 น้ำตาลกินกลูโคสเป็นพลังงานแล้วก็มี
00:44:19 → 00:44:21 ปฏิกิริยาทางด้านพลังงานที่เขาต้องแลก
00:44:21 → 00:44:24 เปลี่ยนคาร์บอนไดออกไซด์กับออกซิเจนนะ
00:44:24 → 00:44:27 หลังจากนั้นเแดงจะสร้างคอเลสเตอรอลนะฮะนะ
00:44:27 → 00:44:31 ถามว่าคอเลสเตอรอลที่เมลแดงสร้างอัดน่าจะ
00:44:31 → 00:44:34 ไม่ดีพอคอเลสเตอรอลในเมลแดงที่มันไม่ดี
00:44:34 → 00:44:38 เนี่ยนะมันไม่ดีนะมันเป็นยังไง
00:44:38 → 00:44:42 ฮะมันไม่ดีแล้วมันเป็นยังไงเออมันก็ทำให้
00:44:42 → 00:44:46 รูปร่างมันไม่ดีนะรูปร่างของเแดงอ่ะที่
00:44:46 → 00:44:49 มันมี R Cell morphology เป็นรูปแบบ
00:44:49 → 00:44:57 ต่างๆนะฮะนะอิโสพอยคิโรโอโลไซซชิโตไซซนะ
00:44:57 → 00:45:00 target เซลล์อะไรต่างๆเนี่ยคืออันนี้ก็
00:45:00 → 00:45:04 คือการที่เซลล์ของเม็ดแดงมันมี morphology
00:45:04 → 00:45:09 มีรูปแบบที่ไม่ดีนะฮะเพราะอะไรนะเพราะว่า
00:45:09 → 00:45:13 คุณกินน้ำตาลหรือให้น้ำตาลมันเยอะเกินไป
00:45:13 → 00:45:17 มันวอรนะนะเพราะฉะนั้นรูปแบบของการตรวจ
00:45:17 → 00:45:20 CBC และ L morphology ของผู้คนต่างๆใน
00:45:20 → 00:45:24 ยุคปัจจุบันเนี่ยที่เอ่อไม่เข้าใจใน
00:45:24 → 00:45:27 เรื่องของโภชนาการพวกเนี้ยนะเขาก็เลยอ่าน
00:45:27 → 00:45:31 มา 1 + 2 + สลี่ิอะไรต่างๆเต็มไปหมด
00:45:31 → 00:45:36 เลยเราก็ต้องมาแปลนะว่าไปกินอะไรมานะฮะนะ
00:45:36 → 00:45:38 ก็มีแต่น้ำตาลน้ำตาลน้ำตาล High Bad C
00:45:38 → 00:45:43 High Bad C อะไรต่างๆนะซึ่งเเแมมันก็
00:45:43 → 00:45:46 ต้องต้องใช้อ่ะต้องใช้เพราะว่ามันใช้ไข
00:45:46 → 00:45:49 มันไม่ได้นะมันก็เลยมีอันเป็นไปในรูปแบบ
00:45:49 → 00:45:53 นะฮะนะก็เป็นอย่างนี้นะเนี่ยรูปร่างเมด
00:45:53 → 00:45:57 เล็กแดงผิดไปนะส่วนเมดเล็กขาวนะฮะขาวเก็
00:45:57 → 00:46:01 กินไขมันเป็นพลังงานแล้วเจะเก่งนะแล้ว
00:46:01 → 00:46:06 เวลาที่ร่างกายสะอาดปอดโป่งคลีนอะไรต่างๆ
00:46:06 → 00:46:10 นะเา้าก็จะมาสะสม accumulate อยู่ในระบบ
00:46:10 → 00:46:13 น้ำเหลืองนะเพราะฉะนั้นเวลาไปเจาะเลือก
00:46:13 → 00:46:17 ตรวจเช็คอัพนะแล้วก็กิน low C High
00:46:17 → 00:46:20 Good G อะไรต่างๆแล้วปรากฏว่า CBC เ
00:46:20 → 00:46:24 เลือดขาวมันต่ำกว่า 4,000 นะฮะอันนี้ไม่
00:46:24 → 00:46:27 ต้องตกใจนะฮะกลับมาสำรวจตัวเองว่าเป็นยัง
00:46:27 → 00:46:31 ไงนะแล้วก็ดู R Cell morphology ด้วยนะ
00:46:31 → 00:46:34 ว่าไม่ได้มีน้ำตาลเยอะแยะมีแค่น้ำตาลจาก
00:46:34 → 00:46:38 อ่าเรื่องของอะไรอ่ะ adaptive glucose
00:46:38 → 00:46:41 sparing แค่นั้นเนี่ยนะเแดงก็พอใช้แล้ว
00:46:41 → 00:46:44 นะไม่ต้องไปโหมกระหน่ำใส่น้ำตาลน้ำตาลน้ำ
00:46:44 → 00:46:47 ตาลขนมของหวานผลไม้อะไรต่างๆให้เค้าเยอะ
00:46:47 → 00:46:51 แยะเซลล์เจะเพี้ยนหมดนะเพราะว่าลูไอ้ตัว
00:46:51 → 00:46:53 คอเลสเตอรอลที่มันเกิดขึ้นเนี่ยที่มัน
00:46:53 → 00:46:56 เป็นไอ้คอเลสเตอรอลเอสเตอร์กับฟรี
00:46:56 → 00:46:58 คอเลสเตอรอลเนี่ยมันจะไปทำให้รูปแบบของ
00:46:58 → 00:47:02 เซลล์ของเมแดงผิดปกติไปนะ
00:47:02 → 00:47:06 ฮะทีนี้มาเรื่องเกล็ดเลือดนะเกล็ดเลือด
00:47:06 → 00:47:10 ส่วนใหญ่อยู่ที่ไหนอ่ะเป็นคำถามนะฮะเกล็ด
00:47:10 → 00:47:11 เลือดสร้างจากที่ไหน
00:47:11 → 00:47:16 ฮะนะก็สร้างจากไขกระดูกนะฮะตัวต้นทางของ
00:47:17 → 00:47:21 การสร้างเกล็ดเลือดเชื่อเชื่อว่าเมกะ
00:47:21 → 00:47:25 คาริโอนี่เมกะคาริโอหรือเมกะคาริโอตนะฮะ
00:47:25 → 00:47:30 นะและไอ้ตัวเมกะคาริโอตเนี่ยนะอ่าเค้า
00:47:30 → 00:47:34 เป็นเซลล์นะฮะไม่ได้เป็นเศษเซลล์นะฮะนะ
00:47:34 → 00:47:38 แล้วเค้าจะมีพฤติกรรมเหมือนกับเม็ดเลขขาว
00:47:38 → 00:47:42 นะคือจะกินไขมันเป็นพลังงานนะหลังจากนั้น
00:47:43 → 00:47:46 เนี่ยพอเ้าเปลี่ยนเป็นเศษเซลล์เป็นเศษ
00:47:46 → 00:47:52 เซลล์เราก็เรียกว่าเพทนะฮะนะเพทเนี่ยนะก็
00:47:52 → 00:47:55 จะต้องถูกปล่อยออกมาอยู่ในกระแสเลือดอ่า
00:47:55 → 00:47:57 ในกระแสเลือดส่วนใหญ่ใหญ่มีแต่น้ำตาล
00:47:57 → 00:48:00 เพราะฉะนั้นเพรสก็จะกินน้ำตาลมากกว่ากิน
00:48:00 → 00:48:04 ไขมันเป็นอาหารแต่เพรตเนี่ยมันเป็นเศษ
00:48:04 → 00:48:07 เซลล์มันเป็นเศษเซลล์นะ
00:48:07 → 00:48:12 ฮะแต่ตัวแม่คือเมกะคาริโอตนะฮะอันนี้กิน
00:48:12 → 00:48:16 ไขมันเป็นพลังงานนะคล้ายๆเม็ดและขาวและ
00:48:16 → 00:48:22 มักจะอยู่ในระบบน้ำเรืองนะอยู่ในระบบน้ำ
00:48:22 → 00:48:27 เรืองอันนี้มีข้อสงสัยอะไรมยไม่เนาะนะ
00:48:27 → 00:48:30 เพราะฉะนั้นระบบเนี่ยก็คือระบบน้ำเลือด
00:48:30 → 00:48:34 และน้ำเหลืองจะมีคอเลสเตอรอลเยอะแยะเลยนะ
00:48:34 → 00:48:35 เนี่ย
00:48:35 → 00:48:40 2.6 กรัมนะต่อน้ำหนัก 70 นะฮะนะอันดับ
00:48:40 → 00:48:43 ต่อไปก็คือที่ตับนะฮะที่ตับตับเนี่ยมี
00:48:43 → 00:48:46 กระบวนการของพลังงานสะสมเผาผลาญเยอะแยะไป
00:48:46 → 00:48:49 หมดเลยนะแล้วมีหน้าที่มากนะเพราะฉะนั้น
00:48:49 → 00:48:52 ตับนะมีกระบวนการทางด้านพลังงานตับก็จะ
00:48:52 → 00:48:55 ต้องมีคอเลสเตอรอลเกิดขึ้นนะเนี่ยก็แล้ว
00:48:55 → 00:48:57 แต่กระบวนการ
00:48:57 → 00:49:00 ถ้ามันเป็นการเผาผลาญสลายพลังงานนะนะ
00:49:00 → 00:49:04 คอเลสเตอรอลจะเป็นคอเลสเตอรอลที่ดีนะแล้ว
00:49:04 → 00:49:07 ตับเนี่ยเวลาเามีคอเลสเตอรอลที่ดีเกิด
00:49:07 → 00:49:13 ขึ้นเนี่ยเเรียกจะอิ่มฟูนะฮะนะเนี่ยเอ่อ
00:49:13 → 00:49:18 นะเขาจะไม่ไม่ไม่ไม่ค่อยงอแงนะฮะไม่ค่อย
00:49:18 → 00:49:21 งอแงแล้วเก็สามารถปฏิบัติหน้าที่ในการเผา
00:49:21 → 00:49:25 ผลาญพลังงานสร้างคีโตนบอดี้อะไรต่างๆได้
00:49:25 → 00:49:27 นะเอ
00:49:27 → 00:49:30 แต่ถ้าเกิดคอเลสเตอรอลมันไม่ดีนะฮะก็แล้ว
00:49:30 → 00:49:34 แต่อย่างว่าแหละนะตับอักเสบไขมันทอกตับนะ
00:49:34 → 00:49:37 หรือมีพิษมีท็อกซินอะไรต่างๆสะสมเต็มไป
00:49:37 → 00:49:41 หมดนะฮะนะการทำของตับไม่ดีเอนไซม์ตับสูง
00:49:41 → 00:49:42 นะฮะ
00:49:42 → 00:49:47 เออสุดท้ายเห็นตัวอะไรมยเนี่ยฮะ
00:49:47 → 00:49:51 1.42 นะก็คือเนี่ยคอเลสเตอรอลเนี่ยมัน
00:49:51 → 00:49:56 อยู่ในระบบหมุนเวียนนะฮะนะเอ่อ
00:49:56 → 00:50:00 ระบบหมุนเวียนในน้ำเลือดน้ำเหลืองนะฮะนะ
00:50:00 → 00:50:05 เนี่ยอยู่บนอนุภาคนำส่งพลังงานรปโปรตีนนะ
00:50:05 → 00:50:08 ทั้งน้ำเลือดน้ำเหลืองนะมีแค่เนี้ยฮะ
00:50:08 → 00:50:11 เพราะฉะนั้นการที่เรามาประสาทเสียประสาท
00:50:11 → 00:50:14 กินกับการเจาะเลือดแล้วเจอคอเลสเตอรอลบน
00:50:14 → 00:50:17 เรือนำส่งพลังงานหรือบนอนุภาคไลโปโปรตีน
00:50:17 → 00:50:20 เป็นอย่างโง้นอย่างงนี้เนี่ยนะฮะนะแล้วก็
00:50:20 → 00:50:23 วุ่นวายกินยารักษาอะไรต่างๆเต็มไปหมดเลย
00:50:23 → 00:50:26 เนี่ยนะเรามายุ่งกับอีกแค่น้อยนิดแค่เ
00:50:26 → 00:50:29 เนี่ยนะฮะนะเค้าถึงได้ใช้คำว่า
00:50:29 → 00:50:35 ไมานะนะก็คือนะคอเลสเตอรอลจริงๆแล้วเนี่ย
00:50:35 → 00:50:38 นะในส่วนที่อยู่ในระบบหมุนเวียนโดยเฉพาะ
00:50:38 → 00:50:42 น้ำเลือดเนี่ยน้อยมากน้อยมากแล้วนี่หมอจะ
00:50:42 → 00:50:45 บอกให้นะว่าถ้าคุณกินอย่างเหมาะสมถูกต้อง
00:50:45 → 00:50:47 กินเป็นโดยเฉพาะ ow C High CR Fat
00:50:47 → 00:50:51 เนี่ยนะไอ้ตัวคอเลสเตอรอลเนี่ยมันจะอยู่
00:50:51 → 00:50:54 ในระบบน้ำเหลืองมากกว่าในระบบน้ำเลือดใน
00:50:54 → 00:50:58 ระบบน้ำเลือดเนี่ยมีคอเลสเตอรอลลน้อยมากๆ
00:50:58 → 00:51:02 เลยนะฮะน้อยมากๆเลยนะถ้าเกิดคุณใช้พลัง
00:51:02 → 00:51:05 งานเป็นปฏิกิริยาของพลังงานอยู่ในระบบน้ำ
00:51:05 → 00:51:09 เหลืองนะคอเลสเตอรอล hdl ไคโรไคออนก็รับ
00:51:09 → 00:51:11 คอเลสเตอรอลอะไรไปอยู่ในระบบน้ำเหลืองใน
00:51:11 → 00:51:14 ระบบน้ำเลือดแล้วเข้าตับนะเพงั้นโอกาสที่
00:51:14 → 00:51:17 คอเลสเตอรอลจะหลุดออกมาอยู่ในระบบน้ำ
00:51:17 → 00:51:21 เลือดนะแล้วไปกับ vldl จะน้อยมากถ้าคุณทำ
00:51:21 → 00:51:26 เป็นกินเป็นเข้าใจมีองค์ความรู้นะเนี่ยนะ
00:51:26 → 00:51:29 ตอนเนี้ยที่เราเจาะเลือดนะแล้วเราไปเจอ
00:51:29 → 00:51:33 คอเลสเตอรอลอยู่ในอะไร vldl remnant ldl
00:51:33 → 00:51:37 อะไร idl เ่าไมครอนอะไรพวกเนี้ยนะฮะอัน
00:51:37 → 00:51:41 นี้มันน้อยมากนะฮะมันน้อยมากนะเอ่อน้อย
00:51:41 → 00:51:44 กว่าคอเลสเตอรอลพูนะเยอะแยะเต็มไปหมดเลย
00:51:44 → 00:51:49 นะฮะนะเอ่อตรงสีแดงเนี่ยสำคัญนะฮะนะหมอ
00:51:49 → 00:51:52 ได้แปลให้อย่างนี้นะฮะว่าคอเลสเตอรอลที่
00:51:52 → 00:51:56 บรรทุกอยู่กับอนุภาคไลโปโปรตีนก็คือช่อง
00:51:56 → 00:52:00 สีขาว 1.42 เนี่ยนะฮะนะนะซึ่งอยู่ในระบบ
00:52:01 → 00:52:03 การหมุนเวียนทั้งน้ำเลือดน้ำเหลืองไม่ได้
00:52:03 → 00:52:06 มีความสำคัญไม่ได้มีผลกระทบอะไรเลยกับ
00:52:07 → 00:52:10 คอเลสเตอรอลที่อยู่กับเซลล์ต่างๆทั่วร่าง
00:52:10 → 00:52:15 กายนะเอ่าเขาไม่ได้มีผลอะไรมากมายก่ายกอง
00:52:15 → 00:52:18 นักกับคอเลสเตอรอลที่อยู่กับเซลล์เนื้อ
00:52:18 → 00:52:22 เยื่อและอวัยวัต่างๆทั่วร่างกายนะรวมทั้ง
00:52:22 → 00:52:25 เซลล์เนื้อเยื่อต่างๆเหล่านั้นก็ไม่ได้มี
00:52:25 → 00:52:28 ความต้องการการคอเลสเตอรอลจากากอนุภาค
00:52:28 → 00:52:33 ไดโปรตีนนะที่หมุนเวียนเข้าออกเอ่อเลยนะ
00:52:34 → 00:52:38 ฮะนะนอกจากนี้ตรงนี้นะฮะการออกลิกของยา
00:52:38 → 00:52:41 สตินนะฮะซึ่งจะมีผลยับยั้งเฉพาะการสร้าง
00:52:41 → 00:52:45 คอเลสเตอรอลที่ตับเท่านั้นกินสตินเข้าไป
00:52:45 → 00:52:48 แล้วเนี่ยเขาไม่ได้ไปมีผลกับคอเลสเตอรอล
00:52:48 → 00:52:52 ที่อยู่ที่บัเซลล์นะหรืออยู่ที่
00:52:52 → 00:52:54 peripheral ทิชชูอยู่ที่สมงสมองอะไรต่าง
00:52:54 → 00:52:57 ๆมันเกี่ยวเนี่ยเข้าไปบล็อกการสร้าง
00:52:57 → 00:53:05 คอเลสเตอรอลที่ตัดเท่านั้นเท่านั้นนะอนะ
00:53:05 → 00:53:09 อุยทีนี้ตอนเเรารู้แล้วว่าแหมคอเลสเตอรอล
00:53:09 → 00:53:12 มันเกิดขึ้นมามันอยู่ตามร่างกายมันอยู่
00:53:12 → 00:53:15 ตรงนั้นตรงนี้อทั้งหมดนี้คือเรื่องของ
00:53:15 → 00:53:19 มลการหรือเซลลูคอเลสเตอรอลนะฮะเซลลูเอ้
00:53:19 → 00:53:22 คอเลสเตอรอลพวกเนี้ยมันจะต้องมีการหมุน
00:53:22 → 00:53:25 เวียนถ่ายเทยังไงนะฮะกระบวนการอันนี้คือ
00:53:25 → 00:53:27 สำคัญที่สุดก็คือเรียกว่า Reverse
00:53:27 → 00:53:30 cholesterol อ่า Transport หรือ Reverse
00:53:30 → 00:53:34 cholesterol flug นะฮะนะคือ revere
00:53:34 → 00:53:38 หรือ in มันจะมีอ่ามี revere กับ in
00:53:38 → 00:53:40 revere นะฮะนะ Reverse cholesterol
00:53:40 → 00:53:42 Transport เนี่ยก็คือการที่หมุนเวียน
00:53:42 → 00:53:46 คอเลสเตอรอลนะจากทั่ว
00:53:46 → 00:53:52 ทุกต่างๆเหล่าเนี้ยนะฮะนะแล้วมาที่ตัดนะ
00:53:52 → 00:53:54 เพื่อมาเคลียร์ Lance นะฮะเพื่อมาเคลียร์
00:53:54 → 00:53:58 Lance ซึ่งขบวนการเนี่ยนะจะมีทั้ง revere
00:53:58 → 00:54:02 นะเป็น Direct revere กับ indirect
00:54:02 → 00:54:05 Reverse นะฮะนะ direct Reverse
00:54:05 → 00:54:08 cholesterol Transport เนี่ยมันเป็นมัน
00:54:09 → 00:54:13 เป็นการนำคอสเตอมาสู่ตัของ
00:54:13 → 00:54:16 ldl แต่ ind direct Reverse
00:54:16 → 00:54:19 cholesterol Transport เนี่ยมันเป็น
00:54:19 → 00:54:24 เรื่องของ hdl นะฮะที่จะพาคอเลสเตอรอลมา
00:54:24 → 00:54:30 ที่ต่นะเอ่อโดยการเรียกของ Apple E นะฮะ
00:54:30 → 00:54:34 แต่มันก็มาได้ไม่เยอะหรอกนะส่วนใหญ่มันจะ
00:54:34 → 00:54:38 เกิดปฏิกิริยาการถ่ายเทระหว่าง hdl กับ
00:54:38 → 00:54:43 ldl ซะมากกว่าภายใต้อ่าการทำงานของ CP
00:54:43 → 00:54:46 เอนไซม์ตัวนี้นะเพราะอะไรเพราะ apo A1
00:54:46 → 00:54:51 ที่ hdl เนี่ยมันจะถูกนะฮะมันจะถูกโปรตีน
00:54:51 → 00:54:53 ที่เยื่อหุ้มเซลล์เที่เกิดปฏิกิริยาพลัง
00:54:54 → 00:54:57 งานปรับมือเรียกนะให้ไปรับคอเลสเตอรอล
00:54:57 → 00:55:00 ซึ่งเขาก็ต้องไปโดยอัตโนมัติเหมือนกับรถ
00:55:00 → 00:55:03 หวอๆ ambulance เนี่ยนะฮะเพราะว่าอันนี้
00:55:03 → 00:55:06 คือหน้าที่ที่ธรรมชาติหรือวิวัฒนาการ
00:55:06 → 00:55:11 กำหนดขึ้นนะฮะนะส่วนในแง่ที่ว่า hdl จะ
00:55:11 → 00:55:14 ต้องกลับไปที่ตับเพื่อไปถ่ายคอเลสเตอรอล
00:55:14 → 00:55:17 ออกอันนี้อันนี้ไม่ใช่หน้าไม่ใช่เรื่อง
00:55:17 → 00:55:20 หลักนะฮะไม่ใช่เรื่องหลักนะมันเป็นเรื่อง
00:55:20 → 00:55:23 รองเป็นเรื่องรองนะนะเพราะฉะนั้นในเนี้ย
00:55:23 → 00:55:28 นะอ่าฝั่งนี้ก็เป็นอะไรเป็น indir นะฮะ
00:55:28 → 00:55:31 ind direct เนี่ยฝั่งนี้เเรียกว่า indir
00:55:31 → 00:55:34 นะ Reverse cholesterol Transport นะฮะ
00:55:34 → 00:55:37 ก็เป็นเรื่องของ hdl นะฮะที่จะแลกเปลี่ยน
00:55:37 → 00:55:41 กับ ldl นะนอกจากนี้ตัว hdl เนี่ยเาก็ยัง
00:55:41 → 00:55:45 ไปส่งที่ไหนบ้างที่ตับที่ลำไส้นะฮะอ่าที่
00:55:45 → 00:55:50 เนื้อเยื่อไขมันนะิพนะฮะแล้วก็ที่พวกต่อม
00:55:50 → 00:55:53 นะที่จะเอาคอเลสเตอรอลมาเป็นวัตถุตั้งต้น
00:55:53 → 00:55:56 ในการสร้างฮอร์โมนนะก็คือต่อหมวกไตกับโก
00:55:56 → 00:56:01 หนักนะฮะรังไขอันถะนะฝั่งนี้ฝั่งนี้เป็น
00:56:01 → 00:56:04 อ่า direct rever cholesterol
00:56:04 → 00:56:07 Transport นะฮะก็คืออะไรก็คือตัว hdl นะ
00:56:08 → 00:56:12 ฮะนะนะจะต้องมีผู้ช่วยคือตัว ldl อมาช่วย
00:56:12 → 00:56:16 รับมาภายใต้การทำงานของ cetp
00:56:16 → 00:56:20 นะอันนี้แต่ขณะเดียวกันเนี่ยเขาก็มีการ
00:56:20 → 00:56:25 ส่งถ่ายทอดกันระหว่าง vldl กับตัว hdl นะ
00:56:25 → 00:56:27 หรือไม่ก็ vldl กับ ldl อยู่แล้วนะฮะ
00:56:27 → 00:56:30 เพราะไงก็ตาม vldl มันต้องกลับเข้าตัด
00:56:30 → 00:56:35 เนื่องจากนะแรงดึงดูดของ Apple E มันแรง
00:56:35 → 00:56:39 เอ่อมันแรงนะ plma Resident มันสั้นนะนะ
00:56:39 → 00:56:41 แต่อันนี้มันไม่มี Apple E ไม่มี Apple
00:56:41 → 00:56:46 A1 นะฮะเอ้ยโทษที ldl เนี่ยไม่มีพอไม่มี
00:56:46 → 00:56:48 เนี่ยเ่อมันก็เลยมี plma Residence Time
00:56:48 → 00:56:52 นาน 3-5 วันนะยิ่งเป็นภาวะด้วอินซูลิน
00:56:52 → 00:56:56 ด้วยเนี่ยก็บวกขึ้นอีก 1-2 วัน 24-48 ชมม
00:56:56 → 00:57:00 กลายเป็น 7 วันนะก็คือมีเวลารออยู่ในหลอด
00:57:01 → 00:57:04 เลือดกระแสเลือดเี่นานกว่าชาวบ้านเใช่นะ
00:57:04 → 00:57:09 ซึ่งก็จะมีผลเสียแง่ของโอกาสของการที่จะ
00:57:09 → 00:57:13 ทานไซโทซิสตกตะกอนนะกลายเป็นพลาอะไรขึ้น
00:57:13 → 00:57:17 มาตรงนี้สำคัญนะฮะเราพอเข้าใจภาพรวมของ
00:57:17 → 00:57:20 คอเลสเตอรอลในร่างกายหรือยังอันนี้คือ
00:57:20 → 00:57:22 คอเลสเตอรอลนะไม่ได้เกี่ยวอะไรกับไตกีสไล
00:57:22 → 00:57:27 นะฮะนะนะต้องเข้าเข้าใจตรงนี้ด้วยนะฮะ
00:57:27 → 00:57:30 เพราะว่าการเชื่อมต่อระหว่างคอเลสเตอรอล
00:57:30 → 00:57:34 และพลังงานหรือพวกไตกิซต่างๆจะนำไปสู่ผล
00:57:34 → 00:57:38 แลบที่มันจะออกมานะแล้วทำให้เรางงไม่รู้
00:57:38 → 00:57:41 เรื่องรู้ราวนะฮะอันนี้ก็จะเป็นราย
00:57:41 → 00:57:45 ละเอียดนะฮะของคอเลสเตอรอลต่างๆนะฮะอ่า
00:57:45 → 00:57:49 อ่าที่สมองมีมากที่สุดนะฮะ 20% นะฮะเ่า
00:57:49 → 00:57:54 มองเห็นตัวเลขมเอ่อเนี่ย 20% นะฮะของ WH
00:57:54 → 00:57:59 Body คอสอนะนะนะแล้วก็
00:58:00 → 00:58:04 เอ่อคือมันมีบัเน Bar นะฮะในการป้องกันใน
00:58:04 → 00:58:08 เรื่องของคอเลสเตอรอลจากไลโปโปรตีนนะฮะนะ
00:58:08 → 00:58:11 คือสมองไม่ยอมรับนะฮะนะสมองนี่สร้างเอง
00:58:11 → 00:58:13 อยู่แล้วเพราะว่าเป็นเซลล์นะที่มีระบบ
00:58:13 → 00:58:17 พลังงานเสร้างคอเลสเตอรอลขึ้นนะฮะการนำ
00:58:17 → 00:58:20 ส่งอะไรต่างๆเนี่ยสมองจะเป็นตัวกำหนดนะ
00:58:20 → 00:58:24 อะไรบ้างกำหนด AP E นะขึ้นมาเองนะซึ่ง
00:58:24 → 00:58:26 เป็นไลโปโปรตีนชนิดเดียวนะนะที่เกิดขึ้น
00:58:26 → 00:58:30 ไม่มีตัวอื่นนะฮะที่สมองไม่มีตัว C ไม่มี
00:58:30 → 00:58:33 ตัวตัว B อะไรต่างๆไม่มีนะฮะแล้วเซลล์ใน
00:58:33 → 00:58:37 การสร้างสิ่งเหล่านี้ก็คือเเ่อตัวแซตแซต
00:58:37 → 00:58:41 นะฮะมีทั้งเกลี่ยเซลล์ตัวนึงนะฮะเนี่ยเ่า
00:58:41 → 00:58:46 มีเกลี่เซลนะอันนี้คือสมองนะนะแล้ว
00:58:46 → 00:58:50 คอเลสเตอรอลที่สมองสร้างขึ้นเนี่ยมันมี
00:58:50 → 00:58:52 ค่าครึ่งชีวิตนะ
00:58:52 → 00:58:57 นานถึง 5 ปีนะฮะนะก็ไปเนี่ยนะในช่วงหลายๆ
00:58:57 → 00:59:00 ปีจนถึง 5 ปีถึงจะสร้างเข้าครั้งหนึ่งนะ
00:59:00 → 00:59:03 ฮะแล้วการหมุนเวียนคอเลสเตอรอลทปออะไร
00:59:03 → 00:59:07 ต่างๆนะที่สมองเนี่ยมันเป็นมันเป็นมัน
00:59:08 → 00:59:10 เป็นรูปแบบโดยเฉพาะของเขาคอ่ะนะเขาก็จะ
00:59:10 → 00:59:12 ไม่เกี่ยวกับรูปแบบการหมุนเวียน
00:59:12 → 00:59:15 คอเลสเตอรอลที่ตำแหน่งอวัยวะอื่นๆอันนี้
00:59:15 → 00:59:18 เป็นช่องทางพิเศษนะฮะแล้วเขาก็ใช้ตัวใน
00:59:18 → 00:59:21 การหมุนเวียนก็คือเรือนำส่งคือ AP โปรตีน
00:59:21 → 00:59:26 E นะฮะเนี่ยเนี่ยเท่านั้นเท่านั้นนะฮะนะ
00:59:26 → 00:59:29 ซึ่งเนำส่งเก็จะนำส่งออกมาอยู่ในกระแส
00:59:29 → 00:59:33 เลือดนะแล้วมาที่นะเพราะ f ก็ E มันต้อง
00:59:33 → 00:59:38 อ่าไปที่ตัอยู่แล้วนะฮะมันต้องดูถูกดูเพ
00:59:38 → 00:59:41 งั้นคอสเตอ homeostasis เนี่ยนะฮะส่วน
00:59:41 → 00:59:45 ใหญ่ก็คือที่สมองอันดับ 1 นะอยู่ในพลาสมา
00:59:45 → 00:59:50 และ per นะฮะ 1 3 ก็ประมาณนี้นะ
00:59:50 → 00:59:53 เนี่ยแล้วเราก็จะเห็นว่า peripheral Pool
00:59:53 → 00:59:59 นะฮะนะจะมากที่สุดที่สุดนะคอส synesis นะ
00:59:59 → 01:00:03 ฮะนะก็คือร่างกายสร้างขึ้นเอง 70% DIY
01:00:03 → 01:00:08 เนี่ยไม่เกิน 30% นะฮะแล้วก็อวัยวะและ
01:00:08 → 01:00:13 เนื้อเยื่อนะต่างๆนะฮะนะสร้างคอเลสเตอรอล
01:00:13 → 01:00:15 ขึ้นมาเองนะฮะไม่มีความต้องการ
01:00:15 → 01:00:17 คอเลสเตอรอล
01:00:17 → 01:00:22 นะจากตัวไลโปโปรตีนนำส่งใดๆเลยนะฮะนะเขา
01:00:22 → 01:00:24 เป็น endogenous cholesterol
01:00:24 → 01:00:27 biosynthesis นะฮะ
01:00:27 → 01:00:31 แล้วก็ที่ริเวอร์นะฮะสร้างคอเลสเตอรอล 15%
01:00:31 → 01:00:35 นะ 15% นะโดยการสังเคราะห์เองที่ตัวเซลล์
01:00:35 → 01:00:42 ต่นะ 85% เนี่ยนะเกิดขึ้นที่อวัยวะนะนอก
01:00:42 → 01:00:45 ริเวอร์นะที่ไม่ใช่ริเวอร์
01:00:45 → 01:00:49 นะแล้วก็ระบบ homeostasis นะฮะการหมุน
01:00:49 → 01:00:53 เวียนคอเลสเตอก็จะมีอยู่ 3 Pool นะฮะอ่า
01:00:53 → 01:00:57 พูแรกเนี่ยก็แิดอ ting นะฮะนะอันนี้คือ
01:00:57 → 01:01:00 อะไรบ้างก็คือคอเลสเตอรอลที่อยู่กับ
01:01:00 → 01:01:04 ไลโปโปรตีนที่อยู่ในน้ำเลือดนะอ่า
01:01:04 → 01:01:07 คอเลสเตอรอลที่ Red ัเซลลเมลแดงสร้างขึ้น
01:01:07 → 01:01:10 คอเลสเตอรอลที่ตับสร้างขึ้นนะฮะนะแล้ว
01:01:10 → 01:01:15 อวยวะภายในบางอย่างโดยเฉพาะตับอ่อนนะนะ
01:01:15 → 01:01:17 อันนี้มันจะมีการหมุนเวียนคอเลสเตอรอลที่
01:01:17 → 01:01:21 เร็วนะฮะแล้วก็มีการอ่าถ่ายเทออกมาทาง
01:01:21 → 01:01:24 ระบบเลือดนะต่างๆเพราะฉะนั้นคอเลสเตอรอล
