00:00:00 → 00:00:03 ขอต้อนรับสู่หมอพัทรพcast Talk ความรู้
00:00:03 → 00:00:06 สุขภาพลึกและฟรีมีที่นี่
00:00:06 → 00:00:08 >> วันนี้เราจะมาคุยกันถึงเรื่องฮอร์โมนตัว
00:00:08 → 00:00:11 นึงครับที่เป็นเหมือนกุญแจสำคัญเลยที่คอย
00:00:11 → 00:00:14 ไขพลังงานให้กับเราในทุกๆเช้าฮอร์โมนตัว
00:00:14 → 00:00:18 นี้มีชื่อว่าคอร์ตินั่นเองครับ A เคย
00:00:18 → 00:00:21 สงสัยกันมั้ครับว่าเอทำไมร่างกายของเรา
00:00:21 → 00:00:24 เนี่ยพอเผื่อถึงเวลาเช้าๆทีไรก็เหมือนจะ
00:00:24 → 00:00:27 ปลุกตัวเองให้ตื่นได้เองเลยทั้งๆที่บางที
00:00:27 → 00:00:29 เราก็ไม่ได้ตั้งนาฬิกาปลุกไว้แท้และความ
00:00:29 → 00:00:32 ลับทั้งหมดเนี่ยมันซ่อนอยู่ในร่างกายของ
00:00:32 → 00:00:35 เรานี่เองครับและคำตอบของคำถามเมื่อกี้
00:00:35 → 00:00:38 เนี้ยก็คือเจ้าฮอร์โมนที่ชื่อว่าคอรติซอล
00:00:38 → 00:00:41 นี่แหละครับมันทำหน้าที่เปรียบเสมือนเป็น
00:00:41 → 00:00:43 นาฬิกาปลุกชีวภาพที่คอยปลุกให้ร่างกายของ
00:00:44 → 00:00:47 เราตื่นตัวแล้วก็เตรียมพร้อมสำหรับวันไหน
00:00:47 → 00:00:50 ที่กำลังจะมาถึงเอาล่ะครับแล้วเจ้านาฬิกา
00:00:50 → 00:00:52 ปลุกธรรมชาติตัวเนี้ยมันเริ่มเดินเครื่อง
00:00:52 → 00:00:56 ตอนไหนแล้วก็ทำงานยังไงไปดูกันเลยคือใน
00:00:56 → 00:01:00 ทุกๆเช้าเลยนะครับพอฟ้าเริ่มสังช่วง
00:01:00 → 00:01:02 ประมาณ 18:00 น-700น.เนี่ยแหละระดับ
00:01:02 → 00:01:05 คอร์ติในร่างกายของเราจะค่อยๆไต่ระดับสูง
00:01:05 → 00:01:07 ขึ้นครับซึ่งการเพิ่มขึ้นนี่แหละที่เป็น
00:01:07 → 00:01:10 เหมือนสัญญาณไปบอกร่างกายให้เพิ่มความดัน
00:01:10 → 00:01:12 โลหิตแล้วก็เพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดเพื่อ
00:01:13 → 00:01:15 เตรียมพลังงานเอาไว้ให้เราพร้อมใช้ทันที
00:01:15 → 00:01:18 ที่เราลืมตาตื่นขึ้นมาทีนี้เรื่องมันไม่
00:01:18 → 00:01:20 ได้ง่ายแค่นั้นครับคือคอร์ดซอลไม่ได้แค่
00:01:20 → 00:01:23 ปลุกให้ตื่นแล้วจบไม่ใช่เลยเจ้าคอร์ดิซอล
00:01:23 → 00:01:26 เนี่ยเขามีภารกิจสำคัญสำคัญที่ต้องทำให้
00:01:26 → 00:01:30 สำเร็จถึง 3 อย่างเลยนะในทุกๆเช้าภารกิจ
00:01:30 → 00:01:34 ของมันนะครับเริ่มจาก 1 จัดหาพลังงานครับ
00:01:34 → 00:01:37 โดยจะไปสั่งให้ตับเนี่ยปล่อยน้ำตาลออกมา
00:01:37 → 00:01:41 ในกระแสเลือดพอมีพลังงานแล้วทำไงต่อก็
00:01:41 → 00:01:45 ต้องทำภารกิจที่ 2 คือควบคุมความดันเพื่อ
00:01:45 → 00:01:48 ปั๊มพลังงานที่ได้มาเนี่ยส่งไปให้ทั่วทุก
00:01:48 → 00:01:52 ส่วนของร่างกายและภารกิจสุดท้ายที่สำคัญ
00:01:52 → 00:01:55 มากๆเลยก็คือดูแลภูมิคุ้มกันครับเหมือน
00:01:55 → 00:01:58 เป็นเกราะคอยป้องกันเชื้อโรคต่างๆให้กับ
00:01:58 → 00:02:01 เราแต่ประเด็นมันอยู่ตรงนี้ครับที่น่าสน
00:02:01 → 00:02:04 ใจมากก็คือจริงๆแล้วเนี่ยหน้าที่หลักของ
00:02:04 → 00:02:07 คอร์ติคือเรื่องภูมิคุ้มกันแต่ด้วย
00:02:07 → 00:02:09 ไลฟ์สไตล์ของเราสมัยนี้ทั้งเครียดทั้งกิน
00:02:09 → 00:02:12 อะไรต่างๆนานามันเลยเหมือนกับว่าคอร์ซอล
00:02:12 → 00:02:15 ต้องวุ่นวายไปจัดการเรื่องพลังงานเรื่อง
00:02:15 → 00:02:18 ความดันจนแทบไม่มีเวลาไปทำหน้าที่หลักของ
00:02:18 → 00:02:22 ตัวเองเลยแล้วพอคอร์ติทำงานไปจนถึงจุดพีค
00:02:22 → 00:02:26 สุดของมันแล้วจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้บอก
00:02:26 → 00:02:28 เลยว่าช่วงนี้แหละครับคือช่วงหัวเลี้ยว
00:02:28 → 00:02:30 หัวต่อที่สำคัญมาก
00:02:30 → 00:02:33 ลองดูไทม์ไลน์การทำงานของมันนะครับมันจะ
00:02:33 → 00:02:36 เริ่มไต่ระดับสูงขึ้นตอน 6:-700 น.แล้วก็
00:02:36 → 00:02:39 พุ่งไปถึงจุดสูงสุดช่วงประมาณ 8-9:00 น.
