00:00:00 → 00:00:03 This Is Thai PBS podcast View the
00:00:03 → 00:00:05 world vi The
00:00:05 → 00:00:08 Voice ส่วนใหญ่นะอาหารกระป๋องน่ะจะถูก
00:00:08 → 00:00:12 มองว่ามีคุณค่าทางโภชนาการเนี่ยน้อยกว่า
00:00:12 → 00:00:14 อาหารสดคิดว่าคุณค่าและสารอาหารจะเลือน
00:00:14 → 00:00:16 หายไปตามกาลเวลาเพราะว่าอาหารกระป๋องมัน
00:00:16 → 00:00:19 อยู่ได้เป็นปีๆเนาะก็อาจจะถูกทำลายไปใน
00:00:19 → 00:00:22 ขั้นตอนการผลิตแต่จริงๆแล้วเนี่ยมีงาน
00:00:22 → 00:00:24 วิจัยพบว่าอาหารที่บรรจุในกระป๋องเนี่ย
00:00:24 → 00:00:28 ยังคงมีปริมาณสารอาหารทั้งจำพวกโปรตีน
00:00:28 → 00:00:32 คาร์โบไฮเดรตแร่ธาตุและวิตามินที่ละลายใน
00:00:32 → 00:00:35 ไขมันอย่างเช่น a d e k เนี่ยเทียบ
00:00:35 → 00:00:37 เท่าอาหารสดเลยแต่ว่าสารอาหารบางอย่างนะ
00:00:37 → 00:00:41 คะเช่นวิตามินซีหรือวิตามิน B เนี่ยก็อาจ
00:00:41 → 00:00:44 จะได้รับผลกระทบจากความร้อนขณะแปรลูกก็ทำ
00:00:44 → 00:00:48 ให้เสียหายและสลายไปบาง
00:00:48 → 00:00:52 ส่วนฟังทุกเรื่องสุขภาพอัปเดตทุกโรคภัย
00:00:52 → 00:00:55 ฟังรายการโรงหมอกับดิฉันสุรีพรวงสถิตพร
00:00:55 → 00:00:59 ค่ะ This Is tha PBS podcast เอาล่ะ
00:00:59 → 00:01:02 ค่ะคุณผู้ฟังคะวันนี้เราจะมาพูดคุยกันถึง
00:01:02 → 00:01:05 เรื่องของอาหารกระป๋องนะคะมีอะไรที่เรา
00:01:05 → 00:01:08 ต้องรู้กันบ้างนะคะทั้งเรื่องของเอ่อการ
00:01:08 → 00:01:11 รับประทานการเก็บรักษาอะไรต่างๆเหล่านี้
00:01:11 → 00:01:13 นะคะเดี๋ยวคุยกับแพทหญิงกิตยาศรีเลิศฟ้า
00:01:13 → 00:01:16 แพทอายุรกรรมฝ่ายการแพทย์ AIA คะสวัสดี
00:01:16 → 00:01:18 ค่ะค่ะสวัสดีค่ะอ้าวอาหารกระป๋องถามคุณ
00:01:18 → 00:01:21 หมอก่อนคุณหมอรับประทานอาหารกระป๋องบ่อยม
00:01:21 → 00:01:24 คะไม่บ่อยอ่ะค่ะไม่บ่อยทานอย่างเดียวก็
00:01:24 → 00:01:25 ปลา
00:01:25 → 00:01:29 กระป๋องซึ่งเดี๋ยวนี้ก็อาจจะนานๆทีนึง
00:01:29 → 00:01:33 อะไรประมาณนี้ใชๆเหมือนนี้ยแต่ถ้ากำลัง
00:01:33 → 00:01:36 ฮิตก็น่าจะเป็นพวกช่วงน้ำท่วมนี่แหละจะมี
00:01:36 → 00:01:39 ความสำคัญขึ้นมาใช่ๆเดี๋ยนี้ทีนี้เรามา
00:01:39 → 00:01:42 ทราบกันก่อนว่าอาหารกระป๋องเนี่เป็นยังไง
00:01:42 → 00:01:45 เป็นอย่างไรนะคะค่ะอาหารกระป๋องเนี่ยเป็น
00:01:45 → 00:01:49 กระบวนการถนอมอาหารอย่างนึงนะโดยการนำ
00:01:49 → 00:01:52 อาหารบรรจุลงในกระป๋องแล้วใช้เทคโนโลยี
00:01:52 → 00:01:55 ให้ความร้อนอนะฮเพื่อทำลายเชื้อ
00:01:55 → 00:01:57 จุลินทรีย์อันเป็นสาเหตุทำให้อาหารเน่า
00:01:57 → 00:02:01 เสียค่ะเป็นอาหารสำเร็จรูปที่อยู่ในภาชนะ
00:02:01 → 00:02:04 ที่ปิดสนิทสามารถเก็บรักษาง่ายเก็บได้นาน
00:02:04 → 00:02:08 ไม่ต้องแช่ตู้เย็นพกพาสะดวกสามารถเปิดรับ
00:02:08 → 00:02:11 ประทานได้ทันทีค่ะอีกทั้งยังมีสารอาหาร
00:02:11 → 00:02:14 ครบถ้วนไม่แพ้อาหารสดนะคะอาหารกระป๋อง
00:02:14 → 00:02:16 เนี่ยจะช่วยให้ผู้คนสามารถเข้าถึงอาหาร
00:02:16 → 00:02:20 ที่หลากหลายได้ตลอดทั้งปีนะแล้วก็อันที่
00:02:20 → 00:02:22 จริงปัจจุบันอาหารเกือบทุกชนิดเนี่ย
00:02:22 → 00:02:25 สามารถพบได้ในอาหารกระป๋องเลยแหละนะคะ
00:02:25 → 00:02:28 อาหารกระป๋องสามารถเก็บได้นานในอุณหภูมิ
00:02:28 → 00:02:32 ห้องนะได้หลายปีไม่เน่าเสียใช้เวลาเตรียม
00:02:32 → 00:02:35 น้อยด้วยจึงสะดวกอย่างไม่น่าเชื่อเลยแล้ว
00:02:35 → 00:02:39 ก็บางอย่างก็มีราคาต่ำกว่าอาหารสดอืที่
00:02:39 → 00:02:43 ซื้อหากันอยู่ค่ะค่ะอืก็เรียกว่าคือเป็น
00:02:43 → 00:02:47 อะไรที่แบบสะดวกสำหรับแบบบางทีจะไปเที่ยว
00:02:47 → 00:02:49 ไปเข้าโ่งเข้าป่ากับอาหารกระป๋องอย่างงี้
00:02:49 → 00:02:53 หรือเวลาที่มีอะไรที่เป็นสาธารณภัยเวลาไป
00:02:53 → 00:02:56 แจกจ่ายแล้วเก็บไว้ได้นานที่จะทยอยในการ
00:02:56 → 00:02:59 รับประทานก็ง่ายมากขึ้นด้วยไม่ต้องแบบ
00:02:59 → 00:03:01 เอ่ออบางอย่างอาจจะเอามาอุ่นก่อนบ้างหรือ
00:03:01 → 00:03:03 อะไรบ้างแต่ก็ง่ายอ่ะในคือรับประทานได้
00:03:03 → 00:03:06 เลยแหละว่าอย่างงั้นใช่มั้ยคะแต่ทีนี้ว่า
00:03:06 → 00:03:08 อาหารกระป๋องเนี่ยมันก็ค่อนข้างหลากหลาย
00:03:08 → 00:03:12 เนาะคุณหมอเนาะมันก็จะมีเอ่อทั้งเป็นแบบ
00:03:12 → 00:03:14 กระป๋องเพราะมันชื่อเป็นอาหารกระป๋องอยู่
00:03:14 → 00:03:17 แล้วมันยังมีแบบอื่นด้วยอีกมใชอย่างมัน
00:03:17 → 00:03:20 แบ่งออกเป็นหลายประเภทนะคะถ้าถ้าแบ่งตาม
00:03:20 → 00:03:23 ความเป็นกรดด่างของของการปรุงอาหารเนี่ย
00:03:23 → 00:03:26 นะคะก็จะแบ่งเป็น 3 ประเภทประเภทกรรดต่ำ
00:03:26 → 00:03:30 ประเภทเป็นกรดแล้วก็ประเภทกรดสูงอย่าง
00:03:30 → 00:03:32 ประเภทที่กรดต่ำหรือว่า low Acid Food
00:03:33 → 00:03:37 เนี่ยก็เป็นอาหารจะมีค่าพีที่สูงกว่า 4.5
00:03:37 → 00:03:39 นะคะจะเป็นอาหารจำพวกเนื้อสัตว์เช่นเนื้อ
00:03:39 → 00:03:42 กระป๋องไก่แฮมเนื้อคอนบีฟปลาแล้วก็ผัก
00:03:42 → 00:03:46 ต่างๆเช่นข้าวโพดอ่อนนะฮะค่ะหน่อไม้ฝรั่ง
00:03:46 → 00:03:50 แตงควาดองแครอทอันนี้เป็นกรดต่ำนะแล้วก็
00:03:50 → 00:03:52 จะเป็นกลุ่มอาหารที่เป็นกรดเป็น Acid
00:03:52 → 00:03:56 Food คือพีจะอยู่ระหว่าง 3.7 -4.5 ส่วน
00:03:56 → 00:04:00 มากจะเป็นพวกผลไม้กระป๋องเช่นสับปะรดส้ม
00:04:00 → 00:04:04 ลิ้นจี่เงาะลำไยหรือผักที่มีรสเปรี้ยว
00:04:04 → 00:04:08 เช่นมะเขือเทศกระเจี๊ยบแดงค่ะอีกกลุ่มนึง
00:04:08 → 00:04:11 ก็คือความเป็นกรดสูงเลยพีจะน้อยกว่า 3.7
00:04:11 → 00:04:15 เช่นพวกน้ำสับปะรดกระป๋องอะไรแบบนี้อนะคะ
00:04:15 → 00:04:19 ทีนี้อ่านอกจากเราจะแบ่งเ่อกลุ่มอาหาร
00:04:19 → 00:04:21 ความเป็นกรดด่างแล้วเนี่ยกรดน้อยกรดมาก
00:04:21 → 00:04:23 อะไรอย่างงี้นะคะก็อาจจะแบ่งเป็นประเภท
00:04:23 → 00:04:26 ประเภทเช่นอ่ะซุปกระป๋องอูซุปกระป๋องนี่
00:04:26 → 00:04:29 ก็มีหลายอย่างใช่มั้ยเลือกเอาสิจะได้ซ้ำ
00:04:29 → 00:04:32 แต่ละวันนี้ไม่ซ้ำเลยซุปไก่ซุปผักซุป
00:04:32 → 00:04:36 มะเขือเทศซุปมันฝรั่งซุปกระเทียมอะไรเป็น
00:04:36 → 00:04:40 ต้นนะคะอ่ะก็เป็นประเภทซุปนะหรืออ้าอาหาร
00:04:40 → 00:04:45 ทะเลกระป๋องก็มีก็จะมีแซลมอนกุ้งปูซาดีน
00:04:45 → 00:04:49 ทูน่าในน้ำแร่น้ำมันแมคโครเรลอะไรต่างๆ
00:04:49 → 00:04:52 อ่าเป็นอาหารทะเลกระป๋องหรือว่าอ้าถั่ว
00:04:52 → 00:04:55 กระป๋องก็มีหลายถั่วอ่าเลือกไปเปลี่ยนไป
00:04:55 → 00:04:58 แต่ละวันถั่วเขียวถั่วลันเตาถั่วดำถั่ว
00:04:58 → 00:05:01 แดงอะไรแบบนี้ค่ะนะคะหรือปัจจุบันมีจะ
00:05:01 → 00:05:04 เป็นอาหารกระป๋องประเภทเมนูสำเร็จรูป
00:05:04 → 00:05:10 พร้อมทานเลยนะข้าวผัดไข่พะโล้พแนงกระเพรา
00:05:10 → 00:05:13 แล้วก็อื่นๆแต่ว่าถ้าเป็นอาหารสำเร็จรูป
00:05:13 → 00:05:16 พร้อมทานเนี่ยจะมีอายุสั้นแล้วก็เก็บ
00:05:16 → 00:05:21 รักษายากกว่าออ๋อใช่ที่มาเริ่มรู้จักที่
00:05:21 → 00:05:25 เป็นอาหารสำเร็จรูปค่ะที่เป็นพร้อมทานเลย
00:05:25 → 00:05:28 อ่ะตอนตอนที่น้ำท่วมตอนนู้นเป็นผู้ประสบ
00:05:28 → 00:05:30 ภัยเหมือนกันอ๋อเป็นู้
00:05:30 → 00:05:34 แล้วก็ได้เออแต่มันก็สะดวกได้รับแจกแจกมา
00:05:34 → 00:05:37 แล้วก็แบบว่าเฮ้ยเดี๋ยวนี้มีแบบนี้ด้วย
00:05:37 → 00:05:40 แล้วก็สะดวกเลยก็เลยรู้อ๋อเดี๋ยวนี้มีเรา
00:05:40 → 00:05:43 ก็ไม่ต้องเบื่อเนาใช่ไปหลายหลากหลากหลาย
00:05:43 → 00:05:47 ด้วยค่ะอีกอีที่ที่น้องรีถามนะว่าเคยรับ
00:05:47 → 00:05:50 ประทานมั้ยอย่างคนที่จะไปต่างประเทศเนี่ย
00:05:50 → 00:05:55 ค่ะอาจจะจำเป็นอืเออหรือว่าเอาไปฝากเค้า
00:05:55 → 00:05:58 อะไรประมาณนี้นะคะถ้าถ้าคนที่ต่างประเทศเ
00:05:58 → 00:06:01 ไม่ได้ทำอาหารเองเองหรือว่าเรากลุ่ม
00:06:01 → 00:06:04 เพื่อนที่เดินทางเนี่ยไปต่างประเทศเนี่ย
00:06:04 → 00:06:08 อาจจะคิดจะประหยัดงบประมาณในค่าใช้จ่ายใน
00:06:08 → 00:06:11 อาหารการกินที่ต่างประเทศก็อาจจะเอาพก
00:06:11 → 00:06:13 อาหารกระป๋องพวกนี้ไปด้วยจะได้ไม่เบื่อ
00:06:13 → 00:06:16 เพราะว่าไปอยู่ต่างประเทศซักไปเที่ยวสัก
00:06:16 → 00:06:19 2-3 วันน่ะไม่เกินเลยอยากทานอาหารไทยละ
00:06:19 → 00:06:21 อะไรที่แบบแซ่บๆอะไรอย่างเงี้ยเนาะใช่
00:06:21 → 00:06:24 คราวนี้อาหารไทยเนี่ยจานนึงเดี๋ยวนี้ก็
00:06:24 → 00:06:27 อย่างน้อย 5600 บาทแหละค่ะที่นู่นใช่มั้
00:06:27 → 00:06:31 ต่างประเทศอย่าเงี้ยอค่ะแพงอยู่เหมือนกัน
00:06:31 → 00:06:33 นะคะแต่ว่าถ้าเกิดแบบนึกถึงอาหารสมมุติ
00:06:33 → 00:06:37 ว่าบางคนไปเรียนไปอยู่นานๆเก็ต้องพกไปใช่
00:06:37 → 00:06:42 ค่ะนะคะพกไปช่วงแรกๆพอพออยู่ระยะนึงก็
00:06:42 → 00:06:45 ซื้อแต่พวกน้ำพริกอืหรือว่าน้ำพริกผัด
00:06:45 → 00:06:48 กะเพราหรืออะไรคงต้องทำเองแล้วแหละอืออือ
00:06:49 → 00:06:51 นะคะแต่พกไปตลอดหรือว่าเยอะพกไปเยอะๆก็
00:06:51 → 00:06:54 ไม่ไหวนะมันก็หนักอยู่เหมือนกันอืแต่ที
00:06:54 → 00:06:56 นี้ว่าด้วยความที่มันเป็นอาหารกระป๋อง
00:06:56 → 00:06:58 อย่าเงี้ยค่ะคุณหมอบางทีเราก็จะนึกนะว่า
00:06:58 → 00:07:02 เฮ้ยมันคุณค่าทางอาหารน่ะมันก็ไม่เท่ากับ
00:07:02 → 00:07:05 การทำอะไรสดๆหรืออะไรอย่างเงี้ยจริงๆแล้ว
00:07:05 → 00:07:08 คือสารอาหารอะไรพวกเนี้ยมันยังมีอยู่มั้ย
00:07:09 → 00:07:11 หรือว่ามันใช่ส่วนใหญ่นะอาหารกระป๋องน่ะ
00:07:11 → 00:07:14 จะถูกมองว่ามีคุณค่าทางโภชนาการเนี่ยน้อย
00:07:15 → 00:07:18 กว่าอาหารสดหรืออาหารแช่แข็งน้อยกว่านะคะ
00:07:18 → 00:07:21 คนเข้าใจแบบนั้นคิดว่าคุณค่าและสารอาหาร
00:07:21 → 00:07:23 จะเลือนหายไปตามกาลเวลาเพราะว่าอหาร
00:07:23 → 00:07:26 กระป๋องมันอยู่ได้เป็นปีๆเนาะค่ะก็อาจจะ
00:07:26 → 00:07:29 ถูกทำลายไปในขั้นตอนการผลิตแต่จริงๆริงๆ
00:07:29 → 00:07:32 แล้วเนี่ยมีงานวิจัยพบว่าอาหารที่บรรจุใน
00:07:32 → 00:07:35 กระป๋องเนี่ยยังคงมีปริมาณสารอาหารทั้ง
00:07:35 → 00:07:37 จำพวกโปรตีน
00:07:37 → 00:07:40 คาร์โบไฮเดรตแร่ธาตุและวิตามินที่ละลายใน
00:07:40 → 00:07:44 ไขมันอย่างเช่น a e k เนี่ยเทียบเท่า
00:07:44 → 00:07:47 อาหารสดเลยค่ะอืค่ะการให้ความร้อนเนี่ยใน
00:07:48 → 00:07:50 กระบวนการสำคัญของการผลิตอาหารกระป๋อง
00:07:50 → 00:07:54 เนี่ยอาจจะช่วยทำให้สารต้านอนุมูลอิสระใน
00:07:54 → 00:07:57 ผักหรือผลไม้บางชนิดเนี่ยมีปริมาณสูงขึ้น
00:07:57 → 00:08:01 อีกด้วยเช่นเอ้อมะเขือเทศข้าวโพดเนี่ยจะ
00:08:01 → 00:08:04 ปล่อยสารต้านอนุมูลอิสระมากขึ้นเมื่อโดน
00:08:04 → 00:08:06 ความร้อนค่ะทำให้อาหารกระป๋องเหล่าเนี้ย
00:08:06 → 00:08:10 เป็นแหล่งของสารต้านอนุมูลอิสระที่ดียิ่ง
00:08:10 → 00:08:14 ขึ้นอือืความรู้ใหม่มั้ยโอ้แปลกมากคือแบบ
00:08:14 → 00:08:17 น่าเชื่อใช่เชื่อใช่ค่ะส่วนแต่ว่าสาร
00:08:17 → 00:08:20 อาหารบางอย่างนะคะเช่นวิตามินซีหรือ
00:08:20 → 00:08:23 วิตามินบเนี่ยซึ่งไม่ทนความร้อนแล้วแหละ
00:08:23 → 00:08:26 ก็อาจจะได้รับผลกระทบจากความร้อนขณะแปร
00:08:26 → 00:08:29 รูปกระป๋องก็ทำให้เสียหายและสลายไปบาง
00:08:29 → 00:08:32 ส่วนแต่อย่างไรก็ตามปกติสารอาหารทั้ง
00:08:32 → 00:08:36 วิตามินบและ c เนี่ยเวลาเราทำปรุงอาหาร
00:08:36 → 00:08:39 หรือกับข้าวในชีวิตประจำวันเนี่ยมันก็
00:08:39 → 00:08:43 เสียไปหรือสลายไปในการปรุงอาหารปัจจุบัน
00:08:43 → 00:08:46 อยู่แล้วอืในชีวิตธรรมดาอยู่แล้วค่ะนะคะ
00:08:46 → 00:08:51 อืค่ะก็แต่แต่จะให้กินบ่อยๆก็ก็ไม่คือไม่
00:08:51 → 00:08:54 ได้สนับสนุนให้กินบ่อยๆใช่มั้ยวันนี้เรา
00:08:54 → 00:08:58 ก็มามีความรู้กันเพิ่มเติมนิดนึงว่ามันดี
00:08:58 → 00:08:59 ไม่ดียังไง
00:09:00 → 00:09:02 ค่ะใช่ค่ะอ่าทีนี้แต่ว่าเมื่อกี้บอกว่าดี
00:09:02 → 00:09:06 ไม่ดียังไงแสดงว่าอ่าก็มีดีๆอยู่ทั้งข้อ
00:09:06 → 00:09:09 ดีและข้อไม่ดีอ่าคราวนี้ข้อดีข้อดีอ่ะเรา
00:09:09 → 00:09:13 พูดไปบ้างแล้วข้อดีคือราคาถูกนะฮะแต่ก็
00:09:13 → 00:09:15 ไม่แน่ไม่ไม่ก็ไม่ได้เห็นด้วยทั้งหมดบาง
00:09:16 → 00:09:19 บางอย่างเดี๋ยวนี้นะผลไม้กระป๋องอ่ะ 100
00:09:19 → 00:09:22 กว่าบาทอ่ะผลไม้อ่ะเอ้าพเงาะกระป๋องโอ
00:09:22 → 00:09:27 จริงๆไปดูสิคะซื้อไม่ลงอ๋อไม่ได้ได้ไปอ่า
00:09:27 → 00:09:32 ตามเชลเนี่ยใช่แพงนะคะนอกจากอ่ะโอเคมีโปร
00:09:32 → 00:09:35 ลดราคาอาจจะถูกลงมาหน่อยนึงสะดวกหาซื้อ
00:09:35 → 00:09:37 ง่ายจริงนะคะหาซื้อง่ายตาม
00:09:37 → 00:09:39 ซุปเปอร์มาร์เก็ตทั่วไปร้านสะดวกซื้อก็มี
00:09:39 → 00:09:41 นะคะร้านสะดวกซื้อก็จะเป็นกระป๋องเล็กๆ
00:09:41 → 00:09:45 หน่อยถูกหน่อยนะคะเก็บได้นานกระป๋อง
00:09:45 → 00:09:47 อลูมิเนียมเนี่ยมีคุณสมบัติที่ทนทานต่อ
00:09:47 → 00:09:50 การกัดกร่อนสูงยากต่อการบุบสลายอาหาร
00:09:51 → 00:09:54 กระป๋องง่ายต่อการเก็บรักษาคเพราะว่ายาก
00:09:54 → 00:09:57 ต่อการซึมผ่านของความชื้นอากาศก๊าซที่จะ
00:09:57 → 00:10:01 เข้าไปทำให้อาหารภในเน่าเสียเพราะฉะนั้น
00:10:01 → 00:10:03 จำพวกอาหารกระป๋องเนี่ซื้อมาไม่จำเป็น
00:10:03 → 00:10:05 ต้องแช่เย็นในการเก็บรักษาไม่ต้องเข้าตู้
00:10:05 → 00:10:09 เย็นอาหารกระป๋องนะคะอุ่นใจในยามหิวเปิด
00:10:09 → 00:10:12 รับประทานได้ทันทีสะดวกต่อการบริโภคและพก
00:10:12 → 00:10:15 พาอ่าถูกต้องมั้ยเปิดรับประทานได้ทันที
00:10:15 → 00:10:20 เปิดยากบางทีบางกระป๋องก็เปิดยากจริงๆค่ะ
00:10:20 → 00:10:25 ตื่นมางกี่โมงก็อยากจะทานอะไรก็ได้เลยอนะ
00:10:25 → 00:10:28 กระปองอลูมิเนียมเนี่ยเป็นวัสดุที่เป็น
00:10:28 → 00:10:31 มิตรกับสิ่งแวดล้อมนะคะเพราะว่าสามารถนำ
00:10:31 → 00:10:34 กลับมารีไซเคิลได้ 100% เลยสามารถนำกลับ
00:10:34 → 00:10:37 มาสร้างวัสดุใหม่โดยที่คุณภาพเนี่ยไม่ลด
00:10:38 → 00:10:41 ลงโอไม่น่าเชื่อเลยอันนี้คือข้อดีทั้ง
00:10:41 → 00:10:43 หลายแหลกของอาหารกระป๋องแต่แต่อย่างไรก็
00:10:44 → 00:10:46 ตามเนี่ยถ้าจะเลือกซื้ออาหารกระป๋อง
00:10:46 → 00:10:48 จำเป็นจริงๆหรือว่าได้รับแจกมาหรืออะไร
00:10:48 → 00:10:51 อย่างเงี้ยก็จะต้องแบบดูแล้วก็เลือกหรือ
00:10:51 → 00:10:53 ถ้าจะต้องซื้อก็ต้องเลือกกันหน่อยมีวิธี
00:10:53 → 00:10:57 การมั้ยคะใช่ค่ะสำคัญก็คือวันเนือนปีผลิต
00:10:57 → 00:11:01 และวันเนือนปีหมดายุนะคะควรดูทุกครั้งที่
00:11:01 → 00:11:04 ทำการเลือกซื้อนะเพราะว่าถ้าเลือกซื้อมา
00:11:04 → 00:11:06 หมดอายุเนี่ยรับประทานเข้าไปก็จะเกิด
00:11:06 → 00:11:10 อันตรายต่อสุขภาพของเราได้แล้วก็ควรเลือก
00:11:10 → 00:11:13 ซื้อกระป๋องที่ยังผลิตมาไม่นานนะฮะดูวัน
00:11:13 → 00:11:16 เดือนปีที่ผลิตก่อนเลยถ้าสมมุติวันที่เรา
00:11:16 → 00:11:18 ไปซื้อนี่โอ้โหมันใกล้จะหมดอายุแล้วอย่า
00:11:18 → 00:11:22 ซื้อพวกนั้นจะเป็นจริงๆเนี่ยจะมีโปรลด
00:11:22 → 00:11:25 ราคาแหละถ้าวันใกล้หมดอแต่คือไม่ไม่ได้
00:11:25 → 00:11:28 ใกล้หมดอายุซักอาทิตย์ 2 อาทิตย์นะเคเไม่
00:11:28 → 00:11:31 กล้ามาขายนะฮะอ่ะแต่สัก 3 เดือนอะไรอย่า
00:11:31 → 00:11:34 เงี้ยเขาจะเริ่มเอามาลดราคาละอือ่าวัน
00:11:34 → 00:11:38 เดือนปีจริงๆมันต้องอาจจะเป็นปีเลยก็ได้
00:11:38 → 00:11:42 ที่คือเรียกว่าวันที่ผลิตเนี่ยต้องต้อง
00:11:42 → 00:11:45 ใกล้เคียงกับวันที่เราซื้อยิ่งดีใช่มั้ย
00:11:45 → 00:11:48 คะอย่าอย่าแบบว่าผลิตนะไม่ใช่วันหมนอายุ
00:11:48 → 00:11:53 นะนานเกินไปใช่ค่ะดูภาชนะที่บรรจุจะต้อง
00:11:53 → 00:11:57 ไม่บุบก็นี่พูดถึงกระป๋องนะไม่บุบไม่โป่ง
00:11:57 → 00:12:01 บวมมีรอยรั่วหรือหรือเป็นสนิมค่ะนะนะ
00:12:01 → 00:12:05 เพราะว่าถ้ามีลักษณะดังกล่าวก็คือบอกบ่ง
00:12:05 → 00:12:08 บอกถึงการเก็บรักษาที่ไม่ดีนะคะพอเก็บ
00:12:08 → 00:12:11 รักษาไม่ดีมีรอยรั่วอะไรพวกนี้ก็จะทำให้
00:12:11 → 00:12:14 เกิดแก๊สขึ้นภายในกระป๋องกระป๋องบวมอืนะ
00:12:14 → 00:12:17 ควรเลือกซื้อเฉพาะกระป๋องที่มีรูปร่างคง
00:12:17 → 00:12:20 เดิมนะคะค่ะอืต่อไปดูแหล่งผลิตและสถานที่
00:12:20 → 00:12:24 ผลิตค่ะเอ่อรวมไปถึงสถานที่จัดจำหน่ายควร
00:12:24 → 00:12:26 เป็นสถานที่ผลิตที่มีอยู่จริงและเชื่อถือ
00:12:26 → 00:12:29 ได้นะคะไม่ซื้ออาหารกระป๋องที่ไม่มีมี
00:12:29 → 00:12:32 แหล่งผลิตแน่นอนอืเพราะว่าการผลิตอาจไม่
00:12:32 → 00:12:35 ได้มาตรฐานหรือเมื่อซื้อมาแล้วเนี่ยอาจจะ
00:12:35 → 00:12:38 ก่อให้เกิดอันตรายกับสุขภาพของเราได้ค่ะ
00:12:38 → 00:12:42 บางทีอาจจะไปเจอตามตลาดนัดก็มีนะคะอนี้ก็
00:12:42 → 00:12:44 ต้องดูดีๆเออมาจากไหนประเทศไหนก็ไม่รู้ัน
00:12:44 → 00:12:47 นี้ยิ่งไม่ทราบใหญ่เลยพวกฉลงฉลากอะไร
00:12:47 → 00:12:49 เงี้ยคือเดี๋ยวนี้เราต้องอ่านต้องอ่าน
00:12:49 → 00:12:52 เยอะหน่อยมีปัญหาคือมันมองไม่เห็นสิตัว
00:12:52 → 00:12:56 เล็กนิดเดียวเองอ่ะไม่เป็นไรเอาเอามือถือ
00:12:56 → 00:13:01 มือถือมันมีแว่นขยายเออได้อยู่ได้อยู่แต่
00:13:01 → 00:13:04 ว่าก็ต้องต้องระวังคือไม่ได้บอกว่าของ
00:13:04 → 00:13:07 ตลาดนัดจะไม่ดีไม่ดีนะคะแต่หมายถึงว่าให้
00:13:07 → 00:13:10 ใส่ใจมากขึ้นเพราะว่ามันมีของปลอมออกมา
00:13:10 → 00:13:13 ด้วยเอาจริงๆใช่เออพวกเครื่องปรุงเครื่อง
00:13:13 → 00:13:16 ปรุงยังปลอมอะไรของที่เราต้องใช้ในชีวิต
00:13:16 → 00:13:19 ประจำวันยังมีปลอมเลยที่เป็นข่าวอ่ะอาหาร
00:13:19 → 00:13:21 การกินก็ต้องดูดีๆด้วยถ้าเป็นพวกกระป๋อง
00:13:21 → 00:13:24 อ่ะนะคะใช่ค่ะแล้วก็จะต้องดูอาหารกระป๋อง
00:13:24 → 00:13:27 ที่มีเครื่องหมายอยถูกต้องชัดเจนนะซื้อ
00:13:27 → 00:13:30 อาหารกระป๋องที่มีชื่อหรือยี่ห้อที่เป็น
00:13:30 → 00:13:34 ที่รู้จักโดยทั่วไปก็จะดีนะถ้าชื่อยี่ห้อ
00:13:34 → 00:13:37 แปลกๆก็มันอาจจะถูกกับไอ้ยี่ห้อที่เรารู้
00:13:37 → 00:13:40 จักนะอาจจะเป็นแรงจูงใจที่ทำให้เราอืมลอง
00:13:40 → 00:13:44 ดูซิชื่อบริษัทแปลกๆอะไลองดูลองซื้อมานะ
00:13:44 → 00:13:48 คะค่ะอ่าแล้วก็อ่านส่วนประกอบและข้อมูล
00:13:48 → 00:13:52 อื่นๆเช่นฉลากโภชนาการด้วยคค่ะอืออันนี้
00:13:52 → 00:13:54 เดี๋ยวก็ต้องบอกอีกเหมือนกันว่าคืออาจจะ
00:13:54 → 00:13:57 มีผู้ประกอบการรายย่อยค่ะที่เขาแบบอาจจะ
00:13:57 → 00:14:00 เพิ่งเปิดอะไรหืออะไรอย่างเงี้ยค่ะโอเค
00:14:00 → 00:14:03 ว่าการตลาดเอาจจะไม่ได้เท่ากับเจ้าใหญ่ๆร
00:14:03 → 00:14:05 อะไรอย่างเงี้ยเดี๋ยวจะดูกลายเป็นว่าไม่
00:14:05 → 00:14:08 สนับสนุไม่สนับสนุนอะไรเลยต้องมันต้องดู
00:14:08 → 00:14:11 องค์ประกอบหลายๆอย่างด้วยกันน่ะนะคะอืค่ะ
00:14:11 → 00:14:13 คราวนี้ถ้าเมื่อเปิดกระป๋องมาแล้วอาหาร
00:14:13 → 00:14:15 ต้องไม่มีไม่มีกลิ่นเหม็นหรือว่าภายใน
00:14:15 → 00:14:19 กระป๋องต้องไม่มีรอยหรือเป็นสนิมถ้าเกิด
00:14:19 → 00:14:21 มีสิ่งต่างๆเหล่านี้เนี่ยไม่ควรรับประทาน
00:14:21 → 00:14:23 อาหารในกระป๋องแล้วก็อย่าเสียดายควรทิ้ง
00:14:23 → 00:14:27 ไปทันทีอนะคะอืค่ะอืออันนี้ก็เป็นการ
00:14:27 → 00:14:31 สังเกตการดูการเลือกซื้อเลือกซื้อนะคะว่า
00:14:31 → 00:14:35 อันนี้อาจจะเป็นกระป๋องที่ไม่เหมาะในการ
00:14:35 → 00:14:38 ที่จะเอามารับประทานะต้องระวังนะคะใช่แต่
00:14:38 → 00:14:42 ถ้าซื้อมาแล้วงี้คุณหมอค่ะเก็บไว้ได้นาน
00:14:42 → 00:14:45 เก็บรักษาเก็บรักษาไว้ได้นานหรือถ้าเกิด
00:14:45 → 00:14:47 เปิดแล้วทำยังไงอ่ะเปิดแล้วเนี่ยรับ
00:14:47 → 00:14:50 ประทานไม่หมดสควรถ่ายใส่ภาชนะอื่นเลยนะ
00:14:50 → 00:14:54 ภาชนะที่โดยเฉพาะถ่ายในภาชนะแก้วที่มีฝา
00:14:54 → 00:14:56 ปิดแล้วเก็บไว้ในตู้เย็นไม่เก็บไว้ใน
00:14:56 → 00:15:00 กระป๋องแล้วเอาใส่ตู้เย็นเปิดแล้วสมมุติ
00:15:00 → 00:15:03 ปลากระป๋องมันมี 2 ตัวอกินไว้ตัวนึงอีก
00:15:03 → 00:15:07 ตัวนึงแช่ไว้ในกระป๋องนั่นแหละแล้วก็เข้า
00:15:07 → 00:15:10 ตู้เย็นด้วยอือืไม่ควรเลยนะคะเอาถุงมาผูก
00:15:10 → 00:15:14 รัดยางใ่อยู่ในกระปทั้งในกระป๋องนะไม่ได้
00:15:14 → 00:15:18 ไม่ควรนะคะเปลี่ยนไปใส่ภาชนะอย่างอื่นที่
00:15:18 → 00:15:21 มีฝาปิดปิดแล้วก็เก็บไว้ในตู้เย็นคราวนี้
00:15:21 → 00:15:23 ต้องเก็บไว้ในตู้เย็นแล้วถ้าเราเปิด
00:15:23 → 00:15:26 กระป๋องค่ะค่ะอือฮึไม่ควรเก็บอาหาร
00:15:26 → 00:15:29 กระป๋องไว้นานควรเลือกบริโภคอาหารกระป๋อง
00:15:29 → 00:15:31 ที่ยังอยู่ในสภาพดีสังเกตวันเดือนปีที่
00:15:31 → 00:15:35 หมดอายุทุกครั้งที่หยิบมาใช้ออบางทีไม่
00:15:35 → 00:15:38 ควรเก็บไว้นานเนี่ยบางทีเราซื้อมาเราก็
00:15:38 → 00:15:43 เก็บไว้ในตู้ในครัวหรืออะไรก็แล้วแต่ลืม
00:15:43 → 00:15:47 เคยมั้ยท่านผู้ฟังลืมทานไอ้ไอเนี่ยพวก
00:15:47 → 00:15:50 เนี้ยคือเอาไปเก็บอ่ะค่ะเก็บจนมันหมดอายุ
00:15:51 → 00:15:53 อ่ะหรือบางทีซื้อมาเป็นแบบเป็นครึ่งโหล
00:15:53 → 00:15:55 เป็นแพ็คอ่ะที่เค้าแพ็คมาเลยอ่ะอมันมันจะ
00:15:55 → 00:16:00 ไปหยดกว่าใช่แล้วก็จะบางทีทำไปองกระป๋อง
00:16:00 → 00:16:03 นึงเหลืออีกเหลืออีกกระป๋องไม่ยังไม่ได้
00:16:03 → 00:16:07 ทำเพราะว่ายังไม่ได้อยากจะมาเอามาทำอะไร
00:16:07 → 00:16:10 อาหารกันานี้พอเก็บแล้วลืมอ่า
00:16:10 → 00:16:15 จริงมีๆเป็นเหมือนกันค่ะต่อไปควรเก็บ
00:16:15 → 00:16:17 อาหารกระป๋องไว้ในที่แห้งเย็นไม่อาบชื้น
00:16:17 → 00:16:21 ไม่ถูกแสงนะไม่ถูกแสงแดดป้องกันเพื่อป้อง
00:16:21 → 00:16:24 กันการเสียและเป็นสนิมเร็วกว่าปกติคะแล้ว
00:16:24 → 00:16:26 ก็เก็บอาหารกระป๋องไว้ในที่สูงมากกว่า 60
00:16:26 → 00:16:29 ซมเพื่อป้องกันความสกปรกจากพื้นและสัตว์
00:16:29 → 00:16:32 ต่างๆเช่นหนูมดแมลงสาบเข้าใจมั้ยสูงจาก
00:16:32 → 00:16:35 พื้น 60 ซมคือมันคงไม่ได้มาแทะกระป๋อง
00:16:35 → 00:16:38 อะไรได้ขนาดนั้นหรอกแต่มันอาจจะมาแบบมี
00:16:38 → 00:16:42 ขี้สาบขี้หนูอะไรประมาณนี้มาเราไปจับไป
00:16:42 → 00:16:46 เปิดไปอะไรอย่างเงี้ยมันอาจจะมีละองบางที
00:16:46 → 00:16:49 ซื้อมาตุนๆเอาไว้ก็กองไว้กับพื้นอย่าง
00:16:49 → 00:16:53 เช่นเห็นบางบริษัทหรือบางบ้านถ้านแค่น้ำ
00:16:53 → 00:16:56 ดื่มก็ไม่มีโต๊ะตั้งแล้วอ่ะกรองไว้กับ
00:16:56 → 00:16:59 พื้นอ่ะมันน้ำหนักมันเยอะน้ำดื่มอ่ะมัน
00:16:59 → 00:17:01 เยอะเพราะวางเยอะๆอ่ะมันอาจก็เลยต้องกอง
00:17:01 → 00:17:03 ไว้กับพื้นเนาส่วนใหญ่จะวางกับพื้นมาก
00:17:03 → 00:17:05 กว่าอย่างถ้าไปซุปเปอร์บางซุปเปอร์อย่า
00:17:05 → 00:17:08 เงี้ยถ้าแบบใชคอะไรที่มันหนักๆเขาจะวาง
00:17:08 → 00:17:11 ไว้ที่เชลชั้นล่างเลยนะคือมันมีตัวตัวตัว
00:17:11 → 00:17:13 เชลอยู่แหละแต่ว่าก็อันล่างสุดใชพูดถึง
00:17:13 → 00:17:18 ้างนะพูดถึงร้านค้าใช่มั้ยเก็จะมีตัวสูง
00:17:18 → 00:17:21 จากพื้นหน่อยนึงแล้วก็วางขายเราแต่อัน
00:17:21 → 00:17:23 นั้นมันหมดเร็วไงคนก็มาซื้อเรื่อยๆแต่
00:17:23 → 00:17:25 คราวเนี้ยของที่บ้านเราเนี่ยส่วนใหญ่ถ้า
00:17:25 → 00:17:30 มากองกับพื้นเนี่ยอืตั้งสุมไว้ลว่างั้น
00:17:30 → 00:17:33 มันก็จะสกปรกนะฮะท่านผู้ฟังโอมันก็โดย
00:17:33 → 00:17:36 เฉพาะเนี่ยหนูแมงสาบอะไรพวกเนี้ยเพราะ
00:17:36 → 00:17:41 เดี๋ยวต่อไปเราจะพูดกันเรื่องแมงสาบไหว
00:17:41 → 00:17:45 ใช่เออคราวนี้อ่ะคุยกันเรื่องการเก็บ
00:17:45 → 00:17:50 รักษาละค่ะต่อไปผลดีก็ละอนะข้อดีก็ละอ่ะ
00:17:50 → 00:17:51 ผลเสียมีอะไร
00:17:51 → 00:17:55 บ้างผลเสียของการกินอาหารกระป๋องก็มีอยู่
00:17:55 → 00:17:58 นะคะอย่างเช่นอาหารกระป๋องจะมีการเพิ่ม
00:17:58 → 00:18:02 เพิ่มเกลือน้ำตาลหรือว่าสารกันบูดเข้าไป
00:18:02 → 00:18:05 ค่ะจะถูกเพิ่มในกระบวนการบรรจุลงกระป๋อง
00:18:05 → 00:18:08 นี่แหละอืเออมันมีโทษยังไงบ้างล่ะอืค่ะ
00:18:08 → 00:18:13 ที่รู้ๆแน่ๆเลยค่ะโซเดียมแน่ๆเออทำไม
00:18:13 → 00:18:18 เพราะเพราะอะไรมันอ๋อมัน็ต้องเก็บรักษา
00:18:18 → 00:18:22 ถนอมอาหารเก็บไว้ได้นานใช่เออคืออาหาร
00:18:22 → 00:18:26 กระป๋องนะมักมีปริมาณโซเดียมสูงค่ะมีการ
00:18:26 → 00:18:29 ใส่เกลือลงในกระบวนการผลิตเพื่อยืดไุการ
00:18:29 → 00:18:32 เก็บรักษานะคะแล้วก็ปรับปรุงรสชาติการ
00:18:32 → 00:18:34 บริโภคโซเดียมมากเกินไปจะเพิ่มความเสี่ยง
00:18:34 → 00:18:38 ต่อปัญหาสุขภาพแน่นอนเลยโดยเฉพาะคนที่
00:18:38 → 00:18:41 เป็นความดันหัวใจหลอดเลือดสมองอยู่แล้ว
00:18:41 → 00:18:44 เนี่ยโหยิ่งอันตรายหรือคนที่ยังไม่เป็น
00:18:44 → 00:18:47 ทานอาหารกระป๋องที่มีโซเดียมสูงไปเรื่อยๆ
00:18:47 → 00:18:50 ก็มีโอกาสเสี่ยงกับเรื่องความดันสูงค่ะนะ
00:18:50 → 00:18:53 คะอันเนี้ยอันตรายเพราะฉะนั้นเวลาเลือก
00:18:53 → 00:18:56 อาหารกระป๋องที่มีปริมาณก็ควรเลือกอาหาร
00:18:56 → 00:18:59 กระป๋องที่มีปริมาณโซเดียมต่ำหรือไม่มี
00:18:59 → 00:19:02 โซเดียมเลยก็โดยตรวจสอบปริมาณโซเดียมได้
00:19:02 → 00:19:06 ที่อ่านฉลากโภชนาการของผลิตภัณฑ์นะฮะ
00:19:06 → 00:19:09 เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีเกลือโซเดียมน้อยกว่า
00:19:09 → 00:19:13 200 มิลกรัมต่อหน่วยบริโภคอืค่ะอันนี้
00:19:13 → 00:19:17 คือโซเดียมมันมีโซเดียมน้อยกว่าอนี้จริงๆ
00:19:17 → 00:19:20 หรอไม่แน่ใจต้องลองอ่านดูคืออย่างงี้
00:19:20 → 00:19:23 อย่างเช่นนะเคยไปซื้อไอ้หมูหมูแฮมหมู
00:19:23 → 00:19:27 เบคอนกระป๋องของอเมริกาแบบเนี้ยค่ะมัน
00:19:27 → 00:19:29 เค็มจริงๆเลยเปิดออกมาเนี่ยคือพร้อมกิน
00:19:29 → 00:19:32 เลยรับประทานกับขนมปังนะเป็นเป็นชิ้นใหญ่
00:19:32 → 00:19:35 ๆแล้วเราก็เอามาเฉือนหั่นออเออมันมีจริงๆ
00:19:35 → 00:19:39 มันมีเค็มน้อยเค็มมากจริงๆ
00:19:39 → 00:19:42 อ๋อให้ให้เราเลือกเราเลือกใช่แต่ไม่เค็ม
00:19:42 → 00:19:46 เี่ไม่เห็นนะก็ไม่น่าใช่ส่วนใหญ่จะ
00:19:46 → 00:19:48 โซเดียมแต่แบบต้องดูปริมาณโซเดียมนิดนึง
00:19:48 → 00:19:52 อือสงสัยต้องไปตามเชลซุเปอร์แล้วแหละไปดู
00:19:52 → 00:19:55 ว่าเออพวกนี้มันมีใช่วิวัฒนาการนะมีของ
00:19:55 → 00:19:58 มันใช่มากหนแค่ไหนนอกจากโซเดียมสูงแล้ว
00:19:58 → 00:20:01 เนี่ยโอ้โหน้ำตาลสูงโดยเฉพาะผลไม้กระป๋อง
00:20:01 → 00:20:04 บางชนิดเนี่ยจะมีน้ำเชื่อมซึ่งเป็นน้ำตาล
00:20:05 → 00:20:07 ที่เติมเข้าไปในกระบวนการผลิตเนี่ยค่ะมัน
00:20:07 → 00:20:11 อร่อยนะผลไม้กระป๋องเนี่ยการบริโภคมาก
00:20:11 → 00:20:14 เกินไปก็จะเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพโดยเฉพาะ
00:20:14 → 00:20:16 คนที่เป็นโรคอ้วนโรคเบาหวานโรคหัวใจอยู่
00:20:16 → 00:20:21 แล้วคนที่ไม่เคยไม่ได้เป็นอยู่ทานบ่อยๆ
00:20:21 → 00:20:24 รับประทานบ่อยๆค่ะก็จะเสี่ยงกับโรคเบา
00:20:24 → 00:20:29 หวานเออเออเพราะว่ามันหวานจริงๆใช่ค่ะเคย
00:20:29 → 00:20:31 เห็นมีแบบบางคนจะมาเขียนหวานน้อยคงไม่ได้
00:20:31 → 00:20:34 เนาะมันไม่ได้อ่ะไม่ได้ผลไม้กเพราะว่า
00:20:34 → 00:20:36 เหมือนกับว่าเขาก็ต้องเอาไปใส่น้ำแข็งอีก
00:20:36 → 00:20:38 พอใส่น้ำแข็งไปแล้วอ่ะมันก็เหมือนกับว่า
00:20:38 → 00:20:41 มันเจือจางความหวานลงไปมันกำลังพอดีอะไร
00:20:41 → 00:20:44 อย่างเงี้ยใช่ใช่ออันนี้ก็จะพบบ่อยๆพวก
00:20:44 → 00:20:47 ตามโต๊ะจีนหรืออะไรอย่างงี้ที่มาเนาแต่
00:20:47 → 00:20:49 เดี๋ยวนี้น้อยมากแล้วอ่ะไม่ค่อยไม่ค่อย
00:20:49 → 00:20:53 เจอมันแพงนะที่บอกอ๋อใช่เป็นรนะใช่ๆ
00:20:53 → 00:20:58 กระป๋องใหญ่ก็แพงอยู่ต่อไปต่อไปวิตามินซี
00:20:58 → 00:21:00 C กับ B ต่ำที่เราพูดไว้แล้วเนื่องจาก
00:21:00 → 00:21:04 ว่าเอ่อคือคือวิตามิน C กับ B เนี่ยต่ำ
00:21:04 → 00:21:06 กว่าอาหารสดหรืออาหารแช่แข็งแน่นอนเนื่อง
00:21:06 → 00:21:08 จากกระบวนการผลิตอาหารกระป๋องเนี่ยต้อง
00:21:08 → 00:21:11 ใช้ความร้อนสูงนะคะก็ทำให้วิตามินเหล่า
00:21:11 → 00:21:15 เนี้ยสลายตัวไปได้อค่ะค่ะอืนอกจากนั้นใน
00:21:15 → 00:21:18 เรื่องของโซเดียมน้ำตาลวิตามินซีวิตามินบ
00:21:18 → 00:21:23 แล้วยังมีความเสี่ยงอื่นๆนะคะเช่นโรคที่
00:21:23 → 00:21:26 เกิดจากแบคทีเรียแบคทีเรียตัวเนี้ย
00:21:26 → 00:21:31 อันตรายมากเป็นแบคทีเรียซีเดียมโปันะฮะ
00:21:31 → 00:21:34 ซึ่งเกิดจากอะไรเกิดจากการที่บรรจุพันธุ์
00:21:34 → 00:21:37 หรือว่ากระป๋องเเกิดความเสียหายนะคะก็จะ
00:21:37 → 00:21:40 เป็นสาเหตุทำให้อาหารภายในกระป๋องเนี่ยปน
00:21:40 → 00:21:43 เปื้อนเชื้อแบคทีเรียตัวนี้ค่ะนะเป็น
00:21:43 → 00:21:46 แบคทีเรียที่เจริญเติบโตได้เมื่ออยู่ใน
00:21:46 → 00:21:50 สภาวะไร้ออกซิเจนเท่านั้นนะฮะเจ้าโบนั่ม
00:21:50 → 00:21:53 เนี่ยเมื่อเชื้อนี้อยู่ในสภาวะแวดล้อมที่
00:21:53 → 00:21:56 เหมาะสมอย่างเช่นภายในกระป๋องก็จะผลิตสาร
00:21:56 → 00:22:00 พิษโบนัมขึ้นมาอืโดยผู้บริโภคเนี่ยไม่
00:22:00 → 00:22:05 สามารถจะได้กลิ่นหรือสังเกตเห็นสีหรือ
00:22:05 → 00:22:08 อะไรของสารพิษเลยไม่มีกลิ่นด้วยมันไม่ได้
00:22:08 → 00:22:12 เป็นแบบกลิ่นเน่าออือาจจะเสียดายก็รับ
00:22:12 → 00:22:15 ประทานเข้าไปค่ะซึ่งจริงๆเนี่ยควรจะหลีก
00:22:15 → 00:22:17 เลี่ยงการรับประทานอาหารกระป๋องที่มีรอย
00:22:17 → 00:22:21 บุบบวมแตกรั่วนะฮะเพราะว่าจะเป็นสัญญาณ
00:22:21 → 00:22:24 ของการปนเปื้อปนเปื้อนแบคทีเรียตัวเนี้ย
00:22:24 → 00:22:27 นะคะพอสารพิษตัวเนี้ยเมื่อเรารับประทาน
00:22:27 → 00:22:30 เข้าไปเนี่ยแม้แในปริมาณเล็กน้อยนะก็จะทำ
00:22:30 → 00:22:33 ให้ปวดท้องท้องเสียมันเป็นพิษไงค่ะปวด
00:22:33 → 00:22:37 ท้องท้องเสียคลื่นไส้อาเจียนตามัวจุกแดน
00:22:38 → 00:22:41 หน้าอกหายใจลำบากแขนขาอ่อนแรงและเป็น
00:22:41 → 00:22:45 อัมพาตได้ถ้าพบแพทย์ไม่ทันก็อาจเป็น
00:22:45 → 00:22:49 อันตรายถึงชีวิตได้โหค่ะน่ากลัวจังนี้สาร
00:22:49 → 00:22:54 พิษอันพิษของโบทนมอืค่ะก็ต้องระวังนะคะ
00:22:54 → 00:22:57 แต่บางทีรอยบุบเนี่ยก็ต้องดูว่าบุบแบบไหน
00:22:57 → 00:23:00 บุบแบบขนส่งขนส่งขนส่งหรือเปล่าเพราะที่
00:23:00 → 00:23:03 บ้านน่ะขายขายพวกปลากระป๋องเหมือนกันค่ะ
00:23:03 → 00:23:06 บางทีกระป๋องบุบโอ้โหคือมันหนักมากนะคะ
00:23:06 → 00:23:08 ลังนึงอันนี้เอาจริงๆแล้วมันก็เลยทำให้
00:23:08 → 00:23:12 แบบว่าพวกขนส่งอ่ะอาจจะแบบโยนๆน่ะบางที
00:23:12 → 00:23:16 ไม่ได้แบบวางดีๆหรือแบบค่ะมันหนักจริงๆ
00:23:16 → 00:23:18 อันนี้เราเข้าใจเ้าเนาะแต่ว่าแบบบางต้อง
00:23:18 → 00:23:22 ดูว่ารอยบุบเป็นแบบไหนกระป๋องบุบไม่ไม่
00:23:22 → 00:23:25 น่ากลัวเท้ากระป๋องบวมกระป๋องบวมแสดงว่า
00:23:25 → 00:23:28 ข้างในมันผลิตแก๊สออกมาจนทำให้กระป๋องบวม
00:23:28 → 00:23:31 กระป่องยังบวมได้เลยใช่อใช่ค่ะค่ะทีนี้
00:23:31 → 00:23:34 สารพิษอีกตัวนึงก็คือเอ่ออาจจะบริโภค
00:23:34 → 00:23:37 โซเดียมฟอสเฟตมากเกินไปเนื่องจากผู้ผลิต
00:23:37 → 00:23:40 เนี่ยอาหารกระป๋องนะมักจะใส่โซเดียม
00:23:40 → 00:23:44 ฟอสเฟตลงไปในอาหารกระป๋องเพื่อช่วยในการ
00:23:44 → 00:23:47 ถนอมอาหารแล้วก็เพิ่มรสชาติด้วยค่ะนะฮะ
00:23:47 → 00:23:51 ซึ่งเอ่อมันจะมีฟอสฟอรัสในทำให้ฟอสฟอรัส
00:23:51 → 00:23:54 ในเลือดสูงนะฮะโซเดียมฟอสเฟตเนี่ยก็มี
00:23:55 → 00:23:58 อาการอะไรบ้างล่ะฟอสฟอรัสในเลือดสูงก็จะ
00:23:58 → 00:24:00 มีมีอาการคันตามผิวหนังเนื่องจากฟอสฟอรัส
00:24:00 → 00:24:03 ที่มีมากในเลือดเนี่ยไปสะสมตามเนื้อเยื่อ
00:24:03 → 00:24:07 ใต้ผิวหนังค่ะนะคะกระดูกบางและเปราะ
00:24:07 → 00:24:10 เนื่องจากฟอสฟอรัสที่มากขึ้นในหลอดเลือด
00:24:10 → 00:24:13 เนี่ยร่างกายจะตอบสนองโดยการนำแคลเซียมมา
00:24:13 → 00:24:16 จับกับฟอสฟอรัสอืหากระดับของแคลเซียมใน
00:24:16 → 00:24:18 เลือดไม่พอแคลเซียมก็จะละลายออกมาจาก
00:24:18 → 00:24:22 กระดูกจนทำให้กระดูกบางอกระดูกก็เลยเปลาะ
00:24:22 → 00:24:25 และหักง่ายค่ะอ่าหลอดเลือดแดงแข็งเนื่อง
00:24:25 → 00:24:28 จากการตกตะกอนของแคลเซียมกับฟอสฟอรัสมัก
00:24:28 → 00:24:32 เกิดตามหลอดเลือดนะหัวใจสมองทำให้อุดตัน
00:24:32 → 00:24:36 ได้ง่ายโหไม่น่าเชื่อนะอืฟอสฟอรัสสูง
00:24:36 → 00:24:39 เนี่ยใช่ๆค่ะต่อไปมีก้อนแคลเซียมกาะตาม
00:24:39 → 00:24:41 เนื้อเยื่อต่างๆทำให้มีแผลเรื้อรังหรือ
00:24:41 → 00:24:45 ว่าต่อมไทรรอยด์โตนะคะก็จะทำให้มีการเร่ง
00:24:46 → 00:24:48 สลายแคลเซียมในกระดูกเข้าสู่กระแสเลือดทำ
00:24:49 → 00:24:52 ให้กระดูกบาง่อุ้ยต่อไปอีกตัวนึงก็คือสาร
00:24:52 → 00:24:56 พวกบส phal a ี phal a หรือ bpa เนี่ย
00:24:56 → 00:24:59 เป็นส่วนประกอบของโคาร์บอเนตที่ใช้ในการ
00:24:59 → 00:25:04 ผลิตพลาสติกนะคะมันยังไงล่ะก็เค้านำมา
00:25:04 → 00:25:06 เคลือบภายในของกระป๋องนี่แหละเพื่อ
00:25:06 → 00:25:09 คุณสมบัติของการปนเปื้อนของเชื้อ
00:25:09 → 00:25:12 แบคทีเรียและป้องกันการเน่าเสียของอาหาร
00:25:12 → 00:25:14 ภายในกระป๋องก็เลยมีการใช้ bpa เคลือบใน
00:25:14 → 00:25:18 อาหารกระป๋องแต่ bpa ตัวนี้เนี่ยในเรื่อง
00:25:18 → 00:25:21 ของการนำมาทำขวดนมเด็กเนี่ยเขาแบนไว้ตั้ง
00:25:21 → 00:25:24 นานละเป็น 10 ปีละเห้ามใช้เด็ดขาดเลยใน
00:25:24 → 00:25:28 ขวดนมเด็กอค่ะแต่ว่าเอ่อในอาหารกระป๋อง
00:25:28 → 00:25:31 เนี่ยเนี่ยยังไม่ได้มีการกฎหมาย 100% ยัง
00:25:31 → 00:25:34 ไม่ได้ห้ามว่าห้ามใช้สาร bpa เคลือบ
00:25:35 → 00:25:38 กระป๋องซึ่งอันนี้ก็อาจจะเป็นอาหาร
00:25:38 → 00:25:41 กระป๋องก็ยังมีสาร bpa อยู่ซึ่งมันยังไง
00:25:41 → 00:25:43 เพิ่มอัตราการเป็นมะเร็งเต้านมมะเร็งต่อม
00:25:43 → 00:25:48 ลูกหมากโรคเบาหวานประเภท 2 โรคอ้วนแล้วก็
00:25:48 → 00:25:51 ผลกระทบต่อระบบสืบพันธุ์ของผู้บริโภคได้
00:25:51 → 00:25:55 อือันนี้ก็คืออันตรายของอาหารกระป๋องค่ะ
00:25:55 → 00:25:58 คือต้องไม่ต้องไม่กินบ่อยอ่าไม่ให้ทาน
00:25:58 → 00:26:03 บ่อยใช่ๆแล้วก็เก็บรักษาได้ประมาณ 1-2 ปี
00:26:03 → 00:26:06 ใช่อย่างที่คุณหมอบอกไปตั้งแต่แรกค่ะก็
00:26:06 → 00:26:10 อาจจะจริงๆควรรับประทานอาหารอื่นๆแบบว่า
00:26:10 → 00:26:14 สลับกันไปหมุนเวียนกันไปใช่หรือบางทีอยาก
00:26:14 → 00:26:17 จะินยำปลากระป๋องก็อ้าก็ว่าไปเอต้องมีผัก
00:26:17 → 00:26:20 มีอะไรเข้ามาด้วยใช่ก็ไม่อย่าไปบ่อยมากนะ
00:26:20 → 00:26:23 คะไผ่านๆไปสักแบบเดือนนึงสัก 2 2 หนก็
00:26:23 → 00:26:27 ได้อ่ะเรือเผื่อบางคนชอบนะคะก็ต้องเลือก
00:26:27 → 00:26:29 หาอาหารบ้านเรามีมีเยอะแยะหลากหลายให้
00:26:29 → 00:26:31 เลือกอยู่แล้วนะคะไม่ได้จะต้องแบบว่าเป็น
00:26:31 → 00:26:34 อาหารกระป๋องเพียงอย่างเดียวนะคะนี้ก็
00:26:34 → 00:26:36 เป็นข้อมูลดีๆที่คุณหมอมาฝากคุณผู้ฟังค่ะ
00:26:36 → 00:26:39 ขอบคุณค่ะคุณหมอคาสวัสดีค่ะหมดเวลาแล้ว
00:26:39 → 00:26:41 ค่ะคุณผู้ฟังเราจะมาพบกันใหม่ครั้งหน้า
00:26:41 → 00:26:44 กับรายการโรงหมอทางไทย PB podcast นะคะ
00:26:44 → 00:26:47 วันนี้ลาไปก่อนค่ะสวัสดีค่ะ This Is tha
00:26:47 → 00:26:50 PBS podcast Comfort โนคำที่เราได้ยิน
00:26:50 → 00:26:53 บ่อยๆคือพื้นที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับเรา
00:26:53 → 00:26:55 แต่จริงๆแล้วอาจมีนัยยะถึง 2 ความหมาย
00:26:56 → 00:26:58 อะไรบ้างดรสุววุฒิวงทงสวัสดินัก
00:26:58 → 00:27:02 จิตวิทยาการปรึกษามาเล่าให้ฟังครับคำว่า
00:27:02 → 00:27:05 Comfort ที่ Comfort จริงๆภาษาอังกฤษของ
00:27:05 → 00:27:07 Comfort คำว่าสบายสูกมครับใช่พื้นที่ที่
00:27:07 → 00:27:10 สบายจริงๆอันนี้คือคุณภาพแบบที่ 1 อืเรา
00:27:10 → 00:27:12 รู้สึกว่าเราอยู่ตรงนี้แล้วใจมันเบาใจมัน
00:27:12 → 00:27:15 สงบรู้สึกปลอดภัยไม่มีอะไรที่จะเข้ามา
00:27:15 → 00:27:18 คุกคามให้เรากังวลอันเนี้ยสบายสบจะเป็น
00:27:18 → 00:27:21 ความคมฟจริงๆนะครับในิตในนิยามคุณภาพแบบ
00:27:21 → 00:27:24 ที่ 1 กับคุณภาพแบบที่ 2 ที่บางครั้งเรา
00:27:24 → 00:27:26 ก็เผลอติดมาใช้นะครับเรียกว่าเป็นแค่ความ
00:27:26 → 00:27:29 คุ้นเคยแต่ไม่ได้อยู่แล้วสบายใจนะเรียก
00:27:29 → 00:27:31 ว่ามันเป็นพื้นที่ที่แย่น้อยกว่าทางอื่น
00:27:31 → 00:27:33 นะครับแต่ว่าคำว่าแย่น้อยกว่าทางอื่น
00:27:33 → 00:27:35 เนี่ยเราอาจจะคิดไปเองว่ามันแย่น้อยกว่า
00:27:35 → 00:27:37 จริงๆมันอาจจะมีทางที่ดีกว่านี้ก็ได้นะ
00:27:37 → 00:27:40 แต่แค่เรากำลังกลัวที่จะไปต่อเพราะฉะนั้น
00:27:40 → 00:27:42 อันเนี้ยครับเวลาเราพูดถึง Comfort โซน
00:27:42 → 00:27:45 ต้องดูให้ดีว่าเรากำลังพูดถึงในนิยามที่
00:27:45 → 00:27:48 รู้สึกปลอดภัยปลอดภัยสบายใจจริงๆและไม่มี
00:27:48 → 00:27:50 อะไรที่ทำให้เรารู้สึกกลัวหรือกังวลหรือ
00:27:50 → 00:27:53 เปล่านั่นคือแบบที่ 1 กับแบบที่ 2 คือเรา
00:27:53 → 00:27:56 เหมือนกับเรียกอะไรนะกลัวที่จะไปไม่มีที่
00:27:56 → 00:27:59 ไปเราก็เลยแค่กับอยู่กสิ่งที่มันคุ้นเคย
00:27:59 → 00:28:02 เคยชินมันอาจจะไม่ดีที่สุดแต่เราก็เลี้ยง
00:28:02 → 00:28:05 ตัวเองไว้แบบคล้ายๆเรื่อยๆอย่างเงี้ยครับ
00:28:05 → 00:28:08 โดยที่ก็เห็นแหละว่าตัวเองก็เบื่อบ้าง
00:28:08 → 00:28:10 อิ่มตัวบ้างอะไรบ้างแต่ก็ไม่คิดที่จะโยก
00:28:10 → 00:28:12 ย้ายเพราะด้วยความเคยชินอาจจะตรงหลายๆคน
00:28:12 → 00:28:14 หรือแม้กระทั่งผมเองก็มีนะในพารทที่ 2 เย
00:28:14 → 00:28:17 ครับมันก็จะมีส่วนที่ 1 ที่เป็นเรื่องของ
00:28:17 → 00:28:20 ความสบายสบายใจปลอดภัยอยู่เหมือนกันแต่
00:28:20 → 00:28:22 บางทีก็จะมีบางจังหวะชีวิตหรือบางอย่าง
00:28:22 → 00:28:25 ที่มันซ้อนมาในแบบที่ 2 ที่รู้สึกว่าเฮ้ย
00:28:25 → 00:28:28 บางทีเราก็มีความอิ่มตัวนะแต่เราก็รู้สึก
00:28:28 → 00:28:30 ว่ากลัวจะขยับกลัวจะเขยื้อนไปหรือรู้สึก
00:28:30 → 00:28:32 ว่าไม่พร้อมที่จะต้องใช้พลังในการเรียน
00:28:32 → 00:28:36 รู้สิ่งใหม่มันก็เลยเรียกว่าดองตัวเองไว้
00:28:36 → 00:28:41 ก่อน This Is Thai PBS
00:28:41 → 00:28:44 podcast ติดตามรายการของ Thai PBS
00:28:44 → 00:28:46 podcast ได้ทางเว็บไซต์
00:28:46 → 00:28:58 www.thaipbs.or.th
00:28:58 → 00:29:01 ปิ้ล podcast และ soundcloud
00:29:01 → 00:29:04 [เพลง]