01:01:24 → 01:01:30 ที่เราตรวจอยู่ในค่าเลือดอะไรต่างๆนะส่วน
01:01:30 → 01:01:33 ใหญ่นะถ้าจะนึกถึงสาเหตุมีปัญหาที่เลกก
01:01:33 → 01:01:37 เซลล์อะไรมมีปัญหาที่วอร์มมีปัญหาที่เั
01:01:37 → 01:01:41 ออร์แกนพวกตับอ่อนอะไรมเนี่ยเราจะนึกถึง
01:01:41 → 01:01:44 พวกเนี้ยเป็นหลักก่อนเลยนะที่จะเป็นความ
01:01:44 → 01:01:47 สัมพันธ์ที่มันจะรชกันนะฮะระบบเลือดเป็น
01:01:47 → 01:01:50 อะไรเปล่าไม่ได้แดงไม่ได้ขาวนะตับเป็น
01:01:51 → 01:01:55 อะไรมนะตับอ่อนเป็นอะไรมนะก็จะวนๆกันอยู่
01:01:55 → 01:01:58 เนี่ยนะนะหรือที่ไต
01:01:58 → 01:02:04 เอออาจจะมีส่วนนะฮะนะอ่าต่อไประบบเนี่ย
01:02:04 → 01:02:08 intermediate Kinetic Pool นะฮะนะเ่อ
01:02:08 → 01:02:11 อันนี้เนี่ยก็จะหมายถึงเ้าเรียกว่าอวัยวะ
01:02:11 → 01:02:16 ภายในและเ่อเนื้อเยื่อต่างๆที่อยู่ภายนอก
01:02:16 → 01:02:20 นะฮะเอออันนี้เป็นระบบทั่วๆไปนะน่าจะเป็น
01:02:21 → 01:02:24 พวกกระดูกด้วยนะฮะนะอันนี้เป็นระบบที่
01:02:24 → 01:02:29 หมุนเวียนถ่ายเทกลางๆกลางๆนะฮะ
01:02:29 → 01:02:34 นะ slow Pool นะฮะนะ dominate ที่อะไร
01:02:34 → 01:02:38 บ้าง Muscle Skin แล้วก็ adp tissue นะ
01:02:39 → 01:02:42 ฮะเพราะฉะนั้นเเยื่อไขมันผิวหนังแล้วก็
01:02:42 → 01:02:45 กล้ามเนื้อนะอันนี้มีการหมุนเวียนถ่ายเท
01:02:45 → 01:02:50 คอเลสเตอรอลช้ามากนะแต่ทั้ง 3 ระบบหมุน
01:02:50 → 01:02:53 เวียนเนี่ยอันนี้เขาแยกเรื่องสมองออกไป
01:02:53 → 01:02:57 ต้างหากสมองอยู่ทางด้านซ้ายนะฮะอ่าอันนี้
01:02:57 → 01:03:00 ทั้งหมดก็คือเกี่ยวกับคอเลสเตอรอลนะใน
01:03:00 → 01:03:05 ระดับเซลล์ในระดับเซลล์นะฮะมีหมอจะไปต่อ
01:03:05 → 01:03:08 นะนะว่าหลังจากมีคอเลสเตอรอลในระดับเซลล์
01:03:08 → 01:03:11 แล้วร่างกายจะทำยังไงนะการหมุนเวียนถ่าย
01:03:12 → 01:03:14 เทคอเลสเตอรอลนะจากเซลล์จากเนื้อเยื่อ
01:03:14 → 01:03:18 ต่างๆก็จะต้องมีตัวอนุภาคไลโปโปรตีนไปรับ
01:03:18 → 01:03:23 นะก็แล้วแต่จะเป็นอ่าเป็น hdl เป็น ldl
01:03:23 → 01:03:25 อะไรต่างๆเนี่ยเราอันนี้เราก็พูดกันไป
01:03:25 → 01:03:28 แล้วนะรวมทั้งการมีค่าครึ่งชีวิตแล้วก็
01:03:28 → 01:03:32 plma Residence Time นะฮะรวมทั้งนี่ฮะ
01:03:32 → 01:03:37 นะ LD receptor related tin นะเออ
01:03:37 → 01:03:40 อันเนี้ยการกลับตับเนี่ยนะฮะนะถ้าตัว
01:03:40 → 01:03:44 เขียวๆเนี่ยนะมันจะดึงอะไรดึงพวก Apple E
01:03:44 → 01:03:48 นะหรือ Apple b48 นะนะยังมีการดึง Apple
01:03:48 → 01:03:52 100 ด้วยนะแต่แรงของ Apple E มันมันแรง
01:03:52 → 01:03:56 กว่านะพวก B เนี่ยแรงแรงดูดมันจะอ่อนโดย
01:03:56 → 01:03:59 เฉพาะ Apple B 100 อ่อนที่สุดนะเพราะ
01:03:59 → 01:04:03 ฉะนั้นก็ธรรมดาเลยล่ะ ldl เนี่ยมันถึงได้
01:04:03 → 01:04:07 หนืดหนาดชักช้าไปหมดนะฮะใช่มนะแล้วก็มี
01:04:07 → 01:04:09 plma Resident Time มีค่าครึ่งชีวิต
01:04:10 → 01:04:16 นานกว่าเขานะฮะส่วน idl idl เนี่ยเค้าก็
01:04:16 → 01:04:19 idl เค้าก็มีมีทั้ง b มีทั้ง E ด้วยนะฮะ
01:04:19 → 01:04:23 นะนะแต่ idl เนี่ยยังมีตัวเสริมว่าเส้น
01:04:23 → 01:04:26 ผ่าศูนย์กลางของตัวรตเนี่ยมันพอดีกับขนาด
01:04:26 → 01:04:30 อนุภาคอ่ามันก็เลยให้เข้าก่อนเลยนะฮะ
01:04:31 → 01:04:35 เพราะว่าไม่มีแรงเสียดทานอะไรทั้ง
01:04:35 → 01:04:39 สิ้นวันเนี้ที่เราจะพูดกันเนาะอ่า
01:04:39 → 01:04:44 อารัมภบทไปชั่วโมงนึงนะแต่ตรงเนี้ยก็เป็น
01:04:44 → 01:04:48 ใจความสำคัญและนะฮะไายิตัวและคอเลสเตอรอล
01:04:48 → 01:04:52 ในอาหารมีกลไกเพิ่ม ldl คอเลสเตอรอลในแลบ
01:04:52 → 01:04:57 ยังไงนะฮะอันนี้ต้องอ้างอิงคนนี้นะฮะนะ
01:04:57 → 01:05:01 อ่าดร William คอวนะฮะอันนี้เป็น Chief
01:05:01 → 01:05:04 medical officer นะฮะก็คือเป็นหัวหน้า
01:05:04 → 01:05:08 งานวิจัยอันนี้นะฮะนะเนี่ยโดยเฉพาะการพูด
01:05:08 → 01:05:13 ถึงเรื่องไขมันอิ่มตัวนะมีกลไกการเพิ่ม
01:05:13 → 01:05:15 ระดับ ldl คสออย่างไรอันนี้เป็นผลงานที่
01:05:15 → 01:05:18 เขาโดดเด่นซึ่ง
01:05:18 → 01:05:24 อ่าดรแมวเนี่ยอ่าเขาจะอธิบายในระดับใน
01:05:25 → 01:05:29 ระดับเสนะฮะในระดับเซลล์นะก็คือที่เขาพูด
01:05:29 → 01:05:33 ถึง 2 ตารางเยสีเหลืองกับสีฟ้าสีเหลืองจะ
01:05:33 → 01:05:36 เป็นเรื่องของ saturated fatty Acid นะ
01:05:36 → 01:05:40 ฮะมีผลยังไงต่อระดับ ldl ที่มันสูงขึ้นนะ
01:05:40 → 01:05:43 ฮะจะเห็นว่าเฟฟของ ldl กับ Apple B
01:05:43 → 01:05:47 increase หมดเลยนะฮะอันนี้คือการอธิบาย
01:05:47 → 01:05:50 นะฮะเดี๋ยวหมอมีแปลให้นะอันนี้ก็เป็น
01:05:50 → 01:05:54 เปอร์รายงานนะมานานแล้วพิเมื่อประมาณ
01:05:54 → 01:05:58 สิงหาคม 2004 นะฮะก็ประมาณ 20 ปีแล้วนะฮะ
01:05:58 → 01:06:02 อันนี้เก็รู้มานานแล้วไงอือีกอันนึงก็คือ
01:06:02 → 01:06:05 เรื่องของ Diary cholesterol นะฮะนะ di
01:06:06 → 01:06:08 Element cholesterol นะเราก็จะเห็นว่า
01:06:08 → 01:06:13 ldl Apple B เพิ่มหมดเลย inc หมดเลยนะ
01:06:13 → 01:06:16 นะอันนี้ก็เป็นกลไกอ่าเดี๋ยวหมอแปลให้ฟัง
01:06:16 → 01:06:20 นะฮะนะนะไขมันอิ่มตัวมีกลไกในการเพิ่ม
01:06:20 → 01:06:24 ระดับ ldl คอเลสเตอรอลอย่างไรมีตัวโตๆเลย
01:06:24 → 01:06:28 นะฮะคอเลสเตอรอลในอาหาร di asy
01:06:28 → 01:06:31 cholesterol เพิ่ม ldl อย่างไร
01:06:31 → 01:06:36 นะอันนี้คือคำแปลนะฮะเรามาดูกลไกของไขมัน
01:06:36 → 01:06:41 อิ่มตัว saturated Fat ก่อนนะฮะว่านะมี
01:06:41 → 01:06:45 กลไกไปยับยั้งกระบวนการสร้างคอเลสเตอรอล
01:06:45 → 01:06:49 เอสเตอร์ภายในเซลล์นะฮะส่งผลให้มี
01:06:49 → 01:06:54 คอเลสเตอรอลอิสระเพิ่มจำนวนมากขึ้นนะนะ
01:06:54 → 01:06:58 อ่าหลังจากนั้น Action ของฟรีคอเลสเตอรอล
01:06:58 → 01:07:01 เนี่ยนะฮะนะก็
01:07:01 → 01:07:05 อ่าคือฟรีคอเลสเตอรอลที่เกิดขึ้นอ่า
01:07:05 → 01:07:09 เดี๋ยวเห็นภาพอ้าหมอหมอผ่านนะอ่าเรามาดู
01:07:09 → 01:07:12 อันนี้เลยอันนี้คือรูปของเซลล์นะฮะเซลล์
01:07:12 → 01:07:16 เซลล์ก็จะมีนิวเคลียสเป็นแกนกลางนะอ่าใน
01:07:16 → 01:07:19 นิวเคลียสก็มีนิวคลีโอลัสนะฮะนะทนี้
01:07:19 → 01:07:22 อวัยวะที่อยู่ในไซโตพลาสซึมนะฮะนะรอบๆ
01:07:22 → 01:07:26 เซลล์ก็มีอะไรไรโบโซมนะฮะมีเซลล์เมนเป็น
01:07:26 → 01:07:31 เยื่อหุ้มเซลล์มีไรโซมนะมีไมโครทิวบูมี
01:07:31 → 01:07:37 เอ่อไมโทคอนเดรียกอจบอกอจแาันะเซนโซอะไร
01:07:37 → 01:07:41 ต่างๆนะฮะนะแล้วก็ตัวสำคัญที่อยู่รอบๆ
01:07:41 → 01:07:44 นิคสก็คือ endoplasmic
01:07:44 → 01:07:47 reticulum นะ endoplasmic reticulum
01:07:47 → 01:07:51 เป็นออร์แกแนลที่สำคัญนะฮะนะที่สำคัญน่ะ
01:07:52 → 01:07:55 นะที่เาจะต้องเจะต้องมาล้อมไเนี่ย้อม
01:07:55 → 01:07:59 นิวเคลียสนี่แหละนะฮะนะแล้วเก็จะมีอ่า
01:07:59 → 01:08:02 ปฏิกิริยาอะไรต่างๆเกิดขึ้นนะในการช่วย
01:08:02 → 01:08:06 ให้เซลล์เนี่ยอ่ามันดำเนินไปได้แล้วกันนะ
01:08:06 → 01:08:08 ฮะทีนี้ในกรณี saturated Fat หรือ
01:08:08 → 01:08:13 โมเลกุลอของไขมันอิ่มตัวเอ่อไปมีผลยังไร
01:08:13 → 01:08:17 นะฮะเอ่อเขาก็บอกว่ามัน saturated Fat
01:08:17 → 01:08:21 เนี่ยมันไปยับยั้งกระบวนการสร้างนะ
01:08:21 → 01:08:26 คอเลสเตอรอล EST นะฮะนะ
01:08:26 → 01:08:30 ทำให้มีฟรีคอเลสเตอรอลหรือคอเลสเตอรอล
01:08:30 → 01:08:34 อิสระนะภายในเซลล์มากขึ้นมากขึ้นนะแล้ว
01:08:34 → 01:08:38 คอเลสเตอรอลอิสระเนี่ยนะเขาจะมาอยู่ที่
01:08:38 → 01:08:43 endoplasmic reticulum นะแล้วจะเกิด
01:08:43 → 01:08:48 stimulation นะฮะไปที่ตัวโปรตีนชื่อนี้
01:08:48 → 01:08:54 ฮะนะนะ SR ebp เนี่ยนะ stal regulatory
01:08:54 → 01:08:58 Element binding โปรตีนนะฮะนะอ่าโปรตีน
01:08:58 → 01:09:01 ตัวนี้เนี่ยจะ signal ไปยังนิวเคลียสของ
01:09:02 → 01:09:08 เซลล์นะฮะที่อที่จะเป็นการเพิ่มนะสัญญาณ
01:09:08 → 01:09:13 การแสดงออกนะของปรากฏของการปรากฏยีนตัว
01:09:13 → 01:09:19 ลับนะฮะนะให้เพิ่มจำนวนขึ้นนะฮะยีนตัวลับ
01:09:19 → 01:09:21 ตนี้ก็เป็นยีนตัวลับที่เรียกว่า ldl
01:09:22 → 01:09:26 receptor นะที่ผิวของเซลล์เซตที่โดย
01:09:26 → 01:09:30 เฉพาะที่ตัดเนี่ยนะฮะเพราะงั้นฟรี
01:09:30 → 01:09:33 คอเลสเตอรอลไปกระตุ้นโปรตีนตัวนี้นะนะ
01:09:33 → 01:09:36 หรือพูดง่ายๆว่าฟรีคอเลสเตอรอลเนี่ยนะไป
01:09:37 → 01:09:41 กระตุ้นให้มี ldl receptor เพิ่มขึ้นนะ
01:09:41 → 01:09:45 งั้น ldl receptor จะเป็นประตูเปิดรับ
01:09:45 → 01:09:50 คอเลสเตอรอลจาก ldl ได้มากขึ้นนะอ่าต้อง
01:09:50 → 01:09:53 มีฟรีคอเลสเตอรอลเกิดขึ้นในเซลล์เยอะๆ
01:09:53 → 01:09:57 เยอะๆนะฮะ
01:09:57 → 01:10:00 มันก็เลยมีผลต่อตัวโปรตีนตัวนี้นะ
01:10:00 → 01:10:04 ฮะอันนี้เราดูนิดนึงก็ได้นะฮะอันนี้เป็น
01:10:04 → 01:10:10 รูปแบบนะนะของตัวเ่าตัว ldl ตัวเรือนำส่ง
01:10:10 → 01:10:14 พลังงานนะตัวเรือนำส่งพลังงานคือไขมัน
01:10:14 → 01:10:17 อิ่มตัวเนี่ยนะมันก็จะอยู่บน vldl อะไร
01:10:17 → 01:10:20 ต่างๆเหล่าเนี้ยแต่เรือน้ำส่งพลังงาน
01:10:20 → 01:10:24 เนี่ยนะฮะอ่าหลักๆแล้วจะมีอะไรบ้างนะฮะ
01:10:24 → 01:10:29 อ่ามีีคอเลสเตอก็คือ unified cholesterol
01:10:29 → 01:10:32 อันนี้จะอยู่ที่ผิวๆนะฮะนะอยู่ที่ผิวๆนะ
01:10:32 → 01:10:36 ฮะไอ้ตุ่มๆสีเทานี่คือฟอสโฟไลปิดนะเอ่อ
01:10:36 → 01:10:40 ฟอสโฟไลปิดคืออะไรนะก็คือคล้ายๆไตกีสไล
01:10:41 → 01:10:47 อ่ะนะแต่มันมีมันมีตัวอ่ากดไขมันนะอยู่
01:10:47 → 01:10:51 แค่ 2 สายนะฮะแล้วก็มีกอ Black Bone นะ
01:10:51 → 01:10:53 ฮะก็คือ fre fatty Acid มันมีอยู่ 2
01:10:53 → 01:10:57 สายแต่ถ้าเป็นไกินมี 3 นะฟอสโฟไลติดมี 2
01:10:57 → 01:10:58 นะ
01:10:58 → 01:11:02 ฮะงั้นเหมือนเหมือนกับว่าไอ้ตัวฟอสโฟไล
01:11:02 → 01:11:04 ติดเนี่ยมันไม่เค้าเรียกว่ามันไม่เสถียร
01:11:04 → 01:11:07 นักนะฮะมันไม่เสถียรนักนะพวกนี้มันก็อยู่
01:11:08 → 01:11:11 ที่ผิวนะฮะฟรีคอเลสเตอรอลก็อยู่ที่ผิวนะ
01:11:11 → 01:11:16 ฮะแต่คอเลสเตอรอลเนี่ยนะเขาคจะเสถียรต่อ
01:11:16 → 01:11:20 เมื่อเคกลายเป็นคอเลสเตอรอลเออร์นะฮะนะนะ
01:11:20 → 01:11:23 แล้วพอเวลาเค้าเสถียรเนี่ยเค้าก็จะเข้ามา
01:11:23 → 01:11:28 อยู่ที่ส่วนด้านในของอนุภาคเรือนำสรงนะฮะ
01:11:28 → 01:11:32 เหมือนเขาจะได้รับการคุ้มครองนะเนี่ยนะนะ
01:11:32 → 01:11:35 แล้วไตกีสไลเนี่ยก็เข้ามาอยู่ด้วยนะ
01:11:35 → 01:11:39 ไตกีสไลคอเลสเตอรอลเออร์นะฮะเนี่ยนะจะมา
01:11:39 → 01:11:44 อยู่ด้านในๆนะฮะด้านในๆนะก็คือมีทั้งพลัง
01:11:44 → 01:11:47 งานสารอาหารนะรวมทั้งพวกแล้วแต่วิตามิน
01:11:47 → 01:11:51 แร่ธาตุอะไรก็เหอะนะหลังจากนั้นเนี่ยที่
01:11:51 → 01:11:53 อยู่นอกๆเนี่ยคือฟรีคอเลสเตอรอลฟอสโฟไล
01:11:53 → 01:11:58 ปิดนะแล้วก็โปรตีนเ้ B นะอันนี้มันอยู่
01:11:58 → 01:12:03 นอกๆนะฮะในอนุภาคนำส่งพลังงานนะแต่เอ้
01:12:03 → 01:12:07 อื่นๆอะไรก็แล้วแต่แล้วกันนะฮะอันเนี้ยฮะ
01:12:07 → 01:12:10 นะเมื่อไหร่ก็ตามนะที่เรา
01:12:10 → 01:12:16 อ่ากินกดไขมันอิ่มตัวอิ่มตัวนะเข้าไปปุ๊บ
01:12:16 → 01:12:20 นะกดไขมันอิ่มตัวเนี่ยนะเขาจะเออเขาก็จะ
01:12:20 → 01:12:25 ไปอินปิดไปยับยั้งนะไม่ให้เกิดการสร้าง
01:12:25 → 01:12:29 คอเลสเตอรอลเออนะฮะที่จะบรรจุเข้าไปในแกน
01:12:29 → 01:12:33 กลางเนะก็เลยเกิดฟีคอเลสเตอรอลเยอะขึ้นนะ
01:12:33 → 01:12:37 แล้วีคอเลสเตอรอลตัวเนี้ยนะที่มันเยอะๆ
01:12:37 → 01:12:41 เนี่ยมันจะไปกระตุ้นการสร้าง ldl
01:12:41 → 01:12:44 receptor ฮะ
01:12:44 → 01:12:49 นะอันนี้เข้าใจเนาะ
01:12:49 → 01:12:54 นะระดับคอเลสเตอรอลอิสระที่สูงขึ้นนะใน
01:12:54 → 01:12:59 เอนดเรติคูลัมนะจะยับยั้งการทำงานของ
01:12:59 → 01:13:04 โปรตีนนะฮะทำให้เอ่อการปรากฏตัวของตัวลับ
01:13:04 → 01:13:08 นะฮะหรือ ldl receptor ลดลง
01:13:08 → 01:13:13 นะเราอธิบายผิดไปหรือเปล่าเนี่ย
01:13:13 → 01:13:18 นะก็คือฟรีคอเลสเตอรอลเนี่ยนะเขาจะ
01:13:18 → 01:13:22 ไปเขาจะไปกระตุ้นการทำงานของโปรตีนตัวนี้
01:13:22 → 01:13:28 ทำให้การปรากฏตัวของ ldl แซตลดลงอ้าลดลง
01:13:28 → 01:13:34 ละหมออธิบายผิดใช่มยมีใช่ครับใช่ครับช่วง
01:13:34 → 01:13:37 แรกจะพูดอีกแบบนึงนะครับเออช่วงแรกจะพูด
01:13:37 → 01:13:40 อีกแบบนึงเนี่ยครับหรือว่าเราเขียนผิด
01:13:40 → 01:13:44 หรือเปล่าเราเขียนอะไรผิดไปมย
01:13:44 → 01:13:48 นะใช่สิเอ่อฟีคอเลสเตอรอลเนี่ยฮะมันไป
01:13:48 → 01:13:52 inhibit อ่าเ่ามันไป inhibit โปรตีนตัว
01:13:52 → 01:13:57 นี้แต่หมอหมอเออพี่คอยยับ
01:13:57 → 01:14:02 ยั้งใช่มยหรือหมอเขียนขัดกันเองนะตรงนี้
01:14:02 → 01:14:04 ไม่เป็นไรฮะเดี๋ยวเดี๋ยวขอแก้ไขเอาเป็น
01:14:04 → 01:14:07 ว่าอย่างงี้นะฟรีคอเลสเตอรอลนะยับยั้ง
01:14:07 → 01:14:11 โปรตีนตัวนี้นะฮะแล้วอโปรตีนตัวนี้ก็เลย
01:14:11 → 01:14:17 ไปยับยั้งการสร้าง ldl receptor นะประตู
01:14:17 → 01:14:20 ในการเปิดรับคอเลสเตอรอลจาก ldl ก็เลยลด
01:14:20 → 01:14:28 ลงเอางี้แล้วกันนะเอองงๆไปเลยนะ
01:14:28 → 01:14:33 แต่เมื่อคอเลสเตอรอลอิสระถูก exif ให้
01:14:33 → 01:14:38 กลายเป็นคอเลสเตอรอลเออรนะมันจะไม่ยับ
01:14:38 → 01:14:42 ยั้งการกระตุ้นโปรตีนตัวนี้อีกต่อไปนะฮะ
01:14:42 → 01:14:46 นะตรงนี้เติมได้เลยนะฮะนะเ่อการ exif
01:14:46 → 01:14:53 Free คอสอนะทำโดยกดไขมันไม่อิ่มตัวนะฮะ
01:14:53 → 01:14:57 เพราะงั้นเวลาเรากีนกดไมันไม่อิ่มตัวนะฮะ
01:14:57 → 01:15:01 นะร่างกายจะเกิดการเปลี่ยนนะก็คือเกิด
01:15:01 → 01:15:04 กระบวนการ esterification นะฮะเปลี่ยนฟรี
01:15:04 → 01:15:07 คอเลสเตอรอลให้เป็นคอเลสเตอรอลเอสเตอร์พอ
01:15:07 → 01:15:09 คอเลสเตอรอลเอสเตอร์มากขึ้นจะเกิดการ
01:15:09 → 01:15:13 กระตุ้นโปรตีนนะและเกิดการ
01:15:13 → 01:15:23 เอ่อเพิ่มตัวลับซตนะที่ตับมากขึ้น
01:15:23 → 01:15:29 เนาอันนี้เใจเนาะ 1 2 3 4 นะเออเรา
01:15:29 → 01:15:33 ต้องไปแก้ใหม่แล้วล่ะนะเราเลยพูดพูดพูด
01:15:33 → 01:15:36 ง่ายๆว่าไขมันอิ่มตัวเนี่ยกินเข้าไปเยอะๆ
01:15:36 → 01:15:40 แล้วมันจะทำให้ตัวลับ ldl เนี่ยลดลงใช่ฮะ
01:15:41 → 01:15:43 แล้วก็ถ้าเป็นไขมันไม่อิ่มตัวเนี่ยถ้ากิน
01:15:43 → 01:15:46 เข้าไปเนี่ยมันจะไปเพิ่มตัวรับให้มากขึ้น
01:15:46 → 01:15:50 ใช่นะตามกลไกนี้เ่อตามกลไกนี้ก็คือผ่าน
01:15:50 → 01:15:55 โปรตีนตัวนี้นะผ่านอวัยยวะ
01:15:55 → 01:16:01 ต่างๆที่อยู่ในไึและและเขาจะไปเไป signal
01:16:01 → 01:16:05 นะกับคำสั่งที่อยู่ในนิวเคียสนะฮะนะคือ
01:16:05 → 01:16:09 อันเนี้ยมันเป็นงานวิจัยของของอ่าหมอวิม
01:16:09 → 01:16:15 ควลนะที่นะเมาพูดถึงกลไกในระดับลึกนะนะ
01:16:15 → 01:16:18 ที่เป็นปฏิกิริยาแบบเนี้ยนะฮะให้เราได้
01:16:18 → 01:16:23 เข้าใจนะแต่อันเนี้ยหมอโทษทีหมอก็แปลมา
01:16:23 → 01:16:26 จากตรงนี้แหละนะเนี่ยๆเนี่ยก็แปลมาจากตรง
01:16:26 → 01:16:29 เนี้ยนะแต่เดี๋ยวจะไปเรียบเรียงใหม่ให้ดี
01:16:29 → 01:16:32 นะฮะออกออกมานานยังครับพี่หมอไอ้ไอคำ
01:16:32 → 01:16:36 อธิบายเนี่ยหรือว่าเพิออกคำบนี่ก็ออกมา
01:16:36 → 01:16:41 นานแล้วนะนะอืนานแล้วเเอร์เยตีพิมพ์ไป
01:16:41 → 01:16:46 เมื่อปี 2004 20 ปีแล้วอ่ะอ๋อครับผม 20
01:16:46 → 01:16:49 ปีแล้วอ่ะเค้าก็รู้กันมาไงว่าไมันอิ่มตัว
01:16:49 → 01:16:53 เนี่ยมันเพิ่มคอเลสเตอรอลคือมันเพิ่ม ldl
01:16:53 → 01:16:56 คอเลสเตอรอล
01:16:56 → 01:17:01 นะเพราะว่ามันทำให้ตัวซตลด
01:17:01 → 01:17:07 ลงผมยังงงกับคำว่าอะไรนะฟรีคอเลสเตอรอล
01:17:07 → 01:17:12 กับคอเลสเตอรอลที่เป็นคอสเตอ ester อครับ
01:17:12 → 01:17:17 พี่หมอคือคอเลสเตอรอลเนี่ยมันก็มีเป็นแบบ
01:17:17 → 01:17:20 เป็นแบบที่เสถียรกับไม่เสถียรถ้ามันเป็น
01:17:20 → 01:17:22 ฟรีคอเลสเตอรอลเนี่ยเค้าเรียกว่ามันเป็น
01:17:22 → 01:17:25 คอเลสเตอรอลที่
01:17:25 → 01:17:28 ที่มันที่ที่มันไม่ไม่นิ่งอ่ะที่มันไม่
01:17:28 → 01:17:32 นิ่งอ่ะมันคือส่วนใหญ่อ่ะร่างกายอ่ะก็จะ
01:17:32 → 01:17:35 ต้องการให้อนุภาคหรือโมเลกุลอ่าทุกๆสิ่ง
01:17:35 → 01:17:38 ทุกอย่างเนี่ยนะ
01:17:38 → 01:17:41 เอ่อคือมันค่อนข้างมีความเสถียรเคก็จะมี
01:17:41 → 01:17:45 ปฏิกิริยาบางสิ่งบางอย่างอ่ะที่จะมาทำให้
01:17:45 → 01:17:49 เ่ามันอยู่ในร่องในรอยนะแล้วเมื่อมัน
01:17:49 → 01:17:54 เสถียรเนี่ยนะมันจะไม่มีปัญหาเยอะนะฮะนะ
01:17:54 → 01:18:00 เดี๋ยวเอาไปไหนะเนี่ยๆ
01:18:00 → 01:18:05 เทำไมอ่ะทำไมอนุภาคพวกเนี้ยนะที่ vldl
01:18:05 → 01:18:07 มันออกมาจากตับนะ
01:18:07 → 01:18:10 แล้วแล้วมันจะต้องเอาคอเลสเตอรอลใส่เข้า
01:18:10 → 01:18:13 ไปด้วยนะคือ vldl เนี่ยมันก็มีการ
01:18:13 → 01:18:17 รีแพคเกจไตกิสไลนขึ้นมาใหม่ใช่มั้ยล่ะนะ
01:18:17 → 01:18:20 มันก็จะมีโปรตีนมีไตกีลอะไรต่างๆนะแล้วก็
01:18:21 → 01:18:23 มีฟอสโฟไลปิดมีอะไรของมันเนี่ยแต่ทำไมเ
01:18:23 → 01:18:28 ถึงได้ต้องมีตัวคอเลสเตอรอลเอสเตอร์ใส่
01:18:28 → 01:18:32 เข้าไปในโมเลกุลอันนี้ในอนุภาคอันนี้ใน
01:18:32 → 01:18:35 เรือนำส่งเรือลำเนี้ยเพราะอะไรเอไม่ใส่
01:18:35 → 01:18:41 คอเลสเตอรอลได้มอ่ะไม่ได้ฮะนะเพราะไม่
01:18:41 → 01:18:44 งั้นเรือมันแล่นไม่ไม่ฉิวอ่ะเคยบอกไปแล้ว
01:18:44 → 01:18:48 ไงว่าเรือพวกเนี้ยนะนะปกติเนี่ยเขาจะแบน
01:18:48 → 01:18:52 แดนพอมีคอเลสเตอรอลเอสเตอร์เข้าไปเนี่ยนะ
01:18:52 → 01:18:57 เขาก็จะพองเป็นแบบแบบกลมๆนะอ่าเป็นแบบกลม
01:18:57 → 01:19:02 ๆรีๆกลมๆซึ่งการลักษณะเป็นกลมๆรีการ
01:19:02 → 01:19:06 เคลื่อนที่ไปในไปในน้ำเหลืองน้ำเลื่อด
01:19:06 → 01:19:08 อะไรต่างๆเนี่ยมันจะ Flow ได้ดีมันจะ
01:19:08 → 01:19:10 กลิ้งมันจะหมุนเวียนถ่ายเทพลังงานได้ดี
01:19:10 → 01:19:14 กว่านะฮะแต่ถ้ามันแบนๆเนี่ยมันไม่ได้นะฮะ
01:19:14 → 01:19:18 เอันนี้คือประโยชน์ของคอเลสเตอรอลเออรนะ
01:19:18 → 01:19:21 เพราะว่าร่างกายก็จะต้องมีวิธีการเที่ทำ
01:19:21 → 01:19:23 ให้ฟรีคอเลสเตอรอลเนี่ยเปลี่ยนเป็น
01:19:23 → 01:19:28 คอเลสเตอรอลเอสเอและอ่ามาอยู่มาเก็บงำ
01:19:28 → 01:19:31 หรือว่ามาสะสมอยู่ในเรือนำส่งพลังงานตัว
01:19:31 → 01:19:34 เนี้ยนะโดยที่ทำให้รูปร่างหรือเชฟของมัน
01:19:34 → 01:19:38 เนี่ยนะกลมๆรีๆนะแล้วก็หมุนเวียนไปในระบบ
01:19:38 → 01:19:41 หมุนเวียนกระแสเลือดได้ได้อย่างคล่อง
01:19:41 → 01:19:45 แคล้วนะฮะนะอันนี้ก็เป็นเป็นเป็นเรื่อง
01:19:45 → 01:19:48 ของการที่ร่างกายเมีวิวัฒนาการที่จะต้อง
01:19:48 → 01:19:51 ปรับโครงสร้างบางอย่างของตัวคอเลสเตอรอล
01:19:51 → 01:19:53 นะดังนั้นเนี่ยฟรีคอเลสเตอรอลเนี่ยก็คือ
01:19:53 → 01:19:57 คอเลสเตอรอลที่สร้างขึ้นมาแบบที่มันออกมา
01:19:57 → 01:20:00 จากเซลล์ใช่มั้ยครับพี่หมอใช่ๆแล้วแล้ว
01:20:00 → 01:20:02 คือยังไม่ได้ผ่านกระบวนการอะไรให้มันเป็น
01:20:02 → 01:20:08 เออใช่มยใช่นะการที่ีคอเลสเตอเนี่ยจะเกิด