00:02:39 → 00:02:42 จากนั้นพอสัก 9:30 น.เป็นต้นไประดับของ
00:02:42 → 00:02:45 มันควรจะต้องเริ่มลดลงซึ่งจังหวะนี้แหละ
00:02:45 → 00:02:48 ครับคือจุดเปลี่ยนที่สำคัญมากๆทีนี้แหละ
00:02:48 → 00:02:50 ครับพอระดับมันเริ่มลดลงมันก็เหมือนมีทาง
00:02:51 → 00:02:54 แยก 2 ทางถ้าทุกอย่างเป็นไปตามปกติที่ควร
00:02:54 → 00:02:56 จะเป็นร่างกายก็จะเริ่มกระบวนการสร้าง
00:02:56 → 00:02:59 ฮอร์โมนเพศตัวอื่นๆทำให้เรารู้สึกแข็งแรง
00:02:59 → 00:03:03 มีพละกำลังแต่ถ้าไม่ถ้าคอร์ติซอลยังสูง
00:03:03 → 00:03:05 ปรี๊ดอยู่กระบวนการนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้
00:03:05 → 00:03:08 เลยครับพลก็จะตรงกันข้ามเลยคือจะรู้สึก
00:03:08 → 00:03:11 เพลียล้าๆไม่มีแรงแท้
00:03:11 → 00:03:14 แล้วไอ้การที่มันส่งมอบหน้าที่ต่อไม่ได้
00:03:14 → 00:03:16 เนี่ยผลกระทบมันไม่ได้จบแค่นั้นนะครับมัน
00:03:16 → 00:03:19 เป็นdomมิโนเลยจากความรู้สึกอ่อนเพลียมัน
00:03:20 → 00:03:22 ก็จะส่งผลไปถึงความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ
00:03:22 → 00:03:25 และกระดูกที่ลดลงและแน่นอนครับว่าทั้งหมด
00:03:25 → 00:03:28 นี้มันกระทบไปถึงกระบวนการชะลอวัยของเรา
00:03:28 → 00:03:31 โดยตรงเลยพอเราเข้าใจเรื่องคอร์ติซอลแล้ว
00:03:31 → 00:03:33 ทีนี้ก็มาถึงคำถามที่หลายคนน่าจะอยากรู้
00:03:33 → 00:03:36 กันมากที่สุดกาแฟนี่แหละครับว่าเราจะเอา
00:03:36 → 00:03:38 ความรู้นี้ไปปรับใช้กับการดื่มกาแฟใน
00:03:38 → 00:03:41 ชีวิตประจำวันของเราได้ยังไงบ้าง
00:03:41 → 00:03:44 คำถามก็คือแล้วตกลงเวลาไหนกันแน่ที่ดีที่
00:03:44 → 00:03:47 สุดสำหรับการจิบกาแฟแก้วแรกของวันคำตอบ
00:03:48 → 00:03:51 ที่ชัดๆตามหลักการทำงานของร่างกายเลยนะ
00:03:51 → 00:03:54 ครับก็คือช่วง 10:00 น. 11:00 น.เช้านี่
00:03:54 → 00:03:57 แหละครับอ้าวแล้วทำไมต้องเป็นเวลานั้นล่ะ
00:03:57 → 00:04:00 ก็เพราะว่าคาเฟอีนในกาแฟเนี่ยมันไม่ได้ไป
00:04:00 → 00:04:03 ปลุกคอร์ติซอลนะแต่มันไปปลุกฮอร์โมนอีก
00:04:03 → 00:04:07 ตัวนึงครับที่ชื่อว่าadดีนให้ลุกขึ้นมาทำ
00:04:07 → 00:04:10 งานแทนคิดภาพง่ายๆแบบนี้ครับเราต้องปล่อย
00:04:10 → 00:04:13 ให้ฮอร์โมนตัวแม่อย่างคอร์ติเนี่ยเขาจัด
00:04:13 → 00:04:16 การงานสำคัญของเขาในช่วงเช้าให้เรียบร้อย
00:04:16 → 00:04:19 ซะก่อนพอระดับของมันเริ่มลดลงแล้วนั่น
00:04:19 → 00:04:22 แหละครับถึงจะเป็นเวลาดีที่เราจะส่งไม้
00:04:22 → 00:04:24 ต่อให้adดรนาลีนมาครับช่วงต่อด้วยกาแฟ
00:04:24 → 00:04:26 สแก้วการทำแบบนี้เนี่ยจะทำให้ร่างกายได้
00:04:26 → 00:04:29 ประโยชน์สูงสุดแล้วก็ไม่ไปรบกวนระบบตาม
00:04:29 → 00:04:32 ธรรมชาติของมันด้วยมาถึงตรงนี้เรามาสรุป
00:04:32 → 00:04:34 กันหน่อยดีกว่าครับว่าเราจะเอาความรู้
00:04:34 → 00:04:37 เนี้ยไปปรับใช้ยังไงเพื่อให้เราทำงานสอด
00:04:37 → 00:04:41 คล้องไปกับนาฬิกาชีวิตของเราได้ดีที่สุด
00:04:41 → 00:04:43 ข้อคิดสำคัญที่อยากให้จำไว้เลยก็คือข้อ
00:04:43 → 00:04:46 แรกตื่นเช้ามาเนี่ยให้คอรisซอลเป็นคนปลุก
00:04:47 → 00:04:50 ไม่ใช่กาแฟข้อ 2 ปล่อยให้คอิซอลเขาได้ทำ
00:04:50 → 00:04:52 ภารกิจสำคัญของเขาในช่วงเช้าไปก่อนแล้ว
00:04:52 → 00:04:55 ค่อยดื่มกาแฟหลัง 10:00 น.เป็นต้นไปแค่
00:04:55 → 00:04:57 ปรับเปลี่ยนเรื่องเล็กๆน้อยๆแบบนี้ก็จะ
00:04:58 → 00:04:59 ช่วยให้ร่างกายของเราทำงานสอดคล้องกับ
00:04:59 → 00:05:02 นาฬิกาชีวิตได้ดีขึ้นซึ่งมันจะส่งผลให้
00:05:02 → 00:05:05 เรารู้สึกแข็งแรงขึ้นในระยะยาวเลยนะครับ
00:05:05 → 00:05:08 และสุดท้ายนี้ก็อยากจะฝากคำถามทิ้งท้าย
00:05:08 → 00:05:10 ไว้ให้ลองกลับไปคิดกันดูนะครับว่าในทุก
00:05:10 → 00:05:13 วันนี้การใช้ชีวิตของเราเนี่ยเรากำลังทำ
00:05:13 → 00:05:17 งานไปกับนาฬิกาชีวภาพของร่างกายหรือว่า
00:05:17 → 00:05:22 เรากำลังฝืนมันอยู่กันแน่ครับ
00:05:22 → 00:05:24 >> สวัสดีค่ะขอต้อนรับสู่การคุยกันแบบเจาะ
00:05:24 → 00:05:26 ลึกวันนี้นะคะวันนี้เราจะมาสำรวจเรื่อง
00:05:27 → 00:05:29 ของฮอร์โมนตัวนึงค่ะชื่อเนี่ยหลายคนอาจจะ
00:05:29 → 00:05:33 คุ้นๆหูแต่พอพูดถึงหน้าที่จริงๆอ่ะอาจจะ
00:05:33 → 00:05:36 นึกแค่คำว่าความเครียดอย่างเดียวเลยนั่น
00:05:36 → 00:05:39 ก็คือคอรtisซolค่ะแต่ว่านะจริงๆแล้ว
00:05:39 → 00:05:42 ฮอร์โมนตัวนี้เนี่ยเอ่อเหมือนเป็นผู้ควบ
00:05:42 → 00:05:45 คุมวงออร์เคสraใหญ่ในร่างกายเราเลยทำหน้า
00:05:45 → 00:05:47 ที่ซับซ้อนกว่าที่เราคิดเยอะเลยค่ะวันนี้
00:05:47 → 00:05:50 เราจะมาดูกันค่ะว่าคอิซอลเนี่ยมันทำงาน
