00:00:01 → 00:00:03 ในปัจจุบันผู้ป่วยโรคกระดูกพรุน
00:00:03 → 00:00:05 พบว่าผู้ชายเมื่ออายุ 60 ปี
00:00:05 → 00:00:07 ก็มีประมาณไม่เกิน 10%
00:00:08 → 00:00:09 ส่วนผู้หญิงประมาณ 40%
00:00:09 → 00:00:12 [เสียงดนตรี]
00:00:12 → 00:00:14 แต่ถ้าถึง 70 ปีไปแล้วนี่
00:00:14 → 00:00:17 ผู้หญิงเกือบครึ่งหนึ่งเป็นภาวะกระดูกพรุน
00:00:17 → 00:00:24 [เสียงดนตรี]
00:00:24 → 00:00:27 ถ้ากระดูกในร่างกายไม่แข็งแรง จะส่งผลต่อกระดูกเอ็นและข้อ
00:00:27 → 00:00:29 ที่สำคัญก็คือกระดูกมันจะหักได้ง่าย
00:00:29 → 00:00:32 โดยเฉพาะอย่างยิ่งกระดูกสันหลัง กระดูกสะโพก กระดูกข้อมือ
00:00:32 → 00:00:34 มีโรคหลายโรคตามมา
00:00:34 → 00:00:35 มีความพิการ ผิดรูป
00:00:35 → 00:00:37 การที่กระดูกหลังทรุดตัวลง
00:00:37 → 00:00:39 จะทำให้ระบบย่อยอาหารไม่ดี
00:00:39 → 00:00:41 หลังโค้ง ค่อม
00:00:41 → 00:00:44 ระบบหายใจก็ไม่ดี จะมีผลต่อระบบอื่น ๆ ด้วย
00:00:44 → 00:00:46 คนเราควรจะได้รับแคลเซียมในปริมาณ
00:00:46 → 00:00:48 วันละ 800-1,000 มิลลิกรัมต่อวัน
00:00:49 → 00:00:51 ผู้หญิงที่ตั้งครรภ์แนะนำให้ได้แคลเซียม
00:00:51 → 00:00:56 เพิ่มขึ้นเป็น 1,500-1,600 มิลลิกรัมต่อวัน
00:00:56 → 00:00:59 ก็จะทำให้ร่างกายได้รับแคลเซียมที่เพียงพอ
00:00:59 → 00:01:00 ถ้าได้รับแคลเซียมมากเกินไป
00:01:00 → 00:01:02 ปัญหาใหญ่คือทำให้เกิดท้องผูก
00:01:02 → 00:01:07 ปัญหาอันที่ 2 ก็คือว่า ถ้าเราทานพวก แคลเซียมที่มีการดูดซึมได้เร็วมากเกินไป
00:01:07 → 00:01:09 ระดับแคลเซียมจะสูงขึ้น
00:01:09 → 00:01:13 แคลเซียมจะเกิดไปสะสม ตามอวัยวะและเนื้อเยื่อต่าง ๆ
00:01:13 → 00:01:14 ซึ่งไม่ควรที่จะมีแคลเซียมไปเกาะ
00:01:14 → 00:01:18 ทำให้เกิดโรคระบบของสมอง ของหลอดเลือดและหัวใจ
00:01:18 → 00:01:21 การที่ได้รับแคลเซียมที่พอเหมาะ
00:01:21 → 00:01:23 โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากสารอาหารธรรมชาติ
00:01:23 → 00:01:25 จะทำให้ระดับแคลเซียม ค่อย ๆ เพิ่มขึ้นในเลือด
00:01:25 → 00:01:27 ร่างกายสามารถควบคุมได้
00:01:27 → 00:01:28 และสามารถนำแคลเซียมเหล่านั้น
00:01:28 → 00:01:31 ไปสะสมในกระดูกได้อย่างมีประสิทธิภาพ
00:01:31 → 00:01:33 [เสียงดนตรี]
00:01:33 → 00:01:35 หลายท่านอาจจะชอบชาและกาแฟ
00:01:35 → 00:01:36 จะมีกาเฟอีน