01:20:09 → 01:20:12 กระบวนการ esterification ได้เนี่ยก็คือ
01:20:12 → 01:20:16 จะต้องมีมีมีคล้ายๆมีไินนี่แหละนะฮะนะโดย
01:20:16 → 01:20:20 เฉพาะฟ่านี่แหละนะมันเกิดปฏิกิริยานะที่
01:20:21 → 01:20:24 ทำให้มันเปลี่ยนเป็นกระบวนการเ่อ S
01:20:24 → 01:20:27 certification แล้วกลายเป็นคอสอ ester
01:20:27 → 01:20:31 เออแล้วก็ร่างกายก็ใช้คอเลสเตอเออเนี่ยมา
01:20:31 → 01:20:36 ใส่เข้าไปในนี้นะก็เป็นอย่างเงี้อ๋อแปล
01:20:36 → 01:20:38 ว่าคอเลสเตอรอลในร่างกายเราก็มีทั้งทั้ง
01:20:38 → 01:20:42 เป็นฟรีคอเลสเตอรอลแล้วก็คอสอ ester ใช่
01:20:42 → 01:20:44 มั้ยครับอยู่ในฟอร์มของ
01:20:44 → 01:20:49 เอฟนะอ๋ออ๋อส่วนใหญ่จะเป็นเอฟอมเหรอครับ
01:20:49 → 01:20:51 พี่หมอต้องเป็น
01:20:51 → 01:20:55 form อืมีคนถามพทำไมอรถามว่าถ้ามีฟรี
01:20:56 → 01:20:58 คอเลสเตอรอลเยอะคือไม่ดีใช่มั้ยคะถ้ามี
01:20:58 → 01:21:03 ฟรีคอเลสเตอรอลเยอะไม่ดีฮะอืคุณหมอมีนัก
01:21:03 → 01:21:05 เรียนเริ่มง่วงแล้ว
01:21:05 → 01:21:06 [เพลง]
01:21:06 → 01:21:10 ครับกำลังจะบอกอีกเรื่อง
01:21:10 → 01:21:14 นึงสิ่งนี้เนี่ยนะครับเรามีบทบาทของ idl
01:21:14 → 01:21:19 คอเลสเตอรอลด้วยนะฮะนะอืเมื่อไรตามนะฮะ
01:21:19 → 01:21:22 เมื่อไหร่ก็ตามที่มีเ่อปัญหาของไครมัน
01:21:22 → 01:21:26 อิ่มตัว saturated Fat เนี่ยนะฮะมาทำให้
01:21:26 → 01:21:30 ldl receptor มันลดลงนะฮะนะเมื่อนั้น
01:21:30 → 01:21:34 เนี่ยเมื่อนั้นนะฮะก็จะเป็นปัญหาของ
01:21:34 → 01:21:38 idl ที่จะเข้าประตูที่มันว่าพอดีกัน
01:21:39 → 01:21:44 เนี่ยนะนะมันก็จะเข้าไม่ได้เออเข้าได้แต่
01:21:44 → 01:21:49 ว่ามันก็มันแทนที่จะเข้าได้แบบตามปกติอ่ะ
01:21:49 → 01:21:53 นะมันก็จะเหลือสะสมมากขึ้นไปด้วยนะฮะนะที
01:21:53 → 01:21:57 นี้ idl เนี่ยปรากฏว่าถ้าถ้า half หรือ
01:21:57 → 01:21:59 plma Resident Time เนานขึ้นเนี่ยนะ
01:21:59 → 01:22:03 เขาจะเปลี่ยนฟอร์มเป็นเเปลี่ยนฟอร์มเป็น
01:22:03 → 01:22:06 ldl นะฮะนะเพราะฉะนั้นเมื่อไหร่ก็ตามที่
01:22:06 → 01:22:09 เกิดปัญหา ldl receptor ลดลงเมื่อนั้น
01:22:09 → 01:22:15 idl จะเปลี่ยนฟอร์มนะฮะใหม่กลายเป็น ldl
01:22:15 → 01:22:18 Small ไปด้วยเพราะฉะนั้น ldl จะเพิ่ม
01:22:18 → 01:22:22 ขึ้นด้วยนะอันนี้ก็เป็นอีกเรื่องนึงที่
01:22:22 → 01:22:24 เราต้องรู้เรื่องเกี่ยวกับ ID
01:22:24 → 01:22:28 คอเลสเตอรอลด้วยนะ
01:22:28 → 01:22:33 ฮะนะเช่นเดียวกันนะฮะนะอีกส่วนหนึงเนี่ย
01:22:33 → 01:22:38 นะที่วิมคอวเนี่ยได้อธิบายนะก็พาดพิงมา
01:22:38 → 01:22:42 ถึง Dior cholesterol ด้วยนะฮะนะซึ่ง
01:22:42 → 01:22:45 เหมือนกันนะฮะคอเลสเตอรอลในอาหารในอาหาร
01:22:45 → 01:22:49 นะฮะจะมีปฏิกิริยาในการลดการทำงานของตัว
01:22:49 → 01:22:55 ลับ ldl คอเลสเตอรอลที่ต่ำเ่าลงไปด้วย
01:22:55 → 01:23:00 คือเวลาที่เรากินอาหารไขมันนะคอเลสเตอรอล
01:23:00 → 01:23:04 ก็จะไปกับไขมันเข้าสู่ระบบน้ำเหลืองนะอ่า
01:23:04 → 01:23:06 แล้วถ้าเกิดปฏิกิริยาตอนนั้นเนี่ยร่างกาย
01:23:06 → 01:23:11 ใช้พลังงานได้นะฮอร์โมนลูกเทพออกมานะก็จะ
01:23:11 → 01:23:15 มีการใช้พลังงานนะของเรือนำส่งไคโรไมคอน
01:23:15 → 01:23:20 ในระบบน้ำเหลืองนะอ่าแล้วตัวไบคอนและ hdl
01:23:20 → 01:23:23 ก็จะมารับคอเลสเตอรอลที่เกิดขึ้นจาก
01:23:23 → 01:23:26 ปฏิกิริยาสสลเผ่าผันพลังงานไปด้วยนะหลัง
01:23:26 → 01:23:30 จากนั้นก็ข้ามฟากเข้ามาอยู่ในระบบเลือด
01:23:30 → 01:23:33 เข้ามาอยู่ในระบบเลือดซึ่งนะตัว
01:23:33 → 01:23:37 คอเลสเตอรอลที่มากับไขมันอิมตัวนะก็จะ
01:23:37 → 01:23:42 เข้าไปที่รตที่ต่ดนะเพราะว่าตัวไมอ rem
01:23:42 → 01:23:45 เนี่ยมันถูกดูดเพราะว่ามันมี Apple E นะ
01:23:45 → 01:23:50 ฮะเมื่อนั้นเมื่อนั้นเป็นไง
01:23:51 → 01:23:55 ก็คอเลสเตอรอลเนี่ยก็จะไปคั่งพูสะสมอยู่
01:23:55 → 01:23:59 ที่ต่ำนะฮะนะแต่มันเป็นคอเลสเตอรอล Out
01:23:59 → 01:24:01 source คือเป็นคอเลสเตอรอลที่กินจาก
01:24:01 → 01:24:04 อาหารที่บอกไปเมื่อกี้เนี่ยว่าตับเแฮปปี้
01:24:04 → 01:24:09 เชอบเอิ่มเอมเปรมปีนะว่าเได้คอเลสเตอรอล
01:24:09 → 01:24:15 ที่ดีนะจะได้ไม่ต้องมีการอ่าเอ่อไอิแนลไป
01:24:15 → 01:24:18 ให้ร่างกายที่จะสร้างคอเลสเตอรอลเยอะๆนะ
01:24:18 → 01:24:21 ฮะเพราะฉะนั้นเวลาที่มันมีคอเลสเตอรอล
01:24:21 → 01:24:25 เหล่าเนี้ยนะฮะไปสะสมที่ตับนะแล้วตับ
01:24:25 → 01:24:29 เนี่ยเขาก็มีคอเลสเตอรอลนะที่ไม่ต้องไป
01:24:29 → 01:24:34 กระตุ้นให้ร่างกายสร้างขึ้นนะตับก็จะเกิด
01:24:34 → 01:24:40 นะเนี่ยการส่งสัญญาณนะฮะอ่าไปให้การสร้าง
01:24:40 → 01:24:43 หรือการปรากฏของ ldl receptor นะที่จะ
01:24:43 → 01:24:47 รับเ่อคอเลสเตอรอลจาก ldl เข้าไปเนี่ยลด
01:24:47 → 01:24:53 ลงลดลงนะอ่าแล้วเช่นเดียวกันนะฮะ idl นะ
01:24:53 → 01:24:57 เมื่อพบว่าประตูในการที่จะรับคอเลสเตอรอล
01:24:57 → 01:25:01 นะของตับลดลงเมื่อไหร่เมื่อนั้นนะเาก็จะ
01:25:01 → 01:25:05 เปลี่ยนกลายไปเป็น Small ldl นะซึ่งเป็น
01:25:05 → 01:25:08 การเพิ่ม ldl particle และเพิ่ม ldl
01:25:08 → 01:25:10 คอเลสเตอรอลมาก
01:25:10 → 01:25:12 ขึ้นก็เอาอย่าง
01:25:12 → 01:25:16 เงี้ยก็คือตับเนี่ยมันมันได้มันมันพอมัน
01:25:16 → 01:25:19 ได้คอเลสเตอรอลเนี่ยนะที่บอกเมื่อกี้ว่าเ
01:25:19 → 01:25:24 ชอบคอเลสเตอจากกิงเข้าไปนะอ่าแล้วไงอ่ะ
01:25:24 → 01:25:28 แล้วก็พอเได้แล้วเก็เลยเหมือนมีกลไกอ่ะ
01:25:28 → 01:25:34 เอ่อไปบอกเลยว่าเ้าติดประตูนะหรือไม่ต้อง
01:25:34 → 01:25:38 มีประตูนะนะตอนเนี้ยยังไม่รับไม่รับนะนะ
01:25:38 → 01:25:43 มีคอเลสเตอรอลเพียงพอแล้วนะฮะ
01:25:43 → 01:25:45 เอเข้าใจ
01:25:45 → 01:25:50 มยเพราะฉะนั้นครับทั้งเรื่องเนี่ยก็เลย
01:25:50 → 01:25:54 เป็นเหตุเที่ทำให้ Total คสอและ ldl ใน
01:25:54 → 01:25:58 เลือดมันเพิ่มขึ้นมันเพิ่มขึ้นนะฮะอันนี้
01:25:58 → 01:26:03 ก็คือเป็นข้ออธิบายนะของ vum ควนะ
01:26:03 → 01:26:08 ฮะอันนี้ก็อย่างโครงสร้างเของเรือเนี่ยนะ
01:26:08 → 01:26:12 ฮะนะฟรีคอเลสเตอรอลเนี่ย 88% นะแต่
01:26:12 → 01:26:16 คอเลสเตอรอลเอสเทอร์ 42% คือยังไงยังไง
01:26:16 → 01:26:19 ร่างกายอ่ะจะต้องทำให้อยู่ในรูปของตัวที่
01:26:19 → 01:26:24 มันเสถียรกว่านะฮะนะเอ่อพวกเนี้ยนะเพราะฟ
01:26:24 → 01:26:27 คอเลสเตอรอลเนี่ยมันก็ถูกโจมตีด้วยอนุมูล
01:26:27 → 01:26:31 อิสระถูกโจมตีด้วยน้ำตาลถูกโจมตีด้วยไข
01:26:31 → 01:26:35 มันไม่ดีอ่าหรือความรุ้งความร้อนอะไรต่าง
01:26:35 → 01:26:39 ๆเพราะความไม่เสถียรของเานะอันนี้ระหว่าง
01:26:39 → 01:26:42 คอเลสเตอรอลเอสเตอร์กับฟรีคอเลสเตอรอลนะ
01:26:42 → 01:26:44 แล้วตัวคอเลสเตอรอลเอสเตอร์ก็เข้าไปอยู่
01:26:45 → 01:26:49 ข้างในนะถูกห้อมล้อมไว้อย่างดีนะฮะนะส่วน
01:26:49 → 01:26:52 ฟรีคอเลสเตอรอลก็อยู่ข้างนอกพร้อมๆกับ
01:26:52 → 01:26:57 ฟอสโฟไลปินะแล้วก็ตไกินนะฮะเวลาที่เ่อ
01:26:57 → 01:27:00 เซลล์เเรียกว่าต้องการพลังงานนะไลโป
01:27:00 → 01:27:04 โปรตีนไลเปสย่อยสลายไตกีสไลนะเพราะฉะนั้น
01:27:04 → 01:27:06 ฟอสโฟไลปิดฟรีคอเลสเตอรอลก็กระเด็นออกไป
01:27:06 → 01:27:11 ด้วยเลยนะฮะนะซึ่งนี่แหละสิ่งเหล่านี้ล่ะ
01:27:11 → 01:27:16 นะไอ้ตัว hdl ก็จะต้องนะมี Apple A1
01:27:16 → 01:27:20 แล้วก็มารุมล้อมแล้วก็มิ่งกลายเป็น hdl
01:27:20 → 01:27:27 ขึ้นมาอ่าส่วนไกีก็ถูกเซลล์ใช้ไป
01:27:27 → 01:27:30 นะอันนี้ก็จะเป็นเรื่องราวของการ
01:27:30 → 01:27:34 สังเคราะห์และ metabolism ของ ldl นะฮะนะ
01:27:34 → 01:27:37 ที่เกิดขึ้น
01:27:37 → 01:27:40 นะแล้วก็เป็นเรื่องของการกลายพันธุ์ของ
01:27:40 → 01:27:44 ยีนที่ ldl receptor นะนะซึ่งในปัจจุบัน
01:27:44 → 01:27:48 เนี่ยการกายพันธุ์เพิ่มมากขึ้นนะในหลายๆ
01:27:48 → 01:27:59 การกายพันธุ์แล้วเป็นระดับพัน
01:27:59 → 01:28:04 เรามาดูคำถามนะฮะเรามาดูคำถามอ่าเรามาดู
01:28:04 → 01:28:07 ทิกเล็กทิกน้อยนะฮะเกี่ยวกับ ldl
01:28:07 → 01:28:09 คอเลสเตอรอลเรารู้ว่า ldl คอเลสเตอรอล
01:28:10 → 01:28:13 เนี่ยมี type a กับ type B เป็นหลักนะ
01:28:13 → 01:28:18 ฮะนะอ่าก็คือใหญ่กับเล็กนะฮะนะแล้วเราก็
01:28:18 → 01:28:22 บอกว่าเล็กเนี่ย Small เนี่ยอ่าอ่าแต่
01:28:22 → 01:28:24 ก่อนเนี่ยเราก็รู้แล้วว่าเออเเมีโอกาส
01:28:24 → 01:28:27 เนาะที่จะทำให้เกิดภาวะความเสี่ยงต่อ as
01:28:27 → 01:28:33 cvd ารอ่าินะอ่าแล้วก็อ่าพวกเนี้ยมัน
01:28:33 → 01:28:37 เพิ่มขึ้นโดยคฟ Diet นะฮะนะโดยการเป็น
01:28:37 → 01:28:40 ภาวะี้อินซูลินนะแล้วก็ไม่สามารถที่จะลด
01:28:40 → 01:28:47 ลงได้ด้วยสปินนะเอต่างกันนะฮะถ้าเป็นอ่า
01:28:47 → 01:28:52 เ้าเรียก R บอหยานะฮะบอยยานะฮะนะอันนี้
01:28:52 → 01:28:56 อ่าแต่ก่อนเ้าคิดว่าไม่มีผลนะฮะนะต่อการ
01:28:56 → 01:29:00 เกิดความเสี่ยงที่จะเป็น svd นะฮะนะและ
01:29:00 → 01:29:03 increase by saturated fatty Diet
01:29:03 → 01:29:12 นะฮะเ่าแล้วก็ลดลงนะโดย Action ของสินะ
01:29:12 → 01:29:17 ฮะถ้าหมอเอาตารางอันนี้มาประกบทางด้าน
01:29:17 → 01:29:20 ซ้ายมือเราพอจะแยกอะไรได้
01:29:20 → 01:29:26 มก็คือในเรื่องของเ่าการหมุนเวียนเของ
01:29:26 → 01:29:30 คอเลสเตอรอลโดยเรือนำส่งพลังงานเนี่ยนะนะ
01:29:30 → 01:29:33 ถ้าเรากินถูกนะฮะหมอใช้คำว่ากินถูกกิน
01:29:33 → 01:29:37 เป็นเอ่อกินดีกินเหมาะสมนะฮะกินถูกเมื่อ
01:29:37 → 01:29:40 ไหร่นะฮะนะระบบพลังงานจะอยู่ในระบบน้ำ
01:29:40 → 01:29:44 เรือนะร่างกายต่างๆเซลล์ต่างๆเนื้อเยื่อ
01:29:44 → 01:29:49 ต่างๆวัยย่อยต่างๆเกือบ 80% นะนะนะเขาก็
01:29:49 → 01:29:52 จะใช้พลังงานในระบบเนี้ยเป็นหลักนะฮะนะ
01:29:52 → 01:29:55 เพราะฉะนั้นการใช้พลังงานในในระบบนี้นะจะ
01:29:56 → 01:30:00 เกิดนะคอเลสเตอรอลมั้ยฮะเกิดนะแล้ว
01:30:00 → 01:30:03 คอเลสเตอรอลที่เกิดกับพลังงานในระบบเนี้ย
01:30:03 → 01:30:05 ซึ่งพลังงานการใช้พลังงานในระบบเนี้ยมัน
01:30:05 → 01:30:08 เป็นพลังงานโดยการแพร่ไม่ได้มีขั้นตอน
01:30:08 → 01:30:13 เยอะแยะเออ่าแล้วก็ฮอร์โมนก็ไม่ได้ทำงาน
01:30:13 → 01:30:17 หนักหนาเอ่อร้ายแรงร้ายกาจมากมายอะไรต่าง
01:30:17 → 01:30:23 ๆเป็นแบบสบายๆไปหมดเลยนะฮะนะพวกนี้เกิด
01:30:23 → 01:30:26 อะไรก็เกิดเกิด ldl type a นะฮะเพราะ
01:30:26 → 01:30:29 ฉะนั้นเนี่ยถ้ากินไขมันอย่างเหมาะสมถูก
01:30:29 → 01:30:32 ต้องไม่เพียงแต่ saturated Fat นะฮะนะ
01:30:32 → 01:30:34 คือจะเป็น saturated Fat เดี่ยวๆไม่ได้
01:30:34 → 01:30:38 นะฮะก็จะต้องอ่าเป็นแบบ Good Healthy
01:30:38 → 01:30:41 Fat อิ่มเดี่ยวซ้อนตามสัดส่วนและปริมาณ
01:30:41 → 01:30:46 นะเนี่ยอเพราะฉะนั้นเนี่ยตามที่บอกนะฮะใน
01:30:46 → 01:30:49 ที่สุดแล้วเนี่ยนะตัว ldl คอเลสเตอรอล
01:30:49 → 01:30:56 เนี่ยนะที่มันเกิดขึ้นนะและอ่ามันก็จะอ่า
01:30:56 → 01:31:00 มีการส่งต่อส่งผ่านนะโดยไมคอนกับ hdl
01:31:00 → 01:31:03 อะไรต่างๆเข้าสู่ระบบน้ำเลือดและมาเข้า
01:31:03 → 01:31:05 ที่ตัมาเข้าที่ตับ
01:31:05 → 01:31:10 นะเขาบอกว่า Lower by statin คุณกิน
01:31:10 → 01:31:14 สตินเข้าไปปุ๊บนะไขมันอิ่มตัวคอเลสเตอรอล
01:31:14 → 01:31:17 ที่มาทางเบอร์ 4 และเข้าตับพวกเนี้ยเป็น
01:31:17 → 01:31:19 ไง
01:31:19 → 01:31:25 นะสติก็ไปบล็อกนะการสังเคราะห์คคอสอที่ต่
01:31:25 → 01:31:31 นะทันทีนะเพราะฉะนั้นไอ้ตัวที่มาทางระบบ
01:31:31 → 01:31:35 นี้ปุ๊บเนี่ยนะนะก็ใช้การอะไรไม่ได้นะ
01:31:35 → 01:31:40 เพราะเถูกมีตัวยามาบล็อกบล็อกเอนไซม์ hmg
01:31:40 → 01:31:42 co redu
01:31:42 → 01:31:48 นะในทางตรงกางข้ามนะ SM ldl เนี่ยนะเ
01:31:48 → 01:31:51 อยู่ในระบบเบอร์ 5 ใช่มั้ยล่ะเออกไปใน
01:31:51 → 01:31:55 ระบบเลือดพวกเนี้ยนะฮะนะนะแล้วมีตัว
01:31:55 → 01:32:01 กระตุ้นนะจะเป็นคาฟจะเป็นไโปรตีนนะหรือจะ
01:32:01 → 01:32:05 เป็นเรื่องของแฟตที่ไม่ดีอะไรก็ตามนะฮะนะ
01:32:05 → 01:32:08 แต่คาฟนี่ก็เด่นมากเลยล่ะนะเพราะว่าตัว
01:32:08 → 01:32:12 นี้เขาก็มาพร้อมกับอินซูลินด้วยนะยังไงก็
01:32:13 → 01:32:16 ตามพวกนี้เนี่ยนะมันก็จะเกิดปฏิกิริยาทา
01:32:16 → 01:32:19 ด้านสะสมหรือเผาผาญแบบไม่ดีแล้วก็เกิด
01:32:19 → 01:32:21 คอเลสเตอรอลคอเลสเตอรอลก็จะต้องมีการส่ง
01:32:22 → 01:32:24 ออกนะฮะในระบบเลือด
01:32:24 → 01:32:27 กลายเป็น vldl นะแล้วก็เป็นหมุนเวียนชั่ว
01:32:27 → 01:32:32 คราวแล้วก็กลับมาที่ตัดนะฮะนะซึ่งก็จะ
01:32:32 → 01:32:36 กลายเป็น ldl type B และเป็น Small นะ
01:32:36 → 01:32:39 เราก็จะเห็นว่าอันเนี้ยมันอยู่ในระบบ
01:32:39 → 01:32:42 เลือดซึ่งเป็นระบบที่จะเกิดเรื่องเกิดราว
01:32:42 → 01:32:46 ที่จะไปเกิดทานไซโตสิเกิดการตกตะกอนเกิด
01:32:46 → 01:32:50 พลอะไรต่างๆที่ผนังหลอดเลือดนะเพราะ
01:32:50 → 01:32:53 ฉะนั้นเรามองออกหรือยังอ่ะว่าถ้าเรากิน
01:32:53 → 01:32:57 กินเป็นเรามีความรู้นะเราจัดสรรสิ่งต่างๆ
01:32:57 → 01:33:02 ที่ถูกต้องเราให้พลังงานอ่าในระบบท่อน้ำ
01:33:02 → 01:33:05 ที่ถูกต้องเหมาะสมเนี่ยมันจะต้องไปเดือด
01:33:05 → 01:33:09 ร้อน evl dl ออกทางระบบเลือดแล้วก็ไป
01:33:09 → 01:33:12 เกิดการเจาะเลือดแล้วค่านั่นค่านี่สูง
01:33:12 → 01:33:15 แล้วก็มาตกตะกอนแล้วก็จะเป็นพารเป็นอะไร
01:33:15 → 01:33:19 ต่างๆมยล่ะนะฮะเพราะบอกแล้วว่าระบบเยถ้า
01:33:19 → 01:33:22 ทำงานได้สัก 80% น่ะโอ้ optimal Health
01:33:22 → 01:33:25 optimal Health อยู่แล้วแล้วนะฮะเพราะ
01:33:25 → 01:33:28 งั้นเราไม่ต้องมาเผื่อเหลือเผื่อให้ตับเ
01:33:28 → 01:33:30 ต้องทำงานหนักในการสร้างไตกิสลายตัวใหม่
01:33:30 → 01:33:35 เอาคอเลสเตอรอลมาแพ็คนะเอาเอ้ B มามามัด
01:33:35 → 01:33:39 นะแล้วก็ลอยลำเรือออกไปนอกตับอะไรก็ไม่
01:33:39 → 01:33:43 รู้อ่ะนะฮะนะซึ่งจะไปสะสมสะสมไม่ได้ในที่
01:33:43 → 01:33:47 สุดก็กลับมาสะสมที่ตับนะฮะเอ่อออกไปแล้ว
01:33:47 → 01:33:50 ก็เข้ามาใหม่อะไรต่างๆเเพราะฉะนั้นเนี่ย
01:33:50 → 01:33:55 เรามองภาพออกเนอะเออถ้าเรามองภาพออกเนี่ย
01:33:55 → 01:33:57 เราก็จะไล่เรียงสิ่งเหล่าเนี้ยตามความ
01:33:57 → 01:34:03 เป็นจริงได้เลยนะเระบบถึงจะเป็นอย่างนี้
01:34:03 → 01:34:07 ก็ตามนะฮะแต่ว่าถามว่าแล้วไอ้ ldl ไ a
01:34:07 → 01:34:11 เนี่ยมันมีโอกาสจะเข้ามาในระบบเลือดมนะ
01:34:11 → 01:34:14 มันก็แค่อยู่ในระบบนี้อ่ะนะฮะนะที่มันจะ
01:34:14 → 01:34:17 เข้าตับเข้าตับเข้าตับนี่แหละนะแล้วมันก็
01:34:17 → 01:34:19 เข้าเร็วด้วยอ่ะนะเพราะอะไรเพราะไคโร
01:34:19 → 01:34:24 ไมคอนเนี่ยอ่ามันมี b48 มี Apple e มัน
01:34:24 → 01:34:28 ก็ดูดซวบๆๆอยู่แล้วนะฮะเขาก็ไม่มีเวลา
01:34:28 → 01:34:31 เอ้อระเหยรอยชายพลาสมา Resident Time
01:34:31 → 01:34:34 ที่จะมาอยู่ในน้ำเลือดนานๆอะไรอย่างงี้
01:34:34 → 01:34:39 หรอกนะแต่อีนี่สิ vldl ที่จะไปเป็น ldl
01:34:39 → 01:34:42 SM อะไรต่างๆพวกนี้สินี่แหละเนี่ยมันตัว
01:34:42 → 01:34:45 ปัญหานะแล้วก็ plma Resident Time มัน
01:34:45 → 01:34:48 ตั้งกี่วัน่ะ 3 วัน 5 วันนะเพราะฉะนั้น
01:34:48 → 01:34:52 ใช้ระบบพลังงานก็ใช้ระบบนี้อ่านะให้มันจบ
01:34:52 → 01:34:54 ๆไปวันต่อวันวันต่อวันวันพรุ่งนี้เริ่ม
01:34:55 → 01:34:58 ใหม่กินใหม่กินให้เป็นกินให้ถูกนะไม่ต้อง
01:34:58 → 01:35:03 มีเหลือมีสะสมมีเผื่อนะอ่าบวกลบได้นิดๆ
01:35:03 → 01:35:06 หน่อยๆนะฮะนะแต่คนไม่เข้าใจเรื่องเหล่า
01:35:06 → 01:35:09 เนี้ยระบบน้ำเหลืองระบบน้ำเลือดอะไรต่างๆ
01:35:09 → 01:35:12 นะแล้วก็ทั้งคอเลสเตอรอลทั้งพลังงานอะไร
01:35:12 → 01:35:16 ต่างๆเนี่ยนะมันก็เลยไม่รู้เรื่องนะเจาะ
01:35:16 → 01:35:20 ลงเจาะแลบมาก็แปลกันมั่วซั่วไปหมดนะฮะนะ
01:35:20 → 01:35:24 ก็เวลาชี้แจงทีเค้าก็ไม่เข้าใจอยู่ดีอ่ะ
01:35:24 → 01:35:27 นะพูดง่ายๆว่าอินซูลินมาก็เข้าระบบเลือด
01:35:27 → 01:35:30 ทันทีครับพี่หมอก็อย่างงั้นแหละนะฮะ
01:35:30 → 01:35:33 อินซูลินคอร์ติซอลเนี่ย 2 ตัวเทำไมล่ะฮะ
01:35:33 → 01:35:36 เราถึงได้บอกว่าภาพเยมันเป็นรูปแห่งปีรวม
01:35:36 → 01:35:38 ทั้งวันนี้เอาคอเลสเตอรอลมามาบวกเข้าไป
01:35:38 → 01:35:41 อีกเรื่องนึงน่ะจะได้สมบูรณ์เข้าไปเลย
01:35:41 → 01:35:44 ก่อนจะปีใหม่นะเ่อใครเข้าใจก็เข้าใจแต่ก็
01:35:44 → 01:35:47 หวังว่าน่าจะมีคนพอเข้าใจได้บ้างล่ะนะ
01:35:47 → 01:35:50 เอ่อเลกชงเลคเชอร์ร่วมไปด้วยนะนักเรียน
01:35:50 → 01:35:52 แถวหน้าทั้ง
01:35:52 → 01:35:55 หลายคๆ
01:35:55 → 01:35:59 เลยเนี่ยนะมันอธิบายไปจุดนั้นจุดนี้ได้
01:35:59 → 01:36:02 หมดอ่ะใช่มั้ยล่ะนะคุณจะอธิบายไคโรไมคอน
01:36:02 → 01:36:07 VL dl hdl เรือนำส่งก็ได้อธิบายรูปแบบ
01:36:07 → 01:36:10 ของพลังงานนเป็นคาฟเป็นโปรตีนเป็นไขมันดี
01:36:10 → 01:36:14 ไขมันไม่ดีอะไรต่างๆเนี่ยคุณจะอธิบาย
01:36:14 → 01:36:16 เรื่องของฟาเรื่องของฟีดเรื่องของ
01:36:16 → 01:36:19 Exercise ออกกำลังกายคุณก็อธิบายด้วย
01:36:19 → 01:36:21 กราฟนี้ได้เนี่ยวันนี้มาอธิบายเรื่อง
01:36:22 → 01:36:24 เนี่ยนะ typ A typ B ldl คอเลสเตอรอล
01:36:24 → 01:36:28 เนี่ยนะเนี่ยมีอะไรมันไม่ไม่ไม่ไม่เข้าใจ
01:36:28 → 01:36:32 ได้บ้างล่ะนะเออแล้วประโยชน์ที่มันจะเกิด
01:36:32 → 01:36:35 ขึ้นเนี่ยถ้าเราทำเป็นทำถูกกินถูก
01:36:35 → 01:36:37 อ่ะ
01:36:37 → 01:36:42 นะผมขนลุกตรงที่ว่าไอ้ 8020 อ่ะพี่หมอที่
01:36:42 → 01:36:44 บอกว่าให้ใช้ระบบน้ำเหลืองเนี่ย 80 ใช่
01:36:44 → 01:36:48 มั้ยแล้วก็ในระบบเลือด 20 อ่ะเออมันก็ตรง
01:36:48 → 01:36:50 กับที่พี่หมอสอนให้เรากินกันน่ะเพราะว่า
01:36:50 → 01:36:54 ในระบบเลือดเนี่ยเรากินแค่ช่วงเย็นมีเวลา
01:36:54 → 01:36:57 ให้ให้อินซูลินทำงานแค่ 3-4 ชมงใช่มพี่
01:36:57 → 01:37:00 หมอใช่หลังจากนั้นก็หลังจากนั้นเนี่ยก็
01:37:00 → 01:37:03 คือระบบนำเลือดหมดเลย 20 กว่าชั่วโมงเอ้ย
01:37:03 → 01:37:09 นระบบน้ำเหลืองเออใช่ระบบน้ำเลือดก็พักไป
01:37:09 → 01:37:14 อ่าแค่ 4 ชม 5 ช่มก็ประมาณนี้แหละเออคนคน
01:37:14 → 01:37:16 เราไม่เข้าใจเองอ่ะไม่เข้าใจระบบไม่เข้า
01:37:16 → 01:37:20 ใจกายยาบกละเอียดไม่เข้าใจเส้นทางคู่ขนาน
01:37:20 → 01:37:23 ทุกสิ่งทุกอย่างและไม่เข้าใจสูตร 80 20
01:37:23 → 01:37:27 10 ส่วนคุณไปเข้าใจเรื่องบ้าบคอแตกอะไร
01:37:27 → 01:37:30 ก็ไม่รู้ก็ก็ไม่ใช้ไม่ได้ฮะสิ่งเหล่านี้
01:37:30 → 01:37:34 เราจะนำมาใช้นะฮะนะแล้วใช้ด้วยเหตุด้วยผล
01:37:34 → 01:37:41 นะแล้วเราก็เข้าใจแล้วเราจะได้กินเป็นน่ะ
01:37:41 → 01:37:44 นะอย่างไรก็ตามที่หมออธิบายมาทั้งหมด
01:37:44 → 01:37:46 เนี่ยอยากจะบอก
01:37:46 → 01:37:50 ว่าอันนี้ฮะความเชื่อมันทรงพลังมากกว่า
01:37:50 → 01:37:55 ความจริงเราพูดความจริงเท่าไหร่แต่คนเไม่
01:37:55 → 01:38:00 ค่อยเชื่อเเชื่อความเชื่อที่จริงหรือไม่
01:38:00 → 01:38:04 จริงแต่ในปัจจุบันถือว่าไม่จริงนะแล้ว
01:38:05 → 01:38:09 ยิ่งในปัจจุบันสื่อต่างๆนะฮะ