00:05:50 → 00:05:52 สัมพันธ์กับนาฬิกาชีวภาพหรือจังหวะชีวิต
00:05:52 → 00:05:55 ประจำวันของเรายังไงโดยอ้างอิงข้อมูลเชิง
00:05:55 → 00:05:58 ลึกจากแหล่งที่เราได้ศึกษามานะคะโดยเฉพาะ
00:05:58 → 00:06:00 จากคลิปวีดีโอช่อง Advance LCHF
00:06:00 → 00:06:04 Longevity ค่ะมีมุมมองที่น่าสนใจมากๆ
00:06:04 → 00:06:08 >> ใช่ครับคุณผู้ฟังคือคอซอลเนี่ยมีบทบาท
00:06:08 → 00:06:11 สำคัญมากๆเลยนะครับในการควบคุมระบบต่างๆ
00:06:11 → 00:06:14 ในร่างกายเราตั้งแต่เรียงพลังงานความดัน
00:06:14 → 00:06:18 โลหิตไปจนถึงเอ่อระบบภูมิคุ้มกันเลยซึ่ง
00:06:18 → 00:06:21 การทำงานของมันเนี่ยมันไม่ได้คงที่นะตลอด
00:06:21 → 00:06:24 วันแต่มีการปรับปรับเปลี่ยนขึ้นๆลงๆเป็น
00:06:24 → 00:06:27 จังหวะที่แบบว่าน่าทึ่งมากการเข้าใจ
00:06:27 → 00:06:30 จังหวะตรงนี้แหละครับเป็นกุญแจสำคัญเลยใน
00:06:30 → 00:06:32 การดูแลสุขภาพองค์รวมของเรา
00:06:32 → 00:06:35 >> หูน่าสนใจมากค่ะงั้นเป้าหมายของเราวันนี้
00:06:35 → 00:06:38 ก็คือการเจาะลึกจังหวะการทำงานของ
00:06:38 → 00:06:41 คอร์ทิเซอลตลอด 24 ชมงเลยใช่มั้ยคะตั้ง
00:06:41 → 00:06:43 แต่เช้าตรู่ที่เราตื่นจนถึงช่วงที่เราควร
00:06:44 → 00:06:46 จะพักผ่อนเราจะมาดูกันว่าจังหวะเนี้ยมัน
00:06:47 → 00:06:50 ส่งผลต่อพลังงานความดันภูมิคุ้มกันแล้วก็
00:06:50 → 00:06:53 ฮอร์โมนอื่นๆยังไงบ้างรวมถึงปัจจัยใน
00:06:53 → 00:06:56 ชีวิตประจำวันที่อาจจะเอ่อไปรบกวนจังหวะ
00:06:56 → 00:06:59 สำคัญนี้ด้วยเอาล่ะค่ะมาเริ่มแกะรอยการทำ
00:06:59 → 00:07:02 งานของคอทิซอลกันเลยดีกว่างั้นมาเริ่มกัน
00:07:02 → 00:07:04 ที่จุดสตาร์ทของวันเลยนะคะตอนเช้าตรู่
00:07:04 → 00:07:08 ประมาณสซัก 6-700 น.ช่วงที่เรากำลังจะ
00:07:08 → 00:07:10 ตื่นหรือว่าเพิ่งลืมตาขึ้นมาเนี่ยค่ะ
00:07:10 → 00:07:13 คอร์ทิโซอลมันทำอะไรบ้างคะช่วงนี้
00:07:13 → 00:07:15 >> ครับในช่วงเวลานี้เองครับที่ร่างกายเรา
00:07:15 → 00:07:19 เริ่มเอ่อเหมือนปลุกตัวเองตามธรรมชาติ
00:07:19 → 00:07:21 กลไกนึงที่สำคัญมากๆก็คือการหลัง
00:07:21 → 00:07:24 คอร์ติซอลจากต่อมหมวกไตออกมาในระดับที่
00:07:24 → 00:07:26 สูงขึ้นอย่างรวดเร็วเลยซึ่งอันนี้ถือเป็น
00:07:26 → 00:07:29 จุดสูงสุดจุดนึงของวันเลยก็ว่าได้นะครับ
00:07:29 → 00:07:31 สัญญาณนี้เนี่ยมันส่งผลกระทบหลายอย่าง
00:07:31 → 00:07:32 พร้อมๆกันเลยครับ
00:07:32 → 00:07:35 >> ผลกระทบที่ว่านี้มีอะไรบ้างคะที่ทำให้เรา
00:07:35 → 00:07:38 รู้สึกแบบตึตื่นตัวเฟรชขึ้นมาได้
00:07:38 → 00:07:41 >> หลักๆเลยนะครับ 1 คอิซอลเนี่ยจะส่งสัญญาณ
00:07:41 → 00:07:44 ไปที่ตับครับให้เริ่มกระบวนการที่เรียก
00:07:44 → 00:07:46 ว่ากลูโคนิโogenesis
00:07:46 → 00:07:49 คืออธิบายง่ายๆก็คือการสร้างน้ำตาลกลูโคส
00:07:49 → 00:07:52 ขึ้นมาใหม่จากแหล่งที่ไม่ใช้คาร์โบไฮเดรต
00:07:52 → 00:07:55 โดยตรงเช่นพวกกรดอะมิโนหรือไขมันเพื่อ
00:07:56 → 00:07:58 เพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดอย่างรวดเร็วให้
00:07:58 → 00:08:01 สมองกล้ามเนื้อมีพลังงานพร้อมใช้ทันที
00:08:01 → 00:08:04 หลังจากที่เราอดอาหารมาทั้งคืนนะครับ 2
00:08:05 → 00:08:07 คือมันจะไปกระตุ้นต้นให้หลอดเลือดหดตัว
00:08:07 → 00:08:09 เล็กน้อยส่งผลให้ความดันโลหิตสูงขึ้นนิด
00:08:09 → 00:08:12 หน่อยหรือบางทีก็รู้สึกว่าพุ่งขึ้นเพื่อ
00:08:12 → 00:08:14 ให้แน่ใจว่าเลือดที่อุดมด้วยออกซิเจนแล้ว
00:08:14 → 00:08:17 ก็พลังงานหรือน้ำตาลเนี่ยจะถูกส่งไป
00:08:17 → 00:08:18 เลี้ยงส่วนต่างๆของร่างกายได้มี
00:08:18 → 00:08:21 ประสิทธิภาพมากขึ้นเตรียมพร้อมสำหรับ
00:08:21 → 00:08:23 กิจกรรมต่างๆในวันใหม่ครับ
00:08:23 → 00:08:27 >> อ๋อเข้าใจแล้วค่ะที่เราตื่นมาแล้วรู้สึก
00:08:27 → 00:08:30 สดชื่นถ้าวันไหนนอนพอนะคะก็เพราะว่า
00:08:30 → 00:08:33 คอรีซอลช่วยบูostทั้งพลังงานทั้งแรงดัน
00:08:33 → 00:08:35 เลิศนี่เองนะคะเหมือนเป็นการสตาร์ท
00:08:35 → 00:08:38 เครื่องยนต์คนให้พร้อมทำงานเลยแล้วนอกจาก
00:08:38 → 00:08:41 การปลูกร่างกายให้ตื่นแล้วช่วงเช้านี้
00:08:41 → 00:08:44 คอซอลมีบทบาทสำคัญอื่นๆอีกมั้ยคะแหล่งข้อ
00:08:44 → 00:08:47 มูลที่เราดูมาเาเน้นเรื่องไหนเป็นพิเศษ
00:08:47 → 00:08:48 หรือเปล่าคะ
00:08:48 → 00:08:50 >> มีอีกบทบาทที่สำคัญมากครับแล้วแหล่งข้อ
00:08:50 → 00:08:53 มูลที่เรามีก็เน้นย้ำเรื่องนี้เลยคือ
00:08:53 → 00:08:57 เรื่องของระบบภูมิคุ้มกันครับ
00:08:57 → 00:09:00 จริงๆแล้วเนี่ยคอร์ทิซอลมีคุณสมบัติที่
00:09:00 → 00:09:04 ช่วยเอ่อต้านการอักเสบในระยะสั้นได้แล้ว
