คนที่ออกกำลังกายหนักมาก เช่น นักวิ่งมาราธอน จำเป็นต้องกินเกลือแร่เพิ่มไหม

วันนึงควรกินเกลือแค่ไหน กินมากจะมีปัญหาอะไร ไตจะวายหรือไม่ #โซเดียม #เกลือ

จากช่อง : Doctor Tany


ดูคำบรรยาย / View Transcript

00:00:0000:00:02 สวัสดีครับเดี๋ยววันนี้เราจะมาพูดถึง

00:00:0200:00:05 เรื่องของเกลือกันนะครับว่าเราควรจะกิน

00:00:0500:00:07 แค่ไหนกันแน่นะครับแล้วที่สำคัญคือ

00:00:0700:00:11 ปัจจุบันนี้หลายๆคนคงทราบว่าการกินเค็ม

00:00:1100:00:14 มันก็ทำให้เกิดโรคต่างๆขึ้นตามมามากมาย

00:00:1400:00:16 ไม่ว่าจะเป็นโรคไตโรคหัวใจโรคความดันสูง

00:00:1600:00:19 หรืออะไรพวกนี้นะครับแต่พอตอนหลังๆก็ชัก

00:00:1900:00:21 จะมีข้อสงสัยนะครับเกี่ยวข้องกับเรื่อง

00:00:2100:00:24 ของการทานเกลือเอ๊ะเราต้องทานน้อยหรือทาน

00:00:2400:00:27 มากแค่ไหนบางคนบอกว่าเป็นเป็นกูรูนะครับ

00:00:2700:00:30 บอกว่าต้องทานเยอะๆนะครับทาน 6 กรัมอะไร

00:00:3000:00:34 อย่างนี้ต่อวันซึ่งมันก็มีที่มาที่ไปหลาย

00:00:3400:00:36 ๆอย่างนะครับวันนี้ผมก็จะมาเล่าถึงเหตุผล

00:00:3600:00:39 ของการทานเกลือนะครับว่าเราควรจะทานแค่

00:00:3900:00:42 ไหนถ้ามันมากไปมันจะเกิดอะไรขึ้นแล้วถ้า

00:00:4200:00:45 มันน้อยไปมันจะเกิดอะไรขึ้นนะครับรวมทั้ง

00:00:4500:00:47 ผลเลือดของเราถ้าเราตรวจออกมาแล้วเจอว่า

00:00:4700:00:49 มีเกลือแร่ในร่างกายมันต่ำไปเนี่ยนะครับ

00:00:4900:00:52 มันจำเป็นจะต้องกินเกลือแร่เข้าไปเสริม

00:00:5200:00:54 จริงหรือเปล่านะครับก็เดี๋ยวเราลองฟังกัน

00:00:5400:00:57 ดูนะครับพบกับผมนะครับนายแพทย์ธานีๆวันนะ

00:00:5700:00:59 ครับเป็นอาจารย์แพร่อยู่ที่ประเทศสหรัฐ

00:00:5900:01:01 อเมริกานะครับนะครับเชี่ยวชาญโรคปอดการ

00:01:0100:01:04 ปลูกถ่ายปอดและวิกฤตบำบัดนะครับก่อนอื่น

00:01:0400:01:07 เลยนะครับในแง่ของการกินเกลือที่อเมริกา

00:01:0700:01:11 ก็มีคำแนะนำออกมาหลากหลายองค์กรนะครับแต่

00:01:1100:01:15 ว่าล่าสุดที่ออกมาแนะนำก็คือทาง

00:01:1500:01:17 ทางของอเมริกานี้จะแนะนำว่าไม่ให้กิน

00:01:1800:01:19 โซเดียมเกิน

00:01:1900:01:23 2.3 กรัมต่อวันหรือ 2,300 มิลลิกรัมต่อ

00:01:2300:01:27 วันนะครับซึ่งเทียบเท่ากับปริมาณเกลือที่

00:01:2700:01:30 เป็นเกลือผงเนี่ยนะครับไม่เกิน 1 ช้อนชา

00:01:3000:01:33 ต่อวันนะครับซึ่งแล้วถ้าเราไปสำรวจเอา

00:01:3300:01:37 จริงๆแล้วเนี่ยคนที่อเมริกาเขากินเกลือ

00:01:3700:01:40 เกินที่แนะนำซะส่วนใหญ่เลยนะครับ 90 กว่า

00:01:4000:01:42 เปอร์เซ็นต์ของ contin กินเกลือเยอะเกิน

00:01:4200:01:46 นะครับอ่านี่ก็คือเป็นอันนึงที่เขาออกมา

00:01:4600:01:49 แล้วปัญหามันอยู่ตรงนี้ครับทำไมเขาถึงแนะ

00:01:4900:01:50 นำที่

00:01:5000:01:55 2,300 มิลลิกรัมต่อวันในเมื่อคนส่วนใหญ่

00:01:5500:01:57 ของอเมริกาเนี่ยกินเกิน 90 กว่า

00:01:5700:01:58 เปอร์เซ็นต์ของอเมริกาเนี่ยกินเกินนั้น

00:01:5800:02:02 ซึ่งโดยไปถ้าไปสำรวจของผู้ชายนะครับผู้

00:02:0200:02:04 ชายที่อเมริกาก็จะกินประมาณสัก 4,000

00:02:0400:02:07 กว่ามิลลิกรัมต่อวันแล้วถ้าเป็นผู้หญิงก็

00:02:0700:02:10 ประมาณสัก 3,200 3,300 มิลลิกรัมต่อวัน

00:02:1000:02:14 ซึ่งมันก็เกิน 2,300 mg ซึ่งแนะนำไปเยอะ

00:02:1400:02:16 เลยนะครับ

00:02:1600:02:19 ที่เขาแนะนำแบบนั้นเนี่ยนะครับเพราะว่า

00:02:1900:02:22 โซเดียมเนี่ยมันจริงๆต้องอธิบายคำนี้ก่อน

00:02:2200:02:25 นะครับเกลือธรรมดากับโซเดียมมันไม่ใช่ของ

00:02:2500:02:28 เหมือนกันนะครับโซเดียมกับเกลือไม่ใช่

00:02:2800:02:30 อย่างเดียวกันเพียงแต่ว่าเดี๋ยวนี้เราจะ

00:02:3000:02:33 ใช้คำนี้ทดแทนกันไปกันมาได้นะครับเกลือ

00:02:3300:02:36 ของเรามันคือโซเดียมคลอไรด์นะครับเป็น

00:02:3600:02:39 โซเดียมผสมคลอไรด์นะครับแต่ว่าตัวโซเดียม

00:02:3900:02:41 จริงๆเนี่ยเป็นตัวที่มันมีปัญหาซะมากกว่า

00:02:4100:02:44 นะครับแล้วมันก็จะมาจากรูปแบบหลายๆรูปแบบ

00:02:4400:02:46 นะครับโซเดียมคลอไรด์หรือเกลือเนี่ยก็

00:02:4600:02:48 เป็นหนึ่งในนั้นนะครับแต่ว่ามันยังมาใน

00:02:4800:02:51 รูปแบบอื่นยกตัวอย่างเช่นผงชูรสนะครับ

00:02:5100:02:54 โมเดลโซเดียมกลูตาเมตก็คือมีโซเดียมอยู่

00:02:5400:02:57 ในนั้นนะครับอ่าหรือพวกโซดาไฟต่างๆนะครับ

00:02:5700:03:00 เบกกิ้งโซดาพวกนี้ก็จะมีโซเดียมอยู่ใน

00:03:0000:03:02 นั้นกรณีนี้ก็จะนับเป็นตัวปัญหาด้วยนะ

00:03:0200:03:05 ครับเพราะว่าโซเดียมเนี่ยมันเข้าไปในร่าง

00:03:0500:03:08 กายมันก็จะมีปัญหาอย่างอื่นถ้าเราได้มาก

00:03:0800:03:10 จนเกินไปนะครับเราต้องมาเข้าใจก่อนนะครับ

00:03:1000:03:13 ว่าโซเดียมเนี่ยมันอยู่ในร่างกายมันทำ

00:03:1300:03:16 อะไรบ้างนะครับคือเซลล์ของเราทุกๆเซลล์

00:03:1600:03:19 เนี่ยมันจะมีตัวหนึ่งนะครับซึ่งเป็นช่อง

00:03:1900:03:23 ให้โซเดียมเข้าออกนะครับซึ่งก็มีหลากหลาย

00:03:2300:03:25 ช่องทางนะครับโซเดียมตัวนี้จะเป็นตัวที่

00:03:2500:03:30 นำกระแสไฟฟ้าของเซลล์นะครับการที่เซลล์มี

00:03:3000:03:32 การเปลี่ยนแปลงการนำกระแสไฟฟ้าเข้าออกพวก

00:03:3200:03:35 นี้ก็จะมีผลต่อหน้าที่การทำงานของเซลล์นะ

00:03:3500:03:37 ครับดังนั้นโซเดียมจึงมีความสำคัญในแง่

00:03:3700:03:40 ของเรื่องพวกนี้นะครับแต่ปัญหาอยู่ที่ว่า

00:03:4000:03:43 ถ้าเรามีโซเดียมมากเกินเกินไปมันก็จะเกิด

00:03:4300:03:47 ปัญหาต่างๆตามมาปัญหาอะไรนะครับโซเดียม

00:03:4800:03:50 เนี่ยจะเป็นตัวที่ดูดน้ำเข้าไว้ในร่างกาย

00:03:5000:03:53 ของเรานะครับเวลาที่เราดูดน้ำเข้ามาใน

00:03:5300:03:55 ร่างกายของเรามากๆสิ่งที่เกิดตามมาก็คือ

00:03:5500:03:58 เรามีปริมาณน้ำในร่างกายเพิ่มขึ้นนะครับ

00:03:5800:04:01 แล้วที่ตามมาหลังจากนั้นก็คือความดัน

00:04:0100:04:04 โลหิตของเรามันก็จะสูงขึ้นนะครับความดัน

00:04:0400:04:07 โลหิตของเราเนี่ยเวลาที่มันเริ่มสูงใหม่ๆ

00:04:0700:04:09 เนี่ยมันไม่มีปัญหาอะไรหรอกครับแต่มันสูง

00:04:0900:04:11 ไปนานๆแล้วเนี่ยก็จะเกิดปัญหาเพราะว่า

00:04:1100:04:13 ร่างกายของเราไปจะพยายามปรับตัวนะครับถ้า

00:04:1300:04:16 เรามีความดันเลือดที่สูงขึ้นนะครับมี

00:04:1600:04:18 ปริมาณน้ำเลือดที่เยอะขึ้นหัวใจเราจะต้อง

00:04:1800:04:21 มีการทำงานหนักเพิ่มขึ้นเพราะมันจะต้อง

00:04:2100:04:23 บีบปริมาณเลือดที่มีเยอะขึ้นเนื่องจากน้ำ

00:04:2300:04:26 ในร่างกายมันเยอะขึ้นนะครับก็หัวใจก็จะทำ

00:04:2600:04:30 งานหนักนะครับแล้วอวัยวะต่างๆของเราเนี่ย

00:04:3000:04:33 นะฮะมันต้องการความดันที่พอเหมาะความดัน

00:04:3300:04:36 ที่สูงเกินก็ไม่ชอบนะครับเหมือนถ้าเรามี

00:04:3600:04:40 อะไรมาดันที่อวัยวะหนึ่งแรงๆนะครับอวัยวะ

00:04:4000:04:43 นั้นมันก็เสียได้นะครับดังนั้นตัวอวัยวะ

00:04:4300:04:46 เองจึงต้องมีการควบคุมแรงดันเลือดที่เข้า

00:04:4600:04:49 มาเลี้ยงมันนะครับควบคุมยังไงถ้ามันสูง

00:04:4900:04:51 เกินไปสิ่งที่เกิดขึ้นก็คือหลอดเลือดที่

00:04:5100:04:54 มาเลี้ยงมันจะหดตัวลงนะครับพอตัวลงเพื่อ

00:04:5400:04:57 ที่จะลดแรงดันเลือดที่เข้าไปสู่อวัยวะ

00:04:5700:05:00 นั้นนะครับปัญหามันอยู่ตรงนี้ครับถ้ามัน

00:05:0000:05:03 หดตัวนานๆนานเข้านานเข้ามันจะคลายไม่ออก

00:05:0300:05:06 แล้วครับแล้วมันก็จะกลายไปเป็นเลือดเนี่ย

00:05:0600:05:09 เข้าไปเลี้ยงได้ไม่เพียงพอแล้วอวัยวะนั้น

00:05:0900:05:12 ก็มักจะเสียนะครับอวัยวะที่เราพูดถึงกัน

00:05:1200:05:15 บ่อยๆในที่นี้ก็คือไตครับถ้าความดันโลหิต

00:05:1500:05:18 สูงมากๆนะครับเส้นเลือดที่ไตมันจะพยายาม

00:05:1800:05:22 ทุกวิถีทางเพื่อที่จะไม่ให้แรงดันเลือดไป

00:05:2200:05:24 สู่ไตเยอะมากจนเกินไปไม่งั้นตายมันจะรับ

00:05:2400:05:27 ไม่ไหวมันก็เสียนะครับแล้วถ้าทำอย่างนี้

00:05:2700:05:29 ไปนานๆไตมันก็เสียเพราะว่ามันได้เลือดไม่

00:05:2900:05:32 เพียงพอนะครับอันนั้นคืออวัยวะหนึ่งนะ

00:05:3200:05:35 แล้วที่สำคัญคือคนเราเนี่ยอายุมากขึ้น

00:05:3500:05:37 ความดันโลหิตมันจะสูงขึ้นตามอายุอยู่แล้ว

00:05:3700:05:39 นะครับดังนั้นที่เรายิ่งกินเกลือเข้าไป

00:05:3900:05:44 เรื่อยๆเนี่ยมีปัญหาแน่นอนนะครับอ่าทีนี้

00:05:4400:05:46 ร่างกายของคนเรามันไม่ได้โง่นะครับมัน

00:05:4600:05:49 ฉลาดมากนะครับเวลาที่เรากินเกลือน้อยมากๆ

00:05:4900:05:52 นะครับเช่นอ่าบางชนเผ่าของอเมริกาบางบาง

00:05:5200:05:54 เผ่าเนี่ยไม่ได้กินเกลืออะไรเลยกินน้อย

00:05:5400:05:57 มากนะครับวันนึงก็อาจจะประมาณ 3-400

00:05:5700:06:00 มิลลิกรัมต่อวันซึ่งน้อยมากนะครับเมื่อ

00:06:0000:06:03 เทียบกับที่ยกตัวอย่างญี่ปุ่นอย่างนี้ทาง

00:06:0300:06:06 ญี่ปุ่นตอนเหนือบางทีเขากินของเค็มเยอะ

00:06:0600:06:09 กินพวกปลาดิบพวกอย่างมาจากทะเลโซเดียมที่

00:06:0900:06:13 เขากินเนี่ยโน่นหมื่นมิลลิกรัมหมื่นกว่า

00:06:1300:06:15 มิลลิกรัมนะครับแล้วร่างกายนะครับมันก็

00:06:1500:06:18 สามารถปรับตัวให้ขับโซเดียมออกมาขับส่วน

00:06:1800:06:20 ที่ส่วนเกินได้ส่วนคนที่กินไม่พอมันก็จะ

00:06:2000:06:23 ดูดโซเดียมเข้าไว้ในร่างกายได้นะครับแต่

00:06:2300:06:26 มันไม่จำเป็นเช่นนั้นตลอดเวลานะครับเรา

00:06:2700:06:30 ต้องทราบก่อนว่าคนเรามีวิวัฒนาการที่แตก

00:06:3000:06:32 ต่างกันนะครับก็แล้วแต่ว่าพื้นที่ที่เรา

00:06:3200:06:35 อยู่เนี่ยมันอยู่บริเวณไหนนะครับถ้าคน

00:06:3500:06:36 ญี่ปุ่นที่เขาอยู่บริเวณนั้นทำอย่างนั้น

00:06:3600:06:39 มานานๆแล้วเนี่ยคือร่างกายของเขาก็จะมี

00:06:3900:06:42 วิวัฒนาการปรับตัวให้สามารถที่จะขับ

00:06:4200:06:44 โซเดียมส่วนเกินออกไปได้นะครับแล้วกรณี

00:06:4400:06:47 แบบนั้นก็คือมันไม่ใช่เกิดขึ้นใน 1 ชั่ว

00:06:4700:06:50 อายุขัยครับมันเกิดขึ้นในช่วงหลายๆ

00:06:5000:06:52 อายุขัยนะฮะไม่ใช่ท่านบอกว่าโอ้ร่างกาย

00:06:5200:06:55 ปรับตัวได้นี่อย่างงั้นเราไปกินเค็มกินไป

00:06:5500:06:57 นานๆเดี๋ยวร่างกายมันก็เลือกเอาโซเดียม

00:06:5700:06:59 ของที่ต้องการเก็บไว้เองส่วนที่เหลือมัน

00:07:0000:07:02 ก็ปล่อยทิ้งมันไม่ใช่แบบนั้นนะครับความ

00:07:0200:07:04 ที่มันเปลี่ยนแปลงเนี่ยมันเกิดขึ้นจาก

00:07:0400:07:08 รุ่นปู่รุ่นทวดอย่างนี้ค่อยๆส่งต่อลงมา

00:07:0800:07:09 แล้วมันจะเกิดขึ้นช้ามากมันไม่ใช่เกิด

00:07:0900:07:12 ขึ้นในช่วงเรานะครับดังนั้นถ้าผมไปกิน

00:07:1200:07:16 เค็มเรื่อยๆผมก็จะเกิดปัญหาขึ้นมาครับแต่

00:07:1600:07:19 ถ้ากินเค็มเราก็ส่งต่อไปเรื่อยๆเนี่ยมัน

00:07:1900:07:22 อาจจะมีการวิวัฒนาการของอวัยวะที่ไตเนี่ย

00:07:2200:07:24 ทำให้เราสามารถขับโซเดียมสุดเกินออกไปได้

00:07:2400:07:27 นะครับดังนั้นเราก็ไม่แนะนำให้ไปกิน

00:07:2700:07:30 โซเดียมพวกนี้นะครับอ่าแล้วท่านซึ่งมี

00:07:3000:07:32 ปัญหาทางสุขภาพเรียบร้อยแล้วยกตัวอย่าง

00:07:3200:07:36 เช่นคนที่มีน้ำท่วมปอดจากโรคหัวใจจากโรค

00:07:3600:07:39 ไตหรือจากโรคตับที่มันวายไปแล้วหรือตับ

00:07:3900:07:41 แข็งเนี่ยนะครับกินเกลือเข้าไปเนี่ยมี

00:07:4100:07:43 ปัญหาแน่นอนนะครับเพราะว่าจะยิ่งมีปริมาณ

00:07:4300:07:46 น้ำในร่างกายเพิ่มขึ้นนะครับถ้าเรามีโรค

00:07:4600:07:49 พวกนี้นะครับน้ำก็จะยิ่งท่วมร่างกายของ

00:07:4900:07:53 เราก็จะยิ่งแย่ลงไปกว่าเดิมนะครับอ่านี่

00:07:5400:07:56 คือเป็นสาเหตุหนึ่งนี่ยังไม่รวมสาเหตุ

00:07:5600:07:58 อื่นๆเช่นท่านที่เป็นเบาหวานนะครับเป็น

00:07:5800:08:00 ความดันโลหิตสูงจากเหตุผลอื่นๆเป็นโรคหัว

00:08:0000:08:02 ใจอยู่แล้วนะครับหรือมีโรคไตจากเหตุผล

00:08:0300:08:05 อื่นๆนะครับถ้าท่านกินเกลือพวกนี้เข้าไป

00:08:0500:08:08 เยอะๆก็ยิ่งทำให้เกิดปัญหาพวกนั้นมากกว่า

00:08:0900:08:11 เดิมอีกนะครับนั่นจึงเป็นที่มาของการที่

00:08:1100:08:14 บอกว่าโซเดียมมากจนเกินไปมันไม่ดียังไงนะ

00:08:1400:08:17 ครับทีนี้คำถามต่อมาก็คือเรารู้แล้วว่าคน

00:08:1700:08:22 ส่วนใหญ่กินโซเดียมเกินแล้วถ้าเราจะทำให้

00:08:2200:08:25 มันเหมาะสมแล้วจะทำยังไงนะครับต้องบอก

00:08:2500:08:28 อย่างนี้ครับอาหารของเราเนี่ยนะครับส่วน

00:08:2800:08:31 ใหญ่ถ้าเราซื้อเองทำเองเอามาทำแล้วไม่

00:08:3100:08:34 ปรุงมันมีโซเดียมเพียงพออยู่แล้วเพียงพอ

00:08:3400:08:36 อยู่แล้วถ้าไม่ต้องไปเติมอะไรเข้าไปมันก็

00:08:3600:08:38 เพียงพอนะครับเพราะว่าบางคนบอกว่าเออ

00:08:3800:08:41 โซเดียมมันมีความสำคัญต่ออวัยวะต่างๆของ

00:08:4100:08:44 ร่างกายนะถ้าเรากินน้อยไปมันน่าจะไม่ดี

00:08:4400:08:47 ถ้าเรากินมากไปมันไม่ดีอยู่แล้วนะครับเรา

00:08:4700:08:50 จะรู้ได้ยังไงว่าเรากินเพียงพอง่ายๆถ้า

00:08:5000:08:52 ท่านซื้ออาหารทุกอย่างมาทำเองที่บ้านโดย

00:08:5200:08:55 ไม่ปรุงอะไรมากนะครับท่านใดโซเดียมเพียง

00:08:5500:08:58 พออยู่แล้วนะครับอ่าไม่มีทางเกิดแน่นอนนะ

00:08:5800:08:59 ครับ

00:08:5900:09:03 ตอนนี้คนเรามันออกไปกินข้าวข้างนอกค่อน

00:09:0300:09:05 ข้างบ่อยซื้อของที่สำเร็จรูปมากินค่อน

00:09:0500:09:08 ข้างบ่อยนะครับแล้วท่านอาจจะสังเกตบ้าง

00:09:0800:09:10 ว่าที่ฉลาดของอาหารที่ท่านไปซื้อเนี่ยเขา

00:09:1000:09:14 จะเขียนปริมาณโซเดียมไว้นะครับไม่ใช่

00:09:1400:09:16 ปริมาณเกลือนะครับปริมาณโซเดียมนะครับ

00:09:1600:09:18 โซเดียมคือสิ่งที่เรากำลังสนใจอยู่ในขณะ

00:09:1800:09:21 นี้นะครับเพราะฉะนั้นท่านอาจจะเห็นบางอัน

00:09:2100:09:24 บอกว่า low Sodium นะครับหรือ Reduce

00:09:2400:09:26 หรืออะไรพวกนี้นะครับแต่ว่าท่านจะต้อง

00:09:2600:09:29 พยายามดูว่ามันมีอยู่เท่าไหร่กันแน่นะ

00:09:2900:09:32 ครับเพราะว่าถ้าเราบอกว่าเกลือส่วนใหญ่

00:09:3200:09:34 เราได้มาจากไหนนะครับโซเดียมส่วนใหญ่เรา

00:09:3400:09:37 ได้มาจากไหนนะครับได้มาจากการกินอาหารนอก

00:09:3700:09:39 บ้านซะส่วนใหญ่ครับนะเราไปกินอาหารนอก

00:09:3900:09:41 ร้านได้เกลือเยอะเกินแน่นอนนะครับได้

00:09:4100:09:43 โซเดียมเยอะเกินแน่นอนเกลือเนี่ยมันก็มี

00:09:4300:09:47 โซเดียมนะครับหรือถ้าเป็นอาหารที่อ่ามัน

00:09:4700:09:50 มีการหมักดองนะครับหรืออาหารที่ถนอมอาหาร

00:09:5000:09:53 นะครับพวกนี้ก็จะมีปริมาณโซเดียมที่เยอะ

00:09:5300:09:55 กว่าปกตินะครับปลากระป๋องอะไรอย่างนี้

00:09:5500:09:58 เป็นต้นนะครับจะมีเยอะแยะไปหมดอ้าวถ้า

00:09:5800:10:02 อย่างนี้แล้วเราจะกินข้าวกันยังไงดีเรามี

00:10:0200:10:04 วิธีอะไรไหมที่เราจะลดไม่ให้โซเดียมของ

00:10:0400:10:06 เรามันเยอะเกินไปนะครับ

00:10:0600:10:10 ถ้าให้ดีนะครับคือข้อแรกบางคนติดเค็มนะ

00:10:1000:10:14 ครับถ้าไม่เค็มจะรู้สึกว่าไม่ได้แต่ถ้า

00:10:1400:10:16 เราค่อยๆลดปริมาณเค็มลงเนี่ยมันจะช่วยได้

00:10:1600:10:19 นะครับลิ้นของเราเนี่ยมันจะชินนะครับชิน

00:10:1900:10:21 ต่อการลดทีละนิดทีละรสมันก็จะสามารถที่จะ

00:10:2100:10:24 เปลี่ยนแปลงวิธีในการกินของเราได้นะครับ

00:10:2400:10:27 อันนี้คือกรณีที่ 1 อันที่ 2 แนะนำว่าถ้า

00:10:2700:10:30 ท่านสามารถทำอาหารทานเองได้ทำเท่าที่ท่าน

00:10:3000:10:33 จะทานเองได้นะครับแน่นอนว่าคนเราก็ต้อง

00:10:3300:10:35 ออกไปทานข้าวข้างนอกบ้างนะครับอันนี้ไม่

00:10:3500:10:37 ได้ห้ามนะครับไม่ได้ห้ามออกไปกินซะที

00:10:3700:10:40 เดียวนะครับคือทำเองที่บ้านก็ซื้อพวกผัก

00:10:4000:10:43 ผลไม้เนื้อนะครับหรืออะไรพวกเนี้ยเอามาทำ

00:10:4300:10:45 เองที่บ้านแล้วพยายามอย่าใส่เครื่องปรุง

00:10:4500:10:47 เยอะเพราะว่าเครื่องปรุงพวกนี้แหละครับมี

00:10:4700:10:50 โซเดียมเยอะถ้าลองไปดูที่ฉลาดของเครื่อง

00:10:5000:10:52 ปรุงก็ได้ว่ามีโซเดียมอยู่เท่าไหร่นะครับ

00:10:5200:10:56 โซเดียมต่ำก็คือส่วนใหญ่แล้วจะต่ำกว่า 140

00:10:5600:10:59 มิลลิกรัมต่อสิ่งที่เราใช้เข้าไปนะครับ

00:10:5900:11:01 บางครั้งเราซื้ออาหารบางอย่างที่เป็น

00:11:0100:11:04 อาหารสำเร็จรูปแล้วจะมาทำกินเองที่บ้านนะ

00:11:0400:11:07 ครับมันอาจจะเขียนว่าโอเคโซเดียมต่ำ 140

00:11:0700:11:11 mg แต่ท่านต้องดูให้ดีนะครับในกล่องนั้น

00:11:1100:11:15 น่ะมันกินได้กี่ครั้งถูกไหมครับสมมุตินะ

00:11:1500:11:19 ครับเขาอาจจะเขียนว่าต่อ 1 serving คือ 1

00:11:1900:11:21 ปริมาตรการกินเนี่ยมีโซเดียมอยู่ในนั้น

00:11:2100:11:26 140 mg แต่ในกล่องนั้นน่ะมันสามารถกิน

00:11:2600:11:28 ได้ 4 ครั้ง

00:11:2800:11:31 แล้วถ้าเป็นคนกินเยอะท่านใส่ลงไปเลย 4

00:11:3100:11:33 ครั้งแล้วท่านคิดว่ามีโซเดียมอยู่ทั้งหมด

00:11:3300:11:35 140 ก็ผิดครับ

00:11:3500:11:40 มันคือ 140 คูณด้วย 4 เข้าไปอ่ะนะครับอ่า

00:11:4000:11:41 ก็คือเท่ากับ

00:11:4100:11:47 560 mg ประมาณนั้นเลยนะครับใช่ไหมฮะคือ

00:11:4700:11:49 เนี่ยแหละครับเป็นเป็นสิ่งที่เป็นปัญหา

00:11:4900:11:52 คือเราจะต้องดูฉลากเราจะต้องดูว่าในนั้น

00:11:5200:11:55 มันมีโซเดียมอยู่เท่าไหร่แล้วก็เอ่อมันใน

00:11:5500:11:58 กล่องนึงเนี่ยนะครับมันกินได้กี่ครั้งอ่า

00:11:5800:12:00 เราจะต้องเอามาจำนวนปริมาณโซเดียมหัดทำ

00:12:0000:12:02 บ่อยๆท่านก็จะชินไปเองเวลาที่ท่านไปซื้อ

00:12:0200:12:04 ของอะไรท่านก็เปิดดูเอ๊ะมันมีอยู่โซเดียม

00:12:0400:12:07 มีเท่าไหร่นะเรากินเข้าไปเท่านี้แค่ไหน

00:12:0700:12:09 ยังไงบ้างนะครับนั่นก็คือเป็นวิธีหนึ่ง

00:12:0900:12:12 ถ้าท่านซื้ออาหารกระป๋องมานะครับเช่นปลา

00:12:1200:12:14 กระป๋องหรือผักเหลืออะไรที่มันอยู่ใน

00:12:1400:12:16 กระป๋องเนี่ยอันแรกที่อยากจะลดปริมาณ

00:12:1600:12:18 โซเดียมให้ได้ก็คือเอามาล้างน้ำนั่นเอง

00:12:1800:12:20 อย่างน้อยมันล้างเอาความเค็มออกไปบ้างละ

00:12:2000:12:25 นะครับอ่าหรือถ้าท่านทานสลัดสลัดนี่จริงๆ

00:12:2500:12:28 น้ำสลัดมันก็มีโซเดียมอยู่ในนั้นนะครับ

00:12:2800:12:32 ท่านจะอาจจะเห็นบางอย่างที่บอกว่าน้ำสลัด

00:12:3200:12:35 ที่มีโซเดียมต่ำอ่านะครับถูกไหมครับแต่

00:12:3500:12:37 เราก็ต้องขึ้นอยู่กับปริมาณที่ท่านใส่

00:12:3700:12:39 เข้าไปเช่นบอกว่าโอเคใน 1 ช้อนเนี่ยมันมี

00:12:3900:12:41 โซเดียมต่ำแต่ท่านใช้เบ็ดเสร็จไป 10 ช้อน

00:12:4100:12:45 โซ่นี้มันก็เยอะถูกไหมครับน่ะงั้นถ้าท่าน

00:12:4500:12:47 จะทานสลัดเนี่ยท่านก็ร่องลองดูว่าปริมาณ

00:12:4700:12:49 น้ำสลัดมันเท่าไหร่แล้วจริงๆเนี่ยบางคน

00:12:4900:12:51 บอกว่ากินสลัดทุกวันทำไมมันถึงอ้วนได้น้ำ

00:12:5100:12:54 หนักไม่ยอมลงเลยก็เพราะว่าน้ำสลัดนี่แหละ

00:12:5400:12:57 ครับมันแคลอรี่สูงมากนะครับอ่าท่านอาจจะ

00:12:5700:13:59 ไม่ได้ไม่ได้ทันดูตรงนี้นะครับ

00:13:5900:14:02 โรคน้ำท่วมปอดจากโรคหัวใจนะครับท่านพวก

00:14:0200:14:05 นี้อาจจะไปเจาะเลือดแล้วก็เจอว่าโซเดียม

00:14:0500:14:08 เนี่ยร่างกายมันต่ำคือโซเดียมของคนปกติจะ

00:14:0800:14:11 อยู่ที่ประมาณ 140 นั่นเองนะครับมันจะบวก

00:14:1100:14:12 ลบได้นะครับคือประมาณ

00:14:1200:14:15 135-145 แต่ส่วนใหญ่แล้วมันจะอยู่ที่

00:14:1500:14:17 ประมาณสัก 140 บวกลบนิดๆหน่อยๆเท่านั้น

00:14:1700:14:20 เองนะครับแต่ว่าท่านจะเจอว่าคนที่น้ำท่วม

00:14:2000:14:23 ปอดจากโรคหัวใจจากโรคไตหรือว่าบางคนเนี่ย

00:14:2300:14:28 จะมีโรคตับไวมากๆแล้วน้ำมันเยอะนะครับถ้า

00:14:2800:14:31 เจอว่าโซเดียมต่ำเช่นบางทีอาจจะต่ำ 128

00:14:3100:14:35 ท่านก็ถามว่าเฮ้ยมันต่ำไปหรือเปล่าจะต้อง

00:14:3500:14:38 กินเกลือเข้าไปเสริมหรือเปล่าคำตอบคือไม่

00:14:3800:14:42 ต้องกินเสริมครับยิ่งกินเสริมยิ่งแย่ไอ้

00:14:4200:14:44 ตัวโซเดียมที่เราเห็นในเลือดในคนพวกนี้

00:14:4400:14:47 ที่มันต่ำมันเป็นตัวที่บ่งบอกได้เลยว่า

00:14:4700:14:50 โลกของท่านคุมไม่ดีนะครับทำไมมันถึงตัด

00:14:5000:14:52 ได้อ่า

00:14:5200:14:56 เหตุผลที่มันต่ำได้นะครับเพราะว่ายกตัว

00:14:5600:14:58 อย่างโรคหัวใจละกันอันนี้จะเข้าใจง่าย

00:14:5800:15:01 หน่อยนะครับเวลาที่โรคหัวใจมันกำเริบเป็น

00:15:0100:15:05 มากๆนะครับมันเป็นเพราะว่าหัวใจมันบีบ

00:15:0500:15:07 เลือดออกไปได้ไม่เพียงพอต่อความต้องการ

00:15:0700:15:10 ของร่างกายนะครับพอบีบเลือดออกไปได้ไม่

00:15:1000:15:12 เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายเนี่ย

00:15:1200:15:15 อวัยวะต่างๆมันก็จะได้รับเลือดเลือดน้อย

00:15:1500:15:18 ลงนะครับแล้วตัวไตของเราเนี่ยครับมันก็จะ

00:15:1800:15:20 หลั่งฮอร์โมนออกมาเพื่อที่จะดูดเอาทั้ง

00:15:2000:15:23 น้ำแล้วก็โซเดียมเข้าไปเพิ่มปริมาณน้ำใน

00:15:2300:15:26 ร่างกายเพื่อให้มันมีปริมาณเลือดก็คือน้ำ

00:15:2600:15:28 นี่แหละครับน้ำที่อยู่ในเลือดเนี่ยเยอะ

00:15:2800:15:30 เพียงพอที่จะเอาไปเลี้ยงอวัยวะต่างๆให้

00:15:3000:15:33 ได้แต่การทำแบบนี้เนี่ยมันจะดูดเข้าไป

00:15:3300:15:37 ทั้งโซเดียมและดูดเข้าไปทางน้ำพร้อมกันนะ

00:15:3700:15:40 ครับพร้อมกันแต่สาเหตุที่โซเดียมมันไม่

00:15:4000:15:43 สูงในร่างกายก็เพราะว่ามันดูดเอาน้ำเข้า

00:15:4300:15:45 ไปมากกว่าพอดูดเอาน้ำเข้าไปมากกว่าปุ๊บ

00:15:4500:15:48 มันก็เจือจางโซเดียมในร่างกายทำให้

00:15:4800:15:51 โซเดียมในร่างกายต่ำลงนะครับแต่ถ้านับ

00:15:5100:15:53 ปริมาตรโซเดียมจะเป็นตัวตัวจริงๆเนี่ยมัน

00:15:5300:15:55 อาจจะเยอะกว่าคนธรรมดาด้วยซ้ำไปเพียงแต่

00:15:5500:15:57 ว่าน้ำเนี่ยมันเยอะกว่าโซเดียมเมื่อเอามา

00:15:5700:16:00 หารกันแล้วเนี่ยคือปริมาณโซเดียมที่เป็น

00:16:0000:16:03 concentration ก็คือเป็นความเข้มข้นของ

00:16:0300:16:05 โซเดียมมันก็จะต่ำลงไปด้วยนะครับดังนั้น

00:16:0500:16:08 คนที่เป็นโรคหัวใจจะต้องไปจำกัดเกลือซะ

00:16:0800:16:11 ด้วยซ้ำไปจำกัดเกลือเพื่อที่จะให้ร่างกาย

00:16:1100:16:13 เราขับน้ำออกแล้วก็อาจจะใช้ยาขับปัสสาวะ

00:16:1300:16:16 เพื่อขับน้ำออกหรือใช้ยาต่างๆเพื่อไปช่วย

00:16:1600:16:18 เรื่องของหัวใจให้เราขับน้ำออกไปนะครับ

00:16:1800:16:20 พวกนี้โซเดียมมันจะค่อยๆขึ้นมาเป็นปกติ

00:16:2000:16:23 เองด้วยตัวเองนะครับแต่อาจจะต่ำกว่าคน

00:16:2300:16:26 ธรรมดาก็ได้นะครับโรคไตโรคพวกนี้ก็เหมือน

00:16:2600:16:30 กันนะบางคนบอกว่าโรคไตเรื้อรังเนี่ย

00:16:3000:16:34 หมอเข้าใจผิดมันเกิดจากเพราะว่าท่านไปกิน

00:16:3400:16:37 ยาเบาหวานยาที่กระตุ้นอินซูลินไม่มีความ

00:16:3700:16:39 เกี่ยวข้องอะไรกันเลยสักนิดเดียวนะครับยา

00:16:3900:16:42 พวกนั้นไม่ได้ทำให้เกิดโรคไตนะครับอ่ายา

00:16:4200:16:45 พวกนั้นเนี่ยมันบางตัวขับทางไตก็จริงนะ

00:16:4500:16:49 ครับแต่มันไม่ได้ทำให้เกิดโรคไตนะครับยา

00:16:4900:16:52 พวกนั้นถ้าเป็นโรคไตแล้วถามว่าเออทำไมเขา

00:16:5200:16:55 ถึงไม่ให้กินอ่าทำไมถึงไปใช้ตัวอื่นกัน

00:16:5500:16:58 เพราะว่ายาพวกนี้บางทีมันขับทางไตได้นะ

00:16:5800:17:01 ครับแล้วมันจะออกฤทธิ์นานกว่าคนที่ไม่มี

00:17:0100:17:04 โรคไตออกฤทธิ์นานแปลว่ามันสามารถทำให้น้ำ

00:17:0400:17:06 ตาลของท่านตกจนถึงระดับอันตรายได้เพราะ

00:17:0600:17:08 ฉะนั้นในคนเหล่านี้เนี่ยก็จึงมีการ

00:17:0800:17:11 เปลี่ยนว่าเราไม่ให้ใช้ยากลุ่มนี้ไม่ใช่

00:17:1100:17:14 เพราะว่าให้ยาตัวนี้แล้วเป็นโรคไตครับนะ

00:17:1400:17:17 ต้องเข้าใจซะใหม่นะครับเพราะบางคนไปฟัง

00:17:1700:17:19 ใครมาก็ไม่รู้แล้วก็เข้าใจอาจจะคลาด

00:17:1900:17:22 เคลื่อนไปได้นะครับก็เข้าใจว่าหวังดีแต่

00:17:2200:17:24 ว่าบางทีความรู้ทางการแพทย์อาจจะไม่ไม่

00:17:2400:17:26 เข้าใจกระจ่างแจ้งนะครับดังนั้นก็อาจจะ

00:17:2600:17:28 แนะนำได้ไม่ถูกต้องสักทีเดียวนะครับแล้ว

00:17:2800:17:31 บางคนบอกว่าเออแนะนำให้กินเค็มเยอะๆอ่า

00:17:3100:17:33 อันนี้ยิ่งไม่ถูกต้องใหญ่เลยนะครับอ่าไม่

00:17:3300:17:35 มีหลักฐานอะไรสนับสนุนพวกนั้นเลยนะครับ

00:17:3500:17:38 อ่าแล้วนอกเหนือจากนี้คือคนไหนบ้างที่

00:17:3800:17:42 ต้องกินเกลือเพิ่มอ่ามีนะครับมีคนที่ต้อง

00:17:4200:17:43 กินเกลือเพิ่มจริงๆ

00:17:4300:17:46 ที่ง่ายที่สุดก็คือคนที่ไปออกกำลังกายมาก

00:17:4600:17:48 ๆเช่นเสียงเหงื่อมากๆอะไรอย่างเงี้ยเป็น

00:17:4800:17:50 นักวิ่งมาราธอนนะครับเพราะว่าเหงื่อของ

00:17:5000:17:52 เราเนี่ยมันมีโซเดียมนะถ้าเราเสียออกไป

00:17:5200:17:55 พร้อมกับน้ำเนี่ยร่างกายของเขาเนี่ยก็จะ

00:17:5500:17:57 ขาดโซเดียมมากขึ้นนะครับพอขาดมากๆเซลล์

00:17:5700:18:00 ของเราก็จะทำหน้าที่ผิดปกติดังนั้นคน

00:18:0000:18:02 เหล่านี้อาจจะต้องมีการทานเกลือแร่เสริม

00:18:0200:18:06 นะครับนอกเหนือจากนี้ก็จะมีโรคแปลกๆบาง

00:18:0600:18:08 ชนิดซึ่งเกิดจากฮอร์โมนในร่างกายที่มัน

00:18:0800:18:11 หลั่งผิดปกติหรือเกิดจากไตซึ่งมันไม่

00:18:1100:18:14 สามารถดูดซึมโซเดียมกลับมาได้นะครับมันก็

00:18:1400:18:17 จะเสียโซเดียมออกไปทางปัสสาวะค่อนข้างที่

00:18:1700:18:19 จะเยอะในโรคกลุ่มนี้ก็หมอเขาอาจจะแนะนำ

00:18:1900:18:23 ว่าให้ทานโซเดียมเสริมนะครับให้ทาน

00:18:2300:18:26 โซเดียมเสริมในกลในคนแบบนี้ด้วยนะครับแต่

00:18:2600:18:28 ว่าโรคพวกนี้อย่าไปทานเองนะครับต้องไป

00:18:2800:18:31 ปรึกษาหมอแล้วถ้าหมอเขาแนะนำว่าควรจะทาน

00:18:3100:18:35 โซเดียมเสริมท่านก็ทานนะครับอ่าแล้วบางคน

00:18:3500:18:38 อาจถามว่าเออมันมีมันมีสารทดแทนความเค็ม

00:18:3800:18:42 อ่าพวกเกลือพวกเนี้ยนะครับมีนะครับศาลทด

00:18:4200:18:45 แทนโซเดียมคือปกติเราใช้โซเดียมคลอไรด์นะ

00:18:4500:18:47 ครับก็คือเป็นเกลือธรรมดาแต่เราไม่

00:18:4700:18:49 ต้องการกินโซเดียมอ่าเราก็จะมีตัวอื่น

00:18:4900:18:51 เช่น podcasium เราไปบวกกับอะไรทำให้มัน

00:18:5100:18:54 เค็มๆนะครับตัวนี้เนี่ยมันก็ช่วยนะครับ

00:18:5400:18:55 แล้วมันไม่ได้ทำให้ร่างกายมีปัญหาอะไรมาก

00:18:5500:18:58 นะครับแต่ปัญหามันอยู่ตรงนี้ครับมันมีโพ

00:18:5800:19:01 เตรียมอยู่ในนั้นด้วยนะครับถ้าท่านที่มี

00:19:0100:19:04 โรคไตท่านทานโพแทสเซียมเข้าไปเยอะๆ

00:19:0400:19:07 พอแทสเซียมในร่างกายของท่านมันจะสูงสูง

00:19:0700:19:09 แล้วมันอันตรายต่อหัวใจครับมันจะทำให้หัว

00:19:0900:19:11 ใจเต้นผิดปกติได้นะครับดังนั้นไม่ควรทำ

00:19:1100:19:14 ถ้าคนที่มีโรคไตแล้วเนี่ยไอ้สารทดแทนความ

00:19:1400:19:16 เค็มท่านไม่ต้องไปหาว่าทาอะไรครับทานแล้ว

00:19:1600:19:19 ยิ่งมีปัญหาเดี๋ยวก็จะปัญหาอีกว่าทานนิด

00:19:1900:19:21 นึงได้ไหมทานแค่ไหนแล้วมันอันตรายไม่ต้อง

00:19:2100:19:23 ไปหามาทานดีที่สุดครับเพราะถ้าท่านยิ่ง

00:19:2300:19:25 ทานยิ่งมีปัญหาครับท่านทานเกลือธรรมดาจะ

00:19:2500:19:28 มีอันตรายน้อยกว่าซะอีกนะครับแต่ว่าทาน

00:19:2800:19:31 มากเกินไปก็แน่นอนน้ำมันก็ท่วมในร่างกาย

00:19:3100:19:34 ของท่านท่านอาจจะมีอาการน้ำท่วมปอดเราก็

00:19:3400:19:37 เหนื่อยหายใจไม่ได้ด้วยก็ได้นะครับใน

00:19:3700:19:40 กลุ่มนี้ก็คือไม่ควรที่จะไปหามาทานนะครับ

00:19:4000:19:43 ดังนั้นโดยสรุปแล้วเนี่ยนะครับปริมาณ

00:19:4300:19:45 โซเดียมซึ่งปัจจุบันเราแนะนำให้ทานก็คือ

00:19:4500:19:48 ไม่เกิน 2,300 มิลลิกรัมต่อวันหรือเที่ยว

00:19:4800:19:51 เท่ากับประมาณสัก 1 ช้อนชานะฮะถ้าเป็น

00:19:5100:19:54 เกลือก็คือเกลือ 1 ช้อนชานะครับแต่ถ้า

00:19:5400:19:56 เป็นเกลือโซเดียมคลอไรด์เนี่ยบางคนอาจจะ

00:19:5600:19:59 บอกว่าจริงๆมันจะประมาณสัก 4- สำคัญ

00:19:5900:20:02 มิลลิกรัมนะครับ 4-5,000 mg เทียบเท่า

00:20:0200:20:05 กับโซเดียมเปล่าๆที่

00:20:0500:20:08 2300 mg นะครับมันจะคนละอย่างนะครับ

00:20:0800:20:09 โซเดียมกับเกลือไม่ใช่อย่างเดียวกันนะ

00:20:0900:20:14 ครับแล้วโซเดียมไม่จำเป็นต้องเค็มอย่างผม

00:20:1400:20:16 ชูรสเนี่ยไม่เค็มบางทีก็เค็มบางทีก็ไม่

00:20:1600:20:21 เค็มนะครับหรือพวกซีเรียลซีเรียลก็มี

00:20:2100:20:23 โซเดียมอยู่ในนั้นแต่ท่านทานเข้าไปแล้ว

00:20:2300:20:26 มันไม่เค็มถูกไหมครับมันไม่เค็มแต่มันมี

00:20:2600:20:28 โซเดียมแล้วท่านก็ต้องไปดูว่ามันเกินหรือ

00:20:2800:20:32 ไม่เกิดนะครับอ่าแล้วโซเดียมท่านไม่มีทาง

00:20:3200:20:34 กินน้อยเกินไปแน่นอนนะครับอาหารทุกอย่าง

00:20:3400:20:36 มีโซเดียมอยู่ในนั้นจะมากจะน้อยก็แล้วแต่

00:20:3600:20:39 แต่มันไม่มีทางน้อยเกินไปท่านจะได้เพียง

00:20:3900:20:41 พอต่อความต้องการของร่างกายแน่นอนนะครับ

00:20:4100:20:44 ออกเออลืมไปอย่างนึงคือโซเดียมที่แนะนำ

00:20:4400:20:47 คือ 2,300 มีกรัมเนี่ยคือตั้งแต่เด็กอายุ

00:20:4700:20:50 14 จนกระทั่งจบชีวิตนะครับคือไม่ควรเกิน

00:20:5000:20:53 นี้ถ้าเด็กอายุน้อยกว่านี้จะต้องกินน้อย

00:20:5300:20:56 กว่านี้เช่นกันนะครับอ่าผมจำตัวเลขได้ไม่

00:20:5600:20:58 ค่อยแน่นนอนแล้วนะครับแต่ถ้าอย่างเช่น

00:20:5800:21:02 ไม่ถึง 14 ขวบเนี่ยจะกินไม่เกิน 1,800 mg

00:21:0200:21:06 ถ้าเป็นตั้งแต่ประมาณ 2 ถึง 9 ขวบนะครับ

00:21:0600:21:08 ก็น่าจะอยู่ที่ประมาณ 1,500 มิลลิกรัม

00:21:0800:21:11 หรือถ้าต่ำกว่านั้นเนี่ยก็อาจจะต้อง 1,200

00:21:1100:21:13 mg ประมาณนี้นะครับผมจำตัวเลขได้ไม่แน่

00:21:1300:21:15 นอนแต่ว่าที่ยิ่งอายุน้อยเนี่ยมันจะต้อง

00:21:1500:21:19 ยิ่งต่ำลงไปกว่านั้นอีกนะครับอ่าแล้ววิธี

00:21:1900:21:21 ในการป้องกันไม่ให้เรากินเค็มจนเกินไป

00:21:2100:21:25 ขึ้น 1 พยายามกินข้าวที่ซื้อมาทำเองที่

00:21:2500:21:27 บ้านนะครับแล้วอย่าใส่เครื่องปรุงเยอะมัน

00:21:2700:21:31 ดูฉลากของสิ่งที่เราซื้อมาต่างๆว่ามันมี

00:21:3100:21:34 ปริมาณโซเดียมอยู่แค่ไหนนะครับแล้วในฉลาก

00:21:3400:21:38 นั้นมันมีสามารถกินได้กี่ครั้งนะครับเช่น

00:21:3800:21:41 กินได้ 4 ครั้งแต่ว่าถ้าท่านคิดว่าอ่าน

00:21:4200:21:45 ผิดอ่าโซเดียม 140 mg แล้วในนั้นมันกิน

00:21:4500:21:47 ได้ 4 ครั้งแล้วถ้าท่านเอาเทลงไปหมดที

00:21:4700:21:50 เดียวเลยก็เท่ากับ 100 เอ่อ 140 mg *

00:21:5000:21:52 ด้วย 4 ก็คือปริมาณโซเดียมที่ท่านจะได้

00:21:5200:21:55 รับใน 1 ครั้งที่ท่านกินนะครับงั้นก็คือ

00:21:5500:21:57 จะต้องพยายามดูถ้าท่านซื้ออะไรมาแล้วมัน

00:21:5700:21:59 เค็มพยายามล้างทั้งออกเอาโซเดียมออกหน่อย

00:21:5900:22:03 นะครับแล้วถ้าไปกินข้าวข้างนอกก็แนะนำว่า

00:22:0300:22:05 ควรที่จะต้องอย่างพวกสลัดในตัวดีเลยนะ

00:22:0600:22:08 ครับขอแยกน้ำสลัดไว้ต่างหากนะครับแต่ถ้า

00:22:0800:22:10 นานๆท่านกินเกินก็ไม่ได้มีอะไรที่เสียหาย

00:22:1000:22:14 นะครับคือคนเราเนี่ยไม่ควรจะตึงเกินแล้ว

00:22:1400:22:16 ก็ไม่ควรจะหย่อนเกินแต่ว่าให้พยายามคิด

00:22:1600:22:19 ไว้บ่อยๆแล้วกันว่าท่านมีโอกาสกินปริมาณ

00:22:1900:22:22 โซเดียมที่เกินมากอยู่แล้วตั้งแต่แรกนะ

00:22:2200:22:25 ครับเพราะว่าอาหารที่ท่านทานทุกๆอย่างมี

00:22:2500:22:27 โซเดียมหมดแล้วพอทานแบบนี้ชินแล้วเนี่ย

00:22:2700:22:30 เราจะชินกับความเค็มมากขึ้นเราต้องมาหัด

00:22:3000:22:33 แล้วก็ค่อยๆลดมันลงมานะครับโอเควันนี้ก็

00:22:3300:22:35 ประมาณเท่านี้นะครับใครมีข้อสงสัยอะไรก็

00:22:3500:22:38 สอบถามมาได้นะครับเรื่องนี้คือเป็นเรื่อง

00:22:3800:22:41 ที่ค่อนข้างสำคัญนะครับแล้วอย่าไปเอ่อ

00:22:4100:22:44 เชื่อฟังอะไรที่กินอะไรแล้วสุดโต่งนะครับ

00:22:4400:22:47 กินโซเดียมแต่โอ้โห 6 7 กรัมต่อวันอัน

00:22:4700:22:50 นั้นไม่ดีแน่ๆนะครับท่านก็จะต้องมาเฝ้า

00:22:5000:22:53 ระวังนะครับบางคนบอกว่ากินโซเดียมเยอะทำ

00:22:5300:22:55 ให้ไตวายเป็นความเข้าใจผิดครับถูกต้อง

00:22:5500:22:57 แล้วครับนะแต่ว่าตัวโซเดียมเองมันไม่ได้

00:22:5700:23:00 ทำให้ไตวายตัวโซเดียมมันมีผลต่ออวัยวะ

00:23:0000:23:02 ต่างๆทำให้สุดท้ายแล้วไตมันก็วายได้นะ

00:23:0200:23:05 ครับด้วยตัวมันอย่างนั้นนะครับโอเควันนี้

00:23:0500:23:07 ก็เท่านี้นะครับใครมีอะไรสงสัยก็สอบถามมา

00:23:0700:23:11 แล้วกันนะครับขอบคุณมากครับสวัสดีครับ