01:38:09 → 01:38:16 นะสื่อต่างๆนะก็เ่อหลายคนก็เข้าไปดูในใน
01:38:16 → 01:38:19 แพลตฟอร์มต่างๆอะไรต่างๆนะแล้วก็เชื่อไป
01:38:19 → 01:38:23 ตามนั้นนะก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้วเพราะว่า
01:38:23 → 01:38:26 ทุกคนมีอิสระทางด้านความคิด
01:38:26 → 01:38:31 เนาะเอเพราะงั้นความเชื่อในปัจจุบันทรง
01:38:31 → 01:38:33 พลังมากกว่าความ
01:38:33 → 01:38:36 จริงเหมือนที่อาจารย์เบียร์ออกมาบอกแหละ
01:38:36 → 01:38:39 นะ
01:38:39 → 01:38:44 เออทีนี้เรามาดูรายงานบ้างนะฮะนะรายงาน
01:38:44 → 01:38:49 ต่างๆนะที่เา้าออกมาสนับสนุนในเรื่อง
01:38:49 → 01:38:52 เหล่าเนี้ยนะฮะนะแต่ส่วนใหญ่เนี่ยเาจะทำ
01:38:52 → 01:38:55 รายงานที่ไม่ได้เป็นเป็นแบบเอ่อมัสเินะฮะ
01:38:55 → 01:38:58 อันนี้จะเป็นรายงานการวิจัยในเรื่องของ
01:38:58 → 01:39:03 ไลโปโปรตีนเซนิซะมากกว่านะฮะนะนะก็มีมี
01:39:03 → 01:39:06 เปอร์มีรายงานเ้าเรียกว่าเป็นฉันทามติ
01:39:06 → 01:39:09 หรือ consensus นะฮะนะเร็วๆนี้ก็มีการ
01:39:09 → 01:39:14 ฉลองวันเกิดของคนนี้ฮะยูจีน B swot นะฮะ
01:39:14 → 01:39:21 อันนี้ก็คือก็คือตำนานของตำราคิลีนะฮะนะ
01:39:21 → 01:39:24 เดี๋ยวเราจะเห็นนะฮะอันนี้คือปีเตอร์บลี่
01:39:24 → 01:39:29 นะฮะอันนี้เก่งเ่อเอ่อเก่งในเรื่องของ
01:39:29 → 01:39:34 เนี่ยในเรื่องของอะไรโซนิเนี่ยนะนะคนนี้
01:39:34 → 01:39:41 คนอิตาลีอบตอะไรเนี่ยนะเนี่ยนะยูจีนบวอนะ
01:39:41 → 01:39:46 ฮะนะอันนี้ก็เป็นเรื่องที่ 3 คนนี้นะฮะนะ
01:39:46 → 01:39:51 เขาเค้าเรียกว่าเค้ารีวิวอ่ารายงานตี
01:39:51 → 01:39:57 พิมพ์เนี่ยนะฮะเนี่ยนะไบอันเฟนยูรินบอสั
01:39:57 → 01:40:01 แล้วก็อบตชิโนอะไรเนี่ยนะฮะนะอันนี้หมอก็
01:40:01 → 01:40:05 แปลมาให้แล้วนะฮะนะก็ดูในบทคัดย่อเก็แล้ว
01:40:05 → 01:40:10 กันนะฮะอันนี้เขาก็จะพูดถึงผลกระทบนะทาง
01:40:10 → 01:40:14 ชีวภาพของ ldl คอเลสเตอรอลต่อการเกิด
01:40:14 → 01:40:18 ascvd นะฮะนะซึ่งในที่สุดแล้วเนี่ยนะมัน
01:40:18 → 01:40:22 ก็จะไปอยู่ใน 2 เรื่องนี้นะฮะว่านะเอ่อ
01:40:22 → 01:40:27 ความสำคัญก็คือจำนวนอนุภาคนะนะหรือ ldl
01:40:27 → 01:40:32 particle นะฮะ 1 particle ก็จะมี 1 a
01:40:32 → 01:40:36 b นะฮะเพราะฉะนั้นหลาย particle ก็หลาย a
01:40:36 → 01:40:39 b นะฮะ areal particle ก็คือ a b นั่น
01:40:39 → 01:40:42 แหละหรือ non hdl นั่นเองนะฮะอันนี้คือ
01:40:42 → 01:40:47 ความหมายเดียวกันแต่ไม่ใช่ ldl C นะฮะนะ
01:40:47 → 01:40:50 อันเนี้ยนะอันนี้เราจะหมายถึง
01:40:50 → 01:40:55 จำนวนระดับหรือปริมาณของอนุภาพ ldl หรือ
01:40:55 → 01:40:59 ldl particle นะอันนี้คือสิ่งที่เป็น
01:40:59 → 01:41:04 สาเหตุสำคัญที่สุดของ risk of ascvd นะ
01:41:04 → 01:41:07 ฮะนะอันต่อมาก็คือ Plasma Resident Time
01:41:07 → 01:41:10 นะฮะหรือช่วงเวลาที่ปล่อยให้ตัว particle
01:41:10 → 01:41:13 รอยรำอยู่ในกระแสเลือดนะเหล่านี้ทั้งหมด
01:41:13 → 01:41:17 นะฮะก็คือ List Of ascvd ที่เพิ่มมาก
01:41:17 → 01:41:21 ขึ้นนะฮะก็อยู่ในนะเ่อบทคัดย่อตีพิมพ์
01:41:21 → 01:41:27 เรื่องนี้ของง 3 กูรูนะฮะลองไปอ่านดูนะฮะ
01:41:27 → 01:41:32 อันนี้คือยูจีนวอนะฮะอันนี้เขาเป็นอ่า
01:41:32 → 01:41:34 researcher เป็นนักวิจัยนะฮะนะแล้วก็
01:41:35 → 01:41:40 เป็นหัวหน้าคณะนะของควรีเสิร์ชนะฮะนะอัน
01:41:40 → 01:41:44 นี้นะแล้วก็แต่งตำรานี้ฮะนะเป็น Edition
01:41:44 → 01:41:47 ที่ 12 แล้วนะฮะอ่าหมอทางด้านโรคหัวใจและ
01:41:47 → 01:41:54 intervention ไม่มีใครไม่รู้จักนะ
01:41:54 → 01:41:58 อันนี้หมอจะให้ดูอีกคนนึงนะฮะที่ก็มีราย
01:41:58 → 01:42:03 งานตีพิมพ์นะฮะนะ
01:42:03 → 01:42:07 เอ่ออันนี้เป็นเป็นเรื่องของคนนี้นะฮะนะ
01:42:07 → 01:42:12 คนนี้นะหมอมคอวเนี่ยนะฮะนะก็อันนี้ก็นัก
01:42:12 → 01:42:15 วิจัยตัวยงและ 1 ใน 5 ลิในปัจจุบันนี้นะ
01:42:16 → 01:42:18 ฮะเเก่งมากในเรื่อง a b นะฮะ William
01:42:19 → 01:42:22 คอวได้เอ่ยอ้างทงานวิจัย 5 ชิ้นนะฮะนะที่
01:42:22 → 01:42:26 เกี่ยวกับเรื่องไรน stic นะฮะอันนี้ก็
01:42:26 → 01:42:30 เป็นงานวิจัยชิ้นนึงนะฮะเอฟเฟคของ Diet
01:42:30 → 01:42:33 นะ on cardiovascular disease นะและ
01:42:33 → 01:42:38 lipid แปน Level นะฮะนะอันนี้เดี๋ยวหมอ
01:42:38 → 01:42:41 เนี่ยบทคัดย่อนี้หมอแปรออกมาเป็นอย่างนี้
01:42:41 → 01:42:46 นะฮะนะนะซึ่งเขาจะแจกแจงรายละเอียดว่านะ
01:42:46 → 01:42:49 บทบาทของความเสี่ยงในการเกิด scd เนี่ยนะ
01:42:49 → 01:42:53 ฮะกดไขมันปิมตัวเป็นอย่างไรอ่าอ่ามีอยู่
01:42:53 → 01:42:57 ที่ไหนเนี่ยเพิ่มระดับนะของ ldl คอสเตอ
01:42:57 → 01:43:02 อ่า hdl คอสเตอนะฮะนี่นะและลดจำนวนตัวลับ
01:43:02 → 01:43:05 หรือ ldl receptor ที่
01:43:05 → 01:43:09 ต่ำแต่ถ้าเป็นไม่อิ่มตัวนะเชิงเดี่ยวนะ
01:43:09 → 01:43:15 ไม่ตัวเชิงซ้อนนะะนะนะอันนี้ก็จะมีผลใน
01:43:15 → 01:43:20 การลดนะฮะนะลดระดับ ldl คอเลสเตอรอลนะและ
01:43:20 → 01:43:23 อ่าเขาบอกว่าเป็นการเพิ่มจำนวนตัวลับและ
01:43:23 → 01:43:27 กิจกรรม activity ของตัวลับนะนะ hepatic
01:43:27 → 01:43:30 ldl receptor นะก็ต่างกันนะอิ่มตัวก็
01:43:30 → 01:43:32 ไม่อิ่มตัวก็ตรงข้ามกันนะ DIY
01:43:32 → 01:43:35 cholesterol พบในอะไรบ้างก็มีผลยังไงก็
01:43:35 → 01:43:38 คล้ายๆกับอิ่มตัวนะฮะก็คือลดจำนวนตัวลับ
01:43:38 → 01:43:43 ll receptor ที่ตัดกดไขมันทรานนะฮะกดไข
01:43:43 → 01:43:48 มันทรานอันนี้นะเ่าก็มีผลยังไงบ้างนะมีผล
01:43:48 → 01:43:52 อ่าคล้ายๆกับไขมันอิ่มตัวนั่นแหละนะฮะนะ
01:43:52 → 01:43:55 แล้วก็คำโบไฮเดรตนะฮะนะโดยเฉพาะ High Bad
01:43:55 → 01:44:02 C ต่างๆนะอันนี้นะก็มีผลนะอ่าอย่างไร
01:44:02 → 01:44:04 บ้างนี่เราไปอ่านดูเส้นใยมีผลอย่าไงบ้าง
01:44:04 → 01:44:08 คืออันเนี้ยนะก็เป็นบทคัดย่อของระดับ
01:44:08 → 01:44:11 ปรมาจารย์หรือหรือระดับกูรูที่เป็นนัก
01:44:12 → 01:44:15 วิจัยหรือ researcher นะนะเนี่ยเขาสรุป
01:44:15 → 01:44:18 ให้ว่าอย่างเงี้ยว่าถ้าคุณอยากจะลดความ
01:44:18 → 01:44:21 เสี่ยงของ ascvd คุณก็ต้องทำอย่างนี้นะ
01:44:21 → 01:44:25 โดยควแนะนำเรื่อง meditan Diet นะฮะแต่
01:44:25 → 01:44:29 เป็นแบบ Modify นะฮะนะก็มีการปรับมาคล้าย
01:44:29 → 01:44:33 ๆ low C High Good อย่างนี้แหละนะฮะ
01:44:33 → 01:44:38 เออนะก็อันนี้นะ
01:44:38 → 01:44:43 อ่ออันนี้ฉบับเยเ่อฉบับต่อไปฉบับที่ 2 นะ
01:44:43 → 01:44:47 ฮะนะก็จะเป็นเรื่องนี้นะฮะนะเนี่ยก็พวก
01:44:47 → 01:44:50 นี้เป็นงานวิจัยในระดับแนวหน้าของโลกหมด
01:44:50 → 01:44:55 นะฮะเออ dey fatty Acid อ่าอ่า modulate
01:44:55 → 01:45:00 พลาสมาไปิดนะฮะนะอ่าอันเนี้ยนะฮะอันนี้
01:45:00 → 01:45:03 ฝั่งนี้ก็คือไขมันต่างๆไขมันชนิดต่างๆใน
01:45:03 → 01:45:06 อาหารเนี่ยมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของ ldl
01:45:06 → 01:45:10 และ cvd อย่างไรนะฮะอันนี้ก็สรุปมาให้หมด
01:45:10 → 01:45:14 แล้วนะฮะเอ่อในเนี้ยพูดถึงเรื่องของ
01:45:14 → 01:45:17 saturated fatty Acid นะเพิ่มระดับ ldl
01:45:17 → 01:45:22 ในเลือดนะแต่ไม่มีตัวเชิงซ้อนนะฮะนะโดย
01:45:22 → 01:45:25 เฉพาะ pfa ที่มันมีโอเมก้า 6 นะรวมทั้งไข
01:45:25 → 01:45:31 มันหตัว mufa นะจะลด ldl ลงนะฮะแต่นะอัน
01:45:31 → 01:45:34 นี้มีหมายเหตุนะฮะนะ saturated Fat ที่
01:45:34 → 01:45:39 มีกด stearic อ่า c18 นะฮะนะอันนี้จะไม่
01:45:39 → 01:45:43 มีผลต่อระดับ ldl คอเลสเตอรอลนะนะต่างจาก
01:45:43 → 01:45:49 อิ่มตัว c12 C4 c16 นะฮะอันนี้เพิ่มนะ
01:45:49 → 01:45:53 ก็เหมือนเดิมนะฮะนะก็เพิ่มระดับ rl
01:45:53 → 01:45:58 คอสเตอและเ่อลด receptor นะต่างๆนะฮะอ่า
01:45:58 → 01:46:03 ไม่ตัวก็เพิ่มซตแล้วก็เพิ่ม activity นะ
01:46:03 → 01:46:07 เ่อของการเอากลับนะฮะส่วนอันนี้เป็น
01:46:07 → 01:46:11 เรื่อง di Coral matter นะฮะนะเนี่ยอัน
01:46:11 → 01:46:14 นี้ก็แปลให้แล้วก็แบบที่หมอพูดไปเมื่อกี้
01:46:14 → 01:46:19 นี้ที่สรุปไปตอนแรกๆเออันนี้เป็นเช่น
01:46:19 → 01:46:21 เดียวกันนะฮะ Dior cholesterol
01:46:21 → 01:46:26 associate นะกับการ incre ทั้ง ldl hdl
01:46:26 → 01:46:30 นะอันนี้ทำใน Healthy yang Woman
01:46:30 → 01:46:35 นะ dary cholesterol matter นะเอออัน
01:46:35 → 01:46:38 นี้ก็เนี่ยนะฮะอนี้เป็นเรื่องของงานวิจัย
01:46:39 → 01:46:43 นี่เหมือนกันนะฮะ symposium นะ Diary Fat
01:46:43 → 01:46:46 นะฮะนะอันนี้พูดถึงเรื่องของชนิดของไขมัน
01:46:46 → 01:46:50 ชนิดต่างๆนะอย่างไรก็ตามนะฮะเหมือนเดิม
01:46:50 → 01:46:53 ความเชื่อก็ยังทรงพลังมากว่าความจริงถึง
01:46:53 → 01:46:56 จะมีงานวิจัยเพราะคนในปัจจุบันเขาไม่
01:46:56 → 01:47:00 เชื่อนักวิจัยนะแต่เขาเชื่อเขาเชื่อทาง
01:47:00 → 01:47:05 ด้านสื่อสารมวลชนนะหรือ Google อะไรต่างๆ
01:47:05 → 01:47:09 นะอย่างเช่นกรณีนี้นะที่เรากำลังตัดต่อ
01:47:09 → 01:47:13 อยู่ใช่มฮะเรื่องของคิทนะของกลุ่มอ่าของ
01:47:13 → 01:47:19 de f นะ respond นะอันเนี้ยอ่าเขาเ
01:47:19 → 01:47:22 เชื่อเอย่างงนี้นะนะว่าอ่าสิ่งที่เขา
01:47:22 → 01:47:26 เชื่อนะและนำมาอธิบายนะในแง่ของไปิด Model
01:47:27 → 01:47:30 เนี่ยนะมันมีความเกี่ยวพันกับปัญหา scd
01:47:30 → 01:47:34 อย่างไรนะฮะนะตามนี้ก็คือเขาเชื่อใน
01:47:34 → 01:47:37 เรื่องของไปิด profil Cent ที่มันเป็น
01:47:37 → 01:47:40 static นะเขาไม่
01:47:40 → 01:47:44 ได้คือเขายังไม่ได้อัพ Level ขึ้นมาถึงไน
01:47:44 → 01:47:48 Cent นะฮะที่มันเป็น Dynamic นะฮะก็ไม่
01:47:48 → 01:47:50 รู้จะพูดว่ายังไงแล้วคววามเชื่อก็คือความ
01:47:50 → 01:47:55 เชื่อนะฮะอันนี้ก็ขยายให้ดูตัวโตๆ
01:47:55 → 01:47:58 นะนะก็เหมือนกันในรูปเนี้ยที่หมอเคยสรุป
01:47:58 → 01:48:01 นะว่าแต่ก่อนเนี่ยนะเราก็เชื่อว่า
01:48:01 → 01:48:04 cardiovascular disease เนี่ยมันมีเหตุ
01:48:04 → 01:48:06 มาจาก 3 เรื่องนี้นะก็คือ oxidative
01:48:06 → 01:48:09 state insulin resistance แล้วก็ Chic
01:48:09 → 01:48:12 inflammation แล้วทั้งหมดเนี่ยนะก็ผลัก
01:48:12 → 01:48:15 ดันให้เกิดกระบวนการอักเสบอักเสบอักเสบเ
01:48:15 → 01:48:20 ถึงได้พูดว่าอ่าโรค svd มันเป็นโรคของการ
01:48:20 → 01:48:26 อักเสบนะแต่พอทฤษฎีไลโปโปรตีนเซนทริกนะ
01:48:26 → 01:48:29 รวมทั้งงานวิจัยต่างๆและกูรูต่างๆที่เป็น
01:48:29 → 01:48:33 นักวิจัยออกมาเผยแพร่ในเรื่องของ
01:48:33 → 01:48:40 ไลโปโปรตีนนะอ่าพิิต่างๆนะมันก็ค่อยๆ
01:48:40 → 01:48:44 เริ่มเปลี่ยนไปนะฮะนะและเขาก็ไม่เชื่อใน
01:48:44 → 01:48:47 ทฤษฎีของการอักเสบนะฮะนะแต่มันก็ยังมีติด
01:48:48 → 01:48:51 ๆอยู่บ้างแหละนะเพราะว่าสิ่งที่เขาเชื่อเ
01:48:51 → 01:48:54 เชื่อในเรื่องของตัว particle หรืออนุภาค
01:48:54 → 01:48:58 นำส่งโดยเฉพาะมันเป็นอนุภาคที่มันมีตัว
01:48:58 → 01:49:03 โปรตีน Apple B 100 นะฮะนะถึงแม้จะไม่
01:49:03 → 01:49:06 มี ris Factor หรือปัจจัยสนับสนุนหรือ
01:49:06 → 01:49:10 คันเร่งอะไรพวกนี้เลยนะมีแค่เยแล้วมีเยอะ
01:49:10 → 01:49:15 ๆนะฮะนะก็มีโอกาสนะที่จะเกิด as cvd ได้
01:49:15 → 01:49:19 แล้วนะฮะเขาเรียกว่า independent Factor
01:49:19 → 01:49:25 นะ independent Factor
01:49:25 → 01:49:28 ก็เช่นเดียวกันนะฮะบางคนก็มีความเสี่ยง
01:49:28 → 01:49:32 ของการอักเสบนะนะแต่มันก็ไม่เกิด ascvd
01:49:32 → 01:49:35 นะฮะถ้าเา
01:49:35 → 01:49:40 คอนโทรลเรื่องของตัวอนุภาคนะไลโปโปรตีน
01:49:40 → 01:49:44 Apple B ได้นะฮะเนี่ย
01:49:44 → 01:49:48 เแต่ถ้ามี 2 เรื่องส่วนใหญ่คนมันก็จะมี 2
01:49:48 → 01:49:52 เรื่องมาพร้อมๆกันนี่แหละนะนะเก็จะถือว่า
01:49:52 → 01:49:56 ตัวอนุภาคหรือ particle ของ Apple bine
01:49:56 → 01:50:01 นะเป็น independent Factor นะหลักนะฮะ
01:50:01 → 01:50:04 แล้วสิ่งต่างๆอื่นๆที่เป็นลูกศรโยงใหญ่
01:50:04 → 01:50:07 อันนี้เป็นคันเร่งนะฮะนะไม่ว่าจะเป็น
01:50:07 → 01:50:12 insulin resistance นะฮะนะหรือเนี่ยจะ
01:50:12 → 01:50:14 เป็นเรื่องของ low Gate chronic
01:50:14 → 01:50:18 inflammation ต่างๆนะรวมทั้ง oxidative
01:50:18 → 01:50:24 state นะฮะอ่าอันนี้เป็นคันเร่งหมดเลย
01:50:24 → 01:50:27 ก็จะอธิบายต่าง
01:50:27 → 01:50:30 กันทีนี้ในแง่ของ
01:50:30 → 01:50:31 อ่า
01:50:31 → 01:50:35 อ่าเมื่อกี้เราไม่ได้เอาไว้ต่อกันนะฮะอ
01:50:35 → 01:50:37 เรื่องเนี้ยนะฮะเรื่องเนี้ยถามว่าใน
01:50:37 → 01:50:41 ปัจจุบันเนี่ยรู้สึกว่ามันจะมีหน่วยงานนะ
01:50:41 → 01:50:46 ฮะนะที่เาออกมาแยกแยะว่าความเข้าใจของ
01:50:46 → 01:50:50 กลุ่ม LM H respond ที่เป็นอ่ามเดลของ
01:50:51 → 01:50:55 การเกิด ascvd เนี่ยนะมันมีจุดแข็งมีจุด
01:50:55 → 01:50:58 อ่อนอะไรบ้างแต่ส่วนใหญ่มันจะเต็มไปด้วย
01:50:58 → 01:51:02 จุดอ่อนนะฮะในความเข้าใจของเค้านะฮะใน
01:51:02 → 01:51:06 ความเข้าใจของเค้านะ
01:51:06 → 01:51:11 เอ่ออันนี้ก็เป็นรู้สึกเป็นซิกม่าอะไรนะ
01:51:11 → 01:51:15 เป็นหน่วยงานซิกม่านิิอะไรซักอย่างนี่
01:51:15 → 01:51:18 แหละนะฮะออกมาวิเคราะห์นะฮะนะแล้วก็มา
01:51:18 → 01:51:23 สรุปที่ตรงนี้ว่านะในปัจจุบันนะฮะเอ่อเรา
01:51:23 → 01:51:25 ก็มีเรื่องของ lipid โปรไฟล tensic กับ
01:51:26 → 01:51:30 ไลโปโปรตีนเซนินะ
01:51:30 → 01:51:34 เอ่อคือคืออันนี้ก็แล้วแต่แล้วแต่ใครจะ
01:51:34 → 01:51:38 เชื่อแบบไปในแนวทางไหนนะฮะนะแต่ในแนวทาง
01:51:38 → 01:51:42 ของเพจโดยเฉพาะคุณหมอนะนะก็จะให้เครดิต
01:51:42 → 01:51:46 และความเชื่อถือนะในเรื่องของโปตีนเซนินะ
01:51:46 → 01:51:49 เป็นหลักนะโดยเฉพาะเรื่องของ ldl
01:51:49 → 01:51:53 particle นะนะซึ่งอันเนี้ยการชี้วัด
01:51:53 → 01:51:57 เนี่ยค่าเนี้ยนะก็จะลำบากหน่อยในเมืองไทย
01:51:57 → 01:52:00 เราไม่สามารถจะส่งคนไปตรวจ nmr กันได้
01:52:00 → 01:52:05 ง่ายๆนะฮะเราก็ต้องดูจาก non hdl นะก็
01:52:05 → 01:52:08 คือ Total คอสอลบด้วย hdl กับอีกตัวนึงก็
01:52:08 → 01:52:10 คือ
01:52:10 → 01:52:13 อ่าก็คือการวัด a b อ่ะนะซึ่งในปัจจุบัน
01:52:14 → 01:52:17 ก็วัดได้เยอะแล้วนะแต่ถ้าวัดไม่ได้จริงๆ
01:52:17 → 01:52:21 ก็ต้องไปดูจากนะ ldl คอเลสเตอรอลนะฮะนะ
01:52:21 → 01:52:25 เพราะว่าตัวตัวเนี้ยอ่ามันมันก็จะมีความ
01:52:25 → 01:52:29 คลาดเคลื่อนอยู่นะฮะบางส่วนนะยังไงก็ตาม
01:52:29 → 01:52:34 นะ List นะฮะของ svd นะก็คือ ldl
01:52:34 → 01:52:37 particle หรือ Apple B หรือ non hdl
01:52:37 → 01:52:39 ร่วมกับเรื่องของ Plasma Resident Time
01:52:39 → 01:52:44 นะนะอันนี้คูณนะไม่ใช่ไม่ใช่ไม่ใช่กากบาท
01:52:44 → 01:52:49 นะคูณนะฮะก็คือปริมาณจำนวนอนุภาคคูณกับ
01:52:49 → 01:52:52 เวลาเวลา
01:52:52 → 01:52:55 นะมันก็เลยได้มาเป็นรูปเนี้ยที่เราเคยไลฟ
01:52:55 → 01:52:58 ไปนะข้างบนเป็นฝั่งของ lipid Profile
01:52:58 → 01:53:03 Centric นะนะข้างล่างก็จะเป็นเรื่องของ
01:53:03 → 01:53:07 ไรน Cent ที่เราจะดูอะไรเราจะวัดอะไรนะ
01:53:07 → 01:53:11 แล้วจะอธิบายอะไรยังไงเพราะ
01:53:11 → 01:53:16 อะไรอันเนี้ย svd เป็น multifactorial
01:53:16 → 01:53:21 Factor ก็จริงนะฮะก็จริงแต่นะ A B
01:53:21 → 01:53:23 containing เป็น independent ris
01:53:23 → 01:53:27 Factor นะถึงแม้จะมีปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ
01:53:27 → 01:53:31 ทั้งเบาหวานด้วยอินซูลินความดันสูบบุหรี่
01:53:31 → 01:53:35 Chic Late inflammation นะสิ่งเหล่า
01:53:35 → 01:53:39 นี้ถือว่าเป็น ris modifier นะฮะนะเป็น
01:53:39 → 01:53:43 ปัจจัยเสี่ยงอ่าแบบที่เป็นตัว Modify นะ
01:53:43 → 01:53:47 ฮะเป็นตัวกระเพื่อมนะให้ไอ้ตัวเรื่องของ
01:53:47 → 01:53:48 เอ
01:53:48 → 01:53:54 โปตีนนะมันมันมันมันมีความเป็นไปได้ในการ
01:53:54 → 01:53:56 เกิดปัญหานะ
01:53:56 → 01:54:00 ฮะนะเถึงได้บอกว่าถ้ามีตัวนี้ตัวเดียวนะ
01:54:00 → 01:54:04 ฮะโดยไม่มี List modifier ใดๆเลยก็ยัง
01:54:04 → 01:54:09 เกิดอ่าขึ้นได้นะเกิดภาวะเสี่ยงขึ้นได้นะ
01:54:09 → 01:54:12 สถิติมันไม่ได้ลดลงนะนะเพราะฉะนั้นตัวนี้
01:54:12 → 01:54:14 ก็เลยเป็น independent Factor ตัวหลัก
01:54:14 → 01:54:18 เนานะที่จะเกิดปัญหานะเพราะฉะนั้นเนี่ย
01:54:18 → 01:54:21 ถ้าสรุปเป็นในเรื่องของ investigation
01:54:21 → 01:54:24 ต่างๆนะฮะนะนะว่าจะส่งคนไข้ไปตรวจอะไร
01:54:24 → 01:54:29 บ้างนะฮะนะถ้าจะตรวจในเรื่องของ ast risk
01:54:29 → 01:54:32 Factor เนี่ยสิ่งที่ตรวจเนี่ยนะอ่าก็คือ
01:54:32 → 01:54:35 ตัวเฮะตัว Apple B ตรวจได้ไห fasting
01:54:35 → 01:54:38 Serum Apple B นะถ้าตรวจไม่ได้ก็ตรวจ
01:54:38 → 01:54:41 non hdl cholesterol นะก็คือตรวจเลย
01:54:41 → 01:54:43 ปิดโปรไฟล์ 4 ตัวแล้วเอา Total
01:54:43 → 01:54:46 cholesterol ตั้งลบด้วย hdl มันจะเป็น
01:54:46 → 01:54:50 non hdl นะฮะแต่ถ้าตรวจไม่ได้อีกนะฮะนะ
01:54:50 → 01:54:56 ก็ตรวจดู ldl col ตัวดีเดีวนะฮะ
01:54:56 → 01:54:58 นะ
01:54:58 → 01:55:00 อหมด
01:55:00 → 01:55:05 แล้วหมดแล้วนะอันนี้อันนี้เป็นเคสมา
01:55:05 → 01:55:08 วิเคราะห์ใช่มั้ย
01:55:08 → 01:55:14 โอเคสุดท้ายนะฮะก็ลองวิเคราะห์เคสนี้ดูนะ
01:55:14 → 01:55:17 มีใครสงสัยอะไร
01:55:17 → 01:55:22 มยมีใครสงสัยมั้ย
01:55:22 → 01:55:24 ตอนนี้ยังครับผม
01:55:24 → 01:55:31 เออยังงงๆไอ้เรื่องที่เ่อิมคอวก็อธิบายย
01:55:31 → 01:55:37 ฮะแต่ก็คือนะฟรีคอเลสเตอรอลเนี่ยนะก็เป็น
01:55:37 → 01:55:41 ตัวที่ไม่ดีที่จะไปทำให้เกิดอ่าการหดหาย
01:55:41 → 01:55:45 ไปของ ldl receptor นะอเป็นตัว
01:55:45 → 01:55:50 หลักก็อธิบายเป็นลักษณะอย่างนั้นแหละนะ
01:55:50 → 01:55:54 เอแต่เขจะไป process ผ่านโปรตโปรตีนอะไร
01:55:54 → 01:56:01 ก็แล้วแต่เนอ่ะดูคนนี้เออนะนี้เขาก็บอก
01:56:01 → 01:56:05 ว่ามีผลตรวจสุขภาพเมื่อปี 67 นี่แหละนะ
01:56:05 → 01:56:09 ปฏิบัติตามแนวทางกลุ่มนี้ก็คือคีแบบ owc
01:56:09 → 01:56:14 นะแล้วก็เน้นกลุ่มนี้ก็คือเน้นทำ omas If
01:56:14 → 01:56:18 แบบ omas นะอันนี้ก็ทำมา 2 ปีนะอ่ายืนยัน
01:56:18 → 01:56:22 ว่าแนวทางกลุ่มถูกต้องและยั่งยืนนะส่วน LD
01:56:22 → 01:56:25 ที่ขัดใจหมอกระแสหลักก็ทำสถิติใหม่เพิ่ม
01:56:25 → 01:56:30 จาก 288 ldl นะฮะเป็น 317 นะส่วนนะ
01:56:30 → 01:56:35 ไลโปโปรตีน B นะฮะลดลง
01:56:35 → 01:56:40 นะลดลงนะฮะนะก็คนนี้มีการตรวจวัดเรื่อง
01:56:40 → 01:56:43 ของ Small ldl ได้ด้วยนะฮะแต่อันนี้เไม่
01:56:43 → 01:56:48 ได้ตรวจเร้ว nmr นะฮะนะเตรวจด้วยค่าแลบนะ
01:56:48 → 01:56:52 อ่าไม่ใช่ไม่ใช่แบบ nmr ที่จะไปวัดไปวัด
01:56:52 → 01:56:55 วัดแบบต่างประเทศเอ่ะนะ
01:56:55 → 01:57:01 เ่าก็คือลดลงจาก 105 เหลือ 88 นะฮะนะปกติ
01:57:01 → 01:57:04 มันก็ไม่เกิน 100 อันนี้นะแล้วก็ hdl แต่
01:57:04 → 01:57:07 hdl เพิ่มยากมาก hdl เพิ่มยากเพราะอะไร
01:57:07 → 01:57:10 เพราะว่าเเป็นเอ่อก็เป็นทรงพุงเครียดนะ
01:57:10 → 01:57:13 อันนี้เป็นลักษณะพุงเครียดนะเนี่ยแล้วก็
01:57:13 → 01:57:20 ินขึ้นมานะฮค่าบนะค่าบเนี่ยก็มีคนนี้ 2
01:57:20 → 01:57:24 ปีแล้วนะฮะแต่จะเห็นว่าทั้งๆที่กิน ow C
01:57:24 → 01:57:28 แล้วก็แล้วก็ฟาเนี่ยเน้นการฟาการทำ If นะ
01:57:28 → 01:57:31 ฮะนะซึ่งก็เหมาะอ่ะเหมาะสำหรับคนพุง
01:57:31 → 01:57:33 เครียดนะฮะแต่
01:57:33 → 01:57:37 แต่แต่คือการเค้าเรียกว่าอะไรอ่ะเอ่อ
01:57:37 → 01:57:41 metab flexibility น่ะนะหรือการที่จะ
01:57:41 → 01:57:44 อ่าปรับ cheating อะไรต่างๆอาจจะยังไม่
01:57:44 → 01:57:47 เหมาะสมนะจะเห็นว่าตับเขาอ่ะนะก็ยังค่อน
01:57:47 → 01:57:50 ข้างสูงนะฮะนะแต่นี้เค้าก็ไม่ได้บอกว่า
01:57:50 → 01:57:54 สูงหรอกเคก็อ่านรายงานว่าเป็นค่าฟังก์ชัน
01:57:54 → 01:57:57 ที่มันปกติอจริงๆไม่ปกตินะนะเกณฑ์ของเรา
01:57:57 → 01:57:59 ก็ถือว่าถ้าเกิน 26 ขึ้นไปก็ถือว่ายังผิด
01:57:59 → 01:58:02 ปกติอยู่นะและอีกอย่างนึงอัตราส่วนเนี่ย
01:58:02 → 01:58:06 นะอัตราส่วนมันมันต่ำกว่า 1 นะฮะนะปกติ
01:58:06 → 01:58:09 มันต้องมากกว่า 1 นะอ่าคนนี้ก็ยังมีปัญหา
01:58:09 → 01:58:12 เรื่องตับอยู่นะฮะแต่ว่าเรื่องอะไปิด
01:58:12 → 01:58:16 โปรไฟล์นะเราจะเห็นว่า Total คอสอนะแล้ว
01:58:16 → 01:58:20 ก็ตัว hdl ก็ไม่ขึ้นนะฮะไม่ขึ้น
01:58:20 → 01:58:23 นะเอ่อ
01:58:23 → 01:58:28 เอ่ออย่างอื่นนะเอ่อการื้ออินซูลินนะหาย
01:58:28 → 01:58:35 ไปแล้วไม่มีนะเอ่อแต่ tyg ไม่มีผลนะเอ่อ
01:58:35 → 01:58:38 tyg ก็ไม่น่าจะสูงนะฮะนะเพราะว่าแตกตี
01:58:38 → 01:58:42 สลายก็อยู่ในเกณฑ์ประมาณเนี้ยไม่เกิน 70
01:58:42 → 01:58:46 501 นะฮะคือส่วนใหญ่ TG ที่จะสูงเนี่ยนะ
01:58:46 → 01:58:49 ส่วนใหญ่พวกเนี้ยมันจะเกิน 80 ขึ้นไปนะ
01:58:49 → 01:58:53 โดยเฉพาะเกิน 88 นะฮะนะนะเพราะเวลาไปเข้า
01:58:53 → 01:58:57 แอปถ้าอันนี้เกิน 88 แล้วอันนี้ใกล้ๆ 100
01:58:57 → 01:58:59 หรือเกิน 100 ขึ้นไปเนี่ยนะมันก็จะเด้งมา
01:58:59 → 01:59:04 ที่ pyg Index เกิน 4.49 นะคนนี้ก็ยังมี
01:59:04 → 01:59:08 เรื่องของ remnant เยอะไปหน่อยนะเยอะไปนะ
01:59:08 → 01:59:12 แต่โปรตีนเนี่ยดีนะก็คิดว่าคนนี้ยังมี
01:59:12 → 01:59:16 ความผิดพลาดในเรื่องของไขมันนะฮะอาจจะ
01:59:16 → 01:59:21 ปรุงอาหารหรือก็ใช้ไขมันอะไรต่างๆในการ
01:59:21 → 01:59:25 อ่าในการประกอบอาหารที่ยังไม่ค่อยถู
01:59:25 → 01:59:30 นะอย่างคนเนี้เวลาจะแอพสเรื่องค่าบในรปิด
01:59:30 → 01:59:33 โปรไฟล์พวกเนี้ยนะฮะนะเราจะดูอะไรกันบ้าง
01:59:33 → 01:59:37 นะหลักการก็คือ 1 ดูใครมั่นไตกิสไลนก่อน
01:59:37 → 01:59:41 นะฮะคนนี้ก็ดีนะอยู่ในช่วงดีเลยก็คือ 50
01:59:41 → 01:59:46 กว่าใช่มฮะนะดีที่สุดนะแล้วก็ถ้าน้อยไปก็
01:59:46 → 01:59:50 คือต่ำกว่า 40 ต่อไปก็ดู hdl นะฮะนะ hdl
01:59:50 → 01:59:54 เนี่ยนะในผู้ชายก็ควรจะเยอะหน่อยค่าให้ดี
01:59:54 → 01:59:58 ที่สุด 60-90 ผู้ชายก็ 60-80 ผู้หญิงก็
01:59:58 → 02:00:03 60-90 นะฮะคนนี้ hdl ก็อยู่ในเกณฑเ่อต่ำ
02:00:03 → 02:00:11 ต่ำกว่า 60 นะฮะนะ 50 กว่าเนาะเ 50
02:00:11 → 02:00:15 กว่าอย่างไกินเนี่ยมันไม่เกินนะฮะมันไม่
02:00:15 → 02:00:19 เกินมันไม่เกิน 100 เมันไม่เกิน 808 อะไร
02:00:19 → 02:00:22 อย่างเงี้ยนะฮะก็ถือว่าคนคนเนี้ยระบบร่าง
02:00:22 → 02:00:26 กายเขามีการได้รับพลังงานใช้พลังงานอะไร
02:00:26 → 02:00:29 ต่างๆช่องทางในการใช้พลังงานต่างๆนะค่อน
02:00:29 → 02:00:33 ข้างดีค่อนข้างดีนะแต่คิดว่าไม่ได้ดีจาก
02:00:33 → 02:00:37 กินนะฮะนะแต่น่าจะดีจากการฟาสนะเพราะคน
02:00:37 → 02:00:41 นี้เกิน omx omx
02:00:41 → 02:00:46 นะก็ดีจากการฟาสไปนะฮะเ้าไม่เป็นไรนะอ่า
02:00:46 → 02:00:51 ทีนี้ hdl เนี่ยนะ hdl เนี่ยร่างกายเมี
02:00:51 → 02:00:54 การตอบสนองนะในการสร้าง hdl เนี่ยนะคือ
02:00:54 → 02:01:01 ถึงเขาจะฟาถึงเขาจะกินโคฟนะเอ่อเ่อมาแล้ว
02:01:01 → 02:01:05 ก็ตามนะแต่ว่าระบบการแจกจ่ายพลังงานเ้า
02:01:05 → 02:01:11 เนี่ยนะฮะมันยังไงอ่ะมันเหมือนกับว่ามัน
02:01:11 → 02:01:14 เหมือนกับว่าเป็นการแจกจ่ายพลังงานที่ไม่
02:01:14 → 02:01:17 ใช่ไขมันดีนักอ่ะนะก็คือการแจกจ่ายพลัง
02:01:17 → 02:01:19 งานเาก็คือแจกจ่ายพลังงานจากที่เขาสะสม
02:01:19 → 02:01:21 อยู่จากที่สภาพเป็นอย่างนี้แล้วกลายมา
02:01:21 → 02:01:23 เป็นเป็นอย่างเงี้ยนะเพราะงั้นสิ่งที่
02:01:23 → 02:01:27 สะสมอยู่เนี่ยก็คือไขมันอิ่มตัวที่เป็นพิ
02:01:27 → 02:01:31 ิแอซิดนะฮะซึ่งก็ไม่ใช่ไขมันดีนะฮะไม่ใช่
02:01:31 → 02:01:35 ไขมันที่จะสลายมาเป็นพลังงานได้ดีนักนะก็
02:01:35 → 02:01:38 ไม่น่าจะเป็นคลีนคีโตนนะฮะนะ hdl มันถึง
02:01:38 → 02:01:42 ไม่เด้งนะมันไม่เด้งนะเพราะมันเหมือนจะมี
02:01:42 → 02:01:46 คอร์ติซอลไปกดๆอยู่นะมันไม่ใช่เป็นพลัง
02:01:46 → 02:01:49 งานที่สะอาดอะไรดีนักนะเนี่ยแล้วก็เรื่อง
02:01:49 → 02:01:54 ของเลมแนที่มันยังแดงแดงๆส้มๆแดงๆอยู่นะ
02:01:54 → 02:01:58 ก็คือเกิน 19 หรือเกิน 20
02:01:58 → 02:02:02 เนี่ยอันนี้ไม่ได้กินไม่ได้กินคาฟไม่ได้
02:02:02 → 02:02:05 ดื้ออินซูลินนะก็จะเป็นปัญหาของคอร์ติซอล
02:02:05 → 02:02:10 นะคอร์ติซอลก็ยังมากดกดอยู่ไม่สูนะเนี่ย
02:02:10 → 02:02:12 เราเทียบกลับไปเลยนะฮะนะเมื่อกี้หมอบอก
02:02:12 → 02:02:16 แล้วว่าเอ่อธรรมชาติของร่างกายระบบเริ่ม
02:02:16 → 02:02:19 แรกเลยก็คือการใช้พลังงานต้องมีตัวมารับ
02:02:19 → 02:02:22 เพราะว่าเมื่อมีปฏิกิริยาของเซลลล์ในการ
02:02:22 → 02:02:26 ใช้พลังงานจะต้องมีคอสอเกิดขึ้นนะคอสอ
02:02:27 → 02:02:30 เกิดขึ้น hdl ต้องไปรับนะเพราะงั้นก็จะมี
02:02:30 → 02:02:32 hdl ไปรับนะ
02:02:32 → 02:02:38 อ่าไปรับเสร็จนะฮะนะต้องรีบแจกจ่ายนะอ่า
02:02:38 → 02:02:43 ให้กับผู้ช่วยคือ ldl นะแล้วนะ hdl เนี่ย
02:02:43 → 02:02:48 ประมาณ 60 นะฮะนะก็ตัว ldl เนี่ยที่จะแจก
02:02:48 → 02:02:52 จ่ายไปได้เนี่ยก็ประมาณ 3.3 เท่านะฮะนะ
02:02:52 → 02:02:58 เพราะฉะนั้น 59 นะ 59 ใช่มคูณ 3.3 เป็น
02:02:58 → 02:03:03 เท่าไหร่คูณ 3.3 นะก็จะได้ประมาณ
02:03:03 → 02:03:08 195 นะเพราะฉะนั้นเนี่ยถ้าถ้าพอดีพอดี
02:03:08 → 02:03:11 เลยนะพอดีพอดีเลย ldl มันจะต้องประมาณ
02:03:11 → 02:03:13 อยู่ในเกณฑ์ประมาณ
02:03:13 → 02:03:16 195 นะแต่ตัวเนี้ย ldl มันพุ่งขึ้นไป
02:03:16 → 02:03:21 ตั้งเกิน 195 ไปไปเยอะเลยนะฮะเถึงได้ราย
02:03:21 → 02:03:25 งานว่าสูงไแล้วพอ ldl สูงนะมันก็เลย
02:03:25 → 02:03:29 สะท้อนมาที่ Total conal สูงด้วยคนนี้
02:03:29 → 02:03:34 คิดว่าสูงจากอะไรนะทำไม ldl มันสูงเกิน
02:03:34 → 02:03:38 จากความพอดีของ hdl hdl ต้องเป็นตัว
02:03:38 → 02:03:41 เริ่มต้นนะค่าของ hdl คือค่าที่ค่อนข้าง
02:03:41 → 02:03:44 จะิกนะฮะ
02:03:44 → 02:03:49 นะนะแต่เราจะต้องดูไลนมาก่อน hdl 60 นะ
02:03:49 → 02:03:53 ldl ที่จะมาช่วย HD แล้วได้ประมาณ 3.3
02:03:53 → 02:03:57 เท่าตามเกณฑ์ของอ่าอ่าอะไร David jer นะ
02:03:57 → 02:04:02 ฮะแต่นี้มันเกินนะจาก 3.3 เท่าคือประมาณ
02:04:02 → 02:04:06 เกินไปจาก 195 ไปเยอะนะแล้วก็มาเห็น Total
02:04:06 → 02:04:10 Coral สูงไปด้วยปัญหาของคนนี้ก็คือการ
02:04:10 → 02:04:14 เคลียร์แนไม่ดีฮะนะเพราะประตูซตที่ตัดนะ
02:04:14 → 02:04:18 มันน้อยมันน้อยนะไอ้ตัว ldl มันเลยเข้า
02:04:18 → 02:04:24 ไม่ได้คือตัว Total เนี่ยเป็นตัวบอกถึง
02:04:24 → 02:04:29 ถึง epor ที่ต่ดเอที่พยายามจะเคลียร์เอา
02:04:29 → 02:04:32 คอเลสเตอรอลที่อยู่บน hdl กับ ldl เข้าไป
02:04:33 → 02:04:34 แต่ว่าส่วนใหญ่จะเป็นความหมายของคอเลสเตอ
02:04:35 → 02:04:37 ที่อยู่ hdl มันเข้าไม่ได้เพราะประตูมัน
02:04:37 → 02:04:39 น้อย
02:04:39 → 02:04:43 นะอันนี้คือคำตอบของคนนี้นะว่าเอ่อทำไม
02:04:43 → 02:04:47 ค่าอะไรปิดโปรไฟล์มันถึงได้พุ่งไปเยอะไป
02:04:47 → 02:04:52 เยอะก็เลมนั้นสูงด้วยนะครับพี่หมอเอสูงไป
02:04:52 → 02:04:54 หน่อยนึงสูงไปเนื่องจากว่าในเรื่องของการ
02:04:54 → 02:04:57 กินเนี่ยยังไม่ยังไม่น่าจะถูกต้องเพราะ
02:04:57 → 02:04:59 เขาไม่ได้รู้เรื่อง OC High Good Fat
02:04:59 → 02:05:03 เขาก็สักจะกินโคฟนะแล้วก็กินน้อยๆแล้วก็
02:05:03 → 02:05:07 อดเยอะๆเออก็จะได้เปลี่ยนรูปร่างนะสิ่ง
02:05:07 → 02:05:10 เหล่านี้ที่เเกิดขึ้นก็เกิดขึ้นจากเรื่อง
02:05:10 → 02:05:13 ของ If นัแหละฮะเอ๊ะเลมนั้นนี่คือ vldl
02:05:13 → 02:05:17 ใช่่มพี่บเลมนั้นก็คือ vldl คือไกินนะฮะ
02:05:17 → 02:05:22 อืแต่จะเป็น vldl หรือเป็นไกินที่มาจากไข
02:05:22 → 02:05:26 มันอืมตัวที่มันเกินไปนะก็คือส่วนใหญ่อาจ
02:05:27 → 02:05:29 จะมาจากพวกเนื้อสัตว์หรืออาจจะมากับจาก
02:05:29 → 02:05:30 การประกอบ
02:05:30 → 02:05:35 อาหารค่าตับที่ขึ้นสูงขึ้นนี่มันเพราะ
02:05:35 → 02:05:38 อะไรครับอาจารย์แล้วอัตราส่วนที่ผิดเพียน
02:05:38 → 02:05:43 ค่าตัที่สูงขึ้นเนี่ยก็มาจากเรื่องมาจาก
02:05:43 → 02:05:47 เรื่องเนี่ยฮะก็คือเรื่องซตที่ตับมันบอด
02:05:47 → 02:05:50 นะคือตอนเนี้ยเราต้องดูตัว Total
02:05:50 → 02:05:54 คอเลสเตอรอลกับแอ ldl นะคือตัวไครินกับ
02:05:54 → 02:05:57 hdl อ่ะก็ไม่มีปัญหามันเป็นค่าที่นิ่ง
02:05:57 → 02:06:01 ที่นิ่งดีปกติด้วยนะแต่ตัวนี้สูงเพราะ
02:06:01 → 02:06:04 อะไรปกติมันต้องมาช่วยตัวเนี้ย 3.3 เท่า
02:06:04 → 02:06:08 คือประมาณ 195 แต่นี่มันพุ่งขึ้นมาเยอะใน
02:06:08 → 02:06:11 กระแสเลือดแสดงว่ามันเข้าตับไม่ได้เพราะ
02:06:11 → 02:06:15 งั้นปัญหามันก็อยู่ที่ซตที่ตับนะอ่าตัว
02:06:15 → 02:06:21 ที่บอกคือ Total คอสอฮะนะเนี่ยตับไม่
02:06:21 → 02:06:25 ปรากฏกดซตให้ ldl มาส่งคอเลสเตอรอลเข้าไป
02:06:25 → 02:06:27 นะเพราะฉะนั้นตับเนี่ยต้องเป็นอะไรไม่รู้
02:06:27 → 02:06:30 อ่ะก็มาดูเรื่องของเอนไซม์ตับปรากฏว่า
02:06:30 → 02:06:34 เอนไซมตับก็ยังเกิน 25 อยู่นะอัตราส่วนก็
02:06:34 → 02:06:37 ยังน้อยยังน้อยกว่า 1 อยู่นะฮะก็เป็น
02:06:37 → 02:06:41 ปัญหาที่ตัคิดว่าน่าจะเป็น
02:06:41 → 02:06:47 อะไรคนเนี้ยก็น่าจะมีปัญหาเรื่องเครียดนะ
02:06:47 → 02:06:51 ก็คือเป็นอาจจะเป็น adrenal ปาที
02:06:51 → 02:06:55 นะจากอะไรอ่ะจากโปรลอง
02:06:55 → 02:06:59 ไนะเเพราะว่าอาจจะไม่ได้มีชี้งชิ้งอะไร
02:06:59 → 02:07:03 มากมายนะนะหรือเไม่เข้าใจเราก็ไม่รู้อ่ะ
02:07:03 → 02:07:06 ต้องดูรายละเอียดแล้วล่ะนะหรือชีวิตหน้า
02:07:06 → 02:07:10 ที่การงานเนี่ยคนที่มันอยู่ในอายุ 40
02:07:10 → 02:07:13 อะไรต่างๆพวกเมันไม่ไลใครสิทหมอก็เคยผ่าน
02:07:14 → 02:07:20 มาก่อนเออนะกำลังเต็มที่อ่ะนะเพราะฉะนั้น
02:07:20 → 02:07:25 สิ่งต่างๆต้องรับผิดชอบสุดๆนะเอ่อไหนจะ
02:07:25 → 02:07:30 ลูกไหนจะพ่อไหนจะแม่นะแล้วตัวเองก็จะป่วย
02:07:30 → 02:07:33 มั้ยอย่างงี้แหละถ้าป่วยด้วยเนี่ยโอ้
02:07:34 → 02:07:38 เครียดไปหมดนะฮะเพราะงั้นก็เข้าใจว่าน่า
02:07:38 → 02:07:43 จะเป็นปัญหาเรื่องของของต่อหมวกไตอ่ะฮะนะ
02:07:43 → 02:07:45 ที่จะไปมี
02:07:45 → 02:07:52 ผลอคือต่อหมกไตกตับนะเอ่อเขารีกกันนะฮะ
02:07:52 → 02:07:55 เพราะว่าคอริตโมไตอ่ะก็ผลิตคอร์ติซอลใช่
02:07:56 → 02:08:00 มั้ยล่ะแล้วคอร์ติซอลเนี่ยเมีฐานในการ
02:08:00 → 02:08:06 สั่งการเอยู่ที่ไหนฮะก็คือตับนะตับเอ
02:08:06 → 02:08:10 เพราะฉะนั้นตับเนี่ยนะเออคิอมันจะเป็นตัว
02:08:10 → 02:08:12 สั่ง
02:08:13 → 02:08:17 เออก็คิดว่าพวกเนี้ยนะพวกเนี้ยก็เอนไซม์
02:08:17 → 02:08:21 มันก็อย่างเงี้ยนะนานนานๆเข้า 2 ปีมาแล้ว
02:08:21 → 02:08:24 นะนะก็จะน่าน่าจะมีผลแล้วล่ะนะเ่าก็ต้อง
02:08:24 → 02:08:31 ปรับอาหารซะหน่อยนะแล้วก็ปรับลดคอร์ติซอล
02:08:31 → 02:08:42 นะก็เท่าที่จะทำได้นะเกี่ยวกับไทลอยมั้ย
02:08:42 → 02:08:47 อือก็คิดว่าไม่น่าจะเกี่ยวนะถึงตรวจ
02:08:47 → 02:08:52 ไทรรอยด์ th ก็ยังน่าจะปกติอยู่อื
02:08:52 → 02:08:55 อิซูลินฟังก์ชันได้มครับอาจารย์อิซูลิน
02:08:55 → 02:08:58 ฟังก์ชันในเคสนี้เหรือไม่ฮะนะกลุ่มเนี้ย
02:08:58 → 02:09:02 กลุ่มพุงเครียดเนี่ยอินซูลินจะดีนะพวกนี้
02:09:02 → 02:09:05 เขเป็นเเป็น
02:09:05 → 02:09:10 โซนินะฮะคือบนิ type เนี่ยเออมันก็จะเป็น
02:09:10 → 02:09:14 สายเนื้อเป็นพุงเครียดเป็นเอสโตเจนเด่นนะ
02:09:14 → 02:09:18 พวกนี้ตับอ่อนผลิตอินซูลินเยอะนะแล้ว
02:09:18 → 02:09:21 อินซูลินก็ยัง Normal ฟังก์ชันเพียงแต่
02:09:21 → 02:09:26 ว่ามันผลิตเยอะมันจะตรงกันข้ามกับสายแป้ง
02:09:26 → 02:09:31 ผอมๆอันนั้นไดจนิ typ นะพวกนี้อินซูลิน
02:09:31 → 02:09:36 ตรงข้ามเลยนะผลิตน้อยนะแล้วบาง
02:09:36 → 02:09:40 ทีอาจจะน้อยหรืออาจจะปกติแต่มันฟังก์ชัน
02:09:40 → 02:09:42 มันขี้เกียจมันเพี้ยน
02:09:42 → 02:09:45 นะซึ่งพวกผมๆมแล้วมีปัญหาอินซูลินแบบที่
02:09:45 → 02:09:50 ว่าเยจะแก้ยากแต่ถ้าอ้วนๆเงี้ยนะ
02:09:50 → 02:09:53 เอ่ออินซูลินออกมาเยอะอย่างเดียวอ่ะนะแต่
02:09:53 → 02:09:56 ว่า Action ของมัน activity ประสิทธิภาพ
02:09:56 → 02:10:00 อะไรของมันยังปกติ
02:10:00 → 02:10:04 อยู่เพราะฉะนั้นคนเนี้ยนะเ่อไม่มีแลบ
02:10:04 → 02:10:08 อินซูลินก็ไม่เป็นไรอ่าไม่มีปัญหาหรอกนะ
02:10:08 → 02:10:12 นะนะแล้วอย่างเก็เนี่ยร่างกายเเปลี่ยนไป
02:10:12 → 02:10:13 ถึงขนาดเนี้ย
02:10:13 → 02:10:17 นะก็ไม่น่าจะสูญเสียกล้ามเนื้อหรอกยังไง
02:10:17 → 02:10:19 รูปร่างอย่างงนี้ก็ยังมีกล้ามเนื้ออยู่
02:10:19 → 02:10:21 ไม่ต้องกลัวนะหรืออ้วนๆอย่างเงี้ยเกล้าม
02:10:21 → 02:10:24 เนื้อเยอะไขมันเยอะฮะนะพลังงานเยอะนะ
02:10:24 → 02:10:28 อินซูลินเยอะเยอะไปหมดแหละนะแต่พอตอนเนี้
02:10:28 → 02:10:30 ปรับจากสภาพอย่างเงี้ยที่ทุกอย่างมันเยอะ
02:10:30 → 02:10:33 ๆเงี้ยมาเป็นอย่างเงี้ยคอร์ติซอลก็เริ่ม
02:10:33 → 02:10:36 มาแทรกะนะยิ่งผอมเท่าไหร่คอร์ติซอลก็ยิ่ง
02:10:36 → 02:10:39 มากขึ้นเท่านั้นอินซูลินยิ่งน้อยไปเท่า
02:10:39 → 02:10:42 นั้นยิ่งเดี้ยงไปเท่านั้นมันจะตรงกันข้าม
02:10:42 → 02:10:44 มันจะรีเวกลับไปกลับมาอย่างเงี้ยเพราะ
02:10:44 → 02:10:48 ฉนั้นคนมันถึงได้ต้องสมส่วนเถ้าคุณสมส่วน
02:10:48 → 02:10:50 กล้ามเนื้อสมส่วนรูปร่างสมส่วนน้ำหนักสม
02:10:50 → 02:10:54 ส่วนนะแล้วก็ความสูงกับ body weight ก็
02:10:54 → 02:11:00 อยู่ในเกณฑ์สมส่วนโอเคนะร่างกายสเสถียนนะ
02:11:00 → 02:11:04 แล้วก็สมดุลของโฮมสเตของอินซูลินสารอาหาร
02:11:04 → 02:11:08 อะไรต่างๆแต่การจะรักษาสภาพอย่างเงี้ยมัน
02:11:08 → 02:11:10 ค่อนข้าง
02:11:10 → 02:11:14 ยากเพราะงั้นใครที่สมส่วนแล้วค่อนข้างไป
02:11:14 → 02:11:20 ทางอ้วนนะไปทางเจเลยยลิมินะอันนี้ก็ต้อง
02:11:20 → 02:11:21 รีบอด
02:11:21 → 02:11:26 เออต้องรีบปรับอาหารนะต้องรีบอดต้องรีบ
02:11:26 → 02:11:27 เปลี่ยน
02:11:27 → 02:11:32 โภชนาการแต่ใครที่อ่าสมส่วนแล้วก็ลดลงมา
02:11:32 → 02:11:36 ลดลงมามาผอมๆมาจะผอมๆจะตกเกณฑ์อย่างเงี้ย
02:11:36 → 02:11:40 นะคนพวกนี้นะก็เช่นเดียวกันก็ต้องปรับ
02:11:40 → 02:11:45 โภชนาการควบคู่กับเรื่องของการอ่าเวทออก
02:11:45 → 02:11:49 แรงออกกำลังนะแล้วไม่ต้องไไม่ต้อง
02:11:49 → 02:11:54 If ใจฟังฝั่งที่อลินี่ต้องรีบอ่าปรับ
02:11:54 → 02:11:59 มื้ออาหารนะฮะนะ If อะไรต่างๆโปรลองฟา
02:11:59 → 02:12:04 อะไรต่างๆเออมันก็ตรงกันข้ามระหว่างสม
02:12:04 → 02:12:09 ส่วนไปอ้วนสมส่วนมา
02:12:09 → 02:12:13 ผอมอันเนี้ยก็ดูอย่างเงี้ย
02:12:14 → 02:12:19 นะก็ก็ปรับอาหารนะนะ 1 อ่าปรับเรื่อง low
02:12:19 → 02:12:23 C High f fat นะให้เหมาะสมให้เหมาะสม
02:12:24 → 02:12:27 แล้วก็มี rotating มี cheating อะไรต่างๆ
02:12:27 → 02:12:33 นะฮะอถ้านะถ้าตัวคอร์ติซอลสมดุลอ่าไม่
02:12:33 → 02:12:38 เกินไปนะฮะนะแล้วก็นิ่งนะเนี่ยตัวเนี้ย
02:12:38 → 02:12:41 มันก็จะต่ำกว่า 25 นะฮะอันนี้มันนิดเดียว
02:12:41 → 02:12:43 นิด
02:12:43 → 02:12:47 หน่อยคือก็แปลกใจมยล่ะว่าโอทำมาตั้ง 2 ปี
02:12:47 → 02:12:50 แล้วเ่ะทำไมค่าตัมันยังเป็นอย่างนี้นะ
02:12:50 → 02:12:53 หรือก่อนหน้านี้ค่าตับอาจจะเยอะๆก็ได้นะ
02:12:54 → 02:12:57 นะเขาก็ไม่ได้เล่าเรื่องเก่าๆมาเราก็ไม่
02:12:57 → 02:13:00 รู้นะแต่ว่าเมาโฟกัสในเรื่องอะไรอย่า
02:13:00 → 02:13:04 เงี้ยนะอุย 288 กลายเป็น 317 แล้วนะเนี่ย
02:13:04 → 02:13:07 นะรับรู้ไว้สิ
02:13:07 → 02:13:12 นะเออก็เพราะว่าตอนนี้เ่ะ
02:13:12 → 02:13:16 นะคือไอ้ตัวซตที่ไม่ปรากฏหรือหดหายไปของ
02:13:17 → 02:13:21 ตับเนี่ยมันมีปัจจัยร่วมเยอะแยะไปหมดนะฮะ
02:13:21 → 02:13:23 เช่นอะไรบ้างนะเช่นอินซูลินมากอินซูลิน
02:13:23 → 02:13:26 น้อยคอร์ติซอล
02:13:26 → 02:13:29 คือในแง่ของอินซูลินเนี่ยมันมันมีผลทั้ง
02:13:29 → 02:13:34 มากทั้งน้อยนะทั้งมากเกินเงี้ยนะหรือภาวะ
02:13:34 → 02:13:37 ที่มันน้อยหรือมันปกติแต่มันฟังก์ชัน
02:13:37 → 02:13:41 อินซูลินจะมีผลต่อรตรที่ตับนะคอร์ติซอล
02:13:41 → 02:13:45 ส่วนใหญ่คอร์ติซอลที่มีผลต่อรตรที่ตับก็
02:13:45 → 02:13:49 คือคอร์ติซอลที่มากเกินนะมากเกินส่วน
02:13:49 → 02:13:52 ไทรรอยด์ไทรรอยด์ก็จะมีผลในแง่ของเอ่อ
02:13:52 → 02:13:56 น้อยไปมากไปเป็นพิษไฮเปอร์ไฮโปแล้วก็
02:13:56 → 02:13:59 ไทรรอยด์ดิฟฟังก์ชันคล้ายๆอินซูลิน
02:13:59 → 02:14:03 เ่านะแล้วก็เอสโตรเจนก็เป็นพวกเอสโตรเจน
02:14:03 → 02:14:09 เด่นนะที่จะมีผลเป็นบล็อกซตที่
02:14:09 → 02:14:14 ต่ำแล้วก็ตัวไหนอีกอ่ะเอ่อก็เล็กๆน้อยๆ
02:14:14 → 02:14:16 อะไรอย่าเงี้ยแล้วก็มีเรื่อง
02:14:16 → 02:14:20 ของออกกำลังกายหนักเกินไปก็มักจะเรื่อง
02:14:20 → 02:14:24 ของคอร์ติซอลมาฟาฟาเยอะเกินไปโปรลองฟาสนะ
02:14:24 → 02:14:28 ก็คอร์ติซอลนะคอร์ติซอลเนี่ยคอร์ติซอล
02:14:28 → 02:14:32 ส่วนใหญ่ที่มีผลนะฮะในเรื่องของเมตาบอลิก
02:14:32 → 02:14:34 เนี่ยจะเป็นภาวะคอร์ติซอลที่
02:14:34 → 02:14:38 เขาที่เา้าเค้าเรียกว่ามันไม่นิ่งอ่ะแล้ว
02:14:38 → 02:14:41 มันจะพุ่งอ่ะเออมันจะพุ่งอ่ะเอ่ามันจะ
02:14:41 → 02:14:45 พุ่งมันจะเหวี่ยงมันจะสวิงชูตขึ้นไปอะไร
02:14:45 → 02:14:48 อย่างเงี้ยนะส่วนในแง่ของอินซูลินเนี่ย
02:14:48 → 02:14:52 อินซูลินเนี่ยในในภาวะที่มันกินแบบชกคา
02:14:52 → 02:14:56 ต่ำอะไรตอะไรไปแล้วนะแล้วก็ทำไลฟ์สไตล์ If
02:14:56 → 02:14:58 ออกกำลังกายเทคาร์ดิโออะไรอย่าเงี้ยนะอัน
02:14:58 → 02:15:01 นี้หมายถึงกลุ่มโลคเลยนะไม่เอาไอ้พวกกินห
02:15:01 → 02:15:04 หม่ง 5 หมู่อะไรงั้นนะอินซูลินส่วนใหญ่จะ
02:15:04 → 02:15:08 เป็นปญหาว่าอินซูลินมันน้อยฮะนะนะ
02:15:08 → 02:15:12 อินซูลินมันน้อยนะหรือมันดฟังก์ชันในคน
02:15:12 → 02:15:14 ผอมๆสายแป้ง
02:15:14 → 02:15:18 นะถ้าเป็นสายแบบอ้วนๆแบบเนี้ยนะถ้าคุณไป
02:15:18 → 02:15:23 กดอินซูลินเยอะๆโลคมากมาก If แยะยะนะหรือ
02:15:23 → 02:15:27 เปลี่ยนอ่าภาพของอาหารไปเป็น CD kcd แบบ
02:15:28 → 02:15:30 เคร่งไปเลยอะไรอย่างเงี้ยนะฮะอินซูลินมัน
02:15:30 → 02:15:35 ก็น้อยเกินไปอ่ะนะมันก็มีผลละเอมีผลต่อ
02:15:35 → 02:15:38 เรื่องของรตที่
02:15:38 → 02:15:43 ต่ซตที่ตับเนี่ยมีหลายปัจจัยอ่ารวมทั้ง
02:15:43 → 02:15:47 อีกอันนึงก็คืออ่า Gen variation นะ Gen
02:15:47 → 02:15:51 variation หรืออ่า Gen expression ยน
02:15:51 → 02:15:54 susceptibility ก็แล้วแต่การแสดงออกของ
02:15:54 → 02:15:57 ยนว่ามันจะเป็นแบบออน Air นะหรือมันจะ
02:15:57 → 02:16:03 เป็นการ variate
02:16:03 → 02:16:06 variation คุณหมอเรนั้นเกินนี่มันมาจาก
02:16:06 → 02:16:10 มันมาจากไม่อิ่มตัวเกินได้มั้ยพี่หมอเอ่อ
02:16:10 → 02:16:14 ไม่อิ่มตัวเกินก็มักจะเป็นูฟ่า
02:16:14 → 02:16:19 อ่าูฟ่านะฮะนะไม่มีตัวเชิงซ้อนเกินโดย
02:16:19 → 02:16:22 เฉพาะโอเมก้า 6 6
02:16:22 → 02:16:27 อ๋อน้ำมันพืบโอเมก้า 6 ที่ไปโดนกระทำย่ำ
02:16:27 → 02:16:31 ยีโดยรู้เท่าไม่ถึง
02:16:31 → 02:16:36 การไปโดนความร้อนไปปรุงไปถูกออกซิไดอ่ะนะ
02:16:36 → 02:16:39 ฮะเออเนื้อสัตว์ในฟาร์มพวกนี้ก็มีโอเมก้า
02:16:39 → 02:16:42 6 เยอะไม่พี่หมอมีทั้งนั้นพวกไก่สัตว์
02:16:42 → 02:16:46 ปีกอะไรพวกนี้ใช่มั้ยเออเพราะฉะนั้นการ
02:16:46 → 02:16:51 ที่บอกว่ากินไโปรตีนไอทโปรตีน
02:16:51 → 02:16:54 มันในยุคสมัยนี้นะฮะมันไม่มีอาหารเลยหรอก
02:16:54 → 02:16:58 ที่จะเป็นเหมือนเมื่อเป็นล้านๆปีนะอาหาร
02:16:58 → 02:17:01 พวกนี้เป็นอาหารประดิษฐ์หมดนะนะถึงแม้จะ
02:17:01 → 02:17:05 เป็นเรว Food เห็นหมูเห็นไก่เห็นอะไรต่าง
02:17:05 → 02:17:08 ๆเนี่ยที่มันอยู่ลายล้อมรอบตัวเราก็ตาม
02:17:08 → 02:17:11 แต่มันก็ไม่ได้หาจะเป็นเรว Food จริงๆได้
02:17:11 → 02:17:15 ง่ายนรอหรือจะมาจากฟาร์มเฟิร์มอะไรต่างๆ
02:17:15 → 02:17:17 อ่ะเราก็ไม่รู้ก็ใส่โน่นใส่นี่อะไรมาหรือ
02:17:17 → 02:17:22 เปล่านะมันเยอะ่ะฮะนะเรื่องราวของคน
02:17:22 → 02:17:25 ต้องไปอยู่
02:17:25 → 02:17:28 ป่าเดี๋ยวเดี๋ยวนี้นายทุนก็ตามไปอยู่ป่า
02:17:28 → 02:17:29 กันหมดแล้วครับพี่
02:17:29 → 02:17:34 หมอรอดหรอกนะถ้างั้นก็ต้องยอมรับ
02:17:34 → 02:17:37 นะก็ต้องกินสลับๆกันไปใช่มั้ยพี่หมอพวก
02:17:37 → 02:17:41 เนี้ยก็ต้องกินหมุนเวียนแล้วก็เลือกด้วย
02:17:41 → 02:17:46 ความรู้นะฮะนะต้องเลือกด้วยความรู้นะต้อง
02:17:46 → 02:17:48 มีความรู้ต้องเรียนรู้นะแล้วก็เลือกให้ดี
02:17:48 → 02:17:52 ที่สุดแต่รู้หรอกนาอว่าเลือกยังไงเนี่ย
02:17:52 → 02:17:57 มันก็มันก็ยังมีปะปนมีมีปนมาอยู่ดีอ่ะอัน
02:17:57 → 02:18:01 นั้นก็ต้องทำใจแล้วก็ยอมรับเพราะว่ายุค
02:18:01 → 02:18:02 สมัยมัน
02:18:02 → 02:18:06 เปลี่ยนมันเปลี่ยนละเออมันก็ทำได้แค่นี้
02:18:06 → 02:18:10 แหละดังนั้นแไขมันอิ่มตัวที่มันไม่มีผล
02:18:10 → 02:18:13 ต่อ ldl เนี่ยก็มีแค่สเตียริกหรือเปล่า
02:18:13 → 02:18:18 ครับพี่หมอ 48 อ่ะอ่าใช่ชนั้นมีผลหมดเลย
02:18:18 → 02:18:22 ใช่มั้ยช่นั้นจะมีผลหมดเลยแต่อย่างงี้นะ
02:18:22 → 02:18:27 ถ้าคุณกินเป็นกินถูกสัดส่วนการปรุงนะ what
02:18:27 → 02:18:28 to eat When to eat How to eat
02:18:28 → 02:18:31 อะไรต่างๆเหล่าเนี้ยนะแล้วอยู่
02:18:31 → 02:18:36 ในอยู่ในฝั่งอ่ะอยู่ในในเ้าเรียก category
02:18:36 → 02:18:36 ของ
02:18:37 → 02:18:40 ความของความ optimal ที่สุดเนี่ยมันก็ไม่
02:18:40 → 02:18:44 มีปัญหามันก็เข้ามากดเกณฑ์ต่างๆที่เราได้
02:18:44 → 02:18:48 วางไว้เป็นพื้นฐานนะฮะนะกินให้เป็นกินให้
02:18:48 → 02:18:52 ถูกกิน 1 วันกินยังไงเพราะ
02:18:52 → 02:18:55 อะไรนะซึ่งเราก็วางแนวทางอยู่แล้วในสูตร
02:18:55 → 02:18:57 802 นะ
02:18:57 → 02:19:01 333 ก็คือ 1 เอ่อพลังงานต้องเข้าทางระบบ
02:19:01 → 02:19:04 น้ำเหลืองเอ่อไปทางระบบน้ำเลือกให้น้อย
02:19:04 → 02:19:05 ที่สุด
02:19:06 → 02:19:11 นะแล้วก็เผาผลาญมากกว่าการสะสมนะฮอร์โมน
02:19:11 → 02:19:14 ฝั่งไหนออกมาฝั่งไหน
02:19:14 → 02:19:19 เอ่อออกมาให้น้อยที่สุดนะอเหล่าเนี้ยเรา
02:19:19 → 02:19:22 เป็นการกระทำอะไรต่างๆที่จะปรับจะเปลี่ยน
02:19:22 → 02:19:26 เรื่องพลังงานสารอาหารฮอร์โมนอวัยวะการทำ
02:19:26 → 02:19:30 งานให้มัน optimal ที่สุดแล้ว
02:19:30 → 02:19:33 เลยคือจริงๆกินนี่ต้องรู้เลยนะว่าสิ่งที่
02:19:33 → 02:19:36 กินนี่ไปกระตุ้นฮอร์โมนอะไรนะพี่หมอนะใช่
02:19:36 → 02:19:39 ฮะแต่หลักๆก็มี 2 ตัวนะก็ตัวพ่อกับตัวแม่
02:19:39 → 02:19:44 เนี่ย 2 ตัวออเออคราวนี้คนส่วนใหญ่ทางสาย
02:19:44 → 02:19:47 โลคาฟเนี่ยส่วนมากเจะรู้แต่ตัวพ่อไงรู้
02:19:47 → 02:19:49 แต่อินซูลินแต่ไม่รู้ถึงตัวแม่ว่าอะไร
02:19:49 → 02:19:54 กระตุ้นตัวแม่ได้บ้างเงต้องรู้คุณสมบัติ
02:19:54 → 02:19:58 ของอินซูลินกับคอร์ติซอลให้ลึกๆนะฮะให้
02:19:58 → 02:20:02 ลึกๆเราเคยไลฟ์เรื่องอินซูลินอินซูลิน
02:20:02 → 02:20:05 อะไรครั้งกันนั้นน่ะก็ถือว่าเป็นไลฟ์ที่
02:20:05 → 02:20:10 หมอประทับใจนะเราพูดถึงเรื่อง physiologic
02:20:10 → 02:20:13 pathologic ต่างๆในช่วงเวลาต่างๆเนี่ย
02:20:13 → 02:20:17 ไม่เหมือนกันนะฮะนะทุกอย่างเป็นไปตาม cal
02:20:17 → 02:20:22 rit cal timing นะเอเออันนี้เป็นพื้น
02:20:22 → 02:20:26 ฐานสำคัญเลยของฮอร์โมนที่มาตามจังหวะช่วง
02:20:26 → 02:20:31 เวลากลางวันกลางคืนอะไรต่าง
02:20:31 → 02:20:35 ๆคืออยากจะมีคำถามครับมีคำถามครับพี่หมอ
02:20:35 → 02:20:39 เดี๋ยวนะเทสเนี้ยดูไงนะดูเ้าไม่ซับซ้อนนะ
02:20:39 → 02:20:42 ฮะตรงไปตรงมาแล้วก็กาลเวลาก็ต้อง 2 ปี
02:20:42 → 02:20:45 แล้วเนี่ยนะเวลาเ้าให้จค่าแลบมาอย่าง
02:20:45 → 02:20:47 เงี้ยสมมติไม่มีอย่างอื่นเลยมีแต่อะไรปิด
02:20:47 → 02:20:51 โปรไฟล์ 4 ตัวเนี้ยนะฮะนะเราก็ดูว่าเออ
02:20:51 → 02:20:55 ไตกีสลนในเรื่องของพลังงานเนี่ยนะอยู่ใน
02:20:55 → 02:20:58 โหมดของการเผาผลาญมากกว่าสะสมใช่มยนะอัน
02:20:58 → 02:21:02 นี้ก็น่าจะใช่แล้วมันก็เขียวด้วยนะฮะนะ
02:21:02 → 02:21:05 เ่อไม่ได้ขาดด้วยไม่ได้ติดไม่ได้ในผู้ชาย
02:21:05 → 02:21:07 ไม่ได้น้อยกว่า 35 ในผู้หญิงไม่น้อยกว่า
02:21:07 → 02:21:10 40 เนี่ยถือว่าไกิสลอยู่ในเกณฑ์ปกติ
02:21:10 → 02:21:16 optimal นะอ่าเอาล่ะนะไกินเนี่ยมีการถูก
02:21:16 → 02:21:19 เผาผลาแล้วล่ะนะต่อไปก็คือหลังจากเผาผลา
02:21:19 → 02:21:23 พลังงานนี่พลังงานใช่มนะจะในระบบน้ำ
02:21:23 → 02:21:25 เหลืองน้ำเลือดอะไรก็ว่าไปนะแล้วต้องมี
02:21:25 → 02:21:28 ตัวมารับนะเพราะว่ากระบวงการเผาผลาญจะ
02:21:28 → 02:21:30 ต้องมีอะไรเกิดขึ้นคอเลสเตอรอลตัวมารับ
02:21:30 → 02:21:34 คือ hdl นะเอาล่ะ hdl ก็มารับคอเลสเตอรอล
02:21:34 → 02:21:39 นะแล้วการมารับเนี่ยนะอ่าถ้าอัตราส่วนมัน
02:21:39 → 02:21:42 ไม่เกิน 1.8 หรือไม่เกิน 2 อ่ะแบบแต่เดิม
02:21:42 → 02:21:47 อ่ะนะฮะก็ถือว่าทั้งการเผาผลาพลังงานและ
02:21:47 → 02:21:49 การที่จะมารับคอเลสเตอรอลซึ่งเป็น uc จาก
02:21:49 → 02:21:53 การเผาผันพลังงานในทางคู่ขนานเนี่ยมันก็
02:21:53 → 02:21:58 พอดีกันนะในการทำงานนะอันนี้หารแล้วก็
02:21:58 → 02:22:02 เป็นไงน้อยกว่า 1 อีกก็ดีอ่าไม่เป็นไรนะ
02:22:02 → 02:22:07 ต่อไปเ่ามี hdl ต้องมีผู้ช่วยนะแล้วผู้
02:22:07 → 02:22:11 ช่วยจะมาช่วย hdl เนี่ยปกติไม่ควรเกิน
02:22:11 → 02:22:16 เท่าไหร่ไม่ควรเกิน 2.5 ฮะเท่าของ hdl นะ
02:22:16 → 02:22:20 เพราะฉะนั้น ldl ที่มาแล้วพอดีกับ hdl
02:22:20 → 02:22:23 เลยเลยแล้วจะถูกรายงานว่าปกติเนี่ยก็คือ
02:22:23 → 02:22:27 ประมาณ 60 * 2.5 เนี่ยนะก็ประมาณเท่า
02:22:27 → 02:22:32 กับ 150 ไม่ควรเกิน 150 นะฮะนะแต่ถ้ามา
02:22:32 → 02:22:37 แล้วมากกว่า 3.3 เท่านะ 3.3 เท่าก็คือ 195
02:22:37 → 02:22:43 นะเอ่อมันเกินไปก็แสดงว่า ldl เนี่ยมาอ่า
02:22:43 → 02:22:48 ตามปกติคือไม่ควรจะเกิน 195 นะแต่ตอน
02:22:48 → 02:22:51 เนี้ยมันเกินขึ้นไป 300 กว่าแสดงว่ามัน
02:22:51 → 02:22:56 เริ่มมีการสะสม hdl เกิดขึ้นนะเกิดขึ้น
02:22:56 → 02:22:59 เ่าทำไมถึงสะสม hdl เกิดขึ้นส่วนใหญ่มัน
02:22:59 → 02:23:02 ก็จะย้อนกลับไปที่ประตูหรือการเคลียร์
02:23:02 → 02:23:05 rance มันไม่ดีเออจริงนี่หว่า Total
02:23:05 → 02:23:08 คอสอเนี่ยซึ่งมันเป็นตัวมาเกอร์ที่จะดู
02:23:08 → 02:23:13 ว่าอ่าไอ้ระบบ ldl receptor นะที่เขาจะ
02:23:13 → 02:23:16 รับเปิดประตูให้ hdl เข้าไปเนี่ยนะมัน
02:23:16 → 02:23:20 น้อยไปนะเพราะฉะนั้นก็แสดงว่ามีปัญหาที่
02:23:20 → 02:23:24 การเคลียร์แนหรือประตูซตที่ตับนะน้อยไปนะ
02:23:24 → 02:23:28 เอ่อเพราะฉะนั้นปัญหาอยู่ที่ตัวประตูที่
02:23:28 → 02:23:32 ตับอ่าประตูที่ตับน้อยเกินไปตับเป็นไร
02:23:32 → 02:23:35 เหรอตับมันจะเป็นไรเนี่ยก็เพราะอะไรนะก็
02:23:35 → 02:23:38 เพราะตัวตับเองเป็นอะไรก็ไม่รู้อ่ะนะมีไข
02:23:38 → 02:23:42 มันพอกอยู่อักเสบอยู่ป่วยอยู่เอ่อผิดปกติ
02:23:42 → 02:23:47 อะไรอยู่นะหรืออ่าหรือหรือมันมีผลมาจาก
02:23:47 → 02:23:51 เรื่องอะไรอ่ะอ่าเรื่องเรื่องเรื่องไทรอย
02:23:51 → 02:23:53 เออก็ได้นะฮะแต่อนี้คงไม่เกี่ยวไม่ใช่
02:23:53 → 02:23:58 เหมือนๆนะอ่าเหลือบไปดูที่เอนไซมตับอ่า
02:23:58 → 02:24:01 อันนี้ไม่อยู่ในร่องในรอยนี่หว่าเกินนะ
02:24:01 → 02:24:05 เกิน 26 นะแล้วเกินไปนิดนึงนะแล้วอันนี้
02:24:05 → 02:24:08 ก็อันนี้ก็อ่ามันควรจะเกิน 1 อ่ะแต่อัน
02:24:08 → 02:24:12 นี้มันต่ำกว่า 1 เพราะฉะนั้นปัญหาก็อยู่
02:24:12 → 02:24:16 ที่ตับเอ๊ตับวันนี้น่าจะเป็นไนนะไทรรอยก็
02:24:16 → 02:24:20 ไม่น่าจะมีปัญหานะก็น่าจะเป็นปัญหาส่วน
02:24:20 → 02:24:23 ใหญ่นะส่วนใหญ่ก็คือเป็นไม่ถ้าไม่เป็น
02:24:23 → 02:24:25 ปัญหาที่ตัวตับเองก็มักจะเป็นปัญหาจาก
02:24:25 → 02:24:30 ฮอร์โมนคอร์ติซอลซึ่งเกิดจากต่อหมกไตเอ่า
02:24:30 → 02:24:35 เมันมีบทความนะฮะนะของเรื่องอ่าอะไรอ่ะ
02:24:35 → 02:24:38 เรื่องเรื่องไอ้ตัวคอร์ติซอลมีมีผลยังไง
02:24:38 → 02:24:43 ต่อต่อการทำงานหเ่าเนี่ยก็ดูข้ามชอตกันไป
02:24:43 → 02:24:45 อย่างเงี้ยเพราะฉะนั้นถ้ามีปัญหาที่ต่อ
02:24:45 → 02:24:50 หมวกไตเป็นต้นทางนะเพราะมีความเครียดนะก็
02:24:50 → 02:24:53 ต้องไปดูไลฟ์สไตล์คือคอร์ติซอลเนี่ยส่วน
02:24:53 → 02:24:58 ใหญ่ก็ไม่ได้เป็นปัญหาที่การกินนักแต่
02:24:58 → 02:25:00 คอร์ติซอลมันจะเป็นปัญหาในเรื่องของ
02:25:00 → 02:25:04 พฤติกรรมนะฮะนะเพราะว่าสิ่งที่เป็นปัญหา
02:25:04 → 02:25:08 ทางด้านการกินก็คืออินซูลินพอกินผิดกิน
02:25:08 → 02:25:10 มั่วกินซี้ั่กินไม่เป็นกินไม่ถูกอินซูลิน
02:25:11 → 02:25:15 มาก่อนยกเว้นแต่ว่าอุยตัดค้งตัดค้ากินน้ำ
02:25:15 → 02:25:18 ตาเอ้ยกินโปรตีนกินไขมันอาจจะมีคอร์ติซอล
02:25:18 → 02:25:21 มาเลยนะฮะ
02:25:21 → 02:25:23 เพราะว่าคิอส่วนใหญ่มันจะเป็นเรื่อง
02:25:23 → 02:25:26 พฤติกรรมนะฮะเอพฤติกรรมก็คือก็ไปดูอ่ะ
02:25:26 → 02:25:29 พฤติกรรมของคนเรานอนเป็นยังไงออกกำลังกาย
02:25:29 → 02:25:34 เป็นยังไง If น If เคนนี้ If มัน 2 ปีนะ
02:25:34 → 02:25:38 กินโคกิน omas ไหรือเปล่าโปรลอง Fast
02:25:38 → 02:25:40 หรือเปล่ารูปร่างถึงได้เปลี่ยนเป็นอย่างง
02:25:40 → 02:25:45 นี้มันฉากฉากๆเป็นอย่างเงี้ยฮะนะเนี่ยคือ
02:25:45 → 02:25:48 คอร์ติซอลนี่จะเป็นพฤติกรรมพฤติการต่างๆ
02:25:48 → 02:25:52 นะนอนไม่ดีหรือเปล่านะหรือเครียดงานอ่า
02:25:52 → 02:25:57 อะไรอย่างเงี้ยหรือตอนเนี้ยรูปร่างผอมไป
02:25:57 → 02:26:02 อ่าตกเกมไปวุบไปหรือเปล่าเออหนักตั้ง 100
02:26:02 → 02:26:06 นึงนะอยู่ดีๆน้ำหนักหายไปเกือบ 50% อย่าง
02:26:06 → 02:26:09 เงี้ยโโอยอย่างเงี้ยร่างกายเครียดนะ
02:26:09 → 02:26:11 เครียดเพราะอะไรไม่ได้เครียดเพราะเพราะ
02:26:11 → 02:26:13 เรื่องอาหารด้วยการกินซึมันจะเกี่ยวกับ
02:26:13 → 02:26:17 อินซูลินหรอกมันเครียดเพราะพฤติกรรมก่อเศ
02:26:17 → 02:26:21 เจะเกี่ยวกับพฤติกรรม
02:26:21 → 02:26:24 เพราะฉะนั้นเนี่ยในการซักประวัติตรวจร่าง
02:26:24 → 02:26:28 กายในการคุยกับคนไข้นะก็ก็จะต้องมาถามกัน
02:26:28 → 02:26:35 อย่างเงี้ยนะแต่ปากต้องเร็ว
02:26:35 → 02:26:39 หน่อยอผ่านไปก่อนเนาอ้าใครจะถามอะไรถาม
02:26:39 → 02:26:44 เลยครับอ่าพี่ภูริวัฒน์ฝากถามมาครับโอ้
02:26:44 → 02:26:50 ภูริวัฒน์เข้ามาฟังมาๆวันมาถามว่าถ้า่าไป
02:26:50 → 02:26:53 หาร hdl เนี่ยน้อยกว่า 2 แล้วก็
02:26:53 → 02:26:57 hdl 105 ldl 200 เนี่ยค่ารายปิดนี้
02:26:57 → 02:27:00 จำเป็นต้องตรวจ remnant ม
02:27:00 → 02:27:02 ครับ
02:27:02 → 02:27:05 เอ่อก็มันตรวจได้อยู่แล้วไง remnant
02:27:05 → 02:27:09 เนี่ยคำดวนไม่ยากเออ remnant cholesterol
02:27:09 → 02:27:15 ก็คือ Total cholesterol ลบด้วย hdl กับ
02:27:15 → 02:27:18 ldl คือจริงๆเอาเข้าตารางมันก็จะมีค่า
02:27:18 → 02:27:22 โผล่ออกมาเลยอ่ะครับอคำนวณไว้ให้แล้ว
02:27:22 → 02:27:28 เอออาจารย์ครับในจะมาดูในน้ำมันภูฝ่าครับ
02:27:28 → 02:27:30 ทำไมถึงไม่เลือกเป็นน้ำมันงาและเป็นน้ำ
02:27:30 → 02:27:36 มันงาขี้มอนแอ๋อเลือกอยู่นะเราเลือได้
02:27:36 → 02:27:39 อยู่ใช่มครับได้ได้อยู่ฮะาขี้มอนเนี่ยทาง
02:27:39 → 02:27:42 ภาคเหนือ
02:27:42 → 02:27:46 เออซีหอยรอครับอาจารย์
02:27:46 → 02:27:51 หถ้าเป็นน้ำมันงาธรรมดาล่ะครับออน้ำมันงา
02:27:51 → 02:27:54 ธรรมดาไม่ปลอดภัยฮะโอเก้า 6 เยอะมากนะ
02:27:54 → 02:27:59 เป็นเป็นพันๆ
02:27:59 → 02:28:05 เลยน้ำมันงาเราเลือกงาขี้มอนฮะเพราะว่างา
02:28:05 → 02:28:08 ขี้มอนเนี่ยมันจะมีพวยอ่อของไอ้ตัว
02:28:09 → 02:28:13 โอเมก้า 6 อ่ะที่จะไปสร้างตัวโคค 10 เรา
02:28:13 → 02:28:18 เรียกมาขี้มอนมานะแต่ถ้าน้เป็นงาขาวงาดำ
02:28:18 → 02:28:22 ทั่วไปเนี่ยไม่มี
02:28:22 → 02:28:27 เอน้ำมันงาขาวงาดำมันก็เป็นแบบทั่วๆไป
02:28:27 → 02:28:31 ส่วนใหญ่เราใช้ภายนอกนะเราใช้นวดกระดูก
02:28:31 → 02:28:43 ไคโรแพคติกจัดกระดูกอะไรอย่า
02:28:43 → 02:28:48 เงี้ยเอ่ออันนี้อ๋ออันนี้อันนี้เห็นหรรือ
02:28:48 → 02:28:54 ยังฮะอันนี้คือคือัสเิเแนะนำนะ Top 4 นะ
02:28:54 → 02:29:00 ฮะนะแต่ถ้าใครนะเไปติ idy นะนะอันนี้ก็
02:29:00 → 02:29:04 คืออ่าเควินมากี้เป็น editor เป็น
02:29:04 → 02:29:07 บรรณาธิการนะฮะแล้วก็คนนี้ก็ถูกยกย่อง
02:29:07 → 02:29:11 เป็น 1 ใน 5 นะของ rid List ระดับโลกนะ
02:29:11 → 02:29:17 ครับนะนี้นะ kin Mary นะฮะนะ clinical
02:29:17 → 02:29:23 lipid ly นะอันนี้คือูอ่าบอสวอนะฮะนะ
02:29:23 → 02:29:28 อันนี้ก็คือก็คือตำนานนะของตำราทางด้าน
02:29:28 → 02:29:32 โรคหัวใจนะฮะอันนี้ลูกศิษย์ของเขาเป็น
02:29:32 → 02:29:36 ศิษย์เอกนะฮะคริสตี้วาเลนไทนนะก็เอารวบ
02:29:36 → 02:29:40 รวมนะงานวิจัยต่างๆทางด้าน clinical
02:29:40 → 02:29:46 lipid ly นะกับเรื่องของาทวิทยานะคือ
02:29:46 → 02:29:51 ปัญหาของโลกทางด้านหัวใจนะยูจีนบวอเนี่ย
02:29:51 → 02:29:56 นะจบปริญญาเอก 2 ใบตั้งแต่อายุ 25 นะฮะนะ
02:29:56 → 02:30:01 ตอนนี้ายุ 95 ฮะหลังจากจบปริญญาเอกแล้ว
02:30:01 → 02:30:06 เนี่ยเขาก็เป็นรีรอทำงานวิจัยมาทั้งหมด
02:30:06 → 02:30:12 ทั้งหมดกี่ปีฮะ 70 ปีนะฮะ 70 ปีนะฮะนะ
02:30:12 → 02:30:17 แล้วตอนนี้เขาก็เค้าก็ยังให้ความรู้อยู่
02:30:17 → 02:30:21 อ่ะยังมีเลคเชอร์เค้าเรียกอ่า banting
02:30:21 → 02:30:25 Lecture ฮะนะยูจีนวอนะ
02:30:25 → 02:30:31 ฮะเรียนยังไง 25 จบจะเก 2 ใบ 2 ใบนะฮะหัว
02:30:31 → 02:30:36 ไบคมากแล้วก็เอ่อแล้วก็เป็นที่สำคัญก็คือ
02:30:36 → 02:30:42 เป็นรีรอเป็นนักวิจัย 70 ปีนะฮะนะเออนะ
02:30:42 → 02:30:44 อันนี้เป็นลูกศิษย์เอกคริสตี้บาเลนไทน์
02:30:44 → 02:30:45 [เพลง]
02:30:45 → 02:30:49 นะตัวอื่นเนี่ยเก็แนะนำไอ้ตัวอันนี้นะ
02:30:49 → 02:30:53 เป็น handbook ของไน testing นะฮะแล้วก็
02:30:53 → 02:30:58 เป็นตัว idy Primer a Primer เนี่ยฮะ
02:30:58 → 02:31:01 แต่ว่าอันเนี้ยเล่มเดียวพอแล้วนะเล่ม
02:31:01 → 02:31:07 เดียวพอแล้วนะฮะนะเนี่ยเควินมากี้เป็น
02:31:07 → 02:31:10 บรรณาธิการแต่อันเนี้ยหมอโรคหัวใจทุกคน
02:31:10 → 02:31:17 ต้องมีต้องมีนะนะอันนี้เป็น Edition ที่ 3
02:31:17 → 02:31:21 นะจริงๆตอนนี้คือ Edition ที่ 12 12
02:31:21 → 02:31:25 แล้วนะ 12 Edition นะก็เป็นคนเขียนตำรา
02:31:25 → 02:31:30 นะคนนี้ทั่วโลกยกย่องวันเกิดเขาก็คือ
02:31:30 → 02:31:32 เมื่ออาทิตย์ที่แล้วนะฮะนะก็ออกทางด้าน
02:31:32 → 02:31:38 ทวตเตอรนะกระจายทั่วไปหมดนะเขาเป็นตำนาน
02:31:38 → 02:31:45 ตำนานเเรียกรนนะนะทางด้านหทยวิทยาส่วน 2
02:31:45 → 02:31:51 คนนี่บิลไนะในปี 1985 ที่สำคัก็คือเรารู้
02:31:51 → 02:31:54 จัก ldl receptor ในปีนั้นแล้วนะเรารู้
02:31:54 → 02:31:59 homeostasis ของไลโปโปรตีนนะโดยเฉพาะ AP
02:31:59 → 02:32:03 ต่างๆแล้วในปีนั้นนะฮะและเรารู้เรื่องของ
02:32:03 → 02:32:07 regular regulation ของ molecular
02:32:07 → 02:32:11 cholesterol metabolism แล้วนะเนี่ยนะ
02:32:11 → 02:32:15 แล้วก็สมการนี้คือสมการ No P นะฮะ Total
02:32:15 → 02:32:22 คอสอเท่ากับ ldl นะ + hdl + ไาร 5 ไหาร
02:32:22 → 02:32:23 5 ก็
02:32:23 → 02:32:29 คือก็คือ VL dl rem นะฮ vldl rem ก็
02:32:29 → 02:32:35 คือก็คือ remnant คอสอนะนะอ๋อไอ้ค่าเมื่อ
02:32:35 → 02:32:41 กี้นี้ที่เราพูดถึงกันใช่ไหมครับใช่
02:32:41 → 02:32:43 ฮเนี่ย
02:32:43 → 02:32:48 ฮะ Total คสอเท่ากับ hdl บเนะเลเท่ากับ
02:32:48 → 02:32:52 Total Chester ลบด้วย HD กับ ldl นะไไล
02:32:52 → 02:32:56 หาร 5 ก็คือค่า rem ค่า rem ก็คือ
02:32:56 → 02:33:02 vldl จริงๆมันจะมี kant idl LP r a
02:33:02 → 02:33:05 แต่พวกเนี้ยมันถูกมันมี A E เพราะฉะนั้น
02:33:05 → 02:33:08 มันถูกเรียกกับนะที่ receptor ที่
02:33:08 → 02:33:14 ตับกลับไปหมดเลยนะอันนี้คือสมการเพราะ
02:33:14 → 02:33:19 ฉะนั้นถ้าถามว่าไตกสูงนะนึกถึงอะไรบ้างนะ
02:33:19 → 02:33:23 นะไตกิสไลเหล่านี้เกิดจาก 3 เรื่องนี้นะ
02:33:23 → 02:33:26 ฮะนะนะก็คืออาหารที่กินผ่านทางกระแสเลือด
02:33:26 → 02:33:31 เข้าสู่ตับนะก็คือเบอร์ 2 นะฮะ
02:33:31 → 02:33:34 นะอาหารที่กินข้าวล่างผ่านทางระบบน้ำ
02:33:34 → 02:33:38 เหลืองนะแล้วผ่านระบบเลือดมายังตับก็คือ
02:33:38 → 02:33:41 เบอร์ 4 ซึ่งส่วนใหญ่จะหมายถึงไขมันอิ่ม
02:33:41 → 02:33:46 ตัวที่จะพาคอเลสเตอรอลมาด้วยนะฮะพลังงาน
02:33:46 → 02:33:49 ส่วนเกินที่สะสมไปในร่างกายแล้วถูกเผา
02:33:49 → 02:33:51 ผลาญเมื่อไม่ได้กินอาหารผ่านเข้าสู่กระแส
02:33:52 → 02:33:55 เลือดมายังตับคือเบอร์ 1 นะเบอร์ 1
02:33:55 → 02:33:59 นะแต่ทั้งหมดเนี่ย 1 + 2 + 3 เนี่ยนะ
02:33:59 → 02:34:03 ฮะเอ้ยเอ้ 2 + 4 + 1 เนี่ย 1 เนี่ย
02:34:04 → 02:34:09 มันจะนิดเดียวนะนะก็คือ vldl นะ rem
02:34:09 → 02:34:11 เนี่ยหรือไก
02:34:11 → 02:34:16 เนี่ยอันนี้ก็เป็นของใครอบกใช่มที่บอกว่า
02:34:16 → 02:34:21 เวลา High ไกีลในการกินโชการคต่ำเนี่ยให้
02:34:21 → 02:34:24 นึกถึงอะไรบ้างนะก็ให้นึกถึงว่าจะมีปัญหา
02:34:24 → 02:34:28 เรื่องับคิอไฮโปไทรอยด์เปล่านะมีการสร้าง
02:34:28 → 02:34:32 น้ำดีน้อยไปมั้ยนะฮะนะเอ่อแล้วก็มี
02:34:32 → 02:34:35 transitional นะคีโตนแต่อันนี้มันจะเกิด
02:34:35 → 02:34:38 ขึ้นแค่ 6 สัปดาห์นะฮะ 6 สัปดาห์คือช่วง
02:34:38 → 02:34:42 แรกๆเนี่ยร่างกายเนี่ยมันมีการเผาผลาญตัว
02:34:42 → 02:34:45 ไตกีสไลเป็นฟี้ Acid มาอยู่ในกระแสเลือด
02:34:46 → 02:34:48 เยอะแล้วร่างกายมันใช้ไม่ทันใช้ไม่เป็น
02:34:48 → 02:34:52 เพราะไม่ไม่คุ้นเหมือนคุ้นกับการใช้ฟอ่า
02:34:52 → 02:34:54 hidden Car hidden cf นี่ยังเป็นอะไร
02:34:54 → 02:34:57 ที่แบบคนยังประมาทกันเยอะมากโดยเฉพาะสาร
02:34:57 → 02:35:01 ปรุงแต่งนะแล้วก็สิ่งปรุงรสแล้วก็ hidden
02:35:01 → 02:35:04 Fat นะฮะนะ hidden Fat ด้วยนะฮะ hidden
02:35:04 → 02:35:08 cf ด้วยนะเพราะไอ้พวกแปรรูปแปรูปแปรูป
02:35:08 → 02:35:12 เนี่ยเเจือมาในทุกวิถีทางนะ
02:35:12 → 02:35:16 ฮะการกิน mct Oil ในแบบ Bullet Coffee
02:35:16 → 02:35:19 แต่ส่วนใหญ่พวกนี้คือกินเกินนะฮะนะปริมาณ
02:35:19 → 02:35:24 ที่เกินแล้วจะไปมีผลก็คือเกิน 7.5 หรือ
02:35:24 → 02:35:29 ช้อนชาครึ่งต่อครั้งนะฮะต่อครั้งอ่าปกติ
02:35:29 → 02:35:31 คุณจะเติม mct Oil ใน Bullet Coffee ใน
02:35:31 → 02:35:34 กระฟงกาแฟอะไรต่างๆให้เติม 1 ช้อนชา 5
02:35:34 → 02:35:40 ซีซีถึงไม่เกินนะ 7.5 ซีซนะถ้าเกินกว่า
02:35:40 → 02:35:44 นั้นเนี่ยเ่อระบบของตับเนี่ยที่จะเผาผลาญ
02:35:44 → 02:35:47 เปลี่ยนอ่า medium Chin กลายเป็นคีโตน
02:35:47 → 02:35:51 เนี่ยมันอาจจะไม่ไหวมันมันอาจจะไม่ไหวนะ
02:35:51 → 02:35:57 ฮะนะเพราะงั้นพวกนี้เรื่องของโดสกับคันนะ
02:35:57 → 02:36:01 ไม่ใช่ตักใส่เป็นช้อนโต๊ะอะไรอย่างนั้นนะ
02:36:01 → 02:36:06 ฮะนะเออคุณหมอมัน่าทำมันมีมั้ยคนที่ไตกี
02:36:07 → 02:36:10 สลายต่ำแต่ว่าเล่มนั้นสูงอย่างเงี้ยฮะอ๋อ
02:36:10 → 02:36:15 มีฮะมีผมยังไม่เคลียร์เรื่องไตกีสลายกับ
02:36:15 → 02:36:17 เล็มนั้นคือรู้ว่ามันเป็นไตกีสลยเหมือน
02:36:17 → 02:36:22 กันแต่แล้วเล็มนั้นเนี่ยมันคือ vldl ไิ
02:36:22 → 02:36:28 ใช่่มยฮะไิที่อยู่ใน vldl เออแล้วไกีเฉยๆ
02:36:28 → 02:36:33 อ่ะรู้สึกเคยถามพี่หมอไปแล้วแต่ผมก็อย่าง
02:36:33 → 02:36:35 ไม่เกไีเฉยๆนะ
02:36:35 → 02:36:40 ไตกีเนี่ยก็คือ vldl ที่เอาไตคือการเจาะ
02:36:40 → 02:36:43 เลือดเนี่ยเราก็คือเจาะตรวจไอ้ตัวไตกีสไล
02:36:43 → 02:36:47 ที่อยู่บนเรือนำส่งพลังงาน vldl vldl
02:36:47 → 02:36:50 มันจะไป Packing ไินมาจากจากไหนบ้างก็คือ
02:36:50 → 02:36:54 จากเบอร์ 2 นะอ่าจากอาหารที่กินนี่แหละนะ
02:36:55 → 02:36:58 ฮะอจากอาหารที่กินแล้วผ่านระบบน้ำเหลือง
02:36:58 → 02:37:01 มาระบบเลือดแล้วเป็นเบอร์ 4 ก็ b 2 B 4
02:37:01 → 02:37:06 อ่าจากการสลายนะของของอะไรของเื้อเยื่อไข
02:37:06 → 02:37:10 มันเวลาที่จะฟานะก็คือเบอร์ 1 อ่าแล้วก็
02:37:10 → 02:37:15 อาจจะมาจากเรื่องนะ ldl เอ้ยไอ้ไอ
02:37:15 → 02:37:19 ไลโปโปรตีนไ spel เบอร์ 3 นะฮะแต่เบอร์ 3
02:37:19 → 02:37:22 เนี่ยไม่ค่อยเจอนักหรอกนะคือในทางทฤษฎี
02:37:22 → 02:37:27 เนี่ย vdl มันจะมาจาก 1 2 3 4 อ่ากลาย
02:37:27 → 02:37:30 เป็นเบอร์ 5 ไกินออกมากับ vldl เพราะ
02:37:30 → 02:37:35 ฉะนั้นถามว่าไินคืออะไรก็คืออันนี้ฮะแต่
02:37:35 → 02:37:37 ในทางความเป็นจริงนะเมื่อเจาะเลือดเมื่อ
02:37:38 → 02:37:40 npo มาเมื่อเตรียมตัวมาอะไรต่างๆเหล่า
02:37:40 → 02:37:44 เนี้ยนะฮะนะตัวที่จะหายไปเนี่ยก็คือเบอร์
02:37:44 → 02:37:47 3 กับเบอร์ 1
02:37:47 → 02:37:51 นะตัวที่อ่าน่าจะยังมีผลมากที่สุดคือ
02:37:51 → 02:37:54 เบอร์ 4 เพราะมันคือ remnant
02:37:54 → 02:37:58 kon คือ rem kcon เนี่ย plma Resident
02:37:58 → 02:38:03 Time มันเท่าไหร่มันมันเท่าไหร่นะ 4-6
02:38:03 → 02:38:04 ชม
02:38:04 → 02:38:09 ฮะแต่ถ้าคุณดื้ออินซูลินนะหรือคุณไม่เข้า
02:38:09 → 02:38:12 ใจในรูปแบบการกิน low C High Good
02:38:12 → 02:38:15 Healthy F อะไรต่างๆเหล่าเนี้ยตัว pass
02:38:15 → 02:38:20 resent มันจะคูณ 2 นะเพราะั้น
02:38:20 → 02:38:24 4 2 8 6 2 เพราะฉะนั้น 8-12 ชมเนี่ย
02:38:25 → 02:38:30 ยังปรากฏตัวของเลนไคเหมอยู่นะเพราะฉะนั้น
02:38:30 → 02:38:32 ไก็จะมาจากอันนี้
02:38:32 → 02:38:40 หลักเพราะฉะนั้นถามว่านะอ่า vldl ไิเนี่ย
02:38:40 → 02:38:43 เบอร์ 2 ก็เบอร์ 4 มีความเป็นไปได้สูงสุด
02:38:43 → 02:38:49 นะอาจจะเบอร์ 1 นะถ้าเกิดว่านะร่างกายเขา
02:38:49 → 02:38:55 มี activity นะของอ่าของไรนไสที่ที่ค่อน
02:38:55 → 02:38:58 ข้างไฮเปอร์ Hyper sensitive ซึอเรีย
02:38:58 → 02:39:01 เป็น EXP นะฮะนะเพราะฉะนั้นพวกนี้เนี่ย
02:39:01 → 02:39:06 เบอร์ 1 ไนมันจะออกมาเต็มไปหมดเลยนะนะ
02:39:06 → 02:39:09 เนี่ยแล้วมันก็มาที่ตับแล้วมันก็ออกมาทาง
02:39:09 → 02:39:13 นี้นะฮะทั้งๆที่มีการ npo มาหลายๆชั่วโมง
02:39:13 → 02:39:19 แล้วมาเจาะเลือกตัว
02:39:19 → 02:39:23 เข้าใจไตกีสรายหือยังว่ามาจากอันนี้นะ
02:39:23 → 02:39:27 แล้วแล้วคนที่ไตค่าค่าไตกีสรายต่ำแต่ว่า
02:39:27 → 02:39:29 เลมนั้นสูง่ะครับพี่หมอจะอธิบายยังไงอ่ะ
02:39:29 → 02:39:39 ครับถ้าไตกิสลายต่ำนะเลมนั้นอะไรนะสูง
02:39:39 → 02:39:44 นะก็คือเบอร์ 5 นะคือเบอร์ 5 เนี่ยมันก็
02:39:44 → 02:39:49 จะไปตระเวนนะอ่าทั่วีพทั่วแดนในร่างกาย
02:39:49 → 02:39:51 ก่อนที่จะกลับเข้าสู่ตับคือออกใจตับแล้ว
02:39:51 → 02:39:57 กลับเข้าตับนะฮะนะถ้าอ่าถ้าตัวไตกิสลน
02:39:57 → 02:40:03 เหล่าเนี้ยไปถูกใช้ๆๆๆๆนะเนี่ยนะในที่สุด
02:40:03 → 02:40:06 แล้ว VL remnant มันก็จะเหลือเบอร์ 4
02:40:06 → 02:40:11 กับเบอร์ 2 นะเบอร์ 4 กับเบอร์ 2 แต่นะ
02:40:11 → 02:40:14 เวลาที่ร่างกายเนี่ยเขาจะเอาไกิน
02:40:14 → 02:40:19 อ่าไปใช้เนี่ยนะเขาก็มักจะเลือกไกินที่มี
02:40:19 → 02:40:24 การการสลายตัวง่ายๆนะอที่มีการไตกีซปกติ
02:40:24 → 02:40:27 อ่ะที่ไม่แปรรูปมากนักส่วนใหญ่ไตกีซที่
02:40:27 → 02:40:31 แปลรูปก็คือไซไที่มันเสียโครงสร้างอ่ะ
02:40:31 → 02:40:37 เช่นทาน Fat นะหรืออ่าเป็นไขมันที่มันถูก
02:40:37 → 02:40:41 ความร้อนอ่าผ่านการ process มาเยอะๆนะพวก
02:40:41 → 02:40:46 เนี้ยนะพวกเเลนมันจะ
02:40:46 → 02:40:50 เยอะส่วนใหญ่เรนก็จะมาจากอันเนี้ยเยอะ
02:40:50 → 02:40:55 นะคือเอาร่างกายเอไปใช้ได้ยากกว่าไิสลาย
02:40:55 → 02:41:01 ที่มันดีๆใช่มั้ยครับใช่
02:41:02 → 02:41:05 นะโอเคเดี๋ยวต้องไปฟังซ้ำครับเรมนั้นส่วน
02:41:06 → 02:41:11 ใหญ่มันก็จะอยู่นะบน VL dl นะ
02:41:11 → 02:41:14 ฮะแล้วก็มันมันใช้ไม่ได้ฮเก็บไม่ได้ใช้
02:41:14 → 02:41:17 ไม่ได้เก็บไม่ได้เพราะว่าคุณกินโลคาฟไม่
02:41:17 → 02:41:22 มีอินซูลินมันช่วยเก็บนะฮะเออใช้ไม่ได้
02:41:22 → 02:41:24 ใช้ไม่ได้เพราะว่าฮอร์โมนลูกเทพเอาไปใช้
02:41:24 → 02:41:27 ไม่ได้คือมันกลายเป็นสิ่งแปลกปลอมอ่ะนะก็
02:41:27 → 02:41:30 ไม่รู้่ะคุณอยู่ดีๆคุณไปเปลี่ยนโครงสร้าง
02:41:30 → 02:41:34 เป็นทานแฟตหรือไขมันดีๆอ่ะน้ำมันมกงน้ำ
02:41:34 → 02:41:37 มันมะกอกอ่ะคุณไปผ่านความ
02:41:37 → 02:41:41 รู้ขออนุญาตวันนี้ก็เพิ่งเจอเคสมาเหมือน
02:41:41 → 02:41:42 กัน
02:41:42 → 02:41:45 ครับเป็นเป็นเคส
02:41:45 → 02:41:50 เ่อเามีิกับ sdl เนี่ย 70 10 กว่าๆนะตัว
02:41:50 → 02:41:52 เลขเกือบจะเท่ากันเลยก็คือคนเนี้ไม่มีการ
02:41:52 → 02:41:56 พึอินซูลินไม่มีปัญหาในระบบประพานคอนไป
02:41:56 → 02:42:00 ทางพอมแต่เลนก็เกิน 20 มานิด
02:42:00 → 02:42:05 นึงนะครับแล้วก็ตัว ldl ก็ไม่สูงเท่าไหร่
02:42:05 → 02:42:09 นะฮะ 2 เท่านิดๆหือไงจำไม่ของของ hdl ที
02:42:09 → 02:42:12 นี้ก็เราก็ซักประวัติเนะว่าเกินอาหารอะไร
02:42:12 → 02:42:18 ยังไงบ้างปรากฏว่าคนเนี้ยเกินอาหารเสริม
02:42:18 → 02:42:21 เป็นพวกน้ำมันสกัดเย็นนี่แหละแต่ว่ากิน
02:42:21 → 02:42:23 กินแบบซด
02:42:23 → 02:42:26 เลยคือคือไม่เชิงอาหารเสริมอกินกินเหมือน
02:42:26 → 02:42:30 เหมเหมือนตักกินเลยอ่ะอืแล้วก็มีทั้งน้ำ
02:42:30 → 02:42:34 มันอะไรอ่ะมีทั้งมะกอกก็
02:42:34 → 02:42:38 กินน้ำมันมะพร้าวก็กินอะไรก็กินนะแบบกิน 2
02:42:38 → 02:42:40 อย่าง 3 อย่างอ่ะ
02:42:40 → 02:42:44 นะเหมือนกับเค้าเหวังว่าเคกินเนี่ยแล้วก็
02:42:44 → 02:42:47 ร่างกายก็จะได้มีพลังงานที่ดีอะไรเงี้ย
02:42:47 → 02:42:50 แต่เไม่เข้าใจอ่ะอืไม่ไม่เข้าใจหลักการ
02:42:50 → 02:42:52 ไม่เข้าใจวิธีกิน
02:42:52 → 02:42:57 อืก็แนะนำไปฮะแล้วก็ให้มาอ่านในเพจต่อ
02:42:57 → 02:43:00 เพราะว่าวคุยไม่ทันการกินที่ผิดการกินที่
02:43:00 → 02:43:05 ผิดแบบเนะก็จะมีผลนะที่จะไปทำให้ตัวเลเ
02:43:05 → 02:43:09 เออ
02:43:09 → 02:43:13 อจริงๆก็เจอเรื่อยๆนะครับเคสที่แบบว่าไม่
02:43:13 → 02:43:17 ดื้ออินซูลินติลไม่สูงหรือบางคนติลอาจจะ
02:43:17 → 02:43:19 ดูดีต่ำกว่า sdl นิดนึงด้วยซ้ำแต่ว่ามี
02:43:19 → 02:43:22 ปัญหาเรื่องของเลมแนนเกินอืแล้วก็จะเป็น
02:43:22 → 02:43:25 อย่างที่อาจารย์ว่าคือีอาจจะกินผิดวิธี
02:43:25 → 02:43:27 แบบเนี้ยคือไขมันดีน้ำมันสกัดเย็นแต่เกิน
02:43:27 → 02:43:32 ผิดไอ้ซดดื้อๆเนี่ยซดดซดจริงซดจังก็มีนะ
02:43:33 → 02:43:35 ไม่ไม่ทราบเเรียนมาจากไหนเหมือนกันนะหรือ
02:43:35 → 02:43:38 บางคนก็ไม่มีอะไรมากครับผมกินเ้าไม่มีเค
02:43:38 → 02:43:43 กินแบบอ่า 5 หมูสแตนดาร์ดอเมริกันอะไรแบบ
02:43:43 → 02:43:47 เนี้ยแต่ว่าเกินของทอดเยอะอืก็ก็ไม่รู้
02:43:47 → 02:43:49 ว่าน้ำมันแปรรูปหรือว่าน้ำมันอะไรแต่ว่า
02:43:49 → 02:43:52 ก็ก็คงไม่น่าใช้น้ำมันที่ดีนแะทานของทอด
02:43:52 → 02:43:55 เยอะแต่ว่าเขาอาจจะเผาผาดีเไม่ดื้อ
02:43:55 → 02:44:00 อินซูลินเไม่อ้วนอืแต่เล็มแนนเกินนะเจอ
02:44:00 → 02:44:03 เรื่อยๆครับที่ตสภาพเข้าทางเบอร์ 0 นี่
02:44:04 → 02:44:08 แหละนะสุทัศน์ดูดีๆว่านะพวกเนี้ยของไม่ดี
02:44:08 → 02:44:10 เนี่ยนะมันเข้าแล้วมันเป็นน้ำมันมันก็
02:44:10 → 02:44:13 ต้องเข้าทางระบบน้ำเหลืองนะมันก็ใช้ไม่
02:44:13 → 02:44:16 ได้ใครก็ไม่ใช้กูไม่ใช้กูไม่ใช้นะผ่าน
02:44:16 → 02:44:20 ระบบเลือดมาทั้งระบบเบอร์ 4 นะพอมาเบอร์ 4
02:44:20 → 02:44:25 เจะมาให้ตับตับเก็ต้องการใช้ไขมันอิ่มตัว
02:44:25 → 02:44:29 ที่ดีอ่ะแต่ตับเขไปเจอทานแฟตเงี้ยหรือไป
02:44:29 → 02:44:32 เจอน้ำมันมะกอกแล้วก็ไปทอดอะไรมาก็ไม่รู้
02:44:32 → 02:44:35 อ่ะนะแล้วโครงสร้างก็เสียแล้วอ่ะนะฮะนะ
02:44:35 → 02:44:37 มันก็ต้องมาผ่านเข้าอย่างเงี้ยแล้วมาตับ
02:44:37 → 02:44:40 ตับใช้มยเอาตับก็ไม่ใช้นะเพราะอะไรเพราะ
02:44:40 → 02:44:43 ตับไม่รู้จักไม่รู้จักวิวัฒนาการของตับก็
02:44:43 → 02:44:46 ยังรู้จักแบบพีแบบน้ำมงน้ำมันที่เป็น Good
02:44:47 → 02:44:49 Healthy Fat น่ะพอไม่ใช้ก็ต้องแกิออก
02:44:49 → 02:44:52 คือไม่ใช้ก็เก็บนะฮะนะแต่ไม่มีพื้นที่
02:44:52 → 02:44:57 เก็บผอมๆด้วยนะก็แพคกิ้งออกมาเป็น vldl
02:44:57 → 02:45:01 นะเนี่ยแล้วพวกนี้ก็จะออกมาลอยรำเรืออยู่
02:45:01 → 02:45:03 เอาไปเก็บก็ไม่ได้เอาไปใช้ก็ไม่เป็น
02:45:04 → 02:45:08 เอเป็นไกิสลายสัมภเวสีนะพี่หมอนะแต่มันก็
02:45:08 → 02:45:12 คือเป็นจุดสะท้อนมาจากตัวเบอร์ 4 นี่แหละ
02:45:12 → 02:45:16 ฮะนะก็คือไม่มีใครใช้ไม่มีใคร
02:45:16 → 02:45:21 เอาคือกินผิดกินผิดมาตั้งแต่ต้น
02:45:21 → 02:45:24 เออแล้วมันก็เลยสะท้อนออกมาที่ค่าเลือด
02:45:24 → 02:45:26 ออกมาได้เหมือนกันเนาะพี่หมอเเหมือก็
02:45:26 → 02:45:30 สะท้อนมาจากค่าเลือดเป็นค่าเลม
02:45:30 → 02:45:35 แนนมันไม่ใช่สิ่งที่ดีแล้วตัวฮอร์โมนที่
02:45:35 → 02:45:37 มาตอบสนองคือตัวฮอร์โมนเครียดตัวแม่
02:45:37 → 02:45:40 คอร์ติซอล
02:45:40 → 02:45:45 นะแต่ถ้าเมื่อไหร่มันเป็นของดีตัวที่ออก
02:45:45 → 02:45:47 มาตอบสนองตั้งแต่ต้นทางในระบบน้ำเหลือง
02:45:47 → 02:45:49 เลยคือฮอร์โมนลูกเทพ
02:45:49 → 02:45:53 นะเาก็แล้วก็เาก็จะถูกใครๆก็อยากใช้ของดี
02:45:53 → 02:45:56 อ่ะนะระหว่างที่ผ่านทางนี้นะไม่ต้องไป
02:45:56 → 02:45:59 ผ่านถึงขนาดมาถึงตับหรอกนะแค่ผ่านทางนี้
02:45:59 → 02:46:03 ก็หมดแล้วมั้งของดีอ่ะนะร่างกายมันก็ใช้
02:46:03 → 02:46:04 ก่อน
02:46:04 → 02:46:07 นะเดี๋ยวนะดังนั้นเนี่ยคนที่กินโลคาฟ
02:46:07 → 02:46:09 เนี่ยอินซูลินมันต่ำอยู่แล้วอันเนี้ยตัด
02:46:09 → 02:46:13 ไปได้เลยอืแต่ว่าถ้ากินไขมันกินโปรตีนผิด
02:46:13 → 02:46:16 เนี่ยมันก็กลายเป็นเลข 4 เข้ามาล้นออกมา
02:46:16 → 02:46:21 ใช่มพี่หมอเออถ้าโปโปรตีนผิดถ้าเป็นไขมัน
02:46:21 → 02:46:24 ในคือคุณกินเนื้อสัตว์น่ะแล้วคุณกินผิด
02:46:24 → 02:46:27 คุณปรอะไรต่างๆแซ่บหลายแซ่บหลายเนี่ย
02:46:27 → 02:46:31 โปรตีนเขเข้าทางน้ำเลือดอ่าเข้าทาง2องไข
02:46:31 → 02:46:34 มันคอเลสเตอรอลต่างๆนะรวมทั้งน้ำมันทอด
02:46:34 → 02:46:37 ผัดอะไรต่างๆถ้าใช้ในเนื้อสัตว์เหล่านั้น
02:46:37 → 02:46:40 เนี่ยก็เข้าทางฝั่งเบอร์ศูนน้ำเหลืองแต่
02:46:40 → 02:46:41 เข้ามาแล้วมัน
02:46:41 → 02:46:45 ก็อันไหนที่มันพอใช้ได้มันก็เอาไปใช้ะน่ะ
02:46:45 → 02:46:47 นะเพราะว่ามันก็ต้องมีทั้งอิ่มทั้งเดี่ยว
02:46:47 → 02:46:49 ทั้งซ้อนเนี่ยแต่ส่วนใหญ่ที่ไม่ดีไม่ดี
02:46:49 → 02:46:51 ไม่ดีหรือกลายเป็นพวกท Z เนี่ยก็จะเป็น
02:46:51 → 02:46:56 อิ่มตัวที่เป็นเสียงโครงสร้างนะเนี่ยมัน
02:46:56 → 02:46:58 ก็จะผ่านทุกอย่างผ่านมาหมดเพราะไม่มีใคร
02:46:58 → 02:47:02 ใช้เพราะไม่รู้จักนะก็คือมีคำว่าร่างกาย
02:47:02 → 02:47:06 ไม่รู้จักวิวัฒนาการร่างกายไม่เข้าใจไม่
02:47:06 → 02:47:08 รู้จักเ่อไม่รู้จักก็ไปไหน่ะก็ต้องมาเก็บ
02:47:08 → 02:47:13 ที่ตับนะเอ่อเพราะว่าอวัยวะในการที่จะคัด
02:47:13 → 02:47:16 กรองในการที่จะเก็บหรือว่าในการที่จะ
02:47:16 → 02:47:19 เปลี่ยนแปลงเ่อท็อกซินหรือของไม่ดีหรือบอ
02:47:19 → 02:47:23 หรืออะไรก็ตามนะคือตับนะเพราะฉะนั้นรอบ
02:47:23 → 02:47:26 แรกเนี่ยในที่สุดก็มาที่ตับแล้วตับเองเก็
02:47:26 → 02:47:30 ใช้ไม่ได้เก็ส่งออกนะเผื่อจะมีที่เก็บ
02:47:30 → 02:47:34 เผื่อจะมีที่ไหนที่จะไป detoxify หรือไป
02:47:34 → 02:47:37 Activate แต่อะไรเงี้ยนะแต่ก็ไม่มีไม่มี
02:47:37 → 02:47:39 ก็กลับมาตับ
02:47:39 → 02:47:44 ต่อก็วนไปเวียนมาอย่าเงี้ยแต่รอบแบบนี้
02:47:44 → 02:47:47 แล้วก็ถ้ากินผิดแบบนี้เนี่ยคืออินซูลิน
02:47:47 → 02:47:51 ไม่มาก็จริงแต่ว่าคติซ่อมาถ้าคติซ่อมาก็
02:47:51 → 02:47:55 คือลูกเทพไม่ทำงานเออหรืออินซูลินมาลูก
02:47:55 → 02:47:59 เทพก็ไม่ทำงานอคือไม่ว่าคือพ่อกับแม่
02:47:59 → 02:48:02 เนี่ย 2 ตัวเนี้ยไม่ว่าใครมาเนี่ยหรือจะ
02:48:02 → 02:48:04 มาทั้งคู่เนี่ยก็คือลูกเทพไม่ทำงานทั้ง
02:48:04 → 02:48:07 คู่ใช่สิเพราะว่าลูกเทพเกลัวพ่อกลัวแม่
02:48:07 → 02:48:12 ไงถ้าพ่อแม่ยังออกมาคืออย่าลืมพ่อมา
02:48:12 → 02:48:17 เดี๋ยวแม่ก็มาแม่มาเดี๋ยวพ่อมันก็มาเออ
02:48:17 → 02:48:22 แล้วพ่อแม่มาลูกก็ก็เข้าห้องปิดประตู
02:48:22 → 02:48:25 นอนไม่กล้าออกไปเพราะว่าพ่อกับแม่มาเนี่ย
02:48:25 → 02:48:29 ก็ไม่ได้มาดีมาแฮปปี้กระดี้กระด้าหัวล่อ
02:48:29 → 02:48:34 ต่อกระซิกเมาทะเลาะกันฮะเมาทะเลาะ
02:48:34 → 02:48:38 กันเพียงเพียงแต่ว่าไอ้พวกเราอ่ะดีกว่าคน
02:48:38 → 02:48:40 อื่นหน่อยตรงที่ว่าไม่ได้กินขาบเสริมเข้า
02:48:40 → 02:48:44 ไปเท่านั้นเองเออคือหลังจากนั้นก็โปรตีน
02:48:44 → 02:48:46 กับไขมันที่กินเข้าไปผิดเนี่ยก็ไปทะเลาะ
02:48:46 → 02:48:50 กันในระบบน้ำเลือดต่อไปเดี๋ยวยาว
02:48:51 → 02:48:55 ใช่โอเคหรือบางครั้งเนี่ยคุณไม่มีความรู้
02:48:55 → 02:48:58 อะไรเลยหรอกคุณกิงคุณไปอ่ะนะแล้วเลือกที่
02:48:58 → 02:49:01 มันดีที่สุดอ่ะอ่าเลือกที่มันออร์แกนิค
02:49:01 → 02:49:05 อนามัยก๊าดเฟร็ดเลือกการปรุงความร้อนน้อย
02:49:05 → 02:49:10 ๆเรื่องการจับคู่ให้มันแบบเอ่อมีบในสิ่ง
02:49:10 → 02:49:14 ที่เอ่อผักใบก็มีผักหัวก็มีผักดองก็มี
02:49:14 → 02:49:16 เนื้อสัตว์ก็มีน้ำซุปก็มีอะไรอย่างเงี้ย
02:49:16 → 02:49:19 นะฮะแต่ไม่มีสัตส่วนไม่มีอีิมเดี่ยวซ้อน
02:49:19 → 02:49:23 30 50 20 อะไรนักหรอกนะอแล้วคุณก็กิน
02:49:24 → 02:49:28 เข้าไปอ่ะนะนะก็พวกเนี้ยนะบวกลบคูณหาร
02:49:28 → 02:49:30 แล้วเนี่ยส่วนใหญ่มันก็ยังเป็นพลังงานที่
02:49:30 → 02:49:35 ดีนะฮะนะแล้วมันก็จะเข้าไปแล้วก็ไปถูกใช้
02:49:35 → 02:49:38 ถูกอะไรต่างๆนะแล้วในที่สุดคุณก็มีสุขภาพ
02:49:38 → 02:49:43 ดีนะเพราะคุณมีแนวทางในการใช้อย่างอื่นๆ
02:49:43 → 02:49:46 ด้วยเช่นไปออกแรงออกกำลังไปทำ If ไปมี
02:49:46 → 02:49:51 ไลฟ์สไตล์ที่มันจะมาส่งเสริมอ่ะนะแต่ว่า
02:49:51 → 02:49:54 อาหารคุณผิดเต็มประตูเลยอย่าเงี้ยนะแต่
02:49:54 → 02:49:56 คุณก็ยังดีได้ฝนแหลบก็ยัง
02:49:56 → 02:50:01 สวยก็มีฮะหลายคนเป็นเบาหวานเห็นมก็ไปตั้ง
02:50:01 → 02:50:04 หน้าตั้งตาเอ่อทั้งเวททั้งคาร์ดิโอทั้ง
02:50:04 → 02:50:07 เอาจริงเอาจังอะไรอย่าเงี้ยซื้ออุปกรณ์
02:50:07 → 02:50:10 ซื้ออะไรต่างๆมาแต่อาหารเขาก็ยังไม่ค่อย
02:50:10 → 02:50:13 ถูกนักยังมีกินขมกินข้าวกินผลไม้กินพืช
02:50:13 → 02:50:16 กินผักอะไรอย่างงี้เอ่าบางคนก็ยังกิน
02:50:16 → 02:50:19 เหล้ากินเบียร์บ้างนิดๆหน่อยๆด้วยนะแต่
02:50:19 → 02:50:21 เค้าก็ดีอ่ะ
02:50:21 → 02:50:26 เออเ่อผลหลับก็ยังดีอยู่นะเ่าน้ำตงน้ำตาล
02:50:26 → 02:50:30 อะไรก็ยังคุมได้
02:50:30 → 02:50:35 อยู่แต่บางคนเนี่ยรู้หมดเลยทำหมดเลยแต่
02:50:35 → 02:50:37 มันก็ยังไม่
02:50:37 → 02:50:42 ดีเออก็ต้องมาหากันต่อแล้วล่ะว่ามันขาด
02:50:42 → 02:50:47 ขาดไปเกินไปเรื่องอะไรน้อเออเอในที่สุด
02:50:47 → 02:50:50 แล้วนี่นะี ldl remnant เนี่ยที่บอกว่า
02:50:50 → 02:50:54 ไตกีอาจจะไม่สูงอ่าไม่สูงเท่าไหร่เพราะ
02:50:54 → 02:50:57 ว่าร่างกายเค้าเมีช่วงเวลาที่เจะเอาไปใช้
02:50:57 → 02:51:01 ่ะฮะนะเ่อฟาสมาออกกำลังกายมาอะไรต่างๆมาเ
02:51:01 → 02:51:05 ก็ใช้นะแต่เขาจะเลือกใช้ไตกีสไลที่ดีๆ
02:51:05 → 02:51:09 แล้วเขาก็รู้ว่าไอ้ตัวเบอร์ 4 เนี่ยมามัน
02:51:09 → 02:51:12 เป็นไขมันทานมันเป็นไขมันแปรรูปโดนความ
02:51:12 → 02:51:16 ร้อนมารู้สูงๆนานๆก็ไม่มีใครใช้อ่ะมันก็
02:51:16 → 02:51:22 เลยเ่อกลายไปเป็นเลนฮะนะนะคือไกีซอาจจะ
02:51:22 → 02:51:26 ปกติหรือไม่สูงแต่เรนมันเยอะเพราะว่าเรน
02:51:26 → 02:51:29 เนี่ยก็คือเป็นไขมันที่มันมาตาตึงอยู่ใน
02:51:29 → 02:51:32 กระแสเลือดเพราะไม่มีใครเอาเก็บก็ไม่ได้
02:51:32 → 02:51:34 ใช้ก็ไม่
02:51:34 → 02:51:38 เป็นไม่มีที่ชอบที่ชอบเล
02:51:38 → 02:51:41 ไปเออ
02:51:42 → 02:51:45 นะนี้ก็วิธีการสังเกตคราวที่แล้วก็เล่าๆ
02:51:45 → 02:51:48 ไปแล้วแล้วในตารางของเราเนี่ยนะใน
02:51:48 → 02:51:52 ไลโปโปรตีนเซนินะฮะเราก็จะดูเรื่องตั้ง
02:51:52 → 02:51:56 แต่เบอร์ 9 เบอร์ 10 11 12 นะฮะนะเบอร์
02:51:56 → 02:52:00 11 เนี่ยจะหมายถึงพลังงานไกีที่ไม่ดีและ
02:52:00 → 02:52:04 มักจะถูกควบคุมด้วยคอร์ติซอลเป็นหลักนะ
02:52:04 → 02:52:09 เ่าที่มันจะเกินนะส่วนเบอร์ 12 ก็จะหมาย
02:52:09 → 02:52:13 ถึง Apple B หรือเราว่าอ้อมๆจับเ่อ non
02:52:13 → 02:52:17 hdl นะ
02:52:17 → 02:52:21 ฮะถ้ามาแปล 90 11 12 แล้วเนี่ยนะส่วน
02:52:21 → 02:52:24 ใหญ่อันเนี้ยเราก็จะแปลไปเรียบร้อยแล้ว
02:52:24 → 02:52:28 คืออันนี้มันเป็นแค่ไลปิดเซนทริกอันนี้
02:52:28 → 02:52:32 เป็นไลโปโปรตีนเซนทริกนะฮะอันเนี้ยมัน
02:52:32 → 02:52:37 เป็นค่าต่างๆที่มันเป็นลกูคอเลสเตอรอลนะ
02:52:37 → 02:52:41 หรือเซลลูล่าคอเลสเตอรอลนะที่เกิดขึ้นนะ
02:52:41 → 02:52:45 กับการกินการมีชีวิตใน 1 วันอะไรต่างๆแต่
02:52:45 → 02:52:47 อันนี้มันเป็นเรื่องของระบบการหมุนเวียน
02:52:47 → 02:52:51 นะเ่อการเอาเข้าเอาออกของตัวคอเลสเตอรอล
02:52:51 → 02:52:55 และพลังงานต่างๆนะที่เกิดขึ้นเราต้องดูไป
02:52:55 → 02:52:57 พร้อมๆ
02:52:57 → 02:53:02 กันนะอันนี้ก็จะเล่าให้ฟังนะแล้วค่าปกติ
02:53:02 → 02:53:04 ก็จะเป็นยังไง
02:53:04 → 02:53:11 เนาะอันนี้ก็อันนี้พ่อของโต้งก็คุยกันไป
02:53:11 → 02:53:16 แล้วอ่าเราจะพบนะฮะนะในการเปลี่ยนแปลง
02:53:16 → 02:53:20 ต่างๆของไลโปโปรตีนเิคือ 90 11 12
02:53:20 → 02:53:23 เนี่ยในกลุ่มคนที่มีบอดี้ใช้เป็นสายแป้ง
02:53:23 → 02:53:26 สายสายแป้ง่ะฮะนะพวกพุงตับไทรอยด์เนี่ยก็
02:53:26 → 02:53:30 จะมีการเปลี่ยนแปลงให้เห็นเยอะแยะ
02:53:30 → 02:53:33 เนี่ยแล้วก็จะต้องปรับยังไงอันนี้ก็แนะนำ
02:53:33 → 02:53:38 ไปนะโดยเฉพาะเรื่องพิ c16 นะอันนี้ไม่ได้
02:53:38 → 02:53:42 นะฮแล้วก็สาเหตุที่เรนสูงๆเนี่ยหมอสรุป
02:53:42 → 02:53:45 ให้แล้ว 1 2 3 4 นะส่วนใหญ่จะไม่พ้น
02:53:45 → 02:53:49 พวกเนะฮะนะให้กลับมาดูสิ่งเหล่าเนะหรือ
02:53:49 → 02:53:52 ซัก
02:53:52 → 02:53:53 ประวัติ
02:53:53 → 02:53:56 เอ่ออันนี้ก็ไม่มีอะไรเมื่อกี้ก็คุยให้
02:53:56 → 02:54:01 ฟังไปแล้วเนาะเราจะให้ความสำคัญกับ hdl
02:54:01 → 02:54:05 นะอ่ามากที่สุดเป็นอันดับแรกเลยนะฮะแล้ว
02:54:05 → 02:54:09 hdl ที่ดีต้องอยู่ใกล้ๆ Upper Normal
02:54:09 → 02:54:12 Limit ในายผู้ชายก็ใกล้ๆ 80 ในายผู้หญิง
02:54:12 → 02:54:16 ใกล้ๆ 90 นะฮะนะเกิน 60 ขึ้นไปถือว่าดี
02:54:16 → 02:54:20 hdl เป็นตัวแรกนะนะของของระบบอ่า
02:54:20 → 02:54:25 ไลโปโปรตีนนะฮะนะส่วนไตรกีซาไลน์นะฮะ
02:54:25 → 02:54:29 ไตรกีซาไลน์คือพลังงานนะแล้วพลังงานที่ดี
02:54:29 → 02:54:33 นะค่าไตกีสไลในเลือดต้องอยู่ในระดับเ้า
02:54:33 → 02:54:36 เรียกว่าออ low Normal คือคืออยู่ใน low
02:54:36 → 02:54:41 Normal lit อ่ะนะคืออยู่มาชิดๆอ่า
02:54:41 → 02:54:46 ถ้าถ้าผู้หญิงเนี่ยถ้าต่ำก็คือต่ำกว่าต่ำ
02:54:46 → 02:54:50 กว่า 40 นะฮะผู้ชายต่ำก็คือต่ำก 35 ก็คือ
02:54:50 → 02:54:55 ต้องมาอยู่ชิดๆใกล้ๆค่า 40 อ่ะนะช่วง 40
02:54:55 → 02:54:58 50 เนี่ยถือว่าแจ๋วเลยนะฮะร่างกายมีการ
02:54:58 → 02:55:02 หมุนเวียนถ่ายเทและใช้พลังงานได้ดีนะแล้ว
02:55:02 → 02:55:07 ก็ hdl เนี่ยนะถ้าอยู่ใกล้ๆอ lit นะก็แปล
02:55:07 → 02:55:10 ว่ามันจะไปรับคอเลสเตอรอลที่เกิดจากการ
02:55:10 → 02:55:14 ใช้พลังงานของไิ LINE อ่าได้ดีหลังจาก
02:55:14 → 02:55:18 นั้นไอ้ตัว ldl เนี่ยมันจะต้อง 2.5 ถ 3.3
02:55:18 → 02:55:22 เท่าจริงๆมันต้องต่ำกว่า 2.5 ดีที่สุดนะ
02:55:22 → 02:55:26 แต่มันไม่ควรเกิน 3.3 เท่าของ hdl นะถึง
02:55:26 → 02:55:29 จะเรียกว่าอยู่ในเกณฑปกตินะฮะนะแต่ถ้า
02:55:30 → 02:55:33 เกิน 3.3 เท่าถือว่าสูงนะถ้าเกิน 3.3
02:55:33 → 02:55:36 เท่าเราก็ไปดู Total คอเลสเตอสูงด้วยไนะ
02:55:36 → 02:55:39 โดยเฉพาะถ้าสูงเกิน 5 เท่าในผู้ชายผู้
02:55:40 → 02:55:43 หญิงเกิน 4.4 เท่าเนี่ยก็แปลว่าตัวรีตที่
02:55:43 → 02:55:49 ตับมันบอดมันไม่ดีมันปรากฏน้อยเกินไปนะฮะ
02:55:49 → 02:55:52 นะก็ไปไล่แล้วล่ะว่าตับเป็นอะไรฮอร์โมน
02:55:52 → 02:55:54 อะไรมีผลต่อตับ
02:55:54 → 02:55:59 เอ่าหรือนะโดยเฉพาะตัวอะต่อมหมวกไตกับ
02:55:59 → 02:56:02 คอร์ติซอลเนี่ยนะว่าร่างกายตอนเมันมีการ
02:56:02 → 02:56:07 เปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมอะไรนะเพราะว่าถ้า
02:56:07 → 02:56:09 เปลี่ยนอาหารเนี่ยมันจะยุ่งกับอินซูลิน
02:56:09 → 02:56:13 ถ้าเปลี่ยนพฤติกรรมเนี่ยนอนไม่ดีเอ่อแม้
02:56:13 → 02:56:17 แต่นั่งนานๆนะฮะนะนั่งนานๆอะไรต่างๆเนะก็
02:56:18 → 02:56:22 มีผลต่อคอริออลิสนะแต่แต่เดี๋ยวมันจะวกมา
02:56:22 → 02:56:25 ที่อินซูลินมันจะมาดื้ออินซูลินวันยังค่ำ
02:56:25 → 02:56:30 อ่ะนะเพราะคอซออินซูลินเไปด้วยกันเแล้ว
02:56:30 → 02:56:33 ค่าต่างๆที่เป็นค่าปกติเออก็ตามเนี้ย
02:56:33 → 02:56:39 ละเอียดเลยนะเออส่วน hdl นะฮะ hdl ก็เอ่อ
02:56:39 → 02:56:43 ก็เป็นไปตามนี้นะฮะว่าเอ่อร่างกายวรัสทาง
02:56:43 → 02:56:45 ร่างกายเนี่ยเ่า hdl เนี่ยถูกสร้างใน
02:56:45 → 02:56:49 พลาสมานะในน้ำเลือดน้ำเลือดเป็นหลักนะไม่
02:56:49 → 02:56:54 ได้สร้างที่ตับนะฮะนะแล้วก็ตัว AO A1
02:56:54 → 02:56:59 อันนี้สร้างที่ลำไส้กับตับอืมนะ hdl มี
02:57:00 → 02:57:02 หน้าที่อะไรก็เป็นเรือขนส่งคอเลสเตอรอล
02:57:02 → 02:57:07 จากเซลล์ต่างๆที่สร้างขึ้นนะแล้วก็ส่วน
02:57:07 → 02:57:12 ใหญ่ก็คือเอาก็คือเอาไปทิ้งอ่ะนะฮะนะเอา
02:57:12 → 02:57:15 ไปทิ้งนะไปไปทิ้งที่ตับแต่ว่ามันทิ้งไม่
02:57:15 → 02:57:20 ทันนะเพราะว่ามันมีมันมีไอไอตัวไฟกระพริบ
02:57:20 → 02:57:23 อ่ะที่เซลล์ต่างๆมันจะเรียกคือ A1 เนี่ย
02:57:23 → 02:57:26 นะมันต้องถูกมันเรียกมันต้องไปไม่ไปไม่
02:57:26 → 02:57:30 ได้เพราะมันเป็นรถแูนนะเนี่ยก็เลยต้องมี
02:57:30 → 02:57:36 ตัวมาช่วยนะตัวมาช่วยก็คือเอ ldl เนานะ
02:57:36 → 02:57:38 อันนี้เรารู้กันแล้วนะก็มีเรื่องการแลก
02:57:38 → 02:57:42 เปลี่ยนอะไรต่างๆนะนะเนี่ยการแลกเปลี่ยน
02:57:42 → 02:57:47 อะไรต่างๆก็ตาม
02:57:47 → 02:57:50 นี้ทีนี้สุดท้ายเลยก็คือ hdl มีความสำคัญ
02:57:50 → 02:57:56 ยังไงนะแล้วถ้าเกิด hdl ต่ำจะทำให้มันสูง
02:57:56 → 02:57:59 ได้ยังไงอันนี้คือคำถามแต่ก่อนนู้นมา
02:57:59 → 02:58:03 เรื่อยๆเลยนะฮะนะก็มีการตอบอะไรกันอะไร
02:58:03 → 02:58:07 กันไปนะฮะแต่หมออยากจะบอกว่าอาหารคือสิ่ง
02:58:07 → 02:58:10 สำคัญที่สุดที่จะเพิ่ม hdl นะ hdl จะ
02:58:10 → 02:58:12 เพิ่มขึ้นได้เมื่อร่างกายต้องมีการใช้
02:58:12 → 02:58:16 พลังงานนะมันถึงจะมีการสร้าง hdl ขึ้นมา
02:58:16 → 02:58:20 นะฮะต้องมีตัวนี้เป็นตัว Activate นะฮะ
02:58:20 → 02:58:22 เพราะงั้นคุณจะใช้พลังงานยังไงอ่ะนะคุณก็
02:58:22 → 02:58:25 กินเข้าไปสิให้ร่างกายให้ตับเผาผลาพลัง
02:58:25 → 02:58:28 งานเพราะว่าตัวเผาผลาไขมันดี Good
02:58:28 → 02:58:31 Healthy Fat คือตับนะฮะนะถ้าตับเผาผลา
02:58:31 → 02:58:35 พลังงานแล้วเขาก็จะมีการเ่อทำให้ในระบบ
02:58:35 → 02:58:38 เลือดหรือพลาสมามันเกิดการสร้าง hdl นะ
02:58:38 → 02:58:42 นอกจากนี้คุณก็ฟานะหรือออกกำลังกายนะ
02:58:42 → 02:58:45 เนี่ยแต่ว่ามันจะสู้อ่าการให้ตับเผาผลา
02:58:45 → 02:58:49 พลังงานไม่ได้นะฮะนะซึ่งสับเอาผันพลังงาน
02:58:49 → 02:58:52 เก่งได้เนี่ยก็จะต้องถูกกำหนดในการกินโลค
02:58:52 → 02:58:55 ก Fat นะแล้วก็มีอย่างอื่นๆที่สร้างให้
02:58:55 → 02:58:59 ได้ได้สร้างยากสร้างง่ายอะไนะฮะเอ่อทีนี้
02:58:59 → 02:59:02 ถ้าเราดูรายละเอียดเชิงลึกว่าโครงสร้าง
02:59:02 → 02:59:07 ของ hdl นะมันประกอบไปด้วยอะไรบ้างนะมัน
02:59:07 → 02:59:12 จะมีอ่าไขมันอิ่มตัวนะมีโปรตีนนะไขมันตัว
02:59:12 → 02:59:15 เป็นเป็นโครงสร้างไขมันที่สำคัญที่สุดใน
02:59:15 → 02:59:20 hdl นะมีโปรตีนมีโ 3 อแล้วมีไขมันไม่
02:59:20 → 02:59:23 หิ่มตัวเชิง
02:59:23 → 02:59:26 เดี่ยวโครงสร้างเจะเป็นอย่างนี้นะฮะนะเรา
02:59:26 → 02:59:30 ก็หามาเติมเติมๆเป็นวัตถุดิบมาสร้างให้เา
02:59:30 → 02:59:32 เนี่ยก็จะเป็นอย่างนี้อ่าเพราะฉะนั้นถ้า
02:59:32 → 02:59:36 กินพวกนี้อ่าเดี๋ยวเกิดการ forming hdm
02:59:36 → 02:59:39 แต่คุณต้องมีตัว Activate หรือตัวกระตุ้น
02:59:39 → 02:59:43 นะฮะนะซึ่งตัวกระตุ้นนั้นก็คืออ่าเรื่อง
02:59:43 → 02:59:48 ของเรื่องการเผาผลาญพลังงานของตับนะอัน
02:59:48 → 02:59:51 นี้คืออันดับ 1 ออันดับต่อมาก็คือกล้าม
02:59:51 → 02:59:55 เนื้อเอ่ามีการออกแรงออกกำลังนะแลอันดับ
02:59:55 → 03:00:02 สุดท้ายเลยก็คือการาเเป็นการ
03:00:02 → 03:00:05 กระตุ้นคือแค่กินเนี่ยมันมีผลแล้วในการ
03:00:05 → 03:00:11 เพิ่ม hdl นะถึงถึง 80% นะฮะการออกกำลัง
03:00:11 → 03:00:14 กายมีผลในการเพิ่มย 11-13 per จากงาน
03:00:14 → 03:00:18 วิจัยนะฮะ
03:00:18 → 03:00:24 หมด
03:00:24 → 03:00:28 แล้วเหมือนเดิมเลย 3
03:00:28 → 03:00:34 ชมง 23 นขอคำถามสุดท้ายครับพี่หมอฮะอ่ะเอ
03:00:34 → 03:00:38 นี้คำถามจากลูกเพจนะครับคุณกวางอถามนอก
03:00:39 → 03:00:42 เรื่องนะอถามว่าในกรณีกฎไหลย้อนเนี่ยเกิด
03:00:42 → 03:00:45 จากศารเครือบกระเพาะเกิดความเสียหายหรือ
03:00:45 → 03:00:47 ขาดสารเครือบกระเพาะเลยอยากทราบว่าอะไร
03:00:47 → 03:00:53 คือารเคลือบที่อยู่กับกระเพาะคะ
03:00:53 → 03:00:57 เอ่อคือคือเยี่ยบุของว่าพ่ออาหารมิวโคส่า
03:00:57 → 03:01:03 เนะมันมันจะมีเ้าเรกมีตัวแอร์เมีตัวมูก
03:01:03 → 03:01:07 เมือกมูกเมือกเป็นตัวเคลือกแต่อันนี้ไม่
03:01:07 → 03:01:12 ได้เป็นตัวสำคัญในช่วงแรกๆนะฮะเหตุนะของ
03:01:12 → 03:01:16 การเกิดกดไหลย้อนนะอันเนี้ยสำคัญเลยก็คือ
03:01:16 → 03:01:21 การมีน้ำย่อยที่มีกดน้อยเกินไปนะฮะนะ
03:01:21 → 03:01:26 อันเนี้ยเป็นตัวตั้งต้นเลยมีน้ำย่อยเอ่อ
03:01:26 → 03:01:29 ที่มีฤทธิ์เป็นกดไฮโดรคลอริกแอซิดน้อย
03:01:29 → 03:01:33 เกินไปนะเมื่อเกิดน้ำย่อยน้อยเกินไปถึง
03:01:33 → 03:01:39 จุดนึงตามมิ่งหรือกาลเวลาปุ๊บเอ่อก็จะมี
03:01:39 → 03:01:40 การ
03:01:40 → 03:01:45 เสียเสียเสียฟังก์ชัน 2 เรื่องนะเรื่อง
03:01:45 → 03:01:48 แรกเลยก็คือการย่อยไม่ดีนะเพราะฉะนั้นก็
03:01:48 → 03:01:52 จะท้องอืดจุกเสียดแน่นอืดอ่าแน่นเรื่อง
03:01:52 → 03:01:55 ต่อมาก็คือกล้ามเนื้อหูรู่หรือสิเตอร์ที่
03:01:55 → 03:01:58 เป็นกล้ามเนื้อเรียบนะฮะนะนะที่เป็นกล้าม
03:01:58 → 03:02:01 เนื้อเรียบน่ะที่เป็นรอยต่อนะฮะรอยต่อ
03:02:01 → 03:02:04 ระหว่างหลอดอาหารส่วนปลายกับกระเพาะอาหาร
03:02:04 → 03:02:08 ส่วนต้น 1 ใน 3 เนี่ยนะตรงนี้เนี่ยกล้าม
03:02:08 → 03:02:11 เนื้อหูรูดด้านในอ่ะนะซึ่งเป็นกล้ามเนื้อ
03:02:11 → 03:02:14 เรียบเนี่ยเขาจะปิดไม่สนิท
03:02:14 → 03:02:19 อคือกระบวนการที่มีน้ำย่อยที่มีเป็นกดนะ
03:02:19 → 03:02:24 เอ่อน้อยไปและความเป็นกดไม่ถึงเอ่อพมัน
03:02:24 → 03:02:28 ไม่พมันมันเกิน 3 เนี่ยนะพีมันอยู่ใน
03:02:28 → 03:02:31 เกณฑ์ประมาณ 1.5 ดีที่สุดนะหรือ valy
03:02:31 → 03:02:35 ตั้งแต่ 1 ถึงไม่เกิน 2.5 พอมันถึง 3
03:02:35 → 03:02:39 ปุ๊บเนี่ยนะเเรียกว่าประสิทธิภาพไม่ดี
03:02:39 → 03:02:43 แล้วก็อาจจะน้อยเกินไปมาคู่กันจะทำให้หู
03:02:43 → 03:02:45 รูดตรงเนี้ยที่เป็นกล้ามเนื้อเรียบเนี่ย
03:02:45 → 03:02:50 มันหย่อนหรือมันหดรัดตัวไม่สนิทมันก็เลย
03:02:50 → 03:02:54 เกิดช่องโหวนะเพราะฉะนั้นเวลาเกิด peris
03:02:54 → 03:02:57 หรือการบีบตัวคุกเค้าอาหารนะเกิดการ
03:02:57 → 03:03:00 กระฉอกนะของน้ำย่อยที่มีฤทธิ์เป็นกดเข้า
03:03:00 → 03:03:08 มาในหลอดอาหารแล้วก็เลยเกิด
03:03:08 → 03:03:15 บนเอ่อนะอันนี้สำคัญที่สุดนะฮะก็คือกฎละ
03:03:15 → 03:03:18 ย้อนก็จะเกิดในภาวะที่มีสภาพความเป็นกด
03:03:18 → 03:03:23 หรือน้ำย่อยเป็นกดน้อยเกินไปหรือเอ่อตัวพ
03:03:23 → 03:03:27 เนี่ยตัวคฟาร์แรงของกดเนี่ยอ่ามันไม่ถึง
03:03:27 → 03:03:31 อ่าอ่ามันไม่ถึงคือมันมันต้องมันต้องจริง
03:03:31 → 03:03:33 ๆเบอกว่ามันต้องน้อยกว่า pH มันต้องน้อย
03:03:34 → 03:03:38 กว่า 2.5 นะอยู่ระหว่าง 1.5 - 2.5 ดี
03:03:38 → 03:03:39 ที่
03:03:39 → 03:03:45 สุดแต่คนพวกเนี้ยส่วนใหญ่พมันจะ 3 ขึ้นไป
03:03:45 → 03:03:48 มันก็มันกดอยู่แหละแต่มันเกิน
03:03:48 → 03:03:52 นี้นี้ทำไมอ่ะทำไมความเป็นกรดไฮโดรคลอริก
03:03:52 → 03:03:57 แอซิดนะมันถึงมันถึงไม่มีประสิทธิภาพมัน
03:03:57 → 03:04:02 ถึงมีการสร้างน้อยเกินไปเพราะว่าต้นทาง
03:04:02 → 03:04:04 ของการเกิดไฮโดรเจน
03:04:04 → 03:04:10 ไอออนมันผิดนะฮะเอก็คือกินผิดเอ่อเราต้อง
03:04:10 → 03:04:15 กินอาหารที่จะเป็นแหล่งการสร้างไฮโดรเจน
03:04:15 → 03:04:20 หรือสร้างกรดนะคือคืออะไรนะก็คือกรดไขมัน
03:04:20 → 03:04:23 กับกรดอะมิโนนะเพราะฉะนั้นกรดต้องมาจาก
03:04:23 → 03:04:28 กรดแต่ต้องไปกดอินทรีย์
03:04:28 → 03:04:32 เอ่าอันนี้สำคัญที่สุดในระยะยาวอ่าส่วน
03:04:32 → 03:04:35 ระยะสั้นๆเนี่ยเราก็ต้องเพิ่มความเป็นกรด
03:04:35 → 03:04:40 ให้กับน้ำย่อยในกระเพาะเราก็ใช้กดเปรี้ยว
03:04:40 → 03:04:46 อ่ากดเปรี้ยวก็คือกดซิติกกับกดอะซิติกกด
03:04:46 → 03:04:49 อะซิติกก็น้ำส้มไชูหมักต่างๆแต่แนะนำให้
03:04:49 → 03:04:55 ใช้แอปเปิลกับมะพร้าวสลับกันนะส่วนกดิติ
03:04:55 → 03:04:58 ก็คือกรด
03:04:58 → 03:05:03 มะนาวกรดมะนาวกรดสติกดมาริกนะก็เป็นกด
03:05:03 → 03:05:06 อินทรีย์นะฮะนะอ่าพวกเนี้ยเป็นตัวช่วยนะเ
03:05:07 → 03:05:09 เรียกว่ากดเปรี้ยวแต่กดไม่เปรี้ยวก็คือกด
03:05:09 → 03:05:14 ไขมันกับกด
03:05:14 → 03:05:17 อะมิโนแล้วหลังจากนั้นเนี่ยถ้าเป็นนานๆนๆ
03:05:17 → 03:05:21 นานนานๆเนี่ยนะไอ้ตัวกล้ามเนื้อหูรูดด้าน
03:05:21 → 03:05:26 นอกก็คือกล้ามเนื้อกระบังลมมันก็จะคลาด
03:05:26 → 03:05:29 แล้วมันก็จะหย่อนไปด้วยซึ่งอันนี้คุณต้อง
03:05:29 → 03:05:33 แก้ด้วยการหายใจคุณต้องแก้กฎไรย้อนด้วย
03:05:33 → 03:05:38 การหายใจถ้าเป็นถึงขั้นเทพนะฮะก็คือคุณ
03:05:38 → 03:05:44 ต้องหายใจด้วยการท้องป่องท้องยุบนะฮะนะ
03:05:44 → 03:05:46 ให้กล้ามเนื้อกระบังลมมันคลืนๆเคลื่อน
03:05:46 → 03:05:49 ขึ้นเคลื่อนลงนะมันถึงจะบริหารกล้ามเนื้อ
03:05:49 → 03:05:55 กระบังลมนะให้เกิดการกระชับนะแน่นนะแล้ว
03:05:55 → 03:05:57 ก็บีบรัตัวเกรงตัวได้
03:05:57 → 03:06:02 ดีก็คือฝึกหายใจด้วยท้องนะฮะนะนั่นก็คือ
03:06:02 → 03:06:06 การหายใจทางจมูก
03:06:06 → 03:06:11 นะแต่คุณน่ะชอบเผลอเรอไปหายใจด้วยป่านะ
03:06:11 → 03:06:14 การหายใจด้วยปากเนี่ยมันจะทำให้กระบังลม
03:06:14 → 03:06:16 ไม่ค่อยเคลื่อนไม่ค่อยทำงานแล้วเกิดการ
03:06:16 → 03:06:19 หยอดปายตัวหรือวคหรือ
03:06:19 → 03:06:23 คราดเวลาหายใจด้วยปากเนี่ยมันจะเป็นการ
03:06:23 → 03:06:27 บานเข้าบานออกของกล้ามเนื้อผนังทรวงอก
03:06:27 → 03:06:32 intercostal Muscle นะถ้าอย่างเงี้ยกด
03:06:32 → 03:06:35 ไหลย้อนไม่ดีขึ้นหรอกนะเมื่อไหร่คนจะหาย
03:06:35 → 03:06:39 ใจด้วยปากก็เมื่อเครียดเมื่อเครียด
03:06:39 → 03:06:46 เเมื่อตื่นตนกวิตกจริตจิตผวานะก็จะลืมตัว
03:06:46 → 03:06:50 อ่าไม่ไม่หายใจอัตโนมัติด้วยจมูกแต่ไปหาย
03:06:50 → 03:06:54 ใจด้วยผักนะก็เรียบร้อย
03:06:54 → 03:07:00 เนะเออกดหละย้อนก็มา
03:07:00 → 03:07:04 นะเเห็นเนี่ยยกดหละย้อนมันถึงได้เ้าเรียก
03:07:04 → 03:07:08 relate กับเรื่อง Panic attack นะแล้ว
03:07:08 → 03:07:13 ถ้าคุณกินกดอะมิโนนะกินไขมันอย่างถูกต้อง
03:07:13 → 03:07:17 กดไขมันน้ำมันสกัดเย็นอะไรต่างๆนะเดี๋ยว
03:07:17 → 03:07:20 การสร้างกดเนี่ยมันก็จะเพิ่มขึ้นเพราะ
03:07:20 → 03:07:23 ไฮโดรเจนไออนมันจะมากพอนะเสร็จแล้วเวลา
03:07:23 → 03:07:27 คุณกินโลค H f คุณต้องกินเกลือนะกิน
03:07:27 → 03:07:30 เกลือไม่กินไม่ได้นะฮะนะเพราะฉะนั้นคุณจะ
03:07:30 → 03:07:35 มีคลอไรด์นะเนี่ยไฮโดรเจนคลอไรด์ก็จะเกิด
03:07:35 → 03:07:40 ขึ้นและ 1 ปริมาณพอ 2 ประสิทธิภาพพีก็จะ
03:07:40 → 03:07:45 แรงนะส่วนใหญ่ก็คือ 1.5 -2.5 เอ่อกดไหล
03:07:45 → 03:07:49 คนกดไหลย้อนก็จะค่อยยังชู
03:07:49 → 03:07:52 ไม่ต้องไปกินพืชผัดเยอะไม่ต้องผลมผลไม้
03:07:52 → 03:07:54 ไม่ต้องไปกินน้ำด่างไม่ต้องไปกินไม่ได้
03:07:54 → 03:08:01 ช่วยอะไรนะเป็นความเข้าใจ
03:08:01 → 03:08:08 ผิดโอเคครับโอ้โหกระจ่าง
03:08:08 → 03:08:13 เลยครับผมอะไรอีกมั้ยตอนนี้ไม่มีแล้วครับ
03:08:13 → 03:08:15 มีนักเรียนหนีไปนอนหลายคนแล้วครับเดี๋ยว
03:08:15 → 03:08:18 ผมต้องวิ่งไปตามเ้าหน่อยครับพี่หมอคือไลฟ
03:08:18 → 03:08:23 ในครั้งเนี้ยหมอก็ว่าอือาจจะพอแล้วล่ะใน
03:08:23 → 03:08:26 เรื่องของวิชาการน่ะเนอะเราก็รู้หมดแล้ว
03:08:26 → 03:08:29 ล่ะทั้งคอเลสเตอรอลซึ่งเป็นสารอาหารพลัง
03:08:29 → 03:08:33 งานเราก็ไลฟไปรปิดเนีโมเดลอะไรต่างๆก็ยัง
03:08:33 → 03:08:36 ตัดต่อไม่จบมันละเอียดนะฮะแต่ว่าสิ่งต่าง
03:08:36 → 03:08:39 ๆเหล่านี้มาคู่กันนะนำไปใช้ให้เกิด
03:08:39 → 03:08:44 ประโยชน์แล้วมองภาพให้ออกมองให้ขาดนะว่า
03:08:44 → 03:08:47 มันเกิดอะไรขึ้นกับสารอาหารและพลังงานงา
03:08:47 → 03:08:54 ก็จะวนๆเวียนๆอยู่อย่างเงี้ยนะอืถ้าถ้า
03:08:54 → 03:08:58 เข้าใจแล้วเอาไปใช้ได้นะเออมันมันมันมี
03:08:58 → 03:09:00 ประโยชน์อ่ะเราจะเข้าใจเรื่องอาหารแล้ว
03:09:00 → 03:09:05 เราจะรู้เรื่องเชิงลึกอเกี่ยวกับอาหาร
03:09:05 → 03:09:09 พลังงานอะไรต่างๆได้
03:09:09 → 03:09:13 นะก็จำภาพแห่งปีให้ได้แล้วกันแล้วระบบน้ำ
03:09:13 → 03:09:17 เหลืองอ่ะต้องให้ความสำคัญเ 80% ระบบ VL
03:09:17 → 03:09:21 ระบบน้ำเลือดอะไรต่างๆเอ่อมันเป็นระบบที่
03:09:21 → 03:09:24 มาเ้าเรียกว่ามาเป็นตัวช่วยแต่มนุษย์เรา
03:09:24 → 03:09:29 เข้าใจผิดหมดนะไปใช้เป็นระบบหลักเออก็ไม่
03:09:29 → 03:09:31 รู้จะทำยังไงเพราะฉะนั้นพลังงานสารอาหาร
03:09:31 → 03:09:36 มันก็มั่วไป
03:09:36 → 03:09:39 หมดครับผม
03:09:39 → 03:09:45 อืโอเคครับถ้าอย่างงั้นมีมีอะไรเพิ่มมย
03:09:45 → 03:09:48 ครับถ้าไม่มีจะได้ปิดไนแล้วก็นิดนึงตรง
03:09:48 → 03:09:52 ครับที่ที่เมื่อกี้พูดผิดไปตรงนั้นเนี่ย
03:09:52 → 03:09:56 ก็ดูดีๆแล้วกันนะฮะแต่เดี๋ยวพรุ่งนี้เอ่อ
03:09:56 → 03:10:00 ก่อนที่จะก่อนที่จะแชร์อะไรนะแชร์สไลด์
03:10:00 → 03:10:05 ใช่มหมอจะแก้ให้ถูกต้องเลยนะครับผมให้ดู
03:10:05 → 03:10:10 ประกอบในสไลด์นะจะแก้ให้ดีเลยนะโอเคนะวัน
03:10:10 → 03:10:13 นี้แค่นี้นะครับได้ครับขอบคุณพี่ปอครับ
03:10:13 → 03:10:16 ขอบคุณทุกคนขอบคุณเพื่อนที่เข้ามาชมในไลฟ
03:10:16 → 03:10:18 ทุกคนเลยครับวันนี้นี้เยอะกว่าคราวที่
03:10:18 → 03:10:20 แล้ว 1 เท่าตัวนะพี่
03:10:20 → 03:10:24 หมอขอบคุณมาก
03:10:24 → 03:10:42 นะโอเคครับขอบคุณครับสวัสดีครับ
03:10:42 → 03:10:47 [เพลง]
03:10:47 → 03:10:48 เฮ
03:10:48 → 03:10:58 [เพลง]
03:10:58 → 03:11:03
03:11:03 → 03:11:08 [เพลง]