00:09:04 → 00:09:07 ก็ช่วยปรับปรับสมดุลการทำงานของระบบภูมิ
00:09:07 → 00:09:09 คุ้มกันไม่ให้มันตอบสนองมากไปหรือน้อย
00:09:09 → 00:09:12 เกินไปซึ่งจำเป็นมากในการรับมือกับพวก
00:09:12 → 00:09:15 เชื้อโรคหรือสิ่งแปลกปลอมต่างๆที่เราอาจ
00:09:15 → 00:09:19 จะเจอในตอนเช้าแต่ว่าประเด็นที่น่าสนใจ
00:09:19 → 00:09:19 คือ
00:09:19 → 00:09:22 >> คืออะไรคะมีอะไรที่มันซับซ้อนกว่านั้นอีก
00:09:22 → 00:09:23 หรอคะ
00:09:23 → 00:09:26 >> คืออย่างี้ครับในวิถีชีวิตปัจจุบันของเรา
00:09:26 → 00:09:28 เนี่ยที่อาจจะเต็มไปด้วยความเครียดเรื้อ
00:09:28 → 00:09:32 รังหรือว่าการบริโภคอาหารแปรรูปสูงๆอาหาร
00:09:32 → 00:09:35 ที่มีน้ำตาลสูงมากๆเกินไปมันทำทำให้ร่าง
00:09:35 → 00:09:38 กายต้องพึ่งพาคอร์ติซอลอย่างหนักเลยในการ
00:09:38 → 00:09:41 จัดการกับระดับน้ำตาลในเลือดที่มันผันผวน
00:09:41 → 00:09:43 แล้วก็ความดันโลออีกที่อาจจะสูงพิษปกติ
00:09:43 → 00:09:46 อยู่แล้วเปรียบเสมือนว่าคอร์ทิซอลต้อง
00:09:46 → 00:09:49 เสียทรัพยากรแล้วก็เวลาส่วนใหญ่ไปกับการ
00:09:49 → 00:09:53 แก้ปัญหาวิกฤตเฉพาะหน้าพวกนี้ครับจนอาจจะ
00:09:53 → 00:09:55 ทำให้การทำงานด้านการปรับสมดุลภูมิคุ้ม
00:09:55 → 00:09:58 กันในระยะยาวเนี่ยประสิทธิภาพมันลดลงได้
00:09:58 → 00:10:02 >> ได้ดีขึ้นลดความเครียดลงคือลดภาระให้
00:10:02 → 00:10:05 คอร์ติต้องวุ่นวายกับการคุมน้ำตาลการคุม
00:10:05 → 00:10:07 ความดันที่มันแกว่งไปมาตลอดเวลามันก็จะ
00:10:08 → 00:10:10 สามารถกลับมาทำหน้าที่ดูแลระบบภูมิคุ้ม
00:10:10 → 00:10:12 กันซึ่งเป็นหน้าที่หลักอีกอย่างนึงของมัน
00:10:12 → 00:10:15 ได้อย่างเต็มที่มากขึ้นทำให้เราแข็งแรง
00:10:15 → 00:10:17 ขึ้นไม่ป่วยง่ายหรือที่ในแหล่งข้อมูลเขา
00:10:17 → 00:10:19 เรียกว่ามีภูมิชีวิตที่ดีขึ้นอย่างนั้น
00:10:19 → 00:10:20 หรือเปล่าคะ
00:10:20 → 00:10:23 >> ถูกต้องเลยครับแนวคิดเรื่องภูมิชีวิตหรือ
00:10:23 → 00:10:26 ความสามารถของร่างกายในการปรับตัวแล้วก็
00:10:26 → 00:10:28 ฟื้นฟูตัวเองโดยรวมเนี่ยมันเกี่ยวข้อง
00:10:28 → 00:10:30 อย่างยิ่งเลยกับการที่ระบบฮอร์โมนต่างๆทำ
00:10:30 → 00:10:33 งานได้อย่างสมดุลตามจังหวะธรรมชาติของมัน
00:10:33 → 00:10:35 เมื่อคอร์ดิซ่อต้องทำงานหนักเกินไปในการ
00:10:35 → 00:10:38 ควบคุมพลังงานและความดันมันก็จะมีเหมือน
00:10:38 → 00:10:41 กับแบนวเหลือพอที่จะดูแลระบบภูมิคุ้มกัน
00:10:41 → 00:10:43 ให้ทำงานอย่างเหมาะสมไม่มากเกินไปจนเกิด
00:10:43 → 00:10:45 การอักเสบเรื้อรังหรือน้อยเกินไปจนติด
00:10:46 → 00:10:48 เชื้อง่ายๆการดูแลไลฟ์สไตล์องค์รวมของเรา
00:10:48 → 00:10:51 นี่แหละครับจึงเป็นการสนับสนุนให้คอติซอล
00:10:51 → 00:10:52 ทำงานในส่วนนี้ได้ดีขึ้น
00:10:52 → 00:10:55 >> เข้าใจภาพรวมช่วงเช้าตรู่แล้วค่ะ
00:10:55 → 00:10:57 คอร์ติซอลพุ่งสูงปรี๊ดเพื่อปลุกเราด้วย
00:10:57 → 00:11:00 พลังงานด้วยน้ำตาลความดันพร้อมกับเตรียม
00:11:00 → 00:11:03 ระบบภูมิคุ้มกันให้พร้อมแล้วหลังจากนั้น
00:11:03 → 00:11:07 ล่ะคะพอสายขึ้นมาหน่อยประมาณสัก 8-9 น.
00:11:07 → 00:11:09 ระดับคอร์ติซอลจะเป็นยังไงต่อคะ
00:11:09 → 00:11:12 >> ครับหลังจากที่พุ่งขึ้นไปสูงสุดในช่วง
00:11:12 → 00:11:16 ประมาณ 6-800 น.แล้วเนี่ยโดยทั่วไปประมาณ
00:11:16 → 00:11:18 8-900 น.ระดับคอ์ติซอลจะเริ่มค่อยๆปรับ
00:11:19 → 00:11:21 ตัวลดลงตามธรรมชาติครับนี่เป็นส่วนสำคัญ
00:11:21 → 00:11:24 ของจังหวะปกติของมันเลยนะจังหวะการลดลง
00:11:24 → 00:11:27 นี้เองครับที่เปิดโอกาสให้ระบบฮอร์โมน
00:11:27 → 00:11:29 อื่นๆเริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้น
00:11:29 → 00:11:31 >> การลดลงของคอร์ติซอลเปิดทางให้ฮอร์โมน
00:11:31 → 00:11:35 อื่นทำงานอืมน่าสนใจจังค่ะเหมือนเป็นการ
00:11:35 → 00:11:38 ส่งไม้ต่อกันเหรอคะแล้วฮอร์โมนกลุ่มไหนคะ
00:11:38 → 00:11:39 ที่จะเริ่มทำงานในช่วงนี้
00:11:39 → 00:11:43 >> อ่าเป็นข้อสังเกตที่ดีครับพอคอร์ติซอล
00:11:43 → 00:11:46 เริ่มลดระดับลงในช่วงสายๆนี่แหละครับถือ
00:11:46 → 00:11:49 เป็นเหมือนหน้าต่างโอกาสหรือช่วงเวลาทอง
00:11:49 → 00:11:52 เลยสำหรับการสร้างและหลั่งฮอร์โมนกลุ่ม
00:11:52 → 00:11:55 สำคัญอีกกลุ่มหนึ่งนั่นก็คือกลุ่มฮอร์โมน
00:11:55 → 00:11:58 เพศครับซึ่งรวมถึงเทสโทสเตอโรนที่มีทั้ง
00:11:58 → 00:12:01 ในผู้ชายผู้หญิงนะครับแต่ปริมาณต่างกัน
00:12:01 → 00:12:05 และก็โปรเจสเตอโรนซึ่งจะเด่นในผู้หญิง
00:12:05 → 00:12:08 ฮอร์โมนเหล่านี้มีความสำคัญอย่างยิ่งเลย
00:12:08 → 00:12:10 ต่อการซ่อมแซมแล้วก็เสริมสร้างร่างกาย
00:12:10 → 00:12:11 ครับ
00:12:11 → 00:12:14 >> เดี๋ยวสิคะนี่หมายความว่าการที่คอร์ดิเซอ
00:12:14 → 00:12:16 ลดลงเนี่ยเป็นเหมือนสัญญาณให้ร่างกายกาย
00:12:16 → 00:12:18 เริ่มกระบวนการสร้างฮอร์โมนที่เกี่ยวกับ
00:12:18 → 00:12:20 การเสริมสร้างความแข็งแรงอย่าง
00:12:20 → 00:12:22 เทสโตสเตอร์โรนกับโปรเจสเตอโรนหรอคะทำไม
00:12:22 → 00:12:26 ต้องเป็นช่วงเวลานี้ล่ะคะใช่ครับกลไก
00:12:26 → 00:12:29 หนึ่งที่พอกะอธิบายเรื่องนี้ได้คือคอร์ติ
00:12:29 → 00:12:32 กับฮอร์โมนเพศบางตัวเนี่ยมันใช้สารตั้ง
00:12:32 → 00:12:36 ต้นร่วมกันในการผลิตครับเช่นคอเลสเตอรอล
00:12:36 → 00:12:39 แล้วก็ตัวprกnaloneนที่บางทีถูกเรียกว่า
00:12:39 → 00:12:42 ฮอร์โมนแม่ทีนี้เมื่อร่างกายมีความ
00:12:42 → 00:12:45 ต้องการคอร์ติสูงๆเช่นจากความเครียดหรือ
00:12:45 → 00:12:48 ช่วงตื่นนอนเนี่ยทรัพยากรก็จะถูกดึงไปใช้
00:12:48 → 00:12:51 ในการสร้างคอร์ติซอลก่อนเป็นหลักแต่พอ
00:12:51 → 00:12:53 ความต้องการคอร์ติซอลเริ่มลดลงตาม
00:12:53 → 00:12:55 ธรรมชาติในช่วงสายๆเนี่ยทรัพยากรเหล่านี้
00:12:56 → 00:12:58 ก็จะว่างโพครับที่จะถูกนำไปใช้สร้าง
00:12:58 → 00:13:01 ฮอร์โมนเพง
00:13:01 → 00:13:03 ที่ร่างกายเริ่มตื่นตัวเต็มที่แล้วมีการ
00:13:03 → 00:13:06 เคลื่อนไหวฮอร์โมนเพศเหล่านี้ก็จะเข้ามา
00:13:06 → 00:13:08 ช่วยในกระบวนการซ่อมแซมเสริมสร้างกล้าม
00:13:08 → 00:13:11 เนื้อกระดูกเส้นเอ็นแล้วก็เนื้อเยื่อต่าง
00:13:11 → 00:13:14 ๆที่อาจจะสึกหรอหรือต้องการการบำรุงรักษา
00:13:14 → 00:13:15 ครับ
00:13:15 → 00:13:18 >> โหฟังดูเหมือนเป็นระบบจัดสรรทัพยากรที่
00:13:18 → 00:13:20 ฉลาดมากๆเลยนะคะแล้วช่วงเวลาที่ฮอร์โมน
00:13:20 → 00:13:23 เพศเหล่านี้ทำงานเด่นๆเนี่ยมันนานแค่ไหน
00:13:23 → 00:13:26 คะครับช่วงพีคของฮอร์โมนเหล่านี้มักจะ
00:13:26 → 00:13:29 ค่อนข้างสั้นนะครับอาจจะประมาณสัก 30
00:13:29 → 00:13:33 นาทีถึง 1 ชม.ราวๆ 8:30 น. - 9:30 น.
00:13:33 → 00:13:36 หรืออาจจะถึง 10:00 น.ขึ้นอยู่กับแต่ละ
00:13:36 → 00:13:39 บุคคลแล้วก็ปัจจัยอื่นๆด้วยแต่ก็ถือเป็น
00:13:39 → 00:13:41 ช่วงเวลาที่สำคัญมากๆสำหรับการฟื้นฟูแล้ว
00:13:41 → 00:13:43 ก็เสริมสร้างความแข็งแรงครับ
00:13:43 → 00:13:48 >> คำถามสำคัญเลยค่ะแล้วถ้าเกิดว่าคอร์ติมัน
00:13:48 → 00:13:51 ไม่ยอมลดลงตามธรรมชาติล่ะคะสมมุติว่าเรา
00:13:51 → 00:13:54 ตื่นมาก็เครียดเลยหรือมีปัจจัยอื่นที่ทำ
00:13:54 → 00:13:57 ให้คอร์ติสูงค้างนานกว่าปกติจะเกิดอะไร
00:13:57 → 00:14:00 ขึ้นกับฮอร์โมนเพศในช่วงเวลานี้คะ
00:14:00 → 00:14:03 >> นั่นคือปัญหาใหญ่เลยครับถ้าคอร์ติซยังคง
00:14:03 → 00:14:07 สูงค้างอยู่ไม่ลดลงตามจังหวะที่ควรจะเป็น
00:14:07 → 00:14:10 ไม่ว่าจะเกิดจากความเครียดเรื้อรังการนอน
00:14:10 → 00:14:15 ไม่พอการอักเสบหรือเหตุผลอื่นๆก็ตาม
00:14:15 → 00:14:18 กระบวนการสร้างฮอร์โมนเพศก็จะถูกกดหรือ
00:14:18 → 00:14:21 ยับยั้งไว้ทรัพยากรก็จะยังคงถูกดึงไปใช้
00:14:21 → 00:14:24 ในการผลิตคอร์ติซอลต่อไปเรื่อยๆ
00:14:25 → 00:14:27 ปรากฏการณ์นี้บางครั้งเขาเรียกว่า
00:14:27 → 00:14:30 pregnanone steel นะครับคือสารตั้งต้น
00:14:30 → 00:14:33 prกnโนโลนoneถูกขโมยไปใช้สร้างคอร์ติซอล
00:14:33 → 00:14:37 จนหมดหรือจนไม่พอผลที่ตามมาก็คือระดับ
00:14:37 → 00:14:40 เทสโทสเตอและโปรเจสเตอโรนอาจจะต่ำกว่าที่
00:14:40 → 00:14:44 ควรจะเป็นทำให้ร่างกายไม่สามารถซ่อมแซม
00:14:44 → 00:14:46 และเสริมสร้างตัวเองได้อย่างเต็มที่อาจจะ
00:14:46 → 00:14:50 รู้สึกอ่อนเพลียไม่กระปรี้กระเป่ากล้าม
00:14:50 → 00:14:52 เนื้อฟื้นตัวช้าหรืออาจจะมีปัญหาเรื่อง
00:14:52 → 00:14:55 ความแข็งแรงของกระดูกข้อต่อในระยะยาวได้
00:14:55 → 00:14:56 ครับ
00:14:56 → 00:15:00 >> โหกระทบเป็นลูกโซ่จริงๆอ่ะค่ะไม่ใช่แค่
00:15:00 → 00:15:02 เรื่องความแข็งแรงทางกายภาพเท่านั้นใช่
00:15:02 → 00:15:04 มั้คะเหมือนเคยได้ยินจริงว่าฮอร์โมนเพศ
00:15:04 → 00:15:07 พวกนี้มันเกี่ยวกับความรู้สึกสดชื่นความ
00:15:07 → 00:15:08 เป็นหนุ่มเป็นสาวด้วย
00:15:08 → 00:15:12 >> ถูกต้องครับเทสโทสเตโรนเนี่ยเกี่ยวข้อง
00:15:12 → 00:15:16 กับพลังงานแรงขับเคลื่อนอารมณ์ความมั่นใจ
00:15:16 → 00:15:19 ส่วนโปรเจสเตอโรนก็มีผลช่วยให้รู้สึกสงด
00:15:20 → 00:15:22 ผ่อนคลายการที่ฮอร์โมนเหล่านี้อยู่ใน
00:15:22 → 00:15:25 ระดับที่สมดุลแล้วก็ถูกสร้างขึ้นตามวงจร
00:15:25 → 00:15:28 ปกตินี่แหละครับจึงสัมพันธ์โดยตรงกับ
00:15:28 → 00:15:31 คุณภาพชีวิตความรู้สึกโดยรวมของเราแล้วก็
00:15:31 → 00:15:34 อาจจะเรียกว่าเป็นส่วนหนึ่งของอายุวัฒนะ
00:15:34 → 00:15:36 หรือการชะลอความเสื่อมของร่างกายด้วยก็
00:15:36 → 00:15:39 ได้การที่ระดับฮอร์โมนเพชรต่ำเรื้อรังจาก
00:15:40 → 00:15:42 การที่คอร์ติซอลสูงผิดปกติจึงส่งผลเสีย
00:15:42 → 00:15:45 ต่อสุขภาพและความรู้สึกอ่อนเยาวในระยะยาว
00:15:45 → 00:15:46 ได้จริงๆครับ
00:15:46 → 00:15:49 >> นี่สินะคะที่บอกว่าคอร์ติซอลเหมือนตัวแม่
00:15:49 → 00:15:52 หรือผู้ควบคุมหลักเพราะจังหวะการขึ้นลง
00:15:52 → 00:15:55 ของมันเนี่ยไม่เพียงส่งผลต่อพลังงานความ
00:15:55 → 00:15:57 ดันแต่ยังส่งผลต่อการผลิตฮอร์โมนสำคัญ
00:15:57 → 00:16:00 อื่นๆที่เกี่ยวกับความแข็งแรงความสดใสของ
00:16:00 → 00:16:03 เราด้วยแล้วพอเข้าสู่ช่วงช่วงสายไปอีก
00:16:03 → 00:16:06 หน่อยล่ะคะประมาณสัก 10-11 น.สถานการณ์
00:16:06 → 00:16:08 ของคอร์ติซอลเป็นยังไงต่อคะ
00:16:08 → 00:16:11 >> ครับในช่วงประมาณ 10:00 น.เป็นต้นไปเนี่ย
00:16:11 → 00:16:13 ระดับคอติซอลจะลกลงอย่างต่อเนื่องและชัด
00:16:13 → 00:16:16 เจนมากขึ้นเข้าสู่ภาวะที่เรียกว่า Down
00:16:16 → 00:16:19 Regulation ซึ่งหมายถึงร่างกายกำลังลด
00:16:19 → 00:16:21 การผลิตหรือลดความไวของตัวรับสัญญาณต่อ
00:16:21 → 00:16:24 คอิซอลลงเพื่อให้ระบบต่างๆเริ่มเข้าสู่
00:16:24 → 00:16:27 โหมดการทำงานที่ต่างออกไปช่วงเวลานี้เอง
00:16:27 → 00:16:29 ครับที่มีเกล็ดน่าสนใจเกี่ยวกับการดื่ม
00:16:29 → 00:16:30 กาแฟเข้ามาเกี่ยวข้องพอดีเลย
00:16:31 → 00:16:35 >> อ๋อเรื่องกาแฟนี่เองเคยได้ยินมาบ้างค่ะ
00:16:35 → 00:16:38 ว่าไม่ควรดื่มกาแฟทันทีหลังตื่นนอนแต่ควร
00:16:38 → 00:16:41 รอสักพักใหญ่ใหญ่นี่คือเหตุผลทางฮอร์โมน
00:16:41 → 00:16:44 ที่อยู่เบื้องหลังสินะคะทำไมถึงต้องรอให้
00:16:44 → 00:16:48 คอร์ติซอลลดลงมาก่อนในช่วง 10-11 น.ถึงจะ
00:16:48 → 00:16:50 เหมาะกับการดื่มกาแฟมากกว่าล่ะคะ
00:16:50 → 00:16:53 >> เหตุผลหลักเลยคือคาเฟอีนในกาแฟเนี่ยเป็น
00:16:53 → 00:16:56 สารกระตุ้นที่ออกฤทธิ์ส่วนนึงโดยการไป
00:16:56 → 00:16:58 กระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนอีกตัวที่ชื่อว่า
00:16:59 → 00:17:02 Adrenaline หรือ Epinefrine ซึ่งเป็น
00:17:02 → 00:17:05 ฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับการตอบสนองแบบสู้
00:17:05 → 00:17:08 หรือหนี fight or flight ทำให้เรารู้
00:17:08 → 00:17:12 สึกตื่นตัวมีพลังงานมีสมาธิเพิ่มขึ้น
00:17:12 → 00:17:14 อย่างรวดเร็วแต่เป็นผลในระยะสั้นกว่า
00:17:14 → 00:17:18 คอซอลทีนี้ถ้าเราดื่มกาแฟในช่วงที่คอิซอล
00:17:18 → 00:17:22 ยังสูงอยู่เช่นตอน 7-800 น.ก็เหมือนกับ
00:17:22 → 00:17:26 การแบบว่าเทสารกระตุ้นสำสรเข้าไปในระบบ
00:17:26 → 00:17:28 ที่กำลังถูกกระตุ้นสูงสุดอยู่แล้วอาจทำ
00:17:28 → 00:17:32 ให้รู้สึกกระวนกระวายใจสั่นหรือเกิดภาวะ
00:17:32 → 00:17:35 เครียดสำราย
00:17:35 → 00:17:37 ดื้อต่อคาเฟอีนเร็วขึ้นด้วยครับ
00:17:37 → 00:17:40 >> ภาพยักษ์ค่ะเหมือนกับว่าเราควรรอให้ตัว
00:17:40 → 00:17:43 กระตุ้นหลักตามธรรมชาติคือคอร์ติซอลเนี่ย
00:17:44 → 00:17:46 เริ่มแผ่วลงก่อนแล้วค่อยใช้ตัวช่วย
00:17:46 → 00:17:49 กระตุ้นเสริมคือคาเฟอีนเข้าไปเพื่อให้ได้
00:17:49 → 00:17:52 ผลดีที่สุดแล้วก็ไม่ไปรบกวนระบบเดิมที่
00:17:52 → 00:17:55 กำลังทำงานอยู่พอคอิซอลเริ่มดาregulูate
00:17:55 → 00:17:58 การดื่มกาแฟก็จะช่วยกระตุ้นadดรนาลีนให้
00:17:58 → 00:18:00 เข้ามาเสริมพลังงานในช่วงสายๆได้อย่าง
00:18:00 → 00:18:03 เหมาะสมคล้ายๆเป็นการรับช่วงต่อในแง่ของ
00:18:03 → 00:18:06 การให้พลังงานแต่เป็นคนรักกลไกกัน
00:18:06 → 00:18:09 >> ครับเปรียบเทียบได้เห็นภาพชัดเจนเลย
00:18:09 → 00:18:11 คอร์ติซอลให้พลังงานแบบเตรียมพร้อมระยะ
00:18:11 → 00:18:16 ยาวส่วนadดรนาลีนที่ถูกกระตุ้นโดยคาเฟอีน
00:18:16 → 00:18:19 ให้พลังงานแบบเร่งด่วนระยะสั้นการรอให้
00:18:19 → 00:18:22 คอร์ติลดลงก่อนจึงเป็นการใช้ประโยชน์จาก
00:18:22 → 00:18:25 คาเฟอีนได้อย่างชาญฉลาดกว่าลดผลข้างเคียน
00:18:25 → 00:18:27 ที่ไม่ต้องการแล้วก็อาจจะช่วยรักษาความไว
00:18:27 → 00:18:30 ของร่างกายต่อคาเฟอีนได้นานขึ้นด้วยนอก
00:18:30 → 00:18:33 จากนี้ยังมีเรื่องของadดิโนซีนอีกนิด
00:18:33 → 00:18:35 หน่อยครับซึ่งเป็นสารสื่อประสาทที่ทำให้
00:18:35 → 00:18:39 เรารู้สึกง่วงคาเฟอีนจะไปบล็อกตัวรับซีน
00:18:39 → 00:18:42 นี้ทำให้เรารู้สึกตื่นการดื่มกาแฟเมื่อ
00:18:42 → 00:18:45 เริ่มสะสมมากขึ้นในช่วงใสๆคือหลังจากตื่น
00:18:45 → 00:18:48 นอนมาสักพักแล้วก็อาจจะได้ผลดีกว่าการ
00:18:48 → 00:18:51 ดื่มตอนเช้าตรูที่ระดับอดีตยังต่ำอยู่นะ
00:18:51 → 00:18:52 ครับ
00:18:52 → 00:18:55 >> โหมีเหตุผลซ้อนกันหลายอย่างเลยนะคะเนี่ย
00:18:55 → 00:18:57 น่าทึ่งมากที่เรื่องง่ายๆอย่างการดื่ม
00:18:57 → 00:19:01 กาแฟก็มีคำอธิบายทางชีวเคมีฮอร์โมนที่ซับ
00:19:01 → 00:19:04 ซ้อนรองรับอยู่ทีนี้เราก็เห็นภาพรวมตั้ง
00:19:04 → 00:19:07 แต่เช้าตรู่จนถึงช่วงสายแล้วคอร์ติซอค่อย
00:19:07 → 00:19:10 ๆลดระดับลงแล้วหลังจากนี้ล่ะคะช่วงบ่าย
00:19:10 → 00:19:13 ถึงเย็นบทบาทของมันเปลี่ยนไปอย่างไรบ้าง
00:19:13 → 00:19:16 คะนี่เป็นส่วนที่คนมักไม่ค่อยพูดถึงเท่า
00:19:16 → 00:19:16 ไหร่
00:19:16 → 00:19:19 >> ถูกต้องครับคนมักจะโฟกัสที่คอร์ติซอลช่วง
00:19:19 → 00:19:20 เช้า
00:19:20 → 00:19:23 แต่จังหวะในช่วงบ่ายและเย็นก็สำคัญไม่แพ้
00:19:23 → 00:19:26 กันเลยตามหลักการแล้วเนี่ยระดับคอรซอลควร
00:19:26 → 00:19:29 จะค่อยๆลดต่ำลงอย่างต่อเนื่องตลอดช่วง
00:19:29 → 00:19:32 บ่ายและควรจะอยู่ในระดับที่ต่ำมากๆในช่วง
00:19:32 → 00:19:35 เย็นและก่อนนอนเพื่อเตรียมร่างกายเข้าสู่
00:19:35 → 00:19:37 หมุดพักผ่อนและส้มแซมครับ
00:19:37 → 00:19:40 >> การที่คอร์ทิซ่อนลดลงต่ำในช่วงเย็นสำคัญ
00:19:40 → 00:19:43 ยังไงคะมันเชื่อมโยงกับการนอนหลับหรือ
00:19:43 → 00:19:44 เปล่า
00:19:44 → 00:19:46 >> เชื่อมโยงโดยตรงเลยครับคอร์ทิโซกับ
00:19:46 → 00:19:49 เมลาโทนินซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ควบคุมการนอน
00:19:49 → 00:19:50 หลับ
00:19:50 → 00:19:52 ทำงานในลักษณะที่ตรงกันข้ามกันเลยหรือ
00:19:52 → 00:19:55 เรียกว่า inverse relationship เมื่อ
00:19:55 → 00:19:59 ระดับคอร์ติสูงร่างกายจะยับยั้งการผลิต
00:19:59 → 00:20:02 เมลาโทนินแต่เมื่อคอร์ทิซอลลดต่ำลงในช่วง
00:20:02 → 00:20:05 เย็นและค่ำจะเป็นสัญญาณให้ต่อมPนel Pal
00:20:05 → 00:20:08 Grand เริ่มผลิตและหลั่งเมลาโทนินออกมา
00:20:08 → 00:20:11 ทำให้เรารู้สึกง่วงแล้วก็พร้อมที่จะนอน
00:20:11 → 00:20:14 หลับการที่คอร์ิซอลอยู่ในระดับต่ำในช่วง
00:20:14 → 00:20:16 กลางคืนจึงจำเป็นอย่างยิ่งเลยครับต่อการ
00:20:16 → 00:20:19 นอนหลับที่มีคุณภาพซึ่งเป็นช่วงเวลาที่
00:20:19 → 00:20:22 ร่างกายทำการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอจัดการ
00:20:22 → 00:20:25 ของเสียและฟื้นฟุพลังงานอย่างแท้จริง
00:20:25 → 00:20:29 >> ถ้าอย่างนั้นปัญหาคือถ้าคอร์ติของเรามัน
00:20:29 → 00:20:32 ไม่ยอมลดลงในช่วงเย็นหรือกลางคืนหรอคะจะ
00:20:32 → 00:20:35 เกิดอะไรขึ้นแล้วอะไรคือสาเหตุที่ทำให้
00:20:35 → 00:20:40 มันสูงค้างอยู่แบบนั้นคะมันที่พบได้บ่อย
00:20:40 → 00:20:43 เลยในวิถีชีวิตสมัยใหม่ถ้าคอร์ติยังคงสูง
00:20:43 → 00:20:46 อยู่ในช่วงเวลาที่มันควรจะต่ำแล้วเนี่ยผล
00:20:46 → 00:20:49 ก็คือการผลิตเมลาทอนินจะถูกรบกวน
00:20:49 → 00:20:52 ทำให้หลับยากหลับไม่สนิทหรือตื่นกลางดึก
00:20:52 → 00:20:55 ซึ่งการนอนหลับที่ไม่มีคุณภาพนี้ก็จะส่ง
00:20:55 → 00:20:58 ผลย้อนกลับไปรบกวนจังหวะคอร์ติซอลในวัน
00:20:58 → 00:21:01 ถัดไปอีกเป็นวงจรอุบาทได้เลยครับส่วน
00:21:01 → 00:21:03 สาเหตุที่ทำให้คอร์ติซอลสูงค้างในช่วง
00:21:03 → 00:21:07 เย็นหรือกลางคืนก็มีหลายอย่างครับเช่น 1
00:21:07 → 00:21:09 เลยคือความเครียดเรื้อรังความกังวลเรื่อง
00:21:10 → 00:21:12 งานเรื่องส่วนตัวที่มันไม่จบไม่สิ้นทำให้
00:21:12 → 00:21:16 ร่างกายอยู่ในโหมดตื่นตัวตลอดเวลา 2 การ
00:21:16 → 00:21:18 สัมผัสแสงสีฟ้าบลูไทแสงจากหน้าจอ
00:21:18 → 00:21:21 คอมพิวเตอร์โทรศัพท์มือถือแท็บเล็ตหรือ
00:21:21 → 00:21:24 แม้แต่หลอดไฟ LED บางชนิดโดยเฉพาะในช่วง
00:21:24 → 00:21:27 2-3 ชั่วโมงก่อนนอนจะส่งสัญญาณไปที่สมอง
00:21:27 → 00:21:30 ว่ายังเป็นเวลากลางวันทำให้ระงับการหลัง
00:21:30 → 00:21:32 แมนาโทนินแล้วก็อาจจะเป็นกระตุ้นคอร์ติ
00:21:32 → 00:21:36 ได้ด้วย 3. การกินอาหารมื้อดึกโดยเฉพาะ
00:21:36 → 00:21:37 อาหารมื้อหนักๆหรืออาหารที่มี
00:21:37 → 00:21:41 คาร์โบไฮเดรตน้ำตาลสูงการย่อยอาหารการจัด
00:21:41 → 00:21:43 การกับระดับน้ำตาลในเลือดที่พุ่งสูงขึ้น
00:21:43 → 00:21:45 เป็นภาระที่ต้องใช้คอร์ติเข้ามาเกี่ยว
00:21:45 → 00:21:48 ข้องทำให้ระดับมันไม่ลดลงตามที่ควรจะเป็น
00:21:48 → 00:21:51 และ 4 การออกกำลังกายหนักเกินไปในช่วง
00:21:51 → 00:21:54 เย็นครับแม้การออกกำลังกายจะเป็นสิ่งที่
00:21:54 → 00:21:57 ดีแต่การออกกำลังกายที่หนักหน่วงใกล้เวลา
00:21:57 → 00:22:01 นอนเกินไปอาจกระตุ้นคอร์ติและีนทำให้ร่าง
00:22:02 → 00:22:04 กายตื่นตัวนอนหลับยากขึ้นได้
00:22:04 → 00:22:07 >> โหปัจจัยในชีวิตประจำวันทั้งนั้นเลยนะคะ
00:22:07 → 00:22:10 ทั้งความเครียดการใช้จอการกินการออกกำลัง
00:22:10 → 00:22:13 กายผิดเวลาล้วนส่งผลต่อจังหวะคอร์ติซอลใน
00:22:13 → 00:22:16 ช่วงเย็นและกลางคืนซึ่งสำคัญต่อการนอนการ
00:22:16 → 00:22:19 ฟื้นฟูร่างกายแสดงว่าการจัดการไลฟ์สไตล์
00:22:19 → 00:22:21 ในช่วงเย็นก็สำคัญไม่แพ้ช่วงเช้าเลยอ่ะ
00:22:21 → 00:22:24 เพื่อให้จังหวะของคอร์ดิซอลเป็นไปตาม
00:22:24 → 00:22:27 ธรรมชาติครบทั้ง 24 ช่มงเลยนะคะ
00:22:27 → 00:22:30 >> แน่นอนครับการดูแลให้โคดิซอลลดลงอย่าง
00:22:30 → 00:22:33 เหมาะสมในช่วงเย็นเป็นเหมือนการปิดสวิต
00:22:33 → 00:22:36 สวิตชระบบความเครียดแล้วก็เปิดสวิตช์ระบบ
00:22:36 → 00:22:39 การพักผ่อนและซ่อมแซมซึ่งนำโดยเมลทอนิน
00:22:39 → 00:22:41 แล้วก็ฮอร์โมนการเจริญเติบโตหรือโท
00:22:41 → 00:22:44 ฮอร์โมนที่จะหลั่งออกมามากในช่วงที่เรา
00:22:44 → 00:22:47 หลับลึกการรักษาวงจรนี้ให้สมบูรณ์จึงเป็น
00:22:47 → 00:22:50 พื้นฐานของสุขภาพที่ดีในระยะยาวครับทั้ง
00:22:50 → 00:22:53 ด้านร่างกายจิตใจและภูมิคุ้มกันหรือภูมิ
00:22:53 → 00:22:55 ชีวิตที่เราพูดถึงกันตอนต้นนั่นเอง
00:22:55 → 00:22:58 >> และนั่นก็คือภาพรวมที่ครบถ้วนแล้วก็น่า
00:22:58 → 00:23:02 ทึ่งมากๆของการทำงานของคอร์ติซอตลอด 24
00:23:02 → 00:23:05 ชมงเลยนะคะเราได้เห็นแล้วว่ามันไม่ใช่แค่
00:23:05 → 00:23:08 ฮอร์โมนความเครียดธรรมดาๆดาแต่เป็นเหมือน
00:23:08 → 00:23:10 Master Controller ตัวจริงเลยที่คอย
00:23:10 → 00:23:13 ปรับเปลี่ยนการทำงานของร่างกายให้เข้ากับ
00:23:13 → 00:23:15 จังหวะของวันตั้งแต่การปลุกให้ตื่นด้วย
00:23:15 → 00:23:18 พลังงานและความดันการปรับสมดุลภูมิคุ้ม
00:23:18 → 00:23:21 กันการเปิดค้างให้ฮอร์โมนเพศทำงานเพื่อ
00:23:21 → 00:23:24 ซ่อมสร้างในช่วงสายและที่สำคัญมากๆคือการ
00:23:24 → 00:23:26 ลดระดับลงเพื่อเปิดทานให้กับการพักผ่อน
00:23:26 → 00:23:29 และฟื้นฟูในช่วงกลางคืนค่ะ
00:23:29 → 00:23:31 >> ครับสิ่งที่น่าทึ่งคือความเชื่อมโยงแล้ว
00:23:31 → 00:23:35 ก็ความละเอียดอ่อนของระบบนี้การที่ข้อที่
00:23:35 → 00:23:37 ซอทำงานตามจังหวะธรรมชาติไม่สูงค้างหรือ
00:23:38 → 00:23:40 ผิดเพี้ยนไปมีผลกระทบต่อเนื่องไปยังสมดุล
00:23:40 → 00:23:44 พลังงานความดันโลหิตศักยภาพของระบบภูมิ
00:23:44 → 00:23:46 คุมกันความสมดุลของฮอร์โมนเพศแล้วก็
00:23:46 → 00:23:49 คุณภาพการนอนหลับซึ่งทั้งหมดนี้รวมกัน
00:23:49 → 00:23:52 เป็นพื้นฐานของสุขภาพองค์รวมและความ
00:23:52 → 00:23:54 สามารถในการปรับตัวรับมือกับความท้าทาย
00:23:54 → 00:23:57 ต่างๆหรือภูมิชีวิตที่แข็งแกร่งนั่นเอง
00:23:57 → 00:23:59 ครับการทำความเข้าใจจังหวะนี้จึงไม่ใช่
00:23:59 → 00:24:02 แค่เรื่องน่ารู้แต่เป็นเครื่องมือสำคัญใน
00:24:02 → 00:24:04 การออกแบบวิถีชีวิตที่ส่งเสริมสุขภาพ
00:24:04 → 00:24:05 อย่างแท้จริงเลยครับ
00:24:05 → 00:24:07 >> ถูกต้องเลยค่ะไม่ว่าจะเป็นเรื่องการจัด
00:24:07 → 00:24:12 การอาหารลดน้ำตาลลดแป้งปลารูปการจัดการ
00:24:12 → 00:24:15 ความเครียดการนอนหลับให้เพียงพอมีคุณภาพ
00:24:15 → 00:24:18 การกำหนดเวลาดื่มกาแฟที่เหมาะสมอย่างเช่น
00:24:18 → 00:24:21 หลัง 10:00 น.เข้าไปแล้วและการจัดการแสง
00:24:21 → 00:24:24 สีฟ้าในช่วงเย็นล้วมเป็นการสนับสนุน
00:24:24 → 00:24:26 จังหวะธรรมชาติของคอร์ติซอลทั้งสิ้นเลยนะ
00:24:26 → 00:24:27 คะ
00:24:27 → 00:24:29 >> และนี่คือประเด็นหน้าขบคิดทิ้งท้ายครับ
00:24:30 → 00:24:32 เมื่อเราได้เห็นภาพรวมของจังหวะการทำงาน
00:24:32 → 00:24:35 อันละเอียดอ่อนของคิซอตลอด 24 ช่มงแล้ว
00:24:35 → 00:24:38 ลองใช้เวลาสักครู่ทบทวนวิถีชีวิตประจำวัน
00:24:38 → 00:24:41 ของเราเองดูครับมีพิธีกรรมหรือปัจจัยแวด
00:24:41 → 00:24:44 ล้อมใดบ้างที่อาจกำลังรบกวนนาฬิกาชีวภาพ
00:24:44 → 00:24:46 และจังหวะคอรีซอลนี้อยู่โดยที่เราอาจจะ
00:24:46 → 00:24:49 ไม่รู้ตัวไม่ว่าจะเป็นความเครียดที่จัด
00:24:49 → 00:24:52 การไม่ได้รูปแบบการกินที่ไม่สมดุลการนอน
00:24:52 → 00:24:55 ที่ไม่เป็นเวลาการจ้องหน้าจอจนดึกหรือแม้
00:24:55 → 00:24:58 แต่การไม่ได้รับแสงแดดธรรมชาติในตอนเช้า
00:24:58 → 00:25:00 แล้วเราพอจะเริ่มปรับเปลี่ยนอะไรเล็กๆ
00:25:00 → 00:25:02 น้อยๆได้บ้างในวันนี้เพื่อช่วยให้ Master
00:25:02 → 00:25:05 Controller ตัวสำคัญนี้ทำงานได้อย่างราบ
00:25:05 → 00:25:07 รื่นและสมดุลมากขึ้นเพราะภูมิชีวิตที่ดี
00:25:07 → 00:25:10 ขึ้นของเราเอง
00:25:10 → 00:25:28 [เพลง]