00:01:36 → 00:01:39 ซึ่งกาเฟอีนจะมีฤทธิ์อันหนึ่ง
00:01:39 → 00:01:41 ที่จะทำให้เกิดการระบายแคลเซียม ออกทางน้ำปัสสาวะ
00:01:42 → 00:01:43 ซึ่งจะเป็นมากในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย
00:01:44 → 00:01:46 ถ้าเราดื่มกาแฟ 1 แก้ว ในผู้หญิง
00:01:46 → 00:01:50 จะมีการสูญเสียแคลเซียมไปต่อเนื่อง ถึง 4 ชั่วโมง
00:01:50 → 00:01:54 ก็มีข้อแนะนำว่า ทานกาแฟ ก็ไม่ควรทานเกินวันละแก้ว
00:01:54 → 00:01:56 หรือน้ำอัดลมที่มีกาเฟอีน
00:01:56 → 00:01:58 เพราะในน้ำอัดลมก็จะมีกรด
00:01:58 → 00:02:00 ซึ่งจะทำลายเคลือบฟัน
00:02:00 → 00:02:01 ฟันนั้นก็ผุกร่อนได้
00:02:01 → 00:02:04 แล้วในน้ำอัดลมเองก็จะมีสารอีกหลายตัว
00:02:04 → 00:02:06 ซึ่งจะยับยั้งการดูดซึมของแคลเซียม
00:02:06 → 00:02:08 [เสียงดนตรี]
00:02:08 → 00:02:11 บางท่านชอบอาหารพวกเนื้อสัตว์มาก
00:02:11 → 00:02:13 เนื้อสัตว์ซึ่งมีซัลเฟอร์
00:02:13 → 00:02:15 พวกนี้นี่เมื่อเข้าไปในร่างกาย
00:02:15 → 00:02:18 เมื่อเกิดการย่อยสลายทำลายไปแล้วนี่
00:02:18 → 00:02:21 อนุมูลซัลเฟอร์ก็จะถูกขับออกทางปัสสาวะ
00:02:21 → 00:02:24 ซึ่งจะเกิดเป็นกรด มีพิษต่อทางเดินปัสสาวะ
00:02:24 → 00:02:26 ร่างกายก็ต้องปล่อยแคลเซียมออกไป
00:02:27 → 00:02:29 เพื่อยับยั้งกรดซัลฟิวริกอันนั้น
00:02:29 → 00:02:34 เพราะฉะนั้นมีส่วนโดยตรงที่จะทำให้เกิด สูญเสียแคลเซียมไป
00:02:34 → 00:02:35 ตามข้อแนะนำนะครับ
00:02:35 → 00:02:38 ก็คือว่า คนเราเมื่อมีอายุแล้วนี่
00:02:38 → 00:02:40 ไม่ควรที่จะทานโปรตีนมากเกินไป
00:02:40 → 00:02:42 โปรตีนที่แนะนำก็คือ โปรตีนที่มีซัลเฟอร์น้อย
00:02:42 → 00:02:47 อย่างเช่น ไข่ขาว นม โปรตีนจากเนื้อปลา
00:02:47 → 00:02:49 พวกนี้จะมีซัลเฟอร์น้อย
00:02:49 → 00:02:52 จะมีประโยชน์กับผู้ที่มีอายุมากกว่าครับ
00:02:52 → 00:02:54 [เสียงดนตรี]
00:02:54 → 00:02:57 สำหรับกลุ่มอาหารเค็ม ก็เป็นอีกกลุ่มหนึ่งนะครับ
00:02:57 → 00:02:58 ที่จะมีผลเสียต่อกระดูก
00:02:58 → 00:03:01 จะทำให้ไตต้องทำงานเยอะขึ้น
00:03:01 → 00:03:07 กระตุ้นฮอร์โมนที่จะทำให้ ระดับแคลเซียมในเลือดนั้นผิดปกติไปได้
00:03:07 → 00:03:09 แล้วก็เป็นที่มาของโรคไตเรื้อรัง
00:03:09 → 00:03:11 ซึ่งจะทำให้เกิดโรคกระดูกพรุน
00:03:11 → 00:03:14 ความเค็มนี่มันจะมีแทรกอยู่ ในอาหารหลาย ๆ อย่างอยู่แล้ว
00:03:14 → 00:03:18 คือถ้าเป็นไปได้ก็ทานให้จืด เท่าที่เราสามารถที่จะทำได้
00:03:18 → 00:03:21 ทำให้มีสุขภาพดี ความดันไม่สูง
00:03:21 → 00:03:22 ไตไม่ต้องทำงานมาก
00:03:22 → 00:03:26 เราจะได้ลดโอกาส ในการที่จะเกิดไตวายเรื้อรัง
00:03:26 → 00:03:28 [เสียงดนตรี]
00:03:28 → 00:03:32 อาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ในแง่ของกระดูกนะครับ
00:03:32 → 00:03:35 ควรที่จะต้องทานนม ผลิตภัณฑ์จากนม
00:03:35 → 00:03:38 ยังไงก็ตาม นมและผลิตภัณฑ์จากนม เป็นสารอาหารที่ดีที่สุด
00:03:38 → 00:03:39 เนยแข็ง
00:03:39 → 00:03:42 เนยแข็งนี่ จะมีแคลเซียมสูงมากกว่านมเสียอีก
00:03:42 → 00:03:44 ถ้าคนไหนทานนมไม่ได้ แพ้นมนะครับ
00:03:44 → 00:03:46 เราก็แนะนำเต้าหู้
00:03:46 → 00:03:47 เต้าหู้ที่เป็นเต้าหู้ก้อนนะครับ
00:03:48 → 00:03:50 เต้าหู้อย่างที่เราทำผัดไทย
00:03:50 → 00:03:51 กรรมวิธีในการทำเต้าหู้
00:03:51 → 00:03:55 เขาก็จะใส่แคลเซียมไฮดรอกไซด์ ลงไปในน้ำเต้าหู้
00:03:55 → 00:03:57 ทำให้เต้าหู้เป็นก้อนแข็ง
00:03:57 → 00:03:58 ก็จะได้แคลเซียมไประดับหนึ่ง
00:03:58 → 00:04:02 เต้าหู้หลอดนี่จะมีปัญหาตรงที่ว่า มันไม่มีแคลเซียม
00:04:02 → 00:04:04 เพราะฉะนั้นรับประทานเต้าหู้หลอด
00:04:04 → 00:04:06 จะไม่ได้ประโยชน์ในเรื่องของแคลเซียม
00:04:06 → 00:04:08 อีกอันหนึ่งก็คือวิตามินดี
00:04:08 → 00:04:09 ใช้วิตามินดี 2 นี่
00:04:09 → 00:04:12 แคปซูลนึงก็ประมาณแค่ 1-1.50 บาท
00:04:12 → 00:04:14 ขนาด 20,000 ยูนิต
00:04:14 → 00:04:15 สัปดาห์ละสัก 2 ครั้ง
00:04:15 → 00:04:19 แค่นี้ก็จะช่วยทำให้ได้วิตามินดี ที่เพียงพอแล้ว
00:04:19 → 00:04:21 แต่ถ้าทานไม่ได้จริง ๆ
00:04:21 → 00:04:24 ก็อาจจะจำเป็นที่จะต้องทานแคลเซียม ในรูปของเม็ด
00:04:24 → 00:04:27 ก็จะเป็นแคลเซียมคาร์บอเนต แคลเซียมแลคเตท
00:04:27 → 00:04:29 หรือแคลเซียมอย่างละลายน้ำ
00:04:29 → 00:04:31 ควรที่จะอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์
00:04:31 → 00:04:39 [เสียงดนตรี]
00:04:39 → 00:04:41 ถ้าคุณมีปัญหาด้านสุขภาพ
00:04:41 → 00:04:42 อย่าลืมมาพบหมอนะครับ
00:04:42 → 00:04:44 ความรู้ทำให้ทุกอย่างเป็นไปได้
00:04:44 → 00:04:46 มหาวิทยาลัยมหิดล
00:04:46 → 00:04:47 ปัญญาของแผ่